* " ".+ * รอจนกว่า...จะรักกัน˚。 *:。".+.. ตอนพิเศษ [P.5*13/7/2557] [จบแล้วค่ะ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: * " ".+ * รอจนกว่า...จะรักกัน˚。 *:。".+.. ตอนพิเศษ [P.5*13/7/2557] [จบแล้วค่ะ]  (อ่าน 54985 ครั้ง)

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
เกลียดไอ้บัส วินก็นะไม่รู้จะยอมมันทำไมนักหนา
เอาคืนมันซะบ้างให้มันเจ็บย่งกว่าที่เราเจ็บ  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :katai3: ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ฉันเริ่มรำคาญอิบัสยังไงไม่รู้
ขอให้วินหนีจากมันไปเลยแบบไม่ต้องบอกลาด้วย
ให้มันผลัดกันดราม่าไปมา

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ยังเรียกน้ำตาได้เหมือนเดิม
รักกันแต่ไม่ได้อยู่ด้วย
กับอยู่ด้วยกันแต่ไม่รัก
อย่างไหนมันเจ็บกว่ากัน

ออฟไลน์ KaeM_PonG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
แถบจะรอให้ถึงอาทิดตย์หน้าไม่ไหวแล้วค่ะ 


 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ Chanta

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เศร้าใจจริงๆ
มาก่อนอาทิตย์หน้าได้ป่าวครับ ใจจะขาด,,,

carenaka

  • บุคคลทั่วไป
 :katai1:หนีไปให้ไกลคนใจร้ายน้องวินนนน

ออฟไลน์ Ploy Poy

  • ' พลอยยยยยยยยยย,,,
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
:hao5: รอออออ มาต่อทุกๆวันเลย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เข้ามารอเรื่องนี้เหมือนเดิม
กว่าจะถึงอาทิตย์หน้า  :sad11:

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Chapter 14


“กูบอกแล้วว่ายังไงมึงก็ทิ้งพี่เขาไม่ได้...ไปเถอะ...ไม่ต้องห่วงกูหรอก...” ผมพูดบอกไอ้บัสพร้อมกับพยายามดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุม

 
“บัสเตอร์”


“...........” มันไม่ตอบผมแถมสิ่งที่บัสเตอร์ทำกลับเป็นการกระชับมือผมให้แน่นขึ้นก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงพาผมไปหาพี่บลูที่กำลังยืนร้องไห้อยู่ริมสะพาน


“เชี่ยบัสมึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงกูบอกให้ปล่อยไงเล่า”

“ฟังรู้เรื่อง แต่วิน...ผมจะไม่ยอมปล่อยมือวินไปอีกแล้ว..ผมขอโทษ...ที่ผ่านมาเป็นผมเองที่ผิด...ใช่..ผมมันทิฐิสูง..เอาแต่ใจ อยากแก้แค้น ดึงคนนั้นคนนู้นเข้ามาเกี่ยว แต่ไม่ว่าตอนจบมันจะเป็นยังไง สุดท้ายผมก็จะไม่มีวันปล่อยมือจากวิน”

“มึง...มันบ้า” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเดินตามแรงจูงของบัสเตอร์ไปโดยที่ไม่ขัดขืนอะไรอีก แต่พอเห็นน้ำตาคนตัวเล็กพร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกผิดก็เริ่มก่อตัวและถาโถมเข้ามาอีกครั้ง


“พี่บลู...” บัสเตอร์เรียกชื่อคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด เจ้าของชื่อเงยหน้ามองเราสองคนก่อนจะก้มลงมองมือที่บัสเตอร์ยังคงจับแน่นไม่ปล่อย น้ำตาร่วงผล็อยลงมาอีกรอบ ทำไมผู้ชายตรงหน้าผมถึงได้น่าสงสารแบบนี้ พี่บลูไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยซ้ำ “ผมขอโทษ ที่ทำแบบนั้น ขอโทษ...ที่ดึงพี่บลูมาเกี่ยวข้องทั้งๆที่พี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ..”


“หยุดเถอะ..ฮึก...พี่ไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้น พี่แค่....ฮึก...อยากรู้พี่ผิดอะไรงั้นเหรอ...พี่มีความผิดอะไรช่วยบอกหน่อยสิ พี่ผิดหรือเปล่าที่รักบัส...ฮือ ฮือ” ผมยืนมองพี่บลูโดยที่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ทั้งๆที่คำถามมันไม่ได้ยากที่จะตอบแต่กลับยากที่จะพูดออกมา

“...ฮึก...พวกนายสองคนเห็นพี่เป็นอะไร...สะพานที่จะทำให้นายสองคนเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้นงั้นเหรอ...ที่ผ่านมาบัสไม่เคยรักพี่เลยงั้นสิ...ไม่รัก.. ฮึก...แล้วมาทำดีกับ....พี่ทำไม...มาทำให้พี่รู้สึกดีด้วยทำไมวะ”

คนตัวเล็กทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแรงก่อนจะชันเข่าทั้งสองข้างขึ้นแล้วก้มหน้าร้องไห้หอบจนตัวโยน บัสเตอร์ขยับตัวลงนั่งข้างๆ มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบหัวพี่บลูเบาๆเป็นเชิงปลอบ ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย

“ฮึก...ฮือ...บัสใจร้ายกับพี่มากเลยรู้ไหม...ทำไมใจร้ายกับพี่แบบนี้...มาหลอกให้รู้สึกดี..แต่สุดท้ายก็จะทิ้งพี่ไปแบบนี้งั้นเหรอ...บัสเตอร์ใจร้าย...”ดวงตาเล็กกลมโตเงยช้อนมองบัสเตอร์ ความรู้สึกที่จับต้องได้ผ่านสายตาคู่นั้นคือคำถามว่าทำไมบัสเตอร์ถึงทำแบบนี้แต่ที่สัมผัสได้มากกว่านั้นคือความเจ็บปวด

“พี่บลู...ผมขอโทษ ..เรื่องนี้มีแค่ผมเท่านั้นที่ผิด เพราะถ้าผม...ถ้าผม...” ไม่เสนอหน้าเข้ามาตอนที่เขากำลังมีความสุข ถ้าผมไม่กลับมาตั้งแต่ตอนนั้น...ไม่มาทำให้บัสเตอร์ไขว้เขวบัสมันก็คงตัดสินใจเลือกพี่บลูไปตั้งแต่แรก

“ถึงวินไม่กลับมา คนที่กลับไปหาก็คงเป็นผมอยู่ดี” เหมือนบัสเตอร์อ่านใจผมออกมันพูดสิ่งที่มันคิดพร้อมกระชับมือตัวเองให้แน่นขึ้นราวกับกลัวว่าผมจะเดินจากมันไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่สิ่งที่มันพูดกลับทำให้พี่บลูสั่นสะท้านไปทั้งตัว มือข้างหนึ่งของพี่บลูเอื้อมมายึดเสื้อบัสเตอร์ไว้แน่น เขาเงยหน้าพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนมาให้บัส จนผมเองต้องเสมองไปทางอื่น

“ฮึก...อย่าทิ้งพี่...” สิ้นเสียงสุดท้ายของพี่บลู สิ่งที่ผมสัมผัสได้กลับเป็นเพียงความว่างเปล่าของฝ่ามือที่เคยอบอุ่น

ฝ่ามือที่คอยกระชับแน่นในตอนแรกตอนนี้ถูกเปลี่ยนไปเป็นอ้อมกอดให้กับคนตัวเล็กแทน ผมได้แต่ยิ้มเศร้าๆส่งไปให้เขาทั้งคู่

ใช่แล้วล่ะ...สิ่งที่บัสเตอร์ทำตอนนี้มันถูกต้องที่สุด



เพราะคนที่สมควรไปสุดท้ายก็คือผมอยู่ดี








ผมปลีกตัวออกมาจากคนทั้งคู่ก่อนจะโทรบอกพวกไอ้ไวท์ให้ออกมาหา ตอนที่เห็นพวกไอ้เกมส์วิ่งมาน้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ อ้อมกอดจากพวกมันช่วยทำให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวของผมถูกเติมเต็มได้ไม่ยาก


พวกมันนั่งอยู่กับผมเงียบๆโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แค่นั่งอยู่ข้างๆ...แต่แค่นั้นสำหรับผมก็ดีมากพอแล้ว






ควันขาวพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้าตัดกับผืนผ้าใบสีดำ มันลอยสูงขึ้นเรื่อยๆจนค่อยๆจางหายไปในความมืด

“มึงจะดร็อปเรียนจริงเหรอวะ” ไอ้เกมส์เอ่ยถามผมอีกครั้งตอนที่พวกเรานั่งรอรถอยู่ที่บขส. ผมกับเพื่อนๆเตรียมตัวจะกลับกรุงเทพก่อน ตอนแรกคิดว่าจะกลับคนเดียวด้วยซ้ำแต่สุดท้ายพอกลับไปเก็บของในห้องคนที่เดินถือกระเป๋ามาด้วยก็มีทั้งไอ้เกมส์ ไอ้ไวท์ และก็ไอ้พอร์ช พอถามมันก็บอกว่ามันบอกพวกพี่ฟิล์มแล้วเรื่องที่พวกผมจะขอกลับก่อน โดยให้เหตุผลว่ามีธุระเร่งด่วนญาติเข้าโรงบาลเลยต้องรีบกลับ

 “อื้อ” ผมตัดสินใจเรื่องนี้มาได้สักพักแล้ว เพราะที่ผ่านมาผมเล่นหยุดเรียนแทบจะทุกวัน คิดว่ามีหลายวิชาเหมือนกันที่ติดตัวแดงไปแล้วเรียบร้อย ถ้าไม่ดร็อปก็คงมีติดเอฟไปบ้างแล้วแหละ

“เฮ้อออ แล้วมึงจะไปไหนวะ นอนอยู่บ้านเฉยๆเหรอ”

“กูว่าจะไปอยู่ปายสักพักว่ะ ญาติกูเขาเปิดร้านอยู่ที่นั่น พอดีพี่ฟางเขาจะกลับบ้านไปหาแม่สักพัก สามสี่เดือนนู่นแหละถึงจะกลับ เลยโทรหากูว่ามีเด็กฝึกงานหรือรู้จักใครสักคนที่พอจะฝากร้านไว้สักสามสี่เดือนไหม กูเลยรับปากบอกเขาว่ากูว่าง”

“แล้วหน้าอย่างมึงทำกาแฟเป็นเหรอวิน ไม่ใช่ไปทำลูกค้าเขาหายหมดนะเว้ย กาแฟนะมึงไม่ใช่น้ำล้างเท้า โอ้ยไวท์...เจ็บนะตบหัวเค้าทำไมอ่ะ” ต้องขอบคุณไอ้ไวท์เป็นอย่างสูงที่รบกวนเขกกบาลผัวมันให้หุบปากลงไปได้ ก็จริงว่าผมทำของอะไรแนวนั้นไม่เป็น แต่เวลาหนึ่งเดือนก่อนที่พี่ฟางจะกลับบ้านเขาบอกว่าจะสอนผมแล้วก็เขียนสูตรไว้ให้ แค่ตักๆใส่ๆตามช้อนก็คงไม่ได้เป็นปัญหาอะไรหรอกมั้ง เรื่องนี้ทำให้ผมเบาใจไปหน่อยนึงแต่ถึงอย่างนั้นก็แอบกลัวจะไล่ลูกค้าพี่เขาเหมือนกัน

“กูเชื่อว่ามึงทำได้” ไอ้ไวท์ยิ้มพร้อมกับเอียงหัวมาซบที่ไหล่ผม คางเล็กถูกวางไว้บ่นบ่าจนทำให้หน้าเราทั้งคู่ห่างกันเพียงคืบ อยู่ๆหัวใจผมก็เต้นโครมครามขึ้นมาอีกครั้ง แม่งลืมไปเลยว่าเคยรู้สึกแบบนี้กับมันเมื่อนานมาแล้ว

“พอเลยครับวินนี่เมียกูครับ...ขอคืนนะครับ...แล้วมึงก็อีกคน..ทำไมชอบอ่อยจังวะ เดี๋ยวนี้มึงแม่งทำกูปวดหัวจนนอนไม่หลับเลยรู้เปล่า”

“ทำไมถึงนอนไม่หลับ”

“ก็มึงกวนกูทั้งคืนเลยอ่ะดิ” สีหน้ากรุ่มกริ่มบ่งบอกถึงความจังไรในใบหน้า ไอ้ไวท์พอได้ฟังก็ป๊าปเข้าให้ที่กลางหลังไอ้พอร์ช ผมเลิกสนใจเสียงบ่นของพวกมันก่อนจะยกบุหรี่ขึ้นอัดปอดอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าการจากไปครั้งนี้จะช่วยทำให้ผมลืมเรื่องราวความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน ผมไม่รู้อนาคต รู้เพียงแค่ตอนนี้ผมไม่พร้อมจะเจอหน้ามัน ไม่พร้อมที่จะยืนมองมันเดินเคียงข้างพี่บลู แต่ผมเชื่อ ถ้าผมกลับมาอีกครั้งอย่างน้อยผมก็คิดว่า ผมคงไม่ร้องไห้หรือเจ็บปวดกับการที่มันยืนข้างใครอีกคนอีกแล้ว






‘กาเฟ’ ป้ายหน้าร้านมันติดว่า กาเฟ จริงๆนะ ผมคิดว่าพี่ฟางคงตั้งใจทำให้มันอ่านออกเสียงแบบนี้จะได้ดูแปลกไม่เหมือนร้านอื่น


 ร้านกาแฟเล็กๆที่ตั้งแต่ผมก้าวเท้าเข้ามาสิ่งที่ผมสัมผัสได้คือความอบอุ่น โต๊ะไม้เพียง 5-6 โต๊ะ กับการจัดร้านในสไตล์แบบที่เจ้าของร้านชอบ มันเป็นร้านเก่าๆที่ถูกตกแต่งเพิ่มโดยการโยนความคลาสสิคของภาพวาดที่พี่ฟางเป็นคนวาดลงไป


 ร้านนี้เป็นร้านที่พี่ฟางมาติดต่อขอซื้อที่กับเจ้าของเดิม บ้านไม้สองชั้นที่โถงชั้นล่างทำเป็นร้านกาแฟ มีมุมเล็กที่เจ้าของร้านสามารถขึ้นไปเล่นกีต้าร์ได้ยามว่าง พี่ฟางเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เขามาที่นี้ทันทีหลังสอบเสร็จ ไม่สนด้วยว่าเกรดออกมาปีสุดท้ายเขาจะเรียนจบไหม มีแค่ผมกับพ่อแม่เขาที่ห่วงกลัวว่าจะไม่จบ แต่พอผลออกมาว่าจบพวกเราก็เตรียมจะไปรับปริญญากับพี่เขา แรกๆก็รับคำเป็นอย่างดีนะว่าไปรับแน่ๆ ตัดชุดอะไรเรียบร้อย แต่พอวันจริงพี่ฟางก็ยังเป็นพี่ฟาง แม่งหายเข้ากรีบเมฆเฉยเลย ปล่อยให้ทั้งผมทั้งครอบครัวยืนเก้อถ่ายรูปกับเพื่อนๆเขาซะงั้น


พี่ฟางอยู่ที่ปายมาได้ 1-2 ปีแล้วมั้ง เขาเป็นชายหนุ่มผมยาวยักโศกที่มักถูกรวบขึ้นด้วยปลายพู่กัน ใช่ครับพี่ฟางเป็นผู้ชาย ญาติผู้พี่ที่มีเรียวหน้าขาวหมดจดจบคณะศิลปกรรมคนนี้เป็นผู้ชาย จะว่าหล่อก็หล่อนะ แต่จะว่าสวยก็สวย


พี่ฟางเรียนจบมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ เขาไม่เคยมีแฟนหรือมีผมก็ไม่อาจจะเดาได้ ตอนแรกผมคิดว่าพี่เขาจะชอบผู้ชายด้วยกันซะอีกแต่พอเห็นผู้หญิงที่พี่ฟางพาเข้าบ้านเมื่อ 3-4 ปีก่อนก็ทำเอาพวกผมตะลึงไปเลย ลุงกับป้า(พ่อแม่พี่ฟาง)ถึงกับอึ้งไม่คิดว่าพี่เขาจะมีแฟนสวยหยาดฟ้ามาสู่ดินแบบนั้น แต่สุดท้ายได้ยินมาว่าถูกเพื่อนสนิทสอยไปแดกซะงั้น แต่เหตุการณ์เป็นแบบไหนนั้นผมก็ไม่คิดอยากจะถามอะไรต่อ ก็ผมไม่ใช่คนขี้เสือกนี่ครับ (แต่ที่รู้ๆคือเพื่อนสนิทคนนั้นตามหาตัวพี่ฟางทั่วเชียงใหม่ มันหาไม่เจอหรอกครับ ถึงแม้จะมาหาถึงบ้านพี่ฟางก็จัดการปิดปากลุงกับป้าเงียบ โดยยื่นข้อเสนอกึงบังคับว่าถ้าบอกพี่คนนั้นว่าพี่ฟางอยู่ไหนพี่ฟางจะไม่กลับบ้านอีกตลอดชีวิต คนอย่างพี่ฟางทำได้ทุกอย่างแหละ จนตอนนี้พี่คนนั้นก็ยังไม่รู้มั้งว่าพี่ฟางอยู่ไหน) นี่ขนาดผมไม่เสือนะเนี่ย หึหึ


“ไง โตขึ้นเยอะเลยนะมึง” พี่ฟางเงยหน้าจากกีต้าร์โปร่งที่อยู่ในมือก่อนจะกวักมือเรียกให้ผมเดินเข้าไปหา “ไอ้เปี๊ยกกางเกงน้ำเงินของพี่เดี๋ยวนี้โตจนเป็นหนุ่มแล้วงั้นดิ”

“ฮ่า ฮ่า แน่นอนพี่...” ผมเดินเข้าไปกอดพี่ฟางเต็มรัก พี่ฟางเขาเป็นทั้งไอดอลแล้วก็พี่ชายที่คอยสอนเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ผมอยู่เรื่อยๆ เพราะผมไม่พี่น้องที่ไหนเวลาจะถามเรื่องผู้ชายหรือเรื่องอะไรแบบนั้นก็มีแต่พี่ฟางนี่แหละที่คอยบอก “เออพี่ฟาง ชื่อร้านพี่แม่งเท่โคตรเท่อ่ะ กาเฟ ออกเสียงเป็นสำเนียงแบบใหม่ด้วย”

“เปล่ากูเขียนตก ก็เลยปล่อยเลยตามเลยน่ะ” ผมล่ะเชื่อพี่เขาจริงๆ “แล้วนี่มึงจะอยู่นานไหมล่ะ กูคงต้องไปเยี่ยมคุณนายสักหลายเดือนหน่อยนะไม่รู้จะงอแงอะไรนักหนา”

“ก็จนกว่าจะเปิดเทอมใหม่แหละพี่” พี่ฟางหรี่ตาเล็กมองผมอย่างจับผิด ทำไมมันจะไม่รู้ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงปิดเทอม แต่ถ้าผมไม่บอกต่อให้มันง้างปากผม ผมก็ไม่พูดหรอก

“เด็กสมัยนี้มันใจแตก อกหักนิดอกหักหน่อยก็ดร็อปเรียนกันเป็นว่าเล่น”

“ไม่ใช่สักหน่อย วินแค่...เบื่อ...ยังไม่อยากเรียนตอนนี้ ดร็อปแค่เทอมเดียว จบช้าหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรเลย” ผมเถียงข้างๆคูๆแต่พี่ฟางก็ไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ขยี้หัวผมเบาๆก่อนจะเดินพาผมเข้าไปในบ้าน

“แล้วผมนอนไหนอ่ะ” ผมเดินเข้ามาในตัวบ้านไม้สองชั้น พี่ฟางพาผมเดินขึ้นไปบนบ้าน ห้องพักมีอยู่สองห้อง ห้องแรกเป็นห้องพี่ฟางส่วนห้องที่สองเป็นห้องผม เฟอร์นิเจอร์อะไรไม่ค่อยจะมีหรอกครับ เตียงก็เป็นเตียงแบบวางเบาะไว้กับพื้น แอร์ไม่มี ทีวีก็ไม่มี มีแค่ตู้เสื้อผ้า กับพัดลมเก่าๆที่อยู่ปลายเตียง

“อยู่ได้ไหม”

“ได้ดิพี่ สบายมาก” ชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบไปกับโลกภายนอกแบบนี้มันก็ดีเหมือนกันแหะ

“นอนไปก่อนล่ะกันเดินทางมาเหนื่อยๆ ถ้าจะอาบน้ำห้องน้ำอยู่ข้างล่างนะ”

“ครับ ขอบคุณมากพี่ฟาง” ผมยกมือไหว้พี่เขาเสร็จก็ล้มตัวลงนอนกับเตียงทันที ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางทำให้ผมหลับไปอย่างง่ายดาย หวังว่าการมาเรียนรู้ใช้ชีวิตที่นี้จะช่วยทำให้ผมลืมบางอย่างที่หันหลังมาได้ง่ายๆนะ





หนึ่งเดือนที่ผ่านมาผมปรับตัวเข้ากับที่นี้ได้ไม่ยาก แม้จะไม่มีทีวี ห้างหรือแม้แต่แอร์ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับผมเลยสักนิด ที่นี้สอนให้ผมรู้จักคำว่าสงบ เพราะความไม่รีบร้อน หรือเร่งรีบ ทำให้ผมสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างประหลาด พี่ฟางบอกว่าผมหัวไวเรียนรู้เร็ว ทำให้ไม่ต้องสอนอะไรมาก จริงๆการชงกาแฟหรือชงโกโก้ไม่ใช่เรื่องยากเลยพี่เขาบอกว่าขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและความชำนาญ

“ไหวแน่นะมึง กูชักหวั่นๆแล้วเนี่ย” พอไอ้พี่ฟางมันเห็นผมทำนู่นทำนี่ตกมันก็เริ่มขมวดคิ้วสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“ไหวดิพี่ฟาง วินไหว วินทำได้ เชื่อมือดิ”

“เชื่อได้ที่ไหน”

“พี่ฟาง วินทำได้” พี่ฟางทำหน้าไม่เชื่อจนผมต้องพยักหน้าอีกหลายรอบกว่าพี่ฟางจะถอนหายใจออกมา

“เออๆกูเชื่อ งั้นกูไปแล้วนะเว้ย”

“ครับ”

“มึงไหวแน่นะไอ้วิน ร้านกูมึงท่องไว้ร้านพี่ฟาง ถ้าลูกค้าหายกูเอามึงตายแน่”

“ครับพี่ฟางผมไม่ทำลูกค้าพี่หายหรอกเชื่อใจผมเถอะ”

“เพราะกูเชื่อใจมึงไงกูถึงเครียดแบบนี้ ไปและ ฝากร้านด้วย” พี่ฟางโบกมือส่งผมก่อนจะเดินไปขึ้นรถสองแถวเข้าไปในตัวเมืองเพื่อต่อรถกลับบ้าน


วันนี้ลูกค้าร้านพี่ฟางไม่ได้มีเยอะมากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเยอะช่วงวันเสาร์อาทิตย์ วันจันทร์แบบนี้คนจากตัวเมืองก็กลับบ้านกันไปหมด ปกติเวลาผมว่างแบบนี้พี่ฟางจะชวนผมทำนั่นทำนี้จนผมแทบไม่มีเวลาจับโทรศัพท์ แต่พอพี่เขาไปความเงียบก็โรยตัวเข้ามา โทรศัพท์ที่วางตายไว้ในห้องก็ถูกนำมาชาร์ตแบตอีกครั้ง




Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทันทีที่ผมเปิดเครื่อง ชื่อคุ้นตาทำเอาผมยิ้มออกมานิดนึงก่อนจะกดรับโทรศัพท์มัน

(เป็นไงบ้าง)

“ก็ดี”

(แม่งปิดเครื่องซะนานเลยนะวิน กูกับพวกไอ้ไวท์คิดว่ามึงจะตกเขาตายห่าไปแล้วซะอีกดีนะที่โทรหาแม่มึงก่อน ไม่งั้นพวกกูคงขึ้นไปหามึงแล้ว)

“ฮ่า ฮ่า โทษทีว่ะ กูลืมชาร์ตแบต ว่างๆมึงก็ขึ้นมาดิ อากาศที่นี้โคตรดีอ่ะ รับรองว่าพวกมึงต้องชอบ” ผมยิ้มให้กับปลายสายทั้งๆที่รู้ว่ามันคงไม่เห็น

(ช่วงนี้สอบใกล้สอบว่ะคงไม่ได้ไปหาหรอก รอสองสามอาทิตย์ล่ะกันให้สอบไฟนอลเสร็จพวกกูจะยกโขยงไปหามึงทั้งหมดนี้เลย)

“เออรีบมาเลยกูรออยู่”

(เออ รออยู่นั่นแหละ ไม่นานหรอกเดี๋ยวขึ้นไปหา...เออวิน)

“ว่า???”

(รู้ไหมว่าไอ้เบสโวยวายใหญ่เลยว่ะ) ผมเงียบเสียงฟังไอ้เกมส์ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ผมไม่ได้บอกเบสว่าผมไปไหน แล้วก็ห้ามพวกไอ้เกมส์บอกเบสด้วย (มันถามหามึงตลอดอ่ะ พวกกูพูดได้แค่ว่าไม่รู้ มันก็น้อยใจหาว่ากูกับไวท์ปิดบังมัน มึงเข้าใจไหมว่ากูคงปิดมันได้ไม่นานหรอก)

“เอาเท่าที่มึงไหวเหอะ” ผมไม่อยากเล่าให้เบสฟัง ไม่อยากให้มันรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างผมกับน้องมัน

(แล้วก็....)

“แล้วก็?? อะไรวะ”

(ไม่ใช่แค่เบสหรอกนะที่โวยวาย ไอ้บัสก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก เออมันได้โทรหามึงหรือเปล่าวะ คือกู....) ผมไม่รู้หรอก ว่ามันโทรมาไหม เพราะอย่างที่บอกว่าผมปิดเครื่อง แต่อีกอย่างก็คือผมบล็อกทุกอย่างในมือถือที่ขึ้นชื่อว่าบัสเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทร ไลน์ เฟส หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะสามารถติดต่อกับมันได้ ไม่ใช่ว่าผมกลัวว่ามันจะโทรมานะ ผมกลัวว่ามันจะไม่โทรมาต่างหาก ผมกลัวผมเจ็บที่ไม่เห็นเบอร์มันโทรเข้ามา ผมกลัวว่าผมจะเจ็บที่ไม่เห็นมันไลน์มาหา ผมเลยเลือกที่จะบล็อกดีกว่าจะเห็นข้อความว่างเปล่าในกล่องแชต

“กูไม่รู้ว่ะ กูเพิ่งเปิดเครื่องนี่แหละ”

(มันเลิกกับพี่บลูแล้วนะ)

“ไม่ได้เกี่ยวกับกูสักหน่อย”

(กูแค่เล่าให้ฟังเฉยๆทำไมต้องทำเสียงขุ่นแบบนั้นด้วยเล่า) มันจะเลิกกับใคร จะมีแฟนใหม่ก็ไม่ได้เกี่ยวกับผมสักหน่อย ผมไม่แคร์มันแล้ว หนึ่งเดือนที่ผ่านมาผมอยู่ได้โดยไม่มีมัน และผมเชื่อว่าอีกตลอดไปผมก็จะอยู่ได้โดยไม่มีมันเหมือนกัน

“เปล่ากูไม่ได้เป็นอะไร”

(พี่บลูก็ตามหามึงนะ)

“อืม”

(เขาฝากกูมาบอกมึงว่าเขาไม่เป็นไร เขาเข้าใจมึงกับบัส ถ้าจะกลับ...)

“เออเกมส์แค่นี้นะพอดีลูกค้าเข้าร้านว่ะเดี๋ยวไว้ว่างๆกูโทรหาล่ะกัน” ผมพูดตัดประโยคไอ้เกมส์แล้วกดตัดสายทันที ผมไม่อยากรับรู้อะไรตอนนี้ ผมไม่อยากรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าพี่บลูจะยอมถอยแต่ความรู้สึกผิดมันท่วมท้นหัวใจผมจนแทบจะให้อภัยตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ


ไม่รู้เหมือนว่าถึงตอนที่ผมกลับไปกรุงเทพ ผมจะยังยินดีแล้วยิ้มให้มันเหมือนเดิมได้หรือเปล่า ผมรู้สึกผิดมากเสียจนอยากให้เรื่องราวของผมกับมันจบๆไปซะ



ถ้าในเมื่อพี่บลูคนที่ไม่มีความผิดอย่างเขายังไม่ได้อยู่ข้างๆบัสเตอร์ ผมที่เป็นคนผิดเต็มๆก็ไม่สมควรกับโอกาสนั้นเหมือนกัน




“วิน”


“อ่าวพี่กานต์ ทำไมวันนี้มาเร็วจังเลย โกโก้เหมือนเดิมป่ะครับ” ผมยิ้มให้ลูกค้าขาประจำ ที่ตั้งแต่ผมมาที่นี้ก็เห็นพี่กานต์แวะเวียนมาที่ร้านบ่อยจนรู้จักกันในที่สุด พี่กานต์เป็นเจ้าของร้านโปสเตอร์ใกล้ๆร้านผม เขาเป็นคนใจดี ชอบเอาของฝากมาให้ผมตลอดเวลาที่เขากลับบ้านสวนตัวเอง พี่ฟางแม่งก็ชอบแซวว่าพี่กานต์ต้องรู้สึกกับผมในทางแบบนั้น

ตัวผมเองก็ไม่ใช่ว่าไม่สังเกตหรือจับพิรุธเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะผมมองเขาเป็นแค่พี่ชายคนหนึ่ง แต่ต่อไปในอนาคตผมก็ไม่รู้ ถ้าพี่กานต์เป็นคนดีแล้วเขารู้สึกแบบนั้นกับผมจริง บางทีผมอาจจะยอมเปิดใจรับเขาไว้ก็ได้

ผมน่ะไม่อยากปิดใจตัวเองแล้วยอมรับไว้แค่ไอ้บัสคนเดียวหรอกนะ ถ้ามีใครเข้ามา ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร ต่อจากนี้ผมสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าผมพร้อมที่จะเปิดใจหมดรับไว้ทั้งหมดนั่นแหละ

“คืนนี้วินว่างไหม ไปเดินเล่นที่ตลาดเป็นเพื่อนพี่หน่อยดิ พี่อยากซื้อเสื้อให้น้อง แต่เลือกไม่ถูก”

“แต่ว่าพี่กานต์ มันไม่มีคนเฝ้าร้านนะพี่”

“ไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องนั้นเดี๋ยวพี่ให้ไอ้ก้อยกับเพื่อนมันเฝ้าให้” พี่กานต์ชี้ไปทางก้อยกับเพื่อนเขาอีกสองสามคน พวกเธอพยักหน้าแล้วทำท่าทางโอเค ก่อนจะพูดเสียงดังว่าเคยเฝ้าร้านให้พี่ฟางหลายรอบแล้วไม่ต้องห่วง

“ไปเถอะวิน...นะไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย” ผมเงียบไปแป๊บนึงก่อนหันไปมองหน้าพี่กานต์ที่ยังยืนรอฟังคำตอบจากผม

“เอ่อคือ..." เอาไงดีวะ ปฏิเสธตอนนี้คงไม่ได้แล้วด้วย ถ้างั้น... “ก็ได้พี่ คืนนี้เจอกันนะ”




>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC
 สรุปเรื่องนี้ใครเป็นคนที่รอความรักกันแน่ กรั่กๆ ก็มีคนเดียวแหละที่รอ และรอมาตลอด สปอยว่าต่อจากนี้คงไม่มีดราม่าแล้วนะ มั่นใจคนเขียนไหมเอ่ย 5555555555  แต่คนเขียนมั่นใจคนอ่านนะค้า รักนะจุ๊บๆ (ใกล้จบแล้ว พฮืออออออออออออออออออT^T)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
พี่กานต์อย่ามาชุบมือเปิดนะ
เพราะวินเขามีคนที่รออยู่แล้ว
รอมาตั้งแต่ต้นแล้วด้วย น่าจะนะ

carenaka

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าพี่กานต์ดีจงรักนะวิน เชียร์

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เอาเข้าไป จะใจแข็งไปได้สักเท่าไรกันนะ เฮ้อ

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
ถ้าคนใหม่ดีกว่า ก็ลืมคนเก่าซะเถอะ จะได้มีความสุขซะที

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ใกล้จบแล้วหรอ

ไม่นะ

กำลัง ดราม่าได้ใจ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
มาอะไรกันป่านนี้  :mew6:

ออฟไลน์ twenty8

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
วนเวียนเป็นวัฏจักร

ออฟไลน์ Onlymin

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-4
กับคนเก่าที่ยังฝังใจหรือกับคนใหม่ที่ดี :katai5:

ออฟไลน์ Spelling_B

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
รออ่านต่อนะ :z13:

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Chapter End

“ก็....ได้พี่ คืนนี้เจอกันนะ” ผมตอบรับคำชวนพี่กานต์อย่างปฏิเสธไม่ได้ ถ้าพูดกันตรงๆผมผลัดพี่เขามาหลายรอบแล้ว ครั้งนี้ดูเหมือนพี่แกจะวางแผนมาอย่างดีเพราะมีลูกคู่อย่างก้อยกับเพื่อนคอยเป็นตัวสนับสนุนให้ราวกับจะจับผมถวายพานให้ไอ้พี่กานต์เต็มที่ แม่งผมคิดผิดไหมวะที่เลือกไปกับมันแบบนี้

"พี่วินมีคนมาหา”  หนึ่งเป็นเด็กที่นี้ บ้านของเขาขายของอยู่ต้นถนนคนเดิน ส่วนร้านกาแฟของพี่ฟางอยู่ถัดจากบ้านของหนึ่งไม่มากนัก

“ใครวะ...”

“ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ เขาบอกว่าเขามาจากกรุงเทพ”

เหรอออ แล้วนี้วิ่งมาหรือไง เอาไรล่ะเดี๋ยวพี่ชงให้”

“เลี้ยงเหรอ”

“เอออ”

“แหะๆ งั้นโอวัลตินเย็นนะ”

“อยากแดกโอวัลติน???มึงไม่ไปชงกินเองที่บ้านวะหนึ่ง ไม่มีโว้ยย เอาโกโก้ล่ะกัน” ผมหันไปชงโกโก้ให้ไอ้เด็กหนึ่งก่อนจะหันมาถามมันอีกครั้งว่าคนที่มาจากกรุงเทพที่มันพูดถึงน่ะมากันกี่คน บางทีอาจจะเป็นพวกไอ้เกมส์

“คนเดียว ตอนแรกคิดว่านักท่องเที่ยวแต่พี่เขาเดินมาถามหาพี่วินผมก็เลยนำทางเขามา เก่งใช่ป่ะล่ะ”

“เออมึงเก่งแล้วไหนเขาล่ะกูเห็นแต่มึงเนี่ยไอ้เปี๊ยก”

“กำลังเดินมา งั้นผมไปแล้วนะ จะไปเตะบอลต่อ”

“เออ” ผมตบหัวไอ้เด็กหนึ่งไปทีก่อนจะหันหน้าไปมองไอ้พี่กานต์ที่กำลังเช็ดโต๊ะหน้าร้านให้

“พี่กานต์ไม่ต้องเช็ด เดี๋ยวผมเช็ดเอง พี่กลับร้านพี่ไปเหอะ พวกไอ้ก้อยกลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ” พูดไล่อ้อมๆแม่งไม่ยอมไป ผมเลยไล่ไปตรงๆนี้แหละ จริงๆผมไม่ค่อยชอบเวลาที่พี่เขามานั่งแช่อยู่ในร้านผมแล้วแสดงท่าทางเหมือนเป็นร้านตัวเองแบบนี้ ไม่ได้ว่าหวงร้านอะไรหรอกนะ แต่ไม่ชอบสายตาลูกค้าหลายรายที่มองมายังผมกับพี่กานต์แบบแปลกๆ ผมไม่ชอบให้คนอื่นเข้าใจผิด

“โหวว ไล่ตลอดอ่ะ ลูกค้าร้านพี่ยังไม่มีขอนั่งคุยด้วยดิ ว่าแต่เราเหอะ ตั้งแต่มาปายยังไม่เคยเดินถนนคนเดินสักทีใช่ไหม วันนี้อยากกินไรเป็นพิเศษหรือเปล่าเดี๋ยวพาไปกิน”

“ไม่รู้ดิพี่กานต์ จริงๆไปซื้อเสื้อเสร็จก็กลับเลยก็ได้นะ ผมห่วงร้านน่ะ อีกอย่างเกรงใจก้อยเขาด้วย”

“เฮ้ย…ไม่ต้องเกรงใจก้อยหรอกยังไงมันก็เต็มใจเฝ้าร้านให้วินอยู่แล้ว...”พี่กานต์พูดพร้อมกับถือวิสาสะเอื้อมมือมาลูบที่หัวผม ถือเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่พี่เขากล้าถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ ไอ้ผมก็ไม่อยากพูดอะไรมากเลยปล่อยให้มันเล่นหัวผมไปแบบนั้น

“วิน...” น้ำเสียงคุ้นหูที่ไม่ได้ดังมากแต่กลับชัดเจนในความรู้สึก ภาพที่ผมเงยหน้าขึ้นมองคือผู้ชายที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี เขากำลังยืนมองผมด้วยสายตาเจ็บปวด แววตาสั่นระริกเสียจนผมอดไม่ได้ที่จะแกล้งเสมองไปทางอื่น


มันมาอยู่ที่นี้ได้ไงวะ


“มึง” ขนาดชื่อมันผมยังไม่กล้าเอ่ยปากพูดออกมาด้วยซ้ำ “พี่กานต์เอาไว้ตอนที่จะออกไปซื้อเสื้อ พี่ค่อยมาตามผมอีกทีล่ะกัน พอดีตอนนี้ผมยุ่งน่ะ”

“อ้อ...ได้” พี่กานต์มองหน้าผมสลับกับไอ้บัสแบบงงๆแต่สุดท้ายเขาก็ยอมเดินออกจากร้านไปแต่โดยดี

“วิน...” บัสเตอร์มันเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงแบบนี้อีกแล้ว น้ำเสียง...ที่แสดงออกให้รู้ว่ามันน้อยใจz,

 แววตาที่ส่งมาให้ก็เป็นแววตาตัดพ้อราวกับสิ่งที่ผมทำมันเป็นสิ่งที่ผิด ทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย พี่กานต์เขาลูบหัวผมเองนะ ผมก็แค่ยืนอยู่เฉยๆไม่ได้ปัดออกก็แค่นั้น


“.......”

สิ่งที่ผมตอบกลับมันไปคือความเงียบ ไม่ใช่ไม่อยากพูดด้วย แต่...ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอะไรกับมัน ถามว่าดีใจไหม ที่เห็นมันอยู่นี้

บอกตรงๆว่ามากถึงมากที่สุด แต่ด้วยทิฐิหรืออะไรก็แล้วแต่ทำให้ผมยังปากหนักไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรออกมา แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ทำเหมือนมันเป็นแค่อากาศธาตุอยู่ในร้าน



ผมมันคนใจร้ายใช่ไหมครับ





จะว่าผมเป็นคนแบบนั้นก็ได้




แต่ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับมันจริงๆ




บัสเตอร์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ตั้งแต่มาจนกระทั่งตอนนี้มันก็ยังไม่ขยับไปไหน นับๆรวมกันแล้วคงไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ


“เกะกะว่ะ จะไปไหนก็ไปได้ไหม” ผมพูดอย่างนั้นเพราะผมกลัวว่ามันจะเมื่อย อยากให้มันเดินไปนั่งหรือทำอะไรก็ได้ไม่ใช่มายืนขวางทางเดินแบบนี้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาจากสิ่งที่ผมพูดใส่มันคือ เสียงถอนหายใจหนักๆบ่งบอกว่ามัน รำคาญผม

“ถ้ารำคาญกูมากมายขนาดนั้นก็ไปที่อื่นดิ ไม่ต้องมาทำเสียงเบื่อหน่ายใส่กันก็ได้บัส...”

“ผมอยากรู้ว่าวินกับพี่คนนั้นเป็นแฟนกันแล้วเหรอ....”

“....”

“คงจะเป็นแบบที่ผมคิดจริงๆสินะ...ผมมันไม่ได้สำคัญอะไรอยู่แล้วนี่...แค่ไม่กี่เดือนวินก็มีคนใหม่แล้ว...ที่เคยพูดว่ารักคงแค่คำโกหก...พูดให้ผมรู้สึกดีแค่นั้นใช่ไหม...ผมแม่งไม่น่าคิดไปเองเยอะแยะขนาดนี้เลยว่ะ” บัสเตอร์ยิ้มเศร้าๆก่อนจะหยิบกระเป๋าใบใหญ่ข้างตัวขึ้นมาสะพาย มันเดินออกจากร้านผมไปแล้ว ทิ้งระเบิดเสร็จก็เดินออกไปเลยเนี่ยนะ


คนบ้าอะไรวะ เดินทางมาตั้งไกลแต่แค่จะมาพูดตัดพ้อกูแค่นี้เนี่ยนะ...มึงแม่งโคตรไม่มีความอดทนอะไรเลยว่ะบัส



สมควรแล้วล่ะ สมควรแล้วที่จะไม่ได้รับการให้อภัยแบบนี้ ดีเหมือนกันในเมื่อสิ่งที่มันต้องการมีเพียงแค่นี้ก็ดีแล้ว จะไปไหนก็ไปเลยไป “ไม่ต้อง...ฮึก..มาอีกนะ”



ไม่รู้ทำไมอยู่ๆน้ำตาแม่งก็ไหลออกมาเฉยๆ ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเองอย่างลวกๆก่อนจะหันหลังให้กับภาพพร่ามัวที่เดินไกลออกไปเรื่อยๆ




ผมยอมรับก็ได้ว่าผมคาดหวัง



คาดหวังว่ามันจะพูดอะไรมากกว่านี้ คาดหวังว่ามันจะเดินเข้ามากอดผมแน่นๆแล้วพูดว่ารักผม คิดถึงผม ขอโทษผม บอกกับผมว่าจะไปไหนอีก



แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับเป็นคำพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งดูถูกและเหยียดหยาม ทำไมมันไม่คิดจะถามผมก่อนว่าที่มันเห็นเป็นเรื่องจริงไหม...ไม่ใช่คิดเองเออเองแบบนี้








“เป็นอะไรอีก”

“ไม่เกี่ยว...อึก..กับมึงสักหน่อย..” ผมเม้มปากแน่นไม่ให้เสียงสะอื้นดังออกมา ก้มหน้าจนคางแทบจะติดอก เพราะไม่อยากให้มันรู้ว่าผมกำลังร้องไห้ กลัวว่ามันจะดูถูกผม หาว่าผมเรียกร้องความสนใจอีก

“มานี่มา” บัสเตอร์เดินเข้ามาจูงมือผมให้เดินตามมันไปหลังร้านก่อนจะพาผมไปนั่งตรงบันได้ทางขึ้นบ้าน ส่วนมันก็ยืนอยู่ตรงนั้น ยืนมองหน้าผมที่ร้องไห้หนักกว่าเดิม ไม่ชอบแบบนี้เลยว่ะแม่ง ไม่ชอบให้มันเห็นเวลาผมอ่อนแอแบบนี้

“พี่คะร้านเปิดหรือยังเอ่ย” เสียงจากหน้าร้านตะโกนเข้ามาทำเอาผมสะดุ้งรีบเช็ดน้ำตาตัวเองก่อนจะลุกขึ้นยืนแต่ก็โดนไอ้บัสดันไหล่ให้นั่งลงที่เดิม

“ยังไม่เปิดครับ โทษทีนะน้องพอดีพี่เตรียมของอยู่”

“อ้อ ไม่เป็นไรคะ” เสียงจ้อกแจ้กหน้าร้านหายไปพร้อมกับความเงียบที่โรยตัวเข้ามาอีกครั้ง ผมหยุดร้องไห้แล้ว ส่วนไอ้คนที่ยืนอยู่ในตอนแรกก็ขยับนั่งลงข้างๆผมก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกรอบ

“วิน...”

“.....”

“ผมไม่ชอบเวลาที่วินร้องไห้เลยว่ะ” บัสเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดก่อนจะค่อยๆใช้ปลายนิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้ผม

“.....” แต่เวลาที่กูร้องไห้ก็มีแค่มึงนั่นแหละที่เป็นคนทำ

“ผมถามวินจริงๆนะ...วินกับไอ้คนชื่อกานต์ไม่ได้เป็นอะไรกันใช่ไหม”

“.......”

“ที่เงียบหมายความว่าไงอ่ะ..เป็นงั้นเหรอ...”บัสเตอร์จ้องมองลึกลงไปในตาผมราวกับจะถามหาคำตอบ แต่ผมไม่รู้ว่ามันได้คำตอบอะไรเพราะสิ่งที่มันทำคือการต่อยไปที่กำแพงอย่างแรงจนเลือดไหลออกมาจากมือ

“ทำไมวะวิน รอผมหน่อยไม่ได้เหรอ... ผมมาหาวิน..มาทั้งๆที่หัวใจเต็มร้อยว่ายังไงสุดท้ายต่อให้ง้อนานแค่ไหนวินก็จะกลับมาหาผม...แต่วันนี้ที่ยืนอยู่เมื่อกี้มันกลับไม่ใช่...ผมทำใจรับไม่ทันว่ะวิน..ไม่คิดว่ามาแล้วจะเจอวินมีคนใหม่แบบนี้...”เสียงบัสเตอร์สั่นจนผมอดเงยหน้าขึ้นมองมันไม่ได้ ตามันมีร่องรอยของความเจ็บปวดพร้อมกับขอบตาที่แดงกร่ำ

“มึงก็เลยทิ้งกูไว้แบบเมื่อกี้อ่ะเหรอ” ผมเสียใจร้องไห้เพราะบัสเตอร์เดินหนีผม ผมไม่ชอบที่มันทำแบบนั้น

“เปล่าไม่ได้ทิ้ง แต่จะไปตั้งหลักสู้ก่อน ในเมื่อวินกับเขาเป็นแฟนกันแล้ว ผมจะเอาอะไรสู้วะ ยังไงก็ต้องไปตั้งหลักก่อนดิ” ไปตั้งหลักอะไร แม่งมันเดินออกจากร้านผมไป ทำท่าอย่างกะว่าจะไม่กลับมาง้อผมอีก ใครที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็คิดเหมือนกับผมทุกคนนั่นแหละ

“กูบอกหรือไงว่ากูเป็นแฟนกับเขา”

“อ่าวก็....” ผมหมั่นไส้มันจริงๆเลยครับ ยังไม่ได้พูดเชี่ยอะไรสักคำแต่แม่งคิดเองเออเองคนเดียวตลอด “งั้นผมก็เจ็บตัวฟรีเหรอ”

“แล้วปากมีไว้ทำไมวะ ทำไมไม่ถาม”

“ถามแล้วแต่วินไม่ตอบ”

“แล้วทำไมมึงไม่หัดคิดเองเล่า ปล่อยกูเลยเชี่ยบัส!!!!”

“วินเจ็บแผลอ่ะ” พอทีงี้ล่ะทำเสียงอ่อนเลยนะแม่ง เมื่อกี้ยังขึ้นเสียงใส่ผมจนแทบจะแดกหัวอยู่แล้วแท้ๆ

“ก็มึงทำตัวของมึงเอง”
 
“เจ็บ”

“สัส ตอแหล” ผมตบหัวไอ้บัสไปทีแต่ก็ยอมให้มันกอดผมอยู่แบบนั้น อย่าหาว่าผมใจง่ายเลยนะครับ


แต่ผม...คิดถึงมัน คิดถึงทุกอย่างแม้แต่อ้อมกอดที่กำลังกอดผมอยู่ตรงนี้ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้เรื่องทุกอย่างมันจบ ไม่อยากมีทิฐิอะไรอีกแล้ว ขอแค่มีผมกับมัน แค่นี้สำหรับผมก็พอแล้ว

“ปากวินแม่งโคตรน่าจูบอ่ะ” ผมเม้มปากทันทีที่มันเริ่มใช้นิ้วเกลี่ยริมฝีปากผม จากนิ้วแปรเปลี่ยนเป็นปลายจมูกที่เริ่มไล้จากริมฝีปากไปจนถึงข้างแก้ม


“น้องวินครับ” เสียงคนต้นเรื่องที่ทำให้ผมกับไอ้บัสมีเรื่องเข้าใจผิดกันกำลังตะโกนเรียกผมอยู่หน้าร้าน ไอ้พี่กานต์มันคงจะเดินมาชวนผมไปถนนคนเดินอะไรของแม่งแล้วล่ะมั้ง

“ไม่ให้ไปหรอกนะ”

“มึงเป็นใครล่ะจะมาห้ามกูเนี่ย”

“เจ็บแผล”

“แล้วไงเหรอ ปล่อยยยยยย” ผมดึงมือไอ้บัสออกจากเอวก่อนจะเดินไปหน้าร้าน

“เราไปกันเลยไหมครับพี่กานต์”

“ครับ...”

“ไหนวินบอกว่าจะพาผมไปเที่ยวไงคืนนี้" ไอ้ตัวปัญหาเดินออกมาจากซอกหลังร้านก่อนจะหันไปพูดขมวดคิ้วมองหน้าพี่กานต์แบบไม่พอใจนิดหน่อย
 
“วิน ไหนวินบอกว่าจะพาผมไปล่ะ...เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมล่ะ” เชี่ยนี่มันน่ารำคาญอ่ะพูดวนไปวนมาทำตัวเหมือนเด็กแปดขวบ

“ก็วินสัญญาแล้ว” ผมหันขวับไปมองไอ้หน้าหล่อทันทีที่มันพูดย้ำอีกรอบ มึงเห็นหน้ากูไหมบัส คิดว่าตัวเองเป็นใคร ลูกเจ้าของร้าน เมียเจ้าของร้าน หรือเป็นอะไร ทำไมไม่มีความเกรงใจเลยวะ ผมไม่คุยครับ แต่เลือกที่จะใช้ความเงียบกับมันแทน

" เอ่อ...ยังไงถ้าวินมีนัดแล้วพี่คงไม่รบกวนเอาไว้วันอื่นก็ได้"

"เฮ้ยพี่กานต์ไม่ใช่ วันนี้ผม..."

"ขอบคุณพี่กานต์นะครับที่เข้าใจพวกเรา " พวกเรา???? นี่กูกับมึงนับเป็นพวกเราตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอบัส

 "ถ้างั้นไม่มีไรแล้วพี่กลับร้านก่อนนะ"

"ครับโชคดีพี่" มันโบกมือไล่พี่เขาแบบนั้นพี่เขาคงหน้าด้านอยู่ต่ออ่ะ “มันคิดจะจีบวินแน่ๆ เชื่อผมดิ”

ถึงมึงไม่วิเคราะห์กูก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วไหมบัส

"วิน"

"....." ผมเงียบแล้วเลือกที่จะเดินออกไปหน้าร้าน เก็บแก้วที่ลูกค้ากินทิ้งไว้ใส่ถังขยะ เช็ดโต๊ะ จัดของ ทำนู่นทำนี่ให้เหมือนว่ายุ่งแล้วก็ทำเหมือนว่าไอ้ยักษ์ที่ยืนหน้าหงอยอยู่หลังเคาเตอร์เป็นอะไรสักอย่างที่ผมมองไม่เห็น

"วิน...เจ็บแผล"แผลที่มึงสร้างขึ้นมาเองอ่ะนะ "เลือดไหลเยอะมากอ่ะ”

เออออขอให้มันท่วมตัวมึงแล้วนอนตายในร้านกูเลย เดี๋ยวกูจะจัดงานศพให้ยิ่งใหญ่แน่ๆเชื่อกูดิ

“.......”

“วิน.....”

“.....”

“คุยกันหน่อยสิ เราจะไม่คุยกันจริงๆงั้นเหรอ ทำไมล่ะ วินไม่ชอบผมแล้วงั้นดิ ใช่สิผมไม่หล่อเหมือนไอ้พี่กานต์นิ  มันทั้งขาว ดูดีมีชาติตระกูล ผมมันดำ แต่ถ้าพูดกันจริงๆผมก็ไม่ได้ดำมากสักหน่อย ผิวแค่แทนๆเองนะ แต่ลืมไป..วินชอบคนขาวนี่นา เห็นมาตั้งแต่พี่ไวท์แล้ว…….!@$@$#@!@#$" แล้วหลังจากนั้นไอ้บัสเตอร์แม่งก็พูดไม่หยุด ตัดพ้อผมทุกอย่าง ขนาดมันพูดจนคอแห้งก็ยังหน้าด้านเข้าไปเปิดตู้เย็นเทน้ำใส่แก้วแล้วพูดต่อ คือคนปกติถ้าเจอคนไม่พูดด้วยก็คงน้อยใจเดินหนีออกจากร้านไปแล้ว บางคนอาจจะตัดใจไม่ง้อต่อกลับกรุงเทพหาแฟนใหม่ไปแล้วก็มี แต่บัสเตอร์กลับไม่ใช่แบบนั้น มันพูดกรอกหูผมตั้งแต่พี่กานต์ออกจากร้านจนตอนนี้ผ่านไปเกือบชั่วโมงมันก็ยังจ้อไม่หยุด

“เมื่อไหร่จะหยุดพูดเนี่ย” จนผมต้องเดินมานั่งข้างๆมันแล้วถามแม่งตรงๆ คิดดูล่ะกันขนาดลูกค้าเข้ามาในร้านมันก็ชี้ชวนให้ลูกค้าฟังเรื่องของมันที่ตัดพ้อผม บอกว่าผมมาง้อพี่เขานู่นนี่นั่นดีที่มันไม่พูดมากว่าผมเป็นอะไรกับมันไม่งั้นได้เจอมีดเสียบคอตายคาร้านแน่

“ก็รอวินเนี่ยแหละ”

“ปกติไม่เห็นพูดมากแบบนี้”

“ก็เพราะว่าผมไม่พูด...เรื่องของเรามันถึงเลยเถิดแบบนี้”

“เราไหน”

“เราไง วินกับผม บัสเตอร์กับวิน เราสองคนอ่ะ แบบเราไงครับ...” ถ้าพูดกันตรงๆผมก็เพิ่งเห็นนิสัยด้านนี้ของมันเหมือนกัน ปกติบัสเตอร์ไม่ใช่คนแบบนี้ มันชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่ออกแนวขรึมจนผมเองเคยคิดว่ามันอายุเท่าๆกับผมหรือเปล่า ยิ่งอยู่กับไอ้เบสยิ่งแล้วใหญ่คนมักมองว่าไอ้คนตรงหน้าเป็นพี่ซะมากกว่าอีก

“มีไรจะพูดอีกไหม...”

“.....”

“ถ้าไม่มีก็ออกไปได้แล้ว กูจะทำงาน” ผมทำท่าจะเดินหนีมันไปอีกรอบ

“วิน....” บัสเตอร์เอื้อมมือมากอดเอวผมไว้แน่น ก่อนจะซุกหน้าลงกับท้องผม “อย่าทำแบบนี้เลยนะ...ผมไม่อยากให้เรื่องของเรามันจบแบบนี้ว่ะ...ผมขอโทษ...ที่ผ่านมายอมรับผิดเองก็ได้”

“ก็ได้...งั้นเหรอ”

“ไม่ก็ได้ ผมผิดเต็มๆ...แต่อย่าไล่ผมไปเลย...ได้โปรดเถอะ...ผมอยู่ไม่ได้ว่ะถ้าไม่มีวิน”



ถามว่าให้อภัยหรือเปล่า



จริงๆผมหายโกรธมันตั้งแต่ที่เห็นมันอยู่หน้าร้านแล้วแหละครับ



สิ่งที่พูดเตือนกับตัวเองมาทั้งหมดว่าจะตัดใจ ไม่เอาแล้วเปิดใจให้คนใหม่ มันหายไปกับสายลมตั้งแต่เห็นมันเดินเข้ามาแล้ว



พูดตรงๆว่าตอนที่เกมส์โทรมาเล่าเรื่องที่มันเลิกกับพี่บลูในใจผมลึกๆก็ค่อนข้างคาดหวังว่ามันจะตามหาผม แต่ผมแค่ไม่ยอมรับมันก็เท่านั้น


“ปล่อย..”

“อย่าไปเลย...”

“กูจะไปล้างแก้ว ปล่อยได้แล้ว เชี่ยนิ” ผมขยี้หัวมันไปทีก่อนดึงมือมันออกจากเอว

“หายโกรธแล้วใช่ไหม”

“ยัง”

“โหววอะไรวะ โกรธไรอ่ะ บอกหน่อยดิ เรื่องที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับไอ้พี่กานต์อะไรนั่นคงไม่ใช่แล้วใช่ป่ะ แล้วโกรธอะไรอยู่วะ เรื่องพี่บลูเหรอ ผมเลิกกับพี่บลูแล้วจริงๆนะ พี่เขาเข้าใจ พี่ฟิล์มเขาก็ดูแลให้แล้ว พี่บลูเขาก็ไม่ได้อะไรกับผมด้วย จริงๆเขาคงไม่ได้รักผมมากมายขนาดนั้นหรอก พี่บลูเขาเป็นประเภทใจอ่อนน่ะเวลาใครดูแลดีๆก็อ่อนไหวไปหมด จริงๆคงเป็นมาตั้งแต่พี่ฟิล์มแล้ว แต่ช่วงหลังมาผมเข้ามาไงแล้วพี่ฟิล์มเขาก็มีแฟนไปทั่ว มันเลยเละแบบนี้ จริงๆผิดที่ผมเองแหละ แต่ถ้าผมไม่เข้ามาพี่ฟิล์มคงไม่รู้ตัวหรอกว่าชอบพี่บลู”

“ใคร??”

“พี่บลู”

“ใครถามมึง”

“โถวว วินอ่ะ เจ็บแผลนะเนี่ย” เกี่ยวอะไรกับแผลมัน บัสเตอร์ยู่ปากเล็กจนผมอดเอื้อมมือไปตีปากมันไม่ได้ คิดว่าน่ารักหรือไง ทำตัวแบบนี้คิดว่าผมจะยอมมันงั้นเหรอ “เลิกโกรธผมเถอะนะ”

“กูไม่ได้โกรธเรื่องนั้น กูโกรธที่ตอนนั้นมึงปล่อยมือกูแล้วไปกอดเขา...แต่ช่างมันเถอะกูไม่ได้สำคัญอะไรอยู่แล้วนิ...อะไรไม่ต้องมายิ้มเลยสัส!!” มันดึงมือผมออกจากหน้าตัวเองก่อนจะจูบเบาๆที่ปลายนิ้ว ไม่รู้ทำไมแค่มันทำกับผมแค่นี้ ผมก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ

“ก็ตอนนั้นพี่บลูเขาร้องไห้น่าสงสาร”

“แล้วกูล่ะ”

“ขอโทษ”

“ถ้าบอกว่าไม่ให้อภัยล่ะ”

“คงทำอะไรไม่ได้อ่ะ...ในเมื่อวินไม่ให้อภัย...แต่ไม่ยอมแพ้หรอกนะ....จะขอโทษจนกว่าวินจะให้อภัยนั่นแหละ” บัสเตอร์แม่งน่ารักมากอ่ะ ทำไงดีครับ ผมอดอมยิ้มไม่ได้จริงๆ “แล้ว...ไปไหนอ่ะ”

“หยุดเลย นั่งรออยู่ตรงนี้แหละ ห้ามจับด้วย” ผมสั่งให้บัสเตอร์นั่งรออยู่ตรงเก้าอี้หลังเคาเตอร์ ก่อนจะเดินออกไปร้านฝั่งตรงข้ามเพื่อสั่งข้าวมาให้ไอ้ยักษ์กิน ตอนที่เดินกลับมาไอ้หมาบัสก็ยังรออยู่กับเก้าอี้นะ ส่งสายตาอ้อนๆมาให้ผมด้วย ตอนเดินผ่านแม่งก็ไม่กล้าแตะตัวผมอีกตั้งหาก ให้มันได้อย่างนี้ดิ เชื่อฟังให้มันได้แบบนี้

“แล้วนี่จะมาอยู่กี่วัน ไม่สอบหรือไง”

“ตอนแรกก็กะว่าจะง้อสักอาทิตย์นึง”

“ถ้าก็ไม่หายเกินอาทิตย์มึงก็จะเลิกง้อกูงั้นดิ”

“ไม่ใช่...กะว่าจะกลับไปสอบก่อนแล้วค่อยมาใหม่น่ะ แต่ก็ผิดคาดนะ ไม่คิดว่าจะหายงอนเร็วขนาดนี้”

“มึงเห็นว่ากูใจง่ายงั้นดิ ออกไปเลยไป” ผมหมั่นไส้แววตาเจ้าเล่ห์ของบัสเตอร์ฉิบหาย ยิ่งตอนที่มันยิ้มนะผมแทบอยากจะตบกะโหลกให้มันรู้แล้วรู้รอด

“วินไม่ได้ใจง่ายหรอก แต่วินยังรักผมตั้งหาก”

“มั่วว่ฃะ”

“ฮ่า ฮ่า เขินเหรอ โคตรน่ารักอ่ะ...วิน....”

“อะไรเรียกอยู่นั่น...พ่อมึงชื่อวินเหรอ....”

“เปล่าไม่ใช่พ่อ...แฟนตั้งหาก....”

“K” ผมยกนิ้วกลางส่งไปให้มันทันทีเพื่อกลบอาการใจเต้นที่ตอนนี้แทบจะทะลุออกจากอก

“เดี๋ยวคืนนี้ก็เห็นกันแล้วแหละน่า ไม่ต้องโชว์มากหรอก”

“มึงนี่มันสุดๆเลยว่ะบัส ไหนเอามือมานี่ดิ” ผมขอดูแผลที่มือไอ้บัส มีรอยเลือดที่แห้งกรังอยู่ตรงหลังมือ  ตอนที่ผมเอื้อมมือไปจับ มันก็ร้องโวยวายหาว่าผมทำร้ายร่างกายมัน พอตอนทำล่ะไม่คิดทีตอนนี้มาร้องน่าจะเอาค้อนทุบไปอีกสักรอบ

“นี่วิน...”

“อะไร”

“ผมน่ะ.ระ..”

“พอเถอะ..กูยังไม่อยากฟังตอนนี้” ผมรู้ว่ามันจะพูดอะไร แต่ผมยังไม่อยากฟัง ผมกลัว กลัวว่าตอนที่มันพูดจบ ผมจะนอนตื่นลืมตาขึ้นมาบนที่นอน แล้วสิ่งที่ได้ยินมันก็เป็นเพียงแค่ความฝันเหมือนทุกครั้ง

“ให้ผมรอถึงไหนวะ...ที่ผ่านมาผมยังรอวินไม่พอเหรอ....”

“แค่นี้มึงรอไม่ได้ใช่ไหม”

“เปล่า...ทั้งชีวิตก็รอได้”

“เหรอออ ก่อนหน้านี้ที่กูยังไม่รู้ใจตัวเองมึงยังทิ้งกูไปเลยบัส ไหนบอกว่ารอได้วะ สุดท้ายก็ไปมีพี่บลู แล้วกูล่ะ พอรู้ใจตัวเองกลับไปมึงก็ไม่เห็นหัวกูแล้ว..” พอคิดถึงตอนที่ตัวเองกลับไปหาบัสเตอร์แล้วโดนมันทำแบบนั้นใส่ ขอบตาผมก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง

“ขอโทษ ผมแค่โกรธ โกรธที่วินไม่เลือกผม จำได้ป่ะตอนที่วินเจอพี่หลิวที่ห้างวันนั้นแล้วให้ผมรออยู่ที่รถใต้คอนโดพี่เขาน่ะ...ผมดันไปเห็นวินจูบกับพี่หลิวบนคอนโดนี่หว่า พอเห็นแบบนั้นก็เลยตัดสินใจทันทีเลยว่าเป็นผมเองที่ควรต้องเดินจากไป เพราะตั้งแต่รู้จักกับวินมาในหัวก็คิดอยู่ตลอดแหละว่า...ยังไงวินก็ไม่มีทางรักผม” ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตอนนั้นมันเห็นผมจูบกับหลิวด้วย

“อย่าทำหน้าแบบนั้นดิวิน...ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าสุดท้ายถ้าวินไม่กลับมาผมก็กลับไปหาวินอยู่ดี...เพราะมีแต่ผมที่มองวิน...รอวิน...แล้วก็รักวิน....”

“ใครบอกว่ามีแต่มึงที่รัก...กูเองก็........





พรึ่บ!!!!!!!!!






“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก” ผมตื่นขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ที่คิดว่าจะมีใครสักคนนอนอยู่ข้างกาย ตอนนี้กลับไม่มี ผมฝันอีกแล้วงั้นเหรอ




ฝันว่ามันกลับมาง้อผมอีกแล้วงั้นดิ



ผมแม่งคาดหวังมากเกินไปแล้วนะ คาดหวังว่ามันจะกลับมา แต่นี้ผ่านมาตั้งเดือนกว่าแล้วมันก็ไม่เห็นจะกลับมาด้วยซ้ำ



“ฮึก...มันไม่เห็นกลับมา”









ผมเดินลงมาข้างล่างเพื่อเปิดร้าน วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติจริงๆเรียกว่าตื่นคงไม่ถูกเพราะผมยังไม่ได้นอนเลยตั้งแต่ที่ฝันเห็นบัสเตอร์


ผมไม่อยากฝันถึงมันอีกแล้ว


ผมเกลียดจิตใต้สำนึกของตัวเอง


เกลียดที่มันทำเป็นรู้ดี...รู้ว่าผมกำลังรอคอยบัสเตอร์อยู่ ทั้งๆที่รู้ว่ารอคอยแต่สิ่งที่รอคอยก็เหมือนจะเปล่าประโยชน์ บางที...บัสเตอร์อาจจะเลิกรักผมไปจริงๆแล้วก็ได้






แกร๊ก…..



“ร้านเปิดหรือยังครับ” แม้เสียงที่ได้ยินออกจะแหบแห้งมากกว่าที่รู้จัก แต่ผมก็มั่นใจว่าสิ่งที่ผมได้ยินคือเรื่องจริง ผมเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายตรงหน้าเต็มความสูง น้ำตาที่เก็บเอาไว้ทั้งคืนไหลบ่าออกมาอย่างปิดไม่อยู่


“มึงแม่งมาช้า”


“ขอโทษที่ทำให้รอ....”


“กูไม่ได้ฝันไปใช่ป่ะ”


“ลองจูบดูไหมล่ะจะได้รู้ว่าฝันไปหรือเปล่า” คนตรงหน้าผมเป็นบัสเตอร์ตัวจริง และผมก็ไม่ลังเลเลยที่จะโถมตัวเข้าไปกอดมันเต็มแรง“กูคิดถึงมึงบัส”


“แต่ผม...คิดถึงวินมากกว่า”


เราไม่ได้พูดออกมาว่ารักกัน มีเพียงร่างกายที่ตอบสนองว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือความจริง บัสเตอร์อยู่ตรงนี้ส่วนผมก็อยู่ตรงนี้ในอ้อมกอดของกันและกัน


ผมไม่รู้ว่าในอนาคตเราสองคนจะมีเรื่องที่ทำให้เข้าใจผิดอีกมากน้อยแค่ไหน ผมไม่รู้ว่าตลอดทางที่เดินไปอีกไกลแสนไกลผมกับมันจะยังจับมือกันไว้เหมือนเดิมหรือเปล่า



แต่ผมมั่นใจว่าอุปสรรคที่ผ่านมันจะช่วยให้ผมกับมันผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดี














The End





>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
หักมุมไปไหม ฮ่า ฮ่า จริงๆมันจะยาวกว่านี้ ยังไงเอาไว้ติดตามในตอนพิเศษนะคะ จบแล้ว จบในแบบที่อยากทำมาตั้งนาน ขอบคุณที่ติดตามมาตลอด รักคนอ่าน

ต่อจากเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของพี่เกียร์กับพี่ซี แล้วต่อจากพี่เกียร์กับพี่ซีจะเป็นเรื่องพี่ฟางนะ เรื่องของพี่ฟางออนจะเล่าตั้งแต่อดีตก่อนพี่ฟางจะเรียนจบจนถึงปัจจุบัน

เรื่องย่อ พี่เกียร์(จาก my best friend) + พี่ซี (ชุลมุนวุ่นรักนักศึกษา) “ซีนี่เหมือนเพื่อนผมคนหนึ่งเลยเนอะ” “หึหึ แน่ใจนะว่าคนนั้นเขาเป็นแค่เพื่อน” คำพูดเปิดบทที่ทำให้ผมมารู้จักกับเขา ผมยอมรับว่าซีเหมือนคนที่ผมเคยชอบ ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง คำพูด หรือแม้กระทั่งชื่อ เหมือนจนผมเองก็รู้สึกตื่นเต้น ติดอยู่แค่ซีคนนี้เป็นผู้ชายส่วนซีที่ผมรักเป็นผู้หญิง ซีเขาไม่รู้หรอกว่าที่ผมอยากเป็นเพื่อนเขา อยากไปนั่งดูเขาวาดรูปส่วนหนึ่งเพราะเขาเหมือนใครอีกคนและส่วนหนึ่งเขาทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น แต่ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อยู่ๆผมก็รู้สึกกับซีคนนี้มากกว่าที่เคยเป็น พอโพล่งออกไปว่าชอบกลับโดนปฏิเสธซะงั้นแล้วทีนี้ผมควรทำยังไงต่อไปดีครับ…

เรื่องย่อ พี่ฟาง กับ ....(??????)  "ทำไมไม่เห็นหมือนอย่างที่คิดเลยวะ" พอได้ยินเสียงคนที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทแล้วก็เป็นทั้งคนที่ผมแอบรักพูดออกมาแบบนั้น มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่ ทั้งๆที่มันมีแฟนแล้ว แต่พอมันพูดว่าอยากลองมีอะไรกับผม ผมเลยยอม แต่...ทำไมวะ...ทำไมต้องพูดจาทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ด้วย
"กู...ขอโทษล่ะกันที่มันไม่ได้ดีอย่างที่มึงคิด...งั้นกูกลับก่อนนะ" ผมเจ็บเจียนตายแต่ไอ้คนที่ทำผมเจ็บกลับนั่งอยู่บนที่นอนไม่คิดแม้แต่จะเดินมาส่ง
พอแล้วครับกับการแอบรักมัน ต่อจากนี้ผมจะมีแฟนสักที แต่พอมีแฟนมันก็มาแย่งแฟนผมไปอีก...ผมไม่รู้ว่ามันต้องการอะไรจากผม....ไม่รู้จริงๆ


ออนชอบเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนนะ ชอบมากกก เกียร์ซีไม่ม่านะบอกก่อน ใสๆ แต่เรื่องพี่ฟางอ่ะม่าแน่นอน ตะโกนดังๆว่ารักคนอ่าน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ฝันได้เหมือนจริงสาด ... ตอนที่ .. พรึ่บ.. เล่นเอางงไปพักนึงเลย
เอร้ย  ตรูฝันไปเหรอเนี่ยะ .... 555 ... ขอบคุณมากค้าบบบบบ

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
รอตอนพิเศษและก็เรื่องต่อๆไปน๊าาาาาา

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
 :กอด1: ขอบคุณค่ะ  ^^






ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ง้อกันในฝันก็พอแล้วชิมิ  :mew5:

carenaka

  • บุคคลทั่วไป
จะรอเรื่องต่อไปคะ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
จบแล้วหรอครับ

สนุกมาก

รอตอนพิเศษครับผม,,

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ขอบคุณนะครับที่เขียนนิยายมาให้อ่าน ที่สำคัญไม่ปล่อยทิ้งไว้ให้ค้างคา แต่งจนจบ คนอ่านปลื้มครับ รออ่านเรื่องใหม่นะครับ แนวดราม่าแบบนี้ชอบจัง :)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
สุดท้ายก็ได้รักกันแบบจริงๆจังๆสักทีนะ
แต่วินเก็บเอามาฝันเป็นตุเป็นตะ ว่าบัสง้อ
จริงๆอยากให้บัสมาง้อเหมือนในฝันล่ะซิ
จะรอตอนพิเศษสำหรับคู่นี้นะคะ
คงทำให้จบละมุนมากขึ้น

และอีกสองเรื่องก็จะรอติดตามนะ

ออฟไลน์ Onlymin

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-4
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ อ่านปลื้ม  o13


ออฟไลน์ dekzappp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
จบแบบนี้ดีละ เพราะตอนในฝันเนี่ยรู้สึกแบบ ทำไมบัสต้องเป็นฝ่ายยอมฟ่ะ ทั้งๆที่วินก็เคยทิ้งบัส

แต่พอจบแบบตอนตื่นนี่เวิร์คมาก เหมือนทั้งคู่ยอมลงให้กัน แบบเราเข้าใจกันแล้วนะ กู๊ดมากกกกกกก

แต่ตอนนี้ ตอนพิเศษอยู่หนายยยยยยยยยยยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด