ห้องแค่ใกล้ ระเบียงแค่เคียง แต่ทำไม... เตียงเดียวกันวะ?
4
ผมตื่นมาด้วยอาการระบมไปทั่วทั้งตัว เจ็บปากก็เจ็บ เจ็บหน้าท้องก็เจ็บ งือ คิดแล้วก็น้อยใจสกิลการต่อสู้ของตัวเอง ทำไมไม่เก่งเหมือนในเกมที่เล่นอยู่ทุกวี่ทุกวันบ้างวะเนี่ย ต่อไปผมควรไปเรียนมวยหรือยูโดคาราเต้ใช่มั้ย U.U
ผมค่อยๆงัดซากตัวเองขึ้นนั่งบนเตียง ที่ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มีกระจกติดอยู่ครับ และภาพที่เห็นคือมุมปากผมเป็นสีม่วงแบบช้ำมาก มิน่าล่ะถึงได้รู้สึกเจ็บขนาดนี้ แล้วนี่วันมะรืนก็เปิดเทอมแล้วอ่ะ ผมไม่มีทางแบกรอยม่วงๆนี่ไปให้เพื่อนมันล้อหรอก แล้วจะทำไงดีทีนี้ หรือจะไปซื้อรองพื้นมาโบกดีวะ คิดแล้วเซ็งโว้ย
.
.
.
.
ผมเสด็จออกจากห้องนอนตอนสิบเอ็ดโมงหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย หิวแล้วโว้ย ที่ห้องก็ไม่มีอะไรกิน เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินข้างนอกละก็ไปหาซื้อของกินมาไว้ที่ห้องด้วยเลยดีกว่า ผมคว้ากุญแจรถ มือถือ กระเป๋าตังค์ และสิ่งที่สำคัญมากโคตรๆในตอนนี้ก็คือหมวกแก๊ปครับ เอาไปปิดบังร่องรอยความหลัง ไม่ได้ๆถ้าบังเอิญไปเจอเด็กๆในสังกัด เดี๋ยวเด็กๆจะตกใจ
แต่พอเปิดประตูออกมาก็เจอถุงพลาสติกสองสามถุงห้อยอยู่ตรงลูกบิด ผมเอามาเปิดดู ในนั้นมีข้าวต้มเย็นชืดหนึ่งถุง ผักทอดเหี่ยวๆ กล้วยหอมที่เปลือกเริ่มจะมีสีคล้ำสองลูก แล้วก็นมแคนตาลูปหนึ่งกล่อง
ผมหยิบโพสอิทสีเขียวนีออนขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่แปะอยู่กับนมกล่องขึ้นมาอ่าน มันมีลายมือยุกยิกเขียนไว้ว่า
กูซื้อมาให้ แดกให้หมดด้วยนะครับน้องนิดแหม่ เดาไม่ออกเลยว่าใคร บนโลกมีคนเดียวที่เรียกกูแบบนี้
บนโพสอิทมีรูปกระต่ายยืนสองขาที่ถูกวาดแบบทุเรศสัสหมาจนมองแทบไม่ออกว่าจงใจจะวาดกระต่ายหรือเหี้ย แถมยังมีเจี๊ยวอันเล็กๆยื่นออกมา
มุมปากผมยกยิ้มแบบที่ห้ามตัวเองไม่ได้
ซวยแล้วไงงงงง
ใครสั่งให้มึงยิ้ม ไอ้ปากทรยศ T-T
เห็นทีผมจะต้องเลื่อนการออกไปข้างนอกแล้วล่ะ
เอาเหอะ กูยอมรับวันนึงก็ได้ว่าของกูเล็ก -^-
.
.
.
.
ผมเอาข้าวต้มมาอุ่นแป๊บนึงไม่ให้ร้อนมากเดี๋ยวจะลวกปาก มันเป็นข้าวตุ้มกุ้งที่น่ากินมากๆ แล้วก็เวฟผักทอดให้ร้อนหน่อยแล้วก็ลงมือกิน อืมมม ข้าวต้มอร่อยโคตรของโคตรจะมาก กุ้งเนื้อแน่นเว่อร์เลยครับ ถึงแม้ว่ากินไปจะต้องซี้ดปากไปก็เถอะ ยอมเจ็บอ่ะนะ ส่วนผักทอดผมก็กินแค่ผักที่ผมอยากจะกิน แฮร่
เออใช่ ยังมีกล้วยหอมกับนมนี่หว่า แต่กินแค่นี้ก็อิ่มมากแล้วครับ เก็บไว้ละกันค่อยกินมื้อต่อไป
กินข้าวเสร็จก็ไม่มีอะไรทำ เปิดคอมเล่นเกมไปเรื่อยๆ สามชั่วโมงต่อมาเริ่มเบื่อ ก็เลยล็อคอินเข้าเฟสบุคซะหน่อย แวะไปอ่อยสาวๆก่อนจะได้มีกำลังใจ ผมพิมพ์คำว่า คิดถึงครับ แล้วเปิดหน้าต่างแชทของสาวสวยที่ผมกำลังคั่วอยู่ขึ้นมาสี่อัน ก็อปปี้คำที่เพิ่งพิมพ์แล้วก็วางในทุกๆช่องแชทก่อนจะกดเอนเทอร์ รอดูซิว่าใครจะตอบกลับมาก่อน อิอิ
ดึ๊ง
อยู่ๆหน้าต่างอันที่ห้าก็ปวารณาตัวเองขึ้นมา ไอ้ภูทักผมมานั่นเอง
Poobadin: มึงกลับหอยัง
Cee: กลับมาหลายวันละ มึงอยู่ไหน
Poobadin: บ้าน
Cee: โห่วไรว้า รีบมาดิกูไม่มีเพื่อนกินเหล้าเลย
Poobadin: กลับพรุ่งนี้
Cee: เยี่ยมเลยว่ะสาส ตั้งวงด่วนๆ แล้วไอ้สองตัวนั้น?
Poobadin: ไอ้เจ็ทกลับวันนี้ ส่วนไอ้ปุนยัง
Cee: เอ้าหรอ เชี่ยปุนสงสัยไม่มาเรียนละ มาอีกทีคงมาลาออก
Poobadin: ไม่รู้แม่งมัน
Cee: งั้นวันนี้กูจะก๊งกับไอ้เจ็ทก่อน
Poobadin: ตามบายผมปิดหน้าต่างคุณภูทิ้งไป มันเป็นเพื่อนในกลุ่มผู้สูงถึงร้อยแปดสิบกว่า (กว่าเท่าไรไม่รู้ รู้แต่ว่ามันสูงที่สุดอ่ะ ส่วนผมร้อยเจ็ดสิบปลายๆ) แล้วมันหล่อมากครับ จมูกเป็นสัน ตาคมกริบราวกับใบมีดโกน แล้วหุ่นมันแบบน่าวิ่งเข้าใส่มากๆ พอฟัดพอเหวี่ยงกับไอ้หลุมดำได้เลยล่ะ สาวๆกรี๊ดไอ้ภูเยอะนะแต่มันไม่ค่อยสนเท่าไรอ่ะ เค้าอกหักจากมันไปตามระเบียบ ส่วนใหญ่จะเป็นผมที่อาสาไปดามอ่ะครับ คริคริ ผมเองก็อิจฉามันนะ อยากได้ส่วนสูงกับหุ่นแบบนั้น แต่จะทำไงได้ รู้สึกว่าเลยวัยเจริญเติบโตมานานโข และแอลกอฮอล์ที่ผมชอบเอาเข้าเส้นเลือดมาตั้งแต่มอสามคงไปทำลายต่อมบลาๆๆๆๆหมดละมั้ง
หยิบไอโฟนมาโทรหาไอ้เจ็ทเมื่อรู้ว่ามันจะกลับมาคืนนี้ เย่ ผมจะมีเพื่อนออกไปร่อนแย้ว
(ว่า)
“มึงกลับมาวันนี้หรอวะ ไอ้ภูบอกกู”
(เออ กำลังกลับละเนี่ย ถึงครึ่งทางแล้ว)
“คืนนี้ก๊งกันเปล่า”
(ได้ แต่มึงเลี้ยงนะเว้ยซีเพราะมึงชวนกู)
“เจริญพรเลยไอ้สัส กับเพื่อนกับฝูงเบียดเบียนตลอด งั้นมึงมารับกูที่หอด้วย”
(กูคงถึงค่ำๆนู่นแหละ จะแวะบ้านญาติก่อน)
“เชิญ ถ้ามาถึงก็โทรหา บายไอ้สัส”
ชิงตัดสายก่อนครับ ไม่รอให้มันด่าหรอก คริๆ นึกแล้วครึ้มอกครึ้มใจอยากให้ค่ำเร็วๆ ถึงสังขารไม่ให้แต่ว่าใจเกินร้อย คืนนี้ผมอยากหาสาวๆมาให้ไออุ่นจังเลย แต่ก็นะ สี่คนที่ผมทักไปไม่เห็นมีใครตอบมาเลยอ่ะ เสียใจ TT
.
.
.
.
ก๊อกๆๆๆ ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูรัวๆดังขึ้นเหมือนจะรีบร้อนมาก -_- ผมก็เลยรีบไปเปิดประตูเพราะเกรงใจคนข้างๆห้อง เอ่อ... หมายถึงห้องห้าศูนย์สองอ่ะ
“มึง?”
“เป็นไง ดีขึ้นยัง”
ไอ้หลุมดำในชุดวอร์มแบบเมื่อวานทำตัวประหนึ่งว่านี่คือห้องมัน พอผมเปิดประตูเท่านั้นล่ะ มันใช้แรงควายไบซันผลักจนประตูเปิดออกแล้วเข้ามาในห้อง ถอดรองเท้าถุงเท้าแล้วก็เดินไปหาน้ำกินในครัวอีก อืมนะ เอาเข้าไป ตามสบายเลย คิดว่านี่เป็นห้องมึงเลยไอ้สัส
“ทำไมมึงไม่ไปห้องมึงวะ”
“อยากอยู่ห้องนี้ มีปัญหา? แล้วนี่มึงเห็นของที่กูเอามาแขวนไว้ให้มั้ย”
“เห็น เอามากินเรียบร้อย”
“เออดี เผื่อเจี๊ยวจะได้โตขึ้น”
“เสือก!”
“ฮ่าๆๆๆ ทำหน้าโกรธแบบนี้บ่อยๆนะน้องนิด กูชอบ”
ผมได้แต่ถอนหายใจพรืดยาวๆแบบเบื่อโลกก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะคอมเหมือนเดิม ปล่อยมันไปเถอะวะ ยิ่งคุยกับมันผมยิ่งอยากจะบ้าตายเข้าไปเรื่อยๆ
“มึงยังไม่กินกล้วยเหรอ”
“เออ”
“ดีเลย มึงมานี่ อยากหายหน้าช้ำมั้ย เปลือกกล้วยช่วยมึงได้”
“หะ? มึงว่าไงนะ?”
ผมรีบเด้งตัวเข้าไปหามันในครัวทันทีเลย มันจัดการปอกเปลือกแล้วเอากล้วยหอมลูกนั้นใส่จานไว้
“เอาเปลือกกล้วยถูตรงรอยช้ำ เดี๋ยวไอ้สีม่วงๆนี่จะหายไป”
“มึงหลอกกูอีกป่าววะ”
“หลอกไรล่ะ กูเรียนมา มาเดี๋ยวกูทำให้ดู”
มันกดไหล่ให้ผมนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว จับคางผมให้เอียงไปทางมันอย่างชัดเจนก่อนจะเอาด้านในของเปลือกกล้วยที่ลื่นๆอ่ะครับมาถูๆวนๆที่รอยช้ำ
“เบาๆ ซี้ด กูเจ็บ”
“สำออย ทำแบบนี้ไปซักสิบห้านาที”
แล้วผมก็นั่งทำของผมเอง ในใจก็ไม่ได้เชื่อมันหรอกนะครับ แต่ก็... มีทางเลือกที่ไหนล่ะ ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร และดีกว่าจะไปซื้อรองพื้นมานั่งโบกให้ขนลุกเล่น
“ซี กูเล่นเกมนะ”
“เออเชิญ”
.
.
.
.
เกือบๆยี่สิบนาทีที่ผมเอาเปลือกกล้วยถูรอยบนหน้า และพอไปส่งกระจกก็พบกับความมหัศจรรย์ที่กินเนสบุ๊คควรมาบันทึก ไอ้รอยสีม่วงน่าเกลียดนั่นมันจางไปเกือบหมดแล้วครับ! โห่แม่งน่าทึ่งจริงๆ ในที่สุดผมก็กลับมาหล่อเหลาเอาการเหมือนเดิม พร้อมจะออกไปโฉบเหยื่อคืนนี้แล้ว คุๆๆๆ
“มึง ไอ้เจ็ทโทรมา”
“เออๆ”
“เห่นโหลว ถึงยังเพื่อนเจ็ท”
(กำลังขึ้นไปแล้ว เปิดประตูรอกูเลย)
“เคๆ จุ๊บุ”
ไอ้เจ็ทเข้าออกคอนโดผมได้สะดวกเนื่องจากมันไปตีซี้ยามหน้าหอไว้เรียบร้อยตั้งแต่ชาติปางก่อน สบายผมเลยอ่ะเพราะไม่ต้องลงไปรับมัน ผมยืนชื่นชมความหล่อของตัวเองได้ไม่นานเท่าไหร่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อนที่ไอ้คนเคาะมันจะเปิดเข้ามา
“ยินดีต้อนรับบบบบ”
“เออๆ อ้าว ใครวะนั่น เพื่อนมึงเหรอ”
“เพื่อนมึงนั่นแหละสัสเจ็ท”
เพื่อนที่มึงลิขิตให้ไปรับกูในคืนสยองขวัญคืนนั้นนั่นแหละ ไอ้เจ็ทไม่รอช้าเดินเข้าไปหาไอ้กันที่กำลังตีฮอนอย่างเมามัน
“อ้าวไอ้เชี่ยกัน!! มึงมาอยู่นี่ได้ไง?”
“ก็เดินเข้ามา”
“กวนตีนแล้ว ขอคำอธิบายด่วนๆ”
“กูอยู่ห้องข้างมันเนี่ย ก็บังเอิญที่มันเป็นเพื่อนมึง จากที่มึงให้ไปรับมันคืนนั้นแหละ ก็เลยสานสัมพันธ์กันนิดหน่อย”
ผมเสหน้าหลบตอนที่ไอ้กันมันมองมาแบบล้อๆ ก็จริงแหละ คืนนั้นเราสานสัมพันธ์กันซะแนบแน่น ถึงขึ้นเสียเหงื่อเสียน้ำกันเลยทีเดียวววว
คิดแล้วก็...
เฉียว
(._.)
“อ่อ แล้วเป็นไงมั่งมึงฝึกสอน”
“ก็ดี เด็กน่ารักดี”
“มีเผื่อกูซักคนมั้ยวะ”
“เด็กผู้ชายมึงอยากได้มั้ยล่ะ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
คือ... ผมไม่เข้าใจ มันคุยกับไอ้เจ็ทนะแต่ตามันเหล่มามองผมตอนที่พูดคำว่าเด็ก มึงคงไม่ได้หมายถึงกูใช่มั้ยวะ กูโตแล้วนะอายุเท่ามึง ไม่ใช่เด็กโว้ย
“คืนนี้กูกับไอ้ซีจะออกไปแดกเหล้ากัน มึงสนใจมั้ย”
“เฮ่ย! ไม่ต้องหรอกเราไปกันสองคนพอ คือ... แบบว่า เออ เจ็ทมึงก็ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไอ้กันมันต้องตื่นเช้าไปฝึกสอน ชวนมันไปกินเหล้า ไม่ใช่แล้วๆ”
นี่แน่ะ แถไปอีก เรื่องไรผมจะอยากให้ไอ้กันไป อึดอัดตายห่า กินเหล้าไม่อร่อยพอดี
“กูตื่นไหว แค่นี้สบายอยู่แล้ว”
“...”
ไม่เอา มึงตื่นไม่ไหวหรอกเชื่อกู ผมพยายามส่งกระแสจิตผ่านแบคทีเรียในอากาศไปยังสมองของไอ้กัน สำนึกหน่อยมึงเป็นนักศึกษาครูนะเว่ย ไปกินเหล้าไม่ดี เผื่อเยาวชนเห็น ไม่ต้องไปหรอกนะๆๆๆๆ
“งั้นคืนนี้กูไปด้วย”
...
...
...
น็อคเอาท์!!!
.
.
.
.
มาถึงแบบเซ็งๆเนื่องจากเบื่อขี้หน้าไอ้หลุมดำ มึงสองคนแม่งมาแย่งออร่าไปจากกูอ่ะ T^T ขืนนั่งโต๊ะเดียวกับมึง สาวๆจะชายตาหากูหรอ เค้าคงอยากถวายตัวให้แค่พวกมึงสองคน คิดแล้วห่อเหี่ยว
“พวกมึงนั่งไปก่อน กูไปหาพี่โบ๊ทแป๊บ”
ไอ้เจ็ทว่าแล้วก็เดินออกจากโต๊ะไปหลังร้าน มันรู้จักกับพี่เจ้าของร้านครับ ซึ่งพวกผมเองก็รู้จักแกด้วย เนื่องจากแก๊งเรายึดร้านนี้เป็นฐานที่ตั้งในการเมา สาวๆสวยๆเย้ออออแยะไปหมด *-* คือมาที่นี่บ่อยกว่าโรงอาหารในมออีกครับ ฮ่าๆๆๆ คือมาแทบทุกวันยกเว้นช่วงที่มีสอบ
ผมกวาดตามองรอบๆร้านเผื่อจะเจอสาวๆที่ผมรู้จัก แต่เหมือนดวงไม่ดีมั้ง คืนนี้ไม่เจอครับ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก มิตรภาพสร้างได้เสมอ โนะๆ
ผมลากสายตากลับมาที่ฝั่งตรงข้ามตัวเองซึ่งถูกจับจองโดยไอ้หลุมดำ มันนั่งนิ่งเป็นรูปปั้นโพไซดอนแต่สายตาคมกริบของมันกลับจ้องมองมาที่ผม
“มองกูทำไมนักหนาวะ แดกไปดิเหล้าอ่ะ อยากแดกมากไม่ใช่ไง?”
“มึงมีแฟนป่ะ แฟนจริงๆ ที่ไม่ใช่แค่เอากันเฉยๆ”
“แฟนเหรอวะ... มึงถามทำไม”
“เอ้าก็อยากรู้ไงถึงถาม”
“งั้นมึงตอบกูมาก่อนว่ามึงมีรึเปล่า อ้อ แล้วแฟนมึงเป็นเพศอะไรระบุด้วย”
“ยัง กำลังตามจีบ เพศชาย”
เสมือนว่ามีไอร้อนพวยพุ่งออกมาจากสายตาคู่นั้น ทำเอาผมร้อนที่หน้าขึ้นมาเลยอ่ะ เห้แล้ว มันคงไม่ได้หมายถึง กำลังตามจีบผมใช่มั้ยวะ กูเป็นเพศชายนะโว้ย มึงจะมาจีบกูไม่ได้ และที่สำคัยมึงอาจจะต้องเสียเวลาและพลังงานเปล่าๆนะกันนะ กูไม่มีทางหวั่นไหวหรอกว่ะกูมีจรรยาบรรณพอ (หร๋อ)
“มึงยังไม่ตอบกูเลย มีแฟนยัง”
“ก็ ยัง...”
“แล้วไปเที่ยวเอากับเมียชาวบ้าน โดนตีนก็โดนมาแล้ว ต่อไปก็คงเป็นเอดส์สินะมึง”
“ไอ้เหี้ยกัน! นั่นปากเหรอไอ้สัส แล้วมึงแม่งไม่รู้อะไรก็ชอบพูดไปเรื่อยนะ กูป้องกันตลอดเว้ย!!! อย่างกูรอบคอบพอ“
พร้อมกับเบะปากคว่ำใส่มันไปทีนึง มันมองผมนิ่งๆแบบประเมิน ไม่รู้มันจะมองทำเชี่ยอะไร รู้มั้ยว่าผมเริ่มจะหนาวๆร้อนๆแล้วนะ ผมก็ทำเป็นไม่สนใจสายตาของมัน มองไปเรื่อยๆรอบร้าน มองน้องเสื้อดำ แดง เขียว เหลืองไปทั่ว สักพักไอ้เจ็ทก็กลับมาพร้อมกับขวดแก้วใสๆสีชาซึ่งน่าจะเป็นเหล้านอก คาดว่ามันคงได้เหล้าฟรีมาจากพี่โบ๊ทอีกแน่ๆเลยครับ
“ลองหน่อยพวกมึง เหล้าบ๊วยว่ะ พี่โบ๊ทแกให้มา กูลองไปแก้วนึงแล้วอร่อยสัสๆ เอามาๆกูรินให้”
แล้วไอ้เจ็ทก็เอาแก้วเหล้าที่ว่างเปล่าของไอ้กันไปชงใหม่ ส่วนผมอ่ะเหรอ ยังไม่เอาเหล้าครับ ไม่อยากเมาเร็ว แฮ่ๆ เดี๋ยวไอ้กันมันจะว่าผมอ่อน เดี๋ยวค่อยกินซักหน่อยตอนใกล้ๆจะกลับ จะได้ไม่ต้องเมามาก คืนนี้ผมต้องกลับกับไอ้กัน เพราะไอ้เจ็ทไม่อยากย้อนกลับไปส่งผมอีกรอบนั่นเอง ถ้าเดี๋ยวเมาแอ๋แล้วโดนเชี่ยหลุมดำลากเข้าห้องแล้วจะซวยไปใหญ่ พี่ซียังไม่อยากมีปั๋วนะ
.
.
.
.
เราคุยกันถึงเรื่องปิดเทอมที่ผ่านมา และการเรียนที่กำลังเริ่มขึ้นในปีสุดท้าย ส่วนไอ้เจ็ทกับไอ้กันก็คุยเรื่องเพื่อนที่ผมเองไม่รู้จัก จับใจความได้ว่า ไอ้สองคนนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม และสรุปว่าคืนนี้ผมไม่มีเวลาไปอ่อยสาวเลยอ่ะเสียใจจุง นั่งกันมาค่อนคืนจนตอนนี้ใกล้ถึงเวลาที่ร้านจะปิดแล้ว เชื่อมั้ยว่าผมกินเหล้าไปแค่สองแก้วให้พอเลือดลมเดินเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าเหล้าฟรีของพี่โบ๊ทจะอร่อยและนุ่มคอแค่ไหนก็เหอะ แถมยังเป็นเหล้าผลไม้อีก ใครแพ้ทางจะเมาปลิ้นได้ (ผมนี่แหละคนนึง แพ้แม่งทุกเหล้าอ่ะ) จริงๆก็รู้สึกเสียดายอ่ะนะ อยากจะแดกให้พังกันไปข้าง แต่ก็อย่าเสี่ยงเลยดีกว่า ถ้าโดนไอ้กันกระทำชำเราขึ้นมานี่มันไม่คุ้มเลยว่ะครับ
“กลับยังวะมึง เหล้าหมดละ ฮ่าๆ”
“มึงจะอยู่กวาดร้านป่ะล่ะไอ้เจ็ท ถามไรโง่ๆ”
.
.
.
.
พอคิดเงินไรเสร็จก็เดินออกมาเอารถ ผมมามอไซค์กับไอ้กัน ส่วนไอ้เจ็ทก็เอารถยนต์มาครับ คืนนี้ไอ้เจ็ทเมาสุดอ่ะ เจริญพร แล้วนี่คือมันต้องขับรถกลับหออีก
“เจ็ท มึงขับรถกลับไหวมั้ย ให้พวกกูไปส่งก็ได้นะเว่ย”
“กูสบ๊ายยยย แค่นี้เอง พวกมึงกลับเหอะ ไปๆๆ เจอกัน”
ก็เลยแยกย้ายกันกลับครับ ไอ้กันนี่ก็เมาพอใช้ได้เหมือนกันแหละ มันกินไปหลายแก้วอยู่และมีอาการเดินเซหน่อยๆ ตามันเยิ้มมาเลยครับ
“ให้กูขี่มั้ยวะ มึงเหมือนจะไม่รอด”
“ก็ดี”
มันส่งกุญแจฟีโน่มาให้ ขี่มอไซค์แค่นี้เองสบายมากๆสำหรับผม เราสองคนไม่ใส่หมวกกันน็อคหรอกครับ เพราะเส้นทางที่ใช้ ยังไงๆก็ไม่มีคุณพ่อมารอทักทายแน่นอน (เยาวชนไม่ครับเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ)
ไอ้กันแม่งตัวโคตรหนักเลยว่ะ รถแทบจะบิดไม่ออก ฮ่าๆๆๆๆ ผมค่อยๆออกตัวช้าๆเพราะกลัวล้มครับ ปกติเคยแต่ขี่ให้ผู้หญิงที่มี BMI ไม่เกิน20 ซ้อน ส่วนไอ้เหี้ยนี่มันคิงคองกลับชาติมาเกิดชัดๆ พอได้สมดุลแล้วก็เริ่มบิดเลยครับ ลมตีหน้าเย็นสบายมาก
รู้สึกว่าไอ้คนนั่งซ้อนมันจะเริ่มเขยิบมาชิดหลังผมมากขึ้นทุกขณะ จนได้กลิ่นเหล้าบ๊วยที่ติดมากับตัวมัน
“มึง ขยับออกไปหน่อยกูไม่ถนัด เดี๋ยวกูพาแหกโค้งตายห่ากันหมด”
เวลาคุยกับมันทีไร ผมชักไม่ค่อยแน่ใจว่ามันพิการทางหูรึเปล่า มันชอบทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่รับรู้กับสิ่งที่ผมพูดออกไป มิหนำซ้ำยังเอาคางหนาๆของมันมาเกยไว้ที่ไหล่ให้ผมจั๊กจี้อีกซะด้วย ลมหายใจร้อนๆเป่าที่ผิวแก้มของผม นั่นแสดงว่ามันอยู่ใกล้ผมเกินไป
“ซี”
“ไร กูบอกให้ถอยออกไปหน่อย ฟังรู้เรื่องมั้ย ช่วยฟังให้รู้เรื่องเหอะ กูพูดภาษาควายไม่เป็นนะ”
“ก็มึงกำลังพูดอยู่เนี่ย”
แน่ะ ยังมีหน้ามากวนตีนกูอีก ควายเอ้ย
“ทำไมมึงถึงไม่มีแฟนวะ”
“ก็ไม่ได้ชอบใครนิ ทำไมต้องคบ เอากันเฉยๆก็ได้”
“เหรอ งั้นเรามาเอากันเฉยๆก็ได้ใช่มั้ย”
“ตีนกูสิ!”
“หึๆ”
“เออนี่ ตากูถามบ้าง ทำไมมึงถึง... ต้องมาทำอะไรๆกับกูวะ”
“อะไรๆ หมายถึงอะไร”
“ก็แบบ หอมแก้ม จูบ แล้วก็... ที่มึง... ช่วยกูอ่ะ เป็นผู้ชายนะเว่ย”
“หึ จะให้ตอบว่าไง กูทำก็เพราะอยากทำ มึงมันทั้งแปลก ทั้งน่ารัก และเสือกเจี๊ยวเล็กด้วย”
อะ... ไอ้เหี้ยยยยยยย
กูให้มึงตอบคำถาม
ไม่ใช่ให้หลอกด่ากู !!
“มึงเป็นเกย์เหรอ”
“เปล่า กูคบผู้หญิงมาตลอด แต่พอมาเจอมึงเลยอยากลอง”
“ลองควายอะไรล่ะไอ้บ้า ไปลองกับคนอื่นนู่นไป๊ กูไม่ใช่หนูทดลองของมึงนะ”
“ก็ไม่ใช่หนูไง มึงเป็นกระต่าย”
“...”
“น้องนิดของกูน่ารัก”
อาจจะเพราะมันเมารึเปล่าเลยพูดอะไรแปลกๆ แปลกมากด้วยสัส มาบอกว่าผมน่ารักนี่มัน... มันไม่น่าใช่แล้วมั้ง ใจที่โคตรจะทรยศก็เสือกเต้นแรงยิ่งกว่าตอนโดดบันจี้จัมพ์ บ้าเอ้ย อย่าเต้นดิใจ หน้าก็ห้ามแดงด้วย ห้ามๆๆๆ มืออุ่นของมันเลื่อนมาโอบเอวผมไว้หลวมๆและลูบตรงที่ผมเป็นแผลจากการโดนกระทืบเมื่อวาน ส่วนปากมันก็พยายามจะหอมแก้มผมบ้าง ไซร้คอผมบ้าง เยสเป็ด ควรนึกบ้างนะว่านี่สถานที่สาธารณะ แถมมึงยังทำให้กูขี่รถยากมากกกกกกเลยรู้มั้ยไอ้หลุมดำ!!!
.
.
.
.
และแล้วก็มาถึงหออย่างปลอดภัยโดยที่ผมด่ามันมาตลอดทาง คือมันจะหอมแก้มผมตลอดเลยแม่ง พอจอดรถเสร็จผมเลยชิ่งเข้ามาก่อน ปล่อยมันเดิมตามหลังมาห่างๆ แต่ก็ต้องมาขึ้นลิฟต์พร้อมกันอีก ในลิฟต์ มันวาดแขนมาพาดคอผมแถมยังโถมน้ำหนักมาใส่จนแทบจะล้มฟาดประตูลิฟต์ พ่องแม่ง ไอ้ควายมึงคิดว่ามึงหนักสามเก้าสี่สิบหรือไงเนี่ย
“เมาว่ะ”
“ไม่ต้องบอกกูก็รู้หรอก”
“ไปส่งที่ห้องหน่อย”
“ไม่! มึงเชิญคลานไปเองเลยไป๊ ปล่อยกูด้วยกูจะเข้าห้อง!” มันเกาะผมแน่นยิ่งกว่าเวเบอร์ตราตุ๊กแกอีกครับ จะแงะก็ไม่ออก
“ส่งหน้าห้องก็ได้ ไปเปิดประตูให้กูก็พอ ทีเมื่อวานกูทั้งไปช่วยมึงไม่ให้โดนกระทืบ ทั้งเอาย...”
“หยุดๆๆ ไปแล้วๆๆๆ ยังไงวะมึง เมาแล้วลำเลิกบุญคุณเชียวนะสาส”
มันหัวเราะหึๆปล่อยให้ผมพามันเดินไปที่หน้าห้องมัน ล้วงหากุญแจในกระเป๋ากางเกง แต่แม่งมันอยู่ลึกไปมั้ย แล้วมันก็ยัดทั้งกระเป๋าตังค์ทั้งมือถือใส่ไว้ในกระเป๋านี้ด้วย คือมันก็มีตั้งหลายกระเป๋าป่ะ แบ่งๆใส่บ้างก็ได้ม้าง ผมขยับมือยุกๆยิกๆจนไปเกี่ยวเข้ากับพวงกุญแจและล้วงมันออกมาได้ จากนั้นก็ไขประตูเสร็จสรรพและหมุนลูกบิดเปิดประตูออกเพื่อให้คนเมากลับเข้าห้องไป
แต่
ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้เมื่อมันออกแรงลากผมเข้าไปในห้องกับมันด้วย!!!!
“ควายกัน!!! ปล่อยเลยมึงปล่อยยยย!!!!”
“กู๊ดไนท์คิสกันก่อนดิ ไม่เห็นต้องรีบ”
มึงไม่รีบแต่กูรีบบบบ สัสหมาาาาาาาาาาาาา
T^T
“อื้ออออ...”
ไอ้กันผลักผมติดผนังห้องและใช้เท้าถีบประตูปิดดังปั้ง มันขึงมือผมไว้กับผนังห้องและบดจูบลงมาอย่างรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน
เสียรู้มันอีกแล้ว
ไอ้ควายเอ้ย
ไอ้พิน็อคคิโอ
แต่มึงมันเป็นพิน็อคคิโอ 2014 มึงพัฒนาซอฟท์แวร์ได้แล้วสินะ จมูกมึงถึงไม่ยาวเวลามึงพูดโกหก!!!
“อ๊ะ... เหี้ยเอ้ย!”
มันผละออกเมื่อผมหายใจไม่ทัน ผมสูดหายใจได้เฮือกหนึ่งมันก็ก้มลงมาจูบต่อ ปลายลิ้นที่มีรสชาติเหล้าบ๊วยหวานๆกวาดไปทั่วโพรงปากเพื่อแบ่งปันรสชาตินั้นให้ผมด้วย ผมพลิกลิ้นหลบมันไปมาและพยายามจะกัดลิ้นมัน แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเมื่อไอ้ควายนี่ใช้มือข้างหนึ่งสะกิดยอดอกผมผ่านเสื้อตัวบาง
“อ้ะ... อื้อ”
มันดูดทั้งดันลิ้นผม จนตอนนี้ลิ้นเราพันกันมั่วไปหมด จากที่ผมไม่เมา ตอนนี้กำลังจะเมาเหล้าจากปากมันแล้วล่ะครับ ! น้ำใสๆไหลตามมุมปากย้อยลงมาถึงคางแต่ก็ไม่มีใครสนใจ
จ๊วบ
มันดูดกลีบปากผมอย่างแรงจนเกิดเสียงทุเรศๆนี่ขึ้นมา ฮือออ น้ำตาจะไหลกับกู๊ดไนท์คิสเสื่อมๆของไอ้ครูพละตัวควาย มึงพอเถอะนะกูกราบละ หัวใจกูจะสูบฉีดเลือดไม่ทันแล้ว T-T
มันถอยออกไปแต่ดูดดึงกลีบปากผมเบาๆ ผมรู้สึกเจ็บนะแต่ก็เสียวมากด้วยเหมือนกัน ริมฝีปากร้อนไล่ลงจากกลีบปากไปที่ข้างแก้ม และลงต่ำกว่านั้นไปที่ซอกคอ ปากมันจูบซับไปทั่ว ผมเบี่ยงหลบแต่ก็ยิ่งเหมือนเปิดทางให้มันไซร้ได้ถนัดขึ้นไปอีก ไอ้กันใช้ปากดูดเม้มผิวผมจนรู้สึกเจ็บนิดๆและเสียวปลาบไปทั่วร่างกาย ผมคิดว่าคงจะเป็นรอยแน่ๆ ส่วนมือมันก็ลูบไปทั่วร่างกายผม เมื่อมันทำจนพอใจแล้วถึงปล่อยข้อมือผมเป็นอิสระ สบตากับตาหวานๆของมันทีไรแล้วรู้สึกถึงอันตรายต่อตัวเองตลอดๆ
“ชอบแบบนี้มั้ย”
“เหี้ย!”
ด่ามันแล้วก็รีบออกจากห้องเวรตะไลทันที ไม่รอให้มันคว้าเอวผมไว้หรอก ผมได้ยินเสียงมันหัวเราะไล่หลังมาอีกด้วย บอกไอ้ซีคนนี้ทีว่าไอ้เหี้ยนั่นมันแกล้งเมาอ่ะ T0T
ผมรีบเข้าห้องตัวเองก่อนจะยืนนิ่งๆที่หลังประตู คือขาก้าวไม่ออกแล้วครับตอนนี้ เหนื่อยอย่างกับโจรวิ่งหนีตำรวจ หัวใจเต้นเร็วจนแทบระบบหมุนเวียนเลือดแทบจะพังพินาศ เหงื่อผุดมันทุกที่ที่มีรูขุมขน แล้วที่น่าสะพรึงไปมากกว่านั้น... ลูกผมตื่นแล้วอ่ะ แงงงงงงงง
ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถามของมันว่าชอบหรือไม่ชอบ ผมไม่ใช่พิน็อคคิโอแบบมันนะ ผมไม่ชอบโกหก
แต่มันก็... น่าอับอายเกินกว่าจะบอกว่า
ผมรู้สึกดีแบบเหี้ยๆอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
ผมเพิ่งรู้ว่าการเป็นผู้ถูกกระทำในสังเวียนสวาท (?) นี่มันจะทำให้รู้สึกได้ขนาดนี้ T^T
นี่สินะเหตุผลที่ผู้ชายบางคนอยากลอง
สาธุเจริญพร
แม่ช่วยซีด้วยครับ
ซีไม่อยากเป็นเกย์
T__________________________T
------------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีค่าาาาาาา มาอัพแล้ว มีใครรออ่านอยู่มั้ยเอ่ยยย?
ตอนนี้ก็ใสๆเบาๆ แค่นำเสนอสิ่งที่สองคนเค้ากำลังคิดกันอยู่ แฮร่
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์เลยค่ะ อ่านแล้วมีกำลังใจแต่งต่อมั่กๆ รักนะค้าาาา
ปล. ม่ายมีรายมากกกกกกก จะบอกว่าาาาาา
ตอนหน้าทีเด็ด !
บัยยยยส์

:
