
ขอขอบคุณทุกคอมเม้นท์และกำลังใจขอรับ
อีกทั้งขอขอบคุณคำแนะนำช่วยแก้ไขคำผิด เพื่ออรรถรสในการเสพขอรับ
บทเรียนรักตามตำรา"กามสูตร"ผ่านพ้นไปหลายบทตอน
กระผมใคร่ขอเปลี่ยนบรรยากาศ เพื่อนายท่านจักได้ควบคุมลมปราณสักชั่วยาม
ตอนนี้เป็นเพียงสำรับStarterหรือ Appetizerเพื่อเรียกน้ำย่อย
ส่วน Main Dish แล Final Dish จักตามมามิช้านานขอรับ

******************************************
ทาสรัก....สมัครใจ....23
ขุนจำเริญเพลานี้ เคร่งเครียดหนักอกใจถึงขีดสุด
ราวศึกหลายด้านหลายฝ่าย โจมตีพร้อมกันเข้ารุมเร้า
พระยาแม้นมนตรีแลคุณหญิงท่าน โปรดปรานขุนจำเริญยิ่งนัก
ใคร่อยากดองเป็นทองแผ่นเดียวกันในเร็ววัน
ด้วยเล็งเห็นอนาคตในภายภาคหน้า
ขุนจำเริญมิพ้น รั้งตำแหน่ง"พระยา"เป็นอย่างน้อย
อีกกริยาหน้าตา แม้นไม่องอาจเข้มแข็งสมชาย
หากก็หมดจด ผิวพรรณนวลผ่องมีราศรีไร้ที่ติ
พระยาแม้นมนตรีแลคุณหญิงท่าน
คิดเข้าข้างเอาว่า ว่าที่เขยขวัญของตน
มิใช่พวกทาสแรงงาน มิจำต้องมีกายล่ำสันกำยำ
ท่านทั้งสองจึงกรุยทางสะดวก เปิดโอกาสให้ขุนจำเริญ
ได้สานสัมพันธ์ อันจะนำไปสู่การเป็นคู่ครองกับบุตรีของตน
คุณแป้งร่ำ
บุตรีหัวแก้วหัวแหวน ของพระยาแลคุณหญิงแม้นมนตรีนั้นเล่า
รูปโฉมโนมพรรณงามระหง ราวนางในวรรณคดี
ผิวพรรณวรรณะไร้ซึ่งที่ติ
อีกการบ้านการเรือนอันได้รับการอบรมบ่มมาเป็นอย่างดี
เพียบพร้อมเป็นแม่ศรีเรือน ทั้งคุณสมบัติแลรูปสมบัติ
สตรีสูงศักดิ์ผู้นี้ ในคราแรกมิใคร่ต้องจริตถูกโฉลกคู่หมายที่บิดาคัดสรร
กิตติศัพท์ความเป็นระเบียบเข้มงวด หยิ่งทะนงตนของขุนจำเริญ
ทำให้คุณแป้งร่ำเข็ดขยาด มิอยากข้องเกี่ยว
หากคราพบปะพูดคุย
ในเพลาที่พระยาแลคุณหญิงศรีพิพัฒน์ พาบุตรชายมาเยือนถึงเรือนตน
ขุนจำเริญช่างมีรูปโฉมงามสง่า ต้องใจคุณแป้งร่ำเสียเหลือเกิน
ดั่งผู้สูงศักดิ์ในรั้วในวัง กลิ่นกายเนื้อตัวหอมกรุ่น
คราใดได้ร่วมเรียงเคียงหมอน ตนจักต้องเป็นที่ริษยาของสตรี ทั่วทั้งพระนคร
พระยาแลคุณหญิงศรีพิพัฒน์ แม้นรับปากเป็นมั่นเหมาะ
ในการทอดเวลาให้หนุ่มสาวพบปะศึกษาดูใจกัน
หากทว่าในความเป็นจริง ท่านทั้งสองกลับเคี่ยวเข็ญแกมบังคับบุตรชาย
ทุกเพลาสำรับเย็น หลังเลิกงานราชการ
พระยาแลคุณหญิงศรีพิพัฒน์ ออกคำสั่งชัดแจ้ง
ให้ขุนจำเริญไปเยือนเรือนพระยาแม้นมนตรีทุกวัน
อีกจักต้องรับสำรับเย็น ร่วมกับเจ้าเรือนแลบุตรี
หากเพลาวันหยุด คุณแป้งร่ำจักผลัดเปลี่ยนมาเยือนเรือนพระยาศรีพิพัฒน์
เพื่อรับการอบรมงานบ้านงานเรือนจากคุณหญิงมารดาของขุนจำเริญ
แลสร้างความคุ้นเคยกับบ้านเรือน อีกทั้งเหล่าบริวาร
นอกจากเพลางาน แลเพลากลับเรือนแพดึกดื่นแล้วไซร้
คุณแป้งร่ำจักเป็นดังเงา ที่เฝ้าอยู่ข้างกายขุนจำเริญ
มีเพียงคุณหนูแดง ที่จักช่วยชักนำชี้ชวนคุณแป้งร่ำ เพลามาเรือนเยือนตน
สรรหาเรื่องราวแลกิจกรรมสตรี มาเบี่ยงเบน
ให้ขุนจำเริญได้หายใจหายคอ สะดวกขึ้นบ้าง
ศึกทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา รวมกันแล้วหาหนักหนาเท่า
“ศึกบนเรือนแพ”
********************************************
ไอ้ลูกทาสมันมิเหมือนเคย
เศร้าหมองหดหู่อยู่เป็นนิจ
วาจาเก็บงำมิดชิด มิใคร่ยอมปริปาก
สั่งความอันใด ก็เพียงตอบรับ
“ขอรับขุนจำเริญ”
ไอ้ลอยก้มหน้าก้มตาทำงานรับใช้ มิบกพร่องให้ได้ติฉิน
แต่สิ่งเหล่านี้ กลับสร้างความหนักใจให้บังเกิดขึ้น
สะสมพอกพูนจนเกินเยียวยาแก้ไข
เหตุใดนายบ่าวจึงมิหันหน้า เข้าพูดคุยปรึกษากันเล่า
เพลายุคสมัยนั้น
นายบ่าวแบ่งแยกชนชั้นกันชัดแจ้ง
มิใช่ธุระอันใดที่คนเป็นนายจักต้องแจงรายละเอียดให้แก่บ่าวรับรู้
เพียงสั่งความคำสองคำเท่านั้น ก็เพียงพอ
คนเป็นบ่าวหากนายเงินมิเอ่ยถาม
ก็จักเป็นการมิควร ซักถามล่วงล้ำก้ำเกินนายตน
ปัญหากลุ้มสุมรุมเร้าจิตใจทั้งนายบ่าว
เรือนแพเป็นที่พำนักพักพิงใจ เพียงแห่งเดียวของขุนจำเริญ
ท่านมิยินยอมให้ผู้ใดล่วงล้ำ มิเว้นหน้าใคร
คุณแป้งร่ำเคยเอ่ยขอมาเยือน หากกลับเสียหน้า
ด้วยเจ้าของเรือนแพกล่าวคำขาดว่า
“เรือนแพเป็นที่รักที่หวงของพี่ แม้นแต่คุณพ่อแลคุณแม่ท่าน
ก็มิได้เคยก้าวล้ำเข้าไป น้องแป้งร่ำโปรดจงเข้าใจพี่ด้วยเถิด
เรือนแพของพี่ จักต้อนรับเพียงแม่ศรีเรือนเพียงผู้เดียว”
คุณแป้งร่ำเพียรคิดเข้าข้างตนว่า
"แม่ศรีเรือนของเรือนแพ"
"จักต้องเป็นคุณแป้งร่ำแต่เพียงผู้เดียวเช่นกัน"
ยามราตรีบนห้องหับในเรือนแพ สองร่างอิงแอบโอบกอดแนบชิด
เปลือกตาหลับพริ้มทั้งนายบ่าว หากมิมีผู้ใดเข้าสู่นิทรา
อ้อมกอดที่ขุนจำเริญซบอยู่ในเพลานั้น หาได้อบอุ่นอ่อนหวานดังเช่นเคย
ไอ้ลูกทาสมันโอบกอดรอบตัวท่านเหมือนเคย
แต่ทว่ามันกลับนิ่งเฉย
มิมีคำหวานมาปรนเปรอข้างหู
มิมีปากหนาจมูกโด่งคมมาคลอเคลีย ออดอ้อน
มือไม้หยาบสากกร้านซุกซน ที่เคยลวนลามลูบไล้ อันตธานหายไป
อ้อมอกอุ่นจึงแปรเปลี่ยน เย็นชืดแข็งกระด้าง
ฝ่ายไอ้ลอยนั้นมิผิดแผก
ร่างนวลเนียนหอมกรุ่น ที่เคยเฝ้าจาบจ้วงแลลูบคลำฟอนเฟ้น
เพลานี้กายนายท่านราวของร้อน
จับต้องแล้วให้ปวดแสบร้อนในหัวอก
“ลอย...ข้าหนาว กอดข้าที”
ขุนจำเริญหักห้ามความอาย แสร้งออดอ้อนไอ้ลอย
“ขอรับขุนจำเริญ”
อ้อมกอดของไอ้ลูกทาสกระชับขึ้น หากก็เพียงแค่นั้น
“ลอยจ๋า”
ขุนจำเริญเงยหน้าหวานขึ้นมา
ปากบางงับหยอกที่ปลายคางไอ้ลอย
“ขอรับขุนจำเริญ”
ไอ้ลอยรับคำแล้วนิ่งเฉย ทว่าในใจของมันเจ็บปวดนัก
ขุนจำเริญท่านมิทุกข์ร้อนดอก
ด้วยรอบกายนายท่านมีทั้งไอ้ลูกทาสโง่งม
แลสตรีสูงศักดิ์รูปโฉมงดงาม
แม้นไอ้ลอยยังมิเคยเห็นกับตา แต่มีหรือจักมิได้ยิน
ไอ้อีทาสมันคุยฟุ้งลือกันไปทั่ว
“งามเหลือเกิน เกิดมาอีอุ่นมิเคยเห็นผู้ใดงามได้ถึงเพียงนี้”
อีทาสอุ่นมันหลงใหลได้ปลื้ม
“คุณแป้งร่ำท่านทั้งกายงามใจงาม
คราก่อนท่านให้ทานพวกบนเรือนท่านคนละหลายอัฐ
ข้าหล่ะอิจฉาพวกมันนัก
ภายหน้าท่านมาเป็นแม่ศรีเรือนของขุนจำเริญ
ข้าจักเสนอตัวรับใช้ใกล้ชิดท่าน”
“หายากนักสตรีสูงศักดิ์ อีกเพียบพร้อมงานบ้านงานเรือน
พวงมาลัยฝีมือท่านราวนางใน”
อีกสารพันคำเยินยอ จะจริงจะเท็จมิสำคัญ
หากล้วนแล้วแต่กรีดย้ำ ลงบนหัวใจของไอ้ลอย
“ลอย เจ้าคิดอะไรอยู่”
ขุนจำเริญหยัดกายขึ้นมา จากอ้อมอกของไอ้ลูกทาส
“มิมีอันใดขอรับขุนจำเริญ”
ไอ้ลอยมิมองหน้าขุนจำเริญ
หากมือหยาบของมันลูบไล้แผ่นหลัง
ผ่านเสื้อผ้าป่านของท่าน อย่างเลื่อนลอย
“เฮ้อ เจ้าทำเยี่ยงนี้ ข้าเหนื่อยใจนัก”
ขุนจำเริญถอนหายใจหนัก
“มิมีอันใดขอรับขุนจำเริญ”
คำตอบรับซ้ำซากของไอ้ลูกทาส
“มิมีอันใดแล้วใยเจ้าเพิกเฉย เมินข้า”
ขุนจำเริญข่มกลั้นความไม่พอใจ แลเริ่มคุกรุ่นขึ้นมา
“มิมีอันใดขอรับขุนจำเริญ”
ไอ้ลอยมันมิทันได้คิด เพียงมิรู้จักกล่าวสิ่งใด
“ไอ้ลอย เอ็งกลับไปนอนกระท่อมเอ็งเดี๋ยวนี้”
ขุนจำเริญลุกนั่งอย่างฉุนเฉียว ชี้นิ้วตวาดไอ้ลอย
“ขอรับขุนจำเริญ”
ไอ้ลูกทาสคนซื่อน้ำตาตกอยู่ภายในอก ลุกนั่ง
มันค่อยๆกระถดตัวลงจากเตียง
แล้วทรุดตัวยอบต่ำ นั่งลงข้างเตียง
กริยามิรู้ร้อนหนาวเยี่ยงนี้
กลับปะทุอารมณ์โกรธเคืองแกมน้อยใจ ของนายท่าน
“ไสหัวเอ็งไปให้พ้นเรือนข้า มิสั่งมิเรียก
อย่าบังอาจเสนอหน้ามาให้ข้าเห็น”
ขุนจำเริญสะบัดหน้า ชี้นิ้วน้อยสั่นระริก
“ขอรับขุนจำเริญ”
ไอ้ทาสลอยก้มหน้ารับคำ น้ำตาคลอ
********************************************
ราตรีนี้เรือนแพแลกระท่อมทาสมิต่างกัน
เจ้าเรือนทั้งสอง นอนพลิกกายก่ายหน้าผาก
“ลอยเอ๋ย ใยเจ้ามิรู้ใจข้า
ข้าเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ
เจ้ากลับขึ้งโกรธเพิกเฉย เสียจนข้าอ่อนใจ
เอาเถิดห่างหายกันสักชั่วครู่ชั่วยาม
รอเพลาผ่านพ้นเรื่องหนักอก
ข้าจักเรียกเจ้ากลับเรือนแพของเรา”
ขุนจำเริญครุ่นคิดแล้วตัดสินใจ
“ขุนจำเริญขอรับ ใยท่านมิเอ่ยคำให้ไอ้ลอยมั่นใจหล่ะขอรับ
เพลานี้คู่หมายท่านมาเยือนถึงเรือนใหญ
อีกมินานคงมาเยือนถึงเรือนแพ
เพลานั้นไอ้ลอยมันจักประคองกายใจ อยู่ได้เยี่ยงใด
หากไอ้ลอยมันมิมีแม่ให้ห่วง มันจักขออำลาจากไป
ไอ้ลูกทาสต่ำต้อยผู้นี้ จักไปรอคอยท่านยังภพหน้าขอรับ
ไอ้ลอยคร่ำครวญอยู่ในอก มันผล็อยหลับไปทั้งน้ำตานองหน้า
****************************************************
มิเห็นแม้แต่เงาของไอ้ลอยมาหลายวัน
ขุนจำเริญกระวนกระวายนั่งนอนมิได้ ดังไฟลน
เริ่มต้นเพียงน้อยใจ ลำดับถัดมาแปรเปลี่ยนเป็นขุ่นเคือง
สุดท้ายกลายเป็นใคร่กลั่นแกล้ง ให้สำนึก
ที่เรือนใหญ่ของพระยาศรีพิพัฒน์
ไอ้ลูกทาสคืบคลาน มานั่งยอบก้มหน้า อย่างเจียมตน
ด้วยไอ้จาบหัวหน้าทาส รับคำสั่งขุนจำเริญให้ตามตัวมาพบ
ไอ้ลอยมันหลบเลี่ยงหนีหน้าขุนจำเริญ
คราท่านไปเยือนเรือนใหญ่ ฤาไปทำงานราชการที่กระทรวง
มันจึงเข้าไปเก็บกวาดบนเรือนแพ ตามหน้าที่
อีกดูแลรดน้ำพรวนดินไม้ดอกไม้ใบรอบอาณาบริเวณ
สำรับคาวหวานนั้น ขุนจำเริญท่านเปลี่ยนเป็นรับบนเรือนใหญ่
“มาแล้วฤาไอ้ลอย”
ขุนจำเริญชายตามาทางไอ้ลอย ที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่
“ขอรับขุนจำเริญ”
ไอ้ลูกทาสคนซื่อรับคำ แล้วเงยหน้าขึ้นมา
หัวใจไอ้ลอยราวถูกบีบรัด ด้วยมือที่มองไม่เห็น
บีบแล้วบดขยี้ จนแหลกลาญ
ขุนจำเริญท่านนั่งอยู่บนยกพื้น
สำรับคาวหวานเพลาเย็น
วางเรียงรายอยู่บนตั่งใหญ่ตรงหน้า
มิมีแม้แต่เงาของนายเงินคนอื่นบนเรือนใหญ่
หากขุนจำเริญมิได้นั่งเพียงลำพัง
ข้างกายท่าน....
สตรีสูงศักดิ์หน้าตางดงาม มิผิดจากภาพถ่ายที่ไอ้ลอยเคยเห็น
หน้าหวานซึ้ง ยิ้มพริ้มพรายส่งมาให้มันอย่างเมตตา
ไอ้ลอยคนซื่อยกมือสั่นเทา พนมขึ้นมาไหว้ท่าน
“มิต้องกลัวข้าดอก ข้ามิได้เป็นคนใจไม้ไส้ระกำ ข่มเหงผู้ใด”
น้ำเสียงไพเราะกล่าวกับไอ้ลูกทาสอย่างปราณี
“ขอรับคุณแป้งร่ำ”
ไอ้ลอยรับคำ แล้วก้มหน้าลงอย่างเจียมตน

**************************************************
จากภาพขอรับ
1. กระท่อมทาส.....ไอ้ลอยจักต้องนอนหลบเลียแผลใจที่นี่ขอรับ
2.เรือนพระยาศรีพิพัฒน์....เรื่องราวแสนรันทดของไอ้ลูกทาสคนซื่อ จักบังเกิดขึ้นที่นี่ขอรับ
3.ศาลาท่าน้ำ....ที่พักผ่อนหย่อนใจของนายเงินแลเหล่าทาสขอรับ
4.เรือนแพ....รังรักของขุนจำเริญแลไอ้ลอยคนซื่อขอรับ
5.หน้าห้องหับบนเรือนแพ....เพลาใดขุนจำเริญขุ่นเคือง ไอ้ลอยจักต้องนอนนอกห้องขอรับ
6.เรือนแพ....ยามราตรีทอดสายตาจากห้องหับออกไปที่ชายน้ำขอรับ
7.ประตูเรือนแพ....ลั่นดานปิดงับเรียบร้อยแล้วขอรับ
8.เรือนพระยาศรีพิพัฒน์....ทั้งยศศักดิ์แลทรัพย์สมบัติ
ขุนจำเริญเป็นหนึ่งในพระนคร หาใครเทียบเทียมขอรับ
9.ตะเกียง....ลอยจ๋า...ข้าจักพูดบ้างไรบ้าง
เจ้าจงหยุดบรรยายแลดับตะเกียงเสียเถิดลอย.....ข้าง่วง
[attachment deleted by admin]