ปล.ด้วยรักและคิดถึง#(นิว-โจ้) จบเรื่องของนิวกับโจ้
โจ้กำลังนั่งมองหน้าของนิว
สิ่งที่คิดในเวลานี้คือนิวแม่งรักกูบ้างหรือเปล่าวะ ทำไมมันถึงได้เป็นมนุษย์ที่เฉยเมยและเย็นชาใส่กูได้มากขนาดนี้วะ
นาน ๆ จะหวานใส่ที หยอดใส่ที แต่ก็ต้องแล้วแต่อารมณ์แม่งอีกถ้าในเวลาปกติแบบนี้มันก็อยู่ของมันเฉย ๆ
โลกส่วนตัวแม่งสูงเกิน แล้วกูอยู่ส่วนไหนในโลกของมึงวะอยากรู้จริง ๆ
โจ้ยังคงนั่งท้าวคางมองหน้าของคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ ทั้งที่รายการโทรทัศน์ก็เปิดอยู่
มันไม่ได้ดูด้วยหรอก นิวมันกำลังอ่านหนังสือ เพราะมันกำลังจะสอบ
หลังจากทำงานไปได้พักใหญ่ นิวก็กลับมาเรียนในภาคพิเศษสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับสายงานที่กำลังทำอยู่
เรื่องความขยันไม่ต้องให้พูด ไอ้นักวางแผน แม่งเขียนตารางร่ายมาเลยว่ามันจะอ่านหนังสือวันไหน ตอนไหน เวลาไหน
มึงมันเก่ง ทำได้อย่างมึงกูคงจบมาแบบเกียรตินิยม แต่เรื่องพวกนี้มันก็ว่ากันไม่ได้ คนจะอ่านหนังสือเตรียมสอบจะให้ไปวุ่นวายด้วยก็ไม่ถูก
"กูปิดโทรทัศน์นะ"
เอ่ยบอกคนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือแล้วโจ้ก็กำลังจะกดรีโมทปิดโทรทัศน์ แต่คนที่ก้มหน้าอ่านหนังสือก็เงยหน้าขึ้นมาทันที
"กูดูอยู่"
อ้าวเหี้ย
ดูห่าอะไร กูเห็นมึงก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือชัด ๆ ยังจะบอกว่าดูได้ยังไง ขนาดกูเปลี่ยนไปสามร้อยกว่าช่อง กูยังไม่เห็นมึงเงยหน้าขึ้นมาสนใจเลยว่ากูกดรีโมทเล่นไปถึงไหนแล้ว แล้วเสือกบอกว่าดูอยู่เนี่ยนะ
โจ้หยุดมือที่กำลังจะกดปิดโทรทัศน์และก็เปิดทิ้งเอาไว้แบบนั้น
ทั้งที่ตายังคอยมองที่คนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือและใช้ปากกาขีดไปตามข้อความต่าง ๆ
ทำไมไม่รู้นะ กูเหมือนกำลังน้อยใจเลยว่ะ เวลาเจอกันไม่ค่อยมีหรอก จะได้เจอก็วันที่นิวได้หยุด แล้วพอหยุดมันก็ต้องอ่านหนังสือ แล้วกูอยู่ส่วนไหนในชีวิตของแม่งวะ
นาน ๆ ไปมันก็คงเป็นแบบนี้ เบื่อสินะ อาการเบื่อและชินชากับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ แล้วจะไปโทษใครได้ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปแบบนี้เรื่อย ๆ จนกว่าวันหนึ่ง จะต้องต่างคนต่างไป
ขนาดคำว่ารัก แม่งยังไม่เคยพูดให้กูได้ยิน จำได้ว่ามันพูดครั้งแรกก็ตอนที่มันตะโกนใส่หน้าสมัยเรียน
จนป่านนี้แล้วก็ไม่เห็นมันเคยพูดอีกเลย ตกลงมันคิดกับกูยังไงกันแน่วะ มันรักกูบ้างหรือเปล่าอยากจะรู้จริง ๆ
โจ้เอนกายลงนอนบนเตียง และแอบถอนหายใจออกมา มันเป็นเสียงถอนหายใจที่เบาบางเหลือเกิน
แต่ก็ทำให้นิวที่กำลังใช้ปากกาขีดไปตามตัวอักษรถึงกับนิ่งอึ้ง และหยุดชะงักมือค้างไว้อย่างนั้น
โจ้.....................
นิ่งเงียบ และนิวยังคงเปิดหนังสือหน้าถัดไปแม้ไม่มีกะใจจะอ่านอีกแล้ว
รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลานี้ รู้ทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ผิดที่ตัวเองด้วย ที่มีแผนการณ์ร้อยแปดในหัว แต่ไม่ถนัดเรื่องแสดงความรู้สึกที่ชัดเจนออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้ บางทีกูก็อายตัวเอง ที่ทำอะไรบ้าบอแบบที่มึงทำไม่เป็น
ทั้งที่บางทีกูก็อยากทำนะ ทำแบบนั้นเวลาเราอยู่ด้วยกันสองคน
การออดอ้อนกันแบบนั้น ที่จริงกูชอบให้มึงทำ แต่กูเองที่ขัดเขินทุกครั้งที่จะทำกับมึง แล้วก็เลยกลายเป็นเฉย ๆ จนถึงป่านนี้แม้จะหลงมึงขนาดนี้ แต่กูก็ไม่รู้จะแสดงความรู้สึกออกไปยังไง
ไม่ใช่ไม่สนใจมึงนะโจ้
สนใจมึงยิ่งกว่าอะไร แต่ในเมื่อนิสัยกูมันแก้ยาก กูเลยเอาความสม่ำเสมอเข้าช่วย
ถ้านึกถึงกู กูอยากให้มึงนึกถึงใครสักคนที่มีเสมอต้นเสมอปลายกับมึงตลอด
โทรรายงานตัวแบบไม่ต้องให้มึงกังวล พูดคุยกันด้วยประโยคเดิม ๆ แต่กูก็อยากให้มึงรับรู้ ไม่ว่าวันไหน กูก็ยังเป็นเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ไม่เคยมีวันไหนที่กูเปลี่ยนไป
ยังคงรู้สึกดี ๆ กับมึงอยู่ทุกวัน ไม่เคยน้อยลงมีแต่จะมากขึ้น
กูไม่เคยละเลยมึงหรอกนะ แต่ติดที่กูแสดงความรู้สึกไม่ค่อยเก่ง กูจะพยายามทำให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้มึงต้องรู้สึกอย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้ กูรู้มึงกำลังเป็นอะไร และคิดอะไรอยู่ มันผิดที่กูเอง ไม่ได้ผิดที่มึง
"โจ้"
เอ่ยเรียกคนที่นอนหลับตาอยู่บนเตียง และโจ้ก็หันมาหาคนที่เรียก
"เออ"
ตอบกลับเหมือนอย่างที่เคย และนิวก็ยังขมวดคิ้วมุ่นอยู่อย่างนั้น วางปากกาลงและลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง
นั่งมองหน้าของคนที่นอนอยู่ และนิวก็แตะเบา ๆ ที่ไหล่ของโจ้
มองสบตากัน และโจ้ก็ลุกขึ้นเอนหัวหนุนตักคนที่นั่งนิ่งเงียบ
เราเข้าใจกันดี แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่าต้องทำอะไร โจ้แค่นอนนิ่งเงียบและนิวก็แตะเบา ๆ ที่เส้นผมของคนที่นอนอยู่
แตะเบา ๆ แตะไปเรื่อย ๆ ลูบไล้ไปมาที่หน้าผากของโจ้เบา ๆ
"เหนื่อยหรือยังวะ"
ได้ยินคำถาม และโจ้ก็นิ่งเงียบ
นิ่ง
ไม่ได้ตอบอะไรออกมานอกจากเงยหน้าขึ้นมองคนที่ส่งยิ้มบาง ๆ ให้
เหนื่อยสิ บางทีกูก็เหนื่อยกับการวิ่งไล่มึงนะ
กูกำลังวิ่งไล่มึงหรือเปล่าวะ ที่ผ่านมากูวิ่งไล่มาตลอด แต่เมื่อวิ่งนานเข้ากูก็คล้าย ๆ จะเหนื่อย ยังไงไม่รู้
"อยากพักก็บอกได้ทุกเมื่อนะ"
มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ มึงพูดคำนี้ได้ง่าย ๆ ขนาดนั้นเลยเหรอวะ
เงยหน้าขึ้นมองหน้าของคนพูดที่ยังส่งยิ้มบาง ๆ ให้และโจ้ก็ถึงเพิ่งรู้ตัวว่าในเวลานี้
น้ำตากำลังจะไหล
มึงทำไมพูดกับกูแบบนี้ล่ะ มึงพูดกับกูแบบนี้ได้ยังไง
มึงจะเลิกกับกูใช่มั้ย พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงจะเลิกกับกูใช่มั้ย
นิวแม่งทำไมใจร้ายกับกูได้ลงคอวะ
"มึงทำไมใจร้ายกับกูขนาดนี้วะ"
น้ำตาคลอ และลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว
กลายเป็นเด็กน้อยขี้แย และเป็นนิวที่ได้แต่นั่งเงียบมองคนที่ยกหลังมือปาดน้ำตา
เด็กงอแง ที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็เป็นเด็กงอแงตัวโตที่แม่งน่ารักที่สุดในโลก
"กูไปใจร้ายกับมึงตอนไหน"
แล้วมาบอกให้กูหยุดพักบ้างทำเหี้ยอะไร พูดแบบนี้มันก็ชัดยิ่งกว่าชัดแล้ว
"มึงจะเลิกกับกูเหรอ มึงทำไมพูดแบบนี้ กูยังพยายามไม่พออีกหรือไง มึงจะเอาอะไรอีก หัวใจมึงทำด้วยอะไรวะ ไหนว่าน้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อนไง แล้วทำไมมึงยังใจแข็งกับกูได้ลงคอ"
ไปกันใหญ่แล้ว มึงบ่นอะไรของมึงเนี่ย
"ใจเย็น ๆ มั้ย พูดใหม่อีกทีซิ มึงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า"
เข้าใจผิดเหี้ยอะไร บอกอยู่ชัด ๆ ว่าถ้าเหนื่อยให้กูพักแบบนี้จะต่างจากบอกเลิกกูตรงไหนวะ เหี้ยนิว
"มึงมันใจร้าย หลอกให้กูรัก แล้วก็จะมาทิ้งไปง่าย ๆ แบบนี้ มึงไม่รู้หรอกว่ากูพยายามขนาดไหน ไอ้เหี้ยนิว มึงมันเหี้ย"
อ้าว เฮ้ย กูผิดอีก ด่ากูไม่หยุดเลย มึงจะด่าได้น่ารักขนาดนี้ไปถึงไหนวะ กูจะขำนะเนี่ย
"ขยันแปลงสารเนอะ กูไปบอกตอนไหนว่าจะเลิกกับมึง"
บอกตอนไหนล่ะ ก็มึงพูดอยู่เนี่ย พูดอยู่ปาว ๆ เลย กูไม่ได้หูตึงนะโว้ยสัดนี่
"เหี้ยนิว มึงจะเลิกกับกูมึงไม่ต้องอ้อมโลกเลย สัดนิว ฮือออออออ"
อ้าว ไปกันใหญ่แล้วไอ้โจ้เอ้ยยยยยยยย
"ร้องไห้ได้เหี้ยที่สุดเล้ยยยยมึงเนี่ยโจ้"
นิวหัวเราะออกมา และก็จัดการใช้มือสองข้างเช็ดน้ำตาให้คนที่นั่งร้องไห้เป็นเด็ก ๆ
มันยังไงวะ
ไม่โกรธด้วยนะ ไม่มีแววโกรธเลย แต่แม่งเหมือนน้อยใจกูมากกว่า
ใช่
น้อยใจ
โจ้แม่งน้อยใจ
เป็นใครก็มองออก แต่จะไม่ให้น้อยใจยังไงไหว ในเมื่อมันก็มีบางอย่างน่าน้อยใจจริง ๆ
"กูไม่ถนัดทำอะไรหวาน ๆ มึงรู้ใช่ป่ะ"
รู้
นั่นกูรู้ตั้งแต่แรกแล้ว มึงถนัดแต่เฉยใส่กู กูทำใจรับได้ ตอนนี้กูชินแล้ว
"กูจน กูไม่ใช่ลูกคุณหนูมึงเข้าใจใช่มั้ย"
นั่นกูก็รู้ตั้งแต่แรกแล้ว กูไม่สนว่ามึงจนหรือรวย มึงก็เป็นมึงแบบนี้ไป กูไม่เคยเอามาคิดเป็นข้อแบ่งแยกเรื่องบางอย่างระหว่างเรา
"เพราะฉะนั้นนะโจ้"
เออ
เพราะฉะนั้น
เพราะฉะนั้นอะไรวะ พูดแล้วก็ทำหน้าเครียด เพราะฉะนั้นอะไรของมึง พูดมาเลยตรง ๆ อย่ามาหาเหตุผลอ้อมโลกเพื่อพูดเหมือนจะดีแต่สุดท้ายก็ทำร้ายจิตใจกู
"บอกตรง ๆ กูกลัวว่าสุดท้ายแล้วจะโดนมึงทิ้งไว้ข้างหลังถ้ามึงวิ่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ"
ห๊ะ
พูดอะไรวะ
หมายความว่ายังไง แม่งไม่เห็นเข้าใจเลย
"กูจะทิ้งมึงไว้ข้างหลังได้ยังไงวะ กูวิ่งตามมึงอยู่เนี่ยนิว"
ใช่ที่ตอนนี้มึงวิ่งตามอยู่
แค่หัวใจเท่านั้นที่กูแกล้งทำเฉยเพื่อให้มึงวิ่งตาม แต่อย่างอื่นกูไม่มีอะไรที่น่าภาคภูมิใจสำหรับมึงเลยในเวลานี้
"กูอยากดีพอ เพื่อวันหนึ่งถ้ามึงอยากแนะนำกูกับใครบางคน ว่าเรา
"คบกันอยู่"มึงจะได้ไม่อายใครที่มีแฟนอย่างกู"
โจ้หยุดร้องไห้แล้ว
หยุดนิ่งและเงยหน้ามองคนที่กำลังพูดบางอย่างทั้งที่สีหน้าเรียบเฉย
"กูไม่อยากให้ใครดูถูกมึงว่ามึงมีแฟนเป็นแค่เด็กเรียนไม่จบและทำงานโรงงานธรรมดา ไม่มีอะไรเลย"
กูไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลย
ไม่เคยแม้แต่จะคิด เรื่องพวกนั้นไม่มีในหัวเลยสักนิด
"กูไม่ได้คิดจะให้เราเป็นแค่เพื่อนกันไปเรื่อย ๆ หรอกนะ เพื่อนกินเพื่อนนอน กูไม่ได้อยากให้เราเป็นแค่นั้น"
นิว........
"ที่จริงกูคิดมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้พูด ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วก่อนที่มึงจะเข้าใจอะไรผิด ๆ แล้วก็น้อยใจกูมากไปกว่านี้"
เหี้ย
มึงกำลังจะพูดอะไรเนี่ย
แล้วยัง..........
นิวลุกขึ้นและเดินไปเปิดลิ้นชักตู้ที่หัวเตียง หยิบกล่องเล็ก ๆ ที่อยู่ที่หัวเตียงออกมา เปิดออก และวางแหวนทองสองวงไว้ในมือ
มองหน้าของคนที่นั่งมองแล้วก็รู้สึกขัดเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ลงมานั่งที่เตียงและมองหน้าของโจ้นิ่ง ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงและอมยิ้มน้อย ๆ
"เขินว่ะ ทีแรกกูตั้งใจจะให้บรรยากาศมันดีกว่านี้นะเหี้ยโจ้ มึงนั่นแหละทำงี่เง่างอแงใส่กู กูไม่รู้จะง้อมึงด้วยวิธีไหนหรอกนะ แม่ง"
เอ้ยยยยยยยยยย มันใช่ที่ไหนล่ะ
มึงเขินแล้วมาลงที่กูได้ไงวะ มึงเขินมึงก็เขินไปสิ แต่กูขออึ้งหน่อยได้มั้ย นิวแม่งอย่างเท่ห์จริงวะ
มึงจะเท่ห์เอาโล่ห์เหรอมึง สัด
"ตอนนี้กูยังหาได้แค่นี้ก่อนนะ แต่กูไม่อยากได้เพื่อน แล้วก็ไม่อยากได้แฟนแล้ว"
อ้าวเหี้ย
ถ้ามึงไม่อยากได้เพื่อนและไม่อยากได้แฟน แล้วมึงอยากได้อะไรล่ะห่านี่ มึงจะจีบกูหรือมึงจะหาเรื่องด่ากูกันแน่วะ เหี้ยนิว
"กูอยากได้คู่ชีวิตแล้ว มึงเป็นให้กูหน่อยแล้วกันนะ ถือว่ากูขอร้อง กูขอมัดจำไว้แค่นี้ก่อนมึงจะยอมเป็นให้มั้ย"
นิว.............
"นิว กูซึ้งอ่ะ น้ำตากูจะไหล"
โห ไอ้โจ้ อะไรของมึงเนี่ย มึงพูดให้มันดี ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง เสียเส้นหมดกูยิ่งเขิน ๆ อยู่
"เอามือมึงมาดิ๊"
เป็นการขอที่ไร้ซึ่งความหวานชื่นเป็นที่สุด และคนที่นั่งทำซึ้งก็ช้าเกินและไม่ทันใจนิว จนนิวต้องดึงมือของโจ้ออกมาและจัดการสวมแหวนทองเกลี้ยงให้ที่นิ้ว
"เหี้ย ใส่ไม่เข้าล่ะกูซวยเลยนะ อุตส่าห์ขอทั้งที สัด"
มึงบ่นทำไมล่ะนั่น มึงเขินแล้วชอบบ่นแบบนี้ตลอด แม่งน่ารักเกินไปแล้วนะมึงนิว
"ใส่ได้ดิ"
พูดไปเรื่อย แต่อมยิ้มเล็ก ๆ เมื่อนิวสวมแหวนให้และโจ้ก็มองที่นิ้วของตัวเอง
"แม่ง หวานที่สุดตั้งแต่คบกันมาเลยนะมึง"
อะไร
กูก็พยายามแล้วมันได้แค่นี้
กูทำซึ้งไม่เป็น นี่กูพยายามที่สุดแล้วนะ แถมบรรยากาศที่กูวางแผนไว้มันไม่ใช่แบบนี้ด้วย อยู่กับมึง กูทำอะไรผิดแผนตลอดเลยห่า
"กูต้องใส่ให้มึงด้วยนิ"
เออ
เพิ่งรู้เหรอ
ยื่นมือให้และโจ้ก็สวมแหวนให้ที่นิ้วเดียวกับที่นิวสวมให้ พลิกมือของนิวไปมาหลายครั้งและหัวเราะเสียงเบาอย่างชอบใจ
"นิวแม่งเขินอีกแล้ว"
เออเอาให้พอเลยมึง ล้อกูให้พอเลยเหอะ สนุกมากมั้ยสัดโจ้
"นิวของโจ้.......แม่งโคตรน่าร้ากกกกกกก"
กูจะอ้วก พูดเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย แค่พูดยังไม่พอ ยังมีการจับมือกูมาหอมอีก เยอะนะมึง เยอะเกินไปหน่อยแล้ว
"ชอบให้กูอ้อนดิ๊"
ใช่
"ถ้าชอบแล้วมึงจะทำไม"
ตอบ
แต่หน้านิ่ง
หน้านิ่งก็จริง แต่โจ้ก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเขิน แฟนกูเขินน่ารักจังวะ ชอบแม่งจริงๆ เวลาเขินแล้วทำหน้ามึนใส่เนี่ย
"นิว"
ไม่ใช่แค่หอมที่มือ แต่โจ้โผเข้ากอดคนที่พยายามปั้นหน้าเฉยทั้งที่ขัดเขินเกินกว่าจะพูดอะไรต่อไปได้
"นิว นิว นิว นิว นิว กูไม่ใช่เพื่อนมึงแล้วนะ ไม่ใช่แฟนด้วย กูไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่"
ดีใจเกินไปแล้วมึง
เหี้ยโจ้
"เออ"
ขนาดตอบว่าเออมึงยังน่ารักเลยนิวไม่เสียแรงที่ไล่ล่าตามจีบมานาน มึงใจอ่อนกับกูซะทีนะ ใจอ่อนกับกูได้ซะที
กูโคตรดีใจเลยนะนิว
"เออโจ้ กูว่าจะบอกมึงอีกอย่างด้วย"
บอกเหรอ
บอกอะไรวะ
มึงจะบอกอะไรกูก็ว่ามาเลย
ผละออกห่าง และมานั่งอยู่ตรงหน้าของนิว มองและก็ยิ้ม ยิ่งมองยิ่งต้องยิ้มเพราะตอนนี้นิวกำลังขบริมฝีปากตัวเองและถอนหายใจเฮือกใหญ่ แถมยังกำลังทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนกำลังทำอะไรไม่ถูกอีกด้วย
"คืองี้"
เออ คืออะไรวะ คืออะไร
ลุ้นชิบหายเลย ชอบให้กูลุ้นเรื่อยเลยนะมึง
นิวตัดสินใจจ้องหน้าของโจ้ตรง ๆ จ้องนิ่ง ๆ ทั้งที่อาการขัดเขินกำลังเล่นงานอย่างเต็มที่จนพาลจะมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก
แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ถ้าคิดจะทำก็ต้องทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งที่บางอย่างมันผิดแผนมาตั้งแต่ต้น
คว้าต้นคอของคนที่นั่งมองด้วยใจระทึกเข้ามาหาแตะปลายจมูกเบา ๆ ที่ข้างแก้มของโจ้และผละออกห่าง ท่ามกลางความตกตะลึงของโจ้ที่ไม่เข้าใจว่านิวกำลังพยายามทำอะไร
นิวกลับมาก้มหน้าก้มตาอีกครั้ง และถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยใจเต้นระทึกไม่เป็นส่ำ
พูดอะไรนิว
มึงอยากพูดอะไรพูดมาเลย กูรอฟังอยู่พูดมาเลยนิว พูดมา
"กู......................"
กูอะไรวะนิว กูอะไรมึงพูดสิ พูดเลย กูอยากฟังจะแย่แล้ว มึงดูหน้ากูนี่แม่งโคตรระทึกจะตายห่าอยู่แล้ว
"ปวดเยี่ยววะ กูไปเยี่ยวก่อนได้มั้ย"
เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยย กูจะฆ่ามึงเหี้ยนิว
โจ้แกล้งเอามือบีบคอคนที่พูดบางอย่างออกมาแบบไม่มีกาลเทศะ และเป็นนิวที่หัวเราะร่วนด้วยความชอบใจกับสิ่งที่โจ้ทำ
ก็กูเขินมึงจะให้กูทำยังไงล่ะ งั้นไม่ไปเยี่ยวก็ได้ เอาแบบนี้ดีมั้ย
"กูรักมึงว่ะโจ้"
โจ้หยุดมือทันที หยุดนิ่งชะงัก และนั่งนิ่งอ้าปากค้าง ตาโต
กูรอจนกูจะหมดใจอยู่แล้ว ในที่สุดกูก็ได้ยินคำนี้ซะที ในที่สุดกูก็ได้ยินคำนี้จากมึงแล้ว
ในที่สุด
"นิว..............."
เรียกคนที่กำลังหน้าแดงและทำอะไรไม่ถูกออกมาเสียงดังลั่น และโจ้ก็โผเข้ากอดนิว กอดแน่นและหัวเราะออกมา
"ติดกับกูแล้วไง มึงติดกับกูแล้ว ในที่สุดมึงก็พูดคำนี้ซะที รักมึงเหมือนกันนิว รักมึง รักมึง จะตายห่าแล้ว รักมึงจริง ๆ"
พูดเหี้ยอะไรวะ เพ้อเจ้อชิบหาย
แม่งเหี้ยโจ้นี่ก็ประสาท เคยไร้สติและทำตัวตามอารมณ์แบบไหนตอนนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยน สันดานเคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นตลอด
แก้ไม่หายหรือไงวะ แม่ง
มึงจะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ยวะ
นิวยกมือขึ้นลูบที่แผ่นหลังของคนที่โผเข้ามากอดและอมยิ้ม
ยิ้มออกมา และนึกดีใจที่วันนั้นปล่อยให้โจ้ดื้อดึงเอาแต่ใจจนได้ก้าวเดินมาด้วยกันในวันนี้
"รักมึงได้ไงวะ....กูแม่งยอมแพ้มึงเลยจริง ๆ"
พูดเยอะ ๆ กูชอบฟังมึงพูด พูดอีกนิว พูดอีก พูดอีก พูดเยอะ ๆ พูดซ้ำ ๆ กูอยากฟังแบบนี้ไปเรื่อยๆ พูดกับกูอีกนะนิว
พูดกับกูไปตลอดชีวิตได้มั้ย เพราะกูอยากฟังคำนี้ของมึง ไปตลอดชีวิตกูเลย
Fin.