{{เรื่องสั้น}} อย่าลืมกรุงชิง , ตอนอวสาน (31-1-57)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{เรื่องสั้น}} อย่าลืมกรุงชิง , ตอนอวสาน (31-1-57)  (อ่าน 15998 ครั้ง)

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
......กลัวใจกลัวเธอนั้น
จะเปลี่ยนแปรผันและกลายเป็นอื่นไป
กลัวใจมันจะหายไปจากชีวิตของกันและกัน
กลัวว่าอาจมีใครบางคนจะเข้ามาแทนที่ฉัน
กลัวรักทางไกลทำเราไม่เป็นเหมือนเดิม....



ขณะที่อ่านเรื่องนี้นิวกำลังฟังเพลงนี้พอดีเลย
 
แต่ดูเหมือนว่านิวจะไใม่ได้กลัวรักทางไกลทำคนคู่นี้ไม่ร้างลา

กลัวแต่ใจคนเขียนอย่างพี่หนิงว่าจะสรรสร้างอุปสรรคมาให้คนคู่นี้อย่างไร


+1 ขอบคุณที่มาต่อตอนพิเศษและถือเป็นของขวัญปีใหม่ล่วงหน้าเลยนะครับ

รอตอนต่อไปครับ  :L2:

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ตอนพิเศษทำเอาน้ำตาคลอเบ้า


ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
อ่านตอนพิเศษแล้วอยากให้ทั้งสองคนมาอยู่ด้วยกันเร็วๆจังเลยค่ะ 

อ่านแล้วซึ่ง :mew6:

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
“ผม นาวาตรีวันชัย รายงานตัวครับ”
“นั่งก่อนสิ” นาวาเอกศุภนิตย์กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเรียบ

ภายในห้องทำงานของศูนย์บัญชาการนาวิกโยธินสัตหีบ หน้าต่างที่เปิดเอาไว้ปล่อยให้สายลมพัดโชยไกวผ้าม่านสีขาวโปร่งเบาให้พลิ้วไหวไปตามแรงลมจนได้ยินเสียงกระพือที่ประสานกับเสียงคลื่น วันชัยนั่งลงตามคำสั่ง หากแต่ก็ไม่ได้ปล่อยตามสบายเนื่องจากอยู่ต่อหน้าผู้บังคับบัญชา

“เราได้รับภารกิจใหม่จากทางกองบัญชาการทหารสูงสุด...”

เขากลั้นหายใจชั่วขณะหนึ่ง แม้ลึกๆเขาจะรู้แน่แก่ใจว่าการเรียกตัวเข้าพบเช่นนี้ย่อมมีความหมายอยู่ไม่กี่อย่าง แต่ถึงอย่างนั้น สงครามที่ดูเหมือนจะผุดขึ้นมาเรื่อยๆก็ทำให้หัวใจของเขาอ่อนล้า เขาเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ช้าๆพลางเม้มปากแน่น

 “ทางกองทัพภาคที่สี่ได้ประสานมาทางหน่วยนาวิกฯของเราเพื่อขอกำลังเสริมสำหรับจัดกองพันผสมในการปราบปรามกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่อ่าวกรุงชิง”

หัวใจเขาเหมือนกับจะหยุดเต้นเมื่อได้ทราบเป้าหมายของภารกิจนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่การเผยแผ่ลัทธิคอมมิวนิสต์กระจายตัวไปทุกหัวระแหงตามถิ่นกันดารต่างๆ หากแต่เขาไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าวันหนึ่ง กรุงชิงจะเป็นหนึ่งในนั้น

“ก...กรุงชิงหรือครับ”
“ถูกต้อง วันชัย ... ผมจำได้ด้วยว่าคุณเคยบอกว่า คุณเคยเข้าป่าไปเที่ยวที่นั่น” นาวาเอกกล่าวด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง
“เพราะอย่างนั้น ภารกิจนี้จึงต้องมีผมใช่ไหมครับ” วันชัยตอบพร้อมกลับกลืนน้ำลายอย่างลำบาก และผู้บังคับบัญชาตรงหน้าก็พยักหน้ารับ

“พวกคอมมิวนิสต์กลุ่มนี้วางแผนและจัดตั้งกองกำลังอย่างเป็นระบบมาก อีกทั้งภูมิประเทศที่ทุรกันดารยากแก่การเข้าถึง แม้แต่
การสำรวจทางอากาศก็ไม่สามารถมองเห็นวิสัยทัศน์ภายในป่ากรุงชิงได้เลย ทางกองทัพภาคสี่สูญเสียกำลังพลไปมากจากการปะทะกับพวกมัน จึงได้ขอกำลังเสริมจากทางหน่วยนาวิกโยธินที่ชำนาญการรบเป็นพิเศษ เพื่อทำการกวาดล้างพวกคอมมิวนิสต์แห่งกรุงชิงให้สิ้น ... พวกมันเรียกตัวเองว่า กองกำลังค้อนเคียว”

วันชัยรู้สึกอยากให้ทุกเรื่องที่เขารับรู้เป็นเพียงฝันร้าย และเขาอยากตื่นขึ้นมาเพื่อรับรู้ว่ามันเป็นเพียงความฝัน ตำแหน่งหน้าที่ทำให้เขาไม่สามารถปฏิเสธภารกิจครั้งนี้ได้หรือแม้แต่การปฏิเสธความเป็นจริง

“ทางหน่วยจะส่งคนไปสมทบกับทากองทัพภาคสี่เมื่อไหร่ครับ”
“อีกสามสัปดาห์ ผมขอฝากความหวังไว้กับคุณด้วยนะ วันชัย”

เขาพยักหน้ารับอย่างฝืนใจ
“ผมขออนุญาตลาไปทำธุระส่วนตัวบางอย่าง แล้วผมจะไปสมทบเอง ไม่ทราบว่า เราจะส่งคนไปร่วมกับกองทัพภาคสี่ที่ไหนครับ”
นาวาเอกศุภนิตย์มีสีหน้าชั่งใจ หากแต่เขาก็ยังรู้สึกเห็นใจผู้ใต้บังคับบัญชา จึงตกลงรับคำ
“กองพันทหารราบที่แปด สงขลา”
“รับทราบและขอบคุณมากครับ ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนนะครับ”

...

วันชัยหยุดยืนอยู่หน้าชายป่าด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ครั้งหนึ่งเขาเคยมีรอยยิ้มอย่างสดชื่น ณ ที่แห่งนี้และเฝ้าหวังที่จะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง หากแต่ในวันที่เขาได้มาเยือน กลับกลายเป็นวันที่เขาปวดใจเหลือเกิน เสียหวีดหวิวและสายลมที่ขับขานในป่าทึบประหนึ่งเสียงเรียกขานของหนานที่เขาฝันถึงทุกคืน แต่ความจริงที่เขายังคลางแคลงนั่นคือหนานน่ะหรือจะเป็นหนึ่งในขบวนการคอมมิวนิสต์ เขาแอบหวังว่าหนานอาจจะแปลกแยกจากคนในหมู่บ้านและออกมาจากกรุงชิง แต่ความหวังนั้นยิ่งเลือนลางเมื่อไร้วี่แววจดหมายส่งข่าวจากหนานและจดหมายหลายต่อหลายฉบับของเขาที่ส่งมายังไปรษณีย์นบพิตำก็เป็นหมันอยู่ในตู้ที่เขาเช่าไว้โดยที่หนานไม่เคยแม้แต่จะมาเปิดออกมาดู

“นี่พ่อหนุ่ม แน่ใจหรอว่าจะเข้าไปข้างใน เอ็งรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ข้างในนั้นเป็นเขตพื้นที่สีแดงแล้ว” คนขับรถสองแถวที่มาส่งวันชัยถามย้ำอีกครั้ง
“ผมทราบครับ ขอบคุณมากที่เป็นห่วง”

คนขับรถสองแถวถอนหายใจ ก่อนจะขับรถจากไป วันชัยจึงเดินเข้าไปตามเส้นทางที่เขาคุ้นเคย แม้จะผ่านมาปีกว่าแต่เส้นทางที่เขาเคยเดินจากมาสายนี้เขาไม่เคยลืม เขายังระลุกได้ถึงไออุ่นจากมือกร้านคล้ำของชายชาวป่าที่ฝากรักไว้ ภาพความอ่อนหวานใสซื่อของหนานยังชัดเจนจนเขานึกภาพไม่ออกว่าหนานซึ่งเป็นหนึ่งในชาวบ้านกรุงชิงจะกลายเป็นแนวร่วมคอมมิวนิสต์

เขาเดินทางมาถึงยอดเขาเหล็ก สถานที่ที่เขาพบเจอกับหนานครั้งแรก เสียงเรียกของหนานเหมือนแว่วดังมาจากที่ไหนสักแห่งแต่นั่นก็เป็นเพียงเสียงที่เขาหลอกตัวเอง เขาภาวนาขอให้ได้เจอหนานที่นี่หรืออย่างน้อยเขาก็อยากจะพบหนานในเขตชายป่า เพราะหากยิ่งเดินทางลึกเข้าไปในหมู่บ้านกรุงชิง แม้โอกาสพบหนานจะเพิ่มขึ้นแต่นั่นก็แลกมาด้วยโอกาสในการปะทะกับกองกำลังคอมมิวนิสต์หรือไม่ก็การเอาชีวิตไปทิ้ง เขาไม่ได้เสียดายชีวิตหากแต่จะมีสิ่งที่ทำให้เขาเสียใจ ก็คือก่อนตายเขายังไม่ได้พบกับคนรัก

วันชัยเดินไปตามเส้นทางที่เขากับหนานเคยท่องเที่ยวด้วยกันเมื่อหนึ่งปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นเขานัน หรือป่าประ ลูกยางที่ระบิดใบร่วงหล่นทำให้เขาเผลอร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว เขาบอกรักหนานที่นี่ หากไม่มีเรื่องภารกิจ เขาคงนึกถึงมันอย่างอิ่มเอม แต่ในความเป็นจริง ทุกอย่างล้วนเป็นความหลังอันแสนหวานบนความขมขื่น

เข้าวันที่สาม วันชัยเดินทางมาถึงเส้นทางที่จะเข้าไปถ้ำหงส์ ปากทางเข้าถ้ำยังคงแคบๆพอให้คนเข้าไปได้ แต่ความหลังที่ทิ้งไว้กลับยิ่งใหญ่มหาศาล เขาก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆอย่างไร้เรี่ยวแรงเพราะความหวังจะได้พบกับหนานดูเลือนราง ทว่า ... ก่อนที่เขาจะก้าวต่อไป ก็มีเสียงหนึ่งร้องทักไว้

“ถ้าไม่อยากขาขาด อย่าเดินเข้าไปตรงนั้น”

“หนาน...” วันชัยพูดชื่อคนรักขึ้นมาในทันทีที่เขาได้ยินเสียง เขาไม่มีวันลืมเสียงที่เขาเฝ้ารอคอยอยากได้ยินอีกครั้ง เขาหันซ้ายหันขวาเพื่อหาที่มาของเสียงแต่ยังไม่เห็นว่าคนรักของเขาซ่อนอยู่ตรงไหน
“หนาน คุณอยู่ที่ไหน”
“นี่เอ็งทำอะไรวะ ... ไอ้หน้าจืดนั่นมันกำลังจะถึงฆาตอยู่แล้ว”
“ขอแค่ครั้งนี้เถอะ มันเคยมีบุญคุณกับข้า” เสียงหนานพูดเบาๆอยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งวันชัยยังหาเขาไม่พบ
“หนาน ... คุณอยู่ที่ไหน!”

วันชัยยังคงร้องเรียก เจ้าของชื่อปีนลงมาจากต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลนักพร้อมกับชายอีกคนหนึ่งที่โพกผ้าปิดหน้าเช่นเดียวกัน เขาทำมือให้คนที่มาด้วยเดินออกไปก่อน ก่อนที่หนานจะเดินเข้าไปหาวันชัย

“คุณไม่ควรมาที่นี่”

หนานเปิดหน้าออก ผิวหน้านั้นดูกร้านคล้ำขึ้น อีกทั้งยังมีไรหนวดเขียวขึ้นเต็มใบหน้า ที่หลังสะพายอาวุธสงคราม แม้หน้าตาและการแต่งกายของหนานจะเปลี่ยนไปพอสมควร หากแต่วันชัยก็ไม่ได้สนใจ เขาคว้าหนานไปกอดแน่น

“ทำไมคุณพูดแบบนั้น ผมไม่มีวันลืมคุณ ลืมกรุงชิงที่ที่คนรักของผมอยู่”
“ที่นี่เปลี่ยนไปแล้ว คุณวันชัย”
“ผมพอรู้ แล้วคุณล่ะ เปลี่ยนไปหรือเปล่า”

หนานนิ่งเงียบในอ้อมกอดของวันชัย ก่อนที่เขาจะค่อยๆดึงตัวเองออกมา สีหน้าของเขาเรียบเฉยและพยายามหลบสายตาค้นหาคำตอบของวันชัย

“พวกเราแค่ต้องการเป็นเจ้าของดินแดนของบรรพบุรุษ”
“ใคร ... ใครกันที่มันเอาลัทธิคอมมิวนิสต์มาเผยแพร่ให้พวกคุณ ไอ้พวกนอกรีตพวกนั้น คุณรู้ไหมว่ามันไม่ได้หวังดีกับพวกคุณหรอกนะ สำหรับผม ในฐานะทหารของพระราชา พวกคุณอยู่ในแผ่นดินไทย พวกคุณคือคนไทยที่ผมต้องดูแล”

“มันไม่สำคัญว่าใครจะมาเผยแพร่ลัทธิอะไรทั้งนั้น และพวกเราก็ไม่รู้จักพระราชาอะไรนั่น พวกเราแค่ต้องการเรียกร้องสิทธิความเป็นคน สิทธิความเป็นเจ้าของดินแดน แล้วสิทธิความเป็นไทยที่คุณมอบให้พวกเรามันให้อะไรเราบ้าง เราจะต้องไปกราบกรานขอให้พวกข้าราชการมันช่วยเหลือเรา เราต้องอยู่กันลำบากยากแค้น พอเราจะช่วยเหลือตัวเองโดยไม่ขอพึ่งพวกคุณ คุณกลับมองว่าพวกเราเป็นกบฏ”

หนานพรั่งพรูความคับแค้นในอก ทำให้ต่างฝ่ายต่างนิ่งอย่างจนคำพูด
“แล้วคุณยังรักผมอยู่ไหม?”
“...” หนานไม่ยอมตอบ และยังคงหลบตา
“ถ้าคุณรักผม คุณออกไปจากที่นี่กับผมได้ไหม?”
“ไม่มีวันที่ผมจะทิ้งทุกคนที่นี่ไปไหน” หนานตอบแทบจะทันที วันชัยพยักหน้าช้าๆ เขาจึงบอกถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมาที่นี่
“คุณรู้ไหม ว่าตอนนี้ ทางกองทัพฯเขาเรียกหน่วยนาวิกโยธินที่ผมสังกัดอยู่ ให้มากวาดล้างกองกำลังค้อนเคียว...ของหมู่บ้านกรุงชิง”

หนานค่อยๆสบตาของวันชัย ดวงตาของทั้งคู่สื่อถึงความปวดร้าวที่เป็นเหมือนหนองในอก ความฝันที่จะได้ครองรักกันพังทลายลงตรงหน้า และเส้นทางข้างหน้าเป็นเหมือนเส้นตรงที่ตัดกันแล้วจะไม่มีวันได้พบกันอีก

“ผมควรจะฆ่าคุณทิ้งเสียตรงนี้เลยใช่ไหม” หนานบอกพร้อมกับกระชับปืนในท่าพร้อมยิ่งใส่วันชัย
“ถ้าเลือกได้ ผมก็อยากจะเลือกความตายให้ตัวเอง คุณจะรู้บ้างไหมหนานว่าผมปวดใจแค่ไหน บางทีตายไปซะยังจะดีกว่า และมันคงจะดีกว่าหากคนฆ่าผมจะเป็นคนที่ผมรัก”

“กลับไปซะ” หนานลดปืนลงและหันหลังให้
“ผมอยากให้คุณกลับไปกับผม ผมรักคุณนะหนาน” วันชัยยังคงอ้อนวอน
“ผมเสียใจ “
“แต่ผมปวดใจ ... “ วันชัยหลั่งน้ำตา น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ “หากย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะพาตัวคุณไปจากที่นี่เสียตั้งแต่วันนั้น คุณจะได้ไม่หันหลังและปฏิเสธผมเหมือนอย่างตอนนี้”

“ผมเสียใจครับ ... และหากผมย้อนเวลากลับไปได้ .. ผมขอที่จะย้อนเวลาไปเพื่อที่จะไม่ต้องได้รู้จักคุณดีกว่า ... ลาก่อน”
หนานเดินไปโดยไม่หันมามองวันชัยที่กำลังคุกเข่าร้องไห้อย่างไม่กลัวเสียเกียรติของชายชาติทหาร
“ผมจะยังเฝ้ารอวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกันได้อีกไหมหนาน”
หนานชะงักเท้า แต่เขาก็ไม่แม้แต่จะหันมา
“ไม่มีวันนั้นอีกแล้วล่ะ ครั้งหน้าที่เราพบกัน ... ก็คงไม่ใครคนใดคนหนึ่งที่ต้องตายในการสู้รบครั้งนี้”
 



 


สวัสดีปีใหม่ทุกคนครับ
พักหลังมาต่อแต่ละตอนช้าไปนิด แต่หวังว่าจะยังไม่ลืมกันนะครับ
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยครับ
ไม่เกินสองตอนก็น่าจะจบแล้ว


ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
อ๊ากกกก  สงสารวันชัย!!!  ทั้งทีรอวันที่จะได้มาเจอกันแต่มันกลับ....

อ๊ากกกกๆๆๆๆๆ  รับไม่ได้ๆๆๆ :sad4:  เอาฉากหวานๆคืนมาเถอะค่ะ  อย่าให้คนอ่านเสียน้ำตาตอนจบเลยนะคะ :hao5:

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
ไม่ต่างจากที่คิดไว้เท่าไหร่ พี่หนิงก็ยังคงเป็นพี่หนิง  :เฮ้อ:

นิวว่าพี่หนิงเป็นนักเขียนที่มีมุมมองความรักแบบ "รักคืออุปสรรคที่ต้องฝ่าฟันพายุลมแรงสารพัน"  :hao3:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:


ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
คงไม่มีใครคนใดต้องตายหรอกน่ะ
แค่คิดก็เศร้าจนน้ำตาตกแล้ว

จากคนรักกลายเป็นศัตรูมันปวดใจน่ะ

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
สวัสดีปีใหม่ค่ะ :L2:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
แง่ๆ ไม่น่ะ  :mew4: :mew4:

aekporamai2

  • บุคคลทั่วไป
สงสารหนานจัง... :m15: :monkeysad:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
โอ้....ไม่นะ พล็อตแบบนี้ ( กรีดร้องอย่างโหยหวน  :sad4: )
รักอยู่เต็มหัวใจแต่ต้องมาเป็นศัตรูกัน เพราะ หน้าที่ อุดมการณ์และความเชื่อ
แค่คิดว่าวันชัยกับหนานต้องมาเผชิญหน้าในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของกันและกันเยี่ยงนั้น
นี่มัน คือ ดราม่าทางชะตากรรมชนิดหนักหน่วงหาใดเปรียบ ถึงขั้นกระอักเลือดได้เลยนะ
งานนี้ประโยคที่ว่า "คุณมีเหตุผลของคุณ ผมมีหัวใจของผมก็พอ" ก็เอาไม่อยู่แล้ว  :m15:

ป.ล. คนอ่านยังจะสามารถฝันถึงตอนจบแบบ Happy Ending ได้อยู่ไหม?
หรือจะให้พี่ไปรอ วันชัยกับหนาน ที่ทางช้างเผือกเลยดี?  :o12:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ต้องรบกันเองหรอ ไม่น่ะ
ขอให้ผ่านไปด้วยดี

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1

ตอนจบ

ท่ามกลางสมรภูมิรบกรุงชิง การสู้รบเพื่อยึดคืนพื้นที่เขาเหล็กหรือที่กลุ่มคอมมิวนิสต์เรียกที่แห่งนี้ว่ากรุงชิงกินเวลายืดเยื้อกว่าหกเดือน นาวาโทวันชัยเป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวน การนำกำลังพลของเขาเป็นไปได้ด้วยดี หากแต่เหล่าลูกน้องในหน่วยกลับเรียกเขาว่าผู้กองใบ้ เพราะเขาแทบจะพูดจานับครั้งได้ มีเพียงการก้าวย่างเดินทางด้วยสีหน้าราบเรียบและการสั่งการเสมือนเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก หากแต่ทุกคนก็เชื่อใจเขา เพราะวันชัยรู้เส้นทางในกรุงชิงเหมือนกับเป็นคนท้องที่

การปะทะกันมีบ่อยครั้ง แต่วันชัยก็นำกองกำลังให้รอดปลอดภัยมาได้ทุกครั้ง หลังจากที่ได้กำลังเสริมจากหน่วยนาวิกโยธินที่นำโดยนาวาโทวันชัย ทางทหารก็ได้รับชัยชนะต่อเนื่องจนสามารถบุกยึดจุดยุทธศาสตร์สำคัญต่างๆของกลุ่มคอมมิวนิสต์ ไม่ว่าจะเป็นถ้ำเขานัน เนินประ หรือล่าสุดคือที่ถ้ำหงส์ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมเสบียงสำคัญของกลุ่มคอมมิวนิสต์ เหล่าทหารต่างมีขวัญกำลังใจจากชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะชัยชนะครั้งสุดท้ายด้วยความหวังว่าจะยึดคืนกรุงชิงสำเร็จเริ่มมีความเป็นไปได้ หากแต่สำหรับวันชัย การสู้รบครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้สึกกระหายชัยชนะหรืออยากให้การสู้รบนั้นจบลงโดยเร็ว เขาไม่รู้ว่า ที่ปลายทางแห่งความสำเร็จนั้น อาจต้องแลกมาด้วยหัวใจครึ่งหนึ่งของเขาที่ฝากไว้ที่กรุงชิงแห่งนี้

วันชัยหวนนึกถึงการสู้รบในสมรภูมิต่างๆที่ผ่านมา คนที่เขาเข่นฆ่าจะมีคนที่อยู่ข้างหลังไหมนะ เขาจะปวดใจแค่ไหนกับการสูญเสีย เพราะเพียงแค่เขาต้องต่อสู้กับความรู้สึกที่ว่าวันหนึ่งเขาอาจต้องฆ่าหนานด้วยน้ำมือของตัวเอง เขาก็รู้สึกอยากปลิดชีวิตของตัวเองก่อนที่จะถึงเวลานั้น หากแต่ด้วยหน้าที่ เขาต้องชนะในการสู้รบครั้งนี้เท่านั้น เขาครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความย้ำคิดย้ำทำให้เขานึกโทษเวรกรรมว่านี่อาจจะเป็นคำสาปแช่งของผู้ที่สูญเสียคนรักจากการเข่นฆ่าของเขา ทำให้วันนี้ เขาต้องยืนอยู่บนเส้นขนานของหัวใจและหน้าที่

....
๑๐ เมษายน ๒๕๒๐

“จุดยุทธศาสตร์ต่อไปที่เราต้องบุกยึด คือหมู่บ้านกรุงชิง ที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกองกำลังค้อนเคียว” หัวหน้ากองพันทหารกล่าวขึ้นระหว่างที่กำลังประชุมหัวหน้าหน่วยต่างๆ หลังจากที่บุกยึดฐานที่มั่นต่างๆของกองกำลังคอมมิวนิสต์จนต้องถอยร่นเข้าสู่ที่มั่นสุดท้ายนั่นคือหมู่บ้านกรุงชิง

“คะเนกำลังคร่าวๆ พวกมันน่าจะมีจำนวนคนราวๆสามร้อยกว่าคนได้ พวกเราต้องระวังให้มาก เพราะที่ผ่านมา พวกมันใช้วิธีการต่อสู้แบบกองโจรมาโดยตลอด จนเราเสียกำลังพลไปมาก แต่ต้องขอบคุณผู้กองวันชัย ที่ช่วยบอกเส้นทางการเดินป่าที่ป่าเขาเหล็กนี่”
วันชัยนึกโกรธทุกครั้งที่ได้ยินว่าคนอื่นเรียกที่นี่ว่าเขาเหล็ก เขาอยากตะโกนป่าวร้องว่าที่นี่คือกรุงชิง ไม่ใช่เขาเหล็กอย่างที่คนนอกเรียก

“ถึงจะมีถึงสามร้อยคน แต่นั่นคงจะนับรวมพวกชาวบ้าน เด็ก และผู้หญิงที่ไม่มีอาวุธ” วันชัยกล่าวแย้ง
“ถึงอย่างนั้น ทุกคนก็ไปเข้าร่วมกับพวกคอมมิวนิสต์” หัวหน้าหน่วยคนหนึ่งกล่าว

“ไม่ว่าอย่างไร เราก็ต้องยึดคืนเขาเหล็กให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกับแผ่นดินไทยให้ได้” หัวหน้ากองพันตัดบท “พวกมันไม่สามารถใช้ยุทธวิธีกองโจรแบบที่เคยใช้ได้อีกแล้วเพราะถูกพวกเราล้อมไว้ทั้งหมด เราจะบุกยึดหมู่บ้านกรุงชิงวันพรุ่งนี้ ขอให้ทุกคนโชคดีและมีชัยในการสู้รบครั้งนี้”

...

   วันชัยนึกอยากหลับตาแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยเมื่อรู้กำหนดวันเวลาที่เขาไม่อยากให้มาถึง เขานึกถึงสมัยที่เขายังเป็นนักเรียนนายสิบ ครูเคยสอนว่า การยุติสงครามนั้นสามารถทำได้ด้วยการเจรจา แต่ก็เป็นเรื่องที่เป็นอุดมคติ เขานึกอยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยการเจรจาเพื่อทุกคนจะได้ไม่สูญเสีย หากแต่ทุกวันนี้ การยุติสงครามด้วยการเจรจานั้นแทบไม่เห็นความเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปฏิบัติการกรุงชิงครั้งนี้

   อากาศยามค่ำคืนหนาวเหน็บ วันชัยนั่งเหม่อลอยอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่พร้อมกับความรู้สึกหนาวจนเจ็บขั้วปอดร้าวไปถึงหัวใจ เขาคิดถึงหนาน หากได้พบหนานอีกครั้ง เขาจะทำทุกวิถีทางแม้ว่าจะต้องใช้กำลังพาหนานไปให้พ้นจากที่นี่ ไม่ว่าหนานจะยินยอมหรือไม่ เขาไม่สนใจว่าหนานจะหมดรักเขาแล้วหรือยัง เพราะเขายังรักหนานไม่เสื่อมคลาย ดังนั้นขอเพียงแค่เขาไม่สูญเสียหนานไปหรือเพียงแค่ให้เขายังมีชีวิตอยู่บนโลก เขาไม่ได้หวาดกลัวความตายที่สงครามอาจจะหยิบยื่นให้เขา หากแต่เมื่อเขาตาย ไม่มีอะไรรับประกันว่าหนานเองจะปลอดภัย หรือถึงอย่างนั้น เวลาที่นับถอยหลังเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาอาจจะต้องสูญเสียไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เขาจึงคิดวุ่นวนเหมือนพายเรือวนในอ่างอย่างหาทางออกไม่เจอ

   “บึ้ม!!!”

   เสียงระเบิดดังสนั่น กลิ่นดินปืนอบอวลไปทั่วผืนป่ากรุงชิง ตามมาด้วยเสียงห่ากระสุนที่สาดเข้าใส่ฐานที่มั่นฝั่งทหาร แสงไฟสีส้มนับสิบสาดเข้ามาเป็นการนำวิถีช่วยหาเป้าหมาย ฝ่ายทหารที่ถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวบ้างก็ล้มตาย ที่รอดต่างพากันหาที่กำบัง ทางทหารคาดผิดว่ากลุ่มคอมมิวนิสต์จะไม่สามารถย้อนกลับมาซุ่มโจมตีแบบกองโจรได้อีกด้วยความประมาทเห็นว่าล้อมหมู่บ้านกรุงชิงได้แล้ว จึงพลาดท่าเสียที

   วันชัยคว้าปืนมาประทับยิง จากมุมสูงที่เขาอยู่ทำให้เห็นลำแสงวิถีของไฟฉายและแสงจากรังเพลิงที่ประทุรัวราวกับจุดตับประทัดกลางป่า เขาจึงยิงไปที่บริเวณนั้น ทำให้ฝ่ายคอมมิวนิสต์เป็นฝ่ายเสียทีบ้าง

   การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ฝ่ายทหารที่เริ่มจะตั้งตัวได้เริ่มตอบโต้ เสียงปืนกลของสองฝ่ายรัวใส่กันราวกับเสียงมัจจุราชที่แผลงฤทธิ์ วันชัยจำเป็นต้องลงมาจากกิ่งไม้เนื่องจากฝั่งคอมมิวนิสต์รู้แล้วว่าเขาอยู่ตรงนั้น อีกทั้งกระสุนสำรองชุดสุดท้ายก็หมดลง เขาพยายามวิ่งหาที่กำบังเพื่อกลับไปที่บังเกอร์ ทว่า...

   “ตูม!!”

   เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง แรงระเบิดทำให้เขาชะงัก ทว่าในช่วงที่เขาเสียจังหวะนั้น ทำให้เขาพลาดท่าเสียทีรับเอากระสุนจากฝ่ายข้าศึกไปหลายลูก  เลือดแดงฉานไหลออกมาจากแผลฉกรรจ์ ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้นด้านหลังของวันชัย เขาใช้มือข้างหนึ่งยันต้นไม้พยุงกายเอาไว้

   แสงไฟจากแรงระเบิดนั้นวาบขึ้นชั่วหนึ่ง ต่อมาไม่นาน แสงไฟจากไฟฉายกระบอกหนึ่งก็ฉาบทับใบหน้าของวันชัย แรงระเบิดทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นบริเวณนั้น แสงจากเปลวไฟทำให้ความหวังที่เขาเฝ้ารอคอยเป็นจริงในนาทีที่มัจจุราชอาจจะพรากชีวิตของเขาไปได้

   “วันชัย!!!”

   เสียงของหนานดังขึ้นท่ามกลางเสียงอื้ออึงของการต่อสู้ เขาได้พบแล้ว คนที่เขารอคอย ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงไฟจากเปลวเพลิง แต่แววตาคู่นั้นชัดเจน สติเขาเริ่มเลือนราง เขาไม่สนใจแล้วว่าปฏิบัติการเขาเหล็กจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ในเวลาที่ลมหายใจรวยริน เขาเพียงต้องการอยากพบหนาน ... แค่อีกสักครั้ง

   “หนาน...”

   วันชัยเรียกชื่อคนรักอย่างแผ่วเบา ร่างกายเขาผ่อนคลายลง ในชั่วขณะแรกที่เขาถูกยิง เขารู้สึกต้องการแพทย์สนาม หากแต่เวลานี้ เขาไม่ได้สนใจว่าร่างกายจะบาดเจ็บเพียงไหน เพราะหัวใจที่บอบช้ำของเขาได้รับการเยียวยาแล้ว

   “ผมรักคุณนะ หนาน”

...

   วันชัยลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเจ็บปวดที่ชายโครง กลิ่นโรงพยาบาลฉุนเตะจมูกจนเขาต้องย่นจมูก เมื่อกลอกตามองรอบตัว มีคนบาดเจ็บนอนเรียงรายอยู่ตามเตียงต่างๆ เมื่อได้รับรู้ว่าตัวเองรอดตาย สติสัมปชัญญะก็ส่งผลให้เขาเริ่มลำดับเหตุการณ์ และภาพสุดท้ายที่เขานึกออก นั่นคือภาพของหนานที่สะท้อนขึ้นในความมืดจากเงาของเปลวไฟในสมรภูมิ

   เมื่อจิตระลึกได้ เขาจึงพยายามยันตัวขึ้นโดยไม่สนใจอาการเจ็บปวด
   “ผู้กอง อย่าเพิ่งหุนหันลุกขึ้นอย่างนั้นสิ”
   “ผู้พัน..” วันชัยยกมือไหว้ แต่สายตาของเขายังพยายามมองหาหนาน
   “พวกเราทำสำเร็จแล้ว พวกเราปราบพวกคอมมิวนิสต์ค้อนเคียวได้สำเร็จแล้ว”
   “ค...ครับ” เขารับคำอย่างไม่ใส่ใจนัก “นี่ผมสลบไปกี่วันแล้วครับ”
   “เจ็ดวัน วันชัย ... และพวกเราชักธงของพวกคอมมิวนิสต์ลงได้สำเร็จเมื่อวานซืน วันที่ ๑๕ เมษายน”
   “ครับ” เขาไม่อยากสนใจชัยชนะที่เขาได้รับ ตอนนี้ที่เขาอยากรู้คือหนานยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ “แล้วพวกคอมมิวนิสต์ ... เอ่อ ตายหมดเลยไหมครับ”

   “พวกมันตายไปสิบคน นอกนั้นหลังจากที่เราเริ่มรุกคืบเข้าไป พวกมันจึงได้ยอมมอบตัว ... อ้อ แต่มีคอมมิวนิสต์อยู่คนหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจ ตอนที่คุณล้มลง มันวิ่งฝ่ากระสุนมาหาคุณด้วย”

   “หนาน... คนๆนั้นอยู่ที่ไหนครับ”
   “อยู่ที่โรงพยาบาลนี่ล่ะ เขาเองก็โดนยิงบาดเจ็บเหมือนกัน”
   “แต่เขายังไม่ตายใช่ไหมครับ!!” วันชัยถามด้วยน้ำเสียงคาดคั้น
   “เขาน่าจะปลอดภัยแล้วล่ะ”
   “ถ้าอย่างนั้น...ผู้พันครับ การที่เขาวิ่งเข้ามาช่วยผม ผู้พันพอจะช่วยให้เขาพ้นผิดจากข้อหากบฏได้ไหมครับ”

   ผู้พันส่ายหน้าช้าๆ “คงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก”

   วันชัยพยักหน้ารับคำช้าๆอย่างเหน็ดเหนื่อย “ผมอยากไปพบเขา”

   “ไว้ให้คุณหายดีอีกหน่อยไหม?”
   “ผมอยากไปเดี๋ยวนี้ครับ”
   “ก็ได้..เดี๋ยวผมจะให้พยาบาลพาไป”

...

   ในห้องรักษาผู้ป่วยฝั่งคอมมิวนิสต์ ด้านหน้ามีกำลังคุ้มกันแน่นหนาเพื่อป้องกันไม่ให้พวกกบฏหนี เพราะหลังจากที่รักษาพวกเขาให้หายดี ทุกคนจะต้องโดนฟ้องข้อหากบฏแบ่งแยกดินแดน

   คนที่วันชัยอยากพบนั่งเหม่อมองอยู่บนเตียงคนไข้ ที่แขนซ้ายนั้นมีเฝือกสีขาวห่อไว้ แต่ดวงตานั้นว่างเปล่า
   “หนาน... “ วันชัยเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม “ในที่สุดเราก็ได้พบกันอีกครั้งนะ”
   “นั่นสินะ ... ถึงจะต่างจากที่คิดไปสักนิด”
   “คุณดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
   “ก็ยังคงหายใจครับ”

   ท่าทางถามคำตอบคำของหนานทำให้วันชัยรู้สึกปวดร้าว ถึงแม้เขาจะเคยคิดอยู่ในใจว่าหนานอาจจะไม่ได้รักเขาแล้ว ด้วยเพราะหน้าที่ของทั้งเขาและหนานที่ต่างยืนคนละฝั่ง แต่ถึงอย่างนั้น ความเป็นจริงนั้นก็ยังทำให้เขาเจ็บปวด

   “ผมขอโทษ ... ผมไม่คิดเลยว่าวันหนึ่ง คนที่ผมต้องหันปากกระบอกปืนใส่จะกลายเป็นคุณ คนที่ผม...”
   “อย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ” หนานตอบโดยไม่มองหน้าวันชัย
   “ไหนจะทุกอย่างที่คุณสอนผมที่กรุงชิง ... ทุกอย่างที่ผมได้เรียนรู้ กลับกลายเป็นสิ่งที่ผมนำกลับมาใช้ทำร้ายพวกคุณ”

   หนานน้ำตาไหลออกมาช้าๆ เขายังคงนิ่ง ส่วนวันชัยฟุบหน้าลงกับเตียงของหนาน เสียงสั่น
   “ผมเสียใจเหลือเกินหนาน คุณเสียใจไหมที่ได้รู้จักกับผม แต่ผมไม่คิดเลย ว่าเรื่องระหว่างเรามันจะกลายเป็นแบบนี้ ทั้งที่ผม ผม... ”
   “พอทีเถอะ ได้โปรด!” หนานตวาดเบาๆให้ได้ยินกันสองคน

   “ผมเข้าใจว่าคุณคงเกลียดผมแล้ว แต่ผมอยากบอกคุณว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกนานแค่ไหนก็ตาม ผมก็จะยังรักคุณ และจะไม่มีวันลืมสัญญาที่ให้ไว้ ว่าจะไม่ลืมคุณ ลืมกรุงชิงที่คุณรักและปกป้อง”

   “วันชัย ถ้าคุณพูดแบบนั้น คุณก็ไม่ได้เข้าใจผมหรอก”

   หนานปาดน้ำตาตัวเอง แววตาของเขาสะท้อนความเจ็บปวดจากส่วนลึกในจิตใจ
   “ขอบคุณมากที่คุณสัญญาว่าจะไม่ลืมกรุงชิง แต่ได้โปรดลืมไปซะว่าเคย...รู้จักกับผม”
   “ไม่ ... ไม่มีวัน!!” วันชัยยืนกราน “ต่อให้คุณจะเกลียดผมไปแล้ว แต่ผมก็จะไม่มีวันเลิกรักคุณ”   

   “อย่าทำร้ายกันไปกว่านี้เลย ... ผมอาจจะรู้สึกเสียใจที่พาคุณมารู้จักกรุงชิง พาคุณเข้ามาทำลายทุกอย่างที่นี่ แต่... ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจสักนิด ที่ได้รู้จักคุณ”

   ทั้งคู่เงียบลง มีเพียงน้ำตาที่ยังอาบแก้ม

   “ผมยังเหมือนเดิมหนาน คุณล่ะ ยังเหมือนเดิมหรือเปล่า?”
   “....” หนานไม่ยอมตอบ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ
   “ผมจะถือว่าคุณยัง...เหมือนเดิม ถ้าอย่างนั้น ผมก็คงจะมีความหวังขึ้น ผมยืนยันว่าผมจะไม่ลืมทุกอย่างที่เคยสัญญา”

   “ถ้ามันจะทำให้ชีวิตคุณไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ก็ช่วยเลิกล้มที่จะจดจำคำสัญญาไร้สาระนี่ซะเถอะ โทษของข้อหากบฏมีแต่ประหารเท่านั้นไม่ใช่หรอ”

   “เปล่าเลย แค่จำคุกเท่านั้น วันหนึ่งคุณต้องได้รับการอภัยโทษ ... และผมจะรอวันนั้น ผมสัญญา แล้วคุณล่ะ จะเข้มแข็งและรอคอยให้ถึงวันนั้นหรือเปล่า” หนานบอกพร้อมกับคว้ามือของหนานมากุมไว้แน่น

   “แต่คุณก็ไม่รู้ไม่ใช่หรอ ว่ามันจะนานแค่ไหน”
   “แค่คุณสัญญาว่าจะอดทนรอคอยให้ถึงวันนั้น ผมก็จะรอ”

   “...” หนานยังคงไม่ตอบ สีหน้าเขาครุ่นคิด เขาไม่อยากให้คนที่เขารักต้องมารักกับนักโทษอย่างเขา และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่วันที่ทั้งคู่รอคอยจะมาถึง ถึงแม้ว่าตัวเขาเองก็มอบหัวใจให้วันชัยไปแล้ว และเขาเองก็มั่นใจว่าวันชัยจะรอเขาตามสัญญา แต่เขาก็ยังคงรู้สึกว่าเขาเห็นแก่ตัวต่อวันชัยเกินไป

   “ได้โปรดเถอะ ... ถ้าคุณยังรักผม เหมือนที่ผมรักคุณ”

....

   ลมทะเลพัดพลิ้วเอาผ้าม่านให้เต้นระบำไปตามระลอก วันชัยเดินเข้าไปยังห้องของผู้บังคับบัญชาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและมั่นใจ
   “อ้าว ผู้กอง ดีใจด้วยนะ ที่ทำสำเร็จกลับมา ได้ข่าวว่า พรุ่งนี้จะไปเข้าพิธีรับเหรียญกล้าหาญนี่”
   “ครับ ... ขอบคุณมาก”
   “แล้วนี่มาพบผม มีธุระอะไรรึ?”
   “ผมมีหนึ่งเรื่องที่อยากจะขอร้อง และมีหนึ่งเรื่องที่จะแจ้ง”
   “ไหนว่ามาสิ”

   “เรื่องแรกที่อยากจะขอร้อง ผมอยากให้ตั้งชื่อเขาเหล็กเสียใหม่ว่ากรุงชิง เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แต่แรก ถึงเขาจะไปเข้ากับพวกคอมมิวนิสต์ แต่ก็เป็นเพราะพวกเขารักและหวงแหนป่าผืนนั้น อีกทั้งเพราะคนของรัฐไปกดขี่ข่มเหงพวกเขาก่อน เขาจึงต้องการที่จะตั้งตนเป็นอิสระจนเกิดเรื่องเกิดราวขึ้น”

   ผู้พันศุภนิตย์เลิกคิ้วขึ้นอย่างพิจารณา ก่อนจะรับคำ

   “ผมจะลองแจ้งไปทางผู้ว่านครศรีธรรมราชดู ... แล้วอีกเรื่องล่ะ?”
   วันชัยยิ้ม ก่อนจะหยิบเอาซองจดหมายสีขาวออกจากกระเป๋าเสื้อ
   “ผมมาขอลาออกครับ”

...

อุทยานแห่งชาติกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พุทธศักราช ๒๕๓๘

   กรุงชิงได้เปิดเป็นอุทยานเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม แต่ก็ยังมีร่องรอยประวัติศาสตร์สมัยที่มีการสู้รบ ไม่ว่าจะเป็นประตูสนามบาส หลุมขวาก ถ้ำหลบภัย ให้เข้าไปศึกษาประวัติศาสตร์

   วันชัยหลังจากที่ลาออกจากการเป็นทหารหน่วยนาวิกโยธิน เขาก็มาทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติของกรมป่าไม้ จนอุทยานแห่งชาติกรุงชิงได้เปิดอย่างเป็นทางการ เขาจึงอาสามาเป็นเจ้าหน้าที่ที่นี่ ... เพื่อดูแลผืนป่า ที่มีคนฝากไว้ให้เขาดูแล

   อุทยานแห่งชาติกรุงชิงยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก อีกทั้งสมัยที่เกิดการแบ่งแยกดินแดนที่กรุงชิงก็ยังเป็นพื้นที่ข่าวเล็กๆ ไม่มีคนรู้จักนัก เพราะใช้เวลาในการยึดคืนดินแดนในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ซึ่งหากเทียบกับภูหินร่องกล้าหรือภูทับเบิก จึงไม่ใช่ที่ท่องเที่ยวที่คนรู้จักนัก แต่นั่นก็ทำให้ผืนป่าที่นี่ยังคงสมบูรณ์ และเป็นที่รู้จักพอสมควรในหมู่นักเดินป่า ที่ชื่นชอบการผจญภัยอย่างแท้จริง

   วันชัยแทบจะรู้ทุกซอกทุกมุมของที่นี่ แม้เขาจะเป็นคนกรุงเทพ หลายๆครั้งที่เพื่อนร่วมงานหรือผู้มาเยือนต่างสงสัยว่าเขาช่างรู้เรื่องรู้เส้นทางในป่ากรุงชิงดีราวกับเป็นคนกรุงชิง ในครั้งแรกๆ เขาก็บอกความจริงว่าเขาเป็นคนกรุงเทพ แต่เมื่อหลายหนเข้า เขาก็เลือกที่จะปดไปว่าเขาเป็นคนที่นี่ แต่ไม่มีใครรู้ความจริงว่าเหตุใดเขาจึงเจนป่ากรุงชิงเช่นนี้

   วันเวลาของวันชัยเดินทางไปอย่างเชื่องช้าแต่มีความหวัง นับแต่วันที่เขายึดมั่นคำสัญญา เขาก็ตั้งใจที่จะรักษาคำสัญญานั้น ว่าเขาจะดูแลรักษากรุงชิงเอาไว้ เพื่อรอคอยให้ถึงวัน... ที่เขาคนนั้นจะกลับมา

   “คุณวันชัยครับ ... ผมกลับแล้วนะครับ ขอบคุณที่ช่วยนำทาง ที่กรุงชิงนี่วิเศษจริงๆ พวกผมชอบมากๆ ถ้ามีโอกาสจะต้องมาอีกแน่ๆ”

   “ดีใจที่พวกคุณชอบครับ อย่าลืมกลับมาเที่ยวกรุงชิงอีกนะครับ”

   “ผมก็ขอบคุณมากนะครับ ที่คุณช่วยดูแลที่นี่เป็นอย่างดี”

   เสียงของนักท่องเที่ยวอีกคนหนึ่งที่เพิ่งเปิดประตูที่ทำการอุทยานเข้ามา หลังจากที่กลุ่มนักท่องเที่ยวตรงหน้าวันชัยกำลังกล่าวอำลา และเมื่อเขาได้เห็นกับนักท่องเที่ยวคนใหม่ถนัดตา วันชัยก็ยิ้มกว้าง ... อย่างที่เขาไม่เคยทำได้เลยตลอดสิบแปดปีที่ผ่านมา

   “เพราะผมเคยสัญญากับคนๆหนึ่งที่ผมรักมากๆไว้นี่ครับ ว่าผมจะดูแลรักษาที่นี่เอาไว้เป็นอย่างดี ให้สมกับที่ผมรักเขามาก และเขาเองก็ย้ำนักย้ำหนา ว่าห้ามลืมคนๆนั้น ห้ามลืมกรุงชิงที่เขากับผมเคยพบกัน”

   “ขอบคุณมากนะ ...”
   “ก็ผมสัญญาแล้วนี่ ... ยินดีต้อนรับกลับมานะ ...หนาน”    

อวสาน

 
 



 


ได้ฤกษ์จกไหดองเสียที ผมไม่ได้ตั้งใจจะดองนะครับ แต่เรื่องนี้เคยแจ้งแล้วว่า เป็นเรื่องที่เขียนในช่วงที่เริ่มทำงานที่ใหม่ที่งานการวุ่นวายกว่าตอนเขียนเรื่องก่อนๆมาก จึงหาเวลามาต่อยากเหลือเกิน

สำหรับเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ต้องหาข้อมูลเยอะอยู่เหมือนกัน เพราะทั้งกรุงชิงก็เป็นสถานที่จริง อีกทั้ง ยุทธการกรุงชิงก็เกิดขึ้นจริงๆในช่วงเวลาที่ระบุเอาไว้ในเรื่อง จึงพยายามตั้งใจเขียนให้สอดคล้องกับช่วงเวลาดังกล่าวมากที่สุด ส่วนแรงบันดาลใจ มาจากการฟังเพลงที่ชื่อเดียวกับเนื้อเรื่องเรื่องนี้ (แต่เนื้อหาของเพลงไม่ได้เป็นไปตามเนื้อเรื่องนี้เลย)

สุดท้ายนี้ ต้องขอโทษที่มาลงช้ามากก แต่ก็หวังว่าจะชอบกันนะครับ

หนิงหน่อง
ลำนำบุหลันครวญ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
ขอบคุณสำหรับนิยายจ้าาา
ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกัน  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ซึ๊งมากเลยครับ



ไม่ได้อ่านนิยายแบบนี้มานานหลายปีแล้ว



ขอบคุณครับ  ที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้ให้ได้อ่าน     



ไม่ต้องมีพระเอกหล่อ  นายเอกน่ารัก   ไม่ต้องมีเรื่องเพศ    ไม่มีคำหยาบ  ไม่มีการแก้แค้น   ไม่มีการกลั่นแกล้ง



แต่ก้เรียกน้ำตา และความสุขจากคนอ่านได้เยอะเลยครับ



^^

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ซึ้งจริงๆๆๆ ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกัน

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เกือบไปแล้วววววว
เห้ออ ดีใจที่จบแบบนี้

ออฟไลน์ PPink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ขอบคุณที่แต่งนิยายดี ๆ แบบนี้มาให้อ่านค่ะ
ปกติเป็นคนเม้นยากมาก เนื่องด้วยเวลา แต่เรื่องนี้ต้องเม้นจริง ๆ ค่ะ

คุณนักเขียนแต่งออกมาภาษาสวยมากค่ะ
การบรรยายสถานที่ทำให้คนอ่านเห็นภาพตามชัดเจน
ความรู้สึกของทั้งสองเช่นกัน อาจไม่มีอะไรมาก
แต่ว่าอ่านแล้วทำให้น้ำตาซึมได้เลย (ปกติน้ำตาซึมไม่ง่ายเลนะคะ5555)

ขอให้มีเรื่องดี ๆ แบบนี้ออกมาให้อ่านอีกนะคะ :)

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ชอบมากกกก รู้สึกไม่ได้อ่านเรื่องสั้นที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สวยงามเเบบนี้มานานเเล้ว

ขอเป็นกำลังใจให้เขียนเรื่องต่อๆไปออกมาเรื่อยๆนะคะ




benji

  • บุคคลทั่วไป
 o13 เป็นนิยายที่ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรหวือหวา วูวาบ แต่ สนุกมาก ใช้ภาษาง่ายๆ อ่านแล้วเข้าใจทันที ไม่ค้องคิดวิเคารห์ เปรียบเทียบอะไรให้วุ่นวาย สื่ออารมณ์ตัวละคร ชัดเจนมาก อ่านแล้วแินไปกับหนาน และวันชัย จริงๆ  กลัวมากว่าจะจบไม่สวย แต่สุดท้ายก็ แฮปปี้เอนด์ ขอบคุณนะ สำหรับ นิยายดีๆ สนุกๆ ให้ความรู้ ประวัติศาสตร์ด้วย  :pig4: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
นิยายของพี่หนิงเป็นนิยายที่ดีแสนดี แต่ไม่ใช่นิยายตลาดรักกุ๊กกิ๊กถึงไม่เป็นนิยม ถึงอย่างไรมันก็เป็นนิยายที่เลอค่ามากในสายตานิว

ไม่ได้มาอ่านแค่ตอนจบ ทิ้งไว้นานมากเพราะกลัวจริงๆว่าจะมีเรื่องหนักหนาในตอนใกล้ๆจะปิดม่าน

ที่ไหนได้ ที่ดองอ่านไว้คือตอนจบ คือบทสรุป อยากทุบหัวตัวเองตาย ...

อ่านช่วงสุดท้ายของเรื่องแล้วน้ำตาปริ่ม การรอคอยที่แสนนาน ...

ขอบคุณพี่หนิงที่รักษาสไตล์การเขียนไว้อย่างยอดเยี่ยม ขอบคุณมากจริงๆครับ  :pig4:


+1  :L2:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ชอบมากครับ หวาน เศร้า ซึ้ง ...... ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ร้องไห้   :mew4:

ออฟไลน์ popuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
นิยายอ่านเพลินมากค่ะ ภาษาไหลลื่นดี ตรงช่วยบรรยายก็เห็นภาพดีค่ะ
เราเป็นคนนครศรีธรรมราช แต่ยังไม่มีโอกาสไปกรุงชิงเลย
เพราะอยู่ไกลบ้านตลอด อ่านแล้วอยากลองไปเท่่ยวเลยค่ะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ถึงแม้จะนานถึง18ปี แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็ได้กลับมาเจอกัน :hao5:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
แม้เวลาจะผ่านไปเนินนาน แต่สุดท้ายก็ได้กลับมาเจอกัน :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ซึ้งมากๆ

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ทำไมถึงเพิ่งมาเจอนิยายเรื่องนี้เนี่ย
เขียนดีมากจริงๆ  สำหรับเราถือว่าภาษาสวยนะ ตรงไปตรงมาดี ไม่ต้องเปรียบเทียบอะไรให้วุ่นวาย ไม่ต้องพรรณนาถึงหน้าตา รักนิยายเรื่องนี้จัง

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ดีใจที่กลับมา อบอุ่นหัวใจจริง ซึ้งมากเลย ยอม ยอมใจกับรักที่มั่นคงและการรักษาคำสัญญาของวันชัย เป็นนิยายที่ดีมากกก ภาษาสวย บรรยายเห็นภาพซะจนนึกว่าเราไปเดินป่ากับเขา 555 ทั้งหวาน ทั้งซึ้ง ดราม่า ครบรส อะไรเนี้ยยยเพิ่งมาเจอนิยายดีๆ  :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด