ตอนที่แล้วถือเป็นตอนที่บาดอารมณ์ของผมได้รุนแรงมาก

เพื่อนๆคงรู้สึกเช่นกัน
บาส มานั่งทำอะไรกลางฝนเนี้ย”
เสียงตะโกนกลางสายฝนของผมได้ทำให้บาสค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยความดีใจก่อนที่จะพูดออกมาอย่างปากสั่นด้วยความหนาวว่า
“อ้าว บีกลับมาแล้วเหรอ”
“บาส บีถามว่า บาสมานั่งทำอะไรกลางฝนแบบนี้”
“ก็บาสเห็นฝนมันตกหนัก เมื่อเช้าบีก็ไม่ได้เอาร่มไป บาสกลัวว่าบีจะเปียกฝนตอนเดินเข้าบ้าน บาสก็เลยเอาร่มออกมานั่งรอ”
“บาส...”
อ่านกี่รอบก็เรียนน้ำตาคลอได้เลย

ความรักที่บาสมีให้บีมันออกมาจากหัวใจจริงๆ

ไม่ได้แกล้งทำมันออกมา เพราะทุกเวลาบาสจะนึกถึงแต่บี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บาสก็ห่วงแต่ความรู้สึกของบี ถ้าคนเรารักกันและคอยคิดถึงแต่คนอื่นๆแบบนี้
ชีวิตรักของพวกเราคงสวยงามกว่าที่เห็นอยู่ในสังคมเมืองที่วุ่นวาย
“บาสทำผิดอีกแล้วใช่มั้ย งั้นบาสขอโทษนะบี คราวหลังบาสจะไม่ทำอีก”
คุณนัทนทีเฉือนอารมณ์อีกครั้งด้วยเรื่องที่ใครๆก็ฝันอยากจะมี
“คะ....คือ....วันนี้เป็นวันเกิดของบาส ตอนแรกบาสคิดว่าถ้าเผื่อบีกลับบ้านเร็ว บาสก็แค่อยากมีสักครั้งในชีวิตที่บาสจะได้เป่าเค้กวันเกิดกับคนที่บาสรัก”
แค่เรื่องง่ายๆ แต่บางคนกลับมองข้ามไป หารู้ไม่ว่าเรื่องง่ายๆแบบนี้อยู่ในใจส่วนลึกๆของหลายๆคน
*********************************************************************************
konaun เข้มแข็งไว้ครับ สักวันหนึ่งต้องเป็นของเรา

สาวๆเข้ามายืนยันตัวกันแล้วน้า เอิ้กๆ
Rrmz`,, ร้องบ่อยๆไม่มีคนปลอบไม่ดีนะครับ มาม๊ะเด่วส่งคนไปปลอบ

GoneOn ต่อให้แล้วนะครับ พักนี้เน็ตไม่ค่อยดี ไม่ค่อยได้เข้ามาเช็ค แหะๆ

FlukeHub พี่หมอคิดได้ไงไม่รู้นะ ว่าต่อให้เขารู้ว่าเขาจะเจ็บ เขาก็ยินดีเพราะเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้มีความสุขกับคนที่เขารัก แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม

(ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว) คิกคิก แซวเล่นน้า เห็นสาวๆบอร์ดเราห้าวกันเจงๆ จนมีคนสงสัยเอิ้กๆ

อยากเจอคนแบบบาส คงต้องหาแทบพลิกแผ่นดิน

tamkub อิอิ อารมณ์รุนแรง เอิ้กๆ

between กร๊ากๆๆชอบๆลูกทุ่ง พักนี้อะไรๆเสี่ยวๆดูจะมีมนต์ขลังเหมือนกันน้า

shell บางทีผมมองรอยแตกที่พื้นดิน ช่างซอกซ่อน แตกแยกหลายสาขา คงจะเหมือนเส้นทางของความรักที่ไม่อาจรู้ว่รอยแตกนั่นจะแยกไปทางไหน และสิ้นสุดที่ใด

หมูพูห์ หุหุ พูห์จะได้กลัวความรักบ้างไง เห็น บ่ กัวไรเลย วันๆเอาแต่ไปดูหนัง คิกคิก

][GobGab][ อยู่ให้ฉันรักเถอะ แม้เธอไม่รักตอบ
โดนใจมากๆ ก็ขอแค่นี้ได้ไหม

kirati69 อืม จะมีใครสักคนไหมที่ได้รู้จักคนที่ได้สักครึ่งหนึ่งของบาส

มูมู่น้อย ถ้าความรักมันกำหนดได้ว่าจะรักใคร เรื่องต่างๆของง่ายเหมือนอุ่นของในไมโครเวปทีเดียว

Tantalum อิอิ เย้ๆชมรมคนรักบาส

Aki_Kaze อ่านไม่ว่ากี่รอบ ใครเจอตอนนี้เข้าไป ร่วงเป็งสายน้ำ

******************************************************************************
กุมภาพันธ์ ของปีเตอร์ คอป
[wma=300,50]http://f1.podcast.blog.webs-tv.net/upload2/new/e/e/a/eead8016b7c106b9153ec8acc1bbecfb.mp3[/wma]
**********************************************************************************
.............ขอให้รักเรานั้น....นิรันดร ภาค 2….....( 9 )
ความรักของผมเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งในชีวิต
รักครั้งแรกของผมมาเร็วเกินไป….แต่รักครั้งสุดท้าย กลับมาสายเกินกว่าผมจะรู้ตัว
--------------------------------
หลังคำตอบของบาส ผมได้แต่นั่งนิ่งมองเขาอย่างตื้นตัน แล้วก็อดคิดถึงคำพูดของพี่หมอไม่ได้ว่า
“บีไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าจะทำให้เพื่อนคนนั้นเลิกรักบีได้”
ผมไม่รู้ว่าชาติที่แล้ว บาสเขาเคยทำกรรมอะไรกับผมไว้ ในชาตินี้เขาจึงต้องตามมารักผมมากมายขนาดนี้
ในที่สุดความทุ่มเทและมั่นคงในความรักของบาสก็ทำให้ผมต้องยอมแพ้ เพราะเมื่อได้เห็นแววตาขอร้องที่แฝงไว้ด้วยความแน่วแน่คู่นั้นของบาส ผมก็รู้สึกได้ทันทีว่าผมไม่มีวันทำให้ผู้ชายคนนี้เลิกรักผมได้สำเร็จ
ดังนั้นผมจึงได้แต่บอกตัวเองว่า....ผมคงต้องทำอย่างที่พี่หมอแนะนำ นั่นคือ....ปล่อยให้มันเป็นไป
ไม่ว่าเส้นทางรักครั้งนี้ของผมกับบาสจะได้เริ่มต้นขึ้นหรือไม่ หรือมันจะไปจบลงตรงไหน ผมก็คงไปฝืนอะไรมันไม่ได้ นอกจากจะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้น
ผมจึงค่อยๆลุกขึ้นแล้วก็ถามบาสเพื่อความมั่นใจอีกครั้งว่า
“บาส จะยังรักบีต่อไปทั้งๆ ที่รู้ว่าบีรักบาสไม่ได้อย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ แต่ไหนแต่ไรมา บาสก็รักบีทั้งๆ ที่บีไม่เคยรักบาสอยู่แล้วนี่ เพราะฉะนั้นไม่ว่าต่อไปบีจะรักบาสหรือไม่ สำหรับบาสแล้วมันก็ไม่สำคัญหรอก บาสขอแค่ให้บาสได้ตามรักบีอย่างนี้ต่อไปก็พอ”
“บาส !!! ”
“ได้มั้ยบี ??? ”
“ช่างเถอะ เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะบาส”
ผมพูดไปในขณะที่หันไปมองนาฬิกาซึ่งขณะนี้เป็นเวลา 11.40 นาที
“บีว่าบาสรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะนะ เดี๋ยวเราจะได้มาเป่าเค้กวันเกิดกัน ยังพอทันเวลานะ”
“แต่ว่า....”
“เหอะน่า เรายังมีเวลาคุยเรื่องนี้กันอีกเยอะ แต่ตอนนี้บีต้องทำให้บาสได้เป่าเค้กวันเกิดก่อนเที่ยงคืนให้ได้ก่อน”
พูดจบผมก็เดินไปพยุงตัวบาสที่เปียกปอนไปทั้งตัวเข้าไปในห้อง แล้วก็ปล่อยให้เขาได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนผมก็กลับไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องอย่างเร่งรีบเช่นกัน
หลังจากที่ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จด้วยความรวดเร็ว ผมก็เดินออกมาหน้าห้องแล้วก็รีบเข้าไปหาไฟแช็กในครัวออกมา จนสักพักบาสก็เดินออกมาจากห้อง
“อ้าวจุดเทียนสิบาส”
พูดจบผมก็ยื่นไฟแช็กให้บาส
“บีจุดให้ไม่ได้เหรอ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็บีเป็นแสงสว่างในชีวิตของบาส ถ้าบีเป็นคนจุด ต่อไปชีวิตของบาสก็จะได้สว่างไสวเหมือนเทียนพวกนั้นไงล่ะ”
“แหวะ บาสไปหัดพูดประโยคน้ำเน่าพวกนี้มาจากไหนเนี้ย บีขนลุกเลยดูสิ ”
ผมพูดอย่างขำๆ แล้วก็ก้มลงไปจุดเทียนวันเกิดให้ตามที่เขาขอ
“เอ้า คราวนี้ก็อธิษฐานสิ แล้วอย่าอธิษฐานอะไรให้มันน้ำเน่านักล่ะ เดี๋ยวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็อ้วกแตกกันพอดี”
บาสยิ้มขำๆ ก่อนจะทำหน้านึกอะไรขึ้นมาได้แล้วก็บอกผมว่า
“จริงสิ บียังไม่ร้องเพลงเบิร์ดเดย์ให้บาสเลยนี่ ลืมไปหรือเปล่า”
“ไม่เอาอะ บีร้องเพลงไม่เก่ง”
ผมตอบไปอย่างนั้นเพราะจริงๆ แล้วผมไม่ได้ลืมหรอก หากแต่ว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ผมก็เป็นคนที่ร้องเพลงไม่เอาอ่าว แถมยังร้องผิดคีย์มาตลอด ผมจึงแกล้งทำเป็นจงใจที่จะลืมเรื่องร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้บาสฟัง
“น่าบี ถ้าบีไม่ร้อง มันก็ไม่ครบขั้นตอนนะ”
“ไม่ร้องไม่ได้เหรอ”
“ร้องเถอะนะ บาสอยากฟัง วันนี้วันเกิดบาสนะ”
เมื่อเห็นบาสอ้อนวอนขนาดนี้ ผมจึงจำใจร้องเพลงอวยพรวันเกิดออกมาซึ่งมันทั้งเพี้ยนและไม่เป็นทำนองจนทำให้บาสถึงกับขำออกมาจนท้องขดท้องแข็ง
“นี่หยุดหัวเราะได้แล้ว บีไม่ร้องแล้ว”
ผมพูดออกมาอย่างงอนๆ
“โอเคๆ บาสขอโทษ แต่มันขำนี่ ขนาดเพลง happy birthday บียังร้องให้เพี้ยนได้ บาสนับถือจริงๆ”
“นี่ อยากอายุสั้นหรือไง เดี๋ยวก็โดนดีหรอก รีบๆ อธิษฐานเข้าเถอะ”
เมื่อผมพูดจบ บาสก็หยุดหัวเราะ แล้วก็หลับตาตั้งสติอธิษฐานอย่างเอาจริงเอาจัง จนสักพักเขาก็ลืมตาขึ้นแล้วก็เอาแต่จ้องมองผมโดยไม่พูดอะไรเลย
“จริงสิ บาสรอบีตรงนี้เดี๋ยวนะ”
ผมหาโอกาสชิ่งเข้าไปในห้องเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเขินมากขึ้นทุกทีหลังจากที่บาสเอาแต่จ้องหน้าผมนิ่ง
ผมเข้าไปรื้อค้นของอะไรบางอย่างในห้อง จนสักพักเมื่อเจอมันแล้วผมก็หยิบของสิ่งนั้นออกมา
“บีขอโทษนะบาส บีไม่รู้จริงๆ ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของบาส บีก็เลยไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ล่วงหน้า มันก็คงมีแค่ไอ้นี่แหละ”
ผมค่อยๆชูสร้อยคอเงินแท้ที่มีจี้ตัวอักษรรูปตัว B ซึ่งมันเป็นความบังเอิญที่มันเป็นทั้งชื่อผม และสามารถเป็นตัวย่อของชื่อบาสได้ด้วย
“มันเป็นสร้อยที่บีชอบและรักมากที่สุด บียกให้บาสแล้วกัน แต่ถ้าบาสไม่ชอบ วันหลังบีจะหาของใหม่ที่มีค่ากว่านี้มา.............”
“ไม่ต้องหรอกบี...”
บาสรีบพูดแทรกขึ้นแล้วเอามือของเขามาจับมือของผมที่ถือสร้อยเส้นนั้นเอาไว้
“บาสขอสร้อยเส้นนี้นะ แค่นี้มันก็มีค่ามากแล้ว ยิ่งเป็นของๆบี มันยิ่งมีค่ามากสำหรับบาส บีไม่ต้องไปซื้ออย่างอื่นมาหรอกนะ บาสอยากได้สร้อยเส้นนี่ล่ะ ว่าแต่บีให้แล้วให้เลย ไม่เอาคืนแน่นะ”
“แน่สิบาส ตั้งแต่วันนี้สร้อยเส้นนี้เป็นของบาสแล้ว”
ผมพูดออกมาอย่างขำๆ
“งั้นบาสใส่เลยได้ใช่มั้ย”
“ได้สิ มา เดี๋ยวบีใส่ให้”
หลังผมพูดจบ บาสก็ค่อยๆ ก้มตัวลงมาให้ผมสวมสร้อยให้เขาได้ถนัดขึ้น ในขณะที่เขาเองได้แต่ยิ้มกริ่มอย่างมีความสุข
“เอาล่ะ เสร็จแล้ว”
“ขอบใจนะบี บาสจะใส่มันไว้ตลอดไป ไม่ถอดเลย”
“ไม่ต้องเวอร์ขนาดนั้นก็ได้ อืมมมม บียังมีของขวัญให้บาสอีกชิ้นนึงนะ”
“อะไรนะ มีอีกเหรอ”
“มันไม่ได้เป็นสิ่งของหรอกบาส มันเป็นคำสัญญา”
“คำสัญญา ???”
“ใช่ คำสัญญาว่าต่อไปนี้บีจะเปิดใจเพื่อรักบาสให้มากขึ้น แล้วก็จะพยายามลืมทีมให้ได้ แต่บีไม่รับปากนะว่าบีจะทำได้แค่ไหน”
ทันทีที่ผมพูดจบ บาสก็เอาแต่จ้องมองผมด้วยความตื้นตัน เขาดีใจและซึ้งใจมากจนถึงกับมีน้ำใสๆไหลออกมาท่วมเบ้าตา ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
“ขอบใจนะบี มันเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดตั้งแต่บาสเกิดมาเลย ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เทียบกับที่บาสเคยทำเพื่อบีแล้ว แค่นี้มันถือว่าเล็กน้อยมาก บีแค่ให้โอกาสบาส ให้โอกาสตัวเองได้ลองเดินไปตามเส้นทางรักของเราสองคนเท่านั้น”
“เส้นทางรักเหรอ ???”
“อืม ใช่ เส้นทางรัก มีใครบางคนเคยบอกบีว่าความรักมันมีเส้นทางเดินของมันเอง ไม่มีใครไปกำหนดหรือกะเกณฑ์มันได้ว่าจะให้มันเป็นยังไงหรือเดินไปทางไหน บีก็เลยกะว่าจะลองเดินไปตามเส้นทางนี้พร้อมๆกับบาสดู ไม่ว่าทางเดินของเรานั้นจะไปพบจุดจบยังไง”
“ขอบใจมากนะบี บาสไม่รู้จะบอกบียังไงว่าบาสดีใจแค่ไหน ว่าแต่คนที่พูดเรื่องนี้กับบีเป็นใครเหรอ”
“ช่างเถอะ บาสไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”
“งั้นไมว่าเขาจะเป็นใคร บาสต้องฝากขอบคุณเขาด้วยนะ เขาเป็นผู้มีพระคุณของบาสเลยนะเนี้ย”
“ได้สิ ไว้บีเจอเขาแล้วบีจะบอกเขาให้ เรามากินเค้กกันเถอะบาส”
พูดจบผมก็ตามลงไปนั่งบนโซฟายาวตัวเดียวกับบาส แต่พอผมเริ่มจะตักเค้กใส่จาน ผมก็สังเกตว่าบาสดูมีท่าทางอ่อนเพลียแล้วก็หน้าซีดมาก
“บาสดูหน้าซีดๆนะ บีว่าเราไว้กินพรุ่งนี้ก็ได้ บาสกลับไปนอนเถอะ”
“ไม่ บาสยังไม่อยากนอน วันนี้เป็นวันเกิดบาสนะ บาสอยากอยู่กับบีให้นานที่สุด”
แม้บาสจะดูตั้งอกตั้งใจจะทำอย่างนั้น แต่น้ำเสียงของเขาก็ดูอ่อนเพลียจนเห็นได้ชัด
“แต่บีว่าบาสควรจะพักผ่อนนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”
“ไม่เป็นไรหรอก นะบี ให้บาสนั่งอยู่กับบีก่อนนะ”
“งั้นเอางี้ บาสนอนที่นี่ก่อนก็ได้ นอนลงบนตักบีนี่แหละ นอนลงสิ”
พูดจบผมก็ค่อยๆ ดึงตัวบาสให้เอนตัวลงมาหนุนนอนบนตักของผม
“บาสหลับตรงนี้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวบีค่อยปลุกไปนอนที่ห้อง คราวนี้บาสก็ได้อยู่กับบีนานขึ้นในวันเกิดแล้ว โอเคมั้ย”
บาสพยักหน้ายอมรับอย่างมีความสุขบนตักอุ่นของผม ก่อนจะค่อยๆปิดตาลง แล้วก็นอนหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความอ่อนเพลีย ในขณะที่ผมเองได้แต่มองใบหน้าที่กำลังหลับอย่างมีความสุขนั้นด้วยความสงสารจับใจ
มองดูผิวเผิน ผู้ชายคนนี้ดูทั้งอ่อนแอและอ่อนไหว แต่ผมเชื่อว่าคนๆเดียวกันนี้แหละที่พร้อมจะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องผมจากภยันตราย ที่สำคัญไม่ว่าบาสจะดูเป็นคนอ่อนแอแค่ไหนแต่หัวใจของเขาก็แข็งแกร่งเหลือเกิน
ผมไม่รู้ว่าหัวจิตหัวใจของบาสทำด้วยอะไร แต่การที่เขาเอาตัวรอดจากความบอบช้ำที่ถูกความรักกระทำมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่เคยสั่นคลอนความรักที่มีต่อผมเลยนั้น มันทำให้ผมอดนับถือหัวใจของชายนี้ไม่ได้
เป็นครั้งแรกที่ผมแอบหวังลึกๆว่า เส้นทางรักของผมกับบาสคงจะไม่ได้จบลงแบบเดียวกับที่ผมกับทีมเคยเจอมาแล้ว
ในขณะที่ผมกำลังนั่งใช้ความคิดอย่างเป็นห่วงถึงอนาคตของผมกับบาสอยู่นั้นเอง ในชั่วขณะหนึ่งผมก็เหลือบไปเห็นบันทึกที่ผมเอามาวางไว้บนโต๊ะเพื่อคืนให้บาสตั้งแต่เมื่อเช้า
แม้ตอนแรกผมเคยคิดว่าผมจะไม่อ่านบันทึกของบาสอีก แต่เมื่อเห็นมันวางอยู่ตรงหน้าผมก็อดหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านไม่ได้
---------------------------------------------
7 กรกฎาคม 2540
หลังจากที่ผมรู้แล้วว่าผมได้เสียบีให้ไอ้ทีมมันไปแล้ว ผมก็ได้แต่เก็บความข่มขื่นนี้ไว้ในใจเพราะผมรู้ดีว่ายังไงผมก็ไม่มีวันแย่งบีมาจากไอ้ทีมมันได้
ผมไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาระดับนายแบบอย่างไอ้ทีม
เรื่องการเรียน ผมก็ไม่เคยเรียนได้เกรดดีกว่ามัน
ยิ่งเรื่องกีฬา ยิ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยถนัด
แล้วจะมีคนโง่ที่ไหน ที่จะยอมทิ้งผู้ชายเพอร์เฟกต์อย่างไอ้ทีมมารักคนธรรมดาที่ไม่มีอะไรดีเลยอย่างผม
ในตอนแรก....ผมเคยคิดว่าผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างไอ้ทีม มันคงไม่ได้มารักชอบบีอย่างจริงจัง
แต่ยิ่งได้อยู่กับมันนานเข้า ผมถึงได้รู้ว่า...ผมคิดผิด
ไอ้ทีมมันจริงจังในรักครั้งนี้ของมันมากกว่าอะไรทั้งหมด
ผมไม่เคยเห็นมันจะเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องอะไร ถึงขั้นจะเป็นจะตายเหมือนกับเรื่องของบี
จริงๆแล้ว ทุกลมหายใจเข้าออกของมันแทบจะมีแต่.... “บี” ......ด้วยซ้ำ
ความจริงนี้ทำให้ผมต้องทำใจยอมรับในที่สุดว่าผมคงเป็นได้แค่ “เงา” ของไอ้ทีมมันเท่านั้น
ผมได้แค่แอบมอง แอบเป็นห่วงบีอยู่ไกลๆ โดยให้ไอ้ทีมมันช่วยดูแลบีแทนในสิ่งที่ผมไม่มีวันจะทำได้
ในที่สุดผมก็ได้เรียนรู้ว่าบางครั้ง การได้เห็นคนที่เรารัก ได้ยิ้ม ได้หัวเราะอย่างมีความสุขในทุกๆวัน เพียงแค่นั้น มันก็ทำให้ผมมีความสุขมากเหลือเกินแล้ว
ผมยินดีที่จะเป็นแค่นี้ เป็นแค่.... “เงา”......ที่เฝ้ามองบีอยู่ด้านหลังไอ้ทีม
ผมยินดีที่จะมีความรักแบบนี้ ........ “ความรักที่ไม่ต้องการครอบครองหรือเป็นเจ้าของ”
อย่างน้อยการที่คนรักของบีคือไอ้ทีม มันก็ทำให้ผมรู้เรื่องราวของบีมากมายจากสิ่งที่ไอ้ทีมมันชอบนำมาเล่าให้ผมฟังไม่เคยขาด
ผมรู้ว่าบีมีนิสัยขี้งอน เอาแต่ใจตัวเอง เก็บความรู้สึกเก่ง แล้วก็ฉลาดเป็นกรด
ผมรู้ว่าบีไม่ชอบคนโกหก แต่บีเองนั่นแหละที่โกหกเก่งและทำได้แนบเนียนที่สุด
ผมรู้ว่าบีชอบกินข้าวแกงกะหรี่ ชอบทุเรียน ชอบชานม แล้วก็ชอบกินไอศกรีมรสวนิลา
ผมรู้ว่าบีเป็นคนที่ต้องสระผมทุกวัน อาบน้ำนาน และเกลียดการทาแป้งฝุ่น
ผมรู้ด้วยว่าบีเป็นคนติดหมอนข้าง ถ้าหากวันไหนไม่มีหมอนข้างบีก็จะนอนไม่หลับ
ผมพยายามจดจำทุกรายละเอียดเกี่ยวกับบีที่ไอ้ทีมนำมาเล่าให้มากที่สุด จนต่อมาผมก็มาได้ข้อมูลสำคัญที่ทำให้ผมเกิดความหวัง
เป็นความหวังที่ผมจะได้อยู่ใกล้ชิดกับบีโดยไม่ต้องมีไอ้ทีมอยู่คั่นกลาง เมื่อไอ้ทีมมาบอกว่าบีมาขอไปสมัครเข้าชมรมดนตรีสากล และมันก็ได้อนุญาตไปแล้ว
หลังจากทราบข่าวนี้ ผมก็แอบไปสมัครเข้าชมรมเดียวกับบีโดยไม่ได้บอกให้ใครรู้ จนกระทั่งผมได้มาเจอบีในวันแรกที่ทางชมรมนัดสมาชิกใหม่ให้มาเข้าค่ายร่วมกัน
ผมตั้งความหวังว่า....ระหว่างที่อยู่ในชมรมนี้ ผมคงจะได้มีตัว มีตน ขึ้นมาในสายตาของบีบ้าง
แต่แล้วความหวังทั้งหมดของผมก็ต้องพังทลายลงเมื่อผมได้ยินรุ่นพี่ประกาศชื่อสมาชิกใหม่ที่ไม่ยอมมาตามนัด ซึ่งชื่อนั้นคือชื่อของ.....ไอ้ทีม
ทั้งผมและบีต่างยืนตกตะลึงไม่แพ้กัน เพราะเราทั้งคู่ต่างรู้ดีพอๆกันว่าสำหรับไอ้ทีมแล้ว คำว่า “ฟุตบอล” นั้น สำคัญสำหรับมันแค่ไหน
แต่วันนี้....มันก็ชัดเจนแล้วว่าเมื่อไอ้ทีมต้องเลือกระหว่างสิ่งที่มันรัก 2 สิ่ง ในที่สุดมันก็ได้ตัดสินใจเลือก....บี
ผมรับรู้ความจริงนี้ด้วยหัวใจที่ปวดร้าว แล้วก็ได้แต่บอกตัวเองว่า...ตราบเท่าที่ไอ้ทีมมันยังรักบีมากขนาดนี้ ผมคงไม่มีวันที่จะมีตัวตนขึ้นมาได้
ในที่สุดแล้ว....ผมก็คงเป็นได้แค่... “เงา”....ของไอ้ทีมตราบจนวันตาย
-----------------------------------------------