ตอนที่ 9“ วันนี้หนุ่มคนนั้นที่มาซื้อน้ำหอมกับปิงนะ ก็แฟนมันอีกแล้วนะ " เสียงที่ผมได้ยินเป็นเสียงกระซิบกระซาบของพี่ๆผู้หญิงที่ร่วมทำงานด้วยกัน
“ แฟนเยอะชะมัดเลย อิจฉานะเนี้ย เป็นผู้ชายแท้ๆแต่ดันมาคนมาจีบเยอะกว่าพวกเราที่เป็นผู้หญิงอีก "
“ แบบนั้นจะมีผู้หญิงไปทำไมกันนะ " ในห้องสต๊อกเล็กๆ คนสามคนที่กำลังนินทาผมอยู่ไม่ได้รู้ว่าผมยืนอยู่ข้างนอก ยกยิ้มกับคำพูดพวกนั้นของเธอ ผมไม่ได้สนใจคำนินทาอะไรแบบนั้นหรอกครับ เพราะการที่คนคนนั้นไม่มี เค้าก็ต้องอิจฉามันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
“ แต่คนที่ให้น้ำหอมมันวันนี้นะ โคตรหล่อเลย ว่ามั้ย "
“ คนไหน "
“ ก็คนที่หล่อที่สุด ที่วันนั้น ชมพู่เดินไปบริการแล้วเค้าออกจากร้านไปเลยไง "
“ สงสัยจะแฟน " หัวใจของผมกระตุกขึ้นมา ตอนที่ได้ยินพวกเธอพูดถึงมัน ยังจำสีหน้าจริงจังของมันที่แดงนิดๆตอนที่ยื่นขวดน้ำหอมให้ผม คำพูดเอาแต่ใจที่บอกว่า ' อย่าให้ต้องพูดซ้ำ ' เอาตรงๆว่า น่าหมั่นใส้สุดๆ
“ ขี้เก็ก " ยกข้อมือขึ้นมามองนาฬิกา อีกแค่ห้านาทีก็ใกล้เวลาที่ต้องกลับบ้านแล้ว แต่วันนี้ดูท่าว่าจะไม่ได้กลับ
“ ยืนยิ้มอะไรคนเดียวเหรอปิง "
“ พี่ชมพู่ ยังไม่เตรียมตัวกลับบ้านอีกเหรอครับ "
“ เรียบร้อย เราก็เรียบร้อยแล้วสินะ " มองผมที่สะพายกระเป๋าเรียบร้อยเธอพยักหน้าให้ " อย่าไปสนใจคนนินทานะ พวกนั้นนะ ขี้อิจฉา " เธอว่าแบบนั้นก่อนจะเคาะประตูห้องสต๊อกด้านหลัง " อย่านินทาน้อง แล้วก็รีบออกมาได้แล้ว ไม่กลับบ้านกันรึไง "
“ จริงๆ ผมไม่ได้สนใจหรอกครับ ไม่ต้องขนาดก็ได้ " ผมส่ายหน้าให้เธอที่ยิ้มขึ้น
“ ไม่ได้หรอก ทำงานร่วมกันถ้ามาว่ากันให้ได้ยินลับหลังแบบนี้มันน่าเกลียด ถ้าอยากนินทาจริงๆก็ไปนินทาที่อื่น " พี่ชมพู่เป็นผู้จัดการร้านเธอเป็นสาวอายุเกือบสามสิบแต่ก็ยังสวย
“ ไม่ได้นินทาเลยนะ " พี่สาวสามคนจากด้านในที่เดินออกมา พวกเธอมองผมยิ้มๆ ก่อนที่พวกเราทุกคนจะเดินออกจากร้าน ผมเป็นคนล็อคร้านทั้งหมด เช็คทุกอย่างเรียบร้อยทุกคนก็แยกย้าย
“ กลับบ้านดีๆนะครับ แล้วเจอกัน " ผมว่าแบบนั้น ทุกคนก็แค่หันมาโบกมือลา จบหนึ่งวันในการทำงานไปแล้วแต่เหมือนว่าอะไรบางอย่างกำลังถูกเริ่มต้นใหม่ ผมกระชับกระเป๋าสะพายแบบนักเรียนญี่ปุ่นของตัวเองเดินตรงไปที่ลานจอดรถ ลานจอดรถชั้นล่าง มีรถจอดอยู่ไม่ถึงสิบคัน และแน่นอนว่ารถของมันก็เป็นคันที่เด่นที่สุดที่จอดอยู่ตรงนั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เคาะกระจกรถมันสามครั้ง วินาทีต่อมาประตูฝั่งคนนั่งข้างของมันถูกปลดล็อคออก ผมเปิดประตูก่อนจะโผล่หน้าเข้าไปบอก
“ มีอะไร "
“ เข้ามา "
“ เข้าไม่ได้ กูเอารถมา "
“ จอดทิ้งไว้ " พูดแบบนั้นมันก็หันมามอง สายตาที่บอกว่าให้ผมทำแบบนั้นจริงๆ
“ ตลก รถกูรถยนต์นะมึงไม่ใช่จักรยาน แต่ถึงจะเป็นจักรยานกูก็หวงเว้ย เพราะมันเป็นของของกู "
“ ขึ้นมา อันตราย" ดึงมือให้เข้าไปนั่งในรถ
“ เชี้ย " พอสถบแบบนั้นมันก็หันไปตรงหน้ารถ ยามตรวจอาคารกำลังเดินไปเดินมา ผมขมวดคิ้ว " อันตราย อะไรของมึง "
“ อันตราย " ย้ำบอกแบบนั้นก่อนจะดึงผมเข้าไปจูบ ตาของผมเปิดกว้างตอนที่ปากของเราแนบสนิทกัน มือของมันที่กอดเอวของผมไว้ สมองของผมเบลอไปชั่วขณะตอนที่มันดันตัวออก ตอนนั้นก็ทำได้แค่นั่งนิ่งๆ " ค่ารอ "
“ อะไรของมึงว่ะ " เอียงตัวมาพิงกับเบาะรถ ผมหันไปอีกทางเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก ก็เคยแต่จู่โจมคนอื่นด้วยคำพูดที่มั่นใจว่าต้องหว่านเสน่ห์ได้แบบชนะใสๆแน่ๆ แต่ไม่เคยคิดว่าวันนึงกูจะมาโดนไอ้คนที่ปากบอกว่าเกลียดจู่โจมด้วยการกระทำแบบนั้น แถมยังมีคำพูด ข้ออ้าง กากๆที่ชวนใจเต้นนั่นอีก
“ รถอยู่ไหน "
“ ตรงนู้น " ชี้ไปแบบส่งๆมันก็ขับรถออกจากที่ที่ตัวเองจอด ไปที่รถของผม
“ เขินยังกับไม่เคย มึงบ่อยจะตายไม่ใช่เหรอ แค่จูบเนี้ย .. ลงไปได้ละ " ระหว่างที่นั่งเงียบๆในรถมันก็พูดคำนี้ขึ้นมาอีก บางทีไอ้เชี้ยนี่ก็ดีหมดทุกอย่าง ยกเว้นปากจริงๆ ผมหันไปมองมันตาขวางผมเกลียดที่สุดก็คำพูดดูถูกของมันนี่เหละ
“ เสือ " ผมเรียกมันแค่นั้นก่อนจะดึงคอเสื้อของมันให้ตรงลงมาหา " ถ้ามึงยังพูดดูถูกกูอีกละก็ อย่าหาว่ากูไม่เตือน "
“ แล้วมึงจะทำอะไร "
“ ไม่ทำอะไรหรอก แต่บอกไว้เลยว่า ต่อให้ซื้อของที่กูชอบให้กูล้านชิ้น กูจะก็ไม่กลับมาหามึงอีก "
“ แล้วคิดว่ากูสนรึไง " ผมปล่อยมือออกจากเสื้อมันช้าๆ ผมถามตัวเอง ' เออ แล้วทำไมมันต้องสนด้วยว่ะ เอาตัวเองไปเป็นข้ออ้างข้อตกลงทั้งๆที่ไม่ได้ดูตัวเองเลยว่าใช้เป็นข้ออ้างไม่ได้ ตัวเราไม่ได้มีค่าสำหรับเค้าขนาดนั้น ' “ แต่ ก็ สน.. นิดนึง " พูดแบบนั้นก็เหมือนปากของมันจะเข้ามาจูบผมอีกครั้ง กลืนน้ำลายลงคอตอนที่ตัวของมันกอดผมไว้แน่น
บางทีก็ไม่เข้าใจเลยว่า ความรู้สึกที่แท้จริงของมันคืออะไรกันแน่ ตกว่า จะเกลียด หรือ จะรัก
“ กูไม่เข้าใจมึงเลยว่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ มึงบอกว่าเกลียด คนเกลียดกัน เค้าทำกันแบบนี้เหรอว่ะ " คำถามที่ผมแค่อยากรู้ ตอนที่มันผละปากออกจากผม ตอนที่เราจ้องกัน ผมถามคำถามที่ทำให้มันต้องกลับไปพิงเบาะที่นั่งของตัวเองก่อนจะตอบมันออกมา
“ กูเอง ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน "
“ เหรอ "
“ กูเกลียดมึง ถึงตอนนี้ก็ยังเกลียดอยู่ กูรังเกียจมึง แม้กระทั้งตอนนี้ก็ยังรังเกียจอยู่ "
“ แล้วมึง " อยากจะถามว่าถ้าเกลียดกูมากขนาดนั้นแล้วมึงจะเข้ามาจูบ มาใกล้กูทำไม เกลียดกูออกไปไกลๆสิว่ะ
“ แต่ทั้งๆที่เกลียด กูก็มาหา กูอยากเห็นหน้า เห็นหน้าคนที่เกลียดแบบมึง ทั้งๆที่รังเกียจร่างกายของมึงขนาดนั้น แต่ก็อยากจะทำแบบนั้นกับมึงตลอด กูเกลียดทุกคนที่เข้ามาใกล้มึง เกลียดทุกคนยกเว้นตัวเอง "
“ นี่กูกำลังโดนสารภาพรักอยู่เหรอว่ะ "
“ ไม่เห็นมีคำว่า รัก สักคำ " มันเถียงมองหน้ามันจากมุมนี้ เสือคงเป็นคนที่ควบคุมกัวใจไม่เก่งแน่ๆ .. และเช่นกัน ผมเองก็ด้วย ทั้งๆที่ตอนนี้น่าจะบอกตัวเองได้แล้วว่า ชนะใจไอ้เสือได้แล้ว แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนแพ้แบบน็อคไปแล้ว ก็ทั้งๆที่อีกคนบอกว่าเกลียดแท้ๆแต่ใจก็ยังเต้นแรงอยู่เลย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะกระจกทำเอาผมกับไอ้เสือหันไปสนใจคนด้านนอก ผมลดกระจกลง เป็นลุงยามที่ก้มหน้าลงมาหา " ห้างปิดแล้วนะครับ "
“ ครับ " มันว่าแค่นั้นก่อนจะปิดกระจก
“ กูไปนะ " ไม่ตอบอะไร ผมก็เดินลงไปจากรถของผม ขึ้นรถตัวเองเข้าไปนั่งผมสตาร์ทรถก่อนจะตบไฟสูงใส่คนที่จอดรถขวางทางผมอยู่ แต่แทนที่มันจะเดินรถไปข้างหน้าเพื่อออกไป มันกลับถอยหลังแล้วตบไฟสูงบอกว่าให้ผมไปก่อน
' ไปสิ ' ข้อความถูกส่งเข้ามา เป็นเบอร์แปลกที่ผมไม่ได้เซฟเอาไว้ มองรถคันข้างหน้าผมตอบกลับ
' มึงก็ไปก่อนสิ บ้านก็อยู่คนละทางกัน '
' มึงไปก่อน แล้วอย่าขับเร็ว ' กำลังจะพิมกลับว่า แล้วจะทำไม แต่ข้อความอีกข้อความก็ส่งกลับมาให้ก่อน ' ตำรวจเยอะ '
' แค่นั้นเอง '
' อันตราย '
' กูขับเก่งน่า เชื่อมือ '
' อย่าขับเร็ว '
' กูขับคล่องแล้วกัน มึงกลับบ้านไปเถอะ ' เงียบกันอยู่สักพักหลังจากที่ผมส่งข้อความนี้ไป แต่พอเงยหน้าขึ้นมาจากจอ ผมพบว่าใครบางคนกำลังมองผมที่กำลังยิ้มอยู่ มันก้มหน้าลงพิมมือถือของตัวเองอีกครั้ง
' เป็นห่วง ' ส่งมาแค่นั้น ตอนที่ผมจ้องหน้ามันไอ้เสือหันไปทางอื่น ก่อนจะพิมข้อความกลับมาให้อีกครั้ง ' กลัวไปชนคนอื่นตายเสียดายชีวิตคนอื่นเค้า '
' มึงขับไปก่อนเลยไป ' ส่งไปแค่นั้น ผมวางมือถือไว้ข้างๆตัว ตบไฟสูงใส่ แต่ข้อความก็ส่งมาให้อีกครั้ง
' จะขับตามหลังไปส่ง ขับไปได้แล้ว ' เจตนาที่มันต้องการเผยออกมาแล้ว ตอนนี้ให้เดาต้องมีคนหัวเสียหงุดหงิดอยู่ในรถแน่ๆ ' เผื่อมึงโดนตำรวจจับ '
' ขี้เก็ก ' ตอบกลับข้อความไปแบบนั้น ผมเห็นมันยิ้ม ก่อนที่ตัวผมจะขับรถออกมา
ขับรถมาถึงคอนโดโดยที่มีรถอีกคันตามหลังมาติดๆ ผมจอดตรงที่จอดรถประจำของผม ตอนที่เดินลงจากรถไอ้คนที่คิดว่าจะกลับไปก็เดินลงจากรถ
“ ไปด้วยกันหน่อย "
“ ไปไหน "
“ หิว " บอกแบบนั้นมือที่จับแขนก็เปลี่ยนไปจับมือแทน
“ อยากกินอะไร "
“ อะไรก็ได้ที่เปิดตอนนี้แล้วดูน่าอร่อย " จริงๆแล้วถ้าเวลานี้ต้องทองหล่อ 38 เพราะมันมีอาหารเยอะมากแล้วก็มีแต่ของกินอร่อยๆทั้งนั้น
“ ไปซอย 38 กันมั้ยละ "
“ เอาสิ " พยักหน้าแค่นั้นมันก็เดินขึ้นรถของตัวเองไป ผมเดินไปนั่งที่คนนั่งข้างๆ ไม่ต้องบอกทางหรอกครับ เพราะที่มันขับรถออกไปแบบนั้น ก็แสดงว่ามันต้องเคยมาแน่ๆ
“ เคยมาแล้วใช่มั้ย "
“ เคย " พูดแบบนั้นแต่ตาก็จ้องไปข้างหน้า " เคยไปผับแถวนั้น "
“ อ้อ กูก็เคยไป "
“ อย่างมึงก็คงไปแล้วทุกที่เหละ ไม่งั้นจะหาเหยื่อได้รึไง "
“ ทำไมต้องหาเหยื่อวะ กูมานั่งกินกับเพื่อนไม่ได้เหรอ " ผมตัดสินใจถามมันที่ก็เงียบไป " กูไม่หาหรอกเหยื่อนะ เพราะที่มึงรู้มันก็มาหากูเองทั้งนั้น แล้วพอกูไม่เล่นด้วยก็หาว่ากูนะแรด มึงว่าตกลงว่าใครผิดกันแน่ มึงเองก็เหมือนกันนิสัยไม่ดีชอบว่ากู ทั้งๆที่มึงแม่งไม่รู้จักอะไรในตัวกูเลย มึงดูจากหน้ากูแล้วตัดสินใจ "
“ ขี้บ่น " ไอ้เสือบอกแค่นั้นหลังจากที่ผมพูดจบ
“ กูไม่ได้ขี้บ่น "
“ กูพูดนิดเดียวมึงพูดเป็ต่อยหอยเลยนะ พูดมาก "
“ ก็มึงชอบด่ากู "
“ กูไม่ได้ด่า "
“ งั้นที่พูดเมื้อกี้คือพูดปกติของมึงงั้นสิ " มองหน้ามันที่ยังคงทำหน้านิ่งใส่ ผมมองตรงไปข้างหน้า " ขับรถเข้าไปจอดข้างในเลย "
“ ทำไมต้องจอดข้างใน ขี้เกียจเดิน "
“ มันจอดข้างหน้าไม่ได้เว้ย " บอกแบบนั้นมันก็ยอมขับรถไปจอดตรงที่ว่างที่เวลาใครมาที่ที่ก็ต้องมาจอด มันเป็นทางที่ค่อนข้างมืดแต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร ถ้ามีคนมาด้วย
“ ไกล " พูดแบบนั้นตอนที่เดินออกมาจากรถ ผมไปยืนอยู่ข้างๆมัน
“ ก็นิดเดียวเอง เดินไปแปปเดียวก็ถึง ไม่ถึงห้านาทีเลย "
“ ขี้เกียจ " คำพูดที่มาพร้อมกับมือของมันที่กอดคอของผมไว้ ดึงให้เข้ามาใกล้ " ขอพิงหน่อย "
“ อยากจะกอดก็บอก " พูดแบบนั้นคนที่บอกว่าจะขอก็เลื่อนมือจากคอลงไปที่เอว แล้วก็ดึงให้ชิดตัวของมัน
“ แบบนี้ ที่เค้าเรียกว่า กอด "
“ อ๋อเหรอ " ผมมองหน้ามันก่อนจะพยักหน้า " แต่แบบมึงนะ กูเรียกว่าแถ "
“ บะหมี่ร้านนั้นน่ากิน " พูดแบบนั้นแต่มือก็ยังกอดเอวผมไม่ปล่อย ทำเป็นไม่ใส่ใจก่อนจะออกเดินตรงไปข้างหน้า
“ ชิส์ แถ "
“ อยากจะกินอะไร "
“ อื้มมมม " ผมครางเสียงยาวตอนที่มันตั้งคำถาม " อยากเข้าไปนั่งกินในร้านนี้ " มันเป็นร้านอาหารสไตส์วินเทจเก่าๆสวยมากครับบอกมันแบบนั้นไอ้เสือก็ขมวดคิ้ว " แต่ว่าของข้างนอกถูกกว่า แล้วก็น่ากินกว่า แต่ร้านนี้ก็อร่อยนะ "
“ เรื่องมาก "
“ เรื่องมากอะไร มึงอะอยากกินอะไร " พอผมถามคราวนี้ไอ้เสือก็มองไปรอบๆ เข้าใจว่าเลือกยากเพราะมันก็น่ากินหมดทุกร้าน
“ ไม่รู้สิ "
“ งั้นกูเลือกนะ " ผมบอกแบบนั้นก่อนจะออกเดิน เลือกร้านก๋วยจั๊บครับ รู้สึกว่ามันง่ายดีอีกอย่างดึกแล้วน่าจะกินอะไรร้อนๆน่าจะดีกว่า " สั่งเลยนะ "
“ อื้ม เอาเหมือนกัน " ผมสั่งก๋วยจั๊บแบบพิเศษมาสองแล้วก็ข้าวเปล่าอีกสอง นั่งลงตรงกันข้ามผมก็มองไปรอบๆ
“ ไอติมกระทิร้านนั้นก็อร่อย ข้าวเหนียวมะม่วงก็อร่อย "
“ มึงท้องลูกแฝดเหรอ "
“ เชี้ย แค่บอกว่า อร่อยเว้ย ไม่ได้บอกว่าจะแดกซะหน่อย "
“ เหรอ อย่าให้รู้แดกแล้วกัน " พูดแบบเก็กๆตอนที่อาหารวางลงตรงหน้า มันน่ากินมากครับก็เลยยกมือถือขึ้นถ่ายภาพก่อนกินซะหน่อย ซดน้ำเข้าไปคำแรก อร่อยมากครับร้อนลงไปถึงกระเพาะเลย
“ อร่อยมั้ย "
“ ก็ดี " เหมือนจะบอกว่า เฉยๆ แต่เฉยๆของมันก็กินแบบไม่คุยกับใครเลย ไม่รู้ไปอดอยากมาจากไหน
“ เออ พรุ่งนี้มึงมีเรียนรึเปล่า "
“ มี "
“ กูไม่มี งานก็ไม่ต้องไปทำด้วย เพราะเป็นวันหยุด "
“ คิดยังไงถึงไปทำงาน ไม่มีตังค์เหรอ " เงยขึ้นมามองหน้าผม คงเป็นคำถามที่ไม่ได้คิดอย่างดีหรอก ห่ามก็เท่านั้น
“ คนไม่มีตังค์เท่านั้นเหรอ ที่ต้องทำงานนะ "
“ ก็เปล่า " มันที่เงียบไปผมที่ก้มลงกินอีกครั้ง แต่มันก็พูดขึ้นมาอีก " หรือว่า .. “
“ ไม่ได้ไปหาเหยื่ออย่างที่มึงคิดหรอก "
“ แต่เห็นคนเยอะดีนี่ คนที่มาคอยตามมึงนะ "
“ ไม่ได้ขอร้องให้มา แล้วอีกอย่างกูก็โสด จะมีคนจีบมันก็ไม่แปลกนิ " พอพูดแบบนี้ระหว่างเราก็เงียบ มันที่จ้องหน้าผมอยู่เหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ " จะพูดอะไร "
“ อิ่มละ "
“ คิดตังค์เลยครับ " หันไปบอกคนขายให้เก็บเงิน
“ เอาไป " ยื่นกระเป๋าตังค์ทั้งใบมาให้
“ ทำไม "
“ เอาไปจ่าย " บอกแบบนั้นผมก็เอาของมันมาเปิดดูเงินเยอะเป็นฟ่อนเลยเว้ย มีแต่แบงค์ใหญ่ๆทั้งนั้น
“ เลี้ยงกูด้วยนะ "
“ อื้ม " จ่ายค่าอาหารไปไม่ถึงร้อยผมยื่นกระเป๋าเงินให้มันตอนที่เก็บเงินเข้าที่ให้มันเรียบร้อย
“ เอาคืนไป "
“ ถือเอาไว้ก่อน " หันมองหน้ามันที่ตอนนี้ก็มองหน้าผม " อย่างมึงคงไม่กินอย่างเดียวแน่ "
“ จะเลี้ยงอีกเหรอ "
“ แล้วจะแดกมั้ยละ "
“ แดกสิ " พูดกับมันแบบนั้น ผมลุกขึ้นเดินตรงไปข้างหน้า แม้ว่าจะดึกแต่ผู้คนที่สัญจรไปมาหรือแวะเข้ามากินอาหารก็ไม่มีทีท่าว่าจะพร่องลงไปเลย ไอศกรีมกระทิร้านโปรด ผมยิ้มให้แม่ค้า " มึงกินมั้ย "
“ ไม่อะ "
“ เอาไอติมกระทิใส่ฟักทองเชื่อมแล้วก็ใส่ไข่ด้วยครับ "
“ หนึ่งที่นะ " พยักหน้าให้แม่ค้าเธอก็จัดการตักไอติมให้ผม
“ ไม่กินจริงๆอะ อร่อยนะ "
“ ไม่ "
“ นี่จ้ะ ได้แล้ว " เอาตังค์ไอ้เสือยื่นไปให้ ผมรับไอติมมากครับแรกที่ตักเข้าปากคืออร่อยโคตรกินเข้าไปสามคำติด ก่อนตักอีกคำเอาไปจ่อปากมัน
“ กินดูอร่อย " พอทีแบบนี้ก็อ้าปากกินแบบว่าง่าย ไอ้เสือเคี้ยวไม่นานผมก็ถาม " อร่อยมั้ย "
“ ก็ดี "
“ กินอีกคำมั้ย "
“ ก็อื้ม " ทำหน้าตานิ่งๆรู้เหละว่าอร่อย มันมองที่ถ้วยไอติมของผม " เอาอีก "
“ เดี๋ยวกูสั่งให้ "
“ ไม่ต้อง กูจะกินถ้วยนี้ " มองมาที่ถ้วยของผมป้อนมันอีกคำไอ้เสือหันไปทางอื่นตอนมันกินแล้วตอนที่จะกินอีกก็หันกลับมามองถ้วยนั่นอีกครั้ง ทำตัวเหมือนเด็กเล็กๆเวลาแม่ป้อนข้าวเลย
“ เลอะ " เอามือเช็ดขอบปากที่ติดไอศกรีมออกให้มัน ผมเช็ดเข้ากับเสื้อตัวที่เสือใส่อยู่ มันมองมาที่ถ้วยไอติมผมอีกครั้ง " นี่มึงจะแดกของกูให้หมดเลยใช่มั้ย "
“ ก็ยังไม่หมดนิ " มองลงในถ้วยผมตักขึ้นกินคำนึง แล้วก็ป้อนมันอีกคำ
“ อยากกินข้าวเหนียวมะม่วง " ผมชี้ไปอีกร้านก่อนจะเดินออกไปไอ้เสือก็เดินตาม ผมสั่งข้าวเหนียวมะม่วงถุงใหญ่ก่อนจะหันมาป้อนไอติมมันคำสุดท้าย " คำสุดท้ายละ เอา "
“ นี่ยังจะกินอะไรอีกมั้ย " มันถามตอนที่มองไปรอบๆ ผมก็ยังมีหลายอย่างที่อยากจะกินอยู่นะแต่ว่ากลัวน้ำหนักจะขึ้น ส่ายหน้าปฎิเสธมัน แต่หน้าตาเสียดายของผมทำเอามันขมวดคิ้ว " ทำไมไม่กินแล้ว "
“ กลัวอ้วน " เหมือนทุกอย่างถูกสตั้นไป มันมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“ กลัวอ้วน " คือเข้าใจนะว่าภายนอกผมดูผอมแห้ง แต่ว่าจริงๆก็แอบมีพุงนิดนึง " ผอมยังกับผีตายซากยังจะมากลัวอ้วนอีก "
“ ก็กูมีพุงนิดนึง "
“ อ้วนกว่านี้เถอะ จะได้น่ากอด " พูดแบบนั้น พอผมหันไปจ้องมันก็หลบตา
“ งั้นหมายความว่าตอนนี้ไม่น่ากอด "
“ ก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น " พูดออกมาแบบนั้นมันก็รับข้าวเหนียวมะม่วงมาถือให้แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุย " จ่ายตังค์ไปสิ "
“ นี่ แล้วมึงจะไม่ซื้ออะไรกลับบ้านเลยเหรอ เอาไว้กินตอนเช้า "
“ ไม่ละ " บอกแบบนั้น
“ งั้นก็ ต้องกลับแล้วสินะ "
“ ก็อื้ม " ตอบตกลงแบบนั้นเราก็เดินกันกลับไปที่รถ ระหว่างทางที่รู้สึกว่าขามันย่างช้าลง ผมเอื้อมไปจับมือมันไม่รู้ทำไม แต่รู้สึกแค่ว่าไม่อยากให้ช่วงเวลานี้สิ้นสุดลงเลย ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษทั้งนั้น " นี่ "
“ หื้ม "
“ มึงนะ กินไอติมอีกสักถ้วยสิ " หันมาบอกผมแบบนั้น ผมที่ขมวดคิ้วมันก็พูดต่อออกมา " กูยังไม่อยากกลับ "
“ เอางั้นก็ได้ " บอกมันแบบนั้น ผมเดินตรงไปซื้อไอศกรีม เป็นไอศกรีมถ้วยเดียวแต่แบบพิเศษก็แบบเผื่อแบ่งกันกิน
“ อันนี้ให้พิเศษของพิเศษเลย เผื่อโดนแย่งกันกินอีก " ช้อนที่ใส่มาให้สองคัน ไอ้เสือเดินเข้ามาใกล้ผมมันเอาช้อนอันนึงคืนป้าคนขาย
“ ขออันเดียวครับ จะกินด้วยกัน "
“ จ้ะ " ผมรับไอศกรีมตอนที่เดินออกมามือที่กำลังจะยกขึ้นกินไอศกรีมถ้วยนั้นก็โดนมันคว้าเอาไปจับก่อน
“ คนมีมารยาทเค้าไม่เดินไปกินไปหรอก "
“ แล้วคนมีมารยาทเค้าเดินจับมือคนอื่นแบบไม่ขอรึไงวะ "
“ แล้วทำไมต้องขอ ไม่เคยจะขออยู่แล้วนิ "
" นิสัยเสีย "
" มองอยู่ได้ "
" หื้ม ? " ยังไม่ทันจะหายสังสัยอะไร ตัวผมก็ถูกดึงเข้ามามันในช่วงวินาทีที่ยังไม่ทันจะตั้งตัวอะไร เสือเชยคางผมขึ้นก่อนจะก้มลงมาจูบผม สองตาที่เบิกกว้างผมหลับตาลงในวินาทีต่อมาที่เหมือนปากนั้นจะดันให้ตัวผมแนบชิดกับมันยิ่งขึ้น " มองอะไร " ถอนริมฝีปากออกจากกันตอนที่มองไปยังด้านหลังของผม เหลียวมองวัยรุ่นที่เหมือนอยู่ในช่วงมหาลัยหน้าร้านเหล้าที่มองมา พวกมันส่ายหัวกันดุ๊กดิ๊กแต่ก็มีคนนึงยิ้มให้ผม
“ อะไรว่ะ "
“ ไม่ชอบให้ใครมามอง " พูดแบบนั้นมือมันก็ดึงผมออกห่างจากทางที่มีแต่ผู้คน
“ มองใครวะ "
“ มองกู " มั่นหน้าเหลือเกินผมเผลอยิ้มที่มันตอบแบบนั้น ท่าทางหงุดหงิดของมันผมหันกลับไปข้างหลัง เด็กพวกนั้นมองกูตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ ยังไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย
“ มองมึงแล้วมึงมาจูบกูทำไม "
“ ถามมาก "
“ ไม่ได้ถามมาก แต่กูเป็นผู้เสียหายนะเว้ย "
“ ผู้เสียหาย " มันทวนคำพูดของผม ตอนที่เราเดินมาถึงรถ มันนั่งลงตรงหัวรถมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า " มึงนี่ยังเสียหายได้อยู่อีกเหรอ "
“ แล้วทำไมถึงยังเสียหายไม่ได้ ชีวิตของคน ตราบใดที่ยังมีชีวิตมันก็มีค่าทั้งนั้นละ " ไอศกรีมที่ผมถือมันเริ่มละลาย มันคงเหมือนช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน แรกๆมันก็อร่อยนั่นละ แต่ถ้าไม่รีบกินหรือทำอะไรกับมันสักอย่าง ไม่ช้าก็ต้องละลาย แล้วพอละลายมันก็กินไม่อร่อยอีก
หลายครั้งที่เรารู้สึกอร่อยกับอาหาร คิดไว้ว่าถ้ากินอีกจานความอร่อยต้องเหมือนครั้งแรกที่กินอีกแน่ แต่ก็ลืมไปว่า ตอนที่เราหิว กับตอนที่เราอิ่มความรู้สึกมันไม่เหมือนกัน ความรักก็แบบนี้ มันต้องมีจุดอิ่มของมัน ทั้งๆที่ตอนแรกก็น่าอร่อยจนอยากจะกินอีกแท้ๆ
ทุกอย่างรอบข้างของเราเริ่มเงียบลง ผมที่ยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ได้จ้องตามันทั้งๆที่มันเองกำลังมองผม คนเราก็แปลกยิ่งชอบมากเท่าไหร่คำพูดที่ดูไม่น่าเจ็บปวดอะไร ก็ดูเจ็บปวดไปหมด ความรักทำให้คนเข้มแข็งอ่อนไหวเสมอ เสือยื่นมือมาจับมือผมมันจับมือผมไว้แน่น
“ ขอกินไอติมหน่อย "
“ ตักกินสิ " บอกแบบนั้นตอนที่ยื่นไปให้มัน แต่นอกจากนั่งนิ่งๆแล้ว ก็คงมีแค่ปากเท่านั้นที่อ้าออกมา
ความรักนอกจากจะทำให้อ่อนแอแล้ว มันยังทำให้อ่อนไหวได้อย่างน่าเหลือเชื่อ วินาทีก่อนหน้าก็เพิ่งโกรธ แต่วินาทีต่อมาก็ทำให้ดีใจซะแล้ว ผมกัดฟันตัวเองแน่นตอนที่มันอ้าปากอยู่แบบนั้นเผลอยิ้มออกมาก่อนจะป้อนไอศกรีมให้กิน
“ เสือ "
“ หื้ม ? “
“ ทำไมถึงเกลียดคนแบบกูนัก ทั้งๆที่ มึงก็ไม่ได้รู้จักคนแบบกูเลย " ผมก็แค่อยากรู้ แม้จะรู้ว่าบางทีคำถามที่ถามไปมันอาจจะไม่ได้คำตอบ มันที่นิ่งเงียบ ตอนที่หันหน้ามาหาผม มือของมันตักไอติมก่อนจะป้อนผม
“ อ้าปาก "
“ ห๊ะ " ตอนที่เอ่ยคำนั้นไอติมก็พุ่งเข้ามาป้อน
“ พูดมาก " บอกแบบนั้นมันที่ดึงซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าแล้วก็จุดสูบ ควันที่พ่นออกไปจากปากของมันผมมองจตามก่อนจะมาหยุดที่หน้ามันอีกครั้ง
“ เสือ "
“ งั้นก็ขอทำความรู้จักหน่อยสิ " มือที่เลื่อนมาจับมือของผม " ขอทำความรู้จักหน่อย "
“ ยังไง " พอถามแบบนั้น หน้าของเราก็เคลื่อนเข้ามาใกล้กันเสือทิ้งบุหรี่ลงมันเอาเท้าขยี้ มือสองข้างที่ว่างของมันกอดตัวของผมเอาไว้ ริมฝีปากแนบสนิทกันลิ้นชื้นถูกส่งเข้ามาในปากของผมตอบรับลิ้นที่สอดเข้ามามือที่ถือไอศกรีมของผมสั่น แต่สักพักมันก็หล่นลง
ไอศกรีมเหลวๆไหลไปตามพื้นถนน ไม่ต่างอะไรกับตัวผมที่เหลวเป็นน้ำอยู่ในอ้อมกอดของมัน ปากร้ายแต่ก็อบอุ่น คำนี้คงเป็นคำนิยามสั้นๆที่ผมคิดถึงมันเสมอ คนที่ทำให้เจ็บแวดทุกทีที่พูดด้วยแต่ก็เป็นคนเดียวกันที่ทำให้ใจเต้นเวลาปลอบ อยู่กับมันวินาทีที่เสียใจแต่วินาทีต่อมาก็ดีใจ เป็นแบบนี้จนบางทีก็รู้สึกสับสน
“ เสือ "
“ มาทำความรู้จักกันเถอะ " คำพูดที่พูดชิดริมฝีปากของผม ลมหอบแรงๆที่เพิ่งหยุดจากการจูบ ผมเผลอยิ้มตอนที่พยักหน้าตอบกลับไปก็ถูกจูบอีกครั้ง มือของผมเคลื่อนไปกอดคอของมันน้ำลายเหนียวแต่รู้สึกหวานอาจเพราะไอศกรีมที่เพิ่งกินเข้าไป ลุ่มหลงจนไม่อยากจะหยุดแม้ลมหายใจที่เข้าออกจะติดขัดแต่ก็พยายามจะจูบกันต่อไปอยู่แบบนั้น
“ ก็ได้ " ตอนที่เห็นรอยยิ้มของมัน สาบานเลยว่า ผมจะไม่มีวันลืมรอยยิ้มนั้นของมันเด็ดขาด
ผมกับมัน .. กำลังทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ครับ
...................................................
“ เรามาทำความรู้จักกันมั้ย "

ปากก็ร้าย นิสัยก็ไม่ดี แล้วทำไมหลง ทำไมหลงพี่เสือ
แบบว่าๆ เพราะเกลียดจึงรักมั้ง บ้าจริงๆเลยยยยย
หนมฝากแท็ก #เสือปิง ด้วยนะคะ สำหรับใครไม่มียูสในเล้า ฝากแท็กในทวิตกับเฟสให้หน่อยนะคร่าา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านแล้วเคอมเม้นท์จ้าาา

ป.ล. ขอฝากนิดนึงใส่รู้วิธีใส่ภาพติดลิงค์ตรงลายเซ็นบ้างเค่อะ แบบว่าหนมใส่แล้วมันบอกไม่ผ่านอะจ้า ใครพอรู้บ้างว่ามันต้องทำยังไง ขอบคุณนะจ้ะ