[Romance]// 平安 :: ผิงอัน หนุ่มเอ๋อกับเด็กข้างบ้าน จ้าว part 10/12/56 P.10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Romance]// 平安 :: ผิงอัน หนุ่มเอ๋อกับเด็กข้างบ้าน จ้าว part 10/12/56 P.10  (อ่าน 70376 ครั้ง)

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 



TALK

เรื่องนี้เขาไม่ได้อาจหาญเอาเรื่องใหม่มาลงนะคะ  แต่พอดีมันเป็นเรื่องที่อยากเอามาลงให้อ่านก่อนเพราะเราจะไปต่างจังหวัดเรื่องอื่น(อีกสี่เรื่อง)  ก็จะงดอัพไปทั้งอาทิตย์  แต่ยังอัพอยู่เรื่อยๆนะคะ(แบบว่าว่างมาก)  หลักที่อัพคือเรื่อง  ~รักนี้...ไม่ปล่อยให้หลุดมือ~  และ Enamorado de Ti:: ความงามและตะแลงแกง (โฆษณา) ส่วนเรื่องนี้และเรื่องที่เหลืออัพตามอารมณ์เวลาแต่งเรื่องหลักไม่ออกค่ะ :katai5:
 

เรื่องนี้เป็นนิยายโรมานซ์แบบโรแมนติกมากๆ  แต่ก็ไม่ได้เป็นนิยายใสๆมากนักนะคะ   เป็นแนวเจ้าพ่อมาเฟียยิงกันบ้างหักหลังกันบ้างแต่ที่แน่ๆคือพระเอกน่าร้ากกก  นายเอกก็น่าร้ากกก  จะว่าไปเรื่องนี้จะคลสยๆเรื่องคู่ขนานกับเรื่อง Enamorado de  Ti  นะคะ พล๊อตเรื่องคล้ายๆกันหน่อยแต่อันนี้จะเป็นเรื่องในปัจจุบันปนย้อยยุคหน่อยๆ(งงๆแฮะ)  เอาเป็นว่าลองอ่านดูแล้วกันนะคะ 



นิยายเรื่องอื่นๆจาก  Teatimes


[sweety]//~รักนี้...ไม่ปล่อยให้หลุดมือ~  
[Fantasy]// Enamorado de Ti:: ความงามและตะแลงแกง  


[เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา   จบแล้ว!!


ที่ลงลิงค์นี่ไม่ใช่อะไรเล๊ยยย  มันเพิ่งหาวิธีทำลิงค์ได้น่ะค่ะเลยเอามาลงเล่นๆดู(บ้านหนูอยู่หลังเขา~)


สารบัญ By  คุณอ๊ายอายค่ะ  ขอบคุณนะคะ

ย้อนกลับมาอ่านแก้อาการคิดถึง เลยทำสารบัญมาฝากฮับ อ่านวนไปร้อยรอบแล้วว :laugh:
-1-   -2-   -3-   -4-   -5-
-6-   Mor Part   -7-   -8-
-9-   โต้ง part   -10-   
 

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2014 11:06:32 โดย teatimes »

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
- 1 -


ผมไม่เคยออกไปไหน  สิ่งที่ผมเคยเห็นมีเพียงผนังสีขาวสี่ด้าน  ห้องนอนที่เป็นเหมือนกรงขัง..
 
ผมชื่อลู่  ผิงอัน  ผิงอันที่แปลว่าความสงบเงียบ  มันเป็นชื่อที่คุณแม่ตั้งให้ผมก่อนที่จะตาย 
 
ผมจำหน้าแม่ไม่ได้  ผมจำได้แต่ว่าแม่มีตาสีเขียว  เพราะเคยเห็นจากรูปถ่ายแค่ครั้งเดียว  ดวงตาผมเหมือนกับแม่  และนั่นทำให้ผมต้องถูกแยกออกมาอยู่คนเดียว
 
คุณนายใหญ่ตระกูลลู่ไม่ชอบขี้หน้าผมเท่าไหร่  ผมโตขึ้นมาด้วยการเลี้ยงดูของแม่นมคนไทย  ผมจำชื่อเธอไม่ได้เหมือนกัน  แต่รู้สึกว่าจะชื่อแม้น  หรือ  แม่อะไรซักอย่างนี่แหละ  แต่ผมขอเรียกเธอว่าแม้นแล้วกัน
 
หลังจากแม้นต้องกลับเมืองไทยไป  ผมก็ต้องอยู่คนเดียว  กินข้าวคนเดียว  เรียนหนังสือคนเดียว  ครูสอนภาษาผมเป็นคนไทยเหมือนกัน  ครูชื่อว่าครูปิ่น  เป็นผู้หญิงสาวใจดี  แต่เธอก็อยู่ได้ไม่นาน  เพราะหลังจากที่คุณนายใหญ่จับได้ครูปิ่นแอบไปค้างคืนกับคุณพ่อ  คุณนายใหญ่ก็ไ่ล่เธอออกจากบ้าน
 
และหลังจากที่ครูปิ่นจากไปได้ไม่นาน  ก็มีซินแสมาทักคุณพ่อว่า  ผมจะเป็นคนนำพาความล่มจมมาสู่ตระกูลลู่  คุณพ่อสั่งไล่ผมออกจากบ้านใหญ่ทันที  และไม่เพียงไล่ออกจากบ้านเท่านั้น  ท่านสั่งให้ผมเปลี่ยนนามสกุล  ไปใช้นามสกุลของตระกูลรอง  นั้นคือตระกูลอี้  ดังนั้น  ตั้งแต่ตอนนั้นมาผมก็ชื่อว่า  อี้ ผิงอัน  อี้ผิง  ที่อยู่อย่างสงบแต่เดียวดาย
 
 
 
ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำใจของคุณพ่อ  หรือว่าเกิดจากคำทักทำนายของซินแส  คุณพ่อส่งผมมาอยู่ที่เมืองไทย  ท่านให้ผมอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่สีขาว  ห้องที่ผมพักเป็นห้องที่กินพื้นที่ทั่วชั้นสอง
 
กรงขังขนาดใหญ่..
 
ผมไม่ได้ออกไปไหนเลยนับตั้งแต่นั้น 
 
คุณพ่อส่งคนมาคอยดูแลผมอยู่สี่ห้าคน  พวกเขามีหน้าที่คอยส่งข้าวส่งน้ำ  ดูแลและทำความสะอาดห้องพัก 
 
เหมือนเป็นแม่บ้าน..
 
แต่ความจริงแล้ว..  พวกเขามีหน้าที่เฝ้าผมไม่ให้ออกไปไหน 
 
พวกเขาบอกผมว่านายท่านมีคำสั่งไม่เท้าผมแตะพื้น 
 
ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจ  ถ้าผมเท้าไม่แตะพื้นผมจะเดินได้อย่างไร 
 
แต่พวกเขาก็ไขความกระจ่างให้ว่า
 
เท้าไม่แตะพื้น...  คือการที่ผมต้องอยู่ชั้นสองของบ้านไปตลอดชีวิต
 
 
 
ผมย้ายมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ตอนเจ็ดขวบ 
 
ตอนที่ผมย้ายมาผมก็ไม่ได้ร้องไห้  ไม่ได้เสียใจหรือรู้สึกเหงา  มันก็เหมือนกับการแค่ย้ายที่อยู่เท่านั้น  เพราะต่อให้ผมอยู่ในตระกูลใหญ่  ผมก็อยู่บ้านหลังเล็กคนเดียวอยู่ดี 
 
อยู่อย่างเดียวดาย..
 
แต่การอยู่ในบ้านชั้นสองก็มีข้อดี  ผมสามารถมองออกไปที่นอกหน้าต่าง  แอบดูทางหลังผ้าม่าน  เพื่อมองดูเด็กคนไทยวิ่งเล่นกัน 
 
พวกเขาเล่นที่สวนที่ติดกับบ้านผมทุกวัน  ผมเองก็เคยคิดว่าอยากไปเล่น  แต่เพราะผมลงจากชั้นสองไม่ได้  ผมเลยได้แต่มอง
 
ผมมองพวกเขาเล่นกันทุกวันจนไม่รู้ว่าผ่านมากี่ปี  แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองสูงขึ้น  เพราะตอนนี้ผมไม่ต้องเขย่งเท้าเพื่อเฝ้าดูเด็กๆคนไทยเล่นกันอีกแล้ว  เพียงแค่มองจากหลังผ้าม่าน  ผมก็เห็นพวกเขาได้อย่างชัดเจน
 
ผมจำเด็กผู้ชายคนหนึ่งได้ดี  ตาเขาสีดำ  ผมของเขาก็มีสีดำ  มันไม่ได้ดำเหมือนอีกาในนิทาน  แต่มันดำแปลกๆ  ผมบอกไม่ถูกว่ามันเป็นแบบไหน  แต่ผมชอบดูเขามาก  เขาดูร่าเริงและมีรอยยิ้มอยู่เสมอ 
 
ดูท่าเขาจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเสียด้วย  เพราะผมเห็นเด็กคนอื่นๆยืนล้อมเขา  และเชื่อฟังเขาตลอด
 
ผมเฝ้าดูเขาทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันฝนที่พวกเขาไม่ได้ออกมาเล่น 
 
ผมอยากรอ  เพื่อว่าจะมีใครออกมา  และอยากรอ  เพื่อว่าเด็กคนนั้นจะมาเอาลูกบอลที่ลืมทิ้งไว้ในสนาม
 
และความหวังของผมก็เป็นจริง  เด็กผู้ชายคนนั้นเดินมาที่สนามทั้งที่ไม่มีร่ม  เขาหันซ้ายหันขวาเหมือนเขากำลังหาอะไรบางอย่าง 
 
ไม่นานเขาก็ปีนรั้วเข้ามา 
 
ปีนเข้ามาในบ้านผม..
 
ผมเห็นเขาปีนต้นไม้ที่อยู่ข้างหน้าต่าง  ไม่นานเขาก็ปีนเข้ามาเคาะที่หน้าต่างเบาๆ  ผมใจเต้น  ผมมองดูเขาตลอด  ถึงจะรู้สึกแปลกๆแต่ก็ไม่ได้หนีเข้าไปซุกตัวที่เตียง
 
ก๊อก  ก๊อก
 
" เฮ้  เปิดหน่อย  เรารู้นะว่านายอยู่ในนั้น  เราเปียกฝน  ขอเข้าไปหน่อยสิ"
 
เสียงของเขาดังขึ้น  ผมใจเต้นแรงกว่าเดิม  ผมเพิ่งเคยได้ยินเสียงเขา  เสียงใสๆของเด็กๆ  เสียงของคนอื่นที่ผมไม่ได้ยินมานานมากแล้ว
 
ผมกลัวจนมือสั่นแต่ก็ยอมเปิดหน้าออก  ผมเห็นเขายิ้มมาให้ผมก่อนที่จะมุดตัวเข้ามา
 
" บรือ..  หนาวชะมัด  นายมีผ้าเช็ดตัวไหม  ขอเสื้อผ้าด้วยก็ดี"
 
เด็กคนนั้นพูดกับผม  ผมยืนนิ่ง  ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะอยู่ใกล้ผมขนาดนี้  เหมือนความฝันเลย  ผมไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว
 
" นาย...  เอ้อ  อะ  ธะ  เธอ  มีผ้าให้เราไหม  เรา น  หนาวน่ะ  ขอแต่ผ้าเช็ดตัวก็ได้  ไม่ต้องเอาเสื้อมาให้เราหรอก"
 
เด็กคนนั้นพูกตะกุกตะกักแล้วหน้าแดง  แต่พอผมยื่นมือเข้าไปแตะหน้า  เขาก็สะบัดหน้าออก  ทำไมกัน  ผมแค่อยากวัดไข้ให้เขาเอง
 
" ระ  เราไม่เป็นไร  แต่คงจะเป็นแน่ถ้าเธอไม่หาผ้ามาให้เราเช็ดตัว" 
 
เด็กคนนั้นหน้าแดงแล้วชี้มือชี้ไม้มั่วไปหมด  ผมยิ้มออกมา  และนั่นทำให้เขานิ่งค้างนานขึ้น
 
" ธ  เธอชื่ออะไร  เราชื่อโต้ง  เธอ..  เธอพูดได้รึเปล่า  เรายังไม่เห็นได้ยินเสียงเธอพูดซักคำ" 
 
ผมฟังโต้งพูดรู้เรื่อง  เพราะครูกับแม่บ้านของผมเป็นคนไทย  แต่ผมพูดไทยไม่ค่อยชัด  แต่ฟังเข้าใจหมด
 
" โต้ง "  เขาบอกซ้ำแล้วหลบสายตา  ผมยังคงยิ้มกว้าง  ผม..  กำลังจะมีเพื่อน
 
" ผิงอัน  เราชื่อ  อี้  ผิงอัน"
 
ผมพูดด้วยสำเนียงแปลกๆ  มันไม่เหมือนกับเสียงโต้ง  แต่มันก็เป็นภาษาไทย
 
โต้งทวนคำก่อนพูดชื่อผมซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด  ผมหัวเราะแล้วเรียกชื่อโต้งบ้าง  เราเอาแต่เรียกชื่อกันไปมา 
 
จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตู
 
" คุณหนู  มีอะไรรึเปล่า  ทำไมผมเหมือนได้ยินเสียงคนอื่น"
 
ผมรีบผลักโต้งให้ออกไปจากห้อง  พวกคนดูแลไม่เคยเข้ามานอกจากตอนทำความสะอาด  แต่ผมไม่อยากเสี่ยง  คราวก่อนแค่พวกเขาจับได้ว่าผมแอบเลี้ยงนกจากเศษข้าวที่เหลือ  พวกเขายังไล่นกพวกนั้น  แล้วนี่เด็กผู้ชาย  ถ้าใครมาเห็นโต้งต้องแย่แน่
 
" เราจะมาใหม่นะ  อย่าล็อคหน้าต่าง  แล้วเราจะมาหาเธอทุกวัน"
 
โต้งบอกแล้วกระโดดไปที่ต้นไม้ 
 
ผมปิดหน้าต่างแต่ไม่ได้ลงกลอน
 
ผมเดินน้ำตาไหลไปร้องไห้ที่เตียง 
 
ผมไม่อยากให้เขาไป  แม้จะทำได้แค่เพียงเรียกชื่อกัน  แต่ผมก็ไม่อยากเห็นเขาเดินจากไป
 
 
 
โต้งมาหาผมทุกวันตามสัญญา  เขามาช้าบ้าวเร็วบ้างตามแต่สะดวก  แต่ก็มาทุกวัน  บางวันเขาก็มีของฝากมาฝากผม  บางวันเป็นดอกไม้  บางวันเป็นของกิน  แต่วันนี้เป็นดอกไม้สีแดง  ดอกกุหลาบ
 
" วันนี้วันวาเลนไทน์น่ะ  ผิงอันรู้จักไหม"
 
โต้งเริ่มชินแล้วกับการที่ผมไม่รู้อะไรในโลกภายนอก  เพราะตั้งแต่ผมมาที่เมืองไทย  ผมก็ไม่ได้ออกไปไหน  ผมไม่มีหนังสืออ่านเพิ่มเติมนอกจากเล่มที่เอาติดตัวมา  และหนังสือที่ว่าก็เป็นแค่นิทานก่อนนอน
 
" เรียกเราว่าพี่สิ  เราแก่กว่าโต้ง  อย่างน้อยก็ตั้งสามสี่ปี"
 
ผมกับเขาเคยเถียงกันเรื่องนี้แล้ว  โต้งบอกว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข  แต่สำหรับผมที่เกินในครอบครัวคนจีน  ลำดับอาวุโสสำคัญมาก
 
" เรียกเราพี่เฉยๆก็ได้  ถ้าโต้งไม่อยากเรียกเราว่าพี่ผิงอัน"
 
โต้งมักหน้าแดงอยู่บ่อยๆเวลาผมเรียกชื่อตัวเอง  ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม  ผมเคยถามเขาแล้ว  แต่เขาไม่ตอบ
 
" ก็ได้ๆ  พี่ผิงอัน  แต่เราเรียกแค่ครั้งนี้นะ  ต่อไปเราจะเรียกพี่เฉยๆ"
 
โต้งบอกอย่างประนีประนอม  หลังจากเรียกผมว่าพี่ เขาก็ซักเรื่องวันวาเลนไทน์อีก
 
ผมบอกเขาไปว่าไม่รู้จัก  และโต้งก็อธิบายให้ผมฟังเหมือนทุกครั้งที่ผมไม่รู้คำตอบ
 
" มันเป็นวันที่เรามอบดอกกุหลาบให้คนที่เราชอบล่ะ  อย่างวันนี้โต้งก็ได้มาหลายดอก  แต่โต้งเอามาให้แค่ผิงอัน  เอ๊ย  พี่คนเดียวนะ  โต้งไม่ได้ให้คนอื่น" 
 
โต้งบอกแล้วหน้าแดงหลบตา
 
ผมยกดอกกุหลาบขึ้นมาดม  มันดูช้ำไปหน่อย  แต่ก็สวยมาก
 
" แต่พี่ไม่มีอะไรให้โต้งนะ  พี่ไม่ได้ออกไปไหน  อาหารก็เก็บไว้ให้โต้งไม่ได้  ขอโทษนะ"
 
ผมบอกอย่างเสียใจ 
 
ผมเองก็อยากตอบแทนโต้งบ้างที่เอาของมาให้ผมบ่อยๆ  แต่ผมก็ไม่มีอะไรจะให้โต้งได้  สมบัติบางเดียวของผมคือหนังสือนิทาน..
 
จริงสิ
 
ผมวิ่งไปหยิบหนังสือนิทานออกมาจากชั้น  ผมหยิบหนังสือเรื่องเจ้าหญิงนิทราขึ้นมา
 
มันเป็นภาษาจีน
 
แต่ไม่เป็นไร  เพราะผมอยากให้โต้งดูรูปต่างหาก
 
" พี่ไม่มีกุหลาบจะให้โต้ง  แต่พี่ให้หนังสือกับโต้งได้นะ  นี่ไง..  หน้านี้มีดอกกุหลาบเต็มไปหมด  พี่ให้โต้งนะ"
 
ผมบอกแล้วยิ้มให้โต้งที่เกาหัวรับหนังสือนิทานแบบเขินๆ  ความจริงหนังสือเล่นนี้ก็สภาพไม่น่าดูนัก  เพราะผมเปิดอ่านหลายครั้ง  แต่ไม่เป็นไร  ผมอยากให้โต้งรับน้ำใจของผมไว้
 
" หมายถึง..  พี่ก็ชอบผม?"
 
โต้งบอกแล้วยิ้มมุมปาก  เขาดูโตกว่าวัยมาก  ผมว่ามันน่าจะซักสองปีแล้วมั้งที่เขามาหาผมทุกวัน  และตอนนี้เขาดูแก่แดดกว่าทุกครั้ง
 
" พี่ชอบโต้ง  พี่มีแต่โต้งคนเดียว" 
 
ผมยิ้มบอก  ก่อนที่จะเอ่ยเสียงเศร้าในตอนท้าย
 
ผมไม่เคยมีใคร  คนเดียวที่ผมสามารถคุยด้วยได้คือโต้ง
 
" ซักวันผมจะมารับพี่นะ  ผมจะพาพี่ไปจากห้องแบบนี้  ผมจะพาพี่ไปเดินบนหญ้า  จะพาพี่ไปปีนต้นไม้  จะให้พี่จะชิมน้ำทะเล  จะสอนพี่ว่ายน้ำ  พี่ต้องสัญญานะว่าจะรอผมมารับ  รอให้ผมโตกว่านี้  แล้วผมจะมารับพี่ไปเอง"
 
โต้งประคองหน้าผมแล้วพูดออกมาเสียงจริงจัง  แม้ว่ามันจะเป็นสัญญาเด็กๆ  แต่สำหรับผมและโต้ง  มันคือคำสาบาน
 
" เราสัญญาแล้วนะว่าจะมารับพี่  ห้ามทิ้งพี่ไปอย่างคุณแม่นะ"
 
ผมเลือกที่จะพูดถึงคุณแม่  เพราะแม่ผมจากไปทั้งที่ยังรักผม  ต่างจากพ่อ  ที่ทิ้งผมไปเพราะเห็นผมเป็นตัวทำลายล้างวงศ์ตระกูล
 
" งั้น..  งั้นพี่ให้ผมจูบได้ไหม  แบบว่า!  จูบแบบแทนคำสัญญาน่ะ  เหมือน..  เหมือนกรีดเลือดสาบานไง  แต่..  แต่โต้งกลัวเลือด  เพราะงั้น.."
 
ผมจูบโต้งไป
 
ผมเคยเห็นในนิทานแล้วที่เจ้าชายเอาปากประกบกับเจ้าหญิงเพื่อที่จะให้เจ้าหญิงฟื้นขึ้นมา
 
โต้งหน้าแดงกว่าทุกที  แต่พอผมจะเอาปากออก  เขาก็กดต้นคอผมไว้
 
" ดะ เดี๋ยว..  ขออีกที.."
 
โต้งบอกแล้วเป็นคนก้มหน้ามาแทน  เราเอาปากประกบกันนานมาก  หัวใจผมเต้นแรง  มันดังจนโต้งหัวเราะออกมา
 
" โอ๊ย  หัวใจพี่เต้นแรงชะมัด  เหมือนหัวใจผมเลย"
 
โต้งบอกแล้วจับมือผมไปจับหัวใจโต้ง  มันเต้นแรงจริงๆด้วย  เหมือนหัวใจของผมเลย
 
วันนั้นโต้งอยู่ดึกกว่าทุกวัน  ขนาดเลยเวลาสองทุ่มที่ผมต้องปิดไฟนอนแล้ว  โต้งก็ยังอยู่กับผม  โต้งจับมือผมไว้จนผมหลับ
 
และเมื่อตื่นขึ้นมาอีกที  โต้งก็ไม่อยู่แล้ว  เหลือแต่ดอกกุหลาบที่โต้งมอบให้  วางอยู่บนหนังสือเรื่องราพันเซลเท่านั้น
 
เจ้าหญิงผมทอง..
 
เจ้าหญิงผมทองที่จะรอวันที่เจ้าชายมาช่วย
 
 
 
 
 
หลายปีผ่านไปแล้ว  โต้งยังคงมาหาผมบ่อยๆ  อาจมีบ้างที่หายไปนานหลายวัน  เพราะตอนนี้โต้งโตมากขึ้นแล้ว  และมีหน้าที่หลายอย่างให้ทำ  ทำให้โต้งไม่สามารถมาหาผมได้ทุกวันเหมือนเมื่อก่อน
 
" วันนี้ผมเอาหนังสือมาฝาก  ผมจะสอนพี่อ่านกับเขียนภาษาไทยนะ" 
 
ตอนนี้โต้งโตขึ้นมามาก  ความคิดความอ่านก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้น  เมื่อก่อนโต้งจะแค่นั่งคุยหรือนั่งเล่น  แต่ตอนนี้  โต้งเริ่มสอนหนังสือผมแล้ว  ทั้งสอนอ่านและเขียนภาษาไทย  มีบ้างที่สอนบวกเลข  แต่โต้งชอบสอนภาษาไทยมากกว่า
 
" พี่น่าจะสอนภาษาจีนให้ผมบ้างนะ  ผมจะได้พูดกับพี่รู้เรื่องไง"
 
โต้งรู้แล้วว่าผมเป็นลูกคนจีน  ไม่ใช่เพราะดูจากชื่อหรือภาษาที่ผมเผลอพูด  แต่ผมเป็นเพราะผมเล่าให้ฟัง
 
" พี่สอนเขียนไม่ได้นะ  พี่ลืมไปหมดแล้ว  แต่พี่สอนโต้งพูดได้  โต้งจะเรียนไหม"
 
โต้งกัดปากแน่นก่อนเงยหน้ามองผม  โต้งมักทำแบบนี้บ่อยๆเวลาเห็นว่าผมน่าสงสาร  แต่ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองน่าสงสารนะ  เพราะตอนนี้ผมมีโต้งแล้ว
 
" อย่ากัดปากสิ  พี่ไม่เป็นไรหรอก  เอางี้นะ  เราสอนภาษาไทยให้พี่  แล้วพี่จะออกเสียงเป็นภาษาจีนให้เราเอาไหม"
 
โต้งพยักหน้ารับ  เหมือนเขาจะยังอารมณ์ไม่ดี  และทุกครั้งถ้าเขาอารมณ์ไม่ดีผมจะจูบเขา  แล้วเขาจะยิ้มอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
 
" พี่อย่าจูบผมบ่อยสิ  เดี๋ยวผม..."
 
" เดี๋ยวอะไรเหรอ"
 
โต้งไม่พูดอะไรต่อ  โต้งแค่จ้องตาผมแล้วถอนหายใจก่อนเปลี่ยนเรื่องและเริ่มสอนภาษาไทยให้ผมแทน
 
หลายปีผ่านไปแบบนี้  พวกคนดูแลไม่เข้ามาในห้องผมแล้ว  คงเป็นเพราะผมไม่หนี  พวกเขาเลยเข้ามาทำความสะอาดแค่อาทิตย์ละครั้ง  ส่วนอาหาร  พวกเขาจะส่งมาให้ที่ช่องทางประตู  ถ้าผมทานเสร็จก็แค่ส่งถาดออกไปทางช่องประตูเหมือนเดิม
 
วันนี้เราเรียนทั้งภาษาไทยและภาษาจีนจนดึก  มีบางคำที่ผมหาคำออกเสียงไม่ได้  เพราะตอนที่ผมออกมาจากเมืองจีน ผมแค่เจ็ดขวบ  และนี่ก็ผ่านไปนานมากแล้ว  พอไม่ได้ใช้  ผมเองก็ลืมไปเหมือนกัน
 
" ตอนนี้โต้งอายุเท่าไหร่แล้ว"
 
" โหย  พี่อ่ะ  ถามเรื่องอายุอีกแล้ว  บอกแล้วไงง่าอายุเป็นแค่ตัวเลข"
 
" พี่แค่อยากรู้  ถ้านับตามดอกกุหลาบที่โต้งให้พี่ทุกปีก็สามดอก  แต่พี่จำไม่ได้ว่าเราเจอกันครั้งแรกตอนโต้งอายุกี่ปี  เพราะก่อนหน้านั้นพี่ไม่ได้นับเวลา"
 
" ...15  ตอนนี้ผมอายุ 15  และพี่อายุ 19  พอพี่อายุ 20  ผมจะพาพี่ไปอยู่กับผม  เพราะพี่บรรลุนิติภาวะแล้ว"
 
โต้งพูดศัพท์แปลกๆที่ผมไม่เข้าใจ  พอเห็นผมงง  โต้งก็อธิบายให้ผมฟังว่า  มันหมายความว่าผมจะเป็นอิสระแล้ว
 
" พี่ไม่อยากออกไปไหนหรอก  แค่โต้งมาหาพี่บ้างก็พอแล้ว  พี่ไม่เหงาหรอกนะ  เพราะพี่มีโต้งให้พี่คอยทุกวัน"
 
โต้งกัดปากอีกแล้ว  แต่คราวนี้ผมยังไม่ทันได้จูบเขา  เขาก็โน้มหน้าเข้ามาจูบ  ก่อนคร่อมผมไว้ทั้งตัว
 
" อย่าพูดแบบนั้น  ผมจะพาพี่ออกไป  ผมสัญญาแล้ว"
 
โต้งดูดุกว่าทุกครั้ง  เสียงของเขาฟังห้วน  ตาสีดำของโต้งดูวาววับจนน่ากลัว  ผมไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้ออกมา  จนกระทั่งโต้งซับน้ำตาให้
 
" ผมขอโทษ  แต่ผมอยากพาพี่ไปจริงๆนะ  ผมอยากดูแลพี่  ตอนนี้ผมก็เริ่มทำงานแล้ว  อีกหน่อยถ้าผมทำงานเยอะขึ้น  ผมก็จะเลี้ยงดูพี่ได้  แล้วถ้าพี่ไม่รังเกียจ  ผมจะเช่าบ้านหลังเล็กๆให้พี่อยู่  แล้วผมจะอยู่กับพี่ทุกวัน"
 
โต้งบอกด้วยสีหน้าจริงจังจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นเด็กอายุ  15  แต่ผมก็ไม่รู้  เด็กคนอื่นอาจเป็นแบบโต้งก็ได้  เพียงแค่ที่ผมไม่เคยเห็นเพราะมีแต่โต้งเท่านั้นที่เข้ามาหา
 
" ตามใจโต้งแล้วกัน  แต่พี่ไม่สัญญานะว่าจะไปกับโต้งได้รึเปล่า  พี่ต้องอยู่ที่นี่ตามที่คุณพ่อสั่ง"
 
โต้งกัดปากอีกครั้ง  แต่คราวนี้โต้งไม่ได้จูบหรือรอให้ผมจูบ  โต้งแค่สอนหนังสือผมต่อ 
 
คืนนี้โต้งนอนที่ห้อง  ช่วงหลังมานี่โต้งจะมาค้างบ่อยขึ้น  แต่ก็จะออกไปตอนก่อนเช้า 
 
โต้งไม่ได้มาค้างทุกครั้งที่อยู่ดึก  แต่เขาจะนอนค้างตอนที่ตัวเองไม่สบายใจ  หรือ  ผมไม่สบายใจ..
 
" เดินดีๆนะโต้ง  เวลาปีนต้นไม้ก็ระวังด้วย"
 
ผมบอกส่งโต้งในตอนเช้า  โต้งยังคงปีนเข้ามาผมผ่านทางต้นไม้  และกำแพงข้างบ้าน  โต้งเดินมาหาผมทุกครั้ง  เขาบอกว่าเอารถมาไม่ได้  เพราะเสียงมันจะดังแล้วคนที่เฝ้าจะสงสัย
 
" ตอนนี้ผมเพิ่งขึ้นมอปลาย  ผมคงมาหาพี่ไม่ได้บ่อยๆ  ผมต้องเรียนพิเศษกับทำงานด้วย  พี่อยู่คนเดียวได้นะ"
 
" พี่อยู่ได้  แต่ถ้าโต้งเหนื่อยก็ไม่ต้องมาก็ได้นะ  ไว้ว่างๆค่อยมาหาพี่  ตอนนี้พี่มีหนังสือคัดไทยที่โต้งเอามาให้แล้ว  พี่ไม่เบื่อหรอก"
 
โต้งมองหน้าผมก่อนก้มลงมาจูบ  เขามักจูบผมทุกครั้งก่อนลา 
 
และผม...
 
แอบร้องไห้ทุกครั้ง  ตอนที่เห็นเขาเดินจากไป
 
 
 
 
 
หลายวันผ่านไป  โต้งไม่ได้มาหาผมบ่อยเหมือนอย่างที่โต้งบอกไว้  แต่ผมก็ไม่เหงา  ผมคัดตัวหนังสือภาษาไทย  ภาษาอังกฤษ  และตัวเลข  รอโต้งทุกวัน  ตอนนี้ลายมือผมสวยมากแล้ว  โต้งบอกว่าลายมือผมเหมือนหงส์  เป็นไก่เขี่ยท่ีดูเหมือนหงส์น่ะ
 
คืนนี้โต้งมาหาผม  พร้อมของฝาก
 
" อะไรน่ะโต้ง"
 
" มือถือ  ไว้ใช้คุยกันตอนที่ผมไม่อยู่  ขอโทษนะที่ผมหายไปนาน  พอดีผมต้องรีบเก็บเงินซื้อมือถือ  มันเป็นเครื่อมือสองนะ  ของผมก็มีเหมือนกัน  ผมเติมเงินกับชาร์ตแบตให้พี่แล้ว  ผมจะสอนพี่ใช้นะ" 
 
โต้งบอกและสอนผมใช้สิ่งที่เรียกว่ามือถือ  มันเหมือนเป็นกล่องสี่เหลี่ยม  แต่พอกดปุ่ม  ผมก็สามารถได้ยินเสียงโต้งได้
 
" กดปุ่มรับตรงนี้  ตอนว่างก็กดอีกปุ่ม  ถ้าจะโทรก็กดเบอร์ล่าสุด  ผมใส่ชื่อผมไว้แล้ว  พี่ลองโทรดูนะ"
 
ผมทำตามที่โต้งบอก  กดเบอร์และกดเลขตามที่โต้งสั่ง  ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงโต้งออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยม
 
" เสียงไม่ค่อยเหมือนโต้งเลย  เสียงโต้งข้างนอกฟังดูดีกว่า"
 
ผมบอกออกไปหลังวางสาย  โต้งหัวเราะกับคำพูดผม  เขาสอนผมชาร์ตแบต  สอนวิธีเล่นเกมส์ในเครื่อง  สอนผมอีกหลายอย่างจนผมแทบจำไม่หมด
 
" พอแล้วโต้ง  พี่แค่ใช้รับสาย  และโทรหาเราก็พอ  มาดูพี่คัดลายมีดีกว่า  ตอนนี้พี่ไม่ได้เป็นไก่เขี่ยแล้วนะ"
 
โต้งหัวเราะกับการเปลี่ยนเรื่องของของผม  เขาเดินไปที่โต๊ะหนังสือ  ผมหยิบหนังสือที่ซ่อนไว้มาให้โต้งดู  โต้งชมผมด้วยว่า  ลายมือผมดีขึ้นมาก
 
" เริ่มเป็นหงส์ของจริงแล้ว  ไว้คราวหน้าผมเอาหนังสือบวกเลขมาให้พี่นะ"
 
" พี่ไม่ชอบบวกเลข  ไม่ได้ใช้  พี่ไม่รู้จะเอาไปบวกอะไร  นอกจากนับวันรอโต้ง"
 
รอยยิ้มของโต้งหายไปแล้ว  ผมไม่น่าพูดอะไรออกไปเลย
 
" ไม่ใช่ความผิดของพี่หรอกครับ  แต่บวกเลขน่ะดีนะ  ช่วยพัฒนาสมอง"
 
" นี่โต้งจะหาว่าพี่โง่? "
 
" เปล่านะครับ  ผมแค่อยากให้พี่มีอะไรทำ  ผมไม่ได้.."
 
" พี่ล้อเล่นน่ะโต้ง  ถ้าโต้งอยากให้พี่ทำอะไร  พี่ก็จะทำ  เอาหนังสือบวกเลขก็ได้  แต่อย่าเอายากเกินนะ  พี่กลัวทำผิด"
 
โต้งยิ้มให้ผมแล้ว  โต้งแกล้งบ่นหาว่าผมขี้แกล้ง  แต่ผมว่าโต้งต่างหากที่ชอบแกล้ง  โต้งชอบแอบหอมแก้มผมทุกครั้งเวลาผมเผลอ
 
" พี่นี่หอมเหมือนขนมผิงเลย  ไว้วันหลังผมจะเอามาให้พี่ชิมนะ  พอดีผมไม่ค่อยชอบของหวาน  ผมเลยลืมไป"
 
ช่วงหลังโต้งไม่ค่อยได้เอาขนมมาฝากผมเท่าไหร่  เขาบอกว่ามันไม่ค่อยมีประโยชน์  ถ้าเขาเอาของกินมาฝาก  จะเป็นผลไม้มากกว่า
 
" ตอนนี้มะม่วงกำลังออก  พี่ชอบกินใช่ไหม  ไว้มันสุกแล้วผมจะเอามาให้พี่นะ"
 
บางทีผมก็รู้เวลาจากผลไม้ที่โต้งเอามาฝาก  ถ้ามีมะม่วงจะเป็นหน้าร้อน  ถ้ามีสตอเบอร์รี่  จะเป็นหน้าหนาว
 
" ผมไปก่อนนะพี่  ตอนนี้ผมต้องควบสองกะ  เพราะผมขอยืมเงินเขามาซื้อมือถือก่อน"
 
" ถ้าลำบากก็ไม่ต้องก็ได้  ไหนจะหนังสือที่โต้งเอามาให้พี่อีก  พี่ไม่อยากให้โต้งเหนื่อยมาก"
 
โต้งไม่ได้ตอบอะไรผม  เขาแค่จูบ  และปีนหน้าต่างออกไป
 
และผม.. 
 
แอบร้องไห้อีกครั้ง..
 
 
 
ตืด...  ตืด...
 
เสียงมือถือ
 
โต้งตั้งสั่นไว้เพราะกลัวคนดูแลได้ยิน 
 
ผมกดรับ  ตามที่โต้งสอน
 
" ฝันดีนะครับ  รีบนอนได้แล้ว"
 
สรุปแล้วคืนนั้นผมนอนดึก  เพราะกว่าโต้งจะยอมวางสาย  ก็เป็นตอนที่โต้งบ่นว่าเงินจะหมด  เลยต้องวางสายไปก่อน
 
ผมกอด "มือถือ" แล้วเข้านอน  ตอนนี้ผมไม่ได้ร้องไห้อีกแล้ว
 
 
 
พอมีมือถือ  โต้งก็มาหาผมน้อยลง  แต่โต้งก็โทรมาหาผมทุกวัน  โทรมาแค่ครั้งละห้านาที  โต้งบอกว่าค่ามือถือแพง 
 
แต่พอผมบอกเขาว่าไม่ต้องโทรมาหาทุกวัน  เขาก็ดื้อจนต้องมาหาผมเอง
 
" ผมอยากโทรมาหาพี่ทุกวันนี่  ผมคิดถึงพี่นะ  แต่ช่วงนี้ผมต้องทำงานหนัก  เรียนหนักด้วย  เลยไม่ค่อยได้มาหาพี่"
 
" ถ้าเหนื่อยก็ลดงานลงดีไหม  พี่อยากให้โต้งตั้งใจเรียน  เรื่องเงินน่ะไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก"
 
โต้งอ้าปากเหมือนจะเถียง  แต่เขาก็เปลี่ยนใจ  เขายื่นขนมผิง  กับขนมกลีบดอกลำดวนมาให้  เขาบอกว่าขนมสองอย่างนี้  หอมเหมือนผม
 
" อร่อยไหม  พอดีผมเห็นมันขายคู่กัน  ตอนแรกผมนึกว่าพี่เหมาะกับขนมผิง  แต่พอเห็นแบบนี้  พี่น่าจะเป็นขนมกลีบดอกลำดวนมากกว่า"
 
ผมเองก็คิดแบบนั้น  กลีบดอกลำดวนจะหอมหวานและนิ่มมากกว่า  แต่ขนมผิงก็แข็ง  เวลากินแล้วก็กรอบๆดี
 
" โต้งทานไหม  พี่ยังไม่เห็นโต้งชิมเลย"
 
โต้งส่ายหัวแล้วบอกว่าไม่ชอบทานของหวาน  แต่เขาก็มองผมกิน  ก่อนก้มตัวมาดมที่ข้างแก้ม  แล้วเลียขนมที่ติดเลอะปากผม
 
" ผมชิมแล้ว  อร่อยดี.."
 
โต้งบอกแล้วใช้ลิ้นเลียปาก  ผมไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าตาผมเป็นยังไง  แต่ผมรู้สึกว่าหน้าร้อนมาก  ผมก้มหน้าตั้งก้มตากินขนมจนหมด  ในขณะที่โต้งเอาแต่มองและยิ้ม
 
คืนนี้โต้งค้างกับผม  โต้งบอกว่าแลกกะแล้ว  ผมไม่เข้าใจว่ากะคืออะไร  รู้แต่เวลามันเป็นเวลาที่โต่งต้องไปทำงาน  แต่พอผมถาม  โต้งก็บอกผมว่า  เป็นเวลาที่ทำให้โต้งได้เงินมาเพื่อเก็บไว้เช่าบ้าน
 
" โต้งสูงเท่าไหร่แล้ว  ทำไมโต้งดูตัวใหญ่ขึ้นมากจัง"
 
ผมถามโต้งตอนที่นอนกอดกันบนเตียง 
 
โต้งดูตัวใหญ่ขึ้นมาก  เมื่อก่อนตอนกอดกัน  โต้งแค่สูง 
 
แต่ตอนนี้  โต้งทั้งสูงทั้งใหญ่  เวลากอดผมที  เหมือนผมตัวเล็กมาก
 
" สูงซักร้อยหกห้ามั้ง  ทำไมเหรอ"
 
" พี่ว่าเราดูตัวใหญ่ขึ้นเยอะ  ทั้งสูงทั้งใหญ่  เวลากอดพี่ที  พี่อึดอัด"
 
โต้งขอโทษขอโพยที่กอดผมแรง  ความจริงมันก็ไม่ได้อึดอัดมาก  แต่มันหนักมากกว่า
 
" พี่อยากตัวใหญ่แบบโต้งบ้าง  โต้งทำอะไรถึงได้สูง"
 
" ผมเล่นบาสน่ะ  ตอนนี้ผมไม่ค่อยได้เล่นบอลแล้ว  เพราะจะได้เป็นตัวแทนนักกีฬา  ได้เงินด้วยนะ  พอเป็นตัวแทนก็จะได้ทุน  ไม่ต้องออกค่าเรียนเอง  เอาเงินค่าเทอมมาเป็นเงินเก็บได้"
 
ผมไม่ถามโต้งว่าบาสเป็นกีฬาแบบไหน  เพราะผมคงนึกภาพไม่ออก  แต่โต้งก็เหมือนรู้  เขาอธิบายให้ผมฟังว่า  มันเป็นกีฬาที่ต้องวิ่งและต้องกระโดด  ห้ามถือลูกบาสวิ่งไปวิ่งมา 
 
ผมฟังโต้งเล่าจนหลับ  ตอนนี่ผมกำลังจะหลับสนิท  ผมได้ยินโต้งบอกว่า
 
" แล้วผมจะพาพี่ไปเล่นบาสนะ"
 
ผมได้ยินแค่นั้น  แล้วก็หลับไป
 
 
ตอนเช้าโต้งออกไปตั้งแต่หัวรุ่ง  โต้งจูบผมเหมือนทุกครั้งก่อนไป  คราวนี้ผมไม่ได้ร้องไห้  เพราะพอโต้งออกไป  โต้งก็โทรมาหาผมทันที
 
" ผมลืมบอกไปว่า  เอาหนังสือเลขมาให้แล้ว  พี่อย่าลืมทำนะ  แล้วผมจะมาตรวจ"
 
โต้งบอกแค่นั้นแล้ววางสายไป 
 
ผมเดินกลับเข้าไปที่โต๊ะ  ผมเห็นหนังสือตัวเลข  พร้อมกับสร้อมข้อมือ  มันมีข้อความเขียนสั้นๆว่า
 
" เอาไว้ใส่ตอนที่คิดถึงผมนะ"
 
โต้งรู้ว่าผมใส่เครื่องประดับไม่ได้  เพราะผมกลัวคนดูแลเห็น  แต่เขาก็ยังส่งมา
 
สร้อยข้อมือที่โต้งเอามาให้เป็นสร้อยเชือกที่มีหินสีเขียวก้อนกลมมัดอยู่  มันไม่ใช่หยก  แต่เป็นหินที่มีสีคล้ายหยก
 
" สวยเหมือนตาของพี่"
 
นั่นคือข้อความในส่วนที่เหลือ
 
ผมเอาสร้อยไปเก็บในกล่องไม้  ในนั้นมีของที่โต้งเคยให้มาหลายอย่าง  รวมถึงดอกกุหลาบที่โต้งเอามาให้ทุกปี
 
" ขอบใจนะโต้ง" 
 
ผมบอกแล้วปิดฝากล่อง  ก่อนซ่อนเอาไว้ตามเดิม



>> To Be Continue <<

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
พ่อภาษาอะไรเนี่ย อย่างน้อยก็ควรส่งลูกเรียนหนังสือหน่อยสิ
โต้งทุ่มทุนมาก ผิงอันก็น่ารัก
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
น่ารัก ๆๆๆๆๆๆ   :-[ :-[ มากๆอะทั้งโต้งและผิงอันเลย รักตั้งแต่วัยเด็กๆๆ อิอิ สู้ๆๆนะ แล้วก็น่าสงสารด้วย   :mew6:  ทำไมคุณพ่อใจร้ายจัง

สู้ๆจ้าเปิดเรื่องใหม่อีกแล้วตามอ่านทุกเรื่องชอบทุกเรื่องเลย เป็นกำลังใจให้จ้า  :3123: :3123: :3123:
 :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
รอดูว่าหนุ่มโต้งจะพาพี่ผิงอันออกจากบ้านได้มั้ย

ออฟไลน์ full69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
สงสารอ่ะ ให้อยู่แต่ชั้นสองเพื่อ ??? บ้าไปแล้ว  :z6:

ออฟไลน์ จ๊ะจ๋า

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :m31:   แน่ใจนะว่าเป็นพ่อคน T_T
โต้งน่ารัก  ผิงก็น่ารัก
เฝ้ารอตอนต่อไปค่ะ

atblueann

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารมาก เมื่อไรจะได้เหยียบพื้นดินบ้าง พ่อของอีผิงใจร้ายเกินไปแล้ว มาต่อไวๆนะ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ซวยเลย ดันเกิดมาเป็นลูกคนที่งมงายขนาดหนัก

อย่าดราม่ามากนะ เค้าสงสารนายเอกกะพระเอก หมั่นไส้พ่ออ่ะ ทำร้ายลูกชิบฮ๋าย :mew5:

ออฟไลน์ FahFon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
เรื่องใหม่ๆ มาติดตามด้วยคน ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
อ่านแล้วเศร้าสงสารอี้ผิง
ไม่อยากให่คนดูแลจับได้เลย

Mio

  • บุคคลทั่วไป
โรมิโอกะจูเลีตฝุดๆ  ขอให้โต้งพาผิงอันออกไปจากพ่อนรกแตกนี่ได้ทีเถอะ :katai1:

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
น่าสงสารจัง

 :hao5:

ขอให้โต้งเป็นพระเอกนะ
อย่าเปลี่ยนพระเอกตอนหลังนะ  :mew2:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
โถ่ชีวิตหนูช่างน่าสงสาร

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
เข้ามารออ่านน้องผิงอันกะน้องโต้งจ้า ไม่ได้เข้าเล้าหลายวัน ยังไม่ได้ตามอ่านเรื่องเก่าเลยมารออ่านเรื่องใหม่ล่ะ อิอิ
อ่านแล้วชอบอะ น้องผิงกะน้องโต้งน่ารักมากเลย ถึงบรรยากาศจะดูเศร้า ๆ แต่ก็ดูอบอุ่นดีจัง น้องโต้งรักน้องผิงมากเลย
แต่อ่านแล้วลุ้นกลัวคนดูแลจับได้แล้วไปฟ้องพ่ออะ สงสารน้องผิงแค่นี้ก็เหมือนถูกพ่อทอดทิ้งพอแล้ว อยู่แต่ชั้นสองเป็นปี ๆ ได้ไง
ขอให้น้องโต้งพาน้องผิงหนีได้สำเร็จเถอะ แล้วเรื่องนี้คงไม่เศร้ามากนะค่ะ รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4:  :L2:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :sad4: อ่านแล้วแอบน้ำตาซึมเบาๆเบย  :ling3:

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
- 2 -



วันนี้เป็นวันเดินครบรอบอายุยี่สิบปี  โต้งมาหาผมทั้งที่อากาศหนาวจัด  ปีนี้หนาวกว่าทุกที  แต่โต้งก็ดูไม่เดือดร้อนมากนัก  โต้งแต่ใส่เสื้อตัวใหญ่มาเพิ่มแค่ตัวเดียว

" สุขสันต์วันเกิดครับ  อายุยี่สิบปีแล้วนะ  ผมเอาเค้กมาให้ด้วย  ทุกปีผมไม้ซื้อ  แต่ปีนี้พิเศษ  ผมอยากให้พี่ลองชิมเค้กดู"

ความจริงวันนี้ไม่ใช่วันเกิดจริงๆของผม  แต่เพราะผมจำวันเกิดตัวเองไม่ได้  โต้งเลยบอกว่าให้เอาวันวาเลนทไทน์มาเป็นวันเกิดผมแทน  และทุกปีของขวัญวันเกิดผมจะเป็นดอกกุหลาบ  มีปีนี้ที่เป็นเค้ก  ที่มาพร้อมดอกกุหลาบช่อใหญ่

" ผมไปทำงานที่สวนดอกไม้มาน่ะ  ไม่ได้ซื้อมาหรอก  ส่วนเค้ก  ผมก็ทำเอง  ตอนนี้ผมทำงานที่ร้านกาแฟแล้ว  งานไม่หนักมากแต่ได้เงินดี  แต่ผมก็ไม่ค่อยได้มีเวลามาหาพี่เท่าไหร่  เพราะต้องเริ่มเก็บตัวซ้อมบาส  แต่ผมจะโทรมาหาพี่ทุกวันนะ"

โต้งบอกเหมือนกลัวผมดุ 

ผมยิ้มให้โต้งแล้วบอกขอบคุณก่อนชิมเค้ก

โต้งบอกว่าเป็นเค้กกาแฟ  เพราะผมไม่เคยทานกาแฟ  โต้งเลยอยากให้ผมลองทาน

" ขม "

โต้งหัวเราะที่ผมทำหน้าแหย  โต้งเอาเค้กกาแฟไปกินเอง  ก่อนจะยื่นเค้กอีกชิ้นมาให้

" อันนี้เค้กนมสด  ไม่หวานมาก  แต่ก็หอม  พี่ทานให้หมดนะ" 

โต้งบอกแล้วป้อนเค้กผมจนหมด 

แต่คำสุดท้าย  ผมรู้สึกเหมือนเคี้ยวอะไรบางอย่าง  พอคายออกมา  ก็เห็นว่ามันเป็นแหวน

" ผมไม่มีปัญญาซื้อหยกให้  เอาแหวนเงินไปก่อนนะ  ไม่ต้องใส่ก็ได้  แต่ผมอยากให้พี่เก็บไว้  แทนคำสัญญาว่าผมจะมารับพี่" 

โต้งบอกโดยที่ไม่สบตา  ผมยิ้มให้โต้ง  ก่อนยืดตัวไปจูบ 

โต้งจูบตอบรับ  และนั่นเป็นครั้งแรกที่โต้งส่งลิ้นเข้ามา

" แต่งงานกับผมนะพี่  ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่มีปัญญามาขอพี่  แต่ผมสัญญาว่าจะมารับพี่ไปเป็นเจ้าสาวแน่นอน"

" แต่พี่เป็นผู้ชาย"

" เป็นผู้ชายก็ไม่เป็นไรฮะ  พี่ต้องสัญญานะว่าจะแต่งงานกับผม"

" พี่มีแต่เธอคนเดียว  พี่จะแต่งงานกับเธอ"

โต้งยิ้มกว้างแล้วจูบผมไม่หยุด  โต้งฉุดผมแล้วอุ้มขึ้นหมุนไปรอบๆ  ผมพยายามร้องห้าม  แต่ก็ทำไม่ได้ดีนัก  เพราะกลัวคนดูแลได้ยิน

" พอแล้วโต้ง  พี่เวียนหัว"

" พี่สัญญาแล้วนะ  พี่สัญญาแล้ว"

โต้งพูดซ้ำๆแล้วหอมแก้มผมไปมา 

ผมไม่รู้หรอกว่าแต่งงานคืออะไร  แต่ถ้ามันทำให้โต้งดีใจได้  ไม่ว่าอะไรผมก็ยอมสัญญา

โต้งอยู่ค้างกับผมจนถึงเช้า 

วันนี้เป็นวันแรกที่โต้งออกไปหลังรุ่งสาง  โต้งอยู่กับผมจนคนดูแลเอาอาหารมาส่ง  โต้งมองดูอาหาร  ก่อนบ่อนออกมา

" อาหารก็ดูดีนะ  แต่ทำไมมันน้อยจัง"

" พี่กินไม่ค่อยเยอะ  คงเพราะพี่ไม่ค่อยได้ทำอะไร  เลยไม่ค่อยหิว" 

ผมบอกแล้วชวนโต้งกินข้าว  แต่โต้งบอกว่าไม่เอา  เขาไม่อยากแย่งผม

ผมทานอาหารเช้าจนหมด  แล้วเอาถาดไปสอดช่องลอดประตู 

โต้งลากผมไปที่ห้องน้ำหลังจากผมเอาถาดไปเก็บเสร็จ 

โต้งยืนค้ำ  และซ้อนตัวไว้อยู่ที่ด้านหลังผม  ผมถึงได้รู้ตัวว่า  ผมตัวเล็กกว่าโต้งมากทีเดียว

" ไว้ผมทำงานเก็บเงินได้เยอะๆ  ผมจะเลี้ยงพี่เองนะ  ดูพี่สิ  ตัวเล็กกว่าผมตั้งเยอะ  ถ้าผมหักตัวพี่ได้  พี่คงเหมือนไม้จิ้มฟันแน่เลย"

โต้งบอกผม  แล้วหันหน้าผมให้มองกระจก 

โต้งตัวสูงกว่าผมไม่มาก  ตอนนี้โต้งสูงกว่าผมประมาณหนึ่งช่วงหัว  แต่โต้งตัวใหญ่กว่าผมมาก  ไม่ต้องพูดถึงสีผิว  ผิวโต้งคล้ำแดด  ผิดกับผมที่ขาวซีด

" พี่อยากตัวใหญ่เหมือนโต้ง  อยากผิวคล้ำให้ได้ซักครึ่งของโต้ง  ดูแบบนี้แล้ว  พี่ผิวซีดมากเลย"

ผมบ่นอย่างกังวลใจ  ขนาดผมตากแดดที่ข้างหน้าต่างทุกวัน  แต่ก็ไม่คล้ำขึ้น  มีแค่ผิวสีแดงๆเพราะร้อนแดดเท่านั้นเอง

" พี่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วครับ  แต่จะดีกว่านี้ถ้าอ้วนอีกหน่อย  พี่ไม่ได้ตัดผมเลยใช่ไหม  ผมพี่ยาวมาก  ยาวและสวย  ผมชอบผมพี่จริงๆ"

โต้งพูดแล้วก้มลงหอมที่เส้นผม  ผมของผมเป็นสีดำสนิท  มันดูแปลกเมื่อเทียบกับตาสีเขียว  แต่โต้งก็บอกว่าโต้งชอบมันมาก

" ผมต้องไปแล้ว  วันนี้ผมมีงานตอนสิบโมง  ผมไปก่อนนะ  แล้วผมจะโทรหา"

โต้งบอกแล้วผละตัวออก  ผมมองหน้าโต้งที่กัดปากเหมือนอดทนอะไรบางอย่าง  แต่โต้งก็ไม่ได้บอกผม  เขาจูบผมเร็วๆก่อนที่จะปีนออกไปนอกหน้าต่าง 

ผมยังยืนงง  แต่ไม่นานเขาก็โทรเข้ามา 

โต้งบอกผมว่า

" ผมรักพี่นะ" 

แล้วเขาก็วางสายไป




ผ่านไปแล้วอีกสองปี  โต้งยังคงทำตัวเหมือนเดิม  ยังเป็นโต้งที่น่ารักและเอาใจใส่ผม  ถึงโต้งจะไม่ได้มาหา  แต่โต้งก็โทรมาหาผมทุกวัน  ไม่มีวันไหนเลยที่เขาไม่โทรมา

" ผมได้มือถือใหม่มา  พอดีไปแข่งบาสชนะ  อาจารย์เลยซื้อให้  ส่วนอีกเครื่องนี้ผมซื้อเอง  มันถ่ายรูปได้  ส่งรูปได้  ไว้ถ้าผมไม่อยู่นานๆ  พี่จะได้ดูรูปผมไว้แก้เหงาไง"

" พี่ก็ดูรูปเราที่เราเอามาให้พี่ทุกวัน  ไม่ต้องเอามือถือใหม่มาให้พี่ก็ได้  เพราะพี่เองก็ไม่ได้ใช้อะไร"

ผมบอกโต้งที่ยื่นมือถือใหม่มาให้  มันดูน่าจะแพงมาก  แต่โต้งก็คะยั้ยคะยอให้ผมรับ 

โต้งถ่ายรูปผมคู่กับโต้งหลายรูป  และถ่ายรูปผมคนเดียวอีกหลาบรูปจนเครื่องเต็ม  โต้งบอกผมว่าเขาต้องไปเรียนที่กรุงเทพ  เมืองหลวงของประเทศไทย  มันห่างจากที่นี่มาก  แต่โต้งบอกว่าถ้ามีเวลาจะมาหา 

จะมาหาผมที่เชียงราย..

ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองอยู่เชียงรายก็ตอนที่โต้งบอก 

โต้งบอกว่าเชียงรายอยู่ภาคเหนือ  กรุงเทพอยู่ภาคกลาง  ถ้าเขาจะมาหาผมได้  ต้องให้เวลานั่งรถนานหลายชั่วโมง

" ผมคงนั่งเครื่องไม่ได้เพราะค่าเครื่องบินมันแพง  แต่ถ้ามีอะไรด่วน  ผมจะรีบนั่งเครื่องมาหาพี่  พี่อย่าปล่อยให้โทรศัพท์แบตหมดนะ  ส่วนนี่มีดพก  ถึงพี่จะปลอดภัยเพราะอยู่แต่ในห้อง  แต่ผมอยากให้พี่พกไว้  อันนี้ห้ามเก็บใส่กล่อง  ให้เอาไว้ใต้หมอน  ถ้ามีคนทำความสะอาดเข้ามาให้เอาพกติดตัวไว้  ผมจะสอนพี่ใช้นะ  กดตรงนี้มันจะดีดใบมีดออก  ระวังมีดบาดด้วย  แล้วเวลาจะแทงอย่าลังเล  ไม่งั้นมันทำหันมาทำร้ายพี่เอง"

โต้งสอนผมใช้มีดอยู่นาน  เขาบอกผมว่าเขาจะหายไปนานมาก  เพราะต้องทั้งเรียน  ทั้งทำงาน  และต้องเป็นนักบาสมหาวิทยาลัย  โต้งบอกว่ามหาวิทยาลัยก็เหมือนโรงเรียน  แต่ใหญ่กว่ามาก

" ความจริงผมก็ไม่อยากไป  แต่อาจารย์บอกว่า  มันจะทำให้ผมมีอนาคตที่ดี  ถ้าผมเรียนสูงๆ  จบอออกมาได้งานดีๆ ผมจะหาเงินได้มากขึ้น  แล้วคราวนี้ผมจะได้พาพี่ไปอยู่กับผมได้  แล้วพี่ก็จะได้ไม่ลำบาก"

โต้งบอกกับผมแบบนั้น  ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องคุบเป็นเรื่องอื่น 

พรุ่งนี้โต้งต้องไปกรุงเทพแล้ว  และที่เขามาหาผมก่อนหน้านี้ไม่ได้  เพราะเขามีติดแข่งหลายนัด  และเพราะเขาแข่งชนะ เขาถึงได้ทุนไปเรียนที่กรุงเทพ

" แต่วันเกิดพี่ผมจะมาหานะ  ถ้าปิดเทอมผมว่าง  ผมก็จะมาหา  แล้วผมจะมาค้างกับพี่ทุกคืน  พี่จะได้หายคิดถึงผม"

" พี่ไม่คิดถึงเธอหรอก  แค่เห็นรูปเธอทุกวันก็เบื่อพอแล้ว"

โต้งบ่นอุบอิบว่ารูปถ่ายจะดีกว่าตัวจริงได้ยังไง  โต้งตัดพ้อจนผมต้องยอมง้อ  และตอนนั้นเองที่ผมรู้ว่าตัวเองพลาดไป  เพราะโต้งบอกกับผมว่า

" ยอมทุกอย่าง?  งั้นยอมเป็นของผมได้ไหม"

" พี่ก็เป็นของเธอแล้วไง  พี่มีแค่เธอคนเดียว"

โต้งยิ้มอย่างใจดี  เขายิ้มแล้วมองผมเหมือนเป็นเด็กไร้เดียงสา  แต่ผมแก่กว่าเขานะ  ถึงผมจะไม่ได้อยู่ในโลกภายนอก  แต่ผมก็แก่กว่า

" ผมจะไม่เอาเปรียบพี่หรอกนะ  แต่พี่ต้องสัญญานะว่าจะเป็นของผมคนเดียว  ถ้ามีใครจะมาพาพี่ไป  พี่ต้องโทรหาผมนะ"

" จะมีใครมาพาพี่ไป  พี่อยู่ของพี่มาตั้งนาน  มีแต่โต้งคนเดียวที่มาหาพี่"

โต้งกัดปากอีกแล้ว  หลังๆมานี่เขาไม่ค่อยได้กัดปากเท่าไหร่  เขาดูโตขึ้นมาก  ดูโตจนเหมือนเป็นคนที่อายุยี่สิบสองเท่าผม

" อย่าออกไปไหนนะ  อย่ามองที่นอกหน้าต่างมาก  ถ้าผมมาผมจะโทรมาบอกก่อน  ตอนนี้พี่สวยมาก  สวยจนผมไม่อยากปล่อยไป  แต่ผมก็ทำไม่ได้  ผมยังไม่พร้อม  แต่พี่ต้องรอผมนะ  รอเวลาที่ผมจะมารับ"

" พี่จะรอเธอคนเดียว"




ตอนเช้าโต้งออกไปตอนตีสี่  โต้งบอกว่ารถจะออกตอนหกโมง

" ถึงกรุงเทพแล้วจะโทรหานะ  จำที่ผมบอกได้ทุดอย่างใช่ไหม"

" อย่ามองนอกหน้าต่าง  ถ้าจะดูให้ดูตรงหลังม่าน  เก็บมีดไว้กับตัว  อ่านหนังสือเยอะๆ  คอยรับโทรศัพท์ทุกครั้ง  ต้องกินข้าวมากๆ  อย่าปล่อยให้เท้าเย็น  ระวังอย่าให้เป็นหวัด  แล้ว..."

" โอเคๆ  ผมรู้แล้วว่าพี่จำได้  เหนื่อยไหมเนี่ย  เล่นพูดทีเดียวยาวเลย"

ผมไม่ได้ตอบโต้งเพราะผมเหนื่อยจริงๆ  โต้งจ้องตาผม  ก่อนที่จะจูบลงมาเนิ่นนาน

" ดูแลตัวเองดีๆนะ  แล้วถ้าวางผมจะมาหา  และถ้าพร้อมผมจะมารับพี่ทันที"

โต้งบอกก่อนจูบผมอีกครั้ง  แล้วปีนออกไป 

และนี่  เป็นอีกครั้งที่ผมร้องไห้ 

หลังจากไม่ได้ร้องไห้มานาน




ผ่านไปอีกสองปีแล้ว 

ตอนนี้โต้งอยู่มหาลัยปีสอง  โต้งยังคงโทรมาหาผมทุกวัน  มีบ้างที่โทรมาช่วงกลางวัน  โต้งบอกผมว่าพออยู่มหาลัยก็มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น  เขาเลยโทรมาหาผมช่วงตอนกลางวันได้

" อาซ้อ~  เมื่อไหร่จะมาหาพวกผมคร้าบ  อาเฮียแกบ่นคิดถึงถึงอาซ้อทู๊กกกวัน"

เสียงที่ไม่คุนเคยดังขึ้น  และก่อนที่ผมจะได้ตอบอะไร  โต้งก็มาพูดสาย

" เพื่อนผมน่ะพี่  มันแย่งมือถือผมไป  ขอโทษทีนะ  พี่เป็นไงบ้าง  กินข้าวรึยัง"

" พี่ทานแล้ว  แล้วโต้งล่ะ"

" ผม... "

" ฮิ้ว~  น่าอิจฉาจริงโว้ยยย  พ่อเดือนมหาลัยรักเดียวใจเดียว  น่าสงสารสาวๆแถวนี้เนอะ  โดนมดกัดจนชีช้ำแล้ว"

" หุบปาก!"

" เอ่อ  โทษทีนะพี่  ผมไม่ได้ว่าพี่นะ  แค่เพื่อนๆมันกวนน่ะ"

" เล่าเรื่องที่มหาลัยให้พี่ฟังบ้างสิ  คราวก่อนบอกว่ามีเพื่อนเยอะใช่ไหม  แล้วเพื่อนๆเป็นไงบ้าง  ดีกับโต้งหรือเปล่า"

" ก็ดีน่ะนะถ้าพวกมันไม่..."

" อาซ้อออ  ผมรักอาซ้อ  อาซ้อซ้วยสวยยย"

" ไอ้เชรี่ยมอ!  มึงแอบดูมือถือกูเหรอ!  เดี๋ยวมึงเจอตีนกูแน่!  พี่ๆ  แล้วผมโทรหาใหม่นะ  ผมขอไปกระทืบเพื่อนก่อน"

โต้งบอกแล้ววางสายไป  เป็นแบบนี้บ่อยๆเวลาคุยกันตอนกลางวัน  โต้งถึงได้ไม่ชอบโทรมาหาผมตอนเที่ยงมากนัก  นอกจากอยู่คนเดียว  แต่โต้งก็โทรมาหาผมทุกคืน




วันวาเลนไทน์ปีนี้โต้งก็มาหาผมเหมือนทุกครั้ง  โต้งมาพร้อมดอกกุหลาบดอกใหญ่  แต่สีหน้าโต้งไม่ดีนัก  เหมือนมีอะไรกลุ้มใจอยู่

" ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อแม่  แม่บอกผมว่าผมเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง  แม่จริงๆของผมเอาผมมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้าน  ตอนนั้นแม่ผมเพิ่งแท้งลูกตัวเองไปจนมีลูกไม่ได้  ท่านเลยเลี้ยงผมแทน  แต่เมื่อเดือนก่อน  คนของพ่อผมมาบอกความจริงกับผม  ผมไม่เชื่อ  จนกระทั่งได้ยินจากปากแม่ทางโทรศัพท์  แต่ผมหยุดเรียนไม่ได้  ผมเพิ่งกลับมาได้เมื่ออาทิตย์ก่อน  ผมรอกลับมาให้ตรงกับช่วงวันเกิดพี่พอดี  พี่ว่าผมควรทำยังไง  ผมควรไปกับพ่อจริงๆดีไหม"

นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นโต้งเป็นเด็กหลงทาง  ตอนนี้โต้งเหมือนเด็กอายุยี่สิบจริงๆ  ไม่ใช่เด็กที่ดูโตกว่าอายุอีกแล้ว

" พี่ไม่รู้นะว่าโต้งรู้สึกยังไง  เพราะพี่ไม่เคยมีใครนอกจากโต้ง  แต่การที่มีคนรักย่อมดีกว่ามีคนเกลียด  และถ้าพ่อจริงๆของโต้งอยากแก้ตัว  พี่ว่าโต้งควรไปหาท่านนะ  เพราะพี่ไม่อยากให้โต้งเสียโอากาส  พี่ไม่มีใคร..  พ่อพี่ก็ไม่ได้รักพี่  แต่พ่อของโต้งไม่ใช่  ถ้าเขาตามหาก็แสดงว่าเขาอยากเจอ  ไปเจอเถอะนะ  แล้วถ้าไม่ชอบค่อยมาว่ากันอีกที"

ผมบอกแล้วประคองหน้าโต้งไว้  หน้าโต้งดูใหญ่มาก  มีหนวดเคราขึ้นบ้างพอสากมือ  โต้งซบหน้าลงที่มือ  ก่อนจะพูดว่า

" ถ้าพี่บอกผมจะทำตาม  ผมทำทุกอย่างได้เพื่อพี่นะ  พี่คือทุกอย่างของผม"

คืนนั้นเรานอนด้วยกันเหมือนทุกครั้ง  ผมต้องฝ่ายกล่อมโต้งนอนจนหลับ  นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่  และได้ทำตัวเป็นพี่ชาย  เพื่อดูแลโต้งบ้าง



ตอนเช้าโต้งออกไปแต่เช้าเพราะต้องไปคุยธุระ  โต้งจูบลาเหมือนอย่างทุกครั้ง

" ไม่แน่ว่าผมอาจมารับพี่ได้เร็วขึ้นก็ได้นะ  เห็นว่าพ่อใหม่ของผมรวยมาก  ไม่แน่ว่าผมอาจจะมาขอพี่ได้เร็วขึ้นก็ได้"

" พูดจาไร้สาระ  ขออะไรกัน  พี่ไม่มีอะไรจะให้เราหรอก  ออกไปได้แล้ว  ช่วงนี้พี่รู้สึกว่าคนดูแลป้วนเปี้ยนกันมากขึ้น"

โต้งขมวดคิ้ว  แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะมีสายเข้า  โต้งปีนออกไปที่นอกกำแพง  พอดีกับที่คนดูแลเข้ามาเคาะห้อง

" คุณหนู  ขอผมเข้าไปหน่อยครับ"

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงผู้คุม  ปกติพวกเขามักไม่พูด  แค่เคาะประตูก่อนเดินเข้ามา  และกลับออกไป

ผมสำรวจตัวเองและบริเวณห้อง  ไม่มีร่องรอยอะไรที่สื่อว่าโต้งเข้ามา  ผมเดินไปเปิดประตู  และเจอผู้ชายตัวสูงใส่แว่นคนหนึ่งอยู่หน้าคนดูแลที่ผมเห็นหน้าประจำเวลาเขามาทำความสะอาด

" ก็น่ารักดี  คุณชายน่าจะชอบ  ถ้าไม่ดูให้ดี  ก็ไม่รู้เลยว่าเป็นผู้ชาย  หน้าตาเหมือนผู้หญิงจริงๆ  ชื่ออะไร  ผิงอันใช่ไหม"

เขาบอกแล้วจับคางผมพลิกไปมา  ผมพยายามสะบัดออก  แต่เขาล็อคไว้แน่น 

" ท่าทางจะดื้อซะด้วย  ฉันจะเอาคนนี้ไป  เตรียมตัวให้พร้อม  แล้วฉันจะมารับไปอยู่บ้านตระกูลฟาง"

ผมไม่รู้ว่าเขาพูดกับใคร  เหมือนเขาจะพูดกับผม  แต่คนข้างหลังกลับพยักหน้า  ผมพยายามดิ้นหนีให้พ้นมือที่ลูบไปตามหน้า  ไม่เอา..  ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้

" โอ๊ะๆ  อย่าดิ้นสิ  เป็นนกน้อยในกรงทองก็ดีแล้ว  อย่าดื้อ  ไม่งั้นได้ถูกเด็ดปีกแน่"

เขาบอกแล้วผลักผมจนผมล้มลงกับพื้น  เขาหัวเราะลั่นก่อนเดินจากไป

" คุณชายต้องชอบแน่  แล้วที่นี้เราจะได้เลื่อนตำแหน่งอีกหลายขั้นทีเดียว"

นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกกลัว  ผมตัวสั่น  แต่ก็พยายามเดินไปหาโทรศัพท์  ผมกดเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจมานาน  แต่ไม่เคยโทรออกซักครั้ง  เพราะทุกครั้งโต้งจะเป็นฝ่ายโทรมา

" มีอะไรพี่" 

เสียงโต้งฟังดูตระหนก

" มี  มีคน  จะมาพาพี่ไป  ขะ  เขา  เขาบอกว่าจะพาพะ..พี่ไป  บะ  บ้าน  ตระกูลฟาง"

" ใจเย็นๆพี่  ผมฟังไม่ชัด  หายใจเข้าช้าๆ  แล้วบอกผมมาว่าเกิดอะไรขึ้น"

" มีคนมาหาพี่  เขาบอกว่า  จะมาพาพี่ไป  พาพี่ไป  บ้านตระกูลฟาง  พาพี่ไปให้คุณชายของเขา"

ผมน้ำตาไหลออกมา  เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมกลัวขนาดนี้  ผมไม่รู้ว่าพาออกไปหมายถึงอะไร  แต่ผมไม่อยากไป  ผมสัญญากับโต้งไว้แล้วว่า  ผมจะไปกับเขาคนเดียว

" โธ่เว้ย!  พี่พกมีดเอาไว้นะ  อย่าให้ใครเข้ามาในห้อง  แล้วคืนนี้ผมจะไปรับ  เก็บของที่จำเป็นเอาไว้  พกมือถือไว้ด้วย  เตรียมตัวไว้แล้วผมจะรีบไปรับพี่"

โต้งสั่งผมอีกสองสามคำก่อนสั่งให้ผมไปเก็บของ  ผมมีของไม่มาก  สมบัติอย่างเดียวคือกล่องไม้ที่เก็บของที่โต้งให้ไว้  ผมหยิบดอกกุหลาบขึ้นมา  มันยังไม่แห้งเพราะผมได้มันมาเมื่อคืน  ผมตัดก้านออกแล้วใส่รวมกันในกล่อง  ก่อนจะหาผ้ามาห่อรวมกับที่ชาร์ตแบต  หมดแล้ว..  ของๆผมมีแค่นี้  ผมแอบกล่องไว้ในที่เดิม  ก่อนที่จะนั่งรอที่เตียง  รอเวลาที่โต้งจะมารับ

โต้งไม่ได้มารับตอนกลางคืน  โต้งโทรมาบอกผมว่าตอนนี้ที่บ้านยุ่งมาก  และเวรยามที่บ้านผมก็เยอะขึ้น  แต่โต้งบอกว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเขาจะมาหาผมในตอนเช้า

ผมยังรอ..

รอโดยที่ไม่ได้เข้านอน



>>  To  Be  ConTinue  <<

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:  ใครจะมาพาผิงอันไป  ม่ายยนะ

atblueann

  • บุคคลทั่วไป
ชอบมาก มาต่อเร็วๆๆนะ อย่าหายไปนานซิ คิดถึงผิงอัน อย่าให้ผิงอันเสียใจอีกเลยนะ

ออฟไลน์ someone0243

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
งืออออ หนีให้พ้นเถ๊อะ!  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
เริ่มดราม่าแล้ว โอ๊ยยยย สงสารอี้ผิงกับโต้ง

ออฟไลน์ phana_qbz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ lalitalx

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-3
หนีให้ได้นะผิงอัน กดดันจริงๆ  :katai1:

tegomon

  • บุคคลทั่วไป
หนี ให้ พ้น นะ คะ ผิงอัน

กดดันแทนจริงๆ
 :katai1: :katai1:
 
อย่า :m8: นะ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
ค้างงงงงงงงงงงง  :ling1:

รีบมาต่อไวๆน๊ะ โอ๊ยเครียดแทน  :katai1:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ใครจะมาพาผิงอันไปนะ ขอให้โต้งพาผิงอันหนีรอดไปได้เถอะนะ

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3

ออฟไลน์ cakecoke

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
 :hao7: :hao7:


โต้งงงง! พี่เขารอเธออยู่นะ

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
โอ้ยยย  :serius2:
เครียดเลยอ่ะ..ตอนนี้
ขอให้โต้งมารับอี้ผิงทันนะ
เราเอาใจช่วย
มาให้ทันนะ
ห้ามถูกจับได้ด้วย
ติดตามฮะ   :L2:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อย่าทำร้ายผิงอันนะ ผิงอันบริสุทธิ์เกินไป  :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด