เรื่อง :: ไม่มีรุกแท้ในหมู่เกย์ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
ระวังครั้งที่ 22 : เมื่อเมียๆไม่ให้เข้าห้อง
“พาย”
ฟักช็อก เขารู้สึกว่านี่มันละครมากเกินไปแล้ว นางเอกถูกคนร้ายข่มเหง พระเอกเข้ามาเห็นแทนที่จะช่วยเสือกเข้าใจผิดปล่อยให้นางเอกต้องเสียใจและโดนรังแก ถูกกดขี่โดยผลประโยชน์อันไม่เป็นธรรมจากพวกตัวอิจฉาไรงี้
“ไม่ ไม่ใช่อย่างที่พายคิดนะ” ตะลึงยิ่งกว่าเมื่อคำพูดคำจาเขามันลอกนางเอกช่องสองบวกหนึ่งมาชัดๆ คงต้องงดละครหลังข่าวเป็นระยะ
ฟักรีบลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าอย่างรีบๆ ก่อนเดินเข้าไปหาพายที่กำลังเดินหนีไป
“พาย พายครับ น้องพาย” เขาตามพายโดยลืมความสนใจไปที่พีทชั่วขณะ ณ เวลานี้พอได้มาเจอหน้าเด็กน้อยเข้าจริงๆ ความรู้สึกที่เตรียมไว้ว่ายังไงต้องพบเจอกลับรับมือยากกว่าที่คิด “พายฟังพี่ก่อน”
พายเดินมาหยุดอยู่อีกห้อง ฟักลอบถอนหายใจเหนื่อยหน่าย รู้สึกรำคาญตัวเองที่กำลังทำอะไรไม่เข้าท่ามากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาจากด้ายเส้นเดียวเริ่มพันกันยุ่งเหยิงจนเขารู้สึกยากตัดมันทิ้งปัดปัญหาด้วยวิธีลวกๆเข้าให้สักวัน รวดเร็วหน่อยแต่ก็ย่อมส่งผลกระทบมาก
“…พี่จะให้ผมฟังอะไร ฟังพี่พูดจาร้ายๆใส่กันอีกงั้นเหรอ” น้ำเสียงพายสั่นเครือ ไหล่ขยับขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายอาจกำลังเก็บอารมณ์สุดความสามารถ
“พี่ขอโทษ พี่ พี่ไม่ได้ตั้งใจ”
ไหนจะเรื่องเก่าที่ยังสะสางไม่ได้ที่เขาดันปากเปราะไปพูดไม่ดีกับเด็กคนนี้ ทว่าพอจะง้อขอคืนดี ดันมีเรื่องใหม่เข้ามาอีกแถมยังมาเห็นจะๆ สถานการณ์ล่อแหลมให้เข้าใจผิด ทั้งๆที่เขาไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มและยังไม่ทันได้ทำอะไรกันด้วยซ้ำ ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้วะ ทั้งๆที่เขาก็ปฏิเสธอยู่เห็นๆ
“แล้วเมื่อกี๊ พี่ก็ มันแค่” ฟักอึกอักเล็กน้อยแต่เขาพยายามไม่ทำเหมือนตัวเองกำลังจนมุม เพียงแต่แสดงออกว่ากำลังแคร์พายมากแค่ไหน ประมาณนั้นแหละ “พาย พายมองพี่สิ หันมาคุยกับพี่หน่อยนะครับ”
ฟักลืมพีทไปแล้วจริงๆพอๆกับความต้องการคุยกับพายให้รู้เรื่อง เขาเดินเข้าไปใกล้แต่เมื่อพายหันมาก็ถอยไปหลายต่อหลายก้าวราวกับไม่อยากให้ฟักมาแตะต้องตัวหรืออะไรทั้งนั้น ฟักยิ้มขื่นๆ พยายามเก็บกลั้นอารมณ์และแสดงออกอย่างนุ่มนวลที่สุดเพื่อไม่ให้พายรู้สึกหวาดกลัวหรือเกลียดเขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“โอเค พาย พายฟังพี่นะ พี่ให้เงินพายเพราะว่าพี่อยากช่วย แต่ถ้ากลายเป็นเหมือนพี่ไปดูถูกพาย พี่ก็โทษ พี่ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเลย” ฟักค่อยๆเกลี่ยกล่อม น้ำเสียงทุ้มและเว้าวอนเป็นที่สุดเท่าที่เขาสามารถ มือเรียวประกบเข้าหากันประกอบท่าทางการพูดยิ่งทำให้เขาดูเหมือนพวกทอล์คโชว์หรือพิธีกรที่กำลังดูดเงินลูกค้าอย่างสุภาพ
พายเอาแต่นิ่งเงียบ แผ่นหลังที่หันให้เขาราวกับจะไม่ต้องการมองหน้ากัน สบโอกาสฟักเข้าไปโอบกอด พยายามกระซิบบอกถึงสิ่งที่อยากให้อีกฝ่ายเข้าใจและยกโทษให้ รู้ว่ามันยากและเกินอภัย แต่อยากจะขอกันแบบหน้าด้านๆว่าให้อภัยเขาสักทีเถอะ หลังจากสถานะของเรามาอยู่ตำแหน่งนี้มันส่งผลให้ใจคอไม่ดีเกินกว่าที่คิด
“พี่รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน เวลาน้องพายโกรธพี่แบบนี้”
ฟักเลือกที่จะใช้ไม้อ่อนมากกว่าจะพูดถึงความผิดของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา กลิ่นหอมอ่อนๆติดจมูก ฟักกอดพายไว้แน่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายขัดขืนหรือหนี แรกๆพายพยายามดึงดันจะออกจากอ้อมกอดนี้แต่สักพักก็หยุดลงพร้อมกับเสียงหอบหายใจ
ฟักรู้ว่าสิ่งเขาทำมันกำลังย้อนแย้งและโลเลแปลกๆ ซึ่งเขาเองก็ยังสับสนอยู่หน่อยๆ อย่างน้อยพายไม่ได้ถึงขนาดโกรธจนเข้าขั้นทำร้ายร่างกายเขาซึ่งถืออยู่ในเกณฑ์ที่ยังคุยกันได้
พายตัวเล็กกว่าแถมยังเตี้ยกว่าเขาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่ผู้ชายอย่างไรก็เป็นผู้ชาย ฝ่ามือลูบไล้ผ่านเสื้อผ้าของเด็กน้อย เขากระชับวงแขนมากขึ้น จมูกและริมฝีปากจูบซับเบาๆไปตามไหล่และลำคออย่างเอาใจใส่ พายไม่พูดอะไรสักคำ แต่อาการที่อ่อนลงไม่แข็งขืนอย่างทีแรกทำให้ฟักเริ่มค่อยๆเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง
“พายครับ ให้โอกาสพี่เถอะนะ พี่ผิดไปแล้ว โทรไปพายก็ไม่รับ ทักไปพายก็ไม่ตอบ พี่รู้สึกแย่ไปหมด แย่มาก มากจริงๆ”
“พี่พยายามติดต่อพายทุกทางแล้ว พายรู้หรือเปล่าว่าพี่เป็นห่วงแค่ไหน…”
ฟักซบลงบนผมนุ่มๆ เขาจูบเบาๆย้ำๆไม่หยุดหย่อน
พอยิ่งได้มาใกล้ชิดหลังจากที่ห่างหายไปนาน ฟักรู้สึกชอบกอดเด็กคนนี้อย่างน่าประหลาด
มันมาไกลกับจุดประสงค์ในทีแรกอยู่มาก เขาแค่ต้องการหาคู่นอนแต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้
หรือบางที ถ้าเขาทิ้งไอ้พวกความคิดยึดติดในหัวแล้วลองเปิดใจดูสักครั้ง อาจจะเป็นเรื่องดีกว่าที่คิดก็ได้หรือเปล่า?
แต่มาคิดตอนนี้จะสายไปไหม เขาทำร้ายพายไปซะแล้ว
“…ไม่เป็นไรครับ ถ้าเรื่องเงินที่พี่พัชอุตส่าห์ช่วยเหลือผม…ผมก็ไม่กล้าไปโกรธพี่หรอกครับ”
ฟักหอมแก้มพาย ในใจเริ่มรู้สึกโล่งขึ้นมาเล็กน้อยแม้จะรู้ว่าคำที่พายพูดนั้นออกแนวประชดประชันแต่เขาแกล้งทำเป็นหน้าด้านไปอย่างนั้นเอง แต่ไม่มากก็น้อยถือว่าพายยังยอมคุยกับเขา
“เดี๋ยวพายเอาเงินพี่ไปใช้หนี้นะ มันอันตรายมากถ้าพายยังปล่อยไว้แบบนี้ หรือถ้าพายรู้สึกไม่ดีแล้วค่อยหามาคืนพี่ก็ได้นะครับ แต่พี่ให้พายจริงๆ”
ฟักไม่อยากให้พายทำตัวเองให้ลำบากหรือประชดเขาด้วยการทำร้ายตัวเอง อย่างน้อยฟักจะได้ไม่รู้สึกผิดมากนัก สิ่งที่เขากำลังทำตอนนี้มันก็ไม่ต่างจากการเห็นแก่ตัวเท่าไหร่ ฟักทำเพียงเพราะอยากรู้สึกดีขึ้น ไม่แย่ไปกว่านี้ และหนทางหลุดจากความรู้สึกมวลๆในท้องครั้งนี้ได้คือการทำอะไรสักอย่างให้กับพาย
“งั้นพี่พัชก็ปล่อยผมเถอะครับ พี่พัชมีแฟนอยู่แล้ว มาทำแบบนี้มันไม่ดี” พายไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่พยายามดึงมือเขาออกจากตัว แน่นอนว่าฟักไม่ยอมและกอดคนตรงหน้าแน่นกว่าเดิม
“ใครแฟนพี่ พายไปฟังมาจากไหน”
เด็กน้อยหันมามองฟักด้วยสายตาเหลือเชื่อราวกับว่าเหลืออดในความหน้าด้านหน้าทน ใช่ เขาก็รู้ในเรื่องนี้ และกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของพวกที่นอกใจหรือถูกจับได้ก็มักจะทำแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้น หน้ามึนว่าไม่รู้เรื่องหากยังไม่มีหลักฐานหรือถ้ามีก็แถต่อไปอย่างไม่ยอมแพ้ ซึ่งจากทฤษฎีในข้างต้น เขากำลังหยิบยืนมาปรับใช้เข้ากับชีวิตประจำวันกระทั่งจนถึงตอนนี้เป็นตัวอย่างที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว
“ปล่อย พี่พัชปล่อยผม” พายพูดเสียงแข็ง ท่าทีดื้อดึงกลับมาอีกครั้งทำเอาเขาต้องรีบปราบเจ้าแมวพยศ
“โธ่ พายครับ”
ฟักเรียกอีกฝ่ายเสียงอ่อน เขาพยายามไม่ถือสาแรงขัดขืนที่เริ่มมากขึ้นและข้อศอกที่กำลังพยายามกระทุ้งหน้าท้องแข็งๆของตัวเอง
“พายจะให้พี่ทำยังไง ในเมื่อพี่ไม่มีใครจริงๆ ตอนนี้ นอกจากพาย” แผนของฟักในตอนนี้มีเพียงทำอย่างไรก็ได้ให้พายไม่โกรธเขาและยอมเป็นเด็กดีเหมือนเมื่อก่อน คงรู้สึกโหวงเหวงไม่น้อยเมื่อวันหนึ่งลูกไก่ที่เคยวิ่งเล่นอยู่ในมือกลับหนีหายไปดื้อๆ
“แล้วที่ผมเห็น ที่ผมได้ยินในโทรศัพท์คืออะไร? พี่พัช ทำไม พี่ พี่หน้าด้านมาก จนผมไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว!”
พายหลุดจากอ้อมกอดฟักด้วยแรงเฮือกสุดท้าย ก่อนจะยืนประจันหน้ากันห่างไปไม่กี่ก้าว ตัวหอบเบาๆทั้งแรงกำลังที่เพิ่งสูญเสียไปและอารมณ์ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาเป็นสาย
ฟักกระพริบตาปริบๆ
เป็นครั้งแรกที่ฟักเห็นอารมณ์รุนแรงของพาย
และเป็นครั้งแรกที่เขาถูกพายด่า
“…พาย” เขาครางชื่อพายเสียงอ่อน พยายามยิ้มเศร้าๆเหมือนกำลังเสียใจที่ได้ยินเด็กน้อยต่อว่า
ฟักไม่ได้โกหก เขาไม่ได้เป็นอะไรกับน้องน้ำคนนั้น พูดให้ถูก เธอไม่ใช่ภรรยาตามกฎหมาย ไม่ได้แม้แต่จะเป็นแฟน ก็แค่เพื่อนร่วมงานที่พาเขาไปให้เอาถึงที่ เธออ่อยเขาเองแถมยังบรรลุนิติภาวะเกินกว่ากฎหมายจะคุ้มครอง มันเป็นการสมยอม พอจบค่ำคืนก็แยกย้าย ฟักคิดและมีความสัมพันธ์เช่นนี้มาโดยตลอด
ถึงแม้ดูแล้วเธออาจจะไม่ได้คิดแบบเดียวกับเขาก็ตาม
“วันนั้นพี่ก็จงใจให้ผมเห็น พี่กับเธอ แล้วไหนจะเสียงในโทรศัพท์ พี่เป็นคนพูดเอง พ พี่ พี่พูดเอง ผมได้ยิน ผ ผมจำได้ พี่รู้มั้ย แล้วพอผมถอยออกมา พี่กลับมาทำเหมือนว่าต้องการผม แคร์ผม พี่ทำอย่างนี้เพื่ออะไร ผมไม่เข้าใจเลยวะ ไม่เข้าใจจริงๆ…”
เหมือนมีรองเท้าไนกี้สักรุ่นมาขวางลิ้นไก่ ฟักกำลังคิดประโยคแก้ตัวต่อไปไม่ทัน เขารู้ว่าก่อนหน้านี้ที่เขาได้เคยกระทำกับพายมันสร้างความสนุกปนอภิรมย์ให้กับตัวเองก็จริง แต่พอเห็นความทุกข์ที่ผ่านสายตาเด็กน้อยตรงหน้าในเวลานี้ทำเขารู้สึกจุกอย่างที่ไม่ค่อยเป็นนัก
“ไหนจะวันนี้ ที่ผมเห็นอีก พี่กับพี่พีท พี่ทำได้ยังไง พี่เพิ่งเหมือนจะไปอะไร กับ กับพี่ชายแท้ๆของผม แต่ต่อมาพี่กลับเข้ามากอดผมโดยไม่รู้สึกอะไรได้ยังไง?”
ฟักเลวเอง ฟักยอมรับ แต่การกอดคนที่ผ่านมา กับกอดคนที่รู้สึกว่าน่าจะชอบมันต่างกันนะ
สถานการณ์บีบคั้นเก้งให้จนมุม ทำไมทุกอย่างมันดูบานปลายยากที่จะควบคุมอย่างนี้นะ
“ในทีแรกผมผิดเองที่ผมเข้าไปหลอกพี่ แต่ความรู้สึกหลังจากนั้น ผมไม่เคยหลอกพี่เลย”
ถ้าพายไม่ใช่เด็กคิดมากมันก็อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่น่าลากพายมาเล่นด้วยจริงๆนั้นแหละ แต่ถ้ามองอีกมุม พายจงใจหลอกเขาก่อนและเข้าหาเขาด้วยความเต็มใจเอง มันก็ถูกไม่ใช่เหรอ สถานภาพแบบนี้ คงไม่มีใครคิดจริงจังหรือยืนยาวหรอก น่าจะเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือไง
“…อ…อือ…ผม…ผมว่ามันก็เสมอกันดี…มันคงเป็นกรรมมั้ง…ใช่มั้ยครับ?...ตอนนี้ผมได้รับแล้วนะ ผมรู้สึกแย่เหมือนกัน ถ้าผมทำให้พี่โกรธ ผมขอโทษ แต่พี่พอเหอะ หยุดหลอกผมเถอะนะ ผมเข้าใจแล้ว” พายพยักหน้ากับสิ่งที่พูด สีหน้าและแววตาน่าสงสารจับใจ
“พาย”
“พี่พัช ไม่ อย่า อย่าจับผม ผมขอร้อง”
เกลียดความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาอัดกันเป็นชั้นๆในอกอย่างนี้จริงๆ
ยิ่งพยายามเข้าใกล้ยิ่งหนี ฟักไม่รู้จะทำยังไงให้พายเชื่อตัวเองเหมือนเมื่อก่อน แต่น่าขำมาก ฉีกกระดาษทิ้งขนาดนั้น จะต่อกันยังไงให้ไม่มีรอย ความรู้สึกอึดอัดบีบคั้นในอกมันทำให้ฟักหงุดหงิด เขาพยายามเดินเข้าไป ทว่าแม้แต่จะได้แตะต้องยังทำได้ยาก ถ้าถามว่าเสียใจไหม ก็มีบ้าง แต่ก็ยังสับสนอีกอยู่ดี
“พาย พี่”
เพราะมัวแต่สนใจเด็กตรงหน้า ฟักไม่รู้เลยว่าพีทยืนรับรู้เหตุการณ์ตั้งแต่ต้น พอเขาจับพายได้และดึงดันจะคุยให้รู้เรื่อง ไหล่ของฟักถูกกระชากกลับไปพร้อมกับแรงเหวี่ยงให้ถอยห่างจากพาย พีทเดินเข้ามากันเข้าออก ไม่มีแววขี้เล่นอย่างที่เคยเป็น
“ปล่อยน้องผม”
ฟักแปลกใจเมื่อได้ยินพีทพูดประโยคนั้น เขาทรงตัวก่อนมองหรี่ตามองสองพี่น้องตรงหน้าด้วยหัวใจที่กำลังเต้นตุบๆ
ข้อสงสัยวิ่งเข้ามาในหัวพร้อมกันๆ
พีทรู้เรื่องพายกับเขา
หรือพายรู้เรื่องพีทกับเขา
หรือทั้งสองอย่าง
“คุณกลับไปซะ”
ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาราวกับต้องการปกป้องคนข้างหลัง พายถูกบดบังโดยพี่ชายส่งผลให้เขามองเห็นได้ไม่ถนัด และพีทเองก็มีสีหน้าไม่ต้อนรับเขาอย่างเห็นได้ชัดต่างจากทีแรก เขารู้ว่าถ้าพีทแจ้งตำรวจ ยังไงเขาก็เป็นฝ่ายผิดทั้งขึ้นทั้งร่อง ข้อหาบุกรุกแถมยังทำร้ายหัวใจเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยอีก
“ขึ้นไปรอพี่บนห้อง” พีทสั่งน้องชายตนเอง พายมองอยู่แวบหนึ่ง พีทพยักหน้าอีกครั้ง จึงทำให้พายยอมเดินขึ้นไปด้วยดวงตาแดงก่ำ แต่แปลกที่ครั้งนี้ไม่ได้มีน้ำตาหลุดมาให้เห็น
“พายเดี๋ยวก่อน พาย”
ฟักทำท่าจะเดินตามไปแต่ถูกพีทกันไว้ เรื่องอาจใหญ่ไปกว่านี้ฟักจึงหยุด ลับสายตา เมื่อมั่นใจว่าพายขึ้นไปและเข้าไปในห้องจริง ทันทีที่เสียงประตูชั้นบนปิดลง พีทหันกลับมา
“มันเป็นแผนใช่มั้ย คุณจงใจให้พายเห็น” ฟักพูดขึ้น เขาไม่ประนีประนอมอีกแล้ว เช่นกันกับพีทที่ดูจริงจังกว่าทุกที
“ใช่ พายก็รู้เรื่องนี้”
“อะไรนะ”
“คุณหลอกผมได้ แต่อย่ามาหลอกน้องผม” สีหน้าพีทโกรธปนเสียใจ ฟักไม่กล้าพูดอะไรต่อ เขารอจังหวะ เหตุเพราะเขายังไม่แน่ใจชัดเจนว่าพายรู้เรื่องเขากับพีทมากแค่ไหน และพีทก็เหมือนกันว่ารู้เรื่องมากแค่ไหนแล้ว “โดนขนาดนี้ ผมว่าพายจะได้ตัดใจและเห็นให้ชัดๆว่าคุณเป็นคนยังไง”
“หมายความว่า คุณ คุณรู้เรื่องพายกับผม?”
“คุณเห็นคนอื่นโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมผมจะดูไม่ออก พายดูสนิทกับคุณมาก โทรหาคุยกันแทบทุกวัน ผมเป็นพี่มัน ทำไมผมจะดูไม่ออก แต่พอหลังจากวันนั้นที่คุณมาที่บ้าน พอเห็นว่าคนที่พายคุยอยู่ด้วยเป็นคุณ ผมดีใจมากแต่ก็เสียดายนะ แต่ก็เริ่มเข้าใจว่าคุณกำลังคบอยู่กับน้อง ผมจึงไม่อะไรมากเพราะเห็นว่าก่อนหน้านี้พายดูมีความสุข แต่พอระยะหลังมันแทบไม่เป็นผู้เป็นคน จนผมต้องมาคาดคั้น ถึงได้รู้ว่าสาเหตุมันเป็นเพราะอะไร”
พีทแค่นเสียงหัวเราะ
“แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก พายไม่รู้เรื่องเรา ผมเข้าใจว่ามันเป็นแค่เรื่องขำๆ ขนาดวันที่เราเจอกันครั้งที่สอง คุณยังทำท่าจะเล่นกับผมอยู่ทั้งๆที่ตอนนั้นถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคุณกำลังคบกับพาย ไม่ใช่เหรอ?”
“ผม…ผมขอโทษ”
“คุณกลับไปเถอะ”
พีทโบกมือไปที่ประตู
“แล้วอย่ามายุ่งกับน้องผมอีก”
TBC
[14/12/2557]