[บทที่ 4 ปริศนา]
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นในเวลาหกโมง ฟ่างกับโยรีบเดินออกมา ทันทีที่ฟ่างเห็นหน้าโยที่ปราศจากหนวดก็อุทานออกมาอย่างตื่นตะลึง
“โห หล่อมากครับ ไม่คิดว่าจะถอดรูปเงาะออกมาแล้วหล่อขนาดนี้”ฟ่างแซวโยที่ยกมือลูบหนวดแก้เขิน
“แหม ฟ่างเงาะก็ยังเป็นเงาะเหมือนเดิมแหละครับ”
“สวัสดีครับ ผมชื่อ เอริค เพอร์ซิล เป็นรองหัวหน้าครูชั้นปี 3 ยินดีที่ได้รู้จัก”เอริค เป็นผู้ชายผอมบางผิวขาวจัดมาก ใบหน้านั้นหวานราวกับผู้หญิง แต่น่าเสียดายที่ความงามนั้นถูกปิดทับดวงแว่นตาอันใหญ่
“ครับ สวัสดีครับผม ไตรภพ อัครพิทักษ์ ครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ เรียกผมว่าฟ่าง”
“ผม โยธา ภาณุพงษ์ เป็นครูสอนวิชาศิลปะ เรียกสั้นๆว่าโยครับ”
“ครับวันนี้อาจจะไม่สะดวกที่จะแนะนำอาคารต่างๆได้ระเอียดนัก แต่ผมจะบอกคร่าวๆนะครับ”เอริคเดินนำ ฟ่างและโยไปยังโรงอาหารครู
“อาคารนี้เป็นหอพักอาจารย์ ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารเรียน อาคารเรียนตึกดำเป็นของนักเรียนมัธยมปลายปีสาม ตึกเทาเป็นของนักเรียนมัธยมปลายปีสองและตึกสีแดงเป็นของนักเรียนมัธยมปลายปีหนึ่ง ห้องพักครูจะอยู่ตรงตึกสีขาว โรงอาคารนั้นเป็นโรงอาหารแยกโรงอาหารนักเรียนห้ามครูไปทานที่นั้น นักเรียนเองก็ห้ามมาทานอาหารที่โรงอาหารครู ”
“ทำไมต้องแยกกันขนาดนี้ล่ะครับ”โยถามอย่างแปลกใจ เพราะมันดูเหมือนไม่อยากให้ใกล้ชิดกับนักเรียนห้องพักครูก็ไปอยู่ตึกขาวซึ่งห่างจากอาคารนักเรียนตั้ง 200 เมตร มันแปลกๆยังไงไม่รู้
“เพื่อความปลอดภัยของครู ถึงแม้ทำแบบนี้แล้วครูก็ไม่รอดสักรายก็เหอะ”เอริคพูดเสียงเบา
“พวกคุณผมรู้ว่าพูดอย่างไรไปคุณก็ไม่เชื่อ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกคุณแหกกฎ 6 ข้อ ชีวิตพวกคุณทั้งสองจะเปลี่ยนไปทันที ฟังดูเหลือเชื่อแต่อย่าแหกกฎเด็ดขาด ไม่งั้นคุณจะออกไปจากที่นี้ไม่ได้”
“หมายความว่ายังไง ผมเริ่มงงไปหมดแล้ว”ฟ่างขมวดคิ้ว ดูท่าโรงเรียนนี้จะมีปริศนาดำมืดเหลือเกิน เอริคหยุดตรงโรงอาหารแล้วหันมาบอกว่า
“สงสัยได้แต่อย่าหาคำตอบก็พอครับ คุณมาโดยที่ไม่รู้อะไร ตอนไปก็ควรจะไม่รู้อะไรด้วย เชื่อผม พวกผมทำทุกอย่างเพื่อคุณ อย่าถามอะไรให้มากกว่านี้ เพราะเมื่อคุณรู้ คุณจะเสียใจไปตลอดชีวิต เหมือนผม”เอริคผลักประตูออก โรงอาหารที่นี้ไม่ธรรมดา มันเหมือนกับภัคตาคารระดับห้าดาว มีโต๊ะเรียงรายอยู่สี่ห้าโต๊ะซึ่งบนโต๊ะมีอาหารนานาชนิดให้เลือกตัก
“พวกเขามากันแล้ว”เหล่าบรรดาครูแห่เข้ามาทักทายแนะนำตัวอย่างดีใจ แล้วทั้งสองคนก็โดนจัดงานเลี้ยงต้อนรับแบบอบอุ่น ครูที่นี้เป็นคนดีทุกคน นักเรียนที่นี้มีอยู่ 480 คน ส่วนครูมี 250 คน รวมบรรดาพนักงานทำความสะอาด รปภ. คนทำอาหารไปด้วย ก็ 300 คนพอดี ฟ่างและโยคอยตอบคำถามและพูดถึงประเทศตัวเองที่จากมา งานล่วงเวลาไปได้สองทุ่มครึ่งทุกคนต่างกุลีกุจอออกจากห้องอาหาร พวกพ่อบ้านรีบเก็บอาหารถ้วยชามไปล้าง นี้ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสงสัย ที่นี้ไม่มีผู้หญิงแม้แต่คนเดียว
“จะไปแล้วเหรอครับเพิ่งสองทุ่มครึ่งเอง”โยถามแบบงงๆ
“อย่าลืมกฎสิครับ ห้ามออกจากห้องหลังสามทุ่ม นั้นหมายถึงสามทุ่มต้องอยู่แต่ในห้อง รีบไปเถอะครับ”เอริคดันฟ่างและโยให้กลับห้อง เมื่อเอริคส่งท้งสองเข้าห้องแล้วไม่วายกำชับห้ามออกจากห้อง ห้ามเปิดประตู ข้อห้ามทั้งหลายจะมาอีกเยอะแน่ๆถ้าฟ่างไม่บอกว่าใกล้จะสามทุ่ม เอริคหน้าซีดเล็กน้อยแล้วขอตัวกลับห้องอย่างเร็วไว คล้ายกับกลัวอะไรบางอย่าง
“ที่นี้มีแต่เรื่องน่าสงสัยทั้งนั้น”ฟ่างพูดกับโย
“เฮ้ออออ ถ้ายังทำท่ากำกวมกระตุ้นความอยากรู้แบบนี้ มีหวังผมคงออกค้นหาคำตอบเร็วๆนี้แน่”โยส่ายหน้าอย่างหนักใจ ให้ต่างเหอะต่อมความเสือกมันเร่งเร้าเขาชะมัด
“ส่วนผมไม่ขอรู้อะไรดีกว่า มันน่าจะปลอดภัยกับผมนะ”
“อ่า ภาวนาขอให้ที่นี้ไม่มีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้นแล้วกัน”