ตอนที่ 29
สัญญาผ่านสายลม
“อยากมาอยู่ที่นี่จัง” ร่างบางพึมพำมองสวนดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ของห้องสมุดนานาชาติเขาค้อที่ออกดอกสวยงามตลอดทั้งปี และปลายฝันเป็นคนที่ชอบเข้าห้องสมุดแล้วด้วย ยิ่งหลงใหลที่นี่เข้าไปอีก ปฐพีกับอัคนีได้ยินว่าปลายฝันพูดอะไรก็ได้แต่มองหน้ากันยิ้มๆ
“เป็นเอามากนะ” ปฐพีพูดขึ้น
“นี่ยังมีอีกตั้งหลายจังหวัดที่สวยกว่านี้อีก” อัคนีบอก
“ก็เคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก มันจะแปลกอะไรที่ดรีมจะบอกว่าที่สวยที่สุด” พูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
ไม่ว่าหน้าไหนก็ห้ามว่าที่นี่ไม่สวยเด็ดขาด ปลายฝันชอบที่นี่และไม่มีทางที่จะลืมได้แม้ว่าอาจจะมีโอกาสได้ไปที่ที่สวยงามกว่านี้ก็ตาม
“โกรธอะไรเนี่ย”
“เปล่าฮะพี่ดิน ก็แค่...” ปลายฝันเงียบไป
“แค่อะไร อย่าพูดขึ้นมาแล้วไม่พูดให้จบแบบนี้สิวะ”
“ที่นี่เป็นบ้านเกิดของแม่น่ะฮะ”
สิ้นคำบอกเล่าของปลายฝัน ปฐพีกับอัคนีก็เงียบไป เพราะไม่คิดว่าที่นี่จะเป็นบ้านเกิดของแม่แท้ๆ ของปลายฝันที่จากไปแล้ว ก็เลยเลือกที่จะเงียบเพราะกลัวจะไปพูดอะไรที่ทำให้ปลายฝันเสียใจได้
‘แม่ฮะๆ บ้านของคุณแม่อยู่ที่ไหนหรือฮะ’ ปลายฝันวัยซนถามผู้เป็นแม่ที่กำลังลูบศีรษะของตนเพื่อกล่อมให้นอน
‘ถามอะไรแปลกๆ ล่ะลูก ก็ที่นี่ไงจ้ะบ้านของแม่ แล้วก็บ้านของหนูด้วยไง’
‘ไม่ๆ ดรีมหมายถึงว่าบ้านคุณตากับคุณยายน่ะฮะ’
‘ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ’
‘วันนี้คุณครูสอนเรื่องครอบครัวของฉัน ครูบอกว่าจะมีแม่ของเราได้ ก็ต้องมีคุณตาคุณยาย ดรีมอยากอยู่ว่าบ้านของคุณตาคุณยายอยู่ที่ไหน’ ถามแม่เจื้อยแจ้วราวกับไม่ง่วงนอน
ผู้เป็นแม่เผยยิ้มอ่อนโยน
‘คุณยายกับคุณตาไปอยู่ที่สวรรค์แล้วลูก แม่เลยขายบ้านั้นทิ้งแล้วมาอยู่ที่กรุงเทพไงครับ’
‘แล้วมันที่ไหนล่ะฮะ’
‘บ้านแม่นะลูกอยู่บนเขานู่น มองเห็นทะเลหมอกสวยงามมากเลย ราวกับสรวงสวรรค์ที่อยู่บนโลกมนุษย์น่ะลูก’ ผู้เป็นมารดาเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้ม
‘ต้องสวยมากๆ เลยใช่ไหมฮะ’
‘มันสวยมากเลยล่ะลูก สวยจนลืมมันไม่ได้ คิดถึง’ แม้มันจะเศร้าแค่ไหนที่ลืมไม่ได้ว่าตนกับพ่อแม่ลำบากอย่างไร แต่ก็ดีใจที่ท่านไปสบายแล้ว เหลือแค่ลูกน้อยคนนี้ที่เธอต้องดูแลให้ถึงที่สุด ตราบที่แม่คนหนึ่งจะทำได้
‘สักวันดรีมจะไปที่ที่แม่กับคุณตาคุณยายเคยอยู่นะฮะ’
‘ถ้าหนูโตขึ้น มีงานทำ ลูกจะได้ไปที่ไหนก็ได้ตามแต่ที่ลูกต้องการ’
‘ดรีมจะพาแม่ไปด้วยกัน พาไปดูทะเลหมอก ฮิฮิ’
สักวันดรีมจะพาแม่มาด้วยกันแต่มันไม่มีโอกาสนั้นแล้วใช่ไหมฮะแม่...
ถึงวันนี้ดรีมจะไม่มีแม่มาด้วย แต่สองคนข้างๆ ดรีมตอนนี้คือคนที่ทำให้ดรีมได้มีโอกาสมายังสถานที่ที่แม่เกิด ซึ่งดรีมไม่รู้หรอกว่ามันคือที่ไหน
แค่ตอนนี้...ดรีมได้มาถึงแล้ว
แม่รับรู้ได้ใช่หรือเปล่าฮะ
ปลายฝันแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยดวงตาที่เศร้าสร้อย แต่ก็ไม่ร้องไห้ออกมา เพราะสถานที่ตรงนี้เป็นสถานที่สุดท้ายแล้วกับการท่องเที่ยวในวันนี้ และในครั้งนี้ด้วย
ตลอดทั้งวันมานี้ ปลายฝันมีความสุขมาก มันสุขจนพูดอะไรไม่ออก ทุกสิ่งทุกอย่างมันเติมเต็มจนล้นอกไปหมด ทุกความทรงจำ ปลายฝันจะจดจำมันเอาไว้ตลอดไป
และหวังไว้ในสักวันหนึ่งว่า...เขาคงจะได้มาที่นี่อีก แม้จะไม่รู้ว่าจะเป็นวันไหนก็ตามที
แม่ไม่ต้องเป็นห่วงดรีมนะฮะ...
ตอนนี้ดรีมมีพี่ดิน พี่เพลิงอยู่ข้างๆ อยู่ คอยดูแล คอยเอาใจใส่ไม่ห่างไปไหน ลูกขอพรจากผู้เป็นแม่ จงอำนวยอวยพรให้พี่ๆ ทั้งสองอยู่ข้างๆ ดรีมแบบนี้ตลอดไปนะฮะ
ดรีมรักแม่...
วินาทีอุ่นซ่านไปทั่วทั้งหัวใจ ทำให้ดวงตาใสรื้นไปด้วยน้ำตา เมื่อมีลมพัดมายังพวกเขาสามคนแต่ดอกไม้ตรงหน้ากลับไม่ไหวติงราวกับไม่มีลมพัด หรือลมอาจจะพัดแค่พวกเขา ทำให้ปลายฝันรับรู้ได้ว่าผู้เป็นแม่ยังอยู่เคียงข้างลูกเสมอ
“แปลกนะ ลมพัดอย่างแรง แต่ดอกไม้ไม่เห็นจะส่ายตามแรงลมเลย” ปฐพีพูดขึ้นอย่างอัศจรรย์ใจ
“อืม...มันเป็นลมที่อบอุ่นยังไงชอบกล มันอุ่นนะ อุ่นแบบบอกไม่ถูก” อัคนีพูดตามความรู้สึก ทั้งๆ ที่เป็นลมในฤดูหนาว ที่มันกลับทำให้ผู้ชายทั้งสามคนอบอุ่น
ปลายฝันปาดน้ำตาออกไป แล้วยกยิ้มอย่างยินดี
“แม่รับรู้ได้ใช่ไหมฮะ” ปลายฝันถามเสียงสั่นๆ
ปฐพีกับอัคนีมองปลายฝันด้วยความรู้สึกเห็นใจ พวกเขาไม่เคยรับรู้หรอกว่า การสูญเสียมันเป็นเช่นไร แต่รู้ว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามพวกเขาไม่อยากจะสูญเสียอะไรทั้งนั้น
“คุณแม่ของดรีมไม่ต้องเป็นห่วง ผมดิน ปฐพี อภิหชัยบดินทร์ คนนี้ขอสัญญาว่าจะดูแลลูกชายของคุณแม่ให้ดีที่สุด ตราบที่ผมจะทำได้” ปฐพีพูดขึ้นมาเบาๆ แต่ปลายฝันก็หันไปมองคนพูดด้วยความรู้สึกหลากหลาย
และหนึ่งในนั้นคือยินดี
“ผมเพลิง อัคนี อภิหชัยบดินทร์ ก็สัญญาว่าจะดูแล และอยู่ข้างๆ ลูกชายคุณแม่ตลอดไปครับ เอาไว้ว่างๆ ผมจะให้ดรีมพาไปไหว้โกฏิของคุณแม่นะครับ” อัคนีบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งร่างเล็กก็หันมามองอย่างขอบคุณด้วย
ฟิ้ว...
สิ้นเสียงของอัคนี ลมนั้นก็พัดเข้ามาหาพวกเขาอีกวูบหนึ่งด้วยรูปแบบเดิม จนทั้งสามคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้ว ทั้งสามแหงนหน้ามองท้องฟ้า เอื้อมไปจับมือเล็กคนละข้าง แผ่ความอบอุ่นของตนให้กับปลายฝันจนตื้นตัน น้ำตาไหลออกมาด้วยความปิติ
สัญญาครับ!!
พวกเขาให้ความหนักแน่นในสัญญาอีกครั้งในใจ ก่อนจะหันหาปลายฝันที่ยืนร้องไห้อยู่ พวกเขาเช็ดน้ำตาให้ปลายฝันคนละข้างอย่างอ่อนโยน จนแห้งเหือดไป
“ขอบคุณฮะ”
“ไม่เป็นไร นี่ก็เย็นมากแล้ว หิวข้าวไหม”
“หิวแล้วฮะพี่ดิน แล้วพี่เพลิงล่ะ” หันไปถามอีกคน
“หิวสุดๆ เลยล่ะ”
“ถ้างั้นเราไปหาอะไรกินกันเถอะฮะ ไม่เอาที่รีสอร์ทนะฮะ” ปลายฝันรีบพูดดักไว้
“แล้วจะไปกินที่ไหนล่ะ” ปฐพีถาม
“ไม่รู้ดิวะ”
“ว่าไงคนอยากเที่ยว ได้หาข้อมูลร้านอาหารมาไหม” อัคนีถาม ส่วนปลายฝันก็ยิ้มแหยๆ ไปให้
“นั่นไง คิดแต่จะเที่ยว กินไม่ยอมคิด”
“โหยพี่เพลิงอ่ะ เดี๋ยวขับรถหาเอาก็ได้ หรือไปเดินซื้ออะไรกินตามตลาดไหม น่าสนุกดีออก” ปลายฝันชวน
“เอาแบบนั้นก็ได้ ไหนๆ ก็มาขนาดนี้แล้ว ลองอะไรแปลกใหม่ดูบ้างก็ไม่เสียหาย” ปฐพีเห็นด้วย
“เออๆ ตามใจเลย”
เมื่อตกลงกันได้แล้ว ทั้งสามคนก็มุ่งตรงไปที่ตลาดทันที ซึ่งผู้คนที่ตลาดก็เยอะมาจนทั้งสามตาลาย แต่ก็เดินจับจ่ายซื้อของกันจนสนุก บ้างเห็นอะไรสวยงามก็ซื้อไปเป็นของฝาก แต่ปฐพีกับอัคนีจะซื้อของกินเป็นส่วนใหญ่เพราะหิวมากนั่นเอง
“พี่ว่ากระเป๋าใบนี้สวยไหม” ปลายฝันหันมาถามทั้งคู่ด้วยความตื่นเต้น
“สวย” ตอบออกมาพร้อมกันสั้นๆ เพราะพูดอะไรมากไม่ได้ ในปากเต็มไปด้วยของกินขนาดนั้น
“หยุดกินก่อนดีไหม”
“ไม่!!!”
ปลายฝันเลยหันไปบอกคนขายว่าจะซื้อใบนี้ เพราะตนว่ามันเหมาะกับญาณินดี เพื่อนสาวคงจะชอบมันที่สุดล่ะนะ หวั่งว่าอย่างนั้น เมื่อเดินออกจากร้านนี้ไป ก็เจอเข้ากับเสื้อสกรีนมากมายลายสวยๆ เลยคิดจะซื้อไปให้ก้องภพสักสองตัว
“เอาเสื้อคู่ดีกว่า ฮิฮิ แกล้งเล่น เห็นว่าไม่มีคู่”
“เอาไปทำอะไรน่ะ” ปฐพีถามเสียงเข้มที่เห็นปลายฝันเลือกเสื้อคู่มา แต่ก็ยังกินลูกชิ้นในมือต่อไป
“ซื้อให้ก้อง”
“กับใคร” อัคนีถามเสียงโหด
“กับดรีมมั้ง” คนตัวเล็กลอยหน้าลอยตาบอก โดยไม่สนใจที่จะมองหน้าทั้งคู่เลยสักนิด
“ให้ตอบใหม่นะดรีม ก่อนที่พี่จะทำโทษมันกลางตลาด”
“ขู่หรือไงพี่เพลิง”
“ไม่ได้ขู่ แต่เอาจริง” ปฐพีว่า
ปลายฝันเม้มปากแน่นเพราะพ่ายแพ้ ก่อนจะบอกความจริงไป
“ซื้อไปแกล้งก้องเฉยๆ เห็นว่ายังไม่มีแฟน”
“แล้วไป” ร่างสูงก็ไม่สนใจร่างบางอีก เดินออกไปซื้อของกินที่เห็นยั่วตา ยั่วใจอย่างทนไม่ได้ ซึ่งปลายฝันก็ส่ายหน้าอย่างขำๆ
“เห็นแก่กิน”
ปลายฝันหันไปเลือกเสื้อต่อ คนขายยิ้มให้เขาก็ยิ้มกลับไปก็เท่านั้น ในใจก็อยากจะเดินออกไป ถ้าไม่ติดว่าเสื้อสวยนี่เดินออกไปนานแล้ว
“เป็นตัวไหนดีครับ เสื้อคู่ก็สวยนะครับ มีทุกไซส์ แต่ถ้ายังไม่มีคนใส่เป็นคู่บอกผมได้นะครับ” ปลายฝันได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไปให้
เอาอีกแล้ว...
“เอ่อ...พอดีซื้อฝากเพื่อนน่ะครับ ขอตัวนี้ก็แล้วกันนะครับ” ปลายฝันบอกพลางชี้ไปยังเสื้อที่ตัวเองสนใจ ซึ่งคนขายก็ยิ้มอย่างดีใจ
“ไม่มีแฟนหรือครับ ว่าแต่เพื่อนใส่ไซส์อะไร”
“เอา XL ก็ได้ครับ”
ก้องตัวใหญ่อยู่ คงจะใส่ได้ล่ะนะ แต่ถ้าเป็นพี่ดิน พี่เพลิงล่ะก็ พอดีตัวเลยล่ะ
“ได้แล้วครับ ปกติคู่ละ 299 บาท ลดให้สำหรับคุณเป็นพิเศษเลยดีกว่าครับเหลือ 250 บาท” ครขายบอก
“เอ่อ...เยอะไปหรือเปล่าครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ร้านผมขายดี”
“ถ้างั้นก็ขอบคุณนะครับ” ปลายฝันบอกแล้วหยิบเงินพอดีให้กับเขาแล้วคว้าถุงมาถือเองโดยเร็ว
“โอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ”
“อ่า...ครับ”
เฮอะ!! ไม่เอาแล้ว...ถ้ามาอีก จะไม่มาซื้อที่ร้านนี้อีกเลย แต่ก็ดีที่ได้ลดมาตั้งเยอะขนาดนี้
ปลายฝันเดินออกจากร้านเสื้อผ้านั่นมาก็ใช้สายตามองไปรอบๆ เพื่อหาปฐพีกับอัคนีที่ไม่รู้ไปหาของกินที่ไหนกัน แต่พอมองเห็นว่าทั้งคู่อยู่ตรงไหนก็เดินเข้าไปหาทั้งคู่ที่ยืนอยู่หน้าร้านขายอะไรสักอย่างที่พอมาถึงก็ต้องขมวดคิ้วเพราะมีผู้หญิงสองคนยืนคุยอยู่ข้างๆ กับคนที่เขาตามหาหน้าร้านขายขนม
อย่าบอกนะว่าไปหม้อสาว!!
“มาเที่ยวหรือคะ เพราะดูท่าทางแล้วไม่ใช่คนแถวนี้” ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น
“ครับ” ปฐพีตอบสั้นๆ
“ยังไงยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันชื่ออ้อนค่ะ นี่น้องสาวฝาแฝดของฉันชื่อแอ้มค่ะ” เธอคนนั้นแนะนำตัว
“ครับ” ส่วนผู้ชายสองคนนี้ก็ได้แต่ตอบรับ
“แล้วพวกคุณล่ะคะ” เธอถามด้วยรอยยิ้มพราวระยับเพราะชอบใจ และถูกใจปฐพีเป็นอย่างมาก ส่วนคนน้องค่อนข้างเงียบ แต่ก็จ้องอัคนีไม่วางตาเช่นกัน
“ผมไม่มีหน้าที่ที่ต้องความรู้จักกับคนที่ไม่ได้ให้ผลประโยชน์ทางธุรกิจ” อัคนีบอกจนทำให้หญิงทั้งสองหน้าเจื่อนลงไปทันที
ปลายฝันที่ยืนมองอยู่ก็ส่ายหน้าไปมาแต่ก็ไม่เข้าไปยุ่ง
“เป็นนักธุรกิจด้วยหรือคะนี่ ดิฉันเป็นลูกสาวผู้ว่าฯ คงจะทำประโยชน์ได้ใช่ไหมคะ” เธอพูด
ปฐพีกับอัคนีหันมองหน้าผู้หญิงคนนี้ทันที เพราะเอือมระอา ผู้หญิงที่แรงๆ แบบนี้ คิดจะมาหว่านเสน่ห์น่ะมันง่ายเกินไป
“หึ!! ไม่รู้จักเราหรือไง”
“ก็เพิ่งจะเคยเห็นนี่แหละค่ะ ที่สำคัญหล่อล่ำ ถูกใจด้วย” เธอพูดออกมา เพราะเธอมั่นใจในความสวยของตัวเองที่ไม่ว่าผู้ชายหน้าไหนก็ไม่มีวันปฏิเสธเธอ
“เอ่อ...” คนน้องอ้ำอึ้งเหมือนอยากจะพูดอะไรออกมา
“ว่าไงยัยแอ้ม จะพูดอะไร”
“คุณ มีแฟนยังคะ” เธอถามอัคนีด้วยความรู้สึกที่มีหวังเต็มเปี่ยม
ผู้ชายอย่างอัคนีน่ะ ไม่เคยไว้หน้าใครอยู่แล้ว
“แล้วคิดว่าหน้าอย่างพวกฉันไม่มีหรือไง” คำตอบที่ได้ทำเอาผู้หญิงคนนั้นหน้าเจื่อนลงทันที
“ก็ไม่เห็นเป็นไร กับพวกเราน่ะ สนุกๆ ก็ได้ ดีไม่ดี อาจจะดีกว่าแฟนของพวกคุณด้วยซ้ำ” สิ้นคำพูดของคนเป็นพี่ ปลายฝันถึงกับกำหมัดแน่น
ส่วนปฐพีกับอัคนีที่ได้ยินก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้าด้วยความโกรธ กล้าดียังไงถึงมีสิทธิ์มาว่าตัวเองดีกว่าคนของพวกเขา ทั้งๆ ที่ทำกิริยาทรามๆ แบบนี้
“อย่าเอาตัวเธอมาเปรียบเทียบกับคนของพวกฉัน” ปฐพีพูดเสียงต่ำ
“ไม่เอาน่า ลองนิดๆ หน่อยๆ จะเป็นอะไรไปล่ะคะ”
“จริงด้วย ฉันอาจจะลีลาดี เด็ดกว่าแฟนของคุณก็ได้”
“แล้วทำไมเธอถึงกล้าพูดว่าเธอดีกว่า เคยเห็นแฟนฉันหรือไง” ผู้หญิงนิ่งอึ้งไปอย่างไม่รู้ว่าจะตอบอะไรปฐพีกลับไป
เพราะเธอไม่เคยเจอผู้ชายที่ทำท่าว่าจะปฏิเสธเธอแบบนี้
“ไม่รู้สิคะ ถึงบอกให้ลองไง”
“ถ้าเป็นนักธุรกิจแสดงว่าต้องแต่งงานแล้ว เมียคุณอาจจะจืดชืด ไม่ได้อารมณ์ ถ้าลองมากับพวกเราที่ทั้งวัยรุ่น เผ็ดแสบ และเซ็กซี่แบบนี้ อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะคะ” คนน้องเริ่มพูดออกมาบ้าง แต่เห็นว่าเงียบๆ แบบนี้ แต่แรงใช่เล่นเลยนะ เพราะไม่ได้พูดธรรมดา จงใจเลิกกระโปรงที่สั้นอยู่แล้วของตนขึ้น ปฐพีกับอัคนีมองตามเพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะทำอะไร แต่พอเห็นก็อดจะมองนานๆ ไม่ได้ แต่ไม่ได้มองเพราะพิศวาสหรือรู้สึกอะไรกับเจ้าหล่อนเลยนะ แค่อดเปรียบเทียบกับของปลายฝันไม่ได้
ผิวของดรีมยังเนียนกว่านี้ ขาวกว่านี้อีก ถึงแม้ไม่ได้เรียวแบบผู้หญิง แต่มันก็เรียวสวยในแบบผู้ชาย ยังไงก็แล้วแต่ ของดรีมก็ยังดูดีและสวยกว่านี้เลย
ปลายฝันที่เห็นว่าปฐพีกับอัคนีมองขาอ่อนของผู้หญิงคนนั้นก็ถึงกับเดือด เดินจ้ำอ้าวเข้าไปตรงนั้นอย่างโมโห ในใจก็ต่อว่าร่างสูงต่างๆ นานา
ชอบนักใช่ไหม ไอ้ขาวๆ สวยๆ เซ็กซี่ๆ น่ะ ได้เลยพี่ดิน พี่เพลิง แล้วจะได้เห็นดีกันว่าโทษของการไปมองของคนอื่นน่ะมันหนักขนาดไหน!!
“ไม่กลัวว่าคนเป็นพ่อแม่มาได้ยินแล้วจะอายหรือไงครับที่มีลูกสาวมาพูดจาไม่งามแบบนี้ต่อหน้าผู้ชายของคนอื่น”
ปฐพีกับอัคนีเห็นร่างบางก็ยกยิ้มนิดๆ แต่ก็ต้องขมวดคิ้วแปลกใจกับท่าทีที่เหมือนจะโกรธเขาสองคนของปลายฝัน
“พี่สองคนโดนแน่” ปฐพีกับอัคนีถอยออกมาก้าวหนึ่งเพื่อให้ปลายฝันมายืนหน้าตนและเผชิญหน้ากับผู้หญิงสองคนนี้แทน
“นายเป็นใคร เกี่ยวอะไรด้วยล่ะ ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน” คนพี่พูดออกมาเชิดๆ
หมั่นไส้ปลายฝันเพราะแค่เห็นหน้าก็ไม่ชอบใจแล้ว ผู้ชายอะไร สวยกว่าหล่อนสองคนอีก แบบนี้ผู้หญิงอย่างอ้อนและแอ้มเลยยอมไม่ได้
“ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรหรอกครับ”
“แล้วมาว่าพวกฉันทำไมล่ะ หรือว่านายก็ชอบพวกเขาด้วย เฮอะ...นายตุ๊ดเอ้ย เขาไม่สนใจผู้ชายหรอกรู้ไว้ซะด้วย” อ้อนพูดออกมาเหมือนรู้ดี
“คุณรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ชอบผู้ชาย เขาอาจจะชอบก็ได้ เพราะผมยืนฟังคุณพูดตั้งนาน ยังไม่ได้ยินจากปากเขาสักคำว่าไม่ชอบผู้ชาย และชอบพวกคุณก็ไม่มี” ร่างบางเอ่อยออกมา แม่ค้าที่นั่งมองอยู่แถวนั้นถึงกับหลุดขำอย่างสะใจ เพราะไม่ได้ชอบอะไรสองพี่น้องนี้อยู่แล้ว ชอบทำตัวคุณหนู บ้าอำนาจพ่อตัวเอง ข่มเหงคนอื่น
พอมีคนมายืนเถียงแบบนี้ก็สะใจน่ะสิ
“ก็...ก็...” คนพี่ไปต่อไม่ได้คนน้องเลยรีบออกโรง
“จะรู้หรือไม่รู้ บอกหรือไม่บอกไม่สำคัญ นายมาเกี่ยวอะไรด้วย”
“ก็เปล่านี่ แค่อยากสั่งสอนผู้หญิงไร้ยางอายก็เท่านั้น”
“หึ” ปฐพี อัคนีหลุดขำออกมา จนปลายฝันต้องหันไปทำหน้าโหดใส่
“แกว่าฉันกับพี่หรือยะ”
“อ้าว? แล้วผมคุยอยู่กับยุงหรือไงครับ” ตอบกวนๆ
“กรี๊ดดดด กล้าดียังไงมาว่าพวกฉันยะ”
ปลายฝันยกมือขึ้นปิดหูเพราะกลัวมันจะแตกเอา เสียงผู้หญิงกรี๊ดนี่อันตรายจริงๆ เป็นการดีถ้าไม่ทำให้พวกเธอกรี๊ดออกมา
“คุณนกแก้วกับคุณนกหวีดช่วยเบาๆ หน่อยก็ได้นะครับ อายเขา” ประโยคนี้เองก็ทำให้แม่ค้าถึงกับหัวเราะเสียงดังทำให้ตัวผู้หญิงอับอาย
แต่ไม่ได้เจตนาถึงขนาดนี้นะ แค่ต้องการสั่งสอนเท่านั้นเอง
(มีต่อ)