- - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<  (อ่าน 39101 ครั้ง)

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
รอครึ่งหลังจ้าพี่มุธมาเร็วนะพี่มุธรีบมาง้อเพทาย  สงสารน้องมันนะพี่

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
มุธคงยังไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายกับทายหรอก
เพราะมุธเป็นคนบอกให้ทายเป็นคนเลือกเอง

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
 :katai1: :katai1: :katai1:
พี่มุธแกทำเพทายฉัน

tuktik_narak

  • บุคคลทั่วไป

ต่อจ้า

“เลิกๆๆพอๆ แล้วนี่ไอ้เขียนกะไอ้ริวมันจะทำให้ได้เต็มเลยว่างั้นเถอะ” ไอ้ห่าปานพูด

“สงสัย ตัวเกร็งนิ” ไอ้เชพูด

“แล้วนี่มึงไม่มีเรียนไง แล้วไอ้ซันไปไหน” ผมถามมันพร้อมกับแกะถั่วต้มเข้าปาก

“เลิกเรียนก่อนมึงสอบเสร็จอีก ส่วนไอ้ซันมันบอกว่าเดี๋ยวมาไปทำธุระแปป”

“อ้อออ”

นั่งคุยสัพเพเหระกันอีกเกือบๆครึ่งชั่วโมงคุณชายเขียนและคุณชายริวก็เสด็จจากสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์สักที

“ไง ทำได้?” ผมถาม

“สบายมาก” ไอ้ริวตอบแต่เห็นมันลงมาพร้อมกับชวดกระทิงแดง ริวมึงแน่ใจนะว่าไหว

“ห่า ตอแหลชิบ”

“ว่าไงวะพวกมึง” มาแล้วครับเสียงไอ้ซัน พวกเรากำลังหัวเราะกันตึกแทบแตก แต่พอมันเดินมาเสียงทั้งกลุ่มก็เงียบลง

“หน้ามึงไปทำอะไรมาวะซัน” ผมถามขึ้นคนแรก

“ฟัดกับ....หมานิดหน่อยอย่าสนใจเลย” ผมตอบปัดๆ ซึ่งผมรู้ดีว่ามันกำลังโกหก ทำไมวะไหนบอกว่าเพื่อนกันต้องคุยกันทุกเรื่องไง

“หมาชื่ออะไร เดินสองขาหรือว่าสี่ขา” ผมถามต่อ

“เฮ้ยย มึงไปเซ้าซี้มันมากไปหรือเปล่า” ไอ้ริวพูดขึ้นคงเห็นว่าผมไม่ค่อยพอใจที่ไอ้ซันมันไปมีเรื่อง

“คงงั้น ขอโทษทีกูอารมณ์ไม่ค่อยดี” ผมบอกก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง

ผมกลัวไปหมด ความรู้สึกมันสับสนพัวพันกันยุ่งเหยิง มันห่วงอ่ะครับเพื่อนผมทั้งคนนิ กลัวไปสารพัดผมเสียพี่มุธไปคนนึงแล้วผมก็ไม่อยากจะเสียมันไปอีก ผมไม่ชอบเห็นใครทะเลาะกับใคร แล้วถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวกับผมด้วยล่ะก็ ผมจะโกรธทั้งคนหาเรื่องและคนโดนหาเรื่องเลย

“อย่าเครียดดิ กูทำเพื่อมึงนะ” ผมหันขวับ มันยิ้มมุมปากเหมือนว่ากำลังพอใจบางสิ่งบางอย่าง

“ทำเพื่อกู? ทำอะไร”

“เหอะน่า....” มันหันหน้าหนีแล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุยเรื่องอื่นกับไอ้ปานและไอ้เช ทำเหมือนว่าเรื่องเมื่อกี้ไม่ได้สำคัญทั้งๆที่มันสำคัญกับผมมากจริงๆ

“ทาย ไปหาไอ้เหนือเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ” จู่ๆไอ้ซันมันก็ชวนผมไปหาไอ้เหนือ ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงไม่อะไรนะครับ แต่ตอนนี้ผมไม่อยากไปเหยียบตึกวิศวะเท่าไหร่เลย ไม่อยากแม้ขับรถผ่านด้วยซ้ำ

“ปะ..ไปทำไมวะ” ผมถาม

เรื่องผมกับพี่มุธผมยังไม่ได้บอกไอ้ซันเลยครับ จะหาเวลาดีๆค่อยบอกมัน กลัวมันด่าเอาหาว่าผมทำอะไรไม่คิด แต่ไม่ใช่หรอกครับครั้งนี้ผมคิดดีมากๆแล้วต่างหาก แต่ทำไมไม่รู้นะครับการแสดงออกของไอ้ซันวันนี้เหมือนว่ามันรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แต่จะรู้จากใครล่ะหรือว่าพี่มุธ

แล้วที่หน้าแหกก็เพราะพี่มุธด้วยใช่ไหม?

แต่คิดอักทีคงไม่หรอกครับ

“เอาของไปให้ไอ้เหนือน่ะ วิสกี้มันฝากกูเอาไปให้เมื่อกี้” ผมสะดุ้งเลยครับพอได้ยินชื่อนี้

ความรู้สึกผิดตีกันไปมาเหมือนเสียงระฆัง ผมมองหน้ามันสองตัวไม่ค่อยติดหรอกครับ ยิ่งตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่เป็นไปได้ถ้าไม่ใช่ธุระหรือนัดเลี้ยงกันผมจะไม่พยายามโผล่หน้าไปหามันเด็ดขาด

“กูขี้เกียจนี่” ผมบอก

“อืม งั้นกูไปคนเดียวก็ได้” แวบนึงผมเห็นมันทำหน้าเหมือนผิดหวังที่ผมไม่ตามใจมัน ผมรู้สึกผิดอีกแล้วครับ

“เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อนมะ” ไอ้ริวเสนอหน้ามันคงอยากไปหาสาวสวยๆนุ่งสั้นๆที่คณะอื่นบ้าง ที่ศิลปกรรมคงมีแต่สาวเซอร์

“ไม่เป็นไร” ไอ้ซันตอบเสียงเบา โหหห่ากูยิ่งรู้สึกผิดเลยเนี่ย

“เออๆๆๆ กูไปก็ได้เว้ยยย” แล้วสุดท้ายผมก็ต้องยอมไป

จะบอกเลยว่าถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่สงสารมัน จะปล่อยให้มันไปคนเดียว ผมพูดเลย!!

“มึงนัดไอ้เหนือไว้ที่ไหน” ผมถามในขณะที่นั่งรอที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกวิศวะ ผมมองซ้ายแลขวากลัวเหลือเกินครับ ว่าจะเจอกับผู้ชายผู้เป็นเจ้าของหัวใจของผม ผมไม่พร้อมจะเจอจริงๆ

“ที่นี่แหละ แล้วมึงเป็นอะไรนั่งยุกยิกๆไปมาอยู่ได้” มันถาม ผมสะดุ้งกลับมานั่งตัวตรง กลัวทำตัวมีพิรุธแล้วเดี๋ยวมันจะซักถามเยอะผมรำคาญ

“ก็...กูคันอ่ะ เออๆเรื่องของกูเหอะน่า” ผมบอกปัด มันอมยิ้มก่อนจะพูดกับผมอีก

“คันตรงไหนมาเดี๋ยวกูเกาให้” มันพูดจบก็คว้าหมับมาที่เอวผมก่อนจะเกาๆถูๆจนผมจักกะจี้

“เฮ้ย ไอ้ห่าซัน ฮ่าๆๆ พอ...ฮ่าๆๆ..พะ..พอแล้ว” ผมหัวเราะไม่หยุดเลยครับ ยิ่งมันเห็นว่าผมจักกะจี้ขำหน้าดำหน้าแดงมันก็ยิ่งแกล้ง ไอ้หี่โรคจิตจังวะ

“เอ้า นี่กูช่วยมึงอยู่นะเนี่ย”

“ไม่..ไม่ต้อง..ฮ่าๆๆ” ผมพยายามปัดมือมันออกแต่ไม่ไหวไอ้ห่านี่แรงเยอะ

พอมันเห็นว่าผมเริ่มขัดขืน คราวนี้มันล็อคคอผมเลยครับแล้วผมจะไปสู้มันไหวได้ไง ผมก็ได้แต่นั่งบิดไปบิดมาให้มันแกล้งนั่นล่ะ

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้เหี้ยปล่อยกู” ผมทั้งขำทั้งด่า มันกลับหัวเราะชอบใจ คอยดูนะมึงแกล้งกู

“อ่ะๆ ปล่อยก็ได้นี่กูสงสารลูกหมาหรอกนะ” มันยอมปล่อยผม

แฮ่กๆ

ส่วนผมนี่หอบแฮ่กเลยครับ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยดูเหมือนกุ๊ยมากกว่านักศึกษา

เพี๊ยะ!

“แม่ง! แกล้งกู” ผมตบกบาลมันไปทีเอาคืนครับเล่นซะผมเกือบขาดใจตาย

“เจ็บนะ” มันกุมหัวทำหน้าตาปานว่าถูกยิง ตอแหล

“สมควร”

“หึหึ” มันหัวเราะในลำคอ

จู่ๆมันก็หยุดขำแล้วมองหน้าผมตรงๆด้วยสายตาสื่อความหมาย ผมไม่เข้าใจก็เลยหันหน้าหนีมันครับ ไม่เคยเห็นมันมองผมด้วยสายตาแบบนี้ผมไม่ชิน นอกจากพี่มุธผมก็ยังไม่เคยได้รับจากใคร แล้วผมก็ไม่อยากได้รับจากมันด้วย

เพราะมันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม

“เพทาย” มันเรียกพร้อมใช้มือมาจับหน้าผมให้หันไปหามัน ผมตัวแข็งค้างไม่รู้ว่ามันคิดจะทำอะไร แต่ผมก็ขออย่าให้มันทำในสิ่งที่ผมกำลังกลัว

“วะ..ว่า” ผมขานรับ

“มึงเลิกกับเขาแล้วใช่ไหม” มันถามผมเสียงจริงจังๆ มันใช้คำว่า ‘เขา’ แทนชื่อเพราะกลัวคนอื่นจะรู้ว่าหมายถึงใคร

ปลายนิ้วมันลูบไล้ใบหน้าของผมไปมาจนผมเริ่มรู้สึกขนลุก ไม่ได้ว่าพิศวาสอะไรนะครับเพียงแต่ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำกับผมแบบนี้ มันสยิวๆแปลกๆ

“มึงรู้ได้ไง” ผมไม่ตกใจเท่าไหร่ที่มันรู้ ไอ้ซันมันจมูกไวจะตาย

“กูรู้แล้วกัน ตอบกูมาก่อน” มันยื่นหน้ามาใกล้ผมเรื่อยๆจนผมต้องหงายตัวไปข้างหลังเพื่อรักษาระยะห่าง จนตอนนี้ผมแทบจะนอนไปกับเก้าอี้อยู่แล้ว

“อะ..อืม” ผมครางรับไม่รู้จะปฏิเสธให้มันได้อะไร แต่ประโยคต่อไปของมันทำเอาผมแทบสำลักน้ำลาย

“งั้นเป็นแฟนกับกูไหม”

“ห๊ะ!!” ผมตกใจตาโต อ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

“มาเป็นแฟนกู กูจะดูแลมึงให้ดีที่สุดเอง” มันยังพูดต่อ แต่สติผมมันหลุดไปแล้วครับ

พรึ่บ!

“เดี๋ยวๆ มึงพูดบ้าอะไรวะ” ผมปัดมือมันที่อยู่บนหน้าผมออกห่างก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วมองมันอย่างตกใจ

“กูพูดจริง” มันลุกขึ้นจ้องหน้าผมด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก

คราวนี้ผมจุก มันหน่วงพูดไม่ออกเลยครับ ผมลองคิดตามที่มันพูด ไอ้ซันมันชอบผมเหรอ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเข้าใจว่ามันรักผมในฐานะเพื่อนสนิทมาตลอดแต่ทำไมตอนนี้มันถึงมาพูดขอผมเป็นแฟนอย่างหน้าตาเฉย ผมไม่ขำกับมันด้วยนะ

หรือมันจะทำไปเพราะสงสารที่เห็นผมไม่มีใคร ก็เลยอยากมาดามหัวใจถ้าเป็นแบบนี้จริง ผมขอไม่รับความหวังดีจากมันหรอก

“แต่เราเป็นเพื่อนกัน” ผมไม่รู้หรอกว่ามันพูดแบบนั้นเพื่ออะไร แต่ผมว่าคำพูดของผมเป็นคำปฏิเสธที่ละมุนละม่อมที่สุดแล้ว

ผมไม่สามารถคิดอะไรกับใครได้นอกจากผู้ชายที่ชื่อ ‘เวอร์มุธ’ เพียงคนเดียวเท่านั้น

หมับ!

“ให้โอกาสกูเป็นมากกว่านั้นสิ” จู่ๆมันก็เข้ามากอดผม ผมตกใจกว่าเดิมจะผลักออกก็ไม่ทันแล้ว

“กู...มึง.....” ผมพูดไม่เป็นภาษาแล้วครับตอนนี้ คืองงถึง งงมาก

แล้วยิ่งประโยคที่มันกระซิบข้างหูผมยิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจเป็นสองเท่า

“กูทำทุกอย่างเพื่อมึงนะเพทาย”

ยังไม่ทันที่ผมจะได้เรียบเรียงประโยคของมัน ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดตามคำพูดของมัน เสียงของใครบางคนก็แทรกกลางอากาศขึ้นมาก่อนจะตามด้วยแรงกระชากที่ทำเอาผมและไอ้ซันหลุดออกจากกันอย่างง่ายดาย

“นี่มันอะไรกัน!!!!”

“พี่มุธ!!” ผมเรียกชื่อคนที่กระชากแขนผมอย่างตกใจ

ผมไม่คิดว่าเขาจะเห็น

ผมไม่คิดว่าเขาจะมาตรงนี้

ผมไม่คิดว่าเขายังจะสนใจผม....

ทันทีที่ได้สติผมก็พูดประชดเขาออกไปเรียบร้อย

“ผมกำลังพลอดรักกับแฟนไงล่ะ” ผมพยายามบิดแขนตัวเองออกจากข้อมือใหญ่แต่ดูเหมือนผมไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย แรงเขาเยอะเกินไป

พอพูดจบได้ยินเสียงพี่มุธคำรามในลำคอเหมือนกำลังสะกดกลั้นโทสะ แล้วทำไมเขาจะต้องมาโกรธผมด้วยทั้งๆที่เขาปล่อยมือจากผมแล้ว

“กูไม่คิดว่ามึงจะทำแบบนี้นะซัน” พี่มุธพูดเลยไปถึงคนด้านหลังผม ทำให้ผมโกรธที่เขาพาล

“พี่ไม่มีสิทธิ์มาว่าซันนะ!”

“ทำไมจะไม่มี!” เขาตอบกลับมาแถมด้วยใบหน้าที่บูดเบี้ยวเต็มที่

“ซันเป็นแฟนผม!!”

“แต่กูเป็นผัวมึง มานี่เลย!” ผมตกใจที่เขาขึ้นคำหยาบ เขาไม่เคยพูดกับผมแบบนี้กว่าผมจะตั้งสติได้ก็ถูกเขาลากมาถึงไหนต่อไหนแล้ว

แต่ก่อนที่ผมจะถูกลากมาได้ยินเสียงไอ้ซันตะโกนตามหลังผมมาว่า

“กูทำเพื่อมึงนะ” ทำให้ผมไม่แน่ใจว่ามันตั้งใจขอผมเป็นแฟนหรือตั้งใจพาผมมาสังเวยพี่มุธกันแน่

คำว่าทำเพื่อผม มันคืออะไรกัน

“ผมเจ็บ!!!!!” ผมแหกปากลั่นเมื่อเขาจับผมยัดเข้ารถ

สรุปการทำเพื่อผมคงหมายถึงให้ผมโดนกระทำให้เจ็บตัวแบบนี้กระมัง

“เงียบ!!!!!!!”



TBC____


ออฟไลน์ pee122

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ tweetpuen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กรี๊ดด

ต่อด่วน...ค่าา

ค้างคา

ออฟไลน์ tweetpuen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กรี๊ดด

ต่อด่วน...ค่าา

ค้างคา

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
ค้างงงงงงง  :ling2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
พี่แนนนนนนนนน  ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยยยยย

ออฟไลน์ saradino1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
ซันทำเพื่อนซะแล้ว

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อืมม ซันคงตั้งใจทำให้พี่มุธเห็น
เพื่อเปิดโอกาสให้ทายกับพี่มุธเคลีร์ยกัน

แต่แอบอยากรู้เรื่องซัน
กับบุคคลปริศนาที่มีจากเรื่องโน้นอ่ะ

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ซันเล่นแรงนะเนี่ย 555555 :mc4: :mc4:

tuktik_narak

  • บุคคลทั่วไป


ตอนที่8

   กลินท์พาร์ท

   ปุบ!

   !!

   “เฮ้ยย นอนๆ กลางคืนมัวทำอะไรของมึงอยู่มาหลับตอนเช้าทุกที” ผมสะดุ้งตื่น หน้าตายังงัวเงียอยู่ หันไปมองไอ้คนที่โยนหนังสือลงบนโต๊ะก็พาลหงุดหงิด

   “เสือก” ผมว่า

   “หึหึ เอาดีๆกูเห็นหน้าตามึงไม่สดชื่นมาหลายวันแล้ว” ผมส่ายหัวแต่ก็รู้ว่าคงโกหกมันไม่ได้

   ไอ้ทิว หรือทิวากร

   มันเป็นเพื่อนรักของผมสนิทกันตอนเรียนมหา’ลัยแต่รู้ใจกันอย่างกับคบกันมาเป็นสิบๆปี ทุกเรื่องของผมคือทุกเรื่องของมัน เพราะผมปิดอะไรไม่ค่อยได้มันบอกว่าสายตาผมไม่เคยโกหก

   “อ้าว ไอ้กลินท์มันเป็นไร” อีกเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา คงหมายถึงผมว่าเป็นอะไรถึงมานั่งทำหน้าตาไม่รักโลกแบบนี้

   “ไม่รู้แม่ง ถามแล้วไม่ตอบ แล้วนี่จะไปไหนวะไอ้เบล” ไอ้ทิวตอบแล้วถามต่อ

   เบลเป็นเพื่อนอีกคนของผมคนนี้เรียนกับไอ้ทิวมาตั้งแต่ม.ปลาย มันสนิทกันมากแต่ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินเลย อารมณ์ก็คงแบบผู้ชายอ่ะครับไม่ได้คิดอะไรมากเพื่อนก็คือเพื่อนสำคัญเท่ากันหมด

   ส่วนเพื่อนผมเขาไปได้ดิบได้ดีกันหมดแล้วครับ บางคนก็เรียนหมอ บางคนก็ไปเรียนต่างประเทศจะได้เจอกับเพื่อนเก่าตอนม.ปลายทีก็นู่นล่ะตอนเลี้ยงรุ่น ซึ่งผมก็เคยไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

   ตอนนี้พวกผมเรียนปีสุดท้ายแล้วครับ หัวสมองก็ไม่ได้เก่งมากถึงขนาดเรียนมหา’ลัยอันดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้แย่มากถึงขนาดติดเอฟหรือใกล้ไทล์หรอกครับ

   ผมกับไอ้ทิวเรียนบริหารครับ เพราะมีธุรกิจที่แสนจะมั่งคั่งรอเราอยู่ด้านหลัง ถ้าถามว่าชอบไหมผมตอบเลยว่าไม่ ผมอยากเรียนสถา’ปัตย์ แต่พ่อกับแม่ผมท่านไม่อนุญาต ส่วนไอ้ทิวมันก็บอกแต่ว่าเรียนอะไรก็ได้ที่ได้ปริญญาก็พอ

   ส่วนไอ้เบลน่าอิจฉาสุดๆมันเรียนการละครสมใจของมัน มันบอกว่ามันหล่อมันควรจะได้เป็นพระเอกแข่งกับณเดชน์ คูกิมิยะ ถุย! หล่อไม่เถียงแต่หลงตัวเองนี่เพลาๆลงมั่งเหอะวะ

   “มาหาพวกมึงนี่แหละ ไม่มีเรียนไง” ไอ้เบลนั่งลงข้างผมแล้วตอบ

   “มีตอนบ่ายสาม” ไอ้ทิวมันตอบ

   ตอนนี้บ่ายโมงกว่าๆ รอเรียนอีกทีก็สามโมง เบื่อมากครับตารางเรียนที่ไม่ติดกันทำให้ผมต้องมานั่งรอมันเซ็งนะครับ ปีนี้ปีสุดท้ายเรียนไม่เยอะแต่งานเยอะมาก!!!! ผมอยากเอาเวลาทั้งหมดทุ่มให้กับการนอนไม่ใช่มานั่งตากแดดตากลมแบบนี้

   “แล้วมึงอ่ะกลินท์เป็นห่าไร หน้ามึงนี่เหมือนตูดกูไม่มีผิด” ผมมองค้อนดูไอ้เบลมันเปรียบ

   “ตีนกูนี่ กูร้อนเฉยๆไม่มีไร” ผมบอกผ่านๆ ไม่อยากให้พวกมันถามมากน่ารำคาญ

   “เหอะ ตอแหลเก่งเหมือนใครวะ” ไอ้ทิวพูด ผมยกนิ้วกลางใส่หน้ามัน

   ผมเงียบไม่อยากบอกว่าเครียดเรื่องที่บ้าน ปัญหารุงรัง พ่อกับแม่ก็โกรธผมทุกครั้งที่ผมเสนอความคิด เรื่องแต่งงานของน้องสาวผมน่ะครับ ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้องที่เราจะยกลูกสาวไปประเคนให้ฝ่ายชายถึงบ้าน ผมเห็นแววตาพี่มุธก็รู้แล้วว่าพี่เขาไม่เต็มใจ เผลอๆพี่มันอาจจะมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ผมคิดอย่างนั้น

   ผมสงสารนะครับถ้าพี่มันต้องแต่งงานกับน้องสาวผม ไม่ใช่ว่าน้องผมไม่ดีนะอาจจะมีนิสัยเสียบ้างตามสไตล์ลูกคนเล็กแต่ศศิก็น่ารักเพียงแต่ว่าการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมันเหมือนการตกนรกบนโลกมนุษย์ไปตลอดชีวิต

   ผมสะบัดความคิดให้หลุดออกจากหัว ผมเริ่มคลายกังวลได้บ้างแล้วเมื่อเห็นว่าฝ่ายพี่เวอร์มุธก็มีท่าทีแข็งขืน ดีแล้วครับผมไม่อยากให้ครอบครัวนั้นถูกหลอกใช้....

   จากครอบครัวผม

   “เฮ้ย กูลืมคืนหนังสือห้องสมุดว่ะ ไอ้ทิวพากูกลับห้องไปเอาหนังสือหน่อยเลยมาเจ็ดวันละเนี่ยห่าโดนปรับยับแน่” นั่งๆอยู่ไอ้เบลก็ร้องเป็นตุ๊ดแตกเขย่าแขนไอ้ทิวใหญ่

ผมส่ายหัวให้กับความขี้ลืมของมัน จริงๆเหอะอยากเป็นดาราแต่ประโยคสั้นๆหรือเรื่องในชีวิตประจำวันมึงยังจำไม่ได้มึงจะไหวไหมเนี่ยเบล

   “เดี๋ยวกูมานะ มึงนั่งรอนี่ก่อน” ผมพยักหน้า

   ไอ้เบลมันไม่ได้ขับรถมาครับแล้วแต่อารมณ์มันเพราะหอมันก็ไม่ได้ไกลมาก มันบอกว่าเพื่อความแข็งแรงเดินมาเรียนแล้วตอนเย็นให้พวกผมไปส่งสบายกว่ากันเยอะ น้ำมันก็ไม่เปลือง ฉิบหายความคิดเพื่อน นี่ก็คงไปไม่นานหรอกครับเดี๋ยวก็คงกลับ

   ผมนั่งรอมันอยู่ที่เดิมก็ทำท่าจะหลับอีกรอบ จนมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งมาสะกิดหลังทำให้ผมต้องตั้งสติตัวเองอีกรอบ

   “ครับ” ผมขานรับ

   “มีเพื่อนพี่ฝากมาให้อ่ะค่ะ” ผมขมวดคิ้วเพื่อนผม ไอ้ทิว? ไอ้เบล? เหรอแล้วทำไมมันไม่โทรหาผมล่ะฝากจดหมายมาทำไม

   ผมสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายมันคงลืมไว้บนรถ ลืมเปิดเครื่อง เงินหมด บลาๆ สารพัดเหตุผล

   “ขอบคุณครับน้อง” ผมยื่นมือรับมามองกระดาษแผ่นน้อยที่พับครึ่งอย่างงๆแต่ก็เปิดอ่านนะครับ

   “ไม่เป็นไรค่ะ” เธอยิ้มและเดินจากไป

   ผมเปิดอ่านข้อความในกระดาษ มันเขียนมาสั้นมากเนื้อหาบอกแค่ว่า

   ‘รออยู่หน้าประตูคณะมึง มาหาที’

   ผมเอะใจนะครับไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกสะดุดแต่ผมเองก็อยากรู้ว่าใครที่ส่งกระดาษแผ่นนี้มา

   ผมเดินไปยังประตูใหญ่หน้าคณะตัวเองตามที่มันเขียนบอก เดินเลยออกมาจนถึงฟุตบาทด้านนอกก็ไม่เห็นคนที่ผมจะรู้จักเลยสักคน ยืนรออยู่แปปนึงก็คิดว่าคงเป็นจดหมายกวนตีนมากกว่าตั้งใจว่าจะเดินกลับเข้าข้างในแต่มีคนร้องเรียกซะก่อน

   “สวัสดี กลินท์” ผมหันขวับไปมองตามเสียงที่เรียกชื่อผม ผมมองอย่างสงสัย มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่รู้จักผู้ชายหน้าตาดีคนนี้

   ผมขมวดคิ้วไม่ตอบโต้อะไร กำลังสำรวจคนตรงหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน มุมซ้าย มุมขวา ด้านหน้า ด้านข้างแน่นอนผมไม่รู้จัก แต่แปลกที่มันรู้จักผมผมไม่ได้ดังขนาดว่าเด็กมหา’ลัยอื่นต้องมาตามหาถึงที่นี่หรอกนะ

   “รู้จักชื่อได้ไง” ผมถาม

   มันยกยิ้มน้อยๆ มือสองข้างล้วงกระเป๋ามันเอนหลังไปพิงกำแพงไขว้เท้านิดหน่อยแต่โคตรเท่ห์ สาวๆเดินผ่านไปผ่านมายังอดมองไม่ได้ ดูจากหัวเข็มขัดของมันเรียนมหา’ลัยชั้นนำของประเทศเลยทีเดียว แต่ประเด็นสำคัญกว่าคือ

   มึงรู้จักกูได้ยังไง

   “ก็ไม่ยากนี่” ผมเริ่มไม่ชอบคนตรงหน้า แววตาอวดดี ใบหน้าหล่อบาดใจแต่แฝงความกวนไว้เต็มพลัง เข้าใจคำว่าไม่ชอบขี้หน้าก็วันนี้นี่เอง

   “มีธุระอะไร” ผมถามตรงๆ เรายืนประจันหน้ากันอย่างกับจะมีเรื่องทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้านะครับแปลกไหม

ตอนนี้คนเข้าเรียนกันไปเกือบหมดแล้วครับ มีบ้างประปรายบนฟุตบาทที่พวกเรายืนเลยโล่งเหมาะกับเป็นเวทีมวยซะจริงๆ

   มันขยับตัวมาใกล้ผมห่างแค่ช่วงมือเดียว ผมก็ไม่ได้ถอยหนีสงสัยเหมือนกันว่ามันต้องการจะทำอะไร

   “อยากคุยด้วยแค่นั้น” มันตอบ

   “ก็คุยมา...อุบ!” แต่ไม่ทันที่ผมจะพูดจบมันก็เอามือออกจากกระเป๋าข้างหนึ่งพร้อมด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กโปะเข้ามาเต็มจมูกผม

   ผมตกใจแต่หนีไม่ทันเมื่อกลิ่นหอมอ่อนๆลอยเข้าจมูก เรี่ยวแรงผมก็เริ่มหายไปแต่สติผมยังอยู่เกินครึ่ง ดวงตาของผมเริ่มปรี่ลงเห็นหน้าผู้ชายตรงหน้าไม่ค่อยชัดเจน

   ผมพยายามดันคนตัวใหญ่กว่าออก มันก็ยอมถอยแต่โดยดี ผมมองหน้ามันอีกครั้งก็เห็นมันแยกเป็นสามส่วน ผมมึนๆรู้ตัวอีกทีก็เหมือนว่าตอนนี้ผมไปอยู่ในอ้อมกอดของมันซะแล้ว

   มันอุ้มผมขึ้นแขนขาผมตกตามแรงโน้มถ่วง หลับตาเมื่อหน้าหงายขึ้นสู้แดด ไม่รู้ว่ามันอุ้มผมไปไหนแต่ได้ยินมันพูดเบาๆว่า

   ‘จำชื่อกูไว้ กูชื่อซัน’
   
   ซัน ชื่อมันคือพระอาทิตย์สินะเหมือนกับผม ‘พระอาทิตย์’ แต่ผมกับร้อนจนแทบละลายเมื่อมีมันอยู่ใกล้ๆ ผมพยายามลืมตามองหน้ามันเห็นดวงตามุ่งมั่นของมันเหมือนจะแผดเผาทุกอย่างที่ขวางหน้า สติผมเริ่มไม่รับเสียงรอบข้างรู้สึกอีกทีก็เหมือนมีแอร์เย็นๆมาปะทะเข้ากับหน้าผมแล้ว

   .

   .

   “อืออออ” ผมสะบัดหัวไล่ความมึน เหมือนสติยังมาไม่เต็มเท่าไหร่มันเบลอๆจำเรื่องก่อนหน้านี้ได้ไม่หมดแต่พอนึกออกว่าผมถูกผู้ชายคนหนึ่งโปะยาแล้วพาตัวมา

   มันพาผมเข้ามาจอดที่คอนโดแห่งหนึ่งถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคงเป็นคอนโดของมัน ผมถูกอุ้มขึ้นมาที่นี่โดยที่ผมไม่มีแรงแม้แต่จะขืนตัวออก ยาที่มันใช้ไม่ใช่ยาสลบเพราะผมรู้สึกตัวตลอดเวลาเพียงแต่ว่ามันทำให้ผมไม่มีแรงแม่แต่จะอ้าปากเปร่งเสียงยังลำบากเลย

   “ลุกขึ้นมาคุยกันหน่อยสิ” ผมหันหน้าไปตามเสียงเห็นไอ้ผู้ชายคนนั้นมันนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าโต๊ะกระจก

   ผมดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง เริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างมือยังพอมีแรงยกขึ้นอยู่บ้างนิดหน่อย

   “อะ..ไร” ผมเจ็บคอมันเหนื่อยๆขนาดแค่พูดคำเดียวเอง

   “รู้จักคนในรูปไหม” มันโยนรูปมาปึกนึงน่าจะสักสี่หรือห้าใบ ทันทีที่ผมเห็นก็แทบตกใจในเมื่อคนๆนั้นคือ ‘ศศิ’ น้องสาวของผม

   “จะทำอะไร แค่กๆ” ผมไอเสียงแหบแต่ก็ต้องเค้นเสียงถาม ตอนนี้ผมเป็นห่วงกลัวว่าน้องผมจะอยู่ในอันตราย

   “แล้วมึงรู้จักคนนี้ไหม” มันโยนรูปอีกใบใส่หน้าผม พอดีว่ารูปมันตกและหงายลงตรงหน้าผมพอดี ผมมองก็ตกใจอีกในเมื่อผู้ชายในรูปคือพี่เวอร์มุธ....

   ผมมองหน้ามันไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร มันก็จ้องกลับมาด้วยแววตาที่เหมือนแค้นเคือง ผมเม้มปากเริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ธรรมดา สักพักมันก็เดินมาหาผมพร้อมโทรศัพท์ที่ยืนมาจ่อตรงหน้า ผมหันหน้าหนีเพราะแสงจากหน้าจอทำให้ผมมองอะไรไม่ชัดแต่มันก็ยังจับให้หน้าผมหันไปตามทิศทางที่มันต้องการ

   “กูรู้ว่าสองคนแรกมึงคงรู้จัก แล้วคนนี้ล่ะมึงรู้ไหมว่าใคร” ผมมองรูปในไอโฟนของมัน ผมส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่รู้จัก คนในรูปเป็นผู้ชายแน่ๆผมมั่นใจแต่หน้าตาน่ารักติดไปทางสวย มีรอยยิ้มกว้างประดับใบหน้าแต่แววตาเศร้าจนผมยังสงสาร

   “ตอบกู!!!” จู่ๆมันก็ตะโกนจนผมสะดุ้ง

   “มะ..ไม่รู้ แค่กๆ”

   “คนนี้ชื่อเพทาย มึงจำให้ดีเพทายแฟนของว่าที่สามีน้องสาวมึง!!!” มันแหกปากใส่หน้าผม

   ผมหลับตาตกใจกับเสียงที่ดังมากๆของมัน แต่สมองก็พยายามคิดตาม แฟนของว่าที่สามีน้องสาวผม งั้นก็หมายความว่า คนในรูปคือแฟนพี่เวอร์มุธสินะ

   “แฟน..พี่วะ..เวอร์มุธเหรอ” เสียงผมแหบและเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ในห้องที่เงียบกริบขนาดนี้มันคงได้ยินที่ผมพูดเพราะจู่ๆมันก็ยิ้มออกมา

   “รู้จักนิ ดีจะได้คุยกันง่ายๆหน่อย” มันปล่อยคางผมจนสะบัดไปข้างหนึ่ง ตัวผมไม่มีแรงจึงทรุดลงไปนอนกับที่นอน

   ผมยันตัวเองขึ้นอย่างยากลำบาก มองมันก็เห็นมันเดินไปเดินมาอยู่ปลายเตียง

   “แล้วกูเกี่ยวอะไร แค่กๆ” ผมถาม

   “หึหึ ถามได้ดี กูจะคุยกับมึงเรื่องนี้อยู่พอดีเลย”

   “คุยอะไร” ผมถามต่อ

   O_O!

   ผมอึ้ง จู่ๆมันก็ถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผม มันถอดจนหมด หมดจริงๆ ถึงผมจะเป็นผู้ชายแต่ก็ไม่เคยเห็นใครมาแก้ผ้าต่อหน้าแบบนี้

ผมพยายามดันตัวหนีแต่ก็ไม่ทันมันเดินมาจับหน้าผมให้เงยมองหน้ามัน มันยิ้มอย่างมีเลศนัย แต่ผมนี่ตัวสั่นด้วยความกลัว อะไรบางอย่างบอกว่าผมคงจะโชคร้ายเข้าให้แล้ว

   “เดี๋ยวขอใช้ร่างกายคุยก่อนแล้วกัน”

   “อื้มมมม” พอมันพูดจบก็ฉกวูบมาที่ปากของผม ผมอยากหนีแต่หนีไม่ได้ ผมไม่มีแม้แต่แรงจะร้องไห้ด้วยซ้ำ

   ผมกำลังโดนผู้ชายด้วยกันจูบและลวนลามร่างกาย

   “หึหึ นิ่งๆแบบนี้กูชอบ” มันว่าจบก็จูบผมอีกครั้ง ผมหลับตาและกัดปากไม่ให้มันล่วงล้ำเข้ามา และดูเหมือนมันจะโมโห

   “อ้าปาก!” มันพูดอู้อี้เพราะปากมันชิดอยู่ที่ปากผม

   ผมดื้อด้วยการไม่ทำตาม ทำไมผมต้องยอมมันด้วย ที่สำคัญที่ผมอยากจะถามมันคือผมผิดอะไร ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย....

   “อื้อออ” ผมครางประท้วงเมื่อมันจูบจนผมเหมือนจะหมดลมหายใจ ถึงแม้ว่าผมจะพยายามกัดปากเพื่อต่อต้านแต่เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดของผมสุดท้ายก็ต้องแพ้มันอยู่

   มือมันบีบกรามผมแน่น ผมเจ็บจนน้ำตาไหลเป็นทางแต่ไอ้คนตรงหน้าก็ยังไม่ยอมหยุดลุกล้ำผม จนผมรู้สึกได้กลิ่นคาวเลือดในปาก

   “ครั้งนี้มึงไม่แรง เดี๋ยวกูบริการมึงเอง” มันพูดแบบนั้นผมยังคิดตามไม่ทันมันก็คร่อมทับบนตัวผม

   ผมยกแขนจะดันมันออกแต่ก็โดนมันจับแขนผมทั้งสองข้างขึ้นไปไว้เหนือหัว มันล็อคแขนผมด้วยมือข้างเดียวผมมั่นใจว่าถ้าผมไม่โดนมันโปะยามาก่อนหน้านี้ผมต้องดิ้นหลุด

   “อย่าพยายามขัดขืนไม่งั้นมึงต้องเจ็บตัว” มันพูดจบก็ซุกหน้ามาที่ซอกคอของผม

   ผมร้องไห้....โดยที่ไม่สามารถขัดขืนมันได้ ผมไม่ได้ยอมแต่ผม..... ฮึกๆ

   “อ๊ะ” ผมเผลอหลุดเสียงเมื่อมันก้มลงใช้ลิ้นกับหน้าอกของผม

   ผมแอ่นตัวขึ้นอย่างเผลอตัว ผมยอมรับว่ารู้สึกเสียวเมื่อมันเล่นกับจุกเล็กๆตรงนั้น ผมเป็นคนมีความรู้สึกเพียงแต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับปากของผู้ชายด้วยกัน

   มันถอดเสื้อผ้าผมออกจนตอนนี้ทั้งผมและมันล่อนจ้อนทั้งคู่ ผมอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีน้ำตาที่ไหลของผมไม่ได้ทำให้มันสงสารผมเลยสักนิด ผมกลั้นเสียงไม่อยากให้ใครมาเวทนา

   “อืมมม” มันครางแผ่วในลำคอหลังจากเล่นกับด้านบนผมจนพอใจ

   มือมันยังจับแขนผมตรึงไว้บนหัวแน่นโดยไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยให้แขนผมเป็นอิสระ ผมพยายามบิดตัวหนีแต่มันก็จะกระชากตัวผมให้กลับมานอนราบตามเดิม

   “ขาวกว่าที่กูคิด” ไม่รู้ว่ามันคิดอย่างที่พูดหรือตั้งใจพูดให้ผมอาย แต่ดูจากสายตาผมว่ามันตั้งใจเยาะเย้ยผมมากกว่า

   “อื้อออ..อ๊า..มะ..ไม่” ผมบิดตัวร้องครางอย่างอดไม่อยู่ มันใช้มือชักรูดน้องชายผมจนตอนนี้มันตั้งชันสู้มือใหญ่ของมันแล้ว

   ผมเห็นมันหัวเราะท่าทางของผมแต่ผมห้ามตัวเองไม่ได้ แค่ถูกมือมันสัมผัสปลุกเร้าแค่นิดหน่อย ก็อ่อนไหวจนเหมือนว่าร่างกายของผมมันกำลังจะละลาย

   “ร้องออกมา” มันกัดฟันพูดสีหน้าดูหื่นขึ้นสิบเท่า

   “อื้อๆๆ” ผมกัดปากส่ายหน้าไม่ทำตาม แต่น้ำตาก็ไหลมามากขึ้น

   ผมกำลังถูกผู้ชายตรงหน้าที่ชื่อว่า ซัน ทรมานร่างกาย มันลวนลามเนื้อตัวผมจนขึ้นรอยเต็มไปหมด ผมยกหัวขึ้นเพื่อมองด้านล่างของผมที่ถูกมันกอบกุมเอาไว้ยิ่งเห็นก็ยิ่งสั่นระริก

   “ดี...ดี! งั้นดูสิว่ามึงจะเงียบปากได้อีกนานแค่ไหน” มันว่าจบก็แทงนิ้วพรวดเข้าช่องด้านหลัง

   “อุก....จะ..เจ็บ..ฮึก!!...กูเจ็บบ!!” ผมตะโกนเสียงแหบ จุกจนกือบจะเปร่งเสียงไม่ออก ไม่มีการเบิกทางใดๆทั้งสิ้นมันส่งนิ้วเข้าพร้อมกันทีเดียวสามนิ้ว ทำเอาผมเจ็บจนทนไม่ได้คิดในใจว่าตรงนั้นของผมคงไม่วายเลือดไหลท่วมแน่นอน

   “ดี มึงจะได้รู้สึกถึงความเจ็บเยอะๆ” มันว่าจบก็ขยับนิ้วหมุนควานข้างในจนผมเริ่มรู้สึกถึงอย่างอื่นมาแทนความเจ็บ

   ผมแอ่นสะโพกตามการขยับของมัน ผมกำลังรู้สึกเหมือนเป็นบ้า มันกำลังทำให้ผมเป็นบ้าและเหมือนคนจะตาย ผมอธิบายไม่ถูกรู้แต่ว่าผมกำลังจะขาดใจตาย

   “พะ...พอ” ผมร้องขอ มันส่ายหนีพร้อมแสยะยิ้ม

   “ใจเย็น มึงได้เจอของจริงกว่านี้” ผมประมวลผลตามพอดีกับที่มันชักนิ้วทั้งสามออกและเอาอะไรที่ใหญ่โตกว่ามาจ่อที่ปากทางเข้า

   ผมตาโตเขยิบกายถอยหนีอย่างหวาดกลัว ไม่! ผมนึกในใจมันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ไอ้นั่นของมันใหญ่เกินไปถ้ามันแทรกเข้ามาผมต้องตายแน่นอน

   “มะ..ไม่..ม่ายยยย.อ๊า” ผมร้องสุดเสียงเมื่อมันแทงเข้ามาจนมิด

   การเบิกทางของมันก่อนหน้านั้นไม่ช่วยอะไรผมเลย ผมเจ็บจนจุกผมร้องได้แค่ครั้งเดียวหลังจากนั้นก็เงียบมีเพียงหยดน้ำตาที่ยังไม่หยุดไปสักที

   ผมบิดแขนออกจากมือมันอย่างอึดอัด ร่างกายผมเหมือนมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ มันร้าวตั้งแต่กระดูกสะโพกถึงกระดูกสันหลัง ปลายประสาทของผมตื่นตัวทำงานทั้งร่างกาย จนผมเริ่มรู้สึกทรมาน

   “มึงต้องจำวันนี้เอาไว้” ไอ้ซันมันก้มหน้ามากระซิบข้างๆหูผม

   ผมรู้สึกว่าน้องชายมันขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ผมจุกหนักเข้าไปอีกขยับตัวก็ไม่ได้อยากหนีไปจากที่ตรงนี้แต่ผมไม่มีแรงพอ

   “กะ..กู..ฮึกๆ..ผิดอะ..ไร..ฮึก” ผมสะอื้นถามมันอย่างหมดแรง

   มันยังแช่ค้างไว้ไม่ยอมขยับ หน้าตามันบิดเบี้ยวเวลาผมขยับตัว ผมอยากได้คำตอบจากปากมันชัดๆว่าสิ่งที่มันกำลังทำกับผมนี่เพราะผมมีความผิดหรือมันต้องการใช้ให้ผมเป็นเครื่องมือ

   “มึงผิด.....”

   “ฮึกก” ผมร้องไห้

   “ผิดที่เป็นพี่ชายของผู้หญิงคนนั้น...จำไว้” จบประโยคมันก็ดึงแก่นกายออกจนเกือบหลุดก่อนจะสวนแทงเข้ามาจนตัวผมโยกคลอนไปตามแรงของมัน

   เอี๊ยดด..เอี๊ยดด

   เสียงเตียงไม้เสียดสีมันบาดหูผมมากเกินไป เสียงครางระงมของมันยิ่งทำให้ผมหูอื้อ จากตอนแรกที่เจ็บจนเหมือนร่างจะแตกออก ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเสียวไปกับการกระทำของมัน

   “อะ..อื้ออ” ผมรีบกัดปากเมื่อหลุดเสียงร้องอันน่าสมเพชออกมา

   มันยิ้มอย่างพอใจ

   “อ๊า!!!” ผมร้องลั่นห้ามไม่อยู่เมื่อมันก้มลงใช้ปากกับหัวนมผมอีกครั้ง

   มันปล่อยแขนผมให้เป็นอิสระ มันส่งมือไปบี้จุกนมผมอีกข้างที่ว่างจากปากมัน ด้านล่างมันขยับเร็วขึ้นๆ จนหลังผมแอ่นไม่ติดกับที่นอน

   ผมยกมือขึ้นพยายามดันไหล่มันให้หยุด แรงผมเริ่มกลับมาเกือบสมบูรณ์แต่ไม่รู้เพราะอะไรผมถึงไม่มีแรงพอจะผลักให้มันออกจากร่างกาย

   “ฮึ่มมม” มันครางกระหึ่มเร่งเครื่องด้านล่างถี่รัว จนเตียงดังสนั่นอีกรอบ

   มันดันขาผมให้แยกออกกว้างกว่าเดิม สะโพกผมลอยเหนือพื้นที่นอน ทั้งหัวและตัวสั่นคลอนเพราะแรงขยับจากคนด้านบน ผมปรือตามองผู้ชายตรงหน้าเห็นมันกำลังมองผมด้วยสายตาที่บอกว่าหื่นกระหายมากแค่ไหน ผมหันหนีเริ่มรู้สึกเขินกับสายตาที่สำรวจทุกซอกทุกมุมของมัน

   มันมองผมเหมือนต้องการเห็นทะลุผ่านถึงอีกฝั่ง ดวงตามันร้อนแรงเหมือนมีไฟลุกโชติอยู่ในนั้นตลอดเวลา ทั้งๆที่ผมก็คือพระอาทิตย์...แต่ทำไมแสงของผมถึงสู้มันไม่ได้

   พั่บๆๆๆ

   “อ๊ะๆๆๆๆๆ” ผมร้องดังขึ้นๆแข่งกับเสียงน้องชายของมันที่กระทบกับช่องทางรักของผม เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ได้ยินยิ่งทำให้ไฟราคะในตัวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี

   ผมเอื้อมมือขึ้นไปจับหัวมันไว้เพื่อระบายความเสียวที่หมุนวนอยู่ข้างใน มันไม่ว่าอะไรแถมยังก้มลงมาจูบปากผมอีกครั้ง

   “มะ..ไม่ไหว” ผมบอก

   “กู..อ๊ะๆ..ก็ไม่” มันตอบเสียงกระเส่า

   มันอ้าขาผมให้กว้างได้องศามันจนตอนนี้แทบจะฉีกไปคนละทิศละทาง มันเดินหน้าเร่งเครื่องถี่ขึ้น มันใส่แรงทั้งหมดมาที่ผมจนสุดท้ายน้ำสีขุ่นก็ถูกล่อยออกมาเต็มหน้าท้องของผม

   มันกระแทกเร็วๆอีกสามสี่ครั้ง และสุดท้ายมันก็ฉีดน้ำรักทั้งหมดเข้าช่องทางของผม

   “อ๊า!!!!!!!”

   “อืมมมมม”

   มันทรุดตัวลงทับตัวผมทั้งๆที่ไอ้นั่นยังคาอยู่ ผมหอบหายใจเฮือกใหญ่จนเริ่มรู้สึกหนักและกลับมาเจ็บจึงได้ผลักตัวมันออก

   “ฮึกๆ..ออกไป” ผมสะอื้นไม่หยุด

   “หึ ไล่กูเหรอ งั้นมาต่ออีกรอบดีกว่า” มันถอนตัวเองออกแล้วอุ้มผมเข้าห้องน้ำด้วยใบหน้าเกรี้ยวโกรธเหมือนไม่พอใจ ผมรู้เลยว่าจะโดนอะไรต่อไป

   แต่สิ่งหนึ่งที่ผมแปลกใจ คือทำไม....

   ผมไม่รังเกียจมัน

   ทำไมนะ
   


   
TBC______________



นักเขียนขอเม้า

มาอีกแล้วสำหรับคู่รองหวังว่าคงจะชอบกันน้าาา

ซันกลินท์ๆๆๆ ><

 :hao6: :mew1: :mew1: :mew3: :katai4:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
แอบซาดิส สินะะะ  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
กรี๊ด ชอบคู่รองมาก ไม่มีเหตุผลดี 5555555
ว่าแต่คู่หลักกำลังอึมครึม
หวังว่าอย่างนี้เวอร์มุธตงไม่คิดอะไรง่ายๆ
อย่างที่จะปล่อยเพทายไปอีกใช่ไหม

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
กำเนิดคู่ใหม่ รักเพื่อนมันก็ดียู่หรอกซัน แต่วิธีเอ็งมันผิดอ่ะ  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
ซัน T T



สงสารกลินท์



พี่เวอร์มุธไปไหนน มาม่ากำลังอืดได้ที่เลยย

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
กร้าก ซันกลินท์ ชอบคู่นี้ ไม่นึกว่ากลินท์จะเป็นรับนะเนี้ยะ

ออฟไลน์ Pumpkin_23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สงสารกลินท์เลย ไม่ได้ทำไรผิดเลย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คู่ของซันสุดหล่อออกมาแล้ว
แถมเป็นคนดีซะด้วย ได้กลิ่นมาม่า
มาอีกคู่แล้ว แต่คิดว่าชามนี้คงอร่อยน่าดู

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ชอบล่ะเซ่ะตัวเองงงง

 :hao7: :hao7: :hao6: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ supermyrainbow

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สงสารทุกคน  แต่ละคนมีเหตุผลของตัวเอง :o12:

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
แต่ละคู่- - นี่นางน้องซันแกไปทำพี่กลินท์แบบนี้ได้งัย  พี่เขาคงเจ็บมากเลยมั๊งนั่น

ออฟไลน์ clock_nuchchee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ Pumpkin_23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อยากอ่านต่อออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด