Gone on แหะๆ ไปเรื่อยๆครับ
Tantalum อยากให้ใครเป็นพระเอกหล่ะครับ เอิ้กๆ
{{DoraemoN}} น่านแอบนอกจายทีม
kirati69 คงต้องโพสไปถ้าผมเห็นคนอ่านหลักๆ อ่านครบแล้วนะครับ เวปนี้อ่านกันเร็วด้วยสิ แต่คงได้บรรยากาศไปอีกแบบนะครับ
เพราะนักอ่านที่นี่ผมเห็นก็มีหลายคนที่ใส่ใจทุกรายละเอียดเลย แล้วก็มีความเห็นที่ผมอ่านแล้วใจกระตุกตามอยู่หลายครั้ง หวังว่าคงชอบนะครับ
FlukeHub อิอิ ปอนด์หรือ
![หึหึ :kikkik:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/kikkik.gif)
(ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว) ต้องติดตามต่อไปครับ
Aki_Kaze ใจเย็นๆนะครับ คงจะปริ่มๆกันหล่ะตอนนี้
shell ไม่นานหรอกนะครับ เป็นไงครับ ถ้าจำรายละเอียดภาคแรกได้จะอ่านภาคสองได้โดยไม่ต้องกลับไปอ่านภาคแรก
นึกภาพเก่าๆไว้นะครับ แล้วท่านจะไม่รู้ลืม
หมูพูห์ เคยเจออีกหล่ะ อิอิ เล่าให้ฟังมั่งดิ
][GobGab][ เคยแอบรักใครไหมครับ ได้ข่าวว่าเยอะนี่ คิกคิก
แก้ไข อิอิ ลงผิดแหะๆเพราะชื่อมันซ้ำกัน สับสน
******************************************************************************
กุมภาพันธ์ ของปีเตอร์ คอป
[wma=300,50]http://f1.podcast.blog.webs-tv.net/upload2/new/e/e/a/eead8016b7c106b9153ec8acc1bbecfb.mp3[/wma]
**********************************************************************************
.............ขอให้รักเรานั้น....นิรันดร ภาค 2….....( 3 )
ความรักของผมเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งในชีวิต
รักครั้งแรกของผมมาเร็วเกินไป….แต่รักครั้งสุดท้าย กลับมาสายเกินกว่าผมจะรู้ตัว
--------------------------------
ยิ่งได้อ่านบันทึกของบาส ยิ่งทำให้ความรู้สึกของผมเต็มไปด้วยความสับสนปนไปด้วยความสงสาร
ถ้าเป็นจริงอย่างที่บาสเล่า เขาทนเก็บงำความลับนี้ไว้ในใจได้ยังไงมาตลอดระยะเวลาตั้งหลายปี
ถ้าบาสรักผมจริง เขาจะไม่รู้สึกรู้สาเลยหรือเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรักกลายไปเป็นของคนอื่น โดยเฉพาะเมื่อผู้ชายคนนั้นคือเพื่อนสนิทของเขาเอง
ในระยะเวลาหลายปีที่ผมคบหาเป็นแฟนกับทีม ผมกล้าพูดได้เลยว่าบาสคือคนที่รู้เห็นเรื่องราวความรักของผมกับทีมมากที่สุด
บาสคือเพื่อนคนแรกและคนเดียวที่ทีมยอมสารภาพไปตรงๆว่าเขาชอบผู้ชายด้วยกันซึ่งก็คือผม และนับตั้งแต่นั้นมา ทีมจึงกล้าแสดงความรักกับผมด้วยการพูดคำหวาน จับมือ โอบกอด หรือแม้กระทั้งจูบผมต่อหน้าบาสโดยไม่ขัดเขิน
บาสทนเห็นภาพเหล่านี้ได้อย่างไรในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
แล้วทำไมเขาถึงต้องพยายามหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้ผมกับทีมกลับมาคืนดีกันในเวลาที่เรามีปัญหา
ยิ่งคิด ผมก็ยิ่งไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้มากขึ้นทุกที จนผมอดคิดไม่ได้ว่าผมชักจะเริ่มรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับบาสไม่ไหวแล้ว ผมจึงตัดสินใจว่าในวันพรุ่งนี้ผมจะต้องคุยกับบาสให้รู้เรื่อง
ดังนั้นในวันต่อมาผมจึงรีบตื่นเช้าเป็นพิเศษ แล้วก็เข้าครัวไปทำข้าวต้มเตรียมเป็นอาหารเช้าให้บาส จนเมื่อเขาตื่นขึ้นมาและเห็นผมเตรียมอาหารเช้าไว้บนโต๊ะเสร็จสรรพ เขาจึงถึงกับเอ่ยปากแซวออกมาว่า
“อย่างนี้สิ ถึงจะสมกับเป็นลูกจ้างหน่อย รู้จักตื่นก่อนเจ้านาย”
“บีบอกแล้วไง ว่าบีไม่ใช่ลูกจ้างของบาส”
“โอเค โอเค ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ จะเรียกว่าอะไรมันก็ไม่ต่างกันหรอก”
“นี่อย่ามากวนประสาทบีแต่เช้านะ”
“จ้า จ๊ะ ไม่กวนแล้ว”
บาสพูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข แล้วก็เริ่มตักข้าวต้มใส่ปาก
“อื้มมมม นี่บีทำเองเหรอ”
“ใช่สิ ใครจะมาทำให้ล่ะ” ผมตอบออกไปด้วยน้ำเสียงกวนๆ
“อร่อยมากเลย อืม ทำกับข้าวก็อร่อย บ้านช่องห้องหับก็ดูแลไม่มีที่ติ แถมยังเอาอกเอาใจเป็นเลิศ ทำไงน๊าถึงจะได้เมียดีๆแบบนี้สักคน”
“บาส.......”
“บาสแค่ล้อบีเล่นน่า อย่าคิดมาก”
“ปล่าว...บีไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้...คือบี...บีอยากจะพูดกับบาสเรื่อง...เรื่องบันทึกนั่นน่ะ”
ผมตัดสินใจพูดออกไปอย่างตะกุกตะกัก
“เอาอีกแล้ว” บาสพูดออกมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย
“ก็บีอยากคุยกับบาสให้เคลียนี่ เล่ามาให้หมดไม่ได้เหรอ ทำไมต้องให้บีอ่านอยู่ได้ทีละแผ่นๆ ไม่รู้ล่ะ บีไม่รักสง รักษาแล้ว ไอ้สัญญาอะไรบ้าๆ นั่น มันทรมานนะ อกบีจะแตกตายอยู่แล้ว”
“แล้วบีคิดว่าบาสไม่ทรมานเหรอ?”
คำพูดและสีหน้าที่เต็มไปด้วยความขมขื่นของบาสทำให้ผมถึงกับหยุดนิ่งและหันไปมองเขาด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าบาสเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้าแล้วก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
“ถ้าบีอยากอ่าน ก็ได้ เดี๋ยวบาสจะไปหยิบมาให้บีอ่านทั้งเล่มเลย ไม่ว่าบีอยากได้อะไร อยากทำอะไร เพียงแค่บีพูดออกมา บาสก็ไม่มีวันขัดใจบีได้หรอก แล้วไอ้สัญญาอะไรนั่นน่ะ มันก็คงไม่ได้มีค่า มีความหมายอะไร คนอย่างบาส มันไม่ควรค่าให้ใครต้องมารักษาสัญญาอะไรอยู่แล้ว รอแป๊บนะ ”
พูดจบ บาสก็ปลดล้อคล้อรถเข็นเพื่อจะเข็นรถถอยหลังออกไป แต่ผมได้ร้องเรียกเขาเอาไว้
“เดี๋ยวบาส....บีขอโทษ บีแค่.....”
“ไม่เป็นไรหรอก บาสเข้าใจ เดี๋ยวบาสไปหยิบมาให้”
“ไม่ต้องหรอก บีไม่อยากอ่านแล้ว”
ผมพูดออกมาด้วยความรู้สึกสำนึกผิดต่อการกระทำที่ไม่ยี่หระต่อคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับบาสซึ่งนั่นคงทำให้เขาทั้งเสียใจและน้อยใจมาก
“บีค่อยๆ อ่านก็ได้ อ่านทีละหน้าแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ เหมือนอ่านนิยายไง จะได้ติดตามไปทีละตอนๆ บีว่าสนุกดีออกเหมือนกันนะ”
ผมพยายามทำเป็นกลบเกลื่อนด้วยการพูดติดตลกก่อนจะพูดต่อว่า
“สัญญาที่บีให้กับบาส มันมีค่า มีความหมายสำหรับบีมากนะ ไม่ว่าบาสจะเชื่อหรือไม่ แต่บีจะไม่มีวันผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับบาสอีก.........แล้วก็....”
เมื่อเห็นผมพูดค้างไว้แค่นั้น บาสก็หันมามองผมอย่างตั้งใจฟัง ในขณะที่ผมก็ได้แต่รวบรวมความกล้าเพื่อพูดประโยคต่อมาอย่างเขินๆ
“บีอยากให้บาสรู้ว่า...ผู้ชายอย่างบาสนี่ล่ะที่คู่ควรที่บีจะรักษาทุกคำสัญญาไว้ยิ่งชีวิต”
คำพูดของผมทำให้บาสถึงกับนั่งนิ่งจ้องมองผมด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักอย่างท่วมท้น จนผมต้องเป็นฝ่ายตัดบทออกมาอีกครั้ง
“ทานต่อเถอะบาส ไหนว่าอร่อยไงล่ะ ถ้าอร่อยก็ต้องทานให้หมดนะ บีทำไว้ตั้งเยอะแน่ะ”
“แล้วบีล่ะ บีไม่ทานด้วยกันเหรอ”
บาสถามผมออกมาเบาๆ
“จริงสิ ลืมตักให้ตัวเองไปเลย”
พูดจบผมก็เดินไปหยิบชามแล้วไปตักข้าวต้มมานั่งทานด้วยกันกับบาส โดยในช่วงเวลาที่เรากำลังทานข้าวต้มด้วยกันนั้นผมก็สังเกตเห็นบาสยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุขอยู่ตลอดเวลา แล้วเขาก็เปรยออกมาเบาๆว่า
“แน่ใจนะว่าไม่อยากอ่านแล้ว”
“บีบอกว่าไม่ ก็ไม่สิ”
ผมตอบไปอย่างงอนๆ เหมือนเด็กที่ขออะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจ
“แล้วทำไมต้องทำหน้างอนอย่างนั้นด้วยล่ะ”
“เปล่านี่ บีไม่ได้งอนสักหน่อย”
“แน่ใจเหรอ ?”
“ก็บีบอกแล้วไงว่าไม่ได้งอน เซ้าซี้อยู่ได้ อยากให้บีงอนหรือไง”
“อืม ก็ดีนะ รู้ตัวมั้ยเวลาบีทำหน้างอนน่ะ น่ารักดี”
“บ้า......”
ผมตอบไปอย่างเขินๆขณะที่รู้สึกว่าเลือดลมได้สูบฉีดขึ้นมาจนเต็มทั้ง 2 แก้ม
“ยิ่งเวลาอาย ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่เลย”
เมื่อเห็นผมหน้าแดง บาสก็ยิ่งล้อผมไม่ยอมหยุด
“เลิกล้อบีได้แล้ว ไม่งั้นบีไม่กินข้าวด้วยแล้วนะ”
ผมพยายามห้ามให้บาสหยุดเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเขินจนเก็บอาการไม่อยู่มากขึ้นทุกที
“โอเค โอเค ไม่ล้อแล้วก็ได้ ....อืม ถ้าวันหน้าบาสได้มีโอกาสมีครอบครัวกับเขาบ้าง บาสจะมีครอบครัวที่มีความสุขอย่างนี้มั้ยนะ”
หลังบาสพูดจบผมก็ได้ตัดสินใจเงยหน้าขึ้นจ้องมองผู้ชายที่รักผมอย่างเต็มเปี่ยมคนนี้ด้วยความตั้งอกตั้งใจ จนผมรู้สึกได้ว่า....
....ผมไม่เคยมองผู้ชายคนนี้อย่างเต็มตาแบบนี้มาก่อน
“มองบาสทำไมน่ะ”
บาสพูดออกมาด้วยความเขินบ้างที่เห็นผมเอาแต่จ้องมองเขาไม่วางตา
“ปล่าว ไม่มีอะไรหรอก บีแค่คิดว่าบาสหน้าตาแบบนี้เองเหรอ บีคงไม่เคยได้มองบาสชัดๆ แบบนี้มาก่อน”
“งั้นเหรอ......บีเพิ่งรู้ตัวเหรอว่าตั้งแต่รู้จักกันมา.....บีไม่เคยหันมามองบาสเลย !!!!”
หลังบาสพูดจบผมก็ได้แต่นิ่งเงียบโดยไม่รู้จะพูดอะไรออกมา แล้วก็ตัดสินใจชวนบาสเปลี่ยนไปคุยเรื่องราวสัพเพเหระ จนเราทั้งคู่ทานอาหารเช้าเสร็จ ผมก็จัดแจงให้บาสได้ทานยาแล้วก็พาเขาไปออกกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาลตามที่หมอนัดไว้ และเมื่อกลับมาถึงบ้านในช่วงบ่ายๆ ผมก็พาเขาเข้าไปนอนพักในห้องเพราะในระยะฟื้นตัวเช่นนี้บาสต้องการการพักผ่อนมากกว่าคนปกติ ส่วนผมก็ไปจัดการทำความสะอาดบ้านที่เริ่มจะมีฝุ่นเกาะบ้างแล้วจนตกเย็น ผมก็ปลุกบาสมาทานอาหารเย็นด้วยกัน จากนั้นเราก็อยู่ดูทีวีด้วยกันอีกสักพักก่อนจะแยกย้ายกันเข้านอน ซึ่งก่อนที่บาสจะหลับเขาก็ไม่ลืมที่จะมอบบันทึกอีกฉบับมาให้ผมอ่านเหมือนเช่นเคย
----------------------------
9 กรกฎาคม 2539
นี่ก็เกือบ 2 เดือนแล้วที่ผมได้แต่เฝ้ามองบีอยู่เงียบๆ โดยไม่เคยคิดปริปากบอกใคร
คงจะมีเพียงแม่ของผมคนเดียวที่พอจะรู้ว่าผมชื่นชมเพื่อนคนนี้มากแค่ไหน
ตั้งแต่เข้าเรียน ม. 1 ผมมักจะนำเรื่องของบีไปเล่าให้แม่ฟังอยู่เสมอ จนท่านถึงกับเอ่ยปากเปรยว่าอยากให้ผมชวนเพื่อนคนนี้มาเที่ยวที่บ้านบ้าง เพราะท่านอยากจะเห็นตัวจริงของบีเสียเหรอเกิน
ในตอนนั้นถึงแม้ผมอยากจะทำในสิ่งที่แม่ขอมากเพียงไร แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้
เพราะเกือบ 2 เดือนตั้งแต่รู้จักกับ บีมา เขายังไม่เคยพูดกับผมเลยสักครั้ง
วิธีที่ผมใช้ในการหาเพื่อนด้วยการพูดเรื่องลามก อาจจะทำให้ผมได้เพื่อนผู้ชายมากมายในห้อง แต่นิสัยและกิตติศัพท์ในด้านนี้ของผมกลับทำให้บีถอยห่างออกจากผมมากขึ้นไปทุกที
ดังนั้นในวันนี้เมื่อผมเห็นบีมาดูการฝึกซ้อมเพื่อคัดตัวเป็นฟุตบอลของไอ้ทีมซึ่งตอนนี้ถือเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมแล้ว ผมก็ตั้งใจว่าจะแสดงความสามารถให้เต็มที่เพื่อให้บีหันมาชื่นชมผมบ้าง
แต่ทุกครั้งที่ผมแอบหันไปมองบี เขาก็ไม่เคยชายตามาที่ผมสักครั้งจนกระทั่งผมเห็นบีกำลังจะลุกออกไปเพื่อกลับบ้าน
ในตอนนั้นเองที่ผมตัดสินใจเตะฟุตบอลไปให้โดนตัวบี จนเมื่อเขาหันมามอง ผมจึงตัดสินใจพูดออกไปโดยเรียกบีด้วยคำว่า “น้องสาว” ซึ่งเป็นคำที่ผมคิดว่าบีน่าจะชอบ
แต่ผลลับมันกลับตรงกันข้าม บีหันมาพูดกับผมด้วยสีหน้าโกรธๆ ก่อนจะเดินออกไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
แม้ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมทำ มันจะผิดพลาด แต่อย่างน้อยผมก็ยังดีใจที่ในที่สุด.....บีก็ได้หันมาพูดกับผมแล้ว
เพราะทั้งหมดที่ผมทำไปในวันนี้ โดยเฉพาะการตั้งใจแตะฟุตบอลไปให้โดนตัวบีนั้นก็เพียงเพื่อให้มีเพียงสักครั้ง
........ที่บีจะหันมามองผมบ้าง..........
----------------------------------------------