เนื่องจากผมไม่อยากอยู่ข้างนอกนานมากนักเพราะยังเป็นห่วงลูกชายของตัวเอง จึงรีบบอกลาแม่ข้าวที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะนั่งรถเมล์กลับบ้านตัวเอง ซึ่งพอมาถึงก็พบกับไอ้กล้าที่กำลังใช้กรรไกรตัดตกแต่งพุ่มไม้อยู่ในสวนพอดี
“อ้าวทำไมรีบกลับมาไวจัง นี่เพิ่งจะบ่ายหนึ่งเองนะ” ไอ้กล้าถามหลังจากเห็นผมเดินเข้ามาในบ้าน “ถ้าจะเข้าบ้านตอนนี้กูขอห้ามมึงไม่ให้เข้าไปนะไอ้วีร์”
คำพูดของไอ้กล้าทำเอาผมถึงกับมุ่นคิ้ว
“ทำไมวะ ทำไมกูจะเข้าบ้านไม่ได้”
“เออน่า เชื่อกู มึงออกไปเที่ยวข้างนอกบ้านก่อน ไว้ค่ำๆค่อยกลับมาอีกที” กล้าบอกก่อนจะดันผมให้กลับไปนอกบ้าน แต่ก็ไม่ขยับครับ เพราะผมมีแรงมากกว่ามัน “น่านะไอ้วีร์ กูอยากให้มึงออกไปเที่ยวข้างนอกบ้านก่อน”
ไอ้กล้ามีพิรุธครับ ดูท่าผมคงต้องเข้าไปข้างในบ้านให้ได้ซะแล้ว!“ไม่” ผมพูดเสียงแข็ง ก่อนจะผลักไอ้กล้าให้ถอยออกไปอย่างแรง แล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว ซึ่งไอ้กล้าที่ผมผลักไปแล้วก็รีบวิ่งกุลีกุจอมาห้ามผมเสียยกใหญ่ “เออ กูไม่เข้าไปก็ได้วะ”
ผมพูดพลางทำท่าเดินกลับไปทางเดิม แต่พอไอ้กล้าเผลอปุ๊บ ผมวิ่งใส่เกียร์หมาเข้าบ้านปั๊บทันที
“เฮ้ยวีร์กลับมาก่อน กลับมา!” ผมไม่ฟังมันครับ วิ่งขึ้นไปยังชั้นสองก่อนจะพุ่งตรงไปยังห้องทำงานของลูกชายตัวเอง พอมาถึงหน้าห้องทำงานผมกลับมุ่นคิ้วทันทีที่ได้ยินเสียงแปลกๆ
“อือ อ่า เบาๆหน่อยสิครับคุณวิน”
“จะให้ฉันเบาได้ยังไง ก็เธอเล่นตอดฉันซะขนาดนี้”
“แต่คุณวินก็น่าจะ อื้อ ช้าๆหน่อยสิครับ ผมหายใจไม่ทัน”
“โอเค ฉันจะทำช้าๆให้ก็ได้”
ด้วยความสงสัยผมจึงเปิดประตูแง้มเข้าไปอย่างเบาๆ ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น ซึ่งมันเป็นภาพที่วินกำลังมีเซ็กส์ โดยมีอิฐอยู่ใต้ร่างลูกชายของผมเอง
!!!!!!
....................................
ผมชื่อกล้าครับ เป็นเด็กทำสวนที่ตระกูลสิงห์เหมือนกับพ่อ ส่วนแม่ของผมเสียไปนานแล้วครับ ก็เลยมีกันแค่สองพ่อลูก วันนี้ผมก็ขึ้นตึกใหญ่เพื่อรดน้ำต้นไม้ในกระถางตามกำแพงของบ้าน แต่กลับต้องวิ่งออกจากตึกเพราะได้ยินเสียงของคุณวินกับคุณอิฐในห้องทำงาน ซึ่งเป็นอันที่รู้กันทุกคนว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์พิเศษที่พวกผมได้แต่ปิดปากเงียบเพียงอย่างเดียว
“อ้าวทำไมรีบกลับมาไวจัง นี่เพิ่งจะบ่ายหนึ่งเองนะ” ผมถามหลังจากเห็นวีร์เดินเข้ามาในบ้าน “ถ้าจะเข้าบ้านตอนนี้กูขอห้ามมึงไม่ให้เข้าไปนะไอ้วีร์”
อีกฝ่ายมุ่นคิ้ว
“ทำไมวะ ทำไมกูจะเข้าบ้านไม่ได้”
ขืนมึงเข้าบ้านในตอนนี้ก็ต้องเจอคุณวินกับคุณอิฐกำลังฟีทเจอริ่งอยู่นะสิวะ!“เออน่า เชื่อกู มึงออกไปเที่ยวข้างนอกบ้านก่อน ไว้ค่ำๆค่อยกลับมาอีกที” ผมบอกก่อนจะดันวีร์ให้กลับไปนอกบ้าน แต่ก็ไม่ขยับครับ เพราะไอ้วีร์มีพละกำลังแรงเยอะเหลือเกิน “น่านะไอ้วีร์ กูอยากให้มึงออกไปเที่ยวข้างนอกบ้านก่อน”
“ไม่” วีร์พูดเสียงแข็ง ก่อนจะผลักผมให้ถอยออกไปอย่างแรง แล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว ส่วนผมก็รีบตามไปห้ามไอ้วีร์สิครับ “เออ กูไม่เข้าไปก็ได้วะ”
แต่มันไม่ฟังผมครับ กลับล่อผมให้ตายใจโดยการทำท่าเหมือนจะเดินออกนอกบ้านจริง แต่มันกลับวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็วโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว
เวรล่ะมึง!พอผมวิ่งตามไอ้วีร์ไปถึงห้องทำงานของคุณวิน กลับต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงเดินกลับมาด้วยสีหน้าเหม่อลอย ผมเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปถามวีร์ด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรไปไอ้วีร์ ทำไมเหม่ออย่างนั้น...”
“สองคนนั้น...พวกเขาทำกันตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอกล้า” วีร์ถามเสียงลอยโดยที่มันยังไม่ยอมมองหน้าผม ดูท่าวีร์คงจะไปเห็นคุณวินกับคุณอิฐในห้องมาแล้วครับ ก็เลยทำท่าช็อกอย่างที่เห็น “กูฝันอยู่หรือเปล่าวะไอ้กล้า บอกกูหน่อยสิ”
“ไม่ มึงไม่ได้ฝัน คุณวินกับคุณอิฐเป็นแบบนั้นมานานหลายปีแล้ว ทุกคนในบ้านรู้กันหมด”
“แม้กระทั่งลูกชายของคุณวินก็ด้วยหรือ” วีร์หันหน้ามาถามผมด้วยแววตาสงสัย ซึ่งผมก็ได้แต่พยักหน้าตอบกลับไป “แล้วเมียของคุณวินล่ะ เขารู้เรื่องนี้ด้วยใช่หรือเปล่า”
“อืมใช่ พอคุณผู้หญิงรู้ก็ขอหย่าเลยทันที รู้สึกว่าตอนนี้ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับผัวคนใหม่แล้ว”
“อย่างนี้นี่เอง มิน่าล่ะถึงได้ไม่เห็นอยู่บ้านเลย” วีร์บ่นพึมพำไปตามเรื่องตามราว ซึ่งผมไม่ได้ยินที่มันบ่นหรอกครับ เพราะมันพูดเสียงเบามาก “แล้วมึงเกลียดพวกเขาสองคนหรือเปล่ากล้า”
ผมได้ยินที่อีกฝ่ายถามก็รีบส่ายหน้าตอบกลับไป
“ไม่วะ กูไม่ได้เกลียด”
“เหรอ”
“อืม” ผมตอบครางในลำคอ ก่อนจะพูดต่อ “ที่กูไม่เกลียดก็เพราะคุณวินกับคุณอิฐเป็นผู้มีพระคุณกับกู เขาให้ทั้งที่อยู่ทั้งงานทั้งเงินทั้งข้าวฟรี ไหนจะส่งกูเรียนหนังสือต่ออีกด้วย ส่วนคนอื่นนั้นมึงไม่ต้องถาม เพราะพวกเขาคิดเหมือนกับกูนี่แหละ”
“งั้นเหรอกล้า อืม ขอบใจมากนะ”
“ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง” ผมยิ้มตอบก่อนจะถามมันต่อ “ว่าแต่มึงล่ะวีร์ มึงคิดยังไงกับพวกเขา”
วีร์ไม่ตอบแต่กลับส่งยิ้มบางให้กับผม ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านอย่างเงียบๆ
...............................
ตั้งแต่เดินออกจากคฤหาสน์ ผมก็ได้แต่นั่งอยู่บนชิงช้าเด็กเล่นแถวสวนสาธารณะอยู่เกือบสองชั่วโมงเต็ม ภาพอดีตที่เคยเลี้ยงดูลูกชายตั้งแต่เล็กจนโต ฟูมฟักวินให้เติบใหญ่มีครอบครัวสมบูรณ์เหมือนกับคนทั่วไป กลับมีอันต้องพังทลายเมื่อเห็นภาพของวินที่มีอะไรกับมือขวาอย่างอิฐในห้องทำงาน ผมไม่ได้รังเกียจที่ลูกชายเป็นเกย์ แต่ผมกลัวครับ กลัวว่าวินจะชะรอยตามแบบผมเสียมากกว่า
“ไฟเราเลิกกันเถอะ”
“ไม่วีร์ ฉันไม่ยอมเลิกกับนายเด็ดขาด” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “ทำไมละวีร์ ทำไมนายไม่ยอมบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าเรารักกัน หรือว่านายไม่ได้รักฉันแล้ว ตอบฉันมาสิวีร์!”
ผมมองหน้าคนรักทั้งน้ำตา
“เปล่าไฟ ฉันยังรักนายอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่...” ผมชะงักพูดพลางเช็ดน้ำตาออก ก่อนจะมองหน้าคนรักที่ตอนนี้หน้าซีดไปหมดแล้ว “...พวกเราเป็นศัตรูกัน สิงห์กับเสือไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ลาก่อนไฟ ฉันรักนายนะ”นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นเขา เพราะผมต้องเข้าพิธีลั่นวิวาห์กับผู้หญิงที่คุณพ่อคุณแม่ผมเลือกไว้ให้ แล้วหลังจากนั้นอีกหลายปีถัดมาผมก็ได้ยินข่าวของไฟอีกครั้ง แต่เป็นข่าวที่ทำเอาผมถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ไฟเสียชีวิตเพราะโดนคนของตระกูลมังกรลอบยิง เหลือแต่ทายาทของไฟที่ถูกแต่งตั้งขึ้นให้เป็นผู้นำตระกูลเสือรุ่นที่สามโดยที่อีกฝ่ายยังมีอายุเพียงแค่สิบสามปีเท่านั้น
“คงเป็นเวรกรรมของฉันที่ทำให้วินต้องเป็นแบบนี้น่ะไฟ” ผมพูดพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ก่อนจะหรี่ตาลงหลบหนีแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา “ถ้าให้เลือกได้ ฉันขอเป็นคนธรรมดาดีกว่า จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนแต่ก่อน”
“ใครทนทุกข์ทรมานอะไรของเธอน่ะวีร์ ฉันฟังแล้วไม่เห็นเข้าใจเลยซักนิด” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้น ทำเอาผมชะงักความคิดของตัวเองพลางหันหลังกลับไปมอง ก่อนจะเห็นร่างสูงที่เพิ่งจะได้คุยกันเมื่อเช้านี้กลับมายืนตรงหน้าผม
“ผมว่าคุณหูตึงแล้วครับคุณพยัคฆ์ เพราะผมไม่ได้พูดอะไรเลยซักคำเดียว” ผมหรี่ตาตอบอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ “แล้วนี่คุณแอบตามสะกดรอยผมมาหรอกหรือ"
“ใช่”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“ก็ตั้งแต่เธอเดินออกจากโรงพยาบาลนั่นแหละ” พยัคฆ์ตอบพลางหรี่ตาลงมองผมอย่างสงสัย “เป็นอะไรทำไมตาแดงๆ ไม่สบายหรือเปล่า”
“เปล่า แค่ฝุ่นเข้าตาผมน่ะ”
“เหรอ ถ้างั้นคงเป็นฝุ่นที่วิเศษมาก เพราะสามารถเปลี่ยนสภาพจากฝุ่นให้กลายเป็นน้ำได้”
!!!!!!
...............................
ปล.ภาพข้างล่างเป็นภาพของกล้านะ
[attachment deleted by admin]