ตอนที่ 11 กำราบเด็กถ่อย....(ด้วยความอ่อนละมุน)
ขากตุ๋ย.....!!!!บอกเลย....กูจะไม่ทน
[ตี๋น้อยเองนะครัช]
ผมขากเสลดเสมหะโชว์ความถ่อย ทันทีที่เหยียบย่างเข้าไปในเขตกักกัน(หัวใจ----ฮิ้ว-----ฮิ้วพ่อง!!!)
ไม่ไหวนะ ผมรู้หรอก....ว่ามันคิดจะแอ้มหวานตับผม ผมนอนคิดแล้วคิดอีกหลายตลบ ฉะนั้นนี่เป็นโอกาสอันดี ที่จะได้แสดงความถ่อยขั้นสุดยอด ที่ใครหน้าไหนก็ไม่อาจรับได้
......ฉึ่ง.......แถ่แด๊นนนน.....สามวันผ่านไป ผมใช้ชีวิตในห้องของไอ้หมาเจ โดยที่ไม่แตะต้องน้ำสักหยด อ้อ....ไม่ต้องห่วงครับ ผมต้องกินดื่มประทังชีวิตอยู่แล้ว อ้อ....รวมถึงแปรงฟันวันละครั้ง แปรงแบบอะลุ้มอล่วยต่อแบคทีเรีย ไม่ให้มันแปลงสภาพเป็นกลิ่นที่เกินจะทนนัก
ใช่.....ผมไม่อาบน้ำ ไม่สระผม ไม่แม้แต่จะล้างหน้า เพราะเสร็จงานนี้ผมจะไปโมหน้าใสทีเดียวครบสเต็ป
ทำให้เกลียดไม่ได้ อย่างน้อยให้มันหมดอารมณ์เซ็กส์ก็ยังดี นี่ถ้าไม่กลัวฟันเน่า ผมจะดองขี้ฟันด้วย เอาให้เหม็นตลบ
แหมะใครปิดไฟฟะ!!!!
เปล่าหรอฮะ ผ้าขนหนูหอม ๆ เจือกลิ่นแดด ถูกโยนลงมาใส่ผมที่นั่งอำพรางตัวอยู่ตรงมุมห้องอย่างกลมกลืน พอดึงออกก็เจอไอ้เจสันศุกร์สิบสามทำหน้าโหดใส่ เหมือนผมไปด่าแม่มัน
“อาบน้ำซะตี๋ เหม็นชิบหาย หัวมึงแมร่งมันยังกะใส่เจล”
“พี่ถือศีลอยู่น่ะครัช”
"ถือศีลจรวยอะไรของมึง"
"ร่างกายภายนอกคือเปลือก จิตใจต่างหากคือแก่นแท้ อะไรที่มันเหม็น ถ้าเรายอมรับและอยู่ร่วมกับมันได้ พยายามเข้าใจมัน มันก็จะกลายเป็นของหอม....ใครนิยาม...เหม็นหรือหอม....เห็นภาพไหมครัช....เคยดูแรมโบ้ที่พระเอกตกบ่อขี้ไหม"
"พล่ามเหี้ยอะไร เมากลิ่นตัวเองเหรอวะ...ฮ๊ะ!!!"
"อามิตตาพุทธ....อิสเชบดิช.....อิเดสสึก๊ะ"
“ถามจริง?...จะไปแคสงานสภาพนี้น่ะเหรอ”
แย้กกกก แคสงาน ใช่แล้ว....ผมจะไปแคสบทนักแสดงนำ....โอเค....ไม่โม้ก็ได้ นักแสดงสมทบ...สมท๊บบบ....สมทบ กับพี่ณรงค์นี่หว่า วันนี้ตอนบ่ายด้วยสิ......แล้วตอนนี้ล่ะ......สิบเอ็ดโมงครึ่ง คงทันนะ ถ้าสตูดิโอมันอยู่แค่หน้าปากซอย
ฉิบหายแล้วครัช!!!!
ลืมน่ะสิอีเหี้ย!!!!“หึ...ไง....ตี๋น้อย.....คงต้องอาบแล้วสินะครัช”
มันมองผมอย่างรู้ทัน และยิ้มเยาะที่มุมปาก สัดหมาเอ๊ยยยยย แพ้แม่งอีกแล้วเหรอเนี่ย!!!!
.
.
.
.
.
“ตี๋.....เดี๋ยวกูไปส่ง!!!.....ตี๋”
แย้ก เปิดประตูเข้ามาทำเชี่ยอะไร ถึงจะเป็นคอนโดมึง แต่นี่มันก็เป็นห้องส่วนตัวของกูนะสาดดด
และที่สำคัญ ตอนนี้ผมแมร่ง....โป๊โชว์หัวนมชมพูออร่า....บัดซบเอ๊ย!!!!
“ตี๋......พอมึงอาบน้ำ....เอ่อ....อาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ แบบนี้ก็ดูโอเคเหมือนกันนะ.....เอื๊อก”
นั่นคือกูมโนไปเองสินะ ว่าได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของมัน ครั้นจะคว้าผ้าผ่อนมาปกปิด ก็ดูจะใจตุ๊ดไปหน่อย ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย พยายามไม่หันไปมอง แต่หางตาเจ้ากรรมยังคงรับรู้ว่ามันยังยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ยอมไปไหน และต่อให้แม้หลับตาเสีย ประสาทสัมผัสที่หกของผม ก็จะยังสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของมันอยู่ดี เหมือนที่
คุณเจน ยานทิป สัมผัสได้ถึงพลังงานลี้ลับจากนอกโลก หรือ
หมอกุด ที่สามารถมองเห็นอนาคตของโลกได้ด้วยพลังพิเศษ มันกำลังจ้องมองผมอย่างน่าเกลียด!!!
บางทีก็รู้สึกว่าทำผมเกินไป....ไม่รู้สิ เรื่องแกล้งซกมกก็เรื่องหนึ่ง แต่บางทีด่ามันในใจด้วยถ้อยคำหยาบ ๆ คาย ๆ ทั้งที่มันก็เหมือนจะดีกับผมมากมายขนาดนี้ แถมพักหลังมานี่ กูทำเหี้ยอะไร ไม่เคยด่ากูเลย ไม่มีเถียง ไม่มีแอ๊ะ ฉี่แล้วไม่กด แดกแล้วไม่ล้าง กางเกงในใส่แล้วแหมะอยู่กลางห้องรับแขก หรือแกล้งคุยโทรศัพท์เรื่องขี้ตอนมันกำลังกินข้าว นอกจากไม่โดนด่าแล้ว กลับมาอีกที มันตามเก็บตามเช็ดให้ด้วย
มันทำให้......
รู้สึกผิดได้เหมือนกันนะ
ไม่ไม่ไม่ไม่.....มึงอย่าดีกับกูมากได้ไหม มันทำให้กูดูเหี้ย ดูเลว
"เสร็จแล้วใช่มั้ย กูไปส่งมึงนะ"
ผู้ชายอาสาเป็นสารถีว่ะ ฮ็อตฉิบหายเลยกู
“น้องเจ.....อย่าลืมมารับพี่ตี๋นะครัช แคสเสร็จแล้วจะโทรหานะ.....อวยพรให้พี่ด้วย”
“เอเมนนนน”
อะไร!!!!! ก็แบบสงสารไง ไหน ๆ มันก็พยายามเหลือเกินที่จะดีกับผม ก็เอาน่ะ สนองนี๊ดมันหน่อยก็แล้วกัน
.
.
.
.
.
.
.
[เจเองครัช ; เจสันศุกร์สิบสามในโหมดอินเลิฟ]
ขาวจังคำแรกที่ปรากฏในสมอง หลังจากที่เห็นเนื้อหนังมังสาของมันในสภาพผ้าขนหนูพันเอว(ตัน ๆ)เพียงผืนเดียว
ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็น เพียงแต่เห็นทีไร ใจมันสั่น อีตุ๊ดที่ว่าขาว ๆ ก็ยังไม่ออร่าน่าแดกเท่า เดย์มันออกไปทางซีด ๆ เหมือนแวมไพร์ ทไวไลท์ แต่ไอ้เชี่ยนี่มันขาวอมชมพูเหมือนลูกท้อ
ผมพยายามจะกลับตัวเป็นคนดี อยากจะลองดีกับมันให้สุด ๆ จะถูกแกล้งหรือหลอกใช้ก็ช่างแม่ม เพราะถ้าให้ปล้ำมัน ก็อยากจะใช้เป็นวิธีสุดท้าย....แบบว่าสุดท้ายจริง ๆ ถึงไคลแม็กซ์ทางอารมณ์ อะไรแบบนั้น บลาห์ บลาห์
นี่ยองเจนะครัช!!! ไม่เคยหวั่นไหว และไม่เคยอ่อนไหวง่าย ๆ คนอย่างผมมันเซลฟ์จัด เพราะฉะนั้น ไม่ต้องมาสงสารผม สงสารไอ้ตี๋ดีกว่า เพราะต่อไปมันจะขาดผมไม่ได้
ที่พยายามหลอกล่อจนมันยอมเข้ามาอยู่ด้วย ถือเป็นนิมิตรหมายอันดี เหตุผลบ้า ๆ ที่ผมแถไป ก็ใช่จะหวังว่ามันจะเชื่อ แต่มันมันเสือกเชื่อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหน ผมก็เลยคิดว่าเบื้องบนคงให้โอกาสไอ้ชั่วทั้งในจอและนอกจออย่างผมได้กลับตัว
“น้องเจ.....อย่าลืมมารับพี่ตี๋นะครัช แคสเสร็จแล้วจะโทรหานะ.....อวยพรให้พี่ด้วย”
มันยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินลั๊ลลาหายเข้าไปในตึกสูง ด้วยท่าทางที่มั่นอกมั่นใจจนล้น และดูไฮเปอร์เหมือนเด็กสิบขวบ ตั้งแต่มันเข้ามาอยู่กับผม น้ำท่าไม่อาบ ผมเผ้ากระเซิง มัน เหนียว ทำตัวซังกะตายเหมือนคนเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แล้วดูตอนนี้สิ กลับมาเป็นมันคนเดิมที่แสนจะน่ารักน่าแกล้ง
น่าทรมานเล่นจัง.....ไม่สิ....ต้องอ่อนโยน....ต้องเป็นคนดี....ห้ามชั่ว...ห้ามเลว
ชั่วโมงกว่าๆมันโทรหาผม เห็นมันวิ่งหน้าระรื่นออกมาแต่ไกล โบกมือโบกไม้ดีใจอย่างลืมตัว มันคงลืมว่าเกลียดผม และท่าทางที่มันแสดงออกก็ดูเป็นธรรมชาติดีเหลือเกิน คนอย่างมันทำอะไรก็ดูออกไปซะหมด
“น้องเจ.....พี่ตี๋โทรหาอีกรอบทำไมไม่รับวะ”
“ก็กูขับรถอยู่”
“พี่ขอโทษนะ....วันนี้เจอพี่รงค์....เข้ามาดูพี่แคสด้วย....เนี่ยรออยู่ที่ลานจอดรถ ชวนพี่ไปเลี้ยงข้าวแหละเฮ้ย”
“หา?”
“พี่ไปนะน้องเจ”
“เดี๋ยวสิเฮ้ย”
ทำไมวะ....ทำไมถึงช่างสรรหาเรื่องมาทำร้ายจิตใจกูได้ตลอด ขนาดว่าตัวเองยังรู้ตัว....ว่าเป็นคนที่หน้าด้านหน้าหนา ที่ผ่านมาก็มีแต่อีตุ๊ด ที่พูดจาใส่ผมอย่างร้ายกาจ(และหมัดหนักเหมือนตุ้มเหล็ก) ซึ่งอันนั้นผมไม่เถียง เพราะผมก็เหี้ยใส่มันมาเยอะเป็นเท่าตัว แต่กับไอ้ตี๋ แค่ท่าทางดีใจเมื่อครู่ ก็ทำเอาไอ้ชั่วอย่างกูปวดแปลบ โดยที่ตัวมันไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
ถึงว่าแหละ โดนทำร้ายแบบไม่ได้ตั้งใจ มันเจ็บกว่าเป็นไหน ๆ
อดทนไว้.....ยังไม่ทันข้ามวันเลยนะมึง....ห้ามชั่ว...ท่องไว้....ห้ามชั่ว
ผมว่าจะกลับไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องสักหน่อย
ครืด....ครืด“ฮัลโหล?...ว่า?....อาฮะ.....ช่วงนี้ยังอยากพักอยู่....อะไรนะ....เล่นเป็นพระเอกเลย? แน่ใจว่าเรตติ้งจะไม่ร่วง ผมเป็นแต่ตัวโกงมาตลอดเลยนะ....อ่อ...เคร ๆ”
คงเพราะเรื่องล่าสุดที่เล่น ไอ้ตัวร้ายแมร่งเสือกมีปม คนดูเลยสงสารมากกว่าเกลียด กลายเป็นว่าตอนนี้มีคนติดต่อให้เล่นละครอีกแล้ว เป็นพระเอกเลยนะเว้ย ละครหลังข่าวด้วยไอ้สาดดด
ไอ้ตอนเล่นร้าย ก็แค่เป็นตัวเอง จะให้เล่นเป็นคนดี งี้กูก็ต้องตอแหลชุดใหญ่เลยสิวะ
แต่สุดท้ายก็ตกลงครับ เพราะเบื่อชีวิต ที่คอยตามตูดไอ้ตี๋ ผมว่าผมพักนานเกินไปแล้วแหละ
อืม....หาทำอะไรเล่นสนุก ๆดีกว่า
แบบที่พวกพระเอกแมร่งชอบทำ(ว่างจัดไง----ไม่เหมือนตัวร้าย ได้บริหารสมองครีเอทแผนชั่วตลอด)
.
.
.
.
.
.
[ตี๋กลับมาแล้นฮะ]
เชี่ย ๆ ๆ....แม่งเซว่ะ โลกแม่งเอียงเฉยเลย....เอิ๊ก ๆ
เมามาน่ะครัช ป๋ารงค์พาไปเลี้ยง อาหารอิทแทเลี่ยนแกล้มไวน์เลยนะมึ๊งงงงง
บุญปากไอ้ตี๋แท้ ๆ
ผมเมานิดหน่อย แต่กะจะแกล้งไอ้ห่าเจ ก็เลยแวะเซเว่น ซื้อหงส์ทองมาพรมหน้า พรมหัว เหมือนเป็นน้ำทิพย์ชโลมจิต กะว่าจะทำห้องมันเลอะ ด้วยอ้วกสไตล์อิทแทเลี่ยนแท้ ๆ
“เหยยยยยย.....ไอ้น้องเจครัชชชช.....เพ่ตี๋มาแว้ววววววว.....มารับพ่อหน่อยเร้ววว....ไอ้ลูกร๊ากกกกกกก”
“ว้าย”
เหี้ย....สร่างเลยกู ไอ้ที่แสร้งเมาเมื่อกี้นี่ กูสร่างโดยอัตโตมัติ แกล้งเมามากไปรึเปล่าวะ เลยลืมดูเลขที่ห้อง แต่เฮ้ย เฟอร์นิเจอร์เหี้ย ๆ ไร้รสนิยมทางศิลปะแบบนี้ มันก็ห้องไอ้เจถูกแล้วนี่หว่า
แล้วนางฟ้าตรงหน้ากูมันคืออัลไล????
หรือว่า
แม่งแต่งหญิงเอาใจผม!!!! แต่มันก็จะเนียนไปนะ
“ตี๋...โวยวายเหี้ยอะไรเนี่ย น้องแพงกูตกใจหมด”
“หา?....น้องแพง?”
เฮ้ย.....เดี๋ยว....อีน้องแพงนี่มัน?
นักแสดงหน้าใหม่ยังบลัดรุ่นที่สิบเอ็ดนี่ครัช(เป๊ะเว่อร์อ่ะ)----เคลิ้มนะนี่พูดเลย.
.
.
.
.
To be con
ตี๋หิดจงหวั่นไหว
