- 4 -
โต้งพาผมมาที่บ้านของโต้ง บ้านของโต้งหลังใหญ่มาก ใหญ่พอๆกับบ้านของตระกูลใหญ่ มันมีสีขาว โต้งบอกผมว่าเขาขอโทษด้วยที่มีบ้านหลังใหญ่ ความจริงเขาอยากมีบ้านหลังเล็กแล้วอยู่กันสองคนมากกว่า แต่เพราะเขาต้องอาศัยบารมีคุณพ่อ เขาเลยต้องสร้างบ้านหลังใหญ่ให้สมฐานะของคุณพ่อ
" พ่อจริงของผมเป็นคนจีน ชื่อ หยาง เลี่ยงจิน ส่วนแม่ผมเป็นคนญี่ปุ่น ชื่อโอกาซาวาระ ริทซึโกะ พวกเขามาพบรักกันที่ไทย และเกิดผมออกมา แต่ตอนนั้นพ่อผมไม่รู้ เพราะต้องรีบกลับจีน ส่วนแม่ที่ต้องกลับญี่ปุ่นก็ต้องทิ้งผมไว้เพราะความไม่พร้อม แต่ตอนหลังพ่อมาสืบได้ว่ามีผมเป็นลูก และเป็นเพราะเขายังไม่แต่งงานและไม่มีทายาท เขาเลยตามหาผม วันที่ผมแยกกับพี่คือวันที่ผมได้พบหน้าพ่อครั้งแรก เขาส่งคนมาช่วยผม และหลังจากนั้น เพื่อช่วยพี่ผมถึงยอมเข้าตระกูล แต่ผมต้องใช้เวลาเกือบห้าปีกว่าจะมีกำลังและอำนาจมากพอ ขอโทษนะครับที่ปล่อยให้พี่คอยนาน"
โต้งเล่าประวัติของเขาในระหว่างทางกลับไปที่บ้านสาขาของตระกูลหยาง ตระกูลหยางเป็นตระกูลอันดับสาม ในขณะที่ตระกูลลู่เป็นอันดับที่หนึ่ง โต้งบอกว่าถ้าอยู่กันเองก็เรียกว่าโต้งเหมือนเดิมก็ได้ หรือจะเรียก จินหลินก็ได้ แต่โต้งบอกว่าชอบชื่อริวมากกว่า เพราะเห็นว่าเป็นชื่อที่คุณแม่ตั้งให้
" แม่ผมเสียใจมากที่ทิ้งผม แต่ตอนนั้นมันจำเป็นเพราะทั้งสองตระกูลยังเป็นศัตรูกัน ถ้าคุณตารู้คงฆ่าผมทิ้ง และกว่าพ่อผมจะรู้เรื่อง เวลาก็ผ่านมานานแล้ว แต่ตอนนี้แม่ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นนะ คุณตาเองก็รับเรื่องของผมได้แล้ว ไว้ถ้าว่างๆผมจะพาพี่ไปหาแม่ผม"
โต้งเล่าเรื่องของตัวเองอีกหลายอย่าง แต่พอถึงตัวบ้านโต้งก็นิ่งเงียบ โต้งลงจากรถหลังจากที่จ้าวเปิดประตูให้ ตอนแรกโต้งจะให้ผมเดินเอง แต่พอเห็นผมไม่ใส่รองเท้า โต้งก็อุ้มผมขึ้นมา
"
ให้คนเตรียมอาหารไว้ด้วย ฉันจะอยู่กับคุณหนูอี้ที่ตึกปีกขวา"
เสียงโต้งดูราบเรียบและไร้ความรู้สึก ผมไม่ชอบเลย มันให้ความรู้สึกเหมือนโต้งจะเปลี่ยนไปเหมือนคุณพ่อ
" ไม่ต้องกลัวนะครับ บางทีผมก็ต้องสร้างภาพบ้าง ไม่งั้นคงคุมคนไม่อยู่ แต่สำหรับพี่ ผมยังคงเป็นโต้งของพี่นะ"
โต้งบอกตอนที่วางผมลงบนเตียง เขาถอดเสื้อนอกออก และไปหยิบผ้ามาชุบน้ำมาเช็ดเท้าให้
" พี่ทำเองก็ได้โต้ง แค่พาพี่ไปห้องน้ำก็พอ"
" ให้ผมทำให้พี่นะ ผมให้พี่รอมาตั้งนาน ผมขอโทษนะครับ ผมเองก็อยากติดต่อพี่ แต่ตระกูลลู่เข้มงวดมาก กว่าผมจะหาทางส่งคนเข้าไปคอยสืบเรื่องในตระกูลลู่ได้ก็ต้องใช้เวลาตั้งนาน"
โต้งบอกแล้วเช็ดเท้าทั้งสองข้าง เขาดูเบามือมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเดียวกับที่ยิงปืนใส่คนของคุณพ่อเมื่อกี้
ผมจับมือโต้งขึ้นมา
และกำมันไว้แน่น
" ขอบคุณนะที่มารับพี่ พี่นึกว่าโต้งจะหาพี่ไม่เจอซะแล้ว"
" ตอนแรกผมไม่รู้ เพราะพ่อไม่ยอมบอกอะไรผม พ่อบอกว่า ผมต้องยอมรับสืบทอดตำแหน่งก่อน เขาถึงจะช่วยผม ผมไม่มีทางเลือก ความจริงผมไม่ชอบวิถีเจ้าพ่อหรือยากูซ่า แต่เพราะต้องช่วยพี่ ผมถึงยอมรับข้อตกลง"
" แต่พี่ไม่ต้องกลัวนะว่าผมจะลำบาก เพราะแค่ผมได้ช่วยพี่ได้ตามที่สัญญาไว้ก็พอ พี่อย่าร้องไห้ ผมไม่ได้ลำบากจริงๆนะ"
โต้งกอดผม เขาปลอบผมที่ร้องไห้ ผมสะอื้นขอโทษเขาที่ทำให้เขาลำบาก แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร แค่ได้ช่วยผมไว้ก็พอแล้ว
" ไว้ให้เรื่องมันสงบกว่านี้ก่อนนะ แล้วผมจะพาพี่ไปเดินเล่น ไปเดินบนสนามหญ้า ไปปีนต้นไม้ แต่เรื่องไปทะเลต้องรอก่อน เพราพี่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่ผมจะสอนพี่ว่ายน้ำนะ ไว้ให้อะไรสงบๆลง แล้วจะสอนพี่ว่ายน้ำที่สระหลังบ้าน"
ผมพยักหน้ารับ โต้งยังจำสัญญาได้ นอกจากเรื่องที่เขาจะมารับผม เขาก็ยังจำสัญญาอื่นๆได้
" ไปอาบน้ำไหมครับ ผมให้คนเตรียมน้ำไว้แล้ว พี่เข้าไปอาบน้ำนะ ผมจะรอข้างนอก"
โต้งอุ้มผมไปที่ห้องน้ำ โต้งบอกว่าตอนนี้ผมตาแดงมาก ให้รีบอาบน้ำแล้วจะได้มาทานข้าวและนอนพักผ่อน แต่ผมไม่อยากนอน
ผมอยากอยู่กับโต้ง
ผมกลัวว่า ถ้าผมหลับตา หรือโต้งหายไปจากสายตา โต้งจะหายไปอีก
" อยู่กับพี่ได้ไหม อย่าเพิ่งไปห่างจากสายตาพี่เลยนะ"
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมอ้อนคน โต้งดูหนักใจ แต่เมื่อเห็นผมไม่ยอมปล่อยมือ เขาก็ตามใจผม
" ผมจะปิดม่านให้นะ ถ้าพี่อาบเสร็จแล้วก็เรียกผม ผมจะส่งเสื้อผ้าไปให้"
ผมพยักหน้ารับ
โต้งรูดม่านกันน้ำสีขุ่นกั้นระหว่างเราสองคน ผมเรียกชื่อโต้งทุกสองนาที ผมพยายามอาบน้ำให้เร็ว โต้งจะได้ไม่ต้องรอนาน
พอผมอาบน้ำเสร็จ โต้งก็ส่งเสื้อผ้ามาให้ มันเป็นชุดนอนธรรมดา แต่ตัวใหญ่มาก น่าจะเป็นเสื้อของโต้ง
" ผมขอโทษนะครับ พอดีเสื้อผ้าของพ่ีที่ผมเตรียมไว้อยู่ที่บ้านอีกหลัง แต่บ้านหลังนั้นอยู่ใกล้ตระกูลลู่มากไป ไว้รอพรุ่งนี้ผมจะให้คนเอาเสื้อที่พอดีมาให้นะ"
โต้งบอกและจ้องผมไม่วางตา ก่อนหลบสายตาลง แต่ผมอยากมองหน้าโต้ง
ผมเอื้อมมือไปจับหน้าโต้งให้หันมา โต้งหน้าแดง หน้าแดงมากจนผมเป็นห่วง
" ไม่สบายรึเปล่าโต้ง เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย หรืออยู่ในนี้แล้วร้อน"
โต้งไม่ได้กัดปาก โต้งจ้องตาผม ก่อนที่จะคว้าตัวผมเข้าไปกอดและจูบ
" ผิงอัน ผมคิดถึงพี่มาก คิดถึงพี่คนเดียว"
" พี่ก็เหมือนกัน พี่คิดถึงเธอทุกวัน คิดถึงเธอ จนไม่เคยคิดถึงคนอื่น"
" ผิงอัน.."
โต้งเริ่มไล่จูบตั้งแต่ปากไปถึงลำคอ โต้งลูบต้นคอ ก่อนปล่อยผมที่ผมมัดไว้ตอนอาบน้ำลงมา
" พี่ไม่ได้ตัดผมเลยใช่ไหม"
" อื้อ เพราะว่าโต้งชอบ พี่เลยไม่ได้ให้ใครตัดผม"
โต้งเงยหน้าขึ้นมามองตาผม เขาไล่นิ้วไปตามเส้นผม ก่อนก้มลงมาจูบอีกที
" พี่สวยขึ้นมาก สวยขึ้นทุกครั้งที่ผมเจอ และตอนนี้พี่สวยที่สุด"
" เธอเองก็สูงขึ้นเยอะนะโต้ง สูงเท่าไหร่แล้ว"
" ร้อยแปดสิบเจ็ด และพี่น่าจะไม่ถึงร้อยเจ็ดสิบ พี่หนักกี่กิโลกัน ถึงจะไม่ได้ดูผอม แต่ผมว่าพี่ตัวบางลงนะ"
" พี่ไม่เคยวัด ปกติก็ไม่เคยวัดอยู่แล้ว"
" ต้องใช้คำว่าชั่งนะ พี่พูดไทยไม่ชัดอีกแล้ว แต่ดีกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรก"
ก๊อก ก๊อก
" บอสคร้าบบ อาหารมาแล้ว เอาอาซ้อออกมาก่อน ผมเรียกหมอมาตรวจอาซ้อแล้วด้วย อย่าเพิ่งทำอะไรซ้อนะ"
เสียงของมอ
ผมจำได้ เพราะมอชอบทำเสียงตลก
โต้งถอนหายใจ เขาอุ้มผมขึ้นก่อนจะสั่งให้มอเปิดประตูเพราะมือไม่ว่าง
" แหมๆ เข้าไปทำอะไรในห้องน้ำครับ ไม่สงสารซ้อเหรอ เดินทางมาเหนื่อยๆ"
" ไปตามหมอมา"
" คร้าบบ"
" มอมันทะลึ่งน่ะพี่ อย่าถือสานะ แต่เห็นแบบนั้น มันทำงานดีมาก"
" พี่จำเขาได้ คนที่เคยเอามือถือโต้งโทรมาหาพี่ใช่ไหม พี่นึกว่าเขาจะดูเด็กกว่านี้ซะอีก"
โต้งไม่ได้ตอบอะไรอีกเพราะมีคนเคาะประตูเข้ามา พอมีคนอื่นอยู่ด้วย โต้งก็นิ่งไป เหมือนเป็นอีกคน
ผมยอมให้หมอตรวจร่างกายดีๆ หมอบอกว่าผมแข็งแรงแต่เลือดน้อยเพราะไม่ค่อยออกกำลังกาย หมอบอกว่าหมอจะสั่งยาบำรุงมาให้
พอหมอออกไปโต้งก็กลับมายิ้มเหมือนเดิม ผมชอบเวลาโต้งยิ้ม เพราะผมจะยิ้มตามเขา
" ขอตัวนะคร้าบบ อย่าหักโหมมากนะครับ"
มอพูดก่อนขอตัวก่อนออกจากห้อง
โต้งคำรามลั่น
และมอพูดออกมาอีกรอบตอนที่เห็นโต้งจูบผม
วันนี้โต้งจูบผมบ่อยมาก
แต่ผมก็ไม่ได้ปฎิเสธ
เพราะผมเองก็คิดถึงเขาเหมือนกัน
" ทานข้าวนะครับ พี่จะได้นอนพัก"
" ทานข้าวอย่างเดียวได้ไหม พี่ไม่อยากนอน กลัวโต้งหายไป"
โต้งบอกว่าผมขี้อ้อนขึ้นมาก เขาบอกว่า จะนอนกับผม แต่ผมต้องกินข้าวให้หมด
ผมพยายามถ่วงเวลาเพราะไม่อยากนอน โต้งก็ไม่ว่า เขาแค่ยิ้มและป้อนข้าวผมแทน
" ข้าวต้มจะอืดแล้ว ผมป้อนนะ ถ้าพี่ไม่อยากนอนขนาดนี้ เรานั่งคุยกันก็ได้ ขืนพี่กินช้ากว่านี้พี่คงท้องอืด"
โต้งบอกและป้อนข้าว ผมอ้าปากรับ ไม่อยากดื้อมาก กลัวโต้งโกรธ
" ผมไม่โกรธพี่หรอกนะ ความจริงผมก็อยากอยู่คุยกับพี่ แต่ผมกลัวว่าวันนี้พี่เจอเรื่องหนักๆมาทั้งวัน ถ้าไม่พักแล้วจะป่วย แต่พี่ยังตาใสอยู่เลย ไม่กลัวเลยเหรอครับ"
" แค่มีโต้งพี่ก็ไม่กลัวแล้ว ตอนแรกมีตกใจบ้างที่ได้ยินเสียงปืน แต่พอเจอโต้งพี่ก็ไม่กลัว"
โต้งมองหน้าผมเหมือนจะพูดหรือมองหาอะไรบางอย่าง แต่พอเขาจ้องผมนานเข้า เขาก็ถอนหายใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรออกมา
หลังจากทานข้าวโต้งก็เล่าเรื่องของโต้งให้ผมฟัง ตอนแรกเขาถามเรื่องผม แต่พอผมบอกไปว่า ผมไม่ทำอะไร แค่อยู่ในห้องและคิดถึงโต้ง มีบ้างที่เขียนชื่อโต้งบนผนัง เพราะผมกลัวลืมโต้งไป
โต้งไม่ได้ว่าอะไรที่ผมเล่าแค่นั้น เพราะผมเองก็ไม่รู้จะเล่าอะไรอีก ชีวิตผมห้าปีมีแค่นั้นจริงๆ
" ไว้รอให้เรื่องมันเงียบลงหน่อยนะครับ ผมจะพาพี่ออกไปข้างนอก พาพี่ไปเปิดหูเปิดตา พี่จะได้เจอสิ่งที่พี่อยากทำ"
" พี่ไม่ได้อยากทำอะไร แค่มีโต้งอยู่ข้างๆก็พอ แล้วถ้าโต้งออกไปข้างนอก พี่ก็แค่รอโต้งกลับมา"
คราวนี้โต้งเม้มปาก โต้งไม่ได้พูดเรื่องนี้อีก เขากลับไปเล่าเรื่องตัวเอง เขาเล่าจนผมเริ่มง่วง แต่ผมฝืนลืมตาไว้
" ถ้าง่วงก็นอนเถอะครับ ผมไม่ไปไหนหรอก"
" พี่ไม่อยากนอน กลัวโต้งหายไป..."
กลัวว่าทุกอย่างจะเป็นแค่ฝันไป
" ผมจะอยู่กับพี่ ถึงพี่นอนผมก็จะตามเข้าไปในฝัน"
" จะอยู่กับพี่ตลอดเหรอ"
" จะอยู่กับพี่ตลอดไปครับ"
" ตื่นมาพี่จะเจอโต้งใช่ไหม"
" ทุกครั้งที่ลืมตาเลยครับ"
และผมก็หลับไป เพราะผมเชื่อว่าโต้งจะรักษาสัญญา
เหนือนที่โต้งบอกว่าจะมารับผม
เช้าแล้ว...
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า สิ่งแรกที่ผมเห็นคือหน้าของโต้ง
" อรุณสวัสดิ์ครับ"
โต้งบอกแล้วจูบผม
ผมไม่ได้ตื่นขึ้นมาแล้วเจอหน้าใครมานานมากแล้ว ถ้าให้นับก็คงห้าปี ห้าปีที่ผมอยู่คนเดียว
โต้งอุ้มผมไปอาบน้ำทั้งที่ผมเดินเองได้ เขาปิดม่านกั้นสีขุ่นและรอผมอาบน้ำโดยที่ไม่ต้องขอ ผมรีบอาบน้ำเพราะไม่อยากให้โต้งรอนาน จนผมอาบน้ำเสร็จ โต้งยื่นผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าเข้ามาให้
" ผมให้คนไปเอาเสื้อผ้ามาแล้ว ลองใส่ดูนะ ถ้าคับไปหรือหลวมไปผมจะให้คนเอาไปเปลี่ยน"
เสื้อที่โต้งเอามาให้เป็นเสื้อคอจีนไม่มีแขน มันพอดีตัว ส่วนกางเกงหลวมไปหน่อย
ผมเดินออกจากม่านกั้นและดึงผมที่มัดไว้ออก โต้งมองผมก่อนหลบตาแล้วพาผมไปที่หน้ากระจก โต้งหวีผมให้ โต้งมือเบามากเมื่อเทียบกับมือใหญ่ๆของโต้ง
" เช้านี้มีข้าวต้มปลา พี่ทานได้ใช่ไหม ไม่เบื่อใช่ไหมครับ"
" พี่ทานอะไรก็ได้ โต้งทานแบบไหนพี่ก็ทานแบบนั้น"
" งั้นลงไปทานที่ข้างล่างนะ ผมให้คนจัดโต๊ะไว้แล้ว พี่อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม"
ผมบอกโต้งว่าไม่ได้อยากทานอะไร ความจริงแล้วผมไม่รู้จะทานอะไรมากกว่า ทุกวันผมก็ทานแต่ข้าวต้ม มีมื้อเที่ยงที่ทานอย่างอื่น แต่อาหารส่วนใหญ่จะเป็นข้าวต้ม
โต้งพาผมลงไปข้างล่างหลังจากที่ถักเปียเสร็จ โต้งบอกว่าให้มัดเอาไว้กันลมพัด ผมตามใจโต้ง ตามใจโต้งทุกอย่างเท่าที่ผมทำได้
ห้องที่โต้งบอกว่าเป็นห้องอาหารเป็นห้องที่ใหญ่มาก ใหญ่พอๆกับห้องที่ผมเคยอยู่ เพียงแต่มันมีแต่โต๊ะและเก้าอี้เต็มไปหมด
" มันมีโต๊ะเล็กอยู่ในสวน แต่ผมยังไม่อยากให้พี่ออกไป คนของพ่อพี่อาจส่งคนมาดูได้ ผมไม่อยากเสี่ยงให้ใครเห็นพี่ ไม่งั้นเขาจะมีข้ออ้างได้ว่าผมลักพาตัวพี่มา"
โต้งบอกหลังจากที่มอวางจานอาหาร จ้าวยืนอยู่ข้างหลังโต้งตลอดเวลา เหมือนเวลาที่คนของคุณพ่อยืนอยู่ข้างหลังเพื่อระวังภัย
" พี่ไม่เป็นไร พี่อยู่แต่ในบ้านก็ได้ ปกติก็ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้ว"
ผมบอกแล้วเริ่มตักอาหาร โต้งไม่ได้คุยอะไรมาก เราทานอาหารกันเงียบๆ ผมพยายามทานเท่าที่จะทานได้ ข้าวต้มปลาของโต้งรสชาติแปลกๆ มันอร่อยแต่รสชาติแปลกๆ ผมทานได้ไม่หมดจานก็วางช้อน
" ทานอีกหน่อยสิครับ อย่างน้อยทานแต่ปลาก็ยังดี"
" พี่ทานไม่ค่อยลง มันรสชาติแปลกๆ"
" แปลกยังไงครับ ไม่อร่อยเหรอ"
" ไม่รู้สิ มันรสจัดไปหน่อย พี่ทานไม่ได้"
โต้งลองชิมข้าวต้มในถ้วยผม มันไม่ได้รสจัดมาก แต่ผมบอกไม่ถูก อาหารที่ผมเคยทานส่วนใหญ่เป็นข้าวต้มกับผัก มีบ้างที่เป็นเนื้อปลา แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผัก เขาบอกว่าเป็นอาหารเจ ผมไม่เคยทานเนื้ออย่างอื่นนอกจากปลา ยกเว้นเมื่อวานที่ผมทานได้เพราะโต้งป้อน
" รสก็ไม่จัดนะ อาจจะเค็มมากกว่าเมื่อวาน ปกติพี่ทานอะไร"
" พี่ทานข้าวต้มกับผัก พี่ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเรียกว่าอะไร แต่แม่บ้านบอกว่าเป็นอาหารเจ คุณพ่อท่านสั่งมาว่าห้ามพี่ทานเนื้อสัตว์ ทานได้แต่ปลา แต่พี่ก็ไม่ได้ทานปลาบ่อย"
คุณพ่อมักเชื่อคำพูดของซินแส เขาบอกว่าผมเป็นนกที่ต้องกินแต่ผัก ห้ามกินสัตว์หรือสัตว์มีเลือด ผมทานได้แต่ปลา เพราะนกบางตัวกินปลาเป็นอาหารได้
" แล้วเมื่อวานทานได้ไหมครับ ผมเห็นพี่ทานจนหมดนี่"
" ก็นั่นโต้งป้อน แล้วมันก็ไม่เค็มมาก ถึงมันจะไม่มีผัก แต่ก็ไม่มีเนื้อ พี่ทานเนื้อไม่ได้ คุณพ่อไม่ให้พี่ทาน"
โต้งดูเหมือนไม่ค่อยพอใจจนผมต้องพูดเสียงเบาลง ผมกลัวโต้งโกรธ โต้งนิ่งมาก จนผมต้องยกช้อนขึ้นมาใหม่
" ไม่ต้องทานหรอกครับ ผมจะให้คนไปเอานมมาให้ พี่ทานนมได้ใช่ไหม"
ผมไม่กล้าบอกโต้งว่าไม่รู้จักนม ผมเคยทานแต่น้ำเต้าหู้ มีอาหารหลายอย่างที่ผมเคยทานแต่มันไม่มีนม
" ผมจะให้คนไปซื้อน้ำเต้าหู้ให้ พี่รอหน่อยนะ พี่ไม่หิวมากใช่ไหม"
โต้งถามเสียงอ่อนลง ผมพยักหน้ารับ แต่ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาเพราะกลัวโต้งโกรธ ผมไม่อยากเรื่องมาก แต่ผมไม่เคยทานนมจริงๆ
" นมวัวมีประโยชน์นะ แต่ถ้าพี่ทานไม่ได้หรือไม่เคยทาน พี่อาจท้องเสียได้เพราะมันไม่ย่อย ผมไม่ได้โกรธพี่หรอกครับ แค่รู้สึกว่ามันเป็นความผิดของผมเองที่ไม่ได้เตรียมอาหารที่พี่ทานได้เอาไว้ให้ พี่รอก่อนนะ ไปที่ห้องนั่งเล่นไหม แล้วผมจะสั่งให้คนเอาน้ำเต้าหู้ไปให้"
โต้งบอกแล้วจูงผมไปที่ห้องนั่งเล่น ห้องทุกห้องที่โต้งแนะนำตอนเดินผ่านดูใหญ่โตไปหมด กว่าผมจะเดินมาถึงห้องนั่งเล่น ผมก็เกือบเดินไม่ไหวแล้ว
" เมื่อก่อนผมเห็นพี่ทานเนื้อได้นี่ครับ อาหารเช้าพี่เหมือนจะเป็นเนื้อไก่ ทำอยู่ๆเจ้าพ่อลู่ถึงไม่ได้ให้พี่ทานเนื้อล่ะครับ"
" คุณพ่อบอกว่าพี่ทานได้แต่ผักกับผลไม้ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องกินเนื้อ เป็นนกที่บินสูงแต่ก็ไม่ต้องลงมาหาอาหาร แค่ทานอาหารตามที่จัดให้ก็พอ"
โต้งไม่ได้ถามอะไรอีก เขาแค่สั่งจ้าวให้ไปซื้อน้ำเต้าหู้กับอาหารเจที่พอหาได้ โต้งให้ผมนั่งรอที่ห้องรับแขก มอยืนรออยู่แล้ว ผมจำมอกับจ้าวได้ เป็นแค่สองคนที่ผมจำได้นอกจากโต้ง
โต้งชวนผมพูดคุยหลายเรื่องโดยที่มอคอยพูดแทรก เรื่องส่วนใหญ่ที่โต้งเล่าเป็นเรื่องตัวเองเหมือนเดิม จนกระทั่งจ้าวกลับมาพร้อมน้ำเต้าหู้ โต้งส่งแก้วมาให้ผมดื่ม เขาบอกว่าตอนเที่ยงจะให้คนทำอาหารเจมาให้ แต่ตอนนี้โต้งต้องไปแล้ว เขามีงานด่วนต้องไปทำ
" ถ้างานเสร็จเร็วผมจะรีบกลับนะ ระหว่างนี้อยู่กับมอไปก่อน อยากได้อะไรก็บอกมอ ไอ้มอ มึงดูแลพี่ผิงอันด้วย อย่าแกล้งพี่เขา ถ้าพี่เขาอยากได้อะไรก็ไปหามาให้"
มอรับคำเสียงแข็งขันจนดูตลก
ผมยื่นส่งโต้งขึ้นรถที่หน้าบ้าน มีคนชุดดำยืนเต็มไปหมด รถที่โต้งใช้เป็นคนละคันกับเมื่อวาน ผมไม่เห็นหน้าหรือตาโต้งเพราะโต้งใส่แว่นกันแดด ผมยื่นส่งจนรถโต้งออกจากบ้าน
" โอ๋ๆๆ อาซ้ออย่าร้องไห้เลยนะ เดี๋ยวพี่โต้งก็กลับมาแล้วล่ะคร้าบ~ เข้าบ้านเถอะครับ อาซ้อหิวอะไรอีกไหม"
ผมบอกมอว่าไม่หิวอะไร แต่พอผมจะขึ้นห้องมอก็รั้งไว้
" พี่โต้งสั่งให้ผมดูแลซ้อน่ะ อาซ้ออยากทำอะไรเป็นพิเศษไหม แต่ออกนอกบ้านไม่ได้นะต้องรอให้เรื่องเงียบลงก่อน ปกติอยู่บ้านอาซ้อทำอะไร"
ปกติผมก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งมองนอกหน้าต่างแล้วคิดถึงโต้ง มีบ้างที่คุณพ่อจะให้คนมาตาม แต่ส่วนใหญ่ผมจะนั่งรอและนั่งเล่น นั่งเล่นเฉยๆไม่ได้ทำอะไร
มอที่เห็นผมเงียบไปก็ไม่ว่าอะไร เขาพาผมไปที่ห้องดูหนัง บอกว่าจะพาผมไปดูทีวี ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็เดินตามไป
" อันนี้รีโมตนะซ้อ อยากดูช่องไหนก็กดได้เลย ผมจะยืนรออยู่ข้างๆ อยากได้อะไรก็บอกผมนะ ผมจะสั่งคนให้ไปหามาให้"
มอบอกแล้วส่งกล่องสี่เหลี่ยมสีดำที่มีปุ่มเต็มไปหมด ผมมองมันนิ่ง มันใช้ทำอะไร...
" เอ่อ... อาซ้อเคยดูทีวีหรือเปล่า พี่โต้งเคยบอกเหมือนกันว่าอาซ้อไม่ค่อยรู้จักโลกภายนอก แต่ผมไม่คิดว่า..."
" พี่ไม่เป็นไร พี่ขึ้นห้องก็ได้จะได้ไม่รบกวนมอ"
" งั้นอาซ้อจะอ่านหนังสือไหม ผมมีทั้งภาษาไทยและภาษาจีนนะ อาซ้ออยากอ่านประเภทไหน"
ผมบอกมอไปว่าไม่อยากอ่าน ความจริงผมอ่านไม่ได้ สิ่งที่โต้งเคยสอนมันหายไปหมดแล้ว ผมบอกมอว่าจะขึ้นห้อง มอไม่ได้ห้ามผมอีก แค่บอกว่าจะรออยู่ข้างนอกถ้าต้องการอะไรให้เรียก
ผมนั่งลงที่โต๊ะข้างหน้าต่าง มันมีต้นไม้ใหญ่บังสายตา ผมนั่งมองต้นไม้และคิดถึงคืนวันที่โต้งเคยปีนต้นไม้มาหาผม
เที่ยงแล้ว... มอเอาอาหารเที่ยงมาให้ มันเป็นอาหารที่ดูคุ้นตา ผมทานอาหารจนหมดก่อนส่งถาดให้มอที่ยืนรออยู่ ผมนั่งมองต้นไม้ต่อ โดยไม่สนใจว่ามอจะออกไปหรือยัง
ผมนั่งมองต้นไม้ไปเรื่อยๆ ห้องที่บ้านตระกูลลู่ไม่มีต้นไม้ใหญ่แบบนี้ ผมมองต้นไม้ที่ใบปลิวไปตามลม ผมเฝ้ามองเพื่อรอว่าโต้งจะปีนต้นไม้มาหาผมไหม
" เอ่อ... อาซ้อนั่งเฉยๆไม่เบื่อเหรอ ผมเห็นอาซ้อนั่งมองต้นไม้มานานแล้วนะ"
" พี่ชอบมองต้นไม้ เพราะมันทำให้พี่ได้พบโต้ง โต้งเป็นคนเดียวที่มาหาพี่ ชีวิตพี่มีแค่โต้งคนเดียว"
มอไม่ได้พูดอะไรอีก ผมนั่งมองต้นไม้ต่อ จนได้เวลาอาหารเย็น มอยกอาหารมาให้ ผมทานจนหมดก่อนนั่งรอโต้งต่อจนอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ผมลุกไปอาบน้ำแล้วนั่งรอโต้งที่เตียงนอน โต้งบอกว่าจะรีบกลับมา แต่นี่มันมืดแล้ว ผมนั่งคิดถึงโต้งอยู่บนเตียง ปกติผมนอนแล้วเพราะห้องที่บ้านตระกูลลู่ไม่มีไฟ มอเปิดไฟทิ้งไว้ให้หลังจากที่เห็นผมนั่งมองต้นไม้อยู่ในห้องมืดๆ
โต้งยังไม่มา...
ผมนั่งรอจนมอเอาน้ำเต้าหู้ร้อนมาให้อีกรอบ เขาบอกให้ผมนอนก่อนเพราะโต้งติดธุระด่วน ผมนั่งรอโต้ง แม้ว่าจะง่วงนอนมากก็ตามที
" อาซ้อ! แต่งตัวเร็ว! คนของลู่ อี้เจียง ส่งคนมาตามพี่ มันแม่งลอบทำร้ายพี่โต้ง พี่โต้งไม่เป็นไร แต่พี่โต้งให้ผมพาพี่ไปนาริตะ เราต้องไปขึ้นเครื่อง อาซ้อใส่เสื้อเร็ว! ผมจะพาพี่ขึ้นรถ!"
มอพูดเสียงดังและเร็วไปหมด ผมที่เพิ่งตื่นเพราะเผลอหลับฟังทันแค่ไม่กี่คำ
ลู่ อี้เจียง
กับ...
โต้งบาดเจ็บ
คุณพ่อ กับ โต้ง
คุณพ่อ... ทำร้ายโต้ง...
" อาซ้อ! อาซ้อๆๆๆๆ โอ๊ยๆๆๆ แย่แล้วกู ไม่น่าบอกซ้อเลยกู ซ้อผมขอเปลี่ยนเสื้อให้ซ้อนะ แค่ใส่เสื้อทับก็พอ พาสปอร์ต วีซ่าช่างแม่งแล้ว ให้คนอื่นเตรียมแล้วกัน อาซ้อ ผมขออุ้มอาซ้อนะ ผมจะพาซ้อไปที่รถ แล้วเราจะไปสนามบินกัน"
มอบอกผมที่ยังยืนนิ่ง
โต้งบาดเจ็บ...
และคุณพ่อ... เป็นคนทำร้ายโต้ง
และผม... เป็นคนต้นเรื่องที่ทำให้โต้งบาดเจ็บ
" อาซ้อใจเย็นๆนะ อย่าร้องไห้ เมื่อกี้พี่โต้งโทรมาแล้ว เขาไม่เป็นอะไร ไว้ขึ้นรถแล้วผมจะโทรหาพี่โต้งให้นะ
เสี่ยวตง! ออกรถ ให้คนเตรียมของให้คุณหนูอี้แล้วใช่ไหม เราจะบินไปนาริตะ โทรบอกบ้านโอกาซาวาระด้วย ให้เขาเตรียมห้องพักไว้ แล้วปิดปากให้สนิท ถ้าใครถามบอกว่าคุณหนูอี้ไปบ้านตระกูลหยาง ให้มันไปเจอนายท่านหยางเอาเอง เอ้า! ออกรถโว้ยยย!!"
มอตะโกนบอกใครบางคนที่ส่งต่อคำสั่งออกไปเป็นทอดๆ มออุ้มผมขึ้นรถที่ออกตัวอย่างรวดเร็ว ไม่นานเสียงปืนก็ดังลั่นไปหมด มอสั่งให้ผมคาดเข็มขัด แต่พอเห็นผมนั่งนิ่งเขาก็จัดการให้
"
อย่าใช้สายหลัก! สลัดให้หลุด! อย่าให้มันตามไปที่สนามบินได้!"
มอบอกแล้วเปิดกระจกยิงไปที่ด้านหลังรถ เสียงปืนดังลั่นไปหมด แต่ผมแทบไม่รู้สึกอะไร ผมคิดถึงแต่โต้ง
" อาซ้อ! พี่โต้งโทรมาแล้ว!
อย่าให้มันชนรถ! เบี่ยงขวาออกไป! สวนเลนไปเลย!"
มอตะโกนแล้วส่งกล่องสี่เหลี่ยมมาให้ ผมได้ยินเสียงโต้งดังมาแว่วๆผมถึงได้รู้ว่ามันคือมือถือ ผมพูดสายกับโต้งทันที
" โต้ง! ฮึก โต้งเป็นยังไงบ้าง คุณพ่อพี่ทำอะไรโต้ง"
" ผมไม่เป็นอะไร พี่อย่าร้องไห้ พี่ไปกับมอนะ ไปอยู่ที่ญี่ปุ่น ผมส่งคนไปรอพี่ที่สนามบินแล้ว พี่ต้องไปอยู่ที่ญี่ปุ่นซักระยะ มอจะพาพี่ไป แม่ของผมรอพี่อยู่ที่นั่น พี่ต้องอยู่ที่ญี่ปุ่นไปซักระยะ ไว้จบเรื่องแล้วผมจะไปหา จำไว้นะว่าผมจะไปหา ผมจะไม่ทิ้งพี่"
" โต้ง ฮึก โต้ง พี่คิดถึงเธอ ฮึก พี่อยากอยู่กับเธอที่นี่"
" ผมก็อยากอยู่กับพี่ แต่พ่อพี่กัดผมไม่ปล่อย ผมต้องจัดการลู่ อี้เจียง ก่อน แล้วผมจะไปหาที่ญี่ปุ่นนะ พี่ไปอยู่กับคุณแม่ผมซักระยะ... จ้าว!
ฆ่ามัน! ฆ่ามันให้หมด! อย่าปล่อยให้มันรอดไปได้! ฆ่ามัน! อย่าปล่อยให้มันไปหาคุณหนูอี้! "
" โต้ง! โต้ง! ฮึก โต้ง..."
โต้งตัดสายไปแล้ว
เสียงปืนดังลั่นไปหมด
ผมนั่งร้องไห้และกำมือถือแน่น
ทำไมกัน...
ทั้งที่ผมเพิ่งเจอโต้งแค่เมื่อวาน
แต่วันนี้... ผมกลับต้องอยู่ห่างจากโต้งไปอีกหนึ่งประเทศ
ทำไม...
ทำไมผมถึงไม่ได้อยู่กับโต้งเสียที
>> To Be ConTiue <<
หมายเหตุ*** ตัวเอนจะเป็นภาษาต่างประเทศเช่นภาษาจีน หรือภาษาญี่ปุ่นค่ะ
ตอนนี้จะเป็นภาษาจีน ตอนหน้าจะเป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ