"ทำไมมึงไม่รอกู"
พอมาถึงมันก็ถามคำถามนี้ขึ้นเลยครับ
ทำเอาผมถึงกับปรี๊ดขึ้นมาเลยทีเดียว
ไม่รอหรอ
ดูมันสิครับว่ามันเอาอะไรมาพูด
"""""""""""""""""""""""""""""""""
ก้าวที่ยี่สิบหก
"ไม่รองั้นหรอ"
ผมถามกลับมันไปช้าๆ
พร้อมกับจ้องหน้ามันโดยไม่หลบสายตาเป็นครั้งแรก
"ยังไงมึงก็ต้องมากับกู แล้วมึงทำไมไม่รอมาพร้อมกันวะ"
มันยังคงไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ
ว่ามันทำอะไร หรือมีความผิดอะไร
"แล้วชั้นจะรู้ได้ยังไงว่านายจะกลับมากี่โมง นายหายไปโดยที่ไม่บอกชั้นสักคำ "
"แล้วกูมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องบอกมึงด้วย"
ใช่สินะครับ
ที่มันพูดก็ถูก
ทำไมมันต้องมาบอกผมด้วย
"แล้วถ้าหากชั้นรอนาย แล้วนายไม่กลับมาล่ะ นายจะให้ชั้นนั่งรอนายต่อไปไหม"
".............."
"นายจะให้ชั้นรอ ทั้งๆที่ชั้นเองก็ไม่รู้ว่ากำลังรออะไรอย่างงั้นหรอ"
ผมเองก็ไม่มั่นใจแล้วแหละครับ
ว่าคำว่า รอ ที่ผมพูด
มันได้หมายความเฉพาะการกลับบ้านของมันรึเปล่า
"............."
"และถ้าหากว่าการที่ชั้นรอนายมาวิทยาลัยพร้อมกัน มันทำให้นายไม่พอใจชั้นก็ขอโทษแล้วกัน แต่ถ้าหากนายจะให้ชั้นรอในสิ่งที่มันไม่มีตัวตนอีกต่อไป ชั้นเองก็คงบอกได้คำเดียวว่าชั้นไม่รอ"
พอพูดจบ
ผมก็เดินจากมันไปเลยแหละครับ
เพราะถ้าหากยืนอยู่กับมันต่อไป
มีหวัง
ผมคงจะใจอ่อน หรืออาจจะทำตัวอ่อนแอให้มันเห็นแน่ๆ
แต่สิ่งที่ผมพุดออกไป
ถึงแม้จะมาจากอารมณ์โกรธ หรืออารมณ์น้อยใจซะเป็นส่วนใหญ่
แต่ผมมั่นใจแล้วแหละครับ
ว่ามันก็เป็นสิ่งที่ออกมาจากหัวใจของคนอย่างผมเช่นกัน
และผมก็รู้แล้วแหละครับ
ว่าผมจะเอายังไงกับชีวิตตัวเองที่มันลอยเคว้งมานาน
"มึงจะไปไหน"
ไอ้เดฟมันพูดเสียงดัง
พร้อมกับที่ตัวมันเองก็เดินมากระชากตัวผมไว้อย่างแรง
จนผมแทบจะถลาเข้าไปหามัน ดีที่ยังพอทรงตัวได้อยู่บ้าง
พร้อมกับที่ผมเริ่มสังเกตบรรยากาศรอบๆตัวผม
ที่มันเริ่มเงียบลง
และก็มีสายตาใครๆอีกหลายคู่กำลังมองมาที่ผมกับไอ้เดฟอย่างสนใจใครรู้
"ไปทำงาน"
ผมกัดฟันตอบมันไป
พร้อมกับพยายามแกะนิ้วมันที่จับแขนผมแน่นอยู่ไปด้วย
แต่จะทำอะไรมากก็ไม่ได้เพราะผมยังแคร์สายตาใครหลายๆคนที่มองมาอยู่
เกรงว่ามันจะเป็นการเรียกความสนใจมากว่าเดิม
"ไปไม่ได้ จนกว่ากูกับมึงจะคุยกันรู้เรื่อง"
มันพูดเสียงดังอย่างไม่แคร์สักนิดว่าจะมีคนได้ยิน
"นายพูดเบาๆหน่อยได้ไหม คนเริ่มมองกันเยอะแล้วนะ"
"ทำไม ใครมันจะกล้ามายุ่งเรื่องกู"
คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงดังอย่างเดียวนะครับ
แต่มันยังกวาดสายตาไปมองคนรอบๆ
ทำให้เหล่าไทมุงทั้งหลายต่างก็หลบสายตามันแทบไม่ทัน
แล้วก็ค่อยๆเกิดการสลายตัวอย่างรวดเร็ว
แต่ผมว่าอีกสักพักก็คงจะกลับมาเหมือนเดิมแหละครับ
"ชั้นก็ไม่ได้คิดว่าใครจะกล้ามายุ่งกับคนอย่างนายหรอก แต่ชั้นอายคนอื่นเค้า"
"คนอย่างกูมันเป็นยังไงวะ "
"ก็..."
"แล้วมึงอายอะไร อายที่คุยกับกูใช่ไหม"
"มันไม่ใช่อย่างงั้น "
แล้วผมจะอธิบายกับมันยังไงล่ะครับ
และทำไมอยู่ดีๆ
จากที่ผมควรเป็นฝ่ายโกรธมัน
กลายเป็นว่ามันก็ดันมาหาเรื่องเอากับผมอีกจนได้
คนอย่างมันเคยเข้าใจอะไรที่คนดีๆเขาคิดกันบ้างไหมเนี่ย
ผมอยากรู้จริงๆว่าพ่อ แม่มันเลี้ยงมายังไง
ถ้าผมเป็นพ่อแม่มันนะ
ใครจะหาว่าผมใจร้ายก็ช่างเถอะ
จ้างให้มันก็ไม่มีวันได้โตจนทุกวันนี้หรอก
"แล้วมันเป็นยังไง"
"ก็เรื่องแบบนี้มันควรที่จะคุยในที่สาธารณะหรือไงล่ะ "
"งั้นมึงไปกับกู"
พอมันพูดเสร็จมันก็ลากแขนผมไปหารถมันทันที
"ชั้นไปไม่ได้ บอกแล้วไงว่าชั้นต้องทำงาน"
"มึงจะเอายังไงวะ โน่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่ได้ "
โห
ก็ดูสิครับ
แต่ละอย่างที่มันจะทำ
ถ้าผมไม่ขัดขืนหรือห้ามมัน
ผมก็คงไม่ใช่คนปกติแล้ว
"ก็สิ่งที่นายทำมันเป็นเรื่องที่ชั้นควรจะยอมง่ายๆรึไงล่ะ"
"แล้วมันยากตรงไหนวะ"
นั่นสิครับ
แล้วมันจะยากตรงไหน
ถ้าหากผมกับมันคุยภาษาเดียวกันเหมือนคนทั่วไป
แต่ตรงนั้นแหละครับที่ยากกว่า
เพราะไม่ว่าผมจะพูดอะไรไปมันก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี
"เอาไว้นายใจเย็นกว่านี้แล้วเราค่อยคุยกันดีกว่า"
ผมพูดกับมันเสียงเบาเพื่อให้มันใจเย็นขึ้น
"ไม่ได้ มึงกับกูต้องคุยกันให้รู้เรื่องในตอนนี้ "
"แต่นี่มันได้เวลาทำงานของชั้นแล้วนะ แล้วนายเองก็ควรที่จะเข้าไปเรียนได้แล้วด้วย"
"ถ้ามึงกับกูคุยกันไม่รู้เรื่อง มึงก็อย่างหวังเลยว่าจะได้ทำงาน เพราะกูหางานให้มึงทำได้ กูก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้มึงทำงานได้เหมือนกัน"
"................."
มันพูดมาแบบนั้นผมก็ได้แต่อึ้งสิครับ
"จะไปดีๆไหม"
มันถามผมเสียงเรียบ
แต่สำหรับผม มันกลับน่ากลัวกว่าที่มันตะโกนซะอีก
"แล้วนายคิดหรอว่าการที่ชั้นหายไปกับนายแบบนี้ งานที่ชั้นทำมันไม่ไม่หายไปด้วยน่ะ"
"ขึ้นรถ"
พูดเสร็จ
มันกระชากผมยัดเข้าไปในรถทันที
ดีหน่อยว่ามันเอารถยนต์มา
ไม่งั้นผมคงต้องนั่งมอไซด์ออกไปท่ามกลางสายตาประชาชนที่จับจ้องแน่ๆ
................................
................................
"..........................."
"..........................."
"..........................."
นี่แหละครับคือสภาพในห้องที่เกิดขึ้น
หลังจากที่มันลากผมขึ้นมาถึงห้องมันแล้ว
ต่างฝ่ายต่างไม่พูด
ไอ้สิ่งที่มันบอกว่าจะพูด
แต่มันกลับไม่พูดกับผมซะงั้น
เราทั้งสองคนก็เลยได้แต่นั่งจ้องตากันอยู่อย่างงั้น
อย่างไม่มีใครหลบใครก่อน
ฮึ
แล้วมันก็อย่าหวังเลยว่าผมจะหลบ
เพราะผมไม่ใช่คนก่อนแล้ว
แต่อย่าถามนะว่าเป็นยังไง
เพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
แฮ่ๆๆ
"นายจะเอายังไง"
แต่ในที่สุดก็เป็นผมแหละครับ
ที่ทนมันไม่ได้
ต้องเป็นฝ่ายพูดกับมันก่อน
"แล้วมึงจะเอายังไง"
"ชั้นถามนายก่อนนะ"
"มึงนั่นแหละทำตัวมีปัญหา แค่รอกูออกไปพร้อมกันไม่ได้รึไงวะ"
มันยังคงวกกลับมาที่ปัญหาเดิม
"ชั้นก็บอกนายแล้วไง ว่าชั้นไม่คิดว่านายจะกลับมา แล้วนายจะให้ชั้นรออะไร"
"อ๋อ นี่มึงจะบอกว่าถ้ากูห่างมึงนาน มึงจะมีผัวใหม่งั้นสิ"
เอากับมันสิครับ
เรื่องที่ไม่น่าจะเกี่ยวกันได้
แต่มันก็เอามาเกี่ยวได้อยู่ดี
"แล้วได้ป่ะล่ะ"
ผมถามมันขึ้นอย่างกวนๆ
ซึ่งก็เรียกสายตาร้อนแรงจากมันได้มากพอดู
"มึงอย่ามายั่วกูนะ บอกมาว่ามึงทำไมไม่รอกู หรือมึงโกรธที่กูออกไปข้างนอก"
"เปล่า"
"เสียใจ"
"หื่อ"
"น้อยใจ"
"................"
"กูว่าแล้ว "
"................"
"นี่มึงคิดว่ากูไปไหนมาถึงได้กลับมาเอาตอนเช้าขนาดนี้ "
"ไม่รู้"
"แล้วมึงไม่คิดจะถามกูมั่งล่ะ"
"ชั้นถามแล้วนายจะตอบชั้นไหมล่ะ "
"แล้วมึงเคยถามกูไหมล่ะ"
"เคย"
"เมื่อไหร่"
"แต่ก่อน"
"ตอนไหน"
"เอ่อ ........ ก่อนที่ชั้นจะป่วย"
"แล้วมึงจะไปขุดเรื่องเก่าขึ้นมาทำไมวะ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปสิ"
มันพูดอย่างหงุดหงิด
เหมือนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้(แล้วมันเคยควบคุมได้ตอนไหนวะ)
"................"
"กูไปเยี่ยมเพื่อนกูมา มันรถคว่ำ มึงไม่สังเกตรึไงว่าเพื่อนกูก็ไม่มีใครไปเรียนเลยสักคนน่ะ "
".............."
"ไม่เชื่อ ?"
"เปล่า"
"แล้วไง"
มันถาม
หลังจากที่มองสีหน้าผมแล้วคงเห็นความข้องใจอยู่มั้งครับ
"แล้วทำไมนายไม่คิดจะบอกชั้นบ้างว่านายจะไปไหน"
"แล้วทำไมกูต้องบอกมึง"
เอาอีกแล้วครับ
ก็นี่ไงคำตอบที่ผมเคยได้รับเมื่อผมถามว่ามันไปไหนน่ะ
"เพราะแบบนี้ไงั้นถึงไม่อยากที่จะถาม ว่านายจะไปไหน หรือว่านายไปไหนมา เพราะนายเองก็ไม่เคยคิดจะบอก เพราะฉะนั้น ก็ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว "
พร้อมพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
ก่อนที่จะเตรียมลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง
"ก็ได้"
จุ่ๆมันก็พูดขึ้น
เหมือนเพิ่งจะตัดสินใจอะไรได้สักอย่าง
ว่าแต่มันคืออะไรล่ะครับ
"........................."
ผมก็ได้แต่มองหน้ามันงงๆ สิครับ
ว่ามันจะพุดอะไร
"ต่อไปกูจะไปไหน ไปกับใคร หรือกลับมาเมื่อไหร่ กูจะรายงานมึงโอเคไหม"
มันพูดด้วยฝบหน้าเซ็งสุดชีวิต
"ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้อง"
พูดเสร็จผมก็เตรียมสะบัดตูดหนีทันที
ฮ่าๆๆ
โบราณว่าไว้ตีงูต้องตีให้ตาย
อย่าเอาแค่หลังหัก
เพราะเดี๋ยวมันจะมาแว้งกัดเรา
เพราะฉะนั้น
เมื่อมันยอมผมก็ต้องกดมันเยอะๆ
โว้วววว
"ได้คืบจะเอาศอกนะมึงน่ะ เห็นกูยอมหน่อยไม่ได้"
"..............."
"แล้วเรื่องเมื่อเช้าที่มึงไปยืนคุยกับคนอื่นน่ะ อย่าคิดนะว่ากูจะไม่ทันเห็น"
"............."
เอ่อ
ทำไมเหตุการณ์มันพลิกผันไปอย่างนี้ล่ะครับ
"พวกมึงคุยอะไรกัน หรือว่ามันยุให้มึงแข็งข้อกับกูวะ"
"เฮ้ย ไม่มี"
"แล้วเรื่องอะไร กูเห็นนะว่ามันทำหน้าตาดีใจ "
โห
แค่มันเดินมาแวบเดียว นี่มันรู้เห็นทุกอย่างได้เลยหรอเนี่ย
"เปล่า"
ผมปฏิเสธมัน
ก่อนจะเดินเลี่ยงมันเข้าห้องไป
"มึงจะไปไหน มึงจะบอกกูดีๆ หรือมึงจะให้กูโทรไปถามน้องมึง "
"ไม่มีอะไรหรอก ชั้นแค่ชวนเด็กพวกนั้นไปเลี้ยงข้าว แค่นั้นแหละ"
"..............."
ผมพูดเสร็จไอ้เดฟมันก็ไม่พูดอะไร
ได้แต่นิ่งเงียบเหมือนใช้ความคิดอะไรสักอย่าง
จึงเป็นเวลาที่ผมจะต้องแอบหลบเข้าไปในห้องสักที
"เดี๋ยว กูบอกมึงหรอ ว่ากูจะให้มึงไปน่ะ "
"บอกไม่บอกยังไงชั้นก็ต้องไป"
"มึงกล้าขัดกูหรอ"
"ก็ทีนายยังหายไปทุกคืนบ่อยๆเลย แล้วทำไมชั้นจะไปไม่ได้"
"อ๋อ ที่แท้มึงก้ยังไม่เลิกคิดเรื่องนี้อยู่ดี มึงอยากรู้อะไรถามมาเลยดีกว่า"
อ้อ
มันเปิดทางมาขนาดนี้
มีหรอที่ผมจะปล่อยไปง่ายๆ
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""