ตอนที่ 7
กลับบ้านใหญ่ (ครึ่งหลัง)
“เป็นไงบ้าง” เสียงทุ้มแหบอย่างคนมีอายุถามสั้นๆ
“ก็ดีครับ ไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้กำลังดำเนินการผลิตตัวอย่างรถรุ่นใหม่ คาดว่าคงจะได้เปิดตัวต้นปีหน้าครับ” ปฐพีบอกบิดาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“แกล่ะเพลิง” หันมาถามลูกชายอีกคน
“มีปัญหานิดหน่อยครับ แต่ผมแก้ไขปัญหาไปแล้ว” ตอบไปตามความจริง
“ก็ดีแล้ว ช่วงนี้ไม่มีออกต่างประเทศหรือไง”
“ช่วงนี้ก็ไม่มีนะครับ” อัคนีตอบ
“อืม...สมกับเป็นลูกชายของฉัน อย่าทำให้บริษัทที่ฉันสร้างขึ้นมาต้องพังล่ะ นับว่าแกทำได้ดีมากตาเพลิง ฉันภูมิใจในตัวพวกแกสองคน ส่วนตาดิน ต้องขอโทษด้วยที่ฉันเคยดูถูกการสร้างรถของแก ตอนนี้แกทำให้ฉันเห็นแล้วว่า แกทำมันได้จริงๆ”
ไม่บ่อยนักหรอกที่อิสระจะชมลูกชายตัวเอง เรื่องไหนที่ชมแล้วเป็นการให้กำลังใจลูกเขาก็จะชม แต่ส่วนมากจะสอนแล้วดุด่ามากกว่า
ปฐพีและอัคนี เติบโตขึ้นมา กลายเป็นคนมีคุณภาพได้ เพราะการสอนที่เข้มงวด การดุด่าว่ากล่าวของผู้เป็นพ่อ และได้กำลังใจต่างๆ จากผู้เป็นแม่
“ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีพ่อ ผมก็ไม่มีวันนี้เหมือนกัน เพราะคำพูดดูถูกเหล่านั้น มันเป็นแรงผลักดันของผมในการประสบความสำเร็จ” ปฐพีพูดเสียงหนักแน่น
“ผมก็เหมือนกัน ผมสัญญา ว่าจะทำให้บริษัทที่พ่อสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของพ่อเจริญรุ่งเรืองต่อไป จะขยายสาขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” อัคนีสัญญาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ผู้เป็นบิดามองหน้าลูกชายด้วยความภาคภูมิใจ
แม้ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน... แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของครอบครัว
“หนูดรีมเป็นยังไง” อิสระเปลี่ยนเรื่องคุย หันไปคุยเรื่องลูกสะใภ้แทน
“ก็ดีครับ ทำงานบ้านทุกอย่างเอง” อัคนีตอบ
“ฉันเลือกดีใช่ไหมล่ะ นิสัยดี น่ารัก แต่รั้นไปหน่อย กว่าฉันกับแม่พวกแกจะเกลี้ยกล่อมให้มาหมั้นกับพวกแกได้ เล่นเอาเกือบเช้าวันใหม่” เล่าไปยิ้มไปกับความน่ารักของลูกสะใภ้
“ผมอยากรู้ ว่าทำไมพ่อถึงเลือกเด็กนั่นมาเป็นสะใภ้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นผู้ชายและไม่สามารถมีทายาทได้” ปฐพีถาม
“น้องดรีม” อิสระพูดเสียงต่ำ
“ครับ น้องดรีม” ปฐพีเปลี่ยนคำเรียกตามที่พ่อต้องการ
“นั่นสิพ่อ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมแม่กับพ่อถึงเลือกคนนี้ ถึงคำทำนายจะบอกว่าเราจะมีเมียคนเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้บอกนี่ว่าต้องเป็น ‘น้องดรีม’ ของพ่อ”
“ฉันถูกชะตา”
“แค่นี้!!” อัคนีถามเสียงสูง
“ฉันจะบอกให้นะ ว่าถ้าไม่มีหนูดรีม ก็ไม่มีฉันในวันนี้”
“ยังไงครับ” ปฐพีถาม
“จำได้ไหมที่ฉันเล่าให้พวกแกฟังว่าฉันน่ะเกือบถูกรถชน”
“จำได้ครับ!!”
“ประมาณ 2 ปีก่อนใช่ไหมครับ” ปฐพีถาม
ผู้เป็นพ่อพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะเริ่มเล่า
“หนูดรีมเป็นคนวิ่งไปช่วยดึงตัวฉันเอง พอฉันยื่นเงินเพื่อขอบคุณก็ไม่เอา วันต่อมาก็ให้คนไปสืบ จึงได้รู้ว่าเป็นเด็กกำพร้า ทำงานเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ 13 ส่งตัวเองเรียนจนจบ ม.6 ทนคำด่า คำดูถูกมาสารพัด เป็นไงล่ะ หนูดรีมเก่งกว่าพวกแกอีกนะ ลำบากกว่าเยอะ”
พูดมาถึงตรงนี้ ปฐพีกับอัคนีถึงกับสะอึก พูดไม่ออก
“เงินที่ไม่ได้มาด้วยกำลังของตัวเองก็ไม่เอา ฉันถึงต้องโอนเงินให้กับโรงเรียนที่หนูดรีมเรียนอยู่ปีสุดท้าย แล้วกำชับว่าให้เป็นทุนการศึกษาของหนูดรีมส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็ให้โรงเรียนไป”
อิสระคอยช่วยเหลือปลายฝันอยู่เสมอ แต่ร่างบางไม่เคยได้รับรู้
“แล้วแม่ล่ะครับ รู้จักกับเด็ก... น้องดรีมได้ยังไง” ปฐพีเปลี่ยนคำเรียกปลายฝันทันทีที่เห็นสายตาเอาเรื่องของพ่อตน
“หนูดรีมช่วยแม่แกเอาไว้ตอนโดนกระชากกระเป๋า”
สิ้นประโยคของอิสระ ความรู้สึกของปฐพีและอัคนีก็ถูกฉุดดึงจากที่สูงลงมาอย่างรวดเร็ว รู้สึกผิดที่ว่าปลายฝัน ดูถูก เอาเงินฟาดหัวสารพัด
แม้จะขอโทษไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้จริงจังเท่าไหร่
“พวกแกเข้าใจแล้วใช่ไหม”
“เข้าใจแล้วครับ”
“ก็ดีแล้ว อย่าแกล้งหนูดรีมเขาอีกล่ะ”
พ่อรู้ได้ยังไง เด็กนั่นฟ้องเรอะ!!
ยังไม่ทันที่จะคิดต่อว่าปลายฝันไปมากกว่านี้ ผู้เป็นพ่อที่มองตาลูกชายตนก็รู้แล้วว่าคิดอะไรอยู่เอ่ยขัดความคิดของทั้งสองทันที
“ฉันเป็นพ่อของพวกแกนะ นิสัยของพวกแกฉันรู้ดีอยู่แล้ว”
“ครับพ่อ” ขานรับอย่างจำยอม
พ่อรู้ว่าพวกเขาเป็นยังไง และกำลังคิดอะไรอยู่เสมอ
“เคยสงสัยไหมว่าทำไมฉันไม่เคยเตือนพวกแกเรื่องผู้หญิง”
“สงสัยครับ”
“เพราะฉันรู้ว่าพวกแกเครียดกับงาน ผู้ชายมันก็ต้องมีบ้างที่ต้องการปลดปล่อย ซึ่งฉันก็ผ่านมันมาก่อนแล้ว แต่ฉันขอเตือนอะไรไว้อย่างหนึ่งในฐานะพ่อของพวกแก”
ปฐพีและอัคนีมองหน้าของคนเป็นพ่อด้วยความตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
“ถ้าเจอคนที่รักแล้ว ก็อย่าทำให้เขาต้องเสียใจ...”
สิ้นคำสอนของอิสระ ลูกชายทั้งสองของเขาก็หันมองหน้ากันทันที และไม่พูดอะไรกันอีก เขาจึงปล่อยให้ลูกชายทั้งสองนั่งคิด นั่งคุยกันตาลำพัง ส่วนตัวเองก็เข้าห้องไปเพื่อพักผ่อน
“ทุกคำพูดของพ่อ แม่งทำให้กูต้องเก็บมาคิดตลอด” อัคนีบ่น
“แต่ก็เพราะพ่อไปใช่หรือไงที่ทำให้มึงมีทุกวันนี้”
“มึงก็เหมือนกันไอ้ดิน อย่ามาว่าแต่กู”
“แต่ที่พ่อบอกมันก็จริงทั้งนั้น แล้วเรื่องนั้น...ฉันว่าคงต้องหาทางขอโทษเด็กดรีมอย่างจริงจังเสียแล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นผู้มีพระคุณของพ่อแม่ขนาดนี้” คนที่แกล้งปลายฝันไว้เยอะอย่างปฐพีเอ่ยจริงจัง
“คิดได้เหมือนกันนี่ ปกติก็ไม่เห็นใส่ใจ” แขวะเข้าให้
“อย่ามาแขวะกูไอ้เพลิง จะไปรู้ไหมล่ะว่าเด็กนั่นจะเป็นคนช่วยชีวิตพ่อกับแม่น่ะ”
“ก็ให้มันแล้วไปสิวะ เหมือนที่มึงเคยทำกับคนอื่นไง ไม่ต้องใส่ใจความรู้สึกใคร” ประชดประชันปฐพีต่อแบบไม่ได้รู้ตัวเองเลยสักนิด ว่านิสัยตัวเองก็แย่ไม่แพ้กัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องขัดการพูดคุยของสองแฝด ก่อนร่างบอบบางของปลายฝันจะเข้ามาในห้อง ร่างสูงทั้งสองหันไปมอง
“คุณแม่ให้มาถาม ว่าคุณสองคนสนใจจะไปซื้อของกับผมหรือเปล่า” ร่างบางถามเมื่อเห็นสายตาสงสัยของดวงตาคมดุสองคู่
“มีใครไปบ้าง” ปฐพีถาม
“ผมจะไปกับพี่ดาวกับลุงสมน่ะครับ แต่คุณแม่บอกว่าถ้าพวกคุณสองคนไป ก็ไม่ต้องให้พี่ดาวกับลุงสมไป”
“ไปซื้อที่ไหนล่ะ” อัคนีถาม
“ผมว่าจะไปซื้อที่ตลาดใหญ่ คิดว่าพวกคุณคงไม่ไปแน่ๆ แต่คุณแม่ให้ลองมาชวนดู”
“แล้วทำไมถึงคิดว่าพวกเราไม่ไป”
“ดูท่าทางนักบริหารอย่างพวกคุณคงไม่เดินตลาดอยู่แล้วล่ะ” ร่างบางพูดสบประมาท จนคิ้วหนาของอัคนีกระตุก
“ดูถูกหรือ”
“ผมเปล่า” ลอยหน้าลอยตาตอบไปแบบกวนๆ
มันน่าจับมาจูบสั่งสอนให้เข็ด!
“ฉันไป!!” สองเสียงบอกพร้อมกัน
ปลายฝันกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะได้เอาคืนสองแฝดแล้ว
“แต่ว่าคุณสองคนต้องไปช่วยผมถือของนะครับ หรือว่าจับเป็นแต่ปากกากับเอกสาร ถือของหนักๆ ไม่เป็น” ปลายฝันพูดด้วยน้ำเสียงท้าทาย
ซึ่งไปกระตุ้นต่อมให้คนที่ไม่ชอบให้ใครท้าทายโมโหสุดขีด
คนอย่างปฐพีกับอัคนีน่ะ
ฆ่าได้...แต่หยามไม่ได้
“ได้!! ซื้อเยอะแค่ไหนก็ซื้อเลย ฉันถือได้!” ปฐพีขบฟันกรามแรงๆ
“เออ!! เอามาเลย ฉันทำได้หมด อย่ามาดูถูกพวกฉันนะเด็กบ้า” อัคนีว่าปลายฝันไป
“ครับๆ ประมาณบ่าย 3 โมงเจอกันที่หน้าบ้านนะครับ คุณดิน คุณเพลิง” บอกด้วยสีหน้ากวนๆ
โว้ยยย...แม่งเอ้ย กวนประสาทชะมัด
จับมาจูบสั่งสอนให้เข็ดเลยดีไหม จะได้ไม่กล้าลองดีกับเราอีก
เล่นแบบนี้ใช่ไหมปลายฝัน แล้วเธอจะได้รู้ว่า ของจริงมันเป็นยังไง...
“ฮ่าๆ สะใจชะมัด ต้องขอบคุณคุณแม่เลยนะเนี่ย ที่บอกวิธีจี้จุดสองคนนั้นมาให้เรา หึ!! แกได้เอาคืนแล้วดรีม แล้วเจอกัน คุณดิน คุณเพลิง”
ปลายฝันพูดกับตัวเองอย่างสะใจ พลางดูรายการซื้อที่ยาวเหยียดไปด้วย เพราะต้องซื้อของสดเข้ามาตุนไว้ภายในบ้านเป็นอาทิตย์ ทำให้รายการที่ต้องซื้อวันเสาร์เยอะกว่าวันอื่นๆ มาก
นั่นก็เป็นสิ่งที่ดี ที่จะเอาคืนของปลายฝัน...
100%

สวัสดีตอนบ่ายๆ นะคะ เอาครึ่งหลังของตอนที่ 7 มาลงให้น้า นั่งอ่านคอมเม้นท์ไป ยิ้มไป บางคอมเม้นท์ก็ทั้งชมทั้งติ ซึ่งจะพยายามนำมาแก้ไขนะคะ ขอบคุณจริงๆ ที่ติดตามกัน
เรื่องนี้ ยูกิบอกไว้ก่อนนะคะ ว่าจะเน้นเรื่องราวความรัก มากกว่าคำว่าเซ็กซ์ (เหมือนเรื่องอื่นของยูกิ) ส่วนเรื่องพิมพ์ผิด คำผิด ใช้ผิด ก็ขอโทษด้วยนะคะ เพราะตอนแต่งเสร็จก็ลงเลย ไม่ได้ตรวจทานก่อน เอาไว้จะรีไรท์อีกทีนะคะ
มีอะไรก็สอบถาม หรือพูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจเลยน้า ทักได้ ไม่กัดค่ะ (ฉีดยาแล้ว อิอิ)
https://www.facebook.com/sawachiyuki 
คลิกด้านล่างเพื่ออ่านตอนต่อไป
ตอนที่ 8.1