ตอนที่ ๓๘ ปัญหา
“ทหาร มานี่สัก ๕ คนดิ”จอดรถหลังกองร้อยผู้หมวดลงไปเรียกทหารที่กลังตบปิงปองใต้กองร้อยอย่างเมามัน
“ตรง”คนหนึ่งสั่งเสียงดัง ทุกคนยืนตรงทำความเคารพก่อนจะวิ่งมาหาผู้หมวดที่กวักมือเรียก
“ครับผู้หมวด”
“เดี๋ยวพวกเอ็งเอาของพวกนี้ลงไปให้ช่างเขาหน่อยนะ จ่าเนื่อง จะให้ผมเอาของไว้ตรงไหน”ผู้หมวดหันไปถามจ่าเนื่อง ซึ่งเป็นหัวเรือในการซ่อมแซมห้องน้ำในขณะนี้
“เอามาวางตรงนี้เลยครับผู้หมวด ทหาร เอามาวางตรงนี้เลย เฮ้ย เอ็งไปช่วยดิ”จ่าเนื่องเดินมาคุยกับผู้หมวดแล้วสั่งผมให้ไปช่วย ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไร รับคำสั่งช่วยลงของลงจากรถ มีพวกกระเบื้อง ชักโครก ปูน และอุปกรณ์ช่างอีกพอสมควรเอาไปวางให้เป็นระเบียบ จากนั้นรถส่งของมันก็ขับออกไป ผู้หมวดตอนนี้กำลังไปดูห้องน้ำครับ ซึ่งพวกช่างลอกสีผนังห้องน้ำกับรื้อโถคอห่านออกไป ๕ ห้อง เหลือไว้ ๕ ห้องครับไม่งั้นไม่มีอะไรใช้
“บ่ซอย กะอยู่ซือๆ อย่าปากหลาย”(อยู่นิ่งๆ อย่าพูดมาก)
“เอ้า บักห่านี่แหมะ กูบ่เว้ากะว่ากูบ่มีปาก บักเหี้ย ว่าจังใด๋หมอ เที่ยวดุแท้น้อ บ่มีของฝากมาฝากหมู่ฝากเสี่ยวติ๊”(อ้าว ไอ้ห่า กูไม่พูดก็หาว่ากูไม่มีปาก ไอ้เหี้ย ไงเพื่อน ไปเที่ยวบ่อยนะ ไม่มีของมาฝากเพื่อนฝากฝูงบ้างเหรอ)ไอ้คนที่โดนดุมันทิ้งเกรียงลงพื้นแล้วเดินมาถามผมซึ่งกำลังดูช่างมันลอกสีอกห้องหนึ่ง
“เที่ยวห่าไรวะ ไปซื้อของ แล้วนี่มึงไม่ช่วยมันทำเหรอ”
“บ่ ขี้ค้านเฮ็ดนำบักเหี้ยพล จั๊กอีหยังของมันบุ สงสัยเมียปา ฮู้ คนมันถูกทิ้งเธอรู้บ้างไหม หัวใจของฉันเจ็บ เจ็บสักเท่าไหร่”(ไม่ ขี้เกียจทำกับไอ้พล ไม่รู้อะไรของมัน สงสัยเมียทิ้ง....)
“เออ บ่มีเมียคือมึงกะบ่เข้าใจดอก บักสัส วู้ บ่ทันได้ฮอดปีซ่ำ ปากูเสย เมียหนอเมีย เอาปูนไปโบกอี๋ซะบ่น้อ”(เออ คนไม่มีเมียอย่างมีไม่เข้าใจหรอก ไอ้สัส วู้ ยังไม่ถึงปีทิ้งกูซะแล้ว เมียหนอเมีย เอาปูนไปโบกอี๋ดีกว่ามั้ง)
“โหดไปไหมมึง”ผมถามขำๆ ปัญหาของทหารตอนนี้ก็คือ ไม่มีเมียเป็นปัญหาอันดับหนึ่ง มีเมียแล้วแต่เมียทิ้งไปมีผัวใหม่เป็นปัญหาอันดับสอง
“แค่นี้มันน้อยไป ไม่รู้อะไรนักหนา กูงงกับพวกมันจริงๆ”ส่ายหน้าเอือมระอา ส่วนผมได้แค่ยิ้ม ไม่มีความเห็น ไม่เคยโดนทิ้ง มีแต่กูที่ทิ้งเขา ฮ่าๆๆๆ
“ทิ้งก็หาใหม่ดิวะ”
“ถ้ามันหาง่ายเหมือนหาปลากูไม่ว่าอะไรเลยนะ”
“ป๊าด คือคักแท้น้อ เฮ็ดงานไปเบิ่งหนังโป๊ไป”เพื่อนคนหนึ่งมันเดินเข้ามาดูอีกคนที่กำลังขูดสีอยู่และดูหนังโป๊ไปด้วย
“ตรง”
“อือ ไม่ต้องๆ นั่งๆทำงานเลย”ผู้กองเดินเข้ามาในห้องน้ำ คนที่อยู่ใกล้สุดรีบสั่ง ผมถึงกับสะดุ้ง เสียงดังมาก “ไงมึงไอ้ยักษ์ เป็นช่างกับเขาด้วยเหรอ”ผู้กองตบมาที่ไหล่ผมดังปั๊ก
“พอเป็นครับ”
“เหรอ อือ”ผู้กองพยักหน้าแล้วเดินไปดูห้องต่อไป ส่วนผมรีบปลีกตัวออกมาข้างนอก ไม่ได้ช่วยอะไรเขามันจะเกะกะเปล่าๆ
“ทำอะไรมึง”เดินไปหน้าคลังอาวุธ ไปหามหาตวงซึ่งนั่งอยู่คนเดียวกับปืนอีกหลายกระบอก
“ซ่อมปืนว่ะ”ไอ้มหาตอบก่อนจะทำงานของมันต่อ
“ซ่อมเป็นด้วยเหรอ”
“จะไปยากอะไร”ว่าแล้วมันก็ซ่อมของมันต่อไปครับ มันเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี่ จากหลายๆกระบอก จนได้ปืนที่กระบอกดีมาหลายกระบอกเหมือนกัน ฝีมือว่ะ
“วันนี้ไปไหนมาวะ เห็นออกงานบ่อยจริงนะมึง”
“ไปซื้อของให้พวกช่างน่ะ”
“เหรอ”มันทำงานไป ฟังธรรมะไปด้วย ผมเองนั่งตากพัดลมเย็นๆ หน้าคลังนี่ดีนะครับ มีพัดลมให้ด้วย เย็นสบาย นั่งๆไปชักจะเคลิ้ม เลยหลับคาเก้าอี้อยู่ตรงนั้น
“เออ ไอ้นี่ แทนที่จะมาช่วยกันกลับมาหลับ เฮ้ย โทรศัพท์ดัง”ไอ้มหามันปลุกผมด้วยการเคาะโต๊ะจนผมสะดุ้ง
“เหี้ย ดีนะที่มึงไม่เอาปืนมายิงกู”ผมเด้งตัวมาจะถีบไอ้มหา แต่ว่าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะมันดังอยู่เลยต้องรีบรับสาย “ครับผู้หมวด”
“ไอ้ยักษ์บอมบ์ อยู่ไหนวะ”
“หน้าคลังครับผู้หมวดมีอะไรเหรอครับ”
“มาขับรถให้หน่อยดิ จะออกไปซื้อของ”
“ครับ ได้ครับ”แล้วผู้หมวดก็วางสายไป จะซื้ออะไรอีกนะ เดินจากหน้าคลังไปหน้ามุขกลางเข้าไปในห้องทำงานผู้หมวด ปรากฏว่าไม่อยู่ สงสัยจะอยู่ข้างล่างเมื่อกี้ก็ลืมถามซะด้วย
ลงไปเจอผู้หมวดนั่งอยู่ที่บก.ร้อย พอผมโผล่หน้าผู้หมวดแกลุกเดินมาหาผมทันทีแล้วโยนกุญแจรถให้ผม กูงง ทำไมมึงต้องโยนให้กูด้วยวะ เดินเอามายื่นให้ดีๆไม่ได้เหรอ
“จะซื้ออะไรครับ”
“เอ่อ แว๊กซ์ขัดพื้น เออ ผู้กองอนุมัติงบซื้อเครื่องซักผ้าแล้วนะ กูว่าเราคงต้องขยายห้องข้างๆห้องน้ำ ทำเป็นห้องซักผ้า เดี๋ยวค่อยปรึกษาผู้กองอีกทีหนึ่ง กลัวงบไม่พอ”
“ก็ทำเท่าที่ทำได้ วางแผนไว้ว่าจะทำอะไรบ้างล่ะครับ”
“ก็คงมีห้องน้ำกับบนโรงนอนล่ะมั้ง เออ กูลืมอีกแล้วว่ะ เดี๋ยวแปบนะ กูไปสั่งงานก่อน”แล้วผู้หมวดก็เดินไป ส่วนผมเดินมาถึงรถแล้วจึงทำการสตาร์ทรถแล้วขับไปรับรอรับผู้หมวดที่หน้ากองร้อย
“เขาจะมาตรวจวันไหนอ่ะครับผู้หมวด”พอผู้หมวดขึ้นรถผมจึงถามสิ่งที่ตัวเองสงสัย
“ต้นเดือนหน้า นี่ไม่รู้ว่าจะเสร็จทันหรือเปล่า นี่ก็ปาไปซะเกือบปลายเดือนแล้ว”
“น่าจะทันมั้งครับ ก็ให้พวกช่างมันเร่งงานดิ เกณฑ์พวกที่ว่างๆไปช่วยทำก็ได้”
“ใครจะทำเป็นวะ”
“ไม่ต้องคิดมากหรอกครับผู้หมวด ไอ้พวกที่ว่างๆไม่ใช่ว่ามันทำไม่เป็น มันทำเป็นแต่มันไม่อยากทำ อย่างน้อยอ่ะมันก็ต้องทำอะไรเป็นสักอย่าง ขูดสี ทุบผนัง ของง่ายๆ ยกเว้นว่าจะมีคุณหนูพ่อแม่ไม่เคยให้ทำเหี้ยอะไรสักอย่างนั่นแหละ แต่ความเป็นไปได้มันก็มีน้อย ไอ้พวกคุณหนูมันไม่มาเป็นทหารหรอก เชื่อผม ใครว่างจับใช้งานให้หมด”
“เออ กูก็คิดงั้นแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้พวกที่ว่างขัดพื้นบนโรงนอน เอาให้มันวับไปเลย”
“เพื่อนผมขัดพื้น ผู้หมวดก็มาขัดจรวดให้ผมบ้างสิ”ผมยักคิ้วกวนตีนให้ หึหึ
“ได้เลย กูจะเอาน้ำกรดขัด”
“เอ๊ย ไม่ต้องดีกว่า ขัดเองได้”
“หึ ทะลึ่งตึงตังนะมึง เข้ากันได้ดีกับไอ้มหาฉิบหายเลยว่ะ แบบนี้ไปเป็นแฟนกันเถอะ”
“หือ เรื่องอะไร อ๋อ นี่ผลักไสไล่ส่งผมเพราะจะแดกเพื่อนตัวเองว่างั้นเถอะ คงอยากจะจ้ำจี้กับหมวดเต้ยมานานแล้วสิ”
“จวยเถอะไอ้สัส เพื่อนกัน กูไม่เคยคิดอะไรกับมันเว้ย เพื่อนกันตั้งแต่เด็ก มึงบ้าป่ะเนี่ย”
“ไม่ได้บ้า แค่ประชด เห็นสนิทกันนี่ บางทีดีไม่ดีอาจจะเป็นแนวเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออะไรแบบนี้ ใครจะไปรู้”
“ไม่มีอ่ะ เราบริสุทธิ์ใจกันเว้ย เพื่อนกันเท่านั้น”
“โอเคครับที่รัก เพื่อนก็เพื่อน ถามจริงตอนเรียนอยู่เนี่ย เคยมีใครกิ๊กกันในโรงเรียนป่ะ”
“ก็มีนะ แต่กูไม่ค่อยสนใจอ่ะ เขาคบกันแบบลับๆ”
“เหรอ แล้วผู้หมวดไม่เคยรักผู้ชายคนไหนมาก่อนเหรอ นอกจากพ่ออ่ะ เคยแอบมองแอบเหล่ใครบ้างป่ะ”
“อืม ไม่น่าจะมีนะ เอ๊ะ หรือมีวะ อืม คิดก่อน”ผู้หมวดขมวดคิ้ว
“ไม่มีว่ะ แต่เคยมีรุ่นพี่เว้ย กูสนิทกับเขาโคตรๆ ไอ้เต้ยมันบอกว่ารุ่นพี่คนนี้ชอบกู”
“อืม”ผมพยักหน้า
“เขาเคยจะลักหลับกูด้วย ตอนไปฝึกที่ป่า แต่กูตื่นขึ้นมาก่อน จากนั้นเขาก็ห่างๆกูไปเอง”
“อ้าว แล้วไม่อยากเสียวเหรอ”
“อยากบ้าบออะไรล่ะ ฝึกเหนื่อยจะตายห่า ทหารใหม่ที่พวกมึงโดนๆกันมาเนี่ยไม่เท่าขี้เล็บกูหรอก”
“ครับผม ถ้าไม่ฝึกให้หนักมันก็ไม่สมศักดิ์ศรีของความเป็นผู้หมวดอ่ะดิ”
“เออดิ แล้วมึงเคยชอบผู้ชายมาก่อนป่ะ ท่าทางมึงเชี่ยวนาดู”
“ไม่เคยนะ แต่มีผู้ชายมาจีบผมเหมือนกัน ผมรับไว้เป็นเพื่อนเฉยๆ ยิ่งคณะที่ผมเรียนมันตั้งครึ่งค่อนคณะ”
“มึงเรียนคณะอะไร”
“เศรษฐศาสตร์ หนุ่มสวยก็เยอะ สาวสวยก็เยอะ”
“เออ เขามีประกวดดาวเดือนอะไรด้วยใช่ป่ะ มึงได้ตำแหน่งอะไรบ้างไหมวะ”
“ไม่อ่ะ ผมไม่ได้ลงประกวดกับเขา เขามาเลือกผมนะ แต่ผมไม่เอาด้วย ขี้เกียจวุ่นวาย ไหนจะซ้อมไหนจะอะไรอีก น่าเบื่อ ผมไม่ค่อยทำกิจกรรมจนรุ่นพี่เขาแทบจะไม่คุยด้วยกับผม”
“อ้าว แล้วมึงทำอะไรล่ะ ทำไมไม่ไปทำกับเขา”
“ผมทำงาน เลิกเรียนผมก็กลับแล้วไปทำงานของผม ผมไม่ค่อยมีเวลามาสุงสิงกับใครหรอก แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่มีเพื่อนนะครับ เพื่อนผมเยอะ เพราะผมทำกิจกรรมไปค่ายน่ะ เพื่อนคณะไม่ค่อยเท่าไหร่”
“อ้าว ก็เห็นเพื่อนมึงตั้งเยอะนี่ ไม่ใช่ที่เรียนมาด้วยกันเหรอ”
“ที่เรียนคณะเดียวกันผมไม่ค่อยมีเพื่อนหรอก ส่วนมากจะเป็นเพื่อนนอกคณะ ผมไปทำกิจกรรมไปทำค่ายน่ะ เพื่อนที่ทำงานด้วย”
“แล้วมารู้จักกับพ่อกูได้ไง”
“ก็ตอนไปทำงานอ่ะ ผมอยู่ม.๖มั้ง ผมทำงานที่สนามกอล์ฟอยู่ ๒ เดือนกว่าๆ พ่อผู้หมวดไปตีแทบทุกอาทิตย์ ผมเลยสนิทกับพ่อผู้หมวด ยิ่งเขามารู้ว่าผมเป็นน้องพี่เบิ้ล ยิ่งสนิทกันไปใหญ่”
“มึงเคยทำงานที่สนามกอล์ฟด้วยเหรอ”
“เคยสิครับ ร้านอาหารผมก็เคยทำ บาร์เบียร์ ก่อสร้าง ส่งพิซซ่า ขับรถสองแถว ขายขนมครก ขายเสื้อผ้า”
“เยอะจัง ไม่เหนื่อยแย่เหรอ”
“ไม่นะ ผมสนุกกับงาน แต่ส่วนใหญ่ผมทำไม่นานหรอก เทอมเดียวบ้าง ๒ เดือนบ้าง คือผมอยากเรียนรู้งานว่ามันเป็นยังไง ค่อยๆทำไปทีละขั้น จนตอนนี้ก็พอมีพอใช้แล้วละ ตั้งแต่ผมขึ้นม.ปลายมาผมไม่เคยขอเงินแม่เลยนะ”
“ไม่ขอแต่แม่ก็โอนให้ทุกครั้ง”
“หึหึหึ ใช่ๆ แม่กลัวผมอด แต่ผมก็ทำงานของผมไป แม่โอนมาผมก็เก็บไว้ ไม่ค่อยได้ใช้”
“เก่งเนอะ ทำไมมึงต้องทำตัวให้ลำบากด้วยวะ ทั้งที่ทางบ้านก็ไม่ถึงกับว่าไม่มีกินนี่หว่า”
“ผมอยากโตด้วยตัวเอง มันเป็นปมตอนเด็กๆอ่ะ เพื่อนมันชอบล้อว่าผมเป็นลูกแหง่ แม่ส่งไปโรงเรียนทุกวัน เดินเองไม่ได้ ต้องพ่ออุ้ม จนผมอยู่ป.๔ ผมเลยไม่ให้พ่อกับแม่ไปส่ง ทำยังไงที่ไม่โดนเพื่อนล้อ พี่เบิ้ลก็สอนให้ผมช่วยเหลือตัวเอง ตั้งแต่นั้นมาผมก็ทำอะไรเองตลอด”
“อือ”ผู้หมวดพยักหน้า
มาถึงร้านวัสดุก่อสร้าง ผู้หมวดไปเลือกของที่อยากได้ พอเลือกเสร็จก็ไปร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า จะไปซื้อเครื่องซักผ้า เครื่องซักผ้าของกองร้อยนี่มีอยู่เครื่องเดียวแล้วมันก็เก่ามากแล้ว พวกผมต้องคอยคิวกันเป็นค่อนวันกว่าจะได้ซัก ส่วนใหญ่รุ่นพี่จะได้ซักก่อน รุ่นน้องจะซักมือ อย่างว่าเรารุ่นน้องจะไปท้าตีท้าต่อยรุ่นพี่ไม่ได้ ผมเองก็ซักมือมาตลอดนะครับ ขี้เกียจรอ กว่าจะได้คิวเราก็ค่ำมืด ซักมือเหนื่อยแปบเดียว ไม่ต้องรอ
“จะเอาอะไรอีกไหมครับ”
“เอามึงอ่ะ ได้ป่ะ”ผู้หมวดยักคิ้วให้
“หึหึ จะเอาจริงป่ะละ เดี๋ยวพี่บอมบ์จัดให้”
“กูล้อเล่น ไปๆ กลับกองร้อยกัน”ซะงั้นที่รักกู
“เฮ้ยๆ มึง นั่นไงรุ่นพี่ที่เขาเคยจะลักหลับกู”ผู้หมวดรีบสะกิดคนที่ขับรถมอร์ไซด์อยู่ด้านหน้า ตอนนี้ติดไฟแดงอยู่ครับ ผมมองไปด้านหน้า
“อ่อ เขามากับมียไม่ใช่เหรอนั่น ซ้อนท้ายกอดกันกลมเชียว”
“เออ หรือพี่เขาจะเป็นไบวะ เฮ้ย แต่เขาเคยมาลักหลับกูนะเว้ย”
“ก็ตอนนี้เขาได้หน้า เขาเลยลืมหลังไง ถ้าเขาได้หลัง เขาคงลืมหน้า”
“เหมือนมึงหรือเปล่า”ผู้หมวดหันมามองหน้าผม
“ก็ไม่แน่นะเว้ย ถ้าระแวงมากๆ ผมอาจจะทิ้งผู้หมวดแล้วหาเมียใหม่ก็ได้ หึหึ กูล้อมึงเล่น กูไม่ได้เจ้าชู้นะเว้ย กูมันเฟรนลี่”ผมชกไหล่ผู้หมวดเบาๆ
“กูระแวงมากเหรอ เฮ้ย แต่กูไม่เคยมีแฟนผู้ชายมาก่อนนะเว้ย กูไม่รู้ว่าต้องยังไง งั้นกูจะคบมึงเป็นประสบการณ์ พอรู้ทางหนีทีไล่กูจะหาใหม่ มึงว่าดีไหม”ผู้หมวดยักคิ้วกวนตีนให้
“ลองดูดิ ถ้าหาคนที่ดีกว่ากูได้ หล่อ รวย จวยใหญ่ แบบกูมึงหาได้ที่ไหนอีก หึหึ”
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้สัส โคตรหลงตัวเองเลยว่ะ รักมึงว่ะบอมบ์ มึงนี่บ้าได้ใจกูจริง”
“หือ ว่าอะไรนะ”ผมหันไปมองอีกครั้งหนึ่ง กูหูฝาดไปป่าววะ
“ก็ กูรักมึงไง สัส แวะบ้านมึงหน่อยไหม อยากไปดูลูกมึง”
“ได้ครับ”
“อ้าว ได้ลาเหรอบอมบ์”ไปถึงบ้านพี่เบิ้ลเดินออกมาหน้าบ้านพอดีเลย ผู้หมวดโค้งพี่ชายผมทีหนึ่ง คงไม่กล้ายกมือไหว้ล่ะมั้ง ยศต่างกันเยอะ
“เปล่าพี่เบิ้ล ไปซื้อของมา หมวดบูมอยากมาดูลูกน่ะ เลยแวะ”
“อือ ไงเรา ไม่เจอกันนาน สบายดีนะ”พี่เบิ้ลทักหมวดบูม
“สบายดีครับ”หมวดบูมทำหน้าเจี๋ยมเจี๊ยม อย่างว่าแหละครับ คนยศน้อยมาเจอกับคนยศใหญ่กว่าต้องเกร็งๆกันเป็นธรรมดา
“พี่เบิ้ลจะไปไหนเหรอ”
“ไปงานศพที่ต่างจังหวัด ไปละ เดี๋ยวว่างๆค่อยคุยกันนะ”พี่เบิ้ลตบไหล่ผู้หมวด แล้วขับรถออกไป
“แม่ สวัสดีครับ”เข้าไปในบ้านเจอแม่นั่งดูทีวีอยู่ ผู้หมวดรีบชิงทักทายก่อนเลยครับ
“ค่ะ สวัสดีค่ะ อ้าว ได้ลากันเหรอ หรือว่าไง เพิ่งจะกลับค่ายได้ไม่กี่วันนี่เอง”แม่ผมทำหน้างงๆ
“เปล่าครับ ไปซื้อของมา เลยแวะมาเยี่ยมลูก”ผมตอบแล้วนั่งลงข้างๆแม่ ลูกผมตอนนี้นอนเล่นของเล่นอยู่
“คนไหนแสบ คนไหนซ่าอ่ะ จำไม่ได้แล้ว”ผู้หมวดมองหน้าลูกผมสลับไปมา
“คนนี้แสบ คนนี้ซ่า เอ๊ะ ใช่ป่ะแม่ ฮ่าๆๆๆ”
“อือ ถูกแล้ว เป็นพ่อประสาอะไรจำลูกไม่ได้”
“อ้าว ก็ไม่ค่อยได้เลี้ยงนี่นา จริงไหมตัวเล็ก มาๆ ขอหอมแก้มก่อน เราไม่ได้เจอกันตั้งกี่วันแล้วเนี่ย”ผมอุ้มเจ้าแสบมาไว้ในอ้อมกอดแล้วหอมแก้มซ้ายขวา
“อ้า อือ”เจ้าแสบส่งเสียงออกมาอย่างพอใจ ส่วนผู้หมวดอุ้มเจ้าซ่า
“จุ๊บหน่อยดิ”ผมยื่นหน้าจะจูบแก้มลูก แต่เงยหน้าแกล้งผู้หมวดก่อนดีกว่า “จุ๊บ ทำไมซ่ามันโตไวจังวะ”
“ลูกอยู่นี่ เออ เดี๋ยวเหอะมึง”ผู้หมวดทำหน้ายุ่ง หึหึ แกล้งนิดเดียวก็ไม่ได้ ผมก้มลงไปหอมแก้มลูกชาย แก้มยุ้ย กูหมั่นเขี้ยว
“แสบซ่ารีบโตไวๆนะ อาบูมจะได้มีเพื่อนเล่น”
“โตไปคงซนน่าดู”ผู้หมวดพูด
“นิสัยน่าจะได้พ่อเค้าแหละผู้หมวด ตอนเด็กๆเจ้าบอมบ์นี่แบบนี้เลย เลี้ยงง่าย ไม่ค่อยงอแง พอโตมาเนี่ยซน ไปโรงเรียนก็ต้องอุ้มไปส่ง ต้องนั่งเฝ้า ตั้งแต่เข้าอนุบาลจนถึงป.๒ แน่ะ จนเค้าป.๔ ถึงได้ไปเรียนเอง ทำอะไรเอง”แม่เริ่มเล่าความหลังเมื่อฉันยังเยาว์วัย ฮ่าๆๆๆ นั่งคุยอยู่สักพักแล้วป้อนนมกล่อมลูกให้หลับจากนั้นก็กลับเข้ากองพัน
“อยากกล่อมผู้หมวดจัง กลัวคืนนี้ผู้หมวดจะนอนไม่หลับ”
“มึงไม่ต้องแย๊บกูเลยไอ้บอมบ์ งดๆบ้าง พักผ่อนร่างกาย ทุ่มเทกับงาน สมองจะได้ปลอดโปร่ง จิตใจจะได้แจ่มใส”
“อ่ะ ก็มันเงี่ยนนี่นา แวะม่านรูดหน่อยดีไหม”
“ไอ้เวร กูใส่ชุดทหารอยู่ เกิดมีคนแอบถ่ายตายห่าทั้งมึงและกูนะเว้ย ทำอะไรคิดหน่อย อย่ามักง่าย”
“ครับผม ก็พูดไปงั้นแหละ เปื่อฟลุ๊ค เออ จะแวะกินข้าวก่อนหรือจะเข้ากองพันเลย”
“มึงหิวป่ะล่ะ ถ้าหิวก็ซื้ออะไรไปกินก็ได้”ตอนนี้ก็เริ่มจะพลบค่ำแล้ว มัวแต่เถลไถล งานการไม่ได้ทำสักอย่าง ฮ่าๆๆๆ
“อยากแวะกินผู้หมวดบนที่นอนนุ่มๆจังเลย เขาจะใจอ่อนกับเราไหมน้า”ผมพูดลอยๆ มองซ้ายมองขวาไปเรื่อยเปื่อย
“กินตีนกูก่อนเหอะ ไอ้สัส มึงนี่นะ ทุกอย่างมึงโคตรโอเคเลยว่ะบอมบ์ เสียอย่างเดียวมึงหื่นไปหน่อยวะ”
“ก็คนมันหล่อทำไงได้”
“ถุยเหอะครับไอ้ยักษ์ หล่อแต่ต้องม้าอ้อนตีนกูนี่ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ แน่จริงเอาความหล่อของมึงทำให้กูใจอ่อนให้ได้ดิ โด่ว”
“เออ กูไม่ใช้แล้วความลงความหล่อ กูฉุดเลยดีกว่า หึหึ”ผมทำเสียงเหี้ยมๆไว้ก่อน
“มึงจะพากูไปไหน”ผู้หมวดเริ่มระแวงเมื่อเห็นผมเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง
“หึหึ พาไปกินตับ”
“เฮ้ยๆ เป็นการเป็นงานหน่อยมึง”
“ฮ่าๆๆ ล่อเล่นน่า พาไปกินข้าวดิ คิดไรมากป่ะเนี่ย”