Knight x August II “เฮลโลลอนดอนนนนนนนนน~~~” ผมแหกปากทันทีที่เครื่องแลนด์ดิ้ง ไอ้พี่ลุงไนต์รีบเอามือปิดปากเพราะอายผู้โดยสายคนอื่นที่ส่งสายตามามองและด่า ก็คนมันดีใจอ่ะ โดดดดด่ หน้าบางจริงพ่อคุณเอ๊ยยยยย
“อยู่นิ่ง ๆ ดิ๊!”
“ก็ตื่นเต้น จะได้เจอพี่ควอทซ์แล้ว เย้เย้” ผมร้องอย่างดีใจ ไอ้พี่ไนต์ส่ายหน้าระอาพร้อมผลักหัวผมหนึ่งทีด้วยความรัก ถุย!
ตอนนี้เรานั่งอยู่ในเครื่องบินอยู่เลย พี่มันบอกว่ารอให้คนน้อย ๆ ค่อยออกไป มันไม่อยากเบียด ก็นั่นแหละ เลยต้องติดแหง็กกันอยู่นี่ไง แต่ผมเห็นด้วยนะครับ คนเยอะวุ่นวายชะมัด เหมือนจะเป็นธรรมเนียมเนอะ พอแลนด์ดิ้งปุ๊บ คนก็ลุกพรึ่บ เปิดช่องเก็บของด้านบนเพื่อนเอาแฮนด์แบ็กเก็จแล้วก็ยืนออกันเหมือนรถติดในเมืองหลวง เฮ้อ...
เมื่อคนใกล้หมดพี่ไนต์ก็พาผมออก เดินตามทางมาเรื่อย ๆ จนมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ผมยิ้มทักทายเจ้าหน้าที่พร้อมกับยื่นพาสปอร์ตและวีซ่าให้ ขอบคุณคุณแม่ที่ส่งเข้าเรียนนานาชาติจึงพอจะพูดภาษาอังกฤษกับเขาได้บ้างเลยไม่ตื่นกลัว ไม่งั้นตายอย่างเขียด(ไอ้พี่ไนต์แม่งไปก่อนแล้ว เลวมาก) ตอบคำถามนู่นนี่ที่เขาถามก่อนจะรับพาสปอร์ตกับวีซ่าคืนแล้วเดินออกไปเพื่อรับกระเป๋า
ผมมองผู้คนมากมายเดินขวักไขว่อย่างตื่นเต้น ไม่ได้มองทางจนไอ้พี่ไนต์หงุดหงิด โดนด่าไปเยอะเลย แหะแหะ ขอโทษคร้าบบบบบ
เดินออกมาจากเก็ตก็เจอกับพี่ควอทซ์และพี่ปืน (เรียกตามไอ้พี่ไนต์เพราะขี้เกียจเรียน 2 พยางค์ผมรู้สึกว่ามันยาว อิอิ) ผมปล่อยให้พี่ไนต์เข็นรถใส่กระเป๋าคนเดียวแล้ววิ่งเข้าไปกอดพี่ควอทซ์ที่ยิ้มกว้างและอ้าแขนรอ ไม่เจอกันนานอ่ะ คิดถึงงงงงงงงง!
“พี่ควอทซ์!!!”
“ตัวเล็กของพี่ ฟอดดดดด!” พี่ควอทซ์หอมแก้มผมไปฟอดใหญ่ เรากอดกันกลมโดยไม่สนสายตาใคร(รวมทั้งพี่ปืนและไอ้พี่ไนต์ที่แผ่รังสีความมืดเข้าปกคลุม...) พี่ไนต์กับพี่ปืนทักทายกันด้วยการชกมือ คูลละเกินนนนนนน
“โอ๊ยยยย คิดถึงพี่ควอทซ์มาก ๆ”
“คิดถึงเหมือนกัน ไหน! มาหอมอีกทีดิ๊” ผมเอียงแก้มให้ พอจะพี่ควอทซ์กำลังจะฝังจมูก ผมก็ถูกผลักหน้าหงายด้วยมือหนาของพี่ปืน และคอเสื้อของผมก็ถูกกระชากไปด้านหลัง...
“อย่าเยอะ” ผมหัวเราะ เมื่อพี่ปืนพูดด้วยหน้าเซ็ง ๆ พี่ควอทซ์ยิ้มกว้างโชว์ฟันกระต่ายกระโดดเข้าไปเกาะแขนแฟนตัวเอง หรือจะใช้คำว่าสามีดีเพราะพี่เขาแต่งงานกันแล้ว คึคึ
“นี่น้องนะ!” ผมโวยวาย
“นี่เมียกู”
ผมเบ้ปาก เถียงไม่ได้ เชอะ! กับน้องก็หวง พี่ควอทซ์ก็เอาแต่หัวเราะอย่างเดียวเลย
พอออกมาด้านนอกสนามบินก็เล่นเอานิ่งเลย หนาว หนาวเหี้ย ๆ เมื่อกี้ตอนเดินลื่นแผ่นน้ำแข็งด้วย เกือบล้มหน้าแหก โชคดีที่พี่ไนค์คว้าไว้ทัน ไม่งั้นนะ... พอขึ้นรถผมก็ซุกพี่ไนต์เลย หนาวววววววว(มาหน้าหนาวร้อนก็แปลกแล้วเนอะ) ก็ว่าเนาะ.. พี่ควอทซ์ใส่โค้ทซะอลังการเลย ไหนจะหมวกไหมพรมอีก พี่ปืนบังคับแน่ ๆ
“ตัวเล็กหนาวหรอ เอาเสื้อพี่ไหม?” พี่ควอทซ์ถามพร้อมกับถอดเสื้อโค้ทออก ผมสั่นหัวบอกไม่เป็นไร
“มึงนั่นแหละใส่ไป ยิ่งป่วยง่าย ๆ” พี่ปืนบ่น พี่ควอทซ์ของผมเลยใช้เสื้อโค้ทที่เพิ่งถอดออกห่มให้ตัวเอง
ตอนนี้ผมไม่หนาวเท่าไหร่แล้ว หนาวมากแค่ตอนแรก มาเจออากาศอุ่น ๆ ในรถก็ค่อยยังชั่ว หายสั่นละ มีกอดของพี่ไนต์อีก ฟินไปนู่นนนน ฮะฮ่าาาา
“หิวป่ะ แวะหาอะไรกินก่อนหรือจะไปอพาร์ทเม้นท์?” พี่ควอทซ์เอี้ยวหน้ามาถาม
“มึงเอาไง?”
“เค้าไม่หิวอ่ะลุง” เพราะกินจากบนเครื่องก็เยอะอยู่ อยากนอนมากกว่า เมื่อยไปเกือบทั้งตัว
“อือ ไปที่พักเลย”
“ตามนั้น”
ใช้เวลาเดินทางราวสองชั่วโมงก็มาถึงอพาร์ทเม้นท์ของพี่ควอทซ์กับพี่ไรเฟิล เหนื่อยมากเลยยยยยยยยย และความเหนื่อยนั่นแหละทำให้ผมทิ้งตัวดิ่งสู่พื้นไม้ลามิเนตแทบจะทันที.. ถ้าไม่เกรงใจก็อยากจะนอนตั้งแต่ที่ฮอลทางเข้าแล้ว ฮือ ร่างจะพัง
“นอนทำเหี้ยไร ไปจัดของ” ผมยังคงนอนนิ่งแม้ไอ้พี่ไนต์จะเอาตีน เอ๊ย เท้าหนัก ๆ ของมันเตะผมอยู่ รักกูมากล่ะสิ เห้อ
“เค้าเหนื่อย”
“ไปจัดของ” ผมเบ้ปาก พลิกตัวนอนหงาย อ่า.. พื้นไม้เย็น ๆ นี่ก็ทำให้รู้สึกดีอยู่เหมือนกัน ฮิตเตอร์เพิ่งเปิดมันเลยยังไม่อุ่น ผมยิ้มเผล่ เด้งตัวขึ้นนั่ง ปล่อยให้พี่ไนต์มันตายใจก็กระโดดขี่หลังของพี่มัน “เล่นอะไรของมึง ลง!”
“ม่ายยยยย”
“มึงจะบ่นอะไรเนี่ย” พี่ควอทซ์ว่าพร้อมกับตบหัวพี่ไนต์แล้วเดินไปนั่งที่โซฟา
“สัด” พี่มันด่า “ตัวหนักอย่างกับหมูยังสะเหร่อมาขี่หลังกูอีก” ผมหัวเราะร่า พี่ไนต์สะบัดตัวจะให้ผมตก แต่ผมมันดื้อ! รัดคอแม่งเลย ว่าใครเป็นหมูหาาาาา!!!
ป๊าบ!! “โอ๊ย!” ผมร้อง ความเจ็บทำให้ผมเบ้หน้า กระโดดลงจากหลังพี่ไนต์แล้วลูบจับก้นตัวเอง ตวัดตามองพี่ปืนอย่างขุ่นเคือง อีกฝ่ายเลิกคิ้วมอง ยกยิ้มมุมปากแล้วยกเบียร์ขึ้นดื่มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฮืออออ เจ็บโว้ยยยยย
“อะไรวะ?” พี่ไนต์ถามงง ๆ
“พี่ปืนเตะก้นเค้า ลุงงงง จัดการให้เลยยยย” พี่มันกระพริบตาก่อนจะหัวเราะเสียงดัง วางมือบนหัวผมแล้วโยกเบา ๆ ก่อนจะพูดออกมาทำเอาผมซึ้งเลย
“สมน้ำหน้า”
จบท้ายด้วยยิ้มหล่ออีกหนึ่งดอก...
ไอ้เหี้ยลุง!!!!
อ้อนพี่ควอทซ์ก็ด้ายยยยย ผมยกยิ้มกับตัวเอง หันไปหาพี่ควอทซ์ เจ้าตัวเลิกคิ้วก่อนจะหัวเราะ ยังไม่ทันไปถึง พี่ปืนก็รวบเอวพี่ควอทซ์ไปนั่งตักซะแล้ว ฟหหยกำสใยแานนาหยกสฝฟบยไาสกนย
“เชอะ!!!”
และจากนั้นผมก็ถูกพี่ไนต์ลากคอเข้าไปที่ห้องนอน....
ห้องนอนไม่ได้ใหญ่มาก แน่นอนอยู่แล้วเพราะมันไม่ใช่ห้องหลัก แต่บรรยายมันทำให้ผมชอบมากกกกกกกกกกกกก!!! แสงไฟสีส้มดูอบอุ่นขัดกับหิมะที่กำลังโปรยปรายอยู่นอกหน้าต่าง... อ๊ากกกกกกกกก เมืองไทยทำไมไม่มีแบบนี้บ้างงงงงงงงงงง
“อย่าเพิ่งบ้า มาจัดของ” เสียงทุ้มต่ำจากด้านหลังดังดับฟิน ผมตีหน้างอแล้วนั่งลงที่เตียง
“เค้าง่วง”
“จัดแล้วค่อยนอน เร็ว!”
“เดี๋ยวค่อยจัดก็ได้..”
“มาทำให้มันเสร็จ ๆ มึงจะอะไรนักหนา”
จิ๊!
“ทำให้เสร็จได้ไง มันต้องใช้
ความรู้สึกด้วย อ๋อ! ต้องมี
อารมณ์ร่วมด้วย”
“ไอ้เด็กทะลึ่ง”
ผมหัวเราะ แลบลิ้นใส่พี่ไนต์แล้วมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนา อ๊าาาาา อุ่นนนนนนน
“มึงนี่นะ...”
จุ๊บ
ก่อนจะหลับไปผมก็ได้ยินเสียงงึมงำอะไรสักอย่างที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องมากนักและสัมผัสอุ่น ๆ ที่หน้าผาก...
ผมตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไป รู้สึกมึนหัวหน่อย ๆ มองไปที่หน้าต่างข้างนอกมืดซะแล้ว ก็นะ หน้าหนาวมันมืดเร็ว เดินงัวเงียไปที่ห้องนั่งเล่น ผมชะงักเมื่อเห็นว่ามีแขกอยู่ด้วย พี่ควอทซ์หันมายิ้มให้แล้วบอกให้ไปล้างหน้า เมื่อกลับออกมาอีกผมก็รู้ว่าคนที่มาใหม่เป็นคนไทย จึงยกมือไหว้ พี่ชื่อกวินเขาอยู่ห้องตรงข้ามกับพี่ควอทซ์
“กูกลับดีกว่า” พี่กวินบอก
“ไม่อยู่กินอะไรด้วยกันเหรอวะ?”
“เห็นว่ามึงขอนะ อยู่ก็ได้” พี่ควอทซ์กลอกตา ผมแอบหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยิ้มใส่พี่ไนต์ที่หันมามอง
“ดไวท์ล่ะวะ?”
“อยู่ที่ห้อง”
“มึงไม่พามาดิ ทิ้งไว้คนเดียวได้ไง” พี่กวินจิ๊ปากก่อนจะเดินออกไป สักพักก็กลับเข้ามาพร้อมกับเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก
“สวัสดีพี่เขาสิ” พี่กวินผลักศีรษะเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ น้องยกมือไหว้แล้วยิ้มน่ารัก
“สวัสดีฮับ”
“น่ารักกกก ชื่ออะไรครับ?” ผมถาม น้องหลบอยู่หลังพี่กวินแต่ก็โผล่หัวออกมา
“...Dwight”
“พี่ชื่อกัสนะ ออกัส”
น้องเงยหน้ามองพี่กวิน “ไปนั่งกับคาคาไป”
ดไวท์วิ่งไปนั่งตักพี่ควอทซ์ แอบเห็นพี่ปืืนเบ้ปากตอนพี่ควอทซ์หอมแก้มน้อง ฮ่าฮ่า ตลกอ่ะ กับเด็กก็ยังหึง
“น้องชายพี่กวินหรอฮะ?” พี่ควอทซ์หัวเราะเมื่อผมถาม อะไรอ่ะ..
“ลูก”
ผมเบิกตากว้าง ยื่นหน้าเข้าไปใกล้หนูน้อยดไวท์ สลับกับมองหน้าพี่กวินที่คุยกับพี่ปืนและพี่ไนต์ไม่สนใจอะไร เออว่ะ ตาคมเหมือนกันเลย แต่น้องน่าจะ 3-4 ขวบนะ ถ้าพี่กวินอายุเท่าพี่ไนต์ก็ต้องมีน้องตั้งแต่อายุ 18
โอ้มายก็อด!!!!
“ออฟา” น้องเรียกพี่กวิน
“อะไร?” พอพี่กวินถาม เจ้าตัวเล็กก็เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ส่ายหน้า
โอยยยยย น่ารักมากเลยอ่ะ ยัยตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ! แน่ใจว่านี่คืนเด็กผู้ชาย!!!
“ฟังภาษาไทยออกด้วย”
“ก็พูดไทยกับมัน แต่ก็มีงง ๆ บ้าง” พี่กวินบอก
“อ๋อออออ” ผมลากเสียง “น่ารักจังเลย น่ารักกกก!”
“อ่ะ ดไวท์เล่นกับพี่กัสก่อนนะ คาคาจะไปหาอะไรให้กิน”
“ฮะ”
“ลุงงงงง น้องน่ารักมากเลยยยยย”
ไอ้พี่ไนต์ทำหน้ารำคาญ “เออ รู้แล้ว”
“ขอเอากลับไปเล่นที่บ้านได้ป่ะครับ”
“เอาไปดิ” พ่อเขาบอก
“ดไวท์กลับไทยกับพี่กัสไหม”
“ไม่กลับ หนูจะอยู่กับออฟา” กรรม.. ไอ้ลุงหัวเราะใหญ่เลย ยิ่งดไวท์วิ่งไปหาพี่กวินมันยิ่งหัวเราะเสียงดัง นิสัยไม่ดี เชอะ!!
“อะไรมึง” โห พูดกับลูกงี้เลย
“น้องไม่ชอบผมหรือเปล่าพี่?”
“เปล่า มันอาย ดูแก้มดิ” พี่กวินบอกพร้อมกับดึงแก้มย้วยของดไวท์ น้องร้องงื่อบอกเจ็บ พี่กวินยิ่งบีบ เล่นกับลูกโหดฉิบ ผมระบายยิ้มเมื่อแก้มน้องขึ้นสีแดง หยั่งกะลูกตำลึง น่ารักมาก!!!
“ออฟา หนูไปหาคาคานะ”
“ไปดิ อย่าไปกวนมันนะ”
“อือ”
“ไปด้วยยยยยย”
“ดไวท์มีชื่อไทยหรือเปล่า?” ผมถามเด็กน้อยที่เคี้ยวเฟรนส์ฟรายส์แก้มตุ่ย
“มีฮะ”
“ชื่อว่าอะไรเหรอ?”
“กานต์ฮะ”
“แล้วชื่อจริงล่ะ? มีไหม”
“มี... แต่... หนูจำไม่ได้” อ้าว “คาคา หนูชื่ออะไร?” กรรม ผมหัวเราะ พี่ควอทซ์ก็เช่นกัน น้องยิ้มเขินที่จำชื่อตัวเองไม่ได้ น่ารักโว้ยยยยยยยยยยยย
“ดมิสา หนูชื่ออะไรดมิสาไง ถ้ากวินรู้ว่าจำชื่อตัวเองไม่ได้โดนมันด่าเลยนะ”
“ง่ะ.. ก็หนูจำไม่ได้นี่นา คาคาอย่าบอกออฟานะ”
“ชื่อเหมือนผู้หญิงเลย” ผมว่า ดไวท์หน้างอไปแล้ว ผมจึงยื่นมือไปจิ้มแก้มนุ่มเป็นการง้อ
“อืม แต่น่ารักดีออก”
“แปลว่าอะไรหรอครับ” ถามพี่ควอทซ์
“เจ้าเหนือความมืด หรือ พระจันทร์”
“โห... เท่มาก!”
“ออฟาตั้งให้แหละ คึคึ” น่ารักจริงลูกเอ๊ยยยยยยย
“อาหารเสร็จแล้ว ตัวเล็กไปเรียกพวกนั้นมาหน่อยนะครับ พี่จะจัดโต๊ะ”
“โอเคครับผม!”
“ออฟาหนูอยากกินไส้กรอก”
“มันมีไหมล่ะ”
“ไม่”
“ไม่มีก็ไม่ต้องกิน อย่าเรื่องมากดิ”
“หนูอยากกิน...”
“เดี๋ยวทำให้ก็ได้”
“มึงไม่ต้องตามใจมันเลยไอ้ควอทซ์”
“เอ๊า”
“ลูกกูเสียการปกครองหมด วันนี้ไม่มี วันอื่นค่อยกิน ถ้าอยากกินก็บอกดิทีหลัง”
“หนูก็บอกอยู่นี่ไง” ผมหัวเราะ ยกมือปิดปากเมื่อพี่กวินมองตาดุ กลัวแล้ววววว ฮะฮ่า
“หมายถึงบอกล่วงหน้า”
“งูยยย หนูไม่กินก็ได้”
“เออ”
“คาคา~”
“ครับ?”
“ไม่ต้องเลยไอ้ควอทซ์ มึงก็ไม่ต้องอ้อน มีอะไรให้กินก็กินไป”
“ฮึ!!”
เกือบจะเกิดสงครามบนโต๊ะอาหารซะแล้ว...
“ขอบคุณครับ” ผมบอกพี่ไนต์ที่ตักแซลม่อนอบซอสฝีมือพี่ควอทซ์มาให้ จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วเช็ดมุมปากให้ผมอีก O_O!
“ทำตาโตอีก”
“ก็.. ทำไมลุงน่ารัก เค้าเขิน”
“สัด”
“แฮ่... อ๊า! ทำไมดไวท์เรียกพี่ควอทซ์ว่าคาคาล่ะครับ?”
“ขี้เสือกนะมึง” ไอ้พี่ไนต์ว่าพร้อมกับทุบหน้าผากผมเบา ๆ
“ไม่รู้เหมือนกัน” พี่ควอทซ์ไหวไหล่ตอบ
“ออฟาด้วย?”
“มันบอกคนอื่นเรียกแด๊ด เรียกแด๊ดดี้เยอะแล้ว ไม่อยากซ้ำเลยเรียกออฟา กวนตีน”
อย่างนี้นี่เอง...
“ฮิปสเตอร์ไหมล่ะ”
“ฮะฮ่าาาาาา” หนูน้อยดไวท์ฉีกยิ้มกว้างในขณะที่คนอื่นหัวเราะกัน ความคิดสร้างสรรค์ดีนะครับ ฟา น่าจะมาจาก Father แต่ ออ นี่ผมไม่รู้เหอะ เดาไม่ได้เลย
หลังทานอาหารเสร็จและครอบครัวตัวป่วนก็กลับห้องไปแล้ว...
“ง่วงเหรอ?” พี่ไนต์ถาม คงเห็นผมนั่งโหงยเหงน
“คงเจ็ทแลคมั้ง” ตอนนี้เวลาสามทุ่มครับกว่าเองครับ ถ้าเป็นไทยก็น่าจะตีสี่แล้ว
“เข้าไปนอนไป”
“ฮือ ลุงไปกับเค้าสิ”
“ไม่ล่ะ กูไม่ง่วง”
“ลุงไม่เจ็ทแลคบ้างเหรอ?”
“กูเก่ง”
“โวะ!”
“ไปนอนไป พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว”
“จริงนะ! โอเค งั้นเค้าไปนอนก่อน จุ๊บ” ยื่นหน้าไปจุ๊บปากไอ้พี่ไนต์ด้วยความลืมตัวเพราะคิดว่าอยู่สองคน เมื่อผละออกเห็นสายตาสองคู่ของพี่ปืนกับพี่ควอทซ์แล้วผมก็หน้าร้อนผม รีบวิ่งเข้าห้อง ได้ยินเสียงหัวเราะตามมาด้วย โคตรอาย ฮือ!
เอาเป็นว่าวันนี้ผมนอนก่อนแล้วกัน ราตรีสวัสดิ์นะครับ
---------------------------------

หายไปนานกับเรื่องนี้ แงงงงง
มียัยบันนี่ด้วย คิดถึงงงงงงงงงงงง
เหลือไนต์กัสอีกหนึ่งตอน จากนั้นก็จะแต่งพี่ปืนกับน้องกระต่ายนะงับ (แต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ฮึก)
เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นานนนนนน~~

ขอบคุณทุกคนนะคะ จุ้บ ๆ
ถ้าเจอคำผิดก็บอกด้วยนะงับ
บ๊ายบายยยยยยยยย
