บทที่ 4
ตึก ตัก ตึก ตัก
เสียงหัวใจของผมเต้นรัวยิ่งกว่ารัวกลอง
ตอนนี้พี่เขายืนแบคฮัคผมอยู่ ผมขยับตัวจะเดินออกไป แต่ถูกพี่เขาดึงตัวไว้ ผมรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆที่รดต้นคอ มันทำให้ผมขาอ่อนอยากล้มไปกองตรงนั้น มือหนาก็ถูทำความสะอาดมือให้ผม มือของเราประสานกันแล้วเลื่อนเข้าออกระหว่างนิ้วช้าๆ ผมเงยหน้ามองกระจก พี่เขาก็มองเข้ามา เรามองกันผ่านกระจกบานใสไร้ซึ่งคำพูด
พี่เขาลูบไล้ทั่วฝ่ามือ หลังมือ ใช้สบู่ชโลมอย่างช้าๆ เอวด้านหลังก็ดันตัวเข้ามาเป็นจังหวะผมยืนขาสั่นระริก
“ฮึกๆ”ผมกัดปากตัวเองไว้ ไม่ให้ส่งเสียงออกไป ตรงนั้นของพี่เขามันตุงออกมาจนผมรู้สึก มันถูก้นผมไปมา
สายตาคมมองร่างผมเหมือนจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว ตาของผมปรืออ่อน เหมือนคนหมดแรง
กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวพี่เขาเพิ่มให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเดิม นี่มันที่สาธารณะ ถ้าเกิดใครเห็นขึ้นมามันจะไม่ดี
“แฮ่กๆ”พี่เขาหายใจดังไม่ต่างจากผม ปากหนางับหูผมเล่นไปมา ผมกำมือแน่น ไม่ได้นะ จะปล่อยตัวปล่อยใจแบบนี้ไม่ได้ แต่มัน
โอ๊ย รู้สึกดีเป็นบ้า
“อ๊ะ”ผมหลับตาแน่นเพราะพี่เขาเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อผม มือเย็นๆที่เพิ่งผ่านน้ำ สัมผัสกับยอดอก ทำเอามันแข็งขึ้นมาสู่มือพี่เขาเลย โน้มตัวลงเพราะมันยืนแทบไม่ไหว
“อะ อย่า ครับอื้อ”ปากเล็กของผมถูกพี่เขาใช้ลิ้นสอดเข้ามาจากนั้นก็ดูดดึงไม่หยุด
“อื้ม”ผมเอามือเกาะขอบอ่างล้างหน้าไว้
ไม่ได้นะ ในใจผมร่ำร้องแบบนั้น แต่จะขยับตัวตอนนี้ผมยังทำไม่ได้เลย ให้ตายสิ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้
“อื้อ อื้อ”ผมไม่อาจยับยั้งหัวใจตัวเองได้เลยจูบตอบพี่เขาไป พี่เขาเริ่มจูบแรงมากขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเครื่องดื่มที่พี่เขาทานไปหรือเปล่า ผมจึงรู้สึกว่ามันรุนแรงกว่าเดิม
“อ๊ะ”เอวหนาขยับเบียดมามากขึ้นเรื่อยๆ เขาจับตัวผมให้หันมาหา ผมแพ้สายตาความต้องการนี้เหลือเกิน ส่วนล่างของผมกับพี่ถูกันไปมา นี่สินะที่คนเขาว่าถ้าจูบเดียวก็เสร็จได้ ผมเพิ่งรู้ก็วันนี้แหละ
ครืด~~~~
เสียงเพื่อนพี่เขากดชักโครกดังมาจากในห้องน้ำ ผมเลยดึงตัวจากการเกาะกุมของพี่เขา แล้วเดินเข้าไปในร้าน
แฮ่กๆ ทำไมถึงเหนื่อยแบบนี้ก็ไม่รู้ ผมจับหัวใจตัวเอง มันเต้นแรงจนผมแทบตายอยู่ตรงนั้น
ไม่ไหว ไม่ไหว เหมือนจิตใจของผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมันหล่นไว้ตรงไหนก็ไม่รู้ ทำยังไงดี
“ดินอิ่มแล้ว เป้ทานอะไรต่อไหม”เธอส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไปกินนมสดกัน เป้อยากกินนมสดประตูห้า ไปกินนมสดกันนะดิน”เธอเสนอ ผมพยักหน้ารับ อะไรก็ได้ตอนนี้อยากออกไปจากที่นี่แล้ว ถ้าอยู่ต่อผมกลัวจะควบคุมตัวเองไม่ได้
หลังจากผมกินนมสดกับปูเป้เสร็จก็พาเธอไปส่งที่หอ แล้วก็ขับรถกลับบ้าน ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงในบ้านที่ว่างเปล่า ปกติกลับมาจะได้ยินเสียงพ่อเรียกกินข้าวไม่ก็เรียกให้ไปช่วยขึงผ้าใบ
แต่ตอนนี้มีแต่ความเงียบเหงา ผมนอนมองเพดานที่มีแต่หยากไย่ ผมล้วงเงินในกระเป๋าออกมาวางไว้ แล้วยกขึ้นมารับ เงินมากมายที่ได้จากการขายตัวเอง เงินมากมายที่ต้องเอาไว้เลี้ยงตัวเอง
จู่ๆน้ำตาของผมมันก็ไหลออกมาเสียอย่างนั้น ผมกอดเงินจำนวนนี้เอาไว้ ผมต้องใช้มันอย่างประหยัด เพราะผมไม่อยากทำแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง มันไม่สนุกเลยถึงแม้ผมจะเคลิ้บเคลิ้มไปกับกรงกามเมื่อคืนก็เถอะ
ถ้าผมเจอคนไม่ดีละ ถ้าผมติดโรคละ เมื่อคืนเขาไม่ได้ใช้ถุงยาง ยิ่งคิดยิ่งทำให้ผมเครียด พรุ่งนี้ผมจะไปตรวจเลือด
ผมเก็บเงินไว้ในลิ้นชักล็อกอย่างดี พรุ่งนี้ผมจะเอาเงินไปฝากธนาคาร วันนี้ขอนอนก่อน ฝันดีครับ ผมมองรูปพ่อบนพนังห้อง ก่อนจะหลับไป
ผมตื่นมาอีกทีเกือบบ่าย ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปตรวจเลือดแต่ก็ไม่ได้ไป ก็เลยเอาเงินไปฝากธนาคารแทนแล้วก็ซื้อของเข้าบ้าน พวกกระปิน้ำปลา มันหมดทุกอย่างเลยผมรีบซื้อตุนเอาไว้ ยามที่มันไม่มีจะได้ไม่ลำบาก
ผมซื้อมาม่ามาหลายลัง ไข่หนึ่งแผง แล้วก็ผลไม้ เอาใส่ตู้เย็นไว้ จากนั้นก็ซื้อโทรศัพท์ใหม่ เครื่องหน้าจอแตกตอนเมาเหล้าแล้วรถตกถนนกับเพื่อน เมื่อก่อนปิดเทอมที่แล้ว อีกอย่างเมื่อเช้าผมลองเช็คดูมีคนโทรเข้ามาเป็นร้อยสายเลย น่ากลัว TT^TT ผมไปลบกระทู้ที่ผมตั้งไว้ออกจากเว็บ แล้วก็เปลี่ยนเบอร์ใหม่ไปเลยเลิกใช้เบอร์เก่า
ผมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างจริงๆจังๆแล้ว จะตั้งใจเรียน จะหางานที่ดีกว่านี้ทำ ผมไม่ได้ว่างานนั้นไม่ดีนะ แต่ว่าผมคงไม่ทำแล้วละ ไม่เอาแล้ว ถึงมันจะดีก็เถอะ แต่มันก็ไม่ดีในอนาคตแน่ๆผมมั่นใจ เพราะถ้ามหาลัยรู้เรื่อง ผมอาจจะโดนไล่ออกก็ได้ใช่ไหม ผมยังอยากเรียนจบแล้วไปทำงานอยู่นะ
ผมเดินจนทั่วแผนกอาหาร บนรถเข็นเต็มไปเสบียงมากมาย ผมซื้อยาวไปถึงปลายปีเลยนะ แบบอะไรที่มันหมดอายุช้า เก็บไว้ได้นานๆ อยากกินระหว่างนั้นสายตาอันแหลมคมของผมก็หันไปเจอ ผู้ชายที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้ พี่เขานั้นเอง เฮ้ย!! ห้างในจังหวัดนี้มันมีตั้ง 5-6 ที่ แล้วเดินวันอื่นก็ได้ทำไมต้องมาเดินวันนี้ แล้วทำไมต้องมาเจอกัน ผมไม่เข้าใจ
ผมเดินเลี่ยงออกไปอีกทางหวังว่าพี่เขาคงไม่เห็นผมเหมือนที่ผมเห็นพี่เขานะ
ผมได้แต่ภาวนา ตอนนี้ไม่มีกะใจซื้อของเลย ผมรีบลากรถเข็นไปช่องคิดเงิน
พี่เขาไม่ได้ตามผมมาใช่ไหมทำไมมันบังเอิยขนาดนี้ ผมยืนหันหลังเพราะพี่เขากำลังจ่ายเงินอยู่ตรงช่องถัดไป ดีที่ของผมเยอะเลยเห็นพี่เขาเดินไปก่อน
เฮ้อ~~~ ทำไมสองสามวันนี้มานี้มีแต่เรื่องให้ตื่นเต้น TT^TT
ผมรีบจ่ายเงินแล้วก็เอาของไปไว้ในรถ รถกระบะคันเก่าที่พ่อซื้อไว้ตั้งแต่ผมยังเด็ก บ้านเราอยู่ไกลจากโรงเรียนประจำจังหวัดมากพ่อก็เลยซื้อรถคันนี้เอาไว้ส่งผมไปโรงเรียน ผมแอบหัดขับตอนมอปลาย แล้วก็ขับไปเองแต่เอาไปจอดไว้ที่วัดข้างโรงเรียนเวลาพ่อไม่ใช้รถ ตอนนั้นยังไม่มีใบขับขี่เลย โดนตำรวจจับหลายครั้งไม่เคยเข็ด พอเขาเห็นรถก็เตรียมโบกเลย เสียเงินตลอด
ครืด~~ ครืด~~ ครืด~~
เฮ้ย เป็นไรอ่ะ ผมบิดกุญแจแล้วแล้วสตาร์อีกรอบ ดับสนิท มาเสียอะไรตอนนี้ อ๊ากอยากเอาหัวโขกพวงมาลัย ฮือ ฮือ
ผมนั่งเสียกุญแจแล้วบิดใหม่อีกหลายรอบมันก็ไม่ตอบสนองจนต้องลงมาดูหม้อน้ำ ก็เพิ่งเติมไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไง
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”เสียงนุ่มคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง เอาแล้วไง เสียงนี้ ผมรีบปิดประโปรงหน้ารถ
“ไม่มีอะไรครับ”ผมตอบส่งๆอย่างไม่มองหน้า แล้วรีบกลับเข้าไปในรถ
พี่เขาเดินมายืนเท้าประตูรถส่องดูผม ผมบิดกุญแจอีกสามสี่ที ไม่ได้มันติดเลยเงียบสนิท น้องสนิมของพ่อ ช่วยพ่อหน่อยนะลูก ติดสิครับ ติดหน่อยน้า
ก็อก ก็อก ก็อก
พี่เขาเคาะกระจก
ผมค่อยเปิดมันออกเล็กๆพอให้คุยกันได้แล้วก็มีอากาศหายใจ
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”เขาถามเข้ามา
“ไม่มีครับ แค่สตาร์ไม่ติด รอมันบู๊ทเครื่องนิดหน่อย”แก้ตัวสุดฤทธิ์
“คือว่ามันขว้างทางรถพี่อยู่น่ะครับ ให้พี่ช่วยเข็นไปอู่ไหม" ผมลองบิดกุญแจอีกสามสี่ที ฮือ เอาก็เอาวะ
จากนี่ไปอู่ถ้าจ้างรถมาลากแพงแน่ๆ ผมค่อยๆเดินลงจากรถไปเผชิญหน้ากับพี่เขา ให้ตายเถอะเจอกันสามวันติด
คราวนี้เขาไม่ยิ้มให้ผม ทำหน้าบึ้งเหมือนกับว่าไม่รู้จักกัน เขาเดินไปเอาเชือกมาผูกกับรถของผม ผมเข้าไปคุมรถของตัวเองพี่เขาก็ขับพาไปอู่ให้
ที่ร้านบอกว่าน้องสนิมน่าจะอยู่ดุอาการอีกสองสามวัน วันนี้ให้กลับไปก่อน ของเยอะแยะเต็มหลังรถผมจะขนกลับบ้านยังไง น้องสนิมทำกับพ่อได้ โธ่
“บ้านอยู่ไหน เดี๋ยวพี่ไปส่ง”พี่เขาเดินมาข้างตัวผม
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวเรียกแท็กซี่ไป”ผมตอบปฎิเสธ พี่แกหน้าเสียไปเลย ผมเดินไปหยิบของหลังรถออก พี่แกก้มาแย่งไปจากมือแล้วเอาไปไว้ที่รถตัวเอง
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง อย่าปฏิเสธขอร้อง”เขาพูดเสียงเข้ม หน้าตาก็บ่งบอกว่าจริงจังทำเอาผมกลัวเลยปล่อยให้พี่เขาทำตามใจ
เขาขนของของผมไปไว้ในรถตัวเองจนหมด แล้วก็เข้าไปนั่งในรถ ผมเดินตามไปนั่งข้างๆ
“ไปทางไหน”
“ทางนี้ครับ”ผมชี้บอกทาง
บรรยากาศบนรถขมุกขมัวมาก ผมอึดอัด กลับกับแท็กซี่ดีกว่าอีก ผมนั่งกำเบลล์ที่คาดอยู่กลางอกแล้วก็มองไปนอกหน้าต่าง
“ทำไมไม่รับสายเลย”พี่เขาเริ่มบทสนทนา
“อะไรนะครับ”มัวแต่เหม่อก็เลยไม่ได้ยินที่พี่เขาพูด
“พี่ถามว่าทำไมไม่รับสายเลยครับ เมื่อวานพี่โทรหาเราทั้งคืนเลย”
“เอ่อะ คือว่าผมเปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้วน่ะครับ”ผมตอบอ่อมแอ่ม
“เปลี่ยนทำไม”
“ก็มีคนโทรเข้ามาไม่หยุดเลย เบอร์แปลกๆทั้งนั้นผมก็เลยเปลี่ยนเบอร์น่ะครับ”
“อย่างนี้นี่เอง นั้นพี่ขอเบอร์ใหม่เราได้ไหม”พี่แกยื่นมือมาตรงหน้าผม
“เอาโทรศัพท์เรามาสิ”ผมยื่นโทรศัทพ์เครื่องใหม่ให้อย่างไม่ค่อยเต็มใจ เขาเอาไปกดเมมเบอร์ชื่อตัวเองไว้แล้วก็โทรออกไปหา
เครื่องพี่เขา จากนั้นก็คืนมือถือให้ผม
“คืนนี้ว่างไหม”
“อะไรนะครับ”ผมร้องเสียงหลงอีกรอบ
“ถามว่าคืนนี้ว่างไหม”
“คะ คือว่า...”
“พี่จองเลยละกันนะ สองวันนี้เสาร์กับอาทิตย์”พี่แกหักรถเลี้ยวไปอีกทางอย่างรวดเร็ว
เฮ้ย อะไรเนี่ย ไม่น้า
...................................................................................................
กระดึ้บมาอัพพพพพพพ
ปั่นแบบสี่คูณร้อยยยยย คำผิดเยอะมาก ไม่ได้ตรวจทรานเลย เจอคำไหนแปลกๆบอกนะคะ
เดี๋ยวตอนเช้าฝ้ายมาแก้น้า พรุ่งนี้มีเรียนเช้ามีสอบแลปด้วยฝ้ายไปอ่านหนังสือก่อนน้า
ฝันดีค่ะ
โทรไปทำไมไม่รับ