* " ".+ * รอจนกว่า...จะรักกัน˚。 *:。".+.. ตอนพิเศษ [P.5*13/7/2557] [จบแล้วค่ะ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: * " ".+ * รอจนกว่า...จะรักกัน˚。 *:。".+.. ตอนพิเศษ [P.5*13/7/2557] [จบแล้วค่ะ]  (อ่าน 54997 ครั้ง)

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ศักดิ์ศรีหายไปไหนหมดวิน โธ่เอ้ย

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
สงสารวิน

แต่คนมันรัก ให้ทำยังไงได้หล่ะ

มาต่อเร็วๆนะครับ

ออฟไลน์ KaeM_PonG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
คือวินมันยอมอะไรขนาดนี้นะ ตั้งแต่คราวหลิวแล้ว คือถ้ารักใครยอมทุกอย่างเลยเหรอ
ไม่สนเลยว่าจะเป็นน้อย หรืออะไร  :เฮ้อ:

ไม่รู้นะ ที่ทำตอนนี้ไม่ใช่ศรัทธาในความรักเลยอ่ะ แต่เป็นการทำตัวไร้ค่ามากๆ
อยากให้ทำตัวดีกว่านี้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เป็นชู้=ต้นงิ้ว

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คนที่รอคือวินซินะ

มาตีอเร็วๆนะ มันค้าง :katai1:

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ดราม่ายังได้อีกน้าาาา 555555555 เอาให้สุดดดดดด บัสมันยังรักแหละเนอะ ฝังใจขนาดนั้นไม่น่าเลิกรักง่ายๆหรอก

ออฟไลน์ none_ny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
กรี๊ดดดด ค้างมากกกก > <


ตัดใจเถอะวิน ถึงจะยากแต่สักวันนายจะทำได้

carenaka

  • บุคคลทั่วไป
ค้างเกิน

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อยากอ่านเรื่องนี้อีกแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Chapter 11

“วิน....” เสียงคุ้นหูที่กระซิบอยู่ใกล้ๆมันทำให้ความรู้สึกเก่าๆของผมกลับมา นานมากแล้วที่ผมไม่ได้ยินเสียงนี้ และก็นานมากแล้วที่ผมไม่ได้ยิน ‘เขา’ เรียกแค่ชื่อผมเฉยๆ

“พี่วิน...ตื่นได้แล้ว” อุตส่าห์เรียกวินเฉยๆแล้วทำไมกลับมาเรียกพี่วินเหมือนเดิมอีกแล้ววะ แรงเขย่าของบัสเตอร์ทำเอาผมที่กำลังหลับอยู่ค่อยๆกระพริบตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ห้องๆเดิม ที่ๆเดิม  พร้อมกับคราบขาวเกรอะกรังที่อยู่บนร่างกายส่วนล่าง ยังดีที่มีบ๊อกเซอร์ปิดบังเอาไว้ไม่งั้นผมคงนอนโป๊ อยู่บนโซฟาท่ามกลางสายตาของคนตรงหน้า แปลกใจเล็กๆว่าทำไมบัสถึงไม่พาผมเข้าไปนอนบนเตียง ไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ผม ไม่เช็ดตัว ไม่ทำความสะอาดร่างกายให้ แต่พอคิดอีกทีเขาอาจจะยังไม่ว่างหรือไม่ก็รอผมตื่น


หรือบางทีอาจจะไม่ใช้ทั้งสองข้อนั้น


“ง่วงอ่ะ” ผมขยับตัวเอาหัวหนักๆของตัวเองวางไว้บนพนักวางแขน มือข้างหนึ่งยกขึ้นจับหน้าบัสเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ แม่งหล่อฉิบหาย หัวเกรียนๆกับผิวไม่ขาวมากของมันยิ่งทำให้คนตรงหน้าหล่อขึ้นอีกเป็นเท่าตัว “เจ็บด้วย...”

ไม่ได้อ้อนมันนะครับ แต่สภาพร่างกายตัวเองตอนนี้มั่นใจเลยว่าลุกขึ้นไปไหนไม่ไหว เพราะมันทั้งเจ็บ หน่วง และก็เหนื่อยสุดๆ แถมรู้สึกเหมือนตัวเองยังนอนหลับได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ

“วิน...”

“อื้อ” ผมครางรับไอ้บัสในลำคอก่อนจะค่อยๆหลับตาลงช้าๆ มือวินทาบทับลงบนมือผม ความอบอุ่นแล่นผ่านจากมือเข้ามายังหัวใจ ผมยิ้มเบาๆในมุมของตัวเอง บางทีบัสอาจจะกลับมาเป็นคนเดิมแล้วก็ได้

“ลุกได้แล้วพี่วิน”

“ไม่เอา”

“พี่วิน”

“ม่ายยย”

“พี่วิน!!!” มันตะโกนเรียกชื่อผมเสียงดังจนมือที่จับหน้ามันตอนแรกชะงักค้างอยู่อย่างนั้น ไม่นานไอ้บัสก็ปัดมือผมที่จับหน้ามันอยู่ออกจากหน้าตัวเอง มันลุกขึ้นนั่งบนโซฟาที่วางอยู่ใกล้ๆ “ไปอาบน้ำได้แล้ว...แฟนผมกำลังจะมา”



ผมไม่น่าคิดไปก่อนเลยว่าคนอย่างไอ้บัสจะกลับมาหาผม ดูสายตามันดิมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าที่ผมจับหน้ามันเมื่อกี้...มันไม่ชอบ



“แต่กูเจ็บ” อย่างน้อยมึงก็น่าจะเห็นใจกูบ้างนะบัส คนที่ทำกูเจ็บก็คือมึง ไม่ใช่มาทำหน้าไม่พอใจหรือเหนื่อยหน่ายใส่กูแบบนี้

“เป็นแค่คนอื่นอย่าทำตัวมีปัญหาได้ไหมวิน”

“บัส...ทำไมวะ”

“อะไร”


ทำไมต้องพูดจาทำร้ายกันขนาดนี้ด้วย


 ผมกัดปาก เงยหน้ามองบัสเตอร์ สายตาที่ส่งมาให้รู้เลยว่ามันไม่ใช่บัสเตอร์คนเดิมที่เคยรักผม...บัสเตอร์ไม่เคยกลับมา...เขาไม่ได้กลับมารักผม

“เลิกทำหน้าแบบนั้นเถอะวิน...” ผมไม่รู้ว่าผมทำหน้าแบบไหน อ้อนวอนเขาเหรอ เปล่าสักหน่อย น้ำตาก็ไม่ได้ไหลออกมาด้วย เพราะตอนที่รู้สึกเหมือนมีก้อนแข็งๆจุกอยู่ที่คอผมก็ก้มหน้าไม่ให้เขาเห็นแล้ว

“ได้ยินที่พูดไหมเนี่ย”

“รู้แล้วๆ กำลังจะลุกเดี๋ยวนี้แหละ....ยังไงกูของยืมเสื้อผ้าหน่อยล่ะกัน ถ้าให้ใส่ชุดนี้ออกไปคงไม่ไหว”

“อืม” เขาพยักหน้าเสร็จก็เดินเข้าไปในครัว กลิ่นหอมชุยจากอาหารที่บัสทำลอยเตะจมูกเข้ามาเป็นพักๆ พี่บลูนี่โชคดีจังเลยเนอะ มีคนอย่างบัสเตอร์ทำอะไรๆให้ตั้งหลายอย่าง ตอนอยู่ด้วยกันไอ้เกรียนนั่นคงดูแลพี่เขาดีสุดๆ ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยมั้ง

“เฮ้อออออออ”ผมถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะมองร่างกายตัวเองผ่านกระจกในห้องน้ำ ไม่มีร่องรอยสีแดงช้ำเป็นจุดๆเหมือนอย่างปกติที่บัสชอบทำ นั่นก็หมายความว่าเขาไม่ได้จูบผมเลย สิ่งที่ร่างกายบอกคือเขาแค่ทำๆให้มันเสร็จๆไป ไม่ได้สนใจว่าผมจะเสร็จเหมือนเขาไหม


ผมละสายตาจากในกระจกแล้วเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ สายน้ำเย็นไหลผ่านร่างกายตั้งแต่หัวจนถึงปลายเท้า ความเย็นของน้ำไม่ได้ช่วยให้ใจผมสงบลงเลย ในหัวคิดเรื่องราวระหว่างเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมยอมรับก็ได้ว่าลึกๆแล้วผมแอบคิดว่าบัสจะกลับมาหาผม


ยอมรับก็ได้ว่าตอนที่เห็นชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์เป็นชื่อบัส ความรู้สึกตื่นเต้นที่คิดว่าเขายังรักผมมันยังมีอยู่ และก็คิดว่าถ้าเรามีอะไรกัน... บัสเตอร์จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม



แต่ก็นั่นแหละอย่างที่เห็น ผมหลอกตัวเองได้ แต่หลอกความจริงที่เจอไม่ได้


“พี่วิน” พอผมออกมาจากห้องน้ำ บัสก็เข้ามาทักผมพร้อมกับยื่นเสื้อผ้าที่ผมขอมาให้ เราไม่ได้พูดอะไรกันอีก เขานั่งลงบนเตียงมองผมผ่านกระจก แต่ถึงจะมองจนแทบทะลุร่างผมขนาดไหน ความรู้สึกที่รับรู้ได้ก็ไม่มีคำว่ารักอยู่นั้น

“อย่าลืมที่ผมบอกนะพี่วิน” บัสก็ยังคงเป็นบัส ถึงจะเกลียดผมมากแค่ไหนก็ยังคงพูดเพราะเหมือนเดิม

“........”

“อย่ายุ่งกับพี่บลู” ที่เรียกผมมาหาถึงนี้ก็คงมีแค่เรื่องนี้สินะ ถ้าไม่มีเรื่องนี้บัสมันอาจจะไม่โทรหาผมเลยก็ได้ ผมไม่ได้สำคัญขนาดนี้เนอะ ผมมันก็เป็นแค่คนอื่น....ก็แค่นั้น

“รู้แล้ว” ผมเดาะลิ้นในโพรงปากก้มหน้าลงมองพื้นถามตัวเองในใจว่าทนไหวไหม แต่คำตอบที่ได้รับก็ยังเหมือนเดิม “ถ้าเกิดว่ากูจะมาหามึงล่ะ”


“รอผมโทรไป”


“แล้วตอนไหนล่ะ บัสถึงจะโทรมา”


“ฟังไม่รู้เรื่องเหรอวิน บอกให้รอก็คือรอไง...”


แล้วถ้ากูคิดถึงมึงล่ะ....จะให้กูทำยังไง


“อื้อ...เข้าใจแล้ว...”









สองหรือสามวันหลังจากนั้นบัสเตอร์ก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีก ผมส่งไลน์ไปหา เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา โทรไปก็เหมือนเดิม ไม่รับ ไม่โทรกลับ ส่วนผมเองหลังจากวันนั้นก็ลุกไปไหนไม่ได้เพราะไข้ขึ้น ไอ้เกมส์ก็แวะเวียนมาหาขอส่วนบุญเนียนแดกข้าวเย็นกับผมแทบทุกวัน

“หายยังเนี่ยมึง”

“ยัง”

“ตอแหล เลิกสำออยแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำ จะได้ไปช่วยกูทำงานสักที” มันมาที่บ้านผมทีไรแม่งก็เอาแต่พูดเรื่องเดิม บ่นเรื่องเดิม องค์การแม่งก็มีคนตั้งเยอะแยะแล้วทำไมกูต้องไปด้วยวะ “ลุกเลยมึง พี่ฟิล์มจะฆ่ากูตายอยู่แล้วเนี่ย”

“เกี่ยวอะไรกับพี่ฟิล์ม” ผมถามมันพร้อมกับลุกขึ้นมาหยิบผ้าเช็ดตัว ขี้เกียจฟังแม่งบ่นแหละ มาทุกวันบ่นทุกวัน ถ้ากูไม่ไปจะมีใครตายหรือไง แล้วที่มันพูดออกมาเมื่อกี้อีก เชี่ยพี่ฟิล์มเกี่ยวอะไรกับผม

“กูว่ามันชอบมึง”

“ตลกและ สัส!! กูไม่ขำด้วยหรอกนะ” ถึงผมจะไม่ได้รังเกียจผู้ชายแต่ถ้าให้ชอบกับคนอื่นที่ไม่ใช่ไอ้บัสผมก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่อ่ะ ถึงแต่ก่อนจะเคยรู้สึกตื่นเต้นกับไอ้ไวท์แต่มาคิดๆดูนั่นก็ไม่ใช่ความรักแบบที่ผมมีให้บัสเตอร์

“กูพูดจริง แม่งถามหามึงตลอดอ่ะ สงสัยจะหลงเสน่ห์มึงล่ะ ตั้งแต่มีผัวเนี่ยน่ารักขึ้นเป็นกองเลยนะเพื่อนเรา”

“ K ” คนอย่างไอ้เกมส์แค่ด่าน่ะไม่พอหรอกครับต้องส่งนิ้วกลางกระแทกหน้ามันไปอีกดอก

“คิคิ อันนั้นกูก็มี มึงไม่ต้องบริจาคของตัวเองมาให้กูหรอก...แต่พอพูดเรื่องพี่ฟิล์มกูว่ามันก็แปลกๆนะเว้ย เคยได้ยินมาว่าพี่เขาคั่วพวกเด็กหน้าตาน่ารัก สไตล์อย่างไอ้เบสไม่ก็พี่บลู งงเหมือนกันที่มาชอบคนอย่างมึง”

“นั่นดิ คนอย่างกูใครเขาจะมาชอบ”

“เอาอีกและ ดราม่าใส่กูอีกแล้ว ไป...ไปอาบน้ำ เลิกทำหน้ายู่ได้แล้วครับเพื่อน”

“เชี่ยยยยย ใครบอกให้มึงทำแบบนี้” จู่ๆแม่งก็กระโจนมากัดแก้มผมซะงั้น พอผมผลักหน้ามันออกแล้วทำท่าเช็ดแก้มตัวเองด้วยความรู้สึกรังเกียจ มันก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากยักไหล่แบบไม่แคร์สายตาผมสักนิด “กวนตีน”

ผมเตะขาหน้ามันไปอีกทีก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป วันนี้ถ้าผมเจอพี่บลูโอกาสที่จะเจอบัสก็มีสูงขึ้นด้วย เอาวะแค่เห็นหน้าหรือแค่แอบส่งพี่บลูคุยไลน์กับไอ้บัสก็ยังดี


แค่นี้ก็ยังดีงั้นเหรอ หึ ไม่สักนิด ผมอยากมากกว่านั้นอีก อยากนอนกอด อยากจูบ อยากมีอะไรกันถึงเขาจะไม่สนไม่แคร์หรือทำให้ผมรู้สึกดีไปด้วยผมก็ยังอยากอยู่ในอ้อมกอดเขา หวังมากไปหรือเปล่าวะ


“หึ พอ เลิกเพ้อได้แล้วกู”







“น้องวินนนน” เชี่ยแม่งขนลุกว่ะ ไอ้พี่ฟิล์มตอนที่มึงเรียกกูแบบนี้มึงไม่รู้สึกขยะแขยงหรือไง

“หุบปากไปเลยมึงหัวเราะอะไรนักหนา” ผมตบกะโหลกไอ้เกมส์ไปทีก่อนจะขยับนั่งลงข้างพี่บลูที่กำลังละเลงสีลงบนคัทเอาท์ หน้าที่ส่วนของผมคงช่วยได้แค่นี้ ช่วยระบาย ละเลง ยกแบกหาม เขียนป้าย จะให้ไปใช้สมองส่วนหน้าแบบคนอื่นๆคงไม่ไหว “หวัดดีครับพี่บลู สบายดีนะ”

“สบายดี แต่ร้อนไปหน่อย วินว่าป่ะ”

“ร้อนมึงก็ถอดเสื้อกันหนาวออกดิวะบลู กูเห็นใส่ตั้งแต่เช้าและ” ผมก็งงกับพี่บลูเหมือนกันเพราะเห็นแกใส่เสื้อกันหนาวแล้วรูดซิบขึ้นจนถึงคอ รู้ๆกันอยู่ใช่ไหมครับว่าอากาศเมืองไทยแม่งร้อนพอเห็นพี่เขาใส่แบบนี้คนข้างๆอย่างผมก็อดร้อนแทนไม่ได้

“ไม่เอาอ่ะ” พี่บลูก้มหน้าหงุด แก้มแดงระเรื่อไม่รู้เพราะว่าร้อนหรือเพราะว่าอย่างอื่น

“แหมทีอย่างนี้ล่ะทำเป็นอาย ทีตอนเอากันมึงไม่อายวะ นี่ๆวินดู” ไอ้พี่ฟิล์มถือวิสาสะเอานิ้วจิ้มไปที่คอเสื้อของพี่บลูก่อนจะแหวกคอเสื้อพี่บลูลงมานิดหน่อยพอให้เห็นร่องรอยที่พี่บลูปกปิดเอาไว้ “แดงเป็นดวงๆเลยครับ แฟนเด็กมึงแม่งหื่นไปนะ ตีตราซะจนกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าได้กันแล้ว”

“ไอ้ฟิล์ม นิสัยไม่ดีว่ะ” เสียงเถียงกันของพี่เขาสองคนไม่ได้เข้าหูผมเลยสักนิด ในหัวพาลแต่จะคิดถึงรอยจุดจ้ำแดงๆที่คอของพี่บลูเท่านั้น ทีกับผมแค่จูบเบาๆที่ร่างกายมันยังรังเกียจที่จะทำ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องน้อยใจหรือเอาตัวเองไปเทียบกับคนรักอย่างพี่บลูทุกครั้ง



ทั้งๆที่ผมเทียบอะไรกับพี่เขาไม่ได้เลยสักอย่าง




คนรักแบบเขาจะเทียบกับคนอื่นแบบผมได้ยังไง



“พี่บลู”

“นั่นไงพูดถึงก็มาเลย เจ้าของร่องรอยปริศนา” ผมไม่ได้หันไปมองเจ้าของร่องรอยปริศนาหรอกนะครับ เพราะถ้าให้หันไปมองหน้ามันตอนนี้คงได้เผลอทำแววตาตัดพ้อใส่มันแหงๆ

“หวัดดีครับพี่ๆ”

“ว่าไงเด็กปีหนึ่ง มึงนี่มันอภิสิทธิ์เกินไปแล้วนะบัส”

“ฮ่า ฮ่า เปล่าสักหน่อย ผมมาหาแฟนผมเฉยๆ ไม่ได้มาแอบดูวิธีการรับน้องของพวกพี่ๆหรอกนะ” เสียงไอ้บัสดูมีความสุขจังเลยเนอะ ตามันคงยิ้มจนแทบจะปิดเลยมั้ง

“ยังไม่ได้พูดสักคำเลยว่าเป็นแฟน”

“อ่าว...ที่ผ่านมาผมเข้าใจผิดงั้นเหรอพี่บลู อะไรอ่ะพี่ได้ผมแล้วนะ” แม่งหยอกกันเข้าไป เอ้อ เห็นพวกกูเป็นอากาศธาตุแล้วมั้งตอนนี้ ไม่อยากนั่งตรงนี้แล้วอ่ะ อยากเดินหนีออกไปไกลๆแล้วด้วย ไม่ชอบความรู้สึกตัวเองตอนนี้เลยให้ตายเถอะ

“วิน...ไหวไหมมึง” ผมหันไปส่ายหน้าให้ไอ้เกมส์เป็นคำตอบ น้ำตาผมที่ไม่เคยไหลออกมาท่ามกลางสายตาคนอื่นกำลังจะไหลออกมาในไม่ช้า ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทน แต่ก่อนตอนที่เกิดเรื่องของหลิว ผมรักเธอขนาดนั้นผมยังรับได้เลยแต่ทำไมเรื่องของบัสผมถึงรับอะไรไม่ได้สักอย่าง

“มานี่มา” ผมลุกขึ้นตามแรงลากของใครสักคนที่จู่ๆก็เอื้อมมือมาจับผมไว้แน่น ตอนแรกผมคิดว่าคนที่ลากผมออกมาเป็นไอ้เกมส์ซะอีก แต่พอเงยหน้าดูแล้วกลับไม่ใช่ซะงั้น

“พี่ฟิล์มอะไรอ่ะ” เมื่อกี้ยังเห็นมันแซวพี่บลูอยู่เลยทำไมจู่ๆมาลากผมได้วะเนี่ย “เฮ้ยพี่!!อะไรวะเนี่ย เลิกลากผมได้แล้วคนมองไม่เห็นรึไง”

“โทษทีๆ” ไอ้พี่ฟิล์มยกมือยอมแพ้แล้วผลักผมให้นั่งลงตรงม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ข้างๆองค์การ ผมขมวดคิ้วไม่พอใจมันนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา “เอาน้ำไหม”

“ไม่อ่ะ”

“ไหวไหมเนี่ย”

“อะไรของพี่วะ” ผมเงยหน้าสบตาไอ้พี่ฟิล์มพยายามดึงมือมันออกจากหัวผมแต่มือมันโคตรเหนียวเลย ปัดออกก็ไม่ออก ดึงออกก็ไม่ได้เลยปล่อยให้มันจับหัวผมไว้แบบนั้น

“กูรู้นะว่ามึงกับไอ้บัสเคยเป็นอะไรกัน”

“มั่วและ”

“กูเคยเห็นมึงกับมันที่เขาใหญ่ ไปเที่ยวด้วยกันมาไม่ใช่เหรอ ตอนนั้นก็เห็นรักกันดีนิ แล้วไหงมาเป็นแบบนี้ได้วะ”

“จำคนผิดแล้ว” ผมยังเถียงข้างๆคูๆไม่ยอมรับความจริง ถ้าเกิดยอมรับไปมันไปเล่าให้พี่บลูฟัง พี่บลูรู้ขึ้นมาแล้วไม่สบายใจขึ้นมาทำไงล่ะ

“ตอนแรกก็คิดว่างั้น แต่พอเห็นวันนี้แล้วคิดว่าน่าจะใช่”

“...........”

“ยอมรับมาเถอะน่า กูไม่เล่าให้ไอ้บลูฟังหรอก”

“จริงอ่ะ” พอโดนต้อนจนจนมุมผมก็ต้องยอมรับออกมาในที่สุด

“จริงดิ แล้วยังไง..ทำไมจู่ๆถึงเป็นแบบนี้ได้” เชี่ยนี้แม่งขี้เสือกว่ะ ถ้ากูไม่เล่ามึงก็ยังจะเสือกแบบนี้จนกว่าจะรู้ใช่ไหม

“ใช่”  อะไรของมันอยู่ๆก็พูดว่าใช่ทั้งๆที่ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปสักคำ  “ก็หน้ามึงบอกว่ากูเสือก กูเลยบอกว่าใช่ไง”

“เชี่ยพี่ฟิล์มมึงแม่งกวนตีนว่ะ”

“นี่กูพี่มึงนะวิน”

“พี่แล้วไงวะ กูไม่นับถือมึงหรอก” หน้าอย่างมันจะอายุมากกว่าผมสักกี่เดือนเชียว เผลอๆเกิดปีเดียวกับผมด้วยมั้ง

“ฮ่า ฮ่า มึงนี่มันน่ารักจริงๆ” มันลูบหัวผมเบาๆก่อนจะเริ่มขู่บังคับให้ผมเล่าเรื่องของผมกับบัสอีกรอบ ตอนแรกก็ไม่คิดจะเล่าให้มันฟังหมดหรอกครับ แต่ไปๆมาๆไม่รู้ทำไมพอเล่าไปเรื่อยๆแล้วรู้สึกสบายใจ ก็เลยเล่าให้มันฟังจนจบ “มึงนี่มันโง่”

แม่งด่ากูอีก รู้งี้ไม่เล่าให้ฟังซะก็ดี

“แล้วก็ไม่ต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นด้วย”

“เปล่าสักหน่อย” ปากพูดว่าเปล่านะแต่น้ำตามันดันไม่ฟังสักนิด พี่ฟิล์มดึงหน้าผมไปซุกที่ท้องมัน มือที่ลูบปลอบเบาๆของมันยิ่งทำให้ผมร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม “ผมไม่ชอบแบบนี้เลยว่ะพี่ ไม่ชอบที่เป็นแบบนี้เลย...ฮึก..สักนิด”

“กูเข้าใจ...ไม่ต้องร้องนะ”

“มึงจะมาเข้าใจอะไรกูวะพี่ฟิล์ม...ฮึก... มึงไม่ใช่กูสักหน่อย ..ฮือ..มึงไม่เข้าใจหรอก” ผมทุบหลังไอ้พี่ฟิล์มอย่างแรงก่อนจะปล่อยโฮก๊อกสุดท้ายออกมาอีกครั้ง



ความรักของผมไม่มีใครเข้าใจมันได้ดีเท่ากับผมหรอก รักของผมอยู่บนเส้นทางของคำว่าคนอื่นเสมอ รักของผมมักจะเป็นอันดับสองรองจากคนสำคัญของเขาทุกครั้ง ไม่ว่าผมจะรักใครคนๆนั้นก็มีคนรักของเขาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะหลิว หรือแม้กระทั่งไอ้บัสตอนนี้



มันอาจจะใช่ที่บัสเตอร์มันเคยรัก ใช่..ที่มันเคยรอผม แต่ผิดหรอที่ผมรู้ตัวช้าไป ผิดไหมที่ผมหันกลับมาแล้วเขาเดินจากไปแล้ว



ผมคว้าเขาไว้ไม่ทัน



มันสายไป




ที่ทำได้ตอนนี้คือขอให้ได้อยู่ข้างๆ ขอ...ให้เขาหันมามองบ้างแม้ไม่เต็มสายตาก็ยังดี







“พี่ฟิล์มครับ พี่บลูเรียก” ผมกับไอ้พี่ฟิล์มหันหน้าไปมองบุคคลที่สามที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล สายตามันที่ส่งมาทางเราทั้งคู่ ผมอ่านไม่ออกว่ามันหมายถึงอะไร แต่คิดว่าคงไม่ดีเท่าไหร่นัก

“มันหึงมึงหรือเปล่า” พี่ฟิล์มกระซิบถามผม

“ไม่ใช่หรอกพี่ ดูหน้ามันดิ สมเพชผมจะตาย”

“ใครจะไปรู้ หึ” ก็ใช่ไง ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันคิดอะไร แต่ถ้าให้ผมเดา คนอย่างบัสเตอร์ไม่มีทางหึงผมหรอก

“พี่ฟิล์มครับ” ไอ้บัสตะโกนเรียกพี่ฟิล์มอีกรอบ

“เออๆ กูกำลังจะไปนี่ไง ป่ะวินไปพร้อมกู เสร็จงานแล้วเดี๋ยวกูพามึงไปแดกอาหารญี่ปุ่นแบบที่มึงอ้อนกูกินเมื่อกี้” กูอ้อนมึง ตอนไหนวะครับ

“พี่เลิกพูดแบบนั้นเถอะ มันไม่หึงผมหรอก ดูนู่นมันเดินไปแล้ว”

“เออว่ะ”

“ผมบอกพี่แล้วว่ามันไม่ได้รักผม....” พูดเองเจ็บเองซะงั้น

“เอาน่าไม่มีมัน มึงก็ยังมีกูนะเว้ย” มีมึงนั่นแหละยิ่งทำให้กูเครียดกว่าเดิม “ให้เวลาสิบนาทีในการจัดการตัวเองนะวิน ล้าหน้าล้างตาให้เรียบร้อย กูรอมึงตรงนี้ ไป...ยังมาทำหน้างงอีก เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย”

ผมเดินไปล้างหน้าล้างตาทำใจอยู่ในห้องน้ำสักพักก็เดินมาหาพี่ฟิล์มที่เดิม มันเลิกคิ้วถามผมประมาณว่าพร้อมไหม ไอ้ผมจะทำอะไรได้นอกจากพยักหน้าใส่มันแทนคำตอบ พอเดินมาจนถึงใต้องค์การ เห็นพี่บลูกับบัสเตอร์กำลังนั่งหยอกกันอยู่ ผมก็แทบจะหันหลังกลับเสียเดี๋ยวนั้นเลย แต่โดนไอ้พี่ฟิล์มดึงมือผมไว้ก่อน “อย่าแม้แต่จะหนี”

“พี่ฟิล์มอ่ะ”

“ว่าไงบลูมึงเรียกกูทำไมวะ”

“กูจะให้มึงมาร่างภาพต่อ กูจะได้ลงสี”

“เออๆรู้แล้ว แล้วนี่มึงจะยืนค้ำหัวกูอีกนานไหมวิน นั่งดิลูกพี่เสร็จงานแล้วจะพาไปกินข้าว”ไอ้พี่ฟิล์มพูดเสร็จก็กระตุกมือผมให้นั่งลงข้างๆกัน แถมนั่งลงตรงข้ามบัสเตอร์กับพี่บลูด้วย มันจะฆ่าผมทั้งเป็นหรือไงวะ ไม่เห็นหรือไงว่าแค่กูมองหน้ามันน้ำตากูก็พาลจะไหลออกมาอีกแล้ว

“อยากกลับบ้าน” ผมกระซิบข้างหูไอ้พี่ฟิล์มแล้วพยายามดึงมือตัวเองออกจากมือมัน แต่ยิ่งดึงมันก็ยิ่งจับแน่น

“เดี๋ยวกูไปส่ง”

“พี่ฟิล์ม”

“เงียบน่า....”

“พี่ทำแบบนี้ทำไมวะแม่ง”

“มึงมีคนรักของมึง ส่วนกูก็มีของๆกูที่จะทวงคืน” อะไรของมัน เชี่ยพี่ฟิล์มแม่งพูดโคตรไม่รู้เรื่องอ่ะ ไอ้บัสไปขโมยของอะไรจากพี่ฟิล์มวะ รีบๆคืนเขาไปดิเขาจะได้ไม่ต้องมาลากผมมาทำนู่นทำนี่แบบนี้

“พี่ฟิล์ม ปล่อยมือผมก่อน”

“อย่าอ้อนนะคนดี พี่ใกล้เสร็จงานแล้วครับ ยังไงเดี๋ยวพาไปกินอาหารญี่ปุ่นเนอะ” เชี่ยพี่ฟิล์มแม่งกวนตีนสัส ดูมันดิกูไม่ได้อ้อนมึงเลยเหอะ

“ฟิล์มจะไปกินอาหารญี่ปุ่นเหรอ ร้านไหนอ่ะ”

“ร้านแถวๆทองหล่อน่ะ จำได้ป่ะที่กูเคยพามึงไปกิน”

“ร้านนั้นอร่อย ฟิล์ม...บลูขอไปด้วยดิ อยากไปนานแล้วแต่จำทางไม่ได้”

“เอาดิ บัสก็ไปด้วยกันเลยเนอะ”  ไอ้พี่ฟิล์มหันไปถามบัสเตอร์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมรีบหยิกขามันทันทีที่มันพูดชวนบัส

“ครับ” เชี่ยพี่ฟิล์มหางานให้กูอีกแล้ว




ตอนนี้ผม พี่ฟิล์ม พี่บลู แล้วก็บัสเตอร์กำลังนั่งกินอาหารญี่ปุ่นในร้านย่านทองหล่อ คนไม่ได้เยอะ บรรยากาศก็ดี อาหารอร่อย แต่ติดอยู่นิดเดียวตรงสายตาไอ้บัสที่ส่งมาให้ผมเป็นระยะๆ

“กินเลยๆ มื้อนี้กูเลี้ยง”

“เออเดี๋ยวกูจะสั่งให้ขนหน้าแข้งมึงร่วงเลยพี่ฟิล์ม ยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก เชี่ยนิ” ผมผลักหัวมันที่ยื่นมาใกล้ๆผมให้ขยับออกไปห่างๆ พี่บลูมองแบบยิ้มๆส่วนอีกคนมองแบบสมเพช เห็นแบบนี้แล้วอยากกลับบ้านฉิบหาย

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

“ว่าไงซัน.....ได้ๆ....เอาไอ้บลูไปด้วยเหรอวะ...กินก่อนได้ไหม...เออๆ...เดี๋ยวไปตอนนี้แหละ....เออรู้แล้วกำลังจะไป...แค่นี้โว้ย เชี่ยซันแม่งพูดมาก”

“มีไรอ่ะ” พี่บลูถามขึ้นทันทีที่พี่ฟิล์มวางโทรศัพท์

“ไอ้ซันโทรมา บอกเรียกประชุมพวกปีสี่ที่รับผิดชอบงานด่วน”

“แต่ฟิล์ม...อาหารยังไม่มาเลย จะไปเดี๋ยวนี้เลยเหรอวะ รอให้อาหารมาก่อนแล้วบอกเขาห่อไม่ได้เหรอ” พี่บลูทำหน้างอนิดหน่อย เพราะอาหารที่พวกเราเพิ่งสั่งเริ่มทยอยมาเรื่อยๆ

“ก็ให้น้องสองคนรอไปล่ะกัน มึงก็รู้ว่าร้านนี้ทำนาน เราสองคนไปกันก่อนเดี๋ยวให้ไอ้วินกับไอ้บัสตามไป”

“เอางั้นเหรอ” พี่บลูหันไปพูดกับบัสเตอร์ ส่วนไอ้บัสก็พยักหน้าเบาๆแล้วลูบหัวพี่บลูอย่างเอ็นดู

“พี่ฟิล์ม ผมไปด้วยดิ”

“มึงจะไปทำไมล่ะ อยู่เป็นเพื่อนไอ้บัสนี่แหละ ได้ของแล้วเดี๋ยวค่อยไปพร้อมมัน”

“พี่ฟิล์ม...” ผมทำเสียงอ้อนมัน กระตุกแขนเสื้อ มึงก็รู้ว่ากูไม่อยากอยู่กับมันตอนนี้

“เอาน่ากูไปแล้วนะ” เชี่ยพี่ฟิล์มรีบลุกแล้วลากพี่บลูออกจากโต๊ะไปเลย มึงไม่เห็นเหรอกูอ้อนมึง ส่งสายตาให้มึงพากูไปด้วย ไม่ใช่ให้มึงทิ้งกูไว้ที่นี้ กับมันแบบนี้

ไอ้บัสเดินตามไปส่งพี่บลูก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ แต่ไม่ใช่ที่เดิมที่มันเคยนั่งฝั่งตรงข้ามกับผม

“พี่ครับ รบกวนห่ออาหารทั้งหมดที่สั่งเมื่อกี้ให้ด้วยนะ”

“..............” หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก ถ้าไม่ติดว่าไหล่ที่แนบชิดกันอยู่ผมคงคิดว่าผมนั่งอยู่คนเดียว อึดอัดจังเลยว่ะไม่ชอบแบบนี้เลยสักนิด




“บัส มึงไปส่งกูที่บ้านก่อนนะ กูไม่อยากกลับไปมหาลัยแล้ว” ตอนที่ขึ้นมาบนรถผมสั่งไอ้บัสให้ไปส่งผมที่บ้าน มันไม่ได้พูดตอบอะไรผม ไม่มองหน้า เห็นแบบนี้แล้วก็แทบอยากจะลงจากรถเสียเดี๋ยวนี้


“ตั้งแต่วันนั้นมึงก็ไม่ตอบไลน์กูเลยอ่ะ”


“.......”


“โทรไปก็ไม่รับ...คงยุ่งใช่ไหม...มึงกับพี่บลูดูเข้ากันดีเนอะ”


“.......” ผมเม้มปากแน่นทันทีเมื่อคำตอบที่ได้ยังเหมือนเดิม ความเงียบที่ส่งไปให้ ไม่รู้มันว่าที่ทำแบบนี้ มันรำคาญผมหรือเปล่า ไม่พอใจผมใช่ไหม ถ้าไม่ชอบอะไรก็พูดออกมาดิ ไม่ใช่เงียบใส่แบบนี้


“แล้ววันนี้ว่างเหรอ ถึงมาหาพี่บลูที่นี้ได้”


“............”


“ถ้าว่างสักหนึ่งนาทีหรือสองนาที ตอบไลน์หรือรับโทรศัพท์กูบ้างก็ได้นะเว้ย....แต่ถ้าไม่ว่าง...ก็ไม่เป็นไร”


“..........”


“บัส...พูดกับกูหน่อยสิ” ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเอื้อมมือไปจับแขนเสื้อมันตอนไหน


“........”


“บัส...ฮึก...”ไม่ได้อยากร้องไห้ให้มันเห็นหรอกนะครับ แต่ผมไม่อยากทนแล้วอ่ะ หันมายิ้มให้กูหน่อยได้ไหม พูดเออ ออ อะไรก็ได้ ไม่ใช่เงียบใส่แบบนี้


“เลิกพูดมากสักทีเถอะพี่”


“........”


“ผมรำคาญ”


“อื้อ...” ผมปล่อยมือจากแขนเสื้อบัสเตอร์ก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเองออกลวกๆ  ไม่น่าร้องไห้ให้มันเห็นเลย ไม่น่าอ้อนมันให้ตัวเองเสียหน้าด้วย แต่ถึงเสียหน้าผมก็ยังอดไม่ได้ที่จะพูดคำๆนึงกับมัน




“กูคิดถึงมึงนะบัส....”




ต่อให้มันเกลียดผมแค่ไหน ผม...ก็ยังรักมันอยู่ดี





“วันนี้อยู่กับกูนะ”




ผมก็ยังอยากอยู่กับมัน



>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC
วินก็เป็นซะแบบนี้
เร็วไปไหมง่ะ 5555 ใกล้จบแล้ว รักคนอ่านนะจุ๊บๆ




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
โอ้วว บัสเย็นชาได้ใจจริงๆ
แต่เราดันชอบดราม่าแบบนี้
ขอให้ปลายทางแฮปปี้ก็พอ
ถ้ามีบัส-วิน และ บัส-บลูล่ะ

ออฟไลน์ none_ny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
อยากจิไปกระโดดตบวินจริงเชียว จะโง่งี่เง่าทำร้ายตัวเองทำม๊ายยยย #อิน #เคยเป็นมาก่อน

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เวรกรรม เฮ้อ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เห้อ!!

สงสารวินจัง,,,

carenaka

  • บุคคลทั่วไป
 :ling3: น่าสาร เข้าใจเลยอ่ะ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
คือฟิล์มชอบบลู แต่บัสมันดันมาสอยบลูไปก่อนใช่ม่ะ
ฟิล์มเลยจะให้บัสคืนดีกับวิน ตัวเองจะได้ได้บลูมา

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
 :monkeysad:
สงสารวินจัง

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เฝ้ารอเรื่องนี้ตลอดๆ
มาต่อเร็วๆ นะ จะลงแดงแล้ว  :ling1:

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Chapter 12

กูคิดถึงมึงนะบัส


คำๆนี้ยังคงดังก้องอยู่ในหัวผมซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรจากผมกันแน่ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ นั่งอยู่ข้างๆผม ในรถผม...บอกคิดถึงไม่พอยังบอกให้ผมอยู่กับเขาด้วย....ผมอยากรู้จริงๆว่าวินต้องการให้ผมทำอะไรกันแน่ๆ



คำว่าคิดถึงที่เขาพ่นออกมามันก็แค่คำโกหกดีๆนั่นแหละ



ส่วนคำว่าอยากอยู่ใกล้มันก็แค่คำหลอกลวงที่เขาสร้างมันขึ้นมาเพื่อล่อผมให้กลับไปตกหลุมเขาอีกครั้ง วินเป็นผู้ชายหวงของไม่ต่างอะไรกับเด็กผู้ชายที่หวงของเล่น วันหนึ่งพบว่าของเล่นที่ตัวเองเล่นหายไปก็พยายามอย่างมากเพื่อเอามันกลับมา แต่พอได้มันมาอยู่ข้างๆ สุดท้ายก็ปล่อยให้ของเล่นชิ้นนั้นเป็นเพียงของประดับที่ถูกปล่อยทิ้งไว้เหมือนเดิม ผมไม่ได้ต่างอะไรจากของเล่นชิ้นนั้น


ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่น พูดกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ายังไงก็ไม่มีทางกลับไป ย้ำกับตัวเองทุกครั้งว่าวินทำร้ายผมมากแค่ไหน แต่สุดท้ายผมก็ใจอ่อนกับเขาทุกที เพราะแค่วินยืนร้องไห้อยู่หน้าบ้านวันนั้น ผมก็แทบจะดึงตัววินมากอดแน่นๆแล้วพูดปลอบอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงคืนวันที่มีอะไรกันล่าสุดเลย น้ำตา เสียงสะอื้น หรือแววตาอ้อนวอนให้ผมก้มลงไปจูบ ทำไมผมจะไม่อยากจูบเขา ทำไมผมจะไม่อยากแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ยิ่งเห็นหน้าวินสิ่งที่นึกขึ้นได้ในหัวก็คือผมที่นั่งรอเขาอยู่บนรถทั้งๆที่เขากลับไปเสวยสุขอยู่บนคอนโดกับผู้หญิงที่ชื่อหลิว




“ถึงแล้ว” ผมพูดพร้อมกับปลดล็อคประตูด้านที่วินนั่งเป็นการบอกเขากลายๆว่าให้เขาลงจากรถผมไปได้แล้ว

“คืนนี้....”

“ไม่”

“บัส...ฮึก” ร้องไห้อีกแล้ว ทำไมเดี๋ยวนี้วินร้องไห้บ่อยจังเลยวะ คนเข้มแข็งที่ผมรู้จักตอนนี้แทบไม่เหลือเค้าโครงคนเดิมให้ผมเห็นอีกแล้ว

“เฮ้อออ...ขอร้องล่ะวิน มันน่ารำคาญ” รำคาญตัวเองที่ใจอ่อนทุกครั้งที่เห็นน้ำตาเขา เลิกไห้สักทีเถอะ ผมเจ็บไม่แพ้วินหรอกนะ “เลิกร้องได้แล้ว!!!!”


ผมตะโกนออกมาลั่นรถก่อนจะทุบมืออย่างหนักลงไปบนพวงมาลัย วินสะดุ้งโหยงก่อนจะรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที


ผมไม่อยากทำแบบนี้เลย



ไม่อยากใจร้าย



ไม่อยาก...เป็นคนที่ทำให้วินร้องไห้



ทั้งๆที่ไม่อยากทำ แต่เขาก็บีบให้ผมทำจนได้




“ฮึก...”

“เลิกร้องเถอะนะ หยุดร้องได้แล้ว” สุดท้ายก็แพ้ใจตัวเองจนได้ เพราะตอนนี้มือผมเอื้อมไปเช็ดน้ำตาที่ไหลบ่าไม่หยุด วิน ปล่อยมือจากปากตัวเองแล้วโถมตัวเข้ากอดผมทันที
 
“กูคิดถึงมึงบัส..ฮึก...คิดถึง...ฮึก...ฮือ”


ผมก็คิดถึงพี่..แต่ขอโทษนะที่ผมพูดมันออกไปไม่ได้


“พี่วิน..”

“.....”

“พี่ฟังผมนะ..ผมไม่รู้ว่าตอนนี้พี่คิดอะไรอยู่...แต่ผมคงกลับไปหาวินไม่ได้หรอก ปล่อยมือผมเถอะนะ ผมไม่ใช่คนที่วินอยากอยู่ด้วยจริงๆหรอก เลิกยุ่งกับผมเถอะ”

“ไม่เอา..เลิก...ฮึก...ไม่ได้...หรอกบัส...กูเลิกไม่ได้อ่ะ...”วินเอื้อมมือมาจับแขนเสื้อผมแน่น เขาก้มหน้าพยายามอย่างมากที่จะเช็ดน้ำตาตัวเองออก

“เราเข้าไปคุยกันในบ้านล่ะกัน”  ผมเดินลงจากรถก่อนจะลงมาจูงมาวินให้ตามเข้าไปด้วย ไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะครับ แต่มันถึงเวลาที่เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องสักที ผมไม่อยากให้วินต้องมารอผมแล้ว เรื่องของเราควรจะจบ ต่างคนต่างไป วินควรจะเจอคนที่พร้อมจะดูแลเขามากกว่าผม


ไม่ใช่ไม่รักนะครับ ผมรักเขามาก ถึงตอนนี้ก็รักอยู่ แต่เพราะผมไม่อยากกลับไปเจ็บเหมือนเดิมอีกแล้ว ถ้ากลับไปผมยังไม่รู้เลยว่าจะทนได้ไหมหากวินยังไปๆมาๆหาผู้หญิงคนนั้น แต่ที่ทนไม่ได้มากกว่านั้นคือเห็นพี่บลูเสียใจ


ผมไม่รู้หรอกนะว่าพี่บลูรู้เรื่องของผมมากน้อยแค่ไหน แต่มั่นใจว่าเขารู้


รู้มากพอว่าผมมีใครอยู่ในใจตลอดเวลา แต่เขาแค่ไม่รู้ว่าคนๆนั้นคือวิน เขาไม่เคยก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวผม ไม่เคยจับโทรศัพท์เพื่ออ่านไลน์ที่วินส่งมาให้ ไม่เคยถามว่าทำไมผมถึงไม่ยอมรับสายจากเบอร์ๆนึงที่โทรเข้ามาบ่อยๆ หลายครั้งที่ผมพยายามเอ่ยปากบอกเขาเรื่องของผมกับวิน แต่ก็เป็นเขาเองนั่นแหละที่เฉไฉแล้วไม่รับฟังความจริงจากปากผม  สุดท้ายมันก็เลยคาราคาซังกันอยู่แบบนี้


ผมเดินเข้ามาในบ้านวินก่อนจะพาเขาขึ้นไปบนห้องนอน สั่งให้วินไปอาบน้ำตอนแรกเขาก็ไม่ยอมหรอกครับ คงกลัวว่าผมจะหนีหายไปไหนจนผมบอกว่าจะนั่งอยู่ตรงนี้วินถึงยอมเข้าไปอาบน้ำแต่โดยดี เสื้อผ้าผมที่เคยทิ้งไว้ในตู้บ้านเขายังคงแขวนไว้ที่เดิม และดูเหมือนว่าจะถูกเอามาใช้บ่อยๆด้วย


“บัส...เสร็จแล้ว” วินอาบน้ำเสร็จก็ยื่นผ้าเช็ดตัวมาให้ผม ยิ้มน้อยๆที่ส่งมาให้ยังคงเหมือนเดิม ต่างออกไปก็แค่ตาบวมช้ำที่มากจนแทบจะทะลุเบ้า ผมเอื้อมมือไปรับผ้าเช็ดตัวจากวินก่อนจะขยี้หัวคนตรงหน้าเบาๆแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป


จะทำยังไงดีนะ ผมจะบอกกับเขายังไงดี



“อ่ะนี่เสื้อผ้ามึง”

“แต้งกิ้ว” วินรอผมจนใส่เสื้อผ้าเสร็จก่อนจะเดินเลียบๆเคียงๆมายืนใกล้ๆกับผมที่นั่งอยู่บนเตียง

“อะไร”

“เอ่อ...” วินยืนผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาให้ผม บ่อยครั้งที่ผมมักจะเช็ดหัวให้เขา คงรอให้ผมทำให้ มือวินสั่นมากตอนที่ยื่นผ้าเช็ดตัวมาให้ แต่เพราะผมมองผ้าเช็ดตัวค้างอยู่นานวินเลยชะงักแล้วทำท่าจะเอาไปเช็ดเอง “หะ หะช่างมันเถอะ”


หน้าเขาจ๋อยสนิททันทีที่เห็นว่าผมไม่สนใจเขา จนผมต้องดึงเข้าให้นั่งลงกับพื้นแล้วเช็ดให้เหมือนอย่างเคยทำ


“ขอบคุณนะ”


“อื้อ” เราไม่ได้พูดอะไรกันออกมาอีก มีเพียงเสียงแอร์กับเสียงหัวใจผมที่ดังจนคิดว่าคนที่นั่งอยู่ตรงพื้นจะได้ยินมันหรือเปล่า “ต่อไป...ไม่มีผมแล้วพี่ต้องหัดทำเองบ้างนะ”


“...........”


“ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วรู้ไหม จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว”


“ไม่เอา”


“วิน...” นับเป็นครั้งแรกเลยมั้งหลังจากที่เรากลับมาพบกันที่ผมเรียกแค่ชื่อเขาเฉยๆ “ตอนนี้ผมมีคนที่ผมอยากดูแลมากที่สุดแล้วและผมไม่อยากให้เขาต้องมาคิดมากเรื่องของเรา...วินเข้าใจใช่ไหม”


“บัส...”


“ครับ”


“ไม่เอาแบบนี้ได้ไหม...กู..ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมายเลยนะ..แค่....ให้กูอยู่ข้างๆ... ตอนไหนก็ได้....ไม่ต้องเป็นที่หนึ่งที่สองหรอกให้กูเป็นที่โหล่ก็ได้...อึก...แต่อย่าให้กูไปจากมึงเลยนะ... ขอร้องล่ะ...ไม่อยากไป..” วินหันหน้ากลับมาหาผมก่อนจะวางคางไว้บนตัก มือสองข้างเอื้อมมากอดที่เอวผมแน่น หน้าวิน ฟุบลงบนตักผมพร้อมกับน้ำตาและลมหายใจที่ถี่ขึ้นเรื่อยๆ

“แล้วจะให้ผมทำยังไง”

“มึงก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม...อยู่กับพี่บลูเหมือนเดิม...ส่วนกูอยู่ตรงนี้...ไม่เป็นไร..ฮึก...กูรอได้ วันไหนมึงว่างๆ พี่เขาไม่อยู่...แค่หันกลับมามองกูบ้าง...ได้ไหม...นะ” วินช้อนตาขึ้นมองผม มือเขาจับเสื้อผมแน่นราวกับกลัวว่าผมจะเดินหนีหายไป

“ถ้าผมไม่หันกลับมาเลยล่ะ”

“กูก็จะรอ”

“เลิกรอเถอะนะ...ผม...ทิ้งพี่บลูไม่ได้...วินก็รู้”

“ฮึก...กูรู้...เขาไม่ได้ผิดอะไร......แต่ไม่เอาได้ไหมอ่ะ ไม่ไปได้หรือเปล่า...ฮึก...กูรักมึงนะบัส...ขอโทษที่รู้ตัวช้าไปแต่ตอนนี้รัก..รักมากที่สุด” ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี เดินไปข้างหน้าหรือถอยหลัง วินไม่ผิดที่รู้ตัวช้า ส่วนพี่บลูยิ่งไม่ผิดเข้าไปใหญ่ แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะทีนี้ เลือกความรักหรือความถูกต้องดีล่ะครับ

“แล้วพี่หลิวล่ะ”

“ไม่ได้รักแล้ว”

“เลิกรักได้ง่ายขนาดนั้นเชียว”

“ก็ไม่ได้ง่าย แต่ตอนนี้ไม่ได้รักแล้ว”

“เฮ้อ”

“จริงๆนะ” เขาย้ำคำตอบผมพร้อมกับสายตาที่มั่นคง

“รู้ไหมว่าทุกอย่างมันสายไปแล้ว”

“รู้”

“แล้วจะให้ผมทำยังไง.....หืม ตอบสิ จะให้ผมทำยังไง เงยหน้าแล้วตอบผม” วินเม้มริมฝีปากตัวเองจนเป็นขีด เขารู้ทั้งรู้ว่าผมเลือกเขาไม่ได้ แต่เขาก็ยังทำแบบนี้ “วินไม่สงสารพี่บลูเหรอ....วินทำแบบนี้ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือไง...วินก็รู้นิสัยผม ผมไม่สามารถเลือกทั้งสองคนถ้าจะเลือก ผมก็จะเลือกแค่อย่างเดียว....วินเข้าใจผมใช่ไหม”

“..............”

“คิดทบทวนดูล่ะกัน คราวนี้ผมให้วินเลือกเองเลย ว่าจะให้ผมเลือกวินหรือจะให้ผมเลือกพี่บลู” ผมดึงวินขึ้นมานั่งบนตัก มือสองข้างประคองเอวเขาไว้อย่างทะนุถนอม นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราไม่ได้แนบชิดกันแบบนี้ วินขยับตัวเอามือวางไว้บนบ่าผมก่อนจะกัดริมฝีปากตัวเองแน่น สายตากล้าๆกลัวๆ บ่งบอกว่าเขาไม่มีความกล้าพอที่จะเริ่มต้น จนเป็นผมเองที่ขยับไปจูบที่ริมฝีปากเขาก่อน ยังไม่ได้สอดลิ้นเข้าไปเลยด้วยซ้ำน้ำตาวินก็ไหลท่วมออกมาอีกแล้ว


“ทำไมขี้แงแบบนี้วะ ร้องไห้มากๆขี้มูกไหลนะเว้ย ผมไม่จูบคนที่มีขี้มูกไหลเลอะหน้าหรอกนะ”


“ไอ้บ้าไม่ได้ไหลสักหน่อย” วินทุบหลังผมอย่างแรงก่อนจะใช้หลังมือปาดน้ำตาตัวเองอย่างลวกๆ


“แล้วนี่อะไร”


“น้ำตาไง อี๋วินใครใช้ให้มาเช็ดผมเนี่ย”


“ไม่ได้เช็ด”


“แล้วที่มันเยิ้มๆตรงไหล่ผมอะไรวะ”


“น้ำตาไงสาดดดดด น้ำตา” วินทึ้งหัวแล้วดึงไปมาอย่างแรง ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะขยับดึงวินให้นอนราบลงไปบนเตียง “อะไร”


“อะไรล่ะ”


“จะทำอะไรเล่า”


“คิดว่าทำไรล่ะ”


“บัสเตอร์”


“ว่า???”


“บัสเตออออออออออ”


“อะไรครับอยากให้ทำอะไร”


“จูบ”


“ตรงไหนล่ะ” ผมไม่ได้แกล้งเขานะ แต่อยากรู้ว่าเขาอยากให้ผมจูบตรงไหน


“บัส”


“เอ้า วินไม่พูดผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าอยากให้จูบตรงไหน ตรงนี้” ผมกดริมฝีปากตัวเองลงไปเบาๆที่ข้างแก้ม


“หรือว่าตรงนี้” ไล่เรื่อยไปที่ติ่งหู ก่อนจะค่อยๆขยับลงมาที่ต้นคอ แล้วหยุดคลอเคลียอยู่ที่ริมฝีปาก


“ทั้งหมด...ได้หรือเปล่า”


“หึ ได้อยู่แล้ว” เราจูบสัมผัสกันครั้งแล้วครั้งเล่า เขาสอดลิ้นเข้ามาผมสอดลิ้นกลับไป ไม่มีใครยอมใครทั้งนั้นเพราะเราทั้งคู่รู้ดีว่าเราต่างโหยหาซึ่งกันและกัน สำหรับผมแล้วไม่มีใครแทนที่วินได้ แต่ตัววินผมไม่รู้หรอกนะว่าผมมีค่ามากพอเทียบกับใครอีกคนของวินไหม แต่ในเมื่อเขาบอกว่ารักผม


เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมก็คงเป็นคนที่เขารักมากที่สุดจริงๆนั้นแหละ


“อ๊ะ...บัส...แรงอีก”


“อะไรแรง”


“บัส..ไอ้บ้า” ด่าไม่พอฝังเขี้ยวลงบนไหล่ผมด้วย แต่พอเขาฝังเขี้ยวจนหนำใจตัวเองแล้วก็แปรเปลี่ยนเป็นขยุ้มหัวผมแทน แรงกระแทกกระทั้นที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ กับเสียงครางที่ไม่มีทีท่าจะหยุด พร้อมกับหัวใจผมที่พองโตขึ้นทุกขณะที่เห็นสีหน้าวิน ทั้งเหงื่อที่ไหลอาบแก้ม หน้าแดงๆที่ยิ่งเวลาผมมองก็ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่ บอกตรงๆว่าตอนนี้ผมอยากจะพูดคำนั้นออกมาแล้ว ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ขอแค่วันนี้ผมได้บอกเขาก็พอ


ผมก้มลงไปหาวินก่อนจะค่อยๆกระซิบเบาๆที่ข้างหู คำที่ผมอยากบอกเขามากที่สุด “วิน..ผม..”





Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางเสียงหอบ ผมทำท่าจะไม่สนใจเสียงนั้นแล้วทำต่อ แต่กลับเป็นวินที่ผลักผมออกแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อผมมาให้


“พี่บลูโทรมา” เขาพูดพร้อมกับสีหน้าไปไม่เป็น ผมเอื้อมมือไปขยี้หัวเขาช้าๆก่อนจะหยิบหูฟังของบลูมาเสียบ ยื่นหูข้างนึงให้เขาฟังด้วย แต่วินส่ายหน้าเหมือนจะไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น สุดท้ายผมเลยยัดมันเข้าไปในหูวินแทนก่อนจะขยับดึงตัววินให้มานอนด้วยกัน



“ครับพี่บลู”

(บัสอยู่ไหน)

“ผมมาส่งพี่วินน่ะ เดี๋ยวสักพักคงกลับแล้วแหละ พี่เอาไรไหม”

(คือพี่จะบอกว่าพี่คงไม่ได้ไปหาบัสสักพัก....พอดีพี่ออกมาต่างจังหวัดน่ะ...)

“ครับ ไม่เป็นไร ซื้อของมาฝากผมด้วยนะ แล้วพี่จะกลับมาตอนไหน”

(คงสักอาทิตย์หน้าแหละ บัสมีอะไรหรือเปล่า)

“เปล่าครับ”

(....................) ระหว่างผมกับพี่บลูเรามีแต่ความอึดอัด ไม่ใช่ผมหรอกที่อึดอัด แต่พี่เขาต่างหากที่อึดอัดในพฤติกรรมของผม

(บัส...)

“ครับพี่...”

(รู้ใช่ไหมว่าพี่รักบัส...)

“ครับ...ผมรู้” รู้มาตลอดว่าพี่บลูรักผมขนาดไหน แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาพูดออกมาตรงๆ แต่การกระทำที่ผ่านมามันก็เป็นตัวบอกอยู่แล้วว่าเขารักผม

(อย่าทิ้งพี่....นะ) คนตรงหน้าผมน้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว ผมไม่ชอบน้ำตาวินหรอกนะ  เขาส่ายหน้าให้ผมเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร แต่ตาบวมขนาดนี้ไม่เป็นไรได้ไงวะ

“อย่าร้องไห้....” ผมไม่ได้พูดบอกคนในสายแต่ผมพูดกับคนข้างตัวผม ผมรู้ตัวเองดีว่าผมรักใคร แต่ผมไม่อยากทำร้ายใครอีกคน

(บัส...)

“พี่บลูไปนอนเถอะ ไม่ต้องห่วงนะ...เที่ยวให้สนุก..กลับมาเมื่อไหร่ก็โทรบอกผมล่ะกัน” ผมวางโทรศัพท์พร้อมกับความเงียบที่โรยตัวเข้ามาช้าๆ วินเอื้อมมือมากอดผมแน่น มือเขาจิกลงบนแขนผมราวกับกำลังระบายความรู้สึกเจ็บปวดลงบนนั้น ผมรู้เขาเจ็บ ผมเองก็เจ็บ แต่อย่างที่บอกเรื่องของผมกับเขาควรจะจบลงไปตั้งนานแล้ว ถ้าผมไม่มีพี่บลูผมยินดีกลับมาหาเขานะ ต่อให้เขาทำผิดกับผมอีกครั้งผมก็ยินดี



แต่นี่มันไม่ใช่ไง เพราะพี่บลูไม่ได้ผิดอะไรเลย เพราะฉะนั้น เขาไม่สมควรเป็นคนที่ถูกทิ้ง



ไม่สมควรเลยสักนิด



“เลือกได้ยังว่าจะให้ผมอยู่กับใคร”


“ฮึก...อื้อ...ได้แล้ว....”


“สรุปว่า...”


“มึง...ดูแลพี่เขาให้ดีเถอะ..ต่อไป...กู..กูจะไม่ทำให้มึงลำบากใจอีกแล้ว...”



“ขอโทษนะ....” ขอโทษที่ดูแลวินไม่ได้ ขอโทษที่ผมไม่สามารถกลับไปกอดพี่ได้เหมือนเดิม ไม่มีผมพี่ต้องดูแลตัวเองให้มากกว่านี้ อย่าเอาแต่ร้อง กินข้าวบ้าง ไปเที่ยวกับเพื่อน อย่ามาจมปลักกับความรักของผมอีกเลยนะพี่



พี่ต้องเดินก้าวต่อไป ส่วนผมเองต่อให้ไม่พูดอะไรออกไป ผมก็รู้อยู่แก่ใจว่าผม....รักพี่ที่สุด




“ฮึก...ไม่ต้องขอโทษ...หรอก...กูเข้าใจ...ฮือ...กูเข้าใจบัส” เพราะผมไม่ใช่คนที่จะจับทั้งสองอย่างด้วยมืออย่างละข้าง แต่ผมจะเป็นคนที่จับของอย่างเดียวด้วยมือทั้งสองข้าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมทำได้ก็คือเลือกที่จะปล่อยมือวินทิ้งไป...ก็เท่านั้น









>>>>>>>>>>>>>>>>TBC
>>>>>>>>>>>
>>>
สุดท้าย วินก็รู้ตัวสักทีว่าตัวเองทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง เนอะๆ ดูคาราคาซังไปป่ะ คิดว่าอีกไม่เกิน 5 ตอนคงจบ เย้

พล็อตเรื่องคล้ายๆ my best friend แต่เรื่องนี้บลูไม่ผิดอะไร บลูไม่เหมือนหลิว เพราะฉะนั้นคนไม่ผิดไม่สมควรเป็นผู้แพ้....แอร๊ยยยจบแบบไหนดีน้าาาา รักคนอ่านนะคะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เหมือนจะสงสารวิน แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
แต่ให้วินได้เจอคนอื่น อยู่ได้โดยไม่มีบัสหน่อยนะ
จบกันไปแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
วินเลือกถูกแล้วล่ะ
ที่ปล่อยให้บัสไปดูแลพี่บล
เพราะพี่บลูเองก็รักบัสเหมือนกัน
ต่อไปวินก็คงจะไม่เรียกร้องอะไรจากบัสอีก
ก็คงทำได้แค่รอ รออย่างไม่มีจุดหมาย
ว่าแต่จะรอได้นานแค่ไหน หรือตลอดไป
โอ้ยน้ำตาไหล บัสเตอร์โคตรใจแข็งเลย

carenaka

  • บุคคลทั่วไป
ผิดเองที่รู้ตัวช้าาา สงสารวิน สงสารบัส สงสารทุกคนเย้ยยย รอนานจัง แต่จะเข้ามาเช็คบ่อย ๆ นะค่ะ :mew6:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
วินทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
กลับมาก็เท่ากับมาทีหลัง
ปล่อยบัสให้ดูแลบลูเหอะ
แล้ววินก็ดูแลตัวเอง

แค่รอเวลาให้ตัวจริงของบลูมาทวงคืน 555

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ปกติเป็นคนที่ชอบ happy ending อยากให้จบแบบมีความสุขไม่ว่าเรื่องจะดราม่าขนาดไหนก็ตาม
แต่ไม่รู้ทำไมอ่านเรื่องนี้ ชักอยากให้จบแบบ sad ending แบบมากๆ
อย่าง บัสได้ลิ้มรสของคนที่รู้ตัวช้าบ้างว่าควรเลือกใคร คือบัสจะไม่ได้เจอคนที่ตัวเองรักอีก
ไม่มีแม้กระทั่งการร่ำลาเพราะตัวเอง ไล่วินออกไปจากชีวิต
(ในใจเราแอบคิดว่าให้จบแบบ วินหายไปเลยไม่ก็(แกล้ง)ตาย อะไรยังงี้)
ถึงบัสจะน่าสงสารในตอนแรกและวินสมควรโดนอย่างนี้ก็จริง แต่เราดันอยากให้จบแบบนี้ซะงั้น// โดนตบ  :beat:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
มารอเรื่องนี้อีกแล้ว อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ Mississippi

  • Don't act like it's a bad thing to fall in love with me
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :hao5: อ่านแล้วมันเจ็บจิ๊ดๆๆ :o12:

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Chapter 13

“วินนนนนน” เสียงตะโกนเรียกชื่อจากอีกฝั่งถนนทำให้ผมต้องหยุดแล้วหันไปมองว่าคนที่เรียกเป็นใคร “รอกูด้วยดิวะ” ไอ้เตี้ยโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณให้ผมยืนรอมันอีกฝั่ง ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งตอนที่มันหันไปคุยโม้กับพี่อาร์มในรถ คือมึงให้กูยืนรอแต่มึงหันไปฝอยกับแฟนตัวเองเนี่ยนะ เฮ้ออ คนมีแฟนนี่น่าเบื่อฉิบหาย

“เบส...ถ้ามึงจะช้าขนาดนี้กูเขาไปก่อนนะ”

“เฮ้ยอะไรวะ รอเดี๋ยวดิ พี่อาร์มอีกสองชั่วโมงเจอกันนะครับ” มันด่าผมเสร็จก็หันไปล่ำลาแฟนตัวเองต่ออีกเกือบ 5 นาทีถึงจะเสด็จเดินข้ามฝั่งมาหาผมได้ “รอนิดหน่อยทำเป็นบ่น”

“กูเบื่อที่จะรอแล้ว....”

“อะไรของมึงเนี่ยวิน พูดคนล่ะเรื่องกับกูป่ะวะ” ผมส่ายหน้าให้ไอ้เตี้ยเป็นคำตอบก่อนจะพากันเดินขึ้นไปพร้อมๆกับมัน ไวท์กับเกมส์จองพื้นที่ด้านหลังไว้ให้ผมกับเบสเรียบร้อยแล้ว

“วินมานั่งข้างกู” ไอ้ไวท์ตบพื้นที่ด้านข้างตัวเองก่อนจะดึงมือผมให้ขยับไปนั่งใกล้ๆมัน “หมีแพนด้าจังเลยนะช่วงนี้”

“อื้อ...กูนอนไม่ค่อยหลับน่ะ”

“เอาน่า....อย่าคิดมาก” มือไวท์ตอนที่ลูบที่หัวผมเบาๆยังให้ความอบอุ่นเหมือนเดิม ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติแล้วนะครับ พยายามกลับมายิ้ม หัวเราะ และก็มีความสุขเหมือนเดิมแล้ว แต่เพื่อนในกลุ่มก็ยังสังเกตผมได้เสมอ แค่มันไม่ถามเท่านั้นว่าผมเป็นอะไร

ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านนับๆดูคิดว่าคงเกิน 3-4 เดือนได้แล้วมั้ง ผมไม่ได้เจอบัสเตอร์อีกเลยหลังจากคืนนั้น มันเป็นคืนสุดท้ายที่เรานอนมองหน้ากัน และเป็นคืนสุดท้ายที่ผมตั้งปณิธานกับตัวเองไว้แล้วว่า ผมจะไม่วิ่งไล่ตามเขาอีก


ทุกอย่างมันจบลงแล้ว บัสเตอร์สร้างกำแพงขึ้นกั้นตัวผมกับมัน ไม่มีค้อน...


ไม่มีประตู หรืออะไรก็ตามที่จะสามารถพังทลายกำแพงที่มันสร้างขึ้นมากั้นผมได้


ผมรู้แล้วล่ะว่าเขา ไม่ได้รักผม พอรู้ตัวว่ามันไม่มีแม้คำว่ารักเหลือให้กัน น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าร้องนานแค่ไหน รู้แค่ว่าผมร้องจนเหนื่อย กัดหมอนแล้วทุบกับที่นอนตะโกนบอกกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่าจะไม่กลับไปทำให้เขาลำบาก เพราะเขาไม่มีทางเลือกผม


ผมนี่มันโง่จริงๆหลอกตัวเองไปเรื่อย คิดว่าเขาจะหันกลับมา คิดว่าสุดท้ายแล้วเขาจะรักแค่ผม ทั้งๆที่มันไม่ใช่....ที่คืนนั้นบัสเตอร์เขาพูดให้ผมเลือก บังคับให้ผมฟังเสียงพี่บลูในโทรศัพท์ ผมเพิ่งจะมาเข้าใจก็ตอนนี้เองว่า เขาขีดเส้นทางให้ผมแล้ว ว่าคนที่ต้องไปก็คือผม


“ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกแล้วเพื่อนกู”

“เปล่าสักหน่อย” ผมปัดมือไอ้เกมส์ออกจากแก้มตัวเองก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ มือหนาของใครสักคนสอดเข้าในศีรษะผมก่อนจะออกแรงบีบนวดเบาๆเพื่อทำให้ผมผ่อนคลาย
 
“มึงยังมีกูนะวิน” ลมหายใจที่รินรดอยู่ตรงคอพร้อมกับจูบเบาๆที่ผมสัมผัสได้ เกมส์เป็นคนแบบนี้มันห่วงเพื่อนๆทุกคน เวลาที่ใครลำบากมันพร้อมจะยื่นมือเข้าไปช่วยเสมอ ผมไม่อยากทำให้เพื่อนเครียดไปกับผม แต่มันก็ทำใจร่าเริงมีความสุขเหมือนเดิมไม่ได้ ที่ทำได้มากสุดก็คือฝืนยิ้มและพูดกับพวกมันว่า ผมโอเค


หลังจากเรียนจบคาบพวกไอ้เกมส์ก็ลากผมมากินข้าวที่โรงอาหารคณะเกษตร ทั้งๆที่ผมอยากจะกลับไปนอนเต็มแก่แต่ก็โดนมันลากมันกินด้วยจนได้ สมาชิกที่มาด้วยก็มีไอ้ไวท์ ไอ้เกมส์ แล้วก็ตัวเสือกทุกเรื่องอย่างไอ้พอร์ช ไม่ต้องถามถึงไอ้เบสหรอกนะครับ รายนั้นเขาติดแฟน แทบจะยืนแดกกันหน้าอาคารเรียนตอนที่เดินลงมาแล้ว


“เชี่ยแม่งเหนื่อยนะเนี่ย จะมากินอะไรไกลขนาดนี้วะไวท์”

“มึงจะบ่นอะไรนักหนาวะพอร์ช ถ้าไม่อยากมาก็กลับไปเลยไป รำคาญว่ะ”

“ไม่เอานะ ห้ามรำคาญเขาดิไวท์” มึงไม่รำคาญกันหรอกพอร์ชไวท์ แต่กูเนี่ยรำคาญมึง

“มึงเลิกง๊องแง๊งใส่เมียมึงได้ไหมพอร์ช กินที่นี้แหละดีแล้ว จะได้ไม่ต้องเบียดกับคนอื่น” ก็จริงอย่างที่เกมส์พูดนั่นแหละ โรงอาหารคณะเกษตรมีข้อดีตรงที่คนน้อย น้อย เวลาจะซื้อข้าวซื้อน้ำไม่ต้องรอต่อแถวยาวเหยียดอย่างโรงอาหารกลาง แต่ข้อเสียคือยู่ไกลกันดาร เวลาจะมาต้องขับรถมา แต่ถึงขับรถมาก็ต้องเดินข้ามถนนมาโคตรไกลอีก แดดประเทศไทยก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าทำตัวแรง โรงอาหารคณะนี้แม่งก็สมชื่อด้วย อยู่กลางแปลงคณะเกษตรแถมตั้งโดดเด่นเป็นตึกเดียวด้วย เพราะนานๆทีผมกับพวกเพื่อนๆถึงจะมากินที่นี้ แต่ว่า...มาคิดๆดูอีกทีผมไม่น่ามาเลยด้วยซ้ำ ลืมไปเลยว่าโรงนี้มันใกล้กับคณะที่ไอ้บัสเรียนอยู่เหมือนกัน

“วิน” นั่นไง คิดยังไม่ทันขาดคำ ถึงคนที่เจอจะไม่ใช่บัสเตอร์ แต่อีกไม่นานมันก็คงมาแหละมั้ง

“หวัดดีครับพี่บลู พี่ฟิล์ม”

“เออหวัดดี ไงหน้าบูดแบบนี้หมายความว่าไงวะ” พี่ฟิล์มยื่นมืออย่างควายมาลูบหัวผมเบาๆผมยิ้มรับสัมผัสก่อนจะดึงมือมันออกเพราะมันทำให้หัวผมเสียทรง

“ทำไมวันนี้มากินไกลจังล่ะวิน นั่งด้วยกันสิ ที่ยังเหลือ”

“เอ่อ..คือ” ไม่รู้ทำไมพอเห็นหน้าพี่บลูใจมันก็พาลจะนึกไปถึงแฟนเขาอยู่เรื่อย จะหาว่าผมเสียมารยาทก็ได้ แต่ผมไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าเขา 

“ไม่เป็นไรนั่งด้วยกันนี่แหละ พี่รอบัสเตอร์เลิกเรียนอยู่ เดี๋ยวสักพักก็คงมามั้ง” เพราะแบบนี้ไงผมถึงไม่อยากนั่งกับพี่ แต่จะให้เดินหนีก็ดูจะเป็นการเสียมารยาทเกินเหตุที่ทำได้ก็แค่ยิ้มแล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งลงฝั่งตรงกันข้ามกับพี่บลู

“เอาน่า...มีพี่อยู่อย่าไปหงอ” ไอ้พี่ฟิล์มที่นั่งอยู่ข้างๆพูดพร้อมกับยักคิ้วเหมือนให้กำลังใจ แต่สำหรับผมมองว่าแม่กวนตีนมากกว่า

“นั่งนี่เหรอวะ” ไอ้เกมส์มาถึงก็ยืนทำหน้างงที่เห็นพี่บลูกับพี่ฟิล์มนั่งร่วมโต๊ะด้วย

“แล้วมึงเห็นกูยืนหรือไงล่ะ รีบๆนั่งได้แล้ว ยืนค้ำหัวกูอยู่ได้ แล้วก็รีบๆแดกด้วยเสร็จแล้วจะได้รีบไป”

“อ่าวนั่งนี้งั้นเหรอ” ไอ้พอร์ชก็อีกตัว ดูหน้ามันดิจ้องพี่บลูแปลกๆด้วย ผมว่ามันต้องคุ้นหน้าพี่บลูแหงๆว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน “ไวท์ผู้ชายคนนี้แม่งหน้าคุ้นมากอ่ะ”

“เมียเก่ามึงเหรอ”

“ไม่ใช่เว้ย...กูมีมึงเป็นเมียคนเดียว” มันกระซิบกันเสียงไม่ดังมาก แต่ก็มากพอให้ผมได้ยิน ดีอยู่ที่พี่บลูเดินออกไปข้างนอก

“แน่ใจว่ามีกูเป็นเมียคนเดียว”

“ตอนนี้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กูคุ้นจริงๆนะ ใครวะ”

“พี่บลู...คนที่เราเจอที่ผับตอนนั้นกับไอ้บัสไง” ผมเป็นคนไขข้อข้องใจให้พอร์ชแทนเพื่อนๆคนอื่น

“นั่นไงกูว่าแล้ว คุ้นๆ” มันพูดเสร็จก็ตบมือไปมาเหมือนเด็กแล้วชมตัวเองด้วยว่าเก่ง จำคนแม่น คืออยากจะตะโกนบอกแม่งจริงๆว่าคนอื่นเขาจำกันได้หมดแล้วมีมึงคนเดียวเลยพอร์ชที่ช้าสุด

“เงียบปากสักทีเถอะพอร์ช รำคาญว่ะแม่ง ไม่ต้องมาอ้อนกูเลย อี๋ น้ำลายมึงไม่ต้องเอามาแปะที่คอกูด้วย” ผมเลิกสนใจสองผัวเมียแล้วหันไปมองพี่บลูที่ยืนรอใครสักคนอยู่ด้านนอก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคนที่บลูรอคือใคร ผมไม่อยากเจอมันเลยว่ะ ยังไม่พร้อมที่จะเจอมันตอนนี้ พอคิดได้ดังนั้นก็ทำท่าจะลุกเดินหนีแต่โดนไอ้พี่ฟิล์มดึงมือไว้ก่อน

“ไม่ไหว....” ผมคิดว่าไอ้พี่ฟิล์มมันรู้ว่าที่ผมพูดว่าไม่ไหวหมายถึงอะไร

“ต้องไหวดิวะ นั่งลง”

“ฮึ้ย!! ถ้ากูร้องไห้ต่อหน้ามันนะมึงรับผิดชอบเลยนะเว้ย”

“ขนาดกูอยู่กับแม่งทุกวันกูยังชิวๆเลย มึงเพิ่งเจอมันวันนี้ทำไมจะไม่ไหววะ” เชี่ยพี่ฟิล์มมันชอบพูดจาเป็นปริศนา ตั้งแต่คราวที่แล้วแหละ จนคราวนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันจะสื่ออะไร

“เออพี่ฟิล์ม ลืมแนะนำนี่เพื่อนผมชื่อพอร์ชกับไวท์”

“หวัดดีครับพี่” มันสองคนพูดแล้วก็ยกมือไหว้พี่เขา เราคุยกันสับเพเหระไปเรื่อยจนพี่บลูกับใครบางคนเดินเข้ามานั่นแหละทั้งโต๊ะถึงเงียบแล้วพุ่งสายตามาที่ผมทันที รู้เลยว่าใครบางคนที่เดินเข้ามาเป็นใครแม้ไม่ได้เงยหน้ามองก็พอจะเดาได้ว่าเป็นมัน

“กูไปซื้อน้ำแป๊บนึงนะ เอาไรเปล่า” ผมรีบลุกขึ้นยืนแล้วเสมองไปทางพวกไอ้พอร์ชมันทำหน้าอึ้งๆแล้วส่ายหน้าให้ผมทั้งคู่ “โอเคงั้นเดี๋ยวกูมานะ”

“เดี๋ยวดิวิน ให้บัสเตอร์ไปด้วยนะ บัสไปซื้อน้ำไปเดี๋ยวพี่จะไปซื้อข้าว เราเอาเหมือนเดิมใช่ป่ะ”

“ครับ”

“พี่บลูเดี๋ยว..วินไปซื้อให้ก็ได้ พี่เอาน้ำอะไรอ่ะ”

“จะถือมายังไงหมดเอามันไปด้วยนั่นแหละไป...”สุดท้ายผลจากแรงคะยั้นคะยอของพี่บลูทำให้ผมต้องเดินมาซื้อน้ำพร้อมกับบัสเตอร์ เราไม่ได้เดินคู่กันหรอกนะครับ ผมเดินนำส่วนมันเดินตามหลัง ถึงไม่หันกลับไปมองก็พอจะเดาได้ว่าดวงตาคมคู่นั้นกำลังมองผมอยู่ ความรู้สึกที่ส่งผ่านถึงกันมีแต่ความอึดอัดเต็มไปหมด ผมไม่อยากอยู่ที่นี้ ผมอยากกลับบ้านแล้ว กลัวตัวเองทนไม่ไหว กลัวว่าช่วงเวลา3-4เดือนที่ผ่านมามันจะไร้ประโยชน์


“ป้าผมเอา....”

“น้ำใบเตย 1 โค้ก 1 น้ำแดงโซดา 1 ครับป้า” ตอนที่มันเดินมาสั่งผมถึงกับเม้มปากทันที แม่งทำแบบนี้ทำไมวะ ทำเป็นรู้เรื่องกูดีไปหมด หมดรักกูแล้วมึงก็ควรลืมเรื่องของกูไปด้วยเลยดิ “อ่ะนี่น้ำใบเตย”

“อื้อ” ผมรับมันมาถือไว้เสร็จก็ยืนแบงค์ยี่สิบกลับไปให้ไอ้บัส

“ไม่เป็นไร ผมเลี้ยง”

“ไม่ต้องเลี้ยงหรอก กูมีปัญญาเลี้ยงตัวเองได้ ขอบใจนะ” ผมยิ้มเบาๆที่มุมปากก่อนจะเดินหนีมันมาทันที เมื่อกี้ถ้าผมสบตามันมากกว่านี้ น้ำตามาแน่ๆ แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่าอยากกอดมันมากแค่ไหน แต่ผมสัญญาไว้แล้วนี่เนอะว่าจะไม่ทำให้มันลำบากใจ


จะว่าไป บัสเตอร์นี่เก่งจังเลยนะครับ ไม่รู้มันทำยังไงถึงสามารถหมดรักกับคนๆนึงได้เร็วขนาดนี้ กูใช้เวลามาตั้งหลายเดือนกว่าจะทำใจได้แค่นิดหน่อย พอมาเจอหน้ามึงวันนี้ที่ทำใจมาทั้งหมดแม่งสูญเปล่าละลายไปกับน้ำหมดแล้ว


“ไปไหม เสาร์นี้เว้ย”

“ไปพี่ไป” พอเดินมาถึงโต๊ะก็ได้ยินทั้งเสียงหัวเราะกับเสียงพูดคุยกันดังลั่นโรงอาหาร

“ไปไหนกันอ่ะ” ผมนั่งลงข้างๆพี่ฟิล์มแล้วหันไปถามมัน

“ไปค่ายทำปะการังปลอมที่ชลบุรี มึงไปดิวิน พวกนี้มันตกลงไปกันหมด แล้ว สนุกนะเว้ย”

“มีใครไปบ้างอ่ะ” ผมหันไปกระซิบถามพี่ฟิล์มเบาๆเพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน ไอ้พี่ฟิล์มแม่งก็รู้ดีหันมากระซิบชิดหูกูเลย “ไปหมดอ่ะ เพื่อนมึงสามคนแล้วก็กู ไอ้บลู แล้วก็ไอ้บัส”

“ไม่ไปดีกว่า”

“เสียใจว่ะน้อง ปฏิเสธไปก็ไม่ทันแล้ว” ไอ้พี่ฟิล์มยื้อคอผมมากอดแน่นก่อนจะขยี้หัวผมอีกรอบ จังหวะที่มันทำแบบนั้นผมหันไปเห็นหน้าพี่บลูกับไอ้บัสพอดี พี่บลูทำหน้างงๆขมวดคิ้วนิดหน่อยส่วนไอ้บัสไม่มีสีหน้าอะไรแสดงออกมาสักนิด แค่มองเฉยๆแล้วหันไปเรียกพี่บลูให้หันกลับมาคุยกับมันแทน

“มันไม่หึงมึงเลยเนอะเชี่ยบัสเนี่ย”

“ผมก็บอกพี่แล้ว”

“เห็นหน้ามันแล้วหมั่นไส้ฉิบหาย คอยดูเถอะกูจะกระชากหน้ากากแม่งให้ดู”

“พี่ต้องการจะทำอะไรกันแน่วะ”

“หึเดี๋ยวมึงก็รู้เอง” พี่ฟิล์มแม่งต้องวางแผนอะไรไว้แน่ๆ กูคิดผิดไหมวะที่จะไปทริปทำปะการังกับมันเนี่ย





***************************************



ผมยืนมองแผ่นหลังที่กำลังคุยล้อต่อกระซิกกับพี่ฟิล์มด้วยความรู้สึกหลายหลาย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ผมถึงไม่รู้สึกยินดีกับรอยยิ้มที่เขามีให้คนอื่นแบบนั้น ผมไม่ชอบ...


ยิ่งมองเห็นตอนที่วินเอียงแก้มรับมือของไอ้ฟิล์มด้วยแล้ว ผมยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ จะทำเป็นเมินมองไม่เห็นสุดท้ายก็หันกลับมามองแม่งอยู่ดี จะเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อแล้วตะโกนใส่หน้าไอ้พี่ฟิล์มว่าอย่ายุ่งกับวินก็ไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน



“บัส....” ที่สำคัญผมก็เลือกแล้วด้วยว่าผมจะอยู่ข้างๆใคร

“ครับพี่บลู”

“มีอะไรหรือเปล่าเห็นมองไปทางนั้นตั้งนานแล้ว”

“เปล่าหรอกพี่บลูผมมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ” ผมพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมพี่เขาเบาๆ พี่บลูเป็นผู้ชายที่น่ารัก ใครเห็นก็คงจะชอบ พูดเพราะ ใจดี เวลายิ้มแต่ล่ะทียอมรับว่าดูดีไปหมด แต่ก็ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่รู้สึกแม้แต่จะชอบเขานะ เคยพยายามแล้ว แต่สุดท้ายคนที่เป็นอันดับหนึ่งในใจก็มีแค่วินเท่านั้น

“อย่าทิ้งพี่นะ”


พี่บลูขยับเอาหัวพิงที่อกผมก่อนจะพูดเบาๆด้วยเสียงแหบพร่า ผมไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่เขาหายไปต่างจังหวัดกับพี่ฟิล์ม พี่เขาไปรู้อะไรมา มีช่วงนึงหลังจากคืนนั้นที่พี่บลูโทรมาว่าจะไปต่างจังหวัด เขากลับมาหาผมพร้อมกับกอดผมแน่น พูดกับผมซ้ำๆย้ำๆว่าอย่าทิ้งเขา พอถามว่าเกิดอะไรขึ้นพี่เขาก็เอาแต่ส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร แต่พอถามว่าไปกับใครได้คำตอบว่าเป็นพี่ฟิล์มก็พอจะเดาได้ว่าพี่ฟิล์มเขาเล่าอะไรให้พี่บลูฟังบ้าง


ผมไม่รู้ว่าพี่ฟิล์มรู้เรื่องของผมกับวินมากน้อยแค่ไหน แต่ก็มากพอที่ทำให้พี่บลูระแวงเรื่องของผม ตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจริงๆแล้วคนที่พี่ฟิล์มชอบคือพี่บลูหรือวินกันแน่


ตอนแรกเคยคิดว่าเป็นพี่บลูชัวร์ๆแต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วแหละครับ เพราะจากที่เห็น พี่เขาก็ดูจะเอ็นดูวินซะเกินพี่น้องทั่วไปแล้วด้วย


“บัสเตอร์” พี่บลูช้อนตาขึ้นเรียกผมอีกครั้งเหมือนเป็นการย้ำอีกรอบว่าที่ถามไปเมื่อกี้ได้ยินหรือเปล่า

“ครับ”

“พี่พูดว่าอย่าทิ้งพี่นะ” เป็นครั้งแรกที่ผมไม่ได้เออออตอบคำถามพี่เขา เพราะผมชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าผมจะไม่เดินจากเขาไปไหน ทั้งๆที่ย้ำแล้วว่าพี่บลูไม่ใช่คนผิด แต่ในใจก็รู้อยู่แล้วลึกๆว่าคนที่ผมต้องการมากที่สุดคือใคร

“บัสเตอร์ทำไมไม่ตอบ”

“ผม....”

“ขึ้นรถได้แล้วจะกอดกันอีกนานไหมครับฝั่งนั้น” พี่ฟิล์มตะโกนเรียกผมให้รีบเดินตามเขาไปที่รถบัส เห็นวิน มองมาทางนี้แว่บหนึ่งแต่พอเห็นผมเขาก็รีบหันหน้าหนีทันที

“เดี๋ยวเรื่องนี้เราค่อยคุยกันนะครับพี่บลู ขึ้นรถเถอะ ทุกคนรออยู่” วันนี้อย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าพี่ฟิล์มกับพวกชมรมรักทะเลจะมาทำปะการังกันที่จังหวัดชลบุรี คนมาทริปนี้กันประมาณ 50-60 คน มีปีหนึ่งอย่างผมแค่ไม่ถึง 10 ส่วนปีอื่นๆก็กระจายกันไปตามชั้นปี พี่บลูกับพี่ฟิล์มเป็นต้นเรื่องในการทำหัวข้อนี้ทำให้เขาสองคนต้องไปนั่งด้วยกันด้านหน้า ส่วนเพื่อนวินมีพี่ไวท์กับพี่พอร์ชที่นั่งเบาะสองคน ส่วนวินกับพี่เกมส์นั่งเบาะสาม แล้วผมที่เดินขึ้นมาทีหลัง เลยทำให้ตอนนี้พื้นที่บนรถถูกจับจองหมดแล้ว จะมีเหลือก็แต่ที่นั่งข้างๆวินนี่แหละ ผมเลยทำท่าจะขยับลงไปนั่งข้างๆเขา

“ขอนั่งด้วยคนนะ”

“เกมส์กูอยากนั่งติดหน้าต่าง” เขาไม่ตอบผมแต่กลับหันไปอ้อนพี่เกมส์แทน เจ็บดีครับ แต่ผมก็ยังไม่กล้านั่งเพราะวินเขายังไม่อนุญาต

“มึงไม่ต้องเลย ชอบเมารถทัวร์จะมานั่งติดหน้าทำเชี่ยอะไรนั่นนี่แหละ เอ้าแล้วทำไมไม่ชวนน้องนั่งด้วยเล่า”

“มึงก็ชวนมันดิ”

“เชี่ยนี่แม่งนิสัยเสีย บัสนั่งเลยไม่ต้องไปสนใจมันหรอก”

“ครับพี่” ผมขยับนั่งลงข้างๆเขา วินขยับตัวหนีผมนิดนึง แต่หนีไม่ได้หรอกครับเพราะเบาะสามกับผู้ชายสามคนยังไงมันก็เบียดอยู่ดี ไหล่ที่สัมผัสกันครั้งแรกในรอบหลายเดือนทำเอาหัวใจผมพองโตแล้วก็เต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ตลอดทางถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าที่เคยเป็น



วินไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้วผมคอยตามดูเขาตลอด ตั้งแต่คืนนั้น วินก็ไม่ไลน์ ไม่โทรมาหา เขารักษาคำพูดตัวเอง มีก็แต่ผมนี่แหละที่ไม่รักษาคำพูด ทั้งๆที่เป็นคนไล่เขาไปแท้ๆ แต่กลับคิดถึงเขาจนจะเป็นจะตาย แค่สองคืนที่ไม่มีการติดต่อกลับมา ผมก็แทบทนรอไม่ไหว จนสุดท้ายก็ต้องขับรถไปดูหน้าบ้านวิน เดินผ่านคณะวินเพื่อได้มองเห็นเขาบ้างก็ยังดี


วินไม่เคยรู้ว่าผมทำแบบนี้


ป่านนี้คงเข้าใจผิดไปต่างๆนาๆแล้วมั้งว่าผมไม่รักเขา...ดีแล้ว ให้เข้าใจแบบนั้นแหละดีแล้ว ทั้งๆที่พูดว่าดีแล้วแต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงเจ็บใจทุกทีที่รู้ว่าวินเข้าใจผมผิด


ตุบ!!


ผมหันไปมองหัวเล็กๆที่เอนมาสบที่บ่าผม กลิ่นน้ำหอมสไตล์วินลอยฟุ้งเข้าจมูก อดไม่ได้ที่จะเผลอสูดดมตามกลิ่น

“โทษทีว่ะ” พี่เกมส์พูดเสียงเบาก่อนจะจับหัวเพื่อนตัวเองที่เอนพิงผมอยู่ให้ไปพิงเขาแทน

“ไม่เป็นไรพี่” ผมยิ้มเบาๆแล้วเสหน้าหันมองไปทางอื่น ก่อนจะพยายามข่มตาหลับลงช้าๆ ไม่อยากคิดแล้วว่าวินรู้สึกยังไง


เพราะที่เจอแบบนี้ก็เจ็บไม่น้อยเหมือนกัน




เรามาถึงที่พักกันเกือบๆเก้าโมงเช้า พี่ฟิล์มและพี่บลูสั่งให้เราเอาของเขาไปเก็บในห้องพัก ซึ่งห้องพักไม่ได้หรูนอนแบ่งกันเป็นห้องๆแต่เป็นการนอนเรียงกันยาวเป็นตับเหมือนทหาร จะแบ่งก็แค่แยกชายหญิง ตอนที่เดินเข้ามาทุกคนเลือกพื้นที่นอนกันแล้วเกือบหมด ผมนอนข้างๆพี่บลู ส่วนวินนอนฝั่งตรงข้ามกับผม เขานอนข้างๆเพื่อนเขาพร้อมกันนั้นมีพี่ฟิล์มนอนประกบวินอีกฝั่งด้วย

“เย้ได้นอนข้างวิน”

“พี่ฟิล์มม อย่ามานัวได้ป่ะ อื้ออออ ไอ้บ้านี่” ผมมองภาพไอ้พี่ฟิล์มนัวเนียวินบนที่นอน มันทั้งกอด รัดฟัดเหวี่ยง บางครั้งแอบเห็นมันหอมแก้มวินด้วย แล้วก็บ่อยครั้งที่พี่ฟิล์มทำเสร็จก็หันมาหยักคิ้วกวนตีนใส่ผม มันรู้ว่าผมไม่ชอบ ต่อให้ผมทำหน้าเฉย นิ่งเหมือนไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้วในใจผมก็มีแต่ผมเท่านั้นที่รู้ดีว่ารู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของเขาขนาดไหน

“ไปกันเถอะพี่บลู ไปหาอะไรกินกันก่อนจะได้ไม่หิว” ผมทนมองไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นภาพเหล่านี้ผมมักจะเดินหนี หรือทำยังไงก็ได้ที่จะหลีกเลี่ยงภาพเหล่านี้ให้มากที่สุด


ไม่ใช่ว่าผมไม่หวง...ผมน่ะทั้งหวง ทั้งหึงเลยก็ว่าได้


แต่ตอนนี้ผมไม่สิทธิ์ที่จะทำอะไรทั้งนั้น


ก็อย่างที่บอกผมปล่อยมือเขาไปแล้ว ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะทวงคืนอะไรทั้งนั้น




หลังจากที่กินข้าเที่ยงเสร็จ พวกเราก็ตามพี่ทหารมาปลูกปะการังปลอมทันที ปะการังปลอมที่ทำขึ้นมาจากซากเรือเก่าของทหารเรือ โดยที่เราทั้งทริปมีหน้าที่ขนซากเหล่านี้ลงไปวางในทะเล ใช้ระยะเวลาในการทำครึ่งค่อนวัน กว่าจะทำเสร็จก็ปาเข้าไปเย็น ตอนหันไปเห็นวินยิ้มมีความสุข สนุกสนานที่ได้ทำกิจกรรมผมก็พลอยยิ้มไปด้วย


ผมไม่ค่อยชอบเวลาที่วินทำหน้าเศร้า หรือทำหน้าเฉยๆ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่เหมาะกับวินเลยสักนิด


“บัส นายจะไปนอนก่อนก็ได้นะ ไม่ต้องรอพี่”

“ไม่เป็นพี่บลู เดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอล่ะกัน เสร็จแล้วก็เดินไปตามนะ” ช่วงเวลาค่ำคืนในพื้นที่ต่างจังหวัด เวลาแค่สามทุ่มกว่าๆ ก็สามารถทำให้ท้องฟ้าทั้งหมดมีดาวนับล้านดวงอยู่บนหัว ถ้าในเวลานี้แต่อยู่ที่กรุงเทพผมคงไม่มีโอกาสเห็นดาวเยอะแยะมากมายขนาดนี้ เพราะไฟจากบ้านเรือนมันสว่างเกินกว่าดาวที่ผมกำลังมองเห็น


ผมเดินมาเรื่อยๆจนถึงสะพานปลาไม่ไกลจากที่พักมากนัก ตอนแรกกะว่าจะเดินกลับแล้วเพราะมีใครบางคนนั่งอยู่แต่พอมองดูดีๆรู้ว่าเป็นคนๆหนึ่งที่ผมรู้จักดีก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้สืบเท้าเข้าไปหาไม่ได้


“นั่งด้วยได้หรือเปล่า” เขาสะดุ้งโหยงตอนที่ผมพูดถามเขาออกไป

“นั่งดิ...กูกำลังจะกลับพอดี” ผมรู้ว่าวินหลบหน้าผม เขาพยายามอย่างมากที่จะไม่ทำตัวให้ผมลำบากใจ เขาพยายามรักษาสัญญาที่ตัวเองให้ไว้ แต่ยิ่งเห็นวินทำแบบนี้มากเท่าไหร่ผมก็เริ่มไม่พอใจมากเท่านั้น

“จะไปไหนล่ะนั่งเป็นเพื่อนก่อนไม่ได้หรือไง”

“แต่กูไม่อยากทำให้มึงลำบากใจ”

“ไม่หรอก” ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยสักที ผมขยับนั่งลงใกล้ๆกับวิน หย่อนขาลงไปในทะเล ลมแรงขึ้นเรื่อยๆแต่ก็ไม่ทีท่าว่าจะมีพายุ เสียงลมกับเสียงทะเลยทำให้เราต่างจมดิ่งลงในความคิดตัวเอง ผมไม่รู้หรอกเขาคิดอะไร แต่ผมดีใจที่อย่างน้อยเขาก็ยอมนั่งอยู่ข้างๆ


ถึงจะไม่ได้พูดจ้อเหมือนแต่ก่อนแต่อย่างน้อยเขาก็พูดกับผม ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกเสียดาย หรือแม้แต่รู้สึกถึงความผิดพลาดที่ตัวเองทำไปทั้งหมด


ผมเลือกผิดใช่ไหม


เพราะที่ผมเลือกมันไม่เพียงแต่ทำร้ายจิตใจวิน แต่กลับทำร้ายจิตใจผมด้วย…ถ้าตอนนี้ผมจะเห็นแก่ตัวจะมีใครด่าผมไหมนะ.....



สัมผัสเล็กๆที่อยู่ตรงปลายนิ้วก้อยมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกดีมากกว่าเก่า ผมไม่ได้ขยับมือหนี ส่วนตัววินเองก็ไม่ได้ขยับ แปลกแหะแค่สัมผัสกันแค่นี้มันกลับทำให้ใจผมเต้นโครมครามทั้งๆที่มากกว่านี้เราก็เคยทำมาแล้ว
   

“กูว่า...กู” วินทำท่าจะขยับมือตัวเองออก แต่เป็นผมเองที่คว้ามือเขามาจับไว้ก่อน

“อย่าเพิ่งไปไหนเลย...นะ” ผมยื้อมือวินมาวางไว้บนตัก ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆแบบที่ชอบทำให้เขา วินเม้มปากตัวเองแน่นสนิท น้ำตาคลอหน่วยเต็มสองเบ้าตา ดูก็รู้ว่าเขาพยายามอย่างมากไม่ให้มันไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น


ผมทำให้เขาร้องไห้อีกแล้วสินะ


“มึงไม่น่าทำแบบนี้เลยรู้ไหมบัส...ฮึก..มึงรู้ตัวหรือเปล่าว่ามึง...กำลังทำร้ายกู...กูจะลืมมึงได้แล้วแท้ๆ”

“ขอโทษ” ถ้ามีคำไหนที่มากกว่าคำว่าขอโทษผมก็อยากจะบอกเขา

“มึงรู้ไหมบัส ว่ากูเจ็บปวดแค่ไหนตอนที่มึงพูดให้กูเลือกทั้งๆที่กูรักมึงขนาดนั้น...โอเคได้กูเลือกจะถอยออกมาก็ได้...แต่ทั้งๆที่กูถอยออกมาแล้ว มึงจะมาทำแบบนี้อีกทำไมวะ...ทำให้กูเสียใจอีกทำไม...ในเมื่อ...ฮึก..ไม่รักแล้วก็อย่ามาให้ความหวังดิ...ฮือ...ทำแบบนี้ทำไม” เสียงสั่นพร่าในตอนท้ายพร้อมกับศีรษะวินที่วางลงบนไหล่ผม มือวินทุบที่หลังผมหลายครั้งจนตัวผมรู้สึกเจ็บไปหมด  แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นกำเสื้อผมแน่น “ทำแบบนี้ทำไมวะ ปล่อยมือกูไปแล้วแท้ๆ ฮือ...ฮือ...”


“.....”


“ฮือ....ทำแบบนี้ทำไม”


“ผมคิดถึงวิน” ผมพูดพร้อมกับเชยคางวินให้เงยหน้าขึ้นมองผม ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้า


“บัส...ฮึก...รู้ตัวไหมว่ามึงพูดอะไรออกมา”


“รู้ดิ...รู้หมดแหละ” แต่จะให้ทำไงวะเพราะตอนนี้ผมไม่อยากทำให้วินต้องเสียใจอีกแล้ว ผมไม่สนด้วยว่าพี่บลูจะรู้สึกแบบไหน แค่ตอนนี้ผมอยากดูแลคนตรงหน้าให้มากที่สุด ผมอยากปกป้องเขา ไม่อยากทำให้เขาร้องไห้ หรือต้องเสียใจอีก ยิ่งเห็นน้ำตาพรั่งพรูมากเท่าไหร่ ใจผมแม่งก็เจ็บมากเท่านั้น
 

“วิน....ผมตัดสินใจแล้วว่ะ”

“ตัดสินใจอะไรของมึง”

“ตัดสินใจว่าผมจะบอกเรื่องของเรากับพี่บลู...ผมทนไม่ได้ว่ะที่เห็นวินร้องไห้แบบนี้ หยุดร้องเถอะนะคนดี ตาวินบวมจนจะเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้วรู้ไหมครับ”

“กูไม่เอาด้วยหรอกนะ” วินทำหน้างอ เบะปากเหมือนเด็กน้อยจนผมอดไม่ได้ที่จะจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากเขา

“ไม่เอาก็เรื่องของวินดิ เรื่องนี้ผมตัดสินใจแล้ว” ผมพูดบอกวินกับริมฝีปากเขา “อ้าปากหน่อย”

“อ้าปากเชี่ยอะไรล่ะ” วินจับหน้าผมไว้ทั้งสองข้างก่อนจะดึงมันออกให้ห่างจากหน้าตัวเอง “มึงไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”

ที่วินพูดแบบนี้คงหมายถึงจะให้ผมเลือกพี่บลูเหมือนเดิมส่วนวินจะอยู่ข้างๆผมในฐานะที่ไม่สำคัญเหมือนเดิมน่ะเหรอ ไม่เอาหรอก


“ผมบอกวินแล้วว่าผมเลือกได้คนเดียว ผมไม่จับใครไว้ด้วยมืออย่างล่ะข้าง”

“นั่นแหละ เพราะงั้นคนที่มึงเลือกไม่สมควรเป็นกู....” วินเม้มปากแน่นก่อนยิ้มทั้งๆที่ดวงตาเศร้า “พี่บลูเขาไม่ได้ผิดอะไรด้วย ปล่อยให้มันเป็นในแบบที่มันควรเป็นอย่างนี้แหละดีแล้ว”

“วิน....” ผมเรียกชื่อเขาพร้อมกับเอื้อมมือไปกอดเขาแน่นราวกับจะถ่ายทอดความรู้สึกทั้งรักและขอโทษส่งไปให้เขาได้รับรู้ ผมไม่มั่นใจเท่าไหร่หรอกว่าคราวนี้วินพูดจริงหรือพูดเล่น แต่ทั้งสีหน้า ท่าทาง ที่เขาถ่ายทอดมาให้ผม มันทำให้ผมใจสั่นจนไปไม่ถูก “อย่าพูดเหมือนจะไปจากผมแบบนั้นดิวะ”

“มึงจะห้ามอะไรกูได้...บัส...มึงเป็นคนปล่อยมือกูเองไม่ใช่เหรอ”


“...........” ความเงียบเข้าครอบงำเราทั้งคู่ ใช่ผมเป็นคนปล่อยมือวินเอง แต่ถ้ามันจะไม่สายเกินไปผมก็อยากจะ.....






“วิน!!!บัสเตอร์!!!!”






ขอโอกาสอีกสักครั้ง
 



ทั้งผมและก็วินเงยหน้าหันไปมองคนที่ยืนอยู่ริมสะพาน ผู้ชายตัวเล็กที่ผมสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเขา ผู้ชายตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น



“กูบอกแล้วว่ายังไงมึงก็ทิ้งพี่เขาไม่ได้...ไปเถอะ...ไม่ต้องห่วงกูหรอก...”






>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC
ฉันเจ็บทุการกระทำที่ทำให้เธอเสียใจ ฉันทรมานแค่ไหนใครจะรู้ที่ผ่านมาาาา
อีกไม่กี่ตอนคนเขียนจะเป็นไท เย้!!! ฉลองก่อนเลย 5555555555555555 รักคนอ่านเจอกันอีกทีอาทิตย์หน้านะคะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
บทจะกลับมาคืนดีก็จะง่ายขนาดนี้เลยเหรอ บัส
ไปเถอะ เลือกแล้วไม่ใข่เหรอ ปล่อย วิน ไป เถอะ

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
 :mew6:
โอ๊ย!!!!!! ทำไมมันหน่วงแบบนี้เนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด