[นิยายตลกขบขัน] เพราะเขาเป็นพ่อเลี้ยง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายตลกขบขัน] เพราะเขาเป็นพ่อเลี้ยง  (อ่าน 282410 ครั้ง)

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
มาต่อเร็วๆๆ ชอบวิธีการเขียนค้า
น้องกานต์จะเป็นยังไงบ้าง :impress2:

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
แม่กานต์ขายลูกแล้วเอาเงินหนีไปแล้วรึเปล่า

ออฟไลน์ lovekodak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อยากกรีดร้อง ตอนอ่านจบ แม่งข่มเหงไม่พอยังบ้าอำนาจอีก แล้วแม่อ่ะหายไปไหน อย่าบอกนะว่าโดนเงินฟาดหัวไปแล้ว? แล้วชีไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อลูกตัวเองเลยเหรอ   :z3:

ออฟไลน์ phet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไม่รู้จะพูดยังไงดี รู้อยากเดียวตอนนี้อยากรับกานต์มาเลี้ยง!!!

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
รู้สึกว่าพ่อเลี้ยงกับแม่ดูมีเงื่อนงำแปลกๆ ขอแนะนำให้หนีออกจากบ้าน  :hao3:

ออฟไลน์ ภาพวาดคลุง

  • ห่ะไรนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +483/-6
    • ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด
บทที่ 15 : การแสดงจำอวดที่ดี ต้องมีพระเอกรวย

 

 

 

มันเป็นช่วงสายๆหรือบ่ายแก่ๆผมก็ยังไม่อาจสรุป

ผมได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ คับคล้ายคับคลาว่า หยุดเรียน ไม่สบาย น้ำเสียงเขาอ่อนนุ่มเวลาพูด มันทำให้ผมคลื่นไส้แม้กำลังอยู่ในอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น

แต่อย่าหวังว่าผมจะได้ไปหาหมอนะ

เหลวไหล เหลวไหลจริงๆ เขารอบคอบ เรื่องอะไรต้องปล่อยตัวเด็กนี่ออกไปประจานให้คนอื่นรู้กันเล่า นั่งอยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ผมถูกบังคับกินยาอะไรสักอย่าง คงแก้หวัดแกไอประมาณนั้น

ใบหน้าผมบวมเป่ง ทำให้ผมนึกถึงลูกของญาติทางฝ่ายพ่อสักคน ที่ผมเคยตบมันเมื่อหลายปีก่อนสาเหตุเพราะไอ้เด็กเวรนั่นเข้ามากรี๊ดใส่หน้าผมเหมือนหมาบ้า ที่บ้านมันคงไม่เคยอบรมล่ะมั้ง ขนาดพ่อแม่ผมยังไม่เคารพเท่าที่ควร ไอ้สัตว์นี่เป็นใคร ทำไมผมต้องเกรงใจมัน ก็นั่นแหละ ตบไปทีนึง คิดแล้วยังเจ็บมือไม่หาย

เปลือกตาผมหนักอึ้ง น่าจะบวมไม่ต่างจากแก้มทั้งสองข้าง ผมหวังว่ามันจะไม่น่าเกลียดจนเกินไปนัก ให้ตายเหอะ ในเวลานี้ผมกลับมาห่วงถึงภาพลักษณ์ ช่างเป็นเรื่องที่ประเสริฐจริงๆ

ผมก็จำไม่ค่อยได้ แต่เขาน่าจะเข้ามาเช็ดตัวให้ บางครั้งผมรู้สึกว่ามีผ้าเย็นมาประคบหน้าผากกับแก้มช้ำๆของตัวเอง บางครั้งผมก็รู้สึกเหมือนถูกจูบ ไม่ก็ถูกมือสักมือมาแตะข้างแก้ม ซึ่งนั่นน่าขยะแขยงไม่น้อยไปกว่ากันเลยน่ะนะ

“ลุกมากินข้าวหน่อยกานต์”

บอกตรงๆว่าผมอยากนอน และไม่อยากเห็นหน้าเขา แต่เขางี่เง่ากว่าที่คิด เขาบังคับให้ผมลุกขึ้น นั่งโง่ๆ ตาลืมแทบไม่ได้เพื่อเอาอาหารเข้าปากกันตาย

ข้อมือผมไม่ได้ถูกมัด แบบว่า เขาคงตรองดูจากสภาพผมแล้วเลยวางใจได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ต้องมีสักคน ไม่ผมก็เขา ที่มีปัญหาด้านสมอง

“เป็นเพราะกานต์ดื้อ”

เขาไม่ได้เอ่ยขอโทษแต่เสือกด่าผมแทนซะงั้น ถึงแม้จะมีเสี้ยวหนึ่งที่ทำให้เขาดูลังเล ซึ่งก็ดี เพราะไม่ว่าอย่างไหนผมก็อดขำกลิ้งไม่ได้ ให้ตาย ผมเดาไว้ไม่มีผิด เขามันน่าขยะแขยงไม่ต่างจากแมลงสาบเหมือนพ่อผมจริงๆ

ผมหลับๆตื่นๆ นอนจนอยากอ้วก แต่ก็รู้ว่านั่นเป็นวิธีการเดียวที่สามารถพาผมหลบหนีได้ แม้จะน่าหงุดหงิดก็เถอะ การนอนมากเกินไปทำให้คุณเวียนหัวได้เหมือนกันแทนที่จะรู้สึกปลอดโปร่ง

แล้วยังมีอีก บางครั้งผมก็ถูกเขาทำเรื่องอุบาทว์ใส่ทั้งๆที่ยังไม่ได้สติดี ผมหมายถึงผมกำลังหลับนั่นแหละ แต่ถึงจะยังมีสติ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำเรื่องระยำใส่คนอื่นนะถ้าคุณทราบ ผมรู้ว่าคุณทราบ

ตอนนี้ผมเข้าใจแจ่มแจ้ง ในความรู้สึกเวลาพวกผู้ชายที่ชอบพูดถึงเซ็กส์ของเด็กสาวในวงสนทนา แต่ที่ผมกำลังรู้สึกคือความรู้สึกของเด็กสาวต่างหาก

ผมหยุดเรียนไปเกือบอาทิตย์ กับการรอให้แผลบนหน้าและตัวจางหาย แต่คงหายอยู่หรอกในเมื่อเขาเล่นทำมันซ้ำๆ

ดังนั้น เขามักถามผมว่า “อ่านหนังสือถึงไหนแล้วกานต์” หรือไม่ก็เข้ามานั่งกอดผมจากด้านหลังอย่างถือวิสาสะ นั่นทำให้ผมเปลี่ยนไปอ่านหนังสือบนเตียงแทน เพราะเตียงหันหน้าไปทางประตู ผมจะได้เห็นว่ามีหมาตัวไหนมันเข้าออกห้องบ้าง เวลาผมจดจ่อผมไม่ค่อยจะได้ทันสังเกตสิ่งอื่นน่ะนะ อันตรายชิบเป๋ง

เขาทำทีเป็นห่วง แต่จริงๆไม่หรอก ไม่ ไม่ ไม่แน่ๆ

แหวะ

คิดได้ยังไง ไอ้ประโยคที่อยู่ๆไปเดี๋ยวก็รักกัน อย่าเอามาใช้กับผมเชียว จะอ้วก ให้ตาย คุณไร้เดียงสาอย่างมาก เข้าขั้นบัดซบเลยแหละ

ผมต้องทำอะไรสักอย่าง

ต้องเริ่มได้แล้ว จริงๆมันควรจะเริ่มตั้งแต่ผมเกิดมาแล้วรู้ว่าการพึ่งตนเองเป็นสิ่งที่ผมต้องเจอตั้งแต่ต้น ผมไม่ใช่ลูกนก ที่เกิดมาแล้วมีพ่อแม่คอยสอนบิน เพราะผมค่อนข้างพิเศษกว่านั้น ไม่ทันได้รู้ว่าต้องบินนะหรือกูเป็นนกนะ ก็ดันถูกถีบลงมาก่อนเลย จากยอดไม้ต้นสูงๆสักสี่ห้าเมตร

ผมแค่ขาดความกล้า คุณก็รู้ เห็นผมเป็นใคร ฮีโร่ที่มีพลังเงินหนุนหลังหรือยังไง ตลก

“พี่ซื้อโทรศัพท์มาให้ใหม่ ซิมใหม่ เบอร์ใหม่”

เขาวางมันลงบนโต๊ะ ขณะที่กำลังกินข้าว

ผมจำได้ว่าเคยอ้อนวอนเขาครั้งเดียวคือตอนที่กำลังถูกกดตัวไว้จนแทบจมหายไปกับเตียงด้วยคำว่า เหี้ยเอ๊ย มึงมันเลวจริงๆ

จากนั้นเขาบีบแก้มผมไม่ยั้ง ดีที่มันไม่ตบด้วย เขากำข้อมือผมแน่นราวกับต้องการให้มันแหลกคามือ เขาด่าผมว่าใครสั่งสอนให้พูดจาไม่ดี ผมอยากจะหัวเราะแทบตายแต่ต้องกลั้นใจไว้ เพราะผมยังไม่คิดจะใช้แผนวิ่งเข้าชนให้ตัวเองไปตายอะไรแบบนั้นในเวลานี้

“แม่ผมอยู่ไหน”

ผมยังแอบลิ้นแปล้ๆตอนพูดอยู่นะ แบบว่า คำว่าแม่ มันยิ่งใหญ่น่ะ หนักลิ้นไปหน่อย

“เดี๋ยวเธอก็กลับ”

ผมไม่พูดต่อ

เขาดูไม่ชอบให้ผมพูดถึงเธอ ไหนบอกว่ารักเธอว่ะ แต่ช่างเหอะ มันทำถึงขนาดนี้แล้ว จะแปลกใจอะไรถ้าหากนั่นคือคำโกหกอีกชนิด

ควรคิดใหม่มากกว่าว่าทำไมถึงยังไม่ชิน

 

 

 

 

 

พีเข้ามาตบไหล่ผมเบาๆ

แต่ผมว่ามันก็ยังเจ็บเกินไปอยู่ดี และผมก็ไม่ชอบด้วย ให้ตายสิวะ หยุดจับตัวคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าสักทีได้ไหม เขาเป็นคนที่เหมือนจะดี แต่ก็แค่เหมือนอีกนั่นแหละ

“หายยังอ่ะ หยุดไปหลายวันเลย เป็นอะไรมากหรือเปล่า?”

“คงงั้น”

ผมตอบ แต่โบกมือให้สาเมื่อเห็นว่าเธอส่งยิ้มมา ถ้าผมไม่ได้เห็นมหกรรมเซ็กส์หมู่คราวนั้น ผมคงตามจีบเธอไปแล้ว ผมมักมีอาการแข็งตัวเวลานึกถึงเธอ แค่นิดๆหน่อยๆ ผมอยู่ในช่วงฮอร์โมนเยอะกว่าปกตินี่นะ

“วันนั้นขอโทษนะ นั่นพี่ชายเหรอ โดนที่บ้านว่าหรือเปล่า?” พีนั่งลง เขาเลื่อนเก้าอี้โต๊ะคนข้างๆมา

“ไม่เป็นไร” ผมเลือกที่จะไม่ตอบอะไรเกินกว่านี้

“แล้วเป็นไงบ้าง”

“ไม่ต้องห่วง เรื่องวันนั้นไม่มีใครรู้แน่นอนโดยเฉพาะตำรวจ” ผมกล่าว แต่เสียงเบาไปหน่อยเพราะวันนี้ผมยังไม่ได้พูดออกมามากเท่าไหร่เลยปรับเสียงไม่ถูก ปกติผมก็ไม่ค่อยได้ใช้ปากด้วย

พีดูอึ้ง ปากเขาอ้าค้างเล็กน้อยไปสองวินาทีก่อนจะรีบเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม เขาดูโล่งใจขึ้นมากเลยแหละแม้จะพยายามปกปิด พวกไอ้แบงค์ ผมไม่ได้เห็นหัวมันอีก อาจเพราะอยู่คนล่ะห้อง แต่แน่นอนว่าพีคงไม่ลากผมให้ไปเจอกับพวกมันแน่ๆถ้าเขาพอมีหัวคิดอยู่บ้าง

ผมว่าโทรศัพท์นี่ไม่น่าไว้ใจ มันไม่น่าไว้ใจ ผมจึงโดดเรียน คุณอ่านไม่ผิดแน่ๆ ผมลาอาจารย์โดยให้เหตุผลว่ายังไม่หายดีจากโรคไข้หวัด มีอาการเพลีย  เวียนหัวขั้นรุนแรงจึงขอกลับก่อน

พีโดดด้วย เขามักโดดประจำในช่วงบ่ายแก่ๆ

“ซื้อโทรศัพท์? เครื่องที่ใช้อยู่มันก็ดีแล้วนี่ แพงด้วย ทำไมล่ะ?” พีมีสีหน้างงสุดขีด

“อ่อ ใช่ มันก็ดี ก็แค่อยากได้อีกเครื่อง แค่นั้น ไม่มีอะไร” ผมพยายามพูดให้ดูเป็นมิตร แต่ยากอยู่พอสมควร น้ำเสียงผมจะเรียบนิ่งเป็นโทนเดียว บ่อยครั้งที่มีคนเข้าใจผิดว่าผมกำลังกวนตีนพวกเขา ประชดประชัน ทั้งๆที่ผมเปล่า ผมอยู่เฉยๆ เสือกเข้ากันมาเอง น่าเบื่อจริงๆ

ผมให้พีขับรถมาส่ง มันสบายดี เขาค่อนข้างมีประโยชน์ จะให้ตัดออกเลยผมเสียดายนะบอกตามตรง

ผมมีเงินที่ได้จาก‘เขา’ค่อนข้างมากอยู่ ผมพยายามเก็บซ่อนมันไว้ ตั้งแต่ย้ายเข้าบ้านหลังนั่นเลยก็ว่าได้ เพราะทุกวันผมไม่ได้ใช้สักบาท นอกจากมีซื้อน้ำดื่มบ้างแค่นั้น เงินเหลือเยอะจนอยากจะเอาไปขว้างทิ้งถ้าผมโง่กว่านี้ เป็นไง ผมรอบคอบเหมือนกันใช่ไหมล่ะ

ผมรู้ว่าพีรวย แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรวยน้ำใจด้วยไหม ในเรื่องการเลี้ยงเพื่อนอันนี้ผมได้เห็นกับตาว่ารวยจริง แต่อย่างอื่นผมไม่มั่นใจ

จู่ๆ คล้ายว่าเราสนิทกัน ในที่นี้คือการที่เขามักเข้ามาป้วนเปี้ยนกับผมมากกว่า ผมก็ไม่รู้ อาจเพราะในห้องมีผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิง ทำให้การคบค้าย่อมเป็นกลุ่มเล็กๆ

ไม่อย่างงั้นผมคงต้องหาดินสักผืนเพื่อขุดดินฝัง โอ้ จะว่าไป เป็นความคิดที่ดีเยี่ยมอีกประการ แต่จะมีใครใจดีพอให้ที่ดินผมยืมสักผืนกันล่ะ

“เดี๋ยวจ่ายให้”

เหตุการณ์นี้เหนือความคาดหมายผมเช่นเดียวกัน ขณะที่ผมเลือกโทรศัพท์ได้มาเครื่องหนึ่ง ขอแค่มันโทรเข้าออกได้ และถ่ายรูปติดดีกว่าเครื่องคิดเลข

“ก็ดี”

“ไม่คิดจะปฏิเสธหน่อยเหรอ” พีขบขัน แต่เขาก็หยิบบัตรเอทีเอ็มออกมา ลำบากเงินพ่อแม่คนอื่นอีกแล้ว แต่ตอนนี้ผมสนเสียทีไหน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะมียางอายเล็กๆ ซึ่งน้อยมากเช่นกัน

“ประทานโทษนะ แล้วเมื่อกี๊ใครเสนอหน้า?” ผมกล่าวอย่างสุภาพ หมายถึงน้ำเสียงน่ะ พีดูขำมาก เขาอารมณ์ดี

ผมดูเวลาเป็นระยะ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอีก

ผมซื้อกระเป๋ามาอีกใบ มีดพับหนึ่งเล่ม ผ้าเล็กๆหนึ่งผืนซึ่งก็ไม่รู้ว่าซื้อมาทำไม ในเวลาขับขันคนเรามักทำตัวพิลึกได้เสมอ ซึ่งทั้งหมดนั่น เงินพี

“เดี๋ยว นี่มันแปลกๆ ซื้อทำไมว่ะ จะไปเที่ยวไหน?”

“ทำนองนั้นแหละ”

จากนั้น ผมยืนนิ่ง คิดไม่ออกว่าจะเอายังไงต่อ หลังจากที่คิดว่าเหมือนจะมีเรื่องมากมายที่ต้องได้มา แต่ตอนนี้ว่างเปล่าไปทั้งสมอง พียืนมองว่าผมจะเอายังไงต่อ ในมือถือถุงพลาสติกใบใหญ่ เขาดูกวนตีนได้ตลอดเวลา

“เอาแค่นี้ก่อน” ผมกล่าว “ไปบ้านได้มั้ย?”

พีเลิกคิ้ว ชี้ทางตัวเอง “บ้าน? บ้านเราเหรอ”

“อาฮะ ใช่”

พีดูงุนงง แต่ผมขี้เกียจเกินจะกล่าว ข้ามไปที่บ้านอีกฝ่ายเลยได้ไหม เพราะผมก็ขี้เกียจเล่าอีกเหมือนกันว่าตอนอยู่บนรถพีมันพูดมากแค่ไหน บางทีผมก็สับสน ว่าทำไมต้องพยายามพูดให้ได้เยอะๆทั้งๆที่ไม่ต้องก็ได้ หรือเพื่อให้ประโยคมันกินหน้ากระดาษเกินสามบรรทัด ผมเคยถามคำถามนี้กับตัวเอง ต่อมาผมได้คำตอบเพราะว่ามันดูสวยดี

หลายครั้งที่พีเหมือนจะถามผม แต่ก็ไม่ เขาอยากพูด ผมเห็นความสงสัยติดในแววตาเขา นั่นส่งผลให้ใบหน้าพีดูตลก แต่สุดท้ายเขาเลือกที่จะเงียบต่อไป พีคงอยากให้ผมแหกปากออกมาเอง ซึ่งไม่มีวัน

“ฝากของไว้นะ”

ผมหมายถึงไอ้กระเป๋าเป้ใบดำที่เพิ่งซื้อมานั่นแหละ แบ่งเงินบางส่วนเก็บในช่องเล็กๆ ขณะที่พีมองไปทางอื่น พอเขาหันกลับมา พีผงกหัวหงึกๆอย่างไม่ใสใจ จะยังไงก็ได้ ประมาณนั้น ผมจึงพูดต่อ

“ขอเบอร์หน่อย”

หน้าเขากวนตีนอย่างมากที่สุดเมื่อผมพูด หลังจากพีเดินไปเปิดทีวี หมอนั้นมานั่งข้างๆ เปิดโทรศัพท์ตัวเอง ผมซื้อซิมใหม่พร้อมเติมเงินไปอีกกระตัก แน่นอนว่าไม่ใช่เงินผม ผมแปลกใจ แต่ไม่สนใจ จะมีเพื่อนสักกี่คนที่ยอมประเคนของต่างๆให้โดยที่ความสัมพันธ์ยังแค่ฉาบฉวยกันวะ แต่ช่างแม่งเหอะ เพราะผมเป็นฝ่ายได้ประโยชน์

ต่อให้เรื่อเลวทรามแค่ไหน ตราบใดที่มีแต่ได้ ก็หุบปากเงียบกันทั้งนั้น หรือไม่จริงนะ

“ฮัลโหล”

พียิ้มกริ่มๆ เขาโทรเข้าเบอร์ผม

“ขอบใจ”

“แล้วยังไงต่อ”

พีถาม แววตาเขาดูเป็นประกายกว่าทุกครั้ง

“ก็แค่ ถ้าโทรไป ก็ต้องรับ รับทันที”

และผมเกลียดจริงๆเวลามีใครสักคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้โดยไม่จำเป็น

 

 

 

 

พีมาส่งผมที่โรงเรียนตามเดิม เขาชวนผมไปเล่นบาสที่สนามกีฬาข้างหลังโรงเรียนแต่ผมปฏิเสธ หลังจากตื้อไม่ได้ เขาจึงบอกว่าจะนั่งอยู่เป็นเพื่อน ผมรำคาญ เลยช่างหัวเขาไปก่อน

“กินมั้ย ระวังร้อน”

พี ยื่นไก่ทอดมาจ่อที่ปากผมในระยะประชิด มันขายอยู่ตรงหน้าโรงเรียน คุณก็น่าจะรู้ว่ามักมีของอร่อยๆมาล่อเด็กๆทั้งนั้นเวลาหิวโหยจากการศึกษา โอเค ผมรู้ มันเป็นไก่ทอดที่ดูดี แต่ผมเจ็บคอ

“ไม่”

พียัดเจ้าชิ้นเนื้อนั่นเข้าปากตัวเอง ก่อนจะใช้นิ้วมาจิ้มแก้มผมอย่างหยอกล้อ ซึ่งสร้างความน่ารำคาญได้เป็นอย่างดี

กระทั่งรถคันหนึ่งเคลื่อนตัวเข้ามา เขาไม่ได้เลื่อนกระจกลงแต่ผมรู้ว่าไม่ควรโอ้เอ้ หลังๆมานี่ฟิล์มรถเขามืดขึ้นกว่าเมื่อก่อนจนผมสงสัยว่ามันไม่ผิดกฎหมายหรือไงวะ

“พี่มาแล้วเหรอ”

เหอะ ผมขอหัวเราะในใจดังๆสักที

“อืม บาย”

ผมหยิบกระเป๋านักเรียน พีโบกไม้มือเยี่ยงลิงตัวหนึ่ง เขาน่าเอ็นดูนะ ถ้าผมมีอารมณ์สดใสกว่านี้ ก่อนที่พีจะยกมือไหวมาทางรถคันที่ผมกำลังตรงไป

โอ้ แถมพียังมารยาททดีอีกด้วย

ผมขึ้นมานั่งบนรถ มองไปทางพีเหมือนจะขำนิดๆ ตอนนี้อีกฝ่ายไม่เห็นผมหรอก แต่ผมเห็นเขาแน่ๆ

“วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง”

คำถามยอดนิยม ที่ผมฟังทุกวันจนเอียน

เขามีความอดทนสูงในบางเรื่องที่โคตรงี่เง่าสำหรับผม เขามักมีภาพลักษณ์ใส่ใจคนรอบข้าง ผมไม่แน่ใจว่าเขาสร้างขึ้นมาหรือมาจากเบื้องลึกใจจริงหรือยังไง แต่มันสว่างวิบวับจนม่านตาคุณแทบจะปรวนแปรเชียวล่ะ

“ครับ ก็ดี สนุก”

บ่อยๆ ผมพูดในสิ่งที่อยากพูด หรือบ่อยๆ ผมก็ขี้เกียจพูดในสิ่งที่ควรพูด

อย่างตอนนั้น พ่อเคยถามผมว่ามึงมองหน้ากูทำไม ผมก็เคยคิดจะตอบว่ากูไม่ได้มองมึง แต่แล้วไง ผมกลับเงียบ คือเขากำลังเมา และการเอาตัวเข้าไปเกลือกกลั้วไม่ใช่หนทางดีแน่นอน ผมจึงเลือกที่จะออกไปนั่งอยู่หน้าบ้านไม่ก็ตามสวนสาธารณะใกล้ๆแทน

ซึ่งมันทำให้ผมสบายอกสบายใจกว่ากันเยอะ พอแม่ถามว่าผมหายไปไหน ทำไมไม่อยู่ดูแลพ่อ หรืออีกนัย อยู่ให้เขาจิกหัวใช้นั่นแหละนะ แต่พูดออกมาได้ยังไงกันเล่า เดี๋ยวเขาก็หาว่าผมอกตัญญูกันพอดี พิการเหรอ ก็ไม่

ผมหลับตา เพิ่งรู้ตัวว่าคิ้วขมวดเป็นปมอย่างยิ่ง มันไม่ดี ผมจึงคิดว่าการสะสมความเครียดไว้มากๆไม่ต่างจากการเก็บลูกระเบิดไว้ข้างหัวนอน

เขาหยุดรถ ผมรู้สึกได้ แต่จำไม่ได้ว่าเขาเคยทำแบบนี้หรือเปล่านะ หยุดรถกลางทาง ในซอยเปลี่ยวร้าง บางทีก็เป็นทางที่มีแต่ต้นไม้ แล้วก็ถนนที่ดูไม่เจริญตาเท่าไหร่

เขาพลิกตัวเข้ามาหาผม ในขณะที่ผมตัวสั่นเทาโดยทันทีอย่างไม่ต้องบอก เขายิ้มแปลกๆ ใช่ มันแปลก คุณรู้ดีว่ามันไม่ใช่ เขาพยายามสร้างว่าตัวเองดีเลิศ แต่คุณรู้ไง ว่านั่นคือเรื่องตอแหล อย่างที่คิด ว่าผมพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด เฮ้ ต้องให้เล่าจริงๆเหรอนี่

“กลัวเหรอ” เขาหัวเราะเบาๆ “ตัวสั่นเชียว”

เขามักจะหยอกเย้ากับริมฝีปากผม แน่นอน มันโรคจิต และผมโคตรแหวะ

“เป็นเด็กดี ว่าง่ายๆ จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวไง”

เขากระซิบ ดูสนุกสนานบันเทิงใจจริงๆนะ ยื่นข้อเสนอที่ทำผมน้ำตาเกือบไหลเลยเมื่อกี๊ มันตราตรึงใจน่ะ ติดอยู่ในอก เมตตาค้ำจุนเช่นนี้ แล้วผมจะไปไหนรอด

เขาชอบใช้ลิ้นนั่น ทำเรื่องสถุลๆ ผมพยายามดันเขาออกห่าง เขาเพียงแค่รุกคืบเข้ามาด้วยความย่ามใจ เพราะนั่นเป็นการป้องกันตัวที่ค่อนข้างน่าสมเพช เขารวบมือผมไว้  อีกมือเข้ามาจุ้นกับกางเกงสีดำ เขาย้ายใบหน้าช้าๆ กระทั่งหัวเขาหยุดลงที่กางเกงผม เขาทำมันแล้ว นิ้วเขาแตะตามตัวผมอย่างถือดี โว้ว ให้ตายสิวะ

ผมแทบไม่รับรู้ถึงเวลาที่ผ่านไป ตัวเขาใหญ่มาก ผมไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวกันไหม แต่ว่าตัวเขาใหญ่มาก ผมกำมือแน่น เล็บจิกลงบนเบาะ ผมเห็นน้ำหยดที่มุมปากเขา และเขาก็กลืนมันจนหมด ตอนนั้นผมรู้เลยว่าสีหน้าตัวเองย้ำแย่แค่ไหน แม่งโคตรอี๋ ถ้าเป็นสาทำก็ว่าไปอย่าง

เขาเลื่อนขึ้นมาบดริมฝีปากช้าๆ ทั้งๆที่เขาเพิ่งทำเรื่องบดซบไป ผมเบี่ยงหน้า และบอกเลยตอนนี้ความรู้สึกเป็นยังไง สีหน้าผมไม่ต่างกัน เขาทำท่าจะกดหัวผมลงไปตรงหน้าตักเขา ความอดทนเป็นอันสิ้นสุด

หลักๆ ผมเกลียดตัวเอง ทันทีที่ถึงบ้าน ผมหมดเรี่ยวแรงไปกับความอ่อนหัด แต่ผมก็พยายามจะลากตัวสั่นๆลงจากรถ ผมเกือบล้ม พอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆไล่หลัง นั่นทำให้ผมกัดฟันรีบเดินเข้าไปบนห้อง ระบบหายใจผมไม่เป็นปกติจนได้ยินเสียงลมหายใจดังแข่งกับไอ้ก้อนขยะที่เบี่ยงซ้ายนิดๆตรงหน้าอก

ทีแรกผมคิด

กะว่าจะใช้มีด แต่กลัวเจ็บ มันเจ็บนะ แค่โดนตีมือนิดหน่อยผมก็จะตายแล้ว แล้วนี่เล่นเอามีดจ้วงท้อง แค่คิดผมก็ส่ายหัว เบ๊ปากเบ๊หน้าสุดๆ ผมจึงตัดสินใจใหม่ ดีที่มันเป็นการตัดสินใจที่เคยวาดฝันล่วงหน้ามาก่อน แต่พอสถานการณ์จริง กลับยุ่งยากกว่าที่คิดแฮะ

ผมเดินไปหยิบยาสักกระปุกที่หัวเตียง เกือบหล่นด้วย เพราะมือผมแทบไม่อยู่นิ่ง ผมเทมันออกมา วินาทีนั้นเมื่อผมเห็นประตูเปิด สติผมแตกกระเจิง ถึงแม้ตัวเองจะดูนิ่งงัน ผมหมายถึงผมมักจะดูนิ่งๆแต่ถ้าสังเกตดีๆคุณจะเห็นว่าผมมีแววตื่นตระหนกไม่น้อย ไม่ทันการแล้ว ผมจึงหยิบมีดพับที่พกในกางเกงขึ้นมาแทน

“อะไร จะทำร้ายพี่เหรอ?”

เขาพูดขำๆ ผมเกลียดเวลาเขาคลายเนคตัวเองช้าๆไม่ยีหระ เพราะต่อมาผมรู้ว่าเขาจะใช้มันฟาดบนตัวผมอย่างรื่นเริง

เขาสืบเท้าเข้ามา

ทำร้ายเหรอ ไม่ ผมจะกล้าคิดคดกับคนที่มีพระคุณท่วมหัวผมได้อย่างไร

 

อ้อ แน่นอน

มันเป็นการแสดงจำอวดประเภทหนึ่ง

 

น้อยครั้งที่ผมยิ้ม ขบขันสุดกำลัง

 

“กานต์!”

เขาเข้ามาแย่งมันจากมือผม แต่ไม่สำเร็จเท่าไหร่ ผมก็ยังจำไม่ค่อยได้น่ะนะ ตอนนั้นชุลมุนน่าดู แถมยังตื่นเต้น หัวใจแทบทะลุออกมาจากร่าง

ผมรู้สึก คลื่นไส้ น้ำย่อยราวกับตีกลับกันในท้อง

ผมโอเค

ไม่นาน

 

มีดจมหายไป

 

 

ถามเขา

เจ็บไหม ไม่หรอก

 

ถามใครนะ

 

ถ้าเป็นเขาคงตอบไม่ได้

 

 

 

ต้องถามผมนี่ แต่ยอมรับว่าตกใจมากกว่ามั้ง มึนๆ ชาๆ อาจเป็นเพราะต้องเสียเลือด มันเกิดขึ้นรวดเร็ว คุณไม่ทันได้เห็นหรอกนอกจากตาเบิกกว้างเหมือนเขา ผมไม่ค่อยนิยมสีแดงเท่าไหร่ เห็นมากๆแล้วลายตา ทว่าตอนนี้

 

น่าเสียดาย ยังใช้ไม่คุ้มเงิน เขาคงแค้นน่าดู

และผมก็ล้มลง

 

 

 

 

โคตรสะใจเลย

 

 

 

 

 

 

สะใจจริงๆ

 

 

 

 

 

 

TBC
[08/05/2558]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2015 05:10:03 โดย อ๊ายอาย »

ออฟไลน์ BBnuna

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
ชอบวิธีการเขียน การเล่าเรื่องมากๆๆๆ หายากมากสไตล์นี้ เขียนเก่งเทพสุดๆ o13
ตอนนี้เป็นอะไรที่ดาร์กมากๆ เอาจริงๆอยากให้น้องมันได้เจอใครที่ช่วยได้
แล้วทำให้มุมมองน้องค่อยๆเปลี่ยนไปแบบไม่รู้ตัวทีละนิดๆๆมากกกก สงสารอ่า :sad4:

สู้ๆนะลูก เจ็บขนาดไหนน้อ แล้วอีพ่อเลี้ยงสุดชั่วจะโดนจับมะ อยากให้มันเข้าคุกไปเลยนะ
ลุ้นมากๆๆๆตอนต่อไปเนี่ยะ :katai1:


ออฟไลน์ R.michi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โอ้คุณพระ. โอ้ยยยยยย ค้างง มาต่อที น้องการ์ณของพี่

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mox2224

  • :นักเขียนสมัครเล่น:
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สะใจ ! จริง ! ! จริง ! ! กระทืบเท้าด้วยความสะใจ ! ! !

เอาอีก ! เอาให้หนักบีบให้แน่นคั้นกันให้ตายไปเลย

โปรยกุหลาบไว้อาลัยแด่โลกอันสวยงาม  :L1:




ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :katai1: อยากจะบ้าตาย ทำไมกานต์ถึงมีชีวิตบัดซบอย่างนี้ อ๊ากกก ไอ้พ่อเลี้ยง ไอ้เลว! โอยยย..  :ling3: ไม่รู้จะบรรยายอะไร

ออฟไลน์ Say Melody

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้! เรื่องนี้ขำมากๆเลย ขำจนมองอะไรไม่เห็นละ มืดเหลือเกิน o18

ออฟไลน์ apisaraa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
นุ้งกานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนต์

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
โอ้ย........ :z3: ชีวิตสว่างจ้ามากน้องกานต์ เจิดจ้าจนมองอะไรไม่เห็นเลยเนี่ย  :katai1:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
คุณพระ   :m15:
ถ้านั่นคือความคิดของกานต์ในการหาทางออก คือทำยังไงก็ได้เพื่อเข้ารพ. และต้องมีการตรวจร่างกาย หาร่องรอยการถูกข่มขืน

โอ้.....น้องชายเข้มแข็งที่สุดหาทางแก้ปัญหาด้วยตนเอง ได้แต่หวังว่าอนาคตอันสดใสจะเป็นของกานต์มั่ง

ออฟไลน์ makilu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ค้างมากกกกกก มืดมนได้ใจจริงๆเรื่องนี้ พระเอกนี้ถ้าเป็นพ่อเลี้ยงนี้จะงงจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ karnalone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
สะใจว่ะ สะใจตามกานต์มาก

ตามอ่านมาเงียบๆ ก็คิดนะว่ากานต์มันจะทำยังไง
ก็ไม่ผิดคาดนะ 55555555

เป็นตอนที่ขำมาก ขำโคตรๆ เลย

ชอบสไตล์ที่คุณวาดภาพเขียนมาก ถึงจะไม่แสดงตัว แต่ก็ติดตามเสมอนะ ^_^

ออฟไลน์ oumpatta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-43
จะรออ่านว่าทำแบบนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เหมือนกานต์จะทำอะไรไม่ได้เลยย

ออฟไลน์ yearrayoeng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ Doranaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สะใจมาก กานต์ ทำได้ดีแล้ว ไอ้พ่อเลี้ยงบ้านั่น จับมันเช้าคุกไปเลย ส่วนอิป้าที่เรียกว่าแม่นั่นน่ะ ปล่อยให้ตายๆไปซะ
อ่านแล้วหน่วงๆยังไงไม่รู้ รู้สึกเห็นใจกานต์ สงสาร ขอให้มันผ่านไปด้วยดี โชคดีนะกานต์

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะครับ มันสะท้อนออกมาจากสังคมบางส่วนด้วนแหละ รอติดตามต่อนะครับ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
อิพ่อเลี้ยงมันชั่วจริงๆ กานต์สู้ๆนะลูก

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
กานนนนนนนนนนนนนนนต์
 :katai1: :katai1:

กะแล้วว่ากานต์ต้องแทงตัวเอง T_______T
เอาไงล่ะพ่อเลี้ยง นายแม่งงง

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10

ออฟไลน์ Chompooiriza

  • ~ Good Morning Sunshine ~
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0
กานต์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เรารู้ว่ากานต์ไม่ใช่คนกล้า แต่การที่คนขี้กลัวหยิบมีดขึ้นมาแทงตัวเองได้ นั่นคือมันไม่ไหวแล้วจริงๆ

แล้วมันจะเป็นอย่างไรต่อปายยยยยยยยย มารอลุ้นกันต่อไป :call: :call: :call:

ป.ล. เราไม่รู้สึกเกลียดพ่อเลี้ยงกานต์เลยอ่า ทำไมไม่รู้ เราแค่รู้สึกว่าเขาอาจจะจิตๆ แต่ก็ไม่ได้เกลียดอะไร สงสัยเพราะเราไม่ใช่กานต์ เห็นคนอื่นเกลี๊ยดเกลียด เราเลยแอบมาคิดว่าต้อมความรู้สึกเรามันผิดปกติรึเปล่าหวา? 555+++

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด