ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)  (อ่าน 1270553 ครั้ง)

ออฟไลน์ mook0007

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ลุ้นคู่ดนัย โหดๆแบบนี้เจ๊ชอบ(อ่าน)

ออฟไลน์ JUzpETeR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มันเป็นอะไรที่..... บยพขจรัม รมหบกจาดเใฟ ลขวระม ฟ ะเน

ฮว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มันส์ค่ะงานนี้

อุกรี๊ดดดดดด ดะ นัย กด เลย ดะ นัย กด เลย เย้!!

ถือว่าบดินทร์ก็รับผลกรรมที่ทำกับยุไว้เนอะ เชื่อว่าสักวัน...บดินทร์จะได้ดนัยเป็นสามีแน่นอน //คนละเรื่อง!!

ฮือออ อยากรู้เรื่องเจ๊บลูกับซอลย่าต่อออออ เขากำลังจะลงล็อคกันแล้ววว เคืองยุไม่หาย น่าจับมาตีก้นนัก!!

คุณหนูชิดจันทร์ คือแบบหล่อนต้องการอะไรคะ? เป็นปมในใจกลายเป็นโรคจิตขนาดนี้ พักศรีธัญญาเหอะ!

ขอตบนางสักทีเถอะ ถ้าตอนหลังมาดราม่า ชีวิตรันทด แม่ไม่รัก พ่อทิ้ง หมาป่วย บ้านแตกอะไรงี้ ก็ไม่ให้อภัยนะยะ-____-

หูยยย ค้างคามากค่ะ กำลังมันส์เลยยยย

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ดนัยดูโรคจิตไปในทันที

ออฟไลน์ Fujoshi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
ค้างงงงงงงง

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
อยากรู้ว่ายุไปพบแม่พี่เมธแล้วจะเป็นไง เชียร์ยุจ้า

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
เป็นอิสุกอิใสค่ะ
เป็นตอนแก่...ทรมานฝุดๆค่ะ อะฮึ่กๆ

พร้อมทั้งคอมก็ป่วยตามไปด้วย
ดังนั้น อนาคี99 จึงขอลาป่วยสัก 2 อาทิตย์นะคะ
ก่อนสิ้นเดือนนี้มาต่อแน่นอนค่ะ

ขออภัยในความล่าช้าค่ะ

อนาคี99

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
เซ็นใบลาให้แล้วนะอีหนู....รีบรักษาตัวให้ดี ๆ ..
แล้วอย่าให้มีลายจุดนะ..555...

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
หายเร็วๆนะคะ พักผ่อนเยอะๆด้วยนะ

ออฟไลน์ kosmos

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
หายไวๆน๊าาา
อย่าไปแกะไปเกาตุ่มนะคะ เดี๋ยวจะเป็นแผลเป็น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ผมคือ...นางเอก (ประกาศลาป่วยค่ะ)
« ตอบ #3099 เมื่อ: 16-09-2014 20:41:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
คนอ่านก็เป็นตอนแก่ค่ะ ติดจากเด็ก ดีนะที่ขึ้นไม่เยอะ แต่ทรมานมาก นอนไม่หลับ ร้อนที่เม็ดสุกใสมาก เป็นไข้ด้วย แต่สัปดาห์นึงก็หาย แต่แผลต้องใช้เวลาสักแปปค่ะ หายไวไวนะคะ นอนเยอะๆ

ออฟไลน์ kusahana

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ระวังเป็นแผลเป็นนะ ดูแลตัเองดีดีละ รออ่านต่อ

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
 ขอให้หายป่วยไว ไว นะคะ ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ :mew6:

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
หายไวนะคะ  :mew1:
ป.ล เปนอีสุกอีใสเค้าห้ามกินไข่ด้วยนะคะ

ออฟไลน์ Xhunters

  • 씨엘씨
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
หายป่วยไวๆ นะค่ะ

ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
หายไวๆนะคะ

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
พักผ่อนเยอะๆ จ้า

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
หายไวๆนะ อยากบอกว่าชอบเรื่องนี้มาก
เคยอ่านตอนเปิดเรื่องใหม่ กลับมาอ่านอีกครั้ง
ได้ใจจริงๆทั้งคุณพระเอกนายเอก

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
หายไวไว นะจ๊ะ

ออฟไลน์ shijino

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
หายไวๆนะคะ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ผมคือ...นางเอก (ประกาศลาป่วยค่ะ)
« ตอบ #3109 เมื่อ: 17-09-2014 15:58:35 »





ออฟไลน์ NIMME

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
หายไวๆนะคะ พักเยอะๆ

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
หายไวๆนะฮะ :')

ออฟไลน์ Themamo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
วันนี้วันที่ 29 แล้วนะรอรอรอรอรอ :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ครบ 2 อาทิตย์แล้วนะ :call: :call: :call:

ออฟไลน์ tomybsl

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ผมคือ...นางเอก
ซีนที่ 39 ชิดจันทร์!





"ข่าวนี่มันหมายความว่ายังไงกัน ชิดจันทร์!?"

 เสียงแผดกล้าอย่างไม่รักษาอาการของผู้เป็นใหญ่เรียกรอยยิ้มร้ายให้ผุดพรายขึ้นทันทีตรงใบหน้าสวยหวานของหญิงสาว

 "ก็หมายความอย่างที่เป็นข่าวนั่นแหละค่ะ ต่างกันหน่อยตรงที่พี่เมธไม่ได้ตั้งใจไป แต่ถูกชิดมอมไปก็แค่นั้น..."

"ยัยชิด! ทำไมถึงทำแบบนี้!?"

 "คุณแม่จะโมโหไปทำไมคะ? เรื่องน่ายินดีออก"    ชิดจันทร์เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มบางๆบนใบหน้า ก่อนจะค่อยๆสืบกายเข้าใกล้ผู้เป็นมารดาแล้วโน้มกายลงกระซิบใกล้เสน่ห์จันทร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานเบาๆ

 "อยากได้จนตัวสั่นไม่ใช่เหรอคะ ลูกเขยที่ชื่อกฤตเมธน่ะ..."

 "ชิดจันทร์!!"

 เพี๊ยะ!!

 เสียงฝ่ามือสัมผัสผิวแก้มดังสนั่น บ่งบอกถึงแรงอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของผู้กระทำที่ฟาดลงไปแบบไม่ยั้งแรง

คบตบใจหาย

 แต่คนถูกตบกลับยิ้มร่ารับรอยฝ่ามือนั้นด้วยเสียงหัวร่อ

 "ฮะ ฮะ ฮะ...ทนฟังไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอคะคุณแม่ จี้ใจดำเหรอ? ตบทีเดียวคงไม่สะใจมั้งคะ อีกทีมั้ย? ตบหนูอีกสิคะ ตบหนูแรงๆ!! ตบอีกสิคุณแม่!!"

 "หยุดนะ!!"    เสน่ห์จันทร์แผดเสียงลั่นด้วยอดรนทนกิริยาของอีกฝ่ายไม่ไหว หล่อนพลาดไปที่เผลอระงับอารมณ์ไม่อยู่ จึงเข้าทางให้อีกฝ่ายได้ช่องทางหาเรื่องทิ่มแทงใจหล่อนอยู่แบบนี้

อีกฝ่าย...ที่เป็นลูกในใส้ของหล่อนเอง

 ลูกในใส้...ที่เกลียดหล่อนเข้ากระดูกดำ!!

 "เธอคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงกล้าทำเรื่องงามหน้าแบบนี้? กฤตเมธเขาเสียหายยังไงก็เป็นผู้ชาย แต่เธอนี่สิ...เธอเป็นผู้หญิง มีข่าวแบบนี้ ต่อไปจะเป็นยังไง? จะขึ้นเป็นเจ้าคนนายคนได้ยังไง!?..."

 "แคร์ทำไม? ก็คนจะหาผัว! แล้วมันผิดตรงไหน ในเมื่อว่าที่ผัวก็เป็นคนที่แม่แท้ๆยัดเยียดให้! อนาคต? เจ้าคนนายคน? กลัวทำไมคะ? ชิดจันทร์ลูกสาวคนเดียวของคุณเสน่ห์จันทร์มันก็แค่เจริญรอยตามคนเป็นแม่นั้นแหละค่ะ..."    ชิดจันทร์ค่อยๆเดินห่างออกจากเสน่ห์จันทร์เล็กน้อย เดินเยื้องย่างมาตรงด้านหน้าโต๊ะท่านประธานที่แสนยิ่งใหญ่ ก่อนจะเขยิบกายขึ้นไปนั่งไขว่ห้างด้วยท่าทีไม่ยี่หระต่อสายตาของผู้เป็นมารดา

 "ตอนสมัยสาวๆ เจ้าแม่เสน่ห์จันทร์ยังเคยทำเรื่องงามหน้าอย่างหนีตามผู้ชายเลย แล้วประสาอะไรกับลูกสาวที่พยายามเจริญรอยตามแม่ทุกกระเบียด...ที่จะพยายามหาผัวโดยการมอมผู้ชายเข้าโรงแรมบ้างไม่ได้...คิกคิก..."    ชิดจันทร์พูดไปหัวเราะไปอย่างอารมณ์ดี ยิ่งได้เห็นเสน่ห์จันทร์เต้นเร่าไปตามคำพูดของตัวเองด้วยแล้ว เสน่ห์จันทร์ยิ่งนึกขำ

ตาแดงๆนั่นทำให้หล่อนอิ่มเอมใจ

 เพราะในที่สุดดวงตาคู่นั้นก็จับจ้องมาที่หล่อนตรงๆเสียที

 แม่ลูก? แล้วมันยังไง?

 แม่ที่ทอดทิ้งลูกไม่ดูดำดูดี แต่ไปเชิดชูคนอื่น มันไม่น่าให้อภัยหรอก!

 "ฉันคนนี้...พยายามทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเอาอกเอาใจเธอ ฉันคนนี้ที่เป็นแม่ของเธอ...มันไม่ได้มีค่าต่อเธอเลยใช่มั้ย? ชิดจันทร์..."    เสน่ห์จันทร์เปรยขึ้นเสียงสั่นพร่า หล่อนยืนค้ำอยู่ที่อีกฟากของโต๊ะเพื่อประจันหน้ากับลูกสาวของตัวเอง

 "...เอาเถอะ ฉันรู้...รู้ดีอยู่เต็มอกว่าเธอเกลียดฉันแค่ไหน แต่ขอร้องล่ะ อย่าเอากฤตเมธหรือใครเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้...พวกนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง..."

 "หึ! พูดออกมาได้นะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง...คุณแม่ไม่อายปากบ้างหรือไงกันคะ? น่าขันจริง"

ชิดจันทร์หยันขึ้นทันทีที่ได้ยินคำที่เสน่ห์จันทร์พูด

 "เธอจะพูดอะไร คิดยังไงก็เรื่องของเธอเถอะ แต่รู้ไว้ด้วยก็แล้วกันว่าฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ กับสิ่งที่เธอทำน่ะ โกรธฉัน เกลียดฉัน ก็มาลงที่ฉันสิ ตรงๆ แฟร์ๆ ฉันจำไม่ได้ว่าเคยสอนเธอให้เป็นคนสกปรกทำอะไรลับหลังแบบนี้! กฤตเมธเป็นเด็กดี เป็นเด็กที่ฉันฟูมฟักมา เขาไม่เคยเหลวไหล ไม่เคยมีประวัติเสียหาย ตอนนี้เป็นโค้งสุดท้ายในวงการของเขาแล้ว ฉันอยากให้เขาจบเส้นทางนี้ด้วยดี ต้องการให้เขาฝากชื่อเสียงไม่ใช่ชื่อเสีย...ฉันคนนี้ ปกป้องเขามาทั้งชีวิต ก็เพียงเพื่อจะให้ดาวดวงหนึ่งยังคงจรัสฟ้าเป็นที่จดจำ มันคือสุดยอดความใฝ่ฝันในฐานะผู้สร้างดารา...ฉันปกป้องเขาจากความหมองมัวมาได้จนเกือบจะสุดทางแล้วแท้ๆ ไม่นึกเลยว่า สุดท้ายคนที่ทำลายเขากลับไม่ใช่ใครอื่น...กลับเป็นลูกสาวแท้
 ๆของฉันเอง ที่มันทำเรื่องงามหน้า ให้ต้องเสียหายกันไปหมด!!"

 "ก็เห็นว่าอยากได้นี่! อยากได้มากจนหนูเริ่มไม่แน่ใจ ว่าแม่อยากได้พี่เมธในฐานะอะไร ลูกเขย? หรือสามี..."

 "ชิดจันทร์!! มันจะมากไปแล้วนะ!! ใช่! ฉันต้องการเขามันผิดหรือไง!? ฉันฟูมฟักเขามาอย่างลูกในใส้ ให้เขาเป็นคนที่เพียบพร้อมที่สุด เพื่อเธอนะ! ฉันเลี้ยงเขามาให้เป็นคนที่เพียบพร้อม เพื่อให้เหมาะสมกับเธอ!! ผิดหรือไง!? ถ้าแม่อย่างฉันจะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกตัวเอง!!..."

 "ไม่จำเป็น! แม่ไม่ต้องมาอ้างเรื่องหนูนะ!! สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อหนู? ผิดหรือเปล่า...กฤตเมธไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อชิดจันทร์ แต่ชิดจันทร์ต่างหากที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อกฤตเมธ! แค่เป็นเด็กปั้นมันไม่พอหรอก หากได้เป็นลูกเขยก็จะได้มีสิทธิ์ที่จะรับช่วงต่อในกิจการทั้งหมดที่ตัวเองมีสินะ ปูทางเอาไว้อย่างนั้นสินะ! รักมันมากกว่าลูกในใส้อยู่แล้วนี่!! ก็กฤตเมธน่ะ มันเป็นตัวแทนของลูกรักของตัวเองที่ตายไปนี่!! จะมาดีน้อยไปกว่าลูกชังอย่างนังชิดจันทร์ได้ยังไงล่ะ!!" 

ชิดจันทร์ตวาดกร้าว โดยสายตาไม่ยอมละจากใบหน้าของผู้เป็นมารดาเลยแม้แต่นิด อารมณ์หลายๆอย่างกำลังตีรวนในหัวอก เจ็บปวด น้อยใจ เกลียด ชิงชัง ดงงตาแข็งกร้าวของหล่อนเริ่มคลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความเคืองขุ่น ไม่ต่างจากเสน่ห์จันทร์ผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้แทบจะล้มทั้งยืน

 "ชิดจันทร์! เธอกำลังเข้าใจฉันผิดนะ...ทั้งชีวิตฉันทำเพื่อเธอจริงๆ...เธออย่าเอาแต่ทิฐิบ้าบอสิ ลืมตามองให้ดีชิดจันทร์!..."

 "หึ!...จนถึงบัดนี้...ก็ไม่ได้รูสึกผิดเลยสินะคะ แม่น่ะ?"

 "อะไร?"

 "จริงสิ คนอย่างเจ้าแม่เสน่ห์จันทร์คงไม่เคยผิดหรอก..."

 "ต้องการจะพูดอะไรน่ะชิดจันทร์!?"

 คำตอกย้ำของมารดาทำเสียงของชิดจันทร์แหบแห้ง น้ำตายังคงคลอหน่วย แต่มันไม่ยอมไหล...

 "ที่พูดมาทั้งหมดว่าทำเพื่อหนูน่ะ...แม่เคยรู้สึกตัวบ้างมั้ย? ว่าตัวเองกำลังโกหกอยู่..."    ชิดจันทร์เอ่ยขึ้น ขณะที่ตัวเองค่อยๆขยับลงจากโต๊ะ แล้วยืนหันหลังให้ผู้เป็นแม่อยู่อย่างนั้น พร้อมบอกเล่าความในใจที่คั่งแค้นโดยที่ไม่ยอมหันมองหน้าเสน่ห์จันทร์ผู่เป็นมารดาเลยแม้แต่นิด

 "ทำไปเพราะรักหนู?...แม่ไม่กระดากใจบ้างเหรอ ทุกครั้งที่แม่เอ่ยคำนี้ออกมา...รัก แล้วเคยรู้บ้างมั้ยว่าหนูอยู่ในบ้านหลังนั้นยังไง? เคยรู้บ้างมั้ยว่าช่วงเรียนมัธยมหนูโดนใครทำอะไรบ้าง? แล้วเคยสนใจบ้างมั้ย? ว่าตอนที่แม่ส่งหนูไปชุบตัวที่เมืองนอกน่ะหนูรู้สึกยังไง?...ไม่เลย แม่ไม่เคยรู้...ไม่สิ...แม่ไม่เคยสนใจมากกว่า วันๆก็เที่ยวแต่จะดูแลกฤตเมธอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วชิดจันทร์ล่ะ? แม่เอาหนูไปไว้ที่ไหน?..หึ! นี่เหรอ...คำว่ารักของแม่น่ะ?..."

 ความอัดอั้นที่หน่วงหนักอยู่ในอกค่อยๆปะทุขึ้นทีละน้อย ทั้งที่จริงแล้ววันนี้หล่อนแค่ต้องการมาเย้ย แต่ไม่นึกเลยว่าการประคารมกับเสน่ห์จันทร์ครั้งนี้ จะทำให้หล่อนอดทนต่อไปไม่ไหว

"ฉันรู้ว่าฉันผิด...ที่ตอนเธอยังเล็กฉันไม่สามารถไปดูแลเธอได้ อย่าว่าแต่ไปดูหน้าเธอที่เป็นลูกในใส้เลยชิดจันทร์ แม้แต่หน้าบ้านหลังนั้นฉันก็เหยียบเข้าไปไม่ได้...อาม่าของเธอเกลียดฉันอย่างกับอะไร และฉันก็รู้ว่าเขาคงเลี้ยงเธอมาให้ชิงชังฉันคนนี้ที่เป็นแม่แท้ๆไม่ต่างจากที่เขาเกลียดแน่ๆ!..."

 "อย่าพูดถึงอาม่าแบบนั้นนะ!! คนอย่างแม่ไม่มีสิทธิ์!!"

 "......" เสียงแผดกร้าวกับใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตาของชิดจันทร์นั้น ทำเสน่ห์จันทร์ถึงกับนิ่งอึ้ง ลูกของหล่อนกำลังเสียใจ หล่อนอยากเอื้อมมือเข้าไปหา แต่กำแพงที่ชิดจันทร์กางกั้นเอาไว้นั้นมันช่างยิ่งใหญ่และแข็งแรงมากเหลือเกิน...

 "เอางี้...คุณแม่โลกสวยของหนู ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว หนูจะเล่าทุกอย่างให้ฟังแล้วกันนะ เรื่องระยำทั้งหมด...ที่เกิดในชีวิตหนู เรื่องที่แม่ไม่เคยสนใจ!"

 คราวนี้ชิดจันทร์หันไปเผชิญหน้ากับเสน่ห์จันทร์ตรงๆ ระหว่างสองแม่ลูกมีโต๊ะตัวใหญ่กั้นกลางเอาไว้ โต๊ะเพียงตัวเดียวก็สามารถทำให้ทั้งคู่อยู่ไกลแสนไกลได้อย่างง่ายดาย...

 "ใช่ค่ะ...ชีวิตวัยเด็กหนูสำราญมาก มีความสุขมาก เพราะมีอาม่าที่รักหนูยิ่งกว่าใครคอยอยู่เคียงข้าง ตามใจ ห่วงใย ดูแล...แม้ว่าคนเป็นพ่อมันจะห่วย ไม่เคยหันมาสนใจใยดีหนูไม่ต่างกับแม่ แต่หนูก็ไม่ได้รู้สึกขาด วันแม่วันพ่อ ไม่ว่าที่โรงเรียนจะจัดกิจกรรมอะไรหนูก็ไม่เคยไปร่วม หนูหยุดอยู่บ้านกับอาม่าสบายใจกว่าให้พ่อหรือแม่ที่ชีวิตจริงไม่เคยเหลียวแลหนูไปร่วมงาน...ถามสิ ว่าอิจฉาเพื่อนมั้ยที่เขาครบครันพ่อแม่ลูก หึ! อิจฉาใจแทบขาด แล้วยังไง มันก็ไม่ได้มีค่าอะไรกับคนอย่างหนู ตราบใดมีอาม่าอยู่ด้วยหนูก็จะปลอดภัยมีความสุข...
ไม่ว่าแม่ที่ออกทีวีอยู่บ่อยๆจะรักคนอื่นมากกว่ าหนู หรือต่อให้พ่อมาผู้หญิงเข้าบ้านไม่ซ้ำหน้า มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของหนู...เพราะอาม่า แค่มีอาม่าอยู่ แค่นั้นหนูก็มีความสุขพอแล้ว...เด็กโดนสปอยล์ คำที่นังแม่เลี้ยงใจมารแต่ละคนคาบไปฟ้องพ่อให้หนูโดนทำโทษ แต่มันไม่เคยสำเร็จเพราะมีอาม่าคอยปกป้อง ให้ท้ายแล้วยังไง อาม่ารักหนูนี่...
แต่แม่รู้มั้ย อาม่าจากหนูไปตอนหนูอยู่ ม.2 ชีวิตหนูเปลี่ยน พ่อมีเมียใหม่ มีลูกใหม่ เป็นลูกชายน่ารัก ทุกคนรักมัน ยกเว้นหนู เพราะทั้งเมียใหม่ทั้งลูกใหม่ของพ่อมันเข้ามาแย่งทุกอย่างไปจากหนู สิ่งที่อาม่าเหลือทิ้งไว้ให้ก่อนตายทั้งหมด มันแย่งไปจากหนู เกลียดมัน แค่เกลียดมันหนูก็โดนทำโทษทั้งที่ไม่ได้ทำผิด...หึ...
ในขณะที่แม่กับกฤตเมธเด็กที่แม่รักประหนึ่งลูกชายบังเกิดเกล้าของแม่กำลังมีความสุขอยูในทีวี หนูถูกทรมานอยู่ในบ้านหลังนั้น! ขณะที่แม่ปรนเปรอคนอื่นอยู่...หนูถูกพวกมันข่มเหงอย่างไม่มีทางสู้...
ตอน ม.3 นังเมียพ่อคนนั้นมันพาญาติมันเข้ามาเสวยสุขอยู่ในบ้านด้วยทั้งพี่ชายน้องชายของมัน แล้วแม่รู้มั้ย? ตอนที่หนู่อยู่ ม.3 ตอนที่หนูเฝ้าภาวนาให้แม่มารับหนู...ตอนที่แม่ยังออกงานหรูหรากับไอ้กฤตเมธดาราปั้นคนดีของแม่อยู่น่ะ...หนูถูกพวกมันรุมข่มขืน!! ทุกคืนทุกคืน...
พ่อไ ม่เคยช่วยอะไรได้เพราะเอาแต่หลงเมียระยำนั่น...บ้านหลังนั้นคือนรกของหนู หนูภาวนา เฝ้าอธิฐานทุกวันให้แม่มาหา ให้แม่มารับหนูมาอยู่ด้วย หนูพยายามจะโทรหาแม่หลายครั้ง แต่แม่ก็ไม่เคยว่าง ทุ่มเทอยู่แต่กับมัน แต่ไม่เคยให้เวลาหนู...
ไม่ต้องรอให้เรียนจบ ม.3 หนูหนีออกจากบ้านทั้งๆอย่างนั้น โชคดี...หรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่ได้มาเจอกับ ทศพล ลูกมาเฟียคนดัง...ใช่ สุดท้ายหนูก็เป็นเมียมัน ถึงมันจะเป็นลูกมาเฟีย แต่มันก็รักหนู มีหนูคนเดียว และปกป้องดูแลหนูจากทุกอย่างที่หนูไม่ชอบ...ลูกคนชั่วลูกมาเฟียคุมบ่อน ลูกคนค้ายาแล้วไง แต่ทศพลคือเทวดาของหนู ทศพลคือคนเดียวที่ปกป้องหนู...ในวันที่แม่ไม่เคยให้ความสนใจ!"

 ชิดจันทร์เล่าทุกอย่างออกมาด้วยแววตาที่ฉายแต่ความเคียดแค้นชิงชัง เล่าไปพร้อมๆกับที่หยาดน้ำตาพร่างพรูอยู่บนใบหน้า เล่าไปแสยะยิ้มไปราวกับว่ามันเป็นเพียงเรื่องตลกร้าย เล่าออกมาไม่หยุด โดยที่ไม่ยอมฟังเสียงคร่ำครวญของผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้กำลังร้องไห้ปริ่มจะขาดใจอยู่เบื้องหน้า เล่าไปหลบเลี่ยงสองมือสั่นระริกของผู้เป็นมารดาที่พยายามเอื้อมเข้าหาไม่หยุด แล้วยังคงเล่าต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าร่างของเสน่ห์จันทร์นั้นจะร่วงลงไปกองอยูแทบเท้าของหล่อนแล้ว...

 "ฟังให้จบนะคะคุณแม่...อย่าเป็นลมไปก่อนเชียว ไม่งั้นหนูไม่ให้อภัยแน่!"

 ชิดจันทร์ยอบกายลงตรงหน้าเสน่ห์จันทร์เล็กน้อยเพื่อเอ่ยคำขู่ขวัญ หัวใจของหล่อนแข็งชาจนไม่รู้สึกอะไรอีกไม่ว่าคนเป็นแม่ของหล่อนจะร้องไห้สะอึกสะอื้นยังไง ไฟแค้นทำดวงตาหล่อนมืดบอดไม่ต่างหัวใจ ที่ตอนนี้มันดำสนิทไปทั้งดวงอย่างสมบูรณ์

 "หนูใช้ชีวิตอย่างสุขสงบอยู่กับทศพลอยู่ดีๆ...มีความสุขจนหนูคิดว่ามันจะไม่มีอะไรเลวร้ายเข้ามาในชีวิตอีก จริงอยู่ว่าการใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงของลูกมาเฟียน่ะมันเสี่ยง จริงอยู่ว่าชีวิตที่เราใช้ไปวันๆมันผิดกฎหมาย แต่หนูมีความสุข...สุขจนไม่รู้สึกว่าที่เป็นอยู่มันเลวร้าย เพราะหนูมีทศพล เขาคือคนที่หนูรัก...และเราพร้อมที่จะตายไปพร้อมกันหากวันแห่งโชคชะตามาถึง...แล้วแม่รู้มั้ยว่าความเลวร้ายที่เข้ามาในชีวิตของหนูหลังจากนั้นคืออะไร..."

 ชิดจันทร์เอ่ยถามพลางจ้องมองใบหน้าของแม่ตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินห่างออกไป แล้วยิ้ม...

 "ความเลวร้ายนั่น...มันก็คือแม่ยังไงล่ะ!"

 ชิดจันทร์แสยะยิ้มร้ายพร้อมหยาดน้ำตาที่ถะถั่งออกมาไม่ขาด จดจ้องร่างของมารดาแท้ๆของตนที่สะอื้นฮั่กๆ ฟุบอยู่กับพื้น แต่แทนที่หล่อนจะนึกสงสาร กลับยิ้มหัวเราะร่า สาแก่ใจยิ่งนักที่วันนี้หล่อนสามารถทำให้ผู้ให้กำเนิดแสดงอาการอ่อนแอขนาดนี้ได้

เพราะตลอดมาชิดจันทร์ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้สึกเลยกระทั่งกระแสความอ่อนไหวที่คนเป็นแม่อย่างเสน่ห์จันทร์มีให้ตน

แม้ใครๆจะลงความเห็นว่าเสน่ห์จันทร์รักและตามใจชิดจันทร์มาก เพราะหล่อนคอยประคบประหงมปรนเปรอลูกสาวคนเดียวอย่างดี ทั้งส่งเรียนเมืองนอกตั้งแต่มัธยมปลาย รถหรู คอนโดกลางเมือง แบรนด์เนมต่างๆ ไม่เคยขาดมือ ทั้งยังไม่เคยออกปากบ่นว่าแม้สักแอะ ไม่ว่าชิดจันทร์จะวีน จะเหวี่ยง ทำตัวเหลวไหลหรือเป็นข่าวกับใคร เสน่ห์จันทร์ก็ใช้อิทธิพลปิดเงียบไว้ทุกกระเบียด...

เป็นใครก็นึกว่าเสน่ห์จันทร์รักและห่วงลูกสาวที่สุด

แต่...ชิดจันทร์กลับไม่คิดแบบนั้น

“หนูอยู่ของหนูดีๆ จู่ๆแม่ก็เข้ามา...ชีวิตหนูกำลังไปได้ดีอยู่แล้ว แม่ก็เข้ามาทำลายมัน!”

“...ฮึ่ก...ชิด...ลูก...”

 “แม่แจ้งตำรวจจับคนที่รักหนูที่สุด แค่เรื่องเป็นมาเฟียที่เกี่ยวข้องกับการค้าของเถื่อนมันก็แย่พออยู่แล้ว แต่แม่ยังใส่ความว่าเขาลักพาตัวกักขังหน่วงเหนี่ยวหนูอีก ทั้งที่หนูขอร้องแม่แล้วแต่แม่ก็ไม่เคยฟัง!! สะใจมั้ยล่ะ สามารถทำให้คนคนนึงที่คอยปกป้องหนูมาตลอดต้องติดคุกไปเกือบตลอดชีวิตได้น่ะ! หึ!! รู้เอาไว้เลยนะว่าเรื่องนี้หนูไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด! แม่ทำลายครอบครัวหนู! ทำร้ายผัวหนู! แม่ฆ่าลูกหนู!!...”

“ตอนที่หนูต้องการแม่สุดใจ แม่ไม่เคยมาเหลียวแล แต่กลับโผล่มาพรากทุกอย่างไปจากหนู!”

“แม่คงไม่รู้สินะว่าตอนนั้นหนูท้องอ่อนๆได้สามสัปดาห์แล้ว เรื่องที่แม่ทำลงไป ทำให้หนูเครียดจนแท้ง! แม่ฆ่าหลานตัวเอง รู้เอาไว้ซะด้วย!!”

ดั่งฟ้าถล่มลงมาทับร่างจนแหลกเหลว หัวใจที่เคยแกร่งถูกฉีกกระชากเป็นชิ้น ความรู้สึกทุกอย่างที่มีถูกเป่ากระจุยเป็นผุยผง เสน่ห์จันทร์คลุกคลานเข้าไปหาบุตรสาวคนเดียวของตนด้วยด้วยความรู้สึกผิดเหลือประมาณ ร้าวราน ปวดปร่า เจ็บชาจนทั้งร่างสั่นระริก

ตอนนี้ไม่เหลืออีกแล้ว ความทรนงของเจ้าแม่เสน่ห์จันทร์  ไม่เหลืออะไรแม้สักสิ่ง คิดแค่เพียงอยากกอดลูก อยากขอโทษลูก อยากปลอบลูก คิดวนคิดเวียนอยู่แค่นั้น ...หล่อนผิดไปแล้ว...

แค่อยากสัมผัวลูกแค่นั้น แต่มือหล่อนกลับเอื้อมไปไม่ถึง ยิ่งเอื้อมก็ยิ่งไกล ยิ่งพยายามเข้าใกล้ ลูกเธอยิ่งไปไกลลิบตา...

“ชิด....ฮือ...ม...แม่...แม่ขอโทษ...ชิด.....” เสียงที่เคยองอาจสั่นพร่าแผ่วผิว เอ่ยเรียกลูกสาวคนเดียวราวจะใจจะขาด  แต่ก็ไม่ได้ทำให้หัวใจดำมืดและแข็งกระด้างของชิดจันทร์อ่อนลงได้แม้แต่น้อย

“หึ! ไม่ต้องมาพยายามบีบน้ำตาเพื่อหนูค่ะ มันไม่มีประโยชน์!...”

“ชิด...แม่ผิด...ฮึ่ก...ผิดไปแล้ว...”

“อย่าเพิ่งค่ะ อย่าเพิ่งรีบสำนึกตอนนี้ มันยังไม่จบ เรื่องที่แม่ทำกับหนูยังไม่จบ!” ชิดจันทร์เอ่ยยั้ง พลางรั้งร่างตัวเองออกจากตรงหน้ามารดา หล่อนถอยออกมาสองสามก้าว จ้องมองร่างที่ยังคงทรุดอยู่ที่พื้นด้วยดวงตาที่แดงช้ำเพราะหยาดน้ำตาที่ถะถั่งออกมาแบบไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดหย่อน ทว่ากลับ...ว่างเปล่า ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆอย่างสิ้นเชิง

“หลังจากส่งคนที่หนูรักไปติดคุก แม่ไม่สนใจเสียด้วยซ้ำว่าหนูจะเป็นยังไง เร่งยิกๆ จัดการส่งหนูไปเรียนเมืองนอกทันที เพื่อหนีข่าวคาวของหนู รีบกำจัดหนูให้พ้นทาง เพียงเพราะไม่ต้องการให้เรื่องของหนูกระเทือนชื่อเสียงแม่! ทั้งที่ตอนนั้นหนูเสียใจจนแทบจะตายวันละหลายรอบ แต่แม่ก็ไม่เคยสนใจ! แถมยังไล่ให้หนูไปใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังอีก!  หนูขอถามแม่ตรงๆหน่อยเถอะ…ใจแม่ทำด้วยอะไรคะ!?”

“ชิด...แม่ขอโทษ...”

“แค่ขอโทษมันไม่พอหรอกค่ะ! มันไม่เคยจำเป็นสำหรับหนู!! อ่อ ไอ้ชื่อเสียงเงินทองที่เอามาปรนเปรอนั่นก็เหมือนกัน หนูไม่เคยต้องการมันเลยสักนิด! เงินจากผู้หญิงที่ทำไม่ได้แม้แต่กอดลูกของตัวเอง หนูไม่อยากได้!! ไม่ต้องมาจับ!!” ชิดจันทร์แผดเสียงลั่น  ปัดป้องมือของเสน่ห์จันทร์ที่ยื่นเข้าหาอย่างสุดกำลัง

“จำไว้เลยนะ! หนูเกลียดแม่! เกลียดแม่ที่สุด รักมันมากใช่มั้ยไอ้กฤตเมธน่ะ!? รักมันมากเลยพยายามให้มันได้กับหนูใช่มั้ย? ดี!! ถ้าจะรักมันขนาดนั้น ก็คอยดูมันย่อยยับไปพร้อมกับหนูเลยแล้วกัน!!”

“...โธ่...ชิด...ลูก...อย่าทำร้ายตัวเองอย่างนั้น ฮึ่ก...ฮือ...แม่รักลูกนะ...แม่รักลูกกว่าใคร...”

“เลิกพูดโกหกเสียทีเถอะ! แม่อยู่เฉยๆแล้วคอยดูความชิบหายของมันก็แล้วกัน!”
*
*
*
*
*

"คุณคิดดีแล้วจริงๆเหรอ? เรื่องที่จะพูดความจริงทั้งหมดน่ะ..."

เสียงแหบหวานถามไถ่ในขณะที่เดินคู่กับร่างสูงไปตามโถงทางเนของตึกสำนักงาน

"คิดเแล้วครับ หึหึ...ยุ ผมรู้ว่าคุณห่วงผม แต่เล่นถามแต่คำถามนี้แทบทั้งวันนี่ เล่นเอาผมอิ่มจนแทบจุกเลยนะ"

ผู้ถูกตั้งคำถามหัวเราะร่า เสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยกระเซ้าอย่างอดไม่ไหว

"...อย่าแซวผมสิ ผมก็แค่กังวล ที่คุณตัดสินใจแบบนั้น" สดายุบ่นออกมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้นึกโกรธที่โดยอีกฝ่ายแซวแต่อย่างใด

“ทำไมล่ะ เกิดเป็นห่วงชิดจันทร์ขึ้นมาเหรอ? ไหนตอนแรกบอกให้ผมแฉแบบจัดหนักไง? หึหึ” กฤตเมธถาม พร้อมยื่นมือไปขยี้ผมของสดายุเบาๆ

“เปล่า...ผมไม่ได้ห่วงเขา เขาทำตัวของเขาเอง ผมจะไปคอยตามห่วงให้ได้อะไร...ผมห่วงคุณต่างหาก” สดายุว่า พร้อมปัดมือกฤตเมธออกจากศีรษะตนแล้วปัดผมตัวเองให้เข้าที่ “กลัวคุณจะกลายเป็นเทวดาตกสวรรค์ เพราะปากกล้าไปแฉลูกสาวเจ้าแม่เข้าน่ะสิ หมดเลยนะภาพเทพบุตรที่อุตส่าห์สั่งสมบารมีมาน่ะ หึหึ” ทิ้งท้ายด้วยการข่ขวัญเบาๆ

“ถ้ากลัว ผมจะมาเปิดแถลงข่าวทำไม รุ่นนี้แล้ว ไม่มีอะไรจะเสีย” กฤตเมธไหวไหล่ไม่จริงจัง

“แล้วคุณจะตอบคำถามของนักข่าวว่ายังไง? หลังจากประกาศออกไปว่า...มิตรรักแฟนละครครับ ผมถูกสาวมอมเหล้าลากเข้าโรงแรมครับ...ดูเสียเชิงพระเอกรุ่นใหญ่สุดๆอ่ะ”

“เสียเชิงพระเอก? ....ฮะฮะ มันเสียตั้งแต่ผมเล่นหนังเกย์แล้วล่ะ”

“เออ! หัวเราะไปเถอะ แถลงข่าวเสร็จ ท่านประธานสุดบูชาของคุณ ได้แล่นมาฉีกอกคุณแน่ ไม่สิ! ป่านี้คงไปดักรอหน้าโต๊ะแถลงข่าวแล้วล่ะ เจ้แกข่าวไวจะตาย หูตายิ่งกว่าสับปะรดเสียอีก! หึหึ”

“...อาจเป็นอย่างนั้นก็ได้นะ”

กฤตเมธเห็นด้วย เพราะทันทีที่เขาประกาศแถลงข่าวไปเมื่อตอนบ่าย ข่าวคงถึงหูเสน่ห์จันทร์แล้วตั้งแต่ตอนนั้น ตอนแรกก็แอบแปลกใจนิดหน่อยที่ตั้งแต่บ่ายถึงเย็นไม่ยักกะมีโทรศัพท์จากท่านประธานสักสาย เพราะอะไรกันนะ เพราะเสน่ห์จันทร์ยังไม่รู้ หรือว่า...

“เมธ!”


ต่อด้านล่างจ๊ะ
 :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2014 09:26:06 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
“เมธ!”


เสียงเรียกจากตรงหน้าประตูห้องอัด เรียกสองหนุ่มหันไปมอง และแล้วก็ได้แต่จิ๊จ๊ะในใจกันทั้งคู่...ว่าแล้วเชียว  ‘ดักรออยู่จริงด้วย’

“เมธ! เธอจะแถลงข่าวเหรอ? เรื่องชิดจันทร์? เธอจะพูดอะไรบ้าง?”

เพียงแค่ได้เห็นว่ากฤตเมธมาถึง เสน่ห์จันทร์ก็ไม่รอช้า ร่างของสาวใหญ่ถลันเข้าหากฤตเมธพร้อมระล่ำระลักถามเกี่ยวกับเรื่องที่กฤตเมธจะแถลงกับนักข่าว ดูท่าทางรีบรนจนปากคอสั่น

สภาพยับเยินกับท่าทางอิดโรยของเสน่ห์จันทร์ยังความสงสัยให้กฤตเมธและสดายุไม่น้อย ท่านประธานเสน่ห์จันทร์เจ้าแม่แห่งธุรกิจบันเทิงครบวงจรกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านั้นแทบจะต่างกันอย่างสิ้นเชิงจนแทบไม่น่าเชื่อ ท่าทีองอาจงามสง่าในยามปกติไม่สามารถหาพบในผู้หญิงคนนี้ หล่อนตัวสั่น หม่นหมอง ดูอ่อนแอ สายตาที่เคยแน่วแน่มั่นคงก็สั่นคลอนพร้อมมีร่องรอยแดงช้ำราวกับเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ริมฝีปากสีชาดนั้นสั่นระริก ใบหน้าที่เคยงดงามราวหงส์ขาวบิดเบ้ไร้ราศี

แค่ได้เห็นสภาพตรงหน้ากฤตเมธกับสดายุก็หันสบตากันทันทีอย่างไม่ได้นัดหมาย

เกิดอะไรขึ้นกับเสน่ห์จันทร์กัน?

“อย่าเงียบสิเมธ! เธอจะพูดอะไร!?” เห็นว่าพระเอกหนุ่มยังคงเงียบ เสน่ห์จันทร์ก็เร่งเร้าคำตอบ

“เรื่องจริงครับ...ผมคงต้องพูดถึงเรื่องทั้งหมด ตามความจริง ทั้งเรื่องที่ผมกับชิดจันทร์ไม่ได้เป็นอะไรกัน และเรื่องที่ผมไม่ได้เต็มใจไม่ที่โรงแรมนั้นกับเธอ”

กฤตเมธตอบออกไปเสียงเครียด แต่ชายหนุ่มก็ตอบตามความจริงแบบไม่มีปิดบัง แต่นั่งก็ยิ่งทำให้เสน่ห์จันทร์ร้อนรน

"อย่านะเมธ เธอจะพูดอย่างนั้นไม่ได้นะ!!" พอรู้ว่ากฤตเมธจะพูดเรื่องอะไร เสน่ห์จันทร์ก็ร้องห้ามอย่างที่ทั้งกฤตเมธและสดายุคาดไว้ แต่ท่าทีร้อนรนที่หล่อนแสดงออกมานั้น มันออกจะเกินคาดไปหน่อย

"แต่ท่านครับ เรื่องที่เป็นข่าวมันออกจะแรงไปหน่อย แล้วชิดจันทร์เขาก็ทำกับผมเกินไป..."

"ฉันรู้! แต่เมธ...ได้โปรด...อย่าทำร้ายชิดจันทร์อย่างนั้นเลย...ปล่อยให้เรื่องมันเงียบๆไปเองเถอะนะ เดี๋ยวฉันจะคอยดูแลยัยชิดไว้เอง ขออย่างเดียว...เธออย่าแถลงข่าวได้มั้ย..." เสน่ห์จันทร์พยายามขอร้อง

"คุณเสน่ห์จันทร์ครับ...หากผมเงียบไว้ เรื่องมันจะไม่ยิ่งไปไกลกว่านี้เหรอ? ผมยอมรับว่าผมเห็นแก่ตัวที่ผมกลัวตัวเองเสียหาย แต่ชิดจันทร์ถลำลึกเกินไป ผมไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร และผมต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลมครับ ไม่อย่างนั้นครั้งหน้ามันอาจจะเลยเถิดไปมากกว่านี้" กฤตเมธอธิบายเสียงเครียด

"เธอเป็นผู้ชายนะเมธ...เธอจะเสียหายอะไรนักหนา!......." แต่เสน่ห์จันทร์ก็ไม่ยอมฟัง หล่อนยังคงทู่ซี้จะให้กฤตเมธยุติการแถลงข่าวให้ได้
"พอสักทีเถอะครับท่านประธาน!"

หลังจากทนฟังมาได้สักพัก ในที่สุดสดายุก็ทนเป็นอากาศธาตุต่อไปไม่ไหว

"ไหนว่าคุณต้องการอุ้มชูดูแลกฤตเมธไง? แล้วไหงผลักไสให้เขาต้องรับผิดชอบเคราะห์กรรมที่เขาไม่ได้ก่อแบบนี้ล่ะ? ทำไมกฤตเมธต้องรับผิดชอบเรื่องคาวๆที่ลูกคุณก่อขึ้นด้วย!!?" สดายุถามออกไปน้ำเสียงแข็งกร้าวด้วยความไม่พอใจ

"หุบปาก! เรื่องนี้เธอไม่เกี่ยว ไม่ต้องมายุ่ง!!" และเสน่ห์จันทร์ก็ตอบโต้กลับมาแบบเจ็บแสบไม่ต่างกัน ใบหน้าของหล่อนมีแต่ริ้วรอยความขุ่นเคืองระคนตื่นตระหนกจนแทบไม่เหลือเค้าความน่าเกรงขามอีกต่อไป

คำพูดของเสน่ห์จันทร์ทำสดายุอารมณ์ขึ้นไม่น้อย เขาไม่รู้หรอกนะว่าความสัมพันธ์ฉันท์ผู้มีบุญคุณระหว่างเสน่ห์จันทร์กับกฤตเมธนั้นมันลึกซึ้งขนาดไหน แต่ถึงขนาดต้องให้รับผิดชอบเรื่องไม่เป็นเรื่องของลูกสาวเจ้าปัญหาของตัวเองแบบนี้มันออกจะเกินไปในความคิดของสดายุ และเขาที่ไม่ชอบเรื่องแบบนี้สุดๆอยู่แล้วนั้น โคตรจะขัดใจจนอดไม่ได้ที่จะต้องขอทวงความเป็นธรรมให้คนรัก!

"เกี่ยวสิ! เกี่ยวเต็มประตูเลยด้วย ถ้าคุณจะลืมไปแล้วผมก็ขอรื้อความจำให้แล้วกันนะ ว่าผมกับกฤตเมธเป็นคนรักกัน ผมไม่ชอบที่เขาจะต้องทนเสียชื่อเสียงมีข่าวกับคนอื่นเพื่อปกป้องชื่อเสียงของคนคนนั้น!"

"สำคัญตัวผิดหรือเปล่า!? เมธเขาเป็นผู้ชาย! มีข่าวกับชิดจันทร์ก็ใช่จะเสียหายร้ายแรง ใครๆก็รู้ว่าทั้งคู่เป็นคนรักกัน ถ้าจะมีข่าวเสียหาย มันต้องเป็นเพราะเธอต่างหากล่ะ! เธอนั่นแหละที่จะทำให้ชื่อเสียงของเมธป่นปี้ไม่มีชิ้นดี เพราะเป็นข่าวกับผู้ชาย!! แบบนั้นมันไม่ทุเรศกว่าเหรอ!!?"
เสน่ห์จันทร์แผดเสียงว่าพร้อมสายตาดูแคลน การควบคุมสติอารมณ์ของหล่อนขาดสะบั้นอย่างสิ้นเชิง ไม่เหลืออีกแล้วมาดผู้นำ หรือแม้แต่ความเป็นผู้ใหญ่น่านับถือ ตอนนี้หล่อนไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

"แล้วยังไงเหรอครับ!? ในเมื่อกฤตเมธเขายอมที่จะเป็นข่าวกับผมมากกว่าลูกสาวคุณ..."

"เห็นแก่ตัว!"

"ใครเห็นแก่ตัวกันแน่! คุณคิดดูดีๆก่อนมาโทษคนอื่นเหอะ!"

สองคนยังคงถกเถียง เสียงสนทนาเริ่มดังขึ้นเกินใครจะห้าม ห้องให้สัมภาษณ์ก็ใกล้แค่นี้ ข้างในนั้นยังเต็มไปด้วยเหล่านักข่าวที่มารอสัมภาษณ์ แม้ห้องนั้นจะเป็นห้องเก็บเสียง แม้ทางเดินนี้จะเป็นทางเข้าด้านหลังที่ไม่ค่อยมีใครเดินผ่าน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรการันตีว่าจะไม่มีใครได้ยินบทสนทนาของพวกเขา

"พอสักทีเถอะครับคุณเสน่ห์จันทร์ ยุ เสียงดังเกินไป เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่นะครับ" กฤตเมธห้ามทัพ ก่อนที่เรื่องจะลุกลามไปกันใหญ่

"เมธ! เมธไม่ต้องไปฟังมัน เมธต้องช่วยฉันนะ ได้โปรด แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว แล้วฉันจะไม่ขออะไรอีกแล้ว นะเมธนะ เห็นแก่ฉัน ได้โปรด...." เสน่ห์จันทร์ผละจากสดายุออกมาได้ก็เร่งอ้อนวอนกฤตเมธต่อ ไม่ว่ายังไงเธอก็ปล่อยให้กฤตเมธพูดเรื่องของชิดจันทร์ไม่ได้จริงๆ ลูกสาวหล่อนทำแบบนั้นเพียงเพื่อประชดหล่อน ดังนั้นหล่อนจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นมาแปดเปื้อนลูกหล่อนเด็ดขาด จะไม่ยอมให้ชิดจันทร์ต้องเจ็บปวดอีกแล้ว ต่อให้ต้องทำร้ายใคร แม้แต่กฤตเมธ หล่อนก็ไม่มีทางเลือก! 

“แต่คุณเสน่ห์จันทร์...ผม...”

“เมธ! ไหนเธอบอกว่าจะหาวิธีทดแทนบุญคุณฉันไง!? ฉันยอมให้เธอคบสดายุ ยอมให้เธอหักหลังความไว้วางใจของฉันขนาดนั้นแล้ว แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเธอให้ฉันไม่ได้เชียวเหรอ? แค่เธอยอมทำตามที่ฉันบอกแค่ครั้งนี้ฉันสัญญาจะไม่วุ่นวายกับเธออีก! เมธ!! ฉันขอร้อง!!"  และเสน่ฟ์จันทร์ก็ไม่ยอมลดละที่จะทั้งบังคับทั้งอ้อนวอน

"เฮ้ย! มันจะมากไปแล้วนะครับท่านประธาน!..."  เล่นซึ่งหน้าแบบนี้สดายุก็อดของขึ้นไม่ได้ แต่เสน่ห์จันทร์ไม่ได้สนใจอีกแล้วว่าอีกฝ่ายจะว่าหล่อนยังไง สติสมาธิที่เหลืออยู่ของหล่อนนั้นเพ่งไปที่กฤตเมธคนเดียว ไม่ว่าบุญคุณหรืออะไรก็ตามที่หล่อนเคยมีกับอีกฝ่ายมันจะยังหลงเหลืออยู่หรือไม่ หล่อนจะขอลำเลิกทั้งหมดในวันนี้ให้สิ้น

"พอเถอะยุ ไม่เป็นไร..." ท้ายที่สุด กฤตเมธเอ่ยห้ามขึ้น ไม่ใช่ชิดจันทร์ แต่เป็นสดายุ กฤตเมธห้ามไม่ให้สดายุโวยวายต่อ

"คุณเมธ!?"   แค่นั้นก็ทำให้หัวใจของสดายุชาวาบ ใบหน้าของกฤตเมธแสดงความลำบากใจอย่างไม่มีปิดบัง ใบหน้าของเสน่ห์จันทร์เริ่มมีความหวัง


อย่าบอกนะว่า...

"เมธ? คุณจะเต้นตามเกมของท่านประธานอีกแล้วเหรอ? ถ้าคุณยอม...คุณจะไม่มีวันหลุดพ้นจากเธอนะ!...แล้วคุณยังจะ……!!”

“กลับไปก่อนนะครับยุ ...เรื่องนี้ ผมจัดการเอง...”

“เมธ....?...”

“คุณกลับไปรอผมผมนะ...รอผมที่บ้านของเรา”

แม้สดายุจะพยายามทักท้วง แต่ดูเหมือนกฤตเมธจะพยายามกีดกันเขาออกจากเรื่องการสัมภาษณ์ในครั้งนี้อย่างสิ้นเชิงเสียแล้ว ทำไม? เพราะอะไร? สดายุได้แต่เพียงตั้งคำถามเหล่านั้นวนไปวนมาอยู่ในหัว

ทุกอย่างตรงหน้าสั่นคลอนความมั่นคงในหัวใจของชายหนุ่มจนหมดสิ้น

เลือกฝ่ายนั่นสินะ

เลือกเสน่ห์จันทร์สินะ

สุดท้าย...เขาก็ไม่เคยสำคัญกับอีกฝ่ายมากไปกว่าผู้หญิงคนนั้นสินะ

“เข้าใจแล้ว...” สดายุตอบออกไปเพียงแค่นั้น ก่อนจะหันหลังเดินออกไปโดยไม่หันกลับไปมองกฤตเมธอีก

“ยุ...” และแม้จะโดนอีกฝ่ายเรียกรั้ง เขาก็ทำแค่หยุด แล้วพูดทิ้งท้ายโดยไม่ยอมหันไปสบตา

“ตอบคำถามนักข่าวดีๆก็แล้วกันครับ เอาตามที่คุณสบายใจ...”  สดายุพูดกับกฤตเมธเพียงแค่นั้น ก่อนจะเริ่มก้าวเท้าออกไป แต่ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ชายหนุ่มหันกลับไปมองที่เสน่ห์จันทร์แน่วแน่ “และก็ท่านประธานครับ ผมขอให้ท่านสมใจในสิ่งที่ทำลงไป และสาแก่ใจที่ได้ทำลายกฤตเมธลงด้วยมือของท่านเองนะครับ...ผมขอตัว”

พูดจบสดายุก็เดินจากออกมาทันที ไม่สนใจแล้วว่าเสน่ห์จันทร์จะว่าอะไรตามหลัง ไม่สนใจเสียงเรียกของกฤตเมธที่ดังขึ้นอีกครั้งก่อนเขาจะเลยประตูโถงลิฟท์ออกมา


 ‘ผม...จะชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเอง ไม่ว่ายามที่อยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง ผมมันงี่เง่าเองที่มัวแต่ให้เกียรติ์คนอื่น แต่ไม่ยอมให้เกียรติ์หัวใจคุณ...ผมเกลียดตัวเองจัง ที่มาฉลาดเอาตอนนี้...’

‘ยุ! ผมรักคุณ ไม่มีอะไรที่คุณว่ามาสำคัญต่อชีวิตผมมากไปกว่าคุณ  เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือโอกาสในวงการอะไรนั่นมันไม่ได้จำเป็นสำหรับผมสักนิด มีลูกไม่ได้ ผมก็มีคุณแล้วไง เราอยู่กันแค่สองคนไปจนแก่จนเฒ่าก็ได้............’



“คนโกหก...”

น้อยใจจนเกินหักห้าม เจ็บปวดจนเผลอเปรยออกมาอย่างลืมตัว หยาดน้ำอุ่นซึ่งไม่รู้มันเกิดจากอะไร จู่ๆก็ไหลอาบแก้ม แต่เพียงไม่กี่หยดแห่งความช้ำ มันก็โดนเรียวนิ้วปาดเช็ดจากดวงหน้าเศร้าหมอง

“ช่างเถอะ...เรามันก็แค่ผู้ชายประวัติเสียๆคนหนึ่ง แถมยังมีแต่ตัว ไม่มีหลักฐาน ไม่มีฐานะ ชื่อเสียงก็มีแต่ด้านเสียหาย ใครมันจะมาให้ความสำคัญ ใครมันจะมาจริงใจ  เขาเลือกทางนั้น มันก็ถูกต้องแล้ว...”

สดายุได้แต่เข่นเขี้ยวดูถูกตัวเองไปเรื่อย สองมือยังคงปาดน้ำตาป้อยๆ ไม่ได้อยากร้องไห้ น้ำตาที่ไหลไม่หยุดนี่ก็ไม่ใช่เพราะเสียใจ แต่มันเป็นเพราะเขาเจ็บใจมากต่างหาก

เจ็บใจที่เผลอไปหลงกับคำป้อหวานๆของคนคนนั้น

เจ็บใจที่ดันไปเชื่ออย่างสนิทใจว่าตัวเองสำคัญ

เจ็บใจ...ที่สุดท้ายเขาก็ไม่เลือก!

…หึหึ...บ้าไปเองทั้งเพ!

พอกันที!!

*
*
*
*
*

ปึ่ก!

“โอ๊ะ? ขอโทษ...อ้าวยุ?”

ด้วยความที่ก้มหน้าก้มตาเดินลิ่วไม่สนใจว่าใครจะมองแบบไหน พอพ้นทางออกหน้าบริษัท ก็ชนเข้ากับใครบางคนเข้า สดายุไม่ได้ใส่ใจนัก ตั้งใจจะเดินพ้นไปโดยไม่มองด้วยซ้ำว่าชนเข้ากับใคร แต่คนที่โดนชนกลับเป็นฝ่ายทักขึ้นมาเสียก่อน

“...ดนัย?” เงยขึ้นไปมองก็พบว่าเป็นดนัย ฝ่ายนั้นทำหน้าเหวอ คงเพราะเห็นว่าสดายุตาแดงก่ำ สองแก้มก็แดงช้ำ เพราะโดนทั้งปาดทั้งเช็ดทั้งขยี้ แต่ตอนนี้สดายุก็ไม่ได้นึกอาย ใครจะเห็นก็ช่างมันแล้ว!

“เป็นอะไรไปอ่ะ? ใครทำอะไรนาย? บอกมา! เดี๋ยวเราจัดการให้!!” เห็นเพียงแค่นั้นดนัยก็ฉุนแทนสดายุไปเรียบร้อย ชายหนุ่มลุกลี้ลุกลน ดูจะเดือดเกินหน้าเจ้าของเรื่องไปถึงไหนต่อไหน เห็นแค่นั้นสดาย็ยิ้มออกมาเบาๆ...

“ไปด้วยกันหน่อยสิ”

“ห๊ะ?”

“พาไปทะเลหน่อย...บางแสนก็ได้...หัวหินเลยก็ดี”

“ยุ?”

“ขอร้อง...ช่วยพาไปหน่อย...นะ...”

ดนัยเอ๋อไปในคราแรก ที่จู่ๆก็โดนสดายุชวนไปทะเลเอาดื้อๆ แต่เห็นสภาพจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ของอีกฝ่าย ดนัยก็ไม่คิดถามต่อ แม้ตอนนี้จะเกือบหกโมงเย็นแล้ว แต่หากสดายุอยากจะไปไหน เขาก็จะพาไป สุดหล้าฟ้าเขียวเขาก็ไม่หวั่น

*
*
*
*
*

ครืน...ซ่า....

ซ่า...ซ่า......

เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังวิเวกชวนให้รู้สึกเหงาแสนเหงา  เวลาเที่ยงคืนกว่าๆเงียบสงบ สดายุเดินเลียบชายหาดอยู่คนเดียวเงียบๆ ปล่อยให้ลมทะเลแผ่วเบาพัดผ่านร่างไปเรื่อยๆ ทะเลหัวหินยามคำคืนร้างไร้ผู้คนสัญจร  เขาเพียงคนเดียวที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าชายหากเวิ้งว้าง เฝ้ามองทะเลสีดำทอดไกลสุดลูกหูลูกตา...

เดี๋ยวเขาคงต้องไปขอบคุณดนัยเสียหน่อย เพราะดันเผลอไปรบกวนฝ่ายนั้นให้ดั้นด้นพามาไกลถึงหัวหิน ชวนเปิดห้องพักค้างคืน แถมยังชวนฝ่ายนั้นกินเหล้าเสียจนเมาเป๋ คืนนี้เขาเปิดโรงแรมพักที่หัวหินนี้โดยไม่ได้เตรียมการอะไรล่วงหน้า แค่ไม่อยากกลับไปที่ห้องนั้น โทรศัพท์มือถือเขาก็ปิดเรียบร้อย ไม่สนใจว่าใครจะโทรตามทั้งนั้น ตลอดการเดินทาง เขาขอให้ดนัยเปิดเพียงแต่เพลงใน USB ไม่ให้เปิดข่าววิทยุหรืออะไรที่สามารถสื่อกับโลกภายนอกได้อย่างเด็ดขาด แม้แต่มือถือของดนัยเองเขาก็ขอร้องให้ฝ่ายรนั้นปิดเครื่อง

รู้ดีว่าเห็นแก่ตัว แต่มันทนรับรู้อะไรไม่ได้ในตอนนี้

เขาต้องการเวลา ขอเวลาเพียงแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น พรุ่งนี้เขาจะกลับไปที่ห้องนั้น แล้วเป็นสดายุคนเดิม กฤตเมธจะเป็นยังไงก็ช่าง จะยังอยู่กับเขาหรือไปอยู่กับใครก็เรื่องของกฤตเมธ เขาจะไม่ทัดทานใดๆทั้งสิ้น หนังเรื่องที่เล่นอยู่นี้ ถ้าเสน่ห์จันทร์อยากให้เขาเล่นต่อเขาก็จะเล่น ถ้าจะให้เลิกแล้วออกไปให้พ้นจากวงการเขาก็จะไม่อิดออด...พอแล้ว...เหนื่อยเหลือเกินแล้ว...

เขาจะออกไปขายกาแฟปั่น!!

*
*
*
*
*

เสียงคลื่นที่สาดซัดเข้ากระทบชายหาด ไม่ว่าได้ฟังเมื่อไหร่ ก็พาหัวใจให้ยิ่งอ้างว้าง

กฤตเมธ...ไอ้คนหลอกลวง

คุณไปตายอยู่ที่ไหนกันนะตอนนี้...

 ‘ผมเหงา…ผมเจ็บ’

ไอ้คนเฮงซวย!!

*
*
*
*
*

“นี่ยุ? มานั่งเมาอะไรอยู่คนเดียวบนหาดมืดๆเนี่ย ไม่กลัวรึไง?”

สดายุสะดุ้งเล็กๆเมื่อจู่ๆก็ถูกเรียกจากด้านหลัง

“อ้าว ดนัย? ยังไม่นอนเหรอ?”

เมื่อหันไปมองแล้วเห็นว่าเป็นดนัย สดายุก็รีบหลบหน้าเพื่อแอบปาดหยาดหยดแห่งความเหงาออกจากใบหน้า แต่ภาพหยาดน้ำตานั้นไม่อาจหลบสายตาของดนัยพ้น ชายหนุ่มหน่วงใจขึ้นมาเล็กๆทันทีที่เห็นกระแสความเหงาที่ออกจากร่างที่นั่งกอดเข่าอยู่ตรงหน้า ภาพนั้นเล่นเอาดนัยถอนหายใจพรูทันที...

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีสองแล้ว ดนัยเห็นว่าสดายุยังนั่งจุมปุกอยู่ที่เดิมตั้งแต่เที่ยงคืน ชายหนุ่มก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เขานั่งเฝ้าฝ่ายนั้นมาตั้งแต่ยังไม่เที่ยงคืนดี นั่งส่องจากตรงระเบียงชั้นสามลงมาเงียบๆ อยากให้สดายุได้ปล่อยตัวปล่อยใจอยู่กับตัวเอง เพราะการที่เขาจะไปนั่งเสนอหน้าอยู่ด้วยคงไม่เหมาะเท่าไหร่นัก ดนัยจึงทำได้แค่นั่งเฝ้า...

ทว่านี่มันตีสองเข้าไปแล้ว สดายุควรพักผ่อนได้เสียทีแล้วล่ะ...ดังนั้นดนัยจึงตัดสินใจลงมาเรียก

แล้วพอเดินลงมาตามก็ได้เห็นภาพสะเทือนอารมณ์อีกครั้ง เพราะคนตรงหน้านั้นกำลังนั่งร้องไห้อย่างว้าเหว่อยู่  ใบหน้าแดงช้ำจากคราบน้ำตาและฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้นช่างดูหน้าสงสารบาดใจจนดนัยทำอะไรแทบไม่ถูกเลยทีเดียว

“ตีสองแล้วนะยุ...กลับขึ้นไปพักก่อนมั้ย?”

เมื่อเห็นว่าสดายุพยายามจะแอบซ่อนหยาดน้ำตา ดนัยก็ไม่อยากจะไปทักถึงเรื่องที่เจ้าตัวพยายามหลบเลี่ยง จึงได้แต่ชวนให้ขึ้นไปพักผ่อนก่อนที่ร่างกายจะแย่ไปกว่านี้

“...นายไปนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวเราตามไป โทดทีนะ...”

สดายุตอบเพียงแค่นั้น  ก่อนจะหันไปนั่งเหม่อมองทะเลต่อ พลางกระดกเบียร์กระป๋องลงคอแบบไม่สนใจว่าตัวเองเมามายไปถึงไหนแล้ว

ภาพตรงหน้าทำดนัยสะเทือนใจหนัก ตอนแรกเขาก็ไม่รู้หรอกว่าสดายุเป็นอะไร แต่เห็นอีกฝ่ายเป็นถึงขนาดนั้นแต่ไม่เห็นเงากฤตเมธข้างกาย แถมยังปิดมือถือ ปิดการรับข่าว แถมยังขอให้เขาปิดเครื่องตามกันไปแบบนี้ ท่าทางจะมีปัญหาใหญ่ระหว่างคนทั้งคู่

และหลังจากที่สดายุขอตัวลงมาเดินเล่นหน้าชายหาดนี้ไม่นาน ในที่สุดเขาก็ได้รับคำตอบ

วันนี้กฤตเมธให้แถลงข่าวเกี่ยวกับชิดจันทร์ไปเมื่อตอนเย็น แล้วจากข่าววงในที่เขาไปสืบมาได้ความว่ามันค่อนข้างจะวุ่นวายอยู่พอสมควร และข่าวนี้...เขาคิดว่าสดายุควรจะได้รับรู้

“...ยุ นายไม่คิดจะฟังที่พี่เมธเขาแถลงข่าววันนี้หน่อยเหรอ?”

ดนัยลองตะล่อมถาม แต่ดูเหมือนว่าคำถามแทงใจนี้จะทำให้เขาโดนค้อนกลับมาเสียมากกว่า

“ขอโทษทีนะดนัย...เรายังไม่พร้อมว่ะ ถ้านายจะคุยกับเราเรื่องนี้นายขึ้นไปนอนซะเหอะ”

ไม่ยอมฟังทั้งตัดรอนกันดื้อๆ...งานนี้ดนัยถึงกับต้องกุมขมับเลยทีเดียว

‘เอาไงดีวะตรู...’

คิดสะระตะ ก็จนปัญญาจะเรียกร้องความสนใจจากสดายุอีก ดังนั้นวิธีสุดท้ายที่ดนัยคิดได้ก็คือ...

‘เอาวะ!!’

ดนัยตัดสินใจนั่งลงตรงหน้าสดายุ  พร้อมเปิดเสียงคลิปข่าวที่เขาอัดเอาไว้ให้ดังจนสุด เพื่อแข่งกับเสียงคลื่นลมโหมกระหน่ำ ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะก่นด่า หรือแม้ว่าสดายุจะพยายามหนี เขาก็ดึงรั้งเอาไว้ไม่ให้ลุกหนีไปได้อย่างเด็ดขาด!

‘เฮ้อ...ไม่รักไม่ทำขนาดนี้นะเนี่ย’

และแล้ว...มันก็ได้ผล คลิปข่าววิ่งไปเรื่อยๆ กับสดายุที่นิ่งงันไป

ใบหน้าของเจ้าตัวแดงขึ้นเล็กน้อยพร้อมหยาดน้ำตาคลอหน่วย

แต่ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด...

ริมฝีปากบางเฉียบนั้น ในที่สุดก็...เผยอยิ้ม


*******************************************************************

ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านมากนะคะที่ส่งกำลังใจมาให้
อบอุ่นใจที่สุดค่ะ ยิ่งได้กำลังใจ น้ำตาก็ยิ่งไหลปริ่ม อะฮึ่ก...
ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ ตัวลายพร้อยไปตามระเบียบ (ก็แหม...มันคันอ่ะ ทนมะดั้ย!!)

หุหุ ขอโทษที่มาลงช้านะคะ
ความจริงจะลงตั้งแต่วันศุกร์แล้วล่ะค่ะ ติดตรงที่ว่าดันไปตัดจบตอนที่กฤตเมธน่าจะโดนจวกแหลก
(เพราะที่เป็นอยู่ก็แทบไม่เหลือคะแนนนิยม...หุหุ หักเหี้ยน)
เลยจำเป็นต้องมาต่อวันจันทร์ค่ะ
(เพราะที่บ้านคอมเจ๊งค่ะ ไม่สามารถทำอะไรที่บ้านได้เลย....นอกจากเซฟใหม่เข้ามือถือ ซึ่งมันลำบากมว๊ากกก)

จากที่ตั้งทาเก็ตเอาไว้ 52 ตอน อาจมีลดลงแล้วล่ะค่ะ เพราะช่วงหลังแต่ละตอนมันยาวเหลือเกิน
เนื้อเรื่องก็พยายามให้กระชับขึ้น เพราะอยากให้จบภายในปีนี้เหลือเกินค่ะ อิอิ

ตอนนี้ชื่อตอนชิดจันทร์...ประวัติของหล่อนทำอิชั้นปวดตับมาก
เขียนไปก็ถอนหายใจไป ไม่รู้จะสงสารหรืออะไรดี...
บอกแล้วตัวละครเรื่องนี้ปมเพียบ!
นี่ถ้าเขียนตอนเป็นอิสุอิใส รับรองอิสุกอิใสระเบิด 555+

แล้วกฤตเมธให้สัมภาษณ์แบบไหนไปนะ
ชิดจันทร์ล่ะจะทำอะไรต่อไป
ดนัยกับบดินทร์จะโคจรมาเจอกันอีกเมื่อไหร่
อันนี้ต้องรอตอนหน้านะจ๊ะ

Spoil : ดนัยเจอบดิทร์ปุ๊บ เจ๊บลูเจอซอลย่าปั๊บค่ะ ว่าแต่...จะเป็นตอนไหนน๊า...

ขอบคุณที่ติดตามและรักกันเสมอมานะคะ
อนาคี99

ปล. ใครตามเรื่อง พจมาน...(18 มงกุฎ) อยู่ เก๊าลงให้พรุ่งนี้น๊า...จุ๊บๆๆๆ

:heaven
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2014 21:06:25 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ tomybsl

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
มาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :man1:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ตอนแรกเกือบละ เกือบจวกชิดจันทร์ไปละ แต่มาม่านางแซบเกิ๊นนน เผ็ดจนจ้ำตาไหล ต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจ :hao5:
ส่วนน้องยุ ช่วงนี้มโนไปเองเยอะ ต้องรอพี่เมธว่าแถลงข่าวว่าอะไร
รอออออออตอนนนนนนนต่อออออออปายยยยยยยย :กอด1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ดีมาก ดนัย นายมีประโยชน์ ตอนนี้สุด ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด