F.L.Y. ~ Fall in Love with You (หมอแพท&กัปตันติ๊ก) จบแล้ว ย้ายเล้ยค่า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: F.L.Y. ~ Fall in Love with You (หมอแพท&กัปตันติ๊ก) จบแล้ว ย้ายเล้ยค่า  (อ่าน 53831 ครั้ง)

วายศรี

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)





เรื่องทั้งหมดเป็นสิ่งที่มโนขึ้น ทั้งนี้ได้ขออนุญาตคุณหมอเจ้าของชื่อแล้วค่ะ
-วายศรี-

สารบัญ
Chapter 0 : Prologue
Chapter 1 : Am I overthinking?
Chapter 2 : I'm sick of it.
Chapter 3 : Summary of our love.
Chapter 3.5 : Fly with me.

สถานะ​: จบแล้วค่า~









ชีวิตของกัปตันหนุ่มคนหนึ่ง ก็ได้แต่บินไป บินมา ไม่เคยเป็นคนติดที่ อยู่ไหนนาน ๆ ไม่เคยจะรอด 

แต่เดี๋ยวนี้ ให้ตายยังไงต้องหาเวลากลับไทยให้ได้

...เพราะหัวใจฝากไว้กับคุณหมอตัวเล็ก...




แต่ความรักของพวกเขาจะราบรื่นได้อย่างไร เมื่อคนหนึ่งบินเยอะ อีกคนก็เวรแยะ

ไม่ค่อยมีช่วงเวลาโรแมนติกเหมือนคนอื่นเขา
 
จนบางทีก็อดคิดมากไม่ได้ ว่าระหว่างเรา ยังมีคำว่ารักเชื่อมกันอยู่ไหม?

 
“แพทเป็นคนเก่ง อะไร ๆ ก็ทำได้ แพทดูแลตัวเองได้ ไม่มีเรา แพทก็อยู่ได้ใช่ไหม?”


"ใช่"
 
!!!!!

 


 
เมื่อความรักคือการตอบโจทย์ของปัญหา ที่วิธีทำมีหลายทาง
 
...แต่ผลลัพทธ์มีเพียงหนึ่งเดียว...

 
“แพทยังรักเราเหมือนเดิมไหม?”

 
“ไม่”


!!!!



 
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2014 22:39:39 โดย วายศรี »

วายศรี

  • บุคคลทั่วไป
F.L.Y. Fall in Love with You

Chapter 0: Prologue


จากภายนอก เสียงดังหวือ ที่เพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ บอกถึงบางสิ่งที่แหวกผ่านม่านอากาศ ใกล้เข้ามาด้วยความเร็วสูง นั่นคือการเตรียมร่อนลงสู่รันเวย์ของเครื่องบินพาณิชย์ลำยักษ์ และวินาทีหลังจากที่ล้อแตะพื้น แรงกระเทือนทำเอาผู้โดยสารหน้าใหม่บางคนต้องเกาะเบาะด้านหน้าด้วยอารามตกใจ ขณะที่ส่วนใหญ่คุ้นชินดีอยู่แล้วจึงนั่งเฉย ไร้อาการวิตกกังวลใดๆ

'ขณะนี้กัปตันชาญวิทย์ และลูกเรือทุกคน ได้พาท่านมาสู่จุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพแล้ว ขอบคุณที่ร่วมเดินทางไปกับเราค่ะ'

เมื่อสิ้นเสียงประกาศ ผู้โดยสารทั้งหลายรีบลุกขึ้นอย่างพร้อมใจ และทยอยเดินออกประตูไป หลายคนรีบควักเครื่องมือสื่อสารของตนขึ้นมา เพื่อติดต่อคนที่มารอรับ

 และในห้องบังคับเครื่องบินนั้นเอง ก็มีคนหนึ่งที่รีบคว้าโทรศัพท์มือถือของตนมาเปิดเช่นกัน นั่นคือกัปตันหนุ่มเจ้าของสีหน้าตึงเครียด รับกับผมที่เซตแบบเปิดโหนก และหวีจนเรียบแปล้ แต่มิวายมีปอยเล็ก ๆ หลุดร่วงลงมาได้อยู่ดี

“พี่ติ๊ก ผมนัดเพื่อนไว้คืนนี้ ว่าจะไปผับเปิดใหม่อะ เขาว่าสาวเชียร์เบียร์เด็ดมาก พี่เอาด้วยป่าว?” หนุ่มผู้ช่วยหันขวับไปถามกัปตัน ด้วยตาที่เป็นประกาย

“ไม่อะ” แต่ก็ได้คำตอบปฏิเสธ จากรุ่นพี่ร่างสูงที่ไม่แม้แต่จะปรายตามองคนถามเลยสักนิด เพราะตาเอาแต่จ้องหน้าจอมือถือ ส่วนมือก็พิมพ์เป็นระวิง สักพักเริ่มยิ้ม รอยยิ้มแบบนี้แหละที่ฉุดคร่าหัวใจแอร์สาวไปแล้วนักต่อนัก

หนุ่มผู้ช่วยเกิดอาการหมั่นไส้ จนต้องชะเง้อหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อดูว่าคนเนื้อหอมประจำไฟลท์กำลังแชทกับใคร  ตาเล็กตี่ของผู้ช่วยหน้าตี๋กรอกมองพบว่าในจอนั้นไม่ใช่หน้าแชท แต่ดันเป็นหน้าแฟนเพจเฟสบุ๊ค

"หืม...คุณ-หมอ-เกา-ลัด อะโถ่! ไอ้เราก็นึกว่าแชทอยู่กับแฟน ที่ไหนได้ มาป่วนเพจนี่เอง”  ผู้ช่วยหัวเราะ แล้วก็โดนมือใหญ่ผนักหน้ากระเด็นออกไป

“ยุ่งน่ะ เดี๋ยวถีบตกเครื่องบินเลย” ว่าพลางยกเข่าขึ้นจริง ทำเอาหนุ่มผู้ช่วยรีบผละออกห่าง กล่าวคำขอโทษปนเสียงหัวเราะ ก่อนจะหันไปคว้าสัมภาระเล็ก ๆ ของตัวเอง

“แล้วตกลงคืนนี้จะไปกับผมป้ะ?”

กัปตันหนุ่มถลึงตาใส่แทนคำตอบ ทำให้นักบินผู้ช่วยหัวเราะชอบใจ "คร้าบ ๆ ไม่ไปก็ไม่ไป รู้หรอกน่า กัปตันเค้าติดแฟน~"  สิ้นเสียง กัปตันหนุ่มยกขาขึ้นอีกครั้ง หนุ่มผู้ช่วยรีบกระเด้งตัวลุกออกจากที่นั่งทันที "ไปแล้วคร้าบ”

"พี่ติ๊ก” แต่ก็ยังหยุดหน้าประตูหันกลับมา พร้อมสีหน้าทะเล้น

“ไรวะ ไอ้ลิงนี่ ลีลาเยอะจริง” 

“ก็แล้วเมื่อไหร่จะพามาเปิดตัวล่ะ เนี่ยหักอกนางฟ้าไปตั้งหลายคน เขาก็อยากรู้กันไงว่ากัปตันไปหยุดที่ใคร แล้วไปรักกันอีท่าไหน อะไรเงี้ย"

“เอ็งจะเดินออกไป หรือให้พี่ถีบออกไป ฮึ?!”

“ไปเองจ๊า ไปเอง~” ว่าแล้วจึงรีบชิ่งออกจากเครื่อง...ออกไปด้วยขาของตัวเอง ดีกว่าถูกส่งออกด้วยขาของกัปตัน เพราะตอนนี้ชาญวิทย์เริ่มจะเงื้อขามาอีกรอบแล้ว

ชาญวิทย์มองนักบินผู้ช่วยของเขาวิ่งแจ้นออกไป จึงพรูลมหายใจออกมาอย่างยาว จากนั้นจึงลุกขึ้นจากที่นั่ง เขาก้มลงมองจอมือถืออีกครั้ง แล้วอมยิ้ม ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง และเดินออกจากห้องของคนขับไป

เราไปรักกันอีท่าไหนน่ะเหรอ?

อันที่จริงแล้ว จุดเริ่มต้นของเรา มันก็เริ่มขึ้นจากจุดเล็ก ๆ

เล็ก...แค่นิดเดียวเท่านั้น







สามปีก่อน


“ติ๊ก! ทางนี้ ติ๊ก!” เสียงตะโกนเรียกชื่อดังสู้กับสิ่งแวดล้อมที่อื้ออึง ด้วยทั้งเสียงเครื่องยนต์จากสนามแข่งรถ และเสียงของผู้ชมบนอัฒจันทร์

ชาญวิทย์เดินลัดเลาะตามช่องทางเดินแคบ ๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คอชะเง้อ สายตาสอดส่องหาต้นเสียงที่เรียกชื่อเขา ไม่นานนักก็เห็นเพื่อนของเขายืนโบกไม้โบกมือให้อยู่ไกล ๆ

หนุ่มนักบินพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วจึงเร่งเดินฝ่าฝูงชนไปจนถึงที่นั่งของตน รีบหย่อนก้นลงแล้วปาดเหงื่อ

“ไอ้กานต์...”

“เออ ๆ นี่น้ำ" เพื่อนหนุ่มคนข้าง ๆ ส่งน้ำขวดให้อย่างรู้ทัน เขารีบคว้ามาเปิดฝาทันที แต่กลับบิดฝาเกลียวออกไม่ได้

ชาญวิทย์หันควับไปมองเพื่อนอย่างถมึงทึง อีกฝ่ายพยักหน้ารับทราบ ก่อนจะรับขวดน้ำมาเปิดฝาแล้วส่งให้อีกที ชาญวิทย์กระดกซดลงคอด้วยความกระหาย แต่แม้จะดื่มจนชุ่มคอดีแล้ว สีหน้าตึงเครียดยังคงไม่ผ่อนคลาย ทำเอาเพื่อนข้างกายขมวดคิ้ว

“เฮ้ยแก อุตส่าห์ชวนมาเที่ยว ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยดิ”

“สดชื่นไรวะ ไหนบอกจะพามาผ่อนคลาย นี่อะไร แข่งรถ คนแน่นเอี๊ยด ผ่อนคลายโรงพยาบาลแกรึไง? นี่แค่บินไปบินมาก็เพลียจะแย่แล้วนะ ยังต้องถ่อมานั่งดูรถแข่งกลางแดดอีก!” นักบินหนุ่มรัวคำใส่เพื่อนด้วยอารมณ์หงุดหงิด แล้วจึงเบือนหน้าหนีไปอีกทาง หางตาเริ่มตก หอบหายใจอย่างอิดโรย

“ดูโทรมจังว่ะ โรคนอนไม่หลับยังไม่หายรึไง”

“เออดิ เครียดอยู่เนี่ย มีเพื่อนเป็นหมอ แต่ไม่เห็นมันจะช่วยเลยวะ” ชาญวิทย์ตอบพร้อมเหน็บแนมเพื่อนคนข้าง ๆ ที่มีอาชีพเป็นหมอ

“เออโทษที พอดีเป็นหมอศัลยกรรมครับ เจอเคสงี้ก็จ่ายเป็นแต่ยานอนหลับ แต่เพื่อนก็บอกไม่เอ๊า ไม่เอา เพื่อนจะไปปรึกษาจิตแพทย์ กลัวว่าตัวเองจะมีปัญหาทางจิต!” เพื่อนหมอตอบกลับแบบจัดเต็ม "แล้วนี่ไปหามารึยังล่ะ แกโทรมมากจริง ๆ นะ เดี๋ยวก็บินไม่ได้หรอก”

“หาแล้ว” ชาญวิทย์ถอนหายใจ

“ละเขาว่าไง”

หนุ่มนักบินนึกคิดแล้วก็เบะปากอย่างเซ็งๆ "เหอะ ได้ยานอนหลับไง แถมหมอกวนประสาทอีก”

“ก็ถูกของเขาแล้วนี่ แกนอนไม่หลับ ก็ใช้ยานอนหลับไง”

“ถ้าจะเอาแค่ยา ไปหาซื้อเอาที่ร้านขายยาก็ได้ป้ะ?” หันควับไปเถียง "ที่ไปเพราะอยากได้คำแนะนำเหอะ เป็นจิตแพทย์แท้ ๆ ไหงไม่แนะนำไรเลยวะ”

“เอาน่า ช่างเรื่องนั้นก่อน นี่เดี๋ยวจะแข่งแล้ว มาดู ๆ” หมอกานต์ตบบ่าเพื่อนเบา ๆ ก่อนจะชี้ให้หันไปดูสนามเบื้องล่าง ที่ก่อนหน้านี้เสียงดังอื้ออึงเพราะรถกำลังลองสนามกันอยู่ แต่ตอนนี้เงียบลงมาก เพราะใกล้จะเริ่มแข่งแล้ว

“ไอ้กานต์ คันไหนวะ” ชาญวิทย์ชะเง้อคอมองเพียงนิด เพราะส่วนตัวแล้วไม่ค่อยสนใจรถแข่งสักเท่าไร ขณะที่เพื่อนหมอข้าง ๆ เหมือนจะเป็นขาประจำ ดูตื่นเต้น นั่งไม่ค่อยติดที่นัก

และที่ชาญวิทย์ตบปากรับคำมาด้วยในวันนี้ เพราะไอ้เพื่อนคนเนี้ย มันมาโม้ว่าตัวเต็งที่ลงแข่งอะ เป็นเพื่อนหมอที่รู้จักกัน

“นั่นไง โตโยต้าสีขาว คาดน้ำเงิน เลข 32” หมอกานต์ชี้ไปยังรถโตโยต้าสีขาว ที่กำลังติดเครื่องยนต์ พร้อมแข่งแล้ว

“เป็นหมอแล้วทำไมมาแข่งรถได้วะ”

“เขาเก่งอะ ทำอะไรได้หลายอย่าง มอไซค์วิบากก็แข่งมาแล้วนะ แล้วก็ที่ว่าจะไปเสม็ดกันอะ จะให้เขามาขับเรือให้แหละ เอ้อ เขาขี่ม้าเป็นด้วยนะ แกเคยบ่นว่าอยากลองนี่ ให้เขาสอนไหมล่ะ”

"เวอร์”  ให้คำตอบสั้น ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับเข้าสนามเมื่อได้ยินเสียงประกาศ ว่าการแข่งขันจะเริ่มในอีกไม่ช้า

ในช่วงเวลาไม่นานหลังจากสัญญาณเริ่มแข่ง อาจเป็นเพราะเพื่อนล็อคไว้ให้แล้วว่าต้องเชียร์คันไหน ทำให้สายตาของชาญวิทย์โฟกัสไปที่รถคันดังกล่าวตลอด แม้ว่าจะออกตัวไม่แรง แต่เมื่อผ่านมาครึ่งทางแล้วกลับค่อย ๆ ขึ้นนำรถคันอื่น คันแล้วคันเล่า จนกระทั่งมาตีคู่กับอีกคันนึง ที่นำเป็นที่หนึ่งมาตั้งแต่แรก

เพียงเสี้ยววินาทีที่ชาญวิทย์รู้สึกได้ว่ารถคุณหมอความเร็วแผ่วลง ทำเอาใจหาย เริ่มนั่งไม่ติดที่ แต่ไม่นานนักการตีโค้งสุดท้ายทำให้รถคุณหมอที่อยู่วงในพลิกขึ้นนำ และผ่านจุดเส้นชัยในที่สุด เสียงเฮดังไปทั่วสนาม เขาเองก็เผยยิ้มกว้างและหัวเราะออกมา

หมอกานต์ตบบ่าเรียกเขา "ไงล่ะ เจ๋งไปเลยใช่มะ"

"เออ เจ๋งว่ะ เร็วมาก มองเกือบไม่ทันเลย”

 "ลงไปข้างล่างด้วยกันดิ เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จัก” หมอกานต์ว่าแล้วลุกขึ้น หนุ่มนักบินลุกตามอย่างว่าง่าย แต่เพราะผู้ชมคนอื่นยังไม่ลุกไปไหน พวกเขาจึงต้องเดินเลาะช่องแคบอย่างยากลำบากเหมือนเดิม

   ชาญวิทย์หันไปมองสนามเบื้องล่างอีกครั้ง เพื่อดูเจ้าของรถหมายเลข 32 ที่พอเปิดประตูลงจากรถมาก็ถูกทีมงานสี่ห้าคนโผเข้ากอดจนตัวจมหายไป แทบมองไม่เห็น เขาสะดุดใจไม่น้อยเมื่อพบว่าหมอคนนั้นตัวเล็กนิดเดียว

จนกระทั่งทีมงานผละออก และคุณหมอตัวเล็กหันหน้ามาที่อัฒจันทร์ฝั่งนี้พอดี

สีหน้าและรอยยิ้มนั้น ทำให้ชาญวิทย์ถึงกับอ้าปากค้าง

และหลุดคำอุทานเสียงดัง

"เชี่ย!”

"เชี่ยอะไรแก” หมอกานต์หันมามองอย่างงุนงง

หนุ่มนักบินหันไปหาเพื่อนหมอ พร้อมลูกตาที่ถลึงกว้าง "นั่นอะ! หมอที่เพิ่งไปหามาไง!”

หมอกานต์หรี่ตา ไม่นานก็ปล่อยก๊ากออกมาเสียงดัง ตบบ่าเพื่อนดังปุ ๆ "เออ ไม่สงสัยละทำไมจ่ายมาแค่ยานอนหลับ”

"ไรล่ะวะ”

"ก็นั่นอะ หมอโรคสมองเว้ย ไม่ใช่จิตแพทย์!”





ซวยจริงจัง! เป็นคำเดียวที่ชาญวิทย์บ่นในใจอยู่ตอนนี้

เพราะดันตบปากรับคำเสร็จสรรพแล้ว ว่าหลังดูแข่งรถเสร็จ ตกเย็นต้องมาต่อที่ผับเพื่อฉลองถ้วยรางวัลให้คุณหมอ แต่ที่เขาตกลงไปนั่นมันก่อนจะรู้...ว่าคุณหมอที่ว่าคือคนเดียวกับที่จ่ายยานอนหลับให้!

"ติ๊ก มานี่ดิ” หมอกานต์เรียก ชาญวิทย์ที่ยืนอยู่ข้างเคาน์เตอร์เบียร์หันไปมองด้วยสีหน้าเซ็งโลกสุด ๆ

พอเขาไม่เดินไป หมอกานต์เลยเดินมาหาเอง พร้อมทั้งเพื่อนหมอเจ้าของถ้วยรางวัลที่ตามขนาบข้างมาด้วย อันที่จริงแล้วหมอกานต์ก็ไม่ใช่คนสูงชะลูด แต่คงเพราะคนข้าง ๆ นั่นเตี้ยกว่ามาก ชนิดที่เห็นส่วนต่างชัดเจน ทำให้ดูเหมือนคู่หูดูโอที่เจอได้ในตลกคาเฟ่

"หมอแพท นี่เพื่อนผมเอง ชื่อชาญวิทย์ จะเรียกไอ้ติ๊กก็ได้ คบกันมาตั้งแต่ประถมแล้ว ตอนนี้เป็นนักบินผู้ช่วย แต่อยู่สายการบินต่างประเทศ เลยไม่ค่อยได้กลับไทยเท่าไหร่” หมอกานต์ผายมือมาทางเขา ก่อนจะเบนไปยังคุณหมอตัวเล็ก "ติ๊ก นี่หมอแพท ทำงานโรงพยาบาลเดียวกับฉัน ที่จริงก็รู้จักกันตั้งแต่สมัยเป็นนิสิตแพทย์แล้วล่ะ เพราะทำงานสภาด้วยกัน”

คุณหมอตัวเล็กส่งยิ้ม และค้อมหัวเล็กน้อยเป็นการทักทาย ชาญวิทย์เห็นว่าคุณหมอคงจำเขาไม่ได้ก็คิดว่าดีแล้ว เขายิ้มกลับตามมารยาท

“แกอะ น่าจะดูหมอแพทไว้เป็นตัวอย่างนะ เขาทำอะไรได้หลายอย่าง ทำได้ดีด้วย ไม่เหมือนแก แค่ฝาขวดน้ำยังเปิดไม่ออกเล้ย~ ทุกวันนี้ยังน่าสงสัยอยู่ว่าสอบเป็นนักบินได้ยังไง ฮ่า ๆ ๆ”

ชาญวิทย์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่เพื่อนหมอที่เผาความอ่อนด้อยเขาต่อหน้าคนอื่น ยิ่งเมื่อเห็นหมอแพทแอบหันหน้าออกไปขำอยู่คนเดียว เขายิ่งหงุดหงิดเพราะรู้สึกเสียฟอร์ม

"ไปหาไรกินนะ" ผ่านไปสักพักเมื่อเห็นว่าหมอกานต์เริ่มสนทนาอะไรเรื่อยเปื่อย ประกอบกับมีคนอื่นเข้ามาร่วมวงด้วยอีกมากหน้า ชาญวิทย์จึงเลี่ยงออกไป

เขาเดินออกไปยังลานกลางแจ้ง ที่เป็นจุดทำอาหาร มีเนื้อย่างและบาร์บีคิวอยู่บนเตา แต่ไม่มีพนักงานมาเฝ้า สงสัยจะให้บริการตัวเอง เขายืนชั่งใจอยู่สักพักจึงหยิบจานและที่คีบขึ้นมา สายตาจดจ้องมองเนื้อที่ส่งกลิ่นหอมจนน้ำลายสอ

แต่...ก็จ้องอยู่อย่างนั้น คีบชิ้นนั้น ชิ้นนี้ พลิกไปพลิกมา แต่ไม่เอามาใส่จานเสียที เขาเริ่มจะหงุดหงิด เมื่อเหลือบซ้ายทีขวาทีแล้วไม่เห็นวี่แววพนักงานเลย

“ชิ้นนั้นสุกแล้วครับ” และเหมือนเป็นเสียงสวรรค์ ชี้ทางให้คนที่ดูเนื้อสุกไม่เป็น ชาญวิทย์รีบคีบชิ้นดังกล่าวมาใส่จานตัวเอง

"ขอบคุณครับ" แต่เมื่อหันไปกล่าวคำขอบคุณแก่คนคนที่มาช่วย กลับพบว่าเป็นหมอแพท คุณหมอตัวเล็กส่งยิ้มให้เขาอยู่ ทำเอาอยากจะกลืนคำพูดตัวเองกลับลงคอเสียทันที

เมื่อทำอะไรไม่ได้ เขาจึงเดินถือจานเนื้อชิ้นเดียวนั้น เลี่ยงไปนั่งโต๊ะที่ห่างออกไปไม่มาก แต่เมื่อจะเริ่มทาน มือสองข้างก็ยกขึ้นเก้อ

ลืมมีดกับส้อม ปัดโถ่!

“นี่”  มือเล็ก ๆ ของหมอแพทยื่นมีดและส้อมให้ หลังจากชาญวิทย์รับมาอย่างงง ๆ คุณหมอวางจานเนื้อของตัวเองลง แล้วเดินออกจากโต๊ะไป และกลับมาใหม่อีกครั้งพร้อมเบียร์สองแก้วใหญ่

ชาญวิทย์ยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อคุณหมอตัวเล็กหย่อนตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ตัวข้างเขา หมอแพทฉีกยิ้มให้ก่อนจะก้มลงจัดการกับอาหารของตัวเอง

“โรคนอนไม่หลับ หายรึยังครับ” คำถามถูกยิงมา ทำเอานักบินนุ่มเกือบสำลัก

“ก็...ก็ดีมั้ง"

“งั้นก็ดีแล้ว แต่ยังดูโทรม ๆ นะ สงสัยไม่ทานยาล่ะสิ”

ชาญวิทย์ลอบมองอีกฝ่ายที่ก้มหน้าก้มตาทานอย่างสบายใจเฉิบแล้วก็นึกฉุน ก็ได้แต่เก็บอารมณ์ไว้ในอก เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ

เย็นไว้...ยังไงก็เพื่อนของเพื่อน ถ้าไปทะเลาะกับเขาละก็ ไม่ดีแน่

“เห็นหมอกานต์บอกว่า คุณติ๊กเก็บชั่วโมงบินอีกไม่นาน ก็จะได้เลื่อนเป็นกัปตันแล้ว เก่งมากเลยนะครับ"

ชาญวิทย์ยกเบียร์ขึ้นซดอึกใหญ่ ก่อนจะหัวเราะเหอะ ๆ

“ไอ้กานต์มันขี้โม้ กัปตันไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ หรอก”

“แต่ได้เป็นนักบิน ผมว่าก็เก่งแล้วแหละ” หมอแพทหันมายิ้มให้จางๆ แต่ไม่นานก็กลับไปแทะเล็มซี่โครงหมูย่างตามเดิม

“อย่าชมเลย หมอน่ะเก่งกว่าผมอีก” หนุ่มนักบินว่าแล้วก็กระดกเบียร์อีกหน พอวางลงอีกทีก็เหลือติดค่อนแก้วแค่นิดเดียว "แข่งรถ ขับเรือ ขี่ม้าก็ได้ แถมยังเป็นหมอ ถ้าป่วยก็คงดูแลรักษาตัวเองได้ นี่ทำกับข้าวเป็นด้วยป้ะ? ครบวงจรอะ ถ้าติดเกาะคงอยู่คนเดียวสบายเลย”

คุณหมอตัวเล็กหลุดหัวเราะออกมา มือเล็กป้องปากไว้แต่ไหล่สะท้านอย่างเห็นได้ชัดว่ากลั้นหัวเราะไม่ค่อยจะอยู่

“หัวเราะไร? ผมชมนะ ขอบคุณผมเสะ!”

“ขอบคุณครับ” หมอแพทพยักหน้าหงึก ๆ มือข้างหลังยกขึ้นปาดน้ำตาที่เล็ดออกมาเพราะกลั้นฮาเมื่อครู่ พลางเหลือบตามองนักบินชาญวิทย์ที่หน้าขึ้นสี กำลังจัดการกับเบียร์อีกแก้วที่คุณหมอตั้งใจเอามาให้ตัวเอง

“ที่ผมทำได้ เพราะคุณพ่อเคยสอนตอนเด็ก ๆ น่ะ พ่ออยากให้ผมลองหลาย ๆ อย่าง จะได้รู้ว่าชอบอะไร”

“ผมนะ ที่บ้านก็ให้ลองมาหลายอย่างเหมือนกัน แต่ไม่ไหวอะ ไม่เอาอ่าว หมอน่าอิจฉามาก ผมโคตรหมั่นไส้เลยเนี่ย”

“ถึงจะทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ก็มีอย่างนึง ที่อยากทำ แต่ยังทำไม่ได้นะ”

“ยังมีอีกเหรอ?” ชาญวิทย์เอียงคอป้อแป้ เริ่มรู้สึกว่าหัวมันหนักกว่าเดิมจึงยกมือขึ้นเท้าคางไว้

“มีสิ” หมอแพทมองไปทางอื่นแล้วยิ้ม

“ก็..."

"อะไรครับ”

"ขับเครื่องบินไง”

ชาญวิทย์ได้ยินแล้วนิ่ง...ต่างคนต่างเงียบ

ไม่นานนัก หมอแพทค่อย ๆ หันหน้ามาสบตา แล้วยิ้ม



มันเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ เล็ก

เล็ก...แค่นิดเดียว



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2014 21:17:32 โดย วายศรี »

ออฟไลน์ karmdodcom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
กรี๊ดดดด คุณวายศรีเอาเรื่องนี้ลงในเล้าด้วยยยยย!!!
รออ่านค่าาาาาา
\\คุณหมอตัวเล็ก กรี๊ซซซซซซซ

---------------อีดิท เม้นท์สำหรับบทนำ------------

แอบนั่งขำเบาๆกับ เพจคุณหมอเกาลัด
..อา..คุณหมอตัวเล็กของชาวเพจเราน่ะเอง...
กัปตันน่ารักอ้ะ แอบมุ้งมิ้งกับเบาๆ
ว่าแต่คุณหมอแพทคะ...พูดมาแบบนี้นี่จงใจหยอดอ๊ะป่าว..?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2014 20:34:49 โดย karmdodcom »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อ๊าาาาหมอแพทน่ารักพูดจาน่ารักสุด ๆ

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ขอบคุณที่เอาลงนะคะคุณวายศรี  แล้วก็ขอโทษที่ช่วยเรื่องสารบัญไม่ได้นะคะ><  รีบแต่งต่อนะค๊าาาาาา  #กองอวยนักบินหมอ #ชูป้ายบุโจ้ซัง :katai4: :katai4: :katai4: :pig4:

ออฟไลน์ mtd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ละมุนนนนนนนนนน  :กอด1:
นานๆทีจะมีที่นายเอกเก่งไปซะทุกอย่าง
กับพระเอกที่ทำอะไรไม่ค่อยเป็น ฮาาาา  :z1:
น่ารักๆๆๆ ติดตามจ้าาาา  :katai2-1:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[  ดมกลิ่นวายศรีมาหากับตัน กะ หมอตัวน้อย คริคริ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
สวัสดีครับคุณวายศรี ลงอย่างนี้ถูกแล้วครับ เย้ :hao3:

+1 +เป็ดโลด

ออฟไลน์ RenaBee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
คุณวายศรีเอามาลงเล้าแล้ววว หมอแพทน่ารัก  :mew1:

ออฟไลน์ janji

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
น่ารักจัง เรื่องนี้รอ ต่อไป อิิอิ
 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: F.L.Y. ~ Fall in Love with You (หมอแพท&กัปตันติ๊ก)
« ตอบ #9 เมื่อ: 02-02-2014 21:35:42 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
น่ารักกกกกก แต่ไม่รู้ทำไมเราโมเอะกับคุณนักบินจังเลย แต่หมอก็น่ารักกกกก

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
แอร้ย...คุณวายศรีมาแย้ว
คุณหมอเพอร์เฟกจัง

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
รอติดตามตอนต่อไปค้าาาา

ออฟไลน์ Isuru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ตามมาจากในเพจค่ะ รออ่านตอนต่อไป คุณหมอแอบยั่วคุณนักบินเบาๆ อิอิ

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
ขอเข้ามาอ่านด้วยคนคร่า

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
น่าสนุกนะ   นานๆจะมีแนวนี้นายเอกเพอร์เฟ็ค  พระเอกไม่เอาไหน

ติดตามๆ

ออฟไลน์ tonfair

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักกกก รอติดตามนะคะ :o8:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ชอบจังเลย เรื่องน่ารัก น่าติดตาม

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
หมอแพทสารพัดประโยชน์ o><o

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
น่าติดตามมาก  ปูเสื่อรออ่านตอนหน้าจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: F.L.Y. ~ Fall in Love with You (หมอแพท&กัปตันติ๊ก)
« ตอบ #19 เมื่อ: 03-02-2014 15:50:11 »





ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
หมอแพทน่ารักเนอะ


ออฟไลน์ mumii009

  • [url=https://www.microhash.net/?tag=89198][img]https://www.microhash.net/assets/images/banner/b2.gif[/img][/url]
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
ว้ายยยยยย หมอน่ารักกกกกกกกก

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
น่ารักจัง ชอบอ่ะ

ขอมาติดตามด้วยคน อ่านแล้วแบบ คนแบบนี้เจอคนนิสัยแบบนี้มันช่างถูกคู่กันจัง

ออฟไลน์ นัตสึกิ

  • เป็ดตัวกระเปี๊ยก
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
กรีีซซซเจอแล้วๆ ตามมาจากเพจค่ะฮ่าๆ คุณหมอตัวเล็กน่ารักจังเลย รอดุตอนขับเครื่องบินนะคะ #โดนตบ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
น่ารักอ่า :o8:
ติดตามด้วยคนนะคะ :impress2:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แอร๊ยยยยยยยยย หมอแพท

น่ารักมากเลยยยยยย

ออฟไลน์ happy-jigsaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
หึหึหึหึ แล้วเราก็ตามมาติ่งคุณหมอตัวเล็ก ณ ที่แห่งนี้จนได้ อุวะฮ่าๆๆๆๆๆๆ

จิ้นตามแล้วแบบ...อร๊างงงง คุณหมอเกาลัดน่ารักมากเลยยย

มาต่อไวๆ นะคร้าาา พี่วายศรี  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
น่าติดตามมากคะ ^^  :hao7:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คิดถึงหมอแพท

วายศรี

  • บุคคลทั่วไป


Chapter 1: Am I overthinking?



ช่วงสายของเมืองกรุง ที่แดดเริ่มจัดจ้าน แท็กซี่คันหนึ่งเคลื่อนเข้ามาหยุดที่หน้าลานกว้างของคอนโดสูงตะหง่าน จอดเพียงครู่เดียวก็ติดไฟว่างและออกตัวไป เผยให้เห็นผู้โดยสารหนุ่มร่างสูงที่มาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบเขื่อง สาว ๆ ละแวกนั้นต่างพากันเหลียวมอง สิ่งที่ทำให้เขาตกเป็นเป้าสายตาไม่ใช่เพราะชุดภูมิฐานของนักบิน หากแต่เป็นใบหน้าหล่อคมคายที่กำลังอมยิ้มอยู่นั่นต่างหาก

 แต่ตัวเขาเองไม่ได้สนใจ เพราะสายตากำลังจดจ้องแอปพลิเคชันในหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตน เมื่อตรวจสอบอีกครั้งจนแน่ใจ ว่าวันนี้ไม่มีหมายเหตุอะไรในปฎิทิน เขาปิดโปรแกรมแล้วกดโทรออก แนบเครื่องมือสื่อสารเล็ก ๆ นั้นไว้ข้างหูพร้อมกับออกตัวเดินเข้าตัวอาคารสูงระฟ้า และหายเข้าไปในลิฟต์ ขณะที่ คนปลายทางก็รับสายพอดี

[ครับ] เพียงแค่ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ตอบรับแบบสั้น ๆ นิ่ง ๆ กัปตันหนุ่มกลับพรายยิ้มกว้าง

"ที่ร้าก~" เมื่อลิฟต์ไต่ระดับมาถึงชั้นที่เขากดไว้ เขาก็รีบออกมาทันที ชาญวิทย์เดินไปหยุดหน้าประตูอย่างว่องไว

[ครับผม โทรหามีอะไรเหรอ]

"พอดีเราส่งของไปให้อ่า”

[จริงเหรอ ส่งอะไร ส่งจากไหน]

"ไม่บอก! เดี๋ยวก็รู้เอง เราส่งไปอย่างด่วน ตอนนี้น่าจะไปถึงแล้วนะ” ว่าจบแล้วจึงเคาะประตูหน้าห้อง ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงเคาะลอดผ่านปลายสายเช่นกัน

"นั่นไง! ถึงแล้วจริง ๆ ไปเปิดประตูเลย เร็วๆ” เขาพูดเร่งเร้าคนปลายสาย อีกทั้งเคาะประตูเรียกอีกหน

[เดี๋ยวนะ...ติ๊ก]

"เปิดประตู ๆ เร็ว ๆ เร็ว ๆ”

[แป๊บ...]

กัปตันหนุ่มเงี่ยหูฟังเสียงเดินดุ่ม ๆ ใกล้เข้ามาหน้าประตู เข้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นจึงกอดอก ค่อมตัวเล็กน้อยเป็นท่าเตรียมพร้อม

และเมื่อเสียงปลดกลอนดังแกร็ก ประตูเปิดออก เข้าก็อ้าแขนและโผไปหาคนข้างหน้าทันที พร้อมเอ่ยคำพูดที่เตรียมไว้เสียงดัง มั่นใจว่าจะทำให้อีกฝ่ายตกใจได้

"เซอร์ไพรส์~!!!”

"ตาเถร!!!!”

"!!! เฮ้ย!!”

ไม่ใช่เพียงคนในห้องที่เปิดประตูมาแล้วต้องตกใจสุดขีด แต่ตัวหนุ่มหล่อผู้ทำเซอไพรส์เองก็สะดุ้งจนตาเหลือก รีบถอยกรูดในฉับพลัน

เพราะจากที่คิดว่าจะเป็นชายหนุ่มร่างเล็ก ดันกลายเป็นป้าแก่ ๆ ในชุดแม่บ้านไปเสียได้!

"โธ่! คุณติ๊กนั่นเอง อย่าเล่นแบบนี้สิคะ ป้าหัวใจจะวาย” แม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดอาทิตย์ละหนยกมือทาบอก พ่นลมหายใจออกมาพลางส่ายหน้าเนือย ๆ

"ข...ขอโทษครับ" กัปตันหนุ่มยกมือไหว้อย่างงก ๆ เงิ่น ๆ สาวแก่ยิ้มรับก่อนจะเดินเข็นอุปกรณ์ทำความสะอาดออกไปยังห้องอื่นต่อ ทิ้งให้เขายืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่จุดเดิมเพราะไปต่อไม่ถูก

และเมื่อฉุกคิดได้ จึงรีบยกโทรศัพท์กลับมาแนบหู

"แพท...แพท!” ปลายสายยังไม่วาง แต่กลับเงียบไป เขาเรียกชื่อซ้ำ ๆ อย่างนั้นอีกหลายครั้ง จนกระทั้งอีกคนตอบกลับ

[มาแล้ว ๆ โทษที เมื่อกี๊ถูกเรียกไปคุยนิดหน่อยน่ะ] ประโยคตอบรับดังในสายทำเอากัปตันหนุ่มเผยอกรามค้าง จนต้องรีบตีคำถามกลับไปทันที

"คุยอะไร...แล้วตอนนี้อยู่ไหน?”

[อยู่โรงพยาบาล]

"....”

[ติ๊ก แค่นี้ก่อนนะ โดนเรียกแล้ว] ตอบอย่างเร่งรีบจากนั้นจึงตัดสายไปทันที

"เดี๋ยว...แพท...แพท!” กัปตันหนุ่มตะเบ็งเสียงเรียก แต่สายที่วางไปแล้วคงไม่อาจกลับมาติดเหมือนเดิมได้

ชาญวิทย์ยกมือขึ้นเสยผมหน้าม้าเรียบแปล้ของตน ก่อนจะขยี้มันจนเสียทรง พลางส่ายหน้าไปมาเร็ว ๆ อย่างหัวเสีย

หมด หมด! หมดกัน!






ช่วงบ่ายคล้อยที่แดดจ้าเริ่มหายไป  บนถนนรถติดแน่นเพราะเป็นเวลาเลิกงานของคนส่วนมาก

ที่ลานกว้างหน้าอาคารผู้ป่วยอายุรกรรม ชายหนุ่มร่างเล็กหอบเสื้อกาวน์และกระเป๋าคอมพิวเตอร์ สองขาก้าวลงบันใดออกจากอาคารอย่างรีบเร่ง แต่เมื่อเหลียวซ้ายแลขวาแล้วไม่เห็นใครรออยู่ ใบหน้านั้นขมวดคิ้วด้วยความฉงน

"ยังไม่มาเหรอ?” คุณหมอตัวเล็กยืนพึมพำอยู่กับที่

ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงบางอย่างสั่นเครือเบา ๆ ทำให้คุณหมอแหงนหน้าขึ้นมอง จึงเห็นเครื่องบินบังคับลำเล็ก กำลังบินวนเป็นวงกลมอยู่เหนือตัวเขา นั่นทำให้ริมฝีปากรูปกระจับคลายยิ้มออกมาได้ไม่ยาก คู่ตาเหล่มองซ้ายที ขวาที สะพายกระเป๋าคอมไว้กับไหล่ ก่อนจะกอดแขนไว้กับอก

"ติ๊ก ออกมาออกมาได้แล้ว”

เมื่อได้คำตอบเป็นความเงียบ และไม่มีใครก้าวออกจากที่ซ่อนตัว คิ้วคุณหมอขมวดมุ่น สีหน้าเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง  ลดแขนลงเท้าเอว

"ติ๊ก นับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่ออกมาละก็ เราจะ...”

"จ้า! จ้า!” กัปตันหนุ่มเผยตัวจากซอกตึกเบื้องหลัง ยกสองมือขึ้นเหนือศีรษะในลักษณะของผู้จำยอม

คุณหมอหันขวับมามองแล้วยิ้ม ขณะที่กัปตันชาญวิทย์สีหน้าเซ็ง ๆ บ่นกระปอดกระแปด "มุกนี้ตลอดเลย”

 กี่ครั้งกี่หน ไม่ว่าจะซ่อนอยู่ตรงไหน พอเจออีกฝ่ายใช้มุกนี้ทีไร ก็ต้องยอมออกมาทุกที

คุณหมอตัวเล็กเดินมาประชิดตัวกัปตัน ก่อนจะใช้แขนข้างหนึ่งที่ยังว่างเกาะเกี่ยวแขนกำยำเอาไว้ แล้วยักยิ้มอย่างผู้เป็นต่อ "ได้ข่าวว่าวางแผนไปเซอไพรส์ที่คอนโดแล้วแป้กเหรอ”

ชาญวิทย์เหล่ตามองคนตัวเล็กแล้วเบือนหน้าหนี "แหงสิ ก็คนแถวนี้สลับเวรแต่ไม่บอกนี่”

แล้วก็ได้รับการตอบกลับเป็นเสียงหัวเราะของคุณหมอ ยิ่งทำให้กัปตันหนุ่มงอนตุ๊บป่องไปกันใหญ่ จนหมอแพทต้องถองสีข้างเบา ๆ ให้รู้สึกตัวและหันมามอง

"จะงอนอีกนานไหม หิวจะแย่อยู่แล้ว”






ทั้งสองเลือกมานั่งในร้านอาหารไทย ด้วยว่ากัปตันหนุ่มผู้ทำงานกับสายการบินต่างประเทศเป็นฝ่ายร่ำร้อง เพราะเขาไม่ได้ทานอาหารประจำชาติเลยตลอดเวลาร่วมเดือนที่บินอยู่เมืองนอก

หลังจากสั่งรายการอาหาร รอไม่นานนักพวกเมนูที่ทำง่าย ๆ ก็ถูกเสิร์ฟก่อน ชาญวิทย์เหลือบมองแฟนหมอตัวเล็กของเขาที่ก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจตน หน้าหล่อง้อง้ำ

"แลกเวรทำไมไม่บอกเราเลย” คำถามด้วยน้ำเสียงฟังดูน้อยเนื้อต่ำใจ ทำให้หมอแพทชะงักมือ เงยหน้ามามองแล้วยิ้ม

"โทษที ช่วงต้นปีก็สลับเวรกันวุ่นวายอย่างงี้แหละ บางคนก็มาขอแลกแบบด่วนๆ  แล้วเราไม่รู้ว่าติ๊กจะกลับมาไง ก็เลยไม่ได้บอก” กัปตันหนุ่มฟังคำอธิบายแล้วพ่นลมหายใจออกฟึดฟัด ดูไม่ค่อยพอใจกับคำตอบนัก

"แล้วนี่สมควรงอนไหมเนี่ย มาไม่บอกเองแท้ๆ” หมอแพทกดเสียงลงต่ำเป็นเชิงตำหนิ ชาญวิทย์ได้แต่กลอกตามองไปทางอื่น เงียบกันอยู่สักพัก

"โอเค เดือนนี้เราพลาดเอง ที่ไม่ได้บอกไว้แต่แรก” สุดท้ายกัปตันหนุ่มจึงเป็นฝ่ายยอมแพ้ คุณหมอยักยิ้ม ชาญวิทย์เอื้อมมือไปจับมือเล็กข้างหนึ่งไว้ สายตาจ้องมองคนตรงหน้าอย่างจริงจัง

"แต่เดือนหน้ามีวันสำคัญนะ จำได้ใช่ไหม? มีสองวัน”

หมอแพทหยักหน้าอย่างจริงจัง "อื้ม ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ ก็วันวาเลนไทน์ กับวันมาฆะบูชาไง ปีนี้มาตรงวันเดียวกันอีกด้วยนะ!” ว่าจบก็หัวเราะออกมาเบา ๆ ทำเอากัปตันหนุ่มใบ้รับประทานไปครู่ใหญ่ สีหน้าจ๋อยลง แต่ไม่นานก็ฮึดฮัดขึ้นมา

"อื้ม นั่นแหละ สรุปว่ามีวันสำคัญ เพราะงั้น เราจะนัดไว้ก่อนเลย แพทต้องเคลียร์ตารางให้เราด้วย!”

หมอแพทยิ้ม "ยากไปนะติ๊ก เพราะคนอื่นเขาก็อยากหยุดวันนั้นเหมือนกัน ฝันเอาง่ายว่าไหม?”

คำตอบนี้ทำให้กัปตันนิ่งไป หมอแพทดึงมือออกจากการเกาะกุม แล้วก้มหน้าลงจัดการกับอาหารต่ออย่างสบายใจเฉิบ ขณะที่กัปตันหน้าสลด จับช้อนส้อมทานอย่างเงียบๆ

โดยที่ไม่รู้ว่า หมอแพทลอบยิ้มอยู่ไม่ให้เขาเห็น

คุณหมอเมื่อมองสีหน้าเศร้า ๆ ของแฟนหนุ่มนักบินจนพอใจแล้ว จึงเป็นฝ่ายเอื้อมมือไปจับมือเขาบ้าง

แต่ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่างนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายแว่วมา ทั้งสองต่างเงยหน้าขึ้นมองกัน ก่อนจะหันไปยังจุดต้นเสียง แล้วหมอแพทก็ลุกพรวดขึ้นทันทีทันใด

"เด็กเป็นลมชัก”

“หา?”

   “อยู่นี่แหละ เดี๋ยวเรามา” หมอแพทพูดอย่างกระชับ ก่อนจะออกตัววิ่งไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่ห่างไกลออกไป

   กัปตันกลับมามองอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ สลับกับทางไกลนู้นที่หมอแพทกำลังเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลคนป่วยอยู่

ก็ได้แต่เอามือเท้าคางมอง พลางถอนหายใจออกมา นึกบ่นอยู่ในใจ มาเดททีไร ก็มักมีเรื่องมาขัดจังหวะสวีทของพวกเขาทุกทีเชียว....เดทกับคุณหมอนี่มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ







ภายในรถยนต์ส่วนตัวมีเพียงคนสองคนนั่งคู่กันอยู่ที่เบาะด้านหน้า ตั้งแต่ขึ้นรถมาก็ไม่พูดอะไรกันเลย จนกระทั่งหมอแพทตัดสินใจทำลายความเงียบด้วยการพูดเปิดประเด็นก่อน

"ติ๊ก...โกรธเราเหรอ?”

"เปล่า” กัปตันหนุ่มเอาแต่เสมองออกไปนอกหน้าต่าง

“แล้วทำไมเงียบจัง ไม่เห็นพูดกับเราเลย”

"แพทขับรถอยู่ ชวนคุยเดี๋ยวจะเสียสมาธิ” ตอบกลับคุณหมอตัวเล็กที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับ

ความเงียบเข้าครอบคลุมอีกครั้ง เมื่อคุณหมอกลับไปใช้สมาธิจดจ่อกับการบังคับเครื่องยนต์ กัปตันหนุ่มลอบมองอีกฝ่ายอยู่สักพัก จึงค่อย ๆ หันกลับมา แล้วเอนศีรษะไปซบบ่าเล็ก

"เราคิดถึงแพทมากเลย” พึมพำออกมาแม้เสียงจะไม่ดัง แต่ชาญวิทย์เชื่อว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน

"แล้วแพทล่ะ ตอนเราไม่อยู่ คิดถึงเราไหม?"

หมอแพทปรายตามองเล็กน้อย แล้วอมยิ้ม...

ก่อนจะสละมือซ้ายที่ประคองพวงมาลัยอยู่ มาผลักหัวทุย ๆ ของแฟนหนุ่มกระเด็นออกไปเต็มแรง

"เราขับรถอยู่ อย่าทำให้เสียสมาธิสิ”

"แพทอ้ะ...แล้วตกลงคิดถึงเราไหม?” กัปตันเสียงอ่อนลง
บังอ้อ
เมื่อคุณหมอไม่ตอบ จึงมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเว้าวอน เอื้อมมือไปกระตุกชายเสื้อเบา ๆ "แพทคิดถึงเราไหม? แพท?”

อาการหางลู่หูตกแบบนี้ทำให้หมอแพทพึงพอใจไม่น้อย คุณหมออมยิ้มขณะที่แฟนหนุ่มยังคงถามซ้ำ ๆ

พอแกล้งจนพอใจแล้ว ก็กำลังจะอ้าปากตอบ ทว่า...สายตาว่องไวกลับมองเห็นสิ่งผิดปกติเบื้องหน้าเสียก่อน

หมอแพทค่อย ๆ ชะลอรถทำให้ชาญวิทย์มองอย่างฉงนใจ จนกระทั่งรถของพวกเขาจอดเทียบข้างทาง และเห็นรถอีกคันหนึ่งจอดสนิทอยู่ก่อนหน้าพร้อมกับยางล้อหลังที่แบนสนิท จึงถึงแก่บางอ้อ

หมอแพทเปิดประตูออกไปอย่างไม่รีรอ และไปคุยกับหญิงสาวเจ้าของรถที่กำลังยืนเครียดอยู่เพียงลำพัง

"แพท...” กัปตันที่ลงจากรถตามมาทีหลังร้องเรียกเบา ๆ

หมอแพทหันมาหาเขา "ติ๊ก เอาถุงอุปกรณ์หลังรถมาให้เราที”

"จะทำอะไร?” กัปตันหรี่ตามองอย่างไม่วางใจ หมอแพทให้คำตอบกลับมาอย่างไม่ลังเล "รถยางแตก เขามียางสำรอง เราเลยจะเปลี่ยนให้”

"...” ชาญวิทย์ยืนมองคนตัวเล็กอย่างอึ้ง ๆ "มีปัญหา...ก็โทรเรียกช่างสิ”

"เราทำได้ ไม่ต้องถึงมือช่างหรอก ติ๊กไปเอาของมา เร็วๆ”  คุณหมอตอบกลับอย่างไว พร้อมกับออกคำสั่งเร่งเร้า ชาญวิทย์ฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินไปเปิดกระโปรงหลังรถเอาของมาให้

กัปตันได้แต่กอดอกยืนมองดูแฟนหนุ่มของเขาจัดการเปลี่ยนยางรถยนต์ มองดูคุณหมอตัวเล็ก ๆ ที่ขึ้นไปกระโดดเหยียบประแจสำหรับงัดตัวน็อตที่ขึ้นชื่อว่าเกลียวแน่นสุด ๆ ให้คลายและหลุดออกมาอย่างง่ายดาย 

ทุกอย่างอยู่ในสายตาของชาญวิทย์ รวมถึงภาพหญิงสาวเจ้าของรถที่มองดูหมอแพทด้วยความชื่นชมอยู่ข้าง ๆ อารมณ์หึงหวงค่อย ๆ ประทุอยู่ในอก

เขาละสายตาจากภาพเหล่านั้น พลางพ่นลมหายใจออกมาสั้น ๆ ชาญวิทย์ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เวลาส่วนตัวของเขากับหมอจะถูกรบกวนด้วยอะไรแบบนี้ เพราะหมอแพทเป็นคนเก่งรอบด้าน และชอบพุ่งทะยานไปช่วยเหลือทุกคนเสมอ

แต่บางที เขาก็เริ่มรู้สึกว่า...มันจะมากเกินไปหรือเปล่า

ทั้งที่จริงก็เลี่ยงได้ แต่ทำแบบนี้ เหมือนไม่เปิดโอกาสให้ได้อยู่ด้วยกันเลยนะ...






บรรยากาศยามเช้าภายในร้านกาแฟแบรนด์ดัง ลูกค้าสาว ๆ ดูคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีหนุ่มหล่อสะดุดตากำลังนั่งเหม่อลอย ให้พวกหล่อนได้ลอบมองเป็นอาหารตาเล็ก ๆ น้อย ๆ

ชาญวิทย์ผู้ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตา เอาแต่ทอดมองออกไปนอกร้าน จนกระทั่งเวลาต่อมามีลูกค้าคนใหม่เดินผลักประตูร้านเข้ามา ตรงไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์ และสักพักก็ยกถาดมาวางและนั่งลงฝั่งตรงข้ามของกัปตัน

"เรียกแต่เช้าเลย มีไร” เสียงแหบแห้งถามทันทีที่ทิ้งตัวลงนั่ง พลางยกกาแฟร้อน ๆ ขึ้นจิบทีละน้อย

ชาญวิทย์จ้องหน้าเพื่อนหมอเขม็ง "ไอ้กานต์ แกว่าหมอแพทมีคนอื่นป้ะ?”

คำถามที่ยิงไปทำเอานายแพทย์หนุ่มเกือบสำลักกาแฟ เขารีบวางแก้วลงและดึงผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบที่เลอะมุมปาก พลางเหลือบมองเพื่อนของตนที่สีหน้าเคร่งเครียด หมอกาน์ส่ายหน้าไปมา

"จะมีได้ไงวะ วัน ๆ ทำแต่งาน แกอะ...คิดมากไปป้ะ?”

ชาญวิทย์ถอนหายใจเฮือกยาว "ก็เพราะไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันเลย อะไร ๆ มันก็ไม่ราบรื่นนัก นี่ฉันลดเที่ยวบินเพื่อให้ได้มีเวลามาอยู่กับเขา แต่เขากลับยุ่งอยู่ตลอด หรือตอนที่ว่าง ก็ยังเอาตัวไปพัวพันกับเรื่องยุ่ง ๆ ทุกที ไม่มีเวลาให้กันบ้างเลย”

"ติ๊กเว้ย” เอ่ยเรียกให้เพื่อนที่จมกับความคิดหมกหมุ่น ให้เงยหน้าขึ้นมามองตน "แกกับเขาคบกันมาสามปีแล้วนะ ยังไม่ชินอีกเหรอวะ”

ชาญวิทย์ขมวดคิ้วมุ่น หมอกานต์เป็นฝ่ายถอนใจเมื่อเพื่อนไม่เข้าใจสิ่งที่เขาสื่อ

"ฉันเคยบอกแกไปหลายครั้งแล้ว อาชีพของหมอน่ะ มันก็ยุ่งเป็นเรื่องธรรมดา และยิ่งเป็นหมอแพทที่วิ่งเข้าชนทุกอย่าง มันก็มากกว่าธรรมดาอีกนิดนึง สามปีแล้วนะ ยังไม่ชินเหรอวะ”

"ชินก็อีกเรื่อง แต่ไม่พอใจมันก็อีกเรื่องนะเว้ย” กัปตันว่า สีหน้าบึ้งตึง "บางทีมันก็อดคิดไม่ได้ ว่ามีแต่ฉันเองที่ไล่ตามเขาตลอด ฉันหาเวลามาอยู่กับเขาแล้ว แต่ทำไมเขาไม่เผื่อเวลาให้ฉันบ้างเลยวะ”

"ไอ้ติ๊ก" หมอกานต์ถอนหายใจอีกครั้ง มองหน้าเพื่อนด้วยแววตาจริงจัง

"ความรักของแกมันหมายถึงอะไรวะ มันหมายถึง...การที่คนสองคนต้องอยู่ด้วยกันตลอดวเลา แค่นั้นเหรอ?”

"ก็...” กัปตันเจอคำถามไปถึงกับตอบไม่ถูก "มันก็ต้อง...มีบ้าง ไม่ใช่รึไง?”

หมอกานต์ยิ้มแล้วลุกยึ้นยืนเต็มความสูง "ฉันว่าแกกลับไปคิดทบทวนดี ๆ ก่อน ว่าที่กำลังเรียกร้องอยู่มันใช่สิ่งที่จำเป็นจริงรึเปล่า บางอย่างมันตัดได้ก็ตัดไป ไม่ดีกว่าเหรอ?”

"ทำไมชอบพูดอะไรเข้าใจยากอยู่เรื่อยเลยวะ”

"มันติดที่แก...ยังไม่ยอมทำความเข้าใจเองต่างหาก" หมอกานต์ยิ้มจางๆ

"..."

"ไปก่อนนะเว้ย นี่หลบงานมา บอสจับได้เดี๋ยวจะยุ่ง" โบกมือไหว ๆ เอ่ยลาแบบส่งๆ และเดินออกจากร้านไป

กลับมาเหลือตัวเองอยู่เพียงลำพังอีกครั้ง ชาญวิทย์เอนหลังไปกับพนักพิงโซฟา มองเหม่อไปนอกร้านอีกครั้ง






'ความรักของแกมันหมายถึงอะไร?'

'หมายถึงการที่สองคนต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แค่นั้นเหรอ?'


"แล้วมันไม่ใช่เหรอ?” ชาญวิทย์นั่งครุ่นคิด และพึมพำกับตัวเอง ภายในห้องนั่งเล่นที่มีแต่เขาอยู่เพียงลำพัง เขานั่งขบคิดถึงคำถามของหมอกานต์จนเวลาล่วงเลย แสงอาทิตย์คล้อยหายไป ห้องที่เคยสว่างเริ่มอมความมืด

และเพราะไม่รู้ตัวถึงความมืดที่ปกคลุม เขาสะดุ้งเฮือก เมื่อจู่ๆ หลอดไฟกลางเพดานห้องสว่างวาบ กัปตันหนุ่มหันขวับไปพบกับคนรักที่ยืนอยู่ข้างสวิตช์ไฟ เท่านั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

"นั่งทำอะไรมืด ๆ หืม?” หมอแพทสาวเท้าเข้ามาประชิด ชาญวิทย์กอดเอวคอดไว้หลวม ๆ  "แค่คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะ”

ร่างสูงโปร่งลุกจากโซฟา หมอแพทเงยหน้าขึ้นติดตามสายตาของเขา กัปตันเกลี่ยปอยผมหยักศกที่ระหน้าผากคุณหมอ จัดผมยุ่ง ๆ ให้เข้าที่เข้าทาง และเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน "วันนี้เหนื่อยไหม?”

"เหนื่อยมากกกกก” หมอแพทตอบรับเสียงยานคาง อีกทั้งลากเสียงพยางค์สุดท้ายเพื่อเน้นว่าเหนื่อยจริง

ชาญวิทย์มองคนน่ารักของเขาแล้วอมยิ้ม หน้าคมโน้มลงหมายจะหอมแก้ม แต่หมอแพทยกมือขึ้นขั้นกลางไว้เสียก่อน

กัปตันหรี่ตามองถุงกับข้าวที่ติดมือขึ้นมาด้วย

"เวฟให้ที เราไปเปลี่ยนชุดแปบนึง” ว่าแล้วก็ยัดเยียดใส่มือเขา ชาญวิทย์จำต้องรับแล้วเดินไปที่ครัวอย่างเซ็ง ๆ ขณะที่หมอแพทเดินหายเข้าไปในห้องนอน

เคาท์เตอร์แบบบิวท์อินนั้นซ่อนช่องเก็บของไว้มากมาย ใช้เวลาอยู่พอสมควรกว่าชาญวิทย์จะหาเจอว่าหมอแพทเก็บจานชามไว้ตรงไหน เขายกของทุกอย่างไปเตรียมหน้าเตาไมโคตรเวฟ

กับข้าวที่หมอแพทซื้อมานั้นเป็นข้าวแกงเจ้าประจำที่ขายในตลาดละแวกใกล้ ๆ ที่เขาเองก็ติดใจในรสชาติอยู่เช่นกัน กัปตันหนุ่มค่อย ๆ เริ่มแกะหนังยางที่รัดปากถุงไว้

"เห...” แต่กลับพบว่าปมวันนี้มันแกะยากจริงจัง หนุ่มร่างสูงพยายามก้มมองดูเงื่อนที่บิดเป็นเกลียวจนลายตา

จนกระทั่งหมอแพทเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วออกมาดู ก็พบว่าแฟนหนุ่มยังแกะยางรัดปากถุงไม่ได้

"เดี๋ยวเราทำเอง” หมอแพทเบียดสีข้างมายืนแทนที่  ใช้เวลาเพียงไม่นาน กับข้าวในถุงพลาสติกแก้วก็ย้ายไปอยู่ในชามเซรามิก ก่อนจะถูกส่งเข้าอบในเตา แล้วหมอแพทจึงหันไปจัดการกับถุงอื่น ๆ ที่เหลือ

"แพทนี่เก่งน้า ทำได้ทุกอย่างเลย ถ้าล่องเรือไปติดเกาะ ก็คงเอาตัวรอดได้” กัปตันได้แต่กอดออกมองอยู่ข้าง ๆ คำพูดประชดประชัดขำ ๆ เลื่อนลอยไป คุณหมอตอบพลางหัวเราะคิกคัก "แน่นอน”

"ติดอยู่คนเดียว ก็อยู่ได้”

"แน่อยู่แล้ว”

"ไม่มีเรา ก็อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม?”

"ใช่”

"....” คำตอบสุดท้ายทำเอาผู้ฟังสีหน้าเจื่อนลง โดยที่หมอแพทไม่รู้ตัว และยังคงหัวเราะคิกคักอยู่

กัปตันหนุ่มหน้าหงิก ค่อย ๆ สวมกอดคนรักจากด้านหลัง เมื่อหมอแพทไม่มีท่าทีขัดขืนอะไร ฝ่ามือใหญ่จึงเริ่มซุกซน ลามปามเข้าปัดป่ายผิวเรียบลื่นใต้เสื้อยืดตัวหลวมโคร่ง หมอแพทจึงเริ่มขืนตัวไว้อย่างรู้ทัน

"เราจะกินข้าว”

"นิดนึงน่า ไว้อุ่นกินทีหลังก็ได้” ชาญวิทย์ไม่สนใจนัก จมูกโด่งจรดลงที่หลังคอ สูดหายใจเอากลิ่นกายของคนรักเข้าเสียเต็มปอด

หมอแพทดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดที่เหนียวแน่น "ติ๊ก หยุดเลย เราหิวจะแย่อยู่แล้ว”

"เราก็หิว...” เขาตอบกลับทันควัน และเคลื่อนหน้าไปกระซิบข้างหู "...แพท”

แม้จากมุมนี้จะมองเห็นเพียงเสี้ยวหน้า แต่ก็รู้ได้ว่าตอนนี้คุณหมอกำลังหน้าขึ้นสีอยู่แน่ ๆ ชาญวิทย์ยังคงกระซิบต่อด้วยเสียงผะแผ่ว "ไม่ได้กินมาเป็นเดือนแล้วนะรู้ไหม”

"ติ๊ก!” หมอแพทหันขวับมาอย่างเอาเรื่อง แต่นั่นก็เข้าทางหนุ่มเจ้าเล่ห์ ชาญวิทย์ไม่รอช้ารีบประชิดริมฝีปากสวยทันที

รสจูบที่หนักหน่วง และดูดดึงอย่างเว้าวอน...

หลังจากผละออกมา ก็ได้เห็นสีหน้าแดงก่ำ และงอง้ำของคุณหมอตัวเล็ก เป็นที่พึงใจของกัปตันไม่น้อย เขาสองคนมองหน้ากันอยู่นาน โดยชาญวิทย์พยายามอย่างยิ่งยวดในการใช้สายตาร้องขอ จนหมอแพทถอนหายใจออกมาเฮือกยาว

"เรายังไม่ได้อาบน้ำ”

"เดี๋ยวเราอาบให้”

"!!!” หมอแพทถึงกับชะงักไป และเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างเก้อเขิน " ทำเป็นรึไง...แกะถุงข้าวยังไม่ได้เลยนะ”

กัปตันหนุ่มหรี่ตามองอย่างเอาเรื่องเมื่อได้ยินคำสบประมาทจากคนรัก แล้วเขาก็โน้มตัวลงต่ำ เพื่อจับหมอแพทแบกขึ้นบ่า ร่างเล็ก ๆ นั้นลอยหวือ และร้องเหวอ

"ติ๊ก! ปล่อยนะ!”

"ไม่ปล่อย!” แล้วก็ออกตัวเดินไปทางห้องนอน หมอแพทดีดขาขัดขืน

"อาบน้ำก่อน!”

"เราทำไม่เป็น เพราะงั้น...ไม่ต้องอาบ!”

"ติ๊ก!!!” หมอแพทแผดเสียงลั่น ทำเอากัปตันหนุ่มเดาได้ว่าตอนนี้คนบนบ่าเขาคงกำลังถลึงตาโตอยู่เป็นแน่

กระนั้นก็ไม่ได้สนใจ แม้ขาเล็กลีบจะดิ้นปัด ๆ เขาก็จับรวบให้อยู่นิ่งได้ด้วยมือเดียว และพาคนที่โวยวายเสียงดังลั่นหายเข้าไปในห้องนอนในที่สุด






[Rrrr Rrrr]

เสียงเตือน และสัมผัสสั่นครืดเรียกให้คนที่หลับสนิทงัวเงียตื่นขึ้นมา หมอแพทหยุดเสียงปลุกไว้ก่อนจะก้มลงคลำหาเสื้อยืดที่ตกอยู่ข้างเตียงมาสวมอย่างลวกๆ

แต่เมื่อกำลังจะลงจากเตียง กลับถูกกอดเอวเอาไว้ หมอแพทลอบถอนหายใจแผ่วเบา

"ติ๊ก...ปล่อย” พยายามแงะสิ่งที่กักตัวไว้ แต่มือและวงแขนที่เหนียวอย่างกับหนวดปลาหมึกนั้นไม่คลายออกง่ายๆ

"ติ๊ก บอกให้ปล่อยไง เราจะไปทำงาน”

จนแล้วจนรอดก็ไม่มีทีท่าว่าชาญวิทย์จะยอมปล่อย ในห้องมืดสลัวนั้นหมอแพทชักสีหน้ารำคาญ และตัดสินใจใช้มาตรการเด็ด

"นับถึงสามนะ ถ้าไม่ปล่อยล่ะก็...”

"จ้า ๆ ๆ ปล่อยก็ปล่อยจ้า” กัปตันหนุ่มรีบคลายอ้อมแขนทันที หมอแพทจึงลุกจากเตียงอย่างว่องไว

ชาญวิทย์ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ มือเท้าคาง ทอดสายตามองคนรักที่ง่วนอยู่กับการเลือกชุดสวมใส่

"เราว่าแพทเนี่ย เจอคนไข้ เจอเพื่อนร่วมงานบ่อยกว่าเจอแฟนอีกมั้ง ไม่รู้ว่าระหว่างเรากับงาน แพทจะเลือกอะไร”

"ทำไมถามแบบนั้นล่ะ” หมอแพทโต้ตอบกลับทั้งที่มือและตายังง่วนอยู่กับเสื้อผ้าในตู้

"เราแค่อยากรู้ ว่าระหว่างเรากับงาน สำหรับแพทแล้วอะไรสำคัญกว่ากัน”

หมอแพทหอบชุดไว้กับตัวแล้วหันมามอง "มันวัดกันได้ซะที่ไหน”

แล้วร่างเล็กนั้นก็หันหลังเดินออกห้องนอนไป ทิ้งให้กัปตันหนุ่มอยู่เพียงลำพัง ค่อย ๆ เอนตัวลงนอนและจมอยู่กับอารมณ์น้อยใจ

ทั้งที่ตอบแบบเอาใจมันง่ายนิดเดียว...ก็ไม่ทำ






ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เสียงประตูห้องเปิดอีกครั้ง หมอแพทกลับเข้ามาในชุดพร้อมจะไปทำงานแล้ว เมื่อเห็นกัปตันนอนกอดหมอนหน้าหงิกหน้างอ จึงเดินไปหยุดที่เตียงและนั่งลงข้าง ๆ

มือเล็ก ๆ แตะสัมผัสแผ่วที่โครงหน้าหล่อเหลาของแฟนหนุ่ม ก่อนจะก้มลงหอมแก้มเบา ๆ

ชาญวิทย์กุมมือเล็กที่กะลังจะผละออกไป "พรุ่งนี้เราต้องบินแล้วนะ ไม่ได้กลับอีกสองอาทิตย์เลย”

หมอแพทยิ้มรับ ปลายนิ้วเกลี่ยผิวหน้าที่ค่อนไปทางหยาบของแฟนหนุ่ม

"เราไม่อยู่ แพทจะเหงาไหม?”

หมอแพทยิ้ม และก้มลงฝากจุมพิตที่หน้าผากกว้าง

"เราอยู่ได้ ติ๊กไม่ต้องห่วง”

"....”

"นอนเถอะ พักผ่อนไม่พอเดี๋ยวบินไม่สวยนะ” หมอแพทดึงผ้าห่มมาคลุมตัวช่วงบนของกัปตันที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้า ก้มลงหอมแก้มอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องนอนไป เสียงฝีเท้าห่างไกลเรื่อยๆ จนเงียบสนิท และได้ยินเสียงเปิดปิดประตูด้านนอก

ชาญวิทย์นอนนิ่งอยู่พักใหญ่จึงหยัดตัวลุกขึ้น พ่นลมหายใจออกเฮือกโต เขาเองก็นอนไม่หลับแล้ว จึงคิดว่าจะไปอาบน้ำเช่นกัน แต่เมื่อจะลุกจากเตียง ตาก็เหลือบเห็นโทรศัพท์ของหมอแพทเสียก่อน

แต่จะเอาไปให้ตอนนี้คงไม่ทัน เพราะคุณหมอน่าจะขับรถออกไปไกลแล้ว

"เฮ้อ..." ชาญวิทย์ที่ทำอะไรไม่ได้ จึงหยิบมือถือคนรักมากดเล่นดู

เมื่อหน้าจอสว่างวาบ พบว่าภาพวอลเปเปอร์นั้นเป็นรูปคู่ของตนกับคุณหมอปรากฎขึ้นมา

เพียงเท่านั้น...ก็หัวใจเต็มตื้นขึ้นมาทันที

หมอแพทไม่ได้ล็อครหัสไว้ กัปตันหนุ่มจังเปิดเข้าไปดูอัลบัมรูป และต้องอมยิ้มเมื่อเห็นว่าคุณหมอแยกอัลบัมรูปคู่ของพวกเขาไว้เป็นพิเศษ เมื่อไล่ดูจนพอใจ ก็ค่อย ๆ ลามไปดูอัลบัมรวม ที่ส่วนมากเป็นรูปหมอแพทเอง

แรก ๆ ก็ดูไปยิ้มไป เพราะหมอแพทชอบถ่ายตัวเองทำสีหน้าประหลาดๆ แต่เมื่อดูไปเรื่อยๆ กัปตันหนุ่มก็เริ่มจับสังเกตได้ ว่าเริ่มมีรูปของหมอแพทที่ไม่ได้ถ่ายด้วยตัวเอง ชาญวิทย์เม้มริมฝีปาก เลื่อนดูอีกรูปแล้วรูปเล่า

ส่วนมากเป็นรูปแอบถ่าย ทั้งตอนที่เผลอ หรือตอนงีบหลับในห้องพักที่โรงพยาบาล

"....” ชาญวิทย์ลดมือลง สีหน้าตอนนี้แม้จะเรียบนิ่งแต่ภายในตึงเครียดจนยากจะอธิบาย

คิดมากไปรึเปล่านะ...เขาอาจจะคิดมากเกินไป


แต่....ใครเป็นคนถ่ายรูปหมอแพทล่ะ?






To be continue.




หากไม่เป็นการรบกวน ช่วยกันลิสต์คำที่เห็นว่าศรีพิมพ์ผิดด้วยได้ไหมคะ
พอดีดิฉันไม่ได้ฝึกพิมพ์สัมผัส เป็นพวกจิ้มแป้นแล้วไม่ดูจอ เลยผิดรัวๆค่ะ แหะๆ
-วายศรี-



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2014 21:20:21 โดย วายศรี »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด