เครื่องปรุง "ตื่นได้แล้วคนขี้เซา"
จุ๊บ .
"คุณถุง!" ผมร้องตกใจเสียงดังออกมาในห้องที่ว่างเปล่า มีแค่ตัวผมกับโซฟาตัวนึงเท่านั้น ผมจำได้ว่าผมเจ็บข้อเท้าแล้วคุณถุงทองก็พามานวดในห้องนี้ นี่ผมคงเผลอหลับไปใช่ไหม แต่เสียงที่ดังอยู่ในภวังค์เมื่อครู่เหมือนเสียงจุ๊บมาที่แก้มและสัมผัสเบาๆที่คลอเคลียอยู่แถวแก้มและคอมันทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้น เป็นเขาอีกแล้วใช่ไหมที่ทำแบบนี้กับผม แล้วตอนนี้คนคนนั้นหายไปซะล่ะ คนที่ทำแผลให้ผมหายไปจากห้องทำงานตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมหันซ้ายหันขวา มองดูที่มุมห้อง ไม่มี ไปไหนวะ หรือเสียงกับสัมผัสเมื่อครู่คือผมฝันไปเอง .. ช่วงนี้ผมก็เป็นเอามากเหมือนกัน รู้สึกแปลกๆ .. รู้สึกประหม่ากับสายตาและท่าทางของคุณถุง ผมไม่แน่ใจตัวเองเลยว่าผมจะอยู่แบบอึดอัดอย่างนี้ไปได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะผมรู้อย่างแน่ชัดแล้วว่าคุณถุงเขารู้สึกอย่างไรกับผม ส่วนผมที่เหมือนจะสับสนและตอนนี้ผมที่เอาแต่กลัวตัวเองมาก เพราะเวลาคุณถุงทำดีกับผม เวลาที่เขาเป็นห่วงเป็นใย หรือแม้แต่ตอนที่เขาแอบหอมแก้มผม ผมไม่เคยปฏิเสธเขาได้เลย ผมไม่ได้รังเกียจจนอยากจะฆ่าเขา ผมไม่แม้แต่จะต่อยหรือทำท่ารังเกียจ นี่ผมใกล้จะกลายเป็นเกย์แบบคุณจางแล้วใช่ไหม ถ้ามีวันนั้นขึ้นมามันจะเป็นแบบไหน จะอยู่ด้วยกันได้จริงๆน่ะหรอ ...
"ตื่นแล้วหรอขี้เซา ออกไปข้างนอกกันเถอะ ฮะเก๋ากะเจ้าเกี๊ยวพร้อมปาร์ตี้ละ รอนายอยู่คนเดียวเนี่ย" ผมตกใจตอนที่คุณถุงเปิดประตูเข้ามา 'ตื่นได้แล้วคนขี้เซา' คำในความฝันมันตามมาหลอกผมอีกหรอเนี่ย นี่ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรอ คุณถุงเดินมาจะช่วยพยุง แต่ผมปฏิเสธเพราะเดินเองไหวแล้ว คงเป็นที่ได้นวดยาไปข้อเท้าเลยไม่ค่อยเจ็บ ผมเดินออกมาจากห้องผ่านห้องโถงใหญ่ก็เห็นป๊าม้าคุณถุงนั่งดูโทรทัศน์กำลังทานสาลี่กันอยู่ ป๊าท่านก็หันมาสนใจท่าเดินผม
"เดินไม่ไหวหรืออาตี๋ ถุงลื้อดูเลขาลื้อด้วย ปาร์ตี้อะไรก็ไม่ต้องดึกมาก ให้เด็กๆรีบนอน". ป๊าคุณถุงพูดเตือน ไม่ได้ดุอะไร
"ครับผม"
คุณถุงรับปากเสร็จก็เดินนำออกไปด้านนอก ฟ้ามืดแล้วหรอเนี่ย ผมมองไปที่ศาลากลางสนามหญ้าหน้าบ้าน มีโต๊ะเตาปิ้งบาร์บีคิวอยู่หนึ่งอันตั้งพื้นขายาว บนโต๊ะข้างๆมีของคาวที่พวกเราไปซื้อมาจากในห้างพร้อมน้ำจิ้มต่างๆ เกี๊ยวนั่งอยู่ในศาลาสีขาวตกแต่งลายกนกในมือถือปูอัดทานเล่นอย่างมีความสุข ส่วนฮะเก๋ากำลังยืนปิ้งอะไรไม่รู้อยู่หน้าเตา ฮะเก๋าเป็นเด็กผู้ชายที่น่ารักมากครับ หุ่นบางๆ ตัวขาวๆ ชอบสวมเสื้อยาวๆ กางเกงขาสั้นแต่ไม่มาก ออกจะเหมือนเด็กเฟี้ยวๆ ซ่าๆ แต่ก็ดูซุกซนปนน่ารัก ผมว่าถ้าผมจะชอบผู้ชายขึ้นมาจริงๆสักคน ผมควรจะชอบผู้ชายบอบบางแบบนี้มากกว่าผู้ชายถึกๆแบบคุณถุงทองไม่ใช่หรอ ผมสับสนไปหมดละเนี่ย เกิดมายังไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลย ขนาดตอนที่อยู่กรุงเทพฯมีเกย์มาชอบ มาส่งดอกไม้ให้ ชวนไปดินเนอร์ ผมถึงกับลาออกเลยนะ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ อีกอย่างช่วงนั้นผมเพิ่งเลิกกับแฟน อะไรๆก็เฮิร์ท เห็นใครเข้ามาผมก็ปัดหมด ไม่อยากมีใครอีก
"พี่ปรุงเกี๊ยวอยากกินกุ้งงงงง" เกี๊ยวสะกิดผมที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆในศาลา น้องหน้าตามอมแมมไปหมดแล้ว มือก็เปรอะไปหมด แต่ยังน่ารักมากเลยครับ น่าจับหอมแก้มมาก
"เลอะหมดแล้ว มาพี่ปรุงแกะให้" ผมหยิบกุ้งเผามาแกะใส่จานให้เกี๊ยว น้องทานไม่เยอะหรอกครับ ทานอย่างนึงใช้เวลานานมาก ส่วนเครื่องดื่มมีน้ำส้มสดวางข้างๆ พร้อมน้ำเปล่าแก้วกลาง
"นี่ของเฮีย นี่ของพี่ปรุง" ฮะเก๋ายื่นขวดเสมิร์นอฟมาให้ผมกับคุณถุง คุณถุงรับทั้งเสมิร์แล้วสั่งเด็กไปเอาไวน์มาอีก ของผมนี่ดีแล้วครับที่เป็นเสมิร์นอฟ ถ้าเป็นเบียร์หรือเหล้าผมคงเมาแน่ๆ ไม่อยากเมาในบ้านท่านแบบนี้ เดี๋ยวเขาจะมองเราดูไม่ดี
"ขอบใจมากเก๋า เราก็ดื่มด้วยใช่ม้า". ผมทัก น้องชูขวดในมือแกว่งไปมาเป็นอันรู้กัน คุณถุงเดินกลับมานั่งข้างเก๋าพร้อมถาดกุ้งเผา หมึกเผา ผมก็กินแหลกเลยครับ ไม่ได้ฟีลนี้มานานแล้ว ตั้งแต่พ่อกับแม่เสีย ผมไม่ได้ใช้ชีวิตครอบครัวอีกเลย ยิ่งเวลาที่จะมานั่งทานอาหารกับที่บ้านยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผมอยู่คนเดียวมาตั้งหลายปี บางทีมันก็เหงาจนชินแล้วครับ
"อ่ะ นายทานบ้าง แกะให้แต่เกี๊ยวเนี่ย คืนนี้วิ่งเข้าห้องน้ำทั้งคืนแน่ลูก" คุณถุงหั่นหมึกให้ผม ส่วนเกี๊ยวผมแกะกุ้งให้เรื่อยๆ พอได้กินก็นั่งนิ่งเลยครับ ปกตินี่เสียงเจี๊ยวจ๊าวตลอด น้องยิ้มรับแล้วทานกุ้งอย่างเอร็ดอร่อย
"ป๊าฮะ เกี๊ยวมีความสุขจังเลยฮะ ตั้งแต่หม่าม้าไม่อยู่ เราก็ไม่เคยปาร์ตี้แบบนี้เลยนะฮะ" เกี๊ยวพูดขึ้นมาหน้าตายิ้มแฉ่ง ตุ๊กตาบลายธ์ของผมดูมีความสุขจริงๆครับ แต่ผมเข้าใจว่าความรู้สึกของคุณถุงคงเหมือนผมสินะ พอไม่มีคนในครอบครัวก็ไม่อยากไปไหน ไม่อยากทำกิจกรรมอะไรที่ทำให้คิดถึงความทรงจำเก่าๆ และผมก็สงสารเกี๊ยวเพราะน้องต้องสูญเสียแบบผม ถ้าเลือกได้คงไม่อยากให้มีใครต้องจากไปตลอดกาลแบบนี้หรอก
"ป๊าก็มีความสุขลูก แต่วันนี้เวลานี้นี่ก็คือครอบครัว คือความสุขของป๊า ความสุขของเกี๊ยว ... ใช่ไหมเก๋า .. ใช่ไหมปรุง.." คุณถุงพูดตอบให้เกี๊ยวฟัง แต่กลับมองหน้าผมตลอดเวลา .. ผมรู้สึกได้ว่าเขาต้องการสื่อสารกับผมผ่านดวงตาและคำพูดนั้น ครอบครัวหรอ ผมไม่ใช่ครอบครัวเขาเสียหน่อย
"เห็นเกี๊ยวมีความสุขฮะก็มีความสุขไปด้วย ตั้งแต่พี่เสีย เกี๊ยวก็ไม่ค่อยยิ้ม เข้ากับคนก็ยาก แต่ตอนนี้เกี๊ยวเหมือนเปิดใจมากขึ้น ไม่แน่อาจเพราะมีใครมาทำให้ความรักของเกี๊ยวเติบโตก็ได้นะครับ พี่ว่าไหม" ฮะเก๋าพูดแล้วมองมาที่ผม ก่อนจะหันไปหาคุณถุงเหมือนรอคำตอบ ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ผมหรอก ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ผมก็แค่คอยดูแลน้อง บางทีที่เกี๊ยวเปิดใจและร่าเริงขึ้นอาจเป็นเพราะไม่มีคุณไลลามากกว่า เกี๊ยวถึงได้ดูมีความสุขแบบนี้
พูดถึงคุณไลลาไม่นานมานี้ผมได้ดูข่าวคลิปฉาวดาราดังซึ่งคนในคลิปคือคุณไลลากับดาราหน้าใหม่ของวงการ เห็นว่ามีคนเอาไปขายแหล่งข่าวรายใหญ่ ทีนี้ล่ะดังไปทั้งประเทศเลย .. ผมเข้าใจทันทีว่าทำไมคุณถุงถึงตัดสินใจเลิกกับเธอ ใครจะยอมให้แฟนตัวเองไปมั่วกับคนอื่นแบบนั้นล่ะ ไม่กี่วันมานี้ผมแอบเห็นสายโทรเข้าเบอร์คุณไลลา แต่คุณถุงก็ไม่ได้รับ คงตัดใจได้แล้วจริงๆ
.
พวกเรานั่งทานบาร์บีคิวพร้อมนั่งดื่มกันเป็นชั่วโมง ผมกับคุณถุงเราคุยไป ดื่มไป ชนแก้ว ชนขวดกันจนตอนนี้หมดไปแล้วเกือบสองโหล รวมของน้องฮะเก๋าไปด้วยก็คงสองโหลพอดี จากตอนแรกที่ไม่มีความรู้สึกเมายังนั่งคุยกันปกติ ตอนนี้กลับเอะอะโวยวายขึ้นมาบ้าง สติเริ่มไม่อยู่กับตัวแล้วครับ คงเป็นเพราะดื่มเยอะไปเลยมึนหัวแบบนี้
"เฮียกับพี่ปรุงตามสบายนะฮะ ฮะพาน้องไปนอนก่อนดีกว่า" ฮะพูดแล้วเตรียมตัวพาเกี๊ยวเดินกลับเข้าบ้าน
"ไหนเกี๊ยวครับ จูบราตรีสวัสดิ์ปะป๊าก่อนเร็ว" คุณถุงที่กรึ่มๆพูดอุ้มเกี๊ยวขึ้นไปกอดแล้วหอมแก้มหลายฟอด
"จุ๊บ .. จุ๊บบ .. อื้ออ ไม่ชอบกลิ่นปะป๊าเลย เกี๊ยวไปนอนนะฮะ ให้พี่เก๋าพาไป ..
.
ส่วนพี่ปรุง .. จุ๊บ .. จุ๊บบบ .. กลิ่นเดียวกับปะป๊าเลย .. แงๆๆๆ ไม่เอาแล้ว พี่เก๋าฮะ อุ้มๆ"
เกี๊ยวจุ๊บแก้มผมคนละข้างแล้วทำหน้าแหวะเหมือนจะร้องไห้ออกมา คงจะเหม็นกลิ่นไวน์กลิ่นเสมิร์ของพวกผม พอน้องกระโดดกอดคอพี่เก๋าได้ เก๋าก็อุ้มน้องขึ้นบ้านไปครับ ส่วนพวกผมนะหรอ ฮากันลั่น !
"ฮ่าาาาาา คุณเห็นช็อตเมื่อกี้ไหม เกี๊ยวทำหน้าตลกมาก ฮ่าาาาา"
"ฉันไวน์แทบพุ่ง ฮ่าาาา สงสารลูกก็สงสาร"
"เราดื่มกันต่อเถอะครับ ชนขวดกันหน่อยนะ .. เอิ๊ก .. ฮ่าาาาาา" ผมยื่นขวดไปชนกับแก้วไวน์คุณถุง ดื่มกันแบบไม่กลัวเมาเลยครับ นั่งได้ถึงสามสี่ทุ่ม ยุงก็ไม่มารบกวนเพราะพี่ๆมาจุดยากันยุงให้แล้ว
"นายไม่อยากมีแฟนบ้างหรอ" จู่ๆคนตรงหน้าก็พูดออกมา ผมที่กำลังเมาไม่ได้คิดอะไรก็ตอบออกไปแบบที่คิด
"อยากสิครับ อยากมาก" ผมตอบออกไปแล้ว คุณถุงทองกลับยิ้มอย่างมีเลศนัย นี่ผมทำอะไรเข้าทางเขาอีกแล้วใช่ไหม
"รู้ตัวหรือเปล่าว่านายอ่ะ .. น่ารัก" เขาดื่มไวน์แล้วจ้องตาผมไม่วางตา ถึงผมจะเมา แต่ก็ยังเข้าใจที่เขาพูดนะ ผมไม่ได้ตอบอะไร จู่ๆความเงียบก็บังเกิด ผมคงเมามากจริงๆ .. ผมลุกจากโต๊ะอย่างเบลอๆ ไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากสบตาเขา ไม่อยากฟังที่เขาพูดอีกแล้ว ผมพาตัวเองขึ้นมาห้องนอน ห้องนอนของคุณถุง ผมมึนหัวมาก เข้าไปอาบน้ำแบบเบลอๆ ออกมาก็ไม่เจอใคร ผมเริ่มเวียนหัวมากกว่าเดิม คงเป็นเพราะฤทธิ์น้ำเมา ผมใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวแล้วกระโดดลงไปนอนบนเตียงแบบมึนๆ ไม่ไหว ตาก็จะหลับ สมองก็ไม่สั่งการ แน่สิ ดื่มต่อมาจนเกือบยี่สิบขวด แทบอ้วก
.
ถุงทองผมส่ายหัวให้กับคนเมาที่เดินเข้าบ้านไป แค่ผมชมว่าน่ารัก ทำไมต้องหน้าแดงขนาดนั้นด้วย .. ผมเก็บของ ปิดเตาให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินไปบอกให้เด็กออกมาเก็บของ นี่เพิ่งจะเกือบสี่ทุ่ม ผมเข้าครัวไปเอาน้ำขึ้นมาไว้ดื่ม ระหว่างทางก็เข้าไปหาลูกชายผมเสียหน่อย หลับกันหมดแล้วครับตัวยุ่งทั้งหลาย ฮะเก๋าก็มานอนกับเกี๊ยวด้วย ดีมาก ผมจะได้มีเวลาอยู่กับปรุง
ผมเดินเข้าห้องมาก็เจอสภาพที่ ...
... เละ ...
ผมเก็บเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นเอาไปใส่ตะกร้า ปิดไฟในห้องนอนเหลือแค่หัวเตียงกับห้องน้ำ คนบนเตียงที่นอนกางแขนกางขาคว่ำหน้าซุกหมอนคงหลับปุ๋ยไปแล้วสินะ แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อเนี่ย หนาวตายชัก ..
"ทำไมไม่ใส่เสื้อเนี่ย หืม .. ฟอด" ผมจับตัวปรุงขึ้นมานอนดีๆ นี่คงเมาด้วยสินะ แอบหอมแก้มขาวที่มีกลิ่นสบู่หอมๆไปฟอด เนียนได้อีกผู้ชายอะไร
"อื้อออ .. ไปอาบน้ำ .. เหม็น" ฮ่าาา ผมแทบจะกลั้นหายใจตาย ขำมาก ปรุงผลักอกผมออกแล้วพูดละเมอเบาๆว่าให้ผมไปอาบน้ำ คงได้กลิ่นเหล้าสินะ ได้ครับ เลขาสั่ง ผมเป็นนายก็ต้องทำ .. สินะ !
ผมเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจ ถึงจะกรึ่มๆแต่ก็รู้เรื่องทุกอย่างครับ ส่วนปรุงนี่เมาของจริงเพราะกระดกจนหมดไปหลายสิบขวด ผมเช็ดตัวเดินออกมาใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียวกับเสื้อแขนสั้นอีกตัว เหลือบมองคนบนเตียง ปรุงยังนอนหลับอ้าปากอยู่เลยครับ เป็นภาพที่เลขาผมดูน่าเอ็นดูมาก ผมปรับแอร์ให้พอดีแล้วเดินไปที่เตียงจัดผ้าห่มให้เลขาผม ผมค่อยๆขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วดึงตัวปรุงเข้ามานอนใกล้ๆ ผมสอดแขนให้ปรุงนอนซบมาที่แขน ปรุงขยับตัวเล็กน้อยเข้าทางผมพอดี
"รู้ไหมว่าตอนนี้นายคือคนสำคัญของฉันอีกคน .. เครื่องปรุง"
ผมกระซิบข้างหูแล้วก้มลงไปจูบกระหม่อมบาง แต่ไม่แค่นั้น ยิ่งได้สัมผัสยิ่งหลงใหล ผมพลิกตัวขึ้นโอบปรุงไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะก้มลงไปจูบไล่มาจากหน้าผากร้อน เปลือกตา ไล่ลงมาที่จมูกโด่งรั้น ก่อนจะเลื่อนลงไปที่ซอกคอหอม จูบซับ และ ขบเม้มจนพอใจ ถึงค่อยๆกดจูบลงไปที่ริมฝีปากบางนั้น ปรุงหายใจสม่ำเสมอ จนผมพยายามสอดลิ้นเข้าไปหาความหวานในโพรงปากร้อนนั้น ปรุงเริ่มหายใจแรงขึ้น ผมอาศัยจังหวะสอดลิ้นเข้าไปด้านใน กลิ่นประจำตัวที่ผมชอบ กลีบปากนี้ที่ทำให้ผมคลั่ง ผมส่งลิ้นไปไล้เลียลิ้นเรียวนั้นที่ยังคงนิ่งสงบ มือผมที่ประครองหน้าค่อยๆเลื่อนลงมาที่แก้ม ลูบปลอบประโลมคนใต้ล่าง ก่อนจะเลื่อนลงไปเล่นที่ใบหู หยอกเย้าคนใต้ล่างจนผมเผลอส่งเสียงครางออกมา
"อ่าา .. ปรุงครับ" ผมดูดเลียลิ้นนั้นจากเบาแรงเป็นร้อนแรงขึ้น คนใต้ล่างเหมือนจะรู้สึกตัว ปรุงเผยอปากออกจนผมสามารถดูดซับไว้ได้จนหมด ทั้งปากและลิ้นร้อนภายใน หวาน หวานจนไม่อาจหยุดการกระทำได้อีก
"อื้อออ .." ปรุงที่เริ่มรู้สึกตัวและหายใจไม่ออก ประท้วงมือผมที่ส่งไปลูบไล้แผ่นอกบาง ผมไม่สามารถหยุดตัวเองได้อีกแล้ว ความร้อนในโพรงปาก ความร้อนจากผิวหนังคนใต้ล่างทำให้ผมสติแตก ผมส่งนิ้วไปเล่นกับยอดอกที่มีแค่ตุ่มไตเม็ดเล็ก ปรุงเป็นผู้ชาย จะมามีฐานเต้าก็ไม่ใช่ ผมใช้สองนิ้วนวดคลึงเม็ดอกนั้นไปเรื่อยๆจนปรุงส่งเสียงครางออกมาเบาๆ หายใจหอบกระเส่า
"คุณ .." พอผมผละปากออก ปรุงก็ค่อยๆลืมตามองผม แล้วพูดออกมาเบาๆ มือก็ยังคงจับมาที่ข้อมือผมเหมือนจะห้ามไม่ให้แตะต้องร่างกายส่วนนั้นที่กำลังแข็งขืนสู้มือผมอยู่
"ครับ .. เรียกทำไม" ผมจ้องไปที่นัยน์ตาสั่นระริก ปรุงไม่ใช่ผู้ชายอ่อนแอ เพียงแต่เขาสับสนในการกระทำของผม ซึ่งผมต้องทำให้มันกระจ่างเสียที ไม่อย่างนั้น เราคงจะอึดอัดใจกันไปอีกนาน
"ผมไม่ .. เอ่อ .. เรา .. ไม่ควร .." เขาเสียงสั่นเหมือนจะพูดเพื่อเตือนสติผม แต่ผมยังมีสติ และผมก็อยากให้เราเป็นแบบนี้ ผมคิดว่าผมอยากมีคนที่ต้องคอยดูแล ปกป้อง และพร้อมจะเดินไปด้วยกัน และคนที่มีผลกระทบต่อจิตใจผมมากที่สุดตอนนี้คือเขา เลขาผมคนนี้
"ถามใจนายสิ .. ว่าอยากให้ฉันเป็นคนนั้นหรือเปล่า" ผมใช้คำพูดที่ฟังง่าย ไม่ให้เขากังวล ผมรู้ว่าเราไม่ใช่เกย์ ผมแค่อยากมีเขา และเขาก็คงอยากมีแค่ผม
"ขอให้คืนนี้มีแค่เรา .. ได้ไหม"
"แค่ฉัน"
"กับนาย"
ผมพูดจบปรุงหลับตาลงแล้วพยักหน้า ผมจูบซับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม ปรุงเมาแต่คงพอมีสติ ผมไม่รู้ว่าระหว่างเราจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ผมจะไม่ทิ้งเขา ผมจะดูแลเขาให้ดี การที่ผมแสดงออกแบบนี้มันคือ 'ความรัก' หรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจ แต่สักวัน ความรักของผมมันคงจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน ขอให้คืนนี้เป็นคืนที่มีแค่เรา แค่ผมกับปรุง แค่เราสองคนเท่านั้น ผมก็คงจะไม่สงสัยในการกระทำของผมที่ผ่านมาอีกเลย ว่าเวลาที่ผมห่วงหา เวลาที่ผมหึงหวง มันเป็นเพราะผมคิดกับปรุงแบบลูกน้อง หรือ คิดกับปรุงแบบคนรัก กันแน่ ...
TBC.
เครื่องปรุงจ๋าาาาาาาาาาาาาา
ถ้าสั้นไปขอโทษนะคะ เขียนนิยายยาวๆไม่รอดสักที ตีมือเลย ><