ll เล่นเพื่อน ll [จบ] 10/2/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ll เล่นเพื่อน ll [จบ] 10/2/59  (อ่าน 772446 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Doranaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เย้ๆ ดีกันแล้ว อ่านแล้วกัดปากตัวเองแทนจิกหมอนเลย 5555555555

ออฟไลน์ duckool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เฮ้ออออ โล่งอกโล่งใจ เข้าใจกันได้สักทีเนอะ

ออฟไลน์ YaYboran

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยายก้อมีเกียร์นะ แต่ทุกวันนี้ยังหาคนที่จะฝากเกียร์ไวัไม่ได้เลย เศร้า :sad4:
 อิจฉาเต้ย!!!!

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ต่อไปคงได้หวานกันบ้างแล้วสินะ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เราก็อยากได้เกียร์
ตอนนี้น้องสอบได้วิศวะรั้วชมพูเหมือนจ๊อบ
อยากให้มันได้เกียร์เร็วๆ 555555

ขอบคุณคนเขียนค่า


ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
ตอนนี้ทั้งหวานทั้งซึ้งเลย ดีแล้วที่ปรับความเข้าใจกันได้ มีอะไรก็คุยกัน จ๊อบแกประพฤติตัวดีขึ้นมากเลย  :-[

ออฟไลน์ Tsubamae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
กรี้ดดดด อิจฉา อยากได้เกียร์บ้างงงงง
ดีใจๆๆๆที่ยังไม่ใกล้จบ แต่เหลือแค่สิบ
ตอนเอง สิบตอนหลักบวกร้อยตอนพิเศษ
ใช่ป่าว 5555+ ถ้าเป็นงั้นก็โอเคคคคจ้าา
เหลือคู่พี่ทีพี่เบียร์ ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
แหมมมมม่ จ๊อบนี่ก็แอบโรแมนติกนะเรา ฮ่าๆ  :laugh:
คู่นี้เขาเริ่มลงตัวแล้ว แล้วเมื่อไหร่พี่ทีพี่เบียร์เราจะมีความสุขกะเขาซะทีน้าาา   :hao5:
มาต่อไวๆนะฮะรอออออ   :')

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ anabell

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
มาม่าจะหมดยังนิ  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Erh

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ่านยังไม่จบนะ อ่านถึงตอนที่15 อยู่เลยแต่อยากเมนท์ก่อน
มันดราม่ามากค่ะ เสียน้ำตาแทบทุกตอน
อ่าน(ต้นเรื่อง)เรื่องนี้แล้วไม่รู้ว่าเราจะรู้สึกแหวกกระแสชาวบ้านไปหรือเปล่า แต่เรามองว่าสี่ปีที่เต้ยเจ็บ จะโทษอิจ๊อบอย่างเดียวก็ไม่ถูกนะ  คือฮีเป็นคนที่ถูกรักไง แต่ตอนนั้นฮียังไม่รู้ใจตัวเอง และฮีก็เข้าใจไปว่าไม่ได้รักเพื่อนสนิทตัวเองหรอก ด้วยความเข้าใจของจ๊อบในตอนนั้น เราว่าจ๊อบก็ทำถูกแล้วนะที่ปฏิเสธเต้ยไปแบบตรงๆ เรากลับชอบที่จ๊อบชัดเจนกับความรู้สึก(ณ ตอนนั้น)ของตัวเองซะอีก แบบแน่ใจว่าไม่ได้ชอบตอบแน่ก็พูดกันตรงๆไม่ได้ให้ความหวัง ส่วนไอ้ที่ดูแลฮีก็แค่ทำเหมือนเดิม แล้วก็ไม่แปลกนะที่จ๊อบจะอยากให้เต้ยไม่เจ็บอยากให้เหมือนเดิม ถึงรักตอบไม่ได้แต่ก็คงไม่มีใครอยากเสียเพื่อนไปหรอก ถ้ายังดีต่อกันได้เป็นใครก็คงทำ แต่ที่เต้ยเจ็บนั่นเป็นเพราะเต้ยทำใจไม่ได้เอง แต่เต้ยเองก็ไม่ผิดที่จะรู้สึกกลัวหลังจากที่เลือกที่จะเดินจากมาแล้วแต่จ๊อบดันเพิ่งรู้ใจตัวเองซะงั้น เข้าใจได้นะว่าเต้ยก็คงต้องใช้เวลาและต้องการความแน่ใจในการที่จะกลับไปหาจ๊อบ และอาจจะมีเข็ดกับรักแรกบ้าง แต่ถ้าเต้ยจะทำให้จ๊อบเจ็บ ก็ขอให้เป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฟีลแบบ ฉันเคยเจ็บมาก่อนแกก็ต้องเจ็บแบบที่ฉันเคยเจอ คือจ๊อบมันไม่ได้ทำผิดถึงขนาดต้องชดใช้ขนาดนั้น  เรามองว่าการที่จ๊อบต้องเจ็บไม่ใช่การต้องชดเชยในสิ่งที่เต้ยเคยเจ็บนะ เพราะสี่ปีที่เต้ยเจ็บนั่น เต้ยเลือกที่จะรักเอง จ๊อบแค่เป็นคนที่ถูกรักเท่านั้นเอง ที่เต้ยเจ็บคือเพราะการทำใจไม่ได้ของตัวเองเป็นส่วนใหญ่นะเราว่า จ๊อบมีเอี่ยวนิดหน่อยตรงห่วงและทำดีจนทำให้เต้ยตัดใจลำบากนี่แหละ ฉะนั้นให้จ๊อบเจ็บเพราะเหตุการณ์ปัจจุบันเถอะค่ะ อย่าให้อิจ๊อบเจ็บเพราะไปชดเชยสี่ปีที่เต้ยเจ็บเลย มันไม่แฟร์  อ่านบางคห.คือบอก จ๊อบต้องเจอเยอะกว่านี้ให้สมกับสี่ปีที่เต้ยเจ็บ เฮ้ยมันไม่ใช่  คืออ่านบางคห.แล้วนอยด์แทนจ๊อบ แบบอิพระเอกเรื่องนี้มันผิดไรนักหนาฟระ อย่าไปแค้นฮีขนาดนั้นเลย
เราแอบชอบตรงที่ผู้แต่งแต่งให้จ๊อบได้เจ็บเหมือนกับที่เต้ยเคยเจ็บ แต่ไม่ได้มาแนวแบบเต้ยเจตนาแก้แค้น  แต่มาในแนวแบบเต้ยอยากถอย เต้ยยอมเปิดใจศึกษาคนใหม่ บลาๆ ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่าเออแฟร์กับทั้งคู่ ไม่ใช่แค่เต้ยเจ็บฝ่ายเดียว จ๊อบก็เจ็บนะ  ขณะเดียวกันจ๊อบก็เจ็บเพราะการเลือก(รู้ใจตัวเองในวันที่เกือบสายและเดินหน้าจีบเต้ย)ของตนเอง ไม่ใช่เพราะเต้ยแก้แค้นกลับงี้  คือเจ็บแบบสมเหตุสมผลทั้งคู่ ซึ่งเราว่ามันน่าเชื่อและตัวละครไม่น่าด่าดี (อ่านยังไม่ทันเลยค่ะ แต่คาดว่าจะทันภายในวันนี้ ดราม่าๆนี่แหละของชอบ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ)

ปล.อ่านเรื่องนี้แล้วร้องไห้จนตาบวม ฮ่าๆๆๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2015 05:27:59 โดย Erh »

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
โอ้ยๆ เพิ่งอ่านถึงตอนที่ 11 แต่ขอเม้นก่อนละกัน ไม่ไหวละ
มันทั้งหน่วง ทั้งเศร้า ทุกตอนเลย

คือสงสารทุกคนเลย  ผมเข้าใจจ๊อบนะ เพราะเคยเป็น พวกรู้ตัวช้าเนี่ย
แต่มันสายไปในชีวิตจริง ตอนเขามาบอกความในใจ ผมก็อึ้ง และปฎิเสธไปแบบเดียวกับไอ่จ๊อบเลย
อ่านแล้วเหมือนเห็นตัวเอง ฮ่าๆ จนกว่าเราจะรู้ใจ ผมตั้งใจไปบอกเขา เขาไปคบกับอีกคนละ เฮ้อ
แต่ผมไม่ได้ทำแบบจ๊อบหรอกที่ขอโอกาส ผมเลือกที่จะถอยเอง มันช้าไปจริงๆ ตอนนั้นเศร้า ซึมไปเป็นอาทิตย์ เฮ้อ

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
ลงเอยกันแล้ว กว่าจะม่ถึงวันนี้ น้ำตาไหลเป็นโอ่งๆ

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ตามทันซะที หน่วงมาหลายตอน สุดท้ายก็เข้าใจกันซะที

จ๊อบฝากเกียร์ไว้ที่เต้ย หวานอ่ะ เขินแทนเต้ยเลย 5555+

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
อยากอ่านต่ออะ ไม่มาต่อแล้วหรอ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
น้องรหัสหวานกันแล้ว
รอคู่พี่รหัสบ้าง

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
รอออ  เข้ามารอออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1
 :sad4:หายไปนานมาก คิดถึงๆมาต่อไวๆนะครับ

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17





             ยกที่ 23 : บรรยากาศดีๆ (ครึ่งแรก)





       “ ตกลงกินที่ไหนดี”

       “ นั่นสิ”


        แฮมหันมาถามผมแล้วว่านก็พยักเพยิบมาที่ผมอีกแรงนึง ตอนนี้พวกเรากำลังถกเถียงกันเรื่องที่ว่าเย็นนี้จะไปกินข้าวที่ไหนกินดี จริงๆไม่เชิงว่ากินข้าวหรอกแต่เพื่อนๆจะเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังให้ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นประเด็นตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงตอนนี้ ตอนที่พวกเราเลิกเรียนแล้วกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดไปรเวทที่หอใน ทั้งรูมเมทของผมและเพื่อนตัวน้อยกำลังมุงดูรายชื่อร้านอาหารในแลบเล็ต ทั้งคู่ดูเข้ากันดีพากันชี้ชวนดูโน่นนี่อย่างสนุกสนาน ส่วนเจ้าของวันเกิดอย่างผมได้แต่ยิ้มน้อยๆ


       “ กินใกล้ๆนี่แหละ”

       “ อ้าว มัยอ่ะ” ว่านถามขณะที่คาบขนมปังเคี้ยวหนุบหนับอยู่ นี่ถ้าไอ้แท็คมาเห็นคงต้องบอกว่าน่ารักน่าหยิกผมยิ้มอ่อนก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเศษขนมปังที่ติดขอบปากอีกฝ่ายออกให้ ว่านพึมพำขอบคุณแล้วยิ้มจนตาหยีน่าเอ็นดูจนอดไม่ได้ที่จะขยี้ศีรษะเล่น


       “ ไปสวนหลวงมั้ย ไม่ไกลมาก”

       “.......”



        ...Rrrrrrrrr...



        ยังไม่ทันที่แฮมจะได้ตอบก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามาก่อน รูมเมทส่งสัญญาณว่าขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือผมกับว่านที่เปลี่ยนจากหัวข้อร้านอาหารมาสุมหัวดูของหวานยอดฮิตในจอ หน้าตาท่าทางของว่านบอกเลยว่าดวงตาที่เปล่งประกายนั่นกำลังบอกว่ารู้สึกดีแค่ไหนที่เห็นของหวานหน้าตาน่ารักในจอแท็ปเล็ต

        “ น่ากินจัง”

        “ ทำไมชอบกินของหวานจังฮึ” ผมถามเมื่อก็ลูบเส้นผมอีกฝ่ายเล่น

        “ ก็กินแล้วมันอารมณ์ดีอ่ะ”

        “ ถึงว่า...” ว่านเงยหน้าจากจอมองผมงงๆ เลยอดแกล้งไม่ได้ “..ไอ้แท็คถึงซื้อมาเอาใจตลอดเลย”

        “ ปะ เปล่าซะหน่อย”

        ว่านทำปากพะงาบๆแก้มเนียนแดงก่ำทำตาประหลับประเหลือกสงสัยว่าเขินจัดขนาดพูดยังตะกุกตะกักเลย


        “ นั่นแน่”

        “ อะไรเล่า”

        “ หึ”

        “ เมื่อวานเต้ยเห็นเค้กต้นกกที่ว่านหิ้วมาอ่ะ”


        “ อันนั้นว่านซื้อเอง” ปากน้อยๆเถียงผมอย่างไม่ค่อยจะเต็มคำนัก

        “ อร่อยมั้ย”

        “ อร่อยสิ”

        “ แล้วของเมื่อวานก่อนอ่ะ” ผมยังนึกสนุกแกล้งแหย่ต่อไป “ อันนั้นแท็คซื้อ อ่ะ ไม่ใช่ๆ” และเหมือนว่าเพื่อนตัวน้อยจะหลงกลตอบอย่างเพลินปากจนหลุดออกมาจนได้


        “ เต้ยอ่ะ ขี้แกล้ง” ว่านข่มความอายเอาคืนผมด้วยการเอานิ้วเล็กมาจิ้มๆแถวต้นแขนผมคงคิดว่าแรงแล้วแต่สำหรับผมเหมือนอะไรไม่รู้ว่ากดๆจิ้มๆยุกยิกเพลินดีเหมือนกัน “...ใครจะเหมือนเต้ย”

        “.......” ผมเลิกคิ้วมองยิ้มๆ


        “ ใส่ไม่ยอมถอดเลยนะ” ว่านเผยสีหน้ายิ้มร้ายก่อนจะชี้ไปที่คอผมซึ่งสวมใส่สร้อยที่มันให้ตั้งแต่วันนั้น งานนี้ทำเอาผมสำลักลมหายใจของตัวเอง แอบมองดวงตาใสซื่อของเพื่อนแล้วนึกไม่ถึงกับความกล้าหาญในการตอบโต้ ลำพังว่านคนเดียวคงทำอ้ำอึ้งเขินหน้าแดงลูกเดียวแต่ตั้งแต่มาสนิทกับแฮมรู้สึกว่าจะได้รับการทอดความกวนจากรูมเมทผมมาไม่น้อย

        “ ว่านรู้นะ...” เพื่อนตัวน้อยทำยืดมองผมแล้วยิ้ม “...รู้ด้วยว่าเกียร์มีความหมายว่ายังไง”

        “ เก่งจริงนะ” แกล้งยีหัวอีกฝ่าย

        “ แน่นอน”

        ผมหัวเราะขำกับท่าทางของว่านจนอีกฝ่ายทำหน้ามุ่ยอย่างน่ารัก พอดีกับที่แฮมเดินกลับเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มเผล่จนอดถามไม่ได้

       “ ว่าไงแฮม”

       “ ไม่ต้องไปกินที่ไหนไกลแล้ว”

       “ อ้าว ทำไมหล่ะ”

       “ ไปร้านพี่ต๋องพี่รหัสไอ้จ๊อบกัน”


       “ หืม”


        ผมกับว่านหันมามองกันอย่างงงๆก่อนที่แฮมจะชูพวงกุญแจรถยนต์ซึ่งเพียงแค่เห็นผมก็สามารถคาดเดาได้ว่าเจ้าของรถเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก

        “ ไอ้เต็ปมันติดรถไอ้จ๊อบไปแล้ว เห็นว่าไปส่งงานแล้วจะเลยไปซื้อของ ฉะนั้นพวกเราไปรถไอ้เต็ปกันมันจอดทิ้งไว้ที่คณะ” ผมยิ้มล้อรูมเมทที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แกว่งพวงกุญแจเล่น นี่ก็แปลกๆบอกไม่เป็นอะไรกันแต่ไอ้เต็ปดันให้รูมเมทผมพกพวงกุญแจรถมันซะงั้น

       หึ ปากแข็งกันทั้งนั้น



      .......

      .......




          ร้านของพี่ต๋องคือร้านอาหารกึ่งผับซึ่งตรงอยู่บนถนนสายเศรษฐกิจชื่อดังกลางกรุงที่มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน เรียกได้ว่าตั้งอยู่บนทำเลดีเพราะเป็นย่านธุรกิจซึ่งรายล้อมไปร้านอาหารและผับบาร์มากมาย แต่ร้านก็ยังมีจุดเด่นคือการตกแต่งที่ดูสบายๆน่านั่ง แฮมเล่าให้ผมฟังว่าจริงๆแล้วเป็นร้านอาหารที่เป็นธุรกิจของครอบครัวพี่ต๋องแต่พี่แกขอเอามาบริหารเองเลยมีการเปิดโซนที่เป็นบาร์โดยเฉพาะสำหรับนักท่องราตรี แล้วบังเอิญว่าทำไปทำมามันได้กำไรพี่ต๋องแกเลยลงทุนทำแบบครบวงจรทั้งร้านอาหาร บาร์และส่วนที่เป็นวงดนตรีเล่นสด

         ตอนที่พวกเราก้าวเข้าไปในร้านตอนห้าโมงเย็นร้านยังดูเงียบๆเพราะเห็นว่าเปิดบริการตอนทุ่มนึงดังนั้นเวลานี้ที่มีคนเข้าร้านได้ก็มีแต่พวกวีไอพีที่รู้จักกับทางร้านเท่านั้น พอไปถึงข้างในก็เห็นเต็ปกับแท็ค และรุ่นพี่ที่ใส่เสื้อช็อปสองคน อีกคนใส่เสื้อเชิ้ตเหมือนคนทำงาน  ผมกวาดตามองไปโดยรอบก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของมัน จนนึกแปลกใจ เพื่อนๆผมกวักมือเรียกจนต้องสาวเท้าเดินเข้าไปหาไม่รู้ว่าเต็ปกับแท็คมันไปสนิทกันตอนไหน เห็นว่าไปเตะบอลและซดเหล้าด้วยกันกับพวกวิศวะไปๆมาๆเลยสนิทกันเฉยอย่างว่าแหละพวกผู้ชายแค่ชนแก้วกันก็เป็นเพื่อนกันได้แล้ว พวกเราโบกมือทักทายกันก่อนจะหันไปยกมือไหว้รุ่นพี่อีกสามคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะ



         “ สวัสดีครับพี่”

         “ เออๆดี..” คนที่ตอบคือพี่ต๋องซึ่งเคยเห็นกันมาบ้างแกพยักหน้ารับก่อนจะตบเก้าอี้ตัวข้างๆเหมือนเรียกให้นั่งลงข้างกัน ผมทรุดตัวลงนั่งโดยมีรุ่นพี่อีกสองคนยิ้มให้คนหนึ่งหน้าสวยๆดูสูงโปร่ง อีกคนหัวสกินเฮดดูดุๆแต่เวลายิ้มแล้วก็ดูใจดีไม่น้อย

         “ พวกมึง” พี่ต๋องหันมาทางพวกเราก่อนจะแนะนำรุ่นพี่ทั้งสองคนให้รู้จัก “ นี่พี่ภัทร ส่วนนั่นพี่ทิม” พี่ต๋องชี้ไปที่รุ่นพี่หน้าสวยก่อนจะหันนิ้วไปทางพี่หัวสกินเฮด “ สายรหัสกูเอง”

         พวกเราพยักหน้างงๆจนไอ้เต็ปส่ายหัวคงเพราะพวกเราทำหน้าเหมือนจะเข้าใจมันเลยขยายความให้ “ พี่ภัทรกับพี่ทิมเป็นรุ่นพี่สายตรงของไอ้จ๊อบมัน  พี่ภัทรนี่พี่บัณฑิตปีที่แล้ว  พี่ทิมก็พี่ปีสี่  พี่ต๋องพี่รหัสมัน ส่วนพี่เบียร์เปีสามเป็นลุงรหัสมัน”

         พี่ต๋องยิ้มกว้างยกนิ้วให้ไอ้เต็ปสงสัยว่าสายมันกับสายของไอ้จ๊อบคงจะสนิทกันน่าดูเพราะดูเหมือนว่าไอ้เต็ปจะรู้จักรุ่นพี่ทุกคน


        “ ส่วนนี่” พี่ต๋องชี้มาที่ผมแล้วทำหน้ายิ้มกริ่ม “...น้องเต้ยแฟนไอ้จ๊อบ”


       หะ

       ยังซะหน่อย

       ผมอ้าปากค้างนึกแก้ตัวไม่ทันได้แต่อ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกแต่ได้ยินเสียงหัวเราะของบรรดาเพื่อนๆ ส่วนรุ่นพี่สามคนตรงหน้าแค่ยิ้มน้อยๆ


        “ เข้าใจเลือกนี่หว่า” พี่ทิมพูดกลั้วหัวเราะ

        “ นี่เหรอน้องเต้ย..” พี่ภัทรสำรวจใบหน้าผมแล้วยิ้มถูกใจ “...น่ารักสมกับที่มันโดดเลี้ยงสายครั้งแล้วตามไปเฝ้าถึงต่างจังหวัดเมื่อสัปดาห์ก่อนจริงๆหวะ”


       หืม

       ผมทำหน้าเอ๋อจับต้นชนปลายไม่ถูก


        “ ไม่ต้องตกใจ” พี่ต๋องยักไหล่ขำๆ “ พอดีไอ้จ๊อบมันโดดเลี้ยงสายครั้งที่แล้ว กูกับพวกพี่ๆเลยเลี้ยงย้อนหลังให้มันอีกที” ผมพยักหน้ารับสงสัยว่าที่มันโดดเลี้ยงสายสาเหตุคงมาจากผม แอบรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ที่มันต้องยกเลิกนัดของรุ่นพี่เพื่อขับรถไปส่งผมที่ต่างจังหวัดถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่ยอมปริปากบอกอะไรผม

        “ ว่าแต่มันไปไหนเนี่ยไอ้น้องบังเกิดเกล้าของกูเนี่ย” พี่ทิมใส่อารมณ์แบบขำๆ

        “ ผมให้มันไปซื้อกับแกล้มพี่ พอดีครัวที่ร้านยังไม่เปิดขี้เกียจโทรตามพ่อครัวเลยใช้แม่งไปซื้อของ ขากลับให้มันรับพี่เบียร์มาด้วย”

        “ นี่ตกลงพวกพี่นัดกันมาเลี้ยงรับไอ้จ๊อบจริงๆเหรอ โหอิจฉาหว่ะทำไมรุ่นพี่สายนี้ดีจังวะ” ไอ้เต็ปทำหน้าโอดครวญ

        “ สายคนหน้าตาดีก็เงี้ย”


        พี่ต๋องพูดแล้วยืดๆก่อนจะโดนรุ่นพี่ในสายตบหัวไปคนละทีสองที จะว่าไปสายมันก็หน้าตาดีจริงๆนั่นแหละแล้วแต่ละคนก็ยังมีสไตส์เป็นของตัวเองอีกด้วย

        “ แม่งโครตมาเฟีย” ไอ้เต็ปแซวคนที่ไม่อยู่ในวงสนทนา “ ขนาดไม่มาเลี้ยงสายรุ่นพี่ยังอุตส่าห์ถ่อมารวมตัวกันเลี้ยงสายให้ใหม่”

        “ จริงๆอ่ะนะ” พี่ภัทรกระแอมกระไอสบตากับรุ่นน้องสายตัวเองอย่างรู้กัน “..พวกกูกะมาดูหน้าน้องเต้ยแฟนมัน เห็นมันแทบเป็นบ้าเป็นหลังเมื่อเดือนก่อน”


        พูดจบทั้งโต๊ะก็ส่งเสียงกันฮาครืนต่างจากผมที่ขบเม้มริมฝีปากข่มความอายไม่ต้องพูดถึงสีหน้าที่แสดงออกตอนนี้หรอก เพราะแค่นี้ผมก็รู้สึกแล้วว่าหน้าร้อนจนแทบไหม้


        “ พวกมึงก็แซวจนน้องเขาไปไม่เป็นเลย”

        “ หึ”

        “ หัวเราะอะไรกันอ่ะ”


         เสียงของใครบางคนพร้อมกับการปรากฎตัวขึ้นของรุ่นพี่ปีสามสายไอ้จ็อบที่ยืนยิ้มเผล่สะพายกล้องตัวละหลายแสนคล้ายกับเพิ่งเสร็จจากงานถ่ายภาพมา

         “ อ้าวพี่”

         พี่เบียร์ยิ้มกว้างก่อนจะยกมือไหว้รุ่นพี่สายตัวเอง แล้วทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆกับผม ผมยิ้มกว้างตอนที่เราสบตากันพี่เบียร์ลูบหัวผมเบาๆเป็นเชิงทักทาย

        “ ไหนบอกว่าไอ้จ๊อบจะไปรับอ่ะพี่”

        “ พอดีกูออกมาก่อนเลยโทรไปบอกมันว่าจะมาเอง”

        “ อ๋อ”

        “ ไงเรา” พี่เบียร์หันมาทัก

        “ สบายดีครับพี่ แล้วพี่อ่ะ”

        “ ก็ดี..”

        “ จะไม่ดีได้ไงวะ..” พี่ทิมถามยิ้มๆ “...ได้ข่าวว่าจะไปได้ดีถึงสิงคโปร์เลยเหรอวะ”

         สิงคโปร์เหรอ ผมหันขวับมาเพื่อเงียบฟังบทสนทนาของรุ่นพี่อย่างเงียบๆ


        “ ก็ไม่ถึงขนาดนั้นพี่”

        “ แล้วเอกสารเตรียมถึงไหนแล้วเบียร์ มีอะไรให้พี่ช่วยบอกนะ” พี่ภัทรถาม

        “ ขอบคุณครับพี่ ไม่มีอะไรมาหรอกข้างของผมไม่เยอะนี่เพิ่งไปต่ออายุพาสปอร์ตมา”
หมายความว่ายังไงกัน


         “ ไปฝึกงานไกลที่สิงคโปร์แบบนี้ผมเหงาแย่..” พี่ต๋องแกล้งสีแขนพี่ตัวเองเลยโดนพี่เบียร์ตบหัวไปที

         “ เว่อร์ไปละมึง”

         “ ไม่เว่อร์หล่ะพี่ เห็นอาจารย์ชมว่าผลงานออกแบบซอฟแวร์ของพี่ที่ส่งไปให้ผู้บริหารที่บริษัทแม่ที่สิงคโปร์ดูเขาชมใหญ่เลย ถ้าฝึกงานผ่านไปด้วยดีเผลอๆเขาจองตัวพี่ให้ทำงานอยู่นั่นเลยนะ”

         อยู่ที่นั่น ที่สิงคโปร์งั้นเหรอ มันเหมือนหูอื้อฟังพวกพี่เขาคุยกันแล้วประมวนผลในใจ ผมไม่อยากเชื่อหรอกว่าสิ่งที่พวกเขาพูดกันมันหมายถึงการที่พี่เบียร์ต้องไปที่ไหนสักแห่งซึ่งไกลจากที่นี่และคนทางนี้


         “ เป็นอะไร”

        แก้มเย็นๆโดนแก้มผมจนเผลอสะดุ้ง ผมขยับตัวและจ้องมองพี่เบียร์ที่ยิ้มอ่อนๆให้ตอนนี้วงสนทนากำลังสนุกเพราะพวกพี่ๆและเพื่อนๆของผมกำลังเล่าเรื่องตลกกันอยู่ ผมมองหน้าพี่เบียร์นิ่ง

        “ พี่จะไปไหนครับ”

        พี่เบียร์ผ่อนลมหายใจ “ ฝึกงานหน่ะ ที่สิงคโปร์”

        “นานแค่ไหนครับ” ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอรู้สึกว่าตัวเองกำลังสั่นไหว

        “ ปีนึง”

        “ แล้ว..” มันรู้สึกโหวงๆในใจแปลกๆ ขนาดผมซึ่งรู้จักพี่แกได้ไม่นานยังรู้สึกผูกพันกันขนาดนี้แล้วกับใครบางคนที่ผูกใจกันมานานแสนนานจะรู้สึกอย่างไร


        “ พี่ไม่คิดถึงคนทางนี้บางเหรอ”

        “ ใครหล่ะ”

        “ ก็..”

        ผมรู้ว่าพี่รู้

        ผมรู้ว่าเราต่างก็รู้ว่าคือใคร


        “ ไม่รู้สิ”








                                       *************************************************************





          ผมถอนหายใจตอนที่มองเข้าไปด้านหลังล่าง ผมมองเห็นแผ่นหลังของพี่เบียร์ซึ่งเจ้าตัวกำลังเหม่อมองไปไกล ริมฝีปากสวยนั่นกำลังคาบบุหรี่และพ่นควันสีเทาลอยขึ้น

          ควันสีเทาลอยโขมงวิ่งวนไปมาเปรียบได้กับความสับสนวุ่นวายของชีวิต


          ตอนที่ผมทรุดตัวลงนั่งที่สวนหลังร้านซึ่งเป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับให้สูบบุหรี่ ตอนนั้นรุ่นพี่หน้าสวยเห็นผมแกรีบดับบุหรี่ลงกับกระถางทรายข้างๆก่อนจะรีบปัดควันระบายอากาศ


        “ ไม่เป็นไรพี่ สูบต่อก็ได้ผมไม่เป็นอะไร”

        “ หึ ไอ้จ๊อบมันเคยบอกไว้ว่าเราแพ้กลิ่นบุหรี่” พี่เบียร์กอดอกสบายๆพิงหลังไปกับพนักเก้าอี้

        “อ๋อครับ”


        ไม่รู้เป็นไงแค่ได้ยินชื่อมันหัวใจผมก็เต้นแรงแล้ว ยิ่งมารับรู้ว่ามันใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆของผมถึงขนาดนี้หัวใจผมก็ทรยศเจ้าของแบบนี้

        “ พี่เบียร์”

        “ หืม” ใบหน้าสวยหันมาสบตากับผมตรงๆ “ ว่าไงเราเรื่องอะไรจะคุยกับพี่รึเปล่า”

         ผมถอนหายใจก่อนจะเหม่อมองไปเบื้องหน้าอย่างใช้ความคิด สองสามวันมานี้ผมได้มีโอกาสเห็นพี่รหัสของตัวเองลงข่าวหน้าหนึ่งมันไม่ใช่ข่าวร้ายอะไรหรอก ตรงกันข้ามมันเป็นข่าวที่น่ายินดี ผมรู้ดีว่าว่าพี่รหัสของตัวเองมีฐานะที่ร่ำรวยและเป็นลูกหลานของตระกูลดังแต่ผมไม่เคยรู้ว่าตระกูลนั้นจะมีอิทธิพลถึงขนาดนี้ว่าข่าวประกาศการหมั้นระหว่างหลายชายคนโตกับหญิงสาวจากตระกูลผู้ดีเก่าจะน่าจับตามองเสียมากมายในแวดวงสังคมคนมีระดับ

         เข้าใจถูกแล้ว


        พวกคุณเข้าใจถูกแล้วที่ว่าพี่ทีพี่รหัสของผมกำลังมีข่าวหมั้นหมายกับผู้หญิงคุณสมบัติเพียบพร้อมจากคนในสังคมเดียวกัน ผมไม่รู้ว่าข่าวคราวเรื่องนี้เท็จจริงยังไง ในเมื่อเจ้าตัวอย่างพี่ทีไม่เคยเอ่ยปากปฏิเสธเวลาที่ถูกเพื่อนและรุ่นน้องที่สนิทไถ่ถามเรื่องนี้

        ไม่มีแม้แต่คำแก้ตัว

        คำแก้ตัวซึ่งบางครั้งคนแถวๆนี้กำลังรอคอย


         “ ผมเคยถามพี่ว่าถ้าพี่ไปพี่จะคิดถึงคนทางนี้มั้ย”

         “ คิดถึงสิ...” พี่เบียร์พูดยิ้มแต่แววตาไม่ได้สดใสไปด้วยเลย

         “ แล้ว แล้วถ้า ถ้ามีใครสักคนขอร้องไม่ให้พี่ไปหล่ะ”

         “ ไม่มีหรอก” พี่เบียร์ลูบหัวผมฝ่ามือนั้นสั่นเทาเล็กน้อย เพียงแค่นี้ผมก็รู้สึกได้ถึงกระแสบางอย่างที่กำลังส่งสัญญาณออกมา

        มันสะท้อนถึงความเจ็บปวด

         “ ทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ของตัวเอง ความคิดถึงไม่มีประโยชน์อะไรมากนักหรอกนอกจาเป็นแค่ความรู้สึกเท่านั้นเอง”

         “ พี่”

         “.....”

         “ บางที บางทีนะ” ผมสบสายตากับพีเบียร์ตรงๆ “..เขาอาจจะเป็นแค่ แค่” พี่เบียร์ยิ้มน้อยๆพยักหน้ารับรู้ว่าผมกำลังพูดเรื่องอะไร

         “ คู่หมั้น เขาเป็นคู่หมั้นกัน”

         พี่เบียร์พูดย้ำน้ำเสียงราบเรียบ แต่ผมรู้ว่าลึกลงไปมันมีความหมายแฝงที่มากกว่านั้น

         ผมน้ำตาร่วงเมื่อมองเห็นความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายเพียรสร้างกำแพงหนาขึ้นมาปิดทับให้เห็นแต่ความแข็งแกร่ง ผมร้องไห้เพราะกำลังทุกข์ใจเป็นที่สุดเมื่อเห็นเส้นทางของคนที่ผมรักและปรารถนาดีทั้งสองคนกำลังห่างจากกันไปเรื่อยๆ


          “ เราอาจจะเข้าใจผิด”

         พี่เบียร์ส่ายหน้าผมแอบมองเห็นแววหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอเพียงแวบเดียวก่อนที่มันจะจางหายไป

         “ เต้ย” พี่เบียร์ลูบบ่าผมเบาๆ “...เต้ยทำดีที่สุดแล้ว”

         ผมร้องไห้เงียบๆซุกบ่าพี่เบียร์แน่นโดยมีมือของอีกฝ่ายปลอบโยน “ ความรักไม่จำเป็นต้องจบลงสวยงามคือเราต้องคู่กันเสมอหรอก ความรักมีหลายรูปแบบและหนึ่งในนั้นอาจจบลงที่การจากลา”


         “ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น”

         “ ไม่มีใครหวังจะให้เป็นแบบนั้นหรอก”

         “ ทั้งๆที่รักกัน แต่ทำไมถึงรักกันไม่ได้” ผมสะอื้นจับชายเสื้อพี่เบียร์แน่น “...ผมไม่อยากให้มันจบแบบนี้ ฮึก พี่ทีใจร้ายทำไมถึงทำแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ว่ามันทำให้พี่เบียร์เสียใจ ผม ผม ฮึก”

         “ อย่าเสียใจ พี่รู้เต้ยหวังดี พี่รู้ว่าเต้ยทำเต็มที่แล้ว แต่เรื่องราวของพี่กับมันคงมาถึงทางตันแล้วหล่ะ เราควรยอมรับความจริงกันสักที”


         ผมยอมรับว่าเสียใจกับเรื่องนี้ไม่น้อยในเมื่อผมเป็นคนนอกที่เฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ทั้งเฝ้าดูและรอลุ้นอย่างมีหวังลึกๆแต่สุดท้ายมันกับพังทลายไม่เป็นท่า ผมรู้ดีว่าความรักมันทำให้ทรมานขนาดไหน ตลอดสี่ปี่ที่ผมรักจ๊อบมันมาข้างเดียวเจ็บปวดขนาดไหน คงเทียบกันไม่ได้กับคนที่รักกันมากแต่รักกันไม่ได้ความรักความผูกพันมากมายมหาศาลนั่นจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดสักเพียงไหน

         ความรักก่อให้เกิดบาดแผลทางจิตใจ

         เป็นบาดแผลที่ยากจะลบเลือน

         “ พี่จะกลับมาใช่มั้ย”


         เหมือนคำถามโง่ๆแต่ผมอยากถามออกไปเพราะอยากให้แน่ใจว่าพี่ชายที่ผมรู้สึกผูกพันคนนี้จะไม่ห่างหายไปจากกัน  ช่วงเวลาที่ผมทุกข์ใจเรื่องมันนอกจากพี่ทีที่เข้ามาทำให้ผมรู้สึกดีแล้ว ก็มีพี่เบียร์ที่คอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจ

        “ กลับสิ”

        “.......”

        “ ที่นี่คือบ้านของพี่ ต่อให้ไปไกลแค่ไหน สักวันหนึ่งพี่ต้องกลับมา”

        สักวันนึงที่ไม่รู้ว่านานแค่ไหน


        “ เต้ย”

        “ ครับ”

        “ พี่ดีใจที่มีน้องชายอย่างเรานะ”


        “......”

        “ ความสุขเป็นสิ่งที่ไม่ยืนยาวสำหรับมนุษย์ แต่พี่ดีใจที่เต้ยได้พบกับความสุขในตอนนี้ ยังมีคนอีกหลายคนที่ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อไขว่คว้าหาความรักที่แท้จริง  ต่างกับเต้ยที่เจอมันแล้ว”


        ใช่ ผมเจอมันแล้ว

        มันซึ่งไม่รู้ว่ามาแอบยืนอยู่ข้างหลังพวกเรานานแค่ไหน แต่ผมเห็นมันตอนที่พี่เบียร์พยักหน้าทักทายมัน มันซึ่งยืนอมยิ้มให้ผม เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นก่อให้เกิดความอุ่นวาบในหัวใจ

        พี่เบียร์ยิ้มให้พวกเราก่อนจะผละออกไป มันจึงได้โอกาสทรุดตัวลงนั่งข้างๆพร้อมกับยื่นขวดยาคูลย์ที่เจาะให้เรียบร้อยแล้ว ผมจึงยื่นมือไปรับแล้วนั่งดูด มันเขยิบเข้ามาใกล้ๆผมแล้วเอื้อมมือมากุมกันไว้

        “ รู้มั้ยว่าทำไมวันนี้ชวนมาที่นี่”

        ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ส่วนมันอมยิ้มเกลี่ยน้ำรอบขอบตาผมอย่างแผ่วเบา


         “ เพราะมึงสำคัญก็ถึงอยากให้มันรู้จักคนสำคัญของกูทุกคน”


         คุณเชื่อรึเปล่า

        ว่าในช่วงเวลาไม่นานผมมีอารมณ์หลากหลายขนาดนี้ เริ่มแรกดูหนักหน่วงเสียใจไปกับความไม่สมหวังของคนที่ผมรักคู่หนึ่ง ถึงจะไม่สมหวังในตอนนี้แต่ผมก็เชื่อว่าสักวันผมต้องได้มีโอกาสแสดงความยินดีกับรุ่นพี่ที่ผมเคารพรัก และสุดท้ายอารมณ์ของผมก็อื้ออึ้งเพราะคำพูดของมัน


         เหมือนว่าหัวใจถูกโอบล้อมด้วยความรู้สึกที่อ่อนนุ่ม








*****มาแล้วๆๆ หายไปนานอีกเช่นเคยจ๊ะ แหะๆ แต่มีข่าวมาแจ้งนิดนึงค่ะว่าช่วงนี้เก็บข้อมูลthesis
         อาจจะมาๆไปๆ ไม่ค่อยเป็นเวลาเนอะ ยังไงรอติดตามให้กำลังใจกันด้วยนะ

        ตอนนี้เอาไปครึ่งนึงก่อน แวะมาบอกว่าครึ่งหลังมันฟิน ฉะนั้นไปเตรียมหมอนเตรียมผ้าให้พร้อมนะ
        จะพาไปเที่ยวฟินแลนด์ 5555  :hao6:
        ส่วนคู่พี่เชิญร่ำไห้กันตามอัธยาศัยนะ กระซิกๆ  :hao5:

        ปล.มีใครเคยกินเค้กต้นกกม่ะ อยู่แถวสามย่านของโปรดเค้าเอง ฮ่าๆๆ (นี่เปล่าโฆษณานะ อิอิ)

        เจอกันตอนหน้าจ๊ะ  :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ pim14

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รอครึ่งหลังอย่างใจจดใจจ่อ สงสัยต้องเตรียมทิชชู่ซับเลือดเพื่อไปฟินแลนด์ 555 คนแต่งมาสปอยบ์แบบนี้ คนอ่านก็รอฟินาเล่น่ะสิคะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
รอไปฟินแลนด์กับคู่หลักแต่คู่รองก้เอาผ้าเช็ดตัวมารอรองซับน้ำตา

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ปูเสื่อนอนรอครึ่งหลังรอความฟินเลยครับงั้น :hao6:

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
 :hao5:  :hao5:   :hao5:  สงสารพี่เบียร์

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เบียร์เป็นคนที่ต้องสูญเสียอะไรเยอะจริงๆ นี่ถ้าไม่ได้อ่านตอนพิเศษคงไปต้มน้ำใบบัวบกรอแล้วค่ะ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
หน่วงที่สุดครับ คนรักกัน แต่ ไม่ได้รักกัน

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
"ทั้งๆ ที่รักกัน แต่ทำไมถึงรักกันไม่ได้" ประโยคนี้ปวดใจอ่ะ

คู่นี้เศร้ามาก จะร้อง :(

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด