ตอนที่ 63
มือที่ลดระดับลงจากแขนช้าๆ ในตอนที่ฟังคำพูดนั้นของคนตรงหน้าที่เอ่ยออกมา ผมทำได้เพียงแค่นิ่งอยู่แบบนั้น มันเจ็บพอๆกับครั้งแรกที่ผมอกหักจนบางทีเหมือนกับรู้สึกว่า อาจจะเจ็บมากกว่าด้วยซ้ำไป ในตอนที่สายตานั้นมองมาเหมือนทุกอย่างมันหยุดไว้เพียงแค่นั้น
“ ปล่อย " มันย้ำอีกครั้งตอนที่หันหลังให้ผมแล้วหันกลับไปนั่งนิ่งๆมองคนข้างๆตัวมันที่ก็เพิ่งพบกันเมื่อครู่ ไม่มีผมอยู่ในสายตาคู่นั้นอีกแล้ว เจ็บของผมก็คือความเจ็บปวดที่คนที่รักกัน ไม่มีเราอยู่ในสายตานั้นอีกแล้ว
ผมอาจจะผิดที่ในวันนั้นเริ่มต้นทำอะไรแบบนั้นโดยไม่คิด วันที่กลับมาจากเมืองนอกแล้วมาที่ผับนั้น ผมนั่งกินเหล้าแต่กลับไปสะดุดกับใครคนนึงที่เดินเข้ามาแล้วนั่งกินเหล้านิ่งๆอยู่ตรงเค้าเตอร์ ผมที่มองใบหน้าหวานในแบบที่ชอบนั้นอยู่นานอย่างถูกใจ จนไอ้แอ้มกับไอ้ซันหันมาสนใจแล้วมองตามสายตาของผมไป ในตอนนั้นแอ้มมันก็บอก
' ถูกใจคนนั้นเหรอวะ ' แอ้มยิ้ม ' อย่าเลยคนนั้นน่ะ ไม่ดีมั้ง '
' ทำไมวะ ' ผมถาม
' เพื่อนรักเมียเก่ามึงอะ '
' เพื่อนปิงเหรอ ' ผมพยักหน้ามันก็ยิ้ม ' น่ารัก '
' เออ น่ารัก นิสัยดีด้วย ชื่อไทนะ เพื่อนมหาลัยของปิง ' แอ้มบอก
' แล้วมึงว่าถ้ากูเข้าไปคุยด้วยแล้วไอ้ปิงรู้มันจะเป็นยังไงวะ ' ผมยิ้มอีกสองคนก็พยักหน้า
' คงมาฉีกอกมึง แล้วก็มาฉีกอกพวกกูด้วยไง อย่ามีเรื่องเลย ไปชอบคนอื่นเถอะ คนน่ารักเยอะแยะ '
' แต่คนนี้น่ารัก '
' เอาแล้วไง ' ไอ้ซันบอกก่อนจะยิ้ม
' ขอหน่อยน่า ขอกูจีบหน่อยปิงยังไม่ทันรู้หรอก '
' มึงนี่ทำอะไรเสี่ยงตีนจัง '
' ระวังติดใจ ตกหลุมรักเค้าซะละ ' ผมยิ้ม ในตอนนั้นคิดว่าไม่มีทางแน่ๆ ที่จะทำอะไรแบบนั้น ตอนที่เดินเข้าไปจีบทำท่าทำทางว่ามาคนเดียว ผมนั่งลงแล้วพูดคุยกับมัน คนที่น่ารักที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นคนที่ไม่ควรจีบ ผมทำเรื่องกับเพื่อนรักมันไว้มาก และแน่นอนว่ามันเองก็คงต้องรู้อยู่แล้วว่ามันคือเรื่องอะไร แต่ที่ไม่รู้คือ ผมไม่รู้ว่าระดับไหนที่มันรู้ ถ้ารู้มากถึงขั้นชื่อแล้วก็หน้าตามันคงจบเห่ตั้งแต่วินาทีแรก แต่ถ้าไม่ก็คงจีบไปต่อได้อยู่
แต่ทุกอย่างก็เหมือนเป็นใจกัน ไทไม่รู้แม้ชื่อของผม มันคงไม่เคยเห็น ก็คงจริงอย่างที่ใครๆบอก ไอ้ปิงเกลียดแบบไม่เผาผีกันเลย แม้กระทั้งชื่อหรือหน้าก็ไม่เอ่ยถึงเลยสักนิด แต่นั่นก็คงดี มันดีสำหรับผมในตอนนั้นมาก
จากวันเปลี่ยนเป็นเดือนทุกอย่างเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมื่อตกหลุมรักแล้วคนที่เคยปากเก่งก็เป็นแค่หมาตังนึง รู้ตัวอีกทีนึง ความรักก็ทำให้ผมหยุดอยู่กันมันซะแล้ว ทั้งๆที่มันไม่ใช่ในแบบที่เคยชอบสักเท่าไหร่ ไม่ใช่คนเปรี้ยวๆ ช่างเอาใจ กลับกันมันเป็นคนเฉยๆ ที่อยู่นิ่งๆเสียมากกว่า ความรู้สึกสุข บนความเรียบเฉยที่ทำให้ผมติดกับ แต่ทว่าตลอดมาก็มีเรื่องกังวลใจ
' เมื่อไหร่จะบอกความจริงกับไทวะ ' ผมไม่ได้ลืมความจริงข้อนั้น แต่ไม่มีเวลาเหมาะที่จะบอกสักที ช่วงเวลาแห่งความสุข มันไม่มีใครอยากจะเสียมันไปหรอก ผมเชื่ออย่างงั้น
' เรื่องอะไรวะ '
' มึงอย่ามาทำหัวหมอ เรื่องปิงไง จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนวะ '
' กูไม่อยากบอกเลย ' ผมคิดแบบนั้นจริงๆ ตอนที่พูดออกไปแบบนั้น ไม่อยากจะบอกเลย เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรก็เลยไม่อยากจะบอก
' กูก็ไม่อยากให้บอก ' แอ้มเสริมมันยกเหล้าตรงหน้าขึ้นดื่ม ' ถ้าไทรู้ มันจะรู้สึกยังไงวะ ผิดหวัง สับสน เสียใจ ร้องไห้ กูไม่รู้ว่ามันรับความรู้สึกเสียใจได้แค่ไหนวะ แต่คิดว่าได้ไม่มากหรอก ยิ่งพอมารู้แบบนั้น กูยิ่งไม่อยากให้มึงบอกเลย กูไม่อยากให้มันเสียใจ '
' แต่ยังไงก็ต้องบอก ' ซันพูด ' ยิ่งนานยิ่งผูกพัน แล้วเป็นแบบนั้นมันก็ยิ่งเจ็บ บอกเถอะ เจ็บตอนนี้ยังแค่นี้ อาจจะกลับมารักกันได้ แต่ถ้านานกว่านี้กูกลัวว่ามึงจะเสียมันไปจริงๆ '
' กูจะให้มันพาไปเจอปิงเร็วๆนี้แหละ '
' น่าแปลกนะ ทั้งๆที่ไม่ใช่คนในแบบที่มึงชอบ แต่มึงกลับรักมากกว่าคนที่มึงชอบอีก '
' ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ' ทั้งที่ไม่ใช่คนในแบบที่ชอบ แต่กลับรักมากกว่าคนในแบบที่ชอบ เหตุผลที่ถามว่าทำไม ตัวผมเองก็ตอบไม่ได้ ผมรู้แค่ว่าผมชอบ ทั้งๆที่ไม่ใช่ในแบบสเป็คที่ชอบ แต่ผมก็ชอบมัน อาจเพราะเป็นมัน .. อาจเพราะว่ามันคือ ไท คนที่ผมชอบตั้งแต่แรกเห็น
' เจอคนสวยๆ เปรี้ยวๆมาก็เพียบ มึงมาตกม้าตายกับแค่คนที่ออกแนวเรียบร้อย ธรรมดาแค่นี้เองเหรอวะ '
' ไทไม่ธรรมดานะ ' ผมบอก ' มันมีอะไรที่พิเศษ '
' อะไรที่พิเศษ ' แอ้มถาม
' สักอย่างที่มีแค่กูคนเดียวที่รู้ ' ยิ้มออกมาทุกคนในตอนนั้นก็ยิ้มตาม ผมหัวเราะออกมาตอนที่จับแก้วเหล้าขึ้นมาผมบอกกับตัวเองไม่ว่าจะเกิดอะไรกูก็ต้องเอามึงกลับมาให้ได้
' งั้นก็รีบบอกซะ เดี๋ยวมันจะสายเกินไป '
แล้ววันนั้นมันก็มาถึงวันที่ทุกอย่างในชีวิตของผมเงียบเชียบลง มันไม่มีอะไรมาก ไม่ได้โวยวาย หรือโดนตบตีอย่างที่เคยทะเลาะกับแฟนคนก่อนๆที่แล้วมา แต่ถ้าให้เปรียบตอนนั้นมันคงเหมือนกับไฟดับ ไฟที่ดับลงแล้วมองไม่เห็นอะไรสักอย่าง สิ่งที่ผมได้ยิน เป็นแค่เสียงร้องไห้ ผมรู้ว่ามันอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมยื่นมือออกไปปลอบแต่ก็เท่านั้น มันไม่รู้สึกอะไรเลย ความเสียใจของไทยิ่งใหญ่จนทำให้มัน ไม่ฟัง และ ไม่มองกลับมาหาผมเลย
' แล้วกูผิดอะไรทำไมถึงมาทำกับกูแบบนี้ ' คำพูดที่เหมือนมีดคมๆกรีดลงบนใจของผม ซ้ำด้วยเกลือที่ทาลงมาบนแผลสดๆ ทั้งเจ็บ ทั้งแสบ ทรมานจนคำอธิบายของตัวเองคล้ายกับคนเห็นแก่ตัวคนนึงตอนที่ย้อนมองไปในวันแรกที่เดินเข้าไปหามัน
' แค่แปปเดียว เดี๋ยวก็เลิก ' อย่าลองดีกับความรัก มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก
' แล้วกูผิดนักเหรอ ที่แค่อยากจะมีรักดีๆ '
มึงไม่ผิดหรอก ไม่ต้องร้อง กูมันเลวเอง
เราแยกกันตั้งแต่วันนั้น สองวันที่ผมใช้ชีวิตเงียบๆอยู่ที่ร้านเหล้า แอ้มแนะนำว่าให้ผมถอยออกมาก่อนพูดอะไรไปตอนนี้มันก็คงไม่ฟังหนำซ้ำยังทำให้อะไรๆแย่ลงไปอีก
' นั่น ไอ้ไทนี่ ' แอ้มทักขึ้นตอนที่ผมกำลังนั่งกินเหล้านิ่งๆในผับกับพวกมันที่ก็ขยันพาออกมาทุกคืน ' แต่มากับไอ้ปิงวะ ' ผมมองตามอีกคนไปที่โต๊ะนั่ง ไม่ได้เห็นมันแค่สองวันแต่ผมรู้สึกว่ามันผอมลงตั้งเยอะ หน้าตาที่กำลังยิ้มดูเหมือนสดใสก็จริงแต่ไม่ใช่แบบนั้น การขยับตัวที่เพื่อนยังต้องช่วยกันประคอง
“ อิฐ " ไอ้ซันเรียกแต่ผมไม่ได้หันไปสนใจใครอีกแล้ว สายตาที่เอาแต่มองใครอีกคน ไทที่กำลังกินเหล้ามันมองไปรอบๆ ในจังหวะเดียวกันก็มีเหล้าแก้วนึงเดินมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ทุกคนยิ้มกันใหญ่ตอนแก้วนั้นวางลงบนโต๊ะนั่น เหล้าที่เหมือนมันจะไม่ได้สั่งผมเหลือบมองคนที่พวกมันเองก็มองไป ไทยกแก้วนั่นขึ้นแสดงความขอบคุณก่อนจะกินมันลงไป ใครคนนั้นก็เดินเข้าไปใกล้ ท่าทางที่พูดคุยกันปกติ แต่สักพักมันก็เริ่มใกล้ชิด
“ จะไปไหนวะ " แอ้มถามตอนที่เห็นว่าผมยืนขึ้น
“ ไปหาไท " ผมตอบตอนที่เดินเข้าไปหามัน ปิงหันมาเห็นผมเป็นคนแรก สายตาที่เปิดกว้างของมันคงตกใจพอๆ กับปากที่เอ่ยชื่อผมออกไปด้วยความลืมตัว
“ อิฐ " มันพูดแบบนั้น
“ ทำอะไร " ผมคว้ามือของไทขึ้นมาจับไว้แน่น จ้องมองมันที่กำลังใกล้ชิดกับใครคนอื่นด้วยความโมโห " ทำอะไรอยู่ "
“ ปล่อยเพื่อนกู " ปิงบอกมันยืนขึ้นแต่ผมก็ปรายตาหันไปบอก
“ มึงไม่เกี่ยว นี่เรื่องผัวเมีย "
“ ปล่อยกู มึงไม่เกี่ยวอะไรกับกูแล้ว มึงไม่ได้เป็นอะไรกับกู " คำพูดของไทที่เอ่ยออกมา ผมกำมือมันแน่น
“ กูยังไม่ได้บอกว่าจะเลิก "
“ แต่กูเลิกแล้ว " มันพูดเสียงนิ่ง ตอนที่สะบัดมือออกมันก็ย้ำ " อย่ามายุ่งกับกู ไปเต้นกันเถอะบี้ " มันชวนผู้ชายข้างๆที่เหมือนกำลังงงให้ลุกขึ้นยืน หัวใจของผมเต้นแรงเหมือนมีใครมาทุบมันลงไปแรงๆ ตอนที่มองคนที่เอ่ยพูดคำนั้นแล้วมองชวนผู้ชายอื่นต่อหน้าผม
“ ไปกับกู "
“ กูไม่ไป "
“ ไปกับกู " ผมย้ำ มือก็ยิ่งกำแน่น
“ กูไม่ไป! ปล่อยกู กูจะไปกับคนใหม่ " ไทบอกแบบ ผมก็ยกยิ้มขึ้นมา
“ มึงขายเหรอ เท่าไหร่ละ ล้านนึงกูก็ง่ายไหวนะ " คำพูดที่ไม่ควรพูดเอยออกไปก่อนวินาทีถัดมามือบางคู่นั้นจะฟาดลงเต็มแรงที่แก้มของผม แววตาสั่นไหวเต็มไปด้วยน้ำตาก่อนจะเอ่ยคำพูดบางคำออกมา
“ กูมีค่ามากกว่านั้น กูมีค่ามากกว่าที่มึงประเมิน แล้วกูก็มีค่ามากกว่าที่จะเป็นของเล่นของมึง เอาเงินของมึงเก็บเอาไว้เถอะ แล้วเอาหัวใจกูคืนมา กูไม่ใช่ของเล่นของมึงอีกแล้วอิฐ ลาก่อน "
เหมือนเสียงสะท้อนที่ดังก้องอยู่หลายๆครั้ง ใจของผมที่เหมือนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ลดมือที่จับมัน ไทหันไปหาอีกคนข้างตัวมัน ขาที่กำลังจะเดินออกไปผมคว้ามือมันไว้ก่อนจะดึงเข้ามาใกล้ตัว
“ อย่าคิดว่าจะไปจากกูได้ง่ายๆ " ผมบอกก่อนจะหันไปหาปิงที่ลุกขึ้นยืน " เพื่อนมึงคนนี้ กูขอแล้วกันนะ "
“ เดี๋ยว !! “ เสียงตะโกนห้ามผมที่กำลังดึงแขนไทให้ออกห่างจากผู้ชายใหม่ของมันที่กำลังเดินเข้ามาห้าม ผมชี้หน้า
“ อย่ามายุ่งกับเมียกูต้องมึงไม่อยากเจ็บตัว " บอกไว้แค่นั้นก่อนจะดึงไทให้เดินออกมา ท่าทางที่เดินแปลกๆที่ตามมา แต่ผมก็ไม่สนใจอะไร ทำได้เพียงแค่เดินลากไทออกมาให้ห่างจากปิงให้เร็วที่สุด ปิงที่เดินตามมาโชคดีที่ไอ้ซันกับไอ้แอ้มเดินมาขวางเอาไว้ให้ก่อน
“ ให้มันได้เคลียร์กันเถอะ ถือว่ากูขอละ " ซันบอกปิงที่ได้โวยวายอะไรสักอย่าง แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะฟังมันแล้ว ตอนนี้ทำได้แค่ลากเอาคนที่ดื้อดึงที่ยังคงขืนตัวขึ้นไปบนรถให้ได้
“ กูเจ็บ ปล่อยกู " มันพูดในจังหวะที่ผมเปิดประตูรถแล้วดันมันเข้าไป คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยผมก็วิ่งมาขึ้นรถ คว้าตัวมันที่กำลังจะเปิดประตูรถออกไปผมล็อคตัวมันไว้รัดเข็มขัดอีกครั้งก่อนจะขับรถออกไปด้วยความเร็ว
รถที่ขับเคลื่อนออกไปผมหันมองคนข้างๆที่เอาแต่นั่งนิ่งๆไปตลอดทาง มันที่ไม่แม้จะหันมาพูดหรือมองหน้าผมเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง ผมขับรถออกไปไกลเรื่อยๆ สมองที่กำลังหาจุดจอดรถที่ปลอดภัยที่สุด อย่างน้อยก็คือที่ที่ปิงจะไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน แต่ก็คงเป็นที่ที่เพื่อนผมเองก็คงไม่รู้
รถเคลื่อนมาไกลจนออกนอกเขตเมือง ผมมองเข็มน้ำมันที่เริ่มลดตอนที่ตัดสินใจเลี้ยวเข้าปั้มผมหันไปมองอีกคนที่นั่งมาข้างๆ ตอนนี้ไทเผลอหลับไปแล้ว
“ หลับได้ก็ดี ไม่ต้องมัดให้เหนื่อย " ผมบอกตอนที่เอื้อมตัวไปปรับเบาะให้มันนอนได้สบายขึ้น ผมเองก็กดเปิดกระจกบอกพนักงาน " เต็มถังครับ "
ถอนหายใจออกมาตอนที่ได้มองมันใกล้ๆ ผมเกลี่ยผมที่เหมือนจะตกลงมาให้เข้าที่ ปรับแอร์ให้เย็นนอนลงตอนที่มันเริ่มกอดอกแน่นขึ้น มือที่เอื้อมไปหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่อยู่ตรงเบาะหลังมาห่มให้มันก็เหมือนจะหลับสนิทขึ้นไปอีก ผมค้ำแขนลงกับเบาะของมัน ตอนที่ก้มลงไปจูบข้างแก้มเบาๆ ผมก็ยิ้ม " หลับจนกว่าจะถึงบ้านยายกูเลยนะ กูจะพามึงไปเที่ยวสองต่อสอง "
บ้านยายของผมอยู่สมุทรสาคร มันห่างจากกรุงเทพไม่มากใช้เวลาขับรถแค่ไม่นานก็ถึงแล้ว ผมขับรถเข้ามาในสวนผลไม้ของยายที่ก็นานแล้วที่ไม่ได้เข้ามา ตอนนี้มันเป็นบ้านว่างๆที่ไม่ใครอยู่ คนที่ดูแลที่นี่ ก็คือคนที่อยู่กับยายผมมานาน หลังจากที่ยายเสียแม่ก็ให้ครอบครัวนี้ดูแลทุกอย่างของที่นี่ แม่บอกว่า ยายรักบ้านสวนที่นี้มาก ไม่อยากให้ขาย แต่อยากให้สร้างฐานะและช่วยเหลือคนมากกว่า ตอนนี้ที่นี้เลยมีคนงานเยอะแยะ แถมยังมีผลไม้ส่งออกไปหลายพื้นที่อีก
ผมจอดรถที่หน้าบ้านของยาย คนที่ออกมาต้อนรับก็คือคนต้อนรับที่ก็ออกมาด้วยท่าทางที่เหมือนจะไม่ไว้ใจเท่าไหร่ ผมเดินลงจากรถ แกที่ยังนิ่งผมก็ทัก
“ สวัสดีครับ ลุงโชค "
“ คุณอิฐเหรอครับ " แกถาม ผมก็พยักหน้า
“ ใช่ครับ "
“ มาทำอะไรดึกๆ ครับเนี้ย เข้ามาก่อนๆ ทำไมไม่ให้คุณท่านแกโทรมาบอกผมก่อนจะได้จัดเตรียมที่นอนไว้ให้ "
“ พอดีมาพักใจนะครับ เลยมาโดยไม่ได้บอกใคร " ผมบอกแก อีกคนก็ยิ้ม " ผมมีแขกด้วยนะครับ ลุงโชคช่วยเปิดไฟให้หน่อยได้มั้ยครับ พอดีแขกผมหลับแล้ว "
“ ได้ครับเดี๋ยวลุงนำทางขึ้นไปเปิดไฟให้ " แกบอกอย่างรีบร้อน ผมเดินกลับไปที่รถดับเครื่องก่อนจะเดินกลับมาตรงฝั่งข้างคนขับ ไทที่หลับลึกผมไม่รู้ว่าเพราะเมา หรือเพราะฤทธิ์ยา ช้อนมือเข้าไปสอดไว้ข้างหลังผมอุ้มมันขึ้นมา ตอนที่เดินขึ้นไปบนบ้าน ลุงโชคก็รีบเปิดผ้าคลุมเตียงให้ผม " ขอโทษครับที่ได้ไม่เตรียมที่นอนไว้ให้เลย "
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองที่มาไม่บอก ไม่ต้องกังวลหรอกครับลุง ผมไม่ซีเรียส " พูดแบบนั้นตอนที่วางมันลงเบาๆ บนเตียง ไทก็ขยับตัวเองเหมือนจะนอนให้สบายขึ้น ผมหันไปหาอีกคนที่ก็กำลังยืนมองอยู่ " ขอบคุณนะครับ "
“ ไม่เป็นไรครับ คืนนี้อาจจะไม่คล่องเท่าไหร่ ขาดเหลืออะไรผมจะหามาให้พรุ่งนี้ครับ "
“ ขอบคุณมากครับลุง " ผมบอก ตอนที่พยักหน้า แอบเกรงใจลุงเหมือนกันผมคงมารบกวนเวลานอนของแก " ขอโทษด้วยนะครับที่มารบกวนเวลานี้ "
“ ไม่เป็นไรครับ " ลุงบอก " งั้นผมไม่รบกวนแล้ว เชิญคุณอิฐกับเพื่อนตามสบายครับ "
“ ขอบคุณมากๆ อีกครั้งครับ " ผมบอก อีกคนก็เดินออกไป บ้านไม้หลังใหญ่ที่ตอนนี้เหลือแค่ผมกับไทสองคนเท่านั้น ผมเดินมานั่งลงบนเตียงอีกครั้ง ตอนที่ลูบหน้ามันเบาๆ อยากจะเช็ดหน้าให้แต่ก็กลัวว่าจะตื่นแล้ว วุ่นวายขึ้นมาอีก ตอนนี้ก็ทำได้แค่ห่มผ้าห่มให้มัน ส่วนตัวผมก็เดินไปอาบน้ำเพื่อเข้านอน
ลืมตาตื่นเช้าขึ้นมาผมมองไปที่ข้างตัวผมเป็นที่แรก ไทยังคงนอนอยู่แบบนั้น เผลอถอนหายใจออกมาตอนที่คิดว่ามันจะตื่นแล้วกลับกรุงเทพไปแล้วซะอีก " ทำไมมันหลับนานจังวะ " ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูตอนนี้เจ็ดโมงเช้าแล้ว เมื่อคืนตัวเองก็หลับๆตื่นๆ กลัวมันตื่นก่อนผมแล้วหนีไป คิดมากจนทำใจหลับสนิทไม่ลง ผมเดินเข้าไปอาบน้ำแต่ตอนที่เดินออกมากลับผมว่าคนหลับนั่งนิ่งๆอยู่บนเตียงแล้ว
“ ตื่นแล้วเหรอ " ถามออกไปมันก็ไม่พูด ไทเบือนหน้าหนีผม มันหลับตาลงก่อนจะล้มลงบนเตียงอีกครั้ง ผมหันมาแต่งตัวจนเสร็จตอนที่เดินไปนั่งใกล้ๆมัน มือที่ยื่นไปจับหน้าไทก็สะบัดออก " ไปอาบน้ำได้แล้ว "
ทุกอย่างยังคงนิ่ง ผมสะบัดผ้าห่มออกตอนที่บอกให้มันไปอาบน้ำอีกครั้ง ผมพบว่าตั้งแต่เมื่อคืนมันก็ยังใส่รองเท้าอยู่ ผมหันไปถอดรองเท้าให้มันในจังหวะนั้นไทก็จับขาตัวเองไว้แน่น ท่าทางที่เหมือนกำลังเจ็บแล้วในตอนที่ผมถอดมันออกกลับผมว่ารองเท้าผ้าใบนั้นด้านในมันพันไว้กันที่พันแผลที่เหมือนมีเลือดซึมออกมา ใจของผมมันสั่นตอนที่ถอดรองเท้าอีกข้างด้วยความเบามือกว่าเก่า ไทก็มองหน้า
“ ไปโดนอะไรมา " มันที่ยังไม่ตอบ ทำเอาผมหงุดหงิดถึงขั้นกัดฟันแน่น ทั้งๆที่เป็นห่วง ทั้งๆที่อยากจะรู้แต่มันก็ไม่พูด ไม่บอกอะไร แต่ถึงอย่างงั้นจะโมโหใส่มันไปก็คงไม่ได้ ไทกำลังโกรธผม มันไม่พูดนั่นก็ถูกแล้ว " จะเอาน้ำมาให้ล้างหน้าแล้วกัน "
ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาพร้อมกับกะละมังใบเล็กๆ สบู่ที่คนในสวนทำเอง มันเป็นสบู่ที่ทำจากผลไม้ล้างหน้าได้อยู่แล้ว ผมยื่นให้มันที่เอียงหน้านิดหน่อย " ล้างได้ สบู่ผลไม้ " พอพูดแบบนั้นมันก็หยิบไปล้าง แปรงฟันแล้วก็บ้วนปากเช็ดหน้าเรียบร้อย ผมก็เอาน้ำในกะละมังไปทิ้งแล้วเดินกลับมาอุ้มมัน ที่ดิ้นไม่ยอมท่าเดียว " ไปกินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวจะให้กินยาแล้วก็ทำแผล " มันสะบัดหน้าหนีงอนเหมือนเด็กเล็กๆที่ไม่ยอมพูดอะไร ชวนให้หงุดหงิด แต่อีกใจก็มองว่าน่ารัก
“ อาหารเช้าเสร็จพอดีเลยค่ะ คุณอิฐ " ป้าแจ๋มทักผม ที่วางไทลงบนเก้าอี้ ผมยกมือไหว้อีกคน
“ สวัสดีครับ ขอโทษที่มารบกวนนะครับ "
“ สวัสดีค่ะ รบกวนอะไรกันละคะ ไม่รบกวนเลยค่ะ " เธอบอกก่อนจะหันมายิ้มให้คนข้างๆผม ไอ้ไทหันมามองหน้าเหมือนจะบอกให้ผมแนะนำตัวมัน
“ นี่ไทครับ แฟนผม "
“ ไม่ใช่ครับ " มันพูดขึ้นมาในที่สุด ส่งสายตาขวางๆมาหาเรื่องผมก่อนจะหันไปไหว้ผู้ใหญ่ " สวัสดีครับ ผมชื่อไทครับ เป็นแค่เพื่อนเฉยๆครับ "
“ ค่ะ ยินดีต้อนรับนะคะ ขาดเหลืออะไรเรียกป้าได้เลยนะ "
“ ครับ " ผมตอบ ตอนที่นั่งลงข้ามอีกคนไทก็ก้มหน้าลงกินข้าว เป็นข้าวต้มกุ้งอร่อยๆที่ผมกับไทก็กินกันจนหมดถ้วย
“ อร่อยมากเลยครับ " ไทบอกก่อนจะช่วยอีกคนเก็บจาน
“ คุณไทไม่ต้องช่วยค่ะ เดี๋ยวป้าทำเอง เท้าเจ็บอยู่ไปพักผ่อนเถอะคะ "
“ ป้ามียาทำแผลมั้ยครับ " ผมถามอีกคนก็ส่ายหน้า
“ งั้นป้าบอกให้เด็กไปซื้อให้นะ จะใช้อะไรบ้างคะ "
“ อุปกรณ์ทำแผลทั้งหมด แล้วก็ยาแก้ปวดด้วยครับ " ผมบอกก่อนจะหันไปถามอีกคน " ปวดหัวมั้ย " ไทส่ายหน้ามันมองไปทางอื่น ป้าก็ยิ้มให้ผม
“ งั้นป้าบอกให้เด็กไปซื้อให้ คุณอิฐก็ขยันง้อเข้านะคะ " เธอบอกก่อนจะเดินออกไป ไอ้ไทหันหน้ามามองผมตอนที่ผมจ้องอยู่มันก็หลบ
“ ขี้งอนจริงๆเลย " ผมย่อตัวลงคุยกับมัน ไทที่ยังหันไปทางอื่น ผมดึงหน้ามันให้หันมาจ้องผม เสียงจิ๊ปากขัดใจนั่นทำเอาผมยิ้ม " ไอ้ขี้งอน " เรามองตากันก่อนจะไทจะสะบัดหน้าไปทางอื่น " ไม่คิดจะฟังเหตุผลจากปากกูหน่อยเหรอ กูยอมรับว่ากูเหี้ย แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด จะไม่ฟังเหตุผลกันหน่อยเหรอ จะคิดเองเออเองคนเดียวแล้วปล่อยให้ทุกอย่างมันจบแบบนี้รึไง "
ทุกอย่างเงียบ มันไม่ยอมพูดกับผมจริงๆ ลุกขึ้นยืนตอนที่ถอนหายใจผมอุ้มมันไปนั่งที่ชานระเบียงด้านนอกที่มองเห็นสวนทั้งหมด มันมองไปรอบๆ อากาศเย็นๆที่พัดเข้ามาผมถาม
“ หนาวมั้ย วันนี้อากาศเย็นนะ " เอามือไปจับที่ผิวข้างแก้มมันที่เย็นนิดหน่อย ผมก็เดินเข้าไปในห้องหยิบเสื้อไหมผมสีครีมอ่อนติดมือออกไป เพราะว่ายังเช้าอยู่อากาศที่พัดมาก็มีแต่อากาศเย็นๆเท่านั้นแหละ มันเองก็ร่างกายไม่แข็งแรงถ้าป่วยขึ้นมาคงไม่ดีแน่
“ คุณอิฐครับ แม่ให้เอามาให้ " เด็กหนุ่มที่วิ่งเข้ามา คราวก่อนที่ผมมามันยังตัวเล็กเพิ่งหัดเดินอยู่เลย แม้จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรแต่ผมก็รับยามาก่อนจะยื่นทิปไปให้
“ ขอบคุณนะ เอานี่ เอาไปกินหนม "
“ ขอบคุณมากครับ " รอยยิ้มที่ถูกใจส่งมาให้ก่อนจะวิ่งออกไปด้วยความเร็ว เดินหิ้วถุงกับเสื้อออกไปให้อีกคนที่ยังนั่งนิ่งๆแล้วมองไปรอบๆ ผมตั้งถุงยาไว้ข้างๆมัน ก่อนจะคลุมเสื้อให้คนที่ยังคงนิ่งเงียบๆ ผมนั่งลงบนพื้นตอนที่หยิบเท้ามันขึ้นมาตั้งบนตัก ไทก็มอง
“ เดี๋ยวจะทำแผลให้นะ " ผมบอกตอนที่เปิดแผลมันออก ผมมองดูแผลนั้นที่เหมือนเป็นแผลโดนบาดจากอะไรสักอย่างหลายแผล " ไปโดนอะไรมา "
“ ความรัก " มันบอกเสียงเบาๆ ตอนที่มองออกไปทางอื่นก่อนจะยกยิ้ม " ความรักมันทำร้ายกู "
“ ความรักมันไม่ทำร้ายใครหรอก " ตอนที่หยิบสำลีจุ่มแอลกฮอล์ขึ้นเช็ดแผลของมันเบาๆ ไปเรื่อยๆผมยิ้ม " แต่กูนี่แหละ ที่ทำร้ายมึง "
ไทหดขาเป็นระยะตอนที่ผมเช็ดแผลมันไปเรื่อย จับข้อเท้าของมันไว้ ผมเป่าผ่าเท้ามันเบาๆ ทายาให้เรียบร้อยก่อนจะพันแผลเอาไว้ให้ เกิดมายังไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้ใคร จับเท้าขึ้นมาแล้วเป่า แล้วทำแผลให้ มันเป็นคนแรกที่ผมทำ วางเท้าที่ทำแผลเสร็จผมหยิบเท้าอีกข้างขึ้นมาทำแผลให้มันอีก แต่แผลข้างนี้ดูเหมือนจะมีบางจุดใหญ่กว่าอีกข้าง ผมยกเท้าขึ้นมาในระดับหน้าของผม มองดูแผลนั้นก่อนจะเช็ดให้มันเบาๆ
“ จิ๊ " เสียงจิ๊ปากของคนที่กำลังเจ็บผมเงยมองหน้ามัน ก่อนจะเบาระบายความเจ็บให้
“ ผลไม้ค่ะ คุณอิฐคุณไท " ป้าแจ๋มเดินเข้ามาทักเรา พร้อมกับถาดผลไม้ที่ถูกแกะให้เรียบร้อย น้ำแดงที่ถูกยกขึ้นมาด้วย ไทพยายามจะกดขาลง แต่ผมก็ยังจับไว้
“ อยู่นิ่งๆ ยังทำแผลไม่เสร็จ " ผมบอก
“ ขอบคุณนะครับ " ไทตอบแทนผมเธอก็ยิ้ม
“ คุณไทไปโดนอะไรมาคะ เป็นแผลทั้งสองฝ่าเท้าเลย "
“ เอ่อคือ.. " มันมองหน้าผมคงไม่อยากจะตอบแต่ก็เกรงใจผู้ใหญ่ที่ถาม " กระจกมันแตกแล้วผมเผลอเหยียบเข้านะครับ "
“ คุณอิฐตั้งใจจังเลยนะคะ " เธอแซวผมที่หันไปหาเธอก่อนจะยิ้มให้ " เป็นครั้งแรกเลยนะที่คุณอิฐทำอะไรแบบนี้ให้ใคร " ผมไม่ตอบอะไรเธอก็หันไปพูดกับไทต่อ " คุณไทรู้มั้ยคะ คุณอิฐนะไม่ชอบทำอะไรแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วละคะ "
“ เหรอครับ " มันตอบแบบเลี่ยงไม่ได้
“ ใช่ค่ะ ขนาดตอนนั้นคุณอัดล้มเป็นแผลแล้วคุณยายท่านให้ทำแผลให้ คุณอิฐยังไม่สนใจเลย " ป้าแจ๋มยิ้ม " เธอบอกเธอไม่ชอบทำอะไรแบบนี้ "
“ ป้าแจ๋มครับ " ผมเรียกเธอเหมือนห้ามให้พูด เธอหัวเราะเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับ
“ งั้นป้าไม่กวนแล้วค่ะ เดี๋ยวคนแถวนี้จะเขินไปกันใหญ่ มีอะไรเรียกป้าได้เลยนะคะ " เธอบอกแบบนั้นก่อนจะเดินออกไป ความเงียบกลับมาสู่เราสองคนอีกครั้ง ผมทำแผลทีละแผลไปเรื่อยๆทำความสะอาดจนครบทุกแผลใส่ยาแล้วก็พันผ้าพันแผลไว้
“ เสร็จแล้ว "
“ ขอบคุณ " มันตอบเสียงนิ่งๆ ก่อนจะเลื่อนเท้าลงไปวางลงบนพื้น สายตาที่หลับไปทางอื่น มันหยิบชมพูในจานขึ้นมากินตอนที่ผมนั่งจ้องมันอยู่แล้วนั้น ไทกินน้ำแดงตามเข้าไป
“ เราจะไม่พูดกันใช่มั้ย " มันเงียบผมก็ถอนหายใจออกมา " กูยอมรับว่ากูผิด กูผิดที่ไม่บอกมึง ผิดที่ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปแบบนี้ กูยอมรับว่าครั้งแรกที่เจอมึง กูถูกใจ กูอยากจีบ ไม่ใช่เพราะว่ามึงเป็นเพื่อนปิงถึงเข้าไป ไม่ใช่อย่างงั้น อาจจะจริงที่ไอ้ฝนไอ้ซันมันเตือนกูแล้วมึงเป็นเพื่อนปิง อย่าเข้าไปจีบ แต่กูไม่ฟัง กูดึงดันกูอยากจีบ กูคิดว่า มันคงไม่นานที่เราจะคบกันตรงนั้นมันคือความคิดเหี้ยๆของกู กูยอมรับ แต่พอได้คบกับมึงแล้ว รู้สึกว่า กูมีความสุข กูอยากอยู่กับมึงแบบนี้ ความคิดในตอนแรกที่เข้ามาหายไป เป็นความรู้สึกที่เสียมึงไปไม่ได้เข้ามาแทน วันที่ไปเจอปิงกูรู้แล้วว่า เรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้น แต่กูก้ต้องยอมรับมันคือความผิดของกู .. ตอนนี้ก็ไม่ขออะไรมาก แค่อยากให้มึงฟัง ฟังเหตุผลของกูบ้าง "
“ แล้วทำไมตอนนั้นถึงไม่บอก ทำไมถึงปล่อยให้กูไม่รู้อะไรเลย ทำไมถึงปล่อยให้กูรักมึงมากขนาดนี้ แล้วถึงบอก ทำไมมึงต้องทำแบบนั้น " น้ำตาที่ไหลออกมาไทมองตาผม " ทำไมวะ ทำไมไม่บอกกันตั้งแต่ตอนแรก "
“ แล้วถ้าบอก มึงจะยอมคบกับกูมั้ย " ทุกอย่างเงียบลงตอนที่ผมถามออกไป ไทเม้มปากสนิทมันหันไปทางอื่น " กูขอโทษที่ไม่บอก ขอโทษที่ปล่อยให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ ขอโทษที่ทำให้เสียใจ ขอโทษ..”
“ แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา มึงเคยรักกูบ้างมั้ยวะ รักกูอย่างที่กูรักมึง มึงรักกูอย่างที่มึงบอกกูมั้ย "
“ รักสิ " ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นกอดมันไว้ " รักสิ กูรักมึง "
“ รักแล้วโกหกกูทำไมวะ รักแล้วปิดบังกูทำไม "
“ เพราะรักไงเลยทำ เพราะไม่อยากจะเสียไปไง เลยต้องปล่อยให้เป็นแบบนั้น ขอโทษ กูขอโทษ " ผมพูดซ้ำๆตอนที่กอดมันไว้แน่น " กูอาจจะเลวมากสำหรับปิง เป็นคนที่ทำลายอนาคตของมัน เป็นคนที่สร้างข่าวปลอมๆนั่น เพียงเพราะตอนนั้นกูไม่อยากเสียมัน ทั้งๆที่ตัวเอง ก็เป็นคนที่นอกใจมันก่อน กูทำทุกอย่างเพื่อให้มันคืนมา จนกลายเป็นว่ากูเหมือนได้ทำลายทุกอย่างของมันจนหมดไป แต่กูขอร้อง มันอาจจะเห็นแก่ตัวที่กูพูด แต่กูขอร้องมึง แค่มึงคนเดียวเท่านั้น อย่าเอาเรื่องของปิง เรื่องที่กูทำกับปิงในตอนนั้นมาตัดสินทุกอย่างในชีวิตของกูได้มั้ย อย่าเอามันมาตัดสินว่ากูต้องเป็นคนไม่ดี ต้องทำกับมึงแบบที่กูทำกับปิง ได้โปรดอย่าคิดแบบนั้นได้มั้ย " ไทเงียบผมที่หัวใจเต้นแรงทำอะไรไมไ่ด้เลยเพราะไม่มีคำตอบโต้ใดๆจากที่ผมกำลังขอร้องเลยสักนิด " กูอาจจะเป็นคนเลวในตอนนั้น แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว กูอาจจะไม่ใช่คนดี แต่กูจะไม่มีวันทำกับมึงอย่างที่กูทำกับปิงหรอก กูอาจจะเลวกับเพื่อนมึง แต่จะไม่มีวันทำกับมึงแบบนั้นเด็ดขาด "
“ ปล่อยกูเถอะอิฐ " ไทพูดเสียงเบาๆ คำพูดที่เหมือนมันบอกว่า คำอธิบายของผมมันไร้ความหมาย มันไม่เชื่ออย่างที่ผมพูด เหมือนข้ออ้างมากกว่าเหตุผลในความรู้สึกของมัน
“ กูอาจจะเลวที่ทำกับคนอื่น แต่นั่นไม่ใช่มึง มึงไม่เหมือนคนอื่น มึงมีค่ากับกูมากกว่าคนอื่น แล้วนี่คือความจริงที่สุดที่กูอยากจะบอก จะเกลียดกู กูก็ยอม ไม่ต้องพูดกับกูก็ได้ จะไม่ให้อภัยกันเลยก็ไม่เป็นไร แต่อย่าหายไปได้มั้ยวะ อย่าหายไปจากกูได้มั้ย "
นี่คือคำขอร้องของผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างผม ที่แค่หวังไว้ว่า มันจะฟังและเข้าใจ
................................................................
ความรักมันคือเรื่องของคนสองคน
หนมมองว่า ถ้าเอาอดีตที่อิฐทำกับปิง มาตัดสิน เรื่องของอิฐไท
มันดูเหมือนใจร้ายกับอิฐมากไปหน่อย อิฐควรได้อธิบาย แล้วไทควรได้ตัดสินใจเอง
ว่าจะเอายังไงต่อไป เพราะอดีตมันคืออดีต .. คนเราลบอดีตไมไ่ด้อยู่แล้ว
ปัจจุบันนั่นแหละ ที่สำคัญ
ฝากด้วยนะคะ
ฝากเม้นท์ผ่านแท็ก #เสือปิง ในทวิตกันเยอะๆนะคะ
แล้วก็ใน fb ของเฟสบุ๊คตอนนี้มีข่าวดีสำหรับคนที่อ่านนิยายเรื่องนี้อยู่จ้า ตามลิงค์นี้เลย
https://www.facebook.com/btskkanom?fref=tsขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์

#แก้ไขคำผิดแล้วค่ะ ขอโทษนะคะ