(เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก (จบเเล้วจ้า)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก (จบเเล้วจ้า)  (อ่าน 9117 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nene promporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


















THE CURRY  แกงรัก (YAOI)
…………………………………………………………………..



บทนำ แกงอารัมภบท<<<มีด้วยเรอะ




ผมมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า หากเราไม่รู้จักกันก่อนก็ไม่สามารถคุยกันได้อย่างสนิทใจนัก
งั้นผมขอแนะนำตัวก่อนเลยนะครับ   บ่ายคล้อยๆสวัสดิ์ครับ ผมชื่อแจ๋ม  ม.5/4 อายุ 16 ปี สูง 170
(จริงๆแล้ว 165กว่าๆ แต่อินายเอกมันปัดไปเป็น170  ดูมัน- -) หนัก น้อยกว่าช้างนิดนึง
เอาเป็นว่าผมไม่ได้อ้วนละกันแค่อวบๆและมีแก้มยุ้ยๆ(ย้อยๆ)พอให้ดูน่ากอดรัดฟัดเหวี่ยงและตามด้วย
กระทืบซ้ำอีกรอบ นั่นเป็นเรื่องของรูปร่างแต่ หน้าตา หากใครถาม ขอประกาศไว้ ณ ตรงนี้ว่า ผมจะตามไป
บึ้มบ้านมัน ล้อเล่นน่ะ ผมเป็นเด็กนอกเมืองครับแต่ดันสอบติดโรงเรียนมัธยมในเมืองตอน ม.4 พ่อและแม่จึง
พร้อมใจสมัครสมานสามัคคีถีบส่งผมมาอยู่ในห้องเช่ารังหนูที่อยู่ใกล้ๆโรงเรียนคนเดียวทำให้ต้องพลัดพราก
จากบ้านนาอันแสนอบอุ่น พ่อบอกว่าจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านนอกกับในเมืองให้เสียเวลา
และเสียค่ารถ โดยที่พ่อแม่จะส่งเงินให้ใช้เป็นรายเดือน เดือนละห้าพัน จัดสรรเงินใช้แต่ละวันเอาเอง แต่ถ้า
หมดก่อนจะไม่มีการเพิ่มให้เด็ดขาด โหดดีมั้ยครับ ปิดเทอมถึงจะได้กลับบ้าน แต่นานๆทีวันไหนที่พ่อแม่
เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จก็จะแวะเวียนมาเยี่ยมบ้าง วันนั้นล่ะผมต้องเก็บห้องจ้าล่ะหวั่นกันเลยที่เดียว ผมมีพี่สาวคน
หนึ่งครับชื่อพี่จูง แต่แกเรียนจบ ทำงาน แต่งงาน มีลูกไปแล้วจนแกไปอยู่เมืองฝรั่งแล้ว ผมลืมบอกไปว่าสามี
แกเป็นชาวสวีเดนครับ ส่วนเรื่องความรักของผม ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่า ‘ผมชอบพี่เวทย์ น้องพี่วิทย์
ลูกพ่อวัฒน์ ร้านขายข้าวแกงน้านิด!!!’ เอาเป็นว่าจบเรื่องราวของผมไว้เพียงเท่านี้ เพราะผมหิวและกำลังจะ
ออกจากห้องเช่ารังหนู เพื่อไปหาของกินมาประทังชีวิตให้อยู่รอดพ้นในบ่ายวันเสาร์นี้
และด้วยความที่ทรัพยากรด้านการใช้จ่ายของผมนั้นร่อยหรอมากกก ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าร้าน The Curry ที่
อยู่ใกล้ห้องเช่าผมมากที่สุดและเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์ผมมากที่สุด แหม ตั้งชื่อร้านซะอินเตอร์แต่แปลเป็น
ไทยมันก็ร้านขายข้าวราดแกงแหละครับ
“ข้าวราดแกงจานนึงครับน้า เอาพะโล้กับพะแนงหมูนะครับ” 
ผมเดินเข้าไปสั่งอาหารที่หน้าร้านกับ ‘น้านิด’ ที่กำลังง่วนกับการตักกับข้าวอยู่ ‘น้านิด’ เป็นเจ้าของร้าน
ข้าวราดแกงและว่าที่แม่ยายของผมในอนาคต >///< อ่า…อย่าเพิ่งทำหน้าหมั่นไส้ผมอย่างนั้นสิ ที่ผมว่า
ในอนา ‘คต’ น่ะ มัน ‘คด’ จริงๆนะ  เพราะน้านิดแกดันไม่มีลูกสาว มีแต่ลูกชายทั้ง 3 พระองค์ เป็นเจ้าชาย
แห่งร้านขายข้าวราดแกงและควบตำแหน่งมาสคอตประจำร้านคอยเรียกลูกค้าวัยรุ่นสาวๆ หญิงแก่ แม่ม่าย
และป้าๆยายๆทั้งหลายที่ริอาจอยากกินหญ้าอ่อนเคี้ยวนุ้มๆ แต่ละพระองค์นี่หล่อลากกระฉากมดลูกผมดีแท้
 เอ้อ! ลืมไป ผมไม่มีมดลูกนี่หว่า - -  เริ่มจากคนโต ชื่อพี่วิทย์ อายุน่าจะประมาณ 26-27 แกเรียนจบไป ‘นาน’
แล้วและทำงานเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง เงินเดือนที่สูงลิบลิ้วกับหน้าตาอันสะอาดสะอ้าน
 หล่อคมๆแบบชายไทยของแก ทำให้มีผู้หญิงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาหาแกเป็นว่าเล่น แต่แกหยิ่งครับไม่
สนสักคน แกจึงโสดมาจนถึงปัจจุบันนี้  สาวๆคนไหนสนใจเภสัชกรรูปหล่อ ร่างสูง แลดูสุขุมเยือกเย็น
ติดต่อผมได้นะครับ ผมคิดถูกๆราคากันเองๆ หึหึ                                                                                       
ต่อมาคนกลาง ชื่อพี่วุฒิ คนนี้ก็เพิ่งเรียนจบไปหมาดๆครับอายุประมาณ 22-23 อาชีพปัจจุบัน ยังไม่มีครับ
แต่ป้านิดแกโม้ให้ฟังเมื่อวันก่อนว่า พี่วุฒิแกสอบสัมภาษณ์เป็นนักบินผ่านแล้ว ในอนาคตอันใกล้นี้คงไม่พ้น
ตำแหน่ง สจ๊วตหนุ่มสุดหล่อแห่งร้านThe curry อ๊ะๆ แต่พี่วุฒิคนนี้ขอเว้นไว้สักคน พี่เค้ามีแฟน
แล้วครับ พอดีแกเป็นคนคารมเป็นต่อรูปหล่อพ่อรวยนะครับ ไม่แปลกที่จะมีแฟนแล้ว
ส่วนคนสุดท้าย ว่าที่คนรักของผมในอนาคต(คด) ชื่อพี่เวทย์ อายุ 19 ปี เรียนปี 1 ดีกรีเดือนคณะคหกรรม   
พี่เวทย์เป็นคนผิวสีน้ำผึ้งเหมือนอาวัฒน์ พ่อของพี่แกที่ไปทำงานอยู่ในเมืองกรุง หน้าหล่อเหลาคมคายไม่แพ้
พี่ชาย ทำอาหารเก่ง เป็นที่ต้องการของเหล่าสาวๆทั้งหลาย แต่บางคนพอรู้ว่าพี่เวทย์เป็นลูกแม่ค้าขายข้าวแกง
ก็พากันหนีหมด นี่ละครับเขาเรียกรักไม่แท้ นี่ถ้าพี่เวทย์หันมาชอบผู้ชายแล้วมาคบกับผมนะ ผมจะรัก
จะดูแลแบบยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ตอมเลยล่ะ แต่คงจะมีวันนั้น ก็พี่เวทย์น่ะเป็นผู้ชายแท้ๆน่ะสิครับ ผมจึงได้แต่
แอบมองแอบมโนถึงพี่เค้าอยู่แบบนี้ ดีกว่าบอกไปแล้วจะเกลียดขี้หน้ากันเปล่าๆ  พี่เวทย์เป็นคนใจดีมากๆเลย
ครับ อ่อนโยนทั้งกับคนกับสัตว์ไม่เว้นแม้แต่พืช ก็ผมเคยแอบเห็นเวลาที่พี่เวทย์รดน้ำต้นไม้พี่เค้าดูอ่อนโยน
มากๆเลยอ่า ถึงแม้เสื้อกล้ามสกรีนลายลิเวอร์พูลที่พี่แกใส่จะทำผมนอยด์หน่อยๆก็เถอะ ก็ผมเชียร์สเปอร์นี่
 คิดถึงพี่เวทย์แล้วก็ต้องชะโงกหน้าหาเสียหน่อย ไม่เห็นแฮะ เอ้?แล้ววันนี้สามีผมไปไหนแล้วซะล่ะ สงสัยคง
จะไปเรียนกระมัง เห็นผมมโนไปเรื่อยว่าพี่แกเป็นสามีผม แต่ผมก็ยังไม่เคยคุยกับแกเลยสักครั้งเดียว ปล่อยผมไป~
 “จ้าๆ รอแป๊บนะลูก วันนี้คนเยอะน่ะ เข้าไปหาโต๊ะนั่งก่อนนะจ๊ะ” ป้านิดพูดกับผมแต่ยังง่วนอยู่กับการตัก
กับข้าว
“ครับๆ” หลังจากที่ผมสั่งอาหารเสร็จก็เดินเข้าไปหาโต๊ะนั่งในร้านที่แทบจะไม่มีที่ว่าง โชคดีที่ลุงโต๊ะ 5
กำลังลุกพอดี ผมจึงได้โอกาสเสียบครับ เอ่อ..หมายถึง เข้าไปนั่งแทนน่ะครับ ผมพูดส่อไปรึเปล่าเนี่ย วันนี้
คนแน่นร้านอย่างที่ป้าแกบอกจริงๆล่ะครับ วันหยุดที่อากาศร้อนอบอ้าวจนเห็นไอร้อนๆลอยขึ้นมาจากถนน
ทั้งแสงแดดยังทำร้ายเซลล์เยื่อบุบนหนังหน้าอย่างแสนสาหัส พวกนักเรียนนักศึกษาที่เช่าห้องเช่าหออยู่แถว
นี้คงไม่อยากออกไปไหนไกลๆหรอกครับจึงพากันมานั่งตากพัดลมกินมื้อเลยเที่ยงที่ร้าน The curry จะให้ไป
เดินห้างตากแอร์ก็คงไม่มีทุนทรัพย์ เพราะนี่มันก็จะสิ้นเดือนแล้ว ว่าแต่เขาผมนี่เหลือไม่ถึงห้าร้อย กำลัง
ภาวนาให้ผ่านพ้นเดือนนี้ไปด้วยดี อย่าให้ไอ้พวกเวรชวนไป ‘สักกลมสองกลม’ ที่ไหนเลย ถึงผมจะไม่กิน
กับพวกมันก็เถอะ แต่ไปด้วยทีไรก็เสียทุกที
“เฮียเวทย์!ๆโต๊ะ 4 สั่งข้าวพะแนงเขียวหวานเพิ่มจ้า”
“คร้าบ พี่นก”
อะไรนะ! รู้สึกจะได้ยินอะไรคล้ายๆ ชื่อว่าที่สามี พี่เวทย์กลับมาแล้วเหรอ!
“ตาเวทย์! ตักกับข้าวเสร็จเอาจานนี้ไปเสิร์ฟโต๊ะ 5”
หา?!!!! ว่าไงนะ! โต๊ะ 5 มันโต๊ะเรานี่หว่า!!!


......................................................................

ฝากด้วยนะคะ เพิ่งหัดลง ผิดพลาดประการใดต้องขออภัย







 
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2015 11:47:37 โดย Nene promporn »

ออฟไลน์ Nene promporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #1 เมื่อ01-10-2014 15:31:21 »

THE CURRY  แกงรัก (YAOI)
…………………………………………………………………..

ตอนที่ 1  เทพเจ้าวุ้นกับขนมไข่พี่เวทย์


มัสมั่นแกงแก้วตา         หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง          แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา~

…………………(แดกจุด)…………………

………..เอิ่ม…มันใช่เวลามาขับเสภาม้ายยยยยย  พี่เวทย์กำลังเดินถือจานข้าวมาแล้ว  ยิ่งใกล้ยิ่งหล่อ หัวใจยิ่ง
เต้นโครมคราม เรียวหน้าคมเข้มนั่นกำลังมองมาที่ผม โฮก! ขอยาดมตราถ้วยทองเจ้าของเดียวกับหมอเส็งมา
อุดรูจมูกด่วน น้องแจ๋มอยากเป็นลม~~~~~~~~
แล้วร่างเทพบุตรของพี่เวทย์ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า ออร่าที่เปล่งประกายออกมาทำเอาผมและพวกผู้หญิงที่อยู่
ในร้านละสายตาออกไปไม่ได้….
 “น้องครับ ข้าวที่สั่งได้แล้ว”  พี่เวทย์พูดกับผม…พี่เวทย์พูดกับผม…สะ…เสียงทุ้มนุ่มๆแบบนี้มัน…
ทำให้ผมละลาย
ตึก ตัก ตึก ตัก
“……….”
“เอ่อ…น้องครับ” พี่เวทย์เรียกผมเสียงเบา แต่สติผมมันกระเจิงไปหมดแล้วเพ่!
“……….” ทำไมหน้ามันร้อนผาวแบบนี้ ไม่สิ มันร้อนไปทั้งตัวเลย เอาพระออกปายยยย<<<ไม่ใช่แล้วมั้งแก
“งั้นผมวางไว้ตรงนี้นะ” พี่เวทย์ยิ้มให้ผมนิดหน่อยแล้ววางจานข้าวไว้บนโต๊ะ นั่นมันทำให้หัวใจผมเต้นแรง
ขึ้นกว่าเดิมราวจะทะลุช่องอกแล้วแหวกเสื้อออกมา ยิ้มนั่น ….ยิ้มของพี่เวทย์…มันทำผมแทบบ้า
อ๊ากกกกกกก!!
“……….” ผมอยากจะพูดอะไรบางอย่างตอบไปแต่ปากมันไม่ขยับอะ ฮรือ~
อ๊ากกกกกก!ปากขยับทีสิโว้ย พี่เวทย์อย่าเพิ่งปายยยยย~ รอผมพูดก่อนนนนน ผมรู้ว่าพี่อยากได้ยินเสียงผม
 อยากคุยกับผม อย่าเพิ่งปายยยย
ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก….

.
พะ
.
“…พะ พี่เวทย์!!!>O<”
พรึ่บ!
เย้!ในที่สุดผมก็พูดได้แล้ว> < ว่าแต่…ทำไมคนทั้งร้านต้องหันมามองตูด้วยฟ่ะ
“เอ่อ…ครับ เรียกผมซะดังเชียว อยากได้อะไรเพิ่มเหรอ”
“ขะ…ขอบคุณครับ”
“ห๊ะ!???....เอ่อ ไม่เป็นไรครับ” พี่เวทย์ทำหน้าเอ๋อไปพักใหญ่ก่อนจะกลับมาส่งยิ้มตามแบบฉบับแกให้แล้ว
กลับไปทำงานต่อ ไอ่อายมันก็อายนะ ตะโกนซะเสียงดังเพราะแค่ต้องการพูดขอบคุณ ก็ผมไม่รู้ตัวนี่           
       แต่….หัวใจบ้านี่เหมือนไหร่จะหยุดเต้นซะทีว่ะ น้องแจ๋มยังไม่อยากตายก่อนมีสามี!!


หลังจากที่ผมกินข้าวราดแกงที่อร่อยที่สุดในจักรวาลเพราะพี่เวทย์เป็นคนเสิร์ฟให้เสร็จก็เดินกลับห้องเช่ารัง
หนูทันที(จริงๆอยากจะขโมยเอาจานข้าวนั่นกลับบ้านซะให้รู้แล้วรู้รอด) เมื่อไขกุญแจเปิดประตูห้องได้แล้ว
ก็สะบัดอีแตะของผมไปคนละทิศคนละทาง
รีบวิ่งกระโดดขึ้นเตียงแบบไม่กลัวหักแล้วก็……..
“อ๊ากกกก!!! พี่เวทย์! อ๊ากกกกก!!! พี่เวทย์! อ๊ากกกกกกกกกก!!!.......”
“อีเด็กห้อง 7 มึงช่วยหุบปากซะทีได้มั้ย!! ถ้าหุบไม่ได้กูจะเอาป๊อบทีนยัดปาก!”
ชะอุ้ย!โดนยัยป้าห้องข้างๆว้ากซะแล้ว สงสัยคงไปรบกวนเวลาเจ๊แกดูเอ็มวีของวง BTOB ผมจึงรีบเอาหมอน
อุดปากโดยด่วนแต่ยังไม่วายส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดในลำคอ พอลุกขึ้นมาถึงรู้ว่าน้ำลายนี่ยืดติดหมอนเต็มไปหมด
(อุบาทว์) ผมผิดตรงไหนเล่า ผมก็แค่มีความสุขมากไปหน่อยแค่นั้นเอง~
แค่พี่เวทย์พูดกับผมไม่กี่ประโยค แค่ส่งรอยยิ้มให้ มันทำให้ผมเป็นบ้าขนาดนี้เชียวหรือ อร๊ายยย~
คืนนี้ผมต้องนอนหลับฝันดีแน่เลย> < ฝันดีครับทุกคน น้องแจ๋มรักทุกคนนะครับ//โบกมือไปมาเหมือน
มิสทิฟฟานี่ สายตาเหม่อมองไปไกลถึงดาวเคราะห์แคระอัลฟาร์231<<<มันมีด้วยเรอะ =  =


…………………………………………………………………………………………..


วันนี้วันอาทิตย์ครับ- -และผมก็เกลียดวันอาทิตย์เพราะหลังจากวันอาทิตย์ก็จะเป็นวันจันทร์ซึ่งผมก็เกลียดวัน
จันทร์มาก<<<อะไรของมุง-3-
ตอนนี้ผมกำลังเร่งพิมพ์รายงานอยู่ครับเพราะเมื่อวานมัวแต่เขินจนไม่ได้ทำอะไรซักอย่าง กลับมาห้องร้อง
แว้ดๆเสร็จก็หลับเป็นตายตั้งแต่บ่ายสามยันหกโมงเช้า จะว่าพิมพ์ก็เหมือนจะไม่ถูกซะทีเดียวเพราะผมก็อป
จากเน็ตมาวางแล้วเรียบเรียงใหม่มากกว่า ใครเคยทำบ้าง? ยกขาหน้าขึ้น!
“ฮาวววว~ -O-” ผมหาวออกมาด้วยความเพลียนิดหน่อยพลางบิดตัวคลายความเมื่อยจากการนั่งพิมพ์งานเป็น
เวลานาน ใกล้เสร็จแล้วละครับ เหลือแค่พิมพ์หน้าปก ดูเวลาในโน้ตบุ๊ค สิบโมงกว่าแล้วอ่า จะเที่ยงแล้ว
(เหรอ)ไปกินข้าวราดแกงร้านของสามีดีกว่า(จริงๆอินายเอกมันหาเรื่องไปเจอผู้ชายมากกว่า)
ไม่ต้องรออะไรแล้ว รีบเซฟงาน ปิดโน๊ตบุ๊ค คว้ากระเป๋าตังค์กับกุญแจออกไปจากห้องทันที
อยากเจอหน้าพี่เวทย์จัง แค่คิดก็ฟรุ้งฟริ้งแล้ว เขิน>///////<พี่เวทย์คร้าบบบ น้องแจ๋มจะไปหาแล้วเน้อ> <


“น้านิดครับ ข้าวราดแกงจานนึงเอาไข่พะโล้กับพะแนงครับ”
“ได้จ้า เข้าไปนั่งรอในร้านเลย”
ผมเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ 5 เพราะมันว่างอยู่ วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเหมือนเมื่อวานครับ บรรยากาศเลยดูสบายๆ
ลูกน้องในร้านเดินเอาแก้วใส่น้ำแข็งมาให้ ผมพงกหัวเป็นเชิงขอบคุณแล้วยกเอาเหยือกที่วางอยู่บนโต๊ะมาริน
น้ำใส่แก้ว สายตาสอดส่องมองหาว่าที่สามี อ๊ะ!นั่นไง เดินลงมาจากชั้นบนแล้ว เห็นพี่แกทีไรหัวใจผมมันก็
เต้นแรงทุกที นึกถึงเรื่องเมื่อวานที่ได้คุยกับแกแล้วมันเขิน วันนี้พี่เวทย์ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงินกับกางเกง
สามส่วนสีดำ คนมันหล่อแต่งตัวบ้านๆแบบนี้ยังหล่อเลย
“ตาเวทย์ๆ ออกมาพอดี ช่วยไปซื้อของทำกับข้าวที่ตลาดให้แม่หน่อย รายการของกับเงินอยู่บนโต๊ะนะ”
“ครับแม่~” พี่เวทย์ขานรับ เดินไปหยิบกระดาษกับเงินค่าของบนโต๊ะแล้วออกจากร้านไป
หืม?พี่เวทย์จะไปตลาด O_O
“น้าครับ ที่สั่งไว้ได้ทำรึยังครับ” ผมรีบหันขวับไปถามน้านิดทันที ขอเถอะ อย่าเพิ่งทำให้เลยย
“ยังจ้า รอเดี๋ยวนะลูก น้าตักจานนี้ก่อน”
“เปล่าครับๆ คือผมจะบอกว่าผมไม่เอาแล้วนะครับ”
“อ้าว?...”
“พอดีผมมีธุระด่วนน่ะครับ ขอโทษนะครับ”
“จ้าๆไปเถอะลูก”
ผมยิ้มให้น้านิดแล้ววิ่งตามพี่เวทย์ไปที่ตลาดทันที โชคดีที่พี่เวทย์เดินไปไม่ได้ขี่มอ’ไซต์ไม่งั้นผมตามไม่ทัน
แน่ๆ ตลาดอยู่ไม่ไกลจากร้านเท่าไหร่ครับ ตอนเย็นๆหลังเลิกเรียนผมยังชอบมาเดินหาของกินเลย
แป๊บเดียวก็ถึง  พี่เวทย์เดินซื้อนู้นซื้อนี่อย่างชำนาญ ดูแล้วเพลินดีครับ ผมเดินตามพี่เวทย์ไปเรื่อยๆแต่ก็คอย
ทิ้งระยะห่างไว้พอสมควร
กึก!
แต่แล้วพี่เวทย์ก็หยุดเดิน หยุดทำไมอะ หรือจะรู้ว่าผมสะกดรอยตาม เฮยยยย ได้ไง!!
ผมเห็นพี่เวทย์ขมุบขมิบปากพูดอะไรบางอย่าง ถอดรหัสได้ว่า…
‘ลืมซื้อหมูว่ะ’
เฮ้อ~นึกว่าจะโดนจับได้ซะแล้ว
พี่เขาเดินกลับไปที่ร้านขายเนื้อหมูซื้อเนื้อมาหลายกิโล แล้วไปเลือกดูผักอื่นๆต่อ 
สภาพผู้ชายตัวใหญ่ๆ หน้าหล่อๆ เดินถือของพะรุงพะรังแบบนี้มันน่ารักใช่ย่อยนะครับ เห็นแล้วอยากไปเดิน
ช่วยถือของอยู่ข้างๆจริงๆ -////-
นั่นๆพี่เวทย์แวะเข้าร้านขนมด้วยล่ะ ผมรีบเดินตามไป ทำเป็นเลือกดูขนมอยู่ข้างๆ พลางเหลือบมองพี่เวทย์
เป็นระยะๆ พี่เค้าซื้อขนมไข่กับสาคูไส้หมูพอผมเห็นพี่เค้าจ่ายเงินเสร็จและเดินออกไปจากร้าน
ผมเลยรีบหยิบขนมแถวๆนั้นแล้วจ่ายเงินไป ทำเป็นเลือกอยู่ตั้งนานถ้าไม่ซื้อเดี๋ยวจะโดนแม่ค้าเขกกบาลเอา
ซื้อเสร็จผมก็ว่าจะเดินตามพี่แกต่อ แต่…. พี่เวทย์หายไปแล้ว!!!!  หายไปไหนว้า เร็วจริงๆมองซ้ายมองขวา
มองหน้ามองหลังไม่เห็น
เฮ้อ~ช่างมัน  ผมทำหน้าเซ็งในอารมณ์นิดหน่อยแล้วแกะห่อขนมออกมากิน ผมซื้อวุ้นกะทินี่หว่า
ใช้ช้อนที่แม่ค้าแถมมาตักตักวุ้นคำโตเตรียมเอาเข้าปาก
อ้ามมมม -O-
พลั่ก!
อ๊ะ!
ตุบ!
“อ๊ะ!ผมขอโทษครับ”
แกจะมาข้าตอนนี้มันสายไปแล้วเว้ย! วุ้นร่วงลงไปแล้ว! ร่วงไปทั้งถุงเลยT T หนอยแน่ ใครบังอาจมาเดินชน
ไอ้แจ๋มเด็กพี่เวทย์ว่ะ  เดี๋ยวปั๊ดกระโดดถีบสองขาหน้า
ผมหันขวับไปทันทีหมายจะด่าไอ้คนชนมันเสียหน่อยแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจกะทันหันเมื่อคนคนนั้นคือ…
พี่เวทย์!!!
โฮกกก ท่านเทพเจ้าวุ้นกะทิข้าน้อยต้องขอกราบขอบคุณท่านอย่างล้นพ้นจริงๆ
เมื่อพบว่าคนตรงหน้าคือพี่เวทย์สมองของผมก็เริ่มประมวลผลคิดแผนอย่างรวดเร็ว หึหึ
  “วะ…วุ้นของผมT T”  ผมทำเป็นแกล้งบะปากเหมือนจะร้องไห้ ต้องเล่นละครให้เนียน พี่เขาจะได้สนใจ
แต่จะว่าไปก็เสียดายวุ้นจริงๆนะเนี่ย ตั้งสิบบาทแน่ะT T
“ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับ” พี่เวทย์พูดขอโทษด้วยแววตาสำนึกผิด โฮๆน่าสงสารคุณสามีจังเลย พี่ไม่ได้
ทำอะไรผิดเลยนะ
“มะ..ไม่เป็นไรครับ”
“งั้นเอางี้ เอาขนมไข่ไปกินแทนนะ ผมให้ พึ่งซื้อมาเมื่อกี้เอง” พี่เวทย์ว่าพลางหยิบถุงขนมไข่ส่งมาให้
“มะ ไม่เป็นไรจริงๆครับพี่” ผมยังไม่รับครับ เกรงใจน่ะ อะคุๆ
“ไม่เป็นไรได้ไง ดูสิ หน้าแดงอย่างกับจะร้องไห้”  ผมหน้าแดงเพราะเขินต่างหากเล่า!>////<
“จะ….จะดีหรือครับ”  ดีสิ!มันดีมากๆด้วยนี่คุณแจ๋มรีบหยิบขนมไข่มาด่วนเลยก่อนที่พี่เค้าจะเปลี่ยนใจ
“ครับ! รับไปเถอะ” พี่เวทย์ยื่นถุงขนมไข่มาให้พร้อมกับส่งรอยยิ้มพริมใจ นั่นทำให้ผมรีบก้มหน้าเอ่ย
ขอบคุณเสียงอ้อมแอ้ม ก็มันเขินอะ
“ขะ….ขอบคุณครับ”
“ผมขอโทษสำหรับเรื่องวุ้นจริงๆนะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“งั้นผมไปล่ะ ลาครับ”  พี่เวทย์ส่งรอยยิ้มพริมใจให้อีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ผมได้แต่มองตามแผ่น
หลังกว้างๆนั่นจนสุดสายตาแล้วค่อยก้มลงมองถุงขนมไข่สีเหลืองนวลสวยในมือ
ได้มาแล้วๆขนมไข่พี่เวทย์ เอ้ย! ขนมไข่ที่พี่เวทย์ให้ น่ากินชะมัด~ ไม่ๆผมจะเก็บใส่หิ้งไว้ดีกว่า คอยดูนะถ้ามี
มดตัวไหนมาตอมละก็ ผมจะไปบึ้มรังมัน โฮะๆๆๆ ผมว่าผมชักจะโรคจิตเกินไปล่ะ -  -


.....................................................

มาต่อค่ะ  เเหะๆ

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #2 เมื่อ01-10-2014 16:48:38 »

คิคิ ไม่ค่อยเลยนะ  :hao7:

ออฟไลน์ Nene promporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #3 เมื่อ01-10-2014 22:27:05 »

THE CURRY  แกงรัก (YAOI)
…………………………………………………………………..

ตอนที่ 2  ตัวจิกกัด

วันนี้วันจันทร์ = = และอย่างที่ทุกคนรู้ผมเกลียดวันจันทร์
ฟิ้ว~
แปะ!
เย็นไว้ลูก เย็นไว้ไอ่แจ๋ม
ฟิ้ว~
แปะ!
เย็นไว้ เย็นว้ายยยยย
ฟิ้ว~
แปะๆ!
อ๊าก!ไม่ยงไม่เย็นมันแล้วโว้ยยยยย
=  =  ไอ้เวรที่ไหนมันปาจรวดมาโดนหัวโผมมมมมมม
ผมหันขวับมองหาที่มาของไอ้จรวดทันทีและเมื่อหันมองย้อนกลับวิถีโค้งของไอ้จรวดนี่ก็เห็นยัยมิ้งค์กับยัยอิสเบลล่ามองมาทางผมพลางหัวเราะคิกคัก  ฝีมือผีบ้าสองตัวนั่นชัวร์  แม่งมีเรื่องอ่อ? - - หรือจะไฟท์
 ผมส่งสายตาเฉือดเฉือนไปให้แต่ยัยพวกนั้นยังไม่หยุดหัวเราะแถมยังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผมอีก อ๊ากก! ยัยพวกบ้า ทำตัวอย่างกะเด็กๆไปได้
ผมไม่ได้สนใจยัยพวกนั้นก้มลงจดงานที่อาจารย์มอบหมายให้ต่อ ซึ่งพออาจารย์ให้งานปึ้บแกก็หายตัวไปปั๊บ มันดีต่อผมและทุกคนในห้อง นี่ชั่วโมงสุดท้ายแล้ว คอยดูนะ! ออดเมื่อไหร่ผมจะใส่เกียร์ชีต้าร์โดนหมัดกัดเผ่นออกจากห้องทันที เหอะๆ - -

ตื้อ ดื่อ ตื้อ ดื่อ ตือ ดื๊อ ตือ ดื่อ ดื๊อ ดือ ตื่อ ดือ~

ใครก็ได้มาพังออดโรงเรียนผมที ไม่งั้นผมนี่แหละจะเอาคีมไปตัดสายไฟมันออกซะ แล้วเอาทองแดงไปชั่งกิโลขาย
“เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ทุกคนต่างเฮเพราะจะได้กลับบ้านนั่นรวมถึงผมด้วย
ผมเก็บของยัดลงกระเป๋าเป้อย่างรวดเร็ว จับมันสะพายแล้ววิ่งเผ่นแน่บออกจากห้องทันที  แต่…
พลั่ก!
ตุ้บ!
“แอ่ก!” เสียงผมร้องเองแหละ เจ็บชะมัด ก็อีบ้าที่ไหนมันดันอัญเชิญฝ่าพระบาทมาขัดพระแข้งผมล่ะ ผมเลยล้มถลาหน้าคว่ำลงพื้นแบบนี้ อายนะเว่ย คนแม่งจะมารุมมองกันทำไมว่ะ ผมไม่ใช่งูสองหัวสี่ตีนซะหน่อยแม่ง เดี๋ยวเจอๆ
“คิกๆอีตุ๊ด” ผมรู้ทันทีว่าใครมันเป็นคนทำ ไอ้คำสรรเสริญผมแบบนี้มีคนเดียวแหละ ‘ยัยมิ้งค์’ เคยโดนเบรกเกอร์ยัดปากมั้ย ถ้าไม่ ผมนี่แหละจะทำให้มันได้ลอง
“ลุกไหวป่ะ อีตุ๊ด อุ้ยๆ มองหน้าโกรธเหรอ” ไม่โกรธมั้ง สัส!
“…………”
“อุ้ย! เงียบ เป็นใบ้รึไง” ไม่ได้เป็นใบ้ แค่ไม่อยากเสวนากับแก ผมยันตัวลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วเก็บกระเป๋าที่ตกอยู่ข้างๆขึ้นมาสะพายใหม่ ผมจะร้ายกับคนที่ร้ายกับผมของนะ
“………..”
“เงียบทำไม มีปากไว้งาบของคนอื่นกินเป็นอย่างเดียวรึไง”
“จะเอาอะไร”
“เลิกยุ่งกับพี่เวทย์ซะ! พี่เวทย์เป็นของพี่สาวฉัน”
“เหรอ”
“อีแจ๋ม! ฉันจะเตือนแกเป็นครั้งสุดท้ายนะ เลิกยุ่งกับพี่เวทย์ซะ อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ ว่าแกคิดยังไงกับพี่เวทย์”
“แล้วไง”
“แก!”
“ใช่เรื่อง?” ผมว่าพลางยักคิ้วกวนๆใส่ยัยนั่น
“อีแจ๋ม!”
“มิ้งค์ ผมยอมรับว่าผมชอบพี่เวทย์ แต่รู้มั้ยว่าผมไม่ได้รู้จักสนิทชิดเชื้อกับพี่เวทย์ขนาดนั้นหรอก พี่เค้าไม่รู้จักผมด้วยซ้ำ ผมว่าคนที่พี่สาวของมิ้งค์ควรระวังก็คือตัวมิ้งค์เองนะ” ผมยกยิ้มให้มิ้งค์แล้วเดินออกไป ผมไม่รู้ว่ามิ้งค์เข้าใจที่ผมพูดรึเปล่า ถ้าไม่เข้าใจก็คงจะดี
“อีแจ๋ม!!!!!!!!”
เอ่อ….ดูเหมือนว่ามิ้งค์จะเข้าใจที่ผมพูดนะ







“ขอบใจมากนะจ๊ะ หนูแจ๋ม” น้านิดเอ่ยขึ้นแล้วเดินมานั่งบนเก้าอี้เป็นเวลาพอดีที่ผมช่วยยกเครื่องปรุงไปเก็บเสร็จ
“ไม่เป็นไรฮะ แค่ช่วยเก็บร้านนิดหน่อยเอง”
“นิดหน่อยบ้าอะไรเล่า เหงื่อแตกพลั่กๆขนาดนี้ เฮอะ!” นี่เสียงพี่วุฒิครับ ทุกคนคงจำกันได้ใช่มั้ย ไอ้หน้าหล่อคารมเลิศไงครับ แต่ที่พี่มันมาปากเสียใส่ผมแบบนี้เพราะตอนเก็บร้านผมยกเก้าอี้ไปโดนพี่มัน ก็บอกขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจไปแล้ว พี่มันยังโกรธผมไม่หายเลย ตอนนี้พี่มันนั่งต่อโมเดลเครื่องบินไปพลางจิกกัดทางสายตาผมไป เฮ้อ!
“ตาวุฒิ!”
“ก็มันจริงนี่แม่”
“แกนี่มันจริงเล้ย! หนูแจ๋มอย่าไปถือสามันเลยนะ”
“ครับ เอ่อ….แล้ววันนี้ไม่เห็นพี่เวทย์…” ใช่ครับ เพราะตั้งแต่ผมมาที่ร้านยันช่วยเก็บร้านยังไม่เห็นเงาพี่เวทย์เลยซักแอะ 
“หึหึ”
“………..”
“ตาเวทย์ไปค้างกับเพื่อนน่ะลูก วันนี้ไม่ต้องรอเจอมันหรอก” ระ…หรือว่า น้านิดจะรู้แล้ว
“อ๊ะ! มะ…หมายความว่าไงครับ”
“แหม….ก็หนูแจ๋มนะชอบตาเวทย์เค้าใช่มั้ยล่ะจ๊ะ^ ^” เฮย!!!!!! ไม่จริงงงงงงงง รู้ได้ไง!!!!!!!!
“เอ่อ….คือ….คุณน้ารู้ได้ไงน่ะครับ!!”
“แสดงออกทั้งกิริยาและท่าทางขนาดนั้น ใครไม่รู้ก็โง่บรมแล้วล่ะ”
“ตาวุฒิ! เอาอีกแล้วนะ!”
“คือ…ผม…”
“ถ้าชอบลูกชายน้า ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองสิจ๊ะ น้าไม่ยกให้ฟรีๆหรอกนะ”
“มะ..หมายความว่า….”
“น้าให้โอกาสหนูแจ๋มนะ เพราะหนูแจ๋มเป็นเด็กนิสัยน่ารักแล้วน้าก็เอ็นดูหนูแจ๋ม”
“น่ารักตรงไหน ดูก็รู้แล้วว่าเด็กนี่มันร้ายลึก” จิกเข้าไป ตัวผมพรุนหมดล่ะ
“ตะ…แต่…ผมเป็นผู้…ชาย”
“เรื่องนั้นอย่าไปซีเรียสจ่ะลูก เราชอบผู้ชายไม่ได้ไปฆ่าใครตายเสียหน่อย”
“ขอบคุณคุณน้ามากเลยนะครับ!”
“หืม…น้ายังไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะยกให้”
“เอ๋?”
“ไอ้เวทย์ยังไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าชอบนาย พวกชอบคิดไปเอง” อึก! จุกครับ เอาอีกแล้ว จิกกัดกันอีกแล้ว ปากแบบนี้มีแฟนได้ไงว่ะครับ หรือผู้หญิงจะชอบแนวนี้ ผมชอบคิดไปเองแล้วมันหนักจมูกเท้าพี่รึไงมิทราบ
“เฮ้อ~ ตาวุฒิ! มีใครสั่งใครสอนบ้างรึเปล่าว่าถ้าชอบใครก็ให้ทำดีกับเค้าไม่ใช่มัวแต่แกล้งแบบนี้”
“แม่หมายถึงใคร?” เออ..ผมก็งงแฮะ น้านิดพูดอะไรของแก
“แม่พูดลอยๆจ่ะ เอาล่ะ หนูแจ๋มถ้าหากอยากทำคะแนนน้าจะให้โอกาสหนู มาทำงานกับน้ามั้ย”
น้านิดหันไปพูดตอบพี่วุฒิแล้วหันมาถามผม ว่าแต่ งานอะไรอ่า
“งานหรือครับ?”
“จ่ะ มาเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านน้า วันจันทร์ถึงศุกร์มาทำช่วงหลังเลิกเรียนจนถึงหกโมงเย็น ส่วนเสาร์อาทิตย์มาทำแค่ช่วงเช้าพอ มีค่าจ้างให้ด้วยนะ แต่เอ๊…มันจะหนักไปรึเปล่านะ งั้น…”
ถ้ามาทำงานกับน้านิดก็จะได้รู้จัก ได้เจอ ได้คุย ได้ทำงานร่วมกันกับพี่เวทย์น่ะสิ เพิ่มโอกาสแต๊ะอั๋ง เอ้ย!ทำคะแนน อ๊าก!แค่คิดก็ฟิน มาทำงานทุกวันก็ได้เจอทุกวัน แถมมีค่าจ้างให้อีก กำไรเห็นๆ
“ไม่หนักครับๆตกลง ผมจะทำ”
“งั้นเริ่มงานพรุ่งนี้ตอนเย็นนะจ๊ะ  เด็กเสิร์ฟคนใหม่^ ^” น้านิดพูดล้อๆส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่เอ๊…ผมว่าน้าแกยิ้มแปลกๆนะ ไม่มีอะไรหรอกมั้ง
“ครับ ผมจะตั้งใจทำงานครับ”
“งั้นก็กลับได้แล้วล่ะจ่ะ เดี๋ยวมันจะค่ำกว่านี้แล้วมันอันตราย”
“ครับ งั้นผมลาล่ะครับ” 
“ตาวุฒิ ไปส่งน้องที ห้องเค้าอยู่ใกล้ๆนี่แหละ ติดกับร้านยายเปาะน่ะ” น้านิดแกหวังดีประสงค์ร้ายครับ มันก็ดีอยู่หรอกถ้ามีคนไปส่งตอนนี้ เพราะทางกลับห้องเช่าผมมันค่อนข้างเปลี่ยว แต่ถ้าให้อีพี่วุฒิไปส่งผมคงโดนจิกจนตัวเป็นพรุนแน่ๆ
“เดินมาเองได้ก็กลับเองสิ” นั่น!ไม่ทันไรก็จิกผมเสียแล้ว
“ตาวุฒิ!”
“ไม่เป็นไรครับคุณน้าเดี๋ยวผมกลับเอง”
“เออๆไปส่งก็ได้” พี่วุฒิวางตัวต่อโมเดลเครื่องบินลุกจากเก้าอี้แล้วไปหยิบหมวกกันน็อกกับกุญแจมอ’ไซต์ไปสตาร์ทรถรอ
เอ้า!อะไรของมันฟ่ะ พอจะกลับเองก็จะไปส่ง พอบังคับก็ทำเป็นเล่นตัวไม่อยากไป
“ไม่..”
“ให้ตาวุฒิไปส่งเถอะจ่ะ ค่ำแล้วมันอันตราย ตัวเล็กๆแบบหนูแจ๋มเกิดโดนฉุดขึ้นมาจะแย่นะจ๊ะ”
ผมจะบอกว่า ไม่ปฏิเสธต่างหาก เอ่อ….ผมขอเรียนถามว่า ผมเนี่ยเหรอตัวเล็กๆ เล็กกว่าน้องพะยูนน่ะสิไม่ว่า
“ทำเป็นเล่นตัว เร็ว ขึ้นรถ” ปากพี่แกนี่จิกกัดผมได้ตลอด ผมไปทำอะไรให้แกไม่พอใจตอนไหนเนี่ย
ผมยกมือไหว้น้านิด เดินไปซ้อนมอ’ไซต์ พี่วุฒิส่งหมวกกันน็อกอีกใบมาให้ ใกล้แค่นี้เองไม่เห็นต้องใส่เลยผมบ่นในใจแต่ก็ยอมใส่ๆไปกลัวโดนพี่มันจิกกัดอีก
พี่วุฒิออกรถไปได้ซักระยะ จนผมสังเกตได้ว่านี่ไม่ใช่ทางไปห้องเช่าผมนี่
“เฮ้!นี่ไม่ใช่ทางไปห้องเช่าผม!!!” ผมรีบโวยวายเสียงดัง ไอ่พี่วุฒิมันจะพาไหนว่ะ หรือมันจะเกลียดขี้หน้าผมมาก จนจะพาไปฆ่าทิ้ง โฮ~ไม่นะ อย่าทำกับน้องอย่างนี้ น้องทำอะไรผิด น้องรับบ่ได้ คุณหลอกดาวว<<<อะไรของมัน
“รู้ ขี่รถเล่นรอบเมืองก่อน” พี่วุฒิตอบกลับมาเสียงเรียบแล้วขับรถต่อไปเรื่อยๆ ก็แกไม่ใช่ฉันนี่แกถึงไม่กังวลอะไรเลยย
“ได้ไง พรุ่งนี้ผมต้องไปเรียนนะ!”
“เออน่า…แป๊บเดียว ไม่พาไปข่มขืนหรอก พอดีไม่นิยมพะยูน” ว้ากกกก ปากเสียที่ซู้ดดดด
“ไอ่พี่วุฒิ!” ถึงจะรู้ตัวว่าไม่ได้หุ่นดีเหมือนนาตาลี เกลโบวาแต่มาว่ากันเป็นพะยูนแบบนี้ ของมันขึ้นนะครับ
“……………” พี่วุฒิเงียบ ไม่ได้จิกกัดอะไรผมต่อ ผมเลยเงียบตาม สงบสติอารมณ์ไว้ไอ่แจ๋ม
“…………….”
“…………….”
“…………….”
“ชอบไอ่เวทย์มานานยัง” แล้วก็เป็นพี่วุฒิที่เอ่ยทำลายเสียงเงียบ
“เห?...ถะ ถามทำไมครับ”
“ไอ่เวทย์มันน้องกู” เออกูก็รู้เว้ย!
“พูดไม่เพราะ…” ผมว่าเสียงเบาๆ แต่ดูเหมือนพี่วุฒิจะได้ยินชัดเจน มีอย่างที่ไหนมาขึ้นกูมึงกับคนที่เพิ่งคุยกัน แถมผมยังเด็กกว่าพี่วุฒิตั้งเยอะ
“โทษที แล้วตกลงจะตอบคำถามกู เอ้ย! พี่ได้รึยัง”
“สองปี”
“หืม?”
“ชอบมาสองปี ตั้งแต่ ม.4 ตอนนี้ผม ม.5แล้ว ก็น่าจะประมาณสองปี”
“เหรอ”
“อืม….”
“แล้วทำไมถึงชอบล่ะ”
“หล่อไง อุ้ย!” ปากผมเอ่ยตอบออกไปตามใจนึก แม่ง อายอะ
“ฮ่าๆๆๆงั้นเหรอ”
“เปล่านะ ก็พี่เวทย์น่ะเป็นสุภาพบุรุษ ทำอาหารเก่ง อ่อนโยน แล้วก็หน้าตาดีมากๆด้วย ใครๆก็ต้องชอบทั้งนั้นแหละ”
“ถ้างั้น นายก็ไม่ได้ชอบไอ่เวทย์มันหรอก”
“ทำไมถึงบอกว่าผมไม่ได้ชอบพี่เวทย์! พี่เอาอะไรมาตัดสิน!!!” ผมฉุนขาดทันที เอาอะไรมาตัดสินว่ะแม่งว่าผมไม่ได้ชอบพี่เวทย์!
“หึหึ ไม่มีอะไรหรอก”
“อะไรของพี่ว่ะ!” คุยกับไอ่พี่วุฒิทีไร แล้วอยากไปสอบโอลิมปิกทุกที  ตามมันไม่ทันไง
“ว่าแต่คนอื่นพูดไม่เพราะ ตัวเองก็พูดไม่เพราะเหมือนกันแหละ” คำว่า ‘ว่ะ’ มันไม่เพราะตรงไหนกันว่ะ
“โทษครับ”
เราจบบทสนทนาไว้เพียงเท่านั้น พี่วุฒิก็ขี่มอ’ไซต์ไปเรื่อยๆรอบเมือง สายลมเย็นพัดปะทะหน้าผมเบาๆชวนง่วงดีเหมือนกัน ผมได้แต่คิดว่าที่พี่วุฒิพูดหมายความว่าไง ทำไมถึงบอกว่าผมไม่ได้ชอบพี่เวทย์ ท่าทางแบบไหนถึงแสดงออกว่าผมไม่ได้ชอบพี่เวทย์ ผมใจเต้นทุกครั้งที่เห็นพี่เวทย์ เป็นบ้าทุกครั้งเมื่อพี่เวทย์คุยด้วย สะสมของที่เกี่ยวกับพี่เวทย์จนแทบจะไม่มีที่ว่างในห้อง ตรงไหนที่บอกว่าผมไม่ได้ชอบพี่เวทย์กัน!
“ถึงแล้ว ที่นี้ใช่มั้ย” เสียงพี่วุฒิบอกเมื่อถึงห้องเช่าผมแล้ว ทำให้ผมหลุดจากผวังความคิดแล้วลงจากรถ
ถอดหมวกกันน็อคแล้วส่งคืนพี่วุฒิไป
“ครับ ที่นี่แหละขอบคุณมากครับ”
“อยู่ห้องเช่าเหรอ” พี่วุฒิถามพลางมองไปยังตัวตึกเก่าๆสามชั้นแบ่งเป็นห้องๆที่เป็นที่อาศัยของผม
“ครับ บ้านจริงๆผมอยู่นอกเมืองโน้น แต่พอสอบเข้า รร.ในเมืองได้เลยย้ายมาอยู่นี่”
“อ้อ..”
“ขับรถกลับดีๆนะครับ” เมื่อเห็นพี่วุฒิไม่กลับซักทีผมเลยพูดบอกอ้อมๆประมาณว่าให้กลับได้แล้ว
“อืม..พรุ่งนี้เจอกันนะ พ่อเด็กเสิร์ฟคนใหม่” พี่วุฒิพูดพร้อมส่งรอยยิ้มยียวนชวนประทับรอยฝาตีนบนใบหน้าหล่อๆนี่มาให้ แล้วก็ขี่มอ’ไซต์ออกไป ให้ตายเถอะ พี่น้องบ้านนี้จะหล่อไปไหนกัน ขนาดยิ้มกวนตีนแบบนี้ยังหล่อเลย เอ้ย!นี่ผมเผลอชมไอ่พี่วุฒิไปรึเปล่านะ ได้ไงเนี้ย
“บ้าไปแล้ว"


........................................................................

ขยันค่ะ มาต่อเรื่อยๆ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #4 เมื่อ02-10-2014 12:43:55 »

เหมือนได้กลิ่นรักสามเส้าโชยมา
พี่วุฒิชอบแจ๋มรึป่าวหว่า?
แต่พี่วุฒิมีแฟนแล้วนิป่ะ?
ที่รู้ๆคือ ป้านิดคือผู้รู้ทุกอย่างจ้าาา 5555

รอติดตาม เป็นกำลังใจให้ เจาะไข่++

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #5 เมื่อ02-10-2014 13:06:18 »

เรื่องนี้จะ 3 เป่า

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #6 เมื่อ02-10-2014 15:50:56 »

อะไรยังไงคะพี่วุฒิ ???

ออฟไลน์ Nene promporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #7 เมื่อ02-10-2014 18:12:59 »

THE CURRY  แกงรัก (YAOI)
…………………………………………………………………..

ตอนที่ 3 แกงจืดใส่มะระ

“นังแจ๋ม!!!!”   
เสียงสยองดังมาก่อนจะปรากฏร่างถึกๆของอีเจ๊ที่เดินกะเผลกๆเพราะตกบันไดเมื่อวันก่อนมากับร่างบางๆ
ของน้องพู  อีเจ๊กับน้องพูเป็นเพื่อนสนิทผมครับ เจ๊มันอยู่ ม.5 แต่อยู่คนละห้องกับผม เราสนิทกันเมื่อตอนวัน
งานปฐมนิเทศเด็ก ม.4 ส่วนน้องพู อยู่ ม.3 สนิทกันเพราะเป็นรุ่นน้องในชมรมที่ผมอยู่
ผมอยู่ชมรมคหกรรมน่ะ
“อะไรเจ๊” ที่ผมเรียกเจ๊เนี่ยไม่ใช่เพราะมันแก่กว่าผมแต่อย่าใด แต่เจ๊เนี่ยชื่อจริงๆมันครับ มันชื่อ เจ๊
หรือนายเจตรินทร์ 
“เมื่อวานแกไปตบกับยัยมิ้งค์มารึเปล่าว่ะ เห็นไอ้พวกผู้ชายห้องแกมันเล่าให้ฟัง” เออแฮะ ผู้ชายห้องผมมันก็
ปากมากปากไวดีเหมือนกัน
“เปล่า แค่มีปากเสียงกันนิดหน่อย”
“เหรอว่ะ แต่เจ๊ไม่เชื่อว่ะ หน้าตาแกมันบูดๆเบี้ยวๆแปลกนา”
“เจ๊จะด่าผมว่าหน้าตาอัปลักษณ์ ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
“แล้วเป็นไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่า” น้องพูเอ่ยเสียงใสๆถามขึ้น น้องเค้าเป็นคนสุภาพเรียบร้อยครับ คิดอยู่ว่าน้องแกมาคบกับพวกผมได้ไง หรือ พวกผมไปล่อลวงน้องแกมาว่ะ
“ไม่หรอก ไม่เจ็บแล้วล่ะ เมื่อวานโดนขัดขานิดหน่อย”
“ห๊า!! ยัยมิ้งค์ใช่ป่ะที่ทำ เจ๊จะไปฆ่ามันนนนน”
“จะฆ่าใครดูสังขารตัวเองหน่อยเหอะ” ขาเดี้ยงข้างหนึ่งแบบนี้มันจะไปฆ่าใครได้ว่ะครับ แค่เตะปี๊บยังไม่ดังเลย
“อีแจ๋ม แม่ง คนอุตส่าห์เป็นห่วง” อีเจ๊มันงอนครับ ท่าทางงอนแล้วสะบัดหน้าทำปากจู๋ๆใส่ของมัน ทำให้ผมหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมมือไปโคลงหัวมันนิดหน่อยเป็นการง้อ ทำปากจู๋อย่างกะปลากระโห้โต้คลื่น  ฮ่าๆๆๆ
“แล้วหลังจากนั้นเมื่อวานแจ๋มไปไหนนะครับ ไม่เห็นมานั่งเล่นกับพวกเราเลย” พูถาม
“ไปร้านข้าวแกงน้านิดมา”
“ทำไมช่วงนี้แจ๋มไปที่ร้านน้านิดบ่อยจัง มีอะไรรึเปล่าครับ” นิสัยของพูอีกอย่างที่ผมรู้สึกตะหงิดๆทุกครั้งคือมันเป็นพวกขี้สงสัยครับ ซึ่งบางคำถามผมก็ตอบไปไม่ถูกเหมือนกัน
“ไม่มีอะไร ผมก็แค่หิวข้าวน่ะ”
“อีพู แกอย่าไปถามมันเลยว่าไปที่ร้านข้าวทำไม ดูหุ่นมันก็รู้ ฮ่าๆๆๆ”
“เจ๊ครับ อยากเดี้ยงสองข้างมั้ยครับ”
“ไม่เอาละจ๊ะ น้องพูจ๋า”
“ครับพี่เจ๊”
“ไปหาของกินมาแดกเย้ยไอ่แจ๋มกันเถอะ เพราะจะได้รู้ว่าพวกเรากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ฮ่าๆๆๆ” ไอ่เจ๊ว่าแล้วเดินส่ายก้นดุ๊กดิ๊กๆลากน้องพูไปทางโรงอาหาร
“ไอ่เจ๊ แม่ง!”

ตอนนี้ผมกำลังชาลั้นลากำการล้างจานอยู่ครับ เริ่มงานวันแรกคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ พอเสิร์ฟอาหารเสร็จเรียบร้อย ผมเลยอาสามาล้างจานแทนพี่นกที่ลาป่วย ผมจะตั้งใจทำงานเพื่ออนาคตของเรานะครับพี่เวทย์> < ส่วนพี่น้องสาม ว. วิทย์ วุฒิ เวทย์ ก็ออกไปเรียนไปทำงานกันครับยังไม่กลับ พี่วิทย์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยกลับบ้านอยู่แล้วเพราะงานหนัก พี่วุฒิแกก็คงออกไปหาแฟนแกไม่ก็ตะลอนๆไปเรื่อยตามประสาคนไม่มีงานทำเมื่อไหร่แกจะเริ่มงานนักบินซักทีว่ะ ส่วนพี่เวทย์ก็ออกไปเรียนครับ 
“พอไอ้เวทย์มาก็เข้าไปแนะนำตัวกับมันงั้นสิ เหอะๆ แผนง่ายไปป่าวน้อง”
เสียงกวนๆชวนประทับบาทาแบบนี้มีอยู่คนเดียว ไอ่พี่วุฒิ - - กลับมาตั้งแต่ตอนไหนว่ะ
“พึ่งกลับจากที่ทำงานหรือครับ” ลืมไปว่าพี่มันไม่มีงานทำถึงว่างมาจิกกัดชาวบ้านแบบเนี้ย
“เปล่าหรอก เกาะแม่กินอยู่”
“เห่อๆ”
“นั่นเขาเรียกหัวเราะเหรอ พี่ว่ามันอุบาทว์แปลกๆแฮะ”
“ไม่ได้หัวเราะซักหน่อย มุกพี่ตลกตายล่ะ”
“’งั้นเขาเรียกเห่าสินะ”
“พี่วุฒิ!”
“อุ๊ๆ!โกรธซะแล้ว ไปดีกว่ากลัวโดนหมากัด” พี่วุฒิทำหน้าตากวนตีนใส่แล้วเดินหนีออกไปหน้าร้าน หนอย~ อยากจะเขวี้ยงส้อมที่กำลังล้างในมือใส่หัวพี่แกนัก ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกเจ้าของร้านละก็นะ


“แม่คร้าบ สวัสดีครับ” อ๊ะ!เสียงพี่เวทย์นี่
“จ้าๆมาแล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป เอ๊ะ! แล้วนั่นใครล่ะ”
เมื่อได้ยินเสียง ผมเงยหน้าขึ้นจากอ่างล้างจานทันที พี่เวทย์กลับมาแล้ว! แล้วพาใครมาอีกคนด้วย อุปนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียนของผมทำงานทันที สองขาก็พาร่างของผมไปเกาะขอบประตูแอบดูเหตุการณ์ที่หน้าร้าน เดี๋ยวนะ!...นั่นมันพี่มุกพี่ของยัยมิ้งค์รึเปล่าที่มากับพี่เวทย์น่ะ
 “แม่ครับ นี่มุก”
“สวัสดีค่ะคุณน้า” พี่มุกไหว้น้านิดด้วยท่วงทีสง่างามและน่าเอ็นดู สวยจริงๆครับผู้หญิงคนนี้
“สวัสดีจ๊ะ แฟนตาเวทย์มันเหรอ น่ารักดีนะ” น้านิดยิ้มแล้วทักทายพี่มุกอย่างเป็นกันเองแถมยังถามคำถามที่กระตุกหัวใจผมอีกแน่ะ ไม่จริงน่า ก็คงเป็นเพื่อนพี่เวทย์แหละมั้ง
“เอ่อ….ขอบคุณค่ะ แต่…คือไม่ใช่…”  ฮู้ว์! เห็นมั้ยล่ะว่าไม่ใช่
“ครับ มุกเป็นแฟนผม โอ๊ย! คุณจะเหยียบเท้าผมทำไมเนี้ย”  O_O!!!
“ก็ใครใช้ให้นายบอกคุณน้าเค้าแบบนั้นเล่า ขอโทษค่ะคุณน้า เราเป็นเพื่อนกันค่ะ”
“’อ้อ จ้า เพื่อนก็เพื่อน แล้วนี่แวะมาเล่นที่ร้านหรือ”
“ใช่ค่ะ แต่จริงๆโดนไอ้เวทย์ เอ่อ…เวทย์ลากมาอะค่ะ”
“ตรงไปแล้วนะคุณ ใครลากคุณมา คุณนั่นแหละร้องจะตามผมมากินกับข้าวฝีมือแม่ผมท่าเดียว”
“มั่ว!ฉันไปร้องตามนายตอนไหนมิทราบ”
“แล้วใครที่บอกว่าอยากกินแกงมัสมั่นฝีมือแม่สามีจังเลย”
“โกหก ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ นายพูดเองต่างหาก”
“เหอะ!”
“เอ่อ…น้าว่าสงบศึกก่อนเถอะจ่ะ ถ้าไม่เป็นการรบกวน วันนี้หนูมุกอยู่ทานข้าวเย็นกับน้าก่อนนะจ๊ะ”
“เอ่อ…เกรงใจจัง แต่ก็ได้ค่ะ”
“นี่เรียกเกรงใจของคุณเหรอ”
“ไอ้เวทย์!”

มะ ไม่จริงน่า….ไม่จริงใช่มั้ย!!? พี่เวทย์กับพี่มุกคบกัน!!!
“เป็นไง จ๋อยเลยล่ะสิ” 
“อ๊ะ!...พี่วุฒิ” ผมสะดุ้งตัวนิดหน่อย เมื่อหันไปก็เห็นพี่วุฒิมายืนอยู่ข้างๆ มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันคงจะเห็นอย่างที่ผมเห็นหมดแล้วสินะ มาเยาะเย้ยผมละสิ
“อย่าไปฟังที่แม่พี่พูดมาก แกก็ชมคนไปทั่วแบบนี้แหละ” ที่น้านิดชมผมก็เป็นเรื่องธรรมดาสินะ แกไม่ได้เห็นว่าผมน่ารักน่าเอ็นดูอะไรหรอก
“ครับ”
“เลิกซึมซักที เดี๋ยวลูกค้าไม่เข้าร้านเพราะกลัวหน้าบูดๆของนาย”
ใช่สิ ใครจะไปต้องการให้คนอย่างผมอยู่ในร้านกัน อยู่ไปลูกค้าก็ไม่เข้าร้าน ผมมันส่วนเกินนี่
“ครับ วันนี้ผมขอกลับก่อนนะครับ ฝากบอกน้านิดด้วย”
ผมบอกพี่วุฒิแล้วเดินล้างฟองออกจากมือ ถอดผ้ากันไปเปื้อนไปพับเก็บใส่กระเป๋า
“เฮ้ย!แล้วจาน…”
“ฝากพี่ล้างต่อหน่อยนะครับ ขอบคุณ”
 พูดแค่นั้นแล้วเดินออกมาจากร้านทางด้านหลัง น้านิดจะได้ไม่เห็น แล้วก็ไม่ต้องไปขัดจังหวะพวกเขาคุณกัน รู้ครับว่ามันเสียมารยาทแต่จะให้ผมเดินแบกหน้าไปลาแกตอนนี้คงไม่ไหวจริงๆ ไม่อยากเห็นหน้าพี่เวทย์ ไม่อยากเห็นหน้าพี่มุกและโดยเฉพาะไม่อยากเห็นทั้งสองคนเวลาเคียงกัน มันดูเหมาะสมกันอย่างบอกไม่ถูก รู้ครับว่าผมมันก็แค่คนแอบชอบ พี่เวทย์อาจจะไม่รู้จักผมด้วยซ้ำ ผมไม่มีสิทธิ์ไปงอนหรือทำตัวงี่เง่าแบบนี้ แต่มันอดไม่ได้จริงๆครับ ผมยอมรับครับว่าผมโกรธละก็โกรธมากด้วย ทำไมต้องหลอกผม ทำไมทุกคนต้องทำแบบนี้ บอกว่าให้โอกาสผมทั้งๆที่โอกาสนั้นมันไม่เคยมีอยู่เลย ให้ผมมาทำงานเพื่ออะไร จริงอยู่ ที่ผมเป็นคนตอบตกลงรับทำงานนี้เอง แต่ทำไมทุกคนไม่บอกกันก่อนเล่า ว่าพี่วุฒิมีแฟนอยู่แล้ว จะให้ผมทุ่มเทไปเพื่ออะไร ทำไปทำไม หรือมันสนุกมากที่เห็นผมดิ้นรนเพื่อความรักแบบนี้
 


ผมใช้เวลานานในเดินกลับมาห้องเช่า พอถึงก็รีบเปิดประตู ล้มตัวลงบนเตียงทันที ไม่ไหวแล้ว ไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว ไอ่พี่เวทย์บ้า!!!!!
ผมซุกหน้าลงกับหมอนร้องไห้ออกมาเงียบๆ เหนื่อยแล้วจริงๆนะ เขาทั้งคู่ดูเหมาะสมกันเหลือเกิน ผมมันก็แค่ตัวตลก
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ใครมันมาเคาะประตูตอนคนกำลังจะร้องไห้ว่ะ เสียอารมณ์เหอะ
ตึง! ตึง! ตึง!
เมือเห็นผมยังไม่เปิดประตู มันเลยเคาะประตูอีกรอบ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ใช้มือเคาะนะรอบนี้ รู้สึกว่าจะใช่อวัยวะเบื้องล่างเคาะ อย่าคิดลึกครับมันคือเท้า<<<มีแกคิดอยู่คนเดียวแหละอีแจ๋ม
ตึง! ตึง! ตึง!
โอ้ยยยย!!!จะเคาะอะไรนักหนาว่ะ
“กล้ามากนะ ที่ใช้ลูกเจ้าของร้านล้างจาน - -”
“พี่วุฒิ!!”
“เออดิ”
“มาทำไม แล้วรู้ได้ไงว่าผมอยู่ห้องนี้”
“ส่งกระแสจิตถามมนุษย์ต่างดาว”
“………= =”
“โอเคๆไม่เล่นล่ะ ก็เดินไล่เคาะมันทุกห้องจนมาเจอนายนี่แหละ ดีนะที่อยู่ห้องเจ็ด ”
โง่เปล่าว่ะ ทำไมไม่ถามอาแปะเจ้าของตึกเล่า
“แล้วมาทำไมครับ”
“นายลืมค่าจ้างของวันนี้”
“ไม่ต้องหรอกครับ วันนี้ผมทำงานไม่เต็มเวลา ไม่เอาหรอก”
“ได้ไง ยังไงนายก็ทำงาน”
“เฮ้อ~งั้นก็ขอบคุณมากครับ ไม่กลัวขาดทุนรึไงกันนะ” ผมบ่นเบาๆแต่ก็ยอมรับซองเงินค่าจ้างมา
“แล้วทำไมถึงกลับก่อนล่ะ ไม่สบายหรือ”
“เปล่าครับ พี่ก็กลับไปได้แล้ว”
“หรือว่ากลับมาร้องไห้เรื่องไอ้เวทย์มัน”
“เปล่า ขอโทษครับผมอยากพักผ่อน” ผมตัดปัญหาด้วยการปิดประตูไม่อยากคุยแล้ว แต่มันติดที่ว่าไอ่พี่วุฒิมันเอาตัวมาขวางไว้นี่สิ
“เดี๋ยว!”
“เอ๊ะ!!”
“มีสิทธิ์อะไรไปงอนมัน แฟนมันก็ไม่ใช่ ถามว่ามันรู้จักนายมั้ย ก็ไม่ แล้วจะมาเสียใจแบบนี้เพื่อ?” เออสิ!!!ผมไม่มีสิทธิ์ มาที่นี่จุดประสงค์จริงๆของพี่ก็คือต้องการมาตอกย้ำผมสินะ ผมผิดตรงไหนที่ผมจะเสียใจ ผมจะร้องไห้มันก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเสียหน่อย ขอผมแอบเสียใจคนเดียวไม่ได้รึไง
 “แล้วพี่จะมายุ่งอะไรด้วยเล่า!!!”
“อยากยุ่ง”
“มันไม่ใช่เรื่องของพี่! ออกไป!! อุ๊บ!”
ยังไม่ทันที่ผมจะได้เถียงริมฝีปากของพี่วุฒิก็ทาบมาที่ริมฝีปากผมทันที เกิดการนิ่งอึ้งชั่วขณะ ผมไม่ได้ผลักพี่วุฒิออกเพราะรู้สึกว่าแขนขามันไม่สามารถขยับได้เลย  กระแสไฟฟ้าบางอย่างแล่นจากริมฝีปากไปทั่วร่างกาย พี่วุฒิแนบริมฝีปากอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานก่อนจะรู้สึกตัวและผละออกไป
“ขอโทษ”
ผมได้แต่ยืนตาค้าง พี่วุฒิจูบผมทำไม ทำอย่างนี้ทำไม
“…………”
“พี่ขอโทษ”
“…………” ต้องการอะไรจากผม ทำแบบนี้ทำไม
“พี่….พี่ ไม่ได้ตั้งใจ พี่…”
“ผมยังเป็นตัวตลกสำหรับพี่ไม่พอสินะครับ!!”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ! แจ๋ม…”
“ฮึก…ผมคงเหมือนคนโง่มากสินะครับ ตลกมั้ยครับ ตลกใช่มั้ย พี่ก็หัวเราะสิ! ฮือ~”
“แจ๋ม! อย่าร้อง พี่ไม่ได้เห็นว่ามันตลกนะ”
“ให้ผมไปทำงานเพื่ออะไร ยังไงพี่เวทย์ก็มีแฟนอยู่แล้ว ฮึก.. ทุกคนก็รู้ใช่มั้ยครับ แล้วผมก็เหมือนคนโง่ที่โดนคนอื่นหลอก ฮึก อย่าเล่นกับความรู้สึกผมแบบนี้ ฮือ~ สนุกนักรึไงที่เห็นคนอื่นพยายามดิ้นรนเพื่อความรัก ฮึก สนุกนักเหรอ กับการให้ความหวังแล้วทำลายมัน ผมไปทำอะไรให้พวกพี่ ทำไมต้องแกล้งกันแบบนี้ฮึก ฮือ~”
“แจ๋ม….”
“แต่มันคงยังไม่พอสินะครับ ฮึก! พี่ถึงทำกับผมแบบนี้อีก”
“เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วแจ๋ม…มันไม่ใช่แบบนั้น”
“งั้นก็อธิบายมาเซ่!! อธิบายมา…ฮือ~”
“พอสักทีแจ๋ม!!!! พวกพี่จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร ฟังนะ….” พอโดนตะคอกน้ำตาของผมมันก็หยุดเสียดื้อๆ ก็มันกลัวอะ ปกติไอ่พี่วุฒิมันไม่เคยขึ้นเสียงใส่ผมเลยซักครั้ง พอครั้งนี้โดนเข้าหน่อยมันเลยรู้สึกแปลกๆ พี่วุฒิแม่ง!
“ทำเพื่อความสนุกไง สะใจดีมั้ยครับ”
“อย่าพูดแทรก แจ๋ม ฟังพี่นะ จะเชื่อไม่เชื่อก็ตามแต่ พวกพี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าไอ้เวทย์มันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว พี่ก็ตกใจเหมือนกันตอนรู้ว่ามุกเป็นแฟนกับไอ้เวทย์ มันทำอะไรไม่เคยบอกคนที่บ้านหรอก แม่น่ะก็เอ็นดูแจ๋มจริงๆนะ แต่แม่พี่ก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของไอ้เวทย์มัน มันชอบใครแม่พี่จะไปขัดขวางมันก็ยังไงอยู่ แล้วดูๆไปน้องมุกเค้าก็เป็นผู้หญิงที่ดี ดูแลไอ้เวทย์มันได้….”
“พอเถอะครับ ผมเข้าใจแล้ว”
“………”
“ผมเข้าใจแล้วว่าผมไม่ดีพอสำหรับพี่เวทย์ ผมยังเด็กและไม่สามารถดูแลพี่เวทย์ได้ พี่เวทย์ไม่ได้รักผมและที่สำคัญ ผมไม่ใช่ผู้หญิง! ผมเข้าใจแล้ว”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ อาจจะใช่ที่ไอ้เวทย์ไม่ได้รักนาย แต่มันไม่เกี่ยวหรอกนะว่านายจะเป็นเพศไหน!...”
เหตุผลข้อไหนก็ไม่สำคัญเท่าเค้าไม่รักเราสินะ ผมต้องยอมแพ้แล้วจริงๆหรือ แอบชอบมาสองปี คงต้องหยุดแล้วหรือ
“………”
“………”
“เฮ้อ!….ผมคงต้องถอยจริงๆแล้วสินะครับ….ขอบคุณและต้องขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่าง จริงๆ….ผมก็พอรู้มาบ้างแล้วว่าพี่เวทย์กับพี่มุกชอบกัน แต่ผมคิดว่านั่นเป็นแค่ข่าวลือ เรื่องจริงสินะ”
“เข้าใจก็ดีแล้วล่ะ…..”
“แล้วพี่ เอ่อ…จ..จูบ ผมทำไม”
“เฮ้ย!เรื่องนั้นลืมไปเถอะ ได้โปรดลืมมันปายยยย”  พี่วุฒิดูจะตกใจกับคำถามของผมมากนะเนี่ย แต่จะให้ผมลืมได้ไง นั่นมันจูบแรกของผมนะ!!
“…………” พี่วุฒิเงียบไปเหมือนกำลังเตรียมตัวจะพูดอะไรบางอย่างออกมาส่วนผมก็ได้แต่เงียบเพราะไม่มีอะไรจะพูด ถ้าถามว่าตอนนี้ผมตัดใจจากพี่เวทย์ได้รึยัง ผมตอบเลยว่า ไม่ ผมยังไม่โอเคกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ มันเร็วไปที่ผมจะตัดใจ อย่างน้อยไอ้ความรู้สึกดีๆที่มีต่อพี่เวทย์มันก็ยังหลงเหลืออยู่ ผมขอแค่เวลาครับ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานผมจะต้องตัดใจได้แน่ คงจะเป็นอย่างที่พี่วุฒิมันบอกผมคงไม่ได้ชอบพี่เวทย์จริงจังไม่งั้นผมอาจจะเป็นบ้ากว่านี้ แต่ผมแค่ปลื้มในรูปร่างหน้าตา และความสามารถของพี่เวทย์ซะมากกว่า แต่ก็ถือว่านานนะที่ผมแอบปลื้มคนคนนี้มาถึงสองปี
“…………”
“…………”
“แจ๋มยังชอบไอ้เวทย์มันอยู่รึเปล่า”
“อาจจะยังชอบอยู่มั้งครับ แต่ผมจะพยายามตัดใจ”
“…………”
“…………”
“…………”
“…เอ่อ….”
“งั้น…แจ๋มมาคบกับพี่ได้มั้ย”
“!!!!!”

………………………………………………………………………

มาแบบมึนๆสำหรับตอนนี้
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณสำหรับกำลังใจของทุกคนนะค่ะ
คือตัวเน่เองก็เพิ่งหัดแต่งนิยายลงเว็บ แล้วได้กำลังใจแบบนี้มันตื้นตันจนบอกไม่ถูก :hao5:
ขอบพระคุณจริงๆค่ะ สำหรับ The curry อีกประมาณสองสามตอน จะจบแล้วค่ะ
อย่างที่บอก มันคือเรื่องสั้น ก็สั้นได้ใจจริงๆ 55555
ขอความกรุณาติดตามกันต่อไปด้วยนะค่ะว่าจะลงเอยกันอย่างไร
สำหรับข้อผิดพลาดต้องขออภัยจริงๆนะค่ะ อาจจะงงๆกับเรื่องไปบ้าง ต้องขออภัยค่ะ
จะพยายามทำให้กระจ่างเนอะ
ตัดจบได้น่าเตะมากกก อันนี้เน่รู้

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #8 เมื่อ03-10-2014 09:12:54 »

แหมมมมม พี่วุฒิคะ
จะไม่ให้น้องมันตั้งตัว หรือเคลียร์ความรู้สึกตัวเองก็เลยหรอ
จะให้มาคบกันปุบปับๆ คงไม่ได้มั้ง

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #9 เมื่อ03-10-2014 15:49:28 »

เอาอย่างนี้เลยหรอพี่วุฒิ :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
« ตอบ #9 เมื่อ: 03-10-2014 15:49:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #10 เมื่อ03-10-2014 17:14:02 »

แฟนละคะพี่วุฒิ หืมๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Nene promporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก อัพ
«ตอบ #11 เมื่อ04-10-2014 21:25:44 »

THE CURRY  แกงรัก (YAOI)
…………………………………………………………………..

ตอนที่ 4  เรื่องล้อเล่น
ผ่านมาสามวันแล้วครับ ที่ผมไม่ได้ไปทำงานที่ร้านเพราะเรื่องตั้งแต่วันนั้น ตั้งแต่วันที่พี่วุฒิขอคบผม แกพูดแค่นั้นแล้วขอลากลับไปเลย ทั้งๆพี่วุฒิเองก็มีแฟนอยู่แล้ว ทำไมถึงมาขอคบผม มันทำให้ผมนอนไม่หลับมาตลอด โอยยย ทำไมชีวิตผมมันวุ่นวายจังเนี้ย
 “เฮ้อ! = =”
“ตายแล้ว!อีแจ๋ม นี่แกไปฟัดกับแพนด้ามารึไงย่ะ” คงไม่ต้องเดาครับว่าเป็นใคร ก็มีอยู่คนเดียวนี่แหละอีเจ๊ไง
“แล้วทำไมต้องเป็นแพนด้าว่ะ”
“ก็น้องเค้าขอบตาดำๆเหมือนแกนี่หว่า งั่มๆๆ” เรียกแพนด้าว่าน้องเค้า แต่เรียกผมว่าแก มันน่าจับเตะให้เดี้ยงมั้ยล่ะ ว่าผมแล้วยังมีหน้ามากินขนมโชว์อีก ไม่ผอมบ้างให้มันรู้ไป เอ่อ…แล้วขอบตาผมมันดำขนาดนั้นเลยเหรอเนี้ย
“เฮ้อ! = =”
“ถอนหายใจทำไมอ่ะ งั่มๆๆ ประจำเดือนไม่มารึไง งั่มๆๆ”
“พี่แจ๋มมีมดลูกด้วยเหรอครับ งั่มๆๆ” โถ่ น้องพูคร้าบ ยังจะไปอีเจ๊เชื่อมันอีกเหรอแต่เห็นน้องแกตัวเล็กๆแบบนี้ก็กินเยอะใช่ย่อยนะครับ ติดนิสัยอีเจ๊มาแล้วไง
“เฮ้อ! = =”
“โอ๊ยยย นี่เจ๊จะบอกอะไรให้ เมื่อก่อนอีแจ๋มมันมีมดลูกนะ แต่มันบริจาคให้สภากาชาดไทยไปแล้ว” เอ่อ..อีเจ๊ได้ข่าวว่าสภากาชาดไทยมันรับบริจาคเลือดไม่ใช่เรอะ
“เจ๊ ผมถามไรหน่อยดิ”
“มีไรว่ามา งั่มๆๆ” สนใจผมหน่อยเหอะ อีเจ๊
“ถ้านายA แอบชอบ นาย B แต่เพิ่งรู้ว่านายB มีแฟนอยู่แล้ว สรุปคือ นายAอกหัก แล้วหลังจากนั้นนายC ซึ่งเป็นพี่ชายของนาย B ก็มาขอคบ ทั้งๆที่นายCก็มีแฟนอยู่แล้ว แล้วนายA จะทำยังไงดีอะ”
“อะไรของแกว่ะ อีแจ๋ม เอๆบีๆซีๆ แกก็รู้ว่าเจ๊ไม่เก่งสมการ” สมการบ้านเจ๊ดิ ที่ผมถามมันเกี่ยวกับสมการตรงไหนกัน
“เอ…สรุปก็คือนายAก็จะไม่ได้ใครเลยเพราะทั้งคู่มีแฟนอยู่แล้วไงครับ” หันมาฟังน้องพูดีกว่า ดูเหมือนจะมีสาระกว่าเยอะ
“อย่างนั้นเหรอ”
“ครับ แต่ที่ไม่ถูกคือนายCจะมาบอกขอคบพี่แจ๋มไม่ได้ เพราะตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้วแถมพี่แจ๋มก็เพิ่งอกหักจากนายBที่เป็นน้องชายตัวเองมา นี่เค้าเรียกฉวยโอกาสตอนที่พี่แจ๋มกำลังเฮิร์ตชัดๆเลย”
“เฮ้ย!นั่นมันไม่ใช่พี่นะ นายAก็คือนายAเซ่!!!”
“อ้าว!เหรอครับ โอเคๆงั่มๆๆ”
“แล้วพี่ เอ้ย! นาย A จะต้องตอบนายCยังไงล่ะ”
“ก็ตอบปฏิเสธไปสิครับ เว้นแต่ว่านายAอาจจะมีใจให้นายC แต่คงจะไม่ใช่หรอกเนอะ เพราะนายAเค้าชอบนายB อยู่”
“อ่า ใช่ๆ ขอบใจมากนะน้องพู ฉลาดกว่าคนแถวนี้เยอะ” ผมว่าพลางปรายตาไปทางอีเจ๊
“แกไง อีแจ๋ม ไม่งั้นแกไม่มาถามน้องพูหรอก เนอะๆ”
“แฮะๆ ^ ^” น้องพูที่ไม่รู้จะเข้าข้างใครได้แต่หัวเราะออกมานิดหน่อย ผมว่าผมได้คำตอบแล้วล่ะ
ผมควรตอบปฏิเสธไปสินะ
แต่เดี๋ยวนะ เหมือนวันนี้ผมจะพลาดอะไรไป……พลาดงั้นเหรอ……..วันนี้มัน….
วันเกิดพี่เวทย์นี่หว่า!!!!!


ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
“อีแจ๋ม!! แกดู ดูนี่ๆมันพูดได้ด้วยอ่ะ!!!> <” ตั้งแต่ผมนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มันเป็นวันเกิดพี่เวทย์ ผมก็บอกให้พวกมันมาช่วยเลือกของขวัญแต่นี่อะไร พามาดูเฟอร์บี้บ่นซะงั้น มันพูดตรงไหนว่ะ ถึงจะพูดแกรู้ด้วยเหรออีเจ๊ว่ามันพูดน่ะ มันก็อ้อๆแอ้ๆบ้าๆบอๆไปนั่นแหละ
“เว่อร์ไปแล้วอีเจ๊”
“น่ารักจังเลยนะครับ” น้องพูก็ดูจะตื่นเต้นไปกับมัน เฮ้อ!ไอ่สองคนนี้มันเข้ากันได้จริงๆว่ะ
“แจ๋มๆแกเลือกของขวัญไปก่อนนะเว้ย เจ๊กับน้องพูจะไปหาของกินกันก่อน หิวแล้วอ่ะ”
“เออๆไปเหอะ” เพราะถึงแกจะอยู่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เมื่อไอ้สองตัวนั่นเดินไปแล้วผมก็ก้มๆเงยหาของขวัญให้พี่เวทย์ จะให้อะไรดีนะ แต่ถ้าผมซื้อของขวัญไปให้พี่เวทย์มันจะดูแปลกๆมั้ย ไม่หรอกๆ
“ไง แจ๋ม”
“พี่วุฒิ สวัสดีครับ”ผมเงยหน้าขึ้นมาเมื่อเห็นเป็นพี่วุฒิก็ทักกลับไป แต่ไอ้คนข้างๆพี่แกถ้าจำไม่ผิด นั่นก็พี่วิทย์หนิ
“ดีๆ นี่ไอ้วิทย์ ไอ้วิทย์นี่น้องแจ๋ม”
“สวัสดีครับพี่วิทย์”
“สวัสดีครับ ไอ้วุฒิพี่ไปเดินดูของแถวๆนั้นก่อนนะ ขอตัวก่อนนะครับ” พี่วิทย์ขอตัวแยกออกไปทำให้เหลือแค่พี่วุฒิกับผม ยังไม่พร้อมที่จะคุยกันเลยอ่ะ ถ้าพี่วุฒิพูดถึงเรื่องเมื่อวันนั้นขึ้นมาจะทำยังไงดี
“แล้วมาที่ห้างทำไม ไม่ใช่ต้องไปทำงานที่ร้านเรอะ เดี๋ยวก็บอกให้แม่ไล่ออกเลยหนิ”
“แป๊บเดียวน่า….”
“แล้วมาทำไม อ้อ…รู้แล้วๆ มาหาของขวัญให้ไอ้เวทย์มันใช่มั้ยล่ะ” พี่วุฒิไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นแฮะ หรือพี่มันจะลืมไปแล้ว
“ถ้าใช่ แล้วจะทำไมครับ”
“ไม่กลัวมันสงสัยรึไง”
“ไม่ครับ แล้วพี่วุฒิมาทำไมล่ะ”
“ก็มาหาของขวัญให้ไอ้เวทย์นั่นแหละ ที่บ้านก็จัดงานวันเกิดให้มัน ไอ้วิทย์มันคงจะไปซื้อเค้กอยู่”
“แล้วพี่จะซื้ออะไรให้พี่เวทย์เหรอครับ”
“ไม่รู้สิ นาฬิกามั้ง มันบอกว่าอยากได้”
“อ่าครับ พี่ว่าผมจะซื้ออะไรดีอะ เอาแบบดูดี มีสไตล์ ใช้ประโยชน์ได้ แต่ต้องราคาถูก”
“เอาตัวเองผูกโบไปให้มันเลยไป ถ้าจะเรื่องมากขนาดนี่น่ะ”
“เป็นความคิดที่ดี งั้นเดี๋ยวผมมานะ” ผมว่าแล้วทำท่าจะเดินออกไปจริงๆ
“เฮ้ย!แล้วนั่นจะไปไหน”
“ไปซื้อโบมาผูกตัวเองไง”
“ปัญญาอ่อน- -” คนบอกปัญญาอ่อนกว่าอีกเหอะ

“ไอ้บ้า!!! แต่ฉันมาก่อนนะ”
“แต่ผมพูดก่อนนะครับ แล้วเงินก็จ่ายไปแล้วด้วย”

“เสียงไอ้เจ๊หนิ//เสียงไอ้วิทย์หนิ” ผมกับพี่วุฒิพูดออกมาพร้อมกัน แล้วร่างของอีเจ๊กับพี่วิทย์ก็เดินมาหา
“ไอ้แจ๋ม แกดูไอ้หมอนี่สิ มันแย่งขนมเค้กเจ๊ไปอ๊ะ!!” เจ๊มันฟ้องแล้วชี้นิ้วไปทางพี่วิทย์ ไปเจอกันจนได้นะ
“ -  - ”
 “อยู่ดีๆมันก็มาชิงตัดหน้าซื้อเค้กไปก่อนอะทั้งๆที่เจ๊มาก่อนนะ!!!”
“แต่นายยังไม่ได้จ่ายเงินเสียหน่อย”
“แกดู ดูไอ้หมอนี่สิ มันเรียกเจ๊ว่านายอะ เจ๊ไม่ยอมนะ”
“ไร้สาระ - -” พี่วิทย์พูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ว๊ากกกก นายมันไอ้คนปากเสีย!ถึงจะหล่อ กระเทยไทยอย่างเจ๊ก็ไม่อ่อนให้หรอกเว้ย!! อีแจ๋มเจ๊กลับก่อนนะ อารมณ์เสีย ป่ะ น้องพู กลับ!”
“เฮ้ย!ได้ไง ไอ่เจ๊ แกจะไปก็ไปคนเดียวดิว่ะ ลากไอ่น้องพูไปด้วยทำมายยย”



สรุปว่าผมก็ไม่ได้ของขวัญวันเกิดพี่เวทย์เลยสักชิ้น แล้วโดนพี่วุฒิแกลากขึ้นรถของพี่วิทย์มาที่ร้าน
พอถึงน้านิดก็ถามใหญ่เลย ว่าทำไมผมไม่มาทำงานเป็นอะไรรึเปล่า ผมเลยตอบไปว่าไม่สบายนิดหน่อย               
เอาเข้าจริงๆก็เป็นเพราะลูกชายป้านั่นแหละ
ที่ร้านไม่ได้จัดงานวันเกิดใหญ่โตอะไรหรอกครับ มีอาหารที่น้านิดทำมากขึ้นหน่อย และเค้กที่พี่วิทย์ไปแย่งซื้อกับไอ้เจ๊มา มันเป็นเค้กช็อคโกแล๊ตขนาดกลาง ดูน่ากินมากๆเลย แล้วเจ้าของงานวันเกิดก็กลับมาจากมหาลัยพร้อมกับพี่มุกแฟนของเค้า ผมยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่ครับแต่มันก็น้อยลงบางแล้ว คงเป็นเพราะเวลาที่ทำให้ผมลืมได้บ้างและบางทีผมอาจจะคิดเรื่องของพี่วุฒิมากเกินไปจนไม่มีเวลามานั่งรำลึกความหลังเรื่องราวระหว่างผมกับพี่เวทย์ ฮ่าๆ ทำอย่างกับมันมีงั้นแหละ
เรากินข้าวกันไปสักพักจนอิ่มกันแล้ว พี่นกที่เป็นลูกจ้างอีกคนก็เดินถือเค้กออกมาจากครัว
แล้วเราก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์โดยมีน้านิดนั่งหัวเราะอยู่ข้างๆเพราะไอ้เสียงร้องเพลงเพี้ยนๆของพวกเรา
พี่เวทย์อธิษฐานแล้วเป่าเทียนเสร็จ พวกผมถึงทยอยเข้าไปมอบของขวัญและบอกสุขสันต์วันเกิด
“เวทย์ สุขสันต์วันเกิด”
“ขอบคุณคร้าบบบ พี่วิทย์ ไม่นึกว่าจะได้ด้วย”
“อืม ตั้งใจเรียนล่ะ”
 “เฮ้ย ไอ้เวทย์สุขสันต์วันเกิดนะเว้ย”
“ขอบคุณนะพี่วุฒิ พี่ให้อะไรผมน้ออ”
“ไว้แกะดูเอาเอง พี่เชื่อว่านายต้องชอบ”
“เอ่อ…พี่เวทย์ครับ” ผมเดินเข้าไปหาพี่เวทย์ ไม่มีของขวัญจะให้ก็พูดแค่สุขสันต์วันเกิดนี่แหละ
“น้องแจ๋มใช่มั้ย” สงสัยน้านิดจะเป็นคนบอก
“ครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ” 
“ขอบคุณมากนะครับ รู้วันเกิดพี่ได้ไงเนี้ย”
“พี่วุฒิบอกมาน่ะครับ” อ้างไอ่พี่วุฒิไว้ก่อนครับ จะให้พูดไปตรงๆว่าผมไปสืบประวัติพี่มามันก็ดูยังไงอยู่
“ครับๆไงก็ต้องขอบคุณมากนะครับ” แล้วพี่วุฒิก็ส่งยิ้มมาให้ ทำเอาแทบละลายแน่ะ
“มะ ไม่เป็นไรครับ-////-”
“อะแฮ่มๆ เก็บอาการหน่อย” เขินได้ไม่นานก็มีวิญญาณบางตัวโฉบมาขัดจังหวะ เหอะ รู้แล้วละน่า
“อ่ะ เวทย์ ของขวัญนาย สุขสันต์วันเกิดนะ มีความสุขมากๆ” ต่อมาเป็นพี่มุกที่ยื่นของขวัญให้พี่เวทย์
“ขอบใจน้า ที่รัก มาจุ๊บที” พี่เวทย์ทำท่าจะเข้าไปจุ๊บพี่มุกอย่างที่พูดถ้าไม่ติดว่าพี่มุกเอามือยันไว้อยู่ เห็นแล้วมันตะหงิดๆแฮะ ถึงจะไม่มากก็เหอะ
“หยุดเลยนะ ความเป็นสุภาพบุรุษของนายมันหายไปไหนกัน”
 “ตั้งแต่เจอคุณนั่นแหละ”
“นายหาว่าฉันไม่มีความเป็นกุลสตรีเรอะ”
“พอๆวันนี้วันเกิดผมนะ”
“ย่ะ จะให้อภัยซักวัน” พี่มุกสะบัดเชิดใส่พี่เวทย์อย่างงอนๆแต่ก็ยอมสงบศึกแต่โดยดี
“แม่คร้าบ ต่อไปตาแม่อวยพรให้ผมแล้วน้า ขอหนักๆจัดเต็มๆ” พี่เวทย์ว่าแล้วเข้าไปกอดน้านิด เป็นภาพที่ดูอบอุ่นดีนะ คิดถึงพ่อกับแม่จัง
“ตาเวทย์ก็! เอ้าๆในวันนี้เป็นวันคล้ายวันกิดของลูกเวทย์ แม่ก็ขออวยพรให้ลูกของแม่ประสบความสำเร็จในชีวิต คิดสิ่งใดขอให้สมดังปรารถนา แม่ภูมิใจที่ลูกเกิดมาและลูกก็ไม่เคยทำให้แม่ผิดหวัง ตั้งใจเรียนนะลูก                  รู้สิ่งใดก็ไม่สู้รู้วิชา และความพยายาม ขยันหมั่นเพียร อดทน มันจะทำให้ลูกประสบความสำเร็จ สุขสันต์วันเกิดนะ”
“ขอบคุณครับแม่ ผมรักแม่นะคร้าบบบ”
“แม่ก็รักลูกนะ”
“เอ้าๆอย่ามัวแต่ซึ้งค่ะ ตัดเค้กๆๆๆ” พี่นกเอ่ยขัดขึ้นมา พร้อมถือมีดกับจานมาด้วย ได้เวลาตัดเค้กแล้ว
“โหยย พี่นก!!!”
“เอ้า!ก็พี่หิวอ่ะ”
หลังจากนั้นทุกคนก็จัดการสวาปามเค้ก  จากก้อนใหญ่ๆเหลือแค่ไม่กี่ชิ้น ส่วนผมกินไปทั้งหมดสามชิ้นเองยังน้อยไปนะ ตอนนี้ผมรู้สึกขัดใจแปลกๆก็เห็นไอ่พี่วุฒิมันกินไปยิ้มไปอะ เห็นคนอื่นมีความสุขไม่ได้
“เป็นไรมากป่ะครับ”
“มีความสุข”
“น่าหมั่นไส้” ผมบ่นออกมาเบาๆแล้วตักเค้กเนื้อนุ่มเข้าปากคำใหญ่ อร่อยดีครับ มองไปทางพี่เวทย์กับพี่มุกแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว ป้อนกันเข้าไปเค้กน่ะ ฮึ่ย! แต่มันก็…เขินดีนะครับ
“อิจฉาเหรอ” พี่วุฒิถามขัดขึ้นมา นี่จะไม่ให้ผมใช้เวลาคิดอะไรคนเดียวหน่อยรึไงกัน
“เปล่าครับ แค่มันเขินๆแทนไงก็ไม่รู้”
“หืม…งั้นก็ดีแล้วล่ะ” อะไรที่มันดีแล้วว่ะ พูดให้เก็ทซิไอ้พี่วุฒิ
“หมายความว่าไง”
“ครีมเปื้อนปากแน่ะ” เอ้า!ผมกินทางปากหนิจะให้ครีมไปเปื้อนเล็บเท้ารึไง ผมใช้หลังมือเช็ดครีมออกแล้วตักเค้กคำต่อไปกินต่อ
“ทุเรศจริง” ทุเรศตรงไหนอะ ใครๆเค้าก็ทำกัน

เมื่องานเลี้ยงเลิกผมก็ช่วยเก็บจานไปล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วจึงขอลากลับ
“ลาล่ะครับน้านิด”
“ตาวุฒิ ไปส่งน้องเค้าหน่อยนะ”
“ครับ”
งานเข้าแล้วสิผม….




“ที่จริงพี่ไม่ต้องมาส่งผมก็ได้นะ” 
“มาบอกตอนนี้ก็ช้าไปแล้วน้องเอ๋ย ถึงห้องแล้วหนิ - -”
“แฮะๆขอบคุณมากครับ”
“งั้นพี่กลับแล้วนะ”
“ครับ” ถึงปากจะพูดว่าจะกลับแล้วแต่พี่วุฒิยังยืนอยู่กับที่ไม่ไปไหน มีเรื่องอะไรจะพูดรึเปล่านะ
“………”
“………”
“เรื่องเมื่อวันนั้น….” ขึ้นคำพูดมาแบบนี้ ชัดเลย ใจเริ่มไม่ดีแล้วสิ ใจเย็นไว้ ไอ้แจ๋ม ก็แค่ตอบปฏิเสธไป
“………”
“พี่ล้อเล่นนะ….พอดีไม่อยากให้แจ๋มเครียดน่ะ”
“!!!!”
พูดง่ายเนอะ ว่าล้อเล่นน่ะ พี่ไม่อยากให้ผมเครียด แต่รู้อะไรมั้ยว่าผมเครียดหนักกว่าเดิมอีก เรื่องล้อเล่นมีเยอะแยะดันไม่เล่น มาเล่นเรื่องอันตรายแบบนี้ได้ไง!!!!!                                                           
แต่เอ๊ ทำไมผมต้องรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆด้วยฟ่ะ ผมต้องสบายใจสิ ที่พี่มันไม่ได้ชอบผม
….
…..
……
……..
…………
“ฮ่าๆๆงั้นหรือครับ ผมก็เครียดอยู่ตั้งนาน นึกว่าพี่จะชอบผมจริงๆซะอีก ตกใจหมดเลย ฮ่าๆๆ”
“อ่า เอ่อ ฮะๆๆ พี่จะไปชอบนายได้ไง พี่มีแฟนอยู่แล้วนี่ ฮ่าๆๆๆ” จะมาบอกทำไมล่ะว่าตัวเองมีแฟนแล้ว อยากอวดนักรึไง!!! อย่าให้ผมมีบ้างเถอะ
“ฮ่าๆๆๆ ถ้าเกิดพี่ชอบผมขึ้นมาจริงๆ ผมก็จะไปชอบพี่ได้ไง ผมชอบพี่เวทย์อยู่นี่เนอะ”
“แต่ไอ้เวทย์มันมีแฟนแล้ว!”
“ผะ…ผมรู้แล้วน่า ก็ตอนนี้พยายามตัดใจอยู่ไง” แล้วพี่จะมาขึ้นเสียงใส่ทำไมว่ะ
“รีบๆหน่อยละกัน ถ้าน้องมุกรู้เข้า จะแย่เอา” ที่แท้ก็ห่วงพี่มุก เห่อๆ ถ้าไม่มีใครบอกพี่มุกก็ไม่รู้หรอก
“พี่มุกจะไปรู้ได้ไงกัน เอาเถอะ จะพยายาม ยังไงมันก็ดีสำหรับตัวผมด้วย”
“อืม..งั้นพี่กลับแล้วนะ”
“ครับ กลับดีๆล่ะ”
“อืม”
รู้สึกว่าพี่มันกำลังหงุดหงิด แล้วมันหงุดหงิดเรื่องอะไรเนี่ย หรือจะหงุดหงิดผม ผมทำอะไรให้มันหงุดหงิด
ผมมองตามแผ่นหลังพี่วุฒิที่ค่อยๆไกลออกไปแล้วหันมาไขกุญแจเข้าไปในห้องของตัวเอง เปิดไฟ อาบน้ำทำธุระเสร็จเรียบร้อยก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียง มันนอนไม่หลับแฮะ ก็แค่เรื่องล้อเล่นงั้นเหรอ หึหึ
~เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงาม จะคืนกลับมา~ (อะคุกๆ)
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมจึงหยิบมันขึ้นมาดู
‘แม่’
ผมกดรับแล้วกรอกเสียงลงไป
“สวัสดีครับ”
[แจ๋ม นี่แม่นะ]
“ครับ แม่มีอะไรรึเปล่าครับ”
[พ่อแกโอนตังค์สำหรับเดือนหน้าไปให้เอ็งแล้วนะ แม่แอบเพิ่มให้เอ็งนิดหน่อยกลัวจะไม่พอ]
“จริงเหรอครับแม่ อ๊ากก แม่กะพ่อใจดีที่ซู้ดดดด ขอบคุณคร้าบบ”
[อย่าใช้ให้ฟุ่มเฟือยนักล่ะ รู้มั้ยว่าเงินมันหายาก]
“คร้าบบ หายากมากๆเลย ถ้าไม่มีพ่อกับแม่ผมก็ไม่มีตังค์ใช้หรอก เนอะๆ”
[ย่ะ! อาทิตย์หน้าพ่อกับแม่ว่าจะไปเยี่ยมเอ็ง เตรียมตัวไว้ให้ดีล่ะ]
“โหย แม่อะ”
[อะไร หรือมีปัญหา แอบซ่อนสาวไว้รึไง]
“เปล่าซักหน่อย แม่มาตอนนี้ยังได้เลย” พูดไปงั้นแหละ ถ้ามาตอนนี้จริงคงเก็บห้องไม่ทัน
[เหรอ ไงเอ็งก็ตั้งใจเรียนนะ มีปัญหาอะไรก็บอกแม่อย่าเก็บไว้คนเดียว แล้วอย่ามัวแต่จีบสาว]
“โหย แม่ ผมไม่มีสาวที่ไหนหรอก มีแม่คนเดียวก็เกินพอแล้ว ” แล้วผมจะมีปัญญาไปจีบสาวที่ไหนครับ ผมชอบผู้ชาย
[อย่ามาประจบฉัน เอ็งรีบนอนไป ฉันจะวางแล้ว เปลืองค่าโทร]
“คร้าบ ผมรักแม่นะ จุ๊บๆฝันดีนะครับ”
[ฮึ่ย!ฉันล่ะขนลุก พอเลยๆนอนไป]
“คร้าบๆ รักแม่นะครับ”
“เออๆ”
ติ๊ด!
แม่วางสายไปแล้วแต่ผมยังคงมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ขึ้นเบอร์ของแม่อยู่ แม่ก็เป็นอย่างนี้เสมอล่ะปากว่าด่าสารพัดแต่ใจจริงก็เป็นห่วงผมอยู่ไม่ใช่น้อย คุยกับแม่แล้วสบายใจขึ้นเยอะ ผมว่าคืนนี้ผมคงนอนหลับแล้วล่ะ ผมรักแม่กับพ่อนะครับ


……………………………………………...................................................................
ขอสารภาพว่าเมื่อวานไม่มีอารมณ์แต่ง ไม่มีอารมณ์พิมพ์ พูดง่ายๆก็ขี้เกียจนั่นแหละค่ะ
ต้องขออภัยจริงๆค่ะ วันนี้เลยจัดเต็มแต่ยังไม่เฉลยเรื่องแฟนพี่วุฒิเนอะ
รอนางมาเซอร์ไพร์  หึหึ  อีกไม่นานค่ะ ตอนหน้านี่เอง
ขอขอบคุณทุกท่านที่คอยติดตามและอ่านเรื่องของคนอยากแต่งนะค่ะ จะพยายามพัฒนาฝีมือ
เจอกันตอนหน้าค่ะ^ ^ ปล.อีแจ๋มมันหลายใจจังแฮะ หรือพี่วุฒิกันนะ งืมๆ

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #12 เมื่อ04-10-2014 22:43:34 »

เออยังไงเนี้ยแค่เรื่องล้อเล่นจิงๆๆเหรอพี่วุฒิ

ออฟไลน์ Nene promporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #13 เมื่อ06-10-2014 19:52:47 »





THE CURRY : ตอนที่  5 ต้มยำ




วันนี้วันเสาร์ ผมรักวันเสาร์ และนี่ก็เป็นเสาร์สุดท้ายของเดือนทำให้ผมยิ่งรักวันนี้ขึ้นไปอีก เพราะผมจะไปถอนเงินที่แม่โอนมาให้และผมก็จะได้ไม่ต้องกินแกลบอีกต่อไป เย้!!!!
โป๊ก!
“ทำงานเว้ย!อย่ามัวแต่นั่งเอ๋อ” ตลอดๆล่ะครับ ให้ผมจินตนาการวาดฝันได้ไม่นานก็มีมารมาขัดขวางความสุข จะใครซะอีก ก็ไอ่พี่วุฒิไง จู่ๆก็เดินมาเคาะหัวผมเฉยเลย กำปั้นพี่มันก็ใช่จะเล็กๆเหมือนขี้เล็บมดคอยดูนะถ้าผมโง่กว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์เมื่อไหร่ ผมจะไปฟ้องคุณริว จิตสัมผัส <ปกติแกก็โง่กว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ อยู่แล้วไม่ใช่เรอะ>
ผมยังทำงานที่ร้านน้านิดอยู่ครับเพราะได้เงินใช้ เป็นรายได้ระหว่างเรียนแต่แผนที่จะทลายหัวใจพี่เวทย์นั้นพังสลายหายตัวไปจากสมองผมแล้ว ทำไปก็ไม่สำเร็จเพราะพี่เวทย์แกรักแฟนแกยิ่งกว่าอะไร ถ้าผมไปแทรกกลางก็คงจะไม่ได้ ผมจึงเลือกจะถอยออกมา และตอนนี้ก็ตัดใจได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วล่ะ ของสะสมที่เกี่ยวกับพี่เวทย์อะไรใช้ได้ก็เก็บ อะไรใช้ไม่ได้อย่างเศษหมากฝรั่งที่พี่แกเคี้ยวเงี้ย ก็ทิ้ง มานั่งคิดดู ผมว่าผมก็บ้านะครับ บางอย่างก็ทำลงไปได้เนอะ ส่วนขนมไข่ของสะสมล่าสุดของผมก็โดนเชื้อราแดกไปแล้วครับและตอนนี้ผมก็เปลี่ยนหน้าที่มาเป็นเด็กล้างจานแทนเด็กเสิร์ฟครับ ก็น้านิดแกบอกว่าผมล้างจานได้สะอาดดี จะไม่ให้ไม่สะอาดได้ไงล่ะ ก็ผมเล่นล้างจานล่ะสองสามนาที ขัดมันอยู่อย่างนั้นล่ะใบเดียว
“เจ็บนะเว้ย!”
“เหอะ!”
พี่วุฒิสบถในลำคอแล้วก็เดินออกไป เป็นอย่างนี้เสมอล่ะครับ แกชอบเขามาแกล้งผมสารพัดต่างๆนาๆแล้วเดินออกไปหน้าตาเฉย อย่างเมื่อวานก็เอากรรไกรมาตัดผมของผมขณะที่ผมแอบพักผ่อนระหว่างทำงาน              เมื่อวานก่อนก็เอาปากกาเมจิกมาเขียนหน้าขณะที่ผมพักผ่อนระหว่างทำงานอีกเช่นกัน เห็นแล้วอยากเอามีดจ้วงแทง นี่มันจงใจแกล้งผมชัดๆ ผมทำอะไรผิดตรงไหนกัน<<ยังไม่รู้ตัว
“แจ๋ม เร่งมือหน่อย จานจะไม่พอแล้ว”
“ครับๆ” 
แล้วผมก็รีบปู้ยี้ปู้ยำ เอ้ย! ล้างจานตามบัญชาของพี่นกแกทันที เหนื่อยครับแต่คิดถึงเงินที่จะได้ผมก็มีความสุข
“ทำอะไรน่ะครับ!” ผมว่าขึ้นมาเมื่อจู่ๆไอ่พี่วุฒิก็มายืนล้างจานอยู่ข้างๆ แวบไปแวบมา ไม่มีหลักแหล่ง อย่างกะผีแน่ะ ตกใจหมด
“ล้างจาน”
“รู้ แต่นี่มันงานผม”
“อยากทำ”
อ๊ากกกกก!!!บอกผมมาว่าพี่มันตั้งใจกวนประสาทโผมมมมมมม



ผมล้างจานเสร็จแล้วครับ และกำลังจะได้งานเพิ่ม
“หนูแจ๋ม ช่วยไปซื้อของสำหรับทำกับข้าวพรุ่งนี้ให้น้าหน่อยนะ น้าจะนั่งทำบัญชีรายได้ของร้าน รบกวนหน่อยนะจ๊ะ”
“ไม่รบกวนเลยครับ สั่งมาได้เลยครับคุณน้า”
“ขอบใจนะ รายการของอยู่บนโต๊ะนะจ๊ะ”
“ครับๆ”
 ผมรับคำ เดินไปหยิบกระดาษรายการของที่ต้องซื้อแล้วกำลังจะก้าวเท้าออกจากร้าน
“ไปด้วยดิ”
มีคนเดียวล่ะครับที่ชอบมายุ่งวุ่นวายกับผม ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม จะไปทำไมว่ะ
“ไปช่วยถือของ”
“อ้อ ครับ” ก็ดี จะได้ไม่ต้องถือของเอง ใช้ไอ้ลูกชายเจ้าของร้านนี่แหละ


แล้วผมกับพี่วุฒิก็เดินมาที่ตลาด สายตาหลายคู่มองมาทางผมและพี่วุฒิ แต่ดูเหมือนจะมองพี่วุฒิคนเดียวมากกว่า ก็หน้าพี่มันเล่นหล่อโดดเด่นกว่าชาวบ้านเค้าขนาดนี้นี่นะ ถ้าไม่บอกว่าเป็นลูกเจ้าของร้านข้าวแกงนึกว่าพี่มันเป็นลูกเจ้าของห้างเดอะมอลล์ซะอีก
“แล้วจะซื้ออะไรก่อน”
“ครับ อืม…พวกพริก ขิง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ผักชี…”
“พอๆร่ายซะจะหมดอยู่แล้ว จะซื้อวัตถุดิบทำพริกแกงน่ะทางนู้น”
“ครับ”

ผมเดินเข้าไปซื้อพริกในร้านปล่อยให้ไอ่พี่วุฒิมันยืนรอไป แต่ก็ต้องหันขวับเพราะได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
“อร๊ายยย!! พี่ชื่ออะไรเหรอค่ะ> <”
เสียงนั้นคือ เสียงกรี๊ดกร๊าดของกลุ่มผู้หญิงรวมทั้งกึ่งหญิงหลายคนกำลังรุมล้อมร่างสูง
“พี่ชื่อวุฒิครับ”
ยิ้มเข้าไป ยิ้มเข้าปายยย แฟนตัวเองก็มีอยู่แล้ว ยังมาโปรยเสน่ห์ไปทั่วอีก
“อร๊ายยย!!พี่มีแฟนยังค่า>///<” เดี๋ยวนี้เด็กผู้หญิงเค้าเป็นกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี้ย (ได้ข่าวว่าแกก็เป็น อิแจ๋ม)
“ยังครับ”
“แต่ไอ่เนี่ยมันมีเมียแล้ว!!” ผมที่อดทนไม่ไหวเลยเดินฝ่าวงล้อมเข้าไป ดูมันสิครับ มันกำลังจะนอกใจแฟน ผมเป็นคนดีครับไม่อยากให้ผู้หญิงเสียน้ำตา
“แล้วเมียมันก็โหดมากด้วย ถ้าพวกเธอไม่อยากเจอเมียไอ่พี่นี่ตบละก็อย่ายุ่งกับมันดีกว่า” ผมโกหกออกไป อันที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกว่าแฟนพี่มันเป็นใคร หน้าตาเป็นไง นิสัยดีไหม
“จริงเหรอค่ะ” ดูมันยังไม่เชื่ออีก คอยดูนะถ้าไม่ตอบให้ดี เจอผมเล่นแน่ ผมทำเพื่อแฟนมันนะครับ
“…..”
“…..”
“…..”
“จริงครับ” รอดไปนะ รอดไป
“ว้า!! น่าเสียดายจัง เมียเผลอเมื่อไหร่เจอกันนะคะพี่” หนึ่งในกลุ่มนั้นพูดแล้วก็เดินออกไปแต่ยังไม่วายส่งสายตาวิบวับๆมาให้ไอ่พี่วุฒิมัน โอยยย อิแจ๋มล่ะหมั่นไส้คนหล่อ
“เสน่ห์แรงนักนะ!”
“หึ” พี่มันยิ้มมุมปาก ฉวยถุงพริกในมือผมไปถือไว้แล้วเดินนำออกไป ขอบอกอีกครั้งว่าผมหมั่นไส้!!

 “จ่ายตลาดไม่เป็นรึไง!!” พี่วุฒิว่าผมแบบนี้เป็นครั้งที่หกแล้วครับ ก็คนเลือกผักไม่เป็นนี่ แล้วจะไปรู้ได้ไงว่ากะเพรากับโหระพา มันต่างกันตรงไหน จะซื้อเต้าหู้ปลาต้องไปซื้อที่ร้านขายของสดไม่ใช่ร้านขายน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋!!
“ก็…ไม่เป็น”
“หึ”
“ก็คนมันไม่เคยทำนี่ เก่งนักก็ถือของพวกนี้ไปเลย” ผมโวยวายแล้วส่งถุงของต่างๆนาๆไปให้พี่วุฒิถือ
“เกี่ยว?” มันไม่เกี่ยวหรอกครับ แค่ผมหนักเลยโยนของทั้งหมดไปให้พี่มันถือแทน
“เกี่ยวสิ แบกๆไปอย่าบ่น ต่อไปซื้อหน่อไม้ แล้วก็ไปสั่งไข่กับเฮียซ้ง 7 แผง เอ่อ…เฮียซ้งนี่ใครอะ”  แล้วน้านิดจะซื้อไข่ของเฮียซ้งไปทำไมอ่า แถมเอาไปตั้ง7แผง เฮียแกมีสองฟองเองมั้ง(อนาจารแล้วลูก)
“คิดอะไรอกุศลอยู่ล่ะสิ เค้าหมายถึงไข่ไก่เถอะ”  พี่วุฒิว่าแล้วทำหน้าเนื่อยๆใส่ผม
“อ้าวเหรอ แฮะๆ”
“ไปๆซื้อของได้แล้ว”
เราเดินไปร้านเฮียซ้งเพื่อสั่งไข่ไก่กับแกแล้วเดินไปยังร้านขายผักซื้อมะเขือจนเสร็จ
 “เหลืออะไรบ้าง”
“เหลือไปสั่งเนื้อหมูกับซื้อมะเขือครับ”
“งั้นก็ทางนั้น”
พี่มันว่าแล้วเดินนำทางจนไปถึงร้านขายเนื้อหมู แล้วมันก็เข้าไปต่อแถว แถวยาวอยู่เหมือนกันครับ ขี้เกียจรอ ผมเลยปล่อยให้พี่มันสั่งหมูไปแล้วเดินมาทางร้านขายขนมหวานแทน ทั้งขนมชั้น ทองหยิบ ทองหยอด หม้อแกง น่ากินทั้งนั้นเลยอ่า อยากกินทั้งหมดแต่ปรึกษากับกระเป๋าตังค์ดูแล้วมันบอกว่าไม่โอเคแฮะ
ผมต้องเมินกับขนมหวานทั้งหลายแล้วเลือกหยิบถุงวุ้นกะทิมาสองถุง จ่ายเงินกับแม่ค้าไปก่อนจะโดนไล่ออกจากร้านข้อหาทำน้ำลายยืดใส่ขนมแก
“มาอยู่ร้านขนมนี่เอง ไอ่อ้วนปล่อยพี่ซื้อของอยู่คนเดียว”
“อ้วนแล้วรักป่ะล่ะ ปิ๊งๆ* 3 *” ว่าแล้วทำปากจู๋ๆตาปิ๊งๆ อร๊ายยย ดูน่ารักใช่ย่อย> < (กำลังหลอกตัวเอง)
“ไม่รัก”
“โหย แล้วซื้อหมูเสร็จแล้วอ่อ” ผมถามพลางแกะถุงวุ้น ตักขึ้นมากิน ง้ามมม~ ^O^ อร่อย> <
“อืม มะเขือก็ซื้อมาแล้วด้วย”
“ดีแล้ว!งั้นก็หมดแล้วล่ะ กลับกันเถอะ^ ^”
“อยากกินวุ้น”
“ก็มาหยิบกินสิครับ” ผมพูดประชดเพราะยังไงพี่มันก็หยิบกินเองไม่ได้อยู่แล้ว
“ป้อนหน่อย มือไม่ว่างถือของอยู่” พี่วุฒิว่านิ่งๆ ผมชั่งใจอยู่นานก็บอกให้พี่มัน….
“อ้าปาก”
“อ้ามมม-O- ” พี่วุฒิทำตามที่ผมสั่ง ผมจึงตักวุ้นคำใหญ่ยัดเข้าปากพี่มันไป คำใหญ่ๆจะได้ติดคอตาย เฮือก!ฮ่าๆๆๆๆ พี่วุฒิรีบเคี้ยววุ้นที่เยอะจนจะทะลักออกจากปากพลางมองผมด้วยสีหน้าคาดโทษแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะปากและมือไม่ว่าง สะใจดีจริงวุ้ย!
“คิกๆฮ่าๆๆๆๆ”
“หัวเราะอะไร ไม่เคยเห็นคนกินวุ้นรึไง”
“คนกินวุ้นน่ะเคยเห็นครับแต่ไม่เคยเห็นคนกินวุ้นได้ทุเรศแบบพี่มาก่อน อุบ! ฮ่าๆๆๆ”“เหอะ!” พี่มันสบถในลำคออย่างหงุดหงิดแล้วเดินนำออกไปก่อน
“รอด้วยสิคร้าบบ! ^ ^”




“โอ๋ๆๆไม่งอนน้า ร่อแร่ๆ แบร่ๆๆ”
พวกเราซื้อของกันเสร็จแล้วและกำลังเดินกลับร้านครับและไอ่เสียงแปลกข้างบนนั่นเสียงผมเอง ผมกำลังง้อพี่มันอยู่ครับ ตอนแรกก็กะจะไม่ง้อหรอก แต่พี่มันเล่นไม่พูดกับผมเลยน่ะสิ ผมกลัวว่าพี่มันจะโกรธผมจริงๆ
“………”
“แง่ง!!ผมขี้เกียจง้อแล้วนะ!!ตาแกขี้งอน!”
“……..”
“พี่วุฒิคร้าบบบบ หายงอนน้า น้องแจ๋มขอโทดดด ” ผมลากเสียงยาว พยายามทำหน้าอ้อน(ถึงแม้อีเจ๊มันจะชอบว่าว่ามันเหมือนทำหน้าตากวนสหบาทาเสียมากกว่าก็เหอะ)สุดฤทธิ์ สุดแล้วจริงๆนะ
“หึ” แล้วก็ได้ผล พี่วุฒิยิ้มแล้ว ถึงจะแค่ยิ้มมุมปากก็เหอะ พี่มันเก็ก ปล่อยมันไป
“ยิ้มแล้วๆ เห็นมะๆ> <”
“ปัญญาอ่อน- -”
“สมองใครแข็งบางล่ะ หรือสมองพี่มันแข็ง”
“เหอะ!” ชอบจางง ไอ้คำว่า เหอะ เนี้ย
และแล้วก็ถึงร้านพี่วุฒิเดินเข้าร้านไปก่อนผม
“ฟา!!!” ผมสะดุ้งตัวเพราะพี่มันพูดคำว่าฟาออกมาเสียงดัง ใครว่ะ ฟา หรือพี่วุฒิมันอยากร้องเพลง โด เร มี ฟา ซอล ไรเงี้ย  ผมคิดแล้วเดินไปยืนข้างๆอิพี่วุฒิมัน
“มาได้ยังไง” พี่วุฒิส่งของที่ถืออยู่ในมือมาให้ผมแล้วเดินเข้าไปหาผู้หญิงสวยสง่าท่าทางหยิ่งๆเหมือนลูกผู้ดีมีอันจะกินที่นั่งคุยอยู่กับน้านิดก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว แต่เอ๊…ผมว่าน้านิดแกหน้าซีดแปลกๆนา หรือแกจะทำงานหนักเกินไป
“ฟานั่งรถมาค่ะ มาหาวุฒิกับคุณแม่” อ้อ..ยัยหน้าอกแหลมนี่เองที่ชื่อฟา สวย และ เฉี่ยวมาก แถมยังมีออร่าอำมหิตแปลกๆพุ่งออกมาจากร่างอีก ผมเห็นจริงๆนะ มันเป็นสีม่วงๆอ่ะ
 “เอ่อ…หนูแจ๋ม เอาของไปไว้ในครัวก่อนนะลูก”  น้านิดหันมาบอกผม
“ครับ”
“น้องเองเหรอ ที่ชื่อแจ๋มน่ะ”  ยัยพี่ที่ชือฟาถามผม
“ครับ”
“เอ่อ…งั้นคุยกันไปดีๆนะ แม่ก็ขอตัวไปทำงานก่อน” น้านิดคงจะเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศที่คุกรุ่น แกเลยรีบเดินออกไป คุณน้าแกชิ่งนี่หน่า งั้นก็เหลือแค่ผม พี่วุฒิ และยัยฟานะสิ
“น้องไม่ได้ก็กะจะเล่นพี่สินะ” ยัยฟาพูดแล้วมองมาทางผมอยากเหยียดๆ ไรว่ะ ไม่เคยเห็นคนหล่อรึไง
“ฟา!”
“มะ…หมายความว่าไง” ผมก็พอจะเข้าใจล่ะครับว่ายัยฟามันพูดถึงอะไร มันว่าผม แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมยัยฟาต้องมาว่าผมด้วย
“เปล่าหรอกจ่ะ เอาของไปเก็บเถอะ”
“ครับๆ งั้นผมขอตัวนะครับ” ผมเดินออกมาเอาของไปเก็บในครัว แต่ก็ยังไม่วายกระดิกหูตั้งใจฟังพี่วุฒิกับยัยฟาคุยกัน ไม่ต้องชื่นชมผมครับ ผมรู้ว่าผมชอบใส่เกือก
เมื่อเห็นว่าผมไม่อยู่ตรงนั้นแล้วพี่วุฒิก็เริ่มเปิดประเด็น
“มาทำไม” เสียงพี่วุฒิ ดุกดิกๆ<<<เสียงกระดิกหู
“วุฒิอย่าพูดจาห่างเหินกับฟาอย่างนั้นสิ วันนี้ฟามีข่าวดีจะมาบอกนะค่ะ”
“เรื่องอะไร” พี่วุฒิตอบกลับเรียบๆ
“ฟาไปขอให้คุณพ่อฟารับคุณเข้าทำงานแล้วนะค่ะ คุณพ่อฟาก็ตอบตกลงแล้วด้วย ดีใจด้วยนะค่ะ”
หมายความว่าพี่วุฒิใช้เส้นงั้นเหรอ!!!
“ฟาทำอย่างนั้นได้ไง!!! ไปบอกคุณพ่อฟาว่ายกเลิกซะ” อ้าวไม่ใช่และ - -
“ทำไมล่ะวุฒิ วุฒิอยากทำงานในสายการบินของพ่อฟาไม่ใช่เหรอ”
“แต่ถ้าผมไม่ได้เข้าด้วยความสามารถผมก็ไม่ต้องการ” ดีมากครับพี่วุฒิ ต้องแบบนี้สิ!
“งั้นก็มีสองทางค่ะ คือทำตามที่ฟาบอกตอบตกลงซะ แล้ววุฒิก็จะได้เข้าทำงานในสายการบินของพ่อฟาส่วนอีกทาง ถ้าคุณไม่ตอบตกลงฟาก็จะให้คุณพ่อฟาแบล็คลิสต์รายชื่อคุณไม่ให้รับเข้าทำงาน” แบบนี้มันบังคับกันชัดๆนี่นา!!!อย่าไปยอมมันนะพี่วุฒิ
“ทำไมต้องทำแบบนี้ฟา”
“เพราะฟารักคุณไงค่ะ แค่คุณยอมกลับมาคบกับฟา ฟาก็จะให้ทุกอย่างที่คุณอยากได้”
 “ผมไม่ต้องการ ผมว่าผมคุยกับคุณจบไปแล้วนะฟา คุณต้องการอะไร”
“ฟาต้องการคุณ” เอ่อ…แล้วถามพี่วุฒิแกยังว่าแกต้องการพี่ฟารึเปล่า
“แต่เราจบกันไปตั้งนานแล้วนะ ฟา”
“คุณจบ แต่ฟาไม่จบ….”
“ฟา…”
“…และถ้าฟาอยากได้อะไร ฟาก็ต้องได้”  ผู้หญิงคนนี้มันชักจะเกินไปแล้วจริงๆนะ! ผมก้าวขาตรงไปยังโต๊ะที่ทั้งสองคุยกัน แล้วก็
ปั้ง!
ทุบโต๊ะเสียงดังพร้อมกับกล่าวออกไปว่า…
“ละ…แล้วถ้าผมไม่ให้ล่ะ!”
เฮ้ย!!!นี่ผมทำอะไรลงปายยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!
“แจ๋ม!”
“น้องว่าอะไรของน้องนะ!”
ทั้งสองหันหน้ามามองผม พี่วุฒิพูดเสียงดังด้วยความตกใจส่วนยัยฟาก็จิกตาที่เขียนมาสคาร่าหนาเตอะอย่างกะอดหลับอดนอนหรือไม่ก็เป็นโอตาคุน้องแพนด้าใส่ เดี๋ยวเจอไม้จิ้มฟันจิ้มตาแตกหรอก
“หมายถึง…ถ้าไม่ให้เงินทอนอะ เงินทอน…เงินทอนของร้าน!” แถอะไรของตูฟ่ะ หนักกว่าเดิมอีก
“นายกะจะงุบงิบรึไงแจ๋ม” นี่พี่แกเชื่อ!? ผมว่าไม่อะ รู้เลยไอ้หน้าตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นน่ะ
“ก็เออสิ แต่ดันโดนจับได้ซะนี่” แถต่อไป ถึงจะรู้ก็เหอะว่าพี่วุฒิแกไม่เชื่อ
“จะงุบงิบทั้งที ตะโกนดังซะขนาดนั้น”
“ก็ ผมเป็นคนดีไง พอคิดจะทำอะไรชั่วๆก็เลยตกใจ”
“เหรอ…หึหึ”
“หัวเราะบ้าไร”
“ไม่มีมารยาท” เสียงแหลมๆดังแทรกขึ้นมาจากผู้ไม่มีบทบาทมาสักระยะ ก็จะใครซะอีกล่ะ ยัยป้าฟาแพนด้ายักษ์!
“พูดงี้หมายความว่าไง!” ผมว่าเสียงเข้มขึ้นเตรียมตั้งการ์ดสู้ ด่าอะไรไม่ด่ามาด่าเรื่องมารยาทนี่ รับไม่ได้ พ่อแม่ผมก็สั่งสอนมารยาทมาดี แต่ไว้ใช้กับคนที่ควรใช้แค่นั้น เอ่อ…รู้สึกว่าแอบฟังนี่ก็เสียมารยาทแฮะ ช่างเหอะ ผมถูกเสมอ
“หมายความว่า เด็กอย่างนายมันไม่มีมารยาท ไม่เห็นรึไงว่าคนเค้าคุยกันจู่ๆก็เข้ามาแทรก”
ได้ข่าวว่าป้าก็พูดแทรกนะ
“นั่นดิ คนเขาคุยกันอยู่ จู่ๆก็เข้ามาแทรก”
“นี่แกหมายความว่าไง!!” โอ๊ะๆมาดผู้ดีหลุด
“หมายความว่า ไม่-มี-มารยาท” ผมเน้นชัดๆทีละคำจะได้ไม่ต้องถามให้มากความอีก ส่วนไอ้พี่วุฒิก็ร้องห้ามผมที่ทำตัวเหิมเกริม ไม่มีสัมมาคารวะกับผู้อาวุโส ผมเลยยกมือขึ้นประมาณว่าห้ามยุ่ง ใครสนล่ะ ศึกครั้งนี้ พี่วุฒิมันเป็นคนนอกอย่ายุ่งดีกว่าเดี๋ยวโดนลูกหลง
 “ยอกย้อนเรอะ แกรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร!”
“เป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกไง คนเค้าไม่เอาก็ยังจะยัดเยียดตัวเองให้เค้าอยู่นั่นแหละ”
“งั้นแกก็โง่เหมือนกันแหละ น้องไม่ได้แล้วยังจะมาเอาพี่ คิดผิดแล้วล่ะที่มาเลือกเกาะวุฒิน่ะ”
ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ยัยป้าแกรู้ได้ไงว่าผมเคยชอบพี่เวทย์ ทั้งที่เราก็เพิ่งคุยกันเป็นครั้งแรก
“แล้วไง ดีกว่าไม่มีให้เอา วู้ว!กลับไปไหนก็ไปไป คนเข้าจะปิดร้านอยู่แล้วมาอยู่เกะกะ”
“ไม่กลับ”
“ก็เรื่องของป้า!! เฮ้ย!ไอ้พี่วุฒิก็มัวแต่นั่งเอ๋ออยู่นั่นแหละ ไปเก็บของได้แล้วเป็นลูกเจ้าของร้านภาษาอะไร ลอยไปลอยมาอยู่นั่นแหละ ไปๆช่วยกันทำมาหากิน  ไง!ป้ามองไร ว่างนักก็มาช่วยกันมา”
ผมเสเปลี่ยนเรื่องแล้วไปยกเก้าอี้เก็บโต๊ะแทน ขี้เกียจเถียงต่อล่ะ เพราะถ้ายาวกว่านี้ผมจะเถียงไม่ได้ น้องแจ๋มจะรีบกลับบ้านไปนอน สงบศึกชั่วคราว
“ไม่เอา! ไม่ทำ! ฉันจะกลับแล้ว!! ฝากไว้ก่อนเหอะไอ้เด็กแสบ”
“ไม่รับฝาก ไม่ใช่ธนาคาร”
“ฮึ่ย!”
ยัยป้าวสบถอย่างโมโหก่อนจะเดินออกจากร้านไปโดยไม่ล่ำลา ป้าแกก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ ไม่กรี๊ด ไม่อาละวาด หรือเข้ามาตบปากผมสักฉาดสองฉาดเหมือนคนอื่นเขา ทั้งๆที่โดนผมกระหน่ำสาดคำด่าไปเยอะขนาดนั้น รู้สึกผิดเหมือนกันแฮะ
“แจ๋ม เมื่อกี้นายทำร้ายผู้หญิง” พี่วุฒิว่าแล้วพยายามกลั้นหัวเราะ ตลกมากก็อย่ามัวแต่นั่งเฉย มาช่วยเก็บร้านเลย
“อืม โทษทีแต่มันทนไม่ไหว”
“หึหึ ปากนายเลี้ยงหมาไว้กี่ตัวกัน”
“นับเองดิ”ไวกว่าความคิด ผมโพล่งออกไปทันที
“ได้เหรอ” พี่มันว่าแล้วยิ้มเหมือนจิ้งจอก รู้สึกขนลุกแปลกๆแฮะ
“ไม่!!!”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2015 16:05:11 โดย Nene promporn »

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #14 เมื่อ06-10-2014 21:17:03 »

นั้นสิลูกทำไรลงป๊ายยยยยย เริ่มชอบพี่วุฒิแล้วเหรอ

ออฟไลน์ done_dirt_cheap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #15 เมื่อ21-10-2014 08:14:58 »

 :3123:
เป็นกำลังใจให้ล่ะกัน
รออ่านต่อ
 :pig4:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #16 เมื่อ07-12-2014 21:49:50 »

เรื่องน่าอ่านค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ  :3123:

ออฟไลน์ Nene promporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #17 เมื่อ01-04-2015 16:08:35 »

มาต่อเเล้วค่ะ อีกครึ่ง
เดี๋ยวตอนต่อไปจะเป็นของอีกคู่นะค่ะ

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #18 เมื่อ23-04-2015 12:15:47 »

อร๊ายยยย หนูเเจ๋มเริ่ดมากลูกกกก o13
เริ่มชอบพี่วุติแล้วใช่มั้ยล้าาา

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #19 เมื่อ23-04-2015 21:37:49 »

รอตอนต่อไป ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
« ตอบ #19 เมื่อ: 23-04-2015 21:37:49 »





ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #20 เมื่อ23-04-2015 22:37:11 »

พี่วุดจะนับหมาในปากแล้วน่ะ อิอิ
พี่วุดชอบแจ๋มตอนไหนน่ะ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #21 เมื่อ19-08-2015 17:19:19 »

 o13 :pig4:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: (เรื่องสั้น)The curry เเกงรัก
«ตอบ #22 เมื่อ27-08-2015 02:14:55 »

น่ารักกกกอะ รอต่อปายยย

ออฟไลน์ Nene promporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0


THE CURRY : ตอนที่7  จบ
           

วันนี้ผมมาทำงานที่ร้านด้วยอารมณ์เซ็งนิดหน่อย ไม่ล่ะ มากเลยต่างหาก

เพราะนอกจากจะมีพี่วุฒิคอยกวนตีนเป็นประจำอยู่แล้ว ยัยป้าฟามันก็มาสิงสถิตอยู่ที่ร้านน้านิดตั้งแต่เช้า

จนจะปิดร้านอยู่แล้วก็ยังไม่ไป แล้วยังจะมานั่งออดอ้อนออเซาะคุยอะไรงุ้งงิ้งๆกับไอ้พี่วุฒิสองคนอีก

งานการไม่มีทำรึไงว่ะ ออกจากโลกส่วนตัวกันได้โว้ยย เห็นโลกภายนอกมั้ย เขาวุ่นวายกันขนาดไหนห๊ะ!

อะไรนะ หึงเหรอ เปล่าเลย ไม่ได้หึงเลยสักนิด

“คุณแม่ค่ะ ยังไงฟาก็ขอตัวกลับก่อนนะค่ะ ไว้วันหลังจะมาเล่นใหม่ สวัสดีค่ะ” ยัยฟาจีบปากจีบคอพูดกับน้านิด

ไปได้ก็ดีไปเลยไป ชิ้วๆ

หลังจากยัยฟากลับไป ผมก็จัดการเคลียร์งานที่ร้านอีกนิดหน่อย จนเกือบหนึ่งทุ่มก็ขอตัวกลับหอพัก

“น้านิดครับ ผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ” ผมบอกลาน้านิดที่กำลังทำบัญชีร้านอยู่

น้าก็ก็หันมายิ้มให้แล้วบอกให้เดินทางกลับดีๆ เห็นแล้วคิดถึงแม่อะ

“จะกลับแล้วเหรอ” พี่วุฒิเดินมาถาม ด้วยท่าทีแปลกๆ หรือผมคิดไปเองหว่า

“ครับ ไปนะครับ”

“เดี๋ยวไปส่ง”

“อื้ม…เดินไปนะ ไม่อยากนั่งมอไซต์อะ”

พี่มันพยักหน้ายิ้มๆ แล้วคว้ามือผมไปจับแล้วลากพากลับบ้าน จริงๆนะ ใช้คำว่าลากน่ะเหมาะสุดแล้ว



พี่วุฒิเดินมาส่งผมจนถึงหน้าปากซอย ก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นตั้งก๊งเหล้าสูบบุหรี่อยู่ข้างเสา

ส่งเสียงแซวผมดังเอะอะโวยวาย ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงจะไม่รอดแล้วล่ะ

โดนลากไปรุมโทรมได้ผัวพร้อมกันเป็นสิบและอาจจะท้องไม่มีพ่อ โฮ ไม่น้า เอ่อ ใจเย็นแจ๋ม เอ็งยังไม่โดน….

พี่วุฒิคงเห็นว่าผมกลัวเลยปล่อยมือที่จับออก


แล้วดึงมาโอบแทน…..

ฮึย!แบบเขินอ่า

แล้วก็มีเสียง ฮิ้ว เฮ้ว ประมาณว่า ไอ้นี่มันมีผัวแล้วโว้ยยย ดังมาจากพวกกลุ่มวัยรุ่นแทน
 
เขินกว่านี่มีอีกไหม ไอ้พวกบ้านี่ >///<

แล้วพี่มันก็โอบจนมาถึงหน้าหอเลยล่ะ ถึงยอมปล่อย แล้วมายืนจ้องหน้ากันเงียบๆ ไอ้ผมก็บิดแล้ว

บิดอีก โอ้ยยย อย่างกับสาวน้อย

“ถึงหอแล้ว ก็กลับบ้านไปสิ”

“แจ๋มก็กลับขึ้นหอก่อนสิ”

“ก็…ก็…อื้ม งั้นไปนะ แล้วก็…ฝันดี”

“อื้ม…จุ๊บก่อนไปล่ะ”

“ไอ้บ้า ไปไหนก็ไปเลย จะขึ้นห้องแล้ว”

“เดี๋ยว…แจ๋ม…คือพี่รักแจ๋มนะ” อ้าวเฮ้ย!นึกจะสารภาพก็บอกกันตรงๆเลยแฮะ

ดูสิ หน้าแดงเป็นตำลึงสุกหมดแล้ว คือไม่ใช่หน้าพี่มันหรอกหน้าผมเองนี่แหละ -////-

 ก็ดูออกอยู่หรอกว่าที่เข้ามาแกล้งนี่คือจีบแบบเด็กประถม ใครก็อยากจะให้คนที่ชอบสนใจกันทั้งนั้น

แต่วิธีของพี่มันแบบเกินอธิบาย เผลอๆจากที่ไม่ชอบอยู่แล้วเขาอาจจะเกลียดได้เลยนะพี่

“บอกเพื่อ?”

“บอกให้รู้ไว้ หัวใจรักจริง”

“ปัญญาอ่อน แล้วทำไมถึงชอบผมอะ”

“ตอแหลดี ฮ่าๆๆๆ จริงๆชอบตั้งแต่สมัยพี่ยังเรียนมหาลัยตอนแจ๋มเข้ามากินข้าวที่ร้านครั้งแรกอะ
 คนอะไรไม่รู้เอ๋อได้อีก รู้ตัวอีกทีก็แอบมองทุกวันอย่างกับคนโรคจิต
 แต่แจ๋มไม่รู้ตัวหรอกก็ตอนนั้นเล่นเอาแต่จ้องไอ้เวทย์มันอย่างเดียว อย่างพี่นี่ไม่อยู่ในสายตาหรอก”

“แหวะ! แล้วบอกรักได้ขั้บสถานที่มากอะ”

 “เอาน่าๆ ถ้าไม่บอกตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปบอกตอนไหนแล้ว แล้วว่าไงล่ะ…”

“ว่าไงอะไร…?” ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บอกตรงๆเตรียมใจไม่ทัน ยังไม่ได้คิดคำตอบเว้ย

“ก็เรื่องนี้แหละ อย่ามาทำเป็น…โง่อยู่แล้วยังจะแกล้งโง่อีก” เอาเลย กัดแจ๋มเลยพี่ เอาที่สบายใจ

“ก็…ขอเวลาคิดหน่อยได้ปะ” ผมว่าพลางบิดตัวเขินๆ

“แจ๋มยังชอบไอ้เวทย์อยู่ใช่ไหมล่ะ” ไอ้นี่อารมณ์เขินแบบสาวน้อยหายหมด ปากพี่นี่น่าตบมากเลยเหอะ

“ไม่ใช่สักหน่อย!!”

“โกหก พี่บอกแล้วไงว่าอย่าไปทำลายความสุขของคนอื่นน่ะ ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ว่ะ”

อ้าวไหงพูดงี้อะ มันเกี่ยวกันที่ไหนโว้ย

“พี่วุฒิ! พี่รู้อะไรมั้ย ว่าพี่แม่งโคตรงี่เง่าอะ อย่าเอามาปนกันดิ พี่เวทย์ก็ส่วนพี่เวทย์ พี่วุฒิก็ส่วนพี่วุฒิสิพี่!”

“แล้วทำไมแจ๋มไม่ให้โอกาสพี่ล่ะ”

“ก็บอกว่าขอเวลาคิดอะ ไม่ได้รึไง จะบังคับอะไรกันนักหนา ก็เป็นซะแบบนี้ไง แจ๋มเริ่มรำคาญแล้วนะรู้มั้ย”

“รำคาญสินะ…พี่เข้าใจแล้ว ต่อไปพี่จะไม่ยุ่งกับแจ๋มแล้วก็ไอ้เวทย์แล้วก็ได้”

“ก็บอกว่าไม่ได้ชอบพี่เวทย์แล้วไง ไอ้พี่บ้า!!!” ผมตะคอกใส่พี่วุฒิทั้งน้ำตาก่อนจะวิ่งขึ้นหอ

อะไรของมันว่ะ เหนื่อยจริงจัง ชีวิตพังเพราะไอ้พี่วุฒินี่แหละ 

ไม่ต้องมาทำเป็นงอนนะไอ้พี่วุฒิ แจ๋มไม่ง้อพี่หรอก จำไว้เลย!!!



        ถึงแม้เรื่องจะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานแต่ผมก็ยังคงใจกล้ามาทำงานเหมือนเดิม

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ พี่วุฒิมันไม่ยอมพูดกับผมจนขนาดที่ป้านิดยังเดินเข้ามาถามว่าทะเลาะอะไรกันรึเปล่า

ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถามโดยอาสามาซื้อของทำกับข้าวสำหรับพรุ่งนี้ที่ตลาดแทน

ในเมื่อพี่มันไม่สนใจผม ผมก็จะไม่สนใจมัน และจะถือซะว่าเรื่องเมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้น
 
“ไง!” ในระหว่างที่ผมกำลังซื้อของอยู่นั้นเอง นางมารร้ายก็โผล่ขึ้นตรงหน้าของผม

เธอยังคงความเป็นตัวของเธอได้ดีมาก สวยสง่าผ่าเผย แถมวันนี้ยังสวมแว่นตากันแดดสีชามาอีก

 ลูกคุณหนูอย่างยัยนี่เดินตลาดเป็นด้วยเรอะ

“หวัดดี ไปล่ะ” ผมทักนิดหน่อยพอเป็นพิธีแล้วทำท่าจะเดินหนี จนยัยป้าฟานั่นต้องคว้าแขนเสื้อเอาไว้

“เดี๋ยวสิ! นี่แกเมินฉันงั้นเรอะ”

“เปล่า…มีไรล่ะ”
 
 “ว่างไหม?” เธอว่าแล้วขยับแว่นตาสีชาของเธอให้เข้าที่

“อะไรของป้าอีก ไม่ว่างหรอกนะต้องรีบกลับไปล้างจานที่ร้าน”

“ไม่พาไปฆ่าหรอกน่า จิกหัวตบตรงนี้ยังสะใจกว่าอีก”

“เห่อๆ”

แล้วผมก็เดินตามยัยป้ามาจนได้ ฟาบอกให้ผมขึ้นรถเมอร์เซเดสเบนซ์สีขาวของเธอ

ซึ่งตอนแรกผมก็ขัดขืนแต่ยัยป้านั่นดันใช้กำลังผลักผมไปนั่งในรถจนได้ นี่ผมเป็นผู้ชายนะเฮ้ย ทำไมสู้แรงผู้หญิงไม่ได้เนี่ย

และเมื่อเธอก้าวเข้าไปนั่งที่นั่งคนขับก็ออกรถไปทันที ไปไหนผมไม่รู้ รู้แต่ว่าผมชักจะเริ่มกลัวยัยฟาแล้วแฮะ

“หวังว่าคงจะไม่พาไปฆ่าจริงๆใช่ไหม” ผมถามเสียงอ่อย เผื่อว่ายัยป้านี่จะเมตตาผมบ้าง

“กลัวเหรอ พ่อหนุ่มน้อย” เธอว่าแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ใครกลัวป้ากัน แล้วนี่จะพาไปไหน”

“ก็…ขับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะคุยกันจบ”

“แล้วเมื่อไหร่จะคุย มีอะไรก็ว่ามาเลยป้า”

“แหมๆ ใจร้อนเสียจริง”

“อย่ามายืดเยื้อหน่าป้า จะพูดอะไรก็พูดมา ไม่พูดก็จะลงล่ะ”

“โอเคๆ ก็ได้ เอาเป็นว่าไม่ต้องกลัวไปหรอก ที่ฉันจะพูดก็คือ ‘พูดกันให้รู้เรื่องซะ ก่อนจะไม่มีโอกาสได้พูด’”

“อะไรของป้าเนี่ย” ผมถามอย่างงงงวย จู่ๆก็โพล่งขึ้นมาลอยๆไม่มีประธานและกรรมที่มันจะทำให้ประโยครู้เรื่องเลย

นั่นที่ป้าพูดน่ะ เขาเรียก วลี

“เรื่องวุฒิน่ะ…ฉันยอมถอย” ฟาบอกเรียบๆแล้วชำเลืองตามามองผมแวบหนึ่ง

“อะไรอีกนี่ งงน่ะเข้าใจมั้ยว่างง”

“เพราะวุฒิขอให้ช่วยหรอกนะ งั้นฉันไม่มาพูดกับแกหรอก”

“หืม?”

“สุนัขที่บ้านฉันตายล่ะ….เมื่อเช้านี้นี่เอง” เอ้า! เปลี่ยนเรื่องเร็วเกินไปแล้วป้า มันเกี่ยวอะไรกับหมาป้าเนี่ย

“เสียใจด้วยครับ ขอไว้อาลัยแด่น้องหมา…”

“คิกๆ ประชดใช่ไหมนั่น รู้ไหมสุนัขของฉันหน้าเหมือนแกเลย”

“อ้าว!ป้า พูดงี้สวยสิ”

“ฉันสวยตลอดอยู่แล้ว จะถึงร้านแล้วละ เตรียมลงได้” ฟาขับรถมาจอดใกล้ๆหน้าร้าน

ผมจึงถอดสายคาดนิรภัยออกแล้วลงจากรถ

“ถามจริงๆนะป้า ป้าพูดอะไร”

“พูดเรื่องที่แกควรทำไง เต็มที่ล่ะ เห็นแกทำหน้าหงอยแล้วด่าไม่สนุกเหมือนกำลังทำร้ายคนไม่มีทางสู้อะ”

ยัยป้านั่นยิ้ม แล้วขับรถออกไป ปล่อยปริศนาให้เพราะไขมากมาย ป้าแกบอกว่าแกยอมถอยเรื่องพี่วุฒิ

 งั้นแสดงว่าตัดใจจากพี่วุฒิแล้วเหรอ ผมพอจะมีสิทธิ์แล้วใช่ไหม แล้วพวกแกไปเคลียร์กันอีท่าไหน

ทำไมถึงยอมกันง่ายๆแบบนั้น ทำไมทุกคนถึงทำตัวเหมือนรู้เรื่องของผมกันไปหมด

ช่างเถอะ คิดเรื่องคนอื่นไปก็ปวดหัวมาคิดเรื่องผัว เอ้ย! เรื่องตัวเองดีกว่า ผมจะจัดการกับคนในร้านยังไงดี



 ‘พูดกันให้รู้เรื่องซะ ก่อนจะไม่มีโอกาสได้พูด’

ผมนั่งคิดถึงประโยคที่ยัยป้านั่นพูดทั้งวัน จนหัวแทบระเบิดแล้วเนี่ย

ไอ้พูดก็อยากจะพูดอยู่หรอกนะ แต่ไอ้คนให้พูดด้วยนี่สิ มันไม่ยอมพูดกับผมเลย

แล้วแจ๋มควรจะทำยังไง!!!!

ผมคิดด้วยความสับสนแล้วขยี้หัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง

“เอ่อ…แจ๋ม พี่ว่าใจเย็นนะ” พี่เวทย์ในชุดเด็กมหาลัยที่เห็นผมกลายเป็นคนบ้าถึงกับเดินเข้ามาบอกให้ใจเย็น

 นี่ผมแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ

“ขอโทษครับ…” ผมยิ้มแห้งๆให้พี่เวทย์แกพร้อมกับขอโทษ

แกพึมพำบอกว่าไม่เป็นไรแล้วบอกให้ผมใจเย็น ถึงแกจะไม่รู้ก็เถอะว่าอะไรทำให้ผมเป็นบ้าขนาดนี้

“เครียดเหรอ…”

“ครับ…ก็นิดหน่อย”

“ปัญหามีไว้พุ่งชน กระทิงแดงสักขวดไม่เสียหาย” พี่เวทย์ว่าติดตลกแล้วขับรถออกจากร้านไป

สงสัยคงจะไปรับพี่มุกไปมหาลัยล่ะมั้ง

“ตอนนี้ผมอยากได้น้ำใบบัวบกอะพี่” ผมพึมพำเบาๆมองไปทางพี่วุฒิที่กำลังต่อโมเดลเครื่องบินแล้วต้องถอนหายใจออกมา วันนี้

ทั้งวันผมยังไม่ได้คุยกับพี่วุฒิเลย อึดอัดชะมัดให้ตายเถอะ

เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแน่ผมจึงรวบรวมความกล้าและหน้าด้านเดินเข้าไปหาพี่วุฒิ

“พี่วุฒิ แจ๋มว่าเรามาเคลียร์กันแบบสุดขั้วเถอะ”

“ไม่ล่ะ ถ้าเป็นเรื่องเมื่อวานแจ๋มลืมไปเถอะ ขอโทษที่ทำให้กังวล”

ผมเกลียดพี่วุฒิเวอร์ชั่นนี้มากเลย ให้ตายเถอะ ไอ้ที่ทำหน้าจ๋อยๆไม่สนใจผมแบบนี้ มันคืออะไร เมินกันงั้นเรอะ

ผมไม่ผิดสักหน่อย ก็แค่ขอเวลาไปตั้งหลักแป๊บเดียวเอง

“ถ้าไม่ยอมเคลียร์กันดีๆ งานนี้มีเจ็บตัว” ผมว่าเสียงเข้มขึ้นคล้ายๆตอนคุณภรรยาดุคุณสามีที่หนีเที่ยว

ไม่ใช่ล่ะ อย่ามโนแจ๋ม งานนี้ซีเรียสอยู่

“เฮ้อ!งั้นก็ได้หรอกนะ” พี่วุฒิทำหน้าเหนื่อยหน่าย แล้วลุกเดินเงียบๆตามผมมาที่สวนสาธารณะ

ไกลพอสมควรจากร้าน แต่ที่นี้มันเงียบสงบดี ลมเย็นๆคงจะพอช่วยลดความคุกรุ่นในใจของพวกเราได้

อีกอย่างบรรยากาศมันดีเหมาะแก่การสารภาพรัก เอ้ย! เคลียร์ปัญหาหัวใจของผม

“มีอะไรจะพูดก็รีบพูด พี่มีงานต้องทำ” ได้ข่าวว่ากลับร้านไปแกก็นั่งหายใจผลาญออกซิเจนเฉยๆไม่ใช่เรอะ

“โอเค พี่…ฟังผมนะ เฮ้ยๆ! บอกให้ฟังไง หยุดถอนหญ้าซักที” ผมโวยวายรีบดึงแขนพี่วุฒิให้ลุกขึ้นหลังจากที่

เมื่อกี้แกลงไปนั่งชันเข่าเด็ดหญ้าเล่น แทนที่จะสนใจเรื่องที่ผมจะพูด คือผมรู้นะว่าพี่แกงอน

แต่ขอเถอะทำอะไรให้ดูอายุตัวเองบ้าง คืองอนได้น่าถีบมาก ขอบอก

“เอ้า!มีอะไรก็ว่ามาสิ ตั้งใจฟังอยู่” ท่าที่แกฟังอยู่ก็คือ ตบวิญญาณยุงเล่นกลางอากาศงั้นเรอะ

 นี่มันเรียกว่าตั้งใจฟังตรงไหน!!!

ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วพูดสิ่งที่ผมควรจะพูดออกไป จะฟังไม่ฟังก็ช่าง

จะได้ยินหรือไม่ก็ไม่สน เรื่องของพี่มัน แค่ผมได้ทำในสิ่งที่ผมต้องทำอย่างสุดความสามารถก็พอแล้ว

“เรื่องเมื่อตอนนั้น ผมลองกลับไปคิดดูแล้ว…”

“ช่างเถ๊อะ! ปล่อยมันไปตามสายลม~” คราวนี้มันว่าเสียงสูง หันหลังเดินหนีไปอย่างไม่สนใจ

จนผมต้องกระชากคอเสื้อให้พี่มันหันกลับมา อย่าว่าผมโหดเลยเพราะต่อจากนี้สิถึงจะเรียกว่าโหดของจริง

ถ้ามันยังไม่ยอมฟังผมดีๆอะนะ พี่วุฒิหันกลับมาจ้องหน้าผมนิ่งๆแต่ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกถึงความกวนบาทามันแฝงออกมาด้วย

ถีบตกสระน้ำสวนสาธารณะดีซะไหมนี่

ผมต้องใช้ความอดทนทั้งหมดทั้งชีวิตของผมเป็นอย่างยิ่งในการห้ามตัวเองไม่ให้พุ่งเข้าไปประทุษร้ายคนตรงหน้า

“โอ๊ย!อยากจะบ้า พี่ช่วยทำเหมือนพี่ตั้งใจฟังผมทีได้มะ ไม่ต้องตั้งใจฟังก็ได้ แค่ทำให้ดูเหมือนน่ะแล้วจะกราบเท้าขอบพระคุณ!”

“โอเคๆจะพยายามนะ”

“งั้นเข้าเรื่องเลย…เรื่องเมื่อวานขอโทษละกัน แต่ถึงผมจะขอโทษแต่ผมไม่ได้ผิดนะ

 เอ่อ…ผิดก็ได้แต่แค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งมันเป็นความผิดของพี่ล้วนๆ…”

“…..” พี่มันเงียบดูเหมือนจะตั้งใจฟัง แต่จริงๆแล้วมันอาจจะลอยเข้าหูซ้ายผ่านหูขวาเข้าหูหมาทะลุหูแมวอยู่ก็ได้

“เพราะพี่นั่นแหละ ที่มาทำให้ผมโมโหก่อน เฮ้อ!ช่างเถอะ เรื่องที่ผมต้องการจะบอกมันไม่ใช่เรื่องนี้
แต่ที่ผมมาเพราะต้องการต้องคำถามของพี่ แต่บางทีมันอาจจะสายไปแล้วก็ได้…”

เพราะผมอาจทำให้พี่เสียใจจนขนาดเลิกรักไปแล้ว ไม่งั้นวันนี้มันจะทำหน้าเมินผมแบบนี้เหรอ

“ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมรู้สึกจะเหมือนพี่รึเปล่า แต่ผมไม่ชอบให้ตัวเองเป็นแบบนี้เลย
ผมรู้สึกหน่วงแปลกๆในอกเวลาที่พี่ตะคอกใส่ เวลาที่พี่โมโห แต่มันจะเจ็บมากเวลาที่พี่เมินผมแบบนี้
 ผมอยากให้พี่ยิ้มให้ผม อยากให้พี่แกล้งผม อยากให้พี่กวนผม อย่างให้พี่อยู่ข้างผม
ดูเหมือนจะเป็นมาโซเลยแฮะ ฮะๆ”

“…..”

“มันคงจะสายไป…แต่ผมก็อยากบอก ผมคงชอบพี่ละมั้ง” ไม่สิ ผมว่าผมคงชอบพี่เข้าแล้วล่ะ

ถึงผมจะไม่ได้บอกพี่เหมือนที่ผมคิดก็เถอะ ตอนนี้ผมได้แต่เงียบเพราะคนตรงหน้าไม่ยอมพูดอะไรออกมา

ถึงจะงั้นก็เถอะถึงจะก้าวข้ามความสัมพันธ์ไปอีกระดับหนึ่งไม่ได้ แต่อย่าเกลียด อย่าไม่สนใจกันได้ไหม

ไม่ชอบเลย ให้อภัยผมเถอะ จะกลับไปเป็นแบบเดิมได้ไหม

“….สายแล้วละ….”

แค่คำเดียวทำเอาคนใจกล้ามาดลุยแบบผมถึงกับหยุดนิ่ง ลืมหายใจไปชั่วขณะ

แต่ก็กลับมามีสติสูดหายใจเข้าปอดอีกครั้งเพราะกลัวตาย มันใช่เวลามาตลกม้ายยย

แค่คำง่ายๆแค่นี้ออกจากปากพี่วุฒิ ทำให้ผมเป็นขนาดนี้เลยเหรอ

ของเหลวบางอย่างกำลังจะเอ่อออกมาจากดวงตาของผม ผมรู้ดี และผมจะไม่โกหกตัวเองว่านั่นไม่ใช่น้ำตา

ทำไมผมต้องร้องไห้ด้วย ผมแค่ชอบเขาไม่ใช่เหรอ

ทำไมต้องรู้สึกเสียใจอะไรมากมายอย่างกับหมาจะตายแบบนี้ด้วย

“…งั้นเหรอ…งั้น…งั้น…ก็..” ผมก้มหน้าซ่อนน้ำตาที่ไหลไม่ให้พี่วุฒิเห็นเอ่ยตะกุกกักออกไป

อย่างไม่อยากจะให้เขาเห็นว่าผมอ่อนแอ ถึงขนาดพูดอะไรไม่ออกน้ำตานองหน้า

“ตอนนี้มันจะเที่ยงแล้ว พี่ว่ามันไม่เช้าแล้วล่ะ มันสายแล้ว”

น้ำตาหยดต่อไปที่กำลังจะไหลออกมาของผมถึงกับค้างอยู่กับที่

ผมรีบปาดน้ำตาอย่างรวดเร็วก่อนจะเงยหน้ามองไอ้คนกวนประสาทตรงหน้า

 อย่าห้ามผม ถ้าผมจะฆาตกรรมคนหน้าตาดี

“พี่วุฒิ!...ตายซะไอ้บ้าเอ้ย!!” ขีดความอดทนของผมลดฮวบ

 มันจึงส่งผมให้มือทั้งสองข้างของผมผลักไอ้คนตรงหน้าตกสระน้ำที่อยู่ข้างๆทันที

คนรอบข้างหันมาดูกันเต็มเพราะได้ยินเสียงดัง ตู้ม ของอะไรบางอย่างตกน้ำ

“แค่กๆ ทำอะไรเนี่ยแจ๋ม มันเปียกนะ” พี่มันลอยตัวไอค่อกแค่กสำลักน้ำเพราะตกน้ำแบบไม่ทันตั้งตัวจึงลืมกลั้นหายใจ

แกไม่น่าว่ายน้ำได้เลยไอ้หนอนไส้เดือน

“เลิกลอยตัวแล้วจมน้ำตายไปซะ!!” ผมว่าแล้วหยิบหินปาใส่พี่มันแบบเฉียดๆ

อย่างน้อยถ้าพี่มันดิ้นรนจนรอดจากการจมน้ำมาได้แล้วมันก็ควรได้รับการไว้ชีวิตต่อไป

เปล่าหรอก ผมแค่ไม่อยากให้พี่มันตายก็เท่านั้น

“โหย! นี่ปาหินกันเลยเหรอ ตายขึ้นมาแล้วเองจะขึ้นคานไอ้น้องแจ๋ม”

“ยอมโว้ยยย” ผมแลบลิ้นใส่มันแล้วเดินหนีไปจากตรงนั้นทันที โมโหมันก็โมโหนะ

แต่ที่พี่มันพูดน่ะ มันหมายความว่ายังไม่สายไปสำหรับเรื่องของเราใช่ไหม

ดีจังเลย…แต่รอผมหายโกรธก่อนเถอะแล้วค่อยเริ่ม เฮอะๆ

“แจ๋มมมม!!! รอด้วยยย” เสียงโหยหวนครวญครางของพี่วุฒิดังมาจากหลัง

ผมไม่ได้หันกลับไปมองพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อหนีคนที่ตามมา

ขึ้นมาจากน้ำได้แล้วเรอะเจ้ากัปปะ

ผมก็แค่อยากเอาคืนที่พี่มันงอนผมก่อนหน้านั้นเฉยๆหรอก คอยดูเถอะจะปล่อยให้ง้อให้ตายกันไปข้างเลย

หมับ!

แล้วพี่มันก็ตามมากอดผมจากด้านหลัง ความเปียกจากพี่มันถูกแบ่งปันมายังตัวผม โมโหหนักกว่าเดิมอีก

“ปล่อยครับ มันเปียกครับ”

“ปล่อยเดี๋ยวก็หนีดิ ขอโทษนะ…” พี่มันว่าอย่างอ้อนๆแล้วจับให้ผมหมุนไปประจันหน้ากับพี่วุฒิ

“ก็แค่นี้ แค่บอกว่าขอโทษก็จะยอมยกโทษให้ครับ” อ้าว !ไหงผมยอมมันง่ายขนาดนั้นฟะ

“เป็นแฟนกันนะ…”

“ทั้งจูบทั้งกอดขนาดนี้แล้ว จะให้เป็นน้องมั้ยล่ะครับ”

“ไม่ล่ะ เป็นแฟนกันนะ ไม่สิ ถ้าหลังจากคืนนี้จะถามใหม่ว่า เป็นเมียพี่นะครับ”

พี่มันว่าด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์แล้วขยิบตาใส่ให้แบบที่ มันคงคิดว่าดูเซ็กซี่ซึ่งมันก็เซ็กซี่จริงๆล่ะ

เล่นเอาหัวใจสั่นระรัวเลยเรา

“แค่แฟนพอ ไอ้พี่ทะลึ่ง”

ผมว่าค้อนใส่แล้วมะเหงกหน้าผากพี่มันไปทีหนึ่ง ซึ่งมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรแถมยังยิ้มกว้างแล้วรวบตัวผมเข้าไปกอดอีก

เพิ่งคิดขึ้นได้ว่า กลางสวนสาธารณะอะ สายไปรึเปล่าที่จะบอกว่า กูอาย!

“รักนะ…” พี่วุฒิกระซิบเบาๆที่ข้างหูของผม แล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งกว่าเดิม

ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพราะยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะรักพี่วุฒิเหมือนที่พี่วุฒิรักผมรึเปล่า

อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย รู้แค่เพียงว่า คนตรงหน้าเป็นคนที่ทำให้ผมมีความสุขและบางครั้งก็เจ็บ

เป็นคนที่อยู่ข้างผมในวันที่ผมเสียใจ เป็นคนที่เฝ้ารอผม เหมือนที่ผมเคยเฝ้ารอใครสักคน

รู้แค่ว่าถ้าเสียพี่วุฒิไปผมคงเสียใจมากแน่ๆ ถึงจะบอกไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่ารัก

แต่ผมก็ชอบคนตรงหน้าร้อยเปอร์เซ็นแล้วล่ะ


                       แต่…แค่คำว่ารักคำเดียวของพี่วุฒิมันไม่พอหรอกครับ จากนี้ต้องดูกันไปอีกยาว
                                             
                                                  และถ้าทำได้ดี จากนี้ผมคงรักพี่ได้อย่างทั้งใจ




จบ



…………………………………………..
พี่วุฒิงี่เง่า 5555 จบ แบบ ไม่จบแฮะ แต่มันก็จบแล้วล่ะค่ะ
เพราะถ้ายาวกว่านี้จะไม่จบ
ขอบคุณที่ตามอ่านกันนะค่ะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่ทำให้เหมือนมีเพื่อนคอยแต่งนิยายไปด้วยกัน


ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
จบแล้วหรอ? น้องแจ๋มน่ารัก มีตอนพิเศษไหมหนอ?

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
น่ารักกก

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
จบยังกวนเลยอ่ะ พี่วุฒิ ความโรแมนซ์คงหาไม่ได้ในเรื่องนี้สินะ

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
แอบงงเรื่องสาวฟานิดหน่อย มาเร็วไปเร็วมาก

เก็บรายละเอียดเพิ่มเติมอีกนิด เล่าเรื่องพี่วุฒิเพิ่มเติมอีกหน่อย (แอบชอบมาตั้งแต่ตอนไหน แล้วทำไมเพิ่งจีบ ฯ) จะทำให้เรื่องสมบูรณ์มากขึ้นค่ะ :-)

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด