ตอนที่ 5 : เสื้อผ้าของเจ้าตูบ
“ตื่นได้แล้ว ไม่มีเรียนรึไง จะแปดโมงแล้ว”
“แจ้บ .. อีกนิดนะ …”
มันหันหน้าหนีผมไปอีกทางโชว์แก้มขาวๆที่เลอะน้ำลายหยดลงมาถึงโซฟา … หนังแท้นะไอ้ตูบมานอนน้ำลายยืดไม่ได้ดูราคาของเลย !
“ตื่น !”
“อือออ อย่ากวน …”
มันยกมือปัดๆไล่ผม เคี้ยวฟันแจ้บๆของมันต่อ จะมากไปแล้วไอ้ตูบ …
“ตื่นได้แล้ว ! จะนอนไปถึงไหนหา !”
“เฮ้ยๆ ไรวะ … ลุงงง ตะคอกผมทำไมอ้ะ !”
มันน่าตื่นเช็ดน้ำลายหันซ้ายหันขวา เออสมน้ำหน้าแล้วเอ็ง !
“ไม่มีเรียนรึไง จะแปดโมงแล้ว”
“วันนี้วันอะไรอ่ะลุง”
“พูดกับผู้ใหญ่บอกให้มีหางเสียงไง”
“วันนี้วันอะไรครับ …”
“พุธ”
“เฮ้อ .. ไม่มีเรียนนนนนน แต่ ต้องไปประชุมสาขาตอนสี่โมงง่ะ โคตรขี้เกียจจจจจ”
มันถกเสื้อเกาพุงป้อยๆ … ขาว ชะมัด ..
“งั้นก็ไปอาบน้ำแล้วลงไปกินข้าว จะพาไปข้างนอก”
“ไปไหนอ่ะครับ ?”
“ถามมากจริง ไปก็รู้เอง รีบไปอาบน้ำไป”
“โอเคค้าบบบบบบบ”
ผมมองมันเดินเข้าไปในห้องนอนเรียบร้อยก็ลงมาเตรียมอาหารเช้า ปกติผมกินแค่กาแฟกับขนมปังเป็นมื้อเช้า แต่มีเด็กวัยกำลังกินกำลังนอนมาอยู่ด้วยเลยต้องทำอาหารซะหน่อย ปกติผมชอบทำมื้อเย็นเองติดมาจากตอนเรียนเมืองนอกแล้วอยากกินอาหารไทย … จะให้ใครทำให้ได้นอกจากทำเอง ว่างสุดก็ตอนเย็น ทำอาหารเลยเป็นงานอดิเรกผมอีกอย่าง
มื้อเช้าก็ต้องแกงจืดเต้าหู้ใส่ผักกาดกับหมูสับแล้วก็ไข่เจียวใส่หัวหอม น่ากินใช้ได้
“เสร็จแล้วคร้าบบบ ทำอะไรอ่ะลุงหอมจัง”
“ตักข้าวให้แล้ว มานั่งนี่”
“โอ้โหหหหหหหหหหหหหห มื้อเช้า ! ตั้งแต่มาอยู่หอนะแทบไม่ได้กินมื้อเช้า ตื่นไปเรียนทันก็โคตรเจ๋งละลุง กว่าจะได้กินก็สายๆบ่ายๆ รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน หอมน่ากินโคตร”
บ้าน … มันจ้อต่อผมไม่ได้สนใจ … ‘รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน’ … ให้มันได้อย่างนี้สิ !
“ชอบก็กินเยอะๆเข้าใจมั้ย”
“หมดเกลี้ยงแน่นอน โอ้โห อร่อยอ่ะ ลุงๆ ผมใส่ซอสมะเขือได้ปะ ชอบกินกับไข่เจียวอ่ะครับ”
“เดี๋ยวจัดการให้ เคี้ยวช้าๆหน่อยไม่มีใครแย่งหรอก”
“แอ้วอุงไอ้อินอ๋ออับ” (แล้วลุงไม่กินหรอครับ)
“เวลาเคี้ยวอย่าพูดเดี๋ยวก็ติดคอ ปกติฉันไม่กินข้าวเช้า”
“อึก … นี่ลุงทำให้ผมหรอครับ ?”
“อือ ทำไม ?”
“โอ้โหหหห คนดีมีน้ำใจใฝ่คุณธรรมนำวิชาการมากเลยครับ งั้นผมกินหมดเลยนะ ลุงทำอร่อยอ่ะ แพ้แม่ผมหน่อยนึง แต่ก็ไม่แปลกเพราะแม่ผมเป็นเชฟ แหะๆ”
“หืม งั้นก็ทำกับข้าวเป็นสิ ?”
“โอ้โห อย่าให้บรรยาย ทำเป็นทุกอย่าง ไทย จีน ฝรั่ง เบอเกอร์รี่ก็ทำได้ แม่บังคับให้ไปเป็นลูกมือตั้งแต่เด็กๆ จำวิชามาหมดเลยครับพ้ม
!”
“อย่าลืมที่พูดล่ะ”
“ไม่ลืมมมมม รับรองลุงจะร้อง ว้าววววว”
“ขี้โม้จริงๆ ไปๆกินต่อให้เรียบร้อย”
มันหันไปสนใจข้าวเช้าต่อ ผมก็หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านข่าวปกติ แล้วไลน์ก็ดังเตือนว่ามีข้อความเข้า เป็นของคนที่ผมรอพอดี … ไอ้ปัณณ์
“ลุงพาผมมาหาใครอ่ะครับ”
ผมจอดรถหน้าบ้านไอ้ปัณณ์ เหตุผลที่ผมต้องพามันมาหาปัณณ์ก็เพราะว่าปัณณ์มันทำเว็บไซต์แฟชั่นเกี่ยวกับเสื้อผ้า มีนิตยสารออนไลน์ของตัวเองซึ่งกำลังดังในหมู่วัยรุ่น แล้วไอ้ตูบของผมมันก็วัยรุ่น มันก็ต้องมาหาปัณณ์น่ะถูกแล้ว
“รุ่นน้องที่สนิท เดี๋ยวก็รู้น่า”
ผมลงรถเดินอ้อมไปประคองมันที่กำลังพยายามก้าวขาลงจากรถ แล้วค่อยเดินไปกดกริ่งเรียก แมวตัวฟูฟ่องสีดำเดินมาเกาะประตูบ้านรับแขก ก่อนเจ้าของมันจะเดินมาเปิดในสภาพไม่ได้เหมาะกับวงการแฟชั่นเลยสักนิด หัวทรงสกินเฮดที่เพิ่งจะเริ่มยาว ชี้โด่เด่ เสื้อยืดคอย้วยลายห่านฟ้า กางเกงบอลทีมโปรด เดินเกาพุงเดินมาเปิดประตู
“เข้ามาก่อนเลยพี่ อ้าวนี่มันไอ้น้องซุ้มพยาบาล”
“แหะๆ หวัดดีครับ เบียร์ครับ”
“อ้อ เออพี่ชื่อปัณณ์ แล้วทำไมมาด้วยกันได้ ขาหักอีก ไปซ่ามาอ่ะดิ ฮ่าๆ”
ปัณณ์มันยักคิ้วหลิ่วตาแซว เลยถลึงตาใส่มันไปที ห้ามแสดงออกมากโว้ยเดี๋ยวไก่ เอ้ย หมาตื่น มันก็เลยยิ้มแฉ่งเดินนำเข้าบ้านไป
“นั่งรอเลย ผมเปิดไอแพดเว็บร้านให้แล้ว ชอบตัวไหนก็บอกจะขึ้นไปหยิบให้ สต็อคของอยู่ข้างบน กินข้าวก่อนนะพี่โคตรหิว มาโว้ยไอ้เปาถึงเวลาข้าวเช้าละ”
ทั้งคนทั้งแมวเดินตามกันหายไปในครัว ผมก็หยิบไอแพดไอ้ปัณณ์ส่งให้ไอ้ตูบ มันก็ยังทำหน้างง
“อะไรอ่ะ เสื้อผ้า ? ลุงจะซื้อหรอครับ นี่มันแบรนด์ที่กำลังฮิตเลยนี่หว่า”
“เลือกมาสักสามสี่ชุด จะซื้อให้ ไม่มีเสื้อผ้านี่ ปัณณ์มันเป็นเจ้าของเว็บนี้”
“หา ! … เฮ้ยมันแพงนะลุง ไม่เอา”
“มาถึงบ้านคนขายเสื้อผ้าจะให้ไปซื้อที่อื่นอีกหรือไง ไม่แพงเท่าไหร่หรอก ไอ้ปัณณ์มันลดให้ เลือกๆมาเหอะ หรือต้องให้เลือกให้”
“เลือกได้จริงอ่ะ …”
ทำเสียงอ่อย แต่ตามึงวาววับเลยนะเบียร์ หึหึ ผมเก๊กหน้าขรึมพยักหน้าให้มัน มันก็กลับสภาพเป็นน้องหมาหูตั้งหางกระดิกได้ของเล่นถูกใจทันที
“ลุงงง เสื้อนี่แม่งลิมิเต็ดอิดิชั่น เนี่ยๆ เพื่อนผมบอกว่าต้องเป็นสมาชิกแบบซื้อเกินเจ็ดพันถึงมีสิทธิ์แลกซื้อตัวนี้ ดูดิแม่งสวยว่ะครับ”
มันส่งให้ผมดู มันก็เป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นผู้ชายปกสีน้ำเงินเสื้อสีขาวกระดุมสีดำธรรมดาชิบหาย มันลิมิเต็ดยังไงวะครับไอ้ตูบ
“ลุงอย่าทำหน้างั้นดิ แม่งเท่นะดูแขนเสื้อถ้าพับขึ้นมันเป็นสีน้ำเงินด้วย กระดุมก็ลายเท่ห์ แล้วก็โลโก้แบรนด์ร้านตรงด้านหลังนี่ไงลุงงง ใต้
ปกอ่ะ อาร์ตสุดๆ”
มันทำหน้าปลื้มอกปลื้มใจกับเสื้อลิมิเต็ดอิดิชั่นของมันมาก กับแค่พับแขนแล้วเป็นอีกสีกับมีโลโก้สวยๆเนี่ยนะลิมิเต็ดอิดิชั่น กูจะบ้าตาย
“แต่มันแพงอ่ะลุง สองพันแหน่ะ ดูเสื้อยืดดีกว่า”
สุดท้ายมันก็เลืออกเสื้อยืดลายแฟชั่นผู้ชายกับกางเกงสามส่วนมาอย่างละสามตัว ไอ้ตูบนี่มันชอบสีน้ำเงินจริงๆ กางเกงสามส่วนยังเป็นสีน้ำเงินสดหนึ่งตัว กรมท่าหนึ่งตัว สีฟ้าซีดหนึ่งตัว เสื้อยืดที่มันเลือกก็เป็นสีน้ำเงินเข้มลายขาว เสื้อขาวลายน้ำเงิน แล้วก็เสื้อฟ้าลายชมพู สงสัยจังกางเกงในนี่สีน้ำเงินมั้ย ? ….
“เลือกได้ยังล่ะ”
“คร้าบผม”
“ไว้ไปหยิบให้ เออพี่กรอาทิตย์หน้ามีวิ่งมาราธอนตอนกลางคืน ไปมั้ยพี่ ? วันอังคารอ่ะ มีเข้าเวรหรือเปล่าครับ”
“ไปได้ๆ วันพุธเข้าเวรบ่าย”
“โอเค งั้นผมไลน์ไปบอกทุกคนนะ เผื่อรวมแก๊งได้”
“ได้เลย ฝากด้วยนะปัณณ์ เลขาแก๊งการกุศลจริงๆ”
“เขาเรียกจิตอาสาครับเพ่ ส่งไอแพดมาเลยไอ้น้อง กดเลือกไว้แล้วใช่ปะ ?”
“เดี๋ยวไปช่วยไอ้ปัณณ์ถือแล้วกัน รอนี่ล่ะเรา เล่นกับไอ้เปาไปก่อน”
ผมอุ้มไอ้เปาส่งให้มัน หมากับแมวไม่ถูกกันฉันใด … ไอ้เบียร์ตูบของผมก็กลัวแมวฉันนั้น …
“มะ ม่ายยยย ลุง ไม่เอา ผมไม่ชอบแมว มันเดินใกล้ๆอ่ะได้ แต่อย่าโดนตัวผมเป็นพอ … ”
มันเขยิบตัวหนีเท่าที่สังขารจะพาไป เออแปลกดี ผมเลยวางแมวไว้ใกล้ๆมันแทน มันก็ดูจะโอเคขึ้น ส่วนไอ้เปาก็เชิดหน้าหนีคนไม่ชอบมันไปนอนอีกมุมของโซฟาแทน ลงตัวดีมากคนกับแมวแบ่งสันปันส่วนพื้นที่กันลงตัว
“ฮ่าๆ แมวมันไม่เขมือบหัวหรอกไอ้น้อง ป่ะพี่กร ตามมาเลย รกหน่อยนะข้างบน”
ครั้งที่สองที่ได้ขึ้นมาข้างบนบ้านไอ้ปัณณ์ สมกับที่มันบอกว่าสต็อคของจริงๆ ห้องสามห้องเป็นที่เก็บเสื้อผ้าของร้านมันหมด ส่วนอาบน้ำแต่งตัวก็กันมุมหนึ่งของห้องไว้วางตู้เสื้อผ้าแล้วก็ห้องน้ำห้องนึง อีห้องมันทุบทิ้งไปแล้ว ห้องนอนมันก็อาร์ตเหลือเกิน เป็นชั้นลอยยกขึ้นไปจากชั้นสองหน่อยนึง ห้องนอนขนาดเท่าเตียวหกฟุต จะนอนก็ใช้รีโมทกดเลื่อนม่านลงมากั้นบันไดกับเตียง มันบอกบางคืนมันดิ้นหน่อยตีนโผล่ออกมานอกม่าน เออดีเหลือเกิน
“เสื้อยืดลายนี้ อยู่ชั้นนี้ … อืม … กางเกงแถวนี้ … ”
มันจัดการเดินไปหยิบตามที่มันเก็บนั่นล่ะ เป็นระเบียบเรียบร้อยว่องไว
“เออปัณณ์ไอ้เสื้อเชิ้ตลิมิเต็ดไรนั่น ขอซื้อด้วยได้ปะ”
“หือ ? โปรแลกซื้อเดือนนี้อ่ะหรอพี่ ได้ดิ แต่มันไม่ใช่แนวพี่กรนี่ครับ แหม่ … จะเอาใจใครหรือเปล่าโถ่”
“เอออย่าแซวหามาเหอะน่ะ”
“ฮ่าๆ แล้วจะเอาสีไหนล่ะ รุ่นนี้มันมีสีน้ำเงินกับสีน้ำตาล”
“น้ำเงิน ไอ้เบียร์มันบ้าสีน้ำเงินน่าดู แต่ละตัวมีแต่น้ำเงินกับฟ้า”
“ก็ว่างั้น โอเคจัดให้ แหม่ … นี่มันลิมิเต็ดร้านผมนะเนี่ย … ต้องเลี้ยงข้าวผมด้วยล่ะพี่ หึหึ”
“วันๆไม่ต้องไปไหนเงินก็เข้าเป็นพันเป็นหมื่นยังจะมาเบียดเบียนเงินเดือนหมอต๊อกต๋อย”
“อย่ามาอ้างๆ ฟังไม่ขึ้น ไม่รู้ล่ะผมจะกินพิซซ่า”
“เอออ ไว้คราวหน้าไปกิน วันนี้ต้องพาไอ้เบียร์ไปซื้อของต่อ”
“อย่างกับข้าวใหม่ปลามันพากันซื้อของเข้าบ้าน แหน่ะ … กินเด็กมันผิดกฎหมายนะพี่ วิดวิ้ว”
“หึหึ ใครว่าจะกินตอนนี้ … มันต้องขุนก่อน …”
“โอ้โห แรว๊ง นี่เอาจริง ? ไปติดใจไรมันเข้า โดนมันด่าไปเลยเกิดปิ๊งรักกลางอากาศว่างั้น ?”
“ก็ไม่ขนาดนั้น … มันก็น่ารักดี กวนตีนดี นี่อย่ามาหลอกถามเยอะสิวะ ทีกูยังไม่ถามมึงเรื่องปิ๊งเลย เพื่อนซี้ตลอดชาติกูเลยนะ”
“แหะๆ ไม่แซวแล้วก็ได้ครับ .. เอ้าแถมเสื้อไปสองตัว ไว้เอาไปใส่คู่กับเด็กพี่ ฮ่าๆ”
“เออขอบใจมาก ถ้ามันยอมใส่นะ”
“จะยากอะไร … ลากมันมาอยู่ด้วยได้ยังทำได้ กับไอ้แค่เสื้อคู่ .. อย่าทำเหมือนตัวเองใสๆดิครับพี่กร หลอกลูกแกะตัวอ้วนมาเข้าถ้ำหมาป่า
ได้ขนาดนี้แล้ว เฮ้อ … สงสารเด็กโดนหลอก”
“ไอ้ปัณณ์ กูเป็นคนดีโว้ย !”
ไม่ได้วางแผนจะเขมือบลูกแกะตัวอ้วนที่ไหนเลย ! ก็แค่ลูกหมาตัวผอมๆเท่านั้นเอง
- - - - - ------------------------------------------------------------------------------------------------ - - -
ลุงหมอก็ไม่ค่อยหลงน้องเท่าไหร่เลยเลยนะคะ