ตอนที่ 17ชนนน “ไอ้นน! มึงมันแน่ ฮ่าๆ” เจ้าของเสียงหัวเราะกังวาลพร้อมท่าทางสุดกวน อย่างการท้าวเอวกางขาเงยหน้าหัวเราะคนนี้ มันคือไอ้พี่แหนมกัปตันทีมรักบี้ของผมเอง
กัปตันชมทั้งทีลูกทีมอย่างผมจะไม่ยืดได้ไงครับ ผมจึงกอดอกยิ้มรับคำชมอย่างภูมิใจ แต่ไอ้พี่แหนมไม่ได้ชมเรื่องฝีไม้ลายมือการเล่นรักบี้ของผมหรอกนะ ที่มันชมน่ะคือฝีไม้ลายมือการจีบหนุ่มของผมต่างหาก และหนุ่มที่ว่าก็นั่งก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆนี่แหละ
สุดหล่อไม่รู้ตัวหรอกครับ ว่ากำลังโดนเราพูดถึงอยู่ หรือจะเรียกง่ายๆว่านินทา เพราะตั้งแต่หมดเวลาเรียนคาบสุดท้าย เบสโดนผมลากมานั่งเฝ้าข้างสนามรักบี้ แทนการไปซ้อมบาสเหมือนเคย จะด้วยเหตุอะไรคงไม่ต้องบอก ขืนผมปล่อยสุดหล่อไปกระโดดโลดเต้นในสนามบาส คงระบมไปอีกหลายคืน ผมคงได้อดอีกยาว ที่สำคัญมีนางมารหน้าสวยอย่างน้องไฝมุ่งมั่นที่จะรอเมียผมอยู่ทั้งคน สามีอย่างผมรึจะปล่อยเมียไปให้หญิงอื่นแทะโลม
ดังนั้นสุดหล่อจึงมีทีท่าไม่ค่อยพอใจผมนัก ที่โดนบังคับให้มานั่งที่นี่ เพราะเมื่อเรามาถึงสนามรักบี้ เบสก็ไม่พูดไม่จากับใคร มาถึงสแตนด์เชียร์ข้างสนามได้ ก็นั่งลงและควักหนังสือเรียนมาอ่านตามที่เห็นนี่แหละ
ส่วนไอ้พี่แหนมมาด้อมๆมองๆสุดหล่อของผมอยู่พัก จนผมเกือบว้ากเพ่ยใส่อยู่แล้ว มันก็ชิงพูดขึ้นตามที่เราเพิ่งได้ยิน พร้อมเหล่ตาไปที่สุดหล่อว่าไอ้ที่มันว่าผมแน่นั้น หมายถึงเรื่องอะไร แต่มันจะกลายเป็นรุ่นพี่ที่น่านับถือกว่านี้ ถ้ามันจะไม่จงใจพูดประโยคต่อมาให้สุดหล่อของผมได้ยิน
“ฮ่าๆ แน่จริงว่ะ เล่นกัปตันทีมบาสซะลายพร้อยเชียว”
“ไอ้เชี่ยพี่แหนม!...เบส เอิ่ม นนไปเปลี่ยนชุดนะ...มานี่เลยไอ้พี่ปากมาก” ผมลากคอไอ้กัปตันปากมากหนีสายตาเขียวๆของสุดหล่ออย่างทันท่วงที ด้วยแอบเห็นเมียรักเท้ากระดิก และจ้องผมกับไอ้พี่แหนมอย่างคาดโทษ
‘กูอุตส่าห์อุดปากใครต่อใครมาได้จนถึงตอนเย็น มึงโผล่มาไม่ถึงนาที เล่นกูซะ เกือบหลบตีนเมียไม่ทัน’
“ฮ่าๆ กลัวเมียนี่หว่า” ดูมันยังไม่รู้ตัวว่าเกือบทำครอบครัวคนอื่นร้าวฉานเพราะปากหมาๆของตัวเอง
“หยุดพูดไปเลยพี่ ใครกลัวไม่มี้! แต่ผมขอร้องล่ะอย่าแซวแบบนั้นอีก ใครได้ยินเข้าแฟนผมจะเสียหาย” ผมพูดไปถอดเสื้อนักเรียนไป แต่กดเสียงท้ายประโยค พร้อมส่งสายตาจริงจังให้ไอ้พี่แหนมไปด้วย
ไอ้พี่แหนมเลิกคิ้วมองผมยิ้มๆ ก่อนยื่นมือมาผลักหัวซะแรง เล่นเอาเซไปเหมือนกัน ไอ้พี่นี่แม่งแรงกระบือชัดๆ
“เออ! นี่เรอะที่ว่าไม่กลัว แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้ามึงจะเพลาๆรอยดูดพวกนั้น” ไอ้พี่แหนมบทมันจะจริงจัง มันก็ทำได้ดีแฮะ เพราะผมรู้สึกผิดขึ้นมาเลย
“อืม...ตอนนั้นมันคิดไม่ได้ว่ะพี่ ต่อไปผมจะระวัง” ผมก้มหัวให้ไอ้พี่แหนมนิดและนึกขอบคุณมันจากใจจริงๆ
แม้ผมจะทำตัวลามปามกับไอ้กัปตันคนนี้ไปบ้าง แต่ในใจผมนั้นนับถือไอ้พี่แหนมไม่น้อยครับ นับถือทั้งจากการเป็นรุ่นพี่ที่ไม่ถือตัวกับรุ่นน้อง และนับถือในฝีมือการเป็นกัปตันทีมรักบี้ของมัน ไอ้พี่แหนมเรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมกำลังใจของเราทีมรักบี้ แม้ฝีมือมันจะไม่ได้เก่งที่สุดหรือแข็งแกร่งที่สุดในทีม แต่ด้วยน้ำใจและความเอื้อเฟื้อที่มันมีต่อเพื่อนๆและรุ่นน้องนั้น ทำให้ไอ้พี่แหนมเป็นที่รักและได้รับการยอมรับจากทุกคนในทีม
ผมวิ่งตามลูกทีมคนอื่นๆออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและลงสนาม เริ่มจากวอร์มร่างกายด้วยการวิ่ง ก่อนลงมือซ้อมเทคนิคการรัคลูกและมอลลูก ซึ่งระหว่างนั้นสายตาผมก็คอยมองไปยังแฟนสุดหล่อเป็นระยะ มีบ้างที่เราสบตากันเมื่อเบสเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ หรือแม้แต่การที่ผมได้ส่งยิ้มโบกมือให้ ยามที่เบสลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ
‘อ่า ชื่นใจจัง มีแฟนมานั่งเฝ้า มันก็ดีแบบนี้เอง มีกำลังใจซ้อมขึ้นเยอะ’ ผมไม่ได้สนใจเสียงกรี๊ดหรือเสียงตะโกนที่ดังขึ้นเป็นพักๆ จากอีกฝากของสแตนด์สักนิด อย่างที่รู้ว่าความสนใจของผมนั้นอยู่ที่ใคร
“กรี๊ดดด...พี่นนเท่มาก...แท็คกิ้ลได้สุดยอด...ล้มสวยเป็นบ้า...กรี๊ดดดด”
“[ผลัวะ!]...โอ๊ย ไรอีกวะพี่ ทำไมมีแต่คนชอบตบหัวกูวะ” ผมเริ่มหงุดหงิดล่ะ ไม่ได้ไม่ดีมีแต่คนตบหัวตลอด ไม่โดนมั่งไม่รู้หรอกโว้ย จากที่หงุดหงิดผมก็ต้องแปลกใจแทน เมื่อได้ยินประโยคต่อมาของไอ้พี่แหนมคนที่ตบหัวผม
“หมั่นไส้! มีแฟนมาเฝ้าไม่พอ ยังมีคนตามกรี๊ดอีกนะมึง ชิ!” ไอ้พี่แหนมทำหน้าทำตาสมกับคำว่าหมั่นไส้ที่มันพูดใส่ผม ก่อนจะผลักหัวผมให้หันไปยังอีกฝั่งสแตนด์
“พี่นน! กรี๊ดดด เต็มที่นะฮ้า” เก้งน้อยตัวที่หนึ่งกรี๊ดก่อนใครเพื่อนเมื่อเห็นว่าผมมอง
“พี่เค้ามองมาทางฉันด้วย อ๊ายยย” สาวน้อยร่างบางในกลุ่มนั้น พูดเหมือนจะอายสายตาผม แต่ดันโบกมือและกระพริบตาให้กันซะนี่ ฮาได้อีก
“กิ๊บซี่มาเชียร์นะคะพี่” น้องนางหน้าผ่องชื่อสาวร่างหนุ่มใหญ่ ทำเอาผมเกือบผวาแต่ก็พยายามฝืนยิ้มส่งไปให้ เพราะขืนทำท่าหวาดกลัวให้นางเห็น ผมกลัวก็แต่น้องกิ๊บซี่จะพุ่งเข้าขย้ำผมน่ะซิ
“บิวๆ พี่นนมองบิวด้วยนั่น” ไม่ต้องบอกใช่มั้ยครับว่าคนนี้คือใคร มากันครบทีมด้วยแฮะ
นี่สินะต้นเหตุของเสียงแว่วๆที่ดังเข้าหู ผมก็ได้แต่โบกมือและฉีกยิ้มให้ เดี๋ยวจะหาว่าหล่อแล้วหยิ่ง ไม่อยากจะโม้ครับว่าชนนนคนนี้ก็มีแฟนคลับกับเค้าเหมือนกัน ยิ่งช่วงใกล้ฤดูกาลแข่งประจำปีของโรงเรียนในเครือแบบนี้ด้วยแล้ว ข้างสนามซ้อมจึงเต็มไปด้วยกองเชียร์ เพราะทีมรักบี้ของโรงเรียนเราไม่เป็นสองรองใครในกีฬาประเภทนี้ เรียกได้ว่าเป็นเต็งหนึ่งของรายการก็ว่าได้ เพราะมีแชมป์รักบี้เมื่อปีที่แล้วเป็นประกัน จึงไม่แปลกที่จะมีกองเชียร์ที่ชื่นชอบในกีฬารักบี้ตามเชียร์ถึงขอบสนาม และไม่เฉพาะแค่ผมหรอกครับที่มีแฟนคลับตามให้กำลังใจ ไอ้กัปตันทีมที่ทำท่าอิจฉาผมนั้นก็มีไม่น้อยเหมือนกัน
“ไอ้นน มึงนี่น่าอิจฉาเนอะ ตั้งแต่สอยกัปตันทีมบาสมาได้เก้งกวางตามเชียร์ให้เพียบ ฮึๆ ขนาดผู้จัดการทีมคนใหม่ยังมองมึงตาเยิ้มเชียว” ผมเลิกคิ้วใส่คนที่เป็นเจ้าของประโยคดังกล่าว ไอ้นี่ชื่อไอ้ภาสเป็นหนึ่งในนักรักบี้ตัวจริงในทีมเรา
“อ้าว งงไร น้องบิวไง น้องเค้ามาเป็นผู้จัดการทีมแทนไอ้ต๊ะที่ออกไป” ไอ้ภาสพูดจบก็วิ่งหน้าระรื่นตามลูกทีมคนอื่น เข้าหาผู้จัดการร่างเล็กคนใหม่ของทีมเพื่อรับแก้วน้ำดื่มทันที เพราะไอ้พี่แหนมมันเพิ่งสั่งพักเมื่อครู่
ผมได้แต่ส่ายหน้าให้ไอ้พวกหน้าหม้อหูเกรียมทั้งหลาย เห็นใครน่ารักหน่อยเป็นไม่ได้กระดิกหูกระดิกหางเข้าใส่ตลอด และอดแปลกใจไม่ได้ว่าไอ้เด็กบิวมาเป็นผู้จัดการทีมได้ไง ตัวก็เล็กเท่านั้นท่าทางก็ออกจะเป็นลูกคุณหนู ไม่รู้จะทนทำงานหนักในฐานะผู้จัดการได้สักแค่ไหน แต่ก็คงไม่น่าห่วงล่ะมั้ง เพราะเจ้าตัวก็มีเพื่อนสาวคนสนิทตามมาช่วยอีกตั้งสอง
ถ้าใครจำไม่ได้ว่าเด็กบิวนี่คือใคร ผมจะบอกให้คือเด็กที่เคยเอาคุกกี้มาให้ผม และดูท่าจะปลื้มผมอยู่ไม่น้อยด้วย ไม่รู้ว่าการที่น้องเค้ามาสมัครเป็นผู้จัดการทีมนั้นมีเหตุผลอะไร หากมาด้วยต้องการใกล้ชิดผมล่ะก็ คงมีเรื่องวุ่นๆตามมาไม่น้อย แต่หากมาด้วยความตั้งใจจริงและไม่กระทบต่อหน้าที่ของผู้จัดการทีม ผมก็คงทำอะไรไอ้เด็กนี่ไม่ได้ เพราะดูท่าทุกคนในทีมจะชื่นชมเด็กบิวไม่น้อยเลยทีเดียว ดูได้จากสีหน้ายิ้มแย้มเกินจริง และเสียงหัวเราะเฮฮาที่ดังขึ้นแล้ว มันช่างแตกต่างจากตอนที่มีไอ้ต๊ะแว่นหนาเป็นผู้จัดการทีมเหลือเกิน
“พี่นน น้ำครับ...เหนื่อยมั้ยครับพี่” หลังผมเอ่ยคำขอบคุณและรับแก้วน้ำมาจากไอ้เด็กบิวแล้ว ผมก็แทบสำลักเมื่อมีผ้าขนหนูผืนนุ่มถูกยื่นมาซับให้ถึงหน้า พร้อมน้ำเสียงที่ทอดอ่อนจากคนแก้มแดง
“โห่ๆๆ...ไอ้นนแม่ง!...ขี้เหร่ก็เท่านั้น ทำไมไม่เป็นกูวะ...น้องบิวคร้าบ พี่ภาสก็เหนื่อยนะ มาซับเหงื่อให้พี่ดีกว่า...ไอ้นนมีแฟนแล้วไม่เจียมนะมึง! เบสมองมึงตาเขียวเลยว่ะ”
เสียงโห่เสียงแซวจากพี่ๆเพื่อนๆร่วมทีมไม่มีผลกับผมเท่าไหร่ แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายจากไอ้พี่แหนมนี่สิ ทำผมสะดุ้งสุดตัวก่อนเหลียวหลังกลับ เพื่อมองไปทางสุดหล่อยอดดวงใจ
“ชิบหายแล้ว!...เอ่อ ขอบใจนะน้อง แต่ไม่เป็นไรพี่ไม่ค่อยเหนื่อย ในฐานะรองกัปตันทีม พี่ยินดีต้อนรับสู่ทีมเรานะ แต่ตอนนี้พี่ขอตัวไปหาแฟนก่อน” ไอ้เด็กบิวจากหน้าระรื่นตาระยับมองผมด้วยความชื่นชม กลับทำหน้าสลดมีดวงตาฉายแววผิดหวังขึ้นทันทีที่ได้ยินประโยคสุดท้ายจากผม
แต่ผมไม่มีเวลามาใส่ใจมันมากนัก เพราะใบหน้านิ่งสนิทติดเย็นชาของสุดหล่อที่ได้เห็นเมื่อครู่ มันติดตาทำผมร้อนรนกระวนกระวาย และให้ความสนใจได้มากกว่า จนผมต้องรีบถลาวิ่งข้ามมาอีกฝั่งของสนาม ท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะจากบรรดาคนร่วมทีม ก่อนผมจะได้มานั่งกระแซะข้างสุดหล่อในที่สุด แต่เบสกลับก้มหน้าทำทีสนใจหนังสือในมือแทน ผมจึงแกล้งขยับตัวกระแซะเค้ามากกว่าเดิม จนคิ้วเข้มๆบนหน้าขาวๆเริ่มขมวด แต่เบสก็ยังไม่ยอมปริปากสักนิด
ผมเริ่มสนุกขึ้นมาจึงขยับเบียดร่างอุ่นเข้าไปอีก จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากสุดหล่อมากยิ่งขึ้น บวกกับเสียงฮึดฮัดขัดใจ พร้อมสายตาแข็งๆที่ตวัดขึ้นมามองหน้ากัน ผมก็ได้ทีรีบหุบยิ้มแสร้งทำหน้าละห้อย ส่งยิ้มอ้อนๆใส่ตาสุดหล่อแทน
“นนเหนื่อยจัง เบสส่งขวดน้ำนั่นให้นนหน่อย...อ้า~ ดื่มน้ำของแฟนนี่ชื่นใจเนอะ แต่จะดีกว่านี้ ถ้าแฟนนนจะซับเหงื่อให้บ้าง” หลังจากดื่มน้ำจากขวดน้ำของสุดหล่อแล้ว ผมก็รีบประจบด้วยการอ้อนเสียงนุ่มๆ พร้อมยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กให้เบสด้วย
เบสจ้องตาผมด้วยสายตาขุ่นมัว ก่อนจะกระตุกผ้าจากมือผมไป ไอ้ผมล่ะดีใจที่คิดว่าสุดหล่อต้องตามใจกันแน่ๆ จึงหลับตาพริ้มยิ้มกริ่มยื่นหน้ารอรับการเอาใจจากสุดหล่อเต็มที่ แต่ผมก็ต้องสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงผ้าขนหนูที่ถูกปาใส่หน้าเบาๆ จากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ก่อนจะมีเสียงแข็งๆดังตามมา
“เช็ดเอง ถ้าอยากได้คนเช็ดให้...ก็ไปหาที่อื่น!” เอาล่ะสิไอ้นนโดนงอนชัวร์
สุดหล่อพูดจบก็จ้องผมไม่กระพริบ ก่อนจะเก็บของและทำท่าลุกขึ้นยืนเหมือนจะเดินหนีกัน เรื่องอะไรผมจะยอมซ้อมต่อโดยไม่มีเมียรักคอยให้กำลังใจอยู่ข้างสนามกัน ผมคว้าข้อมือเบสไว้ได้ก่อนที่เจ้าตัวจะก้าวลงบนพื้นด้านล่าง
“เบสอ่ะ อยู่รอนนซ้อมก่อนนะ เบสไม่เช็ดให้นนก็ไม่ว่า เพราะไม่คิดจะหาใครมาทำแทนแฟนสุดหล่อของนนอยู่แล้ว” หลังคำพูดจริงจังของผมจบลง
ใบหน้าขาวๆที่เคยเครียดขรึมก็ค่อยๆแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูจางๆ จากพวงแก้มใสลามไปใบหูและลำคอ ทำเอาผมเก็บยิ้มไว้ไม่อยู่ กับภาพความน่ารักน่าใคร่ของแฟนสุดหล่อ จนอยากจะเก็บความน่ารักนี้ไว้ดูคนเดียว ซึ่งในความเป็นจริง ผมทำเพียงกระตุกข้อมือเบสให้นั่งลงเคียงข้างกันดังเดิม
“อืม...ปล่อยได้แล้ว นน! คนมองทั้งสนาม” ผมที่กำลังนั่งโน้มตัวมาด้านหน้าและกุมมืออุ่นๆ พร้อมจ้องใบหน้าด้านข้างของสุดหล่อที่แก้มขึ้นสีเพลินๆนั้น ก็ต้องยอมปล่อยมือด้วยความเสียดาย
ไม่ใช่ว่าผมกลัวเสียงแข็งๆที่ดังขึ้นหรอก แต่ที่ต้องยอมเพราะสายตาบังคับแกมอ้อนวอนคู่ตรงหน้ามากกว่า
เมื่อมองไปรอบตัวผมก็ต้องแปลกใจปนขำขัน เพราะสายตาทุกคู่ในบริเวณนี้มองตรงมาที่เราสองคน ไม่เว้นแม้แต่คนนอกสนามที่เดินผ่านไปผ่านมา
ผมไม่คิดมาก่อนว่าผมและเบสจะได้รับความสนใจขนาดนี้ ซึ่งผมก็ได้แต่ฉีกยิ้มส่งคืนให้แก่ทุกคน ใจจริงอยากจะแถมการโอบไหล่สุดหล่อโชว์ด้วย เอาให้กระฉ่อนไปเลยว่าเบสนั้นมีผมเป็นเจ้าของแล้ว แต่ก็เกรงใจแกมสงสารแฟนสุดหล่อของตัวเอง ผมจึงทำเพียงชวนเบสคุยเบาๆกันสองคนเท่านั้น จนไอ้พี่แหนมเรียกเข้าสนามเพื่อซ้อมต่อนั่นแหละ ผมเลยต้องตัดใจห่างสุดหล่อยอดดวงใจ
“[ผลัก!]...ห่า! หวานไม่เกรงใจพวกกูเลย เฮ้อออ สงสัยกูต้องเปิดรับสมัครผู้จัดการทีมคนใหม่อีกแล้ว” ไอ้พี่แหนมชกไหล่ผมไม่พอ ดันเจริญพรใส่ด้วยถ้อยคำอันเป็นมงคลให้เสียอีก ก่อนมันจะวิ่งนำคนอื่นๆที่พากันส่งสายตาหมั่นไส้แกมอิจฉามาให้ผมลงสนามไป
แต่ประโยคที่มันทิ้งท้ายไว้นี่ซิ กลับอุดปากผมที่กำลังเตรียมพ่นตอบโต้มันได้ชะงัด
“เฮ้อออ” ผมก็ต้องถอนใจยาวเหยียดตามไอ้พี่แหนม เมื่อหันไปเจอไอ้เด็กบิวที่มีเพื่อนสนิทยืนกุมมือขนาบข้าง มองมาทางผมด้วยหน้าซีดๆแววตาสั่นไหวจวนเจียนจะเป่าปี่
ผมต้องทำเป็นไม่สนใจไอ้เด็กบิวและวิ่งลงสนามเพื่อซ้อมต่อ แม้จะอดรู้สึกสงสารไอ้เด็กบิวขึ้นมา แต่ผมคงจะไม่ยื่นดาบแทงตัวเอง ด้วยการเข้าไปปลอบเด็กนั่นหรอก ผมเชื่อในคำคมที่ว่า ‘เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด’ เพราะแค่ปล่อยให้สุดหล่อเห็นภาพความใกล้ชิด ระหว่างผมกับไอ้เด็กบิวแบบไม่ตั้งใจไปเมื่อครู่ก็มากพอแล้ว ผมยังไม่อยากกำพร้าเมียโดยไม่จำเป็น และผมเชื่อว่าไม่นานไอ้เด็กบิวจะตัดใจไปจากผมได้เอง ตอนนี้ผมขอเก็บความรักความสนใจไว้ให้สุดหล่อของผมคนเดียวเถอะ
ผมล่ะหงุดหงิดที่ออกมาเห็นไอ้พี่แหนมกำลังยื่นหน้าคุยกับสุดหล่อ ‘ใกล้กันเกินจำเป็นล่ะมึง!’ ใกล้ชนิดที่เรียกว่าแทบจะกินหูแฟนผมได้เลย ผมจึงเดินดุ่มๆไปดึงต้นแขนเบสออกมาจากไอ้พี่แหนม พร้อมส่งคำถามด้วยน้ำเสียงจริงจังเกินจำเป็นออกไป
“เฮ้ย! พี่คุยไรกับ มะ...เอ่อ แฟนผมวะ ใกล้กันเกินไปแล้ว” ‘เกือบหลุดคำว่า ‘เมีย’ ไปแล้วกู ดีที่ยั้งปากไว้ทัน’
แต่แค่นั้นสุดหล่อก็ตวัดตามามองผมขวับ เล่นเอาเสียวหลังวาบไปเหมือนกัน ผมจึงต้องส่งยิ้มอ้อนๆใส่ตาสุดหล่อนิด และหันไปถลึงตาใส่ไอ้พี่แหนมอีกหน่อย
“ทำหวงไปได้มึง ชิ!!...กูก็แค่บอกให้เบสมันระวังพฤติกรรมความเจ้าชู้ของมึงไว้ กับบอกมันให้เพลาๆมือกับรองกัปตันทีมกูหน่อย ใกล้แข่งแล้ว เดี๋ยวจะมาเข่าอ่อนในสนาม มาล้มให้ขายขี้หน้าเอา ฮึๆ ไปล่ะ” ไอ้พี่เชี่ยทิ้งระเบิดลงกลางวงถึงสองลูก ก่อนสะบัดตูดจากไป
เมื่อหันไปมองสุดหล่อจากที่อึ้งๆปนหวาดหวั่นกับคำยุแยงจากไอ้พี่แหนม ผมก็ต้องกลั้นขำ เพราะสุดหล่อข้างตัวได้กลายเป็นหินไปแล้ว ด้วยเบสยืนแข็งค้างอ้าปากหวอ ดวงตาเบิกโพลงมองตามหลังไอ้เชี่ยพี่แหนมอยู่แบบนั้น เบสคงทั้งตกใจและโมโหแหละครับ คงไม่คิดว่าจะได้ยินคำแซวตรงๆแบบนี้ แต่หลังจากเวลาผ่านไปเป็นครู่ก็หลุดสบถคำด่ากัปตันทีมรักบี้ซะแรง!?
“ไอ้บ้าแหนม!?” ผมล่ะขำกับคำด่าสุดแรงของเจ้าชายทีมบาส
“ไปเถอะกลับบ้านกัน” ผมจับข้อศอกสุดหล่อให้ออกเดิน
เบสมีฮึดฮัดเป็นลูกติดพันนิดหน่อย แต่ก็ยอมออกเดินตามผม ที่เป็นคนรวบของทุกอย่างของเค้าจากบนสแตนด์มาถือไว้เอง ซึ่งผมต้องชะงักและหันไปเหลือบมองปฏิกิริยาของสุดหล่อ เมื่อต้องเดินผ่านไอ้เด็กบิวกับเพื่อนที่มองตรงมายังเราทั้งคู่เขม็ง ซึ่งเบสยังคงเดินในจังหวะเท่าเดิม และระบายยิ้มบางเบาให้เด็กพวกนั้น แต่ก็ทำเอาไอ้เด็กบิวถึงกลับหลบตาไม่กล้าสู้หน้า มีเพียงเพื่อนผู้หญิงสองคนของเด็กนั่น ที่สะบัดหน้าทำหน้าบึ้งเข้าใส่วางตัวเป็นศัตรูเต็มขั้น
ผมก็ได้แต่ถอนใจและก้าวประกบคนของตัวเองไว้ ก่อนพากันเดินผ่านทั้งสามอย่างเงียบๆ ในใจนึกเบื่อหน่ายปนหงุดหงิดไม่น้อย จนไม่อยากเอามาใส่ใจ ตอนนี้เด็กพวกนั้นยังไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้เรา จึงจัดการได้ไม่เต็มที่ แต่ผมอดภูมิใจในตัวแฟนสุดหล่อไม่ได้จริงๆ เพราะนอกจากเบสจะงอนผมนิดหน่อย แต่ไม่มีมาชวนทะเลาะจนกลายเป็นประเด็นร้อนระหว่างเรา
เราเดินกันเงียบๆจนเกือบถึงที่จอดรถนั่นแหละ สุดหล่อข้างกายผมจึงพูดขึ้นมา
“วันนี้ไปส่งที่บ้านนะ จะกลับไปดูซะหน่อย ไม่อยู่สองวันเป็นห่วง เผื่อแม่กลับมาแล้วด้วย”
“ครับผม ไม่มีปัญหา เบสอยู่ที่ไหน นนก็อยู่ที่นั่นแหละ...คืนนี้ขอนนค้างบ้านเบสด้วยคนนะ” ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว ขอแค่มีสุดหล่อข้างกาย ไอ้นนไม่มีหวั่น
สุดหล่อหันมาจ้องผมนิ่งๆ พิจารณาอยู่นานเชียวล่ะ ไอ้ผมก็ได้แต่ฉีกยิ้มส่งสายตาสื่อว่ารัก และแทบตะโกนดีใจออกมา เมื่อเบสตอบรับอืออออยู่เพียงลำคอ ก่อนสุดหล่อจะออกเดินไปยังทิศทางเดิม ให้ผมต้องรีบก้าวตามแทบไม่ทัน ผมมาทันพอดีกับที่ได้จังหวะปลดล็อกรถ และเปิดประตูบริการสุดหล่อยอดดวงใจนี่แหละ
“เชิญครับ...เจ้าชายของผม” หลังจากโค้งตัวเปิดประตูรถให้เจ้าชายแล้ว ผมเงยหน้าขึ้นช้าๆพร้อมเปิดยิ้มกว้างขวาง แต่ผมก็ต้องเจ็บบริเวณหน้าผากจนแทบสะดุ้ง ผลจากการที่สุดหล่อดีดนิ้วใส่เต็มแรง
“[เปรี๊ยะ!]...ทะเล้นไปแล้วนะนน รีบเลยมัวแต่เล่นอยู่นั่น” สุดหล่อหน้ามุ่ยแต่แก้มระเรื่อก้าวขึ้นรถทันทีที่พูดจบ
ผมที่ลูบหน้าผากป้อยๆทำหน้ายุ่งอยู่ ถึงกลับคลี่ยิ้มถูกใจกลับอาการเขินแล้วเหวี่ยงของแฟนสุดหล่อ ไอ้ที่เตรียมโวยวายพาลปลิวหาย เปลี่ยนมาตอบรับเมียรักเสียงดัง และรีบเก็บของที่ถือมาไว้เบาะหลัง ก่อนพาตัวเองประจำที่คนขับอย่างเร็ว มีอ้อนสุดหล่อด้วยการยื่นหน้าโชว์หน้าผากแดงๆฝีมือเจ้าตัวให้เค้าดูก่อนออกรถด้วย แต่สิ่งที่ได้รับคือผมหน้าหงายเงิบจากแรงผลัก ก่อนจะมีเสียงนิ่งๆเร่งให้ออกรถ
“ข้าน้อยรับคำบัญชาขอรับเจ้าชาย...แฟนใครวุ้ย ช่างใจร้อนซะจริง”
“นน! บ่นอะไรครับ” ‘อูยยย...แค่นี้ก็ต้องเสียงดังใส่ด้วย น้องนนกลัวพี่เบสแล้วครับ’
“เปล่าครับเปล่า นนแค่บอกว่าแฟนนนหล่อและใจดีมากต่างหาก เบสรู้ใช่มั้ยว่าใครคือแฟนนน” ขอหยอดแฟนรูปหล่อของตัวเองให้พอกระชุ่มกระชวยหน่อยเถอะครับ
ผลก็ออกมาดีซะด้วย เพราะสุดหล่อแก้มแดงขึ้นทันตา แต่จะไม่ดีก็ตรงสายตาวาวๆอย่างเอาเรื่องที่จ้องผมเขม็งนี่แหละ ทำเอาผมต้องฝืนหุบยิ้ม และหันมาเข้าเกียร์ออกรถอย่างเร็ว แต่ในอกยังชื่นมื่นกับความสุขเล็กๆที่ได้เย้าแหย่แฟนรูปหล่อของตัวเอง แต่ความสุขที่ว่าก็พลันจางหายในพริบตา เมื่อเรามาถึงบ้านของเบสและพบกับคนๆหนึ่งเข้า
“อาวิสุทธิ์!? สวัสดีครับ อามีธุระอะไรกับแม่รึเปล่าครับ”
.............................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะมีใครหมั่นไส้ชนนนเหมือนบรรดานักรักบี้บ้างมั้ย

บอกเลยว่าตอนนี้
สมาคมเกลียมัวรับชนนนเข้าสมาคมเรียบร้อยล่ะ สุดหล่อยังไม่ทันดุด่าสักคำเลย
นนมันก็กลัวหัวหดล่ะน้า

และดูท่าความหวังของเด็กบิวจะริบหรี่เต็มทน
เพราะนนช่างมั่นคงกับเมียหน้าหล่อ น่าฉงฉาน แต่คงต้องตามดูกันต่อไปว่า
บิวจะยอมแพ้แค่นี้มั้ย ในเมื่อได้เข้ามาร่วมชมรมกับนนแล้ว
ส่วนตอนหน้าเราจะตามมาดูกันค่ะว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น นนถึงบอกว่า
ความสุขที่มีถึงหายไปในพริบตา และจะเกี่ยวกับอาวิสุทธิ์คนนี้อย่างไร
ที่สำคัญตอนหน้าเบสมาเล่าเองด้วยน้า อย่าลืมตามมาให้กำลังสุดหล่อของชนนนคนนี้
ในวันพุธด้วยนะคะ
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
ปล.1 ตอนที่แล้วมีแต่คนเม้มรอนนเคลียร์กับเบสเรื่องไอ้ดำตูดหมึกกับไอ้หน้าหยกขี้แยกันเยอะเลย
ใจเย็นๆนะคะ เพราะเรารู้ว่าคุณต้องการอะไร

มาแน่นอนค่ะ
ปล.2 อาวิสุทธิ์คนนี้ไม่ใช่เพิ่งออกตอนแรกนะ ใครจำได้บ้างเอ่ยว่าเป็นใคร
