ต่อค่ะ^^.
.
.
“เต็มที่เลยพวก งานนี้ฉันเป็นเจ้ามือพวกนายเอง น้องธันว์ ฝูหรง น้องเอวา ขาดเหลืออะไรบอกผมได้เลยนะ เดี๋ยวจัดมาเพิ่มให้ครับ” ไรอันจบด้วยรอยยิ้มละไมส่งให้คนที่มันเอ่ยชื่อเรียงคน ทำเอาพวกผมสามคนผู้เป็นเจ้าของถึงกลับคิ้วกระตุกเท้ากระดิก และเหมือนมีอะไรติดคอพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“อะแฮ่ม!!!...ไรอัน!” เจ้าของชื่อที่ผมใช้เสียงเข้มๆปรามออกไปนั้น นอกจากจะไม่สะทกสะท้านแล้ว ยังมีหน้าหันมาเลิกคิ้วใส่พวกผมสามคน เหมือนไม่มีเข้าใจและไม่รู้ว่าตัวว่าทำอะไรขัดใจพวกเราไว้
“อะไรกันพวกนาย ฉันก็แค่แทคแคร์เพื่อนสะใภ้หรอกน่า ทำเป็นหวงไปได้ ที่สำคัญฉันมีเหมยอิงอยู่แล้วทั้งคน ไม่ว่าแฟนพวกนายจะน่ารักหรือสวยขนาดไหน ในสายตาฉันเหมยอิงก็ดูดีและสวยที่สุดอยู่แล้ว พวกนายเองก็คงไม่เห็นใครดีเท่าแฟนตัวเองเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ ฮึๆ” ผมมีโอกาสสบตาหลี่ผิงกับโจเซฟ ก่อนพวกเราต่างส่งยิ้มให้แก่กัน ด้วยเข้าใจเจตนาในตัวไรอันดีอยู่แล้ว ยิ่งประโยคคำถามสุดท้ายของมัน พวกเราต่างมีคำตอบในใจไม่ต่างกันสักนิด
พอได้มาเห็นคนรักของตัวเองนั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ไรอันพูด ทั้งๆที่แก้มแดงก่ำออกอาการเขินชัดตาด้วยแล้ว จากที่แอบหมั่นไส้ไอ้ไรอัน กลับเปลี่ยนเป็นยกความดีความชอบให้มันแทน โดยเฉพาะโจเซฟเสือยิ้มยาก นาทีนี้ถึงกลับฉีกยิ้มตาพราวปล่อยฟีโรโมนฟุ้ง จนสาวๆในร้านจ้องมันตาไม่กระพริบไปแล้ว เมื่อแฟนสาวคนสวยขาร็อกลุคมาดมั่นผู้ที่ยิ้มยากไม่ต่างกัน ถึงขนาดแก้มแดงระเรื่อเสหลบตามันเข้า
ส่วนผมกับหลี่ผิงก็จ้องคนน่ารักของตัวเองไม่วางตาเช่นกัน เมื่อหนุ่มไซส์มินิของเรานั่งแก้มแดง แก้เขินด้วยการหาอะไรเข้าปาก และเคี้ยวจนแก้มตุ่ย แถมด้วยการแอบมองผมสองคนเป็นระยะ
“น้องธันว์ค่อยๆทานครับ ดูสิปากเลอะแล้ว ฮึๆ...เฮียเช็ดให้นะ” หลี่ผิงเชยคางน้องธันว์ขึ้น ก่อนบรรจงเช็ดมุมปากที่เลอะครีมทาร์ต ทำเอาน้องถึงกลับแก้มแดงก่ำกว่าเดิม
การกระทำของทั้งคู่ไม่พ้นสายตาของคนที่เหลือ ผมกับโจเซฟได้แต่อมยิ้มและส่ายหัวให้แก่กัน เพราะชินกับภาพคู่หวานเสียแล้วครับ แต่สะใภ้กลุ่มคนใหม่อย่างน้องเอวา ถึงกลับนั่งท้าวคางมองทั้งคู่ไม่วางตาเหมือนถูกใจนักหนา จนโจเซฟต้องสะกิดให้กลับมาสนใจของหวานตรงหน้าแทน ด้วยกลัวน้องธันว์หันมาเห็นเข้าแล้วจะพาลเขินหนัก จนเดือดร้อนไปถึงหลี่ผิงเอาได้ ไอ้ไรอันเองก็แค่ตบไหล่ผมพร้อมส่งยิ้ม ก่อนจะปลีกตัวไปดูเหมยอิงที่หลังร้าน
ผมจึงได้มีโอกาสหันมาใส่ใจคนของตัวเอง จึงพบว่ากระต่ายน้อยน่ารักนั้น นั่งตาแป๋วจ้องไปยังคู่หวานไม่กระพริบ พร้อมพึมพำอะไรเบาๆคนเดียว ด้วยแก้มที่แดงก่ำน่าขย้ำอย่างที่สุด ผมตัดสินใจยื่นหน้าไปกระซิบเรียกฝูหรงข้างหู จนเจ้าของชื่อสะดุ้งและหันหน้ามาทางผม
“อ๊ะ!...[จุ๊บ!]...พอล! ละ...เล่นไรเนี่ย” ผมรวบมือขาวที่ดันใบหน้าผมออก ด้วยเจ้าของตอนนี้กำลังเขินจัด จากการกระทำที่เรียกว่าจูบกลางร้านเข้าของเราอย่างไม่ตั้งใจ แต่เป็นสิ่งที่ผมคาดหวังให้เกิด ไม่เช่นนั้นคงไม่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนน่ารักเสียแต่แรกหรอกครับ
“ไม่ได้เล่นนะครับ พอลตั้งใจเรียกฝูหรงต่างหาก มัวไปจ้องคนอื่นทำไมไม่รู้ ไม่กลัวน้องธันว์เขินเอาเหรอครับ หืม” นาทีนี้ในสายตาผมมีแต่กระต่ายแก้มแดงเท่านั้น ลืมแม้กระทั่งว่าอยู่ท่ามกลางเพื่อนสนิทในร้านขนมชื่อดัง
ถ้าไม่เพราะเสียงกระแอมเบาๆจากสองเพื่อนสนิท พวงแก้มแดงๆคงให้ได้ผมพิสูจน์กลิ่นแล้วครับ ว่ามันยังคงหอมเหมือนยามเช้าที่ผมสูดดมอยู่หรือไม่
ผมได้แต่กระตุกยิ้มใส่ตาสองเพื่อนสนิทที่ฉายแววรู้ทัน ก่อนคลี่ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดส่งให้สองศรีสะใภ้กลุ่ม และบรรจงตักมินิเค้กสีสวยให้ทั้งคู่เป็นการไถ่โทษ ที่ผมทำให้น้องๆเขินจัดในฉากหวานของคู่ผมเมื่อครู่ ทำเอาทั้งคู่ไม่กล้าสบตาผมไปเลย
ส่วนฝูหรงก็นั่งเงียบไม่ต่างกัน แก้มงี้แดงแทบระเบิด ดีที่เหมยอิงเข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศสดใสให้กลับคืน ด้วยการชวนทั้งสามคนคุย ไม่นานหลังจากนั้นบนโต๊ะของกลุ่มเรา เรียกได้ว่ามีแต่เสียงหวานๆ คละเคล้าไปด้วยเสียงหัวเราะเสนาะหูตลอดเวลาเชียวล่ะ
เมื่อได้เวลาแต่ละคู่ต่างแยกย้ายกันไป โจเซฟกับน้องเอวาต้องเข้าค่ายเพลง เพื่อดูการตัดต่อของมิวสิควิดีโอสำหรับซิงเกิลใหม่ของน้องเอวาที่จะเปิดตัวเร็วๆนี้ หลี่ผิงกับน้องธันว์ตั้งใจกลับคฤหาสน์หวาง เห็นว่าอาตี้หลงจะพาครอบครัวมาเยี่ยม ซึ่งเหมยอิงกับไรอันเองก็จะตามไปหลังจากเคลียร์ร้านอีกเล็กน้อย ส่วนผมและฝูหรงยังไม่กลับบ้าน ด้วยผมยังมีอีกหนึ่งจุดหมายสำคัญที่ต้องการพาคนรักไป แถมคนที่รออยู่ยังสถานที่นั้นก็น่าจะทำให้ฝูหรงดีใจได้ไม่น้อยเชียวล่ะ
“แพทริค! มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฝูหรงไม่รู้เรื่อง แล้วนี่มันอะไรกัน” คำถามสุดท้ายนั้นฝูหรงส่งให้ผมโดยเฉพาะ
ผมระบายยิ้มเอาใจใส่ตาคู่กลมที่เต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนตาคู่เดียวกันนั้นจะกวาดไปทั่วห้องกว้างที่เต็มไปด้วยภาพวาดด้วยความตื่นเต้น ผมจึงหันไปส่งยิ้มพร้อมก้มหัวให้นายแพทริคอย่างจริงใจ เพราะถ้าไม่ได้แพทริคของขวัญที่ผมตั้งใจทำให้ฝูหรง ในวันครบรอบที่เรากลับมาเจอกันอีกครั้งนั้น คงไม่สมบูรณ์ได้เช่นที่เห็นนี้
แกลลอรี่แสดงภาพวาดของศิลปินชื่อดังทั่วโลก ถูกจัดวางอย่างมีศิลปะอยู่ทั่วทั้งห้อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลงานจากคนสำคัญของฝูหรงเสียด้วย นั่นก็คือของอังเคิลโลแกนที่เป็นศิลปินในด้านนี้ ผู้ที่ฝูหรงทั้งรักและเคารพนั่นเอง ด้วยท่านฝากผลงานที่รังสรรค์มาให้หลานรักชุดใหญ่โดยเฉพาะเชียวล่ะ และฝากข้อความอวยพรมาให้ฝูหรงอยู่ในการ์ดที่เจ้าตัวกำลังเปิดอ่านอยู่ขณะนี้
“แด๊ดฝากคำอวยพรให้ยูด้วยนะ คิวท์บอยยิ้มสิ ไม่มัวแต่ร้องไห้” แพทริคพูดกับฝูหรงเสียงนุ่ม แต่นาทีนี้ผมไม่นึกหึงหวงแล้วครับ
“นั่นสิครับ ยิ้มก่อน...ฮึๆ เก่งมากกระต่ายน้อยของพอล ทั้งหมดนี้พวกเราทำเพื่อฝูหรงนะครับ”
“อืม ขอบคุณนะแพทริค...พอล ขอบคุณมากนะที่มอบแกลลอรี่นี้ให้ฝูหรง” ผมกอดร่างเล็กกลับคืนพร้อมโยกปลอบไปด้วย ก่อนกระตุกยิ้มคืนให้แก่นายแพทริค ที่เตรียมหมุนตัวเดินออกจากห้อง
ผมเตรียมของขวัญชิ้นนี้ เพื่อมอบให้คนรักอยู่ร่วมสามเดือน ตั้งแต่จับสังเกตได้ว่าคนรักเหงาหงอยยามต้องอยู่เฝ้าบ้าน แม้พยายามจะทำให้ตัวเองยุ่งตลอดเวลาก็ตาม ซึ่งแกลลอรี่นี้จะไม่สมบูรณ์และเป็นที่ถูกอกถูกใจฝูหรงได้เลย หากขาดอังเคิลโลแกน นายแพทริค และยัยจินนี่แม่มดในตะเกียงตัวแสบ ด้วยทั้งสามให้ความร่วมมือเต็มที่ ในการก่อตั้งแกลลอรี่แห่งนี้เพื่อมอบมันให้แก่ฝูหรง คนที่พวกเรารักอย่างจริงใจ ซึ่งก็สมหวังเมื่อเจ้าของคนใหม่ยังยิ้มไม่หุบจนถึงขณะนี้
“พอลให้ฝูหรงบริหารที่นี่เต็มที่เลยครับ แต่ต้องแบ่งเวลาให้พอลด้วยนะรู้มั้ย หากวันไหนฝูหรงละเลยพอล พอลจะยึดมันคืน” ต้องขู่ไว้ก่อนครับ เพราะรู้นิสัยคนรักดีว่าเวลาทุ่มเทกับอะไรแล้ว มักจะลืมสิ่งรอบข้างเสมอ
“คร้าบ ฝูหรงไม่มีทางเห็นใครหรืออะไรสำคัญกว่าคนที่ตัวเองรักหรอกน้า คิกๆ” ดูท่ากระต่ายน้อยจะอารมณ์ดีจัด มีหยอดใส่ผมให้ใจกระตุกเล่นอีกแน่ะ
“อ๊ะ! พอล อืมมม” ผมไม่คิดปล่อยคนน่ารักลอยนวลแน่นอน จึงหมุนตัวคนในอ้อมกอดเข้าหา และประกบจูบทันที
จูบครั้งนี้ความหวานไม่เคยจืดจาง ความตื่นเต้นในอกไม่เคยลดระดับ ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากจูบแรกของเราสักนิด หากปล่อยเวลาให้ทอดยาวไปกว่านี้ เชื่อได้ว่าผมคงฉลองแกลลอรี่ใหม่สองต่อสองกับฝูหรงแน่นอน ยังดีที่ยัยจินนี่เข้ามาขัดจังหวะได้ถูกเวลา แม้จะแอบเสียดายแต่ผมก็ไม่นึกโกรธเคืองยัยญาติตัวแสบสักนิด เพราะใจจริงบทรักแสนพิเศษของเราควรจะแสดงในที่ๆเป็นส่วนตัวกว่านี้
“ปล่อยให้อยู่ด้วยกันสองต่อสองไม่ได้เลยนะ” แม้ความหมายที่ได้ยินจะฟังดูเหมือนชวนหาเรื่อง แต่ใบหน้าที่มีรอยยิ้มบางเบา พร้อมแววตาระยิบระยับของยัยจินนี่ แสดงออกชัดว่าตั้งใจหยอกเย้ามากกว่าต่อว่ากัน
ผมน่ะไม่อะไรอยู่แล้ว แต่คนที่ตัวอ่อนในอ้อมกอดผมนี่ต่างหากล่ะ ที่เอาแต่ซุกหน้าไว้กับอกผมจนแน่น โดยไม่คิดจะเงยขึ้นมาทักทายผู้มาใหม่สักนิด อาการของฝูหรงจึงยิ่งทำให้ยัยจินนี่ได้ใจ ส่งคำหยอกเย้าให้ฝูหรงได้อายยิ่งขึ้น จนแทบจะมุดหัวแทรกเข้ามาในอกผมเลยทีเดียว แม้ผมจะถูกใจในอาการเขินจัดของฝูหรงไม่น้อย แต่ขืนปล่อยให้จินนี่ล้อไม่เลิก ผมนี่แหละคงโดนโกรธทีหลังเสียเอง จึงพยักหน้าส่งสัญญาณให้นายแพทริคทำอะไรสักอย่าง เพื่อจัดการคนของตัวเองหน่อย
ฟังไม่ผิดหรอกครับ ที่ผมบอกว่าจินนี่เป็นคนของนายแพทริค ด้วยทั้งคู่เลยคำว่าดูๆคุยๆกันไปไกล แม้ญาติตัวแสบของผมยังปากแข็งว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ตาม แต่หากไม่มีอะไรจริง ยัยจินนี่คงไม่ยอมคุยโทรศัพท์ข้ามประเทศกับนายแพทริคเกือบทุกวันหรอก แล้วไหนจะตามไปวีนนายแพทริคถึงนิวยอร์ก ยามที่นายนั่นลองใจด้วยการตัดขาดการติดต่อ
การกระทำมันบอกอะไรๆได้มากกว่าคำพูด ซึ่งคงอีกไม่นานผมคงได้ข่าวดีจากทั้งคู่ ด้วยนายแพทริคเองได้เข้ามาเจรจากับอาหญิงและอาเขยของผมไว้แล้ว เหลือก็แต่ผู้หญิงปากแข็งคนเดียวเท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าหัวใจยัยจินนี่โอนอ่อนให้นายแพทริคเกือบหมดแล้วทั้งดวง
“สุขสันต์วันครบรอบของเรานะครับ สิ่งนี้สำหรับพอล...แทนความรักของฝูหรงนะ” ยอมรับว่าผมทั้งแปลกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน เมื่อคนรักจำวันครบรอบของเราได้
ผมไม่ได้คาดหวังหรือต้องการอะไรจากฝูหรงในวันนี้จริงๆ ด้วยผมพร้อมจะเป็นฝ่ายให้เสียเองมากกว่า และพร้อมที่จะเป็นผู้มอบความสุขกลับคืนให้แก่ผู้ชายน่ารักตรงหน้า ที่ดูแลและคอยเอาใจใส่ผมอย่างดีมาตลอดปีที่เราอยู่ด้วยกัน แต่มานาทีนี้ผมถึงกลับตื้นตันพูดไม่ออก เมื่อฝูหรงไม่ได้มีแค่เพียงคำอวยพร แต่คนน่ารักยังมีแหวนทองคำเกลี้ยงลักษณะเดียวกันกับวงที่อยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเจ้าตัวให้ผมด้วย
ในขณะนี้แหวนวงที่ว่าก็มาอยู่บนนิ้วผมแล้ว แถมยังเป็นนิ้วเดียวกันกับฝูหรงไม่ผิดเพี้ยน ‘นิ้วนางข้างซ้าย’ สำหรับสวมแหวนของคนอันเป็นที่รักเท่านั้น
“ขอบคุณนะครับ กระต่ายน้อยรู้มั้ยพอลดีใจมากนะ”
“ยังไม่เท่าที่ฝูหรงดีใจเลยเหอะ พอลทำเพื่อฝูหรงมามาก มากจนฝูหรงไม่รู้ว่าจะตอบแทนได้ยังไงหมด แหวนวงนี้เทียบไม่ได้เลยกับแกลลอรี่ที่นี่” แม้คนน่ารักจะแก้มแดง ดูก็รู้ว่ากำลังเขินสายตาผม แต่ตากลมๆก็จ้องกลับตาผมไม่ไปไหน
ผมได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ระบายยิ้มและส่ายหน้าช้าๆ อย่างไม่เห็นด้วยในคำพูดสุดท้ายนั่น พร้อมส่งหลังมือไปไล้แก้มเนียน ก่อนจะพูดในสิ่งที่คิดออกไป
“อย่าเอาแหวนไปเทียบกับแกลลอรี่สิครับ แหวนวงนี้มีค่าทางใจมากสำหรับพอลเลยนะ เพราะมันเป็นสิ่งแทนความรักที่ฝูหรงมีให้พอล แต่ถ้าฝูหรงอยากตอบแทนความรักของพอลจริงๆ ขอแค่ฝูหรงอยู่เคียงข้างพอลแบบนี้ตลอดไปก็พอแล้ว เพราะเท่ากับชีวิตพอลถูกโอบล้อมไปด้วยความสุขตลอดเวลาแล้วครับ”
ผมไม่ได้พูดเกินจริง แต่อาจจะฟังดูหวานเลี่ยนไปสักหน่อย หากใครมีความรักเฉกเช่นเดียวกับผมแล้วล่ะก็ คงรู้ว่าชีวิตที่ถูกโอบล้อมไปด้วยความสุขตลอดเวลานั้นเป็นเช่นไร
หากใครยังไม่เคยสัมผัสความรู้สึกแบบนี้ ผมอยากชักชวนให้มีดูสักครั้ง คุณจะรู้ว่าหนึ่งชีวิตที่เกิดมาช่างมีค่าอย่างแท้จริง และคุณจะหวงแหนทุกวินาทีที่ได้ใช้ร่วมกับคนที่คุณรัก...เหมือนผมอย่างไรเล่าครับ
“พอลรักฝูหรงนะครับกระต่ายน้อยขี้อายของพอล”
เราจะมีกันและกันแบบนี้ตลอดไป
......................THE END.............................ขอบคุณทุกการติดตามที่มีให้ฝูหรงและพอลนะคะ
เรื่องดำเนินมาถึงจุดที่คิดว่าสมบูรณ์ที่สุดแล้ว
แต่เชื่อว่าทั้งพอลฝูหรงและทุกตัวละครในเรื่อง
จะยังคงโลดแล่นในใจคุณผู้อ่านทุกคน
เป็นอีกเรื่องที่เราภูมิใจที่สามารถเวิ่นเว้อ (555) จนจบได้
และขอฝากผลงานการรวมเล่มแก่คนที่สนใจด้วยนะคะ
ใครที่ต้องการเก็บไว้เป็นความสุขทางใจ ติดต่อเข้ามาได้เลยค่ะ
แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้าhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#newแจ้งเปิด & โอนนิยายชุด “Lover” ตามลิ้งค์ไปได้เช่นกันค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43768.new#newส่วนเรื่องใหม่ (ฮ้าๆๆๆ มีแล้ว!!!) คงอีกไม่นานจะนำมาลงให้อ่านกันค่ะ
แต่ขอต่อสู้กับความรู้สึกกดดันในใจตัวเองนิดหนึ่ง หากพร้อมเปิดตัวคู่ใหม่
หวังว่าคนอ่านที่ตามกันมาจะตามไปให้กำลังใจเรื่องใหม่ด้วยนะคะ
คุณคือกำลังใจสำคัญที่ทำให้เกิดทุกตัวละครของเราขึ้นมาค่ะ