ตอนพิเศษ ปีใหม่
“บักฟิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ผมตะโกนเรียกฟิกลั่นบ้านวิ่งจ้าละหวั่นวนซ้ายวนขวาอยู่ในห้องนอน ก่อนจะวิ่งพรวดออกไปหาฟิกที่ครัว
“จ๋าาาาา” ฟิกวิ่งออกมาพร้อมกับตะหลิวในมือ
“พาสปอร์ตไปไหน?? พาสปอร์ตตตตตต”
“แล้วเมื่อวานเกลเอาไว้ไหนละ ที่รถหรือเปล่า”
“เออใช่ยังอยู่ในรถ” แล้วผมก็วิ่งจู๊ดไปที่รถทันที
“เกือบแล้วอีเกลลลล เกือบจะไม่ได้ฮันนีมูนรอบสอง” ผมกอดซองพาสปอร์ตพร้อมวีซ่าแนบอก ถ้าหายนี่จะร้องไห้ 3 วันไม่หยุด จะเดินทางคืนนี้แล้วววว
ปีใหม่นี่ได้หยุดยาวผมเลยสั่งและบังคับฟิกว่าต้องพาไปย้ำตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมจนวันนี้วันที่ 29 และจ้องจับผิดเดือนนี้ตลอดทั้งเดือนถ้าคิดจะทำอะไรเหี้ยๆ ผมจะหนีไปอยู่กับพี่คิลและจะไม่กลับมาอยู่กับมันอีกชั่วชีวิต ตั้งแต่คริสมาสต์เมื่อปีที่แล้วมันเจอผมบอยคอตเกือบ 4 เดือนผมและอีปีหนีไปอยู่กับพี่คิลตัดการติดต่อทุกอย่าง เอาให้จำ อย่าได้คิดทำอีก
“ใกล้เสร็จหรือยัง” ผมเดินมานั่งที่โต๊ะถามเสียงห้วน
“จ๊ะๆ ใกล้แล้ว เมียจ๋าอย่าทำเสียงดุซิ ผัวใจไม่ดีเลย”
“เหอะ ให้ไว หิวแล้ว” ผมสะบัดหน้าใส่หยิบวีซ่าขึ้นมาดูรอเวลา ญี่ปุ่นจ๋า เราจะเจอกันแล้วนะ จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ฟิกเป็นคนวางแผนและจัดการทุกอย่างมันทำให้ผมขยาด!! กลัว!! สติจะแตกประสาทจะแดกเอา!! และจะไม่ยอมให้มันวางแผนเป็นอันขาด นึกถึงฮันนีมูนรอบแรกแล้วขนตูดลุกซู่
“มาแล้วครับ ข้าวต้มกุ้งตัวโตๆสำหรับเมียที่น่ารักของฟิก” ผมวางวีซ่ารับชามข้าวต้มมากินเงียบๆ
“เก็บของเสร็จแล้วใช่ไม๊ครับ” ฟิกถามขึ้นกลังจากที่กินไปสักพักบรรยากาศบนโต๊ะเงียบมาก
“ฟิกจะพาเกลเที่ยวเอง ถ้าไม่ครบไม่ต้องกลับ เดี๋ยว..”
“ไม่ต้องเกรงใจ เกลมีโปรแกรมของเกลแล้ว ทำตามที่บอกก็พอ” ผมแทรกขึ้นเสียงเรียบไม่มองหน้ามัน
“จ๊ะๆๆ เมียว่าไงผัวว่างั้น ขึ้นไปอาบน้ำรอได้เลยเดี๋ยวฟิกเก็บชามเอง” ฟิกรีบพูดเอาใจ ผมพยักหน้านิ่งๆเดินขึ้นห้องไป
“เฮ้ออออ กูจะทำไงดีวะเนี่ย” ฟิกพูดปลงๆขยี้หัวตัวเองแรงๆ ผมแอบมองยิ้มๆแต่สะใจ ถึงผมจะกลับมาอยู่กับฟิกแล้วก็จริงแต่ไม่ได้หวานปานจะกลืนกินเหมือนแต่ก่อน จะมีบ้างที่ผมเมินแบบนี้รวมทั้งเรื่องบนเตียงด้วย ผมยั่วให้อยากแล้วจากไปถ้าเป็นปกติคงตามไปลากผมกดทันที แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ หุหุ
“ฮัลโหล มึง”
//ว่า//
“เก็บของเสร็จยัง”
//เรียบร้อยมีข้ารับใช้ทำให้ มึงละ//
“กูรื้อมาวางแล้วให้มันเก็บ”
//เริด//
“มึงจะออกไปไหนปะ”
//ไม่อะ กูกำลังสบายมีคนนวดขาเตรียมพร้อมให้กูเดินเต็มที่//
“สบายแฮซิมึง กูโทรมาถามแค่นี้แหละเจอกันที่สนามบิน”
“เอ่อ เกล”
“ว่า”
“กางเกงขาสั้นที่ให้...”
“จะใส่มีปัญหาอะไร”
“เปล่าจ๊ะ ถามเฉยๆกลัวเกลหนาว แบบว่าสั้นมาก”
“นั้นแหละดี แล้วเก็บของหมดแล้วใช่ปะที่เกลรื้อๆออกมาหนะ”
“หมดแล้วจ๊ะ เกลอยากเอาอะไรเพิ่มหรืออยากไปไหนไม๊”
“ไม่ขี้เกียจ ถ้าไม่พาหาซื้อเอา จบนะจะนอน ”
“จ๊ะๆ ฟิกอยู่ข้างล่างนะจะเตรียมของกินไว้มีอะไรเรียกได้เลย” ผมพยักหน้าหงึกๆหันหนีไปอีกข้างแล้วนอน
สนามบิน 21.30
“ฟิก เกลอยากกินเบอร์เกอร์คิงเอาดับเบิ้ลนะ” ผมเงยหน้าจากเกมส์ที่เล่นเอ่ยบอกฟิก
“กูด้วยเอาแบบอีเกล” เสียงอีปีสั่งพี่ตาม
“ครับ” ทั้งสองคนรับคำแล้วเดินไปซื้อตาบัญชา
“เราทำเกินไปไม๊วะ” ผมถามขึ้น
“ไม่หรอก ต้องเอาให้สำนึก เดี๋ยวไปหวีดหวานที่นั้นเอา” ผมพยักหน้านิ่งๆ มองฟิกกับพี่ตามที่ต่อแถวซื้อเบอเกอร์ รอไม่นานก็ได้มาระหว่างที่กินก็คุยกันอยู่สองคนกับอีปีที่เหลือก็นั่งหงอยจนอดสงสารไม่ได้เลยต้องขยับไปหาพร้อมกับป้อนเบอเกอร์
จริงๆไม่ได้โกรธไม่ได้เคืองอะไรมากมายหรอกนะ มันก็นานมาแล้วมีหายๆลืมๆบ้างแล้ว แต่อีปีนางบอกว่าต้องทำเมินทำเหมือนไม่รักจะได้สำนึกไม่ทำอะไรแผลงๆอีก ก็เลยต้องแกล้งทำมาตลอด สนุกด้วยแหละ เหอะๆ
“สำนึกหรือยัง” อยู่ๆนางก็พูดขึ้น จากที่หยอกกับฟิกก็ต้องหยุดแล้วเงี่ยหูฟัง
“สำนึกสุดๆแล้วจ๊ะ จะไม่ทำอีกแล้ว”
“ดี จำที่พูดไว้ด้วย ไม่มีครั้งที่สองนะบอกเลย แกล้งอยากอื่นพอว่าแต่เล่นแบบนั้นมันแรงไปเกิดถ้าปีกับอีเกลหัวใจวายตายทำไง จะหาใหม่เหรอ” เสียงเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น
“ไม่จ๊ะ ขอโทษนะ ตามสัญญาเลยว่าจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว ต่อให้โดนบังคับขู่เข็ญก็จะไม่ทำ สัญญาเลย” พ่ตามบอกเสียงอ้อนยิ่งกว่าเดิม
“อืม”
“หายโกรธเถอะนะ อย่าเมินกันแบบนี้เลย ตามเจ็บไปหมดมืดบอดตันสนิทอยากให้ปีกลับมาเหมือนเดิม ตามไม่ชอบเลยที่ปีเป็นแบบนี้ ตามขอโทษนะ”
“ก้มกราบเลยด้วยไม๊” นางว่านิ่งๆ เกินไปนะมึง
“ตามทำได้นะ”
“เฮ้ย!!!” ผมกับฟิกร้องขึ้นเมื่อพี่ตามคุกเข่าลงกับพื้น
“ลุกขึ้นเอาไว้เคลียร์กันที่หลัง ตอนนี่เรามาฮันนีมูนต้องหวีดหวานเนอะตามเนอะ” นางบอกเสียงดุดึงให้พี่ตามลุกขึ้น
“จ๊ะ ที่รัก” แล้วก็ดึงอีปีไปจูบแบบไม่อายสายตาประชาชี
“ฟิกก็จะไม่ทำอีกแล้ว” ผมจะหันไปพูดแต่เสียงรู้ทันก็ดังขึ้น
“เออ รักฟิกนะ” ผมบอกพยายามเก๊กนิ่งๆ
“รักเกลเหมือนกัน” ฟิกจับหน้าผมเอาหน้าผากชนกันยิ้มนิดๆให้ พวกผมนั่งสวีตกันสักพักก็ถึงเวลาเครื่องออก
“หลับเลยก็ได้ถึงแล้วเดี๋ยวปลุก” ผมพยักหน้ากอดแขนฟิกแล้วนอนซุกอก ฮี่ๆ
หนาวโว้ยยยยยยยยยยยยยยย บรื๊ออออ
ออกจากตัวอาคารได้ก็แทบจะวิ่งกลับเข้าคืน อากาศตอนตี 3 กว่าๆ ทำไมมันหนาวเยี่ยงนี้ ฟิกบอกว่า 20 องศานิดๆที่ญี่ปุ่นไม่หนาวมากเย็นกำลังพอดี แต่กูว่าไม่พอดีแล้ววะ แถวบ้านเรียกค่ตหนาวววววว
“ฟะ ฟิก เกลเย็นขา หนาวด้วยยยย” ผมยืนกอดตัวเองสั่นนิดๆหลบอยู่หลังฟิก บอกว่าเย็นสบายก็แต่งตามสบายเลยจ้า กางเกงขาสั้นถุงเท้ายาวครึ่งแข้ง เสื้อแขนยาวไม่หนามากลมพัดมาทีเย็นถึงกระดูกดำ อีปีก็ไม่ต่างกันนั่งหลบอยู่หลังรถเข็นกระเป๋าปากก็บ่นพี่ตามที่กำลังหาเสื้อแขนยาวให้
“ฟิกก็บอกแล้วว่าอย่าใส่ขาสั้น” ฟืกว่าเซ็งๆ
“ก็ใครบอกละว่าอากาศตอนนี้เย็นสบายไม่หนาวไม่ร้อน ไม่หนาวเล้ยยยย ขนลุกทั้งตัวยันขนตูด” ผมแว้ดกลับใครกันแน่ที่ผิด
“ฮ่าๆๆ หนาวกว่าที่เราไปฮันนีมูนรอบแรกปะ” ยังมีหน้ามาถาม ผมเลยค้อนให้ ฮันนีมูนครั้งแรกอากาศ -20 องศา พูดแล้วอยากฟาดแข้งใส่
“เฮ้อออ ค่อยอุ่นมาหน่อย แล้วจะไปยังไงอยากซุกผ้านวมอุ่นๆแล้วนะ”
“จะพานั่งแท็กซี่ไปที่โรงแรมในโตเกียวเลย จะได้ไวๆไม่ต้องเดินลากของเองเห็นสภาพแล้วไม่ไหว” ฟิกบอกพร้อมกับก้มจุ๊บหน้าผากผมแล้วไปเรียกแท็กซี่ เค้าบอกว่าค่าแท็กซี่โหดมากแต่บริการดีเยี่ยม เมื่อเข้ารถได้ผมก็หลับทันทีพี่ตามนั่งหน้า อีปีผมฟิกนั่งหลัง
“อื๊อออออ” ผมขยับตัวบิดขี้เกียจมือป่ายหาฟิก แต่ไม่เจอ
“ไปไหนวะ ฟิกกกกกกกกกกกกกกก” ผมตะโกนเรียกลั่นแต่ก็ยังเงียบอยู่ หยิบนาฬิกามาดูเกือบเที่ยง ผมลุกขึ้นนั่งหัวยุ่งไปหมดมองไปรอบๆอย่างงงๆ ก่อนจะนึกได้ว่ามาญี่ปุ่นแล้ว
ฟิกไปรับโฮตส์สักบ่ายๆคงถึง สั่งข้าวไว้ให้แล้วถ้าเบื่อก็ไปอยู่กับปีก่อนก็ได้หรือจะไปเที่ยวแถวๆนี้รอก็แล้วแต่
รัก
“จะปลุกกันหน่อยก็ไม่ได้ ชิ” ผมว่างอนๆก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตูคงเป็นรูมเซอร์วิซ
“อ้าว” ผมร้องแปลกใจ อีปีส่ายหน้านิดๆ เดินเข้ามาในห้องผมพร้อมรูมเซอร์วิซแล้วนางก็ทิ้งตัวลงนอนต่อ ผมกล่าวขอบคุณเล็กน้อยพร้อมกับให่ทิปไปด้วย
“มึง” นางโบกมือให้ดึงผ้าคลุมตัวแล้วหลับต่อ
แกร๊ก
ผมผงกหัวขึ้นเหมือนได้ยินเสียงไขกุญแจ
“เกล” เสียงฟิก กลับมาแล้วซินะ
“อยู่นี่”
“ยังไม่ตื่นอีกเหรอ กินข้าวยัง” ผมชี้ไปที่ซากพลิกตัวตัวไปมา
“มึง เมียกูหาย อยู่นี่ปะ” พี่ตามทะเล่อทะล่าเข้ามาพูดเสียงตื่น ผมเลยชี้ที่ข้างๆตัวผม
“โฮตส์อยู่ไหน” ผมลุกขึ้นเดินไปนั่งตักฟิก
“อยู่ในห้อง บอกว่าอยากเจอเกลด้วย”
“อืม ขออสบน้ำก่อนละกัน อิกะปิเน่าลุกได้แล้ว อาบน้ำ” ผมบอกฟิกแล้วหันไปบอกอีปีที่นั่งสะลึมสะลือตื่นไม่เต็มที่พี่ตามเลยต้องอุ้มพาไปที่ห้อง พอจัดการตัวเองเรียบร้อยผมกับอีปีก็เข้าไปทักทายโฮตส์ของฟิกและพี่ตาม เป็นครอบครัวที่ใจดีมาก มีลูกชายอายุประมาณ 8 ขวบหนึ่งคนชื่อยูจิ แนะพูดคุยกันพอเป็นพิธีก็ให้โฮตส์พักผ่อน แต่ยูจิไม่ยอมบอกจะขอไปเที่ยวด้วยก็เลยยกกันไปหมด ปล่อยให้โฮตส์พักผ่อน พวกผมเดินเซอร์เวย์รอบๆแถวนี้ไม่ได้ไปไกลมาก เน้นของกินเป็นหลัก เดินช้อบเดินกินกันจนเหนื่อยก็กลับโรงแรม เพราะแถวนี้เค้าจัดงานเล็กๆด้วยฟิกบอกว่าจะพาใส่ชุดยูกาตะแล้วมาเดินเที่ยวกัน
“โอ้โฮ คนเยอะเหมือนกันแฮะ ผู้ชายก็น่าร้ากกกกก” อีปีบอกเสียงตื่นเต้นมองคนนู้นคนนี่ที
“ได้ข่าวผัวยืนอยู่ตรงนี้ ตั้งแต่ที่ออนเซนแล้วนะจะนอกใจต่อหน้าเลยเหรอ” พี่ตามว่าเสียงเข้ม ยูจิมองหน้างงๆ
“เอ้า ไม่ดีไง นี่ทำต่อหน้าเลยนะไม่มีลับหลัง บริสุทธิ์ใจฝุดๆ” นางลอยหน้าลอยตาพูด
“ช่างพูดนัก ระวังให้ดี” พี่ตามชี้หน้าคาดโทษ แต่อย่าหวังว่านางจะสลดหน้าระรื่นมองผู้ชายต่อ
“จะมองก็ได้นะฟิกไม่ว่า” ผมมองหน้าฟิกงงๆเกิดใจดีอะไรขึ้นมา
“แต่คืนนี้ไม่ต้องนอน หึหึ” หาเรื่องจับกดตลอดดด ชิชิ เดินเข้าไปในงานเรื่อยๆก็มีเกมส์ให้เล่นมากมาย ครั้งละ 100 500 เยนก็ถือว่าถูกดี ตอนนี้ผมกับอีปีแยกกันซะแล้วมัวแต่หาของกินเพลินนางหายไปซะแล้ว
“อันนี้ๆ” ยูจิชี้ไปที่บ่อปลามีคนมารุมมากมาย เป็นการช้อนปลาๆตัวเล็กๆด้วยกระดาษบางๆ ใครเซียนๆก็ตกได้เป็นสิบตัว
“เอาปะ” ฟิกหันมาถามแต่คือนั่งลงยนเก้าอี้และจ่ายตังเรียบรอบเตรียมพร้อมในการช้อนเต็มที่
“แล้วจะถามเพื่อ” ผมส่ายหัวให้ ขอยืนดูลาดเลาก่อนละกัน ฟิกทำหน้ามุ่งมั่นเต็มที่แต่พอช้อนไม่กี่ทีกระดาษก็ขาดเด็กๆแถวนั้นหัวเราะกันใหญ่ ยูจินี่หัวเราะแกมสะใจแต่ฟิกก็ไม่ยอมแพ้ซื้ออีกรอบ
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆ กร๊ากๆๆ” อันนี้คือยูจิ หัวเราะสะใจมาก เล่นกันเกือบชม.เสียไปหลายพันเยนได้ปลากลับมา 10 กว่าตัว
“หัวเราะมากไปแล้ว” ฟิกหันมาแว้ดบีบแก้มแล้วจั๊กจี่เอวยูจิ
“พอแล้วเดี๋ยวน้องนอนละเมอ”
“จะไปดูอะไรต่อ” ฟิกถามขึ้นเมื่อนั่งฟักพักกันได้สักนิดพอให้ยูจิหายเหนื่อยเล่นหัวเราะน้ำตาน้ำลายไหลเยิ้มไปหมด
“อื้ม” ยูจิชี้ไปซุ้มหนึ่งฟิกตีหน้าเบื่อ เพราะมันเป็นเกมส์อีกแล้ว พอเห็นเป็นแบบนั้นก็ไม่สนใจนั่งนิ่ง ยูจิก็ลุกมาดึงแขนชี้นิ้วไปที่ซุ้มนั้น
“เล่นเองนะ” ฟิกบอกเซ็งๆ ยูจิพยักหน้าเลยยอมลุกตามแรงฉุดไป เป็นซุ้มเหมือนปาโป่ง มีของรางวัลมากมาย มีวันพัชด้วยย จะเอาๆๆๆๆๆๆ
“วันพีช” ผมกระซิบบอกฟิกส่งสายตาอ้อนๆ อีกด้านก็เป็นยูจิที่ร้องจะเอาไททัน เพราะเล่นไป 3 รอบแล้วไม่ได้อะไรเลย หน้าที่เลยต้องมาตกที่ฟิก
“ได้ไม่ได้ไม่รู้นะ” ผมพยักหน้าแล้วถอยห่างออกมาจับมือลุ้นกับยูจิ
“โอยยยย อีกนิดๆ ซ้ายหน่อยๆ ยิง!! อ๊ากๆๆ ลงล่างๆ ขวานิดหนึ่ง นิดเดียววว ยิงเลยๆๆ เย้ๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ” 10 กว่ารอบที่เล่นกันมาเสียงเชียร์ผมกับยูจิเหมือนเปิดเทปรีมิ๊กซ์คือเสียกันมันมาก ยิ่งกว่ามวยไทยอีกอะ
“เอาไป เหนื่อยชิบ” ฟิกโยนตุ๊กตามาให้ผมเป็นตัวละครในวันพีช ส่วนยูจิได้สองตัวยิ้มหน้าบาน
“ขอบคุณนะ ไปนั่งก่อนๆ พักเหนื่อยเนอะ เดี๋ยวเกลกับยูจิจะไปซื้อน้ำมาให้” ฟิกพยักหน้าให้ผมกับกับยูจิรีบวิ่งไปหาน้ำมาให้ ไหนๆซื้อน้ำแล้วก็ขอเดินดูของกินอย่างอื่นด้วยละกัน มาญี่ปุ่นทั้งทีหวังมากินนี้แหละ
“เอ่อ........”
“น้ำจ๊ะ” ฟิกแหล่ตามองแล้วเชิดใส่
“โหยยยยย งอนไรอะ ก็ซื้อมาให้แล้วไง” ผมพูดเสียงอ่อนนั่งลงข้างๆ
“แค่ซื้อน้ำแค่นี้หายไปเป็นชั่วโมง” กระเง้ากระงอดใส่ น่ารักตาย
“ก็คนมันเยอะ” ผมบอกเสียงเบา
“เหรอออออ แล้วไอ้ของกินเต็มมือนี่คืออะไร” ฟิกว่าให้พร้อมกับบีบแก้มผมไปมา เจ็บจี๊ดเลย
“แฮะๆ ก็ซื้อมาฝากนี่แหละ เผื่อหิวไง หายงอนนะๆ โอ๋ๆ” ผมอ้อนเสียงหวานแต่ฟิกยังคงนิ่งเลยต้องงัดไม้ตายมาใช้
“กินเข้าไปเลย จะได้กลับบ้าน” ผมบอกหน้าแดง กะแค่จุ๊บง้อเบาๆแต่เล่นดึงเข้าจูบซะหนักหน่วงเลย ยูจิก็นั่งมองตาแป๋ว อายเด็กมันนนน
“ไงมึง หายไปหวีดหยองกันสองคนนะมึง” ผมกัดนางเล็กน้อย
“ก็นิดนุง ได้ไรมาบ้าง” นางบอกยิ้มๆ ทำมือส่งจูบมาให้
“เยอะ ฮ่าๆๆ” ผมนั่งคุยกับนางสักแปบฟิกก็เรียกให้เข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตะลุยฮาราจูกุกับชินชูกุทั้งวัน
31 ธันวาคม
“เข้าที่พักกันเถอะฟิกง่วง” ฟิกเดินมาบอกผมพร้อมกับดันให้เดินไปที่ห้อง ก็สมควรเหนื่อยเมื่อวานเดินตะเวนเที่ยวกันจนดึก ได้ไปเที่ยววัดชื่อดัง ปราสาทโอซากาได้ใส่ชุดเหาะซามูไรด้วยหนักมากกก และที่เที่ยวสุดท้ายผมกับอีปีอยากเห็นไนท์ผับและโฮสต์คลับของญี่ปุ่นทะเลาะกันเล็กน้อยก็ต้องยอมพวกผม ถ้าไม่ยอมพวกผมจะไปกันเอง อยากบอกว่าถ้ามาญี่ปุ่นต้องเข้าสัดครั้งในชีวิตเพราะโฮสต์หล่อมมากกกก นี่บอกเลย หุหุ
“อื๊อ จะนอนก็นอนจะลากเกลไปนอนด้วยทำไม”
“เหอะน่า นอนด้วยกันเมื่อคืนยังไม่ได้ช้ำระความเลยนะที่รัก” ตอนแรกเสียงหวานท้ายๆนี่เสียงเหี้ยมมาก
“ชำระความอะไร ไม่มีเหอะ อย่ามัว นอนไปเลยห้ามลูบห้ามไล้ห้ามไซ้กอดได้อยากเดียว” ฟิกพยักหน้าทั้งๆหลับตาไม่นานก็หลับไป ผมนอนมองหน้าฟิกยิ้มๆ กี่ปีแล้วนะที่เราฉลองปีใหม่ด้วยกัน แต่ยังไงก็เถอะเราจะฉลองด้วยกันแบบนี้ตลอดไป
“สัญญานะ” ผมกระซิบชิดปากฟิกสอดนิ้วประสานกัน ฟิกขยับตัวเล็กน้อยเหมือนจะรับคำ
“ฮิฮิ” ผมยิ้มขำรออีกสักพักให้ฟิกหลับลึกอีกนิดก็ขยับตัวออกมาเพราะนัดกับยูจิและอีปีแล้วว่าจะไปเดินเซอร์เวย์แถวนี้
“แม่ง มาได้ไงวะ” ผมหันไปมองอีปีที่ขยับเข้ามาหลบหลังผม
“อยู่นิ่งๆแปบหนึ่ง” นางสั่งผมเสียงเหี้ยมก็เลยต้องยืนนิ่งๆให้นางหลบอยู่ข้างหลัง
“มึงหลบใคร” ผมถามเมื่อหาที่นั่งในร้านไอศกรีมได้แล้ว อิปีดูลุกลี้ลุกลนมาก
“กิ๊กเก่ากูสมัยยังเด็ก”
“อย่าบอกนะว่า...”
“เออ เจค คนแรกของกู” ระเบิดตูมมมมมมมมม
“ห่า ชิบหายแล้วมึง แล้วโลกตั้งกว้างทำไมต้องมาเจอกันด้วยวะ ที่สำคัญถ้าพี่ตามรู้ มึงเอ้ยยยยยยยยยยยย”
“เออซิ คงไม่ละมั้ง มันก็คงจะมากับเมียมันเห็นมากันกลุ่มใหญ่”
“นี่ๆ ช็อกโก้ๆ” ยูจิยิ้มหวานเมื่อพนักงานเอาไอศกรีมมาส่งท็อปปิ้งมีเพียบล้นกันมาเลย
“กินดีๆยูจิ เดี๋ยวเปื้อนนะ” อิปีบอกยูจิพร้อมเช็ดปากที่เปื้อนให้
“คืนนี้เอาไง”
“ก็ไปโตเกียวสกาย์ทรีไง ไปเค้าดาวน์ที่นั่น”
“อันนั้นกูรู้ กูพูดถึงของเซอร์ไพร มึงจะทำอะไร” นี่มึงแกล้งโง่เหรอ
“กูไม่ได้คิดเลยวะ มึงละ”
“เหมือนกัน จะเอาไงดีวะ” สีหน้าคิดหนัก ก็ไม่ได้จะอยากเซอร์ไพรอะไรหรอกนะแต่แบบปีใหม่อะทั้งทีก็อยากมีบ้างอะไรบ้าง
“อ๊ะ กูคิดออกแล้ว” อีปีพูดยิ้มๆสายตาเจ้าเล่ห์มาก นางขยับมากระซิบพร้อมชี้ไปที่ร้านหนึ่ง
“เอาจริง” ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก หวั่นๆใจยังไงก็ไม่รู้ นางก็พยักหน้าแล้วกินไอติติมต่อ ยูจิก็มอองผมยิ้มๆยื่นช้อนป้อนไอติมผม
“มึง กูอาย” ผมขืนตัวตอนนี้ผมกับอีปีมายืนหน้าร้านแล้วหลังจากพายูจิไปส่ง
“อายห่าไรมาถึงนี่แล้ว” แล้วนางก็ลากผมเข้าร้านไป เดินหาของที่ต้องการนางช้อปอย่างกะเป็นเรื่องธรรมดา
“ฮูววว นานนะมึงจะเลือกจนหมดร้านหรือไง” ผมถอนหายใจเฮือกเมื่อออกจากร้านนั้นมาได้และมานั่งทำใจในร้านกาแฟ
“ก็นะ นานๆที่ได้ของออริจินอลเลยนะมึง” นางยิ้มอย่างปลื้มปริ่ม
“เออๆ ขอกูไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าลางตาหน่อย ไม่ไหววะ” ผมจิกตาให้นางแล้วเดินไปเข้าหองน้ำ
“เฮ้อ ค่อยดีขึ้นมาหน่อย” ผมล้างหน้าล้างมือเสร็จก็ยืนเช็คความเรียบร้อยอีกนิด
“อ๊ะ โอ้ย” ผมปิดจะมูกที่โดนประตูกระแทก
“oh sorry” คนที่เปิดประตูชนผมเดินเข้ามาประคอง
“Hey……” กะว่าจะหันไปฉะสักนิดแต่ก็ต้องนิ่งค้าง
“Gell??”
“มะ มึงจำคนผิดแล้ว” ผมบอกอย่างรวดเร็วแล้วรีบออกจากห้องน้ำทันที สาสส
“เป็นไรหน้าตื่นๆ เจอผีเหรอ”
“ยิ่งกว่าเจอผี”
“กูเจอเดฟ”
“เดฟ?? เดฟไหนวะ เฮ้ย อย่าบอกนะว่า....” ผมพยักหน้าหงึกๆ เดฟ กิ๊กเก่าและเป็นคนแรกกูเอง
“อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น กูว่างานนี้มีตายหมู่อะ” นางบอกเสียงเข้มสีหน้าเริ่มกังวล
“โอ้ยยยย ถ้าเจอกันแล้วมันไม่ทักไม่ทายกูจะกราบขอบคุณมาก” ผมว่าเซ็งๆ หวังว่าคงจะไม่เจอกันอีกหรอกนะ
“แต่กูว่ามันจะมาทักมาทายมึงแน่นอน เดินมานู่นแล้ว” ผมหันไปมองตามอีปีเจอเต็มๆเลย ผมหันซ้ายหันขวาหาทางหนี
“Hey Gell!!!” ดูเหมือนว่าจะไม่ทัน ผมมองอีปีนางส่ายหน้าให้
“Hi” ผมหันไปยิ้มพร้อมทักทาย
“ทำไมยูต้องหนีไอด้วย”
“แล้วทำไมไอต้องอยู่ด้วยละ”
“ยูเปลี่ยนไปมากเลยนะ” ผมเงียบไม่ตอบ เดฟยิ้มนิดๆแล้วนั่งลงข้างๆผม ต่างคนต่างเงียบไม่พูด ผมนั่งมองหน้าอีปีนิ่งๆ จะเอายังไงดี
“มากับใคร”
“สามี”
“หึหึ เค้าดีกับยูไม๊”
“ดีมาก”
“เหรอ”
“เดฟ ไอว่ายูควรลืมเรื่องระหว่างเราได้แล้วนะ อย่าเอามันมาคิดอีกเรื่องเราไม่มีทางจะกลับมาเหมือนเดิมแล้ว” ผมบอกเสียงเข้มหันมามองอย่างไม่พอใจ
“เพราะว่าไอตกลงคบกับเจนใช่ไม๊ยูถึงทำตัวออกห่างจากไอ”
“นั้นก็ส่วนหนึ่ง แต่จริงๆแล้วไอคิดว่าถ้าเราคบกันก็คงไปไม่รอด”
“แต่ไอ..”
“พอเถอะ เจนเดินมานั้นแล้ว ขอตัวเลยนะ”
“แล้วไอจะติดต่อยูไปนะ” ผมไม่ตอบแต่รีบเร่งเดินออกมาให้เร็ว
“สัส กูว่ามันไม่ได้คิดจะมาคืนดีกับมึงหรอก คิดจะมาเอามึงมากกว่า”
“นั้นซิ ตอนนั้นกูยอมทนคบมันไปได้ไงวะ โดนฟันฟรีๆเลย”
“ใครโดนฟันฟรีๆ”
“เหี้ย!!!!” ตกใจหหมด ผมกับอีปีมองหน้ากันนิ่งๆ ก่อนจะหันไปเผชิญหน้า
“มาเงียบๆตกใจหมด” อีปีว่าเบาๆ
“ถ้ามาดังๆจะได้เห็นคนแอบหนีเที่ยวเหรอ” พี่ตามว่ายิ้มๆบีบแก้มอีปี
“ก็เห็นนอนอยู่ ก็เลยออกมาเซอร์เวย์”
“แล้วซื้ออะไรมา” สะดุ้งอีกรอบ
“อ่อ ของฝากเจ้นะ” พี่ตามหรี่ตามองเหมือนจะไม่เชื่อถ้าผมโดนมองแบบนี้คงจะสติแตกแน่ๆ
“เป็นไรมือเย็นๆ แล้วจมูกไปโดนอะไรมา” ฟืกถามพร้อมกับสายตาจับผิด
“ก็อากาศหนาวมือก็ต้องเย็นซิ ส่วนจมูกไปกระแทกประตูห้องน้ำมา” ฟิกพยักหน้ารับรู้แล้วชวนกลับโรงแรมเพราะเดี๋ยวตอนเย็นมีดินเนอร์ที่โรงแรมที่พักอยู่ แล้วก็ไปเค้าดาวน์กัน
“มึง” ผมตัวชาวาปเมื่อเห็นเดฟที่ล็อปบี้โรงแรม
“ใจเย็นๆ” อีปีบีบมือผมให้ตั้งสติ ผมก็พยายามทำหน้านิ่งๆกอดแขนฟิกแน่นพยายามเดินผ่านไปให้เร็ว
“เกลกำลังหลบใครหรือเปล่า”
“ปะ เปล่า ใคร ไม่มีอะ คิดมากไปเอง”
“จริงๆ ขอนอนเล่นสักนิดนะถ้าเกลหลับอย่าลืมปลุกละ” ผมบอกย้ำอีกรอบแล้วกระโจนขึ้นเตียงนอนเป็นป้องกันตัวเองไปด้วย ถ้ายิ่งพูดจะยิ่งเข้าตัว
“อื๊อหือออออ คิดว่าจะเลือกไฮโซๆ”
“ก็ถ้าเลือกแบบนั้นจะตองสาสูทได้เอามาปะละ” ผมส่ายหน้ายิ้มให้ ฟิกพาเดินไปที่โต๊ะพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ให้ ผมบอกขอบคุณเบาๆ
“น่ารักจักแฟน ไม่ใช่ซิ สามีใครน้า” ผมบอกยิ้มๆ เพราถ้าอู่ด้วยกันถ้าพูดว่าแฟนจะโดนมองค้อนทันที
“เมียฟิกก็น่ารัก” ฟิกยิ้มนิดๆสายตาวิวับ ผมนี่ร้อนเห่อไปทั้งตัวมันอยู่กลางสาธารณชนนะ อายเป็น ไม่นานอาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟ ฟิกบอกว่าต้องสั่งจองล่วงหน้ารวมทั้งอาหารด้วยว่าจะเอาหาหารชนิดไหน ผมกับฟิกก้ฏินไปหวานกันไปแม้จะมีสายตาแปลกๆจากคนรอบข้างก็ไม่สนใจ หน้าตาดีซะอย่างจะอายทำไม
“นี่ครับ” ฟืกป้อนสเต็กแซลมอนให้ผม
“อะนี่” ผมป้อนพาสต้าให้ บนโต๊ะผมมีอาหารหลายเชื้อชาติมาก พ่อครัวคงจะงงและตกใจเล็กน้อยที่โต๊ะเดียวมีอาหารถึง 3 ชาติ
“เริ่มแน่นแล้วววว” ผมบอกเบาๆเมื่อกินไปสักพักอาหารบนโต๊ะก็หมดไปหล่ยอย่างและเหลืออีกหลายอย่าง
“ไหนบอกว่าห้ามกินเหลือไง”
“ก็... รอย่อยก่อนละกัน” ผมบอกหน้างอ ฟิกยิ้มชอบใจ
“เกล”
“เกล” ครั้งแรกไม่หัน ครั้งที่สองก็ไม่หัน ผมมองหน้าฟิกที่เริ่มคิ้วขมวดแล้ว
“เรียกไม่หันเลยนะ” คราวนี้กระซิบริมหูเลย ผมผลักออกแล้วเดินไปยืนข้างฟิก
“หึหึ” ทั้งสองยืนมองตากันนิ่งๆแต่ฟิกเริ่มไม่สบอารมณแล้วเพราะเดฟมันเอาแต่มองผม
“ฟิก นี่เดฟเพื่อนเก่า เดฟนี่ฟิกแฟนไอ”
“ยินดีที่ได้รู้จัก นอกจากเพื่อนเก่าแล้วไอยังเป็นคนแรกของเกลเด้วย” ไอ้เหี้ยมึงหาเรื่องให้กูตายนะสัส
“ครับ ผมฟิกเกอร์เป็นคนปัจจุบันและคนสุดท้ายของเกลครับ”
“ถ้าคุณไม่มีอะไรขอความเป็นส่วนตัวด้วยครับ อีกอย่างแฟนคุณก็คงกำลังรออยู่” เดฟหันไปมองเจนที่ยืนรอนิ่งๆ
“แล้วไอจะติดต่อไปนะ” มันไม่พูดเปล่าดึงผมไปจุ๊บแก้มด้วย
“เอ่อ ฟิก..”
“ขึ้นห้องเหอะ รู้สึกจุก” ฟิกบอกเสียงเข้มแล้วเรียกพนักงาน
มีต่อ