4.ปะทะ
“สวัสดีครับลุงคริส สวัสดีครับคุณชาย”
เสียงนุ่มเอ่ยทักมาจากร่างสูงกำยำในชุดสูทสีดำพอดีตัว ช่วงขายาวเดินเข้ามาหยุดยืนไม่ไกลนัก ใบหน้าคม คิ้วเข้มพาดขวางหน้าผากกว้าง ดวงตาชั้นเดียว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางยิ้มมุมปากเล็กน้อยส่งให้ใบหน้านั้นดูหล่อเหลายิ่งกว่าเดิม
“มีอะไรหรือพีท” เสียงพ่อถามพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วลอบสบตากับคุณโรสซึ่งกำลังแอบอมยิ้มอยู่เช่นกัน
“ปะ เปล่าครับพ่อ” พีทงงไปหมดแล้ว คนที่เดินตามหลังคุณโรสเข้ามาคือคนที่เขาเจอที่ผับในคืนนั้น ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ คน ๆ นี้คือคนที่พ่อจะให้มาดูแลเขาหรือ
‘เอ๊ะ หรือว่า...’ จากนั้นเหมือนมีแสงสว่างวาบในหัว ความเข้าใจก็หลั่งไหลอย่างรวดเร็วราวสายน้ำ
“นี่พ่อหลอกผมใช่ไหม พ่อตั้งใจจะให้นายนี่มาเป็นบอดี้การ์ดอยู่แล้ว พ่อส่งนายนี่มาตั้งหลายวัน แล้วพ่อยังหลอกให้ผมตกลงไปช่วยงานพ่อด้วย พ่อวางแผนไว้หมดแล้วใช่ไหม”
“พีท พูดอะไรน่ะลูก พ่อตั้งใจจะบอกลูกตั้งหลายวันแล้ว แต่ลูกไม่ยอมมาคุยกับพ่อเอง”
‘ไอ้หมอนี่สินะที่จับตาดูเขาอยู่เมื่อหลายวันก่อน ทำเอาเขากังวลจนนอนไม่หลับ หนอย แอบไปนั่งในร้านทำตัวเป็นนักท่องราตรี แถมที่เดินชนกันก็คงตั้งใจล่ะสิ หมอนี่รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร ยังแกล้งทำเป็นคนแปลกหน้า’ ความคิดที่ว่าถูกพ่อรวมหัวกับหมอนั่นหลอกเขาทำให้เขาโมโห
“พ่ออย่าบอกนะว่าพวกนักเลงนั่นก็คนของพ่อด้วย”
“เปล่านะพีท พวกนั้นมันเป็นพวกศัตรูของพ่อจริง ๆ ใครจะส่งคนไปทำร้ายลูกตัวเองกันล่ะ คืนนั้นพี่เขาแค่ไปสังเกตการณ์แล้วโชคดีที่พี่เขาช่วยเราไว้ได้ทัน พีทควรจะทำความรู้จักพี่เขาไว้แล้วก็ขอบคุณเขาด้วย”
“ผมไม่ยอมรับคนของพ่อหรอก แล้วข้อตกลงอะไรของพ่อ ผมขอยกเลิก!”
“ลูกผู้ชายพูดแล้วคืนคำได้ไง” อยู่ ๆ นายนั่นก็พูดขึ้นลอย ๆ หน้าตายิ้มแย้มตอนนี้ดูกวนประสาทพีทมาก
“อย่ามายุ่ง!” พีทตอกกลับ ‘ไอ้หมอนี่กล้าดียังไง’
“พีท อย่าทำตัวแบบนี้สิ เสียมารยาทนะ ขอโทษพี่เขาซะ”
พีทเบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ พ่อจะให้เขาขอโทษเหรอ หมอนี่เป็นใครกันทำไมเขาจะต้องขอโทษ แล้วหน้าตาท่าทางกวนอวัยวะเบื้องล่างแบบนี้นะ ใครกันแน่ที่ต้องขอโทษเขา
ก่อนที่จะเกิดอะไรต่อไปเสียงโทรศัพท์มือถือของคุณคริสก็ดังขึ้น เพียงแค่เหลือบดูสายที่โทรเข้ามา คุณคริสก็รีบลุกขึ้นทันที
“พีท พ่อมีประชุมที่อังกฤษพรุ่งนี้เช้าต้องรีบไปขึ้นเครื่อง ไปเถอะคุณโรส”
“พ่อ ได้ไงอ่ะ พีทไม่ยอมนะ” พีทโอดครวญ
“พ่อไม่ยอมรับคำยกเลิกของพีทหรอกนะ พีทตกลงกับพ่อแล้ว ลูกต้องเชื่อฟังพี่เขานะ พ่อให้สิทธิ์พี่เขาในการตัดสินใจทุกเรื่องแทนพ่อ อย่าดื้อกับพี่เขาล่ะ พ่อไปนะลูก” คุณคริสว่าแล้วก็เดินตรงไปที่ประตูทันที
“อะไรกันพ่อ พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง นายนี่เป็นใครกันทำไมพ่อต้องให้มาดูแลผม แล้วเรื่องอะไรจะต้องมาตัดสินใจแทนพ่อด้วย เรื่องของผม ผมตัดสินใจเองได้ พ่ออธิบายมาก่อน”
พีทไม่เข้าใจ ทำไมพ่อจะต้องฝากเขาไว้กับคนแปลกหน้า เขาโตแล้วดูแลตัวเองได้ และที่สำคัญนายนั่นเป็นใคร? พีทพยายามจะคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง แต่พ่อรีบเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วราวกับรู้ว่าขืนอยู่นานกว่านี้คงต้องตอบคำถามกันอีกยืดยาว
“ไปก่อนนะจ๊ะน้องพีท” คุณโรสเข้ามากอดเขาไว้ทำให้เขาไม่สามารถออกฤทธิ์อะไรได้ จากนั้นก็เข้าไปกอดลานายนั่นด้วย พีทตาโตทีเดียวที่เห็นความสนิทสนมระหว่างคุณโรสกับนายนั่น ทั้งสองคนพูดอะไรกันเล็กน้อยก่อนที่คุณโรสจะออกไป
เกิดความเงียบขึ้นทันทีที่ประตูห้องทำงานปิดลง
‘เรื่องนี้เขาไม่ยอมแน่!’ พีทก้าวเท้าออกจากห้องทันทีแต่ยังไม่ถึงประตู หมอนั่นก็ก้าวมาขวางเขาไว้
“หลีกไป!” กล้าดียังไงมาขวางเขา
“พ่อคุณให้ผมดูแลคุณ ตอนนี้ผมไม่อนุญาตให้คุณออกไป” ใบหน้ายียวนกวนประสาทนั่นยิ่งทำให้พีทโมโห
“เราน่าจะทำความรู้จักกันก่อนนะ แล้วคุณค่อยขอบคุณที่ผมช่วยคุณทีหลังก็ได้” นายนั่นพูดแล้วก็เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบาย ๆ ดูเหมือนกำลังสนุกที่ได้กวนประสาทเขา
“ชั้นบอกให้หลีกไป!” พีทกัดฟันกรอด
เขาเบี่ยงตัวหลบคนตรงหน้าเพื่อจะเดินออกจากห้อง นายนั่นกลับเดินมาดักเขาไว้อีก พีทหันไปจ้องหน้านายนั่นอย่างเอาเรื่อง แต่คนที่ยืนตรงหน้าเขากลับมองมาอย่างท้าทาย ดวงตาที่คล้าย.....
“พลั่ก” พีทผลักนายนั่นอย่างแรงแล้วเดินตรงไปที่ประตู รีบสาวเท้าออกไปทันทีก่อนที่ความโกรธจะทะลุขีดความอดทน เขาเดินไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็วแต่ไม่ทัน รถคันใหญ่ของพ่อเคลื่อนออกไปแล้ว
“เรื่องบ้าอะไรกัน” พีทสบถออกมา “ผมไม่ยอมหรอกพ่อ ไม่มีทาง”
หน้าตากวนอารมณ์ของนายนั่นแวบเข้ามา
“อย่าโผล่หน้ามาให้เห็นอีกนะ นายเจ็บตัวแน่”
“ผมไม่มีทางเจ็บตัวหรอก อย่าลืมสิว่าผมช่วยคุณจากพวกโจรนั่น” เสียงดังข้างหลังทำให้เขาชะงัก
“นายจะตามมาทำไม ไปไกล ๆ เลย อย่าคิดว่ารับคำสั่งจากพ่อแล้วชั้นจะต้องเชื่อนายนะ” พีทหันไปตวาด ใบหน้าหนุ่มน้อยตอนนี้โกรธจัด
“ผมไม่ได้รับคำสั่ง พ่อคุณต่างหากที่เป็นฝ่ายขอร้องผมเอง” นายนั่นกลับตอบมาหน้าตาเฉย
“มันจะมากไปแล้วนะ คนอย่างพ่อชั้นไม่มีทางขอร้องบอดี้การ์ดกระจอก ๆ อย่างนายแน่ เป็นแค่การ์ดธรรมดาทำเป็นใส่สูท คิดว่ามันจะยกระดับขึ้นมาได้รึไง คนอย่างนายไม่มีสิทธิ์มาเหยียบที่นี่ด้วยซ้ำ ออกไปจากบ้านชั้นไม่งั้นชั้นจะเรียกคนมาจัดการนาย!!”
ใบหน้ายียวนนั้นเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินคำสบประมาทของพีท แต่ไม่นานเขาก็กลับมายิ้มอีก ดวงตาฉายแววขำขันอะไรบางอย่าง
“จะลองดูมั้ยล่ะว่าผมเป็นแค่การ์ดกระจอก ๆ รึเปล่า ถ้าคุณล้มผมได้ ผมจะยอมไปเอง แต่ถ้าผมชนะคุณ คุณต้องเชื่อฟังผมตามที่พ่อคุณสั่งไว้ กล้าไหมล่ะ”
‘ว่าไงนะ สู้กันน่ะเหรอ หึ กำลังอยากชกหน้าคนพอดี’ พีทคิดในใจ
“ข้อเสนอไม่เลวนี่ ชั้นตกลง รับรองว่านายได้กระเด็นออกจากบ้านชั้นแน่” พีทกระหยิ่มยิ้มย่อง เสนอตัวมาแบบนี้ไม่รู้จักคุณชายพีทซะแล้ว
“อย่ากลับคำพูดก็แล้วกัน คุณชาย” นายนั่นตอบกลับมา ใบหน้ามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมไม่แพ้กัน
ไม่นานนัก ทั้งคู่ก็อยู่ในห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ของบ้าน ที่ผนังด้านหนึ่งติดกระจกเงาเต็มผนัง ด้านขวาของห้องติดตั้งอุปกรณ์ออกกำลังกายหลากหลายชนิด
พีทถูกบังคับให้เรียนการต่อสู้แทบทุกชนิดมาตั้งแต่เด็กเพื่อให้สามารถป้องกันตัวเองได้ยามตกอยู่ในอันตราย และเขาก็เก่งเสียด้วย เขาไม่เคยแพ้ใครถ้าสู้กันตามกติกา ยกเว้นเหตุการณ์สามวันก่อนที่เขาโดนรุม พวกนั้นเป็นมืออาชีพแถมยังตัวใหญ่กว่าเขา แต่ครั้งนี้เป็นการสู้ตัวต่อตัว เขาคงไม่เสียเปรียบมากนัก
‘อยากรู้เหมือนกันว่าจะเก่งแต่ปากรึเปล่า’ พีทประเมินคู่แข่งอยู่ในใจ แม้ว่าเขากับนายนั่นดูจะสูงไล่เลี่ยกันแต่เมื่อคนท้าเริ่มถอดสูท เนคไท และพับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นเหนือศอกเผยให้เห็นร่างกำยำ กล้ามแขนเป็นมัด ๆ พีทก็เริ่มหวั่นขึ้นมาบอกไม่ถูก ถ้าเทียบกันแล้วนายนั่นตัวหนากว่าเขามาก
‘นี่คนหรือหมียักษ์??’“ผมพร้อมแล้ว คุณพร้อมเมื่อไรก็เข้ามาเลย” นายหมีร้องบอก หน้าตาไม่มีความกังวลอะไรทั้งสิ้น ท่าทางสบาย ๆ เหมือนพวกเขากำลังจะเล่นซ่อนหากันแทนที่กำลังจะชกกันอยู่นี่
‘ไอ้หมอนี่มันมั่นใจชะมัด’ พีทคิดขณะก้าวขึ้นไปบนพื้นที่ปูด้วยเบาะสำหรับซ้อมยูโด เขาเริ่มย่างสามขุมเข้าไปช้า ๆ สมองก็คิดรูปแบบการต่อสู้ที่จะนำมาใช้ คู่ต่อสู้ของเขาก็เดินเข้ามาใกล้แต่ยังทิ้งระยะห่างไว้เล็กน้อย ดวงตาทั้งคู่จ้องมองกันแน่วแน่เพื่อรอจังหวะที่ใครจะโจมตีก่อน และเมื่อได้จังหวะพีทก็ตวัดเท้าทันที
เป้าหมายอยู่ที่ใบหน้ากวนนั่นแหละ
‘อยากกวนตีนดีนัก เอาไปกินให้อิ่มละกัน’ แต่แทนที่เท้าเขาจะเตะโดนหน้าคู่ต่อสู้ นายหมีแค่เอนตัวไปด้านหลังด้วยความรวดเร็วพร้อมกับใช้มือขวาจับเท้าเขาไว้ พริบตาเดียวพีทถูกจับเหวี่ยงลงพื้นทันที
“โครม!”
เสียงร่างกายเขากระทบพื้น ร่างสูงกำยำโถมลงมา ใช้ลำตัวพาดทับเขาและออกแรงกดไว้ แขนข้างขวาถูกยึดแน่น ส่วนแขนข้างซ้ายก็ถูกกดไว้ด้วยน้ำหนักตัว พีทใช้ขาสองข้างที่เป็นอิสระพยายามยันพื้นเพื่อยกตัวให้หลุดจากการกดด้วยท่ายูโดนี้ แต่ดูเหมือนยิ่งออกแรงก็ยิ่งถูกกดไว้แน่นกว่าเดิม
“อิปป้ง!!!”
เสียงคนที่ทับอยู่ด้านบนเอ่ยด้วยน้ำเสียงมีชัยหยุดการดิ้นรนของเขาทันที
‘เป็นไปได้ยังไง นี่มันแค่พริบตาเดียวเท่านั้นเขาก็ลงมานอนกองกับพื้น’ “ชนะแล้ว” เสียงเจ้าเล่ห์ดังออกจากปากแดง ๆ ที่กำลังนอนขวางพาดตัวเขาอยู่
‘อ๊ะ อะไรนะ!’ เขากำลังถูกทับอยู่ หน้าขาวนั่นลอยอยู่ห่างเพียงแค่คืบ
“ปล่อย!” พีทตะโกนเสียงดัง
“ไม่! จนกว่านายจะพูดว่ายอมแพ้ก่อน” นายนั่นลอยหน้าลอยตาตอบกลับมา
“ไม่มีทาง ลุกออกไปเดี๋ยวนี้” พีทออกคำสั่ง เขาพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากสภาพนี้ แต่นายหมียักษ์แข็งแรงมาก แรงกดทับทำให้เขาแทบขยับตัวไม่ได้เลย
“ว่าไง ถ้านายไม่ยอม เราก็จะอยู่ท่านี้กันจนเย็นนั่นแหละ ดีมะ”
“ไม่มีทาง!”
พีทไม่ยอมแพ้ รวบรวมกำลังครั้งสุดท้ายใช้เท้ายันพื้นเพื่อดันตัวขึ้นแล้วสะบัดตัวอย่างแรงอีกครั้ง ตัวเขาหลุดเพียงชั่วครู่เท่านั้นกลับถูกรวบกดไว้อีกครั้ง คราวนี้แน่นหนากว่าเดิม ใบหน้ากวนนั้นกลับใกล้เข้ามามากขึ้น
“หยุดนะ!”
คนข้างบนตะคอกเสียงเฉียบขาดทำให้พีทหยุดนิ่งทันที แววตาขี้เล่นนั้นแปรเปลี่ยนเป็นดุดันจ้องมองเขาเขม็ง พีทจ้องตากลับด้วยความโกรธ ต่างฝ่ายต่างจ้องมองกันเหมือนจะใช้สายตาต่อสู้กันแทน แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร พีทกลับรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดให้จ้องตาอยู่อย่างนั้น หัวสมองเริ่มว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออก
‘ตึก ตึก ตึก’ จู่ ๆ หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมา......
“ก็ได้ ก็ได้ ชั้นยอมแพ้” พีทกัดฟันตอบไปเพื่อให้หลุดจากภาวะนี้โดยเร็ว แค่ครั้งนี้เท่านั้น คราวหน้านายไม่รอดแน่
“อย่าลืมข้อตกลงของเราล่ะ ผมเป็นผู้ดูแลคุณ มีสิทธิ์แทนพ่อคุณทุกอย่าง”
รอยยิ้มกวนกลับมาอีกแล้ว
“งั้นก็ลุกออกไปซะที”
คนข้างบนค่อย ๆ ยกตัวขึ้นนั่งข้างตัวเขา
“ถอยไป!”
“ยังถอยไปไม่ได้หรอก คุณต้องยกหัวขึ้นก่อน”
‘อะไรนะ ทำไม?’ พีทเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีอะไรบางอย่างรองศีรษะเขาไว้ นายหมีเลื่อนมือขวาของตัวเองที่รองหัวเขาออกทีละน้อย
จังหวะที่ทุ่มพีทลงบนพื้น นายหมีเอามือตัวเองรองไว้เพื่อไม่ให้หัวคุณชายเจ้าอารมณ์กระแทกแตกไปอีกรอบ
พีทผุดลุกขึ้นรวดเร็ว ใบหน้าบึ้งตึง หลังตั้งตัวได้เขาก็เดินพรวดพราดออกไปจากห้องทันที
‘นายหมี’ ยิ้มน้อย ๆ พลางลุกขึ้นเก็บเสื้อสูทขึ้นพาดบ่า เดินตามออกไปเหมือนกัน
หมายเหตุ : ในกีฬายูโด อิปป้ง คือทำคะแนนได้ 1 คะแนน โดยมีเงื่อนไข... 1.) ทุ่มคู่แข่งขันโดยหงายหลังลงกับพื้นเวทีอันถูกต้องตามหลักของวิชายูโด หรือซ้อนท่าทุ่มให้หลังคู่แข่งขันลงกับพื้น เต็มหลัง คือ 100% 2.) สามารถยกคู่แข่งขันขึ้นสูงประมาณเสมอไหล่ของตนในขณะที่คู่แข่งขันนอนหงายอยู่ 3.) ท่าจับ (ล็อก) ให้จำนน โดยจับล็อกคู่แข่งขัน ตามหลักท่าของวิชายูโด ดิ้นไม่หลุดเป็นเวลา 30 วินาที 4.) ในท่าล็อกรัดคอ หรือหักแขน โดยคู่แข่งขันยอม หรือเป็นผลทำให้คู่แข่งขันหมดสติ
ที่มา
http://www.geocities.ws/slot_design/j_vocab.html