สองสัปดาห์ต่อมา...
สุดท้ายแล้วผมก็ได้เฟสบุ๊คพี่จอมมาจนได้ครับ กว่าจะได้มานี่ก็เหนื่อยพอสมควร เล่นตัวอยู่นั่นแหละ คิดว่าตัวเองหล่อนักหรือไง! =^= พอได้มาปุ๊บกลับบ้านไปผมก็แอดปั๊บพี่จอมก็รับปุ๊บผมก็กรี๊ดปั๊บ >O<
เราจะมาพูดกันทีละเรื่องนะครับ เรื่องแรกคือแผลของผมนั่นเอง เวลาผ่านมาสองสัปดาห์มันดีขึ้นจริงๆ ครับ เริ่มกลับมาเป็นรูปเป็นร่าง ชมพูสวยเหมือนลูกท้อตามเดิมแล้วครับ แต่แปลกมาก ไหมละลายที่พี่ไกด์บอกว่ามันจะหลุดเองตามธรรมชาติหากเราทำแผลบ่อย มันไม่เห็นจะหลุดเลยครับ ติดแน่นทนทานยิ่งกว่ากาวตราช้างอีก ผมเองก็ไม่กล้าดึง กะว่าถ้าแผลใกล้หายจะไปให้พี่ไกด์ตัดให้ถึงที่เลย (ปล.พี่ไกด์คงเป็นหมอคนเดียวที่ผมยอมถ่างขาเปิดจู๋ให้ดู ^ ^) สำหรับอาการผมเวลาอยู่ต่อหน้าพี่จอมก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ นะครับ ไม่ค่อยเกิดอารมณ์ตอนพี่เขาทำแผลแล้ว แต่บางครั้งพี่เขาก็ชอบแกล้งผมให้จิ้นไปเอง บ่อยมากๆ เลย
น่าแปลกนะ...ทั้งๆ ที่เราเป็นแค่บุรุษพยาบาลกับคนไข้ ช่วงเวลาที่ทำแผลก็ไม่เคยเกินสิบนาที...ความสัมพันธ์อันอบอุ่นก็เริ่มก่อตัวจนผมหนีไม่ได้แล้วล่ะ เป็นที่มาของเรื่องที่สองที่ผมจะเล่า...
ผมตกหลุมรักพี่จอมจนได้ -///- ทุกอย่างเป็นเพราะพี่จอมคนเดียว! พูดจาเพราะๆ กับผม เป็นห่วงผม คอยเตือนนั่นนู่นนี่ และชอบเอามือมาแตะหน้าผากผมแบบแสดงความห่วงใยเกินกว่าหน้าที่ ตอนแรกผมไม่คิดว่าตัวชอบหรือตกหลุมรักเขาหรอกนะครับ จนอาการแปลกๆ เกิดขึ้นกับผม
วันแรกของสองสัปดาห์ที่แล้วผมกลับบ้านมานอน หลับตาแล้วก็เห็นหน้าพี่จอม ไล่ยังไงก็ไม่ยอมไป แถมยังรู้สึกหวิวๆ ใจสั่นแปลกๆ จนคืนนั้นผมนอนไม่หลับทั้งคืนเลย โชคดีที่อยู่ในช่วงลาโรงเรียนหนึ่งอาทิตย์ ไม่อย่างนั้นเพื่อนต้องทักผมแน่ว่าถูกขี้หมีแพนด้าตกใส่ตามาหรือเปล่า
และหลังจากนั้นจนถึงวันอาทิตย์ผมก็คิดถึงพี่จอมทั้งวันเลย ผมพยายามมากที่จะไม่หน้าแดงเวลาเจอเขา T///T
สัปดาห์ที่สอง ผมมีเฟสบุ๊คมีเขาแล้วใช่ป่ะ ผมเลยลองทักแชทไปคุยกับพี่เขาดู ส่องข้อมูลส่วนตัว รูปภาพที่ถูกติดแท็กและค่อยโล่งใจขึ้นเยอะเลย...พี่จอมยังไม่มีแฟนครับ ^O^V มันทำให้ผมมีกำลังใจในการที่จะพยายามทำให้เขารักให้ได้เลย...มันคือจุดเริ่มต้นสำหรับผม แค่จุดเล็กๆ เท่านั้น
พี่จอมเวลาคุยแชทกันก็น่ารักดีนะครับ มีส่งสติ๊กเกอร์รูปแมวนอนเล่นไหมพรมมาบ่อยๆ และผมก็ชอบส่งรูปแมวกำลังขี่สกู๊ดเตอร์กลับไป เราจะคุยกันตอนดึกๆ ก่อนจะบอกลาฝันดีกันไป...ไม่รู้ว่าที่ผมบอกพี่จอมไปมันจะทำให้พี่เขานอนสบายหลับฝันดีหรือเปล่านะ แต่ผมฝันดีหลับสนิทจนเช้าเลยครับ
แน่นอนครับ...ผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเป็นเหมือนกัน พอได้คืบก็จะเอาศอก พอได้ศอกก็จะเอาวา ความอ่อนโยนที่พี่จอมมอบให้ผม มันทำให้ผมสุขใจมากจนอยากพัฒนาและล้ำเส้นความสัมพันธ์ของเราสองคนไปอีกนิดหนึ่ง
ผมเลยวางแผนว่าวันนี้หลังทำแผลเสร็จจะชวนพี่จอมไปกินเค้กกับกาแฟเป็นการตอบแทนที่ดูแลทำแผลผม (แม้มันจะเป็นเพราะหน้าที่เขาก็ตามเถอะ) และผมก็บอกพ่อไว้แล้วด้วยว่าจะนั่งแท็กซี่กลับมาเอง ตอนขากลับจะได้ใช้มุกให้พี่เขาไปส่งที่บ้านได้ >///<
"สวัสดีครับพี่จอม" ผมยกมือไหว้พี่จอมพอเข้ามาในห้องฉุกเฉิน
"มาแล้วเหรอแจ๊บ ขึ้นไปนอนรอบนเตียงหนึ่งเลยนะ พี่เตรียมของแปป" พี่จอมรับไหว้ผมแล้วเดินแยกไปที่ตู้เก็บของเพื่อเตรียมอุปกรณ์ทำแผล
แปลกนะ...ทั้งที่ห้องฉุกเฉินเป็นแผนกที่รับผู้ป่วยอากาสาหัส มีแต่กลิ่นเลือด กลิ่นแอลกอฮอล์และเสียงร้องเรียกด้วยความเจ็บปวดเต็มไปหมด ผมก็ไม่รู้สึกกลัวอีกต่อไปแล้ว ความรู้สึกที่หลงหลือเต็มไปด้วยความสงบ เห็นอกเห็นใจและอธิษฐานให้คนป่วยหายเร็วขึ้นเท่านั้น คาดว่าคนที่ทำให้ผมใจเย็นลงได้แบบนี้ก็คือพี่จอม ผมยังจำได้ดีว่าช่วงอาทิตย์ก่อนตอนทำแผลพี่จอมชวนผมคุย...
'ทำไมถึงกลัวโรงพยาบาลเหรอน้องแจ๊บ'
'ผมกลัวเลือด กลัวเสียงร้องไห้ของคนอื่นนะครับ มันทำให้จิตใจหดหู่'
พี่จอมมองหน้าผมแล้วยิ้มขณะก้มลงพันแผลไปด้วย 'เพราะฉะนั้นพี่ถึงอยากเป็นบุรุษพยาบาลไงครับ'
'…'
'อยากช่วยคนให้หลุดพ้นจากอาการบาดเจ็บ'
และเพราะคำพูดพวกนี้เอง ปณิธานในใจผมจึงแรงกล้าขึ้นเรื่อยๆ...
...ผมจะเป็นหมอให้ได้
"มาแล้วครับ" พี่จอมเปิดม่านเข้ามาในขณะที่ผมดึงกางเกงตัวเองลงไปกองที่เข่า เฮ้อ! กี่วันแล้วเนี่ยที่ไม่ได้ใส่กางเกงใน เสียงกุกกักดังขึ้นสักพักก่อนที่พี่จอมจะหันกลับมาทำแผลให้ผม
ใบหน้าที่ตั้งใจตอนทำแผล ผมสีดำ ผิวสีน้ำผึ้ง...ถ้าผมยังช้าอยู่อีกมันคงไม่ทันการสินะ เพราะฉะนั้น...
"พี่จอมครับ"
"ครับ..." พี่จอมกำลังใช้สำลีชุบยาทำแผลและเริ่มทาไปรอบๆ แผล
"เย็นนี้ผมขอเลี้ยงเค้กพี่ขอบคุณได้ไหมครับ"
"หืม? ทำไมล่ะ" พี่จอมย้อนถามด้วยแววตาเป็นประกาย ผมเหมือนเห็นดวงดาวในตาพี่เขาเลย ที่มุมปากเหมือนจะมีรอยยิ้มนิดๆ ด้วยแหละ อะไรกันเนี่ย...เริ่มเขินแล้วนะ -///-
"แค่อยากขอบคุณที่พี่คอยดูแลทำแผลให้ผมเฉยๆ ครับ"
ผู้ชายตรงหน้าพันแผลให้ผมเสร็จก็ทำหน้าตาคิดแบบพิจารณาได้หน้าหมั่นไส้สุดๆ จนผมอยากถอนคำชวนซะให้แล้วรู้รอด "แต่นี่มันหน้าที่พี่นะครับ ไม่ต้องขอบคุณอะไรมากขนาดนั้นหรอก"
ผมหน้าหมองลงเล็กน้อยกับคำพูดนั้น เหมือนได้ยินเสียงหัวเราะหึในลำคอพร้อมกับที่พี่จอมเอื้อมมือมาโยกหัวผมเล่น "โอ๋ น่าสงสารจัง พี่ล้อเล่นน่า ไปสิครับ นี่สามโมงครึ่งแล้ว รออยู่ด้านนอกนะ อีกครึ่งชั่วโมงพี่ออกไปหา ^ ^"
"ขอบคุณที่ไปกับผมนะพี่จอม"
"ไม่เป็นไรน่าตัวเล็ก"
…ตัวเล็ก...คำนี้ฟังแล้วอบอุ่นจัง
ผมยิ้มออกมาแล้วดึงกางเกงขึ้นมาสวมแล้วกระโดดลงเตียงเดินออกไปนอกห้องฉุกเฉินรอพี่จอม
...หลุมรักที่พี่จอมขุดไว้ดักผม...ใช้เวลาทั้งชีวิตผมก็คงปีนขึ้นมาไม่ได้แล้วล่ะ...
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _
"ตกลงนี่จะพาพี่มาเลี้ยงหรือตัวเองอยากมากินเองกันแน่เนี่ย" พี่จอมเอ่ยแซวเมื่อผมสั่งเค้กมาเต็มโต๊ะแล้วงจ้วงเอาข้วงเอาอย่างกับคนขาดของหวานมาเป็นชาติ ในขณะที่หน้าพี่จอมมีแค่กาแฟเย็นหนึ่งแก้วกับเค้กคาปูชิโน่
"ผมชอบของหวานมากเลยครับ กินแล้วทำให้อารมณ์ดี คิดอะไรก็ออก"
"เลอะหมดแล้วนั่น ไหนอยู่นิ่งๆ ซิ"
"อ๊ะ"
พี่จอมหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดออกมาจากระเป๋าเสื้อแล้วเอื้อมมาเช็ดมุมปากผม...การจู่โจมที่แสนหวานนี้ทำให้ผมอดจะหน้าร้อนขึ้นมาไม่ได้ คนตรงหน้าทำสีหน้าจริงจังตอนที่เช็ดครีมเค้กที่ติดมุมปากผม
"อ่ะ เสร็จแล้ว ค่อยๆ กิน พี่ไม่แย่งหรอก แค่นี้น้ำหนักก็ขึ้นจะตายแล้วเนี่ย"
ผมมองพี่จอมด้วยสายตาลอยๆ เสียงที่เอ่ยตอบออกไปไม่มีความมั่นคงเลยสักนิด "สงสัยผมคงพยาธิเยอะ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเลย เหมือนดื่มนมแหละครับ ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่สูงจนอายุเท่านี้คงไม่สูงแล้วล่ะครับ"
พี่จอมเอามือเท้าคางแล้วมองผมยิ้มๆ "พี่มีความลับอย่างหนึ่งจะบอกแจ๊บ"
ผมวางส้อมที่ใช้จ้วงตัดเค้กกินลงกับขอบจาน มือเอื้อมไปหยิบแก้วโกโก้เย็นมาหยิบและเอ่ยถามเขาตาแหวว "ความลับอะไรเหรอครับ?"
"จริงๆ แล้วพี่ไม่ได้ชอบกินขนมหวานเลย"
"…"
คำตอบของพี่จอมมาพร้อมกับความรู้สึกอึดอัดกระแทกกลางใจจนผมอึ้งไปหมด
ในเมื่อพี่เขาไม่ชอบกินขนมหวาน แล้วเขาจะมากับผมทำไม ยอมมากินของที่ตัวเองไม่ชอบนี่เพื่อเอาใจเด็กนิสัยประหลาดแบบผมอย่างนั้นเหรอ...
ความละอายใจแล่นขึ้นมาทันที ผมเงยหน้าขึ้นสบตาพี่จอมเพียงชั่วครูก่อนจะคว้าเค้กคาปูชิโน่ตรงหน้าของพี่จอมเข้าปากทีเดียวทั้งชิ้น!
ง่ำ!
"เฮ้ย แจ๊บเป็นอะไร อยู่ดีๆ เขมือบเข้าไปทั้งชิ้นแบบนั้น"
"อ้ออี้ออกอ๋มอ้าไอ้อ๊อบอ๋มอ๋านอี้ (ก็พี่บอกผมว่าไม่ชอบขนมหวานนี่นา)"
พี่จอมหัวเราะออกมา "แจ๊บพูดภาษาอะไรอ่ะ พี่ฟังไม่รู้เรื่องเลย"
"อี้ออมอ้า! (พี่จอมบ้า!)"
ผู้ชายตรงหน้าผมย้ายตัวเองมานั่งเก้าอี้ทางฝั่งผมด้านข้างโดยที่ยังหัวเราะไม่หยุดก่อนจะยื่นขวดน้ำเปล่าที่ซื้อมาเผื่อส่งให้ผม
"อ่ะนี่ ดื่มน้ำก่อนแล้วกัน เดี๋ยวจะติดคอ"
ผมรับขวดน้ำจากมือพี่จอมมาดื่มอั้กๆ อย่างกับนักเดินทางในทะเลทรายที่บังเอิญเจอโอเอซิสงั้นแหละ พอเริ่มหายใจหายคอคล่องขึ้นก็เงยหน้ามองพี่เขาอย่างตัดพ้อ "ทำไมพี่จอมไม่บอกผม อย่างน้อยเราจะได้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นทัน"
"เรื่องบางเรื่องก็ควรเก็บเป็นความลับบ้างนะเด็กน้อยของพี่" พูดพลางเอามือมาลูบหัวผม
อีกแล้วสินะ...พี่จอมนี่ใจร้ายจัง ชอบทำให้ผมคิดไปเองจนเป็นยอดนักมโนแล้วปล่อยไว้ไม่สานต่อ และผมก็นอนไม่หลับไปคนเดียว!
"ถ้าอย่างนั้นกลับกันเถอะ ทุ่มกว่าแล้วนี่ เรานั่งกิน อ๊ะ ไม่ใช่สิ พี่มองแจ๊บกินเค้กนี่มาหลายชั่วโมงแล้ว"
"พี่จอมอ่ะ!!"
"ฮ่าๆ มื้อนี้พี่เลี้ยงเองนะ แจ๊บไม่ต้องจ่ายหรอก"
"ทำไมล่ะครับ?" ผมมองหน้าพี่จอมแบบไม่สบายใจ พี่เขาเพียงยิ้มนิดๆ เหมือนไม่ได้คิดอะไรก่อนตอบคำถามราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา
"ก็โอกาสต่อไปค่อยให้แจ๊บเลี้ยงไงครับ"
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _
เสียงฟ้าร้องดังขึ้นทันทีที่เราสองคนออกมาจากร้านเค้ก ผมมองเบื้องนอกอย่างเป็นกังวลนิดๆ ความคิดที่ตอนแรกจะให้พี่จอมไปส่งที่บ้านคงจะเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ เพราะพี่จอมขึ้นรถเมลล์มาทำงาน แบบนี้จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย ยิ่งฝนตกทำท่าจะตกแบบนี้มันคงไม่เวิร์กแล้วล่ะ
"แจ๊บจะกลับยังไง"
"เอ่อ...ผมขึ้นรถเมลล์กลับครับ"
พี่จอมขมวดคิ้ว "จริงเหรอ แบบแจ๊บขึ้นรถเมลล์เป็นด้วยเหรอ"
"เป็นสิครับ แหม่ =_=^^"
"ฮ่าๆ พี่แซวเล่นเฉยๆ ว่าแต่... เฮ้ย! ระวัง!"
ขวับ!
ซ่า!
ช่วงวินาทีสั้นๆ ที่ผมคาดไม่ถึงนั่นเอง รถเก๋งคันหนึ่งวิ่งผ่านมาทางนี้และเหยียบตรงน้ำขัง ทำให้น้ำสกปรกนั่นกระเซ็นสามาทางผม...
...ถ้าพี่จอมไม่เอาตัวมาบังไว้ผมคงเปียกโคลนเป็นตุ๊ดหัวโปกตกน้ำไปแล้วแน่ๆ
"ค่อยยังชั่วหน่อยที่บังทัน"
"พี่จอมทำแบบนี้...ทำไม..."
"เอ๋...หมายความว่ายังไง"
ไม่ไหวแล้ว...ความอ่อนโยนของผู้ชายคนนี้กำลังทำร้ายหัวใจผมอย่างเจ็บปวด ผมเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาปริ่มน้ำ "ถ้าพี่ไม่ได้คิดอะไรกับผม ก็หยุดทำท่าเหมือนเป็นห่วงผมสักทีเถอะครับ อย่าให้ผมคิดไปเองเลย"
เสื้อสีขาว...เสื้อที่บุรุษพยาบาลใส่...กำลังเปื้อนน้ำโคลนไปเกือบครึ่ง เสื้อที่บ่งบอกถึงอาชีพที่พี่จอมภูมิใจนักหนาต้องมาเปื้อนเพราะผม ดีนะที่วันนี้พี่เขาใส่กางเกงสีดำมา ไม่อย่างนั้นผมคงรู้สึกผิดกว่านี้
พี่จอมรวบตัวผมไว้ในอ้อมกอด แล้วเอาคางเกยศีรษะผมไว้ น้ำเสียงที่พี่เขาใช้พูดในวันนี้ดูผิดไปจากเดิมจนผมใจสั่น "เพราะพี่เป็นห่วงแจ๊บยังไงล่ะ...แผลยังไม่หายดีเลยนี่"
"…"
"พี่ไม่อยากให้แจ๊บสกปรกเพราะน้ำนั่น"
"…"
"เพราะพี่อยากให้คนที่พี่แคร์มีแต่ความสุขสดใสตลอดเวลา มากกว่ามานั่งน้ำตาไหลยังไงล่ะ"
"พี่จอม..." ผมเรียกพี่เขาเสียงแผ่วเมื่อเริ่มจับกระแสความรู้สึกบางอย่างในน้ำเสียงนี้ได้
"ที่พี่ไม่ชอบกินของหวาน...แต่ยอมมากินเพราะพี่รู้ว่าแจ๊บชอบเค้ก เลยอยากเห็นแจ๊บมีความสุข ต้องขอบคุณหมอไกด์นะเนี่ยที่ยอมบอกข้อมูลเกี่ยวกับแจ๊บ"
"…"
"แจ๊บคงไม่รู้ว่าวันที่แจ๊บขลิบน่ะคนที่แจ๊บจับมือซะจนกระดูกแทบหักตลอดเวลานั่นคือพี่เอง ส่วนนางพยาบาลอีกคนยืนคุยกับแจ๊บโดยพี่เป็นคนบอกเขาให้ทำเหมือนไม่มีพี่อยู่ในนั้น"
"พี่จอม...แสดงว่าผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม" คำสารภาพแสนอ่อนหวานของพี่จอมกำลังทำให้ผมสุขจนแทบกระอัก ทั้งที่ตอนนี้เป็นช่วงหัวค่ำริมถนนในบรรยากาศที่ฟ้าร้องครืนๆ
"พี่น่ะแอบมองแจ๊บ ทำความรู้จักกับแจ๊บผ่านหมอไกด์มาตั้งนานแล้วนะ"
"…" ผมอึ้งไปอีกรอบ...
ริมฝีปากของพี่จอมใกล้ผมเข้ามาเรื่อยๆ ผมรู้สึกหมั่นไส้ร่างกายตัวเองชะมัดที่ไม่ยอมขยับหนีเลย จนริมฝีปากเราสองคนประทับกัน ผมทำได้แค่หลับตาลงกับสัมผัสที่ไม่คุ้นนี่ ให้พี่จอมเป็นฝ่ายนำผมเอง
...จูบแรก...กับผู้ชายที่ผมรัก
จะมีอะไรมีความสุขมากขนาดนี้อีกนะ ^ ^
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าร้อง...
"เฮ้ย!"
ผมตกใจกระโดดเข้าหาอ้อมกอดพี่จอมแน่นขึ้นอีกจนได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาในลำคอของคนที่ผมสวมกอดอยู่ ความรู้สึกจากการสัมผัสลึกซึ้งเมื่อครู่ทำให้ผมหน้าแดงจนต้องซุกหน้าเข้ากับอกพี่จอมแล้วกระชับกอดแน่นๆ
ปรื้น!
เสียงรถเมลล์มาจอดที่ป้ายพอดี พี่จอมคลายกอดก่อนจะจูงมือผมขึ้นไปนั่งบนรถ...เหมือนบรรยากาศเป็นใจเพราะวันนี้คนน้อยมาก พี่จอมดันผมให้นั่งติดหน้าต่างก่อนจะนั่งลงข้างผม
ความเงียบที่เกิดขึ้นทำให้ผมคิดอะไรไม่ออกนอกจากสัมผัสพิเศษเมื่อครู่
"หน้าแดงทำไมแจ๊บ"
"หา เห บ้าเหรอครับ ใครหน้าแดง ไม่มี้!" ทำไมตาดีแบบนี้เนี่ย
"ฮ่าๆ ไม่แดงก็ไม่แดง เอ้อ! พี่มีอะไรจะขอหน่อยนะ"
"อะไรเหรอครับ"
"เป็นแฟนกันนะ ^ ^"
ผมนึกแล้วเชียวว่าบทรักของเราสองคนมันขาดคำว่าอะไรไป ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง...สายลมอ่อนๆ จากนอกหน้าต่างลอยมาโดนตัวของเราสองคนสร้างความเย็นให้ สายฝนเริ่มโปรยเม็ดลงมา มันช่างเป็นค่ำคืนที่แสนมีความสุขเหลือเกิน
"พี่ก็รู้ว่าผมไม่มีทางปฏิเสธพี่ได้"
พี่จอมจับหัวผมมาพิงไหล่เขาไว้ ผมหลับตาอมยิ้มอย่างมีความสุข ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นยังไง แค่มีเขาคนนี้จับมือเคียงข้าง...ผมก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว รักจัง คุณบุรุษพยาบาลส่วนตัวของผม
"แฟนพี่น่ารักจัง"
"เหอะ! ยังไม่ได้ตกลงสักหน่อย ขี้ตู่นี่นา"
"อยากโดนจูบอีกรอบเหรอ"
"อ๊ากกก! อย่านะ >O<"
(The End)
ก่อนอื่นต้องขอบคุณคนที่ติดตามทุกคนนะครับ >O< เรื่องนี้ขลิบนี่ประสบการณ์จริงล้วนๆ เลยครับ เพิ่งทำตอนอายุสิบแปด เจ็บมาก ร้องไห้ลั่นห้องเลยครับ ตอนนี้แผลโอเคขึ้นแล้ว
ตัวละครสองตัวในเรื่องนี้ก็มาจากเหตุการณ์จริงเช่นกัน เพราะผมก็ไปทำชี้หน้าเขาไว้ 555555 แต่เสียดายที่พี่บุรุษพยาบาลคนนั้นแต่งงานแล้ว (ผมแอบเอาชื่อจริงบนอกเสื้อเขาไปหาในเฟสบุ๊ค)
ดีใจที่ทุกคนสนุกไปกับตัวละครสองตัวนี้ เรื่องนี้ผมพยายามสอดแทรกความรู้เข้าไปก็คือเรื่องขลิบและการทำแผลหลังขลิบนั่นเอง ส่วนเรื่องกรรมกรที่รักจะให้ความรู้เรื่องอะไรต้องรอดูครับ อิอิ
The End แล้วก็จริง แต่เรื่องราวยังไม่จบนะครับ มีตอนพิเศษอีกสองตอน ^ ^ มาดูกันว่าผลงานหลังขลิบของแจ๊บจะใช้งานได้ดีขนาดไหน และรสรักบุรุษพยาบาลผู้แสนอ่อนโยน เวลาอยู่บนเตียงจะเป็นยังไง ^////^
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ เจอกันตอนพิเศษนะครับผม