**(22.11.57)**1 MONTH ตะครุบหัวใจนายเมียรักษาการ ตอนที่ 32|จบแล้วจ้า|
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: **(22.11.57)**1 MONTH ตะครุบหัวใจนายเมียรักษาการ ตอนที่ 32|จบแล้วจ้า|  (อ่าน 99238 ครั้ง)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รู้สึกโกรธทุกคนแทนภีมจริงๆ(ด้วยความพาลส่วนตัว)

ออฟไลน์ Wannida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
มองข้ามไม่ได้เลยนิยายเรื่องนี้ สนุกมากจร่า า อัพถี่โดนใจมาก
ภีมน่าจะบอกไปเลยว่ารักปอ เงียบอยู่แบบนี้ก็เจ็บปวดสะป่าวๆ ขนาดอีพี่ปอยังไม่อาย
ที่จะถาม แสดงความเจ็บปวดที่หนูภีมพูดแบบนั้นเลย อย่างน้อยก็ได้บอกความจริง นะเออ  :hao5:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 14

 Part 1

 

ปวดประสาทว่ะ

 

โอย ปอแม่ง!

 

ตอนนี้ผมเหมือนซ้อมบี้ พาร่างอันไร้วิญญาณตัวเองเดินโยกเยกไปอย่างไร้จุดหมายหลังจากประตูโรงเรียนเปิด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและสั่นไหวดึงให้วิญญาณเข้ามาอีกครั้ง มือก็ล้วงกระเป๋าตัวเองยกมาดูเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอทัชสกรีน เป็นรูปของไอ้ปอที่มันมือบอนมาตั้งไว้เองพร้อมเมมไว้เสร็จสรรพว่า ผัว ผมเพิ่งสังเกตเห็น ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยหรือผมชินกับคำนี้ของมันไปแล้ว

 

“เออ” ผมว่าหลังจากกดรับ พยายามลืมเรื่องเมื่อกลางวันแล้วคุยกับมันดีๆ

 

“รออยู่หน้าโรงเรียนนั่นแหละกูจะไปรับ” ผมนิ่งเมื่อได้ยินมันบอก จำได้ว่าเมื่อวานบอกให้มันรีบมารับ แต่ไหงวันนี้ถึงไม่อยากจะไปกับมันเลย

 

“ไม่เอา” ผมตอบ

 

“อย่ากวนตีน กูบอกให้รอก็คือรอ”

 

“อาจารย์สั่งงานไว้เยอะ กูรีบไปเคลียร์ แค่นี้นะ”

 

“ถ้ามึงวางกูจะตามไปลากมึงออกมาจากบ้านเลย มึงรู้ใช่ไหมว่ากูทำได้ ภีม” เสียงมันเย็นขึ้นมาทันทีเวลาไม่ได้ดั่งใจ นิสัยเดิมๆ นี่แฟนหรือว่าพ่อกันแน่วะ

 

ดวงตาผมมองหาทางหนีทีไล่เห็นศาลาหน้าโรงเรียนก็รีบกล่าวตอบไปทันทีว่า

 

“เออ กูรอตรงศาลา” คือกูไม่ได้กลัวมึงหรอกนะปอ แต่เหนื่อยที่จะมีปัญหา อีกอย่าง ผมอยากกอดมัน ให้มันนอนกอดไว้ทั้งคืนเผื่อจะเลิกนิสัยงี่เง่าสับสนนี่ซักทีถ้าถูกมันกอดจูบขอความรักบ้าง

 

ผมเป็นอะไรวะเนี่ย

 

“เชื่อฟังแบบนี้ค่อยรื่นหูหน่อย”

 

“ไอ้สัสอย่าลีลา กูขี้เกียจรอ” ผมบ่น

 

“กูกำลังขับออกไป มึงพูดไม่เพราะกับกูแบบนี้อยากโดนรึไงวะภีม มึงนี่จะพูดเพราะกับกูได้ก็ตอนจะโดนเท่านั้นใช่ไหม” ผมเบิกตาตัวเองนึกถึงหน้าตอนมันพูด นี่มึงจะเหี้ยมไปไหน

 

“มายัง” เปลี่ยนเรื่องดีกว่า

 

“แค่นี้แหละ” แต่แม่งไม่ยอมเปลี่ยนกับกู

 

ผมถอนใจฟังเสียงมันตัดสายก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง เป็นช่วงที่มันขับรถออกมาจอดตรงหน้าพอดี พอเงยขึ้นมามันก็บอกให้ขึ้นรถ ใจผมหายเมื่อเห็นสีหน้าของมัน ไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไหร่

 

ก็ใช่ เพราะตอนกลางวันผมไม่ยอมเคลียร์กับมันให้รู้เรื่อง วิ่งหนีแล้วมาทำหน้าระรื่นไม่รู้ร้อนรู้หนาวแบบนี้ไง เป็นใครคงต้องขึ้นบ้างละ

 

ผมนั่งเงียบบนรถไม่ได้ถามว่ามันจะพาไหนก่อนรึเปล่า เพราะถึงรู้แล้วแย้งยังไงถ้ามันจะพาไปผมก็เถียงอะไรไม่ได้อยู่ดี ชอบพาผมเข้าไปอยู่กับกลุ่มเพื่อน ไปโชว์ว่าเป็นหนึ่งในคอลเลคชันของมัน แต่น่าจะเลิกทำแบบนั้นแล้วแหละเดี๋ยวก็มีของเล่นอันใหม่แล้ว

 

 

ผมถอนใจมองมือตัวเองที่กุมกันในความเงียบนี้

 

“มึงคิดยังไง จนถึงตอนนี้” ผมหันไปมองมันจากด้านข้าง หลังจากเสียงของมันฝ่าความเงียบขึ้นมา น้ำเสียงของมันเรียบและไม่รู้สึกรู้สา

 

“อะไร?” บอกตรงๆ ไม่เข้าใจความหมายที่มันว่า

 

“มึงตั้งใจจะรอให้ครบเดือนแบบที่ไม่ต้องเอากับกู”

 

ผมหันไปมองมันอย่างตกใจที่รู้ทัน “ปละ เปล่า”

 

“มึงรู้มั้ยทำไมกูถึงต้องไปเอากับคนอื่นทั้งๆ ที่ได้ชื่อว่ายังคบกับมึงอยู่ ก็เพราะว่ามึงไม่คิดจะเคยให้กูไง”

 

รู้ ผมรู้แล้วและรับผิดทุกอย่าง ตั้งแต่มันบอกผมคราวนั้น แตผมก็คิดจะยอมมันแล้ว แล้วมันวิ่งหนีผมไปทำไม

 

“แล้วมึงรู้ไหม อะไรที่ทำให้ความอดทนของกูสิ้นสุดวันนี้…” ปอมันว่าเสียงเรียบ

 

 “ปอ กูอยากกลับบ้าน” ผมว่าเสียงเบา เมื่อเห็นมันเลี้ยวเข้าโรงแรม ผมคิดว่ายังไงมันต้องฟังผม

 

“มึงต้องฟังกูก่อนที่จะขัดขึ้นมา” มันหันมาว่า ร่างของผมสะดุ้งสุดตัวหันไปมองดวงตากร้าวๆ นั่น

 

“ปอ เป็นอะไร โกรธอะไรมา?”

 

“ยังจะมาถามอีกนะ เพราะมึงไงที่ทำให้กูโกรธ มึงคิดว่าจะมีใครทำให้กูโมโหได้ขนาดนี้งั้นเหรอ?!”

 

มันหันมาก่อนจะดับเครื่อง เดินมาลากผมเข้าไปข้างในท่ามกลางสายตาของพ่อมันที่มองตามร่างของผมกับลูกชายตัวเองไม่ละ ใจผมสั่นด้วยหลายหลากความรู้สึก แต่สิ่งเดียวในใจคือกลัว

 

“ปอ…” ผมว่าเสียงเบาให้มันหันมาสนใจความรู้สึกบ้าง มันโมโหขาดสติ ไม่สนเลยสักนิด มันเป็นอะไร มันโกรธเหรอที่รู้ว่าผมไม่เคยคิดจะยอมมัน

 

ใจผมหายไปดื้อ คนๆ นี้ไม่ใช่ปอที่ผมรัก

 

มันไม่ฟังอะไรทั้งสิ้นเหมือนตั้งใจโทรบอกให้ผมยืนรอเพื่อให้มันพาตัวเองมาโดนมันทำแบบนี้ ร่างของผมถูกดึงเข้าไปภายในห้องเดิมๆ ด้วยความไม่เต็มใจนัก ท้ายที่สุดมันก็ผลักผมให้ทรุดตัวลงนั่งบนปลายเตียง ผมมองหาทางหนีทีไล่ทั้งขมวดคิ้วเป็นก้อนบอกว่าตอนนี้ไม่เต็มใจ

 

“จะทำอะไร มันเจ็บนะ!”

 

“เออ จะได้เข้าใจกูไง”

 

“เข้าใจอะไร มึงมัวแต่โมโหไม่ฟังเหตุ…”

 

“ที่กูโมโหเพราะจนแล้วจนรอดมึงก็ไม่ยอมบอกกูว่าจริงๆ แล้ว มึงไม่คิดจะยอมนอนกับกูตั้งแต่แรก! มึงสนุกมากไหมภีม เล่นกับความรู้สึกของกู เล่นกับความหวังของกู!”

 

“ไม่ได้เล่น” ผมรีบตอบ ดวงตาจ้องมันไม่ละ รับรู้ถึงความเจ็บที่มันมองให้จากมือทั้งสองข้างที่กำต้นแขนและเขย่าร่างผมจนสั่นคลอน

 

“ปอ อย่าทำแบบนี้”

 

ผมกลัวมัน

 

“ทำไม ไหนบอกจะยอมกู หา!” มันว่า ผมยกมือกุมหน้าตัวเอง

 

“ภีมขอโทษ แต่ภีม…”

 

ผมตั้งใจจะยอมมันแล้ว ผมกลั้นน้ำตาตัวเองไม่อยู่ไม่อยากร้องไห้ให้มันเห็น

 

“เลิกสำออยได้แล้วภีม ก็ไม่หลงกลมึงอีกแล้ว มึงสนุกมากไหมที่กูยอมทุ่มทุกอย่างให้กับมึงไม่ห่วงแม้แต่ตัวกูเอง มึงคงภูมิใจมากล่ะสิที่ปั่นหัวไอ้สารเลวอย่างกูได้ ควบคุมกูได้!”

 

ผมรีบส่ายหน้า

 

“กูอุตส่าห์รู้สึกผิดตอนที่มึงขอให้กูทำ กูอุตส่าห์ทนหันหลังวิ่งหนีมึงมา กูนอนทรมานคิดถึงมึงบนเตียงตัวเองทั้งคืน! ให้เกียรติมึงทุกอย่าง! มึงละอายใจบ้างไหมที่หลอกกูแบบนี้!” มันจ้องตาผมนิ่ง

 

ใจผมหายที่ได้ยินมันบอกถึงเหตุผลที่ทิ้งผมไปวันนั้น

 

น้ำตาผมไหลไม่หยุดไม่คิดว่ามันจะให้เกียรติผมในวันที่ผมสับสน

 

แต่ตอนนี้ แววตาของมันโกรธ มันแค้น

 

“เปล่านะปอ ภีมแค่คิดตอนแรก แต่…”

 

“แต่มึงก็เปลี่ยนใจ มึงคิดมากกูรู้ แต่กูไม่เข้าใจว่าทำไมมึงไม่บอกกู แต่กลับไปบอกไอ้พี เหอะ! ชอบใช่ไหมที่ทำกูขายขี้หน้าภีม!”

 

ผมได้แต่ส่ายหน้ามองมันที่กล่าวต่อ “ก่อนเลิกมึงคงคิดแล้วล่ะสิว่าอยากให้กูซื้ออะไรให้ ไหนล่ะลิสต์รายการที่อยากได้ เอาออกมาสิ กูจะเอาไปซื้อมาฟาดหน้ามึง รึมึงอยากได้เงิน เอาไปให้พ่อมึงใช่ไหม เอาไปสิมึงอยากได้เท่าไ…”

 

ผมตวัดมือฟาดหน้ามันสุดแรงทั้งสะอื้น

 

“มากเกินไปแล้วนะปอ!”

 

“มึงไม่มีสิทธิ์ทำกูแบบนี้ภีม!”

 

ใบหน้ามันก้มมาจูบ รุนแรงกว่าครั้งไหนๆ อารมณ์ฉุนเฉียวต้องการให้ผมรับความเจ็บ ผมเม้มปากไม่ยอมให้ทำตามใจง่ายๆ ส่ายหน้าหนี ซึ่งรู้แล้วว่าเป็นการยั่วโมโหมันอย่างมาก มือหนาของมันยกมาล้อคแก้มผมทั้งสองข้างและพยายามใช้ลิ้นแทรกเข้ามา

 

“อะ…”

 

มือของมันหยิกเอวผมเจ็บแสบ ร่างกายผมสะดุ้ง อีกไม่นานมันคงเป็นรอยช้ำขึ้นมาเพราะวัดจากความเจ็บ ในระหว่างที่เปร่งเสียงร้องมันก็แทรกลิ้นเข้ามาไล่ตามลิ้น ดูดเลียลิ้นของผมราวกับมันหอมหวานเหมือนเยลลี่ที่น่ากัดกิน

 

ตัวผมสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผมกลัวมันตอนนี้ ผมได้แต่ร้องไห้ โอดครวญและเปร่งเสียงอ้อนวอนให้มันหยุดการกระทำที่ใจร้ายแบบนี้ ผมอยากได้พี่ปอคนเดิมกลับมา พี่ปอที่แคร์ผม ฟังคำขอของผมทุกอย่าง

 

แต่มันไม่มีทางเป็นแบบนั้น

 

ปอเกลียดและโกรธผมมาก ผมรู้ผมผิดที่ไม่บอกมัน

 

“พะ พอได้แล้วปอ”

 

“มึงทำตัวเองภีม ถ้ามึงบอกกูตั้งแต่แรก ไม่ปั่นหัวให้กูปวดหัวมาตลอดมึงคงไม่มีจุดจบอย่างนี้หรอก”

 

ลมหายใจมันระจมูกผม ความร้อนจากริมฝีปากที่บดขยี้เข้ามา ความกลัวของผมไม่ได้จางหายออกไป ยอมรับว่าเรื่องแบบนี้มันเก่งเชี่ยวชาญมาก แต่ถึงอย่างไรผมก็รู้สึกกลัวอยู่ดี เพราะจูบของมันไม่ลดความรุนแรงลงเลยสักนิด

 

ผมบ่ายหน้าหนีไม่ให้มันจูบต่อ มือข้างหนึ่งมันล้อคคางผมไว้อีกครั้งพร้อมกับแนบความร้อนชื้นเข้าสู่ปากผม เสียงมันจูบผมดังไม่หยุด แต่ละครั้งที่แนบปากกันราวกับว่ามันได้ดูดเอาพลังที่มีในกายของผมไปด้วย ร่างกายผมอ่อนยวบพร้อมกับใจที่สั่น ใจผมหายเมื่อมันละใบหน้ามาแสยะยิ้มด้วยความสะใจ

 

“กูจะทำให้มึงไม่ลืมกูไปตลอดชีวิต”

 

ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่เอา ผมไม่ชอบพี่ปอที่เป็นแบบนี้ ได้แต่คิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

“คราวนี้ถึงมึงร้องไห้ยังไงกูก็ไม่หยุด”

 

มันว่าพลางมองมาที่ปากของผม ก่อนจะขยับหน้าเข้ามาใกล้อย่างที่ใจคิด จมูกโด่งชนเข้ากับจมูกของผม มันเอียงใบหน้าให้ได้องศาก่อนจะทำตามสิ่งที่ตัวเองบอก

 

จูบ กัดริมฝีปากจนเลือดซึมได้กลิ่นคาว อะไรทำให้มันทำผมแบบนี้ ผมได้แต่กลั้นสะอื้นให้ตัวเองเข้มแข็ง

 

ผมเช็ดคราบน้ำลายและเลือดที่เลอะปากหลังจากที่มันละออกแล้วหันไปอีกทาง เสียงสบถว่ารสชาติห่วยแตก ผลักร่างผมนอนลงบนเตียง ใช้สองเข่ากดร่างผมไว้ไม้ให้ขืน

 

มือของมันแกะกระดุมเสื้อเผยให้เห็นร่างกายที่ขืนสู้ของผม ใบหน้าของมันก้มโน้มลงมาใช้ลิ้นเลียที่ซอกคอ ลากลงมาจนถึงยอดอก ผมเม้มปากแน่นพร้อมกับลมหายใจที่สั่นระริกกับความร้อนของลิ้นสากๆ นั้น ดวงตามองเส้นผมตรงสลวยของมันก่อนจะหลับตาปี๋เมื่อมือไล่ไปทั่วทั้งตัว ระบายอารมณ์เกี้ยวกราดมาบนร่างกาย

 

ผมกุมมือมันแน่น

 

“อย่า ภีมเจ็บ!”

 

มันละมามองตาผมที่ฉ่ำไปด้วยน้ำ น้ำตาอาบมาจนถึงไปหู ละไปมองด้านอื่นอย่างไม่ใยดี ผมผิดอะไรถึงทำให้เขาเมินผมได้ถึงขนาดนี้ พี่ปอไม่เคยทำกับผมแบบนี้

 

ผมได้แต่ส่งเสียงร้องไห้ แม้หลายครั้งมันจะก้มลงมาแนบปากจูบให้เงียบ ออกคำสั่งให้เลิกร้องไห้ ผมต้องการให้มันกอดและโอ๋ผมอย่างเคย ผมต้องการมันแบบนั้นจริงๆ แต่มันเอาแต่ทุบผมไหล่ผม จิกหัวผมให้เงยไปรับจูบ

 

แต่ผมเจ็บที่ใจมากกว่า

 

มือของมันกุมมือของผมแน่น เพราะมันกลัวผมจะหนี ผมรู้ อีกข้างก็ทำงาน ล้วงเข้าทางขากางเกง ร่างกายผมกระตุกพร้อมกับเบี่ยงหน้าหนีเมื่อมันเงยขึ้นมามองกับการตอบสนองของผม

 

“อย่า…”

 

“ทำไม! อย่างกับไม่เคย” มันว่า ใช่ผมไม่เคย ไม่เคยถูกมันสัมผัสรุนแรงแบบนี้มาก่อน ผมขมวดคิ้วตัวเองด้วยหลายหลากความรู้สึกที่มีตอนนี้ ทั้งกลัว ทั้งเกลียดตัวเอง ทั้งรู้สึกดี แต่ความเจ็บปวดมากกว่า ร่างกายผมไม่ตอบรับกับมือที่รุนแรงของมัน บิดหนีและดันไหล่มันออกจากตัว

 

มันเองก็คงไม่พอใจที่ผมไม่ตอบสนองอย่างเคย ไม่ร่วมมือและไม่รู้สึกอะไรกับมือของมัน มีแค่ต่อต้าน มันผละมาฝังจูบบนขมับ กัดหู ผมสะดุ้งที่มันรู้ว่าจะทำยังไงให้ผมตอบสนองมัน

 

“หยุด พอได้แล้ว เลิกทำแบบนี้ได้แล้ว!” ผมร้องว่า เบี่ยงไปหน้าหนีมันที่เปลี่ยนมาเร้าอารมณ์ด้านอื่นแทน  มันละใบหน้ามามองผมนิ่ง

 

“แล้วมึงจะทำไม?”

 

“คนแบบมึงไม่มีวันทำให้ใจกูอ่อนได้เหมือนวันนั้นอีกแล้วปอ ฮึก…กูจะไม่ใจอ่อนคิดจะยอมนอนกับมึงเหมือนวันนั้นอีก ไม่มีทาง มึงมันเลว มันสกปรก มึงคิดแต่จะให้กูเป็นที่ระบายของมึง มึงอยากนักก็เอาเลย!”

 

ผมตะเบ็งสุดเสียง มือยกทุบไหล่มันสู้ มันเองก็ไม่แพ้กัน จับข้อมือผมกดไว้กับเตียงทั้งสองข้าง

 

 “จะไม่ขัดขืนแล้วใช่ไหม เอางั้นก็ได้!”

 

“ใช่ เอาตัวกูไปเลยให้สมใจมึง ปอ แต่มึงรู้ไว้เลย ฮึก! กูเกลียดมึง!”

 

“ได้ ยอมกูทุกอย่างสินะ ไหน เกลียดกูมากไหม!?”

 

ผมชะงักเมื่อเห็นแววตาของมัน ร่างกายตัวเองถูกกระชากขึ้นมานั่งพร้อมกันนั้นเห็นมันกำลังถอดเข็มขัด ปลดซิบกางเกง ดวงตาละไปมองทางอื่นทันทีที่มันเผยสิ่งที่ซ่อนเร้นในกางเกงบ๊อกเซอร์ออกมาอย่างไม่อาย อันที่จริงขนาดของมันไม่น่าอาย เป็นฝ่ายผมที่ไม่กล้ามองไปเองทั้งๆ ที่ไม่ได้เพิ่งจะเห็นครั้งแรก

 

“มัวรออะไรอยู่?” ผมชะงักเมื่อมือของมันเชยคางของผมให้หันไปมอง มันกดหัวของผมลงไปพร้อมกับกล่าวเสียงเรียบว่า “รีบๆ ให้มันเสร็จซะ!”

 

ดวงตาผมเบิกกว้างมองมันไม่ละ ดวงตามันเผยแววเย้ยหยันมาและดูถูก เหยียบย่ำผมจมดิน ต้องการความสะใจเป็นที่ตั้ง มือมันกำเส้นผมบนหัวกระชากให้ก้มลง ผมยกมือกุมหัวตัวเองร้องไห้พลางส่ายหน้าไปด้วย

 

ไม่มีทาง!




ต่อพาท 2 น้า

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ 14

Part 2


ผมรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นเข้ามาสู้ใบหน้า ดวงตา ผมร้องไห้จนแทบน้ำหมดไปทั้งตัว พยายามส่ายหน้าบอกมัน ผมอยากยุติเรื่องทั้งหมดไวๆ

 

“ไม่เอา หยุดเถอะปอ ขอร้อง!”

 

“หยุดยังไงละภีม มึงตอบกูมาสิว่าหยุดยังไง!” มันจับหัวผมก้มลงเข้าไปหาแก่นกลางที่ตั้งชูของมัน พยายามขืนแรงสู้ไม่กลัวจะเจ็บหัว

 

“กูไม่ทำ”

 

“มึงต้องทำ ในเมื่อกูตั้งใจทำกับมึงดีๆ มึงยั่วโมโหกูก่อนเอง งั้นมึงก็เอาแบบทรามๆ ไปก็แล้วกัน แค่ครั้งเดียวเลย กูเอามึงเสร็งจะเลิกกับมึงเลยสมกับที่มึงอยากเลิกไง!”

 

ไม่ต้องการ ผมไม่อยากเลิกเลย!

 

“ปอ…อะ” ความรู้สึกจุกถึงคอหอยเมื่อมันกดคอผมลงไปพอดี ดวงตาของผมตอนนี้มีแต่น้ำตาเมื่อความอ่อนโยนของมันไม่มีเหลือ ปอมันใช้แต่อารมณ์กับผม

 

“อึก…” ผมพยายามจะคายมันออกพร้อมกันกับมันที่กดหัวผมลง ตัวผมสั่นไปหมดด้วยความกลัว

 

“ภีมพี่บอกให้ทำ อยากเจ็บตัวไหมหา!” ผมขืนแรงสู้ พยายามดันตัวเองออกพร้อมกับมันที่กดหัวลง ผมร้องไห้ สะอื้นสุดเสียง

 

“ทำให้ทุกอย่างมันจบอย่างที่มึงต้องการ ทำ!” เสียงของมันข้างบนว่า บังคับข่มเหงให้ยอม ใจผมอ่อนล้าเต็มที หลอกตัวเองว่าพี่ปอของผมจะกลับมา เรียกร้องความสนใจกี่ครั้งมันก็ไม่คิดจะสนใจ

 

ผมไม่ขืนแรงตัวเอง จะยอมทำตามที่มันต้องการ จะได้ออกจากนรกขุมนี่สักที!

 

ลมหายใจของมันติดขัดพลางโยกหัวผมขึ้นลง ผมพยายามผ่อนปรนอารมณ์ตัวเองไม่ให้สะอื้นเมื่อมันละมือออกจากหัวเพราะเห็นผมไม่ขัดขืน ผมคายมันออกก่อนจะยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี ไม่มองตามัน เก็บกลั้นเสียงสะอื้นตัวเอง บังคับน้ำตาให้เหือดแห้งและไม่มองหน้า ก้มหน้าก้มตาปรนเปรอแบบที่มันต้องการ

 

ทุกอย่างจะได้จบ

 

ลิ้นของผมแตะไล่ไปทั่วแก่นกลางความรู้สึกของมัน เป็นหรือไม่เป็นทำแค่เลียๆ ไป ใช้มือช่วย ปรนเปรอให้ปออย่างที่สุด เสียงลมหายใจของมันดังราวกับเพ้อจากพิษไข้ มือหนาๆ โยกหัวของผมขึ้นลงไปตามจังหวะ ไม่ยอมให้ผมละออกมาหายใจ พยายามตักตวงเอาความสุขจากปากของผมอย่างไม่ลืมหูลืมตา

 

ปอมันคิดบ้างไหมว่าผมรู้สึกยังไง เจ็บปวดแค่ไหน หรือคิดแค่อยากจะสะใจ น้ำตาผมไหลลงแหมะบนน้องชายของมันทั้งยังทำตามใจมันไม่ละ ปากร้อนและสั่น เมื่อมือของมันแตะหัวของผมเบาๆ และแปรเปลี่ยนมาจิกรั้งเส้นผมอีกครั้ง

 

ผมกลั้นหายใจเมื่อมันเร่งความเร็วและรุนแรงไปพร้อมกันก่อนจะผลักผมออกไปจากตัว ใช้มือมาจับมือของผมไปช่วยให้มันถึงขั้นสุดท้าย มันเม้มปากแน่นและเชิดคอสูดลมหายไปใจพร้อมกับใช้มือของผมกอบกุมร่างกายตัวเองไปถึงฝั่งฝัน

 

เสียงมันครางต่ำและเกร็งตัว มือของผมเปื้อนไปด้วยธารน้ำที่สาดออกมาไม่ยั้ง

 

ก่อนที่ร่างของผมจะถูกผลักให้นอนลงบนเตียง ความกลัวแล่นเข้ามาอีกครั้งเมื่อเห็นมันหยิบถุงยางจากหัวเตียงมาเตรียมไว้ คร่อมร่างของผม ใบหน้าของมันไม่แม้แต่จะมองผมสักนิดว่ามีสีหน้ายังไง เจ็บปวดขนาดไหน มันดึงกางเกงของผมออกอย่างไม่ใยดีพร้อมกันนั้นก็ชะโลมเจลใส่นิ้ว จัดการกับร่างกายของผม ผมร้องไห้ไม่หยุดแม้แต่วินาทีเดียว

 

“ปอ เจ็บ ฮึก…” ผมกัดปากตัวเองจนรู้สึกถึงเลือดที่มันซึมออกมา มันกระชากข้อเท้าให้ร่างขยับเข้าหาพร้อมกับว่าเสียงขรึม

 

“จำไว้ คนที่กล้าดื้อกับกูต้องเจอแบบนี้”

 

ผมร้องไห้ เมื่อมันสอดสอดส่วนหัวเข้ามา มันคับแน่น เข้ามาอย่างยากลำบาก ความเจ็บปวดทุกครั้งที่เคยโดนมันจางหายไปหมดเพราะครั้งนี้ผมไม่รู้จะขอร้องให้มันหยุดยังไง

 

“พี่ปอ พี่ปอ…เอาออกไป ฮึก…มันเจ็บ ภีมเจ็บจริงๆ!” ผมดันตัวมันออกจากร่างสุดแรง มันไม่แม้แต่จะเขยื้อน

 

“มึงจะได้รู้ไงว้ากูรู้สึกยังไง!”

 

มันว่าพลางโน้มตัวมาเท้าแขนสองข้างกับพื้นเตียงขณะที่ใส่ส่วนหัวเข้าไปได้ พยายามดันตัวเข้ามาให้สุดลำ ความเจ็บและความยากตอนใส่เข้ามาอธิบายได้ถึงขนาดของมันเป็นอย่างดี มันมุ่นคิ้วตัวเอง หยีหน้าเหมือนเจ็บมองหน้าผมที่เปื้อนเปรอะไปด้วยน้ำตาและคงบวมเป่งเพราะมือรุนแรงของมัน

 

“พี่ปอ เจ็บจริงๆ มันเจ็บจริงๆ” ผมกลั้นสะอื้น ดันหน้าท้องของมันที่สอดตัวเข้ามาระหว่างขา มันจับขาผมอ้าออก จับหัวเข่าทั้งสองข้างลงกับเตียงจนก้นลอยขึ้น ก้มหน้ามองส่วนที่ผมกำลังเจ้บและดันเข้ามาเรื่อยๆ เจลลื่นๆ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

 

“อีกนิดเดียว”

 

“ไม่เอา พอแล้ว”

 

“พอห่าอะไร อ้าขาดีๆ มันยังไม่สุด” มันว่าเสียงเข้ม กัดริมฝีปากล่างดันตัวเข้ามาพร้อมกับเสียงร้องด้วยความเจ็บของผม หัวเหน่ามันแตะก้นผมแล้ว ตัวเองเกร็งไม่หยุดกับความรู้สึกในสิ่งแปลกปลอมข้างในตัว

 

มือผมกำผ้าปูเตียงแน่นเม้มปากไม่ให้ร้องเสียงดัง พยายามควบคุมลมหายใจไล่ความเจ็บพร้อมกับเสียงกระเส่าของคนบนตัว ปอมันขยับตัวโน้มมาเท้าแขนบนเตียงอีกครั้ง มองหน้าผมที่อยู่ใต้ร่าง เอวมันค่อยๆ ขยับตัวเข้าออกในร่างกายผมส่งผลให้ร่างสะเทือน ผมเบี่ยงหน้ายกมือสองข้างเกาะต้นแขนมัน เม้มปากตัวเองไม่ให้ร้อง

 

“เอามันออกไป เจ็บ!” ผมผ่อนเสียงตัวเองว่า

 

มันกดไหล่ผมแนบพื้นเตียง “อย่าเกร็ง กูก็เจ็บเหมือนกันนะ!”

 

“เอาออกไป” ผมว่าพลางดันหน้าท้องมันสุดแรง

 

ทั้งเจ็บ ทั้งจุก ทั้งแน่น อะไรร้อนๆ คับๆ ครูดอยู่ข้างในครั้งแล้วครั้งเล่าไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เสียงของมันครางต่ำในซอกคอ ไม่มีสัมผัสที่อ่อนโยนและเพิ่มความรุนแรงไม่ละ แต่ละครั้งที่กระแทกกระทั้นเข้ามา ร่างกายผมแทบจะแหลกเป็นผุยผง ครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายที่อยู่ระหว่างขาของผมนั้นก็ทำร้ายผมโดยที่ไม่เงยมามองใบหน้าของผมสักนิด

 

“เป็นไงล่ะ หืม?” มันว่าเสียงเบา มองร่างกายของผม

 

ผมรู้ว่าเมื่อก่อนที่มันทำดีกับผมเพราะแค่อยากนอนกับผมเท่านั้นแหละ มันไม่เห็นเห็นใจผมตั้งแต่แรก มันเกลียดผม แววตามันสะใจที่เห็นผมร้องครางอย่างบ้าคลั่ง

 

“หึ นี่กูไงอยู่ในตัวมึง นี่ไงที่มึงหลอกกู ตอนนี้มันเข้าไปในตัวมึงแล้ว รู้สึกยังไง หา?”

 

“พี่ปอ อะ! พี่ปอ” ผมร้องพลางดันหน้าอกมัน

 

“ปากบอกว่าไม่ แต่ดูมึงสิภีม นอนยั่วกูแบบนี้ หืม…มึงพอใจใช่ไหม?”

 

“พี่ปอ…พี่ปอหยุ…”

 

“อย่าคิดให้กูหยุดเพราะกูบังคับตัวเองไม่ได้แล้ว นอนครางอย่างเดียวก็พอ”

 

มันว่า มือข้างหนึ่งสอดใต้เอวไม่ให้ร่างผมถอยออกห่างและดึงเอวเข้าไปหาร่างของมันที่กระแทกเข้ามาไม่กลัวเครื่องผมพัง ไม่กลัวผมจะฉีกขาด เสียงมันครางและฟัดตัวผมราวกับคนคลั่งที่ได้ปลดปล่อยความดิบเถื่อน

 

มันจูบผมบ่อยเหลือเกิน นับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ที่เราคบกัน แต่ตอนนี้ ปากของผมมันสกปรก มันไม่คิดที่จะจูบผมอีกแล้ว ผมได้แต่ร้องไห้ รอให้ชั่วโมงนี้ผ่านไป

 

ความรุนแรงของปอถาโถมเข้ามาไม่หยุดยั้งและทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างของผมกระเด็นกระดอนจนจุกจนร้องแทบไม่เป็นภาษา อย่าถามหาอารมณ์สนองเลยเพราะมันไม่มีความรู้สึกนั้นจริงๆ มีแต่ความเจ็บปวด

 

กระทั่งมันถึงขีดสุด ทั้งรุนแรงและป่าเถื่อนกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า มันพาตัวเองขึ้นสวรรค์ท่ามกลางความเจ็บปวดและเสียงร้องไห้ของผม

 

เสร็จกิจแล้ว มันก็ถอนกายออกและหันไปทำความสะอาด ถอดถุงยางแล้วม้วนทิชชู่ลงถังขยะ เอื้อมไปหยิบอีกอันมาสวม ใจผมวูบหายเมื่อไม่ทันได้หายเจ็บก็ถูกดึงขึ้นไปนั่ง

 

“ใครบอกว่าจะจบง่ายๆ”

 

จับผมขึ้นนั่งบนตักแล้วสอดแก่นกายเข้ามาทีเดียวทั้งลำ ตัวผมสะดุ้งกับขนาดผิดธรรมาชาติที่กระแทกเข้ามาในตัว น้ำตาอาบลงแก้มเมื่อถูกจับนั่ง มันบีบเนื้อบั้นท้ายผมรุนแรงและจับยกขึ้นลง ร่างกายที่เชื่อมต่อกับมันเสียดสีกันภายในท้อง มือผมกอดคอมัน ร่างกายไร้เรี่ยวแรง

 

“อะอื้อ…มะ ไม่…”

 

ทำไมครั้งนี้ผมรู้สึก

 

ปอมันจูบและส่งเสียงครางในลำคอ ตัวผมสั่นไปกับความเจ็บทางด้านหลัง แต่ความรู้สึกหนึ่งแผ่ซ่านขึ้นมาเรื่อยๆ เข้ามาช้าๆ ร่างกายตื่นตัวตอบสนองเมื่อพี่ปอมันจูบ ใช้ลิ้นเลีบนลำคอและจับผมโยกขึ้นลงไปพร้อมกัน

 

เสียงเนื้อกระทบเนื้อ จับผมนอนหันหลังให้และกระแทกเข้ามาแรงๆ หูผมได้ยินแต่เสียงผั่บๆๆๆ กับเสียงร้องของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีทางจะหยุดทำง่ายๆ มันพาผมทำตามใจตัวเองเนิ่นนานและอยู่อย่างนั้นแทบจะทั้งคืน ไม่สาสมใจสักครั้งแม้ร่างกายผมจะเหนื่อยอ่อนสักแค่ไหน

 

ร่างของผมล้มตัวลงนอนบนเตียงเมื่อมันผลักมา ไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลยแล้วเพราะมันเจ็บไปทั่วตัวและไม่มีความเจ็บไหนมาแทรกอีก มันทิ้งถุงยางลงถังขยะก่อนจะหันมามองร่างของผมที่ยังนอนนิ่งอยู่ท่าเดิม ร่างกายผมชาไปทุกส่วน ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับขาเปลี่ยนจากท่าแสนน่ารังเกียจนี่มานอนดีๆ

 

ผมพริ้มตาไล่หยดน้ำให้ไหลอาบไปถึงหู ความรู้สึกจากความร้อนของมือหนาๆ นั้นแล่นเข้ามา มันกุมมือผมแน่นก่อนจะยกผ้าห่มมาคลุมตัวให้แล้วก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ผมพยายามรวบรวมแรงไปไว้ที่ขาสั่นๆ พร้อมกับพาร่างตัวเองลุกขึ้นนั่ง

 

ผมอยากไปนอนพักคนเดียวสักสองสามวัน

 

“ภีมจะกลับบ้าน”

 

มันหันมามองทั้งยังสวมเสื้อผ้า ใช่ อีกไม่นานจะเช้าแล้ว มันทำกับผมทั้งคืนโดยที่ไม่คิดจะสงสาร

 

 “นอนอยู่นี่แหละ”

 

“ไหนบอกจะแยกย้าย ไหนบอกจะเลิก” ผมเงยไปมองมันพร้อมกับยกมือเช็ดคราบน้ำตา คราบน้ำลายตอนที่มันจูบบนใบหน้าออก

 

“กูไม่ให้มึงไป รึมึงจะเอาอีกยกให้ลุกไม่ขึ้นถึงจะฟังกู”

 

น้ำตาผมหล่นแหมะลงเตียงอีกครั้งพร้อมกับก้มหน้า มันเดินเข้ามาผลักผมให้นอนลงบนเตียงเหมือนเดิมพร้อมออกคำสั่ง “นอน อย่ามาทำอวดเก่งกับกู กูไม่ชอบ”

 

“แต่…”

 

“กูเปลี่ยนใจแล้ว ช่วงสุดท้ายกูจะใช้ให้มึงคุ้มสุดๆ เลยภีม สมกับที่กูต้องอดทนถูกมึงปั่นหัวมานานไงล่ะ”

 

“ปอ… ไหนบอกแค่ครั้งเดียว”

 

“ตอนนี้ก็อยู่เหนือมึง มึงเป็นของๆ กูแล้ว แล้วอย่าหวังว่าจะเดินไปจากกูง่ายๆ”

 

มันชี้หน้าว่า ผมนิ่งมองมันก่อนจะละใบหน้าไปทางอื่น ปล่อยให้น้ำตาไหล เพราะโทษคนที่ผิดก็ต้องโทษตัวเองที่ไปตกลงกับมันเอง ไปหลอกมันเอง หลอกตัวเองว่าจะเปลี่ยนมันให้ได้

 

ผมน่าจะยอมมันตั้งแต่วันนั้นเสียก็ดี เจ็บตัวตอนนั้นยังดีกว่าเจ็บทั้งสองอย่างแบบนี้ ทั้งตัวทั้งใจ และยิ่งเห็นว่าปอโกรธเรื่องที่ผมหลอกมัน ใจผมสั่นไหวไม่หยุดจากตอนที่มันบอกว่าตั้งใจจะให้เกียรติผม ผมจำใบหน้าตอนมันทุรนทุรายกุมกางเกงตัวเองได้ ทรมานและอยากปลดปล่อยใจจะขาดแต่กลับเลือกจะปกป้อง ไม่ทำร้ายด้วยการวิ่งออกไป ผมภูมิใจในตัวมันตรงข้อนั้น

 

ผมรังเกียจตัวเองตอนนี้ ปอมันเปลี่ยนแล้วก็จริง แต่สิ่งที่ผมทำก็เรียกนิสัยดิบของมันออกมาอีกเหมือนกัน

 

มันยังโกรธผมอยู่ ผมรู้ ถึงแม้จะได้ระบาย ได้โต้เถียงกับผม

 

ผมไม่ควรโกรธมัน ปอมันโตขึ้นแล้วจริงๆ

 

ผมนอนฟังเสียงฝีเท้าของมันที่เดินออกไปจากห้องพร้อมกับน้ำตาที่ยังไหลไม่หยุด และไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนตื่น ดวงตาผมมองออกไปยังนาฬิกา บางบอกเวลาทุ่มกว่าของวันถัดมาแล้ว และเห็นร่างของไอ้ปอที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

 

มันโน้มตัวมาแตะหน้าผาก ดวงตามองมายังผม สีหน้าเดาไม่ออกเลยว่าคิดอะไรอยู่ แต่ดูรู้ว่ามันใจเย็นลง

 

“กินยาก่อนสิ มึงนอนหลับนานมากจนกูตกใจนึกว่าตายแล้ว”

 

ผมเม้มปากที่สั่นระริกของตัวเอง กลั้นน้ำตาเต็มที่กล่าวตอบมัน “กูไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องกินก็ได้”

 

“อย่าดื้อ บอกให้กินก็กิน กินเสร็จแล้วจะได้มากินข้าว ยาแก้อักเสษนี่มึงต้องกินไม่งั้นมันไม่หายเจ็บ” ผมมองปอตอนมันออกคำสั่ง

 

มันรู้ด้วยเหรอว่าผมเจ็บ

 

เสียงของมันเย็นลงกว่าเมื่อวานตอนเย็นมาก ผมอ้าปากรับมายากินโดยง่ายพร้อมกับช้อนตามองมันที่กำลังป้อนน้ำไปด้วย คิดตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ

 

หรือกำลังรู้สึกผิดจริงๆ

 

“กินข้าวซะ” มันว่าพลางยกข้าวต้มกลิ่นหอมมาให้ ผมรับมาถืออย่างไม่อิดออด แต่ถึงอย่างนั้นก็กินได้เพียงไม่กี่คำ เห็นสายตาที่ออกคำสั่งของมันรออยู่ก่อนแล้ว

 

“อิ่มแล้ว”

 

“กินอีก”

 

ผมส่ายหน้าพลางล้มตัวลงนอนเสียเฉยๆ รับมือของมันมือเอื้อมมาอังหน้าผากอีกครั้ง ไม่ได้จะบังคับผมให้ทำตามใจตัวเองอีกต่อไป ผมกลืนน้ำลายมองมันก่อนจะละใบหน้าไปทางอื่นไม่อยากร้องไห้ ไม่เข้าใจว่าจะมาโอ๋ผมทำไม ทั้งๆ ที่ตอนผมร้องปากแทบจะฉีกมันกลับไม่สนใจสักนิด แถมสะใจเสียด้วยซ้ำ

 

มันคิดว่าผมสนุกมากที่แกล้งมัน ตอนนี้มันก็คงสนุกมากเหมือนกันที่ได้เอาคืน!

 

ผมไม่ได้ไปเรียนในวันถัดไปเพราะตื่นขึ้นม่ารางกายก็ยังระบมไปทุกส่วนเหมือนเดิม ผมเห็นรอยเลือดของตัวเองแล้วใจหาย พยายามพาร่างที่ไม่มีแรงดึงผ้าปูเตียงออกให้ไม่มีรอยของตัวเองบนเตียงนี้ ผมทำความสะอาดมันนานเท่าไรไม่รู้แต่มันไม่ลบออกไปสักที

 

ดวงตาผมเอ่อไปด้วยน้ำ พร้อมกันนั้นร่างของไอ้ปอที่เพิ่งจะเลิกเรียนก็เดินตึงตังมากระชากผมให้หันไปหา “มาทำอะไรตรงนี้ ทำไมไม่ไปนอน”

 

ผมมองไปยังคราบเลือดที่ติดบนผ้าปูที่นอนบนอ่างล้างหน้าก่อนจะก้มหน้า และปอเองก็มองไปเช่นกัน มันละความรุนแรงออกจากข้อมือของผมและจ้องมองผมไว้แบบนี้ตลอดเวลา มือของมันยกขึ้นมาลูบผมของผมเบามือ เป็นครั้งแรกที่ทำแบบนี้หลังจากเกิดรื่อง

 

ผมไม่อยากคิดว่ามันกำลังรู้สึกผิด

 

“ไม่ต้องทำหรอก เดี๋ยวแม่บ้านก็มาเปลี่ยนใหม่” มันว่าเสียงเบา ราวกับกำลังปลอบโยน

 

“แต่มันเป็นรอย”

 

“เป็นรอยแล้วไง โยนทิ้งแล้วเอาผืนใหม่มาปูก็สิ้นเรื่อง!”

 

“อ๋อ มึงทำแบบนี้จนชินสินะ!”

 

ผมเงยขึ้นไปว่า ยกหลังมือปาดน้ำตา พาร่างที่สุดแสนระบมของตัวเองออกจากห้องน้ำ เสียงเท้าของมันเดินเข้ามาพร้อมกับดึงผมเข้าหา

 

“มึงเดินหนีกูอีกแล้วนะภีม!”

 

“ไม่ กูไม่อยากคุยกับมึงแล้วปอ”

 

“ได้ คุยด้วยภาษาพูดไม่ได้ก็คุยด้วยภาษากายก็แล้วกัน” มันก้มลงมาแนบปากจูบพร้อมกับผลักให้ล้มลงนอนใต้ตัวมันบนโซฟา ผมดิ้นสู้พร้อมกับส่ายหน้าไม่ยอมให้มันจูบ

 

“ไม่!”

 

ขาผมถูกจับอ้าออกจากกันพร้อมกับมันที่แทรกเข้ามากอดทับ แม้จะขืนแต่สู้แรงไม่ได้ ปอมันใช้แรงตัวเองและเอาเปรียบด้วยการรูดซิบกางเกงของตัวเองไม่ถอดเสื้อผ้า

 

ผมเจ็บ ทั้งเจ็บและปวดไปหมด

 

และเป็นอีกครั้งที่มันเอาเปรียบผมด้วยพละกำลัง ขนาดของร่างกาย และอารมณ์ความรู้สึก ผมสูญเสียให้ปอครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างช่วยไม่ได้ ผมไม่ได้ไปโรงเรียนเลยเพราะมันวุ่นอยู่แต่กับตัวของผม ทั้งวัน ทั้งคืน

 

ผมทิ้งร่างเปลือยเปล่าของตัวเองลงบนพรมขนสัตว์อย่างอ่อนแรงหลังจากถูกปอระบายอารมณ์ มันสอนผมทำทุกอย่างแบบที่ผมไม่ต้องการรู้ บังคับให้ทำในสิ่งที่มันต้องการ เปลี่ยนสถานที่ไปทั่วทั้งห้อง ใจที่ชื้นก็หล่นตุบเมื่อร่างถูกยกขึ้นเหนือพื้นไปวางลงบนเตียงอีกครั้ง

 

“อีกครั้งนะ” เสียงทุ้มของปอกระซิบข้างหูผม และแน่นอนว่าผมทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามคำสั่งของมันราวกับบ่าวผู้รอคำสั่งอย่างใจจดใจจ่อ

 

ร่างกายมันกับผมผสานกันอยู่แบบนั้นเนิ่นนาน เสียงมันพร่ำบอกกล่าวโทษผมด้วยน้ำเสียงกระเส่า น้ำตาผมไหลไม่หยุดพร้อมกับถูกจูบซับไปด้วย ไม่รุนแรงเหมือนครั้งแรก มันเรียกอารมณ์ความรู้สึกสนองตอบกลับไปได้ทั้งที่ตัวเองร้องไห้ ผมเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้

 

“ครั้งสุดท้าย…” มันว่าเสียงแผ่ว

 

ผมพริ้มตาหลับและขอให้มันเป็นเช่นนั้น แล้วผมจะลืมมันไปทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 

 

ใช่…

 

 

ทั้งหมดนี้

 

 

 

 

 :m25: :m25: :m25:
ปอนางเก็บกดมาสักพักแล้วแหละ ทีนี้นางจัดเต็มไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน อะฮือ เช็ดเลือดแปป

ตอนหน้าเขาจะเลิกกันแล้วนะ สปอยอีกละ ไม่ขอพูดอะไรมากเศร้าอยู่ แต่เสียใจเลยจบกันไม่สวย ร้องไห้แปปนะ :hao5:

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ ไปแอบร้องไห้คนเดียวก่อน ไม่ใช่อะไรกลัวเขียนไม่ทันจบ ไปเขียนต่อก่อนนะ แต่ตอนหน้ามีแล้วยังไม่ทันรีไรต์ อ่านละรีบๆ เม้นเลยน้า บ๊ายๆบาย
 :bye2: :bye2:
 

 

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 15

Part 1
 

ครั้งสุดท้าย

 

ใช่ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ

 

จากนั้นปอก็ไม่ได้แตะต้องร่างกายของผมอีกเลย มันพาผมไปส่งที่บ้านและเจอกันที่โรงเรียนตามปกติ แม้จะเจ็บปวดตามร่างกายแค่ไหนก็พยายามไปเรียนให้ได้เพราะกลัวไม่ทันเพื่อน ผมคิดว่ามันจบแล้ว ทุกอย่างที่ผ่านมามันกำลังจะผ่านไปอย่างเงียบสงบ ถึงมันจะเหลืออีกหนึ่งวันผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว

 

ก่อนจะครบเดือน ปอมันยังเดินขึ้นมาชวนผมลงไปกินข้าวด้วยกันราวกับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาจจะเป็นเพราะร่างกายของผมมันคงจะน่าเบื่อจำเจสำหรับมันไปแล้วก็ได้ ถึงได้เลือกทำอะไรแบบนี้เพื่อรอการจบกัน

 

แววตาของมันตอนมองผมกินข้าวยังดูปกติ มีแต่ผมที่ไม่ปกติ ตั้งแต่ที่มีอะไรกัน ตั้งแต่ที่มันรุนแรงกับผม ผมรู้สึกกลัวมากจนทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าทำอะไรผิดใจมันสักนิด

 

“หิวเหรอ” มันว่าฝ่าความเงียบ ผมเงยมองมัน

 

“อือ”

 

มันยกยิ้มพลางว่า “นานๆ จะเห็นมึงเจริญอาหารแบบนี้ซักทีนะ”

 

“ก็มึงไม่ใช่เหรอที่ชอบบังคับให้กูกิน กูก็ต้องกินเยอะๆ สิ” ผมว่าพลางก้มหน้าลงมาจานข้าว มันละรอยยิ้มลง

 

“เออ ก็ดี” ว่าสั้นๆ แต่ก็ไม่วายว่าต่อมาอีก “จะมาเชื่อฟังตอนนี้มันก็สายไปแล้วแหละ คราวหลังพกพวกแซนวิชรึไม่ก็ขนมปังไว้กินช่วงบ่ายๆ ด้วยก็ดี จะได้อ้วนกว่านี้”

 

เลิกทำแบบนี้ เลิกทำกับกูแบบนี้เถอะ!

 

“อืม…”

 

ผมครางตอบ มันนิ่งมองผมว่าจะกล่าวอะไรต่อไหม แต่คงจะไม่อีกแล้ว ผมไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องหนึ่งเดือนที่ผ่านมาร่วมกับมัน มันเจ็บปวด

 

“เกลียดกูมากเลยใช่ไหม?” ผมชะงัก เมื่อจู่ๆ มันก็ว่าผ่านความเงียบ ผมละสายตาไปมองด้านอื่นไม่สบตากับมัน “บอกตรงๆ นะ กูเพิ่งคิดได้ว่าตอนที่มึงพูดจากวนตีนกูแบบเมื่อก่อนมันรู้สึกดีกว่าตอนนี้มากเลย กูไม่ชอบเลย มึงกลัวกูมากใช่ไหมภีม?”

 

ผมเงยมองหน้ามัน “เปล่า”

 

“แต่ก็ช่างมันเหอะ อีกหน่อยก็คงไม่ค่อยเจอกันแล้ว มึงมีอะไรที่อยากจะได้เป็นของขวัญไหม?”

 

“ไม่…” ผมตอบ มันนิ่งมองผมไม่ละ

 

“เมื่อวานกูไปเที่ยวมา เห็นไอ้นี่ก็เลยนึกถึงมึง” ผมนิ่งมองมันทีว่างพลางยกตุ๊กตาตัวหนึ่งมาวางต่อหน้า ขนาดเท่ากำปั้นทว่าตัวมันผอม ขายาว แขนยาว เป็นกระต่ายในการ์ตูน ตาโต หูยาวยิ้มน่ารัก

 

ปอมันเคยบอกว่าฟันผมเหมือนกระต่าย ผมเบือนหน้าหนีไปไม่มองไม่อยากเห็น

 

“ไม่เอา”

 

“ทำไม?”

 

“ก็บอกว่าไม่อยากได้” ผมว่าเสียงเบา มันเหมือนจะเริ่มมีอารมณ์ที่ถูกปฏิเสธทันทีที่เห็น ก่อนจะว่า

 

“เพราะมันไม่มีค่าใช่ไหม!?”

 

“อะไร” ผมว่าพลางจะลุกขึ้นยืน มันดึงมือผมไม่ให้ลุก

 

“มึงอยากได้เท่าไหร่ บอกกูมา!”

 

“มึงเลิกหยาบคายกับกูสักทีเถอะปอ” ผมว่าเสียงดัง ลืมไปเสียสนิทว่าอยู่กลางโรงอาหาร เหล่านักเรียนโรงเรียนเดียวกันต่างหันมามองและซุบซิบกันยกใหญ่ ร่างของมันดึงข้อมือของผมไม่ให้ลุกขึ้นเดินหนีอีกครั้ง

 

“ปล่อย”

 

“ไม่”

 

“บอกให้ปล่อย จะไปก็ไปสิ ไม่ต้องเอาอะไรมาให้กู กูไม่ต้องการ!” ผมว่าเสียงดัง มันกระชากข้อมือผมเข้าไปใกล้

 

“มึงจะเอาไปแล้วก็ไปโยนทิ้งที่ไหนก็เรื่องของมึงนี่”

 

“แต่กูไม่อยากได้ อะไรที่เป็นของมึงกูไม่อยากได้เก็บไว้ซักอัน!”

 

มันขบกรามแน่น เอื้อมมือมากระชากแขนผมแล้วยัดมันใส่มือ ผมเหวี่ยงมันลงบนโต๊ะแล้วจะเดินหนีทว่าถูกรั้งกลับ

 

“ไอ้ภีม มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ!”

 

“พอกันทีปอ เลิกบังคับกู อย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก!” ผมดึงข้อมือกลับก่อนจะเดินละออกมาเฉยๆท่ามกลางสายตาเหล่านักเรียนในโรงเรียนนั้นแหละ

 

ผมไม่อยากได้มาเป็นตัวแทนมัน มันเจ็บ!

 

แต่นั่นทำให้ผมรู้สึกผิดพลาด

 

เมื่อข่าวกลับตาลปัตรว่าผมเป็นฝ่ายขอเลิกกับปอก่อน ทำให้ชื่อของผมเป็นคนแรกที่ทิ้งคาสโนวาตัวพ่อแห่งโรงเรียนนี้ ซึ่งนั่นทำให้ปอมันโมโหมาก มันโทรหาผมครั้งแล้วครั้งเล่าทว่าผมก็พยายามจะหลบมัน แต่ยังไงก็ยังหนีไม่พ้นเพราะเรียนโรงเรียนที่เดียวกัน สุดท้ายก็ต้องเจอกันอยู่ดีไม่ว่าในกรณีไหน

 

ผมภาวนาว่าอย่าให้ถึงวันนั้น

 

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผมก็ได้ข่าวว่ามันมีแฟนใหม่ พาควงไปไหนต่อไหน ผมหลบหน้าไอ้ต้น หลบหน้าพี่ธาม นอนร้องไห้อยู่บ้านทุกคืนโดยที่ไม่กลัวหมอนจะขึ้นรา ผมมองรูปที่อยู่ในโทรศัพท์ซ้ำๆ รูปตอนที่ผมบังคับให้มันกอดผมไว้แน่น มันยิ้มใจดีพร้อมกับใบหน้าของผมที่กำลังเอาแต่ใจ ผมอยากให้มันกลับมาแต่ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว

 

ผมอยากหายไปจากโรงเรียนนี้ ไม่อยากรับรู้อะไรกับมันอีกแล้ว

 

วันเวลาผ่านไป ถึงจะเจ็บแต่ก็ควบคุมมันได้แล้ว แอบไปมองบอร์ดที่มีรูปตัวเองขึ้นโชว์หราอยู่ว่าเป็นคนทิ้งมัน แอบมองแฟนมันว่าคบไปกี่คนแล้ว

 

ข่าวว่ามันบอกเลิกแฟนที่คบๆ กันมาได้แค่อาทิตย์เดียวแล้วก็คบคนใหม่ พักหลังๆ มันไม่คบใครเป็นตัวเป็นตน ควงๆ ไปแบบไม่ซ้ำหน้า ผมโคตรเจ็บโคตรคิดถึงมันแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย

 

 

ผมพาร่างตัวเองเดินเอื่อยๆ ริมสนามฟุตบอลหน้าตึกเรียนหลังใหญ่ เดินสวนกับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่มองมาอย่างสมเพชหลังจากเลิกกับปอ ผมมองลงพื้นและสาวเท้าตัวเองเงียบๆ กระทั่งได้ยินเสียงคนหัวเราะโหวกเหวกวิ่งมาจากชั้นสอง ร่างของใครไม่รู้วิ่งทะเล่อทะล่ามาชนผมจนก้นกระแทก เสียงกลุ่มเพื่อนหัวเราะกับความสะเพร่าของพวกรุ่นพี่ปวส. ดังมาจากขั้นบรรได

 

“เห้ยมึงเป็นอะไรรึเปล่าวะ?” มันว่า พยุงตัวผมลุกขึ้นยืนเพราะล้มไปตูดกระแทกพื้น ผมปัดฝุ่นออกจากตัวก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่ากลุ่มคนที่เดินลงมาเป็นกลุ่มของใคร

 

“ไอ้ภีมนี่หว่า” คนชนผมว่า ผมเงยมองหน้าเขาที่ตะโกนดังสุดเสียงแล้วละสายตาก้มลงมองพื้น “ปอ เมียเก่ามึง!”

 

เลือดผมวิ่งเข้ามาสู่หน้า

 

“ภีม หายไปไหนมาไม่ค่อยเห็นหน้าเลย” ผมมองพี่ธามที่รีบเดินเข้ามาทัก อึกอักเมื่อเขาทุกคนทำตัวกับผมราวกับว่าผมยังไม่เลิกกับไอ้ปอ สายตาคมๆ ที่ผมจำได้มองผมนิ่งไม่ได้ว่าอะไรขณะที่พี่ธามเข้ามาคุยด้วย

 

“เจอหน้าคนทิ้งมึงแล้วว่ะปอ ทำไงดีวะ?” เพื่อนคนที่มักจะร่วมมือกับพี่พีว่าขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

 

“อย่าไปสนใจไอ้วีเลย ไปกินข้าวกับพวกพี่ไหม ผอมลงรึเปล่าเนี่ย?” พี่ธามว่าพลางก้มตัวลงมองผม

 

คงใช่ เพราะถึงบ้านเมื่อไหร่ผมก็เอาแต่นอนร้องไห้

 

“ไม่ครับภีมไม่หิว ไปนะครับ” ผมว่าเสียงเรียบ

 

“จะรีบไปไหนล่ะ แล้วนี่เพื่อนไปไหนหมดล่ะหืมไอ้ตัวเล็ก” เขาว่าใจดีอย่างเคย ผมยิ้มน้อยๆ

 

“ไม่รู้ครับ ไปนะ”

 

ผมว่าพลางก้มหน้าก้มตาเดิน ไม่สนคำที่พี่ธามร้องตามมาอย่างใจดี ผมกลัวตัวเองกลั้นน้ำตาไม่ได้ ทุกวันนี้นั่งกินข้าวพร้อมกับเพื่อนก็จริง แต่ผมกลับเข้าไม่ถึงในสิ่งที่พวกมันพูดเลยสักนิด แล้วจึงเลือกที่จะเดินหนีออกมาเงียบๆ ท่ามกล่างความสนุกสนานในการพูดของพวกมัน

 

คนๆ เดียวที่ทำให้ใจผมชื้นขึ้นมาคือกรีน มันมักมาหยุดนั่งเล่น หรือคุยกับผมเวลาว่าง ทุกๆ วันมันมักจะเดินมาหาเมื่อเห็นผมอยู่คนเดียว ชวนคุย ชวนเล่นไปต่างๆ นาๆ

 

 

เสียงเพื่อนคุยเล่นหยอกล้อกันดังมาข้างหู ผมเดินไปเรื่อยๆ ชะงักเท้าเมื่อเห็นกลุ่มเพื่อนๆ ไอ้ปอเดินหัวเราะหยอกล้อกันมา ร่างของผมรีบหลบเข้ามุมอาคาร ปล่อยให้มันเดินไปพร้อมกับใจที่หายวาบของตัวเอง

 

มันเดิน ยิ้ม พูดเล่นหัวเราะร่วนกับเพื่อนได้อย่างสบายใจ ผมคิดไว้อยู่แล้วว่ามันต้องลืมผมได้เพียงไม่กี่วัน ทันทีที่มีคนที่มันอยากนอนด้วยขึ้นมาทับภาพของผม มันก็ลืมได้แล้ว

 

ผมยกมือกอบกุมหัวใจที่เต้นแรงของตัวเอง จิกรั้งให้มันเลิกเจ็บปวด ยิ่งจิกมือไปเท่าไรนอกจากเป็นแผลแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะหลายครั้งที่บังเอิญเจอมันที่อยู่ด้วยความสุข ผมเจ็บปวดเสมอที่มันไม่ร้องไห้คร่ำครวญเหมือนผม

 

อยากให้มันเจ็บ อยากให้มันร้องไห้ โหยหาผมทุกคืนอย่างที่ผมเป็นอยู่

 

อยากให้มันน้ำตาไหลก่อนนอนที่นึกถึงผม แต่ไม่เลย ทุกๆ คืนมันมีแฟนใหม่ของมันนอนเคียงข้าง ไม่เหมือนผม อยากให้มันตื่นมาร้องไห้ ที่ไม่เห็นผม แต่ไม่เลย มีเพียงผมฝ่ายเดียวที่เจ็บจะเป็นจะตาย

 

น้ำตาผมไหลทุกครั้งที่นึกถึงมัน มันยากที่จะลืม นิ้วมือที่มันสัมผัสแก้ม ปากของมันที่พรมจูบไปทั่วหน้า อ้อมกอดของมันที่ปลอบโยน ทุกอย่างไม่เหลือเลย มันหายไปเพียงแค่คืนเดียว!

 

หรือผมจะทำเหมือนมันบ้าง ทำไม่แคร์ไม่รู้สึก ไม่เจ็บปวด ให้มันเห็นว่าผมเองก็อยู่ได้ถ้าไม่มีมันแล้ว มันจะได้หันมาเห็นผมบ้าง หันมาแคร์ผมบ้าง

 

ผมคิดบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย!

 

“ภีม มึงเป็นไรไหม?” เสียงใครสักคนรั้งให้ผมหลุดจากความเจ็บนี้ ผมพยายามเรียกสติตัวเองเงยหน้ามอง

 

“ต้น…”

 

“มึงโอเคไหมภีม?” มันว่าพลางจับบ่าสีหน้าตกใจ ผมส่ายหน้าตอบเหนื่อยใจ

 

“หน้าตากูดูเหมือนกูเคมากเลยสินะ”

 

“เหอะ ช่วงแรกๆ ก็งี้แหละ กูเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน แต่เดี๋ยวนานๆ ไปก็ชินเอง” มันว่า หัวเราะเยาะตัวเองไปด้วยรอยยิ้มที่ผมดูออก เสียงมันขมขื่นขนาดไหน

 

“กูไม่ชินง่ายๆ หรอก” ผมว่าเสียงเบา

 

“กูขอโทษนะ กูเป็นคนเล่าเรื่องนี้ให้พี่พีฟังเอง”

 

“ช่างมันเหอะมันผ่านมาแล้ว ยังไงมันก็ต้องถึงวันนี้ปะวะ” ผมว่า ยังไงผมก็ต้องเลิกกับมันอยู่ดี

 

“ถ้ากูไม่ทำแบบนี้ มึงกับพี่ปอคงจบสวยกว่านี้”

 

“หึ มึงไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก กูผิดเองที่ไปหลอกมันแบบนั้น กูผิดเอง”

 

ใช่ ผมพยายามจบและไม่คิดต่อ ทั้งที่ใจก็โกรธปอที่มันทำแบบนั้น ข่มเหงผม บังคับผม เลือดผมไหลออกมาต่อหน้าต่อตามันมากมาย มันไม่สงสารผมสักนิด มองด้วยความสะใจอีกต่างหาก

 

“มึงกับพี่ธามเป็นไงบ้างล่ะ?” ผมหันไปว่ามันที่นั่งก้มหน้านิ่ง มันเองก็ยังเศร้าละมั้ง เรื่องถูกทิ้งใครมันจะเลิกเจ็บง่ายๆ ถูกสะกิดนิดๆ น้ำตาแม่งก็จะไหลแล้ว

 

“พี่ปอพยายามหาแฟนใหม่ให้มันอยู่”

 

“แล้วมึงก็ยอมน่ะเหรอ?”

 

“เป็นมึง มึงหน้าด้านเข้าไปด่าว่ามันนอกใจปะละ เรื่องนี้กูผิดเต็มๆ มันคงจะเกลียดกูมาก” มันว่าเสียงไม่สบอารมณ์

 

“แล้วพี่พีล่ะ รายนั้นเขาจริงจังกับมึงนี่”

 

ตัวเลือกเยอะนะมึงน่ะ

 

มันหันมาว่าเสียงเบา “กูรักพี่ธามไม่ใช่มัน กูไม่ยุ่งกับมันแล้วถึงมันจะพยายามมาตื๊อกูก็เหอะ”

 

“ถ้าพี่ธามคบกับคนที่ไอ้ปอหามาจริงๆ มึงจะทำไง”

 

ผมว่าเสียงเบา มันหันมามองด้วยแววตาเศร้าสร้อยกว่าเดิม งุดหน้าลงมองพื้นเงียบๆ “ถ้าพี่ธามมันเลิกรักกูแล้วไปคบกับคนอื่นจริงๆ กูก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากร้องไห้…”

 

ใจผมสลายเมื่อได้ยินเสียงสั่นๆ ของมัน อย่าทำหน้าแบบนั้นดิวะกูจะร้องตาม

 

มือผมยกไปกุมมันแน่น มึงกับกูอารมณ์เดียวกันเลย ทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้

 

ไม่รู้ผมไปสนิทกับไอ้ต้นมันได้ยังไง มันมักจะมาจับเจ่าอยู่กับผมเวลาที่ผมอยู่คนเดียวนอกจากกับไอ้กรีน มักมานั่งทำหน้าเหงาๆ เป็นพระเอกเอ็มวีกันสองคน มานั่งเหงาเป็นเพื่อนกันแบบนี้ทุกวันจนชิน ถึงจะนั่งด้วยกันแต่ไม่รู้สึกว่าอยู่ด้วยกัน ใจผมกับมันลอยไปไกลอย่างไม่มีวันกลับมาได้

 

เพราะรัก

 

ผมเลิกหลบหน้าไอ้ปอแล้ว เพราะทุกวันนี้ก็ไม่ได้เรียนห้องเดียวกัน โรงเรียนตั้งกว้างใหญ่ เจอก็แค่เดินสวนกัน ไม่ได้คุย ไม่มองหน้า เดินผ่านราวกับไม่รู้จักกัน

 

ถึงเจ็บแต่ก็ทน เพื่อที่จะได้ชินอย่างที่ไอ้ต้นมันบอก



ต่อพาทสองจ้า

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa

ตอนที่ 15

Part 2



ผ่านมาหลายวัน

 

แม่งเอ๊ย

 

ฝนตกซู่ซ่ามาท่ามกลางคนที่วิ่งหลบ ร่างของผมสาวเท้าตัวเองพลางยกกระเป๋าปิดหัววิ่งไปด้วย ไม่ทันได้มองทางต่อหน้า ชนกับใครก็ไม่รู้จนล้มลง กระเป๋าหล่นมากองกับพื้นพร้อมกับเจ้าของ โธ่เว้ย! ทำไมมันซวยแบบนี้ ผมกล่าวขอโทษคู่กรณีแล้ววิ่งเข้าไปยังป้ายรถเมล์ ตัวเปียกโชก พยายามเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดตัวที่เปื้อนช่วยเหลือตัวเองพลางหอบหายใจ

 

ทำไมผมมันน่าผมเพชจังวะ อยู่คนเดียวแบบนี้

 

ผมวางกระเป๋าแล้วยืนเช็ดเสื้อเปียกๆ ของตัวเอง หลบลมที่ซัดฝนสาดมาใส่จนรู้สึกหนาว พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นรถคันหนึ่งแล่นออกมา คันเดิมที่ผมนั่งกลับไปด้วยทุกวัน ตอนนี้ผมต้องกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมแล้ว ไม่ต้องเป็นเจ้าชายที่ต้องมีของหรูๆ มาคอยรองรับเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

 

ดวงตาผมก้มลงเช็ดร่างกายตัวเอง ไม่มองมันอีก ไม่มองให้เจ็บปวดอีก

 

พอแล้วภีม มึงพอได้แล้ว

 

 

ผมพาร่างตัวเองเดินลงไปยังโรงอาหารคนเดียว ตอนนี้ต่างไม่มีทั้งไอ้กรีนและไอ้ต้นมาอยู่ข้างๆ พวกมันเองก็คงจะมีเรื่องส่วนตัวของมันที่ต้องจัดการนั่นแหละ ผมเองก็เหมือนกัน ต้องมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง ถึงแม้มันจะเหงาก็เหอะ

 

เสียงคนเดินคุยกันยามพักเบรกที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ไม่ตรงกับชั้นเรียนอื่นเพราะจะได้ไม่แย่งกัน คนในโรงอาหารน้อย ต่างจากตอนพักเที่ยง นี่ก็บ่ายแล้วผมเพิ่งจะคิดที่จะลงมากินเพราะยังไงก็ต้องมีพักเบรกครึ่งชั่วโมงของทุกคาบเรียนอยู่แล้ว โรงเรียนเอกชนก็ดีอย่างงี้ แต่ไม่ดีคือเวลาเรียนนี่เรียนหนักทั้งนั้น ผมสะบัดไล่เรื่องเรียนออกจากหัว ปวดหัวจะแย่ พาตัวเองเดินมาสั่งข้าว เดินมากินเงียบๆ

 

อะ กินไม่ลงแฮะ

 

เสียงคนหัวเราะโหวกเหวกแบบนี้เป็นประจำเพราะเป็นโรงเรียนชายล้วน โรงเรียนสอนลิง โคตรดื้อโคตรมึนกันล่ะ ห้ามยากเสียด้วย ผมส่ายหน้าหนวกหูตัวเองพลางตักของกินมาอ้าปากจะกิน ดวงตาเงยขึ้นไปมองสบเห็นว่ามีคนกำลังจ้องมาอยู่ ใจผมหล่นหายลงพื้นเมื่อเห็นว่าใครกำลังสบตา

 

ปอ…

 

ผมอ้าปากค้าง ก่อนจะหลบตางับช้อนที่ถือ ไม่คิดว่ามันจะมองเห็นผมด้วยซ้ำ ใบหน้าผมก้มลงมองจานข้าวตักกินเงียบๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบนี้ดีแล้วภีม มึงเริ่มจะเก่งขึ้นแล้ว

 

“ภีม กินข้าวเหรอ” คนๆ หนึ่งว่าเสียงใจดีและร่าเริงมาทักทาย ทิ้งตูดมานั่งยิ้มต่อหน้า

 

 

“อื้ม ว่าแต่พี่ธามก็มาเหรอ ช่วงนี้ปวส. เรียนนี่” ผมว่าพลางมองนาฬิกา ไม่สนใจกลุ่มเพื่อนพี่เขาที่เดินเลยกันไปด้านหลัง ไปยังที่ที่พวกมันชอบนั่งกันคือโต๊ะติดร้านก้าวแกง พอให้ได้แซวคนที่เดินผ่านเล่นๆ

 

“ขี้เกียจเข้าอะ เลยโดดกันมา” คนตรงหน้าว่า

 

“จะจบแล้วยังจะมาขี้เกียจ เดี๋ยวได้แก้ มส จนขี้เกียจแก้”

 

“อย่าแช่งๆ พวกพี่น่ะถึงจะโดดบ่อยแต่ตามงานนะครับ เห็นแบบนี้พวกพี่สู้ตายนะแลกกับเกรดน่ะ”

 

ผมหลุดยิ้ม ก่อนจะละมันลงเมื่อเห็นพี่ธามยิ้มราวกับไม่มีไรเกิดขึ้น

 

“เป็นอะไรไป หืม?”

 

ผมเงยขึ้นมามองตาพี่เขานิ่ง ก่อนจะส่ายหัว “เปล่า…”

 

พี่ธามเองก็เคยรักไอ้ต้นมันมาก เขาเองก็ยังลืมมันมายิ้มและมีความสุขได้ง่ายๆ ต่างอะไรกับไอ้คนที่นั่งข้างหลังผมที่ไม่เคยรักผมเลย ผมแม่งโคตรหลอกตัวเองเลยว่ะ มโนมาตั้งนานสองนาน

 

หึ ผมยกยิ้มกับตัวเอง

 

“ภีม เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ?” คนตรงหน้าเอื้อมมือแตะ สีหน้าดูตกใจ “จริงด้วย ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลย กินข้าวแล้วไปกินยาซะนะ”

 

“ครับ” ผมพยักหน้ารับยิ้มๆ

 

“ดูแลตัวเองดีๆ นะไอ้ปอเป็นห่วง”

 

ใจผมวูบมองคนตรงหน้า เขาคงเห็นผมที่ละรอยยิ้มลง “ไม่ขำนะพี่ หึ…”

 

“ใครว่าให้ขำกันล่ะ งั้นพี่ไปแล้วนะ หิวข้าว”

 

เขายกมือลูบหัวผมแรงๆ ก่อนคนใจดีอย่างพี่ธามจะละเดินออกไปยังกลุ่มที่นั่งรออยู่ด้านหลัง เสียงดังหัวเราะโหวกเหวกกันเกิดขึ้นเป็นระยะ

 

ก่อนไปเขายิ้มด้วยความใจดีให้เหมือนเคย ยีหัวผมด้วยมือแสนอุ่นบอกให้ดูแลตัวเองซ้ำๆ ใจผมกระตุกวูบ นึกคิดว่าทำไมถึงไม่สบายได้กันนะ คงเป็นเพราะวิ่งตากฝนไปรอรถเมล์เมื่อวาน

 

มือผมยกกุมหัวเมื่อรู้สึกปวดขึ้นมาเฉยๆ แล้วสะบัดมันออก คงต้องหายากินแล้วจริงๆ ละว่ะ เมื่อวานกลับไปก็เพลีย นอนทั้งๆ ที่ไม่ได้สระผม ผมละเลยการดูแลตัวเองจนโทรมไปจริงๆ คิดได้แล้วนั้นก็รีบตักข้าวกิน ยกน้ำดื่มแล้วลุกขึ้นยืน

 

อา แม่งตาลายขึ้นมาเฉยๆ

 

ผมกลืนน้ำลายฝืดคอ กระพริบตาตัวเองถี่ๆ ควบคุมสติ

 

ร่างผมโซเซพร้อมกันกับเสียงในหูที่ดังอื้ออึงมือพยายามยกกุมหัวไม่ให้ภาพมันหมุนเวียนชวนอ้วก เสียงของพวกรุ่นพี่ร้องมาและรับรู้ถึงมือใครสักคนวิ่งมารับตัว ในหูได้ยินใครสักคนร้องเรียกชื่อก้องกังวานข้างๆ หู ร่างกายถูกเขย่า ผมขมวดคิ้วกระพริบตาตัวเองถี่ให้ภาพมัวๆ ต่อหน้าชัดเจนขึ้น แต่ยิ่งทำเท่าไรสติผมกลับเลือนราง

 

และหายไปในที่สุด

 

อ่อนแอจังกู

 

 

 

อา ใครวะ…

 

เสียงใครคุยกัน

 

เสียงแอร์

 

ผมรู้สึกหนาวไปทั้งตัว ควานหาอะไรมาคลุมตัวไว้ก็ไม่เจอสักอย่าง รู้สึกตัวที่สั่นไหวสะท้าน ทันใดนั้นความอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั่วตัวเมื่อมีใครนำผ้าห่มมาคลุมตัวให้

 

มือผมรับรู้ถึงสัมผัสที่อบอุ่น สัมผัสที่ผมโหยหาจากนิ้วมือใครสักคนที่สอดผสานกัน

 

ปอ พี่ปอ…

 

มันไม่มีจริงอีกต่อไปแล้ว

 

แรงบีบในมือผมรุนแรงจนผมรู้สึกถึงสัมผัส ผมพยายามลืมตาที่มันหนักอึ้งให้เห็นว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหน ผมหันไปมอง เห็นต้นมันนั่งกุมมือผมไว้นิ่งมองมายังใบหน้าของผมตอนนี้ ผมพริ้มตาพร้อมกับกระพริบตาให้น้ำตาอาบแก้มลงไป มันเย็นวาบจนถึงใบหู ในห้วงความคิดนึกถึงใครสักคน คิดว่าอาจเป็นมันที่กำลังนั่งกุมมือไว้แบบนี้ ผมหลอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะเป็นจริง

 

เป็นพี่ปอ

 

ต้นมันหันมามองตาผม ส่งยิ้มให้ ผมยิ้มตอบแล้วมองรอบตัว นี่มันห้องพยาบาลไม่ผิดแน่ ผมคงจะเป็นลม

 

“อย่าลืมรักตัวเองสิภีม ดูแลตัวเองหน่อย” มันว่าเสียงเบา

 

ใช่ ผมทำอะไรอยู่วะ เมื่อวานผมควรกินยา ดูแลตัวเอง ไม่ควรเหม่อลอยแบบนั้น

 

“ถ้ามันเจ็บนักก็ระบายมันออกมาบ้าง มึงดูตัวมึงตอนนี้สิ ไม่เหมือนภีมคนเดิมเลย”

 

“ใครพากูมาวะต้น?”

 

ผมว่าสวนมันเมื่อนึกขึ้นได้ ก็ตอนนั้นผมอยู่ในโรงอาหาร ข้างๆ ผมเป็นกลุ่มของไอ้ปอ ผมลุกขึ้นจากโต๊ะจะเดินออกมาแต่ว่าเป็นลมก่อน ตอนนั้นรู้สึกว่ามีใครมารับ เรียกชื่อผม แต่สติตอนนั้นแยกไม่ออกว่าใครที่พาผมมาห้องพยาบาล

 

“กูก็ไม่รู้ มีคนบอกกูมาอีกทีว่ามึงนอนอยู่ห้องพยาบาลกูก็เลยมา พอดีเห็นมึงกำลังนอนร้องไห้ กูก็เลยจับมือมึงไว้ให้มึงอุ่นใจเนี่ย” มันว่า ผมคลายมือตัวเองออกมาเช็ดน้ำตาตัวเอง

 

ถึงขั้นเก็บไปนอนร้องไห้

 

“ใครวะ พี่ธามละมั้ง คนดีที่สุดแล้ว” ผมว่าเสียงเบาพลางคิดพร้อมกับไอ้ต้นที่ยกยิ้ม นี่มันคิดว่าผมชมมันอยู่เหรอ ผมชมแฟนเก่ามันต่างหากเว่ย

 

“พี่ธามละมั้ง เขาใจดีจะตาย” มันว่า ผมพยักหน้าเออออ

 

“ก็เพราะตอนกูอยู่ พวกมันก็อยู่แถวนั้น ใกล้ๆ กันเลย”

 

“เก่งนี่…”

 

อืม โคตรเก่ง

 

ผมยกยิ้มกับตัวเองและมองไปยังไอ้ต้นที่หลุดยิ้มเมื่อผมเบ้ปากใส่มันตอนที่ชม เรานิ่งเงียบไปเรื่อยๆ กระทั่งได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาเปิดประตู เราสองคนหันไปมองตามเสียงนั้นทันที

 

นั่นมัน…

 

ใจผมที่อยู่ดีกระตุกวูบ เต้นระรัวราวกับกลองชุดถูกกระหน่ำซัดมาเมื่อพบเห็นร่างคนเปิดเดินเข้ามา  ดวงตาคมๆ นั้นมองมายังผมนิ่งพร้อมกับแววตาสงสัยของผมกับไอ้ต้นว่ามันหมายความว่ายังไง ไอ้ปอมันมาทำไม ต้องการอะไร

 

แววตามันมองมายังร่างกายของผม เคลื่อนมามองตา ผมละตาที่มองหน้ามันไปยังด้านอื่นทันทีด้วยกลัวว่าจะถูกจับได้จากแววตาว่าผมยังรักมันหมดหัวใจ

 

ทั้งที่ใจเต้นเป็นระส่ำว่ามันมาทำไม

 

“มาทำไม?” เสียงไอ้ต้นมันว่า เอื้อมมากำมือผมแน่น มันเดินเข้ามาหยุดข้างเตียงก้มมองผมนิ่ง

 

“เป็นไงมั่ง?”

 

ผมพูดไม่ออก เมื่อดวงตานั้นงุดลงมามอง

 

ก็ได้…

 

ในเมื่อมึงต้องการแบบนี้กูก็จะจัดให้ มึงอยากให้กูกลับไปเป็นเหมือนเดิม พูดคุยกับมึงเหมือนเดิม ไม่รู้สึกเจ็บไม่รู้สึกรู้สาเหมือนเดิม กูก็จะทำให้

 

ผมมองหน้ามันนิ่ง รับรู้ไว้เลย กูจะไม่รู้สึกเจ็บปวดต่อหน้ามึงอีกแล้วปอ

 

“ก็ดี…” ผมกล่าวตอบ

 

“ผอมลงไปนะ บอกแล้วไงว่าห้ามอดข้าวเย็น”

 

“หึ กูกินทุกวัน” กินน้ำตา “แต่ไม่ใช่เพราะมึงหรอกนะ กูกินเพราะตัวกูเอง”

 

มันก้มมองตาผมนิ่ง ทรุดตัวลงมานั่งข้างเตียง มองร่างกายผม ไม่ชอบเลยที่มันใช่แววตาแบบนี้ ทำเหมือนกำลังรู้สึกผิด ถึงจะไม่ชอบและผมเจ็บขนาดไหน แต่อยากให้มันลองรู้สึกซะบ้าง

 

“ให้กูแวะมารับมึงกลับบ้านไหม ช่วงนี้ฝนมันตกตอนเย็นบ่อยๆ”

 

มันเห็นผมเมื่อวานสินะ “หึ…ไม่เอาล่ะ รบกวนเวลามึง อีกอย่างกูก็เกรงใจมึงไง เวลามึงมันมีค่า”

 

“ภีม มึงเลิกประชดกูนะ”

 

“กูเปล่า กูจะประชดมึงทำไมวะ” ผมมุ่นคิ้วตัวเองว่า “แล้วมึงก็ต้องมาก็สมเพชกูด้วย กูอยู่ของกูเองได้ตั้งนานแล้วไม่ต้องมาเสือก เพื่อนกูก็มี”

 

“ใช่ อยู่ของตัวเองไปนั่นแหละดี ต่างคนต่างอยู่ไปสิ”

 

ต้นมันว่าเออออพร้อมทั้งจ้องตามันนิ่งงัน ปอมันละไปมองหน้าไอ้ต้นแล้วหันมาว่า “กูไม่ได้สมเพช แค่เป็นห่วง”

 

เหอะ ผมอยากหัวเราะ

 

“กูไม่ต้องการหรอกปอ กูอยู่ของกูได้ เมื่อวานกูตากฝนแล้วไม่ได้กินยาดักก็เลยไขขึ้น กูไม่ได้สำออยขนาดนั้นหรอก”

 

“เดี๋ยวกูกับไอ้กรีนไปนอนที่บ้านมึงนะคืนนี้” ต้นมันว่า เป็นครั้งแรกที่มันเอ่ยปากขอ

 

“แต่ว่า…”

 

“เอาน่ากูเป็นห่วงมึง เดี๋ยวกูดูแลมึงเอง มึงไม่มีใครแต่ก็มีกูกับไอ้กรีนอยู่”

 

ผมรู้หรอกว่าต้นแม่งประชดไอ้ปอ และปอมันเองก็ตอบสนองไอ้ต้นเสียด้วย มันขมวดคิ้วตัวเองแน่นและลุกขึ้นยืน

 

“โอเค ไม่เป็นไรก็โอเค”

 

“งั้นขอบใจนะ” ผมว่าเสียงเบา ยกยิ้มนิดๆ ให้มัน

 

มันกลับไม่ยิ้มตอบ ยิ่งขมวดคิ้วตัวเองแน่น

 

ใช่ กูต้างการให้มึงไม่พอใจปอ ให้มึงรู้สึกไม่ดีบ้างที่กูยังยิ้มได้

 

ผมนิ่งมองตามมันที่เดินละออกไป พร้อมเสียงถอนหายใจของไอ้ต้น

 

“เลิกกันแล้ว ทำไมมันไม่ยอมจบวะ”

 

ผมกลั้นน้ำตาให้ตัวเองเข้มแข็ง

 

ไม่เป็นไร แบบนี้แหละดี มาลองดูสิใครจะทรหดกว่ากัน

 

กูน่ะชินแล้ว

 

มึงน่ะจะรับได้ไหมปอ มาลองกันสักตั้งสิ!

 

 

 


 :katai1: :katai1:
เอามาเสิร์ฟแล้ว มาถึงแล้วอัพเลยไม่ได้ตรวจทานเพราะกลัวจะช้านะคะ เรื่องเริ่มดราม่าทรหดแข่งกันแล้ว พี่ปอเป็นห่วงน้อง รู้สึกผิดนะแต่ปากแข็งกันทั้งคู่ โอยยยย ปวดตับ ส่วนต้นก็นะ น่ารักขึ้นทุกวัน สมเป็นเด็กปั้นที่เจ๊จะมอบสามีให้สองคนจริงๆ

นางเก่งค่ะ นางจะจัดการพี่ปอให้ภีมเองไม่ต้องห่วง แถมตอนนี้ภีมนึกจะเอาคืนปอบ้างแล้ว คอยดูตอนหน้านะคะว่าจะเป็นยังไง ส่วนเรื่องของพี่ธาม พี่พี น้องต้น ไรต์ว่าจะทำเป็นเรื่องใหม่มาเลยดีกว่า น่าจะสนุกดี นางเป็นลูกรักของไรต์ค่ะ แต่โดนกระทำย่ำยีเยอะมาก สามีฝั่งซ้ายก็ซาดิสม์ชอบทุบตี สามีฝั่งขวาก็เลือดร้อน แค่จิ้นก็ฟินได้ 5555

 :bye2: :bye2:



 

 

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
โกรธเพราะโดนหลอกว่าจะให้เอา

อย่าไปง้อมันลูกกกกกก

หาผัวใหม่ดีกว่า

แบร่ :P

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ถามจริงเรื่อนี้ภีมผิดอะไร ตั้งแต่ตอนแรกเลยเป็นปอเองไม่ใช่หรือที่บังคับเอา แล้วภีมที่ต้องปกป้องตัวเองนี้ผิดมากหรือ ถึงตอนนี้แล้วเราก็ยังไม่หายเกลียดปอและเพื่อนบางคนเลยน่ะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ตามง้อให้ตายไปเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เอาให้หนักเลยภีม คนเอี้ยๆแบบนั้น :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 16

Part 1
 

-P’ Por Part-

 

ผมพาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำแรงๆ และวักหน้าล้างหน้าให้ใจที่ร้อนรุ่มลดลง เมื่อสิ่งที่เจอที่ผ่านยอมรับว่าทำให้โมโห

 

ผมไม่ได้เจอมันนานมากแล้ว พอเห็นมันอีกทีใจผมที่ว่าอวดดีก็กระตุก มันสั่นอย่างเห็นได้ชัด

 

เห็นว่าภีมมันโทรมมากขนาดไหน ถึงจะไม่ได้สังเกตยังไงก็เห็นว่ามันเปลี่ยนไปจริงๆ หลังจากที่จากกันแบบไม่เคลียร์ ตอนที่เอาคืนมันผมสะใจที่เห็นใบหน้าอันบิดเบี้ยว เจ็บปวดนั่น สนุกกับเสียงร้องไห้ของมันให้สมกับความรู้สึกที่เสียไป

 

ผมโกรธ จำได้ว่าวันที่วิ่งหนีมันออกมา ผมนอนทรมานบนเตียง นึกถึงแต่หน้ามัน ผมอยากกอดอยากจูบมันแต่สิ่งที่ทำได้คือนอนบิดตัวไปมา เพราะผมไม่ได้อยากเอากับมือตัวเอง คนที่ผมอยากนอนด้วยคือมัน!

 

ผมอดทน ผมรอ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการโกหก ให้ความหวังและไม่คิดที่จะบอกความจริงผมมาสักคำ ถึงวันนั้นมันคิดจะยอม แต่ผมกลับคิดไว้แล้วว่าจะนอนกับมันในวันที่ผมรักมัน มารู้ทีหลังว่ามันไม่เป็นความจริง สิ่งที่มันพูดออกมาก็แค่จะปัดความรับผิดชอบให้ผม ไม่ยอมรับที่จะนอนกับผม มันน่าโมโหสมควรไหมที่จะต้องทำแบบนั้น

 

มันทำตัวเองนี่

 

แต่วันนี้แม่ง ใจผมมันร้อนขึ้นอย่างน่าประหลาด มันมองหน้าผมโดยไร้ซึ่งความหมายดีๆ อย่างเคย ใจที่โอหังดีๆ ของผมสลายลงที่เคยคิดว่าตัวเองชนะมัน

 

ไม่เลย ผมแพ้ภีมตั้งแต่วันที่ทำร้ายมัน

 

ผมเห็นมันเจ็บปวด มันควรเลิกกับผมเพราะผมไม่มั่นใจว่าผมจะดีกับมันได้นานเท่าไร มันคงเกลียดและกลัวผมมาก ใจผมมักจะหายเวลาเลิกกับแฟนแต่ละเดือนแบบนี้เสมอ กับภีมก็เช่นกัน เพียงแต่ภีมมันแตกต่างกับคนอื่นตรงที่มันผ่านอะไรกับผมมาหลายอย่าง นอกจากบนเตียง มันพบอะไรร้ายๆ ที่ผมพบด้วย แต่เลือกอยู่ข้างๆ ผมตลอด

 

นี่ผมเป็นเหี้ยอะไรวะเนี่ย!

 

 

ร่างของผมเดินเข้าห้องมาพร้อมกับเพื่อนที่ยังอวดเก่งไม่แพ้กัน ซึ่งตอนนี้มันเองก็สภาพไม่ได้ต่างกันกับผมสักนิด มันเดินหน้าซึมเป็นหมาเหงาตามหลังมา พอผมเปิดประตูห้อง ร่างของมันก็เดินนำเข้าไปเลยไม่พูดไม่จา ต่างจากผม แม่งไม่อยากเข้าห้องของตัวเองเลย มีแต่ภาพเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา ผมไม่อยากอยู่ในห้องอีกต่อไปแล้ว

 

เคยคิดจะพาคนอื่นมานอนบนเตียง แต่ก็ทำไม่ได้ ผมไม่เคยพาใครเข้ามาเลยจริงๆ และไม่อาจทนให้ใครมานอนทับรอยนี้ กลิ่นนี้

 

กลัวแม่งจะหายไป

 

“มึงจะค้างกับกูไหม?” ผมว่ากับมันซึ่งเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าหาชุดเปลี่ยนอย่างรู้งาน ตัวผมพอๆ กันกับมันและเสื้อผ้าเยอะอยู่แล้ว อะไรที่มันหยิบจับได้ก็ไม่เคยหวง

 

“เออ ขอกูนอนห้องมึงละกัน”

 

“โซฟานะ”

 

มันหันมามองผม มองมายังเตียงผมแล้วก็ละสายตาออกไปอย่างกับรู้ความคิด ว่าผมไม่อยากให้ใครมาทับรอยของเมียตัวเอง หวงแหนขนาดไหน ไอ้ธามมันหันหลังไปถอดเสื้อตัวเองแต่ไม่หยุดปากพูด

 

 “คิดถึงมันมากทำไมไม่ไปง้อมันวะ”

 

แม่ง อาการกูออกขนาดนั้นเลยรึไง

 

“กูเปล่าสักหน่อย” ผมว่าพลางหลบตาทั้งๆ ที่มันไม่ได้จะหันมาจับพิรุธสักนิด ดันร้อนตัวไปเอง

 

“งั้นเหรอ?” มันหันหน้ามา หยิบเสื้อมาสวม “งั้นมึงก็เลิกทำตาละห้อยมองตามตูดเมียก่อนสิกูถึงจะยอมเชื่อ”

 

“ใครมองตาละห้อยวะ มึงอย่ามารู้ดีหน่อยเลยน่ะ”

 

“ก็มึงไงปอ มึงแม่งอย่ามาทำเป็นอวดดีไม่รู้สึกรู้สาอะไรหน่อยเลย กูเห็นมองตามมันขนาดนั้น ตอนภีมเป็นลมขนาดกูอยู่ใกล้ๆ ยังวิ่งไม่ทันมึงเลย ถ้าไม่อยากปล่อยมันไปมึงรอเชี่ยอะไรอยู่วะปอ ตอบกูมาซิ”

 

ผมกลืนน้ำลายยกมือกุมหน้าตัวเอง แม่งทำไมมันร้อนวะ ใจผมมันไม่รักดี พยายามทำเมินไอ้ธามที่ยืนบ่นๆ ขณะแก้ผ้าเปลี่ยนชุด

 

“อย่าปล่อยให้มันสายจนถึงขนาดแก้ไม่ได้เหมือนกูเลย รักแม่งแต่ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ภีมมันอ่อนแออยู่มึงกลับไปดูแลมันเถอะ ถึงมันจะโกรธแต่กูรู้ว่ามึงน่ะทำให้มันหายโกรธได้ง่ายๆ บอกรักมันสิวะ บอกว่ารักมันแค่คนเดียว”

 

มือแม่งสั่น ผมก้มหน้าลงพื้น คงเพราะคิดตามในสิ่งที่ไอ้ธามมันบอก ผมเดินเข้าไปหามัน เป็นห่วงมันในห้องพยาบาล อยากเห็นว่ามันโอเค แต่ผมต่างหากที่ไม่โอเค

 

กว่าจะตัดสินใจเดินเข้าไปแม่งโคตรยาก

 

ตอนเดินออกมาแม่งยากกว่า

 

“ยอมมันซะปอ มึงน่ะ ห้ามทิ้งเด็กคนนี้เด็ดขาดเลยนะ กูดูออกว่าภีมน่ะรักมึงเหมือนกัน มันเสียใจไม่ต่างจากมึงหรอก มึงร้องไห้ออกมาซะปอ ถ้าร้องไม่พอที่ผ่านมา”

 

“พอ…มึงจะบิ๊วอะไรนักหนาไอ้สัด หึ!” ผมยกยิ้มกับตัวเองกับสิ่งที่มันว่า แต่น้ำตาแม่งไหลแล้ว เพราะพยายามทำอวดดีไงเลยต้องจบแบบนี้ โคตรเสียท่าให้ไอ้ธามเลย

 

ผมใช้หลังมือยกเช็ดน้ำตาพลางบ่นกับตัวเองไปด้วย “แค่นี้กูก็คิดถึงแม่งจะแย่”

 

“เหอะ มึงนี่สมควรสำนึกแล้วก็ขอบคุณมันมากๆ เลยนะที่อุตส่าห์สั่งสอนมึงให้รู้จักความรัก ให้มึงโตขึ้นขนาดนี้ ถ้ามึงทิ้งมันไปกูก็ไม่รู้ว่ามึงจะมีความสุขตอนอยู่กับใครขนาดนั้นได้อีก คิดถึงมันก็กลับไปหามันซะปอ กูสงสารน้อง”

 

“มึงเลิกเกลี้ยกล่อมกูซักที จะให้กูกลับไปมองหน้ามันยังไงหา!?” ผมว่าเสียงเบาทว่าใส่อารมณ์ นึกถึงตอนภีมมันร้องไห้ เรียกแต่ชื่อของผม

 

ชั่วโมงนั้นทั้งโมโหทั้งโกรธ ทั้งสงสาร อารมณ์ตีรวนปนเปกันไปหมดจนต้องเดินหนีมันออกมาจากห้อง ออกมาแล้ว ตัวผมสั่น ใจหายเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของมันในห้องนอน

 

มันไม่รู้หรอกว่าผมยืนเฝ้ามันอยู่หน้าประตูนั่นกี่ชั่วโมง ยืนรอเงียบๆ จนไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของมันแล้วถึงได้เดินจากมา มันคงมีแต่ความโกรธความเกลียดที่มีต่อผม

 

ผมทุบตีตัวเองหลายรอบที่ทำร้ายมันไปแบบนั้น แต่แม่งไม่สาสมกับสิ่งที่ทำต่อมันจริง ผมยังไม่เจ็บเท่ามัน ผมควรจะเดินหนีออกจากชีวิตมันซะ นั่นเป็นการทำให้ผมเจ็บปวดที่สุด สาสมที่สุดแล้ว

 

แต่ถึงจะคิดอย่างนั้นผมกลับลืมภีมไม่เคยลง ทุกวัน ผมนึกถึงมันก่อนนอน เอากับใครก็ไม่ได้ ภาพมันหลอนผม เพราะทั้งชีวิตไม่เคยข่มขืนใครเลยสักครั้ง มีแต่คนยอมทอดกายให้เอาง่ายๆ อารมณ์ผมตายไปตั้งแต่เลิกกับมัน นกเขาไม่ยอมขัน ทางเดียวที่ดีคือการอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ช่วยผ่อนปรนอารมณ์เครียดได้บ้าง ได้หัวเราะได้ยิ้มบ้าง เพราะเวลาอยู่คนเดียวผมยิ้มไม่ออกจริงๆ

 

“กูมันเลว ภีมมันคงเกลียดกูแล้ว”

 

“มึงรู้ได้ไง ถามมันรึเปล่าก็ไม่ ห้ามคิดแทนมันเด็ดขาดนอกจากจะได้ยินมันบอกมึงออกมาจากปากมันเอง ถึงได้ยินออกมาจากปากแล้วก็ต้องตามขอโทษน้องมัน ขอโทษแม่งจนมันใจอ่อน เข้าใจไหม!”

 

“แล้วมึงจะมาโหดอะไรกับกูเนี่ย”

 

ผมขมวดคิ้วตัวเองทิ้งตัวลงนอน ไอ้ธามมันเดินไปหยิบขวดเหล้ามาเทซดพรวดๆ อย่างกับน้ำ ผมไม่มีอารมณ์อยากกินเหล้าเหมือนมันสักนิด ในหัวแม่งมีแต่ภาพเมียเต็มไปหมด

 

“เอาไหม?”

 

“ไม่” กระเดือกไม่ลง ผมตอบแล้วพลิกตัวนอนตะแคง เชี่ยธามมันคงกำลังเจ็บปวดไม่ต่างกันหรอกที่ถูกเมียหักหลัง มันขอให้ผมหาแฟนให้มันใหม่เพื่อที่จะได้ลืมไอ้ต้น

 

ส่วนไอ้ต้น

 

ผมคิดว่ามันร่านนัก ยั่วนัก ท่าทางลนลานและอยากปลดปล่อยจากไอ้ธาม แต่ไม่คิดว่ามันจะยังบริสุทธิ์ ผมคิดว่ามันเคยนอนกับใครมาก่อนที่จะมาคบกับไอ้ธามด้วยซ้ำ มันถึงได้อยากนักหนาเวลาถูกไอ้ธามกอดจูบ

 

แต่ไม่จริงเลย ผมตัดสินใจพลาด ตอนเอากับมัน ตัวมันเล็กนิดเดียว หน้าเหยเกและน้ำตาไหลแต่กลับบอกว่ารู้สึกดี ทำท่าทำทางเหมือนเก่งแต่กลับเป็นแค่ความอวดดีเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรมันก็ใจง่ายมักง่ายเกินไปไม่สมควรกับเพื่อนผมอยู่ดี ถ้าคบๆ กันไปแล้วไปแอบนอกใจไอ้ธาม เพื่อนผมน่ะจะเป็นฝ่ายเสียใจ

 

“กลับไปหาภีมซะปอ อย่าทรมานตัวเองเลย”

 

ผมมุ่นคิ้วตัวเองนอนฟังไอ้ธามว่า ปากมันพูดแต่ซดเหล้าลงคอไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าคิดถูกรึเปล่าที่ให้มันมานอนด้วยที่ห้อง ผมคงจะคิดถึงเมียทั้งวันเพราะไอ้ธามเอาแต่พูดถึงแบบนี้ “ร้องไห้แล้วได้อะไร ได้เจ็บปวดเหรอ?”

 

“ก็มึงเป็นคนบิ๊วกูนี่ไอ้สัด หุบปากไปเลย” ผมหันไปว่า

 

ผมไม่ได้สะอึกสะอื้นฟูมฟาย แค่อารมณ์มันหลั่งไหลออกมาจากดวงตาเงียบๆ เจ็บที่ใจแต่ตัวไม่เป็นอะไรเลย มันทำให้ผมจดจำว่าคนๆ เดียวเท่านั้นที่ทำให้ผมเจ็บปวดเพราะความรักได้

 

คนๆ เดียวเท่านั้นที่ทำให้ผมมีสุขเพราะรักได้

 

คือภีม

 

เสียงเคาะประตูดังตึงตังเรียกให้ทั้งผมกับไอ้ธามหันไปมอง มันดังโหวกเหวกราวกับคนอารมณ์ร้อน ถ้าจะให้เดามีไม่กี่คนหรอกที่กล้าทำอะไรแบบนี้ น่าจะเป็นคนกันเอง

 

ผมใช้มือเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆ รีบลุกเดินไปเปิดประตูทันทีกลัวประตูห้องจะพังเสียก่อน เห็นคนตรงหน้ายืนหน้านิ่วคิ้วขมวดรออยู่ พร้อมกับคนข้างๆ ห้องหลายห้องเปิดประตูมาดู เห็นแววตาของมันตรงนี้แล้วก็พากันปิดไป เอาละวะงานงอกแล้วไหมล่ะ!

 

“มึงร้องไห้เหรอ?”

 

ผมอึกอักมองหน้ามันที่นิ่งจ้องตา แม่งเอ๊ยชีวิตลูกผู้ชายมาร้องไห้คิดถึงเมีย โคตรบัดซบเลย “สมน้ำหน้า รู้แล้วล่ะสิว่ารักเป็นไง”

 

ผมเถียงแม่งไม่ออก ถามมันบ่ายเบี่ยง “มึงมาทำไม?”

 

“มึงให้กูเข้าไปก่อนไหม กูจะเข้าไปคุยกับไอ้สัดธาม”

 

“เดี๋ยว…”

 

มันผลักประตูเดินนำเข้าไปก่อนด้วยความอารมณ์ร้อน เดี๋ยวไปเจอะให้ธามในห้อง มีหวังห้องนอนผมได้พังพอดี

 

“อยู่กันพร้อมหน้าก็ดีกูจะได้เคลียร์ให้จบๆ”

 

มันว่าพลางเดินไปเรื่อยๆ  ผมปิดประตูแล้วเดินตามหลังมันไปยังห้องนอนตัวเอง เห็นไอ้พีมันกระชากแก้วเหล้าจากมือไอ้ธามไปวางไว้ที่อื่น

 

“เลิกแดกแล้วมาคุยกัน ถ้าเมามันจะคุยไม่รู้เรื่อง”

 

“สัด เอาของกูมา” ธามมันว่า

 

“มึงอยู่เฉยๆ ไอ้ธาม มาคุยกับกู”

 

“กูไม่คุยเหี้ยอะไรทั้งนั้น ทำไมไม่ไปหาเมียมึงล่ะ?” มันว่าประชดประชันแล้วหัวเราะหึหึกับสีหน้าไอ้พี

 

“อะไรวะ ทำไมมึงทำแบบนั้นกับต้นหา ทิ้งมันทำไม?” ผมเดินเข้าไปทรุดตัวนั่งตรงกันข้ามกับไอ้พี ข้างเดียวกันกับไอ้ธามมองสีหน้าตอนนี้ ไอ้พีมันโคตรคร่ำเครียด มองมายังไอ้ธามพยายามระงับอารมณ์ ใช่ มันอารมณ์ร้อนมากกว่าผมเยอะ

 

“มึงยังจะกล้าถามกูอีกนะว่าทำไมกูเลิกกับมัน เป็นมึงจะทนคบต่อไปไหมที่คนที่รักแม่งไปเอากับเพื่อนสนิทตัวเอง มันร่านมันอยากมากรึไง?”

 

“ไอ้ธาม!” ผมรีบเอื้อมมือไปดันตัวไอ้พีไว้ก่อนที่มันจะซัดถึงตัวไอ้ปากหมาข้างๆ

 

“ใจเย็นๆ ไอ้พี มึงเองก็คุยกับมันดีๆ ซิธาม”

 

“เหอะ คุยอะไร กูไม่มีอะไรจะคุยแม่ง กูเริ่มใหม่ของกูเรียบร้อยแล้ว กูมีแฟนใหม่แล้วด้วย”

 

ผมมองหน้ามันที่ยกยิ้มกับตัวเอง เอื้อมมือไปยกเหล้ามากระดกพรวดๆ ปากบอกไม่แคร์แต่แม่งพยายามกินเหล้าลืมเจ็บ

 

“มึงหมายความว่ายังไง?” ไอ้พีมันว่า มันขบกรามตัวเองกับการยั่วประสาทของไอ้ธามครั้งนี้อย่างไม่ตั้งใจ เป็นผมก็คงโมโหเหมือนกัน

 

“กูบอกว่ากูไม่เอามันแล้ว มึงอยากได้นักก็เอาไปสิ กูหาใหม่ดีๆ กว่ามันก็ได้”

 

“ไอ้เหี้ย! ต้นมันไม่ได้ผิดอะไร มันรักมึง กูเป็นคนบังคับมันเข้าใจไหม!”

 

ไอ้พีมันว่าเสียงดัง ผมเบิกตาตัวเองมองมันที่ดวงตาแดงก่ำเพราะความโกรธ ความอัดอั้นตันใจอยากจะคุยกับไอ้ธามดีๆ แต่ไอ้นี่ไม่ยอมฟัง

 

“แต่มันยอมไอ้ปอ มึงรู้เรื่องนี้ไหม!?”

 

ผมนิ่งมองไอ้พี มันที่ชะงักหันมามองเมื่อรู้ว่าไอ้ต้นไม่ได้ยอมนอนกับมันแค่คนเดียว แต่กลับไม่โวยวาย พีมันกลับใจเย็นลงหันไปมองหน้าไอ้ธาม ผมรู้ว่ามันเปลี่ยนไปมาก ไอ้พีมันไม่เคยต้องง้อใครขนาดนี้ ที่สำคัญ มันง้อให้ไอ้ธามเข้าใจไอ้ต้น ผมได้แต่มองสีหน้าของไอ้พี มันคงเจ็บใจที่ต้องทำแบบนี้

 

“กูยอมรับก็ได้ว่าต้นมันอาจจะไม่ได้มีกูที่ยอมคนเดียว แต่มึง ไอ้ธาม ไอ้ปอ ปากพวกมึงน่ะว่ากูเหี้ย ว่ากูสารเลว พวกมึงแม่งไม่ได้ดีไปกว่ากูเลย!”

 

มันยืนขึ้นมองพวกผมสองคนไม่ละ “มึงนอนกับเมียมันทั้งๆ ที่ยังมีเมียของตัวเอง”

 

ผมนิ่งเงียบเมื่อมันชี้หน้า ยกมือขึ้นกุมหน้าตัวเอง ใช่ ตอนนั้นกูโคตรเลวโคตรเหี้ย แต่กูจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว กูสาบาน

 

กูมีของกูแล้วและไม่คิดว่านกเขากูจะไปขันกับใครอีก

 

“ส่วนมึง มึงทำเป็นพูดดีว่ามีแต่ไอ้ต้น ทำเป็นรักมันเทิดทูนมัน พอมันติดความสกปรกนิดหน่อยก็เขี่ยมันทิ้ง นี่เหรอที่มึงบอกว่ารักมันนักหนา!?”

 

“มึงหุบปากไปเลย มึงไม่เข้าใจกูหรอก”

 

“เออ กูโคตรไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมึงไม่แตะต้องตัวมัน ทำให้มันโหยมันอยากทำไม ที่มันต้องเป็นแบบนั้นเพราะมึงไม่ใช่รึไง!”

 

“เพราะกูให้เกียตริมัน กูรักมัน…”

 

“แต่พอมันมีรอยเปื้อนมึงก็กลับผลักมันออกจากชีวิตมึงแล้วก็ทุบตีมันงั้นเหรอ เหอะ! ไอ้คนดี”

 

ไอ้พีมันคงโกรธมากถึงกับตัวสั่น ขบกรามแน่น ผมไม่คิดว่าคนอารมณ์ร้อนๆ แบบมันจะรักใครได้ มันรู้จักความรักก่อนผม เจ็บปวดก่อนผมสินะ

 

ไอ้ธามมันส่ายหน้า ทำเหมือนไม่มั่นใจ “กูไม่อยากทำร้ายมัน กูแค่…”

 

“มึงคิดว่าตัวเองดีเลิศเลอสินะถึงทำแบบนั้น ใช่…แต่มันคงจะดีเกินไปจนต้นมันต้องเจ็บไง แล้วกูบอกเลยว่ากูไม่ยอมมึงอีกต่อไปแล้วธาม ถึงกูจะเลวขนาดไหนแต่กูก็รักมันแคร์มัน มึงเลิกกับมันแล้วใช่ไหม มีใหม่แล้วใช่ไหม ได้…ต่อไปนี้กูก็เป็นผัวต้นอย่างเต็มตัวแล้วสินะ”

 

“อ๋อ ที่มึงมานี่จะมาขอให้กูยกให้มันสินะ เหอะ!”

 

“เออ! ถือว่ากูมาขอก็ได้ถ้ามึงอยากคิดแบบนั้น ถ้างั้น ตอนนี้กูเป็นผัวของมันเรียบร้อย แล้วคราวนี้มึงก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวของเมียกูอีกต่อไป ห้ามมาแตะต้องเมียกูแม้แต่ปลายเล็บ จำไว้!”

 

มันยกนิ้วชี้ชี้หน้าไอ้ธามที่ชะงักกับสิ่งที่ได้ยิน ไอ้พีมันพูดถูกทั้งหมด

 

ถ้ารักกันจริง เรื่องแค่นั้นทำไมจะลืมไม่ได้

 

เสียงประตูปิดดังปังพร้อมกับไอ้ธามที่ยังนั่งนิ่งไม่ไหวติงในประโยคสุดท้าย ผมยกมือไปแตะบ่ามันเป็นเชิงปลอบทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังถูกมันทั้งด่าทั้งปลอบฝ่ายผมอยู่เลย

 

นี่ผมกับมันเป็นอะไรไปวะ ทำไมช่วงนี้แม่ง

 

โคตรเจ็บตรงหัวใจ

 

“อยากได้มันนักก็เอาไป กูจะควงคนใหม่” ไอ้ธามมันว่าเสียงเบา

 

ผมส่ายหน้าไม่เห็นด้วย ทั้งๆ ที่พยายามบอกกับผมว่าอย่าปล่อยให้เวลาผ่านไป แต่มันเองที่ยังทำไม่ได้ เป็นคนที่เก่งแต่ปากจริงๆ

 


ต่อพาทสองน้า

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ 16

Part 2



มือหนาๆ ของผมยกกุมหน้าตัวเองเดินลากขาไร้เรี่ยวแรงมาในห้องนอน สภาพไม่ต่างจากรังหนูเท่าไหร่ ใจผมหวิวเมื่อนึกถึงร่างเล็กๆ ที่เดินเก็บของในห้องพร้อมกับเสียงบ่นในลำคอด้วยเสียงงอนๆ นั้น ดวงตาเล็กมองมาอย่างจิกกัด มือคู่เล็กๆ ที่ทั้งกอดทั้งทุบตีเตือนสติ

 

ผมมองที่มือตัวเองข้างนี้ มันเคยเปื้อนเลือดและถูกกุมด้วยมือเล็กๆ นั้นอย่างอบอุ่น

 

ผมคิดถึงภีม

 

ใจผมมันโหยหาแต่เมียคนนี้คนเดียว

 

“พี่…รักภีม”

 

คิดถึงเมียจะแย่

 

มือผมกอดหมอนอันเดิมแน่นที่มันเคยหนุน กลิ่นหอมของเส้นผมนุ่มๆ มันเริ่มจะจางหายไปแล้ว ปากผมสั่นระริกรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นเข้าดวงตา ผมเกลียดที่มันทำให้ผมกลายเป็นคนอ่อนแอ ผมเกลียดตัวเองเมื่อนึกถึงเวลาตอนที่มีความสุขร่วมกับมันในห้องนี้ คิดแล้วเอาแต่จะร้องไห้

 

เสียงมันทะเลาะกับผมดังก้องหู ตอนมันร้องเพลงสำเนียงไม่ได้เรื่องเวลาอาบน้ำ เสียงอู้อี้ในหมอนตอนที่ผมปลุก

 

ผมอยากกลับไปทำแบบเดิมอีก กับมันคนเดียว

 

ผมอยากใช้ช่วงเวลาที่ดีแบบนี้มากขึ้นไปอีก

 

 

แต่ผมทำไม่ได้

 

 

ก็ผมมันเลว มันคือสิ่งเดียวที่ค้ำคอ แม่งละอายใจตอนที่มองหน้ามัน ไม่กล้ามองมันด้วยสีหน้าปกติ ถึงจะรู้ว่าตัวเองไม่เหมือนเดิม ผมเคยพยายามปัดความรู้สึกนี้ทิ้งหลายต่อหลายครั้ง

 

มานอนๆ คิดอยู่คนเดียวแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ผมเองก็รู้ว่ามันใช่และอยากสร้างความสัมพันธ์ ติดอยู่ที่ตรงผมเป็นคนเลวในสายตาคนอื่น ผมคบใครนานๆ ไม่ได้ มันเป็นแบบนี้มาตลอด ผมไม่รู้ว่าถ้าหยุดแล้วมันเกิดอะไรขึ้น เสียใจไหม แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว ขืนยังทำต่อไปก็เจ็บ ไม่ต่างจากหยุดเท่าไร เพราะคนๆ นั้นคือภีม

 

คนที่ผมสามารถแสดงความรักให้ได้ด้วยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ในสายตาผมมันคือสิ่งที่น่ารักน่าดูแลมากที่สุด มารู้ตัวอีกที ผมก็กลายเป็นคนที่คลั่งมันไปแล้ว

 

ผมไม่เคยคิดจะกอดจะหอมแฟนคนไหนได้ทั้งวันแบบนั้น ไม่เคยคิดจะมองใบหน้าและสังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้แบบนั้น ผมน่าจะรู้ตัวเองได้เร็วกว่านี้ ผมจะได้รักษามันไว้ให้ดีที่สุด

 

ผมจะบ้า ผมจะคลั่งตาย คิดถึงเมีย อยากกอดเมีย อยากจูบหัวเหม่งๆ ของมัน อยากฟังเสียงมันบ่น อยากนอนหนุนตัก

 

และผมคงจะคลั่งมากขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าผมไม่ทำตามในสิ่งที่ไอ้ธามมันบอก

 

ผมควรกลับไปหามัน ไปขอโทษมัน

 

ร่างของผมลุกขึ้นนั่ง หลังมือเช็ดความรู้สึกของลูกผู้ชายที่ท่วมท้นออกมาจากอกแล้วมองไปยังตุ๊กตากระต่ายที่วางบนหัวเตียง ผมนึกถึงมันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นอยู่ในร้าน

 

หน้าตามันเหมือนกับเมียผมเลย

 

ตาเล็กๆ ขนตางอนๆ ฟันภีมมันเป็นฟันกระต่ายรับกับปากเจ้าเนื้อและแก้มยุ้ยๆ ไม่เข้ากับโครงหน้าผอม หน้ามันเหมือนกันเลย มองแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้

 

รอพี่ก่อนนะภีม พี่จะไปบอกว่าพี่รักภีม

 

ดวงตาผมมองตุ๊กตาต่อหน้าไม่ละ ก่อนจะยกยิ้มราวกับเห็นภีมมันยิ้มตอบรับ ผมหวังว่ามันจะทำแบบนี้กับผมเหมือนเจ้าตุ๊กตาตัวนี้นะ

 

กลับมารักกันอีกนะภีม

 

 

แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่กล้าที่จะเดินเข้าหามันอยู่ดี ได้แต่แอบมองมันจากตรงนี้ ผมกลัวว่ามันจะรู้ว่าผมมองแล้วหลบหน้าหายไปอีก แอบมองตอนที่มันไม่รู้ตัวอย่างนี้ดีที่สุด

 

กระทั่งไอ้ธามมันเอาจริงอย่างที่ตัวเองบอก ผมไม่ได้ไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวมันมากนักเพราะมัวแต่คิดเรื่องเมียตัวเอง มันคบกับคนที่ผมติดต่อให้และเลื่อนขั้นมาเป็นแฟนกันแล้ว วันนี้มันพากันมานั่งร่วมกลุ่มแทนไอ้ต้นซึ่งตอนนี้ผมไม่รู้ว่าคิดยังไง ยังเจ็บอยู่ไหมหรือตกลงยอมคบกับไอ้พีแล้วหรือยัง

 

ผมกับพวกเพื่อนๆ พากันเดินลงมากินข้าว เสียงพวกมันหัวเราะแซวใครๆ ไปทั่ว เจอคนน่ารักหน่อยก็แซวไปพอหอมปากหอมคอชวนให้ผมหัวเราะได้บ้าง ไอ้ธามกอดคอแฟนตัวเองยิ้มหน้าระรื่นเดินอี๋อ๋อยั่วโมโหผมตอนนี้ที่ไม่เข้าใจมันเลย

 

ก็ผมแม่งไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกไง

 

“พี่ธาม!”

 

ผมชะงักเท้า เมื่อเห็นไอ้คนตัวเล็กยืนต่อหน้ากลุ่มเรา ดวงตามันโกรธแค้นและกำหมัดแน่น พองแก้มป่องมองไปยังคู่กรณีที่ยังส่งยิ้มหวานให้กัน ไอ้ธามมันละไปมองคนตรงหน้าก่อนจะหุบรอยยิ้มตัวเองลงเมื่อเห็นว่าเป็นเมียเก่า

 

“อะไรมึง?” มันว่า ผมกับเพื่อนๆ นิ่งเมื่อเห็นว่าต้นมันเริ่มตาแดง

 

“พี่ทำแบบนี้ทำไมวะ?”

 

“กูทำอะไร?”

 

ไอ้ธามเลิกคิ้วมองคนตรงหน้า มือกอดคอแฟนใหม่กระชับขึ้น แววตาไอ้ต้นที่ละไปมองนั้นสั่นไหว ผมเองก็เจ็บแทนมันเหมือนกัน รู้ดีว่าถูกทำแบบนี้ใส่มันไม่น่าพิสมัยจริงๆ โคตรเจ็บปวด

 

“ที่ผ่านมาพี่แม่งไม่เคยรักต้นจริงๆ ใช่ไหม?” มันว่า ผมยกมือไปแตะบ่ามัน

 

“ใจเย็นๆ ต้น ค่อยๆ คุย”

 

“ไม่!” มันสะบัดมือผมออกหันมาจ้องตา “ก็เพราะพี่ไม่ใช่รึไง มันเกลียดผมสมใจพี่แล้ว ดีไหมล่ะ!?”

ผมโคตรเสียความรู้สึกที่มันว่าแบบนี้เลย

 

“มึงหุบปากไปต้น ที่กูทำแบบนี้เพราะมึงทำตัวมึงเอง ออกไปจากชีวิตกูซะแล้วอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก ไปหาผัวมึงโน่นมันรอปลอบใจมึงอยู่”

 

ผมไม่เข้าใจมันจริงๆ จะทำไอ้ต้นเจ็บทำไม เพราะทิฐิงั้นเหรอ

 

แบบผมกับภีมรึเปล่า รู้ว่าผิดแต่ไม่อยากเข้าไปขอโทษ เหมือนตอนนี้ยืนดูตัวเองทะเลาะกับเมีย โคตรสะท้อนใจผม แทงใจดำผมแบบเต็มๆ

 

“พี่ธาม ต้นไม่ได้รักพี่พี…” มันว่าเสียงเบาพลางสะอื้น เดินมาจะแตะตัวไอ้ธาม

 

“ออกไป มึงหัดเกรงใจแฟนใหม่กูบ้าง”

 

“แต่ต้นรักพี่ธามคนเดียวจริงๆ นะ ต้นขอโทษ ยอมแล้ว ต้นยอมรับผิดแล้วนะ”

 

ใจผมสั่นมองคนตัวเล็กที่ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นท่ามกลางสายตาคนทั้งโรงเรียนที่มองมา ไอ้ธามมันผลักตัวเมียเก่าออกจากตัวไม่ให้เข้ามาแตะต้อง

 

“ออกไป อย่ามาแตะกูต้น กูกับมึงไม่เหมือนเดิมแล้วมึงไม่เห็นรึไง?”

 

“อย่าประชดต้นแบบนี้เลย”

 

“ใครประชดมึงน่ะหา กูจริงจังกับน้องเขา กูกับน้องเขาน่ะมีอะไรกันแล้ว แล้วกูก็จะรับผิดชอบมันด้วย”

 

ผมนิ่งมองมันที่ว่าเสียงจริงจัง เรียกเสียงร้องไห้จากไอ้ต้นได้ไม่ยาก กำปั้นเล็ก           ๆ ทุบตัวไอ้ธามสุดแรงร้องไห้คร่ำครวญเหมือนคนบ้า เป็นภาพที่ชวนหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก ครั้งนี้เป็นครั้งหนึ่งที่ผมไม่เห็นด้วยกับการกระทำของไอ้ธาม

 

คงเหมือนครั้งที่แล้วที่มันไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผม แล้วบอกให้ผมไปง้อภีมซะ

 

ผมว่า ความรักมันใช้แค่อารมณ์อย่างเดียวไม่ได้จริงๆ

 

มันต้องมีเหตุผลประกอบไปด้วยเสมอ

 

ผมนี่เพิ่งมาคิดอะไรได้ก็เมื่อสายไปนะ

 

หึ…

 

โคตรน่าสมเพช

 

“เอาไอ้เหี้ยนี่ออกไปซะ น่ารำคาญว่ะ”

 

“มึงก็เหี้ยเหมือนกันนั้นแหละ! อยู่กับกูคบกับกูไม่เคยคิดจะแตะต้อง แต่คบกับมันมึงทำทุกอย่าง มันมีดีอะไรนักหนาหา! เก่งเหรอ มึงบอกมาสิว่าอยากได้อะไรพี่ธาม กูยอมทำให้มึงหมดไม่ต่างจากมันหรอก แต่มึงแม่งไม่บอกกู ไม่เชื่อมั่นในตัวกู ไอ้เหี้ย!”

 

ผมมองร่างเล็กๆ ของไอ้ต้น มันคงจะเอาจริง เสียงมันน่าสงสารพยายามเข้าไปหาคนที่ไอ้ธามมันกอดไว้ ปกป้องไว้ แต่ภายใต้อ้อมกอดไอ้ธามผมรู้ดีมันหมายความว่ายังไง

 

“บอกมาสิว่ามันดียังไงมึงถึงทิ้งกู”

 

“มึงพูดดีๆ ใครทิ้งมึง มึงบอกเลิกกูเองนะ กูก็เลิกแล้วไงมึงจะเอาอะไรกับกูอีกหา อย่ามายุ่งกับเมียกู!”

 

ต้นมันชะงักกับคำนี้ ยืนตัวสั่นเทา ผมได้แต่เดินไปจับบ่าเล็กๆ ที่สั่นไหวด้วยแรงสะอื้นข้องมัน

 

“เมีย….”

 

ดวงตาไอ้ธามจ้องมันที่ก้มหน้าร้องไห้กับคำนี้ มันเองก็เจ็บผมรู้ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะทำแบบนี้ทำไม “เมีย…เหอะๆ เมียมึง ใช่สิ…มึงมีเมียแล้วนี่นะ คนอย่างกูที่ไม่มีอะไรลึกซึ้งกับมึงมันจะไปสำคัญอะไร”

 

“ต้น ไอ้ธามมันแค่…” ผมกล่าวอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของมัน ผมไม่คิดว่าสิ่งที่ผมทำจะทำให้มันสองคนทรมานแบบนี้ ไอ้ธามถึงมันจะทำเป็นไม่สนใจ กลับบ้านไปมันก็กินเหล้าให้ลืมเจ็บจนเมาสลบไปทุกวัน

 

“มึงรู้แบบนั้นก็ดีแล้ว ห้ามมาแตะต้องเมียกูอีก มึงไม่มีสิทธิ์ในตัวมัน ถ้ากูรู้ว่ามึงตามไปรังควานมันอีก มึงเจ็บแน่ ผัวมึงก็ช่วยอะไรไม่ได้”

 

ผมมองคนที่อยู่ในอ้อมกอดไอ้ธาม ไอ้นี่ก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ มันมองไอ้ต้นด้วยแววหวาดกลัว

 

“ไปกันเถอะโอ๊ค กลัวมากใช่ไหม?”

 

“ตะ แต่ว่า…”

 

มันมองมายังร่างไอ้ต้น แววตาสงสาร ผมรู้จักมันดีเพราะมันเป็นคนที่อ่อนไหวง่าย “ไม่ต้องไปสนใจไอ้นี่หรอก ก็แค่หมาหวงก้าง เมื่อกี้บอกพี่ว่าหิวใช่ไหม ไปกินข้าวกันเถอะนะครับ”

 

ไอ้ต้นมันหันมากอดผมแน่น เมื่อร่างสูงๆ ของไอ้ธามพาน้องชายคนนั้นเดินจากไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่ยังมองกลับมายังผมไม่ละ ไอ้ผมก็พยักหน้าให้พวกมันเดินนำไปก่อนเพราะยังมีเรื่องที่จะต้องจัดการอีก มือผมยกแตะหัวไอ้ต้นเบาๆ เป็นการปลอบ

 

แปลกใจตัวเองเหมือนกัน นี่มันเป็นการปลอบใจคนอื่นเป็นครั้งแรกของผม

 

ไม่รู้เหมือนกันว่าคนอื่นคิดยังไง แต่ผมแค่อยากให้ต้นมันหายร้องไห้ อยากให้มันเข้าใจเพื่อนผมในทางที่ดีกว่านี้

 

“ต้น…”

 

“ไม่เหลือแล้ว ความรักของมันไม่เหลือให้ต้นแล้วพี่ปอ!” มันทุบอกผมรุนแรง

 

อืม…ถ้าพอจะทำให้มันรู้สึกสะใจและดีขึ้นมาบ้าง

 

ผมยอมว่ะ…

 

“เพราะพี่นั่นแหละ เพราะพี่คนเดียว!”

 

ผมโคตรเจ็บกับคำนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยสนใจอะไรกับคำของใครเลย

 

“พี่…”

 

ผมพูดไม่ออกจริงๆ

 

ผมส่ายหน้าตัวเองพลางจับแขนมันดึงมานั่งคุยกันดีๆ ร่างมันเดินสาวเท้ามาพร้อมกับเสียงสะอื้นเล็กๆ ก่อนจะตามมานั่งข้างๆ ตัวพลางยกมือเช็ดน้ำตา

 

มันยกมือกุมหน้าตัวเอง คงกำลังพยายามให้หยุดร้องไห้ แต่ยิ่งบังคับตัวเองก็ยิ่งร้อง ทำให้ตัวเองเข้มแข็งเท่าไรก็ยิ่งอ่อนแอ ผมเคยพยายามแล้วแต่มันยากเหลือเกิน

 

“พี่เคยคิดนะว่าต้นไม่เหมาะกับมันเลย ก็เลยบอกให้มันเลิกกับเรา” ผมว่าฝ่าความเงียบ มันนิ่งฟังผมไม่โต้เถียงเพราะคงรู้อยู่แล้ว “แต่วันนี้ เรื่องมันยุ่งเหยิงมากเกินไปจนพี่อยากจะแก้ให้มันดีกว่าเดิม พี่อยากให้ต้นเข้าใจนะ เข้าใจไอ้ธามใหม่”

 

“ไม่เข้าใจ ต้นไม่เข้าใจ” มันว่า

 

“มันเองก็เจ็บนะ”

 

“เจ็บเหี้ยอะไร มันสะใจที่เอาคืนได้”

 

ต้นมันเหมือนกระจกสะท้อนผมจริงๆ ผมหันไปมองหน้าแดงๆ ของมัน “ที่มันไม่ยอมแตะต้องต้นมากไปกว่านี้ พี่เองก็เพิ่งจะรู้จากมันเหมือนกัน พี่ไม่เคยรู้เลยว่ามันกับต้นยังไม่มีอะไรกัน ก็…เห็นสวีทกันขนาดนั้น”

 

ผมว่าเสียเรียบ “ต้นยอมรับว่าต้นก็ผิดที่ยอมพี่ปอ เพราะตอนนั้นพี่ธามมันทำให้ต้นไม่เป็นตัวเอง ทำให้ต้นต้องการมันแต่ไม่ยอมสนอง พี่ปอทำให้เซ็กส์ครั้งแรกของต้นไม่น่ากลัว แต่ต้นก็คิดได้ว่ามันผิด ต้นถึงร้องไห้”

 

“อวดดีจังนะตอนนั้น”

 

ผมหมายถึงเราทั้งสองคนนั่นแหละ แต่ตอนนี้หมดสภาพกันทั้งคู่

 

“อืม โคตรอวดดี โคตรอวดเก่งเลย” มันตอบมาเสียงเรียบ

 

“แต่…พี่ขอโทษนะ ดีนะที่ไม่ทำไปมากกว่านั้น ดีนะที่ภีมมันเข้ามาเสียก่อน”

 

ต้นมันพยักหน้ารับ มันรับคำขอโทษแล้วสินะ

 

รู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด ผมยกยิ้มกับตัวเองเมื่อนึกถึงหน้าของใครสักคนที่เคยสั่งสอนผม เป็นแรงบันดาลใจให้ผมยอมที่จะกล่าวคำว่าขอโทษออกมาเมื่อตัวเองผิด ผมโคตรคิดถึงมันเลย

 

“นี่เราพูดเรื่องนอนด้วยกันได้หน้าด้านดีนะ” มันว่าพลางเงยหน้ามามอง มือยกเช็ดน้ำตาที่ไหล

 

“เรื่องของไอ้ธาม พี่อยากให้เรารู้นะว่ามันปกป้องต้นน่ะ”

 

ทั้งๆ ที่มันขอร้องว่าห้ามบอกทั้งไอ้ต้นและคนอื่น ถึงเรื่องรสนิยมความสุขบนเตียงของมัน แต่ผมทนต่อไปไม่ไหว ผมไม่เคยคิดว่าไอ้ธามมันเป็นคนชอบอะไรแบบนี้

 

“ไอ้ธามมัน….ชอบ มีเซ็กส์แบบรุนแรงน่ะ”

 

ผมว่าเสียงเบาพร้อมกับไอ้ต้นที่มันหันมาเบิกตาตัวเอง

 

“ซะ ซาดิสม์เหรอ!”

 

ผมยกมือปิดปากมันที่ร้องตะโกนพร้อมกับจ้องตา ถึงจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็เหอะแต่ผมอุตส่าห์พูดแบบอ้อมค้อมที่สุดแล้วนะ ถึงความชอบส่วนตัวเรื่องบนเตียงของมัน ผมเพิ่งรู้ตอนมันเปิดใจคุยกันว่าที่ไม่ยอมนอนกับไอ้ต้นเพราะมันกลัวว่าไอ้ต้นจะกลัวมัน จะเกลียดมัน

 

สิ่งเดียวที่ดีที่สุดคือไม่แตะต้องมันเลย

 

ไอ้เด็กที่ไอ้ธามนอนด้วยมันคงอึดไม่เบา ตัวก็เล็กนิดเดียว ภายนอกไอ้ธามดูสุขุมใจดี ร่าเริงและอ่อนโยนยังไง แต่บนเตียงมันหยาบกระด้างและรุนแรงป่าเถื่อน มันคงคิดว่าต้นจะรับตัวตนจริงๆ ของมันไม่ได้

 

ตอนผมทำกับภีม ผมเห็นแล้วว่าสีหน้าตอนโดนทำน่ะบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บนั่นมันไม่น่าทำให้ผมสุขสมเลย ถึงมันจะรู้สึกสะใจก็เถอะ แต่มันเป็นเพราะตอนนั้นผมโมโห ถ้าต้องทำแล้วมีความสุขไปด้วย ผมคิดภาพไอ้ธามไม่ออกเลย

 

“เพราะงั้นมันถึงไม่ยอมแตะต้องต้นไง”

 

ต้นมันเงยมามองตา แล้วก็ยกมือกุมหน้าตัวเองอีกรอบ “ไอ้พี่ธาม ฮึก!”

 

“มันคงรักต้นมาก ถึงจะอยากนอนด้วยยังไงแต่ก็ไม่อยากทำให้ต้นเจ็บ”

 

ต้นมันยกมือกุมหน้าตัวเองร้องไห้ หันมากอดตัวผมแน่น

 

“พี่ธามมันบ้า ต้นรักมัน ทำไมมันไม่เชื่อใจต้น ถ้ามันรักต้นจริงทำไมไม่บอกต้นมาตรงๆ”

 

ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะก็เพิ่งจะได้รู้

 

“ต้นยอมทุกอย่างเพื่อมัน เจ็บขนาดไหนก็ยอม ฮึก!”

 

มันต้องแบบนี้สิวะไอ้ต้น

 

ผมยกมือกอดมัน ลูบหัวมันปลอบ แต่นับว่าบรรลุในสิ่งที่ต้องการจะสื่อ ที่เหลือคือกลับไปเลี้ยกล่อมให้ไอ้ธามเข้าใจในตัวของไอ้ต้น ทั้งที่ลึกๆ ก็สงสารคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างไอ้ตัวเล็กคนนั้น แต่ผมอยากจัดการให้มันเด็ดขาด ให้ไอ้ธามมันลองตัดสินจากใจตัวเองอีกทีว่าต้องการใครกันแน่

 

ทั้งๆ ที่เรื่องของตัวเองยังทำไม่ได้แต่ดันไปเสือกเรื่องของชาวบ้าน

 

น่าสมเพชว่ะ

 

 

 

 

มาอัพให้แล้วนะคะ//ปาดน้ำตา :impress3:

มีใครสงสารพี่ปอเหมือนเค้ามั้ยอ่า สงสารต้นด้วย สงสารพีด้วย สงสารทุกนางเลย แต่ภีมเริ่มจะดีขึ้นแล้วเพราะปอมันกำลังรู้สึกเจ็บไง ตอนหน้านางคงได้กลับมาลั้นลาสบายใจละแหละเพราะเห็นสามีเจ็บป๊วดดดดด! ส่วนพี่ธามก็นะ เท่อ่า อิอิ เค้าชอบแนวนี้อ่าคนปากไม่ตรงกับใจ ถ้าตรงกับใจคงเขียนจบไปนานละ 5555
 :katai2-1: :katai2-1:
พี่พีเป็นสามีหนูต้นเต็มตัวแล้วน้ารู้ย๊างงงงง ไรต์ดูจะกระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษ ชอบฉากสามีทั้งสองของนางฟาดฟันกันมาก คิดถึงพลอตแล้วฟินเองค่ะ ยังไงรอติดตามเรื่องพี่ธามน้องต้นพี่พีนะคะ

อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจเค้าน้า ไปละจ้า
 :bye2: :bye2:
 

 

 

 

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
 :L1: 

:pig4: :pig4: :pig4:

เข้ามารออ่านตอนใหม่ทุกวันเลยค่ะ  น้ำตาซึมไปกับน้องๆ

พีนี่เข้าใจอะไรมากกว่าที่คิดนะ  อยากอ่าน NC ของธามกับต้นไวๆ  สงสัยงานนี้ธามตายคาอกต้นแน่  ยอมขนาดนี้

ว่าแต่น้องต้นคางจะไม่เหลึองเอาหรือ? ไหนจะ 3P แถมมาเจอเอสตัวพ่อแบบธาม  แม่เอาใจช่วยนะคะ น้องต้น

ปอกับภึม  รอเมนท์ความหน้าแล้วกัน จะดูว่าปอจะทำยังไงต่อไป   เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย เจ็บแล้วไม่แก้ไขก็ยิ่ง

กว่าโคตรของควายแล้วปอเอ๊ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2014 00:00:44 โดย Kano Jou »

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ไม่สงสารไอ่ปอสักกะติ๊ด

สมน้ำหน้าปนสมเพชมากกว่า

ภีมอย่าใจอ่อนง่ายๆนะ

เรื่องต้นธามพี โนคอมเมนท์ค่าา

จะสงสารก็เออ...มันก็สมควร

รออ่านตอนหน้าละกัน จุ๊บๆ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :hao3:   เวลาอยู่บนเตียงนี่ พีกับธามคงตีกัน ธามก็ได้อารมณ์พอดี เห็นมั้ย เหมาะเจาะมาก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โคตรๆๆๆสะใจเลย เจ็บลึกเจ็บนานนะเพื่อความสะใจของคนอ่าน ทำกับปอและคนอื่นไว้มากจงสำนึกผิดซะ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ตามอ่านวันเดียวรวดเลยค่ะ!!!
กลัวอย่างเดียว จบแบดเอน
ขอร้องงงง อย่าทำอย่างนั้นเลยนะนะะะะะ
รอตอนต่อไปนะคะ หวังว่าทั้งสองคนจะเข้าใจกันเร็วๆ
เลิกปากแข็งไง!!!

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
อึดอัดแทน

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ใครจะว่ามั้ย เรายังสมน้ำหน้าปออยู่ ตอนทำแล้วไม่คิด
พอเสียเค้าไปแล้วเพิ่งจะรู้สึก เจ็บแล้วกรุณาจำด้วย
รอซ้ำเติมธามอีกคน ท่าเยอะเจงๆ  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 17

 

ทำไมช่วงนี้อะไรก็หม่นๆ นักนะ

 

ผมทิ้งก้นลงนั่งในกลุ่มเมื่อเห็นเห็นว่าพวกมันสองคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว คนหนึ่งก็ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือไม่สนใจใคร อีกคนก็เอาแต่เหม่อลอยไปไกลถึงดาวอังคาร ทำเป็นพระเอกเอ็มวีเพลงเศร้าอยู่นั่นแหละ ต้องแบบผมนี่ เลิกกับแฟนไม่เห็นจะเจ็บอะไรเลยสักนิด

 

จริงเหรอ

 

ช่างมันเหอะ แต่ว่ามันก็ดีขึ้นแล้วแหละ คงเป็นเพราะใจผมชื้นขึ้นมาละมั้งเมื่อเห็นว่าปอมันกำลังรู้สึกผิด ความเจ็บปวดที่เคยมีมันเริ่มมลายหายไปทีละนิด จนเรียกได้ว่าจะหายดีแล้ว มีแค่บางอารมณ์ที่อยู่คนเดียวถึงได้คิดถึงมันบ้าง ก็มันผ่านมาหลายวันแล้วนี่นะ ไม่ได้จะเป็นจะตายเหมือนเมื่อก่อน

 

สมน้ำหน้า ยิ่งคิดแล้วใจที่ว่าเสียก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเห็นปอมันไม่เป็นตัวเองเท่าไรผมยิ่งสะใจ

 

มึงเจอกูแน่ปอ

 

“ต้น…” ผมเรียกไอ้ตัวดีที่นั่งหน้าละห้อยข้างๆ มันละสายตามามองผม

 

“อะไร?”

 

มันเพิ่งจะโดนพี่ธามตัดขาด แต่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันอาลัยอาวรณ์นัก เหมือนผมตอนแรกๆ เลย ทิ้งเหตุผลทุกอย่างนอนร้องไห้อย่างเดียว แค่เสียตูดให้มันแล้วจะอาลัยอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ยิ่งกลับไปมองตัวเองแต่ก่อนแล้วผมได้แต่นึกด่า โคตรจะบ้า

 

นี่กูเป็นสาวอินโนเซ้นโดนผัวฟันแล้วทิ้งเหรอ เป็นผู้ชายยังไงก็ไม่เสียหายอยู่แล้ว ยังไปร้องไห้ฟูมฟายอีก ไม่สมเป็นไอ้ภีมเลยสิน่า

 

ก็ใช่สิ ทำใจได้แล้วนี่ ถ้าไอ้ปอมันไม่ทำหน้าหงอเดินมาหาวันนั้นป่านนี้ก็ยังคงร้องไห้อยู่นั่นแหละ

 

“กูถามจริงๆ นะต้น มึงไม่คิดจะเปิดใจให้พี่พีบ้างเลยงั้นเหรอ?”

 

มันก็ดีของมันนะ มันน่ะรักไอ้ต้นจะตาย ไอ้ต้นมันละดวงตาเศร้าสร้อยมามองผมพร้อมกับส่ายหน้า “ถ้ามันยังซื่อสัตย์แต่กับกู กูคงมีอ่อนไหวให้มันอยู่หรอก แต่ตอนนี้ยังทำไมได้ว่ะ”

 

“กูไม่อยากเชียร์มึงกับพี่ธามต่อแล้วว่ะ พี่เขาทำกับมึงเกินไปจริงๆ ไหนบอกว่ารักมึงทำไมทำกันได้”

 

“ใจจริงกูก็คิดแบบนั้น แต่…” ต้นมันลากเสียงเหมือนอึดอัดที่จะเล่าอีกรอบ

 

“ช่างมันเถอะกูไม่พูดถึงอีกแล้วก็ได้ มึงคงมีเหตุผลของมึง”

 

“ก็เหมือนมึงมีเหตุผลที่ยังรักพี่ปอนั่นแหละน่า”

 

อารมณ์ผมจุกคอ

 

“คะ คือ…”

 

“ความจริงใช่ไหมล่ะ?”

 

มันว่า ไอ้กรีนละจากหนังสือมามองหน้าผมนิดๆ ก่อนจะขมวดคิ้วตัวเองแน่นละไปอ่านหนังสือในมือตัวเองต่อ มันทำท่าเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่างเลยแฮะ

 

“กูว่าเราพูดเสียงดังไป ไอ้กรีนมันจะอ่านหนังสือ” ผมว่าเสียงเบา

 

“เราก็ควรจะอ่านบ้างนะจะสอบแล้วเนี่ย อย่ามาเป็นภาระให้ไอ้กรีนมาติวบ่อยๆ เหอะ”

 

“ก็ดีแล้วนี่หว่าไอ้กรีนมันชอบสอนอยู่แล้ว เนอะกรีนเนอะ”

 

ผมยกยิ้มกับมันที่ละมามองแล้วยิ้มนิดๆ ตอบ เป็นอะไรของมันวะ เวลามันทำหน้าเงียบๆ ขรึมๆ นี่ก็เท่ไม่หยอก แต่ผิดกับหน้าตาน่ารักๆ อย่างมันซะจริง

 

มันน่ะตัวสูงกว่าผมนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ ถึงจะหน้าตาน่ารักแต่แมนอย่าบอกใคร หรือมันไม่ชอบให้ผมพูดเรื่องรักๆ ใครๆ ต่อหน้ามันกันวะ รังเกียจเหรอ

 

เออ ต่อไปจะระวังมากขึ้นวะ

 

“อืม…” ผมก้มหน้าเคาะโต๊ะคิด วันนี้ขี้เกียจอ่านหนังสือซะจริง “กูขอนอนนะ”

 

ผมว่าแล้วยิ้มให้ไอ้สองตัวต่อหน้า ไอ้ต้นมันรีบว่า “มึงหยุดคิดเลยไอ้ภีม นี่นัดเพื่อนมาติวไม่ใช่รึไง มึงอะเป็นตัวตั้งตัวตีแล้วจะมานอนหลับทับสิทธิ์ได้ไง ไอ้กรีนมันไม่มีเวลาสอนมึงทั้งวันนะเว้ย!”

 

“งั้นคืนนี้ก็มาบ้านกูสิ กูจะไม่นอนหลับก่อนใคร สัญญาเลย”

 

ผมว่าพลางก้มลงฟุบหน้าบนโต๊ะ เอียงหน้าไปมองพวกมันด้วย

 

“มึงจะเชื่อมันไหมกรีนว่ามันจะไม่หลับก่อนใคร?” ไอ้ต้นว่า พักนี้พวกมันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

 

“ภีมน่ะขี้เซาจะตาย ทำไมนอนได้ทั้งวันก็ไม่รู้”

 

เห็นไหม รุมกูจัง

 

“โหยก็มันง่วงนี่ อืม…” ผมลากเสียงตัวเองกล่อมไปเรื่อยๆ ไอ้กรีนมันยกยิ้มมามองเมื่อได้ยินอย่างนั้น คงเพราะรำคาญนั่นแหละ ก็มันรู้สึกเพลินกับเสียงตัวเองนี่นะ

 

“เออว่ะกูลืมเลย อาจารย์เรียกให้ไปคุยเรื่องงบชมรมนี่กว่า เดี๋ยวกูมานะ”

 

ผมพริ้มตาหลับได้ยินเสียงไอ้ต้นคุยกับไอ้กรีน ลมเย็นๆ พัดโชยได้ยินเสียงร่มไม้กวัดแกว่งเป็นทำนองไพเราะ ฉุดให้เข้าไปในนิทราที่หวานหอม

 

“ขี้เซาจังนะ…”

 

เสียงของใครไม่อาจทราบ ช่วงเวลานั้นกำลังลุ่มหลงอยู่ในความฝันอันอ่อนละมุน ความเย็นของลมพัดเข้ามาสู้ร่างกายทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปนั่งใกล้พัดลม ผมรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่อ่อนนุ่มในความฝันนั้น

 

จากใครสักคนที่กำลังมอบมาให้ ใครสักคนที่กำลังอ่อนโยนต่อผมเป็นที่สุด

 

เฝ้าฝันเสมอว่าบางที ขอให้เป็นใครคนนั้น

 

กลิ่นน้ำหอมเดิมๆ ของคนเดิมๆ ที่ผมซุกอยู่ในตัว ในอ้อมกอดอุ่นนั่น ความร้อนที่ครอบคลุมไปทั่วร่างกายเมื่อถูกรั้งเข้าไปกอด ใบหน้ารู้สึกถึงความร้อนของริมฝีปากที่โน้มเข้ามาแนบจูบ สัมผัสเดิมๆ นั่นแหละที่ผมกำลังเรียกร้องและโหยหา

 

พี่ปอ พี่ปอ…

 

ผมรักพี่ปอ

 

 

“ภีม ภีม…”

 

หา

 

อะไรกัน ฝันหรอกเหรอ

 

ผมลืมตาตัวเองยกมือขยี้ตาเงยไปมองแสงที่สาดมาใส่ตา เห็นไอ้ต้นนั่งหัวเราะมองหน้าผมทั้งชี้นิ้วมาใส่หน้า

 

“ดูหน้ามันยับหมดแล้ว นี่มึงนอนได้ทุกสถานการณ์จริงๆ นะ”

 

อะไร หน้ายับ

 

ผมยกมือลูบหน้าตาเอง สงสัยนอนทับหนังสือหน้าก็เลยเป็นรอย ทำให้หน้าหล่อๆ ของผมเสียโฉมไอ้ต้นมันถึงขำพรืดแบบนั้นออกมาได้ ผมอ้าปากหาว อ้ากว้างจนแมลงวันแทบจะบินเข้ามาไข่ในท้องได้ ไม่ห่วงภาพพจน์ เออ คนหล่อทำอะไรก็ดูไม่น่าเกลียดปะวะ

 

หันไปมองคนที่นั่งตรงข้ามทว่าไม่เห็น ผมจึงหันไปมองไอ้ต้นถาม “ไอ้กรีนไปไหนวะ?”

 

มันหันมาว่าพลางเก็บของ “ก็ไปเรียนน่ะสิ นี่กูปลุกให้มึงไปเข้าเรียนบ่ายนะเนี่ย”

 

“ห้องมึงมีเรียนเหรอ?”

 

“ก็เออดิ กูมีแนะแนววิชามารยาทไทยของอาจารย์แมว ไม่ไปกูไม่ได้สอบจริงๆ อ่ะ”

 

“กูก็เห็นเจ๊แกพูดแบบนั้นตลอดล่ะ”

 

“มึงจะลองท้าทายอำนาจปะล่ะ?” มันว่า

 

“กูน่ะศิษย์รักแก เมื่อวานยังไม่ให้กูเรียนเลย ให้ไปนั่งคุกเข่าคลานทั้งคาบ”

 

“เหอะ! ศิษย์รักมาก งั้นคาบนี้ถ้ากูเข้าช้าก็คงได้คุกเข่าคลานเหมือนมึงนั่นแหละครับไอ้คุณภีม”

 

“เออ กลัวนักก็ไปเหอะไป อ่อนว่ะมึง”

 

ผมว่าพลางเสมือไล่มันพลางลุกขึ้นยืนเก็บหนังสือของตัวเองไปด้วย กะว่าจะมาอ่านหนังสือดันเอาหนังสือมาหนุนหัวนอน ตัวหนังสือคงไหลใส่สมองเองได้หรอก หน้าตาแม่งก็เหมือนคนตื่นใหม่ๆ ไปหาล้างหน้าล้างตาก่อนก็ดีเหมือนกันนะ สภาพนี้นึกว่าเพิ่งสร่างเมาเหอะ

 

ไอ้คนตรงหน้ารีบเก็บของแล้วเงยมาว่า “กูไปนะ”

 

ผมพยักหน้ารับไอ้ต้น เดินลากขาพร้อมกับถือหนังสือที่ตัวเองถือมาเตรียมจะอ่าน พอถึงเวลาเสือกง่วงขึ้นมา มีใครเป็นไหมเวลาจะสอบ ไอ้เราก็ฮึดทำหน้าตามุ่งมั่นคิดไว้ว่าพรุ่งนี้กูจะตั้งใจอ่านหนังสือแล้ว แต่พอมาเจอกองหนังสือนี่สลบก่อนแล้วค่อยบอกว่า ค่อยอ่านต่อพรุ่งนี้ละกัน

 

ผมเป็นอยู่

 

ร่างของผมเดินเข้าห้องน้ำคนเดียวเพราะคิดว่าคงไม่มีใครมาหาเรื่องหรอก ก็เพราะว่าเลิกกับไอ้ปอก็เลิกมีคู่กรณีแล้วไง ยกเว้นเรื่องที่เขาหมั่นไส้ที่ไปทิ้งมัน ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นทำไมเกิดขึ้นได้ก็ไม่รู้ คิดแล้วก็นึกถึงแต่มัน

 

เหงาอีกแล้วว่ะ

 

มือยาวๆ วางหนังสือไว้บนขอบอ่างล้างหน้าแล้วเปิดน้ำวักมาใส่หน้าให้ชุ่ม ผมยกหัวหนักๆ ขึ้นมามองกระจกตรงหน้าแล้วเบิกตา เชี่ย! นึกว่าโดมมาเอง คนอะไรหล่อทุกมุม

 

รอยยิ้มผมละลงเมื่อนึกถึงคนที่พูดคำนี้

 

กูหล่อทุกมุมเลยว่ะ

 

คิดแล้วก็ขำขึ้นมาเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อก่อน ตลกดีนะ  ได้แต่คิดแล้วยิ้มพลางวักน้ำล้างหน้าตัวเองไปเรื่อยๆ ให้สดชื่นขึ้นบ้าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองตัวเองในกระจกอีกที เชี่ย!

 

ไม่ใช่โดม ปกรณ์

 

ผมรีบหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยความใจหาย นึกว่าผีหลอกที่แม่งมาไม่ให้สุ้มให้เสียง มันยืนมองผมนิ่งแล้วละสายตาไปทางอื่นเมื่อเราสบตากัน ทำตัวไม่ถูกว่ะ จะให้ทำตัวเหมือนไม่รู้สึกเจ็บปวดงั้นเหรอ

 

ไอ้ปอ ปกรณ์(ชื่อจริงมัน)

 

“อะ…”

 

มันยื่นของที่อยู่ในมือมาให้ ผมละไปมองของสิ่งนั้นด้วยความประหลาดใจพลางลูบหน้าที่เปียกไปด้วยหยดน้ำ ใจของผมสั่นไหวเมื่อทราบว่าเป็นอะไร นิ้วมือของผมเอื้อมไปหยิบรับมามองนิ่ง ก่อนจะยกขึ้นมาเช็ดหน้าตัวเอง

 

ผ้าเช็ดหน้าของผม ตอนที่เช็ดเลือดให้มันคราวนั้น

 

“ขอบใจ…” ผมว่าฝ่าความเงียบเมื่อมันมองใบหน้าของผมนิ่ง แต่ยิ่งมองกันมันก็ยิ่งไม่มีอะไรจะพูดว่ะ คือมันไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรกันตอนไหนดี

 

หนีเหอะ

 

“งั้นกูไปเรียนนะ”

 

ผมว่าพลางละเดินออกมา ร่างกายชาเมื่อถูกรั้งกลับให้หันไปสบตามันอีกครั้ง ใจผมเต้นตึกตักแทบจะทะลุออกมาจากอกด้วยความตื่นเต้น เห็นว่าปอมันได้แต่ขมวดคิ้วตัวเองแน่น จ้องตาแล้วก็ละไปทางอื่น

 

ไม่มั่นใจในตัวเองงั้นเหรอ

 

“ปล่อย เดี๋ยวกูเข้าสายแล้วโดนด่าอีก…” ใจจริงแค่ไม่อยากอยู่ใกล้มันเท่านั้นแหละ คาบนี้เรียนทฤษฎีพละ

 

“คุยกับกูก่อนสิภีม กูมีเรื่องจะคุยด้วย”

 

“ไม่เอา เดี๋ยวไม่ทัน”

 

“เดี๋ยวเดินไปส่ง ถ้าด่าเดี๋ยวกูด่าคืนเอง”

 

“ไม่ขำไอ้สัด”

 

“กูก็ไม่ขำ ไม่ได้ยิ้มเลยเห็นหน้ากูไหม?” มันว่า ขอผมแอบขำแปป นี่มันติดไอ้สำนวนนี้จากผมไปเมื่อไร ฟังแล้วมันตลกทั้งๆ ที่หน้ามันนิ่งขนาดนี้

 

“ปล่อยมือกูก่อน” ผมว่าพลางดึงมือออก

 

พอมันละออกแล้วดวงตาผมก็หาทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง แต่แม่งพอขยับเท้ามันก็เดินมาดักหน้า ขยับซ้ายก็ตามขยับขวาก็ตามทำเป็นหนังแขกไปได้ มึงไม่เปิดเพลงเลยล่ะไอ้สัดจะเต้นให้ดู!

 

เอาไงดีวะ

 

“อะไรก็พูดมาสิวะ”

 

ผมเงยขึ้นไปว่า มือกำผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือแน่น ความชินและชาของไอ้ต้นมันทำให้ผมเข้มแข็งจริงๆ อย่างน้อยผมก็เข้มแข็งกว่ามันตอนนี้ล่ะวะ

 

“กูคิดถึงมึงว่ะ”

 

ผมชะงัก เงยหน้าไปมองหน้ามันที่แสดงถึงความจริงจัง ดวงตามันวูบไหวตอนกล่าวเรียกความรู้สึกประหลาดแล่นเข้ามา ใจผมมันสั่น แต่ไม่! ปอมันทำกับผมไว้เยอะ มันยังไม่สาสมหรอก!

 

“ไม่ตลก…”

 

“ไม่ได้พูดให้ตลก กูพูดให้มึงรู้ แล้วกูก็รู้ด้วยว่ามันยากที่มึงจะเชื่อแล้วเข้าใจกู มึงคงเกลียดคงกลัวกูมากเลยสินะ แต่นั่นแหละกูถึงมาบอกมึง ให้มึงลดความเกลียดที่มีให้กูนิดหนึ่งก็ยังดีภีม”

 

ใครบอกผมเกลียดมัน ที่บอกไปตอนนั้นแค่จะให้มันหยุด

 

“แค่นี้ใช่ไหม?”

 

“ไม่ ยังมีอีก” มันว่า ผมเงยขึ้นไปสบมองตัวสูงๆ ของมัน

 

“กูขอโทษ”

 

โอ…

 

มือของผมสั่นไปหมด ไม่คิดเลยว่ามันจะยอมเดินเข้ามาขอโทษง่ายๆ แบบนี้ ผมไม่คิดว่าคนอย่างมันจะกล้ายอมรับผิดได้ ทั้งที่ตอนนั้นมันทำร้ายผม กล่าวโทษว่าผมทำตัวเอง ผมหลอกลวงมันและผมเองก็ยอมรับไปแล้วว่าตนเองผิดจริงๆ

 

ปอมันเปลี่ยนไปมากจริงๆ

 

“มึงจำตอนที่กูสัญญากับมึงได้ไหม มึงเป็นคนบอกกูเอง ถ้ากูเกิดทำร้ายมึงเมื่อไหร่และต่อให้มึงจะผิดยังไง ถ้ากูเผลอทำร้ายมึงกูต้องรับผิดทุกอย่างเพราะได้สัญญาว่าจะไม่ทำมึงแล้ว” มันว่าเสียงเบา

 

ผมจำได้ ผมแค่พูดไปด้วยอารมณ์เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจสัญญากับมันจริงๆ

 

“แล้วที่พูดมา จุดประสงค์มึงต้องการอะไร?” ผมเงยขึ้นไปว่า มันนิ่งมองตา

 

“ยกโทษให้กูได้ไหม?”

 

ผมส่ายหน้าแทบจะทันที “หน้าด้าน!”

 

ว่าแล้วก็หยิบหนังสือที่ลืมไว้อยู่ในอ่างฟาดหน้ามันไปอีกทีซ้ำกับคำที่พูด “หายด้านรึยังหา รู้สึกไหม!?”

 

มันไม่สู้ ไม่หือไม่อือ เห็นแค่เลือดกำเดาไหลออกมา ใจผมหล่นวูบเมื่อมันใช้หลังมือเช็ดเลือดที่ยังไม่หยุดหลยดลงเสื้อ ใจที่ว่าแข็งอ่อนยวบลง

 

ไม่ได้!

 

“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกปอ เหมือนที่มึงทำกับกูไง!”

 

“ภีม พี่ขอโทษ…”

 

“ไปให้พ้น อย่ามาให้กูเห็นหน้า!”

 

แค่จะพูดว่าขอโทษแล้วให้ผมยกโทษให้มันง่ายไป ผมปาผ้าเช็ดหน้าใส่หน้ามันไปแรงๆ ก่อนจะเดินผละออกมาด้วยใจที่สั่นหวิว พอออกมาได้ ใจที่ว่าอวดเก่ง ที่ว่าแข็งแรงก็อ่อนลง ทำให้เข่าแทบจะทรุดลงไปนั่งกับพื้น ผมสงสารมัน

 

ได้ยินเสียงมันเปิดน้ำล้างหน้า ผมพยายามพาตัวเองที่ไม่มีเรี่ยวแรงเดินหลบออกมาเกรงว่ามันจะรู้ว่าผมเป็นห่วง พยายามทำใจให้เข็มแข็งไม่ร้องไห้

 

ทำแบบนี้ทำไมวะ ทำให้ตัวเองเจ็บ

 

มันเจ็บผมเจ็บกว่า

 

กูแม่งบ้า เท่ากับทำร้ายตัวเองชัดๆ

 

 

“ไหน ไอ้กรีนมันบอกว่ารออยู่ตรงไหน?”

 

ผมเดินลากขาไม่มีชีวิตตามไอ้ห่าต้นที่มันพาผมเดินแทบจะทั่วห้าง หลังจากเมื่อวานผมฟาดไอ้ปอไปทีเพื่อระบายอารมณ์และโกรธแค้นที่สุมอก

 

เอ่อ…มากไปมั้ง แค่โกรธแล้วยกโทษให้ไม่ได้เท่านั้นแหละ วันนี้พอไอ้ต้นชวนออกมาก็เลยยอมตกลงเผื่อจะได้ไม่คิดมาก มาเดินตามหาไอ้กรีนที่มันยังไม่ยอมมาสักที โทรหาก็ไม่รับสาย

 

“มึงช่วยไปรอเป็นที่ ที่ทำให้มันเดินมาหาเราง่ายๆ ได้ปะวะ มันคงรู้และน่า แล้วนี่มึงไปลืมไปไหมว่าเรามาก่อนเวลานะเว้ย!” ผมว่าพลางดึงข้อมือที่ไอ้เวรต้นมันลากเดินเหมือนจูงควายโง่ๆ อยู่

 

“เออว่ะ งั้นไปหาไรกินรอกันไหมแล้วค่อยไปเลือกว่าจะดูเรื่องอะไร”

 

แล้วแม่งก็เนียนได้อีกไอ้นี่ แต่ก็ไม่ปฏิเสธนะ

 

“เออ”

 

ผมตอบเสียงเบา ขณะที่หันตัวกลับก็ไปเจอะกับผู้ชายวัยรุ่นสองคนที่เดินเข้ามาหา รอยยิ้มดูเป็นมิตรแต่ท่าทางจะเพลย์บอยไม่เบา พอจะเดินหลบแม่งก็เดินมาดัก ต้องการอะไรจากผมวะ

 

“ขอทางหน่อย” ไอ้ต้นมันว่า คนตรงหน้ายิ้มพลางล้วงกระเป๋ายกโทรศัพท์ขึ้นมา

 

“ให้เบอร์พี่ก่อนถึงจะให้ไปได้”

 

“พ่อพี่มาสร้างไว้รึไง?” ผมสวน ยังไม่เลิกปากหมา

 

“โอ้โห น้องมันก็แรงไม่เบา น่า…ขอเบอร์หน่อยนะครับ”

 

ตื๊อว่ะ น่ารำคาญ

 

ผมมุ่นคิ้วตัวเองแล้วหันไปสายหลบไปทางอื่นด้วยความรำคาญ ทว่าสายตากลับไปเจอะร่างสูงๆ ของคนที่สองคนที่เดินอยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนม รอยยิ้มนั้นคล้ายผัวเก่าผมมาก เอ่อ…หมายถึงไอ้ปอน่ะ เขามาที่นี่พร้อมกับผู้ชายที่อายุน้อยกว่ามากๆ เลย

 

จำได้แล้ว พี่คนนั้น

 

คนที่ขับรถรับส่งผมกับไอ้ปอ ที่ถูกไอ้ปอด่าวันนั้นไง!

 

“ไม่ให้ ออกไปไกลๆ” ไอ้ต้นว่าเสียงรำคาญ

 

ผมได้แต่มองตามร่างนั้นไม่สนว่าพวกมันพูดอะไรกัน ใจผมเต้นตึกตักตอนที่เห็นคนสองคนนั้นหันไปสบตากันแล้วยิ้ม มันไม่เหมือนเจ้านายกับลูกน้องเลยสักนิด ทำเหมือน…

 

คนรักกัน

 

ไม่จริง พ่อไอ้ปอน่ะเหรอ ผมส่ายหัวไล่ความคิดชั่วๆ ออก จะเป็นแบบนั้นได้ไงวะ กระทั่งสายตาคมๆ ของเขาละหันมาเจอผม รอยยิ้มร่าเริงของเขาละลงทันที ทั้งสองร่างชะงักยืนมองมายังผม และผมเองไม่ได้หลบตา แสดงถึงเครื่องหมายคำถามไปยังเขาอย่างชัดเจน ผมหวังว่าเขาจะอธิบายอะไรให้ผมเข้าใจ ไม่ได้คิดไปเอง

 

กระทั่งเข้าตัดสินใจ

 

“ภีม…”

 

เลือกที่จะเดินเข้ามาหาผม

 

ไอ้สองตัวที่ขอเบอร์เบิกตาตัวเองเมื่อเห็นร่างสูงๆ สายตาคมดุจเหยี่ยวเดินมาด้วยสีหน้าเข้มขรึมต่างจากเมื่อกี้ก็ส่ายหน้าว่า

 

“แม่ง เด็กเสี่ยเหรอวะ?”

 

เสี่ยเหี้ยไร!

 

มันว่ากันแล้วก็เดินจากไป ไอ้ต้นหันมามองคนที่เดินมาหยุดตรงหน้า เขายกยิ้มนิดๆ ให้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเงยขึ้นไปสบกับพี่ชายที่ตอนนี้ไม่ได้สวมชุดพนักงานโรงแรมแล้ว ตัวเขาสูงพอๆ กันกับพ่อของปอ แต่ใบหน้าบ่งบอกว่าเพิ่งอายุยี่สิบกว่ายังไม่ถึงสามสิบแน่

 

ที่สำคัญ ทั้งคู่สนิทสนมกันได้ขนาดนี้เลยเหรอ

 

มองจากมือที่จับกันแบบนั้น

 

 

ร่างของผมทรุดตัวนั่งลงข้างๆ คนที่ผมตั้งคำถามมากมายเงียบๆ ไม่ได้เริ่มพูดอะไร เราสองคนขอเวลามานั่งคุยกันเป็นการส่วนตัวจากทั้งพี่ชายคนนั้นและไอ้ต้น ดูสายตาเพื่อนผมคงจะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาจากการละมามองผมด้วยแววตาเป็นห่วงจากข้างนอก ผมเงยหน้าไปมองเขาที่ยังนั่งนิ่ง พอกำลังจะกล่าวขึ้นเขาก็ว่าขึ้นมาก่อนว่า

 

“พ่อเป็นเกย์”

 

ผมชะงักเบิกตาตัวเอง หันมองเขาที่อายุสี่สิบแล้ว แต่ว่าเกย์มันห้ามอายุได้ที่ไหนเล่า แถมตอนนี้เขาก็ยังหล่อยังดูดีด้วย แต่เป็นรุกหรือรับเนี่ยสิ

 

ไม่เอาผมไม่คิด

 

“อะ คะ…คือ ว่า…”

 

พูดไม่ออก ไม่รู้จะเริ่มอะไรตรงไหนจริงๆ

 

“นั่นแหละที่ทำให้ปอเกลียดพ่อ เขารู้ว่าพ่อเป็นเกย์แล้วก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เราหย่ากัน ทำให้เขาไม่ได้อยู่กับแม่เพราะพ่อเป็นคนเลือกให้เขาอยู่ในการดูแลของพ่อ”

 

ใจผมชา อย่างงี้นี่เองที่ทำให้มันไม่ยอมรับพ่อ แต่ปอมันก็เป็นเกย์นี่

 

ใจผมหาย นี่เหรอที่มันไม่ยอมรักใครที่คบกับมันสักคน ที่แท้มันก็ใช้เกย์เป็นเครื่องระบายอารมณ์จากพ่อของมัน ใจจริงมันอาจจะไม่ได้รักเกย์ไม่พิศวาสเกย์เลยก็ได้ แค่คบๆ ให้ได้ระบายอารมณ์ไปแค่นั้น

 

โคตรเจ็บเลยว่ะ

 

“งั้นเหรอครับ งั้น…”

 

“แต่พ่อก็หวังนะ ว่าภีมจะเปลี่ยนใจเขาได้”

 

ผมก้มหน้า ไม่ได้แล้วแหละ

 

“ผมเลิกกับเขาแล้วครับ ผมขอโทษที่ทำให้คุณพ่อผิดหวังจริงๆ”

 

เขายกยิ้มแล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวเป็นการปลอบ ยิ้มเหมือนกำลังรู้อะไรสักอย่างและกล่าวกับผมด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นอย่างเคย “พ่อไม่เคยผิดหวังในตัวเราเลยนะ จากตอนนี้และวันนั้นข้างหน้า จะรอให้กลับมานะภีม กลับมาสร้างรอยยิ้มให้ลูกชายพ่อเหมือนเดิม”

 

ตอนนี้มันก็ยังยิ้มนี่!

 

ผมมุ่นคิ้วตัวเองก้มหน้ามองตัก มิน่าล่ะ ผมลืมคิดไปเสียสนิท่าทำไมพ่อของปอมันใจดีเกินไปขนาดนั้น ใจดีแม้กระทั่งยอมให้ลูกชายคบได้แม้กระทั่งกับเพศเดียวกัน

 

โง่จริงๆ เลยว่ะกู

 

 
 :a5: พ่อเป็นเกย์!

55555  o13
เอามาส่งแล้วจ้า เป็นยังไง ยังหน่วงๆ กันอยู่ไหม บอกแล้วว่าภีมมันดีขึ้นละ พอจะลั้นลาได้บ้างเหมือนปอนั่นแหละ แอบสงสารตอนนางโดนหนังสือตบหน้าเบาๆ อิอิ ส่วนตอนหน้า น้องต้นจะชวนน้องภีมลองใจสามีทั้งสองนะคะ พลาดไม่ได้
 :katai2-1:

ออฟไลน์ Oo๐FosfoggY๐oO

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
บางทีเราก็ว่าน้องภีมเล่นตัวเกินไปจนนน่าหมั่นไส้เล็กๆ แต่เราก็ยังรักนางน้า 55555

แต่เรางงเรื่องพ่อปอเป็นเกย์แล้วปอไม่ชอบแต่ตัวเองก็เป็นนี่นา

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ยังไม่สะใจอ่ะแค่หนังสือเอง

ทีหลังเอารองเท้าตบนะ 55555

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
บางทีเราก็ว่าน้องภีมเล่นตัวเกินไปจนนน่าหมั่นไส้เล็กๆ แต่เราก็ยังรักนางน้า 55555

แต่เรางงเรื่องพ่อปอเป็นเกย์แล้วปอไม่ชอบแต่ตัวเองก็เป็นนี่นา

อ่านดูดีๆ นะ ปอไม่ได้โกรธที่พ่อเป็นเกย์ แต่โกรธที่การเป็นเกย์แล้วเลิกกับแม่ ทำให้แม่ต้องไปจากปอจ้า

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตอนแรกก็สงสัยพ่ออยู่นะ ใช่จริงๆด้วย :a5:
ภีมอย่าเพิ่งใจอ่อนนะ เอาให้หลาบจำ
คราวหลังจะได้ไม่กล้าหือ กล้าชั่วอีก

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :heaven     พ่อได้ใจง่ะ  555

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
อ่านรวดเดียวเลย

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 18

 

พ่อไอ้ปอเป็นเกย์

 

พ่อไอ้ปอเป็นเกย์

 

นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย!

 

ผม ไอ้ต้น ไอ้กรีน เดินเข้าบ้านมาต่างจากขาไปที่แลดูเสี้ยนและกระดี๊กระด๊าเป็นปลากระดี่ได้น้ำกันมาก ตอนนี้น่ะเหรอ เหอะ! พากันหมดอาลัยตายอยากตามผมไปกันหมดแล้ว พอพวกมันเห็นผมไม่มีอารมณ์ หลังจากดูหนังเสร็จก็ชวนกลับมาตั้งหลักที่บ้านผมก่อน

 

ไอ้กรีนมันเป็นคนที่อยู่ติดบ้านแล้วก็ขยันเรียน ไอ้ต้นเป็นพวกคุณหนู จะออกไปไหนพ่อแม่ตามใจตลอด ส่วนผม ทั้งจนทั้งโง่แล้วก็พ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้

 

รู้สึกกูนี่ไม่มีอะไรดีเลย

 

ผมทรุดตัวเอาร่างนอนคว่ำพักบนโซฟาพักร่างกายอ่อนล้า แต่ใจล้ากว่า นึกถึงหน้าพ่อไอ้ปอแล้วหลับไม่ลงว่ะแม่ง นึกเห็นแต่ภาพตอนที่ปอมันแสดงถึงความเอาแต่ใจกับพ่อ ไม่แคร์พ่อเพราะเป็นแบบนี้นี่เอง

 

พอๆๆ หยุดคิดเรื่องของมัน หยุดเป็นห่วงมันได้แล้ว

 

จะแคร์อะไรมันมากมายวะเนี่ย!

 

ผมถอนใจ ดวงตามองนาฬิกาเป็นเวลาสี่โมงเย็น พวกไอ้ต้นมันยังไม่คิดจะกลับบ้าน เปิดทีวีแล้วก็นั่งคุยกันสองคนเหมือนไม่ได้คุยกันมาเป็นชาติ ไม่ใช่อะไรหรอกมันไม่ยอมมานั่งคุยให้ผมได้ยินด้วย มือผมยกโทรศัพท์เปิดดูไทม์ไลน์เฟชบุ้คตัวเอง เห็นรูปของมันเด้งขึ้นมาเป็นคนแรก

 

หล่อเหมือนเดิม

 

ดวงตาไปสะดุดกับคำบรรยายของมันที่เขียนไว้สั้นๆ ว่า

 

 

ขอโทษ

 

 

ผมสตั๊นนิ่งมองตัวหนังสือนั้นนานไปหลายนาทีก่อนจะเลื่อนไปเรื่อยๆ เห็นคนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย บ้างก็สมน้ำหน้า บ้างก็ตอบรับคำขอโทษของมัน

 

รู้ตัวว่าผิดก็ดีแล้ว รีบมาง้อผมซะดีๆ ไอ้บอยเมียเก่ามันแสดงความคิดเห็นพร้อมกับหัวเราะลงท้าย ผมเบ้ปากก่อนจะปิดมันลงไปด้วยความไม่อยากรู้อะไรอีกต่อไป วางโทรศัพท์แล้วฟุบหน้าลงกับโซฟา

 

ภาพตอนเลือดมันไหล ใบหน้ามันดูไม่เจ็บเลย ต่างจากผมไปโดยสิ้นเชิง

 

เจ็บชิบหายตอนที่ทำมัน

 

“โอ๊ย เบื่อ!”

 

ผมร้องขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย ไอ้สองตัวที่นั่งอยู่หันขวับมามองหน้าตาตกใจคิดว่าผมอาจจะเสียสติไปเพราะเลิกกับผัวแล้วก็ได้ เหอะ พักนี้ชักจะชินกับคำว่าผัวเต็มแก่แล้วสินะ

 

เสียงไอ้ต้นมันลุกขึ้นมาทรุดตัวนั่งต่อหน้า

 

“เบื่อ งั้นหาอะไรทำกันดีไหม?” ว่าแล้วยิ้มกริ่มแปลกๆ จะชวนกูเล่นอะไรอีกล่ะ

 

“ทำอะไรวะ?”

 

“ก็…” มันลากเสียงทำกรอกตาคิด “แกล้งคนดีกว่าว่ะ”

 

ผมยกมือขึ้นพลางขยับนั่งทำท่าเกาหัวตัวเองมองตามสายตาไอ้ต้น เมื่อวานนี่มึงเพิ่งจะเศร้าน้ำตาคลอเบ้าอยู่เลยนะกูจำได้ แต่ไม่ได้อัดเป็นวิดิโอมาให้มึงดู ส่วนไอ้กรีนเดินเข้ามาแล้วมองตามรอยยิ้มอันโคตรจะมีเลศนัยของไอ้ต้น

 

แต่แม่งก็โคตรจะอยากรู้เลยเหอะ

 

“แกล้งใคร อะไรยังไง?” ผมว่า

 

ไอ้ต้นมันยิ้มกับตัวเองเมื่อได้ยินเสียงคำถามของผมที่ถามออกไป แววตาคิดออกไปไกลแสนไกลก่อนจะทำหน้ามุ่งมั่น หันมาตอบด้วยความชัดถ้อยชัดคำว่า

 

“มีผัวใหม่กันเถอะ!”

 

เชี่ย!

 

ความคิดมึงนี่สร้างสรรค์มาก ผมล้มตัวลงนอนบนโซฟาอย่างเดิมกับความคิดของไอ้ต้นพร้อมกับเสียงหัวเราะของไอ้กรีน ทำเป็นไม่สนใจเสียงไอ้นี่ไปด้วย

 

“มึงเอาอะไรคิดวะ?” ผมบ่น ฟังเสียงมันว่าไปด้วย

 

“มันเวิร์คนะมึง ถ้ามึงมีผัวใหม่ ไอ้เชี่ยพี่ปอจะได้หึง พอหึงมันก็ตามมายุ่งกับมึงอีก พอยุ่งมากๆ เข้าเราก็บีบให้มันทนไม่ไหวมาขอคืนดีมึงไง”

 

“ไม่เวิร์ค แล้วใครบอกว่ากูอยากไปคืนดีกับมัน”

 

“สายตามึงบอกกู”

 

เชี่ย มาทำรู้ดี

 

ผมหันตาไปมองทางอื่นไม่สบตากับมัน กลัวมันรู้ทันอีก

 

“ฟัคยู!” หันหน้าหนีว่าพลางชูนิ้วกลางไปให้ทีหนึ่ง

 

ผมฟุบหน้าลงกับหมอนนอนคิดตามในสิ่งที่มันว่า

 

ให้ทำแบบนั้น เพื่อที่มันจะได้มาง้องั้นเหรอ

 

แล้วใจจริงๆ ของผม ต้องการแบบนั้นไหม ผมอยากกลับไปหามันไหม

 

วันนั้นฟาดหน้ามันไปแล้ว แล้ววันนี้จะมาทำอะไรบ้าๆ บอ ให้มันมาง้อ นี่แม่งเข้าข้างตัวเองเกินไปปะวะว่ามันจะกลับมาจริงๆ คนดีๆ ที่มันคบมาก่อนหน้าผมก็มีเยอะแยะไป สู้ไปคืนดีกับพวกนั้นไม่ดีกว่าเหรอ

 

“นะภีม จะได้รู้ไงว่าพี่ปอคิดยังไงกับมึงแน่ มึงไม่เห็นตอนที่เขามาพูดกับกู ไม่เหมือนคนเดิมเลยนะเว่ย” มันว่าพลางเอื้อมมือมาดึงแขนผม

 

“ไม่เอา”

 

เรื่องนั้นผมรู้นานแล้วว่ามันไม่เหมือนเดิม มันเก่ง แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้โว้ย!

 

“นะภีม เดี๋ยวกูเอาด้วย กูจะทำให้พี่ธามมาขอคืนดีกับกู”

 

“นี่มึงอยากทำเองนี่หว่าแล้วมาบอกให้กูทำ ไอ้นี่!” ผมเงยขึ้นไปว่า มันยกยิ้มเขินๆ

 

“กูเพิ่งรู้ความจริงบางอย่างมา อยากจะลองใจพี่ธามอีกสักครั้งว่ายังรักกูอยู่รึเปล่า”

 

ผมชะงัก เห็นไอ้กรีนมันกำลังยิ้มไม่ออกพร้อมไอ้ต้นที่ยิ้มนิดๆ กับสิ่งตัวเองกำลังนึกถึง ผมรีบลุกขึ้นนั่งไปมองมันเหมือนตัวเองตกข่าวอะไรบางอย่าง แต่ว่า…ถือว่าช่วยเพื่อนก็ได้วะ

 

“เออ ก็ได้”

 

ผมว่าพลางพยักหน้ารับนิดๆ

 

ไม่ถึงสิบนาที ไอ้พี่พีก็มานั่งเสนอหน้าร่วมวงด้วยราวกับสนิทกับผมมาเป็นชาติ ตอนนี้มันไม่ได้จะกวนตีนหรือตั้งใจจะแกล้งผมแล้ว เพราะผมเป็นเพื่อนกับเมียมันไง แล้วผมแม่งก็ดันเอนเอียงไปทางพี่พีมากกว่าพี่ธามแล้วด้วย ลูกตื๊อมันเยอะไง

 

ทำไมแผนมันต้องใช้คนเยอะขนาดนี้ด้วยวะ คิดแล้วอาย วางแผนให้ผัวมาง้อขอคืนดี บัดซบชิบ!

 

“กับไอ้ปอไม่เห็นต้องทำอะไรสักอย่าง” พี่พีว่าเสียงเบาพร้อมยกยิ้มกับตัวเองราวกับรู้อะไรอยู่

 

ทำไมวะ ทำหน้ามีเลศนัยชิบหายไอ้พี่นี่

 

ผมอึกอักแล้วกล่าวเสียงเบา “ก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรหรอก รู้อยู่ว่ามันไม่ได้อยากจะคืนดีตั้งแต่แรก”

 

“ใครบอก?” เขาหันมาถาม ผมหลบตางุดลงพื้น

 

“สังเกตเอาเอง”

 

“เหอะ!” เขาหัวเราะแล้วหันไปทางอื่น ตัวสูงๆ ขยับไปมองหน้าไอ้ต้นที่ตอนนี้ทำหน้าบึ้งใส่ ทั้งๆ ที่มึงเป็นคนโทรเรียกไอ้พี่พีมันมากูจำได้ ถ่ายวิดิโอไว้แล้วด้วย

 

“แล้วเรียกพี่มามีอะไร?” ถามเหมือนเป็นคนใช้ หรือขี้ข้าอะไรทำนองนั้น หรือมันคิดไว้ว่าตัวเองเป็นแบบนั้นในสายตาไอ้ต้นจริงๆ

 

มันน่าสงสารนะผมว่า

 

“ก็…” ไอ้ต้นลากเสียง “พอจะมีเพื่อนที่ไม่สนิทกับพี่ปอพี่ธามสักสองคนไหมล่ะ?”

 

“กับไอ้ภีมกูหาให้ได้ แต่ของมึงกูไม่ยอม มึงเป็นเมียกูอยู่”

 

ผมกลืนน้ำลายมองหน้าไอ้ต้นที่เงยขึ้นไปว่า “ไม่! ไม่เอาพี่พี พี่ยังไงก็ไม่ยอมให้ผมคืนดีกับพี่ธามอยู่แล้ว ผมรู้หรอก”

 

พี่พีหันไปสบตากับมัน ทำเสียงเบาราวกับไม่รู้สึกรู้สา “ใครบอก กูยอมหมดแหละไม่ว่ามึงต้องการอะไร”

 

ตัวผมชาไปเลยแฮะเมื่อได้ยินพี่มันว่า ผมไม่คิดว่าพี่เขาจะยอมถอยให้พี่ธามง่ายๆ แล้วปล่อยให้ตัวเองเจ็บแบบนั้น ผมเคยคิดมาตลอดว่ามันเป็นคนเห็นแก่ตัวเองมากๆ แต่คราวนี้ผมคงต้องมองมันใหม่ มันเลือกที่จะเป็นคนเห็นแก่ตัวในสายตาคนอื่นเพื่อไอ้ต้น

 

ต้น จะมีสักกี่คนที่ยอมเพื่อมึงขนาดนี้วะ

 

ไอ้ต้นเอง มันแสดงถึงความอึดอัดใจน้อยๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น คงจะวางตัวลำบากแน่ๆ เพราะทั้งคู่ที่ว่ามาก็เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน

 

“เดี๋ยวกูจะโทรเรียกมันมา ไอ้นี่มันชอบคนน่ารักๆ อยู่แล้ว” พี่พีว่าพลางยกโทรศัพท์ขึ้นเมื่อพูดถึงไอ้คนที่จะมาแสดงเป็นแฟนใหม่ผม

 

ใจหายชิบ

 

“แค่มาแสดงละครไม่ได้ให้มาจีบจริงๆ!” ไอ้ต้นมันร้องว่า ผมมองสายตาไอ้กรีนแล้วมันบอกเลยว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่กำลังจะทำ

 

“เออ กูรู้น่า ถ้าจีบจริงๆ ไอ้ปอมันเอากูตาย!” พี่พีว่า

 

มันชอบพูดเหมือนรู้อะไรอยู่เลยไอ้พี่พี

 

จะทำไง ไปอี๋อ๋อกับผู้ชายนอกจากไอ้ปอเนี่ยนะ คิดแล้วขนก็ลุกขึ้นมาเสียเฉยๆ เพราะผมไม่คิดว่าตัวเองจะไปมีอารมณ์หวานแหววกับผู้ชายด้วยกันคนไหนได้อีกนอกจากไอ้ปอคนเดียว

 

ทำไงดีวะ

 

ผมลอบมองพี่พีน้อยๆ แล้วว่า“แค่แสดงจริงๆ ไม่เอาถึงเนื้อถึงตัวด้วย”

 

“ไม่ถึงเนื้อถึงตัวไอ้ปอมันจะเชื่อได้ไง?” ไอ้พี่พี แบบนั้นก็เปลืองตัวแย่สิวะ

 

“ไม่ได้! แค่เดินควงกัน คุยกันก็พอ”

 

“นี่กูกะจะให้มึงเข้าโรงแรมกับมันเลยนะ”

 

ไอ้เชี่ย!

 

“ไม่เอา!” ผมรีบว่าพลางส่ายหน้า แค่จะมองตาแล้วยิ้มหวานๆ ให้ผู้ชายด้วยกันกูก็จะอ้วกแล้ว นี่มึงกะจะให้มันพากูเข้าโรงแรมเนี่ยนะ ไอ้บ้า มึงเอาสมองส่วนไหนคิด!

 

“เลิกกวนตีนมันซักทีเถอะพี่ ผมวางแผนไว้แล้วพี่ไม่ต้องมายุ่ง”

 

“ไม่ให้ยุ่งได้ไงก็กูอยู่ในแผนด้วย มึงต้องถึงเนื้อถึงตัวนะภีม ถ้าไม่โดนตัวกันเลยไอ้ปอมันจะเชื่อได้ไง  ดูนะทำแบบนี้…”

 

มันลากตัวไอ้ต้นมานั่งบนตัก ใจผมเจ็บจี๊ด ตูดกูคงนั่งตักใครไม่ได้นอกจากตักของไอ้ปอ ไอ้ต้นมันดิ้นขลุกขลักพร้อมกับแสดงถึงความโมโห แต่แก้มนี่แดงอย่างกับกำลังเขิน เหมือนผมเลยว่ะ เวลาเขินชอบทำโมโหกลบเกลื่อน

 

“อย่า ไอ้พี่พี ไอ้นี่! ปล่อยผม!”

 

“มึงขัดขืนแบบนี้ไอ้ธามมันจะเชื่อได้ไง?”

 

“ไม่เอา อย่ามาจับ!”

 

“แต่มึงจะให้ผู้ชายคนอื่นจับว่างั้น จะให้คนเขาแตะต้องมึงง่ายๆ แค่เพราะเขาไม่ใช่กูงั้นเหรอ สมกับที่มันว่ามึงง่ายนะ”

 

“ไอ้พี่พี!” ต้นมันร้องว่า “เพราะผมรังเกียจพี่ไง สกปรก”

 

“ใครกันแน่ที่สกปรกกว่า กูน่ะเอากับมึงคนเดียว แต่มึงน่ะเอากับกูคนเดียวรึเปล่า กูรู้นะว่ามึงกับไอ้ปอ…”

 

“เงียบ ก็ได้ๆ ยอมก็ได้!”

 

ต้นมันยกมือปิดปากคนพูดแล้วหันมามองผมเหมือนจะกลัวว่าผมโกรธ ผมส่ายหน้าเพราะรู้ดีว่ามันผ่านมานานมากแล้ว ผมไม่ทีทางโกรธมันได้ กลับรู้สึกผิดแทน ส่วนพี่พี ไอ้นี่มันก็ชอบขู่ดีจัง ปากก็จัด ใครเป็นเมียนี่เวลาทำผิดคงโดนด่าเจ็บแสบน่าดู ไอ้ผมก็ได้แต่ยกมือกุมหน้าไม่ไหวกับมันสองคน

 

มันจะรอดรึเปล่าเหอะ

 

“เราจะออกไปเที่ยวกลางคืนกัน แล้วทีนี้ พี่พีไม่ต้องไปหรอก ไปอยู่ห้องพี่ปอกับพี่ธาม พอผมโทรไปตามให้มารับ บอกว่าผมเมาแอ๋ไอ้ภีมก็เมามากกลับเองไม่ได้ พี่ทำยังไงก็ได้ให้ทั้งสองคนนั้นรู้ให้ได้ว่าพวกเราอยู่ไหน ให้มาเจอผมกับไอ้ภีมอยู่กับคนอื่น โอเคไหม?”

 

พี่พีส่ายหน้า “มึงใช้อะไรคิดวะต้น พวกมึงยังไม่ถึงสิบแปดจะเข้าไปเที่ยวที่แบบนั้นได้ยังไงหา อีกอย่างเหมือนกูนี่พิศวาสห้องไอ้ปอมาก ร้อยวันพันปีนอกจากนัดกินเหล้ากูก็ไม่เคยคิดจะไปห้องมันด้วย ถ้าไปวันนั้นน่ะผิดปกติชัวร์”

 

ผมยกยิ้มกับสิ่งที่พี่พีว่า ต้นมันกลอกตาไปมาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เออว่ะ แล้วเอาไง”

 

ปวดสมองว่ะกู ขอเข้าห้องน้ำไปปลดทุกข์แปปเหอะ

 

“เอาแผนกู ให้กูเป็นคนวางแผน” พี่พีว่า

 

“ไม่เอา ไม่ๆๆ”

 

“ฟังกูนะ กูรู้จักพวกมันดีแล้วก็รู้ว่าทำยังไงมันถึงจะเนียนโอเคไหม แผนคือพวกมึงมาบ้านกู เดี๋ยวกูจะจัดให้ จะทำเป็นว่างานวันเกิดแฟนใหม่ไอ้ภีมแล้วกัน แล้วจะชวนพวกมันไปด้วย ถ้าพวกมันไม่ไปกูก็จะทำทีให้พวกมันรู้ละกันว่าไอ้นั่นมันเป็นแฟนใหม่ไอ้ภีม โอเคไหม?”

 

ไอ้ต้นที่คัดค้านตอนแรกพยักหน้ารับพลางยกนิ้วโป้งให้ “เรื่องเลวๆ นี่โคตรเก่งอะ”

 

“เออ โดยเฉพาะกับมึง กูวางแผนอย่างดี”

 

ผมยกรอยยิ้มกับตัวเอง มองไปยังไอ้กรีนที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์กับแผนนี้เมื่อมันไม่ได้ร่วมด้วย จากนั้น พี่พีก็ชวนไอ้ต้นกลับบ้านแต่มันยังยืนยันว่าจะอยู่และขอค้างกับผมในที่สุด ไอ้กรีนเช่นกัน

 

เวลาบนนาฬิกาบอกเวลาทุ่มกว่า ผมนอนฟุบหน้าลงบนโซฟา วันนี้มาเที่ยวและเดินทั้งวันทำเอาผมเพลีย นอนรอไอ้ต้นที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเป็นคนที่อาบน้ำนานเป็นชั่วโมง ไม่รู้จะถูอะไรนักหนา ก็เลยง่วงๆ พริ้มตาหลับพักผ่อนรอมันไปพลาง

 

ในบ้านเย็นสบาย ผมเคลิ้มหลับไม่รู้ตัว

 

ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน มารู้สึกตัวก็ตอนที่มีคนมานั่งเบียด ลืมตาเห็นว่าเป็นไอ้กรีนที่โน้มหน้ามาทำท่าจะปลุก ผมพยายามลืมตา แต่ด้วยความตกใจผมผลักมันออกจากตัวสุดแรงจนร่างของมันเซล้มไปกองกับพื้นเมื่อเห็นในระยะแค่คืบ

 

มันแสดงถึงความตกใจน้อยๆ เมื่อผมลุกขึ้นนั่งมองมัน

 

ดวงตาของมันมองผมด้วยความไม่เข้าใจ

 

“ขอโทษนะกรีน เราไม่ได้ตั้งใจ”

 

มันส่ายหน้า แสดงถึงความไม่พอใจแล้วเดินหนีออกจากบ้านไปเงียบๆ ไม่บอกไม่กล่าวอะไรสักคำ ผมไม่ชอบเลยที่มันทำแบบนี้เพราะตอนที่ผมเศร้าก็มีแค่มันที่เดินเข้ามาปลอบ ร่างของผมรีบสาวเท้าตามมันไปยังหน้าบ้าน วิ่งตามหลังร่างของมันพยายามยื้อแขน

 

“กรีน เราขอโทษ”

 

“พอกันทีภีม ปล่อยให้เราไป” มันว่าพลางเรียกแท็กซี่

 

“เราไม่ได้…”

 

“ช่างมันเถอะ เรากลับนะ”

 

มันมองผมนิ่งก่อนจะเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง ตัวผมสั่นได้แต่มองตามรถคันนั้นด้วยใจที่เบาหวิวแปลกๆ ไม่อาจจะทำใจในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แค่ผมกำลังตกใจเท่านั้นไม่คิดว่ามันจะโกรธผมขนาดนั้น

 

ก็ไหนว่ามันไม่ได้เป็นเกย์ มันรังเกียจคนที่แสดงความรักต่อกันจะตาย ผมตกใจที่มันเข้ามาใกล้ก็เท่านั้นเอง ผิดเหรอที่ทำไปแบบนั้น

 

ผมจะเสียเพื่อนดีๆ อย่างมันงั้นเหรอวะเนี่ย

 

 

เวลาผ่านล่วงเลยไปสองสามวัน ผมกับไอ้ต้นและพี่พีก็วางแผนเริ่มเรื่องที่จะแกล้งไอ้ปอกับพี่ธามได้สำเร็จ แต่ใจจริงผมกลัวตัวเองมากกว่าที่จะเจ็บถ้ามันไม่รู้สึกอะไรเลยในสิ่งที่ผมยอมลงทุนทำ

 

“มึงพร้อมยังเนี่ย?”

 

เสียงของไอ้ต้นที่ว่าย้ำกับผมซึ่งวิญญาณล่องลอยไปที่ไหนสักแห่ง ร่างของพวกเรายืนอยู่หน้าบ้านหลังโตหลังหนึ่งซึ่งกำลังอึกทึกครึกโครมจากเสียงเพลงด้านใน ภายในบ้านมีรถหรูๆ หลายคันจอดอยู่น่าจะเป็นรถของแขก ก็โรงเรียนที่ผมเรียนมันเป็นที่ที่รวมคนมีกะตังค์นี่นา

 

ว่าแต่ว่า นี่บ้านพี่พีงั้นเหรอเนี่ย

 

รวยไม่หยอกเหมือนกัน ผมกลืนน้ำลายมองรอบๆ บ้านแล้วหันไปมองหน้าไอ้ต้นที่จ้องเขม็งจับผิด ก่อนจะอึกอักรวบรวมความกล้า

 

“เออ พร้อมละน่า” ผมว่าปัด

 

ใจนี่ร่วงลงมากองตาตุ่มเมื่อเห็นไอ้ต้นพาเดินนำเข้าไป ได้แต่สาวเท้าเดินตามร่างของมันที่ถือกล่องของขวัญมาพร้อมกับใบหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง มันดูจะตื่นเต้นมากเหมือนกับไม่เคยไปงานวันเกิดใครมาก่อนงั้นแหละ

 

แต่ว่า นี่งานวันเกิดแฟนใหม่ผม ท่องไว้ก่อนเดี๋ยวผิดคิวละตายแน่ แผนแตกน่ะสิ

 

โอย คิดแล้วการทำแบบนี้ นี่มันบ้าชัดๆ

 

เราสองคนเดินเข้าไปในบ้านที่ตอนนี้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณหนึ่งนั่งอยู่ ใจผมหายเมื่อเห็นว่าพี่ธามกับไอ้ปอนั่งรวมกลุ่มอยู่กับพี่พีและเพื่อนๆ หน้าเดิมๆ ในกลุ่ม พี่พีเห็นแล้วดังนั้นจึงทำท่ากวักมือเรียกพร้อมร้องให้ไอ้ปอพี่ธามหันมามองด้วย ใจผมนี่สั่นแทบจะออกจากอกกับความกดดันจากไอ้ต้น มันกลัวผมทำแผนแตก

 

ผมทำเพื่อมันหรอก เพราะยังไงซะปอมันก็ไม่ได้รักผมอยากคืนดีกับผม

 

แล้วทำไมใจต้องหายด้วยวะ

 

“ภีม มาๆ มานั่งข้างพี่ครับ ดีใจจังนึกว่าจะไม่มาพี่อุตส่าห์ชวน”

 

ไอ้เชี่ยนี่แหละครับ แฟนใหม่ผม หน้าตาก็ ไม่จัดว่าหล่อมาก ตัวสูงผิวเข้มเพราะกร้านแดด มาดนักกีฬา เป็นเพื่อนของพี่ธามที่ดูจะ…ไม่น่าจะมาคบกับมันได้ แต่เอาเหอะ มันก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไร

 

ได้มีโอกาสคุยกับพี่เขามาสองสามครั้ง พี่พีมันพามา มันรู้เรื่องของผมดีเลยซึ่งดูยังไงก็โคตรจะน่าอายยังไงก็ไม่รู้ที่จะต้องมาทำอะไรบ้าๆ นี่เพื่อทดสอบใจไอ้ปอ

 

ผมเบิกตาเมื่อมันแม่งปากว่ามือถึงเอื้อมมือมากุมมือผมเดินเข้าไป มันชื่อพี่อิฐ เรียนที่เดียวกันกับพี่พี ดูออกเป็นคนขำขัน ร่าเริง ขี้เอาใจด้วยนะจากสายตามันน่ะ ผมแอบหลบสายตาไอ้ปอเมื่อพี่อิฐมันจับผมทรุดตัวนั่งบนโซฟาข้างๆ ตัวพี่เขา ส่วนไอ้ต้นก็เหมือนกัน ไอ้นี่ก็เล่นสมบทบาท ทรุดตัวนั่งลงบนตักพี่พีท่ามกลางสายตาโหดๆ ของพี่ธาม

 

พี่ธามหึงมันแฮะ ทำหน้าไม่สบอารมณ์เหมือนปวดขี้

 

“ดื่มไหม?” พี่อิฐว่พลางยิ้ม ทำทีโน้มหน้ามาใกล้แล้วยักคิ้วเป็นเชิงส่งอะไรสักอย่างมา

 

“อ้อ ดื่มก็ได้”

 

“ทำเหมือนพี่บังคับเลย เอาโค้กไปๆ” พี่อิฐว่า

 

“ไม่เอา เอาแบบพวกพี่น่ะแหละผมดื่มได้ ไม่เป็นไรหรอก”

 

“เอางั้นเหรอ ไหนบอกไม่ดื่มไง ถ้าเมาพี่ไม่หามกลับนะ” มันทำหน้ายิ้มเผล่ตอนว่า

 

ไอ้ผมก็แสร้งยิ้มหวานสุดๆ ให้ “งั้นพี่อิฐก็ค้างที่นี่กับผมสิ ได้ไหม?”

 

มันกำลังจะตอบตกลงครับ ไอ้ผมก็รีบเข้าไปกระซิบหน้าหวานๆ แต่…“กูโกหก”

 

มันชะงักนิดๆ ก่อนจะเบิกยิ้ม มือนี่เลื่อนมากอดบ่าผมแล้ว ใจของผมนี่กระตุกด้วยความเขินและทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นแววตาคนนั่งตรงข้าม มือหยิบเครื่องดื่มมาดื่มไล่ความร้อนออกจากตัว เวลาโกหกใครนี่ผมโคตรจะไม่เนียนเลยเหอะ

 

แหวะ!

 

กินไปยิ่งร้อนคอกว่าเดิมอีก ผมรีบหยิบโค้กเย็นๆ มาดื่มให้หายร้อนพลางสูดลมหายใจเข้า ผู้ชายอะไรวะแดกเหล้าไม่เป็นไอ้สัด

 

“ไม่ๆ ใครเขาดื่มเพียวๆ นี่ๆ เอาแบบผสมของพี่ไปกินก็ได้”

 

“แล้วของพี่ล่ะ?” ผมหันไปว่า

 

“ก็กินแก้วเดียวกับภีมไง”

 

มันยิ้ม ผมยิ้มตอบแล้วเอียงบ่าหลบให้มือมันตกออกจากตัวอย่างเนียนที่สุด ขยะแขยงไอ้สัด!

 

ตลอดเวลา ผมเอาแต่หลบตาไอ้ปอและไม่หันไปมองมันเลย คิดอยู่ตั้งนานสองนานว่าจะหันไปสบตา ไปทักทายอะไรมันสักหน่อยไหม แต่ตอนนี้ผมแม่งเหมือนผู้ร้าย เหมือนนักโทษแหกคุกที่ทำอะไรก็โดนจับจ้องตลอดเวลาจากมัน

 

ผมเงยไปสบตามันที่นั่งนิ่งจากตรงหน้า ระหว่างกลางเป็นโต๊ะเครื่องดื่ม ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ดวงตาอันเขียวปัดของไอ้ปอมันส่งมายังผมโดยที่ไม่พูดอะไร

 

เคยฟังเพลงไหม ไม่พูดก็ได้ยิน แต่กูนี่

 

เชี่ย!

 

ไม่พูดก็เสียวแล้ว

 

ผมได้แต่หยิบเหล้ามากระดก แล้วก็ร้อนคอ รสชาติห่วยแตกแต่ก็ดื่มแก้กระหายไปเรื่อย แต่แม่งผมว่าพอได้แล้วเดี๋ยวจะเมา แค่นี้ก็ตึงจนจะทำอะไรไม่ถูก คิดแล้วก็ปวดฉี่ขึ้นมาเสียเฉยๆ ว่าแต่ว่าห้องน้ำไปทางไหนวะแม่ง

 

หันหน้าไปหาไอ้ต้น มันโดนพี่พีเซ้าซี้อยู่ข้างๆ ไอ้นี่มันคอแข็งอยู่แล้วเรื่องอยู่ในวงเหล้าไม่ต้องห่วง ที่น่าห่วงคือกลัวว่าผมจะฉี่ราดกลางวงเถอะ โอย ผมยกมือเกาหัวตัวเองแล้วหันไปเจอะสายตาคนที่จ้องมาตลอด อะไรวะยังไม่เลิกจ้องอีก มึงจะเอาให้กูท้องให้ได้เลยปะวะ

 

ผมยิ้มยั่วๆ ส่งให้มันไปนิดๆ ยกมือทักทาย เออว่ะเมาแล้วหน้าด้านดี

 

ขยับเข้าไปถามทางเข้าห้องน้ำกับพี่ธาม มันละมามองผมแล้วยกยิ้มบอก

 

“เดินตรงไป เลี้ยวซ้ายนะ ตรงขวาจะมีรูปวิวอยู่ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย จำได้ไหม?” มันว่า ผมพยักหน้ารับหงึกๆ

 

“รูปวิวฝั่งขวาตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย เออ โคตรง่ายเลยพี่”

 

เยี่ยม ระดับกูไอสไตน์เรียกพ่อ

 

ผมพยักหน้ารับหงึกๆ แล้วลุกขึ้นเดิน ไม่สนไอ้พวกข้างหลังที่ร้องตามมา เดินตัวโยกเยกเกาะเฟอร์นิเจอร์บ้านพี่พีเดินไปเรื่อยๆ นิ้วมือชี้พลางมองออกไปด้านหน้า เมื่อกี้มันบอกว่าอะไรบ้างวะ

 

“ตรงไป…” ว่าพลางลากเท้าเดินสลึมลือไปด้วย ปวดหัวก็ปวด ดวงตาหาทางเดินไปเรื่อยกระทั่งเจอบันไดทางขวา ผมหันไปทางซ้ายที่เป็นทางแยก เซ้นส์ผมมันฉลาด

 

“เลี้ยวซ้าย…รูป รูป… รูปเชี่ยอะไร ไม่เห็นมี” ผมว่าพลางเดินต่อไป มองหารูปก่อนจะถึงบางอ้อ

 

สาวน้อยนั่งขยับขาเป็นรูปตัวเอ็ม

 

“วิวมึงนี่หมายถึงผู้หญิงโป๊เหรอ?”

 

ไอ้หื่นเอ๊ย แต่จะว่าไปวิวก็สวยใช้ได้นะ ผมนี่ยืนมองเพลินไปหลายนาทีเลยเหอะ

 

"เออ ลืมว่าปวดฉี่..." ผมบ่นอู้อี้งึมงำในคอหันมองหาประตูห้องน้ำ อยู่ไหนวะ

 

“เหี้ย!”

 

ขอประทานโทษที่ต้องอุทานคำไม่สุภาพทั้งๆ ที่จริงแล้วเป็นคนที่สุภาพนอบน้อมมาก เพราะตอนนี้โคตรตกใจเลย หัวยังมึนๆ อยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อร่างถูกลากเข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่มีอ่างล้างหน้า ม่าน แล้วก็ชักโครก

 

ห้องน้ำนี่หว่า

 

เดี๋ยวๆ ขอผมประมวลผลในหัวสมองแปป เมื่อกี้ยืนดูวิวสวยๆ อยู่หน้าห้องน้ำ แล้วจู่ๆ ตัวก็ถูกกระชากเข้ามา…ข้างใน

 

ชิบหายละ!

 

ผมรีบเงยหน้าไปมองคนที่พาผมเข้ามา นี่มันจะจับกูข่มขืนปะวะ

 

“ไอ้ปอ!”

 

ผมอ้าปากค้างมองมันที่ยืนขมวดคิ้วตัวเองเข้มจ้องมายังร่างของผมซึ่งนั่งกองอยู่กับพื้น พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนแต่โลกมันเอนเอียงจนแทบจะยืนไม่ได้

 

ปอมันมา มันตามผมเข้ามาในห้องน้ำ!

 

ผมจะทำไงดี ไม่มีใครห้ามมันเลยเหรอตอนที่เดินลุกออกมาจากกลุ่มแบบนั้น หรือพี่พีเห็นด้วยครั้งนี้เพราะคิดว่ามันยังเป็นแผน ใจผมเต้นตึกตักสูบฉีดดีเกินไป อาการมึนเมาหายไปชั่วขณะ อยากจะบอกทุกคนเลยตอนนี้ว่า

 

ช่วยกูด้วย!

 

 

 

มาแล้วจ้า มาอัพให้แล้ว



ตอนนี้เรื่องเริ่มหลุดออกมาจากความดราม่าแล้วนะคะ จะกลับมาร่าเริงอย่างเคย ใครที่คิดว่าเรื่องนี้ดราม่าน่ะ มันจะดราม่าแค่ช่วงพีคของเรื่องเท่านั้น หนูนาอยากให้อ่านแล้วดูพัฒนาการของพระนายมากกว่าค่ะ ซึ่งตอนนี้ พวกนางๆสองนางก็พากันเล่นกับความรู้สึกของพระเอกทั้งคู่

มาดูกันว่าที่พี่ปอตามมานั่น จะมาทำอะไรระหว่างมาบอกว่ากูหึงมึงนะ หรือมาบอกว่าแผนมึงแตกแล้ว 5555

 
 :katai4: :katai4:
เจอกันตอนหน้าจ้า

 

 

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เดี๋ยวๆๆๆ ปล่อยให้ภีมมันฉี่ก่อนนะค่อยคุย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด