[นิยายตลกขบขัน] เพราะเขาเป็นพ่อเลี้ยง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายตลกขบขัน] เพราะเขาเป็นพ่อเลี้ยง  (อ่าน 282981 ครั้ง)

ออฟไลน์ umamabc

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 
ถึงกับอึ้งกันเลยทีเดียว...

แล้วที่นี้กานต์จะหนีไปที่ไหนเนี่ย

แต่เราชอบความสัมพันธ์ระหว่างพ่อเลี้ยงกับกานต์นะ

มันดูจิตดีอะ ปล.อีกอย่างชอบอ่านแบบเคะไร้หนทางสู้ 555

แต่เดาตอนต่อไปไม่ออกเลยอะ ไม่รู้ว่าสุดท้ายเเล้วกานต์จะเป็นยังไง

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
อยากอ่านในมุมของพ่อเลี้ยงบ้าง

เรื่องมืดมนเพราะพ่อเลี้ยงไม่ดี หรือเพราะกานต์มองแต่ในแง่ร้าย

ทำไมแม่กับพ่ออยู่ในรถคันเดียวกัน ปรึกษาเรื่องลูก กลับไปคืนดี หรือไม่เคยเลิกกันตั้งแต่แรก

ออฟไลน์ PingPong_Hunlay

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คนแต่ง แต่งเก่งมาก เราตลกทุกตอนเลย5555
เราชอบพ่อเลี้ยงกับกานนะดู smดี 555

ออฟไลน์ GipHxyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มันบีบคันอารมณ์มาก คือเราเข้าใจกานต์เลยตอนมัธยมเราก็มองโลกในแงาลบแบบนี้เนื่องจากปัญหาครอบครัว หวังว่ากานต์จะผานไปได้ ปล.อยากอ่านมุมของพ่อเลี้ยงบ้าง อยากรู้ตกลงแกรักกานต์บ้างรึเปล่า หรือแค่หงี่

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เฮ้อ ยังจะเลวร้ายกว่านี้ได้อีกมัย เก็บกดสุดๆ หาทางออกดีๆให้กานต์ที  :กอด1:

ออฟไลน์ jamlovenami

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 639
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
มันเสี้ยน-เอ้ย! เศร้ามากกกก เราเข้าใจความรู้สึกกาสต์นะ เพราะเราก็เป็นบ่อยๆ อยู่ดีๆก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมา มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลยจริงๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
เพิ่งมาอ่านครั้งแรก...ตลกขบขันจนพูดไม่ออกเลยค่าาา   :sad2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ HoSoka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Baddest_Female

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ moomj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตอนแรกงงชื่อตอน ครอบครองโดยสมบูรณ์ อ่านจบตอนแค่นั้นแหละ ผมนี้บางอ้อเลยครับ สมบูรณ์จริงๆ

ออฟไลน์ Maiiz Ellfiez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เคยอ่านแบบดาร์ก ๆ มาเยอะ  แต่นี่ระดับไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ  ชอบค่ะ

ออฟไลน์ poyhoney

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จบแล้วใช่ไหม ยังไง

ทำไมรู้สึกค้าง o22

ออฟไลน์ HoSoka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0

ออฟไลน์ ภาพวาดคลุง

  • ห่ะไรนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +483/-6
    • ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด
บทที่ 17 : ข่มขู่ [2/2]
 
 

 

 

คืนนั้นผมแทบไม่ได้นอนเลย มันเป็นค่ำคืนที่แย่มากเพราะผมตัวสั่นยิ่งกว่าลูกนกหรือสัตว์ที่ยังไม่โตเต็มที่

ผมปวดหัว มันรุนแรงจนผมอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองกำลังจะตาย ผมนึกภาพตัวเองตายวิญญาณออกจากร่างกำลังจะเดินเข้าประตูสวรรค์แต่ผมปฏิเสธที่จะไป เนื่องจากคนที่ผมรู้จักโดยส่วนมากอยู่ในนรกกันทั้งนั้น พวกเขาไม่นิยมสถานที่น่าเบื่อเช่นนั้นหรอก เทวดาอาจทำหน้าฉงนแล้วเขาก็จะโกรธเป็นฟืนไฟหาว่าผมอวดดี ฉะนั้นเมื่อไปถึงแม่น้ำสติกซ์ผมคงจะติดสินบนคนพายเรือแล้วกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงเนือยๆว่าได้โปรด พาผมไปส่วนที่ลึกสุดแสนของความมืดนี้อะไรแบบนั้น คนดีๆส่วนมากจะใจอ่อนกับคำว่าได้โปรด แต่คนเลวๆจะรู้สึกหยิ่งผยองเมื่อได้ยินคำเหล่านั้น ผมอาจได้รับคำกล่าวขานว่าผีเร่ร่อนที่เท่ห์ที่สุดในเวลานั้นด้วยซ้ำไป

ทว่าผมไม่ตาย ยังอยู่ แต่ไม่ค่อยดีนัก ผมจำได้คร่าวๆว่าตัวเองนอนคดอยู่บนเตียงโดยมีเขากอดไว้อยู่อีกที เขาเอาแต่พร่ำพรรณนาอย่างกับเสียงสวดมนต์ข้างหูผมด้วยถ้อยคำลวงหลอก ตัวอย่างเช่นคำว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะ” หรืออะไรทำนองนั้น

ลำคอผมตีบตันอย่างยิ่ง คล้ายว่ามันกำลังบีบคั้นทางเดินหายใจของผมที่เชื่อมต่อยู่ตรงหลอดลมไม่ก็หลอดอาหารหรือสักทีนึง ผมไม่แน่ใจจริงๆว่าอยู่ส่วนไหนกันแน่หรือมันเกี่ยวข้องกันไหม หรืออาจจะไม่เลย แต่สิ่งนั้นเหมือนกำลังจะฆ่าผมให้ตายจริงๆ

เขายังคงตระกองกอด ดึงดันผมกลับเข้าไปอยู่ในแขนของเขา มันน่ารำคาญเมื่อคุณต้องการจะออกมาจากบางสิ่งแต่ดันถูกลากกลับไปด้วยระยะทางอันน่ารำคาญ

ปัญหาก็คือ ผมไม่สามารถขัดขืนได้ เพราะทันทีที่ผมมีความคิดเช่นนั้น ราวกับว่าผมได้ตะโกนใส่หน้าเขาว่า  ‘ไอ้สัตว์ เย็-แม่ง ปล่อยได้แล้ว ระยำเอ๊ย’ ซึ่งเขาก็จะกอดแน่นกว่าเดิม เอาให้คุณตายด้วยสาเหตุขาดอากาศไปเลี้ยงสมอง

ผมไม่รู้ว่าตัวเองสะอึกสะอื้นออกมาไหม แต่ผมว่าไม่ ผมไม่มีวันทำเรื่องน่าอายเช่นนั้นแน่นอน เขาระดมริมฝีปากทั่วทุกที่ทุกตารางนิ้วบนใบหน้าผม เขาทำมัน เขารักที่จะทำเรื่องน่าขยะแขยงเสมอ แต่เขาก็ทำได้ ต่างจากผม ผมไม่สามารถแม้แต่จะหายใจเกินจำนวนครั้งที่เขาระบุไว้ด้วยซ้ำ ผมหมายถึงการหายใจตอนนี้ยากลำบากแสนเข็ญเหลือเกินน่ะนะ

ความเจ็บแปลบที่หน้าท้อง จุดเดียวกันกับที่ผมกระทำการจ้วงตับไตตัวเอง ด้วยความสัจจริง— เชี้ยแม่ง ผมโคตรเกลียดคำนี้เลยว่ะ ความจริงในตอนนี้คือไม่มีเหี้ยอะไรดีทั้งนั้น หวังว่าเลือดคงไม่กำลังดำเนินการเคลื่อนย้ายออกจากตัวผมตอนนี้หรอกนะ

เขาทำผมบาดเจ็บ แผลปริแตก ยังมีหน้ามาทำปลอบประโลมผมราวกับพ่อพระที่ถือตะเกียงไฟอุ่นๆท่ามกลางพายุหิมะขาวโพลน ยิ่งเขากล่าวว่า “กานต์ยังมีพี่ไง ยังมีพี่นะ” ช่างน่าคลื่นไส้ น่าคลื่นไส้อย่างมาก

ผมรู้สึกว่าไอ้แสงไฟนั่นกำลังหัวเราะเยาะผมเพียงเพราะมันมีแสงสีส้ม จู่ๆมันก็มืดลง เขาปิดมัน เขาทำลายแสงนั่นทิ้ง ผมได้ยินเสียงระหว่างริมฝีปากที่ประทับแนบกับเนื้อวนอยู่อย่างนั้นช้าๆ

ผมนึกไม่ตกว่าควรจะโศกเศร้าเพียงใดจึงเพียงพอให้ดูเป็นคนดี

ผมโศกเศร้าจริงๆ ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมพูดจริง แต่ผมคงรู้สึกแย่กว่านี้ถ้าหากผมยังอยู่กับพ่อ ผมภาวนาว่าผมคงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการจัดงานหรือการจัดการที่เป็นพิธีอะไรแบบนั้นจนเกินไป หรือไม่ก็ เป็นไปได้ผมไม่ควรจะต้องไปเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นเลยในเมื่อผมไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับเขาแล้ว หมายถึงว่าพ่อผมตายแล้วครอบครัวใหม่ของเขาก็ควรจัดการกันเองนั่นแหละ

ผมขบขันทุกครั้งที่เมื่อเราจมอยู่กับความเศร้า พวกเขาก็จะมองเราอย่างสมเพช และกล่าวด้วยถ้อยคำเฟกๆเพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเป็นคนดีและมีไมตรีอย่างเหลือล้น แบบว่าอย่าเลย อย่าเศร้าขนาดนั้น หาอะไรทำบ้าง ร้อยแปดพันเก้าที่คุณจะนึกได้

กลับกันเมื่อคุณรู้ตัวว่าเศร้าไปก็ไร้ประโยชน์ คุณเลิกอยู่กับมัน กลับมาดูแลตัวเอง พวกเขาก็จะซุบซิบ พระเจ้า ไม่กี่วันไม่กี่เดือน ก็ทำตัวรื่นเริงเสียแล้วหรือ ทั้งๆที่คนนั้นเพิ่งตายคนนี้เพิ่งตาย— เหี้ยเอ๊ย พวกมึงจะเอายังไงกันแน่วะ ความเสือกเป็นเรื่องสามัญ แม้จะเป็นอะไรที่น่าขยะแขยงและไม่ควรสามัญก็ตามที ไอ้เรื่องที่ควรไปช่วยเหลือผมล่ะไม่เห็นจะมีใครเข้าไปเสือกเลยจริงๆ

ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้ผมรู้ว่าตัวเองไม่ได้สติฟั่นเฟืองไปหรือว่ากำลังหูฝาด

เขาแทรกตัวเข้ามาอย่างแนบเนียน โดยใช้การจูบเป็นตัวสกัดกั้นไว้ก่อนที่ผมจะสัมผัสได้ถึงอะไรๆ ไม่สวยงามนัก เขาบีบบังคับข้อมือผมไว้ ศีรษะเขาเคลื่อนที่ลงต่ำ ผมถูกกัด ผมแน่ใจว่าผมถูกกัด เขาจูบลงบนจุดที่มีผ้าปิดแผลแห่งชัยชนะของผมเอาไว้ เขาจูบเบาๆ ราวกับกลัวว่าถ้าแรงกว่านี้อีกนิดผมจะต้องตายไปในทันทีที่เขากระทำมัน

ผมหวาดกลัว ผมอยากจะหายตัวเข้าไปใต้หมอนใบใหญ่นี้ แต่ผมไม่สามารถขยับเขยื้อนได้จริงๆเว้นเสียแต่จินตนาการ ง่ายๆแค่นิ้วก้อยผมยังไม่แรงกระดิก

ผมไม่ควรจะเปิดเผยความคิดมากนัก ผมหมายถึงว่าผมไม่จำเป็นต้องคิดอะไรให้มันมากความ ผมควรจะมีความเถรตรงมากกว่านี้ ผมควรจะยอมรับซะว่าแม่ทำอาหารห่วยแตกเท่าที่ผมเคยทานมา จริงๆเธอก็ทำมันได้ดีแหละ แต่ผมมักชอบกล่าวตรงกันข้าม ไม่รู้ว่าทำไม

“…กานต์…ไม่เอาไม่ร้องนะ”

เขาแทบจะแทรกตัวเข้ามาในร่าง หรือเขามีแผนจะสิงยึดครองร่างอะไรแบบนั้นผมก็ยังไม่แน่ใจ เขายังยุ่งอยู่กับหน้าท้องผมไม่เลิก ถ้าแผลผมติดเชื้อขึ้นมาหรือถ้าผมตายเพราะติดเชื้อในกระแสเลือดผมขอสาปแช่ง ผมขอแช่งไว้ก่อนเลย ส้นตีนมาก ขอบคุณที่เขาไม่ดึงผ้าที่พันอยู่นั่นออกแล้วแยงลิ้นเข้าไปอย่างเร่าร้อนน่ะนะ ให้ตาย โคตรสยอง ไม่น่าเชื่อว่าความคิดทุเรศนี้จะออกมาจากสมองผม ผมรับประกันว่าปากผมจะไม่มีวันพ่นมันออกมาแน่ๆ

ในที่สุด เขาถามผมว่าเจ็บแผลใช่เหรอ เจ็บใช่ไหม เทือกๆนั่น เขาถามผมด้วยน้ำเสียงที่นุ่มจนผมแทบจะปัญญานิ่มตามเสียงนั้น

เขาแตะริมฝีปากบนเปลือกตาผม เขาใช้ลิ้นนั้นแตะมัน เขาบังคับให้ผมลืมตา ฝ่ามือเขาสอดเข้ารอบเอวผม เขาแทบจะยกได้สบายๆเหมือนยกของเล่นสักชิ้น ทว่าแววตาเขาไม่ได้ล้อเล่น ที่ไม่แปลกคือเขาไม่เคยปล่อยให้ผมหายใจปกตินานนัก

ผมอยากตะโกนใส่เขาว่าที่พูดนั่นหมายความว่ายังไง เขากล่าวเท็จโดยแท้ ผมหวังอย่างนั้น แต่จริงๆมันค่อนข้างก่ำกึ่ง ผมไม่แน่ใจว่าอยากให้มันเท็จแน่ไหม แต่จริงๆผมว่าผมน่าจะรู้ความหมายดี แต่ผมก็อยากตะโกนใส่ใครสักคนเพื่อทิ้งก้อนหินก้อนใหญ่นี่ทิ้ง แต่ผมรู้ว่าไม่นานมันก็จะกลับมาใหม่

ผมหมดสติ ไม่สิ ผมหลับ ตอนเด็กๆผมเคยสงสัยระหว่างสองคำนี้ ผมหมายถึงผมไม่เข้าใจว่าความสองอย่างนี้ต่างกันยังไรหรือความรุนแรงของมันต่างกันแค่ไหน แต่พอโตมาผมถึงได้เข้าใจน่ะนะ ว่ามันโคตรจะต่างกันเลย แถมยังใช้ในสถานการณ์ที่ต่างกันด้วย พระเจ้า ผมอยากจะหัวเราะเพราะเมื่อก่อนผมดันชอบใช้คำแรกมากกว่า พอมาคิดแล้วโคตรขำจะตายชัก

เขาปลอบประโยนผมอย่างละเอียดลออ อ่อนโยนเสียยิ่งกว่าปุยนุ่น ราวกับว่าในโลกนี้ผมไม่สามารถหาคนใจดีอื่นใดได้อีกนอกจากเขา

 

ผมหลับไป หลับไปทั้งอย่างนั้น ตอนไหนก็ไม่รู้ ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหลับไปแล้ว ผมเหมือนตื่นอยู่ตลอดเวลา เพราะความเจ็บปวดในหัวยังคงเล่นงานเรา แม้จะแอบหนีไปในส่วนลึกที่สุดแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังหาเราเจอ

 

 

 

 

วันถัดมา ถัดมาอีกวัน แล้วก็ถัดมาอีกวันวันหนึ่ง จริงๆมันถัดมาหลายวันกว่านั้น ผมสวมชุดดำทั้งชุด ไม่อาจกล่าวได้ว่านั่นเหมาะสมอย่างที่สุด เนื่องจากผมควรจะเศร้าโศกเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศไปด้วย

ผมหวังว่าใบหน้าผมตอนนี้จะดูสลดหดหู่สักกระผีกหนึ่ง แค่เพียงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามคงมิอาจสู้ภรรยาใหม่ของพ่อได้ ความรู้สึกพิลึกพิลั่นแทรกซึมเข้ามาในระยะเวลาอันสั้น ผมหมายถึงผมรู้สึกยังงี้ตั้งแต่ก้าวเท้าลงมาจากรถได้

ความจริงผมไม่ได้อยากมาเท่าไหร่นัก แต่คุณก็น่าจะเข้าใจน่ะนะ เขาบังคับให้ผมมา สิ่งที่จะสื่อก็คือ เขาบังคับผม แต่ผมไม่เข้าใจว่าจะให้ผมมาเพื่ออะไรในเมื่อผมแทบไม่ได้มีสิ่งอื่นใดเกี่ยวข้องกับผู้ชายที่ตายไปแล้วคนนี้อีก ก็แค่พ่อลูกที่ไม่ไยดีกันเลยแม้แต่น้อย มันช่างเสียเวลาเปล่า

เขาดูสงบนิ่ง แต่ตอนที่เข้าไปเคารพศพ ผมสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาด สงสัยว่าเขาอาจจะเริ่มถูกชะตากับพ่อผมขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ ทว่าผมไม่ยักโบกมือลาหรือกล่าวคำลาสั้นๆเฉกเช่น—แล้วเจอกันในนรกนะไอ้แก่ ทว่าอาจจะคนละขุม แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าใครอยู่ลึกกว่าใคร

“กานต์ ลูก ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วล่ะหื้อ”

“ครับก็ 17 ครับ” มั้งนะ ฉิบหายเถอะ ขนาดอายุตัวเองผมยังบอกผิด ว่าแต่ป้านี่เป็นใครวะ

“ตัวโตขนาดนี้แล้ว เป็นหนุ่มแล้วหล่อเชียว สาวๆมาติดตรึมแน่เจ้าหลานคนนี้”

เธอพูดไปยิ้มไป ส่งความเป็นมิตรให้กับผู้ใหญ่อีกคนที่อยู่ข้างกายผม เขายิ้มตอบ ราวกับว่านี่เป็นการรวมญาติครั้งยิ่งใหญ่ แม้รอยยิ้มนั้นจะดูเย็นๆ ผมหมายถึงผมรู้ได้ทันทีว่านั่นเป็นรอยยิ้มที่โคตรเฟกอีกเหมือนกัน เอาจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ ความเกี่ยวข้องนี้แทบไม่ได้มีต่อกันเลยยกเว้นผม

“จะขึ้นมหาลัยแล้วสิเนี่ย จะเข้าที่ไหนล่ะลูก”

“ยังไม่แน่ใจครับ” ใครก็ได้บอกให้ยัยป้าคนนี้หุบปากที

“จำพี่— ได้มั้ยจ๊ะ ถ้าเข้าที่เดียวกันกับพี่เขาได้ก็ดีเลยนะ จะได้ดูแลกันได้”

ท่านที่เคารพ ผมมิอาจบอกเล่าได้ว่าซาบซึ้งแค่ไหนหรือปะทะคารมใดกันบ้างอย่างสนิทสนมในความเป็นญาติสนิทมิตรสหาย บางท่อนประโยคไม่อาจเข้าโสตประสาทผมอีกแล้ว โอเค ก็แค่ลูกท่านหลานเธอที่อยากจะยกตัวอวดอ้างในความสามารถที่ตนมี

ในงานมีเด็ก

ผมเกลียดเด็กมาก เด็กพวกนั้นมันขี้ลอกจนน่ารำคาญ มันจะคัดลอกพฤติกรรมคุณทุกอย่าง ตั้งแต่การพูดการจาการกระทำและความคิด คุณจะกินอะไรหรือชอบอะไร เด็กนั่นมันก็จะทำตามคุณ บางทีก็เกินไปนะจริงๆ โคตรน่ารำคาญ ราวกับว่าสมองมันผูกติดกับการก๊อบปี้อย่างเดียว นึกภาพคุณทำอะไรแล้วก็มีคนทำตามทุกฝีก้าว จริงๆนะ ผมเกลียดจริงๆ ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นแบบอย่างที่ดีได้ แต่ก็ช่าง ผมไม่สน ผมแค่ไม่ชอบให้ใครมาเซ้าซี้กับผมนัก

มีคนรู้หรือไม่ เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจอีกเช่นกัน เขาโอบผมไว้เล็กน้อย มันทำให้เขาดูเหมือนคนโอบอ้อมและพร้อมจะปกป้องผมจากภัยอันตรายทั้งปวง

ถ้ามองแบบเผินๆน่ะนะ

ภรรยาใหม่ของพ่อจ้องเขาตาเป็นมัน ความริษยาและเสียดายเพิ่มพูนคั่งค้างสุมอยู่ในอกของเธอ ถ้าผมใช้เข็มจิ้มไปเบาๆที่ลูกโป่ง เธอคงระเบิดออกมาแน่ๆ ผมและแม่วาสนาดีจริงๆว่างั้นไหม ตั้งแต่มาไม่มีใครถามถึงเธอเลย และสาเหตุการตายของพ่อก็ดูจะเป็นเรื่องดีไปได้

ผมแทบไม่มองอะไรนอกจากนั่งคอตรงๆ ทุกอย่างดูเบลอ ผมหมายถึงว่าผมไม่ได้สนใจ ทำให้รายละเอียดรอบข้างลดความชัดเจนลงจนจำแทบไม่ได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง

สถานการณ์จริงผมกลับนิ่งเงียบ ผมไม่ได้ลงไปหัวเราะเยาะพ่อที่กำลังนอนอืดอยู่ในกล่อง ผมหมายถึงถ้าเป็นตอนนี้ ผมแสดงออกมากไปแม้จะมีเขาอยู่ด้วยก็ไม่แน่ว่าจะรอดจากการโดนรุมตีน

เขาและผม อยู่ไม่นานนัก แต่น่าแปลกเจ้าของงานไม่ได้ดูขับไล่ไสส่งเขา แต่นั่นก็ไมได้รวมถึงผมด้วย ปัญหาคือบรรดาญาติๆและภรรยาใหม่ของพ่อไม่ค่อยปลาบปลื้มใจเท่าไหร่เมื่อเห็นผม เธอก็ด้วย ญาติพวกนั้นไม่ค่อยจะชอบยัยเมียสาวนั่นนักหรอก

ความเบื่อหน่ายทักทายผมเป็นล้านๆครั้ง ลืมเลือนว่าผมทำท่าจะเป็นจะตายก่อนหน้านี้ แต่ไม่ใช่เพราะสาเหตุที่คุณกำลังคิดอยู่หรอก ไม่ใช่แน่ อารมณ์ผมขึ้นๆลงๆอย่างน่าใจหาย แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดไม่แปรผัน

ไม่ต้องห่วง ผมเองก็เกลียดทุกคนที่อยู่ที่นั่น

ทั้งหมดนั้นเลย

 

 

 

 

เขายิ้มขณะมองผมกำลังกัดผักเขียวๆเข้าปากตัวเอง

เป็นร้านอาหารที่ดูดีนะ ก็น่ะ ค่อนข้างดูดีเลย ผมพยายามจะไม่ทำสายตาหรือสีหน้าเอือมระอาออกไป ผมแค่แบบว่าไม่อยากแสดงออกว่าใช่ แต่ก็อยากให้เขามองออกและรู้ตัวโดยที่ผมไม่ได้แสดงแบบว่าจงใจ แค่อย่างให้ดูเป็นเรื่องบังเอิญแบบเฟกๆนั่นแหละ ช่างเป็นเรื่องที่บ้าบอดีจริงๆ

“อิ่มหรือเปล่า”

ผมพยักหน้าเล็กน้อย

“อยากไปเดินดูอะไรมั้ย”

ผมคิดว่าเขาอยากให้ผมพยักหน้า ตอบว่าไป แน่นอนสิ ผมต้องอยากไป แต่หากผมบอกว่าไม่ เขาก็จะโกรธมากๆและฉีกเสื้อผ้าตัวเองก่อนจะกลายร่างเป็นอสูรกายแล้วก็ตายๆไปซะ อือ ผมพูดเล่นน่ะ ไอ้เหี้ย โคตรตลกเลย

“กานต์อยากจะดูของดูอะไรก่อนหรือเปล่า?”

“ครับ”

“ครับนี่คือไปหรือไม่ไป?”

เขากล่าวอย่างใจดี คล้ายกับจะเอ็นดูผมมากมายเหลือล้น ถ้าไม่จำเป็นจริงๆอย่างช่วงก่อนนอน เขาจะทำแผลให้ผม แต่ถ้าเป็นไปได้ เขาจะไม่ทำอย่างนั้น ผมรู้ว่าเขากำลังรู้สึกผิดบาปทุกครั้งที่มองมัน ฉะนั้นเขาจึงมักพาผมไปโรงพยาบาลแทนที่จะกลับมาทำกันเอง

ผมนิ่งไปครู่นึง เขารอคำตอบอย่างใจเย็น ส่วนผักและอาหารบนจานตายไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผมนิ่งค้างไปนานแต่เพราะพวกมันตายแล้วก่อนหน้านี้แล้วต่างหาก

หลังจากการรอคอยอันแสนเนิ่นนาน ผมเสือกหลุดปากเหมือนคนละเมอที่แยแสทุกอย่างบนโลกว่า “ครับ”

เขาอมยิ้มเล็กน้อย มันเป็นการขบขันที่ทำให้เขาดูเหมือนผู้ชายที่แม่บ้านทั้งหลายฝันหาดีจริงๆ ผมไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้หลงตัวเอง พระเจ้า ผมเกลียดเขาเหลือเกิน

หลังจากผมยัดซากล้านๆซากลงกระเพาะ ด้วยความเอาแต่ใจ ไม่เข้าใจเหมือนกันผมมักถูกห้อมล้อมด้วยคนแบบนั้นเสมอ ดังนั้นเขาจึงถามผมว่า “กานต์ชอบอ่านหนังสือใช่มั้ย งั้นไปร้านหนังสือกัน” เขาแตะไหล่ผม “วันนี้เราจะกลับกันช้าหน่อย กานต์อยากได้อะไรก็หยิบเลย เดี๋ยวพี่จ่ายให้”

ณ เวลานี้ ความปรารถนาหนึ่งเดียวของผมคือขอให้เขาหุบปากซะ

มือผมเย็นเยียบจากการถูกรมด้วยเครื่องปรับอากาศเย็นๆเป็นล้านๆเครื่อง รวมไปถึงเสียงประกาศและเสียงเพลงที่อยู่ในห้างสรรพสินทำให้ผมรู้สึกหูหนวก

ผมเดินไปเรื่อยๆ ขณะที่เขาประกบข้าง มันไม่เหมือนการมาเดินเล่นสักนิด นอกจาการตามติดเหมือนสุนัขเฝ้าของ และแล้วผมหยิบหนังสือมั่วๆสักเล่มขึ้นมา มันไม่ได้สลักสำคัญหรือเตะตาสักนิด มันแค่โชคร้ายที่ผมหยิบมันขึ้นมาก็เท่านั้นเอง

“กานต์ชอบเล่มนี้เหรอ”

“เปล่าครับ”

“น่าอ่านดี” เขาพูด “มันเป็นนิยายนี่ ใช่มั้ย”

“ครับ มั้งนะ”

ผมหวังว่ามันจะเป็นหนังสือที่ดี ผมหวังอย่างนั้นจริงๆ ปกติผมไม่ค่อยหวังอะไรในแง่บวกนัก ผมไม่ได้ปิดมันในทันทีหรอก ผมแค่เปิดมัน เปิดผ่านๆ ผมเห็นตัวอักษรไหลรวมกันเป็นกระแสบางๆทว่าไหลเชี่ยวเหมือนลมโกรก ตอนนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่ มันใช่เวลามาเดินถอดน่องเอื่อยๆเช่นนี้จริงๆหรือ

เขาถามทันทีที่ผมวางมันลง เขาโคตรจะเอาอกเอาใจผมเลย คุณรู้ไหม และผมโคตรของโคตรของโคตรอึดอัด ผมรู้สึกเหมือนผมถูกบังคับให้หายใจเข้าหนึ่งครั้งต่อสามวินาทีอย่างเป็นระเบียบ

เขาหยิบมันมา แต่จังหวะนั้นมือเขาแตะผ่านหลังมือผมไป เขาจงใจทำเหมือนว่าไม่จงใจ มันแค่แวบเดียวแล้วเขาก็โอบผมไปเดินไปทางเคาเตอร์เพื่อจ่ายเงิน ผมรู้ผมเป็นคู่สนททนาที่ยอดแย่ ยอดแย่มากจริงๆ นี่ผมต้องขัดเขินหรือขยะแขยงดี ผมทำตัวไม่ถูก แต่ผมคิดว่าเขาคิด ว่าผมกำลังเขินอายเขาเป็นเด็กๆ พระเจ้า เขาคิดจริงๆ เขายิ้มเหมือนคนบ้าเลย

“ไม่ ผม เล่มนั้นมันแพง” การประหยัดเงินของเขาไม่ใช่สิ่งที่มีในความคิดผมมาก่อน ผมแค่ไม่อยากตื่นขึ้นมาและพบว่านั่นไง สิ่งนั้นเขาซื้อให้ มันเกี่ยวข้องกันน่ะนะ ฉะนั้นอย่างน้อยที่สุดผมจึงอยากบีบตัวเองให้อยู่ในกรอบกลมๆซึ่งยังมีพื้นที่บริสุทธิ์ให้หายใจอยู่บ้าง

“ไม่เป็นไรครับ ไม่แพงเลย”

พูดสิพูด พูดไปเลย

แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้พูด หมายถึงว่า ผมไม่ได้เอ่ยอะไรที่เป็นการขัดใจเขาเลยแม้แต่น้อย แค่นิดเดียวคุณคิดดูเอาเถิดผมก็ไม่ได้ทำ

เขาลากผมตะล่อนไปทั่วในวันนั้น เขาดูเบิกบานอย่างที่สุด เมื่อไปถึงร้านเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่ง เขาจับผมเหวี่ยงไปมาและเลือกมันอยู่เป็นเวลาหลายศตวรรษ

ผมกำลังจะกลายเป็นโปรเจคหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใครในชีวิตของเขา

จู่ๆผมก็อยากสูบบุหรี่ขึ้นมา ไม่ ไม่ ผมไม่เคยสูบมันหรอก แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงนึกอยากขึ้นมาได้ มันคงเท่ห์ดีถ้าหากผมทำหน้าเคร่งขรึมราวกับกำลังแบกดาวทั้งดวงไว้บนหัวขณะพ่นควันขาวๆของมันออกมาด้วย

ผมนึกถึงพี แล้วก็นึกถึงสา ผมไม่ได้คิดถึงพวกเขาแค่นึกขึ้นมาเฉยๆว่าตอนนี้พวกนั้นจะกำลังทำอะไรอยู่ ไม่มีเหตุผลหรอก

เขาเข้ามาในห้องแคบๆที่มีกระจก ผมกำลังเปลี่ยนชุดที่เขาบอกว่าดี

“ดูดีมาก”

เขาลูบหัวผมเบาๆ และไม่ลืมที่จะหยิกแก้มผมด้วย ให้ตายเถอะ เขาทำมันในห้องนี้ ผมหมายถึงเรื่องอย่างนั้น เขาทำมัน บัดซบจริงๆ เขาเป็นนักกลั้นเสียงที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งเลย เขารัดผมกระดูกแทบแตก

เขารูดบัตรอย่างกับสะบัดกระดาษเปล่าจนไปกระตุกความอยากรู้ของผมเข้าว่าสรุปแล้วงานที่เขาทำคืออะไรกันแน่ ผมถือถุงพวกนั้นที่เขาซื้อ ถ้าว่าตามที่เขาต้องการก็คือซื้อให้ผม มันหนักพอตัวเหมือนกัน หลังจากเขาจ่ายเงิน ยิ้มให้พนักงานสาว เขาหันกลับมา “หนักหรือเปล่า” นั่นแหละที่เขาพูด ถัดมาเขาแย่งมันจากมือผมไป ดี ดีมาก เขาควรจะทำอย่างนั้นตั้งแต่แรกแล้ว

อารมณ์ดีอะไรนักหนา

ต้นแขนเขาช้ำจากการโดนผมชกไปทีหนึ่ง เป็นครั้งแรกที่ผมทำ

มีแวบหนึ่งที่ผมอยากจะวิ่งหนีหายเข้าไปในห้องลองชุด เข้าไปในกองเสื้อผ้าแล้วโผล่อยู่อีกโลกหนึ่งที่มีแต่สัตว์พูดได้กับกระต่ายใส่หมวก ความเป็นไปได้จะเกิดขึ้นหากมีอีกตัวแปรหนึ่งคือผมเสพผงขาวที่ได้มาจากบ้านพีคราวนั้นซะ

ผมขึ้นไปบนห้องโดยไม่บอกกล่าว ผมไม่ใช่เด็กดีที่ชอบช่วยพ่อแม่ถือข้าวของซะด้วยสิให้ตาย ผมอยากนอน

ไม่นาน ผมได้ยินเสียง เขาเข้ามา เตียงกดลง เขาพูดเบาๆคล้ายจะขำเสียเต็มประดา “อาบน้ำหรือยัง” ผมมุดอยู่ในผ้าห่ม เขากระซิบใกล้ขึ้นอีก “กานต์ เด็กดี ออกมาก่อน มาอาบน้ำ จะได้ทำแผล”

“…กานต์ อย่าดื้อสิ” เขาดุ แต่น้ำเสียงดูไกลจากคำพูดมาก เขาแทบจะเอาจมูกฝังกับผ้าห่ม ถ้ามันทะลุถึงคอผมได้เขาคงดีใจอย่างยิ่ง

ผมเริ่มหอบสั่น ผมไม่รู้ หรือรู้ หัวใจผมเต้นแรงจนเกือบผลักออกมาจากร่าง

ก่อนที่จะเป็นไปดั่งใจเขา ผมสะบัดผ้าออกและคลานหนีไปอีกฝั่ง ผมเข้าไปอาบน้ำทันที เป็นอีกครั้งที่ผมอาบน้ำได้สะอาดหมดจดจริงๆ ผมใช้น้ำและเวลาอย่างคุ้มค่าที่สุดในห้องนั้นเลย ผมพยายามไม่ให้แผลถูกน้ำตามคำสั่งหมอและเขา แต่ผมไม่สามรถอยู่ได้ด้วยการเช็ดตัวเฉยๆ

“อาบนานมาก” เขาดูขำนะ อืม ขำดี ทุกอย่างดูเป็นเรื่องกรุ่มกริ่มเมื่อเขายิ้มอย่างนั้น “พี่เกือบเข้าไปแล้วถ้ากานต์ยังอยู่ในนั้นนานกว่านี้” พ่อมึงเถอะ

เขาดูแกล้งทำเหมือนไม่เข้าใจในพฤติกรรมของผมที่เป็นอยู่ เขาดูใสซื่อจนผมแทบอยากตาย

มันคงเหมือนมีเรื่องน่าพิศวงบางอย่าง อะไรเอ่ยหายไป

ขณะที่เขากำลังทำแผลให้ผม ผมพบว่ามันค่อนข้างดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับวันแรก เขาอยู่ในเชิ้ตขาวๆซึ่งสร้างบรรยากาศพ่อพระให้เขาได้ดีเยี่ยม

“กานต์คิดว่ากานต์ตัวคนเดียวเหรอ ไม่ พี่ก็ตัวคนเดียว และตอนนี้พี่มีแค่กานต์”

สักพักเขาก็หยุดที่กำลังกระทำอยู่ แต่ผมก็ยังไม่ได้มีท่าทีว่าจะเงยหน้าขึ้น สบตาเขา หรืออะไรอย่างนั้น จนกระทั่งเขาเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ ผมถึงได้สติ

“พี่รู้ว่ากานต์ไม่อยากไปงาน” เขาเอ่ยขึ้น “และพี่ก็รู้ว่ากานต์ไม่ชอบคนพวกนั้น”

ผมว่าเขาลืมใส่ชื่อตัวเองลงไปด้วย

มันค่อนข้างพูดยากนะเมื่อเขาพยายามจะจูบผม

เขาส่งเสียงอือออในลำคอแปลกๆ

“และพี่ก็รู้มากกว่าที่กานต์คิด” เขายกมือคล้ายจะเกลี่ยแก้มผมเบาๆและค้างไว้ ความรวดร้าวที่ผมได้รับมันเจ็บจนชืดชา “กานต์ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร”

ความจงใจนั้นจะใช่หรือไม่ ทว่าการที่เขากดผ้าขาวลึกลงมาส่งผลให้มันกระทบกระเทือนถึงแผล

 

“รู้มั้ย มันสมควรแล้ว”

 

 

พ่อที่พยายามจะข่มขืนลูกตัวเอง

แม่ที่ขายลูกกิน

 

 

 

มันสมควรแล้ว ก็สมควรแล้วจริงๆ

 

 

 

 

TBC
[27/09/2558]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2015 16:54:27 โดย อ๊ายอาย »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
จะตายมั้ยลูก   :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
อ่านตอนนี้ แรกๆก็โอนะ แบบหม่นๆชอบประชดปากไม่ตรงกะใจไปเรื่อย
แต่พออ่านถึงกลางๆตั้งแต่ ส้นตีนมาก เป็นต้นมา ทำไมขำ 5555555

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
โอเคค่ะเรื่องนี้ตลกจริง บทนี้มีจุดที่เราหัวเราะจริง

แต่เป็นตลกร้ายนะ กรี๊ดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
มาถึงจุดนี้แล้ว พ่อเลี้ยงมันจะเหี้_ ได้อีกขนาดไหน
ขนาดเจ็บอยู่ แม้กานต์เพิ่งเสีย แต่มันก็ยังเอาแต่รังแก
น่ารังเกียจที่สุดเลย

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อ้างถึง
คนดีๆส่วนมากจะใจอ่อนกับคำว่าได้โปรด แต่คนเลวๆจะรู้สึกหยิ่งผยองเมื่อได้ยินคำเหล่านั้น


อ้างถึง
กลับกันเมื่อคุณรู้ตัวว่าเศร้าไปก็ไร้ประโยชน์ คุณเลิกอยู่กับมัน กลับมาดูแลตัวเอง พวกเขาก็จะซุบซิบ พระเจ้า ไม่กี่วันไม่กี่เดือน ก็ทำตัวรื่นเริงเสียแล้วหรือ ทั้งๆที่คนนั้นเพิ่งตายคนนี้เพิ่งตาย— เหี้ยเอ๊ย พวกมึงจะเอายังไงกันแน่วะ ความเสือกเป็นเรื่องสามัญ แม้จะเป็นอะไรที่น่าขยะแขยงและไม่ควรสามัญก็ตามที ไอ้เรื่องที่ควรไปช่วยเหลือผมล่ะไม่เห็นจะมีใครเข้าไปเสือกเลยจริงๆ

จริง ! โดน ! มาก !

ยิ่งอ่าน ยิ่งรู้สึกมันเขี้ยวแปลกๆ
เหมือนความรู้สึกคันแขนและอยากเกา และเกาให้แรงขึ้น ขึ้นๆ ไปอีก เพื่อให้หายคันแต่มันไม่หายมีแต่จะยิ่งคัน จนอยากเอาขวานมาจามตั้งแต่หัวไหล่ให้อาการคันมันหายไปจากชีวิต ทั้งยวง?

นี่เป็นมาก ! ! !

อ้างถึง
กระทำการจ้วงตับไตตัวเอง

อันนี้ขำหนักมาก ! ! ! เป็นนิยายที่ตลกจริงอะไรจริง ! !

 :beat:


ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
คือมันแบอธิบายออกมาเป็นตัวอักษรไม่ได้อ่ะ

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ทำไมหนูช่างโชคร้ายอะไรเยี่ยงนี้  :o12:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อยากอ่านต่อได้โปรด

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
 :ling1: :ling1:
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารนุ้งกานต์
จะมีอะไรแย่ไปกว่าการอยู่กับพ่อเลี้ยงสองคนบ้าง  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
อย่าหายไปนานน้าาา ลุ้นไปเรื่อยๆว่ามันจะเป็นยังไงหนออออ :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด