ครบ 100 %
ย้อนกลับไปอ่าน 50% ที่หน้า 13 ก่อนนะคะ“ขออภัยสื่อมวลชนทุกท่าน กรุณายุติการถ่ายภาพไว้ก่อนนะครับ ช่วยอำนวยความสะดวกให้คู่เปิดฟลอร์เต้นรำทำหน้าที่ เพื่อผู้มีเกียรติจะได้ร่วมสังสรรค์ชื่นมื่นกันต่อไป
ด้วยความเคารพทุกท่าน..ขอบคุณครับ”
ยังไม่ทันที่คุณมรกตจะตอบโต้คุณหญิงมุกดา พิธีกรก็ขัดตาทัพขึ้นมาเสียก่อน
โดยขอให้สื่อยุติการถ่ายรูปคุณชายเพชรและเปลวเอาไว้ เพื่อทั้งสองจะได้เปิดฟลอร์เต้นรำคู่แรก
จากนั้นบรรดาแขกเหรื่อที่เหลือค่อยวาดลวดลายโชว์ลีลากันต่อไป จุดสนใจของคนในงานจึงมุ่งที่คู่เต้นรำ
ซึ่งบัดนี้เตรียมพร้อมตรงกลางฟลอร์เป็นที่เรียบร้อย
เปลวใช้มือขวาเกาะบ่าคุณชาย มือซ้ายวางลงบนมือขวาคุณชาย ส่วนคุณชายเองก็กุมมือเปลวด้วยความนุ่มนวล
โดยมือซ้ายอ้อมไปอยู่ทางด้านหลังเหนือเอวบางของเปลวค่อนมาทางสะบัก เพื่อให้วงแขนรองรับน้ำหนักช่วงแขนเปลว
ที่เกาะบ่าผ่อนปรนไม่ให้เมื่อยเกร็ง โดยเว้นช่องว่างระยะห่างต่อกันไม่ถึงคืบ หน้าผากเปลวอยู่แค่ใต้คางคุณชาย
ทั้งที่เปลวเองก็สูงร้อยเจ็ดสิบห้า ใส่ส้นสูงเพิ่มอีกสามนิ้วครึ่งยังสูงไม่เท่าคุณชายเลย
คู่เต้นรำดูสง่างามเหมาะสมกันยิ่ง ดึงดูดสายตาแขกเหรื่อจับจ้องมองมาไม่กะพริบ มีทั้งชื่นชมยินดีมีทั้งอิจฉา
ดูไม่สบอารมณ์เช่นคุณมรกตและเสี่ยวิกรมเป็นต้น ทั้งคู่ต่างคิดว่าพื้นที่ตรงนั้นสมควรเป็นของพวกเขา
คุณมรกตจับจองคุณชายเป็นคู่เต้นรำด้วย ไม่ต่างเสี่ยวิกรมที่ต้องการเปลว
เสียงดนตรีสดในจังหวะวอลซ์เริ่มบรรเลง สะกดให้เสียงพูดคุยที่มีอยู่ค่อยเบาลงในที่สุด
คู่เปิดฟลอร์ซึ่งโดดเด่นทั้งชายและหญิงเริ่มขยับเท้าโดยฝ่ายชายเป็นผู้ชักพาร่างสูงระหง
พลิ้วไหวตามจังหวะอย่างสง่างามดุจเจ้าหญิงเจ้าชายในเทพนิยายไม่ผิดเพี้ยน เสียงปรบมือชื่นชมพร้อมเพรียง
บรรดาช่างภาพสื่อมวลชนถ่ายภาพกันไม่หยุด คู่เต้นรำเคลื่อนไหวได้สักพัก คู่ที่รอจังหวะก็เริ่มประคองกันออกมาร่วมวงด้วย
กลางฟลอร์ลีลาศจึงเพิ่มคู่เต้นจากหนึ่งเป็นสองสามและตามกันมาจนเกือบเต็มพื้นที่
แต่กลับไม่มีคู่ไหนสามารถกลบรัศมีความโดดเด่นของคู่แรกได้แม้แต่น้อย
การเคลื่อนไหวท่าร่างที่งดงาม เช่นชนชั้นสูงที่ฝึกการเต้นรำมาจนชำนาญเข้าขั้นช่ำชองไปแล้วนั้น
ทำให้การก้าวเท้าสามารถบังคับสรีระให้เข้าจังหวะเคลื่อนไหวได้สง่าแบบนี้ ทั้งที่คุณชายเพชรและเปลวก็ไม่เคยฝึกซ้อม
เป็นคู่เต้นรำกันมาก่อน แต่กลับไม่มีข้อบกพร่องผิดพลาดให้เห็น ต่างเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างกับคนรู้ใจ
เปลวไม่มีการเกร็งต้านปล่อยคุณชายคุมการเคลื่อนไหว ยอมเป็นผู้ตามให้คุณชายชักนำไปทั่วฟลอร์
ได้อย่างลื่นไหลคล่องแคล่ว ทำเอาคุณมรกตไฟลุกในลูกตาจนได้
“คุณหญิง..กรุณาให้เกียรติคนแก่สักเพลงได้ไหม” ท่านผู้ว่าลุกยืนเอ่ยขอคุณหญิงเป็นคู่เต้นรำ
ท่ามกลางแขกวีไอพีที่ลุ้นฟังคุณหญิงมุกดาคนสวยจะตอบรับหรือปฏิเสธ ผู้ว่าซึ่งเป็นพ่อเมืองให้เกียรติขอเต้นรำด้วย
“ได้สิคะคุณอา มุกยินดีเป็นอย่างยิ่ง นับเป็นเกียรติที่คุณอาขอมุกเป็นคู่เต้นรำ นึกว่าจะเป็นคุณหญิงเสียอีก”
คุณหญิงมุกยิ้มได้น่ารักสดใส แถมยังหยอกภริยาท่านผู้ว่าให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมาอีก
“เชิญเถอะค๊าคุณหญิงอาเต้นคู่ประจำ ให้ท่านได้คู่เต้นที่สวยงามอย่างคุณหญิงบ้างคงมีความสุข โอกาสแบบนี้หาได้ไม่ง่าย”
ภริยาท่านผู้ว่ายิ้มขำอย่างผู้ใหญ่ใจดี เอ่ยปากสร้างความหรรษาไปด้วย คุณหญิงมุกจึงได้ออกไปเต้นรำกับท่านผู้ว่า
กลายเป็นจุดสนใจที่พ่อเมืองกับหม่อมราชวงศ์มุกดา มณีรมย์ ออกมาเป็นคู่เต้นวีไอพีให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพเพิ่มอีกคู่
ในขณะคุณมรกตเธอยังคงนั่งคอแข็ง แลซ้ายขวาไม่มีหนุ่มคนไหนใจกล้ามาโค้งขอเธอเป็นคู่เต้นด้วยสักราย
รอบกายเริ่มจะลุกออกไปเป็นคู่ๆ ชักร่อยหรอบางตาให้เธอนั่งเฝ้าโต๊ะไปแล้ว ใบหน้าสวยเริ่มเจื่อนลงถนัด
ถือเป็นงานแรกที่เธอไม่มีใครมาขอเป็นคู่เต้นรำ พูดได้ว่าเสียหน้าสุดๆ
“ยินดีที่ได้พบอีกครั้งครับ..คุณเปลว” เปลวถึงกับสะดุ้งเหยียบเท้าคุณชายไปที
หลังคุณชายพูดเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับสบตาเธอ จนเปลวอยากเอาหน้ามุดฟลอร์หนีไปเสียเดี๋ยวนี้ สรุปคุณชายจำเธอได้
“ยิน..ยินดีเช่นกันค่ะ” เปลวอึกอักบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติด้วยความลำบาก ภายในใจกระวนกระวายไปแล้ว
คิดไม่ถึงคุณชายจำเธอได้แค่ไม่แสดงพิรุธให้เธอรู้แต่แรก จึงทำให้ก้าวพลาดเหยียบเท้าเข้าจนได้
“ผมเข้าใจว่าคุณเปลวไม่ยินดีเจอผมเสียอีก” คุณชายกลับนิ่งมาก ไม่หยิบเอาความผิดพลาดที่เปลวเหยียบเท้า
มาทำให้ประหม่าไปกว่าเดิม เปลวเองพอเจอลูกนี้เกิดอาการหน้าร้อนฉ่า แต่ไม่ต้องการให้คุณชายจับความรู้สึกเช่นกัน
จงใจยิ้มหวานให้คุณชายอย่างต้องการเบนจุดสนใจไปประเด็นอื่นแทน
“พอใจไหมคะ เปลวทำให้รู้ไม่ได้คิดอย่างที่คุณชายเข้าใจไปเอง” ทิ้งท้ายย้อนคุณชายอีกต่างหาก
“เพิ่งมีคุณคนแรก ที่ยิ้มแล้วถามผมพอใจไหม” คุณชายหยอกคืน
“แค่กๆ” เปลวสำลักเกือบสะดุดรองเท้าหงายหลัง ดีที่คุณชายรวบกอดไว้อยู่ทำให้ไม่ล้มลงไป
แถมคุณชายยังช่วยกลบเกลื่อนพาเคลื่อนตัว จึงไม่มีใครทันสังเกตเห็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
“หึหึ..คุณทำผมประหลาดใจทุกครั้งที่เจอกัน” คุณชายขำเปลวที่เกิดอาการเขินจนไม่กล้าสู้ตาด้วย
เฉมองข้ามไหล่ทำให้มีโอกาสสังเกตเห็นลำคอขาวขึ้นริ้วแดงชัดเจน ส่วนเปลวกำลังชั่งใจว่าควรโต้ตอบยังไงดี
ที่ไม่วกกลับมาเข้าตัวทีหลัง อย่างน้อยก็ใจชื้นไม่ถูกเหน็บแนม ในเพศสภาพที่ปกปิดมาก่อนหน้า
คุณชายเลือกไม่ยกมาพูดในขณะสนทนาด้วย
“เปลวก็ประหลาดใจเช่นกัน ที่คุณชายมางานนี้”
เปลวนึกหัวข้อชวนคุยได้ไม่ดีเท่าไหร่ จึงหยิบเอาเรื่องนี้มาแก้ขัดไปพลางๆ
“ผมมากับน้องสาวคนที่ชนะประมูล ทำให้ผมเป็นคู่เต้นรำของคุณ
จำหญิงมุกได้ไหม คนที่คุณเซอร์ไพรส์ครั้งแรกที่เราพบกัน” เปลวทบทวนคำพูดคุณชาย
จนเริ่มจำได้สาวสวยชุดราตรีสีมุกที่ประมูลเปิดฟลอร์เธอเป็นเงินถึงสิบล้านบาท ที่แท้คือหม่อมราชวงศ์มุกดานี่เอง
“เปลวจำไม่ได้จริงๆ คุณหญิงสวยมาก..เปลวคิดไม่ถึงว่าเป็นเธอ”
เปลวบอกไปตามตรง เธอนึกไม่ถึงคนที่เสนอประมูลถึงสิบล้านคือหญิงมุก
“เหมือนคุณไง ผมเองก็คิดไม่ถึงราชินีคลีโอพัตราที่ลึกลับน่าค้นหาจะเป็นคุณเปลว” คุณชายย้อนเปลวทันทีเช่นกัน
“คุณชายไม่โกรธเปลวหรือคะ” เธอตัดสินใจเสี่ยงถามตรงๆ
“โกรธคุณเรื่องอะไรครับ” คุณชายก็ถามกลับทันควัน
“เปลวไม่ได้บอกว่าเป็น..เออ..” แต่แล้วก็พูดไม่ออกจนได้
“คุณเป็นอะไรครับ ทำไมผมต้องโกรธ” คุณชายยิ้มกริ่มนึกสนุกที่แกล้งคนในอ้อมแขนให้ขาดความมั่นใจได้
ก่อนหน้าเจอเปลวสองครั้งเป็นคนมีบุคลิกมั่นใจในตัวเองสูง แต่ตอนนี้ทำไมถึงไม่กล้าสู้สายตา
เคอะเขินอีกต่างหาก ให้เชื่อว่าเธอเป็นผู้ชายนี่คุณชายแทบไม่อยากคิด คนที่อยู่ในอ้อมแขนเป็นคู่เต้นรำขณะนี้
ไม่ว่ามองมุมไหนก็เป็นผู้หญิงสวยจับใจนี่เอง แถมยังเรียกได้ว่าสวยมากเสียด้วยสิ
สวยจนคุณชายเผลอสำรวจหารอยตำหนิบนใบหน้างามอย่างพินิจพิเคราะห์ แต่ก็หาไม่เจอแต่อย่างใด
“เปลวขอโทษที่ไม่ได้บอกเป็นผู้ชาย” สุดท้ายเปลวยอมเผชิญหน้าหันมาบอกคุณชายไปตามความจริง
เกี่ยวกับเพศสภาพของเธอ ทำเหมือนกำลังสารภาพผิดเสียอย่างนั้น
“หึหึ..ขอโทษด้วยผมไม่ได้ตั้งใจขำ แค่กลั้นไม่ได้ที่คุณเข้าใจว่าผมโกรธเรื่องที่คุณเป็นผู้ชาย
ถ้าเป็นเรื่องนี้ผมไม่ใส่ใจเลยครับ ผมรู้แล้วว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิง” คุณชายเฉลย หลังเปลวหน้าบึ้งใส่เพราะดันเผลอหัวเราะออกมา
“คุณชายรู้แล้ว” เปลวครางแผ่ว คิดไปไกลว่าคุณชายจับได้ตั้งแต่แรกเลยเหรอ ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิง
“ใช่ครับผมรู้ก่อนมางานนี่ ว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิง ลองนึกทบทวนให้ดีของสำคัญอะไรของคุณหายไปไหมครับ”
คุณชายอมยิ้มอย่างมีเลศนัย
“กระเป๋าตังค์ ใช่แล้วกระเป๋าตังค์เปลวหล่นในรถคุณชายใช่ไหม”
เปลวตาโตนึกขึ้นได้ว่าคุณชายหมายถึงอะไร พานออกอาการตื่นเต้นใหญ่ จนลืมความกังวลก่อนหน้าไปเสียสิ้นเชิง
ตาคมสวยที่รอความหวังว่าจะได้คำตอบอย่างที่เธอต้องการ เพราะกระเป๋าตังค์ใบนั้นมีของสำคัญอยู่จริงๆ
“อืม..หญิงมุกเจอหล่นตรงที่วางเท้า ผมเสียมารยาทเปิดดูข้างในแค่ต้องการรู้ว่าเจ้าของคือใคร จะได้ส่งคืนถูกตัว”
คุณชายแจงรายละเอียดที่ไปรู้ความจริงเปลวไม่ใช่ผู้หญิง แสดงว่าก่อนหน้าไม่รู้เช่นกันว่าเปลวเป็นผู้ชายนะสิ
ทำเปลวเผลอคิดไปว่าแผนแตกตั้งแต่แรกเสียอีก..
“ของเปลวเองค่ะ กำลังกังวลอยู่จะไปหาคืนจากที่ไหน คุณชายเอาติดมาด้วยหรือเปล่าคะ”
เปลวดีใจที่ได้ของสำคัญคืน กระชับบ่าแกร่งเผลอขยับเข้าชิดจนลมหายใจเป่ารดหน้าหล่อไปแล้ว
คุณชายเพชรชะงักไปทันทีหน้าหล่อแดงเข้ม ไม่คิดว่าใบหน้าสวยของเปลวจะห่างแค่ปลายจมูกโด่ง
“อะ..เอา..เอามาครับ แต่อยู่ในรถ ไว้คุณเปลวจะกลับผมพาไปเอาดีกว่าไหม”
เปลวยิ้มสดใสดูงดงามอย่างไม่ได้รู้ตัวเลย ว่าแทบจะแนบชิดกับร่างแกร่งไปแล้วตอนนี้
แต่ยังไม่ทันได้ขอบอกขอบใจคุณชาย ดันมีเสียงแทรกขัดขึ้นมาเสียก่อน เป็นคู่เต้นรำที่อยู่ห่างไปไม่กี่ก้าว
“ใครจะเอาอะไรหรือครับ” เสี่ยวิกรมเต้นรำกับคุณมรกต ขยับใกล้คู่ของเปลวกับคุณชายตั้งแต่ตอนไหนไม่ทันสังเกต
คุณมรกตสายตาขมึงดุเห็นชัดไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เปลวใกล้ชิดคุณชายดูหน้าระรื่นแบบนี้ด้วย
คุณชายเองก็หน้าแดงหูแดง แถมมีคำพูดที่คุณมรกตกับเสี่ยวิกรมได้ยินในประโยคท้าย ‘ผมพาไปเอา’
ทำให้คิดเลยเถิดจนไม่เก็บอาการบนสีหน้า โดยเฉพาะคุณมรกตอยากกระชากเปลวออกจากคุณชายให้รู้แล้วรู้รอดด้วยซ้ำ
หากไม่ติดกลัวเสียภาพพจน์กับสื่อมวลชน เธอคงวีนกระเจิงไปแล้ว
“แอบฟังคนคุยกัน ผมคงไม่ต้องบอกเรื่องความเหมาะสมนะครับ” คุณชายปกติจะไม่หักหน้าใครแบบนี้
เพราะประโยคล่อแหลมที่เสี่ยวิกรมทำเป็นเอ่ยถามหน้าตายมันส่อให้คนคิดต่ำ พานทนไม่ไหวเช่นเดียวกัน
“โอ้..ผมต้องขอโทษด้วย เจตนาไม่ได้ตั้งใจแอบฟังจริงๆ สาบานได้ ผมกับคุณมรกตปรึกษากันอยู่
อยากสับเปลี่ยนคู่เต้นดูบ้าง อันที่จริงผมให้เกียรติคุณหญิงมุกจึงไม่เพิ่มเงินประมูล
ความตั้งใจเดิมของผมยังคงร่วมบริจาคให้มูลนิธิตามที่แจ้งในการประมูล 1 ล้านบาท หากคุณชายกรุณา
ขอผมเต้นรำกับราชินีคลีโอพัตราสักเพลงครึ่งเพลง คงไม่ว่ากันใช่ไหมครับ” เสี่ยวิกรมไม่ยอมรามือ
กลับยิ้มเย็นทำตัวสุภาพทันตา แถมยังกล้าขอร้องคุณชายให้เปลี่ยนคู่เต้น โดยแลกคุณมรกตกับเปลวหน้าตาเฉย
คุณชายหันไปจ้องตาสวยของเปลว อย่างต้องการความเห็นเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจเปลวเป็นหลัก ถ้าเปลวไม่ต้องการเปลี่ยนคู่ก็ต้องให้เกียรติผู้หญิง
ซึ่งสุภาพบุรุษตัดสินใจแทนไม่ได้ ดวงตาคมสวยสื่อความหมายแทนวาจา ให้คุณชายรับรู้ได้ในทันที
เปลวไม่ต้องการเป็นคู่เต้นเสี่ยวิกรม ต่อให้ไม่เอ่ยมาเป็นคำพูดแต่คุณชายก็เดาคำตอบได้ว่า
เปลวไม่ต้องการหักหน้าเสี่ยวิกรมจึงไม่ใช้วิธีปฏิเสธทางวาจา อาศัยส่งสารผ่านแววตาให้คุณชายเข้าใจแทน
“ต้องขอโทษด้วยครับ ผมยังเต้นไม่จบเพลง โดยนิสัยของผมแล้ว จะส่งคู่เต้นคืนก็ต่อเมื่อเพลงจบ
ส่วนใครที่เธอจะให้เกียรติเต้นด้วยหรือไหม ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอเถอะครับ
ผมไม่เคยเปลี่ยนคู่ระหว่างที่กำลังเต้นยังไม่จบเพลง ขออภัยอีกครั้งนะครับ” คุณชายปฏิเสธได้สุภาพมากๆ
“ฮะฮ่าๆ..ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมสิต้องขอโทษที่ขัดการเต้นรำของคุณชาย
เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมรอคุณชายส่งราชินีคืนเวที ผมค่อยขอเธอเป็นคิวถัดไป ยังไงผมก็ตั้งใจบริจาค
ราชินีคงไม่ปฏิเสธผมหรอกจริงไหม?” ประโยคคำถามจงใจส่งให้เปลวโดยเฉพาะ
ทำเอาร่างเพรียวหลังเกร็งจนคุณชายสัมผัสได้ เปลวไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
แกล้งเฉยไม่แม้กระทั่งจะหันมองหน้าเสี่ยให้เป็นเสนียดลูกตา โฟกัสเพียงบ่ากว้างของคุณชายเป็นหลัก
“ถ้าเช่นนั้นผมขอตัวนะครับ” พูดจบคุณชายพาร่างระหงแสนสวยเคลื่อนเท้าตีตัวออกห่าง
นำด้วยความชำนาญพาเปลวออกห่างคุณมรกตกับเสี่ยวิกรม โดยลอบชำเลืองไม่ให้ทั้งสองคนเคลื่อนเข้าใกล้
แม้จะรู้ว่าคุณมรกตจงใจให้เสี่ยนำเข้ามาในรัศมีที่จะตีคู่เห็นได้ชัด แต่คุณชายก็พลิ้วเต้นได้สง่างามและคล่องแคล่วมาก
สำคัญเปลวก็ให้ความร่วมมือจึงไม่ยากที่จะหนีคู่เต้นซึ่งไม่พึงปรารถนา
หลบหลีกใช้วิธีให้คู่อื่นบดบังกระทั่งหายไปจากสายตา เห็นอยู่ห่างไกลพอสมควรแล้ว
“ทำไมถึงไม่อยากให้เขาเป็นคู่เต้น..หืม” เสียงทุ้มเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าสามารถที่จะพูดคุยกันเบาๆ ได้แล้วตอนนี้
“ไม่ชอบขี้หน้าขอไม่บอกได้ไหมคะ เปลวมีเหตุผลที่ไม่ชอบเขา”
เปลวยืนกรานแบบนั้น โดยไม่อยากพูดถึงสาเหตุที่ไม่ชอบหน้าเสี่ยวิกรม
“ครับผมไม่ต้องการลงรายละเอียด คุณกลับยังไงมีงานอะไรต้องทำอีกหรือเปล่า”
คุณชายถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอบอุ่น ทำให้เปลวรู้สึกปลอดภัยวางใจอย่างอธิบายไม่ถูก
“คิดว่าจบเพลงก็จะปลีกตัวทันที เปลวไม่มีโชว์อีกแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นผมรอที่ล็อบบี้..ตกลงไหม”
“คะ” เปลวฟังไม่ถนัด ไม่แน่ใจคุณชายพูดประโยคนี้จริงไหม
“ผมบอกจบเพลงผมจะปลีกตัวไปรอที่ล็อบบี้ คุณใช้เวลาเท่าไหร่สำหรับเตรียมตัว
ผมจะไปส่งที่คอนโดตั้งใจคืนกระเป๋าตังค์ด้วยตกลงไหม” เปลวฟังคุณชายย้ำอีกครั้ง
ถึงกลับเผลอยิ้มทันที รอยยิ้มของเปลวแทบละลายใจคนมองเลยทีเดียว ทั้งสวยงามและจริงใจสุดๆ
“ตกลงค่ะ ถ้างั้นเปลวจะรีบเปลี่ยนชุดคงไม่เกินสิบนาที คุณชายไม่ตกใจนะคะ เพราะเปลวไม่ได้อยู่ในสภาพของผู้หญิง”
“ว่าไงนะครับ” คราวนี้คุณชายบ้างแล้ว ที่ย้ำให้แน่ใจไม่ได้ฟังผิด
“คือเปลวแต่งแมนๆ ตัวตนปกติถ้าไม่ได้ทำงานเปลวก็เป็นผู้ชาย เอาเป็นว่าเปลวเป็นเกย์คุณชายรังเกียจไหม"
มาถึงขั้นนี้ถ้าไม่ถามกันตรงๆ คงรู้สึกอิหลักอิเหลื่อแน่ สู้ถามเลยดีกว่ารับได้หรือไม่ได้ที่เธอเป็นแบบนี้
“อ่า..ผมไม่รังเกียจเลย ขอโทษที่เผลอเสียมารยาททำให้คุณเข้าใจไปแบบนั้น คือผมไม่รู้อธิบายยังไงดี
ผมรู้คุณเป็นผู้ชายจากบัตรประชาชนที่อยู่ในกระเป๋าตังค์ แต่ก็ไม่คิดว่าคุณจะเป็นผู้ชาย
ผมเจอคุณทุกครั้งรูปแบบคุณเป็นผู้หญิง พานคิดไปว่าคุณอาจทำการเปลี่ยนแปลงตัวเองจึงอยู่ในลุคผู้หญิงจนดูไม่ออก
พอคุณบอกผมเดี๋ยวคุณจะเป็นผู้ชายจึงรู้สึกสับสนบ้างเล็กน้อย แต่มั่นใจเถอะครับ..ผมคบคนไม่ได้ดูที่เพศหรือรสนิยมส่วนตัว
ขอให้เป็นคนดีไว้ใจได้ก็พอแล้วครับ” คำตอบของคุณชายทำเอาเปลวรู้สึกประทับใจตื้นตันจนบอกไม่ถูก
ที่แน่ๆ หัวใจเปลวมีแสงสว่างบางอย่างจุดประกายในมุมมืดที่ปิดตายมานาน
ก่อให้เกิดประกายแผ่ซ่านเหมือนได้รับพลังงานชื่นฉ่ำ จนรู้สึกชุ่มชื่นขึ้นมาหลังจากมันแห้งขอดนานหลายปี
“ขอบคุณนะคะ ที่ให้ความช่วยเหลือเปลวสองครั้งแล้ว” ในที่สุดคำขอบคุณที่ตั้งใจอยากจะพูด ก็ได้พูดออกไปจนได้
“ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็กน้อยอย่าคิดมาก ใกล้จบเพลงแล้วผมว่าคุณรีบปลีกตัวก่อนเพลงจบดีกว่า
ขืนรอจบเพลงคุณจะลำบาก ทางที่ดีชิ่งก่อนที่เขาจะไหวตัวทัน” คำแนะนำของคุณชายเปลวเห็นด้วยรีบพยักหน้าตอบรับ
คุณชายเนียนพาเปลวเคลื่อนเข้าใกล้เวทีก่อนจะโค้งให้อย่างสุภาพ ค่อยปล่อยเปลวเป็นอิสระ
รอยยิ้มของราชินีแสนสวยที่ส่งมาให้เต็มไปด้วยความงดงามในสายตาคุณชายเพชรรัตน์
สำคัญสุดคือแววตาทอดหวานละมุนทิ้งหางตามาให้ อย่างไม่มีเจตนายั่วยวนเหมือนที่ทำในช่วงบ่าย
เชิงทอดสะพานจงใจอ่อย แต่กลับทำคุณชายขำท้องคัดท้องแข็งมาแล้ว
หนนี้ไม่ได้เจตนายั่ว กลับทำให้คุณชายรู้สึกว่าเซ็กซี่ยั่วยวนเกินที่จะห้ามหัวใจไม่ให้เต้นเป็นจังหวะรัวถี่ได้จริงๆ
ราชนิกุลหนุ่มหล่อถึงกับส่ายหัวสลัดความคิดแปลกๆ ที่เผลอคิดไปไกลออกจากหัวในทันที
มองตามแผ่นหลังเนียน ก่อนจะลับหายไปทางข้างหลังเวที ที่แน่ๆ มีเหล่านางโชว์น่าจะเป็นมิตรสหาย
แสดงทีท่ากรี๊ดกร๊าดพากันแซวเปลว หลายนางชะเง้อคอมองคุณชายไม่ละสายตา
หนุ่มหล่อราชนิกุลสูงศักดิ์จึงส่งยิ้มให้แทนการทักทาย เพียงเท่านั้นแต่ละนางก็อ่อนระทดระทวย
ยืนไม่อยู่โงนเงนเอนตามกันไปเป็นแถว
“หึหึ..” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำในคอ ก่อนร่างสูงสง่าจะหันกลับเพื่อไปพาคุณหญิงมุกหลบออกจากงาน
ตามที่นัดหมายเปลวเอาไว้ว่าจะรับอาสาพากลับคอนโด แต่ปัญหาที่คุณชายต้องจัดการเสียก่อน
คือหลบคุณมรกตไม่ให้ไหวตัวทัน ขืนให้เธอรู้มีหวังตามติดแน่ นี่ต่างหากที่คุณชายจะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอันขาด
อ่านสายตาไม่ผิดคุณมรกตตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับเปลวทั้งที่ยังไม่ได้ทักทายกันด้วยซ้ำ
คงไม่ต้องหาเหตุผลมาอธิบายแล้วมั้ง สาเหตุอะไรที่ทำให้คุณมรกตคิดแบบนั้น
คุณชายรู้และเข้าใจดีหนีไม่พ้นคือคุณชายเป็นต้นเหตุ ป่านนี้คงคิดไปว่าเปลวกำลังจะเข้ามาในชีวิตคุณชาย
ซึ่งอนาคตคุณชายก็ตอบไม่ได้เช่นกัน รู้ว่าหากเปลวคือมณีรมย์คนหนึ่งล่ะก็
ยังไงก็ต้องได้เข้ามาพัวพันกับชีวิตคุณชายโดยไม่มีทางเลี่ยง..
มาอันตามสัญญาแล้วนะคะ เรทไปครึ่งชั่วโมงขออภัยด้วยค่ะ
เจอกันวันอังคารนะคะ มาติดตามดูกันต่อ ว่าคุณชายจะเจอเปลวในลุคผู้ชาย
แล้วจะรู้สึกยังไงบ้าง ที่สำคัญจะพาเปลวหลบสมุนเสี่ยวิกรมได้ไหม
ขอบคุณที่ติดตามให้กำลังใจกันนะคะ
![:pig4:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/kapook_36568.1.gif)