คำเตือนขอรับ:นายเงินท่านใดมีโรคประจำกาย จิตใจอ่อนไหว วาบหวิวง่ายดายนัก
หากท่านมิอาจต้านทานแรงอารมณ์ที่จักพุ่งกระฉูดคราได้เสพนิยายตอนนี้ได้แล้วไซร้
ได้โปรดตระเตรียม...ยาดม ยาลม ยาหม่อง ให้ครบครันนะขอรับ

******************************************************
ทาสรัก....สมัครใจ....34
“สารพันสารพัดจะสัตย์ซื่อ
ความรักคือความทุกข์ถูกทุกสิ่ง
ประเดี๋ยวสุขสมหมายก็พรายพริ้ง
ประเดี๋ยวยิ่งปวดร้าวก็เศร้าทรุด”
(เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
บนเรือนแพเพลานี้
คนบนเรือนแลดูแตกต่างไปจากกาลก่อนที่เคยเป็นมาลิบลับ
นายเงินผู้สูงส่งด้วยลาภยศ....ปรนนิบัติพัดวีไอ้ลูกทาสต่ำต้อย
นาย....ป้อนข้าวปลาอาหารคาวหวานถึงปากบ่าว
ขุนนางหนุ่มน้อย...อำนวยความสะดวก หยิบจับทุกสิ่งอัน
ตามแต่ความปรารถนาแลต้องการของลูกจ้างเสมียนตราชั่วคราว
ขุนจำเริญลอบถอนใจ
คราท่านทอดมองพิจารณาไอ้ลอยอย่างถี่ถ้วน
ร่างกำยำของไอ้ลอยที่ท่านเคยอิงแอบแนบชิด
เพลานี้นอนนั่งทอดกายพิงหมอนนุ่มอยู่บนเตียงท่าน
หัวเข่าหนาแข็งแรงทั้งสองข้าง ซ้ายขวา
ที่เคยคุกเข่าแทบเท้าของตนมานานนับสิบๆปีนั้น
บัดนี้แดงด้วยสีจากโลหิต แลเขียวคล้ำจากยาพอกสมานแผล
เลือดยังไหลซึมออกมา
แม้นมิมากมายนัก
หากแต่ในสายตาของขุนจำเริญแล้วไซร้
บาดแผลบนกายของไอ้ลอยคนซื่อ
อันได้รับมาจากแรงโทสะของตนนั้น
ช่างสาหัสเหลือคณานับ
ขุนจำเริญนั่งพับเพียบก้มหน้าน้ำตาซึมอยู่บนเตียงข้างกายไอ้ลอย
เสียงสะอื้นน้อยๆมิยอมหยุด ตั้งแต่คราไอ้ลอยได้แผล
ขุนจำเริญท่านร่ำไห้หนักบ้างเบาบ้าง ตามแต่ความวูบไหวในอารมณ์
“ได้โปรดอย่าร่ำไห้ให้ไอ้ลอยเลยขอรับขุนจำเริญ
ไอ้ลอยมิเจ็บแผลดอกขอรับ”
ไอ้ลอยค่อยๆยื่นมือหนา
มาใกล้ใบหน้าเศร้าหมองของขุนจำเริญ
เชยคางมนขึ้นมาเพียงน้อย
หากแต่ขุนจำเริญมิยอมมองสบตาแลมองหน้ามัน
ไอ้ลอยมันบรรจงจูบซับหยาดน้ำตาขุนจำเริญด้วยปากหนา
น้ำตาของขุนจำเริญเพลานี้
มันไหลพรั่งพรูออกมาอย่างกลั้นไว้มิได้อีกต่อไป
“ลอย..ลอยจ๋า ข้าเสียใจเหลือเกิน
ความมุทะลุของข้า ทำให้เจ้าได้แผลแลเจ็บตัวเยี่ยงนี้”
ขุนจำเริญใช้สองมือบางเกาะยึดข้อมือหนาของไอ้ลอย
ขุนจำเริญช้อนตาหวานขึ้นมาสบตาคมของคนตรงหน้า
หากสายตาขุนจำเริญเพลานั้นช่างดูเศร้าสร้อย
แลบ่งบอกถ่ายทอดออกมาว่า
เสียใจเสียเหลือเกิน
ไอ้ลอยใจชื้นครามันรับรู้ว่าขุนจำเริญห่วงหาอาทรมัน
ความโกลาหน....
คราขุนจำเริญแลเห็นไอ้ลอยมีบาดแผลเลือดตกยางออก
สัมผัสอ่อนโยนแผ่วเบาที่แตะต้อง....
ราวกับไอ้ลอยเป็นข้าวของมีค่ามีราคา
ไหนจะน้ำเสียงแววตาที่ทุกข์ร้อน ร้อนรน
ทุกการกระทำที่ได้รับ
เพียงเท่านี้ หัวใจเหี่ยวเฉาของไอ้ลอย
กลับเบ่งบานพองฟูขึ้นมา
จนไอ้ลอยอยากตะโกนให้โลกได้รับรู้โดยทั่วกันว่า
เพลานี้เจ้าดวงใจแห่งมัน
ท่านกลับมายึดเกาะกุมหัวใจของมันดังเดิมแล้ว
ขุนจำเริญท่านกลับมาเป็นมิ่งขวัญของไอ้ลอยแล้ว
“ขุนจำเริญขอรับ
บาดแผลของไอ้ลอยนั้นมิได้ใหญ่โตนักดอกขอรับ
ไอ้ลอยมิเจ็บมิปวดแต่อย่างใด
แต่ทว่า....
หากหัวใจของไอ้ลอยมันเปราะบางเหมือนอย่างแก้ว
คงแหลกแล้วด้วยพิษความคิดถึงขุนจำเริญขอรับ”
ขุนจำเริญท่านเบิกตาโพลง
งงงันกับคำหวานที่ได้ยินอย่างมิคาดคิด
อนิจจา..
ไอ้ลอยเพลานี้มันมิได้เขลาเหมือนกาลก่อนเสียแล้ว
"เห็นเสือหมอบอย่าเชื่อว่าเสือไหว้
เผลอเมื่อไรเสือกินสิ้นทั้งขน
คนต้องเกรงเยงยำน้ำใจคน
เขาถ่อมตนอย่าเหมาว่าเขากลัว”
(พระภิกษุ ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)
**********************************************************
“อื้อออออ”
ความร้อนประทับลงมาที่ริมฝีปากบางแลกดจูบ
ไอ้ลอยสอดลิ้นร้อนรุกล้ำ
จนขุนจำเริญร้องครางด้วยมิทันตั้งตัว
“ละ..ลอย ลอยจะทำอันใดกัน”
สองมือน้อยเกาะกุมสาบเสื้อของไอ้ลอย
“คิดถึงเหลือเกินขอรับ...ยอดรักของไอ้ลอย
ไอ้ลอยคิดถึงขุนจำเริญ จนใจมันจักขาดแล้วขอรับ”
เสียงแหบพร่าของไอ้ลอยพึมพำ
อยู่แนบชิดติดริมฝีปากบางของขุนจำเริญ
“อ๊ะ.. อ๊าา..”
ดวงหน้าหวานแดงซ่านขึ้นทันตา
ดวงตากลมโตหรี่ปรือ
แล้วจึงเชิดหน้าขึ้นสูดลมหายใจ
“มองหน้าไอ้ลอยเถิดขอรับ ยอดรักของไอ้ลอย”
เสียงทุ้มนุ่มออดอ้อนยิ่งนัก
ไอ้ลอยประคองดวงหน้าหวานของขุนจำเริญด้วยสองมือร้อนผ่าว
ดวงตากลมโตของขุนจำเริญค่อยๆลืมขึ้นมา
ทว่าเพียงแค่เห็นแววตาลึกล้ำเจ้าเล่ห์ของไอ้ลอยที่คอยท่าอยู่
เพียงวินาทีเดียวเท่านั้น
ขุนจำเริญให้สะท้านไปทั้งกายบาง
เฉไฉเบือนหน้าหนี
ทั้งที่แก้มก็ขึ้นสีระเรื่ออย่างห้ามมิได้
ไอ้ลอยวาดวงแขนโอบกอด
รั้งกายบางของขุนจำเริญเข้ามากอดอย่างทะนุถนอมออมมือ
ก่อนจะบรรจงกดจูบไล่มุมปากแดงนุ่ม
มาจนประกบกันกับริมฝีปากหนาของมัน
จูบแผ่วเบาเนิ่นนานราวกับพลัดพรากจากกันนานปี
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
ห่างกันเพียงแค่ชั่วข้ามคืน
ริมฝีปากหนายังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดี
อ่อนหวาน ปลอบขวัญ ตัดพ้อแลเรียกร้อง
หลากหลายอารมณ์สื่อถึงกัน
ปลายลิ้นร้อนของไอ้ลอยตวัดรัดรึง
จนขุนจำเริญเผลอไผล
ตวัดลิ้นน้อยตอบกระหวัดรัดเกี่ยว
“อ่า...อื้อออ...”
ขุนจำเริญหอบหายใจแรง
เมื่อไอ้ลอยช่วงชิงลมหายใจไปจนสิ้น
และแล้วริมฝีปากหนาร้อนที่กำลังกดจูบรุนแรงอยู่นั้น
ค่อยๆแผ่วเบาแลหยุดลง
อีกลากพาความร้อนระอุ
เลื่อนไหลพาดผ่านลงไปตามพวงแก้มนุ่ม
จูบนั้นกลับสงบนิ่งพักพิงที่ซอกคอขาวหอมกรุ่น
“รักเหลือเกิน คิดถึงเหลือเกินขอรับ”
ไอ้ลอยพร่ำรำพันคำหวานมิหยุดหย่อน
หากแต่ถ้อยคำเหล่านี้มิได้ปรุงแต่งแต่อย่างใด
ทั้งหมดทั้งมวล
ล้วนส่งผ่านมาจากภายในใจอันใสซื่อของมัน
“ละ..ลอย..ลอยจ๋า พูดจา..อื้อ..กันกะ...ก่อน..อ๊าส์”
ขุนจำเริญเสียวซ่านไปทั้งกาย
รัญจวนจิต รัญจวนใจ
เสียจน...พูดกล่าวราวเด็กน้อยหัดพูด
เพลานั้น
สายลมโชยยามดึกพัดผ่านจนชายม่านบางพลิ้วปลิวไสว
ไอเย็นจากสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆเรื่อยริมข้างเรือนแพเย็นชุ่มชื้น
ทว่าร่างกายของคนทั้งสองบนเตียงตั่ง
กลับรู้สึกร้อนมาจากภายใน
ขุนจำเริญเกาะกุมต้นแขนแข็งแกร่งเป็นมัดกล้ามของไอ้ลอย
ซึ่งบัดนี้คร่อมอยู่เหนือร่างตน
สัมผัสของริมฝีปากที่คลอเคลีย
ยิ่งลึกซึ้งแนบแน่นเสียจนลมหายใจขาดห้วง
หายใจอย่างยากลำบาก อึดอัด..
แต่มิอาจรู้ได้ว่าเป็นเพราะ....
หัวใจที่เต้นรัวจนผิดจังหวะนี้ด้วยฤาไม่
“ซี๊ดดดด..”
ไอ้ลอยยังมิทันขยับตัว
เพียงแค่มันถูไถจำปีดอกใหญ่บดเบียดจำปีดอกน้อย
บาดแผลปริออกเลือดซึม
“ลอย..โธ่เอ๋ย ลอยจ๋า..
เลือดเจ้าจักไหลออกมาอีกแล้ว
เจ็บมากสินะลอย...ข้า..ข้าขอ....”
ขุนจำเริญระล้าระลังมิรู้จักทำเยี่ยงใดดี
นิ้วชี้หยาบกร้านแตะแผ่วเบาที่ริมฝีปากบาง
ก่อนที่ขุนจำเริญจักพูดจนจบความ
“ขุนจำเริญขอรับ เมตตาไอ้ลอยด้วยเถิดนะขอรับ”
ไอ้ลอยประคองร่างบางให้ลุกนั่ง
หากตัวของมันกลับลงไปนอนทอดกายอยู่แทนที่
มุมปากหนายกยิ้มอย่างพึงใจ
สายตาคมระยิบระยับคราเห็นหน้านวลเหรอหรา
“เจ้าจักบ้าไปแล้ว ไอ้คนบ้า ชิส์”
มือน้อยข้างหนึ่งฟาดลงบนอกแกร่งกำยำที่ปราศจากอาภรณ์
สองบุรุษเพลานี้
กลับคืนสู่ธรรมชาติยุคเก่าก่อน
คราเมื่อมนุษย์โลก...มิมีผ้าผ่อนพันกาย
“ขุนจำเริญใจร้ายกับไอ้ลอยเหลือเกินนะขอรับ
ไอ้ลอยมันเจ็บกาย แล้วใยต้องมาเจ็บใจเยี่ยงนี้หนอ
บาปกรรมอันใดไอ้ลอยก็มิเคยกระทำ....อ๊ะ...”
ไอ้ลอยตัดพ้อมากมายเกินกว่าความเป็นจริง
หากแต่ผลของมันสำเร็จลุล่วงสมใจ
“อ่าส์...ซี๊ดดด..”
ไอ้ลอยสูดปากสูดคออย่างเสียวซ่าน
ด้วยขุนจำเริญวาดขาเรียวงามข้างหนึ่ง
พาดผ่านข้ามตัวไอ้ลอยที่นอนอยู่บนฟูกหนา
ความคับแน่นที่กดลงมาโดยมิบอกกล่าวให้ทันตั้งตัว
ยวนยั่วใจจนไอ้ลอยอดรนทนมิไหว
ไอ้ลอยเผลอไผลยกสะโพกหนาลอยจากพื้นขึ้นตอบรับ
“อ้าส์...เจ็บ...อย่า...อย่าเพิ่ง”
เสียงหวานเครือครางแผ่ว
ราวจักร้องไห้ด้วยเจ็บจุกของขุนจำเริญ
เหมือนบ่วงเชือกที่มองมิเห็น
คล้องรัดกายกำยำของไอ้ลอยไว้ให้หยุดนิ่งรั้งรอ
ไอ้ลอยกัดฟันแล้วข่มกลั้นแรงกำหนัด
มันใคร่กระทำอุกอาจดังใจอยาก
หากขุนจำเริญท่านจักทรมานเจ็บปวดรวดร้าวแล้วไซร้
ไอ้ลอยฤาจักกล้าทำร้ายดวงใจของมันเอง
เสียงหวานครางเรียกร้องตามอารมณ์หื่นกระหาย
คราขุนจำเริญทิ้งกายลงทาบทับร่างกำยำของไอ้ลอย
รสรักแลสัมผัสลึกล้ำอันคุ้นเคย
เหงื่อกาฬผุดพรายพร่างพรูออกมาจากทุกอณูขุมขน
ไอ้ลอยมอบจุมพิตพร่างพรมไปทั่วใบหน้าของขุนจำเริญ
สองมือสากหยาบกร้านลูบไล้หลังไหล่แผ่วเบาราวปลอบขวัญ
“อ๊ะ...ลอย...อื้อ..ลอย..บ้าจริง”
มือสากเลื่อนไล้ไล่ลงมาเกาะกุมก้นกลม
ขยำขยุ้มบีบเคล้นคลึงเคล้าลงแรงมิหนักนัก
หากคนถูกล่วงล้ำจาบจ้วงมิทันรู้ตัว
จึงสะดุ้งกายจักลุกขึ้น
มีฤาที่เสือหิวจักปล่อยลูกกวางเนื้อหวาน
ให้หลุดรอดจากกรงเล็บแหลมคม
สองมือหยาบด้วยกรำงานเกาะกุมสะโพกกลมมนไว้แน่น
คราไอ้ลอยมันมั่นใจว่า
คนข้างบนปรับตัวรับกับจำปีดอกใหญ่ได้แล้ว
“พร้อมกันนะขอรับ”
เสียงนุ่มทุ้มออดอ้อน เอาใจนัก
สองขาเรียวแยกห่างออกจากกัน
ฝ่าเท้าน้อยๆวางราบบนฟูกหนา
สะโพกกลมมนเริ่มขยับเขยื้อนช้าๆ
แล้วเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น
มือบางวางทาบบนอกกำยำ
ดันต้านแรงกระทบกระแทกของคนด้านล่าง
มิให้เร่งแรง
ไอ้ลอยกัดฟันแน่น
ข่มใจมิให้ยกสะโพกสวนกลับ
“อ๊าส์...”
สองมือหยาบกร้านเกาะกุม
แล้วบรรจงรูดรั้งอย่างถนอม
ราวเกรงจักทำจำปีดอกน้อยชอกช้ำ
คางเรียวแหลมเชิดขึ้น
ดวงตาหลับพริ้ม
หากริมฝีปากแดงสั่นระริก
สองเท้าจิกแน่น
จนผ้าไหมคลุมเตียงเนื้อดีหลุดลุ่ยยับย่น
“อาาา...”
เสียงนุ่มทุ้มของไอ้ลอยคนซื่อครวญครางขึ้นอย่างลืมตัว
สัมผัสแนบแน่น นุ่มอุ่นร้อนมิเคยเปลี่ยนแปลง
ร่างบางของขุนจำเริญยกสะโพกกลม
ให้จำปีดอกใหญ่....
เคลื่อนไหวเข้าออกอย่างเนิบนาบอ้อยอิ่ง
ราวจังหวะสีซอที่อ่อนหวานนุ่มนวล
หลากความหมายในตัวเอง
“ไอ้ลอยรักขุนจำเริญเหลือเกินขอรับ รักเหลือเกิน”
ไอ้ลอยใจจักขาดเสียให้ได้
คราสะโพกกลมมนเริ่มโยกไหวเข้าจังหวะ
ความเสียวซ่านเสน่หาโหมกระหน่ำ
ไอ้ลอยยกสะโพกแกร่งขึ้นรับแรงโยกไหว
ที่เริ่มโหมกระหน่ำอย่างเร่งเร้ารุนแรง
ราวคนเดินทาง
รอนแรมกระหายหิวแลอดอยากมาช้านาน
ครั้นพานพบแหล่งน้ำแลอาหารอันอุดม
ตักตวงจ้วงจาบมูมมามมิรั้งรอ
มือหนาหนักของไอ้ลอยคนซื่อ
ฟาดเข้ากับแก้มก้นนิ่มจนเป็นรอยจางๆ
หากขุนจำเริญกลับหัวเราะขันแลยิ้มยั่วยวน
มือรียวจิกลงบนบ่าหนา พลางเร่งเร้า
“อ่า...แรงๆ..อื้อ...อ๊าส์..ลอยจ๋า แรงอีก...อ๊าส์...”
ขุนจำเริญหวีดร้อง
คราอารมณ์ราคะร้อนแรงถึงขีดสุด
ขาเรียวนวลขาวสั่นระริกจากความเสียวซ่านสุขสม
กายบางอ่อนระโหย
ทิ้งตัวลงซบอกกำยำ
ริมฝีปากร้อนแนบนาบกันอีกครั้งคราถึงฝั่ง
หากไอ้ลอยยังคงเคลื่อนกาย
กระแทกเข้าออกอย่างเร็วแลรุนแรงขึ้นทุกขณะ
สองร่างสอดประสาน
ทั้งกายแลเสียงครางกระสันสวาท
ของเหลวขาวขุ่นคลั่ก
หลั่งไหลกระจายเลอะเปรอะนองหน้าท้องแกร่ง
ในเพลานั้น
ของเหลวเยี่ยงเดียวกันหากมากมาย
ฉีดแรงเข้าสู่ภายในกายของขุนจำเริญ
เหงื่อกาฬไหลชุ่ม
กายเปลือยเปล่าที่กอดกระหวัดรัดกันไว้
ความเหนื่อยอ่อนล้า
ทำให้ขุนจำเริญเผลอหลับไปทั้งยังทาบทับร่างไอ้ลอยอยู่
ส่วนเชื่อมต่อแม้คลายลง หากยังประสานกันอยู่
มือหนาลูบศีรษะทุยได้รูปสวยของขุนจำเริญ
อย่างแผ่วเบาทะนุถนอม
ริมฝีปากหนาจุมพิตลงตรงกลางกระหม่อม
“หลับเสียเถิดขอรับ....ยอดรักของไอ้ลอย”
เสียงนุ่มทุ้มกระซิบรำพันพะเน้าพะนอ
แม้นคนตรงหน้าหลับใหลมิอาจรับรู้
หากมุมปากบางกลับยกเผยอยิ้ม....
อย่างเป็นสุข

*************************************************************
นายท่านขอรับ..
กระผมคาดคะเนว่าอีกสักสองสามตอนขอรับ
นิยายเรื่องนี้จักอวสานแล้วนะขอรับ
มาร่วมใจกัน....
ส่งไอ้ลอยแลขุนจำเริญ.....
ไปให้ถึงซึ่งฝั่งฝันกันเถิดขอรับ

*************************************************
จากภาพขอรับ
1. "อร๊ายยยย อย่าน้า ลอยจ๋า"
2. "จาปายหนายขอร้าบบบบ มาห้ายจาบบบบเสียดีๆน้าขอร้าบบบบ"
3. "หนีลงน้ำเสียดีกว่า ลอยจ๋าคงมิรู้ทันข้า"
4. "จับได้ ไอ้ลอยคนซื่อจัดหนักนะขอรับ"
5. "ยอมแล้วจ้า ลอยจ๋า ให้ข้าขี่หลังหน่อยจิ"
6. "ขุนจำเริญจักใคร่ขี่ม้าฤาขี่ไอ้ลอยขอรับ"
7. "หากขุนจำเริญจักขี่ไอ้ลอย
ขอไอ้ลอยเปิดตำรากามสูตรทบทวนสักนิดนะขอรับ"

[attachment deleted by admin]