มาต้มมาม่ากินรอบดึกกกกกกกก
จะมาซุ่มมาตอนชาวบ้านเค้าหลับแล้ว โฮ๊ะๆ
หมอ(โดน)ฟัน ตอนที่ 13
“อา...เสียววววว..อ๊า” ผมร้องครางสะโพกขาวผ่อนเด้งขึ้นลงรับการกระแทกประตูจากมัน
“อาา” มันครางหลับตาพังประตู ส่วนผมก็หลับตาพริ้มหัวสะบัดไปมาผมเผ้ายุ่งเหยิง
“อ๊ะ ไปแล้ว อา” ผมร้องอย่างทนไม่ไหวปล่อยออกมาก่อนมันอีกตามเคย
“ตอดชิบ” มันครางออกมาเบาๆ และค้างอยู่ในท่านี้พักใหญ่ให้ประตูผมรัดมันและแลกลิ้นจูบตอบกับผม มันถอนจูบแล้วดันให้ผมเป็นผู้คุมเกมอยู่ด้านบนในท่านั่ง ไฟฉายมันยังคงเสียบคาส่องอยู่ในประตูของผม สองมือผมกดทับที่หน้าอกมันและเริ่มขยับเอวไปมา เร็วขึ้นเรื่อยๆ
“อูยย...ซี้ด” มันครางอือ เมื่อผมขย่มแรงขึ้นฉีกยิ้มด้วยความพอใจที่ทำให้มันครางอือได้บ้าง
“อือออออ...อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ” ผมครางดังขึ้นตามจังหวะที่มันกระแทกสวน อยากบอกว่าลึกมาก ประตูจะพังแล้ว ถนอมกูหน่อยยยย
“อ๊ะ อ๊ะ สุดยอด อา” มันร้องลั่นสะดุ้งเฮือก ผมก็ตัวงอขาสั่นระริกรู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆที่ฉีดเข้าไปอย่างต่อเนื่อง สองมือผมจิกแน่นที่หัวไหล่ของมัน ขณะที่สองมือของมันก็บีบบี้สะโพกผมตบแรงๆหนึ่งที จบแล้วภารกิจระดับชาติของผม มันจูบหนักๆที่ปากผมแล้วยกตัวผมขึ้น รู้สึกได้ถึงความโล่ง มันลุกขึ้นโดยที่ไฟฉายมันยังส่องหน้าผมอุ้มผมที่ตอนนี้ลมปราณหายเกือบหมดร่างตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อทำความสะอาด รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังไหลออกมาจากประตู Live กูอีกแล้ว
“กินซะ” มันเลื่อนจานข้าวไข่เจียวให้ผม มีเบคอน ไส้กรอกในจานต่างหากวางเพิ่ม ตอนนี้นั่งอยู่หน้าทีวีใส่เสื้อเชิ้ตบ๊อกเซอร์ของมันทั้งนั้นแหละ ตั้งแต่เสียตัวก็สิงสถิตที่ห้องมันตลอดมีกลับห้องตัวเองเวลาไปเอาหนังสือเรียนเปลี่ยนเสื้อผ้า ใช่ว่าสมยอมนะแต่เล่นดักฉุดกันทุกวัน
“มึงก็ถนอมกูบ้าง ไม่ใช่ใส่ไม่ยั้ง” ผมว่ามันเคืองยังรู้สึกเจ็บที่ประตูตุบๆเหมือนยังคาอยู่
“ก็มันส์ ประตูมึงบีบกูซะแทบขาด” พูดนิ่งๆ ตักข้าวใส่ปาก ผมถอนหายใจขี้เกียจต่อปากต่อคำกับมัน
“ว่าแต่ใครโทรมา” ผมถามมันตามองดูทีวี ตอนกำลังพังประตูโทรศัพท์ห้องดังขึ้นมันจะรับทั้งๆที่กำลังทำประตู แต่ผมปัดกดตัดสาย
“ไม่รู้” ผมพยักหน้า ก่อนจะมีเสียงกดออดหน้าห้องดังขึ้นมันยังคงนิ่งเฉย จนเสียงกดออดดังอีกหลายรอบผมทนไม่ไหวเลยเดินไป
ประตู
“กว่าจะเปิดได้นะฟิก อ่าวเกล” เสียงทักแบบเคืองๆ ก่อนจะทำเสียงแปลกใจ
“ครับ” ผมก็ขานรับแบบงงๆ ทำไมถึงขึ้นมาบนหอได้คนนอกห้ามเข้านี้ ระบบระบบความปลอดภัยหอมันเข้มงวดมาก
“ทำไมถึงอยู่ห้องฟิกได้ละ แล้วฟิกไปไหนจ๊ะ” พี่มีนถามทำหน้างงๆ
“อ้าว มีน ขึ้นมาได้ไง” ไอ้เปรตโผล่หน้ามาแล้วถามงงๆ
“อ่อ พี่เค้าคงจำหน้าได้ว่าสนิทกันเลยเปิดให้ขึ้นมา” พี่มีนตอบยิ้มๆ
“ว่าแต่มีนมีไร” มันถามนิ่งๆ ผมก็อยากรู้
“ก็ตัวเองอะ มีนโทรหาแล้วไม่รับตัดสายทิ้งอีก มีนจะมาถามว่าเข้าค่ายเก็บตัวดาวเดือนจะเอาไง” พี่มีนพูดเสียงเคืองๆ หน้างอ
“ไม่ไป เคยบอกไปแล้วนี้” มันตอบเนือยๆเสียงเบื่อๆ
“ตะ แต่”
“ฟิกไม่ชอบอะไรเซ้าซี้ ไม่คือไม่” มันตอบเสียงเริ่มหงุดหงิด
“จ๊ะ แต่ฟิกต้องไปเทรนน้องก่อนวันแข่งนะ ไฟท์บังคับ” พี่มีนตอบรับพูดต่อ มันถอนหายใจเบื่อๆ แล้วพยักหน้า
“โอเคงั้นเจอกัน เดี๋ยวมีนโทรบอกรายละเอียดนะ เอาเบอร์ใหม่มาด้วย” พี่มีนพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้มัน มันรับมาแล้วก็ส่งให้ผม
“กดซิ จำเบอร์ไม่ได้” มันบอกผมก็รับมาลังเลว่าจะให้เบอร์มันหรือผม ก่อนจะตัดสินใจให้เบอร์ผมไปกันไว้ดีกว่าแก้
“นี่ครับ” ผมยื่นให้ พี่มีนรับยิ้มๆจัดการเซฟลงเครื่อง
“ขอบใจนะ มีนไปละดึกแล้ว” พี่มีนเอ่ยลาโบกมือบ๊ายๆให้ ไอ้เปรตพยักหน้าหงึกๆ แล้วปิดแระตู เดินลากแขนผมไปนั่งโซฟาเมื่อกี้โดยผมนั่งบนตักมัน
“ให้เบอร์ใครไป” มันกอดแล้วโยกตัวผมไปมา
“มึง”
“จริง”
“โกหก เรื่องไรกูต้องให้”
“ฮ่าๆๆ น่ารักจริงๆเมียใครนี้” มันหัวเราะหอมแก้มผมแล้วผลักผมลงโซฟาเริ่มซุกไซร้ซอกคอ แต่เจอผมถีบตัดกำลัง ชักจะถี่บ่อย ประตูกูน็อตจะหลุด
******************************************
“ได้ข่าวว่าแซ่บบบบบบ” หาที่โต๊ะได้วางจานข้าวอีปีก็เริ่มทันที่ พวกผมเพิ่งเลิกคลาสครับ ตอนนี้มาหาข้าวกินที่โรงอาหารคณะ คนเยอะฝุดๆ
“อะไร” ถามถามพาซื่อคีบก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก
“เจอไฟฉายกระแทกแค่นี้ทำมึน เมื่อคืนมึงไม่อยู่ห้อง” มันถามผมมีอีกสองนางนั่งฟัง
“อืม”
“แล้วสถิตที่แห่งหนใด”
“ห้องฟิก” ผมเรียบๆก่อนจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป
“ฮ่าๆ ติดใจสะซิมึง แล้วไงอยู่ก่อนแต่ง” มันจริตถามผม
“เออ” ตอบให้จบๆไปจะได้เลิกซัก
“แรด” สามเสียงประสานด่า ไม่เป็นไรได้ยินจนชิน
“หวัดดีตอนเที่ยงครับ ทุกคน” พวกผมเงยหน้ามองคนที่ทัก
“หวัดดีครับ/ค่ะ พี่จิน” สามเสียงทักยกเว้นแค่ผมที่พยักหน้าให้
“อะพี่เอาเค้กกับขนมอย่างอื่นที่เกลชอบมาฝาก มีของเพื่อนๆด้วย” อีตาพี่จินวางขนมตรงหน้าพวกผม
“ขอบคุณครับ นั่งด้วยกันก่อนซิครับ” อีปีเป็นคนตอบรับและชวนนั่ง
“ขอบคุณครับ” อีตาพีจินตอบรับแล้วนั่งลง ชวนคุยนั้นคุยนี้ไม่หยุดดูๆไปพี่เค้าก็ดูเป็นคนดี เข้ากับคนง่าย แต่มันไม่ใช่สำหรับผม ผมรู้ว่าพี่เค้าสนใจผมแต่สนใจเพราะอะไรละ เฮ้อออออ
“เกลไม่ชอบขนมที่พี่ซื้อมาฝากเหรอ ไม่เห็นทานเลย” อยู่ๆพี่เค้าก็ถามขึ้นหลังจากชวนผมคุยหลายครั้งแต่ผมก็ถามคำตอบคำเลยหันไปคุยกับอีปีอีแพนแทน
“ห๊ะ อ่อ เปล่าแค่ตอนนี้ยังอิ่มๆอยู่” ผมตอบใจจริงๆไม่อยากจะกินเท่าไร
“พี่คิดว่าเกลไม่ชอบสะอีก” ผมยิ้มแหยงๆตอบ
“แล้วว่างกันวันไหน อยากจะชวนไปทานข้าว” อีตาพี่จินถามอีก
“ชวนใคร” ผมถาม
“ก็ทุกคนแหละ”
“รวยเหรอ ถึงเลี้ยงคนอื่นไปทั่ว” ผมถามอีก อีปีกระตุกมือผมเบาๆ
“หึหึ พอดีอยากเลี้ยงกลุ่มนี้เป็นพิเศษ” ตอบยิ้มๆ แสดงเจตนา
“แหม๊ ถ้าพี่อยากเลี้ยงพวกหนูก็ว่างแหละค่ะ ยกเว้นคนนี้มีว่างยาก” อีแพนรีบแก้สถานการณ์
“อ้าวจิน มาทำไรที่คณะเราบ่อยๆนี่ ตามจีบใครหรือเปล่า” หันไปมองดูตามเสียง ดาวคณะคนสวย
“ก็ตามๆ อยู่แต่เจ้าตัวไม่รับรู้นะซิ” ชายตามามองที่ผม
“แหม๊ใครกันน้า ทำเอาจินตามแบบนี้ได้ คริคริ” พี่มีนพูดยิ้มๆมีการหัวเราะ
“อ้าวฟิกนี่ ช่วงนี้มาคณะมีนบ่อยจังน้า” หันไปมองตาม หน้ามึงโหดไปไหนครัช
“มาเฝ้าเมีย อยู่ห่างตาไม่ได้จะโดนจ้องงาบ” มันเดินมาหน้าโหดเสียงนิ่งทิ้งตัวนั่งเบียดผม
“อิจฉาเกลจังเลยน้า ทีมีนไม่เห็นมีแบบนี้ หน้าน้อยใจจริงๆ” พูดเสียงล้อๆ ยิ้มสวยๆ ตัดพ้อนิดๆ มันไม่ตอบแต่โอบที่เอวผมจ้องหน้าอีตาพี่จินเขม็ง
“งั้นมีนไปก่อนนะแล้วจะโทรหา ไปนะจิน เกล น้องๆ” แล้วก็เดินเข้าตึกไป ยังไม่เข้าใจว่านางมาทักทำไม
“งั้นพี่ก็ขอตัวบ้างละ อย่าลืมนัดของเรานะ ขนมทานให้หมดละ” ยิ้มหล่อๆให้แล้วเดินออกไป แต่ทิ้งระเบิดไว้ลูกเบ้อเริ้ม หันไปมองคนข้างๆ ชะอุ่ย
“นัดอะไร” มือที่โอบเอวแน่นยิ่งขึ้น อูยย เก๊ากลัวนะ
“ไม่รู้” ก็ไม่รู้จริงๆนัดอะไร เมื่อไหร่ ยังไง
“โอ๊ย ก็ไม่รู้จริงๆ อยู่ๆก็มาทักแล้วก็คุยกับอีปี แล้วก็ถามว่างไหมอยากเลี้ยงข้าวแค่นั้น แต่กูไม่ได้ตอบรับ” ผมร้องเมื่อมันจับคางบีบให้หันมาจ้องหน้า
“ให้มันจริง” มันจ้องตาโหดๆ
“เออซิ กูมีผัวแล้วนะ ไม่ใช่อย่างมึงชะนียิ่งอ่อยหนักขึ้น สักวันกูจะถลกหนังหนาๆมาทำไม้ถูพื้นให้หมด” ผมกระแทกเสียงตอบจับคางมันบีบเหมือนกัน
“หึ” ปล่อยคางผมหลังจากจ้องตากัน
“แล้วมาทำไม”
“เอาอาหารมาให้ แต่คิดว่าคงอิ่มเค้กแล้ว” มันหยิบกล่องแซนวิชทำเองออกจากกระเป๋า มีการประชดด้วย เมื่อเช้าผมออกมาก่อนมัน
“ยัง วันนี้กูงดเค้กอยากกินแซนวิช” ผมตอบแล้วดึงกล่องแซนวิชจากมือมันมาเปิดดู ทำมาซะเยอะ ผมหยิบออกจากกล่องเข้าปากตัวเอง พยักหน้าพึมพำ แล้วยื่นให้มันจ้องหน้าบังคับให้มันอ้าปาก
“ก็แค่นั้น ทำเป็นเข้ม” ผมว่ามัน หลังจากมันอ้าปากกินแซนวิชที่ผมป้อน
“ดีกันแล้วใช่ม่ะ” อีแพนพูดกล้าๆกลัวๆ
“ไม่ได้ทะเลาะกัน จะให้ดีกันเรื่องอะไร” ผมตอบมือก็ค้นกระเป๋ามันคิดว่าคงไม่มีแค่แซนวิชกล่องเดียว และก็ใช่คุกกี้กล่องใหญ่ หวานปากน้องเกล ผมหยิบมาวางบนโต๊ะเรียกให้พวกมันมากิน
“ย่ะ อีเก้ง เมื่อกี้กูนึกว่าอยู่สนามรบ กะจะขุดหลุมภัยแล้วเนี่ย” อีปีจริตใส่คว้าคุกกี้เข้าปากมีแอบขโมยแซนวิชผมตอนเผลอ
“กลับดีๆล่ะ อย่าปล่อยฟีโรโมนพร่ำเพรื่อ กูขี้เกียจตามเก็บ” ผมบอกมันมองมันที่ขึ้นคร่อมฟี่โน่
“คืนนี้กูต้องไปตีกลองช่วยรุ่นพี่ที่ร้าน” มันพูดบอกจ้องหน้าผมที่กำลังใส่หมวกรัดสายให้มัน
“แล้ว” ผมเลิกคิ้วถาม
“ก็อยากให้เมียไปนั่งเฝ้า” นิ่งๆตาสบตา
“เออ โตแล้วยังต้องให้คนไปนั่งเฝ้าอีก” ผมกระแทกเสียงตอบแล้วว่ามันยิ้มๆ ก่อนจะรีบถอยมาเมื่อเจอยิ้มกรุ่มกริ่ม อย่านะมึง หน้าคณะ มันทำปากจู๋ใส่แล้วขับออกไป ผมมองจนลับตาแล้วเดินเข้าตึก
**********************************
“คนเยอะไปไหนฟร่ะ” บ่นพึมพำคนเดียวก่อนจะเดินแทรกคนไปเรื่อยเจอพี่แฝดโบกไม้โบกมือให้ข้างๆก็เป็นพี่ตามแล้วก็ผู้หญิง 2 คน วันนี้ผมมาดูโอ้กับอีปีส่วนสองนางติดผู้ชาย(ซีรีย์)ขอบาย เดินเข้าไปยิ้มทักทายทุกคนผู้หญิงที่นั่งข้างพี่ตามก็ยิ้มกลับ
“แฟนฟิกเหรอ น่ารักจัง อย่างที่เค้าร่ำลือ” เธอทักผมยิ้มๆ ผมก็ยิ้มตอบแต่สังเกตหน้าอีปีไม่สบอารมณ์นิดๆ
“แบบนี้เอง ฟิกถึงหนีไปไหนไม่รอด” อีกคนก็ทักผม ผมก็ได้แต่ยิ้มไม่รู้จะพูดอะไร มองหาไอ้คนที่ให้มานั่งเฝ้าก็ไม่เห็น
“มันสแตนด์บายอยู่ที่ห้องพักนะ” พี่โจตอบผม
“แล้วพวกพี่ไม่ได้ขึ้นเล่นกับมันเหรอ นึกว่าขึ้นด้วยกัน” ผมถามกลับ
“ไม่อ่ะ ขี้เกียจดัง แค่นี้คิวก็ยาวไปถึงปีหน้าแล้ว” พี่แจมตอบทีเล่นทีจริง
“เหรอ ใช่ว่าเล่นไม่เป็นสับปะรดหรอกนะ” ผมแซวกลับทำเอาพวกที่เหลือฮาครืน
“นอกจากปากจะจัด กัดเจ็บ นี่ยังจะทายแม่นอีกนะ น้องเกล” พี่แจมหยิกแก้มผมสองข้างส่ายไปมาแล้วพูด
“แน่นอน ต้องมีความหลากหลายผัวจะได้รักได้หลง” ผมกอดอกเชิดๆตอบ
“แวร๊งงง” พี่โจพูด
“เข้าไปหามันข้างในได้นะ ป่านนี้มันชะเง้อคอเป็นยีราฟแล้ว” พี่ตามพูดกับผม
“เข้าได้เหรอ” พี่ตามยิ้มแล้วยื่นบัตร Staff มาให้
“ปะ ตุ๊ดลุก” ผมหยิบบัตรแล้วหันไปชวนอีปี มันเงียบจังแฮะปกติต่อปากต่อคำกับพี่แจมแล้ว
“กูไปส่งมึงแล้วกลับเลยได้ป่าววะ รู้สึกไม่ค่อยดี” มันพูดกับผมหน้าเบื่อๆ
“อย่าเพิ่งรอดูมันตีกลองก่อน งั้นนั่งรอตรงนี้กูไปคนเดียวเอง ห้ามหนีกลับ” ผมบอกมันอีกที มันทำหน้าหนักใจก่อนจะพยักยักหน้าตอบ
ผมเดินไปตามทางที่พี่ตามบอกมีตนส่งยิ้มให้ตลอดกล้าหน่อยก็เข้ามาทัก แต่ผมก็เงียบเดินหนี รำคาญขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดต้องรีบหาไอ้เปรตป่านนี้ปล่อยฟีโรโมนรอชะนีถึงไหน
“ห้อง A03 ด้านซ้ายมือครับ แฟนไอ้ฟิกเหรอ” ผมยื่นบัตร Staff ให้พนักงานก็บอกทางมีการถามกลับด้วย ผมก็พยักหน้ายิ้มให้แล้วเดินเข้าไป เพิ่งเคยเห็นแฮะ มีห้องต่างๆเต็มไปหมดแต่ละห้องมีเบอร์กำกับไว้หมด ผมหาห้องจนเจอประตูแง้มนิดๆ ผลักประตูเข้าไปก่อนจะช็อคหน้าชาเย็นวาบไปทั้งตัวกับภาพคนตรงหน้า ไอ้เปรตกำลังจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่ใครก็พี่มีนดีกรีดาวคณะผมแหละ ทั้งคู่ยืนแลกลิ้นโรมรันพันตูมือของอีพี่มีนคล้องคอไอ้เปรต ส่วนมือมันก็ลูบไปทั่วแผ่นหลังของอีกฝ่าย ไอ้เปรตตตตตตตตตตต
“เฮ้ย ไอ้ฟิกได้ข่าวเมียมาหา” เสียงคนผลักประตูเข้ามาพูดเสียงดังทั้งสองสะดุ้งแยกออกจากกัน คนที่เข้ามาใหญ่ 3 คนยืนเหวอมองผมกับไอ้เปรตสลับกันไปมา
“เกล” มันเรียกและจะเดินเข้ามาหาผมแต่อีพี่มีนกอดเอวรั้งไว้ ผมจ้องหน้ามันกำมือแน่นตาแดงก่ำพยายามกลั้นน้ำตาใบหน้าเรียบเฉยแต่ข้างในราวไปทั้งตัว
“เกล เกล มันไม่ใช่อย่างที่เกลคิดนะ ปล่อยซิมีน ปล่อยโว้ยยย” มันพูดกับผมเสียงละลักละล่ำ แล้วหันไปสั่งอีกพี่มีนแต่นางหน้ามึนไม่ยอมก่อนจะโดนตะคอกใส่
“ถ้าจะไม่ดี พวกกูขอตัวก่อนนะ เคลียร์กันเอาเองถ้าไม่ได้เดี๋ยวกูให้ไอ้ตามตีแทนมึง ไปละ” พูดจบก็จรลีหนีหาย ผมก็หันหลังจะเดินออกจาห้องแต่มันวิ่งมากอดผมจากด้านหลัง ผมหลับตานิ่งพยายามข่มอารมณ์
***************************************หิวมาม่าาาาาาาาาาาา
ตัดฉับให้คนอ่าค้าง และด่าคนเขียนเล่น โฮ๊ะๆ (เริ่มโรคจิต)
ก็ไม่มีไรมาก อย่างที่เห็น
ลุ้นเอาว่าตอนหน้าจะมีมาม่าไหม หรือไม่มี ขอบอกว่าคนเขียนก็ไม่ชอบมาม่า
จะชอบเฉพาะปลายเดือนนี้ต้นเดือนแล้วคงไม่มี เนอะ
ปล.เบลอมากอะตอนนี้ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนถามไว้จะมาตอบ
ปล.2 คงนอนตื่นอีกทีบ่าย 2
ปล.3 ถ้าฟิกด่าผู้หญิงแรงๆ จิเป็นไรไหม???