[เรื่องสั้น] Every time Café โทษที! ไม่มีตังค์จ่าย Merry X'mas2016!!! [26/12/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Every time Café โทษที! ไม่มีตังค์จ่าย Merry X'mas2016!!! [26/12/59]  (อ่าน 45809 ครั้ง)

ออฟไลน์ IVY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

...
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-12-2016 17:37:04 โดย IVY »

ออฟไลน์ IVY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Chapter 1

ผมเป็นเพียงเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งที่บังเอิญได้ทำเลดีอยู่ใจกลางย่านธุรกิจพอดิบพอดีทำให้กิจการเป็นไปได้อย่างราบรื่น มีเงินพอใช้จ่าย มีพนักงานที่เป็นเด็กดีและมีลูกค้าที่แสนจะน่ารัก…

แต่บางครั้งผมก็เจอลูกค้าแปลกๆ

ผมพบกับเขาครั้งแรกเมื่ออาทิตย์ก่อน…

วันนั้นท้องฟ้ามืดครึ้มตั้งแต่ตอนบ่ายเหมือนฝนทำท่าจะตกได้ทุกเมื่อ แล้วก็จริงตามนั้น หลังจากผมปิดร้านได้ไม่นานฝนห่าใหญ่ก็กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา พาทั้งลม ทั้งเศษใบไม้เศษฝุ่นปลิวว่อนไปหมด และที่สำคัญยิ่งกว่า ฝนในวันนั้นได้พาคนๆหนึ่งมาที่นี่ด้วย

   เพราะเพิ่งจะปิดร้านผมจึงยังไม่ทันได้ล็อกประตู เสียงผลักประตูอย่างรุนแรงทำให้ผมสะดุ้งจนเกือบทำแก้วที่กำลังเช็ดหล่น เด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนหอบอยู่ภายในร้านที่มืดสลัวเนื้อตัวเปียกปอนเหมือนเพิ่งจะวิ่งฝ่าฝนมา เขามีสีหน้าตกใจเมื่อหันมาเห็นผมอยู่ในร้านและทำท่าจะหันหลังเดินกลับออกไป

“เดี๋ยวสิ ข้างนอกฝนตกหนัก นั่งรอข้างในก่อนก็ได้” เด็กหนุ่มคนนั้นหันมาขมวดคิ้วใส่ผมพร้อมกับสายตาค้อนๆ

…เฮ้อ เด็กวัยกำลังโตก็อารมณ์ขึ้นๆลงๆแบบนี้ล่ะนะ^^

เขาทำท่าจะเดินเข้ามาใกล้แต่ก็ชะงักเท้า หมุนตัวกลับไปนั่งโต๊ะชุดที่อยู่ติดกับประตูแทน แสงไฟจากหน้าร้านส่องลอดเข้ามากระทบโต๊ะชุดนั้นทำให้ผมเห็นเขาได้ชัดเจน เขายังเด็กอยู่อย่างน้อยก็เด็กกว่าผม เขาใส่ชุดนักเรียนที่ดูยังไงก็น่าจะผิดระเบียบ น่าจะมัธยมปลาย แต่รูปร่างสูงกว่าผมพอสมควร แถมยังหน้าตาดี ตอนอยู่โรงเรียนสาวๆคงกรี๊ดกร๊าดน่าดู

“อะนี่” ผมยกนมอุ่นๆกับขนมปังสองชิ้นวางลงบนโต๊ะพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กยื่นให้เขา

“ไม่ได้สั่ง!” เขาตอบเสียงห้วน

“ไม่เป็นไร พี่เลี้ยง อ่ะเช็ดตัวด้วย เดี๋ยวจะไม่สบาย”

“…”  เขาหันออกไปมองนอกหน้าต่างไม่สนใจผ้าขนหนูที่ผมยื่นให้

“…”

“เฮ้ย!! จะทำอะไร” เขาโวยวายเสียงดังเมื่อผมเดินไปยืนซ้อนข้างหลังเก้าอี้

“พี่จะเช็ดผมให้ กินไปเถอะ” เขาขยับตัวหยุกหยิกอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจแต่สุดท้ายก็ยอมนั่งนิ่งๆให้เช็ดผมให้ พร้อมกับลงมือกินขนมปังช้าๆ

เสียงฝนตกกระทบหลังคายังคงส่งเสียงดังสม่ำเสมอไม่มีทีท่าจะซาลงความชื้นและกลิ่นไอดินแผ่เข้ามาภายในร้านทำให้อากาศเย็นชื้นไปทั่ว ยิ่งในร้านที่เพิ่งจะปิดเครื่องปรับอากาศแล้วจะเรียกว่าเกือบหนาวเลยก็น่าจะไม่ผิด

“นี่ เธอชื่ออะไร” ผมถามทำลายความเงียบขณะเช็ดผมให้เขา เจ้าตัวชะงักมือที่กำลังถือแก้วนมเล็กน้อยแต่ก็ยกขึ้นดื่มต่ออย่างไม่สนใจ

“…”

“พี่ชื่อมิณนะ เรียกพี่มิณก็ได้”

“…”

“ค่ำขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่กลับบ้านล่ะ เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วงนะ”

“…” อืม…ผมคิดว่าเด็กๆสมัยนี้สุขุมขึ้นเยอะเลย…

“นี่…”

“เลิกยุ่งซักทีได้มั้ย!!?” อ่า… เขาคุยกับผมแล้วล่ะ แต่เสียงดังไปหน่อยนะผมว่า

“พี่ไม่ได้ยุ่ง พี่เป็นห่วง”

“เป็นลูกคนเดียว ไม่มี ‘พี่’” เขาหันกลับมามองผมหน้าบึ้ง

“อ๋อ…เธอคงเหงาใช่มั้ย มาเล่นกับพี่ที่นี่ก็ได้นะ”

“หา?...นี่หาเรื่องกันเราะ!!!” ลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมต้องผงะ เขาจ้องผมด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนจะทั้งหงุดหงิดทั้งประหลาดใจ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ส่วนผมได้แต่กระพริบตามองเขาปริบๆ

เด็กสมัยนี้เดาอารมณ์ยากนะครับ…หรือว่าผมจะแก่เกินไป??

“…กลับล่ะ!” หลังจากที่เล่นเกมส์จ้องตากันอยู่หลายนาทีเขาก็ทำท่าจะออกจากร้านพร้อมกับคว้ากระเป๋าเป้ที่สะพายติดตัวมาด้วยขึ้นพาดบ่า

“เดี๋ยวสิ”

“อะไร!? ไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารนะ!” เขาหันกลับมามองขมวดคิ้วเข้ม

   “เปล่า พี่บอกแล้วไงว่าจะเลี้ยง แต่เธอยังไม่ได้บอกชื่อเลย”

“…”

เขาเดินไปที่ประตูพร้อมกับผลักออกไป ไอเย็นธรรมชาติและความชื้นแผ่เข้ามาภายในร้าน แต่ฝนเหมือนจะหยุดตกไปนานแล้วเหลือไว้เพียงน้ำที่เจิ่งนองเต็มร่องขรุขระของพื้นถนน

“…เจย์”

“หืม? เธอว่าอะไรนะ”

“ชื่อเจย์!!!” เขาหันมาตอบเสียงดัง มองผมตาขวางเหมือนขัดใจ ก่อนจะออกวิ่งไปโดยที่ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ…








“คุณมิณผมกลับแล้วนะครับ” เสียงตะโกนจากหน้าประตูร้านทำให้ผมหันไปมอง เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาแขนสั้นยืนส่งยิ้มให้ที่หน้าร้าน บนบ่าสะพายกระเป๋ากล้องเอาไว้

“กลับบ้านดีๆนะอาร์ ...แต่พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เรียกพี่มิณ” ผมขมวดคิ้วแกล้งทำเสียงดุ เด็กคนนี้บอกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมจำเลยจริงๆ

“คร้าบบบบ พี่มิณ” เขาลากเสียงยาว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหยีเล็กลงจากการยิ้มอย่างหยอกล้อก่อนจะหันหลังเดินไปตามทางเท้าหน้าร้าน



ภายในร้านกาแฟนตอนนี้เงียบสงัดหลังจากที่พนักงานคนสุดท้ายออกไป มีเพียงแสงไฟที่ประตูหน้าร้านและที่เคาน์เตอร์ให้แสงสลัว ผมหันกลับมาทำความสะอาดเคาน์เตอร์ที่มีคราบกาแฟและคุกกี้หกเลอะอยู่เล็กน้อยต่อพลางชำเรื่องมองดูเวลา


สองทุ่มแล้ว...อีกเดี๋ยวก็คงจะมา

ไม่กี่อึดใจเสียงผลักประตูอย่างแรงก็ดังขึ้นทำให้ข้อต่อของประตูส่งเสียงประท้วง ป้ายและกระดิ่งส่งเสียงอย่างรุนแรงตามแรงผลัก ตามด้วยร่างของเด็กนักเรียนชายในชุดมัธยมปลายเดินเข้ามา ผมสีดำถูกเสยไปข้างหลังอย่างลวกๆ กระดุมเสื้อปลดลงมาถึงเกือบจะกลางอก ชายเสื้อบางส่วนหลุดลุ่ยออกมาจากกางเกง คิ้วเข้มของเขาขมวดมุ่นทันทีเมื่อหันมามองผม อ่อ...แต่ส่วนตาขวางๆนั่น ผมคิดว่ามันคงเป็นธรรมชาติของเขาไปแล้ว

“เหอะ! ยังไม่เจ๊งอีกเหรอร้านนี้” เขาส่งเสียงทักทาย…เออ ผมคิดว่างั้นนะ

แต่เขาเป็นเด็กดีแน่ๆครับ ผมมั่นใจนะ!

“ยังหรอก ถ้าเจ๊งไปนายก็ไม่มีที่อยู่สิ …วันนี้รับอะไรดี” ผมยิ้ม

“บ้ารึไง มีที่อื่นให้ไปเยอะแยะ” เขากระแทกเสียงก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ทำเป็นไม่ได้ยินที่ผมถาม ผมยิ้มขำกับท่าทีของเขาก่อนจะหันมาจัดการเครื่องดื่มให้

“ไม่ได้สั่ง บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่มีตังค์จ่าย อยากให้ร้านเจ๊งไวๆรึไง” เขาว่าขณะผมวางเค้กช็อกโกแลตกับนมอุ่นๆตรงหน้า

“ไม่เป็นไร เลี้ยงเจเจคนเดียวร้านพี่ไม่เจ๊งหรอก" เห็นมั้ยครับ เขาเป็นเด็กดี ดูสิ เป็นห่วงผมด้วย

“บอกว่าชื่อเจย์เฉยๆ!”

“แต่เรียกเจเจมันน่ารักดีนี่”

“…”

   “หึหึ เอ้า! ดื่มนมด้วย อย่ากินแต่เค้กสิ”

   “ยุ่ง!” เขาหันมาค้อน แต่ก็ยอมยกแก้วนมขึ้นดื่มอย่างว่าง่าย

   

ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่กลับบ้านทั้งๆที่มืดค่ำขนาดนี้แล้ว แต่ผมก็ไม่คิดจะถาม ถ้าการมาอยู่ร้านกาแฟเล็กๆนี่จะทำให้เขาไม่ไปเที่ยวเตร่ตามสถานที่ที่เต็มไปด้วยอบายมุขได้ ผมก็ไม่อยากจะทำให้เขาไม่สบายใจจนไม่มาที่นี่อีก

   “เจเจ”

   “หืม?”

   “ออกจากร้านไปไม่ได้ไปเที่ยวต่อใช่มั้ย”

   “ถ้าไปแล้วจะทำไม” เขาขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ก่อนจะตักเค้กคำโตเข้าปาก

   “อ๋อออ ตอบแบบนี้แสดงว่าไม่ได้ไปใช่มั้ย” ผมยิ้มกว้าง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาจะต้องพูดให้ตัวเองดูแย่ด้วยแฮะ

   “อะไร!? ไปสิ มีที่ให้ไปตั้งเยอะตั้งแยะ” เขาเบิกตากว้างละล่ำละลักตอบ

   “อ๋อๆ เข้าใจแล้วๆ คิกๆ”

   “ทำไมมองแบบนั้น แล้วนั่นหัวเราะทำไม!?” เจย์ทำท่าเหมือนจะกินผมไปทั้งตัวทั้งๆที่ในมือถือช้อนที่มีเค้กจนพูน

   “ฮ่าๆ เปล่าๆ เออ นี่ ว่างๆจะมาเมื่อไหร่ก็ได้นะ ไม่ต้องมาค่ำขนาดนี้หรอก”

“…”

   “แล้วก็ ถ้าจะอยู่ดึกกว่านี้ก็ได้นะ แต่ต้องบอกที่บ้านก่อน เดี๋ยวจะเป็นห่วงกัน”

   “…” เขาเหลือบมองผมเล็กน้อย

“…”

   “กลับล่ะ” เจย์วางช้อนลงหลังจากทานหมดแล้ว

   “อื้ม กลับบ้านดีๆนะ” ผมเท้าแขนกับเคาน์เตอร์โบกมือบ๊ายบบายเขาที่กำลังจะผลักประตูออกไป

   “…ร้านนี้เปิดทุกวันใช่มั้ย” เขาถาม สายตาจ้องกระดานไม้ที่แปะวันและเวลาเปิดร้านเอาไว้

   “ใช่ วันหยุดจะมาเล่นกับพี่ก็ได้นะ”

   “…ใครบอกว่าจะมา!” เด็กหนุ่มหันมาตอบหน้าบึ้ง เสียงแข็ง แทบจะเป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าตัวผลักประตูออกไป






   …เชื่อมั้ยล่ะ วันหยุดสุดสัปดาห์นี้เขาต้องมาที่ร้านแน่ๆ


....................To Be Continue....................


สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะ :call:

ขอชี้แจงเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ซักนิดหน่อย
เนื่องจากว่าคนเขียนเคยเขียนเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งชื่อ
[เรื่องสั้น]Every time Café รับครีมกับน้ำตาลเพิ่มไหมครับ ลงในเล้า

บางคนเห็นชื่อก็ เอ๊ะ ชื่อซ้ำรึเปล่าขอบอกว่า ไม่ใช่นะค้า แล้วก็ ไม่ใช่ภาคต่อด้วยค่ะ

แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของตัวละครอีกตัวที่มีส่วนในเรื่องที่แล้ว (ตัวประกอบนั่นเอง!! :m20: ) เท่านั้นเองค่ะ

ขอบคุณนักอ่านที่ตามมาจากเรื่องที่แล้วและนักอ่านที่ "เผลอ" กดเข้ามาอ่านนะค้า :laugh: :laugh:

ป.ล. สำหรับนักอ่านที่อยากอ่านเรื่องก่อน สามารถตามได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ (โฆษณาเลยทีเดียว)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41787.0

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :กอด1:  :pig4:  เรื่องที่แล้วนั้นของน้องอาร์ สนุกมากๆเลยค่ะ เห็นชื่อคุ้นๆเลยเข้ามาเจิม ซะเลย
ที่แท้เรื่องนี้คือของเจ้าของร้านนี่เอง น่าสนุกตรงกินเด็กซึนนี่แหละค่ะ
มาลงต่อไวๆนะคะ

ออฟไลน์ heroza

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น้องเจเเด็กโหดน่าเอ็นดูจริงๆเลย :katai2-1:

รอติดตามค่ะ

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ติดตามค่าาา พี่มิณน่ารักจังเลย มาต่อไวๆนะจ้ะ

ออฟไลน์ 28016

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เข้ามารายงานตัวค่ะ :impress2:
เคยอ่านเรื่องก่อนหน้านี้อยู่แต่พึ่งมาตามหลังจบเลยยังไม่เคยเม้นเลย ขอโทษนะคะ :hao5:
แวบแรกที่เห็นเรื่องนี้ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องต่อ แล้วก็จริงซะด้วย
ชอบวิธีบรรยายกับบรรยากาศในเรื่องมากเลย จะรอติดตามนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
มาตามเรื่องใหม่   น้องเจย์ พี่มิณ :katai2-1:

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
พี่มิณนี่ เอ็นดูเด็กสินะ  :hao6: ซื้อใจเด็กด้วยขนม  :impress2: เจย์นี่ดูเป็นพวกซึน ปากไม่ตรงกับใจ น่ารักเหมือนกันนะเจย์  :z1:

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ดูท่าว่า พี่มิณ จะต้องเป็นอมตะแน่นอน

เพราะกินเด็ก 5555555555

+zoLoMegWoz+

  • บุคคลทั่วไป
 :katai5: กระดึ๊บๆ ตามมาอ่านของพี่มิณณณณ หลังจากถูกวิกเตอร์ครอบงำไปพักใหญ่ คราวนี้มาหลงพี่มิณบ้างแล้ว เป็นผู้ใหญ่ ใจดี ส่วนน้องเจเจก็ปากไม่ตรงกับใจ อ๊ายยยย น่ารักที่ซู้ดดดด

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ตามมาจากน้องอาร์ค่าา
เรื่องนี้พี่มิณเป็นอมตะแน่เลยย  :z1: :z1:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ล่อเด็กด้วยเค้กและนม

ออฟไลน์ Satang_P

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
มาต่อเร็วๆนะ..แล้วจะรออ่านค่ะ :mew3:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ผมก็ชอบเหมือนกัน ทั้งเรื่องที่แล้ว อ่านแล้วอบอุ่น สบายใจ มีความสุข เมื่อได้อ่าน ถ้าในชีวิตจริงเจอแบบวิกเตอร์ กับ อาร์ คงโชคดีเป็นบ้า ส่วนเรื่องนี้๋ก็น่าสนใจ โดยเฉพาะเจย์ จะเป็นคนยังไงนะอยากรู้ ส่วนที่มิณของเรายอมรับใครได้เป็นแฟนคงโชคดีเหมือนวิกเตอร์กับอาร์แน่ๆ พี่มิณของเราเป็นนายเอกหรอเนี้ย คึคึ ก็น่ารักอ่ะ แต่ถ้ามาทำให้พี่มิณของเราเสียใจ จะตามไปตื่บมันให้โจมดินเลยค่อยดูสิ คนแต่งรีบมาต่อนะครับ :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-07-2014 13:02:26 โดย ชัดเจนกาบ »

ออฟไลน์ IVY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Chapter 2




“กริ๊งงง กริ๊งงงง” เสียงโทรศัพท์ของร้านดังขึ้น ทำให้ผมละความสนใจจากการจัดคุกกี้ใส่จานมารับโทรศัพท์แทน

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงวัน ทางเท้าหน้าร้านและบริเวณรอบๆเต็มไปด้วยพนักงานจากบริษัทต่างๆ ที่พากันออกมารับประทานอาหารกลางวันหรือซื้อเครื่องดื่ม อาหารว่างไปทานต่อยามบ่าย ร้านของผมก็เช่นกัน ถึงตอนนี้ลูกค้าจะไม่เยอะเท่ากับช่วงเช้า แต่ก็มากพอจะทำให้วุ่นวายกันได้พอสมควร

“สวัสดีครับ Every Time Café ครับ”

“…? เออ สวัสดีครับ นั่นใช่ที่บ้านของนายเจตนิพัทธ์รึเปล่าครับ” เสียงตอบกลับมาเป็นเสียงของชายสูงวัยไม่คุ้นหู แค่ฟังจากเสียงก็พอจะรู้ว่าเป็นคนเข้มงวดพอสมควร ถามถึงคนที่ผมไม่รู้จัก

“ไม่ใช่ครับ คงต่อสายผิดแล้วครับ”

“เดี๋ยวครับ แต่ที่ตัวเขามีแค่เบอร์โทรของร้านนี้เบอร์เดียวนะครับ”

“หือ??” ผมนึกประหลาดใจ ถึงแม้ว่าเบอร์โทรศัพท์ของร้านไม่ใช่ความลับอะไร แต่ผมก็นึกไม่ออกว่าใครกันจะใช้เบอร์ร้านกาแฟเป็นเบอร์โทรติดต่อ

 …แต่คนล่าสุดที่ผมหยิบนามบัตรของร้านให้ไปเหมือนจะเป็น…

“สารวัตรนักเรียนเจอนายเจตนิพัทธ์ไปเดินเล่นที่ห้างในเวลาเรียน! แถมพอถูกพามาที่ห้องปกครองยังไม่ยอมให้เบอร์ติดต่อผู้ปกครองอีก! ตอนนี้ทางโรงเรียนติดต่อคุณได้คนเดียว จะสะดวกมาที่โรงเรียนเวลานี้ได้มั้ยครับ!!?” ประโยคยาวถูกกรอกมาผ่านสายโทรศัพท์แถมยังเพิ่มระดับความดังขึ้นเรื่อยๆจนต้องยกหูโทรศัพท์ห่างออกไปเล็กน้อย ผมได้แต่กระพริบตาปริบๆ มองคุกกี้ที่ยังจัดใส่จานไม่เสร็จและลูกค้าที่ทยอยเข้ามาในร้านเรื่อยๆ


“…เออ… ตกลงครับ ผมจะรีบไป”





ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากที่สอบถามเรื่องที่อยู่ของโรงเรียนและรีบบึ่งมาแล้ว ผมก็พาตัวเองมานั่งอยู่ในห้องปกครองของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งที่ตอนนี้เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบจนผมรู้สึกหนาว เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนที่ถึงแม้ตอนนี้จะอยู่ในห้องปกครองก็ยังผิดระเบียบ ต้นเหตุที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี่ นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆพาดแขนกับพนักเก้าอี้ของผม

ไม่นึกเลยว่าตัวเองจะต้องถูกพาเข้าห้องปกครอง ฟังอาจารย์สุดเฮี๊ยบอบรมจนหูแทบชาเอาตอนอายุเกือบจะสามสิบ…

“รบกวนผู้ปกครองช่วยเซ็นเอกสารรับทราบตรงนี้ด้วยครับ ส่วนเธอ! กลับไปเรียนซะ”

ผมมองกระดาษสีขาวสะอาดที่เป็นแบบบฟอร์มเอกสารอะไรซักอย่างถูกยื่นมาตรงหน้าหลังจากกวาดสายตาอ่านจนทั่ว ผมก็จรดปากกาเซ็นลงไป

“ไม่ไป” เสียงบุคคลที่เงียบมาตลอดเหตุการณ์พูดขึ้น แต่ก็ทำให้เงียบกันไปทั้งห้อง ผมคิดว่าเสียงเครื่องปรับอากาศคงจะเป็นสิ่งเดียวที่ส่งเสียงอยู่ในตอนนี้

“เจเจ…” ผมกระซิบ แอบกระตุกชายเสื้อเขาเบาๆ

“ปวดแขน จะกลับบ้าน”

“เธอปวดแขนมันเกี่ยวอะไรกับที่เธอต้องไปนั่งเรียนฮะ!!!?” อาจารย์ประจำห้องขึ้นเสียง ดวงตาหลังกรอบแว่นหนาเตอะเบิกกว้าง สั่นระริก จ้องมองคนพูด

“ปวดขา”

“เธอปวดขาแล้วไปเดินเล่นที่ห้างได้ยังไง!”

“…ปวดหัว”

“นายเจตนิพัทธ์!!!!” อาจารย์ที่ดูเหมือนวัยใกล้เกษียณทะลึ่งตัวลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมกลัวว่าแกจะความดันขึ้น เส้นเลือดข้างขมับปูดโปนขึ้นอย่างหน้ากลัว

“เออ…เดี๋ยวครับอาจารย์ ผมขอโทษแทนเจย์ด้วย ขอผมคุยกับน้องก่อนนะครับ” ผมรีบพูดกลัวว่ากล่องเอกสารหนาเป็นนิ้วจะฟาดลงกลางหัวคนไม่รู้ร้อนรู้หนาวข้างๆเสียก่อน เขาหรี่ตามองผมกับเจย์อย่างพิจารณาก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา

“…ก็ได้ ผมจะไปรอที่ห้องข้างๆ”




“เจเจจะไปไหน” ผมเดินตามเจย์ที่รีบพุ่งตัวออกจากห้อง ก้าวฉับๆออกไปหน้าโรงเรียนทันที

“อย่ามายุ่ง! ใครขอให้มา”

“ก็ครูเธอติดต่อพี่ได้คนเดียว จะไม่ได้มาได้ยังไง…แล้วนี่ทำไมหนีเรียนไปเที่ยวแบบนั้น”

“…”

“เจย์…คราวหลังอย่าหนีเรียนแบบนี้อีกนะ เกิดมีอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง พี่เป็นห่วงนะ”

“…” เขาชะงักเล็กน้อยแต่ก็ไม่ยอมหยุด

“เดี๋ยวก่อน หลบหน้าพี่ทำไม” ผมวิ่งเข้าไปใกล้ก่อนจะดึงแขนเขาให้หันกลับมาคุยกันดีๆ

“…!? หน้าเธอไปโดนอะไรมา?” ผมขมวดคิ้วจ้องมองเด็กหนุ่มที่สูงกว่า ตอนแรกที่มาถึงผมนึกว่าเป็นรอยผื่นแดงธรรมดา อาจเกิดจากอากาศร้อน แต่พอมามองใกล้ๆแล้วมันเป็นรอยช้ำบริเวณโหนกแก้มและหางคิ้วขวา ที่เริ่มจะช้ำ

“…” เขายืนนิ่ง เสหน้ามองไปทางอื่นอย่างไม่ใส่ใจ

“เฮ้อ…รอตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่มา” ผมสั่งก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องปกครองอีกครั้ง





“คุณแน่ใจนะ”

“ครับ วันก่อนน้องเพิ่งตากฝนมา วันนี้คงไม่สบาย” ผมพูด ถึงแม้ว่าวันที่ตากฝนมันจะเป็นเมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่แล้วก็เถอะ…

“ฮึ่ม…ก็ได้ วันนี้ผมอนุญาตให้กลับก่อน ขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะครับ”

ผมยกมือไหว้ลาอาจารย์ฝ่ายปกครองหลังจากขออนุญาตพาเจย์กลับบ้านก่อนเวลาเลิกเรียนได้สำเร็จ



เจย์ที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ม้าหินอ่อนหน้าตึกหันมามองผมตาขวางทันทีเมื่อก้าวออกมาจากห้อง

“ป่ะ เดี๋ยวพี่พาไปโรงพยาบาล พี่ลาครูให้แล้ว”

   “…ไม่ไป”

“หรือเธออยากกลับบ้าน เดี๋ยวพี่ไปส่งก็ได้”

“ไม่!!!” เขาตอบเสียงดัง ผุดลุกขึ้นทำท่าจะเดินหนีไปอีก

“เดี๋ยวๆ ก็ได้ๆ งั้นไปร้านพี่แล้วกัน ตกลงมั้ย”

“…”

“อื้ม เธอตกลงแล้วนะ” ผมยิ้มก่อนจะเดินนำเขาไปทางลานจอดรถ ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนในเครือเดียวกับมหาวิทยาลัยของอาร์ ระยะทางจากร้านมาถึงที่นี่ไม่ได้ไกลกันเลยแต่เพราะผมรีบจึงต้องขี่รถมา

เรามาหยุดยืนหน้ารถมอเตอร์ไซค์เวสป้ารุ่นเก่าสีฟ้าอ่อนของผมที่จอดอยู่เกือบจะหน้าสุดของลานจอด ตอนแรกเขาอิดออดไม่ยอมซ้อนท้ายผมด้วยเหตุผลที่ว่า รถคันเล็กอย่างกับเศษเหล็ก จะรับน้ำหนักคนสองคนไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ โถ เด็กน้อย เธอยังรู้จักปู่เวสป้าคันนี้น้อยไป… สุดท้ายเขาก็ต้องยอมมากับผมจนได้เพราะผมบอกว่าต่อไปนี้ผมจะไม่ยอมให้เค้กชอกโกแลตกับเขาอีกถ้าไม่ยอมมากับผมดีๆ …หึหึ จริงๆแล้วเขาเป็นเด็กน่ารักนะครับ




“อื้อ!”

“ไหน หันหน้ามาดีๆสิ พี่จะได้ทายาให้ถูก” ผมว่าพลางจับหน้าเขาให้หันมาใกล้

ตอนนี้ภายในร้านลูกค้าเริ่มบางตาลงแล้ว เพราะกว่าผมจะกลับมาก็เลยเวลาเข้างานช่วงบ่ายไปเยอะโข ผมพาเจย์มานั่งที่โต๊ะตัวในสุดติดกับเคาน์เตอร์ หากล่องปฐมพยาบาลเล็กๆที่จำได้ว่าเคยมีติดร้านเอาไว้มาทำแผลให้เขา

“ไปทำอะไรมาถึงมีแผลแบบนี้ หือ?”

“…ล้ม” เขาตอบหน้าบึ้ง

“ล้ม? แล้วทำไมมีแผลแค่ที่หน้า” คำแก้ตัวของเขาฟังดูไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย

“…”

“แล้วทำไมหนีเรียนไปห้างแบบนั้นล่ะ”

“…”

“…ยังไม่อยากบอกพี่ก็ไม่เป็นไร อะ! เสร็จแล้ว” ผมว่าหลังจากทายาแก้ฟกช้ำให้เขาทั่วบาดแผล เดินอ้อมโต๊ะเข้าไปในครัวลงมือแกะข้าวกล่องที่ซื้อมาด้วยระหว่างทางกลับใส่จาน

“กินข้าว แล้วก็กินยาด้วยนะ” ผมวางข้าวผัดกับยาสองเม็ดตรงหน้าเขา เจย์ไม่พูดอะไรแค่เริ่มกินอาหารอย่างเงียบๆ ผมอยู่กับเขาซักพักก่อนจะผละออกมาทำงานที่เคาน์เตอร์ต่อ


คุกกี้ที่ผมอบไว้เมื่อตอนเช้าใกล้จะหมดแล้ว ผมจึงเริ่มทำคุกกี้ใหม่เพราะตอนเย็นก็คงจะมีลูกค้าเข้ามาเยอะเหมือนเดิมโดยเฉพาะเด็กๆที่เพิ่งเลิกเรียน ผมเดินไปกลับเคาน์เตอร์กับในครัวระหว่างทำขนมหลายรอบจนลืมสนใจเจย์ไปสนิท

จริงๆแล้วร้านผมขายกาแฟและเครื่องดื่มเป็นเมนูหลัก แต่ส่วนใหญ่เครื่องดื่มก็ต้องกินคู่กับขนมผมจึงทำขนมออกไปขายบ่อยๆ ไม่ใช่เมนูหลักแถมยังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ บางทีก็ไม่ซ้ำกันเลยทั้งอาทิตย์ ถ้าวันไหนผมมีเวลามาก ผมก็จะทำเค้กแต่ถ้าไม่ค่อยมีเวลาผมก็จะทำคุกกี้หรือไม่ก็ขนมอบง่ายๆแทน
ผมคิดว่าแบบนี้ก็สนุกดี แถมมันยังเป็นสีสันของร้านด้วยอีกต่างหาก ลูกค้าไม่รู้ล่วงหน้าว่าวันนี้จะได้ทานกาแฟกับขนมอะไร พอๆกับผมที่ไม่รู้ว่าตื่นเช้ามาแล้วจะมีวัตถุดิบพอให้ใช้ทำอะไรได้บ้าง


“ทำอะไร?” ผมสะดุ้งกับเสียงทุ้มต่ำที่อยู่ๆก็ดังขึ้นใกล้ๆ เจย์ยืนอยู่ข้างหลังเกือบจะชิดกับผมชะโงกมองสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่บนโต๊ะ ในมือถือจานใส่อาหารที่ว่างเปล่า

“คุกกี้ เธออยากลอกทำดูมั้ยล่ะ” ผมหันไปยิ้ม มือก็กำลังคนส่วนผสมของคุกกี้ให้เข้ากัน

“หึ ไม่ทำหรอก” เขาส่งเสียงขึ้นจมูกเดินเลยไปที่อ่างล้างจาน

ผมแอบมองเขาในมือก็คนส่วนผสมคุกกี้ไปด้วย เจ้าตัวยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าอ่างล้างจานซักพักก่อนจะเริ่มเปิดน้ำเปล่าล้างจานรอบหนึ่งและบีบน้ำยาตามลงไป ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยได้ทำงานบ้านเท่าไหร่… แล้วผมก็ตัดสินใจทักเขา ก่อนที่เขาจะทำจานของผมเป็นรอย

“เจเจ…”

“อะไร!?” เขาหันมาสีหน้าหงุดหงิด

“ไอ้นั่นมันเอาไว้ขัดหม้อนะ หึหึ” ว่าพลางชี้ไปที่สิ่งที่อยู่ในมือของเจย์ แถมต้องกลั้นขำกับสีหน้าประหลาดๆของเขาและหันมาสนใจทำคุกกี้ต่อเพราะเขาเริ่มมองค้อนจนตาแทบถลนออกมาจากเบ้า

หลังจากที่ผมปั้นส่วนผสมเป็นก้อนลงบนถาดอบเรียบร้อยแล้วจึงรู้สึกว่ามีคนมายืนตรงข้ามอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ เจย์กำลังมองสิ่งที่ผมทำอย่างตั้งใจ คิ้มเข้มๆนั้นขมวดเหมือนกำลังสงสัยอะไรซักอย่างอยู่

“อยากกินแล้วเหรอ”

“เปล่า” เขาเงยหน้าขึ้นมอง คิ้วที่ขมวดอยู่ยังไม่คลายออก

“หรืออยากลองทำ? ยังเหลืออีกถาดหนึ่งนะ”

“…แล้วไอ้นี่ เสร็จแล้วเหรอ” เขาชี้วนๆอยู่แถวถาดเหมือนไม่รู้จะอธิบายยังไง

“อื้ม ใกล้เสร็จแล้ว”

“…เป็นก้อนแบบนี้เนี่ยนะ?!” อ่า…ผมรู้แล้วล่ะว่าเขาสงสัยเรื่องอะไร

“หึหึ ไม่ใช่หรอก มานี่สิ” เจย์มีท่าทีลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินมายืนอยู่ข้างผมตามคำบอก

“ใช้ปลายส้อมกดให้ก้อนคุกกี้แบนลง แบบนี้” ผมใช้ปลายส้อมกดแป้งคุกกี้ที่ปั้นเป็นก้อนให้แบนลง

“ลองทำดูสิ” ผมยื่นส้อมให้เขา และก็เป็นอีกครั้งของวันที่เจย์มีท่าทีเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูก ดูแล้วผมรู้สึกว่ามันน่ารักดี

“อ่า ใช่แล้วๆ เก่งมาก” ผมตบมือชมเขาเปาะแปะส่วนเจย์ก็หันมาทำหน้าบูดใส่ผมแบบไม่ค่อยชอบใจนัก …แต่เมื่อกี้ผมแอบเห็นเขายิ้มด้วยนะครับ ...จริงๆนะ!



หลังจากที่ส่งคุกกี้สามถาดเข้าเตาอบจนครบแล้วผมกับเจย์ก็ช่วยกันจัดใส่จานรวมทั้งจัดใส่ห่อน่ารักๆไว้ด้วย …ถึงแม้ว่าภายนอกของเขาจะดูแข็งกระด้างแต่ผมก็รู้สึกว่าจิตใจของเขาอ่อนโยนกว่าท่าทีที่แสดงออกมา เจย์ดูตั้งใจกับการจัดห่อคุกกี้เอามากๆ แทบจะลืมไปด้วยซ้ำว่าผมอยู่ด้วย แต่เขาก็ทำมันออกมาได้สวยจริงๆ

เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาเลิกงาน ลูกค้าก็ทยอยเข้ามาในร้านเยอะพอๆกับที่ผมคาดการไว้ ดูเจย์จะตกใจหน่อยๆที่เห็นคนเยอะขนาดนี้ เพราะเขาจะมาที่ร้านหลังจากปิดแล้วทุกวัน หลังจากที่ผมต้องเข้าไปอบคุกกี้เพิ่มอีกสองถาดและขายหมดอย่างรวดเร็ว ลูกค้าก็เริ่มจะบางตาลงพร้อมๆกับท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม

“เจเจ อ่ะ พี่ให้”

“…อะไร?” เขาขมวดคิ้วมองห่อกระดาษสีชมพูที่ผมยื่นให้

“คุกกี้ไง ที่เราช่วยกันทำ”

“เหอะ ใครช่วย” เขาเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แต่มือก็ยื่นมารับห่อขนมเอาไว้

“นี่ ถ้าอยากทำขนมอีก มาหาพี่ก็ได้นะ พี่จะสอนให้…แต่พี่ว่าวันนี้เธอรีบกลับเถอะ ฝนใกล้จะตกแล้ว” ผมมองออกไปนอกกระจกร้านที่มีท้องฟ้าสีดำสนิทปกคลุมทั่วทั้งเมือง เมฆก้อนใหญ่ลอยต่ำเมื่อช่วยเย็นทำให้วันนี้ยิ่งดูมืดครึ้ม ลมแรงพัดเข้ามาไม่หยุดราวกับเป็นการเตือนถึงพายุที่กำลังโถมเข้ามา

“อืม…” เขารับคำในลำคอก่อนจะหันไปเก็บกระเป๋าทำท่าจะเดินออกจากร้าน ผมเดินตามไปส่งเขาถึงประตู

“นี่…ที่ไปห้างวันนี้น่ะ…” เขาหันกลับมาหลังจากก้าวพ้นประตูออกไป ริมฝีปากบางเม้มติดกันแน่นเป็นเส้นตรงเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง

“อื้อ เธอไม่ได้ไปเที่ยวเล่นใช่มั้ย” ผมยิ้ม คิ้วของเขาย่นเข้ามากันเล็กน้อย ดวงตาคมโตหรี่มองผมเหมือนกำลังจะสื่ออะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะไม่พูดออกมา

“…ไม่มีอะไร”

“ดะ เดี๋ยวสิ! เจเจ” ผมร้องเรียกตามแผ่นหลังที่ออกวิ่งไปโดยไม่หันกลับมา เสียงฟ้าร้องดังขึ้นเหมือนเป็นสัญญาณเตือนสุดท้ายก่อนฝนจะตก บรรณยากาศวันนี้คล้ายกับวันที่ผมเจอเจย์ครั้งแรก…แต่ผมหวังว่าคราวนี้เขาจะไม่ตากฝนจนตัวเปียกเหมือนลูกสุนัขหลงทางมาหาผมอีก…



........................................


 :call: :call: สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะ!!! พี่มิณน้องเจย์กลับมาแล้ววว (คนเขียนก็กลับมาแล้วนะ เฮ่! :mc4: )

เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไอ้เราก็เก่งคอมเกิ๊นนน เลยล่าช้าแบบนี้

ไม่รู้จะขอบคุณใครที่ข้อมูลในเครื่องยังไม่หาย :laugh: :laugh:

สุดท้ายก็ :L1: :monkeysad:ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกท่านนะคะะะะะ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
เริ่มอยากรู้เรื่องของเจย์แล้ว ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยน้า~

พี่มิณจริงใจดีมากเลย น่ารัก :mew1:

รอ่านตอนต่อไปนะจ้ะ สู้ๆน้า เคยอ่านเรื่องของเอเลยตามมาอ่านเรื่องนี้ด้วย o13

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
น่ารักจังเลย พี่มิณน่ารักมากๆเลย รอตอนต่อไปนะคะะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :3123: อบอุ่นจังเลย แอร๊ยย ฝนตกอีก มาต่อไวๆน้า

ออฟไลน์ ~PopPin[Pim]~

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่มิณน่ารักจังเลยยยยย :-[ :-[

ส่วนน้อยเจย์ก็มีอะไรปิดบังอยู่น้าาาา มาต่อไวๆนะคะ :call: :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก
อยากอ่านต่อๆๆ
หนูเจย์อึนๆ นะ 55

 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ pasallatel

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
หนูเจเจมึนๆๆ ส่วนมิณก็อึนซะอะนะ
คู่มึนอึนจริงๆ

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
พี่มิณ น่ารักจังเลย

เจย์ ตอนนี้ให้อารมณ์เหมือนเด็กที่หนีออกจากบ้านเลยอ่ะ

มาต่ออีกไวไวน้า


ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ไปทำอะไรที่ห้างน้ออ แล้วมีเรื่องกับใครหน้าถึงช้ำ

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
น่ารักมากๆ
รีบมาต่ออีกนะคะ

ออฟไลน์ ~PopPin[Pim]~

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แอบแวะเข้ามาส่องหลายรอบมากค่ะ  :laugh:
คิดถึงน้องเจเจ :-[ :-[

+zoLoMegWoz+

  • บุคคลทั่วไป
ยังรอน้องเจเจอยู่เสมอ... คนเขียนจ๋ามาเถอะ มาเถอะ เพี้ยงงงง

ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น่าติดตามๆ ชอบมากเลย รักในร้านกาแฟเนี่ยยย อิอิ
เรื่องเก่านี่ อ่านจบทำเอาเพ้อไปสามวัน คืออบอุ่น คือเขิน คือฟินมากกกค่ะ
เกาะหน้าจอรอตอนต่อไป สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
น้องเจมีอะไรในใจน้อ :hao4:

 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ IVY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Chapter 3





“พี่มิณรอใครอยู่คะ” พนักงานสาวหน้าตาน่ารักถามขึ้นที่หน้าเคาน์เตอร์ทำให้ผมละลายตาจากกระจกหันไปมอง เด็กสาวเจ้าของผมสีเข้มเหยียดตรงสลวยและดวงตากลมโตสีเดียวกันกำลังเอียงคอมองผมอย่างสงสัย

“เปล่า พี่ไม่ได้รอใคร น้ำยังไม่กลับเหรอ ร้านจะปิดแล้วนะ” ผมว่าเมื่อเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบอกเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง ผมให้พนักงานที่เป็นผู้หญิงเลิกงานก่อนร้านปิดได้ เพราะถ้าให้เด็กผู้หญิงเดินทางคนเดียวตอนดึกๆคงอันตรายแย่

“กำลังจะกลับพอดีเลยค่ะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะคะ” เธอยิ้มน่ารักก่อนจะเดินออกไปสวนกับชายหนุ่มสองคน ซึ่งช่วงนี้ผมคุ้นหน้าคุ้นตาดี…




“อาร์…” ชายหนุ่มชาวต่างชาติหน้าตาหล่อเหลาเดินเข้ามาในร้านยิ้มทักทายผมเล็กน้อยก่อนจะเรียกชื่อพนักงานที่เหลืองอยู่เพียงคนเดียวในร้านตอนนี้

“อ๊ะ วิคเตอร์ เลิกงานแล้วเหรอครับ” อาร์ผละมือจากการเช็ดโต๊ะเดินเข้าไปหาคนมาใหม่…อืม…ผมจะทำเป็นมองไม่เห็นตอนที่เขาหอมแก้มกันนะครับ …ชู่วววว

“สวัสดีครับ” เสียงทักจากด้านหน้าทำให้ผมหันกลับมามอง ชายหนุ่มอีกคนที่ตอนนี้ผมคุ้นหน้าคุ้นตาดีกำลังส่งยิ้มกว้างมาทางผม

“สวัสดีครับ วันนี้คุณรอนจะรับอะไรดี”

“ขอชาอุ่นๆซักแก้วก็พอครับ…เรียกผมว่ารอนเฉยๆก็ได้”

“ครับ” ผมยิ้มก่อนจะลงมือชงชา

รอนทำงานอยู่บริษัทใกล้ๆ ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าเป็นบริษัทเดียวกับคุณวิคเตอร์ลูกค้าขาประจำของร้าน จริงๆแล้วเขาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของอาร์แต่มีรับจ๊อบเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงินของบริษัท…บางทีผมก็รู้สึกว่าโลกนี้มันกลมอย่างน่าประหลาดนะครับ


ผมชำเรื่องมองคนหน้าเคาน์เตอร์ที่กำลังส่งยิ้มมาทางผมเล็กน้อย รอนเป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง เขามักจะใส่สูทเรียบร้อยเสมอแม้ว่าจะเลิกงานแล้ว และถึงแม้เส้นผมและดวงตาจะเป็นสีน้ำตาลเข้มแต่ก็พอจะรู้ว่ามีเชื่อสายชาวต่างชาติผสมอยู่…บริษัทนี้เขามักจะรับแต่คนต่างชาติหน้าตาดีเข้าทำงานรึยังไงกันนะ

เขาแวะเข้ามาคุยงานกับคุณวิคเตอร์เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ร้านและหลังจากนั้นเขาก็กลายมาเป็นลูกค้าประจำอีกคนของร้านนี้ในขณะเดียวกันผมก็ไม่เคยเจอลูกค้าประจำที่มักจะชอบมาเวลาร้านปิดอีกเลยนับจากนั้น


…เด็กคนนี้มันยังไงกันน้า จู่ๆก็หายไปแบบนี้


“คุณมิณรอใครอยู่ครับ”

“หือ? เออ เปล่าครับ” ผมคุ้นๆเหมือนเพิ่งจะได้ยินคำถามนี้ไปเมื่อไม่ถึงสิบนาทีที่ผ่านมา

“ผมเห็นคุณมองออกไปนอกร้านหลายครั้งแล้ว”

“อ่อ ผม…มองหาลูกสุนัขน่ะครับ”

“สุนัข?”

“ครับ คราวก่อนมันวิ่งมาหลบฝนในร้าน …แต่ตอนนี้มันทิ้งผมไปไหนก็ไม่รู้”

“คุณคงเป็นห่วงมันมาก พันธุ์อะไรครับ”

“อืม…น่าจะเป็นร็อตไวเลอร์นะครับ หึหึ” ผมว่าพลางนึกถึงลูกสุนัขตัวนั้น อ่า…ผมจะบอกรอนดีมั้ยนะ ว่าเจ้าลูกสุนัขตัวนั้นชื่อเจเจ

“…? ไม่นึกว่าคุณจะชอบสุนัขพันธุ์ใหญ่แบบนั้นเลยนะครับ”

“อ่า ก็นะครับ ถ้าไปแกล้งมันมันจะดุเอามากๆเลยล่ะ แต่ถ้าเอาขนมให้กินล่ะก็ว่าง่ายสุดๆเลย” ผมยิ้มกว้างแถมยังหลุดหัวเราะออกมานิดๆ

“ขนม???” รอนย่นคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เชื่อหู ส่วนผมรู้สึกเหมือนหยุดตัวเองไม่ให้หัวเราะไม่ได้
ผมหวังว่าประโยคสนทนาบทนี้จะไม่ถูกนำไปเผยแพร่ที่ไหนให้รู้ถึงหูเจ้าตัวนะครับ เงียบๆไว้ เจ้าลูกสุนัขตัวนี้ฟังภาษาคนรู้เรื่องนะครับ




หลังจากปิดร้าน ผมทำความสะอาดเคาน์เตอร์อยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงพลางมองออกนอกหน้าต่างไปพลาง ส่วนใหญ่แล้วผมจำลูกค้าที่มาบ่อยๆได้แทบทุกคน หรือแม้แต่คนที่มาไม่กี่ครั้ง ยิ่งคนที่มาเป็นประจำด้วยแล้ว ผมจะเป็นห่วงเป็นพิเศษถ้าพวกเขาหายไป

ถ้าหากว่าเขาหายไปเพราะไปทานร้านอื่นผมยังจะรู้สึกดีมากกว่าหากพวกเขาเป็นอะไรไปหรือต้องย้ายที่อยู่ไปที่อื่นแล้วผมไม่รู้เรื่องอะไร คนเราถึงแม้จะไม่ได้สนิทชิดเชื้อหรือรู้จักกันดี แต่ถ้าเจอกันบ่อยๆล่ะก็มันมักจะเกิดเป็นความผูกพันขึ้นมาได้ง่ายๆนะครับ …ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

ผมรู้สึกเหมือนเจย์มีอะไรปิดบังอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะต้องมาบอกเจ้าของร้านกาแฟธรรมดาๆแบบผม แต่ผมก็อดห่วงไม่ได้จริงๆสิน่า เจ้าเด็กคนนี้นี่นะ!

ผมเก็บเค้กที่เหลือไว้ให้เจย์ชิ้นหนึ่งเข้าตู้เย็นก่อนจะปิดร้านให้เรียบร้อยและขึ้นไปชั้นบนหลังจากตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง…พรุ่งนี้ผมคงจะต้องทิ้งร้านไปสักพักเพื่อทำธุระนิดหน่อย

“พี่มิณไปไหนครับ” อาร์ที่เพิ่งจะเปิดประตูเข้ามาในร้านเพื่อทำงานกะบ่ายทักผมแทบจะทันที คิ้วเรียวบางขมวดมุ่น ดวงตากลมโตสีน้ำตาลกระพริบมองผมปริบๆ บางทีผมก็ไม่ค่อยประหลาดใจเท่าไหร่ที่เด็กคนนี้ชอบถูกแกล้งประจำ หึหึ ก็ดูหน้าตาซื่อๆนั่นสิครับ

“พี่ไปธุระข้างนอก ฝากร้านด้วยนะ” ผมว่าพลางผลักประตูออกไป

“เดี๋ยวสิครับ…” ผมไม่ทันฟังว่าอาร์พูดอะไรต่อ แต่ได้ยินเสียงพนักงานสาวของร้านดังแว่วมาแต่ไกล

“ไอ้จืด!! มาถึงแล้วก็รีบทำงานเซ่!!”




ผมเดินทอดน่องอย่างไม่รีบร้อนไปตามทางเท้า ถึงแม้แสงแดดในยามบ่ายจะจัดขนาดไหน แต่ในย่านธุรกิจที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงไม่ต่ำกว่าสิบชั้นมากมายขนาดนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเดินในร่มเกือบจะตลอดเลยก็ว่าได้

ผมเดินผ่านป้ายหินอ่อนที่มีชื่อโรงเรียนชื่อดังสลักเอาไว้เข้ามาภายใน เวลานี้คงได้เวลาเข้าเรียนภาคบ่ายแล้ว เด็กๆถึงดูบางตาแถมบรรณยากาศภายในโรงเรียนก็เริ่มเงียบสงบ

…ผมจำไม่ได้ด้วยสิว่าเจเจอยู่ห้องอะไร ผมรู้แค่ว่าเขาเรียนอยู่ปีสุดท้ายแล้วเท่านั้น

บางทีผมก็รู้สึกรำคาญนิสัยที่อยู่ๆคิดจะทำอะไรก็ทำโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆก่อนของตัวเอง
ผมเดินอ้อมสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ไปตามร่มเงาของตึกและต้นไม้จนมาถึงอาคารสามชั้นสีครีมสะอาดตาที่ชั้นล่างน่าจะเป็นห้องติดต่อประชาสัมพันธ์

“ขอโทษนะครับ ผมมาตามหานักเรียนที่นี่” เจ้าหน้าที่สาวเงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมามองผมเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้

“นักเรียนชื่ออะไร อยู่ชั้นไหนคะ”

“เจตนิพัทธ์ ชั้นมอหกครับ”

“อืม..อยากให้ประกาศให้มาพบมั้ยคะ” เธอถามหลังจากป้อนข้อมูลบางอย่างลงในคอมพิวเตอร์

“เออ ไม่ครับไม่ ผมแค่มาดูว่าน้องยังมาโรงเรียนอยู่รึเปล่า”

“อ๋อ น้องมาโรงเรียนทุกวันค่ะ แต่บางวันมาสายนะคะ”

“อ่อ…ครับ ขอบคุณมาก” ผมกล่าวลาก่อนจะเดินออกมา

ผมสบายใจขึ้นเปราะหนึ่งหลังจากรู้ว่าเจเจยังสบายดี เขายังเด็ก เบื่อเร็วเป็นธรรมดา ตอนนี้เขาอาจเจอที่นั่งเล่นถูกใจๆที่ใหม่เข้าแล้วล่ะมั้งนะ

ระหว่างทางเดินออกจากโรงเรียนในหัวผมก็คิดถึงของที่กะจะซื้อระหว่างทางกลับ พรุ่งนี้ผมอยากทำเค้กชอกโกแลตกับคุกกี้ คงจะต้องแวะซุปเปอร์มาร์เกตใกล้ๆก่อนกลับร้าน แถมกระดาษโพสอิทที่ร้านก็ใกล้จะหมดแล้ว …

“คุณมิณ” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ผมหันกลับไปมอง ชายหนุ่มลูกครึ่งที่ช่วงนี้คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกำลังยืนจ้องมาทางผมด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ” รอนถามขณะเดินเข้ามาใกล้ มุมปากเขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ผมสงสัยอยู่ได้ไม่นานก็นึกถึงเหตุผลที่เขามาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ เขาสอนอยู่ที่มหาลัยในเครือของโรงเรียนนี้ ทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยไม่มีรั้วกั้น ถ้าจะเจอที่นี่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

“ผมมาตามหาน้องครับ”

“น้อง? คุณมิณมีน้องเรียนที่นี้ด้วยเหรอครับ”

“เออ ก็ไม่ใช่น้องแท้ๆหรอกครับ เราแค่รู้จักกัน”

“แล้ว…ตอนนี้คุณจะกลับแล้วเหรอครับ ไปทานข้าวกับผมก่อนมั้ย”

“เออ…เดี๋ยวผมต้องแวะซื้อของระหว่างทาง” ผมตอบเลี่ยง

“ไม่เป็นไรครับ ผมมีสอนบ่ายสองโมงครึ่ง”

“…งั้นก็…”



“โครมมมมม!!!”

เสียงดังเหมือนข้าวของกระแทกกันล้มจากมุมตึกหลังใกล้ทำให้พวกเราหันไปมอง ตามด้วยเสียงเอะอะโวยวายเสียงดัง ผมเดินเข้าไปใกล้พลางรู้สึกกังวลใจกลัวว่าจะเป็นอุบัติเหตุ มุมตึกเต็มไปด้วยโต๊ะและเก้าอี้เก่าวางซ้อนกันเอาไว้สูงที่ตอนนี้ล้มระเนระนาด เมื่อเดินลึกเข้าไปทำให้ผมเห็นร่างเด็กนักเรียนชายประมาณสามคน แล้วหนึ่งในนั้น…

“เจเจ..?” เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อหันขวับมาทางผมอย่างรวดเร็วดวงตาคมโตเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจในมือกำของสิ่งหนึ่งแน่น

“…”

“เธอมาทำอะไรที่นี่ ทำไมไม่ขึ้นไปเรียน” ผมถามพลางเดินเข้าไปใกล้ในขณะที่เขายืนนิ่ง

“…” ในมือกำห่อกระดาษแน่นที่ข้างในเต็มไปด้วย…มวนกระดาษสีขาว

“เจเจ…นั่นมัน…”

“คุณมิณครับ” เสียงรอนดังแทรกเข้ามาจากด้านหลังและกำลังเดินเข้ามาใกล้ เจย์จ้องผมนิ่งขมกรามแน่นจนเห็นเป็นสันนูนแต่กลับไม่ยอมพูดอะไร

“เจย์ พี่…เจย์!!!” ผมร้องเรียกเมื่อเขาเริ่มออกวิ่ง สองขาก้าวตามไปโดนไม่ต้องคิดแต่กลับถูกมือหนึ่งดึงไว้

“คุณมิณครับ เข้ามาทำอะไรในนี้ มันอันตรายนะครับ” รอนขมวดคิ้วจ้องมองผมด้วยความสงสัย

“เออ…ขอโทษครับ ผมจำคนผิดเลยเดินตามมา”ผมตอบพลางหันไปมองทางเดินแคบๆที่ตอนนี้ว่างเปล่า

“งั้นเรากลับกันเถอะครับ ผมจะพาไปทานข้าวแล้วไปส่งคุณที่ร้าน” รอนยิ้มก่อนจะเดินนำออกไป

“…คุณรอนครับ ผมเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ คุณกลับไปก่อนเถอะครับ”

“ธุระ? ให้ผมไปส่ง…”

“ไม่ครับ! ไม่เป็นไร” ผมปฏิเสธเสียงแข็ง รอนชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะกล่าวลาผมแล้วเดินจากไป โดยทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ให้ผมพร้อมกับที่อยู่ห้องทำงาน



ผมเดินออกมาจากช่องแคบของตึกสู่ลานโล่งที่มีชุดโต๊ะไม้ตั้งเรียงกันอยู่หลายสิบชุดและเลือกหนึ่งในนั้นไว้หย่อนตัวนั่งลงไป…อีกไม่นานโรงเรียนคงจะเลิก ยังไงซะผมก็อยากจะคุยกับเจย์ให้รู้เรื่อง ว่าเขามีปัญหาอะไรกันแน่

ดวงอาทิตย์ค่อยๆคล้อยจากเหนือศีรษะต่ำลงเรื่อยๆ รอบตัวผมเริ่มมีนักเรียนนักศึกษาเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เจอคนที่ผมต้องการจะคุยด้วย

“Rrrrrr” เสียงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงทำให้ผมละสายตาจากผู้คนที่เดินไปมา

“สวัสดีครับ”

“พี่มิณ? อยู่ไหนครับ ใกล้จะกลับมารึยัง” เสียงไม่สูงไม่ต่ำของเด็กหนุ่มคนหนึ่งกรอกมาตามสายอย่างร้อนรน

“พี่อยู่ใกล้ๆนี่เอง อาร์มีอะไร”

“เออ ตอนนี้คุกกี้ที่พี่ทำใกล้จะหมดแล้ว แถมลูกค้าก็เยอะขึ้น พวกผมทำคุกกี้ไม่อร่อยเหมือนที่พี่ทำอ่ะครับ โอ๊ยย! ตีผมทำไม!?” เสียงดังโวยวายตามมาทำให้ผมฟังไม่รู้เรื่อง ก่อนเสียงของอาร์จะถูกแทนที่ด้วยอีกเสียงหนึ่ง

“พี่มิณคะ น้ำเองนะ พี่มิณจะกลับมาตอนไหนคะ”

“อืม…พี่จะรีบกลับนะ อยู่ใกล้ๆนี่เอง” ผมมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะรีบผลุดลุกขึ้น เงยหน้ามองตึกเรียนสูงสี่ชั้นตรงหน้าก่อนจะถอดใจหันหลังเดินกลับออกจากโรงเรียน




เวลาสีโมงกว่าไปจนถึงหกโมงจะเป็นเวลาที่มีลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ ผมกลับไปถึงร้านต้องรีบเข้าครัวเพื่ออบคุกกี้เพิ่งสามถาดและออกมาดูแลลูกค้าข้างนอก เมื่อรู้ตัวอีกที น้องฟ้าด้านนอกก็เริ่มเปลี่ยนสี วันนี้ฝนก็ทำท่าเหมือนจะตกอีกแล้ว…

ผมปิดร้านตรงเวลาหลังจากกล่าวลาลูกค้าประจำสองคนสุดท้ายและพนักงานคนสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย ผมใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการค้นวัตถุดิบจากในครัวเพื่อจะทำขนมในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากวันนี้ไม่มีแม้แต่เวลาจะแวะซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เกตใกล้ๆ ความปวดเมื่อยเข้าจู่โจมตามกล้ามเนื้อส่วนต่างๆทำให้ผมต้องหยุดเพียงเท่านี้…พรุ่งนี้คงทำได้แค่เค้กกล้วยหอมละมั้ง…

ผมเดินมาหยุดยืนหน้าประตูกระจกใสของร้านมองออกไปยังถนนที่มีรถสัญจรไปมากับผู้คนที่เดินสวนไปมาถึงแม้จะบางตาลงมาก …แต่เจย์ก็ยังไม่มา…

ความเหนื่อยล้าทำให้ผมเลือกจะหันหลังเดินกลับขึ้นไปชั้นบนเตรียมตัวนอนเพื่อพรุ่งนี้ผมจะต้องออกจากร้านแต่เช้าไปโรงเรียนใกล้ๆนี้ ให้ทันก่อนเวลาเข้าชั้นเรียน…

เสียงฝนกระหน่ำตกลงมาบนหนังคาปลุกผมให้ตื่นกลางดึก ละอองเย็นของสายฝนถูกลมแรงพัดให้กระจายเข้ามาภายในห้องผ่านหน้าต่างที่เปิดอ้าไว้ ผมเหลือบมองนาฬิกาบนหัวเตียงที่บ่งบอกเวลาดึกมากแล้วก่อนจะค่อยๆยันตัวลุกขึ้น

ท่ามกลางความมืดสลัวผมเดินลงมาสำรวจความเรียบร้อยของร้านที่ตอนนี้บริเวณด้านหน้าถูกกระแสลมพัดเข้าใส่อย่างน่ากลัว เศษกระดาษปลิวกระจัดกระจายเล็กน้อยส่วนไฟที่หน้าร้านยังคงสว่างไสว และนั่นทำให้ผมเห็นเงาร่างหนึ่งบริเวณม้านั่งหน้าร้าน เจ้าของผมสีดำสนิทเสยลวกๆไปด้านหลังอย่างไม่ตั้งใจ…

ผมเย็นและละอองฝนกระทบเข้ากับใบหน้าเมื่อผมผลักประตูร้านออกไป เด็กหนุ่มร่างสูงเงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกับเบิกตาสองคู่ที่แดงก่ำมองผมอย่างตกใจ แขนสองข้างกอดลำตัวไว้บรรเทาความหนาวเย็น ชุดนักเรียนเปียกลู่แนบลำตัวที่ตอนนี้กำลังสั่นเทา

ผมไม่ดีใจที่ต้องมาเห็นเขาอีกครั้งในสภาพนี้ แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะบอกว่าดีใจ ที่เขากลับมาหาผม

“เจเจ…”

เจย์มองผมนิ่งด้วยสีหน้าตกใจที่ไม่คิดจะปิดบัง ริมฝีปากบางขยับไปมาเหมือนไม่รู้จะพูดอะไร แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าใบหน้าแบบนี้ของเขากำลังแสดงความดีใจอยู่นะ




… เจ้าลูกสุนัขหลงทางตัวนี้นี่น้า



........................................

 :hao5: :3123: สวัสดีและกราบบบบ ขอโทษนักอ่านทุกท่านค่ะ :3123: :3123:

ทิ้งน้องเจย์ไปซะนาน คนเขียนกลับมาแล้วนะคะ แหมมม นักอ่านยังอยู่กันมั้ยน้อออ :hao3: :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด