ตอนที่ 17“ กลับมาแล้ว " เสียงที่ตะโกนออกไปมือก็เปิดเข้าไปในห้อง ในห้องที่มีแต่ความเงียบได้ยินแต่งเสียงทีวีที่ดังอยู่ ผมเดินเข้ามามองไปรอบๆ ก็พบว่าคนที่วันนี้ไม่ได้ไปเรียนกลับนอนสบายใจอยู่บนโซฟาหน้าตาทีวี ปล่อยให้ทีวีที่ต้องดูเป็นคนดูมันแทน
' เคร้ง ' เท้าของผมแตะเข้ากับกระป๋องเบียร์สี่ห้ากระป๋องที่วางอยู่ ถุงขนมก็ด้วย กองหนังสือ ทุกอย่างรกรุงรังไปหมด " รกจริงๆ มึงอยู่คนเดียวนี่แบบหายนะชัดๆ " หยิบรีโมตขึ้นมากดปิดก่อนจะวางลงที่เดิม กระเป๋าของผมก็ด้วย หันมองมันที่กำลังหลับ ผมย่อตัวลงตอนที่เอามือเท้าคางมองมัน
“ เวลาหลับนี่แบ๋วจริงๆนะ " ไม่เหมือนเวลาตื่นเลยสักนิด ไอ้ผู้ชายปากร้ายคนนั้น เป็นคนเดียวกันกับคนที่หลับได้ยังไงก็ไม่รู้ เวลาที่เสือหลับมันเหมือนลูกแมวตัวนึง ผมจะไม่เห็นแววตาดุๆของมัน จะเห็นก็แค่ขนตายาวๆกับจมูกโด่งที่รับกับหน้า ลมหายใจที่ผ่อนเข้าออกเป็นจังหวะ ผิวขาวไม่ซีดแบบผู้ชาย รู้ตัวเองอีกผมเผลอดึงหน้าตัวเองจูบแก้มมันเข้าไปให้แล้ว " ฝันถึงกูด้วยนะ "
ถ้าได้ยินแบบนี้แน่นอนว่าคนที่กำลังฝันต้องคด้านออกมาอย่างหัวเสียแน่ๆว่า ' ไม่มีทาง '
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังผมหันไปมองก่อนจะลุกขึ้นมองผ่านตาแมว ผู้หญิงที่อายุราวประมาณห้าสิบต้นๆกับถุงขยะและไม้กวาด ท่าทางจะเป็นแม่บ้าน ผมขานรับออกไป " ครับ "
“ สวัสดีค่ะ คุณเสือ "
“ เอ่อ เสือนอนอยู่ครับ คุณป้ามาทำความสะอาดเหรอครับ " ผมถามเธอก็ยิ้มหวาน
“ ค่ะ "
“ เชิญครับ " เปิดประตูให้กว้างขึ้นผมมองไปที่ อุปกรณ์ทำความสะอาดของเธอ ในถุงขยะมีของที่ส่งเสียงดังได้ พวกแก้ว กับกระป๋อง คือถ้ากระทบกันจนมันตื่น หายนะแน่ๆ " มาครับผมช่วย เดี๋ยวเสียงดังมากๆมันตื่นแล้วจะหงุดหงิดเอา "
“ ถึงจะขี้หงุดหงิดไปสักหน่อย แต่ก็น่ารักนะคะ เป็นคนที่เอาใจใส่คนอื่นอยู่ลึกๆ "
“ อย่างงั้นเหรอครับ แต่ผมไม่เห็นจะรู้สึกอย่างงั้นเลย " ตอบเธอแบบนั้นอีกคนก็พยักหน้า " คุณป้าทำงานที่นี่มานานแล้วเหรอครับ "
“ ก็นานแล้วค่ะ สัก 5 ปีแล้ว ตั้งแต่คุณเสือย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ป้าก็มาทำความสะอาดให้ตลอด "
“ คงมีผู้หญิงมาอยู่เยอะเลยสินะครับ หล่อๆแบบมัน " ก่อนหน้าผมก็คงมีเยอะ อย่างน้อยก็ชะนีน้อยคนนั้นที่ผมเห็นที่ผับ คนที่ชื่อว่า แพ็ตตี้อะไรนั่น
“ ไม่ค่อยมีหรอกค่ะ คุณเสือไม่ค่อยทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้รู้ จะมีก็คนล่าสุดที่ทิ้งชุดนอนไว้ เธอสั่งให้ป้าเอาไปทิ้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมไปเก็บกลับมาอีก "
“ ป้าหมายถึงตัวนั้นเหรอครับ " ผมชี้ไปที่ชุดนอนของตัวเองที่แขวนอยู่นอกตู้เสื้อผ้า เธอหัวเราะก่อนจะหันมาตอบ
“ ตัวนั้นเหละค่ะ ของคุณเหรอคะ "
“ ใช่ครับ แต่ว่า ป้าเรียกผมว่าปิงก็ได้ครับ ไม่ต้องคุณนะครับ เรียกว่า น้องปิง "
“ น้องปิง " เธอทวนคำพูด " ในที่สุดก็ไปตามกลับมาจนได้สินะคะ "
“ ยังไงเหรอครับ " คำพูดชวนงงของเธอ ทำให้ผมถามกลับก่อนจะได้รับคำตอบแบบยิ้มๆกลับมา
“ คุณเสือนะ เธอเป็นคนที่ดูภายนอกไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของคนอื่น คำพูดก็ดูเป็นคนที่ไม่รักษาน้ำใจใคร แต่ภายในเธอเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นเหมือนกันนะคะ เป็นคนที่แสดงความรู้สึกออกไปไม่เก่ง "
“ ก็ท่าทางจะไม่เก่งเลยละครับ " ชอบพูดทำร้ายจิตใจที่หนึ่ง แม้จะจบด้วยคำพูดที่ชวนให้ใจเต้น แต่นั่นก็ไม่ต่างอะไรกับการตบหัวลูบหลังหรอก
“ ตอนป้ามาอยู่แรกๆ ก็แอบตกใจคำพูดของแกเหมือนกัน เป็นคนที่พูดไม่คิด จนเหมือนไม่มีมารยาทเลย "
“ ถูกเลยครับ "
“ แต่ว่า ตอนนั้นที่ป้าป่วยมากๆ แล้วเธอเข้ามาพยุงแล้วบอกว่าไม่ต้องทำงานให้นอนพักที่ห้องเธอได้ ตอนนั้นป้าก็คิดขึ้นมาว่า เธอก็เป็นคนจิตใจดีคนนึงเหมือนนะ แต่แค่เธอทำอะไรแบบนั้นไม่เก่ง คุณเสือนะเก่งการกระทำมากกว่าคำพูดนะคะ "
“ มันดูเป็นคนดีจังเลยนะครับ " ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมาได้ยินเรื่องอะไรแบบนี้เกี่ยวของตัวมันกับคนอื่น คิดว่าดีกับคนอื่นไม่เป็น
“ ก็มากกว่าที่เห็นภายนอกนะคะ "
“ ก็อาจจะใช่นะครับ " ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว เสือมักเข้ามาช่วยผมแม้จะมาพร้อมกับคำพูดร้ายๆ แต่ถ้าไม่นับ ความช่วยเหลือของมันพอมาคิดตอนนี้ เสือก็เป็นคนใจดีคนนึง คนที่เข้ามาช่วยผมเสมอ ทั้งๆที่ปากก็บอกว่าไม่ชอบ " ใจดีเหมือนกันนี่หว่า "
“ ใช่มั้ยล่ะคะ "
“ พอมาคิดตามที่คุณป้าพูด ก็เป็นแบบนั้นจริงๆเหละครับ "
“ ถึงจะรู้สึกขัดใจบ้าง แต่ก็ช่วยดูความต้องการของเธอจริงๆ มากกว่าสิ่งที่เธอพูดนะคะ "
“ ป้ารู้จักมันดีจังเลยนะครับ " คำถามของผม ได้รับคำคอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม " เสือคงดีใจที่มีคนรักมันแบบนี้ "
“ เธอเป็นคนที่ช่วยเหลือป้าในเวลาที่ไม่มีใครเสมอ แค่มีใครสักคนรักเธอและเข้าใจเธอ ป้าก็มีความสุขแล้วล่ะคะ คุณเสือนะเพื่อนน้อย คุณปิงต้องอยู่ข้างๆเธอนะ "
“ ทำไมต้องเป็นผมล่ะครับ " ยิ้มตอบกลับไปอีกคน ยอมรับว่าเขินอยู่เหมือนกันคำพูดนั้น
“ คุณเป็นคนแรกที่ได้มาอยู่ที่นี่กับเธอ แน่นอนว่าเธอต้องเห็นว่าคุณมีความสำคัญอยู่แล้ว คุณเสือนะไม่ใช่ใครก็ได้หรอกนะคะ ต้องเป็นคนที่เธอคิดว่า ใช่ จริงๆ เธอถึงจะให้เข้ามาอยู่ในโลกของเธอ "
“ พูดแบบนี้ ถ้ามันได้ยินคงต้องหงุดหงิดแน่ๆครับ ถ้าเถียงออกมาแน่ว่า เพ้ออะไร ไม่ก็เขินแล้วก็หันไปทางอื่น " ผมหัวเราะแต่ป้าแม่บ้านก็เช่นกัน
“ แต่ก็ไม่เสมอไปหรอกนะคะ " เชิดหน้าไปทางโซฟาที่ใครบางคนกำลังนอน ผมเดินตรงไปหา นอนที่นั่งลงกับพื้นแล้วมองใครบางคนกำลังหน้าแดงได้ที่ ตาที่กำลังหลับอยู่นั้นเหมือนพยายามหลับมากกว่าเป็นการหลับจริงๆ
“ แอบฟังคนอื่นเค้าพูดเหรอวะ " ผมกระซิบข้างหู ตอนที่หอมแก้มัน เสือก็หันไปทางอื่น เสียงของมันที่พูดขึ้นทำให้ทั้งห้องของเรามีเสียงหัวเราะ
“ ยุ่งน่า " ผมน่ะ ชักอยากจะเป็นคนสำคัญมากๆของมัน จนทนไม่ไหวแล้วล่ะครับ
..............................................
ผมเผลอหลับไปทั้งๆที่คิดว่า จะแกล้งหลับเท่านั้น แต่พอใจมันรู้สึกมีความสุขสักพักความง่วงงุนก็เข้ามาเติมเต็มจนเผลอหลับไปจริงๆจนได้ ลืมตาขึ้นมาตอนที่มองไปรอบๆผมมองหา ปิงเป็นคนแรก
“ ตื่นแล้วเหรอ "
“ อื้ม " ลุกขึ้นนั่งบนโซฟาอีกคนก็ยื่นเอาน้ำส้มมาให้
“ จะได้สดชื่น "
“ ไม่เอา " ผมเบี่ยงตัวหลบ นั่งพิงกับโซฟามันก็ยังคะยั้นคะยอเอาน้ำส้มมาวนตรงหน้า
“ หน่อยน่า "
“ ก็บอกว่าไม่เอาไง " หันไปบอกแบบนั้นปิงก็เบะปากใส่ มันกินน้ำส้มเข้าไปในปากก่อนจะนั่งลงข้างๆผม หยิบรีโมตขึ้นมาเปิดทีวี ตอนที่หันไปมองมันที่เอาแต่กินน้ำส้ม ใจของผมก็รู้สึกอยากจะกินขึ้นมาบ้างเหมือนกัน " นี่ "
เรียกมันแบบนั้นก่อนจะก้มลงจูบบนริมฝีปากของมัน ลิ้นลุกล้ำเข้ากวาดเกล็ดส้มในปากของมัน รสชาติหวานอมเปรี้ยว อย่างที่มันบอก สดชื่นดีเหมือนกัน
“ เสือ " ปิงเงยหน้าขึ้นมามอง มันที่ลุกขึ้นค่อมตัวของผมไว้ ปิงนั่งบนบนตักก่อนจะซบ " ขออ้อนหน่อย "
“ มีอะไร " ถามออกไปแบบนั้นแต่อีกคนก็เงียบ " แล้วที่มึงบอกว่าวันนี้มึงจะไปผับกับพวกไอ้ไท "
“ ไม่ได้ไปแล้ว ไอ้ไทไม่ไป " ก็ดี ตอนที่ได้ยินก็คิดแบบนั้น ถ้ามึงไม่ได้ไปมึงก็จะได้อยู่กับกู ไม่ชอบเหมือนกันเวลาที่มันออกไปไหนแล้วไม่มีผม ก็เพราะว่าอยากให้อยู่ในสายตาตลอด
“ ทำไมไม่ไป "
“ ไม่รู้แม่ง กูกลัวมันโกรธที่เมื่อวานกูไปได้ไปกับมัน "
“ งี่เง่าขนาดนั้นเลย " ผมถาม มันก็ส่ายหน้า
“ ก็กูกลัวมันโกรธ "
“ ไร้สาระ " ความคิดของมันน่ะ ที่ไร้สาระ
“ ให้กำลังใจกันหน่อยสิว่ะ "
“ ทำไม่เป็น " พูดออกไปแบบนั้น คนช่างอ้อนแบบมันก็จับมือผมมาขึ้นมาแนบแก้มของตัวเองไว้
“ ทำแบบนี้ แล้วก็พูด เสียงอ่อนโยนว่า ปิงครับ ไม่ต้องคิดมากน้า ปิงยังมีเสืออยู่ จากนั้นมึงก็กอดกู " จับมือของผมทั้งสองข้างเลื่อนไปกอดเอวมันเอาไว้ " จากนั้นกูก็จะทำหน้าหงอยๆ อารมณ์แบบยังไม่ดีขึ้น มึงก็จะจูบแล้วบอกว่า ร่าเริงหน่อยนะ "
“ ประสาท "
“ น่ารักออก อะไรว่ะ ทำนะๆ ไหนทำดู " มือที่เข้ามาอ้อน ผมเผลอยิ้มออกมาตอนที่หันไปทางอื่นไอ้ปิงก็ไปดึงหน้าผมให้เผชิญหน้ากับมัน " มึงยิ้ม แสดงว่ามึงเห็นด้วยว่ามันน่ารัก "
“ คิดไปเอง กูไม่ทำเว้ย " ดึงหน้าออกจากมือมัน ผมหันไปทางอื่นอีกครั้ง ทนต่อสายตาอ้อนๆของมันไม่ไหวจริงๆ
“ ทำหน่อยน่า นิดนึง " มือสะกิดยิกๆผมถอนหายใจออกมา เหล่มองมันที่ยังกระพริบตาใส่ มือก็ยังไม่หยุดอ้อนสะกิดอยู่แบบนั้น น่ารำคาญที่สุดจะอะไรนักหนา รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องน่าอายแบบนั้นผมไม่มีวันทำหรอกก็ยังจะมาอ้อนกันด้วยสายตาน่ารักๆนั่นอยู่ได้ น่าหงุดหงิดจริงๆ ต้องแพ้ทางมันตลอด " เสือ " ตอนที่มันเรียกผมอีกครั้งใจก็สั่งให้หันมามองหน้ามัน ผมตัดสินใจจูบมันเบาๆ ตอนที่ผละออกมาจ้องตามันที่ยังงงๆ ผมพูดออกไป
“ ร่าเริงหน่อยนะ มึงประสาทเหรอ ใครจะพูด "
“ ในที่สุดมึงก็พูดออกมาแล้ว เขิน " พอพูดจบมันก็ซบลงกับไหล่ผมทันที
“ เขินเหี้ยอะไร " ถึงพูดออกไปแบบนั้นแต่ก็เขินว่ะ มือของผมกอดเอวมันไว้
“ ไม่รู้ แต่เขิน มันดูเป็นมึงดีมั้ง ก็คนแบบมึงจะให้มาพูดหวานๆก็คงไม่ได้ " ไม่ตอบอะไรออกไป ปิงเลื่อนลงมาจากตักมานั่งลงข้างๆมันที่ซบลงมาตรงไหล่
ทุกอย่าง ณ ขณะนั้นมีแต่ความเงียบปิงมองดูทีวีแต่ผมรู้ว่ามันไม่ได้สนใจ เหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่างตอนที่มันดึงมือผมขึ้นมาจับแล้วเล่นนิ้วผมไปเรื่อย
“ เป็นอะไร "
“ เป็นห่วงเหรอ "
“ ทำไมต้องทำแบบนั้น " ดึงมือที่มันกำลังจับอยู่แต่ปิงก็ไม่ยอมปล่อยไปไหน
“ อยู่แบบนี้ก่อน กูแค่อยากจะอยู่กับมึงแบบนี้ " ใจอ่อนยอมนั่งอยู่แบบนั้น ทั้งๆที่รู้ว่าคนที่ทำให้มันคิดหนัก ไม่ใช่ผมคงเป็นไอ้ไทที่มันพูดตั้งแต่แรกแล้วว่า ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่ตลกเลยที่ต้องมานั่งนิ่งๆกอดกับมันแต่มันกับคิดถึงคนอื่น ทั้งๆที่จะแค่เพื่อนก็เถอะ " ไปไหน "
“ หงุดหงิด " ผมบอกแบบนั้นตอนที่ลุกจากโซฟาแล้วเดินไปหยิบมือถือของมันที่ตั้งอยู่ในครัว โยนไปให้ " เอาไป "
“ อะไร เอามือถือกูมาให้ทำไม "
“ ถ้าคิดถึงมันมากก็โทรไปถามให้รู้เรื่อง ไม่ใช่มานั่งคิดถึงกันอยู่ "
“ คิดถึงอะไร ไม่ใช่สักหน่อย " เถียงออกมา ตอนที่มองหน้าผมสลับกับมือถือ " นี่อย่าบอกว่าหึง "
“ เปล่า "
“ ปากแข็ง หึงแน่ๆ หึงกูที่กูคิดถึงไอ้ไท ทั้งๆที่กอดมึงอยู่ "
“ ตลก " ผมว่าแบบนั้นตอนที่หันหลัง พาตัวเองเข้าห้อง " สำคัญตัวเองผิดไปแล้วมึงนะ "
“ ปากแข็ง " ลุกขึ้นจากโซฟาเดินเข้ามาหา " แต่จริงๆ กูก็ไม่ได้คิดถึงไอ้ไทคนเดียวหรอก " ท่าทางลำบากใจของมัน ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่มองหน้าผม
“ ใคร " ปากก็เผลอถามออกไปแบบนั้น ไอ้ปิงก็ยกยิ้ม
“ กูไม่ได้สำคัญตัวเองผิดไปหรอก ว่ามั้ย " เดินเข้ามาใกล้กัน มือของมันที่กอดคอผมตอนที่ซบลงมา " กูแค่กำลังคิดว่า กูอยู่กับมึงมากเกินไปจนลืมเพื่อนรึเปล่า ใจนึงก็คิดว่าไอ้ไทเข้าใจกูอยู่แล้วเพราะมันสนิทกับกูที่สุด แต่อีกใจก็ไม่คิดแบบนั้น "
“ อื้ม " ผมดึงตัวออกจากอ้อมกอดของมัน เดินไปที่ตู้เย็นก่อนจะหยิบน้ำส้มออกมารินใส่แก้วแล้วส่งให้มัน " จะได้สดชื่น " ปิงยิ้มออกมาตอนที่รับแก้วน้ำส้มไปจากผม " มึงบอกเองนะ "
“ อื้ม กูบอก "
“ แล้วมองอะไร " แววตาที่กำลัวยิ้มของมัน ผมถอนหายใจมองไปทางอื่น
“ อย่างที่ป้าเค้าบอกเลย " ปิงเดินมายืนอยู่หน้าผม มือที่กอดคอผมไว้ มันเขย่งเท้าขึ้นมาจูบตรงปลายคาง " มึงนะ ใจดีกว่าคิด "
“ พูดมาก "
“ เวลาชมก็ชอบเขิน น่ารักสุดๆเลย " ผมหันไปอีกทางที่มันชมด้วยรอยยิ้มน่ารักๆแบบนั้น มือที่จับปลายคางของผมไว้ ปิงเขย่งตัวจูบผม เม้มริมฝีปากล่างเบาๆก่อนจะจูบลงอีกครั้ง " ขอบคุณที่เป็นห่วงความรู้สึกกู "
“ กูไม่ได้เป็นห่วงสักหน่อย " เถียงออกไปแบบนั้นทั้งๆที่ตอนนั้น หน้าก็แดงสุดๆ
“ ครับๆ คิดว่ากูแบ่งความสดชื่นให้แล้วกันนะ "
“ งั้นก็แบ่งให้อีก จะเอาอีก " ก้มลงมาหน้ามัน ผมหยุดนิ่งตอนที่มองริมฝีปากมัน ปิงก็ยิ้มก่อนจะจูบผมเบาๆ " เอาอีก " พูดออกไปมอืก็ดึงร่างของมันเข้าไปใกล้ ผมก้มลงจูบปากของมันลิ้นที่สอดเข้าไปด้านใน ปิงเปิดปากรับตอบรับแบบไม่เกี่ยงงอน ก่อนจะผละกันมันต่อยลงบนอกผม
“ เอาแต่ได้ ร้ายนักนะ มึงนะ "
“ รู้อยู่แล้ว ทีหลังก็อย่ายอมสิ " ผมกอดมันไว้ ตอนที่ซบลงที่ไหล่ ปิงก็กอดผม
“ ยากจัง เหมือนจะทำไม่ได้เลย " แต่นั่นก็ดีแล้วล่ะ ใจผมมันบอกแบบนั้น
ครืน ครืน ครืน โทรศัพท์ขัดจังหวะดังขึ้น ตอนที่กำลังกอดกันแน่นอยู่แบบนั้น ผมถอนหายใจออกมาตอนที่พบว่ามันเป็นโทรศีพท์ของผมเอง น่าหงุดหงิดชะมัด
“ มีอะไร " กรอกเสียงไปตามสาย ตอนที่มองหน้าจอก็พบว่าคนที่โทรมาเป็นใครก็ยิ่งทำให้หงุดหงิด
“ ไม่ออกมาผับบ้างรึไงว่ะมึง กกเมียอยู่ได้ "
“ เรื่องของกู " บอกออกไปแบบนั้นอีกคนก็หัวเราะออกมา
“ ออกมาหน่อยเถอะน่า "
“ แล้วจะไปนะเท่ " ปิงพูดแทรกขึ้น อาจเพราะกอดกันอยู่แบบนี้เลยทำให้มันได้ยินเสียงของไอ้เท่ชัด
“ ครับ ปิง "
“ เงียบไปเลยสัด " กรอกเสียงลงไปตามสาย ผมกดวาง
“ ไปเถอะ ไปเที่ยวกัน อยู่คอนโดไม่มีอะไรทำ เบื่อ "
“ แต่กูมี มีเยอะ " ผมมองหน้ามัน ตอนที่ดึงมันเข้าไปกอดอีก ไม่เห็นว่าจะอยากไปไหน อยากจะอยู่แบบนี้ ไม่อยากให้ใครเห็นมัน แล้วก็ไม่อยากให้มันเห็นใคร
“ ที่มึงบอกว่า มีเยอะน่ะ หวังว่าคงไม่เกี่ยวกับกูหรอกนะ " หอมแก้มผมเบาๆ ปิงยิ้มตอนที่กอดผมไว้แน่น ใจผมบอก จะไม่เกี่ยวได้ไง เรื่องของกูนะ มีแต่เรื่องของมึงทั้งนั้น
“ หึ "
“ ไปเถอะ แต่ว่าก่อนจะไป พากูไปแวะคอนโดตัวเองก่อน "
“ ไปทำไม " กอดมันแน่นขึ้น น่าแปลกที่ใจกลับกลัวว่ามันจะไปแล้วไม่กลับมาอีก
“ ไปเอาเสื้อผ้า กูไม่มีเสื้อผ้าใส่แล้ว "
“ อื้ม " ผละออกจากอ้อมกอดของมัน ผมเดินเข้าไปแต่งตัวก่อนจะเดินออกมา " ไม่แต่งตัวรึไง "
“ ค่อยไปแต่งที่นู้น ที่นี่ไม่มีเสื้อผ้ากูแล้ว ป้าเค้าเอาไปซักให้หมดละ "
“ อื้ม " พยักหน้าเข้าใจ ผมคว้ากุญแจรถ กับกระเป๋ามาใส่กระเป๋า คอนโดของปิงอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของผม ผมจำได้ดีแม้มันจะไม่บอกทางเพราะครั้งนึงก็เคยมาส่งมันที่นี่
“ จำได้ด้วยว่าที่ไหน "
“ รีบๆลงไปเถอะน่า จะได้ไปผับอีก "
“ ลงมาช่วยขนหน่อยสิ "
“ ตลก " ผมมองหน้ามันตอนที่ยอมลงจากรถ แต่ก็ยืนพิงตัวรถไม่ขึ้นไป
“ มึงจะไม่คิดไปช่วยขนกูเลย "
“ ทำไมกูต้องทำแบบนั้น "
“ กูจะบอกให้ว่า คอนโดกู กูไม่เคยชวนใครขึ้นง่ายๆนะเว้ย ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทกัน นี่ กูชวนมึงคนแรกเลยนะ " ผมมองหน้ามันที่ยังยืนรอผมอยู่ " ไม่ไปก็ไม่ต้องไป แค่เสียโอกาสเป็นคนแรกที่ได้ขึ้น "
“ ไป "
“ ก็เท่านั้น ฟอร์มจริงๆ "
ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนของคอนโด ห้องของไอ้ปิงเป็นห้องเล็กๆห้องนอนเดียว ที่ไม่กว้างมากไปแต่ก็เหมาะสำหรับการอยู่คนเดียว ผมมองไปรอบๆตอนที่มันหายเข้าไปในห้องนอน ภาพน่ารักของมันใส่กรอบวางเต็มหน้าทีวีไปหมด ภาพครอบครัวที่ถ่ายกับไร่ชาก็มี
“ หายไปสักภาพคงไม่สงสัยหรอกมั้ง " ผมมองผมภาพที่มันกำลังยิ้มหวานให้กล้อง เป็นภาพที่น่ารักดีครับ หยิบออกมาจากกรอบก่อนจะซ่อนกรอบรูปของมันไว้ใต้ลิ้นชัก เอาภาพยัดใส่กระเป๋าเสื้อ
“ เสือ "
“ อะไร " หัวใจผมแทบหยุดตอนที่เสียงของมันเรียกผมไว้
“ มึงทำอะไร "
“ เปล่านี่ " ส่ายหน้าให้มัน ผมเดินเข้าไปหา " มีอะไร "
“ ช่วยหยิบกระเป๋าให้หน่อยสิ หยิบไม่ถึง " มันชี้ขึ้นไปด้านบนของตู้เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ยักษ์ตั้งอยู่บนนั้น
“ จะเอาใบนั้นไป " ผมถามแต่อีกคนก็ส่ายหน้า
“ ใบที่อยู่ในนั้น " ปิงว่าแบบนั้นก่อนจะเดินไปหยิบเก้าอี้จากห้องกินข้าวมาให้ " อ๊ะ หยิบให้หน่อย "
เก้าอี้เสริมความสูง ผมหยิบกระเป๋าเดินทางให้มัน ภายในกระเป๋าใบยักษ์ที่เปิดออกมา มีกระเป๋าอีกหลายใบซ่อนอยู่ในนั้น ผมมองเสื้อผ้าที่มันกำลังจะยัดลงใส่ในกระเป๋า ก็ไม่เยอะ แค่ครึ่งเตียงนอนที่มันจัดไว้
“ นี่คิดว่าจะไม่ซักเลยรึไง "
“ ก็แหม มันมีหลายแบบนะ ชุดกูนะ มีทั้งใส่นอน ใส่ไปเที่ยว ไปนู้นไปนี่เยอะแยะไปหมด มีชุดว่ายน้ำด้วยนะ " หยิบขึ้นมาให้ผมดูก่อนจะยักคิ้ว " ไว้จะใส่ไปว่ายน้ำกับพี่เสือ "
“ กูไม่ชอบว่ายน้ำ "
“ เดี่ยวมึงเห็นกูใส่ มึงก็อยากว่ายเองละ "
“ เลิกเอากูไปเปรียบเทียบกับคนพวกนั้นของมึงได้มั้ย กูไม่ได้อยากจะเอามึงอย่างเดียวสักหน่อย อีกอย่าง กูไม่ได้ง่ายเหมือนมึงนะที่จะยอมอะไรง่ายๆไปหมดน่ะ "
“ พูดงี้หมายความว่าไง " สายตาหาเรื่องของมันจ้องมาที่ผม มือที่กำลังจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋าหยุดชะงัก
“ ก็อย่างที่พูด "
“ เสือ เลิกพูดทำร้ายจิตใจกูสักทีเถอะ มึงคิดว่ากู ใจดีขนาดนั้นเลยเหรอที่จะให้มึงด่ายังไงก็ได้แล้วยังทนนะ " ปากที่เถียงออกมา มือของมันวางเสื้อผ้าลงบนเตียง แต่ผมก็หยิบมันกลับเข้าไปใส่ในกระเป๋าอีก " คนที่เค้าคบกัน เค้าต้องรักษาความรู้สึกของกันและกันไม่ใช่เหรอวะ แล้วมึงเป็นเหี้ยอะไรถึงชอบพูดจาให้กูรู้สึก เหี้ยๆแบบนี้ ไม่ต้องเอาเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้กูเลย ไม่ต้องทำดีเลย " น้ำตาขอบมันไหลออกมา
" แค่นี้ก็ต้องร้องไห้ด้วย คนอื่นด่ามึงแรงกว่านี้มึงไม่เห็นจะร้อง " ปิงจับหน้าผมให้จ้องหน้ามัน
" มองกูแล้วฟังนะ กูไม่ได้ยอมเพราะคิดว่ามึงจริงใจกับกู แต่ที่กูยอมเพราะกูจริงใจกับมึง แต่มึงอย่าลืมนะเสือ ความคิดของกู ก็เปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน กูไม่จมปรักกับความเสียใจไปตลอด ไม่โง่เพราะคิดว่ามึงคือคนที่จริงใจหรอก ถ้ามึงจริงใจแต่ปากยังเป็นแบบนี้ กูบอกไว้ก่อนว่า กูก็ไม่เอา "
“ ขอโทษ " ผมไม่ได้กลัวกับคำขู่นั้นของมัน แต่ปากกลับพูดออกไปแบบนั้นอย่างอัตโนมัติ มือที่ยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้ปิงสะบัดหน้าหนี " นิ่งๆสิ "
“ ยุ่ง " มันพูด
“ ยังติดอยู่ตรงนี้อีกนิด " ตรงหางตาของมัน ผมมองหน้ามันที่ทำท่าไม่สนใจอะไรในตัวผม ยกมือมันขึ้นวางที่หน้า " จะตบมั้ย "
“ ตบ "
“ ถ้าตบแล้วจะหายโกรธมั้ย " ทุกอย่างตรงนั้นเงียบ มือนุ่มๆที่วางอยู่บนหน้าของผมมันอุ่นจนรู้สึกว่า ทำให้ผมเจ็บยังดีกว่าจะปล่อยให้จากไป ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วแต่ปากก็ไม่เคยพูดจาดีๆให้มันฟังเลยสักครั้ง " ถ้าหายโกรธก็ตบเลย "
“ พูดดีๆกับกูบ้างสิ "
“ ยังไง " ผมถามตอนที่เอาเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้มัน ปิงก็ทำท่านึก
“ พูดดีๆกับกู ทำตัวดีๆกับกูหน่อยสิ กูชอบมึงนะเสือ อย่าทำร้ายกูนักเลย " ปิงดึงตัวเองเข้ามากอดผม " มึงเป็นเด็กอนุบาลรึไง ถึงชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบนะ "
“ ก็คงจะเป็นแบบนั้น " ผมคิดแบบนั้นจริงๆ ก็คงจะเป็นแบบนั้น ถ้าการแกล้งคนที่ชอบเป็นวิถีทางของเด็กอนุบาลผมก็คงจะเป็นแบบนั้น
“ ก็ไม่ถึงกับว่าต้องพูดครับหรอก แต่ถ้าพูดก็ดี " มันเว้นเสียงไปสักพักก่อนจะยิ้มให้ผม " พูดจาดีๆ พูดคำหวานๆ พูดอะไรก็รักษาน้ำใจกูบ้างก็เท่านั้นเอง ไม่ได้ขอเยอะเลย ทีกูยังทำตัวน่ารักๆให้มึงเห็นเลย "
“ อันนั้นมันสันดานมึงที่ชอบยั่วยวนผู้ชายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไงวะ "
“ เสือ "
“ ถ้าทำได้ จะขนไปหมดนี่ใช่มั้ย " มองดูเสื้อผ้าของมัน ไอ้ปิงพยักหน้า
“ จะลองดูมั้ย "
“ อื้ม " ก็เพราะว่ามันคงเพียง หนทางเดียวที่รักษาปิงให้อยู่กับผมให้นานที่สุด ทั้งๆที่จริง ผมเองไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครสักนิด แต่เพราะเป็นมัน มันคนเดียวที่ผมจะ ลอง ทำให้
“ เอาแค่สองวันพอ " ปิงว่าแบบนั้นตอนที่ถอนหายใจออกมา " อย่างมึงนะถ้าทำได้ก็เก่งแล้ว "
“ ถ้ากูทำได้ "
“ กูจะย้ายไปอยู่กับมึงถาวรเลย " นิ้วก้อยยื่นมาตรงหน้า " สัญญากัน "
“ ปัญญาอ่อน "
“ ไอ้เสือ "
“ ก็ยังไม่ได้สัญญานี่ " ว่าแบบนั้น นิ้วก้อยของผมที่ยื่นออกไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของมัน
“ สัญญาแล้วนะ "
“ อื้ม " จะพยายาม ผมบอกตัวเองแบบนั้น ตอนที่มองมันยิ้มจากมุมนี้ ผมเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จูบมันเบาๆที่ข้างแก้ม ปิงหันมองหน้าผมก่อนจะส่งสายตาล้อเลียนมาให้
“ รีบๆ เก็บกระเป๋าเถอะน่า ชักช้ามัวอ่อยกูอยู่ได้ " ผมว่าออกไปแบบนั้น ตอนที่นึกขึ้นมาได้ " หมายถึง ก็ดีกว่าไปอ่อยคนอื่น ต้อง อ่อยกูเท่านั้น "
“ อย่างงั้นสินะ " รูปซิบกระเป๋าปิงยืนขึ้นข้างๆผม ถอนหายใจออกมา ผมไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้หรอก แค่คิดว่าจะพยายามก็เหมือนว่ามันจะยากเอามากๆ แล้วแบบนี้มันจะรอดรึเปล่าว่ะกู
...................................................
คิดว่าไม่พ้นตอนหน้าพี่เสือก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอยู่ดี
จะฝึกให้พี่เสือพูดเพราะๆ ฝึกหมาให้ไหว้เหมือนยังจะง่ายกว่า นะ น้องปิง

ตอนนี้เรื่อยไป ใสๆ น่ารัก ยิ้มๆ
ฝากแท็ก #เสือปิง ด้วยนะคะ สำหรับใครที่มีทวิตและเฟส
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
