รักฤๅผูกพัน . . . ก็เจ็บปวดเท่ากัน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักฤๅผูกพัน . . . ก็เจ็บปวดเท่ากัน  (อ่าน 266091 ครั้ง)

TAMAKUNG

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12: :o12:


ขอร้องล่ะคับ


ขอมั่งได้ป่ะ


เชื่อป่ะ พี่เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง  ด้วย


มนบอกว่ามันอยากอ่านจัง

ขอร้องน้องอาร์มล่ะนะ


ให้พี่ทำรัยก็ยอมแระ

พี่อยากเก็บไว้จิงๆๆๆๆนะ


ถ้าเขียนเป็นหนังสือ  ออกมาขายก็ยินดี อุดหนุน


ขอร้องล่ะ ส่งมาให้พี่ด้วยนะ

ขอร้องๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
คุณอาร์มใจร้าย มาทำให้อยากแล้วจากไปอีกแร๊ะ :serius2:

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ไม่รุ้จะพูดไงดี นอกจากคำว่าขอบคุน o7 ขอบคุนมากๆค่ะพี่อาร์ม :L2: ประทับใจจริงๆ :กอด1:

ไว้ไงจะมาเม้นความรู้สึกอีกทีหลังจากพี่เอาตอนอวสานมาลงนะคะ  :กอด1:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


ตอนที่  ๓๙



   พี่ให้โอกาสผมสักครั้งได้ไหมพี่อาร์ม  ครั้งสุดท้าย . . .

   ผมรู้แค่ว่า  คำนี้มันก้องอยู่ในหัวผม  ผมต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนนะ  ทำไมผมต้องกลับมาเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย

   ผมนี่นะ . . .

   . . .จะต้องให้โอกาสมันอีกครั้ง


   ผมต้องให้มันเดินกลับเข้ามาทำร้ายผมอีกหรือ  ในเมื่อบาดแผลในใจคราวก่อนของผมมันยังไม่หายดีด้วยซ้ำ

   แผลหัวใจ . . .

   . . . อาจเยียวยาตลอดชีวิต

   หาก . . .

   ผมจะมีเวลามากขนาดนั้นเลยหรือ  ในเมื่อผมเฝ้าบอกตัวเองเสมอว่าเข้มแข็งพอ  สามารถยืนอยู่บนโลกนี้ได้  แม้ไม่มีมัน  ผมพิสูจน์ตัวเองมาสองปี  ผมว่าผมอยู่ได้  แต่ทำไมวันนี้ . . .

   วันนี้ . . .

   ผมเจอมันผมกลับรู้สึกเจ็บแปลบแบบวันเก่าที่ผ่านมา . . .

   หรือ . . . ตลอดระยะเวลาสองปี  มันไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นมาเลย  ผมแค่คิดไปเองว่าผมเข้มแข็งพอ

   “พี่อาร์ม  เฮ้ยกลับมาเมื่อไหร่”  คนที่ปรี่เข้ามาหาผม  ปลุกผมขึ้นจากความคิดวกไปวนมาเรื่องนั้น

   เรื่องนั้น . . . เรื่องของผมกับมัน

   “แดน  กลับมาได้อาทิตย์นึงแล้ว  โทรไปที่บ้านเห็นแม่บอกแดนไปอบรมที่จีน  แล้วกลับมาเมื่อไหร่นี่”  ผมยิ้มกับรุ่นน้อง

   แดนน้องรหัสผมที่มหาวิทยาลัยเก่า . . .

   คนที่ผมรู้ดีมาตลอดว่ามันคิดกับผมยังไง  และเป็นมันนี่แหละที่แนะนำอ้อม ๆ  ให้ผมเตลิดไปไกลค่อนทวีปกับอาชีพที่ผมไม่เคยคิดจะทำมาก่อนในชีวิต

   “เพิ่งมาถึงเมื่อวานพี่  ยังไม่เจอหน้าแม่เลย  เห็นที่บ้านบอกแม่ไปประชุมที่ภูเก็ตสองวันแล้ว  พี่จะไปไหนนี่” 

   ผมหันมองรอบ ๆ  ตัว  นี่ผมลงมาหยุดยืนที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินตั้งแต่เมื่อไหร่  ไอ้ความรู้สึกแบบนั้นมันทำให้ใจผมลอยได้ขนาดนี้เชียวหรือ

   ผมจะไปไหน ?

   ไม่รู้ . . . ก็ผมไม่รู้จะไปไหนนี่หว่า  แต่ผมดันพาตัวเองมาที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินได้ซะงั้น  ผมได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ  ให้มัน

   “แดนล่ะจะไปไหน”

   “สถานทูตจีนพี่  ธุระยังค้างอีกบานเลย”  มันยิ้มแห้ง ๆ  อาชีพมัน  นำสินค้าเข้าจากจีน อาจมีอะไรที่มันต้องแก้ก็ได้กระมัง

   “เหรอ . . . กินอะไรยัง”

   “ยังเลยพี่  ต้องรีบไปเด๋วสถานทูตปิด  เอางี้พี่รอผมที่เอสพละนาดได้ป่ะ  เสร็จธุระไปกินข้าวด้วย”

   “เอสพละนาด”  ผมทวนคำ พร้อมขมวดคิ้ว

   “เออ  ลืมไป  พี่ไปตั้งสองปี  เอสพละนาดที่ปาล์มอัพเก่าพี่ เดี๋ยวนี้เป็นโรงหนัง  ติดกับสถานทูตจีนนั่นแหละ  ผมเสร็จธุระแล้วจะรีบมากินข้าวด้วยตกลงมั้ย”

   ผมยิ้ม . . .

   . . . ก่อนเดินตามมันมาที่ช่องขายตั๋ว  ในเวลานี้  ผมไม่อยากอยู่คนเดียวเท่าไหร่หรอก  เพราะผมรู้ดี  ผมไม่ใช่คนเข้มแข็งมากนัก  หากมีอะไรมากระทบหัวใจ  น้ำตาผมมันจะพาลไหลเอาง่าย ๆ




   เอสพละนาด . . .

   อาคารทรงแปลกตาที่ริมถนนรัชดา  ผมเดินเข้าไปข้างใน  เหมือนเดินในสนามบินเลยแฮะ  ก็เขาใช้ปูนดิบเป็นเสา  ไม่ทาสี อาจเป็นการเล่นลายของเขาก็ได้  ผมเดินเรื่อยเปื่อยมองโน่นมองนี่  และสุดท้ายหยุดที่ร้านกาแฟที่ชั้นสอง


   ผมคงรักมันมาก . . .

   . . . มากจนทำให้ผมจมอยู่กับอดีต . . .   

   สิ่งที่ผมพยายามสะบัดให้หลุดจากการเกาะกุมในหัวใจ  มันจะง่ายนักหรือที่เราจะลืมคนที่เรารักมาก ๆ  สักคน . . .

   แล้ว . . . การที่เขาเดินกลับเข้ามา

   เราจะไม่ให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหรือ . . .

   หลากหลายคำที่มันเข้ามาในหัวผมตอนนั้น  ผมได้แต่ปล่อยสมองให้ว่าง  ไม่สามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้  ผมกลัวคำตอบกระมัง  ผมกลัวว่าคำตอบของผมมันจะหมายความว่าผมต้องเดินกลับไป  ณ  จุดเดิม

   จุดเดิม . . .

   ตรงไหนหรือ? 

   . . . ตรงที่เคยจบ . . .

   หรือ . . . ตรงที่เราเคยเริ่มต้น

   ผมนั่งนิ่ง ๆ  มองรถที่แล่นไปทีละนิดหน้าถนนรัชดา  ที่ตอนนี้ฝนเริ่มตั้งเค้ามา  ลมกระโชกแรงจนต้นไม้เอนแทบถึงพื้น  เสียงฟ้าร้องน่ากลัวมาก . . .

   . . . พายุฤดูร้อนกำลังมา

   แล้ว . . . พายุที่พัดโหมกระหน่ำในหัวใจผมล่ะ

   ฝนเริ่มโปรยเม็ด  ในขณะที่น้ำตาผมเริ่มเอ่อ  ผมไม่ชอบฝนเลยให้ตายสิ  มันดูโดดเดี่ยวยังไงไม่รู้  แต่ก่อนที่ผมจะเสียน้ำตา  แดนพาร่างที่ชื้นเพราะละอองฝนมาในร้าน  การเข้ามาของแดน  หยุดความคิดถึงของผมทั้งหมด . . .

   ผมหยุดคิดถึงคน ๆ นั้น . . .

   “ฝนตกอีกแล้ว  ช่วงนี้ฝนตกบ่อยจังเลยพี่”    แดนสะบัดเสื้อไปมาคล้ายจะไล่ความชื้นให้หายไป

   “จะกินอะไรกันดี”  ผมมองหน้า

   “แล้วพี่อยากกินอะไรล่ะครับ”

   “ได้หมด  ไม่เลือกเท่าไหร่”  ผมยิ้ม  มองไปรอบ ๆ  ร้าน  ก่อนยิ้มให้ตัวเองเล็กน้อย  นี่เป็นร้านกาแฟร้านที่สามในรอบวัน

   ทรูคอฟฟี่ . . .

   . . . สตาร์บัค . . .

   คาลดี้คอฟฟี่ . . .  สงสัยคืนนี้ตาคงค้างแหง ๆ  แต่ก็ดีจะได้นอนดูหน้าขาว ๆ  ของเคน . . . สวรรค์เบี่ยงกำลังสนุก

   “ยิ้มอะไรพี่  กินอุด้งมั้ย ข้างล่างมีอุด้งเส้นสด”

   “ยี้ . . . ไม่อาว . . .”  ผมส่ายหน้าปฏิเสธ   

   “ . . ไม่ชอบเส้น  ตอนอยู่เมืองนอก  กินเส้นซะจนหน้าจะกลายเป็นเส้นอยู่แล้ว สารพัดบะหมี่สารพัดสัญชาติ  บินไปเซี่ยงไฮ้ซื้อบะหมี่จีนมาตุน บินโซลมีสูตรกิมจิ บินโตเกียวก็ได้ญี่ปุ่น  แต่สุดท้ายที่เด็ดสุด  ต้มยำกุ้งมาม่า อร่อยสุดแร่ะ”

   “เออ ลืมไป  ชีวิตนางฟ้าบนเครื่องนี่เนาะ”

   “ทะลึ่ง   ไม่ใช่นางฟ้าขี้ข้าดี ๆ  นี่เอง  ภาพสวย เงินดี  แต่เหอะ ๆ  ไม่อยากให้พูด” 

   ผมไม่อยากสาธยาย  ไอ้อาชีพในฝันของหลาย ๆ  คน  มันไม่ได้สวยหรูเหมือนเครื่องแบบ  งานที่ต้องรองรับอารมณ์ของผู้คนมากหน้าหลายตา  มันไม่ได้สนุกแบบที่เราเห็นในละครทีวี

   เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก . . .

   แต่ . . .

   . . . เงินดีมาก

   สิ่งนี้แหละที่ผมมีกำลังใจในการทำงาน  เพราะผมคิดเอาไว้เสมอ  ผมจะเก็บเงินสักก้อน  ไว้ทำอะไรเล็ก ๆ  น้อย ๆ  ในยามที่อายุมากขึ้น  ในยามที่เขาปลดระวาง

   ลูกเรือ . . .

   . . . ก็เหมือนเครื่องบิน

   มีอายุการใช้งานของมัน . . .

   “พี่เจอไอ้โกมั้งป่ะ” 

   อะไรนี่ . . . วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นหว่า  ทำไมมีแต่เรื่องนี้  ผมว่าผมกำลังจะหลุด  จะลืม  แต่กลับมาได้ยินชื่อนี้อีก

   ผมพยักหน้ารับเบา ๆ

   “พี่อาร์ม . . . ไม่ลืมอีกหรือ”  มันมองหน้าผม  แววตามันถามผมด้วยกระมัง  ผมเคยคุยกับแดนบ่อยมากก่อนที่ผมจะตัดสินใจไปอยู่ที่โน่น

   “ไม่รู้เหมือนกัน  เมื่อกี้ก็เจอ  เลยเดินออกมานี่แหละ”

   “อ้าว . . . ไม่คุยล่ะพี่”

   “เหรอ  อยากให้คุยเหรอ”  ผมมองหน้าแดน  ทำไมใคร ๆ  อยากให้ผมคุยกับมันก็ไม่รู้  ทุกคนคล้ายอยากให้ผมกลับไปเจ็บแบบเดิมอีกอย่างนั้นหรือ . . .

   “พี่ . . .” 

   “ไหนบอกรักพี่ไง  แล้วจะผลักพี่ไปหาคนอื่นไม่เจ็บเหรอ”  ผมยักคิ้วกับแดน  เรื่องนี้ผมกับแดนก็เคยพูดกันมาครั้งนึงแล้ว  นานพอ ๆ  กับที่ผมจากเมืองไทยนั่นแหละ 

   “พี่ก็รู้ผมรักเพราะผมอยากรัก  ถึงผมอยากได้พี่มาอยู่กับผม  แต่ถ้าพี่ไม่มีความสุขในการอยู่กับผม  ผมไม่เอามาหรอก  ผมอยากให้พี่รักเพราะรัก  ไม่ใช่รักเพราะพี่สงสาร”  มันทำสายตาละห้อย

   ผมแบนหน้ามองไปดูสายฝนที่กระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง . . .

    . . . มันคิดเหมือนผม

   แต่ผมกักคนที่ผมรักไว้มากเกินไป  ผมทำใจไม่ได้ในการเห็นคนที่ผมรักไปเริงร่ากับคนอื่น  ผมอยากรักไอ้โก  และผมก็อยากให้มันรักผมเหมือนที่ผมรักมัน

   “แดน . . . อย่ารอเลย”   ผมบอกโดยไม่กล้าหันมามองหน้าแดน

   อย่างที่ผมบอก  ผมไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไรมากมาย  หากผมมองหน้ามัน  มองลึกในแววตาของมัน  ผมอาจเสียน้ำตาให้มันก็เป็นได้  เพราะบางอย่างในตัวผมบอก  มันกำลังจ้องมองผมอยู่

   “เรื่องของผม  แค่ผมเห็นคนที่ผมรักมีความสุขนั่นคือความสุขของผม  ตอนนี้คนที่ผมรักมีทุกข์  ผมเจ็บแทนไม่ได้  แต่ผมอยากให้เขารู้  ผมทุกข์ใจไม่น้อยกว่าเขาหรอก   ผมอยากให้เขาคิดให้ดี  อย่าหนีอีกเลย  เดินไปหาหัวใจตัวเองดีแล้ว”

   ผมหันกลับมามองหน้า . . . 

   . . . แววตาแดนรวดร้าวนะ

   ทำไมว้า . . .

   . . . ทำไมผมไม่รู้สึกกับมันแบบที่รู้สึกกับอีกคน

   เพราะหัวใจผมให้อีกคนไปหมดแล้ว 

   “พี่อาร์มนะใจร้าย”  มันมองหน้าผม

   “เอ้ย  เรื่องไร”

   “ไม่เคยโทรหาผมเลย  เกือบสองปี”

   “ก็เจอในเอ็มกันบ่อย”

   “มาก็ไม่เคยโทรหา  ใจร้ายชะมัด”  มันมองหน้า  ยิ้ม  บอกให้ผมรู้มากกว่าที่จะคิดจริงจังกับคำพูดของมัน

   “มาที่ไหน”

   “เมืองไทยไง  เชียงใหม่  กรุงเทพฯ  และวันนั้น  ไบเทค  บางนา”  มันจ้องหน้าผม

   “วันไหน”  คิ้วผมขมวดเข้าหากัน

   “พระจอมรับปริญญา”  คราวนี้มันจ้องตาผมเขม็ง

   ผมใจสั่นระรัว  แต่รับรองเหอะ  ผมผ่านความเจ็บปวดมามาก  มากพอที่จะรู้จักซ่อนมันเอาไว้  ไอ้แดนมองไม่เห็นหนอก

   “ตาฝาดแล้ว”

   “ผมว่าใช่แน่ ๆ  ยังเรียกพี่โอ๋กับไอ้โกให้ดูเลย  แต่พอสองคนนั้นหันไป  ไม่มีพี่แล้ว”

   “แปลว่าแดนคิดถึงพี่มาก  มากจนมองเห็นวิญญาณพี่”  ผมยิ้มให้มัน

   “พูดเหมือนพี่โอ๋เลย”

   “เอ้าก็เพื่อนกันนี่เนาะ  ใช้หัวใจเดียวกัน  ก็ต้องพูดเหมือนกันดิ๊”

   พูดไปแล้วผมนิ่งเงียบ  อาจเพราะว่า  กลัวว่าคำพูดบางอย่างจะทำให้ไอ้แดนมันคิดมากก็ได้  ผมปากเร็วเสมอ

   “พี่อาร์ม  ผมอยากให้พี่ดูคลิ้ปนี้”

   มันยื่นโทรศัพท์ให้ผม  ผมรับมาโทรศัพท์รุ่นล่าสุด  ไอ้แดนมันเจ้าพ่อไอที  เปลี่ยนโทรศัพท์ตามรุ่นตลอด

   “คลิ้ปไร”  ผมมองหน้าแดน

   “สัญญาก่อนนะพี่  จะดูจนจบ”

   “ทำไม”

   “ผมไม่รู้พี่  ผมอยากรู้เหมือนกันว่าทำไม  เพราะตั้งแต่ผมรู้จักคนในคลิ้ป  ผมว่ามันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน  แต่มันทำ  ผมเลยงง  ว่ามันคิดอะไร”

   “แล้วเกี่ยวไรกับพี่”

   “ผมถึงอยากให้พี่ดูว่าเกี่ยวไหม” 

   แดนมันกดเล่น  ภาพนั้นแม้จะไม่ชัดแบบที่ถ่ายด้วยกล้องวีดีโอ  แต่มันก็พอจะรู้ว่าคนในภาพคือใคร  คนที่อยู่หน้าเวทีเล็ก ๆ

   “ตอนงานเลี้ยงรับปริญญาพี่  คนในคลิ้ปมันออกไปร้องเพลง  พี่โอ๋ยังงงเลย  ว่ามันร้องเพลงเป็นด้วยหรือ”

   “ไม่อยากดู”  ผมเอาโทรศัพท์ใส่กลับมือแดน

   “ผมขอพี่  ถ้าคิดว่าผมเป็นน้องอยู่  ถ้าคิดว่าสองปีที่หายไป  ไม่โทรหาผมและรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น  พี่ดูนะ”  มันจับมือผมเอาไว้  แววตามันเว้าวอน

   ผมจำต้องรับมันมา   ก่อนกดเล่นอีกครั้ง

   “เพลงนี้ผมให้กับคนทุกคนที่ไม่รู้ค่าของความรัก  และผมอยากร้องเพลงนี้ให้กับคนที่ทำให้ผมมีวันนี้  คนเดียวที่ทำเพื่อผมมาตลอด  ผมเสียใจที่ผมไม่มีโอกาสอยู่กับเขาในวันที่ผมยืนอยู่ที่ปลายทางแห่งนี้ . . .”  เสียงมันบอกจากในคลิ้ป  ทำเอาหัวตาผมร้อนผ่าว

   เหมือนมีอะไรแล่นมาจุกที่ลำคอ  ผมพยายามกลืนมันลงไปอย่างยากเย็น    ท่วงทำนองอินโทรลเพลงมันโหยหวนก่อนที่จะมีเสียงร้องของมัน . . .

   “ทุกครั้งที่ฉันคิดถึงเธอ  ใจมันคอยบอกตัวเองอยู่เสมอว่าเธอนั้นเป็นสุขไปแล้ว  ทุกครั้งที่ฉันนั้นเห็นภาพเธอ  วันคืนเก่า ๆ  ก็กลับมาเสมอ  มีแต่เธอที่จะไม่กลับมาแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันยังไม่เคยพูดสักที  และมีอีกหลายอย่างที่ไม่เคยทำจนวันนี้ . . .” 

   เสียงร้องของคนในคลิ้ปสะกดผมนิ่ง

   “รัก . . . . . . รักเธอทั้งหมดของหัวใจ”

   น้ำตาผมตกลงอาบแก้ม  ผมรู้ความหมายของเพลง  ผมรู้ทุก ๆ  อย่าง  ที่แดนมันอยากสื่อให้ผม

   “. . . สิ่งเหล่านั้นเก็บไว้ข้างใน  เธอได้ยินไหมคนดี   อยากขอ . . .  ให้ความรู้สึกที่ฉันมี ส่งไปถึงเธอที่แสนดี  ว่าชีวิตนี้ฉันมีเธอเป็นความฝัน  จะพบกันอีกได้ไหม”

   ผมปล่อยน้ำตาไหลลงมาเป็นทาง  สายตาของผมมีแต่ม่านน้ำตา  ผมมองภาพนั้น  ภาพที่ไอ้แดนมันอยากสื่ออะไรให้ผม  ผมไม่รู้  ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว 

   มันมีทั้งความสุข  ทั้งความเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน

   “ฉันนั้นรู้ตัว  ก็คงจะไม่มัวเก็บมาจนวันนี้  โอ้คนดีฉันคงได้บอกไปแล้ว  ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันยังไม่เคยพูดสักที  และมีอีกหลายอย่างที่ไม่เคยทำจนวันนี้   รัก . . .  รักเธอทั้งหมดของหัวใจสิ่งเหล่านั้นเก็บไว้ข้างใน  เธอได้ยินไหมคนดี   อยากขอ . . . . ให้ความรู้สึกที่ฉันมี ส่งไปถึงเธอที่แสนดี  ว่าชีวิตนี้ฉันมีเธอเป็นความฝัน  จะพบกันอีกได้ไหม . . .”

   ผมหยุดตัวเองไม่ได้ . . .

   ผมยังเจ็บปวด  ผมยังฝังใจ  แค่เสียงเพลงที่มันถ่ายทอดมา  มันทำร้ายหัวใจผมให้อ่อนแอลงอีกครั้ง  ผมได้แต่ปล่อยน้ำตาให้มันไหลออกมา  ให้ออกมาให้สาสมกับความรู้สึกที่ผมเก็บและกดมันเอาไว้ตลอด 

   ผมรักมัน . . . รักมันคนเดียว

   แต่ผมกดเอาไว้  ผมหลอกตัวเองว่า  ผมไม่ได้รู้สึกอย่างไรกับมันแล้ว  ผมมีปมปลอมที่สร้างมาเพื่อกลบปมจริง ๆ 

   “. . . ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันยังไม่เคยพูดสักที  และมีอีกหลายอย่างที่วันนี้   รัก . . . รักเธอทั้งหมดของหัวใจสิ่งเหล่านั้นเก็บไว้ข้างใน  เธอได้ยินไหมคนดี   อยากขอ   ให้ความรู้สึกที่ฉันมี ส่งไปถึงเธอที่แสนดี  ว่าชีวิตนี้ฉันมีเธอเป็นความฝัน  จะพบกัน . . .  บอกรัก  รักเธอทั้งหมดของหัวใจ  สิ่งเหล่านั้นเก็บไว้ข้างใน  เธอได้ยินไหมคนดี  อยากขอ . . . . ให้ความรู้สึกที่ฉันมี ส่งไปถึงเธอที่แสนดี  ว่าชีวิตนี้ฉันมีเธอเป็นความฝัน  และสักวันจะไปหา . . .”

   เสียงเพลงจบลงที่เสียงกีตาร์ . . .

   ผมก้มหน้านิ่งยังหยุดความรู้สึกของตัวเองไม่ได้  ผมปล่อยน้ำตาไหลเป็นทางยาว  ไม่แม้แต่จะยกมือปาดหยาดน้ำตา  ในเมื่อหัวใจผมอ่อนแอ  ผมจะยอมรับความจริง  ความจริงที่ผมรู้  ผมไม่เคยลืมมันไปเลยเสียด้วยซ้ำ

   แต่สิ่งที่ผมเจอมา . . .

   ผมก็เจ็บปวดเกินกว่าจะหันกลับไปเดินบนเส้นทางนั้นอีกครั้ง

   “พี่อาร์ม”  แดนเอามือมาแตะที่มือผมเบาๆ

   ผมยกมือปรามมันเอาไว้  ขอเวลาสักนิดนะแดน  ขอเวลาให้ผมได้ตั้งตัว  ให้ผมได้ซึมซับกับสิ่งที่ผมเห็นก่อน  อย่างน้อยที่สุดตอนนี้หัวใจผมอ่อนแอ  มันสับสนวุ่นวายไปหมด  ขอให้ผมได้สร้างภูมิคุ้มกันความอ่อนแออีกสักครู่ . . .

   วันนั้นผมนั่งคุยกับมันอยู่จนกระทั่งฝนหยุด 

   ค่ำแล้ว  ผมบอกอยากกินส้มตำ  ปากเป็ดทอด  มันใจดี  พาผมมานั่งโซ้ยที่ข้างปั้มใกล้ ๆ  ตึกช้าง   

   ผมรู้ . . . มันมีความสุข  อย่างน้อยก็ในเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน

   ผมหรือ? . . .

   แดนคือคนที่ผมรัก . . .

   . . . แต่ผมรักมันเหมือนน้องจริง ๆ

   ผมกลับมาคอนโดเอาเมื่อดึก . . . คอนโดที่ผมซื้อทิ้งเอาไว้  ก็ไอ้เพื่อนโอ๋มันบอก  คนเราหาภาระใส่ตัวไว้บ้างจะได้มีแรงฮึดในการทำงาน ไอ้ผมก็หลงเชื่อมัน  ยอมจ่ายทุกเดือนแต่ได้อยู่ ไม่เกินสิบสองชั่วโมงต่อเดือน

   คือ . . . งานของผม  มันไม่ได้อยู่เมืองไทยครับ

   ผมเป็นพนักงานบริการบนเครื่องบิน . . . ในแถบตะวันออกกลางครับ  แล้วโปรแกรมบินของผม  ที่ผ่านมา  หากมีเข้าเมืองไทย  ผมจะแลกกับเพื่อนที่เป็นคนไทย  เพราะผมไม่อยากกลับเมืองไทย   ผมยังเจ็บอยู่กระมัง  เลยไม่ค่อยอยากเข้าเมืองไทยเท่าไหร่

   กฎของบริษัท . . .

   ลูกเรือทุกคนต้องนั่งรถของโรงแรมที่บริษัทคอนแท็กส์อยู่เพื่อไปเช็คอินที่โรงแรม  แล้วหลังจากนั้นคุณไปนอนไหนก็เรื่องของคุณ แต่ ต้องมานั่งรถโรงแรมกลับที่สนามบินในอีกวันที่มีไฟลท์กลับ

   ผมเลยต้องไปเช็คที่โรงแรม  นอนสักสามชั่วโมง เพราะการทำงานบนนั้นมันสาหัสจริง ๆ  จาก DOH มา BKK  ร่วมสิบชั่วโมง  ใช้เครื่องแอร์บัส  ซึ่งที่นั่งลูกเรือมันแคบมาก  แทบไม่ได้นอน  เหนื่อยสายตัวแทบขาด

   คอนโดมีไว้เพื่อให้รู้ว่าผมก็มีที่ซุกหัวนอนในประเทศของตัวเอง ก็ได้ไอ้เพื่อนเลวนี่แหละครับที่มาคอยดูแลให้ยามผมไม่อยู่  มันคอยจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ  ค่าส่วนกลาง  และเวลามันทะเลาะกับเมียมัน  มันก็ยึดอีกห้องนอนสบายใจมันล่ะครับ

   “กลับมาดึกเลย  ไปไหนมา”    ผมมองหน้าคนที่มายืนรอผม  แววตามันรวดร้าว  ไม่แตกต่างอะไรกับภาพที่ผมเห็นในคลิ้ปที่แดนให้ผมดู

   มันรอผม . . .

   . . . ผมแปลกใจมาก 

   แปลกใจเป็นที่สุด  เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา  ผมต่างหากที่รอมัน  แต่วันนี้  มันทำได้ขนาดนี้เลยหรือ  ทั้ง ๆ  ที่ผ่านมา  ในเวลาที่ผมเจ็บ  ในเวลาที่ผมร้องขอให้มันกลับมา  แต่มันกลับทิ้งผมไป ผมอยากจะเดินหนี . . .

   เหมือนกับที่ผมทำมาตลอดสองปี . .

   . . . การหนี

   มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย  ผมไม่สามารถทำใจให้ลืมมันได้  ตรงกันข้าม  ในเวลาที่ผมเจอมันแบบนี้  ผมกลับรู้ตัวว่าอ่อนแอ

   ผมอยากกอดมัน . . .

   . . . แต่แรงฐิทิ  ผมไม่ทำ

   ผมอยากพูดกับมัน . . .

   . . . อยากไปนั่งกินข้าว

   อยากดูหนัง . . . อยากนอนหนุนตักมันเหมือนที่เคยทำ

   แต่ผมต้องเก็บเอาไว้ . . .

   . . . สิ่งเหล่านั้นมันผ่านมาแล้วสำหรับผม  ในเมื่อสองปีก่อน  ผมตัดสินใจที่จะจบ . . .

   จบ . . . แปลว่า  ไม่มีอีกแล้ว

   ผมมองหน้ามัน  หัวใจผมเหนื่อยอ่อนเหลือเกิน  มันเหนื่อยล้าจนถึงที่สุดแล้ว  ผมรู้  ผมรักมัน  รักมันมาก

   แต่ . . . อีกความรู้สึก 

   ผมรักตัวเองนะ . . . รักมากเหมือนกัน

   สิ่งที่มันเคยทำกับผม . . . หัวใจผมหรือ  แหลกละเอียดหมดแล้ว  ที่เหลือคือร่างกาย  ร่างกายที่อยู่ได้โดยมีลมหายใจ  เท่านั้นกระมังที่บ่งบอกว่าผมยังมีชีวิตเหลืออยู่  ผมเจ็บจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน

   “พี่อาร์ม . . . มันคงสายไปแล้วใช่ไหม”

   สายไปแล้ว . . . คงใช่กระมัง  ในเมื่อหัวใจผมตอนนี้มันรวนเรไปหมด  มีทั้งอยากรัก  อยากกลับไปเดินร่วมทางกับมัน  และอีกหัวใจ  ผมกลัวเจ็บ  ไม่อยากเจ็บแบบที่ผ่านมาอีก

   ผมคงกลัวมันไปแล้ว . . .

   “ผมรักพี่นะครับ  ผมขอแค่โอกาสจากพี่  ครั้งเดียวเท่านั้น”

   แววตาของโก . . .

   . . . มันมีแววน้ำตา 

   ก่อนที่น้ำตามันจะหยดรินอาบแก้ม  ผมเห็นชัดด้วยสองตาของผมเอง   ผมต้องรีบเดินหนีมัน  ผมไม่อยากเห็นน้ำตาของมันอีก  แต่ผมเหมือนคนหนีตัวเองไม่พ้น  แค่พ้นสายตามัน น้ำตาผมไหลริน  ผมพยายามเดินให้ตรงที่สุด  คอตั้ง  ไม่อยากให้มันรู้ว่าผมอ่อนแอขนาดไหนที่ได้เห็นน้ำตาของมัน

   มันเจ็บปวด . . .

   . . . แต่ผมเจียนตายอยู่แล้ว

   นี่ผมกำลังทำร้ายตัวเอง . . .

   . . . หรือผมกำลังสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองหนอ

   ผมพาร่างกลับมาที่ห้อง  ปิดประตูห้อง  ก่อนทรุดลงที่ประตูอย่างช้า ๆ  เหมือนในหนังที่ผมเคยดู  มันเหมือนกับชีวิตผมตอนนี้  ผมได้แต่ฟุบหน้าเอาไว้กับเข่าตัวเอง  สิ่งที่ผมทำตอนนี้ผมไม่รู้ว่ามันผิดหรือถูก  ผมรู้แค่ว่าผมเจ็บปวด  หัวใจคล้ายโดนบีบ 

   ทำไมนะ  ผมน่าจะยิ้มเยาะที่มันเจ็บปวดแบบผมเคยเป็น  ผมน่าจะซ้ำมัน  ให้สามสมกับที่มันทำเอาไว้กับผม

   แต่ . . .

   น้ำตาของมัน . . . ทำเอาผมเจียนตายอีกครั้ง 

   . . . ผมเจ็บเพียงแค่เห็นน้ำตาของมัน . . .

   นี่หรือ . . . ที่ผมบอกว่าผมเข้มแข็งพอแล้ว

   . . . ผมรักพี่นะครับ  ผมขอแค่โอกาสจากพี่  ครั้งเดียวเท่านั้น. . . 

   ผมเอามือบิดหูตัวเองเอาไว้  ดีดดิ้น ทุรนทุราย เกลือกกลั้วไปบนพื้นห้อง  ทำไม  ทำไมผมต้องเจออะไรแบบนี้  ทำไมเสียงนี้มันไม่หายไปจากความรู้สึกของผมสักที

   . . . หรือโลกนี้ไม่ใช่ที่อยู่ของผม . . .

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2010 14:23:46 โดย ราชบุตร »

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อิอิ มาจิ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมตอนจบก่อน อิอิ


ออฟไลน์ muyong

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
มากรี๊ดดดดดดด

อ่านจบแล้วมาใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10

พีต้นเดินทางมาเหนื่อยๆๆ  มาล้างหน้าก่อน

เสร็จแล้วมาดื่มกาแฟก่อน  (ใครไปถ่ายมุมนี้ระวังงูนะครับ)

เสร็จแล้วแวะซื้อของฝากก่อน





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2008 09:13:44 โดย uno »

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป

ตอนที่  ๔๐




   ผมเปิดคลิ้ปที่ส่งมาจากเครื่องโทรศัพท์ของแดน ผมเอามาลงไว้ในเครื่องแลปทอป  คลิ้ปอันนั้น  มันต้องการสื่ออะไร  มันอยากบอกอะไรหรือ  ผมไม่รู้  ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี  ไม่รู้ว่าจะตัดสินเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไร  ทุกอย่างมันมารวดเร็วราวน้ำป่า  มันหลากไหลมาจนผมตั้งตัวไม่ทัน 

   หรือ . . .

   . . .อาจเพราะสิ่งที่ผ่านมาคือความทรงจำ 


   คือชีวิตของผม . . .

   เมื่อคืนผมหลับไปปล่อยโดยที่เปิดคลิ้ปทิ้งเอาไว้   ตั้งให้มันเล่นซ้ำไปซ้ำมา  สายมากแล้วกระมัง  เพราะแสงแดดส่องลอดม่านเข้ามา  เจ้าแลปทอปยังคงส่งเสียงไปเรื่อย ๆ   ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา  บิดความเมื่อยไล่ไอ้ตัวขี้เกียจที่มันมาสิงผมอยู่ในตอนนี้

   ผมปิดเครื่องแลปทอป  ก่อนที่จะคว้ารีโมท  เปิดวิทยุฟัง   คลื่นฮิตของคนกรุงเทพฯ

   ผมนอนลืมตานิ่ง . . .

   . . . เมื่อวานผมเจออะไรมาหว่า 

   มันเข้ามารวดเร็ว  จนผมแทบตั้งตัวไม่ทัน  แค่ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์บนแผ่นดินแม่  ผมเจอเรื่องที่ผมไม่คิดว่าจะเจออีก     ผมไม่เคยคิดมันจะมารอผม  มันจะตามหาผม  ในเมื่อ . .  .

   ตอนที่ผมโหยหา . . . 

   . . . มันร้างลา

   ผมได้แต่นึกย้อนแล้วยิ้มเยาะตัวเอง

   ตลกดี . . .

   . . . ผมยิ้มกับตัวเอง  หากแต่สมองผมมันคิดนะ  ผมทำอะไรลงไป  สิ่งที่ผมทำมันดีแล้วหรือ . . .

   มันคงยังดีไม่พอ . .

   ผมมีเวลาอยู่เมืองไทยอีกไม่กี่วัน  เพราะอาทิตย์หน้าผมต้องกลับไปทำงาน  งานที่ผมเองก็ไม่เคยคิดว่าผมจะทำได้  แต่ผมทำมันได้   ถึงมันจะไม่ใช่งานที่ผมรักเท่ากับงานแรก  แต่มันก็ทำให้ผมได้เจอสังคมใหม่ ๆ  เจอโลกใหม่ ๆ  ในมุมมองที่แปลกออกไป  อย่างน้อยที่สุดผมทำมาสองปี   มันเลยกลายเป็นความเคยชิน

   เป็นหน้าที่ประจำวัน  ตื่นเช้า  ไปออฟฟิศ  นั่งรถไปสนามบิน  ทำงาน  ถึงสนามบินอีกแห่ง  นั่งรถเข้าโรงแรมที่พัก   เพื่อพักผ่อน  ก่อนตื่นมารอรถ  มาสนามบิน   วันหยุด  นอนอยู่ห้อง  เล่นเน็ท  คุยกับเพื่อนที่เมืองไทย  ออกไปช้อปปิ้ง  เดินเล่น  วัฏจักรของผมมีแค่นี้เองในระยะสองปีที่ผ่านมา

   อาจเหมือนที่ผมอ่านเจอ 

   . . . คนเรามีต้องแยกหน้าที่ออกจากความรัก . . .

   ในเวลางาน . . . สิ่งที่สำคัญที่สุดของผมคือหน้าที่

   แต่ . . .ตอนนี้ช่วงพักของผม  ผมมีสิทธิ์ที่จะมองความรัก  ความรักที่มันยังอยู่รอบตัวผม  มันไม่เคยหนีผมไปไกลเลย  มีแต่ผมกระมังที่หนีมัน  ผมคงแย่  ไม่กล้าเผชิญความเป็นจริง 

   หรือ . . .

   เพราะความจริงมันโหดร้ายเกินไปสำหรับผม

   อินโทรลเพลงจากวิทยุดังขึ้น . . .    

   เพลงที่เรียกน้ำตาผมทุกครั้ง   มันมาได้จังหวะ  มันมาตอนที่ผมกำลังสับสนแบบนี้  ผมเอารีโมทมาเปิดเสียงให้ดังเท่าที่มันจะดังได้  ผมรู้ดี 

   วันนี้ . . . 

   ผมมีน้ำบริสุทธิ์ล้างหน้าล้างตาอีกแน่ ๆ

    . . . เรายังอยู่ด้วยกันอีกนานแสนนานฉันเชื่อตัวเองเช่นนั้น   ถึงได้ปล่อยวันเวลาไปไกลควรจะบอกบางคำก็ทำลืมไป คิดว่าเหลือเวลาเท่าไรก็พอพูดมัน . . .

   . . . กว่าจะบอกตัวเองว่าอย่ามั่นใจก็เมื่อในวันที่สาย  ที่ไม่มีเธอข้าง ๆ  กายกันอยากจะบอกคำเดิมที่เธอรอนาน ฉันก็เหลือแค่เพียงสิทธิ์บอกเธอผ่านสายตา  และทีนี้เวลาที่มีไม่พอสักอย่าง   อยากมีหนทางดึงสิ่งต่าง ๆ  ย้อนมา จะกอดเธอไว้จะทำทุกวันให้มีความหมายให้มีค่า จะไม่ทำให้เธอปวดใจ. . .

   ฉันไม่มีวันได้เธอคืนมา  ฉันขอเวลาแค่บอกคำนั้นที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม ฉันเสียใจตลอดเวลาที่รักษาเธอไม่ได้  สุดท้ายอยากให้รู้ว่ารัก . . .

   ได้แต่เกลียดตัวเองที่ลืมนึกไปว่าโลกมีคำว่าสาย  ไว้สะกิดใจให้ฉันรีบทำได้แต่กอดตัวเองกับความทรงจำ   ที่ยิ่งย้ำว่าฉันมันผิดที่ชะล่าใจ . . . และทีนี้เวลาที่มีไม่พอสักอย่าง อยากมีหนทางดึงสิ่งต่าง ๆ  ย้อนมา จะกอดเธอไว้จะทำทุกวันให้มีความหมายให้มีค่า จะไม่ทำให้เธอปวดใจฉัน ไม่มีวันได้เธอคืนมา  ฉันขอเวลาแค่บอกคำนั้นที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม

   ฉันเสียใจตลอดเวลาที่รักษาเธอไม่ได้ . . . สุดท้ายอยากให้รู้ว่ารัก  ฉันขอได้ไหม แค่บอกคำนั้น (แค่บอกคำนั้นจากใจ)  ที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหมฉันรักเธอตลอดเวลา  แต่รักษาเธอไม่ได้เชื่อไหม (สุดท้าย) เวลาไม่เคยพอ . . .



   ผมนอนนิ่ง ๆ  ปล่อยน้ำตามันรินไหลเปื้อนแก้ม  ก็มันน้ำตาของผมเอง  ใครจะมาหวงเอาไว้ทำไม    ผมมีเยอะ  มีบ่อผลิตที่ไม่มีวันหมดเสียด้วย

   น้ำตา  . . . 

   . . . เพื่อนแท้ของผมตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา

   หนึ่งปี . . .

   . . . เพื่อทำใจลาจาก

   สองปี . . .

   . . . ร้าง ห่าง หาย

   ช่วงเวลาที่เหมือนอยู่ในนรกทั้งเป็นของผม   ช่วงเวลาที่มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่คลอแก้มผมอยู่ตลอดเวลา

   ตอนผมฟังเพลงนี้ครั้งแรก   เพลงที่ไอ้แดนมันส่งให้ผม . . .

   ไอ้แดน . .  .  คนที่มันบอกเสมอว่ามันรักผม  มันรอผม  แต่มัน . .. เล้ววววว  เลว   ดันส่งเพลงอะไรมาเรียกน้ำตาผมก็ไม่รู้ 

   มันคงคิดว่ามันเป็นแดน D2B  มั้ง  มันคิดอะไรที่ส่งเพลงนี้ให้ผม   มันอาจคิดตรงกันข้ามกับผม  มันส่งให้ตอนที่ผมอยู่ที่ DOH   

   ผมน้ำตาไหลพรากเลยในวันนั้น . . .

   วันแรกที่ผมโหลดเพลงนี้มาฟัง  ฟังครั้งแรกผมนิ่ง . . .

   เหมือนใครเอาอะไรมาทุบหัวผม  มันชา ๆ  จนผมต้องฟังรอบสอง . . .

   . . . รอบสาม

   จนไม่รู้กี่รอบ  ยิ่งฟังยิ่งโหยหา  มันบาดลึกเหลือเกินสำหรับคนแบบผม

   ฉันนนนนนนนนนนน . . .  ไม่มีวันได้เธอคืนมา  . . . 

   เวลาถึงตอนนี้ทีไร  น้ำตาผมเหมือนสั่งได้  มันไหลออกมาเหมือนตาน้ำ  มันไม่ยอมหมด  จนผมต้องโทรลาป่วย ผมบินไม่ได้   ตาผมบวมขนาดนั้น  ผมคิดถึงมัน  คิดถึงมันจับหัวใจ  ผมได้แต่นอนขดตัวในซอกเล็ก ๆ  ของห้อง  เหมือนคนบ้า คนบ้าที่เปิดเพลงเดียวทิ้งไว้  แล้วขดตัวหนีการตามล่าอะไรสักอย่าง     

   และนั่น . . . เป็นครั้งแรกของการทำงานที่ผม  ปล่อยความรักเดินล้ำหน้าที่ของตัวเอง

   ทุกครั้งที่ผมอยากร้องไห้ . . . 

   ผมจะเปิดเพลงนี้ฟังเสมอ  ผมเปิดมันดังสุดเสียง  ใส่หูฟัง  กระตุ้นความรู้สึกที่มันตกตะกอนในใจ  ให้มาปั่นป่วนเต็มหัวใจอีกครั้ง  เพลงที่ผมนึกเอาเองว่า  คนแต่งเขาแต่งมาให้ผม . . .

     เพลงบางเพลงมันสะท้อนหัวใจของเรา  มันตรงกับชีวิตของเราอย่างจัง   ผมปล่อยเวลาของผมให้อยู่กับน้ำตาของผมเอง . . .

   ผมอาจดูตลก เข้มแข็งในหมู่เพื่อนฝูง  แต่ลึกเข้าไปแล้วผมอ่อนแอ  ผมรู้  การที่ผมปล่อยน้ำตาออกมาไม่หมด  ผมอาจเดินเหงา ๆ  อีกวัน  แต่หาก  ผมปลดปล่อยมันไปให้หมดในเช้านี้ . . .

   เหมือนเรากินของอร่อย . . .

   . . . ถ้าชิมเพียงนิด  เราจะหิวอีก

   ผมเลือกที่จะกินจนพุงกาง . . .

   แล้วมันจะอิ่ม  จะเลี่ยนกับของอร่อยนั้น  ไม่อยากกินอีกไปหลายวัน  ผมคิดแบบแปลกกว่าคนอื่นเสมอ . . .

   วันนี้ผมจะสดชื่นอีกทั้งวัน สมองมันคงโปร่งพอที่ผมจะเขียนอะไรได้อีกมาก  ผมจะเก็บเกี่ยววันเวลาที่ขาดหายไปมาถักทอร้อยรัดด้วยความรักทั้งหมดที่ผมมี . . .

   เวลา . . .

   ผมคงมีไม่มากเหมือนในเพลง  ผมต้องเก็บความทรงจำที่เริ่มขาดหาย  มาปะติดปะต่อใหม่  ก่อนที่ผมจะกลับ DOH  ผมต้องรู้หัวใจตัวเองให้ได้  ว่าแท้จริงแล้วตอนนี้ผมยังหนีอยู่อีกไหม . . .

   ผมเลือกที่จะปิดเครื่องมือสื่อสาร . . .

   ผมเดินไปที่มุมครัว  หาของสดในตู้เย็น  มีของสดเหลือเฟือสำหรับวันนี้  วันนี้ผมต้องจมดิ่งตัวเองไปกับอดีตอีกครั้ง . . . 

   ภาพในอดีตแจ่มชัดเสมอสำหรับผม




   สองวันเต็ม ๆ  ผมไม่ได้ออกไปไหน  ผมไม่ได้เปิดเครื่องมือสื่อสารใด ๆ  เวลาส่วนมากผมนั่งหน้าเจ้าแลปท้อป  ไม่รู้สิ  ยิ่งเขียนมันยิ่งแจ่มชัด  มันทำให้ผมอดที่จะรู้สึกเกลียดตัวเองไม่ได้

   เสียงไขกุญแจเข้ามา . . .


   ผมหันไปมอง  ไม่มีใครหรอกน่าจะเป็นไอ้เพื่อนรักนั่นแหละ  ตั้งแต่วันนั้นผมยังไม่ได้คุยกับมันเลย    ไม่รู้เหมือนกัน  มันเป็นเพื่อนผมแท้ ๆ  แต่นับวันมันยิ่งเห็นคนอื่นดีกว่าผม

   คนอื่น . . .

   . . .โกเมศวร์

   สำหรับผม  มันเป็นคนอื่นไปแล้วหรือ ?

   นี่ผมกำลังอิจฉาคนที่ผมรัก . . . หรือเคยรัก

   ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน  ว่าสิ่งที่หลงเหลืออยู่ตอนนี้มันจะเรียกว่าความรักได้หรือไม่  เพราะสิ่งที่ผ่านมามันยังฝังอยู่ในหัวใจของผม  มันยากมากที่ผมจะลืม  ผมไม่เคยพยายามลืม  เพราะนั่นเท่ากับว่าจะทำให้ผมยิ่งจำ  ผมปล่อยมันไว้เฉย ๆ  ให้เวลามันเยียวยาไปเรื่อย ๆ 

   “ไอ้เหี้ย  มีโทรศัพท์ไว้ทำพ่อมรึงเหรอ  มีแล้วไม่เปิดเครื่อง แมร่งโทรมาที่ห้องก็ไม่เสือกรับอีก”    ทันทีที่มันเจอหน้าผม  มันเอามาปล่อยทันที  สิ่งมีชีวิตแถว ๆ  รัฐสภาเมืองไทย  มันคงคิดที่ห้อง . . . สวนสัตว์

   “แบตหมด”

   “สัสสสสสสสส  หลอกหมาไป๊”

   “เออ ก็กูหลอกหมา”

   “ไอ้ห่านี่  วอนซะแร่ะ”   มันคงรู้ตัว  พลาดท่าโดนผมเอาคืน 

   ผมยิ้มให้มันก่อนนั่งตอบเมล์ของผมต่อไป   บางทีการต่อล้อต่อเถียงกับมันเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ผมชอบ  มันเหมือนกับเราได้ย้อนเวลาไปสู่อดีตอีกครั้ง  ระหว่างมันกับผมแทบจะไม่พูดดี ๆ  กัน  ส่วนมากใช้ภาษาแนบแน่นจนคนอื่นมองว่าหยาบคาย

   แปลก . . .

ทั้ง ๆ  ที่เป็นภาษาไทยแท้

   . . . พ่อกูชื่อขุนศรีอินทราทิตย์   แม่กูชื่อนางเสือง . . . รากเหง้าของภาษาแท้ ๆ  แต่คนไทยกลับมองว่าหยาบ  เขาคงลืมไป  หากมิทรงประดิษฐ์อักษรไทยแล้วไซร้  ป่านนี้เราอาจใช้ภาษาพม่า . . . หรือ . . . ขอม

   เราเหยียดรากเหง้าของเราเองกระนั้นหรือ . . .

   “ไอ้ห่าอาร์ม  มรึงทำอะไร  บอกกรูหน่อยสิไอ้เพื่อนร๊ากกกก”    มันพูดเสียงดัง  ก่อนชูสายโทรศัพท์ในมือ 

   ผมมองหน้ามัน   ยิ้มแก้เก้อ   

   “สะดุดหลุดมั้ง”

   “ไอ้เหี้ยนี่  ไม่รู้เหรอ  กูห่วงมรึงนะโว้ย  โทรหามือแทบหงิก  แมร่งเอ้ย  ทำไรเป็นเด็ก ๆ”  มันเอาสายโทรศัพท์เสียบเข้ากับเครื่องรับ

   ผมรู้สึกผิดเล็ก ๆ  ในหัวใจ  อย่างน้อยมันก็ห่วงผม 

   แต่ . . .

   ผมล่ะ  ผมกำลังทำอะไรลงไป   

   “ขอโทษว่ะ  คราวหน้าจะโทรบอกว่าจะปิดเครื่องแล้วนะคร๊าบ  สามวันนะคร๊าบ  จะถอดสายเบอร์ที่ห้องด้วยคร๊าบ  ไม่ต้องโทรมานะคร๊าบ  อยากอยู่คนเดียวคร๊าบบบบบบ”

   “ปากดีอีกนะมรึง  แล้วมรึงกินข้าวยัง”

   “ยังว่ะ”

   “เฮ้ย  โน้ตบุ๊คใหม่เหรอ  เล็กกะทัดรัดดีว่ะ”    มันเดินมาคร่อมหลังผม   

   “เอ้า . . .ห่านี่  ปิดทำเหี้ยไร  หัดมีความลับ”

   “ก็นิดนึง” 

   “ไอ้อาร์ม  เปิดเดี๋ยวนี้”

   “ไม่โว้ย . . .”   

   ผมหันไปทำหน้าทะเล้นใส่มัน   การได้ยั่วมันคือความสุขของผม  และเป็นเพียงช่วงความสุขสั้น ๆ  แต่ผมจะเก็บเกี่ยวเอาไว้  และใช้มันให้นานมากที่สุด   

   “โอ้ย!  ตบกบาลกรูเลยเหรอ”    ผมเอามือคลำไปที่โดนฝ่ามือพิฆาตของมัน

   “กูขอดูหน่อย  อยากดูนะ ๆ  ไอ้เพื่อนเลว”

   “เรื่องของมรึงเหอะ แมร่งอยากดูอะไรเชิญเลย”   ผมตัดบทลุกเดินหนี  เพราะอย่างไรเสีย  มันก็ต้องแสวงความอยากของมันจนได้  ไม่ยอมให้ดู  มันไม่เลิกราแน่ ๆ 

   อีกอย่าง . . .

   . . .  มันต้องรู้อยู่ดี  ไม่ช้าก็เร็ว

   มันนั่งลงที่เดิมที่ผมนั่งเมื่อครู  โปรแกรมหลายโปรแกรมยังเปิดทิ้งเอาไว้  เพราะผมแค่พับหน้าจอลงมาหน่อยเดียวเท่านั้น

   “ไอ้เหี้ยอาร์ม . . . มึงทำบ้าไร” 

   “อยู่แค่ตรงนี้พูดเบา ๆ  ก็ได้”  ผมมองหน้ามัน  ยิ้มเล็กน้อย  ผมคิดอยู่เหมือนกัน  ว่ายังไงก็ต้องบอกเรื่องนี้กับมัน

   “นิวยอร์ค ยูไนเต็ด สเตจ . .  . บริษัทยินดีที่จะได้บุคลากรแบบท่านมาร่วมงาน . . . ไอ้อาร์ม”    มันอ่านเมล์ที่ผมตอบค้างอยู่  เสียงมันเรียกผม

   “ก็หมายความว่ากูเป็นคนมีคุณภาพไง  ใคร ๆ  ถึงอยากได้”

   “ไอ้เหี้ย  หนีแล้วได้อะไร  มึงจะหนีตลอดชีวิตหรือไง  กูนึกว่าพูดเล่นสียอีก”

   “หนี   หนีอะไร  หนีทำไม  ก็พยายามจะบอกมึงแล้วไง  อเมริกานะมึง  ใคร ๆ  ก็อยากไป  โอกาสมันไม่ได้เดินมาหาเราง่าย ๆ  นะมึง”

   “อย่ามาทำเป็นเก่งกับกูไอ้อาร์ม  กูเพื่อนมึง  ไหล่กูนี่รับน้ำตามึงมาเท่าไหร่แล้ว  ทำไมกูจะไม่รู้จักมึง”  มันจ้องหน้าผม

   ผมมองหน้ามัน  แต่ผมไม่กล้าสบตามัน  อย่างที่มันพูดอาจจะใช่  มันรู้จักผม  รู้จักในทุกมุมของผม 

   บางครั้งนะ . . .

   ผมยังอดคิดไม่ได้  มันรู้จักผมดีกว่าตัวผมรู้จักตัวเองเสียอีก   ผมไม่ใช่คนที่กล้ายอมรับสักเท่าไหร่  ผมกลัวตัวเอง  ผมกลัวความเจ็บปวดแบบที่ผ่านมา  มันทรมานมาก  กับการจะยืนหยัดได้อีกครั้ง

   “ไอ้อาร์ม  มึงรู้จักกับกูมานานขนาดไหนว่ะ”

   “ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย”

   “กี่ปีละมึง”

   “สิบกว่าปีมั้ง”

   “มึงรักกูมั้ยไอ้อาร์ม”   มันจ้องหน้าผม

   คำถามมัน . . . 

   ผมไม่ต้องแปลหรอก   ผมรู้  ความหมายของมันดี  เพื่อนที่มองตาก็รู้ใจแบบมัน  ไม่มีนัยยะอื่นแอบแฝง  หากแต่ผมก็คือผม  ชอบแหย่  ชอบพูดจาแบบที่จะเรียกว่าเล่นเสียส่วนมาก

   “ห่านี่  มาคิดไรก๊ะกู  เดี๋ยวเมียมรึงแหกอกกู” 

   “อย่ามาลีลาไอ้อาร์ม  กูซีเรียสนะมรึง”    มันจ้องหน้าผม  ท่าทางมันจริงจัง  จนผมไม่กล้าเล่น

   “เออ  รักสิ  เพื่อนคนเดียว  หรือจะเรียกว่า  คนเดียวที่กูรักมากที่สุดในชีวิต   มึงถามทำไม”

   “ป่าว  กูแค่อยากแน่ใจว่ามึงยังรักกูอีกไหม  ในเมื่อมึงบอกว่ารักกู มึงจำสัญญาที่เคยให้ไว้กับกูไว้เมื่อสองปีก่อนได้ไหม”

   ผมมองหน้ามัน . . .

   ผมจำได้  ผมสัญญาไว้กับมันข้อนึง   สัญญาหน้าองค์ธาตุ  มีหรือที่ผมจะลืม  คนอย่างผมลืมอะไรง่าย ๆ  หรืออย่างไร

   สัญญาที่ผมบอก. . . มันอยากได้อะไร  ผมจะให้มัน

   “กูทวงสัญญา”   มันมองหน้าผม

   “มึงหมายถึง . . .”    ผมมองไปที่แลปท้อป

   อย่างที่บอก . .  . 

   ผมกับมันรู้จักกันมานาน  รู้ใจกันยิ่งกว่าใด ๆ  ทั้งหมด  แววตาของมันบอกผมมาแบบนั้นนี่นา  ผมมองหน้ามันนิ่ง  ไม่อยากได้ยินสิ่งที่มันจะพูดอีกต่อไป  เรื่องบางเรื่องมันลำบากใจ

   “กูไม่อยากทวงหรอก . . .”

   “งั้นก็ไม่ต้องทวง”

   “แต่ที่กูจะพูดกับมึงนี่  กูขอ กูขอมึงงในฐานะที่มึงเป็นเพื่อนที่กูรักมากที่สุด”

   “อะโห  ฟังดูดีนะเนี่ย”

   “สัสนี่  ทำเป็นเล่น”

   “เออ  ว่ามา”

   “เพราะมึงคือเพื่อนกู  กูขอมึงนะไอ้อาร์ม  ถ้ามึงอยากย้ายที่ทำงาน  กูขอให้มึงกลับเมืองไทยและมึงต้องไม่ไปทำที่ต่างประเทศอีก  นี่คือเรื่องเดียวในชีวิตที่กูขอมึง  เรื่องเดียวแล้วไอ้อาร์ม  อย่าหนีอีกนะอาร์ม  อย่าหนีอีก”  เสียงตอนท้ายมันสั่น

   มันพยายามซ่อนความรู้สึกของมันเอาไว้มิดชิดที่สุด

   ผมนิ่งเงียบ  มันเป็นคนที่สนุก  ชอบเทคแคร์คนอื่น  แม้ในบางครั้งมันอ่อนแอ  แต่มันเข้มแข็งกว่าผมเยอะ  มันไม่เคยแสดงให้คนอื่นเห็นความอ่อนแอของมัน  ทั้ง ๆ  ที่มันเจ็บเจียนตาย  แต่มันทำคนอื่นหัวเราะไปกับมัน

   “กูไม่รู้ที่ผ่านมาสองปี  มึงเจออะไรมาบ้าง  สองปีมันนานนะไอ้อาร์ม  สำหรับคนที่ต้องอยู่ด้วยการรอ  แต่กูอยากให้มึงรู้ว่ากูเป็นเพื่อนมึง  กูอยู่กับมึงนะไอ้อาร์ม กูไม่อยากเห็นเพื่อนที่กูรักที่สุดในชีวิตต้องหนีอีก  มันไม่ช่วยให้มึงดีขึ้นเลย  มึงอาจกลัวกับสิ่งที่ผ่านมา   มึงแกล้งทำเป็นเข้มแข็ง  แต่มึงมันอ่อนแอ  กูห่วงมึง นะอาร์ม  ห่วงมาก   มึงไม่รู้หรอกสองปีที่ผ่านมากูเป็นห่วงมึงขนาดไหน”  มันพูดยาว

   ไม่ทิ้งช่องไว้ให้ผมได้พูดเลย 

   ผมฟังมันนะ  เพราะมันคือเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของผม . . .

   “เออกูรู้ไอ้โอ๋  มึงห่วงกู  กูรู้เพื่อน”

   “มากพอที่มึงจะให้กูได้มั้ย”   

   “ลบทิ้งไปเหอะ ไม่ต้องส่งหรอก  หรือไม่ก็พิมพ์ตอบปฎิเสธไป กูให้มึงเพื่อน  กูยอมมึงเพื่อนที่ดีที่สุดของกู  ในชีวิตกูให้มึงได้ทุกเรื่อง  แม้แต่ชีวิตกูเอง”

   ผมเดินจากตรงนั้น  ไปยืนที่ระเบียง  บางทีสิ่งที่เราคิด  มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราหวัง   ผมไม่รู้เหมือนกัน  ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเวลานี้  ถามว่าเสียใจมั้ยที่ไม่ได้ไปอเมริกา  ผมเฉย ๆ  นะ  เพราะลึก ๆ  แล้วผมไม่อยากไปหรอก

   เมืองนอก . . .

   . . . เหงา

   ยามเจ็บปวด . . .

   . . . ทรมาน 

   ได้แต่นอนกอดหมอนเอาไว้  จะร้องออกมาก็ไม่เต็มเสียง  ไม่มีมือที่คอยมาวางที่บ่า  ไม่มีใครมานั่งใกล้ ๆ  ให้ผมใช้พักพิง  เราเหมือนตัวคนเดียวบนโลกใบนี้

   “เสียใจมั้ยมึง”    มันเดินมายืนใกล้ ๆ

   “ไม่รู้เหมือนกัน   กูแค่อยากออกไปสู่โลกว้าง”   ผมมองไปที่ริมขอบฟ้า  ที่ตอนนี้เริ่มมืด

   ฟ้าในกรุงเทพฯ  ไม่สวยงามเท่าไหร่  แต่มันก็ยังดี  ที่มีฟ้าให้มอง  แม้สายตามันจะสะดุดกับตึกรามบ้านช่องมากมาย  แต่ผมก็ยังชอบที่จะมองฟ้าอยู่ดี  มันสวยในรูปแบบของมัน

   “เหนื่อยมั้ยเพื่อน”  มันเอามือมาวางบนบ่าผม

   ผมหันไปมองหน้ามัน . . .

   หากมันยังมองไปที่ . . . ปลายขอบฟ้า 

   ผมไม่รู้ว่ามันคิดอะไร  แต่ที่ผ่านมา  ผมรู้  มันคือคนเดียวที่อยู่ข้าง ๆ  ผม  ผมยิ้ม  บางทีผมอาจจะโชคดีกว่าคนอื่น ๆ  อยู่บ้าง

   เพื่อนที่อยู่กับผมทุกครั้งที่ผมมีความสุข  หัวเราะ  ยิ้ม  คือคนเดียวกันกับที่นั่งอยู่ข้าง ๆ  ผม ยามผมเสียน้ำตา . . .

   “ก็เหนื่อยบ้าง”

   “ต้องกลับวันไหน”

   “ศุกร์หน้า วันที่ ๒”

   “อีกหลายวัน  อยากไปทะเลมั้ย”

   “ฮันนีมูนเหรอ”  ผมหันไปมองมัน  ยิ้มยั่ว

   “เหี้ยนี่  เสียรมณ์”

   “อ้าว  นึกไงมาชวนกูไปทะเล”

   “ไม่ได้ไปไหนมาไหนกับมึงนานแล้ว”

   “ถ้าสองคนพอไหว  สองต่อสองกล้าไปกับกูมั้ยล่ะ” 

   ผมหันไปมองหน้ามัน  ไม่ไว้ใจมันสักนิด  กลัวมันจะลากเอาใครไปเซอร์ไพรซ์อีก  หัวใจผมมันรับไม่ไหว    ผมเพิ่งหมดน้ำตาไป  ไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว  ที่ผ่านมา  ผมอ่อนแอจนรู้สึกเกลียดตัวเอง

   ถ้า . .  .

   . . . คนอื่นไม่ต้องการเรา  มันก็คงไม่แปลกอะไร

   แต่ . . .

   . . . ถ้าเราไม่ต้องการตัวเราเองแล้ว  เราจะอยู่บนโลกนี้ได้อย่างไร

   ผมรู้ . . .

   . . . บ่วงดวงใจที่ผมมีกับโกเมศวร์มันตัดยาก   ผมต้องใช้เวลาแทบตายในการตัด  แต่สุดท้าย  ผมยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะตัดได้หรือไม่ . . .

   “กลัวไรมึง  สองคนก็สองคน”

   “มิ้นล่ะ”    ผมหมายถึงเมียมัน

   “อยู่สมุย”

   “อ้าว  ไปกับใคร  ไปเมื่อไหร่”

   “เกือบเดือนแล้ว  กลับมาจากญี่ปุ่นก็ไปสมุย    แดนมันให้แม่มันฝากให้  มึงก็รู้  เส้นแม่มันแรง   ต้องไปประจำที่สนามบินสมุย”

   “ได้  งั้นกูตกลงไปทะเล  มึงว่างวันไหน”

   “จันทร์อังคารกรูว่างวันหยุด”

   “พรุ่งนี้มึงงเลิกกี่โมง”

   “ห้าโมงเย็น”

   “โอเค  งั้นพรุ่งนี้บินสมุย  กูอยากเจอมิ้น . . .”  ผมยิ้มให้มัน  เพื่อนที่ดีที่สุดของผม   

   “. . . แต่ขอร้อง  อย่านัดซ้อนอีก  ไม่อย่างนั้นกูบินกลับกรุงเทพฯ ทันทีที่มีไฟลท์ว่าง”   ผมจ้องตามัน

   “ครับท่าน”

   “และ . . . ถ้ากูต้องเจอมันที่สมุย  กูก็กลับทันทีเหมือนกัน  เพราะกูจะถือว่านั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”

   “ดักกูทุกทางนะมึง  ไปสองคน  กูไม่บอกใครหรอก  แต่ถ้ามันซวยเจอจริง ๆ  กูรับรองกูไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”

   ผมยิ้มให้มัน . . .

   . . .ผมรักโกเมศวร์

   แม้ตอนนี้ผมก็ยังแน่ใจ  ว่าผมลืมมันไม่ได้  มันเหมือนลมหายใจที่ตามติดตัวผม  แต่เรื่องการเจอกัน

   ถ้า . . .

   . . . ผมเจอมัน

   แล้วผมต้องเสียน้ำตา  ผมจะเจอมันอีกหรือ ?




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2010 14:30:06 โดย ราชบุตร »

sarin

  • บุคคลทั่วไป
เจ้ย....รีบเข้ามาจองที่นั่งแถวหน้าอ่ะครับ..คริ..คริ :laugh:

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10
แก้แล้วครับ  เมื่อกี้โป๊ะแตก

อายจัง
 

หวาดเดเพ่มาแต่เช้าเลยนะ
ไม่บินหรอ หรือว่าเขาไม่จ้างละ :oni1: :oni2: :oni1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10
มาดูทีพักกัน  มีให้เลืก





ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อิจฉาวะสองคนนี้

เปงแฟนกันเลยม่ะ

เชอะ

 :a14: :a14:

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10
>การรอคอย . . .ทรมานเสมอ

>หาก . . . ความสุขอยู่ที่เราได้รู้ว่า  คนที่เรารอ  เขารอเราอยู่เช่นกัน



ประโยคนี้มันคือคำตอบของเรื่องทั้งหมดใช่ปะครับ

 :laugh: :laugh:






พี่อาร์ม ผมเดาแม่นมะ  :laugh: :laugh:


TAMAKUNG

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: :serius2: :serius2:


เซง เลย  อุตส่าห์หยุดงานอ่ะนะ


นึกว่าจาได้อ่านตอนจบ แระ


กำ   เจงๆๆๆๆๆๆๆๆ  มานิดเดียว


จายร้าย  เจงๆๆๆๆๆๆๆ เลย  อาร์มนี่ย


ทรมานคนอ่าน  มานบาปนะ    อาร์ม


RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


ตอนที่ ๔๑





   สนามบินสุวรรณภูมิ . . .

   ผมมาสนามบินตั้งแต่บ่ายสามโมงเย็น  เตร่ไปทางโน้นที  ทางนี้ที  ก็มันใหญ่นี่ครับเดินเล่นมันไปเรื่อย ๆ  รอเวลาที่ไอ้เพื่อนเลวมันจะเลิกงาน  แล้วจะได้ไปทะเล  วิ้วววววววว  ไม่ได้ไปทะเลมานานแค่ไหนแล้วหว่า . . .


   ความรู้สึกผมตอนนั้น . . .

   . . . ระแวง

   ผมระแวงว่า  ไอ้เพื่อนรักของผมมันจะเล่นกลอะไรอีก  ก็มันนะขาซี้กับไอ้น้องรักผมเสียด้วย  ขืนมันทะเล่อทะล่า  ให้ไอ้น้องรักโผล่มาตอนนี้ผมจะทำหน้ายังไงดี  ในเมื่อผมเองก็รู้ว่าหัวใจตัวเองพาลอ่อนแอทุกครั้งที่เจอกับมัน

   ผมรักมันมากขนาดนี้เลยหรือ ?

   “ใจคอจะไปกันสองคนเลยเหรอพี่อาร์ม”  เสียงที่ทักมาจากด้านหลัง  ทำให้ผมต้องหันไปมอง

   “ไอ้แดน . .”  

   “เออ  ผมเองพี่อาร์มนะพี่อาร์ม  หายไปสองปี  พอกลับมาชวนแต่พี่โอ๋เท่านั้น  ทีกับผมไม่สนใจเลยนะ”  มันนั่งลงที่โซฟาใกล้ ๆ  ผม

   เล้าจญ์บูติคที่
สุวรรณภูมินี่มีแยกสองระดับด้วยนะ ไอ้เรามันแค่คนผ่านไปผ่านมา  เลยนั่งได้แค่เล้าจญ์ทั่วไป  จะอาจเหิมไปนั่งเล้าจญ์แบบสมาชิกฟลายเออร์ได้กระไรกัน  

   “โทษที  พอดีไอ้เหี้ยนี่ลากไปเที่ยว”  ผมโบ้ยไปที่ไอ้เพื่อนรักทันที  ก่อนคว้าขนมเข้าปาก

   ของกินเพียบในเล้าจญ์

   “สัสสสสส  อย่ามาโยนขี้”

   “หรือไม่จริง  ใครชวนกูไปทะเล”    ผมจ้องหน้ามัน

   “แล้วใครออกตังค์”

   “เหี้ยนี่  กูตามเก็บคอยดู”

   “เสียใจเพื่อน  เมียให้ใช้อาทิตย์ละพัน”

   เอากับมันดิครับพี่น้อง  ไอ้นี่มันมีแววรุ่งเพราะว่ามันกลัวเมียของมัน  ผู้ชายร้อยทั้งร้อยลองกลัวเมีย  ดีทุกราย  

   “พี่สองคนนี่จะทะเลาะกันจนแก่เลยใช่มั้ยครับ . . .”    ไอ้แดนมันยิ้ม  มันชาชินกับที่ผมกับไอ้เพื่อนรักมีเรื่องไร้สาระเถียงกันได้ตลอด

   “. . . พี่อาร์มเอาแลปท้อปไปด้วยเหรอ”

   “อืม  พกตลอด  เดี๋ยวเขาสั่งงาน  ไม่รู้เรื่องซวยอีก  แล้วไอ้เหี้ยนี่สิสั่งจัง  ให้เอาไปด้วย  เครื่องเก่าก็ได้  มันอยากให้เอาไป  ไม่รู้จะให้เอาเครื่องเก่าไปทำไม”

   “ก็อีกเครื่องมันใหม่  ไม่อยากเอาไปเจอไอทะเล”    ไอ้เพื่อนรักมันบอก   มันห่วงใยในสวัสดิภาพของเครื่องใช้ผมด้วยหรือ

   “เครื่องนี้ที่เอาไปปายก่อนไปนอกป่ะพี่”

   “ใช่  ทำไมเหรอ”

   “ป่าว ๆ  พี่ฟอร์เมทมันบ้างป่ะ”  แดนถาม  มันมองผมแปลก ๆ  

   “ไม่มีนี่  ไม่เคยฟอเมท  ไม่มีปัญหาฟอเมททำไม”

   “สาธุ  ขอให้อยู่เหอะ”  มันยกมือไหว้

   “ไอ้นี่ท่าจะบ้า  มีอะไรว่ะ . . .”   ผมมองหน้ามัน  เมื่อเห็นมันหันไปทำท่ามีลับลมคมในกับไอ้เพื่อนรัก  

   “. . .พวกมึงเล่นอะไรกันนี่  เด๋วกูไม่ไปแม่งเลย”

   “เฮ้ย  ไม่มี  กูแค่โทรชวนไปไอ้แดนไป  รับรองไม่มีอีกแล้ว”  ไอ้เพื่อนรักรีบห้าม  ราวกับผมจะออกศึก

   “เอาน่าพี่  คนเดียวหัวหาย  สองคนเพื่อนตาย  สามคนกลับบ้านได้   สามคนกำลังดี  ไม่มีสี่คนให้ระคายเคืองหัวใจแน่นอน”   ไอ้แดนหันมายิ้ม

   “ไปเหอะไป  เครื่องออนบอร์ดแร่ะ”  ไอ้โอ๋  มันเร่ง  ก่อนที่จะให้ไปที่เกทซึ่งก็อยู่ตรงกันข้ามกับเล้าจญ์นั่นแหละ




   วันนี้ได้บินกับแอร์บัส  A319   นึกแล้วอิจฉาพวกบูติกตอนนี้จับใจ  เพราะสมัยที่ผมอยู่  มีแต่เจ้าเครื่องใบพัดกับเจ้าไข่คู่  งง . . . อะดิ๊  อะไรไข่คู่  ก็เครื่อง โบอิ้ง 717  มันมีเครื่องยนต์ที่ท้ายเครื่องสองเครื่องยนต์  หากเอามันจับตั้งตามแนวตั้ง  จะเหมือนกับ . . . ไอ้นั่น

   ที่มาของเจ้าไข่คู่ครับ . . .  แอบลามกนิ้ดนึง


   เจอมิ้นที่สนามบินสมุย  เจ้าตัวรอรับพวกผมอยู่เสียด้วย     ผมไม่เจอมิ้นนานมาก  นานกว่าที่ผมไม่เจอไอ้เพื่อนเลวเสียอีก   เพื่อนผมร้ายเสียด้วย  เพราะเมียมันใส่ชุดคลุมท้อง  มิ้นสวยเหมือนเดิม  ชู ๕ นิ้ว  หมายความว่าอีกสี่เดือนผมจะเป็นลุงแล้วเหรอนี่  กรรมจริง ๆ  ไม่น่าเกิดตอนต้นปีเลย เกิดปีเดียวกัน  แต่ดันแก่เดือนกว่าไอ้เพื่อนเลว  

   ดูเพื่อนผมมันจะเห่อลูกในท้องมันพอดู  เพราะมันยิ้ม  มันกอดเมียมัน  จนผมเองอยากมีมั่งเลย    แต่อย่างว่าของบางอย่าง  มันไม่ใช่ของที่เราจะต้องวิ่งไปหามันมิใช่หรือ

   กว่าจะไปถึงโรงแรมก็เกือบสามทุ่ม  ความหิวมันเข้าจู่โจมทันที  เราพักกันที่เฉวง  ที่เดิมรีสอร์ทเพื่อนแม่ไอ้แดน  แต่สองปีมานี้ปรับปรุงเสียจนแทบจำเค้าเดิมไม่ได้    ไอ้เพื่อนเลวมันลากเมียมันมาด้วย  ดีเหมือนกัน  มันจะได้นอนกับเมียมัน  ผมกับไอ้แดนจะได้หนีเที่ยวสะดวก ๆ  

   แค่คิดเท่านั้นครับ . . .  

   เพราะหลังจากกินข้าวเสร็จก็เกือบห้าทุ่ม  แบบโม้เพลินกันเลย ไม่เจอกันนานขนาด   มิ้นขอตัวไปนอน  เพราะพรุ่งนี้มีงานแต่เช้า  เหลือแต่พวกผมสามคน  เลยไปนั่งดื่มกันที่บาร์ริมหาดของรีสอร์ทนั่นแหละครับ  

   ลมทะเลพัดโชยอ่อน ๆ  เย็นดี . . .

   . . . กลิ่นทรายหอมนะผมว่า   ตอนอยู่โดฮาผมไม่ค่อยได้ออกไปไหน  มาตอนนี้  อยากเก็บเอาความสุขนี้ให้นานที่สุด . . .

   ในเวลาที่ผมมีเพื่อนที่ดีอยู่ใกล้ ๆ  

   หาก . . . ทำไมหัวใจนึกถึงอีกคน

   เบียร์หมดไปคนละสองขวด แค่กรึ่ม ๆ . . .

   “อาร์ม”  ไอ้เพื่อนเลว  มันเรียก  แล้วมองหน้า

   “มีอะไร”

   “รักกูป่าว”

   ผมมองหน้ามัน  

   “ไอ้ห่านี่ . . .  มาไม้ไหนอีก”  

     ลองมันมีท่าทางจริงจังแบบนี้  ผมคงไม่สามารถพูดเล่นหรือเฉไฉอะไรกับมันได้อีก  ผมมองหน้ามันที่มันนั่งคู่กับไอ้แดน  ทำไมผมรู้สึกเหมือนกับกำลังโดนมันสองตัวสอบสวนอยู่ก็ไม่รู้

   ยอมรับครับ . . .

   . .  ตั้งแต่วันที่เจอมันนัดไอ้โกออกมาด้วย  ยังระแวงไม่หายเลย  มันแปล๊บ ๆ  ยังไงไม่รู้คือมันยังไม่พร้อมที่จะเจอไง

   “รัก”

   “ไอ้แดนละ  มึงรักมันมั้ย”

   “ก็รักดิ  ถามไรนี่  กูอายนะโว้ย”   ผมโวยวาย  

   บ้าไปแล้วเพื่อนผม มันมาคาดคั้นอะไรเอากับผมนี่   จะให้มาสารภาพรักริมหาดนี่นะ  นึกว่าโรแมนติคตายห่าล่ะ  ผมอายเป็น    ถ้าอยากบอก  ผมพูดเองได้  ไม่ต้องรอมันถามหรอกน่า

   “โอเคเพื่อน  กูสองคนก็รักมึง”

   “มึงอยากพูดอะไร  พูดมาเลย  อย่าลีลาวะ”  ผมรู้แล้ว  ว่ามันต้องมีเรื่องที่อยากจะพูดกับผมแน่ ๆ  

   “ได้ทุกเรื่องมั้ยพี่อาร์ม”  แดนมันเสียงอ่อยลง

   “เออ  คุยมาเลย  ทั้งคืนก็ได้  ไหน ๆ ก็ไหน ๆ  แล้ว  อีกไม่กี่วันกลับก็ได้กลับโดฮา  ไม่ได้เจอกันอีกนาน   อะไรที่ค้างคาหัวใจอยากถามอยากรู้อะไรถามมาแล้วกัน”

   “ทุกเรื่องแน่นะ”  

   “เออ  ห่านี่ถามไรถามากูรำคาญที่มาลีลาอยู่ได้”

   “เรื่องไอ้โก”  โอ๋มันมองหน้าผม

   ผมนิ่งเงียบ  ความรู้สึกในตัวบางอย่างมันบอกผม  การที่ผมหนีไป มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย  แล้วผมเองก็รู้ว่าผมยังลืมมันไม่ได้    ถ้าตอนนี้เพื่อนมันจะบอกอะไร  เกี่ยวกับคน ๆ  นั้นอีก  ผมว่าคุยกันให้จบ ๆ  ไปเลยก็ดีเหมือนกัน

   ผมนิ่งคล้ายตัดสินใจ . .

   “ว่ามา”

   “มึงยังรักมัน”

   ผมมองหน้ามัน  มันจ้องหน้าผมเอาไว้นิ่ง  ไม่ละสายตาที่มองผมเหมือนกัน  แบบนี้ผมจะโกหกมันได้อย่างไร  ในเมื่อมันทั้งสองจับจ้องอากัปกิริยาผมอยู่แบบนี้   ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

   “เรื่องของหัวใจบางทีพูดยากว่ะ”  ผมบอกเสียงอ่อย

   “กูไม่ได้ถามเรื่องหัวใจ  กูถามว่ายังรักมันมั้ย”

   “รัก”

   “รักแล้วหนีทำหอกอะไร  ทำไมมึงไม่เดินไปหามัน  มึงหนีหาแป๊ะมึงเหรอ”  

   ไอ้เพื่อนเลว  รู้ใจกูไปหมด  แต่เสือกไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องหนี  คนมันเจ็บนี่หว่า  จะอยู่ซ้ำ ๆ  ที่เดิมให้เจ็บปวดไปอีกทำไม

   “ไม่ได้หนี  ไปทำงาน”

   “ถุย . . . เอาจริง ๆ  เมื่อไหร่จะเลิกวิ่งหนีหัวใจตัวเองสักที  ไม่เหนื่อยหรือมึง  ยิ่งหนียิ่งตามติด”  ไอ้เพื่อนเลว  

   . . . ไม่ต้องมาตอกย้ำ . . .  

   กูรู้  รู้ดีกว่ามึง  เพราะกูเจอมากับตัวเอง  ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ไง  กูยังไม่เลิกที่จะวิ่งหนีเลยเห็นมั้ย . . .

   “มันรักมึง”

   “กูไม่อยากรู้”

   “อย่าทิฐิ  ไอ้สัสอาร์มอาร์ม  คุยกับกูดี ๆ  ใช้สมองคิด  เอาล่ะ  ตอนนี้กูบอกมึงว่ามันรักมึง  งั้นลองมาคุยเล่น ๆ  ทีละข้อ ๆ  กูถามมึงเป็นข้อ ๆ  แล้วมึงลองคิดเอาเองว่าคำตอบมันคืออะไร”

   มันยิ้มแบบคนที่ถือแต้มต่อในมือ . . .

   แบบนี้กูตายสถานเดียว  มันสองคน  แถมเตรียมการณ์มาไว้ด้วยเป็นอย่างดี  แล้วกูไม่ทันตั้งตัวแบบนี้  จะทำไงได้

   “ผมกับพี่โอ๋  ทำเพื่อนพี่นะพี่อาร์ม  เราไม่อยากเห็นพี่เจ็บอีก  ไม่อยากเห็นพี่ต้องหนีไปตลอดทั้งชีวิต  เพราะอย่างไรเสีย  มันก็หนีกันไม่พ้นนะพี่อาร์ม  พี่อาจจะเลิกรักมันได้  แต่ความผูกพันที่มีกับมัน  พี่ลบไม่ได้  พี่ลบตรงนั้นไม่ได้หรอก”

   “เออ  ถามมา”  สุดท้ายผมแพ้มันสองคน

   “มึงรู้จักกับมันมานานแค่ไหน  มึงเคยหยุดและมองในสิ่งที่มันกระทำบ้างหรือไม่  หรือแค่มึงอยากรู้แค่เรื่องที่มึงทำให้มัน”

   “โห  ถามยาว  ตอบยาก”

   ผมเฉไปเรื่อย . . . ยั่วมันเล่น ๆ  อีกอย่าง  ไม่รู้ว่าจะตอบมันอย่างไรด้วยกระมัง  ขอแปบนะเพื่อน  ขอเวลา  จัดระเบียบความรู้สึกในสมองแปบ

   “พี่อาร์ม  เดี๋ยวมานะ”  ไอ้แดนมันบอก  ก่อนลุกออกไป

   “อย่าแดนอย่า  ขอร้องเลย  อย่าลุกไปแล้วกลับมาพร้อมอีกคน  กูยังไม่พร้อม”  ผมระแวงไปหมดแล้วตอนนี้  หัวใจมันเต้นตุ่ม ๆ  

   ไอ้สองตัวนี้  มันกำลังทำอะไร  อย่าพิเรนทร์เอาไอ้โกมาตอนนี้นะมึง  กูยังบอกไม่ได้  เวลานี้  กูจะกล้าเผชิญหน้ากับมันหรือไม่    แค่คุยเรื่องมัน  กูก็ต้องทำใจจะแย่อยู่แล้ว  ขืนเจอหน้ามันตอนนี้  

   ไม่อยากจะคิด . . .

   . . . กูจะทำใจไหวมั้ย

   “ไม่น่า  รับรอง    ไม่เกินห้านาทีพี่”  

   “ไอ้อาร์ม  กูยืนยันนะโว้ย  ไอ้โกมันรักมึง”

   “รักแบบพี่เหรอ . . . กูรู้มานานแร่ะ”

   “ถ้าไม่ใช่แบบที่มึงรู้ล่ะ”

   ผมเลิกคิ้ว  มองหน้ามัน   ดูท่ามันจะรู้จักไอ้น้องผมดีกว่าผมเสียอีก  หรือสองปีที่ผ่านมา  มันมีอะไรที่ผมไม่รู้  

   “. . . ไม่มีทาง”

   “จริง”

   “คนรักกัน  เขาไม่หยิบยื่นความเจ็บปวดให้กันหรอก  ในเวลาที่คนที่เรารักเจ็บปวดที่สุด  เราไม่ซ้ำเติมคนที่เรารักหรอกเพื่อน  แค่เราเห็นเขาเจ็บปวด  เราก็เจ็บปวดเจียนตายแล้ว   ไม่มีใครที่ไหนซ้ำเติมคนที่เรารักหรอกไอ้โอ๋  ที่กูพูด  กูเจอมาแล้ว  เจ็บแทบตาย”  ผมมองหน้ามัน  

   ตอนนี้ . . .  สมองผมเริ่มตึง ๆ  อีกแล้ว

   “มึงรักมันหวงมัน  จนมึงลืมนึกถึงหัวใจมัน  บางที  ไม่ใช่แค่มันที่ทำร้ายมึง  อาจเป็นมึงที่ทำร้ายมันเจียนตายก็ได้ มึงไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ  มันในเวลาที่มันเจ็บปวด  แต่มึงกลับทำร้ายมันซ้ำลงไปอีกก็ได้”  มันมองหน้าผมนิ่ง . . .

   มันกำลังจะบอกอะไรผม . . .

   ความรู้สึกเครียดมันเริ่มเข้ามาหาผม  ผมมองหน้ามันนิ่งคล้ายขอคำตอบ  ไอ้เพื่อนรักเอื้อมมือมาแตะที่หลังมือผมเบา ๆ  

   สัมผัสนี้ . . .  

   ผมแปลได้ว่า  ต่อจากนี้  ผมจะต้องฟังมัน  และยอมรับให้ได้ว่าสิ่งที่มันจะบอกผมต่อจากนี้  ผมจะต้องหยุดฟังและยอมรับในสิ่งที่ไอ้เพื่อนรักมันบอก  

   “เอาดิ๊  ไหน ๆ  ก็ก็แพ้แล้วนี่  มึงมีอะไรจะพูดบอกกูมาเหอะ”

   “กูเพื่อนมึง  รู้จักกับมึงมานาน  เห็นมึงมาตลอด  เวลามึงเจ็บ  กูก็เจ็บนะ  แต่กูเจ็บแทนมึงไม่ได้  มันแน่นอยู่ในอกนี่แหละเพื่อน  ไม่อยากเห็นสิ่งที่ผ่านมา  มันต้องทำร้ายใครอีก”

   “เข้าเรื่องดีกว่าเพื่อน  ความรู้สึกที่มึงมีให้กู  กูมีให้มึง  ไม่จำเป็นต้องพูดกันอีก  กูรู้ดี  รู้ดีมาตลอดว่า  ถ้ามีใครสักคนที่นั่งใกล้ ๆ  เวลาที่กูจะหมดลม  คนนั้นน่าจะเป็นมึง”  ผมยิ้มให้มัน

   อ่อนโยนที่สุดแล้วเพื่อนรัก . . .

   “มึงรู้จักไอ้น้องรักมึงมากแค่ไหน  กูไม่รู้  มึงเริ่มเกลียดเริ่มเจ็บกับมันตอนไหน  กูก็ไม่รู้อีก  แต่ที่กูรู้ . . . มันเคยมีเมีย”

   “ใช่ . . .  มันเคยมีก่อนมันมาเรียน”

   “เพราะอะไร  มันถึงมีเมีย  เพราะมันไม่ได้เรียนต่อ  เพราะพ่อกับแม่มันทะเลาะกัน  แล้วพ่อมันไปมีเมียใหม่เป็นเด็กบาร์  เพราะมันรักแม่มัน  มันเลยคิดแบบเด็ก ๆ  หากมันจะทำอะไรแบบที่พ่อมันทำบ้าง  บางที  ทั้งพ่อทั้งแม่มันอาจจะหันมามองมันบ้าง  แต่ไม่ใช่  ไม่ใช่แบบที่มันคิด  มันมีความสุขหรือที่ทำแบบนั้น . . .”  มันหยุดมองหน้าผม

   “อาร์ม . . . ถ้ามึงเป็นมัน   มึงจะทำแบบที่มันทำมั้ย”

   “ไม่รู้”

   “อาร์ม   แล้วมีมึงที่เดินเข้าไปในช่วงนั้น  มึงเดินเข้าไปในชีวิตมัน  มันเห็นมึงเป็นเพื่อน  เป็นพี่  มึงเป็นทุกอย่างในขณะที่ชีวิตมันหาทางออกไม่ได้  มึงยื่นมือไปหามัน  ในเวลาที่มันทุกข์อย่างที่สุด  มึงลองคิดดูนะอาร์ม  ถ้าเป็นมึงที่ทุกข์แบบนั้น  มีใครยื่นมือเข้าไป  มึงจะรู้สึกอย่างไรอาร์ม”

   ผมมองหน้าไอ้เพื่อนรักนิ่ง . . .

   ไอ้แดนเดินกลับมาพร้อมกับแลปท้อป . . .  ผมมองหน้ามันสองคนนิ่ง  สิ่งที่มันพูด  ผมคิดตาม  ความรู้สึกผมนะหรือ  ไม่ต้องบอกหรอก  วันคืนเก่า ๆ  เหล่านั้น  ผมจำได้ดี  จำได้ไม่เคยลืม

   “มึงไม่จำเป็นต้องตอบกู  แต่มึงตอบหัวใจตัวเองนะไอ้อาร์ม  คำถามที่กูถามมึงไป  มึงตอบหัวใจตัวมึงเองก็ได้  ถ้าเป็นกู  ก็คงบอกได้  มันเป็นความรู้สึกดี  ความรู้สึกที่ดีต่อใครคนนึงที่เราไม่เคยรู้จัก  ไม่ใช่สายเลือดแบบที่มึงบอก  แต่คนที่ไม่ใช่สายเลือดมาทำแบบที่มึงทำ บางครั้งมันผูกพันแน่นหนากว่าสายเลือด”
มันหยุดมองหน้าผม . . .

มันยิ้มให้ผม  มันคงไม่อยากกดดันให้ผมต้องรู้สึกเจ็บปวดมากกว่านี้กระมัง  สิ่งที่มันพูด  ผมรู้คำตอบตัวเอง  ผมตอบตัวเองได้  หากผมเป็นมัน  ทำไมผมจะไม่ยึดเอามือที่ยื่นเข้ามาล่ะ

มือที่มาตอนที่เราแทบจะไร้เรี่ยวแรงยึดเหนี่ยว . . .

“มึงเอามันมาเรียน  มึงว่ามันโง่ขนาดไม่รู้เลยหรือ  ว่าทำไมมีเงินงอกมาในบัญชี  มันเป็นคนนะโว้ย  แล้วยิ่งมึงทำดีกับมันมากเท่าไหร่  มันยิ่งรู้สึกว่ามึงมีบุญคุณกับมันมากเท่านั้น  มากพอที่มันจะยอมนอนให้มึงทำอะไรมันก็ได้”

ทำไมผมรู้สึกเจ็บปวด . . .

. . . ถ้าในทางกลับกัน  ผมเป็นแบบมัน  ผมจะเจ็บปวดแบบนี้มั้ย

“ผู้ชายนะไอ้อาร์ม  ไม่มีใครยอมให้คนอื่นทำอะไรที่เหมือนทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีหรอก  มึงย่ำไปบนเกียรติที่มันมี  ด้วยคำว่ารักที่มึงบอกตัวเอง  ว่ามึงรักมัน  มึงหวังดีกับมัน  มึงลองคิดดูนะไอ้อาร์ม  ถ้าใครยื่นมือมาช่วยมึง  แล้วเอาตัวมึง  ถ้ามึงไม่รักมึงจะยอมมั้ย  มึงจะยอมให้เขาทำอะไรกับตัวมึงมั้ย”

   “ไม่มีทาง”  ผมมองหน้ามัน

   “มึงยังไม่ยอม  แล้วทำไมน้องมึงถึงยอม  เพื่อเงินอย่างนั้นเหรอ  มึงคิดนะเพื่อน  ลองคิดดู  แค่พ่อแม่แยกทางกันก็แย่พอแล้ว  มึงโตมาจากความรักของพ่อ  ของแม่   มึงไม่มีวันเข้าใจหัวอกของคนที่เห็นพ่อแม่เดินจากกันหรอกไอ้อาร์ม  ปากที่มึงบอกเสมอว่ารักมัน  แต่มึงกลับทำกับมันแบบนั้น  มันเคยพูดมั้ยอาร์มว่ามันรู้สึกอย่างไร    ถ้ามันเจ็บปวด  มันพูดกับใครได้มั้ยอาร์ม  ไม่ได้  เพราะมึงคือคนที่มีบุญคุณกับมัน  มันไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้  แต่มึง . . .”   มันหยุด มองหน้าผมอีก

   ตอนนี้  ผมคล้าย ๆ  อ่อนแรง  ทำไมผมเจ็บปวดกับสิ่งที่ตัวเองทำไป  ผมบอกว่าผมรักมัน  แต่ผมกลับตักตวงเอาความสุขจากมัน  ถ้ามันเป็นผู้ชาย  มันเจ็บปวดน่าดูกับสิ่งที่ผมทำไป  

   “. . กูไม่อยากให้มึงร้องอีกนะอาร์ม  แต่ถ้าวันนี้มึงอยากจะร้อง  กูก็ขอ ให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่มึงจะอ่อนแอแบบนี้อีก  กูไม่อยากเห็นน้ำตาของคนที่กูรัก  ไม่ว่าใครกูก็ไม่อยากจะเห็น”

   “อืม  พูดเหอะ  กูฟังได้”   ทำไมเสียงผมมันสั่นได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้

   “ไหวนะเพื่อน”  มันมองหน้า  ผมพยักหน้ารับมัน  ไหวสิ  ไหน ๆ  มันก็พูดมาแล้ว  จะทนฟังอีกหน่อยจะเป็นไรไป    ฟังให้มันจบกัน  แล้วพรุ่งนี้  อาจเป็นวันที่สดใสของผม เพราะหลังจากนี้  ผมคงไม่มีอะไรที่ต้องพูดเรื่องนี้อีกแล้ว

   “แม่มันหายไปสองปี  มีแต่มึงที่ดูแลมัน  มันรู้  มันรู้มาตลอดเลยไอ้อาร์ม    สิ่งที่มึงทำตลอดมันไม่รักมึงเลยเหรอ  มึงไม่ต้องรู้ว่ารักแบบไหน  มันกับมึง  คงคิดต่างกัน  มึงไม่มีใครในชีวิตที่มึงต้องแคร์  แต่มันมี  มันมีญาติพี่น้องที่มันต้องแคร์  แล้วมึงคิดหรือว่ามันง่ายมาก  ที่จะให้คนอื่น ๆ  รู้ว่ามันรักมึงแบบไหน  มึงบอกมันเองว่าสามีใหม่ของแม่มันจะเข้ามาหาแม่มันหรือหามัน  สิ่งที่มึงพูดก่อนที่มัน จะเกิด แล้วพอมันเกิด  มึงว่ามันช๊อคมั้ยไอ้อาร์ม  ถ้าเป็นมึง  แม่มึงไปสึกเจ้าอาวาสมา  มึงจะทำยังไงอาร์ม  มึงจะรู้สึกยังไง  บอกกูได้มั้ย”

   ผมหลับตานิ่ง   สิ่งที่เพื่อนรักมันพูด  ผมไม่เคยเอาใจตัวเองไปใส่ในหัวใจมันเลย  ผมรู้แค่ว่า  ผมรักมัน  ผมห่วงมัน  ผมทำยังไงก็ได้  ให้มันอยู่กับผม  แต่ในเวลานั้น  ผมไม่เคยที่จะมองถึงหัวใจของมมันเลย

   ถ้า . . .

   . . . แม่ผม  สึกพระ

   แค่คิดผมก็เจ็บปวด  น้ำตาไหล  ออกมาแล้ว  แล้วมันล่ะ  ในเวลานั้น  มันจะเจ็บปวดขนาดไหน  ในเมื่อมันรักแม่ของมันมากที่สุด  ทำไมผมโง่นะ   ผมโง่ที่รักมันจนหน้ามืดตามัว  ไม่มองความเป็นจริงในตอนนั้นเลย . . .

   “ในเวลาที่มันเจ็บที่สุด  มันคงไม่มีสติมากพอที่จะคิดอะไรได้หรอกไอ้อาร์ม  แล้วเมื่อมีคนเข้ามาในชีวิต . . . หน่อย”  ไอ้เพื่อนรักมองหน้าผม

   ผมพยักหน้าช้า ๆ  ยอมรับฟังมันโดยดี

   “พี่อาร์ม  ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในชีวิตของโก  หลังจากที่มันรู้แล้วว่าแม่สึกพระ  พี่อาร์มลองคิดเล่น ๆ  ได้มั้ย  ว่าคนที่เคยมีเมียเพราะประชด  จะทำเรื่องซ้ำ ๆ  แบบนั้นได้อีกมั้ย”

   ผมพิงตัวกับพนักเก้าอี้  ถอนหายใจยาว ๆ  ทำไมผมไม่คิดว่ะ  ผมมัวแต่คอยหึงหวงมัน  จนลืมไปว่า  คนแบบมันอยากมีใครที่อยู่ใกล้ ๆ  มันสักคน  ในเวลาที่มันเจ็บปวดที่สุด  ผมกลับทุบมันซ้ำลงไปอีก

   ผมน้ำตาไหล . . .

   . . . มันคงเจ็บกว่าที่ผมเจ็บหลายเท่านัก  ในเมื่อผมบอกมันตลอดว่ารักมันมากกว่าชีวิต  แต่ในเวลานั้น  ผมกลับไม่อยู่ข้าง ๆ  มัน  ผมกลับทำร้ายมันอย่างเลือดเย็นที่สุด

   “อาร์ม . . .  อาร์มฟังกูนะ  ตอนกูรู้  กูก็อึ้งไปเหมือนกัน  แต่กูขอยืนยันว่านี่เรื่องจริง”    ไอ้เพื่อนรักมันจับมือผมเอาไว้

   “อือ”

   “ตอนที่มันขับรถแหกโค้ง  มันไม่ใช่อุบัติเหตุนะอาร์ม  มันเกิดจากความตั้งใจ . . .”

   ผมปล่อยโฮออกมาทันที  เมื่อฟังสิ่งที่ไอ้เพื่อนรักบอก  ผมโผเข้ากอดไอ้เพื่อนรักเอาไว้    วันนั้นผมจำได้  ผมจำได้ดีมากที่สุด

   “พอเหอะมึง พอแล้ว”  ผมเจ็บปวด  ไม่อยากฟังเรื่องอะไรอีกแล้ว  ทำไมต้องเป็นผมที่ไม่มองในเรื่องที่ผ่านมา  ทำไมผมไม่มีสติในเวลานั้น  ผมแค่คนโง่คนนึงที่ปล่อยความหลงมาบดบังทุกอย่าง  ผมแย่จริง ๆ

   . . . พี่อาร์มอย่าไปได้มั้ย . . .

   มันบอก  แววตามันเศร้า   มันต้องการจะบอกอะไรผม  ผมเคยมองเสียที่ไหนตอนนั้น  มันขับรถตามผมมา  ผมน่าจะรู้ตั้งแต่วินาทีนั้นเสียด้วยซ้ำ   ทำไมผมไม่มองมันตั้งแต่วันนั้น  ผมบ้าที่มัวหึงมัน  จนหน้ามืดตามัว  หึงจนไม่ลืมหูลืมตา  ไม่แม้ที่จะหยุดมองว่ามีอะไรรอบ ๆ  ตัวบ้างที่มันเกิดขึ้นมาในชีวิต

   ไอ้เพื่อนรักมันกอดผมเอาไว้หลวม ๆ  มันไม่เคยทิ้งผม  มันอยู่ใกล้ ๆ ผม  มันเป็นเพื่อนผม  ในขณะที่ผมบอกว่าผมรักโก  แต่ผมกลับทำร้ายมัน  ผมทำลายมันไปแล้ว  ผมเจ็บนะ  เจ็บปวดกับเรื่องที่ผมไม่เคยมองมันเลย

   เพราะสมองผมมีแต่คิดว่า . . .

   . . . มันทรยศผมที่มีคนอื่น  แต่ผมไม่เคยมองสิ่งที่เกิดขึ้นเลย  ว่าเหตุผลของคนเรามันแตกต่างกันอย่างที่สุด  ผมรักมันด้วยหัวใจ  หากแต่มันรักผมด้วยเหตุผล

   เหตุผล . . .

   . . . ที่ผมไม่เคยมองเลย

   “แล้วแม่มันถามมัน  ว่ามันมีอะไรกับมึงมั้ย  อาร์ม  ถ้าเกิดแม่ยังอยู่  แล้วแม่ถามมึง . . . แบบที่แม่มันถามมัน  อาร์มจะกล้าบอกแม่มั้ย”

   “ไม่  ไม่เด็ดขาด”

   “ขนาดพี่อาร์มยังไม่กล้า  แล้วโกมันกล้าหรือพี่อาร์ม  ทางเดียวที่มันคิดได้ตอนนั้น  ต้องดึงใครมาสักคน  เพื่อที่จะให้ที่บ้านคิดว่ามันกับพี่ ไม่ได้มีอะไรกัน  แล้วจะดึงใครในสถานการณ์ตอนนั้น  ไม่มีใครเหมาะเท่ากับผู้หญิงโง่ ๆ  คนนั้นอีกแล้ว”    แดนเอามือมาแตะไหล่ผมเอาไว้

   “หมายความว่าไงแดน”  

   “ถ้ามันมีผู้หญิงที่กรุงเทพฯ  ที่บ้านมันจะรู้มั้ย  แล้วตอนที่มันอยู่กรุงเทพฯ  มันเคยมีคนอื่นหรือพี่  พี่ลองนึกดู    สู้มันยอมคุยกับคนที่บ้าน  ให้ผู้หญิงคนนั้นปล่อยข่าวว่ามันเป็นแฟนโก  ทางนี้คงดีที่สุดแล้ว  มันเลยเลือกที่จะทำแบบนั้นเพื่อให้แม่มันสบายใจ  มันรักแม่มันนะพี่  มันเลยเลือกที่จะทำร้ายหัวใจของพี่  เพราะถ้ามันเลือกพี่  คนที่เจ็บปวดตอนนั้นอาจจะเป็นแม่มันก็ได้  ถ้ามันทำแบบนั้น  เท่ากับมันเป็นคนเนรคุณผู้ให้กำเนิด  มันเลยเลือกที่จะเนรคุณพี่แทน”

   “โอ๋ . . .”   ผมเรียกมันไอ้เพื่อนรัก  มันลุกมานั่งติดกับผม  เอาไหล่มันให้ผมได้พิงแบบที่ผ่านมา

   ผมคอแห้งผาก . . .  

   . . . แทบจะนั่งไม่ไหวอยู่แล้ว  ผมทำร้ายมันซ้ำแล้ว  ซ้ำเล่า  ผมทำร้ายมันมาตลอดเลย  

   “แต่พี่เป็นคนโทรไปบอกหน่อย  ว่าพี่มีอะไรกับมัน  เกมส์แบบนั้นพี่เดินพลาด  เพราะเท่ากับผู้หญิงคนนั้นรู้ความลับ   มันเลยต้องยอมให้ผู้หญิงคนนั้นสั่งมันทำอะไรก็ได้  เพื่อที่จะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนนั้นพูดเรื่องมันกับพี่”   แดนมันมองหน้าผมนิ่ง

   “มึงจำวันที่มึงกระโดดให้รถชนได้มั้ยอาร์ม  ทำไมวันนั้นไม่ใช่มีแค่มึงที่อยู่ตรงนั้น    ไม่มีใครโง่พอที่จะตายพร้อมคนอื่นหรอกอาร์ม  ถ้ามันไม่ใช่เพราะความรัก”  ไอ้เพื่อนรักเอามือลูบหัวผมเบา ๆ  มันทำแบบนี้ทุกครั้งที่ผมเจ็บปวด

   “พอเหอะ  พอแล้ว”  ผมยกมือห้าม

   ผมไม่อยากรับฟัง  ไม่อยากรู้ความโง่ของตัวเองอีกต่อไปแล้ว  ถ้าผมไม่หลงมันแบบไม่ลืมหูลืมตา  บางทีผมอาจไม่ต้องเจ็บปวด  และหนีมาไกลขนาดนี้ก็ได้  แต่เพราะวันนั้นผมโง่เองที่ทำไปแบบนั้น  เพียงเพราะว่า  ผมไม่อยากเจ็บปวด

   แล้วมันล่ะ . . .

   . . . มันที่ไม่สามารถพูดกับใครได้  

   ความเจ็บปวดที่มันมี  มันต้องข่มเอาไว้ในหัวใจตลอดเวลา  ผมได้แต่หลับตานิ่ง  ปล่อยน้ำตาไหลเป็นทาง

   “มันต้องยอมทนเก็บเอาไว้คนเดียวนะพี่อาร์ม  จนกระทั่ง . . . วันที่ผมกับพี่ไปปาย วันที่มันทำพี่เลือดตก”

   ผมเอามือข้างซ้ายเลื่อนมาแตะที่หน้าผาก  รอยนั้นยังอยู่  มันไม่หายสนิทหรอก  เป็นรอยขาว ๆ  ที่ไม่กลืนกับเนื้อบนใบหน้า

   “พี่อาร์มเคยดูไอ้นี่ยัง”  แดนหันหน้าจอแลปท้อปมาให้ผม

   ภาพที่เห็น . . .

   . . . ไอ้ชัย  หน่อย  

   ผมมองหน้าแดน . . .  ส่ายหน้า นั่นคือคำตอบ  สิ่งที่มันเปิดให้ผมดู  ทำไมผมไม่เคยดูนะ  ทั้ง ๆ  ที่มันอยู่ในเครื่องของผม  แต่ผมไม่เคยเห็น  ไม่เคยดูมันเลยสักครั้งเดียว

   . . . โอ้ยพี่ชัย  อย่างพี่โกนี่นะ  หน่อยรักเข้าไปไม่ลงหรอก   โง่จะตาย  แค่พูดหวาน ๆ  เข้าก็อ่อนยวบแล้ว  เขาเคยมีอะไรกับหน่อยเสียที่ไหน  วันนั้นน่ะ  แค่มอมเหล้าจนเมา  แล้วลากเข้าห้องนอน  จับถอดเสื้อผ้า  ตื่นมาตอนเช้าแกล้งบีบน้ำตาเข้า  หน้าพี่เขาก็เครียดมาทันที  เรื่องแบบนี้พี่เขาไม่ทันหรอก  โง่เองที่ไม่ยอมเชื่อที่พี่อาร์มเตือนตั้งแต่แรก . . .

   ผู้หญิงคนนี้  ความคิดน่ารังเกียจ  แถมสิ่งที่เขาทำ  ยังทุเรศสิ้นดี  ผมได้แต่สะอิดสะเอียนกับภาพที่เห็น  ร่างเปลือยของคนสองคนที่นอนกอดก่ายกัน . . .

   . . . ยิ่งป้าภายิ่งแล้วใหญ่  หลงผัวใหม่จะตาย  โง่ ทั้งแม่ทั้งลูก  แล้วที่ดินริมน้ำตั้งเท่าไหร่  ลูกโง่แม่โง่  โอ้ยพี่   ไม่รู้ชาตินี้จะหาได้ที่ไหน . . .



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2010 14:37:17 โดย ราชบุตร »

TAMAKUNG

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12: :o12:


หยุดงานวันนี้คุ้ม  จิงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



 :o12: :o12: :o12:


ร้องให้อีกแล้ว




ผมร้องให้ อีกแล้ว


ความเศร้ามันเข้ามาที่หัวใจผม  อีก  แล้ว.........



คงนานมากที่จะลบไปได้........


เพราะเรื่องนี้    ....... เชื่อมั๊ย  ผมเก็บไปฝัน อ่ะ



ตื่นเช้ามารู้สึกหดหู่ใจ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



ม่ายอยากไปทำงานเลย



 :serius2: :serius2: :serius2:


ผมคงบ้าไปแล้วแน่ๆๆๆเลย


บอกตามตรง นะ


ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆ


 :pig4: :pig4: :pig4:


ขอบคุณ คนเขียนมากๆๆๆเลย  ที่มีเรื่องดีๆๆๆมาให้อ่าน



ถึงแม้ว่า  ผมจะต้องเสียน้ำตาทุกครั้ง  ก็ตาม


ขอบคุณจิงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



 :pig4: :pig4:

TAMAKUNG

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: :m15: :m15: :m15:



ถ้ามิเป็นการรบกวนจนเกินไป



รบกวนส่งเมลล์ให้ได้ป่ะคับ



ชอบเรื่องนี้จิงๆๆๆๆนะ



Please ๆๆๆๆๆๆๆๆ...

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
ฮิ้ววววววววว จบแล้ว

 :laugh:

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
คุณอาร์มปล่อยให้โกรอนานจัง ใจร้ายยย

 :m15: :m15:

ออฟไลน์ muyong

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พี่อาร์ม  จะมีตอนพิเศษ ไหมค่ะ

อยากรู้เรื่องราวต่อค่ะ เพราะมันผูกพันไปแล้ว

อยากให้โก สมหวังอะพี่อาร์ม 

อยากให้พี่อาร์มมีความสุข ได้อยู่กับคนที่รัก และรักพี่อาร์ม

หนูขอมากไปไหมค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
 :m1:เข้าใจกันซะที :m1:

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
ได้รับเรื่องที่ส่งให้แล้วนะจ๊ะ ขอบคุณมากค่ะ
ตอนจบของเรื่องคงไม่ต้องมีอะไรมากกว่านี้แล้ว
เพราะจบลงด้วยความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย
อาร์มกับโกจะใช้ชีวิตร่วมกันหรือไม่ในภายหน้าก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เพราะทั้งสองเข้าใจกันดีแล้วนี่ :L1:

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ในที่สุดก้อมาต่อสักทีนะคะ อยากจะเม้นตั้งแต่มะวานแระ แต่เกรงใจ แห่ะๆ :m23:
นู๋อยากจะบอกว่าพี่จบเรื่องได้ดีมากมาย :กอด1: มันเรียบๆเรื่อยๆ ไม่หวือหวา ตามทำนองของเรื่องนี้ที่พี่เปิดฉากมาแต่ต้น จู่ๆจะให้มารักกันหวานจ๋อยตอนจบคงแปลก :m23: เพราะความเจ็บปวดที่ได้รับมันมากมายเกินไป...พี่กอดความกลัว ความไม่เชื่อใจจากการถูกหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงแม้ตอนนี้พี่จะรู้ว่าพี่ตีความข้างเดียว คิดถึงแต่ตัวเอง จนลืมนึกถึงใจโกก้อเหอะ แต่เพราะความละอายใจที่มีเหลือ มันก้อคงยากเกินกว่าจะตีหน้าตายเข้าหากัน นู๋คิดว่าพี่ทำถูกแล้วล่ะ ที่ปล่อยให้เวลาเปนเครื่องช่วยเยียวยา คนเรารักกันน่ะ ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ถ้ารักแล้ว มันก้อยังคงรักอยุ่นั่นแหล่ะ รักที่ไม่ผูกมัด อยู่ด้วยกันเพราะต่างฝ่ายอยากอยู่ ไม่ใช่เพราะสัญญาหรือหน้าที่ นู๋ว่ามันเปนรักที่สงบสุขที่สุดละ

ขอบคุนสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ พี่ทำให้นู๋เฮริทมากมาย ร้องไห้ตามไปกับพี่ทุกวันๆ ดีนะที่อยุ่คนเดียวไม่งั้นโดนล้อแน่เลย นางเอกนอกจอร้องตามนางเอกในจอ :m23: พอมาถึงตอนจบ หัวใจก้อโล่งโปร่งสบาย ที่เรื่องทุกอย่างมันเคลีย จบลงด้วยดี นู๋ระแวงทุกวันเลยกลัวพี่จบเศร้า  :m15:

แวะมาทักทายกันมั่งนะคะ ยังยืนยันเปนกำลังใจให้เสมอค่ะ :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ไร้คำบรรยาย

ถึงจะจบแบบมีความสุข

ก็ยังเรียกน้ำตาได้

 :m15:

ขอบคุณ คุณRAJCHABUT สำหรับเรื่องราวดีๆ

ขอบคุณ เรย์ สำหรับที่วิ่งเล่น

ขอบคุณ เซ็งเป็ด ที่ทำใ้ห้เรารู้จักกัน

ขอบคุณ เพื่อนๆ สำหรับมิตรภาพ

ขอบคุณครับ

 :pig4:











ลป.

ยังยืนยัน

ขอเรื่องของอาร์มเล็กด้วย

อิอิ

 :laugh:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
จบแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   ได้เมลล์ต้นฉบับแล้ว ขอตุณมากๆๆนะคับ  แต่ยะงไม่ทันได้อ่านในเมลล์ มาดูในเล้าจบละ


น้ำตาไหลได้อยู่ จนถึงบทสรุป ก็ยังไม่หยุดไหล  เอาให้ได้ทุกตอนเลย

ขอบคุณนะคับที่นำเอาเรื่องราว มาแบ่งปันกันให้ข้อคิดดีๆๆเยอะเลย



ออฟไลน์ อิง

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-6
ไม่ได้อ่านซะหลายวัน จบซะแล้ว  

วันนั้นนั่งไล่ออ่านตั้งแต่ตอนที่อ่านค้างไว้ จนถึงบรรทัดสุดท้ายของตอนจบของเรื่อง

อิ่มมากค่ะ ครบทุกความรู้สึกจริง ๆ มีทั้งสุข ทั้งเศร้า เหงา และยินดี

ขอบคุณมากนะคะสำหรับเรื่องดี ๆ ที่แบ่งปัน รวมไปถึงข้อคิดดี ๆ ที่แทรกอยู่ในเรื่องนี้ด้วย ขอบคุณจริง ๆค่ะ

มีความสุขทุกวันนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ  :L2:


sarin

  • บุคคลทั่วไป
 K.อาร์มครับ
:pig4: :pig4: :pig4:
เต็มอื่ม....คร้าบ :m1:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


ตอนที่  ๔๑  (ต่อ)



   ผมปิดแลปท้อปลงทันที . . .

   ไม่อยากดูต่อให้เป็นเสนียดลูกตา  คนแบบนี้ผมไม่อยากอยู่ใกล้แม้แต่วินาทีเดียว  มันเจ็บปวดนะ  กับสิ่งที่ผ่านมา  ถ้าวันนั้น  ผมมีสติมากกว่านี้  วันนี้คงไม่มีใครต้องมาเจ็บปวด

   มิน่า . . . 

   วันนั้น  ที่ปาย


   ผมถึงได้ยินเสียงเปรตขอส่วนบุญดังมาจากในบ้านป้าภา . . .

   “อาร์ม  ตั้งแต่วันนั้น  โกมันก็ตามหามึง  ตามหาตลอด” 

   “อย่ามาพูด  กูไม่มีวันเชื่อ”  ผมมองหน้ามัน

   “งั้นมึงดูนี่”  ไอ้เพื่อนรัก มันเอา  มือถือของมันส่งมาให้ผม

   “รูปกู. . . มีไรเหรอ”  ผมมองหน้ามัน

   “มึงรู้ไหมว่าตอนที่กูได้รูปนี้กูอยู่กับใคร”

   “มึงจะบอกว่าอยู่กับไอ้โกอย่างนั้นเหรอ  ละครช่อง ๗  ชัด ๆ  กูไม่เชื่อหรอก”  ผมมองหน้าไอ้เพื่อนรักที  ไอ้แดนที

   “ถึงมึงจะไม่เชื่อ  กูบอกว่าจริง  กูนั่งกับไอ้โก  มันมาหากูที่สนามบิน  มันบอกว่า  มันไปหาหลวงพ่อ  มันเจอมึงนอนหลับในกุฏิหลวงพ่อ  มันไปทำบุญวันเกิดให้มึง”

   “อย่ามาอำ  อย่าเพื่อน”

   “คนที่รู้มึง  ไอ้อาร์ม  มึงรู้แก่ใจว่าใช่ไหม  เวลานั้นมึงอยู่ที่กุฏิหลวงพ่อหรือเปล่า  กูสองคนบังคับให้มึงเชื่อไม่ได้  แต่กูเชื่อโกมัน”

   “แดน . . .”  ผมหันไปหาพวก

   “พี่อาร์ม  พี่ดูอันนี้ . . .”  แดนยื่นกระดาษที่พับไว้มาให้ผม

   “เฮ้ย  สเก็ตเดือนนี้นี่หว่า”  ผมมองสิ่งที่อยู่ในมือ

   “แล้วอันนี้ละ . . .” แดนส่งกระดาษอีกใบ

   “ไอ้แดน  เอามาได้ไง  ของพี่เมื่อเดือนก่อน  มึงสองคนทำไรกันนี่”  ผมมองหน้ามันสองคน แปลกใจปนดีใจ  ที่มันใส่ใจผมขนาดนี้

   “โกเมศวร์เอามาให้กูกับไอ้แดน”

   “กูไม่เชื่อ”

   “อาร์ม  อย่าหลอกตัวเอง  กูรู้มึงเชื่อ  เชื่อกูสองคนเหอะอาร์ม  ว่าโกเมศวร์ ไอ้โก  มันดิ้นรนหามา  มันเอามาบอกกูกับไอ้แดน”

   “มันจะทำไปทำไม”   

   “อันนี้กูไม่รู้เพื่อน  แต่ที่กูรู้  กูจะเจอมันทุกครั้งที่มึงกลับมาเมืองไทย  วันที่มึงบินกลับก่อนไฟลท์ออก  กูจะเห็นไอ้โกป้วนเปี้ยนแถวประตูลูกเรือตลอด”

   ผมมองหน้ามัน . . .

   มันทำอะไรกันอยู่  แล้วผมล่ะ  ผมกำลังทำอะไรอยู่  ทำไมเรื่องราวมันไม่จบลงเสียที  มันมีอะไรตามมาเรื่อย ๆ  แบบนี้เลยหรือ

   “พี่โอ๋พูดจริง ๆ  พี่อาร์ม  ผมเองยังยอมแพ้กับสิ่งที่ไอโกตามหา”

   “กูสงสารมันนะอาร์ม   แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง  กูพยายามจะหาโอกาสพูดกับมึงหลายครั้ง  แต่มึงตัดบททุกครั้ง  จนกระทั่ง  เมื่อสามสี่วันก่อน  ที่กูนัดเจอมึง  กูโทรบอกโกมัน  กูคิดว่าบางทีมันอาจจะถึงเวลาที่ต้องคุยกันแล้ว  แต่มึงหนีอีกตามเคย . . .”

   “ซึ่งพี่โอ๋ก็คิดไว้แล้ว  ว่าพี่อาร์มจะหนี  เลยให้ผมตามดูพี่ห่าง ๆ  ตั้งแต่ทรูคอฟฟี่  ไปสตาร์บัค  จนกระทั่งพี่เดินมาที่สถานีรถใต้ดิน  ผมถึงปรากฏตัว  เพราะมันเป็นผมที่จะทำหน้าที่ต่อจากพี่โอ๋  ในตอนนั้น  ถ้าเป็นพี่โอ๋  พี่อาจจะหนีไกลกว่านี้  ผมเลยต้องเถเล่นไปตามบท”

   ผมมองหน้ามันทั้งสองคน . . .

   “อาร์ม . . . มีคนฝากมาให้มึง”  ไอ้เพื่อนรักส่งสมุดเล่มบันทึกมาให้ผม

   “ใคร”

   “มึงก็รู้แก่ใจ  มาถามกูทำไมอีกว่าใคร  กูไม่บังคับให้มึงอ่าน  แต่กูรู้ว่ามึงต้องไม่อยากอ่าน  เพราะแรงฐิทิ  มึงไม่อ่านหรอก”

   “กูจะอ่าน”

   ผมลืมไป  มันยั่วผม จนผมลืมคิดไปว่า  มันรู้จักผม  ผมเปิดสมุดเล่มนั้นช้า ๆ  ลายมือคุ้นตา  เป็นลายมือที่เขียนล้วน ๆ    บางตอนมีรอยอะไรเป็นดวง ๆ  หมึกคล้ายจาง ๆ  ผมรู้  รอยที่เกิดขึ้นนั้น  มันคับแน่นในหัวใจอย่างที่สุด



   ๔  มกราคม  ๒๕๕๐
   

   วันนี้ . . .

   วันเกิดของคนที่ผมรักมากที่สุด  และเป็นคนที่ผมทำเขาเจ็บปวดอย่างที่สุดเหมือนกัน  ความผิดที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะบอกอย่างไรเสียด้วยซ้ำ  สิ่งที่ผมทำได้  คือคอยดูแลคนที่เขารักมากที่สุด  เพื่อว่ามันจะชดเชยกับสิ่งที่ผมได้ฆ่าคน ๆ  นึงทั้งเป็น

   คนที่ปั้นผมมากับมือ . . .

   พี่อาร์ม . . . ผมอยากขอโทษ  แต่มันคงไม่เพียงพอกับสิ่งที่ผมได้ทำกับพี่  สิ่งที่ผมทำมันเลวร้ายเกินกว่าที่ผมจะบอกกับพี่ว่าผมรู้สึกอย่างไร  สิ่งเดียวที่ผมทำได้  คือแบ่งเบาสิ่งที่พี่เป็นห่วงตอนนี้ . . . หลวงพ่อ

   ผมรู้ . . .

   . . . หลวงพ่อ  คือสิ่งที่พี่รักและเป็นห่วงมากที่สุด

   และ . . . หลวงพ่อ 

   จะเป็นห่วงที่เกี่ยวรัดผมเอาไว้  ไม่ให้พี่หนีผมไปไกลเกินกว่านี้ 

   สักวันนึง  พี่จะกลับมา  กลับมาหาผม  เหมือนที่ผมอยากจะหาพี่  ผมเชื่อความรักมันมีใย  สายใยบางอย่างเราอาจมองไม่เห็น  หรือเพราะเราไม่เคยมองมันเลยก็เป็นได้ . . .

   “หลวงพ่อ . . .  หลวงพ่ออยู่มั้ยครับ”    ผมตะโกนร้องเรียกทุกครั้งที่เข้ามาที่กุฎิของหลวงพ่อ 

   สายลมพัดอ่อน ๆ  ต้นปีอากาศหนาว  ผมชอบอากาศยามต้นปี  เพราะมันหนาวเหน็บจับหัวใจดี  เหมือนหัวใจของผมตอนนี้  มันหนาว  หนาวตั้งแต่วันที่ไม่มีอีกคน . . .

   “วันนี้วันเกิดพี่อาร์ม  ผมเลยแวะมาทำสังฆทาน ก่อนบ่ายนี้ต้องเข้ากรุงเทพฯ  พรุ่งนี้ทำงานแล้วล่ะครับหลวงพ่อ  หยุดมาหลายวัน  ผมทำบุญให้พี่อาร์มได้ใช่มั้ยหลวงพ่อ”     ผมกราบหลวงพ่อที่นั่งขัดสมาธิหน้าชานกุฎิ

   แปลกจัง . . . วันนี้หลวงพ่อขยับตัวบ่อย

   “ได้สิ  การทำบุญ  เราทำให้ได้ทั้งเจ้ากรรมนายเวรที่ตายไปแล้ว  และทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่”  หลวงพ่อบอกยิ้มอ่อนโยน  เหมือนรอยยิ้มพี่อาร์มมิมีผิดเพี้ยน

   “ครับหลวงพ่อ  ผมคงทำผิดเอาไว้มาก”

   “ไม่มีอะไรที่ถูกทั้งหมด  และไม่มีอะไรที่ผิดตลอดหรือโก  . . .  เอ้า   บทสวดมนต์ขอถวายสังฆทาน”   หลวงพ่อส่งหนังสือให้ให้ผม

   “ท่องนะโมสามจบ  อยากจะอุทิศส่วนกุศลให้ใคร  ก็คิดเอาไว้  สัตว์โลกทั้งหลายที่อยู่รอบ ๆ  ตัว  พนมมือแล้วว่าตามนะ”

   ผมหันมองรอบ ๆ  ตัว  มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น  แล้วหลวงพ่อพูดอะไรแปลกจังเลย  หากแต่ผมไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น  ผมได้แต่พนมมือแล้วค่อย ๆ ท่องนะโมสามจบ  ก่อนอ่านบทสวดสังฆทาน

   “เอาล่ะ . . .  เรียบร้อยแล้ว  ส่วนน้ำนั่น  เอาไปเททิ้งใต้ต้นไม้ใหญ่”  เสียงหลวงพ่อสั่ง  ผมทำตามอย่างว่าง่าย  หยิบขันใบเล็ก ๆ  ก่อนก้าวลงมาที่บันได

   รองเท้าหนังมันเมี่ยม . . .

   พี่อาร์ม . . . ความรู้สึกแรกที่แวบเข้ามาในหัวใจ  พี่อาร์มอยู่ที่นี่หรือ  ผมได้แต่ถามตัวเองในใจ  คำถามที่ผมเองก็ไม่กล้าที่จะถามหลวงพ่อ    หากแต่ผมแน่ใจ  ความรู้สึกของผมไม่ผิดแน่ ๆ 

   ผมเดินกลับมาอีกครั้ง  ก่อนที่จะหยุดที่บันได  ผมได้แต่ก้มมองรองเท้าคู่นั้น

   ขนาด . . . เท้าพี่อาร์มแน่ ๆ  . . .

   . . . ยี่ห้อ . . . ใช่ที่พี่อาร์มใส่เป็นประจำ

   แล้ว . . . พี่อาร์มอยู่ไหน?

   . . . ในกุฎิ . . . คำตอบในหัวสมองของผม 

   แล้วทำไมหลวงพ่อไม่บอกผม . . .

   แม้ผมอยากจะรู้ใจแทบขาด  แต่ผมไม่สามารถที่จะเอ่ยปากถามเรื่องพี่อาร์มจากหลวงพ่อได้  ผมรู้ดี  พี่อาร์มหายไปจากชีวิตผมร่วมปีแล้ว  ตั้งแต่วันนั้น  ผมไม่เคยเจอพี่อาร์มอีกเลย   ที่ทำงานบอกว่าพี่อาร์มลาออกไปแล้ว  ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน

   พี่แดน . . .

   . . . ลาออกตามไปด้วย  และดูจะเมินเฉยกับผมเมื่อไม่มีพี่อาร์มอยู่  สายตาที่พี่แดนมองผม  เหมือนผมเป็นอะไรสักอย่าง  ที่น่ารังเกียจ  ผมอาจทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดกับคนที่พี่แดนรักก็เป็นได้  ผมรู้และดูออก  พี่แดนนะรักและหวงพี่อาร์ม . . .

   ส่วนผม . . . เป็นแค่คนที่ทำร้ายพี่อาร์มซ้ำแล้วซ้ำเล่า

   ผมเคยถามตัวเอง 

   ทำไมผมต้องทำร้ายพี่อาร์ม ? 

   คำตอบที่ได้  คือน้ำตา  เพราะหากผมไม่เลือกที่จะทำร้ายพี่อาร์ม  คนที่จะเจ็บปวดไม่ใช่พี่อาร์ม  แต่หมายถึงคนที่ผมไม่อาจจะทรยศได้  คนเดียวที่ผมไม่มีวันทรยศโดยเด็ดขาด   ไม่ว่าจะเป็นจะตาย  ผมไม่อาจทำร้ายเธอคนนั้นได้แน่ ๆ . . .

   ผมรักพี่อาร์ม . . .

   ผมไม่เคยแยกว่ารักแบบไหน  เพราะความรักของผมคือรัก  จะรักแบบไหนมันสำคัญหรือ  มันสำคัญกว่าความรู้สึกทั้งหมดของหัวใจหรือเปล่า  ผมไม่รู้คนอื่นจะมองอย่างไร  หากแต่ผมรู้ว่าพี่อาร์มดีกับผม  และผมควรจะรักพี่อาร์มให้มาก

   พี่อาร์มอยากให้ผมเป็นน้อง . . . ผมก็เป็นน้อง

   หาก . . . พี่อาร์มอยากให้ผมเป็นคนรัก

   . . . ตามใจพี่อาร์มสิ . . . ผมยอม 

   ผมยอมเพราะผมรู้  ในโลกนี้  นอกจากแม่  คนเดียวที่ไม่มีวันทำร้ายผมคือพี่อาร์ม  แต่ผมกลับเป็นฝ่ายที่เลือกที่จะทำร้ายพี่อาร์ม  เพียงเพราะผมไม่กล้าที่จะสู้หรือยอมรับกับความเป็นจริง

   พี่โอ๋ . . . เป็นเพื่อนที่พี่อาร์มสนิทมากที่สุด  การที่ผมจะขอความจริงจากพี่โอ๋  ไม่มีทางแน่ ๆ  เพราะพี่โอ๋ยืนยันว่าไม่รู้ว่าพี่อาร์มไปอยู่ไหน  เพื่อนรักกันขนาดนั้นไม่รู้  ผมไม่เชื่อหรอก  ผมไม่เชื่อเด็ดขาด

   ทางเดียว . . .

   ทางเดียวที่ผมจะได้เจอพี่อาร์ม  น่าจะทางหลวงพ่อ  เพราะพี่อาร์มรักหลวงพ่อมาก  และผมไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างพี่อาร์มจะตัดขาดทุกคนได้แม้กระทั่งหลวงพ่อ  ผมเลยต้องทำหน้าที่ของลูกที่ดี  อย่างน้อยเพื่อชดเชยความผิดที่ผมทำให้พี่อาร์มเตลิดไปไกล

   ไกล . . . แค่ไหนหรือ

   ผมไม่รู้  ผมไม่รู้จริง ๆ  ว่าพี่อาร์มอยู่ที่ไหนกันแน่    แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว  ผมมองรองเท้านิ่ง  บางทีคนที่ผมตามหาอยู่ใกล้ผมแค่นี้เอง

   ผมยิ้มก่อนเดินขึ้นไปบนกุฎิอีกครั้ง . . .

   “เห็นจะต้องลาหลวงพ่อ  เดือนหน้าจะมารับหลวงพ่อไปหาหมออีกนะครับ”  ผมก้มลงกราบ 

   “เดินทางปลอดภัย  บุญรักษานะลูก”    หลวงพ่อวางมือไว้บนศรีษะที่ผมก้มลงกราบนิ่งทุกครั้ง 

   สัมผัสอบอุ่นที่ผมได้รับ . . . เหมือนน้ำ

   น้ำที่ดับความรุ่มร้อนในหัวใจของผมเสมอมา   ผมหลับตานิ่ง  รู้สึกผิดกับความคิดที่มันมีอยู่ในหัวตอนนี้    ผมแค่อยากรู้  อยากรู้ในสิ่งที่หัวใจตัวเองมันร่ำร้องอยู่ตลอดเวลา  ถ้าผมทำผิด  ครั้งนี้ขอทำผิดเป็นครั้งสุดท้าย

   ผมลงมาจากกุฎิด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มกว่าเก่า  ผมมองรองเท้าคู่นั้น  ก่อนยิ้มหยันให้ตัวเอง  ลมหนาวปลิดใบไม้แห้งให้ค่อย ๆ  ทิ้งขั้วลง  ปลิวหมุนช้า ๆ  ก่อนจะตกลงสู่พื้น  มันจะแตกต่างอะไรจากชีวิตคนเล่า

   วันนึง . . .

   . . . ต้องลาจาก

   การจากลา . . . ทรมาน

   หาก . . . เราทุกคนต้องได้เจอ  เหมือนที่ผมเจอมาแล้ว  มันเจ็บปวดแสนสาหัส  หากวันนี้ผมขอ  ผมขอมองสิ่งที่ผมจากลานั้นให้เต็มตาอีกสักครั้งจะได้ไหม  ผมสัญญา  ผมจะไม่แตะให้เขาต้องเจ็บปวด  แม้แค่ปลายเล็บ

   ผมรอเวลา . . .

   การรอคอยสำหรับผม  มันเหมือนเพื่อนแท้  ผมรอได้ แม้การรอคอยจะทรมาน  แต่ผมจะรอ  เพราะผมรู้  อีกไม่นานสิ่งที่ผมรอจะสัมฤทธิ์ผล  ไม่มีอะไรนานเกินไปหรอก  สำหรับผม  การรอคอยคือความสุขที่ผมยินดีเปิดรับมันเสมอ

   หลวงพ่อค่อย ๆ  เดินลงมาจากกุฎิเมื่อมีเสียงระฆังส่งสัญญาณได้เวลาเพล  ผมค่อย ๆ  หลบเข้าไปอีกฝั่งของกุฎิอีกหลัง   ผมขอโทษที่ต้องทำแบบนี้  เพราะผมอยากรู้  มีอะไรในนั้น  มีอะไรซ่อนอยู่ในกุฏิของหลวงพ่อ

   ผมมองตามหลวงพ่อที่เดินหายไปทางด้านโรงฉันของวัด . . .

   แววตาผมกระหยิ่ม  ก่อนที่จะเดินมาที่กุฎิของหลวงพ่ออีกครั้ง  ผมก้มมองรองเท้าคู่นั้น  รองเท้าที่ผมเองก็รู้แก่ใจว่าเป็นของใครไปไม่ได้แน่ ๆ   อะไรที่เกี่ยวกับพี่อาร์มผมจำได้  ไม่มีวันลืม

   หาก . . . ทำไมผมลืมหัวใจตัวเองก็ไม่รู้

   ผมก้าวเท้าไปบนกุฎิอย่างช้า ๆ  หัวใจผมเต้นแรงขึ้น  เมื่อมาหยุดที่หน้าประตูกุฎิ  สิ่งที่อยู่ภายในหัวใจผมกำลังเถียงกันอย่างหนักหน่วง  มันดีแล้วหรือที่ผมจะผลักประตูเข้าไปโดยที่หลวงพ่อไม่อยู่  ผมควรทำแบบนั้นหรือ

   ผมเอื้อมมือไปข้างหน้าช้า ๆ

   “เอี๊ยดดดดดดดดด” 

   เสียงบานพับที่ขาดการบำรุง  แสงจากด้านนอกค่อย ๆ  ทอดยาวเข้าไปในกุฎิ    ปลายเท้าคู่นั้น . . . ผมดีใจจนเก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่  ผมจำได้  ไม่มีวันลืม  ผมไม่ลืมเด็ดขาด  ผมค่อย ๆ  ก้าวเท้าผ่านธรณีประตูไปอย่างช้า ๆ 

   คนที่นอนขดตัวนิ่ง . . .

   ผมน้ำตาเอ่อ  ค่อย ๆ  ทรุดตัวลงใกล้ ๆ  ใบหน้านั้นดูซีดเซียวคล้ายคนอดหลับอดนอน  ผมเอื้อมมือสั่นระริก  อยากจับใบหน้านั้น  หากผมต้องรีบดึงมือกลับมา  ไม่ได้หรอกโก   แค่นี้ก็พอแล้ว  ที่ผ่านมา  โกทำร้ายพี่อาร์มมามากแล้ว  อย่าทำร้ายพี่อาร์มอีกเลย  ปล่อยให้พี่เขาได้ไปแบบที่พี่เขาอยากไปนะโก   หากวันนึงพี่เขากลับมา  เราอาจจะมองหน้ากันได้อีก

   บางที . . .

   เวลา . . .  มันอาจจะบอกได้ว่า  สิ่งที่เราสองคนทำมาทั้งหมดมันคืออะไร  ตอนนี้พี่อาร์มเขาเหนื่อย  เขาอยากพัก  โกอย่าไปทำให้พี่เขาเหนื่อยมากกว่านี้นะ  มองพี่อาร์ม  เก็บภาพที่ดีของพี่เขาเอาไว้  เก็บไว้ในหัวใจของโกไง

   ผมได้แต่บอกตัวเองแบบนั้น . . .

   ริมผนังกุฏิ . . .

   มีเสื้อนอกสีเลือดนกแขวนอยู่  ป้ายโลหะที่หน้าอกเป็นรูปหัวแกะหรือแพะหว่า  ไม่แน่ใจ  ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ผมอ่านออกสายการบินระดับห้าดาว

   ผมใจหายวาบ . . .

   พี่อาร์มหนีไปไกลขนาดนี้เลยหรือ ?

   ผมมองพี่อาร์ม  แววตาเอ่อ คอผมแห้ง  มันตีบมันตัน  คล้ายใครมาบีบที่หัวใจจนผมแทบหายใจไม่ออก  นี่ผมทำร้ายคนที่ผมรักได้ขนาดนี้เลยใช่ไหม  ผมจำได้  พี่อาร์มเคยบอก 

   “สจ๊วตเหรอ  อี๋  ไม่เอา  ไม่อยากเป็น  เกลียดที่สุดในชีวิต  ถ้าเลือกได้  ไม่ขอเป็น  ไม่เด็ดขาด  ให้มันเป็นทางเลือกสุดท้ายเหอะไอ้อาชีพนั้นน่ะ  อีกอย่าง ไม่อยากห่างโก  ไปบินทีนึงหลายวัน  เป็นห่วงโก”

   ผมหลับตาค่อย ๆ  ปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา  สิ่งที่พี่อาร์มเกลียดที่สุด  แต่พี่อาร์มกลับเลือกที่จะเดินไปหามัน  เพราะผม  เพราะผมใช่ไหม  พี่อาร์มถึงได้เดินไปบนเส้นทางที่พี่อาร์มไม่คิดที่จะไป

   “ผมขอโทษ”  ผมบอกเบา ๆ  ก่อนก้มลงจดจมูกที่แก้มพี่อาร์ม

   ผมเดินออกมาจากกุฎิเหมือนคนไม่มีชีวิต  ผมมานั่งที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ไกล้โบสถ์  มันก็สาสมแล้วกับสิ่งที่ผมเคยทำเอาไว้กับพี่อาร์ม  สิ่งที่ผมเจอมันยังน้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ  ผมรู้  พี่อาร์มทำอะไรมามากมาย  สิ่งที่พี่อาร์มทำเพื่อผม  พี่อาร์มไม่เคยทำอะไรเพื่อตัวเองเลย  เขาทำเพื่อผมทั้งนั้น 

   กางเกงที่ผมใส่อยู่ตอนนี้   พี่อาร์มก็ซื้อให้ตอนวันเกิดปีก่อน  ราคามันนะหรือ  เทียบไม่ได้กับน้ำใจที่พี่อาร์มให้ผมกระมัง  ทำไมนะหรือ  ผมรู้ไง  ผมรู้  พี่อาร์มไม่เคยมีกางกางที่ราคาแพงเท่ากับตัวที่พี่อาร์มซื้อให้ผมตอนวันเกิด

   สิ่งที่พี่อาร์มให้ผม . . .

   . . . ดีที่สุดเสมอ

   ผมเอามือปาดน้ำตาทิ้ง  เสียใจที่สุดแล้ว  แต่ผมแก้ไขอะไรมันได้  ผมย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ  ทุกอย่างมันผ่านมาแล้ว  มันจบลงแล้ว  เพราะผม  ผมทำลายทุก ๆ  อย่างที่พี่อาร์มพยายามที่จะปั้นให้มันสวยที่สุด  ผมได้แต่กอดเข่าตัวเองเอาไว้  เอาเข่าซับน้ำตาตัวเอง  ให้สาสมกับความงี่เง่าที่ผมได้กระทำลงไป

   ผมเจ็บ . . . แต่คงไม่เท่าที่พี่อาร์มต้องเจ็บ

   ผมต้องผ่านมันไปให้ได้  ผมต้องอยู่รอพี่อาร์ม  ผมได้แต่วาดหวังสักวันพี่อาร์มจะอภัยให้ผม  จะกลับมายิ้มให้ผมเหมือนที่เคยผ่านมา  ผมไม่หวังไปถึงอ้อมกอดของพี่อาร์มหรอก  เพราะผมรู้ดี  มันเกินที่จะคาดหวัง

   แค่ . . . รอยยิ้ม

   รอยยิ้มในวันข้างหน้าที่เจอกัน  แค่รอยยิ้มที่พี่อาร์มยิ้มให้ผมเท่านั้น  ผมก็คงมีความสุขแล้ว  ผมไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าสิ่งนี้อีกแล้ว

   พี่อาร์ม . . . ชื่อนี้จรดลึกอยู่ในหัวใจของผมไปจนหมดลมหายใจ




   ผมเงยหน้ามองเพื่อนรักที  มองแดนที  แปลกจัง  ทำไมผมมองมันสองคนไม่ชัด  ในเมื่อตอนนี้  ดวงตาของผมพร่ามัวไปด้วยน้ำตา  น้ำตาที่มันออกมาโดยที่ผมไม่สามารถจะควบคุมมันได้   สิ่งที่ผมเห็นในสมุดเล่มนั้น  มันบีบหัวใจผม  ผมทำร้ายตัวเอง  ผมทำร้ายคนที่ผมรักได้มากขนาดนี้เลยหรือ

   รอยดวง ๆ  เปื้อนกระดาษ . . .

   น้ำตา . . . ผู้ชายแบบโกเมศวร์หากไม่ถึงที่สุด  คงไม่มีน้ำตาให้ใครเห็น  ผมหลับตานิ่งเจ็บปวดอย่างที่สุดแล้ว

   “ไอ้อาร์ม”  เพื่อนรักมันแตะที่เข่าผมเบา ๆ

   “อย่าเพิ่งพูด ขอเวลากูแปบ”  ผมหลับตายกมือห้ามมัน

   อย่าเพิ่งเลยเพื่อน  อย่าเพิ่งมาอะไรในเวลานี้  ตอนนี้มันน่ากลัว  ขอเวลาสักเล็กน้อย  ขอเวลาให้กูปรับความรู้สึกตัวเองอีกสักครู่

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2010 14:41:41 โดย ราชบุตร »

TAMAKUNG

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: :laugh: :laugh:


ยังไม่ได้เลย    ส่งมาด่วนเลยครับ 



อิจฉาคนที่เขาได้แล้ว


นะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   ส่งให้ทีครับ



 :pig4: :pig4: :pig4:



อยากให้มีภาคต่อ  ตามเมลลที่เมลล์ขอไป


นะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


อย่าลืม่สงเรื่องนีให้ด้วยนะ



จะลงแดงตายอยู่แล้ว

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป



อีก  ๓๐  วัน


จะมาลบบางตอนนะครับ . . . ไม่อยากให้คนอื่นอ่านอีกแร่ะ


ผมส่งให้เกือบทุกคนแร่ะ  ใครยังไม่ได้  บอกมานะครับ จะส่งให้  (ถ้าว่างแบบวันนี้)


ปล.  ไปดูหนังดีก่า . . .    สบายดีหลวงพระบาง




ขอด้วยนะคะ      :oni1:
ส่ง pm แล้วค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด