==Jungle : ผืนป่าสีดำ By นางมารปีกขาว - - ==ตอนที่35 รักหรือไม่รัก END 9/7/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ==Jungle : ผืนป่าสีดำ By นางมารปีกขาว - - ==ตอนที่35 รักหรือไม่รัก END 9/7/58  (อ่าน 47645 ครั้ง)

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-07-2015 23:27:00 โดย tamako »

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
สวัสดีครับ/คะ นักอ่านที่น่ารักทุกท่าน :katai2-1:

ทักทายกันเป็นครั้งแรกสำหรับการเป็นนักเขียนครั้งแรกสำหรับบอร์ดนี้ หลังจากที่อาศัยเป็นนักอ่านอยู่ในเว็บมาเกือบ 4 ปีคะ
สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่นำมาลงในบอร์ดนี้นะคะ  หลายท่านอาจสงสัยว่าทำไมหัวข้อเรื่องขึ้นต้นว่า By นางมารปีกขาว  แต่คนเอาลงดันชื่อ tamako แล้วดันบอกว่าเป็นเรื่องแรกในฐานะนักเขียนของที่นี้ซะอีก

คำตอบก็คือ tamako = นางมารปีกขาวคะ
(ไม่รู้ว่าตั้งหัวข้อแบบนี้จะผิดหรือเปล่า ฮ่าๆ ผิดถูกยังไงรบกวนโมทั้งหลายบอกกล่าวกันได้นะคะ)

ก่อนอ่านเรื่องนี้มาทำความรู้จักกันสักนิดเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันนะคะ
 
tamako หรือ นางมารปีกขาว เป็นสาววายคะ 
เริ่มอ่านนิยายวาย บอยเลิฟ หรือว่า yaoi ตั้งแต่สมัย ม. ต้นเริ่มจากการอ่านธรรมดาก็เริ่มอ่านเนื้อหาที่เข้มข้นขึ้น  อ่านไปอ่านมาไม่ได้ดังใจจึงค้นพบแนวทางของตัวเองเเล้วเริ่มต้นเขียนเรื่องของตัวเองเรื่องแรกตั้งแต่ปี 2551 เป็นบอยเลิฟแบบแฟนตาซีเริ่มลงในเด็กดีที่เดียวคะ จากนั้นก็ยังเขียนกันมาเรื่อยๆ จนมาสมัครเป็นสมาชิกที่ไทยบอย อาศัยว่าอ่านที่นี้อย่างเดียวยังไม่ได้เอาเรื่องมาลงเพราะตอนนั้นแอบคิดว่าเรื่องเรายังไม่ดีพอ(สมัยก่อนนิยายส่วนมากในไทยบอยจะออกแนวชีวิตและค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่ด้วยหละคะ) ด้วยแนวแบบแฟนตาซีเลยไม่กล้าลงคะ หลังจากผ่านไป 4 เริ่มกล้ามากขึ้นก็เลยตัดสินใจเอาเรื่องมาลงเพื่อหวังให้สมาชิกในเว็บได้อ่านและได้ชี้แนะเเนวทางให้คะ

   สำหรับอายุคนเเต่งตอนนี้ก็ 20 up แล้ว เรียกขานลำดับอายุกันได้ตามสะดวก  จะเรียกนักเขียน  คนเขียน นางมาร หรือ tamako ก็ได้ตามสะดวก(แต่ไม่ขอไรเตอร์นะคะ)

    พูดถึงนิยายกันบ้างนิยายเรื่องนี้เป็นแนวเเฟนตาซี มาเฟียนะคะ  แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบรรเทิง 100 % อาจมีการอ้างอิงถึงสถานที่จริงหรืออุปกรณ์ที่มีอยู่ในชีวิตจริงเพื่อความสมจริงบ้าง แต่ยังยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เกิดจากจินตนานการ 100 % อ่านเพื่อความสนุกสนานและความบรรเทิงนะคะ

     สนุกไม่สนุกขาดเหลือตรงไหนหรือผิดพลาดแนะนำกันได้คะ tamako(นางมารปีกขาว) ยินดีน้อมรับคำแนะนำและคำติชมจากทุกคนคะ




ตอนที่ 1 อย่าตามสัตว์สี่เท้านั้นไปมันจะนำภัยมาสู่ท่าน       14/08/2013

ปัง !!
   เสียงปืนแผดดังไปทั่วตรอกแคบๆ ที่ยืนอยู่ท่ามกลางความหนาแน่นของบ้านที่ก่อจากอิฐสีน้ำตาลหรือแดงสลับเบียดแน่นกันขึ้นไปบนเนินเตี้ยๆ แต่ก็ไม่ดังเกินกว่าเสียงฝนที่กระหน่ำราวฟ้ารั่ว ไม่งั้นคงมีไอ้หน้าโง่มากกว่า  1 ที่โผล่ออกมาให้เขาเอาปืนเจาะกะโหลก

   “หึ  อยากตายมากนักก็แห่กันเข้ามาไอ้ลูกหมา”ริมฝีปากสีส้มที่ดูค่อนข้างซีดเซียวยกยิ้มอย่างสนุกสนานในมือคือปืนไรเฟิลด้ามโตที่ราวกับมัจุราชสังหารอย่างดีเมื่อมาอยู่ในมือของ คาเซอริโอ ซิสิอาโน

   “รีบๆออกมาสิว่ะ”เจ้าของปืนพูดด้วยความตื่นเต้นปากเคี้ยวหมากฝรั่งแก้เครียดเพราะสูบบุหรี่ไม่ได้  ในความมืดแบบนี้แค่ประกายไฟเพียงวูบเดียวก็ชี้เป้าให้กระสุนเจาะเข้าหัวได้แล้ว  แต่ก็นะ การมานั่งนิ่งๆบนยอดตึกแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับชี้เป้าตัวเองกลายๆนั้นแหละ แต่ใครสนหละว่ะ

   “มาแล้วๆ”เสียงพึมพำดังขึ้นพร้อมกับเสียงพูดคุยภาษาสเปนและเสียงฝีเท้าคนจำนวนมากที่กำลังวิ่งซอกซอนเข้ามาตามตรอกเล็กๆของริโอ

   “มากันเงียบๆไม่เป็นรึไง”พึมพำเหมือนดุแต่คนพูดกลับเหนียวไกทันทีที่เห็นเงาตะคุมโผล่ออกมาจากซอกตึก  เสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกดังขึ้นเมื่อหนึ่งศพล้มลง  ลูกกระสุนมากมายสาดขึ้นมาตามยอดตึกเพื่อหาตัวมือปืน

   “กระจอก”คนพูดปรามาสก่อนจะเหนียวไกซ้ำอย่างรวดเร็ว  ศพที่ 2 3 4 5

ฟุ๊บ!!

   “โอ๊ะ”ร่างสูงถลาลงพื้นเมื่อกระสุนนัดหนึ่งเจาะเข้าที่กรอบหน้าต่างข้างตัว  เสียงตะโกนโหวกเหวกที่ดังไม่รู้เรื่องแต่ประมาณว่ามันอยู่นั้นดังมาพร้อมเสียงฝีเท้า 

   ดวงตาสีเทาเหลือบมองประตูไม้ที่ปิดสนิท รอยยิ้มแย้มขึ้น  มือแข็งแรงเอื้อมคว้ากระเป๋าสีดำใต้เตียงเก่าๆ หยิบเอาเจ้า Colt 1902military 2 กระบอกออกมาเหน็บใส่ซองปืนข้างตัว พร้อมแมกกาซีนอีกนิดหน่อย ตบท้ายด้วย Calico M950 สีดำเมื่อมตัวเอกของค่ำคืนนี้ เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นมาเรื่อยๆยิ่งเร่งให้ฉีกยิ้มมากขึ้น ร่างสูงเร้นกายในเงามืดของผ้าม่านรอคอยอย่างใจเย็น

ปัง!!!

ปัง!!! ปัง ปัง

   ประตูถูกถีบออก กระสุนมากมายพุ่งออกจาก Calico ทะลุร่างที่พรวดเข้ามาเอาตัวรับกระสุน เสียงปลอกกระสุนหล่นลงพื้นพร้อมศพผู้เคราะห์ที่มีมากกว่าหนึ่ง พวกหน่วยกล้าตายชุดแรกหมดไปแต่ไม่นานคงแห่ตามกันมาซ้ำนั้นแหละจะยิ่งสนุก

   “ตามมาๆ” ส้นรองเท้าเฟอรากาโม่กระแทกโครมจนบานหน้าต่างหลุด  ร่างสูงในโค๊ตสีดำกระโจนออกนอกหน้าต่างกลิ้งไปตามพื้นกำแพง 2 รอบก่อนจะเหนี่ยวไกปืนซ้ำกลับไปในห้อง คนที่เพิ่งตามเข้ามาร่วงไปอีก 4-5 ร่างแต่กระสุนบางนัดก็เจาะเข้าข้างรองเท้าหนังคู่สวยจนต้องออกแรงวิ่ง กระโจนไปตามหลังคาที่ก่อมาจากอิฐเก่าๆหรือกระเบื้อง เสียงปืนดังตามหลังมาไม่ขาด 

   “โอ๊ะ  แมว”

เหมียว!!

ปัง!!

   กระสุนหนึ่งนัดวิ่งเฉียดแขนซ้ายจนเลือดซิบ  ร่างสูงหมุนขวับปืนในมือสาดกระสุนใส่คนที่บังอาจทำแขนเขาเป็นแผล

   “โดดมาทำบ้าอะไรว่ะไอ้แมวเปรต”แมวเปรตที่บังอาจโดดขวางหน้าเขาหายไปในความมืดแต่ไอ้พวกตัวป่วนข้างหลังยังตามมาไม่เลิก

   “มากันเลยจะได้ส่งลงนรกให้หนำใจ”ร่างสูงวิ่งต่อไปข้างหน้าก่อนจะยิงประตูบานหนึ่งจนมันเปิดออก  วิ่งโครมๆลงมาตามบันไดบ้านไม่สนใจเสียงของเจ้าบ้านที่โผล่ออกมายิงปืนพกใส่แต่ก็ต้องรีบหดหัวกลับไปเมื่อโดนปืนในมือเขายิงสวน

   “สมเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนซะจริงๆ” คาเซอริโอ ชมที่แทบทุกบ้านพกปืนไว้ต้อนรับเสมอแต่ก็แน่หละเขารับคำสั่งดอนมาทวงของที่ริโอเขาก็ต้องเตรียมใจมาเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเมื่อฉกของที่ถูกชิงไปกลับมาได้แล้วเรื่องมันจะกลับตละปัดเมื่อพวกที่ไม่ค่อยมีส่วนได้ส่วนเสียดันอยากได้เสียขึ้นมาซะอย่างนั้นไม่รู้โผล่มาจากไหนกันมากมาย ญาติไอ้มาเฟียกระจอกที่เขายิงหัวทิ้งก็ไม่ใช่หรือจะคิดประกาศอำนาจกับแก๊งค์เขาก็เดาไม่ถูก  แต่ที่แน่ๆแทนที่เขาจะได้นั่งเครื่องกลับไปพักที่อิตาลีกลับต้องมาติดเหง็กอยู่ที่ริโอลูกน้องก็แยกกระจายหายไปจนเขาหมายมาดกับตัวเองว่าเจอเมื่อไหร่จะอัดให้น่วมหรือไม่ก็ยิงสักนัดที่ปล่อยให้เขาต้องมายิงล่อคนกลางเมือง  ถึงมันจะสนุกแต่มันก็เหนื่อยนะโว๊ยเจ้าพวกบ้า

   เสียงพูดคุยที่ดังมาใกล้ทำให้มาเฟียหนุ่มชะงักหลบนิ่งพิงกำแพงปืนในมือที่กระสุนแทบไม่เหลือกระชับแน่นอยู่ตรงหน้า  สายตาสีเทาคมจับจ้องเงาดำที่ทอดผ่านข้างกำแพงเข้ามาใกล้เรื่อยๆ 1 2 ประมาณ 4 คน รอยยิ้มถูกจุดขึ้นบนริมฝีปาก ลมหายใจถูกกำหนดให้ช้าลงจนแทบเป็นปกติ ทันทีที่เงาดำเข้ามาใกล้ระยะ ร่างสูงหมุนตัวขวับปืนในมือสาดกระสุนใส่ 4 ร่างที่ยิงปืนสวนมาแต่ช้ากว่าทั้ง 4 ร่างล้มลงเหมือนใบไม้ล่วง ตายไป 3 จากระสุนปืนอีก 1 ตายเพราะขายาวที่พาดเข้าคอเต็มแรงจนอัดกระแทกกับพื้นปูน

   “ชิ  ยังเหลืออีกเท่าไหร่ฟ่ะ”คนพูดจิปากอย่างหงุดหงิดก่อนจะโยนปืนที่หมดประโยชน์ทิ้งไปกระโดดถีบประตูแล้วพุ่งออกนอกบ้านก่อนชะงักเข้ากับป้ายร้านเหล้าตรงหน้าที่เป็นรูปคนขี่ม้า

   “อย่าตามสัตว์สี่เท้านั้นไปมันจะนำภัยมาสู่ท่าน”  แว่วเสียงของยิบซีเร่ร่อนขึ้นมาในหัว มือทั้งสองข้างล่วงเอา Colt 1902military มาไว้ในมือก่อนจะเอี้ยวตัวกลับไปและเหนียวไก

ปัง  ปัง

   “อุ๊บ”กระสุน 1 นัดพุ่งทะทุข้อแขนพร้อมกับคนยิงที่สมองกระจายเอนร่างพิงกำแพงตรอกข้างๆ

   “บ้าเฮ้ย วันเฮงซวยอะไรกันแน่ว่ะ”ขาสองข้างออกวิ่งเมื่อสดับเสียงที่ยังตามมาไม่ห่าง  เขาไม่เคยพลาดไม่เคยเกิดเหตุการณ์นั้น แต่เสียงของยิปซีแก่เมื่อวานก็ดังแทรกเข้ามาในหู อย่าตามสัตว์สี่เท้านั้นไปมันจะนำภัยมาสู่ท่าน เสียงบอกกล่าวแก่เขาที่เดินผ่านที่ทำงานของหล่อนเขาแค่ปรายตามองแต่ไม่ได้เข้าไปดูดวงต่อเพราะคนอย่าง คาเซอริโอ ซิสิอาโน เชื่อการกระทำของตนเองมากกว่าคำทำนาย แต่ไอ้แมวดำที่กระโดดตัดหน้ากระสุน  1 นัดเลยยิงเฉี่ยวแขนซ้ายเขา พอเจอป้านหน้าร้านเหล้ารูปม้าเขาดันโดนยิงทะลุแขนข้างเดียวกัน

   “นรก”โยนโบยให้สิ่งอื่นเสร็จสรรพก็ยืนหอบจนต้องทรุดลงนั่งยองๆข้างกำแพงปูน  ฝนที่ตกหนักเปลี่ยนเป็นละอองฝอยเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  ที่แน่ๆคือเขาหนาวเกินจะทน  มือข้างที่ไม่เจ็บเอื้อมไปในกระเป๋าเสื้อโค๊ตควานหาบุหรี่แต่เมื่อพบว่าทั้งซองเปียกฝนเกินกว่าจะจุดติดเขาก็ต้องปามันทิ้งไป

จี๊ด ๆๆ

   เสียงเล็กแหลมเรียกดวงตาคมให้ตวัดไปมอง  ก่อนจะเห็นบางอย่างในท่อระบายน้ำเก่าๆข้างตัวที่กำลังจ้องมาทางเขา

   “หนู”ตาสีเทาเบิกกว้างขาสองข้างออกแรงถีบตัวก่อนกระสุนนัดแรกจะเจาะเข้าตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นที่ตั้งหัวเขา ร่างกายพลิกกลับไปด้านหลัง  ปืนสองกระบอกในมือปล่อยกระสุนเข้ากลางหน้าผากของคนลอบยิง แผ่นหลังที่กระทบพื้นเสียดวูบจนคนโดนหน้ามุ่ย  ขาสองข้างพาเจ้านายออกวิ่งอีกครั้ง  มือรีบเปลี่ยนกระสุนชุดใหม่ก่อนจะยิงสวนใส่กลุ่มที่ดักซุ่มเขาที่ตรอกกำแพง  จนกระทั่งร่างสุดท้ายล้มลง  คนทำถึงได้ยืนหอบอยู่ท่ามกลางความเงียบของยามราตรี

กึก!!

   เสียงบางอย่างที่ทำให้เย็นวาบไปทั่วแผ่นหลัง  เสียงพูดขึ้นด้วยภาษาที่เขาไม่เข้าใจแต่ก็ยอมยกมือขึ้นช้าๆทั้งสองข้าง  ปล่อยให้ปืนทั้งสองกระบอกตกลงข้างตัวจนถึงระดับเอวทั้งร่างจึงหมุนกลับพร้อมหยิบปืนกระบอกใหม่ที่ซ่อนไว้ยิงสวนไป  กระสุนหนึ่งนัดพุ่งเข้ากลางขาจนทรุดฮวบ ปืนสั้นในมือที่หมดกระสุนถูกแทนที่ด้วยปืนสองด้ามที่ถูกทิ้งก่อนหน้า  เสียงกระสุนนัดสุดท้ายเงียบลงพร้อมตัวเขาที่ฟุบหน้าลงกับพื้นเปียกๆท่ามกลางสายฝนยามค่ำคืน  เลือดสีแดงสดไหลออกจากร่างกายละลายไปอย่างช้าๆ

   “ให้ตายสิ”คนที่น่าจะตายพึมพำกับตัวเอง เขาถูกยิงไปกี่ที่แล้วนะ 6หรือ 7นะ ที่แน่ๆกระสุนฝังใน 1 นัดที่ขานั่นไง

   “บัดซบ”คำพูดเหมือนกรนด่าตัวเองเมื่อตาพร่าลงเรื่อยๆพร้อมความหนาวที่เริ่มคืบคลานเข้ามา น่าสมเพชมาเฟียอย่างเขาที่ต้องมานอนตายจมกองเลือดแบบไม่เท่สักนิด

   “เหอะๆ”เจ้าของนัตย์ตาสีเทาเหมือนจะหัวเราะเยาะตัวเองก่อนจะมองเห็นเงาดำบางอย่างเคลื่อนเข้ามาใกล้  มันดำสนิทจนต้องเพ่งสายตามองก่อนจะมองเห็นว่ามันคือลูกหมา  ลูกหมาตัวเล็กสีดำที่มองแทบไม่เห็นดวงตากลมๆนั้น ลูกหมาตัวน้อยที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าทำให้อดไม่ได้ที่จะเหลือบลงไปนับขาของมันด้วยตาที่พร่าเลือน 1 2 3 4 อืม แล้วไอ้ตอสั้นๆนั้นขาด้วยไหมนะ คงใช่ อ่า 5 นับได้ 5 ขาพอดี งั้นคราวนี้คงไม่ซวยแล้วสินะ




====================================
   ฟู่ ลงตอนแรกครบแล้ว ถูกใจไม่ถูกใจแนะนำกันมาได้นะคะ

meili run

  • บุคคลทั่วไป
ติดตามค่ะ :z2:

ออฟไลน์ t_cus

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตามมาจาก Dek-D จ้า

แบบว่า...มารออ่านฉากที่ลงในนู้นไม่ได้อะ  อิๆ :-[

ออฟไลน์ ไป๋ไป๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เอ๊ะใจว่าทำไมชื่อเรื่องคุ้นมาก

ที่แท้ก็เคยอ่านในเด็กดีนี่เอง

เปงกำลังใจงับ :L2:

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ติดตามคืะ น่าอ่านมากเลย

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ว๊าวๆๆ เปิดเรื่องมาก็บู๊กันระเบิดเลยนะเนี่ย >^<
สู้กันเลือดสาดกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ สัตว์4เท้าในโลกนี้เยอะนะ
แอบสงสาร มาต่อไวๆน้า

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 2 : บางทีการตามสัตว์สี่เท้าไปอาจไม่ใช่โชคร้ายที่สุด                                       15/08/2013
                                                       08/05/2014



   แสงแดดสีทองค่อยๆส่องรอดชั้นหนาๆของเมฆลงมาเบื้องล่าง  ละอองน้ำที่ยังเหลืออยู่ทอประกายระยิบระยับงดงาม

   “งืม  อย่ากวนน่า”เสียงงึมงำดังออกจากปากคนที่นอนฟุ่บหน้าอยู่บนพื้นเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบริเวณใบหน้า

บ๊อก!!

   เสียงบางอย่างกระตุ้นให้คิ้วสีทองขมวดเข้าหากันก่อนเจ้าของจะลืมตาสีเทาขึ้นมองตัวขัดขวางความสุขในการนอน  เงาสีดำบางอย่างตั้งอยู่ข้างหน้าก่อนจะแลบลิ้นสีชมพูออกมาและเริ่มส่งเสียง บ๊อก

   “หมา”เสียงที่ออกจากปากค่อนข้างแหบก่อนคนเปล่งเสียงจะหลับตาลงช้าๆด้วยความมึน  คิ้วสีทองที่น่าจะคลายออกกลับขมวดเข้าหากันซ้ำเมื่อเรื่องราวบางอย่างเริ่มแล่นเข้าหัว  จำได้ลางๆว่าเมื่อวานวิ่งเล่นอยู่ที่ริโอ ยิงกระสุนเล่นไปหลายนัด คนตายไปก็หลายคน  ฝนก็ตกถ้าฟื้นขึ้นมาได้จากความตายภาพที่เห็นมันก็น่าจะเป็นภาพเงาของตึกและพื้นหินแข็งๆแต่สัมผัสแบบนี้มันไม่น่าจะใช้ หรือว่าเขาจะตายไปแล้ว

   “โอ๊ย  นรก”คนที่เพิ่งพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของตนเองด้วยการขยับตัวแล้วเจ็บแปลบไปทั่วร่างร้องสบถด่าลั่น  เมื่อมันเจ็บจนเหมือนเขายังไม่ตายและยังนอนท่าอนาถท่าเดียวกับเมื่อวานคว่ำหน้าจูบปากกับพื้นเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือแทนที่พื้นจะเป็นหินมันกลับกลายเป็นหญ้าที่คันหน้าหน่อยๆ กำแพงข้างๆกลับกลายเป็นต้นไม้ ไม่มีอะไรเหมือนเดิม ไม่สิที่เหมือนเดิมคือตัวเขายังนอนที่เดิมพร้อมหมาตัวเดิม

   “ซี๊ด”คนตัวสูงครางออกมาเมื่อลืมตาตื่นอีกรอบและยกหัวตัวเองโงนเงนขึ้นมาจากพื้น  มึนหัวจนต้องเอามือสองข้างเท้าลงกับพื้นหญ้า

   “ที่ไหนกันว่ะเนี่ย”คำถามที่คงไม่มีคนตอบ เมื่อดวงตาสีเทากวาดมองไปรอบๆตัวแล้วพบแต่ป่าและป่าไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากเขาและเจ้าลูกหมาสีดำ ประสาทหูที่เปิดตัวเต็มที่เปิดรับเสียงต่างๆ ดวงตากวาดมองไปรอบๆอย่างระแวดระวังก่อนจะค่อยๆพยุงร่างตัวเองไปพิงไว้กับต้นไม้ต้นใหญ่  อาการปวดแปลบที่ขาขวาเรียกให้ดวงตาสีเทาตวัดกลับมามองท่อนขาใต้กางเกงแสลคเนื้อดีที่มีรูขาดเล็กๆก่อนมือจะกระชากกางเกงออกจนมองเห็นรูที่เจาะทะลุเข้าไปในเนื้อและเลือดที่ไหลซึมออกมา

   “คงต้องจัดการมันก่อนสินะ”มือหนาตบปุปะไปรอบตัวก่อนรื้อเอาทุกอย่างที่ยังมีติดตัวอยู่ออกมาจากร่างกาย

   “ไฟแซ๊ค  มีดยาว  มีดพับสั้น  ขวดเหล้า หึก็ยังดี”คนพูดสรุปกับตัวเองเสร็จสรรพก่อนจะกวาดมองรอบๆตัวอีกครั้ง  ไม่มีสัญญาณอันตรายเงียบสงบเหมือนจะดี  แต่ไม่ดีตรงที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนกันแน่  คงต้องออกสำรวจแต่ก่อนหน้านั้นเขาคงต้องผ่าเอากระสุนออกก่อน

   มือขาวเอื้อมหยิบมีดด้ามสั้นกว่าขึ้นมาและจุดไฟแช๊คที่โชคดียังใช้ได้ รนปลายใบมีดด้วยความร้อนก่อนจะเทเหล้าที่เหลืออยู่น้อยนิดลงบนแผล

   “ซี๊ด”ความแสบร้อนวิ่งขึ้นมาจนต้องซี๊ดปากก่อนมีดในมือจะจรดปลายลงบนเนื้อขาวที่หน้าแข้งกรีดปลายมีดคมลงบนเนื้อสีขาวช้าๆ เลือดสีแดงสดทะลักออกมาตามรอยกรีดเป็นสาย  ปลายใบมีดถูกบังคับให้ควานเข้าไปในเนื้อก่อนจะกระทบกับวัตถุแข็งๆแล้วสะกิดดันจนกระสุนหนึ่งนัดทะลุออกมาตามรอยกรีด กระสุนถูกหยิบออกก่อนคนทำจะคลายริมฝีปากที่กัดจนเลือดซิบแล้วหันไปหยิบเหล้าที่เหลือเทราดจนหมดขวด

   “อ๊าก”เสียงร้องที่พยายามกั้นให้เบาดังขึ้นจากปากเมื่อการผ่าตัดเอากระสุนและฆ่าเชื้อด้วยเหล้าจบลง  ชายขากางเกงข้างเดียวกันถูกฉีกยาวขึ้นมาใช้เป็นผ้าพันแผล  คนทำแผลให้ตัวเองเอนหลังพิงต้นไม้อย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะลองขยับแขนขาที่เหลือ  รอยยิงจากกระสุนนัดอื่นๆเหมือนจะไม่ร้ายแรงอะไรนักแค่แสบๆคันๆ มองไปรอบตัวก็ให้หงุดหงิด  หงุดหงิดเพราะไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนหากรู้สถานที่อยู่  ต่อให้มีศัตรูรอบข้างยังไม่สร้างความกังวลให้กับ คาเซอริโอ ซิสิอาโน เท่านี้

   ร่างสูงเก็บรวบรวมข้าวของต่างๆใส่กระเป๋าเสื้อโค๊ต  เก็บมีดพกด้ามสั้นเข้าซองที่ข้างขา ส่วนมีดยาวถูกถือเอาไว้ในมือขวาเพราะมันเป็นอาวุธเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้  ดวงตาสีเทากวาดมองรอบตัวอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืน ขาขวาเจ็บแปลบเมื่อเผลอลงน้ำหนักแต่ความพยายามในการสำรวจมีมากกว่าเมื่อเขาฝืนสังขารจนสามารถออกเดินได้อย่างเชื่องช้า

   เท่าที่มองเห็นที่ๆเขาโผล่มาอยู่มันเป็นป่าแปลกๆที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ต้นไม้ที่มองเห็นก็แปลกตาเกินกว่าจะค้นสมองว่ามันคือต้นอะไร แต่อย่างน้อยเขาก็มั่นใจว่ามันคือต้นไม้ธรรมดาไม่ใช่ต้นไม้กินคนตามนิยายขายฝันทั้งหลาย พื้นหญ้าที่เหยีบอยู่ก็เป็นพื้นหญ้าสีเขียวธรรมดา  ดินที่เหยีบอยู่ก็ค่อนข้างชื้นเพราะฝนเพิ่งหยุดตกไป

   เสียงสวบสาบที่ดังจากด้านหลังทำให้ขาที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงักก่อนจะนิ่งงันและเงี่ยหูฟังเสียงสวบสาบที่ดังแผ่วเบาแต่ไม่เกินความสามารถในการได้ยินของเขาดวงตาสีเทาตวัดกลับไปมองก่อนจะขมวดคิ้วฉับเมื่อมองเห็นเจ้าลูกหมาสีดำขนหยิกหยองกำลังเดินดุ๊กๆออกไปทางขวามือของเขา  เจ้าลูกหมาที่กล้าเอาลิ้นเล็กๆเลียปลุกเขาตัวนั้นแหละ

   “ก็แค่หมาตัวหนึ่ง”ปลอบใจตัวเองแบบนั้นทั้งๆที่คิดว่ามันแปลกก่อนจะก้าวเดินอีกครั้งแต่เสียงสวบสาบก็ยังตามมาไม่ห่างจนต้องหันไปมองอีกรอบเจ้าลูกหมาหยุดฝีเท้าเงยคอสั้นๆขึ้นมามองก่อนจะเดินมาเคียงข้างแล้วเดินนำหน้าออกไป

   “เฮ้ย  ใครให้แกเดินแซงว่ะ”มือข้างที่ว่างคว้าหลังหมาก่อนจะยกมันมาจ่อตรงหน้า  เจ้าหมาบ้านั้นดิ้นรนเพื่ออิสระแต่คนจับก็ไม่สน  ดวงตากวาดมองรอบๆก่อนจะพบว่ามันมีสี่ขา  และขาที่ห้าที่คนอย่าง คาเซอริโอ เห็นดันเป็นกระจู้อันน้อยของเจ้าหมาตรงหน้า  คิ้วสีทองขมวดมากขึ้นเมื่อตระหนักได้ว่าเขากำลังเดินตามหลังสัตว์สี่เท้าเหมือนในคำทำนายบ้าๆนั้นอีกครั้ง

   “ไปให้พ้นเลยไป”ว่าแล้วก็เหวี่ยงเจ้าหมาไปข้างหลังไปยินเสียงตุ๊บก่อนจะก้าวเดินอีกครั้ง

   “โอ๊ย”ฟันเล็กๆจากไอ้หมาไม่รักดีกัดหมับเข้าที่ขาข้างขาวที่ปราศจากกางเกงหุ้ม  คิ้วของคนเป็นมาเฟียกระตุกยิกๆก่อนจะยกขาขึ้นมาสะบัดๆแรงๆแต่ไอ้หมานั้นก็ไม่ปล่อยจนต้องเอื้อมมือไปจิกหลังคอมันอีกรอบ

   “แกจะเอายังไงกับฉันห๊ะ”ถามพลางจ้องหน้าเจ้าตัวจ๋อยที่ดิ้นจนน่ายิงทิ้งหากให้มือเขามีปืน เจ้าหมาไม่ตอบทำได้เพียงดิ้นและเห่าประท้วง

   “อย่าหาเรื่องฉันถ้าไม่อยากโดนแทงไส้ไหล”ว่าจบก่อนปล่อยเจ้าหมาลงจากมือ  เจ้าตัวเล็กหล่นตุ๊บขู่กรรโชกก่อนจะวิ่งเข้าใส่ ขาขวางขวาจึงเตะโครมเข้ากลางลำตัว

เอ๊ง เอ๊ง เอ๊ง

   ก้อนขยุกสีดำกลิ้งหลุนๆไปก่อนจะแน่นิ่งไปสักพักจนคนเตะแอบคิดว่ามันตายแล้วแต่ไม่นานเจ้าก้อนนั้นก็ขยับตัวขึ้นยืนช้าๆจุดรอยยิ้มที่เจือด้วยความหมั่นไส้และความถูกใจบนปากของคาเซอริโอ

   “แกนะมานี้สิ”คนพูดนั่งยองๆลงกับพื้นแล้วจ้องตากับเจ้าจนฟู่สีดำที่มองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจซึ่งคนเป็นมาเฟียคิดเองว่ามันมองตนเองด้วยสายตาเช่นนั้น

   “ตามใจแกจะมาไม่มาฉันอุตสาห์ใจดีด้วยแล้วนะ”คนพูดถอนหายใจเหนื่อยๆทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นแต่เจ้าลูกหมานั้นก็วิ่งเขามาหยุดอยู่ตรงหน้าและจ้องเขาด้วยตาวาวๆ

   “หึ คอยว่าง่ายหน่อย  ถ้าแกยังอยากมีชีวิตอยู่ก็ทำตัวดีๆ  ฉันกับแกมาจากที่เดียวกันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะดูแลแกนะ  ไอ้หมาน้อย  อืมแกนี้มันดำน่าเกลียดจริงๆว่ะ ชื่อซ๊อคแล้วกัน ซ๊อคที่มาจากซ๊อดโกแลตตามสีตัวแก  กับความซ๊อคของฉันที่มาโผล่ที่บ้าๆนี้ ทำตัวดีๆว่าง่ายๆนะเจ้าซ๊อค”พูดเสร็จก็เอาใบมีดเคาะลงบนตัวทุยๆนั้นก่อนจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

   พอคิดไปแล้วคนพูดก็อดขำกับตนเองไม่ได้ที่คุยกับหมาเป็นตุเป็นตะเหมือนมันฟังภาษาคนรู้เรื่อง แล้วยังดันไปตั้งชื่อให้มันอีก ถ้าจะเพี้ยนจนประสาทกลับแต่ก็ต้องบอกว่าเขาถูกใจเจ้าลูกหมาไม่น้อยที่มันอึดเอาเรื่องขนาดถูกเขาเตะแล้วยังลุกขึ้นมาได้ ซ้ำมันกับเขายังมาจากที่เดียวกันด้วย  มีเพื่อนแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถึงเพื่อนเขามันจะเป็นแค่ลูกหมาก็เถอะ  นี้ถ้าดอนหรือพวกลูกน้องเขารู้คงได้ทำตาโตเพราะคนอย่างเขาไม่เคยชอบสิ่งมีชีวิตเล็กๆมาก่อน พูดถึงดอนกับพวกลูกน้องก็ให้อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ อยากกลับไปหาแต่สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องหาให้ได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน  เขาคงต้องเดินไปเรื่อยๆแล้วถามคนแถวนี้ถ้ามันมีให้ถามนะ

   ร่างสูงยังคงก้าวอย่างเชื่องช้าไปเรื่อยๆไม่รู้ว่าเขาเดินมาไกลเท่าไหร่  รู้แค่ว่ามันไกลมากพอจะทำให้เหงื่อไหลซึมจากใบหน้าขาวจนหยดลงมาบนปลายคาง  ร่างกายที่เดินมานานประท้วงว่าหิวน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ เท้าที่เดินหยุดนิ่งเมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง  คิ้วขมวดลงด้วยความไม่แน่ใจว่าตนเองอาจหูแว่วเพราะหิวน้ำมากจนได้ยินเสียงน้ำ  ตาสีเทาจึงกวาดมองไปรอบๆก่อนจะสะดุดเข้ากับบั้นท้ายกลมๆที่มีขนหยิกหยอย จ้าตัวที่ออกวิ่งไปทางที่เขาได้ยิน

   “ยังไงหูหมาก็ดีกว่าหูคนสินะ”เปรยกับตัวเองเสร็จก็รีบสาวเท้าเดินตามเจ้าหมาที่วิ่งนำหน้าไปไกล ยิ่งเดินเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่เขาก็ได้ยินเสียงน้ำมากขึ้นเท่านั้น  ก่อนจะเบิกตากว้างให้กับความงดงามที่ไม่เคยเห็นมาตลอดชีวิตไม่สิอาจงดงามจนไม่สามารถหาได้จากโลกที่เขาอยู่

   ตรงหน้าคือผืนน้ำกว้างใสสีฟ้าสะอาดตา  ด้านกว้างของมันอาจกว้างมากกว่าถนน 6 เลนที่เคยเห็น สองฝากฝั่งคือพื้นดินสีน้ำตาลอ่อนปนเทาที่สะอาดปราศจากขยะมีเพียงเศษใบไม้หรือกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่น ถัดออกมาจากพื้นดินริมน้ำคือแนวต้นไม้น้อยใหญ่ที่บางส่วนยื่นกิ่งก้านลงไปจนถึงขอบฝั่งน้ำ

   “ที่นี้มันที่ไหนกันแน่”รำพึงกับตนเองเสร็จคาเซาริโอก็ก้าวลงไปที่ริมแม่น้ำเลือกยืนเหนือน้ำในตำแหน่งที่เจ้าซ๊อคลูกหมาขนปุยว่ายอยู่  จัดการวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าและดื่มกินดับกระหายก่อนจะกรอกบางส่วนใส่แทนขวดเหล้าที่ว่างเปล่า  อาการกระหายน้ำที่หมดไปเหมือนจะทำให้สมองทำงานดีขึ้นจนเริ่มแน่ใจว่าตนเองไม่ได้ยืนอยู่ที่ริโอหรืออาจจะไม่ได้อยู่ในโลกแต่อย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิตอยู่  ไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณพระเจ้าในความดีข้อนี้หรือเครียดแค้นแทนดี

   “ขึ้นมาจากน้ำ”เสียงเหี้ยมหันไปสั่งเจ้าลูกหมาที่หยุดว่ายราวกับเข้าใจภาษาแล้วรีบพาตัวที่เปียกลู่ขึ้นมาจากน้ำ  ดวงตาสีเทากวาดมองตามต้นน้ำขึ้นไปทางขวามือ  ก่อนจะขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นรอยเลือดที่ลอยมาตามน้ำ ท่าจะไม่ดีซะแล้ว

   “ถ้าไม่อยากเป็นหมาถูกเชือดก็รออยู่ตรงนี้”สั่งเสร็จไม่รอเสียงตอบรับร่างสูงก็รีบหมุนตัวขึ้นไปทางขวา  สังหรณ์บางอย่างทำให้เขารู้สึกไม่ดีแต่บางอย่างที่เห็นก็สั่งให้ตัวเองออกเดินไปทางต้นน้ำ มันเต็มไปด้วยความหวั่นเกรงในบางอย่างที่หาสาเหตุไม่ได้เพราะแบบนี้แหละถึงต้องไปดูเห็นกับตา

   ร่างสูงในรองเท้าหนังเฟอรากาโม่ก้าวช้าๆไปตามริมน้ำพยายามนิ่งเงียบให้มากทีสุดเท้าที่ขาทั้งสองข้างจะเอื้ออำนวย  เหนือขึ้นไปมากเท่าไหร่ยิ่งมองเห็นก้อนหินน้อยใหญ่ที่ทำให้เขาต้องปีนขึ้นลงมากเท่านั้น  มันเป็นเหมือนปราการตามธรรมชาติที่ปกปิดสายตาคนนอกจากความอยากรู้อยากเห็น เงาร่างสูงยอบตัวลงเมื่อได้ยินเสียงวักน้ำก่อนจะค่อยๆคลานหมอบไปตามซอกหินและเพ่งมองสิ่งตรงหน้าชัดๆ

   “เรื่องนรกอะไรของมันอีกว่ะ”









โผล่เอาตอนที่ 2 มาลงคะ   ดีใจที่มีนักอ่านตามมาและมีหลายๆคนที่จำเรื่องนี้ได้  แล้วก็ยินดีต้อนรับนักอ่านใหม่ทุกคนคะ

 สำหรับตอนที่ 2 ก็เริ่มจะได้กลิ่นอายแฟนตาซีกันแล้ว


   

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่3 เชื่อสิ่งที่ตาเห็นบ้างก็ดีนะ                                                                    17/08/2013




   นี้เป็นอีกครั้งที่คนอย่าง คาเซอริโอ ซิสิอาโน อยากตบหน้าตัวเองให้ตื่นสักทีเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฝัน  แต่ก็นั้นหละใครจะตบตัวเองให้เจ็บตัวเมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองตื่นอยู่และไม่ได้ฝันแม้ภาพที่เห็นตรงหน้ามันจะเป็นอะไรที่อธิบายยาก  กับภาพคนๆหนึ่งตัวขาวจั๊วที่ยืนเปลือยอยู่ตรงหน้ามันคงไม่แปลกอะไรถ้าวูบหนึ่งตาเขาไม่มองเห็นขาขาวๆนั้นแปรเปลี่ยนกลายเป็นหางสีน้ำตาลยาวแค่วูบเดียวที่กระพริบตาคนที่อยู่ห่างไปเกือบ 10ก้าวก็มาโผล่ตรงหน้าแบบประชิดยิ่งกว่าภาพสามมิติและบางอย่างก็แทบจะกระแทกดวงตาสีเทานั้น


   “เฮ้ย  ยังไงก็ใส่เสื้อหรือหาอะไรมาปิดก่อนได้ไหม”คนพูด พูดไม่เต็มเสียงและพยายามจะเบี่ยงสายตาออกจากอะไรบางอย่างที่มันแทบทิ่มตา


   “โอ้  ขอโทษที”เสียงนุ่มหูว่าขึ้นแล้วก็แย้มรอยยิ้มที่แสนจะดูดี


   “ขอโทษแล้วก็หาอะไรมาปิดสิว่ะมันอุจาด”คนพูดผุดลุกขึ้นเพื่อให้สายตาไม่ตรงกับของสงวนเพศชายและเป็นโอกาสให้ได้สังเกตคนตรงหน้า


   คนตรงหน้าสูงมากกว่าเขาไปประมาณคืบหนึ่งได้  เส้นผมสีทองที่มีลายสสับดำแบบที่พวกวัยรุ่นชอบทำยาวสลวยถึงกลางหลัง คิ้วสีทองอ่อนพาดเหนืองดวงตาคมเรียวที่หางตาตวัดขึ้นเล็กน้อย  ดวงตาสีทองที่มีกรอบสีดำรอบๆแบบที่คนมองได้แต่แอบซ่อนความสงสัย  จมูกโด่งเป็นสั้นยาวพร้อมรูจมูกที่ดูจะเล็กกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย  ริมฝีปากบางเฉียบ  กับโครงหน้าเรียว   ผิวขาวจนเหมือนซีด  หุ่นแบบคนที่ออกกำลังกายเป็นอย่างดีแต่ดูผอมกว่าคาเซอริโอพอสมควร


“เป็นครั้งแรกเลยนะที่ถูกพูดแบบนั้น”เจ้าคนที่เพิ่งจะหาผ้ามาพันปิดของสงวนแบบลวกๆเปิดปากพูดอีกครั้ง


   “หึ  ฉันเป็นผู้ชายธรรมดาที่ไม่มีรสนิยมมองกระแป๋งของผู้ชายด้วยกัน”


   “งั้นเหรอ มนุษย์สินะ”


   “ก็คนนะสิ”สิ้นคำพูดนั้นคาเซอริโอก็รู้สึกอยากกัดลิ้นตายไปให้รู้แล้วรู้รอดหากไม่คิดได้ว่ามันเป็นการตายที่ดูปัญญาอ่อนจนเกินไปนักเมื่อเจ้าสิ่งที่เขาคิดว่ามันอาจจะไม่ใช่คนตรงหน้าแย้มรอยยิ้มที่ดูพิลึกในสายตาเขาขึ้นมา


   “แล้วมาทำอะไรไกลขนาดนี้หละเจ้ามนุษย์”


   “หาของป่า”เขาเลือกที่จะโกหกปกปิดบางอย่างออกไปเมื่อสำนึกได้ว่าการพูดความจริงว่าตนเองหลงทางหรือไม่รู้ว่ามาอยู่ที่นี้ได้ยังไงดูจะไม่ปลอดภัยมากนัก


   “งั้นเหรอ งั้นเจ้าคงเป็นพรานป่าที่โง่หน้าดูชมเชียว”คำว่าโง่ทำเอาคิ้วของคาเซอริโอกระตุก  ไม่ได้โดนด่าว่าโง่ต่อหน้ามานานเท่าไหร่แล้วนะจำได้ว่าคนสุดท้ายที่พูดแบบนั้นเขาเอาปืนกรอกปากส่งมันไปนรกเรียบร้อยแล้ว


   “พูดได้เจ็บดี”


   “ข้าพูดความจริงและดูเหมือนเจ้าหนูข้างหลังเจ้ายังจะฉลาดมากกว่า”ดวงตาสีเทาเหลือบมองข้างหลังดูหน้าเจ้าหนูที่มันพูดถึง  ซึ่งก็คือไอ้หมาขนหยิกที่ไปแอบอยู่หลังก้อนหินทำตัวเป็นหมาติดไข้จับสั่น  มันกล้าบอกว่าเขาฉลาดน้อยกว่าหมา


   “มันคงมีสัมผัสของหมาที่รู้ว่าไม่ควรมายุ่งกับตัวประหลาดอย่างแกหละมั้ง”


   “ตัวประหลาด”คิ้วสีทองหยักโค้งขึ้นเหมือนสงสัย


   “แค่เอาตาดูก็รู้แล้วว่าแกไม่ใช่คน”


   “อืม  ดูเหมือนเจ้าก็ไม่ได้โง่ไปสักเท่าไหร่นัก  แล้วทำไมคนฉลาดอย่าเจ้าถึงไม่กลัวข้าหละ”คนพูดโน้มหน้าเข้าใกล้แบบที่คาเซอริโอได้แต่ขมวดคิ้วฉับเพราะไม่คิดพิศวาสจะมองหน้าผู้ชายด้วยกันใกล้ๆแบบประชิดแทบเห็นกันทุกรูขุมขน


   “มันคงช้าไปที่จะกลัว  ถ้ากลัวก็คงไม่มาแอบดูตั้งแต่แรกหรอกมั้ง”


   “อืม  งั้นข้าคงต้องชมว่าเจ้ากล้าน่าดู  แต่มันคงเป็นความกล้าที่อาจจะนำความตายมาสู่เจ้าได้นะเจ้ามนุษย์”คนพูดแลบลิ้นแผล่บและถ้าตาไม่ฝาดคาเซอริโอแอบเห็นว่าลิ้นสีแดงนั้นแบ่งออกเป็นสองแฉก


   “ถ้าจะเอาแบบนั้นก็ได้แต่จะคิดอีกทีก็ไม่ว่ากันหรอกนะ”รอยยิ้มบนใบหน้าของคาเซอริโอเรียกให้สิ่งตรงหน้าชะงักและเหลือบตามองที่หน้าท้องของตนเองซึ่งบัดนี้มีมีดด้ามยาวจ่ออยู่และบางส่วนของปลายมีดได้หายเข้าไปในเนื้อสีขาวที่กำลังมีเลือดไหลซึมออกมา


   “ไม่น่ารักเอาซะเลยนะ”เสียงที่เคยทุ้มนุ่มและเย็นสบายเปลี่ยนเป็นเย็นเฉียบขึ้นมาฉับพลัน


   “เข้าป่าแปลกๆแบบนี้มันก็ต้องมีสิ่งป้องกันตัวเอาไว้บ้างจริงไหม”


   “แล้วคิดหรือว่ามีดของเจ้าจะเร็วกว่าข้า”


   “ไม่ลองไม่รู้แต่ที่แน่ๆฉันไม่ยอมเจ็บตัวคนเดียวแน่นอน”คาเซอริโอยกยิ้มเยือกเย็นที่มุมปาก  สบกับตาสีทองที่ฉายแววนิ่งก่อนประกายตาบางอย่างจะแทรกเข้ามา


   “ตกลง ข้ายอมแพ้”สิ่งมีชีวิตประหลาดถอยห่างออกไปก่อนจะยกนิ้วขาวปาดเลือดที่หน้าท้องและแลบเลียมันด้วยปลายลิ้นสองแฉกแต่นั้นก็ไม่น่าตกใจเท่าแผลที่เคยโดนมีดนั้นกำลังสมานกันช้าๆด้วยการก่อตัวของผิวหนังที่ดูเหมือนเกร็ดสีน้ำตาลขึ้นมาปิดแผลนั้นและจางลงเหลือเพียงผิวเนื้อขาวๆที่ปราศจากรอยใดใด


   “รักษาได้น่าสนใจดีนี้”


   “หืม  เห็นแบบนี้แล้วยังอยากเล่นกับข้าอีกรึเปล่า”


   “ถ้าคิดว่าไหวก็ลองดูสิ”คาเซอริโอยิ้มก่อนจะนั่งลงที่โขดหินแล้วถอนหายใจเบาๆออกมาเมื่อขาที่เพิ่งผ่ากระสุนออกไปเจ็บจี๊ด


   “เจ้าเป็นมนุษย์แบบที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน”สิ่งประหลาดตรงหน้าพูดออกมา


   “ขอบคุณ”คาเซิอริโอตอบก่อนจะค่อยๆเกะผ้าออกดูและพบว่าแผลบวมเป่งแต่เลือดที่เคยไหลออกมาหยุดไปนานแล้ว


   “ใจเย็นเหลือเกินนะ  ไม่คิดหรือว่าข้าจะพุ่งเข้าไปแล้วจับเจ้าหักคอกินเป็นอาหาร”


   “ถ้าจะทำแบบนั้นก็คงทำไปนานแล้วไม่ใช่รึไง”คนพูดปรายตาขึ้นมองเล็กน้อยก่อนจะก้มลงมัดผ้าพันแผลต่อ


   “ฮ่าๆๆๆ  น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆด้วย”คาเซอริโออดยอมรับไม่ได้จริงๆว่าเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแบบนั้นมันทำให้สิ่งที่เขามั่นใจว่ามันไม่ใช่คนดูดีจนเหมือนพวกนายแบบที่หลุดออกจากนิตยสาร  นิตยสารสัตว์ประหลาดนะ


   “แล้วทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี้ได้หละ”พูดจบก็เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะทิ้งระยะห่างไปเล็กน้อยเมื่อดวงตาสีเทาดุจ้องตอบ


   “ก็บอกแล้วว่ามาหาของป่า”


   “เจ้าดูเหมือนไม่ใช่พรานโง่พวกนั้นนะสิ”พูดจบก็ยิ้มแบบที่คาเซอริโอต้องแยกเขี้ยวรับ สรุปได้ว่าเจ้าตัวตรงหน้ามันกวนกว่าที่คิดเอาไว้มาก


   “ไม่รู้”


   “หืม  ไม่รู้”คิ้วสีทองนั้นเลิกขึ้นเหมือนจะไม่เชื่อ


   “เฮ้อ  ก็แค่หลับไปแล้วอยู่ๆก็มาโผล่กลางป่านี้แล้ว”


   “หืม”


   “ไม่น่าเชื่อรึไง”


   “ข้าเชื่อว่าเจ้าพูดจริง  เพราะแววตาของเจ้าไม่ได้โกหก”


   “จะถือว่านั้นเป็นคำชม”


   “จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิดนัก เพราะข้าเริ่มชอบเจ้าขึ้นมานิดๆแล้ว”


   “ฉันเป็นผู้ชายที่ยังชอบสาวๆอกโตก้นใหญ่  ไม่ใช่สัตว์ประหลาดอย่างแก”


   “หืม  ข้าก็ไม่ได้พิศวาสมนุษย์นิสัยประหลาดอย่างเจ้าเท่าไหร่หรอกนะแต่จะดีมากหากเจ้าเลิกเรียกข้าว่าสัตว์ประหลาด”


   “หน้าตาแบบแกดูยังไงก็สัตว์ประหลาด”


   “ข้าว่าข้าดูเหมือนมนุษย์นะ  และออกจะหน้าตาดีด้วย”นั้นเป็นคำยอตัวเองที่คาเซอริโอเถียงไม่ออกได้แต่เหลือบมองสิ่งประหลาดตรงหน้าแล้วถอนหายใจออกมา  จะคนหรือสัตว์ประหลาดก็หลงตัวเองทั้งนั้น


   “ข้าชื่อ คูลาตัส”


   “คาเซอริโอ”คาเซอริโอแนะนำตัวตามมารยาท


   “เรียกยากนะ  ไม่มีชื่อที่เรียกง่ายกว่านี้รึไง”ดวงตาสีเทาปรายมองด้วยความหงุดหงิดแล้วชื่อคูลาตัสมันเรียกง่ายนักรึไง


   “คาโล”


   “โอ๊ะ  เรียกง่ายกว่ากันเยอะ  ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ้ามนุษย์”


   “รู้จักกับงูประหลาดๆมันคงน่ายินดีพิลึก”


   “หืม ทำไมถึงคิดว่าข้าเป็นงูหละ”คาเซอริโอไม่ตอบแต่ชี้ที่ตาตัวเองเหมือนจะบอกใบ้ว่าเขาเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น  หางยาวๆสีน้ำตาลสลับดำที่เห็นเลือนลานเหมือนภาพหลอน บวกกับสัญชาตญาณบางส่วนในตัว


   “ดูเหมือนเจ้าจะเชื่อในตัวเองสูงเหลือเกิน และบ้าบิ่นแบบไม่น่าอภัยอีกด้วยซึ่งมันน่าจะนำผลเสียมาหาเจ้ามากกว่าผลดีนะ”


   “มีคนบอกมาหลายคนแล้วหละ”คนพูดยืนขึ้นทำท่าเหมือนจะเดินจากไปเมื่อไม่เห็นว่าการพูดคุยกับงูประหลาดตรงหน้าจะมีประโยชน์


   “นั้นเจ้าจะไปไหน”


   “เดินทางต่อ”คนพูดมองไปรอบๆก่อนจะมองเห็นเจ้าลูกหมาขนหยิกที่นั่งแอบมองเขาอยู่ในซอกหิน


   “ไปทั้งๆที่บาดเจ็บและไม่รู้ทางนะเหรอ”


   “มันคงดีกว่านั่งอยู่ในดงสัตว์ประหลาดไม่ใช่รึไง  อีกอย่างคุยกับแกไปก็ไม่มีประโยชน์”


   “เจ้าปากร้ายกว่าที่ข้าคิดมากนัก”


   “ฉันไม่เคยปากหวานอยู่แล้วโดยเฉพาะกับตัวผู้อย่างแก”คาเซอริโอเริ่มออกเดินอีกครั้ง


   “หึหึ หมู่บ้านของมนุษย์อยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตก”ขาที่กำลังก้าวออกไปหยุดชะงัก


   “ไกลแค่ไหน”


   “อืม  ก็ประมาณ 3 เดือน”


   “ห๊ะ 3เดือน”คาเซอริโอหันมามองเจ้างูด้านหลังที่ยิ้มระรื่น


   “อืม  ถ้าเป็นข้านะ”คูลาตัสโคลงหัวก่อนจะเดินมาเคียงข้างคาเซอริโอที่เหลือบมองเจ้างูประหลาดแล้วให้หงุดหงิดในใจ  สามเดือนจากนี้หึ  ถ้าเลื่อยไปแบบมันก็คง 3 เดือนจริงๆนั้นหละ


   “ถ้าเดินไปหละ”ประกายแพรวพราวด้วยความถูกใจปรากฏขึ้นบนดวงตาสีทองขอบดำของคูลาตัส เจ้ามนุษย์นี้ฉลาดและน่าสนใจเกินกว่าจะปล่อยให้ตายไปง่ายๆ สงเคราะห์สักหน่อยคงไม่เสียหาย


   “ถ้าเป็นเจ้าคงไม่ถึงเดือน  แต่ข้าก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าเจ้ามนุษย์พวกนั้นจะยังมีชีวิตอยู่รอเจ้า  หรือเจ้าอาจไปไม่ถึงในสภาพนี้”คำตอบที่ก่อให้เกิดความหงุดหงิดในใจคนฟัง แน่หละหากให้เขาเดินไปมันก็คงไม่นานนักหรอกเพราะการเดินข้ามป่าหากใช้เวลาเดินทางขนาดนั้นก็หมายความว่าป่าบ้าๆนี้อาจเกินพื้นที่มากกว่าค่อนของประเทศถึงใช้เวลาในการเดินทางขนาดนั้นซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นไปได้ยาก ต่อให้ป่าแถบนี้สมบูรณ์แค่ไหนก็ตาม  ซ้ำเจ้างูนั้นยังบอกว่าหากพวกนั้นมีชีวิตอยู่หรือเขารอดไปได้ก็แสดงว่าอยู่ไม่ไกลจากนี้เท่าไหร่อย่างมากถ้าเดินตรงไปแบบราบรื่นอาจกินเวลามากกว่า 10 วันแต่จากคำพูดของมันการเดินทางคงไม่ราบรื่นนัก ป่านี้มันคงไม่ใช่ป่าธรรมดาที่มีแค่กระรอกกับกระต่ายอยู่แล้ว หากเจองูที่แปลงเป็นคนได้เขาอาจเจออะไรมากกว่านั้น


   “ต่อให้ลำบากยังไงก็ต้องหาทางกลับไปให้ได้”ใช่ไม่ว่ายังไงก็ต้องกลับไปให้ได้  กลับไปหาคนๆนั้น


   “ดูท่าเจ้าจะมีคนสำคัญให้กลับไปหาสินะ”


   “ใครๆก็มีคนสำคัญด้วยกันทั้งนั้น”ขายาวๆก้าวเดินอีกรอบโดยมีงูในร่างคนเดินตามมาช้าๆ


   “ไม่มีอะไรทำรึไงห๊ะ”คาเซอริโอถามอย่างเหลืออดเมื่อเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงที่เขาบ่ายหน้าออกมาจากแม่น้ำไปทางทิศตะวันตกก็ยังมีเจ้างูในร่างคนเดินเอื่อยๆตามมา


   “ตอนนี้ยังไม่มี”


   “โว๊ย  มีไม่มีมันก็เรื่องของแกแต่ช่วย...”


กรร!!


   เสียงขู่คำรามทำให้การโต้เถียงหยุดชะงัก  ดวงตาสีเทากวาดมองไปรอบๆตัวดึงใจตัวเองให้กลับมาสงบอีกครั้ง  เสียงขู่คำรามที่ดังมาพร้อมกับเสียงสวบสาบเหมือนบางอย่างที่มีขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนผ่านไปบนผืนหญ้า


   “เจ้าไม่อยากไปทางนั้นแน่”เสียงเตือนจากงูไม่ได้ทำให้ขาที่กำลังก้าวไปในทิศทางตรงข้ามกับเมื่อครู่นั้นชะงัก


   “ฉันอยากไป”


   “ข้าบอกแล้วว่าความบ้าบิ่นของเจ้ามันจะนำพาความลำบากมาให้เจ้า”งูหนุ่มบ่นเอือมๆก่อนจะเดินตามไปช้าๆพร้อมกับเจ้าลูกหมาที่วิ่งจู๊ดตามเจ้ามนุษย์นั้นไปเหมือนกลัวที่จะอยู่ใกล้เขา  ตามดูอีกหน่อยก็ไม่เสียหายอยากรู้เหมือนกันว่าเจ้านั้นจะทำให้เจ้ามนุษย์ตรงหน้ากลัวได้หรือไม่ หรือจะเป็นเจ้ามนุษย์นั้นที่จะทำให้เขาประหลาดใจได้อีกครั้งกันแน่












    มาต่อตอนใหม่แล้วคร๊า  เริ่มเป็นแฟนตาซีขึ้นมาอีกนิดกับการปรากฏตัวของพ่องูคูลาตัส  พ่องูที่มีแฟนคลับเยอะซะจนนางมารยังแอบอิจฉา

    ตอนนี้ลองเว้นวรรคแต่ละช่วงให้ห่างกันมากขึ้นไม่รู้จะอ่านได้ง่ายกว่าเดิมรึเปล่า  ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามแล้วพบกันใหม่ตอนหน้าคะ :bye2:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 4 เรื่องของคนอื่นยิ่งช่วยก็ยิ่งยุ่ง               19/08/2013




   นี้อาจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ซึ่งไม่สามารถนับได้ที่คนอย่างคาเซอริโอ ซิสิอาโน อยากปลุกให้ตัวเองตื่นจากความฝันแต่แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้ตื่นด้วยการตบหน้าตัวเองอย่างที่เคยคิดขึ้นมาก่อนหน้านั้น เพราะมันเจ็บตัวฟรีและเป็นการกระทำที่สิ้นคิดสิ้นดี  ตอนนี้เขารู้อยู่เต็มอกว่าเขาตื่นอยู่และเพิ่งเห็นอะไรประหลาดๆมาอย่างเจ้างูที่แปลงร่างได้และตอนนี้เขากำลังเห็นอะไรที่ดูจะประหลาดกว่านั้นอย่างงูและหมาที่กำลังสู้กันอยู่ 


   โอเคฟังผ่านๆมันอาจไม่ประหลาดแต่มันจะประหลาดเมื่องูที่ว่าไม่ได้ตัวเท่าขายาวเท่ารถ  แต่มันดันตัวใหญ่หนายังกะท่อนไม้ขนาดใหญ่ ถ้าวัดขนาดคงไม่ต่ำกว่า 1 แขนเด็กโอบ ความยาวก็เพิ่มขึ้นแต่เขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันยาวเท่าไหร่ รู้แค่ว่ายาวมาก รวดรายบนตัวก็สวย เป็นสีทองสลับด้วยสีน้ำตาลเกร็ดเลื่อมเป็นมันสะท้อนแสงแดดสวย  และเจ้างูตัวนั้นกำลังรัดเหยื่อของมันอยู่ และเหยื่อของมันที่ว่าก็คือหมาแต่ไม่ใช่หมาตัวจิ๋วเหมือนไอ้ซ๊อคกลับกลายเป็นหมาขนสีน้ำตาลสั้นปานกลาง ใบหูสีน้ำตาลแหลมตั้งชัน  ขนในหูเป็นสีขาว  ขนที่บริเวณเหนือตาลากยาวมาจรดปากเป็นสีขาวสะอาดเช่นเดียวกับขนช่วงท้อง  ดวงตาสีดำกลมอยู่ในเป้าตาที่ค่อนข้างรี  จมูกสีดำค่อนข้างแหลม  หางฟูเป็นฟู่  ขายาวแข็งแรงและมันคงจะดูสง่ากว่านี้ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาพที่ถูกงูรัดและเอาปากข้างหนึ่งงับใต้หัวงูลงมาทำให้งูไม่สามารถเขมือบมันได้


   “โอ๊ะ  นั้น...”เจ้างูข้างตัวมันอุทานออกมาเมื่อเห็นภาพ  หลังจากเจ้าตัวเดินเอื้อยจนมาทัน


   “รู้จักเหรอ”


   “อืม  ไม่แน่ใจเท่าไหร่”เจ้างูคูลาตัสพูดไปแบบนั้นแต่คิ้วสีทองก็ขมวดเข้าหากันแน่นเหมือนคิดอะไรอยู่


   “ที่นี้ดูเหมือนอะไรจะตัวใหญ่กันไปหมดเลยนะ”คาเซอริโอเปรยขณะมองดูเจ้าหมานั้นสู้กับงูที่พยายามรัดมันอยู่โดยการกัดด้วยเขี้ยวแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลเพราะงูยังขยับตัวรัดเรื่อยๆและเหมือนแรงดิ้นมันจะเริ่มแผ่วลง


   “ถ้าเป็นสายพันธุ์สัตว์ประหลาดอย่างที่เจ้าว่า”


   “แล้วเจ้าพวกนั้นแปลงเป็นคนเหมือนแกได้ไหม”


   “แล้วเจ้าคิดว่าไหงหละ”


   “หึ  ถ้าเป็นคนจริงมันคงแปลกพิลึกนั้นแหละ”


   “สัตว์ใหญ่ย่อมกินสัตว์เล็ก”


   “เหมือนพวกมีอำนาจที่รังแกคนอ่อนแอกว่าใช่ไหม”คูลาตัสยิ้มพราย


   “เจ้าไม่เข้าไปช่วยหรือไงอุตสาห์เดินมาดูทั้งที”


   “ไม่ใช่เรื่องนี้ แค่อยากมาดูว่ามีใครพอจะถามทางได้บ้างแต่ดูแล้วถ้าจะไม่มี”คาเซอริโอตอบง่ายๆ ใช่ เขาแค่คิดจะมาดูเท่านั้นแหละ ถึง 2 ตัวนั้นจะแปลงเป็นคนได้แต่คงไม่มีอารมณ์มาตอบคำถามเขาหรอก ถ้าไม่แยกจากกันไปแบบบาดเจ็บไปคนละน้อย ก็คงมีฝ่ายไหนตายไม่ก็กลายเป็นอาหาร แต่ก็ไม่แน่ว่าเจ้าสองตัวนั้นจะมาอารมณ์ดีหยอกล้อกับเขาไม่เหมือนเจ้างูข้างตัวที่มันกินอิ่มแล้วยังอุตสาห์เดินไปล้างเลือดออกจากตัวได้อย่างนี้หรือเปล่า


   “ตอบได้เห็นแก่ตัวดี”


   “ก็คงงั้น  ฉันมันแค่คนธรรมดาจะเอาอะไรไปสู้กับสัตว์ประหลาดอย่างพวกแกได้”


   “นั้นสินะ  แต่ดูเจ้าหนูนั้นจะไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ”คำว่าเจ้าหนูนั้นทำให้คาเซอริโอหันขวับก่อนจะกวาดตามองหาไอ้ขนหยิกสีดำไปทั่ว


   “ไอ้หมาไม่เจียมสังขาน”คาเซอริโอคำรามลั่นในลำคอเมื่อเจ้าหมาที่ว่ากำลังกัดหมับเข้าที่ปลายหางของงูยักษ์อย่างไม่เจียมในขนาดตัวและขนาดเขี้ยวของตัวเอง


   “คนธรรมดาอย่างเจ้าจะเดินไปช่วยเจ้าหนูนั้นหรือปล่อยให้ตายกันหละ”คาเซอริโอมองเจ้าหมาสีดำที่โดนสะบัดครั้งเดียวปลิวเมื่องูพลิกตัวรัดเหยื่อให้แน่นขึ้น เจ้าตัวกลิ้งหลุนๆจนฟุ่บตัวพาให้คนมองอย่างเขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแต่ไม่นานเจ้าตัวก็ตั้งขาขึ้นมาใหม่และวิ่งเข้าไปกัดที่ส่วนหางของงูอีกครั้ง


   “เจ้างี่เง่า”คาเซอริโอกรนด่าหมาที่หาเรื่องไม่เข้าท่าแต่ที่สมควรด่ามากที่สุดคงเป็นตัวเขาเองที่กระโดดเข้ากลางวงต่อสู้ก่อนจะปักมีดลงปนปลายหางใหญ่ ความรู้สึกแรกคือความแข็งก่อนมีดจะทะลุลงไปถึงครึ่งแล้วโดนกระชาก  ปลายหางใหญ่สะบัดพรวดด้วยความเจ็บปวดดีดเอาหมาที่ไม่เจียมตัวลอยหายไปในพงหญ้าและมนุษย์ที่อาจหาญอย่างเขาจนกระเด็นไปตกอยู่บนพื้น  ร่างยักษ์นั้นคลายออกเป็นผลให้เจ้าหมาสีน้ำตาลที่โดนรัดอยู่หลุดออกมายืนโงนเงนอยู่บนพื้น


   “เจ็บครั้งนี้ถือว่าคุ้มจริงไหม”พูดกับตัวเองทั้งๆที่คนพูดเริ่มเครียดเมื่อดวงตากลมโตบนหัวทู่ๆนั้นสะบัดหันมามอง  เห็นลายสีทองและขาวบนหัวยาวทู่นั้นชัดเจน ความรู้เรื่องงูครั้งเคยไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สมัยเด็กถูกเรียกกลับขึ้นมาอย่างกระท่อนกระแท่น เมื่อเขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่างูตรงหน้ามันเป็นประเภทไหนกันแน่ ตอนเจอเจ้างูชื่อคูลาตัสเป็นการเดาสุ่มผสมความบ้าบิ่นล้วนๆที่เขาคิดว่ามันอิ่มแล้วและคงไม่อยากหาอาหารเพิ่มซึ่งมันก็ถูกแต่เจ้าตัวนี้แม้จะแอบคล้ายกับตัวแรกอยู่บ้างแต่ก็มีจุดที่ต่างนั้นคือมันเผชิญหน้ากับเขาในสภาพงูเต็มตัวที่กำลังหิวโซไม่ได้อิ่มเหมือนตัวที่แล้ว


   หัวสีน้ำตาลทองก้มลงตัวแทบจะขนานไปกับพื้น  ลิ้นสีแดงสด 2 แฉกแล่บออกมาในชั่วพริบตาก่อนที่มันจะเลื่อยพุ่งมาตรงหน้าด้วยความเร็วแบบที่คนเห็นต้องเบิกตากว้าง


   “เวรเฮ้ย”คาเซอริโอพุ่งตัวออกไปด้านข้างสุดแรงก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อส่วนหางพลิกม้วนงอจนฟาดเข้าเต็มๆช่วงท้อง ทั้งแน่นจะจุกแถมซ้ำรอยเดิมแม่นแบบน่าฆ่าทิ้ง  มีดในมือกระชับแน่นตาสีเทาจ้องประสานกับตาสีดำที่ปูดนูนออกมาด้านนอก หัวสีทองกลมต่ำก่อนจะเลื่อยเข้ามาอีกรอบด้วยความเร็วที่ทำให้สงสัยในสายพันธุ์ คาเซอริโอเอี้ยวตัวหลบมองตามส่วนหัวที่พุ่งผ่านไปพรางอมยิ้มก่อนจะยิ้มค้างเมื่อส่วนลำตัวใหญ่สะบักพรึบพาดกลางสีข้างจนล้มกลิ้ง  มีดที่อยู่ในมือกระเด็นหลุดออกไปยังไม่ทันจะตั้งหลักส่วนลำตัวก็ตวัดและเริ่มรัดเข้ารอบตัวเขาอย่างรวดเร็ว


   “นรกแล้ว”ร่างสูงดิ้นรนเมื่อแรงรัดมากขึ้นเรื่อยๆแต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนถูกรัดแน่นเข้าเรื่อยๆจนเริ่มปวดร้าวไปรอบๆลำตัวและแขนที่ถูกรัด  ดวงตาสีเทาจ้องประสานกับตาโปนคู่สีดำอีกครั้ง ลิ้นสีแดงสองแฉกแล่บออกก่อนปากทู่ๆนั้นจะอ้ากว้างจนมองเห็นฟันซี่แหลมๆในปากที่พุ่งเข้าหา


   ขาสองข้างที่เป็นอิสระออกแรงถีบเข้าที่ลำตัวงูทำให้ตัวของเขาเบี่ยงออกมาพ้นจากวิถีปากของงูที่รีบเอี้ยวคอกลับมาทันทีที่รู้ว่าพลาด  แรงรัดที่แน่นขึ้นและถูกพลิกในลำตัวอยู่ในแนวขนานกับพื้นทำให้คนโดนงูรัดเริ่มทรมานกับแรงรัดที่มากขึ้นและทางรอดที่น้อยลง


   “อึ่ก...”ดวงตาสีเทาเหลือบมองข้ามศีรษะเห็นปากที่อ้ากว้างและเขี้ยวคมนั้นอีกรอบ  โดนงับที่เดียวรับรองเขาไม่เหลือซากกลับไปแน่  ไม่ตายทันทีก็คงโดนกลืนลงท้อง  ความตายที่คืบคลานอยู่ตรงหน้าไม่ได้ทำให้หวาดกลัวได้เท่ากับความเสียใจที่ผิดสัญญากับคนสำคัญ


กรร!!!


   หัวงูสะบัดออกเมื่อโดนกัดจมเขี้ยวด้วยหมายักษ์ที่น้ำตาล ร่างถูกปล่อยร่วงลงพื้น คาเซอริโอรีบหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดด้วยความรู้สึกที่ร้าวไปทั่วซี่โครง ขาสองข้างวิ่งออกมานอกวงต่อสู้ก่อนจะกวาดตามองหามีดและจับให้กระชับมืออีกครั้ง


   “ถือว่าฉันกับแกหายติดค้างกันแล้วนะเจ้าหมา”แรงที่มีเหลืออยู่น้อยนิดพาตัวเองให้วิ่งกลับเข้าไปอีกครั้ง  หลบหลีกลำตัวที่สะบัดไปมาด้วยความเจ็บปวด  ปักมีดลงบนแผลเดิมที่หางงูจนมิดด้าม


   “อ๊ากกก”ข้อมือทั้งสองข้างจับด้ามมีดก่อนจะออกแรงลากเปิดเป็นแผลยาวขึ้นไปตามลำตัว ปลายหางยักษ์สะบัดเร่าเมื่อส่วนหางถูกมีดที่ยาวเกือบฟุตปาดลึกเป็นทางยาวขึ้นไปกว่าเมตร มันสะบัดห่างพลิกลำตัวจนมนุษย์ที่อาจหาญมาทำร้ายกระเด็นหลุดออกไป  ดวงตาสีดำหันมามองมนุษย์ตัวจ่อยด้วยดวงตาวาวโรจน์ก่อนจะยอมลามือยอบหัวลงต่ำและเลื่อยหนีไป


   “ฮ่าๆ วันที่น่าบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์”คาเซอริโอยิ้มให้ตัวเองก่อนจะพยุงตัวจนสามารถนั่งทับส้นทั้งสองข้างได้แม้จะโงนเงนไปบ้าง  ตามลำตัวมีแต่รอยช้ำและรอยถลอกจากการถูกกระแทกซ้ำ  แผลที่ขาก็เหมือนจะปริจนเลือดซึมแถมทั้งตัวยังอาบไปด้วยเลือดของเจ้างูที่เขาเพิ่งปาดหางมันไป


   “หึ ไง  แกอยากจะสู้กับฉันไหมหละ”ดวงตาสีเทาที่ยังทอประกายแข็งกราวมองเจ้าสัตว์สี่เท้าสีน้ำตาลที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้  แม้จะบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่แต่ถ้าให้สู้กันจริงๆในสภาพนี้คาเซอริโอชักไม่มั่นใจว่าตัวเองจะชนะ


กรร!!


   “หึ จะขู่ทำไมอยากทำอะไรก็เข้ามาเลย”


กรร!! 
 

บรู๋ว!!   


   สิ้นเสียงหอนยาวนั้นเหมือนแว่วเสียงหอนตอบกลับและเสียงสวบซาบของพุ่มไม้ร่างที่ยังโงนเงนหันมองไปรอบตัวก่อนจะถูกบางอย่างพุ่งกระแทกให้ล้มลง  ศีรษะพาดกับพื้น ดวงตาพร่าเลื่อนเห็นเพียงดวงตาสีน้ำตาลของหมาร่างใหญ่ที่จ้องมาก่อนทุกอย่างจะดับวูบไป













    ตอนที่ 4 มาต่อแล้วคะ  ตอนนี้ถือเป็นตอนที่สยองขวัญมากสำหรับคนแต่งเพราะการหาข้อมูลเรื่องงูและนั่งดูรูปงูเป็นร้อยๆรูปมันออกจากน่าขยาดอยู่เหมือนกัน   แต่ถึงขนาดนั้นฉากการต่อสู้ระหว่างงูกับน้องหมาก็ยังคงคลุมเครือ แต่งโดยอาศัยจินตนาการค่อนข้างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่อยากมีเพื่อนเป็นผู้เชียวชาญเรื่องงูสักคนคะ


ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 5 ขีดสุดความอดทนของคนเป็นมาเฟีย                                                                    28/08/2556



           บางทีเมื่อคนเราฝันร้าย  เราพยายามให้ตัวเองตื่นจากฝันร้าย  เฝ้าบอกตัวเองว่าตื่นๆ จงตื่นขึ้น บางทีก็สำเร็จแต่ส่วนมากจะไม่สำเร็จหรอก ถึงอย่างนั้นก็น่าแปลกที่ความจำของมนุษย์เหมือนจะถูกสั่งให้ลืมเรื่องร้ายๆพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย  พอตื่นขึ้นมาเรื่องที่ฝันร้าย น่ากลัวนักหนาก็กลายเป็นความทรงจำที่เลือนราง คาเซอริโอ ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นที่ชอบฝันร้ายแม้ไม่บ่อยแต่เมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็ลืมทุกอย่างได้อย่าง่ายดาย  อ๊า  นั้นสินะ  ก็แค่ฝันตื่นหนึ่งเท่านั้น  แค่ฝันร้ายแค่คืนเดียวเมื่อเช้าและเขาตื่นขึ้นทุกอย่างจะเลือนรางและหายไปทั้งเรื่องป่าบ้าๆที่เขาโผล่มา  ปีศาจงูที่กลายร่างเป็นคน  หมาตัวเขื่องที่กัดกับงูยักษ์ ลืมตาขึ้นมาเขาคงกลับไปอยู่ที่ริโอหรือไม่ก็อิตาลี อืม เตียงนอนนี้มันนุ่มจริงๆนะ  ถึงจะรู้สึกว่าเล็กไปสักหน่อย อืม ก็เตียงที่ห้องเขาเป็นเตียงคิงไซต์ที่สั่งทำพิเศษนี่นะ เอ๊ะ


               เปลือกตาที่ขยับยุกยิกอยู่หลายนาที เปิดขึ้นอย่างเชื่องช้าก่อนจะกระพริบปริบๆเพื่อปรับโพกัสให้เด่นชัดขึ้น  ภาพเบื้องหน้าที่เห็นไม่ใช้เพดานสีเทาควันบุหรี่ของห้องนอนที่น่าจะคุ้นเคย และไม่ใช่เพดานสีขาวเรียบแบบที่น่าจะเห็นได้บ่อยๆตามโรงแรม  แต่กลับเป็นเพดานไม้  ไม้ที่เหมือนเปลือกหรือลำต้นของต้นไม้ที่แซมไปด้วยไม้แผ่นขนาดเล็กตีเรียงกันไม่ค่อยเป็นระเบียบเกิดเป็นช่องว่างให้แสงสีส้มทอดผ่านรอยแยกเข้ามาในห้อง 


                มาเฟียหนุ่มรีบผุดลุกขึ้นรู้สึกมึนวูบจนต้องเอนหลังพิงหัวเตียงที่ให้สัมผัสประหลาดจนอดหันไปดูไม่ได้ สิ่งที่เขาพิงไปเมื่อกี้คือส่วนของแผนไม้ที่มีขนาดใหญ่จนน่าเหลือเชื่อตีขนาบไปด้วยแผ่นไม้ขนาดกว้างประมาณหนึ่งฝ่ามือ  ส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นเตียงเขานั้นเหมือนโพรงไม้ขนาดใหญ่รูปครึ่งวงกลม ที่เอาไม้กระดานมาตีปิดรอยแตกไว้ ความกว้างน่าจะประมาณ 3 ฟุต ส่วนความยาวคงราวๆ 5 ฟุตครึ่ง ซึ่งคงยาวไม่พอสำหรับคนที่สูงกว่า 6 ฟุตอย่างเขา เตียงนอนแม้จะนุ่มแต่ก็ไม่ได้นุ่มจากใยสังเคราะห์หรือขนเป็ด มันน่าเป็นอย่างอื่นซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ตัวที่นอนเป็นสีน้ำตาลออกแดงเหมือนสีเปลือกไม้ หมอนที่หนุนอยู่ก็น่าจะยัดสิ่งเดียวกับที่นอนแต่ยัดเอาไว้แน่นกว่ามาก ส่วนผ้าห่มก็เป็นผ้าเนื้อหยาบที่ไม่ค่อยนุ่มผิวสีน้ำตาลเหมือนกันแต่อุ่นน่าดู


   “ที่นี้มันที่ไหนอีกว่ะ”คาเซอริโอพึมพำเมื่อรู้สึกตื่นเต็มตาและออกจะงงๆกับสถานที่ใหม่ของตัวเอง


   “ตื่นแล้วหรือคะ”เสียงหวานใสเรียกให้ดวงตาสีเทาตวัดมามองก่อนจะหรี่ตาให้กับแสงจ้าที่ส่องเข้ามาพร้อมกับเงาร่างของคนๆหนึ่ง


   “ท่านหลับไป 3 วันเต็มๆ ไข้ขึ้นสูงมากจนข้ากังวลไปหมดกลัวว่าท่านจะเป็นอะไรไป ดีจังเลยนะคะ ที่ในที่สุดก็ตื่นขึ้นมาสักที”คนพูดร่ายประโยคยาวๆออกมาก่อนจะยกเอาถังน้ำมาวางไว้ข้างเตียง


   “ที่นี้ที่ไหน”คาเซอริโอคว้าบีบแน่นที่ข้อแขนเล็ก ดวงตาสีเทาเป็นประกายโรจน์


   “อ๊ะ  ที่นี้คือบ้านของข้าเองคะ”หญิงสาวตอบเสียงสั่นเมื่อแรงบีบที่แขนมากเกินกว่าความคาดคิด


   “เธอเป็นใคร”


   “ข้าเป็นพี่สาวของชินอู  น้องชายข้าที่ท่านช่วยไว้ยังไงหละคะ  ที่นี้เป็นบ้านของข้าท่านไม่ต้องกังวลไปหรอกคะ  ที่นี้ปลอดภัยพักให้สบายเถอะนะคะ”ฝ่ามือขาวข้างที่ไม่ถูกจับกุมยกขึ้นตบบนมือใหญ่เบาๆเหมือนให้กำลังใจ


   “ขอโทษ เจ็บรึเปล่า”คาเซอริโอรีบปล่อยมือออกจากข้อแขนที่เริ่มแดงเพราะแรงบีบ


   “ไม่หรอกคะ  ข้าผิดเองที่ทำให้ท่านตกใจ ท่านเพิ่งฟื้นไข้ขึ้นมาแท้ๆ”รอยยิ้มสว่างใสเล่นเอาคนมองตาพร่า  อ่าช่างสวยงามจริงๆ  นี้เขาพลาดไปได้ยังไงนะถึงไม่สังเกตเห็นถึงความสวยของคนตรงหน้า


   เปลือกตาบางกระพริบปริบๆก่อนจะมองคนตรงหน้าให้ชัดๆ  เส้นผมสีน้ำตาลยาวล้อมกรอบใบหน้าเรียวยาวได้รูป  คิ้วสีน้ำตาลโก้งโค้งเล็กน้อย  จมูกโด่งจิ้มลิ้ม  ดวงตากลมโตสีน้ำตาลสดใส ริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่เมื่อยามแย้มยิ้มจะเห็นฟันสีขาวเรียงกันเป็นระเบียบเป็นยิ้มที่ทำให้โลกสดใส  ลำคอเรียวระหงมีเส้นเชือกสีน้ำตาลห้อยไว้ด้วยหินสีแดงรูปหยดน้ำเม็ดเล็ก  ลาดไหล่เล็กภายใต้เสื้อแปลกตาที่ดูเหมือนชุดคลุมอาบน้ำที่ทำจากผ้าเนื้อหนาสีน้ำตาล  คาดทับให้แน่นหนาด้วยเส้นเชือกสีน้ำตาลจากใต้ทรวงอกที่ดุนดันเนื้อผ้าให้นูนออกมา  กะด้วยสายตาคงประมาณคัพซีขึ้นไปหละนะ อืมเสื้อตัวในนั้นก็ดูเหมือนเกาะอกเล็กๆ เส้นเชือกที่สานกันอยู่ใต้อกยาวลงมาจรดหน้าท้องเน้นให้เห็นเอวบางคอดกิ่วที่คงกอดได้พอดีมือ ต่ำลงมาก็สะโพกพายได้รูปใต้กระโปรงพลิ้วๆสีน้ำตาลที่ยาวลงมาจนแทบจรดพื้น น่าเสียดายจริงๆ    ที่ไม่ได้เห็นขาสวยแต่ดูจากท่อนแขนกลมกลึงนอกแขนเสื้อสั้นๆนั้นก็คงขาวน่าดู


   “เอ่อ..คือ..”เสียงหวานเอ่ยติดขัดเมื่อรู้สึกว่าดวงตาสีเทาคู่คมนั้นกวาดมองเธอไปจนทั่วร่าง


   “อ๊ะ ขอโทษที่เสียมารยาท  ผมคาเซอริโอ”คาเซอริโอรีบฉีกยิ้มเจือประกายขอโทษเมื่อเห็นสาวเจ้าหน้าแดงด้วยความเขินอายที่ถูกเขาจ้องไปทั่วเรือนร่างก็นะ  เดาจากหน้าตาอายุคงประมาณ 20 ต้นๆ เท่านั้นกำลังดีเลยทีเดียว


   “อ่ะคะ  ข้าชินริคะ  เป็นพี่สาวของชินอู”หญิงสาวก้มตัวน้อยๆทำให้ผมสีน้ำตาลที่มัดเป็นเปียไว้ข้างหนึ่งโค้งลงมาเบื้องหน้าและทำให้มีโอกาสเห็นทรวงอกขาวๆที่เบียดอัดกันอยู่ อืม  คัพซีจริงๆด้วย


   “ชินอูงั้นเหรอ”แล้วไอ้เด็กที่ชื่อชินอูนั้นมันใครกัน  ไปเผลอช่วยไว้ตอนไหนอีกหละนั้น


   “อ๊ะ  ท่านอาจจะจำไม่ได้  อืม  ตอนนี้ชินอูก็ออกไปข้างนอกซะด้วยสิ  เดี๋ยวเขากลับมาแล้วข้าจะรีบพาเขามาขอบคุณท่านนะคะ จริงสิ  ท่านเพิ่งตื่นยังไงก็เช็ดตัวก่อนดีกว่านะคะ   ข้านำน้ำเข้ามาให้แล้ว  ท่านเพิ่งซ่างไข้อย่าเพิ่งอาบน้ำเลยดีกว่า  แล้วเดี๋ยวข้ายกอาหารกับยาเข้ามาให้นะท่านเออ  คาเซอ..”


   “หึหึ  เรียกคาโลก็ได้ ขอบคุณนะที่ช่วยดูแลมาตลอด”คาเซอริโอยิ้มถือโอกาสคิดเอาว่าหญิงสาวแสนสวยตรงหน้าเป็นคนดูแลตนเองมาตลอดช่วงเวลาที่ไข้ขึ้น


   “อ๊ะ  ไม่ลำบากอะไรหรอกคะ  ท่านเองก็เป็นผู้มีพระคุณ  เออ  ยังไงข้าขอตัวก่อนนะคะ”หญิงสาวโค้งตัวเร็วๆก่อนจะวิ่งจู๊ดหน้าแดงออกไปนอกห้อง


   “หึหึ  ไร้เดียงสาจริงๆนะ”คาเซอริโอยิ้มขำให้กับหญิงสาวที่เขินจนหน้าแดงเมื่อเห็นช่วงบนเปลือยเปล่าของเขาภายใต้ผ้าห่มที่เลื่อนลงมาได้ถูกจังหวะ มันทำให้นึกเอ็นดูน่ารักน่าแกล้งมากกว่าคิดในเชิงชู้สาวซะแล้วสิ


   ดวงตาสีเทามองถังน้ำเตี้ยๆที่ทำมาจากไม้ที่น่าจะชันรอบๆด้วยยางไม้เพื่อไม่ให้มีรอยรั่วก่อนจะก้มลงมองแผลที่ช่วงอกและช่วงท้อง  ยังมีจุดม่วงจ้ำๆจากรอยช้ำที่เขาน่าจะได้มาจากการสู้กับงูเพื่อช่วยเจ้าหมานั้น  พูดถึงช่วงก็ชวนให้นึกถึงคำพูดของผู้หญิงคนนั้นหึ  หวังว่าน้องชายของชินริจะไม่ใช่เจ้าหมานั้นหรอกนะ  หึ  คิดไปก็เท่านั้นแหละ  ยังไงตอนนี้เขาก็ปลอดภัยแล้วในบางส่วนแถมอาการที่ดีขึ้นมาก  ไอ้ใบไม้เขียวๆที่ถูกทำให้ละเอียดแล้วโปะไว้ตามตัวพวกนี้คงเป็นยาดีที่ทำให้เขาหายได้เร็ว แผลถูกยิงที่ขาขวาก็เหมือนจะดีขึ้นมาก  พักอีกไม่กี่วันคงหายคงต้องขอบคุณชินริแล้วสิ  ตอนนี้ขอพักให้สบายก่อนตื่นอีกรอบค่อยว่ากัน สังหรณ์ว่ามันคงต้องมีเรื่องเข้ามาอีกเพราะฉะนั้นนอนเก็บแรงไว้คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด





========================================





   เรื่องยุ่งๆที่คิดว่าจะมาก็มาไวดังใจคิด  หรือบางทีมันอาจจะไวเกินไปเมื่อเขาหลับได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ถูกปลุกด้วยเด็กหนุ่มที่สูงเพียงแค่อกเขาพร้อมแนะนำว่าตนเองคือชินอู  เจ้าหมาที่เขาเพิ่งเสี่ยงชีวิตไปสู้กับงูเพื่อช่วยมันมา  ความจริงที่รู้เหมือนโดนไม้ตีแสกหน้า มันทั้งอึ้งทั้งมึนงงและสังหรณ์แบบแปลกๆ ใช่  สังหรณ์แปลกๆนั้นโดยเจ้าเด็กชินอูที่ลากเขาออกมาและเอามาทิ้งไว้กลางดงหมา หมาที่แปลงเป็นคนได้  ตัวผู้ทั้งนั้น  นอกจากจะไม่เจริญหูเจริญตาแล้วยังชวนเส้นเลือดในสมองแตกอีกด้วย


   “ข้าสนับสนุนให้จับขังเอาไว้ก่อน ยังไงมนุษย์ก็ไว้ใจไม่ได้”เสียงดังชวนเอาลูกปืนกรอกปากดังมาจากเจ้าตัวทางด้านขวา  เจ้าตัวผอมสูงโย่ง  หัวสีเทาจางชี้ฟูเหมือนหัวนกแก้ว  หางตาและคิ้วที่ชี้ขึ้นบอกได้คำเดียวว่าไม่ค่อยเข้าตาคาเซอริโอสักเท่าไหร่


   “ข้านึกว่าเจ้าจะเสนอให้ฆ่าซะอีก”อีกเสียงดังมาจากทางด้านซ้ายคน(หมา)ที่พูดยืนพิงต้นไม้ด้วยท่าทางสบายๆชวนยียวนแบบที่เส้นอารมณ์ของคาเซอริโอได้แต่กระตุกยิกๆ


   “ฆ่าไม่ได้นะคะ”เสียงหวานที่แทรกขึ้นมาของชินริทำให้คาเซอริโอแอบใจชื้นที่ได้ยินเสียงหวานๆบ้างท่ามกลางเสียงแตกๆทุ้มๆที่ฟังไม่เจริญหูโดยเฉพาะยามที่พวกมันกำลังพูดเรื่องของเขาอยู่โดยไม่ถามความเห็นจากเขาแม้แต่น้อย


   “ก็นั้นแหละ อย่างที่ชินริพูด ฆ่าไม่ได้เพราะอย่างน้อยเจ้านั้นก็ช่วยชินอูไว้”เจ้านกแก้วหัวเทาพูดขึ้น  เมื่อดูเหมือนว่าเรื่องที่เขาหาเรื่องใส่ตัวจะเป็นเหมือนโชคช่วยให้ถูกมองดีขึ้นหรือคิดได้อีกอย่างคือมันกำลังพยายามเอาใจชินริ


   “มันอาจจะไม่ใช่การช่วย  ไม่เคยมีมนุษย์น่าโง่ที่ไหนออกมาช่วยพวกเรา”เจ้าตัวที่ยืนพิงต้นไม้เถียงขึ้นมาอีกรอบ เหอะ อยู่ดีๆเขาก็ถูกยกตำแหน่งมนุษย์หน้าโง่ให้


   “แล้วเจ้าจะให้ทำยังไง  หรือต้องฆ่าเจ้าถึงจะพอใจ”เจ้านกแก้วหัวเทาสวนขึ้นบ้างด้วยเสียงที่เริ่มจะมีแววโมโห


   “ถ้านั้นเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกตนในกลุ่ม”


   “ไม่ได้นะคะท่านวูฟเทอรีน”ชินริพูด ดวงตาสีน้ำตาลเริ่มคลอไปด้วยน้ำตา


   “ข้าเข้าใจความรู้สึกเจ้าแต่เราปล่อยเจ้านั้นไว้ไม่ได้”วูฟเทอรีนพูดขึ้น


   “เลิกงี่เง่ากันได้แล้วโว๊ย”มนุษย์คนเดียวในกลุ่มตะโกนออกมาด้วยความเหลืออด เส้นเลือดในสมองเต้นตุบๆ เมื่อเส้นอารมณ์ขาด ใครบอกว่าคาเซอริโอ ซิสิอาโน เป็นคนความอดทนเป็นเยี่ยม  ปรับตัวได้เก่ง ตัวเองมาโผล่ที่ไหนไม่รู้ก็ยังไม่โวยวาย  เจองูแปลงเป็นคนได้ยังคุยสนิทสนม  โดดเข้าไปสู้กับงูยักษ์ได้โดยไม่เกรงกลัว ใครมองแบบนั้นก็คิดผิดถนัด  เพราะถ้ามันแค่ช่วงแรกๆ หรือมีไม่กี่เรื่องก็คงไม่เท่าไหร่  แต่หลายๆเรื่องเข้ามันก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน และตอนนี้ความอดทนของเขามันก็มาถึงขีดสุดแล้ว


   “เหอะ  ปล่อยไว้ไม่ได้บ้างหละ  ต้องฆ่าให้ตายบ้างหละ ต้องขังเอาไว้บ้างหละ ถุย ไอ้ที่พูดๆไปนั้นนะถามฉันบ้างรึยังห๊ะ ว่าอยากตาย อยากโดนขังเหมือนที่พวกแกว่ารึเปล่าไอ้ลูกหมาเอย”ทั้งการถมน้ำลายและการพูดด่าว่าพวกมันเป็นลูกหมาเหมือนจะทำให้พวกมันอึ้งได้บ้างที่เจอพฤติกรรมชวนสั่งสอนให้หลาบจำจากมนุษย์คนหนึ่ง


   “ท่านคาโลคะ”เสียงชินริเรียกอ่อยๆที่ข้างหลัง


   “เงียบซะชินริ  นี้ไม่เรื่องของเธอ ฉันช่วยชินอูไม่ได้คิดถือเป็นบุญคุณ อนาคตฉัน  ฉันตัดสินได้เองไม่ต้องให้ใครมาคิดแทน”ดวงตาสีเทากวาดมองบรรดาหมาปีศาจรอบข้างนิ่ง


   “ปากกล้าเหลือเกินนะ”เจ้าคนที่ยืนพิงต้นไม้ที่บังเอิญรู้ว่าชื่อวูฟเทอรีนพูด


   “รนหาเรื่องแท้ๆ”เจ้านกแก้วหัวเทาพูดบ้าง


   “จะรนหาเรื่องไม่รนหาเรื่องเดี๋ยวก็รู้”ร่างที่นั่งติดอยู่กับพื้นมาตลอดผุดลุกขึ้น  มือที่ถูกจับมัดไพล่หลังด้วยเชือกสะบัดออกพร้อมเชือกที่ร่วงลงจากพื้น  เจ้าตัวที่อยู่ใกล้เขาที่สุดผวาลุกขึ้นตามก่อนจะพุ่งเข้ามา


   “ช้าไปแล้วไอ้หนู”คาเซอริโอยกยิ้มเหี้ยมเอี้ยวตัวหลบฟันศอกเข้าเต็มหลัง  หมุนตัวพร้อมตวัดขาซ้ำที่กลางหลังจนทรุดฮวบ  ร่วงไปหนึ่งจุดประกายให้ที่เหลือ  เจ้าตัวทางขวาอีกคนกระโจนเข้าหาพร้อมกงเล็บที่ตวัดวูบ  เฉียดแก้มจนได้เลือดซึมออกมา


   “ไม่เบานี้หว่า”มือขาวยกขึ้นปาดเลือดที่แก้มก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ข้อมือแล้วออกแรงทุ่มมันลงไปนอนที่พื้น  ขาในรองเท้าหนังเนื้อดีกระทืบเข้าเต็มยอดอกก่อนจะเสยปลายคางหวังให้น๊อคแต่เหมือนคางของหมาปีศาจจะแข็งกว่ามนุษย์จึงทำได้แค่สร้างความมึนงงแต่คนออกแรงทุ่มถึงกับเจ็บแปลบไปทั่วร่างกาย บ้าเฮ้ย แผลยังไม่หายดีแล้วยังต้องออกมาออกแรงแบบนี้อีก สงสัยต้องรีบแล้ว


   “อยากเจ็บตัวก่อนก็ไม่บอก”เจ้านกแก้วหัวเทาพุ่งเข้ามาพร้อมกงเล็บแหลมในมือ


กึก!!


   “ชิ”มีดด้ามยาวในมือทอประกายวาววับท้าทายศัตรูที่หลบฉากได้ทันก่อนมีดจะบั้นเข้าที่ข้อมือ


   “ของฝากนะ คมดีใช่ไหมหละ”แม้จะหลบการถูกฟันข้อมือขาดได้สำเร็จแต่เล็บยาวที่กางออกมาเมื่อครู่ก็โดนตัดจนทื่อ และเขาหวังว่ามันจะไม่งอกเร็วนัก


   “เป็นเพียงแค่มนุษย์คิดว่าจะสู้เผ่าพันธุ์ปีศาจอย่างพวกเราได้รึไง”วูฟเทอรีนเริ่มขยับตัวบ้าง บรรดาหมาปีศาจตัวอื่นๆเมื่อเห็นวูฟเทอรีนกับเจ้านกแก้วขยับก็เริ่มตีวงออกห่างเป็นเพียงการคุมเชิง  เหมือนเจ้า 2 ตัวนี้จะแน่อยู่ไม่เบาพวกมันถึงได้ขยับออกห่างเป็นการให้เกรียติหรือไม่ก็รอซ้ำเมื่อเจ้า 2 ตัวนั้นพลาดท่า


   “อยากรู้ก็เข้ามา”วูฟเทอรีนตอบรับคำท่าด้วยการโค้งหลังลงต่ำ ใบหูแบบมนุษย์กลายเป็นใบหูแหลมที่มีขนสีน้ำตาลแซมเหมือนหูหมา  ใบหน้าและลำตัวมีขนสีน้ำตาลยาวขึ้นทั่ว  กรงเล็บในมือยืดยาวออก แปลสภาพไปคล้ายๆกับมนุษย์หมาป่า


กรร!!


   รูปร่างใหญ่โตของมนุษย์หมากระโดดเข้าหาคาเซอริโอที่รีบเอี้ยวตัวหลบมีดในมือถูกจับให้กระชับแน่น  รอรับการพุ่งตัวเข้ามาหาอีกครั้ง


   “เปลี่ยนร่างได้น่าเกลียดดีนี้หว่า”กรงเล็บข้างหนึ่งพุ่งตะปบเข้าหา คาเซอริโอเอี้ยวตัวหลบอีกรอบ รอยยิ้มที่มุมปากกระตุกขึ้น  ความตื่นเต้นที่ทำให้เส้นเลือดในสมองกระตุกมันสนุกน้อยซะเมื่อไหร่


   ร่างของมนุษย์หมาที่พลาดเป้าเอี้ยวตัวกลับมา ย่อตัวจนเหมือนยืนสี่ขา แรงดีดตัวจากขาทั้ง 4 ทำให้การเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ปากที่อ้ากว้างทำให้เห็นเขี้ยวแหลมที่ยืนยาวจนน่ากลัวว่าหากถูกกัดคงกลายเป็นโรคพิษสุนัขบ้า คาเซอริโอยิ้มเหี้ยมก่อนจะเอี้ยวตัวหลบไปทางขวามีดในมือตวัดวูบเฉือนรอยไว้บนหลังมนุษย์หมาที่พลิกตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียดแผลจึงไม่ลึก เงาร่างที่วูบไหวทางด้านหลังทำให้คาเซอริโอต้องเอี้ยวตัวกลับ ดวงตาสีเทาทันเห็นกงเล็บยาวที่ยื่นออกมาก่อนมันจะหวดเข้ากลางหลัง  ขาของเหยื่อจึงตวัดวูบเข้ากลางลำตัวมนุษย์หมาหัวนกแก้ว หลบได้แต่ไม่ทั้งหมด สัมผัสเหนอะที่แผ่นหลังตามมาด้วยความแสบของแผล แผลไม่ลึกเท่าไหร่ แต่มันคงทำให้เขาเคลื่อนไหวได้ช้าลง


กรร!!


   เสียงขู่ขำรามจากด้านหลังดังขึ้น คาเซอริโอออกแรงกระโดดหนีการปะทะ  มนุษย์หมาที่พุ่งตัวพลาดตะกุยขากับพื้นเอี้ยวตัวกลับ พุ่งเข้าหา ขายาวตวัดวูบแต่มนุษย์หมาเอี้ยวตัวหลบได้ มีดในมือฟาดเป็นวงไปด้านข้าง  พร้อมกับกรงเล็บที่พุ่งเข้ามา


   “พอได้แล้ว”เสียงตวาดดังก้องจากหนึ่งในฝูง  มนุษย์หมาวูฟเทอรีนหยุดกึกเพราะมือที่คว้าเข้ากลางลำคอกับปลายมีดที่จ่อติดหน้าอก ส่วนอีกตัวถูกหยุดด้วยฝ่ามือที่กระชากไหล่ทั้งสองข้างเอาไว้


กรร!!


   มนุษย์หมาครางในลำคอด้วยความไม่พอใจ ดวงตาตวัดมองผู้หยุดตนเองด้วยการคว้าเข้าเต็มลำคอเช่นเดียวกับคาเซอริโอที่มองเจ้าตัวที่สอดมือมายุ่งด้วยความหงุดหงิด


   “หัวหน้าบอกให้หยุด  ข้าก็เลยช่วยหยุดให้”เจ้าตัวยุ่งบอกเสียงร่าเริงก่อนจะหันมายิ้มกว้างส่งประกายตาวิบวับในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นให้คาเซอริโอ ใบหน้ายิ้มแย้มที่ไม่ได้เข้ากับการกระทำที่คว้าจับได้รุนแรงจนเจ้าหมาที่ถูกคว้าคอถึงกับไอคอกแค่กเพราะขาดอากาศ


   “หึ ยุ่งจริงนะ”คาเซอริโอบ่นด้วยความเสียดายปนโล่งอก  ถ้าเสียงเมื่อกี้ไม่ดังขึ้นเจ้ามนุษย์หมาที่ชื่อวูฟเทอรีนอาจได้ตะปบเขาและถูกมีดในมือเขาเสียบทะลุอก ส่วนเจ้าหัวนกแก้วข้างหลังคงได้พุ่งเข้ามาหาตัวเขาพอดี  สถานการณ์ 1 ต่อ 2 ที่ไม่รู้ว่าใครจะชนะทำให้รู้สึกเสียดายปนโล่งอกนิดๆไม่ได้


   “เจ้าต้องการอะไร”เจ้าตัวที่น่าจะเป็นหัวหน้าซึ่งนั่งเงียบมานานพูดขึ้นบ้างหลังจากหยุดมวยคู่เอกให้แยกย้ายกันไปคนละมุมได้  ดวงตาสีแดงจ้องมองเขานิ่ง  ก็นะ กว่าจะพูดออกมาได้นึกว่าเป็นใบ้ไปซะแล้ว


   “ออกไปจากที่นี้”


   “ไม่ได้นะคะ  ร่างกายท่าน..”


   “เงียบก่อนชินริ”เจ้าตัวหัวหน้าหันไปปรามก่อนจะกลับมาจ้องหน้าคาเซอริโออีกครั้ง


   “ตามกฎของเราแล้ว  เราไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกมนุษย์  หากถูกรุกรานเราคงต้องป้องกันตัว แต่ในกรณีเจ้าได้ช่วยชินอูเอาไว้ถือเป็นกรณีพิเศษ  หากเจ้ามีเจตนาบริสุทธิ์ การขอออกไปของเจ้าคงไม่ใช่เรื่องยากที่ทางเราจะอนุญาตให้ได้  แต่ตอนนี้กลุ่มของเรามีปัญหาบางอย่างจึงไม่สะดวกที่จะให้ใครเข้าออกได้ในเวลานี้หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”คำพูดฟังแล้วอาจสวยหรู แต่ประเด็นจริงๆในความหมายนั้นคือ  หากเป็นปกติเจอมนุษย์เข้าคงฆ่าทิ้งเพราะมนุษย์กับปีศาจก็ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกันอยู่แล้ว  แต่ตอนนี้ติดปัญหาบางอย่างอยู่ ซึ่งเขาก็ยังไม่รู้ว่าเป็นปัญหาจริงหรือปัญหาหลอกๆที่พวกมันอ้างขึ้นมาเพื่อขอกักตัวเขาเอาไว้ในกลุ่ม  ทำนองว่าฆ่าทิ้งก็ไม่ได้ แต่จะปล่อยให้ออกไปลอยนวลข้างนอกในตอนนี้ก็ไม่ได้


   “แล้วไง  จะจับฉันขังไว้หรือเอาโซ่ล่ามดี”คาเซอริโอมองนิ่ง  มีดในมือยังคงจับแน่นท่าทางที่พร้อมต่อสู้บอกให้รู้ว่าเขาจะไม่ยอมโดนจับขังกรงหรือลามโซ่แบบหมาแน่ๆ


   “คงต้องขอกักตัวเจ้าเอาไว้สักพัก  ส่วนวิธีการ...”


   “จับขัง..”


   “ข้าดูแลให้เอง”เสียงเจ้าหัวนกแก้วถูกขัดด้วยอีกเสียงที่ดังกว่า


   “นะทิเบอริส  ให้ข้าดูแลเอง”เจ้าตัวที่พูดยิ้มกว้างหน้าระรื่นได้ขัดกับสถานการณ์รอบด้านเป็นที่สุด  ไอ้ตัวที่เป็นคนกระชากคอวูฟเทอรีนออกไปนั้นแหละ


   “เจ้ามั่นใจว่าทำได้งั้นเหรอ”


   “อืม  คิดว่านะ  ถ้าไม่ไหวยังไงก็มีเยอร์เซ็พ แล้วก็พวกเจ้าคอยดูนี้”ดวงตาสีแดงของหัวหน้าเผ่ามองคนพูดก่อนจะถอนหายใจเบาๆ


   “ตามนั้น”เสียงคัดค้านดังขึ้นเบาๆแต่มันไม่เข้าหูคาเซอริโอที่ตวัดไปมองเจ้าหมาตาสีน้ำตาลที่ราวกับรู้ว่าตัวเองถูกจ้องจึงได้หันมายิ้มให้  ด้วยดวงตาเป็นประกายที่เรียกให้คาเซอริโอปวดขมับๆตุ้บๆ และวิงเวียนขึ้นมาทันทีก่อนจะล้มฟุ่บลงไปกองกับพื้นโดยมีรอยยิ้มนั้นติดตามไป












     ตอนใหม่มาแล้วคะ เป็นการเปิดตัวเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลคู่ใส่เเจ่วผู้จะมาทำคะแนนเรียกร้องความสนใจจากคาโลของเรา

     แหมๆตอนโผล่มาตอนแรกๆไม่รู้ทำไมน้องหมาของเราถึงได้บ๋องแบ๋วน่ารักแบบนี้นะ

     แต่เขียนๆไปชักรู้สึกว่าทั้งเจ้าเล่ห์ทั้งน่าแกล้งยังไงก็ไม่รู้สิ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าคะ

         

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
กรี๊ดๆ คาโลคะ นายยังเป็นคนอยู่ป่ะ? ทำไมโดนไล่ฆ่าที่ริโอ สลบจนตื่นมาที่ป่า
เจองูแปลงร่างได้ ช่วยหมาที่กำลังสู้กับงู สลบต่ออีก3วันก็มีคิวบู้กับมนุษย์หมา
ถามจริง นายทำได้ไง อึดไปไรไปป่ะ 555555 เรื่องนี้น่าสนใจมากๆเลย
ภาษาสวย อธิบายซะเห็นภาพเลย คิวบู้ก็มันส์ได้ใจมากด้วย ชอบจังเลย
มาต่ออีกไวๆนะคะ เราจิปูเสื่อรออ่านน้า > 0 <

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 6 ไม่ได้มีมนุษย์แค่คนเดียวในกลุ่มหมาปีศาจ                           29/09/2556
                              12/05/2557









   “จะเป็นอะไรมากไหมคะหมอ”


   “อืม  แผลก็หนักเอาการทีเดียว ร่างกายก็สะบักสะบอมมากอยู่แล้ว  แต่เขาเองก็แข็งแรงมาก คงไม่เป็นอะไรไปง่ายๆหรอกครับ”เสียงใคร น่ารำคาญจริงๆ


   “คะ”


   “ถ้ายังไงรบกวนไปต้มน้ำเตรียมยาให้หน่อยแล้วกันนะครับ”


   “ได้คะ”เสียงเหมือนใครสักคนเดินออกข้างนอกแล้วความเงียบสงบก็กลับมาเยือน


   “เฮ้อ  คุณนี้ก็หาเรื่องเก่งจริงๆนะครับ ผมยังไม่เคยเห็นใครบ้าบิ่นแบบคุณมาก่อนเลย”


   “งั้นก็เห็นซะสิ”ดวงตาสีเทาลืมพรึ่บมือทั้งสองข้างจับยึดข้อมือคนพูดก่อนจะเหวี่ยงลงบนเตียงและตรึงไว้แน่น เจ้าตัวที่บังอาจขโมยช่วงเวลาการนอนอันสงบสุขของเขา


   “แกเป็นใคร”คาเซอริโอถามเสียงเหี้ยม ในใจคิดถึงเจ้าปืนลูกรักถ้ามีเขาคงได้เอามาจี้สมองมันไปแล้ว


   “อะ  เออ ผมเป็นหมอครับ ชื่อฮิโตะ  ยังไงปล่อยผมก่อนดีกว่าไหม”เจ้าคนเอเชียตรงหน้าพูดเสียงสั่น  ตาดำๆคู่นั้นไหวระริก เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นที่ไรผมสีดำ


   “หมอ  เป็นคนหรือพวกปีศาจ”คาเซอริโอถามด้วยความไม่แน่ใจ  เพราะตั้งแต่มาโผล่ที่นี้เขาเห็นปีศาจกลายเป็นคนก็มาก  ไอ้บ้าที่บอกว่าตัวเองเป็นหมอตรงหน้าอาจเป็นพวกปีศาจแปลงมาก็ได้


   “ผมเป็นคนครับ  มาจากญี่ปุ่น คุณน่าจะรู้จัก”


   “หืม  ญี่ปุ่น”


   “อ๊ะ  japan นะครับ”คิ้วเข้มบนใบหน้าคนฟังขมวดฉับก็พอจะเคยได้ยินมาบ้าง


   “แกอยู่ที่นี่กับหมาพวกนี้ได้ยังไง”สมองคนถามเริ่มแล่นฉิว ถ้าเขาไม่ใช่คนเดียวที่อยู่ท่ามกลางพวกปีศาจเขาอาจจะได้คำตอบถึงสาเหตุบ้าๆที่ทำให้เขามาโผล่ที่นี้ก็ได้


   “อ๊ะ  ผมก็จำไม่ค่อยได้ด้วยสิครับ  มันนานเหมือนกันนะ  แต่ยังไงช่วยปล่อยผมก่อนได้ไหมจะได้ทำแผลให้คุณต่อ”พูดถึงแผลความเจ็บก็แล่นแปลบมาจากกลางหลังแต่ก็น้อยกว่าตอนโดนครั้งแรกพอสมควร


   “เจ็บชิบ  ไอ้บ้านั้นดันฟาดมาได้”นึกถึงเจ้าตัวที่ทำแล้วก็อดคิ้วกระตุกยิกๆด้วยความโมโห  ก่อนจะเผลอถอนหายใจแล้วเอนตัวทับคนด้านล่างด้วยความเหนื่อยหน่าย ก็ตัวเขาเองไม่ใช่รึไงที่หมดความอดทนท้าสู้พวกมันเหย่งๆจนได้เรื่อง


   “อ๊ะ เออ คุณคาโลครับปล่อยผมก่อนนะ  ผมหนักนะครับ”เสียงประท้วงดังมาจากเจ้าคนที่เขาเอนตัวทับมัน


   “รู้จักชื่อฉันได้ยังไง”คาเซอริโอตะแครงหน้าไปทางคนพูดมองเห็นแค่กลุ่มผมสีดำและใบหูที่แดงก่ำไม่รู้ว่าเกิดจากความอายหรือหนักกันแน่  ดูแล้วก็ทำให้อารมณ์หงุดหงิดคลายลงบ้าง


   “เออคุณชินริเป็นคนบอกผมนะครับ”


   “อ๋อ”คาเซอริโอครางยาวในลำคอ  ถึงว่าห้องนี้ถึงได้คุ้นๆก็ห้องเก่าที่เขาเคยนอนนั้นแหละ  ถ้าอย่างนั้นเสียงผู้หญิงที่เขาได้ยินเมื่อกี้ก็คงเป็นชินริสินะ


   “นายดูแลฉันมาตั้งแต่ครั้งแรกเลยงั้นเหรอ”คาเซอริโอถามไปพลางก็ขยับตัวให้นอนสบายไปพราง จัดการเอาหน้าซุกเข้ากับซอกคอขาวได้กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนสมุนไพร  สบายจมูกดีแหะ


   “เออครับ  คุณคาโลครับปล่อยผมเถอะนะ”


   “หืม  อายอะไรหึ ผู้ชายเหมือนกัน”ว่าแล้วก็อดจุ๊บเบาๆลงบนซอกคอขาวๆหอมๆนั้นไม่ได้  อารมณ์อยากแกล้งคนมีมากจนแทบไม่สนแล้วว่าไอ้ที่แกล้งอยู่เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ก็นั้นแหละพวกคนเอเชียก็ตัวเล็กๆหน้าตาแยกออกยากว่าชายหรือหญิงอยู่แล้วด้วย


   “หว่าๆ ไม่ได้นะครับ  ปล่อยผมเถอะ”


   “หืม  หอมดีออก”มือแข็งแรงรวบมือที่ผลักไสไว้เหนือหัว  อดไม่ได้ที่จะซุกไซร์ให้มากขึ้น 


   “ปล่อย”เสียงเย็นๆที่มั่นใจว่าไม่ใช่เสียงของเจ้าคนที่เขานอนทับอยู่ดังขึ้นเหนือหัวเรียกให้ดวงตาสีเทาละออกจากซอกคอขาวแล้วหันมามอง หน้าคุ้นๆแหะ


   “เยอร์เซ็พ ช่วยผมด้วยครับ”แล้วแรงกระชากที่ไหล่ก็ดึงเขาให้ลุกออกจากตัวหมอที่รีบไถลลงจากเตียง  จัดเสื้อผ้าไปหน้าแดงไปได้อย่างน่าแกล้งเป็นที่สุด


   “อ่ะ ขอบคุณมากนะเยอร์เซ็พ ไม่มีอะไรแล้วหละ”ดวงตากลมๆนั้นหันมามองคนช่วยที่ยังจ้องตากับเขาไม่เลิก  ถ้าบอกว่าหมอเหมือนกระต่าย  เจ้าบ้าที่กระชากไหล่เขาออกมาก็คงเหมือนหมาตัวโตๆที่จ้องจะจับกระต่ายหละมั้ง ทั้งผมฟู่ๆสีดำ คิ้วหนาสีเดียวกัน ตาสีทองแดง  ใบหน้าเป็นสันที่ดูเถื่อนๆดุๆเหมือนพวกทหารที่เพิ่งผ่านออกจากสนามรบนั้นด้วย


   “เจ้าหนูนั้นบอกว่าไม่มีอะไรแกก็ปล่อยได้แล้วมั้ง”คาเซอริโอบอกเสียงเรียบก่อนมือใหญ่ๆนั้นจะปล่อยไหล่เขา  เจ็บเหมือนกันแหะจับมาไม่ได้ออมแรงเลยนะ  เจ้าบ้านี้มันสูงเท่าไหร่กัน 2 เมตรได้หละมั้ง สูงจริงๆ ถ้าจำไม่ผิดเจ้านี้น่าจะเป็นหนึ่งในผู้คุมที่เจ้าหมาตาสีน้ำตาลนั้นพูดถึง เจ้าหมาตาสีน้ำตาลที่จ้องเขาด้วยตาใสแจ๋วนั้น


   “เออ  ยังเจ็บแผลที่หลังอยู่ไหมครับ”


   “ก็นิดหน่อย”คนตอบขยับแขนและไหล่ถึงได้รู้ว่าแผลจะเจ็บเมื่อตอนขยับตัวเท่านั้น  นั่งนิ่งๆก็ไม่เจ็บ


   “ดีจังเลยนะครับ  คุณคาโลนี้แข็งแรงดีจัง”คนตรงหน้าพูดไปยิ้มไปพร้อมกับจัดอุปกรณ์ที่ที่วางบนโต๊ะไป  กวาดตาดูแล้วก็เห็นมีดเล็กๆที่เหมือนมีดผ่าตัด ผ้าสีขาวๆที่เหมือนผ้าพันแผล แล้วกระปุกเล็กๆที่เหมือนกระปุกยานั้นอีก คงไม่ได้โกหกสินะที่บอกว่าเป็นหมอ


   “หันหลังมาสิครับ ผมจะได้ดูแผลให้”คาเซอริโอเหลือบมองคนพูดก่อนจะหันหลังให้ช้าๆ


   “นายยังไม่ตอบคำถามฉันว่ามาอยู่กับพวกปีศาจนี้ได้ยังไง”เจ้าหมาเยอร์เซ็พเหลือบตามองเขาแว๊บหนึ่งก่อนจะเลี่ยงไปยืนที่กรอบประตู  เหมือนจะมีมารยาทไม่รบกวนแต่ก็คอยคุมเชิงอยู่ไม่ห่าง


   “เรื่องนั้นผมเองก็จำไม่ค่อยได้หรอกครับ นานมาแล้วเหมือนกัน  ผมจำได้แค่ว่าตัวเองถูกรถชนแล้วก็ตกลงไปในแม่น้ำ  รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี้แล้ว”เสียงทุ้มเล็กๆตอบพร้อมกับมือเย็นนิ่มที่จับลงบนแผ่นหลังก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างเหนอะๆที่ป้ายลงมาบนแผล


   “นั้นอะไร”


   “อ๋อ ยาสมุนไพรนะครับ แถวนี้ไม่มียาเหมือนที่โลกยังไงก็ต้องใช้ยาสมุนไพรไปก่อน แต่ก็สะอาดนะครับผมเตรียมเองกับมือ  สรรพคุณดีด้วย”


   “ก็ไม่ได้ว่าอะไร”


   “อ๊ะครับ  งั้นเดี๋ยวผมพันแผลให้นะ”มือขาวๆเอื้อมมาที่ด้านหน้าก่อนจะตวัดผ้าสีขาวที่เหมือนผ้าพันแผลนั้นไปรอบๆแผ่นอกและแผ่นหลัง


   “พันเอาไว้แบบนี้ก่อนอย่าเพิ่งให้แผลถูกน้ำถึงจะผ่านมา 2 วันแผลเริ่มหายบ้างแล้วแต่ก็ยังวางใจไม่ได้นะครับ”


   “สองวันงั้นเหรอ”


   “ครับคุณหลับไป 2 วันเต็มๆเลย มีไข้นิดหน่อย ดีที่แผลไม่อักเสบ ถ้าแข็งแรงแบบนี้อีกไม่กี่วันก็หายแล้วหละครับ”คนพูดยิ้มให้เมื่อพันแผลเสร็จเรียบร้อย


   “ขอบใจ”


   “ไม่เป็นไรครับ  ยังไงผมขอตัวก่อนดีกว่าคุณคาโลจะได้พักผ่อนเดี๋ยวคุณชินริคงยกยาเข้ามาให้  ทานให้หมดนะครับ ยังไงผมจะมาดูอาการเรื่อยๆ”


   “อืม”เจ้าหมอตัวผอมโค้งให้เขาอีกครั้งก่อนจะเดินออกประตูไปโดยมีเจ้าหมาร่างใหญ่นั้นเปิดผ้าบังสายตาให้  ดวงตาสีทองแดงนั้นหันมามองเขาแว๊บหนึ่งก่อนจะเดินตามหมอออกไป


   ดีเหมือนกันนะผู้คุมแบบนี้  มีก็เหมือนไม่มี ช่างไม่กลัวเขาหนีเอาซะเลย แต่ก็แปลกที่ตอนนี้เขายังไม่มีความคิดหนี  อย่างน้อยก็เจอคนที่มาจากโลกเดียวกันแล้วถามข้อมูลไว้หน่อยก่อนไปก็คงจะดีกว่าเดินดุ่มๆออกโดยไม่รู้อะไรเลย  คงต้องเสียเวลาเพิ่มสักหน่อย  รอหน่อยแล้วกันนะยังไงฉันก็จะกลับไปให้ได้แน่นอน





   




    มาส่งตอนใหม่แล้วคะ  ช่วงนี้ส่งถี่นิดหน่อยชดเชยตอนก่อนๆที่เลทไปนะคะ

    ขอบคุณ rinny สำหรับคอมเม้นยาวๆ ความจริงแล้วคาโลก็ออกจะอึดเกินมนุษย์ไปนิดหนึ่งคะ แต่ที่อึดนะเพราะใจล้วนๆ

ประมาณว่าใจสั่งให้กล้าร่างกายมันก็บ้าตาม  แต่เจ็บได้ป่วยได้คะ ยิ่งช่วงหลังๆพอใจอ่อนนี้ป่วยง่ายเลยคะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ pattyyaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
แล้วใครจะคู่กับคาโลน้า

แอบหวังให้คาโลเป็นรับอยู่นะ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เรื่องนี้น่าสนใจ ยิ่งอ่านยิ่งเพลิน คาโลเป็นคนน่าสนใจดีถึงจะเป็นมาเฟียก็เถอะ แต่รู้อะไรไหมมาเฟียอิตาลีน่ะเท่มาก.........ช่วงนี้ชีวิตน่าตามติดดี แล้วนี่เจ้าหมาน้อยกับงูคา(จำไม่ได้)อะไรนั่นไปไหนแล้ว?   จะรอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
 :mew1: :mew1:

ว่าแต่ ใครคู่คาโลน้าาา

เจ้าหมาสีดำหายไปไหน?

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 7 การรวมพลของคนที่เกือบถูกลืม            19/10/2556
                              13/05/2557




   แสงแดดสีทองของยาวเช้าส่องผ่านต้นไม้สูงใหญ่ลงสู่พื้นดินสีแดงเหลือง  ไอหมอกจางๆที่ยังเหลืออยู่ลอยอ้อยอิ่งท้าแสงยามเช้า  บรรยากาศธรรมชาติที่หาได้ยากยิ่งในเมืองใหญ่ที่เขาทำงานอยู่ แม้รอบๆเมืองจะพอมีธรรมชาติสีเขียวๆให้ชื่นชมอยู่บ้างแต่ก็เป็นธรรมชาติที่เกิดจากเกษตรกรรมของมนุษย์ไม่ใช้แบบที่ธรรมชาติสรรสร้างแบบนี้


   “จะไปซักผ้าเหรอชินริ”เสียงเปิดประตูจากด้านหลังทำให้คาเซอริโอเอ่ยปากทักทั้งๆที่ยังไม่ได้หันไปมอง  การอยู่อาศัยที่บ้านโพรงต้นไม้หลังนี้มาเกือบอาทิตย์ทำให้รู้ว่าทุกๆวันในเวลานี้ชินริจะเดินถือตะกร้าไปซักผ้าที่ริมแม่น้ำสายเล็กๆที่ไหลผ่าน


   “เปล่าคะ วันนี้ข้าว่าจะไปท้ายกลุ่มสักหน่อย ท่านคาโลจะไปด้วยกันไหมคะ”คำว่าท้ายกลุ่มทำให้ดวงตาสีเทาตวัดมองคนพูด  ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเคยตามชินริไปที่ลานซักผ้าและพบว่าถึงแม้มันจะมีสาวๆสวยๆไปก้มโค้งซักผ้าให้ดูเป็นขวัญตาชวนเจริญใจแต่ก็มักจะมีผู้คุมไปคุมอยู่กับสาวๆอย่างน้อยก็ 2 คนเพื่อความปลอดภัยที่เขาเองก็กำลังสงสัยว่าใครกันแน่คือภัยคุกคามพวกหมาป่าปีศาจพวกนี้ 


   แต่พอตามไปได้สัก  2 วันเขาก็เริ่มเบื่อเพราะมันมีดีแค่ให้ดู  คุยด้วยก็ยาก  จับต้องยิ่งไม่ต้องพูดถึง  แม้ผู้คุมสองตัวทั้งเจ้าหมาตาใส่แจ๋วและเจ้าล็อตไวเลอร์หัวฟูจะไม่ตามประกบก็เหมือนมีผู้คุมคอยจับตาตลอดเวลาเพราะพวกตัวผู้ในกลุ่มเหมือนจะไม่ชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ แอบไปคุยกับสาวไหนเป็นโดนเขม่นตลอด  แม้สาวเจ้าหลายตัวจะเล่นหูเล่นตาด้วยเขาก็สนองไม่ได้เพราะบรรดาตัวผู้ทั้งหลายพากันแยกเขี้ยวใส่แบบที่พร้อมจะกระโจนเข้าหาทุกเมื่อ ด้วยบรรยากาศที่แสนน่าเบื่อแบบนั้นทำให้เขาอยู่รอบๆบ้านโพรงไม้ของชินริและเดินออกสำรวจเป็นระยะทางใกล้ๆเท่านั้น


   “ก็ดี  ขอไปด้วยคนก็แล้วกันนะ”รอยยิ้มสวยประดับบนใบหน้าหวาน  ก่อนจะเริ่มออกเดินนำไปทางท้ายกลุ่ม ทางทิศใต้สินะ


   ตลอดการเดินทางเขาพบเห็นประชากรหมาปีศาจบ้างประปราย  มีบ้างที่สาวๆหมาปีศาจสวยๆปลายตามองและส่งยิ้มหวานให้ ซึ่งเขาก็ยิ้มตอบกลับไปก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ มองผ่านๆก็เหมือนมองดูธรรมชาติ  มองดูความสวยงามของสาวๆ ก็อยากทำอย่างนั้นอยู่หรอกนะถ้าไม่ติดว่าสถานะที่กำลังเป็นอยู่ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่


   จากที่มองเห็นบ้านพักส่วนใหญ่ที่นี้สร้างขึ้นทั้งแบบถาวรและกึ่งถาวร บางส่วนจะอาศัยเจาะเข้าไปในต้นไม้ใหญ่ที่ตรงโคนต้นพองออกมาเป็นโพรง แล้วสกัดหรือต่อเติมเพิ่มเพื่อให้อยู่อาศัยได้  มองผ่านก็เหมือนโพรงต้นไม้ธรรมดาที่มีหน้าต่างกับประตูถึงบางหลังจะสภาพไม่น่าเรียกว่าประตูเท่าไหร่ก็เถอะ  ที่เหลืออีกบางส่วนก็เป็นพวก บ้านที่เหมือนกระท่อมที่สร้างมาจากเศษผ้าปะปะเป็นทรงกระโจม ไม่ก็เอาไม้มาตอกเป็นเพิงซึ่งเขาไม่เห็นว่ามันต่างกับกรงหมาตรงไหน


   “ถึงแล้วคะ”ชินริหันมายิ้มให้คนเดินตาม ก่อนจะเดินไปเคาะบ้านโพรงไม้ที่ดูหรูกว่าหลังอื่น มันสร้างจากโพรงไม้ที่ใหญ่และยังมีส่วนยื่นต่อออกมาเหมือนบ้านเล็กๆอีกหลายส่วนและที่น่าสนใจคงไม่พ้นไอ้หลังใหญ่สุดที่ดูเหมือนโรงจอดรถนั้น


   “ท่านคาเพนเตอร์อยู่ไหมคะ”เสียงหวานของชินริตะโกนถามเมื่อเคาะแล้วยังไม่มีเสียงตอบออกมา


   “ข้าอยู่ข้างบ้านชินริ”เสียงตอบดังมาจากส่วนที่คาเซอริโอคิดว่ามันเหมือนโรงจอดรถ


   “สงสัยจะทำงานอยู่แน่เลยคะ  เราไปทางนั้นกันดีกว่า”คำว่าทำงานทำให้คาเซอริโออดเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจไม่ได้ เท่าที่สังเกตเขายังไม่เห็นสิ่งที่เรียกว่าการทำงานได้จากพวกหมาป่าปีศาจแน่หละว่าพวกมันไม่มีทางใส่สูทผูกไทด์ไปทำงานแน่ๆ


   ชินริพาคาเซอริโอเดินอ้อมไปทางโรงจอดรถก่อนจะมองเห็นหลังกว้างๆของชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆกองไม้ขนาดใหญ่  แผ่นหลังนั้นกว้างซะจนเหมือนหมีตัวยักษ์ที่ยืนสองขาได้ถ้าไม่ติดว่าคาเซอริโอมองเห็นหูสีดำที่เหมือนหูหมากระดิก ดิกๆยามมีแมลงมาตอม


“ขยันจังเลยนะคะท่านคาเพนเตอร์”


   “ก็แน่หละ ข้ามีงานอยู่แค่อย่างเดียวนี้จะให้ออกไปสู้รบปรบมือกับพวกหนุ่มๆนั้นคงไม่ไหว”ชายร่างหนาเหมือนหมีหันมาตอบทำให้คาเซอริโอตอบไม่ได้ว่าใบหน้าของคนพูดเหมือนอะไรมากกว่ากันระหว่างหมีตัวใหญ่ที่มีหนวดเคราเต็มหน้า หรือหมาป่าที่มีขนฟูเต็มตัว


   “นั้นสินะคะ งานไม้แบบนี้ไม่เคยมีใครทำได้ดีเกินท่านอีกแล้ว”


   “ฮ่าๆ ว่าแต่วันนี้เจ้าอยากได้เท่าไหร่หละ”


   “ข้าอยากได้ไม้ไปซ่อมตรงหลังคาสักหน่อยนะคะ เห็นท่านโฮโรเน่บอกว่าอีกไม่นานฝนคงเข้ามากลุ่มใหญ่ ตรงนั้นรั่วกว้างน่าดู กลัวท่านคาโลเปียกไปซะก่อน”คาเซอริโอหันไปมองคนพูด คิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจที่ตัวเองกลายเป็นประเด็นในการมาครั้งดี เช่นเดียวกับช่างไม้ที่ตั้งชื่อได้สมตัวที่ชำเรืองมามองเขาเพียงครู่แต่เขาก็ประสานสายตาได้ทัน


   “งั้นเหรอ  ไม้ทำหลังคาสินะ  อืมจำได้ว่าวางเอาไว้ตรงนี้ รอเดี๋ยวนะ”หมีร่างยักษ์หันหลังกลับเข้าไปในกองไม้ทำให้คาเซอริโอได้มีโอกาสสำรวจเห็นอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งขวานโบราณที่เคยเห็นแต่ในพิพิธภันฑ์หรือหนังย้อยยุคกับอะไรอีกหลายอย่างที่เขาไม่แน่ใจว่าจะเรียกชื่อยังไงแต่สิ่งหนึ่งที่แน่ใจก็คือ ยุคสมัยของที่นี้ไม่ใช่ยุคหินแต่เป็นยุคที่มีเหล็กใช้และความเรียบคมของเครื่องมือก็ดีพอจะให้เขาลอบยิ้มและอาจต้องแวะมาเยือนแถวนี้บ่อยๆเพื่อหยิบยืมอุปกรณ์บางอย่างไปเสริมให้กับมีดเล่มยาวที่เหน็บอยู่ตรงท่อนขาเขาในตอนนี้


   “อ๊ะ  เท่านี้ข้าคิดว่าน่าจะพอ”แผ่นไม้ขนาดขนาดกว้างเท่าผ่ามือ ยาวเกือบศอกแต่หนาเพียงนิ้วหลายสิบแผ่นถูกวางลงตรงหน้า


   “ข้าไม่แน่ใจว่าเอามาพอรึเปล่านะสิคะ”


   “แล้วเจ้าได้อะไรมาหละ”ชินริวางตะกร้าที่ถือมาด้วยลงก่อนจะเปิดผ้าสีตุ่นที่ปิดด้านบนไว้ออกและหยิบหนังสัตว์บางอย่างออกมา  ดูคล้ายๆหนังหมาแต่คงไม่ใช่หนังหมาปีศาจอย่างพวกมันแน่


   “โอ้ หนังหมาจิ้งจอก นี้ฝีมือชินอูใช่ไหม ฝีมือพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย”คาเพนเตอร์หยิบแผ่นหนังไปมองใกล้ๆด้วยแววตาชื่นชม


   “คะ ฝีมือชิ้นเอกเลยหละคะ  กว่าข้าจะขอมาได้แทบแย่สถานการณ์ช่วงนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกนั้นเองก็...”


   “ฮ่าๆ ข้าเข้าใจ เอาเถอะแค่นี้ก็พอแล้วหละ”ตาแก่คาเพนเตอร์หัวเราะร่วนแบบที่คาเซอริโอได้แต่ขมวดคิ้วเมื่อโดนมันขัดเต็มๆกำลังจะได้ฟังเรื่องอะไรดีๆอยู่แท้ๆเชียว


   “อยู่ที่นี้คงลำบากสินะ  คาโล”เสียงทุ้มแหบของหมาป่าค่อนข้างสูงวัยหันมาถาม


   “ก็ไม่สบายเท่าไหร่ อยากออกไปอยู่เหมือนกัน”


   “นั้นสินะ  อดทนหน่อยแล้วกันอีกไม่นานมันคงจะดีขึ้น”ตาแก่คาเพนเตอร์ยิ้ม เหอะ  ดีขึ้นงั้นเหรอเขาไม่ยักจะสังเกตเห็นว่ามันจะดีขึ้นตรงไหนมีแต่แย่ลงนะสิไม่ว่า ดูจากไอขมุกขมัวที่แต่ละตัวปล่อยออกมาก็รู้แล้ว


   “งั้นข้าขอตัวกลับก่อนนะคะ”ชินริก้มตัวขอลากลับ ก่อนจะก้มลงไปรวบแผ่นไม้มาถือไว้


   “ฉันจัดการเอง”คาเซอริโอหันไปแย่งแผ่นไม้นั้นมาจากหญิงสาว ตาแก่คาเพนเตอร์ก็แสนดีเอาเชือกเถาวัลย์มาผูกให้เขาสะพายขึ้นหลังดีเหลือเกินที่ชินริหาเสื้อสีน้ำตาลตุ่นๆให้ใส่ไม่งั้นเขาคงไม่อยากเอาฝุ่นไม้มาประทับบนหลังเสื้อเชิ๊ตตัวสวย แต่ตอนนี้จะเรียกว่าตัวสวยก็ไม่ถูกเพราะสภาพมันก็ล่อแล่เต็มทน


   “ขอบคุณนะคะ”หญิงสาวยิ้มให้เขินๆก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินดุ่มๆกลับไปที่บ้านโดยมีคาเซอริโอเดินตามหลังไปช้าๆ


บ็อก!!


   เสียงเห่าเล็กๆเรียกให้คนฟังขมวดคิ้วฉับก่อนจะเอาเท้าเขี่ยเจ้าก้อนสีดำที่เขาไม่เห็นมันมาเกือบอาทิตย์ให้ออกห่างจากทางเดิน  พอวางไม้ที่แบกมาบนหลังเจ้าขนฟูก็เข้าไปหาอย่างสนอกสนใจ


   “หายขนไปตั้งอาทิตย์จะโผล่มาก็ดันมาง่ายๆเลยนะแก   เฮ้ย”


จ๊อก!!!


   ฉี่สายน้อยราดเป็นทางลงบนกองไม้ที่เขาเพิ่งวางลงไป  ฉี่ที่ออกมาจากจู๋เล็กๆที่เขาดันตาลายจนนับผิดเป็น 5 ขาเลยดันซวยมาโผล่ที่นี้


   “ไอ้หมาเฮงซวย”มือขาวเอื้อมหยิบเจ้าตัวก่อเรื่องมาไว้ในมือก่อนจะเขย่าๆจนสองขาหลังห้อยต้องแต่ง ครางหงิงๆด้วยความมึน


   “ว๊าย  เกิดอะไรขึ้นค่ะท่านคาโล”ชินริที่เดินกลับออกมาจากบ้านถามด้วยความตระหนกเมื่อเจ้าหมาน้อยที่เธอแสนเอ็นดู นอนตัวอ่อนปลวกเปียกอยู่ในอุ้งมือใหญ่


   “เหอะ ไอ้หมาไม่รู้จักรักษาความสะอาด”คาเซอริโอบ่นฉุนๆนี้หละสาเหตุหนึ่งที่เขาไม่ชอบหมาก่อนจะปล่อยเจ้าตัวในมือให้ชินริที่เอื้อมมาขอ  ไอ้ตัวดำได้โอกาสก็ครางหงิงๆเหมือนจะฟ้อง


   “ท่านคาโลทำเกินไปนะคะ ซ๊อคแค่ฉี่ใส่ท่อนไม้เอง  หมาก็ต้องมีการประกาศ อาณาเขตบางสิคะ”


   “พูดเหมือนฟังมันเข้าใจอย่างนั้นแหละ”


   “ก็ต้องเข้าใจสิคะ  เจ้าพูดเข้าใจง่ายออกนะซ๊อค”


บ๊อก!!


   “อ๋อ  ลืมไป..”


   “ลืมอะไรคะ”


   “เปล่าหรอก”คาเซอริโอยั้งปากได้ทันก่อนจะได้ตอบไปว่าที่เจ้าหล่อนเข้าใจที่หมามันพูดก็เพราะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน  ขืนตอบไปแบบนั้นไม่โดนด่าก็โดนตบ  แต่คิดอีกทีเจ้าหล่อนก็เป็นจริงๆเขาอาจจะไม่โดนทำอะไรเลยก็ได้


   “ท่านรู้ไหมว่าซ๊อคนะห่วงท่านแค่ไหน ตอนที่ท่านหลับอยู่นะเขาอยู่ข้างๆท่านตลอดเลยนะคะ”คาเซอริโอแอบเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งโดยที่ชินริไม่ทันไม่สังเกตเห็น  หากเจ้าหมานั้นมันหวงเขาจริงอย่างปากสาวเจ้าว่าทำไมตอนเขาฟื้นขึ้นมาเขาไม่เห็นมัน มันตัวเล็กเกินไปหรือเป็นการหวงแบบห่างๆกันแน่ จะยังไงก็ช่างเถอะเขาไม่ควรไปคิดมากเรื่องการห่วงของหมาให้มันปวดสมอง


   “แล้วจะทำยังไงกับไม้พวกนั้น”


   “อ๊ะ ข้าจะเอาขึ้นไปซ่อมบนหลังคาที่รั่วนะคะ ท่านคาโลเข้าไปนั่งรอในบ้านก็ได้นะคะ ข้าทำเดียวเดี๋ยว”ชินริวางเจ้าหมาขนฟูลงพื้นก่อนจะเดินไปหยิบเชือกเส้นเล็กๆกับอุปกรณ์อีก 2-3 อย่างเตรียมปีนขึ้นหลังคา


   “เดี๋ยว”


   “มีอะไรรึเปล่าคะ”เท้าที่กำลังเหยียบรากไม้เตรียมปีนหยุดชะงัก  คาเซอริโอถอนหายใจก่อนจะกวักนิ้วเรียก


   “คะ”ร่างบอบบางเดินกลับมาด้วยใบหน้างุนงงก่อนจะเหวอไปเล็กน้อยเมื่อโดนฉวยเชือกและอุปกรณ์ในมือไป


   “ฉันทำเอง บอกมาแล้วกันว่าทำยังไง”


   “อ๊ะ  แต่ว่าแผลท่าน”


   “เลิกหวงเถอะน่า  ฉันยังไม่อยากอยู่ฟรีกินฟรีเท่าไหร่หรอกนะ”คาเซอริโอตอบสั้นๆเพื่อตัดปัญหาค้างคา  อันที่จริงเขามีเหตุผลร้อยแปดในการห้ามชินริทำงานแต่เหตุผลหนึ่งที่มันเด่นชัดมาก คือมันขัดกับความเป็นสุภาพบุรุษในตัวที่จะให้หญิงสาวร่างเล็กบอบบางทำงานแบบนี้  แม้หญิงสาวคนนั้นจะทำได้และเขาจะทำไม่เป็นก็เถอะ


   “ขอบคุณมากนะคะ”รอยยิ้มบางๆตอบกลับมาพร้อมแก้มที่แดงระเรือและดวงตาที่เป็นประกาย


   “อืม  ถ้าสัญญาว่าจะจัดการสิ่งที่เจ้าช๊อคทำก่อนส่งไม้ขึ้นไปนะ”


   “คะ  ได้คะ”ชินริยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งไปนั่งข้างกองไม้ปล่อยให้คาเซอริโอถอนหายใจออกมาเบาๆและเริ่มปีนรากต้นไม้ขนาดใหญ่ที่พันเรื้อยกันขึ้นไปยากกว่าการวิ่งข้ามหลังคาไล่ล่าคู่อริแต่ก็ไม่ยากจนในที่สุดเขาก็มานั่งแปะอยู่บนหลังคาบ้านที่ทำลาดเอียงลงมาเพื่อระบายน้ำและหิมะ  โชคดีที่หลังคาไม่แหลมและสูงมากเขาจึงไม่ต้องคิดให้ยากลำบากว่าจะปีนยังไงให้ถึงยอด


   “ขึ้นไปทำอะไรบนนั้นนะ”


   “เฮ้ย”คนที่กำลังเหม่อหงายหลังร่วงลงมาจากหลังคา  สัญชาติญาณในหัวร้องดังสนั่นถึงความเจ็บตัวหากเขาร่วงลงไป


หมับ!!


   “ไอ้หมาเวร”คนที่ฉวยกิ่งไม้ได้ทันกัดฟันกรอดพร้อมด่ามันไปเสร็จสรรพ  ไม่มีฉากหน้าอนาถที่หล่นก้นกระแทรกพื้น  ไม่มีฉากหวานแหวที่พระเอกรับนางเอกได้ทันก่อนตกถึงพื้น  มันไม่ใช่พระเอก  เขาไม่ใช่นางเอกและไม่มีทางจะเป็น  ผลสรุปของเหตุการณ์จึงมีเพียงเขาที่ห้อยต่องแต่งอยู่เหนือพื้นดิน


   “ข้าได้ยินนะ”เสียงตอบกลับมาจากเจ้าคนทักพร้อมรอยยิ้มกว้างและตาสีน้ำตาลใส่แจ๋วที่กำลังเป็นประกายระยิบระยับ ที่เห็นแล้วชวนให้เส้นฝ่าเท้ากระตุกเป็นที่สุด


   “ได้ยินก็เรื่องของแก”คาโลทิ้งตัวลงพื้นก่อนจะปัดบรรดาเศษไม้เศษดินออกจากตัว  หันมองเจ้าคนที่เกือบจะพาซวยด้วยหางตา  ความรู้สึกแรกที่บังเกิดขึ้นมาคือไม่ชอบหน้ามันอย่างแรง  ทั้งเจ้าผมสีน้ำตาฟูๆเหมือนขนหมา ใบหน้าค่อนข้างเหลี่ยม คิ้วเข้มเหมือนเอาสีทา  ตาสีน้ำตาใสแจ๋วที่น่าเอานิ้วจิ้ม จมูกโด่งเหมือนเขา  ปากหนาๆห้อยๆ ตัวสูงใหญ่ที่น่ากระทืบสักทีโทษฐานตัวใหญ่กว่าเขา


   “ยังน่าสนใจเหมือนเคยเลยนะ  ทำอะไรอยู่เหรอ”เจ้าตัวที่ถามฉีกยิ้มกว้างแทบจะเห็นฟันหมดปาก


   “คิดเอง”ตอบเสร็จสรรพก็จัดการปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านอีกรอบ


   “อ้าว ท่านซาเวียร์  ท่านริวจิ มาทำอะไรกันคะเนี่ย”ชื่อสองชื่อที่ชินริเอยถึงทำให้คนที่นั่งหันหลังอยู่บนหลังคาต้องเหลือบสายตามามอง  ซาเวียร์คงเป็นชื่อเจ้าตาใสนั้น  ส่วนริวจิคงเป็นชื่อเจ้าคนเอเชียรูปร่างพร้อมสูงที่มีผ้ากันแผลที่หน้าผากและใส่เสื้อสีหม่นๆ


   “ข้าแวะมาเยี่ยมนะชินริ”เจ้าซาเวียร์ยิ้มกว้างให้ชินริก่อนจะเลยมายิ้มให้เขาทั้งๆที่ไม่อยากได้


   “พอดีข้าแวะมาแทนหมอฮิโตะนะครับ  วันนี้ท่านหมอไม่ว่าง”เจ้าริวจิพูดก่อนจะยืนถ้วยบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นถ้วยยาให้ชินริและหันมายิ้มให้เขา  รอยยิ้มที่คาโลรู้สึกแปลกๆ  ตลอดเวลาที่รักษาอยู่กับหมอฮิโตะเขาไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้  ผู้ชายที่เจ้าฮิโตะบอกว่าเป็นผู้ช่วยหมอและเป็นมนุษย์อีกคนในกลุ่มหมาป่า  เจ้าผู้ชายที่ชอบทำตัวลึกลับ


   “อ๊ะ  ขอบคุณมากนะคะ”ชินริรับถ้วยยามา  คาโลได้แต่แอบถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วเจ้าบ้าฮิโตะก็ยังไม่ยอมให้เขาเลิกกินยาขมๆนั้นทั้งๆที่เขายืนยันว่าไม่ได้เป็นอะไรแล้ว  สงสัยต้องบุกไปหาอีกรอบซะหละมั้ง


   “ถ้างั้นข้าขอตัวก่อนนะขอรับ”เจ้าคนเอเชียนั้นโค้งตัวให้ชินริก่อนจะผงกศีรษะให้เขาหนึ่งครั้งและเดินจากไป  ไม่ชอบหน้าเจ้าบ้านั้นเลยแหะ  เฮ้อ  เหมือนช่วงนี้เขาจะหงุดหงิดง่ายขึ้นแหะ


   “ซ่อมหลังคากันอยู่สินะ  ข้าช่วยแล้วกัน”ว่าเสร็จเจ้าคนพูดก็กระโดดแผล่วขึ้นมานั่งข้างคาโล


   “ตะ  แต่ว่าข้า...”


   “ไม่เอาน่าชินริ  ไม่ต้องเกรงใจหรอก  ช่วยๆกันจะได้เสร็จไวไวไง”ว่าจบก็หันมายิ้มกว้างให้คาโลที่ได้แต่กัดฟันกรอดห้ามมือที่จะชกมันให้หน้าหันเอาไว้  มันไม่ได้ทำอะไรผิด  ไม่ได้หาเรื่องเขา  แต่ทำไมเขาถึงได้คิดว่ามันกวนประสาทและหน้ากระทืบสักทีสองทีแบบนี้นะ










       



        กลับมาแล้วคะ  วันนี้เอาบรรดาพลพรรคที่นักอ่านทั้งหลายถามหามาส่งคะ เป็นการรวมตัวละครที่มากที่สุดตอนหนึ่งก็ว่าได้

        เป็นอีกตอนที่ยังคงเรื่อยๆ งดเรื่องบู๊ล้างผลาญของพ่อมาเฟียเขาไปสักพักก็เเล้วกันนะคะ  เเล้วพบกันใหม่ตอนหน้า

        ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามคะ

pattyyaoi   เรื่องรับเรื่องรุกเรามีเฉลยในเรื่องนะคะ  ตามอ่านกันไปอีกสักนิดได้คำตอบแน่นอน

aoihimeko หมาน้อยยังโผล่ๆหายๆ ส่วนพ่องูเราเก็บเข้ากรุชั่วคราวคะ

double9JH หมาน้อยยังไม่หายนะคะ  แค่แว๊บๆไปชั่วคราวเท่านั้นเอง   



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
โอ๊ะ !! หมาน้อยแวบมาแล้ววว  o18 o18

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เพิ่งเห็นว่ามาต่อ

ช่วงนี้คาโลดูชิวมากเลย

แต่อยากรู้จริงๆปัญหาที่เกิดตอนนี้คืออะไร

ซาเวียร์นี่แลดูกวนมากเลยนะ

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 8 เดินชมจันทร์ยามค่ำคืน                                                           13/01/2557
                              22/05/2557





   เสียงหรีดหริ่งเรไรยามค่ำคืน ดังเคล้าคลอมากับเสียงเสียดสีของใบไม้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่คาเซอริโอเคยชินแต่เขาก็ต้องทำตัวให้ชินและพยายามปรับตัวอยู่กับมันให้ได้  นับๆไปเขาก็มาอยู่ที่นี้ได้นานพอสมควรแล้ว  คุ้นชินกับสถานที่และผู้คนมากขึ้นแต่ก็นั้นแหละ หมาพวกนั้นยังคงไม่คุ้นชินกับเขาอยู่ดี  เขายังคงถูกมองด้วยสายตาเหินห่างและหวาดระแวง แต่ก็น่าแปลกที่พวกผู้คุมของเขาเหมือนไม่ว่างจะมานั่งคุมเขาได้อย่างที่รับปากเอาไว้ได้  วันนี้ก็เหมือนกันหลังจากที่ช่วยซ่อมหลังคากับเจ้าหมาตาแป๋วนั้นได้เกือบเสร็จ  มันก็โดนเจ้าหัวนกแก้วลากตัวหายไป  ถึงแม้เจ้าตัวจะอิดออดและหันมามองเขาด้วยสายตาละห้อยแค่ไหนแต่ก็ต้องรีบผละจากไปเพราะโดนลากและนี้อาจจะเป็นเรื่องแรกที่เขานึกขอบใจเจ้าหัวนกแก้วเพราะตลอดเวลาที่ซ่อมหลังคาเขาหวิดจะกระทืบมันไปกองกับพื้นก็หลายครั้ง  ทั้งตาใส่แจ๋ว  ทั้งปากหนาๆที่ชอบส่งถ้อยคำชวนรำคาญใจนั้นอีก 


   “เฮ้อ  แล้วจะไปคิดมากวุ่นวายทำไม”คาเซอริโอเอ่ยกับตัวเองเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นยีหัว  เรื่องที่เขาควรให้ความสนใจตอนนี้มันน่าจะเป็นการที่จะออกไปจากที่นี้ได้ยังไงมากกว่า ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ๆเจ้าหมานั้นก็ถูกลากออกไป 


   “ยังไงมันก็วนเวียนอยู่ที่เรื่องของเจ้านั้นอยู่ดีไม่รึไงวะ”คาเซอริโอพูดกับตัวเองปลงๆก่อนคิ้วจะขมวดเข้าหากันน้อยๆ  บรรยากาศแปลกๆรอบๆหมาพวกนั้นเหมือนจะตรึงเครียดมากขึ้น  ลางสังหรณ์บางอย่างเตือนเขาว่าน่าจะมีเรื่องบางอย่างที่ไม่น่าไว้วางใจเกิดขึ้นแต่ก็อีกนั้นแหละเรื่องอะไรจะเกิดขึ้นมันก็ไม่สำคัญกับเขาเท่าไหร่ ขอแค่มันไม่มายุ่งเกี่ยวกับเขาเองก็เพียงพอแล้ว เขายินดีจะยืนอยู่นอกวงไม่ยอมเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเพราะการเอาตัวเข้าไปเรื่องชาวบ้านทำให้เขาต้องมาติดแหง็กอยู่ที่นี้ไม่ใช่รึไง  ยุ่งเรื่องของตัวเองก็เหนื่อยมากพอแล้ว คิดมาถึงตรงนี้ก็ชวนให้หงุดหงิดอยู่นิ่งไม่ได้จนต้องเดินหายออกมายามวิกาลเพื่อเดินทางไปพบตัวปัญหาทำการเจรจาให้เรื่องจบๆไปสักที


ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก


   ยกมือเคาะไปบนบานประตูที่คุ้นตาก่อนจะนิ่งมองแสงไฟที่รอดออกมาจากร่องไม้ เสียงก๊อกแก๊กเงียบไปก่อนจะตามมาด้วยเสียงย่ำเดิน


   “ลืมอะไรอีกงั้นเหรอครับ  อ่ะ  คุณคาโล..”ดวงตาสีดำคู่โตเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจและดูเหมือนจะกว้างมากขึ้นเมื่อเขาดันตัวหมอหน้าขาวเข้าไปในบ้านและลงกลอนเรียบร้อย


   “คุณคาโลมาหาผมดึกๆแบบนี้มีอะไรรึเปล่าครับ”คาเซอริโอกวาดตามองไปรอบๆก่อนจะหันกลับมามองคนถามและหยิบถ้วยดินเผาใบเล็กๆส่งให้


   “อ๊ะ ถ้วยยา”


   “อืม ฉันเอามาคืนและไม่ต้องส่งยาไปให้ฉันอีกนะ”


   “เอ๊  แต่แผลคุณ”


   “บอกว่าไม่ต้องไง”ดวงตาสีเทาตวัดมองคนตัวขาวด้วยแววตานิ่งเฉียบ  เรื่องนี้แหละที่เขาต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องเพราะถึงคาเซอริโอจะเป็นมาเฟียผู้ชอบพอกับเขม่าปืนและคราบเลือดแต่เรื่องที่เขาไม่ถนัดเลยแม้แต่น้อยคือเรื่องยา  เขาเป็นคนที่กินยาได้ยากมากถึงมากที่สุด   เขาเกลียดยาขมๆให้เขาสู้กับศัตรู 10 ต่อ 1 ซะยังดีกว่าบังคับให้เขากลืนยาขมๆสักเม็ด


   “แต่ว่าผมเป็นหมอนะครับ แล้วเรื่องแผลคุณ...”


ปัง!!


   “หมอ  บอกว่าไม่ต้องไง”มือหนาท้าวลงข้างใบหน้าขาว  ใกล้จนใบหน้าห่างกันเพียงคืบ


   “เอ่อ  คือว่า...”ใบหน้าขาวๆนั้นเสไปมองข้างๆเหมือนกระอักกระอวน  แก้มที่เดียวขาวเดียวซีดน่าแกล้งซะจนอดใจแทบไม่ไหว


   “ก็บอกว่าไม่เป็นไรแล้วไงหรืออยากให้ฉันพิสูจน์ว่าตัวเองแข็งแรงดีแค่ไหน”เสียงนุ่มๆกระซิบข้างหูก่อนจะผ่อนลมหายใจเบาจนคนฟังขนลุกเกรียว


   “อ๊ะ  เอ่อ  ไม่ดีกว่าครับผมว่า  หือ..”


   “อย่าโวยวายเสียงดังหนักซิ  อยากให้คนอื่นมาเห็นรึไงกัน”คนพูดไม่ได้สนใจกับมือที่เพียรพยายามดันหน้าอกเขาให้ออกห่าง ตอนนี้มีเพียงความสนุกที่ได้แกล้งเท่านั้น


   “งั้น  คุณคาโลก็ปล่อยผมสิครับ”

   “ไม่”คาเซอริโอตอบเสียงเฉียบก่อนจะเปลี่ยนมือทั้งสองข้างมาโอบรอบเอวคอดดึงคนที่บางกว่าตนเองมากอดและจงใจกดจมูกโด่งๆลงข้างซอกคอขาวๆนั้นเพื่อสูดเอากลิ่นสมุนไพรที่ดมแล้วสบายจมูก


   “หือ  อย่าครับ...”


ก๊อก  ก๊อก


   “ท่านหมอขอรับ”เสียงเคาะและเสียงเรียกหน้าบ้านทำให้คนทั้งคู่ชะงัก


   “อย่าเอ๊ะอะโวยวายหละ”คาเซอริโอยอมปล่อยหมอตัวขาวก่อนจะเร้นกายหายไปหลังตู้เก็บยาหลังสูงและส่งสายตาให้หมอตัวขาวปิดปากเงียบเรื่องที่เขามาที่นี้ เจ้าหมอฮิโตะสูดลมหายใจเข้าลึกๆจัดเสื้อสีขาวที่เหมือนเสื้อกาวน์หมอให้เรียบร้อยแล้วเดินออกไปเปิดประตู


   “ครับมาแล้วครับ  อ่ะคุณริวจิ”คาเซอริโอมองออกไปที่ประตู จากมุมที่เขาแอบอยู่มองเห็นประตูได้ถนัดแต่คนที่ประตูไม่มีทางมองเห็นเขาได้อย่างแน่นอน


   “เออ คือว่าข้าจะมาบอกท่านว่าข้ากำลังจะออกไปเก็บสมุนไพรนะครับ”


   “อ๊ะ  ได้เวลาเก็บสมุนไพรแล้วเหรอครับเนี่ย  แต่ว่าวันนี้ไม่ต้องออกไปเก็บก็ได้นะครับมัน...”


   “ไม่ได้หรอกขอรับ ตอนนี้พวกเราจำเป็นต้องใช้สมุนไพรตัวนี้มาก”


   “แต่ว่า ไปเก็บตอนกลางวันก็...”


   “ไม่ต้องห่วงหรอกครับท่านฮิโตะ  ข้าเก็บสมุนไพรดึกๆแบบนี้มาหลายคืนแล้ว  ข้าจะระวังตัว ไม่ต้องห่วงหรอกนะครับ”


   “อืม  ถ้าอย่างนั้นรอเดี๋ยวนะครับ”หมอตัวขาวหมุนตัวกลับเข้ามาในห้องก่อนจะเดินไปค้นอะไรกุกกักพักหนึ่งและกลับมาพร้อมอุปกรณ์ที่เหมือนตะกร้า


   “ถ้าอย่างนั้นฝากด้วยนะครับ”


   “ได้เลยขอรับ”ริวจิโค้งตัวเบาๆก่อนจะเดินจากไป  คาเซอริโอรอจนเสียงฝีเท้าเงียบไปจึงออกมาจากที่ซ่อน


   “คุณคาโลไม่น่าซ่อนตัวเลยนะครับ  ริวจิไม่ใช่คนน่าสงสัยอะไรสักหน่อย”


   “เฮ้อ  นายนี้นะ  อย่าลืมสิว่าตอนนี้ฉันถูกหมาป่าพวกนั้นจับตาดูอยู่ เกิดมีคนอื่นมาเห็นว่ามาหานายตอนดึกแบบนี้ก็เป็นเรื่องนะสิ”


   “อ๊ะ  จริงด้วยครับผมก็ลืมคิดไป”คาเซอริโอเหล่มองคนพูดด้วยแววตาหน่ายๆที่เจ้าหมอฮิโตะคงไม่มีทางได้เห็น  เหตุผลที่เขาบอกไปมันก็แค่ของอ้างเท่านั้นแหละแต่เหตุผลจริงๆที่เขาหลบนะไม่มีหรอกมันก็แค่สัญชาตญาณล้วนๆ


   “แล้วเจ้านั้นออกไปทำอะไรดึกๆดื่นๆ”


   “อ๋อ ไปเก็บสมุนไพรนะครับ”


   “หืม เก็บสมุนไพร”คนพูดเลิกคิ้วสูงเหมือนสงสัยเสียเต็มประดา  หรือพูดให้ถูกคือเขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปเก็บสมุนไพรตอนกลางคืน


   “มีสมุนไพรบางตัวที่จะออกฤทธิ์ได้ดีเมื่อเก็บได้ถูกที่ถูกเวลานะครับ  แต่ความจริงแล้ว rotundus จะเก็บตอนกลางวันก็ได้...อ๊ะ  คุณคาโลคงไม่รู้จักสินะครับ นี้นะครับเป็นยาที่ใช้สมานแผลให้คุณไง”มือขาวๆยืนต้นบางอย่างที่ดูยังไงก็เหมือนหญ้าต้นสูงในสายตาคาเซอริโอมาให้ดู


   “งั้นเหรอ”


   “ครับ  สรรพคุณดีมากๆเลยนะครับ  รักษาแผลได้ดีนักเชียว”หมอฮิโตะยิ้มกว้างกับตัวเองตีความว่าการพยักหน้าของคาเซอริโอคือความสนใจในเจ้าหญ้าชื่อประหลาด แต่ที่เขาสนใจจริงๆคือประโยคก่อนหน้านั้นต่างหาก  ฝืนออกไปตอนกลางคืนทั้งๆที่ออกไปตอนกลางวันก็ได้งั้นเหรอ   แล้วยิ่งช่วงนี้


   “ฉันกลับก่อนดีกว่า”


   “อ๊ะ..”


   “หายออกมานานแล้วเดี๋ยวชินริจะสงสัยเอา ถ้ามีคนอื่นมาอีกคงไม่ดีเท่าไหร่”


   “อ๊ะ  จริงด้วยนะครับ”


   “กลับหละ”


   “อ๊ะครับ  เดินกลับดีนะครับ”


   “อืม  อ๋อแล้วไม่ต้องเอายาไปฉันกินอีกแล้วนะ”


   “อ๊ะเอ่อ  ได้ครับ”คาเซอริโอยกยิ้มให้กับใบหน้าที่แดงระเรื่อก่อนจะเดินหายไปในเงามืดของแสงจันทร์ที่เหว้าแหว่งไม่เต็มวง  ประโยคสนทนาเมื่อครู่ยังวนเวียนอยู่ในหัวเหมือนของหวานที่วางล่อให้เด็กๆเดินไปติดกับดักแม่มด


   “ให้ตายสิ”มาเฟียหนุ่มสบถกับตัวเองอย่างหัวเสียที่ใส่ใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องและอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเขาแม้แต่น้อย  แต่ที่กำลังหงุดหงิดอยู่นี้ก็เพราะลางสังหรณ์ส่วนตัวล้วนๆแทนที่จะรีบกลับไปเพราะชินริคงรู้แล้วว่าเขาหายออกมา แต่ลางสังหรณ์บางอย่างก็ทำให้เขาตัดใจเดินเลี้ยวไปอีกทางจนได้


   ฝีเท้าเงียบกริบก้าวย่างช้าๆไปตามแนวป่า อาศัยเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาเป็นตัวนำทาง รอยเท้าและรอยหักของกิ่งไม้ยังคงทอดยาวไปเรื่อยๆ  รอยบนดินที่แตกระแหงเหมือนว่าคนที่เขากำลังสะกดรอยตามออกวิ่งด้วยความรวดเร็วไม่สนใจจะกลบรอยตัวเองให้เหมือนมืออาชีพหรือคิดอีกทีคงไม่มีเวลามากกว่า


   “อะไรจะรีบได้มากขนาดนั้นนะ”คาเซอริโอพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนตาสีเทาจะเบิกกว้างมากขึ้นเล็กน้อยและแหวกโพรงหญ้าข้างหน้าดูให้ชัดๆ  รอยเท้าที่มากกว่า 2 รอยและย้ำซ้ำๆอยู่กับที่เหมือนหยุดยืนและปรึกษากันด้วยเรื่องเคร่งเครียดก่อนจะแยกย้ายกันออกไป บ้าเอ้ย แสดงว่าเขามาไม่ทันสินะ


   ดวงตาสีเทากวาดมองไปรอบๆขณะชั่งใจว่าจะตามต่อดีหรือไม่ ประสาทตาและหูเปิดรับให้มากขึ้นก่อนที่ใจจะตัดสินใจว่าจะตามดูอีกหน่อย  ตามรอยเท้าที่ดูใหญ่กว่ารอยเดิมและลงน้ำหนักลึกกว่ารอยเดิม  มือขาวเอื้อมหยิบมีดยาวที่ข้อเข่าถือให้กระชับก่อนจะออกเดินตามไปช้าๆระแวดระวังมากกว่าเดิม  รอยใหม่แม้จะดูเร่งรีบแต่ก็อันตรายมากกว่าเพราะเหมือนจะมีรอยเท้าถึง 4 รอยอีกทั้งต้นไม้ใบหญ้าก็ถูกทำลายน้อยลงเหมือนพวกมันระมัดระวังไม่ให้เกิดรอยจนตามตัวได้ รอบครอบเหลือเกินนะ


   “ชิ  เดี๋ยวก่อน  หยุดสักพักได้ไหมพี่”เสียงพูดแปร่งทำให้คาเซอริโอแฝงตัวเข้าไปในแนวพุ่มไม้ข้างหลัง


   “อะไรของแกว่ะ”


   “ปวดเบาว่ะพี่ทนมานานขอหน่อยได้ไหม”


ปึก!!


   “ไอ้นรกเอ่ยมาปวดอะไรตอนนี้เดี๋ยวมันก็ได้แห่มาคาบคอหรอก”คนที่ตัวผอมกว่ายกมือขึ้นคลำหัวที่ถูกตบไปฉาดใหญ่


   “โถ่พี่มันทนไม่ไหวจริงๆนี้หว่า อีกอย่างเจ้านั้นมันก็บอกเองว่าวันนี้พวกหมานั้นไม่ได้มาตรวจทางนี้”เจ้าคนผอมกว่ายังคงเถียง


   “เออๆ  เร็วๆหละพวกนั้นยิ่งจมูกดีๆอยู่ด้วยขืนตามกลิ่นแกมาได้ตายกันหมด”


   “คร๊าบๆ  อูยรอเดี๋ยวนะพี่”คนร่างผอมวิ่งแยกไปอีกทาง  ดวงตาสีเทากวาดมองคนที่ยังคงยืนนิ่งพร้อมกระชับอาวุธในมือแน่น  ปืน  หึงานนี้คงน่าสนใจกว่าทีคิด  เงาดำพลิ้วตัวจากหลังเงาไม้เร้นกายหายไปในความมืด


   “อูย  ไม่ไหวแล้วโว๊ยขอหน่อยเถอะ”


จ๊อก!!!


   น้ำสายเล็กๆหยดลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก  คนปล่อยออกยิ้มกว้างก่อนจะผิวปากเบาๆ


   “อารมณ์ดีเหลือเกินนะ”เสียงเยียบเย็นกระซิบขึ้นจากด้านหลัง ดวงตาสีดำเบิกกว้างก่อนจะเบิกค้างเมื่อคมมีดวาววับสะท้อนกับแสงจันทร์เป็นจังหวะเดียวกับที่เลือดสีแดงสดพุ่งทะลึกออกจากแผลลึกบริเวณลำคอ  ลำแขนขาวค่อยๆปล่อยให้ร่างที่แน่นิ่งร่วงลงพื้นตามแรงโน้มถ่วง ลำเลือดสีแดงยังคงพุ่งกระตุกออกมาตามแรงเต้นของหัวใจก่อนจะแผ่วลงช้าๆจนกลายเป็นไหลเอื่อยออกมาในที่สุด


   “ไปดีนะ”ริมฝีปากยกยิ้มให้กับตัวเองก่อนจะลงมือค้นตัวศพอย่างรวดเร็ว  ปืนพกสองกระบอก  มีดยาวๆ1เล่มและแผ่นหนังที่มองไม่ชัดว่าเขียนอะไรไว้


   “น่าสนใจกว่าที่คิด”คาเซอริโอมองของในมือก่อนจะตัดสินใจโยนมีดด้ามยาวนั้นทิ้งเพราะเกะกะเกินกว่าจะพกพาตัดสินใจหยิบเพียงปืนสองกระบอกและแผ่นหนังไปเท่านั้น


   “ทำบ้าอะไรของแกว่ะช้าชิบหาย”


   “อืม โทษทีหาของนานไปหน่อยนะ”


   “แก..”ร่างชายอีกคนหันขวับปืนยาวในมือยกขึ้นชี้ตรงมายังคนแปลกหน้าที่ปรากฏตัวมาแทนลูกน้องของเขา


   “โอ๊ะ ๆๆอย่าดีกว่าเกิดโป้งป้างขึ้นมาพวกหมานั้นได้แห่กันมาแน่”


   “แกเป็นใคร  พวกหมาปีศาจงั้นเหรอ”


   “เปล่าๆแค่คนธรรมดา”


   “แกต้องการอะไร”คาเซอริโอมองคนพูดก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย  คิดว่าเจ้าบ้านี้อาจจะคุยได้ง่ายกว่าคนที่เขาเชือดคอมันไปเพราะดูท่าจะฉลาดมากกว่าแต่คงฉลาดกว่ากันไม่มากเท่าไหร่นักหรอก


   “คุย”


   “คุยเรื่องอะไร”


   “พอดีฉันสงสัยอะไรหลายๆอย่างนะ  ยกตัวอย่างเช่นแกได้ปืนในมือมาได้ไง”เจ้าคนถูกถามลดสายตาลงมองปืนที่ถือในมือก่อนจะตวัดตากลับมามองเขาโดยยังไม่ยอมลดปืนลง


   “แกรู้จัก”


   “ก็ประมาณนั้น  เอาอย่างนี้ดีกว่าพอดีฉันอยากรู้ว่าแกได้ปืนมาได้ยังไง  แค่ตอบมาก็จบแล้ว”


   “ใครจะไปตอบแก”


ปัง!!


   “ชิส์  บอกให้คุยกันดีๆไง”ร่างที่เซถลาไปเพราะแรงอัดของกระสุนปืนกัดฟันอย่างหัวเสียก่อนจะพุ่งเข้าปะทะเจ้าคนยิงปืนที่กำลังจะพยายามบรรจุกระสุนนัดใหม่


   “นรก บอกให้คุยกันดีๆไม่รู้เรื่อง”


พลั่ก!!


   หมัดหนักๆจากมือขาวพุ่งเข้ากระแทกแก้มซ้ายเต็มแรงจนหน้าหัน  เลือดสีแดงสดทะลักออกจากปากและจมูก


   “ตอบมา  แกไปเอาปืนนั้นมาจากไหน”ปืนสั้นในมือถูกเปลี่ยนไปจ่อหน้าผากคนที่เป็นรอง  มือยาวๆที่เอื้อมไปคว้าปืนถูกเหยียบกระทืบจนได้ยินเสียงกร็อบ ลำตัวที่พยายามลุกจากพื้นถูกเข่าหนาๆกระแทกกลางอกจนจุก


   “ถ้าไม่อยากมีกระสุนในหัวก็ตอบมา”


   “ฉันไม่บอก”หลังมือข้างที่ว่างฟาดเข้าเต็มซีกหน้าจนเลือดกบปากแต่คนโดนทำเพียงแค่ถลึงตามองและถมเลือดใส่หน้าเขาเท่านั้น


   “หึ อยากรู้อะไรอีกไหม”


   “นั้นสินะ”มือข้างที่ว่างป้ายเลือดพร้อมน้ำลายออกมา  ดวงตาสีเทามองปลายนิ้วที่ที่เปื้อนเลือดและน้ำลายนิ่งๆ


ปัง!!


   “อ๊าก!!!”


   “โสโครกจริงๆ”มือที่เปื้อนป้ายคราบเลือดปนน้ำลายลงบนใบหน้าที่หูข้างซ้ายหายไปตามแรงอัดของกระสุน 


   “อุตสาห์ว่าจะเล่นเงียบๆคงไม่ทันซะแล้ว  ป่านนี้พวกนั้นคงกำลังแห่กันมาหละมั้งเสียงปืนดังลั่นป่าขนาดนี้”คาเซอรโอยกยิ้มมุมปากนิ่งๆก่อนจะตบแก้มอีกฝ่ายเบาๆ


   “แกเป็นใครกันแน่”


   “ฉันอนุญาตให้แกถามฉันด้วยงั้นเหรอ  จำได้ว่าฉันถามให้ตอบนี้น่า”คำพูดเรียบๆออกจากปากพร้อมปลายกระบอกปืนที่กดแนบกับหน้าผากความร้อนที่ปลายกระบอกดูจะน่ากลัวน้อยกว่าความคิดที่ว่าลูกกระสุนกำลังจะพุ่งเข้าเจาะสมองหละมั้ง


   “หะ  หัวหน้าให้ฉันมา”


   “จากไหน”


   “ฉันไม่รู้  หัวหน้าให้พวกเรามา สอนให้พวกเราใช้”


   “แกเป็นคนที่ไหน”


   “ซอเซียร์  ข้าเป็นชาวซอเซียร์”


   “หืม”สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้คิ้วเข้มกดลงมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


   “งั้นเหรอ  งั้นแสดงว่าแกคงไม่รู้อะไรเพิ่มแล้วสินะ”


   “ม๊ะ ไม่ใช่นะ  ข้าแค่ทำไปตามคำสั่งของหัวหน้าเท่านั้น  ข้าแค่ล่าพวกนั้นตามคำสั่งของหัวหน้าเท่านั้น  เจ้านะปล่อยข้าไปเถอะนะแล้วมาแบ่งเงิน  เงินนะ พวกตัวเมียกับพวกลูกๆมันนะข้าแบ่งให้เจ้าก็ได้นะ  เท่าไหร่ก็ได้แค่ปล่อยข้าไป..”


   “เฮ้อแกนี้นะ..”


โฮก!!


ปัง!!


   เสียงสะท้อนของปืนดังมาพร้อมเสียงขู่กรรโชกและแรงกระแทกที่ส่งให้ตัวเขาลอยละลิ่วไปกระแทกกับต้นไม้


   “ไอ้บ้าเอ้ย”ดวงตาที่เผลอปิดไปชั่วครู่จากแรงกระแทก ลืมขึ้นอีกครั้งเพื่อพบว่าภาพตรงหน้าถูกย้อมด้วยสีแดงและอาการปวดหัวตุ๊บ


กรร!!!!


โบ๋ว!!


   เงาร่างสูงใหญ่หันขวับกลับมามองพร้อมดวงตาสีน้ำตาลที่ทอประกายในแสงจันทร์ ปากที่เต็มไปด้วยฟันขาวอ้ากว้างก่อนจะงับเข้าเต็มไหล่ เร็วเกินกว่าที่จะเปล่งเสียงร้องร่างทั้งร่างก็ลอยวืดขึ้นไปบนหลังตัวอะไรสักอย่างที่ออกวิ่งด้วยความเร็วเต็มฝีเท้า  ท่ามกลางเสียงด้านหลังทีห่างไกลออกไปและสติสัมปชัญญะที่ดับลง















      รอบนี้แวะมาส่งตอนใหม่ตามกำหนดคะ  ทางนู่นลงไม่ได้แต่ทางนี้ลงได้ตามปกติอีกไม่นานคงตามทันแน่นอน

      สำหรับตอนนี้คาโลไม่ชิวแล้วแต่มีเรื่องให้ยิงปืน ฆ่าคนผ่านเข้ามา   คาโลอาจจะโหดไปสักหน่อยแต่พ่อหนุ่มของเราก็เป็น

มาเฟียสายบู๊นี้นะ  แล้วพบกันตอนหน้าคะ
:hao7:
 

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 9 ร่วมชายคา   ใต้ผาสีดำ                                                               15/01/2557





   “เหม่ออะไรอยู่เหรอคาโล”เสียงทุ้มที่คุ้นหูเรียกให้คนที่กำลังเหม่อมองน้ำพุกลางสวนสวยด้านหน้าตวัดสายตากลับมามองคนพูดที่เห็นเพียงแผ่นหลังที่ก้าวย่างไปหย่อนตัวบนเก้าอี้


   “เปล่าครับดอน”


   “ดูห่างเหินจังนะ”คนพูดหัวเราะในลำคอก่อนจะยกแก้วใบเล็กๆขึ้นจิบ


   “หึ  ขอโทษครับ”


   “ช่วยอะไรหน่อยสิ”


   “ครับ”


   “ไปทวงของที่ริโอให้หน่อย”คิ้วสีทองขมวดฉับก่อนจะตวัดมองคนพูดแม้อยากจะเขม่นมองว่าคนพูดมีสีหน้ายังแต่ก็ไม่อาจมองเห็นได้เพราะแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องผ่านร่างนั้นเหมือนรัศมีทำให้คนที่ต่ำต้อยอย่างเขามองเห็นเพียงเงาเลือนรางที่กำลังห่างออกไปเรื่อยๆ


   “อเรสซิโอ”เสียงเรียกที่เปล่งออกจากปากเหมือนเสียงที่เปล่งไปไม่ถึงเจ้าของชื่อ  ในหัวหนักอึ้งชวนให้หลับตาลงอีกครั้งก่อนจะลืมขึ้นมาเพื่อพบกับแสงสว่างที่แยงตาเพียงไม่นานก่อนจะมีเงาดำของบางอย่างมาบดบังแสงนั้นไว้เหมือนเอื้ออาทรจนกระทั่งดวงตาสีเทาสามารถปรับตัวเข้ากับแสงได้จึงได้เห็นภาพตรงหน้าชัดๆ


   “เฮ้ย”


พลั่ก!!


   “โอ๊ย”เงาดำที่ทาบทับอยู่บนตัวหายไปพร้อมแรงหมัด  มือที่เอื้อมไปหยิบปืนข้างเอวชะงักก่อนจะพบว่ามันว่างเปล่าเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ให้เขาคิดทบทวนตัวเองอีกครั้ง


   “อะไรกันเจ้าทำกับผู้มีพระคุณอย่างนี้เหรอ”เสียงโอดครวญชวนสั่นประสาทดังขึ้นข้างๆเรียกให้ดวงตาสีเทาคู่สวยตวัดไปมองก่อนคิ้วสีทองจะขมวดฉับเมื่อเห็นชัดได้เต็ม 2 ตาว่าไอ้ที่เขาเพิ่งหมัดฮุกใส่เมื่อกี้คือไอ้หมาตาแป๋ว


   “น่าจะมีปืนแถวนี้นะจะได้ยิงทิ้งสักที”คนพูดถอนหายใจปลงๆเมื่อพบว่าปืนไม่มีจริงตามคิด


   “เจ้าหมายถึงสิ่งนี้หรือ”วัตถุสีดำเมื่อมถูกยื่นมาจ่อตรงหน้าแบบแปลกๆเหมือนคนที่ถือปืนไม่เป็นแต่ก่อนที่เขาจะยื่นมือไปคว้าเจ้านั้นก็ปาปืนทิ้งไปข้างหลังเหมือนทิ้งขยะ


   “เฮ้ย”คาเซอริโอถลาตามออกไปด้วยความเร็วสูงก่อนจะเบรกตัวเองแทบไม่ทันเมื่อเบื้องหน้าเขาคือหน้าผาสูงลิ่วที่ด้านล่างมีแม่น้ำเชี่ยวกรากและซากปืนที่ตกน้ำหายไปช้าๆ


   “แก”มาเฟียผู้เสียดายปืนพุ่งไปบีบคอไอ้หมาไม่รู้จักค่าของปืนด้วยความโมโห  ตั้งแต่มาอยู่ที่นี้เขาตามหาปืนแถบตายแต่มันดันทิ้งของที่เขาอยากได้เหมือนทิ้งขยะก้อนหนึ่งได้หน้าตาเฉย


   “แอ๊ก  หะ  หายใจไม่ออก”หมาในร่างคนพูดเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่อเขาบีบคอมันแน่น มือใหญ่ๆสองข้างเอื้อมมาหมายดึงมือเขาออกแต่เขาก็ปล่อยก่อนที่มือนั้นจะได้เตะตัวเขาจริงๆ


   “แค่กๆ เป็นมนุษย์ที่มือหนักจริงๆนะ”คาเซอริโอขี้คร้านจะใส่ใจคำบ่นลอยๆนั้นจึงได้หันไปสนใจรอบๆตัวและนึกได้ว่าภาพตรงหน้าเขาไม่คุ้นตาแม้แต่น้อย ที่ๆเขาอยู่มันดูเหมือนโพรงถ้ำเล็กๆที่ด้านหนึ่งเจาะเป็นช่องที่เมื่อกี้เขาเกือบโง่ถลาลงไป  ส่วนอีกด้านเป็นทางเดินมืดที่น่าจะนำไปที่ไหนสักแห่ง อย่างที่เขาไม่กล้าสำรวจด้วยสภาพร่างกายแบบนี้


   “ที่ไหน”


   “หืม  ที่นี้นะเหรอ”รอยยิ้มกว้างถูกส่งมาพร้อมคำถามที่คาโลตวัดสายตาเย็นเฉียบมองตาม แต่ก็ไม่สามารถทำให้หมาที่ถูกมองสะท้านกลัวได้นอกจากจะโคลงหัวเล่นและหัวเราะเบาๆเหมือนดีใจที่ยั่วโมโหเขาได้


   “บ้านข้าเอง”


   “บ้านแก”


   “อืม  น่าอยู่ไหมหละ”คนฟังขมวดคิ้วพยายามเข้าใจคำถามสลับการมองไปรอบๆ  โพรงถ้ำที่อากาศติดจะเย็นหน่อยๆกับมุมหนึ่งที่นั่งอยู่ซึ่งปูรองด้วยหนังสัตว์บางอย่างที่มองผ่านๆเหมือนหนังเสือด้านบนทับด้วยผ้ารองนุ่มๆแบบที่เขาเคยเห็นที่บ้านชินริ  ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นเหมือนกองข้าวของบางอย่างที่ดูเหมือนจับทุกอย่างมากองรวมกันทั้งอาหารหรือเครื่องใช้ต่างๆ


   “หึ  บ้านหมาชัดๆ”คาเซอริโอบ่นเบาๆแต่คงไม่รอดพ้นหูหมาที่อะไรทำกุกกักอยู่บนกองข้าวของที่เหมือนกองขยะนั้น ใบหูมันกระดิกนิดหน่อยเหมือนรับรู้แต่ก็ยังทำอะไรกุกกักต่อไปตัวใหญ่ๆที่ไม่สวมเสื้อนั้นทำให้เขาไม่รู้จริงๆว่าเจ้าหมานั้นทำอะไรอยู่เพราะมันดันบังซะมิด


   “อะ  กินซะ”ถ้วยดินเผาถูกยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับน้ำสีเขียวข้นด้านในที่มองผาดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นยา


   “ฉันไม่กิน”คาเซอริโอปฏิเสธเสียงแข็ง


   “หืม  เจ้าบาดเจ็บนะ กินหน่อยเถอะ”


   “ไม่”


   “เฮ้อ  หรือว่าเจ็บจนกินเองไม่ไหว  แต่ก็พูดได้นี้น่า  ไม่เป็นไร”คาเซอริโอลอบถอนหายใจ  ก่อนจะเปลี่ยนเป็นมึนงงเมื่อเจ้าหมานั้นกินยาในถ้วยเขาไปซะเอง มันบาดเจ็บงั้นเหรอ


   “เฮ้ย”ตัวหนาๆพุ่งเข้าหาพร้อมปากที่ประกบแนบกับปากของเขามือที่แข็งเหมือนคีมเหล็กง้างปากเขาออกจนรู้สึกได้ถึงรสชาติยาที่ไหลผ่านลงคอ  แม้จะออกแรงผลักดันเท่าไหร่ก็เหมือนจะไม่เป็นผลเพราะน้ำหนักทั้งตัวของเจ้าหมาที่ทับลงมามันหนักซะจนคนอย่างเขาขยับไม่ได้


   “อืม”


   “หือ”


โครม!!


   หมาตัวใหญ่ลอยละลิ่วจากตัวเพราะแรงถีบที่อยู่ดีๆก็มากขึ้นกะทันหันทันทีที่สัมผัสได้ถึงบางอย่างหยุ่นๆที่สอดเข้ามาในปาก


   “ไอ้หมานรก”


   “นุ่ม”ขายาวๆที่หมายเสยปลายคางหมาตัวก่อเหตุเป็นอันหวืดจากเป้าหมายเมื่อได้ฟังข้อความที่ชวนขนลุกท่ามกลางรอยยิ้มกระจ่างใสของคนพูด


   “แกตาย”คาเซอริโอพุ่งเข้าหาหมาในร่างคนที่กระโดดหลบไปรอบๆโพรงถ้ำอาศัยซอกของหินและความชำนาญเป็นตัวหลบหลีก


   “สภาพร่างกายเจ้าตอนนี้ตามข้าไม่ทันหรอกน่า  นอนพักดีกว่าเดี๋ยวแผลที่ข้าอุตสาห์ทำให้แยกเปล่าๆข้ายังไม่อยากทำแผลให้เจ้าใหม่นะ  แต่ถ้าอยากให้ข้าเช็ดตัวให้ใหม่ก็ได้นะ”ขาที่กำลังหวดเตะชะงักค้างกลางอากาศก่อนจะก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วพบว่าเขายังอยู่ในชุดกางเกงผ้าดิบสีน้ำตาลยาวตัวเดิมที่ไม่เหมือนเดิมคือมันสะอาดขึ้นและเสื้อเขาหายไป  มันจะสะอาดขึ้นได้ยังไงหละถ้ามันไม่ถูกใครแถวนี้ถอดออกไปซัก


   “นรก”ขายาวๆเตะใส่แง่งหินย้อยจนส่วนปลายหัก  กระแทกเข้ากับหัวหมาเต็มแรง


   “โอ๊ยเจ้า”


   “แกอย่าอยู่เลย”คาเซอริโอกระโดดปะทะจนทั้งหมาทั้งคนล้มหงายกันไปทั้งคู่  คนที่ตั้งตัวได้ก่อนนั่งทับอยู่ด้านบนมือเงื้อหมัดขึ้นสูง


   “มนุษย์ทำกับผู้มีพระคุณแบบนี้เหรอ”ปลายหมัดชะงักห่างผิวแก้มไปเพียงเส้นขนกั้น  เจ้าหมาเหลือบมองมือขาวๆที่กำหมัดแน่นก่อนจะลอบถอนหายใจและยิ้มกว้าง


พลั่ก!!


   “โอ๊ย”ใบหน้าเหลี่ยมนั้นสะบัดตามแรงต่อย  เลือดสีแดงสดซึมออกมาจากมุมปากคาดว่าข้างในคงแตกไม่ก็ฟันหัก


   “นี่เจ้า..”


   “ตอบแทนการป้อนยาของแกเมื่อกี้”คาเซอริโอตอบก่อนจะลุกออกจากตัวหมาแล้วเดินวนไปหยุดหน้าฟูกนอนก่อนจะเปลี่ยนใจเดินออกไปอีกทางที่เขาเห็นว่าเป็นทางเดินมืดๆ


   “เจ้าอยากอาบน้ำเหรอ  แต่ข้าก็เช็ดตัวให้เจ้าไปแล้วน๊า  หรือว่าไม่สะอาดพอคิดว่าเช็ดทุกซอกทุกมุมแล้วเชียวนะ”


ตุ๊บ!!


   ก้อนหินสีน้ำตาลเหลือบดำร่อนกะเทาะลงบนพื้นตามแรงชกของคาเซอริโอ


   “แหะๆ  ข้าว่าเจ้ามานั่งคุยกันดีๆดีกว่าไหม  เดี๋ยวแผลก็แยกหรอก”คำว่าแผลแยกทำให้คาเซอริโอนึกขึ้นได้พร้อมกับอาการเจ็บที่ไหล่ซ้ายซึ่งเต้นตุ๊บๆเหมือนจะประท้วงกับการออกกำลังกายของเขาเมื่อครู่


   “ทำไมฉันมาอยู่ที่นี้ได้”คาเซอริโอตัดสินใจสงบศึกชั่วคราวก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงบนผูกนุ่มๆที่น่าจะเป็นบริเวณที่น่านั่งที่สุดของโพรงถ้ำที่เจ้านั้นเรียกว่าว่าบ้าน


   “ข้าพาเจ้ามาเองหละ”


   “แกพาฉันมา  ยังไง”


   “คาบขึ้นหลังมา”คำว่าคาบทำให้คิ้วสีทองขมวดเข้าหากันแทบจะทันทีก่อนจะนึกได้ว่าก่อนเขาสลบไปเหมือนเห็นหมาเข้ามาหาแล้วโดนงับที่ไหล่  ดวงตาคู่สวยตวัดมองไหลซ้ายก่อนจะเห็นรอยฟันเรียงกันเป็นตับข้างๆรอยกระสุนถาก  หลักฐานยืนยันคำพูดชั้นดีเลยทีเดียว


“อ๊า  ข้าอาจกัดแรงไปหน่อย พอดีข้าไม่เคยพามนุษย์ขึ้นหลังมาก่อน”เจ้าตัวที่พูดยิ้มน้อยๆก่อนจะเกาหัวแกรกๆ


   “ช่างมันเถอะ แล้วเพื่อนแกตัวอื่นหละ”คาเซอริโอนิ่ง  ถ้าเจ้านั้นแบกเขาขึ้นหลังมาจริง บางทีเขาอาจจะไม่ถูกพวกนั้นสงสัยเรื่องศพ 2 คนนั้นก็ได้


   “อืม  น่าจะอยู่บ้านหละมั้ง”คนที่กำลังรอฟังคำตอบเผลอกำหมัดแน่น


   “ฉันหมายถึงพวกมันตามแกทันรึเปล่า”


   “อ๋อ  ไม่ทันหรอกเพราะตัวที่วิ่งเร็วกว่าข้ามีแค่ 2 ตัวเท่านั้นแต่ก็ตามมาไม่ทันหรอกนะ เจ้าไม่ต้องห่วง”


   “อืม  ดีแล้ว”คาเซอริโอพึมพำเบาๆแต่ก่อนที่เขาจะได้ดิ่งสู่ความคิดตัวเองก็ต้องชะงักเพราะคำถามใหม่ซะก่อน


   “เจ้าฆ่าพวกนั้นทำไม”ดวงตาสีเทาตวัดมองเจ้าคนถามที่นั่งยองๆอยู่บนขาหลัง 2 ข้างเหมือนที่หมานั่งรอเจ้าของแล้วก็ให้นึกแปลกๆขึ้นมาในหัว


   “ฉันฆ่าให้ก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง  พวกแกน่าจะขอบใจฉันนะที่อุตสาห์ฆ่าเจ้าพวกที่รุกรานฝูงพวกแกได้นะ”คาเซอริโอตอบแม้ว่ามันจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกแต่ก็ถือเป็นผลพลอยได้ที่เจ้าหมาพวกนั้นน่าจะพอใจ


   “เจ้าฆ่าทำไม”คำถามเดิมจากหมาตัวเดิมที่สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยเรียกรอยโมโหให้แล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ


   “แกจะอะไรนักหนา ฆ่าไปแล้ว ยังไงก็พื้นขึ้นมาไม่ได้อยู่ดีนั้นแหละ”


   “เจ้าตอบไม่ตรงคำถาม  หรือว่ามนุษย์เพียงฆ่าเพื่อความสนุกเท่านั้น”


   “แก”คาเซอริโอพุ่งเข้าไปกระชากคอหมาตรงหน้า


   “หากเจ้าไม่ได้ฆ่าพวกนั้นเพื่อความสนุกก็ตอบข้ามาสิว่าทำไม”ดวงตาสีน้ำตาลที่ทอแววขี้เล่นเสมอแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังแบบที่คนมองได้แต่ถอนหายใจและยอมปล่อยคอหนานั้นให้เป็นอิสระ


   “แค่อยากรู้อะไรนิดหน่อย”คาเซอริโอตอบก่อนจะถอยกลับไปนั่งที่เดิมขยี้ผมสีทองของตัวเองด้วยความหงุดหงิด แต่ถึงแม้เขาจะพยายามเลี่ยงการตอบคำถามแค่ไหนแต่ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นก็ยังคงจ้องมองด้วยความแน่วแน่ เฮ้อ ให้มันได้แบบนี้สิ


   “ปืน  ไอ้ของที่แกเพิ่งโยนทิ้งไปเมื่อกี้นั้นแหละ ถ้าให้ฉันคิดมันไม่น่าจะเป็นของที่ทำขึ้นจากที่นี่ มันทำขึ้นจากที่ที่ฉันจากมา ถ้าบางทีฉันรู้ว่าพวกนั้นเอามันมาได้ไงฉันอาจจะ..”


   “งั้นเหรอ”คนที่นั่งฟังอย่างสงบเสมอขัดขึ้นกลางประโยค  คิ้วสีทองขมวดฉับด้วยความโมโห  บทมันจะให้เขาพูดมันก็จ้องเอาจ้องเอา  แต่พอเขาพูดมันดันขัดขึ้นมากลางทางซะงั้นมันน่าเอาเท้ากระทืบปากหมาๆนั้นให้แตกไปสักทีจริงๆ


   “ตามมาสิ”เจ้าหมาตัวโตยืดตัวขึ้นยืนสองขาแม้จะไม่สามารถตั้งหลังตรงได้เหมือนมนุษย์ทั่วไปแต่ความสูงระดับนี้ก็สูงกว่าคาเซอริโออยู่ดีและนี้อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาไม่ชอบมันก็ได้ ถึงจะเจอคนสูงกว่าตัวเองมาพอสมควรแต่ทำไมพอเป็นไอ้หมานี้ถึงได้หงุดหงิดขนาดนี้ก็ไม่รู้


   หมาในร่างคนที่ทำเพียงเอาผ้าดิบมาพันส่วนล่างลวกๆเดินนำเขาไปยังทางเดินมืดนั้นก่อนจะเลี้ยวไปด้านขวามือคว้าก้อนหินสองก้อนขึ้นมาสีกันเบาๆจนเกิดประกายไฟติดบนคบเพลิงที่ทำมาจากกิ่งไม้และฟางแห้งๆพอเป็นแสงสว่างนำทางให้ให้พวกเขาเดินไปตามช่องหินมืดๆที่ทั้งชื้นและเย็น


   “ถึงแล้ว”


   “นี้มัน”หลังจากเดินมาไม่ไกลนักสิ่งที่คบเพลิงนั้นส่องให้เห็นคือกองอาวุธสีดำมะเมื่อมที่บางส่วนยังสะท้อนแสงเป็นมันเงา


   “ทำไมของพวกนี้ถึง..”


   “มนุษย์อย่างพวกเจ้าเป็นคนนำมันเข้ามาเพื่อล่าพวกเรา”เจ้าหมาตัวโตพูดทิ้งท้ายไว้แบบนั้นก่อนจะหันหลังกลับไปโดยทิ้งคบเพลิงไว้กับเขา    ดวงตาสีเทากวาดมองกองปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมากบนพื้น  ความไม่เข้าใจมากมายตีกันวุ่นในหัว   อากาศเย็นๆชื้นๆแบบนี้ทำให้บางส่วนขึ้นสนิท  และบางส่วนอาจใช้การไม่ได้แล้ว


   “เฮ้ย นั้น”ข้อมือขาวคว้าคบเพลิงที่วางทิ้งไว้บนพื้นมาถือก่อนจะใช้มือแหวกบรรดาปืนและกระสุนมากมายออกไปเพื่อคว้าหยิบปืนสองกระบอกที่ทำให้หัวใจเต้นแรง  คบเพลิงถูกวางไว้บนพื้นเมื่อมือทั้งสองข้างไม่ว่างพอจะถือมัน


   “สงสัยต้องไปขอบคุณเจ้าหมานั้นหน่อยแล้ว”คาเซอริโอคว้าปืนสองกระบอกนั้นขึ้นมาก่อนจะค้นหากระสุนที่ยังใช้การได้
 

   “มืดแล้วงั้นเหรอ”ดวงตาสีเทามองรอบถ้ำที่มืดลงถนัดตา  แสงสว่างที่เรือเรืองมาจากกองไฟข้างๆกองขยะที่น่าจะถูกสะเก็ดไฟกระเด็นใส่และไหม้หายไปซะในเร็วๆวันนี้


   “ถ้าเจ้าอยากกลับไปคงต้องเป็นพรุ่งนี้แล้วหละ”เจ้าหมาที่นั่งชันเขาอยู่ริมผาหันกลับมามอง รอยยิ้มบนใบหน้านั้นจางหายไปเล็กน้อยเมื่อมองเห็นของในมือเขาก่อนจะแปรกลับไปเป็นรอยยิ้มกว้างตามเดิม


   “นั่งสิ  เจ้าคงหิวแล้ว”คำว่าหิวทำให้คาโลตวัดไปมองกองไฟขนาดย่อมที่ก่อเอาไว้ในมุมถ้ำด้านหนึ่งซึ่งกำลังย่างบางอย่างที่ส่งกลิ่นชวนน้ำลายสอ


   “กระต่ายป่า  ข้าล่าได้เมื่อกี้”เจ้าหมาตัวโตยิ้มร่าอวดฟันขาวก่อนจะแบ่งเนื้อกระต่ายออกเป็น 2 ส่วนแล้วส่งส่วนหนึ่งให้เขา


   “ขอบใจ”คาเซอริโอเอ่ยคำขอบคุณออกมาเป็นครั้งแรกซึ่งเขาหมายรวมถึงการขอบคุณที่เจ้าหมานั้นช่วยเขา  เรื่องปืน เรื่องอาหารและอีกหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้


   “อืม  ไม่เป็นไร”เจ้าหมานั้นยิ้มกว้างให้เขาก่อนจะกัดเนื้อกระต่ายส่วนของตัวเองเข้าปาก


   “ฉันนึกว่าแกกินอาหารดิบๆซะอีก”


   “กินได้ทั้ง 2 แบบนั้นแหละแต่ถ้าอยู่ในร่างหมาก็กินเลยแบบดิบๆ ร่างหมามันก่อไฟไม่ได้นี้นะ”คาเซอริโอแยกเขี้ยวให้กับมุขตลกฝืดๆ ดวงตาสีเทามองเจ้าหมานั้นสลับกับทานเนื้อกระต่ายย่างของตัวเองช้าๆ


   “เจ้าพวกนั้นก่อนจะตายมันบอกฉันว่าจะจับตัวเมียกับพวกเด็กๆไป”ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นตวัดมองเขา ชะงักการกินไปเพียงเล็กน้อย


   “อืม สิ่งที่พวกข้ากำลังทำอยู่ก็คือการปกป้องตัวเมียกับเด็กๆ  ก็มันเป็นหน้าที่ของตัวผู้นี้นะ”เจ้าตัวยิ้มกว้างก่อนจะลงมือกินต่อ


   “ในกลุ่มพวกแกมีหนอน”


   “ห๊ะ”


   “ในกลุ่มพวกแก  มีใครสักคนที่ร่วมมือกับพวกมัน”ปากที่กำลังกินอาหารหยุดลง  ดวงตาที่ทอประกายขี้เล่นแข็งกราวขึ้นมาทันควันกับคำพูดของเขา


   “แกคงไม่บอกฉันหรอกนะว่ากลุ่มพวกแกรักกันปานจะกลืนกินจนไม่มีใครกล้าทรยศ”


   “ไม่หรอก  มันอาจจะมี เพียงแต่ข้าพยายามไม่นึกถึงมัน”เหมือนไหล่กว้างนั้นจะลู่ลงเล็กน้อยแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น  การบอกว่าในกลุ่มตัวเองมีคนทรยศมันคงเป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะรับฟัง  ตอนแรกเขาคิดว่าคงได้เห็นเจ้าหมานั้นเป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องคนทรยศแต่ดูจากปฏิกิริยาที่แสดงออกมาเมื่อครู่ พวกมันคงพอรู้เรื่องนี้บ้างแต่คงไม่พยายามนึกถึงเรื่องนี้เหมือนที่เจ้าตัวพูด  เป็นเขาเองหากมีใครบอกว่าในแก๊งค์ของเขามีคนทรยศเขาคงขำไม่ออก


   “แล้วแกจะทำยังไงต่อ”


   “ทิเบอริสยังไม่ได้ตัดสิน  เรายังทำอะไรไม่ได้เพราะพวกมันยังไม่ลงมือจริงจัง ทำได้แค่ป้องกันตัวเท่านั้น”คาเซิอริโอถอนหายใจออกมาเบาๆลองเจ้านั้นพูดออกมาแบบนี้ก็คงเป็นตามนั้น  หัวหน้ายังไม่ได้ตัดสิน  เจ้าพวกนั้นก็ยังไม่ได้ลงมือแถมยังมีหนอนคอยสอดแนมภายในแบบนี้ ต่อให้บอกว่าตั้งรับแต่ดูยังไงก็เสียเปรียบชัดๆนึกไปแล้วก็ชวนให้ห่วงชินริขึ้นมาแบบบอกไม่ถูกเพราะเธอเองก็เป็นหนึ่งในตัวเมียที่เป็นเป้าหมายในครั้งนี้


   “เสื้อฉันอยู่ไหน”เจ้าหมาตาสีน้ำตาลเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยก่อนจะชี้นิ้วไปยังกองฟูก  คาเซอริโอเดินไปค้นๆอยู่สักพักก่อนจะโยนแผ่นหนังสีน้ำตาลให้


   “เอา  ฉันได้มาจากหนึ่งในพวกมัน น่าจะมีประโยชน์บ้าง”แผ่นหนังสีน้ำตาลหล่นแหมะลงตรงหน้าเจ้าหมาที่รีบวางกระต่ายในมือลงและหยิบแผ่นหนังขึ้นไปดู  แสงไฟที่สาดกระทบทำให้เห็นว่าแผ่นหนังนั้นเหมือนแผนที่ที่ถูกฉีกออกมาส่วนหนึ่ง  ประกอบด้วยเส้นยึกยือที่เป็นขีดๆเป็นสัญลักษณ์ของที่ต่างๆ


   “แผนที่ของป่านอร์ซีร่า ตรงนี้คือแม่น้ำคีอานูฟ  ถัดขึ้นมาทางเหนือคือแม่น้ำอาเรมที่ๆพวกตัวเมียชอบไปซักผ้าส่วนนี้คือส่วนต้นของแม่น้ำอาเรม  แนวภูเขาที่ข้ากับเจ้าอยู่  ส่วนสัญลักษณ์นี้คือ..”ปลายนิ้วแข็งๆหยุดที่จุดกากบาทสีดำบนแผนที่ซึ่งถูกกาเอาไว้หลายตำแหน่ง ปนๆขึ้นทั่วทั้งแผ่นหนัง


   “สถานที่นัดพบหละมั้ง”คาเซอริโอเอ่ยขึ้นมาลอยๆตอบแทนที่เจ้านั้นอุตสาห์บอกตำแหน่งบนแผนที่ให้เขารู้  ตามที่เจ้านั้นว่ามาหากเขาเดาไม่ผิดป่าที่เขาอยู่นี้คือป่านอร์ซีร่าที่กินพื้นที่ค่อนข้างกว้างดูจากเส้นยึกยือที่วาดแสดงอาณาเขตแนวป่า ส่วนแม่น้ำคีอานูฟคงเป็นแม่น้ำที่เขาพบกับเจ้าคูลาตัส เจ้างูประหลาดนั้นเพราะเมื่อลากเส้นมาทางเหนือเขาก็พบว่าแม่น้ำคีอานูฟแตกแขนงออกไปเป็นแม่น้ำสายเล็กๆที่มาบรรจบกันและหนึ่งในนั้นที่อยู่เยื้องมาทางขวามือของเขาก็คือแม่น้ำอาเรมที่พวกตัวเมียชอบไปซักผ้า  ซึ่งพอประติดประต่อกันแบบนี้แล้วก็มีความเป็นไปได้ที่จุดที่เขาโผล่ลงมาจะเป็นใกล้แม่น้ำคีอานูฟ 


   ตอนแรกเขาคิดว่าหากกลับไปสำรวจที่เดิมที่เขาจากมาเขาคงได้รู้อะไรบ้างแต่ดูจากเจ้าสองคนที่เขาฆ่าทิ้งไปเมื่อวาน หมอฮิโตะ  ปืนในถ้ำของเจ้าหมานี้ หากเขาไปจริงอาจไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยก็ได้เพราะหากมีคนมากกว่า 1 ที่ถูกส่งมาที่นี้ก็หมายความว่าสิ่งที่ส่งเขามาที่นี้มันอาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่หรือที่ไหนก็ได้  ซึ่งอาจกำหนดแน่นอนไม่ได้แต่จากคำพูดของเจ้าตัวเมื่อคืนที่บอกว่าหัวหน้ามันเป็นคนเอาปืนมาให้  มีความเป็นไปได้ที่จะมีคนบังคับเจ้าสิ่งนั้นเพื่อให้ส่งปืนจากยุคเขามาให้  แม้จะดูน่าเหลือเชื่อที่จะมีใครหรืออะไรบังคับสิ่งที่ดูเหมือนเครื่องข้ามมิติได้ก็เถอะ  แต่มันก็เป็นข้อมูลที่เข้าใกล้ความจริงมากที่สุดและเป็นข้อมูลที่ให้ความหวัง  เขาและมนุษย์เองก็ชอบที่จะอยู่ต่อไปอย่างมีความหวังแม้ความหวังนั้นจะเป็นความหวังลมๆแล้งๆก็ตาม


   “ดูจากที่ฉันเจอเจ้าสองคนนั้นเมื่อวานกับเจ้าหนอนบ่อนไส้นั้นคิดว่าพวกมันคงลงมือเร็วๆนี้หละมั้ง”


   “เจ้าเจอคนทรยศงั้นเหรอ”


   “ไม่  ตามไม่ทัน แต่ถ้าให้ลองเดาดูจากความเร่งรีบในการนัดเจอทั้งๆที่พวกแกก็เฝ้าเวรยามเช้าเย็นแบบนี้แสดงว่าอีกไม่นานพวกมันก็น่าจะลงมือ”ท้ายประโยคจางหายไปในลำคอเพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันจะเริ่มลงมือแบบจริงๆจังๆตอนไหน  แต่ถ้าเป็นเร็วๆนี้แบบที่เขาคิดก็คงดี ใช่ดีแต่แค่กับเขาหละนะ


   “หึ  เจ้านี่น่าสนใจจริงๆด้วย  ชักชอบมากขึ้นแล้วสิ”


   “เฮ้ย”แขนหนารวบตัวเขาไปกอดแน่น แน่นจนเหมือนถูกมัดด้วยเชือกเส้นหนา  พอเขาออกแรงดิ้นมันก็รีบปล่อยออกและกระโดดสี่ขาออกไปไกลเกินระยะฝ่าเท้า


   “เจ้าอยู่ที่นี้ไปก่อนเดี๋ยวข้ากลับมา อย่าออกไปเดินข้างนอกมืดๆหละ”


   “ไอ้หมาเวร”เสียงสั่งความดังหายไปพร้อมเสียงสบถของเขา อึ๋ย  เล่นกับหมา หมาเลียปากแท้ๆ











          ตอนที่ 9 มาแล้วคะ ตอนนี้คาเซอริโอฝันถึงเหตุการณ์ในอดีต  เป็นการบอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวของคาโลและเปิดตัว

  ตัวละครฝั่งมนุษย์อีกคนหนึ่งคะ  ส่วนฟากพ่อหมาของเราก็ยังคงหวานกันเพิ่งขึ้นมาอีกนิด  ฉากสวีทหวานในตอนเป็นเพียง

น้ำจิ้มน้อยเท่าๆนั้นคะ  แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าคะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ดีใจที่มาต่อ

คาโลเริ่มได้เบาะแสอะไรแล้ว

และเรื่องกำลังจะข้นขึ้นเรื่อยๆ

คนที่สั่งให้คาโลไปทวงของนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องไหมนะ

มาต่ออีกนะ จะรอ  :hao7:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เราหายไปแปปเดียวพี่คาโลก็เจ็บตัวอีกจนได้ แหมๆ จะว่าหาเรื่องใส่ตัว หรือเรื่องวิ่งเข้าใส่ดีน้า~?
คิวบู้มันส์หยดติ๊งๆเลย ฮ่าๆ แหมๆ พี่คาโลนี่ดูจะเป็นที่ถูกใจของเจ้าหมาตาใส่นะเนี่ย~~
ทั้งช่วยซ่อมหลังคา ทั้งทำแผล ทั้งดูแล ทั้งเช็ดตัว แถมมีป้อนยาปากจ่อปากอีก กรี๊ดแปป เขิน~
อดีตของพี่คาโลหรอ งืมๆ เจ้านั่นมันเป็นใคร แล้วคาโลต้องกลับไปหาใคร
แล้วทำไมผู้ร้ายมีปืน ใครจะเป็นหนอนกันนะ โอ๊ย~ อยากรู้แล้วค่า มาต่ออีกนะ เราจะรอนะ >_<

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 10 การปะทะกันของหมาและคน(1)                                            03/02/2557


   อากาศเย็นๆที่เกิดจากลมพัดปะทะเข้ากับละอองจากน้ำตกทำให้อากาศในถ้ำค่อนข้างชื้นบวกกับความเย็นของพนังหินทำให้เหมือนอยู่ในห้องแอร์ที่แสนเย็นสบาย  บรรยากาศที่เย็นเหมือนฝนตกใหม่ทำให้คนที่นอนอยู่คร้านที่จะตื่นหากไม่ใช่สัมผัสนุ่มๆของอะไรบางอย่างที่ปัดผ่านผิวแก้ม


   เปลือกตาสีขาวกระพริบถี่ก่อนจะลืมขึ้นช้าๆจะพบบางอย่างที่วูบไหวไปมาด้านข้างแก้ม  แกว่งไปทางซ้ายทีขวาทีจนคนมองได้แต่ถอนหายใจและตัดสินใจเอื้อมมือไปจับเจ้าสิ่งนั้นไว้ให้หยุดเคลื่อนไหว แต่พอเขาปล่อยมันก็โบกไปมาอีกรอบเหมือนสนุกเสียเหลือเกินกับการโบกหางสั้นๆใส่แก้มเขา


   “แกปลุกฉันดีๆไม่เป็นรึไงห๊ะ”มือขาวขยุ้มคอตัวปัญหาขึ้นมา พลิกจากท่านอนตะแคงมาเป็นนอนหงายพร้อมกับมือที่หิ้วเอาเจ้าก้อนปุกปุยสีดำขึ้นมาชูไว้ตรงหน้า


บ๊อก!!


   เสียงเห่าเบาๆพร้อมลิ้นสีแดงสดที่แลบออกมา  มองยังไงก็ดูน่าลักน่าฆ่าทิ้งจริงๆนั้นแหละ


   “แล้วไอ้หมานั้นไปไหนของมัน”เจ้าขนปุยที่เขาเพิ่งปล่อยลงข้างตัวเงยขึ้นมองเหมือนจะสงสัยว่าเขาถามหาหมาที่ไหนในเมื่อมันก็อยู่ข้างๆ


   “ฉันไม่ได้หมายถึงแก  ว่าแต่ช่างเถอะ..”คนที่เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างกลับเงียบไปเพราะคิดสะระตะไปแล้วหากเขาถามว่ามันมาอยู่ที่นี้ได้ไง  เขาคงบ้าไม่น้อยที่คิดถามแบบนั้นกับหมาที่ไม่สามารถอ้าปากตอบให้เขาได้


   ส่วนไอ้หมานั้นเขายังไม่เห็นมันและไม่รู้สึกถึงการมาของมันก็หมายความว่าเมื่อคืนมันไม่มา  ประสาทสัมผัสของเขาไม่น่าพลาดหากมันกลับมาจริงเขาก็น่าจะรู้สึกตัว  ส่วนไอ้หมาขนปุยนั้นคงอยู่ในข้อยกเว้นที่สัญชาตญาณของเขาไม่เคยจับการมาของมันได้สักที


   “เฮ้อ”ร่างขาวๆผุดลุกขึ้นจากฟูกนอนที่ยึดเป็นของตัวเองเมื่อคืนนี้  ยืนบิดซ้ายขวาก่อนจะพบว่าแม้ร่างกายฝืดๆไปบ้างแต่แผลก็หายดีเกือบเต็มร้อย  แผลกระสุนก็จางไปมากเหลือแค่เจ็บจี๊ดๆคงเพราะยาดี


   ดวงตาสีเทาเบิกกว้างเมื่อคิดถึงยาดีและวิธีการป้อนยาเมื่อวานขนทั่วแขนขาก็พร้อมใจพากันลุกชันที่ แน่ๆไม่ได้เกิดจากอากาศหนาวเพราะเขาไม่ได้ใส่เสื้อแน่ๆ


   ดวงตาสีเทากวาดไปทั่วผนังถ้ำแสงแดดที่สาดส่องมาทางช่องที่เปิดออกสู่น้ำตกและช่องบนเพดานถ้ำทำให้มองเห็นบริเวณโดยรอบได้ดีกว่าปกติ  ทางเดินมืดที่เขาเห็นเมื่อวานกลายเป็นทางเดินสว่างๆที่มีซอกมีแง่งให้ค้นหา  หินงอกหินย้อยเปล่งประกายสะท้อนกับแสงแดดถ้าไม่นับเรื่องความรกก็นับว่าเจ้าหมานั้นหาที่อยู่ได้ดีไม่น้อย


   ขายาวๆก้าวไปตามเส้นทางเดิมที่เจ้าหมานั้นเคยพาเขาไปดูปืนแต่เดินไปได้แค่พักเดียวเขาก็เลี้ยวไปอีกด้านจำได้ว่าไอ้หมายักษ์นั้นมันทักเขาเอาไว้ว่าเขาคงอยากอาบน้ำ  มือขาววางเปะปะไปตามทางเดินกว้างขนาดที่คนโตๆสวนกันได้ค่อนข้างลำบาก แนวแตกที่ร่องหินทำให้มองเห็นทางเดินจากแสงแดดที่รอดเข้ามาและเมื่อมองไปด้านล่างผ่านร่องหินที่แตกขนาดที่คนเท่าเขาจะกระโดดออกไปได้สบายก็พบว่าด้านล่างเป็นเหมือนผาขนาดเล็ก  ตกลงไปคงไม่สวยแต่หากกระโดดพุ่งไปเกาะต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปเกือบจะ 2เมตรมันก็เป็นเส้นทางไปน้ำตกที่น่าตื่นเต้นดีไม่น้อย


    เขาละสายตาจากภาพมุมด้านข้างของน้ำตกก่อนจะเดินเรื่อยเข้าไปข้างใน  ความมืดที่เริ่มมากขึ้นทำให้เขาเริ่มหงุดหงิดและเผลอคิดไปว่าโดนเจ้าหมานั้นหลอกแต่ก่อนจะได้กรนด่ามันในใจก็พบแสงสว่างเบื้องหน้าที่สาดส่องลงมาจากโพรงถ้ำกว้างเกือบ 2 เมตรที่ด้านบนปกคลุมด้วยเถาวัลย์หนา ทำให้แสงแดดที่ส่องผ่านใบของพวกมันเข้ามากลายเป็นจุดสีส้มเล็กๆที่วูบไหวได้ยามเมื่อลมผ่าน ริมฝีปากสีส้มยกยิ้มให้ตัวเองก่อนจะเดินผ่านแนวแสงธรรมชาติเขาไปด้านใน


   ซอกหินแตกเป็นแนวเล็กๆขนาดกว้างประมาณ 2 ฟุตที่มีน้ำตกไหลพุ่งลงมาทำให้ดูเหมือนซาวเว่อร์อาบน้ำดีๆนี้เอง


   “อาบน้ำด้วยกันไหมซ๊อค”ริมฝีปากสีส้มสดเหยียดยิ้มให้ลูกหมาขนปุยที่ยืนอยู่ห่างออกไปเกือบ 2 เมตรหลังแนวแสง


   “เหอะ ไอ้หมาสกปรก”ว่าเสร็จคนว่าก็ยื่นมือเขาไปใต้น้ำก่อนจะพบว่าน้ำนั้นเย็นเหมือนแช่น้ำแข็ง  มือขาวสะอาดรองน้ำเย็นๆมาลูบหน้าหลายๆครั้งก่อนจะค่อยๆปลดกางเกงผ้าสีน้ำตาลเนื้อหนาพร้อมรองเท้าสานที่ชินริหามาแทนเฟอรากาโม่คู่เก่าออกแล้วโยนพวกมันทิ้งไปด้านที่เจ้าหมาขนปุยนั้นอยู่


   “หึ  ฉันไม่ชอบให้ใครมาดูตอนอาบน้ำนะจำไว้”ก้อนกลมๆที่โดนกางเกงทับค่อยๆมุดออกมาจนกระทั่งหัวเล็กๆนั้นสามารถโผล่ออกมาจากกองผ้าได้


   ภาพที่สะท้อนผ่านดวงตาสีดำคู่โตคือภาพขาวสร่างที่ยืนอยู่ใต้สายน้ำตกขนาดเล็ก  เส้นผมสีทองสะท้อนแสงแดดยามเช้าเป็นประกายเหมือนเส้นไหม เวลาโดนน้ำและมือขาวๆนั้นลากผ่านก็ราบไหวยาวไปจรดต้นคอขาว  ดวงตาสีเทาที่ปกติจะทอประกายดุกลับหลับพริ้มใต้ละอองน้ำที่สาดกระเซ็นมาโดนใบหน้า ก่อนมือขาวๆนั้นจะลูบน้ำผ่านหน้าผากเกลี้ยงเกลาลงมาที่คิ้วสีทองสวย ผ่านสันจมูกโด่งและสิ้นสุดที่ริมฝีปากสีส้มที่ชอบพูดคำแปลกๆที่ไม่เหมือนภาษาของมัน


   ใบหน้าได้รูปนั้นเงยหน้ารับน้ำอีกครั้งปล่อยให้หยดน้ำหยดจากปลายคางได้รูปไหลเรื่อยลงมาตามคอยาวขาว  แอ่งกระดูกที่ไหล่  แผงอกที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ  จุดแต้มสีชมพูสดบนหน้าอก  แนวกล้ามเนื้อที่วางเรียงเป็นคู่ๆ1 คู่ 2 คู่ 3 คู่ แนวสะดือที่บุ๋มเข้าไป ไรขนอ่อนที่แทบจะกลืนไปกับสีผิวลากยาวเป็นเส้นตรงลงมาด้านล่าง...  ภาพในดวงตานั้นเปลี่ยนมุมเมื่อแขนยาวเอื้อมไปเท้ากับพนังก้มหน้าลงปล่อยให้สายน้ำไหล่เรี่ยลงมาตามแผ่นหลังกว้าง สะบักไหล่ แนวกล้ามเนื้อที่ค่อยๆลู่ลงก่อนจะผายออกอีกครั้งพร้อมแนวโค้งที่นูนขึ้นเป็น.....


   “โอ๊ะ สะดวกดีแหะ”ดวงตาสีดำกลมตวัดมองมือขาวๆเอื้อมออกไปข้างสายน้ำตรงจุดที่มีรอยแตกยาวๆพอให้กิ่งไม้ 2-3 กิ่งจะลอดเข้ามาได้ ใบไม้สีเขียวๆที่กลิ่นค่อนข้างฉุนแต่ใช้สระผมแล้วสบายหัวอย่างหน้าเหลือเชื่อ 


   ใบไม้ 4-5 ใบในมือถูกขยี้ผสมกับน้ำจนเป็นฟองก่อนจะนำมาสระผม เขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันคือใบอะไร รู้แค่ว่าชินริแนะนำกับเขาว่ามันสระผมได้แค่ขยี้ให้เป็นฟองเอามาขยี้กับผมแล้วล้างออกก็แค่นั้น


   มือขาวๆนั้นสระผมไปช้าๆพอให้ทั่วก่อนจะล้างออกแล้วเอื้อมมือไปหยิบเอาใบไม้ของอีกต้นขึ้นมาขยี้ผสมกับดอกไม้สีม่วงสดจนเกิดฟองหากเป็นที่บ้านชินริเขาคงไม่ต้องมาขยี้เองเพราะชินริจะตากแห้งแล้วเก็บเอาไว้สำหรับอาบน้ำโดยเฉพาะแต่ที่นี้ก็นับว่าโชคดีที่ต้นไม้พวกนี้มาขึ้นอยู่ข้างๆที่อาบน้ำ


   มือขาวๆลูบเอาฟองของใบไม้ไปตามลำตัวช้าๆ  ก่อนจะขัดไปตามท่อนขายาวเคลื่อนผ่านรอยแผลเป็นจากกระสุนที่เขาเป็นคนกรีดออกและรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดยาวๆถากอีกข้างหนึ่ง  แผลเป็นที่เขาไม่เคยภาคภูมิใจกับมัน


   “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ชอบให้ใครมาดูฉันอาบน้ำ”ใบหน้าเหลี่ยมเล็กเอียงมองด้วยความสงสัยก่อนดวงตาสีดำคู่โตจะเบิ่งกว้างเมื่อโดนหิ้วคอเข้าไปใต้น้ำตกจนขนดำๆนั้นเปียกลู่  มือขาวๆเอื้อมหยิบใบไม้สำหรับสระผมก่อนจะขยี้ลงบนตัวหมาที่พอขนลีบแล้วดูตลกมากกว่าน่ารัก 


   “แกนะมันสกปรกต้องอาบบ่อยๆรู้ไหม”ว่าไปมือก็ค่อยขยี้ไปตามขนสีดำนั้นเร็วๆ  ขัดไปทุกซอกทุกมุมจนแน่ใจว่าทั่วจึงยกตัวลูกหมาขึ้นไปใต้น้ำตกให้น้ำสาดโดนล้างฟองออกจากขนลีบๆนั้น


หงิง  หงิง!!


   “อะไรแค่นี้ทำเป็นหนาวแล้วเหรอ”ริมฝีปากจุดยิ้มขำเมื่อหมาตัวเปียกสั่นเป็นเจ้าเข้าเหมือนหมากลัวผี


ฮัดชิ้ว!!


   จมูกสีดำสั้นๆจามออกมาครั้งใหญ่  พาทำให้คนที่ไม่ชอบสิ่งมีชีวิตเล็กๆนึกเอ็นดูมันขึ้นมา


   “เป็นหมาต้องอดทนรู้ไหม”ปากว่าไปนั้นก่อนจะวางเจ้าตัวเล็กลงบนพื้นให้สะบัดจนน้ำกระจาย  มือที่กำลังเอื้อมไปหยิบกางเกงพลันนึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่เอาเสื้อมาจากบ้านชินริเลย  เฮ้อ แบบนี้คงต้องใส่ตัวเก่าไปก่อนแล้วลงไปเอาซะแล้วหละมั้ง


   “ซ๊อค  จำทางไปบ้านชินริได้ไหม”หมาเจ้าของชื่อหันมามองก่อนจะสะบัดก้นเดินออกไปทั้งเปียกๆเหมือนงอน


   “เฮ้ย  อย่ามางอนนะโว๊ย  พาฉันไปบ้านชินริซะดีๆ”คนที่แต่งตัวด้วยกางเกงเรียบร้อยแล้วเดินตามหมาขนลีบออกไปยังโถงถ้ำกวาดตามองหาเสื้อตัวเองที่วางกองๆไว้ด้านข้างฟูกขึ้นมาสวม  ตั้งใจว่าคงต้องลงไปหาชินริซักที  เขาหายมาก็นานมากแล้ว  สาวเจ้าอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ว่าเขาหายมาเพราะไอ้หมานรก 1 วันเต็ม แต่อย่างน้อยๆเขาก็ควรโผล่หน้าไปให้เห็น ก่อนจะตัดสินใจต่อไปว่าจะทำยังต่อ


   “ไปกันเถอะซ๊อค”คาเซอริโอหันไปเรียกเจ้าลูกหมาที่ขนเริ่มแห้งหลังจากเก็บข้าวของเสร็จ  เจ้าตัวเล็กเดินนำออกไปตามทางเดินมืดๆที่เจ้าหมาบ้านั้นวิ่งหายไปเมื่อวาน  พอเป็นตอนกลางวันถึงได้รู้สึกว่าสว่างขึ้นมาหน่อย  ทางเดินกว้างประมาณ2 เมตรขนาบข้างด้วยหินแข็งแรงสลับ คดเคี้ยวกันไป  หากทำเป็นที่ซ่อนมันคงมีข้อเสียที่ไม่สามารถสังเกตศัตรูได้จากจุดที่พัก  แต่ข้อดีของมันคือความก้องของผนังหากไม่เดินเข้ามาดีๆแบบเงียบๆคนด้านในคงไหวตัวทันและหากจะหนีก็คงหนีได้ไม่ยากเพราะถ้ำที่มีซอกทางเดินมากขนาดนี้หากชำนานก็เป็นชัยภูมิที่ได้เปรียบแม้เขาจะเป็นมาเฟียที่ถนัดซ่อนตัวบนซากตึกหรือกองข้าวของมากกว่าแต่ก็ยังอดที่จะชอบถ้ำนี้ไม่ได้


   หลังเดินออกมาซักพักภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือปากทางเข้าถ้ำที่ปกคลุมด้วยแนวต้นไม้และเถาวัลย์มองผ่านๆคงมองไม่เห็นทางเข้า  เศษดินที่เริ่มปะปนกับเศษหินทำให้มองไม่เห็นรอยเท้าของเจ้าหมาปีศาจนั้นว่าหายไปทางไหน 
   ขายาวๆก้าวตามหมาตัวจ้อยที่เดินออกไปด้านขวา  ไต่เรียบไปตามแนวหินช้าๆ ทางเดินที่ลาดลงเรื่อยๆพร้อมเสียงน้ำตกที่แว่วห่างออกไป  หากวัดจากพื้นราบก็นับว่าเป็นถ้ำที่ไม่สูงมากนักไม่ต้องตะเกียดตะกายขึ้นไป  จากที่ตั้งของถ้ำน่าจะตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างแม่น้ำอาเรมและที่ตั้งของกลุ่ม  ถ้ำในภูเขานั้นน่าจะเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำอาเรม


   “ชักช้าเกินไปแล้ว”เมื่อเข้าใกล้แนวป่าที่เริ่มคุ้นตามือขาวก็ฉวยเอาเจ้าตัวเล็กมาอุ้มไว้ในมือข้างหนึ่ง  ดวงตาสีเทากวาดมองไปทั่วๆแนวป่าที่เริ่มบางลงก่อนจะเริ่มมองเห็นบ้านหลังแรกที่เก่าโทรมเหมือนไม่มีคนอยู่ ถัดมาคือบ้านใต้ต้นไม้ของช่างไม้คาเพนเตอร์  บรรดาหมาในร่างคนยังคงมองเขาด้วยสายตาแปลกๆเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่ที่เปลี่ยนไปคือจำนวนคนในหมู่บ้านน้อยลง  บรรดาตัวผู้ในหมู่บ้านหายไปมากโดยเฉพาะพวกตัวรุ่นๆกับเจ้าหมานั้น  พวกที่ยังอยู่ก็ดูเหมือนจะเคร่งเครียดมองทุกคนตาขวางๆกันหมด  หึ  คงไม่พ้นแผนที่เมื่อวานที่เขาให้เจ้าหมานั้นไป  ป่านนี้อาจจะกำลังกระจายกำลังกันตรวจตามจุดกากบาทบนแผนที่นั้นก็ได้ อย่างน้อยการให้แผนที่กับเจ้าหมานั้นไปก็ไม่เสียเปล่าซะทีเดียวและดูเหมือนจะคุ้มค่าที่จะลงทุนหละนะ


   ปลายเท้าหยุดชะงักเมื่อก้าวมาถึงบ้านต้นไม้ที่คุ้นเคย  ความเงียบที่ปกคลุมเรียกให้ความรู้สึกบางอย่างแล่นขึ้นมาแต่เจ้าตัวก็ทำเพียงปัดมันออกไปและยกมือเคาะประตู


ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก


   ความเงียบที่ตอบกลับมาทำให้คิ้วเรียวสีทองขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป  ประตูไม่ได้ล็อคตามธรรมดาของบรรดาหมาๆทั้งหลายที่ไม่ชอบล็อคประตูบ้าน  เขาเคยแย้งไปแล้วรอบหนึ่งว่าเจ้าหล่อนเป็นผู้หญิงน่าจะล็อคซักหน่อยแต่ชินริก็ทำเพียงยิ้มสว่างกลับมาเท่านั้น  ทำให้เขาเลิกที่จะแย้งเพราะยังไงซะความคิดของคนอย่างเขาก็ไม่เหมือนกับพวกหมาปีศาจอยู่แล้ว


   “ชินริ”คาเซอริโอออกปากเรียกในความเงียบ ลางสังหรณ์บางอย่างเรียกให้เลิกผ้าสีน้ำตาลตุ่นๆที่ปิดห้องสาวเจ้าไว้ออก  ภายในห้องเงียบไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิต ขายาวๆก้าวไปอีกฟากเลิกผ้าดูห้องของเจ้าชินอูก่อนจะพบความว่างเปล่าอีกครั้ง  ความรู้สึกแปลกๆที่รู้สึกเมื่อก้าวมาถึงบ้านตีรวนขึ้นมาอีกครั้ง


   ขายาวๆก้าวไปที่อีกฟากบ้านซึ่งเคยเป็นที่นอนของเขาเลิกผ้าปูออกก่อนจะคว้าเอาห่อผ้าหนาๆขึ้นมา มือสองข้างรีบถลกขากางเกงข้างขวาขึ้นก่อนจะมัดซองมีดที่ขอให้ชินริเย็บให้ลงไปใส่มีดด้ามยาวลงแล้วรั้งกางเกงลงมาปิดเหมือนเดิมแล้วเลิกขากางเกงข้างซ้ายขึ้นตรวจสอบซองมีดสั้นที่เขามักพกติดตัวเสมอๆว่ายังเรียบร้อย  ซองปืนที่เอวถูกคว้าขึ้นมาจากห่อผ้า  มือขาวปลดแม๊กกาซีนลูกรักทั้งสองที่อุตสาห์นั่งทำความสะอาดทั้งคืนขึ้นมาเซ็คลูกกระสุนก่อนจะประกอบลงไปตามเดิมและเก็บเข้าซองที่เอวดึงเสื้อลงมาปิดให้เรียบร้อย Colt 1902military 2 กระบอก กับกระสุนนอกอีก 20 นัด ไม่พร้อมเท่าไหร่ นี้อาจเป็นครั้งแรกที่คนอย่างคาเซอริโอนึกไม่อยากยิงปืนขึ้นมาชั่วแว๊บ


   “ตามมา  ฉันยังจำเป็นต้องใช้จมูกของแกช่วย”มือขาวคว้าคอลูกหมาขนปุยสีดำขึ้นมาก่อนจะเดินเร็วๆไปที่เป้าหมายต่อไป ที่ๆอาจจะบอกเขาได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง


   “หมอ”


ปัง!!


   ประตูไม้บานหน้าถูกถีบออกกระแทกกับพนังดังโครม


   “อ๊ะ  คุณคาโลไปไหนมาครับ  เมื่อคืน..”


   “เจ้านั้นอยู่ไหน”


   “ใครครับ”


   “ผู้ช่วยหมอ  ไอ้คนที่ตัวเล็กๆมีผ้าพันแผลที่หัวนั้นนะ”


   “อ๋อ คุณริวจิ  ทำไมเหรอครับ”


   “ฉันถามว่ามันไปไหน”มือใหญ่กระชากแขนหมอร่างเล็กมาเขย่าด้วยแรงอารมณ์


   “เออ  คุณคาโลครับผม..”


   “เฮ้อ โทษที  ฉันใจร้อนไปหน่อย  ตอนนี้ฉันยังบอกอะไรไม่ได้นะ  แต่ช่วยบอกทีว่าเจ้านั้นมันไปไหน”คาเซอริโอรีบปล่อยแขนที่เขาบีบจนแน่นออก  เจ้าของแขนคลำแขนปรอยเหมือนเจ็บ


   “ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ปกติเขาจะมาหาผมทุกเช้าแต่วันนี้ก็ยังไม่เห็นมาเลยสงสัยจะตื่นสายหละมั้ง”


   “เห็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”


   “เมื่อวานตอนเย็นๆหละมั้งครับ  ก่อนพระอาทิตย์ตกดินปกติเขาก็กลับบ้านเวลานั้น”คิ้วสีทองขมวดฉับใช้ความคิด  เมื่อวานหลังพระอาทิตย์ตกดินเขาก็ให้แผนที่นั้นกับเจ้าหมาไป  จากถ้ำมาถึงนี้ใช้เวลาไม่กี่นาที


   “พวกหมาตัวผู้ไปไหนหมด”


   “อ๊ะ เอ่อ  หมายถึงพวกผู้ชายเหรอครับ ผมเห็นวิ่งออกไปช่วงหัวค่ำนะครับ ตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลย แปลกเหมือนกันนะครับที่พวกเขาหายกันไปนานแบบนี้ ปกติต้องส่งคนกลับมาเปลี่ยนเวรไปแล้วแท้ๆ”ยังไม่กลับมา  หากดูจากระยะทางในแผนที่ถ้าพวกหมานั้นคิดจะไปดูทุกจุดตามแผนที่มันก็คงจะใช้เวลานานมากกว่าจะกลับมา เจ้าบ้านั้นก็ดันมาหายไปแบบนี้อีกสังหรณ์ใจแปลกๆ


   “วันนี้พวกผู้หญิงไปไหน”


   “เอ่อ  ไปซักผ้าตามปกตินั้นแหละครับ  ก็วันนี้ครบรอบซักผ้าพอดี”พอดีเกินไปนะสิ ถ้าแบบนี้มันก็หมายความว่า


บรู๊ววว!!


   “เสียงอะไรนะ”


   “เสียงหอนแบบนี้มัน  การสื่อสารของพวกเขานะครับ  แต่ผมว่ามัน……”


   “ของริวจิ  ของไอ้บ้านั้นอะไรก็ได้หยิบมาให้ที  เร็วๆเข้า”


   “อ๊ะ ครับๆ”หมอฮิโตะรีบหมุนตัวกลับเข้าไปในบ้านก่อนจะกลับออกมาพร้อมผ้าผืนใหญ่ 1 ผืน


   “อ๊ะ  นี้ครับผ้ารองไหล่เขาใช้ประจำเวลาเขาเอาตะกร้าไปเก็บสมุนไพร”มือขาวคว้าเอาผ้าผืนใหญ่ยื่นไปให้เจ้าลูกหมาที่ทำจมูกฟุดฟิตดมก่อนจะคว้าเอา Colt 1902military มากระชับไว้ในมือขวา


   “คุณคาโลเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”เสียงถามดังสั่นๆเมื่อมองเห็นอาวุธในมือเขา


   “ฉันก็ยังไม่แน่ใจ  นายรออยู่ที่นี้เตรียมตัวให้ดี แต่ถ้าเจอพวกที่ไปล่าตระเวนกลับมาหรือใครก็ได้ที่มันไว้ใจได้บอกให้ไปหาฉันที เข้าใจนะ”ว่าจบมือใหญ่ก็คว้าคอหมาสีดำมาไว้ในมืออีกข้างและผลุนผลันวิ่งไปทางแม่น้ำ  ภาวนาให้ลางสังหรณ์และอะไรที่เผลอคิดไปไม่เกิดขึ้น  ขอให้ทันทีเถอะ ชินริ










       มาส่งตอนใหม่แล้วคะ  รอบนี้มาดึกเพราะกลัวไม่ได้ลงตามเวลาทีกำหนด  การทำงานเป็นกะๆนี้มันคุมเวลายากเอาการนะคะเนี่ย

       ตอนนี้เขียนไปน้ำลายคนเขียนก็หกไปแต่ไม่รู้นักอ่านจะเป็นเหมือนกันไหม  เพราะสำหรับคนเขียนแล้วฉากอาบน้ำของพ่อหนุ่มคาโลนั้นมันอิโรติคเข้าขั้นอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าจะบรรยายให้คนอ่านเห็นภาพได้เหมือนกันไหมนี่สิ

      ท้ายๆตอนเริ่มมีเนื้อหาที่คล้องกับชื่อตอน  เรายังคงนำเสนอฉากบู๊แบบต่อเนื่องจนไม่แน่ใจแล้วว่านี้นิยายแฟนตาซีหรือนิยายบุ๊ล้างผลาญกันแน่ ฮ่าๆ

     สุดท้ายขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ยังติดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้เสมอมาคะ :กอด1:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
 :z13:

****

อย่าบอกนะว่าวันนี้พวกชินริกำลังจะโดนจับไป

คาโลไปขัดขวางให้ได้นะ สู้ๆ

ตอนนี้เหมือนมันสั้นเลยเนาะ :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-08-2014 09:41:27 โดย aoihimeko »

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
โหยๆๆ งานงอกละทีนี้ พี่คาโลพึ่งพักไปหมาดๆ มีงานด่วนอีกแล้วๆ
บอกก่อนเลยว่าฉากพี่คาโลอาบน้ำนี้อะเมซซิ่งมาก อยากจะแอบไปเกาะถ้ำ
แล้วแอบดูพี่คาโลอาบน้ำ คงจะฟินไม่ใช่น้อยๆเลย อิจฉาช๊อคแบบ - 3 -
เกิดเป็นหมาที่ได้แอบดูพี่คาโลอาบน้ำแถมพี่คาโลอาบน้ำให้อีก อิจๆๆๆๆๆ
รู้สึกพี่คาโลต้องบู๊อีกตามเคย คงบู๊แหลกกันไปข้างเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆๆ น่าติดตามๆ
อยากอ่านต่อมากเลย ค้างสุดๆ มาต่อไวๆน้า คนเขียนสู้ๆ รักคนเขียนนะ

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 11 การปะทะกันของหมาและคน (2)                                       05/02/2557



               ต้นไม้สูงใหญ่และเถาวัลย์มากมายผ่านตาไปด้วยความรวดเร็วเมื่อคนออกแรงวิ่งไม่ได้สนใจมอง  ภาพต้นไม้ที่คุ้นตาทำให้เขาแน่ใจว่าไปได้ถูกทางแต่ความอุดมสมบูรณ์ของป่าก็แสนจะน่าหงุดหงิดเมื่อเขาต้องคอยกระโดดหลบคอยวิ่งคดโค้งเพื่อหลบสารพัดก้อนหินหรือรากไม้  แต่เดิมหากเดินตามบรรดาสาวๆไปเรื่อยคงประมาณ 45 นาทีแต่หากเขาวิ่งไปเต็มฝีเท้าคงไปได้เร็วกว่านั้น แต่มันอาจจะนานไป


บ๊อก!!


   เสียงเห่าเล็กๆทำให้ขาที่วิ่งมาเต็มฝีเท้าชะงักลง  หูเงี่ยฟังเสียงสายน้ำอาเรมที่ดังอยู่ไม่ห่างก่อนจะพยายามปรับลมหายใจ  ตั้งสมาธิและก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ  สายน้ำที่เขามาเป็นเพื่อนซักผ้ากับสาวๆบ่อยๆ


   “บ้าชิบ  มาไม่ทันงั้นเหรอ”ดวงตาสีเทากวาดมองตะกร้าผ้าที่กระจัดกระจายด้วยความหัวเสีย  ก่อนจะสาวเท้าไปริมแม่น้ำที่เต็มไปด้วยรอยเท้าและเศษผ้า  รอยเท้ามากมายและรอยอุ้งเท้าคงเป็นของเจ้าของเสียงหอนเมื่อครู่  แต่รอยอุ้งเท้ามีน้อยเกินไป เธออาจทำได้เพียงคืนร่างเป็นหมาป่าก่อนจะถูกพาตัวไปแต่จะพาไปยังไงหละมนุษย์กับปีศาจหมาแรงผิดกันพอสมควรถึงจะเป็นพวกตัวเมียก็เถอะ


บ๊อก!!


   ดวงตาสีเทาตวัดมองเจ้าหมาขนปุยที่เห่าบอกพร้อมกับใช้ขาหน้าตะกุยบางอย่างอยู่ 


   “บัดซบ พวกมันใช้ยา”ซากเข็มที่กองอยู่กับพื้นคือหลักฐานอย่างดี  มันใช้เข็มฉีดยาแทนปืนยาสลบ  เข้ามาฉีดยาใกล้ๆได้แบบนี้แสดงว่าเจ้าบ้าริวจินั้นต้องมีเอี้ยวด้วยแน่นอน แต่ทำไมต้องเป็นเข็มฉีดยาแทนปืนยาสลบหละ  ยาในเข็มนั้นมันคือยาอะไรกันแน่  เอาไปให้หมอฮิโตะช่วยตรวจน่าจะดี


ปุ้ง!!


ปัง!!


   เสียงปืนเก็บเสียงดังขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาก้มลงหยิบหลอดฉีดยาที่ยังมีน้ำยาค้างอยู่ กระสุนจากลูกรักในมือจึงเจาะเข้ากลางกะโหลกคนยิง พวกมันอีก 1 คนสบโอกาสวิ่งหนี


   “คิดส่งคนไว้สกัดงั้นเหรอ  อย่างนี้ก็สนุกสิ”มือยาวหยิบหลอดยาที่ยังเหลือยาอยู่ขึ้นมาก่อนจะใช้ผ้าห่อเอาไว้


   “ถ้าแกยังอยากมีชีวิต อยู่นิ่งๆซะ”ปลายปากกระบอกปืนเบี่ยงไปด้านหลัง  ก่อนคนพูดจะยืดตัวขึ้นเผชิญหน้ากับหมาป่าร่างสูงที่ค่อยๆยืดตัวยืนบนขาหลังคืนร่างจากหมาสี่ขาเป็นมนุษย์หมาป่าที่มีหัวสีเทาชี้ๆเหมือนหัวนกแก้ว


   “ไอ้หัวนกแก้ว”


   “ข้าชื่อซาลูกิ ลดอาวุธในมือของเจ้าลงซะ  ข้าต้องตามมันไป”


   “ไม่”คาเซอริโอยกยิ้มโดยไม่ยอมลดปืนในมือลง


   “นี้เจ้า”หมาป่าส่งเสียงขู่ในลำคอและทำท่าเหมือนจะพุ่งเข้ามา


   “เฮ้ย อย่าดีกว่า ขนาดข้ามแม่น้ำฉันยังยิงเจาะกะโหลกมันได้  ระยะแค่แกกับฉันแค่นี้ไม่มีพลาด  ถ้าอยากหัวกระจายก็เข้ามา แต่ถ้าอยากไปช่วยสาวๆพวกนั้นก็เงียบแล้วฟัง”


   “เจ้าจะตามไปช่วยพวกนางงั้นเหรอ ทำไม”


   “ชินริ ฉันต้องตามไปช่วยเธอ”


   “หึ ชอบนางงั้นเหรอ”คาเซอริโอถอนหายใจด้วยความหน่าย มันใช่เวลาที่เขาจะมาพูดเรื่องชอบไม่ชอบเอาตอนนี้รึไงวะ


   “ตอบแทนบุญคุณ แบบนี้ฟังขึ้นกว่าไหม”


   “ก็ดี  แล้วแผนหละ”


   “ไม่มี”


   “ห๊ะ เจ้าเสียสติไปแล้วรึไง  ไม่มีแผนแต่จะบุกตามไปงั้นเหรอ”


   “เออ  จะฆ่าคนทั้งทีมันไม่ต้องมีแผนหรอก  แค่คิดว่ายิงตรงไหนมันตายก็พอแล้วไม่ใช่รึไง”


   “เจ้านี้มัน...”


   “หุบปากแล้วคืนร่างเป็นหมาซะ”


   “ทำไม”


   “ฉันจะได้นั่งหลังแกไปไง”


   “หึ  ข้าไม่ยอมให้มนุษย์มานั่งอยู่บนหลังหรอก”


   “แกจะห่วงศักดิ์ศรีบ้าบออะไรก็เรื่องของแก  แต่ถ้าแกไม่ทำก็ไปตัวเดียวเลย  อยากโดนมันยิงทิ้งก็ตามใจหรือถ้าจะรอจนกว่าพวกเพื่อนๆแกจะตามมา  ก็เตรียมเก็บซากพวกสาวๆได้เลย”เจ้าตัวตรงหน้านิ่งไปเหมือนลังเล


   “ก็ได้  ข้าจะให้เจ้าขี่หลังไป  อย่ามาถ่วงข้าแล้วกัน”


   “หึ  นั้นมันคำพูดของฉันมากกว่า”ริมฝีปากสีส้มยกยิ้มขณะมองมนุษย์หมาป่าที่ค่อยๆก้มลงมาคลานสีขา  โครงหน้าแบบมนุษย์เริ่มหายไปกลายเป็นหมาที่ร่างสูงพอๆกับม้าขนสีเทาสั้นๆตรงช่วงลำตัว  ทิ้งขนยาวๆสีขาวเหลือบเทาตรงช่องหูและขาทั้งสี่ข้าง  ดูสง่าดีเหมือนกัน


   “โอ้ ตัวใหญ่เหมือนกันนี้”เพราะหันมาเร็วๆจึงไม่ทันได้มองแต่พอได้มองแบบนี้จึงรู้ว่าหมาปีศาจตัวเต็มวัยสูงใหญ่กว่าเจ้าชินอูที่เขาช่วยเอาไว้โดยบังเอิญมากทีเดียว


บรู๊ว  บรู๊ว


   เสียงหอนยาวนานเหมือนการส่งข่าวก่อนคาเซอริโอจะจับยึดกระดูกบนหลังและปีนขึ้นไปนั่งพร้อมกับวางเจ้าซ๊อคแหมะลงระหว่างหูลู่ๆที่ปกคลุมด้วยขนสีเทายาวๆ2 ข้างนั้น


   “วิ่งดีๆหละ  โดนลูกปืนยิงมาจะหาว่าไม่เตือนนะ”คาเซอริโอยิ้มขำก่อนจะคว้าจับรอบคอเมื่อเจ้าตัวออกวิ่งด้วยความเร็วที่อาจจะมากกว่าความเร็วของม้าและโลดโผนมากกว่า ข้ามฝากแม่น้ำอาเรมและวิ่งเรียบตามกลิ่นเจ้าคนเมื่อกี้ไป


   “อย่าลืมกลิ่นเจ้านั้นนะซ๊อค”


บ๊อก!!


   หมาตัวน้อยเห่ารับขณะจิกเท้ายึดเอาไว้แน่น  ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือตามพวกมันไป ถึงแม้มันจะทิ้งคนไว้สกัด อันตรายไปหน่อยแต่ก็สนุกดีกว่าแอบตามรอยเฉยๆแน่นอน


โฮ่ง!!


ปัง!!


   “อ๊าค”กระสุนนัดแรกดังขึ้นพร้อมเสียงขู่ ก่อนเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจะดังออกมาจากพุ่มไม้  คาเซอริโอกระโดดพุ่งตัวลงจากหลังหมา  กลิ้งตัวเองไปตามพื้นดิน  มือชักปืนอีกกระบอกออกมายิงเจาะเข้ากลางท้องอีกคน  ดวงตาสีเทากวาดมองเจ้าหมาที่กระโจนพรวดเดียวถึงตัว  กรามใหญ่อ้ากว้างก่อนจะงับลงที่ไหล่และฉีกกระชากเป็น 2 ชิ้นในครั้งเดียว


   “โหดได้ใจ”


ปัง!!


ปัง!!


   กระสุนเจาะทะลุหัวเจ้าตัวที่ยกปืนเล็งไปทางหมา  กระสุนพลาดเป้าพร้อมเลือดและเศษสมองที่สาดกระจาย


   “เฮ้อ ใครให้หยิบขึ้นมากันนะ”


ปัง!!


   “อ๊าค”กระสุนทะลุแขนข้างที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบปืนพร้อมเท้ากระทืบลงซ้ำแผลกระสุนเดิมที่หน้าท้อง


   “พวกผู้หญิงไปไหน”คนถูกถามมองหน้าคนยิงเลิ่กลั่กก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อมองเห็นหมาที่เดินมายืนข้างหลังเขาพร้อมเลือดที่หยดแหมะลงมาจากปากที่แยกแสยะเขี้ยว


   “ฉันไม่ว่าหรอกนะถ้าแกจะกลัวไอ้ตัวข้างหลังกัดมากกว่ากลัวปืนที่กำลังจะเจาะกะโหลกแก  แต่ช่วยตอบมาหน่อยได้ไหมว่าแกพาพวกผู้หญิงไปไหน”


   “ไม่รู้   ฉันไม่รู้”


   “ฉันไม่ต้องการคำตอบแบบนี้นะ”


   “อ๊าค”ฝ่าเท้ากระทืบซ้ำลงที่แผลท้องไม่ไยดีเลือดที่ทะลักออกมาจนเปื้อนฝ่าเท้า


   “เอาหละถามใหม่อีกรอบและรอบสุดท้าย พวกผู้หญิงอยู่ไหน ถ้าแกตอบดีๆฉันอาจปล่อยก็ได้”


   “ไป  ไปทางแม่น้ำคีอานูฟ  ปะ  ปล่อยฉัน..”แม่น้ำคีอานูฟสินะ ขนคนไปมากขนาดนั้นถ้าไม่รถก็ต้องเรือสินะ  ถ้าใช้เรือจริงคงลำบากแน่เพราะแม่น้ำคีอานูฟกว้างเกินกว่าพวกหมาๆจะข้ามได้หรือถึงว่ายน้ำได้ก็เสียเปรียบอยู่ดี


   “ขอบใจ”


ปัง!!


   กระสุนเจาะทะลุกลางหน้าผาก  เลือดสีแดงสดกระเซ็นเปื้อนหน้าคนยิงและรินรดลงบนดวงตาที่เบิกกว้างของเหยื่อ


   “ไม่ต้องมองแบบนั้น ฉันบอกว่าอาจจะปล่อยไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยสักหน่อย”แขนเสื้อในมือใช้เช็ดเลือดต่างผ้าเช็ดหน้า


   “เพื่อนแกจะไปเจอพวกนั้นก่อนถึงแม่น้ำได้รึเปล่า  ถ้าไปไม่ทันพวกมันขึ้นเรือได้แกได้ว่ายน้ำไปช่วยแน่ๆ”ปลายจมูกเรียวๆก้มลงเหมือนจะพยักหน้าและส่งเสียงหอนอีกครั้งยาวๆ  ไม่รู้ว่าเสียงไปได้ไกลแค่ไหน แต่ก็คงไกลมากพอที่พวกนั้นจะได้ยินหละมั้ง


   คาเซอริโอกระโดดขึ้นบนหลังหมานั้นอีกครั้งก่อนจะรู้สึกว่าเจ้าหมาออกวิ่งด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม  พวกมันทิ้งคนดักเอาไว้ 4 คนจำนวนมากพอดู เทียบจากรอยเท้าที่เจอที่ริมน้ำแล้วปริมาณไม่มากเท่าไหร่แต่ทิ้งคนไว้ได้มากขนาดนั้น อาจมีพวกมันรออยู่ที่ปลายทางอีกมาก ก็ได้หวังแค่ว่าพวกนั้นจะมีจำนวนมากพอหละนะ














           ตอนใหม่มาแล้วคะ  ช้ากว่ากำหนดไป 1 วัน หุหุ  คงไม่ว่ากันนะคะ

 สำหรับตอนนี้เขียนไปก็รู้สึกเหมือนนั่งดูหนังบู๊ไป  เออ  คาโลโหดดีนะแต่เท่อ่ะ อารมณ์ประมาณนั้น

 อ๊ะ  นี้นางมารโดนจิ้มหรือคือเนี่ย  หุหุ  ตอนนี้สั้นๆเพราะมันถูกหั่นออกเป็น 3 ตอนย่อยคะ  ถ้าเอารวมกันมันจะยาวมากๆทะลุประวัติการณ์ ไหนๆที่โน่นก็แยกที่นี้ก็แยกด้วยแล้วกันเนอะ  สำหรับตอนนี้ถือเป็น 2/3 คะ  ตอนหน้าจะเป็น 3/3 ครบทั้ง 3 ตอนย่อย

   ขอบคุณสำหรับการติดตามและกำลังใจคะ ตอนนี้เรามาได้ครึ่งทางของตอนในกรุแล้ว เกือบจะถึงครึ่งทางของเรื่องแล้ว  ตามคาดการณ์น่าจะมีประมาณ 30 กว่าตอนก็จบเรื่องคะ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าคะ :mew1:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด