
สงกรานต์แล้วนะขอรับนายท่าน
รีบเร่งลงจากเรือน...ไปเล่นน้ำกันเถิดขอรับ

****************************************************
ทาสรัก....สมัครใจ....33
“งิ้วนรกสิบหกองคุลีแหลม
ดังขวากแซมเสี้ยมแทรกแตกไสว
ใครทำชู้คู่ท่านครั้นบรรลัย
ต้องไปปีนต้นน่าขนพอง”
(นิราศภูเขาทอง กลอนสุนทรภู่)
*********************************************
“ลอยเอ๋ย...เจ้าอย่าด่วนคิดน้อยอกน้อยใจ
คุณพี่จำเริญของข้าไปไกลนักเลย
ความอันใดยังมิทันรู้แจ่มจัดชัดแจ้งมิใช่ฤา
ใยเจ้าจึงจักต้องวิตกทุกข์ร้อนไปล่วงหน้าด้วยเล่า”
คุณหนูแดงเอ่ยคำเตือนใจไอ้ลอยคนซื่อ
ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแลปลอบโยน
คราไอ้ลอยมันจำใจลาจากเรือนแพ
********************************************
“ใยเอ็งซึมกระทือ
เป็นหมาหงอยไก่เหงาเยี่ยงนี้เล่าไอ้ลอย”
คุณนายแฉล้มลอบมองพิจารณา
ไอ้คนที่ตนหมายมั่นจักชุบเลี้ยง
ให้ได้ดิบได้ดีในภายภาคหน้า
“มิมีอันใดดอกขอรับคุณนายแฉล้ม”
ไอ้ลอยคนซื่อกล่าวตอบนอบน้อม
หากมันกลับมิยอมเงยหน้าขึ้นสบตาผู้มีอุปการะแห่งตน
“ชิชะ มิมีอันใด เอ็งหายหัวลงจากเรือนข้ากลางดึกกลางดื่น
โผล่หัวกบาลมาอีกครา ก็เจียนพระท่านฉันเพลเยี่ยงนี้
แล้วนี่กระไรอีก...นั่งหน้ามุ่ยหน้าตูม ขวางหูขวางตาข้านัก”
ไอ้ลอยมันตกใจแลตะลีตะลาน
มิคาดคิดว่าจักมีผู้ใดล่วงรู้การลักลอบ ยามค่ำคืนดึกดื่นของมัน
มันเร่งก้มลงกราบคุณนายแฉล้มตรงพื้นกระดานเรือน
แทบจะทันทีที่ครองสติได้
ไอ้ลอยคนซื่อระล่ำระลักออกมาอย่างร้อนรน
“กระผมผิดไปแล้วขอรับ ทำตัวชั่วช้าเหลือเกินขอรับ
ที่ลอบหนีลงเรือนไปโดยมิบอกกล่าวคุณนายแฉล้มขอรับ”
คุณนายแฉล้มถอนหายใจยาว แล้วแสร้งปั้นหน้ามึนตึง
“ข้าไถ่ตัวเอ็งมาชุบเลี้ยง มิได้เอามาเข้าคอกขังกรงแต่อย่างใด
เพลาเอ็งใคร่อยากออกไปภายนอกเรือนข้า
ขอเพียงบอกกล่าวข้าบ้าง จักหนักหนาสาหัสสากรรจ์หรือไร”
คุณนายแฉล้มนางมิได้ขึ้งโกรธไอ้ลอยแต่อย่างใด
นางเพียงต้องการปรามแลตัดไม้ข่มนาม
มิให้มันเถลไถลออกนอกลู่ทางอันดี
“กระผม...กระผมทำผิด....”
ไอ้ลอยพูดไปมิทันจบความ
“มิต้องแจกแจง
จักลอบกลับไปเยือน ซบตักแม่ฤาดูดนมแม่ก็เรื่องของเอ็ง
เพลานี้ข้ามิใคร่อยากรู้เสียแล้ว
แต่ต่อไปภายหน้าเอ็งอย่าริกระทำเยี่ยงนี้อีก”
คุณนายแฉล้มว่าแล้วก็ก้าวเดินตัวตรงออกไป
เสียดายนักที่ไอ้ลอยคนซื่อ
มิมีโอกาสได้เห็น
สีหน้ายิ้มย่องมีชัยของนาง
******************************
“ไอ้..เอ้อ เจ้าลอย”
เสียงเรียกคุ้นหูดังขึ้น
“พี่ดำ พี่ดำมาได้อย่างไรกัน”
ไอ้ลอยดีใจนัก คราเห็นไอ้ดำทาสรุ่นโตกว่า
ด้วยเคยคุ้นอยู่ร่วมชายคานายเงินเดียวกัน
“ไอ้..เอ้อ เจ้าลอย..กูเอ๊ยข้า...”
“พี่ดำ เรียกข้าไอ้ลอยเหมือนคราข้าเป็นทาสในเรือนเบี้ยเถิด
อย่าได้เปลี่ยนแปลงอันใดไปเลย”
ไอ้ลอยเพลานี้ มิแน่ใจเสียแล้วว่า
อยากถูกไถ่ถอนมาเป็น”ไท”
หากทุกสิ่งอย่างผกผันกันเยี่ยงนี้
ไอ้ทาสดำผงกหัวเป็นการเข้าใจ
แล้วยื่นซองกระดาษที่ล้วงออกมาจากอกเสื้อเก่ามอซอของมัน
“ขุนจำเริญท่านมีหนังสือมาถึงเอ็ง
แลข้าจักตัองรอคำตอบจากเอ็งกลับไปเรียนนายท่านอีกด้วย”
ไอ้ลอยยื่นมือสั่นเทาออกไปรับ
หัวใจเต้นแรงราวจักกระดอนออกมานอกอกเสียให้ได้
มันรีบร้อนแกะออกอ่าน
“ลอยเอ๋ย
เพลานี้เรื่องราววุ่นวายของข้าได้ข้อยุติลงเรียบร้อยแล้ว
วันรุ่งพรุ่งนี้เจ้าจงอย่าลืมเลือน
ด้วยเจ้าจักต้องมาทำงานเสมียนตราที่กระทรวงข้าเป็นคราแรก
ข้ามีถ้อยคำจักเล่าสู่เจ้ามากมายนัก
ข้าใคร่ให้ถึงเพลาพรุ่งนี้เสียเหลือเกิน
เจ้าจงอย่าเพิ่งคิดอื่นใดไปมากมายเฉกเช่นที่เป็นมา
เรื่องที่บังเกิดล้วนเป็นเรื่องอันน่ายินดีทั้งสิ้น”
อนิจจา
ไอ้ลอยคนซื่อ มันอ่านข้อความเหล่านี้แล้วไซร้
มันหาเข้าใจอย่างใดไม่
ถ้อยคำในนั้นมิได้คลี่คลายความคลางแคลงในใจแต่อย่างใด
คุณแป้งร่ำจักมีครรภ์ฤาไม่
ลูกในท้องคุณแป้งร่ำ จักเกิดจากผู้ใด
ในจดหมายที่ได้มา หาได้ชี้แจงบอกกล่าวสักนิดก็หาไม่
“พี่ดำ...
ข้าวานฝากคำไปกราบเรียนขุนจำเริญท่านด้วยว่า"
"ข้ามิเข้าใจถ้อยคำที่ท่านเขียนมาแต่อย่างใด”
ความน้อยใจที่บ่มเพาะมาทั้งวัน
ทำให้ไอ้ลอยคนซื่อกล่าวออกไป
**********************************************
ขุนจำเริญหงุดหงิดรำคาญใจแลขุ่นเคืองไอ้ลอยนัก
เหตุใดเข้าใจโดยง่ายมิเป็น
มันมิได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอันใดเลย
“โง่เง่าโง่งมนักนะ...ลอยเอ๋ย
วันรุ่งพรุ่งนี้เถิดความทุกอย่างจะกระจ่างแจ้ง”
******************************************************
ขุนจำเริญผุดลุกผุดนั่ง
เดี๋ยวๆก็ลุกไปแง้มผ้าม่านที่หน้าต่าง
อีกเดี๋ยวก็ลุกไปเมียงมองที่หน้าประตู
“ท่านขุนขอรับ ต้องการสิ่งใดขอรับ”
เสมียนตราหัวหน้า อดรนทนไม่ไหว
เมื่อเห็นเจ้านายงุ่นง่านวุ่นวายราวเสือติดจั่น
เสมียนน้อยใหญ่พากันเกี่ยงงอน
มิอยากเข้าไปส่งงานให้ท่านตรวจตรา
งานราชการในเพลานี้กองทะเนิน
ด้วยนายของเหล่าเสมียน
มิมีกระจิตกระใจแลสมาธิต่องานตรงหน้า
“ข้ามิได้ต้องการสิ่งใด
ผู้ใดมีการงานก็จงเร่งกระทำเสีย มิต้องมาใส่ใจข้า”
ขุนจำเริญระงับอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างสุดความสามารถ
หากมิวายใช้วาจาว่ากล่าว ผู้ใต้บังคับบัญชาของตน
จวนเจียนเพลาเลิกงานเต็มทน
“ลอยเอ๋ย เมื่อใดเจ้าจักมาเสียที
ข้าทนรอเจ้าแทบมิไหว ใจข้ามันจักขาดรอนๆ”
“ลอยเอ๋ย เจ้าเข้าใจข้าผิดเสียแล้ว
ข่าวดีเยี่ยงนี้ ไฉน..ใยเจ้ามิเข้าใจหนอ”
“ลอยเอ๋ย ข้ามิควรเขียนจดหมายขึ้นมาเลย
สู้นิ่งเฉยรอเพลายังดีเสียกว่า”
“ลอย...หากเจ้าจิตใจมิหนักแน่นเยี่ยงนี้
ข้ากับเจ้าจักไปกันได้ตลอดรอดฝั่งฤา”
“ลอย...เอ็งคงมิได้มีจิตคิดเสน่หาข้ามั่นคงเป็นแน่แท้
เรื่องเล็กเรื่องน้อยเจ้าก็จิตไขว้เขว ใจใบหวิวดังปุยนุ่น”
“ลอย...ทำไมเจ้ายังมิมาหนอ จวนเย็นย่ำแล้วสินะ
แล้วเยี่ยงนี้จักมีเวลาเพียงน้อยที่จักได้พูดจากัน”
“ไอ้ลอย...ข้าชังน้ำหน้าเอ็งนัก ไอ้คนปลิ้นปล้อน
ปากว่าอย่าง การกระทำเป็นอีกอย่าง”
“ไอ้ลอย...เอ็งโผล่หัวมาเมื่อใด"
"เราจักได้เห็นดีกัน”
**************************************
เพลานั้น....
บุรุษหน้าตาคมสัน รูปร่างกำยำ
แต่งกายด้วยอาภรณ์กลางเก่ากลางใหม่
หากบุคลิกลักษณะอันสุภาพแลความผึ่งผาย
ช่วยหนุนเนื่องค้ำชูสง่าราศีแลดูจับตา
“ลอย...ลอยจ๋า มาช้าเสียจริง”
ขุนจำเริญถลาเข้าไปกอดไอ้ลอยอย่างลืมตน
“ขุนจำเริญขอรับ ได้โปรดระมัดระวังด้วยเถิดขอรับ”
ไอ้ลอยมิกล้าผลักไสดวงใจของมัน
หากแต่ด้วยเป็นสถานที่ราชการกระทรวง
สถานที่มิควรปล่อยกายใจตามแรงปรารถนาแลอารมณ์
อีกทั้งมันยังมิคลายจิต คิดน้อยใจขุนจำเริญด้วยอีกประการหนึ่ง
ขุนจำเริญหน้าม้าน สะบัดตัวออก
เดินลงส้นเท้าหน้าง้ำ ไปหน้าประตูห้องท่าน
“พวกเจ้าเลิกงานกลับบ้านกันได้แล้วทุกคน
มิต้องรั้งรอเวลา วันนี้ข้าอนุญาตให้เลิกก่อนเพลาปกติ”
ขุนจำเริญเดินหน้างอกลับเข้ามาในห้องทำงานของตน
กระแทกกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงาน อย่างมิเกรงเจ็บกาย
เสียงภายนอกห้องดังจอแจขึ้นมา
สักพักก็ค่อยๆจางหายไป จนเงียบสนิท
เสียงประตูตึกด้านนอกปิดลง
เพลานี้เหลือเพียงขุนจำเริญแลไอ้ลอยเพียงสองคน
“ขุนจำเริญขอรับ”
ไอ้ลอยคนซี่อนั้น
คราแรกมันตั้งใจมั่นว่า จักมิพูดจาอันใดก่อน
จวบจนมันจักได้รู้เรื่องราวทั้งมวล
อันข้องเกี่ยวด้วยคุณแป้งร่ำคู่หมายของขุนจำเริญ
หากเพลานี้ขุนจำเริญท่าน
นั่งเชิดหน้างอ คอแข็ง เม้มปากแน่น
แผ่นหลังบอบบางตั้งตรงมิพิงพนักเก้าอี้
สองแขนเรียวกอดกันแน่นใต้ราวอก
ขุนจำเริญมิต้องเอ่ยคำอันใด
ไอ้ลอยก็รับรู้ได้ว่า มรสุมลูกใหญ่เริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว
อีกมินานคงจักพัดพาข้าวของแลผู้คนใกล้ตัวให้กระเจิดกระเจิงเป็นแน่
แล้วเป็นจริงดังคาด
เพียงแค่ไอ้ลอยเอ่ยทัก
กองเอกสารตรงหน้าได้มีอันกระจัดกระจาย
เอกสารแผ่นบางปลิวว่อน
หนังสือหนาหนักตกลงบนพื้น
เครื่องเขียน อุปกรณ์ทั้งหลาย ตกแตกหักเสียหาย
แจกันใบน้อยขว้างมาตกกระทบพื้นตรงหน้าไอ้ลอย
เศษแก้วเศษกระเบื้องแตกบิ่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เสียงโครมครามดังต่อเนื่องจนสาแก่ใจ
ฤาอีกอย่างคือมิมีข้าวของอันใดหลงเหลือให้ทำลาย
ไอ้ลอยยืนอึ้งจนมรสุมสงบลง
มันทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นห้อง
ใบหน้าคมสันของมัน
เงยขึ้นมามองหน้าหวานของขุนจำเริญ
ที่เพลานี้บูดบึ้งเสียเหลือเกิน
“หากไอ้ลอยทำขุนจำเริญท่านมิพอใจฤาขุ่นเคือง
ได้โปรดทุบตีไอ้ลอยเสียเถิดขอรับขุนจำเริญ
โปรดอย่าได้ทำลายข้าวของเหล่านี้เลยขอรับ”
น้ำเสียงไอ้ลอยสั่นเครือ ด้วยความน้อยใจ
เพลานั้นไอ้ลอยให้ปวดแปลบหัวเข่าทั้งสองข้างของมัน
มันสำนึกรู้ได้ในทันทีว่า
มิแคล้วหัวเข่าของมัน
จักโดนทิ่มโดนตำจากเศษชิ้นส่วนแจกันแลเศษแก้วเป็นแน่
หากความเจ็บจากบาดแผลมี่บังเกิดขึ้นสดร้อน
กลับมิรุนแรงเท่าความแสบร้อนภายในอก
ขุนจำเริญลุแก่โทสะ ทำลายข้าวของเยื่ยงนี้
ราวกับท่านมิได้รักมิได้เมตตาไอ้ลอยอีกต่อไปแล้วกระมัง
ขุนจำเริญในคราแรกหอบหายใจ
หัวใจเต้นระรัวด้วยเกรี้ยวโกรธ
กำหมัดกัดฟันข่มระงับความพลุ่งพล่านภายในใจ
“ลอยเอ๋ย เจ้าใยเมินเฉยเฉื่อยชา
ช่างตรงกันข้ามกับข้า...
ที่กระวนกระวายใจเฝ้าคอยเจ้ามาตลอดวัน”
ขุนจำเริญรำพันตัดพ้อไอ้ลอยคนซื่ออยู่ในอก
หากคราขุนจำเริญรวบรวมข่มสงบสติอารมณ์ที่ประทุออกมาได้แล้ว
ชายสายตาแลมายังไอ้ลอยคนซื่อ
ตั้งใจจักตอบโต้ด้วยถ้อยคำเผ็ดร้อนที่รอจ่ออยู่ที่ริมฝีปาก
พลันสีแดงฉานของโลหิต
ที่ไหลซึมกระจายเป็นวงบนพื้นพรมตรงหน้า
“ลอย..ลอยจ๋า...โธ่เอ๋ยลอยของข้า”
ขุนจำเริญถลาจักเข้าไปหาไอ้ลอยที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงพื้น
“อย่า...อย่าขอรับ อย่าเดินมาขอรับ
เศษแก้วกระเบื้องมากมาย อย่าได้เดินมาขอรับ”
ไอ้ลอยคนซื่อผุดลุกพรวดพราดขึ้นมา
โลหิตแดงฉานไหลซึมจากหัวเข่าลงเป็นทาง
ไปตามลำแข้งทั้งสองข้างของมัน
“พุทโธ่เอ๋ย..ลอยของข้า เจ้าคงจักเจ็บจักปวดมากนัก”
ขุนจำเริญมิฟังคำห้ามของไอ้ลอย
โถมตัวถลาเข้ามากอดไอ้ลอยเอาไว้แน่น

****************************************************
ตอนหน้าขอรับ ตอนที่นายท่านลอยคอเอ๊ยรอคอย
แลอีกมิช้านาน จวนเจียนถึงเพลาอวสานแล้วนะขอรับ
ขอให้นายท่านมีความสุขในเทศกาลสงกรานต์ขอรับ

มหรสพ"โนอาห์"สนุกคุ้มราคาค่าตั๋วขอรับ
ด้วยนักแสดงล้วนมากฝีมือ แลหนังยาววววววว
เสียดายเพียงข้าวโพดคั่วมิมีรสสตอฯด้วยหมดโปรไปแล้วขอรับ
ส่งท้ายด้วยภาพวันสงกรานต์ณ.เรือนแพขอรับ
สุดท้าย
รักจริงยิ่งกว่านิยาย มีเรื่องเม้าท์มาอัพหลายตอนแล้วนะขอรับ

จากภาพ
1. "ลอยจ๋า...หากข้าแต่งกายเยี่ยงนี้ จักเล่นน้ำสงกรานต์ได้ฤาไม่"
2. "ขุนจำเริญขอรับ ไอ้ลอยไหว้ล่ะขอรับ
ได้โปรดนุ่งห่มมิดชิดรัดกุมบ้างไรบ้างเถิดขอรับ"
3. "ไอ้ลอยเกรงว่าขุนจำเริญจักมิรอดพ้นไอ้เข้ไอ้โขงในน้ำนะขอรับ"
4. "ไอ้ลอยไหว้พระขอพรขอรับ"
5. "ไอ้ลอยรำกลองยาวม่วนแท้ขอรับ"
6. "ไอ้ลอยเป่าแคน..ปู๊ดดดดด"
7. "ไอ้ลอยสาดดดดดด(น้ำ)ขอรับ"
8. "อุ๊บส์...ภาพหลุด...เฮียมี่ เฮียหน่อย น้องแอนฟีลด์ และดุ๊กดิ๊กครับผม"

[attachment deleted by admin]