shell ความมันของเรื่องนี้อยู่ที่การได้ลุ้นไปในแต่ละฉากละตอนจริง ยิ่งได้อ่านคอมเมนต์ของ shell แล้วทำให้ผมลุ้นไปด้วยเลย

Tantalum เป็นบทเรียนสอนใจนะครับ จะดูคนต้องใช้เวลาพิสูจน์

Rrmz`,, แงๆๆ จะออกจากบาสแฟนคลับแล้วหรือ ชมรมนี่สมัครได้แต่ไม่สามารถลาออกได้เลยแม้แต่วินาทีเดียวครับ

FlukeHub อิอิ เหมือนชีวิตจริง เราก็ต้องเจอกับเหรียญอีกด้าน มันคงไม่มีด้านเดียวแน่ๆ

หมูพูห์ สิ่งที่เราคิด อาจไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น

ตา alert นพูห์ป่าว
Alert สร้างความปั่นปวนในหัวใจของหลายๆคน แต่ว่านี่แหละม้างความรัก
between อยากมีแม่อย่างบาสไหม ช่างเข้าอกเข้าจายบาสดีจริงๆ แต่อย่างว่าหล่ะ คงเห็นบาสแผลกับชีวิตลูกตัวเองมาหลายปี แม่ที่ไหนจะทนเห็นลูกมืดมนได้ยาวนานขนาดนี้

pim สิ่งที่ทำให้เกิดความรักแท้นั้นคือหัวใจ แต่สิ่งที่ทำให้รักแท้ยาวนานคือความเข้าใจ

pandaba ใจเย็นๆครับ นึกถึงผมไว้ จิตใจจะได้ดีขึ้น คิกคิก ต่อให้แล้วนะครับ

Coacher คนที่ไม่เคยเจ็บ แปลว่าไม่เคยรักใครนะครับ

(ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว) แม้จะเจ็บปวดเจียนตาย แต่อย่าลืมว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จิตใจบีก็ได้พบกับแสงสว่างแล้ว
ถึงมันจะสั้นก็นึกถึงแต่วันดีๆเตอะ

meemewkewkaw อ่านึกว่าจะได้ สมาชิกบาสแฟนคลับเพิ่มซะอีก

konaun แม้เธอจะร้าย แต่ไม่อาจห้ามใจได้

TonG_x_Zhi ทำไมบาสถึงต้องให้บี อ่านบันทึกทีละหน้าหล่ะ

Vasabi รักแท้ต้องร่วมกันฝ่าครับ

*****************************************************************************
" Can't Help Falling In LOVE "
[wma=300,50]http://www.gimmick-model.com/MEE_TEMP/CantHelpFallingInLove.wma?action=binary[/wma]
**********************************************************************************
.............ขอให้รักเรานั้น....นิรันดร ภาค 2….....( 12 )
ความรักของผมเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งในชีวิต
รักครั้งแรกของผมมาเร็วเกินไป….แต่รักครั้งสุดท้าย กลับมาสายเกินกว่าผมจะรู้ตัว
---------------------------------------
ข้อความในกระดาษที่อาร์ตส่งมาให้อ่านทำให้ผมถึงกับแทบล้มทั้งยืน เพราะเนื้อความในกระดาษแผ่นนี้กับบันทึกฉบับแรกที่บาสมอบให้กับผมนั้น.....มันเหมือนกันยังกับแกะ
ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบันทึกทั้งหมดที่ผมอ่านมานั้นคือเรื่องหลอกลวง แต่ความรู้สึกความหยาบด้านของแผ่นกระดาษที่อยู่ในมือก็เตือนให้ผมรู้ว่าสิ่งที่อาร์ตพูดมันคือเรื่องจริง
บันทึกเหล่านั้นเป็นเพียงแค่เครื่องมือในเกมสกปรกของเขาเท่านั้น และผมก็คิดว่ามันเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากเสียด้วย เพราะหากไม่มีบันทึกเหล่านี้มาคอยย้ำเตือนและบอกผมว่าบาสเฝ้ารักและรอคอยผมมานานแค่ไหน ผมก็คงไม่มีวันที่จะเปิดใจให้เขาได้
“อาร์ตขอโทษนะบี อาร์ตไม่ตั้งใจให้บีต้องมาเจอเรื่องโหดร้ายแบบนี้ แต่มันก็คงดีกว่าที่จะให้บีต้องพลาดท่าเสียทีให้บาสเขาไปก่อน”
หลังคำพูดของอาร์ต ผมก็ได้แต่ยืนแข็งเป็นใบ้
“แต่ทั้งหมดก็คงขึ้นอยู่กับบีล่ะน่ะ เพราะวันหนี่ง...บีอาจจะทำให้บาสเขารักบีขึ้นมาจริงๆก็ได้ อาร์ตเพียงแค่ทำในสิ่งที่อาร์ตควรทำ ที่เหลือก็คงเป็นการตัดสินใจของบีเอง”
“แล้วอาร์ตล่ะ ทำไมอาร์ตถึงยังทนอยู่กับเขา”
“ถ้าคนเราสามารถเลิกรักใครได้ง่ายๆ มันก็ดีสิบี”
คำพูดของอาร์ตทำให้ผมนึกตัวเอง
“แต่อาร์ตจะทนเจ็บอยู่อย่างนี้น่ะเหรอ”
“ไม่รู้สิ บางทีอาร์ตก็พยายามปลอบใจตัวเองว่าบาสก็คงทำเหมือนครั้งก่อนๆ ที่เขามักจะแอบนอกใจอาร์ตไปมีอะไรกับคนอื่นเสมอ แต่พอเขาเบื่อเขาก็จะกลับมาหาอาร์ตเองทุกครั้ง ถ้านี่ไม่ใช่เพราะวันนี้อาร์ตได้มาเจอกับบีแล้วรู้สึกว่าคนดีอย่างบีไม่ควรจะมาเจอเรื่องแบบนี้ล่ะก็ อาร์ตก็คงไม่หาเรื่องใส่ตัวหรอก อาร์ตก็คงปล่อยไปเหมือนที่เคยนั่นแหละ เพราะถ้าบาสเขารู้ว่าอาร์ตเอาเรื่องนี้มาบอกบี เขาก็คงทั้งโกรธ ทั้งเกลียดอาร์ตมาก”
“อาร์ต ขอบใจมากนะ”
ผมพูดออกไปด้วยความรู้สึกตื้นตันในความช่วยเหลือของเขา
“ไม่ต้องขอบใจอาร์ตหรอก บางทีอาร์ตอาจกำลังทำผิดก็ได้ เพราะคราวนี้บาสเขาอาจจะรักบีจริงๆ”
“ต่อให้เขารักบีจริงๆแล้วยังไงล่ะ จะให้บีแย่งเขามาทั้งๆ ที่เขามีอาร์ตอยู่แล้วงั้นเหรอ”
“อย่ามาสนใจอาร์ตเลย เพราะถึงอาร์ตจะมีบาสอยู่หรือไม่ มันก็ไม่ต่างกันอยู่แล้ว บีทำตามที่หัวใจบีอยากทำเถอะ อาร์ตก็คงทำได้แค่นี้ แล้วถ้าบียังสงสัย บางทีในห้องของบาสอาจจะมีคำตอบบางอย่างให้บีก็ได้ อาร์ตไปก่อนนะ”
พูดจบอาร์ตก็ทำท่าจะหันหลังกลับไป
“เดี๋ยวอาร์ต ปิดเทรมนี้อาร์ตติดธุระอะไรหรือเปล่า”
“เปล่านี่ ทำไมเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอก เราแค่อยากถามดู ขอบใจนะ”
อาร์ตพยักหน้ารับรู้คำขอบคุณของผมแล้วก็เดินหายลับไปในความมืด ส่วนผมก็ได้แต่กลับไปนอนร้องไห้อย่างหนักตลอดทั้งคืน ในขณะที่ได้แต่เฝ้าถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของผม
ทำไมความรักของผมถึงเจอแต่คำหลอกลวง
แต่ถึงกระนั้น บางขณะผมก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งหมดที่บาสทำเพื่อผมนั้นจะเป็นเรื่องหลอกลวง
เพียงเพื่อแค่จะฟันผม เขาต้องคอยมาทำอะไรเพื่อผมมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ เขาต้องยอมทนนั่งตากฝนทั้งคืนเพียงเพราะจะรอเอาร่มให้ผมตอนเดินเข้าบ้านงั้นหรือ
แต่ในขณะเดียวกันคำพูดของอาร์ตก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเลยว่าเขากำลังโกหก ยิ่งสีหน้าเศร้าๆ และน้ำตาที่ผมเห็นก็อดทำให้ผมเชื่อเขาไม่ได้ว่าเขาหวังดีกับผมจริงๆ
ตกลงแล้วระหว่างบาสกับอาร์ต ใครกันแน่ที่กำลังพูดโกหก
“บาส....” ผมเรียกเขาในขณะที่เรากำลังทานมื้อเช้าในวันต่อมา
“ฮึ...ว่าไง”
“บาส...กับ...อาร์ต ไม่มีอะไรกันจริงหรือเปล่า”
คำถามของผมทำให้บาสถึงกับมีสีหน้าตื่นตกใจ
“จริงสิ บาสไม่ได้มีอะไรกับอาร์ตเขาจริงๆนะ อาร์ตเขาพูดอะไรกับบีเหรอ อย่าไปเชื่อเขานะ เขาคงอิจฉาบี เขาก็เลยใส่ร้ายบาส บาสไม่เคย...”
“บาส !!! ใจเย็นหน่อย บียังไม่ได้ว่าอะไรบาสเลยนะ ทำไมต้องตีโพยตีพายขนาดนั้นด้วย แล้วอาร์ตก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับบีเรื่องบาสสักหน่อย”
ผมพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เหรอ เขายังไม่พูดอะไรกับบีใช่มั้ย”
บาสทำสีหน้าโล่งอก
“ใช่ บีแค่อยากจะถามบาสเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง”
“เชื่อบาสนะบี บาสไม่ได้โกหกบีจริงๆ”
เมื่อบาสยังยืนยันอย่างหนักแน่นเช่นนั้น ผมก็ไม่พูดอะไรอีกจนกระทั่งเราทั้งคู่ทานข้าวเสร็จ เราจึงออกไปนั่งดูทีวีด้วยกัน แต่พอสายๆ บาสก็เริ่มง่วงเพราะผลข้างเคียงของยาที่เขาเพิ่งทานไป ผมจึงแนะนำให้เขานอนตรงโซฟานี้เลยจะได้ไม่ต้องลุกเดินไปที่ห้องอีก ทั้งๆที่ความจริงแล้วผมอยากจะค้นหาความจริงบางอย่างที่อยู่ในห้องของเขาในขณะที่เขาหลับ
ผมนั่งรอจนมั่นใจว่าบาสหลับสนิทแล้ว ผมจึงค่อยๆแอบเข้าไปในห้องของบาสทั้งๆที่ผมรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลยที่ถือวิสาสะมาลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขา แต่เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ผมก็ไม่เห็นมีทางออกอื่นใดได้โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงคำพูดของอาร์ตที่ว่า
“แล้วถ้าบียังสงสัย บางทีในห้องของบาสอาจจะมีคำตอบบางอย่างให้บีก็ได้”
ผมเดินสำรวจรอบห้องบาสไปไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปหยุดที่โต๊ะทำงานตัวหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ริมหน้าต่าง ผมค่อยๆ รื้อดูเอกสาร ตำราเรียน สมุดสเกตรูปที่วางอย่างระเกะระกะอยู่บนโต๊ะแต่ก็ไม่พบอะไร
ผมจึงตัดสินใจเปิดลิ้นชักกลางออกมาซึ่งในทันใดนั้นเองที่ผมเจอของสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมถึงกับตัวสั่น
ผมค่อยๆหยิบรูปถ่ายที่เหมือนจงใจวางซ่อนไว้ในส่วนลึกสุดของลิ้นชักขึ้นมาดูอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อคนที่อยู่ในรูปถ่ายใบนั้นคือบาสที่ยืนอยู่ในชุดนักศึกษาโดยมีอาร์ตยืนกอดคอเขาอย่างสนิทชิดแนบมาจากด้านหลัง
รูปถ่ายใบนี้ทำให้ผมเห็นได้ชัดว่าทั้งคู่กำลังมีสีหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข ในขณะที่ผมกลับเริ่มมีน้ำตาไหลลงมานองหน้าอย่างปวดร้าว เพราะรูปใบนี้ได้เป็นหลักฐานอย่างชัดเจนแล้วว่า....บาสโกหกผม
หลังจากค้นพบความจริงนี้ ผมก็พยายามเก็บอาการไว้ตลอดในช่วงบ่ายโดยพยายามพูดคุยกับบาสอย่างเป็นปกติ ทั้งๆที่ในใจมันแสนจะปวดร้าวจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
จนกระทั่งค่ำๆ ขณะที่ผมเพิ่งล้างจานในครัวเสร็จ ผมก็ได้ยินเสียงของบาสที่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขกพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจมากว่า
“มาทำไม บาสบอกแล้วว่าอย่ามาที่นี่อีก”
เสียงนี้ทำให้ผมเดินออกมาจากครัวจนเห็นอาร์ตยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าด้วยสีหน้าเศร้าๆ ขณะที่มีกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่วางอยู่ด้านข้าง
“บีขอให้เขามาเองแหละบาส”
ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และดูเหมือนคำพูดนี้จะทำให้บาสหันมามองผมอย่างประหลาดใจ
“ทำไมล่ะ บีให้เขามาที่นี่อีกทำไม”
“ก็ให้เขามาช่วยดูแลบาสไงล่ะ”
“มาช่วยดูแลบาส ทำไมเขาต้องมาช่วยดูแลบาส แล้วบีล่ะ บีจะไปไหน?”
“บีคงไม่เหมาะจะอยู่ดูแลบาสอีกแล้ว”
ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือในขณะที่พยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมาเอาไว้ ซึ่งในทันใดนั้นเองที่บาสเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ เขาจึงถามผมขึ้นมาว่า
“เพราะอาร์ตเหรอ อาร์ตพูดอะไรกับบี”
“พอทีเถอะบาส เลิกหลอกบีเขาเสียที”
อาร์ตพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด
“หลอกเหรอ บาสไปหลอกอะไรบี”
“ทำไมบาสไม่บอกบีเขาไปตรงๆละว่าเราเป็นอะไรกัน”
“แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ เราไม่เคยเป็นอะไรกันนี่”
“บาส !!!!”
อาร์ตเรียกชื่อบาสขึ้นมาอย่างเจ็บปวดขณะที่เริ่มมีน้ำตาไหลลงมาอาบทั้ง 2 แก้ม
“เราไม่มีอะไรกันเหรอ แล้วที่เราไปทานข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน เที่ยวด้วยกันหรือแม้กระทั่งเคยมีอะไรกันล่ะ”
“อาร์ต !!!”
บาสพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงโกรธจัด
“พอทีเถอะบาส เลิกทำร้ายคนอื่นเสียที อาร์ตขอร้อง”
“ทำร้ายเหรอ บาสเคยทำร้ายใคร”
“บาสจะปากแข็งไปถึงไหน เลิกทำบาปเสียที”
“หยุดพูดโกหกได้แล้วอาร์ต”
“บาสนั่นแหละที่โกหก”
“ไม่จริง บาสไม่ได้โกหก อาร์ตนั่นแหละ”
“บาสนั่นแหละโกหก”
“ไม่จริง....อาร์ต........”
“พอแล้ว พอที”
ผมตวาดใส่ทั้งสองคนอย่างสุดเสียง แล้วก็เริ่มปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก
“ได้โปรดเถอะ หยุดสักที ฮือๆๆๆๆๆ บาส บีถามเป็นครั้งสุดท้ายว่าบาสกับอาร์ตเป็นอะไรกันหรือเปล่า”
“ไม่นะบี บาสไม่เคยเป็นอะไรกับเขาจริงๆ”
“งั้นเหรอ”
พูดจบผมก็เดินเข้าไปในห้องแล้วหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่ผมแอบจัดไว้ตั้งแต่ช่วงบ่ายออกมา แล้วก็ชูรูปถ่ายที่ผมแอบเอามาจากห้องของเขาให้บาสดู
“แล้วบาสจะอธิบายรูปนี้ว่ายังไง”
ทันทีที่บาสได้เห็นรูปนั้น เขาก็หน้าซีดจนขาวเผือดแล้วก็ถามผมออกมาเบาๆว่า
“บีไปได้รูปนั้นมาได้ยังไง”
“ไม่สำคัญหรอกว่าบีได้มันมายังไง แต่ทำไมบาสต้องทำกับบีอย่างนี้”
“มันไม่ใช่อย่างที่บีคิดนะ เชื่อบาสเถอะ”
แม้บาสจะอ้อนวอนผมอย่างนั้นแต่เมื่อทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้แล้วผมก็ไม่อาจทำอะไรอย่างอื่นได้นอกจากจะเดินหันหลังออกไปด้วยหัวใจที่แตกสลาย
“อย่าทิ้งบาสไปนะบี บาสรักบีนะ รักบีคนเดียวมาตลอด เชื่อบาสนะ ได้โปรด”
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินในขณะที่เดินออกมาจากบ้านของบาส
ผมเดินต่อไปอย่างไม่ยอมหยุดเหมือนคนเสียสติเพราะกลัวว่าถ้าผมหยุดเดินเมื่อไหร่ ผมก็คงไม่อาจจากบาสเขาไปได้ แต่ขณะเดียวกัน...อีกใจก็กลับคิดว่าทุกก้าวที่ผมเดินออกไป มันกำลังทำให้ผมห่างไกลไปจากบาสมากขึ้นทุกที
ในตอนนั้นเองที่ผมกลับนึกถึงคำอ้อนวอนของบาสอีกครั้ง
“เชื่อบาสนะ ได้โปรด”
คำขอร้องนี้ได้ทำให้ผมได้หวนกลับไปนึกถึงคืนวันเก่าๆที่ได้อยู่กับเขาในบ้านหลังนั้นอีก รวมทั้งกลับไปนึกถึงเรื่องราวเก่าๆที่เขาเขียนในบันทึกด้วย
จริงอยู่ที่คำพูด หรือ ข้อความในบันทึกนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่เขาโกหกผมได้
แต่แววตาของเขาล่ะ? ทำไมผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าทุกครั้งที่บาสมองมายังผมนั้น มันจะเป็นแววตาของคนที่กำลังโกหก
ภายใต้แววตาคู่นั้น...ผมไม่เคยเห็นสิ่งอื่นใดเลยนอกจากข้อความที่อยากจะบอกผมว่า.....เขารักผม
ในตอนนั้นเองที่ผมตัดสินใจหยุดเดินแล้วก็บอกกับตัวเองว่า....ผมจะเชื่อเขา
ไม่ว่าเขาจะหลอกลวงเพื่อหวังจะฟันผมอย่างที่อาร์ตบอกหรือไม่.....ผมก็จะเชื่อเขา
ดังนั้นผมจึงรีบหันหลังแล้วเดินกลับไปหาบาส
ในตอนแรกผมก้าวอย่างช้าๆทีละก้าว แต่เมื่อยิ่งมั่นใจถึงความรู้สึกของตัวเอง ผมก็ยิ่งก้าวเร็วขึ้น...เร็วขึ้น จนตัดสินใจออกวิ่งในที่สุด
ผมวิ่งผ่านประตูรั้วที่ยังเปิดอยู่แล้วรีบตรงไปบันไดทางขึ้นไปบนบ้าน ในตอนนั้นเองที่ผมได้ยินเสียงบาสกำลังทะเลาะกับอาร์ตอย่างหนัก
“ไม่จริง บาสไม่เชื่อ”
“เชื่ออาร์ตเถอะบาส บีเขาไม่เคยนึกชอบบาสเลย เขาแค่กำลังสนุกกับกับการปั่นหัวบาสเล่น”
“หยุดใส่ร้ายบีเขาสักที ยังไงบาสก็ไม่เชื่อ”
“งั้นเหรอ บาสคงไม่รู้สินะว่าบีเขาเลวขนาดไหน เขาเอาบันทึกที่บาสเขียนด้วยความตั้งใจมาให้อาร์ตอ่าน แล้วก็หัวเราะร่วนเหมือนมันเป็นเรื่องตลก”
“เป็นไปไม่ได้ บีไม่มีวันทำอย่างนั้น”
“คิดว่าอาร์ตโกหกเหรอ จะให้อาร์ตเล่ามั้ยล่ะว่าบีกับบาสเจอกันยังไง เหตุการณ์ในห้องสมุดเป็นยังไง แล้วเรื่องที่ค่ายลูกเสืออีกล่ะ หรือจะเอาเรื่องชมรมดนตรีสากล จะให้อาร์ตย้ำเหรอว่า...บีเป็นคนตอแหลแค่ไหน”
หลังคำพูดนั้นของอาร์ตผมก็ไม่ได้ยินเสียงตอบโต้อะไรจากบาสอีก เขาคงกำลังช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ไม่ใช่แค่บาสหรอกเพราะผมเองก็กำลังตื่นตะหนกกับคำพูดของอาร์ตจนแทบจะยืนไม่อยู่เช่นกัน
จนกระทั่งผมได้ยินเสียงอาร์ตพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เชื่ออาร์ตเถอะบาส มีแต่อาร์ตเท่านั้นแหละที่รักและหวังดีกับบาสจริงๆ”
----------------------------------------------