“Someday We'll Know”
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: “Someday We'll Know”  (อ่าน 191957 ครั้ง)

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ที่เคยบอกว่าชอบป๋อมกับแป๋มยังยืนยันคำเดิม
ชอบเด็กมีความคิดดีอย่างนี้ค่ะ เพื่อนแบบข้าวพอง
น่าจะลดการดูถูกตัวเองลงแล้วทำตามอย่างที่ดีๆบ้าง ว่าไหม?

ออฟไลน์ @PurPle SuN@

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
อ้าวๆ น้ำชาสปอยแบบนี้ แล้วน้องแป๋มล่ะ

แต่ว่า ตอนนี้ป๋อมเท่ห์มากอ่ะ จากที่ดูไม่ค่อยอะไรในตอนก่อนๆ แต่สอนเพื่อนได้ดี ข้าวพองควรฟังเพื่อนไว้นะ

ปล. ขึ้นหน้าใหม่รอรับตอนใหม่แล้วววว

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
ได้เวลามารอข้าวพองแล้ว อิอิอิ

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
“Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
«ตอบ #483 เมื่อ18-05-2014 09:26:42 »

ครึ่งเรื่องแล้วนะจ๊ะ
ตอนที่ 20

   
ช่วงเวลาหลังจากการส่งข้าวพองเข้าโรงเรียนคือเวลา “ว่าง”
โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากที่แอนดรูว์กลับไปแล้ว และเกียหลงทางไปกับการทำหน้าที่ครู-พี่เลี้ยง-บอร์ดี้การ์ดของนายมลรัฐ
หมดเวลาไปกับการหาอุปกรณ์ฝึก หนังสือ แบบทดสอบ และปัญหาการใช้ยาเสพติด กับการเที่ยวกลางคืน
จนกระทั่งในวันอาทิตย์ที่กลับมาห้องพักที่คอนโดฯ งานสำคัญอีกเรื่องถึงได้สิทธิ์ที่จะร้องท้วงคนที่กำลังแกล้งลืม
ทันทีที่เห็นแฟ้มคดีของพวงเพชรกับเพชรแท้ และโบรนี่หัวหน้างานสอบถามมาว่าปรับตัวให้กับงานใหม่ได้หรือยัง ชีวิตในเมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง กับอีกหลายคำถาม ที่หากยังอยู่ในลอนดอนคงสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้น….
นายเกียไม่ใช่เด็กเล็กๆ ที่จะเกิดอาการตื่นกลัวหากต้องไปอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย
หากแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่า งานอีกอย่างที่แกล้งทำเป็นลืมคืออะไร ก็เข้าใจความเป็นกังวลของโบรนี่
แต่เกียก็ยังถ่วงเวลา ไม่สนใจที่จะติดตามเรื่องเพชรเจ้าปัญหานั่น
ปิดหู ปิดตาเมื่อพบพิรุธของทุกคนที่อยู่รอบตัว ด้วยการอ้างว่านั่นเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีคนใหม่เข้ามาในครอบครัว
จนกระทั่งเจ้าตัวออกปากร้องขอให้ช่วยติดตามเรื่องนี้ ถึงได้กลับมาปัดฝุ่นแฟ้มบางๆ และติดตามหาข้อมูลกลุ่มคนที่ต้องการเพชรทั้ง 5 กลุ่ม ลอนดอนที่เป็นเจ้าของเดิม มาเฟียฮ่องกงที่เพชรแท้เจรจาการค้าแต่ไม่ได้ส่งของให้จนกระทั่งนำไปสู่การฟ้องร้องในชั้นศาล กับยังมีกลุ่มแก๊งจากซาฮาร่า เจ้าชายจากซาอุดิอาระเบีย และสุดท้ายคือนักการเมืองญี่ปุ่นที่มีภริยาเป็นนักสะสมเพชรล้ำค่า

ตามลำดับแล้วควรเริ่มสืบจากฮ่องกง หรือลอนดอน แต่โอกาสที่จะได้ตรวจสอบเจ้าชายฮัสซันจากซาอุดิอาระเบียกลับมาถึงก่อน เพราะเจ้าชายมีกำหนดเดินทางมาลงนามความร่วมมือกับนักธุรกิจชาวไทย
เกียเป็นตำรวจเก่าที่ไม่ได้รู้จักคนมากมายนักก็จริง แต่โบรนี่เป็นตำรวจอาวุโสที่เส้นสายดี และยังคงใช้ระบบเส้นสายเหมือนเดิมช่วยนัดให้เกียพบกับตำรวจติดตามของเจ้าชาย
เป็นการใช้ความพยายามอย่างมาก ที่จะหาทางแสดงความเป็นเพื่อนกับคนที่ถึงจะเป็นรุ่นพี่ แต่ก็เป็นรุ่นพี่แบบ –เป็นคนรู้จักของคนรู้จักอีกที-
เกียได้แต่หัวเราะในตอนที่โบรนี่เสนอให้ใช้แผนนี้ ทั้งที่ในใจคิดว่ามันเป็นการแสดงเจตนามากเกินไป เพราะจะว่าไปเกียไม่คิดว่าเจ้าชายซาอุฯ จะเป็นผู้สั่งการเรื่องนี้
เพราะให้น้ำหนักไปที่กลุ่มฮ่องกงมาตั้งแต่แรก
แน่นอนว่าก่อนที่จะได้พบกัน ต่างฝ่ายต่างก็จะต้องตรวจสอบประวัติกันก่อน
เกียจึงไม่ได้ปกปิดความจริงที่ว่าต้องออกงานมาเป็นครูพี่เลี้ยงให้กับนักเรียนมัธยม
และนักเรียนมัธยมคนนั้นก็เป็นลูกของคนที่เจ้าชายต้องการเพชร

หลังจากส่งข้าวพองเข้าโรงเรียน เกียกลับเข้าบ้านทำหน้าที่แล้วออกมาใหม่ช่วงใกล้เที่ยงพบกับการิม ที่ร้านอาหารในโรงแรมที่พัก
การิมจบโรงเรียนนายร้อยที่อังกฤษ เป็นรุ่นพี่ของเกียอยู่หลายรุ่น แต่กลับไปรับราชการที่ซาอุดิอาระเบีย

“คิดว่าจะไม่ได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านแล้วเสียอีก” เกียพูดยิ้มๆ หลังการแนะนำตัว
“ไม่น่าเชื่อว่าจะมีนิสัยเอเชีย” การิม หนุ่มตะวันออกกลางคิ้วเข้มพูดอย่างรู้ทัน แล้วหันไปแนะนำเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่อยู่ในระหว่างพักเพียง 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะกลับประจำหน้าที่อารักขาเจ้าชาย
“สารภาพตามตรงเลยนะ ว่าไม่คิดเหมือนกัน แต่เพราะโบรนี่สั่งแล้วสั่งอีกว่ามีรุ่นพี่มาเมืองไทย ถ้าไม่อยากเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปตลอดชีวิต จะต้องมาหา”
เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียทั้งกลุ่มพากันหัวเราะเสียงดัง การิมหันมาพูดยิ้มๆ กับเกีย
“เอาจริงหรือเปล่า”
“ผมรู้ว่ายาก แต่ไม่อยากขัดใจโบรนี่ต่างหาก” เกียพูดความจริง การเป็นตำรวจคุ้มกันให้กับเจ้าชายในดินแดนตะวันออกกลางไม่เคยอยู่ในความคิด
“งั้นเราก็สมควรนั่งกินมื้อกลางวันโดยปราศจากความเครียด” การิมโอบไหล่ให้เกียนั่งลงข้างๆ
บทสนทนาในช่วงเวลาที่เหลือมีแต่เพียงชีวิตในรั้วโรงเรียนนายร้อยระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง และเส้นทางที่ค่อยๆ ห่างจากจุดเริ่มต้น
“ว่าที่จริง ถึงจะไม่ได้เป็นตำรวจอังกฤษ แต่ก็ยังได้ใช้วิชาที่เรียนมาอยู่เสมอ” การิมบอก เมื่อขยับตัวมองนาฬิกาข้อมือ “ตามกำหนดเราต้องกลับคืนนี้ แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็ติดต่อมาได้”
“ตอนนี้ผมเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ไม่กล้ารบกวนรุ่นพี่หรอก แต่ถ้ารุ่นพี่ได้พักร้อนแล้วมาเที่ยวเมืองไทย โทรเรียกผมดีกว่า” เกียหันไปบอกทุกคนในกลุ่ม “ทุกคนเลยนะครับ โทรหาผมได้”

เป็นการทำความรู้จักในฐานะเจ้าของบ้าน และรุ่นน้องอย่างแท้จริง จนกระทั่งเมื่อกลับเข้ามาในห้องพัก เกียสแกนลายนิ้วมือที่ลอบเก็บมาจากผู้ร่วมการสนทนาทั้งหมด ส่งให้แมรี่
รายงานที่ได้รับกลับมาก็เป็นเพียงประวัติการทำงานทั่วไป
ยังไม่ใช่เรื่องที่อยากรู้
เจ้าชายมีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อติดต่อขอซื้อเพชรจากเพชรแท้ แต่เพชรแท้ไม่ขายให้
หลังจากนั้นหลายวัน การิมติดต่อกลับมาเพื่อให้เกียซื้อของฝากที่เป็นของประดิษฐ์พื้นเมืองให้
“เรามีเวลาอยู่เมืองไทยไม่กี่ชั่วโมง กลับมาไม่มีของฝากบ้านแทบแตก รบกวนเกียจัดให้ที”
เกียยิ้มกับโทรศัพท์ในมือ “ด้วยความยินดีครับ แต่ขอเป็นพรุ่งนี้นะครับ ตอนนี้ใกล้เวลาที่ผมต้องไปรับเจ้าชายน้อยที่โรงเรียน พรุ่งนี้ส่งเขาเข้าโรงเรียนแล้วผมจะไปซื้อแล้วส่ง DHL ไปทันที”
เมื่อการิมเป็นฝ่ายโทรมาขอความช่วยเหลือจากเกีย จึงต้องมีการสนทนาถึงความเป็นอยู่ทางฝั่งนี้ “ครอบครัวของเขาครอบครองเพชรหายาก”
“ผมได้ยินมาอย่างนั้นครับ รวมถึงเรื่องที่ว่ามันทำให้แม่กับพี่สาวต้องเสียชีวิตด้วย”
การิมส่งเสียงตอบรับในลำคอ “เจ้าชายเคยอยากได้เพชรชุดนั้น คิดว่าเกียก็น่าจะรู้ แต่ของแบบนี้มักจะอาบเลือด มีเรื่องลึกลับที่เราไม่รู้”
เกียอมยิ้ม เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเชื่อเรื่องนี้ 
“ตอนรู้ว่ามีพวกซาฮาร่าอยากได้ไม่เท่าไหร่ แต่พอรู้ว่า มีพวกฮ่องกงมองไว้เหมือนกันเขาก็เลยถอยเพราะไม่อยากยุ่งกับพวกมาเฟีย แล้วพอต่อมาเห็นข่าวของครอบครัวนี้ ที่มีคนตาย เขาก็ยิ่งไม่อยากยุ่งด้วย บอกว่าเพชรเปื้อนเลือดมากเกินไป”
ประโยคสุดท้ายทำให้เกียรู้จุดประสงค์ที่รุ่นพี่โทรมา
“ความเชื่อเรื่องอาถรรพ์ก็มีข้อดีเหมือนกัน”
การิมหัวเราะความเห็นของเกีย แล้วย้ำเรื่องของที่ขอให้ช่วยจัดหาให้

เมื่อนำไปรวบรวมกับประวัติการสะสมเพชรของเจ้าชายซาอุฯ เจ้านายของการิม ยิ่งเป็นการยืนยันว่าเจ้าชายอยู่นอกกรอบของผู้ต้องสงสัย และไปเพิ่มน้ำหนักที่แก๊งฮ่องกง

เกียยกมือลูบหน้าแล้วถอนหายใจแรงๆ
ถ้าเป็นสำนวนแบบคณิตศาสตร์เด็กประถม ต้องบอกว่า เจ้าชายซาอุฯ “ถูกทดไว้ในใจ” แล้วขีดเส้นใต้ที่คำว่าฮ่องกง แน่นอนว่า ต้องไม่ลืมใช้มาร์คเกอร์ขีดที่ชื่อของไทนี่หว่องกับไอ้เหลียงศัตรูเก่าจากลอนดอนด้วย
ไม่รู้เหมือนกันว่า 2 คนนี้จะเข้ามาเกี่ยวข้องในทางไหน แต่ชื่อของคนคู่นี้ยังคงอยู่ในบัญชีรายชื่ออยู่เสมอ 

สามทุ่มครึ่งเกียเดินตรวจความเรียบร้อยรอบบ้านเหมือนเคย หนุ่มตัวเล็กในชุดกางเกงนอนขายาวสีฟ้า กับเสื้อยืดสีขาว เดินเข้ามาหาด้วยท่าทีลังเล เหมือนจะเดินหน้า 2 ก้าวถอยหลัง 1 ก้าว
เป็นบุคลิกที่อ่านได้ง่ายที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดที่พบเจอ
“มีอะไรให้รับใช้ครับ”
หนุ่มตัวเล็กเกาหน้าผาก แล้วดึงมือให้เดินตามไปหยุดอยู่ใกล้โรงฝึก
“ไม่มีอะไรให้รับใช้ แต่มีเรื่องจะสารภาพ”
“ครับ”
“พอง...คุยกับไอรีน” ดวงตากลมโตเหลือบขึ้นมองแล้วก้มลงมองเท้าตัวเอง “ขอโทษที่ไม่รักษาสัญญา” พอช้อนตาขึ้นมองอีกครั้งเห็นเกียยังคงมองมานิ่งๆ “คุยโทรศัพท์มั่ง แชทมั่ง แต่ไม่ได้ไปไหน ถามทุกคนในบ้านก็ได้”
เกียยังคงใช้ความเงียบเป็นคำตอบเหมือนเดิม จนหนุ่มตัวเล็กร้อนใจ
“คืนเสาร์นี้ เกียกลับไปคอนโดฯ แล้ว ไอรีนจะมารับ”
เกียแตะที่ปลายคางให้เงยขึ้นมามอง “ชอบไอรีนหรือครับ”
“ไม่รู้”
“แล้วทำไมถึงยังคุยกับไอรีน ทั้งที่พี่ขอไว้ แทนที่จะคุยกับเบซซี่หรือสาวคนอื่นที่พี่ไม่เคยห้าม”
“ก็...คงเพราะไอรีนเขาเป็นผู้ใหญ่กว่ามั๊ง เบซซี่น่ารักก็จริง แต่บางทีก็ง๊องแง๊งอะไรไม่รู้ เมื่อวานไอรีนโทรมาชวนออกไปข้างนอก ก็ไม่ได้ออกไปหรอก แต่ว่าเสาร์นี้เขาจะมารับ”
“อยากไปไหมครับ”
ข้าวพองลังเล “ไม่รู้เหมือนกันว่าอยากหรือไม่อยาก รู้แต่ว่าไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว”
เกียรู้ตัวก็เมื่อก้มลงจูบริมฝีปากบาง แล้วพาลจูบที่แก้มใส
“ข้าวพองไม่ได้อยู่คนเดียว ข้าวพองมี...”
“ไม่มี ไม่มีใครอยากอยู่กับข้าวพองสักคน ทุกคนทำไปตามหน้าที่ เพราะเงินของพี่เพียง” ข้าวพองปัดมือที่แตะคาง “พองก็แค่มาบอกเท่านั้นแหละ”
เกียคว้าต้นแขนของข้าวพองไว้ “อยากให้พี่ทำอะไร”
“เห็นมะ สุดท้ายเกียก็เหมือนคนอื่นน่ะแหละ ทำตามคำสั่ง”
“ข้าวพองกำลังพาล”
“เออ! ก็พาลเหมือนทุกทีน่ะแหละ!” ข้าวพองตะคอกใส่ เปลี่ยนอารมณ์ได้ทันที “ปล่อยเลยนะ ถ้าทำได้แค่นั้นมันก็ไม่ต่างจากคนอื่นหรอก”
เกียยืนนิ่งเหมือนถูกตรึงไว้กับพื้น มือใหญ่ที่บีบแขนอยู่เพิ่มน้ำหนักขึ้น “ฟังนะครับข้าวพอง เหตุผลสำคัญที่ไม่อยากให้ยุ่งกับไอรีนก็เพราะยาเสพติด”
“เบซซี่ก็ใช้ ไทนี่ก็ใช้ พองก็ใช้ จะห้ามไม่ให้พองคบตัวเองด้วยมั้ย!”
คิ้วหนาขมวดแน่น จนข้าวพองรู้ตัวยกมือขึ้นปิดหน้า
“พองไม่ ไม่ ไม่ติดนะ”
เกียดึงข้าวพองเข้ามากอดไว้
“ครั้งสุดท้ายที่ใช้ยาคือเมื่อไหร่”
“..............ชั่วโมงที่แล้ว.....”
คำตอบของข้าวพองทำให้เกียตัวชา นี่คือสาเหตุที่ทำให้อารมณ์ของข้าวพองเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“พี่รักข้าวพองมากกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตพี่ แต่ทำไมข้าวพองไม่รักตัวเอง”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ทำให้ข้าวพองน้ำตาหลากท่วม ได้แต่ซุกหน้าลงกับอกกว้าง
ที่ผ่านมาเกียคิดว่าข้าวพองจะใช้ยาในตอนที่ไปเที่ยวบ้านเพื่อน  ทั้งคิดว่าถูกไอรีนวางยา
แต่ตอนนี้เจ้าตัวตั้งใจกินมันเข้าไปเอง
“เสาร์นี้ หลังเรียนพิเศษให้ไอรีนมาหาที่นี่ พี่มีเรื่องที่จะคุยกับเขา” มือใหญ่ประคองใบหน้าอ่อนใสไว้ “ถ้าพองไม่ติดยา และคิดว่าเรื่องของแม่กับพี่เพชรมีความสำคัญเป็นลำดับที่ 1 ข้าวพองก็ต้องรักษาสัญญาให้ได้”
“พองแค่ไม่อยากอยู่คนเดียว”
...เหมือนมีเหตุผลหลายอย่างที่อยู่เบื้องหลัง การที่ข้าวพองไม่อยากอยู่คนเดียว...
“พองไว้ใจพี่ไหม”
ข้าวพองกัดริมฝีปากขณะที่ส่ายหน้า
“ทำไม”
“เดี๋ยวเกียก็ไป”
เกียมองดวงตากลม ที่ยังมีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งบอกถึงยาเสพติดที่ข้าวพองใช้ ต้องพาเข้าบ้านชวนคุยพลางให้ดื่มน้ำแก้วใหญ่ แล้วพาไปอาบน้ำ ฟังเพลงจนเวลาผ่านไปเกือบ 5 ทุ่มความสับสนลังเลของข้าวพองถึงได้คลายลง
หนุ่มตัวเล็กหยิบซองยามาส่งให้เกียที่นั่งอยู่บนเตียง
ยาผงสีขาวที่ดูเหมือนผงแป้งทั่วไป....ลักษณะอาการขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้
“มีแค่นี้แหละ”  ข้าวพองบอกแล้วเอนตัวพิงอกของเกีย มองมือตัวเอง “ขอโทษที่ไม่เคยรักษาสัญญาได้เลยสักครั้ง”
เกียก้มลงหอมผมนิ่ม
“ข้าวพองต้องรักตัวเองให้มากกว่านี้” เกียพูดเหมือนเดิม “ถ้าข้าวพองมีปัญหา ก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหา ยาเสพติดแก้ปัญหาให้ข้าวพองไม่ได้หรอก”
ข้าวพองหันมามองหน้าคนตัวโต
“พองทำให้เกียผิดหวังใช่มั้ย”
“นิดหน่อย” เกียยอมรับด้วยรอยยิ้ม “ข้าวพองขอให้พี่ตามคดีของแม่ พี่ก็คิดว่าเป็นคนที่ข้าวพองไว้ใจ”
“พองไว้ใจ แต่มันคนละเรื่องกับการจะออกไปข้างนอกกับไอรีน หรือการใช้ยา”
เกียฟังข้าวพองที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มเรื่องที่ตรงไหน ได้แต่เล่าข้ามไปข้ามมา
เท่าที่สรุปได้ก็คือ เมื่อไอรีนกับยาเสพติดมีความเกี่ยวพันกัน ทำให้ในเวลาที่ข้าวพองคิดเรื่องของไอรีนมันก็ชักนำไปสู่การใช้ยาแบบที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ
ไม่ใช่ติดยา แต่เพราะไอรีนคือยาเสพติด..

“คุยกับป๋อม ป๋อมบอกว่า ให้คุยกับเกียตามตรง ก็กลับมาคิดว่าจะบอกกับเกียยังไงดี ไม่อยากให้โกรธจนไม่ทำเรื่องแม่ต่อ รู้ตัวอีกทีมือมันก็หยิบซองยาออกมา ทั้งที่ไม่ได้ใช้มาตั้งนานแล้ว” ข้าวพองสารภาพ “อย่าถามได้มั้ยว่าทำไม เพราะมันไม่มีเหตุผล”
“เพราะทุกครั้งที่ข้าวพองอยู่กับไอรีนจะมียาเสพติดอยู่ด้วยทุกครั้ง” เกียตอบ “ไอรีนกับซองยานั่นเป็นตัวแทนของกันและกัน”
“ทำไมเกียต้องวิเคราะห์ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลตลอดเวลา”
“เพราะมันเป็นอย่างนั้น” เกียบอก ขณะที่ข้าวพองพลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมตักแล้วทิ้งตัวกอดเอวหนาไว้ “ทุกครั้งที่ข้าวพองออกไปเที่ยวจะต้องใช้ยา และการที่เราจะทำหรือไม่ทำอะไร ส่วนใหญ่มันเกิดจากความคุ้นเคย”
ข้าวพองคิดตามแล้วพยักหน้า “มันถือว่าติดหรือเปล่า”
“เราจะเรียกมันว่าความเคยชิน” เกียเลือกคำกลางๆ ที่ทำให้ข้าวพองยิ้มได้ “ถ้าเราไม่นับหนึ่งด้วยการออกไปเที่ยว ก็จะไม่มีข้อ 2 คือการใช้ยา”
“งั้นเรื่องไอรีนทำไง”
“พี่ก็จะถามพองเหมือนเดิมว่าอยากไปมั้ย”
“พองไม่อยากอยู่คนเดียว แต่มันคือวันพักของเกียใช่มั้ย เกียอาจไปพักผ่อน หรือตามเรื่องแม่ให้พอง”

ประโยคที่บ่งบอกความสับสนของข้าวพองกลับมาอีกครั้งจนเกียต้องแตะปลายนิ้วที่ริมฝีปากบาง
“ช้าลงอีกนิดครับ” ดวงตากลมโตมองมา ดูอ่อนเพลียเพราะเวลาเข้าใกล้เที่ยงคืน แต่เจ้าตัวกำลังต้องการคำตอบ “เรื่องระเบียบเวลาทำงานที่คุณเพียงกำหนดไว้มันก็ส่วนหนึ่ง แต่พี่ก็มักจะทำในสิ่งที่พี่อยากทำเหมือนกัน อย่างเรื่องที่ข้าวพองขอให้ทำเรื่องแม่นั่นก็เพราะพี่อยากทำ ดังนั้นถ้าข้าวพองอยากให้พี่อยู่ในคืนวันเสาร์พี่อยู่ก็ได้ เพราะพี่สามารถติดตามเรื่องแม่กับคุณเพชรได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว”
“ตอนที่เกียออกไปข้างนอกตอนกลางคืนน่ะหรือ”
“ตอนที่ข้าวพองอยู่โรงเรียน ตอนที่หลับไปแล้ว ตอนไหนพี่ก็ทำงานได้ทั้งนั้น และเวลาที่มีกำลังคุยกับข้าวพองอยู่ตอนนี้พี่ก็ถือเป็นเวลาพักผ่อน ไม่ใช่เวลาทำงาน” เกียยิ้มที่มุมปาก
ข้าวพองเกาหน้าผากตัวเองแล้วส่ายหน้าช้าๆ “หลายวันมานี้ ไม่รู้พองเป็นอะไร บางทีมันก็มึนๆ งงๆ บางทีมันก็เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาปนกันมั่วไปหมด เรื่องที่ไม่เคยคิดก็คิด เรื่องที่ไม่เคยกลัวก็กลับมากลัว บ้าบอฟุ้งซ่าน”
เกียเหลือบตามองซองยาสีขาว ที่วางอยู่ข้างๆ
นอกจากยาที่ไอรีนให้มา ยังมีอีกคน.....

“ก็ข้าวพองเป็นวัยรุ่น ทั้งเคยมีอิสระ จู่ๆ พี่มากำหนดตารางเวลาให้ทำนั่นนี่ แล้วก็มาคอยบอกให้ระวังตัว ก็เลยติดเชื้อระแวงไปมั้ง”
ข้าวพองเอียงคอมองสบตาสีเข้ม
“แล้วทำไง”
“ขั้นแรกพาไอรีนมาเที่ยวบ้านก่อน พี่อยากคุยกับเขา ส่วนเรื่องที่โรงเรียน.....”
“โรงเรียนทำไม” ข้าวพองถามทันที
“เรื่องที่โรงเรียนเป็นเรื่องที่ข้าวพองจะต้องระมัดระวังตัวเอง ไม่ไปยุ่งกับคนที่ใช้ หรือขายยา”
“แต่เกียไม่ห้ามพองคุยกับเบซซี่”
“ไม่หรอก เบซซี่ก็เหมือนข้าวพองที่ใช้ยาตอนไปเที่ยว ไม่ได้ติดแล้วก็ไม่ใช่คนขาย แต่ไว้พี่คุยกับเบซซี่ทีหลังได้”
ข้าวพองทิ้งตัวลงนอนซุกอกหนา ทำท่าเหมือนจะหลับ
“พองเป็นแบบนี้เพราะยาที่พองใช้ใช่มั้ย”
“ครับ”
“ขนาดใช้ไม่เยอะยังเพี้ยนได้ขนาดนี้”
เกียมองคนที่นั่งกอดอยู่
.....ไอ้ที่เจตนาเสพมันก็ส่วนหนึ่ง แต่ยังมีคนที่เจตนา –หยอด- ให้อีก ทำให้ข้าวพองกลายเป็นแบบนี้ ......

“ถ้าอยากไปเที่ยว สอบเสร็จเราไปเที่ยวกัน”
“ไปบ้านเกียที่ภูเก็ต”
“ครับ ไปบ้านพี่ที่ภูเก็ต จะแนะนำพี่ชายพี่สาวให้รู้จัก”
“สวยมั้ย”
“เขาแต่งงานแล้ว ลูกเพิ่งได้ขวบกว่าๆ ”
“โหย...” ข้าวพองทำเสียงผิดหวังจนเกียต้องดึงจมูกดื้อรั้น
“เจ้าชู้นะเนี่ย”
“แล้วเกียล่ะ”
“พี่ทำไม”
“เกียเจ้าชู้มั้ย”
เกียหัวเราะหึหึ “ผมไม่เจ้าชู้ รักแล้วก็รักเลย แล้วก็เลยโดนทิ้งตลอด”
“แบบนี้มันแปลว่า รักคนรักคนแรกคนเดียวรู้มั้ย”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“ก็..รักแล้วรักเลยไง มันแปลว่ามีรักเพียงครั้งเดียว คนอื่นๆ ไม่ใช่รัก”
“งั้นพี่ควรจะพูดว่ายังไง” หนุ่มลูกครึ่งเริ่มสับสนกับภาษาไทย “เพราะเวลาที่พี่รักใครสักคน พี่จะมองแต่เขาเพียงคนเดียว ทุ่มเทให้เขาเพียงคนเดียว ไม่เหลือใจให้ใครได้อีก”
“แล้วเคยเป็นแบบนี้มาแล้วกี่ครั้ง”
“2”
คนที่กำลังจะหลับ ขยับตัวตรงมองหน้า “คนแรกคือใคร”
“เป็นเพื่อนของน้องสาวที่อังกฤษ”
“แล้วทำไมถึงเลิกกัน”
“เพราะพี่ไปวุ่นวายกับเขา อยากให้ตั้งใจเรียน ไม่ไปยุ่งกับพวกคนไม่ดี”
“เขาก็เลยทิ้งละสิ”
“นั่นแหละ” เกียยอมรับด้วยรอยยิ้ม
“แล้วยิ้มทำไม คนโดนทิ้งยังยิ้มได้ไง” ข้าวพองจิ้มที่แก้มที่ยังยิ้มค้าง
“ก็มันตั้งนานแล้ว แล้วหลังจากนั้นเห็นเขามีความสุขมากกว่าตอนที่คบกัน”
“แล้วเกียล่ะ”
“ก็ไปเที่ยว แล้วก็ผ่านไปเรื่อยๆ”

เกียนึกถึงคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ที่เป็นเหมือนคนที่เดินสวนกันบนเส้นทางหลายปีของชีวิต แบบที่บรรดาเพื่อนร่วมงานในอังกฤษบอกว่าเกียไม่เคยมีโชคเรื่องความรัก
...ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เพราะไม่มีความรู้สึกว่ารักและอยากรักษาไว้...

“อ้าว แล้วคนที่ 2 ล่ะ”
“คนที่ 2 อยู่ตรงนี้” ดวงตาสีเข้มของเกียหวานเชื่อมจนข้าวพองต้องหลบตา “เวลาที่มีเขาอยู่ในอ้อมแขนแบบนี้ เขาไม่มีลำดับหมายเลข เพราะเขาเป็นเพียงคนเดียวในเวลาปัจจุบัน”
ข้าวพองอยากแซวว่าเกียเริ่มกลับไปพูดคำไทยในประโยคแบบอังกฤษอีกแล้ว แต่ก็กลับรู้สึกเก้อเขินจนได้แต่ก้มหน้ามองคอเสื้อของเกีย
“รักคนนี้เหนื่อยมากเลยนะ”
“ไม่หรอก การได้ทำเพื่อคนที่เรารักไม่มีคำว่าเหนื่อย อาจผิดหวังที่เขาไม่ไว้ใจ แต่ไม่เหนื่อยเด็ดขาด”
ข้าวพองทิ้งตัวลงกอดเอวหนา ซุกหน้าลงกับอกกว้างอีกครั้ง
“ป๋อมมันเป็นคนดีนะ ไม่ชอบป๋อมหรือ”
เกียส่ายหน้า
“ขอบคุณ ถึงตอนนี้พองจะไม่ได้รักเกีย แต่ก็จะไม่ทำให้เกียผิดหวัง”
เกียกอดกระชับคนในอ้อมแขน
“ครับ ไม่รักก็ได้ แต่ขอให้เชื่อใจพี่ ถ้ารู้สึกสับสน วุ่นวายใจให้มาหาพี่ พี่พร้อมที่จะคุยกับข้าวพองตลอดเวลา”
ข้าวพองพยักหน้าแล้วหลับตาลง ลมหายใจสม่ำเสมอที่ตามมาบอกว่าเจ้าตัวหลับไปแล้ว เกียหันไปมองนาฬิกาที่เลยผ่านเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว ค่อยพลิกตัวให้ลงนอนแล้วห่มผ้าให้

หลังจากที่เกียส่งพัสดุให้การิม รุ่นพี่จากดินแดนตะวันออกกลางก็ให้เบาะแสเพิ่มเติม
มิสเตอร์จาง ผู้มีอิทธิพลชาวฮ่องกงที่เป็นคู่คดีของเพชรแท้เป็นเพียงตัวแทนของนักสะสมเพชรอีกคนที่ต้องการเพชรนั้นมาก
“ยังมีอีกหรือครับ”
“ฮ่องกงถนัดเรียกค่าไถ่ กับยาเสพติด” การิมบอก เพื่อให้เกียต่อเรื่องเอาเอง “เป็นน้องสาวของเขา ไม่มีใครเคยเห็นตัวตนจริงๆ เพราะพี่ชายออกหน้าตลอด ที่ผ่านมาถ้าอยากได้เพชรชุดไหน เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา เจ้าชายก็เลยไม่อยากยุ่งด้วย”
การิมให้ข้อมูลอื่นๆ และสรุปท้ายให้กำลังใจ “ไม่อยากให้คาดหวังว่า คนที่ฆ่า 2 แม่ลูกจะไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ แต่เกียควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสู้กับคนที่อยู่ในเงามืด ทั้งเป็นอาชญากรสมบูรณ์แบบ ยาเสพติด ลักพาตัว และฆาตกรรม”

*-*จบตอนที่ 20*-*

อย่าๆๆๆๆ อย่าเพิ่งบอกว่ามีตัวละครเพิ่มมาอีกละ จำไม่ได้ เพราะจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร การิมมีหน้าที่แค่นี้แหละ
ชอบป๋อมเหรอ ป๋อมจะเท่มากกว่านี้อีกในตอนต่อๆ ไป ขณะที่ข้าวพองมันก็ช่าง :z3:
เป็นพระเอกเรื่องนี้ช่างน่าสงสารจริงหนอ

วันอังคารมาอีกตอนนะครับ
.น้ำชา.



ออฟไลน์ bluesky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :L2: :L2:  ซุ่มอ่านเงียบๆมานาน...ชอบทุกเรื่องของคุณไจฟ์ และน้องนัำชาค่ะ  (ลุ้นทุกเรื่อง)
  คราวนี้ไอรีน... จะเป็นแค่ไอรีนหรือจะเป็นใคร?

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนนี้อ่านเพลินยาวได้ใจ  o13

หากเป็นเกียคงทนไม่ได้  มีเด็กน่ารัก(หรา)มานั่งคร่อมกอดเอวบนที่นอนแบบนี้  :laugh:
ก็ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ยาจริงๆ หรือความตั้งใจอยากอ่อยให้อีกฝ่ายตามใจตัวเองสินะ  :katai5:

บวกเป็ด

เรื่องนี้ไม่รู้ใครหลอกใครกันแน่

 :pig4:

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อุต๊ะ !!! มาเพิ่มอีก1 รายสำหรับผู้ต้องสงสัย กำลังอ่านโคนันอยู่ปะเนี่ย 555 แต่ก็ตัดพวกซาฮาร่า ออกแล้วเหรอ4 จาก 5 คนบงการจริงๆเป็นผู้หญิงเหรอเนี่ย ใครกันยังคิดไม่ออกเลย คอยลุ้นกันต่อไป
สำหรับข้าวพอง การใช้ยาบำบัดทุกข์ไม่ดีนะจ๊ะ  เกียคงต้องเหนื่อยอีกนาน^^ ครึ่งทางแล้วสินะ  บีบหัวใจและต่อมเผือกอย่างรุนแรง อยากรู้ว่าใครเป็นฆาตกร ใบ้ให้หน่อยได้ปะ น้องที ฮี่ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
ไทนี่แอบหยอดยาให้ข้าวพองตอนอยู่ที่ ร.ร. แน่ๆเลย พองเลยแปลกๆแบบนี้

แต่ตอนนี้น่ารักจัง มุ้งมิ้งๆกัน 2 คน น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เป็นพระเอกเรื่องนี้ต้องอดทนใช่ไหมเกีย เพราะนายเอกทำตัวเป็นโดดเดี่ยวผู้น่ารัก(?) ฮ่าๆ

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ไอรีนหรือเปล่าที่เป็นน้องสาวของผู้มีอิทธิพลฮ่องกง?
ที่ข้าวพองขึ้นๆลงๆนี่เป็นเพราะแอบใช้ยามาตลอดสินะ เด็กเอ้ย!
นี่ไง ยืนยันจากน้องทีว่าป๋อมเท่+ความคิดดี เนอะ ^^
เกียจะจัดการกับไอรีนอย่างไรน่าติดตาม / รอตอนต่อไปค่ะ  :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
« ตอบ #489 เมื่อ: 18-05-2014 13:20:11 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ได้แต่เดาเรื่องไปต่างๆนานา

ออฟไลน์ eaey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
ไอรีน ไทนี่  จดไว้ก่อน

สับสนๆ  :really2:

ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
เกียคนเดียวไหวไหม เรียกโคนันมาช่วยดีป่าววว  :z10:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
อิตอนแรกอ่านไปก็อมยิ้มตามไปกับวิธีการอ่อยเบา ๆ ของข้าวพอง
ไอ้ที่ไม่อยากอยู่คนเดียว เพราะเหงา ใช่แหล่ะ. ... แต่ บางทีข้าวพองอาจจะกลัวด้วยก็ได้
เพราะงั้น...เกีย ทางออก #ย้ายไปนอนกับข้าวพองเลยเห่อะ o13

แต่อิตอนมาถึง อาชญากรรมสมบูรณ์แบบ. ยาเสพติด ลักพาตัว และฆาตกรรม
.........อิแม่!!!!!ยาเสพติด มาแล้ว  เหลือลักพาตัว กะ ฆาตกรรม  :serius2: 
ลุ้นกว่า เลขท้าย 2 ตัวเลยอ่ะ

 :pig4:  :L2: JiveTea

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ประสบการณ์อย่างนึงจากที่อ่านนิยายของคุณไจพ์กับน้องน้ำชาคือ
คนที่เราคิดว่าเป็นคนร้ายมักไม่ใช่เสมอ
ไม่เคยเดาถูกเลยสักเรื่อง 555555

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ต้องไอรีนแน่ ๆ

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
เคยชินกับกานเสพติดใกล้กันนิดเดียวนะข้าวพองจ๋า
ส่วนคนที่หยอดในร.ร.ทายว่าเป็นไทนี่ (หรือป่าวนะ :m28: )

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
รอบๆตัวข้าวพอง แทบจะยากันหมดเลย ต้องระวังมากขึ้นนะเนี่ย

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เด็กเดี๋ยวนี้เล่นยาเป็นเรื่องธรรมดาล่ะมั้ง โดยเฉพาะคนมีเงิน

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
 :z3:
ไม่เอาอ่ะ ข้าวพองต้องใจแข็งนะ
เลิกยาให้ได้ เหงาก็มาหาพี่เกีย
ทำกับข้าว ดูหนัง ล้างรถกันอย่าอึนคนเดียว
แล้วนี่ต้องเจอยกใหญ่ๆ เลยเหรอ
การิมเปิดซะกลัวเลยนะนี่
พี่เกียสู้ๆ
บวกและเป็ดรัวๆ
 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
« ตอบ #499 เมื่อ: 19-05-2014 08:09:39 »





ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
เข้ามาอ่านแต่ยังอ่านไม่ถึงตอนล่าสุดเลย
แต่เข้ามาเม้นก่อนเรื่องนี้สนุกมากๆไม่แพ้เรื่องก่อนๆเลย
มีตัวละครที่น่าสงสัยหลายตัวมากล่าสุดน่าจะเป็นไทนี่
ชอบข้าวพองและพี่เกียอ่ะ
+และเป็ดนะค่ะ

Love U All

  • บุคคลทั่วไป
โอยยยย   ข้าวพองเด็กดื้อขี้เหงา  อาการน่าเป็นห่วงอยู่นะเนี่ย
หวังว่าเมื่อเกียรู้เรื่องการใช้ยาของข้าวพองแล้ว  จะช่วยให้น้องเลิกใช้ยาได้อย่างเด็ดขาดนะ
คดีเพชรดูเหมือนจะมีเบาะแสเพิ่มอีกนิด ?  ผ่านมาครึ่งเรื่องแล้วยังเดาไม่ออกเลยว่าใครเป็นคนร้ายกันแน่
ส่วนป๋อมดูท่าจะมีบทพอสมควร  รอดูตอนป๋อมเท่  ^^

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ข้อมูลผู้ร้ายมาเพิ่มอีกแล้ว

ออฟไลน์ hibatsumoe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เปิดมาตอนแรก เกลียดข้าวพองมากเลย
แบบว่า นั่นปากเหรอลูก 555
ตามมาจากเรื่อง คอส ค่ะ  :-[
ชอบที่อ่านจบตอนนึงเราก็คิดไปไกล
คนนู้นใช่ไหม คนนี้เปล่า 555
แต่สุดท้าย ชอบตอนคนเขียนคุยด้วยที่สุดค่ะ  :o8:
มันเหมือนดูเป็นคนน่ารักมาก เขิน>////<
ตามต่อค่ะตามต่อ ชะนีแค่เพ้อ 555

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
ไอรีนจะเป็นนกต่อ หรือเป็นมากกว่านกต่อ?????.............

 :pig4: คะ


little_nok

  • บุคคลทั่วไป
ยังดีที่มาสารภาพ แต่ก็ยังต้องพึ่งยาอีกแหละ
เด็กหนอเด็ก ตอนนี้คงไม่รู้จักความรักหรอกมั้ง

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ข้อมูลคนร้ายเพิ่มมาอีกแล้ว  อ่านตอนนี้เกียอบอุ่นมากแล้ว เมื่อไหร่ข้าวพองจะรู้ใจตัวเองนี่

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
มารอเป็นกำลังใจให้พี่เกียกะน้องข้าวพอง

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
“Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
«ตอบ #508 เมื่อ20-05-2014 09:52:47 »

ตอนที่ 21

เกียนั่งจิบกาแฟร้อน พลางอ่านหนังสือเล่มเล็ก ในร้านกาแฟตรงข้ามกับสถาบันกวดวิชาที่ข้าวพองและเพื่อนกำลังเรียนอยู่
เคยถามว่าการมาเรียนพิเศษวันเสาร์-อาทิตย์ ได้อะไรกลับไปบ้าง เจ้าตัวตอบว่า ได้ย้ายสถานที่นั่งเล่น และได้กระดาษกลับมาเขียนการ์ตูนหลายแผ่น...

เรื่องตัวการ์ตูนที่ข้าวพองเขียน มีเอกลักษณ์พิเศษคือ มักจะเริ่มต้นด้วยดี ลายเส้นสวยงาม แล้วแรเงาภาพเพิ่มมิติ แต่ก็ตามมาด้วยการขีดฆ่ากาทับจนดูไม่รู้เรื่อง
ภาพที่เริ่มต้นด้วยดี แต่มีบทสรุปที่ความวุ่นวายใจอยู่เสมอ
เมื่อมารวมกับคำตอบของข้าวพองเรื่องการเรียนพิเศษ หากคิดง่ายๆ ว่าก็แค่ความสับสนของวัยรุ่น งานนี้คงไม่ตกมาถึงเกียในวันนี้

สถานการณ์ที่ข้าวพองเผชิญอยู่เป็นสิ่งที่เกียเรียนรู้จากเพื่อนผู้ร่ำรวย คนที่ไม่เคยต้องกังวลอนาคตจะเป็นอย่างไร มีเส้นทางชีวิตที่โรยไว้ด้วยดอกไม้หอม เส้นทางอ่อนนุ่ม เดินสบาย
....แต่ถูกใครหลายคนพยายามโรยหนามไว้เป็นระยะ....
ไม่อยากเชื่อเลยว่าการทำงานคุ้มครองวัยรุ่นคนหนึ่ง จะต้องพบกับเรื่องราวมากมายขนาดนี้ ที่สำคัญคือมันเป็นเรื่องที่ยิ่งค้นหากลับยิ่งพบปัญหา
แล้วครึ่งหนึ่งของปัญหา มีที่มาจากตัวของข้าวพองเอง

เกียวางหนังสือในมือลง มองหญิงสาวคนที่เดินเข้ามาในร้าน
สาวสวย ที่เหมือนเดินออกมาจากนิตยสารสักเล่ม
และสวยจัดจนมองเห็นแต่พิษร้าย
ผู้ชายจำนวนมากชอบผู้หญิงร้ายๆ เพราะดูท้าทาย ไม่ต่างจากผู้หญิงหลายคนที่ชอบผู้ชายสไตล์นักเลง

ก่อนนี้เกียกอยากให้ข้าวพอง พาไอรีนมาบ้านเพื่อพูดคุย แต่เมื่อมาคิดอีกที การนัดคุยนอกบ้าน น่าจะส่งผลดีมากกว่า
เมื่อไอรีนยิ้มหวานพลางโบกมือทักทาย เกียก็รีบบอกตัวเองให้ระวังตัว ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวแต่ละครั้งในลักษณะที่ไม่เหมือนกัน
“ข้าวพองยังไม่เลิกเรียนหรือคะ”
ไอรีนทักทายเป็นกันเอง จนไม่น่าเชื่อว่าวันก่อนยังใช้หางตามองกันอยู่
“ยังครับ” เกียตอบแล้วหันไปทางเค้าท์เตอร์ “ดื่มอะไรครับ”
“ไอรีนจัดการเองค่ะ” หญิงสาวเดินไปสั่งเครื่องดื่ม ครู่เดียวก็กลับมาพร้อมชาร้อน
ดวงตาคู่สวยภายใต้ขนตายาวเป็นแพมองกาแฟร้อนในถ้วยของเกีย “คนอังกฤษชอบดื่มชาไม่ใช่หรือคะ”
“ผู้ชายอังกฤษชอบแอลกอฮอล์มากกว่าชาครับ”
ไอรีนหัวเราะเสียงสดใส
เท่าที่ดูมาจนถึงตอนนี้ ทั้ง 2 คนไม่มีท่าทีของคนที่เคยขวางทางกันมาก่อนเลยสักนิด
หลังจากที่บทสนทนาผ่านไปครู่หนึ่ง เกียถึงได้เข้าเรื่อง
“ผมต้องขอโทษเรื่องที่ห้ามข้าวพองออกไปเที่ยวกับไอรีน”
ไอรีนยิ้มรับแล้วพูดอ่อนหวาน “ไอรีนรู้ว่า ข้าวพองไม่ชอบอยู่บ้านคนเดียว”
“ครับ เขาเป็นคนขี้เหงา” เกียบอก “ถ้าเป็นผมได้อยู่บ้านหลังใหญ่มีคนรับใช้มากมายแบบนั้น ผมจะชวนเพื่อนมาเตะบอลที่สนามหญ้า เล่นเกมกันทั้งวันทั้งคืน ทำบ้านให้เป็นสวนสนุก”
ไอรีนยิ้มสนุกตาม “ไอรีนจะนัดเพื่อนมาปาร์ตี้กัน”
“ครับ” เกียยิ้มตาม “เพราะเราเติบโตมาจากบ้านที่เต็มไปด้วยพี่น้องหลายคน มีพ่อและแม่อยู่ด้วย ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกเขาไม่อยู่ แปลว่าบ้านเป็นของเรา”
ไอรีนหุบยิ้มกว้างลงช้าๆ รู้ตัวว่าเกียต้องศึกษาประวัติส่วนตัวมาจากที่ไหนสักแห่ง ขณะที่รอฟังเกียพูดต่อ
“ไอรีนรู้จักข้าวพองเป็นอย่างดี ว่าเขาคิดอะไร และต้องการอะไร และที่ผมห้ามเขาไปเที่ยวกับไอรีน ก็เพราะไอรีนใช้ยากับเขา”

ไอรีนส่ายหน้า เมื่อเกียพูดตรงไปตรงมา อยากเถียงแต่เถียงไม่ออก
.....ผู้ชายคนนี้มีอำนาจแบบแปลกๆ ที่มันค่อยๆเพิ่มแรงกดดันฝ่ายตรงข้ามมากขึ้นทุกวินาทีที่ผ่านไป จนยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการพูดคุย จะทำเป็นสวยใสไร้มลพิษเหมือนในตอนแรกที่เดินเข้ามาในร้านนี้ ยิ่งนานก็ยิ่งยาก โดยเฉพาะการที่เขารู้ทันเรื่องการใช้ยาเสพติด และคำพูดที่บ่งบอกว่า เขาคือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องข้าวพอง ไม่ใช่คำสั่งของมโหธร....

“นอกจากเวลาที่อยู่กับไอรีนแล้ว ข้าวพองยังใช้ยาเสพติดในเวลาอื่นด้วย”
“คะ..อะ อันนั้นไอรีนไม่รู้นะคะ แล้วข้าวพองก็ไม่เคยบอก” ไอรีนพูดความจริง
“เป็นยาเสพติดที่ได้มาจากเพื่อนในโรงเรียน”

ปฏิกิริยาของไอรีนบ่งบอกว่ารู้เรื่องยาเสพติดในโรงเรียน แต่อาจไม่รู้ว่าข้าวพองได้ยาจากเพื่อนกลุ่มนั้น

“ผมห้ามเขาไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มที่ใช้ยา เขาก็ทำตามด้วยดี เหมือนกับที่เขาไม่ออกมาหาไอรีนตอนกลางคืน แต่เมื่อคืนนี้ เราคุยกันเรื่องไอรีน”
หญิงสาวแทบลืมหายใจเมื่อฟังเกียพูดต่อ
“ผมจะไม่ห้ามหากคุณจะนัดเที่ยวกับเขา แต่...จะต้องเป็นไปในแบบที่ผู้ใหญ่ปฏิบัติต่อผู้เยาว์ที่ยังมีอายุไม่ถึง 18 ปี”
ไอรีนได้แต่ทำตาปริบๆ
“เกียหมายถึง...”
“พาเขาไปในสถานที่ที่ผู้เยาว์ควรไป ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มียาเสพติด ไม่เช่นนั้นผมจะส่งไอรีนให้ตำรวจ”
ไอรีนส่ายหน้าทำท่าเหมือนจะเถียง แต่เกียพูดต่อ
“ไอรีนรู้ว่าผมทำได้ และผมก็จะทำ ต่อให้รู้ดีว่าไอรีนเป็นคนที่ข้าวพองชอบก็ตาม”
“ชอบ” หญิงสาวกระพริบตา พลางเตะที่ขมับตัวเองเบาๆ
เกียมองอาการของไอรีน ที่ทำเหมือนคำนี้เป็นคำที่อยู่เหนือความคาดหมาย
“ข้าวพองคบกับเด็กสาวอีกคนที่ชื่อเบซซี่”
“ครับ แต่เขาชอบไอรีน ไม่ดีใจหรือครับ”
“ดีใจสิคะ” ไอรีนยิ้มกว้าง “แต่ที่ดูงุนงงไปสักหน่อยก็เพราะข้าวพองน่ะ ไม่เห็นเคยพูดหรือแสดงท่าทีอะไร คือเขาก็ตามใจนะคะ ไอรีนว่ายังไงเขาก็จะตามนั้น เพียงแต่ว่าบางที...คือหมายถึงก่อนหน้าที่เกียจะมาน่ะค่ะ บางทีไปเที่ยวกันตอนกลางวัน เขาก็จะพาเด็กเบซซี่นั่นไปด้วยไปกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ อย่างกับไอรีนเป็นพี่เลี้ยงเด็กอย่างนั้น แล้วพอเกียมา เขาก็กลับนั่นไม่ได้นี่ไม่ได้ บอกตามตรงนะคะ ว่าไอรีนเกือบตัดใจไปแล้ว ก็เลยไม่คิดว่าเขาจะชอบไอรีน”

เกียฟังคำพูดของไอรีน ขณะที่มีเสียงร้องตะโกนอยู่ในสมองว่าผู้หญิงคนนี้กำลังโกหก
เธอรู้ดีว่าข้าวพองชอบเธอ และเธอไม่มีวันตัดใจ

“เขาทำอย่างนั้นเพราะผมสั่ง ทำให้เขาอึดอัดไม่สบายใจ ผมจึงต้องมาคุยกับไอรีนให้เข้าใจ ว่าคุณเพียงไม่สนับสนุนไอรีนเพราะยาเสพติด และการเที่ยวกลางคืน ถ้าไม่มี 2 ประเด็นนี้ ไอรีนกับข้าวพองจะพบกัน ไปดูหนังฟังเพลงด้วยกันได้” คนตัวโตย้ำ แม้จะมีรอยยิ้มจางๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังรู้สึกเหมือนกำลังคุยกับผู้ปกครองตัวจริงของข้าวพอง “ทำได้มั้ยครับ”
“ค่ะ”
…ถึงจะอ้างชื่อคุณเพียง แต่ฟังอย่างไร คำสั่งนี้ก็ยังเป็นคำสั่งของเกียอยู่ดี...

“ขอบคุณมาก อันที่จริงน้องสาวคนเล็กผมก็ยังวัยรุ่นอยู่นะ แต่พอมาเจอข้าวพองผมต้องโทรกลับไปปรึกษากับเขาแทบทุกวัน”
หญิงสาวหัวเราะผ่อนคลายเมื่อเกียเปลี่ยนฟอร์มจากอาจารย์ฝ่ายปกครองมาเป็นพี่ชาย

เกียจิบกาแฟชวนคุยเรื่องอื่นอีกครู่ แล้วกลับมาถามเรื่องเบซซี่
“เวลาไปเที่ยวด้วยกัน ข้าวพองพาเบซซี่ไปด้วยหรือครับ ร้ายจริง”
“ร้ายค่ะ” ไอรีนยิ้มหวาน “ถึงบอกว่า ไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่พอจะเดาได้ว่าเด็กเบซซี่นั่นคงตามตื้อ แล้วข้าวพองก็คงอายถ้าจะมีแฟนอายุมากกว่า”
“ข้าวพองบอกผมว่า เวลาอยู่กับไอรีนแล้วรู้สึกสบายใจ”
ไอรีนยิ่งมีสีหน้าภูมิใจยิ่งกว่าเดิม

“แล้วเวลาไปเที่ยวก็ไปกัน 3 คนน่ะหรือครับ”
“ไปกันหมดน่ะแหละค่ะ” ไอรีนบอกตามตรง “ถ้านัดไอรีนมารอที่เรียนพิเศษแบบนี้ เลิกเรียนมา ก็ไปกินข้าวไปดูหนังกันทุกคน”
“ทุกคน...” เกียทวนคำสุดท้าย
ไอรีนขยับตัวอธิบาย “เวลาที่เลิกเรียนเขาจะเพื่อนๆ ตามมาด้วย เพื่อนข้าวพอง เพื่อนแม่เด็กเบซซี่ ก็จะพากันยกขโยงไปด้วยทั้งกลุ่ม”

เกียรู้สึกคันๆ ในหัวใจ เพราะถ้าหากเราทำแบบนี้ มันแสดงให้เห็นว่า เราคิดกับทุกคนเป็นเพื่อนเท่านั้น
แต่เดินหน้ามาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องไปต่อ...

“ไอรีนก็เลยอยากนัดเขาไปเที่ยวกลางคืนมากกว่า”
“ก็ทำนองนั้นน่ะค่ะ เพราะถ้าไปกลางคืนก็จะเป็นเพื่อนๆ ของไอรีน ไม่เคยมีเพื่อนที่โรงเรียนของเขา ”หญิงสาวชี้ไปที่เรียนพิเศษ “เกียก็น่าจะเห็นว่า ข้าวพองน่ะเพื่อนเยอะ”

เกียพยักหน้าตาม แต่ในคำว่าเพื่อนเยอะของไอรีนนั้น ส่วนตัวของเกีย จัดหมวดหมู่ทุกคนไว้หมดแล้ว
“แล้วเพื่อนที่ว่าใช้ยานี่ยังไงกันคะ”
“เท่าที่ผมรู้ก็คือ เป็นกลุ่มที่นัดกันไปเจอที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อใช้ยา”
ไอรีนนิ่วหน้า
“เพื่อนคนละกลุ่มกันหรือคะ”
เกียพยักหน้า ขณะที่ไอรีนบอกในสิ่งที่ตรงกับใจของเกีย
“แต่เขาไม่ไว้ใจใครเลย”

ในอีกไม่ถึง 5 นาทีถัดมาข้าวพองกับหนุ่มสาวกลุ่มใหญ่เดินออกมาพร้อมๆ กัน ไอรีนก็หันมายิ้มกับเกีย
“เห็นมั้ยคะ ข้าวพองเพื่อนเยอะมาก”
“ครับ”

จากวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ ในอีก 2 ก้าวถัดมาแต่ละคนก็เริ่มแยกย้ายกันไป เหลือเบซซี่ที่เดินตามมาแล้วจับมือข้าวพองไว้ ข้างๆ คือคู่แฝดป๋อมแป๋ม กับไทนี่ ยังมีเพื่อนของเบซซี่อีก 2 คนที่ตามมาด้วย
หญิงสาวหันมาบอกับเกียอีกครั้ง “ไอรีนจะถือว่า เกียอนุญาตให้ไอรีนคบกับข้าวพองได้นะคะ”
เกียแค่ยิ้มรับ
เมื่อเข้ามาในร้าน ไอรีนก็รีบวิ่งไปแทรกระหว่างข้าวพองกับเบซซี่ ด้วยการกอดแขนข้าวพองไว้ ทำให้เบซซี่หันมามองเกีย ที่พยักหน้าบอกว่าไม่เป็นไร
“ทำไมพี่สาวมาได้คะ”
“ผมมีเรื่องคุยกับไอรีนน่ะ” เกียบอก แล้วหันมาเก็บของ จากนั้นก็เข้ามาเดินข้างๆ เบซซี่พาทั้งหมดออกไปนอกร้าน

“ครูคะ ทำไม” เบซซี่ไม่เข้าใจ
เกียยิ้มให้กำลังใจ “เชื่อใจผมนะเบซซี่”
เด็กสาวหันไปมองข้าวพอง แล้วหันไปชวนเพื่อนของตัวเองไปเดินเล่นทางอื่น
“แล้วเจอกันวันจันทร์นะคะ”
เบซซี่ลาเกียแล้วพาเพื่อนแยกตัวออกไปในทันที
แม้ไอรีนอยากจะพูดจะเยาะเย้ย แต่เพราะรู้ว่าข้าวพองไม่ชอบการกระทำแบบนั้นก็เลยได้แต่ส่งสายตาไม่หวังดีให้
 
ส่วนแป๋มที่ไม่เคยชอบสถานการณ์น้ำเน่าแบบนี้ ก็สะกิดบอกเกียว่าจะขอกลับก่อน ทำให้ป๋อมกลับไปด้วย เหลือแค่ไทนี่ ที่ยังไม่มีทีท่าว่าอยากกลับ
“กลับไปก็อยู่คนเดียว” ไทนี่บอก
“งั้นเราไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันแล้วค่อยไปศูนย์กีฬาทางน้ำ” เกียยิ้ม “วันนี้เราจะไปพายเรือแคนนูกัน”
เพราะไอรีนแต่งตัวสวยงามที่ไม่เหมาะกับการเล่นกีฬาใดๆ ทำให้ได้แต่นั่งอยู่บนฝั่ง ขณะที่ 2 หนุ่มลงไปหัดพายเรือกันอย่างสนุกสนาน
บ่ายจัดแดดแรง ข้าวพองเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย เกียแตะหลังมือที่หน้าผากแล้วพาทั้งหมดกลับบ้าน
“ผมต้องพาทุกคนกลับบ้านแล้วครับ”
“อ้าว...” ไอรีนทำหน้าตางุนงง
มาเที่ยวแบบนี้มันต่างจากการไปเที่ยวกับข้าวพองและเพื่อนๆ ก่อนหน้านี้ตรงไหน ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังสักนาทียังไม่มี....

ขณะที่ข้าวพองพูดขอโทษไอรีน
เกียเห็นว่าไทนี่กำลังยิ้มขำหญิงสาวโดยไม่ปิดบัง

และเมื่อเดินเข้าบ้าน อุบลรีบเข้ามาถามไถ่อาการ แต่เกียบอกว่ายังไม่ควรให้กินยาตอนนี้ แต่ควรให้ขึ้นไปนอนพักที่ห้องสักครู่ก่อน หากยังไม่ดีขึ้นถึงค่อยกินยา
อุบลพยักหน้ารับคำสั่งอย่างไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็เดินตามขึ้นมาจนถึงห้องนอน
“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่พองเป็นไข้เพราะอยู่กลางแดดเนี่ย”
“ใครก็เจ็บป่วยได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะคนที่ไม่ดูแลตัวเอง”
“พองไม่ดูแลตัวเองตรงไหน” น้ำเสียงห้วน ตาขวาง ทั้งที่หน้าแดงเพราะพิษไข้
“นอนดึก และ....” เกียเจตนาพูดไม่จบประโยค
หนุ่มตัวเล็กทำท่าฮึดฮัด แล้วไล่ให้ออกไปจากห้องนอน
“ให้อุบลอยู่เป็นเพื่อนมั้ยคะ”
“พองไม่ใช่เด็ก 3 ขวบนะ!” ข้าวพองหันไปเหวี่ยงอุบล
“ข้าวพอง” เกียดุเรียบๆ
หนุ่มตัวเล็กแก้ไขสถานการณ์ด้วยการเดินเข้าห้องน้ำ “ไม่ต้อง เราจะอาบน้ำแล้วนอน”
เกียพยักหน้าเรียกอุบลออกมานอกห้อง
“วันนี้อารมณ์ไม่ดีอีกแล้ว” อุบลยิ้มเจื่อน
“ยังไงเตรียมยากับข้าวต้ม หรือแกงจืดไว้ให้ข้าวพองก่อนนะครับ แต่เท่าที่เห็นจากตอนนี้ คาดว่าตื่นมาก็น่าจะดื้อได้เหมือนเดิม”
“ค่ะ” อุบลรับคำสั่ง “ยังไงครูอย่าเพิ่งถอดใจลาออกไปนะคะ”
“ไม่หรอกครับ” เกียให้คำมั่น
พออุบลเดินกลับลงไปที่ชั้นล่าง เกียก็กลับเข้าไปในห้องนอนของข้าวพองอีกครั้ง
เกียมองคนที่ทำหน้าหงิกออกมาจากห้องน้ำแล้วต้องยิ้มขำ
“แค่นี้ก็โกรธ”
“เออ เกียชอบพูดย้ำ” ข้าวพองทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง “ไปดิ พองจะนอนไง”
“จะรอให้หลับก่อน”
“เว่อร์ไปมั้ยน่ะ”
“ไม่หรอก เขาเรียกว่ารู้ทันต่างหาก”
“โหย.....” หนุ่มตัวเล็กลากเสียง “ปวดหัวอย่างนี้ ไม่อ่านการ์ตูนหรอกน่า”
เกียยังคงยิ้ม ขณะที่เดินเข้าไปดันไหล่ให้ข้าวพองล้มตัวลงนอน แล้วห่มผ้าให้
“พี่ก็แค่อยากให้แน่ใจว่าข้าวพองไม่เป็นอะไรมาก”
ยังไม่หลับตาตามคำสั่ง ข้าวพองก็นึกบางเรื่องขึ้นได้ “แล้วเรื่องไอรีนกับเบซซี่ จะทำยังไง”
“แล้วแต่ข้าวพองสิครับ” เกียแนะนำ ขณะที่นั่งลงบนเตียง “ข้าวพองชอบคนไหนก็คนนั้น แล้วคุยกับอีกคนให้เข้าใจ ไม่ควรคบไว้ 2 คนแบบนี้”
หนุ่มตัวเล็กกลอกตา กระตุกมุมปาก ท่าทางคิดหนัก
“ข้าวพองชอบคนไหนครับ”
“พองเคยบอกเกียไปแล้ว ว่าเวลาที่อยู่กับไอรีนพองสบายใจมากกว่า แต่เมื่อบ่ายตอนที่เบซซี่เสียใจที่เห็นไอรีน แล้วแยกไปกับเพื่อนแบบนั้น พองรู้สึกไม่ดีเลย”
“เจ้าชู้ไม่ใช่น้อยนะเนี่ย” เกียบีบจมูกคนที่กำลังนอนอยู่เบาๆ
“แล้วเกียล่ะ เห็นพองอยู่กับเบซซี่ กับไอรีน แล้วเกียคิดยังไง”
“ก็...รู้สึกแบบที่คนอกหักควรจะรู้สึก แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ชินไปเอง”
ข้าวพองพลิกตัวนอนหันหลังให้ แต่ยังลืมตาอยู่
“เลือกไม่ถูกหรือครับ”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก” ข้าวพองบอก “ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะทุกคนน่ะแหละ รู้ทุกอย่างแต่ก็อ้างเหตุผลเพื่อที่จะทำให้ตัวเองดูดีด้วยการไม่ทิ้งพอง แล้วพองก็ไม่ได้ภูมิใจเลยสักนิดที่ทุกคนทำแบบนี้”
“หือ” เกียทำเสียงในลำคอ “อธิบายได้มั้ยครับ”
…อ้างเหตุผลเพื่อให้ตัวเองดูดีเนี่ยนะ...
ข้าวพองลุกขึ้นนั่ง
“พองคิดว่าทั้ง 3 คนไม่ได้รักพองในแบบคนรัก อย่างที่ชอบพูดกัน แต่ที่ไม่ทิ้งพอง เพราะพองเป็นคนที่น่าเวทนา ถ้าปล่อยไว้คนเดียวมันต้องไม่มีชีวิตรอดเกิน 1 วันต่างหาก!”

*-*-*จบตอนที่ 21*-*-*
ตอนต่อไป มาวันพฤหัสฯ นะครับ

.น้ำชา.


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-05-2014 12:12:54 โดย jivetea »

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า"ข้าวพอง"นี่เข้าใจยากเหมือนกันแฮะ :mew2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด