ตอนที่ 10
“โอ้ย.......” เป็นคำทักทายกับเพดานห้องที่น่าอภิรมย์ในยามเช้าซะจริง เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกับผมเนี่ย ให้ตายเหอะ สงสัยเป็นแค่ฝันที่ประหลาดเท่านั้นแหละ(ปลอบใจตัวเองเบาๆ)
ผมลุกออกจากเตียงด้วยความโคตะระยาก รู้สึกหน่วงที่สะโพก ร้าวไปที่ขาทั้งสองข้าง ผมไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน (ก็แหงล่ะ) // เข้าเรื่องเถอะ คือผมพยายามใช้มือยันตัวเพื่อลุกขึ้นจากเตียงไปสำรวจร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา
กว่าจะยืนได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร พอยืนได้เท่านั้นหล่ะ ร่างกายอันบอบบางของผมโดนแรงดึงดูดของโลกดูดร่างติดพื้นทันที ถ้าในนิยายก็คงแบบมีคนมารับ ให้เราไม่เป็นอันตราย แต่นี่คือไม่มีเลย ไร้การป้องกันการกระแทก ก้นของผมโดนพื้นถ่ายเทโมเมนตัมอย่างจัง // อิเห้ กรูเจ็บ
.........ชีวิตนายขนมปัง........
ผมฝืนตัวเองอีกครั้ง เกาะทุกอย่างที่เกาะได้ (ห้องน้ำมึงจะไกลไปไหน กูเดินข้ามกำแพงเมืองจีนอยู่เหรอไง)
สายน้ำที่ไหลมาจากฝักบัว โดนร่างกาย แล้วไหลลงตามท่อ มันจะชะล้างความจำที่โหดร้ายเมื่อคืนได้หรือเปล่า ผมพยายามคิดว่าเมื่อคืนมรรคทำไปเพื่ออะไร เพื่อนที่สนิทกันต้องทำกันแบบนี้เหรอ หรือเพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความสนิทชิดเชื้อกัน มันคงไม่ใช่อยู่แล้วแหละ
“ขนมปัง กูนึกว่ามึงหายไปไหนที่แท้มึงมาอาบน้ำที่เอง มาอาบให้” ไอ่สิ่งมีชีวิตเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาครับ ปกติแล้วผมไม่ค่อยชอบล็อคห้องน้ำหรอก มันรู้ดี แล้วถ้ามันจะเปิดมาตอนอาบน้ำผมก็เฉยๆแล้วอาบน้ำต่อไป แต่มาครั้งนี้ผมได้ยินเสียงมันแล้วผมกลัวจริงๆ
“อย่ามายุ่ง กูมีมือมีตีนอาบเองได้” ผมตะโกนออกไป มันปิดประตูทันทีเลยครับ ไม่รู้ทำไม สงสัยกลัวรังสีความแค้นที่องค์ชายขนมปังปล่อยออกมาจากเส้นผมหล่ะมั้ง 5555+ // โอ้ยเจ็บ......ไม่น่าหัวเราะเลย ไม่เจียมสังขาร
ผมปล่อยความคิดให้ไปกับสายน้ำซักพักละกัน....................
โถ่เอ้ย ไอ่สิ่งมีชีวิต มึงทำผิวของน้องขนมปังผู้บอบบาง แดงเป็นจ้ำๆเลย รอยแดงที่คอมันมาจากไหน ถ้าจำไม่ผิดก่อนจะหลับไป มันยังไม่มีเลยนี่หว่า หลังคอนี่อีก สงสัยจะแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่มของโรงแรมมั้ง
กว่าผมจะอาบน้ำเสร็จก็ใช้เวลานานเป็นชาติ แล้วผมก็แต่งตัว แหม เลือกชุดมาได้พอดีกับตัวผมเลยนะ (แล้วมันดีมั๊ยล่ะ) ก็นะ ตอนนี้ผมอยากกลับบ้านไปหาพ่อ แม่ พี่พาย พี่เต้าหู้มากเลย T_T
============
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ มองไปเห็นกระดาษสีขาวแผ่นเล็กๆที่วางอยู่บนหัวเตียง ใครมาติดไว้ตรงนี้ฟระ มีแต่ควายเท่านั้นแหละที่มองเห็นน่ะ แผ่นเล็กชะมัด ให้กูใช้แว่นขยายหามั๊ยคะ
‘ถ้าอาบน้ำเสร็จแล้ว กินข้าวต้มกับยาที่กูวางไว้นะ
กูไปธุระก่อนนะ แล้วค่อยมาตกลงกันอีกที
แล้ววันนี้ ขอให้อยู่ในห้องก่อนนะ อย่าทิ้งกูไปไหนนะ
ที่รัก....’
ตกลงอะไรกัน คือ ‘ไม่ต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก’ คือสิ่งที่ผมคิดได้ เราไม่ต้องพูดเรื่องนี้กันอีก เราก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ แล้วเราก็กลับมาเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม // ที่รักโพ่ง อิอัปลักษณ์
หลังจากอ่านจบ ผมมองไปที่ของมันมันเตรียมเอาไว้ครับ ก็มีข้าวต้มกุ้ง ยา กับน้ำ (ว่าแต่มันเอาเวลาไหนไปซื้อวะ) // ดีใจจังเลย
มีคนเอาอาหารเช้ามาประเคน ปิดประเด็นเห็นแก่กิน // ขอกินเพื่อเติมเต็มพลังงานก่อนนะ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตู ผมกำลังจะเดินไปเปิดให้ ทางฝ่ายที่เคาะก็เปิดประตูเข้ามา ในตอนแรกผมนึกว่าเป็นไอ่สิ่งมี
ชีวิต แต่ไหนได้เป็นอ้อมซะงั้น เอ่อ เจ้ ถ้าเกิดกูถอดกางเกงอยู่ทำไงเนี่ย?
“ขนมปังเป็นไงบ้าง เห็นมรรคบอกว่าไม่ค่อยสบาย ดีขึ้นยัง” แววตาที่น่ารัก เป็นมิตร และอบอุ่นที่สุดเช่นเคยครับ เอิ่มป้าครับ ที่กู
ไม่สบายก็เพราะเพื่อนมุงนี่แหละนี่ล่ะครับอ้อม
“หนมปังไม่เป็นไรมากหรอก ตอนนี้ก็น่าจะสบายขึ้นแล้วหล่ะ” ไม่ได้เป็นอย่างที่พูดออกไปเลย
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เดี๋ยวประมาณ 11 โมงเราจะออกจากที่นี่ไปเที่ยวกันนะ เหลือเวลาอีก 3 ชั่วโมงนะ เก็บของด้วยนะจ๊ะ”
เอิบ...............ไม่ค่อยจะเร่งกูเลยนะคะ
“อ้อม แกกับมรรคเป็นอะไรหรือเปล่า?” โอ้ กูถามเค้าไปได้ไงเนี่ย แล้วถ้าคำตอบเป็นแบบที่คิดหล่ะ
“อ๋อ เป็น.......” ตื้ด ตือ ดือ ดื่อ............... เสียงโทรศัพท์ของอ้อมเข้าครับ อ้อมหยุดพูดกลางคัน แต่นั่นคือคำตอบที่ผมต้องการ
จะได้ยิน สรุปคือ มรรคเป็นแฟนกับอ้อม แล้วมรรคก็มีอะไรกับผม ผมไปแย่งแฟนอ้อม ผมเลวโยแท้ TT_TT
ด้วยความอะไรซักอย่างของผมเอง ผมก็หน้าด้านเดินออกไปจากห้องนี้ ความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิหรือความดันผมไม่ดีทำให้
ผมเกิดหน้ามืดขึ้นมา (มันเกี่ยวมั๊ยเนี่ย??) เหมือนมีม้าหมุนในหัวสมองของผม
ก่อนที่ผมจะสลบไป ผมได้ยินเสียงของอ้อมที่เหมือนจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก แล้วผมก็สลบไป
……………….
……………….don’t need to know where you’ve been,
All I need to know is you and no need for talking.(hey boy)
So don’t even tell me your name,
All I need to Know is whose place,
And let’s get walkin’.
All I wanna do is f**k your body.
Oooooh ooooh oooooh oooooooh.
Tonight’s your lucky night, I know you want it.
Oooooh ooooh oooooh oooooooh............................
เสียงเพลงก้องในโสตประสาทของผม ใครมาเปิดเพลงแถวนี้ฟระ กำลังนอนสบายๆเลย ใครมาต้องการร่างกายช้านตอนนี้หล่ะเนี่ย
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าครับ แล้วค่อยๆปรับโฟกัส ตอนนี้ยังมึนๆหัวอยู่เลยครับ อาจจะด้วยฤทธิ์ของยา ผมพยายามปรับสภาพอยู่ครับผมเหมืนจะเห็นเงาคนลางๆนั่งอยู่ข้างๆผมครับ
“อึม.....ใครนะ” เสียงของผมแหบพร่ามากเลยครับ (ก็คนมันเพิ่งตื่นนี่นา)
“ตื่นแล้ว” น้ำเสียงของเจ้าของเสียงแลดูเป็นห่วงมากเลยครับที่ผมฟื้น แต่แม่งคือเสียงของมรรค สัส
“ขอน้ำหน่อยได้มั๊ย......” ตอนนี้ลำคอผมแห้งมาก แทบจะเป็นฝุ่นผงเลยก็ว่าได้ ผมเลยต้องการน้ำเพื่อมาบรรเทาความกระหาย
ของผมครับ // บรรยายไรนักหนา พูดง่ายๆ กูหิวน้ำ
“แปปนึงนะ” พูดจบ มันก็รีบเดินไปเอาน้ำมาให้ผมครับ
...........................เหมือนเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...............................
ไม่นานมันก็เอาน้ำมาครับ ตอนแรกผมว่าจะดื่มเองแหละ แต่มันก็ยังคะยั้นคะยอให้มันป้อน เฮ้อ กูไม่ใช่คนง่อยนะที่จะทำอะไรไม่
ได้น่ะ แขน ขา กูก็ยังอยู่ครบ แค่นี้น่ะกูทำเองได้
แต่สุดท้าย ผมก็ได้ดื่มน้ำโดยที่มีมันมาป้อนนี่แหละนะ // มันขู่จะป้อนด้วยปากนี่สิ อิโรคจิต
“เรื่องเมื่อคืนหน่ะขอโทษนะ มันเป็นไปตามอารมณ์จริงๆ ตอนนั้นกูโกรธมากที่เห็นมึงกับบอยเป็นอย่างนั้น” จู่ๆมรรคก็เปิดกระเด็นขึ้นมาครับ หลังจากที่เงียบอยู่ตั้งนาน แววตาดูเหมือนสำนึกผิด
ลืมๆมันไปซะเถอะนะ กูก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เรื่องอะไรที่มันเกิดขึ้นแล้วก็ขอให้มันแล้วกันไปนะ // ผมพยายามที่จะลืมเรื่องที่เกิด
ขึ้นไปซะ มันคงจะอ่านสีหน้าผมออกนะ
“แต่ที่ทำไปเพราะกูรักมึงนะ” จู่มันก็โผลเข้ามากอดผมครับ คล้ายกับว่ามันรั้งไม่อยากให้ผมจากไปไหน มันกอดผมแรงขึ้นเรื่อยๆ
“เอาเวลาแบบนี้ไปดูแลอ้อมดีกว่าไหมมรรค???????????”
ผมมาต่อน้องขนมปังแล้ว คิดถึงน้องขนมปังไหมค้าบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ