ปล.ด้วยรักและคิดถึง#สอนไม่รู้จักจำ
มันคงคิดว่าทำตัวแบบนี้ดีแล้วสินะ มันคงจะคิดแบบนี้ถึงได้ทำแบบนี้
“มีแต่ฟันแล้วทิ้ง นี่ให้ฟันแล้วคิดจะทิ้งกันใช่มั้ย”
อะไรวะ
ไม่ใช่เลย
ไม่ใช่อย่างนั้นเลย หยก........ก็พูดเกินไป
“ไม่ต้องเลยมึงไอ้กัส ไม่ต้องมาทำเป็นเงียบเลย เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้ซะที”
เลิกทำอะไร ยังไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่เฉย ๆ แล้ว เปล่าทำอะไรทั้งนั้น แค่.....
“แล้วนี่จะยุกยิกทำไมวะ นิ่ง ๆ ซิ”
ก็อยากจะเฉยหรอก แต่ยังไงล่ะ .........
หยกใช้ขนหนูเช็ดที่เส้นผมของคนที่นั่งก้มหัวอยู่ตรงหน้า อยากจะตีให้ตาย ไอ้เด็กเวรทำกูเป็นบ้า
มันคงเป็นการบ่นที่น่าฟังที่สุดของกัส เงยหน้าขึ้นมามองและท้าวแขนนั่งฟังที่หยกบ่น มองหน้าของคนที่บ่นไปเช็ดผมไปแล้วก็รู้สึกบางอย่าง
จริงด้วย
เวลาอยู่กับหยกแล้วมีความสุขจริง ๆ ด้วย ใจมันสงบลง ไม่ว่าหยกจะพูดอะไร หรือบ่นอะไร แต่เวลาที่ได้ฟังใจมันก็สงบลงอย่างช้า ๆ
เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มที่ไม่ได้ฟังเสียง ไม่ได้เห็นหน้า อยากรู้ว่าถ้าไม่เจอกันแล้วจะเป็นยังไง
สิ่งที่ได้เรียนรู้คืออยู่ได้
ถึงไม่มีหยก ไม่ได้เจอหยกก็ยังอยู่ได้ เจอเรื่องต่าง ๆ มากมายตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ยังซิ่งรถเหมือนเดิม โดนพ่อด่าเหมือนเดิม ไปเรียนก็เรียนไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมมีอย่างเดียว ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แม้จะใช้ชีวิตแบบเดิมแต่หลายครั้งที่สมองคิดไปถึงใครบางคนตลอดเวลา
แล้วจะมาหาหยกได้ยังไง จะมาเจอหน้ากันได้ยังไง ในเมื่อรู้อยู่ตลอดเวลาว่าเรื่องบางเรื่องเลยเถิดไปไกลจนไม่รู้จะมองหน้าหยกได้ยังไง ไม่ได้รู้สึกแย่ ที่จริงแล้วรู้สึกดีมากด้วยซ้ำที่ได้กอดกันแบบนั้น ทำไมจะไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันไม่ถูก และไม่มีผู้ชายที่ไหนทำกันแบบนี้
แต่ก็ยังทำ
หยกรู้มั้ย ทุกวันที่คิดเหตุผลไม่ออกว่าจะใช้เหตุผลอะไรมาหาหยก มันยากที่จะหาเหตุผล และหยกคงไม่รู้ว่าทุกวันที่ผ่านไปแค่ได้มาจอดรถแล้วมองหน้าต่างห้องหยกก็สุขใจที่สุดแล้ว
อยากจะทนให้ไหว แต่มันก็ทนไม่ไหว
และเมื่อถึงที่สุด วันนี้ก็เลยต้องมา ยืนพะว้าพะวงอยู่นานสองนาน และสุดท้ายจึงตัดสินใจเปิดเข้าไป
รอหยกนะ
รอ....แต่ไม่รู้จะใช้เหตุผลอะไรในการมาหาครั้งนี้ดี
อยากมาหา แต่ไม่รู้จะทำหน้ายังไงเวลามา
เรื่องนั้นมันไปไกลเกินกว่าที่ควร เพราะอารมณ์ หรือเพราะอะไรกัสก็ไม่แน่ใจ ตลอดระยะเวลาที่เราอยู่ใกล้กัน แน่นอนที่รู้สึกอบอุ่นและมีความสุข หยกเป็นแสงสว่างแสงเล็ก ๆ ที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้พบเจออีก
แต่สิ่งที่ทำให้ไม่เข้าใจคือ
“รัก” คืออะไร
สำหรับหยกคำว่ารักคืออะไร หมายถึงอะไร ต่อให้อยากเข้าใจแต่ในเวลานี้ก็ยังไม่เข้าใจ
ต่อให้ฟังที่หยกพูดอีกกี่สิบครั้ง ไม่ว่ายังไงก็ไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจจริง ๆ
ความรักเหรอ.........ฟัง....แต่ไม่อาจซึมซับเข้าไปในหัวใจได้
รับรู้ แต่ไม่เคยรู้จัก
จริง ๆ แล้ว คำว่ารักมันหมายความว่ายังไง
แม้ในเวลานี้หยกจะพูดอีกกี่ครั้ง ก็ไม่อาจเข้าใจได้ รู้เพียงแค่ว่า เวลาอยู่ด้วยกันมีความสุข ได้เป็นตัวของตัวเอง อยากพูดหรือทำอะไรก็ทำได้อย่างใจคิด และสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หยกทำให้ในเวลามันทำให้มีความสุข
อุ่นที่ใจ และร่างกายก็อุ่นตามไปด้วยเวลาที่หยกกอด
แค่อยากให้หยก........กอด....ให้หายหนาว อุ่นกายและอุ่นไปถึงหัวใจ ตอนที่หยกดึงเข้าไปหาและกอดแน่น พร้อมทั้งพูดคำว่ารักซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อยากจะเข้าใจ แต่ไม่อาจเข้าใจ
“อย่ามาทำมอง ฟังบ้างหรือเปล่าวะ จะให้ทำยังไงไหนบอกมาซิ”
ทำอะไรยังไงเรื่องอะไรเหรอ
ทำอะไรยังไง
“.....กัส....มึงเข้าใจที่พูดบ้างมั้ย”
มองหน้าหยก สบตาหยก และเหมือนว่าหยกพยายามจะสื่อสารบางอย่างออกมา
บางอย่างที่ไม่เข้าใจ
และสายตาก็มองไล่เรื่อยไปที่ใบหน้าของหยก ดวงตาสีดำสนิทที่จ้องนิ่งตรงมา และเหมือนมีแววไหวระริกในดวงตาคู่นั้น
ปลายจมูกโด่งที่อยากจะเกลี่ยปลายนิ้วเล่น ริมฝีปากที่ขยับขึ้นลงทุกครั้งเวลาที่หยกบ่น แค่นี้ที่อยากเห็น แค่นี้เอง ใบหน้าแบบนี้ คน ๆ นี้ที่อยู่ตรงหน้า
ตลอดหนึ่งเดือนเต็มที่ไม่ได้เจอ โหยหาและอยากจะได้พบเจอใบหน้าของคน ๆ คนนี้มาตลอด
“มองทำไม มองแล้วทำไมถึงไม่ยอมพูดวะ”
อยากจะพูด แต่ไม่รู้จะพูดอะไร มันสับสนและตื้อไปหมดทั้งหัว
แค่อยากมอง
“กัส”
ได้ยินเสียงเรียก แต่ไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าของหยกได้
หยก.....
อยากบอกว่าคิดถึง แค่คำว่าคิดถึงพูดไม่ยาก แต่ทำไมไม่สามารถขยับปากและพูดออกไปได้ แค่คำว่าคิดถึงมันง่ายสำหรับคนบางคน แต่สำหรับกัสมันยากเหลือเกินที่จะพูดออกไป
ได้แต่ใช้แววตาสื่อความหมาย และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจสิ่งที่สื่อออกมาหรือเปล่า
แต่แค่ได้มอง แค่ได้มองเห็นหยกแบบนี้ก็มีความสุขที่สุดแล้ว
“ไปเที่ยวเล่นจนลืมกันไปแล้วจริง ๆ ใช่มั้ยวะ ถึงได้จ้องกันขนาดนี้”
หยกกำลังยิ้ม รอยยิ้มที่มีแววหม่นหมองเล็ก ๆ
อยากจะเข้าใจความคิดและความรู้สึกของคนที่อยู่ตรงหน้า แต่ไม่ว่ายังไงก็เหมือนจะเข้าไม่ถึง
ทำไมมันยากขนาดนี้
กัส.......มึงเป็นคนที่เข้าหายากมาก บทจะเข้าใกล้ได้ง่าย ๆ ก็ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ แต่พอเข้าใกล้ไม่ได้ ต่อให้อยากปีนกำแพงเข้าไปหามากขนาดไหน แต่ก็เข้าไปไม่ได้อยู่ดี
มันก้าวเข้าไปในความคิดของคนตรงหน้าไม่ได้
เข้าไปไม่ได้จริง ๆ
“วันนี้ค้างได้หรือเปล่า นอนที่นี่ได้มั้ย”
อือ
ได้
ที่จริงไม่คิดว่าหยกจะกลับมาเร็ว แต่ว่า....ค้างได้
“เฮ้ย ไม่ใช่อะไรนะ ไม่ใช่ว่าอยากจะอะไรด้วยแล้วมาชวนหรอกนะ”
ออกตัวก่อน และแทนที่คนฟังจะหน้าแดง กลายเป็นหยกเองที่หน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
ใช่ที่ทำเรื่องอะไรเลยเถิดกันไปถึงขนาดนั้น
และมันเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้คิดว่าเพราะแบบนั้นหรือเปล่า ไอ้กัสถึงไม่ยอมมาหาอีกเลย
บางทีมันคงผิดหวังที่ฉวยโอกาสทำกับมันแบบนั้น
แต่.....
ถ้ามันไม่ชอบ และ....การมีอะไรกันมันเป็นการฝืนใจบังคับและเป็นส่วนหนึ่งของการที่กัสมันไม่ยอมมาหาอีกเลย
ไม่อยากให้มันคิดแบบนั้นอีก
“สาบานจะไม่ทำอะไรอีกเด็ดขาด”
แล้ว....ทำไมถึงต้องไม่ทำ
“ทำ...ได้”
มองหน้าของคนที่ตอบบางอย่างออกมาง่าย ๆ และเมื่อสบตากับอีกฝ่ายที่มองมาอย่างจริงจังก็ทำให้หยกยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ
หมายความว่ายังไง
เรื่องอย่างว่าที่เราทำกัน
ทำไมถึงตอบออกมาได้ง่าย ๆ ว่าทำได้
“ไอ้กัส”
อือ
“อย่าให้ใครทำแบบนี้กับมึงเด็ดขาดเลยนะ เข้าใจมั้ย”
เข้าใจ
“หยก....มึงคิดว่ากูจะไปทำอย่างนี้กับคนอื่นได้หรือไง”
ตอบออกมาง่ายแสนง่าย แต่แววตาจริงจังจนหยกยังรู้ ว่าอีกฝ่ายพูดจริง
“ทำไมบางครั้งพี่เหมือนจะเข้าใจกัสวะ แต่ทำไมบางครั้งก็ไม่เข้าใจเลย”
กัสก้มหน้าลงอีกครั้ง และถอนหายใจยาว
ไม่ได้หวังให้ใครมาเข้าใจ ไม่ได้หวัง หรืออยากให้ใครมาเข้าใจสิ่งที่เป็นอยู่ในเวลานี้
ไม่ได้หวัง
แค่เพียงไออุ่นจากหยก อะไรก็ได้ ที่จะตอบแทนคำว่ารักของหยกได้ ไม่ว่าอะไร ก็จะยอมอ่อนข้อให้ ถ้าหยกต้องการ
“.......................”
นิ่งเงียบและก้มหน้าลง ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก แค่นิ่งเงียบและหยกก็ยังคงเช็ดผมให้กัสต่อไปเรื่อย ๆ
มึงนี่นะ
อะไรก็ได้ จะยอมให้ทุกอย่างแต่ขอเถอะอย่าหายไปแบบนี้อีกได้มั้ย กูจะบ้าเอาง่าย ๆ
“แล้วนี่....หายไปไหนมา”
หายไปไหนเหรอ ไม่ได้หายไปไหนหรอก อยู่ตลอด เพียงแค่ไม่เคยเข้ามาหาหยกแค่นั้น
“ทำไมหยกชอบบ่นจังวะ”
แกล้งพูดและอมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก และนั่นก็ทำให้คนที่กำลังเช็ดผมให้กัสชะงักมือนิ่งค้าง ก่อนจะแกล้งเช็ดแรง ๆ จนกัสร้องลั่น
“หยกกกกกก มึงจะฆ่ากูเหรอเนี่ย”
ร้องเสียงดังและหัวเราะออกมาเมื่อมองหน้าของคนที่เช็ดผมให้แต่ขมวดคิ้วมุ่น
ไม่พอใจอะไรนะ
ทำหน้าแบบนี้ เหมือนว่าไม่พอใจ
“กูแก่กว่ามึงกี่ปี อย่าให้ด่า”
อันนั้นรู้แล้ว
รู้ตั้งนานแล้ว
“อยากให้กูเรียกว่าพี่เหรอ”
อยาก แล้วจะทำไม
“หรือมึงอยากเรียกว่าผัวล่ะ”
ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยย
กำมือและชกเบา ๆ ที่ท้องของคนที่แกล้งพูดบางอย่างหน้าตาเฉยแต่ก็รู้ว่านั่นคือการหยอกล้อของหยก
“โอ้ยยยยยยยยยยย นี่กูไม่ใช่กระสอบทรายนะ ต่อยมาได้เดี๋ยวฆ่าตายซะเลยไอ้เด็กเวรนี่”
อยากให้กูเรียกพี่ แต่มึงก็ยังเรียกกูว่าไอ้กัสอยู่ดีไม่ใช่หรือไงวะ
“เหี้ยหยก”
ด่าและขบริมฝีปากแน่น และหยกก็เลิกคิ้วขึ้นสูง นั่งจ้องหน้าของคนที่ด่า จ้องนิ่ง ๆ และแกล้งทำหน้าขรึมใส่
“ไหนมึงเรียกทีซิ มึงเรียกว่าไงนะ”
ก็เรียกเหมือนเดิม ฟังแล้วก็น่าจะได้ยินชัด แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินใช่มั้ย
“เรียกว่าเหี้ยหยก”
เหรอ ไหนมึงลองเรียกอีกทีซิ
ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ และจ้องนิ่งไปที่ดวงตาของคนที่เริ่มจะเบนหน้าหลบสายตา
“อีกที”
อีกทีอะไร จะอีกกี่ครั้งกี่หน ก็คงจะเรียกเหมือนเดิม
“ไหนเรียกซิ เรียกอีกที”
ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิม และน้ำเสียงที่ถามก็แทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบแผ่ว ๆ ที่ได้ยินกันสองคน
“หยก”
ทำไมสอนแล้วไม่รู้จักจำ นั่นมันเป็นการปีนเกลียวชัด ๆ บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามาปีนเกลียวเรียกเหมือนเพื่อนแบบนี้
จะให้บอกอีกแค่ไหนถึงจะจำ
“กัสเรียกพี่ว่าอะไรนะ”
ใบหน้าอยู่ห่างกันแค่คืบ สบตากันนิ่ง ๆ และกัสก็ใช้ฝ่ามือผลักอกของคนที่ขยับเข้ามาใกล้ให้ออกห่าง
“ทีมึงยังเรียกกูว่าไอ้กัสเลยนะ”
อ่อ ที่ไม่ยอมเรียกเพราะแบบนี้ใช่มั้ย เพราะมีเรื่องที่ไม่ชอบ ก็เลยไม่ยอมเรียกใช่มั้ย
“พี่ขอโทษ แล้วกัสจะเรียกพี่ว่าพี่หยกมั้ย”
เรียกมั้ยเหรอ
เรียก........มั้ย
ไม่ตอบ แต่นั่งนิ่งเฉยและกระพริบตาปริบ ๆ เมื่อพบว่าใบหน้าของหยกยื่นเข้ามาหา
ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจแผ่ว ๆ ของอีกฝ่ายที่เป่ารดเบา ๆ ที่ข้างแก้มก่อนที่หยกจะกดปลายจมูกลงที่ข้างแก้มขาว ๆ
ทำเพียงแค่นั้นและผละออกห่าง ดึงมือทั้งสองข้างของคนที่นั่งเงียบมากุมเอาไว้
มองที่มือของกัสที่เย็นเฉียบ กุมเอาไว้จนเริ่มรู้สึกได้ถึงความอุ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ
“อยากเรียกอะไรก็เรียกเถอะ....แต่อย่าหายไปแบบนี้อีกนะ”
อย่าหายไป
แบบนี้อีก
อย่า..........
ทั้งที่ไม่ได้อยากหายไป เพียงแค่ไม่มีเหตุผลที่จะมาหาเท่านั้น
หยก........
คิดถึง.....
คิดถึงหยกมากนะ อย่าไปไหนเลย อย่าไปไหน อยู่ตรงนี้ตลอดไปได้มั้ย
แล้วสัญญาจะไม่สร้างความอึดอัดใจให้หยก จะไม่สร้างปัญหา
แค่หยก....เท่านั้น
แค่มีหยกอยู่ แค่รู้ว่าหยกอยู่ตรงนี้ แม้ไม่รู้จะสื่อความรู้สึกที่มีอยู่ออกไปยังไง แต่หวังจะให้หยกรับรู้เสมอนะ
ว่าหยกคือทุกสิ่งทุกอย่างในเวลาที่ไม่เหลือใคร
หยกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเสมอ
“มองหน้าอีกแล้ว เป็นแบบนี้เรื่อย มองแล้วก็ไม่ยอมพูด กัสเอ้ยยยย”
แตะเบา ๆ ที่เส้นผมที่ยังเปียกชื้นและหยกก็หัวเราะเสียงเบาเมื่อมองหน้าของคนที่ชอบนั่งจ้องหน้าหยกตลอดเวลาแต่ไม่เคยมีคำพูดอะไรออกมา
“………………….”
“กัสจำได้มั้ย ว่าตอนแรก ๆ พี่ให้กัสเรียกว่าพี่หยกกัสก็ไม่ยอมเรียก”
หยกกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ เก็บของที่จำเป็นต้องใช้ลงกระเป๋าเดินทาง และก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากปลายสาย
“จำ...ได้.....”
เดี๋ยวนี้คนที่อยู่ไกลพูดอะไรเก่งขึ้นเยอะ เข้าใจอะไรขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน
หัวเราะง่ายขึ้น และแม้จะอยู่ไกลขนาดไหน แต่รู้สึกเหมือนใกล้กันมากกว่าช่วงเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันแต่ไม่เข้าใจกันซะอีก
“จำได้ว่ายังไงนะ ไหนบอกพี่ซิ”
จำได้
จำได้หมดเลย
ทุกอย่าง ทุกสิ่งที่หยกอยากให้ทำ จำได้หมด
“ให้เรียก...พี่หยก.....”
ใช่
ใช่แล้วล่ะ เมื่อก่อนเคี่ยวเข็ญแทบตาย แต่กว่าจะพูดได้แต่ละคำต้องหลอกล่อสารพัด
“เก่งขึ้นเยอะแล้วนะกัส”
เพราะพี่หยก
เพราะอยากคุยกับพี่หยก กัสเลยพยายามพูดให้มากขึ้น พยายาม..........พูด พยายามคิดที่จะพูด
และเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเริ่มง่ายขึ้น เพราะหยกคือคนที่กัส อยากพูดด้วย จึงมีความพยายาม
“กัสเรียกอีกซิ พี่ชอบฟัง”
ได้
เรียกอีก....
เรียก....
“พี่....หยก....คิด....คิดถึง...พี่หยก...”
เพียงเท่านี้
แล้วคนฟังก็ได้แต่นั่งยิ้ม ยิ้มอยู่คนเดียว ขณะที่ลงมือพับเสื้อผ้าลงกระเป๋าไปเรื่อย ๆ
“คิดถึงเหมือนกัน.....พี่จะไปหาแล้วนะ......พี่กำลังจะกลับไปหาแล้ว......อีกไม่นานเราจะได้เจอกัน”
TBC.