พิมพ์หน้านี้ - “Someday We'll Know”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-04-2014 07:00:42

หัวข้อ: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-04-2014 07:00:42
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
*-*-*

(ต่อ)...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-04-2014 07:02:14

“Someday We'll Know”

ตอนที่ 1


เสื้อคลุมตัวหนาเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อต้องอุ้มน้ำจากเม็ดฝนที่ตกพรำลงมาจนเสื้อเปียกชุ่ม
จากจุดหัวมุมของตรอกแคบที่เกียยืนอยู่อาจช่วยพรางตาจากเป้าหมายในร้านอาหารฝั่งตรงข้ามได้ แต่มันไม่ได้ช่วยบรรเทาความเปียกและเย็นแบบลอนดอนได้เลย
เสียงสัญญาณวิทยุในหูดังครืดคราด เมื่อโบรนี่หัวหน้าหน่วยทบทวนตำแหน่งของแต่ละคนเป็นครั้งที่ 10 ของวันนี้ ชายวัยกลางคนอยู่ในรถซักรีด ที่ดัดแปลงเป็นศูนย์บัญชาการย่อย โดยมีจอร์จกับแมรี่อยู่ในรถด้วย แล้วตอนนี้แมรี่ก็กำลังส่งกาแฟอุ่นๆ ให้
ส่วนคนข้างนอกได้แต่รอ.....ท่ามกลางความเปียกชุ่มและเย็นจับจิต!

รถซิตี้คาร์สีเขียวมะนาวคันเล็กแล่นผ่าน

“นั่นคือรถสีเขียวไม่ใช่สีดำ หวังว่าจะไม่มีใครตาบอดสีไล่ตามมันหรอกนะ” เสียงของดอนเพื่อนร่วมทีมในคราบของคนจรจัดหน้าร้านสะดวกซื้อแซวขึ้น ทำให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นพากันอมยิ้มขณะที่เบนสายตากลับมาที่เดิม
“อย่ามาตลกไม่รู้เวลา ดอน” โบรนี่หัวหน้าชุดเตือน พลางจิบกาแฟอุ่น
เสียงซดกาแฟดังโฮกชัดเจน จนบ๊อบนายตำรวจพุงโตอดปากไว้ไม่ได้ “กาแฟรสดีมั้ยหัวหน้า”
   จอร์จหันไปแอบกลั้นหัวเราะทางอื่น เมื่อโบรนี่ทำเสียงแปลกๆ อยู่ในลำคอ
“เออ เสร็จงานนี้จะเลี้ยงกาแฟคนละแก้ว”
“ขอเป็นบาร์โอเวอร์ไทม์ที่เพิ่งเปิดใหม่ได้มั้ย” แจ็กกี้ที่เงียบฟังจากแผงขายดอกไม้รีบเสนอความเห็น
“แพงไป เงินเดือนเท่าขี้ฝุ่น จะให้กูเลี้ยงโอเวอร์ไทม์เนี่ยนะ F**k!”

การพูดเล่นขณะที่เฝ้าระวังเป้าหมายแบบนี้มันผิดกฏระเบียบชัดๆ แต่โบรนี่หัวหน้าทีมก็มักจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นำขบวนลูกน้องพูดเล่นกันเสมอ ด้วยความเห็นแหวกแนวส่วนตัวที่ว่า การวางท่าทางคร่ำเคร่ง ทำเป็นยืนอ่านหนังสือ หรือทำอะไรสักอย่าง ขณะที่คอยหันไปมองเป้าหมายแบบนั้นน่ะ ร้อยทั้งร้อย เป้าหมายจะรู้ตัว
ดังนั้นทีมนอกเครื่องแบบของโบรนี่ จึงมักมีการคุยเล่นกันในระหว่างเฝ้าระวังอยู่เสมอ

...แล้วมันต่างกับคนที่มันคุยกับสมอลทอล์กตรงไหน ...โบรนี่ว่างั้นนะ

รถยุโรปสีดำ 3 คันเข้ามาจอดเทียบที่หน้าร้านฝั่งตรงข้าม เสียงพูดคุยหยุดลง
สายจากในร้านอาหารให้สัญญาณชี้เป้าหมาย ด้วยการยกมือปัดฝุ่นที่ไหล่ แล้วกางร่มเดินออกมาต้อนรับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่เข้าไปในร้าน
“แม่ม มากันเป็นร้อย กูมีคนเท่าตูดมด” โบรนี่บ่นพึม

บ๊อบนายตำรวจพุงใหญ่ที่ประตูด้านหลังร้าน ขยับไปหาที่นั่งใหม่ใกล้ถังขยะหลังร้าน พลางอธิษฐานว่าอย่าให้เป้าหมายออกมาทางนี้เลย ให้พวกมันโผล่ออกไปทางไหนก็ได้ อย่าเป็นทางนี้ก็แล้วกัน ทั้งเหม็นเน่า ทั้งสกปรก
แต่คำอธิษฐานของบ๊อบไม่สำเร็จ เมื่อสายในร้านส่งสัญญาณอีกครั้งด้วยการเดินออกมาหน้าร้าน แล้วทำทีเช็ดคราบสกปรกประตู

“S**t มันไปทางบ๊อบ” โบรนี่บอก
“เห็นรถมารอตรงปากซอยแล้ว มันเข้ามาไม่ได้เพราะถังขยะกับทางแคบ” บ๊อบขานตำแหน่งและเตรียมพร้อม
เกียขยับตัวออกจากที่ซ่อน ขยับฮู้ดคลุมศีรษะวิ่งข้ามถนนตรงไปอีกแยก แล้วอ้อมไปทางด้านหลังร้านที่เป้าหมายเข้าไป ส่วนดอนลุกจากตำแหน่งตัวเอง อ้อมไปอีกฝั่งถนน เตรียมพร้อมจากจุดตรงข้ามกับปากซอยที่รถมารออยู่
ที่ด้านหน้าจึงเหลือเพียงรถซักรีดของโบรนี่ จอร์จกับแมรี่ และแจ็กกี้ที่ร้านขายดอกไม้
4 คนด้านหน้าร้าน กับ 3 คนหลังร้าน
นี่มันตรงกันข้ามกับจุดที่พากันไปดักไว้อย่างสิ้นเชิง ได้ยินเสียงโบรนี่ด่าที่มีกำลังคนเพียงหยิบมือในวันที่ต้องตามประกบอันโตนิโอเป้าหมายคนสำคัญในคดีค้ามนุษย์

เห็นรถหรูคันใหญ่มาจอดรออยู่ แต่เกียจะต้องทำเป็นวิ่งผ่านไป เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย
“มีรถตู้คันเดียวข้างหลัง”
“งั้นแจ็กกี้ระวังด้านหน้าเหมือนเดิม มันไปไหนตามไปด้วย” โบรนี่สั่ง เพราะเป้าหมายอาจแบ่งกลุ่มกันเดินทางกลับ

ห่างจากเกียไปทางด้านหลังประมาณ 10 ก้าว ชายผิวสีหัวเกรียนเดินเนิบๆ ตามมา เกียเห็นความผิดปกติแล้ว แต่เพื่อไม่ให้ตัวเองผิดปกติตามไปด้วย ต้องแจ้งให้กลุ่มเฝ้าระวังรับรู้ไว้ก่อน
“โบรนี่ด้านหลังผมมีช็อกโก้”
“เออ ดูอยู่”

แมรี่เข้าประจำที่ควบคุมอุปกรณ์แทนจอร์จที่อยู่ในชุดพนักงานซักรีด และกำลังเดินตามหนุ่มช็อกโก้ไป
เกียหยิบกระดาษแผ่นเล็กจากกระเป๋าทำทีมองซ้ายมองขวา เหมือนกำลังหาสถานที่ตามที่เขียนไว้ในกระดาษ เห็นจอร์จเลี้ยวมาจากหัวมุมถนนแล้ว
พร้อมๆ กับที่อันโตนิโอ- เป้าหมายในชุดสูทสีเข้ม ผมเรียบแปร้มันวับ เดินออกมาจากหลังร้านรายล้อมด้วยชายฉกรรจ์อีก 3 คน
“ออกมา 4” บ๊อบขานจำนวน

....อีกไม่ถึง 5 ก้าวจะถึงรถที่จอดรอ
เจ้าช็อกโก้ที่เดินผ่านรถไปแล้ว กลับหันมาพร้อมกับปืนแล้วยิงใส่กลุ่มคนที่เดินเข้ามาใกล้ทันที
   เป็นการกราดยิงไปยังกลุ่มเป้าหมายชนิดที่ต้องการสร้างความเสียหายให้มากที่สุด
   จากกระสุนนัดแรกของช็อกโก้ กลายเป็นสัญญาณของการตอบโต้และห่ากระสุนอีกหลายนัดตามมา แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายไม่ได้มากันแค่ 4 คนและฝ่ายของช็อคโก้ก็ไม่ได้มีแค่มันเพียงคนเดียว
   เกียเห็นไอ้คนที่กางร่มให้อันโตนิโอคว้าของบางอย่างจากมือของเจ้านาย แล้ววิ่งย้อนกลับเข้าไปในตรอก ซึ่งเป็นทางที่บ๊อบซุ่มอยู่
    “บ๊อบ ไอ้เหลียงเอาของไป กำลังตาม”
   ต้องวิ่งผ่านร้านค้าใกล้เคียงแล้วออกทางด้านหลัง เห็นบ๊อบวิ่งไล่ตามไอ้เหลียงคนสนิทของเป้าหมายไป เกียวิ่งแซงเพื่อนแล้วกระโดดเข้าหา กระเป๋าใบเล็กหลุดจากมือ เหลียงหันมายิงพร้อมกับที่เกียยิงสวนไปในระยะประชิด

....โลกทั้งใบดับวูบ....

   เมื่อลืมตาตื่นที่โรงพยาบาลตั้งแต่ไหล่จนถึงปลายนิ้วด้านซ้ายไร้ความรู้สึก

   และเมื่อการผ่าตัดผ่านพ้น การทำกายภาพบำบัดมีความคืบหน้าไปในทางที่ดี โบรนี่ก็เอาแฟ้มสีขาวมายื่นให้ถึงที่บ้านพัก
   “อยากกลับบ้านไหมไอ้ลูกชาย”
   คนตัวโตผมสกินเฮดถอนหายใจหนักๆ “คิดแล้วเชียว”
   “มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอกน่า” ชายวัย 40 เศษชี้ไปที่แฟ้มแล้วนั่งลงข้างๆ “อ่านเสียก่อน”
   เกียจะใช้มือขวาเปิดแฟ้มด้วยความเคยชิน แต่เปลี่ยนใจใช้มือซ้ายที่ยังใช้งานไม่ค่อยถนัด ทำให้ดูเก้งก้างจนหัวหน้าสงสัย
“จะบังคับตัวเองมากไปหรือเปล่า”
“หมอสั่งให้ผมใช้งานมันมากๆ จะได้คล่องขึ้น”
โบรนี่ยักไหล่
   ภาพหนุ่มวัยรุ่นยิ้มสดใส สะดุดตาแต่แรกเห็น
โบรนี่ยังคงใช้แค่หางตาเหลือบมองมือใหญ่ที่จับภาพ ก็ทั้งยิ้มทั้งพยักหน้าด้วยความมั่นใจ “ไม่มีใครรู้ใจมึงเท่ากูอีกแล้วไอ้ลูกชาย”
   เกียส่ายหน้าขำๆ หัวหน้าคนนี้รู้ทุกเรื่องของลูกน้องทุกคน แม้แต่ในเรื่อง “ห้ามถามห้ามบอก” ทำให้บรรดาหัวหน้ากลุ่มอื่น ไปจนถึงผู้อำนวยการหน่วยไม่ค่อยชอบใจนัก เพราะมันทำให้สายการบังคับบัญชาแปรปรวน
   “แล้วมันเกี่ยวอะไร”
   “บอกว่าให้อ่านก่อน” โบรนี่เร่ง แต่ดูท่าเกียจะออกอาการดื้อ ไม่ยอมอ่านรายงาน กลับจ้องมองแต่ภาพเด็กหนุ่มในมือ
   โบรนี่หัวเราะหึหะก่อนเล่า “มลรัฐ หรือข้าวพอง” ชายชาวอังกฤษออกเสียงชื่อภาษาไทยแปลกแปร่ง “ลูกชายคนเล็กของอัคราเจ้าพ่ออสังหาฯ ของเมืองไทย พี่ชายคือมโหธร หรือเพียง รับช่วงงานพ่อ แม่ชื่อพวงเพชร กับพี่สาวคือเพชรแท้ หรือเพชร ทั้งคู่ถูกเก็บเพราะเพชร เหมือนชื่อของพวกเธอ”
   “รู้ภาษาไทยเยอะนะ” เกียแซว พลิกเปิดแฟ้มรายงานการเสียชีวิตของเพชรแท้
   “นิดหน่อย” โบรนี่ยักไหล่แบบหยิ่งๆ “กะว่าจะไว้ใช้เวลาตามมึงกลับไปบ้านที่เมืองไทย”

   เกียกวาดตาอ่านรายงาน คดีของเพชรแท้ ที่สานต่อกิจการร้านเพชรจากพวงเพชรผู้เป็นแม่ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านไชน่าทาวน์ของเมืองไทย
   ดูผิวเผินไม่มีอะไร แต่ชนวนเหตุของการสังหารคือการที่เพชรแท้จัดส่งเพชรชุดหนึ่งราคา 5 แสนดอลลาร์สหรัฐให้กับพ่อค้าฮ่องกง แต่ฝ่ายพ่อค้าฮ่องกงเชื่อว่ามันคือของปลอม หลังการพิสูจน์และสู้คดีในทางศาล ย้ำว่าของที่เพชรแท้ส่งไปให้ไม่ใช่ชุดที่พ่อค้าฮ่องกงต้องการ แต่มีมูลค่าเท่ากัน และเพชรแท้ปฏิเสธการเปลี่ยนของ อ้างว่าไม่มี แต่จะคืนเงินให้
   เรื่องทางชั้นศาลยุติลงเมื่อฝ่ายหนึ่งคืนเงิน อีกฝ่ายคืนของ
   แต่ 3 วันหลังจากนั้นเพชรแท้ก็ถูกยิงตาย

   มโหธรผู้เป็นพี่ชายคนโตปิดร้านเพชร ย้ายของทั้งหมดไปฝากธนาคาร แล้วจัดจำหน่ายเหมือนกับเป็นสินค้าขายตรงเท่านั้น ขณะที่ติดต่อแอนดรูว์เพื่อนเก่าจากแวดวงผู้พิทักษ์กฎหมายจากต่างแดน เพื่อว่าจ้าง “ครูสอนพิเศษ” ให้กับน้องชาย โดยมีเงื่อนไขคือ “ครูสอนพิเศษ” จะต้องมีเชื้อสายเอเชีย และทำงานแบบมืออาชีพในการให้ความคุ้มครองน้องชาย....

พูดง่ายๆ ก็คือ มโหธรต้องการคนคุ้มครองน้องชายมากกว่าครูสอนพิเศษ

   “แอนดรูว์ สกอตแลนด์ยาร์ดเป็นเพื่อนกับมโหธร มันรู้ทุกเรื่องของเรื่องนี้ ถ้ามึงรับงานพรุ่งนี้มันจะมาคุยด้วย”
   “น้องชายคนเล็กต้องรู้เรื่องเพชรที่พวกมันต้องการ” เกียดึงรูปออกมา แล้วปิดแฟ้มรายงานคดี
   โบรนี่เห็นด้วย “ข้อความที่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการก็คือ นายอัครา และนายมโหธร ไม่ต้องการให้มลรัฐคนนี้ต้องพบเจอกับเหตุร้ายในทุกกรณี” หัวหน้างานโอบไหล่หนาของลูกน้องไว้ “ถือเสียว่าไปทำกายภาพบำบัด แล้วกลับมาลอนดอนใหม่อย่างราชสีห์”
   เกียมองมือข้างซ้ายของตัวเอง แต่โบรนี่รีบพูดขึ้นเสียก่อน
   “มึงอาจไม่มั่นใจ แต่ที่จริงความสามารถของมึงไม่ได้ลดลงเลยสักนิด ไอ้ลูกชาย” หัวหน้าให้กำลังใจ “งานนี้สำคัญมาก ค่าตัวของเด็กคนนี้เท่ากับเพชรเจ้าปัญหาคือ 5 แสนดอลลาร์ยูเอสเชียวนะ จบงานมึงก็กลับมาลอนดอน มาทดสอบร่างกายอีกครั้ง แล้วค่อยมาวิ่งไล่จับคนร้ายด้วยกัน”
   เกียส่ายหน้าให้กับความซับซ้อนของงานที่หัวหน้ามอบให้ และความพยายามที่จะพูดว่า งานนี้สำคัญมากและไม่สำคัญเลยในเวลาเดียวกัน
“กว่าจะแย่งงานมาได้ ต้องเจรจาเหนื่อยสินะ”
“หนักหนาสาหัสเอาการทีเดียวลูกชาย มึงไม่รู้หรอกว่า มีสายสกอตอย่างน้อย 10 คนที่พร้อมจะบินไปเมืองไทยเพื่อทำงานนี้ ตอนกูขอเมียแต่งงานยังไม่ยากเท่านี้เลย”
เกียหัวเราะขำ มองภาพถ่ายของเด็กหนุ่มอีกครั้ง “เพชรนั่นเป็นของลอนดอน และลอนดอนอยากได้คืน”
ชายหนุ่มเดาล้วนๆ
“F**k เกีย กูอุตส่าห์ไม่พูด”

ก็ถ้ามันไม่สำคัญ ไม่อยากให้ลูกน้องมีผลงานโดดเด่น โบรนี่คงไม่พยายามผลักดันลูกน้องที่ยังอยู่ในระหว่างการพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ เข้าไปทำงานนี้หรอก

“งั้นเอาใหม่ ตกลงมีคนที่อยากได้เพชรกี่คน” เกียทำท่าทางตั้งใจมาก
“เท่าที่รู้ 4”
“ฮ่องกง ลอนดอน แล้วใครอีก”
“เจ้าชายในซาฮาร่า แล้วก็ซาอุฯ แต่ยังมีญี่ปุ่นอีกรายที่เคยติดต่อกันครั้ง 2 ครั้งแล้วหายไป”
เกียผิวปากหวือ “ทำไมมโหธรไม่ขายคืนลอนดอน”
“ให้เป็นหน้าที่มึงไปถาม” โบรนี่โยนง่ายๆ “กูเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน เท่าที่ดูเพชรน่าจะอยู่ที่ธนาคาร แต่เรื่องที่ขอคนมาคุ้มกันน้อง มันทำให้คิดได้ว่า น้องชายอาจรู้อะไรบางอย่าง อาจเตรียมส่งของคืนแต่ก็ต้องคุ้มกันน้องด้วย เราคิดได้สารพัดอย่างแตกออกไปได้อีกอย่างน้อย 10 ประเด็น แต่ที่แน่ๆ เด็กคนนี้สำคัญมากตามคำประกาศ”
“และมีค่าตัว 5 แสนดอลลาร์ยูเอส เท่ากับราคาเพชรนั่น”
“เออนั่นแหละ ยังไงก็ติดต่อกันไว้ เพราะมึงอาจต้องเป็นคนถือเพชรนั่นกลับมาลอนดอน”
“ก็แค่นั้น พูดเสียยืดยาว”
“กูก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่” หัวหน้ายอมรับ “ทำไมมโหธรจะไม่รู้ว่าลอนดอนอยากได้คืน เพราะทั้งแม่ทั้งน้องสาวตายเพราะเพชรนั่น มันก็แค่ส่งคืนมาหาเจ้าของโดยตรง โยนของร้อนกลับมาที่นี่ก็จบ แต่ไอ้การจ้างคนไปดูน้องนี่แหละที่มันน่าสงสัย  แล้วบอดี้การ์ดมืออาชีพหาที่ไหนก็ได้ ดังนั้นหน้าที่ของเราก็คือ...”
“รีบไป” เกียต่อให้
“เออ นั่นแหละ” โบรนี่พูดคำเดิม “มึงก็ไปดูน้องชายเขาเป็นงานหลัก ส่วนเรื่องเพชรน่ะ มันแล้วแต่เขา ก็ยังกังวลอยู่ว่า ถ้ามันหายไปในระหว่างที่มึงเฝ้าอยู่ทางนั้น เขาจะโทษเราหรือเปล่า แต่กูน่ะอยากให้มึงได้พิสูจน์ตัวเอง แล้วก็กลับมาอย่างยิ่งใหญ่”
เกียพยักหน้า ขณะที่มองรูปภาพในมือ

   แอนดรูว์ สกอตแลนด์ยาร์ด และเกียอดีตตำรวจอังกฤษ มาถึงเมืองไทยพร้อมกัน ในฐานะที่แอนดรูว์เป็นทั้งเพื่อนกับมโหธร และเป็นผู้แนะนำอดีตตำรวจให้มาทำงานพิเศษ พอมาถึงเมืองไทยก็แวะพักที่คอนโดฯ ที่สำนักงานจองไว้ให้ แล้วพากันไปภูเก็ต เพราะเกียจะไปหาแม่ชาวไทยที่นั่น ส่วนแอนดรูว์ไปเที่ยว จากนั้นจึงกลับมากรุงเทพฯ แล้วไปบ้านของอัครา เพราะมลรัฐยังพักอยู่กับพ่อ ส่วนพี่ชายแยกบ้านแยกครอบครัวไปแล้ว
   บ้านหลังใหญ่ 3 ชั้นตามสมัยนิยม 4 ห้องนอน พร้อมห้องทำงาน และห้องพักผ่อนที่แบ่งสัดส่วนชัดเจน
   เดิมอยู่กัน 5 คนพ่อแม่ลูก แต่เมื่อเวลาผ่านไป มโหธรแต่งงานและแยกครอบครัว พวงเพชรผู้เป็นแม่เสียชีวิต ตามมาด้วยเพชรแท้ลูกสาวคนกลาง อัคราผู้เป็นพ่อได้รับการแนะนำให้รู้จักสตรีอีกคนก็แวะไปหาเป็นระยะ ทำให้ตอนนี้มีเพียงลูกชายคนเล็กที่อยู่บ้านนี้เพียงลำพัง

   มโหธรมารอพบทั้งคู่ตั้งแต่เช้า ทันทีที่เห็นทั้งคู่เดินเข้าบ้านมาก็รีบพยักหน้าเรียกให้ออกไปคุยที่สนามหญ้าด้านนอก แม้จะเคยคุยเรื่องงานผ่านการสนทนาทางไกลกันแล้ว หลังทักทายกับแอนดรูว์อย่างเพื่อนสนิท มโหธรก็หันมาขอโทษเกีย แล้วเข้าเรื่องงานที่ต้องทำอีกครั้ง
“ขอโทษที่เช้านี้ผมมีเวลาไม่มาก นัดประชุม 9 โมงน่ะ เดี๋ยวค่ำนี้ค่อยกลับมาคุยกันอีกที  แต่ไอ้พอง...เอ้อ...ข้าวพองลูกศิษย์คุณน่ะ มันดื้อใช้ได้ ผมเตือนให้มันระวังตัวตั้งแต่เกิดเรื่องกับแม่แล้วก็ไอ้เพชร มันก็ไม่เคยฟัง คุณรู้เรื่องของพวกเขาแล้วเพชรใช่มั้ย”
เกียพยักหน้า สีหน้าท่าทางของมโหธร บอกว่ามีความไว้วางใจอย่างชัดเจน เพราะนอกจากคำรับรองจากเพื่อนแล้ว ยังมีผลงานที่ส่งมาให้ก่อนหน้านี้ด้วย
“ผมไม่ได้อยู่บ้านนี้ แต่งงานแล้วก็แยกออกไป ไอ้เพชรมันอยู่คอนโดฯ พอไม่มีมันผมก็ขาย ไอ้ตัวเล็กโวยวายใหญ่ เพราะมันอยากไปอยู่ที่นั่นตามลำพัง ใครจะไปยอม” มโหธรทำเหมือนกำลังบ่นกับเพื่อนมากกว่าการมอบงาน “พ่อผมเขายังมีบ้านอีกหลัง ที่สร้างให้ผู้หญิงของเขา เอาเข้าบ้านไม่ได้ ไอ้ตัวเล็กมันอาละวาดกระจาย เขาก็เลยต้องไปๆ มาๆ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่นี่ บอกกับคุณตามตรง เหมือนกับที่บอกกับแอนดรูว์ไปก่อนหน้านี้ ว่าผมไม่เสี่ยงที่จะต้องเสียมันไปอีกคน คุณสอนการต่อสู้ให้มัน คุ้มครองมันจนกว่า.....” นักธุรกิจหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่นเหมือนกำลังตัดสินใจ แล้วพูดช้าๆ “จนกว่าผมจะแน่ใจ”
“ครับ”
“ฝากข้าวพองด้วย จะคิดว่ามันเป็นน้องชายอีกคน เป็นลูกศิษย์ยังไงก็ได้ แต่ช่วยดูแลมันคุ้มครองมัน”
“นั่นเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” เกียให้ความมั่นใจ เพราะรับรู้มาตั้งแต่การคุยกันครั้งแรกผ่านการสื่อสารทางไกลว่ามโหธรรักน้องชายคนนี้มาก “แต่ขั้นแรก เรียกผมว่าเกีย เพราะคุณคือเจ้านายของผม”
มโหธรหัวเราะเสียงดัง “ผมเป็นเจ้านาย แล้วเดี๋ยวเกียกับแอนดรูว์จะได้พบกับเจ้าชายน้อยของเจ้านาย”

หนุ่มน้อยในชุดเครื่องแบบนักเรียนนานาชาติเดินหน้ามุ่ยออกมาจากบ้าน โดยมีแม่บ้านถือกระเป๋าเรียนเดินตามออกมาด้วย
เสื้อสีฟ้าอ่อน กับกางเกงลายสกอตสีเขียวฟ้าขาว
รวบผมหางม้าสั้นๆ ยังดีที่ไม่ได้ผูกโบ แต่ใบหน้าหวานก็ยังเด่นชัดด้วยดวงตากลมโต จมูกโด่ง และริมฝีปากแดง
“ผมชื่อเกีย”
คนตัวโตปรับสีหน้าเรียบเฉยขณะแนะนำตัว
หนุ่มน้อยพยักหน้ารับรู้แล้วหันไปหาพี่ชาย “มาแต่เช้ารอไอ้ฝรั่งเนี่ยนะ”
พี่ชายยิ้มขำ น้องชายก็ถาม “ขำอะไร”
“ขำที่ฝรั่งพูดไทยชัดกว่าแกน่ะสิ” มโหธรบอก แล้วหันมาหาเกีย “ไปส่งข้าวพองที่โรงเรียนแล้วค่อยกลับมาจัดการเรื่องที่พักเรื่องสถานที่เรียน ส่วนแอนดรูว์จะอยู่ที่นี่อาทิตย์หนึ่งใช่มั้ยมีอะไรก็บอกกับอุบลได้”
อุบลที่ยืนอยู่ด้านหลังส่งยิ้มมาให้
“ตกลงคนไหนเนี่ย” คำพูดยังคงมีหางเสียงเหวี่ยงเหมือนเดิม
“คนนี้” พี่ชายชี้มาที่หนุ่มผมเข้มตาสีฟ้าใส “เกีย ส่วนไอ้ผมทองนั่นแอนดรูว์ เพื่อนพี่เอง”
....เคยให้ดูรูปแล้วนี่หว่า มันแกล้งมึนจำไม่ได้หรือไง....
น้องชายยักไหล่ เดินนำไปที่รถที่จอดรออยู่
....จำได้สิ ทำไมจะจำไม่ได้ พี่ชายย้ำอย่างกับจะออกสอบวันนี้ เพียงแต่เห็นหน้านิ่งๆ แบบนั้นแล้วมันทำให้อารมณ์ไม่ดี!.
 
มโหธรหันมาย้ำกับเกียอีกครั้ง “ฝากน้องด้วยนะเกีย”

*-*-*จบตอนที่1*-*-*
  ห่างหายไปนาน พร้อมรับคำแนะนำเช่นเดิม
พบกันวันพฤหัสบดีครับ
jivetea

  ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2664346#msg2664346)   ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2666077#msg2666077)   ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2668548#msg2668548)   ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2670162#msg2670162)   ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2672095#msg2672095)   ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2674312#msg2674312)   ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2675771#msg2675771)   ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2680539#msg2680539)   ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2682810#msg2682810)   ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2685139#msg2685139)   ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2687991#msg2687991)   ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2690115#msg2690115)   ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2692406#msg2692406)   ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2695102#msg2695102)   ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2697355#msg2697355)   ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2699912#msg2699912)   ตอนที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2703658#msg2703658)   ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2706031#msg2706031)   ตอนที่ 19  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2708508#msg2708508)   ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2711883#msg2711883)   ตอนที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2713782#msg2713782)   ตอนที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2718430#msg2718430)   ตอนที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2720311#msg2720311)   ตอนที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2721760#msg2721760)   ตอนที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2724286#msg2724286)   ตอนที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2726009#msg2726009)   ตอนที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2727275#msg2727275)   ตอนที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2729735#msg2729735)   ตอนที่ 29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2731322#msg2731322)   ตอนที่ 30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2732989#msg2732989)   ตอนที่ 31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2735642#msg2735642)   ตอนที่ 32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2737583#msg2737583)   ตอนที่ 33 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2739323#msg2739323)   ตอนที่ 34 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2741829#msg2741829)   ตอนที่ 35 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2743654#msg2743654)   ตอนที่ 36 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2745546#msg2745546)   ตอนที่ 37 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2748370#msg2748370)   ตอนที่ 38 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2750354#msg2750354)   ตอนพิเศษ 1  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2677819#msg2677819)   ตอนพิเศษ 2  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2715700#msg2715700)


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 01-04-2014 07:28:23
เหมือนกำลังจะได้ดูหนังฝรั่งเรื่องนึงเลยนะ ชอบมากกกกกกกก คิดถึงตัวหนังสือของไจฟ์กับทีที่สุด ไอ้ข้าวพองนี่ท่าทางแสบใช่ย่อย รอตอนต่อไปจร้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 01-04-2014 08:09:54
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 01-04-2014 08:22:23
ตามมาจองที่ก่อนจะอ่าน คึคึ
======
เรื่องของเพชร ชอบเสียด้วยสิ วิบวับ วับวาว สาวไ แพ้แสง
เจ้าตัวเล็กท่าทางแสบ เอ๊ะ เหมือนใครนะ
ส่วน พ่อฝรั่ง พยายามนิ่ง ยามเห็นหน้าน้อง สินะ

รอ อ่าน ต่อ จ้า
คิดถึงนะหนุ่มๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 01-04-2014 09:26:54
เห็นพี่ชายหวง และห่วงมากนึกว่าน้องพองจะนิม ๆ เรียบร้อย
คงไม่ใช่ละ คงเป็นตัวป่วนชั่นเริดเลยละเกียเอ้ย o3

ปล.ขอบคุณมากที่แต่งนิยายดี ๆ มาให้อ่านอีกแล้ว

 :pig4: คะ
 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 01-04-2014 09:36:37
น้ำตาไหลด้วยความดีใจ! ในที่สุดการรอคอยก็ได้สิ้นสุด คิดถึงไจฟ์กับทีมากๆ เลยค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 01-04-2014 10:08:05
แฮปปี้เอพลิวฟูลเดย์ เย้ว
 :hao7:
ดีใจที่มี jivetea มาให้คิดถึง
ข้าวพองท่าทางจะโดนอาจารย์เกียจัดกี่ยกกันหนอ
ชอบตรงมัดผมข้างหลังกับริมฝีปากแดง
ฮิ้วววววว
 :heaven
บวกและเป็ดขอบคุณ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-04-2014 10:12:27
คิดถึงทั้งคู่เลย หายไปนานเหมือนกัน
 :ling1: :ling1:

ถ้าทางข้าวพองจะแสบใช้ได้ เจอกันก็หมั่นไส้เกียซะแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 01-04-2014 10:22:18
puppyluv อ่านจบแล้วไปต่อจิระด้วย มาตามๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 55555555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 01-04-2014 10:36:02
เฮ้ยยยยย!
rujaya มาป่วนกระทู้ไจฟ์
เดี๊ยะน้องทีหยิกเลย 555
เค้าชะแว้บมาแอบอ่านนักเขียนที่ชอบอ่ะ
แป๊บนึงนะ
กอดๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: Tasaitatsu ที่ 01-04-2014 12:20:48
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย
เหมือนกำลังนั่งดูซีรีย์สืบสวนสอบสวนอยู่เลยค่ะ
แค่ตอนแรกก็ลุ้นแล้ววววววววววววววววววววววว

ดีใจที่ได้อ่านนิยายของคุณไจฟ์และน้องทีอีก ^_____^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 01-04-2014 13:27:11
   :katai2-1: ยังไม่มีเวลาอ่าน แต่แอบมาบอกว่า คิดถึงมากทั้ง คุณ Jive และคุณ Tea นะคะ
 เพิ่งเข้ามาอ่าน  แค่เริ่มก้อสนุกแล้ว เรื่องของคุณ JiveTea เดายาก เหมือนซีรีย์ฝรั่งอย่างเรื่อง
Under lie (สะกดชื่อเรื่องถูกป่ะ...อาจมีเงิบ) เดาผิดหน้าแตก 555

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 01-04-2014 14:39:08
เปิดเรื่องมา เหมือนหนังเลย :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-04-2014 15:28:24
เด็กแสบซ่ากับบอดี้การ์ดสุดหล่อ น่าลุ้น ๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: Nemasis ที่ 01-04-2014 17:28:30
สนุกกกกก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 01-04-2014 17:32:47
ท่าทางจะมัน ที่สำคัญ ...
เจ้าชายน้อยแค่เห็นหน้านิ่งๆของเกียก็เหวี่ยงแล้ว
คงจะช้งเช้งกันน่าดู / รอวันพฤหัสบดีค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-04-2014 17:33:24
ตื่นเต้น เรื่องใหม่ของคุณไจฟ์ที
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 01-04-2014 17:51:31
เห็นชื่อคุณไจฟ์ทีรีบเข้ามาอ่านเลย แต่กว่าจะได้อ่าน งานยุ่งทั้งวัน
เกียต้องคอยดูแลเด็กดื้อใช่ไหม อยากรู้จะปราบเด็กให้เชื่อฟังยังไง

 :กอด1: :mew3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: FahFon ที่ 01-04-2014 17:54:47
เข้ามาเพราะชื่อคนแต่ง อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 01-04-2014 19:57:32
อุ๊ย ! ไจฟ์กับทีมาแล้ว ดีใจจุง :m4:
เราได้อ่านนิยายดีๆสนุกๆกันอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 01-04-2014 22:41:34
ข้าวพองนี่ดูจะแสบใช่เล่นนะเนี่ย จะรอดูพี่เกียกำราบ ว่าแต่ระหว่างชุ่นชุนกับข้าวพอง ใครจะแสบกว่ากันน๊ออออ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 01-04-2014 23:28:41
ช่วงนี้กำลังคิดถึงคุณjivetea อยู่เลย ^____^ กำลังไปคุ้ยอ่านเรื่องเก่าเป็นรอบที่แปด

เปิดตัวมาก็สนุกแล้ว โฮกกก (แอบชอบเกียเบาเบา)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: Atcharapan ที่ 02-04-2014 11:37:32
ดีใจจังค่ะ ที่คุณไจฟ์คุณทีกลับมาแล้ว
จะได้อ่านนิยายสนุกๆ อีกแล้ว
เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^

เห็นแค่ชื่อ ก็กด +เป็ดให้เลยค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 02-04-2014 12:14:26
 :L2: เรื่องใหม่มาแล้วววว
อ่านตอนช่วงแรกๆ ลุ้นๆว่าตัวเอกเปงพี่ชายหรือน้องชาย
ตอนท้ายปุ๊ยรู้ล่ะ นายเอกคือเจ้าชายน้อยข้าวพอง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: ลีลาวดี ที่ 02-04-2014 17:22:11
ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องใหม่ของคุณไจฟ์แล้ว รอลุ้นต่อไป ว่าเพชรจะวิบวับ ล่อตา ล่อใจ ขนาดไหน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 02-04-2014 18:16:34
บวกๆ จิ้มๆ เรื่องใหม่มาแล้วววววว เย้ ~
 
ปล. ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องนึกว่าชื่อเพลงนะเนี่ยย ( เพลงโปรดเลยด้วย อิอิ )
 
รออ่านนนนนค่าาาา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 02-04-2014 20:40:39
 :mc4: ต้อนรับนิยายเรื่องใหม่ของสองหนุ่ม แนวสืบสวนแบบที่ชอบเลย

ข้าวพองน่าจะแสบสุดๆ พี่เกียคงจะงานหนักกว่า้เป็นตำรวจจับผู้ร้ายแน่ หุหุ

ขอบคุณนะครับ 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 02-04-2014 20:42:34
ต้อนรับเรื่องใหม่ของ jivetea  :katai2-1:
คือเริ่มเรื่องมาก็ตื่นเต้น น่าติดตามแล้วอ่ะ
รอดูว่าน้องข้าวพองจะแสบขนาดไหน แต่ท่าทางคงแสบไม่เบาเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 02-04-2014 21:34:48
โฮ่...พลาดเมื่อวาน
แต่ดีใจที่ได้เห็นเรื่องใหม่ของไจฟ์ที ^^
เข้ามากรี๊ดกร๊าดก่อนอ่าน...เก็บรายละเอียดแล้วจะมานะ

............................

สารภาพว่า...เพิ่งอ่าน!! ^^"
แต่แค่เริ่มก็น่าสนใจแล้ว...ปริศนาเพชร

ที่แน่ๆ...ท่าทางน้องชายเจ้านายใหม่จะแสบป่วนน่าดู
ฝรั่งตัวใหญ่จะจัดการได้อยู่หมัดมั้ยน้อ...ใครจะเป็นฝ่ายกำไว้ในมือก่อนหนอ ^^

นิยายไจฟ์ที...ยังไงก็มีปมให้ตามอ่าน สนุกแน่ ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 02-04-2014 21:58:34
เข้ามาเพราะรู้จากเฟสว่าลงเรื่องใหม่ ชอบๆแนวนี้จริงๆ

ดูเหมือนเรื่อยๆแต่หักมุมตลอด รักนักเขียนคู่นี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: Yukisae ที่ 02-04-2014 22:40:45
นิยายเรื่องใหม่มาแล้วววววว คราวนี้ออกแอคชั่นเลย
ข้าวพองท่าทางจะแสบน่าดู รอลุ้นเด็กแสบต้องเจอเรื่องอะไรบ้าง
คิดถึงนิยายของไจฟฟ์กับน้องทีมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 03-04-2014 03:23:57
เปิดตัวได้น่าสนใจมาก เรื่องแนวสืบสวนเนี่ยน่าติดตามสุดๆ อ้อ! อยากรู้ฤทธิ์ข้าวพองจริงๆ ท่าทางแสบน่าดู
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 1 (1เมษายน2557)
เริ่มหัวข้อโดย: ชางหลง ที่ 03-04-2014 07:51:47
 :impress3: ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ    ดีใจอะ เรารอเรื่องของ คุณใจฟ์น้องที กลับไปอ่านเรื่องเก่า มาหลายรอบละ
เปิดเรื่องใด้น่าติดตามมาก น้องท่าจะน่ารักนะ ปากแดงด้วยอะ สงสัยเรื่องนี้บู้กระจาย  รอจ้า :L1:
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 03-04-2014 08:37:22
ตอนที่ 2


มลรัฐนั่งอยู่ในงานศพของเพชรแท้พี่สาวคนกลาง งานที่ควรจะมีบุคคลในครอบครัว และเพื่อนร่วมธุรกิจของพ่อกับพี่เป็นหลัก แต่เท่าที่มองไปรอบตัวเวลานี้ล้วนแต่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้า
คนที่เพิ่มเข้ามาในชีวิต พร้อมกับเรื่องที่มันไม่น่าสนใจสักเท่าไหร่

เรื่องมันเริ่มจากตอนไหนกันนะ....

เริ่มจากตอนที่แม่ทำแบบนั้นกับเรา แล้วพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกัน พี่เพียงก็โกรธแม่ พี่เพชรก็ชอบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา จากนั้นแม่ก็ถูกคนยิงตาย
ต่อมา ก็เป็นเรื่องร้านเพชร ที่ทำให้พ่อกับพี่เพียงเครียดหนักกว่าพี่เพชรที่ตอนนั้นเป็นเจ้าของร้าน แล้วความเครียดนั้นก็ดำเนินไปนานหลายเดือน จนเรื่องราวไปถึงขั้นศาล และการเจรจาอะไรไม่รู้ ที่ทำให้พ่อว่างเว้นจากการไปหาอีนังเล็กๆ ไปพักใหญ่ แล้วก็เรียกพี่ๆ มาคุยกันที่บ้านเป็นระยะ
แน่นอนว่า เรื่องที่คุยกันที่บ้านมันต้องเป็นเรื่องลับสุดยอดชนิดที่คุยกันที่ทำงาน หรือที่ร้านเพชรไม่ได้

ร้านเพชรร้านนั้น เป็นเหมือนสมบัติชิ้นสุดท้ายที่แม่ทิ้งไว้ให้ ของที่พี่เพชรพยายามรักษามันไว้ แต่สุดท้ายมันก็หลุดลอยไปภายในสัปดาห์เดียวหลังจากที่พี่เพชรถูกยิง

มลรัฐเอะอะโวยวาย ร่ำร้องและอีกสารพัดเท่าที่จะนึกออก เพื่อที่จะแสดงความไม่เห็นด้วยกับการขายร้าน จนกระทั่งพี่ชายคนโตหันมาถาม “แกจะรักษาชีวิต หรือรักษาไอ้ของนอกกายที่มันพรากแม่ของเรากับไอ้เพชรไป”
“แล้วมันเรื่องอะไรกันเล่า แล้วมันเกี่ยวกับแม่กับพี่เพชรยังไง”
“พี่จะจัดการเรื่องนั้นเอง”
ก็แค่นั้นที่มลรัฐรู้  กับรู้ว่าต้องมีคนให้ความคุ้มครองไปส่งที่โรงเรียน เริ่มจากตำรวจคุ้มกันที่มาทำหน้าที่ได้เพียงสัปดาห์เดียวก็เปลี่ยนไป แล้วก็เปลี่ยนไปอีกเรื่อยๆ
“พี่เพียงกลัวอะไร” น้องชายคนเล็กเคยถามพี่ชาย “พองก็แค่เด็กมัธยม ไม่จำเป็นต้องมีคนพวกนี้หรอก”

พี่ชายคนโตกอดน้องชายคนเล็กไว้แทนคำตอบ
รู้ทั้งรู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงมาก รู้ทั้งรู้ว่าพ่อเครียดมาก
แต่-พองก็แค่เด็กมัธยม- คนที่พ่อกับพี่ชายสรรหามาให้ความคุ้มครอง จึงเป็นเพียงความท้าทายให้หลบหนี
อายุน่ะยังไม่ถึงเกณฑ์เที่ยวสถานบันเทิงหรอก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเดินเข้าไป
...ก็แค่เดินเข้าไป...แล้วก็กลับออกมาเมื่อผับปิด เข้าบ้านไปในสภาพที่ถูกอบด้วยกลิ่นบุหรี่และเหล้า...
ทั้งพ่อและพี่ชายโกรธจนพูดไม่ออก ที่ทำได้คือการเปลี่ยนคนเฝ้าน้องชายไปเรื่อย

“จนขนาดนี้มันยังไม่เข้าใจอีกหรือไงว่าตัวมันตกอยู่ในอันตรายน่ะ” อัคราบ่นกับลูกชายคนโต แทนที่จะไปบ่นกับเจ้าตัว “ไปบอกกับน้องชายแกให้เข้าใจ”
“ผมพูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว มันน่ะทั้งเห็นกับตาตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ กับเพชรมันยังไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”
พ่อถึงกับกุมขมับ “สุดท้ายแล้ว แกติดต่อเพื่อนแกที่เป็นตำรวจอังกฤษได้มั้ย”
“พ่อจะคืนของหรือ” มโหธรไม่เข้าใจ พ่อยืนยันมาตลอดว่าจะไม่ขายเพราะมันไม่ปลอดภัย แต่จู่ๆ จะให้ติดต่อกับฝ่ายลอนดอน

เครื่องเพชรชุดที่แม่ได้มันมาอย่างไม่ถูกต้องในราคาเพียงเศษเสี้ยวของปัจจุบัน รักมันมากที่สุด จนถึงกับซุกซ่อนไว้ในที่ที่แม่มั่นใจว่าปลอดภัยที่สุด
แต่มันกลายเป็นปมปัญหาที่สาหัสที่สุดในเวลาต่อมา
แม้จะถูกข่มขู่เพื่อขอซื้อมันไป แต่แม่ก็ยังยืนยันไม่ขาย เมื่อแม่ไม่ขายพ่อก็ไม่ยอมขายเหมือนกัน แต่พ่อปฏิเสธการเจรจาด้วยการบอกกับทุกคนว่าไม่มีเครื่องเพชรชุดนี้ ทุกอย่างคือความเข้าใจผิด
แต่เมื่อแม่จากไป เพชรแท้ กลับตกลงขายมันให้กับพ่อค้าฮ่องกง แล้วก็กลับส่งของชิ้นอื่นไปให้ พ่อโกรธลูกสาวมาก ไม่ต่างจากพ่อค้าฮ่องกง

“พ่อบอกกับทุกคนไปว่า ไม่มีเพชร มันกลับบอกว่ามี ต้องตามไปแก้ไขบอกว่าไม่มี เป็นใคร ใครก็โกรธ คนค้าขายกลับคำแบบนี้ไม่ได้”

สุดท้ายจุดจบของเพชรแท้ก็ไม่ต่างจากแม่
พ่อกุมขมับแน่น การตัดสินใจเรื่องนี้ยากที่สุดในชีวิต 
ไม่ใช่เสียดาย
ของที่เอาชีวิตเมียและลูกไป ไม่ได้มีค่าอะไร เพียงแต่มันมีความเสี่ยงมากเกินไปในการส่งคืน ตั้งแต่ที่ที่แม่ซ่อนเพชรไว้ ไปจนถึงความไม่แน่ใจว่า เมื่อส่งเพชรกลับไปถึงมือเจ้าของที่แท้จริง แล้วคนอื่นที่อยากได้แล้วต้องพลาดหวัง จะไม่หันมาสาดกระสุนใส่

“ยังไม่รู้ ต้องดูกันก่อน ไอ้เพชรบ้านี่ ไม่รู้ว่าแม่แกคิดอะไรตอนที่เอามันมา ทั้งยังทำอย่างนั้น ขายก็ขายไม่ได้ เก็บไว้ก็มีแต่อันตราย แต่ถ้ามาถึงขั้นนี้แล้ว เรื่องเพชรน่ะพ่อไม่สนใจแล้ว แต่เราต้องรักษาไอ้พองไว้”

มโหธรอยากเล่าความจริงทั้งหมดให้น้องชายคนเล็กได้รับรู้ แต่เพราะนี่คือน้องคนเล็กที่มีอายุห่างกันมากกว่า 10 ปีทำให้เขายังได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นน้องเล็กที่มีอายุไม่ถึง 10 ขวบอยู่เสมอ
“เพชรของแม่หายไปไหนหมด” น้องชายถามในวันหนึ่ง
“อยู่ที่ธนาคาร กำลังทยอยขาย” พี่ชายตอบสั้นๆ
“ขายทำไม เราเดือดร้อนเรื่องเงินเหรอ”
“เปล่าหรอก ของมันมีไว้ขายก็ขาย” พี่ชายยังคงตอบแบบพ่อค้า ทำให้น้องชายโมโห
“ของที่ร้านก็ขายไปสิ ไอ้ของในเซฟที่บ้านน่ะ มันหายไปไหนหมด
“ก็อยู่ในธนาคารเหมือนกัน แต่ไม่ได้ขายจะเอาไว้ไปขอเมียให้แกไง”
พี่ชายตอบติดตลกแต่น้องชายไม่ขำ “ของโจรละสิ”
“ไม่ใช่หรอก” พี่ชายหันมาตอบจริงจัง “แกอย่าคิดไปเอง เพราะพี่ต้องจัดการมันให้ดี”
เรื่องเพชรก็เป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนอีกเรื่องก็คือน้องชายอยากไปอังกฤษมาก
“เรียนจบที่นี่แล้วให้พองไปอังกฤษนะ”
“อยากไปหรือ”
“อยากสิ ทั้งพี่เพียง พี่เพชรไปตั้งแต่ ม.1 มีแต่พองคนเดียวที่ต้องเรียนที่นี่ ไม่คิดหรือไงว่าไม่ยุติธรรม คอนโดฯ พี่เพชรก็อีกแทนที่จะโอนให้พองกลับรีบขาย ร้านของแม่ก็ขาย ไม่คิดบ้างหรือไงว่า พองอยากได้น่ะ”
พี่ชายมองหน้าน้องชายคนเล็ก “ไว้พี่จะหาให้แกใหม่ ที่นั่นมัน.....”
“มันอะไร”
แล้วพี่ชายก็ส่ายหน้าอีกครั้ง
สรุปก็คือ ไอ้ข้าวพองคนนี้ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาสักอย่าง

จนกระทั่งวันหนึ่งพี่ชายก็ยิ้มหน้าบานมาปลุกตั้งแต่มืด บอกว่า หาครูพิเศษให้ได้แล้ว
“ครูหรือหมา”
“เดี๋ยวจะโดน” พี่ชายทำดุไปงั้นแหละ  เพราะทำได้แค่ชี้หน้า ไม่เคยลงไม้ลงมืออะไรสักที
“ครู เขาจะมาสอนศิลปะป้องกันตัวให้แกไง”
“หือ” น้องชายให้ความสนใจเป็นครั้งแรก พี่ชายก็รีบบรรยายสรรพคุณต่อ
“แกไม่อยากได้คนคุ้มกัน ไม่อยากได้พี่เลี้ยง ก็นี่แหละ ครูสอนศิลปะป้องกันตัว ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แต่ไปโตอังกฤษ”
“ลูกเมียเช่า ผู้หญิงหากิน”
“ไอ้นี่พูดออกมาแต่ละคำ” พี่ชายดุอีกครั้ง “อย่าพูดจาดูถูกคนอื่น ทั้งที่แกไม่รู้จักเขาสักนิด”

น้องชายเบ้หน้าไม่ได้เชื่อคำที่พี่ชายเตือนเลยสักนิดเหมือนกัน

“พี่ให้เพื่อนที่อังกฤษหามาให้ แกอยากไปอังกฤษไม่ใช่หรือไง เรียนรู้จากเขาให้มากก็แล้วกัน ถึงเวลาที่ต้องไป แกจะได้อยู่คนเดียวได้”
นั่นเป็นข้อดีเพียงข้อเดียวในบรรดาสรรพคุณมากมายที่พี่ชายบอกมา

แล้วหลังอาหารเช้าวันหนึ่ง ก็เจอกับคนที่พี่ชายบอก คนหนึ่งฝรั่งแท้ ส่วนอีกคนลูกครึ่ง
ตัวอย่างกับตึกทั้งคู่ จะพากันไปออกรบที่ซีเรียหรือไง
เห็นก็รู้แล้วว่าคนไหน
งานนี้พี่ชายอัพเกรดจาก รปภ.แถวบ้าน ข้ามถิ่นไปไกลถึงอังกฤษ!
 
หนุ่มน้อยในชุดเครื่องแบบนักเรียนนานาชาติถึงได้เดินหน้ามุ่ยออกมาจากบ้าน โดยมีแม่บ้านถือกระเป๋าเรียนเดินตามออกมาด้วย
เสื้อสีฟ้าอ่อน กับกางเกงลายสก๊อตสีเขียวฟ้าขาว
รวบผมหางม้าสั้นๆ ขับใบหน้าให้เด่นชัดด้วยดวงตากลมโต จมูกโด่ง และริมฝีปากแดง
“ผมชื่อเกีย”
คนตัวโตหันมาแนะนำตัว
หนุ่มน้อยพยักหน้ารับรู้แล้วหันไปหาพี่ชาย “มาแต่เช้ารอไอ้ฝรั่งเนี่ยนะ”
พี่ชายยิ้มขำ น้องชายก็หันไปถาม “ขำอะไร”
“ขำที่ฝรั่งพูดไทยชัดกว่าแกน่ะสิ” มโหธรบอก แล้วหันมาหาเกีย “ไปส่งข้าวพองที่โรงเรียนแล้วค่อยกลับมาจัดการเรื่องที่พักเรื่องสถานที่เรียน สักบ่าย 2 นิรมลเมียผมเขาจะมาคุยด้วย แล้วก็ถ้าต้องการอะไรเร่งด่วนก็บอกกับอุบลได้”
อุบลที่ยืนอยู่ด้านหลังส่งยิ้มมาให้
ฝรั่ง 2 คนขัดหูเหมือนกันที่นิรมลจะมาคุยด้วยตอนบ่าย แต่กลับสั่งว่า ถ้าต้องการอะไรให้บอกแม่บ้าน แต่มโหธรทำท่าเหมือนถ้าสงสัยอะไร ก็เก็บไว้ถามกันตอนค่ำ
“ตกลงคนไหนเนี่ย” น้ำเสียงคนที่ยืนรออยู่ยังคงมีหางเสียงเหวี่ยงเหมือนเดิม
“คนนี้” พี่ชายชี้มาที่หนุ่มผมเข้มตาสีฟ้าใส “เกีย ส่วนไอ้ผมทองนั่นแอนดรูว์ เพื่อนพี่เอง”
น้องชายยักไหล่ เดินนำไปที่รถที่จอดรออยู่
มโหธรหันมาย้ำกับเกียอีกครั้ง “ฝากน้องด้วยนะเกีย”
“ทำไมต้องฝาก ตกลงจะเป็นครูหรือเป็นนายธนาคารเนี่ย”
แอนดรูว์หันมามองหน้าเกียคล้ายจะบอกว่า หนุ่มน้อยคนนี้ไม่ได้ดูน่ารักใสซื่อเหมือนหน้าตาเลยสักนิด..ลูกคนรวยเป็นเหมือนกันหมดทุกคน..
เกียเพียงยิ้มรับ
....คิดว่าในรูปดูดีแล้ว ตัวจริงดูดีกว่าหลายเท่า....

สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อกลับมาบ้านคือการส่งข้อความไปขอบใจโบรนี่ แล้วก็ต้องหาซื้อของฝากไปกับแอนดรูว์ที่จะกลับลอนดอนในอีก 7 วันข้างหน้านี้ด้วย

“อารมณ์ดีนะ” แอนดรูว์แซวเมื่อส่งข้าวพองลงรถไปแล้ว “กูไม่เอาแน่ๆ งานจัดการเด็กแบบนี้ ให้ไปเข้าเวรคู่เดินถนนยังดีเสียกว่า”
“แบบนั้นมันก็ต้องเจอแก๊งเด็กเหมือนกันแหละน่า” เกียเถียง
“โอ้ยแบบนั้นง่าย มีปัญหาก็จับมันยัดเข้ารถตำรวจ ไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแบบนี้”

*-*-*จบตอนที่ 2*-*-*

ขึ้นหน้าใหม่ดีใจจัง เพราะคิดอยู่ว่า ยอดวิวดี ดี่ ดี้ ดี๊ ดี๋ แต่ทำไมมีรีน้อย แต่พอดูชื่อแล้ว ... อ่า แฟนคลับพี่ไจฟ์ทั้งนั้น  :z2: สุดแสนจะดีใจที่ยังไม่ลืมกัน
มีอยู่ย่อหน้าหนึ่งที่มีเนื้อเรื่องซ้ำซ้อนกับตอนก่อนหน้า พี่ไจฟ์เขาเจตนาใส่ไว้ให้เรื่องมันมาบรรจบกัน (นี่สำนวนเขาเลยนะ เช้ยเชย) สั่งผมไว้ว่าห้ามลบออก แต่ผมว่า คูณผู้อ่านรู้อยู่แล้ว ก็ยังอยากบอกอีก  :laugh:
เราใช้เวลาในการเขียนเรื่องนี้นานอย่างไม่น่าเชื่อ จนถึงตอนนี้ก็ยังเขียนไม่จบเลย ชีวิตในมหาวิทยาลัยช่างวุ่นวาย
...เอ่อ..คือ..ไม่ได้วุ่นเรื่องเรียนหรอกนะ อย่าเข้าใจผิด
บู๊กระจายไหม ก็มีนะ
มีคำถามโปรดถาม มีคำแนะนำโปรดบอก อยากให้แก้ไขอะไรบอกมาเลย
เพราะเรายังไม่เก่ง
ตอนที่ 3 มาวันอาทิตย์นะครับ

นายน้ำชา

อุอุอุ ได้เจาะใข่ แวะมาคุยกันเรื่อยๆ นะ :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 03-04-2014 08:50:34
............มันลุ้นอะไรเยี่ยงนี้ แต่.แค่นี้ก็มีแรงทำงานต่อได้แล้ว (จะลุ้นว่าม๊ะไหร่เกียจะจับน้องฟาด.....เอ้ย ปราบได้ หุ หุ หุ)


ขอบคุณครัฟฟฟ   o13


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 03-04-2014 09:19:39
คือข้าวพอง นี่น่าจับมาฟัด ชะมัดเลย
เด็กอะไร 55555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 03-04-2014 09:23:50
หุหุหุ วันแรกก็ไม่ถูกกันซะแล้ว  อยากรู้ตอนต่อไปซะแล้ว อยู่ใกล้เด็กหน่ะดีแล้ว กระชุ่มกระชวย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-04-2014 09:46:27
หนูข้าวพองจะรู้ตัวไหมว่าใครบางคนหมายมั่นปั้นมือตั้งกะยังไม่เห็นตัวจริงเลยนะนั่น
ช่วยเอาแต่ใจและเหวี่ยงวีนให้เต็มที่เลยนะ อยากดูฝีมือบอดี้การ์ดคนเก่ง

ปล.เป็นแฟนนิยายคุณไจฟ์แต่เป็นแฟนลับ ๆ ของน้องที ฮิ้ว...
เล่าเรื่องมหาลัยให้ฟังบ้าง เป็นครั้งคราวก็ยังดี
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 03-04-2014 09:49:55
ชอบก็ตรงนี้ ย้ำอีกที 555
รวบผมหางม้าสั้นๆ กับริมฝีปากแดง
 :impress2:
ว่าแล้วว่าต้องหลงรูปนางละเลง
ตัวจริงดีกว่า
อุอุ...หลายเท่าเลยอะดิอาจารย์เกีย
ท่าทางข้าวพองคงไม่ได้อยู่คนเดียวอย่างใจคิดแล้วล่ะมั้ง
ตึกชื่อเกียคงยอมปล่อยง่ายๆ หรอก
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :mew3:
ปล. แฟนคลับน้องทีต่างหากเล่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 03-04-2014 10:10:21
ปากดีเหมือนกันนะข้าวพอง ไม่รู้จักเกียเลย
แล้วคงจะสร้างเรื่องปวดหัวให้เกียอีกเยอะ

รอตอนต่อไป

ปล. ป้าแอบชินอักษรสีเขียวของนายน้ำชามากกว่า 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 03-04-2014 10:32:54
ข้าวพองท่าทางเอาแต่ใจจริงๆ ลักษณะลูกคนเล็กชัดๆ
เกียสอนอะไรจะฟังไหมนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 03-04-2014 12:13:20
....คิดว่าในรูปดูดีแล้ว ตัวจริงดูดีกว่าหลายเท่า....
เอ๊ะยังไง  :mew3:เด็กมัธยมนะเกียท่องไว้  :hao6:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-04-2014 12:28:12
ข้างพองยังเด็ก
ยังพอดัดได้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 03-04-2014 12:33:20
ข้าวพอง  ชื่อน่ารัก หน้าตาก็น่ารัก แต่นิสัยเหวี่ยงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อาจารย์เกียต้องปราย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-04-2014 20:40:33
เด็กพยศอย่างเหนื่อยหน่อยนะเกีย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 03-04-2014 22:19:06
อืม....หนุ่มลูกครึ่งเหรอ คึคึ
ส่วนเด็กก็..แสบ... คึคึ (อีกที)

รออ่านต่อ นะจ๊ะ แฟนคลับน้ำชาค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 04-04-2014 21:13:07
มารอดูความเปรี้ยงของน้องข้าวพองต่อ จริงๆจะว่าน้องเปรี้ยวก็ไม่เชิง เป็นลูกคนเล็กที่ต้องปกป้อง แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นะต้องปิดทุกเรื่องที่น้องอยากรู้เลย จริงๆ น่าจะให้น้องได้รู้สถาณการ์ขงตัวเองบ้าง จะได้ช่วยระวังตัวได้นะ -3-  :hao7:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 04-04-2014 22:15:26
วู้ๆๆๆ ดีใจได้อ่านเรื่องใหม่ของไจฟ์ที แม้จะช้าไปตอนก็เถอะ  :hao7:

ชอบนะที่เปิดตอนมาแนวหนังสืบสวนกลิ่นไออังกฤษแบบนี้

และหลงรักหนูข้าวพองเข้าแล้วด้วย เหมือนแมวดื้อ น่าโดนปราบ  :laugh:

รอตอนต่อไปค่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 04-04-2014 23:52:52
โอ๊ะโอ...เด็กน้อยแสนแซ่บ
เดี๋ยวเจอฝรั่งดัดหลังแล้วจะแซ่บไม่ออก หุหุ

มันก็น่าสงสัยอยู่นะ...แม่ทำอะไรกับน้องไว้
แต่ก็นั่นแหละ...คนที่ต้องรู้กลับไม่ให้รู้
แล้วพอไปหาคำตอบเองมันก็...ป่วน

จนถึงตอนนี้...ฝรั่งอารมณ์ดีสุด...สเปกสินะ ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 05-04-2014 02:39:55
job นี้ พี่เกียท่าจะเจองานช้างแมมมอธ ทั้งสืบคดีทั้งดูแลเด็ก
ป้าแนะนำให้ตุนซาร่า ไทลินอล หรือดีคอลเจนไว้ในกระเป๋า เตรียมปวดเฮดกับฤทธิ์เดชเด็กแสบได้เลย หุหุ


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 05-04-2014 04:08:16
ข้าวพอง หนูต้องซ่าแสบทรวงแน่ๆ ส่วนพี่เกียน่ะมิใช่ว่าแอบปิ๊งน้องไปแล้วเหรอคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 05-04-2014 09:21:35
ข้าวพอง หนูเปิดตัวได้เกรียนมากค่ะ

อยากรู้ว่าจะหายเกรียนยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 05-04-2014 15:30:31
อ่านแล้วสนุกน่าติดตามเหมือนเดิมบวกด้วย ชวนระทึกใจอีกต่างหาก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 05-04-2014 16:12:33
เจอแรกๆ ก็ต้องไม่ค่อยชอบกันเท่าไรหรอก  ต้องรอดูต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 2 หน้า 2 (3เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: waan_warunee ที่ 05-04-2014 21:08:56
เย้~ ในที่สุดก็กลับมาแล้ว~
หายไปนานมากๆ เลย
ดีใจ~~~ (แอบมาช้าไปนิดดดดดดดนึง 5555+)
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 06-04-2014 09:22:46
ตอนที่ 3

เกียกับแอนดรูว์ยืนส่งมลรัฐ-ข้าวพองจากหน้าโรงเรียน ทั้งที่เจ้าตัวบอกว่าไม่ต้อง จากนั้นก็ให้คนขับรถไปส่งที่สถานทูตใช้เวลาติดต่องานไม่นานนักก็กลับมาบ้าน
อุบลเดินตามเพื่อรอรับฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัด แล้วพาไปที่ห้องกระจกในสวนด้านหลัง
เดิมพื้นที่ส่วนนี้คือสระว่ายน้ำ แต่มันถูกถมและปรับพื้นที่เป็นศาลาท่ามกลางสวนไม้ดอก ต่อมาเพชรแท้ให้สร้างเป็นห้องกระจกรอบด้าน เพื่อให้สามารถจัดโต๊ะรับประทานอาหารได้ 
แต่ในเวลานี้ มโหธรเห็นว่า หากจะมีที่ที่สามารถเปลี่ยนเป็นห้องให้น้องชายคนเล็กเรียนศิลปะป้องกันตัว ที่นี่ก็เหมาะที่สุด
ทั้งเกียและแอนดรูว์ก็เห็นพ้อง

“งั้นอุบลจะให้เขาเอาโต๊ะอาหารออกไปนะคะ แล้วต้องมีเบาะ มีอุปกรณ์ด้วยใช่มั้ยคะ”
“นั่นแหละที่คงต้องสั่งซื้อทั้งหมด” แอนดรูว์คุยกับอุบลที่จดคำสั่งอย่างละเอียด “คงต้องไปเลือกซื้อจากร้าน ดีกว่าให้เขามาส่งของ”

ยังได้ยินเสียงแอนดรูว์คุยกับอุบล ขณะที่เกียเดินดูไปรอบๆ สถานที่ที่จะกลายเป็นห้องฝึก
เจ้าของบ้านส่วนใหญ่ มักจะวางตำแหน่งบ้านค่อนไปทางด้านหลังของพื้นที่ แต่บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ค่อนไปทางด้านหน้า ทำให้พื้นที่ด้านหลังกลายเป็นสวนที่มีต้นไม้ครึ้ม
เห็นธีระคนขับรถ เปลี่ยนเสื้อผ้ามาเป็นชุดที่สวมสบายขึ้น และกำลังทำสวนอยู่ใกล้ๆ เกียส่งยิ้มทักทาย เพราะเมื่อคิดไปถึงเรื่องคดีการเสียชีวิตของเพชรแท้เกียก็บอกตัวเองว่า ต้องแสดงนิสัยเป็นมิตรมากขึ้นกว่าปกติ
ปกติมักจะใช้นิสัยเฝ้ามองตามแบบของตำรวจ แต่เมื่อกลายมาเป็นครูสอนพิเศษ ก็ต้องทำความรู้จักกับทุกคนที่อยู่รอบตัวของลูกศิษย์เพิ่มมากขึ้น
เกียย้ำกับตัวเองว่า ต้องฝึกยิ้มให้มากกว่าเดิม

หลังอาหารเที่ยง นิรมล ภรรยาของมโหธรถึงได้มาที่บ้านนี้ เพียงแค่เธอเดินเข้ามาในบ้าน ทั้งเกียและแอนดรูว์ต่างเกิดอาการเกร็งที่บริเวณหลังคอโดยอัตโนมัติ ขณะที่ทักทายสตรีวัย 20 ตอนปลายในชุดเรียบๆ ปราศจากเครื่องประดับคนนี้
“คุณเพียงเล่าว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับแอนดรูว์”
“ครับ เราจบโรงเรียนมัธยมมาด้วยกัน แต่ผมไปเรียนต่อโรงเรียนตำรวจน่ะครับ” แอนดรูว์แนะนำตัว แล้วหันมาแนะนำเกีย “ส่วนเกียต้องออกจากราชการ เพราะมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย”
นิรมลมีแววตาประหลาดขึ้นวูบ แล้วหันมายิ้มหวานกับเกีย “เกิดอุบัติเหตุหรือคะ”
“ผมถูกยิง พักรักษาตัวนานไปหน่อย เลยออกจากงานมากินเงินสวัสดิการดีกว่า พอดีแอนดรูว์มาถามหาครูเอเชีย ผมก็เลยถือโอกาสที่จะได้กลับบ้าน”

นิรมลยิ้มรับให้กับคำแนะนำตัวแสนง่าย
....ก็แค่ตำรวจพิการ หมดสภาพแล้วก็กลับบ้าน....

“แสดงว่าทั้ง 2 คนไม่รู้จักกันมาก่อน”
“รู้จักในฐานะเพื่อนกินกาแฟ แต่ยังไม่ใช่เพื่อนกินเหล้า” แอนดรูว์พูดขำๆ
นิรมลถึงกับหัวเราะอารมณ์ดี “ใช่เลย คนอังกฤษเนี่ยนักดื่ม พี่เพียงกับยัยเพชรนี่ก็ติดมาเยอะ ต้องดื่มก่อนนอนตลอด เจ้าน้องเล็กนี่ก็ทำท่าจะเดินตามทั้งที่ยังไมได้ไปแตะลอนดอนเลยสักครั้ง”
ผู้ฟังทั้ง 2 คนเก็บข้อมูลทันที แต่คนที่ทำหน้าที่ซักถามส่วนใหญ่คือแอนดรูว์
“ข้าวพองก็ดื่มหรือครับ อายุ 17 ปีเองไม่ใช่หรือครับ”
แอนดรูว์ออกเสียงคำว่าข้าวพองอย่างระมัดระวัง แต่ก็ยังเหมือนคำว่า –เข้า-ปอง-อยู่ดี
“โอ้ย....” นิรมลทำเสียงสูง ท่าทางชอบใจที่ได้นินทา 3 พี่น้อง “หนีเที่ยวกลางคืนมาตั้งแต่ 15 พ่อกับพี่ชายเขาถึงต้องคอยจ้างคนนั้นคนนี้มาคอยเฝ้าไงคะ ยิ่งตามเฝ้าเด็กมันก็ยิ่งหนี ยิ่งต่อต้าน”

นิรมลเล่าเรื่องในครอบครัวไปเรื่อยจนกระทั่งอุบลเข้ามาบอกว่าใกล้จะได้เวลาต้องไปรับข้าวพองที่โรงเรียนแล้ว หญิงสาวถึงได้ลุกขึ้นขอตัวกลับ
“มีอะไรก็โทรหานิได้นะคะ บ้านอยู่ถัดไปอีก 2 หลังนี่เอง ที่คั่นอยู่ 2 หลังนี่ก็บ้านญาติของคุณพ่ออีกน่ะแหละค่ะ”
เมื่อนิรมลกลับไปแล้วแอนดรูว์ถึงได้พลิกข้อมือดูนาฬิกา “กูจะไปรับของที่สถานทูตไปไว้ที่คอนโดฯ แล้วมึงรับข้าวพองเสร็จแล้วจะตามไปเจอ หรือจะรอกูอยู่ที่นี่”
“ขอดูสถานการณ์ก่อน ไม่แน่เราอาจได้เล่นเกมไล่จับกันตั้งแต่คืนนี้”
“ปล่อยๆ ไปบ้างก็ได้ เด็กวัยรุ่นก็อย่างนี้แหละ”
เกียหัวเราะขำ “คิดอย่างที่พูดหรือเปล่า”
“เปล่า” แอนดรูว์หัวเราะเสียงดังก้อง “ก็พูดให้มันดูดีอย่างที่พี่สาวอินลอว์ของข้าวพองพูดไง”
เมื่อหยุดหัวเราะแอนดรูว์ก็ยอมรับกับเกีย “อินลอว์คนนี้ให้ความรู้สึกไม่น่าไว้วางใจ ส่วนข้าวพองกูไม่เห็นด้วยถ้าจะเข้มงวดกับเขามาก เพราะจะทำให้เราทำงานยากไปด้วย”
หนุ่มลูกครึ่งพยักหน้า ขณะที่แอนดรูว์พูดต่อ “ตัวพี่ชายเขา เพียงน่ะรู้เรื่องทั้งหมด แต่กลับไม่บอกอะไรเลย คิดแบบตำรวจมันก็โอเคนะ แต่คิดแบบเพื่อนแล้วมันน่าโมโห จะใช้ให้ทำงานให้แต่กลับปิดบังความจริง”

*-*-*

ข้าวพองนั่งกัดปากกา มองภาพตัวการ์ตูนฝีมือตัวเองที่ขีดๆ เขียนๆ รอเวลาเรียนให้หมดไปอีกวัน พอสัญญาณหมดชั่วโมงเรียนดังขึ้น อาจารย์เดินออกไป ป๋อมที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็หันมาถาม
“งานกลุ่มเราทำเสร็จ มึงเอาไปเย็บเล่มเหมือนเดิมนะ”
“อือ” ข้าวพองรับคำแล้วปิดสมุดเรียน เพราะนี่คือหน้าที่ประจำเวลาทำงานกลุ่ม
นักเรียนหญิงอีกคนหันมามอง แล้วขยับแว่นสายตา
“ข้าวพองอยากทำหัวข้ออะไร”
“อะไรก็ช่างเหอะ พวกเธอเป็นคนทำนี่”
แป๋มหันไปพยักหน้ากับพี่ชายฝาแฝด “ตลอดแหละข้าวพองน่ะ”
“เออ ตลอดแล้วถามทำไม” ข้าวพองถามยิ้มๆ จิ้มที่แว่นตากลมของหญิงสาว
“พองอะ” แป๋มถอดแว่นมาเช็ด “มือสกปรก แว่นเป็นรอย”
ข้าวพองเอื้อมมือไปดึงผมเปียยาวของแป๋มอีกที จนสาวแป๋มฟ้องพี่ชายที่มัวแต่หัวเราะ
“ป๋อมนะ หัวเราะอยู่ได้”
“ฝากแกล้งด้วย” ป๋อมหันมาบอกข้าวพอง แล้วหัวเราะดังกว่าเดิม
หนุ่มตัวเล็ก ตาเรียวยาวดึงข้อศอกของข้าวพอง “เข้ากลุ่มด้วยคนได้มั้ย”
“ได้สิ” ข้าวพองบอก “คิดว่ามีกลุ่มแล้วเสียอีก”
หนุ่มจีนส่ายหน้า ยิ้มจนดวงตาเป็นเส้นโค้ง
“ต้องทำอะไรมั่ง”
“ไม่ต้อง ปล่อยแฝดทำไป” ข้าวพองทำเสียงภูมิใจมาก จนแป๋มทำเสียงประชดอยู่ในลำคอ ส่วนป๋อมโบกมือ ทำนองว่าอย่าไปถือสาน้องสาว
“ไม่ต้องทำหรอก หรือถ้าจะไปนั่งเล่นที่ห้องสมุดเป็นเพื่อนกันก็ได้ เพราะคิดว่าจะไปหาหนังสือที่ห้องสมุดก่อน ได้เล่มไหนก็ทำเรื่องนั้นแหละ”
“ง่ายจัง”
“ไม่มีเรื่องไหนยาก ถ้ามาถึงมือคู่แฝด....” ข้าวพองลากเสียงหันไปมองแป๋มที่ทำหรี่ตา “คู่แฝดอัจฉริยะ”
“เก่งนะ เก่งตลอด” แป๋มชี้หน้า

กำลังคุยกันเสียงเพื่อนที่ใกล้ประตูหน้าห้องเรียน ตะโกนเรียก “ข้าวพอง มีเกิร์ลมาหา”
ข้าวพองยิ้มกว้างขณะที่ลุกไปหา แล้วออกไปคุยกันนอกห้อง
ไทนี่หว่อง หันมาหาคู่แฝด
“เกิร์ลเฟรนด์ของข้าวพองเหรอ”
“ใช่มั้ย” แป๋มหันมาหาพี่ชาย แล้วหันไปพยักหน้าบอกเพื่อนจากฮ่องกง “คงใช่แหละมั๊ง”
“อ้าว แล้วผู้หญิงสวยๆ ที่มารับข้าวพองตอนกลางวันเมื่อวานล่ะ”
ไทนี่หมายถึง ไอรีนอดีตครูสอนพิเศษของข้าวพอง ที่ยังคงนัดพบกับข้าวพองเป็นระยะ และบางวันยังมารับข้าวพองออกไปข้างนอก
“กูว่าคนนั้นน่ะแฟน” ป๋อมบอก
ไทนี่ยกยิ้มมุมปาก พลางส่ายหน้า “ไม่น่าเชื่อเลยว่าข้าวพองจะเจ้าชู้”
“ข้าวพองไม่ได้เจ้าชู้” ป๋อมบอก “ข้าวพองปฏิเสธไม่เป็นต่างหาก”
“โอ้....” ไทนี่ขำสำนวนเพื่อนชาวไทย
แป๋มต้องช่วยขยายความ “แต่ละคนก็รู้แหละ ว่าข้าวพองมีครูคนนั้น แต่ก็ยังมาจ๊ะจ๋ากับข้าวพองอยู่ดี”
“เพราะข้าวพองไม่ได้ปฏิเสธน่ะเหรอ” ไทนี่เกาหัวแกรกๆ ที่จริงก็เข้าใจนะ เรื่องแบบนี้มีอยู่ทุกที่ เพียงแต่สาวคนที่กำลังคุยกับข้าวพองที่หน้าห้อง ดูท่าทางไม่ได้เป็นสาวเสรีแบบที่ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีคนรักอยู่หรือไม่
“ไทนี่ นี่เข้าใจอะไรยากนะ” ป๋อมทำหน้าตาสงสารเพื่อน
“ก็เข้าใจนะ ที่ฮ่องกงก็มีแบบนี้ แต่ผู้หญิงเขาดูเรียบร้อย”
“อ๋อ...” แป๋มลากเสียง “แรดเงียบไง รู้จักปะ”
“อ่า.....” คราวนี้ไทนี่ไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิง
“RHINO QUIET น่ะ” ป๋อมอธิบายด้วยภาษาอังกฤษแบบพิกลพิการพลางหัวเราะขำ
“อ๋า.....” ไทนี่ทำเสียงสูงกว่าเดิม “ไม่รู้ มันคืออะไร”
ทั้งแป๋ม และเพื่อนที่นั่งฟังอยู่ใกล้ๆ ต้องอธิบายต่อ “RHINO QUIET QUIET RHINO สาวซ่อนซ่าไง”
“สาวซ่อนซ่า อะไรอีกละเนี่ย” ไทนี่กลุ้มใจกับภาษาไทยปนอังกฤษของเหล่าเพื่อนใหม่จนอยากเอาหัวโขกโต๊ะ

*-*-*

เกียยืนรอข้าวพองอยู่ที่ลานจอดรถด้านหน้าโรงเรียนเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง พอมาถึงเด็กหนุ่มส่งกระเป๋าเป้หลังให้พร้อมกับคำสั่ง
“มีโครงงานอะไรไม่รู้ ทำให้ด้วย”
เกียแค่ยิ้ม ไม่ได้พยักหน้ารับคำสั่ง ส่วนคนขับรถเดินไปเปิดประตูให้ ข้าวพองถึงได้หันมาถาม
“อีกคนไปไหนล่ะ”
“ไปสถานทูต” 

พอขึ้นรถได้ ข้าวพองก็กดโทรศัพท์เล่น ไม่ได้พูดอะไรจนถึงบ้านก็เดินเข้าบ้าน ไม่แม้แต่จะหันมามองว่า ใครถือกระเป๋าเดินตามเข้ามา
จนจะเดินขึ้นบันไดเด็กหนุ่มถึงได้รู้ตัว
“กระเป๋าเราล่ะ”
“อยู่ในรถ” เกียตอบขณะที่อุบลกับธีระคนขับรถที่ยังรออยู่มีสีหน้าลำบากใจ เพราะจะถือให้ตั้งแต่แรก แต่เกียห้ามไว้
“ทำไมไม่ถือมา”
“เพราะมันไม่ใช่กระเป๋า...เรา” เกียเรียกตัวเองเหมือนกับที่ข้าวพองเรียกตัวเอง
ข้าวพองหรี่ตามองเดินกลับมาหา “กระเป๋าเรา แต่นายต้องเป็นคนถือมัน”
“มันไม่ได้อยู่ใน...เอ่อ..” เกียนึกคำภาษาไทย “รายละเอียดงานที่ต้องทำ”
“นั่นแหละคืองานที่นายต้องทำ”
“ไม่นะ งานของเราคือสอน แล้วนายก็ต้องเรียกเราว่าครูด้วย”
“นี่แหละงานของแก!” ข้าวพองตะคอกใส่หน้า แต่ด้วยส่วนสูงที่ต่างกันมาก เด็กหนุ่มตัวไม่ถึงไหล่ของเกียด้วยซ้ำทำให้ลืมตัวก้าวถอย
ท่าทางจากที่โมโหเปลี่ยนเป็นตื่นๆ แล้วก็กลับมาโมโหใหม่ ทำให้เกียต้องซ่อนยิ้ม
“แกมันก็แค่หมาพิการ อย่ามายกหางตัวเองว่าเป็นครู”

ทั้งที่เขามายืนตะโกนคำพูดที่มันไม่น่าฟังอยู่ข้างหน้า ทั้งที่คิดว่าเราน่าจะโกรธ แต่ก็กลับไม่คิดโกรธ
ที่กำลังทำอยู่คือการปรับสีหน้าให้เรียบเฉยแล้วพูดย้ำ

“งานของเราคือสอน และนี่คือบทเรียนแรก ถ้านายอยากให้ใครทำอะไรให้ต้องรู้จักพูดดีๆ”
“ไม่!” ข้าวพองหันไปออกคำสั่งกับอุบล และคนขับรถ “ไปเอากระเป๋าของเรามา”
“เอ่อ...” ทั้ง 2 คนหันไปมองหน้ากัน
“นี่เป็นบ้านเรา ทำไมต้องไปฟังมัน มันเพิ่งเดินเข้าบ้านมาไม่ถึง 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ”
“เพราะเราขอร้องอุบลกับธีระว่าให้ช่วยเรา ไม่ใช่การออกคำสั่ง เขาจึงเต็มใจทำให้เรา”
ข้าวพองทำตาขวางใส่เกียแล้วสะบัดหน้าพรืดจะเดินขึ้นข้างบน
“ในกระเป๋ามีงานที่ยังทำไม่เสร็จหรือเปล่า แล้ววันพรุ่งนี้ต้องเรียนอะไร” เกียพูดเสียงต่ำๆ
“เรื่อง” ทำเหมือนจะไม่สนใจ แต่ในกระเป๋าคงมีของสำคัญ ทำให้ข้าวพองหันมองซ้ายขวา แล้วเดินกระแทกส้นเท้ากลับไปที่รถ
อุบลรีบขยับเข้ามาหาเกียที่ยืนรออยู่ที่เดิม “คุณข้าวพองไม่เคยยอมอะไรง่ายๆ แบบนี้ คงเพราะมีของสำคัญในกระเป๋าถึงได้ยอม แต่ครูต้องระวังนะคะ”
เกียยิ้มรับ
“ครับ” .... ผมเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

เมื่อข้าวพองกลับเข้าบ้านมา ก็ทั้งทำตาขวาง ทั้งหน้างอหงิกแถมด้วยเสียง “ชริ” เมื่อเดินผ่าน
คนรับใช้อีกคนถือถาดน้ำดื่ม ทำท่าจะเดินตามขึ้นไปที่ห้อง แต่เกียรับมาถือไว้แล้วเดินตามขึ้นมาถึงห้องนอน
เคาะประตูแล้วก็เปิดประตูเข้าห้องมา
ข้าวพองใช้หางตามองคนที่เดินตามเข้ามาถึงในห้องนอน วางถาดแก้วน้ำไว้ที่โต๊ะทำงาน
“เราบอกให้เข้ามาได้แล้วหรือไง”
เกียยิ้มมุมปาก ซึ่งในเวลานี้มันเป็นท่าทางที่ทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เสีย
“ก็ไม่ได้บอกว่าห้ามเข้านี่”
“อะไร” หนุ่มตัวเล็กเสียงห้วนจัด แต่อีกฝ่ายก็ตอบนิ่มๆ
“เราเคาะประตูห้อง ไม่ได้ยินเสียงข้าวพองบอกว่าห้ามเข้ามา เราก็เลยเปิดประตูห้องเข้ามา”
“กวนตีนไม่จบ” อีกฝ่ายด่าตรงๆ

เกียยักไหล่ มองไปรอบห้องนอนที่มีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยชัดเจน ทั้งส่วนที่เป็นที่เรียนหนังสือ โต๊ะคอมพิวเตอร์ ตู้เสื้อผ้าและเตียงนอน
เป็นห้องชุดเล็กๆ ที่เรียบง่ายและน่าอยู่

“โครงงานอะไร”
ข้าวพองเปิดกระเป๋าเรียนส่งสมุดจดงานกับหนังสือให้
“ใช้คอมพ์ได้ ทำเลยนะ เราจะอ่านการ์ตูน”

หนังสือการ์ตูนที่หยิบออกมาจากกระเป๋าทำให้คนตัวโตต้องพยักหน้า
......นี่เอง ของสำคัญ......

“ถ้ามันเป็นงานของนาย นายต้องทำเอง เรามีหน้าที่สอน”
“อะไรวะ ไอ้หมาพิการ จะอยู่ถึงอาทิตย์หรือเปล่าเหอะ อย่างมาทำเรื่องมาก ไม่งั้นคนต่อจากนายเขาก็ต้องมาทำให้เหมือนกันน่ะแหละ”
เกียยืนนิ่งเหมือนเดิม “คนอื่นเราไม่รู้ และเราจะทำงานถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่านายต้องรู้จักพูดจากับคนอื่นให้ดีกว่านี้”
“เรื่อง! ไอ้ลูกเมียเช่า!”
ไวเกินกว่าความคิด เกียคว้าแขนเล็กๆ บิดไขว้หลังแล้วดันร่างผอมบางแนบติดกับกำแพง
รู้ตัวก็เมื่อสมองร้องว่า ทำแบบนี้ไม่ได้
...แต่ไม่ทันแล้ว...
ได้แต่ตามสถานการณ์ “อย่าดูถูกใครแบบนี้”
“โกรธที่มันเป็นความจริงหรือไง ไอ้หมาพิการ ไอ้ลูกเมียเช่า!” ข้าวพองยังคงท้าทายทั้งที่เจ็บแขนเจ็บไหล่ที่คล้ายจะหลุดออกมา แต่ให้ร้องว่าเจ็บก็ไม่ยอมเหมือนกัน
“ไม่”
“ละ..แล้วแม่นายเป็นใครล่ะ”
“แม่เป็นเจ้าของรีสอร์ท และพวกเขารักกัน แต่แม่เราทิ้งครอบครัวที่นี่ไปไม่ได้”
ข้าวผองรู้สึกหูผึ่ง “แม่นายมีครอบครัวอยู่แล้วหรือ”
เกียนิ่งเงียบ ข้าวพองก็เร่ง “ตอบดิ”
“แลกกัน”
“แลกอะไร”
“จะเล่าให้ฟัง แต่ต้องเรียกตัวเองว่าข้าวพอง และเรียกเราว่าครู”
“ก็ได้”

....เรื่องเล็กมาก ถ้าแลกกับเรื่องที่จะทำให้เอาไปล้อเลียนไอ้ยักษ์บ้าพลังคนนี้ได้

“พูดก่อน”
ข้าวพองทำตาขวางใส่ “ครูเล่าให้ข้าวพองฟัง”
“ครูมีพี่ชาย พี่สาว ที่ไม่ได้มีพ่อคนเดียวกับครู แต่ตอนนั้นพ่อทิ้งพวกเขาไป แล้วแม่ก็พบกับพ่อของครูที่เป็นคนอังกฤษ พ่อกลับบ้านไปโดยที่ไม่รู้ว่าแม่กำลังท้องครูอยู่ ช่วงเดือน 2 เดือนก่อนที่แม่จะคลอดครู พ่อของพี่ชาย พี่สาวเขาก็กลับมา แต่ก็รับครูเป็นลูก แล้วพอครูอายุ 9 ขวบพ่อที่เป็นคนอังกฤษกลับมาหาแม่ แล้วก็มารับครูไปอังกฤษตอน 10 ขวบ”
“แล้ว...” ข้าวพองลืมไปว่า ตัวเองยังโดนกดล็อกหลังอยู่ เพราะตั้งใจฟังเรื่องพ่อ 2 คนของเกีย แต่เจ้าตัวก็เล่าประวัติแบบย่อเสียเหลือเกิน
เท่าที่ฟังดู จะพ่อคนไทยหรือคนอังกฤษ ก็ไม่ได้รังเกียจเกียเลยสักนิด
“ที่นั่น ครูมีน้องสาว 2 คน”

ข้าวพองอึ้ง ขณะที่เกียคลายมือออกจากแขนผอมๆ ที่ไม่ได้ต่อต้านขัดขืนแล้ว
....การเป็นลูกคนกลางในลักษณะนี้ไม่น่าสนุกเลยสักนิด
แต่เกียรู้ทันว่าลักษณะท่าทีที่อ่อนลงแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าเจ้าตัวอินไปกับดราม่าเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพียงแต่รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องตลก แล้วก็กำลังเก็บข้อมูลนี้ไว้
นี่เป็นเรื่องเล่าที่ใครๆ ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องเศร้า แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่...
“แล้ว...ที่บ้านที่อังกฤษเขารังเกียจนาย...เอ่อ ครูหรือเปล่า โดนแกล้งเยอะเปล่า คนอังกฤษไม่ชอบคนเอเชียจริงมั้ย” ข้าวพองทำหน้าตาอยากรู้เต็มที่
ก็แหม...อยากไปอยู่อังกฤษมาตั้งแต่จำความได้ แต่ไอ้ข้าวพองคนนี้มันเคยไปไหนไกลกว่าประเทศไทยเสียที่ไหน
สงสัยล่ะสิ
ไว้จะเล่าให้ฟังวันหลัง
วันนี้อยากรู้เรื่องของไอ้ยักษ์บ้าพลังคนนี้มากกว่า
ดังนั้นเมื่อยักษ์บ้าพลังไม่ยอมเล่าต่อ ข้าวพองก็กระตุกแขนใหญ่ๆ ให้เล่าเรื่อง
“พี่เพียงกับพี่เพชรชอบเล่าเรื่องที่โดนฝรั่งมันแกล้ง ครูโดนมั้ย”
“เท่าที่เจอ ก็มีแต่คนไทยนี่แหละที่ดูถูกคนไทยด้วยกันเอง”
ข้าวพองเกือบถามว่าใคร อะไร ยังไง แต่พอมองตาสีฟ้าก็นึกขึ้นได้ก็ผลักคนตัวโต “ชริ ทำโครงงานเลย”

...หลอกด่ากูนี่หว่า...

“ทำด้วยกันสิ” เกียพยายามใช้ไม้นวม
“ไม่ เรา..เอ่อ พองเจ็บแขน”
เกียทั้งยิ้มทั้งถอนหายใจ “งั้นนั่งลง ตอนนี้พิมพ์ไม่ได้ เขียนไม่ได้ แต่อ่านได้ใช่มั้ย”
“โหย...ไรวะ มาถึงก็จะให้ทำการบ้านเลยเนี่ยนะ” ข้าวพองต่อรองไม่เลิก
“ก็เมื่อกี้บอกว่าให้ทำเลย ครูก็ทำเลยไง”
“งั้น....” ข้าวพองพยายามนึกทางเลี่ยง

...ไอ้ฝรั่งบ้านี่ จะอะไรของมันกันนักกันหนา คนอื่นน่ะ บอกอะไรก็รีบทำทั้งนั้นแหละ เพราะค่าจ้างงามแต่สุดท้ายก็ไปในเวลาไม่ถึงเดือนกันทั้งนั้น...

เกียหันไปมองที่ตู้เสื้อผ้า “มีชุดยูโด หรือเทควันโด้มั้ย”
“โหย........” ข้าวพองทำท่าอยากคลั่ง “อะไรมันจะขนาดนี้วะเนี่ย ไม่อันนั้นก็อันนี้ คนนะโว้ย!”
“ก็แค่ถามว่ามีมั้ย ถ้าไม่มี พรุ่งนี้ตอนไปซื้ออุปกรณ์จะได้ซื้อชุดมาด้วยเลย”
“เออๆๆ หาเอาเองเหอะ” ข้าวพองตอบส่งๆ เดินหนีเข้าห้องน้ำไปดื้อๆ
คล้อยหลังหนุ่มตัวเล็ก เกียถึงได้คลี่ยิ้ม เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วหันมามองห้องนอนอีกครั้ง

...ข้าวพองไม่ใช่วัยรุ่นรักสนุก แต่ค่อนไปทางเจ้าระเบียบ และเรียบง่าย นิสัยดูถูกคนและไม่ค่อยทำอะไรด้วยตัวเองแบบนั้น น่าจะเกิดจากการที่คนรอบข้างทำให้จนเคยตัวมากกว่า...
....และลำดับต่อไป คือการที่ทำตัวให้ชินกับสรรพนามที่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์ของเจ้าตัวเล็ก
จะเรียกว่าอะไรก็ตามใจ จะดื้อขนาดไหนก็รับไหว
เพราะคนนี้มีแผนสำรองเสมอ.

*-*-*จบตอนที่ 3*-*-*

สารภาพว่าลืมน่ะครับ เข้ามารอบหนึ่งแล้ว พอจะอัพเรื่อง ก็ถูกเรียกไปทำอย่างอื่นก่อน แล้วก็กลับไปเล่นเกมจนลืมไปเลย 9 โมงกว่าพี่ไจฟ์โทรมาทวงว่ายังไม่ได้ลงเรื่อง  :m23:

บุคคลที่ควรแนะนำในตอนนี้ก็คือ นิรมล -พี่สะใภ้
ป๋อม และ แป๋ม - คู่แฝดสารพัดใช้
กับ ไทนี่หว่อง หนุ่มจีน-ฮ่องกง

เฟลเล็กๆ เหมือนกันนะเนี่ย ขึ้นตอนใหม่ในหน้าเดิม อาจเพราะยังเริ่มเรื่อง ยังไม่รู้ว่าจะแสดงความเห็นอะไร แต่คุยกันนิดเถอะนะ ไม่งั้นมันเหมือนผมพูดอยู่คนเดียว
อยากรู้จักกันมากขึ้น ติดตามที่เฟสนะครับ
ตอนต่อไปมาวันอังคารนะครับ
.น้ำชา.

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 06-04-2014 09:42:58
เกียเริ่มดัดนิสัยข้าวพอง และเก็บข้อมูลไปด้วย
แต่ละคนปิดๆเปิดๆดีแท้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 06-04-2014 09:48:24
บอกได้คำเดียวว่า ดื้อ แต่น่ารัก  “RHINO QUIET QUIET RHINO สาวซ่อนซ่า ประโยคเนี่ย โดนใจขอจำไปใช้หน่อยเน้อ 555 สาวซ่อนซ่าคงงงน่าดูเวลาว่าให้ใคร นิรมลจะเป็นคนวางแผนฆ่าแม่กับเพชรรึเปล่าน้า เดายากกกกกกกก รอตอนต่อไปจร้า                        ปล อย่าเฟลเลยพี่น่ะ แฟนคลับน้ำชา 555   
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 06-04-2014 09:49:10
แหม.... ข้าวพองนี่ปากโคตรไว อยากให้เกียจับสั่สอนซะให้เข็ด เป็นนายก็ใช่ว่าจะพูดจาแบบนี้ในปกครองได้นะ เอาแบบใจำเลยนะเกีย คึคึนิรมลดูไม่ธรรมดาจริง มีพิรุธอย่างบอกไม่ถูก

อรุณสวัสดิ์คนหล่อธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 06-04-2014 10:01:54
อ่าาา เปิดเรื่องใหม่แล้ว ผ่านมาตั้งสามตอนแล้ว เพิ่งเข้ามาเจอ

แนวทางยังเดาไม่ค่อยออก แต่น่าสนุก
ชอบข้าวพองจัง น่ารักอ่ะ น่าตีด้วย
รอติดตามตอนต่อไปพิฮะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-04-2014 10:11:08
ข้าวพองเอาแต่ใจตัวเองสุด ๆ สมเป็นคุณหนูคนเล็กจริง ๆ
แต่แค่นี้ครูเกียรับมือไหว จิ๊บ ๆ
คุณพี่สะใภ้จะออกลายเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 06-04-2014 10:43:58
อะไรเนี่ย RHINO QUIET มุกนี้ขำกลิ้งค่ะ ผ่านฉลุย ^^
มีเพื่อนแฝดป๋อมแป๋มนี่สบายไปแปดอย่างเนอะ
แต่พี่สะใภ้ไม่น่าไว้ใจจริงๆค่ะ
ชอบบุคลิกของเกียมาก ใจเย็นดี เป็นพี่ได้ผ่างๆกับข้าวพองไปแล้ว 555
รอพ่อคนใจเย็นว่าจะรับมือกับความเฮี้ยวต่อๆไปอย่างไร ^^

ปอลิง - มารอตั้งแต่เช้าแล้ว พอเห็นในเฟซเลยรีบตามมาค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 06-04-2014 10:56:29
ตัวละครใหม่น่าสงสัยนิรมลมากที่สุด
แต่ได้บทเรียนจากเรื่องก่อนๆ ว่าไม่ควรตีตนไปก่อนไข้
จึงไม่ขอเดา เอาเป็นว่าตามต่อไปเก็บรายละเอียด
และค่อยประมวลทีเดียวว่าใคร  อยากจะมาเป็นกลุ่มเป็นก้อนก็ได้  :z2:

ชอบที่นายเอกแทนตัวว่าข้าวพองกับเกียร์นะ ดูน่าร้อกอ่ะ  :-[

บวกเป็ด รอวันสีชมพู

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 06-04-2014 11:47:24
ครูกำลังศึกษาน้องแบบเบาๆ .... ใช่ซินะ น้องยังเด็กอยู่นี่  คงกำลังรอวันที่จะได้สอนน้องให้เป็นผู้ใหญ่ เร็วๆ แน่ ๆ ฮุ ฮุ  :hao3:  :hao3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-04-2014 12:02:04
เริ่มปฏิบัติงานดัดนิสัยเป็นอย่างแรก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 06-04-2014 12:45:21
เกียเอาอยู่เลยนะคนนี้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 06-04-2014 12:50:13
แบบนี้สิถึงจะเอาอยู่ o8

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 06-04-2014 13:53:35
ก็เพิ่งเห็นว่ามาลงเรื่องใหม่ก็ปาไปสองตอนแล้ว วันนี้อ่านตอนสองเสร็จ ก็ได้ตอนสามต่อเลย แต่สั้นไปนิดนึงเนอะ ..
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 06-04-2014 18:28:38
สงสัยเรื่องการเสียชีวิตของแม่ และ "แม่ทำกับผมแบบนั้น" มากๆ อยากรู้ว่าตื้นลึกหนาบางอย่างไร แบบไหน และทำไม อีกอย่างที่กำลังนึกว่าคิดมากไปเองหรือเปล่านั้นคือ เพชรถูกซ่อนไว้ "ที่ไหน" และ เหตุผลจริงๆ ที่ต้องทะนุถนอมดูแลข้าวพองขนาดนี้ อาจไม่ใช่แค่เพราะว่าเป็นน้องรักคนสุดท้องแน่ๆ กำลังคิดว่าอาจเข้าข่ายกรณีรูเกียในเรื่องบลีชหรือเปล่า อิอิ เดาสุ่มไปเรื่อยค่ะ ไม่ได้มีหลักฐานอะไรแน่ชัดหรอก  :hao7:

จุ๊บๆ น้องที
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 06-04-2014 23:58:40
นั่นไง ฝรั่งมีแผนสำรองตลอด
สลับไปให้น้องปวดหัว จะได้นิ่งบ้าง ^^

คนรอบตัวพาให้น่าสงสัย...กระทั่งคนขับรถก็เว้นไม่ได้
อาณาบริเวณบ้านที่ต่างจากธรรมดาก็...อย่าให้รอดสายตาเชียว
นั่นแหละนะ คนที่ควรรู้กลับไม่ให้รู้ แต่อาจจะง่ายในการเก็บข้อมูลกว่ามั้ย...ไม่รู้แฮะ ^^"

ที่แน่ๆ นิสัยน้องต้องปรับปรุง มัน...ไม่น่าเอ็นดูเอาซะเลยนะพ่อคุณ - -"
รอดูว่าครูพิเศษจะปรับนิสัยยังไงต่อไป

ปล.ถ้าการเลื่อนอ่านบรรทัดท้ายก่อนอ่านเรื่องจะได้ชื่อว่าเป็นแฟนคลับน้องที...อันนี้ก็คงใช่ล่ะนะ ^^V
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pipoo ที่ 07-04-2014 01:43:00
ติดตามคะ  :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 07-04-2014 09:27:12
ข้าวพองนี่ก็คาสโนว่าเหมือนกันนะเนี่ย.......ยังคงสกิลปากดีเสมอต้นเสมอปลาย.....
เกียจัดหนักไปเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 07-04-2014 10:36:23
ข้าวพองแอบซ่าเหมือนกันนะนี่
ครูเกียมีแผนสองเหรอ
มีให้ตลอดเน้อ
 :hao7:
แต่ตอนนี้ขอปันใจชอบไทนี่ อุอุ
ถ้ามีอีกคู่ของไทนี่ได๋ป่าว
ท่าทางจะงามแน่ๆ

บวกและเป็ดขอบคุณ
 :mew3:
ชอบตัวหนังสือของนายน้ำชา 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 07-04-2014 17:18:14
เจ้าอารมณ์จริงนะข้าวพอง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 07-04-2014 19:38:58
คือข้าวพองแบบตามอารมณ์ไม่ค่อยจะทันเลย แถมแสบสุดๆ
แต่ไม่ต้องกลัวเรามีครูเกียคอยดัดนิสัย คริคริ

คุณพี่สะใภ้น่าสงสัยนะ แต่จะเป็นตัวหลอกเรารึป่าว 555555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 3 หน้า 2 (6เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 08-04-2014 08:48:46
ข้าวพองตัวแสบ แสบซ่า เอาแต่ใจ โอ๊ะ!มีแฟนและมีกิ๊กด้วยยยย

พี่เกียคะ ปราบให้อยู่หมัด อย่าปล่อยไว้

ว่าแต่เรื่องที่บ้านข้าวพองเนี่ยมันลับลมคมในไปไหน ตามลุ้น
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 08-04-2014 08:51:00
ตอนที่ 4

พอเดินเข้าคอนโดฯ แอนดรูว์ก็ส่งแฟ้มรายงานฉบับบางๆ ให้
“ไหนบอกว่าไม่ต้องรีบร้อน” เกียถามยิ้มๆ ขณะที่วางกระเป๋าสะพายลงบนโซฟา แล้วนั่งลงอ่านแฟ้ม
“คดีพวงเพชร แม่ของเพียง”
เพราะแอนดรูว์เป็นเพื่อนกับมโหธรพี่ชายคนโตของบ้าน จึงเรียกทุกคนในบ้านนี้ด้วยชื่อเล่น ทั้งมีน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กๆ ที่เพื่อนใช้ให้ทำงานโดยที่ปิดบังเรื่องราวหลายอย่างไว้

พวงเพชรมีจุดจบไม่ต่างจากลูกสาว คือโดนยิงตาย แต่เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกล จึงไม่ปรากฏในข่าวอาชญากรรม และอัคราก็ปล่อยให้ตำรวจทำไปตามหน้าที่ ไม่ได้ออกหน้ากดดันการทำงานของตำรวจ เช่นเดียวกับกรณีของเพชรแท้
“เขาไม่เคยยื่นหนังสือหรือเรียกร้องให้ตำรวจเร่งการทำงานหาตัวคนร้ายเลยนะ ตั้งแต่เมียจนมาถึงลูก” แอนดรูว์บอก
เกียเห็นด้วย “เพราะเขารู้ว่าใครทำ และเขาไม่เชื่อกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นเขาต้องมีแผนของเขาเอง”
ชายตัวโต 2 คนหยุดคิด แล้วพูดพร้อมกัน “เขาต้องมีคนทำงานสืบให้”

ตั้งแต่พบกันครั้งแรก มโหธรก็บอกอย่างนี้ คุ้มครองข้าวพองไว้จนกว่าจะแน่ใจ.....
ภาพของเด็กหนุ่มผมยาวระบ่าซ้อนขึ้นมาบนภาพของพวงเพชรและเพชรแท้
เกียคิดว่า พ่ออาจกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูก ถึงได้เลือกที่จะเงียบ แต่เมื่อเกิดเรื่องร้ายกับเพชร ถึงได้รู้ตัวว่าคนร้ายยังไม่ยอมวางมือง่ายๆ จนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
....มันต้องมีการเจรจา และข่มขู่ระหว่างคนร้าย กับอัคราและมโหธรสิ....

ขณะที่เกียตั้งปมประเด็นข้อสงสัย แอนดรูว์ก็ให้ความมั่นใจ “เรื่องสืบกูจัดการเอง เพราะกลับไปอังกฤษคุยกับพวกอินเตอร์โปลง่ายกว่า เพราะเขาต้องติดต่อเรื่องเพชรกับทางลอนดอนอยู่แล้ว ก็แค่หาว่าเขาคุยผ่านใคร” เว้นไปครู่หนึ่งก็พูดต่อ “เรื่องสอนข้าวพองไหวแน่นะ”
“ไหวสิ เด็กๆ มักจะทดสอบครูตอนที่เจอกันครั้งแรกอยู่แล้ว”
“งั้นก็เบาใจ เห็นประวัติว่าเปลี่ยนครูบ่อยๆ ก็มองว่าสุดแสบ”
“ไม่เท่าไหร่” เกียยิ้ม “เทียบกับพวกขี้ยา วัยรุ่นแถวลอนดอนแล้วยังห่างไกลอยู่มาก”
“เออ ใช่” แอนดรูว์นึกขึ้นมาได้ “อย่าลืมตัวขึ้นมาล่ะ นั่นเป็นคุณหนูเล็กของบ้านเชียวนะ”
พอเกียหัวเราะ แอนดรูว์ก็รู้ทันที “เตือนช้าไปใช่มั้ย”
หนุ่มลูกครึ่งพยักหน้ายอมแพ้ “สัญญาว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก”
“เออ” หลังจากคุยงานวันนี้จบ แอนดรูว์ก็กลับมาหงุดหงิดเรื่องมโหธรอีกครั้ง “รู้จักไอ้เพียงมานานกว่า 10 ปีไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมีความลับ”

เกียแค่รับฟังแอนดรูว์บ่นไปเรื่อย ในระหว่างที่อ่านแฟ้มรายงานคดีของพวงเพชรอีกรอบ แล้วหยิบคดีของเพชรแท้มาเปรียบเทียบ
ต้องสวมหมวกหลายใบ ใส่หน้ากากหลายชั้นในเวลาเดียวกัน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องทำงานแฝงตัวเพื่อสืบคดี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกแปลกพิกลจนต้องย้ำกับตัวเอง ว่าเราคือตำรวจที่ต้องออกจากราชการเพราะอาการบาดเจ็บเรื้อรัง และกำลังรับงานสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับคุณหนูอายุ 17 ปี

แฟ้มสุดท้ายที่แอนดรูว์ส่งให้คือ รายงานเกี่ยวกับบรรดาครูพิเศษของข้าวพองในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา คือช่วงก่อนที่เพชรแท้จะเสียชีวิตนานกว่า 1 ปี แต่ละคนทำงานได้ไม่นานนัก ที่นานที่สุดคือ 3 เดือน
เกียบันทึกภาพและประวัติของทุกคนเข้าสู่สมอง
“ต้องขอประวัติของนิรมลเมียของเพียงด้วย” เกียพูดเสียงต่ำๆ แอนดรูว์รับคำสั่งโดยปราศจากคำพูด

เวลาผ่านไปเกือบ 2 ทุ่มแอนดรูว์หันมาชวนเกียไปตระเวนกรุงด้วยรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่สถานทูตให้ยืมใช้ 1 สัปดาห์
“เส้นดีนี่หว่า” เกียแซว แอนดรูว์ก็ยักคิ้วรับ
“ให้รู้ซะมั่ง” ก่อนที่จะสตาร์ทรถ แอนดรูว์หันมาบอกอีกที “ถ้ากูกลับไปแล้วมึงจะใช้ต่อก็แจ้งขอยืมต่อได้”
เกียส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกพอมึงกลับไป กูก็คงต้องไปนอนบ้านโน้น”
“แต่ห้ามทิ้งบ้านนี้” ฝรั่งตัวโตใช้ประโยคและน้ำเสียงที่ตีความได้หลายแนวทาง จนอีกคนหัวเราะ
“เออ กูไม่ลืมหรอกน่า ว่ากูเป็นใคร”

ช่วงหัวค่ำการจราจรยังคับคั่ง แอนดรูว์กลับเป็นคนที่รู้เส้นทางในเมืองหลวงดีกว่าเกีย พาลัดเลาะไปจนถึงสถานบันเทิงที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติ แล้วพากันออกมาก่อน 5 ทุ่มเพื่อที่จะเปลี่ยนไปร้านอื่น
“ทำไมต้องกินเหล้าหลายร้าน” เกียถาม เพราะเพื่อนตำรวจที่รู้จักกันมักจะไปร้านประจำเสร็จแล้วก็กลับบ้านนอน แต่แอนดรูว์มีทีท่าว่าจะไปต่ออีกหลายร้าน
แอนดรูว์หัวเราะก่อนบอก “กูมีเวลาน้อย ต้องเที่ยวให้ทั่วไง”
แล้วแอนดรูว์ก็ทำให้เห็นว่าการเที่ยวให้ทั่วต้องทำอย่างไร เพราะฝรั่งตัวโตขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเรื่อยๆ เป็นการขับรถชมวิวของแท้
“เชื่อสิ รถแพงๆ เนี่ยไม่มีใครกล้าเรียกตรวจหรอก”

แม้จะสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า แต่เกียก็รู้ว่าแอนดรูว์กำลังมีความสุขมากกับการที่ไม่ต้อง –ทำงาน-

เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ได้เบียร์คนละขวดออกมานั่งดื่มอยู่หน้าร้าน เสียงหัวเราะของแอนดรูว์ดังก้อง ใบหน้าแดงก่ำ ขณะจิบเบียร์จากขวดในระหว่างการเล่าเรื่องตลกในการทำงาน
“จอร์จแม่งอย่างกับถังเบียร์วิ่งไล่ตามจิ๊กโก๋อายุ 16 มึงคิดดูสิ ตึกๆๆๆ”
เกียนึกภาพตาม ตำรวจอายุเกินกว่า 40 มักจะเป็นแบบนั้น
“ถ้ากูเป็นไอ้เด็กนั่นนะ กูจะไปนอนรอที่เสาไฟฟ้าหน้า รอจอร์จมันตามไปใกล้ๆ แล้วค่อยวิ่งต่อ”
“แล้วมึงทำไง”
“ทำไง กูก็ยืนหัวเราะน่ะสิ” จนถึงตอนนี้แอนดรูว์ก็ยังหัวเราะอยู่ “กลับมามันฟ้องหัวหน้าใหญ่ว่ากูไม่ทำงาน กูบอกกูทำงาน มันน่ะแหละอ้วนเกิน ทำลายสมาธิกูทำให้วิ่งไม่ไหว”
เกียเพียงยิ้มขำ ขณะที่มองข้ามฝั่งไปไกลถึงผับเล็กๆ ที่ฝั่งตรงข้าม

“นั่นข้าวพองหรือเปล่า” แอนดรูว์เป็นคนพูดทัก ขณะที่เกียเพียงแต่เพ่งมอง
ท่ามกลางกลุ่มหนุ่มสาววัยรุ่น ประมาณ 10 คน หญิงสาวคนหนึ่งกำลังโอบเอวข้าวพองเดินเข้าไปในสถานบันเทิง
จากภาพที่เห็น สมองประมวลผลทันที ในกลุ่มนี้ไม่มีใครที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของข้าวพอง
โดยไม่ต้องมีใครออกคำสั่ง ทั้งแอนดรูว์และเกียวางขวดเบียร์แล้วขับมอเตอร์ไซค์ไปจอดที่ร้านฝั่งตรงข้าม
เพียงแค่ยืนหลังตรงแล้วกวาดตามองไปรอบๆ พนักงานที่คุมหน้าร้านก็มองหน้ากัน แต่ก่อนที่จะก้าวเข้าไปข้างใน แอนดรูว์ก็ชี้ไปที่ระดับอกของคนคุมหน้าร้าน
“เราแค่มาหาคน ไม่ต้องตื่นตกใจ”
พนักงานพยักหน้าหงึกหงัก ถามกลับด้วยภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น
“หาใคร”
แอนดรูว์ยกยิ้มมุมปาก แล้วย้ำคำเดิม ขณะที่เดินนำเข้าไปก่อน

แม้เสียงเพลงจะดังกระหึ่ม ผู้คนจะพลุกพล่าน แต่เกียก็มองเห็นคนที่กำลังตามหา
มุมหนึ่งของร้าน หญิงสาวคนนั้นซุกหน้าอยู่กับไหล่ของข้าวพอง ขณะที่กลุ่มเพื่อนชายหญิงโยกตัวไปตามจังหวะเพลง
เกียก้าวยาวๆ เข้าไปหา ส่วนแอนดรูว์กลับหยุดเท้าจับข้อศอกของเกียไว้ แล้วส่งสัญญาณให้เกียเดินเข้าไปเพียงลำพัง
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ เกียก็เข้าใจว่าทำไมแอนดรูว์ถึงได้ไม่ตามมาด้วย
เพราะคนที่ซบหน้าลงกับไหล่ของข้าวพองคือหนึ่งในอดีตครูสอนพิเศษของข้าวพอง

ข้าวพองมีสีหน้าตกใจเมื่อเห็นคนตัวหนาเดินตรงมาหา มือผอมๆ ผลักคนที่ซบไหล่อยู่ออกไปทันที
“มะ มาได้ไง”
“มาทำหน้าที่ไง” เกียตอบเสียงต่ำๆ หันไปมองกลุ่มคนที่ล้อมรอบข้าวพอง
“ขออนุญาตนะครับ” เกียคว้าข้อมือข้าวพองให้เดินตามมาด้วย
ไม่มีใครกล้าขัดขวาง ขณะที่หญิงสาวคนนั้นลุกตามมาจนถึงด้านหน้า
“จะพาพองไปไหน”
“กลับบ้าน” เกียหันมาตอบ
ข้าวพองหายใจเข้าลึกๆ ยืนโงนเงน ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนไม่อยากกลับบ้าน หากแต่มีอาการมึนงง จนเกียต้องขมวดคิ้ว
....ตอนเดินเข้าร้านยังดูปกติ เมื่อนาทีที่แล้วยังจำเราได้ แต่ตอนนี้ดูเบลอๆ...
หญิงสาวดึงข้าวพองให้กลับมาหา เด็กหนุ่มเซตามแรง แต่เกียโอบเอวกลับมา
“ข้าวพองอยู่กับเรานะ” หญิงสาวยื้อไว้
“อย่ายุ่งกับเขา ไม่อย่างนั้นผมจะจับคุณฐานมอมยาเด็ก แล้วข้าวพองก็ยังอายุไม่ถึง 18 ปีด้วย”
พนักงานร้านที่อยู่ใกล้ๆ หันมามองหน้ากัน
“แกเป็นใคร” หญิงสาวตะคอกใส่
เกียยิ้มมุมปากไม่ตอบคำถาม โอบเอวบางของข้าวพองไปที่รถมอเตอร์ไซค์จับให้ซ้อนท้าย แทบต้องมัดมือให้กอดเอวหนาให้แน่น เพื่อไม่ให้ตกลงไป   

เมื่อพ้นเขตร้านถึงได้เห็นรถของแอนดรูว์ตามมาจนถึงบ้าน
“กูจะกลับไปคอนโดฯ นะ”
เกียพยักหน้ารับรู้ “ขอกูดูก่อนว่าโดนยาอะไร อาจไม่ร้ายแรง”
แอนดรูว์มองคนที่หลับตาแล้วพยักหน้า
“อาจแค่มอมยาเฉยๆ ก็ได้”

ยามที่หน้าบ้านเปิดประตูให้เกียเอารถเข้าบ้าน แล้ววิ่งตามมาช่วยประคองข้าวพองไว้ ขณะที่เกียลงจากรถแล้วช้อนอุ้มเข้าไปในบ้าน
บ้านที่ยังคงเงียบกริบเหมือนเดิม
..ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขาห่วงเด็กคนนี้แบบไหน เสียเงินมากมายเพื่อจ้างคนมาดูแล แต่ตัวเองกลับหายไปไหน....
เมื่อวางหนุ่มตัวเล็กลงบนเตียง ยามคนเดิมยังคงยืนรอคำสั่งของเกีย
แต่เกียไม่ได้ออกคำสั่ง
“ปกติจะกลับมาตอนกี่โมง”
“ประมาณตี 3 ครับ”
“ใครมาส่ง”
“เพื่อนๆ ครับ”
“หลับแบบนี้ทุกครั้งเลยหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ถ้ามากับเพื่อนจะไม่เมาเลยครับ เดินตัวตรงเป๊ะ แต่ถ้าเมาหลับมาแบบนี้คนที่มาส่งมักเป็นครูไอรีน”
....ใช่จริงๆ....
เกียพยักหน้า หันไปหากระดาษแผ่นเล็กๆ จดเบอร์โทรศัพท์ส่งให้ “แล้วปกติคุณเป็นคนพาเขาเข้าบ้านหรือไอรีนพาเข้ามา”
ยามยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว “ผมชื่อยอดครับ ครูอย่าเรียกผมว่าคุณเลย ผมเป็นคนพาคุณข้าวพองมาที่ห้องเองครับ เดี๋ยวพี่อุบลจะมาเช็ดตัวให้ครับ”
“คืนต่อไป ถ้าคุณข้าวพองออกไปอีกโทรหาผม ฝากบอกอุบลด้วยว่าเดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ข้าวพองเอง”
ยามกลางคืนยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว “ครับผม”
“ขอบคุณมากครับยอด”
ยอดยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม
ตั้งแต่อยู่บ้านนี้มา 5 ปีนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกขอบคุณ

เกียหันมามองคนที่นอนหลับสบายอยู่บนเตียงแล้วนึกอยากได้หลอดแก้วเล็กๆ เพื่อที่จะเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อหรือปัสสาวะไปตรวจให้แน่ใจ
แต่จากเบื้องต้นอาจเป็นเหล้าแห้งในปริมาณที่ไม่มากนักเพราะแม้ข้าวพองจะออกอาการเมาในทันที แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีก้าวร้าว

“ดีที่เป็นพวกเมาหลับ” เกียพูดเบาๆกับตัวเอง เหมือนกลัวคนที่โดนยาเข้าไปจะตื่นขึ้นมา
เดินไปหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดหน้าให้ ข้าวพองก็แค่ปรือตามองแล้วก็หลับต่อ
“ถ้าเป็นพวกเมาแล้วเอะอะโวยวายคงเหนื่อยกว่าเดิม”
“อือ...” ข้าวพองส่งเสียงเบาๆ เมื่อโดนน้ำเย็นที่แขน
“อาบน้ำเองไหวมั้ย” เกียถาม แต่ข้าวพองก็ส่ายหน้า
“งั้นจะเช็ดตัวให้”
เกียถอดเสื้อยืดแล้วเช็ดตัวให้ ข้าวพองปรือตาขึ้นอีกครั้ง
“ปวดฉี่”
“ไป ลุก” เกียพยุงคนเมาให้ลุก
....ว่าง่ายจนเข้าใจแล้วว่า ทำไมไอรีนถึงวางยาชนิดนี้ แล้วนี่โดนมาแล้วกี่ครั้ง แล้วโดน......
“เฮ่ย” เกียดุตัวเองที่ชักคิดในแง่ร้ายไปเรื่อยๆ
ข้าวพองปรือตาหันมามองขณะที่รูดซิปกางเกง
“เฮ้ย เดี๋ยวๆ ยังไม่ถึงห้องน้ำ”
ทุลักทุเลจนคิดว่าน่าจะอุ้มมาห้องน้ำแทนที่จะพยุงมา แต่พอมาถึงก็กลับเปลี่ยนใจ
“อาบน้ำ”
คนตัวโตต้องเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองด้วยการกลับไปตั้งคำถามเรื่องไอรีน และคดีของแม่กับพี่สาวของข้าวพองไปเรื่อยๆ เพราะไม่อย่างนั้นสายตามันก็จะคอยมองผิวขาวๆ ริมฝีปากอิ่ม และดวงตาปรือด้วยฤทธิ์ยานั่น
...นี่มันวันแรกเองนะ....

*-*-*จบตอนที่ 4*-*-*

ขอแนะนำให้รู้จักกับ ไอรีน ครูสอนพิเศษ และ พี่สาวคนนั้นที่เคยอ้างถึงในตอนก่อน
ไม่ต้องกังวล เรามีผู้ต้องสงสัยฝ่ายอธรรมให้คุณปวดติ่งหูมากกว่าที่คุณคิด  :laugh:
เริ่มลงเรื่องไปแล้ว แต่คนเขียนเรื่องยังหยุดอยู่ที่ตอน 32 และไม่ได้พิมพ์อะไรลงไปสักตัวมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ช่วยกันจุดธุปให้เขาเขียนต่อกันเหอะ  :call: 
คือผมมีหน้าที่ลง ผมก็ลงไปเรื่อยๆ นะ และผมกำลังบอกคุณผู้อ่าน ไม่ได้บ่นคนเขียนเลยสักนิด.... :z3:

ตอนต่อไปมาวันพฤหัสบดีสีส้มนะจ๊ะ ตะเอ๊ง...

.น้ำชา.


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 08-04-2014 09:11:56
จองไว้ ไปธุระเดี๋ยวมา ^^.  อ๊าาาา เดาไม่ออก มีผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีกคน ไอรีน  ยิ่งเดาอยากยิ่งอยากรู้ ลุ้นๆๆๆ เอ่อคนหล่อจ๊ะ ถึงขั้นจุดธูปเรียกเลยเหรอ 555 แต่เรื่องนี้พี่มีคำตอบในใจแล้ว ว่าเป็นใครเดาเล่นๆ อุบไว้ก่อน 555 ใช้ประสบการณ์จากเรื่องที่แล้ว รอวันสีส้มจร้า  เดี๋ยวไปจุดธูปก่อนนะ กิกิกิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 08-04-2014 09:26:10
ถอดเสื้่อผ้าอาบน้ำ เฮื๊อกกกก!!!!!!  :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:


แนะนำครูล้างลูกศิษย์ให้สะอาดทุกซอกทุกมุม เผื่อที่คิดว่าโดน....... ไปแล้ว มันจะล้างออก หุ หุ :m10: :m10:


ขอบคุณคั๊บ

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 08-04-2014 09:27:24
มีแต่คนน่าสงสัยเต็มไปหมดทั้งอดีตครูสอนพิเศษ พี่สะใภ้แม้แต่ครอบครัวของข้าวพองก็น่าสงสัย แต่เกียจะรอดจากการอยากกินเด็กรึเปล่านะ :mew4:รอติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 08-04-2014 09:33:45
ไม่คิดว่าไอรีนจะร้ายถึงขนาดนี้
ครูพิเศษนะนี่
ข้าวพองชักจะไม่แสบเองซะแล้วซิ
โดนกระทำกับความเหงาแหงๆ

ครูเกียสู้ๆ
วันแรกก็งี้
 :mew4:
บวกและเป็ดให้แอนดรูตรง ไม่ต้อง-ทำงาน-
555 ช่ายอย่างที่สุด
นายน้ำชาไม่ต้องกดดัน
แค่อัพเร็วๆ จี้ใกล้ๆ รับรอง...
 :katai4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-04-2014 09:38:41
เกียต้องเตือนตัวเองด้วยนะว่าน้องยังไม่ถึง 18
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 08-04-2014 10:23:34
ผู้ต้องสงสัยเต็มไปหมดเรานี่คิดไปร้อยแปดละ :confuse:
แต่เหนือสิ่งอื่นใดคงต้องบอกเกียว่า พองยังไม่บรรลุนิติภาวะนะจ๊ะ  :z1:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-04-2014 11:41:12
ผู้ต้องสงสัยเพิ่มมาอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 08-04-2014 14:27:54
อ่านแล้วไม่อยากคิดเลยว่าข้าวพอง
ถูกทำมิดีมิร้ายไปแล้วบ้างหรือยัง  :ling1:
และจะมีผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีกใช่ไหมคะนี่?

ร่วมด้วยช่วยกันเนาะ ^ ^  :call:   :call:
ขอให้เขียนเรื่องต่อได้อย่างไม่ติดขัดค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: ิbook ที่ 08-04-2014 19:25:40
ไอรีน หวังอะไร ทำแบบนี้ทำไม สงสัยแฮะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 08-04-2014 22:44:33
ตามติดชีวิตข้าวพองไปเรื่อยๆ ก่อน ตอนนี้ยังมึนๆ เหมือนข้าวพองโดนยา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 08-04-2014 23:18:44
 เนื้อเรื่องน่าลุ้นมากๆ ขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 09-04-2014 00:34:24
พร้อมรับสถานการณ์จัดมา ฝ่ายอธรรมน่าลุ้นทุกตัว  :laugh:

เกียแค่วันแรกก็ดูท่าจะแย่แล้วมั้ยล่ะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-04-2014 09:49:44
อย่างนี้ก็ต้องมีผู้ต้องสงสัยหลายคนจนเริ่มคิดไม่ถูกว่าเป็นใคร
แต่ทำไมข้าวพองถึงโดนมอมยาง่ายจัง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 09-04-2014 10:35:47
นี่ขนาดแค่เริ่มเรื่อง ผู้ต้องสงสัยก็เยอะแระ ยังมีอีก
ช่วยเกียเก็บข้อมูลดีกว่า ใครนะผู้ร้ายตัวจริง

ปล.  อากาศมันร้อนเอาใจคนแต่งเพิ่มอีกนิด จะได้แต่งเพิ่ม
ใกล้สงกรานต์แล้วไปเที่ยวไหนกันบ้าง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 09-04-2014 18:29:01
เปิดตัวผู้ต้องสงสัยอีกคน ไอรีน
ยังมีผู้ต้องสงสัยอีกเยอะ
งั้นเราก็ค่อยๆเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆล่ะกันเนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 10-04-2014 08:09:51
โอ๊ะ ข้าวพองโดนวางยา ตายแล้วววว โดนทำอะไรไปแล้วบ้างเนี่ยยยย

ดีนะที่คราวนี้พี่เกียช่วยไว้ทันน่ะ  ว่าแต่พี่เกียคะ เห็นน้องอาบนำแล้วใจสั่นเหรอคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 4 หน้า 3 (8เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 10-04-2014 08:51:14
ไอรีนเป็นนางนกต่อ? หรือ แค่หลงข้าวพอง?
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 10-04-2014 09:34:11
ตอนที่ 5

ข้าวพองตื่นนอนขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวหนักๆ จนแทบต้องเดินเคาะหัวตัวเองลงมาจากห้องนอน เจอครูตัวใหญ่ทั้ง 2 คนรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
เครื่องดื่มสีเหลืองอ่อนวางอยู่บนโต๊ะ
“อะไรน่ะ”
“น้ำมะนาว แก้เมาค้าง” เกียบอก ขณะที่แอนดรูว์จิบกาแฟร้อน
ข้าวพองนิ่วหน้า นั่งลงที่โต๊ะกินข้าวเรียกหาอุบล “มัดผมให้หน่อย”
เกียมองดูแม่บ้านที่กำลังมัดผมหางม้าให้ข้าวพอง แล้วนึกถึงภาพของแม่ ทั้งที่นี่และที่ลอนดอน บรรยากาศที่โต๊ะอาหารเช้าที่ไม่แตกต่างกัน
แม่มักจะทำผมให้น้องสาวเวลานี้เสมอ
คงเพราะเผลอยิ้มออกมา ทำให้คนที่กำลังจิบน้ำมะนาวสงสัยต่อ “ยิ้มอะไร”
“แม่ครูก็ทำผมให้น้องสาวตอนกินข้าวเช้าเหมือนกัน”
....มันเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมอย่างยิ่งที่พูดถึงแม่กับคนที่เสียแม่กับพี่สาวไปในเวลาไม่นานนัก แต่มันก็ได้ผล เพราะข้าวพองดูครุ่นคิด....
“แม่เรา...แม่พองไม่เคยทำให้หรอก อุบลทำให้”
อุบลรีบเล่าเรื่อง “ตอนที่คุณผู้หญิงยังอยู่คุณข้าวพองไว้ทรงนักเรียนค่ะ เพิ่งมาไว้ยาวถึงไหล่ก็หลังจากที่คุณเพชรแยกไปอยู่คอนโดฯ ก็สัก 2 ปีได้ค่ะ”
“แล้วนึกไงถึงไว้ผมยาว”
ข้าวพองส่ายหน้า “ไม่รู้เหมือนกัน จู่ๆ ก็อยากไว้ให้ถึงไหล่ แล้วก็ให้อุบลมัดให้” หนุ่มตัวเล็กเหลือบตามอง “อย่ามาสั่งให้ตัดผมนะ”
“ไม่หรอก” เกียตอบตามตรง “มันเหมาะกับข้าวพองแล้ว”
กินอาหารเช้าเสร็จ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอ ข้าวพองก็ถามเรื่องแม่อย่างที่คิดไว้จริงๆ “พองทำให้คิดถึงแม่หรือเปล่า”
“นิดหน่อย แต่ครูโตจนไม่ได้สนใจมากไปกว่าเขาก็มีครอบครัวของเขา”
คิ้วสวยขมวดคิด “แม่พองเขา.........” หนุ่มตัวเล็กเปลี่ยนเรื่องดื้อๆ อาจเพราะในรถมีคนขับรถอยู่ด้วย “พองจำได้ที่เมื่อคืนครูไปรับมาจากร้าน แต่พองคิดว่าพองกินไปนิดเดียว”
เกียหันมามองหนุ่มตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“ข้าวพองอาจไม่ถูกกับเหล้าแบบนั้น หรือบางทีถ้าเราพักผ่อนน้อย สภาพร่างกายไม่แข็งแรง เราก็เมาพับไปง่ายๆเหมือนกัน”
ดวงตากลมมองสบตา แล้วส่ายหน้า แต่ไม่มีคำพูดอื่นอีก

*-*-*
ข้าวพองทิ้งตัวลงที่เก้าอี้เรียนแล้วเหยียดขายาว แล้วก็เปลี่ยนใจเป็นฟุบนอนกับโต๊ะ ป๋อมตบไหล่เบาๆ
“เฮ้ย แฮงค์มาเลยเหรอ”
“ไม่เชิงหรอก แต่ง่วงนอนว่ะ”
แป๋มทำจมูดฟุดฟิด “เออ คราวนี้ไม่ได้กลิ่นเหล้า” หญิงสาวจิ้มนิ้วที่หน้าผากเพื่อน “สาวๆ ไม่ชอบคนตัวเหม็น โอเคร๊”
“ช่างเหอะน่า” ข้าวพองหน้านิ่ว
...จริงนะ ไม่ได้ปวดหัวเมาค้างอะไรแล้ว แต่ง่วงเหมือนไม่ได้นอนเลย...
“ไปนอนห้องพยาบาลดีกว่า”
“แต่เช้าเลยเหรอ”
“เออ” ข้าวพองขยับลุก ขณะกดรับโทรศัพท์เดินสวนกับไทนี่ หว่องออกไป
“ข้าวพอง ไปไหน”
“ไปนอน”
“ห๊ะ อะไร ทำไมไปนอนตอนนี้”
ไทนี่เริ่มต้นการทำหน้าตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ของวันนี้
“อยากนอนตอนนี้ ก็ไปนอนตอนนี้ไง” ป๋อมบอก “วันนี้ข้าวพองเป็น Cat เซา”
“อ่า......”
แป๋มส่ายหน้า ผลักไหล่พี่ชาย “เมื่อคืนคงเที่ยวดึก แล้วตื่นเช้ามาเรียนก็เลยง่วง ไปขอนอนที่ห้องพยาบาล”
“อ่า อันนี้เข้าใจ”
“ไม่ๆ ข้าวพองเป็น Cat เซา Cat Hang Over Over hang cat” ป๋อมไม่เลิกแกล้งจนไทนี่ ชี้หน้าพลางหัวเราะขำ
“You’r NUTS.”
“นัทแครกเกอร์ดิ หรือนัทบัตเตอร์”
ป๋อมจะแกล้งเพื่อนต่างชาติ แต่แป๋มปวดหัว
“พอเหอะ ป๋อม ภาษาอังกฤษป๋อมกำลังทำให้แป๋มปวดหัวแต่เช้า”

*-*-*
หลังจากส่งข้าวพอง ก็คือเวลาที่เกียกับแอนดรูว์ต้องกลับมาเตรียมงาน

นั่นเป็นช่วงเวลาที่เกียคิดว่าข้าวพองกำลังแสดงความไว้ใจครูคนใหม่ แต่เมื่อเลิกเรียน ข้าวพองก็กลับไปเป็นน้องเล็กเอาแต่ใจเหมือนเดิม
เรื่องราวช่วงเย็นหลังเลิกเรียนมันเริ่มขึ้นเมื่อเกียกับธีระที่เป็นคนขับรถไปถึงโรงเรียน และต้องจอดรออยู่ที่ลานจอดรถนานกว่าหนึ่งชั่วโมง แล้วหนุ่มหน้าใสเดินกลับเข้ามาในโรงเรียนพร้อมผู้หญิงอีกคน
ข้าวพองมาจากข้างนอก!
และมากับไอรีน!

ท่าทางกอดอกหลังตรง สีหน้าเรียบเฉยเป็นไปโดยอัตโนมัติ และแน่นอนว่ามันต้องไปกระตุ้นต่อมไม่ยอมแพ้ของข้าวพองอย่างแรง
เด็กหนุ่มตวัดหางตามองคนตัวโต ขณะที่จับมือของหญิงสาวที่คล้องแขนไว้ แล้วเข้าไปนั่งในรถ คุยกันเรื่องภาพยนตร์ที่เพิ่งดูด้วยกันมาเมื่อบ่ายอย่างสนุกสนานจนถึงบ้าน
จะว่าไปข้าวพองกับไอรีนก็ไม่ได้ถึงกับนั่งซบไหล่ หรือกอดกันในรถ แต่เกียสลัดภาพที่ไอรีนซบไหล่ หรือโอบเอวข้าวพองเมื่อคืนไม่ออก
ยิ่งมาซ้ำเติมด้วยภาพตอนนี้
อารมณ์ก็เลยค่อนไปทางเคร่งเครียดและขุ่นมัว

แอนดรูว์ที่รออยู่ที่บ้านถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อเห็นข้าวพองพาไอรีนเข้าบ้าน แล้วหันไปมองสีหน้าเรียบเฉยของเกีย
“กูน่ะอีกไม่กี่วันก็ต้องกลับบ้าน แต่มึงคือคนที่อยู่” ฝรั่งผมทองกระซิบให้เกียเป็นคนออกคำสั่ง
เกียหันมามองหนุ่มตัวเล็ก “ห้องฝึกด้านหลังจัดเสร็จแล้ว”
ข้าวพองไม่ได้สนใจ ทั้งจะก้าวเดินผ่านเข้าไปในบ้าน
“ข้าวพองต้องฝึกยูโด” เกียพูดต่อ
ไอรีนหัวเราะคิก “ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้”
เกียหันมามองหญิงสาว แล้วกลับไปมองจ้องหนุ่มตัวเล็ก
ข้าวพองยักไหล่ไม่สนใจ จะเดินต่อแต่เกียชักเท้าไปยืนขวาง
อุบลที่ยืนมองอยู่ต้องเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ย
“เรียนสักครึ่งชั่วโมงนะคะ แล้วอุบลจะทำของว่างอร่อยๆ ให้คุณข้าวพองกับคุณไอรีน”

แอนดรูว์ก็ช่วยอีกคน ด้วยการส่งยิ้มหวานให้กับหญิงสาว
เป็นยิ้มหวานที่มีไว้เพื่อโปรยเสน่ห์เพศตรงข้ามโดยเฉพาะ
“คงต้องรบกวนคุณแล้วละครับ”
สำเนียงภาษาไทยของแอนดรูว์กลับทำให้ไอรีนยิ้มเขิน หันไปบอกกับข้าวพอง “แค่ครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวไอรีนไปดูด้วย”
ข้าวพองเบ้หน้าเหนื่อยๆ แต่แอนดรูว์ไม่สนใจ “ให้เกียช่วยเปลี่ยนชุดฝึกให้นะครับ”
“ชุดอยู่ที่ห้องฝึกด้านหลังแล้ว” เกียพูดเสียงต่ำ จนแอนดรูว์ต้องแอบส่ายหน้า หันมาหาไอรีน
“เราคงต้องขอความช่วยเหลือจากคุณไอรีน” หนุ่มลอนดอนยกมือเหมือนจะโอบเอวไอรีนให้เดินไปรอที่ห้องรับประทานอาหาร

“ผมชื่อแอนดรูว์ เป็นเพื่อนกับเพียง เขาให้ผมหาครูพิเศษให้น้องชายของเขา พอดีเกียมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย ต้องออกจากงาน ก็เลยแนะนำงานนี้ให้”
แอนดรูว์แนะนำตัวเอง และครูคนใหม่ของข้าวพอง จากนั้นก็ถามไถ่เรื่องการเรียนของข้าวพองไปเรื่อย
อุบลมองท่าทีเป็นมิตรของแอนดรูว์แล้วหันไปมองเกียที่เดินตามข้าวพองไปทางห้องด้านหลัง อดไม่ได้ที่จะคิดว่า แอนดรูว์น่าจะเป็นครูของข้าวพองมากกว่า
อย่างน้อยแอนดรูว์ก็ยิ้มเก่งกว่า...

ภายในห้องฝึกที่กรุกระจกรอบ มีอุปกรณ์กีฬาหลายชนิดวางเรียงอยู่ที่ด้านหนึ่งของห้อง
ยอดที่เป็นยามกะกลางคืนยืนยิ้มกว้าง ส่งชุดฝึกให้กับข้าวพอง
เด็กหนุ่มเพียงแต่มอง แล้วขยับจะถอดเสื้อนักเรียนออก เกียต้องคว้าข้อมือไว้
“ไปเปลี่ยนในห้องน้ำสิ ห้องนี้กรุกระจกรอบ”
“มันก็เหมือนกันน่ะแหละ” หนุ่มตัวผอมทำน้ำเสียงหงุดหงิด “จะอะไรกันนักกันหนา”
“ไปเปลี่ยนเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นในห้องน้ำ หัดคิดอะไรให้มันรอบคอบให้เป็นนิสัย”
“นี่!” ข้าวพองเสียงดังใส่เกียทันที
“ยิ่งช้า ก็ยิ่งเสียเวลาที่จะได้อยู่กับแฟนนะ”
“ฮึ่ย!” ข้าวพองคว้าเสื้อผ้ามาจากมือของยอด เดินออกไปที่ห้องน้ำเล็กๆ ทางด้านนอก

ท่าทางโมโหจนยอดต้องหุบยิ้ม เกียบอกขอบคุณยอดอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็กน้อย ว่าแต่คุณครูฝรั่งอีกคนไม่ฝึกด้วยหรือครับ”
“เขาคุยกับไอรีนน่ะ”
ยอดทำตาโตแล้วกระซิบบอกกับเกียที่กำลังสวมชุดยูโดผูกสายสีดำไว้หลวมๆ “คุณเพียงเคยสั่งไว้ว่าไม่ให้เข้าบ้านอีก นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาออกจากงานไปแล้วกลับเข้าบ้านนะครับ”
เกียขมวดคิ้ว ส่วนยอดก็ให้ข้อมูลต่อ “พอคุณไอรีนมาสอนคุณข้าวพองได้อาทิตย์กว่าๆ คุณเพชรก็เสีย เจ้านายคุณอัคราน่ะครับก็ให้คุณไอรีนออกจากงาน แกคงคิดว่าพอคนนี้เข้าบ้านแล้วจะมีเรื่องซวยมังครับ แล้วคุณเพียงแกก็มาสั่งผมกับพี่ยิ่งที่อยู่กะกลางวัน ว่าอย่าให้คุณไอรีนเข้าบ้านอีก”
คนตัวโตคิดตาม ความเชื่อแบบนี้เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้

เมื่อข้าวพองกลับออกมา เกียก็เปลี่ยนใจบอกให้ยอดกลับไปพักผ่อน
“ไม่ให้ผมเป็นคู่ซ้อมให้ครูแล้วหรือครับ”
“ท่าทางอารมณ์ไม่ดีอย่างนี้ ไว้ครูสอนยอดพร้อมกับยิ่งตอนที่คุณข้าวพองไม่อยู่บ้านดีกว่า”

ยอดฉีกยิ้มกว้างแล้วรีบไปเปิดประตูให้ข้าวพองเดินเข้ามาในห้องฝึกทันที
เกียหยิบชุดยูโดสวมทับเสื้อยืดขนาดพอดีตัวกับกางเกงผ้ายืดความยาวแค่เข่าของข้าวพองไว้
“เคยฝึกยูโดมั้ย”
“ไม่”
เกียพยักหน้า “งั้นวิ่งรอบแมท..เสื่อสัก 10 รอบแล้วเราค่อยฝึกท่าพื้นฐาน”
ข้าวพองทำหน้าเมื่อย อดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางบ้าน
“แอนดรูว์อยู่เป็นเพื่อนแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
“ชริ”
เกียยิ้มจางๆ
....ท่าทางแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะชอบผู้หญิง....
“เป็นผู้ชายต้องเข้มแข็ง จะได้ดูแลคนรักได้”
“ทำเป็นรู้ดี” ข้าวพองเถียงทันที “ตัวเองน่ะพวกโดนทิ้งแหง อยู่บ้านก็หัวเน่า ทำงานก็กลายเป็นหมาพิการ” ด่าไปแล้วก็หันไปทำปากยื่นทางอื่น
เกียยักคิ้วข้างเดียว แล้วบอกให้ข้าวพองวิ่งตาม
….วันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุด คงต้องไปตรวจสมอง ว่าทำไมถึงไม่โกรธที่โดนด่าแบบนี้....

การฝึกยังไม่ทันจะไปถึงไหน ไอรีนก็มาหาข้าวพองที่ห้องฝึก โดยมีแอนดรูว์วิ่งตามมาด้วย
“พอง ไอรีนต้องกลับก่อนนะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“พี่นิรมลมาน่ะสิ ไม่รู้หมาที่ไหนมันโทรไปฟ้อง”
นิรมลมีสีหน้าบึ้งตึงเมื่อเดินตรงมาที่ห้องฝึกอีกคน
“ขอโทษนะคะน้องข้าวพอง”
นิรมลบอกกับข้าวพองแล้วหันไปจิกตาใส่ไอรีน “เชิญ”
“เขามากับพอง”
นิรมลหันมาหาน้องชายคนเล็ก “ทราบค่ะ แต่พี่นิทำตามคำสั่งของคุณพ่อกับคุณเพียง ถ้าจะโต้เถียงอะไรก็ไว้รอเถียงกับคุณพ่อกับคุณเพียงก็แล้วกัน”
“พี่สะใภ้ตามสั่ง” ไอรีนหันมาทำเสียงเยาะเย้ยใส่นิรมล
“ก็ไม่ใช่คนที่เขาตามไล่แล้วสาบส่งไม่ให้กลับมา เชิญย่ะ” นิรมลทำน้ำเสียงไม่แตกต่างกัน

ไอรีนยิ้มหวานทั้งโบกมือลาข้าวพอง แต่หันไปสะบัดหน้าใส่นิรมล ก้าวเดินฉับๆ ออกไป นิรมลหันมายิ้มเหนื่อยๆ ให้กับครูฝรั่ง 2 คน

“ค่ำนี้อย่าเพิ่งรีบกลับนะคะ คุณพ่อจะคุยกับคุณ 2 คนน่ะค่ะ” นิรมลทำขยิบตาไปทางข้าวพอง “เมื่อคืนท่านไม่อยู่ไปนอนอีกบ้าน แต่วันนี้จะแวะมา บอกว่าอยากคุยดัวย รอก่อนนะคะ”
“เหอะ” หนุ่มตัวเล็กส่งเสียงไม่พอใจ นิรมลก็เลยหันมาพูดด้วย
“น้องข้าวพองคะ”
“จะให้ทำอะไรอีกมั้ย ถ้าไม่จะไปอ่านการ์ตูนแล้ว”
“เพิ่งออกกำลังกายได้แค่ 5 นาทีเอง วิ่งอีกสัก 5 นาทีแล้วฝึกท่าพื้นฐานก่อน”

พอเห็นว่าเกียกำลังจะสอนต่อ นิรมลก็ขอตัว โดยมีแอนดรูว์รับหน้าที่เดินไปส่งเหมือนเคย
ดูๆ ไปแอนดรูว์คือหนุ่มเจ้าสเน่ห์ที่รับหน้าที่เจรจากับหญิงสาวทุกคน แล้วปล่อยให้เกียรับหน้าที่เรื่องข้าวพองโดยตรง ส่งนิรมลแล้วแอนดรูว์ก็กลับมาเป็นคู่ซ้อมให้เกีย
เพราะมีความเป็นมืออาชีพมากเกินไป เวลาที่แอนดรูว์โดนเกียจับทุ่มลงพื้น ถึงได้ดูสวยงามและรู้จังหวะที่จะลงพื้นได้ดี แต่พอมาถึงเวลาที่ข้าวพองจับเกีย มันกลับดูแปลกๆ

“เตะไงเนี่ย ตัวหยั่งกับสิบล้อ ขาหยั่งกะตอม่อสะพานหยั่งเงี้ยะ”
คนตัวเล็กเท้าเอว
“เตะไปเถอะน่า ไม่เป็นไรหรอก” แอนดรูว์บอก
แทนที่ข้าวพองจะเข้าประชิดตัวแล้วเตะขา จับทุ่ม เด็กหนุ่มกลับเตะเข้าที่หน้าแข้งของเกียตรงๆ แล้วกระโดดตัวลอยเสียเอง
“เจ็บอะ”
ครู 2 คนถึงกับหัวเราะเสียงดัง
“จะแกล้งเขาแล้วโดนเสียเอง” แอนดรูว์บ่นเป็นภาษาอังกฤษ เลยโดนข้าวพองชี้หน้า
“เราฟังสำเนียงอังกฤษออกนะ”
แอนดรูว์ยิ่งหัวเราะกว่าเดิม ส่วนเกียคุกเข่าลงดูหน้าแข้งของคนที่คิดเกเรใส่คนอื่น
“เตะเสียเต็มแรง แดงเป็นรอยอย่างนี้เดี๋ยวคงเขียว” หนุ่มลูกครึ่งหันมามองหน้าเพื่อน “วันนี้คงได้แค่นี้”
“คงงั้นแหละ” แอนดรูว์เห็นด้วย แล้วถามเจ้าตัว “เดินไหวมั้ย”

ที่จริงน่ะเดินไหว แต่ข้าวพองกำลังเกเร “ไม่ ขี่หลังหน่อยดิ”
เกียหันหลังให้ทันที ข้าวพองก็ขี่หลัง สีหน้าท่าทางมีความสุขมากจนแอนดรูว์ยิ้มขำ

....ลูกคนกลางกับน้องชายคนเล็ก....

*-*-*จบตอนที่ 5 *-*-*

 ไม่อยากบ่นซ้ำเลยเดี๋ยวจะสงสัยว่าผมอายุเท่าไหร่ แต่ผมกำลังสงสัยอย่างจริงจัง (ไงล่ะ สำนวน  :laugh:) ว่า ทำไมยิ่งโพสต์ จำนวนผู้อ่านยิ่งลดลง มันเกิดจากอะไรหนอ
ไหนๆ ก็คลิ๊กมาอ่านแล้ว บอกกันสักนิดเถิดว่า คิดอย่างไร? :sad4:

ตอนต่อไปมาวันอาทิตย์นะจ๊ะ  :hao3:
 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 10-04-2014 09:54:08
ยังไม่ได้อ่าน แต่เลื่อนลงมาสะดุดตอนท้าย เดาเอาว่า นักอ่านเงาเพิ่มขึ้น ขาประจำน้อยลง โดนกันทุกคนนะไจฟ์ จะบอกว่าอย่าคิดมากก็แลดูแปลกๆ แต่ด้วยอาจจะทิ้งช่วงนิยายไปนานก็เป็นได้นะ ^^ สู้ๆๆๆๆๆ ยิ้มไว้ๆๆๆๆ.   

อ่าาาา สำหรับพี่นะ พี่หาเหตุผลไม่ได้ 555  พี่ติดตามนิยายมาตั้งแต่ never let you go เฮียซาโต้ พี่ก็ชอบตั้งแต่นั้นมา   สนุกหรือเปล่า สนุกสิ พี่ชอบยิ่งเราไม่รู้ยิ่งต้องหา  คงเพราะเรื่องนี้ มันไม่ค่อยออกแนวรักหวานมั้งนะ ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 10-04-2014 10:00:33
อย่านอยด์นะคะ กอดๆๆๆๆๆๆๆๆ............. :L2:
:ped149: :ped149: :ped149:

เนื้อเรื่องกะลังมันส์ ...... ตะแรกนึกว่าข้าวพองจะแสบมากกว่านี้ แต่มีแอบห่วงความรู้สึกคุณครูนะเนี่ยเป็นพวกแข็งนอกอ่อนใน ส่วนคุณครูเป็นพวกปากแข็งใจอ่อนแน่ๆ แต่ทั้ง 2 ก็ทำให้มีมีอารมณ์กรุบกริบ ให้เราแอบฟิน55555 :mew1:


ส่วนคนโพส........หุ หุ หุ แมวเซา :mew3:  (ขอบคุณคั๊บ)

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 10-04-2014 10:38:50
รอลุ้นตอนต่อไปคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 10-04-2014 10:52:01
สนุกจ้าสนุก ใจเย็น ๆ ค่อยเป็นค่อยไป
ผู้หญิงสองคนร้ายพอกัน แต่จุดประสงค์ไม่เป็นที่แน่ชัด
เกียท่าจะหลงข้าวพองเอามาก ๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-04-2014 10:59:05
แต่นี่ติดตามนิยายของคุณเสมอน่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 10-04-2014 11:24:54
มันไม่รู้จะเมนท์อะไรจริงๆนะคะ

แบบจะอินกันเนื้อเรื่องมากก็จะกลายเป็นไปดักทางเนื้อเรื่อง
อยากลุ้นอย่างเดียวมากกว่า
ส่วนจะบ่นติอะไรก็ไม่มีซะด้วยสิ

ข้าวพองนี่นิสัยน้องเล็กร้ายที่สุด น่าจะเป็นตัวเอกที่ร้ายการที่สุดของjivetea เลยมั้ง
เราชอบที่ตัวเอกมักมีนิสัยเสียแบบไม่น่ารักอะไรซักอย่าง  แต่ไม่ได้น่ารำคาญ
ข้าวพองนี่ติดขีดสูงสุดของที่รับได้เลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 10-04-2014 11:29:39
โอ๋ๆ น้องน้ำชาน่ารัก อายุเท่าไหร่นะเรา 555
ชอบตรงได้ขี่หลังพี่ ข้าวพองโดดขึ้นเลยอะดิ
แต่พี่คนกลางมักจะเสร็จน้องคนเล็กเสมอ ไม่รู้ทำไม
สงสัยเด็กวันพุธเช่นเราๆ จะขาดความอบอุ่น
เจออ้อนตาแป๋วแหววเข้าหน่อยเลยยวบทั้งใจ
 :mew5:
ไอรีนแปลกจัง
ทำไมยังกล้ามาอีกทั้งๆ ที่ เมื่อคืนเพิ่งถูกพรากจากอกแท้ๆ
อย่างน้อยก็น่าจะสันหลังหวะบ้าง
นกต่อมาตามดูผลงานเหรอ
 :hao7:
บวกและเป็ดรัวให้ ไทนี่ CAT เซา 555
คนนี้สุดโปรด ชอบๆๆๆ

ปล. เหมียนกัลลลลลเยย
จิระฝากกระซิบมาว่าอย่าคิดมาก
แต่อย่างที่ไจฟ์บอกนั่นล่ะคือตรงใจสุโค่ย...อย่างจริงจัง 555
บางคนไม่สะดวกเม้นต์
บางคนชอบตะลุยอ่านอย่างเดียวแล้วแอบไปฟินเอง
สไตล์ของใครของมัน
แต่นี่มือบอน แวะที่ไหนต้องพ่นกราฟิตี้โชว์ เท้าเอวบอกมาแล้วนะ หุหุ

เชื่ออยู่อย่าง...
คนอ่านที่แวะเข้ามา (ทุกคลิก ทุกวิว ทุกเม้นต์) มีความสุขที่ได้มาเจอตัวหนังสือของเราแน่นอน
น้ำชาคนเก่งสู้ๆ
 :mew3:
ปั่นน้ำแตงโมกับปอกมะม่วงเขียวเสวยให้เด็กน่ารัก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: smilymoon ที่ 10-04-2014 11:32:45
สนุกค่ะรออ่านอยู่ นิยายแนวนี้ไม่ใช่นิยายตลาดเลยอาจไม่มีคนเมนท์ หรือวิจารณ์เยอะก็ได้เป็นกำลังใจให้น่ะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 10-04-2014 11:48:47
บางทีก็ดูว่าข้าวพองน่ารักนะ กับการแสดงออกแบบลูกชายคนเล็กอ่ะ
ชอบตอนที่ข้าวพองคุยกับเกียแล้วเรียกแทนตัวเองว่าพอง ดูน่ารักดี

ทำไมคุณเพียงถึงสั่งห้ามไอรีนเข้าบ้านอีก มันต้องมีอะไรแหงๆเลย

ชอบคอร์สคำศัพท์วันละคำสอนไทนี่ของป๋อมจัง 55555555555

ปล.โอ๋ๆอย่านอยด์นะ :กอด1:  เรื่องนี้สนุกนะ ลุ้นดี ได้เก็บข้อมูลผู้ต้องสงสัยไปเรื่อยๆ
ส่วนเรื่องคนอ่าน คนเม้น ไงดีล่ะ เค้าอาจจะไม่รู้จะเม้นอะไรก็ได้มั้ง แบบอ่านเพลิน

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 10-04-2014 12:09:36
เข้ามาให้กำลังใจ ไจฟ์ น้องน้ำชา จ้า :mew1:  +1 ให้คะแนนด้วย อิอิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 10-04-2014 12:33:28
 :mew1:

แอบชอบโมเม้นท์ขี่หลังตอนจบนะ 

เกียถึงกับมีภาพนัวเนียของหนุ่มน่ารักกะอดีตสาวครูสาวติดตาเชียวรึ
คงไม่ธรรมดาแล้วล่ะนะ 

บวกเป็ด

ปล.ติดตามและเป็นกำลังใจให้ตลอดนะคะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 10-04-2014 13:18:52
แล้วไอรีณนี่เป็นแฟนข้าวพองเหรอตามกันจัง
เกียต้องเข้มงวดกับข้างพองอีกสักหน่อยแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 10-04-2014 15:31:18
ยังสนุกน่าติดตามเหมือนเดิมเลยค่ะ

ตอนนี้ ดูแล้วนิรมลก็ยังโอเคนะ

รอดูคุณพ่อตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 10-04-2014 18:22:03
รออ่านอยู่เสมอล่ะค่ะ (ลืมล๊อคเอาท์อีกต่างหาก!)
ลูกคนกลางกับน้องคนเล็กท่าทางจะเริ่มเข้ากันได้ดี (บางเวลา)
แต่ลูกคนกลางคงต้องไปตรวจสมองแน่ค่ะ  :ling1:
ทำไมน้อไม่โกรธน้องคนเล็กเลย ^_^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 10-04-2014 20:37:35
แลดูรอบตัวข้าวพองมีแต่ผู้หญิงร้ายๆ
อ่านตอน 2-5 รวดเดียว แล้วก็สงสัย แม่ทำอะไรกับข้าวพอง
แล้วไอรีนทำอะไรถึงโดนไล่ออก..ที่ผ่านมาน้องคนเล็กโดนทำอะไรไปมั้งแล้วเนี้ย :katai1:


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 10-04-2014 21:18:42
ทำไมรู้สึกว่าเกียกำลังเริ่มตกหลุมรัก เด็กน้อยข้าวพองซะแล้วหละเนี่ย แหมนี่ยังไม่ได้เริ่มสนจริงจังอาการก็มาขนาดนี้แล้ว
มิอยากจะคิดตอนที่รักไปจริงจังจะเป็นยังไง

แต่สองสาวที่ผ่านเข้ามาดูน่าสงสัยทั้งคู่ ต้องรอดูต่อปายยยยยย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 10-04-2014 22:05:23
เอาตรงแบบไม่ต้องเอาใจคนเขียนเลยนะ แบบว่าตอนแรกตื่นเต้นมาก ฉากต่อสู้ยังกับหนังฝรั่ง แต่พอกลับเมืองไทยกลายเป็นเรื่องราวเรื่อยๆ ปูปูมหลังตัวละคร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่มันคงจะช้าๆ ออกแนวเรื่อยๆ มั้งคะ และคาดว่า คงอีกนานกว่าจะมีเบาะแสเรื่องที่เรากำลังเผชิญกันอยู่  แต่ละตอนมันก็สั้น อ่านแล้วคนอ่านก็คงไม่รู้จะแสดงความเห็นอะไร
อย่างไรก็ตาม อันนี้ไม่ได้มาต่อว่านะคะ เห็นน้องทีถาม พี่ก็แสดงความเห็นส่วนตัวไป แต่พี่ติดตามอ่านทุกตอน รู้ว่าวันนี้จะลงก็ต้องมาตาม อีกอย่าง มันคงยังไม่ถึงตอนหวานๆ พระนายด้วยมั้งคะ พี่ก็รอ อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 11-04-2014 08:02:10
ข้าวพองดูเป็นเด็กน้อยสมวัย ว่าแต่คุณครูจะเต๊าะเด็กหรอฮะ  5555

รอติดตามตอนพิต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 11-04-2014 08:23:24
 :mc4: แวะเข้ามาฉลองเรื่องใหม่ของน้องน้ำชาค่า  (ช้าไปนิดมะ  :ling2:  ๕  ตอนแล้วนะเฮ้ย)  + เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า 


 อิฉันยังมิได้อ่านเรื่องนี้นะเจ้าคะ    อิฉันเปนพวกชอบรอให้เรื่องจบ   รึใกล้ ๆ  จบแล้วอ่าทีเดียวค่า

ปูลู  เรื่องอื่น ๆ ของคุณน้อง  อิฉันแอบเป็นเงานตามอ่าน  :m32: เกือบทุกเรื่องเลยจ้ายกเว้น  Under_lie  ยังไม่ได้อ่าน   ถึงเค้าจะไม่ค่อยเม้น :m5: (แทบจะไม่เคยเม้น ฮ่า)  แต่ขอ ฟันเฟริ์มว่า  นิยายคุณน้องสนุกทุกเรื่องนะเจ้าคะ  จุ๊บุ ๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 12-04-2014 04:38:44
วิเคราะห์ตามหลักการ
1. เพราะเรื่องแนวนี้อ่านยาก คือต้องคิดตามตลอดเวลา (แต่พี่ชอบที่เป็นแบบนี้แหละ และคิดว่ามีน้อยคนที่แต่งเรื่องแบบนี้)
2. อย่างที่รู้กัน ว่าเรื่องที่ไม่มีฉากแบบว่า มันจะไม่ได้รับความนิยม (มันจะต้องมีทุกเรื่องรึไงว๊าาา)
3. อาจเพราะเป็นตอนต้นเรื่อง ยังไม่มีประเด็นให้สนใจเท่าไหร่ รออีกนิดคนอาจสนใจมากขึ้น  o13

ปล. คุณไอรีนไม่น่ารักเลย ทำไมข้าวพองเลือกมาเป็นแฟน   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 12-04-2014 10:14:45
นายเอกเด็กน้อยง้องแง้งมาก 5555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 5 หน้า 4 (10เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 12-04-2014 11:43:23
ม้าพยศแท่.  รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 13-04-2014 08:31:56
ตอนที่ 6

เสร็จจากการช่วยงานสอนข้าวพอง แอนดรูว์ขอตัวไปงานที่สถานทูต และบอกว่าจะกลับมาใหม่ประมาณ 2 ทุ่มเพื่อพบกับอัครา
“แย่งข้าวพองมาจากไอรีนให้ได้” แอนดรูว์สั่งไว้แบบขำๆ ที่ทำให้เกียได้แต่ส่ายหน้า

...ให้ไปไล่จับผู้ร้ายเสียดีกว่าให้มาทะเลาะกับผู้หญิง...

พอข้าวพองเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ เกียก็ไปคุยกับอุบล และขอยาแก้ฟกช้ำให้ข้าวพอง
“อุบลแอบโทรไปหาคุณนิรมลเองแหละค่ะ” แม่บ้านแอบกระซิบกับเกียที่พยักหน้ารับทราบ “ไม่คิดเลยว่า เธอจะมาได้เร็วขนาดนี้ คงเพราะวันนี้ไม่มีนัดกับเพื่อนๆ” เหลียวมองซ้ายขวาแม่บ้านก็เล่าต่อ “เมื่อเช้าคุณท่านโทรมาถามเรื่องคุณข้าวพองตามปกติน่ะค่ะ ว่าคุณข้าวพองไปโรงเรียนกี่โมง กินอาหารเช้าหรือเปล่า แล้วก็ถามว่าคุณครูเป็นยังไงบ้าง อุบลก็บอกไป แต่ดูเหมือนท่านจะไม่ค่อยพอใจที่ครูไม่ได้ค้างที่นี่”
“ครูคนอื่นค้างที่นี่หรือ”
“ไม่ทุกคนหรอกค่ะ” อุบลตอบตรงๆ “ขึ้นอยู่กับคุณข้าวพอง”
เกียรับรู้แล้วบอกขอบคุณอุบล
เดินกลับขึ้นมาบนห้องข้าวพองยังไม่ออกจากห้องน้ำ เกียเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือกดไล่หาชื่อบุคคล แล้วบันทึกใส่เครื่องของตัวเอง
ข้าวพองเปลี่ยนใส่เสื้อกล้ามสีน้ำเงินกับกางเกงสั้นเสมอเข่า ทำให้เห็นรอยแดงช้ำที่หน้าแข้งชัดเจน
“เจ็บอะ” เว่อร์อีกนิด “กระดูกจะร้าวมั้ย”
เกียชี้ให้นั่งที่เก้าอี้ แล้วคุกเข่าลง ยกขาข้างที่มีรอยแดงวางลงบนหน้าขาของตัวเอง หยิบหลอดยาทาให้เบามือ
“ไม่มีอะไรให้บ่นหรือไง”
...ทำไมไอ้หมอนี่ มันชอบเก๊กหน้าเหมือนคนไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือจะทำหน้าตาเฉยๆ ได้ตลอดเวลาอย่างวะ...
เกียเงยหน้าขึ้นมอง “อยากให้บ่น”
“เปล่า” ข้าวพองทำปากยื่น “ก็เห็นแต่ละคน ถ้าไม่บ่น ก็ต้องขู่ ต้องสอนนั่นนี่ตลอด”
“แล้วมันจะทำให้ข้าวพองหยุดได้มั้ย”

หนุ่มตัวเล็กยักไหล่หันไปมองนอกหน้าต่าง
“ไอรีนเขาดีนะ แต่พ่อกับพี่เพียงไม่ชอบเขา เชื่ออะไรไม่รู้ไร้สาระ”
เกียมองใบหน้าด้านข้างของเด็กหนุ่ม
ถ้าเป็นเรา เราก็คงยึดไอรีนไว้เป็นหลัก เพราะทั้งพ่อและพี่ชายต่างก็ไม่ได้แสดงออกให้ชัดเจนว่าเป็นห่วง
...พูดว่าห่วง จัดหาทุกสิ่งทุกอย่างให้ แล้วก็ไปยืนดูอยู่ห่างๆ...
มือใหญ่ที่นวดยาให้ เปลี่ยนเป็นบีบนวดที่น่อง ข้าวพองเพียงแค่หันมามองตามมือแล้วหันไปคว้าหนังสือการ์ตูนจากโต๊ะทำงาน
“ไม่มีการบ้านหรือ”
“ไม่”
เกียมองใบหน้าอ่อนใส หลังการอาบน้ำหมาดๆ จมูกสวย ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มให้กับเนื้อเรื่องในการ์ตูน
“เรื่องนี้สนุกหรือ”
“อือ นี่อ่านรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้”
“ท่าทางอย่างกับเพิ่งอ่านครั้งแรก” เกียชวนคุย ขณะที่มือใหญ่บีบไล่ขึ้นมาถึงเข่า
“เปล่าหรอก ก็อ่านมันไปจนกว่ามันจะเปื่อยแหละ”
“ครูก็เหมือนกัน”
ข้าวพองนิ่วหน้า เมื่อรู้สึกตัวว่ามือใหญ่เลื่อนขึ้นมาถึงต้นขา ดวงตาที่เต็มไปด้วยคำถามจ้องมองสบตาครูที่มองมา
เกียขยับตัว จับเข่า 2 ข้างของข้าวพองแยกออก มือข้างซ้ายแตะที่คางสวย ดวงตาจับจ้องอ่อนโยน เมื่อขยับตัวเข้าใกล้ช้าๆ
ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจ
“ครูเป็นเกย์หรือ”
เกียหยุดชะงัก
“เป็นแฟนกับแอนดรูว์เพื่อนพี่เพียงหรือเปล่า”
“เปล่า” เกียตอบสั้นๆ แล้วจดริมฝีปาก
ข้าวพองเบี่ยงหน้าหนี “ไปหางานใหม่ได้เลย”
เกียจูบแก้มใส “ทำไมล่ะ เพราะครูไม่ได้เป็นแฟนกับแอนดรูว์หรือ”
“เปล่า เพราะครูลวนลามพองต่างหาก”
“ครูว่าข้าวพองยินยอมนะ”
เด็กหนุ่มยกยิ้มมุมปาก “หยุดนะ ไม่” น้ำเสียงเบาเหมือนกระซิบกับรอยยิ้มยั่ว “ต้องมีคำแบบนี้ใช่มั้ย ถึงจะเรียกว่าขัดขืน หรือต้องมีผลัก มีถีบด้วย”
เกียรู้สึกขำความเจ้าเล่ห์ของเด็กหนุ่ม
“ใช่ แค่คำพูดอย่างเดียวยังไม่พอหรอก”
ข้าวพองก้มมองเสื้อตัวเอง เลยไปถึงมือใหญ่ที่ลูบไล้อยู่ที่เอว
“นี่เสื้อตัวใหม่ เดี๋ยวพองไปเอาตัวเก่าๆ มาฉีกให้ขาดก็ได้”
เกียส่ายหน้า “ไม่ได้หรอก เสื้อที่กำลังใส่อยู่กับตัวที่ยังไม่ได้ใส่น่ะมันไม่เหมือนกัน แล้วเขาก็พิสูจน์ได้ว่าพองสร้างหลักฐานเท็จ”
ข้าวพองมองมือใหญ่อีกครั้ง
....ที่จริงเขาก็เหมือนลูบไปเรื่อยๆ อยู่แถวเอวไม่ได้เลื่อนขึ้นมาอีก ทั้งไม่ได้จับก้นด้วยซ้ำ แต่มันให้ความรู้สึกอุ่นๆ....
เป็นความรู้สึกแบบ...ระวัง...แบบที่ยังมีเส้นบางๆ กั้นอยู่..
ความสงสัยกลับมาอยู่ที่เดิม เมื่อจมูกคมหอมที่แก้มใส
“เดี๋ยวดิ” ข้าวพองท้วง “กำลังคิดอยู่”
...คนๆ นี้ เหมือนกำลังอ่านใจได้ว่า เรากำลังสงสัย...แล้วเขาก็รู้วิธีที่ทำให้เราพักความสงสัยไว้ก่อน..
ลมหายใจอุ่นยังอยู่ที่ข้างแก้ม ข้าวพองต้องบีบข้อมือหนาให้หยุดการเคลื่อนไหว แต่มันก็ทำได้แค่ให้เขาช้าลงเท่านั้น
“พี่เพียงจ้างครูมาทำอะไร”
“สอน และคุ้มครองจนกว่าคุณเพียงจะแน่ใจ” เกียตอบตามตรง
ข้าวพองผลักอกหนาออกห่าง “แน่ใจอะไร”
“คุณเพียงไม่ได้บอก แต่อยากให้ครูสอนการป้องกันตัว และคอยดูแลข้าวพอง”
มือเรียวยังคงแตะอยู่ที่อกกว้าง เกียจับไว้ “พ่อกับพี่ของข้าวพองเขาเป็นห่วง แล้วก็รักข้าวพองมากนะ แต่เขาก็มีครอบครัวของเขาที่ต้องดูแล”
“ชริ” ข้าวพองผลักอกกว้างแล้วลุกขึ้น เดินออกมาจากห้องนอน
“ข้าวพอง” เกียเดินตาม
ข้าวพองหยุดยืนที่บันไดขั้นบนสุด
“การพูดคำว่ารักและเป็นห่วงน่ะไม่ยากหรอก ข้าวพองก็พูดได้ ข้าวพองรักและเป็นห่วงครูมากที่สุด จะให้พูดสักล้านครั้ง หรือให้ร้องเป็นเพลงก็ยังได้”
เด็กหนุ่มบอกแล้วก้าวเดินลงบันไดแล้วเดินผ่านอุบลที่มีสีหน้าเห็นใจเกียที่เดินตามมา

การถูกสัมผัส ถูกโอบกอดที่ให้ความรู้สึกอุ่นใจแบบที่เกียทำ มันกลับทำให้ข้าวพองให้ความสนใจเกียมากขึ้น
ส่วนเรื่องของไอรีน....
ทุกคนในครอบครัวบอกอยู่เสมอ ว่าด้วยครอบครัวและฐานะแบบเรา มักจะมีคนที่เข้ามาหาแบบคาดหวังบางสิ่งบางอย่างจากเรา และเตือนว่าไม่ควรไว้ใจไอรีน แต่ในเวลาที่ทุกคนยุ่งอยู่กับธุรกิจของตัวเอง ไอรีนคือคนที่อยู่กับข้าวพอง ดังนั้นแม้ว่าบางครั้งไอรีนจะมีคำถาม หรือทำตัวให้ไม่ไว้ใจอย่างที่ทุกคนเตือน แต่ข้าวพองก็ยังต้องมีไอรีนอยู่
ผิดกับเกีย มันเหมือนเกียคือคนที่หยุดตัวเอง
แล้วยิ่งสีหน้าที่ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร
คำตอบแบบครึ่งๆ กลางๆ
และเพราะเขาเป็นอย่างนั้น ทำให้ข้าวพองยิ่งอยากรู้…

เมื่อกินอาหารเย็นเสร็จ ข้าวพองก็กลับขึ้นมาเล่นเกมที่ห้องนอน ส่วนเกียไปอยู่ที่ห้องฝึกด้านหลังบ้าน
ก่อน 2 ทุ่มเล็กน้อยอัคราก็กลับเข้าบ้านพร้อมกับคนขับรถ ที่แยกไปพักที่ห้องพักทางด้านหลังบ้าน
หลังการสอบถามเรื่องทั่วไปและการทำงานที่ผ่านมาได้พักใหญ่ แอนดรูว์ก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ตามมาติดๆ คือมโหธรหรือเพียงและนิรมล
หัวข้อสนทนาจึงเปลี่ยนไปเป็นเรื่องที่มโหธรเรียนอยู่ที่ลอนดอน
“ปัญหาใหญ่ก็คือ พอเรียนจบกลับมาแล้วมาเจออเมริกันแล้วพูดไม่เข้าใจกันนี่แหละ”
“นั่นแหละ” พ่อหัวเราะอารมณ์ดี “เป็นอย่างนี้กันทุกคน”
เวลาผ่านไปจนเกือบ 3 ทุ่มมีโทรศัพท์เข้ามา “ไม่ล่ะ วันนี้จะอยู่กับไอ้พอง ทิ้งมันไว้คนเดียวมาหลายคืนแล้ว นี่มันก็งอนอยู่แต่ในห้อง”
พอพ่อวางสายโทรศัพท์สายนี้ก็หันมาบอก “ทางโน้นเขารออยู่ แต่วันนี้ขอมาเคลียร์กันก่อน” พ่อหมายถึงภรรยาใหม่ “อุบลบอกว่าเกียยังไม่ได้ย้ายของมาห้องพัก”
“ครับ เราพักที่คอนโดฯ ใกล้ๆนี่”
“งั้นก็ไว้กลับไปคอนโดฯ ตอนวันอาทิตย์สิ”
“ทางโน้นมีน้องหรือคะ” นิรมลถามพ่อแทรกเข้ามา
“ไม่ๆ อายุปูนนี้แล้ว พอแล้ว แต่ก็นะ....มาหาไอ้พองก็ห่วงทางโน้นเขาอยู่คนเดียว ไปทางโน้นก็ห่วงไอ้พอง”
“อ้อ...” นิรมลทำเสียงโล่งอกจนสามีต้องส่ายหน้า แต่นิรมลไม่สนใจ
“แอนดรูว์ต้องกลับไปลอนดอนใช่มั้ย” พ่อถามฝรั่งผมทอง
“ครับ ผมลามาได้อาทิตย์เดียว”
พ่อพยักหน้า “เรามีห้องพักแขก อุบลคงพาไปดูกันแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ให้คนดูแลไอ้พองต้องอยู่ที่นี่ทุกคนหรอกนะ มันมีเรื่องร้ายๆ จนไม่อยากไว้ใจใคร แต่ที่พ่อกับเพียงไว้ใจเกียกับแอนดรูว์มากก็เพราะว่าเป็นทั้งเพื่อนและเป็นตำรวจ”
สีหน้าของนิรมลที่ดูร่าเริงแปรเปลี่ยนไปวูบหนึ่งแล้วกลับมาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอาใจพ่อเหมือนเดิม
“ที่ให้นอนห้องไอ้เพียง ก็เพราะเราไว้ใจ และไม่อยากให้คิดว่าเป็นคนอื่นที่ไหน” ชายสูงวัยขยับตัวจิบน้ำดื่ม “คิดว่าเพียงคงบอกไปแล้วบางส่วน แต่พ่อจะบอกอีกครั้งว่าที่เราเลือกเกีย ก็เพราะอยากให้เกียสอนศิลปะป้องกันตัว และคุ้มครองข้าวพองจนกว่าพ่อกับเพียงจะแน่ใจ”
เกียพูดขรึมๆ “ข้าวพองรู้ว่าผมไม่ใช่แค่ครูศิลปะป้องกันตัว แล้วก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น”
มโหธรยอมรับ “รู้แล้ว มันก็ต้องระมัดระวังตัวให้มาก แต่นี่มันก็ยังหนีไปโน่นมานี่อยู่เหมือนเดิม”
“ก็เธอเป็นวัยรุ่น ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ แล้วยิ่งโรงเรียนอินเตอร์ด้วยนะ” นิรมลทำบ่น
“แล้วจะให้คุณมาดูแลข้าวพองน่ะหรือ ไล่จับมันทันหรือเปล่าล่ะ ไปอยู่กับเพื่อนๆ ของคุณอย่างเดิมน่ะดีแล้ว” มโหธรตัดบท แล้วหันมาสั่งเกีย
“เราเข้าใจเรื่องความเป็นอิสระแบบตะวันตกนะ แต่ที่อยากให้อยู่ก็เพราะไอรีนน่ะ นิรมลบอกว่า เขาใช้ยาเสพติด เราก็พยายามจะกันเธอให้ห่างจากข้าวพอง แต่นี่ก็กลับยังพบกันอยู่เรื่อยๆ ถ้ามีเกียอยู่ด้วย อย่างน้อยก็ให้อยู่ในสายตา”
พ่อช่วยขยายความ “ที่บอกไปว่า ที่ไม่ชอบเขาเพราะเขามาดูแลไอ้พองได้ไม่กี่วันเพชรก็ตายนั่นมันก็ส่วนหนึ่ง แต่เรื่องยาเสพติดเรื่องพาไปเที่ยวกลางคืนแบบนี้มันรับไม่ได้จริงๆ ลูกเรามันก็ชอบเขาเสียด้วย”
ทั้งแอนดรูว์และเกียได้แต่นิ่งฟัง

...ไม่คิดว่าข้าวพองจะชอบไอรีนนะ เพราะดูข้าวพองไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายสักเท่าไหร่...

ผ่านจากบ่นเรื่องลูกชายคนเล็ก และปล่อยให้นิรมลบ่นข้าวพองจนพอใจ มโหธรก็หันกลับมาถามเรื่องงานในลอนดอนของทั้ง 2 คนอีกครั้ง
“แอนดรูว์อยู่สกอตแลนด์ยาร์ด ส่วนเกียอยู่หน่วยคล้ายกองปราบปรามบ้านเราน่ะพ่อ ทำงานไล่จับคนร้ายไปทั่วประเทศ แต่ได้รับบาดเจ็บจนต้องออกจากงาน”
พ่อพยักหน้า “ดูไม่เหมือนว่าจะบาดเจ็บหนักอะไรขนาดนั้น”
เกียเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้ตอบคำถาม ให้แอนดรูว์เป็นคนตอบและรับรองความสามารถ
“ตอนนั้นเจ็บจริง จนคิดว่าต้องออกจากงาน แต่หมอนี่อึดเกินไม่กี่เดือนก็กลับมาใหม่ ก่อนที่จะมานี่ก็ไปทดสอบสภาพร่างกายแล้วครับ”
พ่อทำเสียงอือจมอยู่ในลำคอ “ที่ให้เกียมาดูแลข้าวพอง มันอาจดูเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนอย่างโบราณเขาว่า แต่พ่อกับเพียงก็มีเหตุผล”

เกือบ 4 ทุ่มพ่อแยกไปขึ้นนอน ส่วนอีก 4 คนแยกย้ายกลับบ้าน
เมื่อเดินเข้าคอนโดฯ แอนดรูว์หันมาบอกกับเกีย “เรื่องยาเสพติด ตามไม่ยากหรอก”
“แต่ประเด็นหลักมันอยู่ที่เพชรที่พวกมันต้องการต่างหาก และมีคนหลายกลุ่มที่ต้องการเพชรนั่น ส่งคนเข้ามาพัวพันกับคนในบ้านนี้จนพาลระแวงทุกคนไปเสียหมด”
แอนดรูว์ถอนหายใจแรงๆ “เมื่อกี้ตอนที่นั่งฟังพ่อกับเพียงพูด กูยังลืมตัวคิดไปว่าพ่อกับเพียงก็จะเอาเพชรเหมือนกัน” ฝรั่งผมทองเตะรองเท้าไปที่มุมห้อง “ฟังมากแล้วอินว่าเรื่องของเพื่อนก็คือเรื่องของเรา ข้าวพองกลายเป็นน้องชายตัวแสบของกูไปเสียแล้ว”
เกียหัวเราะเบาๆ  “มึงเตรียมตัวสำหรับการถือของกลับอังกฤษเถอะ เพราะฟังที่เขาพูดแล้ว เขาจะส่งกลับน่ะแหละ แต่ที่รีรอคงเพราะกลัวว่า ถ้าส่งให้เราแล้วไอ้คนอื่นที่มันไม่ได้มันจะมาแก้แค้น คุณพวงเพชรกับเพชรแท้อาจไปเจรจาอะไรกับใครไว้อีกที่เราไม่รู้”
“ก็สันนิษฐานกันไป” แอนดรูว์พูดอย่างเหนื่อยใจแล้วหันมาบอกกับเกีย “พรุ่งนี้จะไปนอนบ้านก็ได้นะ”
เกียส่ายหน้า “ย้ายไปน่ะได้ แต่มันจะกลายเป็นการกดดันพวกที่กำลังรอเพชรอยู่หรือเปล่า”
“ก็นั่นแหละ กูกลัวว่า พอมึงมาแล้วพวกมันจะลักพาตัวข้าวพอง เพื่อข่มขู่พ่อ”
“ถ้าจะทำอย่างนั้น มันคงทำไปนานแล้ว” เกียหยุดคิดแล้วเดินไปหยิบแฟ้มบนโต๊ะ “ไอรีนกับนิรมล 2 คนนี้อาจกำลังขัดขากันเองอยู่”
“คนไทยทั้งคู่ นี่ถ้ามีเชื้อจีน หรือตะวันออกกลางนะ ก็พอจะเดาได้” แอนดรูว์ดึงภาพผู้หญิง 2 คนออกมาจากแฟ้มแล้วติดที่บอร์ด
แต่พอหันมามองหน้าเกียก็เปลี่ยนใจเก็บเข้าแฟ้มเหมือนเดิม
“เอาใส่แฟ้มไว้ดีกว่า เกิดเพียงหรือใครตามมาถึงที่ห้องนี้แล้วมาเห็นเข้า จะอธิบายยาก”
เกียยักคิ้วตามใจ แล้วเดินกลับเข้าห้องนอนส่วนแอนดรูว์เปิดคอมพิวเตอร์ เพื่อติดต่องานกับทางฝั่งลอนดอน

วันถัดมาเกียกับแอนดรูว์ยังมาที่บ้านของอัคราตั้งแต่เช้าเพื่อรับข้าวพองไปโรงเรียน  กลับมาสอนศิลปะการป้องกันตัวให้กับบรรดาคนในบ้าน ตกเย็นก็ไปรับข้าวพองเพื่อกลับมาฝึกศิลปะป้องกันตัวที่บ้าน แล้วก็กลับไปในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม
ไม่มีท่าทีสนใจว่าข้าวพองจะเดินมาจากฝั่งประตูโรงเรียนหรือจากภายในโรงเรียน และมีไอรีนหรือไม่มี จนกระทั่งแอนดรูว์เดินทางกลับลอนดอน และเกียเก็บเสื้อผ้าบางส่วนเข้ามาอยู่ที่บ้าน
“ไง แฟนกลับบ้านแล้ว เหงาละสิ” หนุ่มตัวเล็กยืนกอดอกพิงกรอบประตูห้องพักซึ่งเดิมเป็นห้องนอนของมโหธร
...สิทธิ์พิเศษสุด ครูคนก่อนๆ ให้นอนห้องพักแขกด้านล่าง คนนี้ให้นอนห้องพี่เพียง...

เกียยกยิ้มมุมปาก ขณะที่เก็บเสื้อกับกางเกงออกจากกระเป๋าไปแขวนในตู้เสื้อผ้า
พอไม่ตอบข้าวพองก็ก้าวเข้ามายืนอยู่ด้านหลัง
“ได้ยินที่เราพูดมั้ย!”
เกียแค่หันหน้ามาเพียงนิดเดียวแล้วก็กลับไปสนใจการเก็บเสื้อผ้าเหมือนเดิม ซึ่งมันทำให้ข้าวพองยิ่งโมโหมากขึ้น

..ไอ้ยักษ์บ้านี่มันจะแปลกไปไหนวะ!!!!..

“นี่! หันมาคุยกับเรานะ! นายเป็นอะไร โดนตั้งโปรแกรมไว้ให้สอนยูโดเท่านั้นหรือไง!” ข้าวพองดึงแขนใหญ่ให้หันมาหา “ชีวิตนี้จะคุยกับแฟนนาย กับพี่เพียงเท่านั้นหรือไง”

ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย เกียกลับรู้สึกดีที่อย่างน้อยข้าวพองก็รู้ว่าเขาหลีกเลี่ยงที่จะพูดด้วยมานานหลายวัน ตอนแรกเจ้าตัวอาจไม่แน่ใจ แต่พอมาถึงตอนนี้เจ้าตัวรู้แล้ว และก็ตรงเข้ามาจัดการทันที
“นายเป็นอะไร”
“เรียกครูว่าอะไรนะ”
“นาย เราไม่เรียกคนที่จูบเราว่าครูหรอก”
เกียพยักหน้า “ก็เหมือนกับไอรีนสินะ”
สีหน้าท่าทางของข้าวพองดูพิกลเมื่อเกียพูดชื่อไอรีน เหมือนเด็กที่โดนจับได้ว่าทำผิด ทั้งที่เกียก็รู้และเห็นแล้วว่าข้าวพองกับไอรีน –นัวเนีย- กันแทบจะตลอดเวลา
“ไอรีนเขา เขา..” ข้าวพองผลักต้นแขนใหญ่ “ช่างเหอะ เราจะไปรอที่ห้องฝึกแล้วกัน”
เกียคว้าเอวบางเข้ามากอดไว้ มือเล็กๆ ก็ค้ำที่อกกว้างไว้ทันที
“แล้วเมื่อกี้จะพูดอะไร”
“อย่าทำเป็นมองข้ามเรา!”
“ไม่นี่ ก็ไปส่งไปรับสอนยูโดให้อยู่ทุกวัน เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะให้ชกมวยแล้ว ส่วนยิงปืนคงต้องไปวันเสาร์ถัดไป”
ข้าวพองทำตาโต “ยิงปืนด้วยเหรอ”
เกียยิ้มจางๆ “อยากยิงปืนหรือ”
หนุ่มตัวเล็กในอ้อมกอดพยักหน้าเร็วๆ “ยิงปืนอย่างเดียวได้มั้ย ไม่เอามวย”
“ไม่ได้ สนามยิงปืนมีช่วงว่างให้เราแค่วันเสาร์เช้า”
“โห สนามไหนเนี่ย ไปหาที่อื่นก็ได้ กรุงเทพฯ มีสนามยิงปืนเยอะแยะ”
สีหน้าท่าทางดีใจจนไม่ได้สนใจว่าหลังสัมผัสเตียงนอน ร่างกายผอมบางโดนคร่อมอยู่
“พรุ่งนี้ไปเลยเหอะ” 
“ถ้าสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี” นิ้วมือใหญ่เกลี่ยที่ข้างแก้มใส
ข้าวพองหุบยิ้มทันที “ทำไมนาย...เอ่อ..ครูต้องมีข้อต่อรองตลอด มีอะไรฟรีมั่งมั้ยเนี่ย”
“โลกนี้ไม่มีของฟรี”
“ชริ”
ทันทีที่เสียงผ่านริมฝีปากสวย เกียก้มลงจูบบดคลึงริมฝีปาก มือใหญ่ลูบไล้เอวบางแล้วเลื่อนขึ้นมาหายอดอกบาง
สัมผัสแต่เพียงภายนอกผ่านเนื้อผ้าไม่ต่างจากการจูบทำให้ข้าวพองสงสัย
“ทำไม”
เกียจูบที่แก้มอิ่ม “ถ้ามากกว่านี้ก็ไม่ใช่ครูแล้ว”
“ไม่ใช่ครูมาตั้งแต่จูบพองตอนโน้นแล้วล่ะ”
ดวงตาสีฟ้ามองลึกลงไป ทำให้ข้าวพองรู้สึกหัวใจพองโต
“ถ้าพี่จะไม่เป็นครู ข้าวพองจะยอมมั้ย”
“แล้ว...จะเป็นอะไร”
เพียงแค่ขยับมุมปาก ข้าวพองก็รู้สึกเหมือนติดอยู่ในกับดัก “พี่....อยากเป็นอะไรล่ะ”
เกียจูบที่มุมปาก “ข้าวพองอยากให้พี่เป็นอะไร พี่เป็นได้ทุกอย่าง ขอแค่...”
ข้าวพองยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นเส้นโค้ง “เห็นมะ มีข้อต่อรองอีกละ”
“พี่ไม่อยากให้ข้าวพองไปไหนมาไหนกับไอรีนอีก ไม่อยากให้คุยกับเขา ไม่อยากเห็น ไม่อยากได้ยิน”
“หึงเหรอ”
“มาก” ริมฝีปากหนากดจูบที่คางเรื่อยลงมาถึงลำคอขาว
“อะ…..” เสียงร้องขาดห้วง มือขาวจับต้นแขนใหญ่ไว้แน่น
เกียมองใบหน้าแดงซ่าน แล้วตวัดลิ้น ดูดคอจนทิ้งรอย ละมาจูบแก้ม
ข้าวพองผ่อนลมหายใจยาว
“ทำไม..หึง..”
“ก็หึง”
“นั่นแหละ ทำไมล่ะ”
ยิ่งซักก็ยิ่งโดนจูบไซ้ไปทั่วใบหน้า “เกีย บอกหน่อยสิ”
“หลายวันก่อนมีคนบอกว่า คำนั้นใครก็พูดได้ มันไม่มีความน่าเชื่อถือ”
ข้าวพองจำได้ว่าพูดอะไรออกไป และส่วนหนึ่งในนั้นก็คือการพูดประชดว่า รักครูอีกต่างหาก
มือเล็กๆ ดันใบหน้าคมเข้มออกห่าง จ้องมองดวงตาที่มองตอบกลับมา
......นั่นสิ มันก็แค่คำพูดที่พูดออกมาได้อย่างง่ายดาย แล้วทำไมต้องอยากรู้ อยากให้เขาพูดในสิ่งที่อยากฟัง โดยเฉพาะในเวลาที่กำลังทำแบบนี้กันอยู่......
….นี่เป็นเวลาที่คำหวานทุกคำ คือคำที่ไม่น่าเชื่อถือที่สุด...
.....เรารู้จักเขาดีแค่ไหน
....ทำไมเราถึงยอมเขาขนาดนี้
ดวงตาคู่สวยกลับสั่นไหวไม่แน่ใจ “พอง....”
“ข้าวพอง” เสียงเรียกชื่ออ่อนหวานกับยิ้มอ่อนโยน
“อืม คิดก่อนดิ” เด็กหนุ่มตอบทั้งที่ในสมองมึนงง
.....ไอรีนกับเกีย.....
“รักไอรีนหรือ”
ข้าวพองสบตาเกียแล้วหันไปมองทางอื่น “ตอนแรกก็คงงั้น แต่ตอนนี้......”
“ตอนนี้” เกียทำเสียงสงสัย
“เขาดูวุ่นวาย”
เกียจูบที่หน้าผากสวย “ก่อนนี้ไม่วุ่นวายหรือ”
“ไม่หรอก” ข้าวพองพูดเท็จ “วัน 2 วันมานี้เขาเป็นอะไรไม่รู้เซ้าซี้จะไปโน่นไปนี่กัน 2 คนไม่อยากไปกับเพื่อนๆ แต่พองใกล้สอบมีรายงานต้องส่ง แล้วต้องมาฝึกอะไรนี่อีก”
เมื่อเกียขบจูบที่ใบหู ร่างกายในอ้อมแขนก็สั่นไหว
“เกีย....”
“บอกกับเขา ว่าข้าวพองจะไม่ไปไหนกับเขาอีก”
“แล้ว......” ข้าวพองหันมาหา ดวงตาคู่สวยมองที่ริมฝีปากพี่
“แล้วข้าวพองจะได้เป็นเจ้าของพี่ทั้งชีวิต และหัวใจ.....”
ริมฝีปากหนาจูบบดคลึงแล้วขบดูด ข้าวพองเปิดริมฝีปากรับจูบ ปลายลิ้นเคลื่อนไหวอย่างลังเล
ปฏิกิริยาที่บ่งบอกว่า ข้าวพองกับไอรีนมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับไหน ดังนั้นเมื่อเกียปรากฏตัวขึ้น ไอรีนจึงต้องเร่งมือ แต่นั่นกลับทำให้ข้าวพองถอยออกมา
“นะครับ....ข้าวพอง...” เกียกระซิบหวานที่ข้างแก้ม
“อืม....”
ข้าวพองหลับตาพริ้มรับจูบหวาน

เกียผ่อนลมหายใจ
...วันนี้เลือกใช้ทางลัดให้ข้าวพองมองเห็นแต่เรา วันหน้าต้องมีงานหนักรออยู่แน่...

*-*-*จบตอนที่ 6*-*-*

ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำ เราจะแก้ไขให้ดีขึ้นครับ
แต่คุณที่บอกว่ายังไม่ได้อ่านแต่รีไว้ ผมว่า อ่านสักนิดเถอะนะครับ เกรงใจจริงๆ

ตอนที่ทีอ่านมาถึงบรรทัดสุดท้ายของตอนนี้ ทีบอกว่า "พี่ไจฟ์ยังไม่เข็ดใช่ปะ บาลีโดนบดจนกลายเป็นผงแป้งมาแล้วหนหนึ่ง คราวนี้เกียจะกลายเป็นอะไรเนี่ย"
คำตอบคือ ไม่ว่าเกียจะกลายเป็นอะไร ผมต้องไปเฉลยในตอนท้ายๆ อยู่แล้ว (หากคุณยังอ่านต่อไป)

พบกันวัน อังคารนะครับ

.ไจฟ์ครับ.



หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 13-04-2014 09:16:48
เด็กขี้เหงาอ่อนไหวง่ายเหมือนกันนะเนี่ย  o18

เกียเจ้าเล่ห์เกิ้น  อนาคตดูท่านายจะลำบากใช่เล่นนะ

ไหนจะงานไหนจะเรื่องหัวใจ  :hao7:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 13-04-2014 09:42:16
อร๊าายยยยยยยยยยยยยยยย คุณครู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ นักเรียนใจแตกแล้ววววววววว เอาจิงแระใช่ป่ะเนีียะ  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[


ต่อไปคุณครูไม่มีผู้ช่วยแระ จะรอ บท ทดสอบว่าจะมีกี่ด่าน แต่หลังจากผ่านด่านแต่ละด่านนี่แหล่ะคุณครูจะมีรางวัลจากนักเรียนมั่งไม๊อ่ะ  :haun5: :haun5:

ขอบคุณคั๊บ


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-04-2014 10:41:49
ครูใจร้อนสอนแบบเร่งรัด นักเรียนจะตามทันไหม
ศัตรูมีรอบด้าน แถมมีแต่ผู้หญิงอีกต่างหาก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 13-04-2014 10:51:08
อย่าบอกนะเกียมานัวเนียแบบนี้เพราะให้น้องทิ้งไอรีนทั้งๆที่ตอนนี้ยังไม่คิดอะไรกับน้อง
นายตายแน่!!! ถ้ามาทำให้น้องข้าวพองเจ๊หวั่นไหวแล้วต้องเสียใจ ฮือออออออออ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 13-04-2014 11:55:03
เกียหลอกน้องพองหรอ? ข้าวพองต้องเสียใจแน่ๆถ้ารู้
ตอนคอสก็ทีนึงแล้ว คนเขียนใจร้ายยยยย

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 13-04-2014 12:16:51
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน  เลยขอถือโอกาสอ่านรวดเดียว 6 ตอนเลยนะคะ
งานเขียนของไจฟ์ทียังคงเอกลักษณ์เหมือนเคย  คือมีปมให้คิดตามตลอด
ทายถูกบ้าง ผิดบ้าง  ทำให้เรื่องมันสนุกและชวนติดตาม

อ่านตอนที่ 6 จบ สงสัยในไอ้พี่เกียเป็นอย่างยิ่ง  คือหื่นเป็นนิสัย
รึแกล้งทำหื่นใส่น้องข้าวพองเฉย ๆ เนี่ย   ถ้ามาทำให้น้องข้าวพองเสียใจนะ เกียเจอดีแน่ ๆ    :z6:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-04-2014 14:14:24
อั้ยยะ ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องใหม่ของคุณไจฟ์กับน้องที เย้ๆ
(ได้ข่าวว่าผ่านมาหลายตอนแล้วเพิ่งเห็น 555)
ส่วนข้าวพอง หนูดูเป็นเด็กน้อยใสใสมากกกกกก
ลุ้นต่อไปว่าเกียจะปราบเด็กหรือโดนเด็กปราบ
ส่วนเรื่องเพชรนี่น่าสงสัยทุกคน จริงๆ สงสัยตั้งแต่ตอนแรก
ที่พองบอกว่า มันเริ่มจากที่แม่ทำอย่างนั้นกับพอง .. แม่ทำอะไรหว่าาา
ติดตามตอนต่อไปค่าาา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 13-04-2014 16:14:57
ครูเกียแบบนี้เข้าข่ายล่อลองเด็กรึป่าวเนี้ย
ข้าวพองเหมือนเด็กต้องการความรัก ก็รักน้องจริงๆไปเลยแล้วกันนะครู :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 13-04-2014 16:54:31
ตอนนี้ เกียเนียนและไวมาก เรียกได้ว่ามืออาชีพเลยทีเดียว ริรักเด็กแสบก็ต้องมาเหนือชั้นกว่า ชักสนุกแล้ว
ปล. บาลีโดนบดยังไงคะ แอบงง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 13-04-2014 17:21:10
เกียเจ้าเล่ห์ แอบร้ายกาจไม่เบา
น้องข้าวพองน่าสงสาร ก็แค่ต้องการความรัก ต้องการการใส่ใจ
เกียเลยใช้วิธีแบบนี้สินะ
แล้ว สุดท้ายแล้ว.....จะยังไงล่ะ!!!
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-04-2014 17:22:37
เกียเล่นอย่างนี้เลยหรือ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 13-04-2014 17:33:06
นี่ทำเนียนนะเจ้าเกีย ล้วงความลับอย่างเดียวหรือ มีความรู้สึกส่วนตัวลงไปด้วยถ้าเป็นอย่างแรก น้องคงเสียใจแย่ ไอรีนจะเป็นคนร้ายรึเปล่าโปรดติดตามตอนต่อไป ^^สุขสันต์วันสงกรานต์นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 13-04-2014 17:42:11
ตอนนี้ เกียเนียนและไวมาก เรียกได้ว่ามืออาชีพเลยทีเดียว ริรักเด็กแสบก็ต้องมาเหนือชั้นกว่า ชักสนุกแล้ว
ปล. บาลีโดนบดยังไงคะ แอบงง
บาลีเป็นชื่อตัวละครจากเรื่องนี้ค่ะ
No broken Heart ,Non broken Glass.
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 13-04-2014 18:22:18
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ
ชอบแนวนี้มากๆเลย ลึกลับซับซ้อน มีลับลมคมในให้ได้ลุ้นได้เดากันตลอด แล้วยังต้องเคยลุ้นคอยเชียร์คู่พระนายอีก เผลอในเวลาอันใกล้อาจต้องคอยห้ามใจไม่ให้ถีบพระเอกของเรื่องตกจากแท่น  :hao3:

เกียร์ตอนนี้คือจะทำให้พองหลง เพื่อให้ห่างจากไอรีนเฉยๆช่ะ แอบไม่ชอบใจนะ แต่ถ้ามันทำให้พองปลอดภัยได้ก็พอให้อภัยนะ แต่เกียร์คงจะต้องมีเคลียร์ตอนหลังยาวนะจ๊ะ

ไอรีน นางเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งอ่ะ นางเป็นใครมาจากไหนคงต้องรอดูกันต่อไป

คุณนิก็ตามไอรีนมาติดๆ บางทีสองคนนี้อาจมีส่วนร่วมอะไรกันอยู่รึป่าวนะ(เดามั่ว :ruready)

และอยากทิ้งท้ายว่า ชอบแนวสไตล์การเขียนของคุณไจฟ์ทีมาก แต่อาจจะมีบางช่วงบางประโยคที่เราอ่านแล้ว งงๆ แบบสับสนกับสรรพนามเล็กน้อย แต่เราก็เข้าใจนะ

จะติดตามเรื่องนี้ต่อไปอีกยาวๆเลยจ๊ะ เป็นกำลังใจให้น้า มาลงสม่ำเสมอแบบนี้ยิ่งชอบเลย :impress2: :L2: o13
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 13-04-2014 20:10:00
อ้าวๆพี่เกียจะกินเด็กซะละ :katai5:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 13-04-2014 21:04:55
เอาแบบนี้เลยเหรอเกีย
  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 13-04-2014 22:26:59
จะหลอกน้องอีกแล้วหรือ  :ling1:
งั้นเพิ่มบทให้คอสมาเป็นเพื่อนพองเลยค่ะ!   :ling3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 13-04-2014 23:42:58
เฮ่ยยยยยยยยยยยย หลอกเด็กนี่หว่า
ถ้าชอบจริงก็ยังถือว่าล่อลวงเยาวชน
ถ้าเพื่องานนี่ ชั่วเลยนะเกีย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 14-04-2014 00:46:27
เป็นแผนที่เข้าตัวนะเกีย แต่ได้กำไรนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 14-04-2014 02:40:58
คุณครูเจ้าเล่ห์มากนะครับบบ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 14-04-2014 09:08:28
เกียเจ้าเล่นะ รู้สึกหวันใจยังไงไม่รู้แบบกลัวพองรักไปแล้ว มารู้อีกทีมันเป็นแผนไรงี้ เราคิดมากไปปะเนี่ย

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 14-04-2014 14:40:16
อยากจะเม้นทุกตอนแต่ไม่รู้จะเม้นอะไรอะ เพราะอ่านแล้วก็ชอบทุกตอน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 6 หน้า 4 (13 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 15-04-2014 07:13:38
คุณครูพี่เกียคะ ใช้แผนร้ายล่อเด็กนิ หวังว่าจะไม่ทำให้เด็กเสียใจที่หลังนะ ไม่งั้นพี่เกียโดนแบนแน่ๆอ่ะ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 15-04-2014 09:39:58
ตอนที่ 7

ตั้งแต่แรกพบกันทุกการกระทำย้ำเตือนว่ามลรัฐหรือข้าวพองมีนิสัยดื้อรั้นพอตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปเกียก็เริ่มเชื่อว่า ที่เคยคิดว่าดื้อ ก็แค่พฤติกรรมตามวัย ข้าวพองไม่ได้ถึงกับไร้เหตุผล หรือตั้งแง่ไว้ก่อนว่าจะทำทุกสิ่งตรงข้ามกับคำสั่ง หรือความเหมาะสมไปเสียทั้งหมด
เช้านี้ธีระจอดรถส่งข้าวพองที่ลานจอดรถเหมือนเดิม เกียก้าวลงจากรถพร้อมกับที่ข้าวพองก้าวลงจากทางด้านหลัง มีเด็กหนุ่มรูปร่างเล็ก ผอมบาง ยิ้มร่าเริงเข้ามาหา
“ไฮ เข้า-ปอง”
เด็กหนุ่มคนนี้เรียกชื่อของข้าวพองเพี้ยนด้วยสำเนียงจีน ต่างกับแอนดรูว์ที่เรียกเพี้ยนไปทางอังกฤษ
ข้าวพองทักทายเพื่อนแล้วหันมาบอกเกีย
“นี่ไทนี่หว่อง”
เกียยิ้มรับเพื่อนคนแรกของข้าวพองที่เจ้าตัวแนะนำให้รู้จัก
หนุ่มที่ถูกเรียกว่าไทนี่หว่อง แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงจีน แบบ –จิงลิช- แท้ๆ
“ในห้องมีคนแซ่หว่องอีกคน แต่เพราะคนนั้นตัวโตกว่า ก็เลยพากันเรียกคนที่มาทีหลังว่าไทนี่หว่อง บางคนก็เรียกไทนี่เฉยๆ”
เกียยังคงยิ้มรับและถามกลับด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงลอนดอนที่ทำให้ไทนี่หว่องอ้าปากค้าง
“ผมชื่อเกีย ทำไมมาทีหลังครับ”
“ไทนี่เพิ่งย้ายตามพ่อมาได้เดือนเดียว พูดไทย อังกฤษ จีนปนกันมั่วไปหมด” ข้าวพองนินทาเพื่อนซึ่งหน้า จนไทนี่เก้อ
“ก็พยายามพูดไทยอยู่เหมือนกัน แต่มันยาก”
“ที่จริงก็เป็นอย่างนี้กันทุกคนน่ะแหละ ในห้องเรียนภาษาอังกฤษเป๊ะ ออกห้องมาก็ใช้ปนกันไปตามสัญชาติ”
ไทนี่หัวเราะร่วน จนดวงตายาวเรียวกลายเป็นเส้นโค้ง “ทีแรกคิดว่าจะเรียนไม่ได้แล้ว ที่อยู่ๆ ไปก็ ซา-บาย-มั่ก”
ขนาดธีระที่ฟังภาษาอังกฤษกับเขาไม่รู้เรื่อง พอได้ยิน –ซา-บาย-มั่ก- ของไทนี่เข้าไปก็พลอยหัวเราะตามไปด้วยอีกคน
ข้าวพองจับข้อมือของเกียเชิงขอร้อง “พรุ่งนี้ พาไทนี่ไปยิงปืนด้วยได้มั้ย เขามาเมืองไทยกับพ่อ แต่พ่อเขาไปทำงานที่เชียงใหม่ ก็เลยอยู่บ้านกับแม่บ้าน 2 คน เสาร์-อาทิตย์เขาไม่ได้ไปไหน”
“ได้ครับ” เกียยิ้มรับ “คุณข้าวพองมีเรียนพิเศษช่วงเช้า เสร็จแล้วผมจะไปรับคุณไทนี่ที่บ้านนะครับ”
“ได้” ไทนี่ท่าทางดีใจหันไปบอกขอบคุณข้าวพอง
“งั้นเย็นนี้ ให้ไทนี่กลับกับเรานะ จะได้รู้จักบ้าน”
“ครับ” เกียยังคงรับคำสั่งเช่นเดียวกับธีระ

แต่เมื่อข้าวพองเดินคู่กับไทนี่ผ่านรั้วประตูโรงเรียนอีกชั้นเข้าไป
ภาพของแผ่นหลังกับท่าทางเดินดูคุ้นตา
“ครูครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ” ธีระถามเมื่อเห็นเกียยืนมอง 2 หนุ่มจนลับเข้าไปในโรงเรียน
เกียเพียงแค่ส่ายหน้า เดินกลับมาขึ้นรถกลับบ้าน
“ช่วงก่อนหน้านี้ ธีระเคยเห็นไทนี่หรือเปล่า”
“เคยครับ” คนขับรถตอบตามจริง “เคยเห็นผู้ชายที่มารับเขาด้วย คิว่าคงเป็นพ่อเขาน่ะครับ แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาเดินมาแค่ส่งคุณข้าวพองขึ้นรถ”
“ไม่ได้ขอให้ไปส่งหรือ”
ธีระส่ายหน้า “ไม่นี่ครับ แล้วก็ไม่เห็นคุณข้าวพอง จะเคยชวนใครกลับด้วย”
เกียคิดตามขณะที่ธีระเล่าไปเรื่อย “เขาอาจเพิ่งสนิทกันก็ได้ ที่ผ่านมาคุณข้าวพองเองก็ไม่เคยชวนใครมาบ้านนะครับ มีแต่ไปบ้านเพื่อนคนนั้นคนนี้แล้วให้ผมไปส่งไปรับ”
“แล้วก็มีหนีเที่ยวด้วยใช่มั้ย”
คนขับรถอารมณ์ดีหัวเราะร่วน “อันนั้นคือไปกินเหล้าตอนกลางคืนกับเพื่อน แล้วก็มีนัดเจอกับคุณไอรีนครับ แต่ถ้าไปกลางวันหรือไปไม่มีเรื่องเที่ยวกลางคืนจะก็เรียกใช้ผมเสมอ”
“เขาก็รู้นี่นะ ว่าอะไรดีไม่ดี”
“ครับ ผมว่าแกฉลาดจะตาย อยู่แต่ว่าแกจะพูดออกมาหรือไม่เท่านั้นแหละ ผมยังคุยกันเลยว่า คุณข้าวพองจะมีแฟนทั้งทีทำไมไม่หาคนวัยเดียวกันหรือเด็กสาวน่ารัก ทำไมชอบครูพี่เลี้ยงที่แก่กว่ากันตั้งหลายปี พี่อุบลบอกว่า คงเพราะเหงา แต่พ่อยอดยิ่ง” ธีระ เรียกชื่อ 2 ยามพี่น้องต่อกัน “เขาว่า วัยรุ่นมักจีบผู้หญิงรุ่นพี่ เพราะดูท้าทาย ก็...ร้อยทั้งร้อย ไม่ได้จริงจังอะไร”
เกียปล่อยธีระเล่าเรื่องเจ้านายไปเรื่อย จนกระทั่งใกล้ถึงบ้านก็กลับไปย้อนถามเรื่องไทนี่ “ธีระ จำหน้าของคนที่มารอรับไทนี่ได้มั้ย”
ธีระพยายามนึก “ก็คนจีนน่ะครับ ผอมๆ ตาชั้นเดียว ผมเห็นห่างๆ น่ะครับไม่ได้คุยกับเขาหรอก”
เกียพยักหน้ารับรู้
“ครูสงสัยอะไรหรือครับ”
เกียยิ้มมุมปาก “ก็สงสัยว่า พ่อแบบไหนเอาลูกมาทิ้งไว้ที่กรุงเทพฯ แล้วตัวเองก็ไปเชียงใหม่เป็นเดือน”
“คงเพราะไม่ได้อยู่แค่เชียงใหม่มั๊งครับ อาจไปหลายที่”

ตกเย็นเกียกับธีระก็กลับมารับข้าวพองกับไทนี่ที่โรงเรียน แล้วไปส่งไทนี่ที่บ้านพักก่อน
บ้านจัดสรร 2 ชั้นหลังเล็ก ที่แทบจะไม่เหลือพื้นที่สนามหญ้ารอบบ้าน
“พรุ่งนี้มารับตอนเที่ยงครึ่งนะ” ข้าวพองบอกขณะที่ส่งเพื่อนลงจากรถ
ธีระรอจนกระทั่งไทนี่เดินเข้าบ้านถึงได้ออกรถ
เกียมองความเคลื่อนไหวของบ้านหลังนั้นจากกระจกหลัง
“วันนี้เรียนยูโดอีกเหรอ” ข้าวพองถาม
“ครับ อาทิตย์หน้าคงจะเรียนมวยได้ ขอหาที่แขวนกระสอบทรายก่อน”
ข้าวพองทำหน้าเหนื่อย จนเกียขำ
“อะไรกัน ได้แค่ไม่กี่วันก็ไม่ไหวแล้ว”
“แรกๆ มันก็สนุกดีหรอก หลังๆ แล้วมันไม่สนุก วันนี้ขอแวะร้านหนังสือซื้อการ์ตูนก่อนได้มั้ย”
“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ยิงปืนเสร็จ ข้าวพองกับไทนี่ก็ไปเดินเที่ยว ไปซื้อหนังสือกันไม่ดีกว่าหรือครับ จะได้ไม่ต้องรีบด้วย”
ข้าวพองยิ้มกว้าง “ครูจะไม่เดินตามใช่มั้ย”
“ไม่หรอกครับ ผมกับธีระจะรอที่ร้านกาแฟแล้วกัน”
ข้าวพองยิ้มมุมปาก “เออ หรือว่าจะไปเที่ยวตอนวันอาทิตย์”
“วันอาทิตย์เป็นวันหยุดก็จริง แต่คุณพ่อกับคุณเพียงจะอยู่บ้านไม่ใช่หรือครับ”
“โอย......” ข้าวพองโอดครวญ
เกียหันไปบอกกับเด็กหนุ่ม “1 วันในรอบสัปดาห์ที่จะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า อย่าคิดไปล่วงหน้าว่ามันน่าเบื่อ ลองคำนวณดูนี่เป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากนะครับ ยิ่งถ้าไปคิดเปรียบเทียบกับไทนี่ด้วยแล้ว”
“รวมถึงครูด้วยใช่มั้ย”
เกียหันกลับมามองตรงไปข้างหน้า ไม่ตอบคำถามของข้าวพอง

หลังการฝึกซ้อมประจำวันผ่านไป เกียเดินขึ้นมาส่งข้าวพองที่ห้อง หนุ่มตัวเล็กหันมาดึงชายเสื้อของเกียไว้
“ครู”
“ครับ”
“เมื่อเย็นน่ะขอโทษนะ”
เกียก้มลงมองหนุ่มตัวเล็กด้วยสายตาอ่อนโยน “เรื่องที่พูดถึงครอบครัวน่ะหรือครับ”
“ฮื่อ ขอโทษที่พูดถึง ทำให้ไม่สบายใจ”
เพราะว่าพอพูดถึงแล้วเกียเงียบไป ทำให้ข้าวพองเริ่มกังวลว่าพูดไม่รู้จักคิด
แต่คนตัวโตส่ายหน้า “ผมไม่ได้ไม่สบายใจ แต่ไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไงต่างหาก”
“เออนั่นแหละ”
“ข้าวพองครับ แต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน เราเอาสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเรา ไปตัดสินบ้านอื่นไม่ได้หรอกครับ”
“แต่พ่อแม่ครูเขาก็มีครอบครัวของเขาเองใช่มั้ยล่ะ”
“ใช่ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าครูจะต้องติดป้ายไว้ที่หน้าผากตัวเองว่าเราเป็นส่วนเกินนี่”
สีหน้าของข้าวพองไม่ได้เชื่อที่เกียเล่าเลยสักนิด “แล้วทำไมครูต้องไปทำงานเสี่ยงตายแบบนั้น เพื่อที่จะหนีจากครอบครัวไม่ใช่เหรอ”
เกียลูบท้ายทอย “ไม่ใช่หรอก ผมเป็นตำรวจเพราะอยากเป็นตำรวจไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพ่อแม่หรอก”
ข้าวพองยังคงมีสีหน้าไม่เชื่ออยู่เหมือนเดิม
“ไว้วันหยุดยาว หรือปิดเทอมผมจะพาข้าวพองไปหาแม่ที่ภูเก็ต จะได้รู้ว่าผมไม่ใช่เด็กวันพุธ โอเคมั้ย”
“อือ” ข้าวพองพยักหน้า “ต้องนั่งรถไปไกลถึงภูเก็ตเลยเหรอ”
“ไปเครื่องก็ได้”
“ไม่ได้” ข้าวพองบอกทันที “พ่อกับพี่เพียงไม่ให้พองขึ้นเครื่องบิน เขากลัว” เด็กหนุ่มทำหน้าตาช่างฟ้อง “พองเป็นคนเดียวในโรงเรียน ที่ไม่เคยได้ไปซัมเมอร์ที่ไหนเลยเพราะพวกเขาไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน ส่วนในประเทศนะ ไปได้หมด แต่ถ้าขึ้นเครื่องก็อด”

เกียมองลึกลงไปในดวงตาของคนตัวเล็กที่บางอารมณ์ก็เหมือนเด็กประถม แต่บางอารมณ์ก็เหมือนผู้ใหญ่
....มีคำตอบรางเลือนว่าทำไมถึงไม่ให้ข้าวพองเดินทางด้วยเครื่องบิน....
คำตอบที่มากกว่าคำว่าเป็นห่วง...มากกว่าคำว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินมันอันตราย...

ข้าวพองมองตอบดวงตาสีฟ้าแล้วเลื่อนลงมาหยุดที่ริมฝีปากหนา
“เกีย...” เสียงเรียกชื่อแผ่วเบา
“ครับ”
เกียไม่ได้แปลกใจที่ข้าวพองเรียกเขาด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไปเรื่อย หากแต่มองลูกกระเดือกภายใต้ลำคอเล็กเลื่อนขึ้นลง แล้วหันไปมองที่บันได แล้วก็กลับมามองที่ริมฝีปากหนาเหมือนเดิม

เกียผลักเปิดประตูห้อง ให้ข้าวพองเดินเข้าไปก่อนแล้วปิดประตู
“ว่าไงครับ”
ข้าวพองเหลือบตามองคนถามแล้วกลับมามองที่ริมฝีปากสวย
“ทำไมเกียชอบมองพองด้วยสายตาแบบนั้น”
“แบบไหน”
“ก็...แบบ...คุยๆ กันอยู่ดีๆ เกียก็มักจะหยุดพูดแล้วก็มอง.......”

เสียงในสมองร้องทันที
น้องกำลังแปลความหมายวิธีการพูดและสายตาของเราผิดไป

“ไม่ชอบหรือครับ”
“ไม่ใช่หรอก”
“แล้วทำไมถึงไม่ชอบครับ”
“ก็มันแปลกๆ มันเหมือนกำลังโดนอ่านใจอยู่”
“ผมทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก”
ข้าวพองตวัดสายตามองแล้วอมยิ้ม “งั้นก็ดี ออกไปจากห้องได้แล้ว เล่นกีฬาอะไรไม่รู้เหงื่อออกเยอะชะมัด”
 “อาทิตย์หน้าชกมวย จะได้เหงื่อเยอะกว่านี้อีก”
“ไม่เอาอะ ไม่เอาชกมวย” ข้าวพองร้องโวยวาย แต่เกียทำเป็นแคะหูเดินไปที่ประตู
“เกีย!”
“เสียงอะไรเนี่ย”
คนตัวเล็กกระโดดกอดคอจากทางด้านหลัง แล้วตะโกนใส่หู “ไม่ชกมวยๆๆๆๆๆ”
เกียถึงกับหูอื้อไป 3 วินาที “โห...”
“ได้ยินยัง! บอกว่าไม่ชกมวย!”

เกียหันกลับมาคว้าใบหน้าที่อยู่ใกล้จูบริมฝีปากบดคลึง แขนใหญ่ข้างหนึ่งรัดเอวบางไว้แน่น อีกมือช้อนใต้ก้นกลม
ขาผอมเกี่ยวรัดต้นขาแข็งแรงไว้
ริมฝีปากหนาถอนจูบปาก แต่กลับจูบที่คางสวยเรื่อยลงมาที่ลำคอขาว
“อื้อ..เหม็นเหงื่อ”
“ไม่หรอก”
“เกีย....” เสียงครางเรียกชื่อแผ่วเบาที่ข้างหู เมื่อพี่จูบไซ้คอ
การถอนจูบไม่ต่างจากการตัดใจ
“อาบน้ำ แล้วลงไปทานข้าวนะครับ เอาการบ้านลงไปด้วย”
“กลัวที่ต้องอยู่ในห้องกับพองตามลำพังละสิ”
“ใช่” เกียยอมรับ “กลัวมาก”
“กลัวมากกว่าผู้ร้ายด้วยเหรอ”
“ครับ ฆาตกรฆ่าหั่นศพยังไม่ร้ายเท่าข้าวพองเลย” เกียปล่อยให้ข้าวพองลงยืน “ผม...พี่จะลงไปรอข้างล่างนะครับ”

เช้าวันเสาร์ ข้าวพองต้องไปเรียนพิเศษ ฟิสิกส์ กับเคมี เกียกับธีระไปรอรับตามเวลา
ใช่ว่าเกียจะสอนพิเศษให้ข้าวพองไม่ได้ แต่เพราะมโหธรอยากให้น้องชายไม่ห่างจากเพื่อนๆ มากเกินไปนัก
เรียนเสร็จก็ไปรับไทนี่ไปฝึกยิงปืนด้วยกันที่สนามยิงปืนเอกชน
เกียลงชื่อยืมอุปกรณ์ทั้งหมด ตามระเบียบของสนาม แล้วก็สอนเด็กหนุ่มทั้ง 2 คน จนหมดเวลา ก็พามาส่งที่ห้างสรรพสินค้า นัดหมายพบกันในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้าที่ร้านกาแฟ
เกียนั่งคุยกับธีระไปเรื่อยในระหว่างรอหนุ่ม 2 คนเดินเล่น และกลับมาด้วยข้าวของที่มากกว่าหนังสือ
เสร็จแล้วก็มาส่งที่บ้านของไทนี่
“ครู อาทิตย์หน้าให้ไทนี่มานอนบ้านเราได้มั้ย” ข้าวพองถาม
....ต่อหน้าคนอื่น เรียกว่าครูไปก่อน...ไว้อารมณ์ไม่ดีค่อยเปลี่ยนสรรพนาม... 
“ข้าวพองต้องขออนุญาตคุณเพียงครับ”
“พี่เพียงเรื่องมาก ต้องส่งพี่นิมาเจ้ากี้เจ้าการแหง” ข้าวพองหันไปทำหน้าเบื่อหน่ายกับเพื่อน
เกียยิ้มๆ “คุณเพียงกับคุณนิ เขาอยากให้ไทนี่มานอนบ้านเราแล้ว กินอิ่ม นอนสบายน่ะครับ พรุ่งนี้ค่อยบอกกับคุณเพียงสิครับ”
ข้าวพองพยักหน้ารับรู้
เมื่อรถจอดที่หน้าบ้านหลังเล็ก มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาเปิดประตู แล้วช่วยไทนี่ถือของเข้าไปในบ้าน
“ไม่มีรถ พ่อของไทนี่ยังไม่กลับมาหรือครับ”
“ยัง เห็นบอกว่า ไปนานเป็นเดือนแน่ะ พองก็เลยชวนเขามานอนบ้าน ไหนๆ เกียก็สอนคนทั้งบ้านอยู่แล้วนี่ สอนไทนี่อีกคนแล้วไปคิดตังค์เพิ่มกับพี่เพียงแล้วกัน”

…เข้าใกล้อารมณ์เอาแต่ใจเรียกชื่อเหมือนเดิมนี่แหละ..

“โห...” เกียแกล้งบ่น เน้นคำสรรพนามเรียกตัวเอง “ครู ไม่ได้เขี้ยวขนาดนั้นสักหน่อย”
“เหรอ” ข้าวพองทำเสียงรู้ทัน “แล้วที่ไม่ยอมไปเดินเที่ยวด้วยกันเนี่ย ไม่ใช่เพราะกลัวต้องซื้อของให้พองหรือไง”
“ไม่ใช่อย่างนั้น” เกียหันไปมองธีระที่กำลังขำเบาๆ
“ผมบอกครูแล้ว ว่าคุณข้าวพองน่ะฉลาดเป็นกรด อย่าแก้ตัวเลยครับครู”
“ดีมากธีระ เดี๋ยวถึงบ้านมาเอาช็อคโกแลต พองซื้อมาฝาก”
“ขอบคุณครับคุณข้าวพอง” ธีระหน้าบาน ขณะที่เกียได้แต่ยิ้มขำ

*-*-*จบตอนที่ 7*-*-*
อย่าเพิ่งสับสนกับสรรพนามระหว่าง เกีย กับ ข้าวพอง เราเจตนาให้มันเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของข้าวพองที่ไม่แน่นอน เปลี่ยนกลับไปกลับมา
ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ แต่ทีกลับมาแก้ เขาบอกว่า ข้าวพองมันโลเลสุดชีวิตแบบนี้ ก็ควรที่จะไม่มั่นคงแม้แต่การเรียกตัวเอง
แต่ผมน่ะงงเพราะผมถนัดเรียกว่าพี่มากกว่า

ตอนต่อไปวันพฤหัสบดี เป็นตอนพิเศษ
ตอนที่ 8 จะมาในวันอาทิตย์ครับ

ขอบคุณมากครับ
.ไจฟ์ครับ.



หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-04-2014 10:02:47
พ่อไทนี่มาให้สงสัยอีกคนล่ะ ใครอ่ะ  :really2:

ข้าวพองเหมือนเด็กขาดความรักเนอะ 

เกียเจ้าเล่ห์แต่คงน่าค้นหาสำหรับข้าวพอง

รอตอนพิเศษ

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-04-2014 10:16:23
ตอนนี้ก็เรื่อยๆสบายๆกันก่อน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-04-2014 11:46:23
ผู้ต้องสงสัยมาอีกหนึ่งละ
ข้าวพองขี้อ้อนจริง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 15-04-2014 12:40:33
ผู้ต้องสงสัยโผล่มาเต็มไปหมดเลย ยากเกินคาดเดาจริงๆ

รอวันพฤหัสฯฮะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 15-04-2014 14:02:32
ตัวละครในเรื่องนี้ไม่รู้จะไว้ใจใครได้บ้าง  แบบว่าดูเป็นคนน่าสงสัยทั้งนั้น
อย่างเกียเนี่ย ก็ไม่น่าไว้ใจเพราะอยู่กับน้องพองสองต่อสองทีไร เป็นเนียนหากำไรกับน้องตลอด  ฮาาาา
แต่เค้าสองคนก็ดูสนิทกันมากขึ้น  แต่ไม่รู้ว่าใครจะตกหลุมรักใครก่อนเนอะ

รออ่านตอนพิเศษจ้า  ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 15-04-2014 14:30:45
เกียอาจจะกำลังสงสัยพ่อไทนี่ ไทนี่เองก็ไม่ใช่เด็กเล็ก
ข้าวพองเหมือนจะติดคนง่าย ใครเข้าใกล้ชิดก็ดูจะให้ความสนิท ไว้ใจ
ก็ยังเด็กวัยรุ่นนี่เนอะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 15-04-2014 16:02:04
ไทนี่ ตัวปมปัญหาอีกตัวสินะ
ชอบเวลาเกียกับพองกุ๊กกิกกันจัง :mew3:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 15-04-2014 16:15:13
โอ๊ะโอ~ คนเขียนเพิ่มผู้ต้องสงสัยมาให้อีกคนแล้ว :katai2-1:

ทำไมรู้สึกข้าวพองก็แอบยั่วเกียร์อ่ะ ฮ่าๆ แต่ชอบนะ ยั่วมากๆระวังโดนเกียร์จับกิน :z1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 15-04-2014 18:34:33
มาอีก1ผู้ต้องสงสัยแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 15-04-2014 18:42:18
เอ ไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน ประเด็นนี้น่าสน เพราะมันต้องผ่านการตรวจสแกน ส่วนไทนี่ขอให้เป็นแค่เด็กมีปัญหาเฉยๆเหอะ  เค้าชอบไทนี่  พูดสำเนียง จิงลิช 555 แอบวางตัวผู้ร้ายอยู่ในใจไว้  คงจะถูกนะ 555 ที่ผ่านมาผิดตลอด รอต่อไปจร้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-04-2014 21:02:16
ผู้ต้องสงสัยเพิ่มมาอีกคนแบ้ว
 :katai5:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 15-04-2014 23:27:59
คำนำหน้าเรียกตามอารมณ์ โอเค เข้าใจ
แต่ที่ยอมให้เขาจูบง่ายๆคืออะไร ยั่วเกียหรือคะ
แต่ชอบที่พองมีน้ำใจกับธีระนะ น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 16-04-2014 02:58:56
เด็กขี้โลเล เกียจูบบ่อยๆๆ นะ  5555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 16-04-2014 12:14:42
ได้อ่านถึงตอนล่าสุดแล้วชอบมาก
เจอไทนี่เต็มๆ 555
แต่ถึงบรรทัดเกียแทนตัวเองว่า "ผม...พี่"
ผมก่อนเปลี่ยนเป็นพี่อ่ะ
เงิบเล็กๆ
ตอนแรกโน้นบอกใช้ทางลัดให้ข้าวพองตัดไอรีน
ก็ว่าไ่ม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่ชอบคงไม่จูบลึกกับน้อง
 :mew1:
แบบนี้ยุให้ข้าวพองโดดกอดแล้วตะโกนใส่หูบ่อยๆ ดีกว่า
เอาให้คลั่งเลยนะเจ้าตัวเล็ก
บวกและเป็ดขอบคุณ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 16-04-2014 12:34:22
ผู้ต้องสงสัยมาอีกหนึ่งหรือสองทั้งพ่อทั้งลูก ฮ่าาาาาาา
แผ่นหลังและท่าเดินที่คุ้นตาแสดงว่าเกียต้องรู้จักหรือเคยเห็นพ่อไทนี่สินะ

ที่ข้าวพองขึ้นเครื่องไม่ได้เพราะ? ในตัวข้าวพองมี.......
คึคึ

แอบรู้สึกว่าข้าวพองเป็นเด็กฉลาดที่เหมือนรู้อะไรๆแล้วดึงคนเหล่านั้นเข้ามาหาเพื่อให้เกียได้รู้อะไรๆ รึป่าว?
<นี่ก็เดาไปเรื่อยตลอดอ่ะ>
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-04-2014 16:20:59
ไทนี่จะเป็นตัวปัญหาหรือเปล่านะ แต่ดีแล้วที่เกียยังไม่วางใจ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 16-04-2014 23:11:08
อืมมม เด๋วนะ
ไม่ได้อ่านไป 2-3 ตอนติดกัน ข้าวพอง พี่เกีย เดินหน้าไปมากนะ
ว่าแต่มีแผนอะไรอีกหรือเปล่า ไม่ให้น้องเสียใจเป็นพอนะ พ่อเกียร์เดินหน้า!

ขอโทษที่ไม่ได้มาอ่าน มาเม้นท์ทุกตอน ถ้าสุดหล่อของพี่กังวล ก้อขออภัยนะ กลับมาแล้วจ้า(เค้าขอหรอ?)
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 17-04-2014 09:02:14
ตอนพิเศษ

เกียกำลังล้างรถจักรยานยนต์คันใหญ่ อยู่ในโรงรถ
เมื่อสัก 5 นาทีก่อนหน้านี้ ‘พ่อยอดยิ่ง’ คู่พี่น้องยามรักษาความปลอดภัยของบ้านแวะเข้ามาจะให้ความช่วยเหลือ แต่เกียไล่ให้ไปช่วยธีระทำสวนและทำความสะอาดโรงฝึก
พอ 2 พี่น้องคล้อยหลังไป ก็กลายเป็นธีระที่จะมาทำให้
“ผมเป็นคนขับรถนะครับ ถึงคันนี้ผมไม่ได้ขับแต่ผมก็คิดว่า ถ้ารถอยู่ในบ้าน ก็น่าจะเป็นหน้าที่ผมนะครับ”
...เรื่องการพูดโน้มน้าว ต้องยกให้ธีระเขาเลยจริงๆ...
“ขอบคุณมาก”  เกียบอกปัดไปเหมือนเดิม“
มีเสียงสเก็ตบอร์ดดังเข้ามาใกล้ แล้วก็ตามมาด้วยเสียง
“ปล่อยให้ทำไปเหอะ อยู่เฉยๆ จะกลายเป็นง่อยอยู่แล้ว”
“คือ....” ธีระหันไปหาเจ้านายคนเล็ก
“ไม่รู้จะทำอะไร ก็ไปเบิกเงินอุบลมาทาสีรั้วใหม่ดิ มีเด็กมือบอนมาพ่นข้อความตามหาพ่อมันไม่เห็นหรือไง”
“ห๊ะ เมื่อไหร่ครับ” ธีระตกใจ “ไอ้คู่พี่น้องมันเฝ้าหน้าบ้านทำไมไม่บอก”
คนขับรถสูงวัยหน้าตาตื่นรีบวิ่งไปหน้าบ้าน
เป็นไปไม่ได้เลยถ้าจะมีใครมาพ่นสีที่รั้วบ้านแล้วคู่พี่น้องยอดยิ่งจะไม่รู้

เกียสบตาคนที่ยืนกอดอกมอง เสื้อกล้ามสีฟ้า กับกางเกงขาสั้นเสมอเข่าสีน้ำเงิน ผิวขาวจัด ปากแดง ผิดก็ตรงตากลมๆ คู่นั้นที่ใช้วิธีเหลือบมองลงมา
“วันนี้ไม่มีนัดหรือครับ”
“ถ้ามีจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ไง”
“นั่นสินะ” เกียพยักหน้า กลับมาล้างรถต่อ

เกียไม่ชอบวิธีการมองคนแบบนั้นของข้าวพอง แต่แก้ไขความคิดของตัวเองได้ด้วยการไม่สนใจ
ส่วนข้าวพองก็ไม่ชอบท่าทีไม่สนใจ ไม่แคร์แบบนี้ของเกีย  แต่คิดว่าต้องเรียกร้องให้เกียหันมาสนใจมากขึ้น

“เฮ้..”
“ครับ” เกียเจตนาสุภาพเป็นพิเศษ แต่ข้าวพองยักไหล่
“ไม่มีนัดหรือไง”
“เดี๋ยวก็มี”
ข้าวพองเหยียบปลายสเก็ตบอร์ดส่งแรงดีดแผ่นกระดานขึ้นมาถือ แล้วก้าวเข้ามายืนข้างๆ
“ทำไมต้องเดี๋ยวมี ไปไหน ไปกับใคร ไปกี่โมง”
เกียลุกขึ้นยืน
ยิ่งยืนข่มกันแบบนี้ยิ่งไม่ชอบ คนเกเรผลักอกกว้างๆ
“ชริ”
“อยากรู้ก็มาช่วยกันล้างรถ”
“เรื่องเหอะ”
เกียยักไหล่ ส่งฟองน้ำให้ “ล้างรถ เสร็จแล้วจะพาไปด้วย” คนตัวโตท้า “คุณหนูจริงๆ”
เรื่องอะไรข้าวพองจะยอมแพ้ มือหนึ่งถือฟองน้ำ อีกมือส่งสเก็ตบอร์ดให้ “เอาไปเก็บ”

เกียรับไปวางพิงตู้เก็บของในโรงรถ หันมาเห็นข้าวพองกำลังบีบฟองน้ำเล่น จากนั้นก็ยกถังน้ำ เทน้ำราดรถแล้วก็ยืนเท้าเอวหัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว

“นั่นรถมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่หมา แกล้งมันยังไงมันก็ไม่สำลักน้ำหรอกข้าวพอง”
“อ่า....”

อย่าบอกนะ ว่าไอ้เสียงแปลกๆ นั่นกับอาการงงๆ คือข้าวพองลืมไปจริงๆ ว่ารถจักรยานยนต์เป็นสิ่งไม่มีชีวิต
“รู้แต่จะแกล้งคนอื่น”
เกียส่ายหน้า ขณะที่เดินกลับมาหา
เพราะในถังไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว ข้าวพองก็แค่ถือกลับไปที่ก๊อกน้ำ ยืนหันหลังให้อีกคน
พอน้ำเต็มถัง ถือกลับมา ....
ทันทีที่ยกขึ้น คนที่กำลังเช็ดรถหันกลับมาคว้าข้อมือ น้ำทั้งถังเทลงมาหาคนที่ตัวเล็กกว่า !!
เปียกชุ่มตั้งแต่หัวจดเท้า ข้าวพองกระโดดขี่หลัง ล็อคคอ!
“เก่งนักเหรอ ฉลาดเหรอ ไอ้หมาขี้เก๊ก ตาย-ซะ-เหอะ!!!”
แต่เกียกลับหัวเราะ เบี่ยงเอวบิดตัว คว้าเอวบางพลิกแล้วจับหมุน
ข้าวพองร้องลั่นบ้าน จนทุกคนในบ้านวิ่งออกมาดู
“ไอ้บ้าๆๆๆ”
เกียปล่อยข้าวพองลง อุบลก็รีบมาพยุงไว้
“เล่นอะไรคะเนี่ย เปียกหมดเลย เข้าบ้านเถอะค่ะ”
“ไม่ได้เล่น หมามันแกล้งต่างหาก” ข้าวพองหันไปฟ้อง
เกียไม่ได้เดือดร้อน “ใครแกล้งนะ”
ข้าวพองชี้หน้า แต่ไม่มีคำพูด
ไม่ต้องเห็นเหตุการณ์ ไม่ต้องมีใครเล่า ทุกคนตรงนี้ต่างก็รู้ว่าข้าวพองเป็นคนเริ่มแน่ๆ
“ไปเปลี่ยนเสื้อก่อนดีกว่าค่ะ” อุบลไกล่เกลี่ย “อากาศร้อนมาก แล้วมาโดนน้ำแบบนี้ เดี๋ยวจะไม่สบาย”
“พองไม่ได้กะโหลกบางขนาดนั้นนะ” ไอ้ตัวเล็กหันไปเหวี่ยงอุบล แต่ก็กลับเดินนำเข้าบ้านไปก่อน
ก้าวสุดท้ายก่อนเข้าประตู ไม่วายหันมาตะโกนบอก
“ไปไหนไปด้วย ห้ามหนีไปคนเดียว”

เกียเพิ่งเช็ดรถเสร็จ กำลังตากผ้าผืนบางไว้ที่ด้านหลังโรงรถ ข้าวพองที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็รีบวิ่งออกมา
“เสร็จยัง”
“อาบน้ำฟอกสบู่หรือเปล่าเนี่ย” เกียเดินบ่นเข้าบ้าน ทำเป็นไม่หันไปมองอีกฝ่าย ทั้งที่ในสายตาและในสมองบันทึกภาพของหนุ่มคนนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
“เสร็จแล้วใช่ไหม ไปยัง”
“ข้าวพองครับ พี่เพิ่งล้างรถเสร็จ ขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไม่ได้หรือไง”
“ก็เร็วดิ” ข้าวพองวิ่งตาม “นัดกับใครไว้อะ นัดที่ไหน กี่โมง”
ถามไปเกียก็ไม่ตอบอยู่ดี
ทีแรกก็คิดว่าจะรออยู่ข้างล่าง
แต่ถ้าไม่ตามจิกให้ถึงที่สุดก็ไม่ใช่ข้าวพอง
ดังนั้นหนุ่มตัวเล็กถึงได้ไปนั่งอยู่กลางเตียง รอให้เกียอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูห้อง
“ไปกันๆ”
“รู้หรือไงเนี่ยว่าจะไปไหน” เกียแกล้งถาม
“ก็บอกมาดิ”
คนตัวโตทำยักไหล่ หยิบกุญแจรถแล้วเดินนำออกมา
คราวนี้เป็นอุบลที่วิ่งตามมา
“คุณข้าวพองจะตามไปด้วยได้อย่างไรกันคะ คุณครูเธอมีนัด”
“ก็จะไป”
“คุณข้าวพองคะ คุณครูเขาจะมีธุระส่วนตัวบ้าง จะตามไปเสียทุกที่”
“เกียไม่เห็นห้ามเลย อุบลห้ามจั๊ง” ข้าวพองเถียงเสียงสูง หันไปอีกที เกียเดินออกไปถึงโรงรถแล้ว
เขาไม่หยิบหมวกกันน๊อคให้ หยิบเองก็ได้ แล้วไปยืนอยู่ข้างๆ
“ใส่ให้หน่อยดิ”
เกียยิ้มขำ แต่ก็ช่วยใส่ให้
พอเกียขึ้นรถ ข้าวพองก็ซ้อนท้าย แต่ไม่วายมีคำพูด
“มอ’ไซค์พี่เบิ้ม จะขึ้นจะลงแต่ละทีต้องปีน ไปถึงไหนได้ยินกันล่วงหน้าอีก 3 กิโล”
ได้ยินเสียงหัวเราะหึหึจากคนขับ
“หัวเราะนี่แปลว่าพองพูดจริงละสิ”

อันที่จริงข้าวพองกำลังรู้สึกว่ากำลังพูดอยู่คนเดียว และก็รู้ตัวอยู่เหมือนกันว่ากำลังตามเขาไปแบบ ไปไหนก็ไม่รู้ รู้แต่จะไปด้วย
แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเหมือนกัน
ก็เขาไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัว เราก็ต้องอยากรู้เรื่องของเขา

เกียไม่ได้ไปสถานทูต ไม่ได้ไปที่คอนโดฯ แต่ไปที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน จอดรถในที่จอดพิเศษ ส่งเงินให้กับพนักงานเฝ้ารถ
“เกียเหมือนพ่อเลย พ่อก็จะให้เงินทิปก่อน เขาบอกว่า เขาจะบริการเราดีกว่าการที่เราให้ทีหลัง”
เกียหันมายิ้มให้แล้วเดินนำเข้าไปในห้าง
ตรงไปที่ร้านยีน ระหว่างที่เกียเลือกกางเกง ข้าวพองก็ได้แต่มองซ้ายมองขวา

เขานัดใครที่ไหน หรือเรามาถึงก่อนเวลานัดเลยมาช็อปไปพลางๆ

ออกจากร้านยีน เกียไปที่ร้านหนังสือ
เลือกของสไตล์เดิม คือตรงไปที่แผนกที่ต้องการใช้เวลามองไม่ถึง 2 นาทีก็หยิบออกมา
“ซื้อหนังสือไหม”
...อะ เออใช่...
ข้าวพองพยักหน้าเร็วๆ รีบไปที่แผนกหนังสือ
เราเสียอีกใช้เวลานานมากกว่าที่จะได้สักเล่ม เห็นเขาเดินผ่านมามองหลายรอบแล้ว แต่ไม่ได้เร่งว่าเลือกได้หรือยัง เราก็เลือกไปเรื่อย
อีกเกือบครึ่งชั่วโมง ถึงได้การ์ตูนมาเล่มหนึ่ง ส่งให้เกีย
คนตัวโตยิ้มที่มุมปาก แล้วเอาไปจ่ายเงิน
“พิซซ่าไหม”
ข้าวพองพยักหน้า แต่ไม่วายถาม “นัดเขาไว้ที่ร้านพิซซ่าหรือ”
เกียยิ้มมุมปากแบบนั้นอีกแล้ว แล้วก็เดินนำเข้าไปในร้าน บอกพนักงานว่า 2 คน
พิซซ่าถาดกลางก็จริง  แต่เกียก็สั่งมาทั้งสปาเก็ตตี้ ขนมปัง ไก่ทอด ซุป สลัด
ข้าวพองวางหนังสือไว้ข้างจาน ตั้งท่าจะกินไปอ่านไปเหมือนเคย แต่เกียเอื้อมมือมาแย่งไป
“เอาหนังสือมา พองจะอ่าน”
“ไม่อ่านหนังสือระหว่างทาน”
“กินไปอ่านไปเนี่ยแหละ อร่อยที่สุด”
“ถ้าจะทำอย่างนั้น กลับไปกินคนเดียวที่บ้าน”

คำว่า ‘คนเดียว’ บางครั้งมันก็ทำให้เสียความรู้สึกได้มากกว่าที่คิด

“จะไม่ให้อ่านหนังสือระหว่างกินก็ได้ แต่ต้องขอโทษที่พูดกับพองแบบนั้นก่อน”
คนเข้มงวดใช้น้ำเสียงอ่อนลงทันที “ขอโทษ ตอนนี้เรากำลังกินอาหารอยู่ พี่ก็อยากให้.....”
“เราคุยกันในระหว่างกินข้าว ไม่ใช่ทำเหมือนต่างคนต่างอยู่” ข้าวพองบอกแบบที่เกียบอกเสมอ “พองก็แค่อยากอ่านหนังสือ”
“เดี๋ยวก็ได้อ่าน” เกียบอกขณะที่ใช้ส้อมเลาะถอดกระดูกไก่ทอด จนเหลือแต่ชิ้นเนื้อแล้ววางในจานของข้าวพอง
กินไก่หมดคำ ข้าวพองก็ถามอีก
“ตกลงนัดเขาไว้กี่โมงเนี่ย นัดดูหนังหรือ”
เกียยักไหล่ “ข้าวพองอยากดูหนังไหม”
อีกคนโยกตัวขณะที่ตอบคำถาม “ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ เพราะตอนนี้ไม่เห็นมีเรื่องไหนที่อยากดู”
เกียทำหน้าเครียด จนข้าวพองเดามั่วต่อไป
“ไม่เคยเดทหรือไง”
“เคยสิ”
“มันนานมากจนลืมไปแล้วสิท่า” พูดจบข้าวพองก็หัวเราะ คึคึอยู่ลำคอ
เสียงแปลกพิกลจนทำให้เกียขำ
“ตอนอยู่อังกฤษ ไปเดทยังไง”
“ไปพิพิธภัณฑ์”
เกียพูดเสียงต่ำๆ แต่ข้าวพองทำเสียงสูง “พิพิธภัณฑ์!!!!!!!!! เกียมาจากโลกยุคไหนเนี่ย”
คนตัวโตแก้เก้อด้วยการตักพิซซ่าให้ข้าวพอง
“ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนนี่”
ไอ้หนุ่มตัวเล็กส่ายหน้า บ่นก่อนกัดพิซซ่าคำใหญ่ “ไม่แปลกใจเลยที่แห้ว”
“ก็มีไปดูหนัง ไปดื่มด้วยกัน แต่ไปในที่แบบนั้นมันก็ไม่ได้คุยกัน ไปพิพิธภัณฑ์ยังได้ชวนคุยกันไปเรื่อยๆ”
“ไปสวนสัตว์ด้วยแหง”
เกียยอมรับ พาลทำให้ข้าวพองเพลียจิต
“ไปเดท หรือไปทัศนศึกษาน่ะ”
“คนคบกัน ก็ต้องคุยกันเรียนรู้กันและกันสิ”
“ต้องศึกษาเขาจากสิ่งที่เขาทำ สิ่งที่เขาพูด ไม่ใช่ถาม” ข้าวพองวางท่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ “เพราะถ้าเราถามไป คนตอบเขาก็ต้องตอบในสิ่งที่คิดว่าเราจะพอใจ ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขา”
เกียยอมรับอีกครั้ง ว่าสิ่งที่ข้าวพองพูดมาถูกต้อง
“เดทแบบเกียมันเครียด ไม่พาไปเที่ยวสวนสนุกดูล่ะ ชวนขึ้นรถไฟเหาะสัก 3 รอบ”
“ที่แบบนั้นมันต้องไปกับเพื่อน” เกียแย้ง
“แฟนก็เพื่อน เป็นเพื่อนสนิทมากๆ แบบที่เราคาดหวังว่าจะแชร์ชีวิตด้วยไง”
เป็นอีกครั้งที่เกียเห็นด้วย “ข้าวพองอยากไปสวนสนุกไหม”
ข้าวพองพยักหน้าเร็วๆ แล้วก็หยุด “หมายความว่าเกียจะพาแฟนไปเที่ยว แล้วก็หนีบพองไปด้วยน่ะหรือ”
“ไปไหม” เกียถามย้ำ
“ไป อยู่ แล้ว” ข้าวพองหัวเราะเสียงคึคึอีกครั้ง

มื้อเที่ยงผ่านไป แต่มองผานกระจกหน้าต่างร้านออกมา ข้างนอกยังแดดแรง ข้าวพองหันมาถามคนที่กำลังหยิบใบรายการอาหาร จะไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์
“ข้างนอกท่าทางจะร้อนมาก”
“อืม”
ที่จริงจะร้อนหรือฝน ก็ไม่ค่อยมีผลกับเกียสักเท่าไหร่ แต่คนข้างๆ มีปฏิกริยากับอากาศร้อนมาก เพราะจะอารมณ์ไม่ดีเสมอ เกียก็เลยพาเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้า จนมาหยุดอยุ่ที่หน้าป้ายโฆษณาหน้าโรงภาพยนตร์
“จอดสิครับงานนี้ท่านผู้ชม”
“หือ...อะไร” เกียหันมาถามเพราะไม่เข้าใจประโยคที่จู่ๆ ข้าวพองก็พูดขึ้นมา
“ก็เนี่ย” นิ้วผอมๆ ชี้ไปที่ใบปิด “เดินไปเรื่อย จนมาถึงหน้าโรงหนัง คนที่นัดไว้ก็ยังไม่มา เอาไงละครับคุณ”
“รู้ได้อย่างไรว่า เขาไม่มา”
“แล้วไหนล่ะ” ข้าวพองมองไปรอบๆ “นัดไว้ถ้าเขามาแล้ว เขาก็ต้องโทรหาดิ นี่ไม่มีอะไรสักตื๊ด”

เกียยิ้มมุมปาก เลือกเรื่องที่อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจะฉาย แล้วเดินไปซื้อตั๋ว 2 ใบ ข้าวพองก็เดินตามต้อยๆ ยึดหลักการเดิม เขาไปไหนก็ไปด้วย
...ดูหนังแล้วไม่ได้คุยกันจริงๆ อย่างที่เขาว่าแหละ ขืนคุยกันได้โดนไล่ออกจากโรงหนังแน่ๆ...
 
ออกจากโรงหนังบ่ายคล้อย เกียพาแวะเข้าร้านไอศกรีม ต่อข้าวพองก็กินต่อได้อีก ขณะที่เกียจิบชาร้อน
“หนังแอ็คชั่นนี่ก็ดีเหมือนกัน คุยกันไม่กี่คำก็ยิงกันแล้ว”
เกียบอก “เขาสร้างตามนิสัยของเป้าหมายไง ผู้ชายถ้ามีปัญหาไม่ชอบการเจรจา หยิบอาวุธได้เลย”
ข้าวพองทำท่านึก “เหมือนเคยอ่านเจอที่ไหนว่า สงครามมักเกิดจากผู้ชายมากกว่าผู้หญิง”
“ใช่”

จนกระทั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่กลับถึงบ้าน ข้าวพองก็ถามคำถามเดิมที่ถามมาตลอดทั้งวัน
“วันนี้เกียนัดกับใคร เขาไม่มาใช่มั้ย เกิดอะไรขึ้น”
เกียยักไหล่เดินนำเข้าบ้าน ข้าวพองก็เตะเข้าที่ข้อเท้า
“หมาบ้า! ตอบพองเดี๋ยวนี้นะ”
เกียดูเฉยๆ เมื่อหันมายิ้มให้
ยิ้มแบบเดิม องศาเดิมเป๊ะ แต่ตอนนี้ทำให้ข้าวพองหงุดหงิดกว่าเดิม
“ตกลงนัดกับใคร”

“อาทิตย์หน้า ไปสวนสนุกกันนะครับ”
....นั่นมันใช่คำตอบของคำถามที่เราถามไปหรือไงวะ!!...
“ชวนพองเหรอ แล้ววันนี้ล่ะ พองเป็นตัวสำรองหรือไง”
“เปล่า” เกียบอกยิ้มๆ
ข้าวพองคิดทบทวนแล้วแก้มก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเอง
“ที่ล้างรถนั่นเพราะจะพาพองไปเที่ยวเหรอ” เกียพยักหน้า ข้าวพองก็ถามต่อ “แต่พองถามว่าวันนี้มีนัดหรือเปล่าแล้วเกียบอกว่ามี”
“พี่บอกว่า เดี๋ยวก็มีต่างหาก หลังจากที่ข้าวพองบอกว่าวันนี้ไม่มีนัดไปไหน”

...เพราะเราบอกว่าไม่มี เขาก็เลยโมเมว่าเราจะไปกับเขาหรือไง....
...เอ่อ... เขาโมเม หรือเขารู้ทันว่า ถ้าเขาจะออกไปข้างนอกแล้วเราจะต้องร้องตามไปด้วย...

ข้าวพองเกาหน้าผากตัวเองเก้อๆ
“อาทิตย์หน้าไปสวนสนุกเหรอ”
“ครับ”
“เล่นตัวสักนิดดีมั้ยอะ”
“ก็ได้” เกียก้มลงหอมแก้มแดงเรื่อ “อนุญาตให้เล่นตัวได้ แต่ห้ามเปลี่ยนใจไม่ไป”

ข้าวพองหัวเราะคึคึอีกแล้ว เสียงหัวเราะกวนๆ ที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังมีแผนป่วนบางอย่างอยู่ในใจ
ไม่เป็นไร เราก็แกล้งไม่รู้ทัน รอดูลูกไม้ของนายมลรัฐต่อไป
ถึงเวลาก็จะมีคนอาบน้ำแต่งตัวมารอไปเที่ยวอยู่ดี

....จบครับ...

ต้นฉบับ 11 หน้า ใช้เวลาเขียน 4 วันคอมพ์ 3 เครื่องสลับไปสลับมา โปรแกรมคนละรุ่น ทำให้บางช่วงหายไป ต้องเขียนใหม่ โปรแกรมเซฟซ่อนไว้ที่ไดรฟ์ไหนไม่รู้ หาไม่เจอ ก็เขียนใหม่ เขียนจนจบแล้วอ่านทวนด้วยความสงสัยตัวเอง ว่าผมเขียนจบได้ด้วยเว้ยเฮ้ย สุดท้ายคือส่งให้พี่ไจฟ์ทวน
เขาอ่านแล้วขำ "เก่งแล้ว"
 :hao5:

แล้วคุณล่ะว่าไง บอกกัน ผมไม่ชอบการสื่อสารทางเดียว

ตอนปกติมาวันอาทิตย์นะ
..นายน้ำชาศิษย์ป๋าไจฟ์...

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 7 หน้า 5 (15 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 17-04-2014 09:10:25
อ่านจบละ ตกลงตอนพิเศษนี่แมวดื้อเขียนใช่ป่ะ รู้สึกได้ถึงสำนวนแบบนายน้ำชา

น่ารักสุดอ่ะ ชอบมากกก พี่รู้ว่าน้องอยากรู้แต่ไม่บอก หลอกเค้าไปเดททั้งวัน แถมยังจะมีคราวหน้าอีก ร้ายจริงๆ

รอร้อรอ ตอนต่อไปวันอาทิตย์ แต่ว่าตอนพิเศษมาบ่อยๆก็ดีนะ อิอิ

 o13
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 17-04-2014 09:19:36
อมยิ้มเบาๆกับตอนพิเศษ น่ารักจัง  :o8:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 17-04-2014 09:41:50
โธ่ แมวน้อย เหวี่ยงมากกกก คิดเอง เออเอง ไอ้หมาบ้าก็ชอบแกล้ง  ปล่อยให้น้องคิดไปทั่ว 555 ตอนนี้เหมือน ชีวิตของน้ำชาศิษย์ป๋าไจฟ์ ปะ  คึคึคึ แซวเล่นน้า น่ารักดี ถามไม่หยุดเลย ข้าวพอง.
ปล รอตอนต่อไปจร้า  แฟนคลับน้ำชา 555555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-04-2014 09:43:16
ตอนพิเศษน้องน้ำชาเขียน
(รู้สึกว่าจะมีคำผิดอยู่นะ)

ข้าวพอง ยังดื้อและชอบเอาชนะ
แต่ก็ยังไม่ทันเกียอยู่ดี  แต่อยู่ด้วยกัน
ทำให้ชีวิตมีสีสัน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 17-04-2014 09:50:46
โอ๊ะ....คุณเกียนี่เค้าก็หวานเอาเรื่องน่า
น่ารักจริงเชียว หนูข้าวพองตามไม่ค่อยทัน เอ๊ะ..หรือไม่เคยทัน  :impress2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 17-04-2014 09:54:19
แมวจอมซนกับหมาขี้เก๊กซินะ ..กับตอนพิเศษ    (หมารู้ทันแมวทุกเรื่องเลยนะเนี๊ยะ คึ คึ ) :วู้วว1:  อ่านแล้วมันมุ๊งมิ๊ง  ฟุ๊งฟิ๊ง บุ๊งบิ๊ง ในใจ...
....อยากบอกคนเขียนว่าน่ารักมากมาย...คนอ่านแบบเราไม่รู้จะเม้นท์ในเรื่องเยี่ยงไร รอให้เป็นไปตามจินตนาการของคนเขียนตามสบาย(เหมือนผลักภาระเน๊อะ หัวเราะ คึ คึ)

ขอบคุณคั๊บ กดบวกพลัสๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 17-04-2014 10:01:25
โอ๊ยยย อ่านจบแล้วยิ้มแก้มปริ
คือน่ารักมากอ่ะ  :mew3:
ตอนนี้ข้าวพองน่ารักจริงๆนะ
แอบขำตอนข้าวพองแกล้งมอไซค์ คือเห้ย คนแบบนี้ก็มีด้วย แกล้งจนลืมไปว่านี่มันมอไซค์นะ ฮ่าาาาาาาาาา
พาไปเดทแบบเนียนๆเลยนะคุณเกีย คริคริ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-04-2014 10:24:56
ตอนพิเศษน่ารักมาก คนเขียนก็น่ารัก คิคิ
ครูเกียหลอกล่อเด็กเก่งจริง ๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 17-04-2014 10:26:51
ตอนพิเศษที่น้องน้ำชาเขียนนี่สนุกดีนะ อมยิ้มกับข้าวพองได้ในทุกโมเม้นท์ เช่นตอนที่ข้าวพองแกล้งรถมอเตอร์ไซต์ แล้วโดนพี่พูดดักคอ แล้วข้าวพองทำหน้าเอ๋อๆและก็โดนพี่แกล้งเอาน้ำสาด

ตอนที่พี่ชวนไปสวนสนุก แล้วข้าวพองถามจะเล่นตัวดีไหมก็ฮา ชอบๆ

รวมๆแล้วอ่านลื่น สนุก แล้วก็ยิ้มตามได้ตั้งแต่ต้นจนจบ   :mew1:

น้องทีเขียนตอนพิเศษบ่อยๆพี่ไจฟ์มีคู่แข่งที่น่ากลัวแน่ๆ เหอะๆๆๆๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 17-04-2014 10:52:06
อ่านไปอมยิ้มไปน่ารักอ่ะ :-[
พองขี้แกลงเกียเจ้าเล่ต้องเรียกว่ามวยถูกคู่สินะ :hao3:

ปล.  ขอบคุณสำหรับการลงนิยายที่ต่อเนื่องขนาดออกไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยังมาลงนิยายให้อ่านกันเป็นคนอ่านซะอีกที่หนีเที่ยวมาอ่านแบบรวบตอนขอบคุณคะ :กอด1:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 17-04-2014 11:03:39
ข้าวพองน่ารักที่ซู๊ด
น่าหอมแก้มตรงหัวเราะคึคึ
555
 :impress2:
ร้องโวยวายจะไปด้วยเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด
เขียนบ่อยๆ อยากอ่านอีก
ทั้งเรื่องยิ่งดี 
 :mew3:
FC นายน้ำชาดีก่า
บวกและเป็ดให้นายน้ำชาพร้อมขนมตั้ง-เซ่ง-จั้ว อร่อยๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 17-04-2014 11:14:27
โอยยยยย  น่ารักอ่ะ  อ่านไป ยิ้มไป
ข้าวพองจะมีปฏิกิริยากับเรื่องของเกียเสมอ แต่มักตามเกียไม่ค่อยทัน
ส่วนเกียก็นะ  จะพูดออกมาตรง ๆ ก็ไม่ ชอบทำอ้อมค้อมให้น้องต้องคิดตามตลอด
รึว่าผู้ใหญ่จีบเด็กเค้าจะเป็นกันแบบนี้   ฮาาาาาา
ปล. ชักจะติดเสียงหัวเราะคึคึตามข้าวพองแล้วสิเนี่ย   :z1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 17-04-2014 11:17:19
พองเป็นเด็กฉลาดมากนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 17-04-2014 11:22:04
ความเห็นเหมือนพี่ไจฟ์ "เก่งแล้ว"  ฮี่ๆๆ สอนพี่เขียนมั่ง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 17-04-2014 11:39:07
ตอนพิเศษน่ารักมากๆอ่ะ พี่เ
กียทำไรไม่บอกตรงๆดีนะข้าวพองเป็นประเภทติดหนึบแถมตามไม่ทัน
แผนเดทของเกียเลยสำเร็จไปได้ด้วยดี อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Annko ที่ 17-04-2014 12:27:54
น่ารักดีค่ะ
ไม่คิดว่า ข้าวพอง พอมาเป็นชื่อของคนน่ารักๆ แล้วมันจะน่ารักน่าเอ็นดูได้เหมือนกัน
ชอบพี่เกียอ่ะ
ชอบนิยายของ jivetea ทุกเรื่องเลยค่ะ (^_^)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 17-04-2014 14:24:46
ชอบจัง ข้าวพองเป็นตัวละครที่ครบรสแท้ๆ พูดมาแต่ละคำ น่าโดนตบจูบ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 17-04-2014 14:42:21
อ่านตอนพิเศษ บอกได้ว่า เกียรู้จักข้าวพองมากที่สุด เลยดักทางได้หมด
แต่ก็ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นนะ ดูใส่ใจ เอาใจ

ชอบมากค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่เขียนตอนดีๆ มาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-04-2014 15:15:16
ข้าวพองน่ารักอ่ะตอนนี้ ตามเกียแบบไปไหนไปด้วยเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 17-04-2014 15:17:04
น่ารัก กรุบกริบ กริ๊ฟกริ๊ววว
ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอๆๆๆตอนพิเศษอีกจร้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-04-2014 15:22:14
เหลี่ยมมีเท่าไรเกียรู้หมดเลยพอง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 17-04-2014 16:19:47
หมาป่าเจ้าเล่ห์วะ  55555555555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 17-04-2014 17:34:31
อ่านมาถึงตอนนี้ ก็ลุ้นว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ติดตาม ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 17-04-2014 18:44:40
"ไอ้หมาขี้เก็ก" :pandalaugh: :pandalaugh: :pandalaugh:
คุ้นๆนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 17-04-2014 22:15:33
อ่านไปยิ้มไปกับสำนวนอันคุ้นหู ^_^
เขียนตอนนี้โอเคแล้วค่ะ มันสื่อถึงตัวพองชัดเจนมาก ชอบๆ ^^
อยากขอตอนพิเศษที่สวนสนุกด้วยได้ไหมคะ อยากอ่านพองกับเกีย
ตอนเล่นเครื่องเล่นต่างๆว่าใครจะแน่กว่ากัน! >_<
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 17-04-2014 23:19:47
ตอนนี้ ต้องให้ชื่อแบบทันต่อยุคสมัยและเหตุการณ์ว่า... อย่ามโน

คึคึ รออ่านต่อจะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 19-04-2014 13:47:06
คนนึงจะชวนเดทก็ไม่บอกตรงๆ
อีกคนแอบหวง ก็ไม่พูดแต่ตามเขาไม่คลาดสายตา
แต่พอได้อยู่ด้วยกัน แล้วน่ารักดีนะ

จะว่าไป เหมือนเลี้ยงน้องอีกคนเลยนะเนี่ย 55
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 19-04-2014 14:52:59
หานิยายอ่าน เลยตามหาจากชื่อนักแต่ง..โป๊ะเช็ะ....
มาตอนไหนนี่  แรก ๆ ว่าจะรอให้ใกล้จบค่อยมาอ่าน...
แต่ไม่ดีกว่าขอแปะเม้นแล้วกับไปอ่านก่อนซักตอน....
เพราะว่าอ่านพี่บาลีกะคันธชลมาเกือบ 10 รอบ  ขอบอก
10 รอบจริง ๆ คู่อื่นของไจ้ฟทีอย่าเสียใจน๊า..ไงก็ชอบ
แต่รักคู่นี้ไง...ยังคิดว่าอยากให้มีนายรักอ่านคนที่ 4 มาให้
เพ้ออีกคนคงดี  เพราะคอสต้องมาดูแลกลบทแน่นอน.....
เวิ่นเว้อมากไป  ไปอ่านน้องข้าวพองก่อนละกัน..... :mew1: :mew1:

แปะอีกรอบอ่านถึงตอน 4 ชักสงสัยพี่สะใภ้กะครูไอรีนนิ.....
พี่เกีย...อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่าเน้อ....อิอิ...

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนพิเศษหน้า 6 (17 เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-04-2014 16:08:16
ชอบเวลาข้าวพองแทนตัวเองว่าพอง
ดูน่ารักเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า ฮ่าๆ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 20-04-2014 09:15:19
ตอนที่ 8

ธีระจอดรถที่ลานจอดรถด้านหน้าโรงเรียนเหมือนเดิม แล้วพยักหน้าชี้ไปทางหญิงสาวแต่งหน้าสวยจัดที่นั่งอยู่ เนื่องจากโรงเรียนแห่งนี้ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่ของโรงเรียน
“คุณไอรีนครับ”
เกียที่นั่งอยู่ข้างคนขับรับรู้แล้วก้าวลงจากรถ ไม่ต้องทำอะไรมาก หญิงสาวก็เริ่มท้าทายด้วยการก้าวยาวๆ เข้ามาหาทันที
“มารับตรงเวลาดีนี่คะ”
“ครับ” เกียตอบรับแล้วไม่ได้ชวนคุยต่อ
ไอรีนมองอดีตนายตำรวจอังกฤษด้วยสายตาประเมินความสามารถ “ข้าวพองคงอึดอัดแย่”
“ไม่หรอกครับ”
“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงคะ นกในกรงน่ะ”

เกียก้มลงยกยิ้มที่มุมปากให้กับพื้นถนน
.....เริ่มแล้ว....งานยากที่สุดของไอ้เกีย..
ทะเลาะกับผู้หญิง!

“คุณก็เป็นอีกคนที่เชื่อเรื่องไร้สาระนั่น แล้วก็กีดกันไม่ให้ข้าวพองพบกับไอรีน”
“ผมทำตามคำสั่งของเจ้านายครับ”
ดวงตาคู่สวยของไอรีนหรี่ลง “แล้วมันถูกต้องแล้วหรือคะ ข้าวพองกับไอรีนรักกัน แล้วคุณจะมาแยกเราแบบนี้”
เกียหันไปมองข้าวพองที่เดินออกมาจากประตูโรงเรียนพร้อมเพื่อนกลุ่มใหญ่ ซึ่งรวมถึงไทนี่หว่อง แล้วหันมาบอกกับไอรีน
“ผมไม่มีหน้าที่ตัดสินว่ามันถูกหรือไม่ ถ้านั่นคือคำสั่งของเจ้านาย และมันไม่ผิดกฎหมาย” เกียพูดต่อ “สิ่งที่คุณทำอยู่ มันผิดกฎหมาย”

เสียงหัวเราะของกลุ่มเด็กหนุ่มนำหน้ามาก่อน ตามมาด้วยเสียงแซว ที่มีผู้ปกครองมารอรับกลับบ้าน 2 คนแล้วข้าวพองจะเลือกไปบ้านไหน
หนุ่มตัวเล็กหันไปคุยกับไทนี่ ที่ชี้ไปที่เพื่อนหลายคนในกลุ่ม เชิงว่าจะกลับกับเพื่อนๆ กลุ่มนี้
ข้าวพองโบกมือกับเพื่อนแล้วเดินมาหา แต่ไอรีนรีบก้าวเข้าไปจับข้อมือเล็กๆ ไว้ ทั้งหันไปโบกมือทักทายเพื่อนของข้าวพองที่พากันแยกย้ายกลับบ้าน

…ดูแล้วขัดตาพิกล...

“ข้าวพอง ไปดูหนังกับไอรีนมั้ย มีหนังเข้าใหม่”
“พองยังมีสอบอีก 2 วันไว้ก่อนละกัน” ข้าวพองบอกความจริง
“เนี่ยเมื่อตอนเที่ยงข้าวพองตัดสายโทรศัพท์ของไอรีน ก็เลยไม่รู้ว่าสอบวิชาอะไร แต่ให้ไอรีนติวให้มั้ย”
ข้าวพองหันมามองหน้าเกีย “ครูติวให้อยู่แล้ว”
“เขาเพิ่งมาได้ไม่กี่วัน จะรู้ได้ไงว่าเรียนอะไร สอบอะไรให้ไอรีนติวให้ดีกว่า”
“ขอโทษนะครับ คุณทำให้เราเสียเวลา” เกียพูดเสียงต่ำๆ
ไอรีนหัวเราะคิกจริตเต็มพิกัด “โห ถ้ามันเป็นการทำตามคำสั่งของเจ้านาย ก็ไม่ต้องใช้คำพูดกับน้ำเสียงแบบนั้นก็ได้มั๊ง อีกไม่กี่วันคุณเพียงก็เปลี่ยนครูคนใหม่ให้กับข้าวพองอีกน่ะแหละ”
ข้าวพองหันไปมองหน้าไอรีน “คำสั่งอะไร”
“ก็คำสั่งของคุณเพียงน่ะสิ เขาสั่งไว้กับทุกคนในบ้าน แล้วก็ครูทุกคนที่ผ่านมา คิดหรือว่า เขาจะไม่สั่งกับคนนี้น่ะ ที่เขาไปแย่งข้าวพองจากไอรีนเมื่อวันก่อน มันก็แค่การทำข้อสอบ เพื่อให้เจ้านายเห็นว่าเก่ง...” ไอรีนใช้หางตามอง “จะอวดว่าทำงานได้ ก็เท่านั้นแหละ ยังไงข้าวพองก็เลือกไอรีนอยู่แล้ว”
เกียยืดตัวตรง ขณะที่ข้าวพองหันมามองหน้า
“คุณข้าวพองต้องกลับบ้านครับ”
“ข้าวพองไปดูหนังกับไอรีนนะ”
ดวงตาของข้าวพองแข็งกร้าวขึ้นเมื่อแกะมือของไอรีนออกแล้วเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่
หญิงสาวดูงง ที่ข้าวพองเลือกกลับบ้าน หันมาแยกเขี้ยวใส่เกีย “แกแยกเราไม่ได้หรอก”
เกียเพียงแค่ค้อมศีรษะลงแล้วเดินไปขึ้นรถ

คนตัวโตลอบมองหนุ่มตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านหลังเป็นระยะ สายตาที่หันไปมองด้านนอกตลอดทาง ท่าทางเคร่งเครียดเหมือนระเบิดเวลาที่รอปะทุ
เมื่อรถจอดที่โรงรถ ข้าวพองก็เข้าบ้านไปโดยที่ไม่ได้หยิบของอะไรสักอย่างลงไปด้วย
ธีระหันมามองหน้าเกีย “เอาไงครับครู”
เกียหันมองตามหนุ่มตัวเล็กแล้วหันไปหยิบกระเป๋าเป้หลัง “รบกวนอุบลเตรียมของว่างไว้ที่ห้องอาหารก่อนแล้วกัน”
ธีระรับคำสั่งแล้วรีบไปบอกแม่บ้าน

ก็รู้ตัวมาตั้งแต่แรกว่าจะต้องเจอกับสถานการณ์นี้
...โง่ชะมัดที่ทำแบบนี้....เราเพิ่งเจอกันได้ไม่ถึงเดือน ความน่าเชื่อถือมันสู้คนที่เขารู้จักกันมานานหลายเดือนไม่ได้อยู่แล้ว ต่อให้มีทั้งพ่อทั้งพี่ชายให้การรับรองก็เถอะ เด็กวัยนี้เชื่อตัวเองมากกว่าคำพูดของผู้ใหญ่อยู่แล้ว...
คนตัวโตเคาะประตูห้องนอนของข้าวพอง รออึดใจใหญ่ๆ ประตูห้องก็เปิดออก
คนที่ยืนอยู่หน้าประตูสีหน้าบึ้งตึง
....แต่ให้อย่างไรในสายตาของเกีย ก็ยังดูน่ารักอยู่ดี....
เกียผ่อนลมหายใจยาว
“กระเป๋า”
ข้าวพองกระชากกระเป๋าไปจากมือ แต่ผลักคนตัวโตไม่ให้ก้าวตามเข้ามาด้วย
“ออกไปนะ”
“ไม่”
เกียพูดพลางพยักหน้าไปทางด้านล่าง
ข้าวพองเข้าใจความหมายที่บอกว่า คนอื่นในบ้านอาจคอยฟังบทสนทนาอยู่ ความคับข้องใจทำให้เหวี่ยงกระเป๋าลงกับพื้น เกียก็เก็บกระเป๋าให้แล้วเอาไปวางที่โต๊ะทำงานในห้อง
“พี่....”
“นายไม่ใช่พี่ ไม่ใช่ครู นายเป็นหมาพิการหน้าเงิน! ที่หลอกเราด้วยคำพูดพวกนั้น ไอ้คนโกหก! เห็นแก่ตัว แกมันก็ไม่ได้ต่างไปจากคนอื่น!”
ยอมรับกับตัวเองว่าคำพูดของข้าวพองในลักษณะนี้ เป็นยิ่งกว่าอาวุธใดๆ แม้จะเคยโดนด่ามาแล้วหลายครั้ง แต่คำเหล่านี้ สีหน้าท่าทางแบบนี้ ความไม่เชื่อใจแบบนี้ มันเจ็บยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่ต้องอยู่โรงพยาบาลนานนับเดือน ทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
...เจ็บ...
“พี่ไม่เคยโกหกข้าวพอง วันเวลาจะพิสูจน์คำพูดของพี่เอง”
“หยุดพูด!” ข้าวพองเสียงดัง “เพราะยิ่งนายพูด มันก็ยิ่งย้ำความเชื่อของเรา ว่ามันง่ายแค่ไหนที่จะพูดไอ้คำพวกนั้น”
เกียพยักหน้าช้าๆ
“งั้นก็ท่องหนังสือ ยังต้องสอบอีก 2 วัน”
“เรารู้หน้าที่ของเราหรอกน่า ออกไปได้แล้ว”
“นี่เป็นหน้าที่ของพี่ ที่จะต้องติวหนังสือให้ข้าวพอง”
“ไม่ต้อง”
เกียก้าวเข้ามาหา แต่ข้าวพองก้าวถอยหลัง ทำให้คนตัวโตหยุดชะงัก
“เราเกลียดคนโกหก ยิ่งโกหกว่ารัก มันยิ่งน่ารังเกียจ เราไม่อยากเห็นหน้านายอีก เราจะให้พี่เพียงไล่นายออก”
เกียจ้องมองดวงตาดื้อรั้นนิ่งๆ
“ให้เวลา 5 นาทีหยิบหนังสือเรียน พี่จะลงไปรอที่ห้องอาหาร อุบลเตรียมของว่างไว้แล้ว”
“เราไม่ลงไป”
เกียเดินไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตู แล้วพูดโดยที่ไม่หันมามอง
“ให้เวลา 5 นาทีถ้าช้าไปแม้แต่วินาทีเดียว ก็รอดูแล้วกันว่าจะเจออะไร”
“เจออะไร” ทั้งที่กำลังโกรธ แต่นิสัยพื้นฐานที่มักมีความอยากรู้อยากเห็นทำให้ข้าวพองถามทันที
เกียยังคงไม่หันมามอง “ลองดูก็ได้ ไหนๆ ก็จะต้องออกจากงานอยู่แล้วนี่”

เพียงแค่ 4 นาทีข้าวพองก็ลงมาที่ห้องรับประทานอาหารพร้อมกับหนังสือเรียน แบบฝึกหัดและชีท
ท่าทางรีบร้อนมาก อาจเพราะเมื่อครู่พี่ไม่ได้มีท่าทีตามใจเหมือนที่ผ่านมา
หยดน้ำจากการล้างหน้ายังอยู่ เสื้อผ้าชุดนักเรียนก็ยังไม่ได้เปลี่ยน จนทำให้อุบลต้องอมยิ้ม วางน้ำหวานให้แล้วเลี่ยงไปนอกห้อง เกียเองก็ต้องกลั้นยิ้มไว้ในใจ ขณะที่หยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อแตะที่แก้มใส
ดวงตากลมโตขวางอย่างขัดใจ ขณะที่คว้าข้อมือหนาไว้
“เราทำเองได้”
ข้าวพองเช็ดหน้าแล้วส่งคืนให้ ก้มหน้าก้มตาทำแบบทดสอบไปได้พักใหญ่ๆ ก็นึกขึ้นได้
“เราลืมโทรศัพท์ เดี๋ยวมานะ”
“เรียนพิเศษไม่ต้องใช้โทรศัพท์” เกียพูดเสียงต่ำๆ ตามองหนังสือในมือ
...อยากเป็นคนที่เขาเชื่อใจ ไม่ได้อยากเป็นคุณครูจอมเฮี๊ยบเลยสักนิด แต่มาถึงตอนนี้ก็ต้องเลยตามเลย...
เด็กหนุ่มส่งเสียงฮึในลำคอแล้วลุกออกไปจากห้องหน้าตาเฉย เกียหันไปมองตามแล้วผ่อนลมหายใจ เอนหลังพิงพนัก

ไม่ได้คิดจะแอบฟัง แต่มันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่าข้าวพองเดินพูดโทรศัพท์ลงมา แล้วตรงมาที่ห้องรับประทานอาหาร ซึ่งเปิดประตูอยู่
“...วันเสาร์พ่อไม่อยู่ ครูก็ไม่อยู่ เออ ห้องไอ้เบลค แล้วเจอกัน.”
ข้าวพองกดวางสายเมื่อเดินเข้ามา แล้วปิดประตูห้อง ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้
ทางนี้ก็ทำสีหน้านิ่งสนิทได้พอกัน

ทั้งกำลังเข้าใจผิด ทั้งที่มีแผนจะหนีเที่ยววันเสาร์นี้ แต่ข้าวพองก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองด้วยการนั่งทำแบบฝึกหัดไปแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นักเพราะมันผิดมากกว่าครึ่ง
เกียลอบมองใบหน้าด้านข้างสลับกับมือที่ขีดเขียนข้อความในกระดาษด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลายลงกว่าเดิม
ส่วนหนึ่งของความไม่เข้าใจ มาจากการที่เราเร่งรัดให้เขาเดินตามเส้นที่เราวางไว้
“อีก 2 วันสอบเสร็จแวะไปช็อปปิ้งมั้ย”
“ชวนใคร เราหรือเปล่า เราไม่ไปไหนกับนายหรอก ถ้าจะไปเราก็จะไปกับไอรีน”
เกียส่ายหน้าน้อยๆ แล้วหันไปมองทางอื่น
“เป็นไร อย่ามาโกหกคำเดิมนะ ว่าหึงน่ะ”
เกียแค่หันกลับมามองหนังสือบนโต๊ะ “บังเอิญว่ามันใช่ และยืนยันอีกครั้งว่าไม่เคยโกหก”
แต่นาทีนี้ข้าวพองไม่ได้เชื่อเกียสักนิด “รู้มั้ย ว่ามีครูพิเศษหลายคนที่พยายามตีสนิทกับเรา ส่วนใหญ่จะเลือกทำตัวเป็นแม่ หรือไม่ก็พี่สาว พี่ชาย เพิ่งมีนายนี่แหละที่ใช้วิธีน้ำเน่าแบบนี้ ใช้คำพูดที่ทำให้อยากอ้วก”
“ขอโทษที่คำพูดของพี่ทำให้ข้าวพองรู้สึกไม่ดี”
“หยุดได้แล้ว!”ข้าวพองทุบโต๊ะเสียงดัง ผุดลุกขึ้น “ยิ่งพูดก็ยิ่งมีแต่คำโกหก เมื่อไหร่แกจะกลับไปสักที!”
หนุ่มตัวเล็กก้าวผลุนผลันออกจากห้อง ทิ้งให้เกียเก็บหนังสือเรียนเดินตามขึ้นมาเคาะประตูห้องนอน
“ข้าวพองครับ พี่วางหนังสือไว้หน้าห้อง แล้วคืนนี้พี่จะกลับไปอยู่ที่คอนโดฯ พรุ่งนี้จะมารับไปส่งโรงเรียนตามเดิมนะครับ”

คนตัวโตวางหนังสือไว้หน้าห้องนอน แล้วกลับเข้าห้องไปเอาของใช้ส่วนตัว แวะบอกอุบลว่าคืนนี้ไม่อยู่บ้าน จากนั้นก็ขับรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ออกจากบ้านไป
เสียงมอเตอร์ไซค์หนักๆ ทำให้ข้าวพองเดินออกมาดู เห็นยิ่งกำลังปิดประตูบ้าน
“คุณครูบอกว่าจะกลับไปนอนที่คอนโดฯ น่ะค่ะ” อุบลบอก
“เหอะ” ข้าวพองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด แล้วพูดทันทีที่พี่ชายกดรับสาย “พี่เพียง เปลี่ยนครูได้แล้ว แค่ไม่เท่าไหร่ก็หนีกลับไปนอนคอนโดฯ ใจเสาะชะมัด”
พอวางโทรศัพท์อุบลก็ไกล่เกลี่ย “คุณข้าวพองคะ คุณครูแกตั้งใจดูแลคุณมากนะ แล้วก็ให้คำแนะนำดีๆ กับพวกเราตั้งมาก แกมาไม่กี่วันแต่ก็สอนพวกเราให้รู้จักสังเกตคนร้าย สอนการป้องกันตัวเอง” แม่บ้านชี้ไปรอบๆ บ้านที่เธอหมายถึงทุกคนในบ้าน “ทุกคนสนุกกันใหญ่”
“สนุกเพราะเขาเป็นผู้ชายล่ะสิ” ข้าวพองตวัดตามองไปที่คนรับใช้อีกคนที่รออุบลอยู่หน้าครัว
ถึงถ้อยคำที่ข้าวพองจะพูดจะเป็นความเห็นดูถูกอย่างชัดเจน แต่อุบลก็ยังใจเย็นอธิบาย
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ บ้านเราผู้ชายก็หลายคนทั้งตาธีระ พ่อยิ่ง พ่อยอด แต่ละคนทำงานกันไปวันๆ แต่พอคุณครูแกจับมาสอนนั่นสอนนี่ตอนกลางวันที่คุณอยู่โรงเรียน มันก็ดูคึกคักขึ้น”
“เขาทำตามคำสั่งพี่เพียงหรอก”
“จะตามคำสั่งหรือไม่สั่งไม่รู้หรอกค่ะ แต่ที่ผ่านมาบ้านเราเงียบเหงา แล้วก็ยิ่งเงี๊ยบเงียบเวลาคุณไปโรงเรียน พอมีคุณครูอยู่ มันก็เปลี่ยนไป”
 
ข้าวพองเหยียดปากเบ้ เดินกลับเข้าบ้าน แล้วหยุดเท้าเมื่อยืนอยู่เชิงบันได หันไปมองรอบตัว
บ้านนี้มีแต่เรากับบรรดาคนงานในบ้าน
จะนอนอ่านการ์ตูนตรงบันไดหน้าบ้าน หรือเก็บตัวอยู่ในห้องนอนมันก็ไม่ได้ต่างกัน
ข้าวพองเดินขึ้นไปหยิบหนังสือการ์ตูนเล่มเดิมแล้วเดินกลับลงมา เดินผ่านสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของอุบลไปที่ห้องฝึกด้านหลัง ยอดรีบวิ่งมาช่วยเปิดเครื่องปรับอากาศให้ แล้วคอยอยู่ใกล้ๆ คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่กลางห้องฝึก

เกียเปิดอีเมลอ่านข้อความต่างๆ ที่แอนดรูว์ กับโบรนี่อดีตหัวหน้างานส่งมาให้ พร้อมกับจดหมายความยาวหลายหน้าจนต้องประหลาดใจว่าแต่ละคนช่างมีเวลาว่างขนาดที่เขียนจดหมายมาแซวกันได้ยาวเหยียดขนาดนี้
กำลังจะปิดคอมพิวเตอร์อยู่แล้วโบรนี่ก็ออนไลน์เข้ามาพอดี
เกียเปิดกล้องที่คอมพิวเตอร์
“ไฮ ลูกชาย” นายตำรวจใหญ่ทักทายด้วยคำเดิมๆ “อ่านจดหมายแล้วหรือยัง”
“อ่านแล้ว ว่างกันหรือยังไงเนี่ย เขียนกันมาได้ตั้งหลายหน้า”
“แล้วตอบหรือยัง”
“ยัง”
“F**k” อีกฝ่ายด่าทันที จนเกียระเบิดเสียงหัวเราะดังก้อง
“ดูมันนะ ยังจะมาหัวเราะ” โบรนี่หันไปทำท่าฟ้องคนที่ยืนอยู่ใกล้
เกียถึงได้เห็นว่า รอบตัวของโบรนี่ยังมีเพื่อนร่วมงานอยู่กันครบทีม
“กำลังจะออกไปผจญภัยอะไรกันล่ะ”
“แน่นอน” หนุ่มดอนยื่นหน้าเข้ามาตอบแล้วถามต่อ “เมืองไทยร้อนมั้ย”
“ไม่เลวเลย” เกียบอก ทำให้ทุกคนรีบหันไปตกลงกัน ว่าวันหยุดเมื่อไหร่จะมาเมืองไทย “มาสิ เผื่อจะได้พาเจ้านายไปเที่ยวด้วย”
“แล้วเจ้านายเป็นไงบ้าง โบรนี่บอกว่าน่ารักมาก” สาวแมรี่ถาม
“เดี๋ยวนะ เจ้านาย หรือคนที่ผมต้องดูแล”
แต่ละคนหันไปมองหน้ากัน แล้วโบรนี่ก็เป็นคนตอบ
“พี่ชายเป็นคนจ้าง ก็คือเจ้านาย ส่วนคนที่ต้องดูแลคือน้องชาย”
“ก็เป็น Boss กับ little prince สินะ” แมรี่สรุปทันที
พอเกียพยักหน้า ทุกคนก็ร้องพร้อมกัน “ถ้าอกหักมาอีกโทษโบรนี่เลยนะ”
“อะไรกัน” โบรนี่หันไปโวย ทุกคนก็ช่วยกันประสานเสียงบอกว่า สเปคของเกียคือหนุ่มน้อยน่ารัก โบรนี่ยังหางานนี้ให้อีก
..เวลาทำงานภาคสนามไม่เคยวุ่นวายขนาดนี้ แต่พอเป็นเรื่องหนุ่มน้อย กลับมีความเห็นมากมาย จนไม่รู้ใครพูดอะไร...
เกียยิ้มๆ ฟังบรรดาเพื่อนร่วมงานโวยวายกับหัวหน้าใจดีครู่หนึ่งก็ถามเรื่องที่สงสัย
“แก๊งอันโตนิโอมีการเคลื่อนไหวมั้ย”
“แน่นอน” บ๊อบหนุ่มอ้วนที่สุดในกลุ่มบอก “แต่ยังไม่ใช่ยาเสพติด”
เกียพยักหน้า “ไอ้เหลียงเป็นไงมั่ง”
“ไม่เห็นมันมาพักใหญ่แล้ว” โบรนี่บอก “ข่าวว่ามันตาย อีกข่าวว่ามันไปเข้ากับแก๊งฮ่องกง”
เกียมีสีหน้าครุ่นคิด โบรนี่ถามต่อ “มีอะไรลูกชาย”
“แค่ลางสังหรณ์ ไว้ถ้าแน่ใจเมื่อไหร่จะบอก”
โบรนี่ให้ข้อมูลเท่าที่รู้ “ไอ้เหลียงมันเกิดมาเพื่อเป็นลูกน้อง ถ้ามันจะไปขยับตัวที่เมืองไทย ก็แสดงว่าต้องมีตัวหัวหน้าอยู่ที่ไหนสักแห่ง ระวังตัวด้วยลูกชาย”
“ขอบคุณมาก”
ก่อนที่จะตัดการสนทนา เพราะทีมจะต้องออกไปทำงาน แจ็กกี้ที่ได้แต่ยิ้มฟังการสนทนามาตั้งแต่ต้น ก็ตั้งข้อสงสัย
“ทำไมหัวหน้าเรียกเกียว่าลูกชาย แต่ไม่เคยเรียกพวกเราว่าลูกชายเลยสักครั้ง”
“ไอ้พวกตูดลิง! แต่ละคนวุ่นวายกันขนาดนี้จะให้กูเรียกลูกชาย”
“ม่ายยยยยย หัวหน้าไม่ยุติธรรมลำเอียง สองมาตรฐานนี่หว่า” บ๊อบหนุ่มตัวใหญ่โอดครวญ
โบรนี่ดูนาฬิกาที่ข้อมืออีกครั้ง แต่แมรี่หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มขอคุยกับเกียอีกสักครู่ ทุกคนรู้คิวพากันขยับออกเพื่อให้แมรี่คุยกับเกียได้ถนัด
“เกีย เธอเป็นเหมือนน้องชายของฉันนะ”
เกียพยักหน้ายิ้มรับ ตลอดเวลาหลายปีที่ร่วมงานกันมาแมรี่ดูแลเขาในฐานะน้องชายต่างสายเลือดจริงๆ
“เพราะฉะนั้น ฉันจะพูดกับเธอตรงๆ เลยนะ”
ทุกคนพากันนิ่งฟังแมรี่พูด
“เด็กคนนั้นเป็นคนเอเชีย เขามีความผูกพันกับครอบครัวมากกว่าคนตะวันตกแบบเรา การที่เขาสูญเสียทุกคนในครอบครัวในเวลาไล่เลี่ยกัน...”
ได้ยินเสียงบ๊อบท้วงขึ้นมาว่าพ่อกับพี่ชายของข้าวพองยังมีชีวิตอยู่
“เขาแยกครอบครัวออกไป มันก็เป็นการสูญเสียแบบหนึ่งน่ะแหละ” แมรี่หันไปเถียงหนุ่มตัวอ้วนที่อยู่ด้านนอกของกรอบภาพ แล้วหันมาบอกกับเกีย “และด้วยอายุของเขา เขาจะต้องการคนมาทดแทนที่ว่าง เธอเองก็รู้ดี อย่ามองว่าเขาเป็นแค่เป้าหมาย เขาอยู่ในวัยที่ต้องการความรัก”
เกียพยักหน้าโดยไม่มีคำพูด แมรี่พูดต่อ
“เราทุกคนรู้ดีว่าด้วยวัย และฮอร์โมน เขาจะรู้สึกดีกับการสัมผัส การเอาใจใส่....เธอมีหน้าที่ดูแลเขา อย่าทำให้เขาเสียใจนะเกีย แล้วก็มีอะไรก็ติดต่อมาได้เสมอ ดูแลเจ้าชายน้อยผู้น่ารักของเธอให้ดีล่ะ”
“ขอบใจมากแมรี่ ขอบใจทุกคน”

เกียบอกขอบคุณอีกครั้งแล้วตัดการติดต่อ
ตอนที่แอนดรูว์เตือนเรื่องไม่ควรใช้กำลัง มันก็ช้าเกินไป
แมรี่เตือนเรื่องอย่ามองเป็นแค่เป้าหมายมันก็...ช้าเกินไปเหมือนกัน
เกียถอนหายใจหนักๆ เมื่อเรื่องทุกอย่างปรากฏ ข้าวพองจะเชื่อหรือไม่ ว่าทุกอย่างที่ทำลงไป ไม่ใช่เพราะมันคือหน้าที่แต่มันคือหัวใจล้วนๆ

*-*-*จบตอนที่ 8*-*-*

ผู้มีอุปการะคุณโปรดทราบ เราไม่ได้นำเรื่องที่เขียนและลงในบอร์ดนี้ไปลงที่เว็ปอื่นใด ไม่ทำบ็อท ไม่ทำทวิตเตอร์ ไม่คิดจะทำหนังสือ เพราะเรายังไม่เก่ง เก็บเงินคุณไว้กินก๋วยเตี๋ยวเรือกันดีกว่า
ส่วนเฟสก็ไว้คุยกัน ด้วยความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จัก

ดังนั้นหากพบเจอเรื่องนี้ หรือเรื่องอื่นๆ ที่พี่ไจฟ์เขียนนอกสถานที่แห่งนี้โปรดใส่บาตรกรวดน้ำไปให้คนทำ

ตอนต่อไปมาวันอังคารนะครับ
.นายน้ำชา.


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 20-04-2014 09:40:59
อ่านแล้วนึกถึง NCIS เดี๋ยวต้องดูซะแล้ว 555 อ่า... เกียเริ่มจะเป็นมนุษย์กับเขาขึ้นมาแล้วนะ ใช้หัวใจตอนนี้ต้องยกความดีให้แมรี่นะเพื่อเกียจะรู้ใจตัวเอง ส่วนแมวน้อยนี่ก็ช่างอยู่ในวัย ฮอร์โมนความรักพุ่งพล่าน เราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าใครจะเป็นคนร้าย
ปล เดี๋ยวนี้มีคนบ่นเรื่องนิยายโดนก๊อปบ่อย ถ้าเห็นจะช่วยบอกนะจ๊ะ
ปล2 ทำไมต้องก๋วยเตี๋ยวเรือ เค้าอยากกินข้าวขาหมูมากกว่านะ 5555. รอตอนต่อไปเน้อ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 20-04-2014 09:48:40
เกียเอ๋ย...ความเชื่อใจกว่าจะได้มามันไม่ง่าย
ดันเสัยไปแล้วซะได้

เอาใหม่นะ เหนื่อยหน่อยแต่ก้อต้องสู้ละเฟ้ยยย

รออ่านต่อจ้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 20-04-2014 10:14:36
แมวน้อยเซ้นซิทีฟเนอะ  โดนเป่านิดเดียวถึงกลับแผลงฤทธิ์

แต่ก็เข้าใจได้กับเด็กแบบข้าวพอง  อยากให้เกียจับน้องลงโทษในแบบฉบับเกียจริงๆ  :z1:

ส่วนเรื่องหน้าที่กับเรื่องหัวใจ  ช่างยากที่จะเลือกทางใดทางหนึ่งเนอะ

เอาใจช่วยพ่อหนุ่มปากหนักแต่รักจริง  ฮิ้วววว

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 20-04-2014 11:05:20
ข้าวพองก็เชื่อไอรีนเกิ้นนนน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 20-04-2014 11:27:45
เจ้าชายน้อยยยยยย งื้ดดดด(กัดหมอน) ทำไมดูอ้างว้าง เงียบเหงาจัง ... ครูเจ้าแผนการรีบทำไรสักอย่างเลยนะ อย่าปล่อยให้เจ้าชายเค้าโดดเดี่ยวแบบเน้ :hao5:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 20-04-2014 11:51:06
แต่พี่แอบงงนิดนึง ว่าทำไมข้างวพองโกรธเกียมากมาย แค่ไอรีน บอกว่าทำตามคำสั่งเพียง มันก็แหง พี่ชายจ้างมาดูแลนี่หน่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 20-04-2014 12:19:06
เอาล่ะสิ  งานนี้  ความสัมพันธ์ของเกียกับข้าวพองกำลังดี
ไอรีนก็ดันโผล่มาเป็นตัวอิจฉาสร้างความร้าวฉานซะเนี่ย
ดูว่าเกียจะมีวิธีจัดการยังไง  ก็นะ น้องพองยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นแบบนี้
อารมณ์แบบรักแรง  เกลียดแรง  เกียจะทำยังไงให้น้องเข้าใจ
แล้วก็เรื่องที่น้องจะแอบหนีเที่ยววันเสาร์อีก  อาจต้องเหนื่อยหน่อยเนาะพี่เกีย  ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 20-04-2014 12:43:24
เจ้าชายน้อยงอนตุ๊ปป่องไปแระ พี่เกียเดินเครื่องเร็วไปหน่อยนะ น้องก็เลยคิดไปแบบนั้นอ่ะ ชะนีไอรีนน่าตบหว่ะ แลไม่ถูกชะตาแม้จะเพิ่งออกมาไม่กี่ซีน  :hao7:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-04-2014 12:58:56
ต้องให้เวลาเขาหน่อย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 20-04-2014 13:12:15
ไม่ได้อ่านเสียนาน รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-04-2014 13:17:10
โธ่ข้าวพอง อย่าไปฟังไอรีนเลยน๊า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 20-04-2014 14:00:50
ไม่อยากเดาเลย  กลัวน่าแตก ....แต่สงสัย ไอ้เหลียงจะเกี่ยวพันกันไทนี่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 20-04-2014 14:21:25
มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรขนาดนี้......
พี่เกียเอาอยู่แน่นอน...จากการสัมผัสไง..อิอิ...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 20-04-2014 14:58:52
คำถามคือ
ทำไมต้องเก็บเงินไว้กินก๋วยเตี๋ยวเรือ? คือเก็บไว้กินอยางอื่นได้มั้ย?
 :z2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 20-04-2014 15:06:56
เด็กแบบข้าวพองต้องการความอบอุ่น
พูดแขวะคนอื่นก็เพื่อป้องกันตัวเอง
เกียอย่าเพิ่งน้อยใจ กลับไปอยู่เป็นเพื่อนพองนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Annko ที่ 20-04-2014 21:50:09
เราชอบเรื่องนี้นะ เป็นอีกเรื่องอีกแนวดี
เราตามอ่านเรื่องของพวกคุณมากเกือบทุกเรื่องในบ้านนี้นะ ชอบทุกเรื่องที่อ่าน
เราให้คอมเม้นท์ไม่เก่ง เพราะเราชอบอ่านแต่ไม่ได้มีความรู้ที่จะไปติติงอะไรคนแต่งได้
เดี๋ยวนี้มีคนแต่งนิยายเพื่อขายมาก และราคาทำเล่มก็สูง
เรายังเคยคิดสงสัย ทำไม jivetea ไม่เห็นรวมเล่มเหมือนคนอื่นบ้าง ทั้งที่นิยายก็เยอะ และก็สนุกด้วย
แต่ไม่ได้ทักอะไร พอมาอ่านตอนนี้แล้วท้ายบทกล่าวถึงเรื่องนี้ เลยขอพูดบ้าง (^_^)
จากที่อ่านมาหลายเรื่อง ทุกเรื่องที่เราอ่านชอบนะ แนวไม่ค่อยซ้ำ แล้วก็ไม่ได้บังคับเม้นท์ สบายใจที่ได้อ่าน
ไม่รวมเล่ม? บางทีเราก็เสียดายนะ ทีนิยายดีๆ หลายเรื่องในบอร์ด เจ้าของไม่ทำเล่มขาย แต่หลายๆเรื่องที่ไม่สนุก บางทีลงยังไม่จบก็ทำขาย และส่วนใหญ่มักจะจูงใจด้วยการเพิ่มตอนพิเศษที่ไม่ลงในบอร์ดมีเฉพาะรวมเล่ม ทำให้คนที่ติดตามอ่านก็ต้องซื้อนะเพื่ออ่านเรื่องราวที่มีต่อ ดังนั้นสำหรับเรา ถ้าคุณ jivetea คิดรวมเล่มเมื่อไหร่ เราหนึ่งคนที่จะเก็บคอลเล็คชั่นผลงานของพวกคุณ
และต้องขอโทษด้วยถ้าความเห็นของเราไปกระทบใคร เราบอกเลยมิได้มีเจตนาจะว่าใคร แค่อยากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึั้นในปัจจุบันเท่านั้น เพราะเราเองก็เป็นคนอ่านและซื้อนิยาย boylsove นะจ๊ะ (^_^)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-04-2014 22:23:19
ความเชื่อใจมันต้องใช้เวลา แต่กลับถูกทำลายลงในพริบตา
ครูเกียต้องกลับมากู้ชื่อตัวเองด่วน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: botan botan ที่ 21-04-2014 04:39:32
                       อ่า มารายงานตัวอิอิ สารภาพว่าเพิ่งจะเห็นว่ามีเรื่องใหม่มาถ้าไม่เห็นชื่อคนเขียนคงยังไม่เข้ามาอ่านจนกว่ามันใกล้จะจบอะไม่ค่อบชอบรอนานๆรู้สึกอารมณ์มันไม่ต่อเนื่องแล้วมันเลยเบื่อที่จะอ่านอะ แต่ถ้าเป็นเรื่องของทีเราชอบนะรอได้เพราะมันมีกำหมดเวลาไงเลยแบบจบแน่ๆๆกิกิ เราตามอ่านงานเก่าๆของ พี่ไจฟ์กับที หมดทุกเร่ื่องเลยสำหรับเราคิดว่ามันมีความสนุกแบบเฉพาะในแต่ละเรื่องนะ บางเรื่องอ่านแล้วนั่งบิด ถึงกลับกรี๊ดยังมีอะ (เริ่มบ้าอ่านนอกบ้านไม่ได้เดี๋ยวคนอื่นตกใจ^^)บางเรื่องอ่านแล้วพยายามทำความเข้าใจตัวละครจนปวดหัวเลย 555 ไงก็สู้ๆนะ อาจจะไม่มีเวลามาให้กำลังใจผ่านตัวหนังสือบ่อยๆ แต่ตามอ่านอยู่นะ ^__^ :mew1: :z2:
(ยาวเลย)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 21-04-2014 07:59:35
เกียสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 21-04-2014 08:43:21
เหลียง??? อย่าบอกนะว่าพ่อของเพื่อนพอง (เอากลับไปเดาไปคิดอีกแล้วเรา)

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 21-04-2014 09:13:38
เกียต้องทำให้ข้าวพองเชื่อใจให้ได้ แต่หมั่นไส้ยัยไอรีนยัยนี่ชอบโผล่มาขัดประจำเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 21-04-2014 09:43:52
เราชอบเรื่องนี้นะ เป็นอีกเรื่องอีกแนวดี
เราตามอ่านเรื่องของพวกคุณมากเกือบทุกเรื่องในบ้านนี้นะ ชอบทุกเรื่องที่อ่าน
เราให้คอมเม้นท์ไม่เก่ง เพราะเราชอบอ่านแต่ไม่ได้มีความรู้ที่จะไปติติงอะไรคนแต่งได้
เดี๋ยวนี้มีคนแต่งนิยายเพื่อขายมาก และราคาทำเล่มก็สูง
เรายังเคยคิดสงสัย ทำไม jivetea ไม่เห็นรวมเล่มเหมือนคนอื่นบ้าง ทั้งที่นิยายก็เยอะ และก็สนุกด้วย
แต่ไม่ได้ทักอะไร พอมาอ่านตอนนี้แล้วท้ายบทกล่าวถึงเรื่องนี้ เลยขอพูดบ้าง (^_^)
จากที่อ่านมาหลายเรื่อง ทุกเรื่องที่เราอ่านชอบนะ แนวไม่ค่อยซ้ำ แล้วก็ไม่ได้บังคับเม้นท์ สบายใจที่ได้อ่าน
ไม่รวมเล่ม? บางทีเราก็เสียดายนะ ทีนิยายดีๆ หลายเรื่องในบอร์ด เจ้าของไม่ทำเล่มขาย แต่หลายๆเรื่องที่ไม่สนุก บางทีลงยังไม่จบก็ทำขาย และส่วนใหญ่มักจะจูงใจด้วยการเพิ่มตอนพิเศษที่ไม่ลงในบอร์ดมีเฉพาะรวมเล่ม ทำให้คนที่ติดตามอ่านก็ต้องซื้อนะเพื่ออ่านเรื่องราวที่มีต่อ ดังนั้นสำหรับเรา ถ้าคุณ jivetea คิดรวมเล่มเมื่อไหร่ เราหนึ่งคนที่จะเก็บคอลเล็คชั่นผลงานของพวกคุณ
และต้องขอโทษด้วยถ้าความเห็นของเราไปกระทบใคร เราบอกเลยมิได้มีเจตนาจะว่าใคร แค่อยากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึั้นในปัจจุบันเท่านั้น เพราะเราเองก็เป็นคนอ่านและซื้อนิยาย boylsove นะจ๊ะ (^_^)


ปอ.ลอ.  เราอยากบอกคนเขียนเหมือนกันแบบนี้นะจ๊ะ .... :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 21-04-2014 11:05:24
เห็นใจเกียเบาเบา
นายเหลียงนี่จะเกี่ยวข้องกับไทนี่หรือพ่อไทนี่หรือเปล่าหว่า??
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-04-2014 21:39:45
ข้าวพองไม่เชื่อใจเกียแล้ว
เพราะงั้นเกียต้องความเชื่อมั่น เชื่อใจขึ้นมาใหม่

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 22-04-2014 06:58:14
 :hao5:
ข้าวพองเด็กน้อยจริงๆ แหละ
ครูเกียโปรดทำใจ
ถึงขนาดราดน้ำแกล้งรถก็คงไม่แปลกหรอกที่จะเบาจากลมปากหญิง (เถาวัลย์ เช่น ไอรีน)
ใช้พี่ทุกคำงี้รักตายเลย
ชูป้ายไฟเชียร์ครูเกียต่อ
บวกและเป็ดขอบคุณ

 ปล. กดบวกและเป็ดให้ Annko ด้วยคน
ที่บอกว่า...จะเก็บคอลเลคชั่นของ jivetea เป็นคนอ่านและซื้อนิยาย boylsove นะจ๊ะ (^_^)
ชื่นชม
 :L1:


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 22-04-2014 08:05:22
แม้จะสงสารพี่เกีย แต่นาทีนี้ก็แอบสมน้ำหน้านิดๆที่รุกเร็วจนน้องไม่มั่นใจ พยายามทำให้น้องเข้าใจนะ เชื่อว่าน้องก็มีใจให้บ้างแหละเพียงแต่หลายๆอย่างในชีวิตทำให้น้องหวั่นใจ เรื่องนี้ผู้ร่วมเหตุการณ์เยอะจริงๆ ผู้ต้องสงสัยก็เยอะตามไปด้วย

ปล. ไม่รวมเล่มไม่เป็นไร เค้าก็อปใส่ไอแพดไว้อ่านก็ได้เหอะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 8 หน้า 7(20 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 22-04-2014 09:04:09
สวัสดีค่า คุณไจฟ์น้องที หายไปนานเลย ตอนเห็นเรื่องนี้นึกว่าตาฝาดซะแล้ว

กว่าจะเข้ามาเจอก็ตอนที่ 8 ไปแระ คิดถึงนิยายของคุณไจฟ์น้องทีจัง ชอบที่พล็อตเรื่องสนุกและหลากหลายดี

ตามมาเชียร์พี่เกียกะน้องพองด้วยคนค่ะ

น้องพองเฮี้ยวมากกกกกกกกกกกกก ตามประสาวัยรุ่นใจร้อน แต่พี่เกียก็ใช่ย่อยเหมือนกันนะ แอบมือไวอ่ะ เพิ่งเจอกันไม่เท่าไหร่ เดี๋ยวกอดเดี๋ยวจูบ สมควรที่น้องจะระแวงแหละ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 22-04-2014 09:06:53
ตอนที่ 9

หลังสามทุ่มเล็กน้อย เกียก็พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ จากสัญญาณที่ส่งมาจากอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ก็เลยหันไปปิดโทรทัศน์ที่กำลังดูอยู่ อีกนาทีถัดมาสัญญาณโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ครูคะ คุณข้าวพองออกไปแล้ว ไม่ได้ให้ธีระไปส่ง แล้วก็ไม่มีรถมารับด้วยนะคะ” อุบลรายงานมาตามสาย
“ครับ”
“ให้ยอดมันตามไปห่างๆ แล้วค่ะ” แม่บ้านยังคงรายงานทุกสิ่งทุกอย่างต่อไป
พอเกียเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้แม่บ้านบอกว่า ยอดกลับมาแล้ว หลังจากที่เห็นข้าวพองเรียกแท็กซี่ไปเอง แต่เพราะอยู่ห่างเกินไป ก็เลยไม่ได้ยินว่าข้าวพองเรียกรถให้ไปส่งที่ไหน
หนุ่มลูกครึ่งยิ้มให้กับความตั้งใจของทุกคนในบ้านหลังใหญ่
“ครับ ไม่เป็นไรครับ รับรองว่าคืนนี้ผมจะพาคุณข้าวพองกลับมาบ้านเอง”
“ครูรู้หรือคะว่าคุณข้าวพองไปไหน”
เกียตอบกลางๆ “ก็พอรู้ครับ แต่คงต้องไปงมหาอีกทีว่าอยู่ตรงไหน”
“ให้ตาธีระไปด้วยดีมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องร้อนใจไป ยังไงก็ต้องปล่อยให้เขาสนุกกับเพื่อนๆ ก่อนสักพักแล้วค่อยพากลับบ้าน ถ้าตามเข้าไป แล้วพากลับทันที จะยิ่งต่อต้านไปกันใหญ่”
“นั่นสินะ” อุบลเห็นด้วย “พี่ก็คิดแต่ว่าพรุ่งนี้วันอาทิตย์ ถ้าคุณท่านกับคุณเพียงมากินข้าวเช้าด้วยแล้วคุณข้าวพองยังเมาค้างอยู่จะทำยังไง”

เกียหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ แล้วหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตู ขณะที่กำลังคิดว่า ถ้าปล่อยให้เมาขนาดที่อุบลว่า แล้วพาขึ้นมอเตอร์ไซค์กลับบ้านคงไม่ปลอดภัย แต่ก็ไม่อยากให้ธีระต้องไปพบกับเพื่อนๆ ของข้าวพองในสภาพแบบที่เขาเคยเจอที่ผับ
ยังไงเราก็แค่มาดูแลเขาช่วงหนึ่งแล้วก็จะจากไป
แต่ธีระกับทุกคนในบ้านยังต้องอยู่ดูแลข้าวพองไปอีกนาน

“ผมจะรีบพากลับมาก่อนเที่ยงคืน ฝากบอกพ่อยอดยิ่งด้วยนะครับ”
เกียเรียกชื่อ 2 พี่น้องยามของบ้านหลังใหญ่ด้วยการรวบชื่อเหมือนกับอุบลและธีระ จนทำให้แม่บ้านวัยกลางคนคลายความเครียด
“ค่ะจะบอกให้ค่ะ”
 
เกียใจเย็นพอที่จะแวะกินบะหมี่แถวหน้าคอนโดฯ ก่อนจะออกรถตรงไปตามเป้าหมายที่อุปกรณ์จีพีเอสระบุไว้
คอนโดฯ หลังนั้นไม่ได้อยู่ห่างจากโรงเรียนมากนัก ตำแหน่งในจีพีเอสไม่ได้ย้ายไปที่ไหนอีก
เกียรอนานกว่า 2 ชั่วโมงนับจากที่มาถึง ก็เดินไปซื้อเหล้าที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ เดินถือเข้าไปในคอนโดฯ ต้องขอบคุณพ่อที่ให้ยีนฝรั่งมาเยอะ แถมด้วยสีหน้านิ่ง เปล่งรังสีของความเป็นตำรวจต่างชาติเต็มที่ ยามรักษาความปลอดภัยแค่เงยหน้าขึ้นมอง แล้วปล่อยให้เดินเข้าไปโดยง่าย
ดูมั่นใจ ทั้งที่ภายใต้ความมั่นใจคือคำถาม ห้องไหน ชั้นไหน เพราะเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก
ใช้ทั้งประสบการณ์ ลางสังหรณ์ และความพยายามอีกเล็กน้อย เวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีเกียก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องพักที่มีเสียงเพลงและเสียงพูดคุยดังเล็ดลอดออกมา
กล้องวงจรปิดติดอยู่ที่สุดทางเดินด้านหนึ่งของชั้น
เกียยืนล้วงกระเป๋าด้วยท่าทีสบายๆ ลองเปิดประตู
ไม่น่าเชื่อว่า เจ้าของห้องจะประมาทถึงขนาดที่ไม่ล็อกห้อง
กลิ่นฉุนทั้งเหล้า บุหรี่ และยาเสพติดปะทะจมูก แสงไฟในห้องสลัวเพราะเจ้าของห้องเปิดไฟที่มุมห้อง
คนตัวโตยังคงรักษายิ้มกว้างไว้เมื่อหนุ่มวัยรุ่นเดินตัวเอียงเข้ามาทักทาย
ดวงตาปรือ และกลิ่นฉุนที่นำหน้ามาก่อนทำให้เกียรู้ว่า หนุ่มคนนี้ไม่ได้เมาเหล้า แต่เมาสารชนิดอื่น
เกียส่งขวดเหล้าให้ เจ้าของห้องก็ยิ้มรับ “มาเลยเพ่ ตามซาบาย--”

คนตัวโตกวาดตามองส่วนที่เป็นห้องรับแขก เดินผ่านห้องนอน 3 ห้องที่เปิดประตูกว้าง แล้วเดินต่อไปถึงส่วนที่เป็นห้องครัว ผู้ที่พบเจอมีทั้งหญิงและชาย หลายคนมีอายุมากกว่าข้าวพอง จนน่าจะอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว และก็มีอีกหลายคนที่น่าจะมีอายุน้อยกว่า
ไทนี่นั่งซบไหล่หนุ่มคนหนึ่ง ท่าทางเมาหนัก
เกียเดินผ่านไปจนถึงประตูระเบียง คนที่ตามหานั่งอยู่กับพื้นพิงประตูระเบียงที่ปิดอยู่ ส่วนที่นั่งเบียดกันจนแทบจะเกยขึ้นมาอยู่บนตักเป็นสาวรุ่นอีกคน
ท่าทางกำลังคุยกันสนุกสนาน แต่เป็นการคุยแบบที่ต่างคนต่างพูด ไม่มีใครฟังใคร

เกียเดินเข้าไปหาแล้วแทรกกลาง ก้มลงหอมแก้มหนุ่มตัวเล็ก
กลิ่นสารเสพติดปะทะจมูก...แต่ไว้ก่อน
“กลับบ้านกันนะครับ พี่มารับแล้ว”
ข้าวพองหันมามองด้วยดวงตาหรี่ปรือ แต่น้ำเสียงกลับร่าเริง “หือ โรงเรียนเลิกแล้วเหรอ”
“ครับ กลับบ้านนะครับ”
“อือๆ”

เกียพยุงข้าวพองให้ลุกขึ้นยืน
เวลาเมาแล้วยังคงว่าง่ายผิดปกติจนน่าเป็นห่วง
คนตัวโตโอบเอวพาข้าวพองที่โบกมือทักทายทุกคนไปตลอดทางตั้งแต่ที่ห้อง จนมาถึงด้านล่างแล้วตรงไปที่รถมอเตอร์ไซค์ จับให้นั่งซ้อนท้ายแล้วจับมือไว้

“กลับบ้านนะครับ”
“อือๆ”

ข้าวพองหัวเราะร่าเริงไปตลอดทางจนถึงบ้าน ขณะที่เกียต้องใจหายใจคว่ำมาตลอดทาง เพราะกลัวว่าคนข้างหลังจะหล่นลงไป จะกระโดดลงไปร้องเพลงเวลาที่รถติดไฟแดง รถคันข้างหลังจะกดแตรไล่ จะโดนตำรวจจับ จะโดนแก๊งซิ่งปาดเข้ามาทักทาย ฯลฯ สารพัดจะกังวลจนกระทั่งเลี้ยวเข้าบ้านแล้วช้อนอุ้มขึ้นมาถึงห้องนอน ถึงได้ถอนหายใจยาวหันไปบอกให้พี่น้องยอดยิ่งไปพักได้
จากนั้นก็เช็ดหน้าเช็ดแขนให้ด้วยความยากลำบาก ทั้งที่ใจจริงอยากจับอาบน้ำมากกว่า เพราะสารเสพติดชนิดนี้ทำให้มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ

หลังจากที่กระโดดร้องเพลงอยู่ครู่หนึ่ง ข้าวพองก็หันไปเปิดเพลง เกียช่วยเลือกเพลงที่มีจังหวะช้าลง ข้าวพองก็เริ่มลดความแรงลงเรื่อยๆ
คนตัวโตปล่อยให้ข้าวพองออกฤทธิ์เต็มที่อยู่ในห้องนอน
ถ้าเมาเหล้ามันคงไม่เท่าไหร่ แต่นี่มันครั้งที่ 2 แล้วที่ไปพากลับมาในสภาพที่เมายา และคราวนี้ไม่ใช่เหล้าแห้งอย่างที่ไอรีนเคยใช้....
คราวนี้เป็นยาอีอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ใช้ในปริมาณไม่มากนัก อาจไม่ถึง 1 ใน 4 แต่มันก็น่าเป็นห่วงอยู่ดี
ยานี้ออกฤทธิ์ภายใน 40 นาทีหลังจากเสพ แต่ออกฤทธิ์นานถึง 24 ชั่วโมง เกียปล่อยให้ข้าวพองอาละวาดไปเรื่อย จนกระทั่งเกือบตี 4 เจ้าตัวก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วก็หลับไปง่ายๆ 

เกียเดินไปหยิบอ่างน้ำกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก แล้วถอดเสื้อของข้าวพองออก เช็ดหน้า เช็ดตัวให้อีกรอบ

“ข้าวพองครับ พี่รู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนี้ มันอาจเป็นเหมือนความฝันเมื่อข้าวพองตื่นขึ้น แต่ข้าวพองรู้มั้ยครับ ว่ายาที่ข้าวพองใช้ มันเป็นยาของคนขี้เหงา คนที่ต้องบังคับตัวเองให้สนุก เพื่อที่จะสามารถเปิดเผยตัวเอง เพราะในเวลาปกติแล้วเขาทำไม่ได้ เป็นยาของคนที่มีช่องว่างในหัวใจแล้วก็เอาแต่มองช่องว่างนั้น แทนที่จะให้ความสนใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ แล้วพอรู้ตัวอีกที ยาเสพติดก็จะเอาทุกสิ่งทุกอย่างไป”
มือใหญ่บิดน้ำในอ่างแล้วเช็ดใบหน้าอ่อนใส “ถ้าปาร์ตี้มันไม่สนุก เราก็แค่เดินออกมา ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิดที่จะต้องไปบังคับตัวเองให้สนุก ถ้าคนที่เราเรียกว่าเพื่อน ไม่สามารถรับฟังเรื่องเล่าของเราได้ เราก็เปลี่ยนไปเล่าให้หมาแมว หรือต้นไม้ฟังก็ได้ ดีเสียอีก เพราะหมาแมว หรือต้นไม้ไม่หัวเราะเยาะเรา”

เกียเดินไปหยิบเสื้อนอนที่อุบลเตรียมไว้ให้ที่ปลายเตียงมาสวมให้คนที่นอนหลับตาพริ้ม
“พี่รักข้าวพอง ตั้งแต่เห็นรูปที่หัวหน้าพี่ส่งให้ดู ข้าวพองทำให้พี่เลือกที่จะมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะแม่พี่อยู่เมืองไทย หรือเหตุผลเรื่องงาน แต่เพราะพี่อยากอยู่ใกล้”

........และยิ่งอยู่ใกล้ ก็ยิ่งทำให้รู้ว่าข้าวพองโหยหาความรักในครอบครัว

“ทุกครอบครัวแตกต่างกัน และเรื่องของพี่น่ะ มันไม่ได้หงอยเหงา หรือมีปัญหาอย่างที่ข้าวพองคิดหรอกนะครับ จริงอยู่ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่พี่คิดว่าตัวเองแตกต่าง แต่เมื่อเราเปลี่ยนมุมมอง หันไปมองคนอื่นบ้าง เราก็จะพบว่า ปัญหาของเราไม่ได้พิเศษหรือสำคัญไปกว่าใคร รอบตัวพี่มีคนจากหลายเชื้อชาติ มีสีผิวต่างกัน พูดจาสำเนียงต่างกัน มีพ่อแม่ที่มีลักษณะนิสัยและความชอบต่างกัน”
จู่ๆ ข้าวพองก็พลิกตัวมามอง ดวงตาดูง่วงงุน รอยยิ้มน้อยๆ เมื่อพี่ห่มผ้าให้ แต่กลับดึงมือพี่ให้นอนกอด
“เล่าอีก”
เกียดึงแก้มเบาๆ “พอเล่าเรื่องที่ลอนดอนก็ตื่นเลยนะ”
“อือ...เล่าอีก”

คนตัวโตรู้ดีว่าเล่าไปเจ้าตัวก็จะลืม หรืออาจคิดว่านี่ความฝัน แต่ถ้าการเล่าเรื่องทำให้ข้าวพองเย็นลง หรือหลับไปได้มันก็น่าจะดี

“พี่ติดนิสัยชอบฟังคนพูดกัน จะทะเลาะกันหรือซุบซิบนินทา พี่ก็ฟังได้เรื่อยๆ ทำให้รู้ว่าตอนที่พ่อจะมารับพี่ที่ภูเก็ตน่ะ แม่ไม่ได้เต็มใจยกพี่ให้เลยสักนิด ถึงจะพ่อเลี้ยงคนไทย เขาก็ไม่ได้อยากให้ไป เขาว่าพวกฝรั่งวิปริต”
คนในอ้อมแขนหัวเราะเบาๆ เกียก้มลงหอมหน้าผากแล้วเล่าต่อ
“พ่อกลับไปลอนดอน เพื่อพาทั้งแม่เลี้ยง กับน้องสาวอีก 2 คนมาด้วย เขาต้องการยืนยันว่า พวกเขาจะเลี้ยงดูพี่เป็นอย่างดี จะส่งเสียให้เรียนอย่างเต็มที่ เพราะพูดเรื่องเรียนนี่แหละ แม่ของพี่ถึงได้ยอมให้ไป แล้วตอนที่พี่ไปลอนดอนครอบครัวที่ภูเก็ตก็ไปด้วย ไปดูว่าที่ลอนดอนเป็นยังไง พออายุ 14 พี่ก็เริ่มออกลาย” เกียยิ้มขื่นๆ ให้กับคนที่นอนมองพี่เล่าเรื่อง “ทำทุกอย่างที่แม่เลี้ยงบอกว่าไม่ให้ทำ จำได้ว่าแม่เลี้ยงนั่งร้องไห้อยู่ในครัว แล้วพ่อเข้าบ้านมา แม่เลี้ยงก็รีบเช็ดน้ำตาแล้วบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เด็กๆ ทุกคนไม่ปัญหา แต่พี่ก็ไม่ได้สำนึก ถ้าพ่อไม่อยู่พี่จะหนีไปอยู่ข้างนอก วันหนึ่งแม่เลี้ยงออกไปตามหาพี่จนดึก แต่ตอนที่กลับมาถึง เห็นขโมยกำลังงัดประตูบ้าน ในบ้านมีน้องสาว 2 คนอยู่กับพี่เลี้ยง ก็ช่วยกันร้องโวยวาย แล้วก็คว้าไม้ไล่ตีมันจนมันหนีไป ก็คิดได้ว่า เพราะแม่เลี้ยงมัวแต่ไปตามหาเรา ถ้าเราเลิกเรียนกลับบ้าน แม่เลี้ยงคงไม่ต้องเรียกพี่เลี้ยงมาดูแลน้อง แล้วก็คนร้ายก็คงไม่มา แล้วถ้าเรากลับมาช้าจะเกิดอะไรขึ้น”
“เพราะเด็กไม่ดีหนีเรียน”
“ใช่ เด็กไม่ดีหนีเรียนไปอยู่กับเพื่อน ถ้าวันนั้นไม่เกิดเรื่องขึ้น พี่ก็คงไม่ได้หยุดคิด ว่าการเป็นพี่ชายคนโตของบ้านสำคัญอย่างไร พี่มีคนที่ต้องปกป้องดูแล”
“เลยเป็นตำรวจ”
“ครับ พี่อยากเป็นตำรวจตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ใช่เพราะอยากเสี่ยงอะไรหรอก แต่เพราะนี่คือการที่เราได้ทำหน้าที่ปกป้องคนที่เรารัก”
“รักพองมั้ย”
เกียยิ้มไม่เปิดปากให้กับคนที่ง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น
“รักสิ รักมาก”
“แต่พองไม่รักพี่”
“ครับ”

คนตัวโตรู้ดี ว่านี่คือความจริง แม้สารเสพติดจะทำให้โลกของข้าวพองบิดเบี้ยว แต่นี่คือความจริงที่อยู่ในใจ

“แต่พองชอบเวลาที่พี่กอด”
“ครับ”
“ชอบจูบด้วย จูบได้มั้ย”
“ไม่ได้”
“หือ”
“ถ้าจะให้พี่จูบ พองต้องไม่ใช้ยาเสพติดอีก”
ข้าวพองพยักหน้า “อือๆ” ผ่อนลมหายใจยาว ตามมาด้วยเสียงฟรี้เบาๆ
เกียมองคนที่หลับไปแล้ว ขณะที่รู้สึกกังวล
เวลาที่เมายา ข้าวพองพูดอะไรให้ไอรีนและคนอื่นๆ ฟังบ้าง....

*-*-*จบตอนที่ 9*-*-*

อากาศร้อนจัด มีคนป่วยเป็นหวัดแดด เป็นมาทุกหน้าร้อนตั้งแต่พบกันตอนม.1 จนถึงวันนี้ก็ยังไม่พลาด
ตอนที่ 10 มาวันพฤหัสบดีนะครับ

ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ
.ไจฟ์ครับ.



หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-04-2014 09:32:43
มีคนมากมายรายล้อมแต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเลย
ถ้าข้าวพองไม่คิดจะหยุดเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับปัญหาอยู่อย่างนี้
ไม่อยากจะคิด นอกจากเสพย์ยาแล้วอาจเสี่ยงกับเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมอีก
ครูเกียจะฉุดดึงกลับมาได้ไหม เสียดายเด็กใส ๆ

ปล.ขอให้น้องทีหายหวัดไวไวนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 22-04-2014 10:19:14
นักเรียนเกเร อยากจะให้คุณครูกอดซะแหล่วววววว ฮุ ฮุ ฮุ ........... เจ้าชายน้อยก็ชอบฟังเรื่องเล่า งั้น ครูก็ต้องหาเรื่องมาเล่าให้นักเรียนฟังเรื่อย ๆ จิ......(ขัดใจหน่อยเดีียะ ยอมจูบๆๆ นักเรียนให้คนอ่านกระชุ่มกระชวยหน่อยก้อม๊ะด๊ะ :ling1:)
 
เด็กแบบข้าวพองต้องเจอคนรักแบบครูเกีย รู้ไปหมดว่าต้องทำอย่างไรกับพฤติกรรมของนักเรียนคนนี้ .... แต่อย่าปล่อยให้นักเรียนเค้าใจแตกมากไปกว่านี้นะครู เราไม่ย้อมมมมมม งื้ดดดดด   :sad4:

ขอบคุณครับ



หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 22-04-2014 11:02:03
ชอบที่เกียบอก สอน บอกรักข้าวพอง ตื่นมาขอให้บอกอีกที ตอนนี้เมา ไม่รู้ตื่นมาจะจำได้ไหม 
ปล. น้องทีป่วยเป็นหวัด มีไข้ด้วยไหม พักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำมากๆ หายป่วยไวๆ นะคะ
ปล.2  ชอบตรงตั้งแต่เจอกันตอน ม.1นี่แหละ แสดงว่ามันนานมาก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-04-2014 11:26:06
อยากให้ข้าวพองจำที่พูดจังเลย เกียต้องทำให้น้องไปยุ่งกับสิ่งไม่ดีเร็วๆ

ขอให้เด็กหายป่วยไวๆ นะจ้ะ
 :mew3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 22-04-2014 11:45:26
เหตุผลที่เกียมา ดูโรแมนติกดีจัง คิดว่าความรักที่เกียมีให้ คงทำให้ข้าวพองรับรู้ได้สักวัน

ขอให้น้องทีหายไวไวนะคะ ของพี่เป็นทั้งไข้หวัดใหญ่ หายได้ 2 อาทิตย์เป็นไข้หวัดธรรมดาอีก
โอย เบื่อมากกกกก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-04-2014 11:47:22
ทุกๆเหตุการณ์เกียมีคำสอนให้ข้าวพองตลอด และเห็นว่าข้าวพองเองก็เรียนรู้และปรับเลี่ยนนิสัยบางอย่างกลายเป็นดีขึ้นมากเลย
*อ่านข้างบนแล้วมาฟินต่อกับข้อความข้างล่าง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-04-2014 12:19:38
ตอนนี้เกียพูดเยอะมากกว่าทุกตอนที่ผ่านมารวมกัน 555

และกังวลแทนเกียเรื่องข้าวพองจริงๆ น่าเป็นห่วง

บวกเป็ด

รอตอนต่อไปค่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 22-04-2014 12:36:51
ตอนบอก ไม่รัก
เงื้อออออ จริงดิ
 :mew4:
เชียร์ข้าวพองให้ไม่ใช้ยาจะได้จูบพี่บ่อยๆ
บวกและเป็ดขอบคุณ
(ติดบวกไว้แป๊บ ให้ตอนเช้าไปเมื่อกี้)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-04-2014 12:40:24
อยากได้แบบเกียซักคน ><
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-04-2014 14:42:06
น้องจะแบดบอยเกินเหตุแล้วใช้ยาด้วย เพิ่งรู้ว่ายาอีเป็นยาของคนขี้เหงา น้องจะรับรู้มั้ยเนี่ย ว่าพี่มันสารภาพรักจนหมดเปลือก  เจ็บใจจี๊ดๆมั้ยล่ะเกียน้องบอก ไม่รักน่ะ รอตอนต่อไปจ้า
ปล. ขอให้น้องทีหายเร็วเน้อ เจอกันที่facebook
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 22-04-2014 15:35:17
จะว่าไปข้าวพองมีทุกสิ่งอย่างแล้วแต่เจ้าตัวรู้สึกขาดรัก
แล้วแสวงหารักจากคนอื่นๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆ ที่เข้ามาหวังดี หรือประสงค์ร้าย
เด็กอย่างข้างพอง จะแยกแยะได้หรือเปล่า...
กลับกันเด็กๆ ในสังคมทุกวันนี้ อาจขาดหลายสิ่ง หรือมีเต็มจนล้น อบอุ่นจนร้อน
น่าเป็นห่วงจริงๆ นะ

ขอให้เด็กน้อยหายไวไวนะคะ <3
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 22-04-2014 16:25:55
มีความรู้สึกว่าพองน่าสงสาร
ที่เกียบอกว่ารัก รักมากนี่จริงใช่ไหม
ชอบเวลาที่พองว่างาย ๆ ตอนอยู่กับเกียเพราะมันดูอบอุ่น

ปล.อ่านตอนเดียวหลายความรู้สึกเกิ๊น5555++++

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 22-04-2014 17:24:16
ข้าวพองงงงงงงง
ทั้งน่าเห็นใจและน่าเป็นห่วง
ทำไมถึงเป็นไปได้ขนาดนี้ กอด :กอด1:

แต่.......เราได้ยินคำสารภาพของใครบางคนด้วยแหละ คริคริ
หวังว่าพรุ่งนี้ตื่นมาข้าวพองจะจำมันได้ รึป่าวหว่า?
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 22-04-2014 17:40:51
มีแต่คนร้ายๆวนอยู่รอบๆตัวสินะ
แม้จะมีคนดีจริงใจอยู่ด้วย แต่ก็มเลือกที่จะมองจข้าม
 :เฮ้อ:
ปล.เพชรอยู่ในตัวข้าวพองรึป่าวนะ  o8
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 22-04-2014 18:00:21
อันตรายจากยาเสพติดเนี่ย  มันน่ากลัวจริง ๆ เนอะ โชคดีที่มีเกียอยู่ เลยพาข้าวพองออกมาจากสิ่งพวกนี้ได้
ว่าแต่ ตอนที่พองบอกไม่ได้รักเกีย  แต่ชอบเวลาเกียกอดจูบนี่คืออะไร  พี่เกียต้องรีบทำคะแนนอย่างหนักเลยน้อ
เสียดายนะ  ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วพองจะจำสิ่งที่เกียพูดไม่ได้ เพราะเกียปากแข็งจะตาย ถ้าเป็นตอนปกติ จ้างให้เกียก็ไม่พูดอ่ะ
ปล. ขอให้คนป่วย  หายป่วยไว ๆ น้า   :กอด1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 22-04-2014 19:29:53
ข้าวพองอย่าไปปาร์ตี้อย่างนี้อีกเลยนะ กลัวแทน
ถ้าได้เริ่มแล้วเดี๋ยวถ้าติดยามากขึ้นจะยุ่งแน่ๆ
หวังว่าสลึมสลืแต่ก็ได้ยินทุกอย่างที่เกียพูดให้ฟังนะคะ
เกียก็อย่าน้อยใจง่ายๆน้องเหงาอยู่เป็นเพื่อนใกล้ชิดนะคะ

ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ น้องทีดูแลตัวเองดีๆ หมั่นกินยา แล้วหายไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 22-04-2014 22:30:05
คนขี้เหงาโหยหาอ้อมกอดจากคนเกือบเหงา......
นี่แหละชีวิต.......ทานส้มเยอะ ๆ จะได้หายหวัดเร็ว ๆ นะจ๊ะ....หนูน้ำชา...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 22-04-2014 22:52:14
เด้กดื้อ จิงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 23-04-2014 09:17:37
น่าห่วงข้าวพองที่เมาแล้วเชื่องๆว่าง่ายมากๆ  พี่จะใช้วิธีการไหนปราบพยศนะ

ขอให้เด็กชายน้ำชาหายเร็วๆนะ  อยากอ่านตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 24-04-2014 03:58:18
ไหงข้าวพองยิ่งรู้จักยิ่งเด็กลงเรื่อยๆน๊า ตอนนี้เป็นเด็กขี้เหงาไปแล้ว

แถมขี้อ้อนด้วย ขอให้จำได้ก็แล้วกันนะว่ารับปากอะไรพี่ไว้ ถ้าอยากให้พี่จูบต้องไม่ใช้ยาอีกนะ

ข้าวพองสู้ๆ พี่เกียสู้ๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 9หน้า 8(22 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 24-04-2014 09:29:57
เด็กน้อยผู้น่าสงสาร ท่าทางขี้เหงาแบบสุดๆ ว่าแต่หายเมาแล้วจะจำได้มั้ยเนี่ย ว่าพี่สารภาพรักน่ะ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 24-04-2014 09:37:55
ตอนที่ 10

ข้าวพองตื่นนอนด้วยอาการปวดหัวหนัก
...ก่อนนี้ไปกินเหล้ากับเพื่อน ไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย หลังๆมานี้ จะตื่นมาด้วยอาการแบบนี้เป็นระยะ...
“กูคออ่อน หรือเพราะกูกินเยอะจนมันสะสมอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกายหรือไงวะเนี่ย”
หนุ่มตัวเล็กเดินบ่นแล้วพออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็นึกได้
“วันอาทิตย์นี่หว่า มาทั้งพ่อทั้งพี่เพียง”
ข้าวพองกลับเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำสระผมอีกรอบ ถึงได้ลงมากินข้าวมื้อก่อนเที่ยง อุบลรีบเข้ามาดักทางด้วยการส่งน้ำมะนาวให้ก่อน แล้วถามว่าอยากได้ข้าวต้ม หรือจะรอมื้อเที่ยงพร้อมพ่อ
ข้าวพองจิบน้ำมะนาวชื่นใจแล้วถามหาว่าพ่อไปไหน
ถึงได้รู้ว่าคนที่ไม่คิดว่าจะอยู่บ้านในวันนี้ก็อยู่ด้วย ทั้งกำลังทำหน้าที่พาพ่อกับพี่เพียงชมห้องฝึกทางด้านหลัง
“ทำไมเขายังอยู่”
อุบลตอบตามที่ได้รับคำสั่งไว้ “เมื่อวานคุณครูไปรับคุณข้าวพองที่บ้านเพื่อนน่ะค่ะ แกก็เลยค้างที่นี่ พอเช้าคุณพ่อมาแต่เช้าก็เลยคุยกัน พอสายหน่อยคุณเพียงกับคุณนิก็มา คุณครูก็เลยไม่ได้กลับคอนโดฯ”
ข้าวพองถือแก้วน้ำมะนาวเดินไปหาพ่อ
แต่มโหธรหันมาเห็นน้องชายก็เดินเข้ามาหาก่อน
“คำสั่งให้เปลี่ยนครู ยังไม่อนุมัตินะไอ้เสือ”
“ชริ” น้องชายทำหน้าหงิกใส่ “แล้วให้เขาอยู่วันอาทิตย์เดี๋ยวก็ต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มหรอก”
พี่ชายหันไปมองพ่อที่กำลังคุยกับเกียแล้วหันมาหาน้องชาย “ไปมีเรื่องอะไรกับเขาอีกล่ะ”
“ใครจะกล้า เขาหาเรื่องหนีกลับบ้านต่างหาก”
“ไอ้คนนี้” พี่ชายเอากำปั้นขยี้หัวน้องชาย “แล้วเขาเป็นคนอังกฤษ แกเรียนรู้อะไรจากเขามั่ง”
“อังกฤษแล้วไง เรียนรู้อะไร” คนนี้กวนประสาทกลับ
พี่ชายสายหน้า “ไหนอยากไปอังกฤษนักหนา เบื้องต้นเลยแกก็ต้องเรียนรู้ว่า ที่นั่นจะมีการแบ่งชั้น แบ่งสีผิวกันอยู่ในที แล้วอย่างที่เราเรียกเขารวมๆ ว่าคนอังกฤษ ที่จริงแล้วเขาไม่ชอบเลย เพราะสัญชาติที่แท้จริงเขาเป็นเวลส์ เป็นไอริช เป็นสกอตแบบนั้น”
“แล้วเกียเป็นอะไร”
“เวลส์” พี่ชายบอก ข้าวพองก็ถามต่อ
“แล้วไง”
“แต่ถึงจะเวลส์ เขาก็ยังมีไทยปนอยู่ด้วย แต่เรื่องเชื้อชาติเนี่ย เขาจะไม่พูด ไม่ล้อเลียนกันเพราะมันมีอยู่ในกฎหมาย ที่ต้องจำให้ดีก็คือ อะไรก็ตามที่มันถึงขนาดที่ต้องออกกฎหมายมาห้าม แสดงว่ามันรุนแรง”
ข้าวพองหูผึ่ง ฟังพี่ชายพูด “เราคนไทยเรียกกันเองว่าเป็นลาว เป็นเจ๊ก เป็นแขกเราไม่รู้สึกเพราะเราเรียกเขา”
“ต่อให้เรียกเราไอ้ไทยก็ไม่เห็นจะรู้สึก” ข้าวพองอดไม่ได้ที่จะเถียง
“ก็เออ” พี่ชายเขกคนหัวดื้อช่างเถียง “เราไม่รู้สึก ไม่ได้แปลว่าเขาไม่รู้สึก ตอนที่อยู่เคยมีสกอตขี้เมาไปด่าแล้วก็เตะคนยูเครนในรถไฟ เรื่องใหญ่เลยนะ อย่างนักกีฬาผิวสีเนี่ยจะชัด เพราะเขาจะโดนบ่อย”
ข้าวพองเบ้หน้า “ไปดูบอล หรือไปฟังขี้เมาด่านักกีฬาก็ไม่รู้ ไม่เห็นสนุก”
“เออ แบบนั้นแหละ ยกตัวอย่างนักฟุตบอลจะชัดที่สุด เรียกว่าลิง หรือดำไม่ได้นะโว้ย”
ข้าวพองหยุดคิด “อย่างที่พี่เพียงกับพี่เพชรเคยเจอมาใช่มั้ย แล้วเกียก็เคยเจอเหมือนกันหรือเปล่า”
“ไว้ถามเขาสิ” พี่ชายตัดบทดื้อๆ “ส่วนฉันน่ะ ถือว่าเราไปเรียนไง แล้วก็อย่างที่แกบอกน่ะ เรียกอะไรก็ไม่ค่อยจะสนใจหรอก  แล้วฉันก็เลือกที่จะอยู่ในเขตมหาวิทยาลัยเป็นส่วนใหญ่”
หนุ่มตัวเล็กบุ้ยปากไปหาคนที่ยังคุยกับพ่อ “ตัวยังกับตึกอย่างงั้น ใครจะกล้ามาแกล้ง”
“แกไง ไอ้ตัวปากเสีย ห้ามใช้คำพูดอะไรที่มันเป็นการแสดงการเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติเด็ดขาด” พี่ชายสรุป
“โหย.....” น้องเล็กทำเสียงโอดครวญ “พองเนี่ยนะ จะกล้า..”
“แกนั่นแหละตัวดี ย้ำอีกครั้ง เรียนรู้จากเขา แล้วก็ฝึกให้เป็นนิสัย ถ้าแกอยากไปอยู่อังกฤษ”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ”
มโหธรยักไหล่ น้องชายก็พยักพเยิดไปที่พ่อ “ท่าทางถูกคอกันมากนะนั่น”
“แกนี่ชอบพูดเหมือนคนขี้อิจฉา”
น้องชายหันมาขวางพี่ชาย “ใครขี้อิจฉา ปกติไม่ค่อยเห็นพ่อพูดกับใครแบบนี้ไง” เว้นไปนิดก็ยอมรับ “แต่ก็ดี ไม่งั้นก็สั่งๆๆๆ ตลอด”
พี่ชายกอดคอน้องชายเดินกลับเข้ามาในบ้าน “เที่ยงนี้กินอะไรบอกอุบลไปหรือยัง”
“ยัง เพิ่งตื่น ยังแฮ้งอยู่เลย”
“เออ เมาเหล้าไม่เป็นไร แต่ขอเลยนะอย่าไปยุ่งกับยาเสพติด”
“รู้แล้วน่า” ข้าวพองตอบพี่ชายไม่เต็มเสียง แล้วเปลี่ยนมาชวยคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย

วันอาทิตย์ที่ปกติจะมีแต่พ่อกับพี่ชายและพี่สะใภ้ก็จริง แต่บางครั้งจะมีโทรศัพท์ของพ่อจากอีกบ้านหนึ่ง และหลายๆ ครั้งก็จะมีเพื่อนทางธุรกิจของพ่อ หรือพี่เพียงมาหาด้วย
แต่วันนี้มันคือวันแสนสบาย ได้นั่งเล่น นอนเล่น อ่านหนังสือ เล่นเกม อยู่ด้วยกัน 3 คนตลอดเวลา จนกระทั่งพ่อกดตัดสายโทรศัพท์ที่เข้ามาเป็นครั้งแรก
และข้าวพองไม่เห็นนิรมล ที่อุบลบอกว่ามาพร้อมกับมโหธรเมื่อช่วงสาย คาดว่าจะกลับไปแล้ว
ส่วนเกีย ก็คอยอยู่ใกล้ๆ ในระยะที่พอมองเห็นกันได้ตลอดเวลา ไม่ได้กลับไปคอนโดฯ เหมือนในสัปดาห์ก่อน
ก่อนมื้อเย็น ข้าวพองก็หันมาถามพี่ชายที่กำลังลดอายุมาเล่นเกมเพลย์อยู่กับน้องชาย “พี่นิไปไหน”
“อยู่บ้าน เขามาเมื่อเช้าแล้วให้กลับไปตอนหลังอาหารเช้า”
“ทำไมล่ะ”
พี่ชายทำหน้าตาเหมือนกินยาขม “ขี้เกียจตอบคำถามเรื่องเพชร”
ทั้งพ่อและเกียหันมามองหน้ามโหธร
“ยังไง” พ่อถาม
มโหธรวางเกมที่กำลังเล่นอยู่กับน้องชาย หันมาหาพ่อ
“ผมให้เขาปล่อยเพชรในร้านได้หลายชิ้น ก็ให้ค่าคอมฯ เขาทุกชิ้น แต่ตอนนี้เขามักจะมาถามว่ามีอันนั้นมั้ย อันนี้มั้ย ผมก็บอกว่า มีเท่าเห็นน่ะแหละ ก็อยากให้ผมไปหาของตามออร์เดอร์ให้ได้ ผมทำก่อสร้างนะไม่ได้ขายเพชร”
ข้าวพองหัวเราะหึหึพี่ชาย แล้วกลายเป็นหัวเราะร่วนเสียงดัง จนอีก 3 คนต้องพลอยหัวเราะตาม
“ไอ้ตัวเปี๊ยกนี่”
“พี่เพียงแหละ ไล่เมียกลับบ้านเพราะขี้เกียจขายของ” น้องชายเถียง
“ไมได้ขี้เกียจโว้ย แต่มันไม่ใช่ทาง ให้ไปหาเพชรตามสั่งเนี่ยนะ” มโหธรยิ่งทำหน้าพิกลหนักกว่าเดิม “อย่างกับเป็นเดลิเวอรี่”
“แม่กับพี่เพชรบอกว่ากำไรดี ความเสี่ยงน้อย” ข้าวพองเถียง
มีเสียงในลำคอที่แสดงความไม่เห็นด้วยมาจากพ่อ แต่เพราะพ่อหันไปมองนอกหน้าต่าง มโหธรก็เลยชวนน้องชายเล่นเกมต่อ

ทุ่มครึ่งนิรมลก็เดินมารับมโหธรกลับบ้าน ชายหนุ่มมีสีหน้าเหมือนเด็กเล็กไม่อยากไปโรงเรียน
“ที่จริงผมน่าจะมีเวลาจนถึงเที่ยงคืนนะ”
“คุณเพียงคะ” นิรมลทำเสียงดุ จนพ่อขำ

อีกไม่ถึง 10 นาที ก็เป็นโทรศัพท์ของข้าวพอง
ไทนี่ หว่องวัยรุ่นชาวจีนเพื่อนใหม่โทรมา
ข้าวพองรับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าตกใจ แล้วรีบมาหาเกียที่ยืนคุยอยู่กับยอดยิ่งที่ป้อมยามหน้าบ้าน
“จะกลับไปคอนโดฯ หรือเปล่า”
“ไม่ครับ เพราะคุณท่านมาลำพังไม่มีคนติดตามมาด้วย”
ทั้งอัคราและมโหธรต่างก็มีคนติดตามทั้งคู่ แต่วันนี้ทั้งคู่กลับแค่ให้มาส่งแล้วให้กลับไป
“ไปบ้านไทนี่กับพองหน่อยสิ”
เกียพยักหน้ารับคำสั่ง แต่บอกให้ไปบอกพ่อก่อนว่าจะออกไปข้างนอก
ข้าวพองพยักหน้าเร็วๆ แล้วรีบบอกก่อนที่จะกลับเข้าไปในบ้าน “เกียขับรถบ้านไปนะ ไม่ต้องให้ธีระไป”
“ครับ”
เพราะคำสั่งสุดท้ายทำให้เกียเดินตามข้าวพองเข้าไปในบ้าน เพื่อย้ำกับอัคราด้วยตัวเอง
“จะรีบกลับมาครับ เพราะคุณข้าวพองต้องไปโรงเรียนพรุ่งนี้”
ในระหว่างทางที่ไปบ้านไทนี่ ข้าวพองถามเกียในสิ่งที่สงสัยมาตลอดวัน
“บอกพ่อกับพี่เพียงให้อยู่กับพองใช่มั้ย”
“ไม่ได้บอกครับ”
ข้าวพองหันมามองด้วยแววตาที่ไม่เชื่อที่เกียบอก “แต่เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ นายบอกพวกเขาแน่ๆ”
“พี่บอกกับเขาว่า คุณเสียคุณแม่ไป จากนั้นคุณมโหธรก็แยกบ้าน คุณพ่อแยกไปมีบ้านเล็ก แล้วคุณเพชรก็แยกไปจากนั้นคุณก็สูญเสียคุณเพชร”
“พอแล้ว” ข้าวพองกำมือที่เย็นเฉียบ
ปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่อยู่ในรถจนกระทั่งรถเลี้ยวเข้าซอยบ้านไทนี่หว่อง หนุ่มตัวเล็กก็พูดแผ่วเบา
“ขอบคุณนะ”
“ครับ”

บ้านหลังนั้นเปิดไฟที่โรงรถไว้ เมื่อเกียจอดรถที่หน้าบ้าน คนรับใช้หญิงคนเดิมก็มาเปิดประตูให้ แล้วชี้ไปที่ห้องด้านบน
เธอไม่ได้พูดอะไร แต่จากรูปหน้าและสีผิวที่ออกเหลืองทำให้เกียคาดว่า อาจเป็นแรงงานต่างด้าว
ข้าวพองไม่เคยเข้ามาที่บ้านนี้ แล้วก็อาจจะรออยู่ข้างล่าง ถ้าเกียไม่ได้เดินตามขึ้นมาด้วย
จนมาหยุดที่หน้าห้อง จู่ๆ ข้าวพองก็เกิดอาการกลัวขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ จนต้องหันมาหาคนตัวโตด้านหลัง
“เข้าไปด้วยกันนะ”
เกียพยักหน้า แล้วก้าวขึ้นมายืนบังข้าวพองเมื่อเคาะประตูแล้วบิดลูกบิดประตูเข้าไป
หนุ่มตัวเล็กห่มผ้าห่มผืนใหญ่ซุกตัวอยู่ที่มุมห้อง
ข้าวพองวิ่งแซงเข้าไปหา
“ไทนี่ เป็นอะไร”
ไทนี่กางแขนกอดข้าวพองทั้งผ้าห่ม ดวงตาแดงก่ำ ริมฝีปากแห้งผากที่มีร่องรอยของบาดแผล
“ข้าวพอง เรา....เราคิดว่าเราโดนข่มขืน”

ทั้งที่ใจกำลังร้องว่า โดนข่มขืนได้ยังไง เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ใครและที่ไหน แต่ข้าวพองกลับทำได้เพียงมองเพื่อนด้วยสีหน้าตกใจแล้วหันมาหาเกียเพื่อขอความช่วยเหลือ

“ครู ทำไงดี”
เกียคุกเข่าลงข้างหน้าหนุ่มตัวเล็กที่มีสีหน้าสับสนและหวาดกลัว
“ค่อยๆ เล่าให้ผมฟังนะครับ อะไรทำให้คุณคิดว่าโดนข่มขืน”

ดวงตายาวเรียวของไทนี่ตวัดไปที่เสื้อผ้าในตะกร้า เกียก็ลุกไปหยิบขึ้นมา
กลิ่นที่นำมาก่อนคือกลิ่นบุหรี่กับเหล้าที่จางลง เสื้อที่มีร่องรอยฉีกขาด กับรอยเลือดที่กางเกง
ตามหลักการเบื้องต้นมันก็เข้าข่าย
แต่คำถามอยู่ที่เวลา...

ไทนี่บอกด้วยนำเสียงสั่นๆ “เราตื่นมา มีคนนอนอยู่ข้างๆ หลายคนเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แล้วเราก็เจ็บก้น หันไปเห็นเสื้อผ้าก็รีบแต่งตัวออกมาเลย”
เกียนึกถึงภาพเมื่อคืนที่ไทนี่นั่งอยู่ในกลุ่มชายหนุ่มหลายคน
“รู้จักเขาหรือเปล่าครับ ถ้าให้ชี้ตัว จะชี้ได้มั้ย”
“ชี้ตัว!” ไทนี่ตื่นตกใจหันไปหาข้าวพอง “ไม่แจ้งความนะ ไม่นะ ถ้าพ่อรู้ ไทนี่โดนพ่อฆ่าตายแน่”

ข้าวพองลูบหลังให้ไทนี่ใจเย็นลง
ไทนี่เพิ่งย้ายมาเรียนได้ไม่นานนัก ทำให้แทบไม่มีเพื่อน ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะเคยเห็นพ่อของไทนี่มารับที่โรงเรียนอยู่ครั้งสองครั้ง แต่ก็แค่ยกมือสวัสดี

“ครู ทำไงดี”
ที่ผ่านมาข้าวพองไม่เคยใช้ประโยคที่ขอความช่วยเหลือแบบนี้ ยิ่งน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจแบบนี้ยิ่งไม่เคยได้ยิน
ใจที่มันลำเอียงเป็นทุนเดิม รู้สึกเป็นห่วงข้าวพองมากกว่าไทนี่
ทั้งที่ไทนี่คือคนที่ถูกทำร้าย...
...แต่มันก็มีบางสิ่งบางอย่างที่รบกวนในใจ บางสิ่งบางอย่างที่มันมากกว่าความลำเอียงที่ทำให้ไม่ค่อยจะเชื่อคำพูดของหนุ่มคนนี้สักเท่าไหร่
มันมีคำถามที่ไม่ควรถามต่อหน้าข้าวพอง

เกียหันไปบอกข้าวพอง “ผมจะลงไปเอาถุงมาใส่เสื้อผ้าของคุณไทนี่ไปทิ้ง”
ปล่อยให้ข้าวพองอยู่กับไทนี่ด้วยความมั่นใจว่า ไทนี่จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ข้าวพองฟัง แล้วข้าวพองก็จะต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังอีกต่อหนึ่งเช่นกัน
คนรับใช้ของไทนี่ยังนั่งดูละครโทรทัศน์ ท่าทางไม่ได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เกียชวนคนรับใช้คุย เริ่มจากการขอถุงพลาสติกไปใส่ของ แล้วก็ถามว่าไทนี่กลับมาเมื่อไหร่ หรือมีใครมาส่งบ้าง ถามไปเรื่อยว่าพ่อของไทนี่อยู่หรือไม่
แรกๆ คนรับใช้ชื่อปลาก็ไม่ค่อยกล้าเล่าอะไรเพราะพูดไทยไม่ชัด แต่พอเกียไม่ได้มีท่าทีสนใจกับสำเนียง ก็เล่าได้เรื่อยๆ จนพอจะจับความได้ว่าไทนี่กลับมาเมื่อบ่ายแล้วก็เก็บตัวอยู่ในห้อง ไม่ได้ลงมากินข้าวเย็น ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้ คือหิวเมื่อไหร่ก็จะลงมาอุ่นกับข้าวกินเอง
ส่วนเรื่องพ่อของไทนี่ เคยพบเจอกันเมื่อตอนที่มาทำงานที่บ้านนี้แล้วก็เห็นว่ามาอีก 2-3 ครั้ง ในรอบประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา
เกียรับฟังแล้วบอกขอบคุณ ปลาทำหน้าตาแปลกๆ เหมือนไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน

เมื่อกลับขึ้นมาที่ห้อง ข้าวพองกับไทนี่ยังนั่งอยู่ที่เดิมเหมือนก่อนที่จะลงไป
เกียบอกว่า หากไม่แจ้งความ ไม่พบแพทย์ก็ต้องดูแลรักษาตัวเอง
ทั้งไทนี่ และข้าวพองมีสีหน้าไม่เข้าใจ
“อย่างนี้นะครับ คุณไทนี่บอกว่า ไม่รู้อะไรเลยนอกจากตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการต่างๆ ที่ทำให้คาดว่าจะโดนข่มขืน เราไม่รู้ว่าพวกเขาใช้ถุงยาง หรือมีการป้องกัน หรือเขาจะใช้อะไรหรือเปล่า”
“หมายถึงพวกสิ่งของน่ะหรือ” ไทนี่ถาม
“ครับ” เกียพยักหน้า ขณะที่ข้าวพองมีสีหน้าแหยงๆ แต่ไทนี่กลับดูนิ่งกว่า
“อันนี้ไม่รู้”
“ครับ เพราะฉะนั้นมันอาจมีแผล อาจติดเชื้อ ติดโรคอะไรก็ได้”
“ต้องไป...ตรวจเลือดใช่มั้ย” ข้าวพองถาม
“ครับ”
ข้าวพองยิ่งมีสีหน้ากลัวกว่าเดิม ไทนี่พอหันมาเห็นหน้าเพื่อน ก็พลอยกลัวตามไปด้วย
“ไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย” ไทนี่สารภาพ “กลัวแต่พ่อจะรู้ว่าหนีเที่ยว”
เกียบอกไปตามขั้นตอน “งั้นอย่างแรกเลย คุณไทนี่ต้องไปอาบน้ำทำความสะอาด ทานยา แล้วก็นอนพัก รอสักสองอาทิตย์ค่อยไปตรวจเลือด แต่ผมไม่แน่ใจว่าที่นี่ใช้ยาตัวไหน ยาบางตัวตรวจหลังจากนี้ 2 เดือน หรือ 6 เดือนก็มี”

ข้าวพองรอจนทุกอย่างเรียบร้อย บอกกับเพื่อนอีกครั้งว่าพรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วจะมาหาเสร็จแล้วก็กลับไป
จนกระทั่งอยู่ในรถด้วยกัน เกียถึงได้ถาม
“กลัวหรือ”
“อือ”
เกียจับมือนิ่มไว้ “แต่ข้าวพองก็เก่งนะ ดูแลเพื่อนได้”
“ดูแลอะไรเล่า เกียทำหมดทุกอย่างน่ะแหละ”
เกียอดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม เพราะตอนนี้ข้าวพองเปลี่ยนมาเรียกชื่ออีกแล้ว
ข้าวพองทำหน้ายู่ๆ รู้ว่าเกียกำลังขำที่ตัวเองเรียกอีกฝ่ายกลับไปกลับมาอีกแล้ว “เออน่า ตอนนั้นพึ่งพาอาศัยกันได้ก็เป็นครู แต่ตอนนี้จับมือพองอยู่จะเป็นครูได้ไง”
“อ้อ...” เกียลากเสียงยาวแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
ข้าวพองหันมามองหน้าคนขับรถ “พ่อไทนี่ท่าทางจะดุมาก”
เกียพยักหน้า “เท่าที่คุยกับปลา คนรับใช้น่ะครับก็ดูจะเป็นอย่างนั้น แล้วถ้าเรื่องนี้เกิดกับข้าวพอง ข้าวพองจะบอกพ่อกับพี่เพียงมั้ย”
ข้าวพองส่ายหน้า แล้วตอบช้าๆ “เรา...ใช้ยา นั่นมันเป็นเรื่องที่พ่อกับพี่เพียงรับไม่ได้อยู่แล้ว แล้วยังโดนอย่างนี้อีก เขาคงคลั่งตายแน่ๆ”
“มันมีวิธีง่ายๆ ที่จะไม่ทำให้พวกเขาคลั่งตาย คือต้องไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้”
“ใครจะไปคิด” ข้าวพองเถียงอุบอิบ
“ก็ต้องคิดได้แล้ว” เกียหันมามองหนุ่มข้างๆ แวบหนึ่ง เห็นสีหน้าหนักใจและความกลัวชัดเจน “ข้าวพองรู้ตัวเรื่องใช้ยาหรือครับ”
ข้าวพองถอนหายใจหนักๆ “รู้สิ แต่ไม่ค่อยอยากยอมรับว่าใช้”
“เจตนาใช้ หรือว่าโดนหยอด”
“มันก็...” ข้าวพองหันไปมองนอกหน้าต่าง “มั่วๆ ไปน่ะ”
“ข้าวพอง” เกียใช้เสียงเข้มขึ้น
หนุ่มตัวเล็กใช้มืออีกข้างเกาจมูกตัวเอง “มันก็ทั้ง 2 อย่างน่ะแหละ แต่พองไม่ติดหรอกนะ รู้ตัวเหมือนกันเวลาที่เมาเร็วกว่าปกติไรงี้ ก็จะอยู่นิ่งๆ เมื่อคืนก็ยังจำได้ที่เกียมารับน่ะ”
เกียกลับเป็นกังวลเพราะเมื่อคืนพูดอะไรหลายเรื่อง แต่ต้องผ่อนลมหายใจยาวเมื่อข้าวพองพูดต่อ
“แต่ก็ตื่นมาอีกทีก็สายละ เหม็นตัวเองสุดๆ เกียอาบน้ำให้พองหรือเปล่า”
เกียพยักหน้า ข้าวพองทำหน้าตาพิกล “แล้ว...ทำอะไรเราหรือเปล่า”
“เปล่า คนใช้ยา ไม่เห็นน่ากอด”
ข้าวพองเกาจมูกตัวเองอีกที “คุ้นๆ นะ”
“คุ้นอะไร”
“เนี่ย ไอ้ใช้ยา กับกอดเนี่ยมัน...คุ้นๆ”
“เมื่อคืน พี่บอกกับข้าวพองว่า ถ้าอยากให้กอดก็ต้องไม่ใช้ยา ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่อีก”
เกียแอบเติมประโยคลงไปอีก ขณะที่มองแก้มแดง
“ใครที่ไหนอยากให้กอด เกียน่ะแหละ...ชอบฉวยโอกาส”
ยิ่งเห็นหน้าแดงๆ ประกอบคำพูดแบบนี้ คำเตือนของแอนดรูว์กับแมรี่ ยิ่งห่างไกลออกไป
เกียจอดรถที่ข้างทาง หันมาหาข้าวพองเต็มตัว
“ข้าวพองครับ ข้าวพองเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับไทนี่ อย่าคิดว่าเรื่องร้ายๆ มันไม่มีวันเกิดขึ้นกับข้าวพอง พี่ยินดีที่ได้ดูแลข้าวพองด้วยชีวิต กันข้าวพองจากคนร้าย แต่ถ้าเป็นเรื่องของยาเสพติดนั่นเป็นสิ่งที่พี่ดูแลข้าวพองไม่ได้”
วินาทีแรกดวงตากลมดูเหมือนไม่เข้าใจ แล้วก็พยักหน้า “เกียกันพองจากมือปืนได้ แต่ยาเสพติดมันเป็นสิ่งที่ข้าวพองเสพเข้าไปเอง”
“ครับ”
“แต่เวลาไปบ้านเพื่อน ไปเที่ยวน่ะใครๆ ก็ใช้กัน ไอรีนยัง...”
นิ้วมือใหญ่แตะที่ริมฝีปากสวย “ข้าวพองครับ ไม่มีกฎกติกาว่าเราต้องใช้ยาทุกครั้งที่เราอยู่กับเพื่อนหรอกนะครับ”
“ก็..ไอรีน...”

เกียรู้แล้ว ว่าใครคือคนที่พาข้าวพองเข้าสู่ถนนสายนี้ ดวงตาของคนตัวโตแข็งกร้าวขึ้นวูบด้วยความไม่พอใจ

“ครั้งต่อไปที่จะไปเที่ยวกับเขา พี่จะไปด้วย”
“หือ”
“นะครับ นี่คือหน้าที่พี่”
ข้าวพองพยักหน้า ขยับตัวจากมือใหญ่ที่แตะปลายคาง แต่เกียก้มลงจูบแก้ม
ข้าวพองยกยิ้มที่มุมปาก ที่เครียด ที่กลัวสารพัด กลายเป็นขำ
“อีกละ”
“ก็ตอนนี้ข้าวพองไม่ได้ใช้ยา แล้ววันนี้ก็เป็นเด็กดีทั้งวัน สมควรได้รับคำชมเชย”
เกียจูบย้ำแก้มอีกครั้ง เมื่อถอนริมฝีปากออก ข้าวพองถึงกับบ่นอุบอิบ
“นี่เป็นรางวัลชมเชยเหรอ แล้วถ้าวันไหนเป็นการยกย่องแบบรางวัลชนะเลิศ ไม่ต้อง..........”

เกียมองใบหน้าแดงเรื่อที่หันไปมองนอกรถ รู้สึกอยากคว้ามากอดแน่นๆ
ข้าวพองมองสายตาอีกฝ่ายผ่านเงาสะท้อนในกระจก ดวงตาที่พาให้หัวใจวูบไหวแปลกๆ จนต้องหันกลับมามอง
“เกีย.....”
“ครับ”
ดวงตากลมมองริมฝีปากหนา ทั้งรู้สึกริมฝีปากตัวเองแห้งผาก
“เกีย.....”
เกียรู้ดีว่าข้าวพองต้องการอะไร
ริมฝีปากหนาขยับมาจดจ่อแต่ไม่สัมผัส
“ผมให้ได้ทุกอย่าง ขอเพียงข้าวพองไม่ใช้ยาเสพติดอีก”
“แต่ตอนนี้....”
“ตอนนี้พอแล้ว”
ข้าวพองกะพริบตากลมโต ความรู้สึกหวามไหวในอกถูกจับพลิกคว่ำ
“อะไรนะ”
“ของหวานน่ะ ต้องค่อยๆ ลิ้มรส รสหวานจะได้ติดอยู่ที่ปลายลิ้น และหัวใจของเราไปนานๆ”
เกียจูบที่ปลายคางสวย แล้วคว้ามือนิ่มมาจับไว้อีกครั้ง
บอกกับตัวเอง
....เสร็จจากงานนี้ กลับลอนดอน ต้องไปสารภาพบาปที่ทำร้ายหัวใจของข้าวพอง....
ความรู้สึกผิดที่เกาะกุมหัวใจหนาขึ้นทุกวัน
....ทำตามใจตัวเอง ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย....
พัวพันกันจนยุ่งเหยิง เพื่อที่วันหนึ่งเราจะจากไป แล้วทำให้คนๆ นี้ต้องเสียใจ.....
แล้วมันมีทางเลือกที่ดีกว่านี้หรือไง

*-*-*จบตอนที่ 10*-*-*

ขออภัยที่วันนี้สายสุดโต่ง เพราะมีพิมพ์ตก พิมพ์ผิด คำเรียกตัวเองสลับกันมั่วไปหมด  :เฮ้อ:
ตอนพิเศษยังไม่มีหรอกครับ ยังไม่มีอะไรที่เป็นเชื้อความคิดเลยสักนิด  :m23: อ่านเรื่องนี้กันต่อไป
ตอนต่อไปมาวันอาทิตย์นะครับ
.น้ำชา.

ปล. อัั้ยย่ะ ขึ้นหน้าใหม่หล่ะ ดีใจๆๆๆๆๆ ขอบคุณมากครับ  :m3:

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 24-04-2014 11:01:26
สักวันนึงที่ต้องจากกัน จะทำใจกันได้เหรอ
ทั้ง 2 คนน่ะแหละ   :sad4:
เหมือนจะโหยหากันตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 24-04-2014 11:12:22
ข้อ1. นักเรียนต้องได้รางวัลชนะเลิศแบบได้เกียตินิยมด้วยนะ (นักเรียนจำม๊ะคืนได้ด้วยยยย )  o13 o13 o13

ข้อ 2. ทางเลือกของครูคือพานักเรียนไปด้วยเซ่ ห้ามทิ้งนักเรียนนะ  :katai1: :katai1:

ข้อ 3. เหมือนพี่สะใภ้เห็นเพชรดีกว่าสามีอีกนะเนี๊ยะ น่ากลัวๆๆๆ  :m16:

ข้อ 4. เกิดเป็นวัยรุ่น วุ่นวาย แท้  :mew5:

ข้อ 5.  ขอบคุณครับบบบบ  :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-04-2014 11:15:48
เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ มันคงมีทางออกที่ดีที่ต่างคนต่างก็ไม่เสียใจแหละ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-04-2014 11:39:13
ตอนนี้พ่อกับพี่ พยายามให้เวลากับข้าวพอง ตอนพี่เพียงงอแงก็น่ารักดีนะ

เรื่องไทนี่ ไม่รู้จริงหรือหลอก แต่ไม่อยากให้พองเจอรีบๆเป็นเด็กดีนะพอง


ปล.น้องชาหายดีหรือยังจ๊ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 24-04-2014 11:45:43
เพราะเรื่องของไทนี่ทำให้ข้าวพองกับเกียเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น
แต่อย่าเพิ่งคิดเรื่องจะกลับไปได้ไหมเกีย ทำเรื่องตอนนี้ให้เรียบร้อยก่อนเถอะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 24-04-2014 12:37:46
น้องน้ำชา หายป่วยแล้วรึ
เกีย ตกลงรักหลอกๆ หรือหลอกให้รัก เสร็จงานแล้วทิ้งเหรอ นิสัยเสีย
ข้าวพองหัวอ่อน ใจอ่อน ขาดความรัก ขาดหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ
เกียก็รู้นี่ ทำไมยังไม่จริงใจกับพองอีก
ถ้าถึงวันที่ต้องจากกัน อิเกียคงทำใจได้สบายๆ สินะ
พองก็ต้องเข้มแข็งขึ้น ต้องโตขึ้น และต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้
ให้อิเกียมันกลับมาซบตักเราเอง ..มโนไปโน่นเลยตรู^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-04-2014 12:42:05
วัยรุ่นก็อย่างนี้แหละ อยากรู้อยากลอง ไม่คิดถึงผลที่จะตามมา
ถ้าไม่มีคนชี้ทางถูกผิดอาจถลำลึกจนหมดอนาคต
ข้าวพองยังโชคดีที่มีเกียคอยตามประกบ
เสียใจกับไทนี่ หว่องด้วยนะ ถึงจะยังไม่รู้เธอมาดีหรือมาร้ายก็ตาม
แต่บทเรียนนี้ก็น่าจะทำให้ข้าวพองมีสติยับยั้งในการไปปาร์ตี้ในครั้งต่อ ๆ ไป
อะไรคือหมดภารกิจนี้แล้วต้องจากกัน ไม่เข้าใจ อืม เข้าใจแต่รับไม่ได้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-04-2014 12:57:21
เด็กหนอเด็ก เห้อออ
ดีนะที่อย่างน้อยข้าวพองก็รู้ว่าตัวเองทำอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 24-04-2014 15:58:21
เพื่อที่วันหนึ่งเราจะจากไป แล้วทำให้คนๆ นี้ต้องเสียใจ.....
แล้วมันมีทางเลือกที่ดีกว่านี้หรือไง   :mew2: ก็เอาน้องไปด้วยไงไหนๆ น้องก็อยากไปอยู่แล้วนิ

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 24-04-2014 18:30:48
หนักใจแทนเกีย  :ling2:

งานกับหัวใจตีกันให้วุ่น  ริจะใช้ความอ่อนโยนของผู้ใหญ่ใจดี

หลอกล่อให้เด็กน้อยไว้ใจ  สุดท้ายตัวเองนั่นแหละที่จะจเ็บปวดที่สุด

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 24-04-2014 20:26:15
ความรู้สึกปนเปกันไปหมด แล้วเกียสงสัยอะไรในตัวไทนี่
อ้าก คิดไม่ออก  :ling1:

หน้าที่กับความรู้สึกแยกกันไม่ออกสินะ แต่อย่าให้เจ็บทั้งสองฝ่ายก็แล้วกัน
หรือมันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้?

รอวันอาทิตย์ค่ะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Annko ที่ 24-04-2014 20:44:23
หัวใจกับหน้าที่สินะ
สงสารเกีย แต่สงสารน้องพองมากๆ
เนื้อเรื่องก็สนุก อ่านแล้วลุ้นๆดี
แบบแอบคิด(หรือเราคิดมาก) เหมือนจะเห็นใจไทนี่ แต่ก็สะดุดปมเล็กๆไม่ค่อยไว้ใจ ...อืม (--")
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 24-04-2014 20:56:48
อารายกาน......ยังไม่เริ่มก็จะจากแล้วเหรออิพี่เกีย....
แบบนี้หนูข้าวพองของแม่ก็แย่ซิเจ้าคะ.... :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 24-04-2014 21:18:12
อยากอ่านนอีก    พีเกียจะไปใหน ไม่สงสารน้องหรอออ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 24-04-2014 22:12:50
อ่า...กลับมาอ่านก็เมื่อตอนที่ห้า
เลื่อนมาถึงบรรทัดท้ายแล้วแบบว่า...ต้องบอก
คือว่ามัน...มีเวลาอ่านทุกเรื่องที่คุ้นเคยนั่นล่ะ
แต่บางวันอ่านเช้าแล้วทิ้งช่วงไปจนดึกดื่น...หมดแรงเก็บรายละเอียด
ขอโทษน้องทีกับไจฟ์ที่จะมาเป็นบางตอน...อ่านทีละหลายๆ ตอนมันก็สนุกไปอีกแบบ ^^

อีกอย่าง...อาจเป็นเพราะนิยายแนวไจฟ์ทีมีมาไม่บ่อย
คนอ่านบางคนไม่คุ้นเคย เขาก็เลยไม่รู้จะบอกอะไร

ส่วนเรา...เรื่องชวนติดตามแบบนี้
ก็ไม่อยากจะทิ้งช่วง...เหมือนอ่านหนังสือแล้ววาง อ่านแล้ววาง
คิดแบบนี้ก็เลยทิ้งช่วงแล้วเก็บอ่านทีละหลายตอน...ปวดหัวกะความเรื่องมากเนาะ ^^"
เอาเป็นว่า FC ไม่ได้หายไปไหน...วนไปวนมาอยู่ใกล้ๆ นี่ล่ะ...ไปอ่านตอนที่ยังไม่ได้เก็บก่อนละนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 25-04-2014 00:04:35
ค่อยๆใช้หัวใจเรียนรู้กันไปเรื่อยๆเนอะ เป็นทั้งครู พี่ชาย เพื่อน อ๊าาาา อิจฉาข้าวพองสุดๆ เอารางวัลชมเชยไป ก่อน 555 ไอรีนนี่เองตัวร้าย นำนัองเราไปในทางที่ผิด ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับตัวเองด้วยนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 25-04-2014 07:28:29
ชอบตอนนี้
เพราะมีพี่เกียชี้ให้เห็น
ข้าวพองคล้ายจะเห็นโลกชัดขึ้นนิดนึงแหละ
ยับยั้งชั่งใจน่าจะมากขึ้นนะคนเก่ง
แต่ไทนี่เค้า...
 :z3: :z3: :z3:
แงๆๆๆ
 :hao5:

และที่ชอบอีกอย่างคือ เกียไม่อยู่
555
ข้าวพองตอนเมื่อกี้บอกไม่รัก จะไปไหนก็ไป โทรบอกใครต่อใครให้ไล่ออกด้วย
อันนี้แมวจ๋อยอย่าแอบคิดถึงพี่ล่ะ

 :hao3:
บวกและเป็ดขอบคุณ
รออ่านตอนต่ออยู่
 :mew1:
ให้.น้ำชา.
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 25-04-2014 11:10:46
สงสัยจัง.... ตัวเกียเองก้อสับสน ลังเล ระหว่างหน้าที่กับหัวใจ
ที่ชอบ คือ เกียมีจิตวิทยาในการสอนข้าวพองให้รู้จักการใช้ชีวิตมากขึ้น
แต่งงกับพฤติกรรมของไทนี่ ส่วนไอรีนคิดว่าอยากปอกลอกข้าวพองมกกว่า
และผู้ต้องสงสัยอีกมากมาย นิรมลก้อแปลกๆ   ไม่เดาแล้วรออ่านดีกว่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 25-04-2014 15:26:53
ตอนนี้ข้าวพองเป็นเด็กดี น่ารัก สมควรแก่การได้รับรางวัลจ้า
ไทนี่ นี่แบบยังไงจริงป่ะ แต่ดูนิ่งมากอ่ะ

งื้อออออ ทำไมตอนสุดท้ายมัน......... เจ็บ!!!
มันต้องมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ เชื่อสิ :ling3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 25-04-2014 19:12:25
จะสงสารไทนี่  ก็รู้สึกได้ไม่เต็มที่  เพราะเกียมาจุดประเด็นบางอย่าง
คือแบบทั้งเรื่องเนี่ย  ไม่กล้าไว้ใจใครจริง ๆ

อ่านช่วงแรก ๆ เกียกับข้าวพองดูมุ้งมิ้งกันเชียว
แต่พอมาถึงตอนท้าย  ไหงหน่วงอย่างนี้เนี่ย
เกียถึงจะเป็นผู้ใหญ่แต่พอเป็นเรื่องแบบนี้ ก็มีสับสนเหมือนกันเนอะ
ก็ได้แต่หวังว่าเกียจะมีทางออกดี ๆ ให้ทั้งตัวเองและน้องนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 25-04-2014 22:16:24
เอาข้าวพองกลับไปอังกฤษด้วยเลย  :-[
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 26-04-2014 09:05:27
ไอรีนเลวอ่ะ บอกเลย พองยังเด็กอยู่เลย มาชักนำให้ลองยาได้ไงฟร่ะ ตอนแรกนึกว่าพองลองเองซะอีก เลวๆๆๆๆๆๆๆ

ไทนี่ก็ไม่รู้ยังไงกันแน่ ดูมีลับลมคมในพิกล ไม่รู้มาดีหรือมาร้าย ใสซื่อหรือมารยา น่ากลัวอยู่นะเนี่ย

ยังดีที่พองไม่ค่อยพยศเท่าไหร่แล้ว ดูจะไว้ใจเกียมากขึ้นด้วย เกียอย่าทำให้น้องเสียใจนะ สงสารน้องอ่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-04-2014 23:41:58
วิ่งตามมาอย่างรวดเร็วหลังจากติดคุก(กี้)อยู่นาน ได้ฤกษ์อ่านนิยายซะที ฮ่ะๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 10 หน้า 9(24 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 27-04-2014 06:56:35
พี่เกียคะ อะไร ยังไง คือจะทำให้น้องหลง น้องรัก แล้วพอเสร็จงานก็จะหนีกลับเหรอ ใจร้ายที่สุด

แต่ระดับข้าวพองแล้ว พี่คงไม่รอดมือ คอยดูกันต่อไป

ส่วนเรื่องถูกข่มขืนเนี่ย มันน่าสงสัยจริงๆด้วย
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 27-04-2014 09:19:38
ตอนที่ 11

นายมลรัฐ หรือข้าวพอง ไม่ใช่เด็กเรียนแน่นอน และแน่นอนว่าการเดินเข้าห้องสมุด หรือการค้นคว้าหาข้อมูลใดๆ ก็ตามจากอินเทอร์เน็ตย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในสมอง
ตอนนี้ ไม่ได้คิดจะทำรายงานเลยสักนิด แต่กลับต้องเดินเข้าห้องสมุด
ห้องสมุดยุคใหม่หนังสือมากกว่าร้อยละ 80 เป็นหนังสือที่แทบไม่มีรอยช้ำ เว้นแต่คอมพิวเตอร์ที่ตั้งเรียงรายอยู่กลางห้อง ที่มีคนใช้งานอยู่เต็ม
ข้าวพองเดินตรงไปที่โต๊ะริมหน้าต่าง วางสมุดรายงานที่เย็บเล่มเรียบร้อยแล้วลงที่หน้าสาวสวมแว่น สองเปีย แต่หนุ่มคนที่นั่งข้างๆ หันมามองหน้า อ้าปากพูดไม่มีเสียงว่าเสร็จแล้วหรือ
ข้าวพองพยักหน้า
รายงานกลุ่มเล่มนี้ข้าวพองมีหน้าที่เดียวคือเอาไปเย็บเล่ม
เด็กสาวกระซิบถาม
“พองเอาออกไปเย็บเล่มข้างนอกโรงเรียนหรือ”
“อือ” ข้าวพองบอกแล้วเดินกลับออกมา โดยมีหนุ่มสาวคู่นี้เดินตามออกมาด้วย
ทันทีที่พ้นกรอบประตู หนุ่มตัวสูงก็รีบพูด
“ที่จริงไว้ส่งพรุ่งนี้ก็ได้”
“เย็นนี้เราจะไปบ้านไทนี่น่ะ”
“ไทนี่เป็นอะไร” ฝ่ายหญิงสาวถามพลางขยับแว่น “เกี่ยวกับที่บ้านเขาหรือเปล่า”
“เปล่าหรอก” ข้าวพองบอกขณะที่เดินเรื่อยๆ กลับไปที่ห้องเรียน
“งั้นแป๋มไปด้วย” หญิงสาวดึงมือข้าวพองไว้
“ไปไหน ไปบ้านไทนี่น่ะเหรอ” ข้าวพองถาม เพราะที่ผ่านมา คู่แฝดป๋อมแป๋มไม่ค่อยได้สนใจความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ มากนัก

หนุ่มแฝดพี่ชื่อป๋อม ส่วนสาวแว่นคือแป๋มแฝดน้อง คู่แฝดเด็กเรียนของห้อง ทั้งคู่มีแผนจะไปเรียนต่อที่อเมริกาตั้งแต่ชั้นม.ปลาย แต่เนื่องจากปู่กับย่าเสียชีวิตในอุบัติเหตุร้ายแรง ทำให้ไม่ได้ไปเรียนต่อตามแผนที่วางไว้ ทั้งจะไปสอบเข้าเตรียมอุดมฯ ก็ไม่ทัน ทำให้ยังต้องเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ต่อไป
เท่าที่ข้าวพองรู้ก็คือ คู่แฝดคู่นี้เป็นประเภทเก่งสุดยอดจะเรียนที่ไหนก็ไม่เห็นว่าต่างกันตรงไหน
คนจะเก่งอยู่ที่ไหนก็เก่ง
แต่พ่อกับแม่ของแฝดมักจะบ่นเสียดายโอกาส
ส่วนเรื่องนิสัยไม่ค่อยยุ่งกับใคร แฝดคู่นี้อาการหนักกว่าข้าวพอง
ดังนั้นพอจู่ๆ ก็มาบอกว่าจะตามไปบ้านไทนี่เด็กใหม่ของห้องแบบนี้ ข้าวพองก็เลยแปลกใจ

“ไปได้มั้ย” แป๋มถามซ้ำ
“คงได้มั๊ง” ข้าวพองไม่แน่ใจ เรื่องที่เกิดขึ้นกับไทนี่ มันสมควรให้เพื่อนๆ รู้ด้วยหรือเปล่า คงต้องถามเกียดูก่อน
แป๋มทำหน้าตาแปลกๆ “ทำไมต้องมั๊งด้วยล่ะ ไทนี่ก็เพื่อนแป๋มเหมือนกันนะ”
“รู้แล้วน่าว่าเพื่อนกัน เดี๋ยวนะ” พองบอกขณะที่กดโทรศัพท์หาเกีย

คนนี้ก็อีกคน ที่ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตมากขึ้น ไม่รู้ทำไมถึงต้องไปเชื่อคำพูดของเขามากนัก
คนที่เดินเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการไปเสียทุกอย่าง
ออกคำสั่งตลอดเวลา
กำหนดเงื่อนไขไปทุกเรื่อง
และ....มีจูบอ่อนหวาน  มีอ้อมกอด และสัมผัสที่ชักจูงให้ต้องการมากขึ้นกว่าเดิม แล้วก็หยุดมันไว้ ให้ยิ่งต้องการมันมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

“ครู มีเพื่อนจะตามไปบ้านไทนี่ด้วยน่ะ ไปได้มั้ย”
ข้าวพองบอกทันทีที่เกียกดรับสาย …ก็ตอนนี้มีเพื่อนอยู่ใกล้ๆ เรียกชื่ออีกฝ่ายมันจะดูไม่ดีใช่มั้ยล่ะ
“เขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับที่ไปเที่ยวด้วยกันหรือเปล่า” เกียถาม
“ไม่หรอก แฝดป๋อมแป๋มน่ะ เนิร์ดเกรดเอทั้งคู่”

ไม่เพียงแต่ไม่เที่ยว คู่นี้ยังแอนตี้นักเที่ยวทุกคน –ยกเว้นข้าวพอง- ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ที่ทำให้พี่น้องคู่นี้ ยังคุยกับข้าวพองทั้งที่รู้ว่าหนุ่มคนนี้ทั้งเที่ยว ดื่ม และใช้ยา
คนประหลาดมักถูกชะตากับคนประหลาด

“ไปได้สิ” เกียบอก
“แล้ว...ต้องบอกเขาเรื่องไทนี่ก่อนหรือเปล่า”
“ไว้บอกตอนอยู่ในรถก็ได้ พี่จะได้คุยด้วย”
“อือ”

ข้าวพองกดโทรศัพท์  เข้าใจว่าเกียต้องการบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คู่แฝดฟังด้วยตัวเอง
แล้วก็รู้ด้วยว่า เกียชอบเรียกตัวเองว่าพี่มากกว่าคำอื่นๆ
...ใจก็อยากเรียกอย่างนั้น แต่เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ใจมันก็ให้พื้นที่กับคนๆ นี้มากเกินไปจนกลัว..
....กันที่ไว้เล็กๆ ตรงที่ให้เป็นครูบ้าง เป็นการ์ดบ้างแบบนี้ไปอีกสักพักเถอะนะ...

“....พอง....”
ป๋อมเรียกคนที่เอาแต่จ้องมองโทรศัพท์ในมือ
“ครูของพองเขาไม่อยากให้เราไปหาไทนี่เหรอ”
“เขาให้ไป แต่บอกว่าเดี๋ยวเขาจะคุยกับเธอ 2 คนก่อน”
“แบบนี้แสดงว่าไทนี่มีเรื่องแหงๆ” แป๋มบอก
ข้าวพองพยักหน้า
“แล้วทำไมพองเล่าให้ฟังไม่ได้ล่ะ” แป๋มซัก
ข้าวพองได้แต่ทำสีหน้ายุ่งๆ อยากเล่าอยากบอกเหมือนกัน แต่จะให้บอกว่า ไทนี่เมายาแล้วโดนใครไม่รู้ข่มขืนงั้นหรือ
เพราะเท่าที่จำได้ บรรดาคนที่อยู่ในบ้านเพื่อนวันนั้น ก็ล้วนแต่คนรู้จัก แต่ก็นั่นแหละ พอไปเจอไทนี่ แล้วกลับมาบ้านตัวเอง ก็กลับเกิดความคิดเข้าข้างเพื่อนๆ ของตัวเองขึ้นมาว่า บางทีคนที่ทำร้ายไทนี่อาจไม่ใช่เพื่อนก็ได้
เดินมาถึงตึกเรียน เพื่อนต่างห้อง ที่อยู่ในกลุ่มที่ไปเที่ยวด้วยกันเมื่อคืนทักทาย แล้วเข้ามากอดคอ
“วันก่อนมีผู้ปกครองมารับกลับบ้านหรือพอง”
“งั้นแหละ”
“ไรวะงั้นแหละ” ไมเคิลคนที่ตัวโตที่สุดในกลุ่มถามด้วยรอยยิ้มกวนตีน
“ก็กูเมา จำได้แต่นั่งคุยอยู่กับเบซซี่ ตื่นมาอีกทีอยู่บ้านละ” ข้าวพองเล่าไปเรื่อย ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเพื่อนเนิร์ด 2 คนกำลังมองหน้ากันด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ  แล้วเดินไปรออยู่ห่างๆ 
ขณะที่แขนหนายังคล้องคออยู่ ไมเคิลก้มลงกระซิบ “ยาตัวใหม่ที่ไทนี่เอามา จะเอาไปใช้กับเบซซี่ก็ได้นะ”
ข้าวพองหันไปมองหน้าไมเคิล ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อนาทีก่อน เกียเพิ่งพูดอะไรที่คล้ายๆ กับให้ระมัดระวังคำพูด ก็คงจะถามคำถามออกไปทันที
แต่ตอนนี้ได้แต่ขมวดคิ้วคมไว้แน่น ซึ่งมันก็ทำให้ไมเคิลและกลุ่มเพื่อนหันไปหัวเราะกัน
“หรือระดับนายไม่ต้องใช้ เพราะเล่นกับสาวรุ่นน้าจนเชี่ยวแล้ว”
“เฮ่ย ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า” ข้าวพองหันไปมองแป๋มที่กำลังหันไปมองทางอื่น
“กูต้องเอารายงานไปส่งอาจารย์”
เพื่อนตัวใหญ่ตบไหล่บาง “เออ ไว้กูจะโทรหา”

อย่างที่คาด แป๋มถามทันทีที่เดินเข้าไปหา
“ข้าวพองยังใช้ยาอยู่อีกเหรอ”
ข้าวพองไม่ตอบ แต่เดินนำไปที่ตึกเรียน
ขณะที่แป๋มหันกลับไปมองไมเคิลและเพื่อนๆ ด้วยสายตาร้ายกาจจนป๋อมต้องดึงมือให้เดินตามมา
“อย่าไปยุ่งกับพวกเขา”
“ก็ไม่ชอบ มีสมองอยู่ดีๆ ก็ทำให้มันเสียหายด้วยความโง่”
แป๋มบ่นต่อโดยไม่สนใจท่าทีของพี่ชายกับข้าวพองเลยสักนิด

เลิกเรียนเกียและธีระก็มารอรับเหมือนเคย
ป๋อมกับแป๋มยกมือไหว้เกีย แล้วแป๋มก็เริ่มยิงถามคำถาม
“ไทนี่เป็นอะไรคะ”
“คุยกันในรถดีไหมครับ” เกียตอบยิ้มๆ
สาวคนนี้ท่าทางเอาเรื่องไม่ต่างจากหญิงสาวอีก 2 คนใกล้ตัวข้าวพอง จนชักสงสัยว่า พวงเพชรกับเพชรแท้ แม่กับพี่สาวที่จากไปแล้วของข้าวพองเป็นคนแบบไหน

เมื่ออยู่ในรถ ก่อนที่จะเล่าเรื่องของไทนี่ เกียสอบถามเรื่องของป๋อมกับแป๋มก่อน เพราะเท่าที่เคยมารับ-ส่ง เคยเห็น 2 คนนี้ก็จริง แต่ก็อยู่ในระยะไกล
ทั้งคู่เรียนที่เดียวกับข้าวพองมาตลอดเวลา 6 ปี แต่ก็กลับรวมกลุ่มกันเฉพาะตอนที่ทำรายงานเท่านั้น
สายตาที่เต็มไปด้วยคำตำหนิของเกียเมื่อมองข้าวพองทำให้ป๋อมต้องรีบทำความเข้าใจ
“ข้าวพองเขาโลกส่วนตัวสูงน่ะ”
“สูงมากๆๆๆ หยั่งกับเอเวอร์เรสต์” แป๋มเสริม
ข้าวพองโบกมือ “เออ”

…ไอ้แฝดเจ้าปัญหาคู่นี้ก็พวกโลกส่วนตัวสูงและไม่ค่อยสนใจใครเหมือนกันน่ะแหละ แต่ข้าวพองเกิดอาการขี้เกียจเถียง...

ป๋อมพูดต่อ “ข้าวพองเป็นพวกกรุ๊ปเอไง โลกส่วนตัวสูง ปากจัด รักจริง”
คนตัวเล็กหน้าร้อนผ่าวหันไปมองนอกหน้าต่าง จนคู่แฝดแอบกระทุ้งข้อศอกแบบรู้กัน แล้วหันมาถามเกีย
“เราแนะนำตัวไปแล้ว ครูบอกเราได้หรือยังว่าไทนี่เป็นอะไร”
“ไทนี่คิดว่าเขาโดนข่มขืน”
ป๋อมถาม “หมายความว่าไง คิดว่าโดนข่มขืน”
“เขาใช้ยา แล้วตื่นขึ้นมาโดยไม่มีเสื้อผ้า มีคนนอนอยู่ข้างๆ แล้วเขาก็กลับมาที่ห้องพร้อมกับบาดแผล” เกียสรุปเรื่อง จนข้าวพองต้องหันมามองหน้า
“ไม่มีใครรู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ครูไม่รู้ว่าเขาใช้ยาอะไร แล้วยาเสพติดแต่ละชนิดก็ออกฤทธิ์ไม่เหมือนกัน”
“ครูจะบอกว่า ไทนี่อาจเป็นฝ่ายชวนก็ได้งั้นเหรอ” แป๋มถาม
“ไทนี่ 18 หรือยัง” ป๋อมหันมาถามเพื่อนอีก 2 คนที่พากันส่ายหน้า “คงไม่หรอก เรายังไม่ได้เข้ามหา’ลัยกันนี่นะ”
“โห เบซซี่ที่ข้าวพองจีบอยู่ก็เพิ่ง 16 เองมั๊ง” แป๋มพาออกนอกเรื่อง จนข้าวพองต้องส่งเสียงเตือน
มีธีระที่ทำหน้าที่ขับรถและฟังเรื่องส่งเสียงหัวเราะ ทำให้แป๋มรีบหาพวก
“ข้าวพองนี่แหละ บุคคลสำคัญเลยแหละ ส่งยิ้มหวานให้สาวๆ ไปทั้งโรงเรียน ขนาดพี่คนนั้นไม่ได้เป็นครูแล้ว ยังแวะมาหาอยู่เรื่อยๆ”
“จะถามเรื่องไทนี่ไม่ใช่หรือไง” ข้าวพองเตือนให้กลับมาเรื่องเดิม อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองคนตัวโตที่เบาะด้านหน้า
เกียหันมาบอกกับ 2 หนุ่มสาวอีกครั้ง “ในฐานะที่เราเป็นเพื่อน ใครชวน ใครเริ่มเราไม่ได้ให้ความสำคัญมากไปกว่าการที่ เมื่อได้สติแล้วไทนี่คือคนที่ถูกทำร้ายมา เราก็ต้องตกลงกันว่า เราจะไม่ไปซ้ำเติมเขาเรื่องนี้”
ป๋อมชี้มาที่แป๋มทันที “ครูเตือนคนนี้เลย ชอบพูดมาก เมื่อเที่ยงก็ไปทักเรื่องยาต่อหน้าพวกไอ้ไมเคิล สักวันจะโดนมันแอบยัดยาบ้าให้”
เกียหันไปมองสายตาของข้าวพอง แต่กลับถามพี่น้องคู่แฝด
“ที่โรงเรียนใช้ยาเสพติดกันเยอะมั้ย”
“ไม่หรอก” ป๋อมบอกตามตรง “เขาเป็นกลุ่มของเขาน่ะ เราไม่ยุ่งกับเขา เขาก็ไม่ยุ่งกับเรา”
แต่แป๋มพยักหน้า “มีก็คือมี แล้วมันก็ทำให้คนอื่นเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่จะใช้ยา เคยมีคนเสนอขายยาให้แป๋มด้วย”
เกียหันมาให้ความสนใจทันที สาวแว่นหนาเล่าต่อ
“มันมียาอยู่ตัว พวกไมเคิลมันบอกว่า กินแล้วจะทำให้อ่านหนังสือแล้วจำได้ดีขึ้น แมทธิวไอ้เด็กเกรดเอเหรียญทองนั่น ใช้ยาแล้วอ่านหนังสือรวดเดียว 10 เล่ม 2 วัน 2 คืนไม่หลับไม่นอน เดินเข้าห้องสอบเสร็จกลับบ้าน แล้วหลับรวดข้ามวันข้ามคืน”
คนตัวโตหันไปมองหน้าข้าวพอง ที่รีบโบกมือ “ไม่ต้องมองพองเลยนะ ยาที่ทำให้อ่านหนังสือได้แบบนั้นน่ะ มันคนละแนวกันอยู่แล้ว”
บุคลิกเข้มๆ ของเกียทำให้ป๋อมบอกทุกอย่างที่รู้ “กินยาเพื่อไม่ให้หลับ กินยาเพื่อให้จำได้ เสร็จแล้วก็กินยาเพื่อให้หลับ สลับกันไปสลับกันมา ป๋อมเองก็เคยคิดจะใช้อยู่เหมือนกัน เพราะอยากได้คะแนนเต็ม 100 แต่พอหันไปเห็นแมทธิวที่มันใช้หนักขึ้นเรื่อยๆ จนจะกลายเป็นตัวอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ ก็รู้สึกว่ามันน่ากลัว”
“แล้วก็มียาที่มันกินเวลาเที่ยวกัน ยาบ้าบออะไรไม่รู้ร้อยล้านชนิด” แป๋มช่วยเสริมให้เรื่องเว่อร์กว่าเดิมไปหลายเท่า
“ไม่ใช้ยาน่ะดีแล้ว” เกียรู้สึกเป็นห่วงหนุ่มสาว 3 คนตรงนี้อย่างจริงจัง “ยาเสพติดมีแต่จะทำลายตัวเราเอง”
“เหมือนแมทธิว แล้วก็ไทนี่ หว่องด้วย” แป๋มบอก ขณะที่หันไปมองป๋อมกับข้าวพอง
ข้าวพองดูเจื่อนไป แต่ป๋อมโวยวาย “ไม่ต้องมองมาทางนี้เลยนะ รุ่นนี้ฉลาดเองไม่ต้องพึ่งยา”

เมื่อถึงบ้านไทนี่ มีแม่บ้านออกมาเปิดประตูให้ ทั้ง 4 คนใช้เวลาเยี่ยมไม่นานนัก เมื่อไทนี่ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเหมือนในวันก่อน ทั้งบอกว่าพรุ่งนี้จะมาเรียน
ไทนี่รอจนกระทั่งข้าวพองอยู่ตามลำพัง ถึงได้บอกว่า ไม่อยากไปตรวจเลือด ข้าวพองเข้าใจความกลัวของไทนี่เป็นอย่างดี แต่ก็คิดในใจไว้ว่าจะต้องไปคุยกับเกียอีกครั้ง เพราะดูท่าทีแล้วเกียอยากให้ไปตรวจเลือดเพื่อที่จะได้ดูแลรักษาตัวเองให้ดี
เกียบอกให้ทำทุกอย่างไปตามขั้นตอน แต่ก็เข้าใจไทนี่ว่าทำไมถึงไม่อยากทำ
แล้วยังมีเรื่องที่ไมเคิลมันบอกอีก
...ยาของไทนี่...
ข้าวพองได้แต่เอากำปั้นเคาะหน้าผากตัวเอง
...ถ้าบอกเกียไปทั้งหมดที่รู้ เขาจะช่วยไทนี่ไหม เขาจะยิ่งมองว่าเราก็แค่เด็กติดยา แล้วเขาก็จะ....
ทำอย่างไรดีวะ!

ออกจากบ้านของไทนี่ ธีระขับรถไปส่งคู่แฝดถึงบ้าน แม่ของคู่แฝดออกมารอรับถึงหน้าประตู  เกียกับข้าวพองลงจากรถไปสวัสดีแม่ พูดจาทักทายอย่างเป็นทางการ ข้าวพองปรับความสนใจกลับมาที่สิ่งกำลังเห็นอยู่ข้างหน้า
...ไอ้เรื่องที่ยังคิดไม่ตกเอาไว้ก่อน แต่คนนี้น่ะ เขาจะทางการไปไหน
...ที่ผ่านมา จะแม่หรือพี่เพียง ไปประชุมผู้ปกครองหรืองานโรงเรียนเจอกับผู้ปกครองคนอื่นๆ ไม่เห็นมีใครเป็นทางการขนาดนี้ นี่ถ้ามาครั้งหน้า เขาจะแวะซื้อพวกผลไม้ หรือดอกไม้มาให้แม่แฝดเนิร์ดด้วยมั้ยน่ะ....
คุยกันได้สัก 2 นาที พ่อของแฝดเนิร์ดก็เดินออกมาทักทายอีกคน
....เออใช่...บ้านเราก็เป็นอย่างนี้นะ
.....ตอนที่ทุกคนยังอยู่กันพร้อมหน้า ทั้ง พ่อ แม่ จะพากันทำเป็นเดินผ่านเวลาที่พี่เพียง หรือพี่เพชรพาเพื่อนมาบ้าน มีแต่เรานี่แหละที่ไม่เคยพาเพื่อนมาบ้าน 
แต่บ้านของไทนี่ไม่ใช่
ทุกครั้งที่ไป มีแต่คนรับใช้เพียงคนเดียว
พอคิดถึงไทนี่ มันก็พากลับมาที่เรื่องที่คิดไม่ตก ต้องเตือนตัวเองว่า กลับมาที่บ้านป๋อมก่อน อย่าหยุดอยู่ที่บ้านไทนี่ อันนั้นมันท่าทางจะเกินแรง
ผ่านไปพักใหญ่ ข้าวพองเริ่มยุกยิกเพราะยุงที่เริ่มรบกวน  ทำให้แม่ของคู่แฝดต้องตัดบทส่งแขก แต่ก็ยังไม่วายพูดคุยฝากเนื้อฝากตัวต่อไปอีกเกือบ 5 นาที ข้าวพองถึงได้ขึ้นรถกลับบ้าน
“ท่าทางไม่น่าจะสนิทกับใครง่ายๆ เลยนะเนี่ย” ข้าวพองบ่นให้กับกระจกหน้าต่างรถ
เกียแค่หันมาหัวเราะแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

เข้าบ้านอาบน้ำ แล้วลงมากินข้าว ข้าวพองถามเกียว่าจะกลับไปนอนที่คอนโดฯ หรือเปล่า แต่เกียบอกว่าไม่
“ไทนี่ไม่กล้าไปหาหมอใช่มั้ย” เกียถาม
“อือ”
เกียเองก็เข้าใจความกลัวของไทนี่เหมือนกัน แต่ก็ยังต้องการให้ไปหาหมอ
“เรื่องไม่ได้เกิดกับตัวเองมันก็พูดง่าย” ข้าวพองบอก
“ข้าวพองรู้ได้ยังไงว่ามันไม่เคยเกิดกับพี่” เกียย้อนถาม
ดวงตากลมโตที่มองมาเต็มไปด้วยความสับสน
คนแบบเกียจะเคยโดนใครก็ไม่รู้ข่มขืนได้ยังไง หรืออาจเป็นเรื่องยาเสพติด.....
“เกียเคยโดนข่มขืนเหรอ”
พอเกียยิ้มมุมปาก ข้าวพองก็ชกไหล่หนาไปที “เกียแม่ง..”

จนกระทั่ง

“เกีย....”
“ครับ”
“เวลาที่เมายา ทุกอย่างมันมั่วๆ ไปหมดก็จริง” แล้วก็มีแต่คำถามกับความรู้สึกอึดอัดไม่ชอบใจ “แต่มีอยู่เรื่องที่ตอนแรกพองก็คิดว่าพองเพ้อไปเอง จนตอนที่คุยกับไทนี่วันนี้ ที่พองแน่ใจว่าพองไม่ได้เพ้อ”
หนุ่มตัวเล็กหันไปมองนอกหน้าต่างของห้องอาหาร ทำให้เห็นชัดเจนว่าแก้มใสแดงเรื่อ
“เกียบอกว่า เกียรักพองใช่มั้ย”
“ครับ” เกียไม่คิดที่จะปฏิเสธในเรื่องนี้อยู่แล้ว “และข้าวพองก็บอกว่า ไม่ได้รักพี่”
ข้าวพองหันมามองคนตัวโต แล้วพยักหน้า “ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รัก”
“ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ ไม่รักก็ไม่เป็นไร ขอแค่ข้าวพองต้องรักตัวเอง ดูแลชีวิตของตัวเองให้ดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและคนไม่ดีเท่านั้นเอง”

ข้าวพองมองหน้าเกียแล้วถอนหายใจหนัก
...ทำไมมันถึงยากนักนะ!..


*-*-*จบตอนที่11 *-*-*

วันก่อนมีเด็กสปอล์ยในเฟสว่า "ข้าวพองน่ะแหละตัวร้าย"  นั่นแหละ บอกมากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ ครับ
ขอบคุณทุกคำแนะนำ
ตอนต่อไปมาวันอังคารครับ
.ไจฟ์ครับ.
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 27-04-2014 09:38:40
วุ้ย  ไทนี่นี่ชักยังไง  รึตัวพ่อจะใช้ให้มาตีสนิทข้าวพอง  :hao7:

แต่ที่ว่าข้าวพองร้ายน่ะก็เห็นด้วยนะ  จะแค่ไหนก็ว่ากันอีกที

เพราะนายเกียเองก็เจ้าเล่ห์ใช่ย่อย....เหมาะกันที่สุด   :laugh:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-04-2014 09:48:30
ทำไมอ่านๆ ไป ไทนี่ดูไม่น่าเชื่อเลย 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 27-04-2014 10:19:42
ด้วยคน ไทนี่ดูแปลกไปนะหรือคิดไปเอง ส่วนเกียก็ชอบแกล้งน้องซะจริง คนน้องก็ท่าทางยุขึ้นด้วย 555 เริ่มหนัาสนใจขึ้นมาแลัวใช่มั้ย รอตอนต่อไปจร้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 27-04-2014 10:36:54
ชอบแฝดป๋อมแป๋มอ่ะ มีความคิดดี
"ข้าวพองอ่ะร้าย" -- ค่อยๆเผยมาแล้วกัน
จะได้เริ่มทำใจไว้ก่อนค่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-04-2014 11:14:09
ไม่อยากเดา ไม่อยากคิดไปเอง รอตอนต่อไปดีกว่า~
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-04-2014 11:20:51
ข้าวพองร้ายยังไงน้องที บอกหน่อย ๆ
ไทนี่หว่องเธอเป็นคนยังไงกันแน่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-04-2014 11:23:26
วันนี้ก็ยังไม่ได้อะไรมาก ยังสงสัยกันต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 27-04-2014 11:35:19
หนูจะร้ายแค่ไหนจัดมาให้หมดนะหนูพอง....
แต่ถ้าเจอพี่เกียร้ายคืนอย่าร้องไห้นะเออ.....
ใครจะร้าย   ใครจะเลว   ไม่แคร์ขอแค่มี
พี่เกียกับข้าวต้ม...เอ๊ย...ข้าวพอง ก็จบแบบ
Happy...555... :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 27-04-2014 11:54:13
"ข้าวพองน่ะแหละตัวร้าย" :m28:
เอาแล้วไง คราวนี้ตัวต้นเรื่องวกกลับมาที่ข้าวพองละ :hao4:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 27-04-2014 12:47:21
ร้ายจริงเหรอ ดูไร้เดียงสาออกนะ 
ตกลงเกียว่ายังไง รัก หรือ ไม่รัก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 27-04-2014 13:42:30
แอบสงสารไทนี่เล็กๆ แต่เพราะเค้าเป็นคนเอายามาให้เพื่อนเลยกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายตัวเองไปมากมาย.... :mew5:
แอบดีใจที่ข้าวพองรู้ว่าพี่บอกรักแล้ว ..แต่เพราะใช้ยาน้อยหรือเกียมาเร็ว หว่า?ไม่อยากเดา
เกีย ห้ามถอดใจ ห้ามหันหลัง ห้ามทิ้งน้องนะ เพราะน้องแค่เข้าใจผิดนิดหน่อย ก้อพร้อมเดินไปหายาทันทีเลยเห็นป่ะ
ดูแลหัวใจตัวเองให้ดีๆด้วย ห้ามให้บอบช้ำ.....ส่วนสุดทัาย ข้าวพองคิดว่ามากกว่าชอบเกียแล้วแน่ๆพยายามเรียนรู้ไปกับเกียนะจ๊ะ
 :pig4:
+ จ้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 27-04-2014 15:32:51
เอาจริงๆ นะ ยิ่งอ่านยิ่งมึน เดาทางไม่ออก...
แต่ถ้าในสังคมของเด็กสมัยนี้เหมือนในเรื่อง น่าห่วงจริงๆ
อันตรายรอบด้าน มีเพื่อนดีก้อดีไป ถ้ามีเพื่อนไม่ดี ชักจูงไปในทางไม่ดี
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 27-04-2014 17:58:38
ถึงข้าวพองจะร้ายยังไง  เกียก็รักใช่ไหมเอ่ย     :o8:
โชคดีที่พองมีป๋อมแป๋มเป็นเพื่อน  เด็กสองคนนี้น่าคบมากกว่าไทนี่อีกนะ
ส่วนเกียก็ได้ข้อมูลจากป๋อมแป๋มไปเยอะเลย  ในโรงเรียนของพองเนี่ย น่ากลัวกว่าที่คิดอ่ะ
ตอนท้ายน่ารักเบา ๆ เกียก็ชอบแกล้งน้อง  น้องก็แพ้ทางพี่
แล้วที่บอกไม่รักเกีย  ย้ำว่าไม่รัก  แต่เขินหน้าแดงมันแปลว่าอะไรน้อเด็กน้อย   ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 27-04-2014 19:31:45
ข้าวพองร้ายยังไงหนอ :really2:
อยากรู้ๆ คงต้องรอติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 27-04-2014 23:50:38
อ่านทันแล้วค่ะ :pig4:
เชียร์ว่าเมื่อคดีจบ น้องตัวร้ายตามล่าพี่เกียถึงลอนดอนเลยค่ะ
อะไรๆก็อ้างเรื่องงาน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 28-04-2014 07:50:26
ข้าวพองร้ายมะ
พี่เกียร้ายกว่า 555
ชอบพี่เกียช่วงนี้
ชอบที่เรียกตัวเองว่าพี่อย่างสบายๆ แล้วก็เต็มใจแบบนิ่งๆ มว้าก
น้องเลยรู้สึกเขินๆ เลยอะดิ
บวกและเป็ดขอบคุณ

ป๋อมแป๋มเจ๋ง
แต่ไทนี่ของเค้า
 :hao5:
เอาไทนี่เค้าคืนมาด้วย ห้ามลืม
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 28-04-2014 16:15:53
เพื่อนของข้าวพองจะเป็นคนไม่ค่อยดีซะส่วนใหญ่นะ
แต่เกียช่วยดูแลข้าวพองหน่อย ไทนี่ก็ดูไม่น่าไว้ใจ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 28-04-2014 23:00:03
ป๋อมแป๋มเจ๋งอ่าาาาาาาาาาาาาา โดยเฉพาะแป๋ม ได้ใจสุดๆ

รอบตัวพองนี่ไหงมีแต่คนไม่น่าไว้ใจเป็นส่วนใหญ่น้ออออออออออ

หนักใจแทนเกียชะมัดยาด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 11 หน้า 9(27 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 29-04-2014 08:33:14
ยิ่งอ่านยิ่งสงสัย ผู้ต้องสงสัยเต็มไปหมด แต่รักแป๋มจริงๆ เป็นสาวที่ตรงไปตรงมาและไม่กลัวใครมาก
หัวข้อ: "Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10(29 เมษา 57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 29-04-2014 09:26:33
ตอนที่ 12

ข้าวพองนั่งขีดเขียนรูปไปเรื่อยในระหว่างเรียน เดิมมันคือภาพตัวการ์ตูนจากหนังสือเล่มโปรด แต่หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นการขีดฆ่า กาทับ จนมั่วไปหมด
ป๋อมหันมามองภาพที่ข้าวพองวาด แล้วสังเกตสีหน้าเพื่อน รอจนหมดชั่วโมงเรียนก็หันมาถาม
“กลุ้มใจอะไร”
“ไม่มีอะไรนี่ กูยังเด็กกลุ้มใจไม่เป็นหรอก”
ป๋อมปาดท้ายทอยเพื่อนตัวเล็กไปที “สัด กูถามดีๆ”
“กูก็ตอบดีๆ แล้วไง” ข้าวพองยังขีดๆ เขียนๆ อะไรต่อไป
แป๋มหันมาเรียก 2 คนออกไปกินข้าวกลางวัน ป๋อมก็บอกให้ไปก่อน
“เป็นไรกัน 2 คนนี้”
“เรื่องของผู้ชาย ผู้หญิงไม่มีวันเข้าใจหรอก” ป๋อมเถียง
“เออ จำไว้นะ” แป๋มสะบัดหน้าพรืด แต่ยังไปยืนรออยู่หน้าประตูห้อง “เด็กผู้ชายเรื่องมากความลับเยอะ”
ไทนี่มองคนนั้นทีคนนี้ที แล้วถาม
“ทะเลาะกัน หรือกำลังคุยกันอยู่น่ะ”
“เราทะเลาะกันและคุยกันในเวลาเดียวกันไง” ป๋อมยักคิ้วคุยกับไทนี่
ก่อนที่ป๋อมจะแกล้งไทนี่เหมือนทุกครั้ง ข้าวพองก็เก็บหนังสือเรียนแล้วลุกขึ้น
“ไปกินข้าวเหอะ”
แป๋มผู้เป็นหญิงสาวเดินนำหน้า ตามมาห่างๆ คือชายหนุ่ม 3 คน โดยป๋อมกระซิบกระซาบคุยกับข้าวพอง
“เรื่องไทนี่เหรอ”
“ไม่ใช่หรอก”
“อ้อ งั้นเรื่องผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ”
ข้าวพองส่งสายตามองไทนี่ เชิงบอกกับป๋อมว่า ยังไม่อยากคุยต่อหน้าไทนี่

เรียกว่าต้องรอจนกระทั่งกินข้าวเสร็จ แล้วแป๋มจะเอาหนังสือไปคืนห้องสมุด ข้าวพองพยักหน้าชวนป๋อมไปแถวๆ ตู้หนังสือนิยายกำลังภายในฉบับภาษาจีน
...ทั้งข้าวพองทั้งป๋อมอ่านภาษาจีนไม่ออกด้วยกันทั้งคู่ แต่มันเป็นมุมที่ไม่ได้ลึกลับ ในทางตรงข้ามมันสามารถมองเห็นคนที่เดินเข้ามาได้ตั้งแต่ระยะ 10 เมตร
ไม่ต้องกลัวว่าใครจะแอบฟัง เพราะเราสามารถหยุดคุยกันได้ก่อนที่อีกคนจะเข้ามาใกล้
อาจารย์ห้องสมุดก็ไม่ได้เพ่งเล็งจุดนี้เป็นพิเศษ เพราะมันเป็นมุมเปิด

“มีอะไร” ป๋อมทำเป็นอ่านหนังสือในมือ
“วันที่กูเล่นยา แล้วไทนี่โดนข่มขืนน่ะ เกีย...ครูน่ะเป็นคนไปพากูกลับมา”
“อ่าฮะ” เรื่องนี้ป๋อมรู้แล้ว
“แต่ตอนเมายา กูก็พร่ำไปเรื่อย”

ป๋อมไม่เคยใช้ยา ไม่เคยลองทั้งบุหรี่และเหล้า แล้วให้มานึกภาพข้าวพองว่าเมายา หนุ่มตัวเล็กหน้าอ่อนเมายานี่มันยากเกินจินตนาการจริงๆ นะ …

“กูคุ้นๆ ว่าครูน่ะ บอกว่ารักกู”
ป๋อมหันมามองหน้าเพื่อน “มึงเพิ่งรู้เหรอ”
“อ้าว มึงมองออกนานแล้วเหรอ”
“ก็ไม่เชิง” ป๋อมยักไหล่ จนข้าวพองปาดท้ายทอยเพื่อนไปที
“สัดเหอะ เอาไงแน่”
“ที่มันเห็นชัดเจนมาตั้งแต่แรกก็คือเขาใจดีกับมึงมาก ถึงกูจะเพิ่งได้คุยกับเขาจริงๆ ตอนที่ไปเยี่ยมไทนี่ก็ตาม” ป๋อมหันมาถามเพื่อน “แล้วมึงกลุ้มใจที่เขาบอกรักน่ะนะ”

จากมุมมองของป๋อมที่เป็นเพื่อนกับข้าวพองมานานหลายปี ไม่รู้สึกประหลาดใจที่เกียจะเป็นครูพี่เลี้ยงอีกคนที่ชอบข้าวพอง

“ตอนแรกกูไม่แน่ใจ ก็ถามมั่วไป แล้วเขายอมรับ” หนุ่มตัวเล็กเล่าพลางพยักหน้า “แต่กูไม่ได้ชอบเขาแบบนั้น ทีนี้พอมารวมกับเรื่องของไทนี่ กูก็ว่าเขาก็ดีนะ มาช่วยเพื่อนกูอีก”
“แล้ว....”
“ถ้ากูจะขอให้เขาช่วยสืบเรื่องแม่กับพี่เพชร มันจะกลายเป็นกูหลอกใช้เขามั้ย”

ป๋อมเกาหน้าผาก คิดถึงปัญหาสารพัดที่คาใจของเพื่อน เพราะรู้จักกันมานานก็จริง เป็นเพื่อนเรียนห้องเดียวกันมาตลอดก็ใช่ แต่เพิ่งรู้ว่าเพื่อนติดใจเรื่องแม่กับพี่สาวถูกฆาตกรรม

“พ่อกับพี่เพียงน่าจะรู้”
“เขารู้ แต่เขาไม่สนใจ ทั้งไม่เคยพยายามเอาตัวคนร้ายมาลงโทษ แถมขายร้านเพชรแม่กู ขายคอนโดฯ พี่เพชรอีก”
“มันอาจมีอะไรที่มึงไม่ควรรู้” ป๋อมตั้งข้อสงสัย
“นั่นแหละ” ข้าวพองหันมามองหน้าเพื่อนตรงๆ “มันยิ่งทำให้กูอยากรู้”
ป๋อมครุ่นคิด “ถ้าจะขอให้ครูเกียช่วย กูไม่คิดว่ามึงหลอกใช้เขานะ แต่มึงควรพูดกับเขาตรงๆ ว่ามึงสงสัยอะไร บอกกับเขาไปเลยว่า ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่การไปโกหก หรือพูดความจริงครึ่งเดียวอะไรแบบนั้น”
“แต่กูเชื่อว่าเขาจะทำเรื่องนี้ เพราะเขารักกู”

คำแรกที่ข้าวพองพูดน่ะ ดูเป็นกังวล แต่รอยยิ้มที่มันตามมาหลังจากที่พูดจบไปแล้ว 1 วินาทีนั่นต่างหากที่ทำให้ป๋อมหัวเราะเสียงแปลกๆ ทั้งที่ก็คิดเหมือนกันว่า เกียจะต้องช่วยสืบเรื่องให้

“สัด ใช้คนที่หลงรักมึงทำงานให้ แล้วทำไมมึงถึงไม่อยากคุยเรื่องนี้ต่อหน้าแป๋มกับไทนี่”
“เพราะแป๋มต้องไม่เห็นด้วยน่ะสิ น้องสาวมึงน่ะตรงยิ่งกว่าไม่บรรทัด ส่วนไทนี่....” ข้าวพองเอียงคอมองหนังสือในมือ “ไม่รู้สิ มันแปลกๆ ว่ะ ทุกครั้งที่เราไปที่บ้านไทนี่ เกียจะทำท่าเครียดๆ คอยมองไปรอบๆ เหมือนกำลังหาอะไร กูก็หวาดระแวงตามไปด้วย”
“แต่เวลาที่อยู่โรงเรียนมึงไม่ระแวงใช่มั้ย”
“เออ”
“กูก็เหมือนกัน” ป๋อมพูดพ้อง ทำท่าทางเป็นเรื่องลึกลับมาก “แป๋มน่ะทักเรื่องไทนี่มานานแล้วว่า พ่อไทนี่เหมือนพวกนักเลงในหนังฮ่องกง แบบที่มันถือมีดเล่มโตๆ วิ่งไล่ฟันกันน่ะ แต่ทีนี้เราเจอเขาแค่ครั้งสองครั้งไง ส่วนไทนี่ที่โรงเรียนมันก็เอ๋อๆ โดนกูแกล้งอำทุกวัน ลูกมาเฟียที่ไหนจะโดนอำง่ายขนาดนี้วะ จนวันที่ไมเคิลมันพูดว่าไทนี่เอายามา แล้วมึงมาบอกว่ามันโดนข่มขืน แต่ไม่แจ้งความ อะไรหลายอย่าง มันทำให้ไม่ค่อยสนิทใจ”
..เพื่อนคนนี้มันแปลก...

“แล้วแป๋มว่าไงเรื่องไทนี่กับยาเสพติดน่ะ”
“ไม่ชอบเลยน่ะสิ” ป๋อมพยักหน้าไปทางไทนี่ที่กำลังเดินมาหา “ถ้าไม่ใช่เพราะกูกับมึง แป๋มมันไม่พูดด้วยแน่ๆ”
เมื่อไทนี่เข้ามาใกล้ ข้าวพองก็เปลี่ยนประเด็นการพูดคุย
“กูเคยเรียกเขาว่า หมาพิการ บอกว่าเขาเป็นคนหน้าเงินที่จะเข้ามาหลอกกู”
“แรงว่ะ” ป๋อมพูดแล้วเงียบ หันไปมองไทนี่ที่ถามแทรกขึ้นมา
“ใครเป็นหมาพิการ ใครหน้าเงิน”
“กูด่าครูแบบนั้นน่ะ”
ไทนี่ส่ายหน้า ทั้งที่มีรอยยิ้มแปลกๆ ที่มุมปาก “ด่าครู ตายไปตกนรก”  แล้วถามต่อ “ครูคนไหนเหรอ”
“เกียไง” ป๋อมบอก
ไทนี่ลากเสียงเข้าใจ “เขาพิการเหรอ”
“เขาเคยเป็นตำรวจแต่ยิงกับคนร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ต้องออกจากงานแล้วมาสอนพิเศษกูนี่ไง”
“ใช่จริงๆ ด้วย” ไทนี่พึมพำ
ป๋อมกับข้าวพองหันมามองหน้ากัน แล้วป๋อมเป็นคนถาม “บ่นอะไรของมึง”
ไทนี่ลูบท้ายทอย “ก็เพราะเขาเคยเป็นตำรวจไง ถึงได้อยากให้กูไปแจ้งความ”
“แล้วมึง...ไม่เป็นไรจริงๆ หรือ” ข้าวพองถาม เพราะไทนี่ในวันนี้ แตกต่างจากเมื่อวันที่พบเมื่อวันก่อนเหมือนคนละคน
“ที่จริงในใจมันก็ยังคิดอยู่นะ มันเกิดเรื่องแบบนี้กับกูได้ยังไง แล้วก็กลัวว่าจะมีใครทักหรือพูดขึ้นมา แต่ก็เชื่อว่ากูต้องผ่านมันไปได้”
“Strong Baby” ป๋อมบอกแล้วพาดแขนลงกับไหล่ของไทนี่ ที่รีบพยักหน้าเร็วๆ
“อันนี้กูรู้ว่ามันคืออะไร”
“มึงต้องรู้อยู่แล้ว ตี๋หว่อง” ป๋อมบอกขณะที่พาเดินออกมานอกห้องสมุด

ข้าวพองมองแขนของป๋อมที่วางพาดบนไหล่ของไทนี่ ทำให้คิดถึงคำที่เพื่อนเพิ่งพูดว่าไม่สนิทใจที่จะคบหากับหนุ่มฮ่องกงคนนี้
มันก็จริงนะ ตอนนี้ไทนี่ หว่องคือคนที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่างเด็กเที่ยวกับคนที่ถูกทำร้าย แล้วในส่วนของข้าวพองมันก็ยังมีความละอายใจที่คืนนั้นกลับมาก่อนในสภาพที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

“เพื่อนกันน่า...” ข้าวพองพึมพำ ทำให้แป๋มเงยหน้าขึ้นมาจากโน้ตสูตรฟิสิกส์ในมือ
….เดินท่องหนังสือสไตล์แป๋มไง....
“เพื่อนกันก็ใช่ว่าจะวางใจได้ทุกเรื่อง ข้าวพองเองยังไม่เล่าทุกเรื่องให้เราฟังเลย”
“อ้าว อะไรล่ะแป๋ม มาอารมณ์ไหน”
“อารมณ์ของคนที่เห็นว่าพี่ชายกับเพื่อนแอบคุยความลับกันที่ห้องสมุดน่ะสิ”
“ไรว้า แป๋ม เกิดจะเป็นสาวอะไรขึ้นมาตอนนี้” เพื่อนทำเฉไฉไม่บอกความลับ
“เหอะ” แป๋มทำเสียงขึ้นจมูก “ไม่ต้องเล่าให้ฟังก็ได้ เพราะสุดท้ายก็ต้องมาถามนางสาวแป๋มอยู่ดี”
…หนุ่มๆ พวกนี้น่ะ ไม่มีแป๋มจะทำอะไรสำเร็จสักเรื่องมั้ย...

เกียกับธีระยังคงมารอรับตรงเวลาเหมือนเดิม ส่วนหนุ่มสาว 4 คนทางนี้ก็ช้าเหมือนเดิมทั้งยังเดินเข้ามาจากด้านนอกโรงเรียน ทำให้เกียถึงกับกอดอกยืนตัวตรง
สาวแป๋มรีบพูดก่อน
“ข้าวพองเลี้ยงไอติม ค่าจ้างทำรายงานกลุ่ม”
ไทนี่พูดต่อ “เขาไม่ยอมโทรบอกครูว่าพวกเราออกไปข้างนอกกัน”
“ผู้ใหญ่ไม่กินไอติมหรอกเดี๋ยวเบาหวานขึ้น” ข้าวพองแก้ขำๆ
“Sweet Piss” ป๋อมบอกกับไทนี่ก่อนที่ข้าวพองจะแปลภาษาอังกฤษให้ฟัง
หนุ่มตี๋อ้าปากค้าง แล้วหัวเราะ “อันนี้กูรู้”
“เฮ้ย รู้ได้วะ” ป๋อมโวยวาย ขณะที่แป๋มส่ายหน้า
“เพราะมันแปลออกมาแล้วมันตรงกับความหมายในภาษาอังกฤษน่ะสิ” สาวเคร่งส่ายหน้า “เสียชื่อที่ 1 ของชั้นปีหมด”

...นั่นแหละ เห็นป๋อมเพี้ยนๆ ชอบแกล้งคนอื่นอย่างนี้ แต่ผูกขาดที่ 1 มาตลอด….
เป็นที่ 1 โดยไม่ต้องพึ่งยา ตรงข้ามกับแมทธิว นั่นเป็นที่ 1 เหมือนกัน...ด้วยยาเสพติด..

เกียยิ้มกว้างขณะที่มองหนุ่มสาว  4 คนเข้าไปนั่งเบียดกันอยู่ที่เบาะหลังรถ
“ธีระครับ วันนี้รบกวนอีกแล้วนะครับ” ป๋อมบอกกับธีระอย่างเป็นทางการจนโดนทุกคนโห่
“ไร’ เล่า พี่เขาต้องขับรถออกนอกเส้นทางไปส่งเรานะ” ป๋อมดุใครไม่ได้นอกจากน้องสาวตัวเอง
“ก็ป๋อมแหละ บอกที่บ้านว่าจะกลับเอง แต่สุดท้ายกลับมาขอกลับรถบ้านข้าวพอง”
“กลับด้วยกันได้ครับ” เกียบอก
“เออ ใช่” แป๋มนึกได้หันไปถามไทนี่  “ตี๋หว่อง ไปออสเตรเลียกับโรงเรียนหรือเปล่า”
แต่คนถูกถามกลับหันไปถามข้าวพอง “ไปหรือเปล่า”
“หึ” ข้าวพองทำเสียงขึ้นจมูก หันออกไปมองนอกหน้าต่าง
ป๋อมแทรกเข้ามาบอก “ข้าวพองไม่เคยไปเมืองนอก”
“ทำไมล่ะ” ไทนี่ถาม
“เพราะพ่อกับพี่เพียงประสาทน่ะสิ” ข้าวพองกระแทกเสียงใส่ พูดเรื่องนี้เมื่อไหร่ก็หงุดหงิดได้เมื่อนั้น
“อะไร” ไทนี่ยังไม่เข้าใจ
“ก็คือเขาไม่ให้ไปน่ะสิ” ข้าวพองบอก แต่ไทนี่ยังทำท่าไม่เข้าใจเหมือนเดิม
“ข้าวพองไม่เคยไปไหนเลยหรือ”
“เคย แต่เขาไม่ให้ไปกับโรงเรียน”
“ไม่เห็นจะเข้าใจเลย” ไทนี่บอกตามตรง

ธีระส่งคู่แฝดที่บ้าน ที่มีครูสอนพิเศษรออยู่ ตามมาด้วยบ้านของไทนี่หว่อง ที่มีคนรับใช้อยู่เพียงคนเดียว แล้วกลับมาบ้านหลังใหญ่

“วนรถส่งเพื่อน เสียเวลาฝึกยูโดไปกี่นาทีเนี่ย”
ข้าวพองพูดขณะที่เดินนำเข้าบ้าน
“เสียไปกี่นาทีไม่เห็นจะสำคัญ เพราะยังไงพี่ก็ฝึกเต็มเวลาอยู่แล้ว”
มีเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนที่เดินนำหน้า
“เกียแยกเรื่องส่วนตัว ออกจากเรื่องงานได้ยังไง”

อยากบอกว่า มันไม่เคยแยกจากกัน ที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ก็เพราะหัวใจล้วนๆ
แต่เมื่อจะต้องอธิบายสิ่งที่อยู่ในใจ เกียก็เลือกที่จะเก็บทุกคำและทุกสิ่งที่คิด  ข้าวพองก็รอจนถึงเวลาที่กำลังจะเข้านอนถึงได้หันมาถาม

“คุยเรื่องส่วนตัวได้หรือยัง”
เกียยิ้มจางๆ ขณะที่พยักหน้า “พี่ไม่ได้เข้มงวดขนาดนั้น”
“ก็เมื่อเย็นที่ถามไปทำไมไม่ตอบ”
“เพราะพี่ไม่รู้คำตอบ”
“อะไร” ข้าวพองทำหน้าตาไม่เชื่อ เจ้าหลักการแบบนี้ไม่รู้คำตอบได้อย่างไร
“งั้นพี่ถามข้าวพอง ไม่เคยไปเมืองนอกเลยหรือ”
ข้าวพองส่ายหน้า “ไม่หรอก พ่อกับพี่เพียงน่ะกลัวอะไรไม่รู้”
“พี่คิดว่าพี่รู้”
“อย่าบอกนะ ว่าเขากลัวเครื่องบินตก สถิติอุบัติเหตุเครื่องบินต่ำกว่ารถยนต์ไม่รู้กี่เท่า”
“นั่นมันก็จริง แต่เพราะเขาเป็นห่วงข้าวพอง”
หนุ่มตัวเล็กทำหน้าเหนื่อย “ขอเลยนะ ไอ้คำนี้น่ะ ห่วงแล้วจับพองใส่กรงไว้เลยปะ”
“ข้าวพองครับ”
“เออ ช่างเหอะ เลิกถาม เลิกตอบ ไปอ่านการ์ตูนดีกว่า”

*-*-*จบตอนที่ 12*-*-*

ตอนต่อไปมาวันพฤหัสบดีนะครับ
.ไจฟ์ครับ.



หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-04-2014 10:32:25
เรื่องคดีพี่สาวกับแม่ของข้าวพองนี่น่าสงสัยจัง
แล้วไหนจะที่พ่อไม่ยอมให้ข้าวพองขึ้นเครื่องบินอีก
แปลกจริงๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 29-04-2014 10:42:48
ไทนี่ก็ยังน่าสงสัยอยู่ดีนะ

และที่น่าสงสัยไม่แพ้กัน ก็คุณครูนี่แหละ
รอเรื่องที่ค่อยๆ เฉลยต่อไป

ปล. เข้าใจพ่อกับพี่เพียงนะ แต่ก็สงสารข้าวพองไปพร้อมๆ กัน เฮ้อ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 29-04-2014 10:49:06
พี่เกียรู้อะไร
อยากรู้ๆ
ทราบว่า Someday ตามชื่อเรื่องแต่...
 :z3:
ตอนนี้ป๋อมพระเอกมว้าก
บวกให้ป๋อม ส่วนเป็ดให้แป๋ม
ชอบฟิสิกส์นี่ล่ะได้ใจจ๊อดสุดๆ
ปล. ขอไทนี่ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-04-2014 10:50:36
ตอนนี้เกียบทน้อยแหะ ข้าวพองและผองเพื่อนจะทำตัวเป็นนักสืบรุ่นจิ๋วหรือไง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-04-2014 11:00:34
ใช่ๆ ไทนี่ไม่น่าไว้ใจ...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 29-04-2014 11:26:28
ข้อ 1 อ่านแล้วทำไมมันมองเห็นบรรยากาศ มุ้งมิ้ง ป๋อมกะไทนี่หว่า ??? :mew2:

ข้อ 2 ชอบป๋อมแระ ให้คำแนะนำดีมากกกก ป๋อมบอกข้าวพองเพิ่มอีกด้วยว่า อย่าโกหกหัวใจตัวเองด้วย    :mew1:

ข้อ 3 ขอบคุณคนเขียนครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 29-04-2014 11:29:37
ยิ่งอ่านยิ่งสงสัย ยิ่งอ่านยิ่งมีคำถามนะเนี่ย :ling3:
ความหวังอยู่ที่เกียคนเดียวเลยว่าจะเผยความจริงเมื่อไหร่

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 29-04-2014 11:51:46
เอ้า กำลังอ่านเพลินๆ จบซะละ :)

พ่อ เพียงกลัวอะไร คลาดสายตา? มาเฟีย?
รออ่านต่อนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 29-04-2014 11:52:32
โดยส่วนตัว ชอบ ป๋อม  แป๋มนะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 29-04-2014 12:01:44
ผู้ต้องสงสัยเยอะจัง
น่าสงสัยไปหมด เหมือนมีตัวหลอกให้เราเขว
:katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 29-04-2014 12:24:59
ไทนี่หลุดพิรุธนะ ตอนที่บอกเกียเคยเป็นตำรวจอ่ะ
นับวันยิ่งทำตัวน่าสงสัยจริงๆ

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-04-2014 12:43:53
แม้เกียจะบรยายความรู้สึก แต่ก็ยังมืดมนและเป็นปริศนาว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่

คงต้องรอคำตอบกันต่อไป. มันเขี้ยวข้าวพอง  :katai1:

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 29-04-2014 13:59:00
ยังไม่มีอะไรคืบหน้า  รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-04-2014 14:00:46
คนนอกก็น่าสงสัย คนในก็ไม่น่าไว้ใจ
ข้าวพองไม่ชอบเกียจริง ๆ เหรอ เพราะอะไร
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 29-04-2014 14:25:43
แอบสงสัยว่า ในตัวข้าวพอง มีเพชรอ่ะ
แต่มันเป็นจินตนาการแบบการ์ตูนเวอร์ไปนะ
ย๊าก!!! มันค้างคาใจ 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 29-04-2014 17:17:31
ิ่อ่านเรื่องนี้เเล้วสงสัยทุกคนเลยอ่ะ เเม้กระทั้งเกียก็รู้สึกลึกลับๆไงไม่รู้ หรือเพราะเกียมันจับผิดทุกคน เราเลยพลอยไม่กล้าไว้ใจใครในเรื่องไปด้วยเลย ๕๕๕
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 29-04-2014 17:52:56
ใช่จริงๆของไทนี่ มันใชรึเปล่า

ข้าวพองจะหลอกใช้เกีย ตกลงร้ายจริงๆใช่ไหม

ที่สงสารควรเป็นหมาพิการซินะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 29-04-2014 18:31:03
ชอบป๋อมนะ  ความคิดดูเป็นผู้ใหญ่ดี  ข้าวพองโชคดีที่มีเพื่อนคนนี้คอยให้คำปรึกษา
ข้าวพองแอบร้ายจริงด้วย  มีการจะใช้ความรักของเกียให้เกียช่วยสืบเรื่องแม่กับพี่ให้
ระวังเถอะ ใกล้ชิดเกียไปเรื่อยๆ จะหลงรักเกียเข้า ทั้งๆ ที่ปากบอกว่าไม่รักนี่แหละ  หุหุ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 29-04-2014 22:57:54
ไม่ใช่ว่าเกียก็แอบสืบเรื่องแม่กะพี่สาวพองอยู่แล้วเหรอ ดูเหมือนเรื่องนี้ก็คาใจเกีบอยู่เหมือนกันนิ

ไทนี่ก็ดูไม่น่าไว้ใจมากขึ้นทุกวันๆ ปกติคนที่ถูกข่มขืนเค้าฟื้นตัวเร็วขนาดนี้เลยเหรอ

โดยเฉพาะด้านจิตใจ ไม่มีหวาดระแวง ไม่มีอาการผวา หรือกลัวผู้ชายอะไรประมาณนั้น ไทนี่ดูปกติเกินไปหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 30-04-2014 00:11:11
ตามอ่านทีเดียวสี่ตอนรวด ปมยังอยู่แต่ก็เหมือนจะมีอะไรมากขึ้น
ไทนี่ร่าสงสัยมากๆ แต่ที่ว่าข้าวพองร้ายสุดนี่คือยังไงนะ 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 30-04-2014 07:14:48
มาช้ายังดีกว่าไม่มา 5555 สาธุ ขอให้ไทนี่เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร(ใครล่ะ555) ยิ่งอ่านยิ่งมีความรู้สึกสงสารตัวละครตัวนี้แปลกๆแหะ นี่ฉันบ้าไปแล้วเหรอ สงสารผู้ต้องสงสัย 555 รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
ปล ไอ้ชอบอ่านนิยายจีนนี่มันคุ้นๆแหะ 55555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 30-04-2014 15:19:32
หรือที่ไทนี่บอกว่าโดนข่มขืน มันไม่จริง ไทนี่แค่อยากทดสอบเกีย กะ ข้าวพองเฉยๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 30-04-2014 17:31:31
น่าสงสัยไทนี่ที่สุด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 30-04-2014 22:25:52
Some day we'll know!
ไม่อยากคาดเดา เพราะเดาทีไรไม่เข้าแก๊บสักที 555
ขอบคุณมากค่ะที่ทำให้ได้ฝึกสมอง  :katai1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 12 หน้า 10 (29เมษา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Tasaitatsu ที่ 30-04-2014 23:02:42
เพิ่งไล่ตามอ่านวันนี้จนถึงตอนล่าสุด
จากที่ทดไว้ในใจแค่ไม่กี่คน จนตอนนี้มันเริ่มงอกจะเป็นแผนผังละ
เริ่มจับจงโยงไปมาจนมันมั่ว 5555

ขออภัยที่ไม่ได้ออกความเห็นทุกตอน มาแค่ตอนแรกแล้วไปหายเพราะช่วงนี้งานมันรุมเร้า
พอแวะมาดูที่เล้าเห็นว่าไป12ตอนแล้ว ฮื้ออออ

เรื่องนี้มันสนุกตรงที่แต่ละคนค่อยๆเปิดตัวว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเพชรนี่แหละ
ต้องตามให้ได้และไล่ให้ทันด้วยนะ เดี๋ยวพลาด

ขอบคุณสำหรับทุกตอนที่ชวนให้ขบคิด :)

ปล. พี่เกียยยยยย มือไวไปไหมมมมมมมมม
แต่ยังไวไม่เท่าใจ ที่ไปตั้งแต่เห็นรูป ครึครึ

ปล.ที่2 ชอบเรื่องมาก เหมือนตัวเองกำลังนั่งดูซีรี่ย์สืบสวนสอบของต่างประเทศอยู่ :)
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-05-2014 16:10:12
ตอนที่ 13

ข้าวพองมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อนที่กำลังคุยอยู่ ไม่ใช่เพื่อนที่โรงเรียน ทั้งไม่ใช่กลุ่มของไมเคิลที่เคยชวนไปเล่นยา แต่เป็นเพื่อนอีกกลุ่มที่ไอรีนแนะนำให้รู้จัก เป็นเพื่อนเที่ยวกลางคืน ที่หัวข้อสนทนามีแต่หัวข้อ คืนนี้ไปไหนกันดี กับการโพสต์รูปที่สุ่มเสี่ยงเข้าข่ายอนาจาร และเรื่องเล่าที่ห้ามพ่อกับพี่เพียงรับรู้โดยเด็ดขาด

มาถึงตอนนี้ จะเป็นเพื่อนกลุ่มไหน ก็อยู่ในข่ายต้องห้ามทั้งนั้น จนเหลือแต่คู่แฝดเนิร์ด ที่ถึงจะรู้ว่าเป็นคนดีไว้ใจได้ แต่กลับเป็นคนที่กลับมาย้ำว่า เรามันไม่ได้มีดีเลยสักนิด...

มองนาฬิกาใกล้จะ 5 ทุ่มก็ปิดคอมพิวเตอร์ แต่พอเตรียมตัวจะเข้านอน เดินไปปิดไฟก็กลับเปิดประตูออกไปที่ห้องนอนอีกห้อง
แสงไฟที่ลอดจากใต้ประตูทำให้รู้ว่าเจ้าของห้องยังไม่นอน
ข้าวพองเคาะประตูเรียก

“ครับ” คนตัวโตเลิกคิ้วสูง “มีอะไร”
ข้าวพองก้าวเข้าไปในห้องนอน ที่ไม่มีอะไรที่บ่งบอกนิสัยของคนที่นอนในห้องนี้เลยสักอย่าง
“เกียอยู่ที่นี่มาตั้งหลายวันแล้ว ทำไมไม่เห็นมีของส่วนตัวเลยล่ะ”
“มีสิ เสื้อผ้า แปรงสีฟันในห้องน้ำนั่นคือของใช้ส่วนตัวของพี่”
ข้าวพองหันมาเงยหน้ามอง “เกียไม่อยากอยู่กับพองแล้วหรือ”

ลูกครึ่งตัวโตทำเสียงในลำคอ เพราะเมื่อสัก 2-3 สัปดาห์ก่อน หนุ่มคนนี้ยังพยายามไล่เขาออกจากบ้านอยู่เลย

“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะครับ”
“ก็เกียพร้อมที่จะไปจากที่นี่ตลอดเวลา”
“นั่นก็ส่วนหนึ่ง” เกียตอบความจริง “แล้วอีกส่วนก็คือวันอาทิตย์ พี่จะกลับไปนอนคอนโดฯ ข้าวพองมีอะไรหรือครับ”
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ข้าวพองทำท่าจะพูดบางอย่างแล้วเปลี่ยนใจ จะเดินออกไปจากห้อง
“ข้าวพอง ไม่สบายใจเรื่องอะไร”
“เรื่อง.....” ข้าวพองพูดแล้วเม้มปาก
“เรื่องมันใหญ่ถึงขนาดเล่าให้พี่ฟังไม่ได้หรือ”

เกียชอบเรียกตัวเองว่าพี่มากกว่าคำว่าผม หรือคำว่าครู พอเผลอทีไรก็ทำเนียนเรียกตัวเองแบบนี้ทุกที...

“มันก็คงใหญ่อยู่หรอก แต่มันคงไม่เหมาะที่จะเล่าให้คนที่บอกว่ารักเรา แต่กลับทำตัวเป็นคนอื่นแบบนี้ฟัง”
ข้าวพองชี้ไปรอบๆ ห้องนอน
เกียจับด้านหลังศีรษะเล็กๆ ดึงเข้ามากดนิ่งกับอกกว้าง
ข้าวพองเพียงปล่อย 2 มือไว้ข้างลำตัว
สัมผัสจากฝ่ามือใหญ่ที่ด้านหลังศีรษะ กลับให้ความรู้สึกอบอุ่น และ...ปลอดภัย....
เพียงแต่ตอนนี้คนที่อยู่ในอ้อมกอดกำลังคิดไม่ซื่อ
 
“พี่ไม่อยากทำตัวสบาย หรือแสดงท่าทางเป็นเจ้าของมากเกินไป เพราะมันจะทำให้ประมาท แล้วก็อาจทำให้เจ้าของบ้านอึดอัดใจ”
“ใครจะคิดอย่างนั้น”
“แต่งานพี่มักทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกอย่างนั้น”  เกียพาข้าวพองไปนั่งลงบนเตียง แล้วนั่งคุกเข่าลงข้างหน้า “ได้โปรดบอกพี่ ว่าอะไรทำให้ข้าวพองไม่สบายใจ”
“อังกฤษมาก” ข้าวพองพูดขำๆ ทำให้เกียต้องพลอยยิ้มตาม

ยอมรับว่า เวลาที่ต้องพยายามอธิบาย หรือพูดอะไรยาวๆ มักกลายเป็นประโยคทางการไปโดยไม่รู้ตัวทุกที
ข้าวพองยิ้มพราว เหมือนดวงตาวาวหวานที่มองสบตา ริมฝีปากแดงกับฟันสวย จู่ๆ ก็ทำให้เกียต้องหันไปมองทางอื่น

“เกีย”  ข้าวพองเรียกให้เกียหันกลับมามอง
“ครับ”
“พอง ตั้งใจฝึกยูโด ตั้งใจเรียน ไม่ได้ไปไหนกับไอรีนมาตั้งหลายวัน แล้วก็ไม่ได้ใช้ยาด้วย....”
“ดีแล้ว”
“แล้ว........”
เกียนึกสงสัยเคยพูดเรื่องที่จะให้รางวัลเป็นจูบ หากข้าวพองไม่ใช่ยาเสพติดอีก
ข้าวพองดูครุ่นคิด เมื่อพูดต่อไป “ถ้าพองจะเลิกคุยกับไอรีน แล้วก็เลิกใช้ยาตลอดไป เกียทำอะไรให้พองอย่างหนึ่งได้มั้ย”
เกียนึกขำตัวเอง ที่กลับไปคิดเรื่องที่จะเอาเปรียบอีกฝ่ายในเวลาที่เจ้าตัวกำลังไม่สบายใจ
“ถ้าไม่ผิดกฎหมาย พี่ยินดีทำให้ข้าวพอง”
“เรื่องคนที่ฆ่าแม่กับพี่เพชร”
เกียควบคุมสีหน้าให้เป็นปกติ ขณะที่ข้าวพองพูดต่อไป
“มันต้องเกี่ยวกับเครื่องเพชรของแม่ใช่มั้ย พ่อกับพี่เพียงรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่กับพี่เพชรเป็นใคร ทำไมเขาถึงปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปแบบนี้ ทำไมเขาไม่พยายามจับพวกมันเข้าคุก เกียทำเรื่องนี้ได้มั้ย”
“เรื่องไหนครับ หาสาเหตุหรือ...”
“พองอยากให้พวกมันเข้าคุก พวกมันต้องชดใช้ที่ฆ่าคน...ที่จริง....พองอยากให้เกียเป็นคนไปเก็บพวกมันด้วยซ้ำ”
“พี่ไม่ใช่มือปืนรับจ้าง”
“พองไม่ใช่เด็ก 3 ขวบนะ จะได้เชื่อว่าเกียฆ่าคนไม่ได้”
“ถ้าอยู่ในหน้าที่และเป็นเหตุสุดวิสัย เป็นผู้ต้องหาร้ายแรง พี่ทำได้ แต่ในเวลานี้ ถือว่าผิดกฎหมาย แล้วข้าวพองจะกลายเป็นผู้จ้างวาน”

อดีตนายตำรวจพูดตามหลักการ ทั้งที่เชื่อมั่นว่า หากต้องลงมือฆ่าใครสักคน จะไม่มีวันทำให้ข้าวพองได้รับความเดือดร้อนไปด้วย

“เกีย” น้ำเสียงของข้าวพองเต็มไปด้วยการอ้อนวอนร้องขอ
“ต่อให้คนที่ฆ่าคุณแม่กับคุณเพชรมายืนอยู่ข้างหน้า พี่ก็ไม่มีสิทธิ์ใช้อำนาจศาลเตี้ยฆ่าพวกเขา เราต้องเอาตัวเขาไปส่งตำรวจ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย”
“แต่พองไม่เชื่อ....”
“ข้าวพองครับ ถ้าทุกคนจัดการล้างแค้นกันเอง บ้านเมืองจะเต็มไปด้วยเหตุรุนแรง”
“งั้นเกียจับพวกมันเข้าคุกได้มั้ย”
เกียรับรู้ว่าข้าวพองยอมถอยแล้ว “พี่ไม่รับปาก เพราะคุณเพียงจ้างพี่มาดูแลข้าวพอง ถ้าการไปสืบเรื่องนี้ทำให้ข้าวพองตกอยู่ในความเสี่ยง พี่ต้องหยุด”
“แต่พวกนั้นมันฆ่าแม่กับพี่เพชรนะ ทำไมพ่อกับพี่เพียงถึงปล่อยให้พวกมันลอยนวลอยู่แบบนั้น”
“ข้าวพองรู้หรือครับว่าเป็นใคร”
ข้าวพองก้มหน้ามองเท้าตัวเอง แล้วส่ายหน้า “ไม่มีใครเล่าอะไรให้พองฟังสักอย่าง เพราะไม่รู้อะไรเลย พองถึงได้โมโห”
“พวกนั้นอาจมีอิทธิพลมากเกินกว่าที่เราจะไปต่อสู้ด้วย พ่อกับคุณเพียงถึงได้เลือกที่จะปกป้องข้าวพอง”
“แต่พองไม่ได้อยากได้รับการปกป้อง พองอยากให้คนที่มันฆ่าแม่กับพี่เพียงชดใช้” เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยมีน้ำตาปริ่ม “เกียบอกว่า รักข้าวพองใช่มั้ย แล้วตอนนี้ข้าวพองก็ทำในสิ่งที่เกียอยากให้ทำแล้วไง เกียทำให้ข้าวพองไม่ได้เหรอ”
เกียกอดหนุ่มตัวเล็ก ลูบแผ่นหลังบาง ขณะที่ผ่อนลมหายใจยาว “มันไม่ใช่เรื่องที่คิดจะทำก็สามารถลงมือได้ทันที”
“เกียเป็นตำรวจนี่นา เพื่อนก็ตั้งเยอะ ขนาดพี่เพียงยังรู้จักกับแอนดรูว์ แล้วพาเกียมาหาพองได้เลย แค่สืบเรื่องแค่นี้ทำไมจะทำไม่ได้” น้ำตาไหลเอ่อขอบตาคู่สวย “นะ เกียนะ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ถ้าเราสืบได้ แต่ตำรวจเขาไม่กล้าจับ ก็ขอให้ได้รู้ว่าเราพยายามแล้ว มันดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแบบนี้” ข้าวพองจูบที่มุมปากของเกีย “นะ เกียทำให้พองนะ”
“ครับ พี่จะทำให้ดีที่สุด”

ถึงข้าวพองจะไม่ร้องขอก็พร้อมที่จะลงมือทำอยู่แล้ว เพราะมันเกี่ยวเนื่องกับข้อสงสัยอื่นๆ ที่ล้อมรอบข้าวพองอยู่ตลอดเวลา
เพียงแต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องบอก และยังต้องตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าข้าวพองควรรู้เรื่องที่เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน

หลังส่งข้าวพองเข้าโรงเรียนในวันถัดมา เกียก็ไปคุยกับมโหธรที่ห้องทำงาน
“ข้าวพองมันโกรธผมหรือ ก็ควรอยู่หรอก” มโหธรถามเองตอบเอง “แล้วเกียรู้อะไรบ้าง บอกมันไปว่ายังไง”
“ผมรู้เท่าที่ปรากฏอยู่ในรายงานสอบสวน และผมตอบข้าวพองไปว่าจะทำให้ดีที่สุด”
หนุ่มนักธุรกิจใช้นิ้วหัวแม่มือขยี้ที่ขมับแรงๆ
“ถ้าตามสำนวนคดีตำรวจ ผมก็ไม่รู้ว่าจะให้ข้อมูลอะไรกับคุณได้อีก เพราะถ้าจะให้ชี้ตัวลงไปชัดๆ เลยว่าเป็นมันแน่ๆ มันก็กลับกลายเป็นว่าไม่แน่ใจ”
“งั้นผมถามเพื่อความแน่ใจ คุณเพียงคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องเพชรที่เป็นคดีความในศาลหรือไม่ครับ”
เกียเน้นคำว่า “คิด” และมโหธรก็ตอบโดยเน้นที่คำเดียวกัน “ผมคิด แต่ตำรวจไม่มีหลักฐาน”
เกียขยับนั่งตัวตรง “ขอโทษนะครับ คุณเคยไปพูดคุยขอความช่วยเหลือ หรือไปเร่งรัดคดีหรือไม่ครับ”
มโหธรยกยิ้มมุมปาก “ผมเลี้ยงข้าว ซื้อของขวัญให้ คัดเพชรในร้านไปให้เขา เพื่อที่จะได้ยินคำว่า กำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวน ให้ใจเย็นๆ และสุดท้ายคือคำว่า ไม่มีพยานที่สามารถชี้ชัดตัวมือปืนได้ แล้วก็ปิดคดี”
หางตาของอดีตนายตำรวจกระตุกวูบ จนมโหธรยังต้องยิ้มขำ “รู้เลยใช่มั้ยว่าทางตัน”
“มันไม่ได้มีทางเดียวที่จะคลี่คลายคดีนี้”
“ใช่ มันยังมีอีกหลายทางที่จะไปให้ถึงตัวบงการ แต่เมื่อตำรวจต้องการเดินทางเดิมๆ คือหาตัวมือปืน แล้วสืบไปหาผู้บงการ ผมกับพ่อถึงต้องเลือกที่จะคุ้มครองไอ้พอง”
“ข้าวพองรู้อะไรครับ”
“ผมบอกคุณไม่ได้” มโหธรบอกทันที
“แล้วข้าวพองควรรู้อะไร”
“ไม่ควรรู้อะไรเลย” มโหธรบอกทันทีเหมือนกัน “ผมไม่อยากให้เขารู้ ไม่อยากให้เขายุ่งเกี่ยวกับเรื่องเพชรของแม่ ทั้งที่......”
มโหธรหยุดพูดมองมือตัวเองบนโต๊ะทำงาน “แต่ถ้ามันอยากรู้ ก็บอกเท่าที่คุณเห็นในหนังสือพิมพ์น่ะแหละ”
เกียจ้องมองนายจ้างนิ่งๆ “แล้วที่ข้าวพองให้ผมตามคดีนี้ เอาตัวคนร้ายไปดำเนินคดีให้ได้”
มโหธรมีสีหน้ากังวลอย่างชัดเจน “ใช่ว่าผมจะไม่อยากเห็นคนที่มันฆ่าแม่กับน้องสาวผมรับโทษ แต่เกียก็รู้ว่าพ่อผมเป็นใคร ผมเป็นใคร เราไม่ได้ตัวคนเดียวมีพวกพ้องอยู่เหมือนกัน เลี้ยงคนในเครื่องแบบไว้เหมือนกัน แต่การที่ตำรวจยังหันหลังให้ มันทำให้ผมต้องเปลี่ยนแผน การตัดสินใจที่จะไม่เดินหน้าหาคนร้าย ไม่ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ”
เกียพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

“หน้าที่หลักของผมคือคุ้มครองข้าวพอง ผมสาบานแล้วว่าจะปกป้องเขาด้วยชีวิตของผม ส่วนเรื่องคดีผมจะทำให้ดีที่สุด”
มโหธรผ่อนลมหายใจยาว “ขอบคุณมาก ผมเชื่อที่เกียพูด ไม่ใช่เพราะว่าแอนดรูว์รับรองมา หรือเพราะประวัติ ไม่ใช่ที่เขียนๆ ไว้ในรายงานพวกนั้น แต่เพราะเกียทำให้ผมเห็นว่าสามารถดูแลน้องชายของผมเป็นอย่างดี”

และที่สำคัญก็คือ เกียไม่เคยถามเรื่องเครื่องเพชร หรือทรัพย์สินใดๆ มีแต่การทำหน้าที่คุ้มครองและสอนศิลปะการป้องกันตัวให้กับข้าวพองอย่างเคร่งครัด  แม้แต่ในการคุยกันตอนนี้ เกียก็ยังหลีกเลี่ยงที่จะถามถึง โดยเน้นไปที่เรื่องที่เกี่ยวกับตัวของข้าวพองเป็นหลัก
เดิมก็ไว้ใจ วางใจมากกว่าครูหรือคนคุ้มกันข้าวพองทุกคนที่ผ่านมา ตอนนี้ยิ่งเชื่อใจมากกว่านิรมลที่เป็นภรรยาเสียอีก

“ขอบคุณที่ดูแลน้องชายผมเป็นอย่างดี แต่ผมจะย้ำอีกครั้งว่า นั่นคือหน้าที่หลักของคุณ ส่วนเรื่องคดีน่ะ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น มันเป็นความระแวงของผมเองที่กลัวว่า ถ้ายิ่งสืบไปสืบมา แล้วเกิดมันไหวตัว หันกระบอกปืนใส่น้องผมขึ้นมาอีกคน....”
เกียรับคำสั่ง มโหธรพูดต่อ “ส่วนเรื่องพ่อผมพูดเอง ไม่ต้องกังวล”
"แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมขอร้อง"
"ว่ามา" มโหธรบอก
"แยกเครื่องเพชรทั้งหมดที่คุณมีอยู่ไปฝากไว้ในธนาคารมากกว่า 1 แห่ง แล้วเปลี่ยนรหัส กำหนดเงื่อนไขการเปิดเพิ่มเติม"
เจ้านายยิ้มมุมปากแล้วพยักหน้า



*-*-*จบตอนที่ 13*-*-*

ตอนที่ 13 แล้วหนอ ใกล้ 1 ใน 3 ของเรื่องแล้วเนอะ
ตอนต่อไปมาวันอาทิตย์ครับ
.น้ำชา.

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-05-2014 16:16:44
วันนี้วันพฤหัสฯ ปกติเห็นลงตอนเช้าทุกครั้ง วันน้ีก็คอยมาส่องเรื่อยๆ ดีใจที่ได้อ่านแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 01-05-2014 16:31:55
เดี๋ยวมาอ่านต่อค่ะ ไปซื้อข้าวเย็นแป๊บ ^^

...............

มันคนนั้นคือใคร ทำไมตำรวจเริ่มจะหันหลังให้มโหธร
แสดงว่าคนนั้นใหญ่กว่าใช่ไหม

เกียเหมาะกับหน้าที่นี้มาก และที่เกียแนะนำให้แยกฝากเครื่องเพชร
กับเปลี่ยนรหัสผ่านนั้นคุ้นพิกล เคยอ่านจากไหนไม่รู้ค่ะ นึกยังไม่ออก ^^

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 01-05-2014 17:05:48
มันต้องซับซ้อนกว่าที่คิดแน่เลย แต่ตอนนี้พองน่ารัก  :3123:

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 01-05-2014 17:27:05
ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 01-05-2014 17:30:36
ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
ติดตามกันต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 01-05-2014 17:50:20
ข้อ1 แผนAของนร. เริ่มแระ มีมารยาเท่าไหร่ใส่มาเล้ยย หารู้ไม่คุณครูซะอีก เจ้าเล่ห์กว่าเห็นๆ...แต่ก็นะ คุณครู หน้าที่กับหัวใจมันสามารถเดินไปพร้อมกันได้นะแค่ทำตามที่ใจเรียกร้อง  :mew2:

ข้อ2 เพชรที่หายถ้าอยู่กับข้าวพองจริง แสดงว่าเคยมีอุบัติเหตุสักอย่างแล้วพ่อกับพี่เลยได้เอาเพชรไว้ในตัวข้าวพองได้ #มโนอย่างไร้สาระ :mew5:

ข้อ3 นร.คิดว่าจะหลอกใช้ครู .. แต่ครูก็อึมครึมเหมือนจะหลอกครอบครัว นร. แฮะ ดังนั้น win-win ล่ะกัน  :mew4:

ข้อ4 นร.ยังไม่ร้ายยยยย น๊า ยังสงสารนักเรียนอยู่ ....ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 01-05-2014 19:07:04
เพชรเจ้าปัญหานั่นอู่ในตัวข้าวพองปะ...เดาๆไป  :katai1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-05-2014 19:20:49
อ่านๆไปข้าวพองเหมาะกับเกียเนอะ
เจ้าเล่ห์ทั้งคู่  :laugh:

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 01-05-2014 19:46:51
ยิ่งอ่านยิ่งสนุกอ่ะเรื่องนี้ ตัวละครเยอะ ซับซ้อนซ่อนเงื่อนครบรสดี

กลัวข้าวพองเป็นอันตรายจัง ตัวการเรื่องนี้คงเส้นใหญ่พอดูเลย ขนาดตำรวจยังไม่กล้าแตะแบบนี้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-05-2014 20:08:48
เหมือนคดีเพชรของประเทศอะไรสักอย่างที่ป่านนี้ยังมืดมน
ยังเดาไม่ออกว่าข้าวพองไปเกี่ยวอะไรด้วย พยาน หรือแค่หมากเอาไว้ขู่
เมื่อไหร่ข้าวพองจะเลิกเอาตัวเองไปเสี่ยงกับเพื่อนที่ไม่น่าไว้ใจเสียที
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 01-05-2014 22:09:09
งานนี้ต้องมาวัดกันละว่าครูกับนักเรียนใครจะหลอกใคร
ใครมันจะเจ้าเล่และร้ายกว่ากัน o8

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 01-05-2014 22:22:43
โอ้ววว ทำไมลึกลับขนาดนี้ ตัวการยังไม่แพลมอะไรออกมาสักนิด
แล้วเราก็อึ้งต่อไป เพียงกับเกียคุยกันสองคน คนอ่านยังมึนๆ เลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 01-05-2014 22:40:28
กำลังจะนอนขอแวะนิดนึง....พี่เกียมาแล้ว....
เดี๋ยวเราจะไปตาม 007 มาช่วยนะพี่เกียนะ....
รอวันอาทิตย์ต่อไป......
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 02-05-2014 01:22:30
ดรื่องเพชรนี่ต้องเกี่ยวกับข้าวพองแน่ๆ เพราะทางบ้านน้องไม่ให้น้องเดินทางด้วยเครื่องบิน รึคุณพ่อไม่อยากจะคืนเพชรเองน้า ถึงบอกวีาถึง 1ใน3 ของเรื่องก็เถอะ เรื่องไหนๆก็รู้คำตอบตอนจบอยู่ดี 5555 เอาชนะนิยายไจฟ์ที ไม่ได้เลยซักที ขอปรบมือให้เลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 02-05-2014 08:35:44
ข้าวพองน่ารักขึ้นจม
 :mew1:
พี่เกียก็ทางสดวกซิ
พี่กับน้องไฟเขียวขนาดนี้
แต่ถ้ามันรู้คงพุ่งมาเก็บพี่เกียก่อนใครแน่ๆ
ว่าแต่มันเป็นใครฟะ
 :z3:
บวกและเป็ดขอบคุณ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-05-2014 08:53:44
อ่านเพลินไม่อยากให้จบตอนเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 02-05-2014 10:17:03
โอ๊ยยย ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย???
ก็ต้องคลี่คลายกันต่อไป
แต่ข้าวพองอ้อนมากจริงๆตอนนี้ คริคริ

คุณเพียงก็เริ่มระแวงภรรยาเหมือนกันเนอะ
แบบอยู่ในจุดที่ไม่สามารถไว้ใจใครได้เลย เครียดดด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-05-2014 14:15:30
ดีนะที่เพียงเริ่มจะเชื่อเกียบ้าง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 02-05-2014 15:05:45
เหมือนเกียเชื่อในตัว พี่เพียง แต่สงสัยทุกคนที่เกี่ยวข้องกับข้าวพอง
กลยุทธ์ที่ดีเนอะ ที่เตือนให้แยกธนาคาร เปลี่ยนรหัส และเงื่อนไข
ตอนนี้ไม่คิดว่าเพชรอยู่ในตัวข้าวพองแล้ว มันดูการ์ตูนเกินไป
งั้นเอาแบบเอาเลือดของข้าวพองไปทาหัวสิงโตแล้ว ประตูลับเปิดแทน... กร๊ากกกกก
เห็นไหม คนอ่านนิยายมีจิตนาการล้ำเลิศมาก จากนิยายสืบสวน กลายเป็น Drama comedy
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 03-05-2014 09:30:20
แหม  ข้าวพองเริ่มอ้อนเกียนะจ๊ะ  พอจะขอให้เกียช่วยสืบเรื่องแม่กับพี่ให้
แบบมีการถึงเนื้อถึงตัวเกีย  อย่างนี้เกียชอบใช่มะ   :hao3:
ยิ่งอ่าน  ยิ่งรู้สึกว่าโชคดีที่ครอบครัวนี้ได้เกียมาเป็นครูนะ
เพราะข้าวพองดูจะปลอดภัยกว่าที่ผ่านมา  แถมคดีก็อาจจะคลี่คลายไปด้วย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-05-2014 10:27:16
ดูลึกลับซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เห้อออ
ข้าวพองอย่าเพิ่งดื้อน๊าา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 13 หน้า 11 (1 พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 03-05-2014 18:56:39
มาปูเสื่อรอตอนต่อไปค่ะ พรุ่งนี้ก็จะได้อ่านแล้ว อิอิอิ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 04-05-2014 09:10:54
ตอนที่ 14

นับจากวันที่เข้าไปออดอ้อน ขอให้เกียช่วยตามคดีของแม่กับพี่เพชร ปากมันก็อยากถามอยู่ทุก 5 นาที ว่ามีความคืบหน้าอะไรไหม คนร้ายคนนั้นมันเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหน พ่อกับพี่เพียงถึงได้ไม่กล้าต่อกร ยอมปล่อยให้แม่กับพี่เพชรตายฟรี แต่เพราะรู้ว่า การทำงานสืบสวนสอบสวนมันต้องใช้เวลา แล้วเกียก็ต้องอยู่เฝ้าเราตลอด 24 ชั่วโมงจะมีเวลาที่ไหนไปตามสืบคดีนี้
ที่สำคัญคือ ตอนนี้เกียไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว
มันต้องมีขั้นตอนอะไรไม่รู้เยอะแยะมากมาย ที่เกียจะต้องตรวจสอบจนกว่าจะมั่นใจสินะ

ข้าวพองขีดรูปอะไรไม่รู้ดูยุ่งเหยิงลงในสมุดจดงาน ป๋อมใช้ปากกาเคาะที่หลังมือเบาๆ ให้ข้าวพองรู้ตัว พลางพยักหน้าไปที่หน้ากระดาน
อาจารย์ประจำวิชายังคงบรรยายไปเรื่อยจนหมดชั่วโมง
“มึงนี่มีเรื่องอื่นให้คิดนอกจากเรื่องเรียนตลอดเวลา” ป๋อมบอก
“เออ” ข้าวพองยอมรับ
ไทนี่ ยื่นหน้าเข้ามาถาม “คิดอะไร แต่วาดรูปยุ่งๆ แบบนี้ มันต้องแปลว่า สับสนวุ่นวายมาก”
“เออ” ข้าวพองยอมรับอีกครั้งแต่ไม่ได้อธิบายอะไร
หว่องอีกคนในห้อง ที่ตัวโตกว่า หว่องคนที่นั่งอยู่ข้างกัน เดินมาสะกิดเรียกให้ไปคุยนอกห้อง

ห้องเรียนนี้มีชื่อหว่องอยู่ 2 คน หว่องแรกเรียนด้วยกันมาหลายปี ทุกคนจึงถนัดเรียกชื่อ แต่ตอนนี้กลายมาเป็นบิ๊ก หว่อง หรือบิ๊ก เพื่อแยกกับหว่องอีกคนที่เพิ่งเข้าเรียนในเทอมนี้ตัวเล็กกว่า และทุกคนเรียกเขาว่า ไทนี่ หว่อง แล้วส่วนใหญ่ก็จะเรียกแต่ไทนี่เฉยๆ

แป๋มที่นั่งด้านหน้าใช้วิธีจิกสายตาผ่านแว่นหนามองตามหลัง 2 หว่องออกไปคุยกันนอกห้อง ป๋อมก็หันมาคุยกับข้าวพอง
“บิ๊กหว่อง เรียกไทนี่หว่องไปคุยเรื่องอะไร”
ข้าวพองส่ายหน้า ขณะที่นึกไปถึงปาร์ตี้ที่บ้านเบลค แล้วหันมามองแป๋มที่หันกลับมาพร้อมกับจิกน้ำเสียงลงทุกคำพูด
“แป๋มไม่ชอบไทนี่หว่อง” 
รู้มานานแล้วว่าไม่ชอบ แต่ครั้งนี้ถึงกับหันมาบอกกันตรงๆ ด้วยน้ำเสียงแบบนี้
“เพื่อนกันน่า”
“แป๋มไม่ชอบพวกเล่นยา”
“เดี๋ยวครับคุณ เดี๋ยวก่อน” ป๋อมยกมือห้ามน้องสาว “เขาแค่เรียกกันออกไปคุย แล้วคุยกันเรื่องอะไรเรายังไม่รู้เลย”
“อย่ามาแบ๊ว” แป๋มจิ้มหน้าผากพี่ชาย “บอกตามตรงนะ ว่าถ้าไม่ใช่เพราะข้าวพอง แป๋มคงไม่คุยกับเขา”
“แป๋ม” ข้าวพองดุเบาๆ “พอมาคิดดูอีกทีเรื่องที่ไมเคิลมันพูดถึงไทนี่น่ะ เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงหรือไม่จริง”
คราวนี้ พี่น้องฝาแฝดถึงกับอึ้ง “เปลี่ยนใจอะไรอีกล่ะ” แป๋มถาม
“ก็....ครูน่ะ” ข้าวพองเกาหน้าผากตัวเอง “เขามักจะย้ำว่าเราจะกล่าวหาใครลอยๆ ไม่ได้ แล้วพอคิดไปคิดมานะ เราเองก็ไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ว่าไทนี่ขายยาให้พวกไมเคิล”
“แล้วยาที่ข้าวพองใช้ตอนไปเที่ยวล่ะ” แป๋มถามตรงๆ
“ไม่ได้เอาจากไทนี่หรอก”
“จากใคร” แป๋มซักต่อ แต่ข้าวพองไม่ตอบ หันไปมองประตูห้องเรียนที่ไทนี่ยังไม่กลับเข้ามา
“ข้าวพอง เลิกเหอะ” ป๋อมใช้ไม้อ่อน ตรงข้ามกับน้องสาว
“กูไม่ได้ติดนะ ไม่เที่ยวก็ไม่ได้ใช้”
 “เออ นั่นแหละ ไหนๆ ก็ไม่ติดแล้ว ก็อย่าใช้มันอีกเลย”
“รู้แล้วน่า เนี่ยไม่ได้เที่ยว ไม่ได้ไปไหนเลยไม่แตะยาสักนิด เป็นเด็กเรียนโคตรๆ พวกมึงจะเอายังไงกับกูอีก”   

ข้าวพองรู้ตัวว่า ช่องว่างของความเป็นเพื่อนกับแฝดเด็กเรียนคู่นี้ ก็คือการเที่ยวกลางคืนและการใช้ยาเสพติด
ส่วนนิสัยรักความเป็นส่วนตัวน่ะมันเรื่องรอง เพราะว่าเป็นนิสัยส่วนตัวที่ไม่แตกต่างกัน
แล้วจะว่าไปข้าวพองก็ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกับใครสักคนในโรงเรียน
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมคราวนี้คู่แฝดถึงได้ไม่หันหลังให้กันเหมือนทุกครั้งที่ทำรายงานเสร็จ
ไทนี่เดินหน้าระรื่นกลับเข้ามาในห้อง แล้วนั่งลงที่โต๊ะเรียนตัวเดิม
“ข้าวพอง ศุกร์นี้เราไปนอนค้างบ้านข้าวพองได้มั้ย”
“ห๊ะ” ข้าวพองงง
เพราะนี่เป็นเพื่อนคนแรกในชีวิตที่จะไปนอนที่บ้าน
“ศุกร์นี้เลยเหรอ ศุกร์หน้าได้มั้ย”
“อ้าว ทำไมล่ะ”

บอกไม่ได้หรอก ว่าต้องขอกลับไปถามเกีย ถามพ่อ ถามพี่เพียงก่อนว่าจะเอาเพื่อนมานอนบ้านได้ไหม

“กูไม่เคยพาเพื่อนไปนอนบ้าน” ข้าวพองบอกตามตรง “ขอกลับไปเก็บห้องก่อน”
ไทนี่หัวเราะร่วน ส่วนป๋อมกับแป๋มแค่ยิ้มๆ ผ่านไปจนพักเที่ยงแป๋มก็แอบถาม
“ไม่อยากให้ไทนี่ไปบ้านล่ะสิ”
“อือ” ข้าวพองตอบตามความจริง “ถึงจะบอกแป๋มว่าเพื่อน คิดว่าเขาน่าสงสาร แต่มันก็ยังไม่ค่อยไว้ใจเขาสักเท่าไหร่”
แป๋มพยักหน้าเข้าใจ “ตอนนั้นน่ะ แป๋มกำลังคิดว่า ถ้าข้าวพองยอมให้ไทนี่ไปนอนบ้าน ทั้งที่ไม่เคยให้เราพี่น้องไปบ้าน แป๋มจะโวย”
ข้าวพองยิ้มแล้วกอดคอเพื่อนเด็กเรียนไว้ รู้ว่าแป๋มพูดจริงทำจริงเสมอ นักเรียนสาวรุ่นน้องเดินเข้ามาเรียก
“พี่ข้าวพอง”
“เบซซี่” ข้าวพองหันมาทักทาย

เบซซี่เป็นสาวรุ่นน้อง และเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่กำลังคุยกันอยู่ที่บ้านเบลคในตอนที่เกียไปรับกลับบ้าน
และเป็นหนึ่งในหญิงสาวที่อยู่ในสถานะพิเศษของข้าวพอง
แป๋มหันมาพยักหน้ากับข้าวพอง แล้วส่งยิ้มให้เบซซี่

“ไปห้องสมุดนะ เจอกันที่ห้องเรียน”
เบซซี่สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน นั่งลงแทนที่แป๋ม “ศุกร์นี้พี่เบลคนัดเจอกันที่ห้อง พี่ไปมั้ย”
“ไม่ละ”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“ไม่ค่อยอยากไปน่ะ” ข้าวพองตอบโดยไม่ได้หันไปมองคนที่นั่งข้างๆ แต่มองผ่านเพื่อนนักเรียนไปที่ไทนี่ที่กำลังคุยอยู่กับเบลคและเพื่อนๆ
“หรือมีนัดกับผู้หญิงคนนั้น” เบซซี่หมายถึงไอรีน
“ไม่หรอก พี่เพียงสั่งให้ครูเฝ้าตลอด หนีไปเขาก็ไปตามกลับมาอย่างคราวก่อน โดนพวกไมเคิลแซวไม่เลิก”
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ท่าทางน่ารักจนข้าวพองต้องบีบจมูกเบาๆ “อยากไปก็ไปสิ”
“พี่ข้าวพองไม่ไป เบซซี่ก็ไม่อยากไปหรอก” เบซซี่ดึงแขนให้ข้าวพองเอียงตัวมาหา “แล้วเมื่อไหร่ พี่จะไปบ้านเบซซี่ล่ะ”

....เออ นี่มันเทศกาลนอนบ้านเพื่อนกันหรือไงวะเนี่ย...

“ไปทำไมล่ะ วันเกิดหรือไง”
เบซซี่เขย่าแขนผอมๆ ของข้าวพอง “พี่ข้าวพองน่ะ ใจเย็นเกินไปละ ถ้าเบซซี่ยอมให้คนอื่นมาบ้าน พี่ข้าวพองจะเสียใจ”
มือผอมๆ ดึงหูตัวเองเบาๆ “เรื่องนั้นมัน....ขึ้นอยู่กับเบซซี่”
เบซซี่เอียงหน้าซบลงกับต้นแขน ทำให้ข้าวพองหันไปมองไทนี่อีกครั้ง
หนุ่มตัวเล็กหันมามอง โบกมือ แล้วเดินเข้ามาหา
“พี่ข้าวพองสนิทกับเด็กใหม่มากเลยหรือ” เบซซี่เปลี่ยนจากเรื่องชวนเที่ยว ไปเรื่องของคนที่กำลังเดินมาหา
“ก็เพื่อนกัน” นี่คือคำตอบมาตรฐานของข้าวพอง “เขาเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็ไม่ได้สนิทกันนักหรอก แล้วอีกสักพักเขาก็คงหากลุ่มเจอแหละ”
เบซซี่พยักหน้า “เขาชอบไปคุยกับพวกขาใหญ่”
หญิงสาวใช้ชื่อพิเศษ ที่ข้าวพองรู้ว่าเบซซี่หมายถึงใคร  “เรารู้หรอกน่า เบซซี่เองไปเที่ยวก็ระวังตัวด้วย”
“อือ” หญิงสาวตอบรับ แล้วหันไปส่งยิ้มให้ไทนี่ หันกลับมาย้ำกับข้าวพองอีกรอบ “ตกลงศุกร์นี้พี่ไม่ไปเบซซี่ก็ไม่ไป”
ไทนี่เข้ามายืนอยู่ข้างหน้าทั้ง 2 คน
“ไปไหนกันหรือ”
“เราคุยกันว่าศุกร์นี้ไม่ไปบ้านเบลคน่ะ” ข้าวพองบอก “กูโดนครูเกียคุมตลอด เบซซี่ก็เลยไม่ไป”
“เหรอ” ไทนี่ดูครุ่นคิด ข้าวพองก็เลยดึงให้เบซซี่ลุกขึ้น
“ใกล้เข้าห้องเรียนแล้ว พี่ไปส่ง”

ไทนี่กลับเป็นฝ่ายเดินตามและฟังข้าวพองเดินคุยกับเบซซี่ เรื่องกิจกรรมหลังเลิกเรียนพิเศษช่วงเช้าวันเสาร์
ส่งเบซซี่เข้าห้องเรียน เดินกลับมาห้องตัวเอง ไทนี่ก็สะกิดถาม

“เขาคุมหนักเพราะเรื่องกูหรือเรื่องยาล่ะ” ไทนี่กลับไปถามเรื่องเกียอีกครั้ง
“เรื่องยาน่ะ” ข้าวพองยอมรับ “วันที่เขาไปเอากูมาจากบ้านเบลคสภาพกูคงแย่มาก จนเขาสั่งแล้วสั่งอีกว่าให้เลิก แล้วพ่อกับพี่เพียงน่ะถึงเขาจะไม่พูด แต่เขาก็สลับกันมาดูแทบจะทุกวัน ก็คงต้องเว้นไประยะหนึ่งแหละ”
“เลยไม่อยากให้กูไปบ้านมึงด้วยละสิ”
ข้าวพองไม่ได้เตรียมที่จะตอบคำถามนี้ไว้ ต้องแต่งเรื่องขึ้นมาใหม่สดๆ “กูไม่ได้คิดว่าอยากให้ไปหรือไม่อยากให้ไป แต่มึงก็เห็นว่าครูน่ะอยากให้มึงไปแจ้งความ แล้วก็ชอบถามนั่นพูดนี่ เกิดมึงไปบ้าน แล้วเขาพูดอะไรขึ้นมาต่อหน้าพ่อหรือพี่เพียง มันก็ยิ่งไปกันใหญ่”
“เหรอ” ไทนี่ลากเสียง “มันก็จริงนะ เขาเป็นตำรวจเก่า ชอบตั้งคำถาม แล้วสายตาของเขาที่มองกูน่ะนะ กูไม่ชอบเลย”
ข้าวพองนึกถึงเวลาที่เกียมองไทนี่ มันเป็นสายตาที่เหมือนกำลังจับผิด และรู้ทัน
ถ้าเป็นเรา ก็คงไม่ชอบเหมือนกัน
“แล้ววันนี้คุยอะไรกับไมเคิล”
ไทนี่ยักไหล่ “เรื่องที่จะไปบ้านเบลคน่ะ”
ข้าวพองหยุดเดินหันมามองหน้าเพื่อนที่กำลังยิ้มกว้าง “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า กูบอกไปแล้วว่ากูไม่ไป”
หนุ่มตัวเล็กผ่อนลมหายใจ
“ขอบใจนะที่เป็นห่วง”
“อือ” ข้าวพองยอมรับ “ตอนเล่นยาเราไม่รู้สภาพตัวเราเองหรอก แต่ตอนที่ครูเขาสอน เขาก็เอาพวกรูป พวกข่าวมาให้ดู เห็นแล้วทุเรศว่ะ แม่งทำไมเราต้องทรมานตัวเองขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้”
ไทนี่ก้มหน้ามองพื้น ขณะที่เดินอยู่ข้างกัน
หนุ่มตัวเล็กพูดต่อไป ในประโยคที่เกียมักจะพูดอยู่เสมอ “เวลาเล่นยา เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แล้วถ้ามันเคยทำกับไทนี่มาแล้วครั้งหนึ่ง มันก็อาจเกิดขึ้นอีก”
ไทนี่ยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นเส้นโค้งเมื่อเงยหน้าขึ้นมาบอก “ขอบใจ กูจะระวังตัวให้มากขึ้น”
 
*-*จบตอนที่ 14*-*

ขอบคุณที่ติดตามครับ
ตอนต่อไปมาวันอังคารนะครับ
.ไจฟ์.


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 04-05-2014 09:35:28
เอ่อ ยังไงก็สงสารไทนี่อยู่ดี เหมือนเค้าปิดบังอะไรบางอย่างไว้ แล้วเหมือนโตเกินวัย ยังไงก็สงสารตัวละครตัวนี้แบบแปลก ๆ เอ๊ะเริ่มงงกับคำพูดตัวเอง 555 อยากให้ไทนี่ลองไปค้างที่บ้านน้องดูสักที เผื่อจะเจอหลักฐานหรือสิ่งที่น่าสงสัยนะ รอตอนต่อไปจร้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 04-05-2014 09:50:09
ตอนนี้ไม่มีเกียเลย คิดถึงอ่ะ อยากอ่านฉากเข้าพระเข้านาย อิอิอิ

ข้าวพองทำตัวน่ารักขึ้นเยอะ พอๆกับไทนี่ที่ทำตัวน่าสงสัสขึ้นเยอะเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-05-2014 09:59:52
ตามอ่านจนทันสักที  เอาจริงๆคือกำลังสงสัยในตัวไทนี่ ดูไม่น่าไว้ใจ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะพ่อไทนี่ด้วยล่ะ

แต่ไทนี่ก็ดูน่าสงสารไม่รู้ว่าชีวิตผ่านหรือโดนอะไรมาบ้างหรือเปล่า  อยากให้เเป็นตัวละครที่ใสๆน่ารักมากกว่า แต่คงไม่ใช่ :katai1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-05-2014 10:13:53
เป็นวัยรุ่นนี่ไม่ง่ายเลยนะ อยากรู้อยากลองไปเรื่อย
ถ้าอ่อนแอ อ่อนไหวไปกับคำชักชวน ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ จะกี่บอดี้การ์ดก็คงไม่ช่วยอะไร
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 04-05-2014 10:22:31
ยังคงสับสนในข้อมูลกันต่อไป
รอ....... :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 04-05-2014 10:36:37
คนรอบๆตัวข้าวพองคือเยอะมาก
มองไม่ออกเลยใครเป็นยังไง
หว่องทั้งสองคุยไรกัน
ไทนี่มีจุดประสงค์อะไรในการไปบ้านข้าวพองนะ
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
 :ling2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 04-05-2014 11:20:55
อย่างน้อยข้าวพองก็จำคำที่เกียสอนได้และระวังตัวขึ้น
ตั้งแต่อ่านมาชอบแฝดป๋อมแป๋มจังค่ะ เป็นเด็กมีความคิดดี
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-05-2014 12:37:38
มันยังไงๆ อยู่นะไทนี่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 04-05-2014 13:43:15
ไทนี่สู้ๆ
 :mew3: :mew3: :mew3:
บวกและเป็ดขอบคุณ
ชอบอีกหนึ่งคือ เบซซี่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 04-05-2014 14:19:50
สงสัยจังว่า ทำไมไทนี่ตั้งใจเข้ามาพัวพันข้าวพองมากเกินไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 04-05-2014 14:59:17
แต่ละตอนนี่สงสัยและมีปัญหาคาใจกันคนไม่ซ้ำเลย :ling3:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-05-2014 15:16:29
ก็ยังมองไม่เห็นปมสักที
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 04-05-2014 16:32:39
ไทนี่ไม่ธรรมดา  :hao3:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 04-05-2014 17:48:15
ข้าวพองน่ารัก แต่ระวังตัวหน่อยก็ดีนะ อย่าไว้ใจเพื่อนมาก  :กอด1:

รอตอนต่อไปค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 04-05-2014 20:13:52
ตอนนี้พี่เกียโผล่มาแต่ชื่อ  สงสัยไปหาวิธีเรียกเรตติ้งให้ตัวเองอยู่  ฮาาาาา
แต่อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าข้าวพองเชื่อและจำสิ่งที่เกียเตือนและระวังตัวดีขึ้น
ส่วนไทนี่  อยู่ ๆ ก็อยากไปค้างบ้านข้าวพองเพราะอะไร แอบทำตัวน่าสงสัย
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถปักใจเชื่อได้เลยว่าใครเกี่ยวข้องกับคดีบ้าง  รอลุ้นตอนต่อไปจ้า  ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 04-05-2014 21:27:48
ไทนี่แปลกจริงๆแหละ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-05-2014 07:59:55
ข้าวพองจะเป็นเด็กดีแล้วเนอะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 06-05-2014 06:51:21
วันนี้วันอังคารแล้ว มาปูเสื่อรอพี่เกียกะน้องข้าวพอง อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 06-05-2014 07:03:41
ข้าวพองเริ่มปรับปรุงตัวแล้ว แต่คงต้องใจแข็งอีกนิด ส่วนไทนี่เนี่ย น่าสงสัยปนกะน่าสงสาร มันดูก้ำกึ่งไงไม่รู้ ติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 14 หน้า 12 (4พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 06-05-2014 08:30:04
เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีสำหรับข้าวพอง

รอตอนต่อไป
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 06-05-2014 08:44:03
คิดถึงเกียกันหรือ
จัดไป!!

ตอนที่ 15


เกียพลิกแฟ้มคดีของพวงเพชร และเพชรแท้ 2 แม่ลูกอีกครั้ง อ่านจนจำทุกตัวอักษรได้ขึ้นใจ มองเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
ตามตัวอักษรที่ปรากฎ!
หันไปเปิดคอมพิวเตอร์ดูภาพวงจรปิดในช่วงที่มีเหตุลอบยิง
คดีของพวงเพชรไม่มีภาพ ส่วนคดีของเพชรแท้ ถึงจะมีภาพแต่เหตุก็เกิดไกลจากจุดติดตั้งกล้องมาก ต่อให้ขยายภาพเป็นร้อยเท่าภาพก็ยังไม่ชัดเจนอย่างที่ตำรวจบอกกับมโหธรไว้
เกียทำสำเนาภาพ แล้วส่งกลับไปให้แมรี่เพื่อนร่วมทีมที่ลอนดอนช่วยจัดการต่อ เหมือนกับเรื่องของกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการที่พวงเพชรได้เพชรมา และกลุ่มที่เพชรแท้ติดต่อขายให้ ที่มีเรื่องผิดนัดส่งของจนถึงขั้นศาล

มีโทรศัพท์จากมโหธร บอกว่า ข้าวพองกำลังไปหา
“อ้าว ทำไมล่ะครับ”
มโหธรลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบกระซาบ
“ผมว่า มันคงมีเรื่องอะไรสักอย่าง เพราะมันรับโทรศัพท์จากเพื่อน แล้วถึงได้หันมาทำท่าหาเรื่องอุบล โวยวายว่าอุบลทำขนมจีนน้ำยาทำไม มันอยากกินสเต๊ก” พี่ชายรู้ทันน้องเล็กเป็นอย่างดี “เสร็จแล้วไอ้แสบมันก็จะไปหาเกีย โวยวายไม่ให้ใครไปส่ง ผมต้องต่อรองให้ยอดเรียกรถมอเตอร์ไซค์กำชับให้ไปส่งที่คอนโดฯ ห้ามแวะที่ไหนเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะให้อุบลทำขนมจีนให้กินอาทิตย์นึง”
เกียหัวเราะ “งั้นก็คงเรื่องเพื่อนๆ ของเขาน่ะครับ”
“มีปัญหากันหรือ”
“ครับก็เรื่องเที่ยวกลางคืน เรื่องใช้ยา”

คราวนี้มโหธรถอนหายใจเสียงดังจนเกียได้ยินชัดเจน

“เขาไม่เล่าให้คุณฟังเพราะไม่อยากให้คุณเป็นห่วง ก็อย่าเพิ่งเป็นห่วงสิครับ”
“โธ่เกีย อย่างกับทำได้งั้นแหละ” พี่ชายคนโตยอมรับ “ตอนเราเอง เราคุมตัวเองได้ไม่ยุ่งกับมัน เพราะไม่มีนิสัยแข่งกันเด่นไง อยู่โรงเรียนประจำ ใครอยากทำอะไรก็ทำไป พ่อส่งเรามาเรียน แต่ไอ้พองมันไม่ใช่ มันเป็นแบบของมันเองไม่เหมือนใคร”
“ข้าวพองขี้เหงาน่ะครับ ที่ไปเที่ยวก็เพราะไม่อยากอยู่คนเดียว แล้วนี่เขาก็ไม่ได้ไปเที่ยวกลางคืนมานานเป็นเดือนแล้วครับ”
“นั่นเพราะเกียตามคุมตลอดเวลาน่ะสิ” มโหธรบอกแล้วฝากให้เกียรอรับน้องชายอีกครั้ง ถึงได้วางสายไป   

อึดใจต่อมา ก็มีเสียงโทรศัพท์จากพนักงานของคอนโดฯ ว่ามีคนมาหา เกียบอกให้ขึ้นมาหาที่ห้องได้ พอวางสายก็รีบเก็บแฟ้มคดี ปิดคอมพิวเตอร์ เปลี่ยนเป็นเปิดโทรทัศน์ดูการแข่งขันกีฬา
เมื่อมีเสียงเคาะประตู เกียก็ได้แต่ยิ้มพลางส่ายหน้าขณะที่เดินไปเปิดประตู
“วันนี้วันหยุดพี่”
“รู้แล้วละน่า ว่าวันหยุด แต่คนร้ายมันไม่ได้หยุดงานวันอาทิตย์นี่” ข้าวพองเดินสวนเข้ามาในห้อง ดวงตากลมๆ กวาดตามองไปทั่ว เมื่อเห็นว่าในห้องนี้มีหนังสือ กีตาร์ อุปกรณ์ออกกำลังกาย และอื่นๆ อีกมากมาย ก็ส่งเสียงจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ
“แต่ปกติวันอาทิตย์ ข้าวพองจะอยู่กับพ่อ กับคุณเพียง”
“ใช่”
“แล้ว...ทิ้งคุณพ่อกับคุณเพียงมาได้อย่างไร”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เขาทิ้งพองไปเป็นอาทิตย์ โดนซะมั่งเหอะ”

ข้าวพองยังคงมองไปรอบห้อง ท่าทางไม่ได้สนใจคนที่อยู่ที่บ้านเลยสักนิด

“แล้ว..มาคนเดียว”
“เปล่า ยอดเรียกมอ’ไซค์ให้”
“ข้าวพอง” เกียส่ายหน้า
“อยากกินสเต๊กน่ะ เกียทำให้กินหน่อยสิ”
“อยากกินสเต๊กมากขนาดบุกมาห้องพี่เนี่ยนะ”
“นั่นมันส่วนหนึ่ง” ข้าวพองเลียนแบบคำพูดของเกีย “อีกส่วนหนึ่งคืออยากรู้ว่า จะออกไปสืบคดีที่ไหนหรือเปล่า อยากไปด้วย แล้วทำไมยังอยู่บ้าน ไม่ออกไปข้างนอกหรือไง”
เกียยังยิ้มขำ ทั้งที่หนักใจ
“พี่ส่งข้อมูลไปให้เพื่อนช่วยดูให้ ให้เวลาเขาทำงานกันก่อน”
“ก็ให้เขาทำงานไป แล้วเกียล่ะ” ข้าวพองหันมามองหน้าตรงๆ “พองบอกกับเกียไปตั้งหลายวันแล้วนี่นา แล้วไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยหรือไง”
“มี แต่พี่ยังบอกข้าวพองไม่ได้”
ข้าวพองกำหมัดชกที่ไหล่หนา “ไม่ได้ต่างจากพี่เพียงเลยสักนิด! ทำไมทุกคนเห็นว่าพองโง่!”
“ข้าวพองไม่ได้โง่” เกียจับข้อมือเล็กๆ ไว้ “แต่พี่จะบอกข้าวพองเฉพาะเรื่องที่พี่แน่ใจว่ามันคือความจริง ไม่ใช่การสันนิษฐาน”
“ชริ!” ข้าวพองกระแทกเสียงใส่ บิดมือตัวเองออกแล้วหันไปคว้าหนังสือที่อยู่ใกล้มือ ไปนั่งอ่านที่โซฟาในห้อง
“ทำไมทุกคนต้องกลัวพวกมันขนาดนี้นะ”
“นั่นสิ ทำไม” เกียย้อนขณะที่เดินตามมานั่งข้างๆ “ตกลงจะออกไปกินสเต๊กหรือยัง”
“ไม่ออกไป พองบอกว่า ให้เกียทำให้กินต่างหาก”
“งั้นก็ต้องออกไปซื้อของ” เกียหันไปมองในครัว แล้วเดินไปหยิบกระเป๋ากับกุญแจรถ “ไปซื้อของกัน”
“ไม่ พองจะรออยู่ที่นี่ เกียไปสิ” ข้าวพองบอกขณะที่พลิกหนังสือในมือ

....หนังสือบ้าอะไรวะ มีแต่ตัวหนังสือ ไม่มีรูปเลย อ่านไปก็หลับแหง...

“ไม่ เราต้องออกไปด้วยกัน” เกียเดินเข้ามาดึงหนังสือไปจากมือ
“กลัวพองจะรื้อของในบ้านแล้วเจอความลับล่ะสิ”
ข้าวพองเถียงกลับไม่ลดละ
“พี่ไม่ซ่อนความลับไว้ในห้องหรอก”
“แล้วอยู่ที่ไหน ที่อังกฤษเหรอ”
“ในใจ”
เกียตอบเสียงต่ำๆ แต่พอเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ก็กลับยกยิ้มที่มุมปาก ทำให้สิ่งที่คนที่กำลังคิดรู้ทัน กลายเป็นไม่แน่ใจ แล้วหลงคิดไปตามที่เกียอยากให้คิด
“อะ..อะไร”
“ก็ในใจไง ถ้าอยากให้มันเป็นความลับ ต้องเก็บไว้ไม่พูดออกมา”
“อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรที่เข้าใจยาก”
“ไม่นี่ ถ้ามันอยู่ในใจมันคือความลับ แต่ทันทีที่พี่พูดว่าพี่รักข้าวพอง มันจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป”

...เข้าใจนะ ว่าเกียหมายความว่าอะไร ประโยคนี้ชัดเจนและแสนจะตรงไปตรงมา แต่หน้าก็ยังร้อนผ่าว แล้วก็ถามซ้ำอะไรออกไปก็ไม่รู้ ....

“แล้ว...ความลับที่บอกพองไม่ได้ล่ะ”
“ถ้าพูดออกมามันจะไม่ใช่ความลับ”
“แต่พองอยากรู้”
เกียก้มลงกระซิบข้างหูคนที่ยังนั่งอยู่ที่โซฟา “พี่...รักข้าวพองมากที่สุด รักมากกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของพี่”

....ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไปดี หูก็อื้อ มือไม้มันก็ดูเกะกะ เก้อเขิน ทำอะไรไม่ถูก หัวใจเต้นแรง แล้วพาลทำให้มือเย็นสลับร้อนผ่าว
ได้แต่กะพริบตางงๆ เมื่อริมฝีปากหนาจูบที่ข้างแก้ม

“อย่าใจร้อน พี่สัญญาแล้วว่าจะทำให้ ก็คือทำให้ เชื่อพี่นะครับ คนดี...”
“อื้ม...”  ข้าวพองพูดอะไรสักอย่างคล้ายๆ คำนี้รู้แต่ว่ามันอึ้งๆ งงๆ แล้วหูมันก็ยังไม่เลิกอื้อสักที

จูบที่ริมฝีปากบาง ข้าวพองก็ก้มหน้างุด
“ลงไปซื้อของกับพี่นะ แล้วค่อยกลับมากินด้วยกัน”
“อื้ม....”
เกียจับมือนิ่มให้ลุกตาม ชวนคุยเมื่อเดินออกมานอกห้อง ทั้งชวนให้ทำอาหารกลางวันด้วยกัน
“บ่ายโมงกว่าแล้ว หิวแล้วใช่มั้ย”
“ใช่” ข้าวพองนึกสงสัยตัวเอง ที่เริ่มพูดน้อยผิดปกติ แถมยังมายืนทำอะไรก็ไม่รู้อยู่ในครัวแคบๆ
“แปลกเนอะ” ดวงตากลมๆ มองตามมือที่กำลังทำอาหาร “อยู่บ้านก็เจอกันตลอดเช้าเย็น ไม่เห็นว่าเกียที่บ้านจะเหมือนที่นี่”
คนตัวโตหัวเราะหึหึ “พี่เหมือนเดิมไม่ว่าจะที่ไหน ข้าวพองต่างหากที่ไม่เหมือนเดิม”
“ไม่เหมือนเดิมยังไง”
“ข้าวพองที่นี่...น่ารักมาก....” เกียหันมาจูบคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
จูบผ่านๆ เพราะเจ้าตัวเบี่ยงหลบทันที
แก้มร้อนผ่าวจนต้องรีบหนีไปนั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“เกียน่ะแหละที่....เลี่ยนผิดปกติ...”
ที่จริงอยากบอกว่าหวานผิดปกติ แต่กลับเลี่ยงไปใช้คำอื่น ที่มันกลับให้ความหมายในเชิงลบ ที่เกียไม่ได้มีท่าทีว่าจะสนใจหรือคิดที่จะตีความภาษาไทยเลยสักนิด
“ไม่นะ ที่บ้านพี่ก็พูดอย่างนี้กับข้าวพองตลอด”
หนุ่มตัวเล็กกัดมุมปาก หันไปมองนอกหน้าต่าง รอจนอาหารจานสวยมาวางข้างหน้า
“เสร็จแล้วครับ”
ข้าวพองยิ้มแป้น ดวงตาพราว
“พ่อครัวได้รางวัลอะไร”
“กินก่อนสิ ถ้าอร่อย จะได้รางวัล”
“งั้นเชิญครับ”
เกียเช็ดมือแล้วนั่งลงตรงข้าม ข้าวพองก็ชี้ให้กินบ้าง จนหมดจานก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะให้รางวัล เกียก็ไม่ได้ทวง ระหว่างที่กำลังล้างจานหันไปเห็นข้าวพองกำลังกระโดดเบาๆ อยู่บนโซฟาตัวใหญ่
“หวงโซฟาอะดิ” ข้าวพองมองมา
“ไม่ได้หวง เห็นว่าเพิ่งกินอิ่ม ไปกระโดดเล่นแบบนั้นจะจุก”
“เกียชอบโซฟาแบบนี้เหรอ”
“เปล่าหรอก แอนดรูว์เป็นคนเลือก”
เกียตอบตามตรง แต่ข้าวพองหยุดยืนเท้าเอวอยู่บนโซฟา
“ไหนบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน”
“ไม่ได้เป็นแฟนกัน” เกียเช็ดมือแล้วเดินเข้ามาหา “แต่แอนดรูว์เป็นคนรับงานมาจากคุณเพียง และจัดการทุกอย่าง รวมถึงรถที่พี่ใช้ด้วย”
ข้าวพองหรี่ตาชี้ไปทั่วห้อง “แล้วนั่นล่ะๆๆๆๆ ของใคร”
“อาจเป็นแอนดรูว์ หรือไม่ก็คุณเพียง มีแต่กองหนังสือกับพวกคอมพิวเตอร์นี่พี่เลือก แล้วก็เพิ่มความสามารถมันนิดหน่อย”
ข้าวพองกระโดดจากโซฟา ตรงไปที่โต๊ะทำงาน เกียรีบคว้าเอวไว้อุ้มกลับมาที่โซฟาตัวเดิม
“ไม่ใช่ 3 ขวบแล้วนะ กระโดดอย่างนั้นเดี๋ยวก็เจ็บตัวจนได้”
“ไม่หรอกน่า” ข้าวพองเบี่ยงตัวหนี พยายามจะหลุดจากอ้อมแขน
“อยู่เฉยๆ ได้มั้ยเนี่ย”
“ได้ แต่ตอนนี้อยากรู้ว่าโต๊ะทำงานของเกียมีอะไร”
“มันจะมีอะไร นอกจากคอมพิวเตอร์กับหนังสือ”
“ก็มันมีอะไรอยู่ในคอมพิวเตอร์ล่ะ” ข้าวพองพยายามผลักไหล่หนา แกะแขนแข็งแรงที่โอบกอดอยู่
ริมฝีปากหนาฉกจูบวูบให้ทุกการเคลื่อนไหวหยุดชะงัก
“ที่ตามมาถึงที่นี่ เพราะสเต๊ก เรื่องคดี หรือจะมาจับผิดพี่”
“ก็...” ข้าวพองก้มมองที่ปลายคางเกีย แล้วเปลี่ยนไปมองทางอื่น
“ถามอะไรพี่ก็ตอบความจริงทุกอย่าง จะระแวงอะไร”
“ไม่ได้ระแวง พองไม่ได้ชอบเกียแล้วจะระแวงทำไม”
เกียถึงกับต้องหายใจเข้าลึกๆ พยักหน้ายอมรับ
...เราพูดความจริง ข้าวพองก็พูดความจริงอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกัน ท่าทีขัดเขิน แก้มสีแดงเรื่อ ทั้งหมดเป็นเพียงปฏิกิริยาปกติของคนวัยนี้เท่านั้น...
“งั้นมาเพราะอยากถามเรื่องคดีอย่างเดียว”
“เปล่า” ข้าวพองตอบตามตรง “เมื่อตอนสายๆ เบซซี่โทรมา” ดวงตากลมหันมามอง “จำเบซซี่ได้ปะ”
เกียพยักหน้า ทำไมจะจำไม่ได้ หญิงสาวคนนี้กำลังคุยกับข้าวพองในวันที่ไปรับที่บ้านเบลค และคือคนที่แฝดป๋อมแป๋มบอกว่า เป็นสาวที่ข้าวพองกำลังคุยอยู่
“ศัตรูหัวใจของพี่”
“ฮึ่ย” ข้าวพองทำเสียงอยู่ในลำคอ “มีหลายคนทักเรื่องไทนี่คุยกับพวกเด็กเกเรที่โรงเรียน บอกว่าเขาขายยาตัวใหม่ให้พวกเที่ยว แต่พองไม่เคยเห็น แต่เมื่อคืนเบซซี่กับเพื่อนของเขาไปบ้านเบลคแล้วก็กลับมาก่อน 3 ทุ่ม เพราะเขาเห็นไทนี่กำลังส่งยาให้พวกรุ่นพี่ที่เบซซี่ไม่รู้จัก"

….แต่แรกเบซซี่ไม่ได้คิดจะไป แต่คาดว่าเธอคงเปลี่ยนใจไปกับเพื่อน แล้วพอเห็นว่าไทนี่หว่องไปงานด้วย แล้วยังขายยาให้กับรุ่นพี่ที่ไม่ได้มีความคุ้นเคยกันก็เลยกลับ....

“ทำไมเบซซี่เพิ่งโทรบอก”
“ก็ทีแรกเขาบอกว่า ถ้าพองไม่ไปเขาก็ไม่ไป ก็เลยไม่อยากบอก จนมาถึงวันนี้ก็เลยคิดว่าบอกดีกว่า”
เกียรับรู้ “เตือนเบซซี่ให้ระวังตัว”
“บอกแล้ว”
เมื่อข้าวพองไม่มีท่าทีขัดขืนอีก เกียก็ขยับนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน จับให้เอนตัวมาหาแล้วกอดไว้
“พองไม่เคยเห็นกับตาว่าไทนี่เป็นคนเอายามา มันก็เลย กึ่งๆ ไม่ค่อยอยากเชื่อ .... แล้วมันก็โดนคนข่มขืน”  หนุ่มตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามอง “วันที่ไทนี่เรียกเราไปหามันยังดูกลัวมาก แต่พอวันถัดมา มันกลับไม่อะไรเลย” พลิกตัวอีกที กลายเป็นนั่งคร่อมอยู่บนตักของเกีย “เข้าใจมั้ยว่า ยังไงไทนี่มันก็เพื่อน ยังไงมันก็น่าสงสารมันอยู่ตัวคนเดียวน่ะ”

...เพราะความรู้สึกกับเพื่อนคนนี้เริ่มต้นที่ความสงสาร ถึงจะมีคนบอกว่าเขาร้าย ไอ้คนที่มาบอกนั้นก็ร้ายไม่เป็นรองใครเหมือนกัน ถึงได้ไม่อยากจะเชื่อ จนกระทั่งคนที่ไว้ใจมาบอกถึงได้เชื่อ...

“แล้วตอนนี้เชื่อเบซซี่”
“ใช่ รู้สึกว่า ถ้าวันนั้นมันโดนคนทำร้ายจริงๆ ก็เพราะมันทำตัวเอง มันกลายเป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจ จนอยากห่างๆ เพราะเรื่องของตัวเองก็ยุ่งวุ่นวายมากพอแล้ว”
“เข้าใจ แล้วข้าวพองอยากให้พี่จัดการเรื่องไทนี่ยังไง”
ข้าวพองส่ายหน้า “ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนละ ที่มันจะมานอนบ้าน แต่พองยังไม่ตกลง”

...เรื่องธรรมดาของนักเรียนวัยนี้  เกียคิดขณะที่ใช้ปลายนิ้วแตะที่แก้มใสเหมือนกำลังสัมผัสแก้วบาง

“ให้มาวันธรรมดาสิ  บอกป๋อมแป๋มมาค้างด้วยก็ได้ เย็นพี่ไปรับที่โรงเรียนเช้าก็ไปส่ง”
“ได้เหรอ” พองตาโต “พองพาเพื่อนมาบ้านได้จริงๆ เหรอ”
 “ได้สิ ว่าจะถามหลายครั้งแล้วว่า ทำไมถึงไม่อยากให้เพื่อนมาบ้าน”
ข้าวพองทำหน้ามุ่ย “ก็แม่ขายเพชร พี่เพชรเขาก็เรื่องเยอะ ไม่ชอบเสียงดัง ไม่ชอบนั่นนี่ ตอนเด็กๆ พี่เพียงเคยพาเพื่อนมาบ้านแล้วไปทำคริสตัลของเขาตกพื้น พี่เพชรเขาอาละวาดร้องกรี๊ดๆ พองก็เลยไม่อยากพาเพื่อนมาบ้าน แล้วพอโตๆ มาเวลาเราไปบ้านใคร พ่อแม่เขาจะมาคุยด้วย อย่างบ้านแฝดนั่นไง แต่พองไม่มีใคร”
เกียพยักหน้าเข้าใจ แม้จะมีคำถามว่า วัยรุ่นน่าจะชอบเวลาที่พาเพื่อนมาบ้านแล้วผู้ปกครองไม่อยู่บ้านมากกว่า
“สรุปก็คือ ตอนแรกไม่พามาเพราะกลัวโดนดุ ตอนนี้พามาก็ไม่มีใครอยู่บ้าน ก็...ไม่มาก็ไม่เห็นเป็นไร ค่ำลงก็ออกไปเที่ยวที่อื่นได้"
"ไม่เป็นเหตุเป็นผลเลยสักนิด” เกียดุ
“เออ ช่างเหอะ” หนุ่มตัวเล็กขยับตัวลงนอนบนอกกว้าง “ตะกี้ เพิ่งพูดกันว่าไทนี่ไม่น่าไว้ใจ แล้วทำไมเกียยังอยากให้มา”
“มาเพื่อให้เขาแน่ใจว่าเราไม่มีอะไรน่าสนใจ เพราะเราไม่ได้สนใจเรื่องเที่ยวและใช้ยาแล้ว”
“เหรอ...”
เกียลูบผมนุ่มเบามือ
“พองลองคิดเรื่องการคบเพื่อนอีกทีนะ” 
“ยังไง” ข้าวพองถามขณะที่เล่นกระดุมเสื้อยืดของเกีย
“เวลาที่ข้าวพองพูดว่า เพราะแม่ เพราะพี่เพชร เพราะไม่มีใครอยู่บ้านก็เลยทำให้ไม่อยากพาเพื่อนมาบ้านน่ะ ที่จริงแล้วเป็นเพราะพวกเขา หรือเพราะที่จริงแล้วข้าวพองไม่คิดอยากพาเพื่อนมาเอง”

ข้าวพองนิ่งฟัง เหมือนที่ผ่านมา พ่อกับพี่เพียงก็เคยพูดว่าพาเพื่อนมาบ้านบ้างก็ได้ ไม่ใช่คิดแต่จะหนีเที่ยวกลางคืน แต่ทำไมไม่รู้ ถึงได้ไม่คิดจะเชื่อฟัง
...แต่พอคนนี้พูด
พูดไปเรื่อยๆ เหมือนตอนที่แม่เล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง
ซึ่งถ้าเป็นพี่เพียงพูดแบบนี้คงหัวเราะกลิ้ง
...แต่ตอนนี้กลับเชื่อ...เราก็แค่หาเรื่องปิดกั้นตัวเอง ไม่ไว้ใจ ไม่คิดคบหาใครเป็นเพื่อน....

“แม่เคยพูดว่า ไม่มีเพื่อนก็ไม่เป็นไร พองมีแม่เป็นเพื่อน....” ข้าวพองพูดแล้วก็เงียบไปเฉยๆ
“คิดถึงแม่หรือครับ”
แต่ข้าวพองไม่ตอบ ว่าความคิดถึงในเวลานี้ มันไม่ใช่แบบที่เกียกำลังคิด
แต่คิดไปถึงสิ่งที่เขาปลูกฝังไว้ จนทำให้ไม่กล้าที่จะไว้ใจใคร
“ข้าวพอง หลับหรือเปล่า”
“เปล่า”
เกียก้มลงหอมผมนิ่ม “ข้าวพองเคยเห็นหน้าพ่อของไทนี่มั้ย”
“เคย” ข้าวพองพยักหน้า “ครั้งนึง”
“งั้นเรามาเล่นอะไรคลายเครียดกัน” เกียขยับตัว ช้อนอุ้มสะโพกให้อยู่บนเอว จนหนุ่มตัวเล็กหัวเราะร่วน ขาเล็กๆ เกี่ยวกันไว้แน่น 2 มือกอดคอหนาเพราะกลัวตก
“รู้แล้วว่ากล้ามใหญ่ และถึกมาก ไม่ต้องอวดก็ได้”
คนตัวโตหอมแก้มแดง แล้วหยิบกระดาษกับดินสอ
ปกติขั้นตอนนี้จะใช้สมุดภาพ หรือไม่ก็เลือกจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์
“เรามาทดสอบกันว่า พองมีความจำดีขนาดไหน”
“ทำอะไร”
“เขียนภาพพ่อของไทนี่หว่องให้พี่”

*-*-*จบตอนที่ 15*-*-*

ผมชอบเวลาที่คุณเดาเรื่องนะ สนุกมาก
อยากสปอล์ยใจจะขาด แต่เอาเป็นว่าที่เดาๆ กันมาน่ะไม่ใช่ :z2:
คือตอนแรกสุดที่เขาเล่าพล็อต มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ แต่หลังจากนั้น เขาก็บอกว่า มันยังซับซ้อนไม่พอ ต้องหาวิธีซ่อนใหม่
แต่สุดท้ายมันก็แบบ.... :z3:
รู้สึกเหมือนผมไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เลยแฮะ
อยากให้พี่ไจฟ์เขียนเรื่องผีอีกเหมือนกัน แต่เขาบอกว่า เรื่องนี้ยังเขียนเป็นปี ทีคิดไปถึงเรื่องต่อไปแล้วหรือ  :z6:
แผ่นดินไหวรุนแรง เป็นอย่างไรกันบ้าง ระมัดระวังตัวนะครับ
ตอนต่อไปมาวันพฤหัสบดีนะครับ
..น้ำชา กับ พี่ไจฟ์ ครับ..

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 06-05-2014 09:20:38
ไทนี่ชักจะเป็นตัวอันตรายขึ้นทุกวันๆ
ตอนนี้ข้าวพองน่ารักมากกกกกกกกกกก จะไม่น่ารักก็ตรงที่บอกว่าไม่ได้ชอบเกียนี่แหละ
และตอนนี้เกียก็หวานมากกกกกกกกก เดี๋ยวกอดเดี๋ยวจูบคลอเคลียข้าวพองตลอด แถมบอกรักข้าวพองอีก น่ารักๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 06-05-2014 09:21:26
จิ้มจองไว้
วิธีหลอกล่ นี่ต้องยกให้เกียเลยนะ ส่วนคนเล็กก็ถามจัง ตอนนี้น่ารักสุดๆเลย ชอบเกียที่เป็นอย่างนี้  ส่วนตอนหน้าไทนี่จะปรากฏตัวแล้ววว หวังว่าคงทำไปเพราะความจะเป็น
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 06-05-2014 11:49:27
พองดูน่ารักและใจเย็นลงมากเมื่ออยู่กับเกีย
แต่ยังปากแข็ง เนอะ...

เรื่องไทนี่ ค่อยๆ เปิดมากขึ้น ถ้าพ่อไทนี่เป็นคนที่เกียสงสัย ก็น่าจะเฉลยว่าไทนี่มาทำไม
น่าติดตามมากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 06-05-2014 12:37:20
ไทนี่ๆๆ ไทนี่จะเป็นเด็กแบบไหนกันแน่นะ
ส่วนเกีย เนียนๆแต๊ะอั๋งได้ตลอดๆๆ..เอ๊ะ หรือเด็กก็เป็นใจ :z1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-05-2014 12:39:20
 เกียเนี่ยตะลอมคนเก่งจัง เหมือนพูดคุยเรื่อยเปื่อยธรรมดาแต่ก็มีคำสอนอยู่ตลอดและก็คอยเก็บข้อมูลทุกคำพูดและการกระทำอีกต่างหาก เก่ง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 06-05-2014 12:55:09
ตัวละครอย่างพ่อของไทนี่จะเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยมั้ย รึตัวหลอก  :hao7:

ตอนนี้หวานเบาๆพอยิ้มกรุบกริบ  :laugh:

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 06-05-2014 13:06:48
เกียร้ายยยยยยยย
ยิ่งอ่านยิ่งร้ายยยยยยยยยย
'นายร้ายมากเกีย'
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :mew3:
ไทนี่ๆๆๆๆๆ fc ไทนี่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 06-05-2014 13:19:51
 :z1:หึ.หึ.ชอบอารมเวลา พี่เกีย กับข้าวพองอยู่ด้วยกันจริง ๆ
บางทีหวานเหมือนแฟนกัน บางที่มีง้องแงง แต่บางอารมเหมือน พ่อลูก  :laugh:

มีความรู้สึกว่ามันงายไปที่จะมองว่าไทนี่เป็นตัวร้าย ตอนนี้คิดว่าไทนี่แค่เด็กมีปัญหา
ส่วนคนที่ร้ายจริง ๆ นั่นยังไม่แสดงตัวเนื่องจากร้ายจริง ๆ เลยเนียน อืมมม.....คิดไปไกลมาละตอนนี้ :katai1:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-05-2014 13:37:02
ตกลงไทนี่ ขายยาเองจริงป่าว หรือโดนบังคับให้ทำ หรืออะไร อย่างไง มีแต่เรื่องน่าสงสัยเกี่ยวกับไทนี่  :katai1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 06-05-2014 14:09:25
น่ารักกันเบาเบา
 :mew3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 06-05-2014 14:28:01
บอกเลยว่า "อาย" ไม่ควรเดาเรื่องเลย
น้องน้ำชาบอกว่า เรื่องมันซับซ้อนมากกว่านั้น
สรุปว่า ไม่เดาแล้ว รออ่านดีกว่า งานสืบสวนไม่ใช่ทางเรา
แต่สนับสนุนอยากอ่านเรื่อง ผี ลึกลับ นะคะ
เรื่องนี้ คิดว่า เกียเข้ามาถูกจังหวะสำหรับข้างพองนะ
เพราะหากเป็นพี่เลี้ยงคนอื่น ข้าวพองอาจเตลิดไปมากกว่านี้
ขอบคุณ น้องน้ำชากะคุณไจฟ์ นะคะ เรื่องนี้สนุกมาก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 06-05-2014 16:30:09
แหม ข้าวพองไม่ได้ชอบเกียจริงๆเหรอ
บรรยากาศออกจะใช่นะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-05-2014 18:51:12
ทำไม่เด็กๆ ดูไม่น่าไว้ใจซักคน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 06-05-2014 19:06:16
ก็คิดว่ามันซับซ้อนกว่าที่เห็นนะ เลยรอให้เวลาเฉลยเอง  :mew4:

แต่เกียตอนนี้อบอุ่นมาก ข้าวพองจะรู้ตัวเมื่อไหร่นี่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-05-2014 19:08:14
อย่างน้อยข้าวพองก็ไว้ใจเกียมากขึ้น
เรื่องจะเป็นยังไงก็เดาไม่ออกใครร้ายจริงใครร้ายปลอม
ขออย่างเดียวอย่าให้พระเอกกลายเป็นผู้ร้ายเป็นพอ


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 06-05-2014 21:27:22
โอยยย   อิพี่เกียร้ายมาก  หยอดข้าวพองตลอดเวลา
ว่าแต่ข้าวพองยังไม่ใจอ่อนจริง ๆ อ่ะ

ตอนนี้ดูเหมือนเกียจะพุ่งเป้ามาที่ไทนี่ อาจเป็นเพราะสนิทกับข้าวพอง
แต่คนเขียนบอกว่ายังไม่มีใครทายถูก  มันสนุกก็ต้องนี้แหละ
อ่านไป  คิดตามไป  ลุ้นดี  ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 06-05-2014 21:31:43
บอกเขาเองว่าพองไม่ชอบเกีย
แล้วที่นัวเนียกับเขาคืออะไรคะ  :ruready
แต่ที่ใกล้ชิดกันนั่นอ่านแล้วเหมือนน้องชายอ้อนพี่ชายอ่ะค่ะ
เพียงแต่เกียได้กำไรไปนิด! แล้วพองก็ไม่เห็นว่าอะไรนี่เนอะ!
ขอไม่เดาอะไรแล้วค่ะ เริ่มมึน และขอบคุณที่ห่วงใยเรื่องแผ่นดินไหวค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 06-05-2014 21:47:40
เจอกันไม่เท่าไร ทำไมเกียรักข้าวพองมากมายนัก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 06-05-2014 21:57:32
ทำไมข้าวพองถึงไม่รักเกีย
ทำไมข้าวพองถึงยอมให้เกียกอดจูบง่าย ๆ ทั้งที่ไม่ได้ชอบเค้า
ทำไมข้าวพองไม่ใช้วิธีอื่นถ้าจะหลอกใช้เขา
ทำไมข้าวพองต้องเอาตัวเองเข้าแลกกับความอยากรู้อยากเห็น (ในกรณีสาว ๆ อย่างไอรีน)
ทำไมในหัวมีแต่คำถามก็ไม่รู้ ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 06-05-2014 23:12:45
เก็บอ่านถึงตอนนี้...คุณพี่เกียว้านหวาน แถมดูอบอุ่นด้วย ^^
ส่วนข้าวพองนี่ก็...ยังไม่ได้ชอบเขา แต่ยอมให้เขาถึงเนื้อถึงตัวมากกกก ;p
ไม่ใช่แค่อยากให้ตามคดีให้แล้วมั้ง...แต่แค่กำแพงส่วนตัวสูงจากการปลูกฝังเท่านั้น

ข้อดีของการปลูกฝังเรื่องเพื่อนของแม่ก็คือ
ทำให้ระวังตัวมากขึ้นกว่าคนวัยเดียวกัน เลยยังยั้งตัวเองได้อยู่

น้องเริ่มติดพี่...มีอะไรก็ปรึกษา
แถมอยากรู้จักมุมอื่นมากขึ้นด้วย...ใกล้มากขึ้นแล้วเกีย
ทั้งที่ระวังตัวกระทั่งกับคนในครอบครัว แต่กับพี่นี่ยอมเพราะอยากให้เขารักไปเรื่อยๆ ใช่มั้ยล่ะ ^^

เอาใจช่วยเกียให้ดูแลน้องได้ง่ายขึ้นและชนะใจเขาเร็วๆ...ฮิ ^^

อ่อ ปล.ถ้าให้เดาแบบระแวดระวังมากๆ ก็คือ...อะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าไว้ใจกระทั่งแฝด!! หุหุ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 07-05-2014 07:42:10
ข้อ 1 เริ่มมีขาใหญ่ให้ติดตามมาอีก...หรือว่าที่ข้าวพองเข้าไปพัวพันกับยาเสพติดเพราะอยากสืบเรื่องแม่กับพี่ด้วย อย่าเลยนะข้าวพองให้เป็นหน้าที่ของเกียไปเถ่อะ ..แค่ให้กำลังใจเกียแยะๆ เท่านั้นเอง  :mew4:

ข้อ 2 เกียร้ายยยยยกาจ ...อ๊ากกก!!!! จีบน้องซะเขิลลลลลเลยอ่ะ เล่นมาจีบแบบนี้ วุ้ยๆๆๆๆๆ เอาอีกๆๆๆ  :mew1:

ข้อ 3 น้องไม่ได้ชอบพี่ แต่ท่าทีของน้อง....น่ารักไปแล้วววววว  :mew4:

ข้อ 4 ขอบคุณครับJiveTea  :L2: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-05-2014 07:44:19
ตอนนี้เกียมาเต็ม ชอบเวลาเขาสองคนอยู่ด้วยกันจังบรรยากาศผ่อนคลายดี
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 07-05-2014 11:19:18
เราก็ว่าไทนี่น่าจะร้ายนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 07-05-2014 20:04:40
น่ารักมา...ไม่ว่าป้าจะอ่านเรื่องไหนของหนูทั้ง 2 ..
มันน่ารักอ่ะ...  ไม่ว่าจะคำแทนตัวเอง..  วิธีการ
กล่อมของพี่  มันโดนใจจริง ๆ......
คิดไว้ก็ดีนะ ภาค 2 ของนายรักอ่าน....
คิดถึงคอส  คิดถึงหนูกลบท....  อ่านทุกเรื่อง
แต่ติดใจคอสมาก ๆ.... แต่เรื่องนี้ก็โอนะ.... :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 08-05-2014 01:33:59
วันนี้จะได้อ่านพี่เกียกะน้องข้าวพองแล้ว อิอิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 15 หน้า 12 (6พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 08-05-2014 09:20:49
เหมือนจะลืมมาเม้นท์ ตอนนี้มันมุ้งมิ้ง แต่มีเด็กบอกว่าไม่ และแอบซ่อนบางสิ่งอย่างไว้ โอ๊ยเครียดดดด
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 08-05-2014 09:21:28
ตอนที่ 16
 
พ่อของไทนี่หว่องไม่ใช่ไอ้เหลียง คนร้ายในคดีค้ามนุษย์ที่เคยดวลปืนกันจนทำให้เกียต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานนับเดือน
คนที่ยังไม่มีความแน่ชัดว่าตายไปแล้วหรือไม่
มีแต่ลางสังหรณ์อย่างเดียวที่ยังคงร้องเตือนว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเกี่ยวข้องกัน
และที่เหลืออยู่ก็คือเงามืดตามมุมนั้นมุมนี้ในใจ

เรื่องจากฝั่งตะวันตกที่เป็นการปะทะกับขบวนการค้ามนุษย์ที่คนร้ายส่วนหนึ่งหนีรอดไปได้
กับเรื่องจากฝั่งตะวันออกที่เกี่ยวข้องกับเพชรและยาเสพติด
ไอ้เหลียง ไทนี่หว่อง ไอรีน นิรมล และนักเรียนนักเลงในโรงเรียน

คนตัวโตยืนกอดอกมองข้าวพองเดินเข้าโรงเรียนแล้วหันมาหาธีระ นั่งรถกลับมาบ้านแล้วก็ขับรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ไปซุ่มอยู่แถวหน้าบ้านของไทนี่
ไม่ว่าจะมาเวลาไหน บ้านนี้ก็จะอยู่ในสภาพเงียบเหมือนบ้านร้างเหมือนเดิม
ต่อไปคือย่านที่พักของเบลค คนที่เกียปักหมุดไว้ในใจ ว่าที่นี่คือแหล่งมั่วสุม
นั่นคือเรื่องของยาเสพติดที่อยู่รอบตัวข้าวพอง

ส่วนเรื่องคดีของพวงเพชรและเพชรแท้ แม่กับพี่สาวของข้าวพอง
คดีที่เหมือนไม่ต้องทำอะไรเพราะทุกอย่างอยู่ในแฟ้มรายงานข้างหน้า แต่ที่มันยากก็เพราะคนที่ไม่พอใจการค้าขายเพชรล้วนแต่เป็นคนในระดับมืออาชีพ ที่ไม่มีทางสาวคดีไปถึงได้โดยง่าย

บ่ายวันถัดมาแมรี่ส่งข้อความมาบอกว่าได้ภาพของคนร้ายแล้ว แต่ภาพนั้นแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“เจาะข้อมูลตำรวจมา มีภาพของมือปืนที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์มาซุ่มยิงทั้ง 2 คนแม่ลูก แต่ก็อย่างที่รู้รถถอดทะเบียน คนขับกับมือปืนใส่หมวกนิรภัย และปัญหาสำคัญก็คือ มือปืนเอเชีย 3 ใน 4 ไม่ได้อยู่ในแฟ้มของทางการ”
แมรี่พูดทันทีที่เกียเชื่อมต่อระบบผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากห้องพักที่คอนโดฯ
“ได้เค้าหน้า รูปร่างเอามาเปรียบเทียบกับประวัติคนร้ายที่มีอยู่ หยิบอาวุธแล้วออกไปลากตัวมันมาเข้าแถวให้พยานชี้ตัว”
หญิงสาวพูดระเบียบการทำงาน ด้วยท่าทีเบื่อหน่าย
“เปรียบเทียบภาพ 3 รอบไปถึงระบบของจีน ถึงญี่ปุ่นไม่เจอใครที่เข้าเค้าเลยสักนิด ทั้งที่ดูจากวิธีการลงมือแล้ว มืออาชีพแน่ๆ”

เกียส่ายหน้า คิดอยู่เหมือนกันว่าผลต้องออกมาแบบนี้
คุ้นเคยกับมือปืนและเครือข่ายอิทธิพลแบบตะวันตก แต่พอเป็นเอเชียกลับดูเหมือนกันไปหมด
“มันมีข้อสงสัยอีกเรื่อง ที่เคยคุยกับโบรนี่” หนุ่มลูกครึ่งหมายถึงหัวหน้าทีม “ข้าวพองอาจรู้เรื่องเพชรที่ไม่ได้ส่งให้กับพวกฮ่องกง”
หญิงสาวจากอีกฝั่งไม่ค่อยเข้าใจข้อสงสัยของเกีย “เธออยู่กับเขาตลอด เขาไม่พูดอะไรเลยหรือ”
“ไม่” เกียยิ้มขำ จนแมรี่ต้องแซว
“แค่พูดถึงก็ยิ้มได้แล้ว”
“เขางอแงแบบน้องคนเล็ก แต่เก็บความลับได้ดี”
แมรี่พลอยยิ้มตาม “เธอหลงรักเจ้าชายน้อยเข้าแล้ว”
เกียยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม แมรี่ก็แซวต่อ “ที่แน่ๆ เจ้าเสน่ห์มากเลยใช่มั้ย”
เป็นอีกประโยคที่เกียยอมรับ “แต่เท่าที่มองจากมุมผม ผมว่าคนที่ข้าวพองชอบน่ะคือเบซซี่รุ่นน้องที่โรงเรียน แต่ไอรีนน่ะไม่ใช่”
“แล้วเธอล่ะ”
“เขาไม่ได้ชอบผมหรอก เขาแค่ขี้เหงา ต้องการคนเอาใจ”
แมรี่ทำหน้าตาสงสารเกีย
“ถ้าเขาไม่ได้ชอบไอรีน เธอเจาะที่ไอรีนไม่ง่ายกว่าหรือ อ้อ..ยังมีพี่สะใภ้ที่เป็นคนขายเพชรที่เหลืออยู่ มาตามหามือปืนทำไมให้เสียเวลา”
“ผมอยากตอบคำถามเรื่องที่ตำรวจรีบปิดคดีนี้ โดยอ้างว่าไม่มีพยานหลักฐานก่อน ส่วนเรื่องไอรีน...กำลังคิดอยู่”
“ทำไม” แมรี่ถามซ้ำ ทั้งยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าจอ เพื่อมองหน้าเกียชัดๆ แต่มันทำให้รูปหน้าของแมรี่บิดเบี้ยว “เคยเจอเขาแล้วไม่ใช่หรือ”
“เคยเจอแล้ว แล้วก็บอกให้ข้าวพองตัดการติดต่อกับเขาไป เพราะไม่อยากให้ยุ่งกับเรื่องยาเสพติด หรือเที่ยวกลางคืน”
แมรี่นิ่งฟัง ขณะที่เกียพูดต่อ
“ส่วนพี่สะใภ้ นิรมลน่ะเขาจะมาบ้านนี้ตอนวันอาทิตย์ แต่ผมต้องมาคอนโดฯ ไง”
หญิงสาวจากฝั่งลอนดอนหัวเราะหึหึ “ตาซื่อบื้อ”
“อะไร” เกียทำหน้าตาไม่รู้เรื่อง
แมรี่จิ้มที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “เธอน่ะซื่อบื้อ เรื่องง่ายไม่ทำ กลับมาเลือกเดินทางยาก แค่เพราะว่าพวกเขาเป็นผู้หญิง”
“ผมไม่ใช่คนเหยียดเพศนะ” เกียทำโวยวาย  “แต่ตอนนั้นพูดไปแล้วว่าให้ตัดขาดการติดต่อ แล้วนิรมลนี่เขาเป็นพี่สะใภ้ ไปจับตามากๆ อาจไปทำให้คุณเพียงเข้าใจผิด”
“อย่ามาโยกโย้ แก้ตัว กลัวไอรีนจะจับได้ล่ะสิ ว่าเธอหลงรักเจ้าชายน้อย”
คนตัวโตถึงกับใช้ข้อมือกระแทกหน้าผากตัวเอง
“ผมเก็บอาการไม่เก่ง”
“ใช่ สอบตกตลอด” แมรี่หัวเราะเยาะผ่านการสื่อสารทางไกล

…ยิ่งถ้าไอรีน หรือนิรมล เป็นผู้ต้องสงสัยตัวจริง แล้วรู้ว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่ เธออาจเปลี่ยนแผนลงมือ หรือไม่ก็เร่งรัดลงมือ
โดยไม่ลังเล.....

“ผมรู้ว่ายังไงก็หลีกเลี่ยง 2 คนนี้ไม่ได้ แต่ก็อยากถ่วงเวลาออกไปอีกนิด”
“ไม่มีเวลาให้ถ่วงแล้ว” แมรี่บอก ขณะที่หันไปมองด้านข้าง เป็นโบรนี่ที่เดินเข้ามาทักทาย
“ว่าไงลูกชาย แก๊งฮ่องกงที่เคยขอซื้อเพชรจากเพชรแท้ขยับตัว” หัวหน้างานเข้าประเด็นทันทีที่ปรากฏตัว “ข้ามถิ่นมาเวกัสที่ยูเอส ลักพาลูกสาวเจ้าของบ่อน แลกกับเครื่องเพชรที่เมียเจ้าของบ่อนได้มาเมื่อสัก 5 ปีก่อน”
เกียและแมรี่ฟังข่าวเรื่องนี้พร้อมกัน
“มันได้เพชรไป เด็กปลอดภัยกลับมา แต่ตำรวจเวกัสแทบคลั่ง”

…เพราะทุกสิ่งทุกอย่างตกลงกันระหว่างเจ้าของบ่อนกับคนร้าย ตำรวจรู้เรื่องก็เมื่อทุกอย่างจบลงแล้ว...

“ก็สมควร” แมรี่หันมาพยักหน้ากับเกีย “พอจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอต้องคุ้มครองเจ้าชายน้อยชนิดใส่กล่องนิรภัยฝังไว้ใต้ดินมั้ย”
เกียถอนหายใจแรงๆ ขณะที่แมรี่พูดต่อ
“อย่ามัวแต่เดินอ้อม เชื่อสิว่า เด็กๆ น่ะ หลงรักฮีโร่ทั้งนั้นแหละ”

ใช่ว่าไม่อยากเป็นฮีโร่ในสายตาน้อง แต่การที่จะต้องไปปะทะกับผู้หญิง
.....มันไม่ง่ายเลยสักนิด....

กลุ่มของข้าวพองที่เดินออกมาจากโรงเรียนวันนี้มีสมาชิกมากกว่าเคย แถมไทนี่กับป๋อมยังถือกระเป๋าเสื้อผ้ามาคนละใบ ธีระรีบเข้าไปรับกระเป๋าเสื้อผ้า
เกียส่งยิ้มทักทายทุกคน รวมถึงสาววัยรุ่นที่เดินจับมือมากับข้าวพอง
“อ้าว แป๋มไม่มานอนบ้านข้าวพองหรือครับ” เกียหันไปทักสาวแว่น
“ไม่ค่ะ” แป๋มตอบพร้อมยิ้มกว้าง “ปกติเย็นวันนี้เราเรียนเคมีกัน แต่วันนี้แจ้งยกเลิกครูไปแล้ว แป๋มจะได้ทบทวนแบบฝึกหัดได้เต็มที่ เพราะถ้าป๋อมอยู่เขาจะเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเขียนๆๆๆ คำตอบไม่ยอมอธิบาย”
“เรียนอยู่ด้วยกัน ฟังมาด้วยกัน ต้องให้อธิบายอะไร” ป๋อมเถียง
ข้าวพองส่ายหน้า “คนเรียนเก่ง พูดภาษามนุษย์ต่างดาวตลอด”
“อะไร” ไทนี่ยังคงฟังบทสนทนาระหว่างเพื่อนคนไทยไม่ทันเหมือนเคย
“Human Star” ป๋อมหันไปบอกทันที
แม้แต่ธีระยังหัวเราะภาษาอังกฤษของป๋อม
“อย่าบอกใครนะ ว่านั่นเป็นภาษาของนักเรียนทุนเหรียญทองน่ะ” แป๋มทำหน้าเบี้ยวใส่แฝดพี่
เกียต้องหันไปอธิบายกับไทนี่ ว่าหมายถึงประโยคหรือคำพูดที่มันฟังเข้าใจยาก
“ป๋อมพูดแบบนั้นตลอดเวลา เพราะป๋อมเป็น Human Star” ไทนี่ย้อนขำๆ
เกียยิ้มรับ แล้วหันไปส่งยิ้มให้กับสาววัยรุ่นหน้าตาน่ารัก
“เบซซี่” ข้าวพองแนะนำแบบเก้อๆ

เกียคือคนที่ต้องพยายามรักษาองศาของมุมปาก และควบคุมแววตาไม่ให้แสดงอาการ

“ไม่ไปบ้านข้าวพองหรือครับ”
เบซซี่เหลือบตามองข้าวพอง “พี่ข้าวพองไม่ให้ไปค่ะ บอกว่า พี่แป๋มไม่ไป เบซซี่จะไปคนเดียวได้ไง Conservative สุดๆ”

เกียหันไปมองแป๋ม ที่ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้
“งั้นคราวหน้าเบซซี่ต้องพาเพื่อนไปด้วย”
“ค่ะ ที่จริงเบซซี่เพิ่งรู้วันนี้เอง ก็เลยจะไปชวนเพื่อนไปด้วย ก็...จะกลับไปเอากระเป๋าที่บ้านแล้วตามไปน่ะค่ะ แต่เพื่อนเบซซี่เขาก็มีธุระกัน”
“ไว้ รอวันเกิดข้าวพองก็ได้” ไทนี่บอก
ข้าวพองทำหน้าเมื่อย ถามว่าเมื่อไหร่จะได้ไปกันสักที เมื่อบทสนทนาชักจะยาวออกไปเรื่อยๆ

เมื่อมาถึงบ้าน ข้าวพองรีบดึงมือเกียไปกระซิบถาม
“วันเกิดไม่เอานะ ไปเลี้ยงสวนสนุกหรือที่ไหนก็ได้ ทัวร์บ้านครั้งนี้ครั้งเดียวพอ”
“ครับ แต่มันคือมารยาท ถ้าเบซซี่เป็นคนพิเศษ เราก็ต้องตามใจให้สมกับที่เขาเป็นคนพิเศษสิครับ” เกียยิ้มอ่อนๆ จนข้าวพองสงสัย
“ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”
“รู้สึกเรื่องอะไรละครับ”
“เบซซี่น่ะ”
เกียยอมรับทั้งที่ยังคงยิ้มเหมือนเดิม “พี่ปวดใจมาก แต่ถ้าเทียบกับไอรีนแล้ว เบซซี่มีความเหมาะสมกับข้าวพองมากกว่า”
“ไม่ได้ถามเรื่องใครเหมาะ ใครไม่เหมาะ” ข้าวพองหงุดหงิด หันไปมองเพื่อนๆ ที่ตรงไปที่โต๊ะของว่างที่อุบลเตรียมไว้ให้ “เกียน่ะ เห็นพองอยู่กับเบซซี่แล้วหึงมั้ย”
“ไม่ครับ” เกียตอบ “ปวดใจมาก แต่ยอมรับได้ และไม่หึง”
ข้าวพองยิ้มไม่เปิดปาก พยักหน้าช้าๆ “ไม่มีไอรีน ไม่มียาเสพติด พองเอาไทนี่มาแล้ว ต่อไปเกียก็ต้องตามหาคนที่ฆ่าแม่กับพี่เพชรให้พองนะ”
“ครับ”

*-*จบตอนที่ 16*-*

พ่อของพี่ไจฟ์เคยบอกว่า "รักกับชอบไม่เหมือนกัน เวลาที่เรารักดอกไม้ เราจะรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยต้นไม้ บางคนถึงกับเปิดเพลงให้ต้นไม้ฟัง เพื่อให้ออกดอกสวยงาม ส่วนคนที่ชอบดอกไม้ เขาจะตัดดอกไม้ไปใส่แจกัน"

พบกันวันอาทิตย์ครับ
..น้ำชากับพี่ไจฟ์ครับ..



หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 08-05-2014 09:55:33
"ครับ" ตอนจบนี่มัน 555
 :hao7:
หลงรักเจ้าชายน้อยเต็มเปาจริงไรจริงนะนี่
แต่ไม่น่าเชื่อว่ามาดนิ่งๆ อย่างเกียจะกลัวไอรีนรู้
รู้ตัวเองดีแบบนี้
เกีย นายร้ายยยยยยยยมว้ากกกกกกก
 :mew3:
fc ไทนี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ข้าวพองเอามาไว้เร็วๆ
บวกและเป็ดขอบคุณ

ปล. เบซซี่ต้องให้ขึ้นบัญชีดำไว้มั้ย
ไม่กล้ากับผู้หญิงเดี๋ยวตามเก็บให้เอง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 08-05-2014 10:01:38
ตอนนี้แอบสงสารเกียแฮะ แต่เอาน่ะ ข้าวพองคงแค่ชอบเบซซี่เฉยๆ คงยังไม่ถึงขนาดรักหรอก เอาใจช่วยเกียนะ

ส่วนเรื่องคดี ยิ่งอ่านก็ยิ่งซับซ้อน ข้าวพองรู้อะไรแล้วไม่ยอมบอกเกียหรือเปล่าน้ออออออออ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-05-2014 10:04:37
รักของเกียก็คงเป็นอย่างนั้นสินะ
แล้วรักของข้าวพองล่ะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-05-2014 10:23:35
ความเหงาเล่นงาน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 08-05-2014 10:53:36
ข้อ 1 เบซซี่น่ะแค่คนพิเศษ........แต่เกียคือคนที่ใช่นะข้าวพองใช่ไม๊เอ่ย :impress2:

ข้อ 2 ส่วนคดีเริ่มเข้มข้นแล้ว ตำรวจยูเอสพลาด.......รอดูฝ่ายอังกฤษบ้าง ต้องแบบบู้กระหน่ำแน่ๆๆ   :katai2-1:

ข้อ 3  :pig4: JiveTea
 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-05-2014 11:01:09
เด็กป๋อมแป๋มน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-05-2014 11:02:12
ท่าทางพระเอกเราจะเป็นได้แค่ อัศวิน อดเป็น เจ้าชาย ซะล่ะมั้ง  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 08-05-2014 11:03:39
เกียไม่กล้าสู้กะสาวๆรอบตัวข้าวพองหรอเนี้นย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 08-05-2014 12:37:16
หืม..สรุปเครื่องเพชรมีมากกว่า 1 เหรอเนี่ย :m28:
หรือเราเข้าใจผิดแต่แรก   :m17:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 08-05-2014 13:04:16
ตอนนี้เทความสำคัญให้คู่หลักน้อยจัง
แต่ตัวละครเพียน
ไทนี่นี่น่าสงสัยสุด  :laugh:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 08-05-2014 15:14:12
ตามอ่านไปเรื่อยๆ ไม่กล้าเดาแล้ว
แต่ชื่นชมกับคุณพ่อของคุณไจฟ์
ทำให้เข้าใจในความหมายของคำว่า "รัก" กับ "ชอบ" นั้นแตกต่างกัน
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-05-2014 15:57:38
เกียหลงรักเจ้าชายน้อยจนถอนตัวไม่ขึ้น ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 08-05-2014 17:15:52
รีบหาคนร้ายแล้วเกีย ข้าวพองเร่งแต่จะหาคนร้าย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 08-05-2014 20:48:12
ต้องแบบนี้แหละ..นายเอกแต่ละคนแต่ละเรื่องต้องแตกต่างกันเนอะ.
หนูข้าวพองต้องมีมุมลึกลับซับซ้อน....เพิ่มความอยากค้นหาให้พี่เกีย
ตามงัดแงะแกะออกมาให้ได้.....
เวลาป้ารดน้ำต้นไม้ที่รักจะคุยกับเค้าทุกวันตอนเช้า..ต้นที่ดูแกร่งจะเรียก
สุดหล่อ..หรือกู๊ดบอย....  ส่วนต้นที่ดูแล้วให้ความรู้สึกอ่อนหวานเรียก...
คนสวย..หรืออีหนูของป้า.. แล้วก็คุยไปเรื่อยเปื่อยจนเมื่อยค่อยหยุด....
พอจะเข้าบ้าน   อ้าว...คนอื่นมองหน้า...จะอะไรล่ะเค้าก็คิดว่า  อินี่บ้าไปแล้ว...555..... :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 08-05-2014 20:48:38
ปวดใจไปกับเกีย!
อะไรมันจะโยงใยเข้าหากันบ้างเนี่ย
จะยุ่งอีรุงตุงนังไหมหนอ แล้วพองจะเป็นตัวแสบอีท่าไหน
โอย ปวดเฮด!  :ling2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 09-05-2014 01:11:44
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น 555 ยืมโคนันมา เกียเอ๋ยจะปะทะกับผู้หญิงนีีเร็วไปสิบปีมั้ง  เรารักไทนี่ หว่อง ตามติดพฤติกรรมของไทนี่ ต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 09-05-2014 01:39:05
เหมือนดูหนังฝรั่งอยู่นะ บรรยากาศคล้ายๆ
บทสนทนาเยอะมาก แต่ไม่กระจ่างอะไรเพิ่มขึ้นมาเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 09-05-2014 09:28:09
โถถถถ เกีย
พ่อพระเอก!!!!
 :ling1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MooMiew ที่ 09-05-2014 19:06:02
เพิ่งตามอ่านค่ะ สนุกมากเลย เพราะไม่ใช่แค่เรื่องรักล้วนๆ

อ่านไปคิดตามไปด้วย ลุ้นดีค่ะ

รอตอนต่อไปค่ะ :mew3:

ปล. สงสัยคำว่า ไอ้เหลียง อ่ะค่ะ เป็นชื่อตัวละครเฉยๆ หรือ เป็นสรรพนามแทน เหรอคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 16 หน้า 13 (8พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 11-05-2014 09:13:04
วันอาทิตย์แล้ววววววววววววววววววววววววววว

มาปูเสื่อรอพี่เกียกะน้องข้าวพอง อิอิอิ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 11-05-2014 09:18:56
ตอนที่ 17

ข้าวพอง ไทนี่หว่อง และป๋อม มีอะไรแตกต่างจากวัยรุ่นคนอื่นหรือไม่ ไม่เลยสักนิด ต่อให้แต่ละคนมีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่หลังจากที่กินของว่างเสร็จก็พากันไปซ้อมมวยกันต่อ
เป็นการซ้อมที่หากครูมวยมาเห็นคงต้องเศร้าใจ
แต่เพราะคนสอนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกว่า ให้ข้าวพองรู้จักป้องกันตัวเอง กับสังเกตท่าทีของไทนี่ หว่อง กับ ป๋อม
พอให้ยอดกับยิ่งมาช่วยเป็นคู่ซ้อมให้ การฝึกวันนี้ยิ่งออกไปในแนวตลกขบขัน

เกือบ 5 โมงเย็นนิรมลแวะมาที่บ้านพร้อมกับขนมและอาหารกล่องใหญ่
หญิงสาวตรงไปที่โรงฝึก ส่งเสียงทักทายแต่ไกล
“ตาย...พาเพื่อนมาบ้าน 2 คนเองหรือคะ น้องข้าวพอง คุณเพียงโทรไปกำชับพี่อย่างกับพามาทั้งห้องงั้นแหละ”
ที่ผ่านมาข้าวพองไม่เคยแสดงอาการว่าชอบหรือไม่ชอบพี่สะใภ้คนนี้ ซึ่งในความเห็นของเกีย ความรู้สึกน่าจะออกไปทาง –เฉยๆ- เสียมากกว่า แต่ตอนนี้ข้าวพองกำลังกลอกตาขึ้น แล้วเบ้หน้า
ส่วนไทนี่กับป๋อมที่กำลังเตะกระสอบทรายแบบที่เน้นฮามากกว่าการออกแรง หยุดการสร้างเสียงหัวเราะ หันมาสวัสดีหญิงสาว
“สวัสดีจ้ะ นี่เป็นเพื่อนกลุ่มแรกในรอบหลายปีของข้าวพองเลยนะเนี่ยที่เขาชวนมาบ้าน แสดงว่าต้องเป็นเพื่อนสนิทจริงๆ” นิรมลกรีดกราย แล้วหันมาหาเกีย “ฝึกเสร็จแล้วใช่มั้ยคะครู เข้าบ้านไปทานขนม เล่นเกม แล้วมาทานอาหารเย็นกันดีกว่า พี่รับรองว่ามื้อนี้อร่อยแน่”
3 หนุ่มหันไปมองเกียทันที
เกียก็แค่พยักหน้า ไม่ได้ทักท้วงอะไร
มีแต่ข้าวพองที่ยังคงมองเกียด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ครับ เพื่อนมาบ้านทั้งที”
ข้าวพองยักไหล่เดินตามไทนี่กับป๋อมเข้าบ้านพร้อมกับรายการคำถามที่จดไว้ในใจ

....นี่มันต้องเกี่ยวกับไทนี่ใช่มั้ย ต้องใช่สิ เราให้ไทนี่มาบ้านก็เพื่อที่จะยืนยันว่าเราไม่ได้สนใจเรื่องยากับเรื่องเที่ยวอีกแล้วนี่นา....

อาหารที่นิรมลเตรียมมา มันสำหรับเพื่อนของข้าวพองทั้งห้องเรียนไม่ใช่แค่ 2 คนอย่างที่พูดไว้จริงๆ
คนรับใช้จากบ้านของมโหธรช่วยอุบลจัดโต๊ะอาหาร โดยมีนิรมลยืนยิ้มภูมิใจ
“เป็นไงคะ พอจะสู้ที่บ้านของน้องๆ ได้หรือเปล่า”
ไทนี่รีบส่ายหน้า ส่วนป๋อมทำตาโต “บ้านผมไม่กินอะไรเยอะอย่างนี้หรอกครับ”
นิรมลยิ่งออกอาการภูมิใจจนข้าวพองต้องหันไปหัวเราะกับเกีย
“แล้วปกติ ช่วงนี้กำลังทำอะไรกันคะ”
“ผมเรียนพิเศษ” ป๋อมบอก ส่วนไทนี่พยักหน้าตาม

....ไทนี่เรียนพิเศษตอนเย็นด้วยหรือ ไปส่งเมื่อไหร่ก็เห็นมีแต่คนรับใช้ แล้วหลายครั้งก็ไม่เห็นจะมีใครอยู่บ้าน.....

“โอ้....” นิรมลหันมามองหน้าป๋อมตรงๆ “ท่าทางจะเรียนเก่งนะเนี่ย”
“ป๋อมเป็นนักเรียนดีเด่นเหรียญทอง” ข้าวพองแนะนำเพื่อน
ป๋องยิ้มกว้างรับคำแนะนำ ส่วนนิรมลหันมาหาข้าวพอง
“มีเพื่อนเรียนเก่งก็ดีนะ ชวนกันไปเรียน ไม่ใช่ไปไหนไม่รู้”
รอยยิ้มของข้าวพองเปลี่ยนไป “แล้วพี่นิอยากรู้หรือเปล่าว่าพี่เพียงไปไหน”
เกียกระแอมไล่ลม แล้วบอกให้หนุ่มทั้ง 3 คนไปอาบน้ำล้างตัวแล้วลงมาเล่นเกมระหว่างรอเวลาอาหาร
ระหว่างที่เดินไปที่บันได นิรมลหันไปพูดกับอุบล “ไหนบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่ยอกย้อนแล้วไงล่ะ”
...พอเผลอก็กลับมาย้อนเรื่องพี่เพียงเข้าจนได้....
อุบลได้แต่ยิ้ม เหมือนกับเกียที่ขอตัวไปเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องซ้อมด้านหลัง

นิรมลหันมองซ้ายขวา แล้วค่อยๆ ถอยออกมาจากห้องรับประทานอาหาร ก้าวขึ้นไปที่ชั้นบน
เกียใช้เวลาเก็บของที่ห้องด้านหลังไม่นานนัก อันที่จริงก็แค่เดินไปปิดเครื่องฟอกอากาศ ปิดไฟ เพราะยอดกับยิ่งเก็บอุปกรณ์ต่างๆ จนเสร็จแล้ว เมื่อกลับเข้ามาจึงเห็นแต่เพียงอุบลกับคนรับใช้จากบ้านของมโหธร กำลังเตรียมอาหารสำหรับข้าวพองและเพื่อน

ที่ผ่านมานิรมลเข้า-ออกบ้านนี้เป็นเรื่องธรรมดา หรือต่อให้เดินขึ้นไปบนบ้านก็มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาก็คงได้ เพราะเธอเป็นสะใภ้ของบ้านนี้

เกียเดินช้าๆ ขึ้นมาชั้นบน ต้องเดินผ่านห้องนอนของตัวเองก่อน แล้วถึงจะเป็นห้องนอนของข้าวพอง เมื่อเปิดประตูเข้าไปเห็นป๋อมกำลังทำแบบฝึกหัดจากหนังสือ โดยมีข้าวพองกำลังนั่งมอง
“ไทนี่เพิ่งอาบน้ำ” หนุ่มตัวเล็กหันมาบอก
“ไม่ได้มาเร่ง แค่แวะมาดูว่านอนห้องเดียวกัน 3 คนได้จริงๆ หรือเปล่า”
“สบายมากครับ” ป๋อมบอกด้วยรอยยิ้ม ที่ดูอย่างไร ก็ไม่มีเค้าว่าจะเป็นเด็กเรียนเลยสักนิด “คืนเดียวเอง พอดีพรุ่งนี้ผมมีติวฟิสิกส์ ถ้าขาดอีก แป๋มต้องเชือดผมแน่ๆ”
“ครูติวได้ปะ” ข้าวพองถามเกียยิ้มๆ
“ได้” เกียตอบ “โปรแกรมพรุ่งนี้หลังซ้อมมวยแล้วกัน”
“โอย....” ข้าวพองทิ้งตัวลงนอนบนเตียงจนป๋อมหัวเราะ
“ไรของมึงเนี่ย หมดแรงเพราะฟิสิกส์หรือเพราะมวย”
“มวยสิ กูไม่ได้เกิดมาเพื่อชกมวยนะ กูเกิดมาเพื่ออ่านการ์ตูนเท่านั้น”

เกียมองดู 2 หนุ่มคุยกัน แล้วเดินกลับออกมาจากห้อง หยุดยืนมองต่อไปที่ห้องด้านใน
ห้องนอนใหญ่ของอัครา กับห้องนอนเดิมของเพชรแท้ 
เกียเพียงแค่รอ....
คนที่รออยู่ก้าวออกมาจากห้องนอนใหญ่ของอัครา
สีหน้าซีดเผือดในทันทีที่เห็นคนที่ยืน มือล้วงกระเป๋ารออยู่

“เกีย” นิรมลพยายามปรับสีหน้าท่าทาง “รอเด็กๆ อยู่หรือคะ”
“ครับ” เกียรับคำพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก “คุณอัคราให้มาเอาของหรือครับ ให้อุบลขึ้นมาหยิบให้ก็ได้”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ” หญิงสาวกลอกตาไปทางอื่น “นิขึ้นมาดูความเรียบร้อย เผื่อว่าข้าวพองจะพาเพื่อนๆ ดูบ้าน”
“ดูบ้าน” เกียทำเสียงสูง ไม่เข้าใจ
นิรมลแสดงท่าทางแบบคนที่มีความเข้าใจทุกคนเป็นอย่างดี
“ก็ดูบ้านไงคะ เวลาที่เราพาเพื่อนมาบ้าน เราก็มักจะพาเขาไปดูห้องนั้นห้องนี้ เกียไม่เคยพาเพื่อนมาบ้านหรือคะ”
“ไม่ครับ” เกียตอบตามตรง “เวลาผมพาเพื่อนมาบ้าน ก็จะอยู่กันที่สนามหญ้า แม่เรียกให้เข้าบ้านไปกินขนมถึงได้เข้าบ้าน” คนตัวโตหันกลับไปมองประตูห้องของข้าวพอง “ผมว่าเราลงไปข้างล่างกันเถอะครับ ยืนคุยตรงนี้ อาจถูกเข้าใจผิดว่ากำลังเร่งเขาอยู่ก็ได้”
นิรมลรีบเห็นด้วย “ดีค่ะ เห็นว่าอารมณ์ดีพาเพื่อนมาบ้าน ก็กลับย้อนนิเข้าจนได้”

เกียเบี่ยงตัวให้นิรมลเดินนำลงไปก่อนแล้วค่อยเดินตามมา
หญิงสาวเปลี่ยนไปบ่นเรื่องนิสัยเอาแต่ใจของข้าวพองไปเรื่อยๆ เกียก็เถียงในใจไปเรื่อยๆ
รอจน 3 หนุ่มลงมาแล้วตรงไปที่โต๊ะอาหาร
เกียชวนเล่นเกมทบทวนการเรียนในวันนี้ คนที่ตอบได้จะได้กินขนม
แน่นอนคนที่อิ่มคือป๋อม ส่วนอีก 2 คนได้แต่ยืนมอง

“นี่มันวันเกิดผมชัดๆ” ป๋อมหัวเราะร่วนแล้วหยิบขนมปังหน้าหมูใส่ปาก
“เลิกเล่นเหอะ ใครจะไปตอบทัน” ข้าวพองโวยวายอย่างไม่จริงจัง เพราะรู้ว่า อย่างไรก็ต้องได้กินขนม เพราะนิรมลเตรียมมาเยอะแยะ
“ทำไมป๋อมรู้คำตอบทุกข้อเลยล่ะ” ไทนี่มองขนมบนโต๊ะตาละห้อย ด้วยความหิว
“เพราะเราไม่ได้นั่งหลับ..Sit sleep ไง”
“อะไรนะ” ทั้งนิรมล และอุบลต่างร้องทักภาษาอังกฤษของป๋อม ส่วนเกียยังคงยิ้มขำ
ข้าวพองทำหน้าตาเหนื่อยๆ “ภาษาอังกฤษของพ่อคนฉลาดเขาไง วันนี้เสนอคำว่า Sit sleep แปลว่านั่งหลับ”
กินขนมกันเสร็จ รออีกไม่ถึงชั่วโมงก็ได้เวลาอาหารค่ำ แต่ 3 หนุ่มบอกว่าสบายมาก
“วัยรุ่นผู้ชายก็ดีอย่างนี้แหละนะ” อุบลบอก “ถ้าเป็นสาวๆ ละก็ได้บ่นอ้วนกันแน่”
“บ่นไปหยิบขนมเข้าปากไปด้วย แป๋มเป็นงี้ตลอด” ป๋อมบอก
ข้าวพองหันมาบอกพี่สะใภ้ “แฝดน้องของป๋อมน่ะ ชื่อแป๋ม วันนี้ไม่มาด้วยติวเองที่บ้าน”
“อ้าว งั้นน้องป๋อมก็ขาดเรียนพิเศษสิคะ” นิรมลทำท่าเป็นห่วงไปอย่างนั้นแหละ แท้จริงแค่ชวนคุยไปเรื่อยๆ
“ต่อให้แป๋มวันนึง ยังไงก็ตามไม่ทันหรอก”
ป๋อมบอก ขณะที่มองไทนี่กับข้าวพองเล่นเกม
“แล้วน้องป๋อมเล่นเกมมั้ยคะ”
“เล่นสิ แต่แม่กับแป๋มบอกทำให้สมาธิสั้น”
ข้าวพองที่กำลังเล่นเกมอยู่ พูดโดยไม่หันมามอง “คนที่ตั้งคำถามไปเรื่อยๆ โดยไม่ฟังคำตอบเนี่ย เรียกว่าสมาธิสั้นด้วยหรือเปล่า”
นิรมลมีอาการหน้าหงายเล็กน้อย เพราะรู้ตัวว่า โดนข้าวพองเหน็บแนม
เกียที่อยู่ด้านหลังถัดออกไป ต้องชวนป๋อมคุย
“ปกติป๋อมใช้แบบฝึกหัดทบทวนจากที่ไหนครับ”
ป๋อมหันมาหาเกียทันที “พี่ที่เขามาติวให้เขาจะเตรียมมาน่ะครับ ของครูใช้ที่ไหนสอนข้าวพองครับ”
“ครูใช้แบบฝึกหัดของโรงเรียนที่อังกฤษน่ะครับ”
“ถือมาจากที่นั่นเลยหรือครับ” ป๋อมทำตาโต น้ำเสียงตื่นเต้น จนเกียยิ้มกว้าง
“มีทั้งที่ถือมา ทั้งที่สั่งให้น้องสาวส่งมาให้ ป๋อมจะดูมั้ยครับ”
ป๋อมรีบลุกตามเกียออกไปที่ด้านนอก
คนตัวโตอดไม่ได้ ที่หันไปมองคนที่กำลังเล่นเกมอย่างสนุกสนานอยู่กับไทนี่
ผลตอบรับไม่ผิดไปจากที่คิดไว้ เพราะเจ้าตัวไม่ได้สนใจเลยสักนิด ดวงตากลมๆ คู่นั้นยังคงจดจ่ออยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์

พอเกียลุกออกมา นิรมลก็คุยกับไทนี่แบบถามไปเรื่อยๆ ว่าพักอยู่ย่านไหนในฮ่องกง ก่อนมาเรียนที่ประเทศไทย ต้องเรียนภาษาไทยก่อนหรือเปล่า

5 นาทีถัดมาป๋อมก็กลับมาพร้อมกับแบบฝึกหัด
“มึงทำเลขเกือบหมดเล่มแล้วนี่ข้าวพอง”
“อือ” ข้าวพองตอบ

ส่วนไทนี่หันมามองหน้าข้าวพองแวบหนึ่งแล้วหันไปมองหน้าจอโทรทัศน์ ขณะที่นิรมลหันมาให้ความสนใจหนังสือในมือป๋อม

“แล้ววิชาอื่นๆ ขยันแบบนี้หรือเปล่า”
เกียยิ้ม “ข้าวพองตั้งใจเรียนมากนะครับ”
“ไม่น่าเชื่อ” นิรมลทำหน้าตาไม่เชื่อสมกับคำพูด

คนอื่นๆ กำลังคุยเรื่องเรียนของข้าวพอง แต่ไทนี่ดูท่าทางอยากถามอยากคุยกับข้าวพองตามลำพัง เพียงแต่ไม่มีโอกาส

ต้องรอจนได้เวลาอาหารค่ำ แล้วทุกคนออกจากห้องนั่งเล่นย้ายมาที่ห้องรับประทานอาหาร ไทนี่ถึงได้ดึงมือข้าวพองไปคุยกัน
“พองจะไม่ไปเที่ยวกับกูแล้วหรือ”
“ถ้าหมายถึงเที่ยวกลางคืนละก็ คงไม่แล้ว”
“ทำไมล่ะ” ไทนี่สงสัย
ข้าวพองตอบทันที “เรา ม.6 แล้วนะไทนี่ อีกไม่กี่วันก็จะเริ่มสอบตรงกันแล้ว เรื่องเที่ยวน่ะไว้รอหลังสอบเสร็จก็ได้”
ไทนี่ค่อยยกยิ้มมุมปาก “หมายความว่า รอสอบเสร็จใช่มั้ย เมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็...ต้นปีหน้าน่ะแหละ”
“นานจัง”
ข้าวพองทำหน้าตาเมื่อย “สอบที่นี่เขาเป็นอย่างนี้แหละ มหาวิทยาลัยเยอะ ก็สอบไปเรื่อยๆ”
ไทนี่หันไปมองรอบๆ “ข้าวพองมีเงิน เรียนเอกชนก็ได้”
“ได้ แต่มันไม่เท่” ข้าวพองพูดพลางยักคิ้ว “ถ้าไทนี่ยังอยู่ที่นี่จนเรียนจบ เราก็ค่อยไปเที่ยวด้วยกัน”
ดวงตายาวเรียวเหลือบมองไปทางอื่นด้วยความไม่แน่ใจ

เมื่อกลับมารวมกลุ่มที่ห้องรับประทานอาหาร ข้าวพองเพียงแค่พยักหน้าให้เกีย แล้วหันมาให้ความสนใจอาหารที่นิรมลเตรียมมา
“วันนี้พิเศษจริงๆ นะเนี่ย ขนาดพ่อกับพี่เพียงมายังไม่เพียบขนาดนี้เลย”
นิรมลพูดเหมือนเดิม “ก็พี่คิดว่ามากันหลายคนเลยเตรียมมาเยอะ”

เกียได้แต่ส่ายหน้า ดูๆ ไปข้าวพองก็แค่กวนประสาทนิรมลไปเรื่อยไม่ได้หมายความว่าจะไม่ชอบ หรือต่อต้านอะไรหรอก
ในคืนนั้นเมื่อเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะในห้องนอนของข้าวพองเงียบลง เกียเข้าไปในห้องนอนของอัครา
เป็นครั้งแรกที่เข้ามาในห้องนี้
ดวงตาสีฟ้ากวาดมองไปรอบๆ ห้อง มีภาพถ่ายครอบครัวตั้งโต๊ะอยู่ที่โต๊ะกระจกอย่างโดดเด่น
เกียเดินเข้าไปมองใกล้ๆ
ข้าวพองในวัยเด็กกับยิ้มสดใส แต่เมื่อวางภาพลง เกียกลับสะดุดตาที่ความผิดปกติของเงาตัวเองในกระจก
คนตัวโตผ่อนลมหายใจช้าๆ ระงับความตื่นเต้นที่อาจทำให้ความคิดสับสน

....คนพวกนี้กำลังคิดอะไรอยู่....

*-*-*จบตอนที่ 17*-*-*

หาอยู่นาน วนไปวนมาจนถึงหน้า 5 หาไม่เจอ  :m15: กว่าจะมาได้สายสุดๆ
ตัวละครเยอะหรือครับ งั้นสนใจแค่ ก-ไก่ กับ ข-ไข่ ก็พอ ที่เหลือ ปล่อยไปตามยถากรรม  :เฮ้อ:

..ไอ้เหลียงคือชื่อของคนร้ายที่ปะทะกับเกียที่อังกฤษ เป็นคนที่ทำให้เกียบาดเจ็บจนต้องออกจากงานครับ

บอกอีกที เฉลยทั้งหมดตอนที่ 36 แต่มันยังไม่จบ บระเจ้า ทำไมเรื่องนี้มันยือเยื้อขนาดเน๊.. :m8:
กินเตี๋ยวเรือกัน..
พบกันวันอังคารนะครับ

นายน้ำชา กับ พี่ไจฟ์.
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 11-05-2014 09:44:17
เงาตัวเองในกระจก? เจอใครที่แอบเข้ามาก่อนรึเปล่า ตัดฉับเลย  ขอทุกตอน ถ้าจะเป็นคนร้าย ขอให้ไทนี่ทำด้วยความจำเป็นบางอย่างเถอะ  แลดูน่าสงสาร. ส่วนนิรมลตอนนี้หล่อนผิดเต็มๆนะ ว่าแต่เข้าไปเอาอะไรหนอ รอตอนต่อไปจร้า
ปล เตี๋ยวเรือ กำลังจะไปกินอยู่พอดี
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 11-05-2014 09:48:53
สะดุดที่เกียคิดว่าคนพวกนี้ แล้วนิรมลก็ทำตัวแปลก  แต่ยังไงก็รอดูต่อไป

แต่เกียนี่ชอบข้าวพองมากเลยนะ เถียงแทนทุกอย่างแม้จะในใจก็เถอะ  :impress2:

รอตอนต่อไปค่ะ   :3123:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-05-2014 09:54:38
มีเรื่องให้สงสัยไม่เว้นแต่ละตอน
คุณพี่สะใภ้เอย ไทนี่หว่องเอย แล้วเงาในกระจกอะไรอีก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-05-2014 10:07:17
ยิ่งอ่านยิ่งหน้าติดตาม
รอๆ อยากรู้จริงๆ ว่าใครร้ายสุด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 11-05-2014 10:14:19
อ่านมาเรื่อยจนท้ายตอนนี่แหละ  เกียเห็นไรในกระจก
ถึงขนาดคิดไปว่าคนบ้านนี้คิดจะทำอะไร  :hao4:

ตรงนี้ถูกตัดไป  ตอนหน้าก็คงไม่กล่าวถึง  แต่ปล่อยให้เป็นปม(มั้ย)
แล้วค่อยมาเฉลย....ก็ได้แต่เดา 

ตอนนี้พี่สะใภ้ก็น่าสงสัยเข้าไปในห้องทำไมน้อ

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 11-05-2014 10:15:03
ตอนนี้นิรมลมีพิรุธหลายอย่างเลย หลุกหลิกๆ ชอบกล

ไทนี่ก็ดูจะพยายามลากข้าวพองไปเที่ยวกลางคืนจนน่าสงสัย

เฮ้ออออออ รอบตัวข้าวพองมีแต่คนไม่น่าไว้ใจ เกียเหนื่อยหน่อยล่ะงานนี้


ปล. อะไรที่อยู่ในกระจกหนอ หรือหลังกระจกจะมีอะไรผิดปกติ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 11-05-2014 10:27:35
ตอนนี้คะแนนความน่าสงสัยของนิรมลใกล้ ๆ กับไทนี่แล้วสิ
ส่วนไอรีนดูเหมือนจะเงียบไป  แต่ก็ยังไม่กล้าตัดคนน่าสงสัยออกไปสักคน
ตอนท้ายชวนลุ้นมากอ่ะ  ว่าเกียเจออะไร
แล้วจะเป็นปมที่ทำให้เกียหาตัวคนร้ายได้รึเปล่านะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 11-05-2014 10:32:49
อ่านไปลุ้นไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 11-05-2014 11:46:04
ตอนนี้น่าสงสัยทุกคน (ยกเว้นป๋อมมั้ง)
แต่เงาที่แปลกไปของตัวเองในกระจกคืออะไร
"คนเหล่านั้นคิดจะทำอะไร" คืออะไร?
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 11-05-2014 12:17:04
พี่เกียคะ ผู้ต้องสงสัยเยอะจริงๆ พี่ต้องเครียดมากแน่ๆ ส่วนข้าวพองก็กำลังพยายามสังเกตคนรอบๆตัวไปเรื่อยๆ

ว่าแต่คุณพี่สะใภ้เนี่ย เก็บอาการไม่ค่อยอยู่เลยนะ ทำตัวมีพิรุธตลอดนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 11-05-2014 12:42:15
พี่สะใภ้นางเยอะจริงนะ

อาจไม่ได้หวังร้าย แต่เรื่องมากชะมัด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 11-05-2014 13:01:58
ข้างหลังกระจก!!!!!หรือว่ามีห้องลับ ที่พี่สะใภ้บอกว่าข้าวพองจะพาเพื่อนชมบ้าน เพราะกลัวพาไปเจอห้องแห่งความลับนี่หรือเปล่า?????
.....เดา เอา ทั้งนั้นนน รอเฉลยดีกว่า  :really2:

 :pig4: JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 11-05-2014 13:41:10
ปริศนาทิ้งท้ายอีกหนึ่งอย่าง
"เงาในกระจก" มีอะไรซ่อนอยู่หลังกระจดรึป่าวน๊าาาาาา
หรือเงาสะท้ารอะไรออกมาบ้าง หรือจริงๆแล้วหลอก!!!! มีแค่เงาของเกียอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-05-2014 13:54:53
พี่สะใภ้ทำตัวมีพิรุธ?(เดา)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 11-05-2014 14:07:02
ตอนก่อนหน้า ก็ว่าจะตัดไทนี่ออกจากผู้ต้องสงสัยแล้ว
พอมาตอนนี้รู้สึกยังตัดใครทิ้งไม่ได้เลย
แต่แอบคิดว่าไทนี่น่าจะมีเรื่องไม่ดีอย่างอื่น
ที่ไม่ใช่เรื่องเพชรก็เป็นได้ เดาทางไม่ออกเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pipoo ที่ 11-05-2014 14:25:17
มาให้กำลังใจค่ะ รออ่านตอนย้ายไปห้องจบกลัวค้างงงง แง่  :mew2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 11-05-2014 14:39:23
 :ling1: :ling1: :ling1:...ค้างคามากกกกกกกก....
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 11-05-2014 19:08:53
นิรมล?
เงาของเกียในกระจกเงา?
ทุกอย่างของเรื่องนี้เป็นเครื่องหมายคำถามได้หมดจริงๆ :katai1:

 :pig4:  คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 11-05-2014 22:00:29
เราว่า นิรมลไม่ใช่คนร้ายหรือตัวบงการ แต่เป็นคนโลภอยากครอบครองสมบัติมากกว่า
เราว่า จะไม่เดาแล้ว แต่พยายามวิเคราะห์ตัวละคร แต่สงสัยจัง ไทนี่มันหวังอะไรจากข้าวพอ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MooMiew ที่ 11-05-2014 23:31:01
อย่าบอกนะว่านั่นไม่ใช่กระจกเงา แต่เป็นกระจกใส มองเห็นทะลุไปห้องของข้าวพอง

ที่พี่เกียท่าทางตื่นเต้น...

...คือกระจกนี่ติดกับห้องน้ำห้องข้าวพอง แล้วตอนนั้นข้าวพองกำลังอาบน้ำพอดี  :hao6:

#ไม่ใช่ละ :hao3:

กำลังลุ้น

รอตอนต่อไปค่ะ :L2:

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-05-2014 23:51:17
ยังสนใจเรื่อง ไทนี่ อยู่เหมือนเดิม แต่เกียดูสนใจป๋อมนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 12-05-2014 07:00:15
ห้องลับแน่เลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 12-05-2014 08:02:53
หะ
มีไรในกระจก
 :a5:
มาแล้วๆๆๆ ปริศนา
อยากรู้ๆๆๆๆ
บวกและเป็ดขอบคุณ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-05-2014 15:33:20
ตื่นเต้น เห็นอะไรที่พอจะเป็นหลักฐานเพิ่มเติมหรือเปล่าเกีย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 12-05-2014 21:41:51
อะไร ยังไง โอ๊ยมึนตามเกีย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 12-05-2014 23:09:49
ทนไม่ไหว ล็อคอินเข้ามาเม้นต์ละนะ

ตอนที่7
พองเป็นคนแบบ...ตามอารมณ์ไม่ทันเลย หมุนไปหมุนมา ไฮเปอร์จัง
ส่วนพี่ก็...เป็นพายุพัดน้องไปมาเหมือนกัน น้องสับสน ตามไม่ทัน เป็นปลาทองหัวหมุนกันไป

ถามๆ หว่องนี่จะเป็นเด็กเสี่ยรึเปล่าน้อ

ตอนพิเศษ
พี่นี่เนียนๆสอนน้องตลอด เหมือนหลอกแมว แหย่แมว ล่อแมว เล่นกับแมวเลย
ปล.อ่านไปจิ้นไปว่า พี่คนนั้น เดทกับน้องคนนั้นไปด้วยนะเนี่ย จะเป็นแบบนี้ไหมนะ

ตอนที่8 อ่านถึงตอนที่พองเอาการ์ตูนไปนั่งอ่านในโรงฝึกแล้วมันเง๊าเหงาอ่ะ
ส่วนกองเชียร์back upจากแดนไกล ช่างเฮฮาร่าเริงกันจริงๆ ดูชีวิตเกียไม่น่าเหงาเลยนะ

ตอนที่9 เป็นคืนที่ยาวนานอีกคน ของคนที่ห่วงใย แต่มันไม่เห็นมีอะไรเลยสำหรับคนที่ทำตัวหน้าเป็นห่วง
เรื่องราวของเกียเป็นเรื่องที่อบอุ่นนะ
แต่การที่พูดกับคนเมาและคำตอบของคนเมา มันทำให้เราอยากร้องไห้เพราะสงสารยังไงก็ไม่รู้

ตอนที่10
อืม คนเวลสบายๆ ไม่เครียด เฮฮาและก็ใจดี กว่าพวกสก็อตแลนด์แล้วก็คนทางลอนดอนจริงๆน่ะแหละ คงเพราะส่วนแดนของเขาไม่ค่อยมีอะไรมั้ง

ส่วนไทนี่...งืม....จากตอนที่แล้วก็กลัวอยู่ว่าจะเกิด แล้วก็จริงๆด้วย เกิดจนได้ แต่เรายังไม่ละความคิดว่าเป็นเด็กเสี่ยหรอกนะ

ตอน11นี่ เป็นความรู้สึกของเด็กน้อยกำลังทำตัวเป็นผู้ใหญ่ใช่ไหม
เหมือนว้าวุ่นด้วยตัวคนเดียว คิดเอง ตอบเอง เป๋เอง งงเอง เสร็จสรรพเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 13-05-2014 09:08:27
ฮึ๊บๆๆ วันนี้วันอังคารรรรรรรรรรรรรรร

มานั่งรอนอนรอน้องข้าวพองกับพี่เกีย อิอิ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 13-05-2014 09:41:47
ตอนที่ 18

ตอนเช้าระหว่างรอข้าวพองลงมารับประทานอาหาร เกียชวนอุบลคุยเรื่องภายในบ้าน เป็นการยืนยันอีกครั้งว่า มโหธรแต่งงานแล้วก็แยกบ้านออกไป ดังนั้นนิรมลจึงไม่เคยพักที่บ้านนี้
ส่วนไอรีน พักที่บ้านนี้ก็จริงแต่นอนที่ห้องรับแขกที่อยู่ชั้นล่าง ซึ่งเกียแน่ใจว่า ไอรีนต้องเคยเข้าไปในห้องนอนทุกห้องที่ชั้นบน
ยังมีอีกคนที่ไม่แน่ใจว่าเคยเข้ามาที่บ้านนี้หรือไม่

“คุณนวลพรรณ ภริยาใหม่ของคุณท่านน่ะหรือคะ” อุบลเหลียวมองไปทางบันได ระแวงว่าข้าวพองจะได้ยินชื่อของภริยาของอัครา “มาได้แค่โรงรถเท่านั้นแหละค่ะ คุณข้าวพองเอาข้าวของในบ้านเขวี้ยง ทั้งร้องด่า ตะโกนไล่ ชนิดที่ได้ยินกันไปทั้งซอย”
เกียคงมีท่าทีอึ้งไป ทำให้แม่บ้านอาวุโสต้องย้ำอีกครั้ง
“ไล่กันชนิดที่ไม่รักษาหน้าคุณท่านที่พามาเลยสักนิด แล้วจากนั้นเธอก็ไม่ได้มาบ้านนี้อีกเลย”
“เขาไม่ดุ ไม่ว่าอะไรข้าวพองเลยหรือ” ถ้าเป็นเกียทำอย่างนี้ คงได้โดนลงโทษแน่ๆ
“ไม่หรอกค่ะ คุณท่านก็พาคุณนวลพรรณกลับไป ก็เท่านั้นเอง”
เกียถอนหายใจเหนื่อยๆ จนอุบลขำ

คนที่มารออยู่ที่โรงเรียนในเช้าวันนี้เป็นสาว 2 คน คนหนึ่งคือแป๋ม อีกคนคือเบซซี่
แป๋มกำลังอ่านโน้ตเล่มเล็กๆ ในมือ ขณะที่เบซซี่กำลังเล่นโทรศัพท์มือถือ ทั้งคู่ลุกขึ้นทันทีที่ธีระเลี้ยวรถเข้ามาจอด
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมมาโรงเรียนแต่เช้า” ป๋อมทักน้องสาวด้วยสีหน้าท่าทางสดชื่นมาก
“เช้าที่ไหน เกือบ 7 โมงครึ่งแล้ว” แป๋มทำหน้าหงิก “ช้าเพราะป๋อมใช่มั้ย”
ป๋อมชี้ไปที่ข้าวพอง “ข้าวพองต่างหาก น้าอุบลมัดผมให้ไม่ถูกใจต้องทำใหม่ พอออกสายรถก็ติดละ”
เบซซี่ไม่ได้สนใจบทสนทนาของคู่แฝด เพราะส่งยิ้มหวานเดินมาจับข้อมือข้าวพอง แล้วถึงได้หันไปทักทายเกีย
“ดูแลเด็ก 3 คนเหนื่อยมั้ยคะ”
“ตัวเองผู้ใหญ่มากเลยนะ” ข้าวพองจิ้มที่แก้มใส
ทั้งที่หัวใจกำลังออกอาการตึงๆ เมื่อเห็นท่าทีของข้าวพอง แต่เกียยังยิ้มหวานให้เบซซี่ “มาแต่เช้าเลยนะครับ”
“ไม่เช้าหรอกค่ะ แค่มาก่อนพี่ข้าวพองเท่านั้นเอง” เบซซี่ยิ้มหวานแล้วดึงข้อมือให้หนุ่มตัวเล็กเดินตามไปด้วย

เป็นบรรยากาศหวานๆ ที่ดึงความสุขไปจากคนตัวโตที่ได้แต่ยืนมอง

ป๋อมหันมาเรียกไทนี่ แล้วขอบคุณเกียกับธีระ
“ขอบคุณมากครับ”
“ด้วยความยินดีครับ”

เมื่ออยู่ในรถกัน 2 คนธีระพูดยิ้มๆ “ผมคิดว่าเด็กโรงเรียนฝรั่งจะแสบซ่า แต่ที่จริงเพื่อนคุณข้าวพองก็เรียบร้อยดีนะครับ”
เกียเพียงยิ้มจางๆ “ก่อนที่ผมจะมา ธีระเห็นคุณข้าวพองอยู่กับเพื่อนๆ บ่อยมั้ย”
“คุณคนที่เป็นคนจีนน่ะ” ธีระหมายถึงไทนี่หว่อง “ผมเพิ่งเห็นไม่กี่ครั้ง แต่ไม่คิดว่าสนิทกันถึงขนาดที่คุณข้าวพองจะชวนมาบ้านได้  ส่วนคุณฝาแฝดเคยเห็นมาตั้งแต่ตัวนิดเดียว แต่เพิ่งเคยไปส่งก็ตอนที่ครูมาแล้วนี่แหละครับ ยังมีคุณเบซซี่ เพิ่งเห็นว่าเดินด้วยกันก็เมื่อวานนี้เอง”
ธีระเล่าเรื่องเพื่อนๆ ของข้าวพองในมุมมองของคนที่ได้แต่มองอยู่ห่างๆ ไม่เคยรู้ว่าหนุ่มสาวกลุ่มนี้คุยอะไรกันบ้าง แต่พอจะสรุปได้ว่า ในความเห็นของธีระ ที่ผ่านมาทุกคนเป็นเพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อนสนิท
แต่เพิ่งจะมาเป็นเพื่อนสนิทก็หลังจากที่เกียมาทำหน้าที่ดูแลข้าวพองแล้ว

เกียบันทึกข้อสังเกตของธีระไว้ในใจ คนกลุ่มหนึ่งขยับเข้าใกล้ข้าวพองมากกว่าเดิมเมื่อเกียมาถึงที่นี่

“แล้วข้าวพองออกไปนอกโรงเรียน แล้วกลับมาพร้อมกับไอรีนบ่อยมั้ย”
ธีระพยักหน้า “บ่อยครับ ถึงคุณเพียงจะให้เธอออกจากงาน แต่เธอก็ยังคบอยู่กับคุณข้าวพอง มีที่คุณข้าวพองออกไปตอนค่ำแล้วเธอมาส่งตอนเช้ามืดก็มี ส่วนที่ผมมาส่งตอนเช้าคุณข้าวพองเดินเข้าโรงเรียนไปแล้วเห็น ๆ แต่พอตกเย็นกลับเดินเข้ามาจากข้างนอกเนี่ย ผมไม่เข้าใจ”
เกียเข้าใจความสงสัยของธีระ “เดี๋ยวนี้บางโรงเรียนเขาก็ไม่ได้เข้มงวดเรื่องนักเรียนจะเข้าจะออกก่อนเวลานักหรอก แล้วถ้าหากมีผู้ปกครองมาเซ็นชื่อรับออกไปก็ยิ่งง่าย”
“อ้อ....” คนขับรถลากเสียง “ไม่เหมือนโรงเรียนบ้านผม เข้าไปแล้วถ้าออกมา แปลได้อย่างเดียวคือหนีเรียน โดนครูฟาดหน้าเสาธงอายกันไปทั้งบ้าน”
“สมัยนี้เขาเรียกว่า มันเป็นการกักขังละเมิดสิทธิมนุษยชนไง”
ธีระทำหน้าตาไม่เห็นด้วย “ผมว่ามันอันตราย เด็กๆ อยู่นอกโรงเรียน”
“เราคิดอย่างคนที่ผ่านเวลานั้นไปแล้วไง”
เกียบอกขณะที่ดวงตาสีอ่อนมองตรงไปข้างหน้า

พักกลางวันข้าวพองกดรับโทรศัพท์แล้วเลี่ยงมายืนคุยห่างจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่กำลังกินข้าวอยู่ที่โต๊ะเดียวกัน
“มีอะไร พองกินข้าวอยู่”
“จะชวนออกมากินข้าวข้างนอกน่ะสิ” เสียงหญิงสาวที่คุ้นเคย ชวนออกไปข้างนอกโรงเรียน
ที่ผ่านมาเวลาที่ไอรีนชวน ก็จะรีบออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่เพราะเรื่องของไอรีนเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ขอให้เกียติดตามเรื่องของแม่ ก็ทำให้ข้าวพองลังเล
คือก็ยังแอบคุยกันทางโทรศัพท์ ทางแชท แต่ไม่ได้ออกไปหาแล้วไง
ตอนนี้มาชวนให้ออกไปหา ก็อยากออกไปอยู่หรอกนะ แต่ถ้าเกียรู้เขาก็คงไม่ทำเรื่องแม่กับพี่เพชรให้อีก
เขาเป็นเพียงคนเดียวที่จะทำให้เราได้คำตอบในสิ่งที่มันค้างคาอยู่ในใจมานาน
“วันนี้พองไม่อยากออกไป”
“ไม่อยากออกมา หรือไม่อยากเจอกัน” ไอรีนเปลี่ยนมาทำเสียงงอนๆ “ข้าวพองมีข้ออ้างตลอดเลย”

ข้าวพองหันกลับไปมองไทนี่ที่กำลังมองมา อุปทานเหมือนดวงตายาวเรียวคู่นั้นมีความสามารถในการอ่านริมฝีปากได้
....ถึงจะอ่านได้ แต่พูดภาษาไทยยาวๆ แบบนี้คงไม่รู้ละมั้งว่าพูดอะไร...เออ หรือว่ารู้
....เรานี่ถ้าจะเพี้ยนไปแล้ว ฟังเกียพูดมากๆ ชักเริ่มคิดอะไรเป็นนิยายสืบสวนสอบสวนมากขึ้นทุกที...

“ทำไมจะไม่อยากเจอ แต่เดี๋ยวนี้ธีระมารอตั้งแต่โรงเรียนยังไม่เลิก”
“ก่อนนี้ธีระก็รอเรานี่นา” ไอรีนรู้ว่าข้าวพองมีท่าทีที่ผิดปกติมาหลายวันแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะวุ่นวายหรือบังคับให้ต้องทำตาม เพราะหนุ่มคนนี้ มีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าที่คิด ถ้าขืนสั่งบังคับมากๆ มีแต่จะหนีไปอีกทาง
“หรือไอรีนทำอะไรให้ข้าวพองไม่พอใจ ไอรีนขอโทษ”
“ไม่ใช่หรอก”
“งั้น เพราะว่าครูคนใหม่เขาห้ามข้าวพองมาเจอไอรีนหรือไง”
“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ” หนุ่มตัวเล็กถามกลางๆ หันหลังให้กับกลุ่มเพื่อนแล้วเดินไปนั่งคุยที่เก้าอี้หินอ่อนข้างสนามฟุตบอล
“ก็เจอกันทีไรเขาชอบทำท่าเหมือนไอรีนเป็นสาวแก่หลอกเด็กหนุ่มทุกทีเลยน่ะสิ”
“หื้อ...คิดอะไรอย่างนั้น”

ข้าวพองพูดปัด ขณะที่รับรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่มันรบกวนในใจ
บางอย่างที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ... แต่มันยังคงเกี่ยวกับไทนี่เพื่อนใหม่ในเทอมนี้อยู่เช่นเดิม

ไอรีนพูดต่อไปเรื่อยๆ
“ไอรีนน่ะเข้าใจข้าวพองนะ การเป็นคนที่ถูกทิ้งให้ต้องอยู่บ้านคนเดียวทุกวันๆ แบบนั้น คนรับใช้หรือครูพี่เลี้ยงน่ะ ยังไงก็ไม่ใช่คนในครอบครัวเดียวกัน ทั้งที่เหลือกันแค่ 3 คนพ่อลูก แต่ทั้ง 2 คนก็ยังห่วงครอบครัวใหม่ของพวกเขามากกว่าคนที่ต้องการความรัก”
แม้ข้าวพองจะนิ่งเงียบ แต่ไอรีนก็รู้ว่าข้าวพองกำลังฟังอยู่
“ทุกคนสูญเสียด้วยกันทั้งนั้น แต่เขากลับไม่คิดที่จะอยู่ข้างๆ คนในครอบครัวเดียวกัน คิดแต่จะไปหาครอบครัวใหม่ แล้วถ้าข้าวพองจะออกไปเที่ยวกลางคืนบ้างมันจะเป็นไรไป ถ้าผับไม่ดี เหล้าไม่ดีก็เลิกขายกันไปเลยสิ”

“...วันเสาร์”

คำพูดของข้าวพองทำให้ไอรีนยิ้มกว้าง
“พอกินข้าวเย็นเสร็จ เกียเขาจะกลับไปคอนโดฯ แล้วจะโทรหาไอรีนอีกทีว่าจะให้ไปเจอที่ไหน”
“เอางี้สิ” เสียงของหญิงสาวดีใจอย่างชัดเจน “ไอรีนไปรอข้าวพองที่หน้าบ้านเหมือนเคยก็ได้”
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวยอดยิ่งไปฟ้อง”
“อ้อ....งั้นถ้าไอรีนไปถึงใกล้ๆ จะโทรบอก แล้วข้าวพองค่อยออกมาดีมั้ย”

ข้าวพองรับคำแล้วกดวางสาย
...ไม่อยากอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่
....มันเงียบเกินไป..
 
อันที่จริงช่วงเวลาเดือนกว่าๆ มานี้ การกลับบ้านไม่ได้เป็นแค่การอ่านการ์ตูน เล่นเกม รอเวลาออกไปนอกบ้านเหมือนก่อน เพราะเกียจัดตารางเวลาไว้แน่น ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามกำหนดตาราง
ข้าวพองไม่ชอบการใช้ชีวิตโดยมีนาฬิกาเป็นตัวกำหนดแบบนี้
เพียงแต่เวลาที่มีเกียอยู่ด้วยกัน ทำทุกสิ่งทุกอย่างไปพร้อมกัน มันกลับไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่จะต้องต่อต้าน
คือไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านอะไรมากมายนัก

เกียมองคนที่ใช้ส้อมจิ้มหมูย่างใส่ปาก ขณะที่ดวงตามองหนังสือนิยายเล่มใหม่ที่วางกั้นระหว่างจานข้าวกับจานกับข้าวบนโต๊ะ
ดูท่าทางนี่จะเป็นหนังสืออีกเล่มที่เจ้าตัวจะชอบมาก
เป็นคนรักการอ่านหนังสือ น่าจะเป็นคนชอบอยู่บ้านและน่าจะมีความสุขดี หากต้องอยู่บ้านคนเดียว แต่กลับเหงาจนอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้
“เล่มนี้ซื้อเมื่อไหร่”
“ฝากป๋อมซื้อ” ข้าวพองตอบไม่ตรงคำถาม ทั้งยังมีชิ้นหมูเต็มปาก และดวงตายังไม่ละจากหนังสือ
“ป๋อมก็อ่านไซ-ไฟแบบนี้ด้วยหรือ”
“อื้อ”
“อ่านหนังสือไปกินข้าวไปไม่ดีรู้มั้ย”
“รู้”
เกียวางช้อนส้อม ขณะที่ทำเสียงหนักๆ “ข้าวพองครับ วางหนังสือลง”
“มันเสียเวลา”
“ถ้าข้าวพองกินข้าวอย่างเดียว ข้าวจานนี้จะหมดในเวลา 5 นาที โดยที่ข้าวพองรู้ตัวว่ากำลังกินอะไร แต่พออ่านหนังสือข้าวพองจะใช้เวลานานขึ้น แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่ากำลังกินอะไรอยู่”
ข้าวพองเงยหน้าจากหนังสือ แต่เกียกำลังเริ่มบรรยาย
“ทั้งเสียมารยาทต่อเพื่อนร่วมโต๊ะ และอาจทำให้ระบบการย่อยอาหารมีปัญหาด้วย”
รู้ว่ามันคือมารยาทอย่างที่เกียบอกมา แต่ตอนนี้หนุ่มตัวเล็กกำลังทำตาขวาง ขณะที่วางหนังสือลง แล้วยกจานข้าวขึ้นด้วยมือซ้าย มือขวาตักข้าวเข้าปากอีกคำ วางจานข้าวลง หยิบน้ำดื่ม แล้วหยิบหนังสือ
“ข้าวยังไม่หมด”
“แต่อิ่มแล้ว”
“ยังไม่ให้อิ่ม ต้องกินให้หมด”
“อิ่ม”
“ไม่ให้อิ่ม”
เมื่อข้าวพองลุกขึ้นเกียก็สั่งอีก “นั่งลง แล้วกินให้หมด”
“ไม่”
อุบลมองซ้ายมองขวา อยากตามใจเจ้านายคนเล็กเหมือนเคย แต่ก็เกรงใจครู
“เราจะเถียงกันไปเรื่อยๆ ก็ได้ แต่ถ้าคิดจะลุกออกไปจากห้องนี้ ข้าวพองต้องคิดให้มากกว่าเดิม”

ข้าวพองมองตาคนตัวใหญ่
...ถ้าขัดใจมีสิทธิ์โดนหักกระดูกได้ง่ายๆ...
นั่งลงแล้วกินให้มันเสร็จๆ ไปดีกว่า
ไม่ได้ยอมแพ้นะ แต่เพราะหมูทอดฝีมืออุบลมันอร่อยต่างหาก
เมื่อกินข้าวเสร็จมันคือสัญญาณที่บอกว่า ช่วงเวลาหลังจากนี้เกียจะออกไปเดินตรวจตรารอบบ้าน และจะยังไม่เข้าห้องนอนจนกว่า 3 ทุ่มครึ่งหรือหลังจากที่ข้าวพองเข้านอนไปแล้ว

แต่สามทุ่มคืนนี้ข้าวพองที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เดินออกหาคนที่เดินมือไขว้หลังไปรอบๆ บ้าน
...เนี่ย ไอ้การที่เขาทำแบบนี้แหละที่ทำให้คนอยู่ด้วยรู้ตัวว่า ความเป็นห่วงของพ่อกับพี่เพียง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น...
“เกีย”
“ครับ”
“เรื่องของแม่กับพี่เพชรที่พองขอให้เกียทำให้น่ะ ไปถึงไหนแล้ว”
ดวงตากลมที่สะท้อนแสงไฟในสวน คล้ายดวงดาวบนท้องฟ้า
“คนที่อยู่ในข่ายว่าจะลงมือมีอย่างน้อย 5 กลุ่มครับ”
“แล้ว...” ข้าวพองทำท่าทางอยากรู้
“พวกเขาไม่ใช่แค่นักสะสมเพชร แต่เขาเป็นนักเลง เป็นผู้มีอิทธิพลที่เข้มแข็ง”
ข้าวพองพยักหน้า เกียเคยบอกอะไรที่มันคล้ายๆ แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วก็สรุปเรื่องว่า เราไม่ควรด่วนปักใจเชื่อว่าใครคือคนร้าย
“คนที่ลงมือต้องเป็นคนที่ที่ขู่พ่อกับพี่เพียงใช่มั้ย”
“ไม่มีใครขู่คุณอัคราได้หรอกครับ”
“แล้วทำไมพ่อถึงไม่ทำอะไรล่ะ”
ข้าวพองสงสัย เกียยกมือแตะแก้มใสแผ่วเบาเหมือนสัมผัสแก้วบาง
“คุณอัคราคิดแบบผู้นำ สิ่งที่เสียไปแล้วก็เสียไป แต่จะไม่สูญเสียสิ่งที่เหลืออยู่”

เมื่อมองลึกลงไปในดวงตาของเกีย ข้าวพองก็กลับมีคำถาม และความไม่แน่ใจ
“พ่อมีพี่เพียงกับพอง เขาไม่ได้ห่วงแค่พองคนเดียวหรอก”
“คุณเพียงไม่มีทางเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตราย แต่ข้าวพองไม่ใช่ ความดื้อรั้นจะทำให้ข้าวพองตกอยู่ในอันตราย”

*-*จบตอนที่ 18*-*

พี่ JIKI ครับ รบกวนรวบรวมโพสต์ให้อยู่ในโพสต์เดียวเถอะครับ ผมชอบอ่านความเห็นก็จริง แต่แบบนี้ จะโดนดุได้นะครับ

บุคคลต้องสงสัยในเรื่องไม่หมดง่ายๆ หรอกครับ เพราะเจตนาของเรื่องนี้ก็คือ เราจะทำให้ทุกคนคือผู้ต้องสงสัย :a5:

ข้าวพองมันเหวี่ยง มันนิสัยไม่ดีใช่ไหมครับ นั่นไม่ใช่ผมแน่นอน เพราะผมเป็นคนดี
ส่วนเกีย มีนิสัยระแวง ไม่ค่อยพูด นั่นแหละ...คนที่คุณก็รู้ว่าใคร  :z6:

พบกันตอนต่อไปวันพฤหัสบดีนะครับ
.น้ำชา.

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 13-05-2014 09:57:32
ถึงข้าวจะเหวี่ยงบ้าง เอาแต่ใจบ้าง แต่ก็รู้จักรับฟังรู้จักปรับตัวนะคะ โดยรวมคือน่ารัก  :กอด1:

คือคนที่น่าสงสัยในเรื่องนี้มีหลายคนมาก ประเด็นก็คือเมื่อไหร่ข้าวพองจะรู้ใจตัวเองนี่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-05-2014 10:14:06
ไอรีนนี่แย่จัง
นิสัยเหมือนเด็กใจแตก เห้อออ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 13-05-2014 10:22:46
น่าเป็นห่วงข้าวพองจริงๆ กับนิสัยขี้เหงาและความดื้อรั้น  :เฮ้อ:
อ่านๆไปบางช่วงอยากจับเด็กคนนี้มัดไว้ซะจริงๆ

เกียเองก็อยู่ในฐานะที่แสดงออกอะไรมากไม่ได้ แถมนิสัยส่วนตัวอีก

ยังคิดไม่ออกว่าคู่นี้จะลงเอยกันยังไง  :ling2:

แต่ชอบข้าวพองเวลาแทนตัวเองด้วยชื่อ "พอง" นะ  มุ้งมิ้งเหมาะกับวัย

 :pig4:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 13-05-2014 10:27:57
ไอรีนนี่จับจุดเรื่องครอบครัวของข้าวพองได้
ถึงใช้เป็นเหตุผลให้พองออกมาหาตัวเอง
และเห็นด้วยร้อยเปอร์เซนต์กับที่เกียพูดตอนท้าย
ส่วนบุคลิกของตัวละครเราน่าจะเดาได้ว่าเหมือนใคร
เพียงแต่เหมือนมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ว่าไหมคะ  :hao3:
(ตั้งแต่เรื่องเก่าๆแล้วโดยเฉพาะฉากทอดไข่ที่จำได้ขึ้นใจ ^^)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 13-05-2014 10:31:23
โอ๊ยๆๆๆๆๆ ข้าวพองจะออกไปหาไอรีนจริงๆเหรอเนี่ย ไหนสัญญากับเกียแล้วงายยยยยยยยยยยย เดี๋ยวเกียจะโกรธเอานะ

เผลอๆ เกียอาจจะรู้แล้วด้วยซ้ำว่าพองนัดกับไอรีนอ่ะ ไอรีนก็ร้ายกาจเหลือเกิน ทำไมต้องเอาจุดอ่อนพองมาจี้ใจตลอด นิสัยไม่ดีๆๆๆๆๆๆๆ

ถ้าพองออกไปกับไอรีนแล้วเกียรู้นะ เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ

เกียดูแลข้าวพองดีๆนะ ไอรีนรุกมาแบบนี้น่ากลัวอ่ะ ตื้อให้พองออกไปขนาดนี้น่าจะมีอะไรแอบแฝงแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 13-05-2014 10:33:40
ไอรีนหล่อนนี่ช่างมายั่วยุจริงๆ วันเสาร์ออกไปโดยไม่มีเกียอันตรายนะ  ขอให้เกียรู้แผนการนี้ด้วยเถอะ  ข้าวพองออกแนวรั้นนะ ท่าสั่งซ้ายจะไปขวา เดินหน้าจะถอยหลัง เป็นพวกมั่นใจตัวเองมั้ยนะ (คิดเอาเอง)555 รอตอนต่อไปจร้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 13-05-2014 10:56:06
มีกลุ่มคนที่เริ่มเคลื่อนไหวเมื่อเกียเข้ามา!!!! 
อย่าบอกนะว่ามีหนอนบ่อนใส้เข้ามาเกี่ยวข้องอีก  o22

# คิดไปให้เนื้อเรื่องมันซับซ้อนไปไม๊ มโนเองจ๊ะ :mew2:

ส่วน นร. ถ้าเหงาขนาดนั้นเวลาที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ลองไปนอนที่คอนโดกับคุณครูแทนการไปเที่ยว   

นร. ไม่เหงาและไม่ทำเรื่องไม่ดีอีก ส่วน ครูจะได้ทั้งทำหน้าที่ปกป้องอย่างใกล้ชิดด้วย  :hao6: แบบน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน~ ....
ชักขัดใจครู เมื่อไหร่จะเร่งทำคะแนนเนี๊ย รอให้แต่นักเรียนเข้าหา ไหนว่าเข้าใจ นร. ไง บางที นร. อาจจะอยากให้ครูหึงก็ได้

 :กอด1:  :pig4: JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 13-05-2014 11:51:46
ข้าวพองก็ขยันทำร้ายจิตใจพี่จริงๆเลย ใจร้ายอ่ะ

ส่วนที่ว่าข้าวพองเหวี่ยงเนี่ย คลับคล้ายคลับคลาว่าแมวน้อยแถวนี้ก็ขี้เหวี่ยงเหมือนกันนี่นา อุ๊ปส์!!

อดคิดไม่ได้ว่าที่ข้าวพองทำดีกับพี่ เพราะแค่หวังเรืองของแม่กับพี่สาว เกิดพี่เสียใจทำงานเสร็จแล้วหนีกลับไปเลย อย่ามาเสียใจทีหลังนะเออ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 13-05-2014 11:58:22
 :เฮ้อ: เด็กหนอเด็ก
ไอรีนจับจุดความเหงาข้าวพองได้สินะ
พอข้าวพองเพิ่มเขวก็งัดเรื่องนี้มาพูดกล่อม ข้าวพองก็ลอยตามไอรีนไปเลย
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
คราวนี้เกียร์จะรู้ทันไหมนะ ดัดหลังเด็กดื้อซะให้เข็ จัดการไอรีนสักที
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 13-05-2014 12:02:34
พองอย่าคิดอะไรง่ายดายแบบเด็กๆ นักนะ
กลัวแทน
ไอรีนนี่ก็อีก
มันจะวอแวอะไรกับข้าวพองนักหนาไม่เข้าใจ
 :hao5:
บวกและเป็ดขอบคุณ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-05-2014 12:14:35
ได้แต่นั่งเดากันไปว่าใครเป็นคนร้าย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-05-2014 13:18:13
ยัยป้าไอรินจะหลอกข้าวพองไปไหนอีก!?
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-05-2014 15:01:00
ชอบตอนครูเกียดุ
เด็กอย่างข้าวพองต้องทั้งขู่ทั้งปลอบ ชอบหาเรื่องใส่ตัวเองดีนัก
กับไอรีนก็ยังตัดไม่ขาด ทั้งที่ชักชวนไปทำในสิ่งไม่ดี
ดูแลวัยรุ่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยน้า...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 17 หน้า 14 (11พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 13-05-2014 15:34:45
ตอนที่12 นี่เห็นได้ชัดเลยนะว่า เด็กๆเค้าก็พยายามอย่างเต็มที่ในโลกใบเล็กๆของเค้าอ่ะ

ตอนที่13
ปีศาจน้อยของเราเริ่มทำตามแผนการแล้วสิ เริ่มแล้วๆ //ทำหน้าเปี่ยมสุข รอวันที่น้องตกเป็นของพี่

ตอนที่14
คดีวุ่นๆ ความสัมพันธ์เด็กยุ่งๆ ไม่รู้จะเม้นต์อะไรดีเลยทีนี้ แต่...ทำไมไทนี่เหมือนไม่ค่อยกลัวกลุ่มเบลดเลยทั้งที่พวกนั่นอาจเป็นคนที่ทำกับไทนี่ก็ได้อ่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 13-05-2014 17:44:45
ตอนที่แล้วเพิ่งบอกว่าไอรีนหายไปนานแล้ว  ตอนนี้โผล่มาเลยจ้า  ฮ่าาาา
ข้าวพองหลงกับคำชวนของไอรีนอีกแล้วสิเนี่ย  ไอรีนก็นะ  ทำไมถึงชวนพอง
ไปทำในเรื่องที่ยังไม่เหมาะกับเด็กมัธยมอ่ะ  แค่นี้ก็รู้แล้วนะ ว่าหวังดีกับพองจริงรึเปล่า
ขอให้เกียรู้เรื่องว่าพองจะแอบหนีเที่ยวเถอะ  จะได้ตักเตือนเด็กดื้อแต่ขี้เหงาให้รู้จักระวังตัวเองมากขึ้น
ส่วนเด็กดื้อถ้าเหงาและรู้สึกไม่มีใคร ก็ชวนเกียไปเดท เอ๊ยย ไปเที่ยวน่าจะดีกว่าไปกะคนอื่นน้า    :o8:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 13-05-2014 19:29:44
เพื่อนๆ พอง น่าสงสัยหมด
แต่ทำไมพองดื้อรั้นนัก
แยกแยะถูกผิดไม่ค่อยได้เนอะ ยังจะแอบนัดไปกับไอรีนอีก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 13-05-2014 22:06:16
ตอนที่15
พี่ไจฟ์ เอ๊ย พี่เกียออกมาแสดงนำแล้ว
มันดูอบอุ่นนะ แต่มันก็ดูเนียนๆสอนน้อง ตะลอมเอาข้อมูล แล้วก็มือปลาหมึกลวมลามด้วยอ่ะ -//////- คนอ่านเขิน ม้วนตัว ม้วนๆๆ

แล้วไทนี่นี่...โดนเลี้ยงมาให้เป็นนกต่อควบเด็กส่งยารึ

ตอนที่16
การเป็นผู้ใหญ่มันไม่ง่ายเลยสักนิดเนอะ เกียร์ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่หลงรักเด็กแต่ก็มีความหวังดีให้อย่าอาจจะยอมปล่อยเค้าไปกับคนวัยเดียวกันแม้ตัวเองจะปวดใจก็ตามเนี่ย ไม่ง่ายเลยจริงๆ

ส่วนพ่อพี่ไจฟ์พูดให้ข้อคิดดีแแต่แอบโหดแฮะ

ตอนที่17
นี่มันสงครามประสาทกันย่อยๆหลายคู่เลยนะ
เม้นต์ไม่ถู แต่ข้าวพองสู้ศึกรอบด้านเลย ส่วนคุณพี่ ยืมวิเคราะห์ห่างๆอย่างเดียว -__-" น่าดีดเอวจริง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 14-05-2014 11:27:04
ไอรีนนี่ร้ายจริง ๆ ไม่ชอบยัยนี่เลย :m16:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 14-05-2014 11:56:03
แก้หมดแล้วเน้อ น้องที

ตอนที่18
ไอรีนร้ายอ่ะ เสี้ยมเด็กสอนเด็กให้ใจแตก
ข้าวพองก็ใจไม่หนักแน่นพอ(ก็เด็กนี่เนอะ)
พี่ก็...ดุอ่ะ ใจร้าย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 14-05-2014 17:07:17
เมื่อไหร่ที่เกียจะเข้าใจข้าวพอง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 14-05-2014 20:04:57
ไอรีนร้ายถูกต้อง....
แต่หนูข้าวพองของแม่นี่ซิ....
ทำไมต้องให้คนอื่นชักนำความคิดด้วย...
แล้วทำไมไม่ทำตามความคิดพี่เกียบ้าง..
 :ling1: :ling1:มันหงุดหงิดนะจะบอกให้....
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 15-05-2014 00:29:38
เข้ามารอเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ

ไม่อยากให้ข้าวพองออกไปกับไอรีนเลย เหมือนนางจะไหวตัวแล้วชิงลงมือก่อนอ่ะ น่ากลัวๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 15-05-2014 05:33:30
มารอลุ้นตอนใหม่ รู้สึกห่วงข้าวพองไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 18 หน้า 15(13พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 15-05-2014 06:21:07
นิยายของjivetea ไม่เคยไม่มีปมเลยสักเรื่อง แต่เหมือนเรื่องนี้ผู้ต้องสงสัยจะเยอะสุด ข้าวพองกับเกียจะรอดมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 15-05-2014 09:32:27
ตอนที่ 19

ข้าวพองนั่งเอามือประสานรับน้ำหนักของหน้าผากของตัวเองอยู่ในห้องเรียน
ท่ามกลางเสียงของเพื่อนๆ รอบตัว แต่ข้าวพองกลับจมอยู่กับคำถามและความไม่แน่ใจว่าเกียจะล่วงรู้ความลับ
ความลับที่มากกว่าการหนีเที่ยว ใช้ยาเสพติด หรือยังแอบคุยกับไอรีน
ความลับที่ยิ่งนับวันมันยิ่งเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ

“เป็น’ไร ข้าวพอง” แป๋มหันมาถาม แต่ข้าวพองส่ายหน้า แป๋มก็เลยเดา
“มีนัดไปเที่ยว แต่กลัวครูเอาไปฟ้องพี่เพียงละสิ”
จะว่าไปในวินาทีนี้ ข้อสงสัยของแป๋มมันก็เป็นหนึ่งในหลายข้อที่กังวลอยู่
....แป๋มต้องเป็นลูกน้องของเกียแน่ๆ รู้ทุกเรื่องโดยไม่ต้องสารภาพ แต่ก็ยังชอบกดดันให้ต้องสารภาพทุกเรื่อง....

ไทนี่คนที่มองอาการของข้าวพองมาตั้งแต่แรกขยับเข้ามาใกล้ เพื่อรอฟัง

“ไปกับพี่ผู้หญิงคนนั้นหรือไง”
..นั่นไง ถูกเผง...
ข้าวพองปัดทุกความกังวลออกไป เหลือแค่เรื่องที่แป๋มสงสัย
....ทุกครั้งที่ผ่านมาก็ใช้วิธีนี้แหละ ความลับถึงได้ยังเป็นความลับ...
แป๋มหัวเราะแปลกๆ ส่วนป๋อมกอดไหล่เพื่อน
“ข้าวพองเพื่อนรัก การเป็นหนุ่มนักเที่ยว กับเด็กเรียนมันย่อมต้องเบียดบังเวลาซึ่งกันและกันอยู่แล้ว กูแนะนำให้เพื่อนเดินสายกลาง”
“สายกลาง?” ไทนี่ทำเสียงเป็นเครื่องหมายคำถาม
ป๋อมหันไปทันที “Late middle”
แป๋มส่ายหน้าขณะที่หันไปอธิบายให้ไทนี่ที่กำลังอ้าปากค้าง แต่ป๋อมไม่สนใจพูดกับข้าวพองต่อไป
“ในเมื่อทำให้ดีทั้ง 2 อย่างไม่ได้เพราะ 1 วันมีแค่ 24 ชั่วโมง แต่เพื่อนรักยังอยากไปแ-กเหล้า แล้วก็ยังต้องสร้างภาพให้พี่เพียงไว้ใจ”
แป๋มเป็นคนหันมาปาดเหม่งพี่ชาย แล้วชี้หน้า
“ชอบพูดอะไรไหลเรื่อยเปื่อย จับสาระไม่ได้”
“แป๋มแม่งเครียดว่ะ ใกล้สอบแล้วเครียด” ป๋อมทำตลก
“อย่ามาโยกโย้นะ จะบอกข้าวพองว่าอะไรก็บอกตรงๆ” แฝดผู้น้องยังขู่ต่อไป
ปกติบรรยากาศแบบนี้ จะทำให้ข้าวพองรำคาญ แต่ตอนนี้ กลับปล่อยให้เพื่อนส่งเสียงกวนประสาทกันต่อไป
ป๋อมกระแอมหันมาหาข้าวพอง
“วางแผนไปหาพี่สาว แล้วทำไมต้องกุมขมับ”
ข้าวพองเหนื่อยใจ “ที่จริงก็เริ่มห่างเขาแล้ว แต่พอเขาโทรมาหา....”
“ก็เลยใจอ่อนจะออกไปหาเขา” แป๋มไม่รอให้ข้าวพองจบประโยค “แล้วน้องเบซซี่ล่ะ น้องออกจะน่ารัก อย่ามาทำให้น้องเสียใจนะ”
คนนี้แป๋มเชียร์สุดใจ
“เบซซี่ก็เจอกันแต่ที่โรงเรียน ไม่ได้เจอกันข้างนอกเหมือนกัน”
“อ้าว เห็นบางทีนัดเจอวันเสาร์หลังเรียนพิเศษ” ป๋อมแปลกใจ “ครูเขาให้เลิกกับสาวๆ หมดเลยหรือ”
“เขาไม่ได้บอกให้เลิกคบ แต่เขาไม่ให้เที่ยวกลางคืน”
แฝดป๋อมแป๋มหันมามองหน้ากัน
“แสดงว่า พี่ผู้หญิงเขาชวนไปเที่ยวกลางคืน ข้าวพองรับนัดเขาไว้แล้ว แล้วก็อยากไปมากแต่กลัวครูรู้”
“กลัวก็ไม่ต้องทำ” แป๋มบอก
“ตอนที่คุยกันไม่ได้กลัวหรือไม่กลัวหรอก แค่ไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว แล้วไอรีนเขาก็แค่ชวนไปเที่ยว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่นา”
ป๋อมเห็นด้วย “มันก็ใช่นะ การฝ่าฝืนข้อห้ามคืองานของเรา”
“เบื่อตาคนนี้” แป๋มผลักไหล่พี่ชาย

บทสนทนายังคงยืดเยื้อวุ่นวายกว่าจะเข้าเรื่อง
“ถ้าข้าวพองเหงา ไม่อยากอยู่คนเดียว ก็น่าจะบอกกับพ่อหรือพี่เพียงตรงๆ” แป๋มเสนอความเห็น
“เราไม่ใช่เด็ก 3 ขวบนะ” ข้าวพองทำเสียงแข็ง “ถึงต้องขออนุญาต”
“ถ้าไม่ขออนุญาต เขาก็เรียกว่าหนีเที่ยว” ข้าวพองแรงมา แป๋มก็แรงกลับ
“เราก็แค่ออกไปเที่ยว ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้นแหละ”
“อ้อเหรอ” แป๋มทำสีหน้าหมั่นไส้ “ไหนบอกว่าไม่ชอบเหมือนใคร แล้วทำไมต้องเที่ยวเหมือนคนอื่น”
“แป๋ม นี่เราไม่ได้ขอความเห็นของแป๋มเรื่องชีวิตเราเลยนะ”
“อ้อเหรอ” แป๋มทำสีหน้าแบบเดิมอีกครั้ง “อย่างกับการขังตัวเองไว้แบบเดิมมันจะช่วยให้ตัวเองดีขึ้นนักนี่”
“แป๋ม ข้าวพอง พอเถอะ” ป๋อมลุกขึ้น ดึงมือข้าวพองให้ลุกตามมา แล้วชี้บอกไทนี่ ว่าให้ช่วยอยู่เป็นเพื่อนกับแป๋มก่อน
...ทั้งที่รู้ว่า แป๋มไม่ชอบไทนี่ แต่จะให้ไทนี่คุยกับข้าวพอง ก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี....

ป๋อมดึงข้าวพองออกมาคุยกันตรงมุมอาคารเรียน พยายามทำให้เพื่อนใจเย็นลง
“อย่าถือแป๋มเลย ที่มันปากร้ายก็เพราะมันห่วงข้าวพองนะ”
“เออ” ข้าวพองกระแทกเสียงใส่ รู้ว่าเพื่อนห่วง แต่ไม่ชอบที่มาทำเป็นสอน ทั้งที่เราก็อายุเท่ากัน แล้วแป๋มรู้หรือไงว่าเราเจออะไรมาบ้าง จะมาคิดแทนกันได้อย่างไร
“มันมีอะไรมากกว่าเรื่องที่จะไปเที่ยวกับไอรีนใช่มั้ย ถึงทำให้กลุ้มใจ” ป๋อมถามตรงๆ เพราะแค่เรื่องเที่ยว ไม่น่าจะทำให้คนอย่างข้าวพองกลุ้มใจได้ “กูอาจให้คำแนะนำอะไรไม่ได้ แต่กูรับฟังได้นะ”
“ขอบใจ” หนุ่มตัวเล็กยิ้มมุมปากขำเพื่อนที่พยายามป้องกันการที่ข้าวพองจะกลับไปสู่โลกส่วนตัวอีกครั้ง
“ไอรีน เขาก็แค่พูดไปเรื่อยๆ แล้วกูก็รับปากเขาไปไม่ได้คิดอะไรมาก แต่อีกทางหนึ่งคือเรื่องของครู ที่กูขอให้เขาช่วยกูเรื่องพี่เพชร เขาก็ขอไว้ว่ากูต้องเลิกเที่ยวกลางคืน เลิกใช้ยา” ข้าวพองกอดอกเอนตัวพิงผนังอาคาร “เรื่องที่จะให้กลับไปบอกไอรีนว่าไม่ไปแล้วน่ะไม่ยากหรอก หลายครั้งที่กูก็เบี้ยวนัดเขาดื้อๆ แต่ครูชอบพูดอ้อมๆ เหมือนกูกำลังจะมีอันตราย กูก็สองจิตสองใจมันกึ่งอยากลอง แต่อีกใจก็กลัว”
ป๋อมไม่ติดใจเรื่องที่ข้าวพองขอให้เกียช่วยเรื่องพี่เพชรว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ทายใจเพื่อน “หมายถึงมึงอยากท้าทายด้วยการออกไปเที่ยวกับพี่สาวซะเลย วัดไปเลยว่าจะมีเรื่องมั้ย แต่ก็กลัวว่าถ้าครูรู้ เขาจะไม่ทำงานให้มึงอีก”
“เออ” ข้าวพองพูดความจริง “กูไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว วัดกันไปเลยว่าใช่ไม่ใช่ แต่เขาชอบขู่แบบนี้ แล้วยังมีเรื่องไทนี่อีก กูก็ เฮ้ย มันอะไรกันวะ กูระแวงนั่น กลัวนี่ นี่มันคือตัวกูจริงๆ หรือวะเนี่ย”
หนุ่มตัวเล็กลูบหน้าตัวเอง
“กูแม่งเหมือนคนบ้า”
“ไม่หรอกน่า” ป๋อมกอดไหล่เพื่อน “แต่เรื่องไปเที่ยวน่ะ กูว่า ถ้ามึงอยากไป มึงชวนครูไปกับมึงให้สิ้นเรื่องไปเลยเหอะ”
“สัด พูดง่าย เขายิ่งบอกว่ากูอายุไม่ถึง”
“ก็เออสิ” ป๋อมพูดกลั้วหัวเราะ “บอกเขาไปเลย เผื่อเขารู้ที่เที่ยว” เพื่อนที่ตัวสูงกว่ากันเกินคืบ หันมาถามตรงๆ “ตอนมึงไปกับพี่สาว มึงเล่นยาด้วยใช่ไหม”
ข้าวพองพยักหน้า ป๋อมก็ด่า
“ไปกับเพื่อนที่นี่ก็เล่นยา ไปกับพวกพี่สาวก็เล่นยา คนเยอะแยะรอบตัวมีให้มึงเลือกที่จะเดินตาม ทำไมมึงไม่เลือกที่ดีๆวะ” 
“กูไม่ได้ติดยานะ ไปถามพวกไอ้ไมเคิล ไอ้เบลคดูก็ได้”
“งั้นสิ่งแรกที่มึงนึกถึงเวลาไปกับพี่สาว หรือไปปาร์ตี้กับพวกไมเคิล คืออะไร”
ข้าวพองเงยหน้ามองเพื่อนแล้วหันไปมองทางอื่น
“มึงนี่นะ” ป๋อมโยกหัวเพื่อนเบาๆ “กูว่า ที่ครูเขาไม่อยากให้มึงเที่ยวน่ะ สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่เรื่องเที่ยว หรือเรื่องคน แต่เป็นเรื่องที่มึงใช้ยานี่แหละ ถ้าไอรีนไม่มีเรื่องยา เขาก็คงไม่ห้ามขาดขนาดนี้ บอกเขาไปตามตรงเลยดีกว่า ว่ามึงต้องการอะไร”
“แล้ว..เรื่องไทนี่”
“ไทนี่ก็ไทนี่ เรื่องของมันชีวิตของมัน เอาตัวมึงให้รอดก่อนเหอะ” ป๋อมบอก
“แต่มันโดนคนทำร้าย”
“มันบอกว่ามันโดนคนทำร้าย” เพื่อนตัวสูงกว่าพูดแก้ “แล้วยิ่งนานวันกูก็ยิ่งเชื่อในสิ่งที่กูเห็น ไม่ใช่สิ่งที่มันบอก” 
ข้าวพองส่ายหน้า “มึงไม่เข้าใจ ป๋อม กูน่ะอยู่ตัวคนเดียว มันก็ตัวคนเดียวเหมือนกัน ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง กูก็ไม่อยากปล่อยให้มันต้องอยู่ตัวคนเดียวอีก”
“มึงไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะข้าวพอง มึงมีกูกับแป๋ม มีน้องเบซซี่ มีพ่อ มีพี่เพียง แล้วก็ครูด้วย ทุกคนห่วงมึงทั้งนั้น”
“แต่ไทนี่ไม่มีใคร”
“แล้วมึงคิดจะไปเปลี่ยนแปลงเขาหรือไง ก่อนที่เขาจะมาเมืองไทยเขาเป็นยังไง เรารู้หรือไง”

แป๋มมักจะบอกว่าป๋อมเป็นคนพูดอะไรเรื่อยเปื่อย มักจะกระแนะกระแหนว่าป๋อมไร้สาระ ไม่เห็นมีอะไรที่บ่งบอกว่าคือคนที่เป็นที่ 1
มีเพียงแต่ข้าวพองที่รู้ว่า ป๋อมชอบที่จะแต่งตัวเป็นตัวตลก ทำเหมือนคนไม่จริงจัง แต่ข้างในเต็มไปด้วยความคิดดีๆ มากมาย
...ซึ่งมันกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ข้าวพอง รู้สึกด้อยอยู่เสมอเมื่ออยู่กับป๋อม
ป๋อมคิดได้และทำได้
ส่วนข้าวพองคิดได้ แต่สุดท้ายก็เลือกทำในสิ่งที่อยากทำอยู่เสมอ
ข้าวพองมองป๋อมแล้วคิดไปถึงเกีย
ทำไมเกียถึงไม่ชอบคนดีๆ แบบป๋อมนะ
ข้าวพองเคาะหน้าผากตัวเองทำให้ป๋อมสงสัย
“เป็นไร ปวดหัวหรือไง”
“เปล่า กูเริ่มเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาปนกันอีกละ”
“ไปเล่นบอลกันมั้ย เรียก Endorphins มาไล่ตัวปัญหากัน”
ข้าวพองยิ้มได้
...มึงนั่นแหละตัว Endorphins…

อีกฝั่งหนึ่งของมุมตึกหนุ่มฮ่องกงดวงตาเรียวเล็กกลอกตามอง ขณะที่เม้มริมฝีปากแน่น

*-*จบตอนที่ 19*-*

ผู้ต้องสงสัยมากมายแน่นอน เพราะนั่นคือประเด็นหลักของเรื่องนี้
แต่ถ้าคุณจะเชื่อใครสักคนในเรื่อง ก็ "เชื่อป๋อมกับเกียเหอะ" จริงๆ นะ มีแค่ 2 คนนี้แหละ

พบกันวันอาทิตย์นะครับ
.น้ำชา.



หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 15-05-2014 09:52:23
ช่ายยยยย
เรารักนายตรึมเลยป๋อม
แป๋มด้วยคน
เหมือนมีแม่มาเท้าเอวว่า 555
เชื่อพี่เกียไปเหอะ
แต่ขอแอบมีใจให้ไทนี่ (ที่เริ่ม เอ๊ะๆๆๆ ไรหว่าไทนี่ของเค้า)
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 15-05-2014 10:28:54
หง่าาาาา!!!!!..............นักเรียนของครูเป็นไรเนี๊ยะ มีความลับไรเย๊อะแยะ ปัญหามีไว้ให้แก้ไข ยิ่งถ้าได้ที่ปรึกษาเก่งๆ เหมือนครู ยิ่งทำให้ปัญหานั้น ๆ เล็กน้อยมากกกก เพราะงั้นรีบๆๆ เล่าให้ครูฟังดีกว่านะ เอาแบบเน้นๆ ด้วย o7


เพื่อนนักเรียนของครูคนที่ 1 #เพื่อนป๋อม นายเป็นที่ปรึกษาที่ดีมากๆ นายไม่ใด้แค่รับฟังหรือแนะนำไม่ได้อย่างที่พูดสักนิด ... นายเข้าใจเพื่อนนักเรียนขี้เหงาดีที่สุดเลยอ่ะ  ...จนบางทีแอบจิ้น ว่า เพื่อนสนิทคิดไม่ซื้อป่ะเนี๊ยะ ...แต่นายก็แนะนำได้ดีมาก ชอบที่นายพูด แต่เรื่องไปเที่ยวน่ะ กูว่า ถ้ามึงอยากไป มึงชวนครูไปกับมึงให้สิ้นเรื่องไปเลยเหอะ น่านนนนงายย ที่เราบอกว่า นายเป็นที่ปรึกษาที่น่ารักที่ซู๊ดดดด  :mc3:

เพื่อนนักเรียนของครูคนที่ 2 #ไทนี่ มาแร้วววว เริ่มแร้ววววว เริ่มเปิดเผยความน่าสงสัย หวังว่านายจะไม่ใช้วิธีสกปรกมาต่อรองนะ  o12

ว่าแต่ คุณครู หายไปอ่ะ  :sad2:

 :pig4: Jivetea  เช่นเคย



หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 15-05-2014 11:00:14
กำลังจะสงสัย ป๋อม เจอเบรคหัวทิ่มเลย  :jul3: "เชื่อป๋อมกับเกียเหอะ"

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 15-05-2014 11:08:28
หรือแป๋มนางจะเป็นลูกน้องเกียจริงๆ 555
บอกเลยเรื่องนี้ เชื่อเกียคนเดียว ฮ่าาาาาา


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 15-05-2014 11:14:15
เชื่อได้สองคนจริงๆสิินะ
แล้วสาวน้อยแป๋มล่ะ????
ไทนี่ทำตัวได้น่าสงสัยมากกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 15-05-2014 11:53:04
คือเชื่อเกียคนเดียวมาตั้งแต่ต้นแล้ว  :mew4:
ข้าวพองก็บอกครูไปเถอะ อย่าแอบไปเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-05-2014 12:00:44
ป๋อมดูเป็นผู้ใหญ่มากกกก
ว่าแต่ความลับที่ข้าวพองเก็บไว้นี่มีเรื่องเพชรด้วยใช่มั้ยน๊า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-05-2014 12:11:11
ความลับเยอะ ความน่าสงสัยแยะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-05-2014 12:34:43
ข้างพองนี่แหละตัวปัญหาที่สุดของเรื่อง  :laugh:

เริ่มสงสารไทนี่

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-05-2014 13:13:39
ชอบป๋อม...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-05-2014 13:18:17
ส่วนตัวเชื่อครูเกียอยู่แล้ว
ฟังที่ป๋อมพูดก็ได้ข้อคิดหลายอย่าง
แต่ถ้าข้าวพองยังดื้ออีกก็ไม่รู้จะว่าไง
บางทีก็อยากให้เจอเจ็บ ๆ เสียบ้าง จะได้จำเป็นบทเรียน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 15-05-2014 13:29:37
ชอบป๋อมกะแป๋มจัง  คนหนึ่งช่วยเบรคให้ข้าวพองฉุกคิด อีกคนช่วยพยุงอารมณ์ และให้ชี้ให้เห็นเหตุผล
ยังสงสัยไอริณ กะไทนี่ ส่วนนิรมลคงเป็นแค่คนโลภที่อยากได้สมบัติ
ขอบคุณมากสำหรับ คุณไจฟ์ และน้องน้ำชา ที่หาเรื่องมาให้บริหารสมอง
ไม่ได้เรื่องการวิเคราะห์ แต่เป็นการเดาล้วนๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 15-05-2014 16:49:29
ข้าวพองมีความลับอะไรอีกหนอ ความลับเยอะจริงๆเลยนะ

ไทนี่ก็อีกคน ไม่น่าไว้ใจสุดๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 15-05-2014 17:17:51
ข้าวพองเชื่อป๋อมเถอะ เราก็ว่าไทนี่ไม่น่าไว้ใจ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 15-05-2014 17:33:35
ลึกลับซับซ้อนจริงๆ ข้าวพองได้เพื่อนดีน่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 15-05-2014 18:40:15
อ่านเสร็จ คิ้วขมวดยิ่งกว่าเดิม แต่ไทนี่นี่ยังไงๆ    :hao4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 15-05-2014 20:41:21
ขนาดแป๋มยังเชื่อไม่ได้อีกหรอนี่ เดาคนร้ายตัวจริงต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 15-05-2014 20:45:32
เชื่อหนูแป๋มด้วยได้ป่ะ....
ดูเหมือนไทนี่จะอ่านปากออกจริง ๆ ด้วยนะนี่....
พี่เกียรุกเร็ว ๆ อย่าอืดอาด...มัน..หึ๊ยยยย...หงุดหงิด...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 15-05-2014 23:55:18
รู้ก็รู้ว่าไม่ดี ทำไทถึงทำ
ก็อยากลองไง

คำพูดพวกนี้ มักทำให้ย้อนกลับมานึกเสียใจทุกครั้ง
เด็กหนอเด็ก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 16-05-2014 00:07:51
ชักเบื่อๆ กับเด็กดื้อรั้นอย่างข้าวพอง
ข้าวพองนี่แหล ที่คิดอะไรไม่ได้ ไม่โต
นี่ขนาดว่ารับปากกันแล้ว รู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ก็ยังทำ ดื้อจนระอา
รู้ว่าอันตราย ก็ยังดิ้นรนไปหาอันตราย
เขาเรียกว่า เด็กมีปัญหา หรือเปล่าคะนี่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 16-05-2014 05:22:00
วัยว้าวุ่นสินะ อยากรู้อยากลองเป็นของธรรมดา คนขี้เหงาแบบข้าวพอง กำลังเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างอยู่รึเปล่า ที่เกียไม่ชอป๋อมเนี่ย เพราะัป๋อมแอบชอบข้าวพองอยู่ ความจริงไทนี่อาจไม่ร้ายก็ได้และกำลังแอบชอบป๋อมอยู่ เย้ย!!!!!!!! โคตรเดาเลย 5555 เอาเป็นว่าเชื่อแป๋มและเกียดีกว่านะ ภาษีดีกว่าทุกคนเลย 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 16-05-2014 12:23:45
ป๋อมแป๋มเป็นเพื่อนที่น่าคบอ่ะ ความคิดน่านับถือมาก
ส่วนข้าวพองก็ช่างเป็นคนอยากรู้อยากเห็น รู้ว่าเสี่ยงก็อยากลอง
เด็กดื้อแบบนี้ ต้องให้เกียจัดการเนอะ หุหุ

ส่วนตอนท้าย หลังจากไอรีน ไทนี่ก็เพิ่มคะแนนความน่าสงสัยเพิ่มอีกแล้วสิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 16-05-2014 13:54:45
ยิ่งอยากรู้เรื่องไทนี่เข้าไปใหญ่ น่าสงสัยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 16-05-2014 23:10:13
ที่เคยบอกว่าชอบป๋อมกับแป๋มยังยืนยันคำเดิม
ชอบเด็กมีความคิดดีอย่างนี้ค่ะ เพื่อนแบบข้าวพอง
น่าจะลดการดูถูกตัวเองลงแล้วทำตามอย่างที่ดีๆบ้าง ว่าไหม?
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 18-05-2014 07:29:14
อ้าวๆ น้ำชาสปอยแบบนี้ แล้วน้องแป๋มล่ะ

แต่ว่า ตอนนี้ป๋อมเท่ห์มากอ่ะ จากที่ดูไม่ค่อยอะไรในตอนก่อนๆ แต่สอนเพื่อนได้ดี ข้าวพองควรฟังเพื่อนไว้นะ

ปล. ขึ้นหน้าใหม่รอรับตอนใหม่แล้วววว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 19 หน้า 16(15พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 18-05-2014 08:24:55
ได้เวลามารอข้าวพองแล้ว อิอิอิ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 18-05-2014 09:26:42
ครึ่งเรื่องแล้วนะจ๊ะ
ตอนที่ 20

   
ช่วงเวลาหลังจากการส่งข้าวพองเข้าโรงเรียนคือเวลา “ว่าง”
โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากที่แอนดรูว์กลับไปแล้ว และเกียหลงทางไปกับการทำหน้าที่ครู-พี่เลี้ยง-บอร์ดี้การ์ดของนายมลรัฐ
หมดเวลาไปกับการหาอุปกรณ์ฝึก หนังสือ แบบทดสอบ และปัญหาการใช้ยาเสพติด กับการเที่ยวกลางคืน
จนกระทั่งในวันอาทิตย์ที่กลับมาห้องพักที่คอนโดฯ งานสำคัญอีกเรื่องถึงได้สิทธิ์ที่จะร้องท้วงคนที่กำลังแกล้งลืม
ทันทีที่เห็นแฟ้มคดีของพวงเพชรกับเพชรแท้ และโบรนี่หัวหน้างานสอบถามมาว่าปรับตัวให้กับงานใหม่ได้หรือยัง ชีวิตในเมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง กับอีกหลายคำถาม ที่หากยังอยู่ในลอนดอนคงสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้น….
นายเกียไม่ใช่เด็กเล็กๆ ที่จะเกิดอาการตื่นกลัวหากต้องไปอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย
หากแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่า งานอีกอย่างที่แกล้งทำเป็นลืมคืออะไร ก็เข้าใจความเป็นกังวลของโบรนี่
แต่เกียก็ยังถ่วงเวลา ไม่สนใจที่จะติดตามเรื่องเพชรเจ้าปัญหานั่น
ปิดหู ปิดตาเมื่อพบพิรุธของทุกคนที่อยู่รอบตัว ด้วยการอ้างว่านั่นเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีคนใหม่เข้ามาในครอบครัว
จนกระทั่งเจ้าตัวออกปากร้องขอให้ช่วยติดตามเรื่องนี้ ถึงได้กลับมาปัดฝุ่นแฟ้มบางๆ และติดตามหาข้อมูลกลุ่มคนที่ต้องการเพชรทั้ง 5 กลุ่ม ลอนดอนที่เป็นเจ้าของเดิม มาเฟียฮ่องกงที่เพชรแท้เจรจาการค้าแต่ไม่ได้ส่งของให้จนกระทั่งนำไปสู่การฟ้องร้องในชั้นศาล กับยังมีกลุ่มแก๊งจากซาฮาร่า เจ้าชายจากซาอุดิอาระเบีย และสุดท้ายคือนักการเมืองญี่ปุ่นที่มีภริยาเป็นนักสะสมเพชรล้ำค่า

ตามลำดับแล้วควรเริ่มสืบจากฮ่องกง หรือลอนดอน แต่โอกาสที่จะได้ตรวจสอบเจ้าชายฮัสซันจากซาอุดิอาระเบียกลับมาถึงก่อน เพราะเจ้าชายมีกำหนดเดินทางมาลงนามความร่วมมือกับนักธุรกิจชาวไทย
เกียเป็นตำรวจเก่าที่ไม่ได้รู้จักคนมากมายนักก็จริง แต่โบรนี่เป็นตำรวจอาวุโสที่เส้นสายดี และยังคงใช้ระบบเส้นสายเหมือนเดิมช่วยนัดให้เกียพบกับตำรวจติดตามของเจ้าชาย
เป็นการใช้ความพยายามอย่างมาก ที่จะหาทางแสดงความเป็นเพื่อนกับคนที่ถึงจะเป็นรุ่นพี่ แต่ก็เป็นรุ่นพี่แบบ –เป็นคนรู้จักของคนรู้จักอีกที-
เกียได้แต่หัวเราะในตอนที่โบรนี่เสนอให้ใช้แผนนี้ ทั้งที่ในใจคิดว่ามันเป็นการแสดงเจตนามากเกินไป เพราะจะว่าไปเกียไม่คิดว่าเจ้าชายซาอุฯ จะเป็นผู้สั่งการเรื่องนี้
เพราะให้น้ำหนักไปที่กลุ่มฮ่องกงมาตั้งแต่แรก
แน่นอนว่าก่อนที่จะได้พบกัน ต่างฝ่ายต่างก็จะต้องตรวจสอบประวัติกันก่อน
เกียจึงไม่ได้ปกปิดความจริงที่ว่าต้องออกงานมาเป็นครูพี่เลี้ยงให้กับนักเรียนมัธยม
และนักเรียนมัธยมคนนั้นก็เป็นลูกของคนที่เจ้าชายต้องการเพชร

หลังจากส่งข้าวพองเข้าโรงเรียน เกียกลับเข้าบ้านทำหน้าที่แล้วออกมาใหม่ช่วงใกล้เที่ยงพบกับการิม ที่ร้านอาหารในโรงแรมที่พัก
การิมจบโรงเรียนนายร้อยที่อังกฤษ เป็นรุ่นพี่ของเกียอยู่หลายรุ่น แต่กลับไปรับราชการที่ซาอุดิอาระเบีย

“คิดว่าจะไม่ได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านแล้วเสียอีก” เกียพูดยิ้มๆ หลังการแนะนำตัว
“ไม่น่าเชื่อว่าจะมีนิสัยเอเชีย” การิม หนุ่มตะวันออกกลางคิ้วเข้มพูดอย่างรู้ทัน แล้วหันไปแนะนำเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่อยู่ในระหว่างพักเพียง 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะกลับประจำหน้าที่อารักขาเจ้าชาย
“สารภาพตามตรงเลยนะ ว่าไม่คิดเหมือนกัน แต่เพราะโบรนี่สั่งแล้วสั่งอีกว่ามีรุ่นพี่มาเมืองไทย ถ้าไม่อยากเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปตลอดชีวิต จะต้องมาหา”
เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียทั้งกลุ่มพากันหัวเราะเสียงดัง การิมหันมาพูดยิ้มๆ กับเกีย
“เอาจริงหรือเปล่า”
“ผมรู้ว่ายาก แต่ไม่อยากขัดใจโบรนี่ต่างหาก” เกียพูดความจริง การเป็นตำรวจคุ้มกันให้กับเจ้าชายในดินแดนตะวันออกกลางไม่เคยอยู่ในความคิด
“งั้นเราก็สมควรนั่งกินมื้อกลางวันโดยปราศจากความเครียด” การิมโอบไหล่ให้เกียนั่งลงข้างๆ
บทสนทนาในช่วงเวลาที่เหลือมีแต่เพียงชีวิตในรั้วโรงเรียนนายร้อยระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง และเส้นทางที่ค่อยๆ ห่างจากจุดเริ่มต้น
“ว่าที่จริง ถึงจะไม่ได้เป็นตำรวจอังกฤษ แต่ก็ยังได้ใช้วิชาที่เรียนมาอยู่เสมอ” การิมบอก เมื่อขยับตัวมองนาฬิกาข้อมือ “ตามกำหนดเราต้องกลับคืนนี้ แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็ติดต่อมาได้”
“ตอนนี้ผมเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ไม่กล้ารบกวนรุ่นพี่หรอก แต่ถ้ารุ่นพี่ได้พักร้อนแล้วมาเที่ยวเมืองไทย โทรเรียกผมดีกว่า” เกียหันไปบอกทุกคนในกลุ่ม “ทุกคนเลยนะครับ โทรหาผมได้”

เป็นการทำความรู้จักในฐานะเจ้าของบ้าน และรุ่นน้องอย่างแท้จริง จนกระทั่งเมื่อกลับเข้ามาในห้องพัก เกียสแกนลายนิ้วมือที่ลอบเก็บมาจากผู้ร่วมการสนทนาทั้งหมด ส่งให้แมรี่
รายงานที่ได้รับกลับมาก็เป็นเพียงประวัติการทำงานทั่วไป
ยังไม่ใช่เรื่องที่อยากรู้
เจ้าชายมีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อติดต่อขอซื้อเพชรจากเพชรแท้ แต่เพชรแท้ไม่ขายให้
หลังจากนั้นหลายวัน การิมติดต่อกลับมาเพื่อให้เกียซื้อของฝากที่เป็นของประดิษฐ์พื้นเมืองให้
“เรามีเวลาอยู่เมืองไทยไม่กี่ชั่วโมง กลับมาไม่มีของฝากบ้านแทบแตก รบกวนเกียจัดให้ที”
เกียยิ้มกับโทรศัพท์ในมือ “ด้วยความยินดีครับ แต่ขอเป็นพรุ่งนี้นะครับ ตอนนี้ใกล้เวลาที่ผมต้องไปรับเจ้าชายน้อยที่โรงเรียน พรุ่งนี้ส่งเขาเข้าโรงเรียนแล้วผมจะไปซื้อแล้วส่ง DHL ไปทันที”
เมื่อการิมเป็นฝ่ายโทรมาขอความช่วยเหลือจากเกีย จึงต้องมีการสนทนาถึงความเป็นอยู่ทางฝั่งนี้ “ครอบครัวของเขาครอบครองเพชรหายาก”
“ผมได้ยินมาอย่างนั้นครับ รวมถึงเรื่องที่ว่ามันทำให้แม่กับพี่สาวต้องเสียชีวิตด้วย”
การิมส่งเสียงตอบรับในลำคอ “เจ้าชายเคยอยากได้เพชรชุดนั้น คิดว่าเกียก็น่าจะรู้ แต่ของแบบนี้มักจะอาบเลือด มีเรื่องลึกลับที่เราไม่รู้”
เกียอมยิ้ม เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเชื่อเรื่องนี้ 
“ตอนรู้ว่ามีพวกซาฮาร่าอยากได้ไม่เท่าไหร่ แต่พอรู้ว่า มีพวกฮ่องกงมองไว้เหมือนกันเขาก็เลยถอยเพราะไม่อยากยุ่งกับพวกมาเฟีย แล้วพอต่อมาเห็นข่าวของครอบครัวนี้ ที่มีคนตาย เขาก็ยิ่งไม่อยากยุ่งด้วย บอกว่าเพชรเปื้อนเลือดมากเกินไป”
ประโยคสุดท้ายทำให้เกียรู้จุดประสงค์ที่รุ่นพี่โทรมา
“ความเชื่อเรื่องอาถรรพ์ก็มีข้อดีเหมือนกัน”
การิมหัวเราะความเห็นของเกีย แล้วย้ำเรื่องของที่ขอให้ช่วยจัดหาให้

เมื่อนำไปรวบรวมกับประวัติการสะสมเพชรของเจ้าชายซาอุฯ เจ้านายของการิม ยิ่งเป็นการยืนยันว่าเจ้าชายอยู่นอกกรอบของผู้ต้องสงสัย และไปเพิ่มน้ำหนักที่แก๊งฮ่องกง

เกียยกมือลูบหน้าแล้วถอนหายใจแรงๆ
ถ้าเป็นสำนวนแบบคณิตศาสตร์เด็กประถม ต้องบอกว่า เจ้าชายซาอุฯ “ถูกทดไว้ในใจ” แล้วขีดเส้นใต้ที่คำว่าฮ่องกง แน่นอนว่า ต้องไม่ลืมใช้มาร์คเกอร์ขีดที่ชื่อของไทนี่หว่องกับไอ้เหลียงศัตรูเก่าจากลอนดอนด้วย
ไม่รู้เหมือนกันว่า 2 คนนี้จะเข้ามาเกี่ยวข้องในทางไหน แต่ชื่อของคนคู่นี้ยังคงอยู่ในบัญชีรายชื่ออยู่เสมอ 

สามทุ่มครึ่งเกียเดินตรวจความเรียบร้อยรอบบ้านเหมือนเคย หนุ่มตัวเล็กในชุดกางเกงนอนขายาวสีฟ้า กับเสื้อยืดสีขาว เดินเข้ามาหาด้วยท่าทีลังเล เหมือนจะเดินหน้า 2 ก้าวถอยหลัง 1 ก้าว
เป็นบุคลิกที่อ่านได้ง่ายที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดที่พบเจอ
“มีอะไรให้รับใช้ครับ”
หนุ่มตัวเล็กเกาหน้าผาก แล้วดึงมือให้เดินตามไปหยุดอยู่ใกล้โรงฝึก
“ไม่มีอะไรให้รับใช้ แต่มีเรื่องจะสารภาพ”
“ครับ”
“พอง...คุยกับไอรีน” ดวงตากลมโตเหลือบขึ้นมองแล้วก้มลงมองเท้าตัวเอง “ขอโทษที่ไม่รักษาสัญญา” พอช้อนตาขึ้นมองอีกครั้งเห็นเกียยังคงมองมานิ่งๆ “คุยโทรศัพท์มั่ง แชทมั่ง แต่ไม่ได้ไปไหน ถามทุกคนในบ้านก็ได้”
เกียยังคงใช้ความเงียบเป็นคำตอบเหมือนเดิม จนหนุ่มตัวเล็กร้อนใจ
“คืนเสาร์นี้ เกียกลับไปคอนโดฯ แล้ว ไอรีนจะมารับ”
เกียแตะที่ปลายคางให้เงยขึ้นมามอง “ชอบไอรีนหรือครับ”
“ไม่รู้”
“แล้วทำไมถึงยังคุยกับไอรีน ทั้งที่พี่ขอไว้ แทนที่จะคุยกับเบซซี่หรือสาวคนอื่นที่พี่ไม่เคยห้าม”
“ก็...คงเพราะไอรีนเขาเป็นผู้ใหญ่กว่ามั๊ง เบซซี่น่ารักก็จริง แต่บางทีก็ง๊องแง๊งอะไรไม่รู้ เมื่อวานไอรีนโทรมาชวนออกไปข้างนอก ก็ไม่ได้ออกไปหรอก แต่ว่าเสาร์นี้เขาจะมารับ”
“อยากไปไหมครับ”
ข้าวพองลังเล “ไม่รู้เหมือนกันว่าอยากหรือไม่อยาก รู้แต่ว่าไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว”
เกียรู้ตัวก็เมื่อก้มลงจูบริมฝีปากบาง แล้วพาลจูบที่แก้มใส
“ข้าวพองไม่ได้อยู่คนเดียว ข้าวพองมี...”
“ไม่มี ไม่มีใครอยากอยู่กับข้าวพองสักคน ทุกคนทำไปตามหน้าที่ เพราะเงินของพี่เพียง” ข้าวพองปัดมือที่แตะคาง “พองก็แค่มาบอกเท่านั้นแหละ”
เกียคว้าต้นแขนของข้าวพองไว้ “อยากให้พี่ทำอะไร”
“เห็นมะ สุดท้ายเกียก็เหมือนคนอื่นน่ะแหละ ทำตามคำสั่ง”
“ข้าวพองกำลังพาล”
“เออ! ก็พาลเหมือนทุกทีน่ะแหละ!” ข้าวพองตะคอกใส่ เปลี่ยนอารมณ์ได้ทันที “ปล่อยเลยนะ ถ้าทำได้แค่นั้นมันก็ไม่ต่างจากคนอื่นหรอก”
เกียยืนนิ่งเหมือนถูกตรึงไว้กับพื้น มือใหญ่ที่บีบแขนอยู่เพิ่มน้ำหนักขึ้น “ฟังนะครับข้าวพอง เหตุผลสำคัญที่ไม่อยากให้ยุ่งกับไอรีนก็เพราะยาเสพติด”
“เบซซี่ก็ใช้ ไทนี่ก็ใช้ พองก็ใช้ จะห้ามไม่ให้พองคบตัวเองด้วยมั้ย!”
คิ้วหนาขมวดแน่น จนข้าวพองรู้ตัวยกมือขึ้นปิดหน้า
“พองไม่ ไม่ ไม่ติดนะ”
เกียดึงข้าวพองเข้ามากอดไว้
“ครั้งสุดท้ายที่ใช้ยาคือเมื่อไหร่”
“..............ชั่วโมงที่แล้ว.....”
คำตอบของข้าวพองทำให้เกียตัวชา นี่คือสาเหตุที่ทำให้อารมณ์ของข้าวพองเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“พี่รักข้าวพองมากกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตพี่ แต่ทำไมข้าวพองไม่รักตัวเอง”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ทำให้ข้าวพองน้ำตาหลากท่วม ได้แต่ซุกหน้าลงกับอกกว้าง
ที่ผ่านมาเกียคิดว่าข้าวพองจะใช้ยาในตอนที่ไปเที่ยวบ้านเพื่อน  ทั้งคิดว่าถูกไอรีนวางยา
แต่ตอนนี้เจ้าตัวตั้งใจกินมันเข้าไปเอง
“เสาร์นี้ หลังเรียนพิเศษให้ไอรีนมาหาที่นี่ พี่มีเรื่องที่จะคุยกับเขา” มือใหญ่ประคองใบหน้าอ่อนใสไว้ “ถ้าพองไม่ติดยา และคิดว่าเรื่องของแม่กับพี่เพชรมีความสำคัญเป็นลำดับที่ 1 ข้าวพองก็ต้องรักษาสัญญาให้ได้”
“พองแค่ไม่อยากอยู่คนเดียว”
...เหมือนมีเหตุผลหลายอย่างที่อยู่เบื้องหลัง การที่ข้าวพองไม่อยากอยู่คนเดียว...
“พองไว้ใจพี่ไหม”
ข้าวพองกัดริมฝีปากขณะที่ส่ายหน้า
“ทำไม”
“เดี๋ยวเกียก็ไป”
เกียมองดวงตากลม ที่ยังมีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งบอกถึงยาเสพติดที่ข้าวพองใช้ ต้องพาเข้าบ้านชวนคุยพลางให้ดื่มน้ำแก้วใหญ่ แล้วพาไปอาบน้ำ ฟังเพลงจนเวลาผ่านไปเกือบ 5 ทุ่มความสับสนลังเลของข้าวพองถึงได้คลายลง
หนุ่มตัวเล็กหยิบซองยามาส่งให้เกียที่นั่งอยู่บนเตียง
ยาผงสีขาวที่ดูเหมือนผงแป้งทั่วไป....ลักษณะอาการขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้
“มีแค่นี้แหละ”  ข้าวพองบอกแล้วเอนตัวพิงอกของเกีย มองมือตัวเอง “ขอโทษที่ไม่เคยรักษาสัญญาได้เลยสักครั้ง”
เกียก้มลงหอมผมนิ่ม
“ข้าวพองต้องรักตัวเองให้มากกว่านี้” เกียพูดเหมือนเดิม “ถ้าข้าวพองมีปัญหา ก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหา ยาเสพติดแก้ปัญหาให้ข้าวพองไม่ได้หรอก”
ข้าวพองหันมามองหน้าคนตัวโต
“พองทำให้เกียผิดหวังใช่มั้ย”
“นิดหน่อย” เกียยอมรับด้วยรอยยิ้ม “ข้าวพองขอให้พี่ตามคดีของแม่ พี่ก็คิดว่าเป็นคนที่ข้าวพองไว้ใจ”
“พองไว้ใจ แต่มันคนละเรื่องกับการจะออกไปข้างนอกกับไอรีน หรือการใช้ยา”
เกียฟังข้าวพองที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มเรื่องที่ตรงไหน ได้แต่เล่าข้ามไปข้ามมา
เท่าที่สรุปได้ก็คือ เมื่อไอรีนกับยาเสพติดมีความเกี่ยวพันกัน ทำให้ในเวลาที่ข้าวพองคิดเรื่องของไอรีนมันก็ชักนำไปสู่การใช้ยาแบบที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ
ไม่ใช่ติดยา แต่เพราะไอรีนคือยาเสพติด..

“คุยกับป๋อม ป๋อมบอกว่า ให้คุยกับเกียตามตรง ก็กลับมาคิดว่าจะบอกกับเกียยังไงดี ไม่อยากให้โกรธจนไม่ทำเรื่องแม่ต่อ รู้ตัวอีกทีมือมันก็หยิบซองยาออกมา ทั้งที่ไม่ได้ใช้มาตั้งนานแล้ว” ข้าวพองสารภาพ “อย่าถามได้มั้ยว่าทำไม เพราะมันไม่มีเหตุผล”
“เพราะทุกครั้งที่ข้าวพองอยู่กับไอรีนจะมียาเสพติดอยู่ด้วยทุกครั้ง” เกียตอบ “ไอรีนกับซองยานั่นเป็นตัวแทนของกันและกัน”
“ทำไมเกียต้องวิเคราะห์ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลตลอดเวลา”
“เพราะมันเป็นอย่างนั้น” เกียบอก ขณะที่ข้าวพองพลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมตักแล้วทิ้งตัวกอดเอวหนาไว้ “ทุกครั้งที่ข้าวพองออกไปเที่ยวจะต้องใช้ยา และการที่เราจะทำหรือไม่ทำอะไร ส่วนใหญ่มันเกิดจากความคุ้นเคย”
ข้าวพองคิดตามแล้วพยักหน้า “มันถือว่าติดหรือเปล่า”
“เราจะเรียกมันว่าความเคยชิน” เกียเลือกคำกลางๆ ที่ทำให้ข้าวพองยิ้มได้ “ถ้าเราไม่นับหนึ่งด้วยการออกไปเที่ยว ก็จะไม่มีข้อ 2 คือการใช้ยา”
“งั้นเรื่องไอรีนทำไง”
“พี่ก็จะถามพองเหมือนเดิมว่าอยากไปมั้ย”
“พองไม่อยากอยู่คนเดียว แต่มันคือวันพักของเกียใช่มั้ย เกียอาจไปพักผ่อน หรือตามเรื่องแม่ให้พอง”

ประโยคที่บ่งบอกความสับสนของข้าวพองกลับมาอีกครั้งจนเกียต้องแตะปลายนิ้วที่ริมฝีปากบาง
“ช้าลงอีกนิดครับ” ดวงตากลมโตมองมา ดูอ่อนเพลียเพราะเวลาเข้าใกล้เที่ยงคืน แต่เจ้าตัวกำลังต้องการคำตอบ “เรื่องระเบียบเวลาทำงานที่คุณเพียงกำหนดไว้มันก็ส่วนหนึ่ง แต่พี่ก็มักจะทำในสิ่งที่พี่อยากทำเหมือนกัน อย่างเรื่องที่ข้าวพองขอให้ทำเรื่องแม่นั่นก็เพราะพี่อยากทำ ดังนั้นถ้าข้าวพองอยากให้พี่อยู่ในคืนวันเสาร์พี่อยู่ก็ได้ เพราะพี่สามารถติดตามเรื่องแม่กับคุณเพชรได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว”
“ตอนที่เกียออกไปข้างนอกตอนกลางคืนน่ะหรือ”
“ตอนที่ข้าวพองอยู่โรงเรียน ตอนที่หลับไปแล้ว ตอนไหนพี่ก็ทำงานได้ทั้งนั้น และเวลาที่มีกำลังคุยกับข้าวพองอยู่ตอนนี้พี่ก็ถือเป็นเวลาพักผ่อน ไม่ใช่เวลาทำงาน” เกียยิ้มที่มุมปาก
ข้าวพองเกาหน้าผากตัวเองแล้วส่ายหน้าช้าๆ “หลายวันมานี้ ไม่รู้พองเป็นอะไร บางทีมันก็มึนๆ งงๆ บางทีมันก็เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาปนกันมั่วไปหมด เรื่องที่ไม่เคยคิดก็คิด เรื่องที่ไม่เคยกลัวก็กลับมากลัว บ้าบอฟุ้งซ่าน”
เกียเหลือบตามองซองยาสีขาว ที่วางอยู่ข้างๆ
นอกจากยาที่ไอรีนให้มา ยังมีอีกคน.....

“ก็ข้าวพองเป็นวัยรุ่น ทั้งเคยมีอิสระ จู่ๆ พี่มากำหนดตารางเวลาให้ทำนั่นนี่ แล้วก็มาคอยบอกให้ระวังตัว ก็เลยติดเชื้อระแวงไปมั้ง”
ข้าวพองเอียงคอมองสบตาสีเข้ม
“แล้วทำไง”
“ขั้นแรกพาไอรีนมาเที่ยวบ้านก่อน พี่อยากคุยกับเขา ส่วนเรื่องที่โรงเรียน.....”
“โรงเรียนทำไม” ข้าวพองถามทันที
“เรื่องที่โรงเรียนเป็นเรื่องที่ข้าวพองจะต้องระมัดระวังตัวเอง ไม่ไปยุ่งกับคนที่ใช้ หรือขายยา”
“แต่เกียไม่ห้ามพองคุยกับเบซซี่”
“ไม่หรอก เบซซี่ก็เหมือนข้าวพองที่ใช้ยาตอนไปเที่ยว ไม่ได้ติดแล้วก็ไม่ใช่คนขาย แต่ไว้พี่คุยกับเบซซี่ทีหลังได้”
ข้าวพองทิ้งตัวลงนอนซุกอกหนา ทำท่าเหมือนจะหลับ
“พองเป็นแบบนี้เพราะยาที่พองใช้ใช่มั้ย”
“ครับ”
“ขนาดใช้ไม่เยอะยังเพี้ยนได้ขนาดนี้”
เกียมองคนที่นั่งกอดอยู่
.....ไอ้ที่เจตนาเสพมันก็ส่วนหนึ่ง แต่ยังมีคนที่เจตนา –หยอด- ให้อีก ทำให้ข้าวพองกลายเป็นแบบนี้ ......

“ถ้าอยากไปเที่ยว สอบเสร็จเราไปเที่ยวกัน”
“ไปบ้านเกียที่ภูเก็ต”
“ครับ ไปบ้านพี่ที่ภูเก็ต จะแนะนำพี่ชายพี่สาวให้รู้จัก”
“สวยมั้ย”
“เขาแต่งงานแล้ว ลูกเพิ่งได้ขวบกว่าๆ ”
“โหย...” ข้าวพองทำเสียงผิดหวังจนเกียต้องดึงจมูกดื้อรั้น
“เจ้าชู้นะเนี่ย”
“แล้วเกียล่ะ”
“พี่ทำไม”
“เกียเจ้าชู้มั้ย”
เกียหัวเราะหึหึ “ผมไม่เจ้าชู้ รักแล้วก็รักเลย แล้วก็เลยโดนทิ้งตลอด”
“แบบนี้มันแปลว่า รักคนรักคนแรกคนเดียวรู้มั้ย”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“ก็..รักแล้วรักเลยไง มันแปลว่ามีรักเพียงครั้งเดียว คนอื่นๆ ไม่ใช่รัก”
“งั้นพี่ควรจะพูดว่ายังไง” หนุ่มลูกครึ่งเริ่มสับสนกับภาษาไทย “เพราะเวลาที่พี่รักใครสักคน พี่จะมองแต่เขาเพียงคนเดียว ทุ่มเทให้เขาเพียงคนเดียว ไม่เหลือใจให้ใครได้อีก”
“แล้วเคยเป็นแบบนี้มาแล้วกี่ครั้ง”
“2”
คนที่กำลังจะหลับ ขยับตัวตรงมองหน้า “คนแรกคือใคร”
“เป็นเพื่อนของน้องสาวที่อังกฤษ”
“แล้วทำไมถึงเลิกกัน”
“เพราะพี่ไปวุ่นวายกับเขา อยากให้ตั้งใจเรียน ไม่ไปยุ่งกับพวกคนไม่ดี”
“เขาก็เลยทิ้งละสิ”
“นั่นแหละ” เกียยอมรับด้วยรอยยิ้ม
“แล้วยิ้มทำไม คนโดนทิ้งยังยิ้มได้ไง” ข้าวพองจิ้มที่แก้มที่ยังยิ้มค้าง
“ก็มันตั้งนานแล้ว แล้วหลังจากนั้นเห็นเขามีความสุขมากกว่าตอนที่คบกัน”
“แล้วเกียล่ะ”
“ก็ไปเที่ยว แล้วก็ผ่านไปเรื่อยๆ”

เกียนึกถึงคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ที่เป็นเหมือนคนที่เดินสวนกันบนเส้นทางหลายปีของชีวิต แบบที่บรรดาเพื่อนร่วมงานในอังกฤษบอกว่าเกียไม่เคยมีโชคเรื่องความรัก
...ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เพราะไม่มีความรู้สึกว่ารักและอยากรักษาไว้...

“อ้าว แล้วคนที่ 2 ล่ะ”
“คนที่ 2 อยู่ตรงนี้” ดวงตาสีเข้มของเกียหวานเชื่อมจนข้าวพองต้องหลบตา “เวลาที่มีเขาอยู่ในอ้อมแขนแบบนี้ เขาไม่มีลำดับหมายเลข เพราะเขาเป็นเพียงคนเดียวในเวลาปัจจุบัน”
ข้าวพองอยากแซวว่าเกียเริ่มกลับไปพูดคำไทยในประโยคแบบอังกฤษอีกแล้ว แต่ก็กลับรู้สึกเก้อเขินจนได้แต่ก้มหน้ามองคอเสื้อของเกีย
“รักคนนี้เหนื่อยมากเลยนะ”
“ไม่หรอก การได้ทำเพื่อคนที่เรารักไม่มีคำว่าเหนื่อย อาจผิดหวังที่เขาไม่ไว้ใจ แต่ไม่เหนื่อยเด็ดขาด”
ข้าวพองทิ้งตัวลงกอดเอวหนา ซุกหน้าลงกับอกกว้างอีกครั้ง
“ป๋อมมันเป็นคนดีนะ ไม่ชอบป๋อมหรือ”
เกียส่ายหน้า
“ขอบคุณ ถึงตอนนี้พองจะไม่ได้รักเกีย แต่ก็จะไม่ทำให้เกียผิดหวัง”
เกียกอดกระชับคนในอ้อมแขน
“ครับ ไม่รักก็ได้ แต่ขอให้เชื่อใจพี่ ถ้ารู้สึกสับสน วุ่นวายใจให้มาหาพี่ พี่พร้อมที่จะคุยกับข้าวพองตลอดเวลา”
ข้าวพองพยักหน้าแล้วหลับตาลง ลมหายใจสม่ำเสมอที่ตามมาบอกว่าเจ้าตัวหลับไปแล้ว เกียหันไปมองนาฬิกาที่เลยผ่านเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว ค่อยพลิกตัวให้ลงนอนแล้วห่มผ้าให้

หลังจากที่เกียส่งพัสดุให้การิม รุ่นพี่จากดินแดนตะวันออกกลางก็ให้เบาะแสเพิ่มเติม
มิสเตอร์จาง ผู้มีอิทธิพลชาวฮ่องกงที่เป็นคู่คดีของเพชรแท้เป็นเพียงตัวแทนของนักสะสมเพชรอีกคนที่ต้องการเพชรนั้นมาก
“ยังมีอีกหรือครับ”
“ฮ่องกงถนัดเรียกค่าไถ่ กับยาเสพติด” การิมบอก เพื่อให้เกียต่อเรื่องเอาเอง “เป็นน้องสาวของเขา ไม่มีใครเคยเห็นตัวตนจริงๆ เพราะพี่ชายออกหน้าตลอด ที่ผ่านมาถ้าอยากได้เพชรชุดไหน เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา เจ้าชายก็เลยไม่อยากยุ่งด้วย”
การิมให้ข้อมูลอื่นๆ และสรุปท้ายให้กำลังใจ “ไม่อยากให้คาดหวังว่า คนที่ฆ่า 2 แม่ลูกจะไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ แต่เกียควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสู้กับคนที่อยู่ในเงามืด ทั้งเป็นอาชญากรสมบูรณ์แบบ ยาเสพติด ลักพาตัว และฆาตกรรม”

*-*จบตอนที่ 20*-*

อย่าๆๆๆๆ อย่าเพิ่งบอกว่ามีตัวละครเพิ่มมาอีกละ จำไม่ได้ เพราะจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร การิมมีหน้าที่แค่นี้แหละ
ชอบป๋อมเหรอ ป๋อมจะเท่มากกว่านี้อีกในตอนต่อๆ ไป ขณะที่ข้าวพองมันก็ช่าง :z3:
เป็นพระเอกเรื่องนี้ช่างน่าสงสารจริงหนอ

วันอังคารมาอีกตอนนะครับ
.น้ำชา.


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: bluesky ที่ 18-05-2014 10:10:41
 :L2: :L2:  ซุ่มอ่านเงียบๆมานาน...ชอบทุกเรื่องของคุณไจฟ์ และน้องนัำชาค่ะ  (ลุ้นทุกเรื่อง)
  คราวนี้ไอรีน... จะเป็นแค่ไอรีนหรือจะเป็นใคร?
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-05-2014 10:19:04
ตอนนี้อ่านเพลินยาวได้ใจ  o13

หากเป็นเกียคงทนไม่ได้  มีเด็กน่ารัก(หรา)มานั่งคร่อมกอดเอวบนที่นอนแบบนี้  :laugh:
ก็ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ยาจริงๆ หรือความตั้งใจอยากอ่อยให้อีกฝ่ายตามใจตัวเองสินะ  :katai5:

บวกเป็ด

เรื่องนี้ไม่รู้ใครหลอกใครกันแน่

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 18-05-2014 10:29:47
อุต๊ะ !!! มาเพิ่มอีก1 รายสำหรับผู้ต้องสงสัย กำลังอ่านโคนันอยู่ปะเนี่ย 555 แต่ก็ตัดพวกซาฮาร่า ออกแล้วเหรอ4 จาก 5 คนบงการจริงๆเป็นผู้หญิงเหรอเนี่ย ใครกันยังคิดไม่ออกเลย คอยลุ้นกันต่อไป
สำหรับข้าวพอง การใช้ยาบำบัดทุกข์ไม่ดีนะจ๊ะ  เกียคงต้องเหนื่อยอีกนาน^^ ครึ่งทางแล้วสินะ  บีบหัวใจและต่อมเผือกอย่างรุนแรง อยากรู้ว่าใครเป็นฆาตกร ใบ้ให้หน่อยได้ปะ น้องที ฮี่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 18-05-2014 12:38:55
ไทนี่แอบหยอดยาให้ข้าวพองตอนอยู่ที่ ร.ร. แน่ๆเลย พองเลยแปลกๆแบบนี้

แต่ตอนนี้น่ารักจัง มุ้งมิ้งๆกัน 2 คน น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-05-2014 13:02:58
เป็นพระเอกเรื่องนี้ต้องอดทนใช่ไหมเกีย เพราะนายเอกทำตัวเป็นโดดเดี่ยวผู้น่ารัก(?) ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 18-05-2014 13:20:11
ไอรีนหรือเปล่าที่เป็นน้องสาวของผู้มีอิทธิพลฮ่องกง?
ที่ข้าวพองขึ้นๆลงๆนี่เป็นเพราะแอบใช้ยามาตลอดสินะ เด็กเอ้ย!
นี่ไง ยืนยันจากน้องทีว่าป๋อมเท่+ความคิดดี เนอะ ^^
เกียจะจัดการกับไอรีนอย่างไรน่าติดตาม / รอตอนต่อไปค่ะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-05-2014 14:23:19
ได้แต่เดาเรื่องไปต่างๆนานา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 18-05-2014 16:12:21
ไอรีน ไทนี่  จดไว้ก่อน

สับสนๆ  :really2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 18-05-2014 17:22:20
เกียคนเดียวไหวไหม เรียกโคนันมาช่วยดีป่าววว  :z10:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 18-05-2014 17:26:51
อิตอนแรกอ่านไปก็อมยิ้มตามไปกับวิธีการอ่อยเบา ๆ ของข้าวพอง
ไอ้ที่ไม่อยากอยู่คนเดียว เพราะเหงา ใช่แหล่ะ. ... แต่ บางทีข้าวพองอาจจะกลัวด้วยก็ได้
เพราะงั้น...เกีย ทางออก #ย้ายไปนอนกับข้าวพองเลยเห่อะ o13

แต่อิตอนมาถึง อาชญากรรมสมบูรณ์แบบ. ยาเสพติด ลักพาตัว และฆาตกรรม
.........อิแม่!!!!!ยาเสพติด มาแล้ว  เหลือลักพาตัว กะ ฆาตกรรม  :serius2: 
ลุ้นกว่า เลขท้าย 2 ตัวเลยอ่ะ

 :pig4:  :L2: JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-05-2014 18:22:22
ประสบการณ์อย่างนึงจากที่อ่านนิยายของคุณไจพ์กับน้องน้ำชาคือ
คนที่เราคิดว่าเป็นคนร้ายมักไม่ใช่เสมอ
ไม่เคยเดาถูกเลยสักเรื่อง 555555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-05-2014 21:46:30
ต้องไอรีนแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 18-05-2014 23:10:47
เคยชินกับกานเสพติดใกล้กันนิดเดียวนะข้าวพองจ๋า
ส่วนคนที่หยอดในร.ร.ทายว่าเป็นไทนี่ (หรือป่าวนะ :m28: )
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-05-2014 23:59:51
รอบๆตัวข้าวพอง แทบจะยากันหมดเลย ต้องระวังมากขึ้นนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 19-05-2014 00:21:08
เด็กเดี๋ยวนี้เล่นยาเป็นเรื่องธรรมดาล่ะมั้ง โดยเฉพาะคนมีเงิน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 19-05-2014 08:09:39
 :z3:
ไม่เอาอ่ะ ข้าวพองต้องใจแข็งนะ
เลิกยาให้ได้ เหงาก็มาหาพี่เกีย
ทำกับข้าว ดูหนัง ล้างรถกันอย่าอึนคนเดียว
แล้วนี่ต้องเจอยกใหญ่ๆ เลยเหรอ
การิมเปิดซะกลัวเลยนะนี่
พี่เกียสู้ๆ
บวกและเป็ดรัวๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 19-05-2014 08:21:15
เข้ามาอ่านแต่ยังอ่านไม่ถึงตอนล่าสุดเลย
แต่เข้ามาเม้นก่อนเรื่องนี้สนุกมากๆไม่แพ้เรื่องก่อนๆเลย
มีตัวละครที่น่าสงสัยหลายตัวมากล่าสุดน่าจะเป็นไทนี่
ชอบข้าวพองและพี่เกียอ่ะ
+และเป็ดนะค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 19-05-2014 09:11:08
โอยยยย   ข้าวพองเด็กดื้อขี้เหงา  อาการน่าเป็นห่วงอยู่นะเนี่ย
หวังว่าเมื่อเกียรู้เรื่องการใช้ยาของข้าวพองแล้ว  จะช่วยให้น้องเลิกใช้ยาได้อย่างเด็ดขาดนะ
คดีเพชรดูเหมือนจะมีเบาะแสเพิ่มอีกนิด ?  ผ่านมาครึ่งเรื่องแล้วยังเดาไม่ออกเลยว่าใครเป็นคนร้ายกันแน่
ส่วนป๋อมดูท่าจะมีบทพอสมควร  รอดูตอนป๋อมเท่  ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-05-2014 11:55:18
ข้อมูลผู้ร้ายมาเพิ่มอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 19-05-2014 12:07:01
เปิดมาตอนแรก เกลียดข้าวพองมากเลย
แบบว่า นั่นปากเหรอลูก 555
ตามมาจากเรื่อง คอส ค่ะ  :-[
ชอบที่อ่านจบตอนนึงเราก็คิดไปไกล
คนนู้นใช่ไหม คนนี้เปล่า 555
แต่สุดท้าย ชอบตอนคนเขียนคุยด้วยที่สุดค่ะ  :o8:
มันเหมือนดูเป็นคนน่ารักมาก เขิน>////<
ตามต่อค่ะตามต่อ ชะนีแค่เพ้อ 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 19-05-2014 12:26:53
ไอรีนจะเป็นนกต่อ หรือเป็นมากกว่านกต่อ?????.............

 :pig4: คะ

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 19-05-2014 13:01:35
ยังดีที่มาสารภาพ แต่ก็ยังต้องพึ่งยาอีกแหละ
เด็กหนอเด็ก ตอนนี้คงไม่รู้จักความรักหรอกมั้ง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 19-05-2014 13:43:34
ข้อมูลคนร้ายเพิ่มมาอีกแล้ว  อ่านตอนนี้เกียอบอุ่นมากแล้ว เมื่อไหร่ข้าวพองจะรู้ใจตัวเองนี่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 20 หน้า 17(18พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 20-05-2014 06:53:31
มารอเป็นกำลังใจให้พี่เกียกะน้องข้าวพอง
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 20-05-2014 09:52:47
ตอนที่ 21

เกียนั่งจิบกาแฟร้อน พลางอ่านหนังสือเล่มเล็ก ในร้านกาแฟตรงข้ามกับสถาบันกวดวิชาที่ข้าวพองและเพื่อนกำลังเรียนอยู่
เคยถามว่าการมาเรียนพิเศษวันเสาร์-อาทิตย์ ได้อะไรกลับไปบ้าง เจ้าตัวตอบว่า ได้ย้ายสถานที่นั่งเล่น และได้กระดาษกลับมาเขียนการ์ตูนหลายแผ่น...

เรื่องตัวการ์ตูนที่ข้าวพองเขียน มีเอกลักษณ์พิเศษคือ มักจะเริ่มต้นด้วยดี ลายเส้นสวยงาม แล้วแรเงาภาพเพิ่มมิติ แต่ก็ตามมาด้วยการขีดฆ่ากาทับจนดูไม่รู้เรื่อง
ภาพที่เริ่มต้นด้วยดี แต่มีบทสรุปที่ความวุ่นวายใจอยู่เสมอ
เมื่อมารวมกับคำตอบของข้าวพองเรื่องการเรียนพิเศษ หากคิดง่ายๆ ว่าก็แค่ความสับสนของวัยรุ่น งานนี้คงไม่ตกมาถึงเกียในวันนี้

สถานการณ์ที่ข้าวพองเผชิญอยู่เป็นสิ่งที่เกียเรียนรู้จากเพื่อนผู้ร่ำรวย คนที่ไม่เคยต้องกังวลอนาคตจะเป็นอย่างไร มีเส้นทางชีวิตที่โรยไว้ด้วยดอกไม้หอม เส้นทางอ่อนนุ่ม เดินสบาย
....แต่ถูกใครหลายคนพยายามโรยหนามไว้เป็นระยะ....
ไม่อยากเชื่อเลยว่าการทำงานคุ้มครองวัยรุ่นคนหนึ่ง จะต้องพบกับเรื่องราวมากมายขนาดนี้ ที่สำคัญคือมันเป็นเรื่องที่ยิ่งค้นหากลับยิ่งพบปัญหา
แล้วครึ่งหนึ่งของปัญหา มีที่มาจากตัวของข้าวพองเอง

เกียวางหนังสือในมือลง มองหญิงสาวคนที่เดินเข้ามาในร้าน
สาวสวย ที่เหมือนเดินออกมาจากนิตยสารสักเล่ม
และสวยจัดจนมองเห็นแต่พิษร้าย
ผู้ชายจำนวนมากชอบผู้หญิงร้ายๆ เพราะดูท้าทาย ไม่ต่างจากผู้หญิงหลายคนที่ชอบผู้ชายสไตล์นักเลง

ก่อนนี้เกียกอยากให้ข้าวพอง พาไอรีนมาบ้านเพื่อพูดคุย แต่เมื่อมาคิดอีกที การนัดคุยนอกบ้าน น่าจะส่งผลดีมากกว่า
เมื่อไอรีนยิ้มหวานพลางโบกมือทักทาย เกียก็รีบบอกตัวเองให้ระวังตัว ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวแต่ละครั้งในลักษณะที่ไม่เหมือนกัน
“ข้าวพองยังไม่เลิกเรียนหรือคะ”
ไอรีนทักทายเป็นกันเอง จนไม่น่าเชื่อว่าวันก่อนยังใช้หางตามองกันอยู่
“ยังครับ” เกียตอบแล้วหันไปทางเค้าท์เตอร์ “ดื่มอะไรครับ”
“ไอรีนจัดการเองค่ะ” หญิงสาวเดินไปสั่งเครื่องดื่ม ครู่เดียวก็กลับมาพร้อมชาร้อน
ดวงตาคู่สวยภายใต้ขนตายาวเป็นแพมองกาแฟร้อนในถ้วยของเกีย “คนอังกฤษชอบดื่มชาไม่ใช่หรือคะ”
“ผู้ชายอังกฤษชอบแอลกอฮอล์มากกว่าชาครับ”
ไอรีนหัวเราะเสียงสดใส
เท่าที่ดูมาจนถึงตอนนี้ ทั้ง 2 คนไม่มีท่าทีของคนที่เคยขวางทางกันมาก่อนเลยสักนิด
หลังจากที่บทสนทนาผ่านไปครู่หนึ่ง เกียถึงได้เข้าเรื่อง
“ผมต้องขอโทษเรื่องที่ห้ามข้าวพองออกไปเที่ยวกับไอรีน”
ไอรีนยิ้มรับแล้วพูดอ่อนหวาน “ไอรีนรู้ว่า ข้าวพองไม่ชอบอยู่บ้านคนเดียว”
“ครับ เขาเป็นคนขี้เหงา” เกียบอก “ถ้าเป็นผมได้อยู่บ้านหลังใหญ่มีคนรับใช้มากมายแบบนั้น ผมจะชวนเพื่อนมาเตะบอลที่สนามหญ้า เล่นเกมกันทั้งวันทั้งคืน ทำบ้านให้เป็นสวนสนุก”
ไอรีนยิ้มสนุกตาม “ไอรีนจะนัดเพื่อนมาปาร์ตี้กัน”
“ครับ” เกียยิ้มตาม “เพราะเราเติบโตมาจากบ้านที่เต็มไปด้วยพี่น้องหลายคน มีพ่อและแม่อยู่ด้วย ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกเขาไม่อยู่ แปลว่าบ้านเป็นของเรา”
ไอรีนหุบยิ้มกว้างลงช้าๆ รู้ตัวว่าเกียต้องศึกษาประวัติส่วนตัวมาจากที่ไหนสักแห่ง ขณะที่รอฟังเกียพูดต่อ
“ไอรีนรู้จักข้าวพองเป็นอย่างดี ว่าเขาคิดอะไร และต้องการอะไร และที่ผมห้ามเขาไปเที่ยวกับไอรีน ก็เพราะไอรีนใช้ยากับเขา”

ไอรีนส่ายหน้า เมื่อเกียพูดตรงไปตรงมา อยากเถียงแต่เถียงไม่ออก
.....ผู้ชายคนนี้มีอำนาจแบบแปลกๆ ที่มันค่อยๆเพิ่มแรงกดดันฝ่ายตรงข้ามมากขึ้นทุกวินาทีที่ผ่านไป จนยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการพูดคุย จะทำเป็นสวยใสไร้มลพิษเหมือนในตอนแรกที่เดินเข้ามาในร้านนี้ ยิ่งนานก็ยิ่งยาก โดยเฉพาะการที่เขารู้ทันเรื่องการใช้ยาเสพติด และคำพูดที่บ่งบอกว่า เขาคือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องข้าวพอง ไม่ใช่คำสั่งของมโหธร....

“นอกจากเวลาที่อยู่กับไอรีนแล้ว ข้าวพองยังใช้ยาเสพติดในเวลาอื่นด้วย”
“คะ..อะ อันนั้นไอรีนไม่รู้นะคะ แล้วข้าวพองก็ไม่เคยบอก” ไอรีนพูดความจริง
“เป็นยาเสพติดที่ได้มาจากเพื่อนในโรงเรียน”

ปฏิกิริยาของไอรีนบ่งบอกว่ารู้เรื่องยาเสพติดในโรงเรียน แต่อาจไม่รู้ว่าข้าวพองได้ยาจากเพื่อนกลุ่มนั้น

“ผมห้ามเขาไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มที่ใช้ยา เขาก็ทำตามด้วยดี เหมือนกับที่เขาไม่ออกมาหาไอรีนตอนกลางคืน แต่เมื่อคืนนี้ เราคุยกันเรื่องไอรีน”
หญิงสาวแทบลืมหายใจเมื่อฟังเกียพูดต่อ
“ผมจะไม่ห้ามหากคุณจะนัดเที่ยวกับเขา แต่...จะต้องเป็นไปในแบบที่ผู้ใหญ่ปฏิบัติต่อผู้เยาว์ที่ยังมีอายุไม่ถึง 18 ปี”
ไอรีนได้แต่ทำตาปริบๆ
“เกียหมายถึง...”
“พาเขาไปในสถานที่ที่ผู้เยาว์ควรไป ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มียาเสพติด ไม่เช่นนั้นผมจะส่งไอรีนให้ตำรวจ”
ไอรีนส่ายหน้าทำท่าเหมือนจะเถียง แต่เกียพูดต่อ
“ไอรีนรู้ว่าผมทำได้ และผมก็จะทำ ต่อให้รู้ดีว่าไอรีนเป็นคนที่ข้าวพองชอบก็ตาม”
“ชอบ” หญิงสาวกระพริบตา พลางเตะที่ขมับตัวเองเบาๆ
เกียมองอาการของไอรีน ที่ทำเหมือนคำนี้เป็นคำที่อยู่เหนือความคาดหมาย
“ข้าวพองคบกับเด็กสาวอีกคนที่ชื่อเบซซี่”
“ครับ แต่เขาชอบไอรีน ไม่ดีใจหรือครับ”
“ดีใจสิคะ” ไอรีนยิ้มกว้าง “แต่ที่ดูงุนงงไปสักหน่อยก็เพราะข้าวพองน่ะ ไม่เห็นเคยพูดหรือแสดงท่าทีอะไร คือเขาก็ตามใจนะคะ ไอรีนว่ายังไงเขาก็จะตามนั้น เพียงแต่ว่าบางที...คือหมายถึงก่อนหน้าที่เกียจะมาน่ะค่ะ บางทีไปเที่ยวกันตอนกลางวัน เขาก็จะพาเด็กเบซซี่นั่นไปด้วยไปกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ อย่างกับไอรีนเป็นพี่เลี้ยงเด็กอย่างนั้น แล้วพอเกียมา เขาก็กลับนั่นไม่ได้นี่ไม่ได้ บอกตามตรงนะคะ ว่าไอรีนเกือบตัดใจไปแล้ว ก็เลยไม่คิดว่าเขาจะชอบไอรีน”

เกียฟังคำพูดของไอรีน ขณะที่มีเสียงร้องตะโกนอยู่ในสมองว่าผู้หญิงคนนี้กำลังโกหก
เธอรู้ดีว่าข้าวพองชอบเธอ และเธอไม่มีวันตัดใจ

“เขาทำอย่างนั้นเพราะผมสั่ง ทำให้เขาอึดอัดไม่สบายใจ ผมจึงต้องมาคุยกับไอรีนให้เข้าใจ ว่าคุณเพียงไม่สนับสนุนไอรีนเพราะยาเสพติด และการเที่ยวกลางคืน ถ้าไม่มี 2 ประเด็นนี้ ไอรีนกับข้าวพองจะพบกัน ไปดูหนังฟังเพลงด้วยกันได้” คนตัวโตย้ำ แม้จะมีรอยยิ้มจางๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังรู้สึกเหมือนกำลังคุยกับผู้ปกครองตัวจริงของข้าวพอง “ทำได้มั้ยครับ”
“ค่ะ”
…ถึงจะอ้างชื่อคุณเพียง แต่ฟังอย่างไร คำสั่งนี้ก็ยังเป็นคำสั่งของเกียอยู่ดี...

“ขอบคุณมาก อันที่จริงน้องสาวคนเล็กผมก็ยังวัยรุ่นอยู่นะ แต่พอมาเจอข้าวพองผมต้องโทรกลับไปปรึกษากับเขาแทบทุกวัน”
หญิงสาวหัวเราะผ่อนคลายเมื่อเกียเปลี่ยนฟอร์มจากอาจารย์ฝ่ายปกครองมาเป็นพี่ชาย

เกียจิบกาแฟชวนคุยเรื่องอื่นอีกครู่ แล้วกลับมาถามเรื่องเบซซี่
“เวลาไปเที่ยวด้วยกัน ข้าวพองพาเบซซี่ไปด้วยหรือครับ ร้ายจริง”
“ร้ายค่ะ” ไอรีนยิ้มหวาน “ถึงบอกว่า ไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่พอจะเดาได้ว่าเด็กเบซซี่นั่นคงตามตื้อ แล้วข้าวพองก็คงอายถ้าจะมีแฟนอายุมากกว่า”
“ข้าวพองบอกผมว่า เวลาอยู่กับไอรีนแล้วรู้สึกสบายใจ”
ไอรีนยิ่งมีสีหน้าภูมิใจยิ่งกว่าเดิม

“แล้วเวลาไปเที่ยวก็ไปกัน 3 คนน่ะหรือครับ”
“ไปกันหมดน่ะแหละค่ะ” ไอรีนบอกตามตรง “ถ้านัดไอรีนมารอที่เรียนพิเศษแบบนี้ เลิกเรียนมา ก็ไปกินข้าวไปดูหนังกันทุกคน”
“ทุกคน...” เกียทวนคำสุดท้าย
ไอรีนขยับตัวอธิบาย “เวลาที่เลิกเรียนเขาจะเพื่อนๆ ตามมาด้วย เพื่อนข้าวพอง เพื่อนแม่เด็กเบซซี่ ก็จะพากันยกขโยงไปด้วยทั้งกลุ่ม”

เกียรู้สึกคันๆ ในหัวใจ เพราะถ้าหากเราทำแบบนี้ มันแสดงให้เห็นว่า เราคิดกับทุกคนเป็นเพื่อนเท่านั้น
แต่เดินหน้ามาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องไปต่อ...

“ไอรีนก็เลยอยากนัดเขาไปเที่ยวกลางคืนมากกว่า”
“ก็ทำนองนั้นน่ะค่ะ เพราะถ้าไปกลางคืนก็จะเป็นเพื่อนๆ ของไอรีน ไม่เคยมีเพื่อนที่โรงเรียนของเขา ”หญิงสาวชี้ไปที่เรียนพิเศษ “เกียก็น่าจะเห็นว่า ข้าวพองน่ะเพื่อนเยอะ”

เกียพยักหน้าตาม แต่ในคำว่าเพื่อนเยอะของไอรีนนั้น ส่วนตัวของเกีย จัดหมวดหมู่ทุกคนไว้หมดแล้ว
“แล้วเพื่อนที่ว่าใช้ยานี่ยังไงกันคะ”
“เท่าที่ผมรู้ก็คือ เป็นกลุ่มที่นัดกันไปเจอที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อใช้ยา”
ไอรีนนิ่วหน้า
“เพื่อนคนละกลุ่มกันหรือคะ”
เกียพยักหน้า ขณะที่ไอรีนบอกในสิ่งที่ตรงกับใจของเกีย
“แต่เขาไม่ไว้ใจใครเลย”

ในอีกไม่ถึง 5 นาทีถัดมาข้าวพองกับหนุ่มสาวกลุ่มใหญ่เดินออกมาพร้อมๆ กัน ไอรีนก็หันมายิ้มกับเกีย
“เห็นมั้ยคะ ข้าวพองเพื่อนเยอะมาก”
“ครับ”

จากวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ ในอีก 2 ก้าวถัดมาแต่ละคนก็เริ่มแยกย้ายกันไป เหลือเบซซี่ที่เดินตามมาแล้วจับมือข้าวพองไว้ ข้างๆ คือคู่แฝดป๋อมแป๋ม กับไทนี่ ยังมีเพื่อนของเบซซี่อีก 2 คนที่ตามมาด้วย
หญิงสาวหันมาบอกับเกียอีกครั้ง “ไอรีนจะถือว่า เกียอนุญาตให้ไอรีนคบกับข้าวพองได้นะคะ”
เกียแค่ยิ้มรับ
เมื่อเข้ามาในร้าน ไอรีนก็รีบวิ่งไปแทรกระหว่างข้าวพองกับเบซซี่ ด้วยการกอดแขนข้าวพองไว้ ทำให้เบซซี่หันมามองเกีย ที่พยักหน้าบอกว่าไม่เป็นไร
“ทำไมพี่สาวมาได้คะ”
“ผมมีเรื่องคุยกับไอรีนน่ะ” เกียบอก แล้วหันมาเก็บของ จากนั้นก็เข้ามาเดินข้างๆ เบซซี่พาทั้งหมดออกไปนอกร้าน

“ครูคะ ทำไม” เบซซี่ไม่เข้าใจ
เกียยิ้มให้กำลังใจ “เชื่อใจผมนะเบซซี่”
เด็กสาวหันไปมองข้าวพอง แล้วหันไปชวนเพื่อนของตัวเองไปเดินเล่นทางอื่น
“แล้วเจอกันวันจันทร์นะคะ”
เบซซี่ลาเกียแล้วพาเพื่อนแยกตัวออกไปในทันที
แม้ไอรีนอยากจะพูดจะเยาะเย้ย แต่เพราะรู้ว่าข้าวพองไม่ชอบการกระทำแบบนั้นก็เลยได้แต่ส่งสายตาไม่หวังดีให้
 
ส่วนแป๋มที่ไม่เคยชอบสถานการณ์น้ำเน่าแบบนี้ ก็สะกิดบอกเกียว่าจะขอกลับก่อน ทำให้ป๋อมกลับไปด้วย เหลือแค่ไทนี่ ที่ยังไม่มีทีท่าว่าอยากกลับ
“กลับไปก็อยู่คนเดียว” ไทนี่บอก
“งั้นเราไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันแล้วค่อยไปศูนย์กีฬาทางน้ำ” เกียยิ้ม “วันนี้เราจะไปพายเรือแคนนูกัน”
เพราะไอรีนแต่งตัวสวยงามที่ไม่เหมาะกับการเล่นกีฬาใดๆ ทำให้ได้แต่นั่งอยู่บนฝั่ง ขณะที่ 2 หนุ่มลงไปหัดพายเรือกันอย่างสนุกสนาน
บ่ายจัดแดดแรง ข้าวพองเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย เกียแตะหลังมือที่หน้าผากแล้วพาทั้งหมดกลับบ้าน
“ผมต้องพาทุกคนกลับบ้านแล้วครับ”
“อ้าว...” ไอรีนทำหน้าตางุนงง
มาเที่ยวแบบนี้มันต่างจากการไปเที่ยวกับข้าวพองและเพื่อนๆ ก่อนหน้านี้ตรงไหน ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังสักนาทียังไม่มี....

ขณะที่ข้าวพองพูดขอโทษไอรีน
เกียเห็นว่าไทนี่กำลังยิ้มขำหญิงสาวโดยไม่ปิดบัง

และเมื่อเดินเข้าบ้าน อุบลรีบเข้ามาถามไถ่อาการ แต่เกียบอกว่ายังไม่ควรให้กินยาตอนนี้ แต่ควรให้ขึ้นไปนอนพักที่ห้องสักครู่ก่อน หากยังไม่ดีขึ้นถึงค่อยกินยา
อุบลพยักหน้ารับคำสั่งอย่างไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็เดินตามขึ้นมาจนถึงห้องนอน
“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่พองเป็นไข้เพราะอยู่กลางแดดเนี่ย”
“ใครก็เจ็บป่วยได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะคนที่ไม่ดูแลตัวเอง”
“พองไม่ดูแลตัวเองตรงไหน” น้ำเสียงห้วน ตาขวาง ทั้งที่หน้าแดงเพราะพิษไข้
“นอนดึก และ....” เกียเจตนาพูดไม่จบประโยค
หนุ่มตัวเล็กทำท่าฮึดฮัด แล้วไล่ให้ออกไปจากห้องนอน
“ให้อุบลอยู่เป็นเพื่อนมั้ยคะ”
“พองไม่ใช่เด็ก 3 ขวบนะ!” ข้าวพองหันไปเหวี่ยงอุบล
“ข้าวพอง” เกียดุเรียบๆ
หนุ่มตัวเล็กแก้ไขสถานการณ์ด้วยการเดินเข้าห้องน้ำ “ไม่ต้อง เราจะอาบน้ำแล้วนอน”
เกียพยักหน้าเรียกอุบลออกมานอกห้อง
“วันนี้อารมณ์ไม่ดีอีกแล้ว” อุบลยิ้มเจื่อน
“ยังไงเตรียมยากับข้าวต้ม หรือแกงจืดไว้ให้ข้าวพองก่อนนะครับ แต่เท่าที่เห็นจากตอนนี้ คาดว่าตื่นมาก็น่าจะดื้อได้เหมือนเดิม”
“ค่ะ” อุบลรับคำสั่ง “ยังไงครูอย่าเพิ่งถอดใจลาออกไปนะคะ”
“ไม่หรอกครับ” เกียให้คำมั่น
พออุบลเดินกลับลงไปที่ชั้นล่าง เกียก็กลับเข้าไปในห้องนอนของข้าวพองอีกครั้ง
เกียมองคนที่ทำหน้าหงิกออกมาจากห้องน้ำแล้วต้องยิ้มขำ
“แค่นี้ก็โกรธ”
“เออ เกียชอบพูดย้ำ” ข้าวพองทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง “ไปดิ พองจะนอนไง”
“จะรอให้หลับก่อน”
“เว่อร์ไปมั้ยน่ะ”
“ไม่หรอก เขาเรียกว่ารู้ทันต่างหาก”
“โหย.....” หนุ่มตัวเล็กลากเสียง “ปวดหัวอย่างนี้ ไม่อ่านการ์ตูนหรอกน่า”
เกียยังคงยิ้ม ขณะที่เดินเข้าไปดันไหล่ให้ข้าวพองล้มตัวลงนอน แล้วห่มผ้าให้
“พี่ก็แค่อยากให้แน่ใจว่าข้าวพองไม่เป็นอะไรมาก”
ยังไม่หลับตาตามคำสั่ง ข้าวพองก็นึกบางเรื่องขึ้นได้ “แล้วเรื่องไอรีนกับเบซซี่ จะทำยังไง”
“แล้วแต่ข้าวพองสิครับ” เกียแนะนำ ขณะที่นั่งลงบนเตียง “ข้าวพองชอบคนไหนก็คนนั้น แล้วคุยกับอีกคนให้เข้าใจ ไม่ควรคบไว้ 2 คนแบบนี้”
หนุ่มตัวเล็กกลอกตา กระตุกมุมปาก ท่าทางคิดหนัก
“ข้าวพองชอบคนไหนครับ”
“พองเคยบอกเกียไปแล้ว ว่าเวลาที่อยู่กับไอรีนพองสบายใจมากกว่า แต่เมื่อบ่ายตอนที่เบซซี่เสียใจที่เห็นไอรีน แล้วแยกไปกับเพื่อนแบบนั้น พองรู้สึกไม่ดีเลย”
“เจ้าชู้ไม่ใช่น้อยนะเนี่ย” เกียบีบจมูกคนที่กำลังนอนอยู่เบาๆ
“แล้วเกียล่ะ เห็นพองอยู่กับเบซซี่ กับไอรีน แล้วเกียคิดยังไง”
“ก็...รู้สึกแบบที่คนอกหักควรจะรู้สึก แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ชินไปเอง”
ข้าวพองพลิกตัวนอนหันหลังให้ แต่ยังลืมตาอยู่
“เลือกไม่ถูกหรือครับ”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก” ข้าวพองบอก “ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะทุกคนน่ะแหละ รู้ทุกอย่างแต่ก็อ้างเหตุผลเพื่อที่จะทำให้ตัวเองดูดีด้วยการไม่ทิ้งพอง แล้วพองก็ไม่ได้ภูมิใจเลยสักนิดที่ทุกคนทำแบบนี้”
“หือ” เกียทำเสียงในลำคอ “อธิบายได้มั้ยครับ”
…อ้างเหตุผลเพื่อให้ตัวเองดูดีเนี่ยนะ...
ข้าวพองลุกขึ้นนั่ง
“พองคิดว่าทั้ง 3 คนไม่ได้รักพองในแบบคนรัก อย่างที่ชอบพูดกัน แต่ที่ไม่ทิ้งพอง เพราะพองเป็นคนที่น่าเวทนา ถ้าปล่อยไว้คนเดียวมันต้องไม่มีชีวิตรอดเกิน 1 วันต่างหาก!”

*-*-*จบตอนที่ 21*-*-*
ตอนต่อไป มาวันพฤหัสฯ นะครับ

.น้ำชา.


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 20-05-2014 10:30:50
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า"ข้าวพอง"นี่เข้าใจยากเหมือนกันแฮะ :mew2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 20-05-2014 10:40:32
ข้าวพองเอ๊ย อยากจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เคยเข้าใจเด็กคนนี้เลยจริงๆ  :z3:
เกียท่าทางจะเจองานหนัก ทั้งงานราษฎร์และงานหลวงจริงๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 20-05-2014 11:25:57
พองอยากให้เกียหึงเหรอ หรืออยากรู้ว่าเกียหึงไหมใช่ป่ะ

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-05-2014 12:00:15
ตัดชับเลย  ยังแปรปรวนตามอารมณ์ของเด็ก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 20-05-2014 12:28:47
แสดงว่าข้างพองก็รู้ตัวหนิว่ามีคนต้องการชีวิต
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 20-05-2014 12:37:30
เด็กเอ่ยเด็กน้อย ยากจะเข้าใจจริงๆ
ชักหนักใจแทนเกีย

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 20-05-2014 13:21:09
 ข้าวพองดูสับสน ไม่มั่นใจตัวเองเนอะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-05-2014 13:49:14
คิดได้นะข้าวพอง ไม่มีใครรัก?
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 20-05-2014 17:56:52
 :m16: ชิชะ ไอรีน หวังที่จะอยู่กับข้าวพองแค่ลำพังเหรอ เห่อะ........
เหมือนจะเจอครูเกียซ้อนแผนเบาๆ หุ หุ ฮ่า ฮ่า   :m14:

อารมณ์ของนักเรียนช่าง ขมุกขมัว เหมือนสภาพอากาศจิงจิ๊งงง  :o11:

ส่วนคุณครู.....ตามที่นักเรียนพูดเลยอ่ะ แสดงออกเย๊อะ ๆ ไปแล้ว
ก็ต้องพยายามทำให้เค้ารักตอบบ้างดิ เคยได้ยินป่ะความรักเหมือนการให้อาหาร
เพราะร่างกายต้องการอาหารทุกวันอ่ะจะมากจะน้อยต่างกัน
แต่ ก็ต้องไม่ขาดจิ ... o9


 :กอด1:  :pig4: JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-05-2014 21:14:46
พอเกียจะหลีกทางให้พวกผู้หญิงข้าวพองก็เหมือนจะไม่พอใจ จะเอายังไงจ๊ะพ่อคนเจ้าชู้
ตัวเองบอกเองว่าไม่ได้รักไม่ได้รู้สึก หรือจริง ๆ แล้วโกหก
เดาตัวผู้ร้ายไม่ออกเลย ตอนนี้เหมือนไอรีนก็ไม่ได้มีพิษสงอะไร หรือจะเป็นคุณพี่สะใภ้ เดามั่วไปเรื่อย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 20-05-2014 22:09:07
โอ๊ยยยยยยยยยยยยย ข้าวพองคิดไปถึงไหนเนี่ยยยยยยยยยย ไปกันใหญ่แล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 20-05-2014 22:39:41
ข้าวพองคิดมาก  หรือคิดถูกต้อง กันแน่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 21-05-2014 05:20:19
ง่ะ ข้าวพองจ๋า พี่เข้าไม่ถึงโลกของหนูนะ 555 เรานั่นแหละ น่าสงสัยกว่าเพื่อนเลยข้าวพอง เกียก็สู้ๆหน่อยนะ รักเด็กก็แบบนี้แหละเนอะ  น้องยังสับสนและเอาแตีใจตัวเองอยู่ ใจเย็นๆอีกนิด รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 21 หน้า 17(20พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 21-05-2014 22:05:41
อ่านแล้วต้องตีความอีกรอบ! คิ้วคนอ่านเริ่มขมวดแล้ว!! ^^
หัวข้อ: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 22-05-2014 09:03:22

เรื่องหลักมันยังค้างคาอยู่ใช่ไหม ดังนั้นเราจึงแทรกตอนพิเศษ  :z10:
อ่านกันนะ


พิเศษหมายเลข 2


วันเกิดของข้าวพองในปีนี้ไม่มีอะไรพิเศษ พ่อกับพี่เพียงก็แค่โทรมาล่วงหน้า 1 วันว่าอยากได้อะไร จากนั้นตอนเย็นของวันเกิดก็มีกล่องของขวัญมาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว การ์ดใบใหญ่อวยพรวันเกิดให้มีสุขภาพแข็งแรง ทุกถ้อยคำที่เหมือนกับปีก่อน รวมถึงประโยคที่ว่า  วันอาทิตย์ค่อยกินข้าวพร้อมกัน เพราะวันนี้ทั้งคู่ต่างก็ติดงานเลี้ยงตอนค่ำ
ลูกค้าต้องมาก่อน...
น้อยใจไหม
ไม่หรอก เพราะมันเหมือนปีก่อน ปีที่แล้ว และปีก่อนหน้านั้น
เหงาไหม
ไม่หรอก เพราะมันก็เหมือนเดิมอยู่ทุกปี
อยากให้เขาออกจากงานเลี้ยงมาเป่าเค้กวันเกิดด้วยกันหรือเปล่า
ไม่หรอก ข้าวพองไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ
..
แต่ถ้ามันจะมีเซอร์ไพรซ์สักครั้ง มันก็คงจะดีใช่ไหม

เกียมองเห็นทุกความคิดของข้าวพองผ่านดวงตากลมคู่นั้น 
เป็นความชัดเจนมากกว่ามือที่จับกล่องของขวัญ 2 ใบแล้ววาง จับขึ้นมาใหม่แล้วก็วาง ทำอย่างนี้อยู่หลายครั้ง จากนั้นก็หันไปสนใจของว่างที่อุบลเตรียมไว้ให้
ทุกคนในบ้านก็ช่างเอาใจ นอกจากจะเตรียมขนมไว้สารพัด ยังแอบมาขอว่าวันนี้เกียงดสอนสักวันได้ไหม
ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
ที่มีปัญหาก็คือ ดวงตากลมๆ คู่นั้นที่ยังบ่งบอกว่า ไม่มีใครแทนที่ใครได้
“กินมื้อค่ำเสร็จ ไปนั่งรถเที่ยวกัน” เกียชวน
ข้าวพองทำท่าเหมือนไม่อยากไป แล้วก็พยักหน้า
“ไปไหนล่ะ”
เกียไม่ใช่แอนดรูว์ รู้ที่เที่ยวกลางคืนไม่มากนัก และคำว่าไม่รู้มันคงออกมาทางสีหน้า จนข้าวพองยิ้มได้
“อ่อนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เดี๋ยวพาไปเอง”
ข้าวพองพูดห้วนๆ แล้วหยิบขนมใส่ปาก เหลือบตามองว่าเกียจะดุที่หยิบขนมใส่ปากโดยที่ยังไม่ได้ล้างมือหรือเปล่า พอเกียไม่ได้ทำอะไรนอกจากยืนมองยิ้มๆ เจ้าตัวก็หมดสนุก
“เดี๋ยวมากินนะ”
ข้าวพองหยิบกล่องของขวัญทั้ง 2 กล่องเอาไปโยนไว้บนโต๊ะทำงานในห้องนอน
“ไม่แกะดูหรือครับ” เกียที่เดินตามมาด้วยถามก่อนที่เจ้าของจะไปอาบน้ำ
เจ้าของวันเกิดส่ายหน้า “มันเหมือนกับปีก่อนๆ น่ะแหละ ของพ่อเป็นตุ๊กตา” มือขาวๆ ชี้ไปที่ตุ๊กตาหมีที่วางเรียงอยู่บนชั้นวางหนังสือ “ส่วนของพี่เพียงเป็นนาฬิกา” ถัดจากตุ๊กตา คือกล่องใส่นาฬิกาวางเรียง

เกียรู้ว่าข้าวพองชอบหนังสือการ์ตูน และชอบเขียนการ์ตูนมากกว่าตุ๊กตา หรือนาฬิกา

เมื่อละสายตาจากของที่วางเรียง เกียก็พบว่าข้าวพองกำลังจับตามองท่าทีของเกียอยู่
“ถ้าเป็นเกีย เกียจะซื้ออะไรให้พอง”
“พี่จะพาไปร้านหนังสือการ์ตูน ให้เลือกเอง เพราะพี่ไม่รู้ว่าข้าวพองมีเล่มไหนแล้ว”
หนุ่มตัวเล็กคลี่ยิ้มกว้าง แล้วหัวเราะเบาๆ “เมื่อปีก่อนธีระ ทำแบบนั้น เขาจอดรถที่ศูนย์หนังสือ แล้วก็บอกว่าให้พองเลือกเอง”
ยิ้มเศร้าของข้าวพองไม่จางหายไป และเกียก็รู้ว่าสำหรับข้าวพองแล้ว ธีระเป็นมากกว่าคนขับรถ
“ธีระ อุบล แล้วก็ยอดยิ่งถึงกับรวบรวมเงินมาซื้อหนังสือให้พอง เขารู้ว่าพองชอบ แต่พ่อกับพี่เพียงกลับไม่รู้ว่าพองชอบอะไร”

เกียต้องทำหน้าที่
“พี่คิดว่าเขารู้ว่าข้าวพองชอบอะไร  แต่ตุ๊กตาคือการบอกว่า พ่อเห็นข้าวพองเป็นเด็กอยู่เสมอ แล้วหมีเท็ดดี้ก็ไม่ใช่ของถูกๆ เลยนะครับ ส่วนนาฬิกา มันคือสัญลักษณ์ที่คุณเพียงกำลังบอกกับข้าวพองว่า ข้าวพองเป็นผู้ชาย”
ข้าวพองยกยิ้มมุมปาก ไม่ค่อยเชื่อที่เกียพูดสักเท่าไหร่ แต่ไม่อยากต่อคำด้วย
“พองอาบน้ำก่อนนะ แล้วจะลงไปกินขนมด้วยกัน”

เกียมองกล่องของขวัญที่วางอยู่บนโต๊ะ นึกอยากบอกว่า กล่องของขวัญอันสุดท้ายที่ได้ก็คือตอน 7 ขวบแล้วก็ไม่เคยได้อีกเลย เพราะพ่อกับแม่จะให้เงินไปซื้อกินขนมกับเพื่อน
แต่ก็นั่นแหละ บรรยากาศในครอบครัวที่มันตรงข้ามกัน ทำให้เกียไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
แต่รู้ว่าควรทำอะไร
ดังนั้นเกียถึงได้ลงมารออยู่ห้องอาหารข้างล่าง ชวนทุกคนในบ้านมารอกินของว่างพร้อมกัน

ข้าวพองพอเห็นทุกคนอยู่พร้อมหน้า ก็พูดทันที
“อยากกินขนมกันละสิท่า”
ยอด ยามผู้พี่ถูมือขณะที่พูด “พี่อุบลเตรียมขนมตั้งแต่คุณออกไปเรียน ท่าทางน่าอร่อย”
ข้าวพองพยักหน้า “กินสิ”
อุบลเข้ามาตักขนมใส่จานใบเล็ก “คุณทานก่อนสิคะ”
ข้าวพองรับจานแล้วนั่งลงกินไปได้คำหนึ่ง ก็หันมาถามอีกคนที่ได้แต่ยืนยิ้ม
“ไม่กินเหรอ”
อุบลต้องตักใส่จานให้ แต่แทนที่จะวางตรงข้ามกลับวางข้างๆ ข้าวพอง ทั้งเลื่อนเก้าอี้ให้นั่ง ส่วนคนอื่นๆ ตักใส่จานแล้วไปยืนกิน ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย
ตั้งแต่สภาพอากาศ ต้นไม้ในบ้าน ไปจนถึงการจราจร
ไม่มีเรื่องของครอบครัว ไม่มีเรื่องของเพื่อนที่โรงเรียน
จนกระทั่งมื้อนี้ผ่านไป ยิ่งถึงได้แอบส่งห่อของขวัญที่เป็นแผ่นซีดีการ์ตูนให้
“สุขสันต์วันเกิดครับ”
…นี่ก็อีกคนที่ยังเห็นเราเป็นเด็กสินะ..

ข้าวพองบอกขอบใจแล้วชวนกันไปดูการ์ตูนด้วยกันอีกห้อง
กินไปดูการ์ตูนกันไป

เป็นช่วงเวลาที่เกียนึกโกรธอัครากับมโหธรที่ควรจะอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่คนรับใช้ในบ้าน
วันเวลาที่พวกเขาปล่อยให้มันผ่านไป เพราะคิดว่าข้าวพองไม่ใช่เด็กๆ แล้ว
แต่มันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยทำตลอดอายุของข้าวพอง
คนๆ เดียวที่ข้าวพองฉลองวันเกิดด้วยในทุกๆ ปีคือพวงเพชร ผู้เป็นแม่ คนที่สอนข้าวพองว่า ข้าวพองไม่มีเพื่อนก็ไม่เป็นไร ข้าวพองมีแม่เป็นเพื่อนอยู่แล้ว
ในวันที่ข้าวพองไม่มีแม่ โลกของข้าวพองถึงได้ไม่เหลือใคร และไม่รู้ว่าจะทำความรู้จักกับคนอื่นอย่างไร

การ์ตูนจบ ข้าวพองก็สะกิดถาม
“ไปนั่งรถเล่นเลยได้ปะ”
“อ้าว แล้วมื้อเย็นละคะ” อุบลท้วง
หนุ่มเจ้าของวันเกิดหรี่ตา แล้วบอก “ให้เวลา 10 นาที จัดมาเลย กินเสร็จจะไปเที่ยวกับเกีย”
อุบลรีบลุกไปทันที ส่วนข้าวพองก็ลุกออกไปเดินเล่นหน้าบ้าน หันมาเกียเดินตามมาเงียบๆ เหมือนเคย
“เกียเกิดวันที่เท่าไหร่”
“ให้ทาย 5 ครั้ง”
ข้าวพองทำหรี่ตา “ 15 “
“ผิดครับ”
“มันมากกว่าหรือน้อยกว่าล่ะ”
เกียตอบยิ้มๆ “นั่นคือเป็นครั้งที่ 2 นะครับ”
ข้าวพองเงื้อหมัดทำท่าอยากเหวี่ยงแบบขำๆ
“ต้องมีสักครั้งละวะ!”
เกียยิ้มกว้าง เมื่อเห็นดวงตากลมๆ คู่นั้นไม่ได้หมองมัวอย่างที่เป็นมานานกว่า 1 ชั่วโมง
“ครั้งที่ 2 ก็ได้ บอกมา”
เกียดึงจมูกรั้นเบาๆ “ 15 น้อยกว่าวันเกิดที่แท้จริง”
“อ้อ..” ข้าวพองนึกขึ้นได้ “ทายถูกได้อะไร”
“นั่นเป็นข้อที่ 3 หรือเปล่า”
“ไรวะ!” ข้าวพองโวยวายอีกครั้ง ออกท่าทางเหวี่ยงหมัดชกลมอยู่คนเดียว “ไม่นับสิ”
“ก็มันมีคำว่าอะไร มันก็ต้องเป็นคำถาม”
“งั้นไม่นับ” ข้าวพองทำตาขวาง ทั้งที่กำลังยิ้มสนุก “คำถามข้อที่ 2”
“ 3 ต่างหาก” คนตัวโตท้วง
“เออ 3 ก็ได้” หนุ่มตัวเล็กยกนิ้วมือขึ้นมานับ “ 15 ถึง 30 สินะ”
“คำถามหรือเปล่า”
“ไม่ใช่!” ข้าวพองชี้หน้า “กวนนะ กวน อย่ามาทำให้ลืมสิ ข้อที่ 2”
“ 3 ครับ” เกียท้วงอีกรอบ
“เออ!” กระแทกเสียงตอบโต้ ที่ความพยายามมั่วไปเรื่อยไม่เคยเป็นผลกับอีกคน “ 25 “
“ 25 มากไปครับ”
ข้าวพองหรี่ตาคิดแล้วยิ้มกว้าง “คำถามที่ 4 มากไปเท่าไหร่”
ถ้าถามคำถามนี้ตั้งแต่ข้อ 2 ก็รู้ไปนานแล้ว แต่เกียกลับเป็นฝ่ายโยกโย้ไม่ตอบคำถาม
“เกีย ตอบดิๆๆๆๆ” ข้าวพองเขย่าแขนใหญ่ แต่เกียแกล้งรูดซิบปาก
“ฮึ่ย” แพ้แล้วขี้โกงนี่หว่า
“พี่กำลังคิดว่าจะให้อะไรเป็นรางวัลต่างหาก” เกียถ่วงเวลาคิดหาของขวัญเพิ่มเติม แล้วชวนข้าวพองเข้าไปกินอาหารเย็นด้วยกัน
กินมื้อเย็นด้วยกันเสร็จ ข้างนอกก็มืดแล้ว แต่เป็นเวลาที่ข้าวพองตาใส จนอีกคนต้องส่ายหน้า
“จะเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน หรือจะไปเลย”

เรื่องออกไปข้างนอกกับคนนี้
อะ..ไม่ใช่สิ
การออกไปข้างนอกในเวลานี้ ข้าวพองไม่เคยเกี่ยงอยู่แล้ว

“กุญแจ กระเป๋าตังค์ หยิบมาเลย พองไม่เอาอะไรไปเลยนะ” ข้าวพองวิ่งนำออกไปทันที
แล้วก็เหมือนเคยที่อุบลร้องท้วง “เพิ่งทานอิ่มอย่าวิ่งค่ะ”
“อุบล พอง 18 แล้วนะไม่ได้ 3 ขวบ”
อุบลหันมาฟ้องเกีย “แบบนั้นให้อย่างไรก็ไม่เกิน 10 ขวบ”
“อุบล!” ข้าวพองหันมา “พองได้ยินนะ”
อุบลแกล้งทำมือปิดปากล้อเลียน ข้าวพองก็ชี้หน้าขำๆ แล้วรีบไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ รอให้เกียช่วยใส่หมวกกันน็อคให้
“มีที่ที่อยากไปเป็นพิเศษหรือเปล่า” เกียถามก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์
ข้าวพองยิ้มกริ่ม “ตอบคำถามข้อที่ 4 มาก่อน”
เกียไม่ตอบคำถาม สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับออกจากบ้าน
แรกข้าวพองก็ไม่อยากกอดเอว เพราะมันดูแหววไป แต่ทันทีที่รถเคลื่อนที่ แขนผอมๆ ก็รัดเอวหนาทันที
“จะอวดรถแรงอะดิ” บ่นให้ได้ยินกันชัดๆ
ข้าวพองคิดเข้าข้างตัวเองว่าเกียกำลังยิ้ม 

ตอนที่อยู่แถวๆ ปากซอยบ้านการจราจรยังติดขัด แต่พอผ่านไปเรื่อยๆ การจราจรก็เบาบางลง แล้วจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ
“อยากได้เบียร์ไหมครับ”
ข้าวพองทำหน้าตาไม่อยากเชื่อคำพูดของเกียแล้วก็นึกขึ้นได้
....18 แล้วนี่หว่า ถูกต้องตามกฎหมายที่จะกิน....แล้วไอ้ที่กินๆ ไปก่อนหน้านี้ถือเสียว่ามันลงท่อไปแล้วก็แล้วกัน...
แต่เกียก็ซื้อเบียร์มาแค่ 2 ขวด ส่งให้ข้าวพองถือไว้

จอดรถอีกครั้งที่หน้าบ้านไม้ความสูง 2 ชั้น ร่มไม้ครึ้ม มีรถยนต์จอดอยู่ด้านนอก 1 คัน รั้วความสูงไม่ถึงเข่า พื้นกรวดมีรถจักรยานจอดอยู่ เกียจอดรถจักรยานยนต์คันใหญ่ไว้ข้างๆ
แผ่นหินขนาดใหญ่ วางเรียงนำเข้าสู่ห้องกระจกที่ชั้นล่าง
แกลเลอรีขนาดเล็ก ทั้งภาพเขียน และงานปั้นจัดวางอยู่ภายใน

ข้าวพองหยุดชะงัก มองขวดเบียร์ที่ยังไม่ได้เปิด เกียก็บอก
“ไปทักทายเจ้าของก่อน”
เจ้าของเป็นสตรีชาวอังกฤษรูปร่างผอม ผมสีขาวตัดสั้นติดคอ ชื่อมากาเร็ต 
ข้าวพองยกมือจับผมของตัวเองที่มันยาวถึงไหล่ และกลายเป็นเก้อกว่าเดิมเมื่อมากาเร็ตชมว่าผมสวย แล้วก้มลงหอมแก้ม จากนั้นก็ชี้บอกให้ทั้ง 2 คนพักผ่อนตามสบาย
ข้าวพองกระตุกข้อมือถามเกียเบาๆ
“พักผ่อนเหรอ เขาไม่ขายของเหรอ”
“รายได้หลักเขาอยู่ทางโน้น” เกียชี้ไปที่ร้านเหล้าที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม “ของสามีเขา แต่ร้านนี้เป็นของเขาเน้นให้คนมานั่งอ่านหนังสือมากกว่า”
ข้าวพองตาโต “หนังสือหรือ”
เกียชี้ไปที่ตู้หนังสือมุมในของร้าน
ข้าวพองเดินไปยืนมองหนังสือแล้วหันมาหาเกีย
“เขาขายหรือให้ยืมอ่าน”
“ถ้าอยากซื้อก็ถือหยิบออกมา แล้วไปถามราคา แต่ถ้าอยากอ่านก็อ่าน เสร็จแล้วเอามาเก็บที่”
ข้าวพองหันไปมองเจ้าของร้านแล้ว หันกลับมามองหนังสือในตู้
มีการ์ตูนเล่มบางภาษาอังกฤษวางเรียงอยู่หลายเล่ม
...ก็ชอบนะการ์ตูนน่ะ...
...แบบนี้ก็ชอบ...
...อยากหยิบออกมาให้หมดตู้ แล้วเอาไปถามเจ้าของว่า ขอซื้อทั้งหมดเลยได้ไหม...
แต่พอหันไปมองเจ้าของที่ตอนนี้กำลังหันไปให้ความสนใจการเขียนภาพอยู่อีกด้านหนึ่งของร้าน  หันมามองหนังสือข้าวพองก็รู้ดีว่าเจ้าของรักหนังสือเหล่านี้มาก

“ไม่เอาดีกว่า”
เกียทำเสียงสูงในลำคอ “ทำไมละครับ นี่หนังสือหายากนะ”
ข้าวพองส่ายหน้า แล้วเดินนำออกมาจากร้าน
“กินได้หรือยัง”

เกียพาขึ้นรถแล้วขับออกมาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ที่อยู่ห่างออกมาไม่ถึง 10 เมตร
น้ำพุขนาดใหญ่อยู่กลางสวน เก้าอี้ไม้จัดวางเป็นระยะ ท่ามกลางพุ่มไม้ดอกที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ
เกียส่งเงินให้คนดูแล และหยอดธนบัตรใส่กล่อง
คนดูแลส่งยิ้มขอบคุณ แล้วหันไปให้ความสนใจกับการดูละครจากโทรศัพท์เครื่องเล็กต่อ

ในสวนมีคู่รักนั่งคุยกันอยู่เพียงคู่เดียว เกียเดินผ่านเข้าไปด้านในแล้วเปิดขวดเบียร์ส่งให้
เก้าอี้ไม้ตัวยาว ท่าทางนั่งสบาย
“สวนของหมู่บ้านหรือ”
“ใช่” เกียจิบเบียร์ “เดิมเป็นร้านค้าแล้วมีไฟไหม้ เจ้าของเขาเลยทำเป็นสวนเสียเลย”
“แถวนี้ท่าทางจะมีแต่ศิลปิน” ข้าวพองบ่น
“ก็อย่างนี้แหละ” เกียใช้ขวดเบียร์ชี้ไปรอบๆ “ทำงานหนักเพื่อเก็บเงิน แล้วก็ทำในสิ่งที่อยากทำเป็นการพักผ่อนในช่วงสุดท้าย”
“ถ้าเอาสวนนี้ไปตั้งแถวสะพานพุทธนะ....”
เกียส่ายหน้า เพราะนึกออกเลยว่า บรรยากาศเบาๆ ผ่อนคลายแบบนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น
ข้าวพองหัวเราะท่าทางของเกีย “พองทำเสียมู้ดเลยดิ”
“มาก...” เกียบอก
พอยกเบียร์ขึ้นจิบอีกที ข้าวพองก็ทัก
“ปกติไม่เห็นดื่ม พอแบบนี้ เดี๋ยวยกๆ หมดแล้วจะออกไปซื้อมาใหม่หรือไง”
“หมดก็กลับบ้าน”
“อ้าว” ข้าวพองทำปากยื่น “พามาแค่เนี้ยะอะ”
“ก็พามาดูการ์ตูนว่าอยากได้เล่มไหน”
ข้าวพองเข้าใจ “คนที่เก็บหนังสือแบบนั้น แสดงว่าเขารักมาก ให้อยากได้มากขนาดไหนก็ไม่ควรไปแย่งของเขามา”
“ถ้ารักมาก เขาก็ไม่เอามาใส่ในตู้หรอก”
“เขาใส่ตู้เพราะเขาเก็บหนังสือแบบนั้น ถ้าอยากได้ก็คุยกัน แต่ที่จริงแล้ว ของที่เราทำมันขึ้นมา ของที่เราไปซื้อมา สะสมแล้วเอามาเมืองไทยด้วยแบบนี้นะ มันคือความรัก”
เกียดึงข้าวพองเข้ามาจูบหน้าผาก ไม่มีคำพูด แต่มียิ้มกว้าง
“งั้นไว้ไปร้านหนังสือแบบที่เขาทำหนังสือไว้ขายแล้วกัน”
“นั่นแหละ ที่นายข้าวพองต้องการ” ข้าวพองเอียงตัวพิงไหล่กว้าง ยกเบียร์ขึ้นดื่ม
เกียถึงกับท้วง
“ดื่มแบบนั้นเดี๋ยวก็เมา”
ข้าวพองชี้ “เกียน่ะ เดี๋ยวยกๆ ไปครึ่งขวดละ พองเพิ่งยกก็ต้องเร่งสิ”

...ไม่เคยเป็นเหตุเป็นผลสักที...มั่วได้ตลอดกาล...
“เกียร้องแฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู ได้ไหม”
“ให้ไปว่ายน้ำข้ามเจ้าพระยายังง่ายกว่าการร้องเพลง” เกียรีบบอก จนข้าวพองหัวเราะเสียงดัง

“พองชอบที่นี่จัง ไว้เกียพามาอีกนะ”
“ครับ”
เมื่อเบียร์หมดขวดทั้งคู่ถือขวดเบียร์ออกมาทิ้งที่ถังขยะด้านหน้า
ตอนมาก็กอดเอวแบบนี้ ตอนกลับก็กอดเอวเหมือนเดิม แต่มันอุ่นขึ้น เมื่อรถจอดติดไฟแดง มือใหญ่ก็ซ้อนจับมือขาวไว้
ความรู้สึกเบาจากสวนเล็กๆ ยังติดค้างมาจนถึงบ้าน
ข้าวพองเดินนำเข้าบ้านไปก่อน ส่วนเกียเดินตรวจรอบบ้านแล้วถึงได้ขึ้นมาที่ห้องนอน พอเปิดประตูห้องนอน ข้าวพองก็รีบออกมาจากห้องของตัวเอง
“คำถามข้อที่ 4”
เกียเลิกคิ้วสูง “อ้าว นี่ยังไม่ลืมอีกหรือนี่”
“ยังดิ” ข้าวพองเดินตามเข้ามาถึงในห้องนอน
ข้าวพองอาบน้ำเสร็จแล้ว ใบหน้าใส ผมยังเปียกชื้น กลิ่นแป้งเด็กหอมอ่อนๆ แตะจมูก
เบียร์ขวดเดียวไม่มีผลอะไรสำหรับเกีย
ที่กำลังคิดในเวลานี้ จึงไม่เกี่ยวกับเครื่องดื่มใดๆ
“ใช้คำถาม 4 ข้อพี่ต้องเสียของขวัญเท่ากับจำนวนคำถามดีไหม”
ข้าวพองดีใจเว่อร์ๆ “งั้นถามให้ถึงข้อที่ 5 ละกัน”
เกียขำเบาๆ “งั้นข้อ 4 ว่าอะไรนะ”
“มากกว่า 25 ไปเท่าไหร่”
“มากไป 5 วันครับ”
ข้าวพองรู้คำตอบแล้ว แต่ยังต้องถามข้อที่ 5 เพื่อของขวัญชิ้นที่ 5
“ ข้อที่ 5 นะ” ดวงตากลมเปล่งประกายแพรวพราว “ 20 ใช่หรือไม่”
เกียแกล้งทำหน้าตาไม่เข้าใจ “ต้องตอบว่า 20 ไม่ใช่หรือครับ”
“ไม่ๆๆ ถามว่า 20 ใช่หรือไม่”
“อ้อ...” เกียลากเสียงยาว “ใช่ครับ”
ข้าวพองกำหมัดร้องเสียงดัง “ของขวัญๆๆๆๆ”
เกียยิ้มอ่อน ขณะที่ถอดแหวนรุ่นจากนิ้ว
“แหวนรุ่นมันสำคัญมากไม่ใช่หรือ”
“ครับ” เกียบอกขณะที่พลิกให้ดูชื่อของเกียที่ด้านใน
ข้าวพองทำแก้มป่อง “งั้นพองจะรับฝากไว้ละกันนะ”
แหวนรุ่นของเกียใหญ่กว่านิ้วของข้าวพองจนต้องใส่ที่นิ้วหัวแม่มือ
“ชิ้นที่ 2 ล่ะ” ข้าวพองทวงต่อ
เกียยิ้มอ่อนๆ “หลับตาครับ”

ข้าวพองหลับตา เมื่อลมหายใจอุ่นๆ แตะที่ปลายจมูกข้าวพองก็รู้ว่าของขวัญชิ้นนี้คืออะไร
จูบเบาๆ ที่ริมฝีปาก เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ข้าวพองลืมตาขึ้นมองทันทีที่เกียละริมฝีปาก
...จูบที่ใช้เวลาเพียง 1 วินาที...

“3”
เกียก้มลงจูบที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง เม้มริมฝีปากบางเบาๆ แล้วผละออก
ใจของข้าวพองเต้นแรงตามริมฝีปากหนาที่ห่างออกไป

“4” ข้าวพองบอกเบาๆ รอคอยจูบอีกครั้งที่เพิ่มน้ำหนักกว่าเดิม อ้อยอิ่งที่ริมฝีปาก เพียงแต่เมื่อยกมือแตะที่ไหล่กว้าง เกียก็ผละออก
ใบหน้าร้อนผ่าว เลียริมฝีปากตัวอย่างอย่างขัดเขิน หัวใจเต้นแรงจนแน่ใจว่าเกียได้ยินเสียง ดวงตากลมเหลือบมองริมฝีปากสวย
เกียกอดกระชับเอวบางเข้ามาหา
“สุขสันต์วันเกิดครับ ให้ทุกวันเป็นวันของข้าวพอง มีความสุขทุกวันครับ”
ข้าวพองยิ้มหวาน หลับตาลง

“5”
“พี่รักข้าวพองครับ”
เกียก้มลงหาริมฝีปากหวานกดจูบอย่างอ้อยอิ่งแล้วแทรกปลายลิ้นเข้าหา อ้อมกอดที่แน่นขึ้น ไอร้อนที่เพิ่มขึ้น จูบเนิ่นนาน แล้วผ่อนลง ด้วยจูบที่มุมปาก
“เหมือนจะละลาย” ข้าวพองพูดเบาๆ “อย่าทำแบบนี้กับใครนะ คำพูดทั้งหมดนั่นก็เป็นของพองคนเดียว ห้ามเอาไปพูดกับใครด้วยเหมือนกัน”
“ครับ”
เกียตอบรับแล้วจูบอีกครั้ง...แต่ใช้เวลานานกว่าเดิม......

“สุขสันต์วันเกิดครับ”

...จบ...

มันคือวันเกิดข้าวพองนะ เขียนเสร็จแล้วส่งไปให้พ่อคนนั้นเขาดู พอส่งกลับมาทำไมมันเหมือนเป็นวันเกิดเกียไปได้

ตอนหลักในลำดับต่อไปมาวันอาทิตย์นะครับ
.น้ำชากับพี่ไจฟ์ครับ.

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-05-2014 09:29:32
หวานแบบนี้ชักอยากให้มีตอนพิเศษสลับกับตอนหลักซะแล้วสิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 22-05-2014 10:01:44
"ทำไมมันเหมือนเป็นวันเกิดเกียไปได้ "
--->เราคิดเหมือนกันสินะ เหมือนเกียจะได้ของขวัญซะมากกว่า :impress2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 22-05-2014 10:16:34
หวานมากกกกกกกกกกกกกก ข้าวพองตอนนี้น่ารักน่าฟัด

อยากให้มีแบบนี้บ่อยๆจัง ชอบเกียกะข้าวพองในบรรยากาศแบบนี้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 22-05-2014 10:24:36
 :m11: :m11:  ฟรุ้งฟริ้ง  มุ้งมิ้ง อร๊างงงงงงงงงงงงงงง ถ้านั่นคือวันเกิดข้าวพอง

ง่ะ งะ งั้นนน ขอวันเกิดเกีย มั่งงงงงง  :m1: :m1:

อยากรู้จัง ข้าวพองจะให้ของขวัญวันเกิดเกีย แบบไหน  o15


..........สุขสันต์วันเกิด อีกรอบจ้า..........

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-05-2014 11:43:46
อ้ายยย  :-[

เขินจัง ของขวัญ5ชิ้น ชิ้นสุดท้ายได้ใจสุด

 :pig4:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-05-2014 13:42:23
วันเกิดข้าวพองได้ของขวัญจากเกียตั้ง5ชิ้น พิเศษจริงๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 22-05-2014 14:26:25
 :-[  ขอตายแป๊บ...เขินอ่ะ....  :-[

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 22-05-2014 15:28:43
ตอนพิเศษมักจะหวานที่สุดเสมอๆ จริงป่ะ แม้จะดูเหมือนไม่ได้มีอะไรคืบหน้า แต่มันหวานสุดๆ

แต่แอบเห็นด้วยว่า มันเหมือนวันเกิดเกียเนอะ เหมือนคนที่ได้ของขวัญจะเป็นเกียยังไงไม่รู้ 55
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 22-05-2014 16:05:04
วันเกิดข้าวพองแหละ ดูน้องจะถูกใจของขวัญ แบบนี้ต้องทำบ่อยๆ
ตกหลุมรักเกียปีนขึ้นไม่ไหวล่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-05-2014 16:40:36
ของขวัญพิเศษตามใจคนให้ ถูกใจคนรับ  :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-05-2014 16:47:53
สุขสันต์วันเกิดน่ะข้าวพอง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 22-05-2014 17:32:56
อร๊ายยยยย  อิพี่เกียหลอกเด็กรึเด็กช่างยั่วจนพี่เกียตบะแตกเนี่ย
เป็นของขวัญที่น่ารัก  มุ้งมิ้งมากอ่ะ  อ่านแล้วเขิน   :o8:
แต่แอบสงสารข้าวพองนะ  วันเกิดทั้งทีแต่ไม่มีครอบครัวอยู่ด้วย
แต่ไม่เป็นไรหรอกเนอะ  เพราะตอนนี้มีเกียอยู่ด้วย
วันเกิดปีนี้และปีต่อ ๆ ไป  ข้าวพองจะไม่เหงาอีกแล้วเนอะ  ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 22-05-2014 20:37:28
หวาน เขิน ยิ้มแก้มแตก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 22-05-2014 20:52:28
หวานละมุนละไมในอารมณ์ดีจริงๆ  :impress2:

วันเกิดข้าวพองแต่เหมือนได้ของขวัญทั้งสองคนเลย  :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 22-05-2014 21:41:01
เป็นของขวัญวันเกิดที่หวานและพิเศษกว่าทุกปี
แต่ขอคอนเฟิร์มว่านี่มันคือวันเกิดเกียชัดๆ นะคะคู๊ณ
ของขวัญ 5 ชิ้น รับไปเต็มๆ ร้ายมาก  :hao3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 22-05-2014 22:57:41
 :ling1: :ling1: :ling1:
หวานมาก ๆ ต่างคนต่างให้ของขวัญกันนะ... :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 23-05-2014 03:25:54
ข้าวพองน่ารัก เริ่มเข้าใจโลกของน้องละ น้องทีเขียนตอนพิเศษได้น่ารักทุกตอนเลย ว่าแต่วันที่20 เนี่ย วันเกิดข้าวพองเหรอ 555 เหมือนวันเกิดเกียอย่างที่ว่าเลย อิชชี่คู่นี้มาขอบอก 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 24-05-2014 04:53:01
ข้าวพองมันน่ารักจริงๆ 55
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 24-05-2014 09:06:33
งื้อออออออ หวานมากกก
 :mew3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” พิเศษหมายเลข 2 หน้า 18(22พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 25-05-2014 09:03:08
 :katai5:  :katai5: กระดึ๊บ กระดึ๊บ มารอน้องข้าวพองคนขี้น้อยใจ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 25-05-2014 09:16:32
กลับมาสู่สถานการณ์ปัจจุบันกันนะ  :a11:

ตอนที่ 22

เป็นความในใจที่อยู่เหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก เกียได้แต่มองคนที่มีไข้ต่ำๆ แต่ยังมีท่าทีดื้อรั้น และมีความคิดแปลกๆอยู่เสมอ

“อะไรทำให้ข้าวพองคิดแบบนั้น”
“พองไม่ได้เมายา แล้วก็ไม่คิดเพราะว่าเป็นไข้ด้วย แต่คิดมานานแล้วต่างหาก” ดวงตาคู่นั้นขวางได้ใจจริงๆ ท่าทางบ่ายนี้ไม่ยอมนอนพักแน่
“พี่ก็ไม่ได้ว่าพองอะไรแบบนั้นเลยนะ แต่ถ้าตอนนี้มีอะไรที่รบกวนจิตใจที่ทำให้ข้าวพองไม่มีความสุข พี่ก็อยากรู้ เพราะว่ามันคือหน้าที่พี่โดยตรง” เกียทำให้เรื่องเบาลงด้วยรอยยิ้ม
“เกียนี่แม่ง” ข้าวพองชกที่ไหล่หนาเบาๆ
เกียจับข้อมือบางไว้ แล้วลูบหลังมือ “ช่วยอธิบายสิ่งที่พองคิดสักนิดเถอะครับ บอกตามตรงว่าพี่ไม่เข้าใจ”
“เกียเข้าใจสิ” แววตาที่มองมาออกแนวบังคับให้อีกฝ่ายเข้าใจ “ทั้ง 3 คนน่ะรู้ดีว่ามีคนอื่นอยู่ การยอมรับกันง่ายๆ แบบนี้ไม่เรียกผิดปกติหรือไง เวลาที่เราชอบใครเราก็ต้องอยากให้เขาดีกับเราคนเดียวไม่ใช่หรือไง แต่นี่ทั้ง 3 คนกลับยอมรับคนอื่นอะ”

..ข้าวพองเรียกท่าทีของทั้ง 3 คนว่ายอมรับ แต่เกียกลับคิดว่ามันน่าจะเป็นคำว่า คุมเชิงกันมากกว่า

 “ทั้ง 3 คนน่ะคิดอะไรกัน  ไอรีนรู้ว่าพองคุยกับเบซซี่ก็ยิ้มได้ เบซซี่ก็เห็นอยู่ว่าไอรีนมารอพองก็ยังทำดี ยิ่งเกียที่บอกว่ารักพอง ทั้งที่เกียก็รู้เรื่องของทั้ง 2 คน....”
ข้าวพองหยุดพูดหันไปมองนอกหน้าต่าง
….คน 3 คนนี้แปลกประหลาด....

“ข้าวพองก็เลยไม่เชื่อความรู้สึกของทั้ง 3 คนที่มีต่อข้าวพอง” มือใหญ่กุมมือผอมขาวไว้ อยากบอกความจริงว่ามีอย่างน้อย 1 คนในกลุ่มนี้ที่พูดโกหก แต่ก็กังวลว่าอาจยิ่งเป็นการทำร้ายข้าวพองมากไปกว่าเดิม “พี่ไม่สามารถที่จะบอกความรู้สึกของไอรีนกับเบซซี่ แต่ในส่วนของพี่ ที่พี่รักข้าวพองก็เพราะรัก ถึงจะอยากให้พองมองพี่คนเดียวมากขนาดไหน แต่พี่ก็ต้องยอมรับว่า พองไม่ได้ชอบพี่ แล้วพี่ก็มาทีหลังคนอื่น”
“พองไม่ได้เจ้าชู้นะ”
“ข้าวพองไม่ได้เจ้าชู้ แต่เพราะข้าวพองกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียว ทำให้ไม่กล้าปฏิเสธใครเลย แม้แต่ไทนี่หว่อง”
ข้าวพองส่ายหน้าอยากพูดปฏิเสธ แต่เกียบีบมือเบาๆ
“การที่ข้าวพอง พูดอย่างตรงไปตรงมาว่าทั้ง 3 คนรู้ดีว่ามีอีก 2 คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ก็ยังไม่มีใครทิ้งข้าวพองไปน่ะ มันชัดเจนที่สุดว่าข้าวพองไม่มีความกล้าที่ปฏิเสธ” เกียยิ้มอ่อนๆ “แม้แต่กับพี่เอง ข้าวพองก็ยังบอกว่า ไม่ได้รักพี่ แต่ไม่เคยบอกให้พี่ตัดใจ”

หนุ่มตัวเล็กกลั้นหายใจ เพราะในใจก็คิดคำนั้นมาตลอดเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยกล้าที่จะพูดสักที

“ด้านหนึ่งข้าวพองแสดงออกกับทุกคนว่า ข้าวพองมีโลกส่วนตัวที่ห้ามทุกคนเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ถ้าใครก็ตามที่ลอง.....” เกียแตะคางสวยให้หันมามอง  “ขอเพียงลองเข้ามาทักทาย และทำความรู้จัก ข้าวพองจะหวงพวกเขาไว้ให้อยู่ในโลกของข้าวพอง”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย” ข้าวพองบ่นอุบอิบ
“เรื่องไอรีนกับเบซซี่ ข้าวพองต้องไปถามเขาเอง แต่ในส่วนของพี่ พี่เลือกที่จะมาที่นี่เอง เพราะพี่หลงรักหนุ่มคนนี้ตั้งแต่เห็นรูป ไม่ใช่เพราะใครสั่งหรือบังคับให้มา ไม่ใช่เพราะเงินของคุณเพียง และที่พี่ไม่ตัดใจก็เพราะไม่เคยคิดที่จะตัดใจ และสัญญาว่า พี่จะอยู่กับข้าวพองจนกว่าข้าวพองจะไล่พี่ไป” 
“เกย์ทุกคนปากหวานเหมือนพี่หรือเปล่า” แก้มใสแดงเรื่อ ไม่กล้ามองตาคนพูดหวาน
“ไม่รู้เหมือนกัน พี่แค่พูดและทำในสิ่งที่พี่อยากพูดและทำ ก่อนที่พี่จะไม่มีโอกาสได้พูดและทำ”
หนุ่มตัวเล็กเอียงคอมอง
“ทำไมล่ะ เกียบอกว่าจะไม่ไปไหนนี่นา”
เกียดันไหล่ให้ข้าวพองเอนตัวลงนอนอีกครั้ง แล้วห่มผ้าให้
“เราไม่รู้หรอกครับว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น พี่มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ทำเวลานี้ให้ดีที่สุด เพื่อที่จะไม่ต้องมาเสียใจในภายหลัง”
“แล้วที่อกหักจากแฟนเก่าล่ะ”

เกียหัวเราะเบาๆ เพราะตอนนี้คิดแต่ความรู้สึกและการทำให้คนที่อยู่ตรงหน้า ไม่มีคนในอดีตอยู่เลยสักนิด

“เรื่องมันผ่านไปแล้วครับ ตอนนี้พี่คิดแต่เรื่องของข้าวพอง และการทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่านั้น”
ข้าวพองนอนมองหน้าคนที่กำลังพูด
“เกียจะบอกว่า ที่พองเป็นแบบนี้เพราะพองชอบเดาความคิดของคนอื่นใช่มั้ย”
เกียส่ายหน้า “ไม่ได้พูดแบบนั้นสักคำ”
“คิดละสิ”
“ไม่เคยคิดเหมือนกัน” เกียตอบทันที
“พองเป็นวัยรุ่นคิดเยอะใช่มั้ย”
“วัยรุ่นก็คิดเยอะทั้งนั้นแหละ ยิ่งคนที่แสดงออกว่าไม่คิดอะไรเลยนั่นแหละ คนที่คิดมากที่สุด”
“เหรอ” ข้าวพองย้อนให้ “เกียก็เป็นเหมือนกันใช่มั้ย”
“พี่เลยช่วงเวลาวัยรุ่นมาหลายปีแล้ว”
ข้าวพองพูดช้าๆ “เกีย พองขออะไรอย่างได้มั้ย”
“ครับ”
“เกียไม่จำเป็นต้องจริงจังตลอดเวลาหรอก เวลาที่อยู่ด้วยกันแบบนี้ เกียผ่อนลงมาบ้างก็ได้ บางคำถามของพองที่มันไร้สาระ บางการกระทำที่มันไม่มีเหตุผล เกียก็ไม่จำเป็นต้องมองหาสาระจากมันหรอก”
คนตัวโตส่ายหน้า “คงยากครับ”
“ต่อให้พองขอ ก็ให้ไม่ได้งั้นหรือ”
คนตัวโตค่อยคลี่ยิ้ม “ได้ครับ พี่เคร่งเครียดไปหรือครับ”
“มาก...” ข้าวพองลากเสียง

...สังเกตหลายครั้งแล้วว่า เกียจะแสดงออกชัดเจนว่าความไม่สบายใจของเรามันช่างเป็นเรื่องใหญ่โตที่จะต้องแก้ไขจัดการในทันที....
...มันก็ดีหรอกนะที่มีคนเอาใจใส่ แต่บางทีมันก็ทำให้เกิดคำถามว่า เรื่องนี้มันต้องจริงจังขนาดนั้นเชียวหรือ
แล้วในวันที่เขาไม่อยู่ ไม่มีใครช่วยเหลือจัดการ อะไรแบบนี้ เราจะเป็นอย่างไร
....ก็คิดไปเรื่อยเปื่อยน่ะแหละ...

“เกีย พองเป็นแค่วัยรุ่นที่ชอบคิดอะไรไปเรื่อย มันก็คงจะจริงที่พองไม่มีความกล้ามากพอที่จะบอกให้ไอรีน หรือเบซซี่เดินจากไป แต่ที่อยากรู้ที่สุดก็คือว่าใครฆ่าแม่กับพี่เพชร อยากรู้ว่าทำไมพ่อกับพี่เพียงถึงไม่ทำอะไรเลย ส่วนเรื่องอื่นน่ะ......แล้วแต่เกียละกัน”
“อ้าว” เกียหลุดขำ “เราก็ตั้งใจฟัง”
“ก็บอกอยู่ที่ไงว่าอย่าตั้งใจนัก ทำเป็นเล่น ขำๆ มั่งก็ได้” หนุ่มตัวเล็กยิ้มเขิน “คนจริงจังมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่คนใจดี น่าจะทำให้คนอื่นรักมากกว่านะ”
“พี่ออกจะใจดี”
“ไม่เลย โหด ดุ เข้ม”
เกียก้มลงจูบแก้มใส
“นอนนะครับ รับรองว่าเย็นนี้ ข้าวพองจะได้พบกับเกียคนใหม่ที่ไม่โหด ดุ เข้ม”
ข้าวพองส่ายหน้ายิก จนเกียต้องบีบจมูกดื้อรั้น
“หลับครับ จะได้หายไข้”
“ออกคำสั่งแบบนี้ ใจดีตายละ”

เมื่อข้าวพองหลับ เกียก็ออกมาโทรศัพท์ติดต่อเรื่องงาน จนกระทั่ง 5 โมงถึงได้เดินขึ้นไปปลุก
ไม่มีไข้แล้ว ไม่ปวดศีรษะแล้ว มีแต่อาการงงจากการนอนไม่พอ
“ไปวิ่งรอบบ้านเรียกเหงื่อกัน”
“โหย....” ข้าวพองทำหน้าเมื่อย ขณะที่สวมรองเท้าผ้าใบแล้ววิ่งช้าๆ ตามหลังคนตัวโตไปรอบบ้าน

*-*จบตอนที่ 22*-*

ท่าทางเรื่องนี้จะไม่สเปคคุณผู้อ่านสักเท่าไหร่ เงี้ยบเงียบ แต่มิเป็นไร เราจะลงเรื่องต่อไปตามกำหนดนัด
ตอนต่อไปมาวันอังคารนะจ๊ะ
..น้ำชา..



หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 25-05-2014 10:03:36
จริง!!! คนที่เหมือนไม่คิดอะไร แต่ที่จริงคิดเยอะ  ตอนนี้สั้นจริงอย่างว่า และเรื่องนี้ก็สเปคพี่นะ มันอาจจะเข้าใจยากถึงยากมาก จนเกือบสุดท้าย แต่พอมาเฉลย คุณจะคาดไม่ถึงเลย  สรุป น้องเป็นเด็กขี้เหงา ขาดความอบอุ่นสินะ  อ่า... เกียรีบเป็นคนใหม่เร็วเลยนะ ข้าวพองขอร้อง 555 รอตอนต่อไปจ้า พบกันวันอังคารนะ555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-05-2014 10:30:43
ข้าวพองเป็นเด็กคิดมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 25-05-2014 11:21:01
ข้าวพองเป็นเด็กคิดมากก็จริง  แต่ก็ยังสู้เกียร์ไม่ได้อยู่ดี

คิดวิเคราะห์หาต้นสายปลายเหตุทุกการกระทำของพอง  o18

เรียกว่านิสัย  สัญชาตญาณ  หน้าที่  หรือทำเพราะรักจริงๆกันแน่น้า

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-05-2014 12:44:36
'เกย์ทุกคนปากหวานเหมือนพี่รึเปล่า' ขำกับคำถามข้าวพอง ฮ่ะๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 25-05-2014 14:09:45
5555555555 เรื่องนี้คงจะเคร่งเครียดและซับซ้อนไปหน่อยล่ะมั้งน้องน้ำชา แล้วก็ไม่ค่อยมีฉากหวือหวาๆด้วย

บางทีคนอ่านอาจจะชอบเรื่องแบบเบาๆ สบายๆ กุ๊กกิ๊กๆ ไว้อ่านผ่อนคลายในช่วงเครียดๆแบบนี้

แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปนะ คนที่รอติดตามยังมีอีกหลายคนเลย พี่นี่แหละคนนึง ตามอ่านตลอดทุกเรื่อง ชอบพล็อตแปลกๆใหม่ๆดี

ว่าแต่ ข้าวพองนี่เป็นเด็กคิดมาก+ขี้น้อยใจจังน๊าาาาาาาาา สงสารพี่เกียมั่ง ตัดอารมณ์เกียตัลหลอดดดดดดด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 25-05-2014 14:16:33
เด็กกับผุ้ใหญ่มักจะคิดเห็นแตกต่างกันอยู่แล้ว
และยิ่งเป็นผู้ใหญ่หัวนอกอย่างเกียมุมมองความคิดอาจต่างอย่างสิ้นเชิง
แต่เชื่อเถอะ ความรักจะปรับมุมมองสองมุมให้สมดุลกันได้
เราเชื่อมั่นในตัวพระเอก...เกีย ไฟล์ติ้งงงงงงงงงงงงง :really2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 25-05-2014 20:29:09
เรื่องนี้อาจจะซับซ้อมมีอะไรให้เดาเยอะ ฉากกุ๊กกิ๊ก(ตอนนี้)ก็ไม่ค่อยจะมี
คนอ่านเลยอาจจะยังไม่มากันเยอะ
แต่ยังไงก็จะติดตาม เพราะเราอยากรู้............ :a2:ว่าใครกันแน่
ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด  :laugh:555 แปลงร่างเป็นโคนันกันเถอะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-05-2014 21:29:22
เอิ่มข้าวพองจ๊ะ ไม่กล้าที่จะตัดไอรีนกับเบซซี่ แต่ก็คิดใช่ไหม
แล้วครูเกียล่ะ ไม่คิดจะตัดว่างั้นเหอะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 25-05-2014 21:46:39
ทั้งสองคน ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆสื่อถึงความต้องการของแต่ละกัน
มันเป็นเหมือนความเตรียมพร้อมของการใช้ชีวิตคู่ในอนาคตไงก็ไม่รู้ :impress2:

แต่.... เรื่องเพชรก็ยังไม่คลี่คลาย ดังนั้น แบบทดสอบความรักบทนี้ จึงน่าจะพึ่งเริ่มต้น
เกียและข้าวพองจะฟันฝ่าผู้คนอันตรายที่คอยจ้องทำร้ายอย่างไร เงื่อนงำจะมาพร้อมกับ
การหักหลังหรือไม่ ..... เราตีตั๋วจองหน้าเวทีเลยทีเดียวเชียว o13


ถามว่าสเปค ... ไม่มีนะ ขอบอกสำหรับนักอ่านคนนี้  เพราะเท่าที่นักเขียนได้เขียน
ให้ติดตามอ่านมา ไม่เคยมีเรื่องที่ซ้ำกันเลย แต่เราก็ชอบทุกเรื่องที่เขียนมาจริงๆ

บรรทัดเกือบสุดท้าย เข้าใจผิดเองหรือเปล่าน้อ มีเรื่องใหม่ เตรียมลงให้อ่านใช่ไหมเอ่ย  :mew1:

 :pig4: JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 25-05-2014 22:20:31
ตอนพิเศษ น่ารักมากๆเลย

ส่วนตอนปกติ โดยเนื้อเรื่องมันค่อยๆดำเนินไป
บทกุ๊กกิ๊กยังไม่ชัด คนเลยยังเงียบๆกันมั้งฮะ

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 25-05-2014 22:23:39
ข้าวพองยังเด็กเมื่อเทียบกับเกีย พี่ก็ดูแลน้องดีๆนะ แต่ข้าวพองน่ารักขึ้นมากเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 25-05-2014 22:50:45
ตอนที่20
ข้อมมูลและความคืบหน้าเยอะนะตอนนี้...เพราะที่ผ่านมากเกียไม่ยอมทำงานสินะ เรื่องเลยไม่ถึงไหนเลย อืมๆ
เรื่องยา...ไทนี่ นายใช่ไหม น่าจับฟาดก้นชะมัด
ส่วนพี่...ถนัดหลอกล่อเด็กนะ (พี่ประท้วงว่า แล้วไม่เห็นความพยายามของผมมั่งล่ะ น้อยใจนะ)

ส่วนเด็กน้อย.....ริเล่นยาต้องโดนฟาดก้น!

ปล. การยกเรื่องการพูดภาษาไทยแบบอังกฤษนี่เก๋มาก เด็กบางคนยังไม่เข้าใจเลยว่ามันไม่ถูก


ตอนที่21
 เออดี นัดกันมาเจอกันโดยผู้เข้าแข่งขันทั้ง3คน แล้วคนตัดสินก้ไม่ทำอะไร ไม่เลือกใครเลยสักคน ดีๆ ใครทำอะไรก็ไม่ได้คะแนน...อืม ชีวิตนี้ เธอต้องการอะไรกัน ข้าวพอง

ตอนพิเศษ2
นั่นสิๆ ตกลงวันเกิดใคร ทำไมคนได้กำไรเป็นเกียล่ะ หืมๆ

คำถาม: ของขวัญตั้ง5ชิ้น จริงๆมันต้องทำมากกว่านี้มิใช่รึ

ตอนที่22
มาสั้นๆ...สั้นมาก
ฟังคนเฝ้าไข้คุยกับคนเป็นไข้ มันจะได้เรื่องแค่ไหนกันนะ
บางที เราก็ทำความเข้าใจกับตัวละครสองตัวนี่ไม่ได้เลยแฮะ เฮ้อ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 26-05-2014 00:32:39
เรื่องนี้เคร่งเครียด คิดเยอะ และยังมาเรื่อยๆ เรียงๆ ยังไม่ขมวดอะไร
แต่ก็เป็นแนวเขียนอีกแบบ ที่พัฒนาจากเดิม อยู่นิ่งก็ไม่ได้พัฒนาสิ ใช่ไหมคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 26-05-2014 05:44:55
ยุ่งๆกับซ่อมหลังคาเพิ่งจะได้มาอ่าน ^^
ชอบของขวัญที่ข้าวพองได้รับนะคะ (หรือของเกียหว่า 55)
ส่วนตอนนี้ ได้คุยกันเหมือนจะใกล้ชิดกันขึ้นนะ
แต่ไม่ชอบที่บอกว่าคนหนึ่งกำลังโกหกน่ะค่ะ กลัวอีกคนเสียใจแย่
เงียบๆแต่ก็ตามอ่านจนจบทุกเรื่องนะคะ อย่าคิดมากเลย เนาะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 26-05-2014 08:12:19
พี่เกียอ่อนลงตั้งเยอะ
ข้าวพอ
ป่วยบ่อยๆ ก็ดี
ตื่นมาหายดีเจอพี่เกียแปลงร่างได้เรื่อยๆ
บวกและเป็ดขอบคุณ

ขอบอกว่าชอบตอนพิเศษมาก
น้ำชาสู้ๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-05-2014 12:27:04
เกียใจดีกับข้าวพองอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 26-05-2014 13:27:18
ยังติดตามอยู่ตลอดนะคะ ไม่หนีหายไปไหนแน่นอน

รอดูว่าเกียที่ไม่โหด ไม่ดุ เป็นยังไง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 26-05-2014 14:27:06
อ้างถึง
“เกย์ทุกคนปากหวานเหมือนพี่หรือเปล่า” แก้มใสแดงเรื่อ ไม่กล้ามองตาคนพูดหวาน
ฮาประโยคนี้อ่ะ  ข้าวพองช่างเป็นคนตรงซะจริง  ชอบ ๆ
ข้าวพองเป็นวัยรุ่นที่คิดเยอะนะ  บางเรื่องที่คิดก็เป็นเรื่องที่เราคาดไม่ถึง
คิดจะรักเด็ก  พี่เกียก็คงต้องเหนื่อยหน่อยเนอะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 26-05-2014 14:38:01
พองเป็นเด็กคิดมาก เกียเป็นคนที่คิดทุกเรื่อง สรุปใครคิดน้อยกว่ากัน  :pigha2:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 27-05-2014 06:29:49
มาตามนัด คิดถึงเด็กขี้น้อยใจแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 22 (25พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 27-05-2014 07:17:25
เรืองสั้นจริงๆด้วย 55
เด็กน้อยดูขาดความมั่นใจ ไม่แน่ใจว่าเป็นที่รักจริงรึเปล่า เฮ้อ! น่าสงสารจริงๆ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 27-05-2014 09:45:08
ตอนที่ 23

บ่ายวันถัดมาเมื่อธีระเลี้ยวรถผ่านรั้วโรงเรียน ไปที่ลานจอดรถ เกียก็มองเห็นไอรีนนั่งรออยู่ที่เก้าอี้หินอ่อนใกล้ประตูทางออกที่นักเรียนทุกคนจะต้องเดินผ่าน
เธอยังคงแต่งกายหรูหราสวยงามเหมือนทุกครั้งที่พบกัน
หญิงสาวลุกขึ้นยืน พร้อมด้วยยิ้มกว้าง รอจนเกียลงจากรถแล้วเดินเข้ามาหา
“มาเร็วมากเลยนะครับ” เกียทักก่อน
“ค่ะ” ไอรีนยังยิ้มหวานเหมือนเดิม “ขออนุญาตพาข้าวพองไปดูหนังนะคะ”
เกียส่งยิ้มกลับไป “ไว้วันเสาร์-อาทิตย์ดีกว่าไหมครับ เพราะวันนี้เขาต้องกลับไปฝึกยูโด แล้วก็ต้องทบทวนการเรียน”
ไอรีนทำหน้ามุ่ย
...ไหนว่าอนุญาตให้คบกัน แล้วแบบนี้จะได้อยู่ตามลำพังกับข้าวพองเมื่อไหร่กัน...
 
เลิกเรียนข้าวพองและเพื่อน เดินเกาะกลุ่มใหญ่ออกมาจากห้องเรียนเหมือนเดิม แป๋มเข้ามาเบียดแทรกพี่ชายให้ห่างจากข้าวพอง
แต่ดูท่าทางไม่ได้จะเกเรใส่พี่ชายหรอก น่าจะหงุดหงิดคนอื่นแล้วมาเหวี่ยงใส่พี่ชายตัวเองเหมือนเดิม
“วันนี้ฝึกมวยหรือยูโดเนี่ย”
ข้าวพองบอกทั้งที่ไม่ได้หันมามอง “ยูโดสิ มวยแม่งเหนื่อยเกิน”
“ฝากตาป๋อมไปฝึกด้วยคนได้มั้ย”
“ไม่ต้องฝึกหรอกรุ่นนี้แล้ว” ป๋อมพูดอวด แต่ข้าวพองไม่รับมุก
“เออ เดี๋ยวถามครูให้” ข้าวพองหมายถึงเกีย
ไทนี่ จากอีกด้านของข้าวพองรีบพูดทันที “ถ้าป๋อมไป กูไปด้วย”
“ไทนี่อยากไปบ้านกูหรือ”
“อือ กลับบ้านไปก็อยู่คนเดียว” ไทนี่บอกเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“ถ้าอยากไปเมื่อไหร่ก็ไปได้ ไม่ต้องรอป๋อมหรอก” ข้าวพองบอกอย่างที่เกียเคยบอก
“อ้าว เดี๋ยวนี้เปิดบ้านแล้วหรือ” แป๋มถาม
“เราไม่เคยปิดบ้านนะ แค่ไม่รู้ว่าจะชวนไปทำไม ไม่มีอะไรให้อวด”
ป๋อมเอื้อมมือข้ามน้องสาวมาผลักไหล่ข้าวพอง “งั้นพรุ่งนี้มึงมากินข้าวบ้านกู กูมีของดีจะอวด”
“อะไรล่ะ ถ้ากินข้าวก็มากินวันนี้เลยก็ได้” แป๋มกระตุกแขนพี่ชาย
“ไม่ได้ ต้องบอกม้าก่อน ว่าพรุ่งนี้งดทำน้ำพริกปลาร้า ข้าวพองจะมากินข้าว” ป๋อมทำท่าจริงจัง
แต่แป๋มหันมายิ้มกว้างกับข้าวพอง “นั่นแหละเมนูเด็ดของม้าแหละ ข้าวพองกินได้มั้ย”
“ได้สิ อุบลเคยทำให้กิน แต่ต้องสุกนะ”
“งั้นไปวันนี้เลย” แป๋มเร่งแต่ป๋อมโวยวาย ว่าต้องขอเวลาเก็บห้องนอนก่อน

เพื่อนทุกคนเลยรู้ทันว่า นั่นคือสาเหตุที่แท้จริงคือป๋อมขอเวลาพาเพื่อนไปบ้านพรุ่งนี้
ข้าวพองคุยเล่นกับเพื่อนคนอื่นๆ จนมาถึงหน้าตึกเรียนมองเห็นเบซซี่คุยกับเพื่อนๆ แล้วหันมาโบกมือทักทาย
แต่แป๋มมองผ่านไปที่กลุ่มนักเรียนอีกกลุ่มที่กำลังพยักหน้าให้กับไทนี่ ก็เลยหันมาสะกิดแขนพี่ชาย แล้วหันไปทำทีชวนข้าวพองคุย

“ไม่ไปคุยกับน้องหรือไง”
“เขาอยู่กับเพื่อน”
แป๋มถอนหายใจแรงๆ จนพี่ชายหมั่นไส้ “ไปจีบเบซซี่เองเลยเหอะ”
“ถ้าเขาชอบผู้หญิงนะ” แป๋มทำลอยหน้าลอยตาตอบ แล้วหันมาถามข้าวพองอีกรอบ “เรื่องพี่สาวคนนั้นน่ะ ยังไงกัน”
ข้าวพองสังเกตว่าไทนี่ตั้งใจฟังคำตอบเรื่องนี้เป็นพิเศษ “เขาทำความตกลงกับครูน่ะ”
“ไม่สิ แป๋มหมายถึงข้าวพองน่ะคิดยังไงกับพี่สาวคนนั้น”
มือผอมๆ ของไทนี่จับแขนของข้าวพองไว้แน่นจนต้องหยุดเดิน “มีอะไรหรือไทนี่”   
“เปล่าๆ” ไทนี่บอก
ข้าวพองมองมือที่คลายออก แล้วบอกกับเพื่อนว่า มีความรู้สึกดีๆ กับไอรีน ทั้งเล่าย้อนไปว่า เรื่องนี้มันเริ่มจากการที่เกียถามว่า คิดอย่างไรกับหญิงสาวทั้ง 2 คน จากนั้นเกียก็เป็นคนไปคุยกับไอรีน ว่าสาเหตุสำคัญที่ทั้งมโหธร และเกียไม่อยากให้ไอรีนพบกับข้าวพอง ก็เพราะการที่ไอรีนพาข้าวพองไปเที่ยวกลางคืน และการใช้ยาเสพติด หากไม่มีเรื่องนี้ ก็ไม่มีปัญหาที่จะพบกัน
“แล้วเขายอมหรือ” แป๋มซักดูท่าทางสงสัยมากจนผิดปกติ
“ถามอะไร เขาชอบข้าวพอง เขาต้องยอมสิ” ป๋อมทำหน้าเอือมน้องสาว
แป๋มทำจมูกย่น “ถ้าเขาคบกับข้าวพองอย่างนี้แต่แรกก็ไม่มีอะไรแล้ว ไม่รู้ทำไมต้องเอายาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”
“มึงชอบสาวแก่จริงๆ น่ะ” ป๋อมถามย้ำ แล้วจู่ๆ ก็กลายเป็นคนจริงจัง “เขาไม่สามารถแทนที่แม่ หรือพี่สาว ไม่ใช่ครอบครัวที่มึงตามหาหรอก”
ข้าวพองมองตาเพื่อนนิ่งๆ โดยที่ไม่ได้ตอบคำถาม

ทั้งหมดเดินตามกันมาเงียบๆ จนมองเห็นไอรีนยืนคุยอยู่กับเกีย ไทนี่ก็ถามขึ้น
“ทำไมจู่ๆ ครูถึงถามเรื่องไอรีนกับเบซซี่ล่ะ”
“พักนี้กูมั่วๆ น่ะ” ข้าวพองบอก “ในสมองนี่มันเหมือนมีตัวอะไรใหญ่มากๆ หลายตัวเข้าวิ่งอยู่แล้วก็ส่งเสียงร้องโวยวาย กูก็บอกเขา เขาก็ถามไปเรื่อย จนมาเรื่องไอรีนกับเบซซี่”
ความสับสนนี้ และอาการหนักอึ้งในสมองแบบนี้ เคยบอกกับป๋อมไปแล้ว

แป๋มแทรกทันที “เขาเห็นว่าข้าวพองเป็นวัยรุ่นละสิ ปัญหาของวัยรุ่นจะมีอะไรนอกจากเรื่องความรัก”
ขณะที่แป๋มพูด ข้าวพองหันไปมองป๋อมแบบต่างคนต่างก็รู้กัน
...เพื่อนแท้ ไม่จำเป็นต้องพูดก็รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่จริงๆ....

“แล้วตกลงสอบเสร็จว่าไง” ป๋อมถามเรื่องที่โรงเรียนจัดทัศนศึกษาต่างประเทศช่วงปิดเทอม
“กูไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว ทั้ง 2 คนก็ต้องสอบตรงใช่มั้ย”
“ไม่ไปเที่ยวกันทั้ง 3 คนเลยหรือ” ไทนี่ถาม
ทั้ง 3 คนพยักหน้ารับ ไทนี่ก็พูดต่อ “งั้นกูก็ไม่ไปเหมือนกัน”
“ไปเหอะ อยู่บ้านจะเหงาเปล่าๆ”
“กูก็ไปอยู่บ้านข้าวพองได้ไหม” ไทนี่ยิ้มกว้างจนดวงตาเรียวยาวกลายเป็นเส้นโค้ง
ข้าวพองยักไหล่ ทั้งที่เริ่มเครียด เมื่อนึกว่าต้องอยู่กับเพื่อนอีกคนตลอดปิดเทอม 1 เดือน “ต้องบอกครูกับอุบล เพราะครูบอกไว้ว่าจะพาไปบ้านเขาที่ภูเก็ต”
“ภูเก็ต!” แป๋มร้องด้วยความดีใจ วิ่งแซงหน้าไปหาเกีย

“ปิดเทอมครูจะพาข้าวพองไปบ้านครูที่ภูเก็ตหรือคะ”
“ครับ”
แป๋มเขย่าแขนล่ำของเกีย “ครูรอหนูกับป๋อมสอบเสร็จแล้วค่อยไปได้มั้ยคะ ขอหนูกับป๋อมไปด้วย”
“อ้าว” ไอรีนแทรกขึ้นมา “ปิดเทอมไม่ไปเที่ยวต่างประเทศกับทางโรงเรียนกันหรือคะ”
“ป๋อมกับแป๋มสอบตรง ก็เลยไม่ได้ไป ส่วนไทนี่พอเห็นเราไปไม่ได้ก็ไม่ไปเหมือนกัน จะขอไปอยู่บ้านข้าวพอง” แป๋มหันไปบอกไอรีน สีหน้าท่าทางไม่ชอบเท่าไหร่ที่ไอรีนแทรกถามเข้ามา แล้วหันมาขอเกียอีกครั้ง
เกียทำเป็นมองไม่เห็นสายตาของไอรีนที่จ้องมองไทนี่ และอีกฝ่ายยกยิ้มที่มุมปาก คนตัวโตทำทีหันมาถามความเห็นหนุ่มตัวเล็ก “ว่าไงครับ”
“ตามใจสิ บ้านครูนี่” ข้าวพองมองมือของแป๋มที่จับแขนของเกียไว้แล้วหันไปมองทางอื่น ส่วนไอรีนเดินเข้ามาแทรกป๋อม เกาะแขนของข้าวพองไว้

....ทำไมกูเป็นส่วนเกินได้ตลอดวะ เมื่อกี้โดนน้องสาวผลักออก ตอนนี้โดนสาวแก่ผลักอีก กูหนอกู กลับบ้านไปอ่านหนังสือสอบดีกว่า....

ก่อนที่จะขึ้นรถแป๋มยังมีคำถาม “ตกลงวันนี้ไปกินข้าวบ้านแป๋มกัน”
“พรุ่งนี้!” ป๋อมโวยวาย “ขอจัดฉากก่อนไม่ได้หรือไง”
“จัดไปมันก็ไม่ได้ดีกว่าเดิมหรอกน่า” แป๋มเถียง
จู่ๆ ป๋อมก็ยกมือขึ้นทำให้ทุกคนหยุดชะงัก
เนิร์ดตัวพ่อหันมาหาไทนี่ “รู้มั้ยว่าจัดฉากคืออะไร” โดยที่ไม่รอให้ไทนี่ส่ายหน้า ป๋อมก็พูดต่อ “มันคือ Set right angle”
“ห๊ะ” ไทนี่ทำเสียงสูง จนแม้แต่ไอรีนยังขำ
เกียส่ายหน้าแล้วหันไปบอกภาษาอังกฤษที่ถูกต้องกับไทนี่ ว่ามันก็คือคำว่า Set นั่นแหละ
เจ้าตัวบ่นเบาๆ “ป๋อมนะ ทำท่าตั้งใจทีไร เป็นอย่างนี้ทุกที”
วุ่นวายกันอยู่ข้างรถคันใหญ่ จนเกียต้องเป็นคนตัดสินว่าจะไปบ้านแฝดป๋อมแป๋มตอนบ่ายวันเสาร์ เพราะวันนี้มีไอรีนอยู่ด้วย แล้วไอรีนก็แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาว่าต้องการอยู่กับข้าวพอง
จะให้ไปเกาะหนึบอย่างนี้ต่อหน้าพ่อกับแม่ของคู่แฝดคงไม่ดีแน่
ธีระส่งแฝดลงบ้าน แล้วค่อยไปส่งไทนี่ 
พอหนุ่มฮ่องกงลงจากรถ ไอรีนที่นิ่งเงียบเป็นส่วนใหญ่ถึงได้หันมาทำเสียงหวานกับข้าวพอง
“ข้าวพองอยากแวะไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าแถวนี้ก่อนกลับมั้ย”
หนุ่มตัวเล็กหันไปมองคนที่นั่งคู่กับคนขับที่ด้านหน้า ไอรีนก็เลยพูดต่อ
“ไอรีนไม่ได้ชวนไปเที่ยวกลางคืนสักหน่อย”

อันที่จริงข้าวพองก็อยากไปเดินเล่นก่อนกลับบ้านเหมือนกัน การเลิกเรียนแล้วตรงกลับบ้านแบบนี้ทุกวันมันน่าเบื่อ
เกียเพียงแค่เหลือบตามองผ่านกระจก แล้วชี้บอกให้ธีระเลี้ยวรถไปตามทางที่เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ให้ข้าวพองกับไอรีนลงจากรถที่หน้าห้าง

“อีก 1 ชั่วโมงผมจะมารอตรงนี้”
“อะไรกันชั่วโมงเดียวเอง” ไอรีนโวยวาย
“ไปเหอะน่า” ข้าวพองดึงมือไอรีนให้ก้าวตามลงมาจากรถ แล้วก็ก้าวยาวๆ เข้าไปในห้างสรรพสินค้า
ไอรีนวิ่งตามมาจนทัน แล้วพูดประโยคเดิม “แค่ชั่วโมงเดียว จะช็อปอะไรได้”
ข้าวพองมองไปตรงๆ “ไอรีนบอกว่าจะเดินเล่นไม่ใช่หรือ”
หญิงสาวทำหน้ามุ่ย “เดินเล่น ก็ต้องมีช็อปอะไรติดมือไปบ้างสิคะ”
หนุ่มตัวเล็กชี้ไปที่ร้านเสื้อผ้าผู้หญิงร้านแรกที่เจอ “อะ ซื้อสิ”
“ยี่ห้อนี้น่ะนะ”
ไอรีนทำน้ำเสียงและหน้าตาไม่ชอบร้านนี้อย่างแรง จนข้าวพองเริ่มห้วน
“เป็นอะไรอีกล่ะ ถ้าไม่ชอบก็เรียกธีระให้วนรถมารับเลยแล้วกัน”
“แหม....” ไอรีนเปลี่ยนมาทำเสียงหวาน กอดแขนเอาใจ “ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่จะซื้อของน่ะ ก็ต้องเลือกร้าน เลือกของให้มันดูดีสมราคากันหน่อยใช่มั้ยคะ”
ข้าวพองก็เลยพยักหน้าส่งๆ “งั้นจะซื้ออะไรก็ซื้อเหอะ เดี๋ยวก็หมดเวลาเสียก่อน”
“แหม ให้รอสัก 5 นาที 10 นาทีจะเป็นไรไป” ไอรีนพูดขณะที่ดึงมือข้าวพองให้เข้าไปในร้านรองเท้า

บอกกับเกียไปว่า เวลาที่อยู่กับไอรีนแล้วจะมีความสุขมากกว่า แต่พออยู่กันตามลำพังแบบนี้ ไม่เห็นจะมีความสุขเลย ดูน่ารำคาญมากกว่าเวลาที่อยู่กับเบซซี่เสียอีก
อาจเพราะไอรีนเป็นผู้ใหญ่กว่า การพูดไม่พอใจนั่นไม่ชอบนี่ ก็เลยเหมือนบ่น
แต่ถ้าเป็นเบซซี่มันคืองอแง
สายตาของคนที่มองมาที่ไม่เห็นจะเคยสนใจ เพราะเคยเจอมามากกว่านี้เวลาที่ไปเที่ยวด้วยกัน แต่วันนี้มันกลับทำให้รู้สึกรำคาญ และอยากพาลไปทั่ว
ปล่อยให้ไอรีนเลือกรองเท้า ข้าวพองก็เดินออกจากร้านไปต่อแถวซื้อขนมกล่องใหญ่
กลับมาก็พอดีกับที่ไอรีนเดินออกมาจากร้านรองเท้า
ข้าวพองกดโทรศัพท์เรียกธีระทันที
“อ้าว ยังไม่ครบชั่วโมงเลยนะคะ ทำไมเรียกเร็ว”
“พองซื้อขนมไปฝากอุบล” หนุ่มตัวเล็กชูกล่องขนมในมือ “กลับบ้านไปกินขนมด้วยกันดีกว่า”

เมื่อกลับมาถึงบ้านข้าวพองส่งขนมให้อุบลอย่างที่บอก  ส่วนตัวเองกับไอรีนกลับกินของว่างที่อุบลเตรียมไว้ให้ ระหว่างนั้นไทนี่โทรมาถามย้ำเรื่องไปเที่ยวบ้านเกีย ที่ภูเก็ตอีกครั้ง แต่ข้าวพองบอกว่า รอถามคู่แฝดก่อนว่าจะไปได้เมื่อไหร่ จากนั้นก็วางสายไป
เสร็จแล้วถึงได้เริ่มฝึกยูโด เรียนพิเศษ และกินอาหารค่ำพร้อมกับเกีย  ที่ยังขอให้ธีระช่วยขับรถไปส่งไอรีนในตอนทุ่มครึ่ง แม้แทบจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง แต่เมื่อได้เข้าบ้านนี้ โดยที่ไม่ต้องระแวงว่าจะโดนไล่ออกจากบ้านไปอีก ก็ทำให้ไอรีนพอใจมากขึ้น

เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเริ่มหยุดนิ่ง ข้าวพองก็พ่นลมหายใจออกจากปากจนเกียขำ
“วันนี้มันเหนื่อยขนาดนั้นเลยหรือครับ”
“ไม่เคยได้ยินหรือไง เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย” ข้าวพองหันมาเถียง แต่พอเกียทำหน้าตาไม่เข้าใจ ข้าวพองก็ทำหน้าเหนื่อยใจ “คุยกับคนครึ่งๆ กลางๆ เหนื่อยกว่า”
หนุ่มลูกครึ่งยังคงได้แต่ยิ้มขำฟังข้าวพองบ่น เรื่องชีวิตประจำวัน “ทำไมวันวุ่นวายได้ทุกวันขนาดนี้นะ”
“อันที่จริง ความวุ่นวายมันก็เป็น...” เกียนึกคำภาษาไทย “ยุทธศาสตร์อย่างหนึ่งนะครับ”
“โห วันนี้ครูเกียใช้ศัพท์ทางการม้ากกกกกกก” หนุ่มตัวเล็กล้อเลียน
เกียนึกอยากโอบอีกคนเข้ามากอด แต่ต้องฝืนมือตัวเองไว้ “ในบางสถานการณ์ที่เราสู้ไม่ได้ เราก็ยังสามารถสร้างความวุ่นวายได้"
”พองว่าวิธีนั้นพองถนัด”
เกียยิ้มขณะที่อธิบายต่อ “แต่มันก็มีความเสี่ยงมาก สร้างความวุ่นวายน่ะไม่ยาก แต่เราต้องหนีให้ทัน ไม่อย่างนั้นเราจะตกอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น สุดท้ายเราจะกลายเป็นคนที่ต้องเสียหายหนักที่สุด”
ข้าวพองหุบยิ้ม แววตาสนุกสนานหายไป เมื่อหันไปมองทางอื่น
....ถึงสมองจะคาดหวังว่าจะไม่ต้องใช้วิธีนี้ แต่ในใจกลับบอกว่า วันนั้นต้องมาถึงสักวัน...

เกียปล่อยให้ข้าวพองอยู่เงียบๆ จนกระทั่งธีระขับรถออกไปส่งไอรีน ถึงได้หันมาถาม
“วันนี้ยังรู้สึกงุนงงอยู่หรือเปล่าครับ”
“ก็มีนิดหน่อย แต่ไม่ถึงขนาดเมื่อวาน” ข้าวพองบอกแล้วเดินเข้าบ้าน
“แล้วเพลียหรือเปล่าครับ”
ข้าวพองหยุดคิด แล้วพยักหน้า “มันเกิดจากยาด้วยหรือ”
“การใช้ยามันคือบังคับให้ร่างกายของเราทำงานหนัก เกินกว่าความสามารถที่แท้จริง”
เกียมองสบตากลมโตที่มองมาแล้วเปรียบเทียบใหม่ “เหมือนเวลาที่พี่สั่งให้ข้าวพองเรียนหนัก ฝึกเยอะ พอเหนื่อยมากเข้า ข้าวพองก็ต้องโวยวายกับพี่แบบนั้นน่ะแหละครับ”
หนุ่มตัวเล็กถึงกับหัวเราะอารมณ์ดี “เปรียบเทียบซะเห็นภาพ”

ข้าวพองมองผ่านเกียไป เห็นอุบลยืนอยู่ใกล้ๆ ก็เลยดึงมือให้เดินออกมาที่โรงฝึกด้านหลัง เหลียวมองรอบตัวจนแน่ใจว่าไม่มีใครได้ยินเรื่องที่กำลังจะคุยกัน
“พองไม่ได้ใช้ยาทุกวัน ไม่ได้ติดยา ครั้งสุดท้ายที่ใช้ยามันก็หลายวันแล้ว แต่ทำไมพองยังเป็นอย่างนี้อยู่อีก”
เกียมองลึกลงไปในดวงตาคู่สวย ข้าวพองก็ตอบได้เอง
“มีคนใส่ยาให้พองใช่มั้ย”
คนตัวโตยังคงเงียบ ปล่อยให้ข้าวพองคิดเอง
“พอง...ไม่อยากคิดต่อ”
“งั้นก็หยุดคิด ให้เป็นหน้าที่ของพี่” เกียบอกเสียงหนักๆ
“พองเกลียดความคิดระแวงแบบนี้ ที่เกียบอกให้ระวังตัวน่ะเข้าใจ แต่การที่ต้องยอมรับว่ากำลังมีคนแอบเอาอะไรมาให้กินแบบนี้..ไม่ชอบเลย”
เกียเข้าใจความรู้สึกของข้าวพองเป็นอย่างดี
หนุ่มตัวเล็กเหลือบตามองสบตาแล้วหันไปทางอื่น

“มีเรื่องอื่นด้วยหรือครับ”
ข้าวพองพยักหน้า ขณะที่แก้มแดงเรื่อ
“เรื่องอะไรครับ”
“คือ....มันอาจเป็นความฟุ้งของพองอีกเรื่องก็ได้”
“จะฟุ้งหรือจริง ก็ลองถามมาก่อน”
ข้าวพองชกไหล่หนาเบาๆ “จริงจังตลอด”
“ก็มันหน้าที่ของพี่”
ข้าวพองคร้านจะเถียงว่า เกียมักจะใช้คำนี้ทุกๆ 2 นาที 
“พองทำตามที่เกียบอกทุกอย่าง แต่ทำไมเกียถึงห่างจากพองออกไปเรื่อยๆ” ข้าวพองหันไปมองทางอื่น “พองไม่ได้เที่ยวกลางคืน ไม่ได้ใช้ยาแล้ว แต่ทำไม.....เกียถึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะอยู่ในห้องเดียวกับพองตลอดเวลา เกียไม่เคยเข้าไปในห้องพองนานมากแล้วนะ แล้วครั้งสุดท้ายที่เกียจูบพองมันก็นานมากแล้วด้วย”
เกียนิ่งไปชั่วครู่ ถึงได้ตอบคำถาม “พี่ไม่ควรทำแบบนั้นอีก”
“ทำไม....”
“เพราะก่อนหน้านี้ถึงพี่จะรู้ว่าพองคบอยู่กับไอรีนและเบซซี่ แต่พองก็ยังไม่ได้เลือก พี่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าเมื่อพี่รักข้าวพองพี่ยังมีสิทธิ์ที่จะแสดงให้ข้าวพองได้เห็นและรับรู้ แต่เมื่อข้าวพองเลือกแล้วพี่ก็ควรถอยห่างออกมา และไม่ฉวยโอกาสกับข้าวพองอีก”
“พองยังไม่รู้เลยว่า คิดกับใครยังไง แล้วเกียจะมารู้ดีกว่าพองได้ยังไง”
“ข้าวพองเลือกไอรีนแล้ว”
“พองไม่ได้เป็นคนเลือก เกียถามว่าเวลาอยู่กับไอรีนเป็นไง อยู่กับเบซซี่เป็นไง” ข้าวพองเถียงไม่ลดละ
“ข้าวพองคบไว้ทั้งคู่ไม่ได้ เราคุยกันแล้ว”
“แต่พองไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้”
“ข้าวพองล้อเล่นกับหัวใจของคนอื่นแบบนั้นไม่ได้ครับ ใครชวนก็ไป ทำให้เขามีความหวังแบบนั้นไม่ได้” เกียจริงจัง “ข้าวพองตัดสินใจแล้ว”
“ตัดสินใจไปแล้ว ก็ต้องทนคบกันไปทั้งที่ไม่มีความสุขก็เปลี่ยนใจไม่ได้หรือไง” ข้าวพองเสียงดัง “พองเบื่อมาก อึดอัด รำคาญ เกลียดสายตาของคนที่มองมาเวลาที่เดินกับไอรีน ไม่ชอบ!”
“ข้าวพองครับ”
“นี่คือหน้าที่ของเกียไง” ข้าวพองก้าวเข้ามาใกล้ จ้องหน้าอย่างจริงจัง “หน้าที่ของเกียคือทำให้พองมีความสุข แต่ตอนนี้พองไม่มีความสุขเวลาที่อยู่กับไอรีน จัดการซะ!”
เกียพยักหน้าช้าๆ “ครับ แล้วถ้าเกิดว่าวันพรุ่งนี้ข้าวพองบอกกับพี่ว่า อยากไปเที่ยวกับไอรีน หรืออีกสัก 2 อาทิตย์บอกว่าอยากพาไอรีนไปภูเก็ตด้วยกัน”
“ไม่ แล้วถ้าพองทำอย่างนั้น เกียก็กักบริเวณพองได้เลย”
“ครับ”
เกียรับคำสั่ง
และเมื่อข้าวพองทำหน้าตาบึ้งติงเดินนำออกมาจากห้องฝึก
คนตัวโตที่เดินตามมา ยกยิ้มเพียงเล็กน้อยที่มุมปาก ดวงตาสีฟ้าเข้มไม่สามารถปิดบังความพอใจได้เลยสักนิด

*-*จบตอนที่ 23*-*

ตอนที่ 24 มาวันพฤหัสบดีนะครับ
น้ำชา.


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 27-05-2014 10:16:15
อ่าว ไหงอ่านไปอ่านมากลายเป็นเกียจอมเจ้าเล่ห์งี้อ่ะ หลอกล่อพองให้อยากออกห่างจากไอรีนเองใช่มั้ย

ชักจะสงสารข้าวพองขึ้นมาตะหงิดๆแล้วสิ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 27-05-2014 11:22:53
เกียฉลาดมาก รู้จักวิธีจัดการคนรอบตัวของข้างพอง
เหมือนว่า ค่อยๆ ให้แต่ละคนเผยไต๋ของตัวเองออกมา
คือไม่ขัดขวาง ไม่บงการ แต่ค่อยๆ ตะล่อมให้ข้างพอง
เห็นพฤติกรรมของแต่ละคนเอง....
น้องน้ำชา อย่าเพิ่งนอยด์เลย พล๊อตเรื่องออกจะแปลก
คาดเดายาก และเหตุการณ์แต่ละตอน ดูเรื่อยๆ แต่มีเรื่อง
ให้ขบคิดตลอดเวลา โดยรวมพี่ชอบนะ สนุกดี
ขอบคุณ คุณไจฟ์กะน้องน้ำชานะคะ
มัน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 27-05-2014 11:29:19
อั้ยยะ!!!!! เพื่อนป๋อม มันเรื่องจิงไม๊นี่  เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อแน่ๆๆๆๆๆ...........  :ling1:

ส่วน...แป๋ม ก็มาแปลกๆ ให้ัอารมณ์ มาคู่ หญิง+หญิง หรือนี่  :z1:

คู่ไทนี่กะไอรีน นี่ประเภทไก่เห็นตีนงู อ่ะ   :hao4:

ส่วนคู่นี้   :mc4: ............หึ หึ ปากแข็งนะพอง... ไม่หึงสักนิ๊ดดดดดดด แต่อาการแบบนี้เค้าเรียกว่าหึงนะ วัยรุ่น  :mew4:

เกีย.....บอกแล้วเจ้าเล่ห์ .......นี่มันแผนยืมมือข้าวพองจัดการศัตรูชัดๆ  :katai3:

แต่....ขัดใจ๊ ขัดใจ FC จูบให้น้องรู้สึกดีอ่ะเกีย ทำเป็นม๊ายยยยยยยย ชิ ชิ  ชอบทำให้น้องคิดมาก  :katai1:

แต่ แต่ แต่ ......... ขนาดแอบเอายามาให้กินโดยที่ยังไม่รู้นี่ น่าคิดนะ มันต้องเป็นคนใกล้ตัว แต่.........ใคร (อีกแระ???)
ความรักเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง แต่คดี ยังมืดมน.... รอตอนต่อไป  :กอด1:  :pig4:




หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-05-2014 12:35:44
จากเกียร้อยเหตุผลสุดจริงจังกลายเป็นเกียเจ้าเลห์แล้วหรือ รอติดตามต่อไปใครเป็นยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 27-05-2014 13:50:38
เลี้ยงเด็กมันลำบากเนอะเกีย

ไม่ใช่เจ้าเล่ห์ แต่การวางแผนเร่งให้ทุกอย่างออกมาอยากที่ต้องการเร็วอีกนิด ถือว่าเจ๋งจริง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-05-2014 14:39:53
เป็นวิธีการที่ฉลาดมากเกีย
เจ้าเล่ห์จริงๆ
แต่ตอนนี้เริ่มมีความสงสัยใหม่ ว่าใครใส่ยาให้พองกันนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 27-05-2014 15:00:27
ไม่รู้จะขำหรือจะสงสารป๋อมดี 
....ทำไมกูเป็นส่วนเกินได้ตลอดวะ เมื่อกี้โดนน้องสาวผลักออก ตอนนี้โดนสาวแก่ผลักอีก กูหนอกู กลับบ้านไปอ่านหนังสือสอบดีกว่า...
 :m20:
ที่ข้าวพองอารมณ์ไม่ดี เพราะเห็นแป๋มเกาะแขนเกีย แล้วหึงโดยไม่รู้ตัวไม่ไหมเนี่ย

ปล. to น้องที
 ติดตามผลงานของทั้งคู่มาตลอด เรื่องนี้ก็ใจจดใจจ่อรอทุกวันอังคาร พฤหัสฯ อาทิตย์ บวกเป็ดให้ทุกครั้ง  แต่ไม่ได้คอมเม้นทุกครั้งเพราะบางทีก็ไม่รู้จะเม้นท์อะไร  บางทีอ่านก็สับสนตามข้าวพอง เรียบเรียงคำพูดมาเม้นท์ไม่ได้  แต่ยังไงก็ติดตามตลอด ไม่เคยพลาดเลย  ยังไงก็อย่างหมดกำลังใจนะ  เขียนต่อไป ชื่นชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 27-05-2014 16:59:09
เริ่มมีชิงรักหักสวาทบ้างแล้ว
ข้าวพองพูดเหมือนอยากโดนจูบนะเนี่ย
ใครใส่ยาให้ข้าวพอง สงสัยอุบลกันไหม
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 27-05-2014 20:58:09
เกียเจ้าเล่ห์มาก
เหมือนจะตามใจข้าวพองแต่จริงๆทำเพื่อให้เข้าทางตัวเองชัดๆ 5555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 27-05-2014 22:37:39
ใครกันที่ใส่ยาให้ข้าวพองกิน  หรือจะเป็น...

รอเฉลยดีกว่ากลัวผิด  :laugh:  ทายผิดตลอด  หลอกเราไว้หลายชั้นมาก

ไม่แปลกใจที่เกียจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้  ไม่ห้ามให้ข้าวพองรู้ด้วยตัวเอง

แอบกังวลว่าเกียจะจัดการไอรีนยังไง  :hao7:  คงไม่ใช่...

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 27-05-2014 22:59:48
มันเป็นแผน มันคือแผนของเกียช่ม่ายยยยยย
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 28-05-2014 00:37:32
 นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่  นายเจ้าเล่

คำนี้เต็มหัวเลย ไอ้ที่เงียบๆไปนาน เพราะวางยาให้ทุกคนเดินตามแผนแล้วตัวเองไม่ต้องเหนื่อยเลยนะ เจ้าเล่ที่สุด

พองจ้ะ ในที่สุดพองก็เริ่มมองเห็นอะไรแปลกๆในชีวิตแล้วสินะ

ป๋อม เธอเก่งมากที่มองออกว่า พองมองหาอะไรในตัวไอรีน เก่งอ่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 28-05-2014 06:04:40
เจ้าเล่ห์แบบเงียบๆ เอ๊ะหรือคนที่วางยาจะให้ข้าวพองมึนๆคือ แกห๊ะเกีย ในที่สุดความจริงก็ปรากฏ ( 555 มโนไกลมากกกก) น้องก็ตามไม่ทันยังห่างชั้นหลายขุม  ส่วนไอรีนกับไทนี่ มีซัมติงอะไรป่าวหว่า อึ๊บๆๆๆ ค้นหาต่อไปเรื่อยๆดีกว่า รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-05-2014 13:08:11
ถาม:พระเอกทุกเรื่องของjivetea เจ้าเล่ห์กันทุกคนรึเปล่า??
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 28-05-2014 16:42:56
โห  ประเมินเกียต่ำไปจริง ๆ ตอนแรกก็ยังคิดอยู่ว่าทำไมเกียปล่อยให้ข้าวพองลองคุยกะเบซซี่กับไอรีนง่าย ๆ
ที่ไหนได้เป็นแผนของเกียนี่เอง  สุดท้ายข้าวพองก็เป็นฝ่ายถอยจากไอรีนเอง โดยที่เกียไม่ได้บังคับ
คราวนี้ก็เหลือแต่เบซซี่แล้วสิ  ที่เกียจะต้องหาทางให้ข้าวพองเลิกยุ่งด้วย  แอบเจ้าเล่ห์สุด ๆ อ่ะเกีย
ส่วนไทนี่ ช่วงนี้รู้สึกแปลก ๆ นะ ทำตัวติดกับข้าวพองตลอดอ่ะ  คิดจะทำอะไรรึเปล่านะเด็กคนนี้ ไม่น่าไว้ใจเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 28-05-2014 16:44:19
เกียรกำจัดไอรีนสำเร็จชนิดที่แทบไม่ต้องออกแรง o18
จากตอนนี้รู้สึกได้ว่าไทนี และไอรีนมีซำติงอะไรกันซักอย่าง (คิดไปเองอีกแล้วเรา)

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 28-05-2014 17:23:43
เกียรีบจัดการให้ไอรีนออกไปจากข้าวพองเร็วๆเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 23 หน้า 19 (27พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-05-2014 22:18:23
ใครวางยาข้าวพอง อย่าบอกว่าคนในบ้านนะ
ถึงข้าวพองจะบอกว่ายังไม่เลือกใครแต่ใจคงมีคำตอบอยู่แล้ว
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 29-05-2014 07:40:59
ตอนที่ 24

ในที่สุดโปรแกรมการไปบ้านแฝดป๋อมแป๋มก็ต้องเปลี่ยนเป็นการไปกินข้าวเย็นในวันศุกร์ ตามที่เกียบอกกับทุกคนว่าวันเสาร์ข้าวพองต้องไปฝึกยิงปืนหลังจากเลิกเรียนพิเศษ
“แล้วเรื่องไอรีนล่ะ”
“ข้าวพองต้องคุยกับเขาอย่างจริงจัง ว่าข้าวพองรู้สึกไม่สบายใจ และต้องการเวลาส่วนตัวอีกนิด”
หนุ่มตัวเล็กทำหน้ามุ่ย...มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เกียบอก
“บอกกับเขาว่า การที่ไอรีนมาคอยเฝ้ากันทุกวัน แบบนี้ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ และไม่รู้ว่าข้าวพองต้องการอะไรกันแน่” เกียบอกอีกครั้ง “ไอรีนมีความเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรู้ตัวว่าควรทำอย่างไร”
“พองบอกให้เกียจัดการนะ” ข้าวพองเริ่มเกี่ยง
“พี่ก็จัดการ แต่ข้าวพองก็ต้องแสดงความชัดเจนเหมือนกัน”
ข้าวพองเดินเข้าโรงเรียนไปโดยที่ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะเริ่มต้นคุยกับไอรีนอย่างไรดี

ตั้งแต่เช้าวันนี้ที่แป๋มดูแปลกๆ ไม่รู้ว่าเพราะเพื่อนกำลังจะไปกินข้าวเย็นที่บ้าน หรือกังวลกับการสอบที่กำลังใกล้เข้ามา ถัดไปก็คือการเรียนอีกเทอม แล้วก็จบการศึกษา แยกย้ายกันไป
....ไม่รู้สาเหตุอะไรที่ทำให้แป๋มดูครุ่นคิด และทำท่าอยากพูด อยากถามข้าวพองแต่ก็ไม่ยอมพูด
ข้าวพองเคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ถ้ามีเรื่องที่ไม่รู้ว่าจะพูดดีหรือไม่พูดดีก็มักที่จะเลือกไม่พูด
ส่วนแป๋มน่ะนึกจะพูดอะไรก็พูด พอมาทำท่าแปลกๆ แบบนี้มันไม่คุ้นเคย

“มีอะไรหรือเปล่า” ข้าวพองถามเพื่อนที่นั่งโต๊ะตัวหน้า
แป๋มหันมา แล้วเหลือบตามองหนุ่มตัวเล็กที่นั่งอยู่อีกด้านของข้าวพองเพียงแว่บเดียว “ไม่นี่”
“รอบเดือนจะมาหรือไง เมื่อคืนก็นอนดึกได้ยินเสียงทะเลาะกับใครก็ไม่รู้” ป๋อมแทรกขึ้นมา ทำให้แป๋มหันมาชี้หน้าคู่แฝดทันที แล้วหันไปก้มหน้าอยู่กับหนังสือในมือเหมือนเดิม
มันไม่ใช่หนังสือเรียน แต่ข้าวพองก็ไม่รู้ว่ามันคือหนังสืออะไร รู้แต่ว่า แป๋มอ่านมันแบบหลบๆ ซ่อนๆ
คงเป็นเล่มที่ไปยืมที่ห้องสมุดตอนเลิกเรียนเมื่อวาน

เลิกเรียนข้าวพองก้าวลงมาจากอาคารเรียน เห็นเบซซี่กับเพื่อนลงมาจากอาคารเรียนอีกด้าน พอหันมามองเห็นก็ยกมือทักทายกัน
ห่างออกไป เห็นไมเคิลกับเพื่อนต่างชั้นเรียนจับกลุ่มกันอยู่ท่าทางมีเรื่องเครียด
แป๋มบอกกับพี่ชายว่าจะเอาหนังสือไปคืนที่ห้องสมุดก่อน แล้วบอกให้ทุกคนไปรอที่ลานจอดรถได้เลย
เมื่อแป๋มเดินแยกไปอีกทาง โดยมีป๋อมมองตามหลังด้วยความรู้สึกแปลก แม้จะเดินตามกลุ่มเพื่อนออกมาก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง
ไทนี่สะกิดแขนข้าวพอง
“กูลืมของไว้ที่ห้อง จะกลับไปเอานะ เดี๋ยวเจอกันที่รถเลย”
“ได้”
เมื่อไทนี่แยกไป ข้าวพองถึงได้หันมาหาป๋อม “วันนี้ว่าแป๋มแปลก มึงก็อีกคนที่แปลกๆ”
“กูแปลกอะไร”
“ก็มึงน่ะ ดูอึ้งๆตั้งแต่เมื่อกี้ละ”
ป๋อมคนร่าเริงส่ายหน้า “กูก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อกี้ตอนที่แป๋มมันเดินไปกูใจหายยังไงไม่รู้”
เดินมาด้วยกันจนถึงหน้าโรงเรียน เห็นเกียกับธีระรออยู่เดิม แต่ไม่มีไอรีน
“วันนี้ไปทานข้าวบ้านคุณฝาแฝด” ธีระพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ขอโทษที่นัดฉุกเฉินนะครับ” เกียขอโทษอีกครั้ง
ป๋อมโบกมือ ท่าทางโอ้อวดสุดๆ “แล้วจะรู้ว่าฝีมือม้าน่ะ อร่อยที่สุดใน 3 โลก ธีระกินเยอะๆนะ”
ธีระรีบปฏิเสธ “อย่าเลยครับผมกินจุ กลับไปกินที่บ้านพร้อมกับอุบลดีกว่า”
“เอากลับไปฝากอุบลด้วย ป๋อมบอกม้าให้เตรียมใส่กล่องไว้ให้แล้ว”
ไทนี่เดินผ่านรั้วโรงเรียนออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง เหงื่อเม็ดเล็กผุดที่หน้าผาก แต่ป๋อมมองผ่านไปทางด้านหลัง
“แค่เอาหนังสือไปคืนทำไมนานนัก” ป๋อมบ่น แล้วหันมาบอกกับเกียและธีระ “ไปตามแป๋มก่อนนะครับ”

เมื่อป๋อมกลับเข้าไปในโรงเรียน อีกไม่ถึง 5 นาทีถัดมา ก็โทรศัพท์หาข้าวพอง เสียงของป๋อมสั่นเครือ
“ข้าวพอง แป๋ม แป๋ม แป๋ม”
“แป๋มเป็นอะไร” ข้าวพองถามขณะที่เงยหน้ามองเกีย
“แป๋ม...แป๋ม เป็นอะไรไม่รู้...ช่วยแป๋มด้วย”
ข้าวพองได้แต่ส่ายหน้าขณะที่ส่งโทรศัพท์ให้เกียด้วยมือที่สั่นเทา
เกียไม่ได้ถามอะไร พอได้ยินเสียงป๋อมก็ถามว่า ป๋อมอยู่ที่ไหน แต่ข้าวพองที่อยู่ข้างๆ เป็นคนตอบว่าป๋อมไปตามแป๋มที่ห้องสมุด คนตัวโตไม่รอให้จบประโยคก็วิ่งนำเข้าไปในโรงเรียน แม้อาจารย์ที่ดูแลกับยามรักษาความปลอดภัยจะเข้ามาขวางแต่คนตัวโตก็ยังผ่านเข้าไป ข้าวพองจึงเป็นคนบอก
“เพื่อนผม ที่ห้องสมุด อาจารย์รีบไปดูเร็ว!”
เมื่อเข้าไปในห้องสมุด ไม่ต้องมองหาว่า ป๋อมอยู่ตรงไหน เพราะเห็นอาจารย์บรรณารักษ์และนักเรียนอีกคนกำลังอยู่ที่ชั้น 2 แล้ว ทุกคนที่เพิ่งมาถึงก็แค่วิ่งตามไป
ภาพที่เห็นคือป๋อมที่กอดร่างของน้องสาวไว้แน่น แว่นตาของแป๋มตกอยู่ข้างๆ
น้ำเสียงสั่นเครือผ่าวเบาเรียกชื่อน้องสาวซ้ำไปมา
“แป๋ม แป๋ม ไม่เป็นแบบนี้ อย่าล้อเล่นแบบนี้ อย่าทำแบบนี้ แป๋ม......”

เกียตรงเข้าไปแตะชีพจรที่ต้นคอของแป๋ม
...ไม่มีสัญชาติของชีวิต เกียหันไปบอกข้าวพองให้โทรหาพ่อกับแม่ของคู่แฝด แล้วบอกอาจารย์บรรณารักษ์ให้แจ้งอาจารย์ใหญ่และตำรวจ
ข้าวพองทรุดตัวลงนั่งข้างเพื่อนที่ยังกอดน้องสาวไว้แน่น
มีน้ำตาที่ไหลเอื่อยจากดวงตาคู่สวย แต่ไม่มีคำพูด เข้าใจความเสียใจ และความตกใจของเพื่อนได้โดยที่ไม่ต้องมีการบรรยายความรู้สึก
คนสนุกสนานเฮฮาแบบป๋อม เด็กเรียนที่ไม่มีเหมือนใครแบบป๋อม เวลาที่ตกใจ เสียใจกลายเป็นคนที่เหลือคำพูดแค่ชื่อของน้องสาว ที่เรียกซ้ำไปซ้ำมา กับการกระทำที่ชัดเจนว่า รักน้องสาวคนนี้มากขนาดไหน
ข้าวพองปาดน้ำตาหันไปมองรอบตัว ถึงเห็นว่าไทนี่นั่งรออยู่ตรงบันไดขั้นบนสุด คาดว่าจะขอรออยู่ตรงนั้นไม่ยอมออกไปข้างนอกเหมือนกับนักเรียนคนอื่นๆ ยังได้ยินเสียงเกียคุยกับอาจารย์บรรณารักษ์อยู่แว่วๆ
พักหนึ่งเกียก็ขึ้นมาบอกกับไทนี่ว่าจะให้ธีระไปส่งที่บ้านก่อน แต่ไทนี่ยังไม่ยอมกลับ
กระทั่งตำรวจมาถึงในเวลาเดียวกับพ่อและแม่ของคู่แฝด
ภาพของคน 3 คนที่สวมกอดร่างของแป๋มทำให้ข้าวพองสะอื้นตาม
นานกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าที่ตำรวจจะพาร่างของแป๋มขึ้นรถพยาบาลไปที่นิติเวช 
เกียโอบไหล่บางของคนที่ร้องไห้ไม่หยุดเดินตามครอบครัวของป๋อมออกมาจนถึงรถ

เห็นไอรีนยืนอยู่ข้างธีระ ลักษณะการแต่งกายของไอรีนวันนี้แตกต่างไปจากที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะทัก เกียขอให้ทั้งคู่พาไทนี่ไปส่งบ้านและดูแลข้าวพองด้วย
“แต่พองอยากไปดูป๋อม”
“ป๋อมจะต้องอยู่กับพ่อและแม่ ตอนนี้เป็นเวลาของพวกเขา”
“แล้วเกียล่ะ”
“พี่ต้องคุยกับตำรวจก่อน”

เมื่อเกียบอกอย่างจริงจัง ทุกคนก็ทำตาม
ไอรีนถาม 2 หนุ่มในรถว่าเกิดอะไรขึ้น
ข้าวพองบอกสั้นๆ ว่าแป๋มตายแล้ว จากนั้นก็เอาแต่จ้องมองโทรศัพท์ในมือ
....อยากโทรหาป๋อม แต่ก็รู้ว่าเวลานี้ยังไม่เหมาะ ตั้งใจไว้ว่าหลัง 2 ทุ่มจะโทรหาเพื่อน
ข้าวพองไม่ได้สนใจอะไรเลย ไทนี่ลงจากรถไปเมื่อไหร่ ถึงบ้านตอนไหน มื้อค่ำมีอะไรบ้าง และไอรีนกลับไปหรือยัง
รู้แต่ว่า เมื่อเห็นเกียเดินเข้าประตูบ้านมา ก็รีบวิ่งไปหา
“ใครทำแป๋ม”

เกียจับมือขาวซีดแล้วจูงเข้าบ้าน
“ดึกแล้ว อาบน้ำก่อน แล้วพี่จะบอก”
“เกีย ไม่ทำตามขั้นตอนสักครั้งจะเป็นไรมากมั้ยเนี่ย” ข้าวพองงอแง เพราะรอนานหลายชั่วโมง จะโทรหาเพื่อนก็กล้าๆ กลัวๆ ตลอดเวลา
หันไปอีกที เห็นทั้งอุบล และธีระ มายืนอยู่ใกล้ ท่าทางอยากรู้เหมือนกัน เกียก็เลยเรียกทั้งหมดให้เข้าบ้านแล้วเล่าเรื่องให้ฟังพร้อมกัน
“เบื้องต้นที่นิติเวชแจ้งว่าพบบาดแผลจากทางด้านหลังศีรษะ แต่เรื่องอาวุธหรืออะไรอื่นๆ ต้องรอผลตรวจโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนอาจารย์บรรณารักษ์บอกว่าได้ยินเสียงจากชั้น 2 แต่เพราะไม่ดังนักก็เลยไม่ได้เดินมาดู คิดว่าอาจมีใครทำหนังสือตก จนกระทั่งเห็นป๋อมวิ่งเข้ามา แล้วมีนักเรียนมาบอกว่า มีคนนอนอยู่ตรงมุมด้านในและมีเลือดนองที่พื้น เขาก็ขึ้นไปที่ชั้น 2 ก่อนหน้าเรานาทีเดียวนั่นแหละ”
“ทำไมเขาไม่สนใจอะไรเลยคะ ตั้งแต่คุณแป๋มโดนตีที่บอกว่าได้ยินเสียง จนคุณป๋อมจะเข้าไป มันน่าจะหลายนาทีอยู่นะคะ ทำไมช่างไร้น้ำใจกันนัก” อุบลตั้งข้อสังเกต “เสียงร้องของคนโดนตี มันไม่เหมือนหนังสือตกนะคะ ยังไงมันก็น่าจะฉุกใจคิดกันบ้าง”
เกียพยักหน้า “ตำรวจก็สงสัยแบบนั้นเหมือนกัน แต่อาจารย์บรรณารักษ์อ้างว่า ตอนนั้นมีนักเรียนมาสอบถามหาหนังสือ แล้วที่ผ่านมาถึงจะเป็นห้องสมุด แต่ก็ไม่ได้เข้มงวดกับกฎระเบียบอะไร แล้วตอนนั้นก็หลังเลิกเรียน มีนักเรียนอยู่ในห้องสมุดไม่มาก”
ข้าวพองพูดขึ้น “มีกล้องวงจรปิดหน้าห้องสมุด”
“ครับ” เกียบอกยิ้มๆ “ตำรวจเอาไปแล้ว แล้วคงทยอยเรียกคนที่อยู่ในห้องสมุดมาสอบปากคำ เพราะว่าคนที่อยู่ในห้องสมุดเป็นเยาวชน ต้องมีผู้ปกครองอยู่ด้วย”
“เกีย” ข้าวพองจับข้อมือใหญ่ไว้ “เรื่องของพอง ไว้ก่อนก็ได้ เกียต้องหาคนที่ทำอย่างนี้กับแป๋มให้ได้นะ”
“ครับ” เกียให้คำมั่น “แต่ตอนนี้ดึกมากแล้วควรเข้านอน แล้วพรุ่งนี้เราไปหาป๋อมที่บ้านกัน”
ข้าวพองลุกขึ้นแล้วหันมาถาม “พองไปนอนบ้านป๋อมได้มั้ย”
“ดูป๋อมก่อนดีมั้ยครับ ถ้าเขาอยากให้เราอยู่ก็อยู่”
“ฮื่อ” ข้าวพองรับคำ แต่เมื่อก้าวขึ้นบันไดไปขั้นเดียวก็หันมา “ป๋อมมันช็อค กอดแป๋มไว้ตลอดจนป๊ากับม้ามาถึง”
“ครับ” ทีแรกเกียตั้งใจว่า เมื่อข้าวพองขึ้นห้องไปแล้ว จะไปเดินตรวจรอบบ้านเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ดูท่าทางข้าวพองก็เสียใจ และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ต่างจากป๋อม
เกียแตะที่หลังบาง ให้เดินนำขึ้นไปข้างบน ขณะที่ชวนคุยเรื่องที่ห่างไกลจากภาพสุดท้ายของแป๋ม
“วันนี้แป๋มมีอะไรผิดปกติบ้างหรือเปล่าครับ”

ข้าวพองนึกย้อนถึงท่าทางแปลกๆ ของแป๋มกับหนังสือเล่มนั้นทันที แต่พอจะหันมาบอกเกีย ก็เห็นสายตาของอุบลกับธีระที่มองมา ก็เลยแค่พยักหน้าแล้วเดินนำไปจนถึงห้องนอนของเกีย
ก้าวนำเข้าไปก่อนแล้วหันมาเล่าให้ฟัง
“หนังสืออะไรรู้มั้ยครับ” เกียถามเมื่อฟังจบ
“ไม่รู้” ข้าวพองส่ายหน้า “แต่มันเป็นพอกเก็ตบุ๊ค เล่มไม่หนามาก ต้องมีอยู่ในบันทึกยืมคืนห้องสมุด”
เกียพยักหน้า ขณะที่เผื่อใจไว้ว่าหนังสือเล่มนั้นอาจไม่ได้เป็นของห้องสมุดโรงเรียน
“พี่จะขอให้อาจารย์ค้นข้อมูลหาหนังสือเล่มนั้น”
“คนที่เข้าไปในห้องสมุดด้วย” ข้าวพองกำชับ
“ครับ ไม่ลืมครับ ภาพวงจรปิด กับหนังสือ”
“แต่มีอีกอย่าง ไม่รู้ว่าข้าวพองคิดไปเองหรือเปล่า” คราวนี้ข้าวพองไม่แน่ใจ
“เล่ามาก่อนสิครับ”
หนุ่มตัวเล็กทำหน้าตายุ่งๆ “ทุกเรื่องที่พองบอก เกียจะทำให้มันเป็นเรื่องจริงจังตลอด แล้วถ้าเกิดว่าคราวนี้เป็นพองเพ้อไปเองล่ะ จะทำเกียเสียเวลามั้ย”
“เล่ามาก่อนครับ” เกียบอกยิ้มๆ “พี่จะคิดแบบกลางๆ”
“พองรู้สึกว่า แป๋มน่ะมีเรื่องปิดบังอยู่ก็จริง แต่เขาอยากบอกเรื่องนั้นกับพอง โดยที่ไม่มีไทนี่อยู่ด้วย” ข้าวพองเริ่มทำมือไม้วุ่นวาย เมื่อเล่าถึงตอนที่อยู่ในห้องเรียน
พอคิ้วเข้มขมวดคิด ข้าวพองก็ชกที่ไหล่หนาเบาๆ “คิดแบบกลางๆ ไง”
“ก็กำลังคิดแบบกลางๆ ไงครับ แต่ที่สำคัญกว่าที่ต้องไปดูก็คือภาพวงจรปิด ว่าคนที่เข้าไปในห้องสมุดตอนนั้นมีใครบ้าง”

ข้าวพองถอนหายใจแล้วพยักหน้า เดินเข้ามาสวมกอดเอวหนาไว้
“แป๋มตายแล้ว...”
คนตัวโตลูบแผ่นหลังปล่อยให้ข้าวพองพูดต่อ
“วันนี้เรานั่งเรียนในห้องเรียนเดียวกัน เลิกเรียนเราเดินลงมาพร้อมกัน อึดใจเดียวที่เราห่างกัน แป๋มก็ตาย.....ทำไมคนเราถึงได้ตายง่ายดายอย่างนี้นะ”
มือที่กอดเอวหนาอยู่ จู่ๆก็เริ่มเย็น ร่างกายผอมบางสั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ข้าวพองครับ เป็นอะไร”
“ไม่รู้...มันหนาว” เสียงของข้าวพองสั่น
“ข้าวพองครับ” เกียกระชับอ้อมแขน
“เกีย...ที่แป๋มตายน่ะ เกี่ยวกับพองมั้ย”
เกียไม่แน่ใจ “พี่ยังไม่รู้ ตำรวจก็ยังไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เราต้องคุยกับป๋อมด้วย”
ข้าวพองส่ายหน้ากับอกกว้าง
“อย่าเพิ่งคิดสับสน  การที่จะลงมือทำร้ายใครสักคนมันต้องมีสาเหตุ แล้วข้าวพองก็บอกให้พี่เป็นคนจัดการเรื่องนี้”
“แต่พองคิด ยิ่งตอนที่รอเกียกลับมา ก็เอาแต่คิดว่า ทำไมไม่ไปห้องสมุดด้วยกันกับแป๋ม ทั้งที่พวกเรามักจะไปห้องสมุดด้วยกัน แต่ทำไมวันนี้ไม่ไป”
ข้าวพองแสดงความสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกียต้องพาเดินกลับมาที่ห้องนอน ปล่อยให้พูดความในใจ ขณะที่ทำกิจวัตรก่อนนอน จนกระทั่งล้มตัวลงนอน ห่มผ้าให้ แล้วนั่งลงบนเตียงข้างๆกัน
“เกีย” ข้าวพองจับมือใหญ่ไว้ “อย่าให้แป๋มเป็นเหมือนแม่กับพี่เพชรนะ”
อดีตนายตำรวจพยักหน้า “ครับ แต่ตอนนี้เจ้าชายน้อยต้องหลับแล้วครับ”
“จะหลับได้ยังไง แป๋มเป็นเพื่อนพองนะ”
“ถ้าไม่หลับ แล้วข้าวพองจะมีพลังสมองไปคิดทบทวน ว่าใครคือคนร้ายได้อย่างไรครับ”
ข้าวพองพยักหน้า แต่ยังคงย้ำคำเดิมอีกครั้ง “หาคนที่ฆ่าแป๋มให้ได้นะ”
 
*-*จบตอนที่ 24*-*

ขอบคุณที่ติดตาม แสดงความเห็น และให้คำแนะนำ
ตอนต่อไปมาวันอาทิตย์ครับ
.น้ำชา.


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 29-05-2014 08:11:47
ขอให้เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำ แป๋มเป็นเด็กฉลาดเอาตัวรอดเก่ง มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ เศร้าอ่ะ คนร้ายใกล้เข้ามาแล้ว  ใกล้มากๆ แป๋มมีเรื่องอะไรปิดบัง? ทำไมแฝดไม่รู้? หลายคำถามเกิดขึ้น  รอสมุดเล่มนั้นอยู่นะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 29-05-2014 08:16:32
ใครฆ่าแป๋มอ่า ใจร้ายที่สุด  :hao5:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 29-05-2014 09:16:57
ใครทำแบบนี้ เลวที่สุด!! แป๋มยังเด็กอยู่เลยนะ ฮือๆๆๆๆๆ

สงสารป๋อมจัง คู่แฝดก็เหมือนอีกครึ่งหนึ่งของกันเลยนะ ป๋อมสู้ๆนะ

สงสารข้าวพองด้วย เหตุการณ์นี้เหมือนทำให้พองคิดถึงตอนแม่กับพี่เพชรตายเลย อย่าโทษตัวเองเลยนะพอง เข้มแข็งเข้าไว้

สงสัยไทนี่อ่ะ เพราะพอแป๋มแยกตัวไป ไทนี่ก็หาเหตุแยกตัวตามไป

ไหนจะเรื่องที่แป๋มทำท่าทางแปลกๆ อยากบอกอะไรข้าวพองโดยไม่ให้ไทนี่รู้อีก

แป๋มต้องไปรู้ความลับอะไรซักอย่างของไทนี่แน่ๆเลย

ยิ่งอ่านยิ่งมีเงื่อนงำแฮะ อยากให้ถึงตอนที่ 36 เร็วๆจัง อยากรู้คำตอบของเรื่องราวทั้งหมด รอๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 29-05-2014 09:17:14
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: แป๋มมมมมมมมมมมมม  :monkeysad: :monkeysad:  :monkeysad:

ทั้งไมเคิล ทั้งไทนี่ น่าสงสัยที่สุด  .... จะมีคนตายเพราะข้าวพอง จริงๆ เหรอ 

ครูก็มาช้าเกิน ทั้งๆที่อยู่ในพื้นที่แต่มาช้าาาาา แถมยังจัดการอะไรไม่ได้ซะอีก
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก #ไม่รุ ตอนนี้พาลอ่ะ  :serius2:

จับคนร้ายให้ได้เร็วๆ นะเกีย  :m15:

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 29-05-2014 09:19:35
ใจหายวูบเลย แป๋มตายแล้ว สงสารป๋อมมากคงจะคิดโทษตัวเองสารพัดว่าทำไมไม่ไปกับน้อง

ไทนี่ฆ่าแป๋มใช่ไหม  แป๋มรู้ความลับอะไรของไทนี่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 29-05-2014 09:37:41
ม่ายยยยยยยย
อ่านตอนเมื่อกี้ยัง อุอุ
เกีย นายร้ายมว้าก อยู่เลย
 :z3: :z3: :z3:
ซีดตามข้างพอง
ป๋อมเค้าล่ะ อือออออออ
 :hao5: :hao5: :hao5:
กระทืบบวกและเป็ด
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 29-05-2014 10:23:51
บอกได้คำเดียวว่าตกใจมากอะ
ปกตินิยายคุณไจฟ์ น้องทีก็มักเดาทางไม่ออกอยู่แล้วอะนะ
แต่คราวนี้เกินคาดไปไกลมาก เพราะแป๋มแทบไม่เป็นพิษกับใคร
ใจหายอะ สงสารป๋อมด้วย อยากรู้ตัวคนร้ายเร็ว ๆ จัง (อินไปไหมเนี่ย)

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 29-05-2014 10:40:15
ทำไมต้องฆ่าแป๋มด้วย สงสัยไทนี่ที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-05-2014 10:56:54
ต้องเล่นกันให้ถึงตายเลยหรือ ทำไมไม่เป็นแค่บาดเจ็บสาหัสต้องนอนที่โรงพยาบาลนานอะไรแบบนี้ สงสารป๋อมแป๋มและครอบครัวอะ ปริศนาเพียบอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 29-05-2014 11:30:55
 :z3: :z3: :z3:
แป๋มรู้อะไรมา กลางคืนแป๋มทะเลาะกับใคร???
แล้วใครฆ่าแป๋ม แงๆๆ :sad2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-05-2014 12:11:47
อึ้งเลยแบบนี้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 29-05-2014 13:58:32
โหดร้ายมาก ทำร้ายเด็กผู้หญิงจนตายเนี่ยะ
สงสารป๋อมนะ ผลประโยชน์ทำให้คนเราสามารถทำร้าย และฆ่าคน
เป็นเพราะแป๋มไปรู้ความลับของพวกคนร้าย และพยายามปกป้องเพื่อน
ถ้าเราเป็นข้าวพอง เราก้อจิตตกนะ รู้สึกว่าเป็นเพราะตัวเองทำให้ตัวเพื่อน
ครอบครัวของเพื่อนเดือดร้อน....ไอ้คนทำก้อเหลือเกิน เฮ้อ!!!
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-05-2014 17:41:54
เหมือนไทนี่จะเป็นคนที่น่าสงสัยสุด  แต่เรื่องแนวฆาตกรรมแบบนี้
คนร้ายมักเป็นคนที่ไม่น่าสงสัยที่สุด  คนที่เราคาดไม่ถึง
แต่น่าจะเกี่ยวกับไทนี่และกลุ่มนร.ที่ดูท่าไม่น่าไว้ใจพวกนั้น  :z2:

สงสารแป๋ม และอยากรู้ว่าหนังสือเล่มนั้นมันเกี่ยวอะไรด้วย  :mew2:

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 29-05-2014 19:03:33
โฮฮฮฮ  ช็อค  สงสารแป๋มอ่ะ
เด็ก ผญ. คนนึงต้องตกเป็นเครื่องมือในเรื่องบ้าอะไรก็ไม่รู้
แต่เหมือนแป๋มจะรู้อะไรบางอย่างรึเปล่า  ความลับของหนังสือนั่นอีก
สภาพจิตใจข้าวพองว่าแย่ ไม่รู้ว่าครอบครัวแป๋มเองจะเป็นยังไงมั่ง
โดยเฉพาะป๋อมอ่ะ  คงเสียใจสุด ๆ เลย  งานนี้หวังว่าเกียจะช่วยหาความจริงได้อีกแรงนึง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 29-05-2014 19:25:35
อ่านแล้วอึ้ง! แป๋มถูกฆ่าตาย!
นี่ขนาดอยู่ในโรงเรียนแท้ๆยังถูกทำร้ายได้
สงสัยทุกคนเลยค่ะตอนนี้  :ling1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 29-05-2014 20:00:53
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 29-05-2014 21:03:22
ช็อคเลย ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครตายเพิ่ม
ไม่น่าเลยแป๋ม สงสารป๋อมด้วย
ไทนี่น่าสงสัย ถ้าไม่ทำเองก็ต้องมีส่วนด้วยแน่ๆ
รอวันที่ทุกอย่างเฉลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-05-2014 23:51:08
โหดร้ายมาก ลงมืออย่างเลือดเย็น จะสงสัยใครได้นอกจากไทนี่หว่อง
แป๋มไปรู้ไปเห็นเรื่องอะไรสำคัญขนาดที่จะต้องฆ่ากันด้วย โอย...เครียด ไม่ชอบเลยฉากแบบนี้

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 30-05-2014 09:42:56
แป๋มตายแล้ว แป๋มตายแล้ว ใครฆ่าแป๋ม ฆ่าแป๋มทำไม  :ling3:
ไทนี่ นายยังน่าสงสัยเสมอเลย

สงสารป๋อม สงสารข้าวพอง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 30-05-2014 10:31:00
คนทำนี่โหดร้ายที่สุด

รอให้เกียจัดการพวกมัน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 30-05-2014 10:37:55
อึ้ง เห็นป๋อมบอกพองว่าใจหายตอนแป๋มเดินไป
ไม่คิดว่าแป๋มจะจากไปจริงๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 30-05-2014 18:01:29
เฮ้ย แป๋ม ทำไมอ่ะ ตอนแรกนึกว่าแอบอ่านนิยายวายอยู่เลย ไหงมาตายซะแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 31-05-2014 03:54:41
อ๊าาาาาาาาา  เพิ่งมาอ่านนนน  ไม่ได้เข้าเล้านานพอควร  (อันที่จริงเข้าเกือบทุกวัน แต่ไม่ได้เช็คได้อ่านนิยายนานเลย)
เพิ่งรู้ว่าคุณไจฟ์กับคุณทีแต่งเรื่องใหม่แว้ววววว
 :กอด1:

อ่านตามทันแล้วค่ะ 
ตอนล่าสุดแอบตกใจเล็กน้อย  ไม่นึกว่าแป๋มจะโดนหางเลขไปด้วยซะงั้น
 :sad4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 31-05-2014 09:45:26
ทำไมต้องทำเพื่อนข้าวพองหล่ะ แป๋มสำคัญหรือไปรู้อะไรเข้า

สงสารแป๋มสงสารข้าวพอง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 31-05-2014 18:12:01
อะไรอ่ะ แป๋มตาย?ตายได้ไง??
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 01-06-2014 03:26:39
ม่ายยยยยย ใครทำแป๋ม ฮือออออ พี่เกียต้องจัดการหาคนทำให้เจอนะ สงสารแป๋ม สงสารป๋อม สงสารพองด้วย งานนี้ต้องขวัญเสียอีกนานแน่ๆ เนื้อหาเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้วสิเนี่ย
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-06-2014 09:41:03
ตอนที่ 25

โรงเรียนในวันถัดมาเงียบเหงา แม้จะมีเบซซี่ที่มารออยู่เหมือนวันก่อน แต่ก็แค่เดินตามกันเข้าโรงเรียน
“พี่ข้าวพองไปนอนพักที่ห้องพยาบาลมั้ยคะ วันนี้หน้าซีดมาก”
หนุ่มตัวเล็กส่ายหน้า “ไม่เป็นไรหรอก”
“แล้วตอนเย็นพี่จะไปงานพี่แป๋มมั้ยคะ ขอเบซซี่ติดรถไปด้วย”
ข้าวพองพยักหน้า “ตอนเที่ยงจะโทรหาป๋อม แล้วค่อยคุยกัน”
“เช้านี้ยังไม่ได้คุยกันหรือคะ” เบซซี่ถาม
“คุยกันแล้ว แต่บอกว่าเมื่อคืนนิติเวชยังไม่ให้รับแป๋มกลับมา ต้องรอเที่ยง”

เบซซี่พยักหน้ารับรู้ แล้วจับมือข้าวพองไว้ “คนที่ทำอย่างนั้นกับพี่แป๋มจะต้องถูกลงโทษ”
ข้าวพองพยักหน้า บอกให้เบซซี่ขึ้นตึกเรียน ส่วนตัวเองเดินไปอีกฝั่ง
ก้าวเข้าไปในห้องเรียน ที่โต๊ะเรียนตัวหน้ามีคนวางดอกไม้ไว้ กับเทียนสีขาว มีทั้งที่อยู่ในแก้วใส และที่จุดวางไว้บนเชิงเทียนเล็กๆ บ้างไหม้หมดไปแล้ว บ้างยังเผาไหม้อยู่
หัวหน้าห้องเดินมาหา ถามว่าเตรียมของมาหรือเปล่า  ข้าวพองพยักหน้าเปิดกระเป๋าเรียน หยิบรูปภาพมาวางพิงพนักเก้าอี้ วางดอกไม้ และเทียนบนโต๊ะ แล้วจุดเทียน
มีเสียงพึมพำแสดงความเสียใจ และคำปลอบใจอยู่รอบๆ แต่ข้าวพองเพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินไปนั่งประจำที่
ก่อนเข้าเรียนไม่นานนัก ไทนี่ก็มาถึง หนุ่มฮ่องกงวางดอกไม้ที่โต๊ะเรียนของแป๋มแล้วมานั่งข้างซ้ายมือของข้าวพองเหมือนเคย
แต่ที่นั่งด้านขวาและด้านหน้าว่างเปล่า
ห้องเรียนเงียบกริบ
ทั้งที่แป๋มไม่ใช่คนช่างคุย แต่พอไม่มีแป๋มอยู่ด้วยกลับเงียบอย่างบอกไม่ถูก

หน้ากระดาษว่างเปล่า หมุนปากกาในมือไปเรื่อย ดวงตามองแต่ดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะเรียนตัวหน้า เริ่มคาบเรียนที่ 2 ได้ไม่ถึง 10 นาทีข้าวพองก็ลุกขึ้น แล้วเดินออกจากห้อง อาจารย์ที่ปรึกษาที่กำลังบรรยายอยู่หน้าชั้นเรียน หันไปบอกให้หัวหน้าห้องตามมาด้วย แต่หนุ่มตัวเล็กบอกว่าไม่เป็นไร อยากอยู่คนเดียวสักพัก
ยังได้ยินอาจารย์เตือนว่า อย่าออกไปนอกเขตโรงเรียน

เดินลงมาจากตึกเรียน วนไปที่โรงอาหาร แล้วกลับไปที่ห้องสมุด รู้ว่าแป๋มไม่กลับมาแล้ว แต่ก็ยังอยากเห็นหญิสาว ผมเปีย สวมแว่นคนนั้นวิ่งเข้ามาโวยวายว่า เรียนหนังสือเสียบ้างอย่ามัวแต่เที่ยวไปวันๆ
ถ้ามีเหตุให้ต้องหาแป๋ม ก็หาที่ 2 แห่งนี้แหละไม่ต้องไปที่อื่น
เผื่อจะเจอ.....
เผื่อว่าทุกอย่างคือความฝัน....

แต่เมื่อเดินไปถึงห้องสมุด ข้าวพองเห็นเกียยืนคุยอยู่กับนายตำรวจคนหนึ่ง
คนตัวโตหันมามองแล้วส่งยิ้มทักทายจากในระยะไกล บ่งบอกว่าไม่มีอะไรที่รอดพ้นไปจากสายตาได้
เพียงแค่เห็นว่าเกียทำตามที่สัญญาไว้ ข้าวพองก็ยิ้มได้
ยอมรับว่าแป๋มจากไปแล้ว.....
และจะไม่เป็นเหมือนแม่กับพี่เพชร….
หนุ่มตัวเล็กพยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าห้องเรียน
อาจารย์ประจำชั้นถึงกับถอนหายใจ เมื่อเห็นข้าวพองเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง หนุ่มตัวเล็กยิ้มขื่นๆ แล้วเดินเข้าไปกอดอาจารย์ไว้ ซุกหน้าลงกับไหล่บาง เมื่อมือเหี่ยวย่นลูบที่แผ่นหลังหยาดน้ำตาก็ไหลซึม

พักเที่ยง เบซซี่กับเพื่อนๆ ก็มารอข้าวพองอยู่ที่หน้าตึก หญิงสาวจ้องมองดวงตาช้ำของข้าวพองตรงๆ
“พี่ข้าวพองยังมีเบซซี่อยู่นะคะ”
“ใช่ รวมถึงเจ้าพวกนี้ด้วย” ข้าวพองชี้ไปที่กลุ่มเพื่อนทั้งห้อง “แพนิคกันไปหมด”
“ไม่แพนิคได้ยังไง” หัวหน้าห้องบอก “จู่ๆ ก็ลุกออกไปจากห้องกลับมาก็ร้องไห้”

เบซซี่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุเมื่อจับมือเดินข้างกันไปที่โรงอาหาร และไม่ยอมแยกไปไหน ทั้งเตือนให้ข้าวพองโทรหาป๋อมเมื่อกินอาหารเสร็จ
ป๋อมบอกว่ารับแป๋มไปวัดแล้ว ส่วนเรื่องอื่น จะเล่าให้ฟังเมื่อเจอกัน
ข้าวพองวางสายแล้วหันไปบอกเพื่อน ทุกคนก็รีบโทรบอกที่บ้าน ส่วนหัวหน้าห้องไปแจ้งอาจารย์ที่ปรึกษา
หนุ่มตัวเล็กรู้สึกเหมือนสายลมอุ่นที่พัดผ่าน จนหันไปยิ้มให้กับเบซซี่
“ขอบใจมากนะ”
เบซซี่ยิ้มกว้าง “หนูก็แค่นั่งอยู่ข้างพี่”
ข้าวพองยิ้มขอบใจ
“พี่ยังมีอะไรอยากบอกหนูอีกหรือเปล่าคะ”
ข้าวพองลังเล แล้วพยักหน้าให้เบซซี่เดินตามออกมาคุยห่างจากเพื่อนคนอื่น
“พี่อยากขอโทษเรื่องที่ผ่านมา”
“เรื่องไหนคะ เรื่องไอรีนน่ะหรือ หนูก็แค่น้อยใจที่พี่ชอบคนแก่ แต่หนูไม่สนหรอก พี่ยังไม่ได้แต่งงานกับเขานี่” เบซซี่ไม่สนใจจริงๆ 
“พี่ไม่ได้ชอบไอรีนแบบคนรัก” ตอนเริ่มต้นพูดคำแรกมันยากเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ แต่พอพูดต่อไป น้ำหนักที่มันถ่วงไว้ก็เบาลง “ส่วนเบซซี่...”
“พี่ก็ไม่ได้ชอบเบซซี่แบบคนรักเหมือนกัน” เบซซี่บอกขณะที่หันไปมองทางอื่น “หนูไม่ได้โง่ขนาดที่จะไม่รู้นะคะ ว่าหนูเป็นได้แค่น้องสาว เพราะถ้าพี่ชอบหนูสักนิด พี่จะไม่ควงกับเขาต่อหน้าหนู”
“ขอโทษ” ข้าวพองพูดจากใจจริง “แต่พี่ก็ยังมีเรื่องที่จะขอร้องเบซซี่ด้วย” หนุ่มตัวเล็กพูดต่อไปอย่างระมัดระวัง “ป๋อมน่ะ เพิ่งจะเสียแป๋มไปพี่อยากให้เบซซี่ช่วย...ดู..ป๋อม”
“อะไรนะคะ” เบซซี่ทำเสียงสูง จนข้าวพองรีบยกมือ
“ไม่ใช่ให้ไปเป็นแฟนกับป๋อม แต่ป๋อมกับแป๋มน่ะเป็นแฝดกัน แล้วเบซซี่ก็คุยกับแป๋มบ่อยๆ เวลาที่ป๋อมมันมาโรงเรียนหรือไปเจอกันวันเสาร์พี่ก็อยากให้เบซซี่ชวนป๋อมมันคุย ไม่อยากให้คิดถึงน้อง” ข้าวพองรีบอธิบาย แล้วลดเสียงลง “ป๋อมเคยบอกกับพี่ว่า พี่เลือกไอรีนเพื่อทดแทนแม่กับพี่เพชร พอไม่มีพวกเขาแล้ว ชีวิตพี่ก็ไหลไปเรื่อยไม่มีจุดหมาย พี่ไม่อยากให้ป๋อมเป็นแบบนั้น”

เบซซี่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถามขึ้น “ไม่ได้แปลว่าพี่เจอคนที่ชอบอย่างจริงจังใช่มั้ยคะ”
ข้าวพองส่ายหน้า “จริงๆ นะเบซซี่ พี่ไม่รู้อะไรสักอย่างที่มันเกี่ยวกับตัวพี่เอง”
สาววัยรุ่นดูไม่ค่อยแน่ใจ “เบซซี่จะทำเท่าที่ทำได้ค่ะ”
หนุ่มตัวเล็กคลี่ยิ้ม “ขอบใจมาก”

เมื่อละสายตาจากเบซซี่ที่กำลังคุยกันอยู่ ในที่ห่างออกไป ไทนี่หว่องเพื่อนใหม่ กับบิ๊กหว่องคนที่เป็นเพื่อนเก่ามาหลายปีกำลังยืนคุยกันอยู่แล้วหันมามองทางนี้ ถัดออกไปตรงมุมอาคารเรียน กลุ่มแก๊งของไมเคิลเด็กติดยากำลังคุยกันแล้วมองมาทางนี้ มองต่อไปขึ้นไปที่ชั้น 2 ของตึกเรียนม.6 แมทธิว เด็กเรียนคู่แข่งของป๋อม คนที่อาศัยยาเสพติดเป็นตัวช่วยกำลังมองมาเหมือนกัน

เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก แต่มันก็กลับติดผนึกอยู่ตรงมุมใดมุมหนึ่งของสมอง

ข้าวพองลูบหน้าตัวเองแรงๆ บอกขอบใจเบซซี่อีกครั้งแล้วเดินกลับมาที่ห้องเรียน
เขียนชื่อเกียไว้ที่ปกสมุดเรียน
อย่างน้อยก็จะทำให้จำได้ว่า มีเรื่องต้องกลับไปคุยกับคนนี้
 
ปกติแล้วบิ๊กหว่องที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกันมานานจะนั่งหลังห้อง แต่บ่ายวันนี้บิ๊กหว่องขยับมานั่งทางขวามือแทนที่ป๋อม ส่วนไทนี่หว่องนั่งอยู่ทางซ้ายมือเหมือนเคย ขณะที่เก้าอี้ด้านหน้าที่เป็นของแป๋ม ยังมีดอกไม้กับน้ำตาเทียนเหลืออยู่
“คิดถึงเกียหรือ” บิ๊กหว่องถาม
“หือ อะไร” ข้าวพองหันมาถามเพื่อน ที่ชี้ไปที่ชื่อของเกียหน้าปกสมุดเรียน “อ๋อ เจอกันอยู่ทุกวัน จะคิดถึงทำไม”
“อ้าว ก็เห็นเขียนชื่อ”
“เขียนไว้กันลืมต่างหาก” ข้าวพองบอก
ไทนี่ที่นั่งอยู่อีกข้างถามบ้าง “ทำไมล่ะ ข้าวพองขี้ลืมหรือ”
2 หว่องชวนคุย ในสิ่งที่ข้าวพองเองก็กำลังกลุ้มใจอยู่
“พักนี้มันมึนๆ งงๆ เป็นบ้าบออะไรไม่รู้จนรำคาญตัวเอง”
ไทนี่หว่องพยักหน้าช้าๆ หยุดคำถามเมื่ออาจารย์เข้าห้องเรียน

เลิกเรียนเกียยืนรออยู่ตรงที่เดิม ยังไม่รู้ว่าเกียทำอย่างไร วันนี้ถึงได้ไม่เห็นไอรีน แต่ไว้ถามเรื่องนี้เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเขียนชื่อเกียไว้ที่ปกสมุดแล้ว
ตอนนี้อยากคุยกับป๋อมก่อน
วัดนั้นอยู่ใกล้บ้านของป๋อมแป๋ม 
บริเวณกลุ่มศาลาสวดอภิธรรมมีคนไม่มากนัก ส่วนศาลาที่สวดแบบจีนก็มีเอกลักษณ์พิเศษ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินหา เกียพาข้าวพองกับไทนี่ และเบซซี่ไปเคารพศพ แล้วบอกให้ข้าวพองไปคุยกับป๋อม โดยมีเบซซี่ตามไปด้วย แต่กลับเรียกไทนี่ให้อยู่คุยกัน
หนุ่มฮ่องกงกวาดตามองไปรอบๆ “ประเพณีจีนเขาไม่ได้จัดแบบนี้”
เกียพยักหน้า “เพราะนี่เป็นการจัดแบบไทย-จีนไง”
แต่ไทนี่หว่องยักไหล่ ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ที่จริงป๋อมก็ไม่ได้นั่งอยู่ห่างจากคนอื่นในศาลา เพียงแต่แยกออกมานั่งอยู่คนเดียว ส่วนข้าวพองกับเบซซี่ถึงจะตามมานั่งอยู่ข้างๆ ก็ไม่ได้ชวนคุย จนเพื่อนในห้องเรียนเดียวกันก็ทยอยมาถึง
ยังคงมีคำพูดแสดงความเสียใจ และเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่แป๋มทำ หรือไม่ทำ
แต่ป๋อมยังคงมองไปข้างหน้า ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กระทั่งพิธีในคืนแรกจบลง ป๋อมถึงได้หันมาหาเพื่อนตัวเล็ก
“แป๋มไม่อยู่แล้ว”
ข้าวพองส่ายหน้า “อยู่สิ แป๋มยังอยู่ในใจมึง เหมือนที่กูมีแม่กับพี่เพชรอยู่ในใจกู...ตลอดไป”

*-*จบตอนที่ 25*-*

มาอีกทีวัน อังคารนะครับ
.น้ำชา.


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 01-06-2014 10:02:59
ตอนนี้หดหู่แฮะ สงสารป๋อมกับข้าวพองจัง อยากให้จับคนทำได้เร็วๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 24 หน้า 20 (29พฤษภา57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 01-06-2014 10:23:46
เศร้ามากมาย สงสารป๋อม สงสารข้าวพอง
ต้องจัดการคนทำแป๋มให้ได้ เพื่อนทำกันแบบนี้ไม่น่าให้อภัย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-06-2014 11:33:25
สงสารเด็กๆ กำลังเจอเรื่องอะไรกันอยู่น๊า
สู้ๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-06-2014 12:36:14
บรรยากาศมันหดหู่ ดูเศร้าหมอง พาให้ร้องไห้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 01-06-2014 13:05:33
อ่านแล้วเศร้าน้ำตาซึม ...
ตอนที่ข้าวพองเห็นเพื่อนๆมองมาที่ตัวเองยืนอยู่
เห็นเขียนอย่างนี้หลายครั้งแล้วแต่ก็นึกไม่ออกว่า
มีความนัยว่าอย่างไร
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-06-2014 13:15:43
 :mew2:

เศร้า  หมองๆไปทั้งตอน  อาลัยรักแป๋มนะ  :กอด1:

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 01-06-2014 14:08:59
สงสัยจัง ทำไมข้าวพองยังมีอาการมึน งง สับสน
พ่อแม่แป๋มคงหัวใจสลายเนอะ ที่ลูกจากไปกระทันหันแบบนั้ัน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-06-2014 14:30:01
เศร้า...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 01-06-2014 14:30:43
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาร่วงทันที 
ทำไมเด็กดีๆ น่ารัก ๆ ต้องเจอ
กลับเรื่องแบบนี้....... :o12:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 01-06-2014 14:56:22
 :monkeysad: สงสารป๋อมจัง....

บรรยากาศซึมเศร้า.....แถมน้ำตายังซึมตาม ......
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 01-06-2014 16:06:33
โอ มันน่ากลัว เพราะมันทำกับเด็กนักเรียนในขณะที่อยู่ในโรงเรียน
แบบนี้ ครูต้องถูกสอบสวน โรงเรียนก็ต้องรับผิดชอบ
ไอ่คนทำก็เลวร้ายมาก
ข้าวพองยังถูกให้ยาอยู่หรือ ถึงยังมึนงง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-06-2014 17:21:10
คนรอบตัวข้าวพองน่ากลัวเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 01-06-2014 18:48:11
เบซซี่ก็ดูเป็นเด็กที่เข้าใจอะไรง่ายดีนะ  ไม่ง้องแง้งให้น่ารำคาญ
แต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้ใช่มะ   ฮาาาาาา
ไทนี่กับกลุ่มติดยานี่คือยังไง  พฤติกรรมชวนน่าสงสัยตลอด
แล้วอะไรที่ข้าวพองเหมือนจะนึกออก  แต่ก็ยังคงคิดไม่ออก เรื่องนี้ก็ยังเป็นปริศนาต่อไป
ตอนนี้บรรยากาศยังคงเศร้าจากการจากไปของแป๋ม  ซึ่งดูเหมือนข้าวพองจะช่วยปลอบป๋อมได้ไม่น้อย
ก็นะ  คนที่สูญเสียเหมือนกัน  ย่อมเข้าใจกันและกันได้ดี
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 01-06-2014 19:07:33
สงสารป๋อมอ่ะ   :mew6:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 01-06-2014 19:59:01
เศร้าแทนป๋ิมกับข้าวพอง น้องเบนซี่น่ารักน้าาาา
ไทนี่กะบิ๊กหว่องจริงฟอล้วเกี่ยวข้องกันไหมนะ ผู้ต้ิงสงสัยเยอะเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 01-06-2014 23:39:49
 :monkeysad: อ่านไปก็น้ำตาซึม สงสารป๋อม สงสารข้าวพอง อยากให้เจอคนร้ายเร็วๆ คนอะไรใจร้ายทำแป๋มได้ ฮืออออ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 02-06-2014 01:25:43
จะบอกว่าตอนนี้ พี่ร้องไห้นะ หดหู่ นึกภาพออกเลย รอวันอังคารนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 02-06-2014 01:42:16
คนดีอายุสั้น  สงสารแป๋ม  แต่ที่สงสารมากกว่าคือครอบครัวของแป๋ม   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 02-06-2014 08:04:14
สงสารป๋อมที่สุด
 :hao5:
บวกและเป็ดขอบคุณ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 02-06-2014 09:23:19
อ่านตอนนี้แล้ว เศร้าจัง น้ำตาไหล
ได้แต่หวังว่า เกียจะช่วยหาคนร้ายให้ได้

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 02-06-2014 11:33:38
สงสารป๋อม  มันเหมือนชีวิตหายไปครึ่งเลยใช่ไหมสำหรับป๋อม  เพราะแป๋มไม่ใช่แค่น้องสาว แต่เป็นฝาแฝดที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ในท้อง  ความผูกพันธ์ย่อมมากกว่าคนอื่นทั่วไป  น้ำตาซึมอีกรอบ   

ไทนี่กับพวกเด็กติดยาน่าสงสัยที่สุด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-06-2014 11:58:15
ชอบมาก!!!! คือไม่รู้เลย ว่าลงเรื่องใหม่ นี่อ่านจบภายในหนึ่งคืนนะขอบอก!!!
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 02-06-2014 13:11:36
หดหู่ เศร้า อึมครึมมาก
ผู้ต้องสงสัยฆ่าแป๋มมาเพียบ รวมมือกันรึป่าว?
ไม่รู้แล้ว ใครโผล่มาสงสัยหมดอ่ะ ตอนนี้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-06-2014 14:11:03
อยากให้จับคนร้ายได้เร็วๆจัง จะได้รู้ว่าใครมันใจร้าย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 03-06-2014 03:33:46
ป๋อมจะเป็นยังไงบ้างนะ ข้าวพองก็เหมือนกัน ต้องเศร้ากันไปอีกนานแน่ๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 03-06-2014 08:20:34
สงสารป๋อม ครึ่งหนึ่งของชีวิตหายไปเลย
พี่เกีย รีบสืบหาคนร้ายโดยด่วน งานนี้มันท่าจะซับซ้อนกว่าที่คิดไว้ล่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 25 หน้า 21 (1มิ.ย.57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 03-06-2014 09:44:50
คิดถึง 2 หนุ่มแล้ว มาหรือยังน้ออออออออ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 03-06-2014 10:02:17
ตอนที่ 26


เรียกว่าต้องรอจนกระทั่งเตรียมตัวเข้านอนตอนเกือบ 4 ทุ่ม เกียถึงจะยอมบอกว่า วันนี้มีความคืบหน้าอะไรบ้าง
“เกีย ไม่มีเงื่อนไข หรือต่อรองสักครั้งไม่ได้หรือไง”
“ไม่ได้ครับ” เกียพูดยิ้มๆ จนอีกฝ่ายไม่รู้เหมือนกันว่ามันแปลว่ายังต่อรองได้ หรือ แปลว่าไม่ควรต่อรองกันแน่
“วันนี้พอง ไม่พูด ไม่ทำอะไรที่ทำให้เกียงานงอกแล้วนะ เล่ามาสักทีเหอะว่าเมื่อเช้าไปโรงเรียนแล้วรู้อะไรบ้าง แล้วไปที่วัดวันนี้มีความคืบหน้าอะไร”

เกียยักไหล่ เดินตรงไปที่ห้องนอนของข้าวพอง
แต่ข้าวพองรู้ทันแล้วว่า เกียจะใช้แผนเดิม ก็คือเกียจะพูดไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็คือตื่นนอนขึ้นมากับคำถามว่า แล้วเราถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปแล้วหรือยัง
พอเข้ามาในห้องนอน ข้าวพองก็รีบไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเล็กหน้ากระจก
เกียยิ้มขำ เดินไปนั่งบนเตียงนอน
...นั่งเสียห่างเชียว...

“ไปโรงเรียนตอนไหน” เมื่อไม่ยอมเล่า เราก็ต้องเป็นคนถาม
“กลับมาบ้านกับธีระแล้วพี่ไปที่ สน. พอดีร้อยเวรเขาจะไปที่โรงเรียน ก็เลยตามเขาไปด้วย”
ข้าวพองทำหน้าตาไม่อยากเชื่อ “ตำรวจเขาก็ให้ตามไปด้วยเนี่ยนะ”
เกียยักคิ้ว “บังเอิญว่า พี่พอจะมีผลงานดั้งเดิมเป็นที่น่าเชื่อถือ แล้วพี่ก็ไม่ได้ไปแทรกแซงการทำงานของเขานี่”
ข้าวพองโบกมือ “แล้วได้อะไรบ้าง”
เกียพยักหน้าช้าๆ “ก็หลายเรื่องอยู่เหมือนกัน”
“เรื่องที่ 1”
เกียตะแคงใบหน้าด้านข้างเข้าหาคนถาม “ยังไงนะครับ”
“ก็ที่บอกว่าหลายเรื่องน่ะ บอกเรื่องแรกมาก่อน ..” หนุ่มตัวเล็กพูดต่อ “วิดีโอน่ะ”
“อาจารย์บรรณารักษ์ให้ตำรวจไปตั้งแต่วันแรกแล้วครับ”
“แล้วไง” ข้าวพองอยากรู้
“จากภาพ....เย็นวันนั้น มีนักเรียนที่เข้าไปในห้องสมุดก่อนและหลังแป๋มหลายคน”
เพียงแค่เกียเริ่มเข้าเรื่องที่อยากรู้ หัวใจของข้าวพองก็เต้นแรง
“มีคนที่รู้จักมั้ย”
เกียพยักหน้า แล้วลุกมาดึงมือข้าวพองให้เข้ามานั่งข้างๆ โอบไหล่บางไว้
“ฟังนะครับข้าวพอง จากภาพที่เรามี มันบอกได้แค่ว่าพวกเขาเพียงแค่เข้าไป แล้วออกมา ไม่มีใครเห็นว่า เกิดอะไรขึ้น
“พวก...เขา....”
ยิ่งเกียพยายามเกริ่นเรื่องทำความเข้าใจ ข้าวพองก็ยิ่งเครียดกว่าเดิม
“ข้าวพองครับ”
“เกีย พวกเขาเป็นใคร”

เกียขยับตัวหันมากอดข้าวพองไว้ เพราะข้าวพองไม่ได้แสดงอาการแบบนี้เป็นครั้งแรก แต่มันคือสัญญาณเตือน ว่าข้าวพองมีความเปราะบางที่ซ่อนอยู่มากกว่าที่คิด
หลายชั่วโมงที่ผ่านมา เจ้าตัวมีท่าทีกระตือรือร้นสนใจทุกเรื่องก็จริง
แต่ที่จริงในใจมีแต่คำถามที่ว่าใครฆ่าแป๋มอยู่ตลอดเวลา เป็นการแสดงออกที่เหมือนกับการใช้ท่าทีไม่สนใจใคร เพื่อบดบังคำถามเรื่องแม่กับเพชรแท้

“เลิกเรียน มีนักเรียน 2 คนเดินเข้าไปในห้องสมุด มีครูคนหนึ่งเข้าไป จากนั้นก็เป็นกลุ่มเด็กนักเรียนที่ติดยา ที่พี่เคยเจอที่บ้านเพื่อนของข้าวพองครั้งก่อน ต่อมาก็เป็นแป๋ม อีกประมาณ 2 นาทีถัดมาเป็นเบซซี่ ถัดมาแล้วก็เป็นไทนี่หว่อง.....”

ร่างกายผอมบางในอ้อมแขนเกร็งขึ้น แล้วเริ่มสั่นแรงขึ้นจนเกียต้องย้ำอีกครั้ง
“มันแปลว่าพวกเขาเข้าไปในห้องสมุดในเวลาเดียวกับที่แป๋มเข้าไป ความหมายของมันมีแค่นั้น เข้าใจมั้ยครับ”
“ทำไมมีเบซซี่” ข้าวพองพูดเหมือนละเมอ “ทั้งที่พองอยากให้เบซซี่ช่วยดูแลป๋อม”
“คนที่ทำร้ายแป๋มอาจไม่ใช่เบซซี่ เพราะเบซซี่เข้าไปครู่เดียวก็ออกมา อาจแค่เอาหนังสือไปคืนเท่านั้น”
ข้าวพองพยักหน้า “เบซซี่ไม่เห็นเล่าว่า ไปห้องสมุด”
“ไว้เราค่อยคุยกับเบซซี่ดีมั้ยครับ”
ข้าวพองกอดเอวหนาๆ ไว้ “ตำรวจจะสอบปากคำเบซซี่มั้ย”
คนตัวโตพยักหน้า “เห็นว่าติดต่อกับผู้ปกครองแล้วครับ”
“เกีย พอง...กลัว”

เกียลูบแผ่นหลังบางอย่างเข้าใจ

“ข้าวพองครับ นอกจากเบซซี่ มีไทนี่ เพื่อนของข้าวพองรู้จักแล้ว ยังมีคนที่อยู่ในนั้น ตั้งแต่ก่อนเลิกเรียนด้วยนะครับ”
หนุ่มตัวเล็กส่งเสียงอือ “อันนั้นก็คิดอยู่ แต่ไม่คิดว่า จะมีคนที่รู้จักอยู่ด้วย”
“อย่าเพิ่งรีบกล่าวหาเบซซี่สิครับ”
ข้าวพองได้แต่ส่ายหน้า จนเกียต้องพูดต่อ
“เบซซี่กับแป๋มเคยมีเรื่องขัดใจกันมั้ยครับ”

ข้าวพองคิดตาม คนที่น่าจะมีปัญหากันมากที่สุดคือกลุ่มที่ใช้ยาเสพติด

“ข้าวพองครับ พี่บอกในสิ่งที่ข้าวพองอยากรู้ไปแล้ว ข้าวพองก็ไม่ควรทำให้งานสืบเสียหาย เพราะเรายังมีอีกหลายคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ เราจะไม่กล่าวหาใครเพียงเพราะเขาอยู่ในห้องสมุดเวลาเดียวกับที่แป๋มอยู่ ตกลงมั้ยครับ”
“โอเค” ข้าวพองบอกแล้วนึกขึ้นได้ “วันนี้ตอนพักกลางวัน เบซซี่รอกินข้าวด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่าเพราะพองระแวงไปเองหรือเปล่า พองรู้สึกว่า กำลังถูกใครหลายคนมองอยู่” หนุ่มตัวเล็กพยายามอธิบาย “คือพองก็มองบวกไว้ก่อนนะ ว่าไมเคิล กับเพื่อนๆ หรือไอ้แมทธิวมันมองเพราะเห็นว่า พองสนิทกับแป๋ม แต่มันก็...ไม่รู้สิ มันยังไงไม่รู้...”

เกียใช้ 2 มือประคองใบหน้าข้าวพองให้เงยหน้าขึ้นมามอง
หลายชั่วโมงผ่านไป อาการต่างๆ จะจางลง แต่สิ่งยังอยู่ก็คือ ความกังวลและสับสน

“ข้าวพองเริ่มมึน งง ตั้งแต่พักกลางวันเป็นต้นไป หรือก่อนพักกลางวันครับ”
คิ้วคมขมวดคิด “หลังกินข้าวกลางวันมันจะแบบอะไรไม่รู้วุ่นวายอยู่ในหัว แต่พอเข้าเรียนไปสักวิชา ก็ไม่ค่อยเป็นไรแล้ว”
เกียยิ้มจางๆ “ข้าวพองครับ จะเป็นไรไหม ถ้ามื้อกลางวัน พี่จะเอาข้าวกล่องไปส่งที่โรงเรียน”
ข้าวพองยิ้มแปลกๆ “อะไรนะ”
“พักเที่ยง ห้ามกิน ห้ามดื่ม ตรงมาหาพี่ที่ลานจอดรถ กินข้าวเสร็จ ก็เข้าห้องเรียนเลย ทำอย่างนี้จนกว่าจะสอบเสร็จ”
“แล้ว....”
“บอกเขาว่า ข้าวพองถูกพี่คุมประพฤติอยู่ ออกมาคนเดียว ไม่ต้องพาใครมา ดูสิว่าพี่จะรักษาอาการแบบนี้ของข้าวพองได้ไหม”
ข้าวพองยกตัวขึ้นกอดคอ แนบแก้มต่อแก้ม
“ได้”

การที่อยู่ในอ้อมกอดแล้วฟังที่เกียบอกมันก็ง่าย แต่ข้าวพองยังไม่มีความมั่นใจเลยสักนิดว่าเมื่อพบกับเบซซี่อีกครั้ง จะสามารถแสดงออกว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลยได้หรือไม่
ยังมีไทนี่....

“วันนั้น แป๋มบอกว่าจะไปห้องสมุด เอาหนังสือไปคืน ส่วนไทนี่ ก็บอกว่าลืมของ.....” ข้าวพองลดตัวลงนั่งบนต้นขาของเกียอีกครั้ง ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโต “อันนี้พองบอกไปแล้วหรือยัง”
“บอกแล้ว แต่ถ้าจะบอกอีกก็จะดีมาก เพราะหลายๆ ครั้งเวลาตกใจเรามักจะลืมอะไรไป แล้วจะนึกออกเมื่อเวลาผ่านไป”
ข้าวพองสงสัย “มันเพราะยาเสพติดด้วยหรือเปล่า”
“ไม่หรอก มันคือปฏิกิริยาปกติ ทำให้ตำรวจต้องสอบปากคำซ้ำๆ แล้วในกรณีของข้าวพอง พี่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร” เกียไม่อยากขัดการรื้อฟื้นความทรงจำของข้าวพอง “ไทนี่หว่องมีอะไรผิดปกติครับ”
“หลายอย่าง” คนตัวเล็กพูดด้วยความมั่นใจมากกว่าเดิม “พองรู้สึกเหมือนเขากำลังตามเฝ้าพองอยู่ ตอนแรกก็คิดว่าเพราะเขาเป็นเด็กใหม่ คือเกียเข้าใจมั้ย ไทนี่มีอะไรหลายอย่างคล้ายพอง พองก็คิดว่า ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรแปลก แต่พอมาถึงวันที่ไม่มีป๋อมกับแป๋ม พองก็นึกถึงเรื่องที่เคยพูดกัน แล้วก็มองเห็นว่า ที่พองคิดมาตลอดน่ะมันไม่ใช่ เขาจะคุยกับพวกคนที่เล่นยา แล้วก็จะหันมามองพอง คือแบบคุยไปแล้วหันมามองแบบนั้นน่ะ”

เกียกลบเกลื่อนความกังวลในดวงตาของตัวเอง ด้วยการก้มลงหอมหน้าผากข้าวพอง “ใจเย็นครับ ค่อยๆ เล่า”

“ตอนพักกลางวัน พวกเขาจะมองพองตลอดเวลา แล้วเลิกเรียนวันนั้นก็เจออีก มีเบซซี่กับเพื่อนๆ ด้วย พองอยากบอก อยากเล่าก่อนที่จะลืมไปอีก”
“ข้าวพองจะไม่ลืม ถ้าทำตามที่พี่บอก”
ข้าวพองพยักหน้า “คือพอกลับมาทบทวนแล้วมันจะชัดเจนเลยเลยว่า ทำไมแป๋มถึงไม่เคยชอบไทนี่”
“ไทนี่ไม่เหมือนข้าวพอง”
คนที่อยู่ในอ้อมกอดยอมรับ “พองมักจะคอยหาข้อแก้ตัวให้ไทนี่อยู่ตลอด แต่.....” แนบหน้าผากลงกับไหล่กว้าง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
“เอาแบบอาชญวิทยา หรือ จิตวิทยาดี”
“ไม่เอาวิชาการ เพราะเพื่อนคนหนึ่งของพองไม่อยู่แล้ว และพองก็กำลังคิดว่า พองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาไม่อยู่”
“เพิ่งคิดหรือคิดนานแล้ว” ทั้งที่พยายามผ่อนคลายความกังวลในใจของข้าวพอง แต่เกียก็ต้องกลับมาจริงจังเหมือนเดิม
“เพิ่งคิด เมื่อวินาทีที่ผ่านมานี่เอง”
“แสดงว่ากำลังเริ่มคิดไปเอง”
“เกีย” ข้าวพองขยับตัวมองหน้า “คำนี้ทำให้พองโกรธนะ”
“อ้าวก็จริงๆ นี่ คุยกันอยู่ตั้งนาน ว่าเราต้องมีเหตุผล มีพยานหลักฐานรองรับในการกล่าวหาใครสักคน แล้วทำไมกลับมาโทษตัวเอง”
ข้าวพองนิ่งเงียบ
เกียยิ้มอ่อน "โกรธแล้วมาทำเป็นเงียบไม่ตอบคำถามไม่ได้นะ”
อยากบอกว่า วินาทีนี้กำลังเซ็งจัดที่เกียรู้ทันตลอดเวลา
“เกีย เวลาที่รู้ทัน ก็ทำเป็นไม่รู้บ้างไม่ได้หรือไง พองเบื่อที่จะตอบคำถามเกียแล้วนะ”

...ทั้งที่คำถามแรกยังไม่เคลียร์ แต่ก็รู้แล้วว่า เกียขยักเรื่องราวบางส่วนไว้ไม่ยอมบอกทั้งหมดเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา...

“ข้าวพองไม่ได้ตอบคำถามพี่ แต่กำลังพูดในสิ่งที่รู้อยู่แล้วต่างหาก”
“ถ้าสิ่งที่อยู่ในใจนะ พองรู้มาตลอดว่าไทนี่น่ะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แล้วถ้าเขาไปที่ห้องสมุดด้วยเหมือนกัน กลับไม่แปลกใจเท่ากับมีเบซซี่”
เมื่อพูดถึงเบซซี่คราวนี้ ข้าวพองถอนหายใจแรง
“พรุ่งนี้เราคงรู้ว่า แต่ละคนเข้าไปที่ห้องสมุดทำไม”
“เขาจะสอบปากคำพรุ่งนี้หรือ ทำไมวันนี้ ไม่เห็นใครพูดอะไรเลย”
“ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะต้องโดนสอบปากคำ เพราะอยู่ในห้องสมุดวันนั้น.....” เกียหยุดคิดแล้วจ้องตาข้าวพอง “เบซซี่น่าจะรู้อยู่ว่ามีกล้องวงจรปิดที่หน้าห้องสมุด แล้วไทนี่ล่ะ”
แววตากลมๆ มองเห็นความหวัง “เบซซี่รู้อยู่แล้วเพราะเรียนที่นี่มาตลอด แต่ไม่คิดว่าไทนี่จะรู้”
เกียแตะแก้มใส “พอลดความสงสัยแฟนได้ ก็ยิ้มออก”
“ไม่ใช่ซะหน่อย” เป็นอีกครั้งที่ข้าวพองตอบอย่างมั่นใจ “ในบรรดาทุกคนที่อยู่ในห้องสมุดเย็นวันนั้น เบซซี่คือคนที่พองไม่อยากให้เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ที่สุดก็จริง แต่ไม่ใช่เพราะรักแบบแฟนแน่นอน วันนี้เราคุยกันเรื่องนี้ด้วย”
“คุยว่าอะไรครับ”
ข้าวพองแกล้งถอนหายใจแรง “คำถามสุดท้ายนะ”
“ครับ คำถามสุดท้าย”
“เบซซี่บอกว่า ถ้าพองชอบเขา พองจะไม่ควงกับไอรีนต่อหน้าเขาแบบนั้น” ของพองยิ้มขื่นๆ “พองไม่ได้เจ้าชู้ แค่ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไง”
เกียพยักหน้า “แล้ว....”
“หมดคำถามแล้วไง”
ข้าวพองบอกแล้วขยับลุกขึ้น เดินไปเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวแล้วกลับออกมาใน 1 นาที แต่ยังเห็นเกียยืนอยู่
“ไม่ตอบคำถาม ไม่ถามคำถามด้วย”
“ครับ”

เกียบอกขณะที่ก้าวเข้ามาหา ใช้ข้อนิ้วชี้ดันคางสวยให้งยหน้าขึ้นมาหา แล้วก้มลงจูบปาก แต่พอข้าวพองเปิดริมฝีปากรับ เกียก็ผละออกทันที
หนุ่มตัวเล็กได้แต่มองตามด้วยความไม่เข้าใจ

“ดึกแล้ว นอนนะครับ”
“เกีย ทำไม”
“ไม่มีคำถาม ไม่มีคำตอบสำหรับคืนนี้แล้วไงครับ”
“แต่เกียต้องตอบ ว่าทำไม”
เกียเพียงแค่ยิ้มที่มุมปากแล้วเดินออกไปจากห้องนอน
แต่มันกลับทำให้ความพยายามที่จะเป็นเด็กน้อย แสนดี และอ่อนหวานของข้าวพองพังทลายลง!


*-*จบตอนที่ 26*-*

ตอนต่อไปมาวันพฤหัสบดีนะครับ
น้ำชา

จำเป็นต้องแบ่งตอนด้วยเหตุผลที่ไม่อยากบอก 55)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 03-06-2014 11:02:05
อยากบอกว่าเข้าใจความรู้สึกพองเลย เกียนี่ชอบพูดอะไรค้าง ๆ คา ๆ
อ่านไปนี่ลุ้นทุกบรรทัด กลัวจะหมดตอน ลุ้นว่าบรรทัดต่อไปจะรู้อะไรมากขึ้นไหม :katai1: (บ้าแล้วเรา)
สุดท้ายเกียชอบทำให้อยากแล้วจากไปตลอดๆๆๆๆ :katai1:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-06-2014 11:11:20
ลุ้นมากก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 03-06-2014 11:49:43
 :hao7: ขอมโนต่อจากฉากสุดท้ายก่อน (เด็กน้อยแสนดี กลายร่างเป็นไอ้ดื้อ ตามไปที่ห้องเกียทันที แต่ ไอ้ดื้อ กะ ไอ้เงียบ จะให้ใครชนะดีน๊อ )

ส่วนคดี .... ไอ้ที่ลุ้น น่าจะเป็นแก๊งยาเสพติด เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ของ JiveTea ไม่ร้ายขนาดนั้น แค่หน้ามึนไปนิด อิอิ

....แต่ๆๆๆ มันตัดแบบขาดตอนได้ใจเลยอ๊า แบบนี้..... :hao5:

 :กอด1:  และ  :pig4: JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-06-2014 12:00:19
ข้าวพองเสพติดจูบเกียแล้วสิ...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Aommie ที่ 03-06-2014 12:27:24
บาลี กับ เกีย นี่เหมือนกันเลยเนอะ
ชอบ.... กินหญ้าอ่อน
และ.... Control freak  ทั้งคู่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 03-06-2014 12:38:56
ข้าวพองน่ารักขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 03-06-2014 12:42:56
ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 03-06-2014 12:44:14
ตามครับข้าวพอง
ต้องตามเข้าไปตีหมาป่าให้ห้อง (ของหมาป่า) เองครับอย่าช้า
บวกและเป็ดขอบคุณ
แต่เค้ายังใจดีกะไทนี่เค้าอยู่นะ
 :mew6:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 03-06-2014 12:55:46
วุ้ย ขัดใจเกียแทนข้าวพอง เล่นตัวเกิ้น!!  :hao7:

ตกลงใจเป็นฆาตก่ะเนี่ย

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 03-06-2014 14:25:51
  :เฮ้อ: เหมือนมีข้อมูลเพิ่ม แต่ก้อมึนงงเหมือนเดิม
  รอตอนต่อไป  ขอบคุณคับ น้องน้ำชา
 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 03-06-2014 16:01:23
เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

แต่คนที่วางยาข้าวพองนี่โหดร้ายมากเลย
ต้องโดนจัดการ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 03-06-2014 17:03:41
เกียมันหมาป่าเจ้าเล่ห์ ชอบหยอด ชอบยั่ว....ปั่นหัวเด็กน้อยให้คิดถึงแต่เจ้าตัวคนเกียว....ร้ายยยยยย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 03-06-2014 18:06:42
เกียขี้แกล้ง ใกล้จะรู้แล้วว่าใครเป็นคนลงมือฆ่าแป๋ม ตัดฉับเลย 555 ลุ้นๆๆตั้งวันพฤหัสแหน่ะ รอนะจ๊ะ. หวังว่าคงไม่ใช่เบชซี่เน้อ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 03-06-2014 19:26:04
เกี๊ยยยยยยยยยยยย แกล้งน้องหยั่งงี้ได้ไง นิสัยไม่ดีๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 03-06-2014 19:26:32
อ่านแล้วลุ้นมากกก  ยิ่งกว่าดูซีรีย์ฝรั่งอีกค่ะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 03-06-2014 20:14:47
ชิวิตข้าวพองนี้น่าสงสาร ต้องทำตัวไม่คิดอะไรมาก
แต่จริงๆคิดมาก และมีคนปองร้ายตลอดเวลา :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 03-06-2014 21:14:52
เกียช่างร้ายกาจ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-06-2014 21:21:55
ระบบความคิดตอนนี้รวนแล้ว ต้องมานั่งอ่านแล้วคิดตามอีกที
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-06-2014 22:58:58
อย่างน้อยก็ไม่ได้ถูกวางยาที่บ้าน ค่อยยังชั่ว ไม่งั้นโลกนี้ก็คงไว้ใจใครไม่ได้อีกแล้ว
ถ้าแป๋มไม่ตายเพราะเรื่องของข้าวพองจะมีเหตุอื่นใดอีก
ทั้งสาเหตุทั้งผู้ร้ายไม่กระจ่างเอาเสียเลย
เกียปั่นหัวข้าวพองเหรอ คราวหน้าสงสัยโดนรุกคืน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-06-2014 09:31:09
เกียแกล้งข้าวพองสิอย่างนี้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 04-06-2014 15:32:58
แสดงว่า ตลอดมาที่ข้าวพองคิดฟุ้งซ่านโน่นนี่นั่น เพราะถูกใครบางคนวางยาเหรอ ใจร้ายจริงๆ แล้วก็ต้องเกี่ยวพันกับคนที่ทำแป๋มด้วย ทุกคนดูน่าสงสัยไปหมด
แต่ไอ้ที่ทิ้งท้ายเรื่องตัดตอนเนี่ย มันทำให้คิดว่าตอนต่อไปมันจะมีอะไร??
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 26 หน้า 22(3มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 04-06-2014 22:02:11
เป็นอีกครั้งที่ต้องเมนท์ว่า "Someday we'll know!"   :ling2:
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 05-06-2014 09:01:33
ตอนที่ 27

ทันทีที่เกียปิดประตูห้องนอน ข้าวพองก็คิดออก!
ตลอดการพูดคุยกันในวันนี้ เรารู้อะไรมากกว่าเมื่อเช้า
ให้ตายเถอะ! ในโลกนี้ยังมีใครที่มีความสามารถในการเลี่ยงที่จะตอบคำถามได้เท่าไอ้ตำรวจพิการ พูดน้อย หน้ามึนคนนี้อีกมั้ยวะเนี่ย!
รู้ทั้งรู้ว่า เรามีคำถามมากมาย ทั้งมีทุกข์ที่เสียเพื่อนไป ทั้งโกรธคนที่มันทำร้ายเพื่อน แต่ไอ้บ้านี่ก็เลี่ยงไปอีกคนได้!
จะต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานขนาดไหนกัน! จนกว่าเราจะไม่เหลือใครเลยหรือไง!


ข้าวพองกระชากประตูห้องนอนตัวเองออก เดินกระแทกส้นเท้าไปที่ห้องนอนของเกีย ทุบประตูเสียงดังลั่นบ้าน

แต่สีหน้าของเกียตอนที่เปิดประตูไม่ได้ดูเงียบเฉย หรือไม่พอใจที่ข้าวพองเริ่มอาละวาด
ตรงข้ามมันกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มขำ เหมือนรู้อยู่แล้วว่าอีกคนจะต้องโกรธ
เหมือนความโกรธนี้เป็นเรื่องตลก

นั่นเพราะเกียรู้ และรอคอยมาตลอด ว่าข้าวพองตัวจริงที่เจ้าอารมณ์ ปากจัดและโมโหร้ายคนนี้จะต้องกลับมาในวันที่ความอดทนมาถึงขีดสุด
ที่ไม่ได้บอกทุกอย่างที่รู้ ไม่ใช่ความคิดท้าทายให้ข้าวพองคนโมโหร้ายกลับมา
แต่คิดว่า ต้องเตรียมพร้อมให้ดี เพราะสิ่งที่ไม่ควรให้รู้ ก็คือต้องไม่ให้รู้ ต้องไม่ใจอ่อน ไม่ตกหลุมพรางคำพูดของข้าวพองอย่างเด็ดขาด

แต่ยิ่งเกียมีท่าทีไม่เดือดร้อนที่ข้าวพองโกรธ
ข้าวพองก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า

“ใครทำแป๋ม! เบซซี่ ไทนี่ หรือไอ้เด็กติดยาคนไหน! ใครฆ่าแม่กับพี่เพชร! จะเป็นใคร ใหญ่มาจากไหนก็พูดออกมา อย่างมากก็ปืนคนละกระบอก! แต่ละคนมี 1 ชีวิตเท่ากัน! ใครวางยาพอง! บอกมาเดี๋ยวนี้! ทำไมวันนี้ไอรีนไม่มา พูดอะไรกับเขา! หลายวันมานี้ทำอะไร บอกมาให้หมดเดี๋ยวนี้นะ!”
ข้าวพองตะโกนใส่หน้าคนที่ก้าวเท้าถอยเข้าไปยืนกลางห้องแล้วหยุดนิ่ง
“ไม่ได้ถามว่าอะไรคือความลับ เพราะพองอยากรู้ทั้งหมดที่เกียรู้” มือผอมๆ ผลักอกหนา  “บอกมา เดี๋ยวนี้!”

เกียเริ่มต้นด้วยการยืดตัว หลังตรง แล้วพูดช้าๆ “พี่บอกในสิ่งที่ข้าวพองควรรู้ไปหมดแล้ว”
ข้าวพองกระชากคอเสื้อ เงื้อหมัด “ไอ้บ้านี่! คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้ มาตัดสินว่าเราควรรู้อะไร! ในเมื่อเราทำทุกอย่างที่อยากให้ทำ จนเพื่อนตายไปอีกคน ยังไม่ทำอะไรสักอย่าง!”

“อ้อ.....” เกียลากเสียง “นั่นรวมถึง การออดอ้อนพี่ ทำให้พี่หลงข้าวพอง ยอมทำทุกอย่างเพื่อข้าวพองด้วยหรือเปล่า”
ข้าวพองหยุดชะงัก 2 เท้าตรึงอยู่กับที่ พอโมโหมากๆ แล้วโดนเบรกด้วยคำพูดรู้ทัน มันทำให้คิดอะไรไม่ออก
“พี่โดนข้าวพองหลอกใช้อยู่หรือเปล่า”

ข้าวพองได้แต่มองคนที่พูดทั้งที่กำลังยิ้ม
...ไม่ได้หลอกนะ แต่ที่พูดแบบนั้น กอดแบบนั้น คลอเคลียแบบนั้น ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำแบบนั้น เพราะรู้ว่าเกียชอบเรา และชอบเวลาที่เราทำแบบนั้น
เริ่มต้นเกียอาจไม่อยากตามใจ แต่ทุกครั้งที่ทำแบบนั้น เกียจะยอมตามใจเสมอ
...ไม่ได้หลอกเลยสักนิด
มันก็แค่...ถ้าทำแบบนั้นแล้วได้ผล เว้นแต่การถามเรื่องคดีที่ไม่ว่าอย่างไรเกียก็ไม่ยอมบอก

“ข้าวพองคนขี้อ้อนคือตัวปลอม คนที่กำลังตะโกนเมื่อพี่ขัดใจนี่ต่างหากคือตัวจริง”
“มันก็ตัวจริงทั้งนั้นแหละ! พองทำในสิ่งที่พองอยากทำ ไม่สวมหน้ากาก ไม่โกหกเป็นไฟ ไม่เล่นละครตบตาว่าเป็นคนดีต่อหน้าคนอื่น” เมื่อเริ่มพูด ข้าวพองก็หยุดปากตัวเองไม่ได้ “ไอ้ลูกฝรั่ง! คิดว่าตัวเองเก่งใช่ไหม สำคัญนักหรือไง ทำเป็นสงสัยคนนั้น ปกป้องคนนี้ แล้วไง แกทำอะไรได้ แกมันก็ไอ้เกย์ลามก!”
ทั้งที่เตรียมพร้อมมาแล้ว แต่เกียก็ยังโกรธ ก่อนที่ข้าวพองจะส่งเสียงด่าต่อไป เกียก็คว้าข้อมือจับบิดไพล่หลัง ข้าวพองหมุนตัวตามแรง หันหลังให้เกีย แขนใหญ่รัดอยู่ที่ต้นคอ
ถ้าเป็นสถานการณ์อื่น ข้าวพองคงโดนหักคอไปแล้ว

ความตกใจทำให้น้ำตาไหลซึมจากหางตา แล้วกลายเป็นสะอื้นเบาๆ  “ไอ้ฝรั่งบ้า ไอ้บ้า ชอบใช้กำลัง”
“แล้วใครพูดไม่ดีก่อน”
“แล้วใครชอบทำให้มันเป็นความลับ” ข้าวพองเถียงทั้งที่ยังสะอื้น ไอ้หนุ่มโมโหร้าย ตะโกนด่าคนอื่นปาวๆ เมื่อนาทีที่แล้วหายไปไหนไม่รู้
“อย่าพูดกับพี่อย่างนี้อีก เพราะพี่ไม่สามารถหยุดตัวเองได้ทุกครั้ง”
“ก็โมโหนี่หว่า นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ เกียโกรธไม่เป็นหรือไง”
“เป็น”

ทุกคำที่พูดมาก่อนหน้านี้ คือทุกคำที่ทำให้โกรธทั้งสิ้น
ถ้าไม่ใช่เพราะรัก...คงได้หักคอเรียวเล็กนั่นไปแล้ว
และเพราะว่ารักถึงได้เข้าใจ
และเพราะว่ารักถึงได้ไม่สามารถบอกทุกสิ่งทุกอย่างให้รู้
และรู้ว่าข้าวพองต้องการความรัก เป็นความต้องการที่ไอรีนรู้ดีและใช้มันให้เป็นประโยชน์

เกียปล่อยข้อมือ ข้าวพองก็นวดไหล่ตัวเอง แล้วชูข้อมือที่มันแดงเป็นรอยนิ้วให้ดู
“คนชอบใช้กำลัง”
คนตัวโตรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงแอนดรูว์ กับแมรี่ที่เตือนว่าใช้กำลังกับหนุ่มน้อยคนนี้ขึ้นมาทันที ต้องจับมือให้ไปนั่งบนเตียง แล้วช่วยนวดให้
แต่ข้าวพองกลับโผเข้ากอดคอไว้แน่น

...อ้อมกอดแบบนี้ของข้าวพอง บางครั้งมันคือการออดอ้อนเพื่อให้พี่ตามใจ
แบบที่เกียรู้ และไม่ชอบ แต่ก็ไม่อยากขัดใจ
แต่หลายๆ ครั้งที่เกียรับรู้ได้เองว่าข้าวพองต้องการความอบอุ่น และขอความมั่นใจ

“เกีย” ข้าวพองเรียกชื่อแล้วสะอื้นอยู่ข้างหู “พองทั้งกลัว ทั้งโมโห ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง พองใกล้จะเป็นบ้าแล้ว”
เกียพลิกหน้าจูบที่ข้างหู “ไม่หรอกครับ อีกแค่ไม่กี่วัน รับรองว่าก่อนที่จะถึงวันสอบไล่ ทุกอย่างจะคลี่คลาย”
“เกียไม่เข้าใจ” หนุ่มตัวเล็กกอดคอไว้แน่นขึ้น “ไม่มีใครเข้าใจ”
“พี่ไม่เข้าใจ แต่พี่จะไม่ปล่อยข้าวพองให้อยู่คนเดียว”
“แล้วเมื่อกี้ใครทิ้งพองไว้แบบนั้น ใครพูดนั่นพูดนี่ หลอกล่อด้วยคำถาม ด้วยเรื่องเล่า แล้วสุดท้ายก็ไม่ยอมบอกอะไรสักอย่าง”
“พี่ขอโทษที่หันหลังออกมาแบบนั้น”

….ขอโทษที่ลืมไปว่า ข้าวพองเป็นเพียงวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่ต้องการความรักความเอาใจใส่จากคนใกล้ชิดในระดับมากเป็นพิเศษ...

“เรื่องที่ว่าพี่ไม่บอกเรื่องคดี ก็เพราะคนที่ทำร้ายแป๋ม ทำร้ายข้าวพองอยู่ใกล้ตัว ถ้าพี่บอกไปแล้วคนนั้นไหวตัว รู้ว่าข้าวพองรู้ เขาอาจทำร้ายข้าวพองได้”
“เกีย”
“ครับ”
“ที่พูดเมื่อกี้น่ะ ขอโทษนะ”
“ครับ”
“โกรธใช่มั้ย”
“โกรธมากครับ”
“พองก็โกรธมาก ไม่ชอบเลยเวลาที่ทำอะไรไม่ได้แบบนี้” พองพูดย้ำอีกครั้ง ทั้งยังไม่ยอมคลายแขนออก
“ครับ  และพี่ก็จำได้ว่านอกจากจะปากร้ายแล้ว ข้าวพองยังเป็นคนโมโหร้าย ถ้าข้าวพองรู้ว่าใครทำ ข้าวพองจะต้องตรงเข้าไปจัดการเขาแน่ๆ พี่ไม่เสี่ยงให้ข้าวพองเป็นอันตรายไปมากกว่านี้”
ข้าวพองคลายแขนออก “แล้วการที่ปล่อยให้พองไปโรงเรียน ไม่เรียกว่าเสี่ยงหรือไง”
“เสี่ยงครับ แต่ก็ยังปลอดภัยกว่าให้ข้าวพองอยู่ข้างนอก”
ดวงตากลมโต ยังเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
“คนนั้นอยู่ในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียน”
เกียยิ้มแล้วก้มลงจูบหน้าผาก แต่ข้าวพองเบี่ยงหลบ “เกีย ตอบมาก่อน อย่ามาฟอร์มที่ทำให้โมโห”

คนตัวโตยังคงยิ้มเฉย พาลให้คนอารมณ์เย็นลงแล้ว กลับมาโมโหได้ใหม่อีกรอบ หมัดเล็กๆ ทุบลงที่ไหล่หนา

“ไอ้บ้า ไอ้บ้า ตกลงรู้หรือไม่รู้อะไรกันเนี่ย พองโง่นักหรือไง”
หลายหมัดที่ทุบลงไปไม่ได้ทำให้เกียสะเทือนเลยสักนิด
“เกีย...ใจร้ายมากไปแล้ว”
ทั้งที่โกรธมาก แต่น้ำตาก็ไหลพราก
“รู้ทุกอย่าง ทำไมไม่บอก”

เกียเช็ดน้ำตาให้
.....ข้าวพองรู้ เหลือแค่เชื่อในสิ่งที่เห็น และได้ยินเท่านั้น....
แต่ต้องการคำยืนยันจากคนๆ นี้ แล้วพอไม่ได้รับคำยืนยันก็ยิ่งวุ่นวายใจ

“หลับนะครับคนดี”
เกียพลิกตัวให้ข้าวพองนอนหนุนอก ลูบแผ่นหลังแล้วกอดไว้
“หลับนะครับ พี่อยู่กับข้าวพองเสมอ หลับนะครับ”
น่าแปลกที่ในใจร้อนเหมือนมีไฟกองใหญ่ ความโกรธยังอยู่ คำถามก็ยังไม่หายไป แต่เปลือกตากลับหนักอึ้งแล้วหลับไปทั้งน้ำตา
และตื่นมาพร้อมกับคำถามว่า เกียสืบคดีไปถึงไหนแล้ว
ในโลกนี้ยังมีใครน่าโมโหเท่ากับไอ้ยักษ์บ้านี่อีกไหมนะ!

วันนี้ เกียไปโรงเรียนเพื่อค้นหาหนังสือที่แป๋มเอามาคืนหลังเลิกเรียน สอบถามเกี่ยวกับคนที่อยู่ในห้องสมุดเย็นวันนั้นอีกครั้ง แล้วกลับออกไปที่สถานีตำรวจเพื่อคุยกับตำรวจร้อยเวร  ขออนุญาตดูภาพจากกล้องวงจรปิด โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนของครอบครัวผู้เสียชีวิต
ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ คือร้อยตำรวจตรีมานพ หรือผู้หมวดมานพ พบเกียตั้งแต่วันแรกที่พบศพของแป๋ม และรู้ประวัติคร่าวๆ ตามที่แนะนำ ส่วนเกียก็ไม่ได้มีท่าทีจะต้องการแทรกแซงหรือตัดสินการทำงาน มีแต่ถามเรื่องทั่วไป ทำให้เจ้าของคดีวางใจพอที่จะบอกผลการพิสูจน์ศพให้ฟัง ทั้งให้ดูกระเป๋าเรียนที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน
เสร็จจากเรื่องที่สถานีตำรวจ เกียไปหาป๋อมที่บ้านคุยเรื่องหนังสือที่แป๋มอ่าน และท่าทีของแป๋มกับคนอื่นในห้องเรียน
แม้ป๋อมจะเป็นเด็กเรียน ที่มีท่าทีไม่สนใจใคร คล้ายกันกับข้าวพอง แต่กลับไม่มีอะไรที่ผ่านสายตาของป๋อม เพียงแต่ไม่ได้พูดออกมา ตรงข้ามกับแป๋มที่มักจะคิดออกมาเป็นคำพูด

“เย็นวันก่อนเรียนพิเศษเสร็จแล้ว แป๋มก็อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง แล้วก็เข้าเน็ตอ่านข่าว ตอนกลางดึกป๋อมลุกมาฉี่ ได้ยินเสียงเขาพูดโทรศัพท์กับใครไม่รู้” ป๋อมบอกพลางส่งโทรศัพท์ของแป๋มให้เกีย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์ “ป๋อมยังไม่ได้ลบประวัติ ครูดูก็ได้”
เกียเปิดดูคร่าวๆ แล้วดึงข้อมูลทั้งหมดใส่อุปกรณ์บันทึกที่เตรียมมา ถามเรื่องใครบางคนจากภาพกล้องวงจรปิดที่อาจารย์บรรณารักษ์ไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่ป๋อมยังไม่เคยเห็นภาพนั้น
“วันนี้ที่ตำรวจเรียกไป ไม่เห็นเขาให้ป๋อมดูภาพอะไรนี่ครับ มีแต่ถามเรื่องยาเสพติดในโรงเรียน”
ก่อนที่จะออกมารับข้าวพองที่โรงเรียน เกียบอกให้ป๋อมเพิ่มความระมัดระวัง
“เขาทำร้ายแป๋ม เพราะสิ่งที่แป๋มรู้หรือครับ”
“ใช่” เกียยอมรับ
“ยาเสพติดใช่มั้ยครับ”
“ใช่” เกียยอมรับอีกครั้ง
ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องปิดบังป๋อมในฐานะที่ตกอยู่ในความเสี่ยงไม่ต่างจากแป๋ม
“ครู รู้แล้วใช่มั้ยครับ”
เกียพยักหน้า “ครูรู้ว่า ป๋อมเพิ่งเสียน้องสาวไป แต่ก็อยากให้ป๋อมเข้มแข็ง ตั้งใจเรียน สอบแพทย์ให้ได้อย่างที่ป๋อมและแป๋มตั้งใจไว้ อย่าให้แป๋มที่อยู่บนสวรรค์ผิดหวังในตัวพี่ชาย อย่าตัดสินใจทำอะไรโดยลำพัง” คนตัวโตจ้องมองอีกฝ่ายอย่างจริงจัง “อีกเรื่องที่อยากขอร้อง ก็คืออย่าคิดโทษข้าวพอง”
ป๋อมยิ้มขื่น “ป๋อมจะโทษมันได้ยังไง เพราะมันเองไม่เคยรู้ตัวเลยสักนิดว่ารอบตัวมันมีแต่งูพิษ” หนุ่มนักเรียนถามต่อ “เราไม่ต้องเฝ้าระวังข้าวพองแล้วหรือ”
“ต้องทำต่อไปสิ แต่ที่ผ่านมาเพราะว่าเรามัวแต่เฝ้าระวังให้ข้าวพอง แต่นั่นกลายเป็นช่องว่างให้แป๋มถูกทำร้ายในโรงเรียน”
คนตัวโตได้แต่ส่ายหน้า ทำให้ป๋อมยิ้มจาง “ครูก็อารมณ์เสียเป็นเหมือนกัน”
คราวนี้เกียหัวเราะในลำคอ
“ครูครับ ผมเสียน้องสาวไปแล้ว ไม่อยากเสียใครไปอีก”
เกียพยักหน้า “พรุ่งนี้ หลังจากที่ตำรวจสอบปากคำแล้ว เขาอาจมีการเคลื่อนไหว”
“ผมอยากถามมัน ว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ อยากทำกับมันเหมือนที่มันทำกับแป๋ม”
“เรื่องแรกทำได้ แต่เรื่องที่ 2 ไม่ควรทำเพราะจะทำให้ป๋อมต้องเข้าคุก อย่าลืมสิ ป๋อมยังมีความฝันของ 2 พี่น้องที่ต้องทำให้สำเร็จ”

*-*จบตอนที่ 27*-*

คุณครับ คุณๆๆๆๆๆ คิดกันไปถึงไหนกันครับว่าทิศทางของตอนนี้มันจะเป็นอะไร ที่ต้องแบ่งแบบนี้เพื่อจะเฉลยเรื่องที่เกียขอให้ป๋อมช่วยดูแลข้าวพองตรงท่อนท้ายนี่ต่างหาก

คิดอะไรกันเหรอ... :z2:



ข้าวพองน่ะเหวี่ยงอยู่แล้ว แต่เกียไม่ใช่พระเอกตบจูบนะครับ
คือผู้ชายกับผู้ชายเนี่ยโกรธกันจะชกกันนะครับ ต่อให้เป็นพี่เต้ยน้องเต้ย เวลาเธอโกรธซะมี เธอก็ชกซะมีหน้าแหกเหมือนกัน
คือผมก็เขวนะ หลังจากที่ลงตอนแรกๆไปแล้วเงียบกริ๊บ ขอให้พี่ไจฟ์ช่วยเติมซีนแบบเฉียดๆ หน่อยเถอะ เขาก็แก้ไขให้ แต่พอมาอ่านทั้งหมดแล้วมันไม่ใช่
มันกลายเป็นการบังคับให้คุณอ่าน สุดท้ายก็บอกเขาว่า กลับมาเป็นแบบบเดิมเหอะ
มันใช่กว่าน่ะ
เพราะแรกมาเกียก็จับล็อคแบบนี้แหละ เวลาโดนข้าวพองด่า ตอนนี้มันก็ต้องเป็นเหมือนเดิม
ประการต่อมา ฉากนั้นไม่มีอยู่แล้ว เพราะข้าวพองยังไม่ 18 ต่อให้ 18 แล้วอย่างในตอนพิเศษก็ไม่มีเหมือนกัน
โอ้แม่เจ้า..แล้วมันจะไปหวานกันตอนไหน
อันนี้คนโพสต์ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะ "เขายังเขียนไม่จบ" ดังนั้น เราจงช่วยกันอธิษฐาน  :call:
คนโพสต์ลุ้นขึ้นหน้าใหม่ พอๆกับลุ้นให้เขาส่งเรื่องกลับมาสักย่อหน้าหนึ่งก็ยังดี  :m15:

ตอนต่อไปมาวันอาทิตย์นะครับ
.น้ำชา. 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 05-06-2014 10:34:50
ได้ระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว ข้าวพองคงสบายใจขึ้น แต่ด่าเกียซะแรงเลย แต่ก็นะ ด่าได้สมกับเป็นข้าวพองแหละ

ส่วนเรื่องคดี ไม่กล้าเดา กลัวหน้าแตก ไว้รอเฉลยเลยดีกว่า

ปล. รอฉากนั้นอยู่นะคะ อยากอ่านอ่า นิดๆพอกระชุ่มกระชวยก็ได้ เอาเป็นตอนพิเศษแบบข้าวพองอายุ 20 แล้วก็ได้ นะคะๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 05-06-2014 10:50:15
ป๋อมพูดเหมือนรู้ทุกอย่าง แต่ไม่เคยแสดงตัวว่ารู้ และรอบๆตัวป๋อมกับข้าวพองมีแต่คนอันตราย น่าเป็นห่วงจริงๆ

พี่เกียเนี่ยร้ายนะ ชอบแหย่ให้น้องโกรธ หรือเพราะอยากให้น้องแสดงตัวตนของตัวเอง ไม่ต้องปั้นหน้าทำตัวน่ารัก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 05-06-2014 10:52:33
เพราะงี้นี่เอง ป๋อมกับแป๋มเลยเข้ามาสนิทสนมกับข้าวพองมากขึ้น

อยากให้ข้าวพองหายทุกข์ใจ อยากให้ข้าวพองมีความสุขเสียที

รอบทสุสรุปของการฆาตกรรมแป๋ม
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 05-06-2014 10:54:46
รู้ใจข้าวพองซะขนาดนั้น ขอข้าวพองแต่งเลยเห้ออออ เกีย  :m3:

ไอ้ดื้อของเราเอาจริงวุ้ย ตามไปถึงห้องเร็วเลยเชียว .... แต่ ยังไง้ ยังไง ก็ไม่ทันเกียหร๊อก

แต่ไอ้ปัญหายาเสพติดในโรงเรียนเนีย น่ากลัวจิงนะ (คนดีอยู่ยากขึ้นไปทุกวัน)

ตอนต่อไปมันได้ลุ้นกันมันแน่กับคนร้าย (ขออย่าให้มีคนตายเพิ่ม  สาาาาธุ)

อ่านมาเจอเม้นคนโพส มโนไปแล้วววว เกียโดนต่อยแน่ๆ........ว่าแต่ต่อยเค้าแล้วตัวเองเจ็บป่ะ (แอบถาม  :mew4:)

 :pig4: JiveTea

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 05-06-2014 10:56:46
เอ่อ คุณพี่เกียคะ มึนและอึนได้อีก ทำตัวเสมือนหนึ่งก้อนหินขวางกลางลำน้ำเชี่ยว
ฮึ่ย!! แล้วเมื่อไหร่น้องจะรู้เรื่ิองกันสักที (มันน่าจับตัวเขย่าๆๆๆ จนความลับร่วงลงมาจริงๆ)

เรื่องนี้คงต้องค่อยๆ คลายปริศนาสินะ ส่วนความหวานน่ะ ลุ้นทุกครั้งที่พี่เกียเดินตามเข้าห้อง 555
แต่ไม่เป็นไร ไว้ให้ถึงเวลาเหมาะสม ก็แล้วกันเนอะ
เอาใจช่วยให้ป๋ามีเวลาเขียนส่งกลับมาในเร็ววัน
ขอบคุณสองหนุ่มครับ


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-06-2014 11:05:00
ถ้าข้าวพองไม่โมโหสิแปลก เนาะ?
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 05-06-2014 11:07:27
เหมือนมีข้าวพองไม่รู้เรื่องคนเดียวจะโมโหก็ไม่แปลก แต่ก็ว่าเกียแรงไปนะ

ส่วนเรื่องคดีไม่ขอเดา แต่อยากให้เกียได้หวานกับข้าวพองบ้างแบบหวานๆเลยนะ

รอตอนต่อไปค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 05-06-2014 12:47:57
ทุกในเรื่องคนต่างรู้แก่ใจว่าใครฆ่าแป๋ม...ยกเว้นก็แต่คนอ่าน  :katai5:
แต่เชื่อว่าตอนหน้าคงได้รู้  :hao7:

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 05-06-2014 12:53:21
เรื่องเริ่มจะคลี่คลายแล้วใช่ไหม อยากรู้ว่าคนร้ายใช่คนที่เราเดาไว้รึป่าว :hao3:
ถ้าอยากอ่านฉากหวาน คงต้องขอตอนพิเศษที่ข้าวพองไปเรียนเมืองนอกแล้ว
หรือเรียนมหาลัยใช่ม่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 05-06-2014 14:12:25
ย๊าก!! ข้าวพองก้อสู้คนนะ แต่แพ้พี่เกีย 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 05-06-2014 15:10:40
ลุ้นให้ขึ้นหน้าใหม่ เอ๊ย ลุ้นว่าจะจับคนร้ายได้ไหม
ตกลงว่า ฉากหวานต้องรอไปก่อน จนกว่าข้างพองจะเกิน18
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 05-06-2014 16:55:49
แล้วตกลงใครเป็นคนร้ายกันเนี่ย อยากรู้มากๆเลยนะเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-06-2014 17:21:06
เหมือนเราจะเดาเรื่องออก ชี้ตัวคนร้ายได้ อ่านไปอ่านมางงกว่าเกิมอีก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 05-06-2014 18:11:59
ข้าวพองโมโหร้ายมาก  และก็เป็นเกียที่เข้าใจในตัวตนของข้าวพอง
แต่ครั้งนี้ ข้าวพองว่าเกียแรงไปจริง ๆ ขนาดเกียที่ว่ารับมือกับข้าวพองได้  ยังโกรธมากอ่ะ
รอบตัว  รอบรั้วโรงเรียนของข้าวพองอันตรายจริง ๆ แต่ก็คงเหมือนคำพูดที่ว่า
ที่ที่อันตรายที่สุด  คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด  ที่สำคัญอ่านจนถึงตอนนี้  ยังไม่สามารถฟันธงได้เลยว่าใครเป็นคนร้าย
เพราะทุกคนน่าสงสัยไปหมด  แต่ดูเหมือนน้ำหนักความน่าสงสัยจะไปตกอยู่ที่ไทนี่
แต่ก็ไม่แน่  เพราะนิยายของไจฟ์ทีมักหักมุมเสมอ  สรุปคือทั้งเรื่องเชื่อได้แต่เกียกะป๋อมอย่างที่ไจฟ์ทีว่าจริง ๆ  ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-06-2014 18:23:31
รอเฉลยละกัน
คือ ถ้าเราเป็นข้าวพองจะไม่แค่ตะโกนด่าแน่ ก็คนมันอึดอัด มันแค้นแน่นอก
เรื่องของตัวเองแท้ ๆ อยากรู้แต่กลับไม่รู้อะไรเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 05-06-2014 21:33:40
ตกลงก็ยังอึน ๆเดาไม่ถูกอยู่ดี  :ling2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 05-06-2014 21:49:36
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกตัวเองรู้อะไรขึ้นมาอีกนิด
(แต่ไม่รู้ว่ารู้ถูกต้องหรือเปล่า)
มา! เรามาช่วยกันอธิษฐานค่ะ  :call:
(มันจะขึ้นหน้าใหม่ไหมนะ?)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 05-06-2014 21:55:46
ไปๆมาๆ เบซซี่หรือป่าวหว่า
รอลุ้นต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 06-06-2014 06:01:24
ใกล้เข้ามาแล้วสินะ คนๆนี้จะเป็นกุญแจไขไปสู่การฆาตกรรมแม่และพี่ของข้าวพองสินะ อยากเดาๆ เราชอบการเดา ลุ้นเอาใจชีวยเกียและคุณตำรวจจับตัวให้ได้นะจ๊ะ
ปล ไจฟ์ส่งตอนต่อๆไปมาเถ๊อะ มิเช่นนั้นจะขาดตอนนะเออ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 06-06-2014 11:17:07
เวลาความจริงเปิดเผย ข้าวพองจะเป็นยังไงนะ
เกียอย่าทิ้งน้องไปนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 06-06-2014 13:18:03
เกีนรู้ว่าใครฆ่า
พองก็ร้แต่ไม่แน่ใจ
ป๋อมรู้แน่ ๆ ละแต่ก็ยังไม่พูดออกมา
แต่ทำไม่ฉันไม่รู้ละ  :mew6:
เราอ่านข้ามตรงไหนนิ ทำไมถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ และลุ้นใส้บิดใส้เบี้ยวแบบนี้ :z3:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 07-06-2014 17:16:52
เพิ่งมาอ่านค่ะ แบบว่าชอบบุคลิกข้าวพองนะ 'เฮ้ย...นี่และวัยรุ่น' แบบนี้เลย เรียกว่าวัยนี้เป็นช่วงรอยต่อของชีวิตเลยล่ะ เข้าวัยต่อต้าน วัยกำลังโต กอปรกับเติมโตในสังคมแบบนั้นแล้วด้วย

เราชอบนิยายของคุณนะ ลึกลับซับซ้อนดี แล้วจะรออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 07-06-2014 18:36:45
แก่จนปูนนี้ นั่งย้อนไปมองเราตอนวัยรุ่น เรื่องที่เราห่วงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เรื่องอื่นไม่แคร์จนนิดเดียว ข้าวพองห็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปละเนอะ คิดริจะรักเด็กต้องทำใจสามสิบตลบ 55555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 27 หน้า 23(5มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 07-06-2014 23:35:22
มารอลุ้นตอนต่อไป ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น ทั้งเรื่องคดี ทั้งเรื่องหัวใจ อิอิ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 08-06-2014 09:06:48
ตอนที่ 28

เช้าวันนี้ข้าวพองไม่เห็นเบซซี่รออยู่ที่ศาลาในลานจอดรถของโรงเรียน และทันทีที่มองหา คนตัวโตที่อยู่ข้างๆ ก็เตือน
“เราคุยกันแล้วนะครับ”
ดวงตากลมที่หันมามอง ยังออกแนวขวาง จนเกียต้องส่ายหน้า
“พักเที่ยงออกมากินข้าวนะครับ”

ข้าวพองร้องฮื่อพยักหน้าแล้วก็เดินเข้าโรงเรียน
เดาไปเรื่อยๆ ว่าเบซซี่อาจต้องไปโรงพักอย่างที่เกียบอก เหมือนพวกแก๊งค์ขี้ยาพวกนั้น แต่กลับยังเห็นไมเคิลยืนคุยอยู่กับเพื่อนต่างห้องเรียนที่เคยเปิดห้องพักในคอนโดฯ จัดปาร์ตี้เสพยากัน
เย็นวันนั้น นอกจากไทนี่ กับเบซซี่ ยังมีไมเคิล และใครอีกบ้างนะ
ท่าทีกวาดมองไปทั่วของข้าวพองแบบนี้คือสิ่งที่เกียเป็นกังวลมากที่สุด
เพราะมันแสดงอย่างชัดเจนว่า ข้าวพองกำลังสงสัยใครบางคนที่อยู่ในรั้วโรงเรียนเดียวกัน
เมื่อเดินเข้าห้องเรียน เจอกับบิ๊กหว่องก่อน
เพื่อนเก่าเข้ามาทักทาย แต่ข้าวพองกลับจ้องหน้านิ่งๆ จนบิ๊กหว่องสงสัย
“เป็นอะไร โกรธใครมา”
นั่นแหละข้าวพองถึงได้รู้ตัว และเลือกที่จะไม่พูดอะไร
ส่วนไทนี่หว่องยังคงมาโรงเรียนก่อนอาจารย์ประจำชั้นไม่กี่นาทีเหมือนเคย
ข้าวพองเลือกที่จะไม่แสดงพิรุธอะไรออกมาอีก ด้วยการพูดให้น้อยที่สุด จดจ่ออยู่กับการเรียนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนถึงเวลาพักกลางวัน ก็เดินออกมาจากห้อง มีไทนี่หว่องวิ่งตามมา
“ข้าวพองไปไหน”
“ออกไปกินข้าวข้างนอก”
“ไอรีนมาหรือ” หนุ่มฮ่องกงสงสัย
“เปล่าหรอก” ข้าวพองบอก “เราเอะอะโวยวายสติแตก เกียเลยคุมประพฤติเอาข้าวเที่ยงมาส่งน่ะ”
ดวงตายาวเรียวเฉียงขึ้น ขณะที่เม้มริมฝีปาก
“แค่นั้นจริงๆหรือ”
“ฮื่อ” ข้าวพองบอก
ท่าทีของไทนี่วันนี้ดูแปลก
“ไปกินกับบิ๊กหว่องก็ได้นี่”
“มีความลับอะไรหรือไง ทำไมเราถึงไปด้วยไม่ได้”
ข้าวพองทำในสิ่งที่เกียเป็นกังวลที่สุดนั่นคือการแสดงท่าทีหวาดระแวง โกรธ และพูดออกมา
“แล้วไทนี่ล่ะ มีความลับอะไรกับเราหรือเปล่า”
เมื่อไทนี่ไม่ตอบคำถาม ข้าวพองก็หันหลังให้ ก้าวยาวๆ มาที่ลานจอดรถ

เที่ยงนี้เกียขับรถมาคนเดียว พอเข้าไปในรถข้าวพองก็พูดทันที
“เบซซี่ กับพวกแก๊งค์ยาเสพติดหลายคนไม่มาเรียน แต่ทำไมไทนี่ กับไอ้ไมเคิลยังอยู่ ครึ่งเช้านี้ไทนี่ กับบิ๊กหว่องตามประกบพองตลอด นี่ก็จะตามมาด้วย”
“การสอบปากคำต้องมีผู้ปกครอง เราไม่เคยเจอพ่อของไทนี่หว่องมาตั้งแต่แรก ส่วนไมเคิล พ่อเขาอาจว่างตอนเย็นหลังเลิกงานก็ไปพบพนักงานสอบสวนตอนนั้น” คนตัวโตแนะนำต่อ “ข้าวพองควรโทรไปหาเบซซี่ว่าทำไมถึงไม่มาเรียน”
ดวงตากลมโต เหลือบมองคนขับ แล้วมองมือตัวเอง “พองว่า ไทนี่จะรู้ตัว เพราะเขาตามประกบตลอด จนถึงเมื่อกี้”
เกียพยักหน้า ยิ่งทำให้ข้าวพองหน้าเสีย
เกียจับมือนิ่มไว้ “อย่าเพิ่งระแวงไทนี่ ตอนนี้อยากให้โทรหาเบซซี่ ถามว่าทำไมไม่มาเรียน และเย็นนี้จะไปที่วัดไหม จากนั้นก็โทรหาไอรีน บอกว่า คิดถึงและอยากให้เขาไปหาที่วัด”

ข้าวพองพยักหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเบซซี่พูดไปตามที่เกียบอก
พอวางสายก็รายงาน “เบซซี่จะตามไปที่วัดตอนเย็น”
จากนั้นก็โทรหาไอรีน แล้วก็รายงานเหมือนกัน “ไอรีนจะตามไปที่วัด”

เกียกระชับมือข้าวพองไว้ “เชื่อพี่มั้ย”
“โห...ทำตามทุกขั้นตอนขนาดนี้...” ข้าวพองยิ้มได้ เมื่อรู้สึกผ่อนคลายลง
เกียจอดรถที่ร้านอาหารใกล้โรงเรียน แล้วชวนคุยเรื่องอาหารกลางวัน จนกระทั่งจอดรถที่ลานจอดรถโรงเรียนอีกครั้ง ถึงได้บอกแผนการขั้นต่อไป
แต่สิ่งที่ย้ำแล้วย้ำอีกก็คือ “อย่าอยู่ตามลำพังเด็ดขาด”
“ห้ามถามเรื่องเย็นวันนั้นใช่มั้ย”
“ใช่ จะโกรธจะเหวี่ยงอะไรยังไงก็ได้ แต่ห้ามถาม”
ข้าวพองทำหน้ายุ่ง “แต่ตอนที่ก่อนออกมา พองย้อนถามไปว่า ไทนี่มีเรื่องปิดบังกันหรือเปล่า ไม่รู้ว่า ไทนี่จะรู้ตัวแล้วหรือเปล่า”
เกียผ่อนลมหายใจ แล้วก็พูดคำเดิมว่าอย่าอยู่ตามลำพัง

เลิกเรียนข้าวพองเดินออกมาพร้อมกับไทนี่หว่อง เพราะจะไปที่วัดด้วยกัน
เมื่อถึงวัดป๋อมเดินมารับถึงรถ แล้วพาทั้งคนไปนั่งอยู่ที่ด้านนอกของศาลาสวดศพเหมือนที่ผ่านมา แล้วเดินไปหยิบน้ำดื่มมาให้
ส่วนเกียแยกไปคุยกับพ่อของป๋อม
ทั้งที่ป๋อมเป็นคนที่เสียน้องสาวฝาแฝดไป แต่เมื่อเทียบกับข้าวพองแล้ว ข้าวพองกลับมีท่าทีเสียใจที่แป๋มจากไปมากกว่าป๋อมเสียอีก เพราะนั่งกันอยู่เงียบๆ ข้าวพองก็ใช้สันมือปาดน้ำตา ทำให้ป๋อมโอบไหล่บางไว้แล้วโยกเบาๆ
“ไม่เป็นไร”
ที่ตามมาติดๆ กันคือเบซซี่
ป๋อมลุกไปหยิบน้ำดื่มมาให้ เด็กสาวรับมาดื่มแล้ววางไว้ข้างๆ ครู่หนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ของศาลามาเก็บไปทั้ง 3 แก้ว
ข้าวพองไม่ได้ถามเบซซี่เรื่องการให้ปากคำในวันนี้ จนกระทั่งไอรีนมา ป๋อมก็ลุกไปหยิบน้ำดื่มมาให้ไอรีน ไอรีนก็ขับมานั่งแทนที่ทันที เมื่อป๋อมกลับมาส่งน้ำให้ก็เปลี่ยนไปนั่งข้างเบซซี่
แทบจะในทันทีที่ไอรีนวางแก้วลง เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาเก็บ

หญิงสาวเหลียวมองตามเจ้าหน้าที่คนนั้น ด้วยความรู้สึกผิดปกติ
“อยากได้อีกแก้วหรือครับ”
“ไม่หรอกค่ะ แค่คิดว่าทำไมรีบเก็บแก้ว” ไอรีนบอกขณะที่เหลียวกลับไปมองอีกครั้ง
เบซซี่พูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา “ก็เราวางบนเก้าอี้ มันเป็นรอย เดี๋ยวคนอื่นมา เขาจะได้นั่งได้ไง”
ไอรีนยักไหล่แล้วหันมาหาข้าวพอง
“ร้องไห้จนตาช้ำหมดแล้ว ไปล้างหน้ามั้ยคะ”
ข้าวพองส่ายหน้า แต่หันไปมองเบซซี่เชิงบอกให้ชวนป๋อมคุย เบซซี่ก็ชวนคุยเรื่องการเตรียมสอบ หาแบบฝึกหัดมาทำ จนไทนี่หว่องที่นั่งอยู่เงียบๆ ยังขำ
“ขำอะไร” ข้าวพองถามเพื่อน
ไทนี่รีบปฏิเสธ “ไม่ได้ขำป๋อมนะ แค่คิดว่า ทุกวันนี้ยังมีผู้หญิงที่เชื่อฟังคำสั่งของผู้ชายอยู่อีก”
เบซซี่หันมาหาไทนี่หว่อง “ผู้ชายเรียกมันว่าคำสั่ง แต่ผู้หญิงเรียกมันว่าคำพูด จะทำหรือไม่ทำ มันขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเอง”
ไอรีนยักไหล่เชิงเห็นด้วยกับคำพูดของเบซซี่ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ใกล้จะ 5 โมงเย็น ผู้หมวดมานพกับตำรวจหญิงอีกคน เข้ามาเรียกทุกคนไปพร้อมกัน เกียที่อยู่อีกด้านรีบเข้ามาถาม
“มีอะไรครับ”
ผู้หมวดมานพไม่ได้ตอบเกีย แต่หันไปเรียกตำรวจนอกเครื่องแบบอีกคนให้พาพ่อกับแม่ของแฝดป๋อมแป๋มมาด้วย
“รบกวนไปที่สำนักงานของวัดครู่เดียวครับ พอดีผมมีเรื่องอยากให้ทั้งหมดดูพร้อมๆ กัน”

คนอื่นกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่เกียกำลังมีท่าทีไม่อยากให้ทั้งหมดตามผู้หมวดไปที่สำนักงานของวัดในเวลานี้ ติดที่พ่อแม่ของป๋อมกลับเป็นฝ่ายเดินนำไปก่อน
ข้าวพองหันมามองเกียอีกครั้ง
“ไปมั้ย”
“ได้ครับ” เกียตอบด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกำลังพูดว่า -เป็นไงเป็นกัน-

ในสำนักงานของวัดมีเก้าอี้วางอยู่หลายตัว คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อีกหลายชิ้น รวมถึงแก้วน้ำพลาสติกวางบนกระดาษที่เขียนชื่อของแต่ละคนไว้
ผู้หมวดมานพยืนอยู่หน้าโต๊ะวางอุปกรณ์ ท่าทางเหมือนกำลังเตรียมบรรยายให้นักเรียน ซึ่งก็คือ พ่อแม่ของป๋อม ป๋อม ข้าวพอง เบซซี่ และไอรีน
ตำรวจหนุ่มเริ่มจากการทำความเคารพตำรวจอาวุโสอีกคนที่อยู่ในห้องนี้ด้วย จากนั้นก็หันไปเปิดภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิด
“นี่คือภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดหน้าห้องสมุด ตั้งแต่พักเที่ยงจนถึงโรงเรียนเลิก ไม่มีใครเดินเข้าห้องสมุด ส่วนอาจารย์บรรณารักษ์ก็ไมได้ออกมา ดังนั้นเราจะเริ่มจากโรงเรียนเลิกเป็นต้นไปนะครับ” ผู้หมวดมานพยิ้มไม่เปิดปาก “มีใครหลายคนเดินเข้าไปด้านใน ทุกคนสามารถชี้ตัวได้ว่าเป็นใคร ยกเว้น.....” เจตนาหยุดพูดรอจนกระทั่งภาพอาจารย์หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้น ข้าวพองคุ้นกับชุดที่เธอสวมอยู่ “ไม่มีใครรู้จักอาจารย์ท่านนี้ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์บรรณารักษ์ หรือนักเรียน”

ข้าวพองค่อยหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าของเธอเผือดขาว

ขณะที่ตำรวจหนุ่มกำลังยกนิ้วชี้ขึ้นไปที่เพดาน เพิ่มความสำคัญเรื่องที่กำลังจะเล่า
“ต่อมานะครับ เราต้องหาอาวุธที่คนร้ายใช้ตีแป๋ม มันคือ...ประแจครับ” ผู้หมวดหยิบถุงบรรจุโลหะขนาดพอมือขึ้นมา “เราเจอมันตกอยู่ในถังขยะใกล้ห้องสมุด เรื่องนี้ผมไม่คิดว่าคนร้ายประมาทหรอกนะครับ เพราะถังขยะในโรงเรียนจะต้องเททิ้งทุกวัน และมีรถเก็บขยะมารับไปทุกเช้าอยู่แล้ว ดังนั้นคนร้ายจึงเลือกที่จะทิ้งที่นี่เพราะอีกไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็จะมีภารโรงมาช่วยจัดการหลักฐานให้ เพียงแต่ในวันนั้นมีผู้พบมันเสียก่อน” ตำรวจหนุ่มหันไปมองเกีย แต่ไม่ได้เอ่ยเชื่อ เกียก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่ไม่ได้เครดิตจากเรื่องนี้ แต่ดูท่าทางกำลังเครียดหนัก
“และทำให้เราได้ลายนิ้วมือ ซึ่งไม่พบอยู่ในสารบบใดๆ” ดวงตาที่กวาดมองคนที่กำลังฟังอยู่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ตอนนี้เราพบแล้ว จากแก้วน้ำของคนที่มาในงานศพวันนี้....”

เกียส่ายหน้าช้าๆ ไม่อยากให้ผู้หมวดพูดต่อ แต่เขาก็ยังพูดต่อไป “ลายนิ้วมือจากประแจตรงกับแก้วใบนี้”
เมื่อนายตำรวจชี้ไปที่แก้วใบหนึ่ง ไอรีนก็ผุดลุกขึ้น แต่ช้ากว่านายตำรวจหญิงที่เข้าประกบล็อคแขนไขว้หลังไว้
“ไม่ ไม่ใช่ไอรีนนะ ข้าวพอง ไม่ใช่ไอรีนนะ”
“หลักฐานชัดเจนขนาดนี้...” นายตำรวจลากเสียง ยิ้มของผู้ชนะเต็มใบหน้า “ขอเชิญตัวไปที่โรงพักนะครับ ถ้าต้องการทนายก็แจ้งดาบเรืองรองได้เลยนะครับ”

พ่อแม่ของป๋อมแป๋ม มองหญิงสาวที่เป็นคนแปลกหน้า แล้วหันไปมองตำรวจ
.....ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แป๋มไปมีเรื่องกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ โกรธแค้นอะไรกันมากมายถึงกับต้องฆ่ากัน เธอเข้าไปในโรงเรียนได้อย่างไร และคำถามอื่นอีกมากมาย....

หมวดมานพ หันมาหาพ่อกับแม่ “เรื่องเหตุจูงใจ และอื่นๆ เรามีวิธีที่จะทำให้เธอเล่าได้ไม่หยุด ขอให้คุณพ่อกับคุณแม่วางใจนะครับ” ตำรวจหนุ่มหันไปหาตำรวจอาวุโส พร้อมกับรอยยิ้มกว้างรับคำชม
“ดีมาก ปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว แบบนี้พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนจะต้องพอใจ”
ตำรวจอีก 2 คนเข้ามาเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดใส่กล่องอย่างรวดเร็ว แล้วลาพ่อกับแม่ออกไป
“มัน...อะไรกัน” ป๋อมคราง อย่างเหนือความคาดหมาย
ข้าวพองพูดกับเกีย “ไอรีนฆ่าแป๋มเนี่ยนะ คุยยังแทบไม่เคยคุยกันเลย”
เกียถอนหายใจหนักๆ “เราต้องตั้งคำถามว่า ตอนที่ไอรีนไม่ได้อยู่กับข้าวพอง เขาทำอะไร” 

นายตำรวจใหญ่ที่กำลังจะก้าวออกไปจากห้องหันมามองเกีย และทำให้เกียหันไปมองตอบ

“ทำไมคนใกล้ชิดถึงไม่เคยเห็นความขัดแย้ง และที่สำคัญ ทำไมถึงเป็นไอรีน”
หมวดมานพ มองเกียแล้วหันไปมองนายตำรวจใหญ่  “เอ่อ...คือ เรื่องนั้นเราทำให้เธอสารภาพได้ครับ”

นายตำรวจใหญ่พยักหน้าแล้วเดินนำออกไปจากศาลา

ข้าวพองมองตามหลังนายตำรวจใหญ่ด้วยความรู้สึกเหมือนเคยพบคนๆ นี้มาก่อน แต่ความคิดสะดุด เมื่อพ่อกับแม่ของป๋อมหันมาถาม “แป๋มรู้จักกับคนนั้นได้ไง”
“เขาเคยเป็นครูพี่เลี้ยงของข้าวพองครับ” ป๋อมบอกแม่ “แต่ป๋อมไม่เคยเห็นว่าเขาจะมีปัญหาอะไรกัน แทบไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ แล้วแป๋มมีเบอร์โทรศัพท์ของไอรีนตั้งแต่เมื่อไหร่”
ทุกสายตาในห้องหันกลับมาหยุดที่เกีย ซึ่งมีสีหน้านิ่งสนิท จนป๋อมรู้ว่าไม่ควรพูดต่อ ข้าวพองเองก็อยากถามต่อ แต่ป๋อมกระตุกมือชวนให้ออกไปข้างนอกห้อง

*-*จบตอนที่ 28*-*

สาบานได้ว่านี่เฉลยแล้วนะว่าใครฆาแป๋ม   o12 แต่ไหนๆ จะเริ่มเก็บ มันก็ต้องขุดให้หมดทั้งขบวนการสินะ
เห็นปะ ว่าขึ้นหน้าใหม่น่ะ มันยากพอๆ กับให้คนเขียนเขาส่งมาอีกตอนจริงๆ  :o11:
ตอนต่อไปมาวันอะไรนะ แบบว่าจะไม่ได้อะ
..น้ำชา..
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 08-06-2014 09:20:41
นี่ถ้าไม่บอกว่าเฉลยแล้วเรื่องฆาตกร ก็ยังคิดว่าไม่ใช่นะ
โอ้ย :katai4: งง  มึน อึน ต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 08-06-2014 09:26:32
ห๊าาา ไอรีนฆ่า...เหรอ? ไปคุยกันตอนไหนเนี่ย ตำรวจก็ดูมีพิรุธ เหมือนกับจับแพะเลย อ๊าาาา ขาดตอนอ่ะ ไม่บอกด้วยว่ามาอีกวันไหน ยังไม่ทิ้งประเด็นไทนี่หรอกนะ แต่ในความรู้สึก เราสงสัย บิ๊กหว่องอ่ะ (มั่วไปเรื่อย  555 ) หรือถ้าเป็นไอรีนจริง แป๋มต้องรู้เรื่อง ยาเสพติดแน่เลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 08-06-2014 09:30:35
ไอรีนเป็นฆาตกร  แต่มูลเหตุจูงใจในการลงมือคืออะไร  :ling1:

ที่ว่าจะขุดออกมาให้หมดนั้น  รออยู่นะคะ

แล้วนายตำรวจใหญ่ที่ข้าวพองคุ้นหน้าเกี่ยวไรด้วย

อยากจะไปเขย่าตัวเกียให้บอกความจริงทั้งหมดจริงๆเลยนะ

เพราะเชื่อว่าเกียรู้ทั้งหมดแล้ว

บวกเป็ด

ปล.อัพอีกทีวันอังคารรึเปล่า  แต่ไงก็รอนะคะ  กำลังเข้มข้นเลย  :mew1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 08-06-2014 09:47:28
เดาแบบมั่ว ๆ ว่า ไทนี่ อ่ะ

เพราะเหมือน ไทนี่กับไอรีนจะพวกเดียวกันอยู่ คนที่ไม่รู้ว่ามีกล้องวงจรปิดคือไทนี่(หรือรู้) แต่ก็มีอะไรแปลก ๆ อยู่นะถึงจะรู้ว่ารถเก็บขยะมาตอนไหน แต่การทิ้งหลักฐานโจ่งแจ้งอยู่ เพราะตรงนั้นเกิดเหตุฆาตกรรมแท้ ๆ ยังไงก็ต้องตรวจสอบ ถ้าไม่ใช่เป็นความคิดไม่รอบคอบของเด็ก ก็เป็นเพราะต้องการทิ้งหลักฐานให้เห็นเพื่อเป็นการใส่ร้ายอีกคนหนึ่ง

แต่เบซซี่ก็น่าสงสัยอยู่เหมือนกัน

เอาเป็นว่ารอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 08-06-2014 10:52:11
ตกลงเป็นไอรีนจริงๆใช่มั้ย รู้สึกเหมือนยังมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านี้

แล้วคนที่วางยาข้าวพองล่ะ ไทนี่? เบซซี่? ร่วมมือกัน?

โอ๊ยยยยยยยยยยยยย มีเรื่องให้สงสัยเยอะไปหมด ทั้งเรื่องเพชร เรื่องแม่กับพี่เพชร เรื่องวางยา เรื่องแป๋ม

รอๆๆๆๆๆ รอวันอังคารนะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 08-06-2014 13:18:47
อ้าววว เป็นไอรีนซะยังงั้น 555 เดาผิดไปไกลเลย
ว่าแต่ต้องมีผู้สมรู้ร่วมคิดสิ รอติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 08-06-2014 13:32:46
ย๊ากก!!! ติดใจ สงสัย ดูเหมือนจับฆาตกรได้ แต่ไม่สมเหตุสมผล แปลกๆ
ทำไมปฏิกริยาของเกียกับนายตำรวจ  ข้าวพองกับนายตำรวจใหญ่
คิดว่า จนเรื่องนี้จน เราก้อยังงงอยู่ 5555   :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 08-06-2014 14:04:07
โห~~~ เป็นเฉลยที่ยากจะปักใจเชื่อจริงๆ ว่าไอรีนทำคนเดียว มันต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังอีกแน่ๆ
พี่เกียขุดรากถอนโคนให้หมด ขบวนการตามล่าเพชรแก๊งนี้ดูท่าจะไม่ธรรมดามากกว่าที่คิด
เชื่อล่ะ ว่าเรื่องนี้ไว้ใจใครไม่ได้จริงๆ 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 08-06-2014 14:45:52
ไอรีนเป็นแพะรึป่าวเนี้ย
หรือเป็นคนร้ายแต่มีผู้ร่วมทีมมากกว่านี้อีก
คนที่วางยาข้าวพองในร.ร.ไม่ใช่ไอรีนแน่ๆ
บิ๊กหว่องกับไทนี่น่างสัยมากกกก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 08-06-2014 15:00:00
อ้าว  ไอรีนหายไปนาน  กลับมาอีกทีพร้อมการเป็นผู้ต้องหาฆ่าแป๋ม
ดูมีหลักฐาน พยานพร้อมเกินไปรึเปล่าอ่ะ  ยังไม่อยากจะเชื่อว่าไอรีนทำนะ
รึถึงไอรีนจะเกี่ยว  ก็ไม่น่าจะทำคนเดียวอ่ะ  น่าจะมีคนในโรงเรียนร่วมด้วย
แล้วนายตำรวจใหญ่ที่ข้าวพองคุ้น ๆ เนี่ย  น่าสงสัยอยู่นะ  ดูสรุปอะไรเร็วเกิน
รึตำรวจเค้าทำงานเร็วแบบนี้กันอยู่แล้ว   ฮ่าาาาาาา 
พอแป๋มตาย  ดูเหมือนคนร้ายจะเร่งงานนะ  เอาใจช่วยเกียให้ปิดคดีได้โดยเร็ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 08-06-2014 15:18:19
นายตำรวจใหญ่นั่นเป็นใคร? ใช่พ่อของเด็กบางคนที่เคย
พูดถึงในตอนก่อนๆไหมนะ นึกไม่ออกแฮะ
แล้วไอรีนมีเหตุจูงใจอะไรที่ต้องฆ่าแป๋ม? นี่ก็เดาทางไม่ถูก!
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-06-2014 15:22:34
มึนยิ่งกว่าเดิม
ตำรวจน่าสงสัยยิ่งกว่าฆาตกรเสียอีก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-06-2014 16:33:40
ไอรีนฆ่าแป๋มจริงเหรอ?
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 08-06-2014 17:54:33
จะเป็นใครก็ช่างเถอะ...เมื่อไหร่พี่กับน้องจะหวาน ๆ กันบ้างล่ะนี่.... :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 08-06-2014 23:54:23
คิดว่าไม่ใช่ไอรีน ไม่เบซซี่ ก็ไทนี่
นายตำรวจรวบรัดปิดคดีอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 09-06-2014 00:41:15
ยังแอบคิดว่าเบซซี่จริงๆนะ  เพราะดูคุณน้องเธอจะนิ่งเกินไปหน่อยอ่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 09-06-2014 01:37:23
เหมือนขาดอะไรไปหลายอย่าง
หลักฐานมีแต่ยังไม่เจอแรงจูงใจ  แล้วอาการมันก็น้อยไป

ถึงจะปลอมตัว(?) เข้าไปในห้องสมุดจริงๆ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานตอนลงมือ
มีเรื่องน่าสงสัยเต็มไปหมดเลย แต่การทำงานของตำรวจอันนี้รีบมากเหมือนอยากอวดผลงาน
เดาว่าน่าจะพลาดอะไรซักอย่าง
ขอเดาแบบ criminal mind เปอร์เซนต์การลงมือของผู้หญิงมักไม่ใช่การลงมือด้วยมีด ปืน หรืออุปกรณ์ทุ่นแรง
อีกอย่างการพกประแจเข้าห้องสมุดมันดูเป็นไปไม่ได้มากๆ
ถ้าเถียงกันแล้วลงมือด้วยความโกรธแค้นมันควรจะเป็นของใกล้มือ
ประแจมันต้องวางแผนที่จะพกเข้าไป (ใครมันจะพกประแจเดินไปมาฟระ) เออถ้าทะเลาะกันในช๊อปเครื่องกลแล้วฟาดด้วยประแจยังเข้าใจได้
แต่ในกรณีนี้น่าจะเป็นการวางแผนล่วงหน้า.... ผญ.ชอบใช้การวางยา หรือเชือกรัดคอมากกว่า
เหมือนแบบที่ทำกับข้าวพอง (วางยา) แต่วางเพื่ออะไรเนี่ยสิ???


สำหรับเรื่องขึ้นหน้าช้า
แฮะๆ อ่านเรื่องนี้แล้วมันลุ้นค่ะ มาแนวสืบสวนจะเม้นท์มากเดามากก็กลัวไปกระทบเนื้อเรื่อง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 09-06-2014 07:53:33
 :z3:
จริงดิ
นี่เฉลยว่าใครฆ่าแป๋มจริงดิ
บวกและเป็ดขอบคุณ
ข้าวพองจะรอดจากการโดนวางยาแล้วชิมิ
 :hao5:
ปล. ชอบตอนท้ายอันก่อนที่เกียพูดให้ป๋อมได้คิด
ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 09-06-2014 08:48:06
เหมือนจะไม่ใช่ แต่ก็เหมือนใช่
ลายนิ้วมือไม่มีในสารระบบเหรอ
ก็แสดงว่าไม่ใช่คนไทยใช่ปะ
อู้ยคำเฉลยที่มาพร้อมคำถามอีกมากมาย
ลุ้นต่อไป

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-06-2014 09:42:07
ไอรีนจะฆ่าแป๋มทำไม งง แถมมัึนอีกต่างหาก 5555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 09-06-2014 11:01:52
มันลุ้นมาก เดามั่วไปหมดแล้วตอนนี้ มันดูไม่น่าไว้ใจสักคนเลยในเรื่อง
อ๊ากกกกกกก จิกทึ้งหัวตัวเอง  :serius2:
รอตอนต่อไปดีกว่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-06-2014 11:18:47
ใช่ไอรีนแน่หรอ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 09-06-2014 11:25:53
มันดูรวบรัดไปป่ะ  เหมือนอยากให้มันจบๆไป  เหมือนจับแพะ  หรือยังไง  โอ๊ยลุ้นตลอด

ตอนหน้ามาวันอังคารจ้าน้องน้ำชา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 09-06-2014 11:44:23
ถึงจะรู้ว่ามาต่อพรุ่งนี้
แต่ขอมารอลุ้นวันนี้อีกสักรอบ ติดใจที่ไอรินเป็นคนลงมือ???
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 09-06-2014 14:15:08
มันเหมือนเงื่อนงำไม่คลาย ถึงแม้จะมีสปอยว่าเฉลยแล้วก็ตามเห่อะ :undecided:

งุนงง ในหัว แล้วเบอร์โทรที่เกียเอาไปอ่ะ หลักฐานมันน่าจะมีอะไรมากกว่าแค่ภาพวงจรปิด กับประแจ 

มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆๆๆๆ ตำรวจก็แปลกกับวิธีการปิดคดี

งานนี้มันลุ้นว่าตัวการใหญ่ยังไม่ออกโรงใช่ป่ะ เกีย.........

ไอรีนเป็นแค่ปลาเล็ก เพื่อล่อ ปลาใหญ่ เงื่อนที่นายตำรวจใหญ่ จงใจพูดไว้ก่อนไป ก็น่าคิด ทำไมต้องมองไปที่เกีย
เหมือนจะเจาะจงว่ามันมีเงื่อนงำอื่นๆ ให้เกียตามต่อ

ลุ้นตามจนเยี่ยวเหลือง....  :really2:


สรุป...............ล้างบางให้ได้นะ เกีย 

 :pig4: JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 09-06-2014 18:51:12
เบื้องหลักจะเป็นยังไงคะเนี่ย ไอรีนเปนคนร้ายซะงั้นอะ  มาต่อไวๆนะ ลุ้น สงสัยไปหมดทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 09-06-2014 19:56:25
อาจมีจุดลิงค์ที่คาดไม่ถึง!!! .... นิยายเครียด จะคัดคนอ่านคุณภาพนะค้าบยบบ พูดเลย 555 อย่าน้อยใจไป เรื่องนี้ผูกปมดีจริง อาจมีฉากหวานๆ น้อยไป ไม่เหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ยังเขียนได้น่าติดตามไม่เปลี่ยนนะคับ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 28 หน้า 23(8มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-06-2014 21:26:22
อะไรอะ!!! มันต้องมีอะไรอีกสิ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 10-06-2014 09:20:17
ตอนที่ 29

เมื่อออกมาด้านนอกของอาคารสำนักงานวัด ยังมีตำรวจในเครื่องแบบอีกคนยืนรออยู่ เพียงแค่มองมา เกียก็หันไปบอกกับข้าวพองและเบซซี่ “อยู่กับป๋อมนะ”
มีแต่ป๋อมที่รู้ว่าความหมายของประโยคนี้ก็คือ ป๋อมจะต้องดูทั้งข้าวพองและเบซซี่ แต่ที่เกียต้องพูดแบบนี้ก็เพราะสถานการณ์ในตอนนี้

“เกียจะไปไหน”
ต้องโทษว่าเป็นเพราะการที่เกีย “ทำท่า” เป็นตำรวจมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมานี่แหละที่ทำให้ข้าวพองเครียด
“พี่อยู่ในเขตวัดนี่แหละ ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก ข้าวพองคอยดูเพื่อน”
ข้าวพองทำหน้าตาเหมือนจะบอกว่า ตัวเองยังเอาไม่รอด จะให้มาดูแลเพื่อนที่เสียน้องสาวไป กับวัยรุ่นอีกคนที่เพิ่งพ้นจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัยโดยไม่รู้ตัวเนี่ยนะ!!!

เกียเดินไปคุยกับนายตำรวจใหญ่ที่ดูท่าทางไม่ค่อยเต็มใจจะทำความรู้จักกันสักเท่าไหร่
แต่เพราะลักษณะการคุยกันแบบส่วนตัวโดยหมวดมานพต้องออกไปยืนอยู่ห่าง ๆ ทำให้เกียรู้ว่า แท้ที่จริงแล้วนายตำรวจคนนี้ต้องการทำความรู้จัก และต้องการเตือนขอบเขตของเกียในเวลาเดียวกัน
“ที่นี่ไม่ใช่ลอนดอน เรามีวิธีการทำงานของเรา” นั่นคือประโยคแรก
“ครับ ผมทราบ” เกียยอมรับ “ตอนนี้ผมเป็นแค่ครูพี่เลี้ยงให้กับลูกชายคุณอัคราเท่านั้น”
นายตำรวจใหญ่มีสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินชื่ออัครา
“คุณอัคราที่ทำอสังหาฯ น่ะหรือ”
“ครับ”
“เมียกับลูกสาวเขาค้าเพชร เคยมีเรื่องขึ้นศาล”
“ครับ เสียชีวิตแล้ว”
นายตำรวจใหญ่พยักหน้า เมื่อข้อมูลทั้งหมดได้รับการยืนยัน
“คิดอยู่เหมือนกันว่า เด็กคนนั้นหน้าตาคุ้นๆ แล้วก็เรียนโรงเรียนเดียวกับคนตาย แล้วนี่พ่อเขากลัวถึงขนาดว่าจ้างตำรวจเก่ามาดูแลลูกชายคนเล็กเลยหรือ”
เกียตอบกลางๆ “เป็นความบังเอิญน่ะครับ ผมเจ็บหนักกำลังจะต้องออกจากราชการ เจ้านายผมเอางานนี้มาให้ เพราะจะได้กลับมาบ้านที่เมืองไทย”
นายตำรวจใหญ่หันไปมองหมวดมานพ ที่อาจได้ยินเพียงบางคำพูด แล้วหันมาหาเกียอีกครั้ง
“ทำไมงานนี้ ถึงได้ไปถึงที่อังกฤษได้”
“คุณมโหธรมีเพื่อนเป็นตำรวจอยู่หลายคน ก็เลยคุยกันน่ะครับ”
นายตำรวจใหญ่ ทำเสียงในลำคอ “ผมรู้เรื่องที่พี่น้องบ้านนี้ จบจากลอนดอน แต่เรื่องที่เขามีเพื่อนเป็นตำรวจนี่......แปลก”
เกียเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ทำให้มุมปากยกยิ้มตามไปด้วย

...คำว่าแปลกของนายตำรวจใหญ่ ไม่ได้หมายความว่าแปลกที่มีเพื่อนเป็นตำรวจ แต่เพราะมโหธรไม่เคยพูดถึง ไม่เคยอวดอ้างเรื่องนี้มาก่อน
โดยธรรมชาติ ถ้าหากเรามีเรื่องร้อน ย่อมต้องใช้เส้นสายทุกทาง
ที่ผ่านมาทุกคนมองว่าทั้งอัครา และมโหธรมีความเป็นนักธุรกิจมากกว่าคนรักครอบครัว ถึงได้ยอมปล่อยให้คดีจบลงไป และมองเห็นแต่ผลประโยชน์เป็นหลัก
บางที...การที่มโหธรให้ตำรวจอังกฤษเข้ามาแทรกแซง อาจหมายถึงการมองพ่อลูกคู่นั้นผิดมาตลอด

“คุณมโหธรคงไม่ค่อยภูมิใจสักเท่าไหร่ที่มีเพื่อนเป็นตำรวจอังกฤษน่ะครับ”
แต่นายตำรวจใหญ่ส่ายหน้า แล้วตบไหล่เกียเบาๆ “จะตำรวจที่ไหนก็เป็นพี่เป็นน้องกัน ส่วนคดีเด็กนักเรียนนี่ ยังไงก็คุยกับมานพก่อน”
เกียเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ว่านายตำรวจใหญ่กำลังห้ามเกียเข้าแทรกคดีนี้
ขณะที่นายตำรวจใหญ่ก็รับรู้ว่าเครือข่ายตำรวจอังกฤษนั้น “ถึง” กันทั้งหมด และปัญหาสำคัญของคดีนี้ก็คือการที่หมวดมานพอยากสร้างผลงานจนมองข้ามความสามารถของตำรวจอังกฤษคนนี้
..ถึงจะออกตัวว่าเจ็บหนักจนต้องออกจากงาน แต่กล้าฉายเดี่ยวท่ามกลางสถานการณ์ที่มืดแปดด้านแบบนี้ ต้องไม่ธรรมดา!...
ถือว่ายังดีที่รู้จักให้เกียรติเจ้าของพื้นที่ เพราะถ้าเกิดเขาโต้เถียงหรือตั้งข้อสังเกตอะไรขึ้นมา  การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคงไม่ราบรื่นอย่างนั้น
เมื่อส่งนายตำรวจใหญ่ขึ้นรถออกไป พร้อมด้วยหมวดมานพ เกียก็เดินกลับมาที่ศาลา...

*-*-*

ข้าวพองมองตามหลังเกียที่เดินไปพร้อมกับตำรวจแล้วหันมาหาเบซซี่ กับไทนี่หว่อง
ยอมรับเลยว่า เพราะมีป๋อมอยู่ข้างๆ กับเพราะมีญาติพี่น้องของป๋อมหลายคนอยู่ใกล้ๆ ทำให้ข้าวพองมีความกล้ามากขึ้น
“ทำไม 2 คนไม่เคยบอกว่าอยู่ในห้องสมุดวันนั้น”
เบซซี่บอกเหมือนกับที่ให้การกับตำรวจวันนี้ “หนูแค่เอาหนังสือไปคืน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่แป๋มอยู่ที่นั่น แต่หนูเห็นตอนที่พวกพี่วิ่งตามครูเกียเข้าไปในโรงเรียน แล้วพวกอาจารย์ก็มาไล่นักเรียนที่ไม่มีกิจกรรมให้รีบกลับบ้าน”
“ไม่เจอแป๋มหรือ” ข้าวพองซัก
สาววัยรุ่นส่ายหน้าทันที “ไม่หรอก หนูก็เพิ่งรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น ก็ตอนที่ตำรวจให้ดูเทปเมื่อบ่ายนี่เอง ตอนที่ตำรวจโทรมาคุยกับแม่ แม่ยังไม่บอกอะไรเลย แค่บอกว่าพรุ่งนี้ไปโรงพักด้วยกัน”
หนุ่มตัวเล็กหันมาหาไทนี่หว่อง “ไทนี่บอกว่า มีธุระ แล้วทำไมไปห้องสมุด”
“กูขึ้นไปเอาของที่ห้องเรียนจริงๆ นะ เสร็จแล้วก็นึกว่าแป๋มคืนหนังสือที่ห้องสมุดเสร็จหรือยังก็เลยแวะไปดู พอไม่เห็นตรงเค้าท์เตอร์ ก็เลยรีบวิ่งออกมาที่ลานจอดรถ เพราะคิดว่าทุกคนกำลังรออยู่”
“ทั้ง 2 คนอยู่แค่ตรงเค้าท์เตอร์ เหมือนกันเลยหรือ” ข้าวพองถามต่อ
เบซซี่หันไปมองหน้าไทนี่แล้วหันมาบอกกับข้าวพอง
“ก็หนูเอาหนังสือไปคืน”
“กูก็แค่ไปดูว่าแป๋มยังอยู่มั้ย”
ข้าวพองหันไปมองหน้าเพื่อนตัวสูงที่มองไปที่โลงศพของน้องสาวข้างหน้า รู้ว่าเพื่อนกำลังฟัง แต่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“แล้ว...เห็นไอรีนหรือเปล่า”
เป็นอีกครั้งที่ทั้งคู่ส่ายหน้า ข้าวพองเลยอธิบาย
“หมายถึงเห็นเขาที่ด้านนอกห้องสมุดหรือเปล่า อย่างที่ตำรวจให้ดูเทป แล้วก็บอกเราน่ะ ว่าเขาเข้าไปในโรงเรียนแล้วก็ออกมา......”
หนุ่มตัวเล็กคิดถึงธีระ คนขับรถที่ยืนรอทุกคนอยู่ที่ลานจอดรถหน้าโรงเรียนที่จะต้องเป็นคนเห็นว่าไอรีนเดินผ่านประตูโรงเรียนออกมา
แต่ที่ผ่านมาธีระไม่เคยพูดอะไร
หรือเพราะเราไม่เคยคิดจะถามธีระ
“ตำรวจบอกว่าเดี๋ยวเขาจะทำให้ไอรีนเล่าออกมาเอง” ป๋อมพูดขึ้น
“อันนั้นจำได้ แต่ที่กูไม่ชอบเลยก็เพราะว่า เบซซี่กับไทนี่ ก็อยู่ที่ห้องสมุด แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรเลย เพื่อนตายทั้งคนนะโว้ย!”
เบซซี่น้ำตาปริ่ม “หนูขอโทษที่ไม่ได้บอก ตำรวจโทรมาหาแม่ตอนค่ำ แล้วก็นัดให้ไปให้ปากคำ หนูเพิ่งรู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ไทนี่ก็บอกเหมือนกัน “ตำรวจโทรมาถามถึงพ่อ แต่พ่อกูไม่อยู่ กูไปโรงพักคนเดียว”

ทั้งที่ควรจะสงบลง แต่ยิ่งฟัง 2 คนนี้พูดก็ยิ่งไม่อยากฟัง ข้าวพองเขย่าขาตัวเองแรงๆ รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
ป๋อมทำหน้าที่เพื่อนผู้รู้ใจ ดึงมือคนอารมณ์ร้อนให้ลุกตามมา โดยเจตนาพูดให้อีก 2 คน ได้ยินด้วย “อย่าเพิ่งโกรธคนไปทั่ว เพราะแฟนตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าเพื่อน”
ข้าวพองทำตาโตใส่เพื่อน จนกระทั่งแยกมาอยู่ตามลำพังทางด้านหลัง “ไอรีนไม่ใช่แฟนกู กูไม่ได้โกรธเพราะไอรีนโดนจับ หลักฐานมันชัดขนาดนั้น แต่เพราะ 2 คนนี้เข้าไปเกี่ยวแต่ไม่พูดอะไรเลยต่างหาก”
หนุ่มตัวสูงยักไหล่ หันไปพยักหน้าให้กับญาติผู้พี่ที่เพิ่งมาถึง
“แล้วมึงคิดว่า เขาจะมาพูดตอนนี้หรือไง”
ข้าวพองมองหน้าเพื่อนแล้วพูดขอโทษ
“มึงจะมาขอโทษกูเรื่องอะไร” ป๋อมเสียอีกที่ยังคงใช้การมองโลกในแง่ดีมาช่วยเพื่อน
“ทั้งที่แป๋มนอนอยู่ในนั้น กูก็ยังหาเรื่องให้มึงตลอดเวลา”
ป๋อมพยักหน้า “เพราะมึงหาเรื่องให้กูตามแก้ตลอดเวลา กูก็เลยไม่มีเวลามาเสียใจไง”
ข้าวพองได้แต่ยิ้มเหนื่อยใจ เมื่อนึกถึงสภาพของเพื่อนเมื่อวันก่อน
“แต่กูก็ยังสงสัยอยู่ดี ว่าไอรีนโกรธแป๋มเรื่องอะไร”
ป๋อมนึกอะไรบางอย่างออก “เบอร์โทรศัพท์ไอรีนเบอร์อะไร”
หนุ่มตัวสูงบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของไอรีนลงเครื่องตามที่ข้าวพองบอก แล้วถามถึงเบอร์คนอื่นๆ อีก
“มีอะไร”
ป๋อมกลับมองออกไปด้านนอกของศาลาไม่ตอบคำถามเพื่อน
“สัดเหอะ เริ่มทำตัวมีความลับเยอะอีกคนแล้ว” ข้าวพองพาลเพื่อนตัวสูง
“กูไม่ได้อยากมีความลับกับมึง แต่กูได้เรียนรู้ว่า กูควรถามกับเขาโดยตรง” ป๋อมหันมาหาเพื่อนตัวเล็ก “โดยมีมึงร่วมรับฟังอยู่ด้วย”
“กูเกลียดคนฉลาด” ข้าวพองกัดฟันพูด “วันนั้นแป๋มก็พูดคล้ายมึง แล้วผลเป็นไง”
ป๋อมวางมือลงบนหัวของเพื่อนตรงๆ แล้วโยก “เอาน่า กูเองก็รู้ของแป๋มแบบไม่ปะติดปะต่อ ต้องรอให้ครูเกียเขามาเติมเรื่อง”
“เดาเอาก็ได้”
“เฮ้ย ไม่ได้” ป๋อมรีบบอก “เพราะมาถึงตอนนี้ กูยอมรับแล้วว่าแป๋มคงไม่ฟื้นขึ้นมาเล่าให้ฟัง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใจเย็นอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง เราก็จะได้รู้ความจริงแล้ว”

*-*

สิ่งที่มองเห็นจากระยะไกลคือหนุ่มตัวเล็กที่ชะเง้อมองมา และคนตัวโตคนนี้คงเดินช้าเกินไป เจ้าตัวถึงได้ลุกออกมาหา ยังมีฉากด้านหลังที่เห็นได้ชัดเจน
ไทนี่หว่องขยับตัวตาม แต่ป๋อมคนที่เพิ่งเสียน้องสาวไปดึงมือไว้ให้นั่งอยู่ด้วยกันแล้วชวนคุย

“ว่าไง คุยอะไรกัน”
ปากมันไปไวกว่าสมอง และหัวใจ “ไม่ได้คุยกันเรื่องไอรีนหรอกครับ”
“ห๊ะ” ข้าวพองร้องแล้วชกที่ไหล่หนา “อย่าเพิ่งหึงได้มั้ย”
เกียยิ้มขำตัวเอง “ก็ขอสักนิด”
“แล้วมันใช่เวลามั้ย ตอบมา ว่าคุยอะไรกัน”
“ประวัติของพี่ กับเรื่องคุณเพียงแล้วก็เพื่อนของคุณเพียงน่ะครับ”
“อ้าว...”  ข้าวพองมีท่าทีผิดหวัง แล้วก็เปลี่ยนเป็นสงสัย “ทำไมล่ะ”
เกียลดน้ำเสียงเบาลง ขณะที่ก้าวเข้ามาใกล้ “เขาประหลาดใจ ที่คุณเพียงไม่เคยใช้เส้นสายเพื่อคลี่คลายคดีแม่กับน้องสาว และแปลกใจที่ผมยืนอยู่ในห้องนั้นเฉยๆ ทั้งที่หมดมานพสรุปคดีที่เต็มไปด้วยช่องว่าง”
ข้าวพองย่นจมูก “เขาประหลาดใจ แต่พองโมโหที่พี่เพียงไม่ทำอะไรเลย”
“แต่ก็ดีที่รอให้พี่กลับมาอธิบาย”
“นั่นอธิบายแล้วหรือ” หนุ่มตัวเล็กย้อนให้ ด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินกันแค่ 2 คนเหมือนกัน “มันมีอะไรมากกว่าเมื่อวานหรือไง”
“มีสิ” เกียตอบอย่างจริงจัง “เราได้รู้ว่าเบซซี่ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องแป๋มแน่นอน”

....และรู้ว่า ตำรวจใหญ่คนนี้ต้องเคยเกี่ยวข้องกับเรื่องของพวงเพชรและเพชรแท้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง....

ข้าวพองจับข้อมือใหญ่เขย่า “แล้วไอรีนฆ่าแป๋มทำไม”
“รอฟังคำสารภาพของไอรีนก่อนดีกว่ามั้ยครับ”
เกียกับป๋อมต้องลอกข้อสอบกันแน่ๆ  “ตกลงว่าไอรีนเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกันแน่”
เกียพยักหน้า “นอกจากเรื่องลายนิ้วมือ ข้าวพองนึกถึงภาพจากกล้องวงจรปิดเย็นวันนั้นอีกครั้งนะครับ ชุดของครูคนนั้นที่หมวดมานพหยุดภาพไว้ เป็นชุดเดียวกันกับที่ไอรีนใส่ในเย็นวันนั้น เพียงแต่ตอนที่เขาเข้าไปในโรงเรียน ไอรีนใส่เสื้อคลุม แต่ตอนที่เราเห็นเธออยู่กับธีระ เธอไม่ได้ใส่เสื้อคลุม”
ข้าวพองยอมรับ “จริงด้วย”
ในเวลานั้น ข้าวพองไม่ได้สนใจไอรีนเลยสักนิด
“หลักฐานทุกอย่างมันชี้มาที่ไอรีน แต่ยังมีอีกเรื่องป๋อมที่ไม่ได้บอกตำรวจ ว่าแป๋มคุยกับใครสักคนในคืนก่อนหน้า”
อีกฝ่ายเดา “คนนั้นไม่ใช่ไอรีน”
“เบอร์โทรศัพท์ไม่ใช่ครับ” เกียมองผ่านไปที่ศาลา เห็นไทนี่หว่องมองมาเป็นระยะ ขณะที่เบซซี่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ “แต่ไอรีนอาจมีโทรศัพท์หลายเครื่อง ดังนั้นเราจึงยังไม่รู้ว่าแป๋มคุยกับใคร แต่ว่าแป๋มทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน อันนี้ก็เหมือนกัน คือเราไม่รู้ว่าเจตนาหรือลืมจริง แต่ป๋อมมาเจอโทรศัพท์ในวันถัดมา แล้วเมื่อมาไล่เวลาของสายที่โทรออก ที่ตรงกับเวลาที่ป๋อมเล่าให้ฟัง แต่มันเป็นเบอร์ที่ไม่มีชื่อ ป๋อมไม่รู้จัก และพอลองโทรไปก็ไม่มีคนรับสาย”
“แป๋ม... น่าโมโหชะมัด” ข้าวพองหงุดหงิด
เกียยิ้มอ่อนๆ โอบไหล่พาข้าวพองกลับมาที่ศาลา “ใจเย็นๆ ครับ เรื่องทุกอย่างจะคลี่คลายในเร็วๆ นี้เชื่อพี่สิ”
“อย่างกับมีทางเลือกอื่นงั้นแหละ”

ก่อนที่จะเข้าไปใกล้ศาลา ข้าวพองหันมาถาม
“อีกข้อเดียว เป็นไปได้มั้ยที่ไอรีนไม่ได้ทำเรื่องนี้คนเดียว”
เกียจ้องมองดวงตาดื้อรั้น “ทุกข้อสันนิษฐานเป็นไปได้ทั้งนั้น พี่ถึงบอกว่าเราต้องรอฟังเรื่องเล่าของไอรีน เพราะที่สำคัญ ไทนี่ กับเบซซี่เป็นเพื่อนของข้าวพอง ความระแวงอาจทำให้ข้าวพองเสียเพื่อนดีๆ ไป”
“แต่ถ้าเกิดว่าเขาเป็นคนร้ายล่ะ”
“ถ้าเขาเป็นคนร้าย แล้วยังสามารถนั่งอยู่ข้างๆกันได้ในเวลานี้ ก็ต้องนับว่าเป็นคนร้ายที่โหดเหี้ยมมาก”
“งั้น...พองควรทำไง”
“อย่าระแวงเพื่อน แต่ก็ไม่ควรไปไหนโดยไม่มีป๋อม”

*-*จบตอนที่  29*-*

เฉลยแล้วจริงๆ นะ ส่วนช่องว่างเยอะแยะตาแป๊ะขายก๋วยเตี๋ยวไก่เนี่ยจะค่อยๆ เฉลยออกมา ตอนนี้ก็เฉลยไปอีก 1 แล้วก็อย่าลืมที่การิมบอกไว้ ว่าคนที่อยากได้เพชรที่แท้จริง เป็นหญิงลึกลับ :z2:
คล้ายว่าสปอล์ย จะไม่ได้ช่วยอะไรอีกตามเคย :hao7:
ตอนต่อไปมาวันพฤหัสฯ นะครับ
อีกไม่ถึง 10  ตอนก็จะจบแล้วนะเออ....
.น้ำชา.

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 10-06-2014 10:02:05
เงื่อนงำยังเยอะแยะมากมาย เดาความสัมพันธ์ไม่ออกแล้ว

รอตอนต่อไปเผื่อเดาอะไรได้บ้าง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 10-06-2014 10:33:11
ใกล้จะรู้ความจริงแล้วสินะ

ยังไงก็เถอะ คนร้ายใจร้ายมากที่ทำกับเด็ก เฮ้อ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 10-06-2014 11:16:21
ที่เกียบอกว่าเบซซี่บริสุทธิ์นี่มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า บริสุทธิ์จริง ๆ หรือเพราะไม่อยากให้ข้าวพอง กระโตกกระตากเป็นกระต่ายตื่นตูมตามนิสัย มึน ๆ อึน ๆ อ่ะ และสาเหตุที่แป๋มโดนทำร้ายเพราะรู้ว่าข้าวพองโดนวางยาหรือเปล่า คนที่มอมยาน่าจะเกี่ยวกับเพชร
ไทนี่น่าสงสัยสุด แต่เราก็ยังไม่มองข้าม เบซซี่เหมือนกัน แล้วจะรอเฉลยค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 10-06-2014 11:31:46
อ่านแล้วอยากจะเดาเรื่องใจจะขาด
แต่กลัวเดาไปแล้วคดีพลิกแบบแหกโค้ง
รออ่านตอนต่อไปดีกว่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 10-06-2014 11:53:47
ขอบคุณนะคะ น้องน้ำชา เฉลยมาสองสามครั้ง เราก้อยังมึนเหมือนเดิม5555ล
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 10-06-2014 12:27:27
เง้อ...รอเฉลยดีกว่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 10-06-2014 12:46:58
รอช่องโหว่ที่ว่า  :katai5:

ไม่อยากเดาเลยเพราะผิดทุกที แต่เรื่องแนวนี้อดคาดเดาไม่ได้จริงๆ

ประหนึ่งอ่านนิยายลึกลับสืบสวนสอบสวนดีๆเรื่องหนึ่งทีเดียว  o13

คนร้ายมักเป็นคนที่คาดไม่ถึงเสมอ

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 10-06-2014 13:08:22
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น อยากให้ถึงวันพฤหัสเร็ว ๆ จัง

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 10-06-2014 13:12:42
ซัมเดย์ วี วิล โนว์...โอเค
10ตอนจะตอามเกาะขอบจออย่างใกล้ชิด
เกียสู้ๆ
บวกและเป็ดขอบคุณ .นายน้ำชา.
 :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 10-06-2014 13:28:39
โอย ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆ อยากรู้เฉลยเรื่องราวทั้งหมดเร็วๆจัง

ขออย่าให้มีใครรอบตัวพองตายอีกเลยนะ แค่นี้ก็สงสารพองจะแย่ กลัวพองจะสติแตกไปซะก่อน

ใจเย็นๆจะพอง อย่าเพิ่งคิดอะไรไปล่วงหน้า รอให้เกียจัดการให้เสร็จก่อนนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 10-06-2014 13:55:45
ซับซ้อนมากมาย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 10-06-2014 14:10:30
อยากจะบอกว่าเดาไม่ออกเลยว่ามีเพิ่มมาอีก 1 เนี๊ยเป็นคนไหน  :z3: :z3:

อ่านไปให้ตายยังไง ๆ ที่น่าสงสัยก็ยังคงเป็นไทนี่ (แต่นี่ก็ดันเป็นผู้ชายอีก) :katai1:

ส่วนตำรวจ............ก็เน๊าะส์  :เฮ้อ:

ไม่อยากเดาต่อเลย.....ขนาดเรื่องยาเสพติดใน ร.ร ก็ยังมีเพื่อนตาย แล้วนี่ต้องตามเรื่องเพชรอีก
คงไม่ถึงกับมีอุ้มฆ่าน้า  :ling3:

ว่าแต่ว่า.......จะเศร้าไว้ก่อนดีไม๊ บอกว่าอีกไม่ถึง 10 ตอน....แล้วตอนพิเศษ พึ่งมาแค่ 2 เองอ่ะ
โหดดดดดร้ายยยย มากกกกกก

 :กอด1: ทั้งคู่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-06-2014 14:41:54
โปรดติดตามตอนต่อไป...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-06-2014 15:11:59
นี่เฉลยจริงหรอเนี่ย
หรือจริงๆ ไอรีนเป็นคนที่อยากได้เพชรที่ไม่เคยเปิดเผยตัว
งื้ออออ ลุ้นนนน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-06-2014 15:39:58
มาให้เดามาให้คิดกันตลอดใครคือคนร้าย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 10-06-2014 17:17:11
ขอบอกว่ายังเดาไม่ออกว่าใครคือคนร้าย มันมึนอ่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 10-06-2014 18:30:07
อะไรกันเนี่ย ยังงงอยู่เลย ไม่คืบหน้า หรือเราไม่เข้าใจที่เขาคุยกัน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 10-06-2014 20:24:40
แอบอ่านเงียบๆมาหลายตอน ไม่ค่อยได้เม้นท์

ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร  เขียนได้ลึกลับดี
บางเรื่องเดาได้ แต่เรื่องนี้ยัง

รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 11-06-2014 05:48:45
อ่าาาา เป็นไอรีนสินะ แล้วเคยมีเรื่องอะไรกันน้า รอตาแป๊ะขายก๊วยเตี๋ยวมาเฉลยดีกว่า  เพชรอยู่ที่ไหนยังไม่มีใครรู้ได้ เกี่ยวกับที่พ่อกับพี่ชายไม่ให้ข้าวพองขึ้นเครื่องบินรึเปล่าน้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 11-06-2014 07:47:47
เฉลยบ้างแล้วเหรอเนี่ย แต่ก็ยังเดาไม่ออกอยุดีคะ  :katai5: อ่านมาทั้งเรื่องสงสัยพี่สะใภ้อะ ไทนี่หว่องกะยังไม่ฟันธงง่าจริงๆเป็นคนร้ายหรือแค่มาตามดูนายเอกเรา สงสัยๆ ตอนหน้าขอเยอะๆเลยนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 29 หน้า 24(10มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 12-06-2014 08:13:26
ป๋อมกลายเป็นผู้ช่วยพี่เกียไปแล้ว 55 นานๆทีเห็นพี่เกียหึงนี่ก็น่ารักดีเนอะ

ว่าแต่คดีจะริ่มคลี่คลายตั้งแต่นี้เป็นต้นไปสิเนอะ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดแล้วสิ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 12-06-2014 09:19:12
ตอนที่ 30

ข้าวพองไม่อยากรอ แต่มาถึงวินาทีนี้แล้ว หนุ่มตัวเล็กแน่ใจ ว่าสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้เกียไม่อยากบอกอะไร ก็เพราะนิสัยใจร้อน และไม่ยอมรับความจริง ถ้าความจริงนั้นขัดกับสิ่งที่อยากให้เป็น
ไทนี่ หว่องคือคนที่เกียไม่ไว้ใจ แต่เพราะที่ผ่านมา นี่คือเพื่อนใหม่ที่ข้าวพองสงสารมากที่สุด เป็นอีกคนที่ข้าวพองไม่อยากหันหลังให้
และไทนี่ หว่องคนนี้ก็ตามติดข้าวพองชนิดไปไหนไปด้วยกันทุกที่ จนกระทั่งงานสวดศพคืนนี้ผ่านไป ส่งเบซซี่ กับไทนี่ หว่องที่บ้าน  จนมาถึงบ้านข้าวพองถึงได้มีโอกาสถามอีกครั้ง
“พี่ว่าพี่บอกข้าวพองไปหมดแล้วนะ”
เกียเริ่มกังวลกับความอยากรู้ของข้าวพอง เพราะถ้ารู้แล้วเก็บไว้ในใจอย่างป๋อมก็คงไม่มีปัญหา แต่สำหรับข้าวพอง ถ้าขืนรู้ไม่อยู่เฉยแน่
“พักเรื่องแป๋มไว้ก่อนก็ได้  ตอนนี้อยากรู้เรื่องไทนี่”

เกียเลิกคิ้ว เพราะไม่คิดว่าข้าวพองจะถามเรื่องไทนี่ในเวลานี้
...หนุ่มคนนี้เปลี่ยนความสนใจได้รวดเร็ว มากกว่าทุกคนที่เคยเจอมาในชีวิต...

“เกียสงสัยว่าเขาเอายาให้พองใช่มั้ย” มือขาวๆ ดึงมือเกียให้เข้าไปในห้องนอนที่เคยเป็นของมโหธร แต่ตอนนี้เป็นห้องนอนของเกีย “ก่อนนี้พองได้ยามาจากไอรีน หรือไม่ก็ไอ้ไมเคิล ไม่ใช่ไทนี่ เบซซี่กับเพื่อนเค้าก็ได้ยาจากไมเคิลเหมือนกัน”
คนตัวโตพยักหน้า เดินไปนั่งลงบนเตียง ข้าวพองก็ตามมานั่งข้างๆ
“ถ้าเกียคิดว่าเขาเอายาหยอดในของกินให้พอง ยิ่งยากใหญ่ เพราะคนในแคนทีนเยอะแยะ”
ทั้งที่รู้ว่าเกียสงสัยไทนี่หว่อง แต่ข้าวพองก็อดไม่ได้ที่จะหาเหตุผลให้ไทนี่พ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย
“สมมุติฐานของข้าวพอง คือ คนที่ทำไม่ใช่ไทนี่หว่อง”
“พูดภาษามนุษย์เป็นมั้ย” หนุ่มตัวเล็กหันมาทำตาขวาง “พองไม่เชื่อว่าไทนี่เป็นคนทำ”
“เพราะอะไร และข้าวพองคิดว่าใคร”
ข้าวพองนิ่งคิด “เพราะอะไรไม่รู้หรอก แต่คนที่ทำอาจเป็นบิ๊กหว่อง หรือไม่ก็เพื่อนๆ ของไอ้ไมเคิลก็ได้”
เกียมองนาฬิกาที่ข้อมือ “สามทุ่มกว่าแล้ว ระหว่างที่ข้าวพองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ลองคิดทบทวนดูอีกทีว่า ใครคือคนที่มีโอกาสที่จะทำร้ายข้าวพองมากที่สุด และเพราะอะไร”
“ไทนี่จะทำร้ายพองทำไม”
“คำถามเหมือนกับที่เราถามกันว่าไอรีนทำร้ายแป๋มทำไม ถูกมั้ยครับ”
“เกียอ้ะ...”
“พี่ให้เวลา 20 นาที ข้าวพองไปจัดการเรื่องของตัวเองให้เสร็จ แล้วเรามาช่วยกันคิด”
เป็นเวลา 20 นาทีที่ข้าวพองถูกบังคับให้ต้องคิดและเห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งที่ใจไม่อยากยอมรับ 
…ก็มันเป็นไปไม่ได้...

ทันทีที่เกียเดินเข้ามาในห้องนอนของข้าวพองในอีก 20 นาทีให้หลัง ข้าวพองก็ถามทันที “ทำไมเกียไม่เคยพูดให้ชัดเจนว่า เกียสงสัยไทนี่”
“ข้อแรก พี่แค่สงสัย ข้อสอง พี่เจอเขาน้อยกว่าข้าวพอง ข้อสาม เขามีส่วนน่าสงสารอยู่มาก จนข้าวพองไม่คิดว่าคนน่าสงสารแบบนั้นจะทำเรื่องร้ายได้”
หนุ่มตัวเล็กนั่งลงบนเตียงแล้วขยับตัวพิงพนัก ทั้งดึงมือให้อีกคนนั่งตามไปด้วย ท่าทางบ่งบอกว่าคราวนี้พร้อมที่จะถาม ฟังแล้วก็หลับไปเลย
“ใครที่ไหนจะกล้าโกหกเรื่องถูกข่มขืน”
“มันคนละเรื่องกับที่ที่สงสัยว่าเขาวางยาข้าวพองนะครับ”
ข้าวพองทำหน้าเหนื่อย ขณะเกาหน้าผากตัวเอง “ทำไมมันซับซ้อนอย่างนี้วะเนี่ย”
“กลับไปที่จุดเริ่มต้นใหม่นะครับ เรามีหลายเรื่องที่เป็นคำถาม พี่ขอให้วางทุกเรื่องให้มันแยกกันไว้ก่อน เพราะคำถามวันนี้คือ ไทนี่หว่องวางยาข้าวพองใช่หรือไม่ พี่ตอบว่าใช่ แต่สาเหตุเพราะอะไรพี่ไม่รู้ นั่นทำให้พี่ยังไม่อยากบอกข้าวพอง”
“ก็.....”
“นั่นเป็นคนละเรื่องกับเรื่องที่ไทนี่บอกกับข้าวพองว่าเขาถูกข่มขืน เพราะในข้อเท็จจริงแล้ว มันคือคำบอกเล่าของไทนี่เพียงฝ่ายเดียว”
“แต่เราเห็นเสื้อผ้านะ”
“หลักฐานเท็จทำได้ไม่ยากหรอกครับ” เกียพาดแขนโอบไหล่บางไว้หลวมๆ ทำเหมือนเรื่องที่คุยกันเป็นนิทานก่อนนอน เตรียมพร้อมสำหรับการทำให้ข้าวพองหลับไปให้เร็วที่สุด “มันคนละเรื่องกับคำถามวันนี้ไงครับ ถ้าข้าวพองเอาทุกอย่างมารวมกัน ข้าวพองก็จะไม่ได้คำตอบอะไรเลย”
“โอเคๆ เรื่องวางยานะ เกียว่าเขาหยอดยายังไง”
เกียตอบอย่างระมัดระวัง “ถ้าดูจากเวลา พี่คิดว่าอาหารกลางวัน แล้วปริมาณไม่มาก อาจเพราะเป็นสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านก็เลยใส่ได้น้อย หรืออาจเจตนาใส่ไม่มากนักเพราะหวังให้ข้าวพองอยู่ในอารมณ์ที่สับสนก็ได้”
“เพื่อ....” ข้าวพองกลับมาที่คำถามเดิมอีกครั้ง
คนตัวโตถอนหายใจแรงๆ แล้วส่ายหน้า เมื่ออีกฝ่ายย้อนคำที่พูดบ่อยๆ
“ไหนสอนว่าอย่ากล่าวหาใครลอยๆ”
“พี่ไม่ได้กล่าวหาลอยๆ แต่เพราะไทนี่ เป็นหนึ่งในกลุ่มที่อยู่ในกลุ่มใช้ หรือ ขายยาเสพติด แล้วก็มีแต่เขาที่ใกล้ชิดข้าวพองที่สุด ซึ่งพี่มั่นใจว่าไม่ใช่ป๋อมหรือแป๋ม เพราะ 2 พี่น้องคู่นี้ไม่ใช้และยังต่อต้านการใช้ยาอย่างเปิดเผยด้วย”
ข้าวพองหันมามองเกียตรงๆ “เขาจะทำอย่างนั้นทำไม”
“ก็นั่นไง สิ่งที่พี่ไม่รู้ ข้าวพองไม่รู้ พี่ถึงยังไม่อยากพูดอะไรที่มันชัดเจนลงไป สิ่งเดียวที่พี่ทำได้ก็คือ แยกข้าวพองให้ห่างจากเขา ข้าวพองรู้ดีว่า เวลาที่ไม่ได้กินข้าวพร้อมกันกับไทนี่ หรืออาจจะอยู่ด้วยกัน แต่มีป๋อมหรือแป๋มอยู่ด้วย ข้าวพองจะมีอารมณ์ที่แตกต่างกัน”
หนุ่มตัวเล็กยังทำหน้าตาไม่ค่อยอยากเชื่อ “ที่จริงพองก็วุ่นวายอยู่แล้ว”
“ข้าวพองครับ ถ้าข้าวพองไม่ยอมรับความแตกต่างที่เกิดขึ้น ไม่แก้ไขที่จุดเริ่ม เราก็จะทำอะไรไม่ได้เลย”
“โอเค....” ยังคงลากเสียงไม่อยากยอมรับอยู่เหมือนเดิม แล้วก็นึกขึ้นได้ “พองเห็นไทนี่คุยกับบิ๊กหว่อง คุยกับไมเคิลเหมือนกัน พวกคนที่แป๋มไม่ค่อยชอบน่ะแหละ”

ทั้งที่บอกให้วิเคราะห์เรื่องต่างๆ ให้แยกจากกัน แต่ข้าวพองก็เอาทุกคนเข้าไปรวมกันเหมือนเดิม

“แป๋มน่ะเคยทำตาขวางใส่ไมเคิลด้วย.....ไอรีนเอายาให้พอง”
เกียพยักหน้า “ครับ นั่นคือจุดที่ทำให้ทุกคนเกี่ยวข้องกัน”
“ถ้าเราเอายาเสพติดเป็นหัวข้อสำคัญ....” ข้าวพองพูดช้าๆ “ไอรีน ไทนี่ แล้วก็แป๋ม จะเกี่ยวข้องกันทั้งหมด”
“ครับ” เกียพูดเหมือนเดิม “อย่าเพิ่งสรุปเรื่อง เราแค่มองหาจุดร่วมของเรื่องที่เกิดขึ้น”

ขอบตามันร้อนผ่าวขึ้นมาเอง จนต้องหันไปกอดแขนหนาซุกหน้าซ่อนน้ำตา

เกียลูบแผ่นหลังบาง “สัญญานะครับ ว่าข้าวพองจะระมัดระวังตัวเอง และต้องไม่แสดงพิรุธอะไร ถ้าไอรีนกับไทนี่เกี่ยวข้องกันจริงๆ เราก็จะต้องเอาไทนี่เข้าคุกไปด้วย แต่ถ้าเขาไม่เกี่ยวข้องกัน ยังไงพี่ก็ต้องเอาเขาเข้าคุกฐานที่ทำร้ายข้าวพอง และค้ายาเสพติด”
“เขาเป็นแค่วัยรุ่นต่างชาติที่พ่อเอามาทิ้งไว้กรุงเทพฯ แล้วก็หายไปไหนไม่รู้ เขาอาจทำอย่างนี้เพื่อที่จะหาเพื่อนก็ได้”
“เขามีส่วนที่เหมือนข้าวพองใช่มั้ยครับ เป็นความเหมือนที่ข้าวพองเข้าใจเป็นอย่างดี”
ข้าวพองกัดปากแน่น ขณะที่ร้องไห้อยู่กับแขนใหญ่
“เกีย...ไทนี่เขาน่าสงสารนะ”
เกียพูดตรง “เขาไมได้น่าสงสารสำหรับพี่ คนจะดีหรือเลวไม่ใช่เพราะคนอื่น แต่มันอยู่ที่ตัวเราเองต่างหาก”
“เกีย....”
“ข้าวพองกำลังขอให้พี่ยกโทษให้คนที่ทำร้ายข้าวพองนะครับ”
“เปล่าสักหน่อย” ข้าวพองแก้ตัว ทั้งที่กำลังทำอย่างนั้นอยู่ “ทำไมอยู่ดีๆ พองคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ไม่รู้ น่าจะถามเรื่องแป๋ม...”
เกียเช็ดน้ำตาที่อาบแก้ม
“หนุ่มคนนี้ชอบคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้วุ่นวาย”
“ทำไมไม่คิดว่าทุกคนรอบตัวพองวุ่นวาย” ดวงตากลมมองเหมือนเกียเป็นคนทำให้เรื่องวุ่นวาย
เกียก้มลงจูบแก้มเบาๆ “ดึกมากแล้ว หลับได้แล้วครับ”
คนตอบคำถามตัดจบดื้อ ๆ และข้าวพองก็รู้แล้วว่า ต่อให้ถามไปเรื่อยๆ ก็จะไม่ได้คำตอบอะไรอีก
...แต่ก็ยังมี่เรื่องที่อยากรู้...

“เกียจะไปฟังสอบปากคำไอรีนมั้ย”
“พรุ่งนี้ครับ ส่งข้าวพองเข้าโรงเรียนแล้วพี่ถึงจะไปคุยกับหมวดมานพ”
ข้าวพองพยักหน้ารับรู้ “การที่รู้ว่ามีเพื่อนที่คิดร้ายกับเราเพราะอะไรไม่รู้แบบนี้มันแย่ชะมัด” พูดแล้วข้าวพองก็ทำตาโตอีกรอบ “หรือเขากำลังเอาพองทดลองยาตัวใหม่”
ที่จริงข้าวพองกำลังพูดเล่น แต่เกียคือคนที่ทำหน้าจริงจัง จนข้าวพองใจเสีย
“เมื่อกี้พองพูดมั่วนะ”
พอเกียไม่ตอบ ข้าวพองก็หน้าถอดสี “เกีย....”
“อีกไม่นานเราก็จะรู้ว่าทำไม แต่ตอนนี้พี่อยากให้ข้าวพองมั่นใจว่า เขาจะไม่สามารถทำร้ายข้าวพองได้อีก”
“ทำไง”
“ระมัดระวังตัวเองไงครับ เที่ยงก็ออกมากินข้าวข้างนอกกับพี่อยู่แล้ว ส่วนที่เหลือข้าวพองรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร”
“ก็แค่กลับไปเป็นข้าวพองคนเก่าที่ไม่มีเพื่อน”
“อีกวันสองวันงานศพของแป๋มเสร็จ ป๋อมก็กลับมาแล้ว”
“ป๋อมมันจะโชคร้ายไปด้วยน่ะสิ”
เกียจูบที่ริมฝีปากบาง “หยุดคิดเรื่องเพื่อนได้แล้วครับ ข้าวพองต้องมีสมองที่แจ่มใส เพื่อที่จะป้องกันตัวเอง และสังเกตคนรอบตัวให้มากกว่านี้นะครับ”
ข้าวพองขยับตัวลงนอน มองคนที่ห่มผ้าให้ แล้วก้มลงจูบหน้าผาก
“แม่ส่งพองเข้านอนแบบนี้มาตั้งแต่พองจำความได้ บอกตั้งหลายครั้งว่าพองเป็นหนุ่มแล้ว ไม่ต้องทำก็ได้ แต่แม่บอกว่า แม่อยากทำ แม่มีความสุขที่ทำอย่างนี้ พอวันที่...แม่ไม่อยู่...”
“ให้พี่พาข้าวพองเข้านอนแทนแม่ได้มั้ยครับ ถึงไม่อบอุ่นเท่า แต่พี่ก็อยากทำ”
ข้าวพองยิ้มทั้งน้ำตา
“เดี๋ยวเกียก็ไป เหมือนกับคนอื่นน่ะแหละ”
“พี่จะอยู่ จนกว่าข้าวพองไล่พี่ไป”
ข้าวพองจับมือใหญ่ไว้ “ขอบคุณนะ”

*-*จบตอนที่ 30 *-*
สืบเนื่องมาจากกระทู้แจกหญ้า (อีกแล้ว) จึงมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบว่า สิ่งที่คุณเพิ่งอ่านจบไปคือเรื่องแต่งนะ มันคือเรื่องแต่งจริงๆ นะ ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องของเราเลยนะ คือมันอาจมีอะไรที่เป็น "แนวๆ" แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของเราเลยนะ ขอได้โปรดเชือผม  :hao5:
เพราะผมไม่มีวันจะซื่อบื้ออย่างข้าวพองแน่ๆ ผมมันคนฉลาด :hao3:
อีกไม่เท่าไหร่ก็จะจบแล้ว
พี่ไจฟ์ส่งตอนจบมาแล้ว แต่ "คณะกรรมการ" ไม่ให้ผ่าน เพราะมันแบบ....แบบ...ไจ๊ฟ์ ไจฟ์ มากน่ะ คือเข้าใจไหมครับคือมันไม่หวานเลยสักนิด มันคงสไตล์ แบบทะเลาะกัน ใส่นวม ขึ้นชก ลงมาก็เดินไปกินเย็นตาโฟกันต่อได้น่ะ
แบบ คณะกรรมการเซ็งมากนะฮะ
ตอนต่อไปมาวันอาทิตย์นะครับ
..น้ำชา..
อีกที เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งนะครับ




 

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 12-06-2014 09:42:43
ตอนนี้สั้นอ่า แถมยังน่าสับสนเหมือนเดิมเลย แง่มๆ
รอวันที่อะไรๆจะเผยออกมา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-06-2014 10:32:58
เอาล่ะไทนี่หว่องกับไอรีนเป็นผู้ร้ายชัวร์ แต่มูลเหตุจูงใจนี่สิยังต้องเดาต่อไป
จะเป็นแค่เรื่องยาเสพติดของวัยรุ่นหรือจะเอี่ยวเรื่องเพชรของรุ่นใหญ่เข้ามาด้วย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-06-2014 10:38:28
ขำสไตลแบบไจฟ์ ไจฟ์ 55555
ว่าแต่มีกระทู้แจกหญ้าอีกแล้วเรอะ เห้อออ
ส่วนข้าวพอง หนูต้องตั้งสติให้มากกว่านี้นะ
ไม่งั้นคงหาคนทำผิดไม่ได้ซักที
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 12-06-2014 11:02:07
เฮ้อออออออออ ข้าวพองใจเย็นๆ มีสติ เนียนๆนะ อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น

ถ้าไทนี่รู้ตัวแล้วทำร้ายพองทางอื่นจะยิ่งอันตรายนะ




ปล.ยิ่งอ่านยิ่งงง ยิ่งอ่านยิ่งซับซ้อน เหมือนจะจับคนผิดได้ แต่ก็ไม่ทั้งหมด

ยิ่งคิดยิ่งเครียด รอตอนต่อไปดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-06-2014 11:05:30
ทำใจให้เชื่อยากเหมือนกันนะ ถ้ารู้ว่าเพื่อนคอยแต่จะทำร้ายเราแบบนี้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 12-06-2014 11:08:33
การกระทำของเกียแบบนี้.........ยังไงอ่ะ ถ้าวันหนึ่งเกีย ต้องไปจากข้าวพองจริงๆ
คนที่เจ็บที่สุดน่ะต้องเป็นข้าวพองแน่ๆ  :monkeysad:

อารมณ์ตอนที่ข้าวพองเห็นไทนี่โดนจับจะเป็นอย่างไรน๊อ...เป็นคนที่เห็นคนอื่นเจ็บแล้วชอบเจ็บกว่าเค้าแบบนี้
เฮ่อ...ทำไมเป็นคนที่ชอบทำให้ตัวเองเจ็บปวดนักข้าวพอง

บอกว่าใกล้จบ...........แต่คดีเพชรยังมึดมนอยู่เลยอ่ะ ..เด็กซื้อบื่อของที ก็ยัง ก่งก๊ง ....
แถมมมมม ตอนพิเศษษษษษษษษ หายยยยย  :katai1: :katai1:


ส่วน...........ตอนจบ คณะผู้ติดตามขอแจ้งคณะกรรมการเห็นสมควรเพิ่มความหวานเข้าไปมากๆๆๆๆ   :mew1: :mew1: :mew1:


 :pig4:  JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 12-06-2014 11:28:38
ตอนแรก เกียมาด้วยเรื่องเพชร  ตอนนี้กลายเป็นว่า มาเคลียร์ปมเรื่องยา
เหมือนข้าวพองเป็นศูนย์กลางของเรื่อง แต่มันเฉียดไปเฉียดมา
สรุปว่า หากเกียเคลียร์เรื่องยาได้ จะพาไปสู่ข้อสรุปเรื่องเพชรเหรอ
งง งง งง กันต่อไป หรือว่าคนอ่านคนอื่นเข้าใจแล้ว แต่เราบื้ออยู่คนเดียว แงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 12-06-2014 11:41:30
ป๋อม เป็นผู้ใหญ่มาก
พอง ก็เด็กน้อย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 12-06-2014 12:54:10
อ่านไปอ่านมาต้องร้องอ๋อออออ........ที่เราไม่เคยรู้อะไรเลยเพราะเราคิดเหมือนพองนี่เอง :laugh:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 12-06-2014 15:11:25
ไม่มีอะไรคืบหน้า ใกล้จบแล้วอีกด้วย สงสัยเฉลยตอนจบแน่ๆ เลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-06-2014 15:48:22
จากตอนแรกที่เกียมาเมืองไทยเพราะคดีเรื่องเพชรเป็นสำคัญไปๆมาๆกลายเป็นปัญหาวัยรุ่น ยาเสพติดเป็นหลัก รอทุกอย่างเฉลยคะใกล้จบแล้วเหรอรู้สึกว่ามันเร็วมากอะ เหมือนทุกอย่างยังสามารถยาวได้อีก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 12-06-2014 15:58:04
กระทู้แจกหญ้ามีอีกแล้วรึ  อันไหนหว่า เราพลาดไปใช่ไหม

ตอนนี้ข้าวพองกำลังสับสนจนเวียนหัววกไปวนมา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 12-06-2014 17:50:19
ก็สงสัยอยู่ว่าเป็นไทนี่แต่ไม่ปักใจเพราะไจฟ์ชอบหักมุม พลิกตลอด
ว่าแต่ชาเอ๊ยพองจะไล่เกียจริงรึ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 12-06-2014 18:23:18
รอความจริงเปิดเผยทั้งเรื่องยาและเพชร
เหมือนจะรู้จะคืบหน้า แต่สุดท้ายก็ยังไม่รู้อยู่ดี  :laugh:

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 12-06-2014 18:38:40
เกียคือโคนันป่ะเนี่ย  แบบปริศนาทั้งหมดจะคลี่คลายได้เพราะเกีย
ไอรีนเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าแป๋ม และไทนี่เป็นคนวางยาข้าวพอง 
แล้วต่อไปจะมีใครโผล่มาเป็นผู้ต้องสงสัยอีก 
พี่สะใภ้ข้าวพองหายไปนานมาก คือเธอไม่เกี่ยวกะคดีใช่ไหม 
อ่านไป  เหมือนปมจะค่อย ๆ คลายออกมา  แต่ก็ยังเดาไม่ถูกอยู่ดี
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 12-06-2014 19:37:47
อิป้าชอบเรื่องนี้นะ....มันไม่สามารถที่จะเดาทางได้ง่าย ๆ เลยนิ...
แต่ขอบอก..ห้ามจบแบบ ชกมวย..แต่จบแบบมวยปล้ำคงดี..555...
 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 13-06-2014 09:02:36
ใกล้จบแล้วก็ต้องมีหวานมั่งสิเนอะน้องที
ตกลงก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย เป็นเรื่องที่สองของคุณไจฟ์ที่อ่านแล้วมึน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 13-06-2014 10:04:22
ยังคิดว่า สาเหตุที่แม่และพี่ของพองต้องตาย
อาจจะโยงกับเรื่องที่เป็นอยู่ในตอนนี้ด้วย

ลุ้นตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 13-06-2014 18:46:33
ใกล้เข้ามาอีกนิด บิ๊กหว่องเราปักใจกับบิ๊กหว่อง มันเกี่ยวข้องกันไปหมดเลยเนอะ รอดีกว่า
ปล อ้าวเรื่องแต่งเหรอเนี่ย 555 ล้อเล่นนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 13-06-2014 22:13:39
กราบ "คณะกรรมการ" ที่ไม่ให้ผ่านค่ะ!
ขอหวานๆแทรกมามั่งเถอะนะคะ
รอเฉลยคนร้ายแล้วกัน มึนๆงงๆ ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 30 หน้า 25(12มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 14-06-2014 03:03:36
รออ่านต่อค่ะ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 15-06-2014 09:18:18
ตอนที่ 31

มันมีความเป็นไปได้จริง แม้ข้าวพองจะบอกว่าพูดไปมั่วๆ ว่าไทนี่ หว่องวางยาเพื่อสาธิตให้บรรดาลูกค้าทั้งหลายเห็นด้วยตาตัวเองว่ายาที่มีอยู่มีฤทธิ์อย่างไร
เพราะป๋อมบอกว่า เคยได้ยินเรื่องที่กลุ่มเด็กที่ใช้ยาเสพติดพูดเรื่องยาตัวใหม่ของไทนี่
แต่ก็มีความเป็นไปได้ ที่ไทนี่จะเข้ามาด้วยเหตุผลอื่นเช่นกัน
เกียคิดทบทวนเรื่องของไทนี่ในระหว่างที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาวหน้าห้องสอบปากคำ

หนุ่มอังกฤษผมทองกับหญิงสาวผมยาวสีเข้มเดินขึ้นมาบนโรงพักแล้วส่งยิ้มทักทายทุกคนบนโรงพัก รวมถึงคนที่นั่งรออยู่
“เมืองไทยร้อนมาก” หนุ่มผมทองบ่นทันที ส่วนหญิงสาวยิ้มกว้างเดินมานั่งข้างๆ
“เจ้าชายน้อยอยู่โรงเรียนหรือ”
“เจอหน้ากันก็ถามถึงเจ้าชายน้อย” เกียพูดยิ้มๆ
“ถามถึงมาตลอดทางตั้งแต่อังกฤษ จนถึงเมืองไทย”
“แอนดรูว์ขี้ฟ้อง” แมรี่ไม่ถือสา
เกียมอง 2 คนที่ดูคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี “2 คนนี้รู้จักกันนานแล้วหรือเปล่า”
“เพิ่งเจอกันตอนที่โบรดี้พาเธอมาส่งที่สนามบิน” แอนดรูว์บอก แมรี่ก็พยักหน้า ทำให้เกียยิ้มแปลกๆ
หญิงสาวใช้หลังมือตีที่แขนใหญ่ของเกีย “ยิ้มอะไร สรุปความคืบหน้าในรอบ 24 ชั่วโมงนี้มาด่วน”
“เขาไม่ยอมให้ผมฟังสอบปากคำด้วย”
เกียทำฟ้องเลียนแบบแอนดรูว์ ที่ยักไหล่ทันที “เรื่องธรรมดา แต่ไม่เป็นไรกูเตรียมกุญแจมาด้วย”
แมรี่ขยับตัวเข้ามาใกล้ “เราเจอไอ้เหลียงศัตรูเก่าของเธอแล้ว”
“และคืบหน้าเรื่องเพชรลอนดอนที่ครอบครัวนี้ครอบครองอยู่”
เกียพยักหน้ายอมรับง่ายๆ จนแอนดรูว์กับแมรี่แปลกใจ
“ทำไมไม่มีคำถาม”
เกียเกือบจะบอกไปแล้วว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เป็นฝ่ายตอบคำถามแทบจะทุกวัน จนใกล้จะตั้งคำถามไม่เป็นแล้ว
“คิดอยู่เหมือนกัน ว่าเรื่องพวกนี้มันเกี่ยวกับอยู่ห่างๆ” เกียพูดยิ้มๆ
เป็นอีกครั้งที่ทั้ง 2 คนแปลกใจ “เรายังไม่ได้พูดคำนั้นนะ แค่บอกหัวข้อ”
พอเกียยิ้มมุมปาก แมรี่ก็หันมาบอกกับแอนดรูว์ “ฉันบอกเธอแล้ว ว่าหมอนี่ฉลาด ไม่งั้นโบรนี่ไม่ส่งมาคนเดียวหรอก”
แอนดรูว์หันมาพูดกับแมรี่บ้าง “แล้วที่เคยเห็นมา หมอนี่บ้าเข้าขั้นเลยทีเดียว”
เกียได้แต่ส่ายหน้าให้กับทั้ง 2 คนที่ยังคงส่งความรู้สึกดีๆ ระหว่างกันออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ต้องไปรับเจ้าชายน้อยกี่โมง” หลังการสนทนาแบบโลกส่วนตัวกัน 2 คนแมรี่ก็หันมาหาเกีย
“บ่ายสาม”
“งั้นมีเวลาเหลือเฟือ” แอนดรูว์ลุกขึ้นยืน แล้วเดินนำออกไปจากโรงพัก
“เธอยังไม่ได้สรุปสถานการณ์ 24 ชั่วโมงให้เราฟังนะ” แมรี่ทวง
“ไปเล่าที่คอนโดฯ ก็ได้” เกียบอก แล้วผิวปากหวือเมื่อเห็นรถหรูของแอนดรูว์ ที่ไม่ได้ใช้ป้ายรถสถานทูต แต่ติดป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร “เส้นเขาดีจริงๆ”
“ใช้ทะเบียนสถานทูตแล้วมันเด่น” แอนดรูว์บอก

ห้องพักที่คอนโดฯ แม้ว่าเกียจะไม่ได้กลับมานอน แต่ก็เป็นที่ทำงานด้านเอกสารเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แอนดรูว์กับแมรี่มาถึงไม่ถึง 5 ชั่วโมง ห้องนี้ก็เปลี่ยนไป
ห้องพักที่คอนโดมีอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์เข้ามาเพิ่มเติม กับแฟ้มรายงานที่เกียเก็บไว้ในลิ้นชัก ตอนนี้วางอยู่กลางโต๊ะ
“ห้ามน้องเข้าห้องนี้อย่างเด็ดขาด”
เกียบ่น แมรี่หันมามอง “เขาเคยมาหรือ แล้วทำไมถึงพามาไม่ได้ล่ะ”
“เคยครั้งหนึ่ง เขาเป็นคนช่างสังเกต เห็นทุกอย่าง แต่เลือกที่จะตัดสินว่ามันใช่หรือไม่ใช่”
แอนดรูว์ยกนิ้วชี้ หันมาหา “อธิบายใหม่สิ”
เกียเดินไปที่แฟ้มรายงาน ขณะที่แมรี่เปิดอุปกรณ์ในห้อง
“เขาช่างสังเกต แล้วก็จะมีความเชื่อพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก อย่างการที่เขาเชื่อว่า ไทนี่ หว่องเป็นคนน่าสงสาร และไม่มีวันที่จะทำร้ายใคร ต่อให้เขาเห็นกับตาว่าเด็กคนนั้นติดต่อกับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีท่าทีพิรุธเมื่อพบกับไอรีน หรือ คู่แฝดป๋อมแป๋มจะเตือนเรื่องการคบหา ทั้งหมดนี้ไม่สามารถทำให้ข้าวพองเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อไทนี่”
“เรียกว่าดื้อได้มั้ย” แอนดรูว์ถาม
แมรี่พูดช้าๆ “ไม่ใช่ดื้อหรอก แต่เพราะหนังแกะที่เด็กคนนี้ใช้ห่มตัวอยู่ต่างหาก”
แอนดรูว์ทำหน้าเหนื่อย “2 คนนี้ชอบพูดให้แปล”
“เขามาฟอร์มเด็กที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังเหมือนข้าวพองไง” แมรี่ดุ “เด็กตะวันตกเพื่อนเยอะอย่างเธอไม่เข้าใจละสิ”

แอนดรูว์ยอมรับ เพราะเขาเป็นคนที่มีเพื่อนมากมายและอยู่ในครอบครัวที่มีพี่น้องหลายคนจนจินตนาการไม่ออกว่า การอยู่บ้านเพียงคนเดียวเป็นอย่างไร
เกียหันไปพยักหน้าให้กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่แมรี่รันเครื่องขึ้นมา
ทั้งเกียและแอนดรูว์ เป็นตำรวจประเภทที่ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เหล่านี้สักเท่าไหร่ แต่แมรี่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาอุปกรณ์มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์

“เราตามประวัติไทนี่ หว่อง เขายังเด็กเกินกว่าที่จะมีประวัติอยู่ในแฟ้มตำรวจทุกประเทศทั่วโลก แต่เขามีประวัติที่อยู่ในโรงเรียนที่ฮ่องกง” แมรี่อธิบาย “โรงเรียนส่วนใหญ่จะไม่มีการบันทึกเรื่องการลงโทษเด็กนักเรียนไว้ เพราะความที่ทุกคนเป็นผู้เยาว์ แต่ไทนี่ หว่องถูกพูดถึงในโรงเรียนเกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรที่เขามีส่วนเกี่ยวข้อง ชื่อแก๊ง 105 เป็นแก๊งค์ค้ายาเสพติดเป็นหลัก และแน่นอนว่ารับจ้างข่มขู่ด้วย”
“อาชีพหลักของแก๊งค์ คือการเก็บค่าคุ้มครอง” แอนดรูว์เสริม
แมรี่ดึงภาพคนกลุ่มหนึ่งขึ้นมาเพื่อขยาย “เห็นศัตรูเก่าของเธอหรือยังเกีย” ภาพนั้นดูไม่ค่อยเหมือนเหลียงศัตรูเก่าสักเท่าไหร่ “ไอ้เหลียงน่ะตายจากการดวลปืนกับเธอ มันถูกเก็บศพไปทันที ทำให้เราไม่แน่ใจว่ามันตายหรือสาหัส ส่วนคนนี้คือพี่ชายของมัน”
ที่ผ่านมา เกียมักสงสัยว่าเหลียงอาจรอดหรือไม่รอดจากการดวลปืนวันนั้น แต่การรู้ว่าศัตรูตายไปแล้ว และมีตัวแทนเข้ามาทันทีแบบนี้มันอยู่เหนือความคาดหมายอยู่เล็กน้อย 
“คนนี้เป็นพ่อของไทนี่หว่อง ทั้ง 3 คนใช้คนละนามสกุล” เกียบอก “เราเสียเวลาไปมากกับการชี้ตัวคนๆ นี้ เขามาที่นี่เพื่ออะไร”
“เรา” แอนดรูว์เน้นเสียง “เชื่อว่ามันรับจ้างจากผู้มีอิทธิพลในฮ่องกงมาเอาเพชร”
เกียพูดเสียงต่ำ “เพชรแท้ผิดนัดส่งของให้กับพ่อค้าฮ่องกง จนมีเรื่องขึ้นศาล”
“นั่นแหละ” แมรี่บอก “ถึงกลุ่มที่อยู่ในข่ายจะมีทั้ง ฮ่องกง ลอนดอน ซาฮาร่า ซาอุ ไปจนถึงญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ปลายลูกศรทั้งหมดกำลังชี้ไปที่ฮ่องกง”

แอนดรูว์และแมรี่หันมามองเกีย เพื่อรอการตัดสินใจ
ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก “ถ้าไทนี่อยู่ติดกับข้าวพอง พ่อของไทนี่ก็ต้องอยู่ไม่ห่าง เพราะมันจะต้องคอยส่งของ แล้วก็ต้องตามความคืบหน้าเรื่องเพชรด้วย”
“ฟังดูไม่น่าจะอยู่กันแค่ 2 คน”
เกียพยักหน้า “มากกว่า 2 คนแน่นอน”
แอนดรูว์ชี้เกีย ขณะที่หันไปบอกแมรี่ “เชื่อเขา เพราะเขาอยู่ในพื้นที่ เรามีแต่ข้อมูลเก่า”
“แล้วฉันเถียงอะไรเกียหรือไง” แมรี่พูดขำ “ไอคิวเขาเท่าไอน์สไตน์ กล้าเหมือนแจ็คกี้ ชาง ไม่คิดจะเถียงเขาอยู่แล้ว”
หนุ่มฝรั่งผมทองยักไหล่ แล้วหันมาถามขั้นตอนต่อไปแล้วแยกย้ายกันไปทำงาน

แอนดรูว์ไปทักทายมโหธรเพื่อนเก่าถึงที่ทำงาน เพื่อรายงานตัว ส่วนแมรี่ไปหาป๋อมที่วัดเพื่อทำความรู้จัก ก่อนที่เกียจะพาข้าวพอง ไทนี่ และเบซซี่ตามไปที่วัดเพื่อเผาศพ
“คนจีนไม่เผาศพ” ไทนี่พูดท้วงขึ้นเมื่อมาถึงวัดแล้วกวาดตามองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าแมรี่ยืนคุยอยู่กับครอบครัวของป๋อม
ดวงตายาวเรียวหันมามองเกีย และรอจนกระทั่งเกียแนะนำแมรี่ให้ทุกคนรู้จัก
“แมรี่จะมาดูแลป๋อมและครอบครัว”
เกียบอกแค่นั้น ขณะที่เหตุผลที่เกียบอกกับครอบครัวของป๋อมไว้ก่อนหน้านี้ก็คือ แมรี่มีความเชี่ยวชาญเรื่องคอมพิวเตอร์ จะมาช่วยตรวจสอบคอมพิวเตอร์และการสื่อสารของแป๋ม

พิธีการทางศาสนาผ่านไปโดยที่ไทนี่แสดงอาการอย่างชัดเจนว่า มีความไม่พอใจอะไรบางอย่าง
แต่เพราะไทนี่เพิ่งแสดงความเห็นเกี่ยวกับประเพณีทางศาสนา ทำให้ข้าวพองไม่มั่นใจว่า ความไม่พอใจนั้นเป็นเพราะการดัดแปลงประเพณี หรือเพราะแมรี่
แมรี่ไม่ได้กลับมาด้วย
แต่พอมาถึงบ้าน แอนดรูว์กลับมารออยู่กับมโหธรแล้ว
ทันทีที่เห็นหน้าพี่ชายข้าวพองก็ใส่ก่อนทันที “วันนี้ไม่ใช่วันอาทิตย์”
พี่ชายได้แต่ส่ายหน้า แล้วเดินนำเข้าไปในห้องทำงาน ให้อุบลรับหน้าที่ดูแลข้าวพองต่อไป

...ในเมื่อเรื่องทั้งหมดมันเกี่ยวกับเราโดยตรง แล้วทำไมเราถึงต้องเป็นคนรออยู่ข้างนอกแบบนี้...
ให้เวลาแค่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จข้าวพองก็เปิดประตูห้องทำงานเข้าไปทันที
เกียกำลังยืนตัวตรง
“ขอบคุณคุณเพียงที่ยังให้โอกาสผมทำหน้าที่ต่อไป”

ข้าวพองไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะทำความเข้าใจคำพูดและสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนี้
“กินข้าว”
“อุบล....” มโหธรเรียกแม่บ้าน แต่ข้าวพองทำหน้างอหงิก
“ไม่ต้องเรียกอุบล เพราะถ้าไม่ออกไปกินข้าวพร้อมกัน ก็ต้องให้พองฟังด้วยว่าคุยอะไรกัน”
รุ่นใหญ่ 3 คนหันมามองหน้ากัน
ดูท่าเจตนาที่แท้จริงคือจะฟังด้วย ไม่ใช่กินข้าวพร้อมกัน
มโหธร ยกมือยอมแพ้แล้วเรียกน้องชายมานั่งข้างบนโซฟาตัวยาวในห้อง
“เรื่องมันซับซ้อน”
ข้าวพองเบ้หน้าทันทีจนพี่ชายต้องล็อคคอเข้ามากอด
“แกน่ะมันทั้งดื้อทั้งใจร้อน พี่ไม่ได้อยากปิดบังอะไรแกหรอกนะ แต่ยิ่งรู้น้อยแกก็จะยิ่งปลอดภัย”
พี่ชายคนโตมองหน้าน้องชาย “ทันทีที่แกจบ ม.6 เราจะไปอังกฤษด้วยกัน” 
เมื่อน้องชายมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามพี่ชายก็เล่าเรื่องตั้งแต่เริ่มต้น ที่ต้องย้อนไปตั้งแต่การทำธุรกิจร้านเพชรของแม่ ที่เข้าไปมีส่วนพัวพันกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล และทำให้ทั้งแม่และเพชรแท้ต่างก็ต้องเสียชีวิต
“แกกับพี่จะไปอังกฤษด้วยกัน”
น้ำเสียงของมโหธรทำให้ข้าวพองปิดปากเงียบ และให้พี่ชายพูดต่อ

เรื่องมาถึงยาเสพติดในโรงเรียนที่ข้าวพองกลายเป็นคนที่โดนวางยาหลายครั้ง
“พี่ไม่สนใจว่าเขาทำอย่างนั้นทำไม เพราะพี่ไม่ต้องการเพิ่มคู่กรณีที่เป็นขบวนการผิดกฎหมายพวกนี้เพิ่มขึ้นอีก”
ข้าวพองเหลือบตามองเกีย
ได้แต่หวังว่าเกียจะตามไม่ทันช่องว่างในคำพูดของพี่ชาย
ขณะที่ทั้งเกียและแอนดรูว์ ก็ทำหน้าที่เพียงผู้ฟังที่ไม่ได้ซักถามอะไร
...หรือบางทีเขาถามไปแล้ว แต่เขากำลังพูดในสิ่งที่เราควรรู้อีกครั้ง....
ข้าวพองใช้สันมือเคาะหน้าผากตัวเอง จนมโหธรต้องหยุดบรรยายหันมาถาม
“เป็นอะไร”
“เปล่า แค่เคาะตัวโง่ออกไปจากหัว”
“แกนี่มัน....” มโหธรส่ายหน้า “เรื่องที่แป๋มตายน่ะเราก็เสียใจกับครอบครัวของเขา แต่การที่พอจะเดาได้ว่ามีเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทั้งเรื่องยังเกิดขึ้นในโรงเรียน แล้วตำรวจเร่งปิดคดีแบบนี้ มันยิ่งทำให้พี่อยากให้แกห่างออกมา ไปเรียนเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านเข้าใจมั้ย”
ข้าวพองผุดลุกขึ้น “ถ้าแป๋มเป็นเพื่อนพี่ พี่จะบอกแบบนี้มั้ย ถ้าเขาเป็นพี่นิ พี่จะไม่รู้ไม่ชี้แบบนี้หรือเปล่า หรือว่าก็เหมือนกัน เพราะทั้งแม่ ทั้งพี่เพชร พวกเขาตายไปโดยที่พี่ไม่ได้ทำอะไรเลย”
มโหธรเพียงแค่มองน้องชาย แต่เกียกระแอมดุให้เงียบ
เพียงแต่เมื่อเริ่มอาละวาด ข้าวพองก็หยุดไม่ได้
“ชีวิตใครพี่ก็ไม่สนใจ เพราะพี่สนใจแต่จะเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นเงิน!”
ข้าวพองผลุนผลันออกไปจากห้องทันที ทิ้งให้ทั้ง 3 คนที่อยู่เบื้องหลังผ่อนลมหายใจยาว

มโหธรหันมาพยักหน้ากับเกีย
“ฝากด้วยนะ ส่วนเรื่องนิผมจัดการเอง”
แอนดรูว์ขัดขึ้น “มันดีจริงๆหรือ ให้เขาเข้าใจเพียงผิดแบบนั้นน่ะ”
มโหธรหรือเพียงแค่ยิ้ม “ไม่ผิดหรอก ผมเป็นพี่ชายไม่เอาไหนของเขามาตลอดอยู่แล้ว หากมันจะทำให้เขาปลอดภัย ห่างจากคนไม่ดี”
“พี่ชายทุกคนอยากเป็นฮีโร่ของน้องๆ ทั้งนั้น”
“ใช่ว่าผมไม่อยากเป็น แต่เรากำลังเจอกับอะไร พวกเขาอยู่ในโลกที่ผมไม่รู้จัก และไม่อยากรู้จักด้วย” มโหธรบอก “คนที่ไม่เคารพกฎหมาย ใช้กำลังคน และอาวุธ ทั้งที่งานที่ผมทำอยู่มันก็ต้องมีพวกพ้อง มีเรื่องของอิทธิพล แต่มันไม่เหมือนกับมาเฟียพวกนี้ ถ้าพวกเขาสามารถฆ่าผู้หญิง 2 คนได้ เขาย่อมไม่ลังเลที่จะฆ่าเด็กอีกคนเพื่อเพชรนั่น” มโหธรลุกขึ้นเดินนำไปที่ประตู “ผมไม่คิดว่าเรื่องยาเสพติดจะเป็นเรื่องบังเอิญ ไทนี่ หว่องคนนั้น เจตนาเข้ามาหาน้องชายของผม แล้วผมก็ไม่ไว้ใจโรงเรียนด้วย ถ้าไม่ติดว่าเหลือเวลาอีกเดือนกว่าๆ เขาจะต้องสอบไล่กันนะ ผมไปเอาน้องออกจากโรงเรียนแล้ว”
พูดแล้ว มโหธรก็ส่ายหน้า “พ่อผมยังไงก็ยังเชื่ออยู่เหมือนเดิมว่า โรงเรียนคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กๆ เขาบอกว่าสถิติเหตุร้ายในโรงเรียนเทียบไม่ได้เลยกับสถิติเหตุร้ายนอกโรงเรียน” สีหน้าท่าทางของมโหธรตอนที่หันมาเกียบ่งบอกอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ยังไม่ให้ข้าวพองออกจากโรงเรียนในเวลานี้ “ข้าวพองมีเกียเป็นครูพี่เลี้ยง ผมเชื่อมั่นว่าเขาจะปลอดภัย”

มโหธรกลับบ้าน ส่วนแอนดรูว์กลับไปคอนโดฯ เกียเดินขึ้นมาที่ห้องนอนที่ชั้น 2
“ไม่หิวข้าวหรือครับ”
คนหน้าหงิกที่กำลังกอดอกแน่น ถอนหายใจแรง “หิวสิ”
“งั้นก็ลงมากินข้าวกันดีกว่า จะได้คุยกัน”

“ข้าวพองรำคาญเวลาที่พี่พูดซ้ำๆ หรือเปล่า”
คนที่เดินนำไปที่โต๊ะกินข้าวถามขึ้น ข้าวพองพยักหน้า “รำคาญสิ ถามทำไม”
“พี่เคยพูดเรื่องการตัดสินใจของคุณเพียงไปแล้ว แต่ทำไมข้าวพอง ยังพูดแบบนั้นกับคุณเพียงอีก”
คนที่กำลังจะนั่งลงเพื่อกินข้าว ลุกขึ้นยืนใหม่ทันที
“นั่งลง กินข้าว”
เกียพูดนิ่งๆ จนอุบลที่กำลังตักข้าวให้ยังนึกกลัว ส่วนคนที่ถูกสั่งให้นั่งก็กระแทกนั่งลง
“สั่งตลอด”
“ถ้าคุยกันไม่เข้าใจ พี่ก็ต้องใช้คำสั่ง ถ้าไม่อยากให้สั่งต้องเป็นคนที่พูดกันรู้เรื่องมากกว่านี้”
อุบลเลี่ยงออกไปที่นอกห้อง ปล่อยให้เกียอบรมข้าวพอง
“ข้าวพองรู้ได้อย่างไรว่าคุณเพียงไม่ได้จัดการอะไรเลย แต่เพราะคุณเพียงกลัวว่าจะเสียข้าวพองไปอีกคนต่างหาก เขาถึงได้ไม่กล้าทำอะไร”
“เพชร...”
“ครับ คุณเพียงน่ะคิดจะส่งของคืนเจ้าของมาตั้งแต่แรก แต่ที่ไม่กล้าทำ ก็เพราะกลัวว่า พวกผู้มีอิทธิพลจะพาลโกรธแล้วมาทำร้ายคุณอัครา และข้าวพอง” ดวงตาสีฟ้าเข้มตวัดมองออกไปนอกห้อง “ทานข้าว เสร็จขึ้นห้องไปทบทวนตัวเอง”

ข้าวพองเหลือบมองไปด้านนอกห้อง แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าว เสร็จแล้วรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนทันที
ส่วนเกียก็ทำหน้าที่ไปตามปกติ อิ่มข้าวก็เดินตรวจรอบบ้าน หยุดคุยกับยามยอดยิ่ง 2 พี่น้อง แล้วก็กลับมาคุยกับอุบล
กลับขึ้นมาที่ห้องนอน
ข้าวพองเปิดประตูรับให้เกียเดินเข้าไปในห้อง
คนตัวโตให้ข้าวพองนั่งลงบนเตียง ส่วนตัวเองคุกเข่าลงข้างหน้า
“ขอโทษที่พี่เสียงดังกับข้าวพอง”
“ช่างมันเหอะ”
มีคนตัวโตๆ คุกเข่าแบบนี้อยู่ข้างหน้า ใครจะกล้าโกรธ...
“มีไร พูดมาเร็วๆ”
เกียจับมือนิ่มไว้ “ระหว่างข้าวพองกับคุณแม่ มีข้อตกลงกันอยู่ใช่มั้ยครับ”
อาการตาโตของข้าวพองทำให้เกียแน่ใจ “การรักษาความลับที่ดีที่สุดคืออย่าพูดมันออกมา”
ข้าวพองเม้มปากทันทีแล้วพยักหน้ารับทราบ
“คุณเพียงย้ำกับพี่หลายครั้ง ว่ามีความเชื่อมั่นว่าพี่จะดูแลข้าวพองได้ แต่การที่ข้าวพองถูกคนทำร้ายแบบนั้นทำให้พี่รู้สึกล้มเหลว”
“พองโง่เองหรอก” ข้าวพองบ่นอุบ
“พี่ล้มเหลว และแอนดรูว์ช่วยพูดไม่ให้คุณเพียงไล่พี่ออก โดยอ้างเรื่องการที่จะเอาเพชรกลับไปอังกฤษ....โดยปลอดภัย” เกียแตะที่แก้มใส “แต่ก็อย่างที่คุณเพียงบอก คือใจคุณเพียงอยากให้ไปทันที เพื่อให้เรื่องมันจบไป แต่คุณพ่อของคุณไม่เห็นด้วย เพราะรอมาได้ตั้งนาน”
“รู้หรือยังล่ะ ว่าตัวพ่อของคนที่อารมณ์จับทิศทางไม่ได้น่ะคือใคร พองน่ะแค่เด็กๆ ” ข้าวพองก้มลงกอดเกียไว้ “ไม่ได้มีแต่พี่เพียงกับพ่อที่เชื่อเกีย ข้าวพองก็เชื่อเหมือนกัน”
มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบาง “จะไม่มีใครทำร้ายข้าวพองได้อีก พี่สัญญา....”

*-*จบตอนที่ 31 *-*
ลืมปิดท้าย วะฮะฮะ
เฉลยกันอย่างตรงไปตรงมา แบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ทุกคนคือคนร้าย ตามสไตล์ NCIS เพราะกิ๊บส์คือคนโปรดของพี่ไจฟ์ แต่แน่นอนว่า HERO ของเขาคือ ฮอเรโช จาก CSI Miami
ส่วนโคนันที่คุณมักจะพูดถึงในทุกเรื่องที่เขียนกันมา สารภาพว่า เคยดูการ์ตูนอยู่ครึ่งตอนแล้วก็วาง เหอๆ 
ตอนต่อไปจะมาวันอังคารนะครับ
.น้ำชา.





หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 15-06-2014 10:10:49
ข้าวพอง เป็นเด็กที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสินะ นิสัยคล้ายๆกับ BONES เลย แต่ก็นะวัยว้าวุ่นก็อย่างนี้แหละ555 ไทนี่ หว่อง คือคนที่เราคิดว่าน่าสงสารมาโดยตลอด แม้กระทั่งในตอนนี้ สงสัยว่าเด็กอย่าง ไทนี่ จะถูกบังคับให้ทำเรื่องแบบนี้รึเปล่า อ๊าาาายิ่งคิดยิ่งด้อยลงๆๆๆๆ 555 รอตอนต่อไปจะดีกว่านะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-06-2014 10:14:58
อูยยย  ตอนนี้เหมือนรู้อะไรหลายๆอย่างเพิ่มเติม
แต่ก็ยังไม่สุด  ยังไงก็คงต้องตามกันจนจบเรื่องนั่นแหละน้า

ความรักของหนุ่มใหญ่กับหนุ่มน้อยวัยเรียนจะลงเอยอย่างไรน้อ
ที่สำคัญระดับความหวานช่างสวนทางกับความสนุกที่แสนน่าติดตามจริงๆ  :hao3:
เติมน้ำตาลให้คู่นี้อีกนิดนะคะ

รักเกียข้าวพองและjivetea ค่าาาา  :mew1:

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-06-2014 10:32:50
ไม่ชอบเลยไอ้แบบห่วงแต่ไม่แสดงออกอ่ะ เนาะข้าวพอง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 15-06-2014 11:05:38
ไทนี่เริ่มต้นเข้าหาข้าวพองแบบถูกจุด
แม้จะเห็นความผิดปกติ แต่ก็ยังเชื่อว่าไทนี่น่าสงสารไม่น่าจะทำได้

ปล.ยังคาใจในตอนก่อนๆๆหน้าที่เกียมองกระจกในห้องนอนแล้วเห็นอะไร
หรือเฉลยไปแล้วแต่เราลืมกันนะ :m28:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-06-2014 11:11:04
เริ่มเข้าใจอะไรเยอะขึ้นละ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 15-06-2014 11:11:55
 :mc4:โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆ เข้มข้นขึ้นทุกทีๆ พองเอ๊ยพองใจเย็นๆหน่อย ตอนนั้นก็ว่าเกียไปทีนึงแระ นี่ก็ว่าพี่เพียงอีก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-06-2014 11:12:50
 :hao3: :hao4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 15-06-2014 15:20:31
สรุปว่าไทนี่นี่ชัวร์แล้วว่าน่าจะเป็นคนร้าย ไอรีนก็ด้ว และน่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน

ส่วนพี่สะใภ้น่าจะมาทางอีกสาย เดา 5555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 15-06-2014 16:00:08
อดใจรอไม่ไหวแล้ว
ความโลภมันน่ากลัวจริงจัง...
ขอบคุณ คุณไจฟ์ น้องน้ำชา นะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-06-2014 16:50:25
ผัวพันยุ่งกันหมด แต่พระเอกนายเอกของเราหาความหวานไม่มีเลย รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-06-2014 17:10:47
ในเมื่อฝ่ายนี้รู้ตัวขนาดนี้แล้ว ผู้ร้ายจะโต้กลับยังไง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 15-06-2014 17:16:30
เอาแบบเดิม คือ เดา... ผู้หญิงที่น่ากลัวตอนนี้ตัดไอรีน เหลือพี่สะใภ้
 :hao4:  งั้นแสดงว่าคุณพี่ชายยอมเอางูเห่าไว้ข้างตัวเองเพื่อปกป้องข้าวพอง
กับครอบครัว โอ!!!! กล้าหาญ

ส่วนคุณครูกับนักเรียนคู่นี้ มันมาแบบปริ่มๆ ที่ยังไม่สุดสักทีอ่ะ
 :ling1:   :หวานกันมั่งงงงงง คนอ่านจะขาดใจแล้ววว

ชูป้ายไฟเชียร์  JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 16-06-2014 13:44:55
ตอนนี้ยาวดีจริงๆ ยังคงยืนยันว่าต้องย้อนไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง นี่เรางงอะไรหว่า???
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 16-06-2014 21:26:36
มานอนรอเกียกับข้าวพอง ตื่นเช้ามาได้อ่านพอดี ฮี่ๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 17-06-2014 07:04:39
เมื่อก่อนคิดแค่ว่าพี่สะใภ้นางอยากได้เพชร ตามประสาผู้หญิงที่เกิดความโลภอยากครอบครอง ถึงได้ไปด้อม ๆ มอง ๆ หรือแอบเข้าห้องนั้น มีสะกิดใจบ้างเหมือนกันว่าจะเป็นพวกเดียวกับพวกนั้น แต่คิดว่าแต่งงานกับคุณพี่ชายมาหลายปี คุณพี่ชายจะไม่รู้เลยหรือ ถ้านางเป็นคนร้าย

คิดได้หลายทางคือ คุณพี่ชายต้องการเก็บงูเห่าไว้ใกล้ตัว ไม่ก็ คุณเธอมาเนียน ๆ ไม่มีใครจับได้ หรือไม่ เธอก็แค่อยากได้เฉย ๆ

เราก็จับตาดูเธอนะ แต่บทเธอค่อนข้างน้อย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-06-2014 09:10:09
อยากให้จับผู้ร้ายได้โดยไว
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 17-06-2014 09:10:30
ตอนที่ 32

เกียไม่ได้พาข้าวพองไปโรงเรียน แต่พาไปต่างจังหวัด รอครอบครัวของแป๋มที่นำอังคารของแป๋มมาลอยที่ปากแม่น้ำ
แมรี่ยังอยู่กับครอบครัวป๋อม แต่ไม่เห็นแอนดรูว์
พอไม่มีไทนี่ หว่อง กับเบซซี่  ข้าวพองก็รู้สึกผ่อนคลายลง ขณะที่เรือแล่นไปถึงบริเวณปากแม่น้ำกว้างใหญ่เพื่อที่จะบอกลาแป๋มเป็นครั้งสุดท้าย....

ข้าวพองโอบไหล่เพื่อนตัวสูงไว้
มีแต่เสียงของเครื่องยนต์ที่ดังอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งกลับมาถึงฝั่ง และพ่อชวนทุกคนไปกินข้าวพร้อมกัน

“ไม่รู้ว่ามีร้านอาหารสะอาดๆ ตรงไหน” แม่มองไปรอบๆ
ข้าวพองหันไปมองแม่น้ำกว้างใหญ่ “มีร้านอยู่ไม่ไกลจากนี้ พ่อขับรถตามมาก็ได้ครับ”
เมื่อหนุ่มตัวเล็กพูดขึ้นทุกคนถึงได้นึกออก
“ผมเคยมาส่งแม่กับพี่สาว 2 ครั้งแล้ว พอจะจำร้านได้”

ข้าวพองเดินไปบอกธีระที่รออยู่ แล้วหันมาเรียกป๋อมขึ้นรถไปด้วยกัน
ร้านอาหารที่ข้าวพองพาไปอยู่ริมแม่น้ำกว้าง
แม้ป๋อม กับข้าวพองจะอยู่ใกล้กัน แต่ต่างคนต่างก็มองสายน้ำ จนกระทั่งแมรี่ถามว่าจะไปห้องน้ำก่อนทานอาหารหรือไม่ ทั้งคู่ถึงได้ลุกเดินตามกันไป
ส่วนแม่ไปกับแมรี่ ทิ้งให้เกียคุยกับพ่อ แต่เมื่อแม่เดินกลับมาพร้อมกับแมรี่ เกียก็ผุดลุกขึ้น แล้วชี้บอกให้แมรี่อยู่กับพ่อและแม่
ตำรวจหญิงพยักหน้าแล้วกวาดตามองไปรอบตัว
ส่วนเกียตรงไปที่ห้องน้ำชายทางด้านหลัง

จากประตูห้องน้ำชาย มองตรงเข้าไปก็ทะลุถึงผนังด้านหลัง ห้องส้วมเล็กๆ 2 ห้องไม่มีใครอยู่ เกียเดินกลับมาหาแม่กับแมรี่ ถามว่าเห็นทั้ง 2 คนหรือไม่
แต่แม่บอกว่า ได้ยินแต่เสียงเหมือนทั้งคู่จะออกมาก่อนแล้ว
เกียพลิกดูโทรศัพท์ในมือ
จุดสีแดงบนแผนที่กำลังเคลื่อนที่.....

หันมาบอกให้ธีระขับรถพาพ่อกับแม่คู่แฝดตรงกลับบ้าน ส่วนตัวเองขอกุญแจรถธีระมา
“พ่อไปโรงพักแจ้งความก่อนดีกว่ามั้ย”
เมื่อคนกลุ่มหนึ่งมีท่าทีตกใจ พนักงานในร้านก็เข้ามาสอบถาม พ่อกับแม่รับหน้าที่ตอบคำถาม ซักถาม แต่เกียกับแมรี่ตรงไปที่รถที่จอดไว้ด้านนอก
“ห้องน้ำอยู่ติดกับที่จอดรถด้านหลัง ทำให้เราไม่เห็นตอนที่ทั้ง 2 คนออกมา แล้วก็ไม่เห็นตอนที่รถออกไป”

...ต่อให้คนขับรถคันนั้นขับผ่านร้านไปก็ไม่มีใครคิดจะสนใจ เพราะตำแหน่งของร้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำ จะทำให้ทุกคนให้ความสนใจกับธรรมชาติรอบตัวมากกว่าเสียงรถยนต์...

สภาพการจราจรในย่านร้านอาหารค่อนข้างติดขัด ในตอนแรกก็ดูท่าว่าจะไม่ห่างกันมากนัก แต่จากตำแหน่งของรถที่เริ่มห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ทำให้เกียเป็นกังวล
“รถมอเตอร์ไซค์เยอะจนน่ารำคาญ” แมรี่เริ่มบ่น แล้วกลายเป็นร้องตะโกนด่า เมื่อเจอรถส่งของจอดรถที่ด้านหน้าร้านอุปกรณ์ก่อสร้างเพื่อส่งของเสียดื้อๆ

เกียกำพวงมาลัยรถไว้แน่น บอกตัวเองให้ใจเย็นเมื่อต้องขับรถในย่านจอแจ
กว่าจะผ่านจุดที่การจราจรวุ่นวาย จุดสีแดงก็ยิ่งห่างออกไปไกล แล้วหยุดนิ่ง
“หยุดรถแล้วๆ” แมรี่ร้องบอก

เกียยิ่งเพิ่มความเร็ว แต่ครู่หนึ่งจุดสีแดงก็เคลื่อนผ่านออกไป จนกระทั่งมาถึงจุดที่คาดว่าคนร้ายจะหยุดรถเมื่อครู่ แมรี่ก็ชี้บอก

“มันจอดรถตรงนี้ ลงไปดูนิดเถอะ”

เกียพยักหน้า แต่การระบุตำแหน่งจีเอสพีลักษณะนี้มันเป็นการบอกตำแหน่งเพียงคร่าวๆ เท่านั้น เมื่อผ่านแถบพุ่มหญ้าข้างทางที่ราบเป็นแนวยาว เกียจอดรถแล้ววิ่งลงไปดู พบร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับพงหญ้า จับให้หงายหน้าขึ้นมา
วูบหนึ่งคือความโล่งใจที่ไม่ใช่ข้าวพอง แต่ก็ต้องรีบอุ้มออกมาใกล้ถนน
มีรถจอดชะลอดูแล้วลงมาช่วยโทรเรียกตำรวจ
แมรี่รีบบอกให้เกียโทรหาพ่อกับแม่ของป๋อมแล้วเร่งให้เกียตามไป

“ฉันดูป๋อมเอง เธอไปตามน้องดีกว่า”

เกียพยักหน้า แล้วบอกให้แมรี่โทรบอกแอนดรูว์กับมโหธรด้วย
จุดสีแดงยังคงเคลื่อนที่ไปทางตะวันออก จากถนนทางหลวงเข้าสู่ถนนสายเล็ก และกลายเป็นการที่ต้องขับผ่านทางรกจนหยุดลง ห่างออกไปไม่ไกลเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ รถยนต์ 2 คันจอดอยู่ด้านหน้า
เกียตรวจสอบสัญลักษณ์ต่างๆ อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าข้าวพองอยู่ในบ้านหลังนั้น ต่อไปคือ โทรศัพท์หาแอนดรูว์สั่งข้อความ แล้วปิดเสียงโทรศัพท์ สอดไว้ใต้เบาะที่นั่งด้านคนที่นั่งข้างแล้ว หยิบปืนสั้นที่ซ่อนไว้ใต้เบาะนั่งออกมา
อาวุธประจำกายของเจ้าพนักงานที่เจ้าตัวพยายามเก็บไว้ให้ห่างไกลจากตัวอยู่เสมอ

แม้ตลอดทางที่เข้ามาจะเป็นทางรก แต่พื้นที่รอบบ้านหลังเก่ากลับเป็นลานโล่ง ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้กับบ้านที่สุดยังอยู่ห่างออกมาเกือบ 20 เมตรจากนั้น จึงเป็นพุ่มหญ้า ลานดินที่มีรถจอดอยู่และตัวบ้าน
การที่ไม่มีใครยืนยามอยู่รอบบ้าน ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครซุ่มดูอยู่จากหน้าต่างในตัวบ้าน
และยังแสดงให้เห็นว่าคนร้ายมีความมั่นใจมาก
คนตัวโตซุ่มมองจากระยะไกลเพื่อรอเวลา

.....
 
ข้าวพองเดินมาเข้าห้องน้ำกับป๋อม
2 หนุ่มเดินมาด้วยกันก็จริง แต่ต่างคนต่างก็ติดอยู่กับความคิดของตัวเอง
ข้าวพองกำลังคิดถึงแม่กับพี่เพชร
ส่วนป๋อมก็คิดถึงแป๋ม

การเสียชีวิตจากการถูกสังหารมันยากที่จะทำใจให้ยอมรับว่า คนที่เรารักคือคนที่ถูกปองร้ายถึงชีวิต
จัดการธุระของตัวเองก็กลับมายืนก้มหน้ามองรองเท้าของตัวเองเพื่อรอป๋อม จนกระทั่งป๋อมล้างมือแล้วมีคนเดินเข้ามาในห้องน้ำ
ข้าวพองถึงได้เงยหน้าขึ้นมอง
เคยเห็นเพียงไม่กี่ครั้ง ทำให้ต้องมองหน้าเพื่อทบทวนความทรงจำ
“พ่อ...”
“หุบปาก!”

ปืนกระบอกใหญ่จี้ที่เอวบาง ข้าวพองหุบปากเงียบหันไปมองป๋อมที่โดนชายอีกคนใช้ปืนจี้ที่เอวเหมือนกัน
คนที่อยู่กับป๋อมชะโงกมองเข้าไปด้านในของห้องน้ำแล้วส่ายหน้า ออกคำสั่งให้ทั้ง 2 คนอย่าส่งเสียงและไม่แสดงท่าทีพิรุธ แล้วพาเดินออกมาอีกทาง

.....เกียจะรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น....
.....อีกกี่นาทีเกียถึงจะรู้.....
.....เกียจะช่วยเราได้ไหม....
.....เราจะเป็นเหมือน แม่ พี่เพชร และแป๋มไหม.....

ข้าวพองคิดวุ่นวาย หันไปมองหน้าเพื่อนที่ดูเยือกเย็น และมีความมั่นใจ แต่เพียงแค่รถออกไปได้ไม่ไกล ป๋อมก็กลับเริ่มตั้งคำถาม
“พวกแกเป็นใคร ต้องการอะไร จะพาเราไปไหน”
เป็นการตั้งคำถาม และมีท่าทีตื่นตระหนก จนข้าวพองคิดไปว่า คำถามและท่าทีแบบนี้มันคือแป๋มชัดๆ
แต่พอป๋อมขยิบตาให้ข้าวพองก็เข้าใจ
เข้าใจและกลัวว่าจะถูกทำร้าย
คนร้ายพูดภาษาจีนที่ข้าวพองไม่เข้าใจสักคำเดียว แต่กลับพาลคิดไปว่าป๋อมอาจเข้าใจ
จนกระทั่งออกมานอกเมือง คนขับจอดรถข้างทางแล้วลากป๋อมลงไปจากรถ
คนร้ายที่คุมข้าวพองอยู่ใช้ปืนจ่อที่เอว  “อย่าส่งเสียง”
ข้าวพองกัดปากแน่น เมื่อเห็นป๋อมโดนฟาดด้วยปืน แล้วโดนเตะซ้ำ จากนั้นก็ลากลงไปที่ข้างทาง

เมื่อไม่มีเกีย ไม่มีป๋อมอยู่ใกล้ๆ ข้าวพองเริ่มตระหนักถึงความหวาดกลัวที่มันรุนแรงอยู่ในใจ
.....พี่เพียงรู้เรื่องนี้ดีที่สุด ถึงได้ต้องตามมืออาชีพแบบเกียมาคุม
พี่เพียงรู้ดีว่า เมื่ออยู่คนเดียว เรากลายเป็นคนไร้ความสามารถ
....ไม่สิ...
ช่วงหลายเดือนมานี้เกียสอนอะไรเรา....

รถไปจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง แล้วดึงลงมาจากรถ
มีคนอีกคนรออยู่ในบ้าน
ไทนี่ หว่อง
คนที่ทุกคนรอบตัวย้ำเตือนให้ข้าวพองอยู่ให้ห่าง
ดวงตายาวเรียวมองตาม ขณะที่ข้าวพองถูกพาเข้าในห้องด้านในแล้วจับมัดไว้กับเก้าอี้

ไทนี่หันไปพูดกับชายคนที่จับข้าวพองมา แล้วหันมาบอก
“ป๋อม มักจะวุ่นวายแบบนั้นเสมอ แป๋มก็เหมือนกัน จุดจบเลยไม่ต่างกัน”
“ทั้ง 2 คนไม่ได้วุ่นวาย” ข้าวพองเถียงโดยปราศจากความกลัวจนตัวเองยังแปลกใจ
“วุ่นวายสิ” ไทนี่ตอบข้าวพอง ทั้งที่กำลังตั้งคำถามในใจ ข้าวพองเครียดก็จริง แต่ไม่ได้ตื่นกลัว “รู้แล้วอยู่เฉยๆ ก็รอดแล้วแท้ๆ แต่นี่กลับวุ่นวายอยากรู้อยากเห็น”
“เขาเป็นเพื่อนเรานะไทนี่” ข้าวพองเปลี่ยนมาใช้น้ำเสียงอ่อนลง “ไทนี่กับพ่อต้องการอะไร”
ไทนี่ลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งตรงหน้า แล้วพูดตรงๆ
“เพชร”
ข้าวพองขมวดคิ้วแน่น “เพชรอะไร เพชรที่ร้านน่ะหรือ”
“เพชรที่พี่สาวของข้าวพองไม่ส่งให้เราน่ะ”
ข้าวพองนิ่งไปอึดใจ แล้วตอบ “อันนั้นต้องถามพ่อกับพี่เพียง”
“ใช่” ไทนี่ยิ้มมุมปาก “ข้าวพองถามให้กูสิ” หนุ่มฮ่องกงหันไปมองพ่อ ที่ยืนขวางประตูห้อง พูดคุยกันในภาษาที่ข้าวพองไม่เข้าใจอีกครั้ง แล้วหันมาบอก
“พรุ่งนี้เช้า กูจะติดต่อให้คุยกันแต่ตอนนี้ต้องคุยกับกูที่นี่ก่อน”

ไทนี่มองหน้าเพื่อน
“ข้าวพองไม่กลัวหรือไง”
“กลัวสิ” ข้าวพองยอมรับ
หนุ่มฮ่องกงเอียงคอมอง “ดูไม่เหมือนกลัวเลยนี่นา”
“กูกลัว แล้วก็ไม่เข้าใจด้วย ว่าทำไมต้องทำอย่างนั้นกับป๋อมแป๋ม”
ไทนี่หันไปมองพ่อแล้ว หันกลับมาตอบข้าวพอง “เรื่องป๋อมน่ะ พ่อไม่ได้อยากพามาด้วยตั้งแต่แรก แต่เพราะมันอยู่กับมึงต่างหาก และที่ทำอย่างนั้นก็เพราะมันโวยวาย”
“แล้ว..แป๋มล่ะ”
“แป๋มรู้มาก พูดมาก ทำไมคนที่รู้ต้องพูดว่ารู้ ถ้าไม่พูดออกมา ไอรีนก็ไม่ต้องลงมือเองแล้ว”
“ไอรีน จริงๆ หรือ” ข้าวพองพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
ไทนี่หัวเราะในลำคอ “มึงเป็นอย่างนี้ตลอด ทั้งที่รู้ว่าความจริงคืออะไร แต่กลับไม่ยอมรับว่ามันคือความจริง”
“เขาเป็นเพื่อนเรานะ” ข้าวพองพูดเหมือนเดิม “ไทนี่ก็เป็นเพื่อน”
ไทนี่ยิ้มที่มุมปาก “ยังมีอะไรอีกตั้งมากมายที่สำคัญกว่าเพื่อน ยิ่งถ้าเทียบกับเพชรที่พี่สาวของข้าวพองไม่ยอมส่งให้ เพื่อนยิ่งเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก”
หนุ่มตัวเล็กมีสีหน้าอยากรู้ “เพชรนั่นแพงมากเลยหรือ”
“มาก” ไทนี่พยักหน้าช้าๆ วิธีพูดและท่าทางแบบนี้ของไทนี่ ยิ่งดูแตกต่างจากไทนี่คนที่นั่งเรียนอยู่ข้างกันเหมือนเป็นคนละคน
ข้าวพองเป่าลมจากปากจนไทนี่หัวเราะ
“อะไร ไม่เคยรู้เรื่องอะไรกับใครเขาเลยหรือ”
อีกคนยิ้มพิกลขณะที่ส่ายหน้า “กูเป็นคนที่รู้เรื่องน้อยที่สุดแล้ว”
“ก็มึงเอาแต่เที่ยว ไม่สนใจอะไรเลย ไอรีนกล่อมยามึงตั้งหลายครั้งยังไม่ได้อะไร”

…ข้าวพองกลับรู้สึกดี ที่การเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไร ไม่สนใจอะไรกับใครเขา สามารถยื้อเวลาเพื่อรอความช่วยเหลือได้...

“แล้วมึงล่ะ”
ข้าวพองถาม แต่ไทนี่ยังไม่ทันตอบ พ่อของไทนี่ที่ยืนอยู่ตรงประตูก็พูดขึ้น แต่ไทนี่หันไปตอบ
ดูจากท่าทางเหมือนพ่อจะดุว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยกัน แต่ไทนี่คงตอบไปว่ายังมีเรื่องที่ต้องคุยกัน จากนั้นก็เดินออกไปแล้วปิดประตูห้อง
เท่าที่เห็น ข้างนอกยังมีคนอยู่อีก 2 คน
คนที่ขับรถ กับคนที่จี้ และทำร้ายป๋อม
ไทนี่หันกลับมาหาข้าวพองแล้วส่ายหน้า “ที่พี่ชายให้มึงเรียนอะไรตั้งเยอะแยะ ไม่เห็นได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย”
“ก็ถ้ากูรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับกู กูก็คงตั้งใจเรียนอยู่หรอก”
“มึงไม่คิดอะไรเลยหรือที่เขาจ้างตำรวจอังกฤษมาดูแลมึง ไม่สนใจเรื่องแม่ เรื่องพี่สาวมึง หรือเพชรนั่นหรือไง”
“ตำรวจคนนั้นพิการกูรู้แค่นั้นแหละ ส่วนเรื่องอื่นนั่น...” ข้าวพองส่ายหน้า “กูนี่มัน.....”
“มึงมันโง่ โง่แบบเด็กสปอย เพราะฉะนั้นตอนนี้มึงก็ต้องทำหน้าที่แบบที่มึงน่าจะทำได้ดีที่สุด”
“ทำอะไร”
“นึกไว้แล้วกันว่าจะพูดอย่างไรให้พ่อกับพี่ชายมึงเอาเพชรมาให้กู”
“อืม....” ข้าวพองเม้มปากท่าทางกำลังคิดคำพูดอย่างที่ไทนี่บอก “มึงก็ช่วยกูคิดสิ เกิดมากูเพิ่งเคยถูกจับเป็นตัวประกัน”

ไทนี่เหลือบตามองเพดาน ท่าทางชัดเจนมากกว่าคำพูด
....ข้าวพองเป็นตัวประกันได้เพียงครั้งเดียว เพราะทันทีที่ได้รับเพชร ข้าวพองก็จะไม่มีลมหายใจอีกต่อไป.... 

หนุ่มฮ่องกงส่ายหน้าเชิงอ่อนใจ แล้วตั้งคำถามต่อ
“มึงรู้อะไรเกี่ยวกับเกียบ้าง”
“ก็...” ข้าวพองคิด “รู้ว่าเขาเคยเป็นตำรวจ แล้วบาดเจ็บมา”
“ไม่ได้สนใจเลยหรือว่าใครทำเขาบาดเจ็บ”
ข้าวพองยักไหล่ “มันไม่ใช่เรื่องของกูนี่ คนพวกนี้มาได้แป๊บๆ แล้วก็ไป”
“พ่อกูแซ่เหลียง”
“แต่มึงแซ่หว่อง”
“กูอยากแซ่อะไรก็ได้ มึงนี่โง่มากจนไม่น่าเชื่อ” ไทนี่ด่าตรงๆ “จนถึงตอนนี้มึงยังเชื่อว่า กูชื่อไทนี่ หว่องอยู่อีกหรือ”
หนุ่มตัวเล็กพูดเสียงเบา “มึงเป็นเพื่อนกูนะ เหมือนป๋อม กับแป๋ม”
“เดิมกูแซ่เหลียง และพ่อกูมีลูกพี่ลูกน้องอยู่ในแก๊งค์ค้ายาที่ลอนดอน เขาถูกตำรวจยิงตาย พ่อกูเคยหาว่าใครยิงเขาตาย แต่พวกนั้นไม่รู้ชื่อ แต่รู้ว่าตำรวจคนนั้นเจ็บหนัก” ไทนี่ยิ้มเย็น “พ่อกูเกลียดตำรวจโดยเฉพาะตำรวจอังกฤษ และไม่ว่าเขาจะเกี่ยวกับเรื่องลูกพี่ลูกน้องของพ่อกูหรือไม่ กูไม่คิดว่าพ่อกูจะคุยกับเกียและเพื่อนของเขารู้เรื่อง”

.....จบตอนที่ 32......

เหลืออีก 6 ตอน เพราะเราจะจบเรื่องนี้ในตอนที่ 38
ช่างรวดเร็วยิ่งนัก แปร๊บบบบบเดียวก็จะจบละ
ช่างคงความหนืดของเรื่องไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา
แนะนำติชมกันสักนิดเถอะนะ

ตอนต่อไปมาวันพฤหัสบดีครับ
.น้ำชา.................. 




หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 31 หน้า 26(15มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 17-06-2014 09:17:42
อ่านคร่าวๆก่อน เดี๋ยวมาอ่านละเอียดอีกที ป๋อมอ่ะป๋อม ไม่นะม่ายยยยยย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 17-06-2014 09:49:09
อืมหื้ม! ตรงกับที่คาดเลยแหะ แต่ยังสงสัยเรื่องไอรีนอยู่ ไอรีนลงมือเองจริง ๆ หรือ?

สงสัยอยู่นะที่ข้าวพองให้ไทนี่ช่วยคิดนี่ ข้าวพองคิดอะไรอยู่กันแน่ คิดไม่ออกจริง ๆ หรือ ต้องการถ่วงเวลาโดยการแกล้งโง่ตามที่ไทนี่บอก หรือมีแผนอื่นกันแน่ เราดูแล้วข้าวพองนะไม่โง่หรอกนะไทนี่ ถึงจะถูกสปอยจนดื้อรั้น แต่ข้าวพองไม่ใช่คนโง่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 17-06-2014 09:53:18
 :a5:
จริงๆ ดิ
โอ้ววววว
ไทนี่เหลียงของเค้าาาาาา
 :z3: :z3: :z3:
บวกเป็ดอย่างช้ำๆ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 17-06-2014 10:02:04
 :ling1: :ling1: :ling1:...โดนจนได้ๆๆๆๆ ฮรือออออ โดนจับตัวจนได้ :ling1: :ling1:

อย่าให้ข้าวพองโดนยาหรือโดนทำร้ายแบบป๋อมอะไรเลยนะ  :katai1: :katai1: :katai1:

... เกียพึ่งสัญญาว่าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายข้าวพอง เพราะงั้นทำให้ได้นะ  :hao5:


และ ๆๆๆ หวังว่าป๋อม อาการไม่สาหัสมากนะ  :katai1: :katai1:

โอ้ยๆๆๆๆ ตื่นเต้นๆๆๆๆ  เข้มข้นแล้ว....ข้าวพองตัั้งสติ คิดถึงไอ้ที่เรียนๆมากับเกียให้มากๆ นะ

ไอ้เนื้อเรื่องก็กำลังตื่นเต้น กำลังลุ้น อ๊ากกกก ... ไอ้ตอนสปอยด่านล่าง ก็ทำให้ใจห๊าย ใจหายเน๊อะ

  :กอด1: และ :pig4:  JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 17-06-2014 10:40:58
อ๋าาา ไทนี่กับไอรีนพวกเดียวกันสินะ
แล้วเบซซี่นี้บริสุทธิ์จริงๆใช่ป่ะ
จัดการสองพ่อลูกนี้เลยเกีย :z6:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 17-06-2014 10:50:46
โอ๊ยยยยยยย เห้สุดไรสุด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-06-2014 11:08:36
ลูกโจรก็ต้องเป็นโจรเหมือนพ่อหรือไรไทนี่เหลียง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 17-06-2014 11:10:44
โอยๆๆๆๆ เกียมาช่วยพองเร็วๆนะ สงสารพองอ่ะ โดนคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนหักหลังแบบนั้น ทั้งๆที่พยายามเชื่อใจมาตลอดแท้ๆ

ไทนี่นี่คงวางแผนมาตั้งแต่แรกแล้วสินะ แล้วนิ่งถ้ารู้ว่าเกียคือคนที่ยิ่งเหลียงตาย จะไม่ยิ่งแย่ไปใหญ่เหรอ

ตอนนี้คนร้ายก็เปิดเผยตัวกันหมดแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-06-2014 11:23:50
โอโน ค้างคาใจได้อีก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 17-06-2014 11:44:07
เฮ้อ!!!!!!!! ข้าวพอง
เกียจะช่วยข้าวพองยังไงละเนี่ย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 17-06-2014 12:04:29
จริงๆ แล้วข้าวพองฉลาดมากสินะ  แต่สถานการณ์รอบตัว เหตุการณ์ต่างๆ  ประสบการณ์น้อยตามช่วงอายุ
บวกความน้อยใจที่ตัวเองโดนคนในครอบครัวปกป้อง และกันให้ออกจากอันตราย แต่ลึกๆ มีภูมิคุ้นกันตัวเองเหมือนกัน
ทำให้สามารถตีเนียน เหมือนไม่รู้อะไรสักอย่าง....รวมทั้ง มึนไม่ยอมรับว่า ข้าวพองรักเกียเหมือนกัน 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 17-06-2014 12:38:55
ป๋อมถึงขั้นตายไหม ป๋อมตายหรือเปล่า?  :ling1:

คนที่โง่เหมือนจะเป็นไทนี่นะเพราะพองพาเค้าป่าเข้าเขาไปแล้วนั่น o18

แสดงว่าเราก็เดาถูกนะว่าใครเป็นคนร้าย 5555 เพราะคนร้ายทั้งนั้น  :hao3:

ปล.อยากให้ถึงวันพฤหัสเร็ว ๆ จัง

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-06-2014 13:02:47
เห้อออออออออ
คนไม่ดี ยังไงก็ไม่มีทางดีขึ้นมาได้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 17-06-2014 14:25:32
หนืด ๆ หนึบ ๆ แต่หนุกดีคับ สนุกทุกตอน

เข้ามาม้นท์บ้างไม่เม้นท์บ้างเพราะเนื้อเรื่องและวิธีถ่ายทอดดีแล้วคับ

ไม่มีตรงไหนให้ติมีแต่ความชื่นชมอยู่คนเดียว(ในใจ) คิคิ :katai5:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-06-2014 16:11:54
ทำไมตอนนี้รู้สึกว่าข้าวพองโง๊โง่ โอ้ย~
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-06-2014 16:56:45
ไทนี่เป็นคนร้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 17-06-2014 17:44:59
อืม....ไม่แปลกใจที่เป็นไทนี่  แต่อารมณ์มันมึนๆบอกไม่ถูก
ข้าวพอลน่าเห็นใจจัง  รอบตัวมีแต่งูพิษทั้งน้าน
แม้แต่เกียเองก็เถอะ  ถึงรักแต่ก็พูดเรื่องตัวเองไม่หมดอยู่ดี
แต่อภัยได้  เพราะหวังดีและรักเด็ก!?  o22

อยากรู้ว่าแป๋มไปรู้เรื่องอะไรมาบ้างจัง  ถึงได้โดนเก็บอย่างน่าสงสารขนาดนั้น  :ling2:

เกียรีบเลยช่วยเด็กน้อยเร็วๆ

บวกเป็ด

 :pig4:   :L2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 17-06-2014 18:08:55
ไทนี่กับไอรีนเกี่ยวข้องกับเรื่องเพชรจริง ๆ ด้วย  ว่าแต่ ใครคือตัวการใหญ่ของเรื่องนี้ล่ะ
คดีเริ่มกระจ่างขึ้นเรื่อย ๆ อีกไม่กี่ตอนที่เหลือน่าลุ้นจริง ๆ ว่าบทสรุปของแต่ละคนจะเป็นยังไง
แต่ตอนนี้ภาวนาให้ป๋อมปลอดภัย และเกียมาช่วยข้าวพองให้ได้โดยเร็วเถอะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 17-06-2014 19:10:25
ลุ้นได้ตลอดเวลา.....ข้าวพองคงไม่โง่ขนาดนี้หรอก...
ต้องมีดีซ่อนอยู่แน่นอน..เนอะลูก....
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 17-06-2014 19:30:07
คนร้ายกล้ามากจับข้าวะองไปแบบนี้ เกียคนเดียวจะรับมือไหวไหมละเนี่ย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 17-06-2014 20:29:53
ขอเมนต์อย่างตรงไปตรงมา เรื่องนี้อ่านเพราะเกียคนเดียวเลย ตัวข้าวพองไม่มีสเน่ใดๆ ให้ลุ้น หรืออยากให้รอด หรืออยากให้เกียจีบได้สำเร็จ แปลกแต่จริง....อ่านตอนนี้แล้วยิ่งเฉยๆ กับข้าวพองใหญ่เลย...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 17-06-2014 22:10:41
อ่า ไทนี่กับไอรีนจริงๆ

รอ ปมทุกอย่างคลี่คลาย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 18-06-2014 02:50:39
อั้ยยะ ไทนี่ เปลี๋ยนไป๋ เป็นการเฉลยกันแบบโต้งๆเลย ไม่ต้องเดา คราวนี้ก็คิดสิว่า เพชรอยู่ที่ไหน แล้วทำไมต้องการกันขนาดถึงกับฆ่ากันได้ ช่วยน้องให้ได้นะเกีย ข้าวพองหนูไม่ได้โง่หรอกนะ ยิ่งรู้น้อยยิ่งปลอดภัย เพราะทุกคนรักข้าวพอง หรือว่าเพชรอยู่ที่ข้าวพองกันนะ
รอตอนต่อไปจร้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 18-06-2014 07:32:31
กำลังมันส์เลยยยยย  รออ่านต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 18-06-2014 19:11:44
ไทนี่แย่กว่าที่คาดไว้เยอะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 32 หน้า 26(17มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 19-06-2014 09:12:33
ตามลุ้นสุดอ่ะ น้องจะเป็นไงบ้าง พี่จะช่วยยังไง คนร้ายจะถูกจับไหม ว๊ายๆ

ว่าแต่แป๊บๆ จะจบอีกแล้วรึ ไมมันเร็วจัง
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 19-06-2014 09:40:55
ตอนที่ 33

ตามหลักการต้องรอกำลังสมทบ
ตามทฤษฎีต้องรอให้ค่ำลง
ตามประสบการณ์ต้องรอเวลา
ตามคำแนะนำ ที่ว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ โอกาสที่เหมาะสม
แม้ใจของเกียมันร้อนเกินกว่าจะทำตาม เวลาทุกนาทีที่ผ่านมีแต่ความกังวลว่าคนร้ายอาจลงมือกับข้าวพอง เหมือนที่ไม่ได้ลังเลที่จะลงมือกับป๋อม ทั้งที่เป็นเวลากลางวันแสกๆ และมีรถยนต์มากมายแล่นผ่าน

เกียซุ่มมองความเคลื่อนไหวภายในบ้านอยู่ห่างๆ จนกระทั่งเห็นคนออกมานอกบ้าน กวาดตามองไปทั่ว ทั้งมองผ่านตำแหน่งที่รถของเกียจอดอยู่
ต้องขอบใจกิ่งไม้เหล่านี้ที่ปกคลุมรถ และช่วยพรางตาได้ดี
ชายอีกคนออกจากบ้านมาสมทบ แล้วพากันขึ้นรถขับออกมา เกียแน่ใจคนร้ายต้องรู้ตัวแน่นอนหากเข้ามาใกล้
เสียงมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ดังขึ้นด้านหลัง แล่นตรงเข้ามาหา
ผ่านไป …..
แล้วกลับจอดดื้อๆ คนขับรถก้าวลงจากรถแล้วคลี่แผนที่แผ่นใหญ่ แสดงท่าทางโบกไม้โบกมือให้รถที่แล่นเข้ามาหา
เกียย่อตัวอาศัยพุ่มไม้ข้างทางพรางตัวขณะที่อ้อมไปด้านหลัง
เพราะมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ทำให้รถที่แล่นสวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจอดรถแล้วก้าวลงมาหาส่งเสียงโวยวายกับฝรั่งที่หลงทางมา
ฝ่ายหนึ่งใช้ภาษาจีน อีกฝ่ายใช้ภาษาอังกฤษ
ยังมีอีกคนที่ยังอยู่ในรถ เกียเปิดประตูรถแล้วใช้ปืนจ่อที่หลังศีรษะ
คนที่กำลังเถียงอยู่กับฝรั่งผมทองหันมามองและทำให้ถูกฟาดจนพับไป พอเกียสั่งคนในรถออกมาฝรั่งผมทองก็ทำแบบเดียวกัน แล้วลากทั้งคู่ไปจับมัดไว้กับต้นไม้ข้างทาง

“มาเร็วมาก”
อีกฝ่ายสรุปสถานการณ์อย่างรวบรัด
“บ่ายวันนี้นิรมลดูกระวนกระวาย กูดูท่าไม่ดีเลยขอแยก ยังไม่พ้นกรุงเทพฯ มึงก็โทรมา กูก็เลยโทรกลับไปหาเพียงแจ้งว่าข้าวพองกับป๋อมหายไป แล้วตามจีพีเอสมึงมาที่นี่แหละ ดีที่รถรุ่นนี้แรงมากเลยใช้เวลาไม่นาน”
“คุณเพียงเชื่อไหม ว่านิรมลเป็นสาย”
“น่าจะเชื่อ”
เกียพยักหน้า ขณะที่แอนดรูพูดต่อ
“หวังแค่ว่าจะไม่ใช่ล่อเราออกมาตามเด็ก แล้วผู้ใหญ่ 2 คนทางนั้นจะโดนจัดการ”
เกียเองก็ระแวงเหมือนกับที่แอนดรูว์บอก แต่น้ำหนักในใจเทมาทางนี้ มากกว่าที่จะกังวลเรื่องผู้ใหญ่ 2 คน
“ในบ้านมีอีกกี่คน”
“ไม่รู้” เกียตอบความจริง “แต่กูไม่รอ”
แอนดรูยักไหล่ “ไม่ขัดใจอยู่แล้ว”
ทั้งคู่ทิ้งคนร้ายที่หมดสติไว้ในพงหญ้าข้างทาง แล้วถอยรถของคนร้ายกลับไปที่บ้านพัก
จอดรถไว้ที่ด้านข้าง แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากภายในบ้าน สันนิษฐานได้อย่างเดียว คือคนที่อยู่ในบ้านรู้ตัว!
เมื่อรู้ตัวแล้วก็ต้องไปตามน้ำ เกียแนบลำตัวกับผนังบ้านแล้ว เคาะประตู
ในบ้านยังเงียบ
คราวนี้มั่นใจได้เต็มร้อย ว่าคนในบ้านรู้ตัวแล้ว!!
แอนดรูว์และเกียแนบตัวข้างประตู เกียยื่นมือไปบิดลูกบิดประตูแล้วเปิดออก
ยังไม่มีเสียงจากด้านในเกียโผล่หน้าออกมามอง ชายชาวจีนคนหนึ่งยืนขวางประตูพร้อมอาวุธปืนในมือที่เล็งมาหา ที่มองทะลุเข้าไปด้านหลังคือ ข้าวพองที่ถูกมัดอยู่กับเก้าอี้ และวัยรุ่นชาวจีนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ทำไมต้องรีบขนาดนี้ อย่างไรเราก็ต้องติดต่อไปอยู่แล้ว” ภาษาอังกฤษสำเนียงจีนจากคนที่ยืนขวางประตูอยู่
 เกียยังเกร็งมือที่ถือปืนอยู่
“ต้องการอะไร”
ชายชาวจีนแค่นหัวเราะ “เราต้องการเพชร”
เกียถ่วงเวลา “ไปคุยกับคุณเพียง ไม่ใช่เอาตัวเด็กมาเป็นตัวประกันแบบนี้”
ชายชาวจีนออกท่าทางเหนื่อยใจ “ถ้าเขาคุยรู้เรื่อง เราจะต้องเอาเด็กมาต่อรองทำไม” ยักไหล่อีกทีแล้วพูดต่อ “แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว” น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นออกคำสั่ง “วางปืนลง!”
เกียมองผ่านไปหาข้าวพองที่อยู่ด้านหลัง แม้จะมีปืนจ่ออยู่ที่ขมับแต่ข้าวพองก็ยังดูเตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้!
“ข้าวพอง”
“พองไม่เป็นไร”

เมื่ออีกฝ่ายตอบมาด้วยความมั่นใจ เกียก็พร้อมที่จะลงมือ
คนตัวโตย่อตัวลงเพื่อวางปืนข้างตัว แต่ชายชาวจีนถามหาปืนอีกกระบอก
เกียส่ายหน้า “มีแค่นี้แหละ”
อีกฝ่ายทำหน้าตาไม่เชื่อ แต่ยังไม่เดินเข้ามาใกล้ เกียก็ยกมือประสานไว้ท้ายทอย แต่ดวงตายังมองอยู่ที่ข้าวพองเหมือนเดิม ชายชาวจีนดูลังเล แต่ก็ยังเดินเข้ามาใกล้
“ตำรวจที่ไหนพกปืนกระบอกเดียว”
“ฉันไม่ใช่ตำรวจแล้ว”

ข้าวพองโล่งใจที่อย่างน้อยตอนนื้ทุกคนใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน จากที่ต้องฟัง 2 พ่อลูกพูดภาษาจีนที่ไม่เข้าใจเลยสักคำ
พอเห็นพ่อของไทนี่ ก้าวช้าๆ เข้าไปหาเกีย ข้าวพองก็เบี่ยงเบนความสนใจด้วยการหันมาหาไทนี่ “ให้กูโทรหาพี่เพียงเลยมั้ย”
“ต้องถามพ่อ”

จังหวะที่ไทนี่หันมาตอบข้าวพอง คือจังหวะเดียวกันกับที่เกียคว้าข้อมือของชายชาวจีนแล้วจับล็อคไว้ และกลายเป็นตัวประกันที่ต่อรองกับไทนี่

“แก้มัดข้าวพอง” เกียกลับเป็นฝ่ายออกคำสั่ง
มือหนึ่งล็อคแขน อีกมือถือปืนจ่อที่ข้างศีรษะของชายชาวจีน
แอนดรูว์ก้าวเข้ามาหยิบปืนของเกียจากพื้น แต่ยังไม่ทันที่ก้าวข้ามประตูอีกชั้น ไทนี่ก็กลับออกคำสั่ง
“ถอยออกไป”
มีเสียงรถดังใกล้เข้ามา ทั้งไทนี่ และชายชาวจีนต่างมีสีหน้าดีขึ้น
แอนดรูว์ถาม “เพื่อนหรือ”
“พวกแกไม่รอดแน่” ชายชาวจีนตอบ
“เราต้องการแค่พาข้าวพองกลับไป ส่วนเรื่องอื่นเป็นเรื่องรอง” แอนดรูว์บอก
“งั้นก็อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน” ชายชาวจีนยังคงเป็นฝ่ายพูด
“ไม่ละ ขอบใจมาก” เกียตอบแล้วหันไปออกคำสั่งกับไทนี่ “แก้มัดข้าวพอง เธอรู้ดีว่า เราพร้อมที่จะแลกทุกอย่างเพื่อพาข้าวพองกลับไป”
“ไม่” แม้จะมีพวกมาสมทบ และกำลังจ่อปืนอยู่ที่ข้าวพอง แต่พวกก็ยังไม่ขึ้นบันไดมาสักที ซ้ำพ่อยังถูกเกียจับล็อคไว้อีก
“อยู่ข้างนอกห้องนั่นแหละ” ไทนี่ย้ำ
“ถ้าเธอต้องการเพชร เธอต้องรู้จักต่อรอง เพราะถ้าทำแบบนี้มีสถานการณ์ที่ดีที่สุดคือเธอกับพ่อจะตายทั้งคู่ ส่วนเราได้ข้าวพองกลับไป” เกียบอก
“และถ้าแย่ที่สุด ก็คือเราตายกันทั้งหมด พวกแกทั้งคู่ก็ยังไม่ได้เพชรอยู่ดี” แอนดรูว์บอกพลางใช้คางชี้ไปทางด้านหลัง “เพื่อนของพวกของแกมาถึงนานแล้ว แต่ทำไมยังไม่ขึ้นมาสักที รู้ใช่ไหมว่า สถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นแก้มัดให้ข้าวพองแล้วพวกเราออกไปด้วยกัน”

ไทนี่มองสีหน้าของพ่อเพื่อดูว่าสิ่งที่แอนดรูว์พูดจริงหรือไม่
แต่เมื่อพ่อมีท่าทางเป็นกังล ทั้งตัวเองก็ค่อนไปทางเห็นด้วยว่าทางรอดของตัวเองกับพ่อแทบไม่มี ต่อให้นอกบ้านไม่มีใครอยู่ แต่เพราะหน้าต่างทุกบานปิดหมด ประตูห้องก็มีผู้ชาย 2 คนนี้ยืนขวางทั้งจับล็อคพ่ออยู่

....ปล่อยข้าวพองออกมาก่อน แล้วไปเสี่ยงอีกครั้งที่นอกบ้าน
แต่ว่า...

“ปล่อยพ่อก่อน ฉันถึงจะปล่อยข้าวพอง”
“ไม่ เราจะแลกคนกัน ปล่อยข้าวพองมาแลกกับพ่อของเธอ” เกียบอก
ไทนี่หันมามองข้าวพองแล้วแก้เชือกให้ แต่ยังจ่อปืนไว้ที่ด้านหลังท้ายทอย
“ข้าวพองช่วยกูด้วย” ไทนี่กระซิบ “กูมีเหตุจำเป็นที่ต้องทำอย่างนี้ 2 คนนั่นต้องไม่ปล่อยกูไปแน่”
ทั้งที่ไม่อยากเชื่ออะไรไทนี่อีกแล้ว แต่ข้าวพองก็ยังคงเป็นข้าวพองที่ใจดีกับเพื่อนคนนี้เสมอ
เมื่อไทนี่จับแขนให้ลุกขึ้นข้าวพองก็บอก “เกีย อย่ายิงนะ”

แค่ประโยคสั้นๆ ของข้าวพอง เกียก็รู้แล้วว่าข้าวพองจะไม่ยอมแก้สถานการณ์นี้ด้วยตัวเอง
จะไม่พยายามลดความเสี่ยงของตัวเอง
และยิ่งไม่มีทางที่จะสู้กับไทนี่แน่ๆ
ที่ฝึก ที่สอนไปในช่วงหลายเดือนมานี้กลายเป็นศูนย์จริงๆ หรือนี่

ข้าวพองแสดงสีหน้าเต็มที่ไม่ให้เกียกับแอนดรูทำอะไรไทนี่
“ถอย” ไทนี่ออกคำสั่งให้ 3 คนที่ยืนขวางประตูก้าวถอยออกไปเรื่อย จนกระทั่งออกมาพ้นประตูบ้าน

ที่ด้านนอก ยังมีรถตำรวจจอดอยู่คันหนึ่ง ตำรวจไทย 2 นายกับผู้หญิงต่างชาติที่ถือปืนอยู่ในมือ กับมีพรรคพวก 3 คนที่ถูกใส่กุญแจมือนอนเรียงกันอยู่ท้ายรถกระบะ

“พอง ช่วยกูก่อนนะ” ไทนี่กระซิบอีกครั้ง ที่ด้านหลังศีรษะของข้าวพอง
“ทำยังไง” อีกคนกระซิบตอบ
“ไปที่รถ กูจะให้พ่อขับรถให้ แล้วกูจะปล่อยมึงลงกลางทาง มึงหาทางกลับเองได้ใช่มั้ย”
“แล้วมึงล่ะ”
“ตำรวจจับลูกน้องพ่อกูไปหมดแล้ว กูไม่ได้อยากทำอย่างนี้ ช่วยกูอีกนิดเดียวเท่านั้นข้าวพอง”

คำพูดของไทนี่ยังก้องในหู

“กูแซ่เหลียง และพ่อกูมีลูกพี่ลูกน้องอยู่ในแก๊งค์ค้ายาที่ลอนดอน เขาถูกตำรวจยิงตาย พ่อกูเคยหาว่าใครยิงเขาตาย แต่พวกนั้นไม่รู้ชื่อ แต่รู้ว่าตำรวจคนนั้นเจ็บหนัก” ....
.....“พ่อกูเกลียดตำรวจโดยเฉพาะตำรวจอังกฤษ และไม่ว่าเขาจะเกี่ยวกับเรื่องลูกพี่ลูกน้องของพ่อกูหรือไม่ กูไม่คิดว่าพ่อกูจะคุยกับเกียและเพื่อนของเขารู้เรื่อง”


เกีย แอนดรูว์ และพ่อของไทนี่ก้าวลงบันไดจนถึงพื้นดินด้านล่างแล้วหยุดยืน แต่ละก้าวผ่านไปอย่างเชื่องช้า ปล่อยให้ไทนี่ที่จับแขนข้าวพองไว้แน่น พาเดินไปที่รถ

ตำรวจทุกคนที่อยู่ด้านล่างยังคงเกร็งแขนพร้อมยิง

“ปล่อยพ่อ”
เกียตอบทันที “แลกกัน”
“ไม่” ไทนี่บอก “ถ้าแลก พวกแกจะยิงเราทั้งคู่ทันที เพราะฉะนั้น ส่งพ่อมา”
เกียพยักหน้าช้าๆ ให้แอนดรูว์ปล่อยพ่อของไทนี่
“กุญแจรถ” พ่อของไทนี่หันไปหาแอนดรูว์ กับเกีย

แอนดรูว์ท่าทางหงุดหงิดขณะส่งกุญแจรถให้
พ่อของไทนี่ก้าวไปที่รถ แต่ขณะที่เปิดประตูรถ

ไทนี่งอข้อศอก ทำให้ปืนในมือลดระดับลง ข้าวพองหันไปคว้าข้อมือไทนี่กดปืนในมือของไทนี่ให้ต่ำลงอีก
แต่ช้ากว่าปลายนิ้วของไทนี่ที่กดไกปืน
กระสุน 1 นัดจากมือของไทนี่ และอีกหลายนัดที่ดังขึ้นแทบจะในวินาทีเดียวกัน

แรงจากกระสุนปืนกระแทกที่เข้าไหล่ ข้าวพองหงายตัวลงกระแทกพื้น ภาพรอบตัวสับสน ยิ่งพาลมึนงง สับสนไปด้วยเสียงปืน เสียงฝีเท้า และเสียงตะโกน
ภาพของคนตัวโตที่พุ่งเข้ามาหา
และไทนี่ ที่ทรุดตัวลงพิงกับประตูรถ.........

*-*จบตอนที่ 33*-*

อุ กะ รีสสสสสสสสสสสสส  คุณผู้อ่านชอบเกีย กะ รีสสสสสสสสสสๆ  :m11: ดีใจๆๆๆๆ :heaven
ไทนี่ยังไม่ใช่ศพสุดท้าย เรืองนี้มันช่างนองเลือดผิดวิสัย ไม่รู้คนเขียนเขาจะโหดไปไหน แค้นใครมาไม่รู้

กินข้าวเหนียวหมูทอดกัน

มาอีกทีวันอาทิตย์นะครับ

Ps.พี่นาตาลี แก้ไขแล้ว นะครับ

.น้ำชา.




หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 19-06-2014 09:58:11
อ่านแล้วแอบงงๆ ตกลง ไทนี่ลดปืนในมือลง หรือ ข้าวพองปัดปืนในมือของไทนี่ลง

แล้วไทนี่ยิงใครตอนปืนถูกปัดลง คือไทนี่ตั้งใจจะยิงพองอยู่แล้วเหรอ หรือแค่ตกใจเลยยิงออกไป

แต่ไทนี่ตายแบบนี้ หวังว่าข้าวพองจะไม่โทษตัวเองอีกนะ

สงสารไทนี่ก็สงสารอยู่ แต่ดูๆแล้ว ไทนี่ไม่เคยคิดว่าพองเป็นเพื่อนเลยนะ หลอกใช้หลอกล่อพองทุกอย่างอ่ะ



เพิ่มเติมๆ

อ่าๆๆๆ เข้าใจแระ สรุปแล้วไทนี่นี่ตั้งใจจะยิงพองจริงๆสินะ

สงสารพองจัง ทั้งๆที่พองพยายามเชื่อใจไทนี่ทุกอย่างแท้ๆ ใครจะบอกยังไงก็ไม่ฟัง

แต่ก็ดีแล้วล่ะที่ในที่สุดพองก็ตัดสินใจไม่เชื่อไทนี่แล้ว

ปล. เกียคงดีใจที่พองได้ใช้สิ่งที่สอนมาซะที อิอิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 19-06-2014 09:59:30
รู้สึกว่าข้าวพองรู้เรื่องเพชรของแม่ แต่มีอะไรบางอย่างซ่อนไว้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 19-06-2014 10:00:47
ม่ายยยยยยย
ไม่ๆๆๆๆๆๆ
ไทนี่ๆๆๆๆ
 :z3: :z3: :z3:
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-06-2014 11:06:21
ข้าวพองไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ส่วนไทนี่ตายก็ช่างมันเต๊อะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 19-06-2014 11:07:03
 :sad4:  อื้ยๆๆๆ นังงูพิษนิรมล งานนี้น่าสงสารพี่ชายข้าวพองเหมือนกันนะนี่ ได้เมียน่ากลัว
หรือว่าที่แอบเข้าไปที่ ร.ร ฆ่าแป๋ม คือนิรมล #จบประเด็นนี้ยังหื้ออ??ก็มันยังคาใจว่าทำไมเสื้อไอรีนหายไปอ่ะ

ส่วนตอนนี้  ข้าวพองปกป้องเกียแน่ๆๆๆ เพราะไม่อยากให้เกียถูกทำร้าย รักเกียแล้วแน่ๆๆๆๆๆๆๆ
ยอมโง่ เพราะต้องการปกป้องคนรัก อุกีซซซซซ   :monkeysad: (จะเอาเศร้าก็ไม่ไหวจะอยากฟิน )
:mew2: แต่ก็เหมือนจะแลกกับความสงสารไทนี่ โดยการที่ให้ไทนี่เป็นคนยิงตัวเอง (หรือเปล่า)
ยอมแลกกับความไว้ใจในตัวเพื่อนแบบนี้คงไม่ใช่หรอกมั้ง เน๊อะ  :hao4:

คราวนี้มันต้องมีเฉลยตอนต่อไปแน่ๆ ใช่ไม๊ ว่าอะไรที่ข้าวพองมีอยู่ในตัวเอง จะเป็นเพชร หรือเป็นอะไร 
ยังคงสงสัย  :katai1: :katai1:
แล้วจะมีฉาก ประมาณเลือดข้าวพองต้องใช้เลือดของเกียมาเสริมช่วย ไรงี้อ่ะ มีป่ะ :mew4:
(คิดแบบนิยายๆ ได้ตลาดมาก  :mew5:)

ส่วนที่คนเขียนเก็บกด.....เอิ่มมมม........."ที" ทำไรไว้ป่ะ ทำให้คนเขียนเป็นเยี่ยงนี้ได้

 :กอด1: และ  :pig4: JiveTea

อ๊าว!!!!.เนื้อเรื่องเปลี่ยน งั้น..ขอแก้ไขจากที่อ่านครั้งแรกนึกว่าข้าวพองต้องการให้ไทนี่ยิงตัวเอง.........งั้นแบบนี้ ก็นะ สาสมกับไทนี่ แระ

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 19-06-2014 11:31:07
ข้าวพอง...... :ling2: คนเราเจ็บไม่จำก็เยอะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 19-06-2014 11:34:03
ตอนที่31 อ่า....จุดเปลี่ยนของเรื่องอยู่ที่ตรงนี้นี่เอง  คีย์คือ ไทนี่

ตอนที่32 นี่เฉลยแล้วสินะ นี่ไทนี่ร้ายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่นกต่อเฉยๆนะ แต่นี่มันหัวโจกแล้วเนี่ย!

ตอนที่33 อ้าว ตายแล้ว ไทนนี่ตายแล้ว ทำไมอ่ะ มันต้องอยู่นานๆหน่อยจิ เฮ้ย ฟื้นๆๆๆ//ตบหน้าๆๆ  จะเอาไทนี่อ่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-06-2014 11:36:43
ไทนี่ตายง่ายจังวุ้ย!
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 19-06-2014 12:30:57
"ไม่ได้ลังเลที่จะลงมือกับป๋อม" ยังคาใจอยู่นะว่าป๋อมตายไหม :katai1:
ถึงตอนนี้ก็รู้สึกสงสารไทนี่นะ แต่ยังสงสารไม่สุดเพราะไม่แน่ใจว่าไทนี่รั่นไกรทำไมตั้งใจยิงพองเหรอ
รอลุ่นกันต่อไป

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 19-06-2014 13:13:57
ใกล้จบแร่ะ คดีคลี่คลายไปเยอะแยะ คนผิดเปิดเผยตัวออกมาเกือบหมดแล้ว
ตอนนี้เหลือแค่ปมปริศนาข้อเดียวคือ
เพชรอยู่ที่ไหน และเมื่อไหร่ที่จะนำส่งเจ้าของที่แท้จริง จากนั้นเรื่องก็จบ

แต่..........เดียวก่อน

แล้วเกียร์กะน้องพองของเดี๊ยนล่ะคะ :ling1:
พี่มันฝากรักมาตลอดทั้งเรื่องเดี๋ยวหยอดเดี๋ยวหยิกตลอด ๆ  แต่ดูเหมือนน้องมันแค่จะเริ่มชอบ ๆ พี่มันเอง
หรือว่าเรื่องนี้จะมีภาค 2  :katai3:
ตอนที่น้องโตแล้วจบไฮสคูลจากเมืองไทยแล้วไปเรียนต่อที่อังกฤษ
 และพี่มันคงกลับไปทำงานที่อังกฤษเช่นกัน

ประเด็นคือ
ตอนนั้นน้องเกิน 18 แล้ว พี่หม่ำน้องได้แล้วใช่มั้ย
กรี๊ดดดดดดดดดดด จะรอตอนนั้นน๊า :hao6:

Jiveteaขอภาค 2 ได้มั้ยยยยยยยย
คือทดแทน ภาคแรกที่ไม่มีฉากหวานให้คนอ่านได้ฟิน
ภาค 2 ขอแบบพิเศษไม่มีการเสียเนื้อขอแค่เสียเลือดอย่างเดียวได้มั้ย
พลีสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-06-2014 13:31:20
ข้าวพองได้เรียนรู้อะไรบ้างหรือยัง
อย่างไทนี่ไม่เรียกว่าเพื่อนหรอก
เขาวางยาเรา ฆ่าเพื่อนเรา ทำร้ายเรา
นี่คือผู้ร้ายแฝงตัวเข้ามาตีสนิทเพื่อวัตถุประสงค์อะไรก็ตาม
แม้แต่พี่สะใภ้ยังเป็นสายโจร อันตรายรอบตัวจริง ๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-06-2014 13:34:56
จะจริงจะหลอกกันอย่างไรก็รอดูตอนต่อไปอีก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 19-06-2014 14:08:13
เอิ่ม ไทนี่ตายแล้วใช่มั้ยเนี่ย  สมน้ำหน้าเนอะ  :laugh:

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-06-2014 14:39:09
สรุปคือ คนใกล้ตัวยังไว้ใจไม่ได้
กระทั้งนิรมล เห้ออออ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 19-06-2014 14:56:43
ไปอีกแล้วหนึ่ง เหลือพี่สะใภ้หนอนบ่อนไส้อีกหนึ่ง

รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 19-06-2014 16:06:07
ข้าวพองแย่งปืนไทนี่ ไทนี่ตกใจเลยลั่นไกไปถูกไหล่ข้าวพอง
พวกตำรวจเลยระดมยิงไทนี่ตายใช่ม่ะ  เฮ้อ!!
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 19-06-2014 17:27:46
จนป๋อมกับแป๋มเป็นไปแล้ว

ข้าวพองยังเห็นมันเป็นเพื่อนอีกเหรอ

ทีเกียทำให้ทุกอย่าง

หงุดหงิดข้าวพอง

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mayuree ที่ 19-06-2014 17:43:51
แม่และพี่สาวตายไปไม่พอใช่ไหม ต้องลากใครไปตายด้วยอีกถึงจะพอ ใจคอไม่คิดจะช่วยพ่อช่วยพี่สักนิดเลยรึไง แย่จริงๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: bluesky ที่ 19-06-2014 18:11:49
ลุ้นตลอด ...
แต่ว่าใครเป็นคนซ่อนเพชรไว้แม้แต่คุณพี่สะใภ้ก็หาไม่เจอ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 19-06-2014 18:28:07
เริ่มขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ แล้ว คนร้ายก็ทยอย Grand opening กันอย่างอลังการ
ขัดใจกับข้าวพอง เอาปืนจ่อหัวขนาดนั้น ยังใจดีได้อีก เฮ้อ เป็นไงล่ะ 
เรื่องนี้หลายศพจริง และดูท่าจะมีอีกหลายศพตามมา
รอดูความร้ายกาจและธาตุแท้ของนิรมล หอกข้างแคร่เล่มนี้ พี่เพียงจะจัดการยังไงกัน

ขอบคุณสองหนุ่มครับ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 19-06-2014 20:22:43
อ่านมาด้วยความตื่นเต้นเร้าใจมาตลอด......
แต่ป้าเป็นคนโหดโคตรเลือดเย็น..เอิ๊กๆๆๆๆ
ใครจะเป็นจะตายเราไม่แคร์ขอแค่.......
คุณพี่เกียกะน้องข้าวพองมีหวานกันบ้างนะลูกนะ....
กรี๊ดดด... :z6: โดนแฟนคลับหนูแป๋มกะน้องป๋อมจัดหนัก..55..
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 20-06-2014 02:55:32
ข้าวพอง กำลังก้าวข้ามบททดสอบของชีวิตแล้วสินะ บางครั้งความไว้ใจให้อภัยมันก็ทำให้เราเจ็บปวดนะจ๊ะ เอ๊ะ เหมือนพูดเองงงเอง 555 ไทนี่เลือดเย็นเกินกว่าจะเป็นเพื่อนได้นะ สุดท้ายเราก็ยังสงสารไทนี่อยู่ดี ฮือๆๆๆๆ
ปล  "Never accept an apology from someone who just sucker punched you." อย่ารับคำขอโทษจากคนที่ลอบกัดคุณ  By กิ๊บส์ NCIS จำไว้นะข้าวพอง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 20-06-2014 12:21:27
พองจ๋ากว่าจะคิดได้ก็เกือบไปแล้วนะนั่น  :serius2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 20-06-2014 22:06:39
ไทนี่   สมควรอ่ะ  ไม่คู่ควรกับคำว่าน่าสงสารเลยสักนิด
จากเหตุการณ์นี้ คงทำให้ข้าวพองเรียนรู้นะว่าโลกความเป็นจริงมันโหดร้ายแค่ไหน
ทุกคนก็ล้วนแต่ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น ยิ่งใกล้จบยิ่งตื่นเต้นและชวนลุ้นมากมาย
แล้วใครจะเป็นผู้โชคร้ายคนต่อไปถัดจากไทนี่กันนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 33 หน้า 27(19มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 21-06-2014 10:53:30
หนังแอคชั่นนะเรื่องนี้
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 22-06-2014 09:09:28
ตอนที่ 34

มโหธร และอัคราไม่รอให้รถจอดสนิทก็เปิดประตูและก้าวลงจากรถ ก้าวตรงไปที่ห้องฉุกเฉิน พบเกีย แอนดรูว์ และแมรี่ รวมถึงครอบครัวของป๋อม
ใจที่ร้อนรนลดลงมาอยู่ในระดับอุ่น
“เป็นยังไงกันบ้าง”
แอนดรูว์พยักหน้า เกี่ยงให้เกียเป็นคนรายงาน
“ทั้ง 2 คนยังไม่ฟื้น ข้าวพองโดนยิงที่ไหล่ ส่วนป๋อมโดนทุบและตีเข้าจุดสำคัญหลังศีรษะ โดยรวมอาการป๋อมหนักกว่าข้าวพองครับ”

เกียรู้ดีว่าในใจของคนเป็นพ่อแม่ ย่อมเห็นว่าอาการบาดเจ็บของลูกชายตัวเองรุนแรงจนไม่สามารถรอได้ การรายงานอาการบาดเจ็บแบบนี้อาจทำให้อัคราไม่พอใจมากก็ได้
แต่เกียคิดผิด
อัคราส่งเสียงรับทราบแล้วเดินนำลูกชายคนโตไปหาพ่อแม่ของป๋อม
“ผมเสียใจและขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้คุณต้องสูญเสียลูกสาว และทำให้ลูกชายได้รับบาดเจ็บหนักในครั้งนี้”
มโหธรยกมือไหว้พ่อแม่ของคู่แฝด  “ขอโทษครับ”

มารยาทแบบเอเชียที่แอนดรูว์และแมรี่ไม่มีวันเข้าใจ
ทั้งยิ่งไม่เข้าใจเมื่อแม่ของป๋อมและแป๋มร้องไห้หนักขึ้นขณะที่กอดมโหธรไว้แน่น
พ่อของป๋อมแป๋มบอกกับอัครา “เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ไม่เคยบอกว่ามีใครคิดร้ายพวกเขาอยู่ เรารู้แต่เพียงว่าลูกไปเรียนแล้วก็กลับบ้าน เขาเป็นแค่เด็กรักเรียนคู่หนึ่งไม่เคยเห็นว่าจะไปมีเรื่องกับใครที่ไหน จนถึงวันที่เราเสียแป๋มไปก็ได้แต่คิดว่า ทำไมผู้หญิงคนนั้นต้องฆ่าแป๋ม มาถึงวันนี้ก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าเขาจะพยายามลักพาตัวเด็กๆ ไปทำไม และทำไมป๋อมถึงถูกทำร้าย”

มโหธรหันไปเรียกเกียให้เข้ามาช่วยอธิบายให้พ่อกับแม่ของป๋อมแป๋มฟัง
แน่นอนว่า บางอย่างบอกได้บางอย่างบอกไม่ได้
เมื่อฟังเรื่องจากเกีย แม่ก็พูดขึ้น

“แม่ถามป๋อม ว่าเรื่องมันร้ายแรงถึงขนาดที่พ่อของข้าวพองเขาต้องส่งตำรวจหญิงมาคุ้มกันป๋อมเชียวหรือ” แม่หมายถึงแมรี่ “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ป๋อมก็บอกว่าไม่มีอะไร เพิ่งรู้นี่แหละว่าแมรี่มาตรวจคอมพิวเตอร์ของแป๋ม”
เกียพยักหน้า “ป๋อมรักครอบครัวของเขามาก และอยากจัดการกับคนที่ฆ่าน้องสาวของเขาด้วยตัวเอง ถ้าคุณรู้ว่าเขากำลังทำอะไรเขาจะถูกห้ามแน่นอน” ทั้งพ่อและแม่พยักหน้าทันที “ส่วนที่เขาถูกทำร้ายก็เพราะเชื่อว่าจะต้องมีใครที่เห็นเหตุการณ์โทรไปแจ้งความ และตำรวจจะตามรถคันนั้นไปช่วยข้าวพอง”
“แต่ป๋อมอาจตายก็ได้” อัคราพูดขึ้น

แอนดรูว์เป็นคนตอบ “แต่เขาได้แก้แค้น”

พ่อและแม่สะอื้น “ทั้งที่อาจทำให้พ่อกับแม่ต้องเสียลูกไปทั้งคู่” พ่อหันมาหาเกีย “คุณรู้ทุกเรื่อง”
“ครับ และผมเตือนเขาแล้วว่า ผมมีหน้าที่คุ้มครองข้าวพอง ส่วนเขามีหน้าที่ทำความฝันของแป๋มให้เป็นความจริง”

พ่อพยักหน้ายอมรับว่าที่เกียพูดมาคือความจริง “แต่มันก็ยังทำ ป๋อมมันเป็นอย่างนั้นแหละ หน้ามันยิ้มแต่ใจมันแค้น”
อัคราบอก “ผมจะย้ายทั้งคู่กลับไปโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ขอให้คุณวางใจ เราจะดูแลป๋อมอย่างเต็มที่”
“ข้าวพองเองก็อาการไม่ดีเลย” พ่อบอก
“ครับ” อัคราตอบรับแล้วเงียบไปอึดใจ “เรื่องของข้าวพองยังมีสิ่งที่ต้องจัดการอีกหลายเรื่อง และโรงพยาบาลต่างจังหวัดก็ไม่ปลอดภัยสำหรับข้าวพอง”
“ยังมีคนร้ายอีกหรือคะ” แม่ถาม
“ครับ” เกียบอก

*-*

ข้าวพองเห็นแม่กับพี่เพชร
แม่คนสวยนั่งอยู่ในร้านเพชรร้านนั้น ท่ามกลางเครื่องเพชรที่แม่รัก
“ข้าวพอง นี่มาดูสิ เครื่องเพชรชุดนี้สวยไหม” แม่อวดสายสร้อยที่มีเพชรเม็ดใหญ่ “ชอบไหมข้าวพอง”
“ก็ชอบนะ แม่เอามาขายหรือ”
แม่ยิ้มหวาน “เปล่า”

ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวหมุนแรง ข้าวพองลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในห้องสีขาว มีเสียงพ่อกับแม่ทะเลาะกันดังลั่นห้อง
“คุณจะบ้าหรือเปล่า ทำอย่างนั้นมันเท่ากับฆ่าข้าวพองชัดๆ”
“คุณน่ะแหละบ้า ชั้นเป็นแม่นะ จะคิดฆ่าลูกได้ยังไง”
ขณะที่ได้ยินเสียงพ่อกับแม่ทะเลาะกัน ข้าวพองรู้สึกถึงมืออุ่นๆ ของพี่เพียง และพี่เพชรที่นั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียง
“พี่จะไม่ยอมให้ใครทำร้ายแก”
“ทำไมพ่อกับแม่ทะเลาะกัน” ข้าวพองถาม
พี่เพชรเช็ดน้ำตา ก่อนก้มลงหอมแก้มน้องชายคนเล็ก “มันไม่สำคัญเท่ากับต่อไปแกต้องดูแลตัวเองให้มากกว่าเดิม”

ข้าวพองยังรู้สึกถึงหยาดน้ำตาจากแก้มของพี่เพชร เมื่อภาพทุกอย่างจางหาย ข้าวพองนั่งอยู่ในห้องกว้างสีขาว เก้าอี้สีขาว ที่นั่งอยู่ข้างๆ ซ้ายขวาคือแม่กับพี่เพชร
“แม่....พี่เพชร....”
ทั้ง 2 คนหันมายิ้มให้
“ทำไม 2 คนทิ้งพองไปนานนัก.....”
...
...

เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งข้าวพองยังคงมองเห็นผนังห้องสีขาว แต่คนที่อยู่ข้างๆ ไม่ใช่แม่กับพี่เพชร แต่เป็นพี่เพียง
“ไง ไอ้ตัวเล็ก”
ข้าวพองมองไปรอบๆ “แม่กับพี่เพชรล่ะ”
มโหธรวางมือลงบนหน้าผากของน้องชายคนเล็ก ยิ้มเศร้า “เรากำลังจะไปลอนดอนกัน”

ข้าวพองพยักหน้า รับรู้ได้ว่า แม่กับพี่เพชรมาอยู่ด้วยในความฝัน ส่วนภายในห้องนี้มีแต่พี่เพียงที่อยู่ด้วยตลอดเวลา

“ป๋อมเป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรแล้ว พรุ่งนี้ฉันคงจะพอเอาแกใส่รถเข็นไปหาได้”
“พ่อของไทนี่ หว่อง กับเพื่อนของเขาใช้ปืนจี้พองกับป๋อมมาจากร้านอาหาร แต่ระหว่างทางป๋อมมันพูดไม่หยุด เขาก็เลยลากมันลงไปทุบ”
มโหธรพยักหน้า
ข้าวพองเล่าต่อด้วยน้ำเสียงแหบแห้งอ่อนแรง “พองบอกว่า อยากได้อะไรให้ถามพี่เพียง ไทนี่บอกว่า เขาไม่มีทางเลือก”
“เราทุกคนมีทางเลือกเสมอ พี่ผิดเองที่เลือกที่จะเป็นฝ่ายรอจนทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้น”

....ส่วนหนึ่งของการรอ ก็คือการที่ไม่อยากต้องสูญเสียน้องชายไปอีกคน...

“แล้วไทนี่กับพ่อของเขาล่ะ” ข้าวพองถาม
เมื่อมโหธรส่ายหน้าเป็นคำตอบ น้ำตาก็ไหลออกมาเงียบๆ พี่ชายก้มลงจูบที่หน้าผาก
....เหมือนที่แม่เคยทำเวลาที่เราร้องไห้....
“ไทนี่จะเอาเพชร”
“พี่รู้แล้ว”
ข้าวพองมองไปรอบห้อง รับรู้ว่าใครคนหนึ่งไม่อยู่ แล้วหลับตาลงอีกครั้ง

*-*

การทำงานกับตำรวจไทยยังคงยากเหมือนเคย ต่อให้มีแอนดรูว์มาแสดงตัวว่ายังเป็นตำรวจที่อยู่ในราชการ แต่การที่ไอรีนเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมหลบหนีออกไปได้ มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจอังกฤษอยู่ดี
ใช่!
ไอรีนหลบหนีออกมาได้!
ในวันเดียวกับที่มีการลักพาตัวข้าวพอง!
วันเดียวกับที่ทุกคนกำลังวุ่นวายและทิ้งนิรมลไว้ที่บ้านเพียงลำพัง!
และนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!

งานส่วนที่เป็นความเกี่ยวข้องระหว่างหญิงสาว 2 คนนี้ เป็นการตั้งข้อสงสัยที่ปราศจากหลักฐานสนับสนุนอย่างสิ้นเชิง
สิ่งเดียวที่แน่ใจก็คือ ไทนี่กับพ่อของเขาต้องมีผู้บงการให้มาเอาเพชร
แต่จะเป็นผู้หญิง 2 คนที่มาฝังตัวอยู่กับครอบครัวนี้นานแล้วหรือไม่
ไม่มีหลักฐานอะไรเลย
เกียนึกออกแต่รอยยิ้มเยาะ และท่าทีไม่ชอบกันระหว่าง ไทนี่ ไอรีน และนิรมลเท่านั้น

ในระหว่างรอดูอาการของข้าวพองที่โรงพยาบาล มโหธรได้รับโทรศัพท์จากธนาคารเพื่อแจ้งว่านิรมลไปติดต่อขอเปิดเซฟ ชายหนุ่มจึงปฏิเสธในทันที
ขณะที่เกียติดต่อไปที่เรือนจำที่ฝากขังไอรีนอยู่ ทางเรือนจำยอมรับว่านักโทษหลบหนี และกำลังอยู่ในระหว่างติดตาม

สิ่งที่ต้องทำคือการหยั่งให้ถึงเบื้องหลังของทั้ง 2 คน

อัครากำชับให้มโหธรกับแมรี่อยู่เฝ้าข้าวพอง และป๋อม ส่วนตัวเอง เกียและแอนดรูว์ กลับมากรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน ทั้งที่บ้านและที่ธนาคาร พร้อมไปกับสั่งยามรักษาความปลอดภัยของบ้านทั้ง 3 หลังเพิ่มการเฝ้าระวัง
“ดีที่เกียบอกให้เราเปลี่ยนรหัสเซฟทั้งหมด”

การป้องกันเริ่มขึ้นตั้งแต่เกียเข้ามารับงานได้เพียงไม่กี่วัน
ชายหนุ่มถามถึงเรื่องของไอรีน นิรมล และขอให้อัคราและมโหธรเปลี่ยนรหัสเซฟ และเพิ่มชั้นการรักษาความปลอดภัย เพราะแน่ใจว่า กลุ่มคนร้ายที่สังหารพวงเพชรและเพชรแท้ ยังคงต้องการเพชรชุดนั้นอยู่
แต่ส่วนใหญ่แล้วเกียจะเล่าเรื่องการทำงานดูแลข้าวพอง ไม่เคยพูดนิรมลอย่างเฉพาะเจาะจง เพียงแต่ถามว่า เคยให้นิรมลมาเอาของอะไรที่บ้านหลังใหญ่หรือไม่ และไอรีนมีบทบาทต่อข้าวพองอย่างไร

“ตอนที่เพียงบอกให้เราเปลี่ยนรหัสทั้งหมด ผมยังคิดว่าคุณจริงจังมากไปหรือเปล่า แต่มาตอนนี้ผมรู้ตัวแล้วว่า ผมเป็นคนที่ประมาทเกินไป”  อัคราบอก “โทษความเลินเล่อของผมในเรื่องนี้เถอะ เพราะจนถึงตอนนี้ผมยังไม่เห็นความเกี่ยวข้องระหว่างทุกคนที่เกียพูดมา”
“การที่พวกเธอเจตนาพูดจาขัดแย้งกันต่อหน้าผมเสมอ” เกียมองชายสูงวัย “มันเป็นความตั้งใจ และต่างจากบุคลิกของเธอเวลาที่อยู่กับคุณเพียง หรืออยู่กับข้าวพอง”

อัคราคิดตาม และยอมรับว่ายังไม่เข้าใจความเกี่ยวข้องระหว่างพวกเธอมากขึ้นเลยสักนิด
“ที่ผ่านมา ผมกับเพียง จะบอกและทำให้ทุกคนเห็นว่า เพชรทั้งหมดอยู่ในเซฟที่ธนาคาร เท่าที่รู้นิรมลไม่เคยไปเอาเพชรตามลำพัง เพียงต้องไปด้วยตลอด แล้วเขาก็จะถามถึงเพชรชุดนั้นชุดนี้” อัคราหันมามองเกีย “ส่วนเรื่องไอรีนก็เห็นว่าเป็นครูพิเศษที่ทำให้ข้าวพองใช้ยาเสพติด”

แอนดรูว์ที่นิ่งฟังแล้วพูดขึ้น “ผมคิดว่าเราควรกลับไปป้องกันเพชรเม็ดนั้น”
ชายสูงวัยหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะพูดในสิ่งที่ทุกคนรู้ “เกียกลับไปรับเขามากรุงเทพฯ ส่วนแอนดรูว์ติดต่อทางสถานทูต ว่าเราจะส่งเพชรไปลอนดอนภายใน 1 สัปดาห์”
แอนดรูว์ไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ เพราะเกียคือคนที่จะบอกตำแหน่งอย่างชัดเจนว่าเพชรอยู่ที่ไหน แต่อัคราอธิบาย
“เราก็จะใช้แผนเดิมต่อไปอีกสักอาทิตย์ เกียเป็นครูพิเศษยังไงก็ต้องอยู่กับข้าวพอง”

แอนดรูว์ไม่เห็นด้วยกับแผนนี้เลยสักนิด เพราะจากที่นิรมลไม่มั่นใจเรื่องเพชร อาจกลายเป็นความมั่นใจเพราะมีเกียยืนยันตำแหน่งให้
แต่เกียไม่มีทางเลือกอื่น
ที่สำคัญ
ไม่ว่านิรมลกับไอรีนจะรู้แล้วหรือไม่ แต่เกียก็ต้องการจะคุ้มครองข้าวพองด้วยตนเอง

เมื่อทบทวนเรื่องทั้งหมดอีกครั้ง เกียก็พูดขึ้น “ในคดีแก๊งค์ค้ายาข้ามชาติของอันโตนิโอที่ผมทำอยู่ ในคนร้ายอยู่คนหนึ่งชื่อเหลียง เป็นหนึ่งในกลุ่มมือปืนจากฮ่องกงเราดวลกัน แล้วมันตายแต่ผมเจ็บหนัก พ่อของไทนี่หว่อง เป็นพี่ชายของเหลียง ผมไม่เชื่อว่า เขาจะจำผมไม่ได้ เพราะผมคือคนที่ยิงน้องชายของเขาตาย และอีกอย่าง ก็คือ คนพวกนี้คือพวกรับจ้าง เขาไม่ได้ทำงานนี้เพื่อตัวเอง แต่ต้องมีคนจ้างให้ทำ”

เกียผุดลุกขึ้น สีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง
คนบงการต้องเป็นใครอีกคน ที่ทำให้คดีของพวงเพชรและเพชรแท้ไม่มีความคืบหน้า!!

....ขอให้กลับไปทันด้วยเถิด...

*-*-*

ป๋อมมีอาการดีขึ้นมาก แต่ยังคงอยู่ในห้องไอซียู แม่ของป๋อมกับแมรี่แวะเข้าไปดูอาการเป็นระยะ แล้วออกมานั่งคุยกันเรื่องที่แมรี่ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของแป๋ม ครู่หนึ่งแมรี่ก็ขอตัวมาดูข้าวพองกับมโหธร
“ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก” แม่บอก แต่แมรี่ส่ายหน้า
“หน้าที่หลักของฉันคือป๋อม ส่วนข้าวพองน่ะเกียฝากไว้”
แม่ยิ้มขอบใจ
“พวกคุณใจดีมาก”
แมรี่ยิ้มรับ แล้วกดรับโทรศัพท์จากเกีย หันไปมองบันไดที่จะขึ้นไปชั้นบน ซึ่งเป็นห้องผู้ป่วยของข้าวพอง

*-*-*

ข้าวพองยังหลับอยู่เหมือนกัน ขณะที่มโหธรกำลังคุยโทรศัพท์กับพี่ทำงาน แล้วกดวางเมื่อประตูห้องเปิดออก
ที่เดินนำเข้ามาคือนายตำรวจอาวุโส
มโหธรยกมือไหว้ “สวัสดีครับท่านรองขจร มาธุระแถวนี้หรือครับ”
นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่รับไหว้ “เรื่องใหญ่เลยนะนี่”
เสียงคุ้นหูทำให้ข้าวพองปรือตามอง

จำได้!
นี่เป็นตำรวจคนเดียวกับที่พบในงานศพของแป๋ม ซึ่งข้าวพองไม่รู้จักชื่อ
คนที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ยังเป็นตำรวจคนที่รายงานสรุปคดีแป๋มได้อย่างรวดเร็ว คนนี้คือหมวดมานพ
ส่วนคนชุดดำ 1 คนที่ยืนอยู่ข้างหลังนั่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่พี่เพียงรู้จักพวกเขา
มโหธรหันหลังให้น้องชายที่หลับตาลง แต่ยังฟังพี่ชายตอบคำถามนายตำรวจใหญ่เกี่ยวกับการลักพาตัว ไปจนถึงอาการ และการเตรียมย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ

“ถ้าไม่ว่าอะไร เพียงออกไปคุยกับผมที่ห้องอาหารข้างนอก มีเรื่องคดีฆาตกรรมของเพื่อนเขาเกี่ยวข้องอยู่ด้วย”
มโหธรหันมามองน้องชาย ดูลังเลทำให้รองขจรเร่งอีกครั้ง
“ไม่นานนักหรอก เดี๋ยวให้ลูกน้องผมเฝ้าให้” นายตำรวจผู้ใหญ่มองไปที่คนที่กำลังหลับอยู่ “คุณคงไม่อยากให้น้องชายต้องตื่นขึ้นมาเพราะเราคุยกันเสียงดังหรอกนะ
มโหธรหันมามองน้องชายอีกครั้ง

*-*จบตอนที่ 34*-*

อีกจิ๊ดเดียวก็จะจบแล้วนะ
เคร๊๊ยดเครียดเนอะ
มาอีกทีวันอังคารนะครับ
.น้ำชา.
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 22-06-2014 09:22:59
หรือแม่เอาเพชรใส่ไว้ในตัวข้าวพอง?
ตะหงิดๆที่บอกว่าจะส่งเพชรกลับลอนดอนภายในหนึ่งสัปดาห์ค่ะ
แล้วพี่เพียงจะออกไปคุยนอกห้องเหรอ อย่านะ! พองจะตกอยู่ในอันตราย!
ขอให้เกียมาทันด้วยเถอะ  :call:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 22-06-2014 09:37:49
มึนจริง ใครเป็นคนร้ายตัวจริงกัน แต่ก็ลุ้นมาก ตกลงไทนี่คือพวกรับจ้างสินะ นิรมลกับไอรีนพวกเดียวกัน มาเนียนมากอ่ะลงทุนเนอะ

รอตอนต่อไปดีกว่า ตอนนี้ลุ้นทุกตอนเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-06-2014 09:38:49
เย้ย แมรี่มาทันมั้ยเนี่ย ขอให้ข้าวพองเอาตัวรอดให้ได้ด้วยนะ แน่ชัดแล้วว่าเพชรอยู่ที่ใคร ใครกันะ ใครกันนะ ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ รอวันอังคารอย่างใจจดใจจ่อนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-06-2014 09:51:15
มาถึงจุดนี้เชื่อว่าแม่เอาเพชรฝังไว้ในตัวข้าวพองแน่ๆ
และคนที่อยู่เบื้องหลังคือนายตำรวจใหญ่ที่มานี่นี่แหละ
แมรี่จะตามขึ้นมาช่วยทันมั้ยน้า  :ling2:

รึตามบทข้าวพองต้องถูกลักพาตัวไปอีกครั้ง
และรับรู้ความโหดร้ายของความโลภด้วยตัวเอง
งานนี้หนูหายซ่าแน่ๆเลย  :hao5:

พระเอกเกียจะขี่ม้าขาวมาช่วยทันมั้ยน้อ

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 22-06-2014 10:15:51
แม่เอาเพชรใส่ไว้ในตัวข้าวพองแหงๆ พองรู้ไหมเนี่ย

แล้วตำรวจคนนั้นเป็นพวกนั้นด้วยแน่เลย คดีแม่กับพี่เพชรถึงไม่คืบหน้า

แถมสรุปคดีแป๋มแบบรวบรัดอีก แถมไอรีนก็หนีออกไปแล้ว

นี่ก็มาดึงเพียงให้ออกไปนอกห้อง เพียงอย่าปล่อยข้าวพองไว้นะ ไม่ก็รอให้เกียกลับมาก่อน



ปล. ถ้าจะมีใครตายอีก ขอให้เป็นฝั่งนั้นเถอะนะ อย่าให้มีใครรอบๆตัวพองเป็นอะไรอีกเลย สงสารพองอ่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 22-06-2014 10:17:42
ไอ้รองขจรนี่แหละตัวการ มาลงมือเองเลยเหรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 22-06-2014 10:40:39
เพชรอยู่ในตัวพอง?
ตำรวจพวกนี้คือตัวการ?
คนที่จะตายคนต่อไปคือพอง?

นี่คือจิตมโนของคนอ่าน  :mew2:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-06-2014 10:44:37
ตำรวจเป็นผู้ร้ายอีกแล้ว เลวจริง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-06-2014 12:43:12
ไม่มีใครไว้ใจได้สักคน...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 22-06-2014 15:11:37
นี่ก็เป็นหนึ่งในพวกที่ต้องการเพชรเหรอนี่....
ตำรวจมีดีมีชั่วเนอะ....
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 22-06-2014 15:18:24
คำเดียว "ความโลภ" สามารถทำร้ายคนอื่นๆ ได้ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
แต่ "ความตะกละ" มันทำให้ชั้นอ้วน อ้วมมาก อ้วนที่สุด .... #เกี่ยวไหม #บอกเพื่อ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-06-2014 16:51:11
เป็นห่วงเด็กๆ จัง
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 22-06-2014 17:24:37
ตำรวจต้องมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ เลย โอยยยยพี่เพียงอย่าทิ้งข้าวพองไว้นะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-06-2014 18:36:25
ลุ้นสะลืมหายใจเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 22-06-2014 19:08:53
กลุ่มนายตำรวจ มีชายชุดดำด้วย น่าสงสัยมากกกกก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 23-06-2014 06:59:41
ผู้หญิงลึกลับ
ผู้ชายตำรวจชุดดำ
 :a5:
บวกและเป็ดขอบคุณ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 23-06-2014 08:51:01
 :ling1: มันตัดตอนได้ขัดใจมากกกกกกกก  :ling1:
......แล้วใครจะเป็นรายต่อไป >>>>>>> สาธุ ๆๆๆๆ มันเหนื่อยนะคะคนเขียนไอ้การลุ้นแบบนี้น่ะ  :sad4:
ไอ้พวกตำรวจชั่วววว ลอยนวลมานานแระอีกไม่นานกรรมที่ทำไว้จะมาถึงแระ :angry2:

 :pig4: JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-06-2014 10:58:34
ทำไมไอรีนถึงหนีไปได้ น่าสงสัยตำรวจนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 23-06-2014 12:27:36
เรื่องเพชรเนี่ย  เป็นขบวนการใหญ่เลยเนอะ  มีตำรวจมาเกี่ยวด้วยอ่ะ
อยากรู้สุด ๆ ก็คือนายใหญ่ ตัวบงการเรื่องทั้งหมดคือใคร
ส่วนตอนท้าย  ข้าวพองอย่าเป็นอะไรน้า  ขอให้พี่เพียงไหวตัวทัน
รวมทั้งให้เกียมาทัน  เพราะการที่ข้าวพองอยู่กับเกียน่าจะปลอดภัยที่สุดแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 23-06-2014 15:10:33
คนในเครื่องแบบสินะ....ตัวดีเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 34 หน้า 28(22มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 24-06-2014 00:50:47
อ๊ากกก ลุ้นๆ ไม่นะพี่เพียงอย่าทิ้งน้องไว้ แมรี่รีบมาดูพองเร็วๆ พี่เกียรีบกลับมาหาน้องสิ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 24-06-2014 09:35:28
ตอนที่ 35

ห้องที่มโหธรคุยกับรองขจรอยู่ถัดจากห้องพักของพยาบาล ห่างจากห้องของข้าวพอง
ส่วนป๋อมยังอยู่ห้องไอซียู ซึ่งอยู่อีกชั้นหนึ่ง
การฝากน้องชายไว้กับคนแปลกหน้าในเวลาเช่นนี้ไม่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง
 
“เราทราบว่า คุณขอให้ตำรวจอังกฤษเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนักเรียนที่ถูกฆาตกรรมในโรงเรียน” รองขจรเริ่มต้นจากคดีแป๋ม
“ผมไม่ได้ขอให้เขาไปแทรกแซงคดี แต่เพราะแป๋มเป็นเพื่อนของน้องผม พวกเขาแค่ต้องการเพื่อน” มโหธรอธิบาย
แต่รองขจรขัดขึ้น “ถึงกับต้องส่งตำรวจผู้หญิงคนนั้นไปอยู่ด้วยเลยหรือ”
“เรื่องนั้นผมไม่ทราบ” มโหธรโกหก “ผมเพิ่งเจอเธอ บอกว่าตามแอนดรูว์มาเที่ยวเมืองไทย ส่วนเธอจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไร ผมไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเธอ”
“เพิ่งเจอกัน”
“ใช่” มโหธรยืนยัน “คุยกันยังไม่ถึง 5 ประโยคเลย”

นายตำรวจใหญ่พยักหน้าช้าๆ แล้วหันไปพยักหน้าให้หมวดมานพ
คนที่กำลังต้องการสร้างผลงานรีบพูด “เธอตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของผู้ตาย”
“หรือครับ” มโหธรทำหน้าตาไม่รู้เรื่อง “แล้ว...ทำไมต้องทำอย่างนั้นครับ”
“เพราะมันต้องมีอะไรอยู่ในนั้นนะสิ หยุดทำเป็นไม่รู้เรื่องสักทีคุณมโหธร”
“ผมควรต้องรู้อะไรหรือครับ อย่างคอมพ์ของไอ้พอง ผมยังไม่เห็นจะไปอยากรู้อะไรของมันเลย” ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ “หรือในนั้นมีอะไร ครอบครัวของแป๋มแจ้งความหรือครับ”
หมวดมานพบอกต่อ “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คือถ้าสิ่งที่เธอรู้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคดีก็ควรบอกเราใช่ไหมครับ”
มโหธรทำท่าทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แล้วทำเป็นไม่เข้าใจ “เดี๋ยวนะครับ เรื่องนี้พองเล่าให้ผมฟังว่า คุณสรุปปิดคดีไปแล้วไม่ใช่หรือครับ แล้วไอรีนที่คุณว่าเป็นฆาตกรก็ถูกจับเข้าคุกไปแล้ว มันยังมีอะไรกันอีกล่ะ”
“อย่าบอกนะว่าคุณรู้แค่นี้” หมวดมานพถาม
แต่มโหธรยืนยัน “นี่คือสิ่งที่ผมรู้ ผมน่ะแค่เรื่องธุรกิจ วิ่งเต้นแย่งงานประมูลกับไล่ตามจับน้องชายก็เหนื่อยแล้ว”
“แล้วเพชรล่ะ” จู่ๆ รองขจรก็ถามถึง
“เพชร น้องคนกลางผมน่ะหรือครับ”

“เครื่องเพชรของแม่คุณต่างหาก” รองขจรมีท่าทีหงุดหงิดที่มโหธรดูงุ่มง่ามเชื่องช้า
...มิน่า คดีของแม่และน้องสาวถึงได้ไม่ไปถึงไหน
แต่เพราะตำรวจอังกฤษ 3 คน ที่เข้ามาเกี่ยวข้องทำให้เรื่องราวมันถึงได้ขมวดปมเข้ามาถึงขนาดนี้ และทั้ง 3 คนก็มาจากผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียว
แล้วจะมาบอกว่าไม่รู้ ไม่เห็นอะไรเลย มันจะเป็นไปได้อย่างไร

“เพชรจากอังกฤษที่แม่ของคุณได้มา แล้วนักธุรกิจฮ่องกงติดต่อขอซื้อผ่านน้องสาวคุณน่ะ”
มโหธรมองรองขจรด้วยดวงตาไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม “ผมบอกท่านรองไม่ได้”
“ทำไม”
“พ่อฆ่าผมทิ้งแน่ๆ” มโหธรบอก ขณะที่นึกในใจอยากให้แมรี่ที่อยู่กับแม่ของป๋อมที่ชั้นล่าง แวะขึ้นมาดูข้าวพองที่ชั้นนี้ “เพราะพ่อบอกกับทุกคนไปว่า เราไม่มีเพชรนั่น เป็นความเข้าใจผิด”
รองขจรชะโงกตัวมาข้างหน้า มีรอยยิ้มชั่วร้าย “เพชรนั่นอยู่ที่ไหน”
มโหธรกำลังจะขยับปากพูดแต่นึกขึ้นได้ หันไปมองประตูห้องที่กำลังคุยกันอยู่
“ข้าวพอง”
รองขจรพูดช้าๆ “ผมไม่ชอบวิธีการนี้เลยจริงๆ นะ แต่การที่ไอรีนลงมือกับนักเรียนคนนั้น ตามมาด้วยการที่น้องชายของคุณถูกลักพาตัว มันทำให้เห็นว่า คุณมีเพชรอยู่จริงๆ อย่างที่ทุกคนเชื่อ” รอยยิ้มของตำรวจชั้นผู้ใหญ่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย “และมันก็ยังมีบางคนที่บอกว่า คุณเก็บเพชรไว้ในที่ที่ไม่มีใครคาดคิด”
มโหธรส่ายหน้า “ผมเคยได้ยินเรื่องนั้น แต่มันเป็นไปไม่ได้” ชายหนุ่มลูบหน้าตัวเอง “ตอนที่ปิดร้านเพชรของแม่ ผมเก็บเพชรไปฝากไว้ที่ธนาคาร แล้วถึงได้รู้ว่า แม่เองก็มีตู้เซฟธนาคารอีกแห่งเก็บเครื่องเพชรของเขาอยู่เหมือนกัน”
ทั้งรองขจรและหมวดมานพแทบจะยื่นหน้าเข้ามาติดมโหธร
“จะบอกว่านั่นเป็นอีกเรื่องที่คูณเพิ่งรู้ได้ไม่นาน”
“ผมทำก่อสร้างนะ เขาซื้อเขาขายอะไร ผมจะไปรู้ได้อย่างไร” มโหธรขยับตัว “ผมกับไอ้เพชร ไม่รู้เรื่องเพชรนั่น มีแต่พ่อที่รู้ แล้วเขาก็ไม่ยอมขาย กลับปล่อยให้คนเข้าใจผิดเรื่องข้าวพองกับเพชรนั่น”
“หมายความว่า....” หมวดมานพกลืนน้ำลาย

“ขอผมอธิบายอย่างนี้นะ” มโหธรเจตนาเล่าเรื่องช้าๆ “ที่ผมรู้ก็คือ เพชรนั่นมีราคาแพงมาก แม่ผมรักมันมาก ส่วนพ่อก็รักแม่มาก แล้วผมก็เชื่อว่า เมื่อเขาเห็นมัน รู้ราคาของมันเขาต้องรักมันเหมือนกัน มีคนติดต่อมาหลายคนแต่แม่ไม่ขาย จนกระทั่งเขาถูกฆ่าตาย ไอ้เพชรมาดูร้านต่อก็ถามหาเพชรนั่น บอกว่ามีคนติดต่อขอซื้อ แต่พ่อก็บอกแต่ว่าไม่มี แล้วสั่งคนคุมเข้มไอ้พอง ห้ามไอ้พองสารพัด คนก็เริ่มสงสัยว่า มันอย่างไรกันแน่ ไอ้พองต้องรู้เรื่องแน่ๆ คิดกันไปไกลถึงขนาดที่ว่า เพชรต้องอยู่ในตัวข้าวพอง” หมวดมานพเผลอพยักหน้ารับ ทำให้มโหธรหันไปหา
“ซึ่งในความจริง ข้าวพองไม่รู้เรื่องอะไรเลย คุณบอกว่าผมไม่รู้อะไรเลย แต่ไอ้ข้าวพองน่ะยิ่งไม่รู้อะไรเลยหนักกว่าผม มันเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งของพ่อ เหมือนไอ้เพชร เหมือนผม” ชายหนุ่มมองตาของนายตำรวจใหญ่เพื่อแสดงความจริงใจ “ในฐานะที่ผมเป็นพี่ ผมไม่ชอบการกระทำของเขา ยิ่งผมไม่รู้เรื่องค้าขายเพชรด้วยนะ ผมก็ยิ่งรีบปิดร้านแล้วขายของออกไปให้หมด ใครอยากได้อะไร มาซื้อไปเลย จะกำไรหรือขาดทุนผมไม่สนใจ เพราะมันเป็นทางเดียวที่ผมจะได้ระบายความไม่พอใจของผมให้เขาได้รับรู้”
 
รองขจรหันหน้าด้านข้างมองมโหธร อย่างใช้ความคิด
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ภาพของอัคราและมโหธรคือนักธุรกิจที่เพิกเฉยต่อความสูญเสียในครอบครัว
แต่เรื่องของข้าวพองยังไม่ชัด

“แต่เรื่องที่ห้ามข้าวพองขึ้นเครื่องบิน”
“ผมไม่เคยห้าม แล้วมันก็เคยเดินทางด้วยเครื่องบิน” มโหธรเถียงทันที “ผมกับไอ้เพชรไปเรียนอังกฤษ คิดหรือว่าพ่อกับแม่จะทิ้งมันไว้ที่บ้านคนเดียวได้ ใครบอกคุณว่าผมห้าม”
รองขจรนิ่งอึ้ง ขณะที่หมวดมานพถาม
“แล้วทำไมต้องเรียกเพื่อนมาจากอังกฤษ”
“ข้าวพองมันเกเรหนักขึ้นเรื่อยๆ หนีเรียน เล่นยา ปาร์ตี้หนัก แถมยังทำตัวติดอยู่กับไอรีน ผมก็ไม่รู้จะหาครูจากไหนให้มันแล้ว พอดีเกียเขาเจ็บหนักต้องออกจากราชการก็เลยลองชวน ยังไม่คิดเลยว่าเขาจะเอาจริง” มโหธรส่ายหน้าหนักใจ “แต่มันยิ่งทำให้ทุกคนพุ่งตรงเข้าไปหาข้าวพอง”
“ทั้งหมดนี่เป็นแผนของคุณอัคราหรือ” รองขจรไม่ค่อยอยากเชื่อ
มโหธรพยักหน้าช้าๆ “ท่านรองไม่เคยสงสัยเลยหรือ แม่กับน้องสาวผมตาย ผมพยายามวิ่งเต้นตำรวจรอบตัว เพื่อให้คลี่คลายคดีนี้ แต่พ่อผมกลับให้หยุด เขาทำท่าว่าของสำคัญอยู่กับไอ้พอง แต่ตัวเขาเองกลับไปอยู่บ้านเมียใหม่”

“คุณนวลพรรณ” หมวดมานพพูดเบาๆ
มโหธรยกนิ้วชี้ทันที เชิงบอกว่า นั่นแหละคือคนสำคัญ

“ส่วนผมถึงจะอยู่ใกล้ไอ้พอง แต่เมียผมก็อยากได้แต่เพชร ...”
พูดมาถึงตรงนี้รองขจรก็ส่งเสียงในลำคอ จนมโหธรฉุกใจคิด ต้องระงับปากไว้ก่อน 
นายตำรวจใหญ่ขยับตัว
“เอาเป็นว่า ผมต้องการเพชรนั่น ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่ในเซฟ...”
“คุณต้องถามรหัสจากพ่อผม”
“งั้นเราก็เริ่มจากที่มันง่ายก่อน”

รอยยิ้มเหี้ยมโหดที่มุมปาก ทำให้มโหธรรู้สึกกลัว
“เพชรไม่ได้อยู่ที่ไอ้พอง...”

“แล้วถ้าเกิดว่ามันอยู่ที่นี่”
“แต่มันไม่ได้อยู่ที่นี่! ไอ้สิ่งที่ทุกคนคิด ทุกคนพูดกันน่ะ มันหมายถึงการฆ่าน้องของผมนะ!”
หมวดมานพจ่อปืนที่ขมับของมโหธร “อย่าเสียงดัง”
มโหธรร้องขอ “ได้โปรด เพชรไม่ได้อยู่กับมันจริงๆ อย่าฆ่าข้าวพองเพราะเรื่องนี้เลย”
“เราแค่ไม่อยากเสียเวลา”
มโหธรย้ำคำเดิม “เพชรอยู่ที่ธนาคาร พ่อผมถือรหัสไว้ มันเสียเวลาไม่มากถ้าคุณจะส่งคนไปเอาจากเขา ส่วนผมกับข้าวพองน่ะหนีคุณไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว”

รองขจรลุกขึ้น ทำให้มโหธรแทบจะลุกขึ้นไปรั้งแขนหนาๆ ไว้ ติดที่ปืนของหมวดมานพที่จ่อขมับอยู่
นายตำรวจใหญ่หันมาบอก
“ง่ายนิดเดียว เราแค่ต้องการดูรอยแผล ที่ตัวของข้าวพอง”
แต่มโหธรรู้ทัน
“ต่อให้ที่ตัวมันไม่มีแผล พวกคุณก็จะไม่ไว้ชีวิตมัน” มโหธรนิ่งไปอึดใจแล้วพูดต่อ “รวมถึงผมด้วย”
รองขจรยิ้มอย่างโหดเหี้ยม “ทำไมถึงคิดว่าเราจะใจร้ายอย่างนั้น”
“เพราะผมรู้ว่าคุณไม่ได้ต่างจากทุกคนที่เข้ามาหาพวกเราเพราะเพชรนั่น”

นายตำรวจใหญ่มองประตูห้อง รู้สึกประหลาดใจ
เวลาผ่านไปพักใหญ่ แต่คนที่ให้คุมตัวข้าวพองไว้กลับยังไม่มาที่ห้องนี้
มันเกิดอะไรขึ้น...

“คุณจะไปหารอยแผลที่ตัวข้าวพองก็ได้ แต่ต้องสัญญาก่อนว่าถ้าไม่เจอ คุณต้องไม่ฆ่าเขา เอาผมไปเป็นตัวประกันไว้ต่อรองกับพ่อก็ได้ บอกให้เขาบอกรหัสกับคุณ”
ยิ่งพูดมโหธรยิ่งร้อนรน เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดที่หน้าผาก

รองขจรเองก็กำลังกังวลที่ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบเกินไป
“ออกไปดูกันก่อน”
“ไม่ คุณต้องให้คำมั่นว่าจะไม่ทำอะไรข้าวพอง”
หมวดมานพที่ใช้ปืนจี้มโหธรอยู่พูดขึ้น “คุณมีอะไรที่เหนือกว่าท่านรอง ถึงได้คิดจะมาต่อรอง”
“ผมไม่ได้เหนือกว่า แค่ขอชีวิตน้องชายของผมไว้เท่านั้น”

นายตำรวจใหญ่พยักหน้า แล้วเดินนำออกมาจากห้อง
ทางเดินแคบเงียบกริบ ห้องพักพยาบาลมีผู้ช่วยพยาบาลทำงานอยู่ทางด้านหลังเพียงคนเดียว
ทั้ง 3 คนเดินต่อไปโดยมโหธรถูกปืนจ่ออยู่ที่เอว
และเมื่อเปิดประตูห้องผู้ป่วยเข้าไป
ในห้องว่างเปล่า!
ชายชุดดำที่รองขจรสั่งให้เฝ้าข้าวพองไม่อยู่
และข้าวพองก็ไม่อยู่
มโมธรทั้งตกใจ และโกรธ!
แต่เมื่อหันไปมองสีหน้าของหมวดมานพกลับรู้สึกว่ายังมีความหวัง
เพราะมีหน้าของหมวดมานพ คือ คำถามว่าเกิดอะไรขึ้น!
สมองของมโหธรประมวลผลอย่างรวดเร็ว
“ผมอยากไปถามพยาบาล ว่าเขาเอาข้าวพองไปตรวจที่ห้องไหน” 
รองขจรหันมาพยักหน้าอนุญาตโดยมีหมวดมานพตามมาด้วย

ทุกก้าวที่เดินกลับมา มโหธรยิ่งแน่ใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าชายชุดดำคนนั้นไม่ได้พาข้าวพองไป

มโหธรถามผู้ช่วยพยาบาลเรื่องที่ข้าวพองไม่ได้อยู่ในห้อง แต่เธอบอกว่า ไม่มีคำสั่งของแพทย์ให้พาข้าวพองไปตรวจที่ไหน
“เขาไม่อยู่ในห้อง!” มโหธรเสียงดัง จนหมวดมานพกดปากกระบอกปืนที่เอว
ผู้ช่วยพยาบาลรีบวิ่งออกมาดูที่ห้องพัก
แต่ท่าทางในตอนที่เธอหันหลังให้ ขณะที่พูดโทรศัพท์ทำให้รองขจรผิดสังเกต รีบเดินกลับไปดูที่ห้องพักของข้าวพองแล้วชี้บอกให้หมวดมานพ พามโหธรออกไป
การรอเรียกลิฟท์ไม่ทันใจ รองขจรสั่งให้ทุกคนลงทางบันได ทำให้สวนกับแมรี่ที่เดินขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น” แมรี่ถาม
“ข้าวพองไม่อยู่” มโหธรพูดสั้นๆ
“ไปไหน”
“พยาบาลกำลังถาม”
รองขจรท่าทางร้อนรน “ขึ้นไปดูเองสิ”

ทั้ง 3 คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าล้วนเป็นคนที่มีพิรุธทั้งสิ้น ประกอบกับโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ ทำให้แมรี่ไม่ยอมหลีกทางให้

“ตามมา” หมวดมานพขยับมือให้แมรี่รู้
เมื่อมโหธรพยักหน้า แมรี่ก็ก้าวถอย รองขจรก้าวเข้ามาแย่งปืนจากด้านหลังเอวของแมรี่ไปง่ายๆ แล้วจับข้อมือของแมรี่ให้เดินมาด้วยกัน
แม้จะอาวุธจะโดนชิงไปง่ายๆ แต่ตำรวจหญิงจากลอนดอนมั่นใจว่าสามารถจัดการสถานการณ์ในปัจจุบันได้

เพียงแต่ต้องรอให้พ้นจากเขตอาคารโรงพยาบาลที่มีคนพลุกพล่านออกมาที่ลานจอดรถ
ยังไม่ทันที่แมรี่จะตัดสินใจลงมือ หมวดมานพก็หันมาจ่อยิง
เป็นการยิงในระยะเผาขน เพียงนัดเดียวตัดขั้วใจ!
มโหธรช็อคจนไม่มีเสียงลอดออกจากลำคอ
หมวดมานพดันหลังมโหธรเข้าไปในรถ แล้วฟาดจนหมดสติ แต่ยังไม่วางใจใส่กุญแจมือ
รองขจรตามเข้ามานั่งคุมเชิงมโหธร

“ศพไอ้ดำอยู่ในห้องน้ำ เราต้องลงมือเองแล้ว”

*-*จบตอนที่ 35*-*

อีกจิ๊ดเดียวละ อีกจิ๊ดเดียวจริงๆ
ตอนต่อไปมาวันพฤหัสบดีนะครับ
น้ำชา



หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 24-06-2014 09:43:31
เค้าช็อคจนสะอื้นตรงมโหธรบรรทัดท้ายๆ นี่แหละ
ฮืออออออ
 :hao5:
บวกเป็ดอย่างชอกช้ำ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 24-06-2014 10:14:37
อยากรู้จริงบิ๊กเบิ้มตัวจริงคือใคร ทำเป็นขบวนการเลยอ่ะ ตั้งแต่ตำรวจไทยยันมาเฟียข้ามชาติพ่วงด้วยนางนกต่อ เออเนอะ!! ต้องการเพชรกันขนาดนั้นเชียว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 24-06-2014 10:17:08
 :z3: แมรี่ก็โดนยิงตาย(ตัดขั้วหัวใจน่าจะตาย)!!!!
เกียมาช่วยข้าวพองทันใช่ไหม
หรือไอรีนกับพวกจะมาเอาไป :katai1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 24-06-2014 10:57:05
เข้มข้นมาก แต่คนตายเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ นะเนี่ย

เครียดเลย แต่สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-06-2014 11:10:34
ตื่นเต้นๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 24-06-2014 11:16:26
สงสารแมรี่นะ พวกนี้อำมหิตมากอะยิงแบบไม่คิดเลย  :mew6:
ข้าวพองหายไปกับใครไม่น่าจะใช่เกียนะ
ศพไอ้ดำที่อยู่ในห้องน้ำคือคนที่ไอ้ขจรสั่งเฝ้าพองใช่ไหม
รอลุ้นตอนต่อไป

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 24-06-2014 11:33:20
อึ้งกับการตายของแมรี่ รวดเร็วมาก
ใครจะต้องตายอีกละนี่ เพชรต้นเรื่องอยู่ที่ใด
ผู้บงการสูงสุดคือใคร รอติดตามต่อ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 24-06-2014 11:39:01
ขอให้เป็นเกียทีเถ้อะ สาธุ...ขอให้เป็นเกียทีเถ้อะ สาธุ...ขอให้เป็นเกียทีเถ้อะ สาธุ... สาธุ :call: :call:
ขอให้เป็นเกียที่มาเอาตัวข้าวพองไป / แมรี่จะน่าสงสารมากไปนะ ยังไม่ได้หวีดกะ แอนดรูว์ เลยอ่า  :sad11:

เอิ่ม....มาตอนนี้เราลืมผู้หญิงคนนี้ไปเลยจริง ๆ นะเนียะ "นวลพรรณ"  :z3:
เล็งเป้าเป็นไอรีน กะ นิรมล เท่านั้่นเอง แหะ แหะ 

แต่ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: มโหธร ขอเถ่อะ ได้โปรดดดดดดดด คงไม่ตายใช่ไม๊

 :katai2-1: JiveTea สนุกมาก และ  :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-06-2014 12:08:32
ผู้ช่วยทยอยตายแบบนี้ก็แย่สิ ผู้ร้ายเก่งเกินไปล่ะ


“ผมกับไอ้เพียงไปเรียนอังกฤษ >>>>>>>>ไอ้เพชร
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 24-06-2014 12:15:30
โอ้ย! ตายๆๆๆๆๆ ลุ้นไป ลุ้นเกิน!!!!!!
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 24-06-2014 12:22:09
ไม่นะ!!!  :ling1: แมรี่ตายเหรอ ฮือออออออออออออ  :katai1: ขอให้แมรี่ใส่เสื้อเกราะด้วยเถอะ อย่าตายนะๆๆๆ

ใครมาพาข้าวพองไปเนี่ย ขอให้เป็นเกียเถอะ อย่าให้เป็นคนร้ายเลย

หรือนิรมลกับนวลพรรณจะร่วมมือกันชักใยอยู่เบื้องหลังนะ ไอรีนอีกคน

โอ๊ยๆๆๆๆ อยากให้ถึงวันพฤหัสเร็วๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 24-06-2014 12:43:00
ช็อก  o22  ภาวนาให้แมรี่ปลอดภัย อย่างการใส่เสื้อเกราะไรเงี้ย

ตกลงจะมีพี่บิ๊กอยู่เบื้องหลังท่านรองนี่อีกมั้ย

แล้วข้าวพองไปไหน แมรี่พาไปซ่อนไหนรึเปล่า

มีแต่คำถาม รอตอนหน้าดีกว่า

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 24-06-2014 13:33:09
อึ้งอีกรอบ แงๆๆๆๆๆ แมรี่
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 24-06-2014 14:04:47
เพชรนี่  มันมีมูลค่ามหาศาลแค่ไหนกันนะ  ทำไมถึงได้ฆ่าคนเพื่อเอาเพชรได้ง่ายดายขนาดนี้
ชีวิตคนไม่รู้กี่คนที่ต้องจากไป ล่าสุด  แมรี่ สงสารผู้บริสุทธิ์ทุกคนจริง ๆ 
ชื่อเมียใหม่ของพ่อข้าวพอง  โผล่มาเป็นปริศนาอีกคนแล้ว เรียกว่าคดีนี้
ผู้ต้องสัยอยู่รอบตัวข้าวพองจริง ๆ ผู้บงการวางแผนมาดีมาก ๆ
ตอนท้าย  ข้าวพองหายไปไหน  หวังว่าข้าวพองคงอยู่กับคนที่ไว้ใจได้นะ  เป็นห่วงข้าวพองมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-06-2014 14:33:36
อ้าปากค้างเลย  แมรี่ตายแล้วเหรอ  มันช็อกกว่าตอนแป๋มอีกนะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-06-2014 14:41:42
มีคนตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โอ้ยยยยย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-06-2014 15:11:48
อ๊า!! ลุ้นสุดๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 24-06-2014 16:20:13
 :mew4: ที่นี่มีคนตาย และตายมาหลายศพแล้ว
คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา ขอร้อง  "พอแล้วมั้ง"
หัวใจคนอ่าน ห่อเหี่ยว...
อยากรู้จัง โคตรเพชรนี้ราคาสักเท่าไหร่ มันคุ้มกับชีวิตคนไหม
แต่..เค้าขอเศษๆ มันสักเม็ดสองเม็ดละกัน
ขอบคุณ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชานะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 24-06-2014 16:28:54
ตกใจตอนแมรี่โดนยิง โหดมากเลยยิงแบบนี้
แล้วเกียจะมาช่วยเพียงได้หรือเปล่า ว่าแล้วตำรวจพวกนี้มันเลว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 24-06-2014 17:22:40
ยิ่งใกล้จบยิ่งขมวดปม เครียดเลยนะเนี่ย

เกียอยู่ไหน???

รีบๆมาหน่อย :katai4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 24-06-2014 18:55:01
 :hao7: :hao7: :hao7:
แมรี่ต้องใส่เสื้อเกราะซิ...
แมรี่ต้องไม่เป็นไรนะ....
เกียเอ๊ย!!!!.. ฆ่าแ_่งให้หมดเลย....
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 24-06-2014 19:07:34
บทจะเนิบก็เนิบซะ บทจะเร็วก็เร่งเป็นแทงโก้......อ๊าก  ลุ้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 24-06-2014 19:41:17
แมรี่!!! โอยยยยย ทำไมมันลุ้นบีบหัวใจยังงี้  :z3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Aommie ที่ 24-06-2014 21:03:55
ดูจากสถิติแล้วเกียไปช่วยไม่เคยทันเลยซักงาน
ไหนว่าห่วงพองเวลาพองอยู่ในอันตรายหายหัวตลอด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 24-06-2014 23:08:04
ตายเป็นเบือเลยอ่ะ  รออ่านต่อค่ะ 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 25-06-2014 05:15:51
เย้ย เจอเรื่องช็อกอีกแล้ว แมรี่ตายแล้ว ข้าวพองถูกใครพาไปหวังว่าจะเป็นเกียนะ อันตรายอยู่รอบตัวจริงๆ ความโลภนี่มันอันตรายเนอะ จากที่เริ่มมั่นใจว่าเราจะคลายปมได้แล้ว กลับกลายเป็นเราเดินมาผิดทาง เดาต่อไปๆๆๆๆ เอหรือว่าคนร้ายเนี่ย มันอยู่ที่ปลายจมูกของเรา จนเรามองข้ามไปนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 25-06-2014 14:45:51
โอ๊ะ แมรี่
อึ้ง!! ลุ้น!! เครียด!!
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 25-06-2014 21:10:58
แมรี่~~~~~~ แต่แบบเป็นตำรวจน่าจะใส่เสื้อเกราะไว้อยู่ม้างงงง อย่าเพิ่งรีบตายนะ!!
เอาใจช่วยข้าวพอง คิดว่าที่เกียสอนไป คงได้ใช้บ้างละน่าา

จากที่เพิ่งมาอ่านเห็นคุณน้ำชาถามความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในความรู้สึกของเรา เรื่องนี้มีพล็อตที่ดีมาก สลับซับซ้อนดี
แต่เพราะช่วงแรกไปถึงกลางเรื่อง คุณjiveหลอกให้เราโฟกัสแต่เรื่องที่ข้าวพองติดยา ทำให้เราตกอยู่ในสภาวะเดียวกับข้าวพอง คือแทบไม่รู้อะไรเลย โดนอิตาเกียวกไปวนมา มันเลยทำให้เรื่องเหนือยๆ มันดูไม่หวือหวา
คือต้องเป็นคนอ่านที่ต้องไม่ไหลตามข้าวพองในเรื่อง ต้องฉุกคิดในจุดแปลกๆที่ใบ้มา ซึ่งมันดีนะ
ถามว่าน่าเบื่อมั๊ยก็ไม่นะ แต่มันเรื่อยๆ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่มีตัวละครที่สร้างความฮาด้วยแหละ เลยทำให้อยู่ในบรรยากาศที่อึมครึมๆ
แล้วก็เหมือนเรื่องมันตื่นเต้นๆช่วงแรกๆ และเข้าโค้งสุดท้ายก่อนปิดเรื่องนี่แหละ

ถึงยังไง เราก็ชอบเรื่องนี้นะ เพราะได้บรรยากาศที่แปลกดี ไม่ค่อยมีคนแต่งแนวนี้เท่าไหร่
และเรารู้สึกเหมือนมีลายเซ็นของคนแต่งในเรื่องนะ ไม่เหมือนใครดี ซับซ้อนดี :)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 35 หน้า 29(24มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 26-06-2014 03:08:36
ตอนนี้แล้วสินะ ที่จะได้รู้เรื่องราวทั้งหมด โอยตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆ

นอนไม่หลับ มาปูเสื่อนอนเล่นรอเกียกับข้าวพองดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 26-06-2014 10:25:59
ตอนที่ 36

เกียสอนว่า อย่าหันหลังให้คู่ต่อสู้ อย่าหลับตาเมื่อเผชิญหน้ากับคนร้าย ต้องตั้งสติให้ดี เตรียมพร้อมอยู่เสมอ
แต่ตอนนี้ข้าวพองกำลังนอนหลับตาแน่น ทั้งหันหลังให้คนที่อยู่ในห้อง แถมการตั้งสติคิดว่าจะต้องทำอย่างไรยังยากเต็มที
มีเพียงหูที่ทำงานอย่างเต็มที่!
ก็ตอนที่มโหธรเดินออกไป ข้าวพองแกล้งหลับอยู่ มาถึงตอนนี้จะให้ลุกขึ่นยืนเตรียมพร้อมได้อย่างไร
ทำได้แต่นอนฟังเสียงฝีเท้าของคนๆ นั้นที่ก้าวไปมาอยู่รอบห้อง
กับกลิ่นบุหรี่แทรกซึมอยู่ในกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่เป็นกลิ่นประจำของโรงพยาบาล

ทำเป็นเพิ่งตื่นแล้วลุกขึ้นมาถามถึงพี่เพียงดีไหม หรือจะทำเป็นปวดแผลเพื่อให้อีกคนไปตามหมอ
ทำไงดี!!!
มีเสียงเปิดประตูเบาๆ และเสียงฝีเท้า
มีอีกใครอีกคนเข้ามาในห้อง!
หัวใจของข้าวพองเต้นแรง สมองคาดเดาไปเรื่อยว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร
มีเสียงดังกร๊อบ เหมือนวัตถุแตกหัก ตามมาด้วยเสียงประตูปิดห้อง
ข้าวพองพลิกตัวหันมาดู เห็นเกียยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ
คนตัวโตยกนิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากหนา บอกว่าอย่าส่งเสียง แล้วเข้ามาถอดสายน้ำเกลือ ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วโยนชุดผู้ป่วยใส่ตู้ใบเล็กในห้อง พาออกไปทางบันไดหนีไฟอีกด้าน

เกียไม่ได้ใช้รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ประจำ และไม่ได้ใช้รถบ้าน แต่เป็นรถญี่ปุ่นคันเล็ก
เมื่อเข้ามาอยู่ในรถ เกียช่วยข้าวพองรวบผมแล้วสวมหมวกให้

“เกียน่าจะใส่หมวกมากกว่าพองเสียอีก”
เกียเพียงแค่ยิ้มมุมปาก สวมแว่นกันแดด แล้วขับรถออกจากโรงพยาบาล พร้อมกับโทรศัพท์หาแมรี่ สั่งงานสั้นๆ
“เอาข้าวพองออกมาแล้ว มีศพคนร้ายอยู่ในห้อง แต่ไม่เจอมโหธร”

ข้าวพองฟังเกียพูดขณะมองพลาสเตอร์ปิดรอยแผลจากเข็มน้ำเกลือ จนเมื่อเกียพูดจบก็หันมาถาม
“เวียนหัวหรือเปล่า”
“พี่เพียงจะเป็นไรมั้ย”
“ไม่หรอก เพราะเป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่คุณเพียง”
หนุ่มตัวเล็กถามต่อ “เรากำลังจะไปไหน”
“พี่จะพาข้าวพองไปอยู่กับท่านทูตที่สถานทูตอังกฤษ ระหว่างที่เราเตรียมตัวไปลอนดอน ที่นั่นข้าวพองจะปลอดภัย”
ข้าวพองหลับตา เม้มปากสนิท แล้วคลายออก
“ตอนที่ถูกไทนี่จับไว้ ตอนที่นอนอยู่โรงพยาบาล ข้าวพองคิดอะไรได้หลายอย่าง มองทุกอย่างแบบคนนอก อย่างที่เกียเคยสอน” ข้าวพองลืมตามองตรงไปข้างหน้า “จำที่พองบอกกับเกียเรื่องที่พองไม่เชื่อคำว่ารักได้ไหม”
เกียพยักหน้า ข้าวพองพูดต่อ
“พองเกลียดคำโกหกว่ารัก แต่เกียย้ำหลายครั้งว่าเกียรักพอง และทำทุกอย่างให้พองเชื่อว่ารัก พองก็เชื่อนะ แล้วเกียก็บอกเสมอว่า การเก็บความลับที่ดีที่สุดคือ ต้องไม่พูดมันออกมา แต่ตอนนี้พองอยากพูด เพราะพองไม่รู้แล้วว่า พองจะมีลมหายใจถึงวันพรุ่งนี้ไหม”
เกียจับมือผอมไว้ เพื่อให้กำลังใจ “ข้าวพองจะมีวันพรุ่งนี้และวันต่อๆไป”
“แค่แป๋มแยกจากกลุ่มไปห้องสมุด แป๋มก็ตาย แล้วพองจะแตกต่างจากแป๋มตรงไหน” ข้าวพองมองตรงไปข้างหน้า แล้วพูดต่อ “พองไม่ใช่เพชร แต่เป็นกุญแจของเพชรที่แม่รักมากที่สุด”
เกียพยักหน้า ขณะที่ข้าวพองหันมามองแล้วยิ้ม
“พอจะรู้อยู่แล้วใช่ไหม แล้วก็ยังทำตามเกมอย่างที่พ่อบอกอยู่อีก”

...ถ้าเขาบอกว่าไม่รู้ นั่นแหละคือคำโกหก คนๆ นี้รู้ว่าอะไรอยู่ในห้องนั้น และรู้ว่าเรามีความสำคัญอย่างไร...

“การทำให้ศัตรูลังเล คือวิธีที่ที่ดีที่สุดสำหรับการคุ้มครองข้าวพอง ถ้าเขาแน่ใจว่าว่าข้าวพองสำคัญอย่างไร พวกเขาจะลงมือโดยไม่ลังเล”
ข้าวพองไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ กลับไปเริ่มต้นเล่าใหม่อีกครั้ง
“ตอนที่แม่ได้เพชรมา ใครๆ ก็อยากได้ แต่แม่ไม่ขาย วันหนึ่งมีคนแปลกๆ มาที่บ้านเขาเอากล่องใบเล็กใส่เพชรแล้วซ้อนกันไว้ แล้วก็เก็บไว้ที่บ้าน”

การเคลื่อนไหวเพื่อแย่งชิงเพชรเริ่มขึ้นตั้งแต่พวงเพชรได้เพชรมาจากลอนดอน

....ไอรีนเคยอยู่ที่บ้านนี้
....เกียเคยพบนิรมลเข้าไปที่ห้องนอนใหญ่
....ไทนี่พยายามขอมาค้างที่บ้าน
....และเกียเองก็พบความผิดปกติที่โต๊ะกระจกในห้องนอนใหญ่

“หลังจากนั้นวันเดียว รถที่ธีระขับไปรับพองกลับบ้านถูกชน และมีคนพยายามจะเข้ามาจับพองไป แต่ธีระช่วยพองไว้”

เกียนึกออก ว่าแม้อุบลจะเป็นแม่บ้าน แต่ธีระเป็นเพียงคนเดียวในบ้านที่ข้าวพอง-ค่อนข้าง-รับฟังมากกว่าคนอื่น
“ตอนที่เจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล แม่บอกความจริงกับพ่อ รวมถึงเรื่องที่แม่ทำกับพอง ทำให้ทุกคนโกรธแม่” ข้าวพองยิ้มเศร้า “แม่บอกว่าที่ทำอย่างนี้เพราะรักพอง แม่คือเพื่อนคนเดียวของพอง เพชรที่แม่รักที่สุดคือเพชรของพอง ทั้งที่มันทำให้พองตกอยู่ในอันตราย พ่อ พี่เพียง พี่เพชรทุกคนบอกว่ารักพอง จะปกป้องให้ดีที่สุด แต่กลับไม่มีใครสักคนที่คิดจะถือกุญแจเปิดกล่องเพชร พ่อบอกกับทุกคนว่า เป็นความเข้าใจผิด แม่ไม่มีเพชรนั่น ต่อมาแม่กับพี่เพชรตาย พ่อกับพี่เพียงก็ยังไม่คิดที่จะเปลี่ยนมาถือกุญแจเอง ไม่ขายมันไป อ้างนั่นอ้างนี่สารพัด”
เกียช่วยเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มใส
“รักของพวกเขาเป็นแค่คำโกหก” ข้าวพองสูดจมูก “พ่อของเกียทั้ง 2 คนน่ะ เขาเดินทางไปกลับภูเก็ต-ลอนดอนกันตั้งหลายรอบ กว่าจะยอมให้เกียไปลอนดอน เกียเองที่อยากเป็นตำรวจก็เพื่อที่จะคุ้มครองครอบครัวของตัวเองใช่ไหมล่ะ แล้วพ่อกับพี่เพียงทำอะไร แม่ทำอะไรกับพอง พี่เพชรทำอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ มีแต่จะชี้ว่า เพชรอยู่กับพองทั้งนั้น”
“ข้าวพองครับ แต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน”
“มันก็เลยทำให้ความรักของพวกเขาไม่เหมือนกับคนอื่นด้วยหรือเกีย”
     
เกียอับจนคำพูด
เพราะทุกคำพูดมันคือการแก้ต่าง และจะยิ่งทับถมความทุกข์ของข้าวพองมากยิ่งขึ้น
“พี่ขอโทษที่มักจะบอกให้ข้าวพองเก็บทุกอย่างเป็นความลับ ไม่พูดมันออกมา”
“แต่มันทำให้พองยังมีชีวิตอยู่” รู้สึกถึงความเจ็บจากแผลถูกยิง “ข่าวลือที่พ่อปล่อยออกไปทำให้พวกเขาไม่แน่ใจ”

ข้าวพองยังไม่รู้ว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้คนร้ายไม่ลงมือก็คือ ความที่พวกเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพชร และไม่รู้เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยที่เพชรแท้ใช้ เพราะพวกเขากำจัดพวงเพชร และเพชรแท้เร็วเกินไป ส่วนข้าวพองคนที่ถูกจับตาก็ไม่ระมัดระวังตัว กลุ่มคนร้ายที่ล้อมรอบข้าวพองมานานหลายเดือน ถึงไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือจากที่ไหน

เกียพูดอย่างระมัดระวัง “พี่เคยเห็นนิรมลเดินออกมาจากห้องคุณอัครา ขณะที่ไทนี่ก็พยายามที่จะขอมาบ้าน แต่เขาไม่มีโอกาสได้อยู่ตามลำพัง”
ข้าวพองหันมามอง “ไอรีนน่ะเคยอยู่ที่บ้านนี้นะ ถึงจะนอนห้องรับแขกชั้นล่างก็เหอะ แล้วถ้าจะพูดถึงห้องนั้น ยังมีอีกคนหนึ่งที่เกียน่าจะสงสัย”
“นวลพรรณ ภรรยาใหม่ของคุณอัครา”
หนุ่มตัวเล็กพยักหน้า ภรรยาใหม่ของอัครา ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการเข้าบ้านนี้ แบบที่ทุกคนเล่าว่า ข้าวพองอาละวาดจนสุดท้ายอัคราต้องแยกไปอยู่อีกบ้าน
หากเธอแต่งงานกับอัครา เธอย่อมนอนที่ห้องนั้นอย่างแน่นอน!

“เกียเคยเจอเขาไหม”
เกียยิ้มที่มุมปาก ทำให้ข้าวพองพลอยยิ้มตาม
....รู้ได้เองว่า เกียสืบเรื่องของนวลพรรณโดยที่ไม่บอกให้ใครรู้
“แล้วทำไมเกียถึงสงสัยเขา”
“เริ่มจากลางสังหรณ์ครับ” สิ่งที่เกียใช้นำทางก่อนการวิ่งตามหาหลักฐานอยู่เสมอ “เพราะไทนี่กับพ่อของเขา ทำงานรับจ้าง พวกเขาอยากได้เงินค่าจ้าง เหมือนไอรีน”
“พวกเขารับจ้างทั้งนั้นหรือ”
“เพชรที่คุณพวงเพชรได้มา มีมูลค่าสูงมาก คนที่อยากได้คือนักสะสม และผู้มีอิทธิพล”
ประเด็นนี้เกียเคยบอกอยู่หลายครั้ง
“แล้วได้ผลว่าไง”
“ผู้ต้องสงสัยตัวจริงอยู่ในเงามืด และแทบไม่มีเบาะแสอะไรเลยจนกระทั่งเกิดเรื่องกับแป๋ม”

พอพูดชื่อแป๋ม ข้าวพองก็ยิ่งรัวคำถามไม่หยุด
“ไอรีนฆ่าแป๋ม แมรี่ได้อะไรจากคอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์แป๋มบ้าง”
“คืนนั้นแป๋มโทรหาไทนี่ก่อน แล้วก็โทรหาไอรีน เราไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน รวมถึงไม่รู้ว่าคนที่ป๋อมบอกว่า ทะเลาะกันเสียงดังมากคือใคร ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์นอกจากเรื่องเรียนก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนหนึ่งสือเล่มเล็กที่ข้าวพองบอกพี่ เป็นหนังสือเกี่ยวกับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ”
ข้าวพองทำหน้าตาไม่อยากเชื่อ
“ทำไมแป๋มถึงสนใจเรื่องพวกนี้”
“พี่วิเคราะห์ว่า แป๋มมองเห็นปัญหายาเสพติดในโรงเรียน จากนั้นเธอก็คุยกับไทนี่ และไอรีน”
ข้าวพองหลับตาลง “แป๋มบอกพองหลายต่อหลายครั้ง แต่พองก็ไม่เคยสนใจ”
“อย่าโทษตัวเอง” เกียให้กำลังใจอีกครั้ง “เรื่องนี้คนลงมือคือไอรีน ส่วนไทนี่คือคนที่เข้าไปตรวจดูว่าไอรีนลงมือจริง”
“จากนั้นไทนี่ก็ให้พ่อเขามาลักพาตัวข้าวพอง”
“เรื่องนี้ต้องแยกออกมาก่อนนะครับ” กลับมาที่ข้อสันนิษฐานเดิม “ไทนี่หว่องกับพ่อมาเมืองไทยเพื่อลงมือเรื่องเพชร ส่วนเรื่องยาเสพติดน่ะเป็นผลพลอยได้ กลุ่มอาชญากรทุกกลุ่มมียาเสพติดเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะยึดเป็นรายได้หลักหรือไม่ ย้อนไปที่แก๊งค์อันโตนิโอที่ไอ้เหลียงอยู่เป็นแก๊งค์ค้ามนุษย์และลักพาตัว ส่วนแก๊งฮ่องกงส่วนใหญ่จะเป็นยาเสพติดและการลักพาตัว”
เกียเล่าเรื่องของขบวนการอาชญากรรมที่เคยสู้กันมา
“งานถนัดคือลักพาตัวเหมือนกัน”
“ครับ แต่เขาไม่ถนัดเรื่องเพชร ไม่แน่ใจเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ทำให้รีรอไม่กล้าลงมือ”
“เดี๋ยวนะ” ข้าวพองยกมือ เมื่อเรื่องเพิ่มความซับซ้อน “เริ่มคิดไม่ทันละ”
เกียต้องสรุปเรื่องอีกครั้ง “แต่เดิมมีบุคคล และกลุ่มอิทธิพลอยู่ 5 กลุ่มที่ต้องการเพชร จากการสืบสวนพบว่า มิสเตอร์จางผู้มีอิทธิพลจากฮ่องกงที่มีปัญหาขึ้นศาลกับคุณเพชรแท้ มีความเป็นไปได้มากที่สุด” คนขับรถเหลือบมองคนที่กำลังตั้งใจฟัง “แน่นอนว่า เขาต้องส่งคนมาลงมือ เริ่มจากไอรีน แต่เมื่อทำงานล่าช้าถึงต้องส่งไทนี่ กับพ่อของเขาเข้ามา และตรงเข้ามาหาข้าวพอง เพื่อหาโอกาสลักพาตัว”
“แล้วนิรมลกับนวลพรรณ”
“นิรมลรู้เรื่องเพชรพร้อมๆ กับทุกคนมีความอยากได้อยู่แล้ว จนถึงตอนนี้ พี่ก็ยังหาความเกี่ยวข้องของเธอกับคนอื่นไม่ได้ ส่วนนวลพรรณเข้ามาหลังจากที่คุณเพชรแท้เสียใช่ไหมครับ”

...ข้าวพองพยักหน้า
อัคราพบกับนวลพรรณผ่านการแนะนำของเพื่อนฝูง แล้วอัคราก็แต่งงานกับเธอย่างรวดเร็ว จนทำให้ข้าวพองโกรธมาก
“นึกออกแล้ว!”
ข้าวพองร้องขึ้น
“อะไรครับ”
“ตำรวจคนนั้น! คนที่เจอในงานศพแป๋มน่ะ” ข้าวพองทั้งตกใจ และตื่นเต้นมาก จนเกียต้องจับมือไว้ให้ใจเย็นลง “เขามางานศพแม่ด้วย เขาเป็นคนที่พานวลพรรณมาหาพ่อ!”
เกียพูดเสียงต่ำๆ “รองขจรกับนวลพรรณ”
“ใช่ๆ คนนั้นคือท่านรองขจร” คราวนี้ข้าวพองแน่ใจ
“ส่วนนวลพรรณ พี่ไม่เคยพบเธอโดยตรง และทุกคนต่างก็บอกว่าเธอเข้าบ้านนี้ไม่ได้ ได้แต่ฟังเรื่องของเธอจากคนนั้นคนนี้”
“เพราะพองไม่ชอบ” ข้าวพองทำหน้างอจนเกียต้องหยิกแก้มเบาๆ
“พี่ไปที่บริษัทคุยกับคุณเพียง หรือคุณอัครา ก็ไม่เคยเจอ ไปดักที่บ้านก็ไม่เจอ”
คราวนี้ข้าวพองตั้งใจฟังมากขึ้น ..... แบบนี้มันเจตนาหลบหน้ากันอย่างชัดเจน
“แล้วรูปล่ะ”
“พี่เห็นรูปครับ แต่เดี๋ยวนี้คนทำศัลยกรรมกันมากมายจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม มันจึงสำคัญมากที่จะสืบเรื่องของเธอ จนกระทั่งแมรี่พบว่า เธอมีสัญชาติจีน”
ข้าวพองแทบหยุดหายใจ
เท่าที่เคยเห็น นวลพรรณก็ไม่ได้แตกต่างจากคนไทยเชื้อสายจีน ไม่เคยรู้เลยว่าแท้จริงเธอมีสัญชาติจีน
“ข้าวพองมองเห็นจุดเชื่อมต่อของเรื่องนี้แล้วใช่ไหมครับ”
หนุ่มตัวเล็กพยักหน้าช้าๆ

เกียจับมือของข้าวพองเพื่อให้กำลังใจ
“ดังนั้น พี่จึงจะพาข้าวพองไปที่สถานทูตก่อน”
“ไม่” ข้าวพองตอบทันทีด้วยความดื้อรั้น

แม่ได้เพชรมาจากลอนดอน แล้วทำให้ข้าวพองกลายเป็นกุญแจของกล่องเพชร
ข้าวพองถูกคนร้ายพยายามลักพาตัว
ไอรีนเข้ามาทำหน้าที่ครูสอนพิเศษ
แม่ถูกคนฆ่าตาย
รองขจรแนะนำนวลพรรณให้พ่อรู้จัก
พี่เพชรตกลงขายเพชรให้พ่อค้าฮ่องกง แต่ผิดนัดทำให้ต้องไกล่เกลี่ยหน้าศาล
พี่เพชรถูกยิงตาย ไอรีนถูกไล่ออก
พ่อแต่งงานใหม่ แต่พาเมียใหม่เข้าบ้านไม่ได้
พี่เพียงขายร้านเพชร แล้วให้พี่นิขายเพชรที่มีอยู่
ไทนี่ย้ายเข้ามาเรียน
เกียเข้ามาดูแล
แป๋มตาย
ไอรีนถูกตำรวจจับ
ไทนี่ตาย…

“พ่ออยู่กับเขาทุกวัน”
มือของข้าวพองสั่นแรง จู่ๆ ก็อยู่ในสภาพแก้วบางที่ใกล้จะแตกร้าว
“ข้าวพองครับ”
เกียต้องหยุดรถในที่สุด แล้วหันมากอดข้าวพองไว้แน่น
“เราตกลงกันแล้วว่า จะเชื่อตามหลักฐานที่ปรากฏไงครับ”
“พองเจอไทนี่ ที่โรงเรียนยังรู้ว่าคนนี้ไม่ใช่คนไทย แล้วทำไมพ่อถึงไม่รู้ เขาไม่คิดอะไรเลยหรือไง ถึงเรื่องแม่จะไม่ชัดเจน แต่เรื่องพี่เพชรน่ะ เขามีเรื่องอยู่กับคนฮ่องกงนะ”
“นวลพรรณคือคนที่อยู่ในเงามืดมาตลอดนะครับ คู่ความของของคุณเพชรคือมิสเตอร์จาง แต่นามสกุลเดิมของคุณนวลพรรณคือ จางเหมือนกัน คนจีนมีนามสกุลเหมือนกัน แต่ไม่รู้จักกันมากมาย คุณเพียงเคยพยายามสืบเรื่องนี้แต่มันติดขัด”
“ที่มันติดขัดก็เพราะไอ้รองขจรนั่นไง”
เกียพยักหน้า
เมื่อรองขจรเป็นพวกเดียวกับนวลพรรณ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่การสืบสวนจะมาถึงนวลพรรณ
“ขอเวลาให้พี่หาคำตอบได้ไหมครับ ตอนนี้ไอรีนหนีออกมาจากเรือนจำที่ฝากขัง แล้วนิรมลยังหายไป ส่วนนวลพรรณเราก็แทบไม่รู้จักเธอเลย” มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบาง “ไปอยู่สถานทูตก่อนนะครับ ขอเวลาให้พี่อีกนิดนะครับ”
ข้าวพองผละจากอ้อมอกกว้าง บอกให้เกียขับรถต่อไป

เมื่อเรื่องราวทั้งหมดถูกนำมาเชื่อมต่อกัน และคิดทบทวนหลายครั้ง ข้าวพองก็มองเห็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่รุมล้อมอยู่
“เพชรนั่นมันมีค่าขนาดที่นวลพรรณ ยายจางอะไรนั่น ต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากขนาดนี้เชียวหรือ”
คนที่กำลังขับรถพยักหน้า บอกเรื่องที่เคยคุยกับรุ่นพี่ที่ไปเป็นองครักษ์ให้เจ้าชายซาอุฯ 1 ในกลุ่มคนที่เคยอยากได้เพชร แต่ถอนตัวออกไปเพราะไม่ชอบเพชรที่เปื้อนเลือด
“เขาบอกว่า คนที่น่าสงสัยที่สุดอยู่ใกล้ตัวเรา และมิสเตอร์จางเป็นแค่หุ่น”

กระทั่งเข้าสู่เขตกรุงเทพฯ ข้าวพองก็พูดขึ้น
“พองไม่ไปอยู่สถานทูต”
“มีแต่ที่นั่นที่ปลอดภัยนะครับ”
ข้าวพองกำลังกลั้นหายใจก่อนพูด
“พองจะไปเอาเพชรที่บ้านก่อน แล้วจะไปอยู่ที่สถานทูต”
“ยังไปไม่ได้ครับ”
เกียตอบทันที เริ่มเป็นกังวลที่แมรี่ไม่ติดต่อกลับมา
“แต่พองจะไป พองมีเรื่องที่ต้องทำ!” ข้าวพองเริ่มร้องไห้อีกครั้ง “แม่ตาย พี่เพชรตาย แป๋มตาย ส่วนพ่อกับพี่เพียงกลายเป็นคนไว้ใจไม่ได้ การไปเอาเพชรที่บ้าน อาจทำให้พองไม่มีวันกลับออกมา! แต่พองก็ต้องทำ! เกียเข้าใจไหม จะรอให้มีใครตายอีกหรือไง!”
เกียไม่เห็นด้วย “พี่เข้าใจที่เข้าพองคิดนะครับ แต่พี่ตามใจไม่ได้”
“แล้วจะรออะไรอีก ไปเอามันมาให้จบๆไปน่ะ” ข้าวพองพูดพลางสะอื้น “ตอนที่ถูกพ่อของไทนี่จับไว้ พองคุยกับไทนี่ เขาบอกว่า เขาไม่รู้ว่าตำรวจอังกฤษคนไหนฆ่าลูกพี่ลูกน้องของเขา เขาอาจไม่ฆ่าข้าวพอง อาจเพราะ...เพราะต้องการให้พองเปิดเซฟนั่น แต่เขาจะไม่ปล่อยเกียไปแน่ๆ”

ข้าวพองถึงได้ใช้มือเปล่าปัดปืนของไทนี่ แล้วทำให้ตัวเองโดนยิง และไทนี่กับพ่อถูกยิงตาย

“พอง...ไม่รู้ว่ารักหรือไม่รัก รู้แต่ว่า พองจะไม่ยอมให้เกียไปจากพอง ถ้าวันนั้นมาถึง....”
“ขอบใจมาก” เกียจับมือเย็นของข้าวพองไว้ “ถึงแม้ว่าการเสี่ยงอันตรายเพื่อปกป้องพี่แบบนั้นจะไม่ถูกต้อง แต่ขอบอกอีกครั้ง ว่าพี่รักข้าวพอง และพี่จะทำทุกทางเพื่อให้ข้าวพองปลอดภัย”
แม้ข้าวพองจะยังคงฝ่าฝืนคำสั่ง พาตัวเองเข้าไปอยู่ในอันตราย แล้วเกียก็จะต้องไปตามแก้ไขสถานการณ์อยู่เสมอ
 
เกียตั้งสติอีกครั้ง “ข้าวพองไปสถานทูต ขอพี่เคลียร์ที่บ้านก่อน แล้วข้าวพองค่อยกลับมาเอาเพชร คืนให้เจ้าของ แล้วพี่จะพาข้าวพองไปภูเก็ต”
“เกีย ขอร้อง ถ้าเกียไปเจอพวกเขาคนเดียว มันจะต้องมีใครตายอีกแน่ๆ แอนดรูว์ แมรี่ พ่อ พี่เพียง ป๋อม หรือ...เกีย” น้ำตาที่อาบแก้ม มักทำให้เกียใจอ่อน
แต่ไม่ใช่ครั้งนี้
“พี่ไม่ได้ต่อรองครับ ข้าวพองต้องเชื่อว่าพี่ทำได้”
ทุกคำของเกียคือคำสั่ง ไม่ใช่การต่อรอง
“ยังไงเราก็ต้องไปที่บ้าน”
“ครับ หลังจากที่พี่เจอนวลพรรณ นิรมล และไอรีน”
ข้าวพองปาดน้ำตาหันไปมองตรงๆ
“งั้นก็ไปเจอพวกเขาพร้อมกัน”
“ไม่ครับ” เกียเพิ่มความเด็ดขาดลงในน้ำเสียง
“พองไม่ไปสถานทูต พองยังเป็นผู้เยาว์ และเกียไม่มีสิทธิ์อ้างความรักเพื่อกักขังพองไว้ที่นั่น พองจะทำให้เรื่องนี้มันวุ่นวายให้ถึงที่สุด! จะสร้างปัญหาให้มีเกียอีก 100 คนก็วิ่งตามแก้ไขไม่ได้!”
เกียได้แต่ส่ายหน้าให้กับความดื้อรั้น
“เกียรู้ว่าพองทำได้”
“พี่รู้ แต่พวกเขารอเราอยู่”
“พวกเขาต้องรออยู่แน่ๆ รวมถึงไอ้คนที่พยายามจะทำอะไรพองกับพี่เพียงที่โรงพยาบาลนั่นด้วย” ข้าวพองหันมาท้าทาย “หรือเกียจัดการพวกเขาไม่ได้”
เกียคำนวณคู่ต่อสู้ในเวลานี้
ไม่เพียงคู่ต่อสู้ที่มีจำนวนมาก ทั้งบางคนยังอยู่ในเงามืด ส่วนข้าวพองเองก็ยังบาดเจ็บ

“ลูกฝรั่งสกปรกกับเมียเช่า มันก็ทำได้แค่วางท่าว่าฉลาด ว่าเก่งกว่าคนอื่นเท่านั้น พอถึงเวลาเข้าจริง ไม่เห็นทำอะไรนอกจากวิ่งหนี”
เกียไม่ได้ตกหลุมพรางของข้าวพอง รู้ดีว่าข้าวพองโจมตีจุดอ่อนเข้าตรงๆ เพื่อกระตุ้นให้ทำในสิ่งที่ข้าวพองอยากให้ทำ
แต่ก็ยังโกรธ
“โกรธแล้วไง ก็ยังคิดแต่จะหนีอยู่ดีน่ะแหละ ไอ้หมาพิการ”
เกียจอดรถข้างทางแล้วหันมาหา
“พูดคำว่าขอโทษ”
“ไม่! เพราะหมาพิการอย่างแกไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากพูด แล้วก็หนี”
เกียจ้องมองดวงตากลมที่ยังคงแดงเรื่อจากการร้องไห้ แล้วหยิบโทรศัพท์พูดภาษาอังกฤษอย่างสุภาพ คาดว่าอาจจะพูดกับคนที่สถานทูต ไม่ใช่แอนดรูว์หรือแมรี่
พอวางสายก็หันมาดุคนดื้ออีกครั้ง
“ขอโทษพี่เดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้น ทุกอย่างยกเลิกหมด จอดรถไว้ตรงนี้ ข้าวพองจะไปต่ออย่างไร พี่ก็ไม่สนใจอยู่แล้ว ว่าใครจะเป็นอะไร จะเพชรนั่น จะครอบครัวของใคร เพื่อนใครอยู่หรือตาย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่ก็ได้เงินค่าจ้างมาหมดแล้ว”
 คำพูดหมดสิ้นเยื้อใย
แต่ข้าวพองรู้ว่า เกียพูดอะไรกับคนปลายสาย ยกเลิกการไปสถานทูตและเรากำลังจะไปบ้าน
...รู้ดีว่า ครั้งนี้เป็นแค่คำขู่ เกียไม่มีวันปล่อยเราไว้อย่างนี้แน่นอน...
...แต่เมื่อเกียยอมถอย....

“พี่ครับ ไปบ้านของเรากันนะครับ พองเชื่อว่าพี่จะคุ้มครองพองได้ จะไม่มีใครทำอะไรพี่ได้ เอาเพชรออกไปให้สถานทูต แล้วเราไปภูเก็ตกัน”

ถ้าเป็นคนอื่นนี่คือประโยคธรรมดา แต่เมื่อเป็นข้าวพอง กับแก้มแดง ท่าทางเขินๆ แววตาไม่มั่นใจว่าที่พูดไปจะใช่อย่างที่เกียต้องการหรือไม่
ข้าวพองทั้งลังเล เขิน และประหม่าเมื่อต้องร้องขอ
เกียใช้หัวแม่มือไล้ที่มุมปากสวยแล้วก้มลงจูบที่ริมฝีปาก
“แล้วจะทำให้ดู ว่าหมาพิการน่ะแข็งแกร่งกว่าที่เด็กดื้อคิดไว้” เกียทบทวนเรื่องที่เคยสอนกันได้ “จำที่พี่สอนเรื่องการประเมินคู่ต่อสู้ได้ไหมครับ”
เมื่อข้าวพองพยักหน้าว่าจำได้ เกียก็บอกอย่างจริงจัง “ในกรณีที่ตกอยู่ในความเสี่ยง และเราเป็นรอง พี่ขอให้ข้าวพองหลบจากวิถีการต่อสู้”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ครับ ข้าวพองในเวลานี้ไม่พร้อมที่จะสนับสนุนพี่ ก็ต้องไม่ขัดขวางพี่”

แววตาของข้าวพองดื้อดึงเต็มที่ จนเกียต้องพูดซ้ำ
“อย่าอยู่ติดผนังห้อง หรือผนังตู้ ที่กระสุนหรืออาวุธใดๆ อาจทะลุเข้าไปได้ ถ้าสามารถหลบเข้าห้องน้ำได้ ก็ทำ”
ข้าวพองกำลังนึกถึงภาพยนตร์ฆาตกรรมที่มักมีคนตายในอ่างอาบน้ำ เกียก็ขัดขึ้น
“ข้าวพองครับ”

...ไม่แน่ใจเลยจริงๆ ว่าข้าวพองจะทำตามที่บอก เกียได้แต่คาดหวังว่าที่บ้านจะไม่มีใครอยู่....

...จบตอนที่ 36...

ใครคือ "Aommie" >>> ดูจากสถิติแล้วเกียไปช่วยไม่เคยทันเลยซักงาน
ไหนว่าห่วงพองเวลาพองอยู่ในอันตรายหายหัวตลอด<<<< เป็นรีที่ทำคนเขียนถึงกับเงิบ มารับรางวัลจากคนโพสต์ เร้ว

ตอนหน้ามาวันอาทิตย์นะจ๊ะ
.
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-06-2014 11:33:01
เอิ่มมมมมมมมม
เงิบเบาๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-06-2014 11:33:40
รอตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อ...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 26-06-2014 11:37:49
เกียมาทันจริงๆๆๆๆๆๆๆด้วย     o13 o13 o13   

เห็นป่ะล่าๆๆๆๆ รักแล้ว ข้าวพองเอ้ยยยย รักแล้ว อาการแบบนี้คือรักนะจ๊ะ ตัวเอง  :m3: น่าสงสารเด็กน้อยไม่รู้ใจตัวเองที่ซู๊ดดดด  :teach:

ส่วนที่เกียสัญญาว่าจะทำให้ดูว่าหมาพิการน่ะแข็งแกร่งขนาดไหนนั้น ... คนอ่านก็รอน๊ะจ๊ะ แต่รอว่าจะปราบเด็กดื้อยังไง คริ คริ  :laugh3:

หากคำอธิฐานมีจริงอีกรอบ คนที่ตายขอให้ไม่ใช่ มโหธร กับอัครา สาธุ สาธุ :call: :call:

 :pig4: :pig4: :pig4: JiveTea
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-06-2014 11:57:42
ลุ้นอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-06-2014 12:17:32
คนร้ายอยู่ใกล้ตัวมาก พ่อของพองจะปลอดภัยไหม
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 26-06-2014 12:19:03
ข้าวพองทำไมดื้ออย่างงี๊ ดื้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น่าจับตีก้น(ด้วย??)ซะให้เข็ดเลย

พากันเข้าไปเสี่ยงอันตรายแท้ๆ แมรี่ก็ยังไม่รู้ว่าจะอยู่หรือตาย พี่เพียงอีก พ่ออีก โอยๆๆๆๆๆๆ

รอตอนต่อไปๆๆๆๆๆๆ ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น ใกล้จบเข้าไปทุกทีแล้ว





ปล.ขอตอนพิเศษหวานๆ เอาตอนข้าวพองอายุเกิน 20 พอให้กระชุ่มกระชวยซักตอนนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 26-06-2014 12:31:25
อยากจับข้าวพองฟาดก้น  คำพูดคำจางี้  น่ามาก  :beat:

แต่ก็นะ รู้หรอกว่าแกล้งพูด สุดท้ายเด็กเอาแต่ใจก็ชนะ

จะดูสิว่าตอนหน้าจะมีใครร้องไห้ขี้มูกโป่งป่ะ  :katai1:

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-06-2014 12:32:47
ไม่รู้จะอยากได้กันไปทำไมไอ้เพชรเลือดนั่น ใส่โชว์ก็ไม่ได้
ทำให้คนตายตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ทั้งคนที่เกี่ยวและไม่เกี่ยว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 26-06-2014 12:39:00
ถึงกับพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ กับตอนนี้รู้สึกโลงเลย
แต่พออ่านจบถึงกลับเกรงเพราะตอนต่อไปคงไม่ธรรมดา
แต่นะพอเอ่ยถึงแมรี ก็คิดสงสารขึ้นมาอีก ถ้าเกียรู้จะรู้สึกยังไงนะ :mew6:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 26-06-2014 14:49:11
ตัวบอสกำลังจะเผยตัวแล้ว ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 26-06-2014 15:26:25
ข้าวพองเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ
แต่จริงๆ แล้ว ควรหันหลับมารุกไล่คนร้ายบ้าง คอยแต่หนี ไม่ไหว
รอลุ้นต่อไป
ขอบคุณ คุณไจฟ์กะน้องน้ำชานะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 26-06-2014 18:03:01
หมาแก่พิการ แพ้เด็กปากหมาตลอดๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 26-06-2014 20:12:47
เพียงไม่รู้ แต่ พ่อ คือ แบบบบบบบบบบ no comment
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 26-06-2014 21:55:56
พองยังคงปากร้าย

แต่คงลืมไปว่า

เล่นกับหมา หมาเลียปาก :hao7:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Aommie ที่ 26-06-2014 23:23:19
 ใครคือ "Aommie" >>> ดูจากสถิติแล้วเกียไปช่วยไม่เคยทันเลยซักงาน
ไหนว่าห่วงพองเวลาพองอยู่ในอันตรายหายหัวตลอด<<<< เป็นรีที่ทำคนเขียนถึงกับเงิบ มารับรางวัลจากคนโพสต์ เร้ว

มีไรจ้ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 27-06-2014 05:45:55
เฉลยแล้วผู้หญิงในเงามืด คิดว่ายังมีคนบงการใหญ่กว่านี้อีกไหม อยู่แค่ปลายจมูกรึเปล่าน้า เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ นี่ไม่ใช่นิยายรักสินะ มันคือ แอคชั่นระห่ำเลือดสาด (เว่อร์ล่ะ) รอกันต่อไปใกล้จะจบแล้ว ไม่หวังว่าจะได้เห็นฉากหวานแหว๋ว ขอแค่จับคนบงการให้ได้ก็เป็นพอนะ 5555 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 27-06-2014 06:43:53
อยากเป็นเม้น ที่ 900 อ่ะ ><
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 27-06-2014 12:33:56
ยิ่งใกล้จะสาวถึงตัวผู้บงการใหญ่  ก็ยิ่งตื่นเต้นและลุ้นขึ้นเรื่อย ๆ
ขออย่างเดียวอย่าให้ฝั่งเกีย/ข้าวพองมีใครตายอีกเลยนะ  แค่นี้ก็เศร้าพอแล้วอ่ะ
ตอนท้าย  สุดท้ายเกียก็แพ้ทางข้าวพองจนได้เนอะ  ไม่รู้ว่าการที่เกียยอมให้พองไปด้วย
จะเป็นผลดีรึผลเสีย  แต่เชื่อมั่นว่าข้าวพองจะปลอดภัยที่สุดก็คือตอนอยู่ข้าง ๆ เกีย


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: INK@PANTIP ที่ 27-06-2014 21:54:51
ชอบจังที่พี่สอนน้อง คนแต่งเก่ง มากกก ยกนิ้วให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 28-06-2014 10:36:48
เรื่องราวเริ่มคลี่คลายแล้ว อีกนิดก็จะจัดการได้แล้วใช่ไหม  :katai1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 28-06-2014 11:01:17
อ่านไปลุ้นไปจริงๆเรื่องนี้!
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 36 หน้า 30(26มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 29-06-2014 09:13:08
มารอ :mew1:
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 29-06-2014 09:23:52
ตอนที่ 37

ประตูหน้าบ้านเปิดกว้าง ตู้ยามไม่มียอดยิ่ง ที่โรงรถไม่มีธีระ รถของอัคราจอดอยู่ข้างรถที่ข้าวพองใช้ และมีรถอีกคันที่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร  เมื่อมองเข้าไปไม่เห็นอุบล กับเด็กรับใช้อีกคน
ข้าวพองจับข้อมือของเกียไว้แน่น จนเกียหันมาถาม
“ไหวไหมครับ”
มาถึงขั้นนี้แล้ว ถอยไม่ได้แล้ว “มีคนมารออยู่ เราเป็นเจ้าของบ้านจะหนีได้ไง”
สีหน้าของข้าวพองกลับซีดเซียวเมื่อก้าวลงจากรถ
เกียล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว กวาดตามองไปรอบตัวชนิดที่ไม่ยอมให้มีอะไรรอดสายตาไปได้
ข้าวพองได้แต่มองตาม เตรียมพร้อมที่จะทำตามคำสั่ง
เมื่อเกียหันมามองถึงได้เห็นดวงตากลมโตแดงเรื่อกำลังมองอยู่
“พร้อมนะ” ถามย้ำกันอีกครั้งเพื่อสร้างความแน่ใจ

เมื่อก้าวเข้าไปในบ้าน
คนที่รออยู่เป็นสตรีที่ยากจะคาดเดาอายุที่แท้จริงได้ เยื้องไปด้านหลังคือชายในชุดสีดำยืนตัวตรงท่าทางเตรียมพร้อม
“นวลพรรณ” ข้าวพองบอก
เกียจำเธอได้จากภาพถ่าย

และเมื่อมองต่อไปที่ห้องรับประทานอาหาร อัคราพ่อของข้าวพองนั่งอยู่ ด้านข้างมีชายร่างใหญ่อีกคนยืนประกบอยู่
ข้าวพองมองพ่อแล้วหันไปมองเกียที่มีท่าทีเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ

ข้าวพองไม่รู้ว่าก่อนที่จะแยกกัน แอนดรูว์อยู่กับอัครา แต่ตอนนี้แอนดรูว์ไม่อยู่ แล้วแมรี่ที่ให้อยู่กับมโหธรก็ขาดการติดต่อ 
แต่รู้ว่ายังมีไอรีน กับ นิรมลที่ไม่รู้ที่มาที่ไป
ดังนั้นต่อตอนนี้กำลังอยากอาละวาดไล่ออกไปให้พ้นบ้านเหมือนที่เคยทำ หรือไม่ก็ถามอะไรโง่ๆ อย่าง มาทำไม แต่สุดท้ายก็ยืนนิ่ง
ในสมองค่อยๆ เรียงลำดับเรื่องที่จะต้องทำอย่างที่เกียสอนอยู่เสมอ

เมื่อเธอพูดออกมา สำเนียงของเธอกลับค่อนไปทางอเมริกันมากกว่าจีน 
“หมอให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วหรือ”
ข้าวพองพูดขัดขึ้น “พูดไทยชัดนะ”
หญิงสาวยักไหล่ และเมื่อยกยิ้มมุมปาก เกียก็แน่ใจว่า นี่เป็นใบหน้าที่ผ่านการศัลยกรรมมา
ข้าวพองไม่ใช่คนที่มีความอดทนมากนัก ยิ่งเมื่อต่างคนต่างก็รู้กัน แม้จะไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดก็ตาม
แต่เป้าหมายต่อไปคือ อัครา
“ผู้หญิงคนนี้บังคับให้พามา หรือเสนอตัวพาเขามาเอง”
“ข้าวพองครับ” เกียดุ จะอย่างไรนั่นก็พ่อนะ

อัครา ยกมือขวาขึ้น รู้สึกอ่อนใจท่ามกลางความเครียด
...มันเอาแต่ใจ จนไม่สนใจว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน...
“เขาบังคับมา โดนไอ้หมอนี่คุมอยู่ไม่เห็นหรือไง”
นักธุรกิจอาวุโส เลียนแบบคำพูดของลูกชายคนเล็ก
“สมน้ำหน้า จะมีเมียใหม่ทั้งที ไม่รู้จักดูให้ดี” ข้าวพองยังไม่หยุด
คราวนี้อัคราส่ายหน้าทั้ง ขอยอมแพ้โดยปราศจากคำพูด

นวลพรรณ พูดขึ้น “งั้นก็ทำให้เรื่องมันง่ายขึ้น ฉันต้องการเพชรที่แม่เธอได้มาจากลอนดอน ไปเอามา”
เกียเคยสอนแล้วว่า ถ้าเจอเรื่องแบบนี้ต้องทำอย่างไร ทั้งยังมีประสบการณ์จากการที่ต้องเป็นตัวประกันของไทนี่
ดังนั้นสิ่งแรกที่ข้าวพองทำ คือการถ่วงเวลา .....

“ยังไปเอามาไม่ได้หรอก เธอต้องคุยกับเราและเธอต้องตอบคำถามเราก่อน”
นวลพรรณหัวเราะน้ำเสียงหยียดหยาม  “ขั้นตอนสุดท้ายของคนใกล้ตาย”
ข้าวพองขยับปากเพียงนิดเดียว มีเพียงเกียที่ยืนอยู่ข้างๆ ที่ได้ยินเสียง
“เดี๋ยวก็รู้”
ถึงเวลาที่ข้าวพองจะใช้ความสามารถพิเศษให้เต็มที่
นั่นคือ…
สร้างความวุ่นวาย สร้างความเสียหาย และทำให้ทุกอย่างมันพังพินาศไปด้วยกันทั้งหมด
เกียจะยอมหรือเปล่าไม่รู้
แต่มันถึงเวลา!
“มีหลายคำถาม อันแรกก่อน เธอฆ่าแม่เราใช่ไหม”
ไม่น่าเชื่อว่านวลพรรณพยักหน้า
“แล้วพี่เพชรล่ะ”
นวลพรรณพยักหน้าอีก
“โง่หรือเปล่า” ข้าวพองชี้หน้า จนทั้งเกีย ไปจนถึงอัครายังแปลกใจ อารมณ์นี้ข้าวพองน่าจะร้องไห้โวยวายเมื่อเจอคนฆ่าแม่กับพี่สาว แต่เจ้าตัวกลับถามอีกฝ่ายแบบนี้
“พี่เพชรน่ะ งกจะตาย ทุ่มเงินอีกหน่อยยังไงเขาก็ต้องขายให้อยู่แล้ว”
“ก็คิดว่าอย่างนั้น แต่ฉันเบื่อที่จะรอ” นวลพรรณตอบเรื่อยๆ อย่างคนที่เป็นต่อ “พี่ชายฉันคุยเรื่องเพชรกับแม่เธอ แต่แม่เธอไม่ขาย เราก็เลยส่งไอรีนมา แต่แทนที่พี่สาวของเธอจะกลัว กลับทำไม่รู้ไม่ชี้จนเรื่องถึงศาล ฉันเบื่อก็เลยให้ฆ่าพี่สาวเธอ”

ข้าวพองโกรธจนมือเย็น
สรุปง่ายๆ ว่าผู้หญิงคนนี้ส่งไอรีนมาชี้เป้าฆ่าแม่กับพี่เพชร....

“แล้ว...ไอรีนกับนิรมล”
เวลาที่โกรธมากๆ ข้าวพองจะต้องอาละวาดให้สุดฤทธิ์ แต่เมื่อพยายามกดความโกรธนั้นไว้ แล้วพยายามเค้นคำถามออกมา เสียงที่สั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำ กลับทำให้นวลพรรณเข้าใจผิด
“นิรมลน่ะก็แค่ให้ช่วยดูๆ ของที่บ้านนี้ให้ ป่านนี้จะหนีไปไหนแล้วไม่รู้” หญิงสาวทำท่าทางไม่สนใจ แล้วชี้ไปทางด้านหลังของข้าวพอง “ส่วนไอรีน ถามเขาเองก็แล้วกัน”
ข้าวพองหันไปมองหญิงสาวอีกคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน
เธอไม่ได้แต่งตัวจัดจ้านเหมือนที่เคยพบเจอกัน ครั้งนี้เธอสวมกางเกงยีนกับเสื้อยืดคอกลม
ในใจไม่ได้เหลือความรู้สึกใด นอกไปจากความรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ ฆ่าแม่ พี่เพชร และแป๋ม
แต่เมื่อเกียจับข้อมือไว้ ทำให้ข้าวพองควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น
“ทั้งแม่ พี่เพชร แล้วก็แป๋ม”
ไอรีนพยักหน้ายอมรับ
แล้วข้าวพองก็ถามคำถามที่น้ำเน่าที่สุดในชีวิต “ที่ผ่านมา ไอรีนดีกับพองก็เพราะเพชรนั่นน่ะหรือ ไม่เคยชอบพองบ้างเลยหรือ”
ไอรีนดูลำบากใจ “ฉันชอบข้าวพองนะ ถึงฉันจะเป็นคนให้ยากับข้าวพองหลายครั้ง แต่ฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ไทนี่ใช้ยากับข้าวพอง”

ในความคิดของข้าวพอง การกระทำของไอรีนกับไทนี่ไม่ต่างกัน
แต่ในความคิดของเกีย ยาที่ทั้งคู่ใช้กับข้าวพองมีระดับความรุนแรงต่างกัน และแม้ไอรีนจะรู้ว่าเมื่อใช้ยาแล้วข้าวพองจะหลับ ต่อให้พยายามซักถามอย่างไรก็ไม่ได้ผล เธอก็ยังยื้อเวลาต่อไปเรื่อยๆ ด้วยยาตัวเดิม
และเพราะไอรีนใช้เวลากับข้าวพองนานเกินไป นวลพรรณถึงต้องส่งไทนี่เข้ามา
ยาของไทนี่มีความรุนแรงมาก จนทำให้ข้าวพองเกิดอาการสับสนงุนงงอยู่เสมอ
....โชคดีที่ตลอดเวลาที่อยู่โรงเรียน ป๋อมกับแป๋มไม่เคยห่างจากข้าวพอง ทำให้แม้ไทนี่จะหยอดยาให้ข้าวพองได้สำเร็จแต่ไม่มีโอกาสซักถามเรื่องเพชร….
แม้แต่ในวันที่แป๋มตายไปแล้ว และป๋อมต้องไปจัดการงานศพของน้องสาว คนที่อยู่กับข้าวพองตลอดเวลาก็ยังเป็นเบซซี่

“ 2 คนนี้ขัดกันเพราะเรื่องของเธอตลอดเวลา” นวลพรรณบอก
“แล้วแป๋มล่ะ”
“นั่นเป็นเรื่องเดียวที่พวกเขาไม่ทะเลาะกัน แต่แย่งกันลงมือ” หญิงสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หรูพูดอีกครั้ง “เด็กนั่นลืมไปว่า เรื่องที่อ่านหนังสือต่างจากการพบกับพวกเราโดยตรง เธอไปรู้เรื่องของไอรีน กับ ไทนี่มาจากไหนไม่รู้  แต่พอเธอข่มขู่ ว่าจะเปิดโปง ไอรีนก็เลยจัดการเธอเสีย”
“แค่นี้เอง”
“ไอรีนและไทนี่ ต่างก็พูดเหมือนกันว่า แฝดป๋อมแป๋มเป็นคนฉลาดมาก หากพวกเขาเริ่มสงสัย เราไม่ควรปล่อยไปก่อนที่จะได้เพชรมา”

...เป็นเหตุผลที่ ไม่มีความเป็นเหตุผลเลยสักนิด แป๋มแค่สงสัยแล้วก็พูดออกมา คนพวกนี้ก็ฆ่าเธอแล้ว...
ความโกรธมันคงล้นออกมาจนเกียต้องเพิ่มน้ำหนักมือที่จับข้อมือขาวไว้
ไอรีนก็มองเห็น
“เราไม่ได้อยากทำอย่างนั้น แต่คำถาม ความสงสัยของแป๋มกำลังจะทำให้ทุกคนเดือดร้อน”

...สรุปว่าเพราะแป๋มฉลาดเกินไป ทำให้ต้องตายหรือไง...

นวลพรรณยังพูดต่อไป “ตอนที่พ่อของไทนี่จัดการป๋อม ยังคิดว่าไม่น่ารอด แต่ก็กลับรอดมาได้”

ข้าวพองก้มหน้าสวมบทบาทผู้ผิดหวังต่ออีกนิด
“จะเอาเพชรใช่ไหม”
คำถามนี้ของข้าวพองทำให้นวลพรรณลุกขึ้น แต่ข้าวพองชี้ไว้
“รออยู่ที่นี่แหละจะไปเอามาให้”
“ไม่ เด็กแสบแบบเธอไม่มีทางเอาเพชรมาให้ฉันง่ายๆ หรอก”
“เราก็ไม่เคยอยากได้เพชรนั่น” ข้าวพองชี้ไปที่อัครา “แล้วให้คนคุมพ่อไว้แบบนั้น เราคงตุกติกได้หรอกนะ”

ยังไม่ทันที่จะทำอะไรต่อไป มีรถแล่นเข้ามาจอด ข้าวพองหันไปมอง
และพอเห็นว่าคนที่ลงมาจากรถคือมโหธร กับรองขจร และหมวดมานพ
ข้าวพองก็ต้องหันไปมองหน้าเกีย
อดีตนายตำรวจอังกฤษ มีแววตาที่เครียดกว่าเดิม เพราะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแมรี่ และมันก็อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับแอนดรูว์เหมือนกัน

ข้าวพองหน้าเสีย
ก่อนนี้คิดว่าพอจะมีโอกาสที่เกียจะช่วยข้าวพองกับอัคราได้
จากที่คิดว่า อย่างไรคราวนี้ข้าวพองต้องเอาคืนคนที่ฆ่าแม่กับพี่สาวให้ได้
แต่ตอนนี้ความหวังริบหรี่เหลือเกิน
เพราะเกียยังต้องช่วยมโหธรอีกคน ขณะที่มีปืนเพิ่มมาอีก 2 กระบอกจากรองขจร และหมวดมานพ
แถมทันทีที่พบกัน มโหธรยังบอกเกียทันที
“แมรี่ถูกยิงที่ลานจอดรถ ผมไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง”

เกียเพียงแค่พยักหน้า ขณะที่ประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ยังเหลือแอนดรูว์ เพราะอัครากำลังทักลูกชายคนโต และถามว่าได้รับอันตรายอะไรหรือไม่
มโหธรส่ายหน้า หันมาถามน้องชายคนเล็ก
“ข้าวพอง เป็นไงบ้าง”
ทั้งที่ใบหน้าแทบไร้สีเลือด แต่ข้าวพองก็ยังบอกว่าไม่เป็นไร
หมวดมานพบังคับให้มโหธรไปอยู่กับอัคราในห้องรับประทานอาหาร
“เกีย..” ข้าวพองเรียกเบาๆ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ แทบไม่มีทางเอาเพชรออกจากบ้านนี้ไปสถานทูตลอนดอนได้เลย

“ถ้ามิสซิสจางต้องการจะขึ้นไปเอาเพชรด้วยกันก็เชิญครับ”  เกียเรียกชื่อเดิมของนวลพรรณ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ แบบที่ข้าวพองไม่เคยได้ยินมาก่อน “ส่วนคนอื่นๆ รบกวนรออยู่ที่นี่น่าจะดีกว่า”
“ไม่” รองขจรพูดขึ้นเป็นครั้งแรก “ฉันต้องการขึ้นไปด้วย”
อดีตนายตำรวจอังกฤษยิ้มมุมปากเพียงนิดเดียว แล้วผายมือให้นวลพรรณ และรองขจรเดินนำขึ้นไป ส่วนตัวเองยังคงจับมือของข้าวพองไว้เช่นเดิม

การที่ข้าวพองหันกลับไปมองอัครา มโหธร ก่อนที่ก้าวขึ้นบันไดบ้านไป มันมีความหมายว่าเป็นห่วง ส่วนการมองไอรีนไม่ได้มีอะไรมากกว่าการที่เธออยู่ในระยะสายตาที่มองผ่าน
แต่คนที่ไม่ได้รู้จักข้าวพองอย่างนวลพรรณ และรองขจรกลับคิดว่าหนุ่มน้อยกำลังอาวรณ์หญิงสาวรุ่นพี่
ทุกความคิดของคนที่ไม่ได้รู้จักข้าวพอง ล้วนแต่วนเวียนอยู่กับเรื่องของข้าวพองกับไอรีน
มีแต่เกียที่รู้ว่า ข้าวพองมีคำถามที่อยากถามไอรีน แต่ไม่ใช่ความรู้สึกดีๆ หรือเสียดายอย่างแน่นอน
“ไหวไหมครับ” เกียก้มลงถาม
ข้าวพองกำลังจะส่ายหน้า แต่กลับบอกความจริงว่า รู้สึกเหนื่อยมาก
“อีกนิดเดียว ก็จะจบแล้ว”
ข้าวพองสบตาสีฟ้าเข้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจแล้ว กัดฟันเดินต่อขึ้นไปจนถึงชั้นบน ตรงเข้าไปในห้องนอนใหญ่ของอัครา

จากประตูห้องนอน 4 ก้าวถัดไปทางขวามือคือประตูห้องน้ำ และโต๊ะกระจก ที่มีรูปภาพครอบครัววางอยู่บนโต๊ะ
ส่วนทางซ้ายมือคือเตียงนอนใหญ่ที่มีผ้าคลุมเรียบร้อย เช่นเดียวกับฉากกั้นที่เคยใช้กั้นระหว่างเตียงนอนกับโต๊ะกระจก ในตอนที่พวงเพชรยังอยู่ แต่เมื่ออัคราไม่ได้นอนที่นี่แล้ว มันก็เลื่อนไปบังตู้เสื้อผ้าแทน

ข้าวพองได้ยินเสียงดังมาจากชั้นล่าง ยังไม่ทันจะคิดว่ามันคือเสียงอะไร เกียก็ดึงความสนใจของทุกคนด้วยการชวนนวลพรรณคุย
“ถ้าวันที่คุณอัคราพามาบ้านแล้วข้าวพองไม่ขัดขวาง คุณก็คงได้อยู่ห้องนี้ และไม่ต้องมีคนตายมากขนาดนี้”
“เธอก็ไม่จำเป็นต้องมารับงานนี้”
เกียยักไหล่ “แต่อย่างไรเราก็ต้องพบกันที่อื่นอยู่ดี”
นวลพรรณหันมามองหน้าเกียตรงๆ “เธอคือตำรวจคนที่ฆ่าเหลียง”
“พี่ชายของเหลียง และลูกชายของเขาคนที่เราเรียกว่าไทนี่ด้วย” เกียยิ้มเย็น

ข้าวพองที่ยืนอยู่ข้างๆ ก้าวถอยช้าๆ ตามที่เกียสั่งไว้ก่อนที่จะเข้าบ้าน เมื่อคำพูดของเกีย คือคำประกาศว่าจะไม่ยอมให้เพชรให้คนคู่นี้ไปโดยง่าย

มีเพียงรองขจรที่ไม่สนใจความขัดแย้งในอดีต ที่พยายามเร่งให้ข้าวพองเอาเพชรออกมาแต่นวลพรรณยกมือห้าม
“เธอกล้ามากที่บอกกับฉันต่อหน้าแบบนี้”
ดวงตาของเกียแข็งกร้าวขึ้น “ผมยืนอยู่บนกฎหมาย” หันไปท้าทายรองขจร “คนที่หยิบอาวุธก่อนคือคนแพ้”
เสียงหัวเราะเหยียดหยามของรองขจรขัดหูของข้าวพองอย่างแรง แต่เด็กหนุ่มยังคงก้าวถอยไปทางประตูห้องน้ำ ที่อยู่ถัดจากโต๊ะกระจก
วินาทีที่ข้าวพองก้าวเข้าไปในห้องน้ำ รองขจรก็หยิบปืน
หนุ่มตัวเล็กปิดประตูแล้วรีบลงไปอยู่ในอ่างอาบน้ำ ถึงจะรู้ว่าไม่ได้ล็อกห้อง แต่ก็ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาอีก ได้แต่ฟังเสียงที่ด้านนอกที่มีทั้งเสียงปืน การต่อสู้ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เสียงร้องตวาดของรองขจร เสียงกรีดร้องของนวลพรรณ

ถัดมาคือเสียงของเกียที่ด้านนอกห้อง
“อย่าเพิ่งออกมาจนกว่าพี่จะพูดว่า ไปลอนดอนกัน เข้าใจไหมครับ”
ข้าวพองกำลังจะลุกออกมาจากอ่างอาบน้ำ ส่งเสียงตอบรับไปทั้งที่เข้าใจครึ่งๆ ว่า เกียบอกว่าอย่าเพิ่งออกมา อีกหลายวินาทีถัดไปถึงได้เข้าใจว่า เกียบอกรหัสลับ
“ต้องรอจนกว่าเกียจะบอกว่า ไปลอนดอนกันใช่ไหม ใช่สิ”
ข้าวพองบ่นกับตัวเอง
หลายวันมานี้พบเจอกับอะไรมากมายจนอ่อนล้าทั้งร่างกายและสมอง
ถ้าเป็นข้าวพองในเวลาปกติ ต้องรีบลุกออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก แต่ตอนนี้กลับวิ่งไปล็อคประตูห้องน้ำแล้วกลับมานอนขดตัวอยู่ในอ่าง
ได้ยินแต่เสียงหัวใจของตัวเอง
เวลาผ่านไปนาน ได้ยินเสียงพูดคุยที่ด้านนอกรวมถึงเสียงของเกีย แต่เสียงนั้นเบาจนจับความไม่ได้ และเกียก็ยังไม่พูดรหัสให้เปิดประตู
จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตู “ข้าวพองครับ ไปลอนดอนกัน” ข้าวพองแทบกระโดดออกมาเปิดประตู
“เป็นไงมั่ง”
หนุ่มตัวเล็กถามขณะที่กวาดตามองไปรอบห้อง ไม่เห็นทั้งนวลพรรณและรองขจร แต่ยังมีคราบเลือดอยู่ที่พื้น
“เกีย....”
“พี่จัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเป็นกังวล”
ข้าวพองพยักหน้า เข้าใจความหมายของประโยคที่เกียพูด แต่ต้องถามคำแปลอีกครั้ง
“พองต้องเอาเพชรออกมาใช่ไหม”
“ครับ” เกียบอก “คุณอัครา กับคุณมโหธรรออยู่ข้างล่าง”
“ทำไมเขาไม่ขึ้นมา”
เกียยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ “เราควรต้องลงโทษพวกเขา ที่ทำให้ข้าวพองต้องเสียเพื่อน และตกอยู่ในอันตราย”

หนุ่มตัวเล็กหัวเราะเบาๆ แล้วหันไปมองที่โต๊ะกระจก
เกียยืนหันหลังให้ข้าวพอง ดวงตาสีเข้มจ้องมองประตูห้องนอน
ท่าทางที่ยืนตัวตรง กางขาเล็กน้อย ทั้งเอามือไขว้หลังแบบนี้ ดูเป็นทางการจนข้าวพองต้องกลับมาเครียดอีกรอบ
“เกีย มีอะไร”
…ไหนว่าเรียบร้อยแล้ว....
“ไม่มีอะไรครับ ข้าวพองเอาเพชรออกมาเถอะ” เกียบอกทั้งไม่หันมามอง
“แล้วทำไมต้องยื่นอย่างนั้น ไม่ดูหรือ”
“ไม่ครับ มันคือความลับ” 

ข้าวพองเข้าใจความคิดของเกีย ว่าบางสิ่งบางอย่างควรเป็นความลับตลอดไป
แต่ไม่มีความลับอะไรที่มันสำคัญอีกแล้วในเวลานี้
“หันมาเถอะ เกียทำอย่างนั้น มันยิ่งเครียด”
เกียหันมาตามที่ข้าวพองบอก แต่พอข้าวพองยืนอยู่หน้ากระจกเกียก็หันไปทางอื่น
“เกียหันมามองพองด้วย”

ข้าวพองเลื่อนรูปภาพครอบครัวมาบังมุมขวาล่างของกระจก เลื่อนรูปภาพออก แล้วทาบฝ่ามือให้อยู่ภายในกรอบของรูป
มีเสียงสัญญาณแหลมเล็กดังขึ้นเบาๆ ตามมาด้วยเสียงคลิ๊ก บานกระจกที่ปิดสนิทแง้มออก ภายในช่องแคบเล็ก หลังกระจกคือกล่องใบเล็ก ข้าวพองเปิดกล่องหยิบกุญแจออกมา แล้วถือไปห้องนอนของตัวเอง
“เดิมแม่เก็บกล่องอีกใบไว้ในห้องนอนใหญ่ แต่พี่เพียงเปลี่ยนที่เก็บกล่อง”

....นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ผู้ต้องสงสัยทุกคนตรงมาที่ห้องนี้....

“ตอนที่ไอรีนมอมยาพอง พองคงบอกที่ซ่อนเดิมไป เมื่อพวกเขามาหาที่ห้องนี้ ถึงได้ไม่เจออะไร”
“ดีแล้ว ที่คุณเพียงไม่ยอมบอกที่ซ่อนใหม่ให้ข้าวพองรู้”
“พี่เพียงเพิ่งบอกตอนที่อยู่โรงพยาบาล เขาบอกไว้ว่า ถ้าเขาตายก่อนที่จะกลับมาเอากล่องนี้ พองก็ยังเอามันออกไปได้”
บอกให้เกียรื้อที่นอนออก งัดแผ่นไม้กระดานออกมา ยังมีกล่องอีกใบอยู่ใต้เตียง ข้าวพองใช้กุญแจไขออกมาง่ายๆ แล้วหยิบกล่องเล็ก ขนาดฝ่ามือของข้าวพองออกมา
“คราวนี้ ไปเปิดที่สถานทูตดีกว่า”
เกียเห็นด้วย ข้าวพองส่งกล่องให้เกียถือไว้
“ฝากเกียไว้ก่อนนะ เพราะขั้นสุดท้าย ไม่ควรเปิดที่นี่”
จากประสบการณ์ เกียรู้สึกหวั่นใจ “มันอันตราย พี่หมายถึงวิธีเปิดมันเป็นอันตรายต่อชีวิตของข้าวพองไหมครับ”
ข้าวพองยิ้มไม่เปิดปาก ขณะที่ส่ายหน้า
“ข้าวพองครับ ถ้ามันอันตราย”
“จากที่พองเจอตั้งแต่แม่ได้เพชรนี้มา จนถึงวันนี้ ต้องถือว่าขั้นตอนสุดท้ายนี้ ไม่อันตรายเลยสักนิด” ข้าวพองหยุดคิดแล้วบอกเงื่อนไขสุดท้ายของการเปิดกล่อง “ถ้าเปิดกล่องนี้อย่างไม่ถูกต้องมันจะมีกรดไหลลงไปอาบเพชร ถ้าเราหยิบเพชรขึ้นมามันก็จะกัดมือเราไปด้วย”
 
เกียรีบเก็บกล่องไว้กับตัวจนข้าวพองยิ้มได้ “ต้องเปิดผิดเท่านั้น ตอนนี้ไม่เป็นไรหรอก”
“มันอาจรั่วออกมาก็ได้ น่าจะบอกก่อนว่ามีกรดเลี้ยงอยู่ พี่จะได้หยิบมันออกมาเอง” จากนั้นหันไปเก็บกล่องใบใหญ่จากใต้เตียง แล้วกลับไปหยิบกล่องกุญแจจากห้องนอนของอัครามาใส่ไว้ ส่งให้ข้าวพองถือ
“พี่จะเก็บของจริงไว้จนกว่าจะถึงสถานทูต แต่ข้าวพองจะต้องถือกล่องนี้ไว้”
แม้จะรู้ว่ากล่องนี้เป็นกล่องลวง แต่ข้าวพองก็ยังตื่นเต้น
เหลือระยะทางอีกไม่มากนัก เพชรก็จะกลับไปสู่เจ้าของที่แท้จริงสักที

…จบตอนที่ 37...
ขอบคุณมากครับที่ช่วยผลักช่วยดัน
ตอนหน้าวันอังคารจบละนะ
เฮ้อ......

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 29-06-2014 10:13:23
เฮ้อออออออออออออออ ในที่สุดก็คลี่คลายไปได้เสียที

ตอนนี้ข้าวพองเก่งมาก ไม่ดื้อไม่รั้น ทำตามที่เกียสอนไว้ทุกอย่าง

ตอนหน้าจะจบแล้ว ใจหายจัง ขอฉากหวานๆของสองหนุ่มพอให้กระชุ่มกระชวยได้ไหมคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 29-06-2014 10:14:56
โห ซับซ้อนแม้กระทั่งการเปิดเอาเพชร!
อยากรู้ด้วยว่าเกิดอะไรที่ชั้นล่างระหว่างที่ชั้นบนชุลมุนกัน
รอวันอังคารค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: bluesky ที่ 29-06-2014 10:20:14
   
     :L2:
         เกียเท่ห์มาก  อยากรู้ว่าจัดการรองขจรยังไง(เบื่อตำรวจมาเฟีย)  แล้วใครมาเป็นกองหนุนให้เกีย...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 29-06-2014 10:26:32
ขอให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี แต่คาใจ นวลพรรณกับรองขจรตายแล้วใช่ไหม จะจบแล้วแต่ทำไม มันเหมือนยังไม่จบล่ะ ห้ามจบแบบหักมุมนะ ออกตัวไว้ก่อนเลย เย้ย!!!!!!! เหมือนจะคิดเองเออเองเลยอ่ะ 555 รอตอนจบดีกว่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 29-06-2014 10:29:21
ข้าวพองทำได้ดีในตอนนี้ทั้งควบคุมอารมและเบี่ยงความสนใจ o13
ตอนนี้ยากรู้มากคือใครอยู่และใครตายบ้าง

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-06-2014 10:34:14
ตื่นเต้นๆ วิธีการมันเยอะจนเหนื่อย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-06-2014 10:41:26
มันช่าง... :hao7:

เหมือนจะคลี่คลาย  แต่มันมีบางอย่างให้รู้ว่ายังไม่เรียบร้อย
เพราะยังมีคำถามว่านวลพรรณ  รองขจร  ไอรีน  อยู่ไหน  เกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งหมดนี้
ช่วงที่ข้าวพองอยู่ในห้องน้ำ  หรือว่าไอรีนจะกลายเป็นสายให้เกีย  :katai1:
หักหลังพวกที่เหลือ  แล้วพ่อกับพี่ชายของข้าวพองล่ะ  เป็นไง

มีคำถามยันตอนสุดท้ายจริงๆ  รอๆๆๆๆ

บวกเป็ด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 29-06-2014 10:43:05
แอบหวังว่าทั้งแมรี่แซะแอนดรูยังรอด และพาพวกมาจัดการพวกชั้นล่างไปแล้ว

จะจบแล้ว ลุ้นๆกับตอนจบ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-06-2014 11:17:12
ลุ้นระทึก คลี่คลายความสงสัยไปหลายเปราะ
ข้าวพองทำดีมาก เพราะเกียสอนมาดีสินะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 29-06-2014 13:55:44
 :mc4:ใกล้ถึงวันที่เราจะรู้ความจริงแว้วววววว
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 29-06-2014 14:48:40
อ่านไปแบบ ใจหายใจคว่ำมาก
ลุ้นซะเหนื่อยเลย 
ขอบคุณคะไจฟ์ กะ น้องน้ำชานะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-06-2014 15:13:24
ตอนหน้าไปลอนดอนกันใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 29-06-2014 15:26:21
อีกตอนเดียวจะจบ  :z3:  :ling1:  #งานเศร้าบังเกิด

หมาไม่พิการนิหน่า...ยังคงไว้ลายได้ไม่เสียชื่อ

/วิธีการซ่อนเพชรที่ซับซ้อน และวิธีการเปิดที่ไม่ธรรมดา โอ!!! แลกกับตัวเองตัองตาย  มันอาจจะนานจนข้าวพองพลาดในการเปิดเพราะไม่ได้เปิดบ่อยๆ .... เอาล่ะในเมื่อความหวานไม่มีดีนัก จัดไปใหัดาร์คสุดๆ กัน /
ไอ้บรรทัดข้างบนนั่น มันคือฝัน

ส่วนตอนนี้ นักเรียนดูมีความคิดอ่านที่ดีมาก เชื่อฟังคุณครูแบบนี้แหล่ะ ดีแล้วนะจ๊ะ  :mew1:

อยากขอบคุณนักเขียนที่เขียนให้เราอ่านมานาน >>> ยังไม่ใช่ตอนจบ แต่ขอขอบคุณไว้ก่อน :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 29-06-2014 18:07:15
จะจบแล้ว จะมีโค้งหักศอกอยุ่ข้างหน้าอีกไหมนะ
ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 29-06-2014 20:42:04
ยังไม่คลี่คลาย รอตอนจบเลยทีเดียว  ซับซ้อนเกินคาดเดา
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-06-2014 21:02:17
เกียยังเชื่อใจได้อยู่ใช่มั้ย
ระแวงไปหมดแล้วตอนนี้
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 29-06-2014 21:43:32
/อนู่ดีๆก็ระแวงเกียค่ะ...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 30-06-2014 06:49:55
ซัมเดย์จริงๆ
เหมือนจะคลี่คลายผู้ร้ายตายหมด
แต่ตงิดตรงเกียนี่ล่ะ
ลุ้นตอนหน้าตัวโก่ง
 :hao5:
บวกและเป็ดขอบคุณ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 30-06-2014 11:08:21
ครั้งหน้า คงได้รู้ความเป็นไปของหลายคน ทั้งแมรี่และแอนดูร์ และคนชั่วทั้งหลาย

ลุ้นต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 30-06-2014 11:31:28
โห ขบวนการคนร้ายนี่มันอะไรกัน
น่าสงสารทั้งอัคราทั้งมโหธร เลี้ยงงูพิษไว้กับตัวชัดๆ
พี่เกียจับเข้าคุกยกยวงให้หมดเลย
จบเรื่องนี้ คนดีเหลือกี่คน แมรี่กับแอนดูรว์ยังอยู่มั้ยเนี่ย 
รอลุ้นตอนจบ ทั้งวิธีการเปิดเพชร ทั้งคนที่เหลือรอด
แต่ลุ้นสุดคือ พี่หมาแก่สุดอึนกับน้องกระต่ายขี้โมโหนี่ล่ะ
ถ้าไปส่งตัวที่อังกฤษ พี่เกียก็ล็อกตัวไว้ที่นั่นเลยแล้วกันนะ อิอิ

ขอบคุณสองหนุ่มครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 30-06-2014 12:12:15
ในบรรดาคนร้ายที่เปิดตัวมา  นวลพรรณดูโหดสุดเปล่าเนี่ย
ไม่ได้ลงมือทำร้ายใคร แต่เป็นผู้สั่งการและอยู่เบื้องหลัง  น่ากลัวอ่ะ
ตอนข้าวพองว่าง่ายและเชื่อฟังเกียก็น่ารักไปอีกแบบนะ
แต่ตอนอยู่ในห้องเนี่ย  ลุ้นมากว่าข้าวพองจะขัดคำสั่งเกียรึเปล่า
แม้จะยังไม่ถึงตอนจบของเรื่อง  บทสรุปของเรื่องเพชรก็ไม่รู้จะไปถึงลอนดอนรึเปล่า
แต่การที่เพชรยังไม่ถูกชิงไปไหน ก็ต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้ข้าวพองนะ ตอนนี้ข้าวพองเจ๋งมาก  ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 01-07-2014 02:53:51
แวะมาดันส่งท้าย ตอนหน้าจะจบแล้ว ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 01-07-2014 03:37:05
รอตอนสุดท้ายอย่างใจจดจ่อ อยากรู้ว่าจะลงเอยยังไง เกียจัดการแบบไหน และเกียกับข้าวพองจะเป็นอย่างไรต่อไป
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 01-07-2014 08:19:44
อยากให้เพชรโดนน้ำกรดซะจะได้จบๆ ไม่เป็นภาระ

โรคจิตไปนะ!! :laugh:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 37 หน้า 31(29มิถุนายน57)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 01-07-2014 09:03:26
^
^
^
เห็นด้วยกับรีบนค่ะ มาลุ้นว่าจะจบยังไง
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-07-2014 09:57:41
ตอนที่ 38

ทางเดินหน้าห้องนอนยังมีรอยรองเท้าเหลือไว้ ข้าวพองเดินเลี่ยงร่องรอยเหล่านั้น
เมื่อมาถึงข้างล่าง นอกจากอัครา กับมโหธรแล้ว ยังมีแอนดรูว์ กับชายหนุ่มอีก 3 คนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน โดยเฉพาะลักษณะการแต่งกายแบบอาหรับ
“การิม” เกียแนะนำรุ่นพี่จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่ปัจจุบันไปทำงานให้กับเจ้าชายจากซาอุดีอาระเบีย

การิมเป็นรุ่นพี่ของเกียอยู่หลายปีทำให้ไม่เคยพบกัน แต่เมื่อตอนที่การิมติดตามเจ้าชายจากซาอุดิอาระเบียมาเมืองไทย โบรนี่หัวหน้างานของเกียบอกให้ไปทำความรู้จักกันไว้ และทำให้เกียได้รับทราบเบาะแสหลายอย่างมากจากรุ่นพี่คนนี้

“เจ้าชายของพวกเรา อยากได้เพชรที่แม่ของเธอได้มา แต่เมื่อรู้ว่าคู่แข่งเป็นใคร และเกิดอะไรขึ้น พระองค์ก็เปลี่ยนใจไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งสงสัยว่าเหตุใดคุณอัคราถึงสมรสกับผู้หญิงที่อาจเป็นคนฆ่าภรรยาของตนเอง”
“ผมไม่รู้ว่าเธอฆ่าพวงเพชร” อัคราบอก ดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ “และเพิ่งรู้ความจริงทั้งหมดในวันนี้เอง”
“ไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของมิสซิสจาง” เกียช่วยอธิบาย “ข้าวพองเองก็เพิ่งนึกออก ว่ารองขจรเป็นคนแนะนำมิสซิสจางให้อัครารู้จัก”
แอนดรูว์รู้ว่าการิมไม่เข้าใจเรื่องนี้
“พวกเขาพยายามติดตามคดีว่าใครฆ่าพวงเพชร แต่ติดขัดที่รองขจรพยายามขัดขวาง”
“พวกคุณสนิทกับรองขจรมานานแล้วหรือ” การิมถาม
“เรารู้จักกันมานานแล้ว เวลาที่วิ่งเต้นเรื่องการประมูลอะไรก็พึ่งพากัน ก็รู้ว่าเขาไม่ใช่ตำรวจมือสะอาด แต่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนชักนำคนร้ายมาอยู่ข้างตัวเราแบบนี้” อัคราสารภาพ

เกียช่วยอธิบายอีกครั้ง “คนร้ายทั้งหมดไม่มีการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน แม้แต่ไทนี่ กับ ไอรีนที่พบเจอกันบ่อยครั้ง ก็ยังทำเหมือนไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ขัดกันเพราะการแย่งชิงเป็นคนสำคัญของข้าวพอง”

การิมเข้าใจ “เมื่อแต่งงานกัน ก็คือครอบครัวเดียวกัน และคนเอเชียมักจะมีความวางใจคนในครอบครัวเดียวกันว่าจะไม่มีวันทำร้ายกันและกันได้” หนุ่มซาอุฯ หันไปถามแอนดรูว์ “คนอังกฤษไม่ค่อยเข้าใจแน่นอน”
หนุ่มอังกฤษแท้ๆ อย่างแอนดรูว์ยักไหล่เป็นคำตอบ การิมเลยหันมาหาข้าวพอง
“เจ้าชายส่งพวกเรามาเมื่อรู้ว่าคนร้ายถึงกับลงมือฆ่าเด็กนักเรียนหญิงในโรงเรียน และลักพาตัวลูกชายคนเล็กของครอบครัว เขาสั่งไว้ว่าอย่าให้มีใครต้องตายอีก มากกว่านั้นก็คือเขาไม่สบายใจที่ถูกมองว่าเป็นผู้ต้องสงสัย”
เกียกล่าวคำขอโทษ “ผมสืบไปตามหลักฐานที่ว่ามีใครติดต่อขอซื้อเพชรบ้าง”
“พระองค์เข้าใจเรื่องนั้น ก็เหมือนกับที่ยังติดตามความเคลื่อนไหวของที่นี่ตลอด เพราะยังต้องการเพชรอยู่” ต่างคนต่างก็รู้ว่าอีกฝ่ายทำอะไร “ซึ่งจากนี้ เมื่อคืนเพชรกลับไปอังกฤษแล้ว พระองค์จะติดต่อซื้อกับทางนั้นเอง”

แอนดรูว์อมยิ้ม เมื่อรู้ว่า สาเหตุที่เจ้าชายส่งการิมและเจ้าหน้าที่อีกหลายคนมาเมืองไทย ก็เพราะต้องการให้เพชรกลับไปลอนดอนเพื่อที่จะค้าขายกันอย่างถูกต้อง แทนที่จะตกไปอยู่ในมือของมาเฟียฮ่องกง ที่ไม่มีวันที่เจ้าชายจะได้เพชรอย่างแน่นอน

“ดีใจขนาดนั้น” หนึ่งในกลุ่มการิมหันมาแซวหนุ่มอังกฤษ จนทุกคนผ่อนคลายลง
“ขอบคุณทุกคนมาก” อัคราบอก “ไม่เช่นนั้นพวกเราทุกคนคงตายกันหมด”

การิมยิ้มอย่างมั่นใจ “เกียคนเดียว แต่เขามีลูกบ้าเหมือนตำรวจหลายคน”
ข้าวพองหันมามองหน้าเกียอย่างคาดไม่ถึง ขณะที่เกียกระแอมกลบเกลื่อน
“เราควรจะไปสถานทูตกันได้แล้ว” เกียเปลี่ยนเรื่อง
แต่ข้าวพองหันกลับไปมองมโหธร “แล้วแมรี่ล่ะ”
เกียเป็นคนตอบคำถามนี้ “เสียชีวิตแล้วครับ ทางสถานทูตส่งเจ้าหน้าที่ไปรับเธอที่โรงพยาบาลแล้ว”
ข้าวพองที่หน้าซีดอยู่แล้ว ยิ่งรู้สึกอ่อนแรงจนเกียต้องประคองไว้
“เราจะรับผิดชอบเรื่องของแมรี่เอง” อัคราพูดขึ้น
“แมรี่เสียชีวิตในหน้าที่” แอนดรูว์ตอบ “แต่ถ้าเป็นเรื่องของการแสดงความเสียใจต่อครอบครัว เดี๋ยวค่อยไปคุยกันที่สถานทูต”

การิมมองท่าทีของข้าวพองแล้วพูดขึ้น “ตำรวจ หรือทหาร ทุกคนต่างก็รู้ว่าเรามีโอกาสที่จะไม่ได้กลับบ้าน การตายในหน้าที่คือเกียรติยศสูงสุด”

ข้าวพองอยากเถียง แต่เมื่อน้ำตาไหล ก็ได้แต่ส่ายหน้า
“แม่รี่พยายามปกป้องพี่จนถึงนาทีสุดท้าย” มโหธรบอก
เพราะมโหธรเป็นคนพูด ทำให้ข้าวพองหันไปเถียง “เขาเสียชีวิตเพื่อปกป้องพี่ เพราะอะไรล่ะ เพราะไอ้เพชรบ้าๆ นี่ เพราะหลงเมียจนไม่รู้ว่ากอดงูพิษอยู่ทุกคืน ไอ้สิ่งที่พ่อกับพี่เพียงอ้างว่า ทำเพื่อครอบครอบครัว ไหนล่ะครอบครัว! ใครคือครอบครัวของพ่อกับพ่อกับพี่เพียง!”
การิมเตือนขึ้น “ทั้ง 2 คนตัดสินใจแบบผู้ชายที่ไม่อาลัยกับสิ่งที่เสียไปแล้ว”
“แล้วก็เลยเสียต่อไปเรื่อยๆ” ข้าวพองหันมาหาการิม ทั้งมีท่าทีว่าจะอาละวาดต่อไปอีก ทำให้เกียต้องตัดบท
“เราไปสถานทูตกันเถอะครับ ข้าวพองเหนื่อยมากแล้ว”

เมื่ออยู่ในรถ ข้าวพองแสดงอาการดื้อเต็มที่ด้วยการนั่งหลับตามาตลอดทาง

จนกระทั่งถึงสถานทูตถึงได้รู้ว่า ทุกคนยังคงอยู่รวมถึงการิมกับเพื่อนๆ ของเขา
ผู้ที่รออยู่นอกจากเอกอัคราชทูตแล้ว ยังมีเจ้าของเพชรที่เป็นชายวัยกลางคน
“ขอพองอยู่กับคุณเขาส่วนตัวได้ไหมครับ”
ท่านทูตชี้ไปที่ห้องด้านใน ข้าวพองหันมาหาเกีย รับกล่องจากเกียที่เป็นกล่องลวง แล้วหันมาบอกกับท่านทูต

“ถ้าอยากลงโทษอะไรพ่อกับพี่เพียง ก็ตามสบายนะครับ 2 คนนี้หลงผู้หญิงจนไม่มีสมอง”

ห้องเล็กด้านหลังห้องรับแขก เป็นกาแฟขนาดเล็ก ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด
“ความรักเป็นจุดอ่อนของผู้ชายทั้งโลก” เจ้าของเพชรพูดขึ้นเมื่อปิดประตูห้อง “เพชรนี้เป็นมรดกของครอบครัว ผมไม่ได้อยากขายเพชรนี้ แต่ภริยาของผมขายให้คุณพวงเพชรในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงหลายเท่า ผมพยายามขอซื้อคืน แต่ก็ติดขัดที่ภริยาของผมที่เธอไม่ชอบมันเอาเสียเลย มีคำพูดว่า เพชรคือเพื่อนแท้ของผู้หญิง แต่ภริยาของผมกลับไม่ชอบเพชรเม็ดนี้”
“แต่คุณต้องการมันคืนไป”
“ใช่” เจ้าของเพชรอธิบายต่อ “แต่นอกจากจะต้องขัดใจกับภริยาของผมแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่พวกมาเฟียอยากได้มันเหมือนกัน”
ข้าวพองเข้าใจดี เมื่อพูดถึงเรื่องของมาเฟีย ก็ไม่มีใครอยากยุ่งด้วย
“ขอโทษแทนแม่ด้วยนะครับ ที่เอาของๆ ท่านมา”
“แม่ของเธอชดใช้มันแล้ว”
“ด้วยชีวิตของเขา พี่สาวผม และครอบครัวผม”
ข้าวพองวางกล่องลวงที่เกียส่งให้ไว้ลงบนโต๊ะ แล้วหยิบกล่องอีกใบที่ซุกไว้ใต้เสื้อของตัวเองออกมา
ชายเจ้าของเพชรยิ้มพลางพยักหน้า 
ข้าวพองก้มลงพูดใกล้กับกล่องใบเล็ก 
“แม่ครับ ข้าวพองมีความรัก ข้าวพองขอเพชรไปให้คนที่ข้าวพองรักนะครับ”
มีเสียงดังคลิ๊กเบาๆ จากนั้นฝากล่องก็เปิดออก
ด้านในคือเพชรสีฟ้าเม็ดใหญ่ เจ้าของเพชรยิ้มกว้างหยิบออกมาใส่กล่องที่เตรียมไว้

เจ้าของเพชรถามความหมายของประโยคที่ข้าวพองพูด
“เธอมีคนรักแล้วหรือ”
“ไม่หรอกครับ หรือต่อให้มีผมก็ไม่รู้ เพราะผมเคยรู้อะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับตัวเอง” ข้าวพองพูดความจริง
“กลัวหรือ”
“ผมไม่คิดว่าเป็นเพราะกลัว อาจเพราะผมไม่เคยใส่ใจกับอะไรเลย ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป” 
“เช่นนั้นก็ต้องสนุกกับการค้นหา” ชายเจ้าของเพชรพูดยิ้มๆ “อย่าปล่อยให้สิ่งดีๆ ผ่านไป มีคำพูดของนักคิดว่าไว้ โลกทั้งใบเป็นของเรา แค่เดินออกไปจากกล่องเท่านั้นเอง”
ข้าวพองยิ้มกว้าง
“ขอบคุณมากครับ”
ก่อนที่จะก้าวออกจากห้อง หนุ่มตัวเล็กที่เพิ่งจะเป็นอิสระจากเพชรเม็ดนี้ก็พูดขึ้น
“ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ถึงทำเรื่องให้มันซับซ้อน”
เจ้าของเพชรหันมาฟัง

“ตอนที่พี่ชาย พี่สาวผมไปอังกฤษ ผมยังขึ้นเครื่องบินไปส่งพวกเขาได้ แต่เมื่อเขาได้เพชรเม็ดนี้มา วันหนึ่งเขาก็เรียกคนมาตั้งระบบนิรภัยที่มันซับซ้อน แล้วก็บอกกับทุกคนว่าห้ามผมขึ้นเครื่องบิน จ้างครูพี่เลี้ยง เวลาที่ผมถาม แม่บอกว่า ทั้งหมดก็เพราะแม่รักผม”
“เขาทำให้ทุกคนเข้าใจผิด ว่าเพชรอยู่กับเธอ”
“แม่ผมรู้จักคนที่ต้องการเพชร” ข้าวพองทำตาโต “เขาต้องรู้จักมิสซิสจาง”

…เมื่อต้องเผิญหน้ากับคนลึกลับที่ชอบเล่นเกม แม่ก็ต้องทำให้เรื่องมันซับซ้อน และสร้างความสับสนเช่นกัน...

“ทุกคนบอกว่าเธอเป็นคนลึกลับ ที่ให้พี่ชายเป็นคนออกหน้าทุกเรื่อง” เจ้าของเพชรหายใจเข้าลึกๆ “ถึงฉันจะดีใจที่จะไม่ต้องเผชิญหน้ากับเธอโดยตรง เพราะเธอตายไปแล้ว แต่ก็ยังไว้ใจพี่ชายไม่ได้ เธอเองก็เหมือนกัน”
“พี่ชายผมพูดอยู่เสมอว่า ไม่อยากมีเรื่องกับมาเฟีย เพราะคนพวกนี้จะไม่ยอมจบเรื่องง่ายๆ จนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการนั่นเอง” ข้าวพองบอกกับเจ้าของเพชรอย่างจริงใจ “คุณต้องระวังตัวให้มากนะครับ”
“เธอเองก็เช่นกัน”

เมื่อออกมาจากห้อง ท่าทีของทุกคนแสดงให้เห็นว่า มีหลายเรื่องที่ตกลงกันเสร็จสิ้นแล้ว และข้าวพองมีหน้าที่เพียงแค่รับฟัง
อัคราและมโหธรจะไปลอนดอนพร้อมกับร่างของแมรี่ เพื่อแสดงความเสียใจต่อครอบครัว ส่วนข้าวพองขออยู่กรุงเทพฯ จนกว่าจะสอบเสร็จ
“เกียก็ต้องไปส่งแมรี่เหมือนกันใช่ไหม” ข้าวพองหันมาถาม

สีหน้าของเกียดูลำบากใจ เป็นท่าทีที่แทบไม่เคยเห็น
“แล้วพี่จะรีบกลับมา”
“ไม่เป็นไร” ข้าวพองยักไหล่ “ที่นี่เหลือแต่ของที่ไม่มีใครอยากได้”
หนุ่มตัวเล็กหันไปไหว้ลาเอกอัคราชทูต เจ้าของเพชร ขอบคุณการิมและกลุ่มของเขา สุดท้ายคือแอนดรูว์ แล้วก็เดินนำออกมาโดยที่ไม่ได้สนใจว่าจะมีใครตามมาด้วยหรือไม่
เป็นความไร้มารยาทที่ทำให้ต้องโดนอัคราบ่นอย่างแน่นอน แต่ข้าวพองไม่ได้สนใจ
ไม่เคยสนใจ
และยังคงไม่สนใจต่อไป
ในหูมันไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย 2 มือก็ไม่มีแรง ในความรู้สึกเหมือนกำลังจมลงในพื้นที่ยืนอยู่
“เหนื่อย....”
ข้าวพองพูดขึ้น ขณะที่กำลังจะก้าวออกมาจากห้องทำงานของท่านทูต

เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ข้าวพองอยู่ในโรงพยาบาล คนที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับเป็นป๋อมที่นั่งอยู่ในรถเข็น กับขวดน้ำเกลือ
“ทำไมเป็นมึง” ข้าวพองทักคำแรก จนเพื่อนขำ
“โห คำแรกของมึง ช่างสมกับเป็นข้าวพองจริงๆ”
ข้าวพองยิ้มเหนื่อยๆ “กูตื่นแล้ว มึงไปนอนเหอะ”
“รู้ได้ไงว่ากูยังไม่ได้นอน กูนอนมาหลายวัน จนย้ายโรงพยาบาลมาอยู่กับมึงนี่แหละ”
ข้าวพองกลอกตามองเพดาน “กูหลับไปกี่วัน”
“2”  ป๋อมบอก “เขาให้ยามึงต่อเนื่อง”
“กูก็ว่างั้น” ข้าวพองถาม “แล้วทำไมมึงหายไวนัก วันก่อนมึงยังโคม่าอยู่เลย”
“วันที่แมรี่ตาย เขากำลังเตรียมย้ายกูมากรุงเทพฯ อยู่แล้ว ระหว่างที่ทางนี้มีเรื่อง เกียพามึงมาโรงพยาบาลนี้ วันถัดมากูก็เลยถูกพามาที่นี่เหมือนกัน”
“มาทั้งที่มึงหลับๆ ตื่นๆ น่ะนะ”
“เออ แต่พอมาถึงที่นี่ หมอเขาลดยา กูลุกได้ ก็ไม่นอนต่อแล้ว” ป๋อมบอกพลางยักคิ้ว “กูมันพวกโรงพยาบาลรัฐ ห้ามอิดออด”
“แต่ที่นี่คือโรงพยาบาลเอกชน มึงสำออยได้ก็สำออยไปเหอะ”
“แต่มันแพงโคตรๆ” ป๋อมทำป้องปากนินทา
อันที่จริง ครอบครัวป๋อมมีฐานะดี แต่เพราะนิสัยพื้นฐาน ทำให้ไม่ชอบการเป็นผู้ป่วย
ข้าวพองฟังเพื่อนเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ในใจกลับรู้สึกว่างเปล่า รูสึกตัวก็เมื่อป๋อมช่วยเช็ดน้ำตาจากดวงตาช้ำๆ
“เรื่องร้ายๆ มันผ่านไปแล้ว”
“ไม่น่าเชื่อว่า คนไม่เอาไหนอย่างกู คือคนที่ยังอยู่”
ป๋อมส่ายหน้า “ไม่ว่ามึงจะเรียกตัวเองว่าอย่างไร แต่เมื่อมึงยังอยู่ มึงก็ทำวันพรุ่งนี้ให้ดีที่สุด” หนุ่มร่าเริงพูดทั้งที่ตัวเองก็สูญเสีย
“ป๋อม กูเสียใจ ที่ทำให้แป๋มต้องตาย”
“กูก็เสียใจที่ไม่ดูแลเขาให้ดีกว่านี้” ป๋อมพูดขึ้น ที่คิดว่าน้ำตามันหมดไปแล้ว มันก็มาได้ใหม่ “อยู่ด้วยกันทุกวันตั้งแต่เกิด ฉลองวันเกิดพร้อมกัน อ่านหนังสือพร้อมกัน นั่งเรียนอยู่ข้างกัน ต่อให้เวลาที่โกรธกัน เคยคิดว่าอยากหนีให้ห่าง แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เวลาที่อยู่คนเดียว มันจะเหงาได้ขนาดนี้” 
ป๋อมเช็ดน้ำตา “มึงต้องไม่โทษตัวเอง ในเมื่อเราเป็นคนที่ยังอยู่ ก็ต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด”
“มึงจะทำอะไร”
“กูต้องทำให้ความฝันของกูกับแป๋มเป็นจริงให้ได้”
ข้าวพองเชื่อว่าป๋อมทำได้
แต่เพราะไม่ได้พูดอะไร นอกจากนอนฟังอีกฝ่ายพูดและคิดอยู่ในใจ ทำให้ป๋อมขยี้ผมคนที่นอนอยู่
“เดี๋ยวเขาก็กลับมา”
“ไม่หรอก” ข้าวพอง
ป๋อมบอกครั้ง “เบซซี่บอกว่า เขาสั่งไว้ว่าเขาจะกลับมา มึงต้องเชื่อเขาสิ”
“เบซซี่มาหรือ”
“โรงเรียนเลิกก็มา อย่างที่บอก ตอนที่เขาพามึงมาโรงพยาบาลนี้ กูยังอยู่ที่โน่น แต่เบซซี่เจอ ก็เลยบอกกูไว้ให้บอกมึงอีกที” ป๋อมมองเพื่อนที่เริ่มร้องไห้อีกรอบ “มึงฟังกูทันไหม”
“ทัน แต่เขาไม่มาหรอก กูไม่มีเพชรแล้ว เขากลับบ้านไปแล้ว ทำไมจะต้องกลับมาอีก”
ข้าวพองหลับตาแล้วพลิกตัวหันหลังให้ป๋อม จนกระทั่งพยาบาลเข้ามาเรียกให้กลับไปที่ห้องพักของตัวเอง

(มีต่อครับ)
หัวข้อ: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-07-2014 09:58:38
(ต่อครับ)

เมื่ออัคราและมโหธรกลับมาจากอังกฤษ ข้าวพองกับป๋อมถึงได้ออกจากโรงพยาบาล
เย็นวันถัดมาที่โต๊ะอาหารค่ำที่มีทั้งอัครา และมโหธรร่วมโต๊ะอยู่ด้วยกัน อัคราก็ถามข้าวพองอย่างตรงไปตรงมาว่าคิดกับเกียแบบไหน
“ไม่รู้” ข้าวพองตอบแบบไม่ค่อยสนใจ
“งั้นฉันก็จะบอกกับเขาไปว่าไม่ต้องกลับมาแล้ว” อัคราทำท่าเลียนแบบลูกชาย
ข้าวพองทำตาขวางมองหน้าพ่อ แล้วหันมาหาพี่ชายที่ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้เหมือนกัน
“อย่ามามีความลับ” คนเล็กสุดในบ้านเริ่มโวยวาย จนอุบลต้องรีบเข้ามาแตะแขน พลางส่ายหน้า
“ถ้าเกียจะกลับมา ทำไมถึงไม่ให้เขากลับมา”

....อ้อ..ที่เขาไม่มา ไม่ใช่เพราะไม่อยากมา แต่เพราะพ่อกับพี่เพียงหรือเนี่ย!...

“ฉันก็กำลังถามแกอยู่นี่ไง ว่าแกคิดอย่างไร”
“ก็ไม่รู้”
จริงๆ ไม่รู้จริงๆ แล้วจำเป็นจะต้องรู้ในตอนนี้หรือไง..

“เออ ในเมื่อแกไม่รู้ งั้นก็แล้วไป”
“พ่ออะ” ข้าวพองอยากโวยวาย แต่รู้ว่าสถานการณ์นี้ พ่อกำลังเป็นต่อ
...แล้วมันสำคัญตรงไหนว่าเราคิดกับเกียอย่างไร ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไปสิ...
“พ่อไม่อยากให้เกียกลับมาหรือ”
อัคราวางท่า “ฉันไม่มีอำนาจเรื่องนั้น”
“อะไรของพ่อวะเนี่ย” อุบลตีแขนข้าวพองเบาๆ เมื่อคนเล็กของบ้านเริ่มพูดไม่เพราะ
มโหธรยิ้มขำ “เกียน่ะเสร็จจากงานของแมรี่ เขาก็อยากกลับมาพร้อมกับเรา แต่มันติดอยู่เรื่องหนึ่งที่พ่อกับฉันคิดว่า เราควรจะคุยกับแกก่อน”

ข้าวพองวางช้อน มองพ่อกับพี่ชาย
“เรื่องอะไร”
“เขาบอกกับฉันว่า เขารักแก” พ่อขยับตัว “คือเดิมเนี่ย เราคุยกันว่า แกสอบเสร็จก็จะพาแกไปลอนดอนพร้อมกับเพชร แต่พอเกิดเรื่องขึ้นแล้วแกไม่สบาย ก็เลยไม่ได้ไปด้วย เขาก็ถามว่า ยังต้องการให้แกไปเรียนต่อที่อังกฤษอยู่หรือไม่ ถ้าเรายังตั้งใจไว้เหมือนเดิมเขาก็จะขอแต่งงานกับแก เพื่อที่จะดูแลแกเองที่โน่น”
ข้าวพองตาโต
...ไม่อยากเชื่อเลยว่าเกียจะกล้าพูดกับพ่อแบบนี้...
“แต่ฉันบอกว่า ต้องคุยกับแกก่อน”
“คุยว่าพองคิดกับเขายังไงน่ะหรือ”
ทั้ง 2 คนพยักหน้า ข้าวพองก็ตอบเหมือนเดิม
“ไม่รู้หรอก”
...ที่จริงก็รู้สึกดี ที่เกียพูดกับพ่อ แต่ถ้าถามว่าใจคิดอะไร คำตอบก็เป็นแบบนี้แหละ...
“งั้นรอให้แกรู้ตัวเองก่อนดีไหม” มโหธรเสนอ
“ไม่”
“แล้วจะให้เขากลับมาทำไม เพราะสุดท้ายเขาก็ต้องผิดหวังกลับไป เพราะแกยังไม่รู้อะไรเลย”
“เดี๋ยวก็รู้” ข้าวพองตอบไปมั่วๆ
อุบลต้องช่วยคนเล็กของบ้าน ที่กำลังโดนพ่อกับพี่ชายรุมแกล้ง “คุณข้าวพองคิดว่าครูเกีย เป็นคนสำคัญไหมคะ”
“สำคัญสิ” ข้าวพองตอบ
“สำคัญกว่าคุณพ่อกับคุณเพียงหรือเปล่าคะ”
ข้าวพองมองพ่อกับพี่ชายก่อนตอบ “ไม่หรอก”
อัครายิ้มกว้าง ขณะที่ข้าวพองพูดต่อ “ทุกคนเป็นคนสำคัญทั้งนั้นแหละ อุบลก็ด้วย ธีระ ยอด กับยิ่งก็ด้วย”

ข้าวพองมองพ่อกับพี่ชาย
ที่เกียยังกลับมาไม่ได้ เพราะขออนุญาตแต่งงาน แล้วคิดว่าพ่อจะยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างชายกับชายได้ง่ายๆ หรือไง  แต่ก็ยังถือว่าพ่อใจกว้างพอที่จะกลับมาถามคนนี้
เข้าใจความรู้สึกของพ่อ ว่ามันยากที่จะยอมรับ แต่ก็ไม่อยากขัดใจ...

“พองรู้ว่าเกียคิดกับพองยังไง เพราะเขาบอกเสมอ” ไม่รู้อีกเหมือนกัน ว่าทำไมพอพูดถึงแล้วขอบตามันร้อนขึ้นมาเอง “เขาทำให้เห็น ว่าเขาเป็นทุกอย่าง เป็นพ่อ เป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นครู เป็นบอดี้การ์ด ถึงจะเจอกันไม่กี่เดือน แต่พองก็ยังอยากให้มีเขาอยู่ด้วยกัน พองยังไม่เต็ม 18 เลยนะ รักไม่รักไม่รู้หรอก เอาความต้องการทางร่างกายมาวัดก็ไม่ได้ พองรู้แต่ว่าพองอยากให้เขากลับมา”

มโหธรเข้าใจ “มันยากที่จะยอมรับว่า ฉันจะมีน้องเขยแทนที่จะมีน้องสะใภ้”
“ตกลงให้เขาพาพ่อแม่มาขอพองแล้วหรือไง ไปเรียกเขาแบบนั้นน่ะ” ข้าวพองสวนพี่ชาย
“ยังไม่ถึงขั้นนั้นก็ได้” พี่ชายยอมแพ้ “หลังจากที่มีเรื่องขึ้น แกรู้ใจเขา แต่ยังไม่รู้ใจตัวเองแบบนี้ จะให้เขากลับมาในฐานะอะไร เป็นครูพิเศษเหมือนเดิมหรือ ถ้าวันหนึ่งแกพบคนที่ใช่ เขาก็ผิดหวังกลับไป แต่ถ้าวันหนึ่งแกรู้ใจว่าแกชอบเขา แล้วมันจะเป็นอย่างไรต่อไป แกจะมีแฟนเป็นคนที่พี่ชายแกจ่ายเงินเดือนให้มาสอนการบ้านแกหรือ”

ข้าวพองขยับจะเถียงข้างๆ คูๆ ว่า อีกไม่กี่วันก็จะสอบเสร็จ เขาจะทำหน้าที่เป็นครูพี่เลี้ยงอีกแค่ไม่กี่วัน แล้วก็จะได้ไปอังกฤษ รอให้อายุครบ 18 แล้วแต่งงาน แต่กลับนึกขึ้นมาได้ว่า เราเองคือคนที่ยังไม่ชัดเจน
....ทำไมใจเราถึงได้โน้มเอียงไปทางอยากไปอยู่อังกฤษ กับเขานักนะ

“เขาเป็นลูกผู้ชายและมีความเป็นผู้นำเต็มตัว ถึงเขาจะยอมเดินตามหลังแก เพราะเขารักแก แต่ส่วนลึกในใจ เขาต้องเป็นคนที่เดินนำหน้า หรือไม่ก็อยู่ข้างๆ แก” อัคราบอก
ข้าวพองก้มหน้ามองจานข้าว
อัคราพูดต่อ “แกคิดว่าขอแค่วันนี้ได้อยู่ด้วยกัน แต่สำหรับเขาแล้วมันคือความต้องการอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต และมันคือหน้าที่ของพ่อที่จะต้องคิดว่า ทำอย่างไรไม่ให้แกต้องพบกับความเสียใจในวันข้างหน้า”

“พองอยากคุยกับเกีย”

“ก็ออกไปคุยสิ” อัคราบอก
ข้าวพองเงยหน้ามองพ่อทันที แต่ยังไม่ทันจะถามอัคราก็ชี้ไปที่ข้างนอกบ้าน

หนุ่มอังกฤษ-ไทยคนนั้นยืนอยู่ใต้แสงไฟในสวน
เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ข้าวพองวิ่งเข้าไปหาแล้วกระโดดกอดทั้งตัว
“เกียมาแล้ว”
“ครับ”
คำพูดเหมือนเดิม แขนใหญ่ที่กอดอยู่ก็เหมือนเดิม
มีเรื่องที่อยากถามอยากเล่าให้ฟังมากมาย จนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรก่อน
“สบายดีไหมครับ” เกียเริ่มบทสนทนา ขณะที่อุ้มไปนั่งด้วยกันที่เก้าอี้ยาวในสวน
“ไม่” มันคือความจริง “อยู่โรงพยาบาลมีป๋อม กลับมาบ้านมีพ่อกับพีเพียงมากินข้าวด้วยทุกวัน แต่ก็ยังเหมือนขาดใครไปไม่รู้”
ช่างเป็นประโยคที่แสดงความเป็นข้าวพองจนเกียต้องยิ้มกว้าง
“พองมีคำถาม พ่อกับพี่เพียงให้มาถามเกีย”
“ครับ”
แต่ข้าวพองกลับจ้องมองดวงตาสีฟ้า คำพูดของพ่อกับพี่ชายก้องอยู่ในหู
“ว่าไงครับ”
“เกียขอพ่อ ไม่ใช่ๆ” ข้าวพองเรียงประโยคใหม่ “เกียขออนุญาตพ่อ ว่าจะแต่งงานกับพองหรือ”
“ถ้าข้าวพองจะไปอังกฤษ”
“แต่ถ้าไม่ได้ไปล่ะ” ข้าวพองมองดวงตาของเกีย “พองกำลังคิดถึงที่พ่อพูด พองจะไม่ใช่เด็กม.6 ไปตลอดชีวิต และเกียก็เป็นครู เป็นบอดี้การ์ดให้พองตลอดชีวิตไม่ได้เหมือนกัน แล้วมันก็เรื่องครอบครัว เรื่องผู้นำผู้ตามอะไรไม่รู้เยอะแยะ”
เกียพยักหน้า รอยยิ้มกว้างหายไป หลงเหลือแต่ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ
“พองไม่รู้เหมือนกันว่า พองคิดกับเกีย เหมือนอย่างที่เกียคิดกับพองไหม แต่พอง....ไม่อยากให้เกียไปไหน ไม่อยากให้ดีกับคนอื่นด้วย” ข้าวพองไม่แน่ใจ “คิดแบบนี้เห็นแก่ตัวไหม”
“ไม่หรอกครับ เพราะพี่ก็ ไม่อยากไปไหนไกลจากข้าวพอง และไม่อยากให้ข้าวพองดีกับคนอื่น”
ข้าวพองพยักหน้า “แต่พองไม่ชัดเจน อาจทำให้เกียเสียใจ”

เกียยิ้มมุมปาก
...การกระทำของข้าวพอง ชัดเจนกว่าคำพูด...

“พ่อกับพี่เพียงอยากให้พองตัดสินใจให้ดี” ข้าวพองทำหน้ายุ่งๆ “ทำไมต้องตัดสินใจ แค่ทำในสิ่งที่พองอยากทำไม่ได้หรือไง แต่มันเป็นเรื่องของคน 2 คนนี่นะ จะยึดแต่ความต้องการของพองคนเดียวได้ไง”
เกียพูดตรงเป้าหมาย “หากเราเป็นคนรักกัน มันคงไม่ดีเท่าไหร่ หากพี่ยังรับเงินเดือนจากคุณเพียง”
“นั่นแหละ” ข้าวพองจับข้อมือของเกียไว้ “แต่พองไม่ให้เกียไปไหนแล้วนะ”
“แล้วเราควรทำอย่างไรดี”
...ไม่อยากตัดสินใจ แค่อยากอยู่อย่างนี้ไปด้วยกันตลอดไป แต่เมื่อมองเกีย แล้วหันไปมองในบ้านเห็นพ่อกับพี่เพียงมองมา ข้าวพองก็รู้ว่า จะปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างไหลไปเรื่อยไม่ได้...
“เกียอยากกลับอังกฤษหรือ”

“ถ้าข้าวพองไม่ต้องการพี่แล้ว พี่ก็จะกลับไปเป็นตำรวจลอนดอนเหมือนเดิม”
ข้าวพองลุกขึ้นกอดเกียไว้แน่น
กอดเหมือนกับทุกครั้งที่มีความสับสน ความไม่แน่ใจ และต้องการความอบอุ่น
“พาพองไปด้วย”
“แต่พี่คงไม่มีเวลาดูแลข้าวพองเหมือนที่นี่”
ข้าวพองฉุกใจคิด
....เกียขอเรากับพ่อ หากเราไปอังกฤษ เขาต้องคิดวางแผนไว้แล้ว แต่ทำไมถึงมีข้อแม้ เมื่อเราเริ่มคิดถึงอนาคตที่อังกฤษอย่างจริงจัง
“เกียอยากให้พองไปด้วยไหม”
เกียยอมรับ “อยากให้ไปครับ แต่ข้าวพองต้องเรียนหนังสือ ต้องปรับตัวหลายอย่าง ทั้งไม่มีคนดูแล”

ความกังวลของเกียเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะอยู่ที่นี่ ข้าวพองไม่ต้องทำอะไรเลย มีคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากไปอยู่ด้วยกันตามลำพัง 2 คน และเกียต้องเป็นตำรวจเหมือนก่อนที่ต้องไล่จับคนร้ายไปทั่ว
....เราจะกลายเป็นภาระของเขาแบบเต็มตัว....
ไม่ได้เกี่ยงเรื่องการปรับตัว แต่ถ้าเขาออกไปจับคนร้าย โดยที่ต้องกังวลว่า วันนี้เราจะกลับถึงบ้านไหม กินข้าวหรือยัง ซึ่งเขาต้องคิดแน่ๆ
มันไม่ได้เป็นผลดีกับเกียเลย

เวลาแค่ไม่กี่วันที่เกียไม่อยู่ มันช่างว่างเปล่า และหัวใจมันเจ็บอยู่ลึกๆ คนที่จากไปและยอมรับว่าเขาจะไม่กลับมาเป็นความรู้สึกคิดถึงและโหยหาแบบหนึ่ง
แต่คนที่จากไป รู้ว่าเขาอยู่ไหน แต่ไปหาไม่ได้ มันเป็นความเจ็บจนร้าว
“ทำไง เราถึงจะได้อยู่ด้วยกัน ทำไงดี”
เกียลูบแผ่นหลังบาง หยาดน้ำตาเปียกไหล่
“ข้าวพองต้องเข้มแข็งสิครับ”
“ไม่ ไม่อยากเข้มแข็ง ไม่อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้ ไม่อยากให้เกียไป ไม่อยากอยู่คนเดียวอีกแล้ว ไม่เอาแล้ว เกียอย่าไปนะ....”
“พี่รักข้าวพอง”
“รักก็คิดสิ ว่าทำไงเกียถึงจะอยู่กับพอง ไม่ใช่พูดว่าจะไป”

“ข้าวพองจะกลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย จะกลายเป็นคนทำงาน เป็นผู้ใหญ่ ทุกวันจะพบเจอคนมากมาย พี่จะกลายเป็นคนที่ข้าวพองไม่ต้องการ”
“พองไม่มีวันที่จะไม่ต้องการคนที่อยู่กับพองเสมอ คนที่ปกป้องพองจากคนเลวพวกนั้น ....พองสัญญา เกียก็สัญญาไว้แล้วนี่ ว่าจะอยู่จนกว่าจะถึงวันที่พองไม่ต้องการเกียอีกต่อไป”
ข้าวพองเช็ดน้ำตา “พ่อกับพี่เพียง ขู่เกียใช่ไหม”
ทั้งที่รู้ว่าทั้ง 2 คนไม่มีทางขู่เกียได้ แต่จะต้องมีคนรับผิดชอบหากไม่ได้อยู่กับเกีย!
“เขาไม่ได้ขู่ แค่บอกกับพี่ว่า เราไม่สามารถหยุดเวลาไว้ได้ และพี่คิดเรื่องของเรา 2 คนในแง่มุมที่ง่ายเกินไป”

“เกียรักพองไหม”
“รักครับ รักที่สุดในชีวิต”
“แล้วจะยอมให้พองไปรักคนอื่นไหม”
ข้าวพองขยับตัวมองดวงตาสีฟ้าเต็มไปด้วยความรัก
“จะยอมให้พองอยู่โดยไม่มีเกียไหม”
เกียยังไม่ตอบคำถาม
“ถ้าวันหนึ่งมีคนหลอกพองล่ะ”
“ข้าวพองครับ”
“พองเป็นผู้ใหญ่โดยไม่มีเกียอยู่ด้วยไม่ได้หรอก ถึงพองจะให้คำจำกัดความ ความรู้สึกของพองไม่ได้ แต่พองจะไม่ยอมให้เกียไป จะพาพองไปอังกฤษด้วย หรือ จะอยู่ที่นี่ด้วยกัน มีทางเลือกแค่นี้ ส่วนจะทำอย่างไร เกียต้องคิด”

เกียยิ้มกว้าง จับมือข้าวพองเดินมาหาอัคราและมโหธรในบ้าน
“ว่าไง คุยกันรู้เรื่องไหม” มโหธรถามทั้งที่เดาท่าทางออกว่าน้องชายไม่มีทางห่างจากเกียอย่างแน่นอน

จากที่เคยคุยกันก่อนหน้านี้ ที่อังกฤษ เกียเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะตัดใจจากน้องชาย แม้อัคราจะพยายามโน้มน้าว และพูดให้เห็นถึงปัญหามากมายที่อาจเกิดขึ้น
หากข้าวพองอยู่เมืองไทย...
หากข้างพองเลือกที่จะไปอังกฤษ...
ไม่ว่าเลือกทางไหนก็มีอุปสรรคปัญหาทั้งนั้น

เกียจับมือข้าวพองไว้ ขณะที่พูดในสิ่งที่อยู่ในใจ “ผมรักข้าวพองอยากพาข้าวพองไปอังกฤษด้วยกัน ผมเข้าใจดีว่า หลังจากที่เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมายคุณจะเป็นห่วงข้าวพองมากขึ้น แต่สำหรับผม ผมมั่นใจว่าข้าวพองได้เรียนรู้มากมาย และจะสามารถใช้ชีวิตอยู่กับผมที่อังกฤษได้”
อัคราขยับจะพูดคำว่าไม่ แต่มโหธรคือคนที่ขอให้พ่อฟังเกียให้จบ
“ผมขอเวลา จนถึงวันที่ข้าวพองจบม.6 ขอให้คุณพิจารณาอีกครั้ง ว่าจะให้ข้าวพองไปลอนดอนกับผมหรือไม่”
มโหธรหันมาหาน้องชาย “แกอยากไปเรียนต่อที่อังกฤษ หรือ จะเรียนต่อที่เมืองไทย”
“อังกฤษ” ข้าวพองตอบทันที “พ่อจะอนุญาตหรือไม่ ยังไงพองก็จะไปอยู่กับเกีย”
อัคราเหนื่อยใจ เมื่อรู้ตัวว่าเหลือตัวคนเดียว
“แกจะคิดแค่วันนี้ต้องการอะไรไม่ได้ แกต้องคิดด้วยว่า แกจะไปอยู่อย่างไร แล้วถ้ามันมีอะไรเปลี่ยนแปลงแกจะทำอย่างไร”
“เปลี่ยนแปลงอะไร”
“แกยังไม่ 18 เลยนะ” อัคราเตือน “อนาคตยังอีกไกล คิดอะไรให้มันรอบคอบหน่อย”

ข้าวพองมองหน้าพ่อ “ตกลงพ่อห่วงเรื่องพองจะไปอยู่กับเกีย หรือห่วงเรื่องไปอังกฤษ”
“ห่วงทุกเรื่องน่ะแหละ” อัครายอมรับ “แล้วไม่ใช่ว่าเพิ่งเป็นห่วงด้วย แต่ยิ่งพูดแกก็ยิ่งดื้อรั้น”
ข้าวพองหันไปมองเกีย แล้วหันไปมองพี่ชาย ยังไม่ทันจะพูดเกียก็พูดขึ้น
“หากคุณอัครามีธงอยู่ในใจอยู่แล้ว การที่ผมขอเวลาจนถึงข้าวพองเรียนจบ ม.6 คงไม่มีประโยชน์ เพราะอย่างไร คุณอัคราก็คงไม่ยอมให้ไป”
“แถมจะขอคบกันก็ยังโน่น นี่ นั่นอีกต่างหาก” ข้าวพองเช็ดน้ำตาจากหางตา “ทำไมมันยากนัก”

มโหธรยักไหล่ “ถ้าไม่ถือสาเรื่องศักดิ์ศรีมากนัก ที่บริษัทยังขาดผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศ อาจต้องเดินทางบ่อย ต้องเรียนรู้งานธุรกิจมาก ทั้งยังเป็นคนละเรื่องกับงานตำรวจ” พี่ชายกอดอกถาม “รักน้องชายผมมากพอที่จะเปลี่ยนตัวเองได้ไหม”
อัครามีท่าทีขัดใจที่จู่ๆ มโหธรก็ยื่นตำแหน่งงานให้กับเกีย ทั้งที่บริษัทมีระเบียบการเลื่อนตำแหน่งอย่างชัดเจน
“จู่ๆ เอาคนใหม่เข้าไปเป็นหัวหน้า แล้วคนที่เขาทำงานมานานจะคิดอย่างไร”
“พ่อตั้งธงไว้ล่วงหน้าจริงๆ ว่าไม่อยากให้พองกับเกียอยู่ด้วยกัน” ข้าวพองเริ่มโวยวาย “ก่อนหน้านี้พ่ออยู่ไหน พ่อคือคนที่พาผู้หญิงร้ายๆ เข้ามาในชีวิตของพวกเรานะ พี่เพียงก็เหมือนกัน จะหาเมียทั้งทีก็เป็นคนไม่ดี แล้วเกียล่ะ เกียคือคนที่อยู่กับพอง แล้วก็ช่วยพองนะ!”
เกียไม่รอให้ข้าวพองอาละวาดต่อ
“ผมทำได้”
 เป็นประโยคที่ทั้งอัคราและมโหธรมีท่าทีพอใจ แต่ข้าวพองรู้ทัน
“พ่อต้องหาเรื่องใช้งาน แล้วก็ทำให้เกียต้องลาออกแน่”
อัคราไม่เถียงข้อนั้น
“ว่าไง รักข้าวพอง มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไหม” มโหธรยังคงช่วยน้องชายสุดตัว
“ได้ครับ”

ที่ผ่านมาก็ยอมทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ ได้อยู่ดูแล การเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้อย่างที่มโหธรบอกเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนการเตรียมพร้อมรับมือกับการกดดันอย่างที่อัคราขู่ไว้ ก็ไม่ได้น่ากลัว หากเปรียบเทียบกับงานตำรวจ
กว่าที่การเจรจาจะได้ข้อสรุป เวลาก็ผ่านไปจนดึก

ข้าวพองเดินออกมาส่งเกียที่หน้าบ้าน “ทำไมต้องกลับไปนอนที่คอนโดฯ”
“พี่เอาของไว้ที่นั่น เพราะไม่แน่ใจว่าข้าวพองยังต้องการพี่อยู่หรือเปล่า”
“แล้วพรุ่งนี้ก็กลับมานอนที่บ้านนี้ใช่ไหม”
“ข้าวพองคิดว่ามันเหมาะไหม”

มโหธรที่กำลังจะเดินกลับบ้าน หันมาบอก “คืนคอนโดฯ แล้วย้ายมาบ้านผมดีกว่า ยังไงผมก็อยู่คนเดียว ส่วนบ้านนี้พ่อย้ายกลับมาคุมแบบนี้ จะลำบากใจกันเปล่าๆ”
เพราะนิรมลเป็นส่วนหนึ่งของแผนการร้าย แม้เธอจะสูญหายไป และไม่มีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับขบวนการของมิสซิสจาง แต่มโหธรก็ไปแจ้งความเรื่องลักทรัพย์ไว้ และยื่นฟ้องหย่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
“ทำไมพี่เพียงถึงช่วยเกีย”
“เพราะเขาพูดมากกว่า 1 ครั้งว่าเขายอมได้ทุกอย่างเพื่อแก และเขาทำให้ฉันเห็นว่า เขาทำได้อย่างที่เขาพูด เหลือแต่แกนั่นแหละที่จะทำเพื่อเขาได้ถึงครึ่งที่เขาทำเพื่อแกไหม”

มโหธรเดินออกไปจากบ้าน เหลือเพียงข้าวพองที่ยังยืนอยู่กับเกีย
“ขอบคุณมากที่รักพอง แล้วก็ทำให้ทุกอย่าง ใช่ว่าพองไม่อยากพูดคำที่เกียชอบพูดบ่อยๆ แต่สำหรับพองแล้ว คำนั้นมัน.....”
“พี่เข้าใจ” เกียกอดข้าวพองไว้หลวม “ไม่ต้องพูดก็ได้ พี่รู้ว่าข้าวพองคิดอะไร”
“รู้ได้ไง” ใบหน้ามันร้อนผ่าวขึ้นมาได้เอง “พองยังไม่รู้เลย”
“เดี๋ยวก็รู้” เกียบอก ก้มลงหอมผมนิ่ม “เรายังมีเวลา”
“นะ พรุ่งนี้ ทุกวันจากนี้ไป จะเป็นเวลาของเราใช่ไหม”
“ครับ”
“อยู่ด้วยกันนะ”
“ครับ อยู่ด้วยกัน พี่รักข้าวพองครับ”
“ฮื่อ...” ข้าวพองกระชับแขนแน่นขึ้น “พูดคำนี้ทุกวันเลยนะ”
“ครับ พี่รักข้าวพอง”

....จบ....

จบแล้วครับ ขอบคุณทุกการติดตาม ทุกคำแนะนำ ทุกความเห็น และทุกการสนับสนุนในทุกทางที่เราได้พบ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่อ่านความเห็นของคุณ โดยเฉพาะการที่ได้รู้ว่าคุณ "อิน" กับเรื่องนี้มากขนาดไหน
ก่อนนี้มีหลายเรื่องที่อยากเล่า แต่พอมาถึงบรรทัดนี้ คิดออกคำเดียวว่า "ขอบคุณมากครับ"

.jivetea.

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 01-07-2014 11:07:06
จบแล้ว รู้สึกมีความสุข แม้นว่าอุปสรรคปัญหาต่างๆนาๆ ' ดูเยอะ'
ตัวละครยังต้องดำเนินต่อไป คนอ่านได้รู้คำเฉลยของปม ตามชื่อเรื่องแล้ว
ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 01-07-2014 11:15:24
เอาจริงนะ ครบจริงๆ นะเรื่องนี้ ดราม่า >>>แอคชั่น>>>คอมเมดี้ คนเขียนเก่งมากๆ ค่ะ   :L2: :L2:

ฉากสุดท้ายเริ่มน้ำตาซึมตั้งแต่ประโยคที่บอกว่า "เหนื่อย" แถมตอนตื่นขึ้นมาพร้อมกับการเข้าใจผิดคิดว่าไม่เป็นที่ต้องการ
หน่วงมากกับคำพูด “ที่นี่เหลือแต่ของที่ไม่มีใครอยากได้” น่าสงสารมากกก  :monkeysad:

ส่วนเรื่องปากแข็งนี่>>ไม่รู้ว่ารักหรือไม่รัก ทำไมตอนที่จะเปิดกล่องเพชรถึงได้บอกกับแม่ว่าข้าวพองมีความรัก
ซึนมากกกก เด็กคนนี้ >>> o18 
ส่วนประเด็นคีย์การเปิดกล่องคือไร คนอ่านอย่างเรายังไม่เข้าใจเลยนะ จะเป็นเสียงกระซิบของข้าวพองหรือว่าเป็นความรู้สึกว่ารักของเด็กน้อยคนนี้ #คาใจ

แต่นะ เรื่องเจ้าเล่ห์ ยกให้เค้าจริงๆ พระเอกเรื่องนี้ ไปแอบขอแต่งงาน โดยที่ยังไม่ได้บอกข้าวพองล่วงหน้าแบบนี้ ฮุฮุฮุ

สุดท้ายไม่ใช่ข้าวพองที่ต้องเป็นคนเลือก แต่เกียต้องเป็นฝ่ายเลือกว่าจะอยู่เมืองไทยหรืออังกฤษ....สุดท้ายของความรักที่เกียมีให้ข้าวพองก็เป็นฝ่ายชนะ >>>>>>>>> นี่คือบทสรุปของความรักของ หมาพิการหลงรักเจ้าชายจอมซน ที่น่ารักมาก

ท้ายสุดนี้>>>>>>>>>>>ขอขอบคุณ JiveTea กับการเขียนนิยายสนุกๆ เช่นกันนะคะ
"ก่อนนี้มีหลายเรื่องที่อยากบอกอยากคุย แต่พอมาถึงบรรทัดนี้ พูดออกมาได้คำเดียวว่า "ขอบคุณมากๆค่ะ" ยังคงหลงรัก และติดตามทั้งคู่ ห่าง ๆ แบบนี้เสมอ"

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: / *น้ำตาซึม จบแล้วเหรอ*


หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 01-07-2014 11:19:20
คือทุกอย่างแบบว่าเคลียร์ ใครคือคนร้าย เข้ามาอะไรยังไง แต่ ไม่เข้าใจพ่อ เนี่ยแหละ จนจบก็ยังคงไม่เข้าใจ.....
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 01-07-2014 11:23:30
จบลงแล้ว อย่างสมกับเป็นข้าวพอง
ประทับใจค่ะ ขอบคุณมากเช่นกัน

เรื่องนี้ลึกลับ ซับซ้อน และสูญเสียมากมาย
แต่คนที่ยังอยู่ ก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีสติ สินะ

รอผลงานต่อไปของคุณไจฟ์และน้องทีนะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 01-07-2014 11:30:52
มีเรื่องให้ลุ้นจนถึงบรรทัดสุดท้าย

จนจบข้าวพองกับเกีย ก็ยังไม่หวานหวานเท่าไหร่   จะมีตอนพิเศษหวานๆไหมคะเนี่ย

ขอบคุณนิยายดีๆที่คุณไจฟ์และน้องทีแต่งมาให้พวกเราได้อ่านกัน  มันสนุกมากค่ะ  รอเรื่องต่อไปจ๊ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 01-07-2014 11:38:17
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย ขอตอนพิเศษหวานๆๆๆๆๆๆซักตอนสองตอนนะคะๆๆๆๆๆ

จบแบบไม่หวานเลยอ่าาาาาาาาาาาาา ขัดใจๆๆๆๆๆๆ ไม่มีอิ๊อ๊ะๆ มุ้งมิ้งๆ ซักกะนี๊สสสสสสสสสส  :ling1:  :ling1:  :ling1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-07-2014 11:52:55
ไม่เห็นยาก ข้าวพองก็ไปเรียนต่อที่ลอนดอน จบแล้วก็กลับมาทำงานเมืองไทย
แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนต้องหนีบเกียไปด้วย
แหม่...ถ้าได้คุณการิมมาช่วยแต่แรก คงดีกว่านี้
ขอบคุณสองหนุ่มไจฟ์ทีที่เขียนเรื่องสนุก ๆ ให้ได้ลุ้นกันทุกตอนเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 01-07-2014 12:33:31
ดีใจป๋อมไม่ตาย แอนครูไม่ตาย
เกียน่ารักมาก ๆ จากวันแรกจนวันสุดท้าย แม้ว่าจะชอบพูดอะไรไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ 5555+++
อยากมีตอนพิเศษหวาน ๆ บ้างจัง

สุดท้าย ขอบคุณ คุณไจฟ์ น้องที ที่นำนิยายดี ๆ มาให้อ่านเสมอมา และยังรอผลงานต่อ ๆ อยู่นะคะ :กอด1:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 01-07-2014 12:59:46
ประทับใจและขอบคุณมากจริงๆ
บวกและเป็ดขอบคุณ
(พูดไม่ออกเพราะตื้นตัน)
 :mew6:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-07-2014 13:30:35
จบได้แบบ Jivetea มากๆคือเราต้องมานั่งฝันถึงความหวานของพระเอกนายเอกเอาเอง แต่เกียเนี่ยเจ้าเล่ห์เนอะยังไม่ทันได้คุยตกลงอะไรกับเจ้าของเรื่องเลยแต่มีการแอบคุย วางแผนทุกอย่างกับพ่อพี่แล้ว ส่วนข้าวพองก็ยังเป็นข้าวพองที่ยังปากแข็งตลอด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-07-2014 13:42:36
ฮ้าาาา  อ่านรวด  ถึงตอนที่ ๑๓  แล้วค่ะ   แบบว่าถ้าเป็นเล่มหนังสือนี่จะเป็นอารมณ์ว่า "วางไม่ลง"  ทีเดียวค่า
ขอบคุณค่า  ที่นำเสนอนิยายสุนก ๆ มาให้ได้อ่าน  คาดว่าคืนนี้คงอ่านจบค่ะ

ปล.  ดีจังที่รออ่านทีเดียวไม่งั้นมันค้างงงงงงง  (แอบส่องเม้นชาวบ้านแล้วเกิดอาการกลัวค้าง 555 ) ขอบคุณอีกครั้งค่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-07-2014 13:48:17
ในที่สุดก็จบลงด้วยดี

เรื่องนี้หวานน้อยที่สุดตั้งแต่อ่านมา แต่มีปมที่แยากรู้ในเรื่องมากที่สุดเหมือนกัน

ลุ้นไปด้วยทุกตอน เป็นไปได้ขอพิเศษหวานหน่อยก็ดีนะคะ

ขอบคุณเช่นกันที่นำเรื่องดีๆน่าติดตามแบบนี้มาให้อ่าน

รอติดตามเรื่องต่อไปอยู่นะคะ

 :pig4:

+1 และเป็ด
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 01-07-2014 14:09:46
จบแล้ววว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 01-07-2014 14:19:27
ข้าวพองยังไม่ได้ไปภูเก็ตเลยนะ
คุณไจฟ์พาน้องไปเที่ยวก่อนสิค่ะ

ขอบคุณคุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา และเฝ้ารอเรื่องใหม่อยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 01-07-2014 14:32:58
นิยายแนวสืบสวนกับคนแต่งชื่อไจฟ์ทีไม่เคยผิดหวังจริง ๆ ค่ะ
มีปมให้คิด ให้ลุ้นตามตั้งแต่ต้นจนจบ
เกียก็แบบจริงจังกับข้าวพอง ถึงขนาดที่ไปคุยกะพ่อและพี่ของข้าวพองแล้ว
ส่วนข้าวพอง ยกตำแหน่งหนุ่มซึนและปากแข็งให้เลยนะ  ปากบอกว่าไม่รู้ ๆ
แต่คำพูดและการกระทำเนี่ย บ่งบอกเลยว่ารักเกียไม่น้อย  อยากให้ข้าวพองยอมรับกับตัวเองเร็ว ๆ
และบอกรักเกียบ้าง  แบบอยากให้คนแก่เค้าได้กระชุ่มกระชวยบ้างอ่ะ  อิอิ
แอบรีเควสตอนพิเศษของเกียกับข้าวพองนะคะ  เหนื่อยมาเกือบทั้งเรื่อง  ขอความหวานให้ทั้งคู่บ้าง อะไรบ้าง
สุดท้ายขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ  และจะรอเรื่องใหม่จากไจฟ์ทีค่า    :L2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: smilymoon ที่ 01-07-2014 15:18:03
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ อีกเรื่อง ยังรอเรื่องต่อๆไป ในอนาคต
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 01-07-2014 15:49:10
อยากอ่านตอนพิเศษ.... ข้าวพองตอนโตที่ไม่ดื้อ.... จะมีไหมหนอ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-07-2014 16:43:49
ลุ้นไปตลอดเรื่อง
ถ้าจะลุ้นตอนพิเศษหวานๆจะได้ไหมหนอ

ขอบคุณกับเรื่องสนุกๆอีกเรื่องนึงนะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 01-07-2014 16:52:44
จบแล้ว ในที่สุดเพชรก็คืนมือเจ้าของโดยปลอดภัย

ในที่สุดก็เข้าใจว่า ผู้ร้ายตัวจริงคือความโลภของมนุษย์ โดยตัวจุดชนวนก็เป็นแค่หินก้อนเดียวแท้ ๆ แต่ความโลภก็ทำให้คนตายเป็นเบือ

ข้าวพองกับเกียยังต้องเจอต้องผ่านอะไรอีกมากเลยนะ ตอนสุดท้ายคิดไม่ถึงเลยว่าเกียจะยอมเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น แต่ก็พอเข้าใจเกียนะ หวังว่าเกียคงผ่านไปได้ถ้าต้องรบกับคุณพ่อตาจริง ๆ 555+

เรื่องนี้ไม่เน้นรักแต่ก็สนุกดี ขอบคุณ ไจฟ์ที มากค่ะที่แต่งมาให้อ่าน  :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 01-07-2014 17:01:16
จบแล้ว อยากบอกว่าเรื่องนี้มีแต่ผู้หญิงนะที่ตาย 5555

+1 แทนการขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-07-2014 17:52:12
จบแล้ว~ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้ให้อ่านสนุกมากๆเลย~
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: himecrazy ที่ 01-07-2014 19:28:36
 :pig4: :L2: ขอบคุณที่เขียนงานดีๆมาให้อ่านเสมอๆ ชอบงานที่คุณไจพ์เทีย เขียนทุกงาน ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 01-07-2014 19:55:12
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆ ให้อ่านนะคะ
อ่านรวดเดียว 37 ตอน
แล้วก็มาต่อตอนจบวันนี้
ชองานเขียนของคุณไจทีมาก
พลอตเรื่องไม่ซ้ำใคร

แต่ความที่เป็นเรื่องแนวสืบสวน
เลยชอบอ่านแบบรวดเดียว
เพราะจะได้ไม่ค้างคา
ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ขอบคุณอีกครั้ง

ด้วยจิตคารวะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 01-07-2014 20:19:49
จบแล้วเหรอ...อ่านมาถึงตอนจบข้าวพองซึนได้น่ารักเนอะ...
“พูดคำนี้ทุกวันเลยนะ”  ให้พี่เกียพูดแล้วหนูไม่พูดแต่จะแสดง
เลยใช่มั๊ยจ๊ะ?.....ขอตอนพิเศษได้เปล่า...
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-07-2014 20:41:31
จบแล้ว เย้ๆ
ขอตอนพิเศษด้วยได้มั๊ยยยยยน
อยากรู้ว่าเกียในลุคหนุ่มออฟฟิตจะเป็นยังไง 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 01-07-2014 21:17:53
โค้งสุดท้าย...มีช็อตหวานๆแค่ช่วงโค้งสุดท้ายจริงๆ
อยากขอตอนพิเศษหวานๆบ้างอ่ะ

..
..
ขอบคุณคุณไจฟ์และน้องน้ำชาสำหรับเรื่องราวสนุกๆน๊าา :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 01-07-2014 21:19:05
ชอบตอนน้องกระโดดกอดพี่ ^^
ตั้งแต่นี้พี่คงไม่ไปไหนแล้วเนอะ
แต่คงต้องอดทนกับพ่อและพี่เพียงสักหน่อย
ขอบคุณมากค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 01-07-2014 22:03:01
จบแล้ว ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆสนุกครบรส

รอคอยการกลับมาครั้งหน้า

ปล มีตอนพิเศษให้ได้หวานการไหมน้า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 02-07-2014 04:03:37
จบแล้ว สมกับชื่อเรื่อง เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเรื่องนี้ อย่างเห็นได้ชัดตือ ความโลภของมนุษย์ และเบื้องต้นของการป้องกันตัว สมหวังสักทีนะเด็กน้อย เกียนี่บทจะจู่โจมก็จู่โจมเลยนะ แต่งงานเลยเหรอ อิอิ ไม่หวานไม่เค็มจนเกินไปสำหรับเรื่องนี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ เราจะรอคุณเสมอ ขอบคุณที่มีนิยายดีๆแต่เดาไม่เคยถูกมาให้อ่าน 555
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 02-07-2014 15:19:22
เกียร์ทำให้ข้าวพองได้ทุกอย่างจริงๆ ว่าแต่จะมีตอนพิเศษหวานๆ บ้างไหมเนี่ย  :mew2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 03-07-2014 13:35:11
วันพฤหัสที่ไม่มีเกียกะข้าวพอง เหมือนขาดอะไรไปซักกะอย่าง

คิดถึงอ่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 04-07-2014 05:57:19
กรี๊ดดดดดดดด  เผลอแว๊บเดียวจบซะแล้ว
ขอบคุณคุณไจฟ์และคุณที ที่แต่งนิยายสนุกมาให้อ่านอีกเรื่องค่ะ    :กอด1:
จะรอติดตามผลงานต่อไปนะคะ
 :L2:
ขอบคุณมากๆค่า
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 04-07-2014 07:36:03
แบบว่าจบแล้วววว...อ่านได้เพลินมาก พยายามไม่คิดตามว่าใครคือคนฆ่า เพราะทายไม่ถูกซะที 555555
รออ่านเรื่องต่อไป คึคึ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: TrebleBass ที่ 04-07-2014 18:56:42
จบแล้ว.... อ่านรวดเดียวจบ  สนุกมากคะ มีเรื่องราวเพียบ เพียงเพราะ ... เพชร 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 05-07-2014 20:57:44
อึ้ยยยย น่ารักอะ เกียน่ารัก "ครับ พี่รักข้าวพองครับ". ^^
ข้าวพองก็น่ารัก!!
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 07-07-2014 12:41:31
สนุกดีค่ะ

เรื่องชวนลุ้นมาก ว่าใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับคดีเพชร

การตายที่เสียใจไปด้วย คือแป๋ม สงสารคนอยู่

ข้าวพองทั้งดื้อตาใส ทั้งน่าตีมากๆ ปากร้ายสุดๆถ้าไม่ได้อย่างใจ แต่ก็เอาใจช่วยตลอด เพราะความน่ารักที่ไม่รู้ตัวนี่แหล่ะ

เกีย เป็นผู้ใหญ่มากกกก เป๊ะ เกือบทุกอย่าง ความสามารถรอบตัว เด็กดื้อและขาดความอบอุ่นอย่างข้าวพอง ถ้าไม่เจอแบบเกีย

ก็คงไม่มีใครเอาอยู่แล้ว

ไทนี่ ไม่ชอบตั้งแต่เริ่มอ่านเลย อ่านจนจบยังไม่รู้เลยว่าโดนข่มขืนจริงหรือไม่ แต่มันไม่ใช่ประเด็น เพราะคนอย่างไทนี่ โดนไม่

โดนก็คงไม่มีผลอะไรกับความรู้สึกหรอกของไทนี่หรอก คงแค่พูดเพื่อเรียกร้องความสงสารจากข้างพองมากกว่า

คุณพี่กับคุณพ่อ ไม่น่าเชื่อว่าจะพร้อมใจกันโง่ ให้ผู้หญิงมาหลอกได้ทั้งคู่ จนตอนแรกนึกว่ารู้เห็นเลยนะ
 :pig4: นักเขียน
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: evil_kun ที่ 10-07-2014 06:15:26
เพิ่งเห็นเรื่องนี้ตอนจบไปแล้ว
ชอบนิยายของคุณ jivetea ทุกเรื่องเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ^_^

อ่านเรื่องนี้แล้วเหมือนกำลังดูซีรีส์สืบสวนเรื่องนึงอยู่เลย
พี่เกีย แรกๆให้อารมณ์บาลีมาก แต่หวานกว่าหน่อยนึง 555
ส่วนข้าวพอง น้องช่างเป็นเด็กน่าสงสาร ขาดความอบอุ่นจริงๆ =_=

หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 13-07-2014 10:20:26
อานจบแล้ววว   :mew4:
คือแบบต้องให้เกียไฝว้กับพ่อสักรอบ ฮ่าๆ  :m20:

 :L2: :L2: :bye2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 16-07-2014 02:43:34
โอ้ยยยย อ่านจบแล้วข่าา
ลุ้นยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้นในทุกๆตอน
และที่มากกว่านั้นคือลุ้นให้ลุงเกียทำไรๆน้องมากกว่าจูบซักทีเพราะดูเหมือนน้องก็รอ  :laugh:

การเขียนเรื่องราวและตัวละครให้ลึกลับซับซ้อนยังคงเป็นสไตล์พี่ไจฟ์น้องทีเหมือนเดิม
ทำให้เรื่องราวดูสนุกน่าติดตาม

เว้นการอ่านนิยายมานานมาก จนกระทั่งมาเจอกระทู้เรื่องนี้ ก็เพิ่งรู้ว่าพี่ไจฟ์น้องทียอมลงนิยายแล้วว
ยังคงรอเรื่องต่อไปอยู่นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: meepooh555 ที่ 21-07-2014 07:27:20
จบแล้ว เคลียร์ทุกเรื่อง หลังจากอ่านไปขมวดคิ้วไปอยู่นาน คนร้ายอยู่เหนือความคาดหมายมาก เพราะเป็นคนที่ไม่เคยเข้าฉากเลย คนเขียน เขียนได้ดี น่าติดตาม ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ ให้มีงานเขียนดีๆอย่างนี้ต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know” ตอนที่ 38 (จบ) 1 กค.57
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 30-07-2014 22:16:23
เปิดมาอีกที เด็กดื้ออย่างข้าวพองก็จบซะแล้วค่ะ
ชอบมากๆกับความซับซ้อนชวนปวดหัวของเรื่องนี้ค่ะ ทำเอาต้องคิดทุกประโยคด้วยความระแวง 555
ตอนแรกเกลียดเด็กดื้ออย่างข้าวพองมากๆค่ะ
ตอนหลังกลับกลายเป็นสงสาร
ปนหมั่นไส้กะตอนจบที่ดูเหมือนเกียต้องยอมทุกอย่าง
ตามมาจากเรื่องอื่นอีกที <3
สัญญาว่าเรื่องหน้าจะเม้นถี่ๆนะคะ  :call:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: super hero ที่ 15-08-2014 23:24:49
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านนะ
 :pig4:

อ่านไปรู้สึกตื่นเต้นไปทุกตอน
 o13
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: jeab12 ที่ 18-08-2014 14:45:39
ติดตามอ่าน เรื่องของคุณไจฟ์กับน้องที มาหลายเรื่องแล้วเป็นกำลังใจให้แต่ละเรื่องมีให้คิดตาม เพราะนิยายส่วนมากอ่านแล้วพอจะรู้ว่าใครเป็นตัวร้าย แต่เรื่องของคุณไจฟ์กับน้องที เดาไม่ถูกเลย จะเป็นแฟนนิยายต่อไปเรื่อยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 18-08-2014 20:00:17
เพิ่งมาอ่านรวดเดียวจบ สนุกมากค่ะ เกียเท่ห์เกินไปเอาไปสิบกะโหลก  :m1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 15-11-2014 01:47:58
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณมากๆสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้
เป็นคนชอบเรื่องแนวสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว
ตอนแรกอ่านเรื่องนี้ด้วยความงง
อ่านไปอ่านมา มันมีปมให้อยากรู้อยากอ่านต่อเรื่อยๆ
จากตอนแรกที่ลุ้นเกียข้าวพอง
หลังๆนี่ขออยากรู้ผู้ร่วมขบวนการ แล้วก็เรื่องเพชรมากกว่า
แล้วก็จะรู้สึกเป็นระยะๆว่า เกียช่างน่าสงสารเรื่องความรัก
แต่พออ่านจนจบ ก็ยิ้มได้ค่ะ ให้ความรู้สึกแบบดูหนังจบเรื่องนึงเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 31-03-2015 23:48:49
โห เกีย เป็นคนดีเว่อร์อ่ะ ..... สนุกมากครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 08-04-2015 20:55:08
อ่านเรื่องนี้จบแล้วค่าาา บอกเลยว่าหลังจากอ่านจบแล้วขอพูดก่อนเลยว่า
โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย (ลากแบบยาวๆๆ ๆๆไป)
ขอเริ่มที่ข้าวพองก่อนนะคะ คือ ข้าวพองเป็นคนที่โกรธนางนานๆไม่ลงสักที
นี่สารภาพนะคะว่าโกรธข้าวพองแรงมากในบางบรรทัด พอบรรทัดต่อมา เอ่อะ!
ความโกรธนี่ลดลงจนทะลุศูนย์ไปเลยล่ะค่ะ ที่ไม่พอใจนางก็แค่ที่นางว่าเกียเรื่องลูกฝรั่ง,เมียเช่า
คือโดยส่วนตัวมันสะเทือนใจเกินไปค่ะ แล้วบางทีก็สับสนกับข้าวพองมากกกความรู้สึกนี่วกไปวนมาเลยค่ะ
แบบโอ๊ยฟินๆพองขี้อ้อนแต่แปป เฮ้ย! เปลี่ยนอารมณ์และ ตามนางไม่เคยทันเลยข้าวพอง
ต่อมาที่เกียยยยย (ลากยาววว) นี่ทีมนางมากทีมนางแบบจัดเต็มเลยค่ะ
อ่านแล้วเกียแบบ หูยยยยย กร้ากก นี่จะพูดไม่เป็นภาษาอยู่แล้ว แบบกรี๊ดคนนี้จรุงงง อะไรแบบนี้ค่ะ
สารภาพเลยนะคะอ่านไปนี่เล่นบทเป็นเกียคิดแทนนางตลอด
แต่คิดเฉพาะเวลาที่นางอยู่กับพองนะคะแบบมาคิดเรื่องความรู้สึกของนางอ่ะค่ะ
บอกเลยว่าถ้าเป็นตัวเองไม่มีทางที่จะอดทนกับคนแบบพองได้แน่  ! ข้าน้อยคาราวะท่านเกียสามจอก *คำนับงามอีกสามที
แล้วมาอีกคนก็ชอบป๋อม คือมาแบบนิ่งๆแล้วก็ให้คำปรึกษา แถมเตือนสติพองด้วย ชอบมากกกกกก ดีใจมากที่ป๋อมไม่ตาย
แป๋ม ตอนแรกก็ช็อคเหมือนกันนะคะ , ทำไมแป๋มต้องตายอะไรแบบนี้ไม่คาดคิดด้วยอ่ะ
ไม่คิดว่าฝ่ายดีจะมามีคนตายไงคะ (คิดงี้คงโลกสวยไปหน่อย)
เออแล้วมาตอนแมรี่อีก คือแบบ เห้ยยย ! สารภาพว่าอ่านประโยคนั้นสามรอบ
ที่บอกว่า "ตัดขั้วหัวใจ"  :a5: ประโยคนี้มาแบบไม่มีกรรมด้วย งง มึน
นี่ก็กลัวเป็นคุณเพียงด้วยแต่ประโยคต่อมาก็มีชื่อคุณเพียงปรากฏ แล้วอีคนร้ายก็อยู่ครบ
กลับไปอ่านประโยคเดิมอีกสองรอบ ถึงได้ยอมรับจบเลยยยคนดีๆตายไปอีกคน  :z3:
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสืบสวนที่ไม่เหมาะกับตัวเองมากๆ เพราะรู้ตัวว่าเวลาอ่านนิยาย เป็นคนอ่านที่โง่ๆ อินๆ ไปกับนิยาย
เรียกว่าอ่านแบบไร้สมองก็ได้ค่ะอาศัยแค่อ่านแล้วอินอย่างเดียว พอมาเจอเรื่องนี้
โอยยย กลิ่นความรู้ กลิ่นการสืบสวบ กลิ่นเงื่อนงำ  แทบลมจับค่ะ
รู้สึกว่าต้องไปเริ่มอ่านใหม่นะต้องตามเกมคนเขียนให้ทันนะ (นิสัยชอบเอาชนะ)
แต่ตัวขี้เกียจก็บอกว่า ช่างเหอะอ่านมาถึงนี่ละเดี๋ยวก็รู้เองเหมือนชื่อเรื่องจะสร้างขึ้นมาเพื่อบอกคนอ่านว่า
"มึงไม่ต้องคิดหรอกเดี๋ยวมึงก็จะรู้เอง" สุดท้ายก็เลย อ่านแบบโง่ๆต่อปายยย 55 :z2:
มาถึงตอนสุดท้ายแล้วคือใจหายมากค่ะแบบก็ยังอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ รอโมเม้นหวานๆ
ก็เหมือนจะหวานๆไปเรื่อยๆนะคะ จนมาถึงบรรทัดสุดท้ายอ่ะค่ะ
บอกรักกันแล้วก็จบ จบ   จบบ บบ ! o22 อาการนี้เลยค่ะ แล้วก็นะไม่ใช่สิพองไม่ได้บอก เกียบอกเอง คนเดียว!
ข้าวพองอารมณ์เสมอต้นเสมอปลายจนจบ เฮ้อออ แต่ยังไงก็รักเรื่องนี้นะคะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ปอลอ,นี่เม้นจัดเต็มไปรึเปล่าเอ๊ะ? นิยายจบอารมณ์ไม่จบค่าาา
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 18-04-2015 14:35:15
สนุกอ่ะ ลุ้นทุกบรรทัด ขอบคุณค่ะ  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 23-04-2015 04:52:50
พูดไม่ค่อยเก่ง พอจะพิมพ์ ก็ไม่รู้จะเม้นอะไรดี แต่อยากบอกว่าขอบคุณมากๆที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆให้เราได้อ่าน เพิ่งติดตามได้ไม่นานและกำลังจะติดตามเรื่องต่อๆไป ตั้งแต่อ่านมา 3 เรื่อง ชอบเรื่องนี้ที่สุด รองมาคือเรื่องปริศนาคนตกตึก ท้ายสุดคือเรื่องพี่สาวฝาแฝด ขอบคุณมากๆ ผลงานทุกเรื่องทำให้เราตื่นเต้นนอนไม่หลับ ต้องอ่านให้จบในรวดเดียวทุกเรื่อง ขอบคุณที่ทำให้เราได้เพลิดเพลินตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นกำลังใจให้กับเรื่องต่อๆไปนะ // เอ...Facebook ชื่ออะไรน้าาา -*-?

ขอบคุณมากๆ สนุก ชอบ ทำดีแล้ว ...ไม่รู้จะพูดอะไร  :hao3: :-)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 23-04-2015 05:20:20
อีกนิด บอกเลยว่า เพราะ 3 เรื่องนี้ทำให้เราชอบแนวนี้ขึ้นมาซะงั้น (ปกติชอบแนวดราม่า) โอ้ยยยย ชอบ!!!  :katai1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 25-04-2015 09:36:59
 :L2: สารบัญค่า  :L2:

 ตอนที่ 1  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2664346#msg2664346)
 ตอนที่ 2  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2666077#msg2666077)
 ตอนที่ 3  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2668548#msg2668548)
 ตอนที่ 4  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2670162#msg2670162)
 ตอนที่ 5  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2672095#msg2672095)
 ตอนที่ 6  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2674312#msg2674312)
 ตอนที่ 7  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2675771#msg2675771)
 ตอนที่ 8  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2680539#msg2680539)
 ตอนที่ 9  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2682810#msg2682810)
 ตอนที่ 10  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2685139#msg2685139)
 ตอนที่ 11  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2687991#msg2687991)
 ตอนที่ 12  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2690115#msg2690115)
 ตอนที่ 13  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2692406#msg2692406)
 ตอนที่ 14  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2695102#msg2695102)
 ตอนที่ 15  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2697355#msg2697355)
 ตอนที่ 16  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2699912#msg2699912)
 ตอนที่ 17  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2703658#msg2703658)
 ตอนที่ 18  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2706031#msg2706031)
 ตอนที่ 19  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2708508#msg2708508)
 ตอนที่ 20  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2711883#msg2711883)
 ตอนที่ 21  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2713782#msg2713782)
 ตอนที่ 22  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2718430#msg2718430)
 ตอนที่ 23  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2720311#msg2720311)
 ตอนที่ 24  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2721760#msg2721760)
 ตอนที่ 25  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2724286#msg2724286)
 ตอนที่ 26  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2726009#msg2726009)
 ตอนที่ 27  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2727275#msg2727275)
 ตอนที่ 28  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2729735#msg2729735)
 ตอนที่ 29  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2731322#msg2731322)
 ตอนที่ 30  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2732989#msg2732989)
 ตอนที่ 31  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2735642#msg2735642)
 ตอนที่ 32  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2737583#msg2737583)
 ตอนที่ 33  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2739323#msg2739323)
 ตอนที่ 34  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2741829#msg2741829)
 ตอนที่ 35  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2743654#msg2743654)
 ตอนที่ 36  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2745546#msg2745546)
 ตอนที่ 37  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2748370#msg2748370)
 ตอนที่ 38  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2750354#msg2750354)
 ตอนพิเศษ 1  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2677819#msg2677819)
 ตอนพิเศษ 2  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41577.msg2715700#msg2715700)

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 25-04-2015 15:42:44
55555 พลาดอ่านไป แต่ก็อ่านทีเดียวรวดจนจบ
แล้วก็เหมือนเคย ไม่เคยเลยที่จะเดาคนร้ายตัวจริงออกซักกะเรื่อง 555
ขอบคุณคุณไจฟ์และน้องน้ำชานะคะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 16-05-2015 14:36:43
มีปมอีกแล้ว อ่านรื่องคุณไจฟ์คุณทีไม่เบื่อเลย สนุกทุกเรื่อง
เรื่องนี้ตอนแรกคิดว่าเพชรอยู่ในตัวข้าวพองซะอีก คนที่ต้อง
ต้องการเพชรเยอะมากสงสารข้าวพองที่ต้องเจอเรื่องร้ายๆ
มันจบเร็วไปหน่อย พระเอกเรื่องนี้ตอนแรกคิดว่าหลอกข้าวพอง
ซะอีก อ่านจนจบรวดเดียวเลย เกียน่ารักดูแลข้าวพองมาตลอด
งื้อคิดว่าจะมีอุปสรรคตอนท้ายซะอีก ดีนะพี่เพียงยอมรับเอาใจช่วยเกีย ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 17-05-2015 16:18:49
จบไปอีกหนึ่งเรื่อง
อันนี้ต้องสารภาพเลยว่าเดาคนร้ายผิดอะ  :เฮ้อ:
เพราะเราไม่คิดว่าผู้หญิงที่ไม่มีบทบาทอะไรซักกะติ๊ดจะมาสำแดงฤทธิ์เดชในพาร์ท้ายๆ
55555 น้องไจฟ์กะน้องทีเก่งมากๆเลยค่ะ ขนาดพี่เป็นแฟน NCIS. กะ CSI. แถมด้วย Criminal mind ยังเดาทางไม่ถูกเลย

ข้าน้อยขอยอมแพ้  :hao3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 17-08-2015 20:33:18
รวดเดียวจบเลยคะ สนุกมาก ลุ้นตลอด แบบอ่านแล้วความเป็นไปได้กับคนที่อยู่รอบตัวพองเป็นแน่ๆอ่ะ! แต่เราก็ไม่รู้ว่าใคร มีช่วงหลังนี่แหละ เริ่มชัดขึ้นมาหน่อย ลุ้นมาก เราเครียดตามพองเลยล่ะ  แต่อย่างน้อยก็ลงเอยด้วยดี คือชอบนิยายแนวนี้มากเลยคะตามอ่านเรื่องของคุณ jivetea มาหลายเรื่อง น่าติดตาม มีเรื่องให้คิดตามตลอด  ชอบมากกกกเลยคะ  ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ สนุกๆเรื่องนี้  ^^
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 22-08-2015 05:33:07
คิดตามจนนอนไม่หลับ...เลยอ่านแบบถ่างตาจนจบ

ตอนที่คอมเม้นนี้คือ จะ 6 โมงเช้าแล้ว ไม่ได้ตื่นเช้า...

...แต่ยังไม่ได้นอน... :laugh:

ขอบคุณมากๆครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 22-08-2015 23:21:09
 :mew1: อ่านจบไปอีก 1 เรื่อง ทำไมเราแยกไม่ออกว่าอันไหน ไจฟ์เขียน อันไหนน้ำชาเขียน ในความรู้สึกพี่ มันเชื่อมกันไปหมด หารอยต่อไม่เจอ หรือเราจะอ่านเพลินเกินไป  :mew2:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 23-09-2015 00:18:59
ขอบคุณไจฟ์กับทีมาก ที่บรรจงเขียนเรื่องนี้มาให้อ่าน ช่วงหลังของเรื่องลุ้นตลอดเลย แต่ช็อคสุดเห็นจะเป็นตอนที่แป๋มถูกฆ่าตาย สะเทือนใจมากกับเด็กผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่งต้องมาตกเป็นเหยื่อของความโลภของคน เรื่องนี้สะท้อนสภาพสังคมหลายอย่างในโลกปัจจุบัน

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: max_ang ที่ 29-10-2015 21:49:00
เพิ่งรู้ว่า คุณไจฟ์กับน้องทีเปิดเรื่องใหม่

รีบโดดเข้ามาอ่านเลยค้าบบบบ ทำไมเราไม่รู้
หลังๆไม่ค่อยมีเวลา มาเห็นตกใจเลยละ
รีบอ่านคับ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: max_ang ที่ 30-10-2015 21:10:22
อ่านรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ ทำไมสงสารพี่เกียอย่างเน้ พองป่วนจริงๆ
แต่คิดอีกที พี่เกียก็มาช่วยน้องไม่ค่อยทันจริงๆ
แล้วทำไมพี่เกียปล่อยให้พองโดนวางยาอยู่ได้ตั้งนาน โมโหๆๆๆ
แต่คิดอีกที สงสารพี่มากกว่าอยู่ดี  o18

สงสารแป๋ม สงสารแมรี่  :hao5:
อึดอัดกับพองมาก ต้องพยายามบอกตัวเองว่าพองยังเด็ก แต่พองทำเพื่อนดีๆเดือดร้อนมากๆ

เกลียดพ่อ แม่ พี่สาวพองไปเลย ฮือๆๆๆ โจรมันจะไม่พุ่งเข้าหาพองได้ยังไง
ทำไมเห็นแก่ตัวกันขนาดนี้
เป็นเรื่องราวในสไตล์ไจฟ์ทีที่หนักกว่าเรื่องอื่นๆจริงๆ อาจเพราะนอกจากพล็อตหนักแล้ว
คาแรคเตอร์ตัวละครแต่ละตัวก็หนัก น่าเกลียดน่าชัง
นอกจากพี่เกีย ป๋อม แป๋ม ตัวละครที่เหลือน่าโบกปูนหล่อคอนกรีตหมดเลย
พองก็ไม่ได้เป็นเด็กดีน่ารักเหมือนคีย์ คอส วาด วินวินด้วย!!!

อยากได้ตอนพิเศษตอนที่พองยอมรับว่ารักพี่ ไปอยู่กับพี่ที่อังกฤษ ถ้าว่างๆคุณไจฟ์กับน้องทีเขียนให้อ่านหน่อยก็จะปลื้มมากเลยค้าบ  :mew1:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: NUBTANG ที่ 28-04-2016 17:42:52
เรื่องนี้เครียดมากกกกก แต่สนุกครับ ชอบสุดๆไปเลย
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงในเงามืด ที่ 26-05-2016 21:42:01
ข้าวพองคือบุคคลที่เราโคตรไม่ชอบเลย 5555 ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 27-05-2016 22:05:44
คิดถึงพี่ไจฟ์น้องที ขอบคุณสำหรับเกียและข้าวพองนะคะ :)
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-08-2016 11:06:10
 :pig4: :pig4:

 o1 o1
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 26-08-2016 05:38:19
เข้ามาติดตามเก่อบทุกเรื่องเลย แต่ไม่ค่อยได้คอมเม้นท์ เรื่องแรกที่อ่านคือนายรักอ่าน ต่อมาเจเรมี่ ต่อมาพี่ทอม ต่อมาเฮียซาโต้ ต่อมาคุกกี้ ต่อมาเกียข้าวพอง ส่วนเรื่องกลาสลองอ่านดูเหมือนจะม่ามากเลยยังไม่ได้อ่านทั้งหมด มีเรื่องไหนตกหล่นที่ยังไม่ได้อ่านมั่งเนี่ย แนะนำกันหน่อยได้ไหมคะ :hao3:  :hao3:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 15-09-2016 16:21:31
ถึงเกียจะชอบนัวเนีย และถึงเนื้อถึงตัวพองตลอดเวลา แต่มันยังไม่ค่อยหวานยังไม่ไงไม่รู้ :hao3:
ข้าวพองมีความคิดที่ซับซ้อนมั่ก! เราตามไม่ทัน แหะๆ
เกียเท่สุดๆ ชอบอ้ะ
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 09-10-2016 17:28:54
ตอนพิเศษหวานมากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 14-01-2018 23:58:44
ทำไมอ่านไปอ่านมารู้สึกว่าเกียเจ้าเล่ห์หน่อยๆ หว่า เหมือนต้อนให้พองพูดและรู้สึกขึ้นมาเรื่อยๆ  ชอบๆ 
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 15-01-2018 14:30:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: “Someday We'll Know”
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 04-07-2018 06:42:03
 :กอด1: